Last posted
Total of 245 posts
กรณีเพื่อนติดแฟนนี่ ถ้าเป็นผู้หญิงตอบไม่ได้ว่ะ แต่ถ้าเป็นผู้ชายเค้าเรียกช่วงติดจิ๋ม จะไม่มาสังสรรค์กับพวกมึงเลยจนกว่าจะเลิกกับแฟนน่ะแหละ แล้วหลังจากเลิกจะกลับมาหาพวกมึง ต้อนรับมันดีๆ มันจะคิดได้และเห็นคุณค่าของเพื่อนไปจนวันตาย
ไม่มีใครต่อหรอวะ อยากอ่านต่อ
เออ งั้นลองเปิดประเด็นเพื่อนในโซเชียลดูก็ได้ พวกมึงรู้จักเพื่อนในโซเชียลจากเฟซ จากเกม หรืออะไรก็ตามทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นตัวจริงกันมาก่อนได้ยังไงวะ เมื่อก่อนเพื่อนในเน็ตกูก็มีนะเว้ย กูได้จากเกมแต่หลังจากโดนเเฮกไอดีด้วยความไว้ใจไป 3 รอบกูก็โคตรเข็ดไม่กล้าทักคนอื่นก่อนอีกเลย แล้วถ้ามีเนี่ย คบกันนานเท่าไหร่ นานเเค่ไหนถึงจะเริ่มเบื่อกัน บางทีกูไปส่องเฟซคนอื่นแล้วเห็นคนสองคนเม้นท์รูปกันเเละกัน จากนั้นก็เริ่มคุยกันทางเเชทแคปมาลงโชว์ว่าสนิทกันโคตรๆ แล้วก็เริ่มซาๆ สุดท้ายก็หายไปเลย...มีใครที่คบกัน 4-5 ปีแล้วทุกวันนี้ยังคุยกันดีอยู่มั่งมะ?
กูสนิทจากเกม คุยกันมาสิบปีได้ละ ถึงไม่สนิทจี๋จ๋าแต่ก็คุยกันได่เรื่อยๆว่ะ เผอิญรสนิยมไปทางเดียวกันด้วย
>>60 จากดราม่าพลาด1มิลแทบสิ้นเพจ กูเข้าไปในกลุ่มที่ถูกยึดได้ แล้วก็ได้เพื่อนใหม่ๆค่อนข้างเยอะอยู่ ทุกคนจะมีลักษณะร่วมคือเกลียดขายตรงเกลียดแชร์ลูกโซ่ แล้วลักษณะการคุยก็ออกแนวเถื่อนๆหน่อย ประมาณบอร์ดประมูล แต่ก็ดูไม่ตอแหลสร้างภาพดี หลังจากนั้นคนในกลุ่มก็มีนัดมีตติ้งกันนอกกลุ่มได้เจอตัวจริงกันบ้าง บางคู่ก็เป็นแฟนกัน สำหรับกูเคยคุยกับน้องคนหนึ่งที่อยากเรียนต่อที่เดียวกับกู แรกๆก็สนิทกันนะ เคยไปเดทกันสองคนแถวสวนรถไฟด้วย แต่หลังจากน้องเค้าสอบติดกูกับน้องก็ห่างๆกัน คงเพราะทำตามเป้าหมายได้แล้วด้วยล่ะแถมเข้ามหาลัยก็เหมือนมีชีวิตใหม่
ทุกวันนี้ก็ยังคุยกับน้องเค้าและคนในกลุ่มนะแต่ไม่บ่อยเหมือนแต่ก่อน งานที่กูทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเพื่อนที่รู้จักกันในกลุ่มนี้แนะนำให้ด้วยล่ะ แบบว่าพี่สะใภ้แกกกำลังต้องการคน
>>60 ของกูสี่ปีว่ะ เริ่มมาจากแต่งฟิคแล้วอวยแฟนดอมเดียวกัน ทีนี้ก็แต่งฟิคแลกกันอ่านสครีมคู่นั่นนี่ไปเรื่อย ทีนี้ก็คุยกันเรื่องเปื่อย นัดมีตติ้งกันก็บ่อยอยู่ แต่หลังจากนั้นบอร์ดเริ่มร้างๆ แล้วเขาก็ได้งานทำด้วย กูทักไปก็ไม่เหมือนเดิม เขาขี้หงุดหงิดขึ้นและพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อถ้าใครพูดไม่เข้าหู ปกติกูก็เล่นมุกสัปดนหน่อยๆกันบ่อยอยู่นะ แต่มาเล่นตอนนี้นี่โดนด่าเปิงเลยเหอะ กูกับเขาเลยห่างๆกัน และไม่คุยกันอีกเลย ไม่คุยมาสามปีแล้วมั้ง
กูว่าถ้าคนในสังคมรู้จักสิทธิของคนอื่นบ้างก็ดี จะได้ไม่ต้องมีการมาโกหกว่าไม่มีเงินไปเรื่อยๆแบบนี้ ใครใคร่จ่ายก็จ่ายก็ได้ไปร่วมงาน ใครไม่อยากก็ไม่ต้องแค่ไม่ไปร่วมงานเหมือนกับการซื้อขายไรอย่างงี้ ไม่ใช่มาแบบมึงต้องจ่าย ไม่จ่ายเห็นแก่ตัวโดยไม่ได้คิดเลยว่าคนเราก็มีสิทธิจะใช้เงินไปกับเรื่องที่เราต้องการ
รักอาจารย์ รักสถาบัน(โรงเรียน) อย่าลืมซื้อของที่ระทึกกูด้วยนะ อันละ 7-800 เอง ถือว่าช่วยครูนะว้อย
เป็นกูกูก็ไม่จ่ายวะสัส ถามหน่อยดิ๊ ถ้าจ่ายเเล้วมึงจะมาจัดงานวันเกิดเเบบนี้ให้กูบ้างป่ะล่ะ จัดให้ทุกๆๆๆๆคนที่จ่ายเลยนะเว้ยเพื่อความเท่าเทียม ต่อให้เพื่อนคนไหนเกิดในช่วงปิดเทอมมึงก็ต้องตามไปจัดให้ได้นะเว้ยเพื่อความเท่าเทียม ถ้ามึงจัดครบทุกคนได้จริงกูถึงจะยอมจ่าย กูไม่ชอบอีที่รีดไถคนอื่นไปจัดแบบนี้ว่ะ แม่งคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของห้องรึไง ของแบบนี้มันต้องจ่ายตามความสมัครใจดิ
เจเนเรชั่นนี้แม่งเจเนเรชั่น กู กู กู จริงๆว่ะ กูเห็นถ่องแท้ละ
>>69 กูหัวอกเดียวกะมึงเลยว่ะโม่ง กิจกรรมของมหาลัยที่กูไม่ได้มีส่วนร่วมทุกอย่างกูต้องควักจ่ายตลอดไม่รู้จะเก็บเหี้ยไรนักหนา ตรวจสอบก็ไม่ได้ แล้วที่แย่คือเหมือนกับกูต้องจ่ายเงินให้คนอื่นเค้าไปสนุกกันว่ะ อย่างงานบายเนียร์กูไม่ว่าง ไปไม่ได้แต่แม่งก็บังคับให้กูจ่าย แล้วพอกูจ่ายแล้วไง? กูไม่ได้ไปเงินส่วนที่กูจ่ายก็โดนพวกแม่งเอาไปลงขวดซื้อของกินในงานกันอย่างสนุกสนานโดยที่กูไม่ได้แดกเลยแม้แต่น้ำแข็งก้อนเดียว แล้วถามว่าพวกแม่งสนมั้ย ไม่ มันสนแต่ว่าจะเอาเงินกูไปจัดงานกันเท่านั้นแหละตัวกูจะไปไม่ไปก็ช่างแม่งแต่กูต้องเอาเงินให้มัน พอไม่จ่ายก็ถูกด่า ถูกมองว่าเป็นตัวปัญหาทั้งๆที่ความจริงคิดๆดูก็รู้แล้วป่าววะว่ากูมีสิทธิที่จะไม่จ่ายเพราะไม่ได้มีส่วนร่วมไรเลย กูไม่มีหน้าที่ต้องเอาเงินไปเลี้ยงพวกมัน ไม่ใช่เรื่อง
>>70 ตอนปีหนึ่ง กูเคยโดนเพื่อนแบนยกห้อง เพราะกูไม่จ่ายค่าบายเนียร์ กูทำงานพาร์ทไทม์หลังเลิกเรียน ได้วันละ 170 มันจะให้กูจ่าย 500 ด้วยเหตุผลที่ว่าใครๆเขาก็จ่ายกัน จ่ายมาเหอะ อย่าเห็นแก่ตัว กูพูดดีๆก็แล้ว ดันไปให้กูขอแม่มาให้ บ้านกูโดนพิษต้มยำกุ้งพ่อกูล้มละลาย เงิน 100 นึงจะจ่ายอะไรนี่คิดแล้วคิดอีก แต่พวกมันเจ้ากี้เจ้าการจะโทรไปบ้านกู เจอกูด่าซะ พวกแม่งก็ไปสุมหัวนินทาว่ากูเห็นแก่ตัวงั้นงี้ เรียนมาไม่มีเพื่อนเลย ทำงานกลุ่มเขาก็ไม่รับ แต่กูหาแคร์ไม่ ไม่มีกลุ่มกูก็ทำคนเดียวหรืออาจารย์หาให้เอง จนกระทั่งมิดเทอมกูได้คะแนนสูงสุดของภาควิชา พวกแม่งถึงจะมาปะเหลาะพูดดีทำดีด้วย เหยดแหม่
นึกถึงเมื่อก่อนเลยว่ะแม่ง สมัยม.ปลายเพื่อนในห้องกูเก็บค่ากีฬาสี 1000 กูเอาไปบ่นกับอาจารย์ กูโดนเพื่อนโวยใส่ แต่ยังดีที่ไม่มีอะไรรุนแรง(ตอนนั้นกูNerdด้วยล่ะไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์เพื่อนกูเลยไม่แปลกใจที่กูโวย) แต่ก็นะเงิน 1000 เมื่อเกือบๆ10ปีที่แล้วก็เยอะอยู่ ยิ่งเป็นเด็ก ม.ปลายที่ยังหาเงินเองไม่ได้แล้วต้องมาจ่าย 1000 เพื่อค่ากีฬาสีกูว่าแม่งไร้สาระมาก พอพ้นช่วง ม.ปลายก็เจอการเก็บเงินในคณะ อันนี้กูไม่มีปัญหาเพราะเก็บไม่เยอะและมีเหตุผลรองรับว่าเอาไปทำอะไรใช้จ่ายยังไงมั่ง และตอนนั้นกูเริ่มมีรายได้จากการทำงานพิเศษแล้วด้วย
.
.
แต่ที่รำคาญคือเรื่องงานอำลารุ่นพี่ปี4นี่ล่ะ ตอนกูปีสาม เด็กภาคพิเศษแม่งจัดงานแบบไม่ปรึกษาเด็กภาคปรกติว้อย แล้วแม่งจะเก็บค่างาน 700 เพื่อนกูที่อยู่ในภาคปกติไม่พอใจและทำท่าจะไม่จ่าย บางคนก็ไม่จ่ายจริงๆ แต่กูด้วยความรำคาญ+สงสาร+อย่างน้อยก็ยังดีกว่า1000ตอน ม.ปลาย+มีเงินที่หาได้ด้วยตัวเองนิดหน่อยแล้ว กูเลยจ่ายๆไป
.
