>>361 แต่มันกลายเป็นโครงการศักดิ์สิทธิไงมึง เอะอะๆก็เอาชื่อเขามา ใครจะตรวจสอบหาประสิทธิภาพจะแก้ไขก็ทำไม่ได้เพราะแค่ให้ยอมรับว่าโครงการมันกำลังทำลายธรรมชาติยังยอมรับกันไม่ได้เลยไง เพราะถ้ายอมรับว่ามันไม่ได้ผลมันจะเหมือนกับไปบอกว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ดี เพราะงั้นพอเกิดการถกกันในเรื่องโครงการของเขามันก็จะต้องมีคนโดนด่า โดนบอกให้เงียบ สุดท้ายก็ไม่ได้หาคำตอบซักทีเพราะถ้ามึงเกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่าโครงการมันดีจริงมั้ย ฝ่ายขวาจะด่ามึงทันที แล้วแบบนี้ใครมันจะไปปรับได้ในเมื่อมันกลายเป็นของที่แตะต้องไม่ได้ไปแล้ว
>>363 ประเด็นที่กูสนใจมากกว่าการใช้ภาษีก็คือทำไมมีคนได้เครดิทแค่คนเดียว กูว่าเรื่องนี้ไม่เมกเซ้นเพราะต่อให้มึงเป็นอัจฉริยะอย่างไอน์สไตน์หรือดาวินชี่ มึงก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเองคนเดียวไม่ได้(ซึ่งทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่าประเทศเราไม่ได้มีคนระดับไอน์สไตน์เนอะ) นั่นแปลว่าทุกๆโครงการอาจจะมีแนวคิดขึ้นมาจากคน 1 คน แต่มันก็เป็นเพียงแค่เพนพ้อยกับโซลูชั่นแบบกว้างๆ(เพราะเราไม่ได้รู้ทุกอย่างบนโลก) สุดท้ายก็ต้องหาทีมมาช่วยคิด ช่วยวิจัย ช่วยหาโซลูชั่นที่จำเพาะเจาะจงจริงๆ แต่ว่าโปรโมทกลับบอกว่าเป็นผลงานคนเดียว คนธรรมดานี่มันไม่ทำงานหนักหรอมึง ดีไม่ดีคนอื่นอาจทำมากกว่าด้วยซ้ำไป แต่กูไม่เคยเห็นใครได้เครดิทอะไรเลย ที่กูคิดงี้เพราะกูไม่เชื่อว่าคนๆเดียวจะทำได้ทุกอย่างไง(ตั้งแต่หาข้อมูลยันผลิต)โครตขัดกับวิวัฒนาการมนุษย์
เหมือนกับมึงนึกขึ้นมาว่าอยากทำให้คุณภาพชีวิตชาวนาดีขึ้นยังไง มึงก็ต้องเจาะจงใช่มั้ยล่ะ พืชแต่ละชนิดก็มีความแตกต่าง กว่ามึงจะหาอินไซด์ได้จริงๆ กว่าจะหาโซลูชั่น และเทคโนโลยีหรืองานวิจัยที่จะช่วยแก้ได้(ซึ่งก็อาจจะรวมศาสตร์ของหลายแขนง เช่น เศรษศาสตร์ เกษตร สิ่งแวดล้อม ภูมิอากาศ บลาๆ) แน่นอนว่ามันเยอะมากกกก ยังไงมึงก็ต้องดึงคนเก่งๆจากหลายๆสาขามาช่วย แต่พอจบงานแล้วมึงเสือกโปรโมทเหมือนมึงทำคนเดียว คิดเองคนเดียว วิจัยเองแล้วบอกว่าอัจฉริยะ กูว่ามันก็เกินไป
ซึ่งสำหรับแนวทางการโปรโมทกูก็ไม่สามารถพูดได้ว่ามันคือความต้องการของเขาหรือฝ่ายการตลาดแม่งเวอร์ แต่กุพูดได้ว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอดไง