Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร [กระทู้ที่ 3]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:pMZM.Spia

กระทู้เพื่อพูดคุยเทคนิคการเขียน และเรื่องการประกวดต่างๆเกี่ยวกับนิยาย
กระทู้ 1 >>>/literature/2342/
กระทู้ 2 >>>/literature/3442/

2 Nameless Fanboi Posted ID:KXKqVTmWD

แวะมาเจิม พร้อมแถมนามสกุล https://th.wikipedia.org/wiki/รายชื่อนามสกุลที่ใช้กันมาก

3 Nameless Fanboi Posted ID:Ro489/b/4

ทำไมตัวเอกแบบมีเบื้องหลัง​(หรืออดีต/ชาติก่อน) เป็นสายลับ​/นักฆ่า/มือปืน​ ฯลฯ ถึงเป็นที่นิยมจังวะ

4 Nameless Fanboi Posted ID:VBEoQDP.r

>>3 มันดูลึกลับดี

5 Nameless Fanboi Posted ID:K+RDxQy1e

>>3 อืม มันดูมีสตอรี่มีเสน่ห์ ขณะเดียวกันถ้าทำออกมาไม่โอ แม่งจะดูเบียวมาก ไออาชีพพวกนี้

6 Nameless Fanboi Posted ID:PQUFISxBo

>>5 จริง กูเจอของบางคนแล้ว เบียวเหี้ยๆ อ่านแล้วยังอายแทนเลย แต่บางคนเขียนแล้วแม่งก็เท่ชิบหาย

7 Nameless Fanboi Posted ID:F63DEBl0H

ตอนนี้ถ้าจะลงนิยายลงที่ไหนดีระหว่างเด็กดีกับฟิคล็อค?

8 Nameless Fanboi Posted ID:X1gnYp6en

>>7 เด็กดี ดีกว่า คนอ่านแยะกว่า

9 Nameless Fanboi Posted ID:7MVi1uj9Z

>>7 ฟิคล๊อค เข้าถึงคนอ่านยากสัดเหอะ คือถ้ามึงไม่ได้มีฐานคนอ่านอยู่แล้วที่จะตามมึงไปทุกที่อ่ะนะ กูว่าฟิคล๊อคคนอ่านน้อยแล้วก็การที่คนอ่านจะเข้าถึงเรื่องที่มันไม่ได้อยู่หน้าแรกน้อยมาก

10 Nameless Fanboi Posted ID:2OfBuQ6SS

โม่งบนๆช่วยนิยามคำว่าเบียวให้หน่อยดิ กุจะได้เรียนรู้แล้วพยายามไม่เขียนให้เป็นแบบนั้น

11 Nameless Fanboi Posted ID:viX2Sw3A1

>>10 คนเขียนเรื่องเบี้ยวในสายตากุนะ แบบperfectเว่อร์ๆเหมือนคนเขียนแม่งมีปมไรซักอย่างกับตัวเองแล้วมาลงกับนิยาย ทุกคนในเรื่องแม่งMary sueกันหมด เช่นทะลุมิติมาทำได้ทุกอย่างตั้งแต่สากกระเบือยังเรือรบ มันไม่สมเหตุผล

12 Nameless Fanboi Posted ID:5BR8uJrSC

>>10 เทพทรูซูเก่งฉกาจ อัจฉริยะ​รู้รอบด้าน ระบบสุริยะ​หมุนรอบตัวตัวเอก

13 Nameless Fanboi Posted ID:viX2Sw3A1

>>11 ไม่ก้อนุ่ดีๆทุกคนแม่งรุมรักแบบไม่มีเหตุผล

14 Nameless Fanboi Posted ID:7MVi1uj9Z

>>13 อันนี้กูเห็นด้วย

หรือไม่ก็แฟนตาซีจัดๆ แบบแต่งคาร์มาแบบฟรุ้งฟริ้งอลังการมาก แบบเบื้องหลัังเป็นนักฆ่า ครอบครัวถูกฆ่า เจ็บปวดกับอดีต ไม่เชื่อใจใคร เป็นคนเย็นชา มีตาสองสีปิดไว้ข้างนึงกลัวคนรู้ความลับ ผมยาว กลายร่างได้ หน้าตาดี เป็นคนที่จะหมุนกงล้อแห่งโชคชะตาของอาณาจักรโมงเนีย เป็นคนที่รอคอยมาพันปี เทพมาก ทุกอย่างเก่ง สะท้านฟ้าทุกย่างก้าว ตัวเอกหญิงทุกคนรัก ความจริงแล้วต้องมีความลับอันดำมืดอยู่ในชาติกำเนิดของมึง แบบอาจจะเป็นลูกของมหาปีศาจ หรือมหาเทพ หรือทั้งสองมหา แค่มึงยืนอยู่ก็ทำให้โลกสะท้านได้แล้วอ่ะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:/SCT5JX6o

>>14 กุสะดุ้งเลย นิยายกูชัดๆ 555555

16 Nameless Fanboi Posted ID:7MVi1uj9Z

>>15 ท่ดๆ กูแซวแบบรวมๆ 5555555

17 Nameless Fanboi Posted ID:YlLvEyTul

เบียว ย่อมาจาก จูนิเบียว "Chuunibyou" เป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "โรค ม.2"
ถึงจะเขียนว่าเป็นโรค แต่ที่จริงไม่ใช่โรคหรอก แต่มันเป็นอาการของเด็กที่ช่วงวัยต่อต้าน ซึ่งคนพวกนี้จะเป็นพวกที่ชอบคิดว่าตัวเองเจ๋ง ทำอะไรนอกกระแสไม่เหมือนใคร หรือเรียกง่ายๆว่าแม่งอินดี้ แต่จริงๆ คนพวกนี้ไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้นนั้นจริง ๆ อะ แค่ทำแล้วรู้สึกว่ามัน "เท่" ก็เท่านั้น

นอกจากนั้นยังมีพวกที่หลงไหลในพลังพิเศษอีกด้วย ซึ่งกลุ่มนี้ถูกเรียกว่า "พวกหลอน" และ จะหลอนยิ่งกว่าเดิมถ้าหากมันคิดว่าตัวเองมีพลังพิเศษและโดดเด่นกว่าชาวบ้าน

ส่วนนิยายเบียวนั้นเป็นศัพท์ที่ห้องสับ Webnovel ใช้กันบ่อย เพราะนิยายเว็ปเด็กดีมันเข้าข่ายทั้งนั้น ปัจจุบันยังไม่มีการนิยามชัดเจน แต่ส่วนใหญ่เอาไว้ใช้เรียกนิยายจำพวกที่พวกพระเอกเก่งเวอร์ มีพลังพิเศษ พลังเทพไม่เหมือนชาวบ้าน ซึ่งพวกนี้มักจะเข้าข่าย Mary sue กันทั้งนั้น บางเรื่องก็วางปมซะน่ารันทดแต่การดำเนินเรื่องกลับไม่เป็นตามปมที่วางเอาไว้ มันเลยเหมือนกับพวก Wanna be ที่อยากจะประกาศว่า กุเป็นแบบนี้นะ แต่ที่จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอะไรทำนองนั้น

...ผู้เขียนเองส่วนใหญ่ก็เป็นเด็ก

18 Nameless Fanboi Posted ID:YlLvEyTul

>>17 สัดกดผิดไปโพสต์ซะงั้น เอาเถอะ!

ผู้เขียนนิยายแนวเบียวๆ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นเด็ก และผู้อ่านก็มักจะเป็นเด็ก สังเกตได้เลยจากคอมเม้นท์พวกทำนองว่า สะใจเวลาเห็นตัวร้ายโดนพระเอกยำ และมักจะเกลียดเวลาที่พระเอกแพ้ ต่อให้เขียนเรื่องสมเหตุสมผลว่าทำไมพระเอกถึงอ่อน พระเอกถึงแพ้ คนอ่านพวกนี้ก็ไม่คิดจะอ่านและย้อนกลับมาด่าคนเขียนได้ตลาดเวลา

19 Nameless Fanboi Posted ID:8KenkjZ/S

ที่จริง เบียวก็ไม่ได้แย่หรอกถ้ามันสมวัย แต่โตมาถ้าไอ้พวกนี้รู้ตัวมันแค่จะอับอาย กลายเป็นหลุมดำ ปวศ มืดในชีวิตตัวเอง อายโว้ยยยน่ะ 5555 แต่โตไปแก่ชอบหายยังทำตัวเบียวเนี่ยสิ น่าเป็นห่วงกว่าที่ยังไม่โตอีกเหรอ

นิยายเบียวบาวทีก็ไม่แย่นะ เขียนดีๆ เยียวให้สุดออกมาเหี้ย เท่ทะลุความเบียวว่ะ ก็สนุกดีนะ 555

20 Nameless Fanboi Posted ID:gj9lRaaZR

>>19 ใช่ มาอ่านนิยายที่กุแต่งม.สอง กับนิยายตอนอายุ 22 แม่ง
กูแทบจะอยากย้อนเวลาไปฟาดหัวตัวเอง อายชิบหาย ดีนะกุลืมรหัสไอดีเก่าในเด็กดอยแล้ว รอดพ้นคววามอายแล้ว

21 Nameless Fanboi Posted ID:++VZn8Odw

>>20 มึงยังดีนะ
กุสิ นิยายสมัย ม.2 กุลงคาอยู่ใน Pramool ทุกวันนี้ยังเข้ากลับไปอ่านได้เลย
อายแทบแทรกแผ่นดินหนี

22 Nameless Fanboi Posted ID:viX2Sw3A1

>>21 ไหนนนนนนน

23 Nameless Fanboi Posted ID:I514BpXms

กุนี่บึ้มไอดีเด็กดีเก่าตัวเองทิ้งแล้วสมัครใหม่ แม่ง เล่มมาตั้งแต่ป5 อาย 55555

24 Nameless Fanboi Posted ID:++VZn8Odw

>>22 ไม่ให้ เดี๋ยวโม่งแตก!

25 Nameless Fanboi Posted ID:viX2Sw3A1

>>24 ไม่แตกหรอก หรือว่ามึงเป็นคนแต่งเรื่องในตำนานนั่น...

26 Nameless Fanboi Posted ID:++VZn8Odw

>>25 กุจะกุมโม่งแน่นๆ ที่บอกได้มีแค่ว่า กุเคยมีส่วนร่วมกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กระเทยเท่านั้น!

27 Nameless Fanboi Posted ID:CwubF3Lsz

>>26 สนุกนี่หว่า

28 Nameless Fanboi Posted ID:/2+.DejT4

>>26 กูอ่านนะ

29 Nameless Fanboi Posted ID:YUmev49+3

>>27 >>28 แต่เรื่องนั้นกุไม่ได้เขียนคนเดียว อย่างที่บอกแค่มีส่วนร่วม เพราะงั้นไปหาเอง

30 Nameless Fanboi Posted ID:8ioDAFt/V

กูลองสมัครแปลนิยายวายของ Rose ไป ไม่รู้เขียนได้ดีขนาดไหน ไม่เคยลองแปลมาก่อน แม่งจะคัดโหดป่ะว้า

31 Nameless Fanboi Posted ID:ExJiMTgZu

>>30 มึงก็สมัครด้วยเหรอ กูก็สมัครว่ะ 5555 ไม่ถนัดเลยมึงเอ๊ยยย เซ็ง 5555

32 Nameless Fanboi Posted ID:S8El4kojs

>>20 เหี้ย เหมือนกูเลย นิยายสมัยม.ต้นกูแม่ง โคตรแห่งความเบียว กูเลิกแต่งไป 6 ปี พอเรียนจบ กลับมาอ่านอีกที กูลบแม่งให้หมดเลย 55555

ลืมไปว่าแวะมาแจกไอเดียนิยายแนวแฟนตาซี ธีมยุโรปยุคกลาง กูบังเอิญไปเจอดนตรีแนว Neo-Medieval ของวง FAUN เข้า แต่ละเพลงฟังแล้วได้ไอเดียโคตรๆถึงจะไม่เข้าใจภาษาเยอรมันก็ตาม ดนตรีพื้นเมืองของ Celtic กับฝรั่งเศสพื้นเมืองนี่ก็เสริมสร้างไอเดียได้มากๆเหมือนกัน ลองไปฟังกันดู
https://www.youtube.com/watch?v=beXW5s3ZCB4

33 Nameless Fanboi Posted ID:f+DM+q.u5

มึง เคยอ่านเรื่องแนวแบบxxxมั้ย
กูไปอ่านแบบในสายตานักเขียนดู ต่างจากสายตาโม่งหื่น
แม่งมันแต่งดีว่ะมึง อ่านแล้วไม่สะดุด
กุแต่งธรรมดายังมีอ่านละสะดุด

34 Nameless Fanboi Posted ID:dzGuKtFnJ

>>31 กูแปลได้ทรามมาก อ่านไปก็ขำตัวเอง

35 Nameless Fanboi Posted ID:hzu2iG0zA

ทำไงดี กูหยุดอีดิตงานตัวเองไม่ได้อ่ะ คือไม่ทำตอนเขียนอยู่นี่ทำได้อยู่หรอก แต่พอเขียนเสร็จ จะมารีไรท์มาอีดิตอีกทีนี่ คือเครียดเลย กลัวนั่นนี่ไปหมด กลัวคำซ้ำ กลัวเขียนวกวน กลัวคนอ่านนึกภาพไม่ออก กลัวไม่ถึงพันคำ และอื่นๆอีกมากมาย ปวดหัวว่ะ

36 Nameless Fanboi Posted ID:X7bRvbBoj

>>35 ทิ้งไว้จนกว่าจะลืมก่อนค่อยมาอีดิท

37 Nameless Fanboi Posted ID:hzu2iG0zA

>>36 โอเค จะลองดู

38 Nameless Fanboi Posted ID:K0sphiTH2

มึงผู้ชายพูดฉันกับนายมันไม่แมนเหรอวะคือกูเอาคาแรค​เตอร์​มาจากเพื่อนสมัยกูไปแลกเปลี่ยนมาแต่งซึ่งมันเป็นฝรั่ง นิยายกูก็แต่งเป็นวัยรุ่นฝรั่งไม่ใช่วัยรุ่นไทยจะให้มาพูดกูมึง กูก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เพื่อนกูไม่ได้ถ่อยขนาดนั้น จะให้พูดผมพอกูคิดถึงหนังหน้าเพื่อนกูกับอารมณ์ตอนมันพูดก็ไม่ใช่อีก มันไม่ได้เรียบร้อยขนาดนั้น เวลากูคุยกับมันก็มีแค่ I you กับเรียกชื่อแค่นั้น พอต้องมาใช้สรรพนามไทยกูแม่งไปไม่เป็นวะ

39 Nameless Fanboi Posted ID:hzu2iG0zA

>>38 ฉันกับแกพอไหวไหมวะ หรือเอ็งกับข้าดีล่ะ

40 Nameless Fanboi Posted ID:K0sphiTH2

>>39 เอ็งกับข้านี่ไม่ไหววะ เพื่อนที่กูขโมยนิสัยมาแต่งนี่ถ้าเป็นคนไทยไม่น่าจะพูดขนาดนั้น ขนาดจะใช้คำว่าแกพอคิดหน้ามันกูยังขัดๆเลย คือมันเป็นคนสุภาพมากนะมึงแต่ก็เข้ากับคนอื่นง่ายอยู่ เป็น geek อยู่หน่อยๆ

41 Nameless Fanboi Posted ID:MGATauoJL

>>38 ฉัน นายก็ปกติออก

42 Nameless Fanboi Posted ID:sNhiXB1vU

>>38 ส่วนตัวเวลาเขียนตัวละครชายแทนด้วยสามคำนี้ ฉัน ผม นาย แก ฉันกับผมเป็นคำแทนตัวที่ตัวละครตัวนั้นใช้อ่ะ ส่วนนายกับแกนี่เป็นคำที่คนพูดด้วยเรียกกัน ไม่เขียนมึงกู

43 Nameless Fanboi Posted ID:sNhiXB1vU

>>42 เองแก้หน่อยนะ >>38 ส่วนตัวเวลาเขียนตัวละครชายแทนด้วยสี่คำนี้ ฉัน ผม นาย แก ฉันกับผมเป็นคำแทนตัวที่ตัวละครตัวนั้นใช้อ่ะ ส่วนนายกับแกนี่เป็นคำที่คนพูดด้วยเรียกกัน ไม่เขียนเอ็งข้ากับมึงกู

44 Nameless Fanboi Posted ID:qFuqarHpT

บางทีกูก็อยากจะใช้สรรพนาม "กัน" - "แก" บ้างนะ แต่คนอ่านคงไม่ชิน 5555

45 Nameless Fanboi Posted ID:.AC+BY.B0

ผู้ชาย พูดฉันกับนายได้
คือเอาจริงผู้ชายแม่งยากเว่ย คือ ในชีวิตจริงมึงกูดูเรียลสุด
แต่ถ้าไม่อยากใช้ มันก็ลดลงมาเป็น ฉันกับนาย ไม่ก็ คุณกับผม ซึ่งดูเป็นกันเอง และทางการ (แบบไม่ค่อยมีสิ่งที่เป็นตรงกลางของสองอันนี้เท่าไหร่) ฉันกับนายก็ดูทางการได้ในบางบริบท

ส่วนเอ็งกับข้า ขอเหอะ...แม่งงงเห็นแล้วหงุดหงิดมากกก กูเห็นล่าสุดในหยูหยู แบบโอ้ยยย สะดุดทุกที

กันแก กูว่ามีเสน่ห์ดี ขึ้นกับเนื้อเรื่องด้วย ถ้าเนื้อเรื่องได้ก็ได้ คนอ่านจะชินรึเปล่า เป็นความสามารถอย่างหนึ่งของคนเขียนด้วย เคยเห็นแก้วเก้าใช้นะ

46 Nameless Fanboi Posted ID:suatTLd1j

38เอง >>43 ปกติกูก็ใช้แค่นั้นแหละ ไม่รู้ว่าจะต้องแต่งให้ตัวละครมันเถื่อน หยาบไปทำไม สงสัยคนที่กูให้อ่านมันชอบนิยายวัยรุ่นแนวม.ปลายกับมหาลัยที่ชอบพูดกันทีปล่อยสัตว์กระจายด้วยละมั้งเลยบอกว่ามันซอฟท์ไป (กู มึง นี่กูใช้แค่ในโม่งนี่แหละ คนจะได้ไม่นึกว่าเป็นกูดี)
>>44 กูชินนะเพราะกูเคยอ่านเชอร์ล็อค โฮล์มส์ กับพวกเล็บครุฑมาก่อน ถ้ามึงแต่งแนวยุคเก่าหน่อยกูว่าคนอ่านรับได้แหละ แต่ถ้าแต่งแนวยุคปัจจุบันกูคิดภาพคนพูดแบบนั้นไม่ออกเลยวะ

47 Nameless Fanboi Posted ID:SVj0Twfis

พูดแบบเป็นกลางนะ สังคมนักเรียนชายม. ปลาย - มหาลัย มึงกูนี่เป็นสิ่งที่ใช้เป็นปกติมากๆๆๆๆๆๆๆๆ 99.99% อ่ะ คือ ฉัน นาย ไม่มีใครใช้อ่ะ เพื่อนผู้ชายรอบตัวเราแทบไม่มีใครใช้ ขนาดสาวประเภทสองก็มึงกูอ่ะ

48 Nameless Fanboi Posted ID:kfhjkwKKK

กูว่ามันแล้วแต่อะ คือถ้าเขียนให้มันอิงความจริงไปเลยก็กูมึง แต่โม่งที่จะเขียนบอกว่าเป็นตัวละครเป็นวัยรุ่นฝรั่งนี่ งั้นก็ใช้สำนวนแบบนิยายแปลไปเลย นิยายแปลกูเห็นเค้าก็ใช้ ฉัน-นาย เยอะแยะ อ่านแล้วไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรด้วย

49 Nameless Fanboi Posted ID:aLVEGhmS2

>>46 นี่ >>43 เองนะ พอดีไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชาย ปกติไม่เคยใช้มึงกูกับเพื่อนเลยกับญาติก็ไม่เคยใช้ เลยลองอยู่หลายรอบแต่มีคนบอกว่าไม่เหมาะกับเรา เลยใช้เรียกชื่อ เราหรือเขากับเธอ แกก็ไม่ได้ใช้นะใช้แต่ในนิยาย
>>48 + 100 เลยเห็นด้วยมาก ๆ

50 Nameless Fanboi Posted ID:YCMoD2N4s

เออว่ะ เวลาดูหนังฝรั่ง ซับใช้ฉันกับนายก็ไม่รู้สึกอะไรนะ อารมณ์คงเหมือนนิยายแปลนั่นแหละ ต่อให้พูดกูมึงแต่นิสัยไม่แมนก็ไม่ช่วยหรอก 555

51 Nameless Fanboi Posted ID:s6k6ntiB9

เพิ่มเติม กูกำลังอ่านนิยายแปลที่ตัวเอกเป็นผู้ชายวัยรุ่นฝรั่ง มันก็มีพูดคำหยาบใส่กัน จังไรแบบถอดกางเกงโชว์กระปู๋โชว์ก้นกันไรงี้ แต่คนแปลเค้าก็ใช้ ฉัน-นาย นะ กูเองก็ไม่รู้สึกแปลก
เพราะงั้นโม่งคนเขียนอยากใช้ยังไงก็แล้วแต่ว่าอยากได้ฟีลเรื่องประมาณไหนอะนะ

52 Nameless Fanboi Posted ID:ezOMQAcoa

ถ้าในโลกความจริง ปกติไทยจะพูด มึง กู เพราะเป็นคำที่พวกเราคุ้นเคยที่สุด แต่ในสื่อทั้งหลายน่ะ มึง กู มันเป็นคำไม่สุภาพไงเขาเลยต้องเปลี่ยนเป็น ฉัน นาย ผม คุณ อะไรทำนองนี้

ถ้าถามว่าใช้ มึง - กู ได้มั้ย? ก็ใช้ได้แหละ แต่ว่ามันจะส่อกริยาและวิสัยของตัวละครชัดเลยว่าเป็นคนถ่อย ยกตัวอย่างนิยายฝรั่งที่กุเคยอ่าน พระเอกเป็นคนแบบว่า... เออ... ไม่เชิงเหี้ย แต่ถ่อยไม่มีมารยาทอะ คนแปลเลยใช้ให้พระเอกพูด มึง - กู ตลอดเลย กุก็รู้สึกอินนะ แต่ถ้าเป็นตัวละครธรรมดา แต่กลับใช้ มึง - กู กันนี่ กุอ่านไปก็รู้สึกขัดๆ อะ

เพิ่มเติม... ในของฝั่งญี่ปุ่นจะมีตัวละครหญิงที่ชอบเรียกตัวเองว่า Boku (แปลว่า ผม) พอเอามาแปลแล้วกลายเป็น "เรา" นี่ขอบอกว่ากุแทบละลายเลย รู้สึกน่ารักมากกกกก

53 Nameless Fanboi Posted ID:YCMoD2N4s

ไม่ใช่ว่ากูเรียกร้องอะไรนะแต่บางทีก็อยากให้มีคนมาเม้นงานกูบ้างอ่ะ แบบอยากรู้ว่าเขียนเป็นไงอะไรยังไงบ้าง จะให้เพื่อนอ่านบางทีก็อยู่คนละด้อม อ่านคนละแนวบ้างเลยเกรงใจ ไม่กล้าให้อ่านบ่อยๆ

54 Nameless Fanboi Posted ID:fuDx6mu/A

รบกวนหน่อย

กูอยากใช้ภาษาละตินเป็นเบส ชื่อคนกะสถานที่อยากเป็นละตินให้หมด ละแบบทุกคำมีความหมายไม่มั่วด้วย มีเว็ปไหนช่วยได้บ้าง

นอกเรื่องนิด กูเคยคิดนะว่าอยากเรียนสันสกฤติละตินกะกรีก กูรู้สึกว่าภาษามันสวย มีความหมายล้ำลึก แต่ท่าจะเรียนยากน่าดู

55 Nameless Fanboi Posted ID:jcV.Qc4dh

>>52 ไม่นะ...ปกติไม่ได้ใช้กู-มึง

56 Nameless Fanboi Posted ID:bgRmV3w3A

>>55 อึ้งแป๊บ ...กับเพื่อนสนิทที่ประมาณว่าโตมาด้วยกันก็ไม่เคยใช้เลยเรอะ!?
ถ้าเพื่อนที่รู้จักตอนโตน่ะพอว่า แต่ไอ้ที่โตมาด้วยกันนี่หายากนะเนี่ย

57 Nameless Fanboi Posted ID:ia90+GxUX

>>56 ไม่ใช้ 55 แต่ก็ไม่เคยใช้เลย คำหยาบก็ไม่พูด หยาบแต่ในโม่งกะในทวิตเท่านั้นแหละ

58 Nameless Fanboi Posted ID:q9LYRaQev

เพื่อนผู้ชายกูคนนึงใช้ เรา เว้ย แม่งไม่เกย์ด้วยสัส หน้าแม่งตี๋ๆขาวๆหล่อยังกะคุณชาย ตัวแม่งก็ล่ำ แต่พออยู่กะพวกกูเป็นลูกหมาให้แกล้งเลยสัส มันไม่สู้คน กูว่าผู้ชายที่ใช้ เรา ในสังคมม.ปลาย ก็คงเป็นแบบมันนี่ล่ะ กูว่าก็ใช้ได้อยู่ ถ้าจะเขียนตัวละครประเภทนี้

