Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร [กระทู้ที่ 3]

Last posted

Total of 1000 posts

795 Nameless Fanboi Posted ID:heKgPhcwZ

ตอนนี้กูเพิ่งเขียนจบไปหนึ่งเรื่อง ระหว่างรอขึ้นเรื่องใหม่ที่กูยังไม่มีพลอต กูรุ้สึกเหมือนกำลังเจอ writer block กูคิดอะไรไม่ออกเลย เขียนอะไรไม่ออกเลยอ่ะ ละพอไม่ได้เขียนกูก็หดหู่(มากๆ)

796 Nameless Fanboi Posted ID:+RvUmwo5.

กูเพิ่งเริ่มหัดเขียนนิยาย ลงตอนละประมาณพันคำได้ไม่กี่ตอน สั้นสัสๆ ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านด้วยดีใจชห

797 Nameless Fanboi Posted ID:+1RAkA+.d

มึงกูเป็นพวกชอบดูหนัง ชอบการแสดงออกทางสีหน้าที่มึงต้องตีความเอาเองว่าตลค.คิดอะไรอยู่ แล้วให้รู้ผลทีเดียวตอนกระทำแล้วเลย ทีนี้พอเขียนนิยายถ้ากูไม่บรรยายความคิดของมันแล้วให้ตลค.กูทำเลยได้ป่ะ เช่น นาย ก.มองไปทางอื่น ก่อนหันกลับมายกมุมปากราวกับจะยิ้ม "ผมคิดว่าผมชอบคุณ" อะไรงี้ อ่านๆ แล้วกลัวคนจะรู้สึกว่านี่มันนิยายนะ มึงควรบรรยายให้เคลียร์ ไม่งั้นก็ไปเขียนมังงะ เขียนบทละครไป๊อะไรงี้

798 Nameless Fanboi Posted ID:YHV5fnds3

>>797 ไม่หรอก จริงๆมันแล้วแต่คนเขียน บางคนก็ถนัด tell ไม่ถนัด show เขียนๆไปเหอะ เดี่ยวมันก็ดีขึ้นเองอ่ะ

799 Nameless Fanboi Posted ID:kEDHYOIhK

>>797 เออ เดี๋ยวนี้กูก็เป็นว่ะ อ่านนิยายน้อยลง เสพแต่พวกใช้ภาพเล่าอย่างหนังหรือการ์ตูนมากขึ้น รู้สึกเหมือนสกิลเขียนบรรยาย โดยเฉพาะส่วนความคิดตลค.มันตกลงเยอะเหมือนกัน แต่กูก็เขียนๆไปแหละ แบบอยากให้คนอ่านคิดเอาเองบ้างอะไรบ้าง 555

800 Nameless Fanboi Posted ID:Zd8SN60Wj

ในนี้มีใครที่ไม่สนใจยอดเม้นยอดเฟบ เขียนตามใจตัวเอง ทำเป็นงานอดิเรกเฉยๆ อะ

801 Nameless Fanboi Posted ID:39M5+vdQP

>>800 พยายามอยู่ แต่บางทีก็อดไม่ได้ว่ะ 554

802 Nameless Fanboi Posted ID:bbMPTUn5T

>>800 ตอนเขียนก็เขียนแบบตามใจตัวเองไม่สนยอดอะไรทั้งนั้น แต่พอกดพับลิชไปเท่านั้นแหละ...

803 Nameless Fanboi Posted ID:JY9nnJ6YH

>>802 ถูกต้องที่สุด 555

804 Nameless Fanboi Posted ID:AjgZAYSvN

อย่ามาทำซึน พวกมึงต้องสนใจยอดเฟบ คอมเม้น ยอดคนดูกันหมดแหละ ยอมรับมาเสีย ไม่มีใคคมาจ้องติมึงเหมือนในบอร์ดเด็กดอกหรอกว่าเพ้อเจ้อแต่งไปวัน ๆ พอมีมู้บ่นไม่มีคนคอมเม้นเลยจะโผล่มาหน้าสลอน

805 Nameless Fanboi Posted ID:S6w2jIYtG

กูเขียนแบบวางพลอตไม่ได้ว่ะ เหมือนเป็นพวกชอบแหก พอวางพลอต เขียนถึงจนจุดนั้นนี้ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์ตอนนั้น แล้วนิยายกูจะเสี่ยงเขียนไม่จบเพราะนี่แหละ

806 Nameless Fanboi Posted ID:9gvH3NLnb

>>805 ดีแล้วสัส ปรับแสดงว่าต้องดีกว่าเดิมปะวะ 5555

807 Nameless Fanboi Posted ID:XbjwCCc/q

>>804 กูเคยแหย่ๆ คนเขียนเล่นว่าเออ เนี่ย อาจจะไม่ต่อสักพักเลยนะ เพราะเมนต์น้อยมาก สวนทางกับยอดวิว ขอโทษด้วยนะ บลาๆๆ ปรากฏว่าตอนนั้น คนมาเมนต์เยอะเป็นประวัติการณ์ หน้าเดิมที่เป็นขาประจำนี่กูเห็นแล้วรักเลยแหละ กูรู้ว่าต่อให้กูไม่พูดคุยท้ายตอนแบบนั้น ยังไงเขาก็เมนต์ แต่บางคนอ่ะ โห มาแบบ เราชอบผลงานของคุณนะคะ แต่ไม่ค่อยได้เมนต์เลย/ เราเมนต์ไม่เก่งค่ะ/ เราจะรออุดหนุนเล่มเลยไม่เมนต์ค่ะ

พวกหลังๆ กูกับพวกๆ ที่เขียนฟิคด้วยกันเจอแล้วก็จะแบบ หลังไมค์กันเถอะ หนักสุดคือพี่กูคนหนึ่งเคยพูดคุยท้ายตอนขอเมนต์แบบนี้ แล้วโดน ask.fm ไปด่าจ้ะ ว่าเขียนฟิค/นิยายนี่เพราะอยากดังหรือเพราะอยากเขียน โอ้โหมึงเอ๊ย เมนต์เยอะไม่เยอะไม่เกี่ยวกับอยากดังไม่อยากดังป่าววะ เรื่องดังๆ บางทีเมนต์อย่างกร่อยก็มี

808 Nameless Fanboi Posted ID:7EmUl3cE1

>>804 เห็นด้วยที่สุดดดด แต่งมาไม่ได้จะอยากให้คนอ่านคนเม้น ก้เก็บไว้ในคอมนู่นน

809 Nameless Fanboi Posted ID:yT+wIgEzV

>>802 +ล้าน นั่งส่องเม้นวันละสิบรอบ ยอดวิวที่ขึ้นนี่ของตัวเองเป็นร้อยเป็นพันแล้วมั้ง แต่ก็ยังไม่มีเม้น เฮ้อ...

810 Nameless Fanboi Posted ID:DZsI8o1ru

>>805 กูเหมือนกัน แหกไปคนละทางกับพล็อตเดิมเลย

811 Nameless Fanboi Posted ID:kkOkCNRJX

กลุ้มว่ะเพื่อนโม่ง ใครมีเทคนิคช่วยแก้ write block ก็ช่วยบอกกูหน่อย

คือกูเขียนพล็อตเสร็จ วาง Storyboard เรียบร้อย คือตั้งแต่ต้นจนจบอะกูเขียนโครงเอาไว้หมดแล้ว
แต่พอมาถึงขั้นตอนที่ต้องเขียนเนี่ยสิ กลายเป็นว่ากูเอ๋อแดกเลย ...ตอนแรกคิดว่าคงเพราะไม่ได้เขียนมานาน (ราวครึ่งปี) เลยเขียนไม่ออก กูเลยไปนั่งอ่านเรื่องของคนอื่นเผื่อว่าจะซึมซับสำนวนมา แต่ก็ผิดคาดว่ะ คือมันไม่มีอะไรเข้ามาเลยแม้กระทั่งอารมณ์อยากจะเขียน เหมือนกับกูได้ใช้อารมณ์ทั้งหมดกับการเขียน storyboard ไปแล้วยังไงอย่างงั้นเลย

วันนี้ว่างเลยเปิดคอมตั้งใจจะพิมพ์ แต่ 4 ชั่วโมงได้แค่ 4 บรรทัดเนี่ยกูว่าแม่งก็ block เกินไปว่ะ

812 Nameless Fanboi Posted ID:Qh63Q9T1s

>>811 กูเข้าใจ กูก็เป็นนนนนน

813 Nameless Fanboi Posted ID:Qh63Q9T1s

>>811 อ้อ แต่กูไม่เขียนสตอรี่บอร์ดนะ กูนึกไว้ในหัวคร่าวๆแล้วเขียนเลย ไปด้นสดระหว่างทาง กูรู้สึกว่าถ้าคิดเอาไว้หมด มันเขียนไม่สนุก เหมือนมันจบแล้วอ่ะ ฟีลลิ่งมันคอมพลีทแล้วไรงี้ แต่ก็แล่วแต่คน ทำแบบกูก็จะเป๋ไปเป๋มานิดนึง เรื่องล่าสุดกูแบบรอมคอมแต่จบแบบดราม่าอาชญากรรมเฉย เพราะความคิดแค่ธีมกว้างๆของกูนี่แหละ

814 Nameless Fanboi Posted ID:KPyO8yKaN

>>811 กูก็ประสบปัญหาแบบมึง ตอนนี้ดีขึ้นนิดนึงละ กูใช้วิธีธรรมดาแต่ได้ผลสำหรับตัวเองนะ เขียนบรรยายธรรมดาๆว่าแต่ละฉากใครทำอะไรยังไงให้พอเห็นภาพ กัดฟันเขียนมันเข้าไปให้จบตอนนึงก่อน พอได้โครงมาแล้วก็ค่อยๆใส่รายละเอียด/ประดิดประดอยภาษา/หาวิธีเล่าเรื่อง ฯลฯ ค่อยๆ shape ค่อยๆคราฟต์มันไปเรื่อยๆว่ะ เขียนแก้วันละนิดวันละหน่อย ใช้เวลาพอสมควรแต่ก็พอช่วยได้ ถ้ามัวเขียนให้สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นกูคงไม่รอด ตายห่าตั้งแต่ย่อหน้าแรก

815 Nameless Fanboi Posted ID:hilptKFY/

กูเห็นในห้อง BL มีคอมเม้นว่า ฝีมือไม่ถึงอย่าเขียนเลย พวกมึงว่าไงกัน
ไม่รู้ดิ กูรู้สึกว่าฝีมือไม่ถึงก็ต้องยิ่งเขียนรึเปล่าอ่ะ

816 Nameless Fanboi Posted ID:ENzN1fTF4

>>815 ฝีมือไม่ถึงยิ่งต้องเขียนต้องอ่าน จะได้พัฒนา น่ะถูกแล้ว อารมณ์เหมือนเต้นไม่เก่ง ก็ต้องฝึกใช่ป่ะ ไอ้ที่บ่นว่าฝีมือไม่ถึงแสดงว่าอ่านแล้ว แล้วคนเขียนเขาบังคับให้อ่านรึ ก็เปล่า ถ้าอ่านแล้วไม่สนุก ไม่ชอบ แสดงว่าแนวนี้หรือสำนวนของคนเขียนอาจจะไม่ถูกใจคนอ่าน หรืออะไรยังไงก็ช่วยแนะนำเขาไปหน่อย เขาจะได้ปรับปรุง ติเพื่อก่อเพื่อปรับปรุงผลงาน ไม่ใช่ติติแบบนี้ เหมือนมึงไล่ให้เขาเลิกทำอ่ะ ถ้ามึง (คนเม้น) โดนนักเขียนไล่ให้เลิกอ่านบ้าง มึงจะชอบมั้ย (ทำไมกูต้องอินขนาดนี้)

817 Nameless Fanboi Posted ID:hilptKFY/

>>816 กูก็อินมากเหมือนกัน 5555555555555

818 Nameless Fanboi Posted ID:uLGgH7cGD

ฝีมือไม่ถึงต้องยิ่งเขียน แต่ต้องปล่อยของตอนที่มันถูกขัดมาได้มาตรฐานแล้ว ถ้ายังไม่พร้อมก็ฝึกเขียนฝึกเกลาก่อน

819 Nameless Fanboi Posted ID:uLGgH7cGD

>>814 กูชอบมากที่มึงใช้คำว่าคราฟท์ไปจนได้ที่

820 Nameless Fanboi Posted ID:a2hh10iX6

>>815 blคือไร

821 Nameless Fanboi Posted ID:X3ssKC5RR

>>820 Boy Love = ชายรักชาย = วาย

822 Nameless Fanboi Posted ID:XYpEo+aea

>>820 กูหมายถึงห้อง boy love ในโม่ง

823 Nameless Fanboi Posted ID:seqmiYefV

Ky
เออ กูขอถามจริงๆ คือกูจะแต่งนิยายแบบตัวละครมีหลายเชื้อชาติ แต่ถ้ากูให้พิมพ์ทั้งหมดเป็นภาษาไทยยกเว้นบางส่วนเช่นชื่อเฉพาะ สรรพนาม คำทักทาย อ่ะสมมตินะ

‘ถ้าใช้วิธีนี้มีโอกาสพลาดสูงมากนะ’ชายหนุ่มพูดขึ้นกลางวงสนทนาด้วยภาษาเยอรมัน เรียกความงงเป็นไก่ตาแตกให้กับทุกคนรอบโต๊ะยกเว้นหญิงสาวชาวออสเตรียข้างตัวเขาที่สบตาเป็นเชิงให้ออกความเห็นว่า มีอะไรก็ว่ามา

แบบนี้จะโอเคกว่าใช้ภาษานั้นจริงๆแล้ววงเล็บปะวะ แต่นิยายกูจะเซตให้ส่วนใหญ่มันสื่อสารอังกฤษกันอยู่ล่ะ

ถามเรื่องเพลงอีกอย่าง คือสมมติกูจะใส่เพลงภาษาอังกฤษแบบทั้งเพลง กูควรใส่แปลไทยเลยมั้ย หรือว่าใส่ภาษาเดิมดีกว่า เพราะกูก็เคยเห็นคนใส่แบบแปลเข้าไป แล้วกูคิดว่าอารมณ์มันต่างจากกูแปลมันเป็นไทยในใจเลยว่ะ

ของคุณมากโม่ง กูส่อง&ถามบ่อยมาก ว่าจะเริ่มเขียนล่ะ555

824 Nameless Fanboi Posted ID:seqmiYefV

.*ใส่ภาษานั้นแล้ววงเล็บคำแปล

825 Nameless Fanboi Posted ID:f5HQDNzLJ

>>823 แปลดีกว่า ข้อยกเว้นเดียวคือถ้ามึงจะเขียนทับศัพท์ภาษาอังกฤษ เช่น ไอเลิฟยู งี้ เขียนภาษาอังกฤษเลยดีกว่า เพราะเขียนทับศัพท์ยาว ๆ แล้วกูปวดหัวเหมือนอ่านภาษาสก๊อย
เพลงไม่ว่าแปลไม่แปลก็ไม่ควรใส่ทั้งเพลง เอาท่อนที่สำคัญเป็นประโยค ๆ แทรก ๆ มาพอแล้ว พวกเพลงถ้ามาทั้งดุ้นกูข้ามทุกครั้ง (ทุกครั้งจริง ๆ แบบลากผ่านเลย) ถ้ามาบ่อย ๆ เผลอ ๆ รำคาญเลิกอ่านนิยายเรื่องนั้นไปเลยก็มี

