Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร [กระทู้ที่ 3]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:pMZM.Spia

กระทู้เพื่อพูดคุยเทคนิคการเขียน และเรื่องการประกวดต่างๆเกี่ยวกับนิยาย
กระทู้ 1 >>>/literature/2342/
กระทู้ 2 >>>/literature/3442/

2 Nameless Fanboi Posted ID:KXKqVTmWD

แวะมาเจิม พร้อมแถมนามสกุล https://th.wikipedia.org/wiki/รายชื่อนามสกุลที่ใช้กันมาก

3 Nameless Fanboi Posted ID:Ro489/b/4

ทำไมตัวเอกแบบมีเบื้องหลัง​(หรืออดีต/ชาติก่อน) เป็นสายลับ​/นักฆ่า/มือปืน​ ฯลฯ ถึงเป็นที่นิยมจังวะ

4 Nameless Fanboi Posted ID:VBEoQDP.r

>>3 มันดูลึกลับดี

5 Nameless Fanboi Posted ID:K+RDxQy1e

>>3 อืม มันดูมีสตอรี่มีเสน่ห์ ขณะเดียวกันถ้าทำออกมาไม่โอ แม่งจะดูเบียวมาก ไออาชีพพวกนี้

6 Nameless Fanboi Posted ID:PQUFISxBo

>>5 จริง กูเจอของบางคนแล้ว เบียวเหี้ยๆ อ่านแล้วยังอายแทนเลย แต่บางคนเขียนแล้วแม่งก็เท่ชิบหาย

7 Nameless Fanboi Posted ID:F63DEBl0H

ตอนนี้ถ้าจะลงนิยายลงที่ไหนดีระหว่างเด็กดีกับฟิคล็อค?

8 Nameless Fanboi Posted ID:X1gnYp6en

>>7 เด็กดี ดีกว่า คนอ่านแยะกว่า

9 Nameless Fanboi Posted ID:7MVi1uj9Z

>>7 ฟิคล๊อค เข้าถึงคนอ่านยากสัดเหอะ คือถ้ามึงไม่ได้มีฐานคนอ่านอยู่แล้วที่จะตามมึงไปทุกที่อ่ะนะ กูว่าฟิคล๊อคคนอ่านน้อยแล้วก็การที่คนอ่านจะเข้าถึงเรื่องที่มันไม่ได้อยู่หน้าแรกน้อยมาก

10 Nameless Fanboi Posted ID:2OfBuQ6SS

โม่งบนๆช่วยนิยามคำว่าเบียวให้หน่อยดิ กุจะได้เรียนรู้แล้วพยายามไม่เขียนให้เป็นแบบนั้น

11 Nameless Fanboi Posted ID:viX2Sw3A1

>>10 คนเขียนเรื่องเบี้ยวในสายตากุนะ แบบperfectเว่อร์ๆเหมือนคนเขียนแม่งมีปมไรซักอย่างกับตัวเองแล้วมาลงกับนิยาย ทุกคนในเรื่องแม่งMary sueกันหมด เช่นทะลุมิติมาทำได้ทุกอย่างตั้งแต่สากกระเบือยังเรือรบ มันไม่สมเหตุผล

12 Nameless Fanboi Posted ID:5BR8uJrSC

>>10 เทพทรูซูเก่งฉกาจ อัจฉริยะ​รู้รอบด้าน ระบบสุริยะ​หมุนรอบตัวตัวเอก

13 Nameless Fanboi Posted ID:viX2Sw3A1

>>11 ไม่ก้อนุ่ดีๆทุกคนแม่งรุมรักแบบไม่มีเหตุผล

14 Nameless Fanboi Posted ID:7MVi1uj9Z

>>13 อันนี้กูเห็นด้วย

หรือไม่ก็แฟนตาซีจัดๆ แบบแต่งคาร์มาแบบฟรุ้งฟริ้งอลังการมาก แบบเบื้องหลัังเป็นนักฆ่า ครอบครัวถูกฆ่า เจ็บปวดกับอดีต ไม่เชื่อใจใคร เป็นคนเย็นชา มีตาสองสีปิดไว้ข้างนึงกลัวคนรู้ความลับ ผมยาว กลายร่างได้ หน้าตาดี เป็นคนที่จะหมุนกงล้อแห่งโชคชะตาของอาณาจักรโมงเนีย เป็นคนที่รอคอยมาพันปี เทพมาก ทุกอย่างเก่ง สะท้านฟ้าทุกย่างก้าว ตัวเอกหญิงทุกคนรัก ความจริงแล้วต้องมีความลับอันดำมืดอยู่ในชาติกำเนิดของมึง แบบอาจจะเป็นลูกของมหาปีศาจ หรือมหาเทพ หรือทั้งสองมหา แค่มึงยืนอยู่ก็ทำให้โลกสะท้านได้แล้วอ่ะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:/SCT5JX6o

>>14 กุสะดุ้งเลย นิยายกูชัดๆ 555555

16 Nameless Fanboi Posted ID:7MVi1uj9Z

>>15 ท่ดๆ กูแซวแบบรวมๆ 5555555

17 Nameless Fanboi Posted ID:YlLvEyTul

เบียว ย่อมาจาก จูนิเบียว "Chuunibyou" เป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "โรค ม.2"
ถึงจะเขียนว่าเป็นโรค แต่ที่จริงไม่ใช่โรคหรอก แต่มันเป็นอาการของเด็กที่ช่วงวัยต่อต้าน ซึ่งคนพวกนี้จะเป็นพวกที่ชอบคิดว่าตัวเองเจ๋ง ทำอะไรนอกกระแสไม่เหมือนใคร หรือเรียกง่ายๆว่าแม่งอินดี้ แต่จริงๆ คนพวกนี้ไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้นนั้นจริง ๆ อะ แค่ทำแล้วรู้สึกว่ามัน "เท่" ก็เท่านั้น

นอกจากนั้นยังมีพวกที่หลงไหลในพลังพิเศษอีกด้วย ซึ่งกลุ่มนี้ถูกเรียกว่า "พวกหลอน" และ จะหลอนยิ่งกว่าเดิมถ้าหากมันคิดว่าตัวเองมีพลังพิเศษและโดดเด่นกว่าชาวบ้าน

ส่วนนิยายเบียวนั้นเป็นศัพท์ที่ห้องสับ Webnovel ใช้กันบ่อย เพราะนิยายเว็ปเด็กดีมันเข้าข่ายทั้งนั้น ปัจจุบันยังไม่มีการนิยามชัดเจน แต่ส่วนใหญ่เอาไว้ใช้เรียกนิยายจำพวกที่พวกพระเอกเก่งเวอร์ มีพลังพิเศษ พลังเทพไม่เหมือนชาวบ้าน ซึ่งพวกนี้มักจะเข้าข่าย Mary sue กันทั้งนั้น บางเรื่องก็วางปมซะน่ารันทดแต่การดำเนินเรื่องกลับไม่เป็นตามปมที่วางเอาไว้ มันเลยเหมือนกับพวก Wanna be ที่อยากจะประกาศว่า กุเป็นแบบนี้นะ แต่ที่จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอะไรทำนองนั้น

...ผู้เขียนเองส่วนใหญ่ก็เป็นเด็ก

18 Nameless Fanboi Posted ID:YlLvEyTul

>>17 สัดกดผิดไปโพสต์ซะงั้น เอาเถอะ!

ผู้เขียนนิยายแนวเบียวๆ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นเด็ก และผู้อ่านก็มักจะเป็นเด็ก สังเกตได้เลยจากคอมเม้นท์พวกทำนองว่า สะใจเวลาเห็นตัวร้ายโดนพระเอกยำ และมักจะเกลียดเวลาที่พระเอกแพ้ ต่อให้เขียนเรื่องสมเหตุสมผลว่าทำไมพระเอกถึงอ่อน พระเอกถึงแพ้ คนอ่านพวกนี้ก็ไม่คิดจะอ่านและย้อนกลับมาด่าคนเขียนได้ตลาดเวลา

19 Nameless Fanboi Posted ID:8KenkjZ/S

ที่จริง เบียวก็ไม่ได้แย่หรอกถ้ามันสมวัย แต่โตมาถ้าไอ้พวกนี้รู้ตัวมันแค่จะอับอาย กลายเป็นหลุมดำ ปวศ มืดในชีวิตตัวเอง อายโว้ยยยน่ะ 5555 แต่โตไปแก่ชอบหายยังทำตัวเบียวเนี่ยสิ น่าเป็นห่วงกว่าที่ยังไม่โตอีกเหรอ

นิยายเบียวบาวทีก็ไม่แย่นะ เขียนดีๆ เยียวให้สุดออกมาเหี้ย เท่ทะลุความเบียวว่ะ ก็สนุกดีนะ 555

20 Nameless Fanboi Posted ID:gj9lRaaZR

>>19 ใช่ มาอ่านนิยายที่กุแต่งม.สอง กับนิยายตอนอายุ 22 แม่ง
กูแทบจะอยากย้อนเวลาไปฟาดหัวตัวเอง อายชิบหาย ดีนะกุลืมรหัสไอดีเก่าในเด็กดอยแล้ว รอดพ้นคววามอายแล้ว

21 Nameless Fanboi Posted ID:++VZn8Odw

>>20 มึงยังดีนะ
กุสิ นิยายสมัย ม.2 กุลงคาอยู่ใน Pramool ทุกวันนี้ยังเข้ากลับไปอ่านได้เลย
อายแทบแทรกแผ่นดินหนี

22 Nameless Fanboi Posted ID:viX2Sw3A1

>>21 ไหนนนนนนน

23 Nameless Fanboi Posted ID:I514BpXms

กุนี่บึ้มไอดีเด็กดีเก่าตัวเองทิ้งแล้วสมัครใหม่ แม่ง เล่มมาตั้งแต่ป5 อาย 55555

24 Nameless Fanboi Posted ID:++VZn8Odw

>>22 ไม่ให้ เดี๋ยวโม่งแตก!

25 Nameless Fanboi Posted ID:viX2Sw3A1

>>24 ไม่แตกหรอก หรือว่ามึงเป็นคนแต่งเรื่องในตำนานนั่น...

26 Nameless Fanboi Posted ID:++VZn8Odw

>>25 กุจะกุมโม่งแน่นๆ ที่บอกได้มีแค่ว่า กุเคยมีส่วนร่วมกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กระเทยเท่านั้น!

27 Nameless Fanboi Posted ID:CwubF3Lsz

>>26 สนุกนี่หว่า

28 Nameless Fanboi Posted ID:/2+.DejT4

>>26 กูอ่านนะ

29 Nameless Fanboi Posted ID:YUmev49+3

>>27 >>28 แต่เรื่องนั้นกุไม่ได้เขียนคนเดียว อย่างที่บอกแค่มีส่วนร่วม เพราะงั้นไปหาเอง

30 Nameless Fanboi Posted ID:8ioDAFt/V

กูลองสมัครแปลนิยายวายของ Rose ไป ไม่รู้เขียนได้ดีขนาดไหน ไม่เคยลองแปลมาก่อน แม่งจะคัดโหดป่ะว้า

31 Nameless Fanboi Posted ID:ExJiMTgZu

>>30 มึงก็สมัครด้วยเหรอ กูก็สมัครว่ะ 5555 ไม่ถนัดเลยมึงเอ๊ยยย เซ็ง 5555

32 Nameless Fanboi Posted ID:S8El4kojs

>>20 เหี้ย เหมือนกูเลย นิยายสมัยม.ต้นกูแม่ง โคตรแห่งความเบียว กูเลิกแต่งไป 6 ปี พอเรียนจบ กลับมาอ่านอีกที กูลบแม่งให้หมดเลย 55555

ลืมไปว่าแวะมาแจกไอเดียนิยายแนวแฟนตาซี ธีมยุโรปยุคกลาง กูบังเอิญไปเจอดนตรีแนว Neo-Medieval ของวง FAUN เข้า แต่ละเพลงฟังแล้วได้ไอเดียโคตรๆถึงจะไม่เข้าใจภาษาเยอรมันก็ตาม ดนตรีพื้นเมืองของ Celtic กับฝรั่งเศสพื้นเมืองนี่ก็เสริมสร้างไอเดียได้มากๆเหมือนกัน ลองไปฟังกันดู
https://www.youtube.com/watch?v=beXW5s3ZCB4

33 Nameless Fanboi Posted ID:f+DM+q.u5

มึง เคยอ่านเรื่องแนวแบบxxxมั้ย
กูไปอ่านแบบในสายตานักเขียนดู ต่างจากสายตาโม่งหื่น
แม่งมันแต่งดีว่ะมึง อ่านแล้วไม่สะดุด
กุแต่งธรรมดายังมีอ่านละสะดุด

34 Nameless Fanboi Posted ID:dzGuKtFnJ

>>31 กูแปลได้ทรามมาก อ่านไปก็ขำตัวเอง

35 Nameless Fanboi Posted ID:hzu2iG0zA

ทำไงดี กูหยุดอีดิตงานตัวเองไม่ได้อ่ะ คือไม่ทำตอนเขียนอยู่นี่ทำได้อยู่หรอก แต่พอเขียนเสร็จ จะมารีไรท์มาอีดิตอีกทีนี่ คือเครียดเลย กลัวนั่นนี่ไปหมด กลัวคำซ้ำ กลัวเขียนวกวน กลัวคนอ่านนึกภาพไม่ออก กลัวไม่ถึงพันคำ และอื่นๆอีกมากมาย ปวดหัวว่ะ

36 Nameless Fanboi Posted ID:X7bRvbBoj

>>35 ทิ้งไว้จนกว่าจะลืมก่อนค่อยมาอีดิท

37 Nameless Fanboi Posted ID:hzu2iG0zA

>>36 โอเค จะลองดู

38 Nameless Fanboi Posted ID:K0sphiTH2

มึงผู้ชายพูดฉันกับนายมันไม่แมนเหรอวะคือกูเอาคาแรค​เตอร์​มาจากเพื่อนสมัยกูไปแลกเปลี่ยนมาแต่งซึ่งมันเป็นฝรั่ง นิยายกูก็แต่งเป็นวัยรุ่นฝรั่งไม่ใช่วัยรุ่นไทยจะให้มาพูดกูมึง กูก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เพื่อนกูไม่ได้ถ่อยขนาดนั้น จะให้พูดผมพอกูคิดถึงหนังหน้าเพื่อนกูกับอารมณ์ตอนมันพูดก็ไม่ใช่อีก มันไม่ได้เรียบร้อยขนาดนั้น เวลากูคุยกับมันก็มีแค่ I you กับเรียกชื่อแค่นั้น พอต้องมาใช้สรรพนามไทยกูแม่งไปไม่เป็นวะ

39 Nameless Fanboi Posted ID:hzu2iG0zA

>>38 ฉันกับแกพอไหวไหมวะ หรือเอ็งกับข้าดีล่ะ

40 Nameless Fanboi Posted ID:K0sphiTH2

>>39 เอ็งกับข้านี่ไม่ไหววะ เพื่อนที่กูขโมยนิสัยมาแต่งนี่ถ้าเป็นคนไทยไม่น่าจะพูดขนาดนั้น ขนาดจะใช้คำว่าแกพอคิดหน้ามันกูยังขัดๆเลย คือมันเป็นคนสุภาพมากนะมึงแต่ก็เข้ากับคนอื่นง่ายอยู่ เป็น geek อยู่หน่อยๆ

41 Nameless Fanboi Posted ID:MGATauoJL

>>38 ฉัน นายก็ปกติออก

42 Nameless Fanboi Posted ID:sNhiXB1vU

>>38 ส่วนตัวเวลาเขียนตัวละครชายแทนด้วยสามคำนี้ ฉัน ผม นาย แก ฉันกับผมเป็นคำแทนตัวที่ตัวละครตัวนั้นใช้อ่ะ ส่วนนายกับแกนี่เป็นคำที่คนพูดด้วยเรียกกัน ไม่เขียนมึงกู

43 Nameless Fanboi Posted ID:sNhiXB1vU

>>42 เองแก้หน่อยนะ >>38 ส่วนตัวเวลาเขียนตัวละครชายแทนด้วยสี่คำนี้ ฉัน ผม นาย แก ฉันกับผมเป็นคำแทนตัวที่ตัวละครตัวนั้นใช้อ่ะ ส่วนนายกับแกนี่เป็นคำที่คนพูดด้วยเรียกกัน ไม่เขียนเอ็งข้ากับมึงกู

44 Nameless Fanboi Posted ID:qFuqarHpT

บางทีกูก็อยากจะใช้สรรพนาม "กัน" - "แก" บ้างนะ แต่คนอ่านคงไม่ชิน 5555

45 Nameless Fanboi Posted ID:.AC+BY.B0

ผู้ชาย พูดฉันกับนายได้
คือเอาจริงผู้ชายแม่งยากเว่ย คือ ในชีวิตจริงมึงกูดูเรียลสุด
แต่ถ้าไม่อยากใช้ มันก็ลดลงมาเป็น ฉันกับนาย ไม่ก็ คุณกับผม ซึ่งดูเป็นกันเอง และทางการ (แบบไม่ค่อยมีสิ่งที่เป็นตรงกลางของสองอันนี้เท่าไหร่) ฉันกับนายก็ดูทางการได้ในบางบริบท

ส่วนเอ็งกับข้า ขอเหอะ...แม่งงงเห็นแล้วหงุดหงิดมากกก กูเห็นล่าสุดในหยูหยู แบบโอ้ยยย สะดุดทุกที

กันแก กูว่ามีเสน่ห์ดี ขึ้นกับเนื้อเรื่องด้วย ถ้าเนื้อเรื่องได้ก็ได้ คนอ่านจะชินรึเปล่า เป็นความสามารถอย่างหนึ่งของคนเขียนด้วย เคยเห็นแก้วเก้าใช้นะ

46 Nameless Fanboi Posted ID:suatTLd1j

38เอง >>43 ปกติกูก็ใช้แค่นั้นแหละ ไม่รู้ว่าจะต้องแต่งให้ตัวละครมันเถื่อน หยาบไปทำไม สงสัยคนที่กูให้อ่านมันชอบนิยายวัยรุ่นแนวม.ปลายกับมหาลัยที่ชอบพูดกันทีปล่อยสัตว์กระจายด้วยละมั้งเลยบอกว่ามันซอฟท์ไป (กู มึง นี่กูใช้แค่ในโม่งนี่แหละ คนจะได้ไม่นึกว่าเป็นกูดี)
>>44 กูชินนะเพราะกูเคยอ่านเชอร์ล็อค โฮล์มส์ กับพวกเล็บครุฑมาก่อน ถ้ามึงแต่งแนวยุคเก่าหน่อยกูว่าคนอ่านรับได้แหละ แต่ถ้าแต่งแนวยุคปัจจุบันกูคิดภาพคนพูดแบบนั้นไม่ออกเลยวะ

47 Nameless Fanboi Posted ID:SVj0Twfis

พูดแบบเป็นกลางนะ สังคมนักเรียนชายม. ปลาย - มหาลัย มึงกูนี่เป็นสิ่งที่ใช้เป็นปกติมากๆๆๆๆๆๆๆๆ 99.99% อ่ะ คือ ฉัน นาย ไม่มีใครใช้อ่ะ เพื่อนผู้ชายรอบตัวเราแทบไม่มีใครใช้ ขนาดสาวประเภทสองก็มึงกูอ่ะ

48 Nameless Fanboi Posted ID:kfhjkwKKK

กูว่ามันแล้วแต่อะ คือถ้าเขียนให้มันอิงความจริงไปเลยก็กูมึง แต่โม่งที่จะเขียนบอกว่าเป็นตัวละครเป็นวัยรุ่นฝรั่งนี่ งั้นก็ใช้สำนวนแบบนิยายแปลไปเลย นิยายแปลกูเห็นเค้าก็ใช้ ฉัน-นาย เยอะแยะ อ่านแล้วไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรด้วย

49 Nameless Fanboi Posted ID:aLVEGhmS2

>>46 นี่ >>43 เองนะ พอดีไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชาย ปกติไม่เคยใช้มึงกูกับเพื่อนเลยกับญาติก็ไม่เคยใช้ เลยลองอยู่หลายรอบแต่มีคนบอกว่าไม่เหมาะกับเรา เลยใช้เรียกชื่อ เราหรือเขากับเธอ แกก็ไม่ได้ใช้นะใช้แต่ในนิยาย
>>48 + 100 เลยเห็นด้วยมาก ๆ

50 Nameless Fanboi Posted ID:YCMoD2N4s

เออว่ะ เวลาดูหนังฝรั่ง ซับใช้ฉันกับนายก็ไม่รู้สึกอะไรนะ อารมณ์คงเหมือนนิยายแปลนั่นแหละ ต่อให้พูดกูมึงแต่นิสัยไม่แมนก็ไม่ช่วยหรอก 555

51 Nameless Fanboi Posted ID:s6k6ntiB9

เพิ่มเติม กูกำลังอ่านนิยายแปลที่ตัวเอกเป็นผู้ชายวัยรุ่นฝรั่ง มันก็มีพูดคำหยาบใส่กัน จังไรแบบถอดกางเกงโชว์กระปู๋โชว์ก้นกันไรงี้ แต่คนแปลเค้าก็ใช้ ฉัน-นาย นะ กูเองก็ไม่รู้สึกแปลก
เพราะงั้นโม่งคนเขียนอยากใช้ยังไงก็แล้วแต่ว่าอยากได้ฟีลเรื่องประมาณไหนอะนะ

52 Nameless Fanboi Posted ID:ezOMQAcoa

ถ้าในโลกความจริง ปกติไทยจะพูด มึง กู เพราะเป็นคำที่พวกเราคุ้นเคยที่สุด แต่ในสื่อทั้งหลายน่ะ มึง กู มันเป็นคำไม่สุภาพไงเขาเลยต้องเปลี่ยนเป็น ฉัน นาย ผม คุณ อะไรทำนองนี้

ถ้าถามว่าใช้ มึง - กู ได้มั้ย? ก็ใช้ได้แหละ แต่ว่ามันจะส่อกริยาและวิสัยของตัวละครชัดเลยว่าเป็นคนถ่อย ยกตัวอย่างนิยายฝรั่งที่กุเคยอ่าน พระเอกเป็นคนแบบว่า... เออ... ไม่เชิงเหี้ย แต่ถ่อยไม่มีมารยาทอะ คนแปลเลยใช้ให้พระเอกพูด มึง - กู ตลอดเลย กุก็รู้สึกอินนะ แต่ถ้าเป็นตัวละครธรรมดา แต่กลับใช้ มึง - กู กันนี่ กุอ่านไปก็รู้สึกขัดๆ อะ

เพิ่มเติม... ในของฝั่งญี่ปุ่นจะมีตัวละครหญิงที่ชอบเรียกตัวเองว่า Boku (แปลว่า ผม) พอเอามาแปลแล้วกลายเป็น "เรา" นี่ขอบอกว่ากุแทบละลายเลย รู้สึกน่ารักมากกกกก

53 Nameless Fanboi Posted ID:YCMoD2N4s

ไม่ใช่ว่ากูเรียกร้องอะไรนะแต่บางทีก็อยากให้มีคนมาเม้นงานกูบ้างอ่ะ แบบอยากรู้ว่าเขียนเป็นไงอะไรยังไงบ้าง จะให้เพื่อนอ่านบางทีก็อยู่คนละด้อม อ่านคนละแนวบ้างเลยเกรงใจ ไม่กล้าให้อ่านบ่อยๆ

54 Nameless Fanboi Posted ID:fuDx6mu/A

รบกวนหน่อย

กูอยากใช้ภาษาละตินเป็นเบส ชื่อคนกะสถานที่อยากเป็นละตินให้หมด ละแบบทุกคำมีความหมายไม่มั่วด้วย มีเว็ปไหนช่วยได้บ้าง

นอกเรื่องนิด กูเคยคิดนะว่าอยากเรียนสันสกฤติละตินกะกรีก กูรู้สึกว่าภาษามันสวย มีความหมายล้ำลึก แต่ท่าจะเรียนยากน่าดู

55 Nameless Fanboi Posted ID:jcV.Qc4dh

>>52 ไม่นะ...ปกติไม่ได้ใช้กู-มึง

56 Nameless Fanboi Posted ID:bgRmV3w3A

>>55 อึ้งแป๊บ ...กับเพื่อนสนิทที่ประมาณว่าโตมาด้วยกันก็ไม่เคยใช้เลยเรอะ!?
ถ้าเพื่อนที่รู้จักตอนโตน่ะพอว่า แต่ไอ้ที่โตมาด้วยกันนี่หายากนะเนี่ย

57 Nameless Fanboi Posted ID:ia90+GxUX

>>56 ไม่ใช้ 55 แต่ก็ไม่เคยใช้เลย คำหยาบก็ไม่พูด หยาบแต่ในโม่งกะในทวิตเท่านั้นแหละ

58 Nameless Fanboi Posted ID:q9LYRaQev

เพื่อนผู้ชายกูคนนึงใช้ เรา เว้ย แม่งไม่เกย์ด้วยสัส หน้าแม่งตี๋ๆขาวๆหล่อยังกะคุณชาย ตัวแม่งก็ล่ำ แต่พออยู่กะพวกกูเป็นลูกหมาให้แกล้งเลยสัส มันไม่สู้คน กูว่าผู้ชายที่ใช้ เรา ในสังคมม.ปลาย ก็คงเป็นแบบมันนี่ล่ะ กูว่าก็ใช้ได้อยู่ ถ้าจะเขียนตัวละครประเภทนี้

ฉัน นาย นี่แทบไม่เคยได้ยิน ฉัน นี่กูได้ยินจากเด็กผู้หญิงไม่ค่อยเต็มบาทคนนึงใช้ นอกนั้นไม่เคยได้ยินจากปากใคร นาย นี่กูกับคนอื่นๆใช้บางครั้งเวลาเรียกเด็กผู้ชายห้องอื่นที่ไม่สนิท แต่พอรู้ชื่อแล้วก็มึงกูอย่างเดียว เอ็ง ข้า นี่พอมีบ้าง ใช้ในสังคมเด็กห้อง 7 8 9 10 รึท้ายกว่านั้น คนที่ใช้ส่วนมากจะเป็นเด็กแก๊งค์ เด็กแว๊น อันธพาล เสือผู้หญิง ในห้องเหล่านั้น ใช้เรียกเด็กห้องอื่นที่ไม่สนิทเพื่อให้ดูสุภาพ แบบเถื่อนๆขึ้น

ผู้ชายเรียกผู้หญิง ถ้าไม่ใช้ชื่อ ส่วนมากจะใช้เธอ ในกรณีที่ไม่สนิท ถ้าสนิทบางทีก็ใช้มึง กู ผู้หญิงเวลาใช้สรรพนามแทนตัวเองนี่มีแค่ เรา เค้า กู อย่างเดียว มีอีกประมาณ 5% ใช้ชื่อตัวเองเป็นสรรพนาม ส่วนฉันนี่ อย่างที่บอกไป มีแต่คนไม่เต็มบาท ไม่ก็เด็กเนิร์ดชอบฟ้องครูเสียงแหลมๆหน้าปุๆใช้

หนู ผม มีบ้างในกรณีคุยกับครู หายากหน่อยก็กับรุ่นพี่ ผม นี่บ้างครั้งก็ใช้กับเด็กต่างโรงเรียนที่เพิ่งเจอกันบางครั้งด้วยเหมือนกัน ส่วนดิฉัน ถ้าไม่ใช้ในงานพรีเซ้นรึอะไรนี่ๆไม่มีแน่นอน ตัวละครแนวคุณหนูที่ใช้สรรพนามนี้บอกเลยแม่งกาก

กูอ่านแล้วหงุดหงิดทุกครั้งเวลาเจอนิยายแนวเลิฟคอมรั้วโรงเรียนเซ็ตติ้งประเทศไทย แต่ใช้สรรพนามแปลกๆ เอาจริงๆเมืองนอกที่ใช้ๆ I กันนี่กูก็รู้สึกว่าเป็นคำว่า เรา มากกว่าฉันว่ะจากประสบการณ์กูนะ

59 Nameless Fanboi Posted ID:q9LYRaQev

กูลืมไป มันใช้ ชั้น กันด้วยแต่เป็นประเภท occasion สำหรับพวกซึนๆส่วนมากมันจะใช้กัน คนธรรมดานานๆทีก็ใช้เหมือนกัน แต่ปกติใช้โดยผู้หญิงเรียกผู้หญิง มีใช้คะยกับเพื่อนผู้ชายด้วยบางครั้ง

กูสรุปสัดส่วนออกมาคร่าวๆ มึง-กู 40% เรา-เค้า 30% ชั้น 20% 5% ใช้ ข้า-เอ็ง อีก 3% ใช้ชื่อตัวเอง 1.5% ใช้พวก ผม คุณ และ 0.5% ใช้ ฉัน

60 Nameless Fanboi Posted ID:5xJXn5XBX

มันน่าจะแล้วแต่สังคมด้วยเปล่า
น้องเราอยู่โยธิน มึง กู ตลอด (ญ)
เราอยู่มหิดลวิทย์ จะใช้ เรา/ช่ื่อเล่น เธอ นาย แก (ถ้าสนิท)
อันนี้เป็น ญ-ญ ญ-ช ช-ญ นะ ผู้ชายเรียกกันเองลับตาผู้หญิงไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ว่าต่อหน้าเรามี กูมึงบ้าง แต่ไม่มาก ต้องสนิทมากจริง ๆ (พวกกลุ่มที่เล่นเกมด้วยกัน ยืม ckid อ่านทุกสัปดาห์อะนะ - กูก็ร่วมวงยืมด้วย) ที่เหลือเป็น เรา-แกมากกว่า

61 Nameless Fanboi Posted ID:jcV.Qc4dh

>>56 ไม่ใช้อะ มันแปลกขนาดนั้นเลยเหรอ ;-;

62 Nameless Fanboi Posted ID:T5zu+qXX0

พูดถึงสรรพนาม กูใช้ปนๆกันไปว่ะ กูมึงบ้าง เองเค้าบ้าง(มาจากตัวเองแต่ดูแมนๆกว่า ใช้กับผช.ซะส่วนใหญ่) เตงเค้า(ใช้เวลาคุยกับเพื่อนผญ.น่ารักๆ) แกกับชั้นก็มี ล่าสุดมีเพื่อนผช.เรียกกูว่าเธอ รู้สึกนุ่มนิ่มสัสๆไม่เคยโดนเรียกแบบนี้ปกติเรียกแต่ชื่อกูกันทั้งนั้น

63 Nameless Fanboi Posted ID:HJDaO83GX

>>58 เหมือนกูเลย เพื่อนผญใช้เรา-นายกับกู อันนี้สมัยมอต้น
กูยังงง มานายๆห่าไรกับกู เมากาวหรอ
แถมรรกูหญิงล้วนด้วย
ถ้าเพื่อนผชที่เห็นมีใช้กันก็มี เรา-(เรียกชื่อ) ชั้น-แก ที่มุ้งมิ้งๆก็เรียกชื่อตัว /เขิน อันนี้ผชแนวเรียบร้อยๆ สุภาพชิบหาย

64 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

ถามเพื่อนโม่งหน่อย คำว่า"แถม" นี้ฟังโบราณมั้ย แบบของ"แถม" งี้ ธีมนิยายกุเป็นแฟนตาซียุคกลาง ถ้าไม่ใช้คำว่า"แถม" มันมีคำแทนมั้ยอ่ะ

65 Nameless Fanboi Posted ID:gJYLzR.uI

เราจะรู้หรือค้นได้ยังไว่าศัพท์​นี้มันเป็​น​คำยุคเก่า​ยุคใหม่ เริ่มใช้เมื่อไหร่​? อย่างเพื่อนโม่งข้างบนบอกว่า สิทธิ์​เป็นคำใหม่​ นี่กูก็เพิ่งรู้
ถ้าเป็น​คำอังกฤษ​ยังพอค้นประวัติ​ที่มายุคสมัยได้​ แต่ของ​ไทย​สืบค้นยากชะมัด​
อีกอย่าง สมมุติ​เซ็ตติ้งยุโรปยุคกลางหรือยุควิค​ตอเรีย​ ถ้าไม่ใช้คำทักทายว่า สวัสดี​ (เพราะ​คำนี้เพิ่งยุคจอมพลป.) จะใช้คำไหนแทน?

66 Nameless Fanboi Posted ID:ENrdGWVaw

กูว่ามันยากนะ กับการที่รู้ว่าคำไหนโบราณใช้ได้รึเปล่า อย่างสิทธิงี้ กูว่ามันก็ไม่ได้ดูใหม่นะ มันมาจากบาลีสันสกฤตป่ะ

คือยังไง มันจะแปลกนะ ถ้ามึงมีเซตติ้งสมัยวิกตอเรียแล้วต้องใช้คำพูดภาษาไทยที่ใช้ในสมัยนั้น งี้ถ้ากูเขียนยุคกลางนี่จะต้องใช้คำพูดแบบไหนอ่ะ มันเก่ากว่าสุโขทัย อยุธยาอีกนะ ถ้ามึงจะยึดตามไทม์ไลน์ของภาษาไทยไม่ต้องใช้คำไทยแท้ทั้งหมด แล้วพูดกูมึงเหรอ คำว่าฉันก็ไม่มีป่ะะะ
ยิ่งถ้าเทียบกับประวัติศาสตร์จีนก็ยิ่งไปกันใหญ่

"เมื่อชั่วเอดดาร์ด สตาร์ก แดนเหนือนี้ดี" งี้เหรออ (ไม่ได้ลบหลู่ใครหรืออะไรทั้งสิ้น ยกตัวอย่างให้ฟังเท่านั้นสำหรับประโยคนี้ ถ้าไปบังเอิญตรงกับประโยคจริงที่ไหน คือบังเอิญ)

กูว่านิยายมันเป็นแค่ฟีลลิ่ง การที่มึงคิดว่าคำนี้ไม่ใช้ในสมัยนั้น (ไม่นับคำใหม่จริงๆอย่างคอมพิวเตอร์ ซึ่งเอาจริงก็ไม่น่าจะไปโผล่ในนิยายย้อนยุคที่ไหน) มันเป็นเพราะว่านิยายเรื่องอื่นๆเค้าไม่ใช้กัน แค่นั้นแหละ

ถ้าเป็นภาษาอังกฤษอ่ะว่าไปอย่าง อย่างโทลคีนงี้ เค้าก็ใช้คำอังกฤษแท้เยอะ แต่ของเรามันแปลมาแล้ว มึงจะมาไล่ไทม์ไลน์มันคงไม่ได้อ่ะ

67 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

>>66 ว่าจะทำแบบนั้นแต่กลัวโดนโม่งนินทา

68 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

กูว่าต้องแยกให้ออกก่อนดีมั้ย ว่าปัญหาที่เจอนี่มันคือการใช้ภาษาผิดสมัยผิดวัฒนธรรม ผิดบริบท ผิดอารมณ์ หรือว่าผิดกับระดับภาษาของทั้งเรื่องกันแน่

สำหรับกู ถ้าผิดสมัยผิดวัฒนธรรมแบบเห็นชัดๆก็คือพวกที่เอาคำทักทายแบบสวัสดีค่ะ ดี อะไรงี้ไปใช้ในเรื่องแนวโบราณหลายเรื่องที่มันไม่ได้มีการทักทายแบบนั้นเลย อย่างบ้านเรายุคก่อนหน้าอันนี้ก็ไม่ได้ใช้สวัสดี ถ้าเด็กทักผู้ใหญ่ก็คือบอกว่ากราบผู้ใหญ่เลย ถ้ารุ่นอ่อนกว่าก็รับไหว้ หรือถามว่าไปไหนมา กินข้าวกินปลาหรือยัง อะไรพวกนี้ ซึ่งถ้าพวกแบบนี้มันผิด กูมองว่าปัญหาอยู่ที่คนเขียนทำการบ้านไม่พอ ไม่เข้าใจวัฒนธรรมว่ะ

ถ้าผิดบริบท ให้ยกตัวอย่างแบบชัดๆก็ยุคเดียวกับข้างบน แต่เจอผู้ใหญ่แทนที่จะใช้ว่ากราบหรือไหว้ ก็บอกว่า 'ธุ ท่านเสีย อะไรแบบนี้ ทั้งที่คนที่ถูกบอกไม่เด็กขนาดนั้นหรือไม่ก็เป็นครอบครัวที่เป็นทางการแท้ๆ อันนี้คือเข้าใจว่าวัฒนธรรมคือต้องไหว้ แต่ดันเลือกใช้คำที่เป็นทางการเหมาะกับสถานะครอบครัวและสภาพแวดล้อมไม่ได้ คือผิดบริบทในความคิดกู

ส่วนผิดอารมณ์ อันนี้อธิบายยาก แล้วแต่จริตด้วยว่าเป็นไงมาไง บางทีก็สถานการณ์เดิม แต่สำหรับกู แค่ใช้คำว่า "เข้าไปกราบท่านเสียสิลูก" "มากราบท่านเสียสิ" แต่ทีนี้ประโยคหลังให้อารมณ์แนวๆคุณหญิงท่านผู้หญิงที่นิสัยหวานๆพูด กูก็จึ้กๆล่ะ เพราะรู้สึกว่าทำไมคนนิสัยหวานๆพูดห้วนจัง ผิดกับอารมณ์ที่พยายามบรรยายมาจัง อะไรแบบนี้

สุดท้ายคือผิดระดับภาษาของตลอดเรื่อง อันนี้น่าจะปัญหาที่เจอกันบ่อย คือบางช่วงใช้คำเป็นแนวๆโบราณ ใช้ข้าใช้เจ้าใช้ท่าน พูดเจ้าคะ ขอรับ แต่เวลาบรรยายดันบอกว่า "เรือนร่างอรชรของหญิงสาวโสภาร่วงหล่นพรวด จนร้องว๊าย" อะไรแบบนี้จะเห็นว่ามันไม่ได้ใช้คำใหม่ แต่มันใช้คำแบบกระโดดกับระดับคำอื่นในประโยคเดียวกันมากมาย ซึ่งเอาจริงๆมันคงไม่ได้กระโดดแบบเห็นชัดในประโยคหรอก แต่เห็นหลายๆเรื่องแล้วว่าทั้งเรื่องมันคุมให้อยู่ระดับเดียวกันตลอดไม่ได้ไง (ซึ่งถามส่วนตัวกูว่าจำเป็นต้องระดับเดียวกันหมดมั้ย ก็ไม่ แต่ช่วยให้มันเนียนๆอย่ากระโดดมากเหอะ)

เอาล่ะ สรุปสำหรับกู กูมองว่านี่ไม่ใช่ปัญหาแค่ว่ามีคำไทยแท้ไม่แท้ หรือสมัยนั้นมีคำนั้นมั้ย มันคือปัญหาความเข้าใจ และปัญหาในเรื่องการเขียนที่คนเขียนต้องพยายามเขียนดึงอารมณ์คนอ่านให้ไม่สะดุดให้ได้ แต่คนที่ทำแบบนั้นได้ก็คือคนที่เข้าใจระดับคำ สเกล+อารมณ์เรื่องตัวเอง อะไรแบบนี้ดีอยู่นั่นแหละ

69 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

อีกนิดหนึ่งจากข้างบน

อย่าง >>65 ถามเนี่ย กูมองว่าคำว่าสิทธิ์เนี่ย มันเพิ่งมีมาเพราะคนตื่นตััวสมัยไหนไง เหมือนที่คำว่าลิขสิทธิ์ก็เพิ่งมาสำคัญเอายุคหลังๆนี่เอง ถ้าเป็นสมัยสุโขทัย ที่การเมืองยังไม่สมตติเทพเท่าอยุธยา แต่ในไทยก็ยังให้ความสำคัญกับผู้ใหญ่ตัดสินใจมากกว่า มันก็ไม่น่ามีการตื่นตัวเรื่องสิทธิ์ ส่วนสมัยอยุธยาอะไรแบบนี้มันเป็นสมมติเทพฯ ซึ่งคำว่าสิทธิ์ควรจะมีอย่างสิทธิ์ในการสืบบัลลังก์อะไรงี้ใช่มะ แต่ลองคิดดูว่าพอใช้คำงี้มันไม่ศักดิ์สิทธิ์เอาซะเลย ส่วนมากเขาก็จะใช้คำว่าความชอบธรรม หรืออะไรอื่นๆที่ดูศักดิ์สิทธิ์กว่าจะได้ขลังๆ และจะได้ชักนำคนมากกว่าอะไรแบบนี้ ก็เท่ากับว่าคำแต่ละคำมันมีความสำคัญในสมัยไหนยังไง มันถึงได้ปรากฎตัวราวๆนั้นแหละ

แต่พวกนี้ก็เป็นความคิดส่วนตัวกูนะ คนอื่นอาจมีความเข้าใจ หรือเทคนิคอะไรแบบอื่นก็ได้

70 Nameless Fanboi Posted ID:ENrdGWVaw

กู 66
อ่านแล้วไม่สะดุดเป็นพอสำหรับกู กูว่าไม่ต้องไปถึงขนาดหาทีละคำๆว่ามันอีคำนี้มันเกิดตอนไหน (เพราะมึงหาไม่เจอหรอก) ทางแก้คือ มึงไปหาหนังสือที่สำนวนดีๆมาอ่านดีกว่า เอาสำนวนพวกนั้นฝังเข้าไปในหัวมึง ทับถมๆไปเดี๋ยวมันก็ได้ไปเองอ่ะ ไม่งั้นหาทีละคำๆเมื่อไหร่มึงจะเขียนเสร็จคะ

71 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

มึงนี่ธีมโบราณนะ น้องพูดกับพี่ ใช้แทนตัวเองประมาณไหน สมมุติประโยค "คารวะท่านพี่สิบเอ็ด 'ข้า'ว่าจะไปเยี่ยมท่านพี่ที่ตำหนักพอดี"
อีกคำว่าข้ามันก็ดูทะแม่งๆ สำหรับกู ช่วยชี้แนะด้วย

72 Nameless Fanboi Posted ID:IgHkcusfw

>>71 ไม่เห็นแปลกเลย
แต่กูเป็นคนไม่เรื่องมาก ถ้าไม่ประหลาดจริง ๆ จะไม่ค่อยรู้สึก หนูทดลองอะไรนั่นยังเฉย ๆ

73 Nameless Fanboi Posted ID:74u12eCVo

>>71 ใช้เป็นคำว่า ผู้น้อย ก็ได้มั้งคะ

74 Nameless Fanboi Posted ID:Iao3y.JjB

>>71 กูว่าไม่แปลกนะ ที่มึงคิดว่าแปลก เป็นเพราะมึงผูกติดอยู่กับระดับภาษาที่ว่าต้องใช้คำในลักษณะนี้กับคนยศสูงกว่าบลาๆๆ อะไรหรือเปล่า มึงงงงง มันธีมโบราณ ทำเนียบภาษามันไม่ได้เจ้ายศเจ้าอย่างขนาดนั้นมะ ข้าก็เท่ากับฉัน เท่ากับหนูนี่แหละมึง มันไม่ได้แปลกหรอกกกก

75 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

>>74 กูเห็นด้วยกับ 71 นะ เขียนธีมโบราณที่ให้ความสำคัญกับชนชั้นฐานะยศ แต่ไม่ให้ความสำคัญกับคำแทนตัวนี่แปลกนะ

76 Nameless Fanboi Posted ID:FWt5M.5B7

>>74 คนพูดมันนับพูดพี่มันไง

77 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

กู >>75 นะ มาเพิ่มให้อีกว่า ถ้าเอาจริงๆจะบอกไม่แปลกได้มั้ย ก็ได้อยู่ถ้าใช้กับสนิทๆกัน อย่างที่เห็นนี่ไปเยี่ยมตำหนักนี่ก็น่าจะสนิทกันใช่มะ ? เออ ถ้าสนิทแล้วมาแทนตัวว่าเปิ่นกงหรือไรงี้คงแปลกๆแทนแหละ แต่มันก็จะตงิดใจอีกที่สนิทกันแล้วเจอหน้ากันยังคารวะกันอย่างเป็นทางการซะขนาดนั้น ตกลงจะสนิทกันหรือไม่สนิทกันแน่

คือกูอาจคิดมากไปก็ได้ แต่กูเขียนงานโดยมีความเชื่อว่าคนเขียนเป็นคนที่บอกลักษณะตัวละคร ฉากหลัง ทุกสิ่งอย่างในเรื่องผ่านคำเล็กคำน้อยพวกนี้แหละ มันเป็นคีย์เวิร์ดให้คนอ่าน บางคนไม่คิดไม่รู้สึก แต่คนที่คิดที่รู้สึกก็น่าจะมี แล้วคนเขียนจะเขียนให้เขาอิน ให้เขารู้สึกได้มั้ย มันก็ขึ้นอยู่กับเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้นะ

78 Nameless Fanboi Posted ID:2OIAEFX0L

>>76นับถือ เชี่ยกุพิมพ์ตก

79 Nameless Fanboi Posted ID:9rILr7OMw

>>77 คารวะสำหรับยุคนั้นก็แค่สวัสดีเปล่า

80 Nameless Fanboi Posted ID:ENrdGWVaw

กูเห็นด้วยกับ >>79
ไม่คารวะมึงจะให้พูดคำว่าอะไร แล้วถ้าจะใช้ภาษาไทย แม่งไม่มีอะไรที่ดีกว่าข้าแล้ว ในสายตากูนะ
ส่วนตัวกูไม่ชอบคำว่าเปิ่นกง 5555 แบบถ้าจะแทนตัวจีนก็แทนไปเลยย แทนให้หมดเลย แบบกูกูสมัยนู้น ที่ใช้ถอดเสียงจีนแทนตัว

81 Nameless Fanboi Posted ID:aD3VBM+Lv

>>79 เท่าที่กุดุซีรีย์มาา มันเจอหน้ากันก็พูดแบบนี้นะ จอมยุทธเจอหน้ากันงี้หวัดดีพี่น้องร่วมสาบาน "คารวะพี่ใหญ่"

82 Nameless Fanboi Posted ID:bY/5Hq1o+

>>80 เปิ่นกงน่าจะไม่ได้นะ เปิ่นมันใช้กับคนที่ต่ำกว่า ให้อารมณ์ประมาณถือตัวด้วยนะ ใช้กับตอนที่ผู้พูดต้องการเน้นว่าฉันใหญ่กว่าเธอนะจ๊ะ จงยอมซะดี ๆ ปะ ปกติก็น่าจะข้านั่นแหละ

83 Nameless Fanboi Posted ID:Iao3y.JjB

>>80 จริงมึง ภาษาไทยมันไม่ได้มีแบ่งยิบย่อยขนาดของจีนพรรค์นั้นอะ ข้าคือสรรพนามที่โอเคที่สุดแล้วในพวกนิยายย้อนยุค เออ แต่ถ้ามี มันก็แบบไท้ไทย (อย่างในเรื่องบุพเพสันนิวาสงี้) ซึ่งเอาไปใส่ในนิยายจีนไม่ได้แน่ๆ แต่ถ้าจะใช้พวกเปิ่นกง นูปี้ เจิ้น บลาๆๆ คนเขียนต้องอธิบายและทำความเข้าใจกับคนอ่านไว้ก่อนอะ เดี๋ยวงง

84 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

>>77 ที่กลับมาตอบนะ เออ ส่วนมากสมัยก่อนเจอหน้าก็คารวะแทนสวัสดีจริงๆนั่นแหละ ไม่ผิดๆ

ส่วนเรื่องความสงสัยว่าสนิทกันขนาดไปหาที่ตำหนักโดยไม่ต้องส่งคนไปบอกก่อน แล้วเจอหน้ายังทักทายแบบนี้อะไรนี่กูอาจจะคิดมากไป นี่ไม่ใช่ประโยคเต็มหรืออ่านมาทั้งเรื่องด้วย

เรื่องคำแทนตัวก็อย่างว่ามา สำหรับบริบทอันนี้ที่คุยกันคงเหมาะที่สุดแล้ว

ขอบคุณที่มาแลกเปลี่ยนความเห็นกันนะ

85 Nameless Fanboi Posted ID:6XIelJpGH

กุคนถามเอง กุแค่สมมุติขึ้นมาไม่ได้คิดเรื่องก่อนหน้า แค่จะถามว่ารุ่สึกแปลกไหม เอง โน้มรับที่ดม่งแนะนำทุกคน เดี๋ยวไปลองให้หมด แล้วจะโผล่มาใหม่

86 Nameless Fanboi Posted ID:6XIelJpGH

น้อมรับ เชี่ยพิมพ์ผิดอีกละ

87 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

กุเพิ่งค้นพบว่าตัวเองใช้คำว่าอนุญาตผิดมานาน ใช้เป็นอนุญาติมานาน ความหมายเปลี่ยนไปเลย

88 Nameless Fanboi Posted ID:Iao3y.JjB

>>87 อ.ของกูเคยแปลอนุญาติแบบขำๆ แซ็วพวกที่ชอบใช้ผิดว่าญาติผู้น้อยอะ หลังจา่กนั้นกูจำไม่ลืมและไม่เคยใช้ผิดอีกเรยยยยย

89 Nameless Fanboi Posted ID:6XIelJpGH

สังเกตกูก็ใช้ผิด เป็นสังเกตุมาตลอด
ภาษาไทยซับซ้อนกว่าที่คิด555

90 Nameless Fanboi Posted ID:5blsJMIU5

กูใช้วิจารณ์ เป็นวิจารย์มาตลอดเหมือนกัน โชคดีที่ไม่ค่อยได้เขียนคำนี้ในนิยายนัก

91 Nameless Fanboi Posted ID:C4MaLD8fo

ริอาจ ❌
ริอ่าน ✔

92 Nameless Fanboi Posted ID:xvq83.aAq

มึงทำไมนิยายไทยที่ใช้ตัวละครตะวันตกชอบตั้งชื่อตัวละครเป็นเซตวะ คือปกติกูก็แต่งนิยายอยู่บ้างนะมึงเลยพอจะรู้จักคนที่แต่งนิยายคนอื่นๆเหมือนกัน แล้วมันมีเด็ก(ซึ่งไม่เด็กหรอกแค่อ่อนกว่ากู)​เอานิยายมาให้กูอ่านแล้วบอกให้วิจารณ์หน่อย กูก็วิจารณ์​ไปตามเรื่องตามราวแล้วกูก็แค่เปรยๆไปว่าชื่อตัวละครแต่ละครอบครัวมันคล้ายๆกันหมดเลยเนอะ (สมมุตินะถ้าพ่อชื่อแองเจลโล่ ลูกก็ชื่อแองเจลา กับแองเจลิก้า แองเจรีส ทำนองนั้น)​นางก็ขึ้นหน่อยๆแล้วบอกว่าก็มันครอบครัวเดียวกัน... คือกูอยากจะบอกนางอะว่าฝรั่งจริงๆเขาไม่ได้ชื่อคล้ายพ่อแม่ขนาดนั้น แต่นางก็ไม่ฟังกูละ

93 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

>>91 ว้ายกุใช้คำนี้ผิดมาตลอด

94 Nameless Fanboi Posted ID:/foweEEzL

>>92 คนรู้จักกูหลายคนละชื่อคล้ายพ่อแม่ ฝรั่งไม่ได้เป็นแบบมุงคิดทุกคน

95 Nameless Fanboi Posted ID:q1wqLJM8E

>>94 ชื่อคล้ายมันก็มีไงมึงบางคนเขาก็เอาชื่อพ่อแม่มาผสมกันบางคนเขาก็ตั้งชื่อลูกให้คล้ายกับพ่อแม่แต่ที่กูเห็นแต่งมาคือแม่งมีลูกห้าคนก็ชื่อคล้ายกันหมด ทุกครอบครัวต้องมีธีมชื่ออะมึงซึ่งมันไม่ใช่ไง ฝรั่งส่วนมากที่กูเห็นว่าชื่อคล้ายพ่อแม่จะเป็นลูกคนแรกวะ ส่วนคนหลังๆเหมือนไม่เห่อเท่าไหร่ละเลยตั้งชื่อแบบอื่นไป

96 Nameless Fanboi Posted ID:rtROjhSxi

>>95 แต่มันก็ไม่ผิดปะ ถ้าคนแต่งจะตั้งแบบนั้น?

97 Nameless Fanboi Posted ID:q1wqLJM8E

>>96 ก็กูก็ไม่ได้ว่าอะไรไงเขามาให้กูวิจารณ์​กูก็วิจารณ์​ไปตามความคิดกู คือแบบบางทีปมชาติกำเนิดตัวละครเป็นความลับงี้แต่กูอ่านชื่อกูก็เดาได้ละว่ามันเป็นใครกูเลยอยากวิจารณ์​ไปตรงจุดนี้ไงมึง

98 Nameless Fanboi Posted ID:q1wqLJM8E

กุต่อ>>97 กุลืมยกตัวอย่าง คือมันมีบทที่มีตัวร้ายเป็นผู้ชายมีโมเมนต์กับนางเอกหน่อยๆแต่ไม่เคยเฉลยว่าเป็นใครคนแต่งจะไปเฉลยช่วงใกล้จบแต่กูอ่านชื่อกูก็ฟันธงไปละไอ้นี่ไม่พี่ก็น้องนางเอกชัวร์ไรงี้ กูเลยอยากให้คนแต่งลองชื่อที่มันหลากหลายอีกนิดวะ

99 Nameless Fanboi Posted ID:giNr/iKUz

>>98 คิดในแง่ดีมันจงใจ ในแง่ร้าย มันหาชื่อในเว็บเดียวกัน แล้วชื่อมันอักษรเดียวกันขี้เกียจหาอักษรอื่น

100 Nameless Fanboi Posted ID:coZzbT5+9

>>92 ในฐานะกุคนเขียนแนวที่มึงว่า...
กุขี้เกียจคิด โอเค๊!? โดยเฉพาะตัวประกอบงี้ บทออกมาแค่นิดเดียวกุยิ่งขี้เกียจคิดชื่อเลย ถ้าไม่ใช่ตัวหลักสำหรับดำเนินเรื่องนี้กุเองก็ตั้งส่งๆ เหมือนกัน เผลอๆ ใช้เว็ป name generator ตั้งให้เลยซะด้วยซ้ำ
การตั้งชื่อมันไม่ใช่ว่าจะหาแค่ชื่อเก๋ๆ นะ มึงต้องมานั่งหาความหมาย ซึ่งส่วนใหญ่ควรจะตรงกับลักษณะและนิสัยของตัวละคร ก่อนที่จะไปหามาเป็นชื่อตั้ง ซึ่งถ้าให้กุตั้งแบบประณีตกับตัวประกอบทุกตัวล่ะก็ กุตาย!!

