ปีใหม่นี้เตรียมรับการเปิดตัวของ Window10 อย่างเป็นทางการ เตรียมเสื้อดำไว้กันเยอะๆนะเพื่อน
Last posted
Total of 1000 posts
ปีใหม่นี้เตรียมรับการเปิดตัวของ Window10 อย่างเป็นทางการ เตรียมเสื้อดำไว้กันเยอะๆนะเพื่อน
>>>/lounge/569/ โม่งใส่ใจข่าวสารบ้านเมืองตามกระแส (No การเมือง)
เอาลิงค์เดิมมาด้วยสิมึง
ระหว่างสิทธิในการเลี้ยงดูลูก กับ เงิน ๒๐๐ ล้านบาท เลือกอะไร
window9 bootsไม่ไหวแล้วเหอะ ถึงเวลาเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนแหละ
เอ้อพวกมึง กูพึ่งได้ข่าวว่าที่หุ้นตกเพราะน้ำมัน เพราะเมกาเพราะโอเปค กูงงมาก ใครตามข่าวช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดหน่อยเถอะ
เมกากับEUเดินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย จากเรื่องที่จะรวบยูเครน ด้วยการยกเลิกการส่งออกสินค้าไปรัสเซียทั้งหมด ส่วนรัสเซียก็แบนกลับด้วยการแบนของนำเข้าจากEUและเมกา (จากตรงนี้รูเบิลลงไปแถว40-50)
คอมโบกับประเทศที่เคยนำเข้าน้ำมันที่ลดอัตราบริโภคพลังงานเพราะเศรษกิจตกต่ำ แถมOPECก็ไม่ลดเพดานการผลิตเพราะจะไฝว์กะเมกา ราคาเลยดิ่งลงๆ รัสเซียที่มีรายได้หลักจากการส่งออกพลังงานเลยเจ็บหนัก (รูเบิลลงไป 60-80 เด้งกลับมา70เพราะธนาคารรัสเซียอัพดอกเบี้ยเป็น17)
หุ้นไทยกูไม่รู้
จำได้ช่วงนึงที่มีข่าวลือมางี้แล้วก็เป็นจริง กรณีรุ่นSisterของWin98มั๊ง
โรคพาร์คินสันเป็นความผิดปรกติการเสื่อมของระบบประสาทส่วนกลาง อาการสั่งการของโรคพากินสันเกิดจากเซลล์ที่ผลิตโดปามีนในซับสแตนเชียไนกรา อันเป็นบริเวณหนึ่งในสมองส่วนกลาง ตาย ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุของการตายของเซลล์นี้ ในช่วงที่เป็นโรคใหม่ ๆ อาการเด่นชัดที่สุดเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว ซึ่งรวมการสั่น สภาพแข็งเกร็ง เคลื่อนไหวช้าและเดินและท่าเดินลำบาก ต่อมา อาจเกิดปัญหาการคิดและพฤติกรรมได้ โดยภาวะสมองเสื่อมเกิดได้ทั่วไปในระยะท้ายของโรค ขณะที่ภาวะซึมเศร้าเป็นอาการจิตเวชที่พบบ่อยที่สุด อาการอื่นมีปัญหารับความรู้สึก การหลับและอารมณ์ โรคพาร์คินสันพบมากในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยส่วนมากเกิดหลังอายุ 50 ปี
อาการสั่งการหลักเรียกรวมว่า พาร์คินสันนิซึม (parkinsonism) หรือ กลุ่มอาการพาร์คินสัน (parkinsonian syndrome) โรคพาร์คินสันมักนิยามเป็นกลุ่มอาการพาร์คินสันที่เกิดเอง (ไม่มีสาเหตุที่ทราบ) แม้ผู้ป่วยนอกแบบบางคนมีสาเหตุจากพันธุกรรม มีการสืบสวนปัจจัยเสี่ยงและป้องกันหลายอย่าง หลักฐานชัดเจนที่สุด คือ ผู้ที่สัมผัสยาฆ่าแมลงบางชนิดจะมีความเสี่ยงต่อโรคพาร์คินสันมากขึ้น แต่ผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงลดลง พยาธิสภาพของโรคเป็นลักษณะของการสะสมโปรตีนชื่อ แอลฟา-ไซนิวคลีอิน (alpha-synuclein) ในอินคลูชันบอดี (inclusion body) เรียก เลวีบอดี (Lewy body) ในเซลล์ประสาท และจากการสร้างและกัมมันตภาพของโดปามีนที่ผลิตในเซลล์ประสาทบางชนิดในหลายส่วนของสมองส่วนกลางไม่เพียงพอ เลวีบอดีเป็นเครื่องหมายพยาธิวิทยาของโรคนี้ และการกระจายของเลวีบอดีตลอดสมองของผู้ป่วยแตกต่างกันไปตามบุคคล การกระจายทางกายวิภาคศาสตร์ของเลวีบอดีมักสัมพันธ์โดยตรงกับการแสดงออกและระดับอาการทางคลินิกของแต่ละบุคคล การวินิจฉัยผู้ป่วยตรงแบบอาศัยอาการเป็นหลัก โดยใช้การทดสอบอย่างการสร้างภาพประสาท (neuroimaging) เพื่อยืนยัน
กลไกการเกิดโรค
โรคพาร์คินสันในคนส่วนใหญ่นั้นไม่รู้สาเหตุ ทว่าในผู้ป่วยสัดส่วนน้อยรู้สาเหตุว่ามาจากปัจจัยทางพันธุกรรมที่ทราบ มีการระบุว่าปัจจัยอื่นสัมพันธ์กับความเสี่ยงการเป็นโรคพาร์คินสัน แต่ไม่มีการพิสูจน์ความสัมพันธ์เชิงเหตุ
โรคพาร์คินสันเกิดจากการตายของเซลล์สมองที่เรียกว่า Substantia nigra pars compacta (SNpc) สาเหตุการตายของเซลล์มีหลายทฤษฎี ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในปัจจุบัน คือทฤษฎีออกซิเดชั่น ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุ ได้แก่ ปัจจัยทางพันธุกรรม สิ่งแวดล้อมบางอย่าง และอาจเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสบางชนิด
สารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย ได้แก่ โดปามีน และอะซิทิลโคลีน ซึ่งอยู่ในภาวะสมดุล เมื่อเซลล์สมองที่สร้างโดปามีนตายไป สมดุลดังกล่าวก็เสียไป ร่างกายจึงเกิดความผิดปกติขึ้น ปรากฏเป็นอาการของโรคพาร์คินสัน
อาการของโรค
โรคพาร์คินสันทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการทางระบบประสาทที่เด่นชัด 3 ประการ ได้แก่ อาการสั่น เกร็ง และเคลื่อนไหวช้า
อาการสั่น มักเกิดขึ้นขณะอยู่เฉยๆ มีลักษณะเฉพาะคือ สั่นมากเวลาอยู่นิ่งๆ แต่ถ้าเคลื่อนไหว หรือยื่นมือทำอะไร อาการสั่นจะลดลงหรือหายไป มักเกิดขึ้นที่มือข้างใดข้างหนึ่ง สังเกตได้จากมือสั่นเวลาผู้ป่วยเดิน
อาการเกร็ง มักมีอาการแข็งตึงของแขนขา และลำตัว ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก ปวดตามกล้ามเนื้อ
อาการเคลื่อนไหวช้า ทำอะไรช้าลงไปจากเดิมมาก ไม่กระฉับกระเฉงว่องไวเหมือนเดิม เดินช้าและงุ่มง่าม แบบสโลว์โมชั่น สังเกตได้ว่าแขนไม่แกว่ง และผู้ป่วยมักบ่นว่าแขนขาไม่มีแรง
การวินิจฉัยโรค
โดยทั่วไปหากผู้ป่วยปรากฏอาการชัดเจน สามารถวินิจฉัยได้จากลักษณะอาการและการตรวจร่างกายทางระบบประสาทอย่างละเอียด การตรวจภาพรังสีและการตรวจเลือดไม่ช่วยในการวินิจฉัยโรค อาจใช้เพื่อวินิจฉัยแยกโรคในบางรายเท่านั้น
ระยะแรกเริ่ม อาจวินิจฉัยยาก จำเป็นต้องวินิจฉัยแยกโรคก่อนเสมอ
ผู้ที่สงสัยว่าจะป่วยเป็นโรคพาร์คินสัน ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากอายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยา หรือที่เรียกว่าประสาทแพทย์
แนวทางการรักษา[แก้]
การรักษาทางยา[แก้]
ยาที่ให้แม้จะไม่สามารถทำให้เซลล์สมองที่ตายไปแล้วฟื้นตัวกลับมาหรืองอกใหม่ทดแทนเซลล์เดิมได้ แต่ยาจะออกฤทธิ์โดยไปเพิ่มโดพามีนในสมองให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย แต่การใช้ยาต้องอาศัยความร่วมมือกับคนไข้ในการกินยาอย่างสม่ำเสมอ และต้องมีการปรับขนาดยาไม่ให้ยามากหรือน้อยเกินไป เพราะยาเหล่านี้มักจะมีผลข้างเคียงหากใช้ในขนาดไม่เหมาะสม รายละเอียดเรื่องการใช้ยาจะได้กล่าวในตอนต่อไป
การรักษาทางกายภาพบำบัด[แก้]