826 Nameless Fanboi Posted ID:9C8rD+R.M

>>825 ขอบคุณมากเพื่อน เพลงกูเข้าใจ มันดูสิ้นคิดเหมือนมึงไม่รุ้จะใส่ไรช่ะ5555 คือกูเคยอ่านนิยายที่มันใส่เพลงแบบแต่งเอง(คือแนวแฟนตาซีแล้วตัวละครมันร้องแบบเนื้อมาทั้งหน้า) แล้วความหมายแม่งจับจิตชิบหายเลยไง กูเลยชอบ

827 Nameless Fanboi Posted ID:ozfy2ZPfw

คนอ่านชมนิยายกูว่านิยายกูเดาทางไม่ออก ทำให้รู้สึกลุ้นตลอดเวลา
กูคนเขียนก็เดาทางตอนต่อไปไม่ออกเหมือนกัน แม่งเอ้ย help somebody help me

828 Nameless Fanboi Posted ID:XHUCjVpIZ

>>827 ให้คนอ่านเดาตอนจบ มึงตะได้มีไอเดีย แต่ว่าก้อย่าทำให้ฌครงนิยายมึงเละอะ

829 Nameless Fanboi Posted ID:XHUCjVpIZ

*จะได้มีไอเดีย แต่อย่ายึดถือไอเดียคนอ่านจนทำให้โครงนิยายมึงเละ

830 Nameless Fanboi Posted ID:S/ikF8CLX

สมัยนี้ยังมีคนพูดหล่อนกันปะวะพวกมึง คือกูเรียกเพื่อนว่าหล่อนอ่ะ ถ้าเอามาใส่ในนิยายมันจะแปลกปะวะ
กูเป็นผู้หญิงอายุ20++

831 Nameless Fanboi Posted ID:3d7OxE2fD

>>830 แปลก

832 Nameless Fanboi Posted ID:r2.YV8IDn

>>830 ไม่แปลก ยังเจออยู่เรื่อยๆนะคำนี้

833 Nameless Fanboi Posted ID:VBrAoVk7x

ถามหน่อย เวลาอ่านบทบรรยายในนิยาย พวกมึงชอบคำว่า หล่อน หรือคำว่า เธอ มากกว่ากัน
คือกูเป็นพวกไม่ชอบใช้คำว่าหล่อนง่ะ จะใช้คำว่าเธอมากกว่า แต่กูก็อ่านนิยายที่ใช้คำว่าหล่อนได้นะ ไม่ได้รู้สึกขัดใจอะไรขนาดนั้น แค่ถ้าเป็นกูเขียนเอง กูจะไม่ใช้เฉยๆ
>>830 คิดว่าได้นะ ก็ดูไม่แปลกอะไรมาก

834 Nameless Fanboi Posted ID:3E9i+NoVK

>>830 เพื่อนตุ๊ดกูชอบพูดนะ

835 Nameless Fanboi Posted ID:osJbdZzMO

ไม่แปลก กูก็ใช้หล่อน ชีวิตจริงก็ใช้บ้าง ไม่เห็นเป็นอะไร

836 Nameless Fanboi Posted ID:RpYjnlVAw

>>833 เธอความหมายเป็นกลางกว่าเหมาะกับนิยายสมัยใหม่กว่า หล่อนเน้นเจาะว่าตัวละครนั้นเป็นหญิงชัดเจน

837 Nameless Fanboi Posted ID:HLa89Mumy

>>830 ถ้า pov จากตัวละครหญิง แล้วกล่าวถึงผู้หญิงอีกคน กูก็ใช้หล่อนนะ ไม่สับสนดี
แต่บางคนก็ใช้คำว่าเขากับตัวละครหญิงไปเลย อันนี้กูรู้สึกแปลกกว่าอีก

838 Nameless Fanboi Posted ID:5TOZjtCHi

กูจะใช้แบบเวลาพูด ตอนเรียกแทนชื่อไรงี้ หล่อนๆ ของหล่อนละ แหมหล่อน หล่อนทำไร หล่อนมารึยัง ไรงี้5555555555
ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ

839 Nameless Fanboi Posted ID:1AY7KjdqY

กูโม่งหญิง ใช้แค่ตอนทัก ไงยะหล่อน ทักทั้งชายหญิง ตอนคุยก้ใช้เธอๆแกๆมึงๆล่ะ

เออ กูถามจริง คือกูแทบไม่เห็นคนใช้นายกันเลยอ่ะ แต่กูก็คิดไม่ออกว่าสรรพนามที่เหมาะเวลาให้ตัวละครหญิงเรียกตัวละครชายคืออะไร แกถ้าไม่สนิทก็ดูแปลกๆ เธอดูหวานไป ยิ่งผู้ชายคุยกันในนิยายกูยิ่งกุมขมับ ถ้าเรียลจริงๆต้องกูมึง แต่เขียนใส่นิยายแม่งดูหยาบคายอีก5555 ใช้แกๆก็ดูสุภาพเกิ๊น

840 Nameless Fanboi Posted ID:gKwpupZv5

>>839 ปกติกูเรียกชื่ออะ สนิทระดับนึงจับย่อชื่อบ้าง ฉายาบ้าง ชื่อเล่นตั้งใหม่บ้าง จริงๆ แกก็ได้นะ กูว่าไม่แปลก

841 Nameless Fanboi Posted ID:1AY7KjdqY

>>840 คือกูอยุ่ในแก๊งผู้ชาย(กุเปนสาวห้าวอ่ะ) แล้วกูเห็นเพื่อนในแก๊งแม่งก้เรียกแบบมึงๆหมด แต่พี่ชายกูบอกว่าแกๆกับคนไม่สนิทก้มี โอเค ขอบคุณมากค่ะ555

842 Nameless Fanboi Posted ID:VBrAoVk7x

กูเป็นโม่งหญิงนะ กูเรียกเพื่อนผู้ชายด้วยชื่อหมดเลยอะ มึง/แก/นายและสรรพนามอื่นๆนี่กูไม่เคยใช้เลย 5555
ถ้าเป็นผู้หญิงกัยผู้ชายคุยกัน ใช้แกก็ได้นะ แต่ถ้าผู้ชายคุยกันนี่ก็คิดไม่ออกเหมือนกันแฮะว่าควรใช้คำว่าอะไร

843 Nameless Fanboi Posted ID:un2PHTZmG

คนปกติที่ใช้นายพูดกันคือ รุ่นตากูอะ กูเคยฟังเค้าพูดกับเพื่อน ภาษาวัยรุ่นรุ่นเค้าคือ อั้ว ลื้อ นาย กัน นี่คงหยาบของเค้าแล้วส่วน มึง กู นี่หยาบคายไป เค้าไม่พูด แต่รุ่นหลังๆคงพัฒนามาจนทุกวันนี้

844 Nameless Fanboi Posted ID:rMiDX3LvR

อั๊ว ลื้อ คือ หว่อกับหนี่ แต่ออกเสียงแบบจีนแต้จิ๋วว้อยยย กูยืนยันได้ว่าไม่ใช่คำหยาบ พ่อแม่กูยังใช้พูดกัน พูดกะลุงกะป้ากะปู่ย่าตายายอยู่เลย ละครมันเอามาให้นักเลงพูดเลยหยาบ

แต่นี่กูถามแม่(แม่กู61นะ) แม่กูบอกสมัยแม่กูเรียนมัธยมหญิงล้วนคุยกันก็ใช้นายๆ ส่วนพ่อคุยกะแม่เรียกแม่กูว่ายู(you) แปลกดี555

845 Nameless Fanboi Posted ID:yihB0Kj0V

>>843 มึงหยาบคายมาก ทำคนพูดอั้วะลื้อกับเพื่อนแบบกูเพิ่มอายุไปอีก กูยังนับเป็นเจนปัจจุบันนะว้อย TT

846 Nameless Fanboi Posted ID:EfVrzfMVl

>>843 มึงโหดร้ายจังวะ ยังไม่แก่ขนาดนั้นว้อยย เพื่อนกูก็ยัง(เคย)ใช้นายนะตอนมัธยม ตอนเข้ามาเรียนแรกๆงี้ นายๆตรงนี้มีใครนั่งไหมนู่นนี่ พอผ่านไปได้นึงเจอไอ้พวกเด็กเก่าล้างสมอง กูมึงตามๆปันไปหมดเลย
พ่อแม่กูตอนนี้เวลาเรียกตัวเองกับอีกคนก็เรากะเธอนะ ทั้งคู่เลย ไม่ว่ากับเพื่อนหรือกันเอง

847 Nameless Fanboi Posted ID:wbITd5VIz

>>846 แม่กูก็เรากับเธอ ผมกับยูไม่ก็คุณ555

คือผูัหญิงเท่าที่กูเห็นเจอผชสาวนใหญ่จะแกๆไม่ก็เธอๆเลย ส่วนผชเรียกหญิงก็เธอๆ

848 Nameless Fanboi Posted ID:6WGkmdlLw

หลัก ๆ กูเรียกเพื่อนว่า เอ็ง ว่ะ บางครั้งก็เรียกชื่อ, แก, เธอ ตามโอกาส

849 Nameless Fanboi Posted ID:tpkoGVXEO

แล้วตัวละคร​พี่น้องแทนตัวยังไง​กันบ้าง ทั้งแบบสนิทกัน ไมาสนิทกัน

850 Nameless Fanboi Posted ID:Tymh4.QB9

>>849 จริงๆมันก็แล้วแต่ลักษณะ อาจจะมึงกูก็ได้ หรือไม่ก็แทนชื่อตัวเองกับพี่... หรือเจ๊ หรือ เฮีย

851 Nameless Fanboi Posted ID:j37dDX60V

>>849 กูเรียกน้องว่าแก มึง ไม่ก็ไอ้ตูด

852 Nameless Fanboi Posted ID:oJ/m9JE83

กูมี2โหมด โหมดแรก เรียกพี่กูว่าเฮีย แทนตัวกูด้วยชื่อ(กูโม่งหญิง) พี่กูก็ทำงี้ อีกโหมดคือใช้แกกับข้า คือพี่กูใช้ก่อน กูเลยใช้บ้าง อันนี้ใช้เวลาไม่ได้อยุ่กะพ่อแม่5555

พี่กูแก่กว่ากู3ปีนะ

853 Nameless Fanboi Posted ID:E67.FVn82

>>849 พี่กูผู้ชาย กูผู้หญิง บางเวลาหยอกๆ กันก็เรียกมึงกู แบบเวลาพูดแล้วอินก็จะหลุด คำหยาบๆ กันออกมา มันได้อินเนอร์น่ะ แต่ปกติพี่กูจะแทนตัวเองด้วยชื่อหรือ ผ้ม (ไม่ได้เขียนผิด พี่กูเล่นเสียงแต่ฟังสุภาพสัส) แต่ก็ไม่ได้เรียกแทนตัวกันทุกครั้ง ปกติเรียกชื่อกันเลย กูไม่เคยเรียกพี่ว่าพี่ยกเว้นพูดกับคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง

854 Nameless Fanboi Posted ID:yE+F1ao/9

>>849 สนิทกันก็มึงกู ไอ้เหี้ย ฯ ถ้าไม่สนิทก็เรียกชื่อ แทนตัวเองว่าเรามั่ง ชื่อตัวเองมั่ง

855 Nameless Fanboi Posted ID:OjYEF.KqI

>>849 ในนิยาย พี่น้องที่สนิทกันแบบเพื่อน ฉัน-แก / สนิทแบบเอ็นดู พี่-ชื่อน้อง /
แต่ในชีวิตจริงก็ตามข้างบนเลย

856 Nameless Fanboi Posted ID:L1HQ/mb92

>>849 กูห่างกับพี่สองปี น้องหนึ่งปี เวลาเรียกคือแทนชื่อตัวเอง เช่น สมมติกูชื่อฟ้า พี่ชื่อฝน น้องชื่อฝ้าย อย่างนี้
กูจะแทนว่า พี่ฝน วันนี้ฟ้าบลาๆๆ
น้องฝ้ายๆ วันนี้พี่ฟ้าไม่อยู่นะ บลาๆ
ปล.ผู้หญิงหมดทั้งสามคน
ปล.สอง น้องกูก็เคยแทนตัวเองแบบนี้จนกระทั่งนางเข้าม.ปลาย พูดชั้นกับแกตลอดเลย กับพี่คนโตสุดก็เป็น ฮื่อ น้องที่น่ารักของกู…

857 Nameless Fanboi Posted ID:otjoHy1N+0

มีหนังสืออะไรที่น่าอ่านน่าวิเคราะห์เพิ่มพูนคำศัพท์พัฒนาการเขียนบ้างวะ

858 Nameless Fanboi Posted ID:X1Cxa5cv7M

เพื่อนโม่ง เคยสงสัยมั้ย ทำไมนิยายที่กูว่ากูเขียนออกมาได้กากสัสๆ แม่งเสือกขายได้ ไอ้งานที่ปรับปรุงแล้วปรังปรุงอีกจนกูว่านี่แหละแม่งสุดยอด เสือกขายไม่ได้ คนอ่านแม่งชิทเทสป่าววะ

859 Nameless Fanboi Posted ID:73qU9.NvKA

>>858 มึงคิดถูกแล้ว
ไม่งั้นไอ้พวกนิยายสายเย หรือนิยายเทพซ่าตบคนมันจะดังอย่างปัจจุบันเรอะ

860 Nameless Fanboi Posted ID:u43dfk3nM+

ถ้ามึงเขียนแล้วเขียนอีกแต่ยังไม่ได้ดั่งใจ 100% แต่ได้เวลาอัพตามกำหนดการแล้ว มึงจะยังอัพตอนนั้นๆตามเวลาหรือจะรอจนกว่าจะสมบูรณ์แบบวะ

861 Nameless Fanboi Posted ID:zdgqIXw2gO

>>860 รอให้สมบูรณ์ดิ อีกทางคือเขียนในเวิร์ดให้จบแล้วทยอยอัพ

862 Nameless Fanboi Posted ID:Itpywkzr5U

คือจริงๆคนอ่านมันมีหลายกลุ่ม คนส่วนมากชอบสบายๆอ่านง่ายๆโรแมนติก กูก็เพิ่งลงเรื่องที่กูคิดว่าสุดมากของกูลงไป คนเม้นหลักร้อย อีเรื่องที่กูเขียนเล่นๆคนเม้นสองสามพัน บัยย

863 Nameless Fanboi Posted ID:/U2l+Ny6FQ

>>860 สำหรับกู ลงไปก่อน แก้ทีหลังย้งทัน กูไม่อยากผิดกำหนด

864 Nameless Fanboi Posted ID:DaatICJsGo

กูกำลังคิดว่าการลงนิยายในเว็บให้คนอ่านฟรีเนี่ย มันคือการเผยแพร่ผลงาน มากกว่าที่จะให้เป็นสถานที่ที่แต่ละคนมาช่วยกันดูจุดด้อยของคนๆหนึ่งแล้วแนะนำให้พัฒนาว่ะ แม่งเอ๊ย

865 Nameless Fanboi Posted ID:DaatICJsGo

ตอนนี้กูอยู่ช่วงหยุดแต่งว่ะ มีอะไรต้องพัฒนาเอามาใช้ในการแต่งอยู่

866 Nameless Fanboi Posted ID:jZsyph1JGi

>>864 ใจเย็นๆมึง โดนใครด่านิยายมึงเหรอ กูว่าลงให้คนอ่าน เสียงคอมเมนท์ดีไม่ดีมันห้ามไม่ได้ อะไรที่มึงปล่อยไปแล้ว แปลว่าใจจริงมึงก็อยากให้คนเขาฟีดแบค
กูว่ามึงอย่าไปตอบโต้เมนท์ลบๆเลย ถ้ามึงทบทวนดูแล้ว ไม่เห็นด้วยกับเค้า ก็แค่ขอบคุณที่เสียเวลามาเมนท์มึงแล้วมึงก็จงมุ่งทำตามที่มึงคิดว่าดีไปนั่นแหละ