101 Nameless Fanboi Posted ID:F1/6v9wxN

>>100 ทำไมชื่อต้องเข้ากับนิสัยวะมึงอันนี้กูไม่ได้กวนนะ คือถ้ามองว่านิยายคือโลกใบหนึ่งคนตั้งชื่อตัวละครมันก็พ่อแม่ ไม่ก็คนเลี้ยงตัวละครปะ มันไม่ได้รู้สักหน่อยว่าโตมาตัวละครโตมาจะนิสัยยังไง อย่างเพื่อนกูแม่งชื่อโคตรสาวความหมายคือหญิงงามเรียบร้อย อินี่ยังเป็นทอมมีเมียตีกับผู้ชายอยู่เลย

102 Nameless Fanboi Posted ID:jBqpGimzW

>>101 แต่นิยายส่วนมากก็ประมาณนี้จะ มันทำให้คนจำคาร์ตลคได้ง่ายขึ้นไง
อย่างพระเอกต่ำต้อยชอบมีชื่อประมาณดิน ปฐพี
หรือดาว เดือน จะเป็นพี่น้องที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้ากันงี้ (ข่มแสงกัน)
คือถ้าชื่อมีความหมายก็ต้องตรงกับลักษณะซักอย่างของตลค. ไม่งั้นก็ต้องนิสัยตรงข้ามชื่อไปเลยก็มี

103 Nameless Fanboi Posted ID:coZzbT5+9

>>101 อันนี้กุใช้คำผิดเองที่ไปเขียนว่า "นิสัย (Personal)" ต้องบอกว่ามันคือ "คุณลักษณะ (Alignment)" สิ

ที่จริงแล้วไอ้การตั้งชื่อมันสำคัญก็แค่ความหมายนั่นล่ะ

แต่กรณีของกุนี่ติดมาจากสมัยเล่น Boardgame ไง เวลากุสร้างตัวละครมา 1 ตัว กุจะกำหนด Alignment ก่อนเลยว่าจะให้เป็นแนวไหน Good , Neutral , Evil เป็นพวก Lawful , Neutral , Chaotic เสมอ ซึ่งกุก็จะพยายามตั้งชื่อให้ตรงกับ Alignment ของตัวละครตลอด ต้องมานั่งหาความหมาย หาชื่อที่เข้าท่า ซึ่งกว่าจะได้ซักตัวนี่กุแทบจะหัวระเบิด

104 Nameless Fanboi Posted ID:JRuAA3jSQ

กูเลือกชื่ออะไรก็ได้ที่กูชอบ แบบจิ้มๆตามเว็บชื่อเก๋ๆอ่ะ พิมพ์ง่ายไม่ต้องกดชิพ แค่นี้กูพอใจแระ

นักเขียนบางคน กูเคยเจอ แม่งจงใจตั้งชื่อยาวๆเว่อๆ อารมแบบ พิศยมลธาราทอง อะไรประมาณนี้เพราะคิดว่าไฮโซและโกงจำนวนอักขระเวลาพิมพ์

105 Nameless Fanboi Posted ID:0ohdNag0f

>>104 แล้วย่อเหลืออีทองปะ

106 Nameless Fanboi Posted ID:S4fMuLvOF

>>101 อันนี้ถ้าตามที่กูเรียนพวกวิแคะวรรณกรรมมา บางทีมันเป็นคลูหรือเป็นสารจากคนเขียนบอกใบ้ถึงลักษณะนิสัย ชะตากรรม ที่มา หรือกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ของตัวละครน่ะนะ ในไทยก็มีให้เจอบ้างในนักเขียนรุ่นเก่า ส่วนทางฝั่งฝรั่ง กูไม่รู้ว่าแฮร์รี่นี่นับได้ไหม อย่างนามสกุลของรอน วิสลีย์มันก็มาจากตัววีเซิลมะ แล้วตัววีเซิลขนมันก็สีแดงกับผมของคนในบ้านนี้อะ (เคยอ่านเจอมา) อย่างซีบิล ทรีลอว์นีย์ อาจารย์สอนพยากรณ์ ชื่อซีบิลคือชื่อนักพยากรณ์ในวิหารของเทพอพอลโล ซึ่งก็สอดคล้องกับวิชาที่ซีบิลสอนในเรื่อง

107 Nameless Fanboi Posted ID:Zd5ckROPp

>>106 ถ้าของแฮรี่มีเยอะมาก

ลูปินเป็นชื่อหมาป่า

ซีรีอัสเป็นชื่อกลุ่มดาวหมาป่า
เจเคซ่อนคำใบ้ไว้ในชื่อตัวละครเยอะมาก

108 Nameless Fanboi Posted ID:tp5z6abkB

นี่ตั้งชื่อจากความหมายที่ชอบแล้วลองเรียกตัวละตครด้วยชื่อนั้นดูว่ามันเหมาะไหม ถ้าเหมาะก็ผ่าน ถ้าไม่เหมาะก็หาต่อไป

109 Nameless Fanboi Posted ID:S4fMuLvOF

>>107 ตรงชื่อรีมัสก็ด้วย รีมัสเป็นชื่อหนึ่งในฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม ซึ่งแฝดคู่นี้ได้รับการเลี้ยงดูมาจากนางหมาป่า ความจริงคือมีเยอะอะ ของพวกนักเขียนตปท.อะนะ แต่ของไทย อืม อย่างเรื่องจันดารานี่นับไหมอะ พระเอกชื่อจัน มาจากจัญไร เพราะพ่อเลี้ยงตั้งให้จากความเกลียดชังส่วนตัวที่เป็นเด็กที่เกิดจากการที่แม่ถูกข่มขืน หรืออย่างชื่อนางเอกเรื่องคุณชายธราธร ที่นางเอกชื่อระวีรำไพ ก็เพราะพ่อชื่ออาทิตยรังสี วึ่งมันเหมือนเป็นกิมมิคเล็กๆ ที่ผู้เขียนใส่ไว้ไหมวะ ว่าเจ้าสมัยก่อนนิยมตั้งชื่อลูกเป็นเซ็ตๆ ไม่ให้ต่างจากพ่อแม่นัก โดยรวม ชื่อตัวละครสำหรับนักเขียนหลายคน มันอาจจะทั้งแฝงความนัยหรือไม่แฝงก็ได้อะ บางคนก็เลือกเอาตามสบายใจ แต่บางคนเขาก็คิดลึกกว่านั้น ประมาณนี้แหละ

110 Nameless Fanboi Posted ID:Jt6F6UJkI

ชื่อตัวละครกุนอกจากตัวเอก กุจะตั้งแต่หาความหมายตรงกับปมในเรื่อง(ไม่คิดว่าคนอ่านจะหาความหมาย) แล้วตัวรองสุ่มแม่งหมด555

111 Nameless Fanboi Posted ID:+L5.XWclc

กูตั้งโดยคิดว่าตัวเองเป็นพ่อเป็นแม่ตัวละครนั้น หรือเป็นคนที่ตั้งชื่อให้จริงๆเลยอ่ะ จะตั้งว่าไงว่ะ อย่างถ้าพื้นหลังตัวละครเป็นกำนันหมู่บ้านเมื่อ 50 ปีก่อน คงไม่ตั้งชื่อลูกสาวว่าอริสราหรอก ถ้าตั้งเองชื่อนี้นี่ก็จะสงสัยพื้นเพกำนันมาก ว่ากำนันต้องเป็นคนเมืองแน่ๆ <<<< อะไรราวๆนี้

112 Nameless Fanboi Posted ID:anjWaU5HK

พวกมึง เวลาแต่งนิยายที่ต้องใช้ฉากต่างประเทศ หรือเกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ไปหาข้อมูลที่ไหนกันวะ ถ้าจะสัมภาษณ์จากคนที่เคยไปประเทศนั้นๆ หรือเคยทำงานเป็นอาชีพที่เราอยากรู้ ต้องจ้างเขามั้ย

ปล.ไปถามมู้นักวาดมา เขาบอกให้มาที่นี่ หุหิ

113 Nameless Fanboi Posted ID:NM/GKF90h

>>112 ฉากกุอาศัยดูหนังและก็กระทู้ท่องเที่ยว บล็อก ดูรูปภาพแล้วบรรยายเอา ส่วนอาชีพกุอยากรุ้เหมือนกัน เคยคิดจะตั้งกระทู้พันทิปให้คนมาแชร์ชื่อตำแหน่ง จ้อบดิสคริปชั่นตอนสมัครงาน และขอบเขตงานเวลาได้ทำจริงอยู่เหมือนกัน แต่กูป๊อดๆ กลัวพันทิปเลยไม่ได้ตั้งที

114 Nameless Fanboi Posted ID:PET3CrxOq

>>112 ขึ้นอยู่กับว่าอยากจะได้รายละเอียดลึกขนาดไหน
ถ้าลึกก็ต้องไปดูงาน ไปลองทำ หรือไม่ก็เก็บข้อมูลละเอียด แต่ถ้าเอาไม่ลึกก็ใช้วิธีมักง่ายเปิดวิกิฯ ก็พอละ

115 Nameless Fanboi Posted ID:anjWaU5HK

>>113 >>114 ขอบใจพวกมึงมาก ปกติกุใช้ google earth ดูบรรยากาศประเทศเอา 555 อย่างน้อยก็ได้ดูภูมิประเทศคร่าวๆ ขอบคุณนะมึง

116 Nameless Fanboi Posted ID:z5ERkssBE

>>112 พวกอาชีพถ้าจะได้บรรยากาศจริงๆแม่งยากนะ อย่างบางเรื่องที่แบบดีมากๆแม่งรู้สึกเลยว่า คนเขียนแม่งทำอาชีพเดียวกับตัวละครชัวร์

117 Nameless Fanboi Posted ID:+qYiabvlj

>>112 ฉากต่างประเทศกูเอาที่กูเคยเห็นมา แต่เอาจริงๆกูก็รู้อะไรไม่เยอะไปอยู่แค่ปีเดียวแถมกูยังจิตตกอาการซึมเศร้ากำเริบอีก แต่มันก็ทำให้กูได้รู้แนวคิดคนต่างชาติพอสมควร
ส่วนอาชีพกูจะชอบแต่งอะไรที่ใกล้ตัวหน่อย อย่างกูมาสายการแพทย์เพื่อนกูก็มาทางนี้เยอะกูก็จะแต่งทางนี้ ไม่ก็หาข้อมูลเอา

118 Nameless Fanboi Posted ID:a/iTcA/zj

ขอพื้นที่บ่นนิด กูตั้งใจแต่งนิยายแต่ละตอนมาก กว่าจะออกมาตอนนึงคือวางพลอตซ้อนไว้หลายชั้น นิยายกูไม่มีเรื่องรักๆเน้นเนื้อหาผจญภัย95%กุ๊กกิ๊กแบบหอมปากหอมคอ แต่คนอ่านน้อยโคตรรรรร คือคนที่เข้ามาอ่านก็มีชมนะว่าภาษาดีเนื้อเรื่องน่าสนุก พยายามจะไม่เหลิงนะแต่กูก็ดีใจแหละ แต่ในฐานะนักเขียนที่ตั้งใจเขียนก็อยากให้มีคนมาอ่านเยอะๆว่ะ เข้าไปอ่านพวกนิยายติดท็อปเพื่อศึกษาแล้วกูรู้สึกผิดแปลกมาก แม่งไม่ใช่แนวเลย และนิยายติดท็อปที่กูสุ่มกดไปแม่งมีแต่บทพูดไม่มีบรรยายพรรณาใดๆ เห็นแล้วท้อว่ะ

119 Nameless Fanboi Posted ID:HBwmkMZsJ

>>118 ไม่ใช่มึงคนเดียวที่คิดงั้นหรอก 555

120 Nameless Fanboi Posted ID:LZvOc90oZ

>>118 ยินดีด้วย มึงได้รู้สัจจธรรมแห่งวงการ Web novel แล้ว

121 Nameless Fanboi Posted ID:a8ph/04VU

>>118 เป็นกำลังใจให้มึงว่ะ ติดท็อปนี่หลายเรื่องต้องไร้สมองในการอ่าน แม่งคำผิด เรื่องก็็อปนิยายจีน มีแต่บรรยายเหมือนนิยายไทย
บวกท่าเย่แยะๆ

122 Nameless Fanboi Posted ID:IWiU.4N/Y

>>118 จริงๆ นิยายมึงอาจจะสนุกไม่พอ อาจจะแค่ ก็น่าสนุกดี มึงลองนึกถึงหนังนะ หนังประเภทที่คนบอกว่ามันก็ดี แปลว่าอะไร แปลว่าดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ เทียบกับหนังที่คนด่าฉิบหายในขณะเดียวกันก็มีแฟนคลับชอบฉิบหาย อย่างหลังคนดูเยอะกว่า มึงอยากแต่งให้คนอ่านเยอะมึงอย่าคิดเข้าข้างตัวเองมากแล้วก็อย่าอคติกับเรื่องที่คนตามมาก มึงไปทำความเข้าใจ ข้อเสียมันอาจจะร้อยแปดข้อดีมีข้อสองข้อ แต่ข้อสองข้อนั่นมันโดนคนอ่านมากกว่าข้อดีร้อยแปดของมึงก็ได้ แต่ถ้ามึงยึดว่านิยายมึงเป็นนิยายคุณภาพในแบบที่มึงอยากให้เป็นมึงก็อย่าไปซีเรียสคนอ่านมาก อย่าเอาไปเทียบนิยายคนอ่านเยอะ แนวทางมันอาจจะต่างกัน

123 Nameless Fanboi Posted ID:G8gg31+dP

กุแม่งน้อยใจกว่านิยายกุแนวค่อยๆรัก
เดิ่งจะเริ่มแม่งมีคนมาทวงnc ..
สลัดนางเอกกุยังไม่พ้นประถมเลย

124 Nameless Fanboi Posted ID:AcznQddvH

>>123 เขียนตอนพิเศษ เป็นnc ที่ตอนจบพระเอกโดนจับข้อหาพรากผู้เยาว์เบย

125 Nameless Fanboi Posted ID:ADD.iK44z

>>124 ดาร์กเลย

126 Nameless Fanboi Posted ID:hcn4vwM/Q

>>123 เหยด Loli

127 Nameless Fanboi Posted ID:DSerTq5fC

กูเป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่เคยติดท็อปเด็กดวกนะมึง ระดับ 1-5
กูแค่อัพทุกวัน อ่ะๆ กูไม่ได้อัพหลอกอัพลมนะ กูอยู่โม่ง กูก็ไม่ชอบแถมขี้เกียจอัพหลอกด้วย กูอัพวันละครั้ง ครั้งละประมาณสามสี่หน้าเอสี่ อ่ะๆ นิยายกูไม่ใช่แนวขายฉากเยนะ ดักคอไว้ก่อน

ตอนเริ่มเปิดเรื่องใหม่ๆ กูก็ท้อ ไม่มีคนอ่าน เม้นต์ไม่ต้องพูดถึงน้อยมากสำหรับกู แต่พอถึงจุดหนึ่งคนแห่มาจากไหนไม่รู้ มากันพรึ่บ ยอดฟูจนงง
เพราะฉะนั้นการอัพงานเป็นเวลาและแน่นอนจะช่วยมึงได้มาก
ส่วนเทคนิคเพิ่มยอดโดยไม่ต้องอัพหลอกมันมีเยอะแยะ จับจุดให้ได้ก็แล้วกันค่ะมึง ไม่ใช่คนอ่านงานตัวเองน้อยแล้วมาแขวะเรื่องอื่น คิดแบบนั้นมันบั่นทอนค่ะ

ปล.กูไม่แตะเรื่องสนุกไม่สนุกนะ งานใครงานมันพัฒนากันเอง

128 Nameless Fanboi Posted ID:oVgnLSQNJ

>>126 ไม่ช่ายยยย เดี๋ยวสิบตอนก็โตแล้ว

129 Nameless Fanboi Posted ID:BvZ6SeI7G

เฮ้อ ...กุอยากเปลี่ยนสไตล์การเล่าเรื่องจัง ตอนแรกไม่ทันคิดว่ามีวิธีนี้ เลยใช้วิธีเล่าแบบเก็บทุกเม็ดไปซะงั้น
พอรู้ตัวอีกทีตอนนี้ก็เขียนไปถึง 400 หน้าแล้ว ...กุควรลบแก้ใหม่หมดเลยมั้ยเนี่ย

130 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

ตอนละสิบสองสิบสามหน้าเอสี่มันเยอะไปแมะมึง แค่สามตอนแรกนิยายกูปาไปห้าสิบกว่าหน้าแล้ว= =
แม่งเพลิน ตัวละครกูมันเป็นพวกนิสัยฟุ้งซ่านเลยจัดเต็มตามความคิดนาง แม่งยาวเลย เหมือนตัวละครสิงกูให้เขียนจริงๆ

131 Nameless Fanboi Posted ID:YgOv2wjQi

>>130 ถ้าลงในเว็บกูว่าเยอะไป นอกจากซอยแบ่งตอนลง

132 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

>>131 วันหลังค่อยทำละกัน ป่านนี้นักอ่านของกุน่าจะชินกับตนยาวๆ ไปแล้ว ลงอาทิตย์ละครั้ง๕๕๕

133 Nameless Fanboi Posted ID:CGQKLqq8D

ขอก๊อปมาแปะตรงนี้นะ พึ่งรุ้ตัวว่าไปถามในเม้นที่ 999 แล้วปิดมู้เลย
ถามหน่อย คือกุเรียนมหาลัยอินเตอร์ในไทยที่มีนศ.ต่างชาติเยอะมาก ทั้งเยอรมัน ฝรั่งเศส ออสเตรีย อินเดีย อิหร่าน อังกฤษ สวิส เมกา บราซิล กินี ไนจีเรีย เดนมาร์ก ยันเพื่อนบ้าน ฯลฯ อาจารย์ส่วนใหญ่ก็มาจากยุโรป แล้วกุจะเขียนนิยายโดยอ้างอิงเซตติ้งจากม.กูเนี่ยแหละ อ่านแล้วจะรุ้สึกอินมั้ยวะ คือไม่ใช่อะไรหรอกลำพังแค่กูเล่าให้ญาติฟังว่าม.กูอย่างงั้นๆ เขาก็นึกภาพไม่ออก ไม่ชื่อว่าในไทยมีม.แบบนี้อยู่ด้วยแล้ว เขาจะติดภาพแบบว่าภาคอินเตอร์คงมีหัวทองสักสามคนในห้าร้อย ต่างชาติที่เหลือเป็นเพื่อนบ้าน 70เปอเซ็นต์เป็นไทยหมดอะไรงี้ จริงๆ จะเปลี่ยนเป็นม.คนไทยทั้งหมดก็ได้แหละ แต่กูแค่กูไม่ค่อยโปรเรื่องกิจกรรม หรือความรักสถาบัน เคารพรุ่นพี่อะไรพวกนี้ ไม่อยากจะเขียนอะไรที่กูไม่รู้ว่ะ

134 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

>>133 มอมันไม่ได้เหมือนกันทุกมอซักหน่อยไม่เป็นไรหรอก
มอกุยังต่างคนต่างอยู่เลยภาคปกติด้วย ไม่เคารพใครทั้งนั้น๕๕๕
ภาคอินเตอร์มอกูมีคนไทยเกินครึ่ง จีนอีก30% ฝรั่ง 5% นิโกร 5%
กิจกรรมก็มีร่วมกับคณะไรพวกนี้ แต่เห็นม่รับน้องละภาคอินเตอร์หรือมีเล็กๆ น้อยๆ พอหอมปากหอมคอ แต่ไม่เห็นมีถึงขั้นเต้นไก่ย่างไปมาต่อหน้าสาธารณะชน

135 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

>>133 เพิ่ม มันอยู่ที่ฝีมือการบรรยายเรื่องของมึงจะทำให้คนอินได้มั้ย

136 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

เขียนนิยายรัก แต่ไม่เคยรักใคร นี่กุโตเป็นผู้ใหญ่ละนะเนี่ย เง้อ มีใครเป็นมั่ง๕๕๕
พอแบบแต่งมาตรรกะความรักในนิยายกุเพี้ยนมาก นักอ่านว่าตัวละครกุยันเดเระชิบหาย
หรือตัวตนกุมันยันเดเระ

137 Nameless Fanboi Posted ID:.aF7Uwsqg

>>136 กุก็แก่จะตายละแต่ก็ไม่เคยมีความรักกับเขาสักที ชีวิตกุก็มีแต่ปมเต็มไปหมด พอมาแต่งนิยายรักคนอ่านก็บอกว่าตัวละครกูมันเป็นพวกมีปม ดูท่าจะลงเอยเรื่องรักๆยาก คนอ่านเลยบอกกุว่าขอจบเคลียร์​ปมตัวละครให้หมดเถอะเรื่องรักค่อยว่ากันอีกที

138 Nameless Fanboi Posted ID:FKu7hMev7

>>136 ถ้ามึงมีรัก
ระวังนิยายจะยันกว่าเดิม เชื่อกุกุผ่านมาแล้ว

139 Nameless Fanboi Posted ID:3HC+WcRwB

>>136 กูว่าการมีความรักจะทำให้เขียนง่ายขึ้น นิยายทุกเล่มของกูมีความรักส่วนตัวกูอยู่ในนั้นหมด

140 Nameless Fanboi Posted ID:volbrw.L2

>>136 บางทีถ้ามึงไม่เคยมีความรัก อาจจะต้องศึกษาความรักของคนรอบข้างใส่ลงไปว่ะ แล้วมันจะดูเรียลมากขึ้น แต่เอาจริงๆ ปะ บางทีความรักของแต่ละคน มันก็ตรรกะวิบัติชนิดกู่ไม่กลับอะมึงงงง ดูอย่างเพื่อนกู เลิกกับอิแฟนคนที่คบกันอยู่ปัจจุบันมาแปดครั้งแล้ว แต่ก็ยังกลับมาคบกันอีก มันบ่นว่าเบื่อฉิบหาย แต่มันก็ยังกลับไปคบ มันบอกมันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เออ กูก็ไม่เข้าใจเพื่อนกูเหมือนกัน

141 Nameless Fanboi Posted ID:FYyi9RV36

>>140 กุอ่านยังไม่เข้าใจเพื่อนมุงเหมือนกัน เพื่อนมุงเป็นไรรร

142 Nameless Fanboi Posted ID:lh7xtwr6c

>>141 กูเข้าใจว่าเพื่อน >>140 มันคบๆเลิกๆแฟนคนเดียวกันมา 8 ครั้งแล้ว แล้วก็ชอบมาบ่นๆกับ >>140

143 Nameless Fanboi Posted ID:p+wFSD0gU

>>140 กูคาดว่าเพื่อนมึงคงคบ ๆ เลิก ๆ ตลอดไปแหละ คนจริงไม่เลิกหลายรอบ ตูมเดียวเลยแบบแอฟ

144 Nameless Fanboi Posted ID:FYyi9RV36

แต่งนิยายทำยังไงไม่ให้บรรยายเยอะเกินไปวะ
กุมาอ่านของตัวเองทีหลังแล้วอยากจะตบตัวเองชิบหาย ตัวเอกกูเป็นพวกคิดมาก พอกุแต่งละอิน มันอินจริงๆ ว่ะมึงเหมือนตัวกุเป็นตัวละครนั้น แต่มันเยอะไปอ่ะ เยอะชิบหายบรรยายยาว กุอยากตบตัวละครตัวเองและตัวเองด้วย

145 Nameless Fanboi Posted ID:dZRvQmKmg

>>144 แล้วคนอ่านมีปัญหาบ่นๆปะ ถ้าไม่มีก็แต่งแบบที่ต้องการแต่งไป กูเคยแต่งแบบทั้งบทห้าหน้าเป็นบรรยายหมดมีบทพูดประโยคเดียว ทั้งๆที่ในเนื้อเรื่องก็มีบทพูดนะแต่กูใช้การบรรยายบทพูดผ่านๆในบทบรรยายความคิดตัวละครแทนเพราะอยากให้ได้อารมณ์ว่ามันฟังเฉยๆแค่ผ่านหูไม่ใส่ใจ แล้วกูก็เคยอ่านนิยาย YA ของฝรั่งหลายๆเรื่องที่ตัวเอกมันอีโมๆหน่อยบทหนึ่งใช้สองมือนับประโยคคำพูดก็ยังเหลือก็มี เพราะงั้นแต่งแบบที่ชอบไปเถอะมันเป็นสไตล์

146 Nameless Fanboi Posted ID:k2BcSGTb0

>>144 กูก็ติดบรรยาย คนอ่านยังพูดเลยว่ากูแบบสายบรรยายเยอะ แต่ก็ไม่มีคนบ่นอะไร แต่เอาจริงๆ คนอ่านจะบ่นออวะปกติ กูไม่เห็นคนอ่านจะบ่นอะไรสักอย่างเลยนะ คือกูว่าต่อให้มันไม่ดี (โอเคอาจจะไม่ได้ไม่ดีเว่ออออะไร) แต่แบบถ้ามันไม่ดีแบบมีข้อติ คนอ่านส่วนมากก้ไม่ค่อยตินะเว่ย มันต้องแบบอ่านเองแล้วรู้เอง ไม่ก็ให้คนเขียนด้วยกันเป็นคนติอ่ะ

147 Nameless Fanboi Posted ID:vXV08Yf4s

>>145 มีแต่เพื่อนกุบ่นว่ายาวไปตาลาย คนอ่านฝในเว็บไม่มีใครบ่นนะ

148 Nameless Fanboi Posted ID:SzLKcnwry

เพื่อนโม่ง อยากถามนิดว่าแต่ละตอนของแต่ละคนนี่ยาวกี่หน้า a4 ฟ้อนต์ 14 อ่ะ

149 Nameless Fanboi Posted ID:prB6YV62Z

>>148 cordia new 14 จะตกที่3-4หน้า ปกติกุจะไม่ให้เกิน3000คำ แต่พอไปลงกุก็ปรับเป็น16อยู่ดี 14เล็กไปก็จะตกประมาณ 6-7หน้า

150 Nameless Fanboi Posted ID:U9EYD4HB3

>>148 ของกู คอร์เดีย 14 อย่างน้อย 10 หน้า อย่างเยอะ 20 แต่ A5 นะ แบบจัดหน้าพร้อมพิมพ์แล้วอ่ะ แบบ line spacing 17
ปกติกูพิมพ์ในฟอร์มนี้ตลอด จะได้ไม่ต้องมาจัดหน้าใหม่อีกรอบ

151 Nameless Fanboi Posted ID:A1Co/FCbS

>>148 ของเราอยู่ที่ 3500 - 4000 คำ ขนาดตัวอักษรก็เหมือนกับพวกข้างบนน่ะ ชอบยาว ๆ

152 Nameless Fanboi Posted ID:vXV08Yf4s

>>148 18 หน้า...
กุผิดไปแล้ว

153 Nameless Fanboi Posted ID:vXV08Yf4s

>>152 มีแต่กุใช้Angsana newเร้อะ

154 Nameless Fanboi Posted ID:U9EYD4HB3

>>153 กูไม่ค่อยชอบ angsana อ่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเขียนรายงาน แต่ตอนนี้ก็เริ่มเบื่อคอเดียนะ มีใครใช้ฟอนต์อะไรสวยๆมะ

155 Nameless Fanboi Posted ID:405YTCSKP

>>154 กูชอบ browallia

156 Nameless Fanboi Posted ID:vXV08Yf4s

>>154 กูใช้คอร์เดียแล้ว วรรณยุกต์กับสระ มันเลื่อนมาข้างหน้ากันว่ะ อย่างสระ อุ ปกติมันอยู่เกือบหลังๆ ใต้อักษรใช้มะ มันเลื่อนมาหน้าๆ แทน

157 Nameless Fanboi Posted ID:eQoY.OXhJ

>>154 ใช้แต่สารบัญ กูว่ามันง่ายสบายตาสุด..

158 Nameless Fanboi Posted ID:X32kjlosA

>>148 30-50 หน้า... แต่กุแบ่งทยอยลงประมาณ 7-8 หน้า (ประมาณ 3000 คำ)
ใช้ cordia new 16 จัดช่องว่างระหว่างย่อหน้า 1.0 ความกว้างระหว่างบรรทัด 10p

159 Nameless Fanboi Posted ID:OKxHU.Xcw

ฮือ... กุต้องเขียนยังไงวะถึงจะเข้าถึงอารมณ์?
คนอ่านกุบอกว่าเนื้อเรื่องดีแล้ว แต่บรรยายยังไม่ถึงอารมณ์ซะงั้น กุไม่รู้เลยจะไปปรับปรุงยังไง

160 Nameless Fanboi Posted ID:.EfDBGXpL

>>159 ตัวมึงเองอินยัง แบบเขียนฉากเศร้า มึงร้องไห้เลยมั้ย
คือกูว่าถ้าตัวเองอินมากๆ มันน่าจะเขียนออกมาได้นะ ปกติกูเขียนฉากเศร้ากูร้องตามตลอดเลย 55555 คนอ่านก็ต้องร้องตามกู กูถึงจะถือว่าโอเค ฉากเศร้าของกูนิผ่านนน

161 Nameless Fanboi Posted ID:wt7aUmQWA

>>159 ลองกลับไปอ่านนิยายตัวเองดู ว่ามึงอ่านของตัวเองแล้วอินไหม

162 Nameless Fanboi Posted ID:UNT8loEk5

>>160 >>161 ถ้าบังเอิญกุตายด้านกุต้องทำไงวะ

163 Nameless Fanboi Posted ID:wt7aUmQWA

>>162 เอามาให้กุอ่าน อิอิ

164 Nameless Fanboi Posted ID:wt7aUmQWA

เชี่ยกุเพิ่งรู้ตัวเองเขียนสังเกตผิดมาตลอด กุเขียนเป็นสังเกตุ อายชิบหาย อายวายวอด

165 Nameless Fanboi Posted ID:QGVhnK/Ge

ทำยังไงไม่ให้ตัวเองเป็นนักเขียนวิตกจริตมัวแต่กังวลยอดเฟบกับวิว

166 Nameless Fanboi Posted ID:TpxPQIAsS

เห็นทู้ในพันทิปที่นักเขียนในเด็กดีไล่คนอ่านไปตายแล้วสยองว่ะ ป่วยฉิบ

167 Nameless Fanboi Posted ID:EDRxWOcIv

>>165 อย่าไปมองมันอะมึง ท่องเอาไว้ว่าอย่าไปมอง เมื่อก่อนกูนี่มองทุกวัน หลังๆ ปลง ไม่มองแม่งละ มามองคอมเมนต์แทน วิตกจริตหนักกว่าเดิม

168 Nameless Fanboi Posted ID:tUaPBYpI2

>>165 กูทำไม่ได้บอกเลย ยอกเม้นตกนี่กูแบบประสาทแดกละ แบบกูทำไรผิด ทำไมไม่ชอบกูแล้วหรอออออไรงี้

169 Nameless Fanboi Posted ID:288cHFqmJ

>>166 นั่นดิ เกิดมาเพิ่งเคยเจอ นักเขียนไล่คนอ่านไปตาย แนะนำวิธีเสร็จสรรพ
ไอ้คนที่คอมเม้นต์นิยายเขาก็ไม่ได้จะด่าทอหยาบคายเลย เขาแค่อินกับนิยายเฉยๆ นักเขียนแม่งควรพบจิตแพทย์

170 Nameless Fanboi Posted ID:/eBZtZhNQ

>>169 เหมือนเป็นไบโพลาร์ขั้นรุนแรง พยายามประกาศมากว่าเขียนนิยายสีขาว แต่การปะทะกับคนอ่านนี่บั่บว่า..............................

171 Nameless Fanboi Posted ID:EDRxWOcIv

>>166 ขอลิงก์ทู้หน่อย ไม่ได้ตามว่ะ แต่อยากเสือก

172 Nameless Fanboi Posted ID:tUaPBYpI2

>>171 https://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=1107548&chapter=294

173 Nameless Fanboi Posted ID:EDRxWOcIv

>>172 อ่านละมึง นักเขียนแม่งโหดสัสรัสเซียไปไหนวะ เมาขี้ตาหรือเมาตดอะไรขนาดนั้นอะ นักอ่านก่อดราม่าไรวะ เขาแค่อิน 55555555555555555

174 Nameless Fanboi Posted ID:/56LX+aOg

นักเขียนแม่งอาการหนักกว่ากุอีก

175 Nameless Fanboi Posted ID:kJlTCpsX1

เห็นเพื่อนนักเขียนคุยกันในเฟส เคยมีคนโดนด่าเหมือนกัน3ปีที่แล้ว ไม่ได้เพิ่งเป็นหรอกนะคนนี้

176 Nameless Fanboi Posted ID:oRIPIEVZ6

ไม่รู้ว่าจะถามไหน เอาเป็นว่าขอ KY ถามในนี้แล้วกัน
คือกูอยากรู้ว่าผู้หญิงแนว Under dog นี่ในสายตาคนอื่นเขาเห็นเป็นยังไงบ้าง?
ขอยกตัวอย่างนางเอกที่กูกำลังเขียนนะ คือเจ้าตัวชาติตระกูลต้อยต่ำมาก เป็นแค่คนชนชั้นแรงงานแถมยังเป็นสาวบ้านนอก ทว่าดันมีคุณชายมาตกหลุมรัก แต่คุณชายคนนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้วซึ่งเป็นไฮโซลูกคุณหนูนั่นล่ะ
นางเอกเองก็ไม่มีอำนาจอะไรไปทวงไปท้วงจึงได้แต่แอบคบกันไปเรื่อยๆ เท่านั้น
คืออยากรู้ว่าผู้หญิงแบบนี้คนอ่านจะรำคาญรึเปล่า? เพราะกูไม่อยากสร้างนางเอกขี้เหวี่ยงขี้วีนเลยอะ

177 Nameless Fanboi Posted ID:EDRxWOcIv

>>176 กูจะรำคาญ ถ้านางเอกมันง้องแง้งเจ้าน้ำตาว่ะ แต่ถ้าต่ำต้อย แล้วคบกันไปเรื่อยๆ หนักแน่นในความสัมพันธ์ กูจะเฉยๆ เพราะในเมื่อทักท้วงไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ หนีตามกันก็ยังไม่ได้ สู้คบแอบๆ ต่อไปมันก็โอเคไหมวะ 5555

178 Nameless Fanboi Posted ID:oRIPIEVZ6

>>177 นั่นล่ะที่กูกำลังคิดเลย - -
คือมันกลายเป็นรักคนมีเจ้าของเนี่ยล่ะ จะท้วงอะไรก็ไม่ได้ แบบนี้มันจะดูแหม่งๆ รึเปล่าหว่า?
ถึงในเรื่องจะระบุว่า พระเอกไม่ได้ชอบคู่หมั้นอยู่แล้วก็เถอะ แต่การที่นางเอกลงไปเล่นด้วยกับคุณชายทั้งที่รู้ว่าเขามีเจ้าของแล้ว แบบนี้มันดูแหม่งๆ มั้ยหว่า

179 Nameless Fanboi Posted ID:zLBXrOmaE

>>176 ขอโทษนะมึง กุบอกตรงๆ แนวนี้เกลื่อนตลาดแล้วซ้ำซาก แค่อ่านบรรยายกูยังรำคาญ อีเชี่ย เหมือนพวกไม่หนักแน่นไรเลย แล้วดันเป็นประเภทที่ผู้หญิงด้วยกันจะเกลียดมาก คนอาจจะเกลียดตัวเอกมึงไปเลย อย่าไปไล่เขาไปตายแบบนขคนหนึ่งนะ๕๕๕

180 Nameless Fanboi Posted ID:zLBXrOmaE

>>178 นางเอกมันแรด อุ๊บส์

181 Nameless Fanboi Posted ID:zLBXrOmaE

>>176 เหวี่ยงเยอะแล้วเงียบทนก็เยอะ มึงลองนางเอกทางสายกลางดิ้

182 Nameless Fanboi Posted ID:1hQ1KY8PH

>>176 กูไม่โอเคกับการที่ไปรักคนมีเจ้าของอะ อย่าว่าแต่คู่หมั้นเลย แค่เป็นแฟน แต่ยังไม่เลิกกัน มาแอบคบกันลับหลังแบบนี้ก็ไม่โอเค อ่านแล้วกูจะไม่เอาใจช่วยความรักของคู่นี้เลย เพราะจะรู้สึกว่าผู้ชายโลเล ทำอะไรไม่เด็ดขาด ส่วนผู้หญิงก็แรดเงียบ จะมาบอกว่าผู้ชายไม่ได้รักคู่หมั้น กูมองว่าแค่ข้ออ้างว่ะ ถ้ายังเคลียร์ตัวเองไม่ได้ก็ไม่ควรมายุ่งอะ ไม่งั้นอยู่ต่อๆไป ขัดการแต่งงานไม่ได้ แต่งกะคู่หมั้นไปวันดีคืนดีนางเอกได้เป็นเมียน้อยแทนซะงั้น

183 Nameless Fanboi Posted ID:o51XV0EH3

ฮือ นางเอกกูเรื่องนึงเป็นแบบที่พวกมึงไม่โอเลยอะ แต่ของกูมันมีผู้ชายที่คบกันแบบมากกว่าเพื่อน เกินคนรู้จัก แต่ไม่ใช่แฟนอยู่คนนึง ซึ่งก็โอเคกับคสพ.แบบนี้ทั้งสองฝ่าย และสุดท้ายคนที่นางลงเอยด้วยก็เป็นคนอื่น กูสงสารพระรองนะ แต่กูให้มันคู่กันไม่ได้จริง ๆ นิสัยมันไม่แมชต์ว่ะ

184 Nameless Fanboi Posted ID:9Rzh2elEn

พูดถึงเรื่องยุ่งกับคนมีเจ้าของ พวกมึงมีความเห็นยังไงกันบ้างวะ คือนางเอกกูก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วแม้จะไม่ได้รักกันเลย ในความจริงแล้วพระเอกมันควรจะอยู่ห่างๆกันไว้ใช่ม้ะ อห แล้วกว่าจะได้รักกัน กูกลัวคนอ่านรำคาญ ด่าพระเอกกูป๊อดอะ จะให้ไปแย่งมาเลยจะดูเหี้ยกว่าเดิมมั้ย ฮืออ

185 Nameless Fanboi Posted ID:XyVfqvggK

>>184 ถ้าพระเอกแสดงออกด้วยการเอาใจใส่มาตลอด แต่ไม่ได้รุกจีบอ่ะ อธิบายไงดีวะ ประมาณพระรองในซีรี่ส์ที่ไม่ได้จะแย่งนางเอกจากพระเอกอะ พอคู่เขาแตกแยกกันเองค่อยเสียบแบบนี้กูเชียร์นะ ไม่หาว่าป๊อดด้วย แต่มึงต้องเขียนบรรยายครส.ดีๆหน่อย
ถึงจะเป็นตัวเอกแต่ถ้าไปแย่งแฟนชาวบ้านนี่กูรับไม่ได้

186 Nameless Fanboi Posted ID:h+dMKCprT

ในนี้มีใครที่หาเลี้ยงตัวเองจากงานเขียนบ้างมั้ย แบบ..เป็นรายได้เสริมอะไรอย่างงี้บ้างก็ได้
กูอยากรู้ว่าส่วนใหญ่นี่เขียนเป็นอาชีพหรือเขียนให้อ่านฟรีตามเว็บ

187 Nameless Fanboi Posted ID:P5csC/3Ob

>>186 ก็หานะ แต่หาได้ไม่พอแดกหรอก ถ้าเป็นอาชีพอ่ะ เป็นค่าขนมแดกพอได้ ไม่งั้นต้องมีความเร็วระดับเขียนหนึ่งเรื่องต่อหนึ่งเดือน เปิดพรีทุกเดือนแบบนั้นอาจจะพอใช้แดกข้าวได้
ไม่รู้อ่ะ กูคิดว่าอะไรที่กูทำมันต้องมีอะไรงอกเงยกลับมามั่ง นิดๆหน่อยๆก็ยังดีวะ

188 Nameless Fanboi Posted ID:gcX+m2fzV

>>186 เขียนปีละเล่มออกกะสนพ. ถ้าไม่มีภาระอะไรก็พอไหว ปีไหนขายละครได้ก็สบายไป

189 Nameless Fanboi Posted ID:h+dMKCprT

ขอบใจ คือกูเป็นคนอ่านนั่นแหละ มาคิดๆดูเหมือนพฤติกรรมการอ่านมันเปลี่ยนคนเริ่มมาขายอีบุ๊คหรือเป็นตอนๆตามเน็ต กำลังซื้อน่าจะลดลงถ้าเทียบกับขายเป็นเล่ม เหมือนยังไม่ค่อยนิยมมากแล้วก็มีพวกแสกนทำให้เสียรายได้
แต่ตีพิมพ์เป็นเล่มก็มีปัญหากับสำนักพิมพ์ไม่จ่ายตามสัญญาอะไรอย่างนี้ (แต่คงไม่โดนทุกคนหรอกมั้ง)
เลยสงสัยว่านักเขียนจะอยู่กันยังไง หรือเขียนฟรีตามฝันตามใจไปเรื่อย

190 Nameless Fanboi Posted ID:gcX+m2fzV

>>189 ถ้าเขียนอาชีพแล้วผูกกะสนพ.อันนี้ก็ไม่ค่อยยากหรอกถ้ามือนิ่งแล้ว คุยได้ว่างานเสร็จเมื่อไหร่ก็ขอคิวส่ง (แต่จะเป็นที่รักแล้วได้ดันเท่านข.ในเว็บยอดอ่านเยอะๆรึเปล่านี่อีกเรื่องนึง) ถ้าจะทำงานนี้นานๆจริงๆต้องเข้าใจธรรมชาติของวงการด้วยสโลว์ไลฟ์ไปอีก ส่วนเรื่องสนพ.โกงเงินถ้าไม่ใช่หน้าใหม่ส่วนใหญ่ก็จะพอรู้กันอยู่แล้ว มาพิมพ์เองคงได้เงินเร็วและง่ายกว่า แต่ถ้าขี้เกียจรับความเสียงก็ส่งสนพ.ไป

191 Nameless Fanboi Posted ID:cRJwCOFbB

มึงว่ากูคิดมากไปป่ะวะ ที่เวลาจะเขียนอะไรแล้วต้องเป๊ะทุกอย่าง บอกที่มาปมทุกอย่าง ภูมิหลังครอบครัว อดีตแต่ละคน จนมันดูเยอะเกินไป
เพิ่งเริ่มคิดว่ามันไม่จำเป็นก็ตอนมาอ่านของนข.บางคน ปรากฏว่าของคนนั้นไม่เห็นต้องเปิดเผยอะไรมากเลย บางอันแม่งก็ไม่มีเหตุผลเอาดื้อๆ หรือไม่ก็ทิ้งปมแม่งไว้อย่างนั้นด้วยซ้ำ แต่เสือกสนุก (?)
กูควรยึดแนวกูต่อไปหรือทิ้งๆไปบ้างดีวะ บางทีเพราะกูคิดเยอะเกินไปจนเขียนแล้วเหนื่อยต้องมาเจาะข้อมูลอะ

192 Nameless Fanboi Posted ID:0afBh0XRD

>>191 ยีดแนวทางมึงไปเถอะ

193 Nameless Fanboi Posted ID:P5csC/3Ob

>>191 กูพยายามไม่เปิดปมเยอะนะ แบบแค่กูมีใส่ปมกับตัวละครตัวเดียวเนี่ย คนอ่านยังเริ่มงงกันแล้ว แบบมันต้องตั้งสติตั้งใจอ่านนิดนึงอ่ะ คือคนส่วนมากแบบชอบฉากหวานๆ รอฉากโรแมนติกกัน กูก็แบบตัวละครกูก็ต้องปมบ้าง ปริศนาที่วางก็ต้องคลี่คลายบ้าง 55555 ไม่กล้าใส่ปมเยอะ กลัวมันจะเยอะเกิน

194 Nameless Fanboi Posted ID:O6krZAN+K

>>189 มันมีทั้งเขียนเป็นงานเสริมกับงานหลักนั่นแหละ ถ้าอยู่ได้ก็อาจเขียนเป็นงานหลัก ถ้าอยู่ไม่ได้ก็เขียนเป็นงานเสริม พวกที่เขียนเป็นงานหลักคือยอดขายดีมากหรือเขียนได้เร็วมาก อาจจะออกกับสำนักพิมพ์หรือทำมือเองก็ได้ แต่คิดว่ารุ่นใหม่ๆ ที่เขียนเป็นงานหลักน่าจะทำมือกันเยอะกว่า
>>191 ถ้าคิดว่าเยอะไปก็ทบทวนแล้วก็ปรับปรุง ขนาดมึงเขียนเองยังคิดว่าเยอะเลยคนอ่านก็คงคิดเหมือนกันแหละ

195 Nameless Fanboi Posted ID:j2RzqH5p4

>>191 เราพยายามเปิดปมบทนี้แก้บทต่อไปเลยอ่ะ แต่บทต่อ ๆ ไปก็มีกล่าวย้อนบ้างเพื่อไม่ให้นักอ่านงง

196 Nameless Fanboi Posted ID:0GN.Hypyk

มึง กูขอระบายหน่อย

กูมีปัญหาเรื่องความอิจฉาว่ะ 55555555

แบบ ยังไงดีวะ นิยายกูมันก็ประสบความสำเร็จในประมาณนึง เอาเป็นว่ากูก็พอใจในระดับนี้แล้ว แต่พอกูไปดูบางเรื่องที่อยู่หมวดเดียวกัน คนอ่านของเขาต่อตอนน้อยกว่าของกูอีก แต่คอมเมนต์เยอะกว่าของกูมากเลย แล้วกูไปดูของเขา มันก็เป็นอย่างนี้ทุกตอน คือคอมเมนต์เยอะกว่าของกูเป็นเท่าตัว ซึ่งกูเห็นกี่ครั้งกูก็เจ็บทุกครั้ง กูไม่เข้าใจว่าทำไมของกูถึงคอมเมนต์น้อยกว่าเขาตั้งขนาดนั้น

คือกูรู้นะ ว่ามีคอมเมนต์มันก็ดีแล้วแหละ อย่างที่บอกว่ากูพอใจในประมาณนึงแล้ว แต่พอกูไปส่องของชาวบ้านเขาทีไรแล้วเจอความจริงข้อนี้ กูก็อิจฉาขึ้นมาทุกที กูจัดการความรู้สึกตรงนี้ของตัวเองไม่ได้ มันทำให้กูนอยด์และทำให้กูรู้สึกว่า ทำไม มันยังไม่ดีพออีกเหรอ

กูมาบ่นแค่นี้แหละ ดูเรื่องเยอะ ดูคิดมากเนอะ 55555555555

197 Nameless Fanboi Posted ID:fVJrVofJz

>>196 กูเข้าใจเว่ย บางทีคอมเมนต์แม่งอะไรหลายๆอย่างปนกัน เนื้อหาบ้าง ความสัมพันธ์มึงกับคนอ่านบ้างไรงี้
คือต่อให้เรื่องเดียวกันอ่ะ ยอดวิวต่อตอนพอๆกัน คอมเม้นยังไม่เท่ากันเลยมึง บางตอนคนคอมเม้นถล่มทลายเพราะว่าตอนนั้นมันมีอะไรให้หวีด ให้คนอยากพูดอะ แต่บางตอนมันไม่มีมันเรื่อยๆงี้

198 Nameless Fanboi Posted ID:cKjYL+puh

>>196 นขหลายคนทำให้คนอ่านเกร็งที่จะคอมเมนท์ บางคนบอกว่าอยากได้คำติชม การวิจารณ์ใช้พลังงานสูง เกิดเม้นท์แล้วไม่ถูกใจโดนประชดว่าอยากเขียนแบบนี้คนเม้นท์เงิบมาเยอะ เข็ดมาก
ถ้าอยากได้เม้นท์แบบคุยกันบ้าง เม้าท์บ้างลองเปิดเฟซคุยกับคนอ่านสิ

199 Nameless Fanboi Posted ID:vMk9NQ4Rl

>>196 ลองชวนคนอ่านคุยไหมมึง แบบคุยท้ายตอนไรงี้

200 Nameless Fanboi Posted ID:ThnF./Uue

>>196 แนะนำได้แค่อย่าพยายามไปเปรียบเทียบอ่ะมึง

201 Nameless Fanboi Posted ID:aSR/qBj.F

กรณีข้างบนเลย มีคนไปเม้นท์แล้วคนเขียนไม่พอใจไล่ไปตาย ช่วงหลังมาจะเม้นท์อะไรกูนี่คิดแล้วคิดอีก กลัวโดนแคปมาประจาน ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว

202 Nameless Fanboi Posted ID:a3A9nC7OY

>>201 เออ พูดแล้วนึกได้ เรื่องเป็นไงบ้างบะ ล่าสุดที่ตามคือเมื่อวานเห็นหนีไปอัพแกเรื่องเนียนๆ อยู่เลย

203 Nameless Fanboi Posted ID:igkJ+1UI1

>>196 มึงลองใส่ปมปริศนาสิ คนอ่านจะได้มีเรื่องให้เดาเล่น จะได้มาเม้น แต่ก็ต้องดูฐานคนอ่านของมึงอีกทีด้วยแหละ

204 Nameless Fanboi Posted ID:b7spob1wf

>>196 นึกว่ามึงเป็นกู
เฟบเยอะ คอมเม้นน้อย ตกลงคนอ่านอ่านหรือปักไว้เฉยๆ วะ
อ้อ ลืมเรื่องกูไม่ใช่แนวตบตีแย่งผัวเมีย
มันคู่พระเอกนางเอกมาตั้งแต่ตอนแรกเลยกุลืม คนอ่านเลยไม่ได้เลือกทีมว่า ทีมพระเอกหรือพระรอง๕๕๕

205 Nameless Fanboi Posted ID:b7spob1wf

>>204 มันไม่มีทีมให้เลือกกก

206 Nameless Fanboi Posted ID:hNOFzlRb3

เฮ้! ใครเคยเจอปัญหาเนื้อเรื่องพังตั้งแต่พล็อตเรื่องบ้าง?
กูเพิ่งมาเจอหลังจากเขียนไปได้จนเกือบจบแล้วว่ะ ถ้าจะแก้ก็คงต้องเขียนใหม่ทั้งหมด ซึ่งตอนนี้กูก็เขียนไปถึง 300 กว่าหน้าแล้ว
แบบนี้กูควรรีไรท์เขียนใหม่ทั้งหมดเลยใช่มั้ยเนี่ย

207 Nameless Fanboi Posted ID:hKPlOnMnG

>>206 อือ กุประจำ แก้จนจะแยกเป็นเรื่องใหม่ได้ละ

208 Nameless Fanboi Posted ID:iuRGp4Ns2

>>206 เขียนเรื่องใหม่ไปเลยง่ายกว่า

209 Nameless Fanboi Posted ID:4zMCtiKsI

>>206 มายกมือร่วมพวก กูก็เป็น ทุกวันนี้ปิดรีไรต์แล้วก็จริง แต่ยังไม่มีแรงจะรีไรต์เลยจ้ะ กูมารู้สึกว่ามันชักหลุดๆ ออกทะเลไปเกิน ก็เลยเอาใหม่แม่ม โดนด่ายับเหลย

210 Nameless Fanboi Posted ID:Uc9wXXV2H

เคยกลับมาอ่านนิยายตัวเองย้อนหลังแล้วอายชิบหายวายวอดมั้ย
แบบหลังไฟจูนิเบียวมันมอดลงงี้

211 Nameless Fanboi Posted ID:O.TLr+cwl

>>210 ปกติค่ะมึง กูอายจนบอมบ์ทิ้่งไปหลายเรื่องอยู่ นึกแล้วก็เสียดาย แต่ตอนนั้นอายแบบรู้สึกว่ามันไม่ควรมีตัวตนอยู่อีกต่อไปแล้ว 55555

212 Nameless Fanboi Posted ID:KGWd+RzP+

นี่เพื่อนโม่งขอถามความเห็นหน่อย
ไอ้การที่พระเอกเป็นลูกคุณหนูจะทิ้งตำแหน่งและฐานะ เพื่อหนีการคลุมถุงชนไปได้กับสาวใช้ตัวเองนี่มันสมเหตุสมผลรึเปล่าวะ? ประมาณว่า พระเอกกับนางเอกรู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้ว ใกล้ชิดกันมาตลอด แต่ทั้งสองก็เว้นระยะห่างเป็นแค่เพื่อนกันเอาไว้จนกระทั่งโตเป็นหนุ่มสาวด้วยกันทั้งคู่ถึงได้แอบคบกันแบบลับๆ จวบจนโดนทางบ้านจับได้น่ะ

213 Nameless Fanboi Posted ID:yguAZZ4ic

>>212 พระเอกมันจะทำไรกินวะ หนีไปทำไร่ไถนา?
หนีไปกันก็ได้ แต่พระเอกมันจะทำไรกิน จะเลี้ยงครอบครัวได้มั้ย

214 Nameless Fanboi Posted ID:uxOoL.qeT

>>212 งืมมมม อืมมม คิดเหมือนข้างบนว่าพระเอกจะไปทำไรต่อ
นึกถึงเรื่องนึงของแจ่มใส ที่พระเอกไปทำกิจการทอผ้าอะไรซัมติง ออกจากบ้านไปกับสาวใช้นี่แหละ แต่ว่าอันนั้นนางวางแผนมาของนางอยู่แล้ว ต่อให้ไม่มีนางเอกนางก็คงออกไปงี้
คือกูว่าถ้ามีเหตุผลรองรับมันก็ได้แหละ

215 Nameless Fanboi Posted ID:Zg5v85WoL

>>212 มันต้องดูยุคสมัยประกอบด้วยว่ะ แต่ถ้าถามว่าได้ไหม กูว่าได้นะ ยิ่งในยุคปัจจุบัน ถ้าอิพระเอกการศึกษาดีๆ หน่อยก็หางานทำได้สบายอะ แต่ถ้าเป็นยุคโบราณ ก็ต้องคิดหน่อยว่าจะหากินยังไง ไปเป็นครู? เสมียน? งานใช้แรงงาน?

216 Nameless Fanboi Posted ID:cbn9UMhra

>>212 กูว่าการทำให้มันสมเหตุสมผลนี่เป็นหน้าที่ของคนเขียนล้วนๆเลยนะ ว่าจะใส่อะไรลงไปบ้าง ให้คนอ่านเชื่อให้ได้ว่า เออ หนีตามกันไปนี่แหละ ดีที่สุดแล้วสำหรับคู่นี้

217 Nameless Fanboi Posted ID:KGWd+RzP+

>>213-216 โอเคขอบใจมาก
ธีมเรื่องมันอยู่ช่วงยุคกลางตอนปลาย เกือบๆ เรเนอซองค์น่ะ น่าจะหาบทสรุปได้ลงตัวอยู่

218 Nameless Fanboi Posted ID:uxOoL.qeT

>>217 โหห เลือกเซตติ้งได้แบบน่าสนใจๆ 5555 ท่ามกลางนิยายเสินเจิ้นและนิยายรักปัจจุบัน มึงก็ได้เลือกเรเนซองส์ น่าอ่านๆ

219 Nameless Fanboi Posted ID:KGWd+RzP+

>>218 ก็นะ กูเรียนจบ ป.โทมาจากเยอรมัน แล้วนี่เพิ่งกลับมาไทยช่วงกลางปีนี้เอง อยู่ที่นั้นหลายปีมันซึมซับความโรแมนติกของความเป็นยุโรปเพียบเลย

220 Nameless Fanboi Posted ID:hNDu6IlbY

ถามความน่าจะเป็น นักอ่านกูบอกว่าเรื่องกูมันไม่เมคเซ้นตรงที่ นางเอกยอมแต่งงานกับคนที่นางไม่ได้รัก พระเอกก็ไม่ยอมไขว่คว้า พยายาม (ว่างั้นนะ จริงๆคือพากันหนีตาม) บอกว่าพระนางดูไม่รักกันมั่งละ
คือเรื่องกูมันเซตติ้งโบราณเลยอะ นางเอกเป็นลูกคนมีหน้ามีตา ส่วนพระเอกก็เป็นแค่บ่าวไพร่ไม่มีตระกูล มันจะทำอะไรได้วะ
กูไม่เข้าใจว่าพากันหนีตามนี่มันดูน่ายกย่องเหรอ มันเป็นความรักที่เป็นไปไม่ได้ กูวางเรื่องให้เป็นแบบนี้มันดูแปลกเหรอ ทำไมต้องคอมเพลน ?
พวกมึงคิดว่าไง

221 Nameless Fanboi Posted ID:hNDu6IlbY

ลืมอ้างถึงข้างบน >>212 กูไม่ได้ว่ามึงหรือใครที่จะเซ็ตให้ตัวเองหนีตามกันไปนะ 5555 คือแต่ละคนก็มีเหตุผลของเขา ซึ่งเหตุผลของกูคือแบบนี้ กูแค่อยากแน่ใจว่าที่กูวางไว้ มันก็คงไม่ได้ผิดอะไรใช่มั้ยอะ (นักอ่านว่ากูไม่เป็นไร แต่มาว่าลูกกู กูยอมไม่ได้นิดนึง TT)

222 Nameless Fanboi Posted ID:yguAZZ4ic

>>221 ไม่ผิด ปล่อยไป

223 Nameless Fanboi Posted ID:yguAZZ4ic

กิ๊บหนีบผม ภาษาโบราณมันเรียกว่าไรวะ แบบนี้ ใช้หนีบผมเด็กที่ยังไม่โตเป็นสาว https://html2-f.scribdassets.com/5a0zpem4qo2srzi0/images/10-b507d06ce8.jpg
ฝรั่งมันแปลเป็นbarrette clip แปลไทยมาอีกก็กิ๊บ แล้วจะแปลอีกรอบให้มันโบราณกว่านี้ยังไงดีวะมึง

224 Nameless Fanboi Posted ID:lCeJ9go4a

>>223 ที่ติดผม? เครื่องประดับ​ผม?

225 Nameless Fanboi Posted ID:he0Ed2qfz

>>220 จะว่าตามจริงมันก็ไม่ผิดนะ แต่มันจะดูโลกสวยไปนิดหน่อยและ
คือของมึงน่ะเป็นฝ่ายหญิงฐานะสูงกว่า แต่ยุคโบราณเนี่ยสิทธิ์ของผู้หญิงยังต่ำกว่าชายมาก การทำงานจึงค่อนข้างจำกัด ต่อให้เรียนมาสูงฐานะดีอย่างไร ถ้าขาดการสนับสนุนจากทางบ้านก็ยิ่งยากใช่มั้ยล่ะ?
แถมแย่กว่านั่้นโดนหาว่าเกาะผู้หญิงกินอีก Orz

226 Nameless Fanboi Posted ID:e8GyaALhy

>>223 อันนี้ถือเป็นอย่างเดียวหรือคนละอย่างกับเกี้ยวครอบผม ?