เราต้องการให้ผู้ป่วยสามารถกลับคืนมาสู่การมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงเหมือนเดิมให้มากที่สุด เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตนเองได้ และมีความสุขทั้งทางด้านจิตใจและร่างกาย การรักษาทางกายภาพบำบัดจะช่วยได้ในการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องและสมส่วน ท่าเดิน นั่ง การทรงตัว ตลอดจนการออกกายบริหารและแก้ไขภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น หลังโกง ไหล่ติด ปวดหลัง ปวดเอว ปวดคอ ปวดขา เป็นต้น
การรักษาโดยการผ่าตัด[แก้]
ปัจจุบันมีความก้าวหน้าทางประสาทศัลยกรรม มีวิธีใหม่ๆอย่างเช่น DBS (Deep Brain Stimulation) เป็นการผ่าตัดแบบใหม่ โดยอาศัยการฝังสายเพื่อกระตุ้นทางไฟฟ้าอย่างอ่อนในสมองส่วนที่เรียกว่า Globus Pallidus หรือ Subthalamic mucleus ส่งผลให้คนไข้ที่เคยมีอาการสั่น ให้กลับมาเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการวิจัยการปลูกถ่ายเซล (Transplantation) โดยผ่าตัดสมองโดยเอาเนื้อเยื่อจากต่อมหมวกไต หรือปมประสาทบริเวณคอไปปลูกเลี้ยงในโพรงสมองเพื่อให้เนื้อเยื่อเหล่านี้ สร้างสารเคมีโดพามีนขึ้นมาทดแทนส่วนที่สมองขาดไปได้ ผลดีของการรักษาวิธีนี้ คือ ผู้ป่วยอาจไม่ต้องกินยาหรือลดขนาดยาลงได้ เพราะยาส่วนใหญ่มีราคาแพง ส่วนผลแทรกซ้อนของการผ่าตัดก็มีมากเช่นกัน นิยมตัดในรายผู้ป่วยที่อายุน้อยและมีอาการไม่มากนัก และค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสูง
คำแนะนำในการดูแลผู้ป่วย[แก้]
ผู้ป่วยโรคพาร์คินสันจำเป็นต้องมีผู้ดูแลใกล้ชิด
ป้องกันการหกล้มโดยเลือกรองเท้าที่มีพื้นรองเท้าเป็นยาง ทางเดินในบ้านไม่ควรมีของเล่นหรือสิ่งของ หรือเปื้อนน้ำ ควรติดราวไว้ในห้องน้ำ ทางเดิน บันได
ผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องการทรงตัวและการเดิน แนะนำให้ก้าวยาวๆ ยกเท้าสูง และแกว่งแขน เมื่อรู้สึกว่าเดินเท้าลาก ให้เดินช้าลงแล้วสำรวจท่ายืนของตัวเอง ท่ายืนที่ถูกต้องต้องยืนตัวตรง ศีรษะไหล่และสะโพกอยู่ในแนวเดียวกัน เท้าห่างกัน 8-10 นิ้ว
ช่วยให้ผู้ป่วยได้ออกกำลังกาย หรือบริหารร่างกาย ตามสมควรและสม่ำเสมอ จะช่วยให้อาการต่างๆดีขึ้น และช่วยให้ผู้ป่วยไม่เกิดอาการซึมเศร้าตามมาอีกด้วย
ผู้ป่วยโรคพาร์คินสันอาจท้องผูกได้ง่าย เนื่องจากการทำหน้าที่ของระบบประสาทอัตโนมัติบกพร่อง ทำให้การบีบตัวของลำไส้ผิดปกติ เกิดอาการท้องผูก 3-4 วันถึงจะถ่ายอุจจาระครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ผู้ป่วยที่ใช้ยา Artane และ Cogentin ก็เป็นสาเหตุให้ท้องผูกได้
ผู้ป่วยในระยะท้ายจะมีปัญหาเรื่องการกลืน วิธีการที่จะลดปัญหาได้แก่ ตักอาหารพอคำแล้วเคี้ยวให้ละเอียด กลืนให้หมดก่อนที่จะป้อนคำต่อไป ควรจะมีแผ่นกันความร้อนรองเพื่อป้องกันไม่ให้อาหารเย็น และ
ควรเลือกอาหารที่เคี้ยวง่าย
ผลข้างเคียงของยาเลโวโดปา ตัวอย่างเช่น Sinemet, Sinemet CR ที่สำคัญคือเวลาใช้ยาไปสักระยะหนึ่ง อาจจะต้องเพิ่มยาเพื่อควบคุมอาการ แต่ก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงของยาได้เช่น คลื่นไส้อาเจียน ความดันโลหิตต่ำ ควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้ คือมีการเคลื่อนไหวแบบกระตุก สั่นๆ ผ้ป่วยอาจมีอาการสับสนหลังจากที่ใช้ยาระยะยาวและมีขนาดสูงจึงอาจเกิดอาการผิดปกติ โดยก่อนกินยาจะมีอาการเกร็งมาก เมื่อรับประทานยาอาการจะดีขึ้น ระยะเวลาที่ดีขึ้นจะสั้นลง สั้นลง การแก้ไขภาวะนี้ให้รับประทานยาถี่ขึ้นแต่มีขนาดยาน้อยลง
ค่ะ
ครับ ก็นั่นแหละครับ ท่านผู้ชม คราวนี้เรามาต่อกันที่.............
เบรกการคุยเรื่องนี้ไปก่อนเหอะ เข้าระหัสแล้วก็จริงแต่เนื้อแท้มันก็ยังเป็นเรื่องนั้นอยู่ดี เดี๋ยวได้ปลิวจริงๆ
รถเมล์ไฟไหม้แถวลาดพร้าวว่ะ ชีวิตเดี่ยวนี้ไม่ปลอดภัยเอาซะเลย
กูอยากรู้เรื่องไล่ที่พวกห้องแถวตรงโรงแรมอินดรา/ตึกใบหยกว่ะ
มีใครรู้ความเป็นมาบ้างปะกูเห็นป้ายคัดค้านมานานละ ไม่เห็นมันทำไรซะที จะทุบก็ไม่ จะไม่ทุบหรือก็ไม่รู้
เดี๋ยวนะ ไอ้ที่โดนเวนคืนส่วนมากมันเป็นห้องแถว ฝั่งตรงข้ามโรงแรมอินดราทั้งแถบนิ แถวๆโรงแรมอินดรามันโดนไปไม่กี่ห้อง แต่ไอ้ฝั่งนี้โดนทั้งแถบ เมื่อก่อนผ่านก็เห็นขึ้นป้าย ขอผู้ว่าช่วย ขอชัชชาติช่วย ขอ The one who you know ช่วย ไม่เคยเห็นป้ายคัดค้านเรื่องทำห้างแฮะ
>>23 ห้องแถวฝั่งอินดรา ก็โดนว่ะ แถมคู่กรณ๊คนละเจ้า
ป้ายคัดค้านมันจะอยู่ฝั่งอินดรา ช่วงห้องแถวฝั่งตรงข้ามพาลาเดี้ยม ติดตรงชั้น 2-3ของห้องแถวมึงไม่เงยหน้าไปดูจะไม่เห็น ตรงหัวมุมสี่แยก ยาวเข้ามาทาง อินดรา ประมาณ 20 คูหาได้
ข้อความจะประมาณขอบารมี Microsoft ช่วยปกปักษ์ ชุมชนเฉลิมลาภ(ชื่อตลาดมั้ง) กูไปเซิชดู คู่กรณีมันคือ สน.ทรัพย์ฯ ไปไล่ที่แถวนั้นทั้งหมดยาวไปถึง ร.ร.อินดรา ให้ บ.พลาทินั่ม มาบริหาร ก็คือจะสร้างห้างนั่นแหละ จากการถาม Google เห็นว่าไปยื่นเรื่อง คุณสมชาย ให้ช่วยช่วง เดือน ส.ค. ปีนี้ แต่ก็เงียบเป็นเป่าสาก รอวันโดนไล่ที่ แน่นอนตอนนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินคดีอยู่เพราะไล่ไม่ยอมไป
หลังจากเซิชมาก็ดูตลกดีกับเนื้อหาบนป้าย
วันนี้มีเหตุรถชนคนข้ามทางม้าลายที่หน้าแกรมมี่
ถ้าทำการตลาดต่อเนื่องหลายสิบปีอัดงบประชาสัมพันธ์จะฝังชุดความคิดเรื่องการใช้ทางม้าลายได้ไหม
กูว่ายากหว่ะถ้าแค่ทำการตลาดธรรมดา ของอย่างงี้มันฝังเข้าไปในสันดานคนไทยหมดละ กูก็ขอยอมรับว่าเคยฝ่ากฏจราจรเป็นบางครั้ง(แต่ไม่เหี้ยขนาดฝ่าไฟแดง)
ถ้าจะให้แก้จริงๆกูว่าต้องเอาแบบเมืองนอกหว่ะแบบตั้งกฏจราจรให้หนักและเด็ดขาด แต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่าตำรวจเมืองไทยเป็นยังไง...
ขนาดแถวนั้นรถอย่างเยอะ ยังชนตายห่าได้อีก กุว่าไม่ต้องให้ประกันแล้ววะ
เขากดเขียวเพื่อข้ามทางอย่างถูกต้องแต่มาตายเพราะสวะตีนผีไม่มีสามัญสำนึก
ออกกฏหมายแรงๆมาฮิตใช้อยู่ไม่กี่เดือน ยังจำได้มั้ยเมืองไทยเคยมีกฏหมายทิ้งขยะไม่ลงถังปรับ2000เลียนแบบสิงคโปร์
>>26 >>29 มึงดูแค่ตำรวจก็ไม่ถูก ค่านิยมวัฒนธรรมของหน่วยงานที่ทำการกำกับดูและแทบทุกอย่างในประเทศนี้แม่งบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว มึงร่าง กฏมาดีแค่ไหนแต่คนที่คอยบังคับใช้แม่งมีวัฒนธรรมซุยๆ ก็ชิบหายหมดอยู่ดี เพราะมันจะมีข้อยกเว้นไว้ให้พวกพ้องและช่องทางหาผลประโยชน์ส่วนตัวเสมอ
