>>665 >>666 สำนักพิมพ์มีคนไม่พอต้องมีเวลาให้ด้วย บางทีให้เวลาพิสูจน์อักษรทำงานน้อย วันสองวันงี้ตรวจทานต้นฉบับก็หลุดกันประจำ แต่ถ้าหลุดมาน้อยๆ ก็รับได้อยู่
ส่วนบรรณาธิการนี่เห็นต่างหน่อย นักเขียนใหม่ถ้ามีแบบบอกได้ว่างานดีหรือไม่ดีแนะนำให้น่าจะดีกว่า นักเขียนที่เริ่มขายแล้วกับยังไม่ขายกรอบความคิดต่างกันอยู่ คนขายแล้วจะเริ่มคิดถึงยอดขายกันมากขึ้น มองหาปัญหาว่าเกิดจากอะไรตรงไหน มองความต้องการนักอ่านมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่ไปมองพวกคอมเมนต์ในนิยายอะไรแบบนั้นหรอกนะ แต่ถ้าคนขายแล้วเขาจะเริ่มจับได้เอง ส่วนคนยังไม่ขายก็จะออกแนวเขียนแบบที่อยากเขียน ที่คิดว่ามันดี แต่จะให้ผ่านสำนักพิมพ์มันต้องดูว่างานมันขายด้วยหรือเปล่า ส่วนการเรียบเรียงบรรณาธิการแต่ละคนก็มีแนวทางทำงานของตัวเอง บางคนไม่เหมาะกับนิยายแนวหนึ่ง จากงานที่สนุกกระชับเปลี่ยนเป็นเนิบช้าน่าเบื่อแทนก็มี อันนี้กูว่าดวงด้วยอย่าไปคิดว่างานสำนักพิมพ์ทำแล้วออกมาดีหมด คนเขียนต้องลองทวนเองบางทีนักเขียนหน้าใหม่ทวนแล้วก็สงสัยตัวเองว่าตัวเองผิดหรือเปล่า อันนี้ต้องลองพยายามตัดอคติออกแล้วอ่านอย่างเป็นนักอ่านดู
แต่ถ้าใช้เวลากับงานเขียนมาก แนะนำว่าอย่าคิดไปเป็นนักเขียนอาชีพ เขียนเป็นจ็อบรองเป็นงานอดิเรกก็พอ เพราะเงินจะหมุนไม่ทันนะ