227 Nameless Fanboi Posted ID:yguAZZ4ic

>>226 คนละอย่างมั้ง

228 Nameless Fanboi Posted ID:gTN5Z6gCD

เด็กดีเป็นไรวะ กุเข้าเพิ่มไรนิยายกุไม่ได้เลย

229 Nameless Fanboi Posted ID:gTN5Z6gCD

เคกุรู้ละเนตกุเน่าเอง แม่งเอ้ย

230 Nameless Fanboi Posted ID:kByqNglpW

มึงนิยายกุธีมหลักมันคอเมดี้นะ ทีนี้มันต้องมีให้ปวดตับ กูแต่งside storyที่เป็นเรื่องของตัวเอกในภพก่อนเพื่อปูว่าทำไมมันนิสัยระแวงในชาตินี้ แบบแต่งออกมาแม่งดาร์กชิบหาย กุแต่งเสร็จนอนตื่นมาอ่านพบว่ามันดาร์กชิบ เริ่มคิดละกุควรลงดีมั้ยหรือแต่งอีกเวอร์ชั่นนึงให้มันซอฟต์ขึ้นนิดหน่อย

231 Nameless Fanboi Posted ID:7Pdg5bJS/

>>230 มึงแต่งเป็นเรื่องแยกเลยใช่ปะ ถ้างั้นก็ลงๆไปเหอะ เรื่องแยกของกูเองก็ดาร์คชิบหายยังไม่เป็นไรเลย

232 Nameless Fanboi Posted ID:kByqNglpW

>>231 กูกลัวคนอ่านตับช้ำ๕๕๕

233 Nameless Fanboi Posted ID:9NRkATSm6

>>232 คนอ่านทนได้อยู่แล้ว

234 Nameless Fanboi Posted ID:VgPOjNe8j

KY หน่อยสิ เพิ่งไได้รับคอมเมนท์มาว่างงเพราะไม่มีเกริ่นนำ ทั้งที่คิดว่ามีแล้ว เวลาเริ่มเรื่องกล่าวนำประมาณไหนกันเหรอ
อันนี้เอามาให้ลองอ่าน https://writer.dek-d.com/ployyhara1993/story/viewlongc.php?id=1734261&chapter=1 คิดว่าจะนั่งแก้ไขอยู่แหละ ช่วยแนะนำหน่อยนะ แม้จะผ่านการเขียนมาหลายเรื่องแต่ยังไม่ค่อยพัฒนาเท่าไรเลย เรื่องอื่น ๆ คนอ่านก็งงเหมือนกันเพราะกล่าวนำเนี่ยแหละแต่ลบไปหมดแล้ว

235 Nameless Fanboi Posted ID:VgPOjNe8j

>>234 เองแก้ ๆ KY หน่อยสิ เพิ่งได้รับคอมเมนท์มาว่างงเพราะไม่มีกล่าวนำ ทั้งที่คิดว่ามีแล้ว เวลาเริ่มเรื่องกล่าวนำประมาณไหนกันเหรอ
อันนี้เอามาให้ลองอ่าน https://writer.dek-d.com/ployyhara1993/story/viewlongc.php?id=1734261&chapter=1 คิดว่าจะนั่งแก้ไขอยู่แหละ ช่วยแนะนำหน่อยนะ แม้จะผ่านการเขียนมาหลายเรื่องแต่ยังไม่ค่อยพัฒนาเท่าไรเลย เรื่องอื่น ๆ คนอ่านก็งงเหมือนกันเพราะกล่าวนำเนี่ยแหละแต่ลบไปหมดแล้ว

236 Nameless Fanboi Posted ID:m7uHIpJPP

>>235 ถ้าบอกว่าให้อ่านหนังสือให้เยอะขึ้นจะโกรธไหมเนี่ย เอาจริงๆ ไม่ใช่แค่เกริ่นแต่เป็นกับการขึ้นฉากใหม่ทุกฉากเลยอะ จนมันดูเหมือนกับการปรับทรีตเมนต์เพิ่มแล้วใส่ไดอะลอกเข้าไปแทน เช่น - สะพาน*** ขึ้นมาเท่านั้นคนอ่านก็ไม่เห็นภาพหรอก ต้องเพิ่มบรรยายเอาง่ายๆ เราคิดว่าภาพมันเป็นยังไงก็บรรยายเพิ่มลงไป

237 Nameless Fanboi Posted ID:5vXS6Quat

>>235 แบบละเอียด​ๆไปห้องสับนิยาย​เลยน่าจะดีกว่า >>>fanboi.ch/webnovel/4810/

คร่าวๆ เกริ่นสำหรับ​กูคือแนะนำ​หน้าตา นิสัย ความคิด​ของตัวละคร (รวมถึงธีมของเรื่อง)​ให้คนอ่านรู้จัก​อะ
ของมึงมันแบบเหมือนวาดมนุษย์​ก้างปลามาตัวนึงแล้วแปะป้ายว่ามันชื่อนี้นะ มันเป็นมาเฟียกะนักเขียนนะแค่นั้นจบ
การเล่าเรื่องตัดฉากก็อย่างที่ >>236 บอก

238 Nameless Fanboi Posted ID:5vXS6Quat

>>237 แปะผิด https://fanboi.ch/webnovel/4810/

239 Nameless Fanboi Posted ID:VgPOjNe8j

>>236 ไม่หรอก อ่านมาเยอะแล้วแต่คงอ่านยังไม่พอ 555
>>237 โอเคเข้าใจแล้ว
ขอบคุณทั้งสองความเห็นมาก ๆ เลย

240 Nameless Fanboi Posted ID:SZQyrDNs8

>>239 มึงมีปัญหาในการเล่าเรื่อง ถ้าอ่านมาเยอะแล้วปัญหาคงไม่ใช่เรื่องปริมาณที่อ่านมาแต่เป็นการเล่าเรื่องของมึงอารมณ์แบบบทละครกองถ่าย บอกแค่ลักษณะเหตุการณ์ขาดความงามของนิยายรุนแรง

241 Nameless Fanboi Posted ID:Wex+aYWRO

>>240 เห็นด้วย
ไม่เหมือนนิยายเท่าไหร่นะ เหมือนบทละคร ตัวละครเอซึ่งคือมาเฟีย ขยับไปทางนี้ กระทำสิ่งนี้
ใส่อารมณ์หน่อย ความรู้สึก ฟิลลิ่ง ในช่วงแรกให้ทั้ง tell และ show ไปเลย บรรยายมาว่าตัวละครรู้สึกไง และพฤติกรรมของตัวละครนั้นเป็นยังไงที่จะทำให้คนอ่านรู้ว่ารู้สึกยังไง
อันนี้มันห้วนๆ

242 Nameless Fanboi Posted ID:65tUk0yaq

>>240 >>241 ขอบคุณมาก กำลังจะลงมือแก้ไขเลย

243 Nameless Fanboi Posted ID:VDs63dQ+z

พูดถึงการเล่าเรื่อง ตอนนี้กูกำลังมีปัญหาเลย
ใช้ Show เยอะเกินไปบ้าง เล่าแบบเป็นขั้นเป็นลำดับบ้าง จนตอนนี้เขียนไป 400 หน้าแล้วยังไม่จบภาคเลย Orz
ดูเหมือนว่าสไตล์การเขียนกูจะเป็นแบบเล่าละเอียดแฮะ ทำยังไงดี? ขนาดเขียนพล็อต (แค่พล็อต) สำหรับเนื้อหา 200 หน้า กูยังกินหน้ากระดาษไปตั้ง 13 หน้าแนะ

244 Nameless Fanboi Posted ID:7mqMRDkUb

>>243 แม่งยังดี กุแค่สี่บทแรกปาไปสองร้อยกว่าหน้าแล้ว แม่งไม่รู้จะลดตรงไหน อะไรก็สำคัญ

245 Nameless Fanboi Posted ID:jrPfxD72u

>>244 พอกับกูนั่นล่ะ แต่ของกู 5 บท

246 Nameless Fanboi Posted ID:2eekxmfZv

พวกเอ็งเขียนยาวแข่งกับบทgame of throneหรือไง

247 Nameless Fanboi Posted ID:dt13J6pps

แฟนตาซีหรอ ยาวๆแบบนี้อ่ะ
ของกูตอนนี้กูครึ่งเรื่อง 200 หน้าก็ว่าเยอะละ พยายามจะปิดให้ลงภายใน 400 เนี่ย

248 Nameless Fanboi Posted ID:jrPfxD72u

กูเองก็พยายามตัดให้สั้นเนี่ย เดี๋ยวรอว่างคงต้องมานั่งตัดอีกครั้ง (รอบที่ 4)

249 Nameless Fanboi Posted ID:gxhhBcE/d

เขียนยาวกันจัง ทำได้ไงวะ กูนี่ตอนนึงกว่าจะได้สัก 2000 คำนี่เค้นแล้วเค้นอีก กลุ้มใจว่ะ

250 Nameless Fanboi Posted ID:MWXf+FduU

>>249 มึงต้องเป็นจูนิเบียวแบบกุ แล้วคำจะออกมาง่ายดาย ไม่ต่ำกว่าห้าพันคำภายในห้าชม
ว่าแต่ตอนนี้ คนอินกับตัวละครในนิยายกุจนด่าลุกรักกู ฮือ กุจะดีใจหรือเสียใจดี

251 Nameless Fanboi Posted ID:JFPQHQTzg

>>249 คิดว่ากูนั่งแล้วเขียนได้ทันทีงั้นเหรอ?
เขียนจริงอะไม่ถึง 3 ชั่วโมง แต่กว่าจะนั่งบิ้วอารมณ์ให้อินจนเขียนได้นี่ บางทีหมดวันเลยนะ

252 Nameless Fanboi Posted ID:8hubkDhqp

>>251 มึงยังเขียนได้ภายใน 3 ชั่วโมง กูนี่บิ๊วมา 3 อาทิตย์ละยังไม่ได้เหี้ยไรเลย

253 Nameless Fanboi Posted ID:GlHbckEJh

ตันมุกตลกแต่ไม่ตันดราม่าว่ะเง้อออ หรือเพราะใกล้สอบปลายภาคกุเลยนึกเรื่องตลกไม่ออก

254 Nameless Fanboi Posted ID:/dCMPuSk+

>>253 เซม แต่ของกูตันตลอดปี โคตรนับถือเลยพวกเขียนฉากคอเมดี้ได้คอเมดี้จริงๆอะ ของกูนี่กว่าจะคิดได้ หัวแทบแตก เสือกไม่ตลกอีก 55555
สงสัยจะถนัดแต่บทดราม่าจริงๆ orz

255 Nameless Fanboi Posted ID:D4r+..2Au

ไม่แม่นคำราชาศัพท์จริงว่ะ ตอนนี้นิยายกุชนชั้นสูงพุดภาษาชาวบ้านกันหมดละ กุไม่ถนัด มีวิธีไหนแมะ
หรือเอาแบบหนังจีนแม่ง ใช้ทรงนำหน้าทุกกริยา555
ทรงตรัส ทรงนอน ทรงพักผ่อน ทรงอาบน้ำ เพิ่งเจอมาเมื่อกี้55

256 Nameless Fanboi Posted ID:0RiiBM0/S

>>255 ทรงตรัสได้เหรอวะ

257 Nameless Fanboi Posted ID:0RiiBM0/S

>>255 กูว่าไปอ่านนิยายไทยดู อ่านลักษณวดี โรสลาเรน สักสิบเรื่องก่อนก็ได้เดี๋ยวมึงก็แม่นราชาศัพท์ขึ้นมาเอง
แต่ถ้าเอาราชาศัพท์ไปใช้ในนิยายจีนมากๆ มันจะแปลกนะ เพราะปกติคนแปลจากจีนเป็นไทย มันไม่ได้ใช้เยอะเบอร์นั้น

258 Nameless Fanboi Posted ID:c/CdjftP5

>>256 ทรงตรัสไม่ได้ ตรัสเป็นราชาศัพท์อยู่แล้ว ทรง+คำสามัญ เพื่อให้เป็นคำราชาศัพท์นะ

259 Nameless Fanboi Posted ID:D4r+..2Au

>>256 กุเพิ่งเจอไปเนี่ย

260 Nameless Fanboi Posted ID:D4r+..2Au

>>257 พูดถึงแนวจีนกุอ่านแนวจีนที่คนไทยแต่ง นางคำราชาศัพท์มาเต็มเลย กุนึกว่าต้องแม่นแบบนั้น งั้นกุเอาแบบมึงว่ากะได้

261 Nameless Fanboi Posted ID:GqVegvptL

มีใครย้อนมาอ่านคำนำนิยายตัวเองแล้วรู้สึกว่า แม่งเอ้ยกุเขียนอะไรลงไปแมะ

262 Nameless Fanboi Posted ID:g0t8/nLo0

>>261 ประจำ

263 Nameless Fanboi Posted ID:QX6OYyLs8

พวกมึงซอยตอนนิยายจนเหลือเท่าฮีมดกันก่อนลงเว็บเด็กดีแมะ กุไปอ่านท็อปมา แม่งscrollครั้งเดียวก็สุดละ มิน่ามันขึ้นท็อปรัวๆ สอยแบ่งไว้ละอัพทุกวัน

264 Nameless Fanboi Posted ID:lsitPRCTl

>>263 นิยายกูตอนละ 10-17 หน้าก็ติดท็อปนะ

265 Nameless Fanboi Posted ID:1lHgTBoP6

>>263 กูอัพตอนละสามหน้า กูก็รากเลือดแระ แต่ติดท๊อปนะจร๊ะะ

266 Nameless Fanboi Posted ID:MD754E0Z5

>>264 อัพทุกวันป่ะถึงท็อป

267 Nameless Fanboi Posted ID:suqq6GLP8

ของกูนับเป็นคำว่ะ ตอนนึงน่าจะตกที่ราวๆ 3000 คำ ซึ่งบางตอนก็เคาะย่อหน้าเยอะ อาจจะราวๆ 8-10 หน้า

268 Nameless Fanboi Posted ID:I/8fVLIEA

เคยเขียนนิยายข้อมูลผิดๆ กันมั้ยแล้วมารู้ตัวทีหลังว่าผิด กุเพิ่งเจอแม่งพล็อตกุพังครืนเลย เสินเจิ้นกู๊วววว
ตอนแรกมีคนบอกจบก่อนค่อยรีไรท์ แต่นิสัยอย่างกุมันแบบเมื่อไหร่จะจบว้าาาา เลยคิดแก้ จริงๆ อยากลบทิ้งแต่เสียดายเฟบ
กุเข้าใจผิดเรื่องอายุ เรื่องธรรมเนียมในวัง เรื่องชื่อเด็กกับชื่อผู้ใหญ่(ชาย) พอดีไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับชีวิตในวัง และสภาพสังคมในสมัยราชวงศ์ถังมา เป็นหนังสือของฝรั่งนะ เว็บในไทยไม่มีใครเอามาแปลถึงเรื่องนี้ กุเลยไม่รู้ ส่วนอายุที่ได้มาอย่างบังเอิญ
เห็นเสินเจิ้นเรื่องอื่นมะเห็นมีใครสนใจแบบกุ หรือกุสนใจมากไปวะ?
จะฝืนผิดหรือแก้ให้ถูกดี

269 Nameless Fanboi Posted ID:Y+gAciXiP

>>268 แนะนำว่าให้แก้ให้ถูกว่ะ ค่อยๆ แก้ก็ได้ คือรู้ว่าผิดแต่ปล่อยเลยตามเลย มันก็เลยกลายเป็นเซิ่นเจิ้นในเซิ่นเจิ้นไปเรื่อยๆ อ่ะมึง ถ้าไม่รู้ก็ว่าไปอย่างแต่นี่รู้แล้วก็ควรแก้นะ

270 Nameless Fanboi Posted ID:Y+gAciXiP

>>268 มือดันเร็วกดส่งไป - -“ คืออยากรู้ว่าอันเดิมที่ผิดกับสิ่งที่ถูกมันต่างกันอะไรยังไงบ้าง หนังสือนั่นเป็นไง อยากรู้รายละเอียด

271 Nameless Fanboi Posted ID:nKA1MKPF5

Ky เราแต่งแฟนตาซี ธีมคล้าย ๆ ยุโรปยุคกลาง แล้วลังเล pov 3 ที่ใช้เรียกผู้หญิงว่าจะใช้นางหรือหล่อนดี คืองี้ เวลาตัวละครพูดถึงกันเอง เราใช้นางอย่างนู้นอย่างนี้อยู่นะ แต่มาติดตรง pov 3 นี่ละ ควรเอาไงดี

272 Nameless Fanboi Posted ID:2mznDiKVT

>>268 ถ้ารู้แล้วควรแก้เพราะจะได้สมเหตุสมผลและตรงตามประวัติศาสตร์สมัยนั้น

273 Nameless Fanboi Posted ID:I/8fVLIEA

>>270 Daily life in traditional china the Tang Dynasty
ถ้าจำไม่ผิดมีเป็นของราชวงศ์อื่นด้วย
กับthe culture of sex in ancient china
เอามาจากscribd

274 Nameless Fanboi Posted ID:He/csWbpq

>>268 แก้ทันทีว่ะถ้าเป็นข้อมูลผิดหรือคำผิด ของที่จะแก้ทีหลังคือการรีไรต์ให้สละสลวยหรือให้กระชับ แก้ปมที่ไม่เคลียร์ แต่ถ้าเป็นข้อมูลผิดพลาดและคำผิดกูเห็นว่าควรแก้เลย แล้วมึงก็เขียนแจ้งผู้อ่านท้ายตอนใหม่ว่ามึงพบข้อผิดพลาดต้องแก้ไข ถ้าใครสนใจย้อนอ่านก็ตามสะดวก

275 Nameless Fanboi Posted ID:w4bO3teS8

>>271 กูใช้สองอย่างเลย

276 Nameless Fanboi Posted ID:RlMOAvIT5

>>271 เราว่าใช้นาง
สำหรับเรา หล่อนต้องซักช่วงยุคล่าอาณานิคมขึ้นไปน่ะ

277 Nameless Fanboi Posted ID:GLQ2jEpS+

ทำไมนิยายที่ไม่ผ่านการพิจารณาถึงต้องรอนานมากกว่าที่ สนพ. จะแจ้งวะ

คือมันไม่เมคเซนซ์ปะ ถ้ามันไม่ผ่านก็น่าจะปัดตกมาแบบเร็วๆ แจ้งกลับมาได้ทันทีที่โยนลงตระกร้าเลยว่า ไม่ผ่านนะ ทำไมแม่งต้องรอจนครบ 3 เดือน (หรือเกิน) หรือไม่ก็ต้องรอให้ทวงถามไปก่อน แล้วจากนั้นค่อยหายไปวันสองวัน แล้วตอบกลับมาว่าไม่ผ่าน อันนี้งงจริงๆ หรือว่าแบบนี้คือผ่านการพิจารณาไประดับนึงแล้ว แต่ไม่ผ่านในระดับที่สูงขึ้นไปวะ

278 Nameless Fanboi Posted ID:Q4TeXQSJI

>>277 เป็นเรื่องคิว คนเลือกไม่ได้อ่านเรื่องที่ส่งไปทันที ช่วงไหนสำนักพิมพ์มีงานเร่งปิดเล่มเช่นช่วงงานหนังสือยิ่งไม่ว่าง หลังงานก็มาอ่านไม่ไหวเพราะทำงานแรงหมดกันแล้ว อาจจะเว้นไปอีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ค่อยกลับมาอ่านกันใหม่

279 Nameless Fanboi Posted ID:h5P/lcQEc

ถามหน่อยกุสงสัย ส่งต้นฉบับหลายสำนักพิมพ์พร้อมกันได้ในครั้งเดียวมั้ยวะหรือต้องส่งทีละอันไม่ผ่านค่อยว่ากัน งี้ถ้าไม่ผ่านเรื่องๆ จะทำไงอ่ะ

280 Nameless Fanboi Posted ID:fUyIvgOZA

>>279 แล้วถ้าผ่านหลาย สนพ. มึงจะทำยังไง บอกเขาว่าไม่พิมพ์กับที่นี่ จะไปพิมพ์กับที่อื่นงี้เหรอ

281 Nameless Fanboi Posted ID:qZSXopPqc

>>279 ในทางมารยาทของสำนักพิมพ์แล้วส่งพร้อมกันไม่เหมาะสม ถ้าเกิดมีสำนักพิมพ์ไหนโอเคกับงานมากกว่าหนึ่งแห่งแล้วบังเอิญทั้งสองที่รู้จักกัน มึงอาจจะไม่ได้พิมพ์ทั้งสองที่เลยก็ได้ จากนั้นคนในสำนักพิมพ์นั้นก็จะไปบอกสำนักพิมพ์อื่นๆ ว่ามึงเสียมารยาทยังไง แล้วสำนักพิมพ์อื่นๆ ก็จะไม่เปิดอ่านงานมึงเลยก็เป็นได้เพื่อจะเลี่ยงดราม่า ถ้านักเขียนหน้าใหม่คนเดียวไม่คุ้มเขาหรอก ถ้าเป็นคนเก่าเปลี่ยนที่อย่างน้อยเขาคุยกันระดับหนึ่งแล้วเคลียร์กันไป แต่ถ้าตกพร้อมกันทุกที่เขาก็ไม่ใส่ใจหรอกนะ
ถ้าไม่ผ่านก็เขียนใหม่เรื่อยๆ กูบอกให้ว่าโอกาสตีพิมพ์ง่ายสุดคืองานมึงดี มึงลงงานบ่อย แล้วก็ติดสามอันดับแรกของหมวดนานๆ กูบอกแค่นี้แหละถ้ามึงมีครบเดี๋ยวก็มีแมวมองไปถามมึงเอง มึงจะไม่เชื่อก็ได้นะ แต่กูแนะนำว่าตอนส่งงานไปแล้วมึงเอาเวลาไปเขียนเรื่องใหม่เลย ไม่ต้องไปลุ้นผลแล้วค่อยกลับมาเขียน เสียเวลา ได้ก็ดี ไม่ได้ก็จะได้มีงานใหม่ส่งอีก

282 Nameless Fanboi Posted ID:y7/eozv+H

>>281 กูยืนยันว่าสนพ.มีแมวมองจริงๆ ถ้ามึงดีไม่ถึงครึ่งเรื่องเค้าก็มาติดต่อมึงละ ยิ่งตอนนี้สนพ.ผุดกันเหมือนดอกเห็ด
แต่ความยากง่ายในการพิมพ์มันคงแล้วแต่แนวด้วย แบบถ้าแนวนั้นมันมีคนอ่านเยอะมันก็พิิมพ์ง่ายอ่ะ คือสนพ.เล็กๆเค้าก็ต้องแย่งนักเขียนเหมือนกันอ่ะ ตอนกูที่ติดต่อมาเร็วๆเป็นสนพน้องใหม่ยังไม่เคยพิมพ์เลย (แต่ตอนนี้ก็ถือว่าไม่ใหม่ละแหละ)

283 Nameless Fanboi Posted ID:rTfpjuZDR

เพื่อนโม่งมีใครเป็นแบบกูบ้าง
คือกูอยากจะรื้อพล็อตทั้งหมดทิ้ง แล้วเขียนใหม่ทั้งหมดโดยเหลือแค่เซ็ตติ้งเดิมเท่านั้น
แต่พอกลับมาอ่านแล้วก็ดันรู้สึกว่า "อันเก่ามันก็โอเคแล้วนี่หว่า" ซะงั้น จนไม่ได้เขียนแก้ซะที ตอนนี้ปวดหัวมากเลย พอจะเขียนพล็อตใหม่ พล็อตเก่าที่เคยคิดว่าดีแล้วมันก็เข้ามาตี เข้ามาขวางในหัวไม่ให้เขียนแก้ตลอดเลย

284 Nameless Fanboi Posted ID:u4TrxiWSi

>>283 เขียนแยกสองเรื่องเลยไหม อันไหนดีก็เอาอันนั้น ดีทั้งคู่ก็แยกเป็นอีกเรื่องไปเลย

285 Nameless Fanboi Posted ID:h5P/lcQEc

>>283 กูเลยแบ่งแม่งสองเวอร์ชั่น ให้คนอ่านตัดสิน เรื่องเดียวกันแต่สองเวอร์ชั่น๕๕๕

286 Nameless Fanboi Posted ID:h5P/lcQEc

>>285 แต่ลงสองบทความนะ แต่แบบคนอ่านบอกสนุกทั้งคู่เลย กูไปไม่ถูกเลยทีนี้

287 Nameless Fanboi Posted ID:lZwlTeqpT

หดหู่ คนอ่านเกลียดตัวละครโปรดกุ แม่งเอ้ย กุอุตส่าห์แต่งให้เกลียดพระเอก พระรองซวยโดนหาว่าเยอะ หานนน พระเอกแม่งเยอะกว่าพระรองอีก

288 Nameless Fanboi Posted ID:lZwlTeqpT

>>287 ปล พระรองลูกรักกุ

289 Nameless Fanboi Posted ID:/ilaMjTac

มึง ถัดจากต้นคอลงไป แต่ยังไม่ถึงขนาดกลางหลัง
แบบก่อนถึงกระดูกสะบักอ่ะ ใช้คำว่าอะไร

290 Nameless Fanboi Posted ID:Jz/xN0XaZ

>>289 ไหปลาร้า ?

291 Nameless Fanboi Posted ID:0cX855t7M

>>289 บ่า? แนวไหล่? หรือไม่ก็บอกไปเลยว่าแผ่นหลังช่วงเหนือสะบักไรงี้มะ?

292 Nameless Fanboi Posted ID:/ilaMjTac

>>290 ไม่ๆ ความสูงประมาณไหปลาร้าแต่เป็นอยู่ข้างหลัง

293 Nameless Fanboi Posted ID:/ilaMjTac

>>291 อืมมมแนวไหล่ก็ได้มั้งงงง เครๆๆแต้งกิ้ว

294 Nameless Fanboi Posted ID:QGh6niGoJ

>>289 หลังส่วนบน

295 Nameless Fanboi Posted ID:Jz/xN0XaZ

>>289 จุมพิตร้อนไล่จากลาดไหล่ลงมาแผ่นหลัง..... ราวๆนี้ป่ะ

296 Nameless Fanboi Posted ID:wL+Q3E5ab

>>295 มึงรู้ได้ไงว่ามันเป็นฉากอิโรติก อารมณ์ประมาณนี้เลยๆๆ 55555 กูเป็นคนถามเองนะ กลับมาบ้านแล้วไอพีเลยเปลี่ยน

297 Nameless Fanboi Posted ID:fRs2.3wG1

>>296 สัญชาตญาณของมนุษย์๕๕๕๕ อะไรอีโรติกมันรู้ไว

298 Nameless Fanboi Posted ID:dqEToMC6.

เห็นห้องเสิ่นเจิ้นคุยกัน แต่ย้ายมานี่น่าถูกต้องกว่า
คิดยังไงกะภาษาพูด-ภาษาบรรยายในนิยายบ้างอะ

แบบของกูเวลาบรรยายก็จะใช้คำถูกต้องจริงจัง แต่ในบทพูดจะมีการกร่อนเสียงบ้าง
สมมติคำว่า "อย่างนั้น" เวลาเป็นบทพูดก็ใช้ทั้ง "อย่างงั้น" "งั้น" "ยังงั้น" หรือพวก "รึ" "หรือ" "เหรอ" "หรอ" แล้วแต่สำเนียงและอุปนิสัยของตัวละครว่าเป็นคนแบบไหน

อย่าง "ไหม" "มั้ย" แต่ก่อนกูจะแยกใช้บรรยายกะคำพูดนะ แต่เคยโดยทักว่า "มั้ย" มันวิบัติ เลยไม่ค่อยได้ใช่ละ ( ._. )

299 Nameless Fanboi Posted ID:7Gw6RxxXv

>>298 แล้วแต่ยุค ถ้าปัจจุบันเราจะเลียนเสียงจริง เลียนวิธีพูดจริง ถ้าโบราณอาจจะไม่กร่อนเสียง ขึ้นอยู่กับโทนเรื่อง บางทีขึ้นอยู่กับยุคด้วย ถ้าอยากแต่งอิงประวัติศาสตร์ยุคคุณพ่อคุณแม่นี่ก็อาจลองดู ๆ ว่าพวกผู้ใหญ่เค้ามีวิธีพูดแบบไหน ไรแบบนี้

300 Nameless Fanboi Posted ID:6cXcpS+zH

>>298 >>299 กูก็อยู่ห้องเสิ่นเจิ้น กูขออธิบายก่อนว่า ที่มึงยกมามันไม่ใช่กร่อนเสียง กร่อนเสียงคือเช่น หมากพร้าว เป็น มะพร้าว หมากขาม เป็น มะขาม

ส่วนที่มึงยกมาคือการแปรเสียง มีหลายแบบ

อย่างนั้น เป็น อย่างงั้น, ยังงั้น, งั้น อันนี้เป็นการกลมกลืนเสียง อธิบายลึกไปอีกคือกลมกลืนเสียงแบบเดินหน้า

หรือ เป็น รึ อันนี้เป็นการทำเสียงสระให้สั้น แล้วก็เปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์อีกทอดหนึ่ง ถ้าตามพจนานุกรมมันมีแต่ หรือ กับ เหรอ แต่กูคิดว่า รึ ก็น่าจะใช้ได้ ส่วน หรอ อะอย่าใช้จะดีกว่า

ไหม กับ มั้ย อันนี้เป็นการแทนที่เสียง

ที่กูอธิบายมาทางภาษาศาสตร์เรียกว่า การแปรเสียง ซึ่งเขาระบุธรรมชาติของภาษาไว้ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงได้ การฟันธงว่าคำไหนเป็นภาษาวิบัติสำหรับกูมันยากที่จะฟันธงลงไปมาก ๆ

โดยส่วนตัวกูเองก็ใช้แบบมึง บทบรรยายใช้ อย่างไร, หรือ, อย่างนั้น, ไหม แต่พอบทสนทนาก็มีแบบ ยังไง, เหรอ, ยังงั้น, มั้ย ฯลฯ

301 Nameless Fanboi Posted ID:lEBIh/xd/

นับวันกุเริ่มรู้ว่าภาษาตัวเองยุ่งยากชิบหายเพราะห้องนี้โดยเฉพาะ

302 Nameless Fanboi Posted ID:lEBIh/xd/

แบบภาษาอังกฤษมีแค่ I แปลไทยแบบ ข้า ฉัน ดิฉัน เดี๊ยน กู ข้าพเจ้า แบบไทยคำเยอะชิบ

303 Nameless Fanboi Posted ID:3Qj+N2e1l

มึง กูสงสัย ตลค.ฝาแฝดสลับตัวกัน มันไม่ผิดกฎหมายแอบอ้าง/ปลอมแปลงเอกสารเหรอวะ หรือยังไง กูไม่รู้กฎหมายด้วยสิ

304 Nameless Fanboi Posted ID:6UMxW+eZ3

>>303 น่าจะผิด แต่กม.จะสำแดงเดชได้ต้องมีเจ้าทุกข์ฟ้องร้อง​​เอาความน่ะ

305 Nameless Fanboi Posted ID:farbJGx0F

มึงงงงงงงงงงงง แบบกับเรื่องที่กูกำลังเขียนอยู่ กูแบบไม่อยากเขียนแล้วอ่ะ แต่มันก็แบบมาค่อนนึงแล้วอ่ะ คนอ่านก็รออยู่ นี่กูประกาศหยุดอัพไปสักพักแล้ว TT^TT
คือในหัวกูมันแบบมีพลอตเรื่องใหม่แล้วอ่ะ
พลอตเรื่องนี้มันแบบแห้งเหือดไปแล้ว คือกูวางพลอตเรื่องนี้ไว้จนจบแล้วแหละ แต่แบบเขียนไปมันก็รู้สึกแห้งๆ ไม่กระดี้กระด๊าแบบตอนแรกๆ กูเป็นงี้ตลอดเลยอ่ะ แบบตอนแรกๆก็เขียนแล้วก็แฮปปี้ ไปเรื่อยๆความอยากแม่งลดลงๆจนเริ่มไม่อยาก เฮ้อออออออออ ชีวิตตตตต แต่กูก็แบบคนอ่านเค้าก็อุตส่าห์รอกูวววอย่างอดทน
มาบ่นเฉยๆ 55555

306 Nameless Fanboi Posted ID:v+jkzBj3V

เรื่องมันเศร้ากุเขียนฉากโรแมนติกไม่ได้ แม่งไม่ถนัดเลย เขียนอะไรก็ได้ยกเว้นโรแมนติก
ม้าางงงงงง กูไปดูหนังรัก แม่งกลายเป็นเศร้าแทน หรือความรักจะเป็นทุกข์จริงๆ มันทุกข์จนกูแต่งโรแมนติกไม่ออก
อิจฉาเรื่องที่แต่โรแมนติกอ่านแล้วฟินได้ว่ะ ประสบการณ์ในชีวิตเยอะสินะ อยากรู้ว่าคิดขึ้นเอง หรือเคยเจอจริงๆ

307 Nameless Fanboi Posted ID:7yGUIvc2/

>>305 เห็นมึงแล้วนึกถึงนข.ที่กูชอบคนนึง ซึ่งเหมือนเขาจะเทเรื่องที่กูตามไปแล้วเรียบร้อย ปวดใจชิบหายเลยแม่งเอ๊ย 555555
จงรู้สึกผิดซะ !

308 Nameless Fanboi Posted ID:8cT6jrDCz

>>307 หวังว่ามึงคงจะไม่ใช่นักอ่านคนนึงของกูนะ 55555555555 กูเพิ่งถูกเมนชั่นมาทวงสดๆร้อนๆเมื่อกี้ แต่ก็เอาเหอะะะ กูคงจะกลับไปเขียนเร็วๆนี่แหละมั้งงง เขียนแบบแห้งๆนี่แหละ เหอๆ

309 Nameless Fanboi Posted ID:7yGUIvc2/

มึง ถ้าพระเอกกู เป็นประธานบริษัท(ได้รับมรดกมา) แต่ไม่อยากเป็นต่อแล้ว มันลาออกไปดื้อๆได้เลยป่ะ ต้องขายหุ้นทิ้ง หรือยังไง
เรื่องธุรกิจกูไม่สันทัดจริงๆ

310 Nameless Fanboi Posted ID:9wQ+DmXlz

>>309 อันนี้กูว่ามึงคิดใหม่ก่อนมั้ย ว่ามันได้มรดกอะไรมาวะ หุ้นเหรอ ? ถ้าหุ้นจริงมันถือหุ้นใหญ่ไม่จำเป็นต้องบริหารก็ได้นะมึง นอนกินไปเลย

311 Nameless Fanboi Posted ID:7yGUIvc2/

>>310
ของกุคือเหมือนมันเป็นลูกหลานเจ้าของบริษัทอะ เป็นธุรกิจครอบครัว ที่บ้านก็ฝากฝังให้ดูแล บริหารด้วย
สงสัยกูคงต้องคิดใหม่จริงๆแหล่ะ เพราะความรู้พวกนี้กูต่ำต้อยมาก กูควรเริ่มจากไหนวะ
ว่าแต่ทำไมคนชอบแต่งให้พระเอกทำงานแบบนี้วะ กูว่ามันแต่งยากชิบ 5555

312 Nameless Fanboi Posted ID:yN4mTeQHa

>>311 เพราะมันดูเหมือนง่ายอะมึง ดูหล่อ ดูรวย นั่งเซ็นเอกสาร ใส่สูท มีเงิน มีรถ

จริง ๆ ของกูก็พระเอกเป็นนักธุรกิจ แต่กูไม่มีความรู้เลยต้องดองไว้ก่อน นี่ว่าจะหันไปทางกราฟิกดีไซน์บ้าง คนเขียนหนังสือรีวิวท่องเที่ยวบ้าง ชีวิตฟรีแลนซ์กูว่าก็น่าสนใจดี

313 Nameless Fanboi Posted ID:P8Gm9oph.

เพื่อนโมง กูขอปรึกษาหน่อยดิ
คือกูเขียนฟิคมาก่อน แต่ตอนนี้เริ่มผันตัวไปเขียนนิยายวายไทยธรรมดาละ กูสามารถไปฝากโปรโมทนิยายได้ที่ไหนบ้างอะ
ตอนนี้คนอ่านของกูก็คือคนที่เป็นแฟนผลงานตอนเขียนฟิคนี่แหละ แต่กูอยากได้คนอ่านใหม่ๆเพิ่มบ้าง
ช่วยบอกบุญกูหน่อยนะ ขอบคุณมาก

314 Nameless Fanboi Posted ID:3T8dlNHyZ

>>313 บอร์ดเด็กดอยเลย ไม่ก็แปะลงโม่งก็ได้ รับรองแปบเดียว

315 Nameless Fanboi Posted ID:P8Gm9oph.

>>314 แปะลงโม่ง กูก็กลัวโดนสับ 55555555

316 Nameless Fanboi Posted ID:Qp45Xx4Qj

>>313 กูแนะนำ Fictionlog เหมือนวายกำลังมา แล้วทางเว็บเหมือนจะขึ้นโปรโมทให้บางเรื่องด้วย

317 Nameless Fanboi Posted ID:g/JDZam7G

Fictionlog ระบบคล้ายๆธวลอ่ะ แต่เค้าก็โปรโมทให้วายจริงๆ คือถ้าถูกเค้าโปรโมทก็ดีไป ไม่ถูกก็แย่หน่อย 5555
กูว่าลงในเล้าคนก็อ่านเยอะละนะ

318 Nameless Fanboi Posted ID:P8Gm9oph.

กูก็ลงในดด.แล้วก็ในเล้าด้วยแหละ แต่ในเล้านี่แบบ เค้าคงไม่คุ้นชื่อกูมั้ง เลยไม่กดอ่านกัน กูคงต้องสู้ต่ออีกยาวๆ T___T

319 Nameless Fanboi Posted ID:5hMj6s0tg

เล้าคือที่ไหน?

320 Nameless Fanboi Posted ID:E.7Q8WiuJ

>>319 thaiboylove อะมึง

321 Nameless Fanboi Posted ID:RjzhG3+a0

ไม่แนะนำ Fictionlog นะ เจ้านี้ทำคดีไว้เยอะระวังวันดีคืนดีงานจะไปอยู่ที่อื่นโดยไม่บอกเจ้าของงาน ไป readawrite คนน้อยแต่ชัวร์กว่า

322 Nameless Fanboi Posted ID:ecb8kC6xD

>>321 ทำไมวะมึง เหลาาาา

323 Nameless Fanboi Posted ID:QRV.hsHqI

>>322 เครือเดียวกะผึ้ง​อะ ธวล

324 Nameless Fanboi Posted ID:ecb8kC6xD

>>323 เดี๋ยวนะ กูจำได้ว่าผึ้งกับธวล. นี่เครือๆ เดียวกัน แต่ fictionlog นี่ไม่ใช่ปะ

325 Nameless Fanboi Posted ID:15WZBwZg3

>>324 ตามที่ >>323 ว่า

326 Nameless Fanboi Posted ID:ahzAzIkvF

ผึ้งมี ธวล มีฟิกชั่นลอก มีจอย ประมาณนี้มะ
เดี๋ยวนี้ธวลแม่งบ้าบอคอแตกสัดๆ ขายเสื้อย่งเสื้อยืด เวบก็ล่มทุกวี่ทุกวัน

327 Nameless Fanboi Posted ID:KpVtQ+sx0

>>325 กูเคยได้ยินว่าเครือเดียวกันแต่จัดการแยกส่วนกัน ไม่เกี่ยวข้องกัน

328 Nameless Fanboi Posted ID:e7ekE.aKa

ถ้าเครือเดียวกันนี่ก็แปลกอยู่นา ธวล.แม่งโปรโมตจอยบึ้มๆ แต่ไม่ยักกะโปรโมตฟชล.กับสตรล.เลย เขาแบ่งลูกรักลูกชังกันเหรอวะ?

329 Nameless Fanboi Posted ID:QRV.hsHqI

>>328 กูไม่รู้​นะ แต่เคยได้ยิน​ว่า สตล.ไม่เกี่ยว
ฟชล.คือ สตล.กะผึ้ง​ร่วมมือ​กัน
ธวล.กะจอยคงของผึ้ง​เน้นๆอะ

330 Nameless Fanboi Posted ID:1Gm+ie3FZ

ฟินโนเวลอ่ะ ของใคร ส่งข้อความมาชวนกุลงนิยายรัวๆเลย กุกลัว

331 Nameless Fanboi Posted ID:FAIFL3Qbr

เพื่อนโม่งกูขอถามหน่อย
คือกูอยากเขียนแนวแฟนตาซีผจญภัยอะนะ แต่ก็อยากเจาะตลาดกลุ่มผู้หญิง (ที่ไม่ใช่สาววาย) ด้วย
กูควรจะหาองค์ประกอบอะไรมาลงบ้างดี?

332 Nameless Fanboi Posted ID:1Gm+ie3FZ

>>331 นางเอกสวย ซู ผู้รุมรัก ผู้ตัวเทพทิ้งเมียคนอื่นหมดทันทีที่เจอนาง ผู้ตัวรองแสนดี

333 Nameless Fanboi Posted ID:rznI5Mqyk

>>331 ตัวร้ายต้องหล่อด้วย สนใจแต่อีนางเอกคนเดียว

334 Nameless Fanboi Posted ID:ahzAzIkvF

>>331 คนอ่านผู้หญิงเหรอ จริงๆก็ตามข้างบนพูด 55555 คนหล่อเยอะหน่อย นางเอกเก่ง เนื้อเรื่องสนุก มีบทโชว์ความเก่ง (ที่พูดมามันอาจจะเกร่อๆ แต่คนอ่านชอบนะ กูก็ชอบอ่านอะไรแบบนี้ อ่านเอาเพลินๆสนุกดี) ถ้าจีนได้ก็จะตลาดกว้างหน่อย ถ้าจะไปผจญภัยแฟนตาซีก็จะแคบลงอย่างเยอะเลย

335 Nameless Fanboi Posted ID:gOZLBQpz1

>>332 >>333 >>334 อืม... เอา 3 ความเห็นมารวมกันแล้วสรุปได้ว่า... ตลาดผู้หญิงมันก็ไม่ต่างจากผู้ชายเลยนี่หว่า!!
ไหงพวกคนอ่านมีแต่หลวม self-insert ทั้งผู้ทั้งเมียเลยฟระเนี่ย!!

336 Nameless Fanboi Posted ID:KpVtQ+sx0

>>331 เอาความชอบกูคือต่างจากที่ข้างบนพูดมาทั้งหมด นางเอกต้องไม่น่ารำคาญ ไม่ซู มีความเป็นมนุษย์ปกติแบบที่พลาดได้แพ้ได้ คีพคาร์เสมอต้นเสมอปลาย และต้องน่าเอาใจช่วย

337 Nameless Fanboi Posted ID:HRoeM4DZ2

>>335 แน่นวล มึงคิดว่าแนวเกมจีบหนุ่มจีบสาวมาตอบสนองใครล่ะ๕๕๕๕

338 Nameless Fanboi Posted ID:HRoeM4DZ2

>>337 แนวๆ นี้มันself-insertกันอ่ะถ้าแบบเจาะตลาดโดยตรง เหมือนพวกฮาเร็ม ไรพวกนั้น

339 Nameless Fanboi Posted ID:JUIRosyzG

มึง ถ้านิยายกูไม่มีฉากเยเลย แต่มีซีนพระเอกฝันเปียกนี่ยังถือว่าเรทอยู่มั้ยวะ

340 Nameless Fanboi Posted ID:TebrPU/xm

>>339 มึงอธิบายยังไงอ่ะ ถ้าแค่อธิบายให้ฟัง แบบประโยคบอกเล่า ว่าแม่งฝันเปียกก็ไม่ได้ติดเรทไรนะในความคิดกู แต่ถ้ามึงแบบลงดีเทล ภาษาที่มึงใช้แบบอิโรติกหน่อย มันก็อาจจะติดเรทได้

341 Nameless Fanboi Posted ID:HRoeM4DZ2

>>339 ไม่เรทมั้งนะกุว่า

342 Nameless Fanboi Posted ID:HRoeM4DZ2

โมใ่งนักเขียนมีใครเคยใช้เล่มนี้ "เขียนนิยาย โดย รตชา" ที่เขาว่าเป็นเล่มในตำนานเป็นหลักการเขียนนิยายบ้าง มารีวิวหน่อย มันแพง กูทำใจซื้อไม่ได้จนกว่าจะมีคนตัวเป็นๆ บอกว่าคุ้ม
590 กูช็อค

343 Nameless Fanboi Posted ID:fvlwDm/u0

ky ใครเคยเขียนๆ ไปแล้วอยากเปลี่ยนพระเอกกลางคันบ้างวะ กุพึ่งเคยเป็นครั้งแรกช็อคสุดๆ เลยว่ะ ทำตัวไม่ถูก ปกติกุนี่ไม่เคยหวั่นไหวกับพระรองเลยไม่ว่าจะดีหรือเลวขนาดไหน แต่เรื่องล่าสุดที่กูเขียน นางเอกดูเจ้าเล่ห์แต่เป็นคนใสๆ อยากให้คู่กับพระเอกที่ภาพลักษ์ใสๆ แต่เกรียนหลบใน รักกันเพราะต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันและผูกพันธ์โดยไม่รู้ตัวงี้ ส่วนพระรองกูนี่สูตรสำเร็จพระเอกนิยายเลย คือเป็นนักธุรกิจ ขรึม ไม่มีข่าวฉาว หัวโบราณ เหมือนหมาพันธุ์ใหญ่ซื่อบื้อๆ ที่ซื่อสัตย์กับเจ้าของอ่ะ เขียนๆ ไปแล้วใจกูเทไปที่พระรองเยอะมาก ธรรมดากุชอบตลค.แบบนี้อยู่แล้วด้วย แต่เรื่องนี้ที่กะให้คนแรกเป็นพระเอกเพราะอยากสื่อถึงคู่รักที่พัฒนาจากความเป็นเพื่อน พึ่งพากัน ชีวิตเอียงกะเท่เร่กันทั้งคู่แต่ก็ช่วยกันฉุดอีกคนขึ้นมา ถ้ากุให้คนหลังเป็นพระเอกมีความรู้สึกว่าพี่หมากูน่าจะออกแนวเป็นผุ้ให้ซะเยอะ เซลฟ์อินเซิร์ทได้ฟินๆ กุไม่อยากให้เรื่องออกมาแนวนั้น แต่กุก็ตักใจจากเขาไม่ลง 555 ทำไงดีวะ

344 Nameless Fanboi Posted ID:HRoeM4DZ2

>>343 อีโม่งหลายใจจจจจ เปิดrouteแยกเสีย ๕๕๕ route A พระเอกออริจินอลของมึง route B พระรองซะ

345 Nameless Fanboi Posted ID:GF2/8l/GB

>>343 เขียนให้อกหักไปก่อนดิ
แล้วก็ขึ้นเรื่องใหม่ให้กลายเป็นพระเอกตัวเต็ม ผู้ผิดหวังมา
ส่วนใหญ่ทำกันแบบนี้แหละ ถ้าเสียดายตัวละคร

346 Nameless Fanboi Posted ID:k9Jm3VVI1

กูเอาคำแนะนำเพื่อนโม่งไปตั้งชื่อนิยายกูละ
ต่อไปชื่อตอน พวกมึงเอาชื่อตอนกันยังไง แบบลิเกจ๋า หรือแบบอ่านแล้วนึกว่าชื่อนิยาย หรือแบบคำสั้นๆ วลีเด็ดๆ

347 Nameless Fanboi Posted ID:eOj7A/UzV

>>346 ง่ายที่สุด สิ้นคิดที่สุด และสื่อถึงตอนที่สุด วิธีของกูคือโควตคำ/วลี/ประโยคเด็ด ๆ จากในตอนมาเป็นชื่อตอนเลยจ้า

348 Nameless Fanboi Posted ID:z1pmlrdHY

>>343 อย่านิสัยเหมือนกู ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
แต่ส่วนตัวกูไม่ชอบแบบ >>345 เพราะนี่ยึดติดว่าใครชอบใครต้องชอบให้สุด หรือจะไปชอบใครใหม่ก็ต้องตัดใจให้ขาด (พระรองกูเลยนกถาวร) แต่ก็นั่นแล ทางเลือกอื่นคือมึงก็ไม่ต้องให้พระรองมึงออกตัวชอบนางเอกเรื่องนี้แค่เป็นเพื่อนรุ่นพี่อะไรก็ได้ แล้วไปใส่จัดเต็มให้นางเอกใหม่ของฮีซะ

>>346 ของกูเอาคีย์เวิร์ดสั้นๆไม่พร่ำเพ้อ แต่เป็นเมนของตอนอะ

349 Nameless Fanboi Posted ID:k9Jm3VVI1

กูเขียนแนวที่ปกติคนไม่ค่อยเขียนกันเช่นแม่เกลียดลูกในไส้ นี่มันดาร์กไปเหรอมึง

350 Nameless Fanboi Posted ID:FT+AvhOMI

เพื่อนโม่งกูถามหน่อย ช่วงต้นเรื่องเขียนยังไงไม่ให้น่าเบื่ออะ?
พอดีกูเป็นพวกชอบเขียนช่วงต้นเยอะ เพื่อให้คนอ่านรู้สึกอินไปกับเนื้อเรื่อง แต่หลักนิยมเดี๋ยวนี้เขาดันชอบแบบดำเนินฉับมันเลยทำเอาสไตล์กูล้าสมัยไปเลยเนี่ยสิ
กูพยายามคิดนะว่าจะทำยังไง แต่สุดท้ายก็ต้องใช้ไม่ต่ำกว่า 30 หน้าเพื่อปูเซ็ตติ้งอะ

351 Nameless Fanboi Posted ID:N8pNEbx+J

>>350 เยอะไปปปปป แบ่งไปใส่ตอนอื่นมั่ง ไม่งั้นมึงจะตันบทอื่นแบบกู ปูเยอะไป18หน้า

352 Nameless Fanboi Posted ID:FMgNfL/WJ

>>350 เยอะไปจริงๆ ดำเนินเรื่องช้ามากเลยเหรอ กูว่านิยายสมัยก่อนมันก็ไม่ได้ดำเนินเรื่องช้านะจริงๆแล้ว

>>349 ไม่ดาร์กนะ กูว่าเฉยๆ แต่มันก็ไม่ได้เป็นประเด็นใหม่นะ แต่ถ้าจะเป็นประเด็นหลักเลยคงแบบดราม่าไปนิดสำหรับรสนิยมกู

353 Nameless Fanboi Posted ID:N8pNEbx+J

>>352 ไม่หลักหรอก แค่เป็นปมปูนิสัยเสียของลูกตัวเอก๕๕๕

354 Nameless Fanboi Posted ID:O90e+g0pO

30 หน้านี่คือ 1 บทอะ ซึ่งใน 1 บทนี้จะกล่าวถึง
1.ตัวเอกเป็นใคร
2.มีความสัมพันธ์กับใคร
3.เซ็ตติ้งเป็นอย่างไร
4.ปิดท้ายด้วย มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ถึงได้กลายเป็นเรื่อง

ซึ่งอันนี้กูจะแบ่งออกเป็นตอนย่อยๆ ตอนละประมาณ 3000 คำ ดังนั้นมันเลยตกเฉลี่ยที่ประมาณ 3-4 ตอนเองน่ะ

355 Nameless Fanboi Posted ID:N8pNEbx+J

>>354 มึงอยากคิดก็เขียนไปเลย
แต่ในฐานะคนอ่านกูไม่อ่านบทนำที่เยอะเกินไป

356 Nameless Fanboi Posted ID:wO52j+vMU

กู >>343 เองนะ กุตัดสินใจได้ละ เอาพระเอกคนเดิมน่ะแหละ ส่วนพระรองกุให้เขาแค่รู้สึกใจเต้นกับนางเอกพอ ยังไม่ได้จีบอะไร บทส่งท้ายค่อยขยี้ว่าพี่แกไม่มีเมียไปชั่วชีวิตเลยละกัน สันดานกุแก้ไม่หายสักที รักเขาไม่ได้ก็ทำร้ายแม่ง555555

357 Nameless Fanboi Posted ID:9P/6oXb1z

>>356 จัดเลยมึง กูอ่านเรื่องย่อๆที่มึงเล่าละกูทีมพระเอก ชอบความสัมพันธ์แบบมาคนแรก ผูกพันธ์กันมาก่อนยิ่งเพื่อนสมัยเด็กนี่ไทป์กูเลย

358 Nameless Fanboi Posted ID:LXRjA8FCD

>>356 อีเห้ ทำไมมึงทำร้ายฮีแบบนี้ คาร์แบบนี้น่าก๊าวดีนะโว้ย ไม่ยกระดับหน่อยเรอะ 55555

359 Nameless Fanboi Posted ID:LXRjA8FCD

เออ เพื่อนโม่ง กูมีปัญหาแล้วว่ะ เหมือนช่วงนี้กูเสพอะไรฝรั่งเกินไป แล้วกูคิดบทสนทนาออกเป็นภาษาอื่นหมดเลยอะ พอมาปรับเป็นไทยแล้วมันไม่เข้ายังไงไม่รู้ แบบความต่างทางภาษาอะมึง ฝรั่งแม่งไม่ใช้คำเยิ่นเย้อแบบไทยด้วยไง หรือกูควรเบนไปศึกษาแล้วเขียนสำนวนฝรั่งเลยดีวะ แม่งก็ดูไม่ค่อยเข้าอีก

360 Nameless Fanboi Posted ID:aQv6aHAlw

>>359 เออ เหมือนกันเลย นึกว่าเป็นคนเดียวแล้วเนี่ย 555 มิน่าก็ว่าเดี๋ยวนี้เขียนอะไรก็รู้สึกห้วนๆ ไม่เยิ่นเย้อ ไม่เหมือนที่เคยเขียนมาตอนสมัยก่อนเลย

361 Nameless Fanboi Posted ID:IR9B6ENzf

>>359 สำหรับกูนะ ถ้าตอนไหนสำนวนเป็นแบบไหน กูก็เขียนแนวนั้น เขียนตอนนี้สำนวนฝรั่ง ก็เขียน chick-lit เลยไรงี้ คือกูคงมีแนวที่อยากลองอยู่แล้วสำหรับภาษานั้นๆ อย่างตอนไหนจีนๆก็เขียนแนวจีน แต่ถ้าตอนไหนมึงจี้นจีนนน แล้วไปเขียนแนวธรรมดาหรือฝรั่ง แม่งจะติดสำนวนจริงๆนะ มันเอาออกยากด้วยอ่ะ บางทีมันเขียนไปโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าระวังๆหน่อยก็ได้อยู่วว

362 Nameless Fanboi Posted ID:iXel/Gy6H

กูลองอ่านนิยายตัวเองในมือถือดูพบว่ายาวชิบหายยาววายวอด สงสัยกูต้องลดหน้าลงบ้างละ scrollแล้วแบบยาวนานมาก กูทำให้คนอ่านกูใช้โควต้าอ่านปีละ8บรรทัดหมดไวไป จนลืมสังเกตปมที่กูเฉลยไว้ตั้งแต่บทนำ555

363 Nameless Fanboi Posted ID:Q7nTcRxrG

>>361 น่าลองดี ก็คิดว่าเข้าใจแนวchic-litอยู่นะ แต่ก็ยังเรียบเรียงไม่ค่อยถูกอ่ะ มันมีจุดสังเกตอะไรตรงไหนบ้างวะ

364 Nameless Fanboi Posted ID:ozr28r4Ij

โม่งนักเขียน พวกเอ็งบรรยายยังไงให้คำมันไม่ซ้ำกันบ้าง
ตอนนี้กูพยายามใช้ 1000 คำศัพท์นิยาย ไม่ก็หนังสือของแพลงตอน มีใครเคยใช้หนังสือของพวกนี้ไหมหรือรู้จักหนังสือใกล้เคียงไหม

365 Nameless Fanboi Posted ID:QlAkbvPq2

>>364 คลังคำ

366 Nameless Fanboi Posted ID:Kne1jU8fl

ถามหน่อย เว็บที่ลงนิยายตอนนี้มันมีเว็บอะไรบ้างอ่ะ?

367 Nameless Fanboi Posted ID:AVRqx.nHZ

>>366 dek-d, ธัญวลัย, storylog, fictionlog, ขีดเขียน, hongsamut, joylada, readawrite by meb

368 Nameless Fanboi Posted ID:QlAkbvPq2

>>367 + minimore

369 Nameless Fanboi Posted ID:jublBI6DO

>>367 ขีดเขียนนี่คนเยอะมั้ย
readawrite กับ fictionlog คนน้อยมากกก กูว่ายังไงคนก็ยังคงอยู่ที่ เด็กดีและธวล อยู่ดี

370 Nameless Fanboi Posted ID:5mTfvmTbD

Ky(?) เขียนยังไงไม่ให้คนอ่านรู้สึกถูกยัดเยียด พอดีไปขุดมู้เก่าๆมาเรื่องวินทร์ยัดเยียดเลยกังวล

371 Nameless Fanboi Posted ID:G5nUDuwUt

มึง สมมุติมีคนอ่านเกลียดนิสัยตัวละครมึงมากพร้อมบอกให้เปลี่ยนนิสัยมึงจะเปลี่ยนนิสัยตัวละครนั้นแมะ ร้อย แปดสิบคอมมเม้นมีด่าไอ้นี่ ซัก 50%
กูแต่งเพื่อให้มันเป็นปม อยู่แล้วรอเฉลย คนอ่านก็เร่งกูจัง นิสัยเยอะของตัวละครกูมันมีปมอยู่ ฮืออออ
นี่ถ้าอีกหน่อยกูเปิดตัวตัวร้าย กะว่าตอนสิบ นี่คนอ่านไม่เผาเรื่องกูเลยเร้อะ
อันนี้แค่ตัวเอกนะ...เข้าใจว่าอิน แต่ แต่ รออีกนิดนุง...

372 Nameless Fanboi Posted ID:FaMO9tSb4

>>371 เฮ้อออออออออออออออออออ กูเข้าใจ เมื่อวานตัวละครกูแบบโดนด่าเละเลยยย ฮือออ เอเวอรี่บอดี้โซอิน ละพอมันลงเนตเงี้ยะ กูก็แบบพยายามยื้อคนอ่านเอาไว้ (ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจอ่ะนะ) แต่กูก็คิดว่าพลอตก็คงทำตามเดิม คงไม่เปลี่ยนอ่ะ

373 Nameless Fanboi Posted ID:w71.QTpBI

กูอยากติดสำนวนจังเลยว่ะ ทุกวันนี้เขียนอะไรไม่ค่อยออกเลย พอจะหางานคนอื่นมาอ่านก็ไม่ค่อยเจอที่ถูกใจซักที กูชอบแนวแฟนตาซี โดยเฉพาะที่คนไทยแต่งนะ แต่หาหนังสือที่ชอบจริงๆ ย้ากยาก มาตรฐานสูงด้วยแหละ จะเอาของสมัยเด็กที่ซื้อไว้อย่างพวกบารามอสกลับมาอ่านใหม่ก็กลัวจะไม่สนุกเหมือนเดิม แต่สงสัยคงต้องพยายามมองข้ามเรื่องนั้นแล้วดูแต่สำนวนให้มันซึมซับเข้าไปว่ะ 555

374 Nameless Fanboi Posted ID:Kkfuad/Pu

>>369 ขีดเขียนไม่รู้ว่ะ ไม่เคยไปสำรวจ แต่มีคนแนะนำมา ส่วน readawrite กับ fictionlog ที่คนน้อย ส่วนหนึ่งกูว่าตัวเว็บมันมีแนวไปทางขายนิยายออนไลน์มากกว่าอะ ไม่เชิงเว็บให้อ่านนิยายฟรี เด็กดีก็เลยยังครองบัลลังก์อยู่ ด้วยความที่ฟีเจอร์ดี เว็บเสถียร ชุมชนใหญ่อะไรงี้

375 Nameless Fanboi Posted ID:7fdVaxJCp

>>372 หรือกูลงตอนพิเศษให้คนอ่านเข้าไปการกระทำตัวละครนี้เลยดีมั้ยวะ
ตัวละครกูเป็นงี้ พระรอง นอกจากพระเอก มันไม่เคารพใครทั้งนั้น นิสัยมันเหมือนพระเอกที่นอกจากแฟนมันมันไม่สนใจใครทั้งนั้น ถ้าเทียบความเหี้ยกูยังว่าพระเอกเหี้ยกว่า (จงใจ) แต่มึง คนชอบ...
กูม่ายเข้าใจจจจ

376 Nameless Fanboi Posted ID:7fdVaxJCp

>>375 เข้าใจ

377 Nameless Fanboi Posted ID:jGEsBNG1M

มึง กูเขียนนิยายแล้วชอบไปกังวลกับพวกยอดคอมเม้นอะ ทำยังไงให้กูเลิกคิดมากเรื่องพวกนี้ดี มันทำให้กูไม่มีอารมณ์จะเขียนตอนต่ออะ

ละอีกเรื่องพอดีกูมีนักอ่านประจำ แล้วทีนี้ช่วงหลังๆนักอ่านประจำที่เคยเม้นกุทุกตอนหายอะ กุแบบเครียดมากว่ากุเขียนไม่ดีตรงไหนหรอ รู้สึกแย่กับงานเขียนตัวเองมาก ตรงนี้ควรปรับปรุงที่นิยายตัวเองหรือปล่อยๆเขาไปดีวะ แม่งเครียดเว่อ

378 Nameless Fanboi Posted ID:yDxyUI0Aw

นิยายเดี๋ยวนี้ลงเว็บไหนเวิร์คที่สุดอ่ะ
ปล.ไม่ใช่นิยายวาย นิยาย 18+

379 Nameless Fanboi Posted ID:ATYFnHD1d

>>377 กูก็เป็นอะมึง จนตอนนี้หยุดพักเขียนไปยาวๆ เลย ;___; แล้วยิ่งแบบไปอ่านเจอทวิตหนึ่งว่าการที่อ่านอ่านไม่เมนต์เนี่ย คนเขียนจะไป blame คนอ่านไม่ได้ เพราะบางทีคนเขียนไม่สามารถดดึงอารมณ์คนอ่านให้ไปถึงจุดนั้นได้เอง กูก็ยิ่งรู้สึกแย่ เพราะถ้าพูดกันตามตรงเลยนะ คนอ่านขี้เกียจเมนต์หรือนิยายพาอารมณ์ไปไม่ถึงกันแน่ กูเห็นบ่อยเลยเวลาคนเขียนประกาศว่าจะหยุดอัพฟิค นักอ่านเงานี่มาเมนต์ขอโทษกันพรึ่บ กูควรรู้สึกไงดีวะมึง

380 Nameless Fanboi Posted ID:83hcQChRO

>>377 กอดเพื่อนโม่ง กูก็เป็นอยู่ แต่กูพยายามคิดว่ากูเขียนเพื่อท้าทายตัวเองไรงี้ เอาความพอใจตัวเองเข้าว่า ส่วนฟีดแบ็คจากคนอ่านที่ได้มาถือเป็นกำไรว่ะ มันก็พอช่วยได้อยู่นะ

381 Nameless Fanboi Posted ID:z1i6Boa1F

>>379 ใช่เลย แต่กูก็ไม่อยากเอาการนอยคนอ่านมาทำให้กูต้องรู้สึกแย่อะ คือคนเขียนบางคนเขียนดีกว่ากูแต่เม้นน้อยกว่าก็มีและอีกอย่างในความคิดกูนะจะให้มันพีคทุกตอนเงี้ยก็ไม่ได้อะมึง เศร้าใจ ตอนนี้คงทำได้แค่พัฒนางานตัวเองให้ดีกว่าเดิม

>>380 กูพยายามคิดแบบนั้นเหมือนกันเว้ยว่าตอนแรกเราเขียนนิยายเพื่ออะไร เราเขียนเพื่อความพอใจของตัวเองไม่ใช่หรอ แต่แบบบางทีมันก็ยังมีอารมณ์ที่ชอบเอาของตัวเองไปเปรียบเทียบกับนิยายที่แนวคล้ายของตัวเองว่าทำไมเขาฟีดแบคดี คนเม้นเยอะไรงี้ คือลองสังเกตดูกูว่าเขาไม่ได้ภาษาสวยมาก (เวลากูเขียนนิยายกูชอบกังวลว่าภาษาตัวเองจะไม่สละสลวยอะ) ละแบบเออทำไมคนถึงชอบ ตอนนี้เลยกำลังพยายามปรับปรุงการเขียนของตัวเองให้กระชับขึ้น

382 Nameless Fanboi Posted ID:PXiU/JbKN

>>379 >>380 >>381 กูคนอ่าน เม้นมั่งไม่เม้นมั่ง อยากบอกพวกมึงว่าเม้นน้อยแต่เม้นตรงประเด็นมันดีกว่ามาก เวลากูจะอ่านนิยายกูดูเม้นคนอ่านเดิม ๆ ด้วย ถ้ามีแค่ รอจ้า ขอบคุณจ้า ดีจ้า ชอบจ้า มาต่อเร็ว ๆ มีแต่แบบนี้เพียบกูเดาได้เลยว่าไม่มีอะไรให้อ่านหรอก แต่ถ้าเม้นถึงพระเอกนางนู่นนี่มีวิเคราะห์คาดเดามากมายกูจะสนใจนะ ถ้ามึงมีนักอ่านคุณตะพาบแล้วมึงจงดีใจเหอะ อย่าไปนอยเลย มึงอยากได้นักอ่านแบบอ่านทีละสิบเรื่องแล้วอ่านแต่บทสนทนาเอามันเหรอ มึงก็ไม่อยากได้ใช่ปะ คนอ่านที่อ่านหนังสือจริง ๆ จัง ๆ ก็ต้องรอให้พีคถึงจะเม้น ถ้ามึงเขียนโคตรพีคแล้วไม่มีคนเม้น อันนี้มึงค่อยคิดมากจะดีกว่า

383 Nameless Fanboi Posted ID:z1i6Boa1F

>>382 อ่านเม้นมึงละทำให้กูคิดได้อย่าง หลังๆมาคนเม้นกูน้อยก็จริง หน้าเดิมๆหาย แต่คนเม้นช่วงหลังๆเม้นที4,5,6บรรทัด แสดงว่าเค้าคงอินบทอยู่พอสมควร เอาจริงๆกูดีใจนะเหมือนมีคนเม้ามอยด้วย ถ้าปกติมีแค่เม้นว่ารอจ้า กูก้ไม่รู้จะคุยอะไร ไว้ถ้ากูกลับไปอัพตอนใหม่จะพยายามไม่นอยเรื่องเม้นละ ขอบคุณมาก

384 Nameless Fanboi Posted ID:0MPC1seMF

เรื่องคนเม้นนี่กูบอกเลยถ้าใครจะพูดว่าไม่สน กูคนนึงที่สนมาก คือแม่งมีผลต่อจิตใจกูมากกก สมมติแบบตอนนึงเคยมีสักห้าสิบ แล้วตอนใหม่อยู่ดีๆลดไปยี่สิบเงี้ยะ กุจะแบบเครียดละกูทำไรผิด บาบตอนเรื่องมันก็ต้องเรื่อยๆมั่งอ่ะ
ละพอเป็นงี้แม่งจะทำให้กูเหมือนเสพติดเว่ย แบบทำไงให้ตอนต่อไปตื่นเต้นแม่งตื่นเต้นทุกตอน กระทบเส้นเรื่องกุไปอีก เฮ้อออออออ
แบบเวลากูเห็นคนทวิตทำนองว่าเขียนเพื่อตัวเองก็ใช้ได้แล้ว คือมันก็ใช่เว่ยยย กูเขียนเพราะอยากเขียนแต่คอมเม้นที่ทำให้กูมีความสุขกูก็อยากได้

385 Nameless Fanboi Posted ID:z1i6Boa1F

กูเข้าใจเลยแต่เอาตามตรง20เม้นต่อตอนของมึงก็เยอะ โคตรรรละ สำหรับกูนะ แต่สำหรับมึงคือเข้าใจว่าเคยได้อะไรเยอะกว่านั้นไงพอได้น้อยมันก้จะมีความรู้สึกแบบ เห้ยเกิดไรขึ้นวะ กูว่าบางทีนะถ้าไปแคร์มากมันจะทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเองด้วยปะวะ กรณีกุคล้ายๆมึงแต่จะเป็นตอนไหนมีฉากฟินคนเม้นพรึบบบจ้า ตอนไหนไม่ฟินอะเงียบเป็นป่าช้าเลย>>384

386 Nameless Fanboi Posted ID:0MPC1seMF

>>385 เออกูรู้สึกเครียด กดดันและไม่เป็นตัวของตัวเอง และกูกำลังคิดว่า กูกำลังเขียนให้คนอื่นชอบที่ไม่ใช่ตัวเองชอบ แต่กูก็อยากได้คอมเม้น ย้อนแย้งไปอีก บางทีกูเห็นคอมเม้นแล้วเปิดไฟล์ตอนถัดไปมารีไรท์เลยอ่ะ ซีเวียร์เบอร์ไหนฟระะะ 😭😭

387 Nameless Fanboi Posted ID:O1.PRUv4f

มึงอยากได้เม้นด่าตัวละครไหม เดี๋ยวกูยกให้ เยอะมาก
ของกู...แม่ง...
วิ่งไปกอดคอลูก(ตัวละคร) กูแทบไม่ทัน
ปล.กูโม่งที่บ่นพระเอกมันเหี้ยกว่าพระรองไม่มีใครด่า แต่คนมาโฟกัสพระรองกันหมด ใช่สิ พระรองทำอะไรก็ไม่เข้าตา ฮือลูกรักแม่
กูอยากได้เม้นแนวรอจ้า บ้าง

388 Nameless Fanboi Posted ID:n7mjYSsP2

เพื่อนโม่ง ขอความเห็นหน่อย คือพอดีกูหาคำจำกัดความกับคำว่า "Enchantress" ไม่ได้อะ
คือตัวละครในเรื่องกู (ก็นางเอกนั่นล่ะ) เป็นเด็กที่ค่อนข้างพิเศษน่ะ มีความสามารถในการคุณกับสัตว์ คุยกับต้นไม้ และพวกภูติ กับวิญญาณป่าเขาได้ เอาง่ายๆ คือเป็นเด็กที่ธรรมชาติรักนั่นล่ะ เจ้าตัวสามารถขอยืมพลังจากธรรมชาติมาสร้างปาฏิหาริย์เล็กๆ ได้ แต่ก็ไม่ถึงกับขนาดใช้เวทมนตร์ระเบิดภูเขาเผากระท่อมอะไรทำนองนั้น
ในคำแปลภาษาไทยมันแปลว่า "แม่มด" อะนะ แต่ปัญหาคือไอ้คำว่า "แม่มด" เนี่ย มันดันเป็นความหมายเดียวกับคำว่า Witch กับ Hag ที่ออกไปในทางไม่ดี อีนางเอกกูก็ดันอยู่ฝั่งดีซะด้วยเลยไม่กล้าเขียนไปตรงๆ ว่าเป็นแม่มด ฉะนั้นจึงอยากปรึกษาเพื่อนโม่งหน่อย ว่ามีคำนิยามไหนเหมาะกับคุณเธออีกมั้ย?