ฉัน นาย นี่แทบไม่เคยได้ยิน ฉัน นี่กูได้ยินจากเด็กผู้หญิงไม่ค่อยเต็มบาทคนนึงใช้ นอกนั้นไม่เคยได้ยินจากปากใคร นาย นี่กูกับคนอื่นๆใช้บางครั้งเวลาเรียกเด็กผู้ชายห้องอื่นที่ไม่สนิท แต่พอรู้ชื่อแล้วก็มึงกูอย่างเดียว เอ็ง ข้า นี่พอมีบ้าง ใช้ในสังคมเด็กห้อง 7 8 9 10 รึท้ายกว่านั้น คนที่ใช้ส่วนมากจะเป็นเด็กแก๊งค์ เด็กแว๊น อันธพาล เสือผู้หญิง ในห้องเหล่านั้น ใช้เรียกเด็กห้องอื่นที่ไม่สนิทเพื่อให้ดูสุภาพ แบบเถื่อนๆขึ้น

ผู้ชายเรียกผู้หญิง ถ้าไม่ใช้ชื่อ ส่วนมากจะใช้เธอ ในกรณีที่ไม่สนิท ถ้าสนิทบางทีก็ใช้มึง กู ผู้หญิงเวลาใช้สรรพนามแทนตัวเองนี่มีแค่ เรา เค้า กู อย่างเดียว มีอีกประมาณ 5% ใช้ชื่อตัวเองเป็นสรรพนาม ส่วนฉันนี่ อย่างที่บอกไป มีแต่คนไม่เต็มบาท ไม่ก็เด็กเนิร์ดชอบฟ้องครูเสียงแหลมๆหน้าปุๆใช้

หนู ผม มีบ้างในกรณีคุยกับครู หายากหน่อยก็กับรุ่นพี่ ผม นี่บ้างครั้งก็ใช้กับเด็กต่างโรงเรียนที่เพิ่งเจอกันบางครั้งด้วยเหมือนกัน ส่วนดิฉัน ถ้าไม่ใช้ในงานพรีเซ้นรึอะไรนี่ๆไม่มีแน่นอน ตัวละครแนวคุณหนูที่ใช้สรรพนามนี้บอกเลยแม่งกาก

กูอ่านแล้วหงุดหงิดทุกครั้งเวลาเจอนิยายแนวเลิฟคอมรั้วโรงเรียนเซ็ตติ้งประเทศไทย แต่ใช้สรรพนามแปลกๆ เอาจริงๆเมืองนอกที่ใช้ๆ I กันนี่กูก็รู้สึกว่าเป็นคำว่า เรา มากกว่าฉันว่ะจากประสบการณ์กูนะ

59 Nameless Fanboi Posted ID:q9LYRaQev

กูลืมไป มันใช้ ชั้น กันด้วยแต่เป็นประเภท occasion สำหรับพวกซึนๆส่วนมากมันจะใช้กัน คนธรรมดานานๆทีก็ใช้เหมือนกัน แต่ปกติใช้โดยผู้หญิงเรียกผู้หญิง มีใช้คะยกับเพื่อนผู้ชายด้วยบางครั้ง

กูสรุปสัดส่วนออกมาคร่าวๆ มึง-กู 40% เรา-เค้า 30% ชั้น 20% 5% ใช้ ข้า-เอ็ง อีก 3% ใช้ชื่อตัวเอง 1.5% ใช้พวก ผม คุณ และ 0.5% ใช้ ฉัน

60 Nameless Fanboi Posted ID:5xJXn5XBX

มันน่าจะแล้วแต่สังคมด้วยเปล่า
น้องเราอยู่โยธิน มึง กู ตลอด (ญ)
เราอยู่มหิดลวิทย์ จะใช้ เรา/ช่ื่อเล่น เธอ นาย แก (ถ้าสนิท)
อันนี้เป็น ญ-ญ ญ-ช ช-ญ นะ ผู้ชายเรียกกันเองลับตาผู้หญิงไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ว่าต่อหน้าเรามี กูมึงบ้าง แต่ไม่มาก ต้องสนิทมากจริง ๆ (พวกกลุ่มที่เล่นเกมด้วยกัน ยืม ckid อ่านทุกสัปดาห์อะนะ - กูก็ร่วมวงยืมด้วย) ที่เหลือเป็น เรา-แกมากกว่า

61 Nameless Fanboi Posted ID:jcV.Qc4dh

>>56 ไม่ใช้อะ มันแปลกขนาดนั้นเลยเหรอ ;-;

62 Nameless Fanboi Posted ID:T5zu+qXX0

พูดถึงสรรพนาม กูใช้ปนๆกันไปว่ะ กูมึงบ้าง เองเค้าบ้าง(มาจากตัวเองแต่ดูแมนๆกว่า ใช้กับผช.ซะส่วนใหญ่) เตงเค้า(ใช้เวลาคุยกับเพื่อนผญ.น่ารักๆ) แกกับชั้นก็มี ล่าสุดมีเพื่อนผช.เรียกกูว่าเธอ รู้สึกนุ่มนิ่มสัสๆไม่เคยโดนเรียกแบบนี้ปกติเรียกแต่ชื่อกูกันทั้งนั้น

63 Nameless Fanboi Posted ID:HJDaO83GX

>>58 เหมือนกูเลย เพื่อนผญใช้เรา-นายกับกู อันนี้สมัยมอต้น
กูยังงง มานายๆห่าไรกับกู เมากาวหรอ
แถมรรกูหญิงล้วนด้วย
ถ้าเพื่อนผชที่เห็นมีใช้กันก็มี เรา-(เรียกชื่อ) ชั้น-แก ที่มุ้งมิ้งๆก็เรียกชื่อตัว /เขิน อันนี้ผชแนวเรียบร้อยๆ สุภาพชิบหาย

64 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

ถามเพื่อนโม่งหน่อย คำว่า"แถม" นี้ฟังโบราณมั้ย แบบของ"แถม" งี้ ธีมนิยายกุเป็นแฟนตาซียุคกลาง ถ้าไม่ใช้คำว่า"แถม" มันมีคำแทนมั้ยอ่ะ

65 Nameless Fanboi Posted ID:gJYLzR.uI

เราจะรู้หรือค้นได้ยังไว่าศัพท์​นี้มันเป็​น​คำยุคเก่า​ยุคใหม่ เริ่มใช้เมื่อไหร่​? อย่างเพื่อนโม่งข้างบนบอกว่า สิทธิ์​เป็นคำใหม่​ นี่กูก็เพิ่งรู้
ถ้าเป็น​คำอังกฤษ​ยังพอค้นประวัติ​ที่มายุคสมัยได้​ แต่ของ​ไทย​สืบค้นยากชะมัด​
อีกอย่าง สมมุติ​เซ็ตติ้งยุโรปยุคกลางหรือยุควิค​ตอเรีย​ ถ้าไม่ใช้คำทักทายว่า สวัสดี​ (เพราะ​คำนี้เพิ่งยุคจอมพลป.) จะใช้คำไหนแทน?

66 Nameless Fanboi Posted ID:ENrdGWVaw

กูว่ามันยากนะ กับการที่รู้ว่าคำไหนโบราณใช้ได้รึเปล่า อย่างสิทธิงี้ กูว่ามันก็ไม่ได้ดูใหม่นะ มันมาจากบาลีสันสกฤตป่ะ

คือยังไง มันจะแปลกนะ ถ้ามึงมีเซตติ้งสมัยวิกตอเรียแล้วต้องใช้คำพูดภาษาไทยที่ใช้ในสมัยนั้น งี้ถ้ากูเขียนยุคกลางนี่จะต้องใช้คำพูดแบบไหนอ่ะ มันเก่ากว่าสุโขทัย อยุธยาอีกนะ ถ้ามึงจะยึดตามไทม์ไลน์ของภาษาไทยไม่ต้องใช้คำไทยแท้ทั้งหมด แล้วพูดกูมึงเหรอ คำว่าฉันก็ไม่มีป่ะะะ
ยิ่งถ้าเทียบกับประวัติศาสตร์จีนก็ยิ่งไปกันใหญ่

"เมื่อชั่วเอดดาร์ด สตาร์ก แดนเหนือนี้ดี" งี้เหรออ (ไม่ได้ลบหลู่ใครหรืออะไรทั้งสิ้น ยกตัวอย่างให้ฟังเท่านั้นสำหรับประโยคนี้ ถ้าไปบังเอิญตรงกับประโยคจริงที่ไหน คือบังเอิญ)

กูว่านิยายมันเป็นแค่ฟีลลิ่ง การที่มึงคิดว่าคำนี้ไม่ใช้ในสมัยนั้น (ไม่นับคำใหม่จริงๆอย่างคอมพิวเตอร์ ซึ่งเอาจริงก็ไม่น่าจะไปโผล่ในนิยายย้อนยุคที่ไหน) มันเป็นเพราะว่านิยายเรื่องอื่นๆเค้าไม่ใช้กัน แค่นั้นแหละ

ถ้าเป็นภาษาอังกฤษอ่ะว่าไปอย่าง อย่างโทลคีนงี้ เค้าก็ใช้คำอังกฤษแท้เยอะ แต่ของเรามันแปลมาแล้ว มึงจะมาไล่ไทม์ไลน์มันคงไม่ได้อ่ะ

67 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

>>66 ว่าจะทำแบบนั้นแต่กลัวโดนโม่งนินทา

68 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

กูว่าต้องแยกให้ออกก่อนดีมั้ย ว่าปัญหาที่เจอนี่มันคือการใช้ภาษาผิดสมัยผิดวัฒนธรรม ผิดบริบท ผิดอารมณ์ หรือว่าผิดกับระดับภาษาของทั้งเรื่องกันแน่

สำหรับกู ถ้าผิดสมัยผิดวัฒนธรรมแบบเห็นชัดๆก็คือพวกที่เอาคำทักทายแบบสวัสดีค่ะ ดี อะไรงี้ไปใช้ในเรื่องแนวโบราณหลายเรื่องที่มันไม่ได้มีการทักทายแบบนั้นเลย อย่างบ้านเรายุคก่อนหน้าอันนี้ก็ไม่ได้ใช้สวัสดี ถ้าเด็กทักผู้ใหญ่ก็คือบอกว่ากราบผู้ใหญ่เลย ถ้ารุ่นอ่อนกว่าก็รับไหว้ หรือถามว่าไปไหนมา กินข้าวกินปลาหรือยัง อะไรพวกนี้ ซึ่งถ้าพวกแบบนี้มันผิด กูมองว่าปัญหาอยู่ที่คนเขียนทำการบ้านไม่พอ ไม่เข้าใจวัฒนธรรมว่ะ

ถ้าผิดบริบท ให้ยกตัวอย่างแบบชัดๆก็ยุคเดียวกับข้างบน แต่เจอผู้ใหญ่แทนที่จะใช้ว่ากราบหรือไหว้ ก็บอกว่า 'ธุ ท่านเสีย อะไรแบบนี้ ทั้งที่คนที่ถูกบอกไม่เด็กขนาดนั้นหรือไม่ก็เป็นครอบครัวที่เป็นทางการแท้ๆ อันนี้คือเข้าใจว่าวัฒนธรรมคือต้องไหว้ แต่ดันเลือกใช้คำที่เป็นทางการเหมาะกับสถานะครอบครัวและสภาพแวดล้อมไม่ได้ คือผิดบริบทในความคิดกู

ส่วนผิดอารมณ์ อันนี้อธิบายยาก แล้วแต่จริตด้วยว่าเป็นไงมาไง บางทีก็สถานการณ์เดิม แต่สำหรับกู แค่ใช้คำว่า "เข้าไปกราบท่านเสียสิลูก" "มากราบท่านเสียสิ" แต่ทีนี้ประโยคหลังให้อารมณ์แนวๆคุณหญิงท่านผู้หญิงที่นิสัยหวานๆพูด กูก็จึ้กๆล่ะ เพราะรู้สึกว่าทำไมคนนิสัยหวานๆพูดห้วนจัง ผิดกับอารมณ์ที่พยายามบรรยายมาจัง อะไรแบบนี้

สุดท้ายคือผิดระดับภาษาของตลอดเรื่อง อันนี้น่าจะปัญหาที่เจอกันบ่อย คือบางช่วงใช้คำเป็นแนวๆโบราณ ใช้ข้าใช้เจ้าใช้ท่าน พูดเจ้าคะ ขอรับ แต่เวลาบรรยายดันบอกว่า "เรือนร่างอรชรของหญิงสาวโสภาร่วงหล่นพรวด จนร้องว๊าย" อะไรแบบนี้จะเห็นว่ามันไม่ได้ใช้คำใหม่ แต่มันใช้คำแบบกระโดดกับระดับคำอื่นในประโยคเดียวกันมากมาย ซึ่งเอาจริงๆมันคงไม่ได้กระโดดแบบเห็นชัดในประโยคหรอก แต่เห็นหลายๆเรื่องแล้วว่าทั้งเรื่องมันคุมให้อยู่ระดับเดียวกันตลอดไม่ได้ไง (ซึ่งถามส่วนตัวกูว่าจำเป็นต้องระดับเดียวกันหมดมั้ย ก็ไม่ แต่ช่วยให้มันเนียนๆอย่ากระโดดมากเหอะ)

เอาล่ะ สรุปสำหรับกู กูมองว่านี่ไม่ใช่ปัญหาแค่ว่ามีคำไทยแท้ไม่แท้ หรือสมัยนั้นมีคำนั้นมั้ย มันคือปัญหาความเข้าใจ และปัญหาในเรื่องการเขียนที่คนเขียนต้องพยายามเขียนดึงอารมณ์คนอ่านให้ไม่สะดุดให้ได้ แต่คนที่ทำแบบนั้นได้ก็คือคนที่เข้าใจระดับคำ สเกล+อารมณ์เรื่องตัวเอง อะไรแบบนี้ดีอยู่นั่นแหละ

69 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

อีกนิดหนึ่งจากข้างบน

อย่าง >>65 ถามเนี่ย กูมองว่าคำว่าสิทธิ์เนี่ย มันเพิ่งมีมาเพราะคนตื่นตััวสมัยไหนไง เหมือนที่คำว่าลิขสิทธิ์ก็เพิ่งมาสำคัญเอายุคหลังๆนี่เอง ถ้าเป็นสมัยสุโขทัย ที่การเมืองยังไม่สมตติเทพเท่าอยุธยา แต่ในไทยก็ยังให้ความสำคัญกับผู้ใหญ่ตัดสินใจมากกว่า มันก็ไม่น่ามีการตื่นตัวเรื่องสิทธิ์ ส่วนสมัยอยุธยาอะไรแบบนี้มันเป็นสมมติเทพฯ ซึ่งคำว่าสิทธิ์ควรจะมีอย่างสิทธิ์ในการสืบบัลลังก์อะไรงี้ใช่มะ แต่ลองคิดดูว่าพอใช้คำงี้มันไม่ศักดิ์สิทธิ์เอาซะเลย ส่วนมากเขาก็จะใช้คำว่าความชอบธรรม หรืออะไรอื่นๆที่ดูศักดิ์สิทธิ์กว่าจะได้ขลังๆ และจะได้ชักนำคนมากกว่าอะไรแบบนี้ ก็เท่ากับว่าคำแต่ละคำมันมีความสำคัญในสมัยไหนยังไง มันถึงได้ปรากฎตัวราวๆนั้นแหละ

แต่พวกนี้ก็เป็นความคิดส่วนตัวกูนะ คนอื่นอาจมีความเข้าใจ หรือเทคนิคอะไรแบบอื่นก็ได้

70 Nameless Fanboi Posted ID:ENrdGWVaw

กู 66
อ่านแล้วไม่สะดุดเป็นพอสำหรับกู กูว่าไม่ต้องไปถึงขนาดหาทีละคำๆว่ามันอีคำนี้มันเกิดตอนไหน (เพราะมึงหาไม่เจอหรอก) ทางแก้คือ มึงไปหาหนังสือที่สำนวนดีๆมาอ่านดีกว่า เอาสำนวนพวกนั้นฝังเข้าไปในหัวมึง ทับถมๆไปเดี๋ยวมันก็ได้ไปเองอ่ะ ไม่งั้นหาทีละคำๆเมื่อไหร่มึงจะเขียนเสร็จคะ

71 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

มึงนี่ธีมโบราณนะ น้องพูดกับพี่ ใช้แทนตัวเองประมาณไหน สมมุติประโยค "คารวะท่านพี่สิบเอ็ด 'ข้า'ว่าจะไปเยี่ยมท่านพี่ที่ตำหนักพอดี"
อีกคำว่าข้ามันก็ดูทะแม่งๆ สำหรับกู ช่วยชี้แนะด้วย

72 Nameless Fanboi Posted ID:IgHkcusfw

>>71 ไม่เห็นแปลกเลย
แต่กูเป็นคนไม่เรื่องมาก ถ้าไม่ประหลาดจริง ๆ จะไม่ค่อยรู้สึก หนูทดลองอะไรนั่นยังเฉย ๆ

73 Nameless Fanboi Posted ID:74u12eCVo

>>71 ใช้เป็นคำว่า ผู้น้อย ก็ได้มั้งคะ

74 Nameless Fanboi Posted ID:Iao3y.JjB

>>71 กูว่าไม่แปลกนะ ที่มึงคิดว่าแปลก เป็นเพราะมึงผูกติดอยู่กับระดับภาษาที่ว่าต้องใช้คำในลักษณะนี้กับคนยศสูงกว่าบลาๆๆ อะไรหรือเปล่า มึงงงงง มันธีมโบราณ ทำเนียบภาษามันไม่ได้เจ้ายศเจ้าอย่างขนาดนั้นมะ ข้าก็เท่ากับฉัน เท่ากับหนูนี่แหละมึง มันไม่ได้แปลกหรอกกกก

75 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

>>74 กูเห็นด้วยกับ 71 นะ เขียนธีมโบราณที่ให้ความสำคัญกับชนชั้นฐานะยศ แต่ไม่ให้ความสำคัญกับคำแทนตัวนี่แปลกนะ

76 Nameless Fanboi Posted ID:FWt5M.5B7

>>74 คนพูดมันนับพูดพี่มันไง

77 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

กู >>75 นะ มาเพิ่มให้อีกว่า ถ้าเอาจริงๆจะบอกไม่แปลกได้มั้ย ก็ได้อยู่ถ้าใช้กับสนิทๆกัน อย่างที่เห็นนี่ไปเยี่ยมตำหนักนี่ก็น่าจะสนิทกันใช่มะ ? เออ ถ้าสนิทแล้วมาแทนตัวว่าเปิ่นกงหรือไรงี้คงแปลกๆแทนแหละ แต่มันก็จะตงิดใจอีกที่สนิทกันแล้วเจอหน้ากันยังคารวะกันอย่างเป็นทางการซะขนาดนั้น ตกลงจะสนิทกันหรือไม่สนิทกันแน่

คือกูอาจคิดมากไปก็ได้ แต่กูเขียนงานโดยมีความเชื่อว่าคนเขียนเป็นคนที่บอกลักษณะตัวละคร ฉากหลัง ทุกสิ่งอย่างในเรื่องผ่านคำเล็กคำน้อยพวกนี้แหละ มันเป็นคีย์เวิร์ดให้คนอ่าน บางคนไม่คิดไม่รู้สึก แต่คนที่คิดที่รู้สึกก็น่าจะมี แล้วคนเขียนจะเขียนให้เขาอิน ให้เขารู้สึกได้มั้ย มันก็ขึ้นอยู่กับเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้นะ

78 Nameless Fanboi Posted ID:2OIAEFX0L

>>76นับถือ เชี่ยกุพิมพ์ตก

79 Nameless Fanboi Posted ID:9rILr7OMw

>>77 คารวะสำหรับยุคนั้นก็แค่สวัสดีเปล่า

80 Nameless Fanboi Posted ID:ENrdGWVaw

กูเห็นด้วยกับ >>79
ไม่คารวะมึงจะให้พูดคำว่าอะไร แล้วถ้าจะใช้ภาษาไทย แม่งไม่มีอะไรที่ดีกว่าข้าแล้ว ในสายตากูนะ
ส่วนตัวกูไม่ชอบคำว่าเปิ่นกง 5555 แบบถ้าจะแทนตัวจีนก็แทนไปเลยย แทนให้หมดเลย แบบกูกูสมัยนู้น ที่ใช้ถอดเสียงจีนแทนตัว

81 Nameless Fanboi Posted ID:aD3VBM+Lv

>>79 เท่าที่กุดุซีรีย์มาา มันเจอหน้ากันก็พูดแบบนี้นะ จอมยุทธเจอหน้ากันงี้หวัดดีพี่น้องร่วมสาบาน "คารวะพี่ใหญ่"

82 Nameless Fanboi Posted ID:bY/5Hq1o+

>>80 เปิ่นกงน่าจะไม่ได้นะ เปิ่นมันใช้กับคนที่ต่ำกว่า ให้อารมณ์ประมาณถือตัวด้วยนะ ใช้กับตอนที่ผู้พูดต้องการเน้นว่าฉันใหญ่กว่าเธอนะจ๊ะ จงยอมซะดี ๆ ปะ ปกติก็น่าจะข้านั่นแหละ

83 Nameless Fanboi Posted ID:Iao3y.JjB

>>80 จริงมึง ภาษาไทยมันไม่ได้มีแบ่งยิบย่อยขนาดของจีนพรรค์นั้นอะ ข้าคือสรรพนามที่โอเคที่สุดแล้วในพวกนิยายย้อนยุค เออ แต่ถ้ามี มันก็แบบไท้ไทย (อย่างในเรื่องบุพเพสันนิวาสงี้) ซึ่งเอาไปใส่ในนิยายจีนไม่ได้แน่ๆ แต่ถ้าจะใช้พวกเปิ่นกง นูปี้ เจิ้น บลาๆๆ คนเขียนต้องอธิบายและทำความเข้าใจกับคนอ่านไว้ก่อนอะ เดี๋ยวงง

84 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

>>77 ที่กลับมาตอบนะ เออ ส่วนมากสมัยก่อนเจอหน้าก็คารวะแทนสวัสดีจริงๆนั่นแหละ ไม่ผิดๆ

ส่วนเรื่องความสงสัยว่าสนิทกันขนาดไปหาที่ตำหนักโดยไม่ต้องส่งคนไปบอกก่อน แล้วเจอหน้ายังทักทายแบบนี้อะไรนี่กูอาจจะคิดมากไป นี่ไม่ใช่ประโยคเต็มหรืออ่านมาทั้งเรื่องด้วย

เรื่องคำแทนตัวก็อย่างว่ามา สำหรับบริบทอันนี้ที่คุยกันคงเหมาะที่สุดแล้ว

ขอบคุณที่มาแลกเปลี่ยนความเห็นกันนะ

85 Nameless Fanboi Posted ID:6XIelJpGH

กุคนถามเอง กุแค่สมมุติขึ้นมาไม่ได้คิดเรื่องก่อนหน้า แค่จะถามว่ารุ่สึกแปลกไหม เอง โน้มรับที่ดม่งแนะนำทุกคน เดี๋ยวไปลองให้หมด แล้วจะโผล่มาใหม่

86 Nameless Fanboi Posted ID:6XIelJpGH

น้อมรับ เชี่ยพิมพ์ผิดอีกละ

87 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

กุเพิ่งค้นพบว่าตัวเองใช้คำว่าอนุญาตผิดมานาน ใช้เป็นอนุญาติมานาน ความหมายเปลี่ยนไปเลย

88 Nameless Fanboi Posted ID:Iao3y.JjB

>>87 อ.ของกูเคยแปลอนุญาติแบบขำๆ แซ็วพวกที่ชอบใช้ผิดว่าญาติผู้น้อยอะ หลังจา่กนั้นกูจำไม่ลืมและไม่เคยใช้ผิดอีกเรยยยยย

89 Nameless Fanboi Posted ID:6XIelJpGH

สังเกตกูก็ใช้ผิด เป็นสังเกตุมาตลอด
ภาษาไทยซับซ้อนกว่าที่คิด555

90 Nameless Fanboi Posted ID:5blsJMIU5

กูใช้วิจารณ์ เป็นวิจารย์มาตลอดเหมือนกัน โชคดีที่ไม่ค่อยได้เขียนคำนี้ในนิยายนัก

91 Nameless Fanboi Posted ID:C4MaLD8fo

ริอาจ ❌
ริอ่าน ✔

92 Nameless Fanboi Posted ID:xvq83.aAq

มึงทำไมนิยายไทยที่ใช้ตัวละครตะวันตกชอบตั้งชื่อตัวละครเป็นเซตวะ คือปกติกูก็แต่งนิยายอยู่บ้างนะมึงเลยพอจะรู้จักคนที่แต่งนิยายคนอื่นๆเหมือนกัน แล้วมันมีเด็ก(ซึ่งไม่เด็กหรอกแค่อ่อนกว่ากู)​เอานิยายมาให้กูอ่านแล้วบอกให้วิจารณ์หน่อย กูก็วิจารณ์​ไปตามเรื่องตามราวแล้วกูก็แค่เปรยๆไปว่าชื่อตัวละครแต่ละครอบครัวมันคล้ายๆกันหมดเลยเนอะ (สมมุตินะถ้าพ่อชื่อแองเจลโล่ ลูกก็ชื่อแองเจลา กับแองเจลิก้า แองเจรีส ทำนองนั้น)​นางก็ขึ้นหน่อยๆแล้วบอกว่าก็มันครอบครัวเดียวกัน... คือกูอยากจะบอกนางอะว่าฝรั่งจริงๆเขาไม่ได้ชื่อคล้ายพ่อแม่ขนาดนั้น แต่นางก็ไม่ฟังกูละ

93 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

>>91 ว้ายกุใช้คำนี้ผิดมาตลอด

94 Nameless Fanboi Posted ID:/foweEEzL

>>92 คนรู้จักกูหลายคนละชื่อคล้ายพ่อแม่ ฝรั่งไม่ได้เป็นแบบมุงคิดทุกคน

95 Nameless Fanboi Posted ID:q1wqLJM8E

>>94 ชื่อคล้ายมันก็มีไงมึงบางคนเขาก็เอาชื่อพ่อแม่มาผสมกันบางคนเขาก็ตั้งชื่อลูกให้คล้ายกับพ่อแม่แต่ที่กูเห็นแต่งมาคือแม่งมีลูกห้าคนก็ชื่อคล้ายกันหมด ทุกครอบครัวต้องมีธีมชื่ออะมึงซึ่งมันไม่ใช่ไง ฝรั่งส่วนมากที่กูเห็นว่าชื่อคล้ายพ่อแม่จะเป็นลูกคนแรกวะ ส่วนคนหลังๆเหมือนไม่เห่อเท่าไหร่ละเลยตั้งชื่อแบบอื่นไป

96 Nameless Fanboi Posted ID:rtROjhSxi

>>95 แต่มันก็ไม่ผิดปะ ถ้าคนแต่งจะตั้งแบบนั้น?

