Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร [กระทู้ที่ 3]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:pMZM.Spia

กระทู้เพื่อพูดคุยเทคนิคการเขียน และเรื่องการประกวดต่างๆเกี่ยวกับนิยาย
กระทู้ 1 >>>/literature/2342/
กระทู้ 2 >>>/literature/3442/

2 Nameless Fanboi Posted ID:KXKqVTmWD

แวะมาเจิม พร้อมแถมนามสกุล https://th.wikipedia.org/wiki/รายชื่อนามสกุลที่ใช้กันมาก

3 Nameless Fanboi Posted ID:Ro489/b/4

ทำไมตัวเอกแบบมีเบื้องหลัง​(หรืออดีต/ชาติก่อน) เป็นสายลับ​/นักฆ่า/มือปืน​ ฯลฯ ถึงเป็นที่นิยมจังวะ

4 Nameless Fanboi Posted ID:VBEoQDP.r

>>3 มันดูลึกลับดี

5 Nameless Fanboi Posted ID:K+RDxQy1e

>>3 อืม มันดูมีสตอรี่มีเสน่ห์ ขณะเดียวกันถ้าทำออกมาไม่โอ แม่งจะดูเบียวมาก ไออาชีพพวกนี้

6 Nameless Fanboi Posted ID:PQUFISxBo

>>5 จริง กูเจอของบางคนแล้ว เบียวเหี้ยๆ อ่านแล้วยังอายแทนเลย แต่บางคนเขียนแล้วแม่งก็เท่ชิบหาย

7 Nameless Fanboi Posted ID:F63DEBl0H

ตอนนี้ถ้าจะลงนิยายลงที่ไหนดีระหว่างเด็กดีกับฟิคล็อค?

8 Nameless Fanboi Posted ID:X1gnYp6en

>>7 เด็กดี ดีกว่า คนอ่านแยะกว่า

9 Nameless Fanboi Posted ID:7MVi1uj9Z

>>7 ฟิคล๊อค เข้าถึงคนอ่านยากสัดเหอะ คือถ้ามึงไม่ได้มีฐานคนอ่านอยู่แล้วที่จะตามมึงไปทุกที่อ่ะนะ กูว่าฟิคล๊อคคนอ่านน้อยแล้วก็การที่คนอ่านจะเข้าถึงเรื่องที่มันไม่ได้อยู่หน้าแรกน้อยมาก

10 Nameless Fanboi Posted ID:2OfBuQ6SS

โม่งบนๆช่วยนิยามคำว่าเบียวให้หน่อยดิ กุจะได้เรียนรู้แล้วพยายามไม่เขียนให้เป็นแบบนั้น

11 Nameless Fanboi Posted ID:viX2Sw3A1

>>10 คนเขียนเรื่องเบี้ยวในสายตากุนะ แบบperfectเว่อร์ๆเหมือนคนเขียนแม่งมีปมไรซักอย่างกับตัวเองแล้วมาลงกับนิยาย ทุกคนในเรื่องแม่งMary sueกันหมด เช่นทะลุมิติมาทำได้ทุกอย่างตั้งแต่สากกระเบือยังเรือรบ มันไม่สมเหตุผล

12 Nameless Fanboi Posted ID:5BR8uJrSC

>>10 เทพทรูซูเก่งฉกาจ อัจฉริยะ​รู้รอบด้าน ระบบสุริยะ​หมุนรอบตัวตัวเอก

13 Nameless Fanboi Posted ID:viX2Sw3A1

>>11 ไม่ก้อนุ่ดีๆทุกคนแม่งรุมรักแบบไม่มีเหตุผล

14 Nameless Fanboi Posted ID:7MVi1uj9Z

>>13 อันนี้กูเห็นด้วย

หรือไม่ก็แฟนตาซีจัดๆ แบบแต่งคาร์มาแบบฟรุ้งฟริ้งอลังการมาก แบบเบื้องหลัังเป็นนักฆ่า ครอบครัวถูกฆ่า เจ็บปวดกับอดีต ไม่เชื่อใจใคร เป็นคนเย็นชา มีตาสองสีปิดไว้ข้างนึงกลัวคนรู้ความลับ ผมยาว กลายร่างได้ หน้าตาดี เป็นคนที่จะหมุนกงล้อแห่งโชคชะตาของอาณาจักรโมงเนีย เป็นคนที่รอคอยมาพันปี เทพมาก ทุกอย่างเก่ง สะท้านฟ้าทุกย่างก้าว ตัวเอกหญิงทุกคนรัก ความจริงแล้วต้องมีความลับอันดำมืดอยู่ในชาติกำเนิดของมึง แบบอาจจะเป็นลูกของมหาปีศาจ หรือมหาเทพ หรือทั้งสองมหา แค่มึงยืนอยู่ก็ทำให้โลกสะท้านได้แล้วอ่ะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:/SCT5JX6o