ไม่ต้องดูอะไรมาก น้ำพริกยังซื้อมาแพงผิดปกติเลย เรื่องแค่นี้มันไม่มีปัญญาคิดตอนรับใบเสร็จ หรือทำเป็นมองไม่เห็น พวกมึงก็น่าจะรู้
ข้ามถนนก็ตาย นั่งรถเมล์ก็ตาย
กูเป็นฮิกกี้ดีกว่า
อยากหนีไปเป็นพลเมืองญี่ปุ่น
ถ้าได้ภาษาญี่ปุ่น มีเงิน เป็นโปรแกรมเมอร์ที่เก่งปานกลาง จะพอหาทางไปได้ไหม
เทศ*
ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว
ญี่ปุ่นพลิกประเทศให้กลับมารุ่งเรืองง่ายนิดเดียว
แค่มันหัดแปลซับ av แล้วส่งออกทั่วโลกก็รวยกว่าทำธุรกิจใดๆในโลกละ
ล่าสุดพบสารแอมเฟตามีนในฉี่ของคนขับรถชนครีทีพแกรมมี่
AV ต้องดูซับด้วยเหรอวะ กูดูแต่ฉากบู๊
FC2 ไงมึง จ่ายเงินเป็น premium ดูหนังคลิปโป๊ตาแฉะ ไม่ต้องเอาซับหรอกสัด
ไอ้เรื่องอัตราเกิดน้อยนี่กูเห็นมันก็เป็นมาตั้งนานแล้วนา แต่เศรษฐกิจยุ่นมันก็ตกต่ำจริงๆนั่นแหละ ถึงอย่างงั้นในภาพรวมก็ยังดีกว่ากะลาแลนนับโขอยู่ดี
ที่กูพูดเหมายถึงจะย้ายไปทำไมน่ะ เพราะญี่ปุ่นมีแต่แนวโน้มตกต่ำ
แต่ตอนนี้ถ้าจะย้ายไปเนี่ยประเทศไหนน่าไปบ้างฟะ
ไปแถวสแกนดิเนเวีย มีบ้านให้อยู่ เจ็บป่วยรักษาฟรี ลูกหลานเรียนฟรีจนจบมหาลัย มีสวัสดิการตกงาน,เกษียณ
แลกกับทำงานได้เท่าใหร่ภาษีครึ่งนึงทันทีไม่มีบิดพริ้ว
มันก็มีข้อเสียด้วยกันทุกประเทศนั่นแหละ เอาที่ตัวเองชอบเหอะ
ยุโรปก็เศษรฐกิจตกต่ำ แถมหนี้สาธารณะสูง อเมริกาบางพื้นที่อัตราก่ออาชญากรรมสูง+ถ้ามึงไม่รู้กฏหมายมึงเตรียมโดนฟ้องตูดบานได้ในซักวันหนึ่งญี่ปุ่นก็อย่างที่ข้างบนว่า
กูว่าทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วล่ะ กูเห็นบางคนไม่กล้าไปทำงานญี่ปุ่นเพราะกลัวความกดดันเลยทีเดียว
เค้าก็มีกายบริหารตอนเช้านิ จะกดดันอะไรวะ
ความเห็นกุคือญี่ปุ่นคือปประเทศน่าเที่ยวแต้ให้ไปอยู่จริงกุไปเมกาดีกว่า ถึงชาญเมืองหรือบางรัฐแม่งมีแต่พวกเม็กซิกันก็เหอะ(ไอ้พวกนี้ละน่ากลัวกว่านิกกี้ซะอีก) แต่ถ้าเลือกที่อยู่อาศัยถูกได้ย่านคนเป็นมิตรอะไรๆก็สบาย ทำงานก็แฟร์ๆแต่ภาษีแม่งก็เอาเรื่องเหมือนกัน
ได้ยินว่าประเทศแถบสแกนดิเนเวียปฏิบัติต่อคนต่างชาติที่เข้าไปอาศัยอยู่ค่อนข้างดี ทำให้คนเข้าเมืองเยอะ จนกลายเป็นปัญหาสังคมไปแล้ว (หัวเราะ)
>>58 ประเทศพวกนี้โทษเบาด้วย ตอนกรุงออสโลเจอฆาตกรบุกสังหารหมู่ คนนอร์เวย์ถึงกับมีการเรียกเอาโทษประหารกลับมา เพราะโทษที่มีอยู่มันเบาเกินไป ฆ่าไป 70กว่าศพ ติดคุกแค่21ปี แถมคุกประเทศที่พัฒนาแล้วแม่งหรูพอๆกับคอนโดระดับกลางๆในเมืองไทยเลยว่ะ ก็น่าเห็นใจนะ ระบบกฎหมายและราชทัฑณ์ของที่นั้นออกแบบมาลงโทษ "คนที่เจริญแล้ว" ไอ้เดนมนุษย์เข้าไปฆ่าคนแล้วโดนโทษที่มีไว้สำหรับลงโทษ "ผู้เจริญแล้ว" เนี่ย น่าเจ็บใจอยู่เหมือนกัน
กูก็ว่าแคนาดา น่าอยู่จริงๆ นะ แต่มันไม่มีไรเลย สำหรับกูขอแค่มันมี นินเทนโดกะเนต ก็พอล่ะ
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000145418
กูไปเที่ยวเชียงใหม่มา นั่งเครื่องแม่งดีชิบหาย แป๊บๆ ก็ถึงแล้ว ห้องน้ำก็สะอาด ผิดกะต้องนั่งขุดคู้ในรถ กว่าจะถึงก็นานชิบ แถมราคาพอๆกันอีก
แคนาดาสภาพอากาศหนาวแทบทั้งปี หิมะหนาจนไปไหนไม่ได้ หน้าร้อนมีไม่ถึงเดือน กูว่าไม่น่าอยู่หว่ะ
>>62 สำหรับกูไม่น่าอยู่ตรงอากาศหนาวนี่แหละวะ จริงๆสำหรับคนที่เกิดในประเทศเขตร้อนการไปอยู่อาศัยที่ประเทศเขตหนาวมันก็ไม่น่าอยู่อย่างที่คิดเท่าไรนะ ยกเว้นว่าปรับตัวกับอากาศหนาวได้
.
.
.
ส่วนประเทศไทย ถ้ามีเงินมากๆ กูว่าน่าอยุ่ที่สุดและ ทำเหี้ยอะไรก็ไม่ผิด ใช้ชีวิตแบบพลเมืองชั้นหนึ่งได้เต็มที่ ประเทศที่พัฒนาแล้ว "ความเป็นคน" มันเท่าเทียมเกินไปว่ะ 555555
>>65 มิน่ามันถึงได้รวยเป็นกระจุก ๆ ส่วนอากาศหนาวนี่แค่กูเดินผ่านโซนของแช่แข็งกับของแช่เย็นในฟู้ดแลนด์กูยังรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนยอดดอยสุเทพตัวเปล่า แคนาดากับนิวซีแลนด์ดูสงบแต่กูชอบให้ชีวิตแบบมีสีสันเลยเลือกออสเตรเลีย เพราะขี้เกียจเรียนภาษาอื่นใหม่ แต่กูก็รักเมืองไทยมากที่สุดอยู่ดี (อาหาร + ภาษาไทย + ชิล ๆ) แต่ยังไงถ้ามีโอกาสจริง ๆ ก็อยากลองไปทำงานที่นั่นดูสักครั้ง (ตอนนี้กูยังเรียนไม่จบมหา'ลัย)
อีกที่นึงก็มอลต้า เกาะเล็ก ๆ แถวอิตาลี ดูครึกครื้น สบาย ๆ น่าไปใช้ชีวิตที่นั่นเหมือนกัน มีร้านอาหารไทยแค่สองร้านเอง คนรู้จักกูกำลังจะไปเรียนภาษาอังกฤษที่นั่นกับหาลู่ทางไปเปิดร้านอาหารด้วย 55555
>>69
กูมีเพื่อน 2 คนมันไปใช้ชีวิตในเมกาตั้งแต่ ม.5 มีเมียฝรั่งไปคนหนึ่ง ตอนนี้มีลูกตั้งรกรากที่โน่นแล้ว หน้าตาไม่ได้หล่ออะไรมาก แฟนมันก็กลางๆ นะ แต่นิสัยก็น่ารักดี ส่วนอีกคนกลับไทยได้เมียไทยเพิ่งแต่งงานไปเมื่อไม่กี่วัน เคยถามมันตอนกลับมาใหม่ๆ เมื่อ 7-8 ปีก่อนว่าทำไมไม่หาแฟนฝรั่ง มันบอกว่ามันไม่ชอบฝรั่งเท่าไหร่ มันชอบไทย - ญี่ปุ่นมากกว่า แล้วสรุปออกมามันก็ได้เมียไทย สวย ใส มาคนหนึ่งแต่กูเซ็งเมียมันอย่าง จะชวนมันไปไหนแม่งเจ้ากี้เจ้าการเหลือเกิน แถมเข้ากับพวกกูไม่ค่อยได้ด้วย ไม่เข้าใจหรอวะว่าพวกกูก็ต้องการไปปาร์ตี๊บ้าง ไม่บ่อยเลยนะเว่ย แค่ปีละ 3-4 ครั้งเอง นานๆ พวกกูจะกลับมาเจอกัน พล่ามมายาว ถ้าตัดเรื่องรายได้และความสามารถ แล้วเลือกได้ในระดับที่เท่ากัน คือแบบเลือกจีบได้แล้วมีสิทธิ์ทั้งคู่ กูว่าก็ยังเห็นยากว่ะ กูว่ามันไม่ใช่สเป็กหนุ่มไทยว่ะ แค่นี้แหละ
อีจ่าโดนฟ้องแล้วหว่ะ(รอบที่เท่าไหร่วะเนี่ย)
เพื่อนโม่งคิดว่าไงกันบ้าง
หวังฟันเงินรัวๆชัวร์ว่ะ
ฟ้องเรื่องไร เผือกด้วย
ขัดจังหวะ แปป เห็นโม่งบนๆพูดเรื่องการย้ายไปอยู่แคนาดากูก็อยากไป ตอนนี้ยังไม่ได้เก่งอะไรแต่กูพยายามได้ กูแค่อยากรู้ว่าทำไงถึงสามารถไปอยู่ไปทำงานที่โน่นได้วะ ทำงานธรรมดาอย่างเด็กเสริฟอะไรก็ได้ กูแค่อยากไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นอ่ะ ช่วยบอกเรื่องทำวีซ่าการเตรียมตัวจำนวนเงินบลาๆ อะไรก็ได้ที่เป็นวิธีพากูเข้าไปอยู่หน่อยสิ
อีพวกอัดเงินลงเกมมือถืออีเวนท์ละเป็นล้านเยนนี่เป็นคนส่วนน้อยของประเทศสินะ
แนะนำเหมือนโม่งข้างบน ไป work&travel ดูสภาพแวดล้อม ไม่ก็สมัครงานดูชีวิตจริงเลย
ถ้ามีมึงเงิน มีความรู้(ที่ใช้งานได้ดี) ได้ภาษา มึงจะไปเป็นขี้ข้าทีต่างประเทศทำไมวะ สู้เป็นนายใช้ภาษาเก๋ๆ อยู่ไทยไม่ดีกว่าเรอะ อยู่เมกาใครๆก็พูดอังกฤษได้ สู้อยู่ไทย มีคนพูดได้กระจึ๋งไม่ดีกว่าหรอ
เว้นแต่ว่าเพื่อนโม่งกำลังเพ้อฝันถึงประเทศศิวิไลซ์และชีวิตที่ดีกว่าแบบเพ้อเจ้อ ไปตายเอาดาบหน้าทั้งที่ตัวเองมีความสามารถไม่ถึงอยู่?
