ส่วนใหญ่แทบทุกประเทศใหญ่ๆ มันก็มีประวัติศาสตร์ฝังหัวทั้งนั้นแหละ
อยู่ที่ว่าเอามาใช้เป็นการศึกษา
ใช้เพื่อเกิดอยากเอาชนะ หรือใช้เพื่อเกิดความเกลียด(แล้วไปเกิดอยากเอาชนะอีกที)
อย่างญี่ปุ่นช่วงหนึ่งก็ฝังหัวว่าอเมริกาเป็นตัวร้ายเป็นคู่แข่ง ไล่เรียงหาดูได้ตามการ์ตูนสมัยก่อน จนญี่ปุ่นมันทำสินค้ามาแข่งตลาดโลกได้(แต่เรื่องเหี้ยๆซุกพรมหมด)
เกาหลีใต้มันก็ใช้วิธีเดียวกับญี่ปุ่น แต่เอาญี่ปุ่นเป็นเป้าหมายแทน
แล้วพอเข้าช่วงเปลี่ยนยุค เด็กรุ่นใหม่ญี่ปุ่นเขาไม่สนตรงนี้แล้ว เลยทำให้ญี่ปุ่นเหมือนเกิดสภาวะหยุดนิ่งไม่โตขึ้นอีก
แต่เกาหลีใต้ยังใช้อยู่จนเกาหลีใต้เริ่มมีผลงานแซงหน้าญี่ปุ่นไปหลายๆอย่าง ทั้งกีฬา นักแสดงฮอลลีวูด ดนตรี เครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที ศัลยกรรมกาวแพทย์ ฯลฯ
ไทยเราก็ใช้นะ แต่พม่ามันไม่โตอะไรก็เลยรู้สึกเหมือนสร้างคู่แข่งผิดตัววะ แถมคนยุคถัดมาก็ดันเด็กเทวดา พ่อแม่รังแกฉันอีก
กลับกัน เวียดนามเอาไทยมาเป็นฐานคู่แข่ง ทุกวันนี้เลยเห็นว่าเวียดนามพยายามแข่งเราในหลายๆเรื่อง ทั้งข้าว แรงงาน อุตสาหกรรม แม้กระทั่งแข่งฟุตบอล (แข่งเกมก็ด้วย)
ส่วนกัมพูชา ตราบใดที่ฮุนเซนยังอยู่ประเทศก็ได้แค่นั้นแหละ