97 Nameless Fanboi Posted ID:q1wqLJM8E

>>96 ก็กูก็ไม่ได้ว่าอะไรไงเขามาให้กูวิจารณ์​กูก็วิจารณ์​ไปตามความคิดกู คือแบบบางทีปมชาติกำเนิดตัวละครเป็นความลับงี้แต่กูอ่านชื่อกูก็เดาได้ละว่ามันเป็นใครกูเลยอยากวิจารณ์​ไปตรงจุดนี้ไงมึง

98 Nameless Fanboi Posted ID:q1wqLJM8E

กุต่อ>>97 กุลืมยกตัวอย่าง คือมันมีบทที่มีตัวร้ายเป็นผู้ชายมีโมเมนต์กับนางเอกหน่อยๆแต่ไม่เคยเฉลยว่าเป็นใครคนแต่งจะไปเฉลยช่วงใกล้จบแต่กูอ่านชื่อกูก็ฟันธงไปละไอ้นี่ไม่พี่ก็น้องนางเอกชัวร์ไรงี้ กูเลยอยากให้คนแต่งลองชื่อที่มันหลากหลายอีกนิดวะ

99 Nameless Fanboi Posted ID:giNr/iKUz

>>98 คิดในแง่ดีมันจงใจ ในแง่ร้าย มันหาชื่อในเว็บเดียวกัน แล้วชื่อมันอักษรเดียวกันขี้เกียจหาอักษรอื่น

100 Nameless Fanboi Posted ID:coZzbT5+9

>>92 ในฐานะกุคนเขียนแนวที่มึงว่า...
กุขี้เกียจคิด โอเค๊!? โดยเฉพาะตัวประกอบงี้ บทออกมาแค่นิดเดียวกุยิ่งขี้เกียจคิดชื่อเลย ถ้าไม่ใช่ตัวหลักสำหรับดำเนินเรื่องนี้กุเองก็ตั้งส่งๆ เหมือนกัน เผลอๆ ใช้เว็ป name generator ตั้งให้เลยซะด้วยซ้ำ
การตั้งชื่อมันไม่ใช่ว่าจะหาแค่ชื่อเก๋ๆ นะ มึงต้องมานั่งหาความหมาย ซึ่งส่วนใหญ่ควรจะตรงกับลักษณะและนิสัยของตัวละคร ก่อนที่จะไปหามาเป็นชื่อตั้ง ซึ่งถ้าให้กุตั้งแบบประณีตกับตัวประกอบทุกตัวล่ะก็ กุตาย!!

101 Nameless Fanboi Posted ID:F1/6v9wxN

>>100 ทำไมชื่อต้องเข้ากับนิสัยวะมึงอันนี้กูไม่ได้กวนนะ คือถ้ามองว่านิยายคือโลกใบหนึ่งคนตั้งชื่อตัวละครมันก็พ่อแม่ ไม่ก็คนเลี้ยงตัวละครปะ มันไม่ได้รู้สักหน่อยว่าโตมาตัวละครโตมาจะนิสัยยังไง อย่างเพื่อนกูแม่งชื่อโคตรสาวความหมายคือหญิงงามเรียบร้อย อินี่ยังเป็นทอมมีเมียตีกับผู้ชายอยู่เลย

102 Nameless Fanboi Posted ID:jBqpGimzW

>>101 แต่นิยายส่วนมากก็ประมาณนี้จะ มันทำให้คนจำคาร์ตลคได้ง่ายขึ้นไง
อย่างพระเอกต่ำต้อยชอบมีชื่อประมาณดิน ปฐพี
หรือดาว เดือน จะเป็นพี่น้องที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้ากันงี้ (ข่มแสงกัน)
คือถ้าชื่อมีความหมายก็ต้องตรงกับลักษณะซักอย่างของตลค. ไม่งั้นก็ต้องนิสัยตรงข้ามชื่อไปเลยก็มี

103 Nameless Fanboi Posted ID:coZzbT5+9

>>101 อันนี้กุใช้คำผิดเองที่ไปเขียนว่า "นิสัย (Personal)" ต้องบอกว่ามันคือ "คุณลักษณะ (Alignment)" สิ

ที่จริงแล้วไอ้การตั้งชื่อมันสำคัญก็แค่ความหมายนั่นล่ะ

แต่กรณีของกุนี่ติดมาจากสมัยเล่น Boardgame ไง เวลากุสร้างตัวละครมา 1 ตัว กุจะกำหนด Alignment ก่อนเลยว่าจะให้เป็นแนวไหน Good , Neutral , Evil เป็นพวก Lawful , Neutral , Chaotic เสมอ ซึ่งกุก็จะพยายามตั้งชื่อให้ตรงกับ Alignment ของตัวละครตลอด ต้องมานั่งหาความหมาย หาชื่อที่เข้าท่า ซึ่งกว่าจะได้ซักตัวนี่กุแทบจะหัวระเบิด

104 Nameless Fanboi Posted ID:JRuAA3jSQ

กูเลือกชื่ออะไรก็ได้ที่กูชอบ แบบจิ้มๆตามเว็บชื่อเก๋ๆอ่ะ พิมพ์ง่ายไม่ต้องกดชิพ แค่นี้กูพอใจแระ

นักเขียนบางคน กูเคยเจอ แม่งจงใจตั้งชื่อยาวๆเว่อๆ อารมแบบ พิศยมลธาราทอง อะไรประมาณนี้เพราะคิดว่าไฮโซและโกงจำนวนอักขระเวลาพิมพ์

105 Nameless Fanboi Posted ID:0ohdNag0f

>>104 แล้วย่อเหลืออีทองปะ

106 Nameless Fanboi Posted ID:S4fMuLvOF

>>101 อันนี้ถ้าตามที่กูเรียนพวกวิแคะวรรณกรรมมา บางทีมันเป็นคลูหรือเป็นสารจากคนเขียนบอกใบ้ถึงลักษณะนิสัย ชะตากรรม ที่มา หรือกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ของตัวละครน่ะนะ ในไทยก็มีให้เจอบ้างในนักเขียนรุ่นเก่า ส่วนทางฝั่งฝรั่ง กูไม่รู้ว่าแฮร์รี่นี่นับได้ไหม อย่างนามสกุลของรอน วิสลีย์มันก็มาจากตัววีเซิลมะ แล้วตัววีเซิลขนมันก็สีแดงกับผมของคนในบ้านนี้อะ (เคยอ่านเจอมา) อย่างซีบิล ทรีลอว์นีย์ อาจารย์สอนพยากรณ์ ชื่อซีบิลคือชื่อนักพยากรณ์ในวิหารของเทพอพอลโล ซึ่งก็สอดคล้องกับวิชาที่ซีบิลสอนในเรื่อง

107 Nameless Fanboi Posted ID:Zd5ckROPp

>>106 ถ้าของแฮรี่มีเยอะมาก

ลูปินเป็นชื่อหมาป่า

ซีรีอัสเป็นชื่อกลุ่มดาวหมาป่า
เจเคซ่อนคำใบ้ไว้ในชื่อตัวละครเยอะมาก

108 Nameless Fanboi Posted ID:tp5z6abkB

นี่ตั้งชื่อจากความหมายที่ชอบแล้วลองเรียกตัวละตครด้วยชื่อนั้นดูว่ามันเหมาะไหม ถ้าเหมาะก็ผ่าน ถ้าไม่เหมาะก็หาต่อไป

109 Nameless Fanboi Posted ID:S4fMuLvOF

>>107 ตรงชื่อรีมัสก็ด้วย รีมัสเป็นชื่อหนึ่งในฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม ซึ่งแฝดคู่นี้ได้รับการเลี้ยงดูมาจากนางหมาป่า ความจริงคือมีเยอะอะ ของพวกนักเขียนตปท.อะนะ แต่ของไทย อืม อย่างเรื่องจันดารานี่นับไหมอะ พระเอกชื่อจัน มาจากจัญไร เพราะพ่อเลี้ยงตั้งให้จากความเกลียดชังส่วนตัวที่เป็นเด็กที่เกิดจากการที่แม่ถูกข่มขืน หรืออย่างชื่อนางเอกเรื่องคุณชายธราธร ที่นางเอกชื่อระวีรำไพ ก็เพราะพ่อชื่ออาทิตยรังสี วึ่งมันเหมือนเป็นกิมมิคเล็กๆ ที่ผู้เขียนใส่ไว้ไหมวะ ว่าเจ้าสมัยก่อนนิยมตั้งชื่อลูกเป็นเซ็ตๆ ไม่ให้ต่างจากพ่อแม่นัก โดยรวม ชื่อตัวละครสำหรับนักเขียนหลายคน มันอาจจะทั้งแฝงความนัยหรือไม่แฝงก็ได้อะ บางคนก็เลือกเอาตามสบายใจ แต่บางคนเขาก็คิดลึกกว่านั้น ประมาณนี้แหละ

110 Nameless Fanboi Posted ID:Jt6F6UJkI

ชื่อตัวละครกุนอกจากตัวเอก กุจะตั้งแต่หาความหมายตรงกับปมในเรื่อง(ไม่คิดว่าคนอ่านจะหาความหมาย) แล้วตัวรองสุ่มแม่งหมด555

111 Nameless Fanboi Posted ID:+L5.XWclc

กูตั้งโดยคิดว่าตัวเองเป็นพ่อเป็นแม่ตัวละครนั้น หรือเป็นคนที่ตั้งชื่อให้จริงๆเลยอ่ะ จะตั้งว่าไงว่ะ อย่างถ้าพื้นหลังตัวละครเป็นกำนันหมู่บ้านเมื่อ 50 ปีก่อน คงไม่ตั้งชื่อลูกสาวว่าอริสราหรอก ถ้าตั้งเองชื่อนี้นี่ก็จะสงสัยพื้นเพกำนันมาก ว่ากำนันต้องเป็นคนเมืองแน่ๆ <<<< อะไรราวๆนี้

112 Nameless Fanboi Posted ID:anjWaU5HK

พวกมึง เวลาแต่งนิยายที่ต้องใช้ฉากต่างประเทศ หรือเกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ไปหาข้อมูลที่ไหนกันวะ ถ้าจะสัมภาษณ์จากคนที่เคยไปประเทศนั้นๆ หรือเคยทำงานเป็นอาชีพที่เราอยากรู้ ต้องจ้างเขามั้ย

ปล.ไปถามมู้นักวาดมา เขาบอกให้มาที่นี่ หุหิ

113 Nameless Fanboi Posted ID:NM/GKF90h

>>112 ฉากกุอาศัยดูหนังและก็กระทู้ท่องเที่ยว บล็อก ดูรูปภาพแล้วบรรยายเอา ส่วนอาชีพกุอยากรุ้เหมือนกัน เคยคิดจะตั้งกระทู้พันทิปให้คนมาแชร์ชื่อตำแหน่ง จ้อบดิสคริปชั่นตอนสมัครงาน และขอบเขตงานเวลาได้ทำจริงอยู่เหมือนกัน แต่กูป๊อดๆ กลัวพันทิปเลยไม่ได้ตั้งที

114 Nameless Fanboi Posted ID:PET3CrxOq

>>112 ขึ้นอยู่กับว่าอยากจะได้รายละเอียดลึกขนาดไหน
ถ้าลึกก็ต้องไปดูงาน ไปลองทำ หรือไม่ก็เก็บข้อมูลละเอียด แต่ถ้าเอาไม่ลึกก็ใช้วิธีมักง่ายเปิดวิกิฯ ก็พอละ

115 Nameless Fanboi Posted ID:anjWaU5HK

>>113 >>114 ขอบใจพวกมึงมาก ปกติกุใช้ google earth ดูบรรยากาศประเทศเอา 555 อย่างน้อยก็ได้ดูภูมิประเทศคร่าวๆ ขอบคุณนะมึง

116 Nameless Fanboi Posted ID:z5ERkssBE

>>112 พวกอาชีพถ้าจะได้บรรยากาศจริงๆแม่งยากนะ อย่างบางเรื่องที่แบบดีมากๆแม่งรู้สึกเลยว่า คนเขียนแม่งทำอาชีพเดียวกับตัวละครชัวร์

117 Nameless Fanboi Posted ID:+qYiabvlj

>>112 ฉากต่างประเทศกูเอาที่กูเคยเห็นมา แต่เอาจริงๆกูก็รู้อะไรไม่เยอะไปอยู่แค่ปีเดียวแถมกูยังจิตตกอาการซึมเศร้ากำเริบอีก แต่มันก็ทำให้กูได้รู้แนวคิดคนต่างชาติพอสมควร
ส่วนอาชีพกูจะชอบแต่งอะไรที่ใกล้ตัวหน่อย อย่างกูมาสายการแพทย์เพื่อนกูก็มาทางนี้เยอะกูก็จะแต่งทางนี้ ไม่ก็หาข้อมูลเอา

118 Nameless Fanboi Posted ID:a/iTcA/zj

ขอพื้นที่บ่นนิด กูตั้งใจแต่งนิยายแต่ละตอนมาก กว่าจะออกมาตอนนึงคือวางพลอตซ้อนไว้หลายชั้น นิยายกูไม่มีเรื่องรักๆเน้นเนื้อหาผจญภัย95%กุ๊กกิ๊กแบบหอมปากหอมคอ แต่คนอ่านน้อยโคตรรรรร คือคนที่เข้ามาอ่านก็มีชมนะว่าภาษาดีเนื้อเรื่องน่าสนุก พยายามจะไม่เหลิงนะแต่กูก็ดีใจแหละ แต่ในฐานะนักเขียนที่ตั้งใจเขียนก็อยากให้มีคนมาอ่านเยอะๆว่ะ เข้าไปอ่านพวกนิยายติดท็อปเพื่อศึกษาแล้วกูรู้สึกผิดแปลกมาก แม่งไม่ใช่แนวเลย และนิยายติดท็อปที่กูสุ่มกดไปแม่งมีแต่บทพูดไม่มีบรรยายพรรณาใดๆ เห็นแล้วท้อว่ะ

119 Nameless Fanboi Posted ID:HBwmkMZsJ

>>118 ไม่ใช่มึงคนเดียวที่คิดงั้นหรอก 555

120 Nameless Fanboi Posted ID:LZvOc90oZ

>>118 ยินดีด้วย มึงได้รู้สัจจธรรมแห่งวงการ Web novel แล้ว

121 Nameless Fanboi Posted ID:a8ph/04VU

>>118 เป็นกำลังใจให้มึงว่ะ ติดท็อปนี่หลายเรื่องต้องไร้สมองในการอ่าน แม่งคำผิด เรื่องก็็อปนิยายจีน มีแต่บรรยายเหมือนนิยายไทย
บวกท่าเย่แยะๆ

122 Nameless Fanboi Posted ID:IWiU.4N/Y

>>118 จริงๆ นิยายมึงอาจจะสนุกไม่พอ อาจจะแค่ ก็น่าสนุกดี มึงลองนึกถึงหนังนะ หนังประเภทที่คนบอกว่ามันก็ดี แปลว่าอะไร แปลว่าดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ เทียบกับหนังที่คนด่าฉิบหายในขณะเดียวกันก็มีแฟนคลับชอบฉิบหาย อย่างหลังคนดูเยอะกว่า มึงอยากแต่งให้คนอ่านเยอะมึงอย่าคิดเข้าข้างตัวเองมากแล้วก็อย่าอคติกับเรื่องที่คนตามมาก มึงไปทำความเข้าใจ ข้อเสียมันอาจจะร้อยแปดข้อดีมีข้อสองข้อ แต่ข้อสองข้อนั่นมันโดนคนอ่านมากกว่าข้อดีร้อยแปดของมึงก็ได้ แต่ถ้ามึงยึดว่านิยายมึงเป็นนิยายคุณภาพในแบบที่มึงอยากให้เป็นมึงก็อย่าไปซีเรียสคนอ่านมาก อย่าเอาไปเทียบนิยายคนอ่านเยอะ แนวทางมันอาจจะต่างกัน

123 Nameless Fanboi Posted ID:G8gg31+dP

กุแม่งน้อยใจกว่านิยายกุแนวค่อยๆรัก
เดิ่งจะเริ่มแม่งมีคนมาทวงnc ..
สลัดนางเอกกุยังไม่พ้นประถมเลย

124 Nameless Fanboi Posted ID:AcznQddvH

>>123 เขียนตอนพิเศษ เป็นnc ที่ตอนจบพระเอกโดนจับข้อหาพรากผู้เยาว์เบย

125 Nameless Fanboi Posted ID:ADD.iK44z

>>124 ดาร์กเลย

126 Nameless Fanboi Posted ID:hcn4vwM/Q

>>123 เหยด Loli

127 Nameless Fanboi Posted ID:DSerTq5fC

กูเป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่เคยติดท็อปเด็กดวกนะมึง ระดับ 1-5
กูแค่อัพทุกวัน อ่ะๆ กูไม่ได้อัพหลอกอัพลมนะ กูอยู่โม่ง กูก็ไม่ชอบแถมขี้เกียจอัพหลอกด้วย กูอัพวันละครั้ง ครั้งละประมาณสามสี่หน้าเอสี่ อ่ะๆ นิยายกูไม่ใช่แนวขายฉากเยนะ ดักคอไว้ก่อน

ตอนเริ่มเปิดเรื่องใหม่ๆ กูก็ท้อ ไม่มีคนอ่าน เม้นต์ไม่ต้องพูดถึงน้อยมากสำหรับกู แต่พอถึงจุดหนึ่งคนแห่มาจากไหนไม่รู้ มากันพรึ่บ ยอดฟูจนงง
เพราะฉะนั้นการอัพงานเป็นเวลาและแน่นอนจะช่วยมึงได้มาก
ส่วนเทคนิคเพิ่มยอดโดยไม่ต้องอัพหลอกมันมีเยอะแยะ จับจุดให้ได้ก็แล้วกันค่ะมึง ไม่ใช่คนอ่านงานตัวเองน้อยแล้วมาแขวะเรื่องอื่น คิดแบบนั้นมันบั่นทอนค่ะ

ปล.กูไม่แตะเรื่องสนุกไม่สนุกนะ งานใครงานมันพัฒนากันเอง

128 Nameless Fanboi Posted ID:oVgnLSQNJ

>>126 ไม่ช่ายยยย เดี๋ยวสิบตอนก็โตแล้ว

129 Nameless Fanboi Posted ID:BvZ6SeI7G

เฮ้อ ...กุอยากเปลี่ยนสไตล์การเล่าเรื่องจัง ตอนแรกไม่ทันคิดว่ามีวิธีนี้ เลยใช้วิธีเล่าแบบเก็บทุกเม็ดไปซะงั้น
พอรู้ตัวอีกทีตอนนี้ก็เขียนไปถึง 400 หน้าแล้ว ...กุควรลบแก้ใหม่หมดเลยมั้ยเนี่ย

130 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

ตอนละสิบสองสิบสามหน้าเอสี่มันเยอะไปแมะมึง แค่สามตอนแรกนิยายกูปาไปห้าสิบกว่าหน้าแล้ว= =
แม่งเพลิน ตัวละครกูมันเป็นพวกนิสัยฟุ้งซ่านเลยจัดเต็มตามความคิดนาง แม่งยาวเลย เหมือนตัวละครสิงกูให้เขียนจริงๆ

131 Nameless Fanboi Posted ID:YgOv2wjQi

>>130 ถ้าลงในเว็บกูว่าเยอะไป นอกจากซอยแบ่งตอนลง

132 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

>>131 วันหลังค่อยทำละกัน ป่านนี้นักอ่านของกุน่าจะชินกับตนยาวๆ ไปแล้ว ลงอาทิตย์ละครั้ง๕๕๕

133 Nameless Fanboi Posted ID:CGQKLqq8D

ขอก๊อปมาแปะตรงนี้นะ พึ่งรุ้ตัวว่าไปถามในเม้นที่ 999 แล้วปิดมู้เลย
ถามหน่อย คือกุเรียนมหาลัยอินเตอร์ในไทยที่มีนศ.ต่างชาติเยอะมาก ทั้งเยอรมัน ฝรั่งเศส ออสเตรีย อินเดีย อิหร่าน อังกฤษ สวิส เมกา บราซิล กินี ไนจีเรีย เดนมาร์ก ยันเพื่อนบ้าน ฯลฯ อาจารย์ส่วนใหญ่ก็มาจากยุโรป แล้วกุจะเขียนนิยายโดยอ้างอิงเซตติ้งจากม.กูเนี่ยแหละ อ่านแล้วจะรุ้สึกอินมั้ยวะ คือไม่ใช่อะไรหรอกลำพังแค่กูเล่าให้ญาติฟังว่าม.กูอย่างงั้นๆ เขาก็นึกภาพไม่ออก ไม่ชื่อว่าในไทยมีม.แบบนี้อยู่ด้วยแล้ว เขาจะติดภาพแบบว่าภาคอินเตอร์คงมีหัวทองสักสามคนในห้าร้อย ต่างชาติที่เหลือเป็นเพื่อนบ้าน 70เปอเซ็นต์เป็นไทยหมดอะไรงี้ จริงๆ จะเปลี่ยนเป็นม.คนไทยทั้งหมดก็ได้แหละ แต่กูแค่กูไม่ค่อยโปรเรื่องกิจกรรม หรือความรักสถาบัน เคารพรุ่นพี่อะไรพวกนี้ ไม่อยากจะเขียนอะไรที่กูไม่รู้ว่ะ

134 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

>>133 มอมันไม่ได้เหมือนกันทุกมอซักหน่อยไม่เป็นไรหรอก
มอกุยังต่างคนต่างอยู่เลยภาคปกติด้วย ไม่เคารพใครทั้งนั้น๕๕๕
ภาคอินเตอร์มอกูมีคนไทยเกินครึ่ง จีนอีก30% ฝรั่ง 5% นิโกร 5%
กิจกรรมก็มีร่วมกับคณะไรพวกนี้ แต่เห็นม่รับน้องละภาคอินเตอร์หรือมีเล็กๆ น้อยๆ พอหอมปากหอมคอ แต่ไม่เห็นมีถึงขั้นเต้นไก่ย่างไปมาต่อหน้าสาธารณะชน

135 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

>>133 เพิ่ม มันอยู่ที่ฝีมือการบรรยายเรื่องของมึงจะทำให้คนอินได้มั้ย

136 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

เขียนนิยายรัก แต่ไม่เคยรักใคร นี่กุโตเป็นผู้ใหญ่ละนะเนี่ย เง้อ มีใครเป็นมั่ง๕๕๕
พอแบบแต่งมาตรรกะความรักในนิยายกุเพี้ยนมาก นักอ่านว่าตัวละครกุยันเดเระชิบหาย
หรือตัวตนกุมันยันเดเระ

137 Nameless Fanboi Posted ID:.aF7Uwsqg

>>136 กุก็แก่จะตายละแต่ก็ไม่เคยมีความรักกับเขาสักที ชีวิตกุก็มีแต่ปมเต็มไปหมด พอมาแต่งนิยายรักคนอ่านก็บอกว่าตัวละครกูมันเป็นพวกมีปม ดูท่าจะลงเอยเรื่องรักๆยาก คนอ่านเลยบอกกุว่าขอจบเคลียร์​ปมตัวละครให้หมดเถอะเรื่องรักค่อยว่ากันอีกที

138 Nameless Fanboi Posted ID:FKu7hMev7

>>136 ถ้ามึงมีรัก
ระวังนิยายจะยันกว่าเดิม เชื่อกุกุผ่านมาแล้ว

139 Nameless Fanboi Posted ID:3HC+WcRwB

>>136 กูว่าการมีความรักจะทำให้เขียนง่ายขึ้น นิยายทุกเล่มของกูมีความรักส่วนตัวกูอยู่ในนั้นหมด

140 Nameless Fanboi Posted ID:volbrw.L2

>>136 บางทีถ้ามึงไม่เคยมีความรัก อาจจะต้องศึกษาความรักของคนรอบข้างใส่ลงไปว่ะ แล้วมันจะดูเรียลมากขึ้น แต่เอาจริงๆ ปะ บางทีความรักของแต่ละคน มันก็ตรรกะวิบัติชนิดกู่ไม่กลับอะมึงงงง ดูอย่างเพื่อนกู เลิกกับอิแฟนคนที่คบกันอยู่ปัจจุบันมาแปดครั้งแล้ว แต่ก็ยังกลับมาคบกันอีก มันบ่นว่าเบื่อฉิบหาย แต่มันก็ยังกลับไปคบ มันบอกมันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เออ กูก็ไม่เข้าใจเพื่อนกูเหมือนกัน

141 Nameless Fanboi Posted ID:FYyi9RV36

>>140 กุอ่านยังไม่เข้าใจเพื่อนมุงเหมือนกัน เพื่อนมุงเป็นไรรร

142 Nameless Fanboi Posted ID:lh7xtwr6c

>>141 กูเข้าใจว่าเพื่อน >>140 มันคบๆเลิกๆแฟนคนเดียวกันมา 8 ครั้งแล้ว แล้วก็ชอบมาบ่นๆกับ >>140