389 Nameless Fanboi Posted ID:xJbkaTtbK

>>388 หญิงเปี่ยมสเน่หา ถ้าแปลตรงๆอ่ะนะ แต่โม่งลองหานิยามที่โม่งพอใจก็ได้ เช่นเด็กหญิงแห่งธรรมชาติ หรือ สาวน้อยมนตราพงไพร, ขุนเขา บลาๆ

390 Nameless Fanboi Posted ID:FOCTfp+XT

>>388 สาวน้อยเวทมนตร์ไงมึง < กุล้อเล่น แต่ก็อย่างที่ด้านบนว่าแหละ ว่าอันนี้ตามแต่ที่พอใจเลย ว่าอยากได้แนวสาวน้อย แนวท่านหญิง หรือแนวภูตอะไรก็ได้นะ ภาษาพอดิ้นได้อยู่

391 Nameless Fanboi Posted ID:DpyOMN81G

>>388 ทับศััพท์มะ

392 Nameless Fanboi Posted ID:oRgYp07O9

>>388 สาวน้อยแสนกล ถถถ

393 Nameless Fanboi Posted ID:isE9AmM1G

>>391 +1

394 Nameless Fanboi Posted ID:mKBmT0iv+

>>388 กูว่า enchantress มันเป็นพวกมีเสน่ห์กับคนมากกว่านะ โดยเฉพาะพวกเพศผู้
จากคำนิยามมึง คิดว่าเป็นพวก nature witch/mage มากกว่าแต่ถ้าเป็นภาษาไทยคิดว่าน่าจะประมาณ มีจิตวิญญาณแห่งป่าไรงี้ก็ฟังดูสวยดีนะ

395 Nameless Fanboi Posted ID:Oo9sUZRw/

ดำเนินเรื่องแบบไหนไม่ให้อืดหรือเร็วไป
ของกูสองสามตอนนางเอกอายุเพิ่มอีกปีละ เร็วไปป่ะ มีคนบอกว่ากูเร้ว

396 Nameless Fanboi Posted ID:I2FNuhaFQ

เพื่อนโม่งกูได้หนังสือคลังคำในตำนานมาครอบครองแล้วสุดยอดมาก

397 Nameless Fanboi Posted ID:B60pUYMYM

>>396 ซื้อที่ไหนวะ ขอชื่อนส.หน่อยเพื่อนโม่ง

398 Nameless Fanboi Posted ID:vTwSau/cH

ถ้าเล่มหนาโคตรๆ หนังสือคลังคำ
http://readery.co/media/catalog/product/cache/1/small_image/360x/17f82f742ffe127f42dca9de82fb58b1/9/7/9786161811662.jpg
อันนี้แนะนำซื้อบัตร Gift-Voucher 1000บ. ในร้านนายอินทร์ ได้บัตรสมาชิกฟรี2ปี ได้ส่วนลด
ซื้อที่ร้านนายอินทร์ได้ทุกสาขา

399 Nameless Fanboi Posted ID:I2FNuhaFQ

>>397 นายอินทร์ ทั้งในเว็บและหน้าร้านมีบางร้านนะ นายอินทรืถูกสุดละส่งก็ไวดี ส่งฟรีด้วยเพราะมันเกิน600 555

400 Nameless Fanboi Posted ID:I2FNuhaFQ

715บาท เอาไว้ฟาดหัวเกรียนคีย์บอร์ดได้

401 Nameless Fanboi Posted ID:vTwSau/cH

>>400 ถ้าซื้อบัตร Gift-Voucher 1000บ
มีบัตรลด 20 บ. ให้อีกหลายใบ แต่ใช้ได้ใบล่ะ order ที่ซื้อ
เหลือ 600 กว่าๆ มั้ง

402 Nameless Fanboi Posted ID:Al+N/rPOw

>>400 มือสองก็คุ้มนะ เพราะปกแข็งหนังสือไม่ช้ำเท่าไร 200เอง

403 Nameless Fanboi Posted ID:r.7La62sq

>>402 อ้าวมีมือสองขายเร้อะ กูซื้อมือหนึ่งมาทำไมมมมมม

404 Nameless Fanboi Posted ID:Al+N/rPOw

>>403 รีบใช้ก็ซื้อมือหนึ่ง นี่ซื้อให้หลานส่องพวกเว็บมือสองมีหลุดมาเรื่อยๆแต่ไม่บ่อย

405 Nameless Fanboi Posted ID:LGFNrEJcn

ทำไมกระทู้แลกเปลี่ยนนิยายมันเยอะจังวะ เพื่ออะไร ได้นักอ่านที่ไม่ได้ตั้งใจอ่าน? แต่แลกเม้นกัน?

406 Nameless Fanboi Posted ID:R9H6WMAp3

กลุ้มว่ะเพื่อนโม่ง ความรู้สึกอยากเขียนนิยายกูหดหายไปเกลี้ยงเลยตอนนี้
พักหลังๆ มานี่กูเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองแล้วว่า "เขียนไปทำไมยังไงแนวที่กูเขียนก็ไม่ได้ตีพิมพ์ ...สู้เลิกเขียนออกจาก comfort zone แล้วไปตั้งใจทำงานดีกว่ามั้ย?" ด้วย
กูชอบเขียนนิยาย แต่มาปัจจุบันพอมีอะไรหลายอย่างให้คำนึงกับการเขียน กูก็พาลเอาไม่อยากเขียนซะงั้นเลยอะ

407 Nameless Fanboi Posted ID:1PTtgqWJt

>>406 กูไม่ได้ว่ามึงนะ แต่กูค่อนข้างเบื่อเวลาเจอนักเขียนมาบ่นว่างานตัวเองไม่ได้ตีพิมพ์เพราะไม่ใช่แนวที่ขายได้ ถ้าทุกอย่างของมึงดีหมด ตกรอบแค่แนวที่เขียนเนี่ย กูอยากให้มึงลองพิสูจน์ตัวเองหน่อยว่าฝีมือดีจริงแต่ไม่ได้รับโอกาสด้วยการเขียนแนวแมสๆ แนวที่มึงคิดว่าขายได้ดู ถ้าส่งพิจารณาแล้วผ่าน มึงค่อยมาบ่นเรื่องนี้อีกที โอเคมั้ย

408 Nameless Fanboi Posted ID:f8brMBFcy

>>406 กูเข้าใจนะเว่ย มันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ที่มึงเขียนด้วย
เช่น มึงอยากเขียนเฉยๆ เขียนแล้วสบายใจ มีความสุข อะไรก็ว่าไป หรือมันเกินกว่านั้นไปแล้ว อยากตีพิมพ์ อยากมีชื่อเสียง อยากเลี้ยงตัวเองได้
บอกตรงๆเลย สำหรับกู กูอยากให้การเขียนของกูเลี้ยงกูได้ กูไม่ได้เขียนเพราะแค่ได้เขียนก็พอแล้ว กูเลยเข้าใจฟิลลิ่งนี่นะ เขียนแล้วก็ไม่ได้พิมพ์สักที แม่งก็ท้อถอย

ส่วนความรู้สึกที่ว่าไม่อยากเขียนกูรู้สึกว่า ถ้าตอนไหนรู้สึกไม่อยากเขียนแล้ว รู้สึกว่าเขียนไปก็เท่านั้น ไปทำอย่างอื่นที่หาแดกได้ดีกว่า กูว่าก็ไปทำอย่างนั้นเหอะว่ะ ไว้ค่อยกลับมาใหม่ตอนมึงอยากเขียนแล้วก็ยังไม่สาย

409 Nameless Fanboi Posted ID:f8brMBFcy

>>407 อืมมม กูแอบเห็นด้วยกับอันนี้นะ ถ้าอยากตีพิมพ์จริงๆลองเขียนแมสดู จะได้รุ้ด้วยว่า ฝีมือตัวเองเทียบกับตลาดแล้วอยู่ตรงไหน พอจะพิมพ์ได้จริงๆรึเปล่า ซึ่งจริงๆตลาดแมสมันไม่ได้ต้องการฝีมือเยอะอะไรเบอร์นั้นหรอก 555555

410 Nameless Fanboi Posted ID:y2zBSUuaR

>>406 แค่อ่านคำพูดมึงกูก็งงแล้ว ไม่รู้ว่านิยายมึงขายไม่ได้เพราะคำพูดงงรึเปล่าวะเนี่ย
สู้เลิกเขียนออกจาก comfort zone แล้วไปตั้งใจทำงานดีกว่ามั้ย?
"ออกจาก comfort zone" เนี่ยมึงสื่ออะไรวะ งานเขียนเป็น comfort zone มึงจะออกจาก comfort zone แล้วหางานทำ
หรือ งานเขียนเป็นการออกจาก comfort zone มึงจะเลิกแล้วกลับ comfort zone ไปหางานทำ
ว่าแต่พจน์นี้มันเติมมาเพื่ออะไรกูไม่เข้าใจ
กลับมาที่คำถามมันขึ้นอยู่กับมึงเขียนเพื่ออะไรว่ะ เขียนเพราะอยาก รายได้เป็นของเสริมก็เขียนต่อไป
เขียนเพื่อเงิน มึงก็ต้องทำตัวตามตลาด เขียนนิยายแบบที่มันขายได้ (เช่นช่วงนี้เป็นเสิ่นเจิ้น หรือนิยายรักไม่มีวันตาย) ศึกษาคนที่ขายได้ว่าเขาทำไงกัน
แต่ถ้ามึงทำใจเขียนแนวตลาดไม่ได้ อยากเป็นตัวของตัวเองก็ต้องทำใจเรื่องยอดด้วย ต้องหางานทำ

411 Nameless Fanboi Posted ID:uaN5F34a4

กู >>410 นะ เรื่อง comfort zone กูจะบอกว่าคือกูก็เดา ๆ ได้แหละนะว่ามึงหมายถึงความหมาย 2 แต่รูปประโยคมันไม่ได้ว่ะมึง ถ้าคนไม่รู้อิ้งเลยมาดูกูว่าแม่งเข้าใจความหมายคำนี้ผิดแน่ ๆ เลยว่ะ

412 Nameless Fanboi Posted ID:yJLfYeY0g

>>406 กูผ่านจุดนั้นของมึงมาก่อน กูหยุดเขียนไปทำงานประจำ 2-3 ปี สนุกกับการทำงานเลยเลิกเขียนพอเบื่องานประจำแล้วก็ทำแบบ >>407 เขี่ยงานประชดแมส พล็อตไม่มีห่าอะไรเลย เอาจากเรื่องนั้นแปะเรื่องนี้ใส่พระเอกปล้ำนางเอกเยอะๆ แม่งเสือกขายได้ ได้พิมพ์ ขายดีมากพอที่บ.ก.มาถามว่ามีเรื่องอื่นๆ เรื่องเก่าจะเสนออีกหรือเปล่า (ซึ่งมันจะไปมีงานอีโรตลาดอีกได้ไง)

ส่วนตอนนี้กูทำอะไร งานประจำว่ะ กูเลิกเขียนเพื่อพิมพ์หรือประชดเลย นามปากกานั้นกูโยนทิ้งไปแล้ว กูเขียนที่กูอยากเขียน งานเขียนของกูคือรับใช้กูไม่ใช่รับใช้แมส

413 Nameless Fanboi Posted ID:f8brMBFcy

>>412 กูก็เคยเขียนอิโรติกรับใช้แมส 5555 ขายดีจริง ได้เงินเยอะที่สุดเท่าที่กูเคยได้มาจากงานเขียนเลย แล้วก็แบบเขียนง่ายมาก เหมือนใส่ๆเข้าไปให้มันเต็มๆเล่ม สองสามวันกูก็ฝอยจนจบแล้วอ่ะ แล้วก็ขายเลย เทียบกับแนวปกติกูเขียนอาทิตย์นึงได้ตอนเดียวมั้ง แล้วก็ขายยากกว่าอิโรติกเยอะ

414 Nameless Fanboi Posted ID:R9H6WMAp3

>>410 โทษทีกูคงอธิบายไม่เคลียร์
Comfort zone ที่กูว่านี่คือ ทุกวันนี้กูทำงานแบบชิลๆ รับงานน้อยๆ แล้วใช้เวลาว่างเขียนนิยายน่ะ คือเป็นการทำงานแบบขอไปทีไม่เน้นความก้าวหน้า แต่เน้นสบาย เข้างาน 9 โมง 5 โมงออกงาน ไม่ทำ OT ซึ่งถ้ากลับกันกูเลิกอยู่แต่ใน comfort zone แล้วไปขยันวิ่งงาน (ทำงาน 8 โมงถึง 2-4 ทุ่มอะไรทำนองนั้น) ฐานะงานของกูก็จะก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด แต่ต้องแลกกับเวลาส่วนตัวที่แทบจะไม่มีนั่นเอง

ส่วนเรื่องงานเขียน ...เพราะกูรู้ดีนั่นล่ะว่ากูเขียนแนวแมสไม่ได้ กูไม่ชอบนิยายรัก ไม่สามารถเขียนนิยายวาย และจะให้ไปเกิดใหม่ในจีนก็ไม่ใช่จริตกู กูถึงได้แต่เขียนแนวของตัวเอง แต่ก็ดันเป็นแนวที่ตลาดแทบไม่รองรับ กูถึงได้รู้สึกเหมือนว่าเขียนไปเพื่ออะไรนั่นล่ะ

415 Nameless Fanboi Posted ID:3bv824.j+

>>406 Ebookก็มี ขายโดยไม่ผ่านสำนักพิมพ์นะมึง ยุคใหม่แล้วไม่จำเป็นต้องง้อสำนักพิมพ์

416 Nameless Fanboi Posted ID:3bv824.j+

>>414 ถ้าสนุกแนวไหนก็มีคนเห็นว่ะ
ขยันโปรโมทหน่อย ไม่ใช่แบบ เนี่ยกูไม่ใช่แนวแมส กูมั่นหน้าว่าตัวเองเขียนดี กูไม่โปรโมทรอคนมา
มึงดูโฆษณาในทีวีบางอันแม่งไม่ได้ดีอะไรเลย แต่คนใช้ คนลอง เพราะมันเห็นบ่อยๆ ทำให้เกิดความรู้สึกสนใจ
หากโฆษณาแล้วยังไม่มีคนสนใจ นั่นเพราะฝีมือมึงห่วย อย่าโทษฟ้าดินเลย

417 Nameless Fanboi Posted ID:eQBFqP9zD

>>414 มึงเขียนทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ใช่แนวขายดี ก็ต้องทำใจแต่แรก
ถ้าที่เขียนเพราะมึงชอบอย่างนั้น ก็เขียนไป
ถ้าเขียนแล้วอยากขายได้ หรือมีคนมาคอมเมนต์ชม มึงก็ต้องตามใจตลาด
...งานเขียนที่คนเขียนแล้วไม่รู้สึกสนุกไปกับมันเลย มันคงไม่สนุกตั้งแต่แรกแล้วล่ะ
ฉะนั้นตัดจบ
เขียนในสิ่งที่อยากเขียน หรือ เขียนในสิ่งที่ต้องการให้แนวตลาดชอบ
ต้องเลือกตั้งแต่แรกแล้ว
เป็นกูถ้า 5-10 ตอนแรก ไม่รู้สึกสนุก คือเรื่องนั้นจบ ไม่เขียนต่อให้เสียพลังงานและสมาธิอีกแล้ว

418 Nameless Fanboi Posted ID:XOnKKxl3N

โม่งนักเขียน บิ๊วอารมณ์ให้หายหดหู่ได้ไงว่ะ
กูยิ่งเขียนยิ่งดาร์กเหี้ยๆ

419 Nameless Fanboi Posted ID:AluusUCVg

พูดถึงเรื่องโปรโมตแล้ว เพือนโม่งโปรโมตนิยายตัวเองกันยังไงบ้างวะ?

420 Nameless Fanboi Posted ID:AluusUCVg

อ้อถามอีกอย่าง การเลือก POV1/3 นี่ เพื่อนโม่งแต่ละครมีแนวทางการเลืิอกยังไงบ้าง

ตอนนี้กูมีความคิดอยากจะรีไรท์จาก POV1 ไปเป็น 3 แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำดีมั้ย

421 Nameless Fanboi Posted ID:GMs9WEKw5

>>418 ถ้าเป็นกู กูจะฟังเพลงแบบโลกสดใสอะไรประมาณนี้น่ะ กู้อารมณ์ได้โอเคเลย หรือไม่มึงลองกินขนมหวานดู อันนี้วิธีกูนะ มีประมาณนี้

422 Nameless Fanboi Posted ID:4P7F8wa2r

>>418 นั่นแหละ เสพอะไรน่ารักๆสดใสๆเยอะๆเลย เอาให้เอียนแทน 555

423 Nameless Fanboi Posted ID:XOnKKxl3N

>>419 กูไปเนียนแปะในกระทู้ที่กูด่าไปนั่นแหละ ใช่สิ กูเฬว5555

424 Nameless Fanboi Posted ID:XOnKKxl3N

>>421 เดี๋ยวไปลอง กูรอได้เงินค่าขนมก่อน คงจะอารมณ์ดี 55

425 Nameless Fanboi Posted ID:XOnKKxl3N

>>422 กูลองดูbnkที่เขาว่าสดใส/ แต่ตอนนี้ดราม่า สนุกชิบหาย กุสนุกแล้ววว

426 Nameless Fanboi Posted ID:4P7F8wa2r

>>425 เอิ่ม... เอาเถอะ มึงหายดาร์คก็ดีละ 555

427 Nameless Fanboi Posted ID:gLRZu49Ii

มึงงง กูเพิ่งรู้สึกว่าอี 3000 คำ เด็กดีนี่เยอะชิบหายยย
คือถ้าเป็นเรื่องเก่ากูนะ อัพแบบตอนนึง 5 หน้า (นี่ 100 เปอร์เซ็นละนะ) เมื่อก่อนกูเขียนสั้นอ่ะ แบบกูเขียนได้แค่นั้นไรงี้ ดีที่ตอนนี้เริ่มคงที่ละเขียนได้ยาวขึ้น ประมาณสิบกว่าหน้าถึงยี่สิบไรงี้
วันนี้กูมาแบบกะจะเขียนตอนสั้นๆ แบบเป็นตอนพิเศษไรงี้อ่ะมึงง มันแบบบอัพแล้วไม่เตือนนน เพราะมันไม่ถึง 3000 คำ TTT^TTT

428 Nameless Fanboi Posted ID:s/XGaYwz+

>>427 ก๊อปวางอีกรอบ ให้มันเด้งเตือนให้ได้แล้วรีบลบออกก่อนนักอ่านมา

429 Nameless Fanboi Posted ID:Ag96ffqel

แต่งไปแต่งมาเนื้อเรื่องไม่ตรงกับชื่อเรื่องแล้วว่ะ ควรแก้ชื่อไหม

430 Nameless Fanboi Posted ID:V9F5GesPV

นอกจากแนววายแล้ว ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ยังอ่านแนวตัวเอกเป็นผู้ชายอยู่รึเปล่าวะ?
เห็นนักอ่านผู้ชายชอบบ่นเวลามีเรื่องไหนเป็นตัวละครเอกเป็นผู้หญิง ไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงจะมีแนวคิดแบบเดียวกันรึเปล่า

431 Nameless Fanboi Posted ID:91Mvqf/1H

>>430 กูชอบตัวเอกเป็นผู้ชายมากกว่าตัวเอกเป็นผู้หญิงนะ โดยเฉพาะถ้าเป็นตัวเอกผู้หญิงที่เขียนโดยผู้ชายนี่จะไม่ชอบเลย (ในกรณีที่ทำให้กูรู้สึกได้อ่ะนะ)

ส่วนตัวกูชอบตัวเอกชาย เช่นสยบฟ้า ไตรภาคสุยถัง ไรงี้ บลาๆ

432 Nameless Fanboi Posted ID:ENxFKij+a

ไม่รู้จะคุยกท.ไหน ถามหน่อยดิ Pieretta Dawn เป็นเด็กปั้นที่ไหนป่ะวะ กุอ่านนส.นางแล้วไม่ชอบอ่ะ นิยายพล็อตดาดๆ กากๆ ทำไมดูสื่อปั้นจัง

433 Nameless Fanboi Posted ID:lKcPNO/pA

>>432 ก็นางเขียนนิยายเป็นอิ้งไงล่ะ นานมีเลยปั้น

434 Nameless Fanboi Posted ID:lKcPNO/pA

ขยายความอีกหน่อยดีกว่า เท่าที่จำได้นะ นางเป็นลูกคนมีตังค์ (อันนี้ประโยคบอกเล่าเฉยๆ) วันนึงก็เขียนนิยายเกี่ยวกับนางเงือก Mermaid apprentice อะไรนี่แหละเป็นอิ้งแล้วลองส่งนานมีดู(มั้ง) ได้สุมาลีที่แปลแฮร์รี่มาก่อนช่วยแปลเป็นไทยให้อีกที ได้ข่าวว่ามีพิมพ์ขายที่ตปท.ด้วยมั้ง แต่ไม่ได้ข่าวนานเลย ตอนนี้เป็นไงมั่งล่ะเนี่ย ว่าแต่ทำไมจู่ๆถึงเอามาพูดวะ มีอะไรมากกว่านี้รึเปล่า

435 Nameless Fanboi Posted ID:8eg2.CJG+

อ่ะ เอาหน้าวิกิมาให้เลย เป็นภาษาอังกฤษหมด คงพออ่านไหวนะ
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Pieretta_Dawn

436 Nameless Fanboi Posted ID:91Mvqf/1H

>>432 นางดังหรออ กูไม่รู้จักเลยสงสัยห่างจากวงการแฟนตาซีนานเกิน

437 Nameless Fanboi Posted ID:lKcPNO/pA

>>436 กูว่าดังอยู่ช่วงนึงมั้งนะ แล้วก็ซาๆไป ถามจริงๆเถอะ แค่สงสัย ถ้าเขียนเป็นไทยตั้งแต่แรกคงไม่ดังขนาดนี้ใช่ไหมวะ คือดังแหละ แต่คงไม่ถึงขั้นได้ตีพิมพ์กับตปท.แบบนี้ (เออ กูพยายามหาข้อมูลแล้ว แต่เจอเล่มเดียวที่เป็นภาษาอิตาลีว่ะ เล่มอื่นๆซีรี่ย์อื่นๆไม่เห็นมีแปลเลย ขนาดไปหาในเว็บสนพ.อิตาลีก็ไม่มีผลลัพท์)

438 Nameless Fanboi Posted ID:NTzY6vmOP

>>434 ใช่ กูเห็นผ่านๆว่าจะได้ตีพิมพ์กะต่างประเทศด้วยไรนี่แหละ เลยอยากลองซะหน่อย แต่แปลกตรงที่ทำไมแทบไม่เห็นรีวิวหรือมีกระแสอะไรเลยจากคนอ่านวะเห็นแต่สื่ออวย กูจะซื้อกูก็ไม่กล้า แล้วกูก็สงสัยอีกอย่าง ถ้าเขียนอังกฤษได้คล่องขนาดนั้น ทำไมไม่พิมพ์กะสำนักพิมพ์ต่างประเทศเลยวะ จะพิมพ์กะสำนักพิมพ์ไทย แล้วค่อยแปลไทยไปทำไม

439 Nameless Fanboi Posted ID:+/bqyE51V

>>434 ทำไมไอ้มุกนข.ไทยแต่งหนังสือเป็นภาษาอิงค์แล้วมาแปลเป็นไทยขายอีกทีนี่มันคุ้นๆวะ ไอ้ที่บอกว่าจะไปโกอินเตอร์ขายอเมซอนนี้ก้อคุ้นอีก เหมือนหนังสือชุดหมอยป่าอันโด่งดังของสนพ.อันดับหนึ่งในจงหยวนไงไม่รุ กูเพิ่งรู้ว่าสายแฟนตาซีก้อมีมุกนี้

440 Nameless Fanboi Posted ID:RKR94l85f

>>439 ไม่มุกเว้ย อันนี้แต่งจริงขายจริง เขารู้กันหมดว่าถึงจะภาษาปะกิดแต่คนแต่งก็คนไทย หมาป่านั่นทีมนักเขียนตปท.มโน เอาภาษาไทยมุกไท้ยไทยมาขายล้วนๆ

441 Nameless Fanboi Posted ID:LvY3aJXnp

>>439 อันนี้จริงเว้ย 555 ตีพิมพ์ครั้งแรกตอนอายุสิบห้า เห็นในห้องลิทบอกตอนนี้ทำเกี่ยวกับบทหนังอะไรนี่แหละที่แอลเอ แต่ยังไม่มีใครวิจารณ์ซักที กูอยากรู้ แต่อ่านเรื่องย่อก็คิดว่าแนวYAเด็กๆก็เลยไม่คิดอยากอ่านเท่าไหร่

442 Nameless Fanboi Posted ID:ioGLCt/EZ

เฮ้อกลุ้มแฮะ ตอนนี้กูรู้สึกเหมือนสูญเสียความสามารถในการคิดพล็อตว่ะ
คิดจุดเริ่มต้นได้ แต่คิดว่าจะให้จบยังไงไม่ออกเลย

443 Nameless Fanboi Posted ID:EgjsdNX+e

กูสูญเสียความสามรถในการใช้คำ ดูอยากบรรยายให้สวยๆ แบบเหมือนกวงกวี จนาดที่หนังสือคลังคำที่ซื้อมายังช่วยไม่ได้ หรือเพราะกูมัวกังวลการใช้คำมากไปวะ
แบบผู้หญิงเดินมา
ก็ดรุณีเดิน

444 Nameless Fanboi Posted ID:KEJeEtwVy

>>442 เฮ้ออ กูก็เป็น คงต้องรอจังหวะดีๆ อารมณ์มาๆ

445 Nameless Fanboi Posted ID:CeWXAoi2G

>>442 บางคนยิ่งกดดันมากยิ่งนึกไม่ออก เลิกคิดแล้วไปหาอะไรทำ เวลามันจะมาเดี๋ยวมันมาเองแบบไม่ต้องคิด
>>443 ใช้ให้พอดี อย่าทำให้ดูพยายามมาก พื้นฐานคนอ่านคำศัพท์ในหัวก็ไม่ได้เยอะไม่ต้องใส่คำยากบ่อยก็ได้ จังหวะมีก็ใส่ จังหวะไม่มีพยายามใส่มันดูแปลก บางทีเอาคำยากมาผสมคำง่ายก็ดูง่อยไป บางทีก็ขึ้นอยู่กับยุคสมัยตามเนื้อเรื่อง

ผู้หญิงเดินมา สมัยปัจจุบันก็อาจจะ หญิงสาวผู้นั้นขยับเข้ามา ยุคเก่าสักหน่อยก็ ดรุณีย่างเท้าเข้ามาใกล้ ยุคโบราณหรือแฟนตาซีเลยก็อาจจะ นงรามเยื้องย่าง แต่ถ้ารักษาบรรยากาศทั้งเรื่องไม่ได้ก็อย่าฝืน เขียนธรรมดาไปก่อนค่อยมาขัดเกลาหรือกลับไปอ่านเพิ่มมากๆ จนกว่ามันจะลื่นไหลออกมาเอง ศัพท์ยากไม่ได้ทำให้การบรรยายสวยงามเสมอไป เลือกใช้ให้เหมาะสมอ่านแล้วไม่ติดขัดดีกว่า

446 Nameless Fanboi Posted ID:Q0cIieaqr

>>445 เห็นด้วยนะ นี่เคยอ่านนิยายเรื่องนึง เขาใช้ภาษายากๆทั้งเรื่อง ยากแบบที่ต้องมานั่งแปลไทยเป็นไทย ต้องมานั่งเปิดพจนานุกรมว่าคำนี้ๆแปลว่าอะไรอะ บางครั้งก็ใช้ภาษาสวยๆบรรยายให้มันยืดยาวเวิ่นเว้อเกินไปจนดำเนินเรื่องไม่ถึงไหนซะทีด้วย กว่าจะอ่านจบแต่ละบทแม่งโคตรเหนื่อย 555555555555

447 Nameless Fanboi Posted ID:6b+63Qp68

กูก็มีปัญหากับการเขียนว่ะ แต่ก่อนเขียนได้อย่างน้อยก็ 5 หน้า a4 อักษร 14 p เขียนได้ทุกคนไม่มีติดไม่มีตัน ตอนนี้เหรอ กูเขียนไม่ออกอะ ทั้งที่มีเนื้อเรื่องอยู่ในหัวอยู่แล้ว มันเหมือนกับกังวลเรื่องการใช้คำ กลัวจะซ้ำ กลัวจะไม่สวย หรือคิดคำไม่ออก บางทีแค่คิดคำ ๆ เดียวคิดอยู่ต้องนาน ว่าคำนั้นในความหมายนั้นควรใช้คำไหนดี ไม่รู้เพราะอะไรจู่ ๆ ก็มาเป็นกังวลกับการใช้คำได้ กูบอกเลย ใครที่เขียนนิยายอยู่ แล้ววันหนึ่งมาเป็นกังวลกับการใช้คำ จะทำให้ชะงักไปเลยเหมือนกูเนี่ย อืดเป็นหอยทากมากกว่าจะเข็นออกมาได้แต่ละตัวอักษรแต่ละบรรทัด แต่ก่อนคิดว่าแต่งนิยายง่ายโคตร แค่มีเนื้อเรื่องในหัวทุกอย่างก็ลื่นไหล เพราะมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ แต่ตอนนี้ผิดล่ะ ไว้อาลัยให้กับตัวเอง

448 Nameless Fanboi Posted ID:6b+63Qp68

>>447 แก้คำผิด เขียนได้ทุกวันไม่มีติดไม่มีตัน / คิดอยู่ตั้งนาน

449 Nameless Fanboi Posted ID:OaWJy7AaD

>>447 กูเหมียนกัน อืดตอนเดิมมา ครึ่งเดือนละ คนอ่านคงคิดว่ากูซี้ม่องไปแล้ว

450 Nameless Fanboi Posted ID:g34kY9O4C

>>449 อย่าพูดไป ตอนโดนดองนาน ๆ กูกลัวงั้นจริงนะ เช่น monster soul ตอนหายรอบที่แล้ว มีคนมาเม้นท์ว่า นักเขียนตายแล้ว กูไม่กล้าถามต่อเลยว่าเรื่องจริง หรือโมโหรอนานเฉย ๆ
มีอีก 2-3 เรื่องที่กูกลัวอยู่ตอนนี้ อยากจะบอกนักเขียนว่ามาส่งเสียงหน่อยเถอะ แค่มาบอกว่ายังไม่ตายก็ยังดีซักเดือนละครั้งก็ได้

451 Nameless Fanboi Posted ID:pVyX0jlhg

กูไม่เข้าใจทำไมคนเกลียดตัวละครตัวนี้ของกูจังวะ ไหนบอกชอบตุ๊ดไง
พอเอาตัวละครตุ๊ด (เอาเพื่อนกูมาใช้) เสือกไม่ชอบ รำคาญ ลำไย
หรือมีแต่กูที่ทนเห็นนิสัยเพื่อนกูเป็นปกติ
กูก็บอกแลิวววว ตัวละครนี่มันตัดผมในยุคที่ไม่มีใครตัดกันนิสัยมันก็ขวางโลกอยู่แล้ว
คนอื่นนอกจากมันทำตามกฏหมดแหละ ทำไมไม่สังเกตกันเลยยยย
//ร้องไห้ รู้สึกเหมือนเพื่อนกูโดนด่า

452 Nameless Fanboi Posted ID:pVyX0jlhg

แล้วตัวละครที่ด่ามันแบบเป็นตัวดีนะ ถ้าตัวร้ายออก คอมเม้นคงลุกเป็นไฟ ...

453 Nameless Fanboi Posted ID:fovI0x4mL

มีพล็อตเยอะ แต่คิดตอนจบไม่ออกเลยว่ะ อยากจะแต่งก็กลัวหาจุดจบไม่ได้ เซ็ง

454 Nameless Fanboi Posted ID:oQ9w9WIDv

>>453 เขียนไปก่อนก็ได้นะกูว่า ถ้าลงแล้ว คอมเมนต์เริ่มมา คนอ่านเริ่มหลั่งไหล เดี๋ยวตอนจบก็จะมาเองแหละ (สำหรับกูอ่ะนะ ปกติกูก็แค่คิดไว้คร่าวๆเอง)

455 Nameless Fanboi Posted ID:pVyX0jlhg

>>454 จากนั้นก็จะมีคนมาบอกมึงว่าทำไมเรื่องไม่ไปแบบนี้ๆ

456 Nameless Fanboi Posted ID:oQ9w9WIDv

>>455 ก็ถ้ามึงนึกไม่ออกเนี่ย บางทีคอมเม้นท์ก็จะช่วยให้นึกพลอตได้ไง คนอ่านบางคนคิดละเอียดกว่าเราอีก อะไรเล้กๆน้อยๆมาหมดด

457 Nameless Fanboi Posted ID:l76jsZvMP

ขออนุญาตแทรก ไม่รู้ว่าถามมู้นี้ถูกไหมนะ ใครมีสนพ.ที่เพิ่งเคยรู้จักมาจีบบ้างไหม แล้วทำยังไง พิจารณาอะไรกันบ้างก่อนตัดสินใจคุย

458 Nameless Fanboi Posted ID:uiUyI93JH

>>457 ก็คุยเงื่อนไข พิมพ์กี่เล่ม จ่ายให้เท่าไหร่ ebook แบ่งไง กำหนดจ่ายเงิน สัญญากี่ปี ก็ลองคุยดูเงื่อนไขกันก่อน ขอคิด แล้วค่อยตัดสินใจ

459 Nameless Fanboi Posted ID:IL/QNub5b

>>458 ขอบใจจ้า

460 Nameless Fanboi Posted ID:5iEzSxwAD

ตัวหนังสือส่งผลกับการอ่านแมะ หากเรื่องสนุกแต่ตัวเล็กชิบหายจะอ่านไหม กับตัวใหญ่เกินไปจะอ่านต่อไป
สำหรับกู...ปาทิ้ง สนุกแค่ไหนกูปวดตามาก

461 Nameless Fanboi Posted ID:5iEzSxwAD

เลือกฟ้อนตาดีๆกันด้วยนะโม่ง

462 Nameless Fanboi Posted ID:QXbK3.UZo

นอกจากขนาดตัวอักษรแล้วสีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย พื้นเว็บสีเหลืองอ่อนตัวหนังสือเสือกสีขาว อิบ้าา

463 Nameless Fanboi Posted ID:cEwYOAjJd

กูว่าสีดั้งเดิมเด็กดีอะสบาย9kสุดแล้ว แต่งหน้าหลักพอ ข้างในไม่ต้องแต่งหรอกเพื่อนโม่ง คนอ่านไม่สน แต่งมาก ๆ รำคาญอีก simple is the best

464 Nameless Fanboi Posted ID:5baQ/dd+s

รำคาญพวกแต่งตีมหนักๆเหมือนกัน หิมะต่งหิมะตก หรือแบบกดแล้วเปลี่ยนเงี้ยะ บางทีในมือถือแม่งเปลี่ยนรูปแบบแต่กดเข้าไปไม่ติดนะไม่อ่านแม่งเลย

465 Nameless Fanboi Posted ID:LG9QV9wmR

กูใช้ stylish แก้แม่งให้หมด ลำไย

466 Nameless Fanboi Posted ID:EYVmfEcfE

>>462 นี่กูเคยเห็น ขขรรรมมาก คุมดำอ่านไม่ได้ ปิดหนีแม่ง

467 Nameless Fanboi Posted ID:EYVmfEcfE

เออโม่งนักเขียน เวลามึงคิดคำโปรยหลอกล่อคนมาอ่านเลือกใช้กันแบบไหนกัน สอนกูที ทุกวันนี้กูใช้มุกตลกที่นางเอกพระเอกส่งหากันเป็นคำโปรยอยู่

468 Nameless Fanboi Posted ID:rixwJaAVW

>>467 ย่อเรื่องให้สั้น เดาแนวได้ แต่จะให้เดาตอนจบไม่ได้

469 Nameless Fanboi Posted ID:LG9QV9wmR

แต่งบทเศร้ายังไงให้เศร้ากันวะมึง

470 Nameless Fanboi Posted ID:/OPURuA0L

>>469 ปกติบทเศร้ากูอินมากก น้ำตาหยดแหมะๆ

471 Nameless Fanboi Posted ID:O2sWO4nbn

แค่แต่งถึงฉากต่อสู้กันแล้วติดขัดมั้ยมึง
กูกำลังคิดอีกจะเอา pov กว้างหรือ เฉพาะผ่านสายตาตัวเอกพอ
แบบเป็นฉากจู่ๆ ก็โดนข้าศึกซุ่มโจมตีงี้
ในหัวกูแบบมีเป็นฉากเลยเว้ย แบบหูยอลังการ พอจะเขียน เริ่มแบบกูต้องบรรยายหมดจริงไหมวะเนี่ยคนอ่านจะอินไหม
พวกมึงเขียนยังไงกัน

472 Nameless Fanboi Posted ID:7IolQUvSU

ก็อยากให้คนอ่านเห็นภาพตามยังไง มึงก็เล่าแบบนั้น นึกถึงเวลาดูหนัง ลำดับในหัวที่จะอธิบายภาพตรงหน้าของมุมตัวละครที่ข้องเกี่ยวและมุมมองพระเจ้า ภาพตัดต่อยังไง มึงต้องเล่าให้คิดตาม

473 Nameless Fanboi Posted ID:NS3Syaqh3

อยากจะแต่งเรื่องสเกลใหญ่​ๆแบบการเมือง ประเทศ สงคราม ชิงไหวชิงพริบ​ บ้าง
แต่โง่เกินกว่าจะแต่งว่ะ 😥เศร้า​

474 Nameless Fanboi Posted ID:4xKap/aSk

>>473 อ่านหนังสือแนว ๆ นั้นเยอะ ๆ สิ สามก๊ก ซุนวู อ่านปรัชญา ประวัติศาสตร์ การเมือง ธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ จิตวิทยา อ่านให้หมดเลย อ่านเยอะ ๆ เนื้อหาจะซ้ำหน่อยก็ไม่เป็นไร ให้มันซึมเข้าเส้นเลือดให้ได้ อาจใช้เวลามากกว่า 3 ปี แต่ถ้าฝันจะแต่งก็ต้องพยายามอ่ะ

475 Nameless Fanboi Posted ID:8ibAB7Kkp

กูเขียนแล้วไม่กล้าแปะลงสักที แปะแล้วลบแปะแล้วลบ กังวลนู่นนี่ กลัวมันห่วย กลัวคนนู้นคนนี้มาอ่านแล้วคิดว่ากูเป็นคนแบบนู้นแบบนี้ ทำไงดี ฮือ

476 Nameless Fanboi Posted ID:S1dfcxzQX

>>475 กูก็กลัว ตอนนี้ยังกลัว กูเพิ่งโยนระเบิดให้นักอ่านสับสนอยู่
กูจะโดนด่ามั้ยว้า

477 Nameless Fanboi Posted ID:8sTPpQY4Z

>>447 เออ เข้าใจๆ เป็นเหมือนกันเลย เดี๋ยวนี้ก็พยายามฝึกตัวเองด้วยการเขียนเรื่องสั้นไปก่อนเรื่อยๆ แต่กูก็เครียดว่ะ แบบเขียนได้แต่เรื่องสั้นๆ แต่เขียนเรื่องยาวไม่ได้เลย กูเห็นคนอื่นเขียนได้ รวมเป็นเล่มได้ก็อิจฉา พยายามปลอบใจตัวเองว่าแต่ละคนไม่เหมือนกัน ค่อยเป็นค่อยไป แต่บางทีก็อดท้อไม่ได้จริงๆว่ะ

478 Nameless Fanboi Posted ID:S1dfcxzQX

>>475 กูเริ่มอยากลบนิยายตัวเองละ แต่เสียดายยอดเฟบ

479 Nameless Fanboi Posted ID:4yCLdYAo/

>>477 ฮือ กุเข้าใจมึงมากๆ
กุก็พยายามเริ่มจากเรื่องสั้นก่อนเหมือนกัน เห็นคนอื่นเข็นมายาวๆก็อิจฉาเหมือนกัน
มีแต่พล็อตที่งอกไว้แต่ต่อไม่จบ วิวเยอะก็เครียดว่าจะเข็นตอนต่อไปออกมาได้มั้ย วิวน้อยก็เครียดว่ามันกากเหรอ

480 Nameless Fanboi Posted ID:3X1jJr71v

กูถามหน่อยสิ พวกมึงคิดว่าเทรนนิยายจีนนี่จะอยู่ไปได้อีกนานมั้ย คือกูมีพล็อตนะ มีแบบมาเรื่อยๆ เขียนเรื่อยๆ แต่ช่วงนี้กูติดงานหลายอย่างเลยไม่ได้เขียนต่อ กลัวว่าพอว่างเขียนอีกทีเทรนมันจะหมดแล้ว กูกลัวไม่มีคนอ่านพูดตรงๆ

481 Nameless Fanboi Posted ID:hjqPBIaT9

>>480 ยังไงก็มีคนอ่าน แต่จะคึกแค่ไหนเป็นอีกเรื่อง ทุกวันนี้แนวโรงเรียนก็ยังมีคนอ่านอยู่นะ แค่อ่านจะไม่คึกเท่าแค่นั้นเอง ถ้าพอใจ + สนุกที่จะเขียนซะอย่างก็เขียนๆไปเหอะ แต่ถ้ากะเขียนเอาเงินก็ต้องรีบแล้ว

482 Nameless Fanboi Posted ID:2fZZi6wIF

พวกมึงที่อัพนิยายลงเว็บต่างๆ มึงลงทุกวันหรือลงประจำทุกอาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้ง หรือนึกออกเมื่อไหร่ค่อยลงกัน

483 Nameless Fanboi Posted ID:pk2txTfSW

กูเพิ่งเริ่มเขียนเรื่องสั้นอะ แต่ไม่รู้จะไปลงที่ไหน อยากให้มีคนมาวิจารย์ด้วยอะ เพื่อนโม่งมีแนะนำกลุ่มหรือคอมมูนิตี้พวกนี้ไหมครับ

484 Nameless Fanboi Posted ID:PbTh671n6

>>480 อีกนาน แต่มันไม่ใช่พล็อตนะ มันเป็นแนวทางบรรยายอีกแบบหนึ่ง พล็อตอาจจะเป็นยุคอดีตก็ได้ยุคปัจจุบันก็ได้ จะสอบสวนก็ได้ กูว่ามันอยู่ได้เรื่อยๆ แนวการเล่าเรื่องมันคนละแบบกับนิยายไทยแล้วถูกจริตคนไทยด้วย กลุ่มคนอ่านนิยายจีนฐานมันมีหลายสิบปีแล้วพอๆ กับวัฒนธรรมการอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นนั่นแหละ มันฝังลึกอยู่ไม่ได้มาฉาบฉวย

485 Nameless Fanboi Posted ID:mlNQN9Kuq

ปรึกษา ตอนนี้มีพล็อตนิยายแฟนตาซีอยู่ในหัวมา8ปีล่ะ แนวพวกอมนุษย์ปนกับมนุษย์นี่แหละ แวมไพร์ หมาป่า บลาๆ แต่ตั้งธีมไว้ว่า
1.อยู่ในยุคปัจจุบัน อาจจะซ่อนสังคมไว้เหมือนแฮรรี่
เพราะอยากให้พวกบทสนทนามันใส่pop cultureไปด้วย
2.ไม่มีเวทมนตร์ อาจจะพอมีพลังแบบอธิบายได้เหมือนX-men
3.เป็นคนชอบอ่านประวัติศาสตร์อยุ่แล้วเลยอาจจะใส่เนียนๆแบบGOT

อันนี้คือแต่งเอาสนุกนะ พิมพ์คงไร้ปัญญา5555 แต่ตอนนี้ตันมากคือ
1.จะให้ตัวเอกมันเข้าสุ่โลกอมนุษย์ยังไงไม่ให้ดูโชเน็นหรือซ้ำซาก(มีคนมาหาแล้วบอกว่าเจ้าคือผู้กอบกู้,คนสำคัญ,ลูกผู้ยิ่งใหญ่ที่พลัดพราก,อยุ่ดีๆพ่อแม่โดนฆ่า คือคิดได้แค่นี้จริงๆT T)
2.อยากให้มีความแบบ เจ้าชายเจ้าหญิง คิงควีน เป็นผู้นำแต่ล่ะเผ่าพันธุ์ ต้องมาทำงาน ประชุม เฉือดเฉือน แย่งอำนาจ แต่พอเซตโลกปัจตุบันล่ะแม่งขัดกันชิบ มันไม่ใช่สมบูรณาญาสิทธิราชย์แบบพวกโลกสมมติง่ะ
3.พวกอมนุษย์ตอนแรกคิดว่าจะใส่แค่พวกแวมไพร์ มนุษย์หมาป่า แบบทางยุโรป แต่ซักพักรุ้สึกว่ามันแปลกๆ แบบ อมนุษย์ฝั่งเอเชียเท่ากะว่าไม่มีหรอ อันนี้รวมพวกสัตว์ในตำนานแบบมังกร ไรงี้ด้วย
4.เรื่องซ่อนโลกจากมนุษย์ คือคิดอยุ่ว่าถ้าไม่มีเวทมนตร์มันจะซ่อนไง สมมติมีสงครามตายห่ากันหมดงี้

ขอเป็นพวกreference นิยายที่ควรไปลองอ่านดูก่อนก็ได้เน้อ

ขอโทษนะถ้ามารบกวน แต่ไม่มีใครให้คุยหรือบ่นเลย คุยล่ะก็โดนด่าว่าแบบบ้า ไร้สาระ คือเป็นคนชอบอ่านนิยายเลยอยากลองแต่งแต่มันตันอ่ะT T แนะนำได้นะ ฮือออ

486 Nameless Fanboi Posted ID:pBTTE5CGY

>>485 คือมันจะแบบยังไง เซตติ้งทั้งโลกเลยเหรอ ถึงจะมีอมนุษย์ฝั่งเอเชียด้วย
พลอตมันเหมาะกับการเขียนแนวพาโรดี้มาก 5555 สู้ๆนะรออ่าน

487 Nameless Fanboi Posted ID:9vN4qX7ha

>>486 คือกะจะเป็นเซตติ้งทั้งโลกอะ เพราะถ้าทั้งโลกแม่งมีแค่พวกแวมไพร์ หมาป่า พวกอมนุษย์ฝั่งตะวันตกมันดูแปลกๆปะ555 คือกูคิดพล็อตไว้ตอนประถมเบียวๆไงเลยไม่คิดเหตุผลไร พอกูโตมาอ่านพวกnon-fictionเยอะขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายแม่งเลยจบที่กูก็งงตัวเอง ตู้ม5555

กุว่าคงให้โทนแม่งฮาๆกวนๆด้วยแหละ ถ้ามึงคิดว่าพาโรดี้กุก้ดีใจ ขอบคุณเพื่อนโม่งมากที่เป็นกำลังใจT T

488 Nameless Fanboi Posted ID:Dp/i8e8iv

>>485
1. มึงอยากให้เป็นแบบไหนล่ะ จุดเริ่มต้นตอนนี้คือหนึ่งในโปรไฟล์ตัวละครในอนาคตนะ ประมาณเป็นส่วนประกอบหลักของตัวละคร แต่พอบอกว่าไม่อยากให้โชเน็นนี้ก็..........
- เป็นผู้คลั่งไคล้เรื่องแบบนี้ พยายามทดลองไปอีกโลก
- มีคนสั่งให้ไป ประมาณมีคนหลอกใช้
- เป็นอุบัติเหตุโดยบังเอิญ (เช่น โลกนี้มันซ้อนทับกันอยู่แล้ว ทุกๆคนล้วนหลุดไปอีกโลก จนต้องตั้งกรมตำรวจสืบหาโดนเฉพาะ ไรงี้)
จริงๆมันก็หลากหลายแหละ แต่มึงเซตประวัติตัวละครยังไง เช่น สายเลือด พลัง ปมด้อย เป้าหมาย สถานการณ์
คือใครก็คิดให้มึงไม่ได้ดีเท่าตัวมึงเอง เพราะมึงเป็นคนเซตเรื่องราวต่อจากนั้นเองนี้หว่า คนอื่นทำได้แค่ยกตัวอย่าง

489 Nameless Fanboi Posted ID:8+TCO7c8m

>>488 คง2แฮะ แบบโดนคนหลอกใช้ไปให้โดนฆ่า เข้าไปแบบเด๋อๆไรงี้ หรือไม่ก็หลอกไปฆ่าคนที่เกี่ยวกะตัวเองโดยตรง(พ่อ,แม่,พี่,น้อง ที่แท้ทรู) คงประมาณนี้

เออ ถามหน่อยว่ามึงคิดไงกะพล็อตแนวหลอกว่าคู่กันแต่เปนญาติพี่น้องกันไรงี้วะ(แบบลุคเลอางี้ ที่แม่งจูบกันภาค5แล้วตอนหลังหักว่าเป็นแฝดแล้วเลอาไปคู่ฮาน แต่กูคงไม่กล้าเขียนแบบเจมี่เซอร์ซี่ใน GOT ไม่ไหว)

เฮ้ย ขอบคุณพวกทุกโม่งมากนะคะTwT

490 Nameless Fanboi Posted ID:HPPTF/Ib7

ky ระหว่าง ?! กับ !? ที่ถูกคืออันไหนวะ

491 Nameless Fanboi Posted ID:viDRokYk2

>>490 กูว่าอันสอง อารมณ์แบบ เฮ้ย มึงว่าไรนะ รอผู้รู้

Ky บ้าง ถ้ากูใส่เนื้อเพลงลงในนิยาย แบบจั่วหัวไว้แต่ล่ะตอนเปนท่อนสั้นๆ มีดอกจันว่ามาจากเพลงไร เพลงสากลกุก้อาจจะแปลไทย แบบนี้จะผิดลิขสิทปะ

492 Nameless Fanboi Posted ID:MJviqbPGA

>>491 เคยเห็นนิยายแจ่มใสเอาเนื้อเพลงของวงญี่ปุ่นมาใส่ก็ขายตามปกตินะ แต่ไม่รู้เขาไปทำเรื่องขอยัง

493 Nameless Fanboi Posted ID:fbeLUIIdx

>>491 กูอยากรู้ตรงนี้เหมือนกัน

อยากรู้อีกประเด็นนึงคือ ถ้าโควทหนังสือดัง (โดยที่ทำให้รู้ว่ามาจากเรื่องอะไร) เช่นเหมือนที่ zootopia เล่นมุก godfather โดยใช้คำพูดเดียวกันแบบ 'Make him an offer he can't refuse' ไรเงี้ยะะะ
ถ้ามาอยู่ในหนังสือกุจะผิดมั้ย

494 Nameless Fanboi Posted ID:SPtpFAdZ2

>>493 ไม่ผิดน้อ ถ้าหยิบมาแค่คำพูดลิขสิทธิ์ไม่คุ้มครองหยิบมาใช้ได้ แต่ถ้าหยิบเนื้อหามาอันนี้น่ะผิด

495 Nameless Fanboi Posted ID:aE71tFzj3

มึง เวลาเขียนนิยายนี่ก็ควรเลี่ยงการบอกชื่อแบรนด์หรืออะไรงี้ตรงๆใช่มั้ย? ถ้าสมมติกูเขียนแฟนฟิค(ย้ำว่าแฟนฟิค)​แล้วใส่ชื่อร้านอาหารไปมันจะผิดมั้ย? แล้วถ้ากูเขียนแบบไม่ได้บอกตรงๆว่าร้านที่กล่าวถึงเป็นร้านอะไรแต่คนอ่านจะเดาออกทันทีนี่ก็ผิดด้วยมั้ยวะ?

496 Nameless Fanboi Posted ID:pNx4Mpv7.

>>495 กูเห็นในจอยลดา มีก้ำป๋วยเจซี บลาๆ แบบกุไม่ได้เรียนที่นั่นยังรู้ว่าที่ไหน 5555 แต่ก้ไม่รู้ว่าผิดถูกยังไงนะ

497 Nameless Fanboi Posted ID:WnskHAX1z

>>496 ที่ไหนวะกูไม่รุ้ ขอคำใบ้5555

เวลากุอ่านการ์ตูนกุก้เหนใช่้ชื่อแฝงหมดนะ แต่กุก้เหนนิยายบางเรื่องมันใช้ชื่อจริงเช่นบอกว่า พระเอกชอบวงลิงกินผัก(ใช้ชื่อจริงๆเลยนะ) นางเอกหน้าเหมือนแพดเม่ไรงี้

คือกูชอบเพลงVincentมากไง กูอาจจะแปลไทยนิดๆแบบ ราตรีประดับดาว แสงวับวาวสีเทาน้ำเงิน ไรประมาณนี้ หรืออาจเอาพวกบทกวีฝรั่งมาแปลไทยในสำนวนของกุแทน

498 Nameless Fanboi Posted ID:NqVy.FST9

ไม่รู้​ว่า​ผิดมั้ย แต่กูเห็นนิยายญี่ปุ่น​หรือจีนบางทีก็ใช้ เมืองA มหาลัยT ไรงี้ กูว่าก็ง่ายดีนะ ไม่ต้องคิดเยอะ 55555

499 Nameless Fanboi Posted ID:aE71tFzj3

กู>>495
>>496 อห กูนี่อ๋อรัวๆเลยจ้า แหม55555555
>>497 มหาลัยแถวรังสิตที่ชอบกัดกับจุฬา กูก็สับสนเหมือนกัน อย่างนิยายบางเรื่องก็ใช้คำตรงๆไปเลย แต่บางเรื่องก็เลี่ยงเอา
>>498 นิยายที่กูจะเขียนมันอารมณ์นิยายนำเที่ยวในชีวิตประจำวันว่ะ เลยรู้สึกว่าถ้าใช้สถานที่จริงจะสามารถเชื่อมโยงกับคนอ่านได้ง่ายกว่า แต่กูก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันผิดหรือถูก เราเอ่ยชื่อได้แค่ไหน อันนี้ต้องเลี่ยงมั้ยหรือยังไง วุ่นวายชิบเป๋ง

500 Nameless Fanboi Posted ID:eLhb26cru

>>499 เครแต๊ง กูเพิ่งเกตตรงป๋วยกับเจ ย่อได้เหี้ยมาก55555

501 Nameless Fanboi Posted ID:eLhb26cru

Ky อีก ถ้ากูจะลองเขียนแฟนตาซี แล้วกูจะใช้ชื่อตอนเป็นเพลง อาจมีเนื้อเกริ่นนิดๆ แล้วบรรยากาศพล็อตมันจะประมาณเนื้อหาเพลง(คงไม่ตรงหมดอะ สมมติเพลงแบบตอนจบเมียฆ่าผัวเด่วแม่งรุ้กันตั้งแต่สารบัญพอดี555) มึงว่าจะเวิคปะ

502 Nameless Fanboi Posted ID:IcXmSejHZ

เวลาเขียนนี่ใช้อะไรวัดดีวะว่าตรงนี้ควรบรรยาย ตรงนี่แค่เขียนรวบใจความก็พออ่ะ กูก็คิดเองว่าส่วนที่ไม่จำเป็นสำหรับเรื่องมากนัก เขียนสั้นๆก็น่าจะพอ แต่บางทีก็ชอบคิดว่าห้วนไปป่ะวะ ต้องเขียนอธิบายอะไรเพิ่มอีกรึเปล่า

503 Nameless Fanboi Posted ID:QI+z.RgKf

>>502 ขึ้นอยู่กับจังหวะ / อารมณ์เรื่องนะ

504 Nameless Fanboi Posted ID:ORQ5fuMee

อืม กูกำลังมีปัญหาว่ากลัวจะเขียนบรรยายแล้วคนอ่านไม่รู้เรื่องอ่ะ ชอบกังวลเรื่องนี้อยู่เรื่อยเลย แบบเขียนไปแล้วคนอ่านจะนึกภาพตามได้มั้ยนะ กูให้เพื่อนอ่านตรวจบ้างแต่เขาก็ไม่ได้ว่างตลอดแหละ ไหนจะบางเรื่องกะจะทำหนังสือทำมือขาย (รวมเรื่องสั้นนะ) กูก็เลยไม่อยากลงที่ไหนให้คนมาอ่านก่อน แต่กลายเป็นว่าจะไม่มีคนวิจารณ์น่ะสิ 555

505 Nameless Fanboi Posted ID:aavLJ1Ib6

>>504 กล้าเอาลิงค์แปะในโม่งให้โม่งอ่านให้ได้มึง มึงหลายๆคนเป็นทั้งนักเขียนและนักอ่านชั้นยอด มีเหตุผลกว่าอีพวกรับวิจารณ์นิยายในเด็กดวกอีก

506 Nameless Fanboi Posted ID:vz43DNRZK

เพื่อนโม่ง ขอความเห็นหน่อยนะ
คิดว่าถ้าสมมุติจะเขียนนิยายแฟนตาซีซักเรื่องทำนอง คนธรรมดา กับ แม่มด แบบนี้คิดว่าตัวเอกแนวไหนน่าจะเหมาะกว่ากันระหว่าง
1. หนุ่ม - สาววัยเดียวกัน (วานิลา!)
2. เด็กชาย - คุณพี่สาว (โอบะ!)
3. หนุ่มฉกรรจ์ - สาวน้อยวัยแรกแย้ม (โลลิ!)
พอดีมีพล็อตในหัว (แต่ยังไม่มีเวลาเขียน) เลยอยากจะระบายมันออกมาก่อน แต่ยังกำหนดธีมตัวละครไม่ได้เลย~

507 Nameless Fanboi Posted ID:j72Ohku3h

>>506 อยากเขียนไรก็เขียน
ปล.วานิลาไม่ได้ใช้แบบนี้นะ

508 Nameless Fanboi Posted ID:WOL47M0Fr

>>506 วานิลานั่น...ทำไมกูนึกถึงอย่างอื่น จิตใจกูช่างสกปรกยิ่งนัก

509 Nameless Fanboi Posted ID:Ueo3jiLPS

>>507 >>508
ตลกกกกก วานิลาสำหรับกูคือแบบท่ามาตรฐานแสตนดาร์ดมิชชั่นนารี

510 Nameless Fanboi Posted ID:oWeWdwm.P

มึง เลยหาทางลงในแต่ละบทในนิยายไม่เจอมั้ย
กูหาทางจบตอนไม่ได้
แบบกูอยากให้คนอ่านรู้สึกเหมือนค้างคา ต้องทำไงดี
ปกติกูชอบเขียนแบบ พีคกลางเรื่อง มาพีคท้ายเรื่องกูทำไม่เป็นแนะนำที

511 Nameless Fanboi Posted ID:H+qFXoM6n

>>510 กูเป็นอยู่ ตอนนี้กูยังหาทางลงไม่ได้เลยกับชีวิตนางเอกประจำ arc
จะให้ตายไปเลย กลายเป็นความแค้นให้พระเอกกูลุกสู้ หรือจะให้โดนพาตัว แล้วกลายเป็นเป้าหมายให้พระเอกกูออกตามหาดี
อย่างแรกก็ดีง่าย แต่ตัวร้ายต้องน่าจดจำเอาเรื่องเลย

512 Nameless Fanboi Posted ID:.VZtZ8fsL

>>509 วานิลลาของกูคือรักแบบละมุนๆ แนวๆ softcore ไม่รุนแรงมากไรงี้อะ 555
>>506 กูไม่รู้พล็อตมึงเป็นไง แต่ส่วนตัวกูชอบแนวแม่มดญแก่กว่า(อยู่มานานแต่ยังดูสาว) แต่มีความอินโนเซ้นแบบไม่ง้องแง้งอะ ส่วนพระเอกคนธรรมดาอายุน้อยกว่าแต่มีความผู้ใหญ่ คูลๆงี้

513 Nameless Fanboi Posted ID:wyvHxIkYL

>>508 กูคิดถึง50เฉดของคุณเกรย์
vanilla sex แค่กๆๆ

514 Nameless Fanboi Posted ID:YFKVoGk+C

ky หน่อย กูเกลียดนักเขียนทุกคนที่ตั้งชื่อตอนสปอยเนื้อหาในตอนนั้นโว้ยยยยย สัส กำลังลุ้นๆว่าใครจะชนะ แม่งเสือกตั้งชื่อตอนว่าชัยชนะของ... ไอ้บ้าาา ไอ้ชิบหายยยย มึงทำแบบนี้ทำไมมมม ต่อให้มึงเป็นนักเขียนเลเวล1 แต่งนิยายในพันทิป ก็อย่าทำ!! อย่าทำ!!!