5ปีในมหาลัยของกูนี่ไปงานบายเนียร์แค่ครั้งเดียวคือตอนปี2 ที่เหลือไม่ได้เข้า แม้แต่ตอนกูอยู่ปี 4 กูขี้เกียจไปด้วยความคิดที่ว่ากูไม่ได้สนิทกับรุ่นน้องในภาควิชาเท่าไร ปี3ยังพอมีที่คุยอยู่สองสามคน ปี2ปี1ไม่รู้จักเลย น้องรหัสกูโทรมาถามด้วยล่ะ "พี่จะไปมั้ยหนูว่าจะไม่ไป แต่ถ้าพี่รหัสตัวเองไปแล้วหนูไม่ไปหาก็กระไรอยู่ เลยโทรมาหาพี่ก่อน" ............ เข้าทางเลยกู งานนี้โดดงานทั้งพี่ทั้งน้อง
>>72 ก็ไม่ได้เศร้าอะไรมากหรอก พ่อกูมีบริษัทเล็กๆทำเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง บ้านก็มีเป็นของตัวเองไม่ได้ผ่อน เจอพิษต้มยำกุ้งบริษัทเลยต้องปิดเพราะโดนเชิดเงิน ลูกค้าไม่จ่ายเงิน ไม่มีเงินจ่ายธนาคารที่กู้มาทำธุรกิจ พ่อกูก็โดนฟ้อง หนี้ร่วมๆห้าล้าน แต่ยายกูขายที่ตจว.ออกเงินให้ไปใช้หนี้ ทุกวันนี้ก็จ่ายหนี้ให้ยายแทน แม่กูก็มีรายได้จากขายขนมในตลาด ไม่ได้ยากจนไม่มีจะแดกอะไร แต่ก็ไม่ได้มีเงินเหลือฟุ่มเฟือย ซึ่งอีเงิน 500 นี่กูเอาไปทำประโยชน์ได้อีกเยอะแยะกว่าจะจ่ายให้ใครก็ไม่รู้มาแดกเหล้า
กูเคยโดนแบบ >>8 กูเลือกนะว่าจะจ่ายไม่จ่าย ถ้างานมันเป็นงานที่สมควรได้รับความร่วมมือจากทุกคน เป็นงานของกลุ่ม/สังคม อ่ะสมมุติอย่างรับน้อง ถึงกูไม่เข้าร่วมแต่กูก็จ่ายค่า แต่ที่กูเข้าใจคือ แม่งเก็บเงินเพื่อจัดงานเลี้ยงวันเกิด ซึ่งมันเป็นเรื่องส่วนตัวป่ะแกร? มันใช่เหรอวะที่จะมาเก็บเงินคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเนี่ย ยิ่งกูเรียนอยู่และกูไม่มีงานทำ เงินกูจะใช้ยังไงกูก็ต้องคิดก่อนสิวะว่าแม่งคุ้มมั้ย เงินแต่ละจำนวนมีมูลค่าต่อแต่ละคนต่างกันว่ะ
พ่อพระ คืออะไรวะ หาในพันทิปไม่เห็น
อ่านชีวิตพวกมึงแล้วกูก็ได้รู้ว่ามีคนเหมือนกูกับเป็นหนักกว่าอีกเยอะ ขอบคุณมากเพื่อนโม่งทั้งหลาย//จุ๊บทุกคนในมู้
กูอยากได้เพื่อนที่ไม่ติดหีติดควย สัด
ตอนโสดก็ทำเป็นสนิทกับกูงู้นงี้ โดนทิ้งกูก็อุตส่าห์ปลอบ พอมีเมียมีผัวใหม่กันเท่านั้นแหละกูเป็นแค่
ก็แฟนเค้าสำคัญกว่าเพื่อนอะ เข้าใจเค้าหน่อยดิวะ
กูเลือกแฟนมากกว่าเพื่อนนะ จริงๆกูเคยโดนข่มขืนนะ (กูเป็นผช.แต่โดนผช.ข่มขืน) เพื่อนกูแม่งไม่เห็นมีใครปลอบไม่เห็นมีใครช่วยกูเลยสักตัวแถมบางทีแม่งล้อกูอีก มีแต่แฟนกูนี่แหละ ถึงจะช็อคแต่ก็ปลอบกู กูเลยไม่ยุ่งกับพวกแม่งเลยสักตัว แต่ก็ดีแล้วล่ะ แต่ละคนแม่งเรียนแต่ม.เอกชนเกาะพ่อแม่แดกเอาๆ เกลียดพวกแม่ง....
กู >>18 และ >>53 นะ คือกูเครียดมากมึง ตอนนี้อีเพื่อนเหี้ยคนนั้นมันเกลียดกูละ กูนั่งข้างมันแล้วมันผลักโต๊ะกูแยกจากมัน แล้วกูก็ทำหน้านิ้งผลักกลับไปชิดแบบเดิม พอกูไปเข้าห้องน้ำ พอกลับมามันก็ผลักอีก เป็นแบบนี้หลายๆรอบ แล้วแม่งเวลากูผลักโต๊ะกลับแม่งจะทุบโต๊ะตัวเอง(ขอให้มือมึงหัก)แรงๆทุกที ทีนี้มีตอนนึงกูผลักโต๊ะกลับ มันทุบโต๊ะแรงมาก แล้วก็พูดว่า มึงจะดันกลับทำไม กูก็เมินไม่ตอบ แล้วเวลาเดินผ่านหน้ากู เวลากูหัวเราะกับเพื่อน มันก็จะตะโกนว่าหงุดหงิด!(เมนส์มาไม่ปกติหรอสัส) แล้วก็มีจิ๊ปากใส่ (มันเคยแซะกูแรงๆวันนึง กูบอกพี่ พี่สาวกูขึ้นมาเคลียร์ให้ มันเลยไม่กล้าแล้ว) แล้วแม่งก็ตอนนั้นเค้าให้แบ่งกลุ่มสามคน แล้วกูคุยกับเพื่อนอีกคนว่าจะเอาใครเข้าอีก มันแม่งก็พูดแค่นเสียงว่า น่าสงสาร แล้วก็ตอนนั้นมีคนส่งชีทมาจากข้างหน้า มันวางอยู่ระหว่างโต๊ะกูกับโต๊ะมัน ทีนี้มันก็ส่งไปให้เพื่อนข้างๆมันที่นั่งทางซ้าย โดยที่กูยังไม่ได้ชีท แล้วกูก็เลยขอชีทจากคนข้างหลัง ทีนี้แม่งก็หัวเราะ หึหึหึ มันหาคนสลับที่กับมัน กูก็หาคนสลับที่กับกูอยู่ แต่แม่งไม่มีใครสลับเลยว่ะ T_T อ่อใช่มันบอกเพือ่นสนิทมันว่าห้ามคุยกับกูด้วย
กูหงุดหงิดมากมึงกูไม่ไหวแล้ว กูอยากเอาคืนบ้างว่ะ แต่กูไม่เอาแบบด่ากลับนะ กูอยากให้มันเลิกทำแบบนี้ว่ะ จะเกลียดกูก็เกลียดไปแต่อย่ามันทำเหี้ยๆแบบนี้ กูควรเอาไงดีวะ บอกครูหรอ ช่วยกูทีกูหมดทางตันแล้ว
เย็ดแหม่ เพราะแค่ซีรอคชีทไม่กี่แผ่น
>>86 มึงไปซื้อเครื่องในหนูมาวางไว้โต๊ะมันตอนเย็นวันศุกร์เดะ ปล่อยแม่งไปเหอะ ทำเมินไม่ต้องไปสนไรมันเลย อยากผลักโต๊ะก็ปล่อยมันไป เมินแบบเหมือนมันไม่มีตัวตน กูเคยสนิทกะเพื่อนคนนึงมันทำตัวน่ารำคาญกูก็เมินแม่ง ตอนแรกๆก็ทำเป็นด่ากูแซะกูนะ แต่หลังๆกูสมเพชมันชิบหายเพราะมันไม่มีเพื่อนเลย ใครทำเหี้ยไรใส่มึงมึงต้องเมินว่ะ ละไปหาเพื่อนคนอื่นซะนะ
>>86 กูว่าเมินเหอะ เพื่อนมึงอายุเท่าไหร่เนี่ย? 10 ขวบเหรอ นิสัยเด็กฉิบหายเลย อยู่กับเพื่อนใหม่ที่แยกแยะออกว่ามึงกับมันเป็นคนละคนกัน ไม่จำเป็นต้องชอบ-เกลียดใคร,อะไรเหมือนกัน และมึงจะคุยกับใครทำอะไรกับใครก็สิทธิ์ของมึง มันไม่มีสิทธิ์บังคับมึงว่ามึงคุยกับใครได้หรือไม่ได้
ไอห่ากูอยู่ปี 1 โตเป็นควายแดกเหล้าเข้าผับกันแล้วยังเจอทฤษฎีปาท่องโก๋เหี้ยนี่อยู่เลย แบบต้องไปไหนมาไหนเป็นหมู่คณะ กินเที่ยวเยี่ยวนอนกันทีสี่ห้าคน พอกูแยกมาอยู่คนเดียวก็มีแซะ กูสนิทกับมึงมั้ยกูถามม มึงคนนอกนะ ไม่ได้อยู่ในกลุ่มกูเลย กูออกไปแดกข้าวที่ไหนกับใครมันก็เรื่องของกู เพื่อนกูก็รับรู้ว่ากูออกไป มันไม่ได้ทิ้งกูนะ แต่มันประหยัด ส่วนกูเบื่อข้าวโรงอาหารจะตายห่า ก็เลยแยกกันไปแดก แล้วมึงจะทำไมวะ ถ้ากูเดินห่างเพื่อนกูสัก 10 เมตรแล้วระบบอวัยวะภายในกูจะมีปัญหาทำงานไม่ได้เหรอ ถ้ากูไม่รอมันแล้วสมองกูจะรวนทำให้เดินหลงทางไปร้านข้าวไม่ถูกเหรอ กูแดกข้าวที่กูอยากแดกคนเดียวนี่หมายความว่ากูไม่มีเพื่อนเหรอ มันก็ไม่ใช่ปะ กูก็มีเพื่อนเข้าสังคมปกติ คุยกันสนิทกันดีเดือดร้อนก็ช่วยเหลือได้ แค่กูทำอะไรที่กูอยากทำแต่เพื่อนกูไม่อยากทำได้โดยไม่ต้องบังคับกันก็เท่านั้นเอง
ขอบ่นเรื่องเพื่อนหน่อยนะ
กูพึ่งมีทะเลาะกับเพื่อนมาว่ะแม่ง คือวันที่มีเรื่องโรงเรียนเลิกเร็วไง กูเลยนัดจะถ่ายงานหนังสั้นกัน กลุ่มกูมีอยู่6คน ทีนี้พอถึงเวลาจริงๆเหมือนกลุ่มจะไม่พร้อมไง กูก็ถามเพื่อนคนอื่นอีก4คน มันก็บอกว่าจะไปดูหนังบ้างเล่นเกมบ้าง เออๆกูก็แยกกันไป(กูบอกเพื่อนด้วยว่าจะไปร้านเกม) พอกูถึงหน้าโรงเรียน เพื่อนอีกคนก็โทรตามไปถ่ายไง กูนี่งงเต้กเลยถามว่าแล้วคนอื่นล่ะ กูอยากคุยกับมันดู มันก็บอกมันอยู่ห้องน้ำ เพื่อนอยู่ที่ตึกA(เรียกตึกAละกันง่ายดี) กูเลยพูดเร้าหรือกับมันมั้งว่า ขอสายหน่อยๆๆ(คือกูจะคุยกับพวกที่เหลือว่า เห้ยไอ้สัดไหนดูหนังไง ไหนบอกไปเล่นเกมไงสาด ประมาณนี้อะ เข้าใจฟีลปะ) เออแม่งก็โมโหห่าไรไม่รู้บอกว่าถ้าไม่มึงก็ไม่ต้องอยู่กลุ่ม ออกกลุ่มไปเลย กู : ??? งงแดกดิสัส ถ้าปกติกูคงเดินออกไปแล้วล่ะ นี่เห็นเป็นเพื่อนไงเพื่อนเกือบสนิทด้วยแหละมั้ง พอกูกลับไปก็เจอพวกแม่งที่เหลือแหละ กูก็ไปกวนชายสี่ที่เหลือ แล้วก็แซวเล่นๆว่าไอA(ไอคนที่โทรตามกูแหละ เรียก Aละกันง่ายดี) ไม่ให้สายคุยกับมึงเลยว่ะ อะไรทำนองเนี่ยแหละ อยู่ๆแม่งก็ปรี้ดบอกว่าถ้ามึงไม่อยากถ่ายก็ไม่ต้องถ่าย มึงมันติดเกม คิดแต่จะเล่นเกม อยากเล่นเกมนักก็ออกไปเลยไป (เดาว่าพวกที่เหลือน่าจะบอกว่ากูไปร้านเกม แต่สาบานได้ที่คุยกับมันกูไม่เคยบอกว่าอยากไปเล่นเกมเลยนะ คือจริงๆวันนั้นมันว่างไง กูเลยไปฆ่าเวลาเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจจะไปเล่นจริงๆจังๆน่าจะเข้าใจนะ) แล้วแม่งตะโกน ตะคอกด้วยเสียงดังเหี้ยๆ บังเอิญกลุ่มกูมีแต่คนใจเย็นไง แม่งก็พยายามพูดให้ไอ้Aใจเย็น กูจะซัดหน้าแม่งแล้วแต่มีเพื่ออนในกลุ่มมาห้ามอีก ควยเอ้ยเสียความรู้สึกเหี้ยๆๆ