อเมริกาก็เหยียดสีผิว ทุเรศไม่ต่างกับไทยหรอกมึง มึงอาจเก่งมาก ได้เงินเดือนขึ้นทุกปี แต่ตำแหน่งมึงก็ไม่ขึ้นหรอก มึงเป็นได้แค่หัวหน้าของเอเชียด้วยกัน ไม่ใช่หัวหน้าคนผิวขาว และเตรียมถูกไอ้พวกปากหมาเรียก yellow monkey ได้เบยยยยยน
ไปญี่ปุ่นก็ระวังถูกเพื่อนร่วมงานใช้เส้นแย่งโปรเจคล่ะ จุ๊บ จุ๊บ ญี่ปุ่นคอรัปชั่น ใช้ระบบบุญคุณไม่ต่างกับเราหรอกเพื่อนเอ้ยยยย
>>83 ถูกใจความเห็นนี้นะ เพราะถ้าคิดว่าจะไปตายเอาดาบหน้าโดยไม่มีความรู้หรือความสามรถติดตัวไปด้วยเนี่ยเหมือนเอาชีวิตไปเสี่ยงเปล่าๆ ถ้าอยากจะได้อนาคตที่ดีก็เริ่มต้นที่ตัวเองก่อนเลย พยายามหาความรู้ ประสบการณ์ และความอดทน ไม่มีที่ไหนดีเลิศทั้งนั้นละ มีแต่มากน้อยแค่ไหนกว่ากัน แต่กว่าอย่าคิดแต่ด้าน negative side ด้านเดียวเพราะมันเหมือนการบั่นทอนความตั้งใจ ทำอะไรก็ต้องเต็มที่ไม่ใช่คิดแค่รอโอกาสไปนู้นแล้วพยายาม กุก็เคยไปนู้นบอสตันมันก็ดีนะ ผู้คนเป็นมิตรแต่พอไปซานฟรานแล้วแม่งก็มีคนหยาบคายนั้นนะแต่ถ้าไปเออวานเนี่ยสงบดีนะ กุไม่กล้าตันสินหรอกว่ามึงไปนู้นแล้วจะได้งานดีไหม แต่ถ้ามึงจริงใจและปรับตัวได้เขาก็เคารพมึงกลับนั้นนะ
แล้วแต่การปรับตัวว่ะ ญาติกูอยู่อเมริกาแฮปปี้กว่าอยู่ไทยนะ
เขาบอกอยู่ไทยเจอระบบความคิดฝังหัว กับค่านิยมแย่ๆบางอย่างของไทยแล้วทนไม่ได้
ส่วนพ่อแม่กูพูดเหมือน>>83 คืออยู่ไทยชอบ เพราะมีคนเคารพนับถือ ถ้าไปทำงานต่างประเทศคงไม่ได้ตำแหน่งใหญ่โตแบบนี้
ส่วนน้องสาวกูไปเรียนญี่ปุ่นก็ชอบที่นั่นมากกว่าไทย เพราะเขาชอบวัฒนธรรมneetยุ่น เอ้ย วัฒนธรรมญี่ปุ่นอยู่แล้ว อีกอย่างคือเขาอยู่เมืองบ้านนอก บอกว่าคนอัธยาศัยดี แถมสงบ ไม่อันตรายแบบไทย
ส่วนกู เคยอยู่ประเทศเดียว....นอกนั้นเคยแต่เที่ยวไม่เคยอยู่ ปีหน้าจะไปเรียนต่อเหมือนกัน ไม่รู้จะชอบไหม
กูว่าคงแล้วแต่คนมั้งว่าชอบอยู่แบบไหน มันคงไม่มีที่ไหนดีดีอย่างที่ใฝ่ฝันหรอก แต่อย่างน้อยสำหรับกู กูก้อยากลองไปที่อื่นที่ไม่ใช่ที่นี่ว่ะ บอกตรงๆว่าตอนนี้กูไม่คิดว่ากูชอบประเทศไทย
ก็คือแค่ขอวีซ่าไปแล้วก็หางานอะไรทำนองนี้อ่ะหรอ อยู่ครบห้าปีก็ขอสัญชาติ
>>88 โอเค กูอาจจะเวอร์ไปหน่อยที่บอกว่าคอรัปชั่นมันมากกว่าไทยแต่ที่แน่ๆไม่น้อยไปกว่าไทยแน่ๆหว่ะ แต่สิ่งที่ทำให้เขาเจริญได้เป็นเพราะเขามีความ"รับผิดชอบต่อหน้าที่"หว่ะ ถึงบางรัฐบาลจะมีการคอรัปชั่นเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งแต่เขาก็พยายามจริงๆที่จะทำให้ประเทศดีขึ้นซึ่งพอทำไม่ได้บางคนก็รับผิดชอบด้วยการลาออกไปซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบหว่ะ ถึงประเทศไทยจะไม่มีคอรัปชั่นแต่กูเห็นว่าถ้าคนไทยยังบริหารประเทศแบบนี้ต่อไปยังไงก็ไม่เจริญขึ้นหว่ะ
>เวอร์ไปหน่อยที่บอกว่าคอรัปชั่นมันมากกว่าไทยแต่ที่แน่ๆไม่น้อยไปกว่าไทยแน่ๆ
redundant
>รับผิดชอบด้วยการลาออก
fallacy
opinion discarded
กูถามหน่อยสิ ค่านิยมว่าลาออกคือการรับผิดชอบเนี่ยมันเริ่มมาจากไหนวะ
>>89 กูว่ามึงพูดจาสับสนใจตัวเองมาก ไปทำความเข้าใจอะไรตอมิอะไรมาใหม่ก่อนก็ดีนะ ว่าจะเอามีคสามรับผิดชอบต่อหน้าที่ หรือจะเอาคอรัปชัน กันแน่ มันคนละเรื่องกันเลย
>>91 ไม่รู้ว่ะ แต่เห็นข่าวพวกCEOกับนักการเมืองญี่ปุ่นทำบ่อยสุด มันคงเป็นคานิยมของประเทศเขาล่ะมั้ง ที่ว่าการลาออกคือการยอมออกจากตำแหน่งของตัวเอง ยอมวางหน้าที่การงานและศักดิ์ศรีเพื่อไม่ทำให้เกิดปัญหาไปมากกว่านี้ เป็นการยอมรับว่าตนเองไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง แต่เอาเข้าจริงปัญหาที่ว่านั่นมันก็ยังอยู่อยู่ดี มองอีกแบบกูว่ามันก็คือการทิ้งขี้ไว้ให้คนอื่นแก้ และยอมรับว่าตัวเองเก็บกวาดขี้นั่นไม่ไหวแล้ว อะไรทำนองนี้ปะ
เอาใหม่นะตอนนั้นกูเบลอ
ที่กูจะพูดคือญี่ปุ่่นหน่ะมีการคอรัปชั่นเยอะเพราะในราชการมักมีการติดสินบนเพื่อให้ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นบ่อยๆซึ่งรวมไปถึงตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย(หลังๆคนเริ่มต่อต้านแล้วทำให้ไม่มากเท่าสมัยก่อน)แต่ประเทศเขากลับเจริญกว่าประเทศเรามาก เพราะอะไร?
ส่วนเรื่องคอรัปชั่นญี่ปุ่นมากกว่าไทยก็ตามนี้(อิงจากค่าCPI ปี2014)
http://imgur.com/28rvpIY
http://imgur.com/9YPBnN1
เฮ้ย กูว่ามึงเข้าใจCPIผิดเองป่าว scoreของไทยได้แค่38 ของญี่ปุ่นได้76 นี่มันแปลว่าไทยคอรัปชั่นเยอะกว่าเขาเป็นเท่าๆตัวเลยนะเว้ย
ลองอ่านวิธีเรียงลำดับภาษาไทยดูก่อนไหม? http://goo.gl/a4NkiQ
ลาก่อยAnBMiJHWs
ถ้ากูเป็นมัน กูคงไม่กล้าโพสอะไรห้องนี้อีกเลยจนกว่าIPจะเปลี่ยน
คือกูเชื่อนะว่า ถ้าวัดกันในประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติใกล้เคียงกัน การคอรัปชั่นเนี่ยจะเป็นตัววัดเลยว่า ประเทศไทนจะเจริญ
ที่เหลือคือความสามารถของชนชั้นระดับผู้นำว่ามีกึ๋นแค่ไหนที่จะบริหารประเทศได้ ซึ่งกูก็มั่นใจอีกว่า ถ้ามันไม่มีการคอรัปชั่นยังไงคนที่เป็นผู้ปกครองก็ต้องได้คนมีความสามารถแน่ๆ
ตอนนี้ญี่ปุ่นหนี้สาธารณะเยอะถึง >200% แต่ทำไมประเทศเขาไม่ชิบหายไปเหมือนโซนยูโรวะ พวกโซนยูโรอย่างอิตาลี มีเกิน 100 มาไม่มากยังชิบหายแล้วเลย
กูว่าญี่ปุ่นยังมีศักยภาพอยู่ว่ะ ทรัพยากรธรรมชาติอาจไม่ค่อยมีแล้ว แต่การเปลี่ยนขั่วอำนาจจากพรรคการเมืองเดิมมาสู่กลุ่มบริหารใหม่ของ ชินโซะ อาเบะ + กับการบริหารประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากการกล้าขึ้นภาษี กล้าปั๊มตังให้ค่าเงินอ่อน ปีงบประมาณที่ผ่านมาอัตราการเพิ่มของหนี้สารธารณะที่เพิ่มเป็นจรวดทุกปีก็มีอัตราลดลง แม้ไม่มีอะไรรับประกันว่า ญี่ปุ่นจะรอดพ้นวิกฤตินี้ได้รึเปล่า แต่กูว่าก็ไม่มืดเป็นหลุมดำเหมือนประเทศที่มีข่าวลือว่าคนๆเดียวจะตายเศรษกิจก็พร้อมดิ่งลงเหว ประชาชนไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ได้แต่เฮโลพวกมากลากไป เล่นพรรคเล่นพวก คนอุบาทว์เดินลอยหน้าลอยชายสบายใจเฉิบ ยกเผด็จการเป็นเมซไซอา ตรรกกะ เพี้ยนๆพวกนี้กูว่าแม่งดูมืดมนกว่า หนี้สาธารณะ >200% เป็นไหนๆ
>>100 มันจะพัฒนาไปผิดยังไงวะ จริงอยู่เรื่องคอรัปชั่นไม่ใช่ทุกอย่าง
แต่กูว่ามันเป็นพื้นฐานของการปกครองว่ะ และเป็นพื้นฐานที่สะท้อนด้านวิธีคิดและทัศนคติของประชาชน แบบที่มึงว่าด้วย
ถ้าไม่มีคอรัปชั่น เวลามึงเลือกผู้นำมึงจะได้คนที่เก่งแน่ๆอยู่แล้ว และการบริหารไม่ใช่คนเดียวแต่มาเป็นกลุ่ม ถ้าทีมบริหารเก่งหมด ดีหมด ช่วยเหลือกัน มันจะนำพาประเทศให้เจริญไม่ได้ได้ไงวะ ถ้าผู้บริหารมีความสามารถมีศักยภาพจริง ย่อมสามารถเปลี่ยนทัศนคติของประชาชนได้ และทำให้ทรัพยากรบุคคลของประเทศนั้นมีคุณภาพ การไม่มีคอรัปชั่นก็คือไม่มีคนคิดโกงตั้งแต่ระดับประชาชนถึงชนชั้นปกครอง มันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าประชาชนมีทัศนคติแย่ๆ ที่เอาแต่จะโกงเอารัดเอาเปรียบกัน