867 Nameless Fanboi Posted ID:PtRJHV.kmv

เขียนนิยายเรื่องแรกแล้วปัง กูเอามากดดันกับเรื่องที่สองเลยไอสัส เครียดชิบหาย

868 Nameless Fanboi Posted ID:TJScu9x/4U

>>866 กูไม่ใช่เม้นบนนะ แต่กูเคยโดนคอมเม้นติเหมือนกัน ประชดประชันกูแล้วก็ตบท้ายว่า แน่จริงอย่าแคปไปประจาน (ซึ่งกูงงมาก แบบกูยังไม่เคยประจานใคร และกูไม่รู้จักแม่งด้วย) ตอนนั้นกูปริ้ดมาก คือกูจะไม่อะไรเลย ถ้าติโดยไม่ได้ประชดประชัน และไม่ดักกูว่าอย่าประจาน

869 Nameless Fanboi Posted ID:F2ozd+5IHl

ky ช่วยกูทีTT พวกคุณหนู เด็กที่เป็นลูกหลานผู้ดีจะแทนตัวเองยังไงได้บ้าง ที่กูคิดไว้คือดิฉัน แต่ถ้าเอาดิฉันคุยกับผู้ใหญ่พวกมึงว่ามันจะแปลกไหมอะ
ปล.กูใช้แต่งนิยายแฟนตาซีต่างโลกที่เซ็ตติ้งยุโรป

870 Nameless Fanboi Posted ID:EqKNXuRL4c

>>869 เรา,ฉัน คิดว่าได้หมดอ่ะ แต่ดิฉันนี่มันจะดูแก่ดูโตไปป่ะวะ แนะนำให้เติม ค่ะ,คะ ตามหลังทุกประโยคเพิ่มความแพงแทนละกัน

871 Nameless Fanboi Posted ID:Bb9Xhpm7xm

ถ้ามึงเอาsetting Europe โบราณคงต้องไปหานิยายแนวท่านดยุคราชินีมาอ่านเพิ่มน่าจะช่วยได้

872 Nameless Fanboi Posted ID:H5aMK3gUYC

>>869 นิยายไทยป่ะ....เท่าที่เคยอ่านจะใช้แทนตัวด้วยชื่อตัวเอง ถ้ามียศ ก็ หญิง อย่างนั้นอย่างนี้.....ถ้าคุยกับพี่ ก็แทนตัวว่าน้อง ถ้าคุยกับ ญาติผู้ใหญ่ ก็แทนตัวว่าหลาน ...กับพ่อแม่ก็แทนตัวว่า ลูก

ลองดูนะ....ลูกอยากทาน...ค่ะคุณแม่ / หลานขอบพระคุณคุณลุงค่ะที่.... / น้องดีใจที่พี่ชายว่างมารับ ....

873 Nameless Fanboi Posted ID:VySz5qidDz

>>869 ย้อนยุคปะ คือถ้าเป็นฝั่งยุโรปเขาไม่มีเรื่องสรรพนามแทนตัวอะไรเท่าไร กันเองหรือกับคนที่ต่ำศักดิ์กว่าใช้เราก็ได้ หรือถ้าย้อนยุคมากใช้ข้าก็ไม่ผิด ส่วนมากจะอยู่ที่ระดับภาษามากกว่า ถ้าคุยแบบเป็นการเป็นงานก็แล้วแต่ยศคนที่คุยด้วย ดิฉัน หม่อมฉัน อะไรก็ว่าไป

874 Nameless Fanboi Posted ID:ZxALh6qi6t

สายนิยายยุคศตวรรษ18 พูดกับญาติ ก็ คุณป้าคะ หนูยังโง้นยังงี้
ท่านลอร์ดคะ ดิฉันว่า

ถ้าเก่าแบบยุคกลาง
ท่านอัศวิน อย่าปล้ำข้า

875 Nameless Fanboi Posted ID:Ah0N3GbxVM

ลองไปอ่านดูเลยดีกว่า นอกจากสรรพนามแล้วยังจะมีพวกภาษาด้วย
อ่านเกมออฟโทรนก็ได้ ไม่ก็อ่านนิยายไทยพวก คลั่งเพราะรัก ฤทธีราชินีสาว เซตสองเรื่องหลังนี้นอกจากจะได้ภาษาแล้วยังได้ความรู้ด้วยนะ

876 Nameless Fanboi Posted ID:grhyG8N7C1

กูมาระบาย คิดนามปากกาไม่ออกสักทีเว้ย อะไรดี ๆ เขาก็ใช้ไปหมดแล้ว แง้ ttttffff

877 Nameless Fanboi Posted ID:9oVvGXYrLO

>>876 คิดแปลกๆดิจำง่ายด้วย เช่น ปลากระพงนึ่งสองที่ อะไรเงี้ยะ

878 Nameless Fanboi Posted ID:24uMUV8x72

กูขอมากรี๊ดหน่อย
ไอ้ห่ากูเกลียดตัวเองงงงงง!! เกลียดสไตล์การเขียนของตัวเองที่ชอบเผลอยัดข้อมูลเข้าไปชิบหายยยยย

879 Nameless Fanboi Posted ID:1u9N8bpLx2

แสงแดงอบอุ่นสาดส่องผ่านหน้าต่างห้องนอนของหญิงสาว เธอเปิดเปลือกตาขึ้นอยากงัวเงียแล้วค่อยๆลุกเปลี่ยนอิริยาบถเป็นท่านั่งขัดสมาธิ ถอนหายใจ เหนื่อยหน่ายกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนเย็นวาน สายตาจ้องมองอย่างเหม่อลอยไปที่สมาร์ทโฟนสีดำที่วางอยู่ทางซ้ายมือของเธออยู่พักใหญ่ ชายหนุ่มที่เคยเป็นทุกสิ่งของเธอจนกระทั่งเมื่อเย็นวานที่เขาโทรผ่านไลน์มาหาเธอ เธอรับมันเหมือนทุกทีด้วยความคิดถึงและหัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก แล้วตอนนั้นก็เป็นเวลาที่โลกทั้งใบได้พังครืนลงมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน แม้ไม่ต้องการจะจำแม้สักพยางค์เดียวแต่หลายประโยคก็ยังคงดังวนเวียนอยู่ในหัว บาดลึกลงไปในใจของเธอ
สิ่งที่เข้ามาดึงเธอออกจากห้วงความคิดอันหม่นหมองคือเสียงเคาะประตูห้อง มันดังสองสามครั้งแล้วตามมาด้วยเสียงเรียกชื่อเธออีกหนึ่งครั้ง
"คุณแจนครับ อยู่ไหมครับ" เสียงของชายชราเชื้อสายจีนที่เธอคุ้นเคย เขาเป็นเจ้าของหอพักที่นี่ เธอเดินไปเปิดประตู
"ผมเอาค่าห้องของเดือนนี้มาให้ครับ ยังไงรบกวนโอนให้ผมก่อนวันที่สิบเอ็ดนะ" เธอรับกระดาษที่เขียนรายละเอียดการชำระค่าห้องมา ตอบรับพร้อมพยักหน้า
"ส่วนอันนี้ ป้าเขาทำมาให้นะครับ" ชายชราพูดขณะที่กำลังหยิบกล่องโฟมใส่อาหารออกมาจากถุงหิ้วพลาสติกที่ใส่กล่องโฟมอยู่ราวๆสิบกว่ากล่อง
"ขอบคุณค่ะ"
ชายชรายิ้มให้เธออย่างอบอุ่น แล้วเดินไปเคาะประตูห้องถัดไป เขามักจะมีอะไรติดไม้ติดมือมาให้ผู้เช่าในห้องนี้เสมอเวลาที่เอาบิลค่าเช่าห้องมาให้ และก็มีบางครั้งที่เอาของกินมาฝากเวลาภรรยาของเขาทำอาหารอะไรใหม่ๆ เธอปิดประตูแล้วเดินไปที่หน้าต่าง ดึงผ้าม่านสีน้ำเงินมาปิดหน้าต่างไว้ทำให้ห้องทั้งห้องมืดสลัว เธออยากอยู่แบบนี้สักพัก

การเขียนกูเป็นอย่างไรบ้างวะเพื่อนโม่ง พอดีกำลังลองหัดอยู่ วิจารณ์ที

880 Nameless Fanboi Posted ID:kw+C6Y8u0b

>>879 ชะงักตรงป้าว่ะ เมียชายชราต้องยายแล้ว ไม่งั้นผัวป้าก็ต้องชายวัยกลางคน
อีกอย่างไม่ต้องเขียนเชื้อสายจีนก็ได้นะถ้าคำพูดจะไทยขนาดนี้

881 Nameless Fanboi Posted ID:+HtTCaIUkj

>>879 พิมพ์ผิดนิดนึงตรง อย่าง*
เรื่องภาษารอคนถัดไปนะ ถ้าถามกูกูว่ามันเยิ่นเย้อไป มันชวนให้รู้สึกไม่ธรรมชาติเท่าไหร่ (จริงๆตัวกูก็ติดเยิ่นเย้อเหมือนกัน)

882 Nameless Fanboi Posted ID:.s8rdmZhGC

1.เยิ่นเย้อไปจริงๆอ่านแล้วเหมือนเธอจะตื่นหนืดๆขึ้นมาเล่นโยคะนั่งขัดสมาธิ มึงอธิบายมากและซีเรียสกับดีเทล มันดีนะที่มึงตั้งใจดีแต่ฟีลมันแข็ง เพราะฟีลตัวละครกำลังเศร้าหมดอาลัยตายอยากอกหักแฟนทิ้ง แต่คนเขียนกำลังเล่าในฟีลของคนเขียนที่ตั้งอกตั้งใจมากๆ คือฟีลของมึงดันขัดกับตัวละคร มันเลยออกมาไม่สมู้ท
2.แฟนโทรมา ไม่ต้องบอกว่าใช้ไลน์หรอก
3.เธอ ถอนใจเหนื่อยหน่ายกับเรื่องเมื่อวาน มึงไม่เคยอกหักแฟนทิ้งแน่นวล มันไม่ได้ เหนื่อยหน่าย อันนี้มันคือเบื่อสัสแต่ต้องแครี่ออน แต่นี่มึงโดนเท มันต้องทั้งโกรธ ผิดหวัง หัวใจฉีก กูไม่อยากตื่นมารับความจริง

883 Nameless Fanboi Posted ID:+HtTCaIUkj

อืมๆ เห็นด้วยกับ 882 ว่ามันแข็ง จริงๆก็เห็นด้วยทุกข้อ กิกิกิ

กูว่ามึงเขียนเลยเว่ย ไม่ต้องหัด แบบเขียนจริงๆไปเลย เดี๋ยวภาษามันจะดีขึ้นเองตามจำนวนเรื่องที่มึงเขียนอ่ะแหละ แล้วก็ยังจะมีคนอ่านคอยดันมึงด้วย

884 Nameless Fanboi Posted ID:TIaqMoUO3g

ก็วิจารณ์อะไรไม่เก่งหรอกนะ แต่อารมณ์ที่ได้หลังอ่านจบคือเธออกหักแล้วก็แบบเฮ้อ เซ็งว่ะ อกหักซะแล้วสิอะไรทำนองนี้ ไม่ใช่เธออกหักแล้วแบบกูเจ็บ กูเสียใจ กูทุรนทุรายเลยอ่ะ

885 Nameless Fanboi Posted ID:1u9N8bpLx2

>>880 >>882 >>883 >>884 ขอบใจมากสหาย

886 Nameless Fanboi Posted ID:1u9N8bpLx2

>>881 ลืมแท็ก

887 Nameless Fanboi Posted ID:24uMUV8x72

อืมมม ตอนนี้กูไม่ค่อยมีความมั่นใจกับการ Monologue เท่าไรเลยแฮะ คือกูเขียนแนว POV1 อะนะ ตัวละครกูเลยต้องมีการอธิบายสิ่งที่เห็น + ความคิดของตัวเอกในแบบ Monologue เข้าไปบ้างเพื่อให้เรื่องมันดำเนินใช่มั้ย?

แต่ตอนนี้กูเจอปัญหาคือกูอยากจะให้คนอ่านรู้แบบคร่าวๆ ว่าในเรื่องของกูมี "ไอ้สิ่งนี้" แต่ปัญหาที่เจอคือมันต้องเล่าผ่านมุมมองของตัวเอก แล้วตบท้ายด้วย Monologue ความคิดของตัวเอกเป็นระยะ ๆ ว่าเจ้าตัวมีความเห็นยังไงเนี่ยล่ะ ซึ่งเมื่อก่อนกูเคยโดนติมาว่าการเล่าแบบนี้มันทำให้เหมือนว่าตัวเอกรู้มากเกินไปทั้งที่เป็น POV1 เนี่ยล่ะกูเลยไม่มั่นใจว่าจะใช้วิธีการเล่าแบบเดิมต่อไปตามถนัด หรือว่ายังไงดีกันเลย

888 Nameless Fanboi Posted ID:.s8rdmZhGC

>>885 ยินดีมึง สู้ต่อไปๆ กูชอบคนเขียนที่คำนึงถึงดีเทล กูว่าเขียนไปก่อนแล้วทิ้งเวลากลับมาอ่านอีก แล้วค่อยแก้ มันอาจจะช้าหน่อย แต่มันจำเป็นนะกูว่า

889 Nameless Fanboi Posted ID:M5VprxwRA/

>>887 ต่อให้เป็น POV1 เอง ส่วนมากก็มักจะรู้มากเกินไปอยู่แล้วนะ (จะมากจะน้อยแล้วแต่คน) น้อยมากที่รู้เท่าที่ตัวดำเนินเรื่องรู้จริงๆ กูก็เพิ่งอ่านนิยายไปที่รู้เท่าตัวดำเนินเรื่องเลย แบบสุดตีนนนมาก ตัวดำเนินเรื่องเสือกไม่ค่อยรู้ห่าอะไร ที่เหลือกูต้องเดาเอาเอง แต่ก็เป็นรสชาติที่สนุกดี รู้สึกว่าคนเขียนเก่งเลยล่ะ

890 Nameless Fanboi Posted ID:1uHpRkK9G3

>>889 นั่นสิ ก่อนหน้านี้กูลองเขียนแบบให้ตัวเอกไม่รู้อะไรเลยแล้วรู้สึกรำคาญยังไงก็ไม่รู้
เพราะพอจะเสนออะไรใหม่ๆ เข้ามาแม่งต้องให้ตัวเอกพูดว่า "นั่นมันอะไรกัน?" ตลอดเลย

891 Nameless Fanboi Posted ID:SzGyQcDEVH

ปวดกบาลมากเลย จะเขียนฉากรักยังไงให้ดีวะ นิยายที่กำลังเขียนอยู่ดำเนินเรื่องแบบจะให้พระนางฆ่ากันมาตลอด ไม่รู้จะดริฟกลับให้แม่งมารักกันยังไง ที่คิดไว้คือ ใช้เวลาด้วยกัน-เห็นความดี-เริ่มเปิดใจ แต่จากนี้คือตันแล้วไม่รู้ไปไงต่อ ใครมีเทคนิคดีๆแนะนำมั่งช่วยที

892 Nameless Fanboi Posted ID:Px1iU410Tg

ถ้านักอ่านไม่บอก มึงจะรู้ได้ไงว่างานตัวเองสนุกหรือไม่สนุกวะ เหมือนพอเขียนเอง อยู่ใกล้เกินไป เซนส์ตรงนั้นก็ทื่อไปเลยว่ะ