ขอบคุณสำหรับที่ระบายนะเห้อออ
มึงเอ๊ยยย ตอนนี้กูมีความสุขสัสๆ อ๊ากก คือกูจะเล่าเรื่องของกูให้ฟังยิ่งคิดกูยิ่งมีความสุข กลุ่มกูนะเว้ย แม่งมีกันอยู่7คน แล้วทีนี้แบ่งกลุ่มทำวิชาศิลปะ10คนให้ทำอุปกรณ์จากวัสดุเหลือใช้ เออ กูว่าก่อนหน้านั้นกูอธิบายถึงกลุ่มกูก่อนดีกว่า กลุ่มกูที่มี7คนเนี่ยอยู่กันแบบไม่ใช่ปลาท่องโก๋อ่ะ แยกกันกลับบ้าน แยกกันกิน ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแต่ก็ยังสนิทกัน แล้วมึงเข้าใจใช่มะว่าไอ้ที่จะเป็นกลุ่มอยู่เนี่ย มันต้องมีคนนึงเป็นดาวเคราะห์วงใน เออ ที่กูจะนินทาก็คือไอ้นั่นแหละ ในกลุ่ม7คน 6 คนแยกกันอยู่ได้ ใจเย็นสัสๆ แต่มีอีนี่คนนึงที่แยกไม่ได้ นิสัยใจร้อนกว่าชาวบ้านเขา เวลากูจะกลับบ้านก่อนก็ชอบส่งสายตาอำมหิตใส่กูและเพื่อนกูอีกคนนึงที่กลับพร้อมกูราวกับแม่งเป็นโทษผิดมหันต์ที่กลับบ้านก่อนมัน หลังๆ ต้องแอบกลับว่ะ กลัวมันโกรธ รู้สึกเกรงใจมันมากเลย อึดอัดไปหมด ทุกอย่างต้องอยู่ในขนบของมัน คือมีอยู่วันนึง ปกติโรงเรียนกูเปิดประตูให้นักเรียนออกได้ตอนบ่าย3 แล้ววันนั้นกูมีคาบเรียนถึงบ่ายสี่แต่ดันไม่ได้เรียนเพราะเพื่อนขอครูไปซ้อมกีฬา ซึ่งกูไม่ได้เอี่ยวไรกะกีฬาเลยตั้งใจว่าจะกลับก่อน...อีห่านี่ อีห่านี่เอาอีกละ ส่งสายตาใส่กูอีกแล้ว พูดกับกูห้วนๆ เหมือนกูผิดมากก แต่วันนั้นกูไม่สนไง กูรำคาญ กูไม่ใช่ทาสมึง เลยชวนเพื่อนอีก2คนกลับบ้านไปพร้อมกันแม่งเลย กูสงสัยว่ะ มึงจะอยู่ต่อไปทำไมในเมื่อมึงก็ไม่ได้เป็นนักกีฬาสักหน่อยนี่หว่า ตั้งแต่วันนั้นแม่งก็เริ่มทำตัวน่ารำคาญขึ้นเรื่อยๆ แกล้งคนอื่นเขาไปทั่วทั้งๆ ที่เขาไม่เล่นด้วย ซ้ำเติมชาวบ้านเขา (ตอนเพื่อนในกลุ่มอีกคนสอบซ่อมมันยังไปหัวเราะใส่อยู่เลย มึงไม่จิตสำนึกเลยเหรอวะ) จนกูเริ่มรู้สึกคิโม่ยว่ะ...คิโม่ยจริงๆ แต่กูไม่กล้าบอกใครนะเพราะกูกลัวกลุ่มแตก กูนึกว่าเป็นกูคนเดียวที่รู้สึกเพราะคนอื่นมันใจเย็นกันหมด หลังๆ พยายามเลี่ยงๆ ไม่เจอหน้ามัน อึดอัดโคตรๆ
มาๆ เข้าเรื่อง
อย่างที่บอกกลุ่มศิลปะ10คน ผู้หญิงกลุ่มกู7คน ผู้ชายอีก3 ซึ่งผู้ชายก็ไม่ทำหรอกไปเล่นตามประสาเเต่กูไม่โกรธ เพราะกูคิดว่าพวกนั้นมันมีหน้าที่แค่จ่ายตังค์เป็นพอ ซึ่งอีนี่...อีนี่ไม่ยอม โทรจิกอยู่นั่นแหละ ถามจริงมึงจะเอาพวกนั้นมาทำไม มาแล้วได้ทำงานเรอะ แต่กูพูดอะไรไม่ได้ กูเกรงใจไง ถ้าตามแล้วมีงานให้ทำจะไม่ว่าเลย แม่งงง จะเรียกว่าไงดีวะ มันเป็นผู้นำกลุ่ม แต่เป็นผู้นำกลุ่มได้กากจริตมากก แบ่งงานไม่เป็น ยัดงานไว้ที่ตัวมันคนเดียวแล้วเสือกมาบ่นว่าพวกกูไม่ช่วย อีห่าาาา มึงไม่บอกกูจะไปรู้ไหม งานกลุ่มทีไรแม่งทำอะไรไม่เคยบอกแล้วเสือกมีหน้ามาด่าอีกกกกก กูเกลียดมันขึ้นเรื่อยๆ เว้ย แต่ต้องอัดอั้นเอาไว้ในใจ จนวันนี้...สะใจชิบหายยยยย
งานศิลปะต้องส่งวันนี้มีคนทำอยู่4คนคือกู เพื่อนกูอีก2ที่มันว่างแล้วก็อีนั่น ส่วนอีก2คนต้องทำงานห้อง คนสุดท้ายหายตัวไปไหนไม่รู้ พอมาถึงที่นัดแม่งก็ไม่ทำงาน เอาแต่นั่งจิ้มโทรศัพท์จนเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง มันก็โทรจิกอีคนสุดท้ายอยู่นั่นแหละ โทรแบบโทรชิบหาย อารมณ์แบบมึงงงง มึงอยู่ไหนนนน กูถามไปว่าทำไมต้องตามขนาดนี้มันก็บอกกาวอยู่กับคนนั้น ไม่มีกาวทำงานไม่ได้ อีเชี่ยยยย นี่กูรออยู่เฉยๆ ครึ่งชั่วโมงเพราะไม่มีกาวเนี่ยนะ สหกรณ์ก็เปิดป่ะวะ กระปุกละ15กูก็ไม่ได้จนขนาดนั้น ซื้อใหม่ก็ได้เว้ยมันเสียเวลาแล้วนี่มันวันสุดท้ายที่ส่งได้เนี่ย สัสสสส บริหารงานได้เหี้ยเชี่ยๆ แล้วเสือกตั้งตนเป็นหัวหน้ากลุ่มแบบทุกคนต้องทำตามมันทุกครั้งเลยนะเว้ย กูโมโห วันนี้กูทนไม่ไหวละ กูเลยชวนเพื่อนอีก2คนที่อยู่ตรงนั้นกลับบ้านแม่งเลย ไม่ทงไม่ทำมันแล้วว่ะ ปล่อยให้มันทำอยู่คนเดียว เก่งนักใช่ไหมมึง งั้นเชิญตามสบายเว้ย
ระหว่างทางกูเจอเพื่อนอีก2คนที่ทำงานห้องเลยชวนกลับบ้านไปด้วยเลย เเล้วก็ระบายความอัดอั้นของกูให้พวกมันฟัง ตอนพูดไปนี่กูขนลุกเลยนะ แบบเหมือนได้ปลดปล่อยว่ะ ปลดปล่อยสุดๆ และที่กูพูดว่าสะใจก็คือ...เพื่อนกูก็คิดเเบบกูว่ะ เชี่ยยยย จริงเหรอเนี่ยยยย ดีใจสัสๆ ตอนนั้นทางกลับบ้านพวกกูก็นินทาแต่เรื่องอีนั่น ทุกคนอัดอั้นไม่ต่างกันเลย กูมีความสุขจริงๆ ได้ด่ามันจากปากกูเองซะที เอาเป็นว่ากูพอแค่นี้แหละ กูเล่ามายาวละ ขอบคุณที่มาฟังกูพล่าม
อ่านแล้วกูนึกถึงตอนม.ต้นเลยว่ะ คือเรื่องมันก็สิบกว่าปีแล้วล่ะ แต่กูยังไม่ลืมเลย555+ เรื่องเพื่อนตอแหลๆคนนึง
คือมันมีเพื่อนกูคนนึง(ผู้ชาย)ชื่อโอ(นามสมมติ) แม่งมีนิสัยเหี้ยๆแบบ ชอบเห่อเพื่อนใหม่ พอได้เพื่อนใหม่ที่พึ่งรู้จักกันมันจะปะเหลาะคนนั้นมาก แล้วชอบยอเพื่อนใหม่แล้วเปรียบเทียบว่าดีกว่าเพื่อนเก่าๆที่รู้จักกันมานานอย่างโง้นอย่างงี้ คือกูอะรู้จักไอ้โอนี่มาตั้งแต่ป.6แล้ว มันเคยเห่อกูมาก่อน(ซึ่งกูค่อนข้างรำคาญอะนะ แต่กูพยายามเฉยๆ)
ทีนี้ตอนขึ้นม.ต้น กูก็มีเพื่นอที่สนิทคนนึง สมมติว่าชื่อนายYละกัน คือมันชอบวาดรูปน่ะ กูก็ชอบวาดรูป กลุ่มพวกกูเลยค่อนข้างสนิทกับนายY (ซึ่งในกลุ่มที่กูว่านี่ไม่มีไอ้Oอยู่หรอกนะ) แล้วทีนี้วันนึงไอ้Oมันก็เริ่มมายุ่งกับกลุ่มพวกกูเพราะจะมาตีสนิทกับไอ้Y ซึ่งกูดูทรงแล้วกูรู้เลยไง ว่ามันจะมาอีหรอบเดิมคือ เดี๋ยวมันจะเห่อไอ้Yแน่นอน แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แบบกูมองแล้วรู้สึกคิโม่ยมาก ผู้ชายเหี้ยอะไรวะเห่อเพื่อนผู้ชายด้วยกัน แล้วแม่งก็ชอบยกว่าไอ้Yเก่งอย่างงู้น ไอ้Yเก่งอย่างงี้ "Yนี่วาดภาพเก่งกว่า「ชื่อกู」เยอะเลยเนอะ" "อันนี้งานใครเนี่ย Yทำแน่เลย ดูดีแบบเนี้ย" ทำซะกูคิด เชี่ย เกย์ปะวะสัด
แล้ววันนึงกูสอบตกเลขไง ไอ้Oมันเห็นรายชื่อกูแล้วก็รีบวิ่งเข้ามาถมถุย "เย้ๆ ไอ้「ชื่อกู」ตกไปแล้ว 1วิชา~♪" คือกูปรี้ดมากอะ อยากซัดหน้าแม่งให้คว่ำตรงนั้น แต่กูก็สงบสติอารมณ์แล้วกลับไปอ่านหนังสือสอบซ่อม
จนเทอมต่อมา ไอ้เหี้ยOแม่งตกเลขมั่ง แต่กูเทพแล้ว ไม่ตกแล้ว กูก็เดินไปแถวๆนั้นจะไปพูดกับไอ้Y ซึ่งไอ้Oก็อยู่แถวนั้นด้วย ไอ้Oแม่งร้อนตัวเว้ย รีบด่ากูเลย "เออ เทอมที่แล้วแกยังตกเลย มันก็ต้องมีผลัดกันตกมั่งดิวะ!!!!" คือ ไอ้เหี้ยยยยย!@#$& กูไม่ได้จะมาพูดกับมึงเลย กูจะมาหาเพื่อนกู มึงนี่ร้อนตัวจังวะ กูไม่ได้จะมาล้อมึงด้วยซ้ำ
จนวันนึงเว้ย ไอ้Oมันไปซื้อข้าวหรือไงนี่แหละ แล้วปล่อยไอ้Yให้เป็นอิสระช่วงเวลาหนึ่ง ไอ้Yก็นั่งคุยปรับทุกข์กับกู เหมือนมันอัดอั้นตันใจมาก "ตอนนี้รู้สึกชัดเจนแล้วว่ะ...รู้สึกว่าไม่ชอบไอ้Oเลย..." คือกูฟังแล้วสะใจมาาาาาากกกกกกกกกก คนที่กูเกลียดขี้หน้าโดนเพื่อนคนอื่นเกลียดนี่ไม่มีอะไรจะรู้สึกดีไปกว่านี้แล้ว
หลังจากวันนั้นไอ้Yเลยพยายามมาอยู่กับพวกกู แล้วสลัดไอ้Oให้พ้นๆ เพราะรำคาญความเกย์ ความตอแหลของมัน จนมันไม่มีใครคบด้วย ต้องไปเกาะติดกับเพื่อนอีกคนที่เป็นคนดีระดับพ่อพระ ซึ่งคนดีระดับพ่อพระคนนั้นให้เหตุผลว่า ยอมให้มันเกาะเพราะสงสารมัน ไม่เหลือใครคบ ว่ะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ+
เออ เรื่องมันนานมากละ หลังขึ้นม.ปลายกูก็ย้ายโรงเรียนไปแล้วไม่ต้องยุ่งกับไอ้เหี้ยOอีก แต่เพื่อนเก่าของกูที่โรงเรียนเก่าก็ส่งข่าวมาบอกเรื่อยๆว่า สุดท้ายแล้วไอ้Oก็เป็นหมาหัวเน่าไม่มีใครชอบ พยายามทำตัวตามกระแสเล่นเกมตามเพื่อน แต่ก็เล่นไม่เป็น โดนทิ้งไว้โดยไม่มีใครเหลียวแล ก๊ากๆๆๆๆ
