สมุนไพรนี่ กูอ่านไปด่าไป กูก็ไม่อินความรักของคู่นี้ พระเอกกูมองว่าเหมือนเด็กดิ้นร้องขอของเล่น คิดว่ากูรักขนาดนี้แล้วนางเอกต้องรักตอบ (กูนี่มองบน มึงคิดถึงอนุมึงมั่งมั้ย รักมึงเหมือนกันมึงยังไม่รักอนุมึงเลย) นางเอกกูก็เห็นหวั่นไหวแค่เพราะเห็นว่าเขามีใจ แตะนิดดีหน่อยก็หวั่นไหว คือมึงเป็นคนยุคปัจจุบันนะ แค่คนทำดีกะมีใจให้มันไม่ได้จำเป็นต้องรักตอบมั้ย มันต้องมีอิมแพคไรมากกว่านี้มั้ย แต่นี่ชีบ่นแต่ว่าเรื่องเรามันเป็นไปไม่ได้ให้ใจไม่ได้ แต่ไม่เคยมีคิดในใจว่ารักพระเอกแล้วเลยทั้งที่บทบรรยายความคิดความรู้สึกตัวละครทุกตัวรวมกันคงมากกว่าครึ่งเรื่อง และก็ไม่มีบทหรือการกระทำที่ทำให้รู้สึกอินเลยว่ารักแล้วแต่พยายามห้ามใจ
.
.
.
.
.
กูงง กะนางเอกมาก ถ้ามึงอยากหย่า ตัวร้ายแม่งก็โยนโอกาสให้ตั้งเยอะ ทำตัวตกหลุม ไหลไปก็หย่าได้แล้ว มีรูทให้ไปได้อีกมาก แต่แม่งไม่ทำแล้วก็โวยวายต้องหย่าให้ได้เท่านั้น ตอนแรกๆกูก็นึกว่าห่วงชื่อเสียว่าจะเสียหายหลังหย่า อยากหย่าสวยๆ แต่ตามเนื้อหาเหมือนการหย่าสวยแบบสองฝ่ายเต็มใจจะไม่มีในโลกนี้ใช่ป่ะ ก็ต้องใช้มุกเจ็ดออกขอหย่าเหมือนกัน
อีกเรื่องกูมองบนตอนพระเอกตรอมตรมจะเป็นจะตายไม่หย่านางเอกมาก เด็กห้าขวบ! เด็กห้าขวบชัดๆ จะเอาของเล่นไม่สนอะไรทั้งสิ้น ไม่ถามนางเอกสักคำว่ารักมึงมั้ย อยากอยู่กะมึงต่อเปล่า แถมปัญญาปกป้องเค้าจริงจังก็ไม่มีทำเค้าลำบากเกือบตายจริงๆแล้ว กูรู้ว่าคนเขียนพยายามใส่ดราม่าให้คนอ่านซึ้ง แต่ด้วยเหตุผลทั้งหมดกูไม่ซึ้ง กูต้องท่องในใจเซตติ้งคนโบราณๆ เพื่อจะอ่านให้จบเล่มสี่
.
.
.
.
.