893 Nameless Fanboi Posted ID:VXu9/l5K.F

>>892 ถ้าถ้าอ่านแล้วก็สนุกดี เอาลงไปหลายๆ ตอนมีคนคอมเม้นต์ แสดงว่าโอเค อ่านแล้วสนุกดี แต่ลงไปเท่าไหร่ก็ไม่มีคนแสดงความเห็นอะไรแสดงว่ายังไม่ดีพอ ยังขาดอะไรบางอย่างให้ดึงดูดใจ ถ้ายังไม่ได้ลงแต่ไม่แน่ใจว่ามันสนุกหรือเปล่า มีโอกาสที่มันยังไม่สนุกเพราะขนาดคนเขียนอ่านเองยังไม่รู้เลย มันเป็นแค่ความรู้สึกว่า เออ มันก็ดี แต่มันมีงานก็ดีเยอะแยะไง งานก็ดีมันไม่ได้น่าสนใจอะไร

894 Nameless Fanboi Posted ID:aSRROAj/.0

>>891 วางให้โทนคสพ.เป็นยังไงอะ รักกันหวานซึ้ง ซึน ปวดตับ ?? ยังไงก็ค่อย ๆ ปูเรื่อย ๆ ค่อย ๆ ไปนะมึงนะ กูเจอประเภทหักดิบชิบหายแล้วเซ็ง ไม่อินเลยว่ะ บอกตรง 55555

895 Nameless Fanboi Posted ID:IswZhOo.Hh

>>894 ซึนว่ะ ตามเนื้อเรื่องแล้วคงเต็มที่ได้เท่านี้แหละ แต่สงสัยว่ามันจำเป็นป่ะวะว่าต้องมีฉากพีคๆสักฉากเพื่อเล่าให้คนเก็ทว่ามันรักกันมาจากตรงไหน หรือถ้าเขียนแบบค่อยๆแทรกความสัมพันธ์ในเรื่องไปเรื่อยๆให้คนอ่านค่อยๆรู้สึกเองดีกว่า คือตัวละครมันเริ่มจากเกลียดปานจะฆ่ากันก่อนอ่ะ ก็เลยจะได้รู้นิสัยแย่ๆของกันมาก่อนด้วย ปรึกษาเยอะเลย โทษทีนะ

896 Nameless Fanboi Posted ID:aSRROAj/.0

>>895 คือมึงต้องตีแผ่ออกมาก่อนนะว่าตลค.มึง รักกันเพราะอะไร ? แล้วค่อยใส่ไปนะ แต่คำถามว่ามึงจะยัดซีนใหญ่มาเลยหรือค่อย ๆ แทรกมา อันนี้มันได้ทั้งสอง แล้วแต่มึงจะพอใจ ส่วนตัวกูชอบอย่างหลังมากกว่า ยิ่งค่อย ๆ ละเลียดละไมนะมึงเอ๊ย ฟิน
กูก็แนะนำอะไรไม่เก่งอะ ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่เลย ขอโทษด้วยคน 5555 แต่เอ้อ มึงขอคำแนะนำฉากรักนี่คือเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายโรแมนซ์เป็นหลักใช่มั้ย ?

897 Nameless Fanboi Posted ID:IswZhOo.Hh

>>896 แค่ช่วยตอบก็ดีแล้ว ขอบคุณมาก นิยายไม่ใช่โรแมนซ์อ่ะเป็นกึ่งๆสืบสวน ฉากละมุนละไมเลยไม่ค่อยมีแต่ถ้าพยายามใส่ก็จะกลายเป็นยัดเยียดเกินไปอีก อยากได้ฟีลแบบพออยู่ด้วยกันถึงจะยังตีกันแต่ก็เป็นห่วงกัน เป็นความสัมพันธ์แบบไม่พูดก็เข้าใจแล้วค่อยกลายเป็นรักไรงี้ เก็ทป่ะวะ

898 Nameless Fanboi Posted ID:G5m/pU.pU7

>>897 มันก็พอได้นะ คือมันก็ไม่ใช่แนวสืบสวนอยู่ละป่ะ แต่อาจจะมีโมเม้นเล็กๆ อาจจะเป็นภาษากายหรืออะไรก็ได้ง่ายๆอ่ะ ค่อยๆหย่อนลงไป ก่อนจะมีซีนใหญ่มาเลย น่าจะค่อยๆปูมาก่อน อาจจะไม่ต้องชัดมากก็ได้ แต่ก็ขอพอมีๆ

899 Nameless Fanboi Posted ID:G5m/pU.pU7

กู 898 พิมพ์ผิด จะบอกว่าไม่ใช่แนวโรแมนซ์อยู่แล้วป่ะ

900 Nameless Fanboi Posted ID:yFZt8.CfCR

เพิ่งค้นพบว่าพล็อตคนเคยรักกลับมาหวั่นไหวยามใกล้กัน เขียนยากที่สุดในสามโลก เฮ้อออ เปิดเรื่องมายังไม่เจอหน้ากันก็สบาย ๆ นะ แต่พอมาเจอะกันเท่านั้นละ ไปไม่รอดจ้า พับโครงการ

ยังมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกันแหละ แถมอีกฝ่ายก็แสดงท่าทีเหมือนอยากจะคืนดี ไถ่โทษด้วยงี้ แต่อีกคนก็พยายามใจแข็ง ใจเย็น เขียนไปไม่รู้ว่าจะให้แสดงความรู้สึกออกมาแค่ไหนดี น้อยไปก็น่ารำคาญ มากไปก็อารมณ์ตัดจบอะพวกมึง แวะมาระบาย กลับไปเขียนเรื่องอื่นต่อละ

901 Nameless Fanboi Posted ID:yl.t4IxxH1

>>900 เออ ยากจริง ของกูเลยให้เป็นปมเรื่องว่ามันเคยรุ้จักกันมาก่อนรึเปล่า เป็นการหลอกคนอ่านไปก่อน จะได้ไม่ต้องใส่อะไรมาก

902 Nameless Fanboi Posted ID:DWyw4T.JJK

มีใครแนะนำการเขียนแนวสืบสวน ฆาตกรรมอะไรงี้ได้บ้าง กูเพิ่งค้นพบว่ามันแต่ง ยาก ชิบ หาย เลยว่ะ จาล้องงงงง

903 Nameless Fanboi Posted ID:b40m0JnQT5

เขียนฉากแอ็คชั่นยังไงให้ไม่น่าเบื่อวะ คือกูดูหนังบู๊มาก็เยอะ อ่านนิยายแอ็คชั่นพอสมควร
แต่พอมาเขียนเองก็รู้สึกยืดๆแปลกๆ กูควรเขียนไปให้จบรวดก่อนแล้วค่อยกลับมารีไรต์หรือควรไปหานิยายแอ็คชั่นอ่านศึกษาเพิ่มก่อนดี

แล้วก็ ปกติส่วนใหญ่กูเขียนoneshot จบในตอน ความยาวเรื่องสั้นที่เป็นมาสเตอร์พีซล่าสุดของกูคือ 28 หน้าa4 ฟ้อนต์cordia14
ไม่ถือว่าเยอะเกินไปใช่มั้ยวะ ตอนpublishไปก็ไม่มีคนอ่านบ่นนะ
แต่บางทีกูก็เกรงใจว่าแม่งจะยาวไปไหมวะ เพราะลองมาอ่านในแอปดูแล้วตาลายนิดหน่อย

ปล.มาสเตอร์พีซของกูไม่ได้หมายความว่าดีนะ กูเรียกงั้นแค่เพราะเสียงตอบรับจากคนอ่านมันดีกว่าทุกเรื่องที่เขียนมาน่ะ 555555
ตอนนี้กลับมาอ่านหลังจากลงไว้ปีกว่า เจอช่องโหว่อยู่นิดหน่อย แต่ขี้เกียจแก้แล้วเลยปล่อยไว้งั้นไปแหละ

904 Nameless Fanboi Posted ID:963JrPDrS0

>>902 อ่านมากๆ ทำให้สมเหตุสมผล วิชาแพทย์แน่นไหม สมัยนี้เขียนมั่วซั่วมีโดนด่า คนตายต่างกันดูกันยังไง นิยายจีนเกี่ยวกับการชันสูตร นิติวิทยาศาสตร์ออกมาเยอะไปหาอ่านดูเอา หลักฐานก็กำหนดเอาว่ายุคไหนสมัยไหน วิทยาการขนาดไหน จะทิ้งอะไรเอาไว้บอกทาง ลองดูซีรี่ย์ฝรั่งซึมซับดู ถ้าอยากเขียนอย่างเดียวไม่มีอะไรในหัวมึงไม่ต้องเขียน ไปอ่านไปดูงานมากๆ ก่อนค่อยกลับมาเขียนใหม่

>>903 อ่านแล้วยืดก็ตัด ตัดแล้วไม่โดนก็เขียนใหม่ มันเป็นเรื่องจังหวะ เหมือนกำกับคิวบู๊ต้องจินตนาการในหัว บางทีคิวบู๊ออกมามันดูธรรมดามึงเขียนก็ดูธรรมดา อาจต้องนึกอะไรที่มันดูตื่นเต้นบีบคั้นมากขึ้น

ความยาวไม่มีความเห็น ยาวไปสั้นไปกูว่ามันเป็นความรู้สึกคนอ่าน มึงเขียน 5 หน้าคนอ่านหาวแล้วหาวอีกก็ยาวไป เขียน 50 หน้า คนอ่านวาไม่ลงอาจโดนด่าว่าสั้นไปแทนก็เป็นไปได้ แต่มึงลองปรับเขียนความยาวระดับส่งงานประกวดเรื่องสั้นต่างๆ ดู เผื่อวันหนึ่งนึกอยากส่งตอนเขียนจะได้ไม่ต้องวุ่นวายมาก

905 Nameless Fanboi Posted ID:hXyP34NJje

มึงลองอ่านหนังสือเกี่ยวกับนิติเวชดู กูมีเล่มหนึ่ง ฆาตกรรมอำพลาง forensics อะไรนี่แหละ เป็นร่วมจดหมายถามตอบของนักนิติกับพวกนักเขียนที่ส่งมาถา บางทริคคือช่างคิดจริง ๆ

906 Nameless Fanboi Posted ID:03+hmeRUmV

>>904 ขอบใจมากเพื่อนโม่ง เดี๋ยวกูจะลองปรับแก้ดู

907 Nameless Fanboi Posted ID:ze8CbgW8tX

>>902 มึงดูสารคดีพวก crime documentary เยอะๆค่ะ อย่ามัวแต่หาข้อมูลแต่ในนิยาย

908 Nameless Fanboi Posted ID:F1mMo7t6Hf

เห็นคลาสคาโดคาว่าสอนเขียน ln กูหัวตัน ๆ เขียนไม่จบมาเป็นปี คิดว่ากูควรแคะปุกไปเรียนไหมว่ะ ราคาเห็นแล้วลมจะจับเสียเหลือเกิน รึใครมีหนังสือรึคลาสออนไลน์ดี ๆ แปะบอกกูด้วย กูหมดทางไปแล้ว

909 Nameless Fanboi Posted ID:kL90vlozg3

>>908 มึงเขียนไม่จบก็หยุดเขียนแล้วไปทำตัวเป็นนักอ่าน อ่านมากๆ อ่านให้สนุก อ่านให้ไหลไปกับอารมณ์หนังสือ อย่าไปเคร่งกับมันมากว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ต้องเขียนแบบนั้นแบบนี้ พยายามค้นหาอารมณ์ตอนแรกเริ่มที่จะเขียน แต่ถ้ามึงไม่ได้อ่านอะไรมาเลยแล้วอยากเขียนมึงไม่ต้องไปเข้าคลาสไหนหรอกเสียเงินกับเสียเวลาเปล่า มึงไม่มีอะไรให้เขียนมึงจะเขียนออกมายังไง

แต่ถ้ามึงอ่านมามากแล้วแต่เขียนไม่ออก มึงอาจจะเคร่งกับมันเกินไป ตั้งใจมากเกินไป มีข้อแม้นั่นนี่กับงานตัวเองมากเกินไปจนสุดท้ายเขียนออกมาไม่ได้ มึงพยายามปลดข้อแม้ตัวเองออกแล้วเอาอารมณ์นำงานเขียนดู หนังสือกูเคยผ่านตาหลายเล่มละ มันก็มีข้อดี เรียบเรียงความคิดได้ดี แต่ถ้ามึงอ่านแบบตันๆ จะกลายเป็นสร้างข้อแม้ไปเสียเปล่าๆ

อันนี้คำแนะนำไม่รู้ช่วยมึงได้หรือไม่ได้

มึงตัน ตันเพราะอะไร
ตันเพราะไม่ได้วางพล็อต - ไปวางซะ
ตันเพราะมีพล็อตแต่เขียนไม่ออก - มึงมีปัญหาในการเล่าเรื่อง ดูพวกโฆษณาสั้นๆ กลับไปอ่านหนังสือที่เคยชอบ ดูหนังฟังเพลง
ตันเพราะไม่มีคำดีๆ ใช้ - ไปอ่านคลังคำสักรอบสองรอบ
ตันเพราะเขียนออกมาเท่าไหร่ก็ไม่ดี - มึงมีปัญหาในการเล่าเรื่อง
ตันเพราะตันเฉยๆ - ปัญหามึงเยอะเกินไป เลิกเขียนแล้วกลับไปอ่าน
ตันเพราะเขียนแล้วไม่มีผลตอบรับ ไม่มีคนคอมเม้นต์ ขาดกำลังใจ - การไม่มีความเห็นก็เป็นความเห็นแบบหนึ่ง แปลว่า งานมึงไม่ดีพอให้เขามีความเห็นใดๆ อย่างมากก็ระดับก็ดี ซึ่งแปลว่ายังไม่ดีพอให้คนอยากอ่านนัก
ไม่ได้ตันแต่เขียนแล้วไม่ได้ดั่งใจคิด - ฝีมือมึงไม่ดีพอ ไปอ่านงานดีๆ เก็บประสบการณ์กูว่าเร็วกว่านั่งเขียนแล้วเขียนอีก เขียนไปมันไม่เพิ่มขีดความสามารถมึงมากนักหรอก อาจจะไหลลื่นเพิ่มขึ้นแต่อยู่ในกรอบจำกัด ถ้ากรอบมึงใหญ่ก็ไม่เป็นไร ถ้ากรอบมึงเล็กมึงเค้นอะไรออกมาก็ยาก

ถ้ามึงอยากได้หนังสือดีๆ กูแนะนำให้มึงกลับไปอ่านหนังสือที่มึงชอบ อ่านแล้วสนุก อันนั้นแหละดี

910 Nameless Fanboi Posted ID:GcbJAIFD32

>>889 เรื่องอะไรวะ แบ่งปันหน่อย

911 Nameless Fanboi Posted ID:/2h.aOlyF1

>>908 เห็นชื่อคนสอนแล้วแบะปากมองบน เอาเป็นว่ากูไม่แนะนำให้มึงไปเรียน

912 Nameless Fanboi Posted ID:zt9ec9iwVV

>>911 >>909 แท้งกิ้ว กูเอาตังเก็บต่อไปงั้น ที่ตันกูเขียนแล้วทิ้งไว้สี่ห้าวันไม่แตะไม่ตรวจแล้วค่อยอ่าน กูว่ามันยังไม่ได้มาตฐานที่ต้องการกูก็รื้อใหม่ สรุปเป็นกูวนอยู่สองตอนเดิม ๆ ....