143 Nameless Fanboi Posted ID:p+wFSD0gU

>>140 กูคาดว่าเพื่อนมึงคงคบ ๆ เลิก ๆ ตลอดไปแหละ คนจริงไม่เลิกหลายรอบ ตูมเดียวเลยแบบแอฟ

144 Nameless Fanboi Posted ID:FYyi9RV36

แต่งนิยายทำยังไงไม่ให้บรรยายเยอะเกินไปวะ
กุมาอ่านของตัวเองทีหลังแล้วอยากจะตบตัวเองชิบหาย ตัวเอกกูเป็นพวกคิดมาก พอกุแต่งละอิน มันอินจริงๆ ว่ะมึงเหมือนตัวกุเป็นตัวละครนั้น แต่มันเยอะไปอ่ะ เยอะชิบหายบรรยายยาว กุอยากตบตัวละครตัวเองและตัวเองด้วย

145 Nameless Fanboi Posted ID:dZRvQmKmg

>>144 แล้วคนอ่านมีปัญหาบ่นๆปะ ถ้าไม่มีก็แต่งแบบที่ต้องการแต่งไป กูเคยแต่งแบบทั้งบทห้าหน้าเป็นบรรยายหมดมีบทพูดประโยคเดียว ทั้งๆที่ในเนื้อเรื่องก็มีบทพูดนะแต่กูใช้การบรรยายบทพูดผ่านๆในบทบรรยายความคิดตัวละครแทนเพราะอยากให้ได้อารมณ์ว่ามันฟังเฉยๆแค่ผ่านหูไม่ใส่ใจ แล้วกูก็เคยอ่านนิยาย YA ของฝรั่งหลายๆเรื่องที่ตัวเอกมันอีโมๆหน่อยบทหนึ่งใช้สองมือนับประโยคคำพูดก็ยังเหลือก็มี เพราะงั้นแต่งแบบที่ชอบไปเถอะมันเป็นสไตล์

146 Nameless Fanboi Posted ID:k2BcSGTb0

>>144 กูก็ติดบรรยาย คนอ่านยังพูดเลยว่ากูแบบสายบรรยายเยอะ แต่ก็ไม่มีคนบ่นอะไร แต่เอาจริงๆ คนอ่านจะบ่นออวะปกติ กูไม่เห็นคนอ่านจะบ่นอะไรสักอย่างเลยนะ คือกูว่าต่อให้มันไม่ดี (โอเคอาจจะไม่ได้ไม่ดีเว่ออออะไร) แต่แบบถ้ามันไม่ดีแบบมีข้อติ คนอ่านส่วนมากก้ไม่ค่อยตินะเว่ย มันต้องแบบอ่านเองแล้วรู้เอง ไม่ก็ให้คนเขียนด้วยกันเป็นคนติอ่ะ

147 Nameless Fanboi Posted ID:vXV08Yf4s

>>145 มีแต่เพื่อนกุบ่นว่ายาวไปตาลาย คนอ่านฝในเว็บไม่มีใครบ่นนะ

148 Nameless Fanboi Posted ID:SzLKcnwry

เพื่อนโม่ง อยากถามนิดว่าแต่ละตอนของแต่ละคนนี่ยาวกี่หน้า a4 ฟ้อนต์ 14 อ่ะ

149 Nameless Fanboi Posted ID:prB6YV62Z

>>148 cordia new 14 จะตกที่3-4หน้า ปกติกุจะไม่ให้เกิน3000คำ แต่พอไปลงกุก็ปรับเป็น16อยู่ดี 14เล็กไปก็จะตกประมาณ 6-7หน้า

150 Nameless Fanboi Posted ID:U9EYD4HB3

>>148 ของกู คอร์เดีย 14 อย่างน้อย 10 หน้า อย่างเยอะ 20 แต่ A5 นะ แบบจัดหน้าพร้อมพิมพ์แล้วอ่ะ แบบ line spacing 17
ปกติกูพิมพ์ในฟอร์มนี้ตลอด จะได้ไม่ต้องมาจัดหน้าใหม่อีกรอบ

151 Nameless Fanboi Posted ID:A1Co/FCbS

>>148 ของเราอยู่ที่ 3500 - 4000 คำ ขนาดตัวอักษรก็เหมือนกับพวกข้างบนน่ะ ชอบยาว ๆ

152 Nameless Fanboi Posted ID:vXV08Yf4s

>>148 18 หน้า...
กุผิดไปแล้ว

153 Nameless Fanboi Posted ID:vXV08Yf4s

>>152 มีแต่กุใช้Angsana newเร้อะ

154 Nameless Fanboi Posted ID:U9EYD4HB3

>>153 กูไม่ค่อยชอบ angsana อ่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเขียนรายงาน แต่ตอนนี้ก็เริ่มเบื่อคอเดียนะ มีใครใช้ฟอนต์อะไรสวยๆมะ

155 Nameless Fanboi Posted ID:405YTCSKP

>>154 กูชอบ browallia

156 Nameless Fanboi Posted ID:vXV08Yf4s

>>154 กูใช้คอร์เดียแล้ว วรรณยุกต์กับสระ มันเลื่อนมาข้างหน้ากันว่ะ อย่างสระ อุ ปกติมันอยู่เกือบหลังๆ ใต้อักษรใช้มะ มันเลื่อนมาหน้าๆ แทน

157 Nameless Fanboi Posted ID:eQoY.OXhJ

>>154 ใช้แต่สารบัญ กูว่ามันง่ายสบายตาสุด..

158 Nameless Fanboi Posted ID:X32kjlosA

>>148 30-50 หน้า... แต่กุแบ่งทยอยลงประมาณ 7-8 หน้า (ประมาณ 3000 คำ)
ใช้ cordia new 16 จัดช่องว่างระหว่างย่อหน้า 1.0 ความกว้างระหว่างบรรทัด 10p

159 Nameless Fanboi Posted ID:OKxHU.Xcw

ฮือ... กุต้องเขียนยังไงวะถึงจะเข้าถึงอารมณ์?
คนอ่านกุบอกว่าเนื้อเรื่องดีแล้ว แต่บรรยายยังไม่ถึงอารมณ์ซะงั้น กุไม่รู้เลยจะไปปรับปรุงยังไง

160 Nameless Fanboi Posted ID:.EfDBGXpL

>>159 ตัวมึงเองอินยัง แบบเขียนฉากเศร้า มึงร้องไห้เลยมั้ย
คือกูว่าถ้าตัวเองอินมากๆ มันน่าจะเขียนออกมาได้นะ ปกติกูเขียนฉากเศร้ากูร้องตามตลอดเลย 55555 คนอ่านก็ต้องร้องตามกู กูถึงจะถือว่าโอเค ฉากเศร้าของกูนิผ่านนน

161 Nameless Fanboi Posted ID:wt7aUmQWA

>>159 ลองกลับไปอ่านนิยายตัวเองดู ว่ามึงอ่านของตัวเองแล้วอินไหม

162 Nameless Fanboi Posted ID:UNT8loEk5

>>160 >>161 ถ้าบังเอิญกุตายด้านกุต้องทำไงวะ

163 Nameless Fanboi Posted ID:wt7aUmQWA

>>162 เอามาให้กุอ่าน อิอิ

164 Nameless Fanboi Posted ID:wt7aUmQWA

เชี่ยกุเพิ่งรู้ตัวเองเขียนสังเกตผิดมาตลอด กุเขียนเป็นสังเกตุ อายชิบหาย อายวายวอด

165 Nameless Fanboi Posted ID:QGVhnK/Ge

ทำยังไงไม่ให้ตัวเองเป็นนักเขียนวิตกจริตมัวแต่กังวลยอดเฟบกับวิว

166 Nameless Fanboi Posted ID:TpxPQIAsS

เห็นทู้ในพันทิปที่นักเขียนในเด็กดีไล่คนอ่านไปตายแล้วสยองว่ะ ป่วยฉิบ

167 Nameless Fanboi Posted ID:EDRxWOcIv

>>165 อย่าไปมองมันอะมึง ท่องเอาไว้ว่าอย่าไปมอง เมื่อก่อนกูนี่มองทุกวัน หลังๆ ปลง ไม่มองแม่งละ มามองคอมเมนต์แทน วิตกจริตหนักกว่าเดิม

168 Nameless Fanboi Posted ID:tUaPBYpI2

>>165 กูทำไม่ได้บอกเลย ยอกเม้นตกนี่กูแบบประสาทแดกละ แบบกูทำไรผิด ทำไมไม่ชอบกูแล้วหรอออออไรงี้

169 Nameless Fanboi Posted ID:288cHFqmJ

>>166 นั่นดิ เกิดมาเพิ่งเคยเจอ นักเขียนไล่คนอ่านไปตาย แนะนำวิธีเสร็จสรรพ
ไอ้คนที่คอมเม้นต์นิยายเขาก็ไม่ได้จะด่าทอหยาบคายเลย เขาแค่อินกับนิยายเฉยๆ นักเขียนแม่งควรพบจิตแพทย์

170 Nameless Fanboi Posted ID:/eBZtZhNQ

>>169 เหมือนเป็นไบโพลาร์ขั้นรุนแรง พยายามประกาศมากว่าเขียนนิยายสีขาว แต่การปะทะกับคนอ่านนี่บั่บว่า..............................

171 Nameless Fanboi Posted ID:EDRxWOcIv

>>166 ขอลิงก์ทู้หน่อย ไม่ได้ตามว่ะ แต่อยากเสือก

172 Nameless Fanboi Posted ID:tUaPBYpI2

>>171 https://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=1107548&chapter=294

173 Nameless Fanboi Posted ID:EDRxWOcIv

>>172 อ่านละมึง นักเขียนแม่งโหดสัสรัสเซียไปไหนวะ เมาขี้ตาหรือเมาตดอะไรขนาดนั้นอะ นักอ่านก่อดราม่าไรวะ เขาแค่อิน 55555555555555555

174 Nameless Fanboi Posted ID:/56LX+aOg

นักเขียนแม่งอาการหนักกว่ากุอีก

175 Nameless Fanboi Posted ID:kJlTCpsX1

เห็นเพื่อนนักเขียนคุยกันในเฟส เคยมีคนโดนด่าเหมือนกัน3ปีที่แล้ว ไม่ได้เพิ่งเป็นหรอกนะคนนี้

176 Nameless Fanboi Posted ID:oRIPIEVZ6

ไม่รู้ว่าจะถามไหน เอาเป็นว่าขอ KY ถามในนี้แล้วกัน
คือกูอยากรู้ว่าผู้หญิงแนว Under dog นี่ในสายตาคนอื่นเขาเห็นเป็นยังไงบ้าง?
ขอยกตัวอย่างนางเอกที่กูกำลังเขียนนะ คือเจ้าตัวชาติตระกูลต้อยต่ำมาก เป็นแค่คนชนชั้นแรงงานแถมยังเป็นสาวบ้านนอก ทว่าดันมีคุณชายมาตกหลุมรัก แต่คุณชายคนนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้วซึ่งเป็นไฮโซลูกคุณหนูนั่นล่ะ
นางเอกเองก็ไม่มีอำนาจอะไรไปทวงไปท้วงจึงได้แต่แอบคบกันไปเรื่อยๆ เท่านั้น
คืออยากรู้ว่าผู้หญิงแบบนี้คนอ่านจะรำคาญรึเปล่า? เพราะกูไม่อยากสร้างนางเอกขี้เหวี่ยงขี้วีนเลยอะ

177 Nameless Fanboi Posted ID:EDRxWOcIv

>>176 กูจะรำคาญ ถ้านางเอกมันง้องแง้งเจ้าน้ำตาว่ะ แต่ถ้าต่ำต้อย แล้วคบกันไปเรื่อยๆ หนักแน่นในความสัมพันธ์ กูจะเฉยๆ เพราะในเมื่อทักท้วงไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ หนีตามกันก็ยังไม่ได้ สู้คบแอบๆ ต่อไปมันก็โอเคไหมวะ 5555

178 Nameless Fanboi Posted ID:oRIPIEVZ6

>>177 นั่นล่ะที่กูกำลังคิดเลย - -
คือมันกลายเป็นรักคนมีเจ้าของเนี่ยล่ะ จะท้วงอะไรก็ไม่ได้ แบบนี้มันจะดูแหม่งๆ รึเปล่าหว่า?
ถึงในเรื่องจะระบุว่า พระเอกไม่ได้ชอบคู่หมั้นอยู่แล้วก็เถอะ แต่การที่นางเอกลงไปเล่นด้วยกับคุณชายทั้งที่รู้ว่าเขามีเจ้าของแล้ว แบบนี้มันดูแหม่งๆ มั้ยหว่า

179 Nameless Fanboi Posted ID:zLBXrOmaE

>>176 ขอโทษนะมึง กุบอกตรงๆ แนวนี้เกลื่อนตลาดแล้วซ้ำซาก แค่อ่านบรรยายกูยังรำคาญ อีเชี่ย เหมือนพวกไม่หนักแน่นไรเลย แล้วดันเป็นประเภทที่ผู้หญิงด้วยกันจะเกลียดมาก คนอาจจะเกลียดตัวเอกมึงไปเลย อย่าไปไล่เขาไปตายแบบนขคนหนึ่งนะ๕๕๕

180 Nameless Fanboi Posted ID:zLBXrOmaE

>>178 นางเอกมันแรด อุ๊บส์

181 Nameless Fanboi Posted ID:zLBXrOmaE

>>176 เหวี่ยงเยอะแล้วเงียบทนก็เยอะ มึงลองนางเอกทางสายกลางดิ้

182 Nameless Fanboi Posted ID:1hQ1KY8PH

>>176 กูไม่โอเคกับการที่ไปรักคนมีเจ้าของอะ อย่าว่าแต่คู่หมั้นเลย แค่เป็นแฟน แต่ยังไม่เลิกกัน มาแอบคบกันลับหลังแบบนี้ก็ไม่โอเค อ่านแล้วกูจะไม่เอาใจช่วยความรักของคู่นี้เลย เพราะจะรู้สึกว่าผู้ชายโลเล ทำอะไรไม่เด็ดขาด ส่วนผู้หญิงก็แรดเงียบ จะมาบอกว่าผู้ชายไม่ได้รักคู่หมั้น กูมองว่าแค่ข้ออ้างว่ะ ถ้ายังเคลียร์ตัวเองไม่ได้ก็ไม่ควรมายุ่งอะ ไม่งั้นอยู่ต่อๆไป ขัดการแต่งงานไม่ได้ แต่งกะคู่หมั้นไปวันดีคืนดีนางเอกได้เป็นเมียน้อยแทนซะงั้น

183 Nameless Fanboi Posted ID:o51XV0EH3

ฮือ นางเอกกูเรื่องนึงเป็นแบบที่พวกมึงไม่โอเลยอะ แต่ของกูมันมีผู้ชายที่คบกันแบบมากกว่าเพื่อน เกินคนรู้จัก แต่ไม่ใช่แฟนอยู่คนนึง ซึ่งก็โอเคกับคสพ.แบบนี้ทั้งสองฝ่าย และสุดท้ายคนที่นางลงเอยด้วยก็เป็นคนอื่น กูสงสารพระรองนะ แต่กูให้มันคู่กันไม่ได้จริง ๆ นิสัยมันไม่แมชต์ว่ะ

184 Nameless Fanboi Posted ID:9Rzh2elEn

พูดถึงเรื่องยุ่งกับคนมีเจ้าของ พวกมึงมีความเห็นยังไงกันบ้างวะ คือนางเอกกูก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วแม้จะไม่ได้รักกันเลย ในความจริงแล้วพระเอกมันควรจะอยู่ห่างๆกันไว้ใช่ม้ะ อห แล้วกว่าจะได้รักกัน กูกลัวคนอ่านรำคาญ ด่าพระเอกกูป๊อดอะ จะให้ไปแย่งมาเลยจะดูเหี้ยกว่าเดิมมั้ย ฮืออ

185 Nameless Fanboi Posted ID:XyVfqvggK

>>184 ถ้าพระเอกแสดงออกด้วยการเอาใจใส่มาตลอด แต่ไม่ได้รุกจีบอ่ะ อธิบายไงดีวะ ประมาณพระรองในซีรี่ส์ที่ไม่ได้จะแย่งนางเอกจากพระเอกอะ พอคู่เขาแตกแยกกันเองค่อยเสียบแบบนี้กูเชียร์นะ ไม่หาว่าป๊อดด้วย แต่มึงต้องเขียนบรรยายครส.ดีๆหน่อย
ถึงจะเป็นตัวเอกแต่ถ้าไปแย่งแฟนชาวบ้านนี่กูรับไม่ได้

186 Nameless Fanboi Posted ID:h+dMKCprT

ในนี้มีใครที่หาเลี้ยงตัวเองจากงานเขียนบ้างมั้ย แบบ..เป็นรายได้เสริมอะไรอย่างงี้บ้างก็ได้
กูอยากรู้ว่าส่วนใหญ่นี่เขียนเป็นอาชีพหรือเขียนให้อ่านฟรีตามเว็บ

187 Nameless Fanboi Posted ID:P5csC/3Ob

>>186 ก็หานะ แต่หาได้ไม่พอแดกหรอก ถ้าเป็นอาชีพอ่ะ เป็นค่าขนมแดกพอได้ ไม่งั้นต้องมีความเร็วระดับเขียนหนึ่งเรื่องต่อหนึ่งเดือน เปิดพรีทุกเดือนแบบนั้นอาจจะพอใช้แดกข้าวได้
ไม่รู้อ่ะ กูคิดว่าอะไรที่กูทำมันต้องมีอะไรงอกเงยกลับมามั่ง นิดๆหน่อยๆก็ยังดีวะ

188 Nameless Fanboi Posted ID:gcX+m2fzV

>>186 เขียนปีละเล่มออกกะสนพ. ถ้าไม่มีภาระอะไรก็พอไหว ปีไหนขายละครได้ก็สบายไป

189 Nameless Fanboi Posted ID:h+dMKCprT

ขอบใจ คือกูเป็นคนอ่านนั่นแหละ มาคิดๆดูเหมือนพฤติกรรมการอ่านมันเปลี่ยนคนเริ่มมาขายอีบุ๊คหรือเป็นตอนๆตามเน็ต กำลังซื้อน่าจะลดลงถ้าเทียบกับขายเป็นเล่ม เหมือนยังไม่ค่อยนิยมมากแล้วก็มีพวกแสกนทำให้เสียรายได้
แต่ตีพิมพ์เป็นเล่มก็มีปัญหากับสำนักพิมพ์ไม่จ่ายตามสัญญาอะไรอย่างนี้ (แต่คงไม่โดนทุกคนหรอกมั้ง)
เลยสงสัยว่านักเขียนจะอยู่กันยังไง หรือเขียนฟรีตามฝันตามใจไปเรื่อย

190 Nameless Fanboi Posted ID:gcX+m2fzV

>>189 ถ้าเขียนอาชีพแล้วผูกกะสนพ.อันนี้ก็ไม่ค่อยยากหรอกถ้ามือนิ่งแล้ว คุยได้ว่างานเสร็จเมื่อไหร่ก็ขอคิวส่ง (แต่จะเป็นที่รักแล้วได้ดันเท่านข.ในเว็บยอดอ่านเยอะๆรึเปล่านี่อีกเรื่องนึง) ถ้าจะทำงานนี้นานๆจริงๆต้องเข้าใจธรรมชาติของวงการด้วยสโลว์ไลฟ์ไปอีก ส่วนเรื่องสนพ.โกงเงินถ้าไม่ใช่หน้าใหม่ส่วนใหญ่ก็จะพอรู้กันอยู่แล้ว มาพิมพ์เองคงได้เงินเร็วและง่ายกว่า แต่ถ้าขี้เกียจรับความเสียงก็ส่งสนพ.ไป

191 Nameless Fanboi Posted ID:cRJwCOFbB

มึงว่ากูคิดมากไปป่ะวะ ที่เวลาจะเขียนอะไรแล้วต้องเป๊ะทุกอย่าง บอกที่มาปมทุกอย่าง ภูมิหลังครอบครัว อดีตแต่ละคน จนมันดูเยอะเกินไป
เพิ่งเริ่มคิดว่ามันไม่จำเป็นก็ตอนมาอ่านของนข.บางคน ปรากฏว่าของคนนั้นไม่เห็นต้องเปิดเผยอะไรมากเลย บางอันแม่งก็ไม่มีเหตุผลเอาดื้อๆ หรือไม่ก็ทิ้งปมแม่งไว้อย่างนั้นด้วยซ้ำ แต่เสือกสนุก (?)
กูควรยึดแนวกูต่อไปหรือทิ้งๆไปบ้างดีวะ บางทีเพราะกูคิดเยอะเกินไปจนเขียนแล้วเหนื่อยต้องมาเจาะข้อมูลอะ

192 Nameless Fanboi Posted ID:0afBh0XRD

>>191 ยีดแนวทางมึงไปเถอะ

193 Nameless Fanboi Posted ID:P5csC/3Ob

>>191 กูพยายามไม่เปิดปมเยอะนะ แบบแค่กูมีใส่ปมกับตัวละครตัวเดียวเนี่ย คนอ่านยังเริ่มงงกันแล้ว แบบมันต้องตั้งสติตั้งใจอ่านนิดนึงอ่ะ คือคนส่วนมากแบบชอบฉากหวานๆ รอฉากโรแมนติกกัน กูก็แบบตัวละครกูก็ต้องปมบ้าง ปริศนาที่วางก็ต้องคลี่คลายบ้าง 55555 ไม่กล้าใส่ปมเยอะ กลัวมันจะเยอะเกิน

194 Nameless Fanboi Posted ID:O6krZAN+K

>>189 มันมีทั้งเขียนเป็นงานเสริมกับงานหลักนั่นแหละ ถ้าอยู่ได้ก็อาจเขียนเป็นงานหลัก ถ้าอยู่ไม่ได้ก็เขียนเป็นงานเสริม พวกที่เขียนเป็นงานหลักคือยอดขายดีมากหรือเขียนได้เร็วมาก อาจจะออกกับสำนักพิมพ์หรือทำมือเองก็ได้ แต่คิดว่ารุ่นใหม่ๆ ที่เขียนเป็นงานหลักน่าจะทำมือกันเยอะกว่า
>>191 ถ้าคิดว่าเยอะไปก็ทบทวนแล้วก็ปรับปรุง ขนาดมึงเขียนเองยังคิดว่าเยอะเลยคนอ่านก็คงคิดเหมือนกันแหละ

195 Nameless Fanboi Posted ID:j2RzqH5p4

>>191 เราพยายามเปิดปมบทนี้แก้บทต่อไปเลยอ่ะ แต่บทต่อ ๆ ไปก็มีกล่าวย้อนบ้างเพื่อไม่ให้นักอ่านงง

196 Nameless Fanboi Posted ID:0GN.Hypyk

มึง กูขอระบายหน่อย

กูมีปัญหาเรื่องความอิจฉาว่ะ 55555555

แบบ ยังไงดีวะ นิยายกูมันก็ประสบความสำเร็จในประมาณนึง เอาเป็นว่ากูก็พอใจในระดับนี้แล้ว แต่พอกูไปดูบางเรื่องที่อยู่หมวดเดียวกัน คนอ่านของเขาต่อตอนน้อยกว่าของกูอีก แต่คอมเมนต์เยอะกว่าของกูมากเลย แล้วกูไปดูของเขา มันก็เป็นอย่างนี้ทุกตอน คือคอมเมนต์เยอะกว่าของกูเป็นเท่าตัว ซึ่งกูเห็นกี่ครั้งกูก็เจ็บทุกครั้ง กูไม่เข้าใจว่าทำไมของกูถึงคอมเมนต์น้อยกว่าเขาตั้งขนาดนั้น

คือกูรู้นะ ว่ามีคอมเมนต์มันก็ดีแล้วแหละ อย่างที่บอกว่ากูพอใจในประมาณนึงแล้ว แต่พอกูไปส่องของชาวบ้านเขาทีไรแล้วเจอความจริงข้อนี้ กูก็อิจฉาขึ้นมาทุกที กูจัดการความรู้สึกตรงนี้ของตัวเองไม่ได้ มันทำให้กูนอยด์และทำให้กูรู้สึกว่า ทำไม มันยังไม่ดีพออีกเหรอ

กูมาบ่นแค่นี้แหละ ดูเรื่องเยอะ ดูคิดมากเนอะ 55555555555

197 Nameless Fanboi Posted ID:fVJrVofJz

>>196 กูเข้าใจเว่ย บางทีคอมเมนต์แม่งอะไรหลายๆอย่างปนกัน เนื้อหาบ้าง ความสัมพันธ์มึงกับคนอ่านบ้างไรงี้
คือต่อให้เรื่องเดียวกันอ่ะ ยอดวิวต่อตอนพอๆกัน คอมเม้นยังไม่เท่ากันเลยมึง บางตอนคนคอมเม้นถล่มทลายเพราะว่าตอนนั้นมันมีอะไรให้หวีด ให้คนอยากพูดอะ แต่บางตอนมันไม่มีมันเรื่อยๆงี้

198 Nameless Fanboi Posted ID:cKjYL+puh

>>196 นขหลายคนทำให้คนอ่านเกร็งที่จะคอมเมนท์ บางคนบอกว่าอยากได้คำติชม การวิจารณ์ใช้พลังงานสูง เกิดเม้นท์แล้วไม่ถูกใจโดนประชดว่าอยากเขียนแบบนี้คนเม้นท์เงิบมาเยอะ เข็ดมาก
ถ้าอยากได้เม้นท์แบบคุยกันบ้าง เม้าท์บ้างลองเปิดเฟซคุยกับคนอ่านสิ