จนตอนนี้มันจบมหาลัยแล้ว ก็ยังได้ยินว่ามันก็ยังเป็นที่รังเกียจเหมือนเดิม สะใจจริงๆว่ะ
เห็นมึงพูดแล้วกูนึกถึงเพื่อนในกลุ่มกู คือไปไหนแม่งต้องหนีบเพื่อนอีกคนในกลุ่มไปด้วยว่ะ แล้วคือที่แม่งหนีบไปด้วยคือเพื่อนผู้หญิงอีกคนในกลุ่มกูไง จนมีแต่คนคิดว่ามันเป็นแฟนกันเพื่อนผู้หญิงกูคนนั้นเลยไม่มีคนมาจีบโสดมาจนทุกวันนี้ แต่ไอ้ตัวตนเรื่องมันก็มีแฟนแล้วนะ กูไม่เข้าใจว่ะ คือกูก็ผู้ชาย กูก็อยู่คนเดียวของกูได้เวลาเพื่อนไม่อยู่ แต่ทำไมแม่งไปไหนทีก็ต้องหนีบเพื่อนไปตลอดเลยวะ อย่างบางทีแค่ไปกินข้าวแม่งยังไปคนเดียวไม่ได้ นี่กูสงสัย
ตอนนี้กูเซ็งชิบหาย กลุ่มกูเป็นกลุ่มเกือบหญิงล้วนที่มีเพื่อนกระเทยติดมาคน ก็มุ้งมิ้ง(มีแอบเถื่อนๆบ้าง)กันตามประสากลุ่มผู้หญิง
ทีนี้อยู่ดีๆเกิดเรื่องช๊อคคืออีเพื่อนกระเทยที่ว่ามันไม่ได้เป็นกระเทยจริงๆ มันเป็นผู้ชายเรียบร้อยเฉยๆ แต่พวกกูไปเข้าใจผิดเองแล้วมันตามน้ำเล่นๆจนเข้าใจผิดกันจริงๆ แล้วมันก็หาจังหวะบอกไม่ได้เลยโกหกมาเรื่อยๆ
สุดท้ายมันก็ทนไม่ได้พูดออกมา แถมยังเสือกสารภาพว่ามันชอบคนๆนึงในกลุ่มอยู่อีก คือที่ผ่านมาก็ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นแบบนี้เพราะมันเนียนและเก็บอาการเก่งมาก
แล้วที่ผ่านมาพวกกูก็ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่ควรทำไปเพราะคิดว่ามันเป็นกระเทยจริงๆอย่างเช่นนอนเตียงเดียวช่วงทำโปรเจค หรือให้มันเห็นสภาพตอนอยู่ในชุดชั้นในหรือผ้าเช็ดตัวผืนเดียว บางคนน่าจะเคยไปไกลถึงขั้นเล่นอะไรแผลงๆอย่างแก้ผ้าให้มันดูหรือให้มันจับนมด้วย(อันนี้กูเดาเอาเองจากที่บางคนหลุดออกมา)
ตอนนี้บรรยากาศในกลุ่มมันเสียมากเพราะช๊อคกันถ้วนหน้า ทุกคนพูดอะไรไม่ออกแถมระแวงกันเองจนไม่มีใครกล้าทำอะไรเลย โดนเฉพาะคนที่ถูกมันชอบน่าจะอาการหนักที่สุด แถมเรื่องแบบนี้สารภาพออกมาแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วด้วย กูควรทำไงดีวะ
มหาลัยใช่ไหมมึง จะจบยัง กูนึกทางเดียวออกคือหาทางเอาไอ้ผู้ชายคนนั้นออกไป กูว่าไอ้เหี้ยนี่มันตัวฉวยโอกาส ถึงจะตามน้ำแต่มันเป็นผู้ชายควรจะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร
>>103 กูเห็นด้วยกับโม่งนี้ ฉวยโอกาสว่ะ เพราะผู้หญิงจะมองกระเทยเป็นเพื่อนสาวเลยไม่ระวังตัว เพราะมองว่าเป็นผู้หญิงด้วยกันไปแล้ว
ปล่อยให้เลยเถิดถึงขั้นเคยนอนเตียงเดียวกัน เคยอยู่ในชุดชั้นในหรือผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แล้วค่อยมาอ้างว่าหาจังหวะบอกไม่ได้นี่กูว่าแม่งทุเรศละ ตุ๊ดก็ตรงนี้ ไม่แมนเลย
ก็เอาออกจากกลุ่มก็จบแล้วปะวะ ส่วนเรื่องคนที่โดนชอบก็แล้วแต่เจ้าตัว
อย่างน้อยมันก็สารภาพว่ะ ให้อภัยมันหน่อยเถ๊อะ ถ้าเป็นกูแม่งเนียนยาวแล้ว
หลังจากนั้นอยากทำอะไรก็ตามใจ ถ้าไม่ต้องการมัน มึงก็โหวตเตะมันออกจากกลุ่มก็ได้
กู >>102 นะ กลับมาอัพเดตให้ฟังคร่าวๆ ตอนนี้คืออยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆแบบมึนๆ แต่ไม่ได้ชวนมันเข้าห้องแล้ว คิดว่าก็คงจบโดยที่อยู่กันไปเรื่อยๆโดยที่ทุกคนพยายามเลี่ยงๆไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาอ่ะนะ
แต่ลึกๆแล้วบรรยากาศกลุ่มมันก็ไม่เหมือนเดิมอยู่ดี คิดว่าผ่านไปก็คงมีจุดมดุลเกิดขึ้นได้เองมั้ง ส่วนคนที่มันแอบชอบนี่โดนอัลติเมทเพื่อนสาวโซนไปแล้ว คิดว่าคงไม่ได้คบกันแหงๆ
ส่วนตัวกูก็ยังให้อภัยมันนะ นึกถึงว่ามันเคยเห็นสภาพกูตอนอยู่ในชุดชั้นในแล้วก็ยังแอบโกรธๆแม่งอยู่ แต่กูก็มีส่วนผิดที่ที่ไม่ระวังตัวเองด้วยแหละ
ส่วนคนอื่นในกลุ่มจะให้อภัยมันมั้ยนี่ไม่รู้เลย แต่คิดว่าถึงยังโกรธอยู่เวลามารวมกลุ่มกันก็คงไม่กล้าแสดงออกตรงๆอยู่ดี คงปล่อยเลยตามเลยไปแบบนี้แหละ
>>103 มหาลัยเกินครึ่งทางแล้วน่ะ
>>104 ไอเดียดี หลอกมันมานอนห้องแล้วจับตัดไข่แม่งเลยดีมั้ย 555
>>105 ระแวงกันเองว่ามีบางคนรู้อยู่แล้วแต่ไม่ยอมบอกคนอื่นน่ะ
ปล.ขอบคุณความเห็นโม่งทุกคนน่อ
แย่จัง ไอสัส กูเก็บของได้แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใครเลยแปะป้ายเอาไว้เผื่อเจ้าของมาหาว่าให้มาเอาที่กูแต่ผ่านไปหลายเดือนก็ไม่มีใครมาเอากูเลยปล่อยเบลอ หลังจากนั้นอยู่ๆก็มีคนมาเห็นของชิ้นนั้นแล้วบอกว่าเหมือนของมันเลย กูซึ่งมึนๆอนู่เลยงงไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งมันไปแล้วกูถึงเพิ่งพูดว่ากูเก็บได้ แล้วกูก็เลยจะเอาไปคืนเค้าแต่เค้าไปไหนแล้วไม่รู้ กูก็เลยปล่อยเบลออีก แต่พอมาคิดอีกทีกูจะดูเป็นคนขี้ขโมยในสายตาคนอื่นป่ะวะ
กูรู้จักคนๆหนึ่งในออนไลน์แล้วเขาเกิดเข้าใจอายุกูผิดไปหลายปีชิบหายเลย กูไม่กล้าบอกว่ากูอายุน้อยกว่าที่มันคิดมาก มึงว่ากูแย่ไหมที่กูไม่ยอมบอกความจริงไป กูกลัวเขาจะไม่คุยกับกูหรือผิดหวังอะ กูไม่ชอบให้ใครมาเกลียดมาผิดหวังกูด้วย เหี้ยเอ้ยไม่น่าไปคุยเลยน่าจะเมินไปดีกว่า
โบราณว่า คบคนพาลพาไปหาผิด คบ บัณฑิต พาไปหาผล
แล้วไมกุเจอ บัณฑิตสายถ่อย วะ คือตอนนี้ ปากมันพูดแต่เรื่องดีๆ
แต่เบื้องหลังชีวิตแมร่งติดลบชิหาย ใครขัดใจแมร่งถือว่าผิดหมด
แถมไม่รู้ตัวด้วย พอเตือนตรงๆ แมร่งก็ติดลบหนักเข้าไปอีก
ตอนนี้เรียกว่า บ้า ไปแล้ว แมร่งกะเอาชนะมันทุกอย่างเลย
เรียกว่ากุจนปัญญาที่จะพูดแล้ว....เพือนโม่งว่ากุทำไงดีวะ
เพื่อนโม่ง ติดเฟรนโซนทำไงดี คบกันมา 5 ปีแล้ว
บัณฑิตยุคนี้มีสโลแกนจ่ายครบจบแน่ แล้วมึงจะไปคาดหวังห่าอะไร
แต่ทุกครั้งมีเรื่องจะมาหากูตลอด ทำให้ใจกู..........
กูกำลังเศร้าชิบหาย
กูมีเพื่อนสนิท(สนิทเหี้ยๆ)เรียก A ละกันกับเพื่อนคนนึงที่ก็คุยกันพอสมควร เรียก B
สองคนนี้ไปสนิทกันตอนไหนก็ไม่รู้ แต่กูไม่ได้สนใจเพราะกูยุ่งๆกับเรื่องที่มหาลัย (อยู่คนละม.กัน)
กูเคยชวนทั้งสองคนไปเที่ยวตจว.ด้วยนะ แต่ไม่ได้ชวนพร้อมกันนะ ชวนแยกอะ
แล้วมันก็ผ่านไป จนเมื่อวาน กูตื่นมาส่งsmsหาA ชวนไปดูหนังวันที่ 31 Aบอกว่าดูเงินก่อน ไม่แน่ใจ
กูก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันเพิ่งทำโปรเจคเสร็จ ต้องใช้เงินเยอะจึงไม่อยากกวน
จากนั้นบ่ายๆกูก็มานั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบ กูเห็น B เช็คอินร้านเนื้อย่างที่ราคาสูงพอสมควรอยู่กับ A ซึ่งร้านอยู่ใกล้บ้านกูมาก(ทั้งคู่รู้จักบ้านกู)
กูงงมากว่าทำไมเขาไม่ชวนกู แล้ว A มีเงินแล้วหรอ แต่กูก็ไม่อะไร อ่านหนังสือต่อ
จากนั้นเว่ย... สรุป A กับ B ไปเที่ยวตจว.ด้วยกันสองคนเฉยเลย..... จนวันนี้ก็ยังไม่กลับ
กูเงิบสัด น้ำตาไหลพราก นั่งร้องไห้เป็นนางเอก MV เลย กูอ่อนไหวและน้อยใจว่ะ
A ย้ำกับกูตลอดว่ากูเป็นเพื่อนสนิทเขา กูก็โง่นั่งเชื่อนะ จนตอนนี้กูก็ยังเชื่อ ถึงการกระทำมันจะไม่ใช่ก็เถอะ
A เขาเป็นคนรักษาภาพลักษณ์ เพื่อนสนิทสำหรับ A คือคนที่ไปคุยกันหลังไมค์ได้ ไม่ต้องตอบsms ไม่ต้องคุย ไม่ต้องรักษาหน้ากันก็ได้
แต่พอเป็นเพื่อนธรรมดา(B)เขาจะแคร์มาก เทคแคร์ ใส่ใจความรู้สึกมาก คิดถึงใจอีกฝ่ายตลอดจากที่กูสังเกตนะ
เวลาไปกินข้าวกันหลายคน A จะเป็นคนเทคแคร์ เขาจะตักข้าว/ปิ้งเนื้อให้ทุกคน ยกเว้นกู ทั้งๆที่กูเป็นเพื่อนสนิทเขา กูงง
มันสะสมจากหลายเหตุการณ์ว่ะ ไม่ใช่กูร้องไห้เพราะเรื่องนี้เรื่องเดียว กูจะทำไงต่อไปดีวะ จะเลิกคบปล่อยเขาคบกันไปสองคน ห่างออกมา หรือเคลียร์บอกตรงๆ เฮ้อ
(กูกับ A มีสัมพันธ์คล้ายๆแฟนแต่ไม่ใช่นะ กูไม่ได้ชอบมัน มันก็ไม่ได้ชอบกู แต่ชอบคุยมุ้งมิ้ง ใส่เสื้อเหมือนกันไรงี้)