913 Nameless Fanboi Posted ID:N5+p/dNISL

รีวิว Artery แจ่มใสหน่อยมีใครไปตำมาแล้วบ้าง

914 Nameless Fanboi Posted ID:a.oUNarjT/

>>908 แพง​ ไม่ต้องไปราคาเวอร์​ ไม่รับรองผลหรอก​ มึงอ่านคู่มือเขียนงานที่ไหนก็ได้​ สลับอาานนิยายที่ชอบชำแหละแล้ววิเคราะห์​เลย​ เผลอไม่ต้องอ่านคู่มือด้วย ตามด้วยฝึกเขียน​ แล้วลองอ่านดู​ แค่นั้นแหละเคล็ดลับ​มันไม่มีอะไรเลย​ไม่ต้องไปเสียตังเรียนหรอก​ เสียตังหาหนังสืออ่าน​ หาข้อมูลที้จะเขียนเถอะ​ มันจะดีไม่ดีอยู่ที่ประสบการณ์​ว่าฝึกบ่อยแค่ไหน​
แต่ถ้าอยากเรียนเพิ่มลองลงครอสดู​ ต้องดูด้วยนะว่าคนสอนสอนมึงน่ะเขาสายอะไร​ วรรณ​หรือสายการตลาด​ เพราะสายแรกสอนชิงรางวัล​ สายสองสอนให้งานขายออก​ แต่หนักมึงผ่านการฝึกขั้นแรกมาจะดีสุด​ แล้วอย่ายึดติดตำราหรือครูมากพอ​ มันพลิกแพลงได้

915 Nameless Fanboi Posted ID:OS3nfv3cwG

เวลาโดนบอกว่างานดีจนไม่รู้จะเม้นท์อะไรนี่จริงๆแม่งดีหรือไม่ดีวะ กูงง

916 Nameless Fanboi Posted ID:vq/lFb+ZBz

>>915 สงสัยด้วย กูชอบคิดว่าถ้าเขาพูดงี้คืองานก็อ่านได้ แต่ก็ไม่มีจุดไหนดีพอให้เขาประทับใจจนต้องคอมเม้นบอก สรุปงั้นก็คือไม่ดีรึเปล่าวะ?

917 Nameless Fanboi Posted ID:NwR3ZPbE5s

พยายามอ่านวรรณกรรมดี ๆ เข้าไว้ว่ะ งานอะไรที่เขาว่าเป็นวรรณกรรมโลก อ่านให้มาก มึงอ่านหนังสือได้ระดับไหน งานเขียนของมึงก็จะดีในระดับนั้นหรือต่ำกว่านั้นซักสองสามขั้น เพราะคนเขียนระดับโลกได้มันก็ต้องเก่งมากเป็นธรรมดา แต่ถ้าอ่านได้แค่หนังสือรักทะลวงตูดทะลวงจุ๋ม อ่านแต่บทอย่างนั้น อ่านมากกว่านั้นไม่ได้เพราะปวดหัว งานเขียนมึงก็จะได้แค่นั้นหรือต่ำกว่านั้นเหมือนกัน ถ้ารักจะมาสายงานเขียนและอยากสร้างงานดี ๆ ก็ต้องอ่านหนังสือดี ๆ ถ้าอ่านไม่รู้เรื่องก็แปลว่าเรายังไม่เก่งพอ พยายามหาวรรณกรรมโลกที่เราพออ่านไหว ความจริงมันมีตั้งหลายเรื่อง ทั้งรัก ตลก การเมือง ลึกลับ ผี ไซไฟ มันต้องมีแบบที่มึงชอบบ้างละ

918 Nameless Fanboi Posted ID:NwR3ZPbE5s

>>915 เขาอาจจะเข้าใจว่าการเม้นท์คือการบอกจุดผิดก็ได้ว่ะ เค้าไม่รู้ว่าแค่ชมก็พอแล้ว บางคนประทับใจแต่เขียนไม่เป็นก็มี

919 Nameless Fanboi Posted ID:By4BckhSbb

>>917 ตบมือให้ กูเห็นด้วยเลย กูอ่านนิยายออนไลน์ทั้งหลาย เนื้อหาส่วนใหญ่มันวนๆสำนวนก็วนๆเพราะคนเขียนส่วนใหญ่อ่านฝีมือระดับเดียวกัน ภาษาระดับเดียวกัน ทั้งที่เซนส์เรื่องการทำให้สนุกสนานนี่กูว่าทำกันได้ดีจะตาย กูอ่านสนุกหลายเรื่องก็ตลกมาก แต่ผลงานมันมักมีข้อสะดุดเรื่องภาษาที่ซ้ำซาก และการวางโครงที่ไม่ท้าทาย สะกดคำผิด ใช้สำนวนผิดที่ผิดทาง ไมสร้างสรรค์สำนวนบรรยายใหม่ๆ การอ่านของระดับยากๆ มันช่วยเรื่องความเข้าใจความลึกของมนุษย์ความซับซ้อนของอารมณ์ ที่คนอ่านยังเด็กไม่มีประสบการณ์เอง ก็เรียนรู้ได้จากประสบการณ์ที่ถูกถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือนี่แหละ

920 Nameless Fanboi Posted ID:anU623f4Wl

>>919 แต่ถ้ายกระดับนิยายตัวเองแล้วแต่คนอ่านยังวนๆอยู่เลเวลเดิม พวกแม่งก็ไม่อ่านกันอีกเพราะว่ายากเกินเลเวลตัวเองไรงี้ป่ะวะ

921 Nameless Fanboi Posted ID:VfgAn/fpvo

>>920 correct

922 Nameless Fanboi Posted ID:By4BckhSbb

>>920 กูว่าการยกระดับนิยายไม่ใช่ว่ามึงต้องเขียนเครียดๆนะ มึงเขียนที่บันเทิงนั่นแหละแต่ตัวละครมึงอาจมีความลึกขึ้น สมจริงขึ้น เหตุผลในการตัดสินใจของตัวละครท้าทายความคิดคนอ่านมากขึ้น
ภาษาที่ใช้ก็จะมีศัพท์ใหม่ๆเพื่อแสดงออกมากกว่าเดิม การเรียบเรียงความคิด กนะขับขึ้น เทคนิคการเขียนหลากวิธีขึ้น
คนอ่านบางทีอ่านเอาเรื่องไม่ได้คาดหวังอะไรจากมึงนักหรอก อ่านฟรี ไม่แย่มากก็ไม่สับให้เสียเวลา แย่มากทนอ่านไม่ไหว ก็ไปอ่านเรื่องอื่นๆมีเป็นหมื่นเรื่อง
แต่ ต้องถามว่าแล้วมึงคาดหวังอะไรจากการเขียนบ้างต่างหาก

923 Nameless Fanboi Posted ID:NQ0WL1TupX

มาคอนเฟิร์มอีกคนว่ายิ่งอ่านงานเขียนดีๆ ยิ่งเขียนงานได้ดี อาจจะไม่ถึงระดับขั้นที่ว่าคนตะลึงแต่มันดีกว่าที่เขียนตอนที่อ่านน้อยแบบเห็นได้ชัดมาก
สำหรับกูที่ได้จากการอ่านหลักๆก็แรงบันดาลใจ(ที่ไม่ใช่ก๊อป) ทำให้กูมีแรงเขียนต่อได้เพราะอยากจะเขียนนิยายที่คนอื่นอ่านแล้วได้อะไรดีๆกลับไปบ้าง
แต่ก็ไม่ได้หวังว่าคนอ่านจะต้องปลื้มขนาดนั้น แค่ได้คำชมง่ายๆอย่างพวก ชอบเนื้อเรื่อง ชอบภาษา ชอบสำนวน จะติดตามอ่านเรื่องอื่นนะ แค่นี้ก็ดีใจละ

924 Nameless Fanboi Posted ID:NwR3ZPbE5s

>>919 หลายเรื่องมันสนุกจริงนะ เข้าใจคิด แต่ภาษาห่วยบรรลัย ประโยคในย่อหน้าเดียวกันมีคำซ้ำมากมาย รู้เลยว่าอ่านน้อย คำศัพท์น้อย ไม่มีเทคนิคอะไรเลย แล้วเทคนิคพวกนี้มันได้มาจากการอ่าน แต่ก็ไม่อ่านกัน กูไม่ว่าอะไรนะถ้าคนเขียนแค่อยากเขียนแก้เครียด แต่ถ้าบอกว่าอยากเป็นนักเขียนจังเลย อยากตีพิมพ์จังเลย มันจะเป็นนักเขียนไปได้ยังไงวะถ้าไม่ใช่นักอ่าน

คนที่อยากเป็นนักเขียน ถามตัวเองให้ดีว่ามึงอยากเป็นเพราะอะไร ถ้ามึงบอกว่ามึงมีใจรัก มึงต้องอ่านวรรณกรรมดี ๆ แต่ถ้ามึงบอกว่ามึงเขียนเพราะอยากได้เงิน กูบอกเลยว่าเลือกอาชีพผิด นักเขียนเมืองไทยคืออาชีพที่รายได้ต่ำกว่าอาชีพอื่น ที่อยู่กันได้เพราะทำงานอื่นด้วย สมมุติว่าเป็นนักเขียนเก่ง เขียนได้ปีละสี่เล่ม พิมพ์ครั้งละสามพัน (ซึ่งถือว่าดีมากในยุคนี้) กูบอกเลยว่าต้องอยู่อย่างกระเหม็ดกระแหม่พอสมควร ถ้าต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ ไม่มีบ้านพ่อแม่ให้อยู่ ไม่มีรายได้ทางอื่น มึงจะจัดอยู่ในขั้นคนจน นักเขียนจะมีเงินเป็นกอบเป็นกำต่อเมื่อนิยายแม่งบูม พิมพ์ซ้ำซาก หรือได้เอาไปทำหนัง แต่คนนึงชั่วชีวิตจะมีเรื่องแบบนั้นไม่มากหรอก ทมยันตีเขียนมากี่เรื่อง ที่เอาไปขายทำหนังได้บ่อย ๆ ก็คือคู่กรรม พี่เลี้ยง แล้วกว่าจะดังได้อย่างทมยันตีก็ต้องอายุสี่สิบห้าสิบ อย่างรอมแพงที่ขายบุพเพแล้วดัง เขียนมากี่เรื่องแล้ว ดังกี่เรื่อง ถ้าไม่ทำหนังก็เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าใครจะเลือกอาชีพนักเขียน มึงต้องรักอาชีพนี้จริง ๆ แล้วพัฒนาตัวเอง เพราะเงินก็ได้น้อย ทำงานชิ้นเอกหลายเดือน ทำเสร็จแล้วเอาไปส่ง บรรณาธิการบอก ช่วยแก้ซักครึ่งเรื่อง ขอหวานกว่านี้ ขอบทบนเตียงอีกสามฉาก มึงก็ต้องกลับไปแก้ ทำมาอีกอย่างน้อยสองอาทิตย์ ส่งให้เขาไปตีพิมพ์ รอกว่าจะทำรูปเล่มเสร็จ พิมพ์เสร็จ อย่างเร็วสองเดือน เว้นแต่ว่าเขาจะรีบเอาออกขายงานหนังสือ งานของมึงก็อาจจะเสร็จออกมาภายในเดือนเดียว ถ้าสำนักพิมพ์มีทุนสำรองเขาก็จะจ่ายให้มึหลังพิมพ์เสร็จ ถ้าเขาไม่มีทุนมาก มึงก็ต้องรอไปอีกสามเดือน หกเดือน บางทีรอจนชวด ไม่มีใครในวงการนี้ที่ไม่เคยโดนโกง กูหมายถึงคนที่ทำงานมาระยะนึงแล้วนะ ในเมื่ออาชีพมันยากอย่างนี้ จะทำทั้งทีก็ต้องรักงานของมึงและพัฒนาตัวเอง ไม่งั้นอย่าเข้ามาให้เสียเวลาเลยว่ะ

925 Nameless Fanboi Posted ID:By4BckhSbb

>>924 กูจับมือ การอ่าน สร้างคนอ่านคุณภาพ และก็สร้างนักเขียนคุณภาพ
You are what you read
ถ้ามึงอยากโตขึ้นกว่าเดิม มึงก็จะได้คนอ่านที่โตขึ้นไปกับมึงและคนอ่านที่โตแล้วรอมึงอยู่ มันไม่ดีตรงไหน ความสุขใจของการเขียน มันก็เหมือนเล่นเกมนะสำหรับกู พอมึงเชี่ยวชาญขึ้นมึงก็อยากผ่านด่านไปทำมิชชั่นอัพเลเวลขึ้นไปอีก แต่จะเก่งขึ้นต้องเก็บไอเทมเยอะๆก่อน5555

926 Nameless Fanboi Posted ID:wGsvfHmHp3

ky พวกเสียงซาวด์เอฟเฟกต์จำเป็นต้องมีในนิยายมั้ยวะ

927 Nameless Fanboi Posted ID:ddzagmmiD/

>>926 มีได้สิ แต่ต้องสมเหตุสมผล มึฃบองยกตัวอย่างที่มึงอยากใส่มาดิ

928 Nameless Fanboi Posted ID:wGsvfHmHp3

>>927
ฟึ่บ!
ลูกธนูหน้าไม้พุ่งแหวกผ่านอากาศทะยานหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสียงร้องของสัตว์ตระกูลกวาง...

ประมาณนี้

929 Nameless Fanboi Posted ID:KUILtNZXy6

>>928 ถ้างั้นตรงเสียงกวางร้องก็ต้องมีเอฟเฟกต์ด้วยสิ แล้วลูกธนูหน้าไม้นี่มีจริงเหรอวะ ที่ใช้กับหน้าไม้น่าจะเป็นลูกดอกนะ ทำไมไม่ลองเป็น

เสียงดังฟุ่บดังขึ้นเมื่อลูกดอกถูกยิงออกมาจากหน้าไม้ มันพุ่งแหวกผ่านอากาศทะยานหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสียงร้องของสัตว์ตระกูลกวาง...