>>14 กุสะดุ้งเลย นิยายกูชัดๆ 555555

16 Nameless Fanboi Posted ID:7MVi1uj9Z

>>15 ท่ดๆ กูแซวแบบรวมๆ 5555555

17 Nameless Fanboi Posted ID:YlLvEyTul

เบียว ย่อมาจาก จูนิเบียว "Chuunibyou" เป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "โรค ม.2"
ถึงจะเขียนว่าเป็นโรค แต่ที่จริงไม่ใช่โรคหรอก แต่มันเป็นอาการของเด็กที่ช่วงวัยต่อต้าน ซึ่งคนพวกนี้จะเป็นพวกที่ชอบคิดว่าตัวเองเจ๋ง ทำอะไรนอกกระแสไม่เหมือนใคร หรือเรียกง่ายๆว่าแม่งอินดี้ แต่จริงๆ คนพวกนี้ไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้นนั้นจริง ๆ อะ แค่ทำแล้วรู้สึกว่ามัน "เท่" ก็เท่านั้น

นอกจากนั้นยังมีพวกที่หลงไหลในพลังพิเศษอีกด้วย ซึ่งกลุ่มนี้ถูกเรียกว่า "พวกหลอน" และ จะหลอนยิ่งกว่าเดิมถ้าหากมันคิดว่าตัวเองมีพลังพิเศษและโดดเด่นกว่าชาวบ้าน

ส่วนนิยายเบียวนั้นเป็นศัพท์ที่ห้องสับ Webnovel ใช้กันบ่อย เพราะนิยายเว็ปเด็กดีมันเข้าข่ายทั้งนั้น ปัจจุบันยังไม่มีการนิยามชัดเจน แต่ส่วนใหญ่เอาไว้ใช้เรียกนิยายจำพวกที่พวกพระเอกเก่งเวอร์ มีพลังพิเศษ พลังเทพไม่เหมือนชาวบ้าน ซึ่งพวกนี้มักจะเข้าข่าย Mary sue กันทั้งนั้น บางเรื่องก็วางปมซะน่ารันทดแต่การดำเนินเรื่องกลับไม่เป็นตามปมที่วางเอาไว้ มันเลยเหมือนกับพวก Wanna be ที่อยากจะประกาศว่า กุเป็นแบบนี้นะ แต่ที่จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอะไรทำนองนั้น

...ผู้เขียนเองส่วนใหญ่ก็เป็นเด็ก

18 Nameless Fanboi Posted ID:YlLvEyTul

>>17 สัดกดผิดไปโพสต์ซะงั้น เอาเถอะ!

ผู้เขียนนิยายแนวเบียวๆ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นเด็ก และผู้อ่านก็มักจะเป็นเด็ก สังเกตได้เลยจากคอมเม้นท์พวกทำนองว่า สะใจเวลาเห็นตัวร้ายโดนพระเอกยำ และมักจะเกลียดเวลาที่พระเอกแพ้ ต่อให้เขียนเรื่องสมเหตุสมผลว่าทำไมพระเอกถึงอ่อน พระเอกถึงแพ้ คนอ่านพวกนี้ก็ไม่คิดจะอ่านและย้อนกลับมาด่าคนเขียนได้ตลาดเวลา

19 Nameless Fanboi Posted ID:8KenkjZ/S

ที่จริง เบียวก็ไม่ได้แย่หรอกถ้ามันสมวัย แต่โตมาถ้าไอ้พวกนี้รู้ตัวมันแค่จะอับอาย กลายเป็นหลุมดำ ปวศ มืดในชีวิตตัวเอง อายโว้ยยยน่ะ 5555 แต่โตไปแก่ชอบหายยังทำตัวเบียวเนี่ยสิ น่าเป็นห่วงกว่าที่ยังไม่โตอีกเหรอ