515 Nameless Fanboi Posted ID:UxjLdp+h6

>>514 มันก็เหมือนแบบ เปาบุ้นจิ้นตอนประหารราชบุตรเขยเงี้ยะอ่ะมึง 55555

516 Nameless Fanboi Posted ID:4hIk/6vr0

>>514 555555ไม่ต้องเสรียเวลาเดาไง

517 Nameless Fanboi Posted ID:4hIk/6vr0

>>516 กูพิมพ์เสรีย ทำไม ....
เสียสิ เสีย

518 Nameless Fanboi Posted ID:9nVSPqLY5

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=188318285095311&id=183583425568797

มึง อ่านแล้ว งงไหม

519 Nameless Fanboi Posted ID:k17382HdB

>>518 กุสะพรึงราคาหนังสือ

รับสมัครอาสาสมัคร ไม่มีค่าแรงให้
แต่ราคาหนังสือรวมค่าศิลปิน??

งงเด้
งงเด้

520 Nameless Fanboi Posted ID:9nVSPqLY5

"ราคาไม่แพงเลยค่ะ เต็มใจให้ผู้ปักมากๆๆๆๆ" ?? คนปักไม่ได้เงินใช่ป่ะ?

521 Nameless Fanboi Posted ID:iPDPHIlBi

>>518 กูโง่อ่ะ ใครช่วยแจงทีว่าตกลงศิลปินเขาได้เงินป่ะ

522 Nameless Fanboi Posted ID:JMenPURjy

>>518 สรุปให้มาอาสาปักฟรี ไม่ได้เงิน แล้วต้องซื้อเองด้วย 5555555 ยังไงกูว่าอย่าไปยุ่งเลย อ่านๆดูเหมือนคนปักก็ภูมิใจที่ได้ทำ

523 Nameless Fanboi Posted ID:ukKD7G42u

แล้วไม่ได้เงินทำไม มีบวกค่าศิลปินวะ งง ใน งง. นี่คือที่มาคำว่าศิลปินไส้แห้ง

524 Nameless Fanboi Posted ID:1wJWjZwyZ

"เชื่อว่า เมื่อสำนักนี้ร่ำรวย เขาจะยิ่งมีกำลังทำสาธารณประโยชน์ยิ่งๆขึ้นไป"

ยูนิคอร์นบินตัดทุ่งลาเวนเดอร์ เฉี่ยวผ่านหัวกุเลยค่ะ

525 Nameless Fanboi Posted ID:4m7wr1neY

กูไม่แปลกใจแล้วที่คนเขียนคะค่ะไม่ถูก มันแยกเสียงไม่ได้กันนี่เองว่าเวลาเอาพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์มาประสมกันแล้วพยางค์หรือคำนั้นเสียงวรรณยุกต์อะไร มันเป็นเรื่องที่สอนตั้งแต่ประถมต้นเลยนะ ต้องรื้อสอนกันใหม่หมดเลยเหรอ สิ้นหวังแล้วคนไทย

526 Nameless Fanboi Posted ID:+TJ9JZjXv

มึงงงงง กูหาโพสต์ที่เราคุยๆ กันเรื่องศิลปินได้เงินหรือไม่ได้เงินจากสนพ ผี...ไม่เจอแล้วว่ะ กูหาไม่เจอหรือมันโดนลบวะ

527 Nameless Fanboi Posted ID:nEW.iqyPJ

การเขียนไม่จำเป็นต้องเขียนทุกวันก็ได้ใช่ป่ะวะ กูเห็นยางคนก็บอกไม่จำเป็น แต่อย่างร้อยก็คิดถึงมันบ่อยๆก็ยังดี คือไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับวิธีนี้ใช่มะ แต่ละคนก็แตกต่างกัรไป บางคนเขียนได้เร็ว บาวคนนานๆทีมีผลงานที ทำไมต้องใช้วิธีเดียวกันเป๊ะๆด้วยวะ แค่มันเป็นส่วนใหญ่กว่าเท่านั้นเหรอ

528 Nameless Fanboi Posted ID:UPsajPMwT

>>527 แล้วแต่คน แล้วแต่ความจริงจัง ถ้าทำเป็นงานก็ต้องมีกำหนดการ เขียนบ่อยๆ ทำให้เขียนลื่นกว่า แต่เขียนลื่นกว่าไม่ได้หมายความว่าเขียนออกมาแล้วจะเป็นงานที่ดีกว่า บางคนก็นั่งคิดเฉยๆ ได้ บางคนจะเขียนอะไรบางอย่างอาจต้องชมนกชมไม้นั่งฟังคนคุยกัน จุดประกายอะไรบางอย่างในชั่วขณะแล้วเอาสิ่งนั้นออกมาเขียน แต่ถ้าผ่านมาเป็นเดือนหลายเดือนไม่ได้อะไรเลย ไม่ใช่แปลว่ากำลังรอแรงบันดาลใจ มันแปลว่ามึงขี้เกียจ

529 Nameless Fanboi Posted ID:vd.pLtwRA

ปัญหาใหญ่คือ ขี้เกียจ นั่นเอง

530 Nameless Fanboi Posted ID:2nvUgHcVL

กูเขียนแล้วแต่อารมณ์กู ผลก็คือ ตอนเดียวค้างมาสองเดือนแล้ว
อารมณ์ไม่มาฝึกเขียนทุกวันก็เท่านั้น ได้มาลบใหม่อยู่ดี เพราะเขียนเหี้ยไรลงไป
บทจะมาก็มาเลย
ฝึกทุกวันไม่ได้ผลกับกูว่ะ555

เออมึงคนติดตามนิยายเยอะ แต่คอมเม้นน้อยหมายความว่าไงฟะ ไม่มีจุดไรฟิึพอให้คอมเม้นสินะ?

531 Nameless Fanboi Posted ID:Lf6cb0CJd

>>530 ไม่มีคอมเม้นนี่ปัญหาโลกแตกชิงๆอ่ะ

532 Nameless Fanboi Posted ID:YqNH73n/W

>>531 เรื่องลี้ลับของกูคือแบบลงตอนใหม่คนเฟบขึ้นเป็นร้อย แต่โนคอมเม้น
หมายความว่าไง ตกลงกูแต่งถูกใจ แต่ไม่รู้เม้นไร หรือแต่งถูกใจ แต่ไม่รู้จะด่าตัวละครไหนดี

533 Nameless Fanboi Posted ID:zy5xuIt53

เพื่อนโม่ง จะเรียกว่ากูโลกแคบก็ได้แต่กูสงสัยมานานแล้วว่า อะไรคือแฟนตาซีแนวไทย?

กูนึกออกแต่แนว หมอผี พญานาค อะไรพวกนี้เท่านั้นเอง

534 Nameless Fanboi Posted ID:GZyKm9LJO

>>530 นี่มึงเป็นร่างแยกกูไปจนถึงเรื่องคอมเม้นด้วยเหรอ

535 Nameless Fanboi Posted ID:nEW.iqyPJ

>>530 อันนี้จริง บทจะมาก็มา บทจะไม่มาก็เขียนไม่ออกเลย เขียนทุกวันไม่ได้จริงๆ ไหนจะต้องมารีไรท์ขัดเกลาให้ถูกใจอีก นานมากกว่าจะมีอะไรออกม่ซักตอน 555

536 Nameless Fanboi Posted ID:qQvIo9tOj

>>533 หิมพานต์?

537 Nameless Fanboi Posted ID:Lf6cb0CJd

>>533 กูคิดเหมือน 533 แนวหิมพานต์ รามเกียรติ์ไรงี้มั้ง (แม้ว่าจริงๆมันจะไม่ไทยก็เถอะ 5555)
แบบสไตล์นวหิมพานต์ของกิ่งฉัตรอ่ะ

538 Nameless Fanboi Posted ID:Z7uEAfKcB

>>533 หิมพานต์ รามเกียรติ์อะไรพวกนี้ก็ไม่ไทยนะ พวกอาคมอะไรก็มาทางเขมร ขอมโน่น
ไทยๆ กูนึกออกแต่แม่นาค

539 Nameless Fanboi Posted ID:zy5xuIt53

536-538 ใช่มั้ย? กูเองก็นึกไม่ออก
กูอยากจะลองจำกัดความของคำว่า "แฟนตาซีไทย" เผื่อว่าจะหาเอกลักษณ์ไปเขียนแข่งกับพวกนิยายจีนบ้าง แต่ก็นึกไม่ออกจริงๆ

540 Nameless Fanboi Posted ID:dgPdc1ksD

>>539 กูก็คิดอยู่เหมือนกัน อยากได้แฟนตาซีไทยๆบ้าง
แต่ เออ นิยามแฟนตาซีไทยที่นึกออกเลยคือพวกสิงหไกรภพ พระอภัยมณีงี้
อยากหาพวกตำนานไรมาใช้เขียนบ้างเหมือนกัน
พวกของไทยแท้ๆจริงๆหายากอะ อย่างปู่สังกะสา ย่าสังกะสี งี้เหรอ
ผีพื้นบ้านไทยเอาจริงก็น่าสนใจนะ หมอลำผีฟ้า เสือสมิงกระสือกระหังผีปอบผีโขมดดงไรงี้
เอาจริงกูว่าพวกนิทานพื้นบ้านไทยน่าสนใจนะ แต่ไม่ค่อยมีคนรวบรวมไว้เท่าไร
แต่กูว่าถ้าจะหาแบบของไทยแท้ๆห้ามซ้ำอย่างอื่นกูว่าคงไม่ได้หรอก วัฒนธรรมเรารับกันมาปนๆไปหมดอะ อย่างพื้นที่แถบๆนี้ก็มีผีคล้ายๆกระสือเหมือนกัน กูถือว่าถ้ามันเปลี่ยนแปลงไปจนเป็นเอกลักษณ์ต่างจากที่อื่นนิดหน่อย ก็คงถือว่าเป็นของไทยได้แล้วมั้ง

541 Nameless Fanboi Posted ID:dgPdc1ksD

กู540 ขอบ่นต่ออีกหน่อย เออ ทำไมกูถึงเพิ่งนึกออกเนี่ย
แฟนตาซีไทย ตอนเด็กๆกูชอบสิงหไกรภพจะตาย แดกใบไม้แล้วแปลงร่างได้ แฟนตาซีจะตาย
พระอภัยมณีก็ค่อดพ่อค่อดแม่ที่สุดแห่งความแฟนตาซีแล้ว ม้าบินได้ ยักษ์ นางเงือก เวทมนต์ คาถา ปล่อยพลังกันตู้มๆ
หลวิชัยคาวีก็แฟนตาซี เสือวัวกลายเป็นคนงี้ เชฟชิฟเตอร์มั้ยมึง
สี่ยอดกุมารอีก มีของวิเศษประจำตัวไรงี้ด้วย
โสนน้อยเรือนงามแม่งก็แฟนตาซี
พิกุลทองก็แฟนตาซี อุทัยเทวีก็แฟนตาซี
เอาจริงๆ แฟนตาซีไทยแม่งเยอะชิบหายเลยนี่หว่า แค่กูชอบจัดมันอยู่ในหมวดนิทานพื้นบ้านหรือวรรณคดี
เอาจริงๆจินตนาการคนไทยสมัยก่อนค่อดบรรเจิด

542 Nameless Fanboi Posted ID:qQvIo9tOj

แนวเกิดใหม่ ก็ปลาบู่ทอง โหย โคตรจะอินเทรนด์ 555555555555

543 Nameless Fanboi Posted ID:r6p7SuzBG

>>542 555555 แม่ง นำเทรนด์เกิดใหม่วนเวียนตั้งแต่ก่อนมีอินเตอร์เน็ต

544 Nameless Fanboi Posted ID:QnGUEl2pp

>>542 เออว่ะ เกิดใหม่แค่ไม่ต่างโลก 555

545 Nameless Fanboi Posted ID:nAkwgsbiK

สมรสอสุรา ที่เป็นยักษ์ แฟนตาซีมะ

546 Nameless Fanboi Posted ID:eN.Deuh+B

>>542 อ่านละคิดชื่อเรื่อง​ยุคนี้คงต้องแนวๆ "เกิดใหม่​เป็นปลาบู่ทอง นังตัวร้ายทั้งสอง อย่ามาทำร้าย​ลูก​สาวฉันนะยะ!"
5555555

547 Nameless Fanboi Posted ID:YqNH73n/W

อีปลาบู่ทองนี่เจ้าแห่งการเกิเใหม่เลย เกิดแต่ละตัวแม่ง...ไมไม่เกิดเป็นคนเหมือนเดิมวะ
กูชอบพระรถเสนกับนาง นางไรวัใช่ชื่อนี้ป่ะ ที่เป็นยักษ์แล้วผัวหนีไป อีกชาติกรรมตามทันพระเอก นางเอกหนีบ้าง
ใช่ชื่อนี้ไหมวะ

548 Nameless Fanboi Posted ID:YqNH73n/W

ไปอ่านมาละใช่ว่ะ อีพระรถเสน กูเกลียดมันพอๆ กับเจ้าชายในแก้วหน้าม้า ไม่สวยนี่แบบไม่แยแส พอสวยมาง้อ ฟวย ไปตายซะเป็นกูเอาอีโต้เฉาะหัวไปแล้ว

549 Nameless Fanboi Posted ID:YqNH73n/W

สไตลินิยายตบหัวแล้วลูบหลังในสมัยนี้เลย

550 Nameless Fanboi Posted ID:aMqGdlVnx

>>548 +++ ตอนที่อ่านนี่งงมากว่าอย่างนี้เรียกว่ารักได้หรอวะ ชอบคนที่หน้าตาชห

551 Nameless Fanboi Posted ID:xOmrlj2UM

>>547 ไม่รู้มึงอ่านเวอร์ชั่นไหนมานะ แต่พระรถไม่ได้หนีเมรีเพราะรู้ว่าเป็นยักษ์นะมึง ( แต่ต้องกลับไปเอาของให้แม่ เลนต้องมอมให้บอกที่ซ่อน) ไม่เห็นมีจุดไหนที่บอกว่าฮีทองคนที่หน้าตาเลย อันนี้มึงสับสนกะพระอภัยหนีเมียยักษ์ป้ะ ?

552 Nameless Fanboi Posted ID:xOmrlj2UM

มองสิ ทองเชี่ยไร 5555

553 Nameless Fanboi Posted ID:inyRbsp0l

พระเอกวรรณคดี กูเกลียดสุดคืออิเหนาหว่ะ

554 Nameless Fanboi Posted ID:5W1DkvBFl

>>551 ที่กูหมายถึงคนละเรื่องแล้วนะมึง อ่านประโยคกู
กูเกลียดพระเอกพอ ๆ กับอีเจ้าชายที่หนีแก้วหน้าม้า

555 Nameless Fanboi Posted ID:5W1DkvBFl

พระรถเสนอยู่ในเมืองยักษ์ด้วยความสุข แต่ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังระลึกถึงมารดาและป้าของพระองค์ จึงคิดหาอุบายโดยการจัดเลี้ยงสุราอาหาร นางเมรีเมามายและหลอกถามถึงห่อดวงตานางสิบสอง อีกทั้งกล่องบรรจุดวงใจของนางสันทมาร นางเมรีก็พูดด้วยความมึนเมา บอกเรื่องราวและที่เก็บสิ่งของสำคัญตลอดจนยาวิเศษขนานต่างๆแก่พระรถเสนจนหมดสิ้น พระรถเสนจึงนำกล่องดวงใจ ห่อดวงตาและยารักษารวมทั้งยาวิเศษที่โปรยเป็นภูเขา เป็นไฟ เป็นมหาสมุทร ติดตัว หนีออกจากเมืองไป

ครั้นเมื่อนางเมรีหายจากความมึนเมาไม่เห็นพระรถเสน นางจึงรู้ว่าพระรถเสนหนีไปแล้ว นางกับเสนายักษ์ได้ออกติดตามพระรถเสนด้วยความรัก พระรถเสนควบม้าหนีมาแต่นางเมรีก็ตามทัน พระรถเสนโปรยยาให้เป็นมหาสมุทร นางเมรีสิ้นแรงฤทธิ์ไม่สามารถจะข้ามมหาสมุทรได้ นางเฝ้ารำพันอ้อนวอนให้พระรถเสนกลับเมืองไปอยู่กับนาง แต่ม้าได้ทัดทานไว้ นางเมรีเศร้าโศกคร่ำคราญจนดวงใจแตกสิ้นใจตาย พระรถเสนกล่าวขอโทษต่อหน้าศพนางแล้วให้เสนายักษ์นำกลับเมือง ในที่สุดพระรถเสนก็ตัดใจกลับเมืองไปช่วยมารดาและป้าๆ

จริงๆ มันบอกตรง ๆ ก็ได้ใช่ป่ะ นางรักพระรถเสนขนาดนี้

556 Nameless Fanboi Posted ID:5W1DkvBFl

ทั้งคู่เหมือนกันคือหลอกใช้ผู้หญิงเข้าใจป่ะมึง แต่อีพระรถเสนได้แก้ตัวชาติหน้า
เจ้าชายชื่อไรไม่รู้ไม่จำ ได้ใช้ชาติเดิม
ท้าวภูวดลพยายามหาหนทางที่จะเลี่ยงคำสัญญาเลยมอบให้พระปิ่นทองเดินทางไปอภิเษกกับเจ้าหญิงทัศมาลี ราชธิดาของท้าวพรหมทัต ก่อนเดินทางไป พระปิ่นทองกล่าวว่า "ถ้ากลับมานางยังไม่มีลูกจะถูกประหาร" นางแก้วนั่งเรือเหาะตามพระปิ่นทองไปแล้วถอดหน้าม้าออก ไปขออาศัยอยู่กับสองตายายในป่า เมื่อพระปิ่นทองผ่านมา นางแก้วก็ไปอาบน้ำที่ท่า พระปิ่นทองเห็นเข้าเกิดหลงรัก และไปเกี้ยวพาราณสี จนได้นางแก้วเป็นเมีย

557 Nameless Fanboi Posted ID:.ae7T9Y9p

>>555 เออ ทำไมไม่คุยกันก่อนวะ สงสัยกลัวจบแฮปปี้ ไม่มีชาติหน้า

558 Nameless Fanboi Posted ID:5W1DkvBFl

>>557 กลัวไม่มีมุกแต่งอีกเรื่อง
เรื่องพระรถเสน สอนให้กูรู้ว่า เป็นคนรักกัน ทำไมมึงไม่คุยกันวะ พูดกันเด้ะ จะรอให้ชาติหน้าเหรอ
ส่วนแก้วหน้าม้าคือ หากมึงขี้เหร่ แต่มึงมีความสามารถ คนก็เกลียดมึงอยู่ดีจนกว่ามึงจะสวยขึ้น คนถึงจะหายเกลียด แล้วยกยอเชิดชู สไตล์นิยายสมัยนี้มี

ว่าแต่กูน่าจะแต่งนิยาย ย้อนยุคมาเป็นแก้วหน้าม้า หักว่าวซะ

559 Nameless Fanboi Posted ID:xOmrlj2UM

เออ แต่เรื่องไม่ยอมพูดกันดีๆนี่เห็นด้วย แต่งี้ก็ดี ชาติต่อมาเป็นพระสุธนกูนี่โคตรสะใจจอร์จจริมๆ
ในนิยายปจบ.มีเรื่องแนวๆนี้อีกกูก็ช้อบชอบ ไอ้ผลัดกันรักผลัดกันตามเนี่ย สาแก่ใจอีช้อยนัก อิน 555555 ใครมีแนะนำกูได้

560 Nameless Fanboi Posted ID:zy5xuIt53

เหอออออ พอมานึกดูก็เยอะดีนะ
แต่... จะปรับมาใช้กับยุคปัจจุบันยังไงดีวะเนี่ย?

561 Nameless Fanboi Posted ID:inyRbsp0l

>>560 ถ้า urban fantasy ไทย กูนึกไม่ออก​เลยว่ะ

562 Nameless Fanboi Posted ID:GqtAIEosb

กูอยากให้มีคนแต่ง fairy retelling แบบไทย ๆ มั่ง ว่ะฝรั่งทำกันโครม ๆ beauty and the beast นี่มี 20 อันได้แล้วมั้ง
นิทานพื้นบ้านไทยจะว่าไปแม่งแฟนตาซีทุกเรื่องเลยนี่หว่า กูยังไม่เห็นเรื่องไหนมีแต่คนธรรมดา อย่างต่ำต้องมีฤาษีมีฤทธิ์เป็นตัวช่วยทุกเรื่องเลย
แฟนตาซีไทยร่วมสมัยเป็นว.วนิจฉัยกุล/เก้าแก้ว ได้เปล่าวะ เจ้าบ้านเจ้าเรือน นิรมิต จากฝันสู่นิรันดร แต่ปางก่อน ผ้าทอง แดนดาว ฯลฯ
หรือคนที่แต่งชุดผ้าอาถรรพถ์นานาชาติอะ ชื่อไรวะลืม
เพชรพระุอุมาก็ใช่นะ

563 Nameless Fanboi Posted ID:1Rljxc+.I

>>562 มีนะ มึแล้ววว หลายเรื่องเลย
ถ้าเรื่องที่กูนึกออกทันทีก็ 5555555555555 ลิลิตบุษบา จากมรอดม ผู้ให้กำเนิดเรื่องราวของตำหนักเผือกห้องเนตวอช

564 Nameless Fanboi Posted ID:1Rljxc+.I

หรืออีกทีก็มีเป็นนิยายวาย เอาไกรทองมาใช้ น่ารักดี พระเอกเป็นชาละวันนน

565 Nameless Fanboi Posted ID:WHPsPI9V5

>>564 กูชอบอันนี้ ไกรทองลงไปจับชาละวันปลุกปล้ำกันไปมาแล้วสปาร์ค 55555

566 Nameless Fanboi Posted ID:uHk22.Xh/

>>563 อันนั้นไม่นับได้เปล่า ถ้าจะแนวนั้นทำไมมึงไม่ยกตัวอย่างดี ๆ แบบปลายเทียนวะคะ
>>564 >>565 เอิ่ม....กูไม่อ่านวายอะนะ
ที่กูพูดถึง retelling กูหมายถึงอยากเห็นคนเอาพล๊อตนิยายพื้นบ้านมาใส่ในยุคปัจจุบันแทนน่ะ เช่น
ปลาบู่ทอง
เช่น
ชื่อก็อาจเปลี่ยนไป จากเอื้อยอ้าย เป็น หนึ่งสอง ดาวเดือนไรก็ได้
แทนที่พ่อแม่เอื้อยจะทำนาก็เป็นชนชั้นกลางในกรุงเทพ
พระเอกเป็นนักธุรกิจหล่อรวย
พอแม่เอื้อยตาย (อาจตายด้วยอุบัติเหตุเฉย ๆ ก็ได้ ไม่ได้ถูกฆ่า) มาเกิดเป็นปลา เมืองกรุงคงเลี้ยงปลาบู่ยาก มาเป็นปลาทอง ปลาคาร์ฟในบ่อแล้วกัน
ไม่ก็เปลี่ยนไปเป็นหมาแมวเอาก็ได้
พอตายก็เอาศพไปฝังใช่ป่ะ แล้วมีมะเขืองอก แล้วถูกโค่นไปเกิดเป็นต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทองในป่า
แทนที่จะเป็นป่าก็เป็นที่ดินพระเอกแล้วกัน พระเอกจะสร้างห้างหรืออะไรก็ว่าไป มีต้นโพธิ์นี่มางอก จะตัดจะย้ายก็เจออาถรรพภ์ตลอดจนคนงานกลัวหัวหด นางเอกต้องไปช่วยย้าย ต่อมาก็รักกันแต่งงาน
เรื่องนกแขกเต้าอาจลำบากไปนิด แต่พอสลับตัวได้ไม่ต้องตายก็ได้ ถูกพาตัวไปฆ่าแต่หนีไปได้ ไปอยู่วัด เด็กเสกก็ช่างมันเอาเป็นท้องธรรมดา ๆ แล้วกัน
ให้ระหว่างนั้นพระเอกไปทำงานเมืองนอกเหอะ ไม่งั้นจำเมียไม่ได้จะดูโง่เกิน พอกลับมาก็รู้สึกเมียแปลก ๆ ไปแต่ไม่ได้คิดมาก ไปหลาย ๆ ปีเลยก็ได้
วันนึงไปเที่ยวตจว. เข้าวัด เจอลูก จบ
ไกรทองก็ดูจะเป็นเรื่องตำรวจจับผู้ร้ายธรรมดา ๆ ได้อยู่นะ

567 Nameless Fanboi Posted ID:kFVO5vOa3

ทำไมนึกถึงไกรทอง ในหัวกูมีฉากวายขึ้นมาทันที ไกรทอง x ชาละวัน ทำไมกัน ทำไม ทำไมมมม

568 Nameless Fanboi Posted ID:59x/Svd7X

เพื่อนโม่งขอความเห็นหน่อย พอดีกำลังจะเขียนนิยายจีน
ระหว่างคนสำคัญของพระเอกถูกฆ่าตายต่อหน้า กับ พระเอกคิดว่าเธอตายไปแล้ว แต่ที่จริงยังไม่ตาย แล้วได้พบกันอีกครั้งหลังจากนั้นหลายปีต่อมา แบบไหนมันจะบีบอารมณ์ได้มากกว่ากันวะ?

569 Nameless Fanboi Posted ID:59x/Svd7X

>>568 ลืมบอกๆ นางไม่ใช่นางเอกก็จริง แต่เป็นคนสำคัญกับพระเอกมากประมาณคนรักเก่าอะไรทำนองนั้น
แต่พอเจออีกทีหลายปีต่อมาก็พบว่าต่างคนต่างมีคนรักใหม่แล้ว พระเอกก็มีนางเอกอยู่ข้างๆ ส่วนนางคนนั้นก็มีผัวแล้ว

570 Nameless Fanboi Posted ID:9ldrgZI.B

>>568 เอามารวมกันเลยดิ ถูกฆ่าตายต่อหน้า แต่จริงๆยังไม่ตาย ได้พบกันอีกครั้งหลังจากนั้นหลายปีต่อมา
จะได้ไม่ต้องเลือก แต่การฆ่าก็อย่าเว่อมาก ถ้าถูกแยกร่างป่นเป็นผุยผง เธอคนนั้นอาจจะต้องเจอกับหมอผีเพื่อทำให้ฟื้นขึ้นมาอ่ะนะ 5555

571 Nameless Fanboi Posted ID:kFVO5vOa3

>>568 เอามายำแบบกู
เออมึงกูแต่งนิยายทีไรเรื่องของกูมีแต่พวกผิดปกติแบบยังไงอ่ะ ผิดปกติทั้งนั้นหมายความว่าไงฟะ
นางเอกมันรักพระเอกมากจนฆ่าทุกคนเพื่อพระเอกได้ เป็นพวกที่anxiety attackตลอดเวลา
พระรองก็รักนางเอก แต่ไม่ใช่เชิงชู้สาวนะ เหมือนหมกหมุ่นอ่ะ
อีกคนก็รักเงิน แบบรักเงินมากกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าสกปรกแค่ไหนก็ทำได้เพื่อเงิน
หรือว่าคนแต่งมันผิดปกติ...

572 Nameless Fanboi Posted ID:U3Hzj8P8v

>>558 ขี้เหร่แต่ฉลาดในบรรดาวรรณคดีไทยมีแค่คนเดียวที่ได้ผัวโดยไม่ต้องไปแปลงโฉมคือนางวาลีในพระอภัยมณี 5555

573 Nameless Fanboi Posted ID:ulLaHhqRg

>>572 เออ คนนี้เจ๋งจริง อยากได้พระอภัยก็บอกตรงๆ เสียแต่ตายเร็วไปหน่อย

574 Nameless Fanboi Posted ID:U3Hzj8P8v

>>561 urban fantasy ไทยกูว่าแม่งทำยากตรงที่บริบทบ้านเราเปลี่ยนจากสมัยก่อนราวหน้ามือกะหลังตีน แบบไม่มีป่าเขาลำเนาไพรแล้วง่ะ เอาจริงๆเดี๋ยวนี้แถวบ้านใครยังติดท่าน้ำอยู่บ้าง
แต่มึงลองเทจินตนาการไปเยอะๆก็มีหวังอยู่นะเว้ย
สมมติกระสือที่ลอยมาติดระเบียงคอนโดชั้น23แล้วลงไม่ได้เพราะแก๊สหมดไรงี้ //โพร่ง
หรือแม่ปลาบู่กลายเป็นปลาทอง ต้นมะเขือกลายเป็นแคคตัส นกแขกเต้าเป็นนกพิราบไม่ก็อีกาละกัน

575 Nameless Fanboi Posted ID:ulLaHhqRg

>>574 กระสือที่ลอยมาติดระเบียงคอนโดชั้น23แล้วลงไม่ได้เพราะแก๊สหมด 555555 กระสือแม่งติดเครื่องพ่นที่หลังแล้วเหรอวะ ล้ำ!!!

576 Nameless Fanboi Posted ID:U3Hzj8P8v

>>575 สมัยก่อนกระสือมันบินด้วยแก๊สในไส้มั้ยมึง ไม่ใช่เหรอ ไม่เคยศึกษากายวิภาคกระสือ ท่ดๆ 55555

577 Nameless Fanboi Posted ID:U3Hzj8P8v

ถ้ากระสือบินไปตดไปจะพุ่งเป็นไอพ่นมั้ย 5555

578 Nameless Fanboi Posted ID:2O85Vwa5e

กระหังก็เลิกใช้กระด้ง เปลี่ยนมาเป็นพลาสติกPET ดีไซน์สีสันสดใส น้ำหนักเบา ใช้งานทนทาน บังคับการบินได้ดี ติดไฟกระพริบกันโดรนเฉี่ยวใส่

พวกผีพื้นบ้านนี่อาจจะเลิกกินของโสโครกตามป่าถ้ำห้องส้วมหรือไปแทะไก่เป็นตามบ้านชาวบ้าน แต่เปิดเป็นร้านพิเศษเฉพาะเผ่าพันธุ์แบบผีดิบกูลเรื่องโตเกียวกูลก็ได้ ดูถูกสุขอนามัย (เหรอวะ) ถถถ

579 Nameless Fanboi Posted ID:U3Hzj8P8v

>>578 ฮืออ บาร์ปฏิกูล ค่อดพีค แต่กลิ่นมันจะตุๆหน่อยๆ

580 Nameless Fanboi Posted ID:03sq.Gtca

>>572 จุดจบช่างน่าวงวาร

581 Nameless Fanboi Posted ID:03sq.Gtca

>>574 บ้านกูที่ตจวอยู่ในป่าเลยล่ะ
...กูไม่ได้บุกรุกป่านะ

582 Nameless Fanboi Posted ID:03sq.Gtca

>>575 กูได้ไอเดีย ให้พระเอกมาช่วยสอยนางเอกลง
...นึกภาพออกแล้วรันทดชิบหาย

583 Nameless Fanboi Posted ID:uNFrOp7Zq

>>582 นี่คนหรือมะม่วงวะ ต้องสอยลงมา คือนาทีนั้นถ้าพระเอกช่วยสอยนางเอกลงมาได้ จิตใจมันต้องแกร่งเกินคนอ่ะ มึงเห็นตับไตไส้พุง เห็นกระสือแล้วยังมีแก่ใจช่วยอีกเหรอ ถ้าบอกว่าพระเอกควักมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปแทนที่จะช่วย กูว่าอันนี้เรียลกว่า 555

584 Nameless Fanboi Posted ID:hE4z6/N97

>>583 ไม่ได้ดิ กระสือมันมีข้อจำกัดอยู่ที่ถ้ามีใครรู้ตัวตนของกระสือแล้วทักชื่อจริงกระสือได้ วันต่อมากระสือจะตาย ถ้าพระเอกใช้มือถือแล้วมันมีระบบจดจำใบหน้าก็จบกัน จากคอมเมดี้เป็นเมโลดราม่าพอดี 55555

585 Nameless Fanboi Posted ID:03sq.Gtca

>>583 พระเอกเป็นserial killerก็ได้ ไม่ก็พวกชอบgure
555

586 Nameless Fanboi Posted ID:wDQ6WDgXH

>>584 เพิ่งรู้นี่แหละว่าถ้าคนรู้ชื่อ กระสือจะตาย เคยอ่านแต่ว่าถ้ารู้ว่าใครเป็นกระสือ มันถอดหัวไปเมื่อไหร่ ให้หันหัวหันเท้ามันสลับตำแหน่งบนล่าง กระสือจะกลับเข้าร่างไม่ได้ (โง่เนอะ) ส่วนทำไงต่อนั้น กูว่าเชือดว่ะ หนังสือไม่ได้อธิบายต่อ

587 Nameless Fanboi Posted ID:03sq.Gtca

ตอนเด็กกูกลัวชิบหายอีผีนี่ โตมา สงสัยแบบแม่งกูกลัวไร

588 Nameless Fanboi Posted ID:wDQ6WDgXH

>>585 บางทีอาจเป็นคนแล่เนื้อหรือนักศึกษาแพทย์ ใครเอาไปเขียนเร้ว ระดมสมองคิดพล็อตกันให้แล้ว 555

589 Nameless Fanboi Posted ID:C+GyU1bxB

>>584 ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอไป
คำโปรยประมาณว่า "ผมอยากรู้จักคุณเหลือเกิน แค่ถ้ารู้จักแล้วคุณต้องตาย ผมยอมให้เราเป็นคนแปลกหน้าไปทั้งชีวิต"

590 Nameless Fanboi Posted ID:U3Hzj8P8v

>>588 ฮือ พระเอกขอให้นางเอกอยู่ด้วยเพราะพนจะสอบอนาโตมี่เดือดมาก ขอยืมไว้ใช้ศึกษาหน่อย

591 Nameless Fanboi Posted ID:wDQ6WDgXH

>>590 มึงคิดได้ไงเนี่ย 55555 ศึกษาจากของจริง เกรดเอแน่มึงเอ๊ยยย

592 Nameless Fanboi Posted ID:Rsw7h14k1

>>590 สงสารนางเอกเหลือเกิน 5555555

593 Nameless Fanboi Posted ID:U3Hzj8P8v

>>591 เพราะกูเป็นนศพ แค่ก ถ้าเจอกระสือนั่นจะเป็นปฏิกิริยาแรกที่กูทำ…

594 Nameless Fanboi Posted ID:U3Hzj8P8v

ถัดจากนั้นก็เขียนเปเปอร์วิจัย การเรืองแสงและการลอยได้ของกระสือ ทำอย่างไรจึงถอดหัวและอวัยวะภายในออกมา ออกตีพิมพ์ ถุ้ย

595 Nameless Fanboi Posted ID:x0D9iZASx

>>593 นี่สิคนจริง ทุ่มเทมาก

596 Nameless Fanboi Posted ID:03sq.Gtca

>>589 โอยยยยเขิลลล

597 Nameless Fanboi Posted ID:EsCU06f56

>>596 แล้วมึงก็จะเลิกเขิน เมื่อพระเอกได้รู้ว่านางเอกออกมาหาของกินแถวบ้านมัน (หรืออาจจะเป็นบ้านมันเลย)

598 Nameless Fanboi Posted ID:U3Hzj8P8v

>>597 อื้อหือ ฉากจูบ “เอ่อ คุณได้กลิ่นอะไรตุๆรึเปล่า…”

599 Nameless Fanboi Posted ID:x0D9iZASx

>>598 มิติใหม่ของการเขียนฉากจูบ โอ๊ย กูไม่ได้นึกถึงขั้นนั้นเลย 555555

600 Nameless Fanboi Posted ID:Rsw7h14k1

>>598 "กลิ่นของคุณเองนั่นแหละ ... ฉันบินมาพบคุณเพราะกลิ่นนี้เลยนะคะ..."

601 Nameless Fanboi Posted ID:hE4z6/N97

>>589 โรแมนติกอะไรขนาดนั้น กระสือวาเลนไทน์ชิดซ้ายไปเลย 555555
>>590 เกลียดธีมว่ะ 555555 นศพหนุ่มใกล้สอบไฟลนก้น เพื่อนแนะนำให้บนศาลหน้าหอให้สอบผ่าน บังเอิญเจอยัยกระสือที่พึ่งหัดถอดหัว กะระยะไม่แม่นมาห้อยโตงเตงที่ระเบียงห้องเค้าพอดี ปฏิบัติการแบล็กเมล์ความลับแลกกับการติวแบบถึง-เนื้อ-ถึง-ตัว "นศพ ตัวร้าย กับ ยัยกระสือออ" - สนพ.โม่ง

602 Nameless Fanboi Posted ID:x0D9iZASx

>>601 ถ้าออกมาเป็นเล่ม วงการนิยายต้องแตกตื่นแน่ 555
เออ ว่าแต่มันมีนิยายไทยแนวตัวเอกไม่ใช่คน วิญญาณ เทวดา แต่เป็นผี ปีศาจ เสือสมิง กระสือ อะไรแนวนี้มะ

603 Nameless Fanboi Posted ID:pmN2DtJmw

>>602 ผี ปีศาจ เสือสมิง น่าจะมีนะ เคยเห็นอยู่

604 Nameless Fanboi Posted ID:6O0dFXoEt

>>601 น่าสนใจว่ะ อยากให้มีคนเขียนจริงจัง 555

605 Nameless Fanboi Posted ID:Rsw7h14k1

>>601 นี่มันถึงไส้ถึงพุงละมึง ไม่มีเนื้อตัวให้ถึง

606 Nameless Fanboi Posted ID:03sq.Gtca

อยู่อยากเขียนนะ แต่กลัวโม่งแตก๕๕๕

607 Nameless Fanboi Posted ID:Gh.JChzom

เหี้ยอะไรวะเนี่ยยยย กระสือฮอตไลน์เรอะ!?

608 Nameless Fanboi Posted ID:twZw6LcHX

ถ้ากูอยากแต่งนิยายแล้วลงที่โม่งให้โม่งทั้งหลายวิจารณ์ กูควรตั้งกระทู้ใหม่ไหม

609 Nameless Fanboi Posted ID:bJvFjPre1

>>608 ไม่ควร มีคนทำแล้วที่ web novel โดนด่าว่าโม่งเป็นเวบบอร์ด ไม่ใช่ที่ลงนิยาย รกสัด ถ้ามึงอยากโดนสับก็ไปเขียนลง dek d แล้วโยนลิงค์มาก็ได้ ถ้าอ่านแล้วน่าสนใจก็มีคนสับให้มึงเอง

610 Nameless Fanboi Posted ID:62Dcp44KI

ky กุมีปัญหาว่ะ กุต้องการจะเขียนนิยายที่มีฉากนางเอกหนีพระเอกแบบหนีจริงๆ เพราะกุรำคาญเวลาอ่านนิยายคนอื่นที่มันเถียงกะเขาแค่สองสามประโยคแล้วก็โดนอีกฝ่ายบังคับขึ้นรถเอาไปด้วยละอะไรงี้ แบบเมิงหนีละเหรอ หนีจริงดิ ทำไมเชื่อคนง่ายจัง กุลองคิดแบบว่าถ้าเป็นกุมีคนแปลกหน้ามาพูดอะไรประหลาดๆ ใส่ก็อาจจะยืนฟังจนจบแล้วขอโทษว่าช่วยอะไรม่ได้ ถ้ามันยังมาตื๊อไม่จบไม่สิ้นอีกกุก็คงจะถอยห่างๆ ให้ตายใจแล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือ วิ่งเข้าโรงพัก หรือถ้าเปลี่ยวกุก็คงหาอะไรมาฟาดหน้ามันแล้วหนีอยู่ดี แต่ถ้างั้นมันจะออกเป็นแอคชั่นไปว่ะ กูจะเขียนนิยายรัก......... แต่กูก็เข้าใจนะว่าจะมายืนเถียงๆ ไม่ยอมฟังพระเอกครึ่งเรื่องก็เนื้อเรื่องไม่เดินซักที

611 Nameless Fanboi Posted ID:R.N/W2.za

>>610 ถ้าอยากให้พระเอกลักพาตัวนางเอกแบบเรียลๆ มึงต้องปิดปากนางเอก / ใช้กำลัง / ทำให้นางเอกสลบ / บังคับไม่ให้นางเอกพูดด้วยการขู่
เดี๋ยวนะนี่กูพูดถึงพระเอกหรือโจรวะ

612 Nameless Fanboi Posted ID:FJTTWjxNr

>>611 มึงแน่ฝจนะมึงแต่งถึงพระเอก

613 Nameless Fanboi Posted ID:4RwcIDvLr

>>612 กูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่านี่พูดถึงพระเอกหรือฆาตกรอำมหิต (ถ้าเคยฆ่าคนมาด้วย แม่งครบเลย) แต่การลักพาตัว ตบจูบๆ กักขังหน่วงเหนี่ยว ใช้งาน ขืนใจ มันพล็อตพระเอกสมัยก่อนไม่ใช่รึ ย้อนกลับไปดู อห เป็นพระเอกกันได้ไงวะ

614 Nameless Fanboi Posted ID:62Dcp44KI

>>613 ใช่มะ กูเลยให้นางเอกกูตัดไฟตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอไง ตอบอย่างที่คนปกติจะตอบ ไม่ค่ะ / ไม่ทราบค่ะ / ฉันไม่รู้จักคุณค่ะ / ลาก่อนค่ะ สวัสดี / พระเอกกูก็เอ๋อแดกไปดิ เสือกเป็นคนธรรมดาที่ไม่ใช่นักลักพาตัวนักใช้กำลังข่มขืนอีก กุก็เลยเอ๋อแดกตามพระเอกไปอีกคนเลย อห กุต้องทำยังไงให้นางเอกยอมมากับพระเอกด้วยความสมัครใจทั้งที่เขาไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้วะ 5555

615 Nameless Fanboi Posted ID:eax2UjUvX

>>614 ทำยังไงให้นางเอกยอมมากับพระเอกด้วยความสมัครใจทั้งที่เขาไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้วะ >> กูว่าไม่น่าจะมีนะ คือพระเอกจะไม่อธิบายอะไรแต่จะให้นางเอกเขาตามไปง่ายๆ เนี่ย โลกนี้คงไม่มี

ไม่สมัครใจตามไป = พระเอกเลยต้องบังคับ ใช้กำลัง
สมัครใจตามไป = พระเอกมีเหตุผล หว่านล้อม หรือกุเรื่อง
ไม่งั้นต้องสร้างเรื่องให้พระเอกวางแผนล่อนางเอกออกมา โดยจ้างวานคนอื่นแทน กึ่งๆ อยู่ตรงกลางระหว่างใช้กำลังว่ะ หรืออาจจะมีทางอื่นที่กูคิดไม่ออกอีก

616 Nameless Fanboi Posted ID:9+.j4iRB6

>>615 นางเอกกำลังจะวางแผนฆ่าพระเอกเลยยอมมากับพระเอกง่ายๆ เมื่อกี้ทำเล่นตัวเนียนๆเฉยๆ

617 Nameless Fanboi Posted ID:wwVADJllM

>>616 plot twist ได้!

618 Nameless Fanboi Posted ID:tr+KC9rsT

>>614 นางเอกเพิ่ง​นึกได้​ว่าไม่มีตังค์​ขึ้นรถเมล์​หนี

619 Nameless Fanboi Posted ID:a4XjfPT5L

>>618 ถ้านางเอกจะแร้นแค้นขนาดนี้ ตามพระเอกไปดีมั้ยวะ สงสารนางเอก

620 Nameless Fanboi Posted ID:62Dcp44KI

กู >>610 เอง ขอบคุณมากไม่คิดว่าจะมีคนมาช่วยคิดขนาดนี้ 55555555 อ่ะโอเค เอาของพวกมึงมายำนะ นางเอกกุจน เจอพระเอกมาตามตื๊อก็เลยยอมไปกับเขาเพราะเห็นว่านาฬิกาข้อมือน่าจะแพง สูทแพง รองเท้าแพง จิวที่หูก็แพง เลยอดใจไม่ไหว พระเอกพามาที่บ้านสวนบนเกาะร้างห่างไกลนางเอกถามจนแน่ใจว่ามีกันแค่สองคนบนเกาะก็เอาท่อนไม้ทุบหัว ตุ๊ยท้อง เตะหน้า กระทืบไขล่ รูดทรัพย์สินทั้งหมดและยกตู้เซฟพระเอกไปด้วย เอาค้อนทุบโทรศัพท์ให้แตก สับสายไฟเป็นชิ้นๆ กรีดแพยาง เจาะถังน้ำมันเรือทุกลำ แล้วขโมยสปีดโบ้ทหนีกลับแผ่นดินใหญ่สวยๆ อ้าว พล้อตเดิมกุพระเอกโดนล้างสมองให้เชื่อว่านางเอกเป็นคนรักเลยจะมาตามกลับบ้านเฉยๆ นะ ว้อยย 555

621 Nameless Fanboi Posted ID:ZrTQ//CSZ

>>620 ก่อนหน้านางเอกอาชีพอะไรวะ ทำไมสกิลโจรแบบนี้

622 Nameless Fanboi Posted ID:9+.j4iRB6

>>621 นักสืบที่ตัวเป็นเด็กแต่สมองเป็นผู้ใหญ่

623 Nameless Fanboi Posted ID:H5wO.t2D3

>>620 แล้วแบบนี้พระเอกแม่งจะรอดถึงตอนจบป่าววะ กูกลัวเรื่องนี้ไม่มีพระเอก 555

624 Nameless Fanboi Posted ID:6khRCYbpx

>>620 มึงยำท่าไหนวะ เหมือนของกูเลย

625 Nameless Fanboi Posted ID:UcFHrxEPI

>>624 กูก็ยำจากปฏิกิริยาส่วนตัวที่คิดว่าตัวเองคงจะทำอ่ะ จะหนีทั้งทีแม่งต้องไม่เปิดโอกาสให้มันมากระชากหัวกูทีหลัง ว่านางเอกเมิงทำงี้จริงดิ กูอยากอ่านเลย ทิ้งลิ้งมาหน่อยได้ป่ะ เผื่อกุไปตาม

626 Nameless Fanboi Posted ID:c8+B0L8uV

เวลามึงเริ่มเขียนนี่เริ่มกันไงวะ
ช่วงนี้กูบล๊อคอะ กูแบบนั่งมโนเรื่องได้ฉากได้แต่พิมพ์เป็นตัวอักษรไม่ถูก
แบบถ้าช่วงไหนได้ก็แค่นั่งก็พิมพ์ต๊อกแต๊กไปเรื่อยๆ แต่พอมันไม่ได้ถึงพล๊อตมีมันก็ไม่ออกอะ ทำไงวะ

627 Nameless Fanboi Posted ID:+Xyj6GAV+

>>626 ถ้าคิดคำบรรยายไม่ถูกก็ก็พิมบทพูดก่อนเลย แล้วไปทยอยเติมบทบรรยายตามเอาทีหลัง แต่ปกติกูเป็นพวกคิดช้าอยู่แล้วอะ 2 ห้าหกชั่วโมงนี่ธรรมดาของกูเลย พล็อตนี่งอกเอาๆ นะ สึสกุมีพล็อตนิยายราว 20 เรื่อง พิมไว้คร่าวๆ ตั้งแต่ต้นยันจบว่าจะเกิดเหตุการณ์ไรบ้างๆ แต่เขียนได้ไม่เกินสิบหน้า พพล็อตใหม่กุงอกอีกละเลยต้องไปเปิดพไฟล์ทิ้งไว้อีก วนลูปเงี้ยเหี้ยมาก

628 Nameless Fanboi Posted ID:2KSBPNxtI

>>627 แนะนำให้เอามายำแบบกู

629 Nameless Fanboi Posted ID:c8+B0L8uV

>>627 โฮ กูก็มีพลอตนิยายงอกทิ้งไว้สิบยี่สิบกว่าอัน กูปลงแล้วว่าพวกมันจะตายไปพร้อมกับกู
เขียนช้านี่ปกติใช่มั้ย คือกูแม่งเห็นเวลาผ่านทีไรสะดุ้งทุกที ฮือ

630 Nameless Fanboi Posted ID:nmu/2ANsG

>>629 กูก็เหมือนมึงอ่ะ พล็อตนี่คิดได้เป็นฉากๆ แต่พอมาเขียนจริง หัวไม่แล่นเลย กูปลงแล้วว่าพวกมันจะตายไปพร้อมกับกู (ยืมใช้ประโยคนี้หน่อย)

631 Nameless Fanboi Posted ID:fO4nGv2Cy

พวกมึงรู้ได้ไงว่าตรงไหนคือดีแล้ววะ กูแบบพอถึงจุดหนึ่งก็โอเคละ พอใจละ แต่พอทิ้งไว้พักหนึ่ง กลับมาอ่านแล้วอยากเอาหัวมุดโถส้วมตาย ก็แก้ๆรื้อๆ แล้วก็วนลูปเป็นวงจรอุบาทว์ไม่จบสิ้นอีก บางทีกูก็เหนื่อยกับความบ้าเพอร์เฟ็คของตัวเอง

632 Nameless Fanboi Posted ID:vg3LYrBEf

>>631 กูก็เป็นว่ะ นี่ก็กังวลเรื่องคำซ้ำจนรีไรท์ตอนนึงไม่จบไม่สิ้นซักที

633 Nameless Fanboi Posted ID:c8+B0L8uV

>>631 กูก็เป็น กูเลยเขียนไรไม่จบสักทีไงมึง…

634 Nameless Fanboi Posted ID:rAXCeLxrd

>>631 สำหรับกูถ้ายังไม่จบก็ก็แก้เรื่อยๆ บางทีก็แก้ประโยคละคำสองคำนี่ล่ะ เปิดผ่านๆ อ๊ะ ตรงนี้ถ้าเติมเข้าไปจะธรรมชาติขึ้นนะเลยไม่ไปไหนสักที กูเลยตัดปัญหาเดินหน้าอย่างเดียวไม่กลับมาอ่าน เอาให้จบแล้วไปเขียนเรื่องอื่นสองอาทิตย์ค่อยกลับมารีไรท์1 เขียนเรื่องอื่นต่ออีกหนึ่งเดือนค่อยรีไรท์2 แล้วทิ้งไว้งั้นเลยว่ะ อาจจะกลับมาเปิดอ่านในอีกสามปีให้หลังอะไรงี้ กุไม่โพสนิยายที่ไหนด้วย ไม่ส่งสนพ. เพราะกูเป็นโรคกลัวความถาวร เกิดลงเว็บขึ้นมา/ตีพิมพ์วันนึงกุเกลียดนิยายตัวเองมันจะเป็นตราบาป อ้าวสรุป ช่วยไรมึงไม่ได้เลย 55555

635 Nameless Fanboi Posted ID:3G/ziCu2A

ไม่เข้าใจ​ว่าทำไมนิยายที่บอกว่าเป็นยุคกลาง(มีเวทมนตร์​หรือไม่ก็ช่าง)​หลายๆเรื่อง​ ถึงมีโบสถ์​ยอดแหลม​หรือหลังคาโดม สวมคอร์เซ็ทกระโปรงสุ่มไก่ มีเพลง(และเครื่อง​ดนตรี)​คลาสสิค​ ห้องหรูหรา​ประดับลายร็อกโคโควิจิตร​ตระการตา​วะ.... โคตรผิดที่ผิดทางผิดยุคกันเลย... ไปเลียนแบบ​มาจากไหนกัน...

636 Nameless Fanboi Posted ID:Qhn8+VCGa

>>631 มึงเป็นกูใช่ไหม

637 Nameless Fanboi Posted ID:k9EzV0fc8

สำหรับคนลงนิยายในเนตอย่างกูตอนแรกกูก็พอใจนะผ่านไปสองเดือนกลับมาอ่าน อีเหี้ยกูเขียนอะไร แล้วตอนนี้กูวนลูปนรกตอนที่ สิบ เพราะอยากทิ้งบทนำไปเริ่มใหม่มา
กูคิดว่าอาการนี้เกิดขึ้นเมื่อคนติดตามเยอะขึ้นว่ะ
เหมือนแบบเกิดแรงกดดันแบบเหี้ยมาก กูอยากดองไว้เก็บจนวันตาย แต่ใจก็อยากเผยแพร่นิยายที่เต็มไปด้วยดาร์กไซด์ผิดกับชื่อเรื่องของกู
มันแบบเกิดความรู้สึกขัดแย้งกัน จนทรมานชิบหาย
แต่นึกไม่ออกว่านิยายเพอร์เฟ็คเป็นยังไง คนเขียนระดับโลกเคยอยากแก้นิยายตัวเองกันไหม แบบสมมุติเจเคโรวลิ่งอยากไปแก้นิยายที่เผยแพร่ไปแล้วไหม

638 Nameless Fanboi Posted ID:bze6EiVsR

>>637 กูว่าเป็นทุกคนนะ ยิ่งเว้นระยะ ปล่อยนิยายที่จบแล้วไว้สักปีสองปี กลับมาอ่านใหม่ ชห เมื่อก่อนกูเขียนไปได้ นี่ขนาดกูเขียนเล่นๆ ยังขนาดนี้ พวกที่ส่งสนพ แล้วกลับมาอ่านใหม่ ทำไงวะ

639 Nameless Fanboi Posted ID:ioU05Q9n1

กูก็เป็น เล่มไหนที่พิมพ์ออกมาแล้วงี้กูแทบไม่กลับไปอ่านซ้ำ อ่านได้แต่เรื่องใหม่ๆที่เพิ่งเขียน
พิมพ์ไปแล้วสักสองปีที่เริ่มละะะ ตอนนั้นกูคิดไรอยู่ละเขียนไรลงไปวะ

640 Nameless Fanboi Posted ID:k6l1HTqIC

สรุปคือถ้าเผยแพร่แล้ว

641 Nameless Fanboi Posted ID:V7Cqe055L

เชี่ย เผลอกดส่ง
สรุปคือถ้าเผยแพร่แล้วอย่ากลับมาดูสินะ

642 Nameless Fanboi Posted ID:ioU05Q9n1

>>641 ใช่ กูคิดว่างั้น อย่ากลับไปดู ไม่งั้นมึงก็จะแก้เรื่อยๆ คิดซะว่ามันออกไปแล้ว
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ล้วนดี !!!!!!! ท่องไว้!!!!!!

