กูอ่านวังเดียวดายจบแล้ว จอขอรีวิวแบบไม่สปอยล์มากไปนะ
.
.
.
.
.
เรื่องนี้คำนำของสนพ.ถือว่าเด็ดขาดมาก แสดงแก่นของเรื่องได้เด่นชัดไร้ที่ติ "เล่าเรื่องราวกับใช้ภาพประกอบเล็กๆ เป็นบทตอน ก่อนประกอบขึ้นเป็นภาพใหญ่ เรื่องราวไหลลื่นอย่างไม่อาจหยุดอ่าน เมื่อถึงฉากบีบคั้นอารมณ์เราก็ร่วมดิ่งลงลึกกับตัวละครอย่างไม่อาจไถ่ถอน" ้ป็นเช่นนี้จริงๆ คำตามปิดท้ายคนแต่งกล่าวว่าใช้ภาพชื่อดังสมัยนั้นมาผูกโครงเรื่อง และนิยายก็ทำตามคำนำสนพ.อย่างตรงตัว จุดนี้กูชอบมาก
จุดที่กูอ่านจบแล้วคิดได้ การเปิดเรื่องคือการปิดเรื่อง เพราะฉากแรกเริ่มด้วยประตูวังยามวิกาลกลางพายุที่องค์หญิงพยามเปิดออกมาเพื่อกลับไปยังวัง (รัง) ของตัวเอง จุดนี้สำคัญมากจริงๆ เพราะอย่างที่คำโปรยบอกไว้ ศัตรูของความรักครั้งนี้คือประเพนี คือขบบธรรมเนียม คือสังคม คือขุนนาง คือคนรอบข้าง และคือความเป็นจริงที่ว่าพระเอกเป็นขันทีที่ถูกตอน
ตัวละครในเรื่องมีมากมายหลายตัว มีความรักหลายคู่หลายแบบ แต่มันเป็นตัวละครในประวัติศาสตร์ ยากจะผิดแผกแตกต่างหรือเอาจิตใจเข้าไปจมดิ่งได้ทุกตัว แต่อย่างนึงที่กูอยากพูดก่อนคือ เหล่าคนที่คอยขัดขวางความรักของพระเอกนางเอก แม้จะดูเหมือนตัวร้าย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เวลาอ่านคำโต้แย้งกูยังรู้สึกเลยว่าพวกนี้พูดถูก อย่าง "ฝ่าบาทคิดถึงแต่ความสุขของธิดาตัวเอง แต่ไม่นึกถึงหัวอกของ***หูหยินว่ามีเลือดเนื้อเท่าเทียมพระองค์ นางทำผิดอะไร เหตุใดความสุขขององค์หญิงต้องแลกมาด้วยความทุกข์ของนางด้วย" ประโยคไม่ตามนี้ แต่ใจความตามนี้เลย กูอ่านแล้วยังผงกหัวตามเลย
ในเรื่องจะมีคนที่องค์หญิงรักอีก 2 คน คนแรกเมื่อเจอราชทัณฑ์กล้ำกลาย จึงกล่าวกับองค์หญิงตามตรงว่า "องค์หญิง ข้ารักองค์หญิง แต่ข้ารักครอบครัวมากกว่า" และเลิกรากันไป ตอนนี้สำคัญมาก เพราะทำให้องค์หญิงหัวใจสลาย เพราะต้องไปอยู่กับคู่หมั้นที่เป็นคนดีมากจริงๆ แต่นางก็เกลียดมากๆ และเป็นจุดที่ทำให้องค์หญิงเริ่มเห็นหัวใจของขันที ว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่คนรับใช้ รวมถึงขันทีเองก็ยอมเปิดอกบอกความในใจเป็นครั้งแรก
คนที่สอง คู่หมั้น ถ้าจะสรุปความ คงเป็น "ขุนช้าง" นั่นละ ไม่ได้มีรูปโฉมหรือสติปัญญาพอเอ่ยชม มีแต่ความรักแท้จากใจจริง นอกจากพระเอกนางเอกแล้ว คนนี้ละน่าสงสารที่สุด ทำทุกอย่างให้แล้ว แต่คนไม่ใช่ยังไงก็ผิด ทั้งสร้างสวนใหญ่โตหวังให้กล่าวชม แต่องค์หญิงชมซักคำยังไม่เคยชม องค์หญิงชอบภาพวาดก็ไปฝึกวาดภาพ ทั้งที่ไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น สุดท้ายใช้เวลากว่า 5 ปีสร้างผลงานชิ้นหนึ่งที่สื่อถึงใจได้ แต่ก็พบว่าภาพที่ตัวเองวาด (ฝัน) ลงไป คือช่วงเวลาธรมดาๆ ที่ขันทีอยู่กับองค์หญิง เพราะสำหรับทั้งคู่แล้ว ตัวตนของทั้งคู่คือที่มาของความสุขทั้งหมด เป็นสิ่งที่คู่หมั้นไม่มีวันได้รับ แต่คู่หมั้นเป็นคนดีจริงๆ