นิยายเบียวบาวทีก็ไม่แย่นะ เขียนดีๆ เยียวให้สุดออกมาเหี้ย เท่ทะลุความเบียวว่ะ ก็สนุกดีนะ 555

20 Nameless Fanboi Posted ID:gj9lRaaZR

>>19 ใช่ มาอ่านนิยายที่กุแต่งม.สอง กับนิยายตอนอายุ 22 แม่ง
กูแทบจะอยากย้อนเวลาไปฟาดหัวตัวเอง อายชิบหาย ดีนะกุลืมรหัสไอดีเก่าในเด็กดอยแล้ว รอดพ้นคววามอายแล้ว

21 Nameless Fanboi Posted ID:++VZn8Odw

>>20 มึงยังดีนะ
กุสิ นิยายสมัย ม.2 กุลงคาอยู่ใน Pramool ทุกวันนี้ยังเข้ากลับไปอ่านได้เลย
อายแทบแทรกแผ่นดินหนี

22 Nameless Fanboi Posted ID:viX2Sw3A1

>>21 ไหนนนนนนน

23 Nameless Fanboi Posted ID:I514BpXms

กุนี่บึ้มไอดีเด็กดีเก่าตัวเองทิ้งแล้วสมัครใหม่ แม่ง เล่มมาตั้งแต่ป5 อาย 55555

24 Nameless Fanboi Posted ID:++VZn8Odw

>>22 ไม่ให้ เดี๋ยวโม่งแตก!

25 Nameless Fanboi Posted ID:viX2Sw3A1

>>24 ไม่แตกหรอก หรือว่ามึงเป็นคนแต่งเรื่องในตำนานนั่น...

26 Nameless Fanboi Posted ID:++VZn8Odw

>>25 กุจะกุมโม่งแน่นๆ ที่บอกได้มีแค่ว่า กุเคยมีส่วนร่วมกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กระเทยเท่านั้น!

27 Nameless Fanboi Posted ID:CwubF3Lsz

>>26 สนุกนี่หว่า

28 Nameless Fanboi Posted ID:/2+.DejT4

>>26 กูอ่านนะ

29 Nameless Fanboi Posted ID:YUmev49+3

>>27 >>28 แต่เรื่องนั้นกุไม่ได้เขียนคนเดียว อย่างที่บอกแค่มีส่วนร่วม เพราะงั้นไปหาเอง

30 Nameless Fanboi Posted ID:8ioDAFt/V

กูลองสมัครแปลนิยายวายของ Rose ไป ไม่รู้เขียนได้ดีขนาดไหน ไม่เคยลองแปลมาก่อน แม่งจะคัดโหดป่ะว้า

31 Nameless Fanboi Posted ID:ExJiMTgZu

>>30 มึงก็สมัครด้วยเหรอ กูก็สมัครว่ะ 5555 ไม่ถนัดเลยมึงเอ๊ยยย เซ็ง 5555

32 Nameless Fanboi Posted ID:S8El4kojs

>>20 เหี้ย เหมือนกูเลย นิยายสมัยม.ต้นกูแม่ง โคตรแห่งความเบียว กูเลิกแต่งไป 6 ปี พอเรียนจบ กลับมาอ่านอีกที กูลบแม่งให้หมดเลย 55555

ลืมไปว่าแวะมาแจกไอเดียนิยายแนวแฟนตาซี ธีมยุโรปยุคกลาง กูบังเอิญไปเจอดนตรีแนว Neo-Medieval ของวง FAUN เข้า แต่ละเพลงฟังแล้วได้ไอเดียโคตรๆถึงจะไม่เข้าใจภาษาเยอรมันก็ตาม ดนตรีพื้นเมืองของ Celtic กับฝรั่งเศสพื้นเมืองนี่ก็เสริมสร้างไอเดียได้มากๆเหมือนกัน ลองไปฟังกันดู
https://www.youtube.com/watch?v=beXW5s3ZCB4

33 Nameless Fanboi Posted ID:f+DM+q.u5

มึง เคยอ่านเรื่องแนวแบบxxxมั้ย
กูไปอ่านแบบในสายตานักเขียนดู ต่างจากสายตาโม่งหื่น
แม่งมันแต่งดีว่ะมึง อ่านแล้วไม่สะดุด
กุแต่งธรรมดายังมีอ่านละสะดุด