199 Nameless Fanboi Posted ID:vMk9NQ4Rl

>>196 ลองชวนคนอ่านคุยไหมมึง แบบคุยท้ายตอนไรงี้

200 Nameless Fanboi Posted ID:ThnF./Uue

>>196 แนะนำได้แค่อย่าพยายามไปเปรียบเทียบอ่ะมึง

201 Nameless Fanboi Posted ID:aSR/qBj.F

กรณีข้างบนเลย มีคนไปเม้นท์แล้วคนเขียนไม่พอใจไล่ไปตาย ช่วงหลังมาจะเม้นท์อะไรกูนี่คิดแล้วคิดอีก กลัวโดนแคปมาประจาน ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว

202 Nameless Fanboi Posted ID:a3A9nC7OY

>>201 เออ พูดแล้วนึกได้ เรื่องเป็นไงบ้างบะ ล่าสุดที่ตามคือเมื่อวานเห็นหนีไปอัพแกเรื่องเนียนๆ อยู่เลย

203 Nameless Fanboi Posted ID:igkJ+1UI1

>>196 มึงลองใส่ปมปริศนาสิ คนอ่านจะได้มีเรื่องให้เดาเล่น จะได้มาเม้น แต่ก็ต้องดูฐานคนอ่านของมึงอีกทีด้วยแหละ

204 Nameless Fanboi Posted ID:b7spob1wf

>>196 นึกว่ามึงเป็นกู
เฟบเยอะ คอมเม้นน้อย ตกลงคนอ่านอ่านหรือปักไว้เฉยๆ วะ
อ้อ ลืมเรื่องกูไม่ใช่แนวตบตีแย่งผัวเมีย
มันคู่พระเอกนางเอกมาตั้งแต่ตอนแรกเลยกุลืม คนอ่านเลยไม่ได้เลือกทีมว่า ทีมพระเอกหรือพระรอง๕๕๕

205 Nameless Fanboi Posted ID:b7spob1wf

>>204 มันไม่มีทีมให้เลือกกก

206 Nameless Fanboi Posted ID:hNOFzlRb3

เฮ้! ใครเคยเจอปัญหาเนื้อเรื่องพังตั้งแต่พล็อตเรื่องบ้าง?
กูเพิ่งมาเจอหลังจากเขียนไปได้จนเกือบจบแล้วว่ะ ถ้าจะแก้ก็คงต้องเขียนใหม่ทั้งหมด ซึ่งตอนนี้กูก็เขียนไปถึง 300 กว่าหน้าแล้ว
แบบนี้กูควรรีไรท์เขียนใหม่ทั้งหมดเลยใช่มั้ยเนี่ย

207 Nameless Fanboi Posted ID:hKPlOnMnG

>>206 อือ กุประจำ แก้จนจะแยกเป็นเรื่องใหม่ได้ละ

208 Nameless Fanboi Posted ID:iuRGp4Ns2

>>206 เขียนเรื่องใหม่ไปเลยง่ายกว่า

209 Nameless Fanboi Posted ID:4zMCtiKsI

>>206 มายกมือร่วมพวก กูก็เป็น ทุกวันนี้ปิดรีไรต์แล้วก็จริง แต่ยังไม่มีแรงจะรีไรต์เลยจ้ะ กูมารู้สึกว่ามันชักหลุดๆ ออกทะเลไปเกิน ก็เลยเอาใหม่แม่ม โดนด่ายับเหลย

210 Nameless Fanboi Posted ID:Uc9wXXV2H

เคยกลับมาอ่านนิยายตัวเองย้อนหลังแล้วอายชิบหายวายวอดมั้ย
แบบหลังไฟจูนิเบียวมันมอดลงงี้

211 Nameless Fanboi Posted ID:O.TLr+cwl

>>210 ปกติค่ะมึง กูอายจนบอมบ์ทิ้่งไปหลายเรื่องอยู่ นึกแล้วก็เสียดาย แต่ตอนนั้นอายแบบรู้สึกว่ามันไม่ควรมีตัวตนอยู่อีกต่อไปแล้ว 55555

212 Nameless Fanboi Posted ID:KGWd+RzP+

นี่เพื่อนโม่งขอถามความเห็นหน่อย
ไอ้การที่พระเอกเป็นลูกคุณหนูจะทิ้งตำแหน่งและฐานะ เพื่อหนีการคลุมถุงชนไปได้กับสาวใช้ตัวเองนี่มันสมเหตุสมผลรึเปล่าวะ? ประมาณว่า พระเอกกับนางเอกรู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้ว ใกล้ชิดกันมาตลอด แต่ทั้งสองก็เว้นระยะห่างเป็นแค่เพื่อนกันเอาไว้จนกระทั่งโตเป็นหนุ่มสาวด้วยกันทั้งคู่ถึงได้แอบคบกันแบบลับๆ จวบจนโดนทางบ้านจับได้น่ะ

213 Nameless Fanboi Posted ID:yguAZZ4ic

>>212 พระเอกมันจะทำไรกินวะ หนีไปทำไร่ไถนา?
หนีไปกันก็ได้ แต่พระเอกมันจะทำไรกิน จะเลี้ยงครอบครัวได้มั้ย

214 Nameless Fanboi Posted ID:uxOoL.qeT

>>212 งืมมมม อืมมม คิดเหมือนข้างบนว่าพระเอกจะไปทำไรต่อ
นึกถึงเรื่องนึงของแจ่มใส ที่พระเอกไปทำกิจการทอผ้าอะไรซัมติง ออกจากบ้านไปกับสาวใช้นี่แหละ แต่ว่าอันนั้นนางวางแผนมาของนางอยู่แล้ว ต่อให้ไม่มีนางเอกนางก็คงออกไปงี้
คือกูว่าถ้ามีเหตุผลรองรับมันก็ได้แหละ

215 Nameless Fanboi Posted ID:Zg5v85WoL

>>212 มันต้องดูยุคสมัยประกอบด้วยว่ะ แต่ถ้าถามว่าได้ไหม กูว่าได้นะ ยิ่งในยุคปัจจุบัน ถ้าอิพระเอกการศึกษาดีๆ หน่อยก็หางานทำได้สบายอะ แต่ถ้าเป็นยุคโบราณ ก็ต้องคิดหน่อยว่าจะหากินยังไง ไปเป็นครู? เสมียน? งานใช้แรงงาน?

216 Nameless Fanboi Posted ID:cbn9UMhra

>>212 กูว่าการทำให้มันสมเหตุสมผลนี่เป็นหน้าที่ของคนเขียนล้วนๆเลยนะ ว่าจะใส่อะไรลงไปบ้าง ให้คนอ่านเชื่อให้ได้ว่า เออ หนีตามกันไปนี่แหละ ดีที่สุดแล้วสำหรับคู่นี้

217 Nameless Fanboi Posted ID:KGWd+RzP+

>>213-216 โอเคขอบใจมาก
ธีมเรื่องมันอยู่ช่วงยุคกลางตอนปลาย เกือบๆ เรเนอซองค์น่ะ น่าจะหาบทสรุปได้ลงตัวอยู่

218 Nameless Fanboi Posted ID:uxOoL.qeT

>>217 โหห เลือกเซตติ้งได้แบบน่าสนใจๆ 5555 ท่ามกลางนิยายเสินเจิ้นและนิยายรักปัจจุบัน มึงก็ได้เลือกเรเนซองส์ น่าอ่านๆ

219 Nameless Fanboi Posted ID:KGWd+RzP+

>>218 ก็นะ กูเรียนจบ ป.โทมาจากเยอรมัน แล้วนี่เพิ่งกลับมาไทยช่วงกลางปีนี้เอง อยู่ที่นั้นหลายปีมันซึมซับความโรแมนติกของความเป็นยุโรปเพียบเลย

220 Nameless Fanboi Posted ID:hNDu6IlbY

ถามความน่าจะเป็น นักอ่านกูบอกว่าเรื่องกูมันไม่เมคเซ้นตรงที่ นางเอกยอมแต่งงานกับคนที่นางไม่ได้รัก พระเอกก็ไม่ยอมไขว่คว้า พยายาม (ว่างั้นนะ จริงๆคือพากันหนีตาม) บอกว่าพระนางดูไม่รักกันมั่งละ
คือเรื่องกูมันเซตติ้งโบราณเลยอะ นางเอกเป็นลูกคนมีหน้ามีตา ส่วนพระเอกก็เป็นแค่บ่าวไพร่ไม่มีตระกูล มันจะทำอะไรได้วะ
กูไม่เข้าใจว่าพากันหนีตามนี่มันดูน่ายกย่องเหรอ มันเป็นความรักที่เป็นไปไม่ได้ กูวางเรื่องให้เป็นแบบนี้มันดูแปลกเหรอ ทำไมต้องคอมเพลน ?
พวกมึงคิดว่าไง

221 Nameless Fanboi Posted ID:hNDu6IlbY

ลืมอ้างถึงข้างบน >>212 กูไม่ได้ว่ามึงหรือใครที่จะเซ็ตให้ตัวเองหนีตามกันไปนะ 5555 คือแต่ละคนก็มีเหตุผลของเขา ซึ่งเหตุผลของกูคือแบบนี้ กูแค่อยากแน่ใจว่าที่กูวางไว้ มันก็คงไม่ได้ผิดอะไรใช่มั้ยอะ (นักอ่านว่ากูไม่เป็นไร แต่มาว่าลูกกู กูยอมไม่ได้นิดนึง TT)

222 Nameless Fanboi Posted ID:yguAZZ4ic

>>221 ไม่ผิด ปล่อยไป

223 Nameless Fanboi Posted ID:yguAZZ4ic

กิ๊บหนีบผม ภาษาโบราณมันเรียกว่าไรวะ แบบนี้ ใช้หนีบผมเด็กที่ยังไม่โตเป็นสาว https://html2-f.scribdassets.com/5a0zpem4qo2srzi0/images/10-b507d06ce8.jpg
ฝรั่งมันแปลเป็นbarrette clip แปลไทยมาอีกก็กิ๊บ แล้วจะแปลอีกรอบให้มันโบราณกว่านี้ยังไงดีวะมึง

224 Nameless Fanboi Posted ID:lCeJ9go4a

>>223 ที่ติดผม? เครื่องประดับ​ผม?

225 Nameless Fanboi Posted ID:he0Ed2qfz

>>220 จะว่าตามจริงมันก็ไม่ผิดนะ แต่มันจะดูโลกสวยไปนิดหน่อยและ
คือของมึงน่ะเป็นฝ่ายหญิงฐานะสูงกว่า แต่ยุคโบราณเนี่ยสิทธิ์ของผู้หญิงยังต่ำกว่าชายมาก การทำงานจึงค่อนข้างจำกัด ต่อให้เรียนมาสูงฐานะดีอย่างไร ถ้าขาดการสนับสนุนจากทางบ้านก็ยิ่งยากใช่มั้ยล่ะ?
แถมแย่กว่านั่้นโดนหาว่าเกาะผู้หญิงกินอีก Orz

226 Nameless Fanboi Posted ID:e8GyaALhy

>>223 อันนี้ถือเป็นอย่างเดียวหรือคนละอย่างกับเกี้ยวครอบผม ?

227 Nameless Fanboi Posted ID:yguAZZ4ic

>>226 คนละอย่างมั้ง

228 Nameless Fanboi Posted ID:gTN5Z6gCD

เด็กดีเป็นไรวะ กุเข้าเพิ่มไรนิยายกุไม่ได้เลย

229 Nameless Fanboi Posted ID:gTN5Z6gCD

เคกุรู้ละเนตกุเน่าเอง แม่งเอ้ย

230 Nameless Fanboi Posted ID:kByqNglpW

มึงนิยายกุธีมหลักมันคอเมดี้นะ ทีนี้มันต้องมีให้ปวดตับ กูแต่งside storyที่เป็นเรื่องของตัวเอกในภพก่อนเพื่อปูว่าทำไมมันนิสัยระแวงในชาตินี้ แบบแต่งออกมาแม่งดาร์กชิบหาย กุแต่งเสร็จนอนตื่นมาอ่านพบว่ามันดาร์กชิบ เริ่มคิดละกุควรลงดีมั้ยหรือแต่งอีกเวอร์ชั่นนึงให้มันซอฟต์ขึ้นนิดหน่อย

231 Nameless Fanboi Posted ID:7Pdg5bJS/

>>230 มึงแต่งเป็นเรื่องแยกเลยใช่ปะ ถ้างั้นก็ลงๆไปเหอะ เรื่องแยกของกูเองก็ดาร์คชิบหายยังไม่เป็นไรเลย

232 Nameless Fanboi Posted ID:kByqNglpW

>>231 กูกลัวคนอ่านตับช้ำ๕๕๕

233 Nameless Fanboi Posted ID:9NRkATSm6

>>232 คนอ่านทนได้อยู่แล้ว

234 Nameless Fanboi Posted ID:VgPOjNe8j

KY หน่อยสิ เพิ่งไได้รับคอมเมนท์มาว่างงเพราะไม่มีเกริ่นนำ ทั้งที่คิดว่ามีแล้ว เวลาเริ่มเรื่องกล่าวนำประมาณไหนกันเหรอ
อันนี้เอามาให้ลองอ่าน https://writer.dek-d.com/ployyhara1993/story/viewlongc.php?id=1734261&chapter=1 คิดว่าจะนั่งแก้ไขอยู่แหละ ช่วยแนะนำหน่อยนะ แม้จะผ่านการเขียนมาหลายเรื่องแต่ยังไม่ค่อยพัฒนาเท่าไรเลย เรื่องอื่น ๆ คนอ่านก็งงเหมือนกันเพราะกล่าวนำเนี่ยแหละแต่ลบไปหมดแล้ว

235 Nameless Fanboi Posted ID:VgPOjNe8j

>>234 เองแก้ ๆ KY หน่อยสิ เพิ่งได้รับคอมเมนท์มาว่างงเพราะไม่มีกล่าวนำ ทั้งที่คิดว่ามีแล้ว เวลาเริ่มเรื่องกล่าวนำประมาณไหนกันเหรอ
อันนี้เอามาให้ลองอ่าน https://writer.dek-d.com/ployyhara1993/story/viewlongc.php?id=1734261&chapter=1 คิดว่าจะนั่งแก้ไขอยู่แหละ ช่วยแนะนำหน่อยนะ แม้จะผ่านการเขียนมาหลายเรื่องแต่ยังไม่ค่อยพัฒนาเท่าไรเลย เรื่องอื่น ๆ คนอ่านก็งงเหมือนกันเพราะกล่าวนำเนี่ยแหละแต่ลบไปหมดแล้ว

236 Nameless Fanboi Posted ID:m7uHIpJPP

>>235 ถ้าบอกว่าให้อ่านหนังสือให้เยอะขึ้นจะโกรธไหมเนี่ย เอาจริงๆ ไม่ใช่แค่เกริ่นแต่เป็นกับการขึ้นฉากใหม่ทุกฉากเลยอะ จนมันดูเหมือนกับการปรับทรีตเมนต์เพิ่มแล้วใส่ไดอะลอกเข้าไปแทน เช่น - สะพาน*** ขึ้นมาเท่านั้นคนอ่านก็ไม่เห็นภาพหรอก ต้องเพิ่มบรรยายเอาง่ายๆ เราคิดว่าภาพมันเป็นยังไงก็บรรยายเพิ่มลงไป

237 Nameless Fanboi Posted ID:5vXS6Quat

>>235 แบบละเอียด​ๆไปห้องสับนิยาย​เลยน่าจะดีกว่า >>>fanboi.ch/webnovel/4810/

คร่าวๆ เกริ่นสำหรับ​กูคือแนะนำ​หน้าตา นิสัย ความคิด​ของตัวละคร (รวมถึงธีมของเรื่อง)​ให้คนอ่านรู้จัก​อะ
ของมึงมันแบบเหมือนวาดมนุษย์​ก้างปลามาตัวนึงแล้วแปะป้ายว่ามันชื่อนี้นะ มันเป็นมาเฟียกะนักเขียนนะแค่นั้นจบ
การเล่าเรื่องตัดฉากก็อย่างที่ >>236 บอก

238 Nameless Fanboi Posted ID:5vXS6Quat

>>237 แปะผิด https://fanboi.ch/webnovel/4810/

239 Nameless Fanboi Posted ID:VgPOjNe8j

>>236 ไม่หรอก อ่านมาเยอะแล้วแต่คงอ่านยังไม่พอ 555
>>237 โอเคเข้าใจแล้ว
ขอบคุณทั้งสองความเห็นมาก ๆ เลย

240 Nameless Fanboi Posted ID:SZQyrDNs8

>>239 มึงมีปัญหาในการเล่าเรื่อง ถ้าอ่านมาเยอะแล้วปัญหาคงไม่ใช่เรื่องปริมาณที่อ่านมาแต่เป็นการเล่าเรื่องของมึงอารมณ์แบบบทละครกองถ่าย บอกแค่ลักษณะเหตุการณ์ขาดความงามของนิยายรุนแรง

241 Nameless Fanboi Posted ID:Wex+aYWRO

>>240 เห็นด้วย
ไม่เหมือนนิยายเท่าไหร่นะ เหมือนบทละคร ตัวละครเอซึ่งคือมาเฟีย ขยับไปทางนี้ กระทำสิ่งนี้
ใส่อารมณ์หน่อย ความรู้สึก ฟิลลิ่ง ในช่วงแรกให้ทั้ง tell และ show ไปเลย บรรยายมาว่าตัวละครรู้สึกไง และพฤติกรรมของตัวละครนั้นเป็นยังไงที่จะทำให้คนอ่านรู้ว่ารู้สึกยังไง
อันนี้มันห้วนๆ

242 Nameless Fanboi Posted ID:65tUk0yaq

>>240 >>241 ขอบคุณมาก กำลังจะลงมือแก้ไขเลย

243 Nameless Fanboi Posted ID:VDs63dQ+z

พูดถึงการเล่าเรื่อง ตอนนี้กูกำลังมีปัญหาเลย
ใช้ Show เยอะเกินไปบ้าง เล่าแบบเป็นขั้นเป็นลำดับบ้าง จนตอนนี้เขียนไป 400 หน้าแล้วยังไม่จบภาคเลย Orz
ดูเหมือนว่าสไตล์การเขียนกูจะเป็นแบบเล่าละเอียดแฮะ ทำยังไงดี? ขนาดเขียนพล็อต (แค่พล็อต) สำหรับเนื้อหา 200 หน้า กูยังกินหน้ากระดาษไปตั้ง 13 หน้าแนะ

244 Nameless Fanboi Posted ID:7mqMRDkUb

>>243 แม่งยังดี กุแค่สี่บทแรกปาไปสองร้อยกว่าหน้าแล้ว แม่งไม่รู้จะลดตรงไหน อะไรก็สำคัญ

245 Nameless Fanboi Posted ID:jrPfxD72u

>>244 พอกับกูนั่นล่ะ แต่ของกู 5 บท

246 Nameless Fanboi Posted ID:2eekxmfZv

พวกเอ็งเขียนยาวแข่งกับบทgame of throneหรือไง

247 Nameless Fanboi Posted ID:dt13J6pps

แฟนตาซีหรอ ยาวๆแบบนี้อ่ะ
ของกูตอนนี้กูครึ่งเรื่อง 200 หน้าก็ว่าเยอะละ พยายามจะปิดให้ลงภายใน 400 เนี่ย

248 Nameless Fanboi Posted ID:jrPfxD72u

กูเองก็พยายามตัดให้สั้นเนี่ย เดี๋ยวรอว่างคงต้องมานั่งตัดอีกครั้ง (รอบที่ 4)

249 Nameless Fanboi Posted ID:gxhhBcE/d

เขียนยาวกันจัง ทำได้ไงวะ กูนี่ตอนนึงกว่าจะได้สัก 2000 คำนี่เค้นแล้วเค้นอีก กลุ้มใจว่ะ

250 Nameless Fanboi Posted ID:MWXf+FduU

>>249 มึงต้องเป็นจูนิเบียวแบบกุ แล้วคำจะออกมาง่ายดาย ไม่ต่ำกว่าห้าพันคำภายในห้าชม
ว่าแต่ตอนนี้ คนอินกับตัวละครในนิยายกุจนด่าลุกรักกู ฮือ กุจะดีใจหรือเสียใจดี

251 Nameless Fanboi Posted ID:JFPQHQTzg

>>249 คิดว่ากูนั่งแล้วเขียนได้ทันทีงั้นเหรอ?
เขียนจริงอะไม่ถึง 3 ชั่วโมง แต่กว่าจะนั่งบิ้วอารมณ์ให้อินจนเขียนได้นี่ บางทีหมดวันเลยนะ

252 Nameless Fanboi Posted ID:8hubkDhqp

>>251 มึงยังเขียนได้ภายใน 3 ชั่วโมง กูนี่บิ๊วมา 3 อาทิตย์ละยังไม่ได้เหี้ยไรเลย

253 Nameless Fanboi Posted ID:GlHbckEJh

ตันมุกตลกแต่ไม่ตันดราม่าว่ะเง้อออ หรือเพราะใกล้สอบปลายภาคกุเลยนึกเรื่องตลกไม่ออก

254 Nameless Fanboi Posted ID:/dCMPuSk+

>>253 เซม แต่ของกูตันตลอดปี โคตรนับถือเลยพวกเขียนฉากคอเมดี้ได้คอเมดี้จริงๆอะ ของกูนี่กว่าจะคิดได้ หัวแทบแตก เสือกไม่ตลกอีก 55555
สงสัยจะถนัดแต่บทดราม่าจริงๆ orz

255 Nameless Fanboi Posted ID:D4r+..2Au

ไม่แม่นคำราชาศัพท์จริงว่ะ ตอนนี้นิยายกุชนชั้นสูงพุดภาษาชาวบ้านกันหมดละ กุไม่ถนัด มีวิธีไหนแมะ
หรือเอาแบบหนังจีนแม่ง ใช้ทรงนำหน้าทุกกริยา555
ทรงตรัส ทรงนอน ทรงพักผ่อน ทรงอาบน้ำ เพิ่งเจอมาเมื่อกี้55

256 Nameless Fanboi Posted ID:0RiiBM0/S

>>255 ทรงตรัสได้เหรอวะ

257 Nameless Fanboi Posted ID:0RiiBM0/S

>>255 กูว่าไปอ่านนิยายไทยดู อ่านลักษณวดี โรสลาเรน สักสิบเรื่องก่อนก็ได้เดี๋ยวมึงก็แม่นราชาศัพท์ขึ้นมาเอง
แต่ถ้าเอาราชาศัพท์ไปใช้ในนิยายจีนมากๆ มันจะแปลกนะ เพราะปกติคนแปลจากจีนเป็นไทย มันไม่ได้ใช้เยอะเบอร์นั้น

258 Nameless Fanboi Posted ID:c/CdjftP5

>>256 ทรงตรัสไม่ได้ ตรัสเป็นราชาศัพท์อยู่แล้ว ทรง+คำสามัญ เพื่อให้เป็นคำราชาศัพท์นะ

259 Nameless Fanboi Posted ID:D4r+..2Au

>>256 กุเพิ่งเจอไปเนี่ย

260 Nameless Fanboi Posted ID:D4r+..2Au

>>257 พูดถึงแนวจีนกุอ่านแนวจีนที่คนไทยแต่ง นางคำราชาศัพท์มาเต็มเลย กุนึกว่าต้องแม่นแบบนั้น งั้นกุเอาแบบมึงว่ากะได้

261 Nameless Fanboi Posted ID:GqVegvptL

มีใครย้อนมาอ่านคำนำนิยายตัวเองแล้วรู้สึกว่า แม่งเอ้ยกุเขียนอะไรลงไปแมะ

262 Nameless Fanboi Posted ID:g0t8/nLo0

>>261 ประจำ

263 Nameless Fanboi Posted ID:QX6OYyLs8

พวกมึงซอยตอนนิยายจนเหลือเท่าฮีมดกันก่อนลงเว็บเด็กดีแมะ กุไปอ่านท็อปมา แม่งscrollครั้งเดียวก็สุดละ มิน่ามันขึ้นท็อปรัวๆ สอยแบ่งไว้ละอัพทุกวัน

264 Nameless Fanboi Posted ID:lsitPRCTl

>>263 นิยายกูตอนละ 10-17 หน้าก็ติดท็อปนะ

265 Nameless Fanboi Posted ID:1lHgTBoP6

>>263 กูอัพตอนละสามหน้า กูก็รากเลือดแระ แต่ติดท๊อปนะจร๊ะะ

266 Nameless Fanboi Posted ID:MD754E0Z5

>>264 อัพทุกวันป่ะถึงท็อป

267 Nameless Fanboi Posted ID:suqq6GLP8

ของกูนับเป็นคำว่ะ ตอนนึงน่าจะตกที่ราวๆ 3000 คำ ซึ่งบางตอนก็เคาะย่อหน้าเยอะ อาจจะราวๆ 8-10 หน้า

268 Nameless Fanboi Posted ID:I/8fVLIEA

เคยเขียนนิยายข้อมูลผิดๆ กันมั้ยแล้วมารู้ตัวทีหลังว่าผิด กุเพิ่งเจอแม่งพล็อตกุพังครืนเลย เสินเจิ้นกู๊วววว
ตอนแรกมีคนบอกจบก่อนค่อยรีไรท์ แต่นิสัยอย่างกุมันแบบเมื่อไหร่จะจบว้าาาา เลยคิดแก้ จริงๆ อยากลบทิ้งแต่เสียดายเฟบ
กุเข้าใจผิดเรื่องอายุ เรื่องธรรมเนียมในวัง เรื่องชื่อเด็กกับชื่อผู้ใหญ่(ชาย) พอดีไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับชีวิตในวัง และสภาพสังคมในสมัยราชวงศ์ถังมา เป็นหนังสือของฝรั่งนะ เว็บในไทยไม่มีใครเอามาแปลถึงเรื่องนี้ กุเลยไม่รู้ ส่วนอายุที่ได้มาอย่างบังเอิญ
เห็นเสินเจิ้นเรื่องอื่นมะเห็นมีใครสนใจแบบกุ หรือกุสนใจมากไปวะ?
จะฝืนผิดหรือแก้ให้ถูกดี