643 Nameless Fanboi Posted ID:mykdtTzuJ

ฮือ... เหล่าโม่งเขียนทั้งหลายขอถามหน่อย
กูเป็นโม่งชาย แต่อยากจะเขียนแนวเจาะตลาดนักอ่านหญิงเนี่ย กูสามารถไปเรียนรู้จากไหนได้มั่งเนี่ย
ประมาณว่าอยากทราบองค์ประกอบ และแนวทางดำเนินเรื่องหน่อย เพราะตลาดนักอ่านหญิงกับชายนี่มันคนละแบบกันเลย

644 Nameless Fanboi Posted ID:2wXqnXy0r

>>643 เขียนแนวไหนล่ะ

645 Nameless Fanboi Posted ID:emgFWFs8y

>>643 เจาะกลุ่มนักอ่านหญิง คงเน้นความรัก ความโรมานซ์ หรือวาย
หาแนวนิยาย ตัวอย่างอ่านได้ ประมาณในเว็บ ebook ก็ดูว่าเรื่องไหนขายดีอันดับต้นๆ บ้าง
อย่างใน meb พวก TOP Taid ล้วนเป็นนิยายรักและโรมานซ์
มีการ์ตูนหรือแนวอื่นสอดแทรกขึ้นอันดับสูงอยู่บ้าง แต่เกือบทั้งหมดมีแค่นิยายรัก โรมานซ์ วาย
ส่วนแนวนิยายผู้ใหญ่ 18+ ก็เป็นอะไรที่รายได้ดีแบบเงียบๆ กูเห็น นข.บางคนรับเงินเดือนละหลายแสน ติดต่อกันเป็นปีๆ เมื่อแอบไปส่องดูเฟซเค้า

646 Nameless Fanboi Posted ID:mykdtTzuJ

>>645 แล้วถ้าอยากจะศึกษางานแนวโรมานส์นี่กูควรเริ่มตรงไหนดีอ่า

647 Nameless Fanboi Posted ID:aBb+TGYhx

>>646 มึงก็อ่านนิยายโรมานซ์อ่ะค่ะ มันก็แล้วแต่มึงอยากขายใครละ หรือไม่แรกๆมึงอาจจะเหวี่ยงๆไปก่อน อ่านนิยายโรมานซ์แปลบ้าง ไทยบ้าง เอาให้ครบๆ ละก็ค่อยมาหาแนวตัวเอง
ศึกษาที่ไหนกูบอกไม่ได้หรอก มึงต้องหาอ่านเองไม่ได้หายาก อ่านทั้งที่ดีและที่ห่วย ห่วยเป็นไง ดีเป็นไง เอามาพิจารณาเอง

648 Nameless Fanboi Posted ID:emgFWFs8y

หานิยายโรมานซ์อ่านให้มากๆ นั่นแหละ
ลองหาอ่านดูหลายๆ แบบ ทั้งของไทย ทั้งแบบแปลนิยายโรมานซ์ของฝรั่ง อย่างสนพ.แก้วกานต์ หรือ นิยายแปลจีน แนวง่ายๆ อย่าง มากกว่ารัก ของค่ายแจ่มใส
หรือหาลงลึกในระดับทางสายมืด พวกมังก้า โดจิน
แนวโรมานซ์ เน้นด้านอารมณ์ตัวละครมากกว่าเนื้อหา

649 Nameless Fanboi Posted ID:bXoQnWWBE

>>645 กูได้หลักหมื่นเอง ม้วนตัวกลับไปหาทางปั่นหลักแสนแพพ

650 Nameless Fanboi Posted ID:vYwMw/+9J

>>642 มึงหลอกตัวเองอยู่
ปั่นให้คนแก้ตามกู ติดลูปนรกทุกuniverse

651 Nameless Fanboi Posted ID:ZEHCpa00z

แต่เอาจริงๆกูคิดว่าผู้ชายแอบเขียนแนวโรแมนซ์ยากเหมือนกันนะ ขนาดไม่ใช่แนวโรแมนซ์นักเขียนผู้ชายบางคนยังแสดงความเป็นผู้ชายเต็มที่มากๆในงานเขียน (เห็นชัดๆก็แบบ ดร.ป้อป หรือลาสต์แฟนตาซี ดีหน่อยก็มุราคามิ หรือรหัสลับหลังคาโลก ไม่ได้อยากยกตยรวมกันแต่รู้สึกว่าเป็นคนที่กูสัมผัสได้ผ่านงานแบบชัดๆเลยว่าคนเขียนเขียนจากมุมมองการมองโลกแบบผช)
ละยิ่งแนวโรแมนซ์มันจะค่อนข้างแบบพูดไงดีมีความย้อนแย้งในตัวเยอะ ลักษณะการติดเรทของมันที่คนอ่านผญจะชอบมันค่อนข้างอธิบายยาก เทียบแบบเหี้ยๆเป็นแนวการ์ตูนก็จะเห็นได้ว่าแบบ smutแบบjosei ซึ่งค่อนข้างใกล้กับแนวโรแมนซ์ที่นิยมในไทย กับแนวติดเรทขายผู้ชาย(เล่าจากมุมมองผช) มันต่างกันมากๆๆๆๆ แบบมองโลกคนละอย่างเลยนะ

652 Nameless Fanboi Posted ID:ZEHCpa00z

>>651 กูเพิ่งคิดได้ว่าบางคนเขียนแนวโรแมนซ์ที่ไม่รู้สึกว่าเป็นผชก็มี ซ่อนกลิ่น เงี้ยะ

653 Nameless Fanboi Posted ID:XPV5XbbCY

>>651 ทำไมมึงพูดถึงมาสเตอร์ล่ะกูลั่นเลยวะ5555 บุคคลในตำนานสัสๆ

พิมพ์คำก้มีหนิ คนเขียนโรมานซ์เปนชาย ซ่อนกลิ่นมั้ง น่าจะมีอีก

654 Nameless Fanboi Posted ID:GGCe61/lt

มึงกูรู้สึกว่าตัวเองรู้สึกแย่มากตอนนี้ คือแบบคอมเม้นกูหล่นลงเยอะมาก จนกูประสาทเสียไปหมดแล้วววว ฮือออออออ กูก็เข้าใจนะว่ามันไม่ควรจะไปแคร์อะไรมาก แต่กูทำไม่ได้กูทำไม่ได้กูทำไม่ได้

655 Nameless Fanboi Posted ID:qYcc6w2RC

>>654 ใจเย็นๆ นะมึงช่วงนี้เทศกาล เขาอาจจะอ่านนิยายน้อย เน้นเที่ยว ทำใจร่มๆ ไว้

656 Nameless Fanboi Posted ID:KkS52U9tW

>>652 แต่ตอนกูลองอ่านงานของซ่อนกลิ่นเรื่องแรก น่าจะเซ็ตซิกส์เซนส์มั้ง กูกลับรู้สึกว่าคนเขียนต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ เลยอะ

657 Nameless Fanboi Posted ID:Q6v/cKfBY

>>654 กอดมึง
ของกูยอดเม้นน้อยมากเมื่อเทียบกะยอดอ่านยอดเฟบจนกูเครียดชิบหายว่ากูเขียนไม่สนุกเหรอวะ ยังดีที่มีคนเม้นดีๆให้ 2-3 เม้นเลยพอมีกำลังใจเขียนต่อ สงสัยเรื่องกูคงเฉพาะทางไปหน่อย

658 Nameless Fanboi Posted ID:GGCe61/lt

>>657 >>655 ขอบคุณมากๆ ฮือออ

659 Nameless Fanboi Posted ID:/eeEflL2e

>>654 กอดของกูเหมือนกัน
ร้องไห้

660 Nameless Fanboi Posted ID:fST+zu1en

>>656 +1 กูก็คิดว่าผู้ชาย เพศคนแต่งดูง่าย ๆ คือ
ผู้หญิงแต่ง พระเอกหึงนางเอก
ผู้ชายแต่ง นางเอกหึงพระเอก
อันนี้คือนิยายรักธรรมดานะ แบบว่าหึงนิด ๆ หน่อย ๆ ให้เรื่องมันเดินหรือเป็นซีนขำ ๆ กุ๊กกิ๊ก ถ้าเป็นนิยายประเภทที่ความหึงเป็นพล๊อตทำพระนางบ้านแตกแบบจริงจังไม่นับ (เช่นสามีตีตรา)

661 Nameless Fanboi Posted ID:gJLY/m8Gt

>>660 ...กูเป็นผู้หญิง แต่งให้นางเอกหึงพระเอกข้ามภพข้ามชาติเป็นผีหลอกหลอน
วิธีนี้ไม่น่าได้ผลนะมึง

662 Nameless Fanboi Posted ID:JSn/lUhWR

พวกมึง คำว่าทอดมองกับปรายตามองนี่คนละความหมายกันใช่ป่ะ คือกูเป็นพวกเกลียดคำซ้ำอ่ะ เห็นมันมีคำว่ามองเหมือนกันแล้วอึดอัด แต่ถ้ามันคนละความหมายจะได้พยายามปลงๆหน่อย 555 เออ เขียนแค่ปรายตามองหรือชำเลืองมองก็พอป่ะวะ ไม่ต้องเขียนว่าปรายตาชำเลืองมองใช่ป่ะ กูคิดว่ามันดูซ้ำซ้อนไป

663 Nameless Fanboi Posted ID:8In.Ey9iZ

>>662 กูว่าเอาสักอย่างเหอะ จะปรายตาหรือจะชำเลือง แต่ว่าก็ว่าเถอะ เดี๋ยวนี้คนแม่งเห็นประโยคอะไรยาวๆใช้คำขยายเยอะๆก็บอกว่าภาษาสวยแล้ว ทั้งๆที่มันไม่ใช่

664 Nameless Fanboi Posted ID:dGOCRp7w5

>>662 ปรายตาชำเลืองมอง แปลกมากกกกก

665 Nameless Fanboi Posted ID:/MmVktbTo

>>662 กูแนะนำว่า ปรายตา / ทอดมอง / ชำเลือง จะได้ใช้สามครั้ง อย่าใช้ "ปรายตาชำเลืองมอง" เลย มันแปลกมากกกกกก

666 Nameless Fanboi Posted ID:JSn/lUhWR

ขอบคุณสำหรับคำตอบ จริงๆลองอ่านแล้วสำเนียงใช้ได้เลยนะ แต่ดูแปลกๆจริงด้วยว่ะ 555

667 Nameless Fanboi Posted ID:OIZ8BEWH/

>>662 จากหนังสือคลังคำนะ
ทอดมอง, ทอดสายตา > ดูไกลๆ
ปรายตา > มองด้วยหางตา
ชำเลือง, ชายตา > ดูด้วยหางตา (มักทำเพราะสนใจอีกฝ่าย)

668 Nameless Fanboi Posted ID:8OUzJ9bCm

>>661 มึงหึงเป็นพล็อตไง กูหมายถึงพวกหึงกุ๊กกิ๊ก แบบมีคนมาคุยด้วยก็เหล่ไรแบบนี้

669 Nameless Fanboi Posted ID:8aE.elf+3

ผช กะ ผญ แต่ง มันให้อารมณ์ต่างกันจริงๆ อย่างซ่อนกลิ่น นิยายเขาที่กูอ่านเรื่องแรกคือเรื่องไรสักอย่างในชุดบ้านไร่ฯที่เอามาทำละคร มันรู้สึกได้นะว่าต่างไปจากอีกสามเรื่องในชุดนั้น พอตอนหลังมารู้ว่าคนแต่งเป็น ผช ก็อ๋อ ไม่แปลกใจที่ตอนอ่านรู้สึกแบบนั้น แต่ก็ถือว่าแต่งได้โอเคนะสำหรับนิยายรักแบบนี้
แต่ถ้าเป็นพวกนิยายแฟนตาซีที่มีแนวรักๆนี่ ผช ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องไหน ผช แต่ง เรื่องไหน ผญ แต่ง

670 Nameless Fanboi Posted ID:JSn/lUhWR

>>667 ขอบคุณมากๆ ค่า

671 Nameless Fanboi Posted ID:gJLY/m8Gt

ชื่อนิยาย ...
สมมุติ เรื่องเกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิดของตัวละครกู สองสามพันรอบเวียนว่ายตายเกิดเพราะอีนางเอกมันไม่ยอมปล่อยพระเอกไปสู่สุคติ (แนวมาม่า)
ชื่อ "พันภพชาติ","พันภพชาติไม่อาจพรากจากกัน".... มันเชยชิบหาย ชื่อไรเนี่ย ช่วยกูที มีชื่อไรงามและดูได้กว่านี้ไหม

672 Nameless Fanboi Posted ID:K4GpUDaM.

>>671 รักภพผ่าน?

673 Nameless Fanboi Posted ID:pLn4rXPKu

>>671 หนึ่งดวงใจพันชาติภพ ดีมะ

674 Nameless Fanboi Posted ID:gJLY/m8Gt

>>673 มีนิยายเสินเจิ้นเอาชื่อนี้ไปแบ้ว

675 Nameless Fanboi Posted ID:gJLY/m8Gt

>>672 เคไปใส่ในโพลแปบ

676 Nameless Fanboi Posted ID:OIZ8BEWH/

>>671 กี่พันชาติมิอาจขาดรัก

677 Nameless Fanboi Posted ID:96MVGw6eX

>>671 จองเวร แปลงร่างเป็นนิยายสยองขวัญแทน

678 Nameless Fanboi Posted ID:nK9w/Vvab

จะเกิดอีกกี่ชาติ ไม่อาจขาดยอดดวงใจ

679 Nameless Fanboi Posted ID:IQ6CHVVH6

>>671 นิยายรัก?
พันภพพานพบรัก

680 Nameless Fanboi Posted ID:rpucZ42nh

ขอบคุณเพื่อนโม่งกูจะเอาไปใส่ในโพลแล้วให้นักอ่านเลือกเอา555 ชอบทุกชื่อ55

681 Nameless Fanboi Posted ID:3nc8JDsvR

อย่าให้มันใกล้กับเรื่องอื่นมาก มันสร้างความสับสนได้ง่ายๆ อย่าง หนึ่งดวงใจพันชาติภพ เหมือนหนึ่งดวงใจสามชาติภพมาก
ตอนนี้ก็มีเรื่องใหม่ชะตารักพันภพ ของคนเขียนเมืองจันทราดอกไม้ร่วง

682 Nameless Fanboi Posted ID:i.xq857f8

เคยแต่งนิยาย ขอระบาย และขอคำปรึกษาในห้องนี้ได้มั้ยครับ
พอดีว่าแต่งนิยายใหม่ๆไปหาข้อมูล วิธีเขียน เจอพวกบอกให้เขียนตัวหนังสือขนาด11 แล้วก็ตอนหนึ่ง10หน้าขึ้น กุก็บ้าจี้ทำตาม
ทำได้แต่เหนื่อยซิปหาย สุดท้ายไม่รอด

เพื่อนๆมี แนวทางแนะนำมั้ยครับ ผมเห็นพวกเขียนนิยายในเวปส่วนใหญ่เขียนเป้นตอนสั้นๆ แบบนั้นดีกว่าใช่ปะ

683 Nameless Fanboi Posted ID:F0yuva94M

>>682 เจอภาษาสุภาพมา ทำเอาตอบไม่ออกไปแวบนึงเลย 555
ปกติแต่งด้วยฟอนท์ 14 ลงเว็บ 16 อะ ถนอมสายตาดี ไม่ต้องเพ่งมาก

684 Nameless Fanboi Posted ID:QH8zyIAr0

>>682 เวบไหนตอนสั้นๆ ธวลหรอ อันนั้นน่ะสั้นเกินแต่เค้าตัดบทก็มีเหตุผลเรื่องเงินทองน่ะนะ
ปกติใช้14 แล้วก็ประมาณสิบหน้า ถ้าเด็กดีสมัยนี้ 3000 คำขึ้นไปถึงจะอัพให้ก็จะอัพประมาณนั้นแหละ

685 Nameless Fanboi Posted ID:/b6H3RNUd

>>682 เคยลองแต่งเอง พบว่าแต่งได้เจ็ดหน้าไปไถๆในเด็กดีคือรู้สึกสั้นมาก แต่ก็นะ แล้วแต่คนแต่ง เอาที่เราสบายใจเหอะ

686 Nameless Fanboi Posted ID:1Q7B8iZBe

ปกติ​เขียน​พวก​ Character sheet เขียน​อะไร​กัน​ไ​ปบ้าง​วะ​ที่​ไว้​บอก​ดีเทล​คร่าว​ๆ​กับ​เมโม่​บาง​จุด​กัน​ลืม​

687 Nameless Fanboi Posted ID:.sDt46/IB

>>682 เอาที่สบายใจ อย่าไปฟังคนอื่น แค่ดูไม่ให้สั้นจนน่าเกลียดก็พอ แบบไม่กี่บรรทัดไม่รู้เรื่องอะไรอย่างนั้นอย่าลง รอให้เป็นกอบเป็นกำนิดนึง แล้วก็ไม่ต้องไปสนใจคนอ่านว่าต้องใช้ฟอนท์นั้นนี้ ลงกี่หน้า กี่ตอน อย่าไปเชื่อ คนอ่านร้อยคนก็ร้อยความเห็น ถ้ายอดวิวขึ้นสม่ำเสมอก็โอเค รับฟังได้ แต่อย่าบ้าจี้ทำตามไปซะหมด นิยายของเรา จำไว้ว่านิยายของเรา

688 Nameless Fanboi Posted ID:SKfmwyChw

>>686 กูแทบไม่เคยเขียนอ่ะ แบบขี้เกียจเกิน แต่ปกติคือคาร์กูไม่เยอะอยู่แล้ว หลักๆไม่เกินสิบ ส่วนมากจำเอา แต่จริงๆควรเขียนนะ กูชอบลืมทุกทีอ่ะแล้วก็ต้องไปไล่อ่านเองเอาเฉยเลย มีเรื่องล่าสุดที่กูต้องเขียนออกมาเป็นแมพเพราะคนอ่านไม่เข้าใจ TT^TT

689 Nameless Fanboi Posted ID:tvlJeVF/9

>>682 จัดตามมาตรฐาน สนพ. เลย ฟ้อนคลอเดีย 14 เวลาลงเว็บจะเล็กจะใหญ่ขยายตามใจมึงเลยเพื่อน แต่ส่วนมากกูจะใช้ตัวขนาด 20 อ่ะ

690 Nameless Fanboi Posted ID:SKfmwyChw

ฟอนต์กู คอเดีย 14 เหมือนกัน จะได้เวลาจัดหน้าลงเล่มไม่ยากมาก ไม่ต้องมาจัดอีกรอบ
ลงเวบกู 16 ไม่ก็ 18 แล้วแต่อารมณ์ 555555

691 Nameless Fanboi Posted ID:SNrPOv5UB

อ้าว ปกติเขาไม่ใช้Angsanaเผ็นหลักเหรอ เพิ่งรู้ 555

692 Nameless Fanboi Posted ID:tvlJeVF/9

>>689 ที่กูส่งงานด้วยสองสามที่ใช้สองตัวอ่ะ คลอเดียกับอังสนา เลือกได้ตามใจชอบ ส่วนตัวกูชอบคลอเดีย 555+ แต่ฟ้อน 14

693 Nameless Fanboi Posted ID:SBcOXD0mo

>>691 ใช้อังสนาก็ได้มั้ง แต่กูไม่ชอบอังสนา ใช้แล้วเหมือนเขียนรายงาน จริงๆพวกสนพก็ไม่ค่อยใช้อังสนานะ

694 Nameless Fanboi Posted ID:NawfCJMsr

689 ตั้งขนาดฟอนต์ 14 ตามสำนักพิมพ์ แล้วตั้ง % ขนาดใช้งานบนจอเป็น 130-150% สิ ไม่ต้องมาจัดหน้าใหม่

695 Nameless Fanboi Posted ID:3Qsg1.Qox

>>691 เคยใช้angโม่งในนี้บอกเหมือนรายงานกูเลยเปลี่ยน

696 Nameless Fanboi Posted ID:ROppwD.G4

ถ้าเขียนนิยายเกมออนไลน์ เวลาพูดถึงสกิลตอนต่อสู้นี้ชอบแบบไทย หรือ eng หรือไม่ต้องบอกอาศัยบรรยายเอา

697 Nameless Fanboi Posted ID:5yDJQPq0Q

>>696 ขออย่างเดียวไม่เอา
10!
13432!
พวกนี้ โคตรรำคาญ

698 Nameless Fanboi Posted ID:QObYatbNJ

ส่วนตัวกูชอบฟ้อนต์โบรวิเลีย ใช้เขียนรายงานไปจนถึงแต่งนิยาย

699 Nameless Fanboi Posted ID:s92DhnCCb

กูชอบ browallia สวยกว่า angsana เยอะ

700 Nameless Fanboi Posted ID:UOMKtuQht

KY
เพื่อนโม่งมีreferenceนิยายทุกแนวที่ตัวเอกมันโตมาเพศนึงตลอดแล้วแม่งค่อยรุ้มั้ยว่าตัวเองเป็นอีกเพศนึงปะ คือกูมีไอเดียอยากเขียนแบบหญิงที่รุ้ตัวเป็นชายแทน(เหตุผลเด่วกุหาเองเพราะจะเขียนแฟนตาซี) กูขอrefทั้งชายเป๋นหญิงและหญิงเป็นชายเลยก็ได้ คือกูเคยอ่านแบบนี้แค่บารามอสอ่านะ

แล้วกูแพลนจะเขียนให้มันอยุ่บนโลกแห่งความจริงด้วย ที่แม่งเริ่มมีทางเลือกให้ตัวละครว่ามันจะไปเป็นเพศชายตามชาติกำเนิดหรือว่าจะแปลงเพศเป็นสาวสองเพราะเป็นหญิงมาตลอดดีวะ เรื่องความรักด้วยว่ากูจะชอบชายหรือหญิงกันแน่วะ (ถึงกูจะแพลนว่าให้มันเลือกเป็นชายแล้วมีนางเอกให้ แต่กุกลัวมันไม่สมจริงไงแบบสมมติตื่นขึ้นมามึงค้นพบว่าตัวเองเป็นอีกเพศงี้5555 กูอยากแต่งแฟนตาซีแต่กลัวตรรกะวิบัติ)

701 Nameless Fanboi Posted ID:SNrPOv5UB

>>700 ไม่มีอะไร อาจไม่ตรงด้วยเพราะเป็นมังงะ แต่กูนึกถึงเรื่องBoku girlขึ้นมาเฉยๆอ้ะ 555

702 Nameless Fanboi Posted ID:it/ETwWI4

มึงไปหาหลักวิชาการมาอ่านควบด้วยดีกว่านะถ้ากลัววิบัติน่ะ หลักจิตวิทยาพวกqueer theory ทั้งหลาย
คนที่มีจิตใจไม่ตรงเพศกายภาพ ส่วนใหญ่ไม่ลังเลนะมึง เพื่อนๆกูมันบอกมันรู้ใจตัวเองกันแต่เด็กอาจจะลองมีแฟนปกติแต่จะเป็นช่วงเด็กๆมากๆที่ยังพยายามอยากปกติ แต่พอชอบคนจริงๆมันก็รู้เลยเพราะความรู้สึกไม่เหมือนกัน

703 Nameless Fanboi Posted ID:2PPanjKUO

>>700 นึกถึงการ์ตูนเรื่องไรนะ ที่มันแบบโตขึ้นระดับนึงละจะเลือกเพศเองได้
สำหรับกูผู้ซึ่ง swing both way กูรู้สึกว่าต่อให้พนกูตื่นมาเป็นผช กูก็ยังคง swing both way เหมือนเดิมม 5555

704 Nameless Fanboi Posted ID:1jSINwNL2

>>701 ขอบคุณมาก แนวไหนอะ กูไม่เคยแตะมังงะ
>>702 เออ ขอบคุณมาก คือตอนแรกกูไม่ได้อยากจะแต่งไปแนวqueer lgbt y ไรงี้นะ แค่อยากคิดไรแปลกๆ แบบสมมติมึงคิดว่าอินี่เปนนางเอกแล้วหักมาเปนพระเอกเลย5555 แต่พอกูเริ่มโตมันก้ทำให้กูนึกถึงสภาพจิตใจตัวละครเมื่อเทียบกะตัวเองเพราะกูกะจะbased on ตัวกูแบบคร่าวๆตรงบุคลิก (กูเปนโม่งหญิง สาวห้าวคนเดียวในแก๊งชายเปนสิบที่บางทีอิเพื่อนผู้ชายหาว่ากูหื่นเถื่อนกว่ามัน แต่กูก็ชอบผู้ชาย บ้าดาราฮอลลีวู้ด อยากมีผัวไรงี้นะ ซึ่งตัวกูค่อนข้างเข้ากะผู้ชายได้ดีหญิงมาก อาจเพราะกูสนิทกะพ่อ มีพี่ชาย เอาง่ายๆอยุ่รรหญิงล้วนกุไม่มีเพื่อน ย้ายมาสหกุมีเปนแก๊ง555) แล้วเมื่อคิดว่าถ้ากุเจอแบบตัวละครกุ กุก็คงใช้ชีวิตโอเคขึ้น เพราะกุชอบโดนด่าเรื่องเป็นผู้หญิงล่ะทำตัวเถื่อนบ่อยๆ แต่เรื่องความรักคงต้องเป็นแบบสวิงตาม >703 อ่ะ55555 เพราะตอนนี้กูก็มีtypeผู้หญิงที่กูคิดว่ากูเป็นผู้ชายจะเอาเป็นเมียอยุ่ แต่ก้ไม่ได้ชอบจริงๆ ซึ่งกูอาจให้แม่งสวิงไปซักพักล่ะจบที่อินั่นเปนนางเอกตัวจริงแทน

เออขอบคุณเรื่องพวกการ์ตูน ทฤษฎีมากๆนะ กูจะลองหาอ่านดู

705 Nameless Fanboi Posted ID:8PD1j0POq

บ่นหน่อย กูมีปัญหา​ไร้สาระ​เวลาเลือกใช้คำว่ะ
แบบสมมติ​แต่งแฟนตาซี​เซ็ตติ้งยุโรป​โบราณ​ แล้วจะใช้คำว่า "กลับตาลปัตร" กูก็จะ เอ๊ะ ยุโรป​ไม่ควรมีตาลปัตร​นะ
ให้ตัวละคร​ด่ากันจะใส่ว่า "ไอ้เปรต" ก็เอ๊ะ โลกนั้นไม่น่ามีความเชื่อ​เรื่อง​เปรต

อะไรพวกนี้ กะสำนวนพังเพยซะส่วนใหญ่​ ไร้สาระฉิบหาย บางทีกลัวศัพท์​ใหม่เกินไปกูก็รีเสิร์ช​ทั้งวันว่ามันมีคำนี้เมื่อไหร่​ หรือเสือกสงสัย​ว่าที่มาคือไร หมดไปกะพวกนี้ งานเขียนแม่งไม่เดิน ประสาทมาก 555555

706 Nameless Fanboi Posted ID:fqN.CHsxc

>>705 มึงก็วงเล็บแบบกู เอาสำนวนพังเพยไทยใส่ไปก่อนเพราะนึกไม่ออก นักอ่านก็เข้าใจ
ไม่ก็ทำตัวแดงเท่าฝาบ้านบอกนึกออกค่อยมาแก้ไม่งั้นมึงจะตันสองเดือนแบบกู

707 Nameless Fanboi Posted ID:1jSINwNL2

>>705 มึงลองหาคำกลางๆปะ แบบ ไอ้บ้าเอ้ย ไอ้งั่ง ไรงี้ ถึงอรรถรสจะเสีย เพราะกูจะแต่งแบบตัวละครหลายเชื้อชาติแล้วกูว่าสมมติใส่คำพังเพยแบบภาษานั้นๆล่ะมันจะแปลกๆ(แค่ตัวละครคนอังกฤษ บ่นแบบ โง่เหมือนลา เวลาอ่านยังรุ้สึกแปลกๆเลยมะ555)

708 Nameless Fanboi Posted ID:wjpMZ2N6j

>>707 stupid donkey ไม่ได้เหรอ โง่เหมือนลา ฟังดูฝรั่งนะคำนี้

709 Nameless Fanboi Posted ID:yAxh+B4g2

ไม่งั้นก็เอาทางสายกลางแบบไอ้เวร ไอ้เฮงซวย ไอ้เส็งเคร็ง ไอ้ทุเรศนั่นอะไรงี้ได้มั้ย คำพวกนี้เห็นหนังฝรั่งใช้กัน

710 Nameless Fanboi Posted ID:F9RIePx9U

bastard ... :P มีทุกภาษา

711 Nameless Fanboi Posted ID:R44HEITbR

กูไม่ได้ใช้เปรตอะไรจริงหรอก แค่เมื่อคืน​นึกตัวอย่าง​ไม่ออกน่ะ ใช้สารเลว ฯลฯ ไป...
แต่อย่างสมมติ​คำว่า ทมิฬ กูก็จะเฮ้ย ที่มาจริงๆของคำ​มันไม่ได้แปลว่า ดำ นะ
โฉด ไม่ได้หมายถึง ​โหด
พวกคำที่ปจบ.ความหมายเพี้ยนๆมา กูมีความลังเลที่จะใช้
แต่ส่วนใหญ่​ก็เลี่ยงไปนั่นแหละ แค่มาบ่นความวิตกจริต​ของตัวเอง 55555

712 Nameless Fanboi Posted ID:zoeaVpmTG

มึง ถ้ากูจะเขียนแนวแฟนซีแล้วมีเรื่องเทพปีศาจบลาๆ กูต้องอิงพระคัมภีร์เป๊ะๆเสมอไปไหม หรือบิดเบือนได้เองเลยแล้วแจ้งว่ามาจากจินตนาการ คิดไม่ตกเลยเนี่ยยย

713 Nameless Fanboi Posted ID:BOq4WD2LZ

>>712 บิดเบือนได้นะ ขึ้นอยุ่กะการเซตโลกของมึงด้วย(แต่ของกุกะจะอ้างประมาณนั้น เพราะอยากทำให้แม่งเรียลๆ)

ง่ายๆมึงดูแฮร์รี่ดิ มีตั้งแต่เอลฟ์ในตำนานพื้นบ้านอังกฤษ หมา3หัวตามปกรนัมตำนานเทพเจ้ากรีก กัปปะ(ในนิยายมี แต่หนังไม่มี) พ่อมดแม่มดมีทั้งไม้กวาด ไม้กายสิทธิ์ เอาตรงๆแม่งก้ยำหลายอย่างที่อยุ่คนล่ะจักรวาลความเชื่อ แต่ก้ทำได้ไงเพราะถือว่าป้าโจเซตโลกของป้ามาแล้ว

714 Nameless Fanboi Posted ID:H8NvJKDME

>>712 ไม่จำเป็นหรอก มึงแค่ต้องไม่ลืมว่าโลกแฟนตาซีนั้นๆ มีกฏยังไง ขอให้มีเหตุผล เป็นไปตามกฏของโลกที่ถูกเซตขึ้นมาเพื่อไม่ให้มันหลุดกรอบเพราะแฟนตาซีคือจินตนาการ อยู่ที่จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง
กูว่าที่คนส่วนใหญ่อิงสัตว์ประหลาด/ความเชื่อ/ปีศาจ จากตำนานเพราะมันง่ายกว่า และเข้าถึงมากกว่า

715 Nameless Fanboi Posted ID:5l3dmJdMg

มึงกูกำลังจะเขียนนิยายแล้วต้องการให้ตัวเอกเรียนสถาปัตย์ กูสามารถหาข้อมูลการเรียนการทำงานของคนคณะนี้ได้จากไหนบ้างวะ

716 Nameless Fanboi Posted ID:WWM/L8gz1

>>715 กูว่ามึงต้องถามจากคนเรียนเลย ซึ่งกูไม่เคยถามอ่ะ แบบมันเขินนนน 555555555555

717 Nameless Fanboi Posted ID:PS9qTNCge

>>715 ไถทวิต ลองหาแท็กพวกคนเรียนถาปัตย์ เพียบอ่ะ

718 Nameless Fanboi Posted ID:ipGtXTqBn

>>715 มี podcast สถาปัตย์ในไทย 1. เต็กตีบวก แนวๆนศจบใหม่ทำงานเล่าถึงเรื่องที่เรียนกับ 2. เสาเสาเสา พูดถึงภาพรวมการออกแบบแนวคิดตามชื่ออีพี ลองดูๆ

719 Nameless Fanboi Posted ID:j7N1wurMH

>>715 มึงหาตามsnsอะ พวกบอร์ดแนะแนวก้ได้ว่ามีใครเรียนถาปีตย์บ้างถ้าอยากได้ นศ แต่ถ้าคนจบมึงก้โพสตรงๆทั่วไปว่าอยากถามข้อมูลคนเรียน ตั้งมู้ในพันดริฟ ในทวิต ถามในโม่งก้ได้อะ ว่ามีใครเรียนถาปัตย์บ้าง โม่งน่ารักๆเยอะนะ บิบิ//กูด้วย แค่ไม่ได้เรียน สถ 5555

720 Nameless Fanboi Posted ID:5l3dmJdMg

>>718 กูเข้าไปดูในเสาเสาเสาแล้ว มีประโยชน์กับกูมาก ขอบใจหลาย
>>716 กูก็แอบเขินเหมือนกัน 555
>>719 ขอบใจมากมึง กูก็พอจะมีข้อมูลคร่าวๆ แค่อยากรู้บรรยากาศการตรวจแบบ การแบ่งงานในโปรเจ็ค วิธีคิดอะไรต่างๆ ทำนองนี้
>>717 ขอบใจมากมึง กูจะลองไปดู

721 Nameless Fanboi Posted ID:OD0Yp28.Q

>>700 เรื่องราชบุตรเขยเจ้าสำราญ

722 Nameless Fanboi Posted ID:0TOjlKpWi

กุไปเจอนิยายเล่มหนึ่งเขียน victoria's secret = วิคตอเรีย'ส ซีเคร็ต แบบนี้ กุสงสัยว่าการเขียนอย่างนี้ในภาษาไทยมีด้วยเหรอวะ ความจริงแล้วควรจะเขียนวิคตอเรียไปเลยมั้ย หรือว่าวิคตอเรียสดี

723 Nameless Fanboi Posted ID:j7N1wurMH

>>721 ขอบคุณค่ะเพื่อนโม่ง รุ้สึกว่าแนวนี้ที่กูตามหามานาน5555

724 Nameless Fanboi Posted ID:SdNfZLtmt

>>722 วิคตอเรียส์ กูว่าอย่างนี้ดีกว่า ถ้าจะคงตัวเอสไว้นะ ปกติเจอแต่ วิคตอเรีย
ส่วนวิคตอเรียส มันอ่านว่า วิก-ตอ-เรียด ซึ่งมันไม่ใช่

725 Nameless Fanboi Posted ID:OnPvvzXyC

อยากถอนหายใจ TT^TT
แบบยอดเฟบหลายพัน เปิดพรียอดเท่าขี้มด ถ้ายอดไม่ถึงคราวนี้กูเลิกแล้ว เปลี่ยนแนวดีกว่าเผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้น

726 Nameless Fanboi Posted ID:vWmVc4pl.

>>725 อย่าคาดหวังกับยอดเฟบนักอ่านในเว็บนัก
ลงนิยายอย่าลงจนจบเรื่อง ไม่งั้นยอดไม่มา
จริงๆ ยอดเฟบหลักพัน หวังขายสัก100เล่ม ได้ยังโครตดีใจ แล้วไปลุ้น ebook อีกหน่อย

727 Nameless Fanboi Posted ID:Oq8saEnlJ

>>725 ลงหมวดไหน

728 Nameless Fanboi Posted ID:UV.Y/F1qx

ขอนั่งบ่นหน่อย
ไม่ได้เขียนนิยายแบบจริงๆ จังๆ มาราวครึ่งปี
พอตอนนี้กลับมาตั้งใจจะเขียนกลับได้แต่หน้า word เปล่าๆ ซะงั้น orz แบบว่าเขียนไม่ออกอะ เขียนไปก็รู้สึกไม่ไหลลื่น
ให้ตายสิ สงสัยต้องกลับไปเริ่มใหม่ตั้งแต่ศึกษางาน นั่งอ่านงานคนอื่นอีกแล้วเหรอเนี่ย

729 Nameless Fanboi Posted ID:Rtje+TaGs

>>728 กูก็เป็น ตอนนี้พัฒนามาเขียนเรื่องสั้นๆ ที่ส่วนใหญ่ไม่เกินพันคำได้แล้ว ก็พอไหวอยู่ แต่เวลากูจะศึกษางานคนอื่นก็ไม่เจอของใครถูกใจซักคน หายากชิบหาย โตแล้วเรื่องเยอะ 555

730 Nameless Fanboi Posted ID:nHE0SRw1v

>>725 อย่าหลงกับยอดเฟ้บ กูเห็นมาแล้ว เฟ้บหลักหมื่น จองไม่ถึงร้อย แต่บางคนเฟ้บพันเดียว จองสองร้อย มันแล้วแต่กลุ่มผู้อ่านของมึงจริง ๆ ว่ะ ถ้าอยากได้เงิน เขียนแล้วปิดตอนขายดีกว่า เชื่อกู เงินไม่มาก แต่เงินมาจริง ดีกว่าไปเสียเวลาทำหนังสือ

731 Nameless Fanboi Posted ID:qIBRAZGhT

กูไม่กล้าอ่านคอมเม้นแล้วว่ะมึง กูเคยอ่านทีหนึ่งแบบ กูเฟลไปสองเดือนเลยทีเดียว
มีคอมเม้นเดียวที่ว่าประมาณนี้ "ทำไมไม่อัพทุกวัน ไม่ติดตามละ"
กูตอนแรกเดือด จากนั้นเศร้า จากนั้นหดหู่ เง้อ ตอนนี้กูเลยแบบไม่ได้อะไรเลยหัวตันไปหมด

732 Nameless Fanboi Posted ID:WYAt+JP.R

กูอยากเขียน แต่กูก็อยากนอนด้วย แม่งเป็น dilemma ของชีวิต

733 Nameless Fanboi Posted ID:DZSSl.Qhe

นี่กูยังไม่ได้เริ่ม แต่เท่าที่ฟังจากเพื่อนโม่ง กูว่าช่วงว่างจะเขียนตุนไว้ ล่ะลงแบบอาทิตย์ล่ะครั้งเรื่อยๆ ว่างๆตุนไว้ งั้นเลยว่ะ

เออ แฟนตาซีเด่วนี้มีแนวไหนไม่ซ้ำบ้างวะ คือกุว่าตอนนี้แม่งมาถึงจุดที่ทุกแนวถูกนำไปใช้แล้วอะ รรเวทมนตร์ เกิดใหม่ เกมออนไลน์ โลกสมมติ รักต่างเผ่าพันธุ์ เขียนให้ไม่ซ้ำกุคงต้องนั่งไทม์แมชชีนไปซักร้อยปีที่แล้ว

734 Nameless Fanboi Posted ID:K4zQiZ3Ya

เห็นโม่งพูดเรื่องเฟบละกูว่ากลุ่มผู้อ่านมันสำคัญจริงๆ ถ้านิยายมึงคนมีอ่านเยอะมาก แต่เป็นพวกชอบอ่านของฟรี แต่ให้ซื้อจริงก็บายกันเยอะ มันก็ขายยากอยู่
แต่ถ้าคนอ่านนิยายมีไม่เยอะเท่าไหร่ แต่เป็นคนที่พร้อมซื้อจริงๆหรือมีกำลังซื้อสูง มันก็จะได้เงินง่ายกว่า

735 Nameless Fanboi Posted ID:Rvtu3WDc7

นิยายที่คนอ่านตามไปซื้อมักจะเป็นนิยายไม่กระแสว่ะ เพราะขนาดไม่กระแสยังมีคนมาตามอ่าน ถ้ามียอดเฟ้บถึงพัน ยอดอ่านแต่ละตอนถึงพัน มีโอกาสทำขาย เพราะในตลาดไม่มีนิยายแบบนี้ แต่ถ้าเป็นนิยายกระแสจัด ๆ คนอ่านเป็นแสน คนอ่านมันหนีไปอ่านเรื่องอื่นได้ถ้าถูกปิดตอน เพราะมันเหมือนกันหมดไง คนอ่านส่วนใหญ่เลือกอ่านแค่ตอนที่ชอบ แบบไล่ ๆ ดูฉากที่ชอบ บางคนไม่อ่านคำบรรยายด้วย ยอดวิวจึงไม่สามารถรับประกันว่านิยายจะมีคนซื้อถ้าทำเล่ม กูว่าขายอีบุ๊คกับเมบดีกว่า เวลามันลดราคานักอ่านชอบไปสอยคราวละเยอะ ๆ คนเขียนไม่ต้องลงทุนด้วย

736 Nameless Fanboi Posted ID:Dol86yZo9

>>733 ลองแนวนี้มั้ยที่กำลังฮิตอยู่เลย ...แม่มดเก็บเด็กชายมาเลี้ยง พอโตมาเขาก็กลายเป็นคนรัก
น่าจะเหมาะกับสาวขึ้นคาน (ที่ยุคนี้มีเยอะ) แล้วอยากเลี้ยงต้อยเด็กนะ (ฮา)

737 Nameless Fanboi Posted ID:2oKOc7Fvf

อยากจะร้องไห้ ดองงานไปครึ่งปีเพราะจะอ่านสอบ กลับมาอีกทีคือเขียนไม่ออกเลย หรือควรจะเริ่มใหม่ตั้งแต่ 0 ดี

738 Nameless Fanboi Posted ID:Dol86yZo9

เออเพื่อนโม่ง ขอถามหน่อยนะ
คิดว่าเพศของตัวละครเอกนั้นมีผลต่อรสนิยมของผู้อ่านมากน้อยแค่ไหนอะ?

คือไม่รู้กูรู้สึกไปเองรึเปล่านะว่า เวลาเขียนแนวแฟนตาซีผจญภัยเก็บเลเวลนี่ ถ้าตัวเอกเป็นชายจะได้นักอ่านที่เป็นผู้ชายมากกว่า ซึ่งกลับกันเวลาเขียนตัวเอกเป็นหญิงนี่คนที่เข้ามาเชียร์มักจะเป็นนักอ่านแฟนตาซีหญิงซะส่วนใหญ่ซะงั้น

739 Nameless Fanboi Posted ID:3mN0jJrKW

>>738 ความนิยมตัวละครชายสูงกว่า มีแต่แนวรักที่คนอ่านเป็นผู้หญิงจะต้องการตัวละครหญิงเป็นตัวนำเพื่อเอาตัวเองอิน แนวอื่นตัวละครชายนำจะได้รับความนิยมมากกว่า

740 Nameless Fanboi Posted ID:EoE6z0lyA

>>736 กูคือโม่งตัวนั้น กูไม่ซื้อว่ะ5555 คือกูโม่งหญิงชอบชายแก่(ดาราฮอลลีวู้ดที่กูกรี๊ดๆก็ประมาณ จอห์นนี่ เดปป์,จอร์จ คลูนีย์ ไรงี้อ่านะ) มันฝืนความรู้สึกกูเกิ๊นนน แต่ขอบคุณมากว่ะมึง แนวสาวแก่กว่าไม่ค่อยได้เจอแฮะ เข้ากะยุคสมัยสาวสายเปย์ดี

เออ ky แปป ถ้ากูจะแต่งให้ตัวละครแม่งแบบเป็นเด็กเร่ร่อนเติบโตข้างถนน มันจะเป็นไปได้มั้ยถ้ากูจะให้ตัวละครมัน’ไม่แตะเหล้า’ แนวว่าเคยกินแล้วไม่ชอบ เลยไม่แดกเลย แต่ว่าต่อสู้ป้องกันตัวได้ มีสกิลพวกหลบหนีขโมยของขอทานตามประสาเด็กจรจัด อายุแม่งก็โตแบบเป็นวัยรุ่นล่ะอะ มันมีโอกาสเปนไปได้ช่ะ

741 Nameless Fanboi Posted ID:EoE6z0lyA

>>738 +1 ตัวละครชายมันดึงคนชอบได้ทั้งชายหญิง ตัวละครหญิงกุไม่ค่อยเห็นผู้ชายชอบเลยนะ(เยอะสุดน่าจะสายบู๊แบบแคทนิส ไม่ก็ฉลาดๆแบบเฮอร์ไมโอนี่) คือส่วนนึงเวลาแต่งชะนีคนชอบแต่งให้มันน่ารำคาญด้วยอะ นี่ขนาดกูโม่งหญิงนะ555 แล้วก็ต้องสวยเลือกได้ มีผัวไรงี้ เห็นชัดๆคือนิยายเจ๊กัล

742 Nameless Fanboi Posted ID:rTMnbPhqA

>>741 กูเป็นพวกชอบตัวละครหญิง แต่ส่วนใหญ่ชอบแต่งให้งี่เง่ากันกูเสียใจมาก

743 Nameless Fanboi Posted ID:mN389+NOY

>>738 ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่นิยายกูมีแต่คนเอ็นดูนางเอก แต่เกลียดพระรองชิบหาย
วาย...

744 Nameless Fanboi Posted ID:llCDx3Yps

กูว่าตัวละครชายมันดึงได้ทั้งคนอ่านชายและหญิงนะ
ถ้าตัวละครหญิง กูรู้สึกว่าพังง่าย มันมีมีปัจจัยเยอะที่จะต้องทำให้คนอ่านชอบ เช่น ห้ามงี่เง่าเกิน ห้ามทำตัวโง่ๆ (โง่ไม่ได้แปลว่าไม่มีความรู้นะ) คือรู้สึกว่า ผู้หญิงด้วยกันก็ไม่ชอบตัวเอกหญิงได้นะ แต่ผู้หญิงถ้าซูไปเลยก็จะได้คนอ่านอีกแบบนึง
อันนี้สำหรับแนวผจญภัยเก็บเลเวลน่ะนะ

745 Nameless Fanboi Posted ID:9PtFagtih

ตัวละครหญิงที่ผู้หญิงชอบต้องเก่ง ฉลาด ไม่ง้อใคร ไม่ง้อผู้ชาย กับอีกแบบนึงคือเป็นยายขี้เหร่ ไม่สวย แต่ความคิดดี ไม่งี่เง่า ไม่เหมือนตัวละครชายที่ถ้าหล่อออกมา ผู้อ่านก็พร้อมจะให้อภัย ถถถถถถ

746 Nameless Fanboi Posted ID:0lKECwCnH

>>745 ในฐานะกูเป็นผู้หญิงที่ชอบตัวละครหญิงนะ ไอ้เก่ง ฉลาดอะใช้(อาจไม่ถึงที่สุดแต่ก็มีความสามารถอะ) แต่ถึงขั้นไม่ง้อใครเลยก็ไม่ใช้อะ ถ้าเขียนมาแบบนั้นกูจะรู้สึกว่าไอ้คนแต่งสร้างตัวละครหญิงงี่เง่าหยิ่งๆอีกละ...

747 Nameless Fanboi Posted ID:koOtbedbj

>>745 กูก็ชอบtypeนั้น แต่แม่งน้อยเหลือเกิน ถ้าแต่งมาก็ซู(เช่น อิเรย์ สตาร์วอร์ส ชะนีไม่งี่เง่าที่ซูชิบหายยยยย ลุคแม่งพลาดมือขาด ทำอาจารย์ตาย ฝึกกับโยดาตั้งนาน อิเรย์มาถึงเก่งเลย ด่าไม่ได้ด้วย เด่วหาว่าเหยียดเพศ)

ตัวละครชะนีแบบชะนีเลยที่กูชอบคือ Scarlet O’Hara จากGone With The Wind อ่ะ งี่เง่ามาก ยึดติดกับผัวชาวบ้านอยู่ได้ แต่ชอบที่นางเป็นผู้หญิงแกร่ง แม่งอึด ปากกัดตีนถีบมากๆ จากคุณหนูกลายเป็นยากจน แล้วทำทุกอย่างให้ตัวเองกลับมารวยไเ้อีกครั้ง(ถึงวิธีแม่งจะดูเลวๆบ้าง อย่างแย่งผัวน้องสาว แต่ถ้าไม่มีสกิลการบริหารนางก็มาไม่ได้ขนาดนี้ว่ะ)

748 Nameless Fanboi Posted ID:.DWiKBRrc

มึงมีวิธีไหนทำให้พระรองของกูดูดีขึ้นบ้างไหมวะ กูพยายามแล้วแต่คนเกลียดชังพระรองกูกันชิบหาย มันแค่นิสัยกวนตีนเท่านั้นเอง ทำไมคนเกลียดชังคนกวนตีนงั้นหรือ นางเอกกูกวนตีนชาวบ้านมีแต่คนเอ็นดู แม่ง

นิยายขาวบ้านมีแต่คนเกลียดนางเอก นิยายกูคนเอ็นดูนางจนแบบ นางเอกทำเหี้ยไรไม่ผิดแล้วโว้ย นางเอกกูที่สุดแห่งความงอแง กวนตีน ไร้สาระมีแต่คนรัก ในนิยายญาตินางก็รักนาง ในความจริงคนก็เอ้นดูนาง เด็กคนนี้นี่เป็นที่รักจริงๆ

749 Nameless Fanboi Posted ID:/.PffFjyX

>>748 พระรองมันเลวบริสุทธิ์ หรือเลวแบบแค่ซึนเดเระเฉยๆ ล่ะ ถ้าเลวบริสุทธิ์มึงก็อุทิศให้มันบรรยายซักย่อหน้ามั้ยล่ะ ให้คนเข้าใจกระบวนการคิดบองมัน คนอาจจะเข้าใจมันขึ้นมาหน่อยนึงเมหือนพวกตัวร้ายในหนังที่คนกรี๊ดๆ น่ะ แต่ถ้าเลวแบบซึนเดี๋ญวพอมีฉากที่มันทำดีแบบซึนๆ คนก็เทมาทางนี้เองนั่นล่ะ

ส่วนอันนี้คือคำถามของกุนะ กุอยากรู้ว่าทำไมเวลาอ่านนิยายรักที่ผู้หญิงแต่งแล้วเป็นมุมมองพระเอกทำนองว่ารักแท้ รักมาก มันจะไม่น่าเชื่อวะ ส่วนใหญ่อ่านแล้วจะรู้สึกแบบว่าผู้ชายมันไม่สามารถรักได้อย่างที่ผู้หญิงรักหรอก มันไม่มาประดิดประดอย คิดเล็กคิดน้อยอย่างที่มึงบรรยายมาซะหน่อย ทั้งที่เวลาอ่านนิยายที่ผู้ชายแต่งอย่างของนิโคลัส สปาร์คผู้ชายของเขาก็คนดีเหี้ยๆ รักแท้ รักมั่นตลอดกาลเหมือนกัน แต่กุกลับเชื่อวะว่ามีผู้ชายที่มันรักใครคนนึงขนาดนั้นจริงๆ ง่ะ

750 Nameless Fanboi Posted ID:6FAHPB1Vw

>>749 เดาว่านักเขียนหญิงพวกนั้นไม่เข้าใจระบบคิดผู้ชายน่ะ ผู้ชายเลยออกมาดูแบบไม่เรียล

751 Nameless Fanboi Posted ID:kvAMFXOwa

ky เขียนเรื่องสั้นยังไงให้สั้น และเป็นเรื่องสั้นที่ดีวะ.. พอดีปกติเขียนแต่ยาวๆ อยากมาลองเขียนอะไรสั้นๆบ้าง

752 Nameless Fanboi Posted ID:OEJYrpfga

>>749 นิโคลัส สปาร์ค กูเกลียดชื่อนี้5555 คือกูรุ้สึกว่าอ่านนิยายเค้าแล้วแม่งนำเสนอให้ผู้ชายดีเกินจนกูเกลียดนางเอกโดยถูกโน้มน้าวอ่ะ

เออกูโม่งหญิงนะ อยากรุ้ความรุ้สึกโม่งชายอะว่าเวลามีความรักมันเปนไง ที่บ่นๆว่ามันไม่เหมือนที่นขหญิงบรรยาย ส่วนผู้หญิงมีความรักเปนไงกูไม่รุ่เพราะกูโสดซิงมาตลอดชีวิต ฮือออ

753 Nameless Fanboi Posted ID:yT+dRCqG8

>>752 นางเอกของสปาร์คจะแบบผมทอง ร่าเริง เอาแต่ใจนิดๆ แต่ทุกคนพร้อมจะตามใจ งี่เง่าๆหน่อย ส่วนผช.จะหล่อแบบไม่รู้ตัว มึนๆ อึนๆ ทำงานใช้แรง แอบรักเธออยู่มุมสงบๆของตัวเองจนดอกฟ้าโน้มตัวลงมา 55555

754 Nameless Fanboi Posted ID:yU+B/ejma

>>753 หนังที่กูเกลียดชิบหาย(ยกเว้นพระนาง กับฉากสวยๆ)อย่างThe Notebook ลอยมาเลยสัส555 ต้นกำเนิดการเกลียดนิคสปาร์คของกู แล้วก็ลามไปเกลียดแม่งทุกเรื่องเพราะเปนงี้หมด คืออินางเอกนี่มึงจะแต่งก็กลับไปให้ความหวังอิพระเอกอีก เข้าใจนะว่าโดนเรื่องจดหมาย แต่แบบ โอ๊ยยย แม่งstereotypeคุณหนูงี่เง่าจริงๆอะ อิพระเอกแม่งก็ดีมาก ดีสุดๆ เก็บเงินสร้างบ้านรอ อื้อหือ กูจะด่าว่าแกรี่ได้ปะวะ คนดี มีความรับผิดชอบ รักมั่นคง บ่นนนนน

755 Nameless Fanboi Posted ID:EeiDbQriN

กูไม่ค่อยชอบนิโคลัส สปาร์กเหมือนกัน อ่านแล้วไม่อิน บางเล่มนี่ชวนหลับเวอร์

756 Nameless Fanboi Posted ID:0qCvn8U3G

>>749 มันเป็นคนดี แต่มันกวนตีน และซื่อสัตย์ต่อพระเอก
นิยายของกูทุกคนกลัวมากว่าจะมีคนมาแทรกระหว่างพระเอกนางเอกกู จนชังตัวละครรองของกูทุกตัวเลย...
พอตัวละครใหม่มาปุ๊บ โวยวายอย่าให้มันมาแทรกทันที
ทำไมกูก็ไม่ได้เขียนบทส่งพระนางขนาดนั้นนะแท้ๆ

757 Nameless Fanboi Posted ID:EeiDbQriN

รองจากเด็กดีกับธัญวลัย ส่วนมากลงที่ไหนเวิร์ค กูรู้สึกว่าลงที่ fictionlog คนอ่านน้อยมาก เหมือนเค้าขายแต่นิยายเค้าอ่ะ
ส่วน readawrite ก็พอได้อยู่ แต่ยอดก็ไม่ได้เยอะเท่าเด็กดีกับธวล

758 Nameless Fanboi Posted ID:KkIv8/juQ

>>757 readawrite เคยแจ้งแบนพวกก็อปวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่โทรมาขอโทษเลยบอกกำลังติตด่อเจ้าของไอดี จะรีบแก้ไข กูอึ้ง แจ้งเด็กดี ficlog เงียบเป็นเป่าสากเรื่องก็อปก็ยังอยู่ดีมีสุขเหมือนเดิม ใน raw จัดการเร็วจริงใจกว่าเยอะ

759 Nameless Fanboi Posted ID:.FmqVv2al

บ่นระบายนิด คือรู้สึกอึดอัดแฮะ
ไอ้เราก็ถนัดแนวดราม่า Tragedy แต่ตลาดในไทยดันนิยม Love comedy ซะงั้น
กูจะเปลี่ยนแนวเขียนยังไงดีล่ะเนี่ย

760 Nameless Fanboi Posted ID:XoHly4tIF

>>759 มึลองล่อด้วยเลิฟคอมพอถอนตัวกันไม่ขึ้นแล้วก้ยัดดราม่าใส่สิ

761 Nameless Fanboi Posted ID:GIvFvGvG9

กูก็ถนัดแนวดราม่า มึงก็ดราม่าไปเลย คนชอบอ่านดราม่ามันก็มี แถมแนวดราม่า คนจำง่ายนะเว่ย ยิ่งกระชากน้ำตาเท่าไหร่ คนก็ยิ่งจำได้

762 Nameless Fanboi Posted ID:8DurscF2i

>>759 ล่อแบบกูตอนหนึ่งมุ้งมิ้ง แล้วกระชากลากลงมากระทืบจมดิน แล้วมามุ้งมิ้งใหม่ เอาให้เหมือนตบหัวแล้วลูบหลังพร้อมๆ กัน
คนอ่านยังว่ากูเป็นไบโพลาร์

763 Nameless Fanboi Posted ID:eicj+.2an

>>762 แบบนั้นไม่เวิร์ค​ไงมึง คนอ่านจะพาลเซ็งหรือหนีกันไปก่อน ต้องมุ้งมิ้งล่อคนแล้วแทงทีเดียวให้มิดด้าม แล้วจะดราม่าต่อก็ไปยาวๆเลย

764 Nameless Fanboi Posted ID:WI3.il5iY

KY มันมีวิธีแต่งตัวละครแบบ เจ้าชายแวมไพร์อยู่มา600ปี ไม่ติงต๊อง(คืออาจมีหยอกเล่น ชวนคุย แต่นิสัยแบบผู้ใหญ่อะ) ชอบเรียนรู้ แบบอยู่มานานแม่งก็รุ้เยอะ พูดได้หลายภาษา เดินทางไปทั่ว แข็งแรง ต่อสู้ได้เก่งดาบพอควรแบบพวกอัศวินยุคกลางอะ แบบไม่สตูปะวะ คือกูพยายามคิดให้ไม่ซูด้วยการใส่ปมตัวละครเป็นคนปิดตัวจากสังคมเพราะอดีตเลวร้าย อาจจะพิการไรซะอย่างขาดเพราะต่อสู้ อะไรซักอย่างหาย ขังตัวเองในปราสาท แต่กูก็คิดว่าแม่งสตูกว่าเดิม555 จะตัดอิโพรไฟล์ฉลาดๆ ออกกูก็ว่ามันไม่สมจริงเพราะว่าแม่งคนชอบเรียนรุ้ อยุ่นานก้ศึกษาเรื่อยๆ ตัดเรื่องดาบออก จากการที่แม่งเปนเจ้าชาบนักรบมันก้ควรมีสกิลมะ หรือกูควรจบที่ให้แม่งออกมาน้อยชิบหายจนคนเลิกด่าดีวะ5555

765 Nameless Fanboi Posted ID:jTJnZReEU

>>764 เอาเป็นแบบโดนแช่แข็ง หรือว่าหลับอยู่ในโลงมาหลายปีแล้วถูกขุดเจอสิ
ประมาณโดนจับขังเอาไว้ตั้งแต่ยุคกลางอะไรแบบนั้น พอตื่นขึ้นมาในโลกปัจจุบันก็เลยต้องนั่งศึกษาเรียนรู้ว่าอะไรเปลี่ยนไปมั่ง

766 Nameless Fanboi Posted ID:dKQ2kCf9Y

KY ถ้ามีคนอ่านคอมเม้นไม่ดี (หมายถึงคอมเม้นติแล้วใช้ภาษาไม่ดี) มึงจะทำไงกัน คือมึงจะเข้าไปคุยกับคนอ่านคนนั้นมั้ย หรือมองผ่านไป
คือกูอยากมองผ่านไป แต่มันติดในใจมากเลยอ่ะะะะ

767 Nameless Fanboi Posted ID:k5Nv20FBN

>>765 กูนึกถึงDark Shadows เลย555 ใจมาก ความจริงกูมีreferenceเป็นเลสแตทจากนิยายแวมไพร์ของแอน ไรซ์(ที่ทอม ครูซ เล่นในinterview with vampireอะ) ซึ่งพอกูอ่านล่ะรุ้สึกแม่งเก่งชิบหายวายวอดมาก ซึ่งกูว่ากูเขียนไม่เก่งถ้าแต่งตัวละครสตูมันคงออกมาแย่มากกว่าดูเท่

768 Nameless Fanboi Posted ID:o881hM/Hp

>>766 ปล่อยไปมึง มารยาทคนเราแม่งไม่เท่ากัน กูว่าถ้ามึงเข้าไปคุย เดี๋ยวแม่งเป็นเรื่อง / เพื่อนกูที่เคยฟิคแล้วคนอ่านแม่งอินมากๆ แม่งเรียกเพื่อนกู อีไรท์ 55555

769 Nameless Fanboi Posted ID:zttuitPUL

>>767 เบลอความเห็นนั้นไป พอเจอเยอะๆ จะชินไปเอง

770 Nameless Fanboi Posted ID:BKkf4aVhu

>>763 ตะ แต่ของกูเวิร์คนะ ตอนนี้คนติดตามเพิ่มขึ้นหลายเท่าเลย
>>766 เบลอ ...กูพูดไปงั้นแหละกูเคยเฟลไปสองเดือนเลยทีเดียว เกือบลบนิยายตัวเองทุกวัน

771 Nameless Fanboi Posted ID:dKQ2kCf9Y

>>768 >>769 >>770 กูพยายามเบลอมากกกก
แต่กูยอมรับเลยว่าเฟลมากก คือกูไม่เคยเจอมาก่อนอ่ะ ตั้งแต่เขียนมาสองสามปี ปกติทุกคนใจดีน่ารักกับกู
พอมาเจอกูรู้สึกเลยว่ากูอ่อนไหวกว่าที่คิด คือกูไม่ได้อยากจะทำตัวเป็นคนรับคำติไม่ได้อ่ะนะ แต่คือถ้าคำติมันมาในรูปแบบที่แบบสุภาพๆพุดดีๆกับกุหน่อย มันก็คงดีกว่านี้อ่ะ
คือกูเฟลแล้วก็งงด้วย ว่าทำไมเค้าพูดจาแบบนี้ แบบไม่รู้จักกูแต่พูดจาแบบนี้กับกูเหรอ แล้วปกติกูพูดสุภาพกับคนอ่านทุกครั้งอ่ะ

772 Nameless Fanboi Posted ID:UO5B1T8Mp

พวกมึง ตอนนี้กูลงนิยายไว้หลายเว็บ เพิ่งเห็นว่าห้องสมุดล้ำมาก
คนเม้นเยอะมาก นิยายกูไม่เงียบเป็นเป่าสากว่ะ
ลงเว็บอื่นคือมีคนอ่านบ้าง เด็กดีก็พอดี แต่พอลงที่ห้องสมุดแล้วค่อนข้างแฮปปี้อ่ะ มีคนเม้น คนเฟบพอใช้ได้เลย

773 Nameless Fanboi Posted ID:BKkf4aVhu

>>772 ลงมั่งดีกว่า

774 Nameless Fanboi Posted ID:61Hk5sw5a

>>772 ไม่อะไรนะแต่พอเห็นชื่อทีไรแล้วมันเอิ่ม...ทุกที 555

775 Nameless Fanboi Posted ID:zttuitPUL

>>772 เห็นชื่อก็ลาก่อนแล้ว

776 Nameless Fanboi Posted ID:dtDK+qfSi

>>772 นิยายมึงหมวดไหน

777 Nameless Fanboi Posted ID:knjr1G.ZS

อยากรู้ว่านิยายแนวรักขายอีบุ๊คได้เฉลี่ยกี่เล่มกัน

778 Nameless Fanboi Posted ID:gyHHqUnc5

>>777 มันแล้วแต่ชื่อเสียงกับฐานลูกค้าแต่ละคนแล้วก็การทำตลาดด้วย

779 Nameless Fanboi Posted ID:tvHn+tcW.

>>772 อย่านะมึง เว็บนั้นสนพ.เองเพิ่งโกงพรีไปไม่ใช่เรอะ

780 Nameless Fanboi Posted ID:Nbrps1wkR

กูขอถามหหน่อย กูกำลังจะเขียนแนวฆาตกรรม แต่กูรุ้สึกว่า แบบกูไม่อินเลยยย แบบนึกออกมะว่ากูไม่รู้สึกว่าจะมีอะไรรุนแรงเบอร์ที่ทำให้กูต้องฆ่าคนแบบอลังการเหมือนในนิยายอ่ะ แบบกุเลยเหมือนกับ doubt แรงจูงใจของตัวละครตัวเอง อารมณ์ว่า มึงเป็นไรมากป่าววะอีตัวนี้ กูไม่เกตมึงเหลยยย

781 Nameless Fanboi Posted ID:Nbrps1wkR

>>780 อ้อ กูลืมคำถาม คือกูอยากรู้ว่า แรงจูงใจที่สมเหตุสมผลสำหรับคนอ่านมันต้องเบอร์ไหน คือปกติกูอ่านสืบสวนก็ไม่รู้สึกอะไรนะว่าไม่อินอะไร ยกเว้นมันจะเบามากจริงๆ เช่น ชอบนักร้องคนละคน ชอบนักเขียนคนละคนไรเงี้ยะ

782 Nameless Fanboi Posted ID:BSt3EqjIG

>>781 ปมแค้นส่วนตัวแบบ ฆาตกรเคยไปโกงพ่อมันจนหมดตัวแล้วต้องฆ่าตัวตาย ฆ่าแม่ ข่มขืนพี่สาว จนแม่งกลายเป็นคนเร่ร่อนต้องเข้าสู่วงการมืด แต่แนวนี้สุดท้ายกูอ่านล่ะจะสงสารฆาตกรแทนว่ะ แม่งเหมือนตกหลุมที่ไม่มีวันปีนขึ้นได้ แต่หลุมแม่งลึกเรื่อยๆแทน

ถ้า แนวฆาตกรต่อเนื่องแบบโรคจิตๆ ฆ่าเปนสัญลักษณ์ มึงลองศึกษาจิตวิทยา พวกโรคนู่นโรคนี่ หรือลองหาหนังประมาณSilence Of The Lamb,Se7en,Capote(เรื่องนี้เน้นที่ตัวทรูแมน คาโปตี้ แต่ก้พูดถึงตัวฆาตกรเยอะนะ),Monster ที่มันเล่าถึงเหตุจูงใจฆาตกรรม ปมความบิดเบี้ยวทางจิตของฆาตกร ไรงี้ดูเป็นreferenceอ่ะ กูก็ไม่เคยเขียนนิยาย สู้ๆนะคะ

783 Nameless Fanboi Posted ID:J8rbY0ZYM

>>782 ขอชื่อเรื่อง

784 Nameless Fanboi Posted ID:rZcgvmSaJ

>>779 ขอแหล่งข่าวด้วย

785 Nameless Fanboi Posted ID:/zVS8fHTe

>>780 กูแต่งแนวอื่นนะ แต่ตัวเอกกูฆาตกรรมชาวบ้านไปเยอะเพราะแรงหึงหวงอย่างรุนแรง นางเป็นฆาตกรข้ามภพข้ามชาติที่ใครก็จับไไม่ได้ด้วย
ปมมันมาจากครอบครัวมันทิ้งนางเอก พอนางเอกเจอกะพระเอกก็ยึดติดเหมือนเป็นที่พึ่งทางใจ พระเอกเป็นเหมือนพระเจ้าของนางอ่ะ นางเลยไม่รู้สึกว่าตัวเองทำผิด นางเอกฆ่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเอกรัก เพื่อให้พระเอกมีมันคนเดียวเท่านั้น
กูสาบานว่ากูไม่ได้อยู่หมวดสยองขวัญ

786 Nameless Fanboi Posted ID:/zVS8fHTe

>>780 ลองนิยายของสำนักพิมพ์น้ำพุ อะไรสักอย่างที่มันเป็นซีรีย์ตำหนวดหญิงที่แต่งงานกับเอฟบีไอกับหมอหญิงผุบๆโผล่ๆอ่ะ สนุก ตอนแรกกูด่าอีตำหนวดหญิงชิบหายเพราะมันน่ารำคาญ ถ้าผ่านเล่มแรกได้ จะพบว่าฆาตกรโรคจิตชิบหาย

787 Nameless Fanboi Posted ID:vPhhVSSkm

>>785 พล็อตมึงเจ๋งอ่ะ! น่าอ่าน

788 Nameless Fanboi Posted ID:2egl+kHBx

>>785 อยากอ่านง่ะ

789 Nameless Fanboi Posted ID:pXWrJqHY8

>>783 อิปมแค้นนั่นกูยกตัวอย่างเฉยๆให้มันสมเหตุสมผลกับการตามฆ่าอ่ะมึง5555 ส่วนหนังที่กูแนะนำก็คือมันพูดถึงตัวฆาตกรค่อนข้างดีอ่ะ ถึงบทฆาตกรจะไม่เยอะ แต่กูดูล่ะเข้าใจฆาตกรเลย โดยเฉพาะSilence Of The Lamb นี่แหละ

790 Nameless Fanboi Posted ID:J8rbY0ZYM

>>789 อ้าวว กูนุกว่ามีนิยายแบบจริงๆ 5555 อยากอ่าน

791 Nameless Fanboi Posted ID:LDoCUtBqB

>>786 Agent Pendergast หรอ หาไม่เจออ่ะ ซีรีย์นั้นผู้หญิงเป็นตัวเอกหรอ

792 Nameless Fanboi Posted ID:2.z66s2ep

>>787 >>788 กูอยู่หมวดอดีต ปัจจุบัน อนาคต ชื่อเรื่องมุ้งมิ้งผิดกับเนื้อเรื่องไปหาอ่านได้ ไม่ทะลุมิตินะ แต่กูไม่รุ่ยะอยู่หมวดไหน
>>791 ไม่ใช่ สำนักพิมพ์นี้มีหลายเรื่องนะมึง

793 Nameless Fanboi Posted ID:2.z66s2ep

นักสืบเจน ริซโซลี

794 Nameless Fanboi Posted ID:LDoCUtBqB

>>792 >>793 ขอบคุณค้าบ

795 Nameless Fanboi Posted ID:heKgPhcwZ

ตอนนี้กูเพิ่งเขียนจบไปหนึ่งเรื่อง ระหว่างรอขึ้นเรื่องใหม่ที่กูยังไม่มีพลอต กูรุ้สึกเหมือนกำลังเจอ writer block กูคิดอะไรไม่ออกเลย เขียนอะไรไม่ออกเลยอ่ะ ละพอไม่ได้เขียนกูก็หดหู่(มากๆ)

796 Nameless Fanboi Posted ID:+RvUmwo5.

กูเพิ่งเริ่มหัดเขียนนิยาย ลงตอนละประมาณพันคำได้ไม่กี่ตอน สั้นสัสๆ ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านด้วยดีใจชห

797 Nameless Fanboi Posted ID:+1RAkA+.d

มึงกูเป็นพวกชอบดูหนัง ชอบการแสดงออกทางสีหน้าที่มึงต้องตีความเอาเองว่าตลค.คิดอะไรอยู่ แล้วให้รู้ผลทีเดียวตอนกระทำแล้วเลย ทีนี้พอเขียนนิยายถ้ากูไม่บรรยายความคิดของมันแล้วให้ตลค.กูทำเลยได้ป่ะ เช่น นาย ก.มองไปทางอื่น ก่อนหันกลับมายกมุมปากราวกับจะยิ้ม "ผมคิดว่าผมชอบคุณ" อะไรงี้ อ่านๆ แล้วกลัวคนจะรู้สึกว่านี่มันนิยายนะ มึงควรบรรยายให้เคลียร์ ไม่งั้นก็ไปเขียนมังงะ เขียนบทละครไป๊อะไรงี้

798 Nameless Fanboi Posted ID:YHV5fnds3

>>797 ไม่หรอก จริงๆมันแล้วแต่คนเขียน บางคนก็ถนัด tell ไม่ถนัด show เขียนๆไปเหอะ เดี่ยวมันก็ดีขึ้นเองอ่ะ

799 Nameless Fanboi Posted ID:kEDHYOIhK

>>797 เออ เดี๋ยวนี้กูก็เป็นว่ะ อ่านนิยายน้อยลง เสพแต่พวกใช้ภาพเล่าอย่างหนังหรือการ์ตูนมากขึ้น รู้สึกเหมือนสกิลเขียนบรรยาย โดยเฉพาะส่วนความคิดตลค.มันตกลงเยอะเหมือนกัน แต่กูก็เขียนๆไปแหละ แบบอยากให้คนอ่านคิดเอาเองบ้างอะไรบ้าง 555

800 Nameless Fanboi Posted ID:Zd8SN60Wj

ในนี้มีใครที่ไม่สนใจยอดเม้นยอดเฟบ เขียนตามใจตัวเอง ทำเป็นงานอดิเรกเฉยๆ อะ

801 Nameless Fanboi Posted ID:39M5+vdQP

>>800 พยายามอยู่ แต่บางทีก็อดไม่ได้ว่ะ 554

802 Nameless Fanboi Posted ID:bbMPTUn5T

>>800 ตอนเขียนก็เขียนแบบตามใจตัวเองไม่สนยอดอะไรทั้งนั้น แต่พอกดพับลิชไปเท่านั้นแหละ...