ไหนๆก็เป็นโม่งกันหมด ถามเลย สมัยนี้ ยังมีคนหวังเพื่อนแท้ป่าววะ
กุว่ากุยังไม่เคยเจอเลยวะ เห็นบางคน แมร่งปากว่าไงๆ เพื่อนก็มาก่อน
พอเรียนจบ แยกวง หรือ ทำงานทำการ ไอ้ความเป็นเพื่อนที่มีมันหายไปไหนหมด
แรกๆ ก็อาจจะดี แต่พอกุมีเรื่องเดือดร้อนจริงๆ แมร่งก็ไม่เห็นกุเป็นเพื่อนเลย
"ทำหน้าแบบไม่น่าเป็นเพื่อนกะเมิงเล้ยย เสียเวลา เสียเงิน กรูจริงๆ" ประมาณนี้
แต่ใครได้ดีหน่อยสั่นหางเข้าไปหา พอโดนเค้าหลอกแดกหลอกใช้แมร่งก็มาปรับทุกข์กะกรู
ตอนแรกกูก็สงสารมันหรอก ตอนนี้กูรู้สันดานแมร่งแล้ว โครตขยะแขยงเลยวะ
ด้านดีด้านเสียมันกูก็รับได้หมด แต่แมร่งจะรับแต่ด้านดี
ถ้าเป็นเพื่อนกูก็รับได้ แต่ถ้าไม่เห็นกูเป็นเพื่อนตั้งแต่แรกแล้ว
จะทนเป็นเพื่อนกันทำไมวะ
เพื่อนแท้คบจนตายไปข้าง มีสัก2คนก็หรูแล้วว่ะ
กรูว่าคนที่เขายอมสละเวลาช่วยมึงตลอดโดยไม่เคยขออะไรมึงกลับ หรือไม่เคยไหว้วานอะไรมึงเลย มันก็ไม่เห็นมึงเป้นเพื่อนหรอกว่ะ มันก็แค่สมเพศมึง
กูว่าเพื่อนกันจริงๆ มันต้องมีให้มีรับว่ะ อาจไม่เท่ากันแต่ต้องมีคืนบ้าง
ถ้าสถานะมันไม่เท่ากันกูว่ามันเหมือน หมากับเจ้านาย มากกว่าเพื่อนว่ะ
รักแท้ เพื่อนแท้ กูไม่เชื่ออะไรซักอย่าง ถ้ามึงคาดหวังความแน่นอนจากมนุษย์มึงก็คิดผิดมหันต์แล้ว
>>129 กูก็เหมือนกัน เพื่อนสนิทกูแม่งไม่ให้ความสำคัญกับกู คิดว่าทำไรเหี้ยๆกับกูกูยังเป็นเพื่อนกับมันต่อไป(เหมือนเห็นกูเป็นหมา ซื่อสัตย์กับเจ้าของตลอดชีวิต) กูขอช่วยก็ไม่ได้ งานกลุ่มแม่งก็โยนให้กูทำ พอคนอื่นแม่งเอาใจใส่ชิบหาย เข้าไปคุย เข้าไปเล่นนู่นนี่นั่น อิเหี้ยขนาดไอคนนั้นแม่งจะไปขี้มันยังเดินตามไปส่งถึงหน้าห้องน้ำ ยืนรอแล้วเดินกลับมาด้วยกัน อิบ้า บางทีมันเพิ่งเข้าห้องน้ำเสร็จเดินออกมาแล้วเห็นอิคนนั้นกำลังจะไปห้องน้ำ แม่งก็เดินตามไป แม่งขี้เยี่ยวสองรอบรึไงวะ ทิ้งกูเป็นหมาหัวเน่านั่งอยู่คนเดียว(กูไม่ค่อยมีเพื่อน) ตอนนี้กูปลงและกำลังตัดมันทิ้ง อาห์ เหงาแต่สุขเหลือเกิน
อย่างน้อยหมามันก็โกหกไม่เป็น
หมามันไม่เคย Friendzone ใครนะ
ยิ่งชั้นได้เรียนรู้เกี่ยวกับผู้คนมากเท่าไหร่ ชั้นก็ยิ่งรักหมาของชั้นมากเท่านั้น
หมามันก็เห็นมึงเป็นแค่คนรับใช้นั่นแหละ
อือ กูก็มีเพื่อนสนิทแบบนี้เหมือนกัน แม่งไม่เห็นหัวกู กูคบมันมาตั้งแต่ประถมละ ทุกวันนี้อยู่ม.ปลาย ตอนประถมกลุ่มกูอยู่กัน3คน แต่ที่กูสนิทมีแค่คนเดียว อีกคนมีสถานะเป็นเพื่อนของเพื่อนแหละ กูมันเข้ากับคนยาก แล้วทีนี้มึงก็รู้ใช่ไหมว่ากลุ่มแบบนี้พอเจองานคู่เข้าไปเเล้วอึดอัดเหี้ยๆ เพราะมันต้องมีคนนึงออกไป เออ คนคนนั้นเป็นกูนั่นแหละ เพื่อนสนิทกูดันไปคู่กับอีกคน ทั้งที่กูสนิทกับแม่งมากกว่าชัดๆ แต่ตอนนั้นกูยังเด็กไง กูยึดติด โอเคไม่เป็นไร มึงทิ้งกูก็ไม่เป็นไร ถึงจะจุกเหี้ยๆ ก็เถอะ
พอขึ้นม.ต้น เพื่อนใหม่สังคมใหม่ กูกับมันได้อยู่ห้องเดียวกันตลอด3ปี ตอนนี้มีกลุ่มกัน6คน แต่กูก็ยังสนิทกับมันแค่คนเดียวเหมือนเดิม เวลามีงานคู่เเม่งก็ไปคู่กับคนอื่น โดยเฉพาะวิชาพละ กูไม่ถนัดไง เวลาจับคู่วิชานี้ทีไร แม่งไม่เคยมาเหลือบมองกูเลย ไปๆ มาๆ กูเริ่มคิโม่ยแม่ง อารมณ์แบบ เอ้า! นี่มึงจะเอายังไง ถ้ามึงบอกว่าแค่งานคู่ไม่ต้องคิดมาก กูก็จะบอกให้ว่ากูใจแคบกว่าที่มึงคิดเยอะ กูหงุดหงิด โดนแม่งทิ้งแต่ละที กูเจ็บน้ำตาแทบไหล
หลังๆ ขึ้นม.ปลาย ตากูสว่าง กูไม่ใช่ทาสรับใช้มึง ไม่ได้เป็นหมาของมึงที่จะมารอคอยความรักอะไรจากมึงขนาดนั้น เชี่ย กูเลยไปตีซี้คนอื่นดีกว่า ถึงกูจะเขินแต่ก็ยังดีกว่ากูต้องอยู่กับคนที่ไม่เห็นค่าของกูแบบนี้ กูใจแคบเว้ย ช่วงนี้พอแม่งจะคุยกับกู กูก็เมินอย่างเดียว นี่แหละ กูสามารถสรุปความรู้สึกของตัวเองได้เลยว่ากูเกลียดมัน อันที่จริงไม่ใช่แค่งานคู่หรอก แม่งทิ้งกูไปบ่อยเหลือเกิน กูทนไม่ไหวละ
ช่วงม.ปลาย มหาลัยมึงอาจจะมองว่าเพื่อนสำคัญ แต่เมื่อจบมาเริ่มทำงานมึงก็จะรู้ว่าสุดท้ายแต่ละคนต่างก็มีชีวิตของตัวเองไม่มีใครว่างขนาดมาใช้เวลาร่วมกันงุ้งงิ้งแบบตอนเรียนแล้ว เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง เพื่อนจะกลายเป็นแค่สิ่งแก้เหงาสำหรับมึง เป็นคนที่มีลึงนึกถึงเวลาที่ต้องการอะไร เป็นเครือข่ายที่ใช้งานได้...
อะไรประมาณนี้ แต่ก็ไม่ได่บอกว่าคนเราไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนนะ เพื่อนดีๆน่ะเก็บไว้เถอะ เพื่อเหี้ยๆก็ปล่อยๆไปก็ได้
>>147 ตอบได้ตรงประเด็นมาก กุจะจำไว้เลย เพื่อนดีๆเก็บไว้ เพื่อนเหี้ยๆปล่อยไปหรือทิ้งได้ก็ตัดไป เพราะคนเรามีเวลาแค่นิดเดียว
เผลอแปปเดียวแมร่งก็หมดเวลาชีวิตแล้ว ถ้ามานั่งเสียเวลากะพวกนี้ กุว่าวันๆไม่ต้องทำหาอะไรกันพอดี จริงๆกูก็รับเพื่อนไม่จำกัดนะ
แต่มีแค่บางพวกยังไงๆกูก็รับไม่ได้
มีเพื่อนคนนึงที่เคยชอบกูแต่กูไม่ได้ชอบ แต่กูคุยด้วยแบบเพื่อนตลอด จู่ๆไปคุยกับคนอื่นแล้วมีแฟนใหม่แล้วก็ไม่คุยกับกูอีกเลย กูเหงาว่ะ
ไปมีแฟนใหม่แล้วทำไมต้องเลิกเป็นเพื่อนกับกูด้วยวะ
ขอบ่นหน่อย กูรู้สึกแหยงกับความคิดเพื่อนบางคนชิบหาย นี่กูกำลังอยู่ในสังคมที่มีคนลอกข้อสอบจากมือถือแล้วพอมีคนเอาไปฟ้องครู กลุ่มที่ลอกเสือกมองว่าคนฟ้องนิสัยไม่ดี กดหัวเพื่อนลงเพื่อตัวเองจะได้ดีกว่า เอาแต่แข่งกันเรียน แถมยังมีทวงบุญคุณปนกับขู่ด้วย อีเหี้ย นี่ห้องคิงนะ สก๊อยท้าตบปนมาได้ไงวะ กูอ่านแล้วจะอ้วก
กุบ่นมั่ง กุมาทำงานที่ใหม่ได้เกือยปีละ เพื่อนร่วมงานที่เข้ามาพร้อมกุหลายคน ก็มีแต่รุ่นพี่ทั้งนั้น แต่หลายๆคนพอรู้จักกันนานเข้า แมร่ง Hater gonna hate ว่ะ รำคาญชิบหาย กลุ่มกุนี่แตกกันหลายคนเลย เพียงแค่เรื่องขี้หมูขี้หมา มันน่าตบกบาลจริงๆ ทำเหมือนตัวเองเป็นศุนย์กลางจักรวาล จับกลุ่มนินทาคนนู้นคนนี้ใจคอนี่มึงจะเกลียดทุกคนเลยใช่มั้ย ทำอย่างกับตัวมึงใครๆก็ชอบ ไอ้เหี้ยยยย ถ้าไม่มีพวกกุอยู่ก็ไม่มีใครเข้าหามึงหรอกทำตัวไม่เป็นมิตรแบบนี้ ส้นตีนนนนนนนนนนนน
ขอบคุณที่เสียเวลาอ่าน
กูเกลียดเพื่อนตัวเองว่ะ เหี้ยแม่ง กูเคยคิดว่ากูสนิทกับมันมากนะ สนิทแบบสนิทอ่ะ จนมันเริ่มทำตัวเหมือนตัวเองใหญ่สุด ศูนย์กลางจักรวาลมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนกลัวมันโกรธมากเว้ย โกรธทีก็เอาไปนินทาคนนู้นคนนี้ โคตรเลย โคตรหมั่นไส้ เวลาเรียนแม่งก็เอาแต่บ่นครู ครูสอนไม่รู้เรื่อง ครูเหี้ย บลาๆๆ ไอ้เหี้ย มึงหยุดบ่นแล้วมึงตั้งใจเรียนมึงก็รู้เรื่องเว้ย หยุดดิวะ รำคาญ แต่กูก็แค่อือออไปกับมัน ไม่ได้ด่าอะไรกลับไปหรอก ตัวมันนี่อยากทำนู่นอยากทำนี่ แต่ความรับผิดชอบไม่มี พอครูด่ามันว่าขี้แพ้ (ครูกูเป็นคนแรงๆ อ่ะ) แม่งนินทาครูอีก เออ กูนี่แหละที่จะพูดกับมึงอีกคนว่ามึงแม่งขี้เเพ้ว่ะ กูอยู่กับแม่งแบบโคตรอึดอัดเลยทำเมิน ไม่เห็นมันในสายตา ทำไปได้สัก 3 เดือน แม่งมาขอคืนดีกับกู คำพูดโลกสวยมากก แต่ลาก่อนเหอะ กูพอละ
ไม่เห็นจะเกี่ยวแต่ขอบ่นหน่อย เพราะในนี้น่าจะเป็นนรกัน
เบื่อมากที่รรกุให้ความสำคัญและเคร่งกับการตัดเกรดคณิตมาก ทำเท่าไหร่เอาไปเท่านั้น เข้มงวดหยั่งกะเจ้เบียบ
ในขณะที่วิชาสายภาษาที่สำคัญเฟ่อร์ๆ สำหรับพวกสายศิลป์ทั้งคำนวณทั้งภาษา แต่ปล่อยเกรดกันเละเทะปาจิงโกะ
ตูรู้สึกแย่มาก กุตั้งใจทำ ฝึกอ่าน แต่พวกอ่านหยั่งกะท่องอาขยาน กับพวกที่รอลอกอย่างเดียว ยังไม่อ่านโจทย์ก็ถามแล้วว่าตอบอะไร
ดันได้เกรดเยอะพอๆกับตู แบบเห็นแล้ว ความพยายามทางภาษานี่มีคุณค่าน้อยกว่าคณิตศาสตร์สินะ...