930 Nameless Fanboi Posted ID:KUILtNZXy6

>>929 กูไปเช็คมาละ bolts (ใช้กับหน้าไม้) ภาษาไทยคือลูกศร

931 Nameless Fanboi Posted ID:wGsvfHmHp3

>>929-930 ใช่ๆ กูก็ยังสับสนอยู่ว่าไอ้ที่ใช้กับหน้าไม้มันธนูหรือลูกดอก สรุปลูกศรสินะ ละลูกศรมันต่างกับลูกธนูใช่มั้ย เดี๋ยวกูไปหารูปดูดีกว่า 55555
ขอบคุณที่เช็คให้ค่า ไปแก้ละ จุ๊บ

932 Nameless Fanboi Posted ID:ddzagmmiD/

กูว่าลูกศรกับลูกธนูคือสิ่งเดียวกันปะวะ
เราเรียกว่าที่ยิงว่าคันศรหรือคันธนู ลูกก็เรียกตาม

หน้าไม้ใช้ลูกศรขนาดสั้น กว่าธนูที่ใช้คันธนูยาวๆ
ลูกดอกเป็นไม้หรือโลหะปลายแหลมที่สั้นๆจะอาบยาพิษเอาไว้เป่าหรือปาซัดใส่

933 Nameless Fanboi Posted ID:wp2rpsaYIp

>>928 แก้ธนูแล้ว แก้ข้างหลังด้วยก็ดีนะ สัตว์ตระกูลกวาง ฟังดูเป็นสารคดีไป พูดไปเลยว่ามันคือตัวอะไร กวางดาว กวางป่า เลียงผา ละมั่ง สมมุติไปเลย ประโยคจะสวยกว่าสัตว์ตระกูลกวาง

934 Nameless Fanboi Posted ID:ddzagmmiD/

เสียงฟึ่บของมึงกูโอเคนะ
แต่เสียงร้องของสัตว์ตระกูลกวาง กูว่ามันตลก แปลกๆ มึงฟันธงไปเลยดีกว่าปะ ว่าจะกวาง ละมั่ง อะไร
จะได้แก้เป็น เสียงร้องคล้ายดังมาจากฝูงกวางที่แตกตื่น /เสียงร้องฟังคล้ายเป็นเสียงกวาง
คือกูว่าให้ภาพชัดกว่า แม้ตัวละครจะไม่ได้แน่ใจ

935 Nameless Fanboi Posted ID:KUILtNZXy6

>>932 http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2010/07/K9528021/K9528021.html

https://www.reddit.com/r/AskHistorians/comments/26x64n/what_is_the_difference_between_an_arrow_and_a/

936 Nameless Fanboi Posted ID:I39hS9DBmW

>>930 มึงเป็นเหมือนกูมั้ยชอบเทียบคำภาษาอังกฤษก่อน แล้วค่อยมาแปลไทยอีกที มีวิธีแก้ปัญหาแนวๆนี้ยังไงบ้างวะ เรื่องคำศัพท์อ่ะ
คือแบบกูนึกภาพสิ่งที่จะบรรยายออกนะ แต่ไม่แน่ใจในตัวคำศัพท์ว่ามันมีในภาษาไทยไหม อย่างเช่น Sidecar มอไซค์แบบมีที่นั่งเสริมงี้

937 Nameless Fanboi Posted ID:wGsvfHmHp3

>>932 เออ ที่กูเข้าใจว่าใช้กับหน้าไม้ก็เป็นไม้ที่เหลาปลายแหลมไม่ก็เหล็กเหลาปลายแหลม แต่นึกคำเรียกไม่ถูก
>>933 >>934 จริงด้วยแฮะ งั้นเอาเป็นกวางไปเลยละกัน จริงๆ เดี๋ยวมีอธิบายต่อว่าไอ้ตัวที่ยิงได้เป็นกวาง แต่มานึกอีกที ก่อนยิงก็ควรเห็นเลยมั้ยวะว่าจะยิงตัวอะไร 555555 กูเบลอเอง ขอบคุณที่แนะนำ

938 Nameless Fanboi Posted ID:XkboE0H+h1

เพื่อนโม่งช่วยดูหน่อยกว่าการบรรยายของกูมันโอเครึเปล่า เป็นเรื่องของตำรวจหนุ่มคนหนึ่งที่สังเกตเห็นพฤติกรรมผิดปกตินะ

เนื่องจากน้องสาวตัวแสบของผมยังไม่มีท่าทีว่าจะแต่งตัวเสร็จ ผมจึงตัดสินใจลงออกมาจากคอนโดแล้วตั้งใจว่าจะหาอะไรแก้เบื่อทำไปพลาง

ให้ตายสิ... ใครกันน้าเป็นคนบัญญัติว่าผู้หญิงต้องแต่งตัวนานเป็นชั่วโมงแบบนี้

ระหว่างนั่งฆ่าเวลา ผมก็ปรายตากวาดมองผู้คนที่เดินไปมาหน้าคอนโดไปพลาง ยืนอัดมะเร็งไปพลาง ก็ไม่รู้นะว่าเป็นเพราะอะไร สงสัยวันนี้อากาศดีล่ะมั้ง หน้าคอนโดถึงได้มีคนยั้วเยี้ยอย่างกับตลาดซะงั้น

คนเยอะแบบนี้พาลให้รู้สึกอึดอัดชะมัด คิดผิดจริง ๆ ที่ลงมาก่อน แล้วก็ยิ่งน่าเศร้าเข้าไปใหญ่เมื่อพบว่าวันนี้บุหรี่รสชาติห่วยชิบ แต่เนื่องจากนี่มันบุหรี่นอกราคาต่อมวนแพงหูฉี่ ผมจึงไม่อาจจะดูดทิ้งขว้างได้เหมือนกับกรองทิพย์ที่ซื้อตามเซเว่น ผมจึงต้องจำใจลิ้มรสมันต่อไปทั้งที่ตอนนี้อยากจะสำลักควันแทบตายอยู่แล้ว

แต่แล้วระหว่างซึ้งใจกับมันอยู่นั่นเอง สายตาของผมก็บังเอิญเห็นสิ่งผิดปกติ

มีชายร่างสูงสองคนเดินผ่านหน้าผมไป พวกเขาสวมชุดฮู้ดสีดำสะพายเป้อาดิดาสใบตุง แถมยังเดินล้วงกระเป๋าตัวโก่งเหมือนทำท่าซ่อนอะไรซักอย่างเอาไว้ ...ก็อยากจะมองโลกในแง่ดีนะว่าเป็นแค่สไตล์การแต่งตัวเขา เหมือนพวกเด็กฮิปจากนิวยอร์กอะไรทำนองนั้น แต่ก็นะนี่มันประเทศไทยแถมยังอยู่กลางหน้าร้อนอีกต่างหาก การแต่งตัวด้วยชุดเสื้อนอกสีดำดูน่าอึดอัดแบบนั้นจึงค่อนข้างเตะตาผมอย่างจัง

สองคนนั้นหันซ้ายแลขวาแทบจะตลอดเวลา ก่อนที่พวกเขาจะเดินอ้อมเข้าไปข้างหลังคอนโดซึ่งเป็นจุดลับตาคนในเวลาต่อมา

บะ... ทั้งที่เพิ่งออกเวรมาแท้ ๆ แต่ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราชคนหนึ่ง ...ถึงจะอยู่นอกราชการก็เถอะ แต่เจอคนน่าสงสัยเดินผ่านไปแบบนี้ ผมคงปล่อยผ่านไปเปล่า ๆ ไม่ได้สินะ

ว่าแล้วผมก็จำใจต้องเขี่ยเจ้าบุหรี่ยี่ห้อแพงนั่นไปกับพื้น แล้วลุกขึ้นแอบเดินตามพวกเขาไปแบบห่างๆ

939 Nameless Fanboi Posted ID:1+v7XF3HBx

กูว่าก็โอเคนะ อ่านลื่นดี แต่มีขัด ๆ ตรง ใครกันน้า...นิดหน่อย แต่คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก กูแค่ไม่ค่อยได้อ่านสรรพนามบรุษที่ 1 เท่าไหร่ แต่คิดว่าส่วนตัวคงชินกับ "ให้ตายสิ...ผมล่ะอยากรู้จริงว่าใครมันบัญญัติ..." มากกว่า

940 Nameless Fanboi Posted ID:1+v7XF3HBx

ลืมชี้ >>938

941 Nameless Fanboi Posted ID:XJe1TDiBja

กุถามหน่อยโม่ง สมมติว่ากุแต่งแฟนตาซี ให้นางเอกเป็นคนไม่สวยมาก คือหน้าตาใช้ได้แต่ไม่ได้สวยหยาดเยิ้มไรงี้อะ แต่แบบร่าเริง เฟรนด์ลี่ นิสัยดี ห้าวๆแก่นๆ แล้วมีคนมาชอบนางเอก3คนคือ แฟนเก่านางเอก พระเอก แล้วก็เพื่อนนางเอกฟีลพระรองเพื่อนแสนดี มันจะถือว่าซู,ฮาเร็มปะวะ ถ้ากุไม่ได้เน้นรักแต่เขียนว่ามีคนมารักนางเอก3คนทั้งๆที่ไม่ได้สวยมาก

942 Nameless Fanboi Posted ID:8htcK3JQ+m

>>941 ถ้ามึงใส่เหตุผลดีๆ กูว่าไม่ฮาเร็มนะ อย่างเช่นนางเอกเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือเพื่อน เป็นคนที่ปลอบโยนปลอบใจยามสิ้นหวัง อยู่เคียงข้างไม่ทิ้งกัน หรือพระเอกเป็นคนเย็นชา นางเอกเป็นคนร่าเริงเข้ามาเติมความสดใสให้พระเอก อะไรทำนองนี้

ส่วนตัวนะ ที่กูจะเห็นว่าฮาเร็มคือเห็นหน้าละปิ๊งเลย ยอมทำทุกอย่างที่นางเอกต้องการ และมีคนมาชอบพร้อมกันเกินสาม (กูให้สุดๆ แค่สาม)

943 Nameless Fanboi Posted ID:jzUpCmSMrV

>>942 คาร์นางเอกกุ&เหตุผลกุประมาณนั้นแหละ กะให้แฟนคนแรกคือคบตอนวัยรุ่นแล้วต้องไปแต่งกะคนอื่น แต่มันยังรักนางเอก นางเอกก็อกหักหนักจนมีพระเอกเย็นชาเพื่อนมันเข้ามาจนแต่งกัน ส่วนอิเพื่อนพระรองแสนดีแม่งก้ชอบอยุ่ตั้งแต่นางเอกชอบกะแฟนเก่ายันนางเอกแต่งกะพระเอกแล้วมันยังโสด แต่ก้เปนเพื่อนกะนางเอกต่อ

ขอบคุสค่ะเพื่อนโม่ว

944 Nameless Fanboi Posted ID:J0a5oTWu8R

กูชอบที่มึงสร้างรายละเอียดให้ภาพดี แต่มึงต้องอ่านซ้ำเพื่อแก้คำย้อนแยงให้บ่อยๆมึงจะรอด
เช่นขณะนั่งฆ่าเวลา ถัดมามึงบอกว่ายืน ตกลงเอาไง
ก่อนอื่นมึงจะเล่าผ่านความคิดตัวแสดงมึงต้องเข้าใจว่าเป็นคำพูดฝั่งเดียวไม่มีอีกคนช่วยรับและขยายความ ดังนั้นคำรำพึงเหมือน ให้ตายสิใครกันน้า มันจะตีความระดับการทอดเสียงรำพึงยากแล้วแต่คนอ่าน ตัวละครมึงเป็นตำรวจถ้ามึงอยากให้คาร์แมนๆกว่านี้ อย่าให้คำหน่อมแน้มโผล่มาให้คนอ่านสับสน
ให้ตายสิ ใครกันว้า ใครกันวะ น่าจะให้ภาพตำรวจได้ดีกว่า

945 Nameless Fanboi Posted ID:J0a5oTWu8R

>>938 ต่อ
บุหรี่ที่รสชาติห่วย ตกลงมึงอยากให้คนอ่านเข้าใจว่าอะไรได้บ้าง ตอนนี้มันเข้าใจได้3อย่าง กูว่าเลือกเอาสักอย่างจะไม่สับสน มึงก็เพิ่มการชี้นำคนอ่านให้ชัดได้ง่ายกว่า
-หงุดหงิดเพราะรอนาน รสชาติที่คุ้นเคยยังไม่ทำให้ผ่อนคลาย กลายเป็นห่วยขึ้นมาง่ายๆ นี่คือมึงจะสะท้อนอารมณ์เบื่อหน่ายของพระเอก
-หรือมึงอยากใบ้คนอ่านต่อไปอีกว่า ทั้งๆที่บุหรี่รสชาติเดิมๆวันนี้แม่งต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น พระเอกมีลางสังหรณ์ สัญชาตญาณ สัมผัสฝนตั้งเค้าได้ผ่านการรับรสที่เปลี่ยนไป
-หรือแค่อยากแทรกให้คนอ่านเข้าใจทัศนคติของพระเอก เพิ่งเปลี่ยนมาซื้อบุหรี่ยี่ห้อใหม่ ที่แพงขึ้น แล้วค้นพบว่าของแพงกลับห่วยกว่า แต่ทนต่อเพราะงก แต่กูว่าจะสำลักควันตายนี่ต้องเพิ่มหน่อยว่า รสชาติมันห่วยบาดคอ จนแทบทำให้ต้องสำลักควันไอออกมา นี่ต้องฝืนแทบตายแล้ว ไม่งั้นมันสับสนนิดหน่อยสำหรับคนไม่สูบบุหรี่ว่าจะสำลักเพราะตัวเองพ่นควันออกมาเยอะหรือไง
หรือถ้าจะรวททั้ง3ข้อ ก็คือ วันนี้อะไรๆไม่เป็นใจ นี่ต้องรอนาน เสือกต้องสูบยี่ห้อใหม่ แพงสัส รสชาติห่วยนี่มันเป็นวันซวยของกูรึเปล่าวะ

คำสบถของตำรวจคนนี้ จะช่วยให้ภาพของดีกรีนิสัย คำว่า บะ นี่เหมือนลุงแก่ๆกูอุทานเลย
เป็นบ้ะ เวร เฮ้ย เชี่ยเอ้ย ได้อารมณ์ตำรวจมากกว่า
พิทักษ์สันติราษฏร์ ไม่ใช่ราช
นอกราชการ คืออะไร เกษียณ โดนไล่ออก แปลว่า ไม่มีสิทธิ์เป็นตำรวจแล้วนะ
ถ้าจะบอกว่านอกเวลาราชการ ยังแปลว่าเป็นตำรวจอยู่นะ

โดยรวมกูชอบ

946 Nameless Fanboi Posted ID:maETUYoWpu

>>944 >>945 ขอบใจมากเพื่อนโม่ง สับละเอียดดี

แต่ที่จริงก็แค่อยากให้ดูสำนวนแหละ เพราะไอ้พิมพ์มานี่เขียนสด - - ไม่ได้วางพล็อต วางคาร์อะไรเลย
เรื่องที่เขียนอยู่ปัจจุบันเนี่ยพระเอกขี้บ่นแนวๆ นี้เหมือนกัน เลยลองเขียนเหตุการณ์สมมุติขึ้นมาเพื่อให้ช่วยดูหน่อยว่าโอเคมั้ยน่ะ

แต่ถามอย่างหนึ่ง เรื่องคำรำพึงนี่ไม่จำเป็นต้องใส่ระดับการทอดเสียงสินะ?