803 Nameless Fanboi Posted ID:JY9nnJ6YH

>>802 ถูกต้องที่สุด 555

804 Nameless Fanboi Posted ID:AjgZAYSvN

อย่ามาทำซึน พวกมึงต้องสนใจยอดเฟบ คอมเม้น ยอดคนดูกันหมดแหละ ยอมรับมาเสีย ไม่มีใคคมาจ้องติมึงเหมือนในบอร์ดเด็กดอกหรอกว่าเพ้อเจ้อแต่งไปวัน ๆ พอมีมู้บ่นไม่มีคนคอมเม้นเลยจะโผล่มาหน้าสลอน

805 Nameless Fanboi Posted ID:S6w2jIYtG

กูเขียนแบบวางพลอตไม่ได้ว่ะ เหมือนเป็นพวกชอบแหก พอวางพลอต เขียนถึงจนจุดนั้นนี้ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์ตอนนั้น แล้วนิยายกูจะเสี่ยงเขียนไม่จบเพราะนี่แหละ

806 Nameless Fanboi Posted ID:9gvH3NLnb

>>805 ดีแล้วสัส ปรับแสดงว่าต้องดีกว่าเดิมปะวะ 5555

807 Nameless Fanboi Posted ID:XbjwCCc/q

>>804 กูเคยแหย่ๆ คนเขียนเล่นว่าเออ เนี่ย อาจจะไม่ต่อสักพักเลยนะ เพราะเมนต์น้อยมาก สวนทางกับยอดวิว ขอโทษด้วยนะ บลาๆๆ ปรากฏว่าตอนนั้น คนมาเมนต์เยอะเป็นประวัติการณ์ หน้าเดิมที่เป็นขาประจำนี่กูเห็นแล้วรักเลยแหละ กูรู้ว่าต่อให้กูไม่พูดคุยท้ายตอนแบบนั้น ยังไงเขาก็เมนต์ แต่บางคนอ่ะ โห มาแบบ เราชอบผลงานของคุณนะคะ แต่ไม่ค่อยได้เมนต์เลย/ เราเมนต์ไม่เก่งค่ะ/ เราจะรออุดหนุนเล่มเลยไม่เมนต์ค่ะ

พวกหลังๆ กูกับพวกๆ ที่เขียนฟิคด้วยกันเจอแล้วก็จะแบบ หลังไมค์กันเถอะ หนักสุดคือพี่กูคนหนึ่งเคยพูดคุยท้ายตอนขอเมนต์แบบนี้ แล้วโดน ask.fm ไปด่าจ้ะ ว่าเขียนฟิค/นิยายนี่เพราะอยากดังหรือเพราะอยากเขียน โอ้โหมึงเอ๊ย เมนต์เยอะไม่เยอะไม่เกี่ยวกับอยากดังไม่อยากดังป่าววะ เรื่องดังๆ บางทีเมนต์อย่างกร่อยก็มี

808 Nameless Fanboi Posted ID:7EmUl3cE1

>>804 เห็นด้วยที่สุดดดด แต่งมาไม่ได้จะอยากให้คนอ่านคนเม้น ก้เก็บไว้ในคอมนู่นน

809 Nameless Fanboi Posted ID:yT+wIgEzV

>>802 +ล้าน นั่งส่องเม้นวันละสิบรอบ ยอดวิวที่ขึ้นนี่ของตัวเองเป็นร้อยเป็นพันแล้วมั้ง แต่ก็ยังไม่มีเม้น เฮ้อ...

810 Nameless Fanboi Posted ID:DZsI8o1ru

>>805 กูเหมือนกัน แหกไปคนละทางกับพล็อตเดิมเลย

811 Nameless Fanboi Posted ID:kkOkCNRJX

กลุ้มว่ะเพื่อนโม่ง ใครมีเทคนิคช่วยแก้ write block ก็ช่วยบอกกูหน่อย

คือกูเขียนพล็อตเสร็จ วาง Storyboard เรียบร้อย คือตั้งแต่ต้นจนจบอะกูเขียนโครงเอาไว้หมดแล้ว
แต่พอมาถึงขั้นตอนที่ต้องเขียนเนี่ยสิ กลายเป็นว่ากูเอ๋อแดกเลย ...ตอนแรกคิดว่าคงเพราะไม่ได้เขียนมานาน (ราวครึ่งปี) เลยเขียนไม่ออก กูเลยไปนั่งอ่านเรื่องของคนอื่นเผื่อว่าจะซึมซับสำนวนมา แต่ก็ผิดคาดว่ะ คือมันไม่มีอะไรเข้ามาเลยแม้กระทั่งอารมณ์อยากจะเขียน เหมือนกับกูได้ใช้อารมณ์ทั้งหมดกับการเขียน storyboard ไปแล้วยังไงอย่างงั้นเลย

วันนี้ว่างเลยเปิดคอมตั้งใจจะพิมพ์ แต่ 4 ชั่วโมงได้แค่ 4 บรรทัดเนี่ยกูว่าแม่งก็ block เกินไปว่ะ

812 Nameless Fanboi Posted ID:Qh63Q9T1s

>>811 กูเข้าใจ กูก็เป็นนนนนน

813 Nameless Fanboi Posted ID:Qh63Q9T1s

>>811 อ้อ แต่กูไม่เขียนสตอรี่บอร์ดนะ กูนึกไว้ในหัวคร่าวๆแล้วเขียนเลย ไปด้นสดระหว่างทาง กูรู้สึกว่าถ้าคิดเอาไว้หมด มันเขียนไม่สนุก เหมือนมันจบแล้วอ่ะ ฟีลลิ่งมันคอมพลีทแล้วไรงี้ แต่ก็แล่วแต่คน ทำแบบกูก็จะเป๋ไปเป๋มานิดนึง เรื่องล่าสุดกูแบบรอมคอมแต่จบแบบดราม่าอาชญากรรมเฉย เพราะความคิดแค่ธีมกว้างๆของกูนี่แหละ

814 Nameless Fanboi Posted ID:KPyO8yKaN

>>811 กูก็ประสบปัญหาแบบมึง ตอนนี้ดีขึ้นนิดนึงละ กูใช้วิธีธรรมดาแต่ได้ผลสำหรับตัวเองนะ เขียนบรรยายธรรมดาๆว่าแต่ละฉากใครทำอะไรยังไงให้พอเห็นภาพ กัดฟันเขียนมันเข้าไปให้จบตอนนึงก่อน พอได้โครงมาแล้วก็ค่อยๆใส่รายละเอียด/ประดิดประดอยภาษา/หาวิธีเล่าเรื่อง ฯลฯ ค่อยๆ shape ค่อยๆคราฟต์มันไปเรื่อยๆว่ะ เขียนแก้วันละนิดวันละหน่อย ใช้เวลาพอสมควรแต่ก็พอช่วยได้ ถ้ามัวเขียนให้สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นกูคงไม่รอด ตายห่าตั้งแต่ย่อหน้าแรก

815 Nameless Fanboi Posted ID:hilptKFY/

กูเห็นในห้อง BL มีคอมเม้นว่า ฝีมือไม่ถึงอย่าเขียนเลย พวกมึงว่าไงกัน
ไม่รู้ดิ กูรู้สึกว่าฝีมือไม่ถึงก็ต้องยิ่งเขียนรึเปล่าอ่ะ

816 Nameless Fanboi Posted ID:ENzN1fTF4

>>815 ฝีมือไม่ถึงยิ่งต้องเขียนต้องอ่าน จะได้พัฒนา น่ะถูกแล้ว อารมณ์เหมือนเต้นไม่เก่ง ก็ต้องฝึกใช่ป่ะ ไอ้ที่บ่นว่าฝีมือไม่ถึงแสดงว่าอ่านแล้ว แล้วคนเขียนเขาบังคับให้อ่านรึ ก็เปล่า ถ้าอ่านแล้วไม่สนุก ไม่ชอบ แสดงว่าแนวนี้หรือสำนวนของคนเขียนอาจจะไม่ถูกใจคนอ่าน หรืออะไรยังไงก็ช่วยแนะนำเขาไปหน่อย เขาจะได้ปรับปรุง ติเพื่อก่อเพื่อปรับปรุงผลงาน ไม่ใช่ติติแบบนี้ เหมือนมึงไล่ให้เขาเลิกทำอ่ะ ถ้ามึง (คนเม้น) โดนนักเขียนไล่ให้เลิกอ่านบ้าง มึงจะชอบมั้ย (ทำไมกูต้องอินขนาดนี้)

817 Nameless Fanboi Posted ID:hilptKFY/

>>816 กูก็อินมากเหมือนกัน 5555555555555

818 Nameless Fanboi Posted ID:uLGgH7cGD

ฝีมือไม่ถึงต้องยิ่งเขียน แต่ต้องปล่อยของตอนที่มันถูกขัดมาได้มาตรฐานแล้ว ถ้ายังไม่พร้อมก็ฝึกเขียนฝึกเกลาก่อน

819 Nameless Fanboi Posted ID:uLGgH7cGD

>>814 กูชอบมากที่มึงใช้คำว่าคราฟท์ไปจนได้ที่

820 Nameless Fanboi Posted ID:a2hh10iX6

>>815 blคือไร

821 Nameless Fanboi Posted ID:X3ssKC5RR

>>820 Boy Love = ชายรักชาย = วาย

822 Nameless Fanboi Posted ID:XYpEo+aea

>>820 กูหมายถึงห้อง boy love ในโม่ง

823 Nameless Fanboi Posted ID:seqmiYefV

Ky
เออ กูขอถามจริงๆ คือกูจะแต่งนิยายแบบตัวละครมีหลายเชื้อชาติ แต่ถ้ากูให้พิมพ์ทั้งหมดเป็นภาษาไทยยกเว้นบางส่วนเช่นชื่อเฉพาะ สรรพนาม คำทักทาย อ่ะสมมตินะ

‘ถ้าใช้วิธีนี้มีโอกาสพลาดสูงมากนะ’ชายหนุ่มพูดขึ้นกลางวงสนทนาด้วยภาษาเยอรมัน เรียกความงงเป็นไก่ตาแตกให้กับทุกคนรอบโต๊ะยกเว้นหญิงสาวชาวออสเตรียข้างตัวเขาที่สบตาเป็นเชิงให้ออกความเห็นว่า มีอะไรก็ว่ามา

แบบนี้จะโอเคกว่าใช้ภาษานั้นจริงๆแล้ววงเล็บปะวะ แต่นิยายกูจะเซตให้ส่วนใหญ่มันสื่อสารอังกฤษกันอยู่ล่ะ

ถามเรื่องเพลงอีกอย่าง คือสมมติกูจะใส่เพลงภาษาอังกฤษแบบทั้งเพลง กูควรใส่แปลไทยเลยมั้ย หรือว่าใส่ภาษาเดิมดีกว่า เพราะกูก็เคยเห็นคนใส่แบบแปลเข้าไป แล้วกูคิดว่าอารมณ์มันต่างจากกูแปลมันเป็นไทยในใจเลยว่ะ

ของคุณมากโม่ง กูส่อง&ถามบ่อยมาก ว่าจะเริ่มเขียนล่ะ555

824 Nameless Fanboi Posted ID:seqmiYefV

.*ใส่ภาษานั้นแล้ววงเล็บคำแปล

825 Nameless Fanboi Posted ID:f5HQDNzLJ

>>823 แปลดีกว่า ข้อยกเว้นเดียวคือถ้ามึงจะเขียนทับศัพท์ภาษาอังกฤษ เช่น ไอเลิฟยู งี้ เขียนภาษาอังกฤษเลยดีกว่า เพราะเขียนทับศัพท์ยาว ๆ แล้วกูปวดหัวเหมือนอ่านภาษาสก๊อย
เพลงไม่ว่าแปลไม่แปลก็ไม่ควรใส่ทั้งเพลง เอาท่อนที่สำคัญเป็นประโยค ๆ แทรก ๆ มาพอแล้ว พวกเพลงถ้ามาทั้งดุ้นกูข้ามทุกครั้ง (ทุกครั้งจริง ๆ แบบลากผ่านเลย) ถ้ามาบ่อย ๆ เผลอ ๆ รำคาญเลิกอ่านนิยายเรื่องนั้นไปเลยก็มี

826 Nameless Fanboi Posted ID:9C8rD+R.M

>>825 ขอบคุณมากเพื่อน เพลงกูเข้าใจ มันดูสิ้นคิดเหมือนมึงไม่รุ้จะใส่ไรช่ะ5555 คือกูเคยอ่านนิยายที่มันใส่เพลงแบบแต่งเอง(คือแนวแฟนตาซีแล้วตัวละครมันร้องแบบเนื้อมาทั้งหน้า) แล้วความหมายแม่งจับจิตชิบหายเลยไง กูเลยชอบ

827 Nameless Fanboi Posted ID:ozfy2ZPfw

คนอ่านชมนิยายกูว่านิยายกูเดาทางไม่ออก ทำให้รู้สึกลุ้นตลอดเวลา
กูคนเขียนก็เดาทางตอนต่อไปไม่ออกเหมือนกัน แม่งเอ้ย help somebody help me

828 Nameless Fanboi Posted ID:XHUCjVpIZ

>>827 ให้คนอ่านเดาตอนจบ มึงตะได้มีไอเดีย แต่ว่าก้อย่าทำให้ฌครงนิยายมึงเละอะ

829 Nameless Fanboi Posted ID:XHUCjVpIZ

*จะได้มีไอเดีย แต่อย่ายึดถือไอเดียคนอ่านจนทำให้โครงนิยายมึงเละ

830 Nameless Fanboi Posted ID:S/ikF8CLX

สมัยนี้ยังมีคนพูดหล่อนกันปะวะพวกมึง คือกูเรียกเพื่อนว่าหล่อนอ่ะ ถ้าเอามาใส่ในนิยายมันจะแปลกปะวะ
กูเป็นผู้หญิงอายุ20++

831 Nameless Fanboi Posted ID:3d7OxE2fD

>>830 แปลก

832 Nameless Fanboi Posted ID:r2.YV8IDn

>>830 ไม่แปลก ยังเจออยู่เรื่อยๆนะคำนี้

833 Nameless Fanboi Posted ID:VBrAoVk7x

ถามหน่อย เวลาอ่านบทบรรยายในนิยาย พวกมึงชอบคำว่า หล่อน หรือคำว่า เธอ มากกว่ากัน
คือกูเป็นพวกไม่ชอบใช้คำว่าหล่อนง่ะ จะใช้คำว่าเธอมากกว่า แต่กูก็อ่านนิยายที่ใช้คำว่าหล่อนได้นะ ไม่ได้รู้สึกขัดใจอะไรขนาดนั้น แค่ถ้าเป็นกูเขียนเอง กูจะไม่ใช้เฉยๆ
>>830 คิดว่าได้นะ ก็ดูไม่แปลกอะไรมาก

834 Nameless Fanboi Posted ID:3E9i+NoVK

>>830 เพื่อนตุ๊ดกูชอบพูดนะ

835 Nameless Fanboi Posted ID:osJbdZzMO

ไม่แปลก กูก็ใช้หล่อน ชีวิตจริงก็ใช้บ้าง ไม่เห็นเป็นอะไร

836 Nameless Fanboi Posted ID:RpYjnlVAw

>>833 เธอความหมายเป็นกลางกว่าเหมาะกับนิยายสมัยใหม่กว่า หล่อนเน้นเจาะว่าตัวละครนั้นเป็นหญิงชัดเจน

837 Nameless Fanboi Posted ID:HLa89Mumy

>>830 ถ้า pov จากตัวละครหญิง แล้วกล่าวถึงผู้หญิงอีกคน กูก็ใช้หล่อนนะ ไม่สับสนดี
แต่บางคนก็ใช้คำว่าเขากับตัวละครหญิงไปเลย อันนี้กูรู้สึกแปลกกว่าอีก

838 Nameless Fanboi Posted ID:5TOZjtCHi

กูจะใช้แบบเวลาพูด ตอนเรียกแทนชื่อไรงี้ หล่อนๆ ของหล่อนละ แหมหล่อน หล่อนทำไร หล่อนมารึยัง ไรงี้5555555555
ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ

839 Nameless Fanboi Posted ID:1AY7KjdqY

กูโม่งหญิง ใช้แค่ตอนทัก ไงยะหล่อน ทักทั้งชายหญิง ตอนคุยก้ใช้เธอๆแกๆมึงๆล่ะ

เออ กูถามจริง คือกูแทบไม่เห็นคนใช้นายกันเลยอ่ะ แต่กูก็คิดไม่ออกว่าสรรพนามที่เหมาะเวลาให้ตัวละครหญิงเรียกตัวละครชายคืออะไร แกถ้าไม่สนิทก็ดูแปลกๆ เธอดูหวานไป ยิ่งผู้ชายคุยกันในนิยายกูยิ่งกุมขมับ ถ้าเรียลจริงๆต้องกูมึง แต่เขียนใส่นิยายแม่งดูหยาบคายอีก5555 ใช้แกๆก็ดูสุภาพเกิ๊น

840 Nameless Fanboi Posted ID:gKwpupZv5

>>839 ปกติกูเรียกชื่ออะ สนิทระดับนึงจับย่อชื่อบ้าง ฉายาบ้าง ชื่อเล่นตั้งใหม่บ้าง จริงๆ แกก็ได้นะ กูว่าไม่แปลก

841 Nameless Fanboi Posted ID:1AY7KjdqY

>>840 คือกูอยุ่ในแก๊งผู้ชาย(กุเปนสาวห้าวอ่ะ) แล้วกูเห็นเพื่อนในแก๊งแม่งก้เรียกแบบมึงๆหมด แต่พี่ชายกูบอกว่าแกๆกับคนไม่สนิทก้มี โอเค ขอบคุณมากค่ะ555

842 Nameless Fanboi Posted ID:VBrAoVk7x

กูเป็นโม่งหญิงนะ กูเรียกเพื่อนผู้ชายด้วยชื่อหมดเลยอะ มึง/แก/นายและสรรพนามอื่นๆนี่กูไม่เคยใช้เลย 5555
ถ้าเป็นผู้หญิงกัยผู้ชายคุยกัน ใช้แกก็ได้นะ แต่ถ้าผู้ชายคุยกันนี่ก็คิดไม่ออกเหมือนกันแฮะว่าควรใช้คำว่าอะไร

843 Nameless Fanboi Posted ID:un2PHTZmG

คนปกติที่ใช้นายพูดกันคือ รุ่นตากูอะ กูเคยฟังเค้าพูดกับเพื่อน ภาษาวัยรุ่นรุ่นเค้าคือ อั้ว ลื้อ นาย กัน นี่คงหยาบของเค้าแล้วส่วน มึง กู นี่หยาบคายไป เค้าไม่พูด แต่รุ่นหลังๆคงพัฒนามาจนทุกวันนี้

844 Nameless Fanboi Posted ID:rMiDX3LvR

อั๊ว ลื้อ คือ หว่อกับหนี่ แต่ออกเสียงแบบจีนแต้จิ๋วว้อยยย กูยืนยันได้ว่าไม่ใช่คำหยาบ พ่อแม่กูยังใช้พูดกัน พูดกะลุงกะป้ากะปู่ย่าตายายอยู่เลย ละครมันเอามาให้นักเลงพูดเลยหยาบ

แต่นี่กูถามแม่(แม่กู61นะ) แม่กูบอกสมัยแม่กูเรียนมัธยมหญิงล้วนคุยกันก็ใช้นายๆ ส่วนพ่อคุยกะแม่เรียกแม่กูว่ายู(you) แปลกดี555

845 Nameless Fanboi Posted ID:yihB0Kj0V

>>843 มึงหยาบคายมาก ทำคนพูดอั้วะลื้อกับเพื่อนแบบกูเพิ่มอายุไปอีก กูยังนับเป็นเจนปัจจุบันนะว้อย TT

846 Nameless Fanboi Posted ID:EfVrzfMVl

>>843 มึงโหดร้ายจังวะ ยังไม่แก่ขนาดนั้นว้อยย เพื่อนกูก็ยัง(เคย)ใช้นายนะตอนมัธยม ตอนเข้ามาเรียนแรกๆงี้ นายๆตรงนี้มีใครนั่งไหมนู่นนี่ พอผ่านไปได้นึงเจอไอ้พวกเด็กเก่าล้างสมอง กูมึงตามๆปันไปหมดเลย
พ่อแม่กูตอนนี้เวลาเรียกตัวเองกับอีกคนก็เรากะเธอนะ ทั้งคู่เลย ไม่ว่ากับเพื่อนหรือกันเอง

847 Nameless Fanboi Posted ID:wbITd5VIz

>>846 แม่กูก็เรากับเธอ ผมกับยูไม่ก็คุณ555

คือผูัหญิงเท่าที่กูเห็นเจอผชสาวนใหญ่จะแกๆไม่ก็เธอๆเลย ส่วนผชเรียกหญิงก็เธอๆ

848 Nameless Fanboi Posted ID:6WGkmdlLw

หลัก ๆ กูเรียกเพื่อนว่า เอ็ง ว่ะ บางครั้งก็เรียกชื่อ, แก, เธอ ตามโอกาส

849 Nameless Fanboi Posted ID:tpkoGVXEO

แล้วตัวละคร​พี่น้องแทนตัวยังไง​กันบ้าง ทั้งแบบสนิทกัน ไมาสนิทกัน

850 Nameless Fanboi Posted ID:Tymh4.QB9

>>849 จริงๆมันก็แล้วแต่ลักษณะ อาจจะมึงกูก็ได้ หรือไม่ก็แทนชื่อตัวเองกับพี่... หรือเจ๊ หรือ เฮีย

851 Nameless Fanboi Posted ID:j37dDX60V

>>849 กูเรียกน้องว่าแก มึง ไม่ก็ไอ้ตูด

852 Nameless Fanboi Posted ID:oJ/m9JE83

กูมี2โหมด โหมดแรก เรียกพี่กูว่าเฮีย แทนตัวกูด้วยชื่อ(กูโม่งหญิง) พี่กูก็ทำงี้ อีกโหมดคือใช้แกกับข้า คือพี่กูใช้ก่อน กูเลยใช้บ้าง อันนี้ใช้เวลาไม่ได้อยุ่กะพ่อแม่5555

พี่กูแก่กว่ากู3ปีนะ

853 Nameless Fanboi Posted ID:E67.FVn82

>>849 พี่กูผู้ชาย กูผู้หญิง บางเวลาหยอกๆ กันก็เรียกมึงกู แบบเวลาพูดแล้วอินก็จะหลุด คำหยาบๆ กันออกมา มันได้อินเนอร์น่ะ แต่ปกติพี่กูจะแทนตัวเองด้วยชื่อหรือ ผ้ม (ไม่ได้เขียนผิด พี่กูเล่นเสียงแต่ฟังสุภาพสัส) แต่ก็ไม่ได้เรียกแทนตัวกันทุกครั้ง ปกติเรียกชื่อกันเลย กูไม่เคยเรียกพี่ว่าพี่ยกเว้นพูดกับคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง

854 Nameless Fanboi Posted ID:yE+F1ao/9

>>849 สนิทกันก็มึงกู ไอ้เหี้ย ฯ ถ้าไม่สนิทก็เรียกชื่อ แทนตัวเองว่าเรามั่ง ชื่อตัวเองมั่ง

855 Nameless Fanboi Posted ID:OjYEF.KqI

>>849 ในนิยาย พี่น้องที่สนิทกันแบบเพื่อน ฉัน-แก / สนิทแบบเอ็นดู พี่-ชื่อน้อง /
แต่ในชีวิตจริงก็ตามข้างบนเลย

856 Nameless Fanboi Posted ID:L1HQ/mb92

>>849 กูห่างกับพี่สองปี น้องหนึ่งปี เวลาเรียกคือแทนชื่อตัวเอง เช่น สมมติกูชื่อฟ้า พี่ชื่อฝน น้องชื่อฝ้าย อย่างนี้
กูจะแทนว่า พี่ฝน วันนี้ฟ้าบลาๆๆ
น้องฝ้ายๆ วันนี้พี่ฟ้าไม่อยู่นะ บลาๆ
ปล.ผู้หญิงหมดทั้งสามคน
ปล.สอง น้องกูก็เคยแทนตัวเองแบบนี้จนกระทั่งนางเข้าม.ปลาย พูดชั้นกับแกตลอดเลย กับพี่คนโตสุดก็เป็น ฮื่อ น้องที่น่ารักของกู…

857 Nameless Fanboi Posted ID:otjoHy1N+0

มีหนังสืออะไรที่น่าอ่านน่าวิเคราะห์เพิ่มพูนคำศัพท์พัฒนาการเขียนบ้างวะ

858 Nameless Fanboi Posted ID:X1Cxa5cv7M

เพื่อนโม่ง เคยสงสัยมั้ย ทำไมนิยายที่กูว่ากูเขียนออกมาได้กากสัสๆ แม่งเสือกขายได้ ไอ้งานที่ปรับปรุงแล้วปรังปรุงอีกจนกูว่านี่แหละแม่งสุดยอด เสือกขายไม่ได้ คนอ่านแม่งชิทเทสป่าววะ

859 Nameless Fanboi Posted ID:73qU9.NvKA

>>858 มึงคิดถูกแล้ว
ไม่งั้นไอ้พวกนิยายสายเย หรือนิยายเทพซ่าตบคนมันจะดังอย่างปัจจุบันเรอะ

860 Nameless Fanboi Posted ID:u43dfk3nM+

ถ้ามึงเขียนแล้วเขียนอีกแต่ยังไม่ได้ดั่งใจ 100% แต่ได้เวลาอัพตามกำหนดการแล้ว มึงจะยังอัพตอนนั้นๆตามเวลาหรือจะรอจนกว่าจะสมบูรณ์แบบวะ

861 Nameless Fanboi Posted ID:zdgqIXw2gO

>>860 รอให้สมบูรณ์ดิ อีกทางคือเขียนในเวิร์ดให้จบแล้วทยอยอัพ

862 Nameless Fanboi Posted ID:Itpywkzr5U

คือจริงๆคนอ่านมันมีหลายกลุ่ม คนส่วนมากชอบสบายๆอ่านง่ายๆโรแมนติก กูก็เพิ่งลงเรื่องที่กูคิดว่าสุดมากของกูลงไป คนเม้นหลักร้อย อีเรื่องที่กูเขียนเล่นๆคนเม้นสองสามพัน บัยย

863 Nameless Fanboi Posted ID:/U2l+Ny6FQ

>>860 สำหรับกู ลงไปก่อน แก้ทีหลังย้งทัน กูไม่อยากผิดกำหนด

864 Nameless Fanboi Posted ID:DaatICJsGo

กูกำลังคิดว่าการลงนิยายในเว็บให้คนอ่านฟรีเนี่ย มันคือการเผยแพร่ผลงาน มากกว่าที่จะให้เป็นสถานที่ที่แต่ละคนมาช่วยกันดูจุดด้อยของคนๆหนึ่งแล้วแนะนำให้พัฒนาว่ะ แม่งเอ๊ย

865 Nameless Fanboi Posted ID:DaatICJsGo

ตอนนี้กูอยู่ช่วงหยุดแต่งว่ะ มีอะไรต้องพัฒนาเอามาใช้ในการแต่งอยู่

866 Nameless Fanboi Posted ID:jZsyph1JGi

>>864 ใจเย็นๆมึง โดนใครด่านิยายมึงเหรอ กูว่าลงให้คนอ่าน เสียงคอมเมนท์ดีไม่ดีมันห้ามไม่ได้ อะไรที่มึงปล่อยไปแล้ว แปลว่าใจจริงมึงก็อยากให้คนเขาฟีดแบค
กูว่ามึงอย่าไปตอบโต้เมนท์ลบๆเลย ถ้ามึงทบทวนดูแล้ว ไม่เห็นด้วยกับเค้า ก็แค่ขอบคุณที่เสียเวลามาเมนท์มึงแล้วมึงก็จงมุ่งทำตามที่มึงคิดว่าดีไปนั่นแหละ

867 Nameless Fanboi Posted ID:PtRJHV.kmv

เขียนนิยายเรื่องแรกแล้วปัง กูเอามากดดันกับเรื่องที่สองเลยไอสัส เครียดชิบหาย

868 Nameless Fanboi Posted ID:TJScu9x/4U

>>866 กูไม่ใช่เม้นบนนะ แต่กูเคยโดนคอมเม้นติเหมือนกัน ประชดประชันกูแล้วก็ตบท้ายว่า แน่จริงอย่าแคปไปประจาน (ซึ่งกูงงมาก แบบกูยังไม่เคยประจานใคร และกูไม่รู้จักแม่งด้วย) ตอนนั้นกูปริ้ดมาก คือกูจะไม่อะไรเลย ถ้าติโดยไม่ได้ประชดประชัน และไม่ดักกูว่าอย่าประจาน

869 Nameless Fanboi Posted ID:F2ozd+5IHl

ky ช่วยกูทีTT พวกคุณหนู เด็กที่เป็นลูกหลานผู้ดีจะแทนตัวเองยังไงได้บ้าง ที่กูคิดไว้คือดิฉัน แต่ถ้าเอาดิฉันคุยกับผู้ใหญ่พวกมึงว่ามันจะแปลกไหมอะ
ปล.กูใช้แต่งนิยายแฟนตาซีต่างโลกที่เซ็ตติ้งยุโรป

870 Nameless Fanboi Posted ID:EqKNXuRL4c

>>869 เรา,ฉัน คิดว่าได้หมดอ่ะ แต่ดิฉันนี่มันจะดูแก่ดูโตไปป่ะวะ แนะนำให้เติม ค่ะ,คะ ตามหลังทุกประโยคเพิ่มความแพงแทนละกัน

871 Nameless Fanboi Posted ID:Bb9Xhpm7xm

ถ้ามึงเอาsetting Europe โบราณคงต้องไปหานิยายแนวท่านดยุคราชินีมาอ่านเพิ่มน่าจะช่วยได้

872 Nameless Fanboi Posted ID:H5aMK3gUYC

>>869 นิยายไทยป่ะ....เท่าที่เคยอ่านจะใช้แทนตัวด้วยชื่อตัวเอง ถ้ามียศ ก็ หญิง อย่างนั้นอย่างนี้.....ถ้าคุยกับพี่ ก็แทนตัวว่าน้อง ถ้าคุยกับ ญาติผู้ใหญ่ ก็แทนตัวว่าหลาน ...กับพ่อแม่ก็แทนตัวว่า ลูก

ลองดูนะ....ลูกอยากทาน...ค่ะคุณแม่ / หลานขอบพระคุณคุณลุงค่ะที่.... / น้องดีใจที่พี่ชายว่างมารับ ....

873 Nameless Fanboi Posted ID:VySz5qidDz

>>869 ย้อนยุคปะ คือถ้าเป็นฝั่งยุโรปเขาไม่มีเรื่องสรรพนามแทนตัวอะไรเท่าไร กันเองหรือกับคนที่ต่ำศักดิ์กว่าใช้เราก็ได้ หรือถ้าย้อนยุคมากใช้ข้าก็ไม่ผิด ส่วนมากจะอยู่ที่ระดับภาษามากกว่า ถ้าคุยแบบเป็นการเป็นงานก็แล้วแต่ยศคนที่คุยด้วย ดิฉัน หม่อมฉัน อะไรก็ว่าไป

874 Nameless Fanboi Posted ID:ZxALh6qi6t

สายนิยายยุคศตวรรษ18 พูดกับญาติ ก็ คุณป้าคะ หนูยังโง้นยังงี้
ท่านลอร์ดคะ ดิฉันว่า

ถ้าเก่าแบบยุคกลาง
ท่านอัศวิน อย่าปล้ำข้า

875 Nameless Fanboi Posted ID:Ah0N3GbxVM

ลองไปอ่านดูเลยดีกว่า นอกจากสรรพนามแล้วยังจะมีพวกภาษาด้วย
อ่านเกมออฟโทรนก็ได้ ไม่ก็อ่านนิยายไทยพวก คลั่งเพราะรัก ฤทธีราชินีสาว เซตสองเรื่องหลังนี้นอกจากจะได้ภาษาแล้วยังได้ความรู้ด้วยนะ

876 Nameless Fanboi Posted ID:grhyG8N7C1

กูมาระบาย คิดนามปากกาไม่ออกสักทีเว้ย อะไรดี ๆ เขาก็ใช้ไปหมดแล้ว แง้ ttttffff

877 Nameless Fanboi Posted ID:9oVvGXYrLO

>>876 คิดแปลกๆดิจำง่ายด้วย เช่น ปลากระพงนึ่งสองที่ อะไรเงี้ยะ

878 Nameless Fanboi Posted ID:24uMUV8x72

กูขอมากรี๊ดหน่อย
ไอ้ห่ากูเกลียดตัวเองงงงงง!! เกลียดสไตล์การเขียนของตัวเองที่ชอบเผลอยัดข้อมูลเข้าไปชิบหายยยยย

879 Nameless Fanboi Posted ID:1u9N8bpLx2

แสงแดงอบอุ่นสาดส่องผ่านหน้าต่างห้องนอนของหญิงสาว เธอเปิดเปลือกตาขึ้นอยากงัวเงียแล้วค่อยๆลุกเปลี่ยนอิริยาบถเป็นท่านั่งขัดสมาธิ ถอนหายใจ เหนื่อยหน่ายกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนเย็นวาน สายตาจ้องมองอย่างเหม่อลอยไปที่สมาร์ทโฟนสีดำที่วางอยู่ทางซ้ายมือของเธออยู่พักใหญ่ ชายหนุ่มที่เคยเป็นทุกสิ่งของเธอจนกระทั่งเมื่อเย็นวานที่เขาโทรผ่านไลน์มาหาเธอ เธอรับมันเหมือนทุกทีด้วยความคิดถึงและหัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก แล้วตอนนั้นก็เป็นเวลาที่โลกทั้งใบได้พังครืนลงมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน แม้ไม่ต้องการจะจำแม้สักพยางค์เดียวแต่หลายประโยคก็ยังคงดังวนเวียนอยู่ในหัว บาดลึกลงไปในใจของเธอ
สิ่งที่เข้ามาดึงเธอออกจากห้วงความคิดอันหม่นหมองคือเสียงเคาะประตูห้อง มันดังสองสามครั้งแล้วตามมาด้วยเสียงเรียกชื่อเธออีกหนึ่งครั้ง
"คุณแจนครับ อยู่ไหมครับ" เสียงของชายชราเชื้อสายจีนที่เธอคุ้นเคย เขาเป็นเจ้าของหอพักที่นี่ เธอเดินไปเปิดประตู
"ผมเอาค่าห้องของเดือนนี้มาให้ครับ ยังไงรบกวนโอนให้ผมก่อนวันที่สิบเอ็ดนะ" เธอรับกระดาษที่เขียนรายละเอียดการชำระค่าห้องมา ตอบรับพร้อมพยักหน้า
"ส่วนอันนี้ ป้าเขาทำมาให้นะครับ" ชายชราพูดขณะที่กำลังหยิบกล่องโฟมใส่อาหารออกมาจากถุงหิ้วพลาสติกที่ใส่กล่องโฟมอยู่ราวๆสิบกว่ากล่อง
"ขอบคุณค่ะ"
ชายชรายิ้มให้เธออย่างอบอุ่น แล้วเดินไปเคาะประตูห้องถัดไป เขามักจะมีอะไรติดไม้ติดมือมาให้ผู้เช่าในห้องนี้เสมอเวลาที่เอาบิลค่าเช่าห้องมาให้ และก็มีบางครั้งที่เอาของกินมาฝากเวลาภรรยาของเขาทำอาหารอะไรใหม่ๆ เธอปิดประตูแล้วเดินไปที่หน้าต่าง ดึงผ้าม่านสีน้ำเงินมาปิดหน้าต่างไว้ทำให้ห้องทั้งห้องมืดสลัว เธออยากอยู่แบบนี้สักพัก

การเขียนกูเป็นอย่างไรบ้างวะเพื่อนโม่ง พอดีกำลังลองหัดอยู่ วิจารณ์ที

880 Nameless Fanboi Posted ID:kw+C6Y8u0b

>>879 ชะงักตรงป้าว่ะ เมียชายชราต้องยายแล้ว ไม่งั้นผัวป้าก็ต้องชายวัยกลางคน
อีกอย่างไม่ต้องเขียนเชื้อสายจีนก็ได้นะถ้าคำพูดจะไทยขนาดนี้

881 Nameless Fanboi Posted ID:+HtTCaIUkj

>>879 พิมพ์ผิดนิดนึงตรง อย่าง*
เรื่องภาษารอคนถัดไปนะ ถ้าถามกูกูว่ามันเยิ่นเย้อไป มันชวนให้รู้สึกไม่ธรรมชาติเท่าไหร่ (จริงๆตัวกูก็ติดเยิ่นเย้อเหมือนกัน)

882 Nameless Fanboi Posted ID:.s8rdmZhGC

1.เยิ่นเย้อไปจริงๆอ่านแล้วเหมือนเธอจะตื่นหนืดๆขึ้นมาเล่นโยคะนั่งขัดสมาธิ มึงอธิบายมากและซีเรียสกับดีเทล มันดีนะที่มึงตั้งใจดีแต่ฟีลมันแข็ง เพราะฟีลตัวละครกำลังเศร้าหมดอาลัยตายอยากอกหักแฟนทิ้ง แต่คนเขียนกำลังเล่าในฟีลของคนเขียนที่ตั้งอกตั้งใจมากๆ คือฟีลของมึงดันขัดกับตัวละคร มันเลยออกมาไม่สมู้ท
2.แฟนโทรมา ไม่ต้องบอกว่าใช้ไลน์หรอก
3.เธอ ถอนใจเหนื่อยหน่ายกับเรื่องเมื่อวาน มึงไม่เคยอกหักแฟนทิ้งแน่นวล มันไม่ได้ เหนื่อยหน่าย อันนี้มันคือเบื่อสัสแต่ต้องแครี่ออน แต่นี่มึงโดนเท มันต้องทั้งโกรธ ผิดหวัง หัวใจฉีก กูไม่อยากตื่นมารับความจริง

883 Nameless Fanboi Posted ID:+HtTCaIUkj

อืมๆ เห็นด้วยกับ 882 ว่ามันแข็ง จริงๆก็เห็นด้วยทุกข้อ กิกิกิ

กูว่ามึงเขียนเลยเว่ย ไม่ต้องหัด แบบเขียนจริงๆไปเลย เดี๋ยวภาษามันจะดีขึ้นเองตามจำนวนเรื่องที่มึงเขียนอ่ะแหละ แล้วก็ยังจะมีคนอ่านคอยดันมึงด้วย

884 Nameless Fanboi Posted ID:TIaqMoUO3g

ก็วิจารณ์อะไรไม่เก่งหรอกนะ แต่อารมณ์ที่ได้หลังอ่านจบคือเธออกหักแล้วก็แบบเฮ้อ เซ็งว่ะ อกหักซะแล้วสิอะไรทำนองนี้ ไม่ใช่เธออกหักแล้วแบบกูเจ็บ กูเสียใจ กูทุรนทุรายเลยอ่ะ

885 Nameless Fanboi Posted ID:1u9N8bpLx2

>>880 >>882 >>883 >>884 ขอบใจมากสหาย

886 Nameless Fanboi Posted ID:1u9N8bpLx2

>>881 ลืมแท็ก

887 Nameless Fanboi Posted ID:24uMUV8x72

อืมมม ตอนนี้กูไม่ค่อยมีความมั่นใจกับการ Monologue เท่าไรเลยแฮะ คือกูเขียนแนว POV1 อะนะ ตัวละครกูเลยต้องมีการอธิบายสิ่งที่เห็น + ความคิดของตัวเอกในแบบ Monologue เข้าไปบ้างเพื่อให้เรื่องมันดำเนินใช่มั้ย?

แต่ตอนนี้กูเจอปัญหาคือกูอยากจะให้คนอ่านรู้แบบคร่าวๆ ว่าในเรื่องของกูมี "ไอ้สิ่งนี้" แต่ปัญหาที่เจอคือมันต้องเล่าผ่านมุมมองของตัวเอก แล้วตบท้ายด้วย Monologue ความคิดของตัวเอกเป็นระยะ ๆ ว่าเจ้าตัวมีความเห็นยังไงเนี่ยล่ะ ซึ่งเมื่อก่อนกูเคยโดนติมาว่าการเล่าแบบนี้มันทำให้เหมือนว่าตัวเอกรู้มากเกินไปทั้งที่เป็น POV1 เนี่ยล่ะกูเลยไม่มั่นใจว่าจะใช้วิธีการเล่าแบบเดิมต่อไปตามถนัด หรือว่ายังไงดีกันเลย

888 Nameless Fanboi Posted ID:.s8rdmZhGC

>>885 ยินดีมึง สู้ต่อไปๆ กูชอบคนเขียนที่คำนึงถึงดีเทล กูว่าเขียนไปก่อนแล้วทิ้งเวลากลับมาอ่านอีก แล้วค่อยแก้ มันอาจจะช้าหน่อย แต่มันจำเป็นนะกูว่า

889 Nameless Fanboi Posted ID:M5VprxwRA/

>>887 ต่อให้เป็น POV1 เอง ส่วนมากก็มักจะรู้มากเกินไปอยู่แล้วนะ (จะมากจะน้อยแล้วแต่คน) น้อยมากที่รู้เท่าที่ตัวดำเนินเรื่องรู้จริงๆ กูก็เพิ่งอ่านนิยายไปที่รู้เท่าตัวดำเนินเรื่องเลย แบบสุดตีนนนมาก ตัวดำเนินเรื่องเสือกไม่ค่อยรู้ห่าอะไร ที่เหลือกูต้องเดาเอาเอง แต่ก็เป็นรสชาติที่สนุกดี รู้สึกว่าคนเขียนเก่งเลยล่ะ

890 Nameless Fanboi Posted ID:1uHpRkK9G3

>>889 นั่นสิ ก่อนหน้านี้กูลองเขียนแบบให้ตัวเอกไม่รู้อะไรเลยแล้วรู้สึกรำคาญยังไงก็ไม่รู้
เพราะพอจะเสนออะไรใหม่ๆ เข้ามาแม่งต้องให้ตัวเอกพูดว่า "นั่นมันอะไรกัน?" ตลอดเลย

891 Nameless Fanboi Posted ID:SzGyQcDEVH

ปวดกบาลมากเลย จะเขียนฉากรักยังไงให้ดีวะ นิยายที่กำลังเขียนอยู่ดำเนินเรื่องแบบจะให้พระนางฆ่ากันมาตลอด ไม่รู้จะดริฟกลับให้แม่งมารักกันยังไง ที่คิดไว้คือ ใช้เวลาด้วยกัน-เห็นความดี-เริ่มเปิดใจ แต่จากนี้คือตันแล้วไม่รู้ไปไงต่อ ใครมีเทคนิคดีๆแนะนำมั่งช่วยที

892 Nameless Fanboi Posted ID:Px1iU410Tg

ถ้านักอ่านไม่บอก มึงจะรู้ได้ไงว่างานตัวเองสนุกหรือไม่สนุกวะ เหมือนพอเขียนเอง อยู่ใกล้เกินไป เซนส์ตรงนั้นก็ทื่อไปเลยว่ะ

893 Nameless Fanboi Posted ID:VXu9/l5K.F

>>892 ถ้าถ้าอ่านแล้วก็สนุกดี เอาลงไปหลายๆ ตอนมีคนคอมเม้นต์ แสดงว่าโอเค อ่านแล้วสนุกดี แต่ลงไปเท่าไหร่ก็ไม่มีคนแสดงความเห็นอะไรแสดงว่ายังไม่ดีพอ ยังขาดอะไรบางอย่างให้ดึงดูดใจ ถ้ายังไม่ได้ลงแต่ไม่แน่ใจว่ามันสนุกหรือเปล่า มีโอกาสที่มันยังไม่สนุกเพราะขนาดคนเขียนอ่านเองยังไม่รู้เลย มันเป็นแค่ความรู้สึกว่า เออ มันก็ดี แต่มันมีงานก็ดีเยอะแยะไง งานก็ดีมันไม่ได้น่าสนใจอะไร

894 Nameless Fanboi Posted ID:aSRROAj/.0

>>891 วางให้โทนคสพ.เป็นยังไงอะ รักกันหวานซึ้ง ซึน ปวดตับ ?? ยังไงก็ค่อย ๆ ปูเรื่อย ๆ ค่อย ๆ ไปนะมึงนะ กูเจอประเภทหักดิบชิบหายแล้วเซ็ง ไม่อินเลยว่ะ บอกตรง 55555

895 Nameless Fanboi Posted ID:IswZhOo.Hh

>>894 ซึนว่ะ ตามเนื้อเรื่องแล้วคงเต็มที่ได้เท่านี้แหละ แต่สงสัยว่ามันจำเป็นป่ะวะว่าต้องมีฉากพีคๆสักฉากเพื่อเล่าให้คนเก็ทว่ามันรักกันมาจากตรงไหน หรือถ้าเขียนแบบค่อยๆแทรกความสัมพันธ์ในเรื่องไปเรื่อยๆให้คนอ่านค่อยๆรู้สึกเองดีกว่า คือตัวละครมันเริ่มจากเกลียดปานจะฆ่ากันก่อนอ่ะ ก็เลยจะได้รู้นิสัยแย่ๆของกันมาก่อนด้วย ปรึกษาเยอะเลย โทษทีนะ

896 Nameless Fanboi Posted ID:aSRROAj/.0

>>895 คือมึงต้องตีแผ่ออกมาก่อนนะว่าตลค.มึง รักกันเพราะอะไร ? แล้วค่อยใส่ไปนะ แต่คำถามว่ามึงจะยัดซีนใหญ่มาเลยหรือค่อย ๆ แทรกมา อันนี้มันได้ทั้งสอง แล้วแต่มึงจะพอใจ ส่วนตัวกูชอบอย่างหลังมากกว่า ยิ่งค่อย ๆ ละเลียดละไมนะมึงเอ๊ย ฟิน
กูก็แนะนำอะไรไม่เก่งอะ ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่เลย ขอโทษด้วยคน 5555 แต่เอ้อ มึงขอคำแนะนำฉากรักนี่คือเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายโรแมนซ์เป็นหลักใช่มั้ย ?

897 Nameless Fanboi Posted ID:IswZhOo.Hh

>>896 แค่ช่วยตอบก็ดีแล้ว ขอบคุณมาก นิยายไม่ใช่โรแมนซ์อ่ะเป็นกึ่งๆสืบสวน ฉากละมุนละไมเลยไม่ค่อยมีแต่ถ้าพยายามใส่ก็จะกลายเป็นยัดเยียดเกินไปอีก อยากได้ฟีลแบบพออยู่ด้วยกันถึงจะยังตีกันแต่ก็เป็นห่วงกัน เป็นความสัมพันธ์แบบไม่พูดก็เข้าใจแล้วค่อยกลายเป็นรักไรงี้ เก็ทป่ะวะ

898 Nameless Fanboi Posted ID:G5m/pU.pU7

>>897 มันก็พอได้นะ คือมันก็ไม่ใช่แนวสืบสวนอยู่ละป่ะ แต่อาจจะมีโมเม้นเล็กๆ อาจจะเป็นภาษากายหรืออะไรก็ได้ง่ายๆอ่ะ ค่อยๆหย่อนลงไป ก่อนจะมีซีนใหญ่มาเลย น่าจะค่อยๆปูมาก่อน อาจจะไม่ต้องชัดมากก็ได้ แต่ก็ขอพอมีๆ

899 Nameless Fanboi Posted ID:G5m/pU.pU7

กู 898 พิมพ์ผิด จะบอกว่าไม่ใช่แนวโรแมนซ์อยู่แล้วป่ะ

900 Nameless Fanboi Posted ID:yFZt8.CfCR

เพิ่งค้นพบว่าพล็อตคนเคยรักกลับมาหวั่นไหวยามใกล้กัน เขียนยากที่สุดในสามโลก เฮ้อออ เปิดเรื่องมายังไม่เจอหน้ากันก็สบาย ๆ นะ แต่พอมาเจอะกันเท่านั้นละ ไปไม่รอดจ้า พับโครงการ

ยังมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกันแหละ แถมอีกฝ่ายก็แสดงท่าทีเหมือนอยากจะคืนดี ไถ่โทษด้วยงี้ แต่อีกคนก็พยายามใจแข็ง ใจเย็น เขียนไปไม่รู้ว่าจะให้แสดงความรู้สึกออกมาแค่ไหนดี น้อยไปก็น่ารำคาญ มากไปก็อารมณ์ตัดจบอะพวกมึง แวะมาระบาย กลับไปเขียนเรื่องอื่นต่อละ

901 Nameless Fanboi Posted ID:yl.t4IxxH1

>>900 เออ ยากจริง ของกูเลยให้เป็นปมเรื่องว่ามันเคยรุ้จักกันมาก่อนรึเปล่า เป็นการหลอกคนอ่านไปก่อน จะได้ไม่ต้องใส่อะไรมาก

902 Nameless Fanboi Posted ID:DWyw4T.JJK

มีใครแนะนำการเขียนแนวสืบสวน ฆาตกรรมอะไรงี้ได้บ้าง กูเพิ่งค้นพบว่ามันแต่ง ยาก ชิบ หาย เลยว่ะ จาล้องงงงง

903 Nameless Fanboi Posted ID:b40m0JnQT5

เขียนฉากแอ็คชั่นยังไงให้ไม่น่าเบื่อวะ คือกูดูหนังบู๊มาก็เยอะ อ่านนิยายแอ็คชั่นพอสมควร
แต่พอมาเขียนเองก็รู้สึกยืดๆแปลกๆ กูควรเขียนไปให้จบรวดก่อนแล้วค่อยกลับมารีไรต์หรือควรไปหานิยายแอ็คชั่นอ่านศึกษาเพิ่มก่อนดี

แล้วก็ ปกติส่วนใหญ่กูเขียนoneshot จบในตอน ความยาวเรื่องสั้นที่เป็นมาสเตอร์พีซล่าสุดของกูคือ 28 หน้าa4 ฟ้อนต์cordia14
ไม่ถือว่าเยอะเกินไปใช่มั้ยวะ ตอนpublishไปก็ไม่มีคนอ่านบ่นนะ
แต่บางทีกูก็เกรงใจว่าแม่งจะยาวไปไหมวะ เพราะลองมาอ่านในแอปดูแล้วตาลายนิดหน่อย

ปล.มาสเตอร์พีซของกูไม่ได้หมายความว่าดีนะ กูเรียกงั้นแค่เพราะเสียงตอบรับจากคนอ่านมันดีกว่าทุกเรื่องที่เขียนมาน่ะ 555555
ตอนนี้กลับมาอ่านหลังจากลงไว้ปีกว่า เจอช่องโหว่อยู่นิดหน่อย แต่ขี้เกียจแก้แล้วเลยปล่อยไว้งั้นไปแหละ

904 Nameless Fanboi Posted ID:963JrPDrS0

>>902 อ่านมากๆ ทำให้สมเหตุสมผล วิชาแพทย์แน่นไหม สมัยนี้เขียนมั่วซั่วมีโดนด่า คนตายต่างกันดูกันยังไง นิยายจีนเกี่ยวกับการชันสูตร นิติวิทยาศาสตร์ออกมาเยอะไปหาอ่านดูเอา หลักฐานก็กำหนดเอาว่ายุคไหนสมัยไหน วิทยาการขนาดไหน จะทิ้งอะไรเอาไว้บอกทาง ลองดูซีรี่ย์ฝรั่งซึมซับดู ถ้าอยากเขียนอย่างเดียวไม่มีอะไรในหัวมึงไม่ต้องเขียน ไปอ่านไปดูงานมากๆ ก่อนค่อยกลับมาเขียนใหม่

>>903 อ่านแล้วยืดก็ตัด ตัดแล้วไม่โดนก็เขียนใหม่ มันเป็นเรื่องจังหวะ เหมือนกำกับคิวบู๊ต้องจินตนาการในหัว บางทีคิวบู๊ออกมามันดูธรรมดามึงเขียนก็ดูธรรมดา อาจต้องนึกอะไรที่มันดูตื่นเต้นบีบคั้นมากขึ้น

ความยาวไม่มีความเห็น ยาวไปสั้นไปกูว่ามันเป็นความรู้สึกคนอ่าน มึงเขียน 5 หน้าคนอ่านหาวแล้วหาวอีกก็ยาวไป เขียน 50 หน้า คนอ่านวาไม่ลงอาจโดนด่าว่าสั้นไปแทนก็เป็นไปได้ แต่มึงลองปรับเขียนความยาวระดับส่งงานประกวดเรื่องสั้นต่างๆ ดู เผื่อวันหนึ่งนึกอยากส่งตอนเขียนจะได้ไม่ต้องวุ่นวายมาก

905 Nameless Fanboi Posted ID:hXyP34NJje

มึงลองอ่านหนังสือเกี่ยวกับนิติเวชดู กูมีเล่มหนึ่ง ฆาตกรรมอำพลาง forensics อะไรนี่แหละ เป็นร่วมจดหมายถามตอบของนักนิติกับพวกนักเขียนที่ส่งมาถา บางทริคคือช่างคิดจริง ๆ

906 Nameless Fanboi Posted ID:03+hmeRUmV

>>904 ขอบใจมากเพื่อนโม่ง เดี๋ยวกูจะลองปรับแก้ดู

907 Nameless Fanboi Posted ID:ze8CbgW8tX

>>902 มึงดูสารคดีพวก crime documentary เยอะๆค่ะ อย่ามัวแต่หาข้อมูลแต่ในนิยาย

908 Nameless Fanboi Posted ID:F1mMo7t6Hf

เห็นคลาสคาโดคาว่าสอนเขียน ln กูหัวตัน ๆ เขียนไม่จบมาเป็นปี คิดว่ากูควรแคะปุกไปเรียนไหมว่ะ ราคาเห็นแล้วลมจะจับเสียเหลือเกิน รึใครมีหนังสือรึคลาสออนไลน์ดี ๆ แปะบอกกูด้วย กูหมดทางไปแล้ว

909 Nameless Fanboi Posted ID:kL90vlozg3

>>908 มึงเขียนไม่จบก็หยุดเขียนแล้วไปทำตัวเป็นนักอ่าน อ่านมากๆ อ่านให้สนุก อ่านให้ไหลไปกับอารมณ์หนังสือ อย่าไปเคร่งกับมันมากว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ต้องเขียนแบบนั้นแบบนี้ พยายามค้นหาอารมณ์ตอนแรกเริ่มที่จะเขียน แต่ถ้ามึงไม่ได้อ่านอะไรมาเลยแล้วอยากเขียนมึงไม่ต้องไปเข้าคลาสไหนหรอกเสียเงินกับเสียเวลาเปล่า มึงไม่มีอะไรให้เขียนมึงจะเขียนออกมายังไง

แต่ถ้ามึงอ่านมามากแล้วแต่เขียนไม่ออก มึงอาจจะเคร่งกับมันเกินไป ตั้งใจมากเกินไป มีข้อแม้นั่นนี่กับงานตัวเองมากเกินไปจนสุดท้ายเขียนออกมาไม่ได้ มึงพยายามปลดข้อแม้ตัวเองออกแล้วเอาอารมณ์นำงานเขียนดู หนังสือกูเคยผ่านตาหลายเล่มละ มันก็มีข้อดี เรียบเรียงความคิดได้ดี แต่ถ้ามึงอ่านแบบตันๆ จะกลายเป็นสร้างข้อแม้ไปเสียเปล่าๆ

อันนี้คำแนะนำไม่รู้ช่วยมึงได้หรือไม่ได้

มึงตัน ตันเพราะอะไร
ตันเพราะไม่ได้วางพล็อต - ไปวางซะ
ตันเพราะมีพล็อตแต่เขียนไม่ออก - มึงมีปัญหาในการเล่าเรื่อง ดูพวกโฆษณาสั้นๆ กลับไปอ่านหนังสือที่เคยชอบ ดูหนังฟังเพลง
ตันเพราะไม่มีคำดีๆ ใช้ - ไปอ่านคลังคำสักรอบสองรอบ
ตันเพราะเขียนออกมาเท่าไหร่ก็ไม่ดี - มึงมีปัญหาในการเล่าเรื่อง
ตันเพราะตันเฉยๆ - ปัญหามึงเยอะเกินไป เลิกเขียนแล้วกลับไปอ่าน
ตันเพราะเขียนแล้วไม่มีผลตอบรับ ไม่มีคนคอมเม้นต์ ขาดกำลังใจ - การไม่มีความเห็นก็เป็นความเห็นแบบหนึ่ง แปลว่า งานมึงไม่ดีพอให้เขามีความเห็นใดๆ อย่างมากก็ระดับก็ดี ซึ่งแปลว่ายังไม่ดีพอให้คนอยากอ่านนัก
ไม่ได้ตันแต่เขียนแล้วไม่ได้ดั่งใจคิด - ฝีมือมึงไม่ดีพอ ไปอ่านงานดีๆ เก็บประสบการณ์กูว่าเร็วกว่านั่งเขียนแล้วเขียนอีก เขียนไปมันไม่เพิ่มขีดความสามารถมึงมากนักหรอก อาจจะไหลลื่นเพิ่มขึ้นแต่อยู่ในกรอบจำกัด ถ้ากรอบมึงใหญ่ก็ไม่เป็นไร ถ้ากรอบมึงเล็กมึงเค้นอะไรออกมาก็ยาก

ถ้ามึงอยากได้หนังสือดีๆ กูแนะนำให้มึงกลับไปอ่านหนังสือที่มึงชอบ อ่านแล้วสนุก อันนั้นแหละดี

910 Nameless Fanboi Posted ID:GcbJAIFD32

>>889 เรื่องอะไรวะ แบ่งปันหน่อย

911 Nameless Fanboi Posted ID:/2h.aOlyF1

>>908 เห็นชื่อคนสอนแล้วแบะปากมองบน เอาเป็นว่ากูไม่แนะนำให้มึงไปเรียน

912 Nameless Fanboi Posted ID:zt9ec9iwVV

>>911 >>909 แท้งกิ้ว กูเอาตังเก็บต่อไปงั้น ที่ตันกูเขียนแล้วทิ้งไว้สี่ห้าวันไม่แตะไม่ตรวจแล้วค่อยอ่าน กูว่ามันยังไม่ได้มาตฐานที่ต้องการกูก็รื้อใหม่ สรุปเป็นกูวนอยู่สองตอนเดิม ๆ ....