269 Nameless Fanboi Posted ID:Y+gAciXiP

>>268 แนะนำว่าให้แก้ให้ถูกว่ะ ค่อยๆ แก้ก็ได้ คือรู้ว่าผิดแต่ปล่อยเลยตามเลย มันก็เลยกลายเป็นเซิ่นเจิ้นในเซิ่นเจิ้นไปเรื่อยๆ อ่ะมึง ถ้าไม่รู้ก็ว่าไปอย่างแต่นี่รู้แล้วก็ควรแก้นะ

270 Nameless Fanboi Posted ID:Y+gAciXiP

>>268 มือดันเร็วกดส่งไป - -“ คืออยากรู้ว่าอันเดิมที่ผิดกับสิ่งที่ถูกมันต่างกันอะไรยังไงบ้าง หนังสือนั่นเป็นไง อยากรู้รายละเอียด

271 Nameless Fanboi Posted ID:nKA1MKPF5

Ky เราแต่งแฟนตาซี ธีมคล้าย ๆ ยุโรปยุคกลาง แล้วลังเล pov 3 ที่ใช้เรียกผู้หญิงว่าจะใช้นางหรือหล่อนดี คืองี้ เวลาตัวละครพูดถึงกันเอง เราใช้นางอย่างนู้นอย่างนี้อยู่นะ แต่มาติดตรง pov 3 นี่ละ ควรเอาไงดี

272 Nameless Fanboi Posted ID:2mznDiKVT

>>268 ถ้ารู้แล้วควรแก้เพราะจะได้สมเหตุสมผลและตรงตามประวัติศาสตร์สมัยนั้น

273 Nameless Fanboi Posted ID:I/8fVLIEA

>>270 Daily life in traditional china the Tang Dynasty
ถ้าจำไม่ผิดมีเป็นของราชวงศ์อื่นด้วย
กับthe culture of sex in ancient china
เอามาจากscribd

274 Nameless Fanboi Posted ID:He/csWbpq

>>268 แก้ทันทีว่ะถ้าเป็นข้อมูลผิดหรือคำผิด ของที่จะแก้ทีหลังคือการรีไรต์ให้สละสลวยหรือให้กระชับ แก้ปมที่ไม่เคลียร์ แต่ถ้าเป็นข้อมูลผิดพลาดและคำผิดกูเห็นว่าควรแก้เลย แล้วมึงก็เขียนแจ้งผู้อ่านท้ายตอนใหม่ว่ามึงพบข้อผิดพลาดต้องแก้ไข ถ้าใครสนใจย้อนอ่านก็ตามสะดวก

275 Nameless Fanboi Posted ID:w4bO3teS8

>>271 กูใช้สองอย่างเลย

276 Nameless Fanboi Posted ID:RlMOAvIT5

>>271 เราว่าใช้นาง
สำหรับเรา หล่อนต้องซักช่วงยุคล่าอาณานิคมขึ้นไปน่ะ

277 Nameless Fanboi Posted ID:GLQ2jEpS+

ทำไมนิยายที่ไม่ผ่านการพิจารณาถึงต้องรอนานมากกว่าที่ สนพ. จะแจ้งวะ

คือมันไม่เมคเซนซ์ปะ ถ้ามันไม่ผ่านก็น่าจะปัดตกมาแบบเร็วๆ แจ้งกลับมาได้ทันทีที่โยนลงตระกร้าเลยว่า ไม่ผ่านนะ ทำไมแม่งต้องรอจนครบ 3 เดือน (หรือเกิน) หรือไม่ก็ต้องรอให้ทวงถามไปก่อน แล้วจากนั้นค่อยหายไปวันสองวัน แล้วตอบกลับมาว่าไม่ผ่าน อันนี้งงจริงๆ หรือว่าแบบนี้คือผ่านการพิจารณาไประดับนึงแล้ว แต่ไม่ผ่านในระดับที่สูงขึ้นไปวะ

278 Nameless Fanboi Posted ID:Q4TeXQSJI

>>277 เป็นเรื่องคิว คนเลือกไม่ได้อ่านเรื่องที่ส่งไปทันที ช่วงไหนสำนักพิมพ์มีงานเร่งปิดเล่มเช่นช่วงงานหนังสือยิ่งไม่ว่าง หลังงานก็มาอ่านไม่ไหวเพราะทำงานแรงหมดกันแล้ว อาจจะเว้นไปอีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ค่อยกลับมาอ่านกันใหม่

279 Nameless Fanboi Posted ID:h5P/lcQEc

ถามหน่อยกุสงสัย ส่งต้นฉบับหลายสำนักพิมพ์พร้อมกันได้ในครั้งเดียวมั้ยวะหรือต้องส่งทีละอันไม่ผ่านค่อยว่ากัน งี้ถ้าไม่ผ่านเรื่องๆ จะทำไงอ่ะ

280 Nameless Fanboi Posted ID:fUyIvgOZA

>>279 แล้วถ้าผ่านหลาย สนพ. มึงจะทำยังไง บอกเขาว่าไม่พิมพ์กับที่นี่ จะไปพิมพ์กับที่อื่นงี้เหรอ

281 Nameless Fanboi Posted ID:qZSXopPqc

>>279 ในทางมารยาทของสำนักพิมพ์แล้วส่งพร้อมกันไม่เหมาะสม ถ้าเกิดมีสำนักพิมพ์ไหนโอเคกับงานมากกว่าหนึ่งแห่งแล้วบังเอิญทั้งสองที่รู้จักกัน มึงอาจจะไม่ได้พิมพ์ทั้งสองที่เลยก็ได้ จากนั้นคนในสำนักพิมพ์นั้นก็จะไปบอกสำนักพิมพ์อื่นๆ ว่ามึงเสียมารยาทยังไง แล้วสำนักพิมพ์อื่นๆ ก็จะไม่เปิดอ่านงานมึงเลยก็เป็นได้เพื่อจะเลี่ยงดราม่า ถ้านักเขียนหน้าใหม่คนเดียวไม่คุ้มเขาหรอก ถ้าเป็นคนเก่าเปลี่ยนที่อย่างน้อยเขาคุยกันระดับหนึ่งแล้วเคลียร์กันไป แต่ถ้าตกพร้อมกันทุกที่เขาก็ไม่ใส่ใจหรอกนะ
ถ้าไม่ผ่านก็เขียนใหม่เรื่อยๆ กูบอกให้ว่าโอกาสตีพิมพ์ง่ายสุดคืองานมึงดี มึงลงงานบ่อย แล้วก็ติดสามอันดับแรกของหมวดนานๆ กูบอกแค่นี้แหละถ้ามึงมีครบเดี๋ยวก็มีแมวมองไปถามมึงเอง มึงจะไม่เชื่อก็ได้นะ แต่กูแนะนำว่าตอนส่งงานไปแล้วมึงเอาเวลาไปเขียนเรื่องใหม่เลย ไม่ต้องไปลุ้นผลแล้วค่อยกลับมาเขียน เสียเวลา ได้ก็ดี ไม่ได้ก็จะได้มีงานใหม่ส่งอีก

282 Nameless Fanboi Posted ID:y7/eozv+H

>>281 กูยืนยันว่าสนพ.มีแมวมองจริงๆ ถ้ามึงดีไม่ถึงครึ่งเรื่องเค้าก็มาติดต่อมึงละ ยิ่งตอนนี้สนพ.ผุดกันเหมือนดอกเห็ด
แต่ความยากง่ายในการพิมพ์มันคงแล้วแต่แนวด้วย แบบถ้าแนวนั้นมันมีคนอ่านเยอะมันก็พิิมพ์ง่ายอ่ะ คือสนพ.เล็กๆเค้าก็ต้องแย่งนักเขียนเหมือนกันอ่ะ ตอนกูที่ติดต่อมาเร็วๆเป็นสนพน้องใหม่ยังไม่เคยพิมพ์เลย (แต่ตอนนี้ก็ถือว่าไม่ใหม่ละแหละ)

283 Nameless Fanboi Posted ID:rTfpjuZDR

เพื่อนโม่งมีใครเป็นแบบกูบ้าง
คือกูอยากจะรื้อพล็อตทั้งหมดทิ้ง แล้วเขียนใหม่ทั้งหมดโดยเหลือแค่เซ็ตติ้งเดิมเท่านั้น
แต่พอกลับมาอ่านแล้วก็ดันรู้สึกว่า "อันเก่ามันก็โอเคแล้วนี่หว่า" ซะงั้น จนไม่ได้เขียนแก้ซะที ตอนนี้ปวดหัวมากเลย พอจะเขียนพล็อตใหม่ พล็อตเก่าที่เคยคิดว่าดีแล้วมันก็เข้ามาตี เข้ามาขวางในหัวไม่ให้เขียนแก้ตลอดเลย

284 Nameless Fanboi Posted ID:u4TrxiWSi

>>283 เขียนแยกสองเรื่องเลยไหม อันไหนดีก็เอาอันนั้น ดีทั้งคู่ก็แยกเป็นอีกเรื่องไปเลย

285 Nameless Fanboi Posted ID:h5P/lcQEc

>>283 กูเลยแบ่งแม่งสองเวอร์ชั่น ให้คนอ่านตัดสิน เรื่องเดียวกันแต่สองเวอร์ชั่น๕๕๕

286 Nameless Fanboi Posted ID:h5P/lcQEc

>>285 แต่ลงสองบทความนะ แต่แบบคนอ่านบอกสนุกทั้งคู่เลย กูไปไม่ถูกเลยทีนี้

287 Nameless Fanboi Posted ID:lZwlTeqpT

หดหู่ คนอ่านเกลียดตัวละครโปรดกุ แม่งเอ้ย กุอุตส่าห์แต่งให้เกลียดพระเอก พระรองซวยโดนหาว่าเยอะ หานนน พระเอกแม่งเยอะกว่าพระรองอีก

288 Nameless Fanboi Posted ID:lZwlTeqpT

>>287 ปล พระรองลูกรักกุ

289 Nameless Fanboi Posted ID:/ilaMjTac

มึง ถัดจากต้นคอลงไป แต่ยังไม่ถึงขนาดกลางหลัง
แบบก่อนถึงกระดูกสะบักอ่ะ ใช้คำว่าอะไร

290 Nameless Fanboi Posted ID:Jz/xN0XaZ

>>289 ไหปลาร้า ?

291 Nameless Fanboi Posted ID:0cX855t7M

>>289 บ่า? แนวไหล่? หรือไม่ก็บอกไปเลยว่าแผ่นหลังช่วงเหนือสะบักไรงี้มะ?

292 Nameless Fanboi Posted ID:/ilaMjTac

>>290 ไม่ๆ ความสูงประมาณไหปลาร้าแต่เป็นอยู่ข้างหลัง

293 Nameless Fanboi Posted ID:/ilaMjTac

>>291 อืมมมแนวไหล่ก็ได้มั้งงงง เครๆๆแต้งกิ้ว

294 Nameless Fanboi Posted ID:QGh6niGoJ

>>289 หลังส่วนบน

295 Nameless Fanboi Posted ID:Jz/xN0XaZ

>>289 จุมพิตร้อนไล่จากลาดไหล่ลงมาแผ่นหลัง..... ราวๆนี้ป่ะ

296 Nameless Fanboi Posted ID:wL+Q3E5ab

>>295 มึงรู้ได้ไงว่ามันเป็นฉากอิโรติก อารมณ์ประมาณนี้เลยๆๆ 55555 กูเป็นคนถามเองนะ กลับมาบ้านแล้วไอพีเลยเปลี่ยน

297 Nameless Fanboi Posted ID:fRs2.3wG1

>>296 สัญชาตญาณของมนุษย์๕๕๕๕ อะไรอีโรติกมันรู้ไว

298 Nameless Fanboi Posted ID:dqEToMC6.

เห็นห้องเสิ่นเจิ้นคุยกัน แต่ย้ายมานี่น่าถูกต้องกว่า
คิดยังไงกะภาษาพูด-ภาษาบรรยายในนิยายบ้างอะ

แบบของกูเวลาบรรยายก็จะใช้คำถูกต้องจริงจัง แต่ในบทพูดจะมีการกร่อนเสียงบ้าง
สมมติคำว่า "อย่างนั้น" เวลาเป็นบทพูดก็ใช้ทั้ง "อย่างงั้น" "งั้น" "ยังงั้น" หรือพวก "รึ" "หรือ" "เหรอ" "หรอ" แล้วแต่สำเนียงและอุปนิสัยของตัวละครว่าเป็นคนแบบไหน

อย่าง "ไหม" "มั้ย" แต่ก่อนกูจะแยกใช้บรรยายกะคำพูดนะ แต่เคยโดยทักว่า "มั้ย" มันวิบัติ เลยไม่ค่อยได้ใช่ละ ( ._. )

299 Nameless Fanboi Posted ID:7Gw6RxxXv

>>298 แล้วแต่ยุค ถ้าปัจจุบันเราจะเลียนเสียงจริง เลียนวิธีพูดจริง ถ้าโบราณอาจจะไม่กร่อนเสียง ขึ้นอยู่กับโทนเรื่อง บางทีขึ้นอยู่กับยุคด้วย ถ้าอยากแต่งอิงประวัติศาสตร์ยุคคุณพ่อคุณแม่นี่ก็อาจลองดู ๆ ว่าพวกผู้ใหญ่เค้ามีวิธีพูดแบบไหน ไรแบบนี้

300 Nameless Fanboi Posted ID:6cXcpS+zH

>>298 >>299 กูก็อยู่ห้องเสิ่นเจิ้น กูขออธิบายก่อนว่า ที่มึงยกมามันไม่ใช่กร่อนเสียง กร่อนเสียงคือเช่น หมากพร้าว เป็น มะพร้าว หมากขาม เป็น มะขาม

ส่วนที่มึงยกมาคือการแปรเสียง มีหลายแบบ

อย่างนั้น เป็น อย่างงั้น, ยังงั้น, งั้น อันนี้เป็นการกลมกลืนเสียง อธิบายลึกไปอีกคือกลมกลืนเสียงแบบเดินหน้า

หรือ เป็น รึ อันนี้เป็นการทำเสียงสระให้สั้น แล้วก็เปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์อีกทอดหนึ่ง ถ้าตามพจนานุกรมมันมีแต่ หรือ กับ เหรอ แต่กูคิดว่า รึ ก็น่าจะใช้ได้ ส่วน หรอ อะอย่าใช้จะดีกว่า

ไหม กับ มั้ย อันนี้เป็นการแทนที่เสียง

ที่กูอธิบายมาทางภาษาศาสตร์เรียกว่า การแปรเสียง ซึ่งเขาระบุธรรมชาติของภาษาไว้ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงได้ การฟันธงว่าคำไหนเป็นภาษาวิบัติสำหรับกูมันยากที่จะฟันธงลงไปมาก ๆ

โดยส่วนตัวกูเองก็ใช้แบบมึง บทบรรยายใช้ อย่างไร, หรือ, อย่างนั้น, ไหม แต่พอบทสนทนาก็มีแบบ ยังไง, เหรอ, ยังงั้น, มั้ย ฯลฯ

301 Nameless Fanboi Posted ID:lEBIh/xd/

นับวันกุเริ่มรู้ว่าภาษาตัวเองยุ่งยากชิบหายเพราะห้องนี้โดยเฉพาะ

302 Nameless Fanboi Posted ID:lEBIh/xd/

แบบภาษาอังกฤษมีแค่ I แปลไทยแบบ ข้า ฉัน ดิฉัน เดี๊ยน กู ข้าพเจ้า แบบไทยคำเยอะชิบ

303 Nameless Fanboi Posted ID:3Qj+N2e1l

มึง กูสงสัย ตลค.ฝาแฝดสลับตัวกัน มันไม่ผิดกฎหมายแอบอ้าง/ปลอมแปลงเอกสารเหรอวะ หรือยังไง กูไม่รู้กฎหมายด้วยสิ

304 Nameless Fanboi Posted ID:6UMxW+eZ3

>>303 น่าจะผิด แต่กม.จะสำแดงเดชได้ต้องมีเจ้าทุกข์ฟ้องร้อง​​เอาความน่ะ

305 Nameless Fanboi Posted ID:farbJGx0F

มึงงงงงงงงงงงง แบบกับเรื่องที่กูกำลังเขียนอยู่ กูแบบไม่อยากเขียนแล้วอ่ะ แต่มันก็แบบมาค่อนนึงแล้วอ่ะ คนอ่านก็รออยู่ นี่กูประกาศหยุดอัพไปสักพักแล้ว TT^TT
คือในหัวกูมันแบบมีพลอตเรื่องใหม่แล้วอ่ะ
พลอตเรื่องนี้มันแบบแห้งเหือดไปแล้ว คือกูวางพลอตเรื่องนี้ไว้จนจบแล้วแหละ แต่แบบเขียนไปมันก็รู้สึกแห้งๆ ไม่กระดี้กระด๊าแบบตอนแรกๆ กูเป็นงี้ตลอดเลยอ่ะ แบบตอนแรกๆก็เขียนแล้วก็แฮปปี้ ไปเรื่อยๆความอยากแม่งลดลงๆจนเริ่มไม่อยาก เฮ้อออออออออ ชีวิตตตตต แต่กูก็แบบคนอ่านเค้าก็อุตส่าห์รอกูวววอย่างอดทน
มาบ่นเฉยๆ 55555

306 Nameless Fanboi Posted ID:v+jkzBj3V

เรื่องมันเศร้ากุเขียนฉากโรแมนติกไม่ได้ แม่งไม่ถนัดเลย เขียนอะไรก็ได้ยกเว้นโรแมนติก
ม้าางงงงงง กูไปดูหนังรัก แม่งกลายเป็นเศร้าแทน หรือความรักจะเป็นทุกข์จริงๆ มันทุกข์จนกูแต่งโรแมนติกไม่ออก
อิจฉาเรื่องที่แต่โรแมนติกอ่านแล้วฟินได้ว่ะ ประสบการณ์ในชีวิตเยอะสินะ อยากรู้ว่าคิดขึ้นเอง หรือเคยเจอจริงๆ

307 Nameless Fanboi Posted ID:7yGUIvc2/

>>305 เห็นมึงแล้วนึกถึงนข.ที่กูชอบคนนึง ซึ่งเหมือนเขาจะเทเรื่องที่กูตามไปแล้วเรียบร้อย ปวดใจชิบหายเลยแม่งเอ๊ย 555555
จงรู้สึกผิดซะ !

308 Nameless Fanboi Posted ID:8cT6jrDCz

>>307 หวังว่ามึงคงจะไม่ใช่นักอ่านคนนึงของกูนะ 55555555555 กูเพิ่งถูกเมนชั่นมาทวงสดๆร้อนๆเมื่อกี้ แต่ก็เอาเหอะะะ กูคงจะกลับไปเขียนเร็วๆนี่แหละมั้งงง เขียนแบบแห้งๆนี่แหละ เหอๆ

309 Nameless Fanboi Posted ID:7yGUIvc2/

มึง ถ้าพระเอกกู เป็นประธานบริษัท(ได้รับมรดกมา) แต่ไม่อยากเป็นต่อแล้ว มันลาออกไปดื้อๆได้เลยป่ะ ต้องขายหุ้นทิ้ง หรือยังไง
เรื่องธุรกิจกูไม่สันทัดจริงๆ

310 Nameless Fanboi Posted ID:9wQ+DmXlz

>>309 อันนี้กูว่ามึงคิดใหม่ก่อนมั้ย ว่ามันได้มรดกอะไรมาวะ หุ้นเหรอ ? ถ้าหุ้นจริงมันถือหุ้นใหญ่ไม่จำเป็นต้องบริหารก็ได้นะมึง นอนกินไปเลย

311 Nameless Fanboi Posted ID:7yGUIvc2/

>>310
ของกุคือเหมือนมันเป็นลูกหลานเจ้าของบริษัทอะ เป็นธุรกิจครอบครัว ที่บ้านก็ฝากฝังให้ดูแล บริหารด้วย
สงสัยกูคงต้องคิดใหม่จริงๆแหล่ะ เพราะความรู้พวกนี้กูต่ำต้อยมาก กูควรเริ่มจากไหนวะ
ว่าแต่ทำไมคนชอบแต่งให้พระเอกทำงานแบบนี้วะ กูว่ามันแต่งยากชิบ 5555

312 Nameless Fanboi Posted ID:yN4mTeQHa

>>311 เพราะมันดูเหมือนง่ายอะมึง ดูหล่อ ดูรวย นั่งเซ็นเอกสาร ใส่สูท มีเงิน มีรถ

จริง ๆ ของกูก็พระเอกเป็นนักธุรกิจ แต่กูไม่มีความรู้เลยต้องดองไว้ก่อน นี่ว่าจะหันไปทางกราฟิกดีไซน์บ้าง คนเขียนหนังสือรีวิวท่องเที่ยวบ้าง ชีวิตฟรีแลนซ์กูว่าก็น่าสนใจดี

313 Nameless Fanboi Posted ID:P8Gm9oph.

เพื่อนโมง กูขอปรึกษาหน่อยดิ
คือกูเขียนฟิคมาก่อน แต่ตอนนี้เริ่มผันตัวไปเขียนนิยายวายไทยธรรมดาละ กูสามารถไปฝากโปรโมทนิยายได้ที่ไหนบ้างอะ
ตอนนี้คนอ่านของกูก็คือคนที่เป็นแฟนผลงานตอนเขียนฟิคนี่แหละ แต่กูอยากได้คนอ่านใหม่ๆเพิ่มบ้าง
ช่วยบอกบุญกูหน่อยนะ ขอบคุณมาก

314 Nameless Fanboi Posted ID:3T8dlNHyZ

>>313 บอร์ดเด็กดอยเลย ไม่ก็แปะลงโม่งก็ได้ รับรองแปบเดียว

315 Nameless Fanboi Posted ID:P8Gm9oph.

>>314 แปะลงโม่ง กูก็กลัวโดนสับ 55555555

316 Nameless Fanboi Posted ID:Qp45Xx4Qj

>>313 กูแนะนำ Fictionlog เหมือนวายกำลังมา แล้วทางเว็บเหมือนจะขึ้นโปรโมทให้บางเรื่องด้วย

317 Nameless Fanboi Posted ID:g/JDZam7G

Fictionlog ระบบคล้ายๆธวลอ่ะ แต่เค้าก็โปรโมทให้วายจริงๆ คือถ้าถูกเค้าโปรโมทก็ดีไป ไม่ถูกก็แย่หน่อย 5555
กูว่าลงในเล้าคนก็อ่านเยอะละนะ

318 Nameless Fanboi Posted ID:P8Gm9oph.

กูก็ลงในดด.แล้วก็ในเล้าด้วยแหละ แต่ในเล้านี่แบบ เค้าคงไม่คุ้นชื่อกูมั้ง เลยไม่กดอ่านกัน กูคงต้องสู้ต่ออีกยาวๆ T___T

319 Nameless Fanboi Posted ID:5hMj6s0tg

เล้าคือที่ไหน?

320 Nameless Fanboi Posted ID:E.7Q8WiuJ

>>319 thaiboylove อะมึง

321 Nameless Fanboi Posted ID:RjzhG3+a0

ไม่แนะนำ Fictionlog นะ เจ้านี้ทำคดีไว้เยอะระวังวันดีคืนดีงานจะไปอยู่ที่อื่นโดยไม่บอกเจ้าของงาน ไป readawrite คนน้อยแต่ชัวร์กว่า

322 Nameless Fanboi Posted ID:ecb8kC6xD

>>321 ทำไมวะมึง เหลาาาา

323 Nameless Fanboi Posted ID:QRV.hsHqI

>>322 เครือเดียวกะผึ้ง​อะ ธวล

324 Nameless Fanboi Posted ID:ecb8kC6xD

>>323 เดี๋ยวนะ กูจำได้ว่าผึ้งกับธวล. นี่เครือๆ เดียวกัน แต่ fictionlog นี่ไม่ใช่ปะ

325 Nameless Fanboi Posted ID:15WZBwZg3

>>324 ตามที่ >>323 ว่า

326 Nameless Fanboi Posted ID:ahzAzIkvF

ผึ้งมี ธวล มีฟิกชั่นลอก มีจอย ประมาณนี้มะ
เดี๋ยวนี้ธวลแม่งบ้าบอคอแตกสัดๆ ขายเสื้อย่งเสื้อยืด เวบก็ล่มทุกวี่ทุกวัน

327 Nameless Fanboi Posted ID:KpVtQ+sx0

>>325 กูเคยได้ยินว่าเครือเดียวกันแต่จัดการแยกส่วนกัน ไม่เกี่ยวข้องกัน

328 Nameless Fanboi Posted ID:e7ekE.aKa

ถ้าเครือเดียวกันนี่ก็แปลกอยู่นา ธวล.แม่งโปรโมตจอยบึ้มๆ แต่ไม่ยักกะโปรโมตฟชล.กับสตรล.เลย เขาแบ่งลูกรักลูกชังกันเหรอวะ?