947 Nameless Fanboi Posted ID:sUBSoZXKJY

>>946 ขึ้นกับบุคลิกตลคที่ต้องการสื่อนะ
อย่างตำรวจคนนี้ รำพึงออดอ้อน ด้วยคำว่า ใครกันน้า มันเรียบๆร้อยๆขัดแย้งกับทิศทางของตัวละครรึเปล่า
ถ้าตำรวจคนนี้สร้างบทสนทนากับน้องสาวว่า
ให้ตายสิ ใครกันน้าบลาๆ มันก็จะน่าเอ็นดูเหมือนหยอกเย้าอีกฝ่าย แต่นี่มันพูดกับตัวเอง ต่อด้วยอารมณ์เบื่อหน่ายหงุดหงิด คำว่าน้า มันเลยสะดุด

948 Nameless Fanboi Posted ID:sUBSoZXKJY

ระดับทอดเสียงใส่มา มันก็ให้อารมณ์ตามนั้นปะ เราก็แค่ต้องเข้าใจความแตกต่างของมัน
ใครกันนะ
ใครกันน้า
ใครกันหนา
ใครกันวะ
ใครกันว้า
ใครกันหว่า

949 Nameless Fanboi Posted ID:1+v7XF3HBx

มึง กูอยากถามข้อมูลหน่อย
หาอ่านแล้วไม่ค่อยเจอกฎเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัย (suspect) อะ มีแต่จำเลยกะผู้ต้องหา (accused/defendant)
กูเข้าใจว่ามันต่างกันไง แต่งง ๆ การปฏิบัติ สรุปคือถ้าหาหลักฐานไม่ได้ ผู้ต้องสงสัยก็ยังรอดตัวลอยนวลได้ปกติรึเปล่า ไม่มีคุมขัง กักตัวใช่ป้ะ ถึงเสี่ยงต่อการหลบหนีก็ขังไม่ได้รึเปล่า

950 Nameless Fanboi Posted ID:maETUYoWpu

>>949 กูเคยเรียนมาแต่จำแบบละเอียดไม่ได้ละ
คราวๆ คือผู้ต้องสงสัยมันเริ่มตั้งแต่ตอนที่ทำตัวมีพิรุธแล้วอะ ยกตัวอย่างเช่นตำรวจเดินมาขอตรวจ แต่กลับวิ่งหนีจนตำรวจต้องวิ่งตามเนี่ย ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงตอนโดนแจ้งข้อหา เราจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยไปเลย

แต่กลับกันถ้าถูกพาไป สน. แล้วแจ้งข้อหาแล้วเนี่ยจะกลายเป็นผู้ต้องหา

ส่วนจำเลยคือต้องโดนอัยการส่งฟ้องไปแล้ว

ส่วนเรื่องหาหลักฐานไม่เจอก็ใช่ เพราะไม่มีหลักฐานหรือพยานที่หนักแน่นพอ อัยการก็จะไม่ส่งฟ้อง ตามอำนาจของตำรวจมีสิทธิ์กักตัวได้แค่ 48 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถ้าเลยไปกว่านั้นก็ต้องพึ่งอำนาจศาลเพื่อฝากขัง แต่ในเมื่อไม่สามารถส่งฟ้องได้ก็จำเป็นต้องปล่อยตัวไปไม่ว่าจะยังไงก็ตาม

951 Nameless Fanboi Posted ID:6/dpnQA/mM

>>938 กูรู้สึกว่าสำนวนมีความญี่ปุ่นอยู่หน่อยๆ (ไม่ได้เสียหายนะ บางคนก็ชอบเขียนแนวนี้)
ให้ตายสิ ใครกันน้า ปล่อยผ่านไปเปล่าๆไม่ได้สินะ -> ให้ความรู้สึกญี่ปุ่นมากสำหรับกู

952 Nameless Fanboi Posted ID:UY2yVqzgcp

>>950 ขอบใจมากมึง ขอถามเพิ่มอีกหน่อย ในกรณีที่นาย a เพิ่งมีปากเสียงกับนาย b แล้วนาย b ถูกฆ่าตายในวันต่อมา คนในครอบครัวนาย b จึงกล่าวหาว่านาย a เป็นคนร้าย ยังงี้ นาย a กูเป็นแค่ผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาไปแล้วอะ

953 Nameless Fanboi Posted ID:MLpd.2572l

>>952 คือผู้ต้องสงสัย เพราะไม่มีใครเห็นว่าฆ่ากับมือใช่มั้ย ถ้ามีคนเห็นแล้วนำไปแจ้งตำรวจ ก็จะกลายเป็นผู้ต้องหา แต่นี่ไม่มีใครเห็นอะไร เพียงแต่คิดกันไปเองว่าน่าจะเป็นคนฆ่า จึงเป็นผู้ต้องสงสัยก่อนในขั้นต้น ถ้าถึงขั้นหาหลักฐานได้ พบกางเกงในตกในที่เกิดเหตุ ตำรวจเห็นว่าน่าจะใช่ ก็จะกลายเป็นผู้ต้องหา

954 Nameless Fanboi Posted ID:CF46F5iXmS

>>952 เป็นแค่ผู้ต้องสงสัยน่ะ
ผู้ต้องหาคือต้องโดนจับแล้ว แล้วตำรวจแจ้งข้อหาแล้ว
>>953 กรณีพบกางเกงในอย่างเดียวยังบอกไม่ได้ แต่ถ้าหลักฐานชี้ชัดหรือว่ามีคนเห็นเหตุการณ์ อันนี้ล่ะถึงจะกลายเป็นผู้ต้องหา

955 Nameless Fanboi Posted ID:xLOYJX39m7

เอ... กูสงสัยขอถามหน่อย
ถ้าสมมุติกูสร้างตัวละคร 2 ตัว ชาย-หญิง อายุห่างกันประมาณ 8 ปี ทั้งสองรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กและฝ่ายหญิงก็สนิทกับฝ่ายชายและเรียกว่า "พี่" มาตลอด จนแทบจะเหมือนกับเป็นพี่น้องกันจริงๆ

แต่เพราะมีเหตุต้องแยกจาก ทั้งคู่เลยไม่ได้พบกันราว ๆ 20 ปี ซึ่งตรงนี้ล่ะที่กูอยากจะถามว่า ถ้าเจอหน้ากันอีกทีแล้วจำกันได้เนี่ย กูควรให้ฝ่ายหญิงเรียกฝ่ายชายยังไงดีวะ?

956 Nameless Fanboi Posted ID:eT/9FJ1Xx3

>>955 ก็พี่เหมือนเดิม อายุมากกว่าปีสองปีก็เรียกพี่แล้ว ถ้าไม่สนิทก็เรียกคุณ ถ้าเรียกชื่อเฉยๆ ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายอายุมากกว่ากูว่าไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่

957 Nameless Fanboi Posted ID:zPrnCAnrG+

พี่ก็ไม่ใช่สรรพนามก็สนิทสนมอะไรมากนะ 555555 แบบในชีวิตจริงกูเรียกพี่ดะหมดอ่ะ

958 Nameless Fanboi Posted ID:oDWG7IkaKK

สวัสดีเพื่อนโม่ง กูมีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย เลยอยากมาถาม พอดีว่ากูกำลังเขียนนิยายอยู่เรื่องนึง กำลังวางพล็อต เเละเริ่มต้นเขียนบางเเล้ว เเละเมื่อวานจู่ๆก็มีนักเขียนมีชื่อคนนึงอัพงานใหม่ลง พอกูกดเข้าไปดูเท่านั้นล่ะ กูช็อคมากเลย เพราะพล็อตมันเหมือนกับกูมาก (กูไม่ได้กำลังหมายถึงว่าเค้าลอกกูหรืออะไรนะ เพราะกูยังไม่ได้เอาเนื้อหาอะไรลงเลย กะว่าจะเเต่งให้จบก่อนเเล้วค่อยลง) คือตัวพล็อตหลัก ตัวเอกวางปมเหมือนกับกูเลย กูเลยกังวลมากๆว่าถ้าวันนึงกูเอานิยายเรื่องงนี้ลง เค้าจะหาว่ากูลอกนิยายนักเขียนคนนี้ไหม กูเองก็ไม่สบายใจที่จะเปลี่ยนพล็อตอะไรด้วย เเบบกูหลงรักตัวลรครที่มีคาเเรกเตอร์กับบทบาทนี้ไปเเล้วเนี่ยสิ ฮือ

959 Nameless Fanboi Posted ID:h1JogjhffA

>>958 ลงเลย พลอตมันเหมือนกันได้เว่ย แต่สิ่งที่จะทำให้ไม่เหมือนกันคือตัวมึงเอง ภาษา วิธีการดำเนินเรื่องของมึง ไอเดียที่เหมือนกันสามารถเกิดขึ้นพร้อมๆกันได้อยู่แล้ว

960 Nameless Fanboi Posted ID:PuKhpDOU40

>>958 กูเคยโดนด่าว่าลอกแร่พล็อตคล้ายแถมเฟนคลับนางถล่มตอนหกูติดชาร์ต​เด็กดีเรื่องเลยเงียบ​ แต่กูลบเรื่องนั้นในเด็กดีทิ้ง​ แต่เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้อยู่​ เผื่อใครกล่าวหากูอีกที​ เพราะมันคือแผลใจกว่าจะหายก็เป็นปีอะกู

961 Nameless Fanboi Posted ID:brM4x4cxQC

มีคนจองที่ไปก่อนแล้ว มึงก็ต้องจำใจทำงานหนักกว่าเดิม มึงต้องหาทางแก้ให้มันไม่เหมือน คือซวยๆๆๆ กูเห็นใจ
แต่ไม่งั้นมึงทุ่มทำไปทั้งๆที่รู้ว่ามันอาจออกไปคล้ายเรื่องอื่น กูว่าไม่คุ้มค่าเหนื่อย
แล้วเดี๋ยวต้องมานั่งเถียงคนอีก ว่าลอกไม่ลอก

962 Nameless Fanboi Posted ID:KNXBYgG+Fv

>>259 >>260 >>261 ขอบคุณนะเพื่อนสพหรับคำแนะนำและกำลังใจ ปล. >>260 กูขอถามได้ไหมว่าตอนนั้นเมิงจัดการกับเรื่องนี้ยังไง

คือตอนนี้กูฟุ้งซ่านมาก ไม่รู้ว่าจะเรียกตื่นตูมไหม แต่กูคิดไปถึงเรื่องการลองทักเข้าไปคุยกับคุณนักเขียนคนนั้น แล้วเล่าให้เขาฟังว่าบังเอิญพล้อตดันเหมือนกัน ตรงจุดไหนบ้าง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจจะดีไหม

กูบอกตามตรงว่ากูกลัวมากว่ามันอาจมีปัญหาในอนาคตได้ ขอคิดในเเง่ร้ายไว้ก่อนแล้วกัน (ถ้านิยายกูรอดอะนะ) คือแบบอย่างน้อยกูก็จะมีหลักฐานว่า เออ กูบอกกับนัก้้ชียนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใตตั้งเเต่เเรกเเล้วนะ อะไรงี้ แต่กูก็แอบกลัวปฏิืริยาคุณนัก้้ขียนท่านนั้นเหมือนกันว่าจะออกมาเป็น

963 Nameless Fanboi Posted ID:KNXBYgG+Fv

ต่อนะ (ขอโทษๆ พิมพ์ในมือถือแล้วมันพลาดไปกดโพส)

แต่กูก็แอบกลัวปฏิืริยาคุณนักขียนท่านนั้นเหมือนกันว่าจะออกมาเป็นยังไง คือแบบคงไม่มีใครชอบหรอกที่มีคนอื่นเเต่งนิยายที่พล้อตออกมาเหมือนนิยายตัวเองไรงี้ แต่กูก็จะพยายามจะปรับพล้อตนะ ให้มันลดความคล้ายเขาให้มากที่สุดในขอบเขตที่กูรับได้และให้กระทบกับพล้อตหลักน้อยที่สุด

เพื่องโม่งมีความคิดเห็นหรืออะไรเเนะนำกูบ้างไหม

964 Nameless Fanboi Posted ID:gbVUN.9dbJ

>>963 คิดมากเกินไป ถ้ามึงคิดมากอย่างนี้ มึงจะไม่สบายใจไปตลอดเวลา กลัวอะไรวะ ถ้ามึงไม่ได้ลอกเขา มึงไม่มีทางเขียนออกมาเหมือนกัน พล็อทเหมือนกันมีเยอะแยะ รายละเอียดไม่มีทางเหมือนกัน ยิ่งมึงทำวุ่นวายมากเท่าไหร่ คนจะยิ่งคิดว่าร้อนตัว เขียนนิยายทั้งทีน่าจะจิตใจสบาย ๆ ไม่ใช่เหรอ นี่ทำแล้วกลัวสารพัด กลัวคนจะว่า กลัวนิยายจะเหมือน บอกตามตรง กูอ่านนิยายพล็อตเหมือนกันมาเยอะแยะ ถ้ามันไม่ได้ลอกกันมา ยังไงมันก็ไม่มีทางดำเนินเรื่องเหมือนกัน

965 Nameless Fanboi Posted ID:v5.DM2t4fa

>>963 เลิกสนใจเขาไปเลย ไม่ต้องไปติดตามอีกว่านิยายเขาเขียนอะไรบ้าง เขียนของมุงไปค่ะ เอาให้จบ ทุกวันนี้เรื่องลอกนิยายนี่ มีทั้งลอกจริงกับลอกมโน มโนว่าโดนลอกนี่เยอะกว่า ทำยังกับเป็นคนคิดพลอตที่เขียนคนแรกกันไปหมดละ

966 Nameless Fanboi Posted ID:C0lmuaE.1q

เอาอย่างนี้ พล๊อต เช่น สโนว์ไวท์ ซินเดอเรลล่า
มึงสามารถเขียนนืยายที่แตกต่างกันได้ล้านเรื่อง
รายละเอียด เช่น เซตติ้ง ต่างๆ อาชีพ นิสัย ปม มู้ด คือจะเขียนดรามา สยองขวัญ จากพล๊อตนี้ก็ได้

967 Nameless Fanboi Posted ID:PHVEfNXRTT

>>966 เออ กูจะช่วยอธิบายเพิ่มให้ พวกมึงรู้จักเรื่องซินเดอเรลล่ากับปลาบู่ทองกันดีใช่ไหม สองเรื่องนี้มีแบบเรื่อง (Tale Type) แบบเดียวกันเลยเว้ยมึง คือสเต็ปแบบนางเอกมีแม่เลี้ยง มีลูกติดแม่เลี้ยง ถูกกลั่นแกล้ง แต่สุดท้ายไปเจอพระเอกที่สูงศักดิ์ แม่เลี้ยงกับพี่ก็อิจฉา พยายามขัดขวาง หรือไม่ก็เรื่องอิดิปุสที่มีแบบเรื่องเหมือนกับพญากงพญาพาน พระเอกมีคำทำนายว่าจะฆ่าพ่อ ถูกพ่อสั่งพาไปปล่อย แต่สุดท้ายพระเอกก็กลับมาฆ่าพ่อได้เพราะความไม่รู้ จะเอาแม่เป็นเมีย พอรู้ความจริงก็สำนึกผิด

ถ้าของมึงเหมือนกันในสเต็ปทำนองนี้ มึงไม่ต้องไปเครียดหรอก นิทานคนละมุมโลกยังดันมีแบบเรื่องเหมือนกันได้ขนาดนี้เลย เหมือนที่โม่งคนอื่นบอกนั่นแหละว่ามันอยู่ที่มึงจะใส่อะไรลงไปให้มันแตกต่าง แต่ถ้ามึงเหมือนชนิดฉากต่อฉาก(เช่นเขาเขียนว่าพระเอกฆ่าพ่อตอนขี้ ของมึงก็พระเอกฆ่าพ่อตอนขี้) อันนี้กูว่าควรเครียดละ

968 Nameless Fanboi Posted ID:2dUxniQncg

>>967 +100
ถ้าเป็นนักเขียนแต่ใส่อะไรให้แตกต่างไม่ได้ก็อย่าเขียนเลย งานเขียนมีเป็นร้อยเป็นพันปีแล้ว nothing new under the sun ว่ะ

969 Nameless Fanboi Posted ID:w.xsx.dk0m

>>967 +100 ขอบคุณที่ช่วยขยายความ
กูว่าเรปนี้กระจ่างแจ้งชัดเจน
น่าจะให้แนวทางในการแก้ไขเรื่อง หรือสร้างความมั่นใจกับมึงได้

970 Nameless Fanboi Posted ID:b+SXNVFDQt

>>964-969 ขอบคุณมากๆพวกมึงที่เตือนสติกู พอมาอ่านความเห็นพวกมึงเเล้วทำให้กูรู้เลยว่ากูเเตกตื่นเเละเเพนิคไปมากจริงๆ กูจะเลิกติดตามนักเขียนคนนั้นซะจะได้ไม่ต้องมาเเพนิคเป็นระยะๆอย่างที่ >>965 บอก กูว่าเเบบนั้นน่าจะดีกับสุขภาพจิตกูมากกว่า คือกูรู้ตัวนะว่ากูเป็นคนวิตกกังวลง่ายมาก แต่บางทีกูก็แยกไม่ได้ว่าที่กูแพนิคเเบบนี้มันมากเกินควรไหม ต้องขอบคุณพวกมึงมากจริงๆที่ทั้งเตือนสติ ทำให้กูกลับมานั่งคิด และมีความหวังต่อ ขอบคุณมากๆพวกมึง

971 Nameless Fanboi Posted ID:Is2ZzijcHx

ขอถามเรื่องพาร์ทย้อนอดีตหน่อย สมมุติอย่างถ้าตลค.ไหนเป็นฝ่ายย้อน มุมมองพาร์ทอดีตนั้นก็ควรเล่าในมุมคนนึกช้ะ
แล้วกูอยากรู้ว่าถ้าเล่าบุรุษที่ 3 ในมุมตัดไปมาทุกฝ่าย เหมือนที่เล่าปจบ.เนี่ย จะทำได้ในกรณีไหนอะ
รึว่ากูไม่ควรมาฟิกซ์อะไรยิบย่อยแบบนี้ เขียน ๆ แม่งไปเหอะได้เลยวะ ฟฟฟฟฟฟ

972 Nameless Fanboi Posted ID:izUvZWIZ9w

>>971 ในฐานะคนอ่าน ในหนึ่งฉากควรโฟกัสตัวละครหนึ่งตัว(แม้จะบรรยายเป็นบุคคลที่ 3) พอสลับฉากค่อยเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็ได้

973 Nameless Fanboi Posted ID:+RxhtSO.s+

>>971 ย้อนอดีตกูก็เขียนไม่ต่างอะไรจากปจบนะ

974 Nameless Fanboi Posted ID:1mEovGCC1U

อืม... เพื่อนโม่งขอถามหน่อย
ถ้าจะเขียนให้ตัวละครร้องเพลงนี่กูควรจะบรรยายยังไงดีวะ?
ใส่เนื้อเรื่อง? หรือว่า "ลาลาลาลา~" ไปเรื่อยดี?