913 Nameless Fanboi Posted ID:N5+p/dNISL

รีวิว Artery แจ่มใสหน่อยมีใครไปตำมาแล้วบ้าง

914 Nameless Fanboi Posted ID:a.oUNarjT/

>>908 แพง​ ไม่ต้องไปราคาเวอร์​ ไม่รับรองผลหรอก​ มึงอ่านคู่มือเขียนงานที่ไหนก็ได้​ สลับอาานนิยายที่ชอบชำแหละแล้ววิเคราะห์​เลย​ เผลอไม่ต้องอ่านคู่มือด้วย ตามด้วยฝึกเขียน​ แล้วลองอ่านดู​ แค่นั้นแหละเคล็ดลับ​มันไม่มีอะไรเลย​ไม่ต้องไปเสียตังเรียนหรอก​ เสียตังหาหนังสืออ่าน​ หาข้อมูลที้จะเขียนเถอะ​ มันจะดีไม่ดีอยู่ที่ประสบการณ์​ว่าฝึกบ่อยแค่ไหน​
แต่ถ้าอยากเรียนเพิ่มลองลงครอสดู​ ต้องดูด้วยนะว่าคนสอนสอนมึงน่ะเขาสายอะไร​ วรรณ​หรือสายการตลาด​ เพราะสายแรกสอนชิงรางวัล​ สายสองสอนให้งานขายออก​ แต่หนักมึงผ่านการฝึกขั้นแรกมาจะดีสุด​ แล้วอย่ายึดติดตำราหรือครูมากพอ​ มันพลิกแพลงได้

915 Nameless Fanboi Posted ID:OS3nfv3cwG

เวลาโดนบอกว่างานดีจนไม่รู้จะเม้นท์อะไรนี่จริงๆแม่งดีหรือไม่ดีวะ กูงง

916 Nameless Fanboi Posted ID:vq/lFb+ZBz

>>915 สงสัยด้วย กูชอบคิดว่าถ้าเขาพูดงี้คืองานก็อ่านได้ แต่ก็ไม่มีจุดไหนดีพอให้เขาประทับใจจนต้องคอมเม้นบอก สรุปงั้นก็คือไม่ดีรึเปล่าวะ?

917 Nameless Fanboi Posted ID:NwR3ZPbE5s

พยายามอ่านวรรณกรรมดี ๆ เข้าไว้ว่ะ งานอะไรที่เขาว่าเป็นวรรณกรรมโลก อ่านให้มาก มึงอ่านหนังสือได้ระดับไหน งานเขียนของมึงก็จะดีในระดับนั้นหรือต่ำกว่านั้นซักสองสามขั้น เพราะคนเขียนระดับโลกได้มันก็ต้องเก่งมากเป็นธรรมดา แต่ถ้าอ่านได้แค่หนังสือรักทะลวงตูดทะลวงจุ๋ม อ่านแต่บทอย่างนั้น อ่านมากกว่านั้นไม่ได้เพราะปวดหัว งานเขียนมึงก็จะได้แค่นั้นหรือต่ำกว่านั้นเหมือนกัน ถ้ารักจะมาสายงานเขียนและอยากสร้างงานดี ๆ ก็ต้องอ่านหนังสือดี ๆ ถ้าอ่านไม่รู้เรื่องก็แปลว่าเรายังไม่เก่งพอ พยายามหาวรรณกรรมโลกที่เราพออ่านไหว ความจริงมันมีตั้งหลายเรื่อง ทั้งรัก ตลก การเมือง ลึกลับ ผี ไซไฟ มันต้องมีแบบที่มึงชอบบ้างละ

918 Nameless Fanboi Posted ID:NwR3ZPbE5s

>>915 เขาอาจจะเข้าใจว่าการเม้นท์คือการบอกจุดผิดก็ได้ว่ะ เค้าไม่รู้ว่าแค่ชมก็พอแล้ว บางคนประทับใจแต่เขียนไม่เป็นก็มี

919 Nameless Fanboi Posted ID:By4BckhSbb

>>917 ตบมือให้ กูเห็นด้วยเลย กูอ่านนิยายออนไลน์ทั้งหลาย เนื้อหาส่วนใหญ่มันวนๆสำนวนก็วนๆเพราะคนเขียนส่วนใหญ่อ่านฝีมือระดับเดียวกัน ภาษาระดับเดียวกัน ทั้งที่เซนส์เรื่องการทำให้สนุกสนานนี่กูว่าทำกันได้ดีจะตาย กูอ่านสนุกหลายเรื่องก็ตลกมาก แต่ผลงานมันมักมีข้อสะดุดเรื่องภาษาที่ซ้ำซาก และการวางโครงที่ไม่ท้าทาย สะกดคำผิด ใช้สำนวนผิดที่ผิดทาง ไมสร้างสรรค์สำนวนบรรยายใหม่ๆ การอ่านของระดับยากๆ มันช่วยเรื่องความเข้าใจความลึกของมนุษย์ความซับซ้อนของอารมณ์ ที่คนอ่านยังเด็กไม่มีประสบการณ์เอง ก็เรียนรู้ได้จากประสบการณ์ที่ถูกถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือนี่แหละ

920 Nameless Fanboi Posted ID:anU623f4Wl

>>919 แต่ถ้ายกระดับนิยายตัวเองแล้วแต่คนอ่านยังวนๆอยู่เลเวลเดิม พวกแม่งก็ไม่อ่านกันอีกเพราะว่ายากเกินเลเวลตัวเองไรงี้ป่ะวะ

921 Nameless Fanboi Posted ID:VfgAn/fpvo

>>920 correct

922 Nameless Fanboi Posted ID:By4BckhSbb

>>920 กูว่าการยกระดับนิยายไม่ใช่ว่ามึงต้องเขียนเครียดๆนะ มึงเขียนที่บันเทิงนั่นแหละแต่ตัวละครมึงอาจมีความลึกขึ้น สมจริงขึ้น เหตุผลในการตัดสินใจของตัวละครท้าทายความคิดคนอ่านมากขึ้น
ภาษาที่ใช้ก็จะมีศัพท์ใหม่ๆเพื่อแสดงออกมากกว่าเดิม การเรียบเรียงความคิด กนะขับขึ้น เทคนิคการเขียนหลากวิธีขึ้น
คนอ่านบางทีอ่านเอาเรื่องไม่ได้คาดหวังอะไรจากมึงนักหรอก อ่านฟรี ไม่แย่มากก็ไม่สับให้เสียเวลา แย่มากทนอ่านไม่ไหว ก็ไปอ่านเรื่องอื่นๆมีเป็นหมื่นเรื่อง
แต่ ต้องถามว่าแล้วมึงคาดหวังอะไรจากการเขียนบ้างต่างหาก

923 Nameless Fanboi Posted ID:NQ0WL1TupX

มาคอนเฟิร์มอีกคนว่ายิ่งอ่านงานเขียนดีๆ ยิ่งเขียนงานได้ดี อาจจะไม่ถึงระดับขั้นที่ว่าคนตะลึงแต่มันดีกว่าที่เขียนตอนที่อ่านน้อยแบบเห็นได้ชัดมาก
สำหรับกูที่ได้จากการอ่านหลักๆก็แรงบันดาลใจ(ที่ไม่ใช่ก๊อป) ทำให้กูมีแรงเขียนต่อได้เพราะอยากจะเขียนนิยายที่คนอื่นอ่านแล้วได้อะไรดีๆกลับไปบ้าง
แต่ก็ไม่ได้หวังว่าคนอ่านจะต้องปลื้มขนาดนั้น แค่ได้คำชมง่ายๆอย่างพวก ชอบเนื้อเรื่อง ชอบภาษา ชอบสำนวน จะติดตามอ่านเรื่องอื่นนะ แค่นี้ก็ดีใจละ

924 Nameless Fanboi Posted ID:NwR3ZPbE5s

>>919 หลายเรื่องมันสนุกจริงนะ เข้าใจคิด แต่ภาษาห่วยบรรลัย ประโยคในย่อหน้าเดียวกันมีคำซ้ำมากมาย รู้เลยว่าอ่านน้อย คำศัพท์น้อย ไม่มีเทคนิคอะไรเลย แล้วเทคนิคพวกนี้มันได้มาจากการอ่าน แต่ก็ไม่อ่านกัน กูไม่ว่าอะไรนะถ้าคนเขียนแค่อยากเขียนแก้เครียด แต่ถ้าบอกว่าอยากเป็นนักเขียนจังเลย อยากตีพิมพ์จังเลย มันจะเป็นนักเขียนไปได้ยังไงวะถ้าไม่ใช่นักอ่าน

คนที่อยากเป็นนักเขียน ถามตัวเองให้ดีว่ามึงอยากเป็นเพราะอะไร ถ้ามึงบอกว่ามึงมีใจรัก มึงต้องอ่านวรรณกรรมดี ๆ แต่ถ้ามึงบอกว่ามึงเขียนเพราะอยากได้เงิน กูบอกเลยว่าเลือกอาชีพผิด นักเขียนเมืองไทยคืออาชีพที่รายได้ต่ำกว่าอาชีพอื่น ที่อยู่กันได้เพราะทำงานอื่นด้วย สมมุติว่าเป็นนักเขียนเก่ง เขียนได้ปีละสี่เล่ม พิมพ์ครั้งละสามพัน (ซึ่งถือว่าดีมากในยุคนี้) กูบอกเลยว่าต้องอยู่อย่างกระเหม็ดกระแหม่พอสมควร ถ้าต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ ไม่มีบ้านพ่อแม่ให้อยู่ ไม่มีรายได้ทางอื่น มึงจะจัดอยู่ในขั้นคนจน นักเขียนจะมีเงินเป็นกอบเป็นกำต่อเมื่อนิยายแม่งบูม พิมพ์ซ้ำซาก หรือได้เอาไปทำหนัง แต่คนนึงชั่วชีวิตจะมีเรื่องแบบนั้นไม่มากหรอก ทมยันตีเขียนมากี่เรื่อง ที่เอาไปขายทำหนังได้บ่อย ๆ ก็คือคู่กรรม พี่เลี้ยง แล้วกว่าจะดังได้อย่างทมยันตีก็ต้องอายุสี่สิบห้าสิบ อย่างรอมแพงที่ขายบุพเพแล้วดัง เขียนมากี่เรื่องแล้ว ดังกี่เรื่อง ถ้าไม่ทำหนังก็เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าใครจะเลือกอาชีพนักเขียน มึงต้องรักอาชีพนี้จริง ๆ แล้วพัฒนาตัวเอง เพราะเงินก็ได้น้อย ทำงานชิ้นเอกหลายเดือน ทำเสร็จแล้วเอาไปส่ง บรรณาธิการบอก ช่วยแก้ซักครึ่งเรื่อง ขอหวานกว่านี้ ขอบทบนเตียงอีกสามฉาก มึงก็ต้องกลับไปแก้ ทำมาอีกอย่างน้อยสองอาทิตย์ ส่งให้เขาไปตีพิมพ์ รอกว่าจะทำรูปเล่มเสร็จ พิมพ์เสร็จ อย่างเร็วสองเดือน เว้นแต่ว่าเขาจะรีบเอาออกขายงานหนังสือ งานของมึงก็อาจจะเสร็จออกมาภายในเดือนเดียว ถ้าสำนักพิมพ์มีทุนสำรองเขาก็จะจ่ายให้มึหลังพิมพ์เสร็จ ถ้าเขาไม่มีทุนมาก มึงก็ต้องรอไปอีกสามเดือน หกเดือน บางทีรอจนชวด ไม่มีใครในวงการนี้ที่ไม่เคยโดนโกง กูหมายถึงคนที่ทำงานมาระยะนึงแล้วนะ ในเมื่ออาชีพมันยากอย่างนี้ จะทำทั้งทีก็ต้องรักงานของมึงและพัฒนาตัวเอง ไม่งั้นอย่าเข้ามาให้เสียเวลาเลยว่ะ

925 Nameless Fanboi Posted ID:By4BckhSbb

>>924 กูจับมือ การอ่าน สร้างคนอ่านคุณภาพ และก็สร้างนักเขียนคุณภาพ
You are what you read
ถ้ามึงอยากโตขึ้นกว่าเดิม มึงก็จะได้คนอ่านที่โตขึ้นไปกับมึงและคนอ่านที่โตแล้วรอมึงอยู่ มันไม่ดีตรงไหน ความสุขใจของการเขียน มันก็เหมือนเล่นเกมนะสำหรับกู พอมึงเชี่ยวชาญขึ้นมึงก็อยากผ่านด่านไปทำมิชชั่นอัพเลเวลขึ้นไปอีก แต่จะเก่งขึ้นต้องเก็บไอเทมเยอะๆก่อน5555

926 Nameless Fanboi Posted ID:wGsvfHmHp3

ky พวกเสียงซาวด์เอฟเฟกต์จำเป็นต้องมีในนิยายมั้ยวะ

927 Nameless Fanboi Posted ID:ddzagmmiD/

>>926 มีได้สิ แต่ต้องสมเหตุสมผล มึฃบองยกตัวอย่างที่มึงอยากใส่มาดิ

928 Nameless Fanboi Posted ID:wGsvfHmHp3

>>927
ฟึ่บ!
ลูกธนูหน้าไม้พุ่งแหวกผ่านอากาศทะยานหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสียงร้องของสัตว์ตระกูลกวาง...

ประมาณนี้

929 Nameless Fanboi Posted ID:KUILtNZXy6

>>928 ถ้างั้นตรงเสียงกวางร้องก็ต้องมีเอฟเฟกต์ด้วยสิ แล้วลูกธนูหน้าไม้นี่มีจริงเหรอวะ ที่ใช้กับหน้าไม้น่าจะเป็นลูกดอกนะ ทำไมไม่ลองเป็น

เสียงดังฟุ่บดังขึ้นเมื่อลูกดอกถูกยิงออกมาจากหน้าไม้ มันพุ่งแหวกผ่านอากาศทะยานหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสียงร้องของสัตว์ตระกูลกวาง...

930 Nameless Fanboi Posted ID:KUILtNZXy6

>>929 กูไปเช็คมาละ bolts (ใช้กับหน้าไม้) ภาษาไทยคือลูกศร

931 Nameless Fanboi Posted ID:wGsvfHmHp3

>>929-930 ใช่ๆ กูก็ยังสับสนอยู่ว่าไอ้ที่ใช้กับหน้าไม้มันธนูหรือลูกดอก สรุปลูกศรสินะ ละลูกศรมันต่างกับลูกธนูใช่มั้ย เดี๋ยวกูไปหารูปดูดีกว่า 55555
ขอบคุณที่เช็คให้ค่า ไปแก้ละ จุ๊บ

932 Nameless Fanboi Posted ID:ddzagmmiD/

กูว่าลูกศรกับลูกธนูคือสิ่งเดียวกันปะวะ
เราเรียกว่าที่ยิงว่าคันศรหรือคันธนู ลูกก็เรียกตาม

หน้าไม้ใช้ลูกศรขนาดสั้น กว่าธนูที่ใช้คันธนูยาวๆ
ลูกดอกเป็นไม้หรือโลหะปลายแหลมที่สั้นๆจะอาบยาพิษเอาไว้เป่าหรือปาซัดใส่

933 Nameless Fanboi Posted ID:wp2rpsaYIp

>>928 แก้ธนูแล้ว แก้ข้างหลังด้วยก็ดีนะ สัตว์ตระกูลกวาง ฟังดูเป็นสารคดีไป พูดไปเลยว่ามันคือตัวอะไร กวางดาว กวางป่า เลียงผา ละมั่ง สมมุติไปเลย ประโยคจะสวยกว่าสัตว์ตระกูลกวาง

934 Nameless Fanboi Posted ID:ddzagmmiD/

เสียงฟึ่บของมึงกูโอเคนะ
แต่เสียงร้องของสัตว์ตระกูลกวาง กูว่ามันตลก แปลกๆ มึงฟันธงไปเลยดีกว่าปะ ว่าจะกวาง ละมั่ง อะไร
จะได้แก้เป็น เสียงร้องคล้ายดังมาจากฝูงกวางที่แตกตื่น /เสียงร้องฟังคล้ายเป็นเสียงกวาง
คือกูว่าให้ภาพชัดกว่า แม้ตัวละครจะไม่ได้แน่ใจ

935 Nameless Fanboi Posted ID:KUILtNZXy6

>>932 http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2010/07/K9528021/K9528021.html

https://www.reddit.com/r/AskHistorians/comments/26x64n/what_is_the_difference_between_an_arrow_and_a/

936 Nameless Fanboi Posted ID:I39hS9DBmW

>>930 มึงเป็นเหมือนกูมั้ยชอบเทียบคำภาษาอังกฤษก่อน แล้วค่อยมาแปลไทยอีกที มีวิธีแก้ปัญหาแนวๆนี้ยังไงบ้างวะ เรื่องคำศัพท์อ่ะ
คือแบบกูนึกภาพสิ่งที่จะบรรยายออกนะ แต่ไม่แน่ใจในตัวคำศัพท์ว่ามันมีในภาษาไทยไหม อย่างเช่น Sidecar มอไซค์แบบมีที่นั่งเสริมงี้

937 Nameless Fanboi Posted ID:wGsvfHmHp3

>>932 เออ ที่กูเข้าใจว่าใช้กับหน้าไม้ก็เป็นไม้ที่เหลาปลายแหลมไม่ก็เหล็กเหลาปลายแหลม แต่นึกคำเรียกไม่ถูก
>>933 >>934 จริงด้วยแฮะ งั้นเอาเป็นกวางไปเลยละกัน จริงๆ เดี๋ยวมีอธิบายต่อว่าไอ้ตัวที่ยิงได้เป็นกวาง แต่มานึกอีกที ก่อนยิงก็ควรเห็นเลยมั้ยวะว่าจะยิงตัวอะไร 555555 กูเบลอเอง ขอบคุณที่แนะนำ

938 Nameless Fanboi Posted ID:XkboE0H+h1

เพื่อนโม่งช่วยดูหน่อยกว่าการบรรยายของกูมันโอเครึเปล่า เป็นเรื่องของตำรวจหนุ่มคนหนึ่งที่สังเกตเห็นพฤติกรรมผิดปกตินะ

เนื่องจากน้องสาวตัวแสบของผมยังไม่มีท่าทีว่าจะแต่งตัวเสร็จ ผมจึงตัดสินใจลงออกมาจากคอนโดแล้วตั้งใจว่าจะหาอะไรแก้เบื่อทำไปพลาง

ให้ตายสิ... ใครกันน้าเป็นคนบัญญัติว่าผู้หญิงต้องแต่งตัวนานเป็นชั่วโมงแบบนี้

ระหว่างนั่งฆ่าเวลา ผมก็ปรายตากวาดมองผู้คนที่เดินไปมาหน้าคอนโดไปพลาง ยืนอัดมะเร็งไปพลาง ก็ไม่รู้นะว่าเป็นเพราะอะไร สงสัยวันนี้อากาศดีล่ะมั้ง หน้าคอนโดถึงได้มีคนยั้วเยี้ยอย่างกับตลาดซะงั้น

คนเยอะแบบนี้พาลให้รู้สึกอึดอัดชะมัด คิดผิดจริง ๆ ที่ลงมาก่อน แล้วก็ยิ่งน่าเศร้าเข้าไปใหญ่เมื่อพบว่าวันนี้บุหรี่รสชาติห่วยชิบ แต่เนื่องจากนี่มันบุหรี่นอกราคาต่อมวนแพงหูฉี่ ผมจึงไม่อาจจะดูดทิ้งขว้างได้เหมือนกับกรองทิพย์ที่ซื้อตามเซเว่น ผมจึงต้องจำใจลิ้มรสมันต่อไปทั้งที่ตอนนี้อยากจะสำลักควันแทบตายอยู่แล้ว

แต่แล้วระหว่างซึ้งใจกับมันอยู่นั่นเอง สายตาของผมก็บังเอิญเห็นสิ่งผิดปกติ

มีชายร่างสูงสองคนเดินผ่านหน้าผมไป พวกเขาสวมชุดฮู้ดสีดำสะพายเป้อาดิดาสใบตุง แถมยังเดินล้วงกระเป๋าตัวโก่งเหมือนทำท่าซ่อนอะไรซักอย่างเอาไว้ ...ก็อยากจะมองโลกในแง่ดีนะว่าเป็นแค่สไตล์การแต่งตัวเขา เหมือนพวกเด็กฮิปจากนิวยอร์กอะไรทำนองนั้น แต่ก็นะนี่มันประเทศไทยแถมยังอยู่กลางหน้าร้อนอีกต่างหาก การแต่งตัวด้วยชุดเสื้อนอกสีดำดูน่าอึดอัดแบบนั้นจึงค่อนข้างเตะตาผมอย่างจัง

สองคนนั้นหันซ้ายแลขวาแทบจะตลอดเวลา ก่อนที่พวกเขาจะเดินอ้อมเข้าไปข้างหลังคอนโดซึ่งเป็นจุดลับตาคนในเวลาต่อมา

บะ... ทั้งที่เพิ่งออกเวรมาแท้ ๆ แต่ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราชคนหนึ่ง ...ถึงจะอยู่นอกราชการก็เถอะ แต่เจอคนน่าสงสัยเดินผ่านไปแบบนี้ ผมคงปล่อยผ่านไปเปล่า ๆ ไม่ได้สินะ

ว่าแล้วผมก็จำใจต้องเขี่ยเจ้าบุหรี่ยี่ห้อแพงนั่นไปกับพื้น แล้วลุกขึ้นแอบเดินตามพวกเขาไปแบบห่างๆ

939 Nameless Fanboi Posted ID:1+v7XF3HBx

กูว่าก็โอเคนะ อ่านลื่นดี แต่มีขัด ๆ ตรง ใครกันน้า...นิดหน่อย แต่คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก กูแค่ไม่ค่อยได้อ่านสรรพนามบรุษที่ 1 เท่าไหร่ แต่คิดว่าส่วนตัวคงชินกับ "ให้ตายสิ...ผมล่ะอยากรู้จริงว่าใครมันบัญญัติ..." มากกว่า

940 Nameless Fanboi Posted ID:1+v7XF3HBx

ลืมชี้ >>938

941 Nameless Fanboi Posted ID:XJe1TDiBja

กุถามหน่อยโม่ง สมมติว่ากุแต่งแฟนตาซี ให้นางเอกเป็นคนไม่สวยมาก คือหน้าตาใช้ได้แต่ไม่ได้สวยหยาดเยิ้มไรงี้อะ แต่แบบร่าเริง เฟรนด์ลี่ นิสัยดี ห้าวๆแก่นๆ แล้วมีคนมาชอบนางเอก3คนคือ แฟนเก่านางเอก พระเอก แล้วก็เพื่อนนางเอกฟีลพระรองเพื่อนแสนดี มันจะถือว่าซู,ฮาเร็มปะวะ ถ้ากุไม่ได้เน้นรักแต่เขียนว่ามีคนมารักนางเอก3คนทั้งๆที่ไม่ได้สวยมาก

942 Nameless Fanboi Posted ID:8htcK3JQ+m

>>941 ถ้ามึงใส่เหตุผลดีๆ กูว่าไม่ฮาเร็มนะ อย่างเช่นนางเอกเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือเพื่อน เป็นคนที่ปลอบโยนปลอบใจยามสิ้นหวัง อยู่เคียงข้างไม่ทิ้งกัน หรือพระเอกเป็นคนเย็นชา นางเอกเป็นคนร่าเริงเข้ามาเติมความสดใสให้พระเอก อะไรทำนองนี้

ส่วนตัวนะ ที่กูจะเห็นว่าฮาเร็มคือเห็นหน้าละปิ๊งเลย ยอมทำทุกอย่างที่นางเอกต้องการ และมีคนมาชอบพร้อมกันเกินสาม (กูให้สุดๆ แค่สาม)

943 Nameless Fanboi Posted ID:jzUpCmSMrV

>>942 คาร์นางเอกกุ&เหตุผลกุประมาณนั้นแหละ กะให้แฟนคนแรกคือคบตอนวัยรุ่นแล้วต้องไปแต่งกะคนอื่น แต่มันยังรักนางเอก นางเอกก็อกหักหนักจนมีพระเอกเย็นชาเพื่อนมันเข้ามาจนแต่งกัน ส่วนอิเพื่อนพระรองแสนดีแม่งก้ชอบอยุ่ตั้งแต่นางเอกชอบกะแฟนเก่ายันนางเอกแต่งกะพระเอกแล้วมันยังโสด แต่ก้เปนเพื่อนกะนางเอกต่อ

ขอบคุสค่ะเพื่อนโม่ว

944 Nameless Fanboi Posted ID:J0a5oTWu8R

กูชอบที่มึงสร้างรายละเอียดให้ภาพดี แต่มึงต้องอ่านซ้ำเพื่อแก้คำย้อนแยงให้บ่อยๆมึงจะรอด
เช่นขณะนั่งฆ่าเวลา ถัดมามึงบอกว่ายืน ตกลงเอาไง
ก่อนอื่นมึงจะเล่าผ่านความคิดตัวแสดงมึงต้องเข้าใจว่าเป็นคำพูดฝั่งเดียวไม่มีอีกคนช่วยรับและขยายความ ดังนั้นคำรำพึงเหมือน ให้ตายสิใครกันน้า มันจะตีความระดับการทอดเสียงรำพึงยากแล้วแต่คนอ่าน ตัวละครมึงเป็นตำรวจถ้ามึงอยากให้คาร์แมนๆกว่านี้ อย่าให้คำหน่อมแน้มโผล่มาให้คนอ่านสับสน
ให้ตายสิ ใครกันว้า ใครกันวะ น่าจะให้ภาพตำรวจได้ดีกว่า

945 Nameless Fanboi Posted ID:J0a5oTWu8R

>>938 ต่อ
บุหรี่ที่รสชาติห่วย ตกลงมึงอยากให้คนอ่านเข้าใจว่าอะไรได้บ้าง ตอนนี้มันเข้าใจได้3อย่าง กูว่าเลือกเอาสักอย่างจะไม่สับสน มึงก็เพิ่มการชี้นำคนอ่านให้ชัดได้ง่ายกว่า
-หงุดหงิดเพราะรอนาน รสชาติที่คุ้นเคยยังไม่ทำให้ผ่อนคลาย กลายเป็นห่วยขึ้นมาง่ายๆ นี่คือมึงจะสะท้อนอารมณ์เบื่อหน่ายของพระเอก
-หรือมึงอยากใบ้คนอ่านต่อไปอีกว่า ทั้งๆที่บุหรี่รสชาติเดิมๆวันนี้แม่งต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น พระเอกมีลางสังหรณ์ สัญชาตญาณ สัมผัสฝนตั้งเค้าได้ผ่านการรับรสที่เปลี่ยนไป
-หรือแค่อยากแทรกให้คนอ่านเข้าใจทัศนคติของพระเอก เพิ่งเปลี่ยนมาซื้อบุหรี่ยี่ห้อใหม่ ที่แพงขึ้น แล้วค้นพบว่าของแพงกลับห่วยกว่า แต่ทนต่อเพราะงก แต่กูว่าจะสำลักควันตายนี่ต้องเพิ่มหน่อยว่า รสชาติมันห่วยบาดคอ จนแทบทำให้ต้องสำลักควันไอออกมา นี่ต้องฝืนแทบตายแล้ว ไม่งั้นมันสับสนนิดหน่อยสำหรับคนไม่สูบบุหรี่ว่าจะสำลักเพราะตัวเองพ่นควันออกมาเยอะหรือไง
หรือถ้าจะรวททั้ง3ข้อ ก็คือ วันนี้อะไรๆไม่เป็นใจ นี่ต้องรอนาน เสือกต้องสูบยี่ห้อใหม่ แพงสัส รสชาติห่วยนี่มันเป็นวันซวยของกูรึเปล่าวะ

คำสบถของตำรวจคนนี้ จะช่วยให้ภาพของดีกรีนิสัย คำว่า บะ นี่เหมือนลุงแก่ๆกูอุทานเลย
เป็นบ้ะ เวร เฮ้ย เชี่ยเอ้ย ได้อารมณ์ตำรวจมากกว่า
พิทักษ์สันติราษฏร์ ไม่ใช่ราช
นอกราชการ คืออะไร เกษียณ โดนไล่ออก แปลว่า ไม่มีสิทธิ์เป็นตำรวจแล้วนะ
ถ้าจะบอกว่านอกเวลาราชการ ยังแปลว่าเป็นตำรวจอยู่นะ

โดยรวมกูชอบ

946 Nameless Fanboi Posted ID:maETUYoWpu

>>944 >>945 ขอบใจมากเพื่อนโม่ง สับละเอียดดี

แต่ที่จริงก็แค่อยากให้ดูสำนวนแหละ เพราะไอ้พิมพ์มานี่เขียนสด - - ไม่ได้วางพล็อต วางคาร์อะไรเลย
เรื่องที่เขียนอยู่ปัจจุบันเนี่ยพระเอกขี้บ่นแนวๆ นี้เหมือนกัน เลยลองเขียนเหตุการณ์สมมุติขึ้นมาเพื่อให้ช่วยดูหน่อยว่าโอเคมั้ยน่ะ

แต่ถามอย่างหนึ่ง เรื่องคำรำพึงนี่ไม่จำเป็นต้องใส่ระดับการทอดเสียงสินะ?

947 Nameless Fanboi Posted ID:sUBSoZXKJY

>>946 ขึ้นกับบุคลิกตลคที่ต้องการสื่อนะ
อย่างตำรวจคนนี้ รำพึงออดอ้อน ด้วยคำว่า ใครกันน้า มันเรียบๆร้อยๆขัดแย้งกับทิศทางของตัวละครรึเปล่า
ถ้าตำรวจคนนี้สร้างบทสนทนากับน้องสาวว่า
ให้ตายสิ ใครกันน้าบลาๆ มันก็จะน่าเอ็นดูเหมือนหยอกเย้าอีกฝ่าย แต่นี่มันพูดกับตัวเอง ต่อด้วยอารมณ์เบื่อหน่ายหงุดหงิด คำว่าน้า มันเลยสะดุด

948 Nameless Fanboi Posted ID:sUBSoZXKJY

ระดับทอดเสียงใส่มา มันก็ให้อารมณ์ตามนั้นปะ เราก็แค่ต้องเข้าใจความแตกต่างของมัน
ใครกันนะ
ใครกันน้า
ใครกันหนา
ใครกันวะ
ใครกันว้า
ใครกันหว่า

949 Nameless Fanboi Posted ID:1+v7XF3HBx

มึง กูอยากถามข้อมูลหน่อย
หาอ่านแล้วไม่ค่อยเจอกฎเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัย (suspect) อะ มีแต่จำเลยกะผู้ต้องหา (accused/defendant)
กูเข้าใจว่ามันต่างกันไง แต่งง ๆ การปฏิบัติ สรุปคือถ้าหาหลักฐานไม่ได้ ผู้ต้องสงสัยก็ยังรอดตัวลอยนวลได้ปกติรึเปล่า ไม่มีคุมขัง กักตัวใช่ป้ะ ถึงเสี่ยงต่อการหลบหนีก็ขังไม่ได้รึเปล่า

950 Nameless Fanboi Posted ID:maETUYoWpu

>>949 กูเคยเรียนมาแต่จำแบบละเอียดไม่ได้ละ
คราวๆ คือผู้ต้องสงสัยมันเริ่มตั้งแต่ตอนที่ทำตัวมีพิรุธแล้วอะ ยกตัวอย่างเช่นตำรวจเดินมาขอตรวจ แต่กลับวิ่งหนีจนตำรวจต้องวิ่งตามเนี่ย ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงตอนโดนแจ้งข้อหา เราจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยไปเลย

แต่กลับกันถ้าถูกพาไป สน. แล้วแจ้งข้อหาแล้วเนี่ยจะกลายเป็นผู้ต้องหา

ส่วนจำเลยคือต้องโดนอัยการส่งฟ้องไปแล้ว

ส่วนเรื่องหาหลักฐานไม่เจอก็ใช่ เพราะไม่มีหลักฐานหรือพยานที่หนักแน่นพอ อัยการก็จะไม่ส่งฟ้อง ตามอำนาจของตำรวจมีสิทธิ์กักตัวได้แค่ 48 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถ้าเลยไปกว่านั้นก็ต้องพึ่งอำนาจศาลเพื่อฝากขัง แต่ในเมื่อไม่สามารถส่งฟ้องได้ก็จำเป็นต้องปล่อยตัวไปไม่ว่าจะยังไงก็ตาม

951 Nameless Fanboi Posted ID:6/dpnQA/mM

>>938 กูรู้สึกว่าสำนวนมีความญี่ปุ่นอยู่หน่อยๆ (ไม่ได้เสียหายนะ บางคนก็ชอบเขียนแนวนี้)
ให้ตายสิ ใครกันน้า ปล่อยผ่านไปเปล่าๆไม่ได้สินะ -> ให้ความรู้สึกญี่ปุ่นมากสำหรับกู

952 Nameless Fanboi Posted ID:UY2yVqzgcp

>>950 ขอบใจมากมึง ขอถามเพิ่มอีกหน่อย ในกรณีที่นาย a เพิ่งมีปากเสียงกับนาย b แล้วนาย b ถูกฆ่าตายในวันต่อมา คนในครอบครัวนาย b จึงกล่าวหาว่านาย a เป็นคนร้าย ยังงี้ นาย a กูเป็นแค่ผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาไปแล้วอะ

953 Nameless Fanboi Posted ID:MLpd.2572l

>>952 คือผู้ต้องสงสัย เพราะไม่มีใครเห็นว่าฆ่ากับมือใช่มั้ย ถ้ามีคนเห็นแล้วนำไปแจ้งตำรวจ ก็จะกลายเป็นผู้ต้องหา แต่นี่ไม่มีใครเห็นอะไร เพียงแต่คิดกันไปเองว่าน่าจะเป็นคนฆ่า จึงเป็นผู้ต้องสงสัยก่อนในขั้นต้น ถ้าถึงขั้นหาหลักฐานได้ พบกางเกงในตกในที่เกิดเหตุ ตำรวจเห็นว่าน่าจะใช่ ก็จะกลายเป็นผู้ต้องหา

954 Nameless Fanboi Posted ID:CF46F5iXmS

>>952 เป็นแค่ผู้ต้องสงสัยน่ะ
ผู้ต้องหาคือต้องโดนจับแล้ว แล้วตำรวจแจ้งข้อหาแล้ว
>>953 กรณีพบกางเกงในอย่างเดียวยังบอกไม่ได้ แต่ถ้าหลักฐานชี้ชัดหรือว่ามีคนเห็นเหตุการณ์ อันนี้ล่ะถึงจะกลายเป็นผู้ต้องหา

955 Nameless Fanboi Posted ID:xLOYJX39m7

เอ... กูสงสัยขอถามหน่อย
ถ้าสมมุติกูสร้างตัวละคร 2 ตัว ชาย-หญิง อายุห่างกันประมาณ 8 ปี ทั้งสองรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กและฝ่ายหญิงก็สนิทกับฝ่ายชายและเรียกว่า "พี่" มาตลอด จนแทบจะเหมือนกับเป็นพี่น้องกันจริงๆ

แต่เพราะมีเหตุต้องแยกจาก ทั้งคู่เลยไม่ได้พบกันราว ๆ 20 ปี ซึ่งตรงนี้ล่ะที่กูอยากจะถามว่า ถ้าเจอหน้ากันอีกทีแล้วจำกันได้เนี่ย กูควรให้ฝ่ายหญิงเรียกฝ่ายชายยังไงดีวะ?

956 Nameless Fanboi Posted ID:eT/9FJ1Xx3

>>955 ก็พี่เหมือนเดิม อายุมากกว่าปีสองปีก็เรียกพี่แล้ว ถ้าไม่สนิทก็เรียกคุณ ถ้าเรียกชื่อเฉยๆ ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายอายุมากกว่ากูว่าไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่

957 Nameless Fanboi Posted ID:zPrnCAnrG+

พี่ก็ไม่ใช่สรรพนามก็สนิทสนมอะไรมากนะ 555555 แบบในชีวิตจริงกูเรียกพี่ดะหมดอ่ะ

958 Nameless Fanboi Posted ID:oDWG7IkaKK

สวัสดีเพื่อนโม่ง กูมีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย เลยอยากมาถาม พอดีว่ากูกำลังเขียนนิยายอยู่เรื่องนึง กำลังวางพล็อต เเละเริ่มต้นเขียนบางเเล้ว เเละเมื่อวานจู่ๆก็มีนักเขียนมีชื่อคนนึงอัพงานใหม่ลง พอกูกดเข้าไปดูเท่านั้นล่ะ กูช็อคมากเลย เพราะพล็อตมันเหมือนกับกูมาก (กูไม่ได้กำลังหมายถึงว่าเค้าลอกกูหรืออะไรนะ เพราะกูยังไม่ได้เอาเนื้อหาอะไรลงเลย กะว่าจะเเต่งให้จบก่อนเเล้วค่อยลง) คือตัวพล็อตหลัก ตัวเอกวางปมเหมือนกับกูเลย กูเลยกังวลมากๆว่าถ้าวันนึงกูเอานิยายเรื่องงนี้ลง เค้าจะหาว่ากูลอกนิยายนักเขียนคนนี้ไหม กูเองก็ไม่สบายใจที่จะเปลี่ยนพล็อตอะไรด้วย เเบบกูหลงรักตัวลรครที่มีคาเเรกเตอร์กับบทบาทนี้ไปเเล้วเนี่ยสิ ฮือ

959 Nameless Fanboi Posted ID:h1JogjhffA

>>958 ลงเลย พลอตมันเหมือนกันได้เว่ย แต่สิ่งที่จะทำให้ไม่เหมือนกันคือตัวมึงเอง ภาษา วิธีการดำเนินเรื่องของมึง ไอเดียที่เหมือนกันสามารถเกิดขึ้นพร้อมๆกันได้อยู่แล้ว

960 Nameless Fanboi Posted ID:PuKhpDOU40

>>958 กูเคยโดนด่าว่าลอกแร่พล็อตคล้ายแถมเฟนคลับนางถล่มตอนหกูติดชาร์ต​เด็กดีเรื่องเลยเงียบ​ แต่กูลบเรื่องนั้นในเด็กดีทิ้ง​ แต่เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้อยู่​ เผื่อใครกล่าวหากูอีกที​ เพราะมันคือแผลใจกว่าจะหายก็เป็นปีอะกู

961 Nameless Fanboi Posted ID:brM4x4cxQC

มีคนจองที่ไปก่อนแล้ว มึงก็ต้องจำใจทำงานหนักกว่าเดิม มึงต้องหาทางแก้ให้มันไม่เหมือน คือซวยๆๆๆ กูเห็นใจ
แต่ไม่งั้นมึงทุ่มทำไปทั้งๆที่รู้ว่ามันอาจออกไปคล้ายเรื่องอื่น กูว่าไม่คุ้มค่าเหนื่อย
แล้วเดี๋ยวต้องมานั่งเถียงคนอีก ว่าลอกไม่ลอก

962 Nameless Fanboi Posted ID:KNXBYgG+Fv

>>259 >>260 >>261 ขอบคุณนะเพื่อนสพหรับคำแนะนำและกำลังใจ ปล. >>260 กูขอถามได้ไหมว่าตอนนั้นเมิงจัดการกับเรื่องนี้ยังไง

คือตอนนี้กูฟุ้งซ่านมาก ไม่รู้ว่าจะเรียกตื่นตูมไหม แต่กูคิดไปถึงเรื่องการลองทักเข้าไปคุยกับคุณนักเขียนคนนั้น แล้วเล่าให้เขาฟังว่าบังเอิญพล้อตดันเหมือนกัน ตรงจุดไหนบ้าง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจจะดีไหม

กูบอกตามตรงว่ากูกลัวมากว่ามันอาจมีปัญหาในอนาคตได้ ขอคิดในเเง่ร้ายไว้ก่อนแล้วกัน (ถ้านิยายกูรอดอะนะ) คือแบบอย่างน้อยกูก็จะมีหลักฐานว่า เออ กูบอกกับนัก้้ชียนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใตตั้งเเต่เเรกเเล้วนะ อะไรงี้ แต่กูก็แอบกลัวปฏิืริยาคุณนัก้้ขียนท่านนั้นเหมือนกันว่าจะออกมาเป็น

963 Nameless Fanboi Posted ID:KNXBYgG+Fv

ต่อนะ (ขอโทษๆ พิมพ์ในมือถือแล้วมันพลาดไปกดโพส)

แต่กูก็แอบกลัวปฏิืริยาคุณนักขียนท่านนั้นเหมือนกันว่าจะออกมาเป็นยังไง คือแบบคงไม่มีใครชอบหรอกที่มีคนอื่นเเต่งนิยายที่พล้อตออกมาเหมือนนิยายตัวเองไรงี้ แต่กูก็จะพยายามจะปรับพล้อตนะ ให้มันลดความคล้ายเขาให้มากที่สุดในขอบเขตที่กูรับได้และให้กระทบกับพล้อตหลักน้อยที่สุด

เพื่องโม่งมีความคิดเห็นหรืออะไรเเนะนำกูบ้างไหม

964 Nameless Fanboi Posted ID:gbVUN.9dbJ

>>963 คิดมากเกินไป ถ้ามึงคิดมากอย่างนี้ มึงจะไม่สบายใจไปตลอดเวลา กลัวอะไรวะ ถ้ามึงไม่ได้ลอกเขา มึงไม่มีทางเขียนออกมาเหมือนกัน พล็อทเหมือนกันมีเยอะแยะ รายละเอียดไม่มีทางเหมือนกัน ยิ่งมึงทำวุ่นวายมากเท่าไหร่ คนจะยิ่งคิดว่าร้อนตัว เขียนนิยายทั้งทีน่าจะจิตใจสบาย ๆ ไม่ใช่เหรอ นี่ทำแล้วกลัวสารพัด กลัวคนจะว่า กลัวนิยายจะเหมือน บอกตามตรง กูอ่านนิยายพล็อตเหมือนกันมาเยอะแยะ ถ้ามันไม่ได้ลอกกันมา ยังไงมันก็ไม่มีทางดำเนินเรื่องเหมือนกัน

965 Nameless Fanboi Posted ID:v5.DM2t4fa

>>963 เลิกสนใจเขาไปเลย ไม่ต้องไปติดตามอีกว่านิยายเขาเขียนอะไรบ้าง เขียนของมุงไปค่ะ เอาให้จบ ทุกวันนี้เรื่องลอกนิยายนี่ มีทั้งลอกจริงกับลอกมโน มโนว่าโดนลอกนี่เยอะกว่า ทำยังกับเป็นคนคิดพลอตที่เขียนคนแรกกันไปหมดละ

966 Nameless Fanboi Posted ID:C0lmuaE.1q

เอาอย่างนี้ พล๊อต เช่น สโนว์ไวท์ ซินเดอเรลล่า
มึงสามารถเขียนนืยายที่แตกต่างกันได้ล้านเรื่อง
รายละเอียด เช่น เซตติ้ง ต่างๆ อาชีพ นิสัย ปม มู้ด คือจะเขียนดรามา สยองขวัญ จากพล๊อตนี้ก็ได้

967 Nameless Fanboi Posted ID:PHVEfNXRTT

>>966 เออ กูจะช่วยอธิบายเพิ่มให้ พวกมึงรู้จักเรื่องซินเดอเรลล่ากับปลาบู่ทองกันดีใช่ไหม สองเรื่องนี้มีแบบเรื่อง (Tale Type) แบบเดียวกันเลยเว้ยมึง คือสเต็ปแบบนางเอกมีแม่เลี้ยง มีลูกติดแม่เลี้ยง ถูกกลั่นแกล้ง แต่สุดท้ายไปเจอพระเอกที่สูงศักดิ์ แม่เลี้ยงกับพี่ก็อิจฉา พยายามขัดขวาง หรือไม่ก็เรื่องอิดิปุสที่มีแบบเรื่องเหมือนกับพญากงพญาพาน พระเอกมีคำทำนายว่าจะฆ่าพ่อ ถูกพ่อสั่งพาไปปล่อย แต่สุดท้ายพระเอกก็กลับมาฆ่าพ่อได้เพราะความไม่รู้ จะเอาแม่เป็นเมีย พอรู้ความจริงก็สำนึกผิด

ถ้าของมึงเหมือนกันในสเต็ปทำนองนี้ มึงไม่ต้องไปเครียดหรอก นิทานคนละมุมโลกยังดันมีแบบเรื่องเหมือนกันได้ขนาดนี้เลย เหมือนที่โม่งคนอื่นบอกนั่นแหละว่ามันอยู่ที่มึงจะใส่อะไรลงไปให้มันแตกต่าง แต่ถ้ามึงเหมือนชนิดฉากต่อฉาก(เช่นเขาเขียนว่าพระเอกฆ่าพ่อตอนขี้ ของมึงก็พระเอกฆ่าพ่อตอนขี้) อันนี้กูว่าควรเครียดละ

968 Nameless Fanboi Posted ID:2dUxniQncg

>>967 +100
ถ้าเป็นนักเขียนแต่ใส่อะไรให้แตกต่างไม่ได้ก็อย่าเขียนเลย งานเขียนมีเป็นร้อยเป็นพันปีแล้ว nothing new under the sun ว่ะ

969 Nameless Fanboi Posted ID:w.xsx.dk0m

>>967 +100 ขอบคุณที่ช่วยขยายความ
กูว่าเรปนี้กระจ่างแจ้งชัดเจน
น่าจะให้แนวทางในการแก้ไขเรื่อง หรือสร้างความมั่นใจกับมึงได้

970 Nameless Fanboi Posted ID:b+SXNVFDQt

>>964-969 ขอบคุณมากๆพวกมึงที่เตือนสติกู พอมาอ่านความเห็นพวกมึงเเล้วทำให้กูรู้เลยว่ากูเเตกตื่นเเละเเพนิคไปมากจริงๆ กูจะเลิกติดตามนักเขียนคนนั้นซะจะได้ไม่ต้องมาเเพนิคเป็นระยะๆอย่างที่ >>965 บอก กูว่าเเบบนั้นน่าจะดีกับสุขภาพจิตกูมากกว่า คือกูรู้ตัวนะว่ากูเป็นคนวิตกกังวลง่ายมาก แต่บางทีกูก็แยกไม่ได้ว่าที่กูแพนิคเเบบนี้มันมากเกินควรไหม ต้องขอบคุณพวกมึงมากจริงๆที่ทั้งเตือนสติ ทำให้กูกลับมานั่งคิด และมีความหวังต่อ ขอบคุณมากๆพวกมึง

971 Nameless Fanboi Posted ID:Is2ZzijcHx

ขอถามเรื่องพาร์ทย้อนอดีตหน่อย สมมุติอย่างถ้าตลค.ไหนเป็นฝ่ายย้อน มุมมองพาร์ทอดีตนั้นก็ควรเล่าในมุมคนนึกช้ะ
แล้วกูอยากรู้ว่าถ้าเล่าบุรุษที่ 3 ในมุมตัดไปมาทุกฝ่าย เหมือนที่เล่าปจบ.เนี่ย จะทำได้ในกรณีไหนอะ
รึว่ากูไม่ควรมาฟิกซ์อะไรยิบย่อยแบบนี้ เขียน ๆ แม่งไปเหอะได้เลยวะ ฟฟฟฟฟฟ

972 Nameless Fanboi Posted ID:izUvZWIZ9w

>>971 ในฐานะคนอ่าน ในหนึ่งฉากควรโฟกัสตัวละครหนึ่งตัว(แม้จะบรรยายเป็นบุคคลที่ 3) พอสลับฉากค่อยเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็ได้

973 Nameless Fanboi Posted ID:+RxhtSO.s+

>>971 ย้อนอดีตกูก็เขียนไม่ต่างอะไรจากปจบนะ

974 Nameless Fanboi Posted ID:1mEovGCC1U

อืม... เพื่อนโม่งขอถามหน่อย
ถ้าจะเขียนให้ตัวละครร้องเพลงนี่กูควรจะบรรยายยังไงดีวะ?
ใส่เนื้อเรื่อง? หรือว่า "ลาลาลาลา~" ไปเรื่อยดี?

975 Nameless Fanboi Posted ID:1LbqeV6J8A

มึงถามแบบนี้กูช่วยตอบไม่ได้หรอก
การเขียนแม่งไม่มีกฎตายตัวขนาดนั้น ไม่งั้นมันจะนับเป็นงานสร้างสรรค์หรือ
จะเขียนว่าเธอร้องเพลงออกมาด้วยความรื่นเริงใจ หรือ เธอเปล่งเสียงสดใสเอื้อนร้อง "ไก่ก่อนไข่ใครจะเกิดก่อนกัน "
บริบทมันคืออะไรล่ะ อะไรจะเหมาะกว่า

มึงกลัวโม่งแตกก็แปลงตัวอย่างเปรียบเทียบมาถาม โม่งอื่นจะได้ให้ความเห็นได้

976 Nameless Fanboi Posted ID:PdktJfktdk

ถามโง่ๆหน่อยค่ะ ถ้านิยายลอกมาจากประวัติศาสตร์จริงทั้งดุ้นเปลี่ยนแค่ชื่อตัวละครนับว่าก๊อปมั้ยคะ

977 Nameless Fanboi Posted ID:+mai5HgVwP

>>976 ไม่ ในแง่หนึ่งเป็นการท้าทายคนอ่านด้วยว่าให้จับให้ได้ แต่ทางที่ดีคือทำกิมมิคไว้ด้วย คนจะได้ชมว่ามึงเอาต้นแบบมาจากตัวนี้

978 Nameless Fanboi Posted ID:E9o0xasm5w

อย่าก็อปคนเป็นประเด็นแบบปู่ดาบล่ะกัน

979 Nameless Fanboi Posted ID:tdTjyJlt5D

พวกมึงกูนอกเรื่องแปบนะ กูเครียดมากตอนนี้พอดีคนมาป่วนนิยายกูอ่ะ พอกูลองเช็คไอดีดูต่างกันแค่ตัวหลังสามตัวเอง กูเลยอยากรู้ว่า ID ใน ดด.นี่ดูอะไรได้บ้างวะ เนี่ย ID
103.26.22.219
103.26.23.234
103.26.23.253
กูว่าเป็นคนเดียวกันวะ ทำเหมือนเป็นคนหลายคนแต่ ID คล้ายกันมาก คือกูเครียดมาก

980 Nameless Fanboi Posted ID:p+IWgkHcNn

>>979 อยากบอกให้มองข้าม คนออนไลน์ร้อยพ่อพันแม่ แต่มึงคงเครียดมากเลยมาขอคำปรึกษา มึงแจ้งไปที่แอดมิน ก๊อปไปให้ดู แจ้งในบอร์ดปัญหาหรือช่องทางอะไรก็แล้วแต่ เพื่อให้เขาช่วยแบนช่วยบล็อค กูรู้ว่ามึงไม่สบายใจ ถ้ารู้สึกแย่มาก ๆ ก็หยุดเล่นแพร้บ อย่าให้คนไม่ดีมาบั่นทอนมึง

981 Nameless Fanboi Posted ID:pb0Xw0y0JY

>>979 วิธีแก้โทรลที่ดีที่สุดคือเม้นตอบมันไปว่า ขอบคุณค่ะ ในทุกคำด่า

982 Nameless Fanboi Posted ID:NUN/LTots3

>>981 อย่าลืมเติมอิอิ เพิ่มความกวนประสาท

983 Nameless Fanboi Posted ID:NUN/LTots3

เพื่อนโม่งงงงง กูมีข้อสงสัย !!
คือกูแต่งนิยายอยู่ แล้วที่แต่งนี้มันดาร์คเกิน น่าจะไม่ผ่านสนพ.ได้อะ แต่กูมีพล็อตสำรอง คิดว่าจะส่งอันปลอดภัยให้สนพ. แต่ก็ยังเสียดายอันเก่าอยู่
ถ้ากูเปิดลงในเว็บทั้งสองเวอร์ แต่ตีพิมพ์ฉบับคลีนแล้วยังเปิดให้อ่านเวอร์แบดเอ้นท์นั้น มันทำได้ปะวะ จะมีปัญหาอะไรรึเปล่า
(เพิ่ม ทั้ง 2 เรื่องกูคือพระนางคนเดียวกัน เส้นเรื่องเหมือนกัน ต่างแค่ปมที่ตัดไปแล้วใส่อันเบากว่าเข้ามา / ตอนจบ อีกอันแบด อีกอันดี นอกนั้นก็เป็นเรื่องเดียวกันเป๊ะ ๆ เลย)

984 Nameless Fanboi Posted ID:NUN/LTots3

ลืมบั้ม

985 Nameless Fanboi Posted ID:mqB9oeHhv2

>>983 ไม่ได้ว่ะ ถ้ามึงขายให้ สนพ. จะกลายเป็นฉบับคู่ขนานผิดลิขสิทธิ์
ยกเว้นว่าตกลงกันก่อนแล้ว สนพ.ยอม ซึ่งคงยาก
แต้ถ้าพิมพ์เอง อันนั้นเอาที่สบายใจ อยากทำไรก้อทำ

986 Nameless Fanboi Posted ID:DxwkfdBROF

>>985 ขอถามเป็นความรู้หน่อย กูเห็นนิยายญี่ปุ่นมีสองเวอร์ชั่น แบบรวมเล่มกับเว็บไม่เหมือนกัน บางเรื่องต่างกันยังกับคนละเรื่องเลย อย่างนี้แปลว่าเค้าตกลงกันแล้วเหรอ

987 Nameless Fanboi Posted ID:D4L/NcN5RP

>>986 บางทีมันมีลิขสิทธิ์เว็บ กับตัวเล่ม ขายให้คนละเจ้า อันนี้แล้วแต่สัญญา พวกซื้อลิขสิทธิ์ ตปท บางทีซื้อแยก
เวลาขาย สนพ. มันจะมีสัญญา ว่าพ่วง ebook หรือเปล่า หรือบาง สนพ.ไม่เอา ebook เลย แต่มึงทำ ebook เองไม่ได้
ส่วนใหญ่ สนพ.ไม่น่าจะยอม ยกเว้น นข. มีพาวจริงๆ สนพ.ต้องง้อ หรือ นข.ยืนยัน แล้ว สนพ.อยากได้เรื่องนั้นโคตรๆ ถ้าไม่ใช่กรณีพวกนี้ ยากว่ะ
ถ้าให้แนะนำ ก็ส่งสนพ.แล้วผ่านได้พิมพ์แล้ว รอ 3-5 ปี สัญญาหมด ค่อยเอาอีกเวอร์ชั่นมาพิมพ์

988 Nameless Fanboi Posted ID:3CQ6SSCsQQ

>>986 แบบเล่มมีบรรณาธิการช่วยเกลา ทำเส้นเรื่องให้ชัดเจน หรือให้เป็นที่นิยมแบบที่น่าจะขายได้ พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นสำนักพิมพ์ใหญ่มีอำนาจโน้มน้าวจิตใจคนเขียนเพราะกองบรรณาธิการที่นั่นถ้าสำนักพิมพ์ใหญ่ก็คงมีประสบการณ์กับตลาดมากพอมองออกว่าแบบไหนมันขายได้แบบไหนขายไม่ได้

แบบเว็บตามใจคนเขียน พวกตีพิมพ์ถ้าลงแล้วก็คงตกลงกันแล้ว

989 Nameless Fanboi Posted ID:2+BqHgqwbC

>>987 >>988 มีสองเวอร์ชั่นก็ดีนะ อ่านแบบขัดเกลาผ่านสนพ กับ แบบที่นักเขียนอยากให้คนอ่านอ่านจริงๆ (แบบดั้งเดิม) ดูว่าแท้จริงแล้วต้นฉบับดิบเป็นยังไง

990 Nameless Fanboi Posted ID:EHv8QbRCgf

โอเค แต่กูมีข้อสงสัยอย่าง ที่บอกมีบก.ช่วยดูเนี่ย คือกรณีเราเป็นนข.ใหม่ ส่งต้นฉบับไปนี่ ต้นฉบับต้องเสร็จสมบูรณ์แล้วถูกม้ะ สมมุติบก.แนะให้ปรับ เราก็ต้องรื้อเขียนใหม่งี้เหรอ รึยังไง งง
อีกคำถามนึง สัญญากับสนพ.นี่ ถ้าเราลงกับเขาเรื่องนึง เราต้องลงกับเขาตลอดจนกว่าจะหมดสัญญามั้ย กูเห็นบางคนก็เปลี่ยนสนพ.ไปมาได้ ยังงี้นับไงอะ คือกูเข้าใจว่าถ้าเซ็นสัญญาอาจจะได้ผลตอบแทนมากกว่า นข.อิสระ แต่เงื่อนไขต้องออกเล่มตามกำหนด ปีละกี่เล่มว่าไป นี่กูเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ขอเพื่อนโม่งช่วยชี้แนะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.