329 Nameless Fanboi Posted ID:QRV.hsHqI

>>328 กูไม่รู้​นะ แต่เคยได้ยิน​ว่า สตล.ไม่เกี่ยว
ฟชล.คือ สตล.กะผึ้ง​ร่วมมือ​กัน
ธวล.กะจอยคงของผึ้ง​เน้นๆอะ

330 Nameless Fanboi Posted ID:1Gm+ie3FZ

ฟินโนเวลอ่ะ ของใคร ส่งข้อความมาชวนกุลงนิยายรัวๆเลย กุกลัว

331 Nameless Fanboi Posted ID:FAIFL3Qbr

เพื่อนโม่งกูขอถามหน่อย
คือกูอยากเขียนแนวแฟนตาซีผจญภัยอะนะ แต่ก็อยากเจาะตลาดกลุ่มผู้หญิง (ที่ไม่ใช่สาววาย) ด้วย
กูควรจะหาองค์ประกอบอะไรมาลงบ้างดี?

332 Nameless Fanboi Posted ID:1Gm+ie3FZ

>>331 นางเอกสวย ซู ผู้รุมรัก ผู้ตัวเทพทิ้งเมียคนอื่นหมดทันทีที่เจอนาง ผู้ตัวรองแสนดี

333 Nameless Fanboi Posted ID:rznI5Mqyk

>>331 ตัวร้ายต้องหล่อด้วย สนใจแต่อีนางเอกคนเดียว

334 Nameless Fanboi Posted ID:ahzAzIkvF

>>331 คนอ่านผู้หญิงเหรอ จริงๆก็ตามข้างบนพูด 55555 คนหล่อเยอะหน่อย นางเอกเก่ง เนื้อเรื่องสนุก มีบทโชว์ความเก่ง (ที่พูดมามันอาจจะเกร่อๆ แต่คนอ่านชอบนะ กูก็ชอบอ่านอะไรแบบนี้ อ่านเอาเพลินๆสนุกดี) ถ้าจีนได้ก็จะตลาดกว้างหน่อย ถ้าจะไปผจญภัยแฟนตาซีก็จะแคบลงอย่างเยอะเลย

335 Nameless Fanboi Posted ID:gOZLBQpz1

>>332 >>333 >>334 อืม... เอา 3 ความเห็นมารวมกันแล้วสรุปได้ว่า... ตลาดผู้หญิงมันก็ไม่ต่างจากผู้ชายเลยนี่หว่า!!
ไหงพวกคนอ่านมีแต่หลวม self-insert ทั้งผู้ทั้งเมียเลยฟระเนี่ย!!

336 Nameless Fanboi Posted ID:KpVtQ+sx0

>>331 เอาความชอบกูคือต่างจากที่ข้างบนพูดมาทั้งหมด นางเอกต้องไม่น่ารำคาญ ไม่ซู มีความเป็นมนุษย์ปกติแบบที่พลาดได้แพ้ได้ คีพคาร์เสมอต้นเสมอปลาย และต้องน่าเอาใจช่วย

337 Nameless Fanboi Posted ID:HRoeM4DZ2

>>335 แน่นวล มึงคิดว่าแนวเกมจีบหนุ่มจีบสาวมาตอบสนองใครล่ะ๕๕๕๕

338 Nameless Fanboi Posted ID:HRoeM4DZ2

>>337 แนวๆ นี้มันself-insertกันอ่ะถ้าแบบเจาะตลาดโดยตรง เหมือนพวกฮาเร็ม ไรพวกนั้น

339 Nameless Fanboi Posted ID:JUIRosyzG

มึง ถ้านิยายกูไม่มีฉากเยเลย แต่มีซีนพระเอกฝันเปียกนี่ยังถือว่าเรทอยู่มั้ยวะ

340 Nameless Fanboi Posted ID:TebrPU/xm

>>339 มึงอธิบายยังไงอ่ะ ถ้าแค่อธิบายให้ฟัง แบบประโยคบอกเล่า ว่าแม่งฝันเปียกก็ไม่ได้ติดเรทไรนะในความคิดกู แต่ถ้ามึงแบบลงดีเทล ภาษาที่มึงใช้แบบอิโรติกหน่อย มันก็อาจจะติดเรทได้

341 Nameless Fanboi Posted ID:HRoeM4DZ2

>>339 ไม่เรทมั้งนะกุว่า

342 Nameless Fanboi Posted ID:HRoeM4DZ2

โมใ่งนักเขียนมีใครเคยใช้เล่มนี้ "เขียนนิยาย โดย รตชา" ที่เขาว่าเป็นเล่มในตำนานเป็นหลักการเขียนนิยายบ้าง มารีวิวหน่อย มันแพง กูทำใจซื้อไม่ได้จนกว่าจะมีคนตัวเป็นๆ บอกว่าคุ้ม
590 กูช็อค

343 Nameless Fanboi Posted ID:fvlwDm/u0

ky ใครเคยเขียนๆ ไปแล้วอยากเปลี่ยนพระเอกกลางคันบ้างวะ กุพึ่งเคยเป็นครั้งแรกช็อคสุดๆ เลยว่ะ ทำตัวไม่ถูก ปกติกุนี่ไม่เคยหวั่นไหวกับพระรองเลยไม่ว่าจะดีหรือเลวขนาดไหน แต่เรื่องล่าสุดที่กูเขียน นางเอกดูเจ้าเล่ห์แต่เป็นคนใสๆ อยากให้คู่กับพระเอกที่ภาพลักษ์ใสๆ แต่เกรียนหลบใน รักกันเพราะต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันและผูกพันธ์โดยไม่รู้ตัวงี้ ส่วนพระรองกูนี่สูตรสำเร็จพระเอกนิยายเลย คือเป็นนักธุรกิจ ขรึม ไม่มีข่าวฉาว หัวโบราณ เหมือนหมาพันธุ์ใหญ่ซื่อบื้อๆ ที่ซื่อสัตย์กับเจ้าของอ่ะ เขียนๆ ไปแล้วใจกูเทไปที่พระรองเยอะมาก ธรรมดากุชอบตลค.แบบนี้อยู่แล้วด้วย แต่เรื่องนี้ที่กะให้คนแรกเป็นพระเอกเพราะอยากสื่อถึงคู่รักที่พัฒนาจากความเป็นเพื่อน พึ่งพากัน ชีวิตเอียงกะเท่เร่กันทั้งคู่แต่ก็ช่วยกันฉุดอีกคนขึ้นมา ถ้ากุให้คนหลังเป็นพระเอกมีความรู้สึกว่าพี่หมากูน่าจะออกแนวเป็นผุ้ให้ซะเยอะ เซลฟ์อินเซิร์ทได้ฟินๆ กุไม่อยากให้เรื่องออกมาแนวนั้น แต่กุก็ตักใจจากเขาไม่ลง 555 ทำไงดีวะ

344 Nameless Fanboi Posted ID:HRoeM4DZ2

>>343 อีโม่งหลายใจจจจจ เปิดrouteแยกเสีย ๕๕๕ route A พระเอกออริจินอลของมึง route B พระรองซะ

345 Nameless Fanboi Posted ID:GF2/8l/GB

>>343 เขียนให้อกหักไปก่อนดิ
แล้วก็ขึ้นเรื่องใหม่ให้กลายเป็นพระเอกตัวเต็ม ผู้ผิดหวังมา
ส่วนใหญ่ทำกันแบบนี้แหละ ถ้าเสียดายตัวละคร

346 Nameless Fanboi Posted ID:k9Jm3VVI1

กูเอาคำแนะนำเพื่อนโม่งไปตั้งชื่อนิยายกูละ
ต่อไปชื่อตอน พวกมึงเอาชื่อตอนกันยังไง แบบลิเกจ๋า หรือแบบอ่านแล้วนึกว่าชื่อนิยาย หรือแบบคำสั้นๆ วลีเด็ดๆ

347 Nameless Fanboi Posted ID:eOj7A/UzV

>>346 ง่ายที่สุด สิ้นคิดที่สุด และสื่อถึงตอนที่สุด วิธีของกูคือโควตคำ/วลี/ประโยคเด็ด ๆ จากในตอนมาเป็นชื่อตอนเลยจ้า

348 Nameless Fanboi Posted ID:z1pmlrdHY

>>343 อย่านิสัยเหมือนกู ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
แต่ส่วนตัวกูไม่ชอบแบบ >>345 เพราะนี่ยึดติดว่าใครชอบใครต้องชอบให้สุด หรือจะไปชอบใครใหม่ก็ต้องตัดใจให้ขาด (พระรองกูเลยนกถาวร) แต่ก็นั่นแล ทางเลือกอื่นคือมึงก็ไม่ต้องให้พระรองมึงออกตัวชอบนางเอกเรื่องนี้แค่เป็นเพื่อนรุ่นพี่อะไรก็ได้ แล้วไปใส่จัดเต็มให้นางเอกใหม่ของฮีซะ

>>346 ของกูเอาคีย์เวิร์ดสั้นๆไม่พร่ำเพ้อ แต่เป็นเมนของตอนอะ

349 Nameless Fanboi Posted ID:k9Jm3VVI1

กูเขียนแนวที่ปกติคนไม่ค่อยเขียนกันเช่นแม่เกลียดลูกในไส้ นี่มันดาร์กไปเหรอมึง

350 Nameless Fanboi Posted ID:FT+AvhOMI

เพื่อนโม่งกูถามหน่อย ช่วงต้นเรื่องเขียนยังไงไม่ให้น่าเบื่ออะ?
พอดีกูเป็นพวกชอบเขียนช่วงต้นเยอะ เพื่อให้คนอ่านรู้สึกอินไปกับเนื้อเรื่อง แต่หลักนิยมเดี๋ยวนี้เขาดันชอบแบบดำเนินฉับมันเลยทำเอาสไตล์กูล้าสมัยไปเลยเนี่ยสิ
กูพยายามคิดนะว่าจะทำยังไง แต่สุดท้ายก็ต้องใช้ไม่ต่ำกว่า 30 หน้าเพื่อปูเซ็ตติ้งอะ

351 Nameless Fanboi Posted ID:N8pNEbx+J

>>350 เยอะไปปปปป แบ่งไปใส่ตอนอื่นมั่ง ไม่งั้นมึงจะตันบทอื่นแบบกู ปูเยอะไป18หน้า

352 Nameless Fanboi Posted ID:FMgNfL/WJ

>>350 เยอะไปจริงๆ ดำเนินเรื่องช้ามากเลยเหรอ กูว่านิยายสมัยก่อนมันก็ไม่ได้ดำเนินเรื่องช้านะจริงๆแล้ว

>>349 ไม่ดาร์กนะ กูว่าเฉยๆ แต่มันก็ไม่ได้เป็นประเด็นใหม่นะ แต่ถ้าจะเป็นประเด็นหลักเลยคงแบบดราม่าไปนิดสำหรับรสนิยมกู

353 Nameless Fanboi Posted ID:N8pNEbx+J

>>352 ไม่หลักหรอก แค่เป็นปมปูนิสัยเสียของลูกตัวเอก๕๕๕

354 Nameless Fanboi Posted ID:O90e+g0pO

30 หน้านี่คือ 1 บทอะ ซึ่งใน 1 บทนี้จะกล่าวถึง
1.ตัวเอกเป็นใคร
2.มีความสัมพันธ์กับใคร
3.เซ็ตติ้งเป็นอย่างไร
4.ปิดท้ายด้วย มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ถึงได้กลายเป็นเรื่อง

ซึ่งอันนี้กูจะแบ่งออกเป็นตอนย่อยๆ ตอนละประมาณ 3000 คำ ดังนั้นมันเลยตกเฉลี่ยที่ประมาณ 3-4 ตอนเองน่ะ

355 Nameless Fanboi Posted ID:N8pNEbx+J

>>354 มึงอยากคิดก็เขียนไปเลย
แต่ในฐานะคนอ่านกูไม่อ่านบทนำที่เยอะเกินไป

356 Nameless Fanboi Posted ID:wO52j+vMU

กู >>343 เองนะ กุตัดสินใจได้ละ เอาพระเอกคนเดิมน่ะแหละ ส่วนพระรองกุให้เขาแค่รู้สึกใจเต้นกับนางเอกพอ ยังไม่ได้จีบอะไร บทส่งท้ายค่อยขยี้ว่าพี่แกไม่มีเมียไปชั่วชีวิตเลยละกัน สันดานกุแก้ไม่หายสักที รักเขาไม่ได้ก็ทำร้ายแม่ง555555

357 Nameless Fanboi Posted ID:9P/6oXb1z

>>356 จัดเลยมึง กูอ่านเรื่องย่อๆที่มึงเล่าละกูทีมพระเอก ชอบความสัมพันธ์แบบมาคนแรก ผูกพันธ์กันมาก่อนยิ่งเพื่อนสมัยเด็กนี่ไทป์กูเลย

358 Nameless Fanboi Posted ID:LXRjA8FCD

>>356 อีเห้ ทำไมมึงทำร้ายฮีแบบนี้ คาร์แบบนี้น่าก๊าวดีนะโว้ย ไม่ยกระดับหน่อยเรอะ 55555

359 Nameless Fanboi Posted ID:LXRjA8FCD

เออ เพื่อนโม่ง กูมีปัญหาแล้วว่ะ เหมือนช่วงนี้กูเสพอะไรฝรั่งเกินไป แล้วกูคิดบทสนทนาออกเป็นภาษาอื่นหมดเลยอะ พอมาปรับเป็นไทยแล้วมันไม่เข้ายังไงไม่รู้ แบบความต่างทางภาษาอะมึง ฝรั่งแม่งไม่ใช้คำเยิ่นเย้อแบบไทยด้วยไง หรือกูควรเบนไปศึกษาแล้วเขียนสำนวนฝรั่งเลยดีวะ แม่งก็ดูไม่ค่อยเข้าอีก

360 Nameless Fanboi Posted ID:aQv6aHAlw

>>359 เออ เหมือนกันเลย นึกว่าเป็นคนเดียวแล้วเนี่ย 555 มิน่าก็ว่าเดี๋ยวนี้เขียนอะไรก็รู้สึกห้วนๆ ไม่เยิ่นเย้อ ไม่เหมือนที่เคยเขียนมาตอนสมัยก่อนเลย

361 Nameless Fanboi Posted ID:IR9B6ENzf

>>359 สำหรับกูนะ ถ้าตอนไหนสำนวนเป็นแบบไหน กูก็เขียนแนวนั้น เขียนตอนนี้สำนวนฝรั่ง ก็เขียน chick-lit เลยไรงี้ คือกูคงมีแนวที่อยากลองอยู่แล้วสำหรับภาษานั้นๆ อย่างตอนไหนจีนๆก็เขียนแนวจีน แต่ถ้าตอนไหนมึงจี้นจีนนน แล้วไปเขียนแนวธรรมดาหรือฝรั่ง แม่งจะติดสำนวนจริงๆนะ มันเอาออกยากด้วยอ่ะ บางทีมันเขียนไปโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าระวังๆหน่อยก็ได้อยู่วว

362 Nameless Fanboi Posted ID:iXel/Gy6H

กูลองอ่านนิยายตัวเองในมือถือดูพบว่ายาวชิบหายยาววายวอด สงสัยกูต้องลดหน้าลงบ้างละ scrollแล้วแบบยาวนานมาก กูทำให้คนอ่านกูใช้โควต้าอ่านปีละ8บรรทัดหมดไวไป จนลืมสังเกตปมที่กูเฉลยไว้ตั้งแต่บทนำ555

363 Nameless Fanboi Posted ID:Q7nTcRxrG

>>361 น่าลองดี ก็คิดว่าเข้าใจแนวchic-litอยู่นะ แต่ก็ยังเรียบเรียงไม่ค่อยถูกอ่ะ มันมีจุดสังเกตอะไรตรงไหนบ้างวะ

364 Nameless Fanboi Posted ID:ozr28r4Ij

โม่งนักเขียน พวกเอ็งบรรยายยังไงให้คำมันไม่ซ้ำกันบ้าง
ตอนนี้กูพยายามใช้ 1000 คำศัพท์นิยาย ไม่ก็หนังสือของแพลงตอน มีใครเคยใช้หนังสือของพวกนี้ไหมหรือรู้จักหนังสือใกล้เคียงไหม

365 Nameless Fanboi Posted ID:QlAkbvPq2

>>364 คลังคำ

366 Nameless Fanboi Posted ID:Kne1jU8fl

ถามหน่อย เว็บที่ลงนิยายตอนนี้มันมีเว็บอะไรบ้างอ่ะ?

367 Nameless Fanboi Posted ID:AVRqx.nHZ

>>366 dek-d, ธัญวลัย, storylog, fictionlog, ขีดเขียน, hongsamut, joylada, readawrite by meb

368 Nameless Fanboi Posted ID:QlAkbvPq2

>>367 + minimore

369 Nameless Fanboi Posted ID:jublBI6DO

>>367 ขีดเขียนนี่คนเยอะมั้ย
readawrite กับ fictionlog คนน้อยมากกก กูว่ายังไงคนก็ยังคงอยู่ที่ เด็กดีและธวล อยู่ดี

370 Nameless Fanboi Posted ID:5mTfvmTbD

Ky(?) เขียนยังไงไม่ให้คนอ่านรู้สึกถูกยัดเยียด พอดีไปขุดมู้เก่าๆมาเรื่องวินทร์ยัดเยียดเลยกังวล

371 Nameless Fanboi Posted ID:G5nUDuwUt

มึง สมมุติมีคนอ่านเกลียดนิสัยตัวละครมึงมากพร้อมบอกให้เปลี่ยนนิสัยมึงจะเปลี่ยนนิสัยตัวละครนั้นแมะ ร้อย แปดสิบคอมมเม้นมีด่าไอ้นี่ ซัก 50%
กูแต่งเพื่อให้มันเป็นปม อยู่แล้วรอเฉลย คนอ่านก็เร่งกูจัง นิสัยเยอะของตัวละครกูมันมีปมอยู่ ฮืออออ
นี่ถ้าอีกหน่อยกูเปิดตัวตัวร้าย กะว่าตอนสิบ นี่คนอ่านไม่เผาเรื่องกูเลยเร้อะ
อันนี้แค่ตัวเอกนะ...เข้าใจว่าอิน แต่ แต่ รออีกนิดนุง...

372 Nameless Fanboi Posted ID:FaMO9tSb4

>>371 เฮ้อออออออออออออออออออ กูเข้าใจ เมื่อวานตัวละครกูแบบโดนด่าเละเลยยย ฮือออ เอเวอรี่บอดี้โซอิน ละพอมันลงเนตเงี้ยะ กูก็แบบพยายามยื้อคนอ่านเอาไว้ (ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจอ่ะนะ) แต่กูก็คิดว่าพลอตก็คงทำตามเดิม คงไม่เปลี่ยนอ่ะ

373 Nameless Fanboi Posted ID:w71.QTpBI

กูอยากติดสำนวนจังเลยว่ะ ทุกวันนี้เขียนอะไรไม่ค่อยออกเลย พอจะหางานคนอื่นมาอ่านก็ไม่ค่อยเจอที่ถูกใจซักที กูชอบแนวแฟนตาซี โดยเฉพาะที่คนไทยแต่งนะ แต่หาหนังสือที่ชอบจริงๆ ย้ากยาก มาตรฐานสูงด้วยแหละ จะเอาของสมัยเด็กที่ซื้อไว้อย่างพวกบารามอสกลับมาอ่านใหม่ก็กลัวจะไม่สนุกเหมือนเดิม แต่สงสัยคงต้องพยายามมองข้ามเรื่องนั้นแล้วดูแต่สำนวนให้มันซึมซับเข้าไปว่ะ 555

374 Nameless Fanboi Posted ID:Kkfuad/Pu

>>369 ขีดเขียนไม่รู้ว่ะ ไม่เคยไปสำรวจ แต่มีคนแนะนำมา ส่วน readawrite กับ fictionlog ที่คนน้อย ส่วนหนึ่งกูว่าตัวเว็บมันมีแนวไปทางขายนิยายออนไลน์มากกว่าอะ ไม่เชิงเว็บให้อ่านนิยายฟรี เด็กดีก็เลยยังครองบัลลังก์อยู่ ด้วยความที่ฟีเจอร์ดี เว็บเสถียร ชุมชนใหญ่อะไรงี้

375 Nameless Fanboi Posted ID:7fdVaxJCp

>>372 หรือกูลงตอนพิเศษให้คนอ่านเข้าไปการกระทำตัวละครนี้เลยดีมั้ยวะ
ตัวละครกูเป็นงี้ พระรอง นอกจากพระเอก มันไม่เคารพใครทั้งนั้น นิสัยมันเหมือนพระเอกที่นอกจากแฟนมันมันไม่สนใจใครทั้งนั้น ถ้าเทียบความเหี้ยกูยังว่าพระเอกเหี้ยกว่า (จงใจ) แต่มึง คนชอบ...
กูม่ายเข้าใจจจจ

376 Nameless Fanboi Posted ID:7fdVaxJCp

>>375 เข้าใจ

377 Nameless Fanboi Posted ID:jGEsBNG1M

มึง กูเขียนนิยายแล้วชอบไปกังวลกับพวกยอดคอมเม้นอะ ทำยังไงให้กูเลิกคิดมากเรื่องพวกนี้ดี มันทำให้กูไม่มีอารมณ์จะเขียนตอนต่ออะ

ละอีกเรื่องพอดีกูมีนักอ่านประจำ แล้วทีนี้ช่วงหลังๆนักอ่านประจำที่เคยเม้นกุทุกตอนหายอะ กุแบบเครียดมากว่ากุเขียนไม่ดีตรงไหนหรอ รู้สึกแย่กับงานเขียนตัวเองมาก ตรงนี้ควรปรับปรุงที่นิยายตัวเองหรือปล่อยๆเขาไปดีวะ แม่งเครียดเว่อ

378 Nameless Fanboi Posted ID:yDxyUI0Aw

นิยายเดี๋ยวนี้ลงเว็บไหนเวิร์คที่สุดอ่ะ
ปล.ไม่ใช่นิยายวาย นิยาย 18+

379 Nameless Fanboi Posted ID:ATYFnHD1d

>>377 กูก็เป็นอะมึง จนตอนนี้หยุดพักเขียนไปยาวๆ เลย ;___; แล้วยิ่งแบบไปอ่านเจอทวิตหนึ่งว่าการที่อ่านอ่านไม่เมนต์เนี่ย คนเขียนจะไป blame คนอ่านไม่ได้ เพราะบางทีคนเขียนไม่สามารถดดึงอารมณ์คนอ่านให้ไปถึงจุดนั้นได้เอง กูก็ยิ่งรู้สึกแย่ เพราะถ้าพูดกันตามตรงเลยนะ คนอ่านขี้เกียจเมนต์หรือนิยายพาอารมณ์ไปไม่ถึงกันแน่ กูเห็นบ่อยเลยเวลาคนเขียนประกาศว่าจะหยุดอัพฟิค นักอ่านเงานี่มาเมนต์ขอโทษกันพรึ่บ กูควรรู้สึกไงดีวะมึง

380 Nameless Fanboi Posted ID:83hcQChRO

>>377 กอดเพื่อนโม่ง กูก็เป็นอยู่ แต่กูพยายามคิดว่ากูเขียนเพื่อท้าทายตัวเองไรงี้ เอาความพอใจตัวเองเข้าว่า ส่วนฟีดแบ็คจากคนอ่านที่ได้มาถือเป็นกำไรว่ะ มันก็พอช่วยได้อยู่นะ

381 Nameless Fanboi Posted ID:z1i6Boa1F

>>379 ใช่เลย แต่กูก็ไม่อยากเอาการนอยคนอ่านมาทำให้กูต้องรู้สึกแย่อะ คือคนเขียนบางคนเขียนดีกว่ากูแต่เม้นน้อยกว่าก็มีและอีกอย่างในความคิดกูนะจะให้มันพีคทุกตอนเงี้ยก็ไม่ได้อะมึง เศร้าใจ ตอนนี้คงทำได้แค่พัฒนางานตัวเองให้ดีกว่าเดิม

>>380 กูพยายามคิดแบบนั้นเหมือนกันเว้ยว่าตอนแรกเราเขียนนิยายเพื่ออะไร เราเขียนเพื่อความพอใจของตัวเองไม่ใช่หรอ แต่แบบบางทีมันก็ยังมีอารมณ์ที่ชอบเอาของตัวเองไปเปรียบเทียบกับนิยายที่แนวคล้ายของตัวเองว่าทำไมเขาฟีดแบคดี คนเม้นเยอะไรงี้ คือลองสังเกตดูกูว่าเขาไม่ได้ภาษาสวยมาก (เวลากูเขียนนิยายกูชอบกังวลว่าภาษาตัวเองจะไม่สละสลวยอะ) ละแบบเออทำไมคนถึงชอบ ตอนนี้เลยกำลังพยายามปรับปรุงการเขียนของตัวเองให้กระชับขึ้น

382 Nameless Fanboi Posted ID:PXiU/JbKN

>>379 >>380 >>381 กูคนอ่าน เม้นมั่งไม่เม้นมั่ง อยากบอกพวกมึงว่าเม้นน้อยแต่เม้นตรงประเด็นมันดีกว่ามาก เวลากูจะอ่านนิยายกูดูเม้นคนอ่านเดิม ๆ ด้วย ถ้ามีแค่ รอจ้า ขอบคุณจ้า ดีจ้า ชอบจ้า มาต่อเร็ว ๆ มีแต่แบบนี้เพียบกูเดาได้เลยว่าไม่มีอะไรให้อ่านหรอก แต่ถ้าเม้นถึงพระเอกนางนู่นนี่มีวิเคราะห์คาดเดามากมายกูจะสนใจนะ ถ้ามึงมีนักอ่านคุณตะพาบแล้วมึงจงดีใจเหอะ อย่าไปนอยเลย มึงอยากได้นักอ่านแบบอ่านทีละสิบเรื่องแล้วอ่านแต่บทสนทนาเอามันเหรอ มึงก็ไม่อยากได้ใช่ปะ คนอ่านที่อ่านหนังสือจริง ๆ จัง ๆ ก็ต้องรอให้พีคถึงจะเม้น ถ้ามึงเขียนโคตรพีคแล้วไม่มีคนเม้น อันนี้มึงค่อยคิดมากจะดีกว่า