34 Nameless Fanboi Posted ID:dzGuKtFnJ

>>31 กูแปลได้ทรามมาก อ่านไปก็ขำตัวเอง

35 Nameless Fanboi Posted ID:hzu2iG0zA

ทำไงดี กูหยุดอีดิตงานตัวเองไม่ได้อ่ะ คือไม่ทำตอนเขียนอยู่นี่ทำได้อยู่หรอก แต่พอเขียนเสร็จ จะมารีไรท์มาอีดิตอีกทีนี่ คือเครียดเลย กลัวนั่นนี่ไปหมด กลัวคำซ้ำ กลัวเขียนวกวน กลัวคนอ่านนึกภาพไม่ออก กลัวไม่ถึงพันคำ และอื่นๆอีกมากมาย ปวดหัวว่ะ

36 Nameless Fanboi Posted ID:X7bRvbBoj

>>35 ทิ้งไว้จนกว่าจะลืมก่อนค่อยมาอีดิท

37 Nameless Fanboi Posted ID:hzu2iG0zA

>>36 โอเค จะลองดู

38 Nameless Fanboi Posted ID:K0sphiTH2

มึงผู้ชายพูดฉันกับนายมันไม่แมนเหรอวะคือกูเอาคาแรค​เตอร์​มาจากเพื่อนสมัยกูไปแลกเปลี่ยนมาแต่งซึ่งมันเป็นฝรั่ง นิยายกูก็แต่งเป็นวัยรุ่นฝรั่งไม่ใช่วัยรุ่นไทยจะให้มาพูดกูมึง กูก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เพื่อนกูไม่ได้ถ่อยขนาดนั้น จะให้พูดผมพอกูคิดถึงหนังหน้าเพื่อนกูกับอารมณ์ตอนมันพูดก็ไม่ใช่อีก มันไม่ได้เรียบร้อยขนาดนั้น เวลากูคุยกับมันก็มีแค่ I you กับเรียกชื่อแค่นั้น พอต้องมาใช้สรรพนามไทยกูแม่งไปไม่เป็นวะ

39 Nameless Fanboi Posted ID:hzu2iG0zA

>>38 ฉันกับแกพอไหวไหมวะ หรือเอ็งกับข้าดีล่ะ

40 Nameless Fanboi Posted ID:K0sphiTH2

>>39 เอ็งกับข้านี่ไม่ไหววะ เพื่อนที่กูขโมยนิสัยมาแต่งนี่ถ้าเป็นคนไทยไม่น่าจะพูดขนาดนั้น ขนาดจะใช้คำว่าแกพอคิดหน้ามันกูยังขัดๆเลย คือมันเป็นคนสุภาพมากนะมึงแต่ก็เข้ากับคนอื่นง่ายอยู่ เป็น geek อยู่หน่อยๆ

41 Nameless Fanboi Posted ID:MGATauoJL

>>38 ฉัน นายก็ปกติออก

42 Nameless Fanboi Posted ID:sNhiXB1vU

>>38 ส่วนตัวเวลาเขียนตัวละครชายแทนด้วยสามคำนี้ ฉัน ผม นาย แก ฉันกับผมเป็นคำแทนตัวที่ตัวละครตัวนั้นใช้อ่ะ ส่วนนายกับแกนี่เป็นคำที่คนพูดด้วยเรียกกัน ไม่เขียนมึงกู

43 Nameless Fanboi Posted ID:sNhiXB1vU

>>42 เองแก้หน่อยนะ >>38 ส่วนตัวเวลาเขียนตัวละครชายแทนด้วยสี่คำนี้ ฉัน ผม นาย แก ฉันกับผมเป็นคำแทนตัวที่ตัวละครตัวนั้นใช้อ่ะ ส่วนนายกับแกนี่เป็นคำที่คนพูดด้วยเรียกกัน ไม่เขียนเอ็งข้ากับมึงกู