ซึ่งในความเป็นจริงการไม่มีคอรัปชั่นเลยนั้นก็ค่อนข้างจะเข้าใกล้ 0 ว่ะ ซึ่งสถานการณ์แบบนั้นมันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายในสังคมมนุษย์ที่มีขนาดใหญ่ระดับประเทศ ที่กูยกตัวอย่างมา ไม่ได้บอกว่ามีประเทศใดในโลกนี้นะที่ไม่มีการคอรัปชั่น ไม่ได้พูดถึงญี่ปุ่นหรือยกยอมันเลยด้วย ถ้ามันไม่มีคอรัปชั่นจริง มันไม่เจอวิกฤติแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้หรอก
กูว่าพวกมึงพูดเรื่องที่ยากเกินไปละ
ญี่ปุ่นนี่จะเรียกคอรัปชั่นก็ไม่เชิง ต้องเรียกระบบอุปถัมภ์ปะวะไม่แน่ใจ ประมาณว่ามึงรู้จักใครในบริษัทก็ได้เปรียบ เล่นเส้นสายในที่ทำงาน ใช้ความสนิท เลี้ยงเหล้าบ่อยๆเพื่อเอาโปรเจ็ค ก็เหมือนไทยนั่นแหละ กระทู้นี้ทำให้กูนึกถึงกระทู้ในพันทิปที่ไอ้เห่อหมอยไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่กี่วัน สองสามครั้งแล้วตัดสินว่าญี่ปุ่นดีไปหมด อนาถชิบหาย -.-
ญี่ปุ่นกับไทยมีอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน แต่การปฎิบัติต่างกันมาก อยากให้ไทยเหมือนกับญี่ปุ่นในเรื่องนี้นะ แต่คงเป็นไปได้ยาก
อภิมหาโคตรของสุดยอดเหี้ยห่าลากเขี้ยวดินสิ้นเดียวดายสกายดาวตกจากดาวหางสุดติ่ง Hipster กันไปเลย
เห็นแล้วอ้วกเป็นสายรุ้ง wanna be hipster กันไปเลยสหายโม่ง
>>106 แม่งเพ้อเจ้อ 5555 กูเข้าใจนะ ซัมวันตรงนั้นอาจจะรักชาติและพยายามพูดให้ชาติตัวเองดูดี กูก็เป็น(เรื่องรักชาตินะ) แต่มันก็ต้องมองให้เป็นกลางว่ะ กูไม่ได้ต่อต้านการไปทำงาน/อาศัยต่างประเทศ ถ้าไปได้กูก็อยากไปเพื่อพัฒนาตัวเองเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เพื่อดูถูกประเทศตัวเองแบบชิบหาย เลวไม่มีดี ทุกประเทศมันมีทั้งดีไม่ดีหมดนั่นแหละ แต่เพราะเราไม่ได้ไปคลุกคลีกับเขา เราจึงมองเขาดีไปหมด อยากให้มองเป็นกลางไม่อวยตปท.อย่างบ้าคลั่งและไม่ดูถูกประเทศตัวเองจนเกินไปนะเพื่อนโม่งทั้งหลาย
อืมมมม ไหนๆก็ไหนๆ ขอพูดเรื่องรักชาติด้วยเลย
ณ ที่นี้ คนที่รักชาติจริงก็อยากให้ยอมรับว่าหลายๆอย่างของชาติเราแม่งเกินเยียวยาเหมือนกัน ไม่ว่าจะวัดจากอะไรแม่งก็อยู่ในอันดับที่เอาไปคุยข่งอะไรใครไม่ได้เลยน่ะนะ
กูว่าไอ้หนุ่มเห่อญี่ปุ่นในพันทิพย์มันพึ่งเคยไปเมืองนอกครั้งแรกมันเลยหลง แต่เอาเข้าจริงคุณภาพของคนประเทศนั้นมันก็สูงกว่าไทยจริงๆนั่นแหละ ทั้งความตั้งใจ วินัย หน้าที่ ความรับผิดชอบ อยากให้คนที่รักชาติจริงๆตระหนักแล้วช่วยกันปรับปรุงคุณภาพของคนในชาติด้วย ไม่อยากได้ยินแต่ว่า "ก็นี่เมืองไทย ไม่ชอบประเทศไทยก็ไปประเทศอื่นซะ" แบบนั้นกูไม่เรียกรักชาตินะ กูเรียกชุ่ย
ส่วนกูไม่ค่อยรักชาติเท่าไหร่หรอก แต่กูอยากอยู่ในที่ที่ประชากรมีคุณภาพว่ะ กูพยายามทำตัวเองให้ดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าคนอื่นในชาติทำตัวไม่ดีกูก็ขอวิจารณ์ไม่เกรงใจหน่อยละกันนะ คนรักชาติก็อย่าโกรธกัน
ไม่ได้ดูถูกประเทศตัวเองว่ะ ไม่คิดว่า ไทย เป็นประเทศที่เหี้ยที่สุดในโลก
แต่ก็แน่นอน กูก็ไม่ได้คิดว่าประเทศไทยเป็นสวรรค์วิมานอะไร ที่ๆดีกว่านี้ยังมีอีกเยอะ
แต่ก็นะ คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเหี้ยยังไง เอาแต่มองข้ามผ่านความทุเรศที่ทำมา มันจะมีวันปรับปรุงตัวหรือทำให้มันดีขึ้นได้เหรอวะ กูว่านี่แหละหลุมดำละ
หึ จะพัฒนาประเทศแม่งต้องเริ่มจากยอมรับปัญหาซะก่อน แต่คนไทยก็รู้ๆกันอยู่ทำผิดโดนจับได้แม่งด่าสวนใช้เส้นสายทำให้ตัวเองพ้นผิด
เข้าไปในวงศาตณาญาติเล่าเรื่องเข้าข้างตัวเองให้คนมาช่วยเลียแผล เรื่องเล็กๆคนแม่งยังไม่กล้ารับกัน จะเอาหน้าที่ใหนไปรับเรื่องระดับชาติ
อีกเรื่องที่ถ่วงความเจริญคือเรื่องกรรม คนไทยแม่งเชื่อสนิทใจมากถ้าเกิดเรื่องแย่ๆกับตัวคือกรรมเก่า หัวล้านห่มเหลืองสอนฝังหัวไว้ว่ากรรมคือสิ่งที่ต้องชดใช้โยมก้มหน้ารับไปซะนะ ถ้ามึงโดนเอาเปรียบหรือคนเลวทำเรือ่งเหี้ยๆมึงต้องก้มหน้ารับไปห้ามฝืนกรรม ส่วนคนเลวเดี๋ยวชาติหน้ามันก็รับกรรมไป
กว่าแม่งจะตายแม่งก็สร้างความชิบหายไปถึงใหนต่อใหน แถมแม่งอายุยืนซะอีกแน่ะ
อ้วนตันมันนึกอะไรวะถึงทำหิมะที่เชียงใหม่วะ
ไปต่างประเทศด้วยวิธีของตั้ง อาชีวะสิมึง
ตอนนี้มันได้ citizenship แล้วด้วย
https://www.facebook.com/tawit.boon/posts/869863439725466
กูเห็นแชร์ในเพจจ่าพวกมึงคิดกันยังไงมั่ง(แต่กูว่าถ้ามีอาจารย์แบบนี้สอนในมหาลัยกูคงหนีไปที่อื่นแล้ววะ)
แม่งร้ายกาจเหี้ยๆ https://www.facebook.com/tawit.boon/posts/870089126369564
ภาพสติ๊กเกอร์ไลน์ค่านิยม12ประการนี่ made my day จริงๆ
7 ล้านเลยนะเว๊ย ภาษีพวกมึงพวกกูนี่แหละ
สติ๊กเกอร์เหี้ยอะไร กูวาดเองยังสวยกว่าเลยสัด
ลองมั่ง กูว่ามันน่าจะเว้นกรอบหน่อยนึง
http://imgur.com/t1aIzlM
สติกเกอร์โง่ๆ12รูป ใช้งบ7ล้าน ประเทศไทยมั้ยล่ะมึง
คนวาดได้เท่าไหร่วะ สงสัยนิดๆ
เสร็จแล้วรีบโหลดมาใช้เลยนะพวกมึง ภาษีพวกมึงทั้งนั้น ต่อให้ไม่ใช้ โหลดมาเก็บไว้ก็เหมือนได้คืนภาษีนั่นแหละ สัสเอ๊ย
กูไม่เล่น LINE ไอ้เหี้ย
Smart phone กูก็ไม่มี
คือไรวะ จ่ายค่าเหี้ยไรตั้ง 7 ล้าน
ใช้ได้แค่ 3 เดือนอีกต่างหาก
เป็นกู ต่าวาดกูให้เต็มที่หกพัน ทีาเหลือกูแดกเอง
ค่าลิขสิทธิ์ป่าววะ? กูไม่เห็นตัวสติกเกอร์นะ เดาไปงั้นแหละ
จ่าย7ล้านให้คนวาดหรอวะ เอาจริงดิ?
ทำสติกเกอร์เพื่อโปรโมตองค์กรณ์ต้องจ่ายหัวคิวให้Line 7ล้านคือขั้นต่ำสุดของมัน
+1 ให้ >>136 พวกมึงคิดเหรอว่าไลน์จะให้ลงฟรีๆ
ความเห็นส่วนตัว จะทำทั้งทีทำไมไม่ทำให้น่ารักๆ วะ นักวาดไทยเก่งๆ มาตั้งเยอะแยะ
เพื่อนกูวาดยังดูดีกว่านี้เลย แถมบางภาพกูเค้นแล้วเค้นอีกยังไม่รู้เลยว่าสื่ออะไร
จนไปอ่านรูปที่มีอธิบายค่านิยมมาให้เนี่ยแหละถึงจะเข้าใจ (http://www.brandbuffet.in.th/wp-content/uploads/2014/12/สติ๊กเกอร์ค่านิยม.jpg)
สรุป กูคนนึงละที่จะไม่โหลดมาใช้
มันขยับได้ด้วยว่ะมึง
http://droidsans.com/12-thai-core-value-sticker
>>136-138
ไอ้ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้ ไลน์ 5-6 ล้านอะคือค่าใช้จ่ายกรณีที่มี Official Account เป็นเวลา 1 ปีด้วยนะ และแน่นอนถ้ามี Official Account มึงต้องมีค่าจ้างคนดูแลอีก
แต่นี่มันมีเหรอวะ Official Account ของไอ้ 12 ประการเนี่ย แถมสติ๊กเกอร์มีอายุแค่ 3 เดือนนะ พวกมาสคอตของเขาก็ไม่ได้ขอเอามาใช้
มึงคิดว่า 7 ล้านเนี่ยมันสมเหตุสมผลเหรอวะ
ทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ย7ล้านเนี่ย
มีใครตามข่าวเรื่องลาดกระบังโดนยักยอกเงินไปพันล้านมั่งวะ โครตเหี้ยเลย เย็ดครก
งานวันเกิดเค้าจัดกันที่เป็นร้อยล้าน เจ็ดล้านแค่นี้ชิวๆน่า
ใครว่าไม่สมเหตุสมผลก็ออกนอกประเทศไปครับ
อย่าถ่วงความเจริญของประเทศ
นี่ๆเพื่อนโม่งคือกูพึ่งมาจากห้องกามมาหวะ จะเปลี่ยนมาสิงห้องนี้บ้าง ดูจะได้สาระดี แต่ทีนี้กูสงสัยเกี่ยวกับหัวมู้หว่ะ ข่าวสารบ้านเมืองนี่กูพอเข้าใจว่าคือเกี่ยวกับความเป็นไปของสังคม แต่ไอ้OS นี่คืออ่ะไรวะ ถ้าคือ Operation System ทำไมไม่ไปอยู่ห้องไอทีอ่ะ
กระแสดาวน์นี่หว่า ก็ตามข่าวจริงๆ
http://news.voicetv.co.th/thailand/146523.html มันเอาอีกแล้ว
กูว่ามันพยายามฉีดเงินมากกว่าน่ะ ฉีดๆ เยอะๆ ให้เงินมันหมุน
>>156 คือค่าใช้จ่ายโครงการนี้มันสมเหตุสมผลนะไม่แพงเกินจริง แต่ว่า....