>>160 โรงเรียนกูก็เหี้ย ไม่เกี่ยวกับเรื่องเพื่อน แต่ขอบ่นมั่ง
สอบเมื่อไหร่มีโพยตลอด โกงกันเข้าไป โกงกันทั้งห้อง ครูแม่งก็รู้ แต่ไม่ว่าอะไร
ไอ้กูแม่งก็มีเพื่อนน้อย แล้วเพื่อนที่มีอยู่น้อยนิดของกูแม่งก็ไม่โกง กูก็ขี้เกียจหาโพยเองอีกต่างหาก
ก็เลยได้คะแนนน้อยตามระเบียบ ช่วยไม่ได้เนอะ ไม่เก่ง ไม่พยายาม แล้วเสือกไม่โกงเอง
กูรำคาญว่ะ สัส รำคาญเพื่อนร่วมงาน เพื่อนตัวเอง รำคาญหมด สัสเอ้ย อีเพื่อนร่วมงานหัวควยไม่เคยช่วยงานเหี้ยไรเลยตั้งแค่อยู่กลุ่มเดียวกันมา ขอให้ช่วยก็ไม่ช่วย แต่เสร่อมาด่ากูทำตัวเบ่งใส่กู อีดอกส์เอ้ย กูอยากตบให้เลือดกลบปากแต่ทำไม่ได้เด๋วเป็นคดี เพื่อนสนิทกูแม่งก็ยอมๆๆเค้าใช้ทำเหี้ยไรก็ทำกลายเป็นรับงานมาทำหมดไม่กล้าปฎิเสธ แล้วพองานเยอะทำไม่ไหวก็มาขอให้กูช่วย กูก็มีงานของกูทำงานของกูหน้าที่กูอยู่แล้วก็ต้องมาช่วยแม่ง ทั้งๆที่อีคนไม่ทำก็ไม่ต้องทำเหี้ยอะไรเพราะอินี่เอางานมาทำเองหมด ไม่ยอมปฏิเสธ ยอมให้เค้าเอาเปรียบอยู่ได้ บอกแม่งให้แบ่งงานให้อีพวกไม่ทำทำบ้างแม่งก็เอาแต่พูดว่า ยอมๆไปเถอะ ไม่อยากมีเรื่อง เสร็จแล้วก็เอางานมาให้กูช่วยทำ เหี้ยเอ้ย รำคาญอีพวกยอมคนแต่ทำคนอื่นลำบากจริงๆ กูจะไม่ช่วยแม่งละ อย่ามาหาว่าใจดำละกัน เหม็นเบื่อทั้งพวกเอาเปรียบและยอมให้คนเอาเปรียบจริงๆ สิทธิของตัวเองรู้จักรักษาบ้างไม่ได้ไงวะ
กูรำคาญเพื่อนตอแหล บอกไม่ได้อ่านหนังสือ
ว่าจะอ่านแต่ลืม อ่านนิดเดียว เสือกได้เกือบเต็ม
กูรู้ว่าจริงๆมันอ่านโต้รุ่ง แต่อิจฉากูที่เรียนๆเล่นๆแต่ผ่าน(บางวิชากูได้เกรดดีกว่ามัน)
มันทั้งเรียนพิเศษทั้งอ่านโต้รุ่ง กูอ่านแค่ช่วงสอบ
เวลาสอบแม่งชอบออกคนท้ายๆแล้วมาบอกทำไม่ได้เลย แหม่ อีดอก
อีเหี้ยนี้แม่งมีปม อยากให้กูพูดว่า ดีจังไม่อ่านแต่ได้คะแนนเยอะ ฝันไปเหอะ
ไม่อยากมีเพื่อนเลยว่ะ เรียกแค่เครือข่ายพอได้ไหม
กุพยายามทำดีกับคนที่กุคิดว่าเป็นเพื่อนแท้กุนะมีเรื่องเดือดร้อนกุเต็มใจช่วย บางทีเขาอาจจะรำคาญก็ได้มั้ง แต่กุคิดว่าทำหน้าที่เพื่อนเต็มที่นะ
แต่เวลากุอยากได้ความช่วยเหลือไม่มีใครเลยว่ะ555555 สมเพชตัวเองชิบหาย อาจหวังมากไปก็ได้ เสียความรู้สึกแล้วต้องมานั่งโทษตัวเองอีก เหี้ยจริงๆ
อยากออกมาอยู่คนเดียว รู้สึกgiveไม่มีtakeว่ะ
ผมมีเพื่อนคนนึงที่อ้างว่าตัวเองรักงานในสายที่ทำ อะไรงี้ครับ
วันนึงเพื่อนคนนี้มาบอกผมว่า "ยิ่งให้ยิ่งได้"
ผมเลยบอกว่าว่า ยิ่งให้อ่ะ คนรับยิ่งได้
อยากได้ต้องเอาเปรียบ
ใช้ซอฟแวร์เถื่อนลดต้นทุน
พวกไฟล์ความรู้ก็โหลดเถื่อน ๆ มา
แล้วเอาของเถื่อนไปหาเงิน
ที่ทำงานอยู่นี่ก็ไม่ได้รัก หรืออยากสร้างคุณค่าอะไร แค่อยากได้เงิน
หลังจากนั้นก็โดน Block เลย 555
นี่สินะ ที่ว่ายิ่งเราจริงใจ ก็ได้รับความจริงใจตอบ
เราบอกทุกอย่างด้วยความจริงใจ เพื่อนก็บล๊อกด้วยความจริงใจ แบบไม่อยากเป็นเพื่อนต่อแล้วก็ทำตรง ๆ ไม่ใส่หน้ากาก ดี
เพื่อนโม่งๆ กูมีเพื่อนในมหาลัยคนนึงแม่งไม่เรียนเลยอะ คือเทอมที่แล้วแม่งไม่เรียนเลยมาก็สาย ตอนเรียนก็เอามือถือมากด จนหมดคาบอะ ก่อนสอบก็ไม่อ่านหนังสือ ขนาดช่วงใกล้สอบทั้งสอบเก็บคะแนนทั้งมิดเทอม/ไฟนอล แม่งก็อัพตัสว่าใกล้สอบแล้วยังดูหนังฟังเพลงอะไรของแม่งอยู่เลยจนโดนFไปหลายตัว เทอมนี้แม่งก็ยังทำตัวงี้อีก กูไม่เข้าใจว่าแม่งคิดไรอยู่อะ อยากจะพูดใส่หน้าแม่งเหลือเกินว่าถ้ามึงไม่ทำเพื่อตัวมึงเองก็คนใจคนส่งมึงเรียนหน่อยได้มั้ย แต่กูไม่กล้าอะ กูควรทำไงดีวะเพื่อนโม่ง
แม่งเอ๋ยย มีเพื่อน.ญ กูเคยสนิทมาก รู้จักกันมา 4 ปีละ เจอกันแรกๆ อยู่ ม.2 กำลังจะ 3 รู้จักกันไม่กี่วัน เริ่มหยอกล้อว่านเสนห์ใส่กูซะละ
อยู่กันแบบนั้น 4 เดือน จนคนอื่นคิดว่าเป็นแฟนแต่ก็ไม่ใช่(แต่ต่างฝ่ายต่างรู้ใจกัน )พอประมาณเดือนที่5 เริ่มทำรำคาญมันเพราะทำตัวน่ารำคาญ จนอยู่ดีๆ มันก็ไปมีแฟนใหม่ แล้วกูก็ทำตัวห่างๆ จนกูขึ้นปวช1 เทอม 2 ได้มาเจอกันที่ทำพาร์มไทม์กู แล้วคุยกันซักพัก อยู่ดีๆก็บอก (ไม่ได้เจอกันเกือบปี คิดถึงมึงมากเวลามึงไม่อยู่ )
คุยกันไม่เกิน 2 ประโยค ขอกูคบ
แต่กูก็ไม่ได้ตอบรับวะ กูพูดว่า
(ขออยู่
>>176 โทษๆ เผลอกดโพสท์ ต่อๆ
กูพูดว่า (ขออยู่กับแกแบบนี้เรื่อยได้ไหม
อยู่แบบนี้มันสนุกกว่า)
พอกูพูดเสร็จ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ก็คุยกัน ทักกันตลอด หยอกล้อว่านเสน์หนิดๆใส่กันได้ซักพัก ก็ห่างกันไม่นาน 4 เดือน
จนกูอยู่ ปี 2 เทอม2 ได้เจอกันอีกรอบ แต่ตอนนั้นมันกำลังมีปัญหากับแฟนอาทิตย์ๆแล้วก็เลิกกัน แล้วก็มาคุยเล่นกันกูระยะนึง
แล้วช่วงนั้นกูก็เริ่มสนใจมัน ดูไปเรื่อยเกือบเดือน พอกูจะบอกรักแค่นั้นแหละเปิดตัวแฟนใหม่พอดี แบบว่าตอนนั้นเฟลหนักจนมันสงสัย แล้วกูก็คุยกับเรื่องความรู้สึก
+ ตอนนั้นกูปากแข็งด้วย ไม่อย่ามีปัญหาตอนไปเทียวเพราะหลังจากเปิดตัวก็จะไปเทีายวกัน พอตอนกลับมาจากไปเที่ยวแค่นั่นแหละ กูนอยไม่พูดไม่คุยกับมันเกือบเดือน แล้วมันไม่กล้าจะมาทักเพราะกลัวกู
เป็นแบบนั้นเดือนกว่าๆ กูก็เริ่มไม่ไหวละ กูไปขอโทษมันแล้วมันร้องไห้ใจดีใหญ่เลย
แล้วกูก็เรียกให้มาหาที่บ้าน พอถึงห้องกูเดินเข้ามากอดเลยแล้วก็ล้มตัวลงมานอนด้วยกัน ตอนนั้นแทบจะยอมกูเลย แต่กูก็ไม่ได้ทำเพราะกูดันแพ้น้ำตามัน (โคตรเสียดาย กุมีอารมณ์ด้วย)
เดียวมาเล่าต่อ กูนอนละบิบิ
นิยายโป๊บอร์ดประมูลป่าววะ
โห กูเพิ่งเห็นมู้นี้ขอบ่นบ้างได้มั้ย
คือกู ญ ม.ปลายอ่ะ แล้วเพื่อนที่สนิททุกคนจะติ่งศิลปินเกาหลีกัน วันๆจะคุยกันแต่เรื่องศิลปินนี่แหละ
แต่กูไม่รู้เรื่องด้วยโว้ย นอกจากเรื่องนี้ก็จะคุยเรื่องนิยายแจ่มใสไรเงี้ย ซึ่งกูเคยลองอ่านแล้วกูเข้าไม่ถึงแนวนี้ว่ะ
งานอดิเรกกูคือดูอนิเม อ่านนิยายแปล/มังงะ คือไม่เหมือนใครในกลุ่มเลย สุดท้ายเดี๋ยวนี้นอกจากเรื่องงานแล้วก็แทบไม่ได้คุยกับเพื่อนอ่ะ
แล้วพอกูไปคุยเรื่องอนิเมกับเพื่อนผู้ชายคนอื่นแล้วอีเพื่อนกูก็ทำหน้ายี้ๆใส่
มีใครเป็นงี้ไหม กูควรทำยังไง
>>180 กูเก็ทความรู้สึกมึง เวลาเพื่อนกูคุยเรื่องที่เที่ยว เรื่องเหล้าเบียร์ หรือกรี๊ดผู้ชายหล่อกันกูก็งีดเหมือนกัน แค่เห็นหน้าตาเค้าดีมึงก็จะเอาเป็นผัวแล้วเหรอ ไวไปไหม กูก็ไม่รู้จะคุยอะไร ก็นั่งเงียบๆ นอยด์ๆ ไป
เหมือนตอนนี้เพื่อนกูอยู่ในช่วงพยายามห้าว เริ่มแดกเหล้าแดกเบียร์ ก็เรื่องของมันนะ กุก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ตอนแม่งเมานี่น่ารำคาญฉิบหาย(แดกเบียร์ไปแค่ 2 ป๋องก็เมาละ ละบอกไม่เมา ควยยยย) ทำอะไรเหมือนเด็ก มันไม่ใช่แค่น่ารำคาญอะ ไม่อยากเข้าไปยุ่งเลย เหมือนมันไม่มีสติ คิดจะพูดอะไรก็พูด คิดจะทำอะไรก็ทำ ตอนตื่นมาแล้วมันสร่างเมานี่กูดีใจสัดอะ แล้วก็ชอบเพ้อให้กุฟังถึงตอนไปแดกเหล้าที่ ตจว ว่าไม่มีอะไรสนุกเหมือนตอนนั้นแล้ว กุไม่มีวันเข้าใจหรอก คือเข้าใจปะว่ากูไม่ชอบคนเยอะๆ เสียงดังๆ กุจะไปสนุกได้ยังไงกับสภาพแวดล้อมแบบนั้น
เอาละเว้ยเฮ้ย ชมรมคนไร้เพื่อนถือกำเนิด
กูก็เพื่อนเยอะนะ แค่ไม่มีใครดีเท่านั้น 5555
ขอพท.ระบายหน่อยนะมึง คือวันนี้กูเหมือนกับทำอะไรทำร้ายจิตใจเพื่อนไป กูเป็นคนที่ขี้รำคาญง่ายมาก เพราะงั้นถ้ามีใครมาล้อมายุ่งอะไรกับกูมากเกินไปกูก็จะรำคาญ แต่ปกติกูก็ทำเป็นขำๆไปบ้าง หลบฉากไปบ้างอะ แล้ววันนี้เพื่อนกูก็ล้อเรื่องที่กูกำลังเครียดอยู่ กูเลยหงุดหงิด พูดใส่เพื่อนไปว่าเลิกพูดแบบนี้ได้แล้ว มันเหมือนกับว่ามีแกดูถูกเรามากอะไรงี้ แล้วเพื่อนกูก็เลยเงียบไปเลย..คือตอนนั้นกูแม่งโคตรเสียใจ กูไม่น่าปรอทแตกตอนนั้นเลย..ตรงนี้ล่ะ กูขอคำแนะนำหน่อย คือกูเป็นคนเดียวในกลุ่มเลยอะ ที่จะทำร้ายจิตใจเพื่อนบ่อยมากเพราะการที่มายุ่งแล้วอะไรๆกับกูจนกูหงุดหงิด ว่าขึ้นมาอะ กูไม่อยากเป็นคนแบบนั้นเลย กูนี่แม่งโคตรแย่ ใครก็ได้แนะนำกูหน่อย ด่ากูก็ได้ เพราะกูไม่รู้จะเลิกนิสัยนี้ยังไงว่ะ TT
>>199 กูเองอ่ะ กูล้อแบบไม่คิดเหี้ยไรนะ กูขำๆไงเห็นแม่งเครียดกูก็อยากให้แม่งขำๆ สรุปกูโดนด่า
กูเลยกะจะคุยกับมันให้น้อยลงละ ไม่เล่นกับกูกูก็ไม่เล่น เชิญมึงเครียดกับตัวเองไปเถอะ
ที่ล้อนี่ไม่ได้ล้อใจร้ายอะไรเลยนะ แค่พูดว่า "เห้ยแค่นี้เหนื่อยหรอวะ กากว่ะะะ " สรุปกูโดนด่าแล้วด่าแบบด่ากูกลับอะ ไม่ได้ด่าว่ากูล้อเล่นไม่ดูเวลานะ ด่ากูเลย แล้วทำหน้าเครียดใส่กูต่อ กูบอกแม่งว่าอย่าเครียด มันบอกกูว่ามันไม่ได้เครียดกูอ่ะเครียด เพื่อนๆกูนี่ส่ายหัวให้แม่ง
คือกูโดนหลายรอบละตั้งแต่เปิดเทอม2มา ช่วงนี้แม่งจะสอบหมอไง แล้วความเครียดทุกอย่างก็ลงที่เพื่อนๆและกู
กูจะปล่อยมันไปละ แค่นี้เครียดถ้าไม่ติดมันคงฆ่าตัวตายอะ
ต่อไปนี้ที่เป็นเพื่อนกันมา เคยคุยกันสบายใจ ตบหัวกันเล่นแม่งคงไม่เหมือนเดิมอะ กูจะไม่เล่นกับมันละ
>>200 พูดตามตรงถ้าเวลากูเครียดจริงจังอะไรมีคนพูดแบบนั้นกูก็ปิ๊ดแตกนะ คือกูเครียดอยู่แล้วมีคนบอกกูกาก กูไม่อดทน กูแม่งปวกเปียก คือกูพยายามกับปัญหาอยู่นะ แล้วนี้ที่กูพยายามอยู่นี้คือยังกากเหรอวะ นี้กูยังต้องพยายามอะไรให้ยิ่งกว่านี้อีกเหรอ(มึงต้องเข้าใจจุดเดือดเวลาเครียดแม่งก็ต่ำด้วย) แล้วแม่งคนล้อกูบอกอย่าเครียด แม่งเหมือนตบหัวแล้วมาลูบหลัง กูแม่งจะโกรธยิ่งกว่าเดิมอีกเหมือนแม่งไม่ได้ขอโทษจริงจังอะไรยังแค่อยากล้อกูต่อโดยทำตัวเป็นคนดีพูดว่าอย่าเครียดเหมือนแม่งที่บอกทำเมื่อกี้ แม่งไม่ผิด กูเล่น กูทำให้มึงแฮปปี้(แต่มึงจะรู้สึกแย่กว่าเดิมก็เรื่องของมึง ตอนนี้กูเป็นคนดีปลอบเพื่อนอยู่)
กู 198 นะ >>200 กูว่ามันขึ้นอยู่กับมู้ดเพื่อนมึงตอนนั้นด้วยอะ ของกูถ้ากูกำบังเครียดแบบบรรลัยอยู่เนี่ย ถ้ามีคนมาพูดว่าสิ่งที่กูทำอะ มันเปล่าประโยชน์ ไม่ได้ผลหรืออะไรเงี้ย กูโกรธนะ ถึงคนพูดจะพยายามทำให้กูหายเครียด แต่คนๆนั้นก็ไม่รู้ว่ากูได้พยายามอะไรขนาดไหนบ้าง คงต้องดูบรรยากาศแหละมึง
กูว่าลองไปคุยๆกับเพื่อนมึงก่อนก็ได้มั้ง สนิทกันขนาดนั้น ไม่แน่เขาอาจจะเป็นเหมือนกูก็ได้ที่มานั่งจิตตกทีหลังว่าไม่น่าพูดอะไรแบบนั้นออกไปเลย
คือพวกมึงยังไม่เคยเจอไอ้คนที่มันพูดไม่รู้เรื่องจริงๆนะ
แบบว่าคุยธรรมดายังไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะ เข้าใจใช่ไหม
พูดอะไรต้องอธิบาย3-4รอบกว่าจะget แล้วเป็นแบบเด็กบ้านๆ
งงๆเปื่อยๆ จะคุยงานที่นี่โทรคุยยังแทบไม่รู้เรื่อง แชทหากันยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เจอแบบกุนานๆเข้ามันก็ต้องมีกันบ้างล่ะวะ
พวกมึงคิดว่ามิตรภาพที่เริ่มต้นจากผลประโยชน์มันจะยืนยาวได้มั้ย
เพื่อนสนิทกูหลายคนทุกวันนี้เริ่มต้นเข้าหากูเพราะอยากให้กูช่วยเรื่องเรียน กูอาจจะไม่ได้ถึงกับเทพแต่มันก็พอเรียนได้เรื่อยๆ
กูกลัวๆว่ะว่าถ้าวันนึงกูช่วยมันไม่ไหวขึ้นมาหรือมันมีคนอื่นที่ช่วยมันได้ดีกว่ากูเข้ามามันจะทิ้งกูมั้ยวะ...