975 Nameless Fanboi Posted ID:1LbqeV6J8A

มึงถามแบบนี้กูช่วยตอบไม่ได้หรอก
การเขียนแม่งไม่มีกฎตายตัวขนาดนั้น ไม่งั้นมันจะนับเป็นงานสร้างสรรค์หรือ
จะเขียนว่าเธอร้องเพลงออกมาด้วยความรื่นเริงใจ หรือ เธอเปล่งเสียงสดใสเอื้อนร้อง "ไก่ก่อนไข่ใครจะเกิดก่อนกัน "
บริบทมันคืออะไรล่ะ อะไรจะเหมาะกว่า

มึงกลัวโม่งแตกก็แปลงตัวอย่างเปรียบเทียบมาถาม โม่งอื่นจะได้ให้ความเห็นได้

976 Nameless Fanboi Posted ID:PdktJfktdk

ถามโง่ๆหน่อยค่ะ ถ้านิยายลอกมาจากประวัติศาสตร์จริงทั้งดุ้นเปลี่ยนแค่ชื่อตัวละครนับว่าก๊อปมั้ยคะ

977 Nameless Fanboi Posted ID:+mai5HgVwP

>>976 ไม่ ในแง่หนึ่งเป็นการท้าทายคนอ่านด้วยว่าให้จับให้ได้ แต่ทางที่ดีคือทำกิมมิคไว้ด้วย คนจะได้ชมว่ามึงเอาต้นแบบมาจากตัวนี้

978 Nameless Fanboi Posted ID:E9o0xasm5w

อย่าก็อปคนเป็นประเด็นแบบปู่ดาบล่ะกัน

979 Nameless Fanboi Posted ID:tdTjyJlt5D

พวกมึงกูนอกเรื่องแปบนะ กูเครียดมากตอนนี้พอดีคนมาป่วนนิยายกูอ่ะ พอกูลองเช็คไอดีดูต่างกันแค่ตัวหลังสามตัวเอง กูเลยอยากรู้ว่า ID ใน ดด.นี่ดูอะไรได้บ้างวะ เนี่ย ID
103.26.22.219
103.26.23.234
103.26.23.253
กูว่าเป็นคนเดียวกันวะ ทำเหมือนเป็นคนหลายคนแต่ ID คล้ายกันมาก คือกูเครียดมาก

980 Nameless Fanboi Posted ID:p+IWgkHcNn

>>979 อยากบอกให้มองข้าม คนออนไลน์ร้อยพ่อพันแม่ แต่มึงคงเครียดมากเลยมาขอคำปรึกษา มึงแจ้งไปที่แอดมิน ก๊อปไปให้ดู แจ้งในบอร์ดปัญหาหรือช่องทางอะไรก็แล้วแต่ เพื่อให้เขาช่วยแบนช่วยบล็อค กูรู้ว่ามึงไม่สบายใจ ถ้ารู้สึกแย่มาก ๆ ก็หยุดเล่นแพร้บ อย่าให้คนไม่ดีมาบั่นทอนมึง

981 Nameless Fanboi Posted ID:pb0Xw0y0JY

>>979 วิธีแก้โทรลที่ดีที่สุดคือเม้นตอบมันไปว่า ขอบคุณค่ะ ในทุกคำด่า

982 Nameless Fanboi Posted ID:NUN/LTots3

>>981 อย่าลืมเติมอิอิ เพิ่มความกวนประสาท

983 Nameless Fanboi Posted ID:NUN/LTots3

เพื่อนโม่งงงงง กูมีข้อสงสัย !!
คือกูแต่งนิยายอยู่ แล้วที่แต่งนี้มันดาร์คเกิน น่าจะไม่ผ่านสนพ.ได้อะ แต่กูมีพล็อตสำรอง คิดว่าจะส่งอันปลอดภัยให้สนพ. แต่ก็ยังเสียดายอันเก่าอยู่
ถ้ากูเปิดลงในเว็บทั้งสองเวอร์ แต่ตีพิมพ์ฉบับคลีนแล้วยังเปิดให้อ่านเวอร์แบดเอ้นท์นั้น มันทำได้ปะวะ จะมีปัญหาอะไรรึเปล่า
(เพิ่ม ทั้ง 2 เรื่องกูคือพระนางคนเดียวกัน เส้นเรื่องเหมือนกัน ต่างแค่ปมที่ตัดไปแล้วใส่อันเบากว่าเข้ามา / ตอนจบ อีกอันแบด อีกอันดี นอกนั้นก็เป็นเรื่องเดียวกันเป๊ะ ๆ เลย)

984 Nameless Fanboi Posted ID:NUN/LTots3

ลืมบั้ม

985 Nameless Fanboi Posted ID:mqB9oeHhv2

>>983 ไม่ได้ว่ะ ถ้ามึงขายให้ สนพ. จะกลายเป็นฉบับคู่ขนานผิดลิขสิทธิ์
ยกเว้นว่าตกลงกันก่อนแล้ว สนพ.ยอม ซึ่งคงยาก
แต้ถ้าพิมพ์เอง อันนั้นเอาที่สบายใจ อยากทำไรก้อทำ

986 Nameless Fanboi Posted ID:DxwkfdBROF

>>985 ขอถามเป็นความรู้หน่อย กูเห็นนิยายญี่ปุ่นมีสองเวอร์ชั่น แบบรวมเล่มกับเว็บไม่เหมือนกัน บางเรื่องต่างกันยังกับคนละเรื่องเลย อย่างนี้แปลว่าเค้าตกลงกันแล้วเหรอ

987 Nameless Fanboi Posted ID:D4L/NcN5RP

>>986 บางทีมันมีลิขสิทธิ์เว็บ กับตัวเล่ม ขายให้คนละเจ้า อันนี้แล้วแต่สัญญา พวกซื้อลิขสิทธิ์ ตปท บางทีซื้อแยก
เวลาขาย สนพ. มันจะมีสัญญา ว่าพ่วง ebook หรือเปล่า หรือบาง สนพ.ไม่เอา ebook เลย แต่มึงทำ ebook เองไม่ได้
ส่วนใหญ่ สนพ.ไม่น่าจะยอม ยกเว้น นข. มีพาวจริงๆ สนพ.ต้องง้อ หรือ นข.ยืนยัน แล้ว สนพ.อยากได้เรื่องนั้นโคตรๆ ถ้าไม่ใช่กรณีพวกนี้ ยากว่ะ
ถ้าให้แนะนำ ก็ส่งสนพ.แล้วผ่านได้พิมพ์แล้ว รอ 3-5 ปี สัญญาหมด ค่อยเอาอีกเวอร์ชั่นมาพิมพ์

988 Nameless Fanboi Posted ID:3CQ6SSCsQQ

>>986 แบบเล่มมีบรรณาธิการช่วยเกลา ทำเส้นเรื่องให้ชัดเจน หรือให้เป็นที่นิยมแบบที่น่าจะขายได้ พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นสำนักพิมพ์ใหญ่มีอำนาจโน้มน้าวจิตใจคนเขียนเพราะกองบรรณาธิการที่นั่นถ้าสำนักพิมพ์ใหญ่ก็คงมีประสบการณ์กับตลาดมากพอมองออกว่าแบบไหนมันขายได้แบบไหนขายไม่ได้

แบบเว็บตามใจคนเขียน พวกตีพิมพ์ถ้าลงแล้วก็คงตกลงกันแล้ว

989 Nameless Fanboi Posted ID:2+BqHgqwbC

>>987 >>988 มีสองเวอร์ชั่นก็ดีนะ อ่านแบบขัดเกลาผ่านสนพ กับ แบบที่นักเขียนอยากให้คนอ่านอ่านจริงๆ (แบบดั้งเดิม) ดูว่าแท้จริงแล้วต้นฉบับดิบเป็นยังไง

990 Nameless Fanboi Posted ID:EHv8QbRCgf

โอเค แต่กูมีข้อสงสัยอย่าง ที่บอกมีบก.ช่วยดูเนี่ย คือกรณีเราเป็นนข.ใหม่ ส่งต้นฉบับไปนี่ ต้นฉบับต้องเสร็จสมบูรณ์แล้วถูกม้ะ สมมุติบก.แนะให้ปรับ เราก็ต้องรื้อเขียนใหม่งี้เหรอ รึยังไง งง
อีกคำถามนึง สัญญากับสนพ.นี่ ถ้าเราลงกับเขาเรื่องนึง เราต้องลงกับเขาตลอดจนกว่าจะหมดสัญญามั้ย กูเห็นบางคนก็เปลี่ยนสนพ.ไปมาได้ ยังงี้นับไงอะ คือกูเข้าใจว่าถ้าเซ็นสัญญาอาจจะได้ผลตอบแทนมากกว่า นข.อิสระ แต่เงื่อนไขต้องออกเล่มตามกำหนด ปีละกี่เล่มว่าไป นี่กูเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ขอเพื่อนโม่งช่วยชี้แนะ

991 Nameless Fanboi Posted ID:D4L/NcN5RP

>>990 ในไทย ปกติ สัญญาเซ็นตัวนิยาย เรื่องต่อเรื่อง 3-5 ปี ไม่บังคับนักเขียน หมดแล้วจะเอาต้นฉบับไปพิมพ์ไหนก็ได้
เขียนเรื่องใหม่เป็นสัญญาใหม่ จะเอาที่เดิมที่ใหม่แล้วแต่ไม่เกี่ยวกัน
แต่ถ้าสัญญาทาสตัวนักเขียน คือเซ็นแล้วทุกอย่างในช่วงเวลานั้นเป็นของ สนพ. กี่ปีว่ากันไป อันนี้ไม่รู้เมืองไทยมีสนพ.ไหนบ้าง แค่ที่แน่ๆของจีนหลายที่เป็นแบบนี้

992 Nameless Fanboi Posted ID:D4L/NcN5RP

>>990 ลืมตอบคำถามแรก คำตอบชื่อใช่ รื้อเขียนใหม่

993 Nameless Fanboi Posted ID:Bvzwc3j85I

กูเห็นวันก่อนในทวิตเตอรื (หลายวันล่ะแหละ)
เค้ารับสมัครหัวหน้าทีมเขียนอ่ะ แบบจะทำหน้าที่เป็นคนคิดพลอต แล้วก็ดูว่าจะโยนพลอตนี้ให้นักเขียนในทีมคนไหนเขียน แล้วสุดท้ายก็จะมา final edit อีกรอบ (แบบมีสิทธิ์แก้ไขเนื้อเรื่องได้เลยไรงี้)
กูก็งงว่า ถ้าคนเป็นหัวหน้าทีมเขียนเก่งขนาดนั้นทำไมไม่เขียนเองไปเลยอ่ะ จะไปเป็นหัวหน้าทีมเขียนโยนความคิดตัวเองให้คนอื่นเพืื่อ?

994 Nameless Fanboi Posted ID:USr79sN+xR

>>993 เพื่อให้งานไว มีงานออกสม่ำเสมอและได้คุณภาพ คนอีดิทงานได้ดีคือคนเก่งภาษา แม่นพล็อท คุมงานได้ไม่หลุด เขาแจกงานให้นักเขียนระดับกลาง ๆ ที่ยังไม่เก่งมากแต่มีไฟ มีเวลาทำ พอเอากลับมาก็ให้คนอีดิทแก้ ๆๆ จนได้มาตรฐานงานพิมพ์ คนอีดิทบางทีก็เป็นนักเขียนอยู่แล้วนี่แหละ เพียงแต่ไม่เปิดเผยก็มี เป็นการให้เครดิตนักเขียน

995 Nameless Fanboi Posted ID:78+TFE6yvg

>>994 แนวๆ ghostwriter อะเหรอ

996 Nameless Fanboi Posted ID:8ULjW47zhy

>>995 ก็คงคล้ายๆ กันมั้ง แต่ >>993 ว่าเป็นทีมเขียนก็อาจทำใต้ชื่อทีมไรงี้ ถ้าเขาทำงานมีจ่ายตังค์กูว่ามันก็ดีนะ ทำแบบแบ่งงานกันเหมือนถ่ายหนังทำละคร ทำกันเป็นทีมก็ดี คนฝีมือยังไม่เท่าไหร่ก็ได้ไปเรียนรู้ด้วย เหมือนไปฝึกงานแล้วได้เงินน่ะ แข็งๆ แล้วก็แยกตัวออกมาเขียนเอง

997 Nameless Fanboi Posted ID:dqtghE55EV

KY มึง ถ้ากูเขียนให้ตลค.ชายคนนึง เรียกผญ.อายุมากกว่าตัวเอง (ปีสองปี) ด้วยชื่อไปเลย ไม่มีพี่/คุณนำหน้างี้ คนอ่านเขาจะรู้สึกขัด ๆ กันบ้างปะวะ

998 Nameless Fanboi Posted ID:m8IgDqwnA3

>>996 ไม่ ถ้ามึงเซตติ้งให้มันอยู่ในโลกตะวันตก ถ้าอยุ่ในไทยก็เรียกชื่อ แล้วแทนตัวว่าคุณ สังเกตจากบ้านกูนะเพราะแม่กุแก่กว่าพ่อ5ปี พ่อกุก็เรียกชื่อ,เรียกว่าแม่ แล้วก็สรรพนามว่าคุณ,ผม แม่กุก็เรียกชื่อ,เรียกว่าป๊า สรรพนามฉัน,เธอ,คุณ

999 Nameless Fanboi Posted ID:LBwK+SeH.O

ky มึง มีเทคนิกเขียนฉากรัก/ฉากโรแมนติกให้มันหวานถึงอารมณ์ไรงี้ปะวะ แบบอ่านแล้วหัวใจเต้นแรง กูเขียนนิยายรักแต่มันรักไม่ถึงอารมณ์เท่าไร กูเศร้า

1000 Nameless Fanboi Posted ID:bElv2BOd73

>>999 ฟังเพลงจะช่วยได้มั้ย คือตอนเขียนมึงอินยัง แบบมึงต้องอินก่อนนะ ถึงจะเขียนออกมาได้อินๆอ่ะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.