ทำไปทำเหี้ยอะไร
ไอ้ 12 ประการของแม่งนี่ ยังกะเรียงความเด็กประถม แต่ละข้อแม่งซ้ำๆกันทั้งเพ เขียนมาให้เยอะๆน้ำท่วมทุ่งทั้งนั้น จะโปรโมททำเ_ย อะไรนัก เอาไว้อวยท่านผู้นำเรอะว่าคิดมาได้ไงเมพขิง
แล้วคนที่ได้ประโยชน์สุดก็คือพวกสื่อกะโรงหนัง ที่ได้ค่าเหมาฉายเต็มๆ กับค่าโฆษณาเหนาะๆ (มึงฉายหนังปกติดีไม่ดี ได้ตังน้อยกว่านี้ คนดูหนังเดี๋ยวนี้จะมีซักเท่าไหร่ หนังดังยังไงก็เต็มโรงแค่ตอนลงโรงไม่นาน)
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10152932627372439&id=146406732438
เซงฉิบหายจะปี2015เเล้วเเม่งยังมีคอมเม้นทประเภท ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่ ของเเบบนี้มีอยู่จริง คุณไม่เจอกับตัวเองก็ไม่รู้หรอกบลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆควย
มาพูดตอนกระแสหมดแล้วไม่มีใครสนใจแล้วทำไมฟะ ทีกระแสแรงๆ มึงกลับไม่มาห้าม ก็ปล่อยไปเหอะ เพราะบอร์ดนี้มันไม่ดังอยู่แล้ว แล้วโม่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ hardcore มากมายอะไร แค่คุยตามข่าวเฉยๆ หมดกระแสไป มันก็ไม่มีไรพูดเอง
อ่านข่าวพวกคลองถม โดนไล่ท่แล้วหงุดหงิด ห่ามันผิดกฏหมายตั้งแต่ที่มึงจองที่ขายของแล้ว พื้นถนนเขาห้ามขายเฟ้ย แถมมาบอกว่ารังแกคนจนพวกมึงแม่งรวยกว่ากูอีกฟะ
เรื่องติ๊กเกอร์12ประการ กูเห็นแต่คนด่า พอดีเห็นคนที่คิดเห็นอีกแบบนึงเลยลองเอามาแปะให้มึงอ่านกัน
https://www.facebook.com/nuttaputch/posts/10152569618726161?pnref=story
คือกูรู้และเข้าใจว่าทำ Sticker ลง Line เนี่ยราคามันไม่ถูก มันแพงพอตัว ไหนจะค่าบริการของ Line เอง ค่าอื่นๆอีกจิปาถะ แต่ที่เค้าบ่นๆกันเนี่ย คือมันทำแล้วได้อะไรกลับคืนมา? อ่าน Blognone เมื่อวาน เห็นบอกว่าตั้งเป้า DL ไว้ 3.5 ล้านบัญชี คนโหลดไปแล้วจะเป็นคนดี? ค่านิยม 12 ประการมันจะซึมซาบเข้าสู่สมองคนใช้ได้? แถมไอ้ 7.1 ล้านที่ลงไปนั่นก็เงินภาษีของกู ของมึง เงินภาษีพ่อแม่กู พ่อแม่มึงทั้งนั้น ไอ้ Sticker ของบริษัท ของแบรนด์อื่นๆมันก็ใช้เงินของบริษัทมันเอง ไม่ใช่เงินกู เงินมึง
กูคิดว่า 7 ล้านกับงบประชาสัมพันธ์นี่คุ้มอยู่นะ เงิน 7 ล้านหมดไปกับโครงการง่อยๆไม่รู้เท่าไหร่
ตัวงานออกมาแบบขยับได้กูว่ามันก็สวยดี มีคุณภาพด้วยซ้ำ ไอ้ที่ด่าๆกันนี่ส่วนมากก็คิดแค่ว่า
7 ล้านภาษีกู สติ๊กเกอร์ไร้สาระ แม่งถ้าคนโหลด 3.5 ล้านแสดงว่าเข้าถึง 3.5 ล้านคน
คนละ 2 บาทเองคุ้มจะตายห่า
มันใช้ได้ตั้ง 3 เดือนนะมึง
จะบ่นไรกันนักหนา
ได้สำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมของคนบางกลุ่มไง
อ้า กูเป็นคนดีแล้วก็ฟ้าเหลืองแฮ่กๆๆๆ
มากกว่านี้ แม่งจะผิดหัวข้อกระทู้ไปมั้ยวะ กูขอข้ามเรื่องสติ๊กเกอร์ไปคุยเรื่องอื่นกันแทนละกัน เอาเป็น มนุษย์กล้องที่แอบถ่ายรูปคนรองเท้าขาดบน BTS แล้วหาว่าเขาแอบติดกล้องส่องกางเกงในละกัน เจ้าตัวผู้เสียหายไปแจ้งความแล้ว กูอยากให้ฟ้องแม่งให้หนักๆเลย
ก็ดีจะได้ตื่นตัวกันบ้าง
http://news.sanook.com/1719897/
อ้าวตกลงคิดไปเอง ทีหลังจะได้คิดหน่อยว่าคุณทำเขาได้ เขาก็ทำคุณได้เหมือนกัน 555
>>163 >>166 >>169 กูขอบอกว่าเห็นด้วยว่าจำนวนเงินที่ใช้ไปมันไม่ค่อยแพงหรอก
แต่พวกมึงลืมนึกเรื่องสำคัญไปรึเปล่า
ว่ามันทำไปเพื่อเหี้ยอะไร ทำไปแล้วได้ห่าอะไร
เหมือนกับมึงเอาเงินซัก 10 ล้าน พาพวกภารโรงธรรมดาๆ ในหน่วยงานซักแห่งไปเที่ยวยุโรป ซัก 100 คน เป็นค่ากินเที่ยวตลอดทริป
มาคิดดู ไม่แพงหรอก ไปทัวร์ยุโรปค่าตั๋วเครื่องบินค่าที่พักก็ตกคนละแสนแล้ว ไหนจะค่ากินอยู่พร้อมอีก
แต่ทำไปทำไมวะ เงินตั้ง 10 ล้าน ได้ประโยชน์อะไรต้องเอาเงินไปลงทุนแบบนี้
เรื่องนี้ก็เหมือนกัน 7ล้าน มึงเอามาทำกับเรื่องพรรณนี้เหรอ ใช้อะไรคิดวะ ยังไม่นับหนังสั้น 25 ล้านว่าทำไปทำไม
กูนึกได้อย่างเดียวว่าพวกนี้คือ คอสจากการเลียไข่ท่านๆนั้น
ต้องขอบคุณเจ้าของคดีนี้ ต่อจากนี้ไปกูจะได้ติดกล้องไว้ในรองเท้าได้โดยไม่มีใครสงสัย นึกว่าเป็นรองเท้าขาดธรรมดา
ถ้าใครถ่ายรูปกูไปแชร์กูก็กลับบ้านมาถอดกล้องที่รองเท้าออกแล้วเอารองเท้าเปล่า ๆ ไม่มีกล้องมาโพสเป็นหลักฐานว่าเป็นรองเท้าขาดธรรมดาได้
เรื่องรองเท้าจะโทษคนถ่ายคนแชร์ฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกว่ะ
ช่างเชื่อมเหล็กคนนึงเดินไปเอาเหล็กรูปตัว L สีดำที่โกดังใกล้ ๆ
ขากลับเดินผ่านธนาคารกำเหล็กรูปตัว L เดินเข้าไปในธนาคารด้วยแล้วโดนยามรวบ จะโทษยามฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกเท่าไหร่
มีคนไปเที่ยว Holocaust Memorial แล้วเสื้อที่ใส่มีรอยขาดเป็นสัญลักษณ์สวัสดิกะ ไอ้คนนั้นจะโดนคนแถวนั้นกระทืบกูก็ไม่แปลกใจ
ทำสิ่งที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ง่ายในสถานที่ที่มันไม่เหมาะ ก็ต้องโทษตัวเองด้วย
มีคนแชร์กันเยอะ มีเว็บต่าง ๆ เอาไปลงข่าว ก็แสดงว่ารูนั่นมันดูเหมือนกล้องจริง ๆ
แล้วรูนั่นมันเกิดจากอะไรวะ กูใช้รองเท้าจนขาดมาหลายคู่ เห็นของคนอื่นขาดมาก็เยอะ ไม่เคยเจอรองเท้าขาดเป็นรูกลม ๆ ตรงตำแหน่งนั้นทั้งสองข้างเลยว่ะ
คือถ้ามันไม่ใช่ก็แล้วไป แต่ถ้าแม่งมีกล้องจริงละ คือมึงใส่รองเท้าแบบนั้นไปทำงานหรืออะไรก็ไม่มีใครว่าหรอก
แต่คนถ่ายแม่งคงคิดไรไม่ออกถ่ายโพสลง FB โดนตั้งประเด็นว่ามันมีกล้องแน่ๆ แต่ทำไมมึงไม่ให้ยามหรือเจ้าหน้าที่ BTS ตามและกักคนนั้นเลยฟระ
เข้าใจว่ากล้องมียัดแอบใส่ในรองเท้าหรือกระเป๋าเพื่อนถ่ายใต้กระโปรง แต่มันไม่รอบคอบตรงกะถ่ายประจานโดยไม่ตรวจสอบเลยไง
>>177 http://www.thairath.co.th/content/470982 กูเอามาให้มึงอ่าน มันเป็นช่างซ่อม แล้วโอนสะเก็ดอ็อกโลหะจนรองเท้าเป็นรู
ส่วนตัวคิดว่ามันมีกล้องจริงๆแล้วเอาออกไป ถ้าเป็นกูก็ไปแจ้งความแบบนี้แหละ
>>180 กูก็คิดแบบมึง อ่านข่าวแล้วคำให้การมันขัดกันแปลกๆว่ะ
ไทยรัฐ : รองเท้าสภาพดังกล่าว ใส่มากี่ปีแล้ว?
จิรวุฒิ : 2 ปีกว่าๆ ครับ ผมไม่ใช่คนเปลี่ยนรองเท้าบ่อยๆ ถ้าไม่พังจริง ผมไม่เปลี่ยนครับ และที่รองเท้าเป็นรู ก็เพราะเกิดจากการที่ตนเองทำงานเป็นช่างซ่อมบำรุง ก่อนหน้านั้นเพิ่งไปอ็อกซ่อมแอร์มา แล้วประกายไฟที่เกิดจากการอ็อกไปโดนรองเท้าที่วางไว้ จนทำให้เกิดรู โดยไม่รู้ตัวเท่านั้น
1. ตกลงสภาพนี้มาสองปีแล้ว หรือพึ่งมีรูก่อนหน้านั้นวะ?