ชัวร์
คิดมากไอ้สัส มันอยู่ที่มึงแล้วล่ะว่าคาดหวังว่ามันจะเป็นเพื่อนมึงแบบไหน กูก็เป็นมีคนขอมาช่วยกูนู่นนี่ กูช่วยได้ก็ช่วยไป แต่กูไม่คาดหวังไงว่ามันจะมาเป็นเพื่อนแท้ เป็นเพื่อนซี้ตลอด คือ มันขอร้องกูช่วย งานจบกูก็จบ ที่กูต้องทำแบบนี้เพราะกูต้องรู้จักวางตัวว่ะ เผื่อมันขอให้กูช่วยเรื่องนึงแล้วลากยาวมาอีกหลายๆเรื่อง จะได้ตัดบทได้แบบไม่ต้องกลัวเสียเพื่อนเพราะมันก็ไม่ได้แน่นแฟ้นกันมาแต่แรกอยู่แล้ว ช่วยได้กูช่วย อันไหนไม่ไหวก็บอกไป แต่ผลที่ได้มันกลับดีเกินคาดว่ะ กูรู้สึกว่าคนที่กูช่วยๆไปนี่แม่งค่อนข้างเคารพกู และ ค่อนข้างเป็นมิตรดีนะ คุยเล่นได้สนุกสนาน ได้เพื่อนอีกเยอะเลย
>>205 กูเคยเจอคนหนึ่ง ขอบ่นหน่อยเถอะคือแม่งโคตรจะไม่พึ่งตัวเองเลยเว้ย แบบแม่งมีงานมาให้ลงโปรแกรม(หาง่ายๆจากกูเกิลลงง่ายๆเลย)เสือกมาถามตั้งแต่วิธีการเซิสหา ใช้คำไหน ลิงค์ไหนเลย แล้วแม่งมีงานกลุ่มแบ่งกันกูอยู่คนละกลุ่มกับมัน แล้วกลุ่มมันทำงานกันไม่เป็นเลยเว้ย เออกูสงสารกูเลยช่วย แล้วรู้มั้ยมันทำไง มันให้กูช่วยจนไม่ได้กินข้าวกลางวัน มันมาถามๆไปๆมาๆมันจะให้กูทำงานให้มันคืองานกลุ่มกูแม่งก็มี พอตอกกลับไปว่างานของใครแม่งก็บอกว่าช่วยนะๆ ควยเถอะ ถ้าเป็นสาวน่ารักๆอ้อนกูอาจใจอ่อนนะ แต่นี้คือผู้ชายหน้าตาเหมือนเด็กปญอวะ พอทำงี้บ่อยๆคนทั้งห้องแบนมัน แล้วกูเป็นคนเริ่มทะเลาะกับมันแรงๆคนแรกจนมันนึกว่ากูเป็นต้นเหตุละมั่งเพราะทะเลาะเสร็จกูไม่คุยกับแม่งเลย มันก็มาบอกกูหายงอลนะ งอลเหี้ยไรกูเกลียดมึง
เพื่อนกูแม่งเป็นคนมีความคิดหลุดโลกเหี้ยๆ สมมติแม่งมีเรียนตอน8โมงพรุ่งนี้ แม่งก็จะนั่งรถตู้จากมหิดลไปฉะเชิงเทราบ้านเกิดมันตอนดึกๆ2-3ทุ่ม แล้วเช้าๆก็ตื่นไม่ไหวพอกูโทรปลุกมันอุส่าเผื่อเวลาไว้ให้ตั้ง1ชม. มันก็ทำเหี้ยอะไรชักช้า รีดผ้าซักผ้า ลีลาไม่ไปอาบน้ำ จนเลยเวลาเข้าเรียนกู แม่งบอกให้กูรอกูก็ต้องรอแม่ง เบื่อชิบหายทั้งๆที่กูตื่นเช้าแต่งตัวเสร็จเร็วตลอด แม่งไม่เห็นใจกูที่รอเลยไง เข้าสายไม่พอไม่รู้ว่า ไอ้ที่ อ.สั่งงานแม่งทำไงอีก
กูไม่มีเพื่อนเลย พวกมึงเป้นเพื่อนกะกุหน่อย
ต่อจาก>>176 >>177
หลังจากที่นอนกอดกัน แต่ไม่ได้ทำอะไรกัน ก็แยกกันไป พอตกเย็นของวันถัดมา
กูโทรไปหาเพื่ออยากรู้คำตอบ
มันบอกว่าเลือกแฟนมัน หลังจากนั้นกูไม่พูดอะไรกับมัน 2-3 วัน แล้วก็กลับมาคุยกันอีก แต่คุยกันปกติ แต่ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม อยู่แบบนั้น เรื่อยๆจนกูไปฝึกงาน(มีนา) แรกก็โทรมาคุยกับกูบ้าง พอผ่านไปเดือนกว่าๆก็ทักกูตลอดจน ได้เลิกกับแฟน(กลางเดือน พฤษภา) ว่าจะเข้าไปแทนที่ แต่กูรอให้มันสบายใจก่อน
แต่กูคุยกีนเรื่อยๆ จนถึง (กรกฎ) มันเริ่มไม่ทักกูละ บอกไม่ว่างๆ กูก็ตื้อมันจน มันรำคาญ กูเลยถามรุ่นพี่มันที่มันทำงานด้วย
กับเพื่อนมัน ถามว่ามันเปลี่ยนไป บลาๆ
พอผ่านไปวันกว่าๆ โทรมาด่ากูเลย
แล้วกูก็ไม่พูดอะไรแล้วว่างสายเลย
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย 4 เดือน
พอกูกลับจากที่ฝึกงาน(พฤศจิ) แม่งทักกูมาเลย บอกคิดถึงๆ บลาๆ ประมาณเทคแคร์นิดๆ แล้วมีวันหนี่ง บอกกูว่า
"มึงยังเป็นเพื่อนกูอยู่รึเปล่า' ถ้ากูบอกไปแล้วอย่าหนีกูอีกนะกูขอ"
แล้วกูรู้เลยว่าจะพูดอะไร กุคิดในใจต้องไอ้นัเนแน่ๆ
มันบอกว่า กุคบกับรุ่นพี่กูอยุ่
กูก็เก็บอารมณ์อยู่ แต่ทำหน้าไม่พอใจ
แล้วก็พากูไปเลี้ยงข้าว กัน2คน
แล้วแฟนมันแม่งเกลียดกูเลย แต่กูก็คุยกับมันเรื่อยๆ จนมาวันหนึ่ง นั่งคุยกันทั้งคืน แล้วมันก็ร้องไห้ให้ฟัง หลายๆเรื่อง จนหลับ
หลังจากนั้นก็คุยกันน้อย+ไปหาแฟนบ่อย
เพราะถ้าแฟนไม่เรียกจะไม่ไปหา แต่มันอยู่กับกูบ่อยจนแฟนรู้ จนตอนนี้ แม่งกู2 คนก็กลับมาคุยกันอยู่ดี จบ
ติดเฟรนโซนเลยสัส
>>210 มึงก็บอกมัน เดี๋ยวกูไปรอมึงที่มหาลัยละกัน กูว่าเพื่อนถึงจะสนิทกันขนาดไหนแต่ถ้าทำให้ชีวิตเราเดือดร้อนทุกวัน มันไม่ใช่แล้วว่ะ อยู่มหาลัยแล้วโตเป็นควายแล้วยังไม่สำเหนียกอีกกกก
(กูก็ตื่นช้าลีลาขี้เกียจอาบน้ำนะ แต่อย่างน้อยก็ไม่เดือดร้อนใคร เพื่อนกูอยู่คนละหอกัน ตื่นเช้าตื่นสายตัวใครตัวมัน ไปเจอกันที่มอเลย)
ใครรู้สึกว่าตัวเองไม่มีเพื่อนบ้างวะ มีไม่กี่คนที่กูพอเรียกว่าเป็นเพื่อนได้ มันก็บอกกูเป็นเพื่อนมัน แต่เพื่อนมันต้องเข้าหากันใช่มั้ยวะ กูเป็นคนเข้าหามันอยู่ฝ่ายเดียว ต้องเข้าไปเสือกมัน ต้องชวนคุย ต้องเป็นฝ่ายทัก ไม่มีใครเข้าหากูเลย เวลามีงานกลุ่มแม่งลำบากมาก ต้องคิดว่าจะมีใครเอาเข้ากลุ่มมั้ย กูโคตรเหงา ระบายให้ใครฟังแม่งก็ไม่ใส่ใจ ไม่ใช่ปัญหาของมันไง ปรึกษาก็ไม่ได้
แล้วไอคนที่ไม่มีเพื่อนจริงๆ ไม่คบค้าสมาคมกับใครเลยแบบในอนิเมนี่มันมีจริงๆมั้ยวะ กูเห็นผู้หญิงคนนึงในโรงเรียน น่าจะรุ่นเดียวกัน เหมือนมันไม่มีเพื่อนเลยว่ะ นั่งกินข้าวในโรงอาหารคนเดียว กูไม่เคยเห็นมันคุยกับใคร แต่มันชอบเข้าไปเล่นบาสกับผู้ชายบ่อยๆ แต่พวกผู้ชายก็เหมือนไม่มีใครรู้จักมันอยู่ดี คนแบบนี้อยู่ยังไงวะ เวลามีงานกลุ่ม จับคู่จะทำยังไง เวลาไม่มาโรงเรียนจะมีใครจดการบ้าน เก็บชีทไว้ให้มั้ย ดูท่ามันน่าจะไม่สนใจเรื่องไม่มีเพื่อน ฉะนั้น กูก็ต้องไม่สนใจกับไอ้เรื่องเพื่อนงี่เง่านี่ อยู่คนเดียวก็ได้สบายๆ แต่แม่งก็เจ็บปวดอยู่ดีว่ะเวลาเห็นคนอื่นแม่งเล่นเป็นเพื่อนกันสนุกดี ส่วนตัวเองก็ได้แต่นั่งมอง
>>215 กูคนนึง ตอนมัธยมกูมนุษย์สัมพันธ์เหี้ยมาก ประมาณว่าชอบทำหน้านิ่งไม่พูดไม่จา เพื่อนก็เลยรวมหัวแกล้งกู ตอนงานกลุ่มก็ต้องไปขออาจารย์ทำเดี่ยวเพราะไม่มีใครเอา ตอนแจกชีทก็ต้องไปขออาจารย์เอาท้ายชั่วโมงเพราะแม่งควมหัวกันไม่ส่งให้กู พรีเซ้นงานกูก็ต้องพรีเซ้นคนเดียว กูก็อยู่ของกูได้ กูก็เรียนของกูไป หลังๆพวกนั้นก็เริ่มหันมาถามการบ้านกู จนการแกล้งกันก็เริ่มหมดไป แต่กูยังไม่มีเพืือนเป็นตัวเป็นตนซักทีหว่ะ ยังดีที่ตอนนี้เข้ามหาลัยพอมีคนที่คุยกันถูกคอพอจะเรียกว่าเพื่อนได้
>>216 กูก็ไม่ค่อยเข้าหาใครก่อนว่ะ แต่ถ้าใครเข้าหากูและนิสัยไม่เหี้ยมากกูคบยาว กูมีแต่เพื่อนซี้ว่ะแม้จะน้อยมีพื่อนไม่กี่คนแต่กูซี้หมด
ทะเลาะกันแบบปางตายแค่ไหนแม่งก็กลับมาเป็นเพื่อนเหมือนเดิม คุยแม่งได้ทุกเรื่องขนาดเรื่องนิสัยเห้ๆมันยังรับกูได้ กูก็รับมันได้เพราะแม่งก็ไม่มีใครเป็นเทวดาจากไหนหรอกว่ะ
กูว่าสบายใจกว่าพื่อนเยอะๆแต่อยู่แล้วอึดอัดโขว่ะ
>>217 คล้ายๆกูมั้ง ตั้งแต่จำความได้นี่กูแทบไม่เคยเข้าหาใครก่อนเลย
จะเป็นอีกฝ่ายมาชวนคุย แล้วมันทนความไร้มนุษย์สัมพันธ์กูได้มั้ง รู้ตัวอีกทีก็สนิทกันไปซะงั้นมากกว่า