383 Nameless Fanboi Posted ID:z1i6Boa1F

>>382 อ่านเม้นมึงละทำให้กูคิดได้อย่าง หลังๆมาคนเม้นกูน้อยก็จริง หน้าเดิมๆหาย แต่คนเม้นช่วงหลังๆเม้นที4,5,6บรรทัด แสดงว่าเค้าคงอินบทอยู่พอสมควร เอาจริงๆกูดีใจนะเหมือนมีคนเม้ามอยด้วย ถ้าปกติมีแค่เม้นว่ารอจ้า กูก้ไม่รู้จะคุยอะไร ไว้ถ้ากูกลับไปอัพตอนใหม่จะพยายามไม่นอยเรื่องเม้นละ ขอบคุณมาก

384 Nameless Fanboi Posted ID:0MPC1seMF

เรื่องคนเม้นนี่กูบอกเลยถ้าใครจะพูดว่าไม่สน กูคนนึงที่สนมาก คือแม่งมีผลต่อจิตใจกูมากกก สมมติแบบตอนนึงเคยมีสักห้าสิบ แล้วตอนใหม่อยู่ดีๆลดไปยี่สิบเงี้ยะ กุจะแบบเครียดละกูทำไรผิด บาบตอนเรื่องมันก็ต้องเรื่อยๆมั่งอ่ะ
ละพอเป็นงี้แม่งจะทำให้กูเหมือนเสพติดเว่ย แบบทำไงให้ตอนต่อไปตื่นเต้นแม่งตื่นเต้นทุกตอน กระทบเส้นเรื่องกุไปอีก เฮ้อออออออ
แบบเวลากูเห็นคนทวิตทำนองว่าเขียนเพื่อตัวเองก็ใช้ได้แล้ว คือมันก็ใช่เว่ยยย กูเขียนเพราะอยากเขียนแต่คอมเม้นที่ทำให้กูมีความสุขกูก็อยากได้

385 Nameless Fanboi Posted ID:z1i6Boa1F

กูเข้าใจเลยแต่เอาตามตรง20เม้นต่อตอนของมึงก็เยอะ โคตรรรละ สำหรับกูนะ แต่สำหรับมึงคือเข้าใจว่าเคยได้อะไรเยอะกว่านั้นไงพอได้น้อยมันก้จะมีความรู้สึกแบบ เห้ยเกิดไรขึ้นวะ กูว่าบางทีนะถ้าไปแคร์มากมันจะทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเองด้วยปะวะ กรณีกุคล้ายๆมึงแต่จะเป็นตอนไหนมีฉากฟินคนเม้นพรึบบบจ้า ตอนไหนไม่ฟินอะเงียบเป็นป่าช้าเลย>>384

386 Nameless Fanboi Posted ID:0MPC1seMF

>>385 เออกูรู้สึกเครียด กดดันและไม่เป็นตัวของตัวเอง และกูกำลังคิดว่า กูกำลังเขียนให้คนอื่นชอบที่ไม่ใช่ตัวเองชอบ แต่กูก็อยากได้คอมเม้น ย้อนแย้งไปอีก บางทีกูเห็นคอมเม้นแล้วเปิดไฟล์ตอนถัดไปมารีไรท์เลยอ่ะ ซีเวียร์เบอร์ไหนฟระะะ 😭😭

387 Nameless Fanboi Posted ID:O1.PRUv4f

มึงอยากได้เม้นด่าตัวละครไหม เดี๋ยวกูยกให้ เยอะมาก
ของกู...แม่ง...
วิ่งไปกอดคอลูก(ตัวละคร) กูแทบไม่ทัน
ปล.กูโม่งที่บ่นพระเอกมันเหี้ยกว่าพระรองไม่มีใครด่า แต่คนมาโฟกัสพระรองกันหมด ใช่สิ พระรองทำอะไรก็ไม่เข้าตา ฮือลูกรักแม่
กูอยากได้เม้นแนวรอจ้า บ้าง

388 Nameless Fanboi Posted ID:n7mjYSsP2

เพื่อนโม่ง ขอความเห็นหน่อย คือพอดีกูหาคำจำกัดความกับคำว่า "Enchantress" ไม่ได้อะ
คือตัวละครในเรื่องกู (ก็นางเอกนั่นล่ะ) เป็นเด็กที่ค่อนข้างพิเศษน่ะ มีความสามารถในการคุณกับสัตว์ คุยกับต้นไม้ และพวกภูติ กับวิญญาณป่าเขาได้ เอาง่ายๆ คือเป็นเด็กที่ธรรมชาติรักนั่นล่ะ เจ้าตัวสามารถขอยืมพลังจากธรรมชาติมาสร้างปาฏิหาริย์เล็กๆ ได้ แต่ก็ไม่ถึงกับขนาดใช้เวทมนตร์ระเบิดภูเขาเผากระท่อมอะไรทำนองนั้น
ในคำแปลภาษาไทยมันแปลว่า "แม่มด" อะนะ แต่ปัญหาคือไอ้คำว่า "แม่มด" เนี่ย มันดันเป็นความหมายเดียวกับคำว่า Witch กับ Hag ที่ออกไปในทางไม่ดี อีนางเอกกูก็ดันอยู่ฝั่งดีซะด้วยเลยไม่กล้าเขียนไปตรงๆ ว่าเป็นแม่มด ฉะนั้นจึงอยากปรึกษาเพื่อนโม่งหน่อย ว่ามีคำนิยามไหนเหมาะกับคุณเธออีกมั้ย?

389 Nameless Fanboi Posted ID:xJbkaTtbK

>>388 หญิงเปี่ยมสเน่หา ถ้าแปลตรงๆอ่ะนะ แต่โม่งลองหานิยามที่โม่งพอใจก็ได้ เช่นเด็กหญิงแห่งธรรมชาติ หรือ สาวน้อยมนตราพงไพร, ขุนเขา บลาๆ

390 Nameless Fanboi Posted ID:FOCTfp+XT

>>388 สาวน้อยเวทมนตร์ไงมึง < กุล้อเล่น แต่ก็อย่างที่ด้านบนว่าแหละ ว่าอันนี้ตามแต่ที่พอใจเลย ว่าอยากได้แนวสาวน้อย แนวท่านหญิง หรือแนวภูตอะไรก็ได้นะ ภาษาพอดิ้นได้อยู่

391 Nameless Fanboi Posted ID:DpyOMN81G

>>388 ทับศััพท์มะ

392 Nameless Fanboi Posted ID:oRgYp07O9

>>388 สาวน้อยแสนกล ถถถ

393 Nameless Fanboi Posted ID:isE9AmM1G

>>391 +1

394 Nameless Fanboi Posted ID:mKBmT0iv+

>>388 กูว่า enchantress มันเป็นพวกมีเสน่ห์กับคนมากกว่านะ โดยเฉพาะพวกเพศผู้
จากคำนิยามมึง คิดว่าเป็นพวก nature witch/mage มากกว่าแต่ถ้าเป็นภาษาไทยคิดว่าน่าจะประมาณ มีจิตวิญญาณแห่งป่าไรงี้ก็ฟังดูสวยดีนะ

395 Nameless Fanboi Posted ID:Oo9sUZRw/

ดำเนินเรื่องแบบไหนไม่ให้อืดหรือเร็วไป
ของกูสองสามตอนนางเอกอายุเพิ่มอีกปีละ เร็วไปป่ะ มีคนบอกว่ากูเร้ว

396 Nameless Fanboi Posted ID:I2FNuhaFQ

เพื่อนโม่งกูได้หนังสือคลังคำในตำนานมาครอบครองแล้วสุดยอดมาก

397 Nameless Fanboi Posted ID:B60pUYMYM

>>396 ซื้อที่ไหนวะ ขอชื่อนส.หน่อยเพื่อนโม่ง

398 Nameless Fanboi Posted ID:vTwSau/cH

ถ้าเล่มหนาโคตรๆ หนังสือคลังคำ
http://readery.co/media/catalog/product/cache/1/small_image/360x/17f82f742ffe127f42dca9de82fb58b1/9/7/9786161811662.jpg
อันนี้แนะนำซื้อบัตร Gift-Voucher 1000บ. ในร้านนายอินทร์ ได้บัตรสมาชิกฟรี2ปี ได้ส่วนลด
ซื้อที่ร้านนายอินทร์ได้ทุกสาขา

399 Nameless Fanboi Posted ID:I2FNuhaFQ

>>397 นายอินทร์ ทั้งในเว็บและหน้าร้านมีบางร้านนะ นายอินทรืถูกสุดละส่งก็ไวดี ส่งฟรีด้วยเพราะมันเกิน600 555

400 Nameless Fanboi Posted ID:I2FNuhaFQ

715บาท เอาไว้ฟาดหัวเกรียนคีย์บอร์ดได้

401 Nameless Fanboi Posted ID:vTwSau/cH

>>400 ถ้าซื้อบัตร Gift-Voucher 1000บ
มีบัตรลด 20 บ. ให้อีกหลายใบ แต่ใช้ได้ใบล่ะ order ที่ซื้อ
เหลือ 600 กว่าๆ มั้ง

402 Nameless Fanboi Posted ID:Al+N/rPOw

>>400 มือสองก็คุ้มนะ เพราะปกแข็งหนังสือไม่ช้ำเท่าไร 200เอง

403 Nameless Fanboi Posted ID:r.7La62sq

>>402 อ้าวมีมือสองขายเร้อะ กูซื้อมือหนึ่งมาทำไมมมมมม

404 Nameless Fanboi Posted ID:Al+N/rPOw

>>403 รีบใช้ก็ซื้อมือหนึ่ง นี่ซื้อให้หลานส่องพวกเว็บมือสองมีหลุดมาเรื่อยๆแต่ไม่บ่อย

405 Nameless Fanboi Posted ID:LGFNrEJcn

ทำไมกระทู้แลกเปลี่ยนนิยายมันเยอะจังวะ เพื่ออะไร ได้นักอ่านที่ไม่ได้ตั้งใจอ่าน? แต่แลกเม้นกัน?

406 Nameless Fanboi Posted ID:R9H6WMAp3

กลุ้มว่ะเพื่อนโม่ง ความรู้สึกอยากเขียนนิยายกูหดหายไปเกลี้ยงเลยตอนนี้
พักหลังๆ มานี่กูเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองแล้วว่า "เขียนไปทำไมยังไงแนวที่กูเขียนก็ไม่ได้ตีพิมพ์ ...สู้เลิกเขียนออกจาก comfort zone แล้วไปตั้งใจทำงานดีกว่ามั้ย?" ด้วย
กูชอบเขียนนิยาย แต่มาปัจจุบันพอมีอะไรหลายอย่างให้คำนึงกับการเขียน กูก็พาลเอาไม่อยากเขียนซะงั้นเลยอะ

407 Nameless Fanboi Posted ID:1PTtgqWJt

>>406 กูไม่ได้ว่ามึงนะ แต่กูค่อนข้างเบื่อเวลาเจอนักเขียนมาบ่นว่างานตัวเองไม่ได้ตีพิมพ์เพราะไม่ใช่แนวที่ขายได้ ถ้าทุกอย่างของมึงดีหมด ตกรอบแค่แนวที่เขียนเนี่ย กูอยากให้มึงลองพิสูจน์ตัวเองหน่อยว่าฝีมือดีจริงแต่ไม่ได้รับโอกาสด้วยการเขียนแนวแมสๆ แนวที่มึงคิดว่าขายได้ดู ถ้าส่งพิจารณาแล้วผ่าน มึงค่อยมาบ่นเรื่องนี้อีกที โอเคมั้ย

408 Nameless Fanboi Posted ID:f8brMBFcy

>>406 กูเข้าใจนะเว่ย มันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ที่มึงเขียนด้วย
เช่น มึงอยากเขียนเฉยๆ เขียนแล้วสบายใจ มีความสุข อะไรก็ว่าไป หรือมันเกินกว่านั้นไปแล้ว อยากตีพิมพ์ อยากมีชื่อเสียง อยากเลี้ยงตัวเองได้
บอกตรงๆเลย สำหรับกู กูอยากให้การเขียนของกูเลี้ยงกูได้ กูไม่ได้เขียนเพราะแค่ได้เขียนก็พอแล้ว กูเลยเข้าใจฟิลลิ่งนี่นะ เขียนแล้วก็ไม่ได้พิมพ์สักที แม่งก็ท้อถอย

ส่วนความรู้สึกที่ว่าไม่อยากเขียนกูรู้สึกว่า ถ้าตอนไหนรู้สึกไม่อยากเขียนแล้ว รู้สึกว่าเขียนไปก็เท่านั้น ไปทำอย่างอื่นที่หาแดกได้ดีกว่า กูว่าก็ไปทำอย่างนั้นเหอะว่ะ ไว้ค่อยกลับมาใหม่ตอนมึงอยากเขียนแล้วก็ยังไม่สาย

409 Nameless Fanboi Posted ID:f8brMBFcy

>>407 อืมมม กูแอบเห็นด้วยกับอันนี้นะ ถ้าอยากตีพิมพ์จริงๆลองเขียนแมสดู จะได้รุ้ด้วยว่า ฝีมือตัวเองเทียบกับตลาดแล้วอยู่ตรงไหน พอจะพิมพ์ได้จริงๆรึเปล่า ซึ่งจริงๆตลาดแมสมันไม่ได้ต้องการฝีมือเยอะอะไรเบอร์นั้นหรอก 555555

410 Nameless Fanboi Posted ID:y2zBSUuaR

>>406 แค่อ่านคำพูดมึงกูก็งงแล้ว ไม่รู้ว่านิยายมึงขายไม่ได้เพราะคำพูดงงรึเปล่าวะเนี่ย
สู้เลิกเขียนออกจาก comfort zone แล้วไปตั้งใจทำงานดีกว่ามั้ย?
"ออกจาก comfort zone" เนี่ยมึงสื่ออะไรวะ งานเขียนเป็น comfort zone มึงจะออกจาก comfort zone แล้วหางานทำ
หรือ งานเขียนเป็นการออกจาก comfort zone มึงจะเลิกแล้วกลับ comfort zone ไปหางานทำ
ว่าแต่พจน์นี้มันเติมมาเพื่ออะไรกูไม่เข้าใจ
กลับมาที่คำถามมันขึ้นอยู่กับมึงเขียนเพื่ออะไรว่ะ เขียนเพราะอยาก รายได้เป็นของเสริมก็เขียนต่อไป
เขียนเพื่อเงิน มึงก็ต้องทำตัวตามตลาด เขียนนิยายแบบที่มันขายได้ (เช่นช่วงนี้เป็นเสิ่นเจิ้น หรือนิยายรักไม่มีวันตาย) ศึกษาคนที่ขายได้ว่าเขาทำไงกัน
แต่ถ้ามึงทำใจเขียนแนวตลาดไม่ได้ อยากเป็นตัวของตัวเองก็ต้องทำใจเรื่องยอดด้วย ต้องหางานทำ

411 Nameless Fanboi Posted ID:uaN5F34a4

กู >>410 นะ เรื่อง comfort zone กูจะบอกว่าคือกูก็เดา ๆ ได้แหละนะว่ามึงหมายถึงความหมาย 2 แต่รูปประโยคมันไม่ได้ว่ะมึง ถ้าคนไม่รู้อิ้งเลยมาดูกูว่าแม่งเข้าใจความหมายคำนี้ผิดแน่ ๆ เลยว่ะ

412 Nameless Fanboi Posted ID:yJLfYeY0g

>>406 กูผ่านจุดนั้นของมึงมาก่อน กูหยุดเขียนไปทำงานประจำ 2-3 ปี สนุกกับการทำงานเลยเลิกเขียนพอเบื่องานประจำแล้วก็ทำแบบ >>407 เขี่ยงานประชดแมส พล็อตไม่มีห่าอะไรเลย เอาจากเรื่องนั้นแปะเรื่องนี้ใส่พระเอกปล้ำนางเอกเยอะๆ แม่งเสือกขายได้ ได้พิมพ์ ขายดีมากพอที่บ.ก.มาถามว่ามีเรื่องอื่นๆ เรื่องเก่าจะเสนออีกหรือเปล่า (ซึ่งมันจะไปมีงานอีโรตลาดอีกได้ไง)

ส่วนตอนนี้กูทำอะไร งานประจำว่ะ กูเลิกเขียนเพื่อพิมพ์หรือประชดเลย นามปากกานั้นกูโยนทิ้งไปแล้ว กูเขียนที่กูอยากเขียน งานเขียนของกูคือรับใช้กูไม่ใช่รับใช้แมส

413 Nameless Fanboi Posted ID:f8brMBFcy

>>412 กูก็เคยเขียนอิโรติกรับใช้แมส 5555 ขายดีจริง ได้เงินเยอะที่สุดเท่าที่กูเคยได้มาจากงานเขียนเลย แล้วก็แบบเขียนง่ายมาก เหมือนใส่ๆเข้าไปให้มันเต็มๆเล่ม สองสามวันกูก็ฝอยจนจบแล้วอ่ะ แล้วก็ขายเลย เทียบกับแนวปกติกูเขียนอาทิตย์นึงได้ตอนเดียวมั้ง แล้วก็ขายยากกว่าอิโรติกเยอะ

414 Nameless Fanboi Posted ID:R9H6WMAp3

>>410 โทษทีกูคงอธิบายไม่เคลียร์
Comfort zone ที่กูว่านี่คือ ทุกวันนี้กูทำงานแบบชิลๆ รับงานน้อยๆ แล้วใช้เวลาว่างเขียนนิยายน่ะ คือเป็นการทำงานแบบขอไปทีไม่เน้นความก้าวหน้า แต่เน้นสบาย เข้างาน 9 โมง 5 โมงออกงาน ไม่ทำ OT ซึ่งถ้ากลับกันกูเลิกอยู่แต่ใน comfort zone แล้วไปขยันวิ่งงาน (ทำงาน 8 โมงถึง 2-4 ทุ่มอะไรทำนองนั้น) ฐานะงานของกูก็จะก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด แต่ต้องแลกกับเวลาส่วนตัวที่แทบจะไม่มีนั่นเอง

ส่วนเรื่องงานเขียน ...เพราะกูรู้ดีนั่นล่ะว่ากูเขียนแนวแมสไม่ได้ กูไม่ชอบนิยายรัก ไม่สามารถเขียนนิยายวาย และจะให้ไปเกิดใหม่ในจีนก็ไม่ใช่จริตกู กูถึงได้แต่เขียนแนวของตัวเอง แต่ก็ดันเป็นแนวที่ตลาดแทบไม่รองรับ กูถึงได้รู้สึกเหมือนว่าเขียนไปเพื่ออะไรนั่นล่ะ

415 Nameless Fanboi Posted ID:3bv824.j+

>>406 Ebookก็มี ขายโดยไม่ผ่านสำนักพิมพ์นะมึง ยุคใหม่แล้วไม่จำเป็นต้องง้อสำนักพิมพ์

416 Nameless Fanboi Posted ID:3bv824.j+

>>414 ถ้าสนุกแนวไหนก็มีคนเห็นว่ะ
ขยันโปรโมทหน่อย ไม่ใช่แบบ เนี่ยกูไม่ใช่แนวแมส กูมั่นหน้าว่าตัวเองเขียนดี กูไม่โปรโมทรอคนมา
มึงดูโฆษณาในทีวีบางอันแม่งไม่ได้ดีอะไรเลย แต่คนใช้ คนลอง เพราะมันเห็นบ่อยๆ ทำให้เกิดความรู้สึกสนใจ
หากโฆษณาแล้วยังไม่มีคนสนใจ นั่นเพราะฝีมือมึงห่วย อย่าโทษฟ้าดินเลย

417 Nameless Fanboi Posted ID:eQBFqP9zD

>>414 มึงเขียนทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ใช่แนวขายดี ก็ต้องทำใจแต่แรก
ถ้าที่เขียนเพราะมึงชอบอย่างนั้น ก็เขียนไป
ถ้าเขียนแล้วอยากขายได้ หรือมีคนมาคอมเมนต์ชม มึงก็ต้องตามใจตลาด
...งานเขียนที่คนเขียนแล้วไม่รู้สึกสนุกไปกับมันเลย มันคงไม่สนุกตั้งแต่แรกแล้วล่ะ
ฉะนั้นตัดจบ
เขียนในสิ่งที่อยากเขียน หรือ เขียนในสิ่งที่ต้องการให้แนวตลาดชอบ
ต้องเลือกตั้งแต่แรกแล้ว
เป็นกูถ้า 5-10 ตอนแรก ไม่รู้สึกสนุก คือเรื่องนั้นจบ ไม่เขียนต่อให้เสียพลังงานและสมาธิอีกแล้ว

418 Nameless Fanboi Posted ID:XOnKKxl3N

โม่งนักเขียน บิ๊วอารมณ์ให้หายหดหู่ได้ไงว่ะ
กูยิ่งเขียนยิ่งดาร์กเหี้ยๆ

419 Nameless Fanboi Posted ID:AluusUCVg

พูดถึงเรื่องโปรโมตแล้ว เพือนโม่งโปรโมตนิยายตัวเองกันยังไงบ้างวะ?

420 Nameless Fanboi Posted ID:AluusUCVg

อ้อถามอีกอย่าง การเลือก POV1/3 นี่ เพื่อนโม่งแต่ละครมีแนวทางการเลืิอกยังไงบ้าง

ตอนนี้กูมีความคิดอยากจะรีไรท์จาก POV1 ไปเป็น 3 แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำดีมั้ย

421 Nameless Fanboi Posted ID:GMs9WEKw5

>>418 ถ้าเป็นกู กูจะฟังเพลงแบบโลกสดใสอะไรประมาณนี้น่ะ กู้อารมณ์ได้โอเคเลย หรือไม่มึงลองกินขนมหวานดู อันนี้วิธีกูนะ มีประมาณนี้

422 Nameless Fanboi Posted ID:4P7F8wa2r

>>418 นั่นแหละ เสพอะไรน่ารักๆสดใสๆเยอะๆเลย เอาให้เอียนแทน 555

423 Nameless Fanboi Posted ID:XOnKKxl3N

>>419 กูไปเนียนแปะในกระทู้ที่กูด่าไปนั่นแหละ ใช่สิ กูเฬว5555

424 Nameless Fanboi Posted ID:XOnKKxl3N

>>421 เดี๋ยวไปลอง กูรอได้เงินค่าขนมก่อน คงจะอารมณ์ดี 55

425 Nameless Fanboi Posted ID:XOnKKxl3N

>>422 กูลองดูbnkที่เขาว่าสดใส/ แต่ตอนนี้ดราม่า สนุกชิบหาย กุสนุกแล้ววว

426 Nameless Fanboi Posted ID:4P7F8wa2r

>>425 เอิ่ม... เอาเถอะ มึงหายดาร์คก็ดีละ 555

427 Nameless Fanboi Posted ID:gLRZu49Ii

มึงงง กูเพิ่งรู้สึกว่าอี 3000 คำ เด็กดีนี่เยอะชิบหายยย
คือถ้าเป็นเรื่องเก่ากูนะ อัพแบบตอนนึง 5 หน้า (นี่ 100 เปอร์เซ็นละนะ) เมื่อก่อนกูเขียนสั้นอ่ะ แบบกูเขียนได้แค่นั้นไรงี้ ดีที่ตอนนี้เริ่มคงที่ละเขียนได้ยาวขึ้น ประมาณสิบกว่าหน้าถึงยี่สิบไรงี้
วันนี้กูมาแบบกะจะเขียนตอนสั้นๆ แบบเป็นตอนพิเศษไรงี้อ่ะมึงง มันแบบบอัพแล้วไม่เตือนนน เพราะมันไม่ถึง 3000 คำ TTT^TTT

428 Nameless Fanboi Posted ID:s/XGaYwz+

>>427 ก๊อปวางอีกรอบ ให้มันเด้งเตือนให้ได้แล้วรีบลบออกก่อนนักอ่านมา

429 Nameless Fanboi Posted ID:Ag96ffqel

แต่งไปแต่งมาเนื้อเรื่องไม่ตรงกับชื่อเรื่องแล้วว่ะ ควรแก้ชื่อไหม

430 Nameless Fanboi Posted ID:V9F5GesPV

นอกจากแนววายแล้ว ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ยังอ่านแนวตัวเอกเป็นผู้ชายอยู่รึเปล่าวะ?
เห็นนักอ่านผู้ชายชอบบ่นเวลามีเรื่องไหนเป็นตัวละครเอกเป็นผู้หญิง ไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงจะมีแนวคิดแบบเดียวกันรึเปล่า

431 Nameless Fanboi Posted ID:91Mvqf/1H

>>430 กูชอบตัวเอกเป็นผู้ชายมากกว่าตัวเอกเป็นผู้หญิงนะ โดยเฉพาะถ้าเป็นตัวเอกผู้หญิงที่เขียนโดยผู้ชายนี่จะไม่ชอบเลย (ในกรณีที่ทำให้กูรู้สึกได้อ่ะนะ)

ส่วนตัวกูชอบตัวเอกชาย เช่นสยบฟ้า ไตรภาคสุยถัง ไรงี้ บลาๆ

432 Nameless Fanboi Posted ID:ENxFKij+a

ไม่รู้จะคุยกท.ไหน ถามหน่อยดิ Pieretta Dawn เป็นเด็กปั้นที่ไหนป่ะวะ กุอ่านนส.นางแล้วไม่ชอบอ่ะ นิยายพล็อตดาดๆ กากๆ ทำไมดูสื่อปั้นจัง

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.