2. มันเป็นช่างซ่อมบำรุงแบบไหนทำไมต้องอ็อกซ่อมแอร์ มันไม่ใช่อะไรที่ช่างเขาจะทำบ่อยๆเลยนะการอ็อกแอร์เนี่ย
3. ช่างซ่อมบำรุงนี่เขาถอดรองเท้าวางไว้ก่อนทำงานเหรอวะ กูเห็นกี่คนๆก็ใส่รองเท้าทำงาน ยิ่งอ็อกเหล็กกูไม่เคยเห็นใครถอดรองเท้าทำ
4. ในเมื่อเป็นรูโดยไม่รู้ตัวแล้วมึงรู้ได้ไงว่าเป็นเพราะอ็อกแอร์วะ
5. มันมีคนที่หยิบรองเท้าเป็นรูด้านบนมาใส่โดยไม่รู้ตัวว่ามันเป็นรูด้วยเหรอวะ
บรรทัดก่อนหน้านั้นมีพูดว่า "ก็ไม่เข้าใจ ทำไมคนถ่ายภาพไปแชร์ ไม่มาถามผม ว่าซ่อนกล้องในรองเท้าจริงหรือไม่" ด้วยนะ
คนซ่อนจริงมีคนไปถามมันจะบอกเหรอวะว่าซ่อน ถึงซ่อนจริงมันก็ถอดกล้องออกแล้วบอกว่ารองเท้าขาดน่ะแหละ
พูดจาแปลกๆเหมือนพยายามแถเพื่อปิดบังความผิดของตัวเองเลยว่ะ
กูว่าไอ้หมอนี่ซ่อนกล้องจริง ภาพหลายมุม บางมุมในรูเป็นสีขาว บางมุมในรูเป็นสีดำ ถุงเท้ามันสะท้อนแสงได้เหรอวะ
แต่ก็เป็นความผิดพลาดของคนที่ถ่ายมาลงเองว่ะที่ใช้วิธีการถ่ายมาลง แล้วยังไม่ตรวจเช็คให้ดีก่อนเอามาลง
ที่ถูกควรจะให้เจ้าหน้าที่ BTS รวบตัวไว้อย่างที่ >>178 บอก
พวกนี้ถามจริงประจานได้ มันมีความสุขเหกรอไงฟะ เห็นเข้าแบบนี้ ไปจัดการเลยดีไหม ความเกรงใจ มันโหดร้ายจริงๆ
ไอเดียดับไฟใต้ด้วยน้ำท่วม มึงคิดว่าดีไหมวะ
บอกไปสิไม่เปลี่ยนรองเท้าบ่อยๆเพราะพอเพียงตามคำพ่อสอนแค่นี้ก็GG ละ
แม่งมีคนทำเป็นการ์ตูนออกมา ถ้าสรุปว่าในรองเท้ามันมีกล้องอยู่จริง ไอ้คนวาดการ์ตูนแม่งก็เหมือนพวกที่กำลังด่าอยู่สินะ โดนสื่อครอบงำ พอสื่อเปลี่ยนทิศว่ามันเป็นแพะไม่ได้ซ่อนกล้องจริง คนก็เฮโลกลับไปด่าคนถ่าย
สวัสดีกะลาแลนด์
ดังนั้น สิ่งที่ควรทำเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้คืออะไร แจ้ง รปภ. ขอให้ถอดรองเท้า?
เรื่องงี่เง่าคุยกันซะจริงจัง โม่งนีทนี่มันว่างจริงๆนะ
กูไม่รู้ว่ะ ถ้าสมมติมันซ่อนกล้องจริงล่ะ แต่พอเห็นเป็นข่าวมันเลยโยนกล้องทิ้ง แล้วไปเรียกเพื่อนมาช่วยแก้ต่าง เพราะมันพิสูจน์ไม่ได้อยู่แล้ว และไม่มีใครรู้ความจริง
ไอ้พวกที่เชื่อไปว่ามีกล้องจริงก็โง่เชื่อคนง่าย
ไอ้พวกที่เชื่อไปว่าไม่มีกล้องจริงก็โง่เชื่อคนง่ายเหมือนกัน
กูไม่แปลกใจทำไมประเทศไทยถึงแตกแยก มีใครพูดอะไรมาก็เชื่อหมดทันทีเลย
เอาจริงๆนะ จะเชื่อเหี้ยไรก็เรื่องของมึงเถอะ
หัวมึงสมองมึงรับผิดชอบ ค.ว.ย. (คิด วิเคราะห์ แยกแยะ) กันเอง
โตแล้ว
http://drama-addict.com/2014/12/24/ตากล้องแอบถ่ายว้ายไอ้โ/
เพิ่งได้ดูรูปที่มันถ่ายจริงๆ ไอ้เชี่ย แม่งมโนหรือเปล่าฟะ ดูยังไงๆก็ไม่ใช่กล้อง มโนล้วนๆ
จาก โม่ง IT
ทำไมมันหายหนาวแล้ววะ
หมดหน้าหนาวแล้วเหรอ
https://www.blognone.com/node/64309
โครงการคืนความสุขของกระทรวง ICT ปี 2558
อ่านแล้วก็ซาบซึ้งซะพวกมึง ห้ามสงสัยด้วยล่ะ!!!
ฉลองวิจิตรแต่งงานทำไมดราม่ากัน
ร่างกายสวยเซ็ก แลกกับ เงิน ชื่อเสียง ฐานะทางสังคม ก็เป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกันนี่
เมียตายยังไม่ถึงปี ก็เปิดตัวเมียใหม่เสร็จสรรพ คนเขาเลยคิดว่าไม่เหมาะสม แถมฉลองก็แก่แล้ว เลยดูไม่เจียวสังขารละมั้ง แต่ลูกๆแกคงรับยากอ่ะ เผลอๆฉลองกันไม่ถึงปี ลุงแกม่องเท่งกะทันหันก็เป็นได้
มึงไม่ใช่ลูกเขา มึงตอบไม่ได้หรอกมึง เป้นกูกูว่าดีอย่างน้อย กูก็ไม่ต้องดูแลคนแก่ต่อ ปล่อยให้เมียทำไป
กูว่าอาหลองแบ่งสมบัติให้ดีก่อนดีกว่าถ้าตายแล้วให้เมียมาแบ่งจะยุ่งเอา
ยังไงฝ่ายหญิงตอนนี้ก็ภูกมองว่าแต่งเพื่อหวังสมบัติไม่มากก็น้อยแล้วล่ะ เกิดลุงแกตายกะทันหันก็ไม่รู้ว่าจะได้ไปซักเท่าไหร่อ่ะนะ แต่ไม่ใช่ว่าลุงแกเป็นอะไรไปแล้วไปลงเอยกับลูกแกแทนล่ะ แบบนี้นินทากันเป็นปีก็ไม่จบชัวร์
ห่าแต่งเอาเงินไปหาชู้แน่ๆ แต่แล้วไง เห่อๆกูว่าเขาคงแบ่งมรดกกันเรียบร้อยแล้วล่ะ
กัญมันเป็นเกย์ป่ะวะได้ข่าวว่าเที่ยวอตก.บ่อย
ไอ่สัสรูปขวากูเห็นมาสักพักละ. นึกว่าเมียเก่า
ทางซ้ายเมียใหม่
วินโดว์ 10 ออก สคส.ด้วย เป็นอะไรที่อเมซซิ่งสุดๆ เกิดมาเพิ่งได้ชาบู
กูตามข่าวพระจอมเกล้าลาดกระบังโดนยักยอกเงินไปพันหดร้อ
เอ้า กดผิดอีกกู จะกดลบคำผิดดันไปโดนปุ่มโพสต์
ลาดกระบังโดนยักยอกไปพันหกร้อยล้านบาท สาวไส้กันสนุกเหี้ยๆเลย
กุรู้สึกว่า OS Win11beta รุ่นที่พัฒนาจาก Win10 ดูไม่ค่อยสมบูรณ์ไงไม่รู้อะ เหมือนจะมีบัคหรือเออเร่อเยอะ
ดูจาก interface อะนะ ใครคอนเฟิร์มทีดิว่าใช้งานได้จริง
>>226 https://www.facebook.com/video.php?v=1604752336413421
1 แสนบาทแรกเค้าบริจาคไปแล้ว
คนโง่นี้มันโง่ดักดานจริงๆวะ 555
คาดไม่ถึงว่าเสี่ยตันจะทำให้ผมเขียนอะไรได้ยาวขนาดนี้
ผมอ่านข่าวจากสื่อหลายๆฉบับที่ได้ก็อบปี้หน้า FB ของเสี่ยตันที่พูดเรื่องเกลือที่เอามาโรยจัดงานที่เชียงใหม่ถึง 40ตัน ซึ่งได้ประกาศเลิกก่อนกำหนดในวันที่ 3 โดยกำหนดการเดิมคือวันที่ 4 มกราคม และได้ให้ข้อมูลว่า
"....แต่ผมก็เคารพในความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อเสนอของบางกลุ่มที่ขอให้ยกเลิกในงานนี้ ผมก็นำมาคิดอย่างจริงจังในเมื่อผมจัดงานนี้ด้วยเจตนารมณ์ที่ดีและไม่ได้เก็บค่าบัตรผ่านประตู ค่าเช่าพื้นที่ และค่าสปอนเซอร์ จะเลิกก็ไม่เสียหาย..."