44 Nameless Fanboi Posted ID:qFuqarHpT

บางทีกูก็อยากจะใช้สรรพนาม "กัน" - "แก" บ้างนะ แต่คนอ่านคงไม่ชิน 5555

45 Nameless Fanboi Posted ID:.AC+BY.B0

ผู้ชาย พูดฉันกับนายได้
คือเอาจริงผู้ชายแม่งยากเว่ย คือ ในชีวิตจริงมึงกูดูเรียลสุด
แต่ถ้าไม่อยากใช้ มันก็ลดลงมาเป็น ฉันกับนาย ไม่ก็ คุณกับผม ซึ่งดูเป็นกันเอง และทางการ (แบบไม่ค่อยมีสิ่งที่เป็นตรงกลางของสองอันนี้เท่าไหร่) ฉันกับนายก็ดูทางการได้ในบางบริบท

ส่วนเอ็งกับข้า ขอเหอะ...แม่งงงเห็นแล้วหงุดหงิดมากกก กูเห็นล่าสุดในหยูหยู แบบโอ้ยยย สะดุดทุกที

กันแก กูว่ามีเสน่ห์ดี ขึ้นกับเนื้อเรื่องด้วย ถ้าเนื้อเรื่องได้ก็ได้ คนอ่านจะชินรึเปล่า เป็นความสามารถอย่างหนึ่งของคนเขียนด้วย เคยเห็นแก้วเก้าใช้นะ

46 Nameless Fanboi Posted ID:suatTLd1j

38เอง >>43 ปกติกูก็ใช้แค่นั้นแหละ ไม่รู้ว่าจะต้องแต่งให้ตัวละครมันเถื่อน หยาบไปทำไม สงสัยคนที่กูให้อ่านมันชอบนิยายวัยรุ่นแนวม.ปลายกับมหาลัยที่ชอบพูดกันทีปล่อยสัตว์กระจายด้วยละมั้งเลยบอกว่ามันซอฟท์ไป (กู มึง นี่กูใช้แค่ในโม่งนี่แหละ คนจะได้ไม่นึกว่าเป็นกูดี)
>>44 กูชินนะเพราะกูเคยอ่านเชอร์ล็อค โฮล์มส์ กับพวกเล็บครุฑมาก่อน ถ้ามึงแต่งแนวยุคเก่าหน่อยกูว่าคนอ่านรับได้แหละ แต่ถ้าแต่งแนวยุคปัจจุบันกูคิดภาพคนพูดแบบนั้นไม่ออกเลยวะ

47 Nameless Fanboi Posted ID:SVj0Twfis

พูดแบบเป็นกลางนะ สังคมนักเรียนชายม. ปลาย - มหาลัย มึงกูนี่เป็นสิ่งที่ใช้เป็นปกติมากๆๆๆๆๆๆๆๆ 99.99% อ่ะ คือ ฉัน นาย ไม่มีใครใช้อ่ะ เพื่อนผู้ชายรอบตัวเราแทบไม่มีใครใช้ ขนาดสาวประเภทสองก็มึงกูอ่ะ

48 Nameless Fanboi Posted ID:kfhjkwKKK

กูว่ามันแล้วแต่อะ คือถ้าเขียนให้มันอิงความจริงไปเลยก็กูมึง แต่โม่งที่จะเขียนบอกว่าเป็นตัวละครเป็นวัยรุ่นฝรั่งนี่ งั้นก็ใช้สำนวนแบบนิยายแปลไปเลย นิยายแปลกูเห็นเค้าก็ใช้ ฉัน-นาย เยอะแยะ อ่านแล้วไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรด้วย

49 Nameless Fanboi Posted ID:aLVEGhmS2

>>46 นี่ >>43 เองนะ พอดีไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชาย ปกติไม่เคยใช้มึงกูกับเพื่อนเลยกับญาติก็ไม่เคยใช้ เลยลองอยู่หลายรอบแต่มีคนบอกว่าไม่เหมาะกับเรา เลยใช้เรียกชื่อ เราหรือเขากับเธอ แกก็ไม่ได้ใช้นะใช้แต่ในนิยาย
>>48 + 100 เลยเห็นด้วยมาก ๆ

50 Nameless Fanboi Posted ID:YCMoD2N4s

เออว่ะ เวลาดูหนังฝรั่ง ซับใช้ฉันกับนายก็ไม่รู้สึกอะไรนะ อารมณ์คงเหมือนนิยายแปลนั่นแหละ ต่อให้พูดกูมึงแต่นิสัยไม่แมนก็ไม่ช่วยหรอก 555