แต่คนส่วนมากที่ทนไม่ได้ มาคุยกับกู2-3รอบแล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงกู
แต่ที่จริงคงเพราะนิสัยกูแม่งเหี้ยแหละ(ปกติเจอคนรู้จัก จะทำเป็นมองไม่เห็น บางทีมีคนทักมาก็จะทำเป็นไม่ได้ยิน)ก็เลยมีแต่คนหลีกเลี่ยง
กูยังแปลกใจเลย นิสัยเหี้ยๆอย่างกูทำไมยังมีคนคบเป็นเพื่อน
กูรำคาญเพื่อนกูว่ะเพื่อนโม่งคือแม่งตื๊อกูอยู่ได้ ไอ้เหี้ยซ้อมเทสรุ่นแม่งไม่รู้ไงว่ากูมีปัญหากับเพื่อนกู กูไปซ้อมวันแรกก็มีปัญหาละวันต่อๆมากูเลยไม่ไปซ้อมเลยเว้ย แล้วแม่งก็ถามหากูทั้งๆที่คนอื่นที่ไม่ไปซ้อมแม่งก็มี แล้วกูก็ไม่ได้อยากได้รุ่นเหี้ยอะไรด้วย ไม่เห็นรักกันจริงเลยไอ้สัส และกูก็ไม่ได้อยากทำพิธีมอบรุ่นเหี้ยอะไรเลยด้วย ที่กูยอมเข้านี่ก็น่าจะพอแล้วป่าววะ แต่กูก็ไม่ได้บอกแม่งไงว่ามีปัญหากับเพื่อนอยู่ไม่อยากไป แต่กูบอกไม่ไปไปแล้วก็ยังจะมาตื๊อกูอีก เบื่อว่ะ
กูชอบใส่หูฟังไว้เฉยๆไม่ได้เปิดเพลงอ่ะ เวลามีคนมาทักจะได้ทำเป็นไม่ได้ยิน
กูเครียดว่ะ เพื่อนกลุ่มกูจะซิ่วออกหมอกันหมด กูกลัวไม่มีเพื่อน แถมมันมีโอกาสติดสูงด้วยว่ะคะแนนเฉพาะแม่งได้20.xxกันทั้งนั้น กูกลัวว่าปีหน้ากูต้องอยู่คนเดียว
กูมีปัญหาเรื่องจำชื่อเพื่อนวะ (แต่ล้อชื่อพ่อล่ะเสือกแม่น เหี้ยจริงๆกู)
บางทีแม่งเสือกลืมหน้าตาพวกมันด้วย ถ้าไม่ได้เจอเป็นปีๆ เวลาเพื่อนที่จำกูได้มาทัก
กูก็เสือกนึกไม่ออกว่ามึงเป็นใครวะ
>>224 มิงคิดถึงคนข้างหลังมิงดีกว่า พ่อแม่มิงไง มิงเจ็บมิงป่วยมิงหิว เพือนมิงมันไม่มาค่อยดูแลมิงหรอก เพื่อนอยู่กับมิงไม่นานหรอกต่างคนต่างมีผัวมีเมียมันก็แยกจากมิงแล้ว แล้วมิงไม่มีปัญญาหาเพื่อนกลุ่มใหม่หรอว่ะ ไอสัส อย่าติดเพื่อนให้มาก มองอนาคตและทางข้างหน้าให้เยอะไว้มิง
พอดี แบบอยากจะระบายว่า เรามีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง แล้วมีคนอีกคนมารู้จักเพื่อน แบบว่าเฟรนลี่แล้วก็ดังด้วย ก็เห็นว่าคุยกับเพื่อนสนิทเราได้ดี แต่ฉันไม่ค่อยชอบเลย มันเฟรนลี่เกินไป แล้วรู้สึกขนลุก
ความจริงอยากจะบรรยายเยอะกว่านี้ แต่แบบว่ากลัวมันจะเกินไป
กูไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายเลยว่ะ แต่กูก็ไม่ใช่ตุ๊ดไม่ใช่กระเทยนะกูมีแฟนเป็นผู้หญิง กูเป็นผู้ชายทั่วไปนี่แหละ
เพื่อนกูส่วนมากจะเป็นผู้หญิง กระเทย เกย์ ทอม มึงว่ามันแปลกป่าววะ? ส่วนนึงที่ทำให้กูมีเพื่อนผู้ชายน้อยเพราะกูไม่ชอบไปสังสรรค์แดกเหล้าอะไรเท่าไหร่ บ้างานด้วยน่าจะเป็นเหตุผลว่ะ
เพื่อนกูที่สนิทๆอยู่คนละโรงเรียนทุกคนเลยว่ะ มีใครเป็นแบบกูมั่ง?
อัสสัม ทวีทา มาแตร์ เสาวภา เทพสิริน ซางตาครูส วัดนวล คือแก๊งกูอยู่คนละโรงเรียนกันหมดเลยว่ะ เวลาจะไปเที่ยวกูก็นัดแต่พวกนี้ เพื่อนที่โรงเรียนกูแม่งไม่ค่อยชอบขี้หน้ากูเท่าไหร่ด้วยที่กูมีแต่เพื่อนโรงเรียนอื่น
แต่ส่วนนึงที่กูคบเพื่อนต่างที่เพราะกูเกลียดเด็กรร.กูด้วยว่ะแม่งไปเย็ดกระเทยในห้องน้ำกัน อุบาทเหี้ยๆ พฤติกรรมชวนเหี้ยทั้งนั้น
>>231 กูไม่เคยเป็นแบบมึงว่ะ กูมีความเชื่อว่าย้ายโรงเรียนเดี๋ยวก็ห่างกันเอง เพื่อนเก่ากูสมัยประถมมัธยมกูก็ไม่ได้คุยกันมานานเเล้ว เจอกันที่อื่นก็พยายามจะเลี่ยงๆไว้ ต่อให้ตอนเรียนสนิทกันแค่ไหนก็ตาม กูเกร็งเวลาเจอว่ะ ไม่รู้จะคุยอะไร
จริงๆ มันแล้วแต่คน ถ้ามึงมีความสุขกับปัจจุบันที่เป็นแบบนั้นก็ดี กูก็หาเพื่อนใหม่เรื่อยๆ อ่ะ
แต่เย็ดกระเทยในห้องน้ำนี่จริงเหรอวะ...เหี้ยสัสๆ
>>232 อันนี้เรื่องจริงสัสเด็กม.3 ด้วยนะมึง กูยังคิดอยู่เลยว่าทำไมตอนนั้นกูถึงไม่ไปที่อื่นมาต่อม.ปลายที่นี่ ไม่มีแค่นั้นนะสัส ห้องน้ำโรงเรียนแม่งก็มีแต่ควัน ม.6 แม่งไปดูดหรี่กัน กัญชายังเคยมีอ่ะมึง บางทีกูก็รู้สึกอิจฉาเพื่อนกูว่ะ โรงเรียนแม่งดี๊ดี ยังกะวังกับสลัมพอเทียบกับที่กูอยู่ ช่างแม่งปีหน้ากูก็บ๊ายบายละ
นี่พวกมึง พวกมึงคิดว่าถ้าสมมติว่าถึงเวลาที่ต้องแยกห้องอะไรพวกนี้แล้ว เพื่อนที่สนิทในตอนนี้มันจะยังเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ได้เปล่าวะ หมายความว่า มีเพื่อนสนิทกลุ่มเดิมตลอดอะ
>>235 กูแยกโรงเรียนเลยมึง กูก็ยังสนิทกับมันเหมือนเดิม ย้ายกันไปคนละทิศ 8 โรงเรียน แต่พวกกูก็ยังสนิทกันเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน มันขึ้นกับการติดต่อด้วยว่ามึงคุยกับมันบ่อยแค่ไหน บางคนสนิทจริงแต่มึงไม่ได้คุยกับมันนานๆเลย มาเจออีกทีแม่งก็รู้สึกไม่เหมือนเดิมว่ะ เพราะงั้นไม่ต้องกลัวจะห่างเหินไปหรอก มึงก็แค่ติดต่อมันบ่อยๆ แวะไปห้องมันแค่นี้ก็ไม่มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์แล้ว
แต่หลังจบม.ปลายห่างกันเป็นปีๆนี่กูยังไม่รู้กูจะสนิทกับเพื่อนกลุ่มเดิมอยู่รึเปล่านะ เรื่องของเรื่องกูก็ไม่ค่อยอยากรู้จักใครใหม่มากนักแล้วพอเริ่มโต เพื่อนที่ดีที่สุดไว้ใจได้มากที่สุดก็วัยเด็กนี่แหละ
กุแม่งกำลังรู้สึกเหี้ย
กูพยายามติดต่อเพราะคิดแบบมึงเว้ย ว่าถ้าอยากสนิท ก็ต้องคอยติดต่อแหละ ไม่ัง้นก็ต่อให้สนิทแค่ไหน ก็จะแปลกๆ
อีกฝ่ายแม่งกลับมองกูว่ายึดติด ไม่มีที่ไป และน่ารำคาญ เลยติดต่อมันไปว่ะ 555 ควยเหอะ
เพื่อนมันไม่ได้เป็นกันฝ่ายเดียว
แล้วกูก็ซวยเองที่เสือกเจอเหี้ย ไม่ใช่เพื่อน
กูจะช่างโคตรพ่องแม่งแล้ว
แต่กูก็คงยังทำไม่ได้ ไม่งั้นกูคงไม่มาบ่นบอร์ดโม่ง สัสเอ๊ย เกลียดตัวเอง
เกลียดที่แม่งยังพยายามหาข้ออ้างในคำพูดของมันให้มันอยู่นั่นแหละ ทั้งที่ทุกอย่างกูควรยอมรับได้ละ ว่าคิดไปเอง
กูจะบอกให้ว่าเพื่อนที่ดีเปลี่ยนไปตามกาลเวลาว่ะ พอมึงโตขึ้นเริ่มทำงานเพื่อนสมัยเด็กที่รักของมึงก็สามารถหักหลังมึงได้หน้าตาเฉย เพื่อนบางคนที่มึงไม่ค่อยสนิทมึงอาจจะเป็นที่พึ่งพาของมึงในอนาคต บางคนมันจะเอาความสนิทที่เคยมีกับมึงมาหากินใช้ประโยชน์กับมึงด้วยซ้ำ
อนึ่ง
กูก็อยากเป็นคนที่เป็นมิตรกับคนอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องให้ใจใครนะ
ยังอยากอยู่ในสังคมได้อยู่ ไม่ถึงขั้นอยากทำตัวน่ารังเกียจ 55 เพราะนิสัยกูตอนที่ไม่สนอะไรก็เหี้ยได้อยู่
แต่รู้ตัวอีกทีก็รู้สึกดีด้วยไปแล้ว ให้ความรู้สึกไปเยอะแล้ว แล้วกูก็เสียใจทุกที
พอขึ้นมปลาย ก็เริ่มสแกนเลยว่าเพื่อนคนไหนที่กุจะไม่คบต่อตอนแยกย้ายกันหาที่เรียนคนไหนยังติดต่อไว้ เพราะตอนมต้นกุก็อยู่กลุ่มปกติดี แต่พอมปลายแล้วมีคนเพิ่มเข้ามาแล้วรู้สึกแปลกๆ เหมือนเป็นเพื่อนของเพื่อนมากกว่า ถึงจะอยู่ห้องเดียวกันก็เถอะ
ขออนุญาตล็อคแล้วไปต่อใน >>>/lifestyle/1526/ นะครับ
Topic has been locked by moderator.
No more posts could be made at this time.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.