ส่วนข่าวใหม่ที่น่าตกใจและได้ออกมาพร้อมกันคือ
"ได้พูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ซึ่งได้ขอเกลือทั้งหมดไว้เพื่อนำไปทำเป็น "ดินโป่ง" ให้สัตว์ป่าในพื้นที่เชียงใหม่ ตนจึงได้ขอส่งมอบเกลือนี้เพื่อให้ทางจังหวัดนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป"
สิ่งที่ผมคิดแปลไทยเป็นไทยจากคำพูดของเสี่ยตันและข่าวทุกสำนักที่ลงข่าวตรงกันว่า
****** การที่เปิดงานมาตั้งแต่ก่อนคริสมาสตั้งนานจนถึงวันที่ประกาศปิดมันก็สิบกว่าวัน เสี่ยตันใจดีปิดก่อนจากกำหนดวันเดียว ถือว่าเป็นความดีต้องออกข่าวเลยเชียวหรือ คนที่ไปงานในช่วงหลังก็บอกว่าคนย่ำจนเกลือดำสกปรกไม่สวยไปหมดแล้ว บางจุดอยู่ในสภาพสกปรกดำไปหมดจากการเหยียบย่ำมาครึ่งเดือน ดูแล้วออกแนวดูน่าเกลียดเกินกว่าจะสวยน่าถ่ายรูปเล่นเสียด้วยซ้ำ การที่ออกข่าวยกเลิกงานที่จัดว่าสิบกว่าวันก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันในมุมมองเสี่ยตันถือว่าได้หน้าได้เครดิตไปอีกด้วย
****** ก่อนหน้านั้นเสี่ยตันรับปากบอกว่าเกลือทั้งหมดหลังจบงานจะจัดเก็บอย่างดี ไม่ให้เป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงใหม่ คือทุกคนก็คิดว่าคงจะส่งไปทำลายแบบที่ไม่มีผลต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งเกลือจำนวนนี้ถ้าเอาไปให้บริษัทรับเก็บกำจัดสารเคมีอุตสาหกรรมมันเป็นเงินมหาศาลหลายล้านบาท หรือแค่มีความคิดจะเอาไปทิ้งทะเลง่ายๆ ค่าขนส่งจากเชียงใหม่ไปทิ้งทะเลก็เป็นล้านแล้ว แต่เสี่ยตันออกข่าวว่าจะเอาไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยบอกว่าผู้ว่าราชการขอเกลือไปทำดินโป่ง มันตัดตอนความรับผิดชอบของเสี่ยตันได้ง่ายดังพลิกฝ่ามือแถมได้หน้าอีกด้วย
****** เสี่ยตันบอกว่าผู้ว่าราชการจังหวัดขอเกลือไปทำดินโป่งเพื่อให้สัตว์ป่ากิน ผู้ว่าเชียงใหม่ไปถาม อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช แล้วหรือยังว่าเกลือจำนวนมหาศาลขนาดนี้ท่านอยากได้หรือไม่ คิดจะเอาเกลือ 40ตันไปกองให้ในเขตวนอุทยานนี่มันไม่ต่างกับเอาระเบิดไปทิ้งในโรงเรียนเลยนะครับฝนตกลงมาดินเค็มต้นไม้ตายฉิบหายกันทั้งป่า สัตว์ไม่ได้ต้องการเกลือมหาศาลแบบนั้น และสัตว์ไม่ใช่เกลือบริสุทธิแบบนี้เสียด้วย ไปเอาให้กินก็ตายผ่อนส่งไตพังไตวายลูกเดียว
****** ผมเองใช้รถ SUV ตัวจริงของจริง ที่ไม่ใช่รถปิคอัพขับเคลื่อสี่ล้อแบบทั่วไป คือไม่ได้คุยว่าผมรวยหรอกนะครับ ที่ใช้รถราคาแพงกว่าปิคอัพขับเคลื่อนสี่ล้อสี่ห้าเท่า แต่ผมชอบเข้าป่าตั้งแต่สมัยเกือบยี่สิบปีก่อนที่ยังไม่มีแก็งค์รถปิกอัพโฟวีลเกรียนๆ เข้าไปทำลายป่าและธรรมชาติแบบทุกวันนี้ แต่ผมจะขับรถเข้าไปทำดินโป่งให้สัตว์ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีใครเขาทำกัน ส่วนผสมการทำดินโป่งนั้นกว่าครึ่งหนึ่งคือเกลือก้อนที่มีแร่สารอาหารสำคัญของสัตว์แบบที่ซื้อให้วัวขุนควายขุนกินกันนั่งแหละครับ ขายเป็นก้อนละเกือบร้อยบาท เพราะมันเป็นเกลือที่มีสารอาหารจำพวกฟอสเฟตและวิตามินต่างๆทดแทนดินโป่งตามธรรมชาติ และอีกอย่างคือ แคลเซียมฟอสเฟสให้กระดูกแข็งแรงกระสอบละกว่าครึ่งพันบาท แล้วโรยเกลือทะเลเม็ดที่มีแม็กนีเซี่ยมซัลเฟตและไอโอดีนตามธรรมชาติลงไปผสม "หนึ่งในสิบส่วน" เท่านั้น ผมย้ำอีกทีว่าเป็นเกลือทะเลเม็ด "หนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น" ทำดินโป่งให้สัตว์ครั้งหนึ่งใช้เกลือไม่ถึงสิบกิโลเท่านั้นเองครับ มันไปหนักที่แร่ธาตและวิตามินตัวสารอาหารอื่นไม่ใช่กลือ
ผมอยากจะรู้ว่าเกลือสี่สิบตันมันใช้ทำดินโป่งทุกป่าในประเทศไทยอีกกี่ชาติถึงจะหมด แถมยังเอาไปทำดินโป่งจริงๆ ก็ไม่ได้เสียอีก เพราะเกลือที่เหมาะสมให้สัตว์กินคือเกลือทะเลที่มีแร่ธาตุอื่นด้วย ไม่ใช่เกลืออุตสาหกรรมบริสุทธิแบบนี้
****** ตามกฎหมายแล้วงานนี้แม้เสี่ยตันจะบอกว่าทำใหนพื้นที่ของตัวเองก็ตาม การที่ใช้เกลือที่มากมายขนาดนี้ กฎหมายต้องให้ทำ EHIA หรือไม่ เกลือจำนวนมหาศาลขนาดนี้มันเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็น เอเลี่ยน ที่ไม่มีในธรรมชาติของเชียงใหม่เลย ถึงแม้จะเอาไปกองชายหาดที่มีน้ำเค็มอยู่แล้ว ปู หอย แถวนั้นยังตายเลยถ้าเจอความเค็มมากมายมหาศาลขนาดนี้ ดีว่าเชียงใหม่ช่วงนี้ฝนไม่ตก ถ้ามีฝนสักหน่อยผมคิดว่าเกลือมหาศาลขนาดหลายสิบตันมันละลายลงท่อระบายน้ำ มันจะกระเทือนสภาพแวดล้อมถึงแม่น้ำปิงตลอดเส้นเลยก็ว่าได้
ผมอ่านแล้วปรี๊ดแตก.... จะมาไม้ไหน จะทำอะไรของเขาอีกล่ะนี่ นักธุรกิจนี่เดาใจลำบากเหลือเกินโดยเฉพาะเสี่ยตัน
เอาไปเทลง ทะเล ดิ ง่ายดี คืนสู่ธรรมชาติ
ให้ไอ้ตันเอาไปทำปลาเค็มขายละกัน ส่งรหัสหลังเหงือกปลาลุ้นรับไอโฟนเดี๋ยวเกลือก็มลายไปกับไตคนเอง
เช่าเครื่องทำหิมะมาก็จบแล้วจะใช้ทำเกลือทำเหี้ยอะไร
ประเทศของเรามีคนอย่าง "ตัน" มากไป ... และมีคนอย่าง "สตีฟ" น้อยไป
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
เราผลิตแต่นัก "ทำตลาด" ที่รู้จักนิสัยสื่อมวลชนเป็นอย่างดี ชอบเล่นกับตลาด เล่นกับกระแส ปั่นไปเรื่อย ๆ ... เราไม่ค่อยมี "ผู้ประกอบการ" ที่ทำสิ่งใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมในระดับพื้นฐาน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
อย่างที่ผมเคยบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนของเราก็น่าเป็นห่วง เพราะนอกจากจะไม่กล้าด่าเรื่องเกลือของตันแล้ว ในที่สุดก็ยังช่วยกระพือข่าวในการเก็บทำความสะอาดเป็นการตลาดแถมให้อีกด้วย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
อิชิตันสร้างตลาดด้วยอุปทานลวงมายาวนานครับ ไม่ได้สร้างตลาดจากความต้องการบริโภค แต่สร้างด้วยสลากชาเขียวกินแบ่ง ทีนี้ก็เหมือนต้นไม้ที่ไม่ได้โตจากรากแต่โตด้วยเหล็กดาม มันก็เลยหยุดไม่ได้ครับ เพราะเมื่อไหร่ที่หยุด โครงเหล็กผุๆทั้งหมดก็จะพัง และแบรนด์ก็จะตาย รวมถึงหุ้นที่เข้าตลาดไปโก่งราคาก็พังตามลงมาทั้งยวงฮะ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ถ้า Steve เกิดเมืองไทย คงไม่ได้"เกิด"หรอกครับ ไอดอลของแต่ละชาติก็สะท้อนอะไรบางอย่างนะครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
ไม่เข้าใจคำว่าไทยๆ นั่นแหละ กูอยู่เมืองไทยแต่ไม่ใช่คนไทย ก็เลยโดนกีดกันจนเน่าตายนี่แหละมึง เพราะกูตอแหลไม่เป็น
กูว่าเรื่องชอบอะไรฉาบฉวยโดนการตลาดจูงจมูกเป็นเรื่องปกติของคนทั่วโลกนะ แต่ไทยแค่หนักเป็นพิเศษ
ไม่งั้นมือถือ SAMSUNG คงไม่ขายดีทั่วโลก หรือศิลปินอย่าง One Direction, Justin Bieber, Lil Wayne คงไม่ดังหรอก
ทุกศาสนาสอนให้เราเป็นคนดี
http://www.dailymail.co.uk/news/article-2900519/
ออสเตรเลียกับฝรั่งเศสโดนไปแล้ว ต่อไปจะประเทศอะไรละเนี่ย ของฝรั่งเศสนี่มันก่อเหตุแบบซึ่งๆหน้าเลย กล้ามากจริงๆ
ซาบซึ้งซะพวกมึง พรบ.คอมใหม่ กับ พรบ.ความมั่นคงไซเบอร์
https://www.blognone.com/node/64539
https://www.blognone.com/node/64546
กูมีความสุขจนฆวยกูสั่นแล้ว
ศาสนาแห่งสันติภาพนะครัช
ลัทธิบูชาบุคคล
บุคคลสักการะรูปปั้นคิม อิล-ซ็องในกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ
ลัทธิบูชาบุคคล (อังกฤษ: cult of personality) เกิดขึ้นเมื่อปัจเจกบุคคลใช้สื่อมวลชน โฆษณาชวนเชื่อ หรือวิธีการอื่นเพื่อสร้างภาพลักษณ์อุดมคติ วีรกรรม และบางครั้ง น่าเคารพบูชา มักผ่านการประจบและสรรเสริญโดยปราศจากข้อสงสัย มักซ์ เวแบร์ นักสังคมวิทยา พัฒนาการจำแนกอำนาจสามประการ โดยลัทธิบูชาบุคคล ถือขนานกับสิ่งที่เวแบร์นิยามเป็น "อำนาจบุญบารมี" ลัทธิบูชาบุคคลคล้ายกับการบูชาวีรบุรุษ ยกเว้นดำเนินโดยสื่อมวลชนและโฆษณาชวนเชื่อซึ่งปกติรัฐเป็นผู้ดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐเผด็จการเบ็ดเสร็จ
น่ากลัวแหะ
เออเดี๋ยวอีกหน่อยจะมีกระทรวงความรัก กระทรวงความจริงงอกมาบ้าง
เบื่อพวกจับแพะชนแกะมากเลยครับ
เพิ่งอ่านจบตามกระแสก็มาเห่อหมอยโยงเข้ากับประเทศไทย
คนละเรื่องเลยครับ ผมรักประเทศไทย
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.