51 Nameless Fanboi Posted ID:s6k6ntiB9

เพิ่มเติม กูกำลังอ่านนิยายแปลที่ตัวเอกเป็นผู้ชายวัยรุ่นฝรั่ง มันก็มีพูดคำหยาบใส่กัน จังไรแบบถอดกางเกงโชว์กระปู๋โชว์ก้นกันไรงี้ แต่คนแปลเค้าก็ใช้ ฉัน-นาย นะ กูเองก็ไม่รู้สึกแปลก
เพราะงั้นโม่งคนเขียนอยากใช้ยังไงก็แล้วแต่ว่าอยากได้ฟีลเรื่องประมาณไหนอะนะ

52 Nameless Fanboi Posted ID:ezOMQAcoa

ถ้าในโลกความจริง ปกติไทยจะพูด มึง กู เพราะเป็นคำที่พวกเราคุ้นเคยที่สุด แต่ในสื่อทั้งหลายน่ะ มึง กู มันเป็นคำไม่สุภาพไงเขาเลยต้องเปลี่ยนเป็น ฉัน นาย ผม คุณ อะไรทำนองนี้

ถ้าถามว่าใช้ มึง - กู ได้มั้ย? ก็ใช้ได้แหละ แต่ว่ามันจะส่อกริยาและวิสัยของตัวละครชัดเลยว่าเป็นคนถ่อย ยกตัวอย่างนิยายฝรั่งที่กุเคยอ่าน พระเอกเป็นคนแบบว่า... เออ... ไม่เชิงเหี้ย แต่ถ่อยไม่มีมารยาทอะ คนแปลเลยใช้ให้พระเอกพูด มึง - กู ตลอดเลย กุก็รู้สึกอินนะ แต่ถ้าเป็นตัวละครธรรมดา แต่กลับใช้ มึง - กู กันนี่ กุอ่านไปก็รู้สึกขัดๆ อะ

เพิ่มเติม... ในของฝั่งญี่ปุ่นจะมีตัวละครหญิงที่ชอบเรียกตัวเองว่า Boku (แปลว่า ผม) พอเอามาแปลแล้วกลายเป็น "เรา" นี่ขอบอกว่ากุแทบละลายเลย รู้สึกน่ารักมากกกกก

53 Nameless Fanboi Posted ID:YCMoD2N4s

ไม่ใช่ว่ากูเรียกร้องอะไรนะแต่บางทีก็อยากให้มีคนมาเม้นงานกูบ้างอ่ะ แบบอยากรู้ว่าเขียนเป็นไงอะไรยังไงบ้าง จะให้เพื่อนอ่านบางทีก็อยู่คนละด้อม อ่านคนละแนวบ้างเลยเกรงใจ ไม่กล้าให้อ่านบ่อยๆ

54 Nameless Fanboi Posted ID:fuDx6mu/A

รบกวนหน่อย

กูอยากใช้ภาษาละตินเป็นเบส ชื่อคนกะสถานที่อยากเป็นละตินให้หมด ละแบบทุกคำมีความหมายไม่มั่วด้วย มีเว็ปไหนช่วยได้บ้าง

นอกเรื่องนิด กูเคยคิดนะว่าอยากเรียนสันสกฤติละตินกะกรีก กูรู้สึกว่าภาษามันสวย มีความหมายล้ำลึก แต่ท่าจะเรียนยากน่าดู

55 Nameless Fanboi Posted ID:jcV.Qc4dh

>>52 ไม่นะ...ปกติไม่ได้ใช้กู-มึง

56 Nameless Fanboi Posted ID:bgRmV3w3A

>>55 อึ้งแป๊บ ...กับเพื่อนสนิทที่ประมาณว่าโตมาด้วยกันก็ไม่เคยใช้เลยเรอะ!?
ถ้าเพื่อนที่รู้จักตอนโตน่ะพอว่า แต่ไอ้ที่โตมาด้วยกันนี่หายากนะเนี่ย

57 Nameless Fanboi Posted ID:ia90+GxUX

>>56 ไม่ใช้ 55 แต่ก็ไม่เคยใช้เลย คำหยาบก็ไม่พูด หยาบแต่ในโม่งกะในทวิตเท่านั้นแหละ

58 Nameless Fanboi Posted ID:q9LYRaQev

เพื่อนผู้ชายกูคนนึงใช้ เรา เว้ย แม่งไม่เกย์ด้วยสัส หน้าแม่งตี๋ๆขาวๆหล่อยังกะคุณชาย ตัวแม่งก็ล่ำ แต่พออยู่กะพวกกูเป็นลูกหมาให้แกล้งเลยสัส มันไม่สู้คน กูว่าผู้ชายที่ใช้ เรา ในสังคมม.ปลาย ก็คงเป็นแบบมันนี่ล่ะ กูว่าก็ใช้ได้อยู่ ถ้าจะเขียนตัวละครประเภทนี้

ฉัน นาย นี่แทบไม่เคยได้ยิน ฉัน นี่กูได้ยินจากเด็กผู้หญิงไม่ค่อยเต็มบาทคนนึงใช้ นอกนั้นไม่เคยได้ยินจากปากใคร นาย นี่กูกับคนอื่นๆใช้บางครั้งเวลาเรียกเด็กผู้ชายห้องอื่นที่ไม่สนิท แต่พอรู้ชื่อแล้วก็มึงกูอย่างเดียว เอ็ง ข้า นี่พอมีบ้าง ใช้ในสังคมเด็กห้อง 7 8 9 10 รึท้ายกว่านั้น คนที่ใช้ส่วนมากจะเป็นเด็กแก๊งค์ เด็กแว๊น อันธพาล เสือผู้หญิง ในห้องเหล่านั้น ใช้เรียกเด็กห้องอื่นที่ไม่สนิทเพื่อให้ดูสุภาพ แบบเถื่อนๆขึ้น

ผู้ชายเรียกผู้หญิง ถ้าไม่ใช้ชื่อ ส่วนมากจะใช้เธอ ในกรณีที่ไม่สนิท ถ้าสนิทบางทีก็ใช้มึง กู ผู้หญิงเวลาใช้สรรพนามแทนตัวเองนี่มีแค่ เรา เค้า กู อย่างเดียว มีอีกประมาณ 5% ใช้ชื่อตัวเองเป็นสรรพนาม ส่วนฉันนี่ อย่างที่บอกไป มีแต่คนไม่เต็มบาท ไม่ก็เด็กเนิร์ดชอบฟ้องครูเสียงแหลมๆหน้าปุๆใช้

หนู ผม มีบ้างในกรณีคุยกับครู หายากหน่อยก็กับรุ่นพี่ ผม นี่บ้างครั้งก็ใช้กับเด็กต่างโรงเรียนที่เพิ่งเจอกันบางครั้งด้วยเหมือนกัน ส่วนดิฉัน ถ้าไม่ใช้ในงานพรีเซ้นรึอะไรนี่ๆไม่มีแน่นอน ตัวละครแนวคุณหนูที่ใช้สรรพนามนี้บอกเลยแม่งกาก

กูอ่านแล้วหงุดหงิดทุกครั้งเวลาเจอนิยายแนวเลิฟคอมรั้วโรงเรียนเซ็ตติ้งประเทศไทย แต่ใช้สรรพนามแปลกๆ เอาจริงๆเมืองนอกที่ใช้ๆ I กันนี่กูก็รู้สึกว่าเป็นคำว่า เรา มากกว่าฉันว่ะจากประสบการณ์กูนะ

59 Nameless Fanboi Posted ID:q9LYRaQev

กูลืมไป มันใช้ ชั้น กันด้วยแต่เป็นประเภท occasion สำหรับพวกซึนๆส่วนมากมันจะใช้กัน คนธรรมดานานๆทีก็ใช้เหมือนกัน แต่ปกติใช้โดยผู้หญิงเรียกผู้หญิง มีใช้คะยกับเพื่อนผู้ชายด้วยบางครั้ง

กูสรุปสัดส่วนออกมาคร่าวๆ มึง-กู 40% เรา-เค้า 30% ชั้น 20% 5% ใช้ ข้า-เอ็ง อีก 3% ใช้ชื่อตัวเอง 1.5% ใช้พวก ผม คุณ และ 0.5% ใช้ ฉัน

60 Nameless Fanboi Posted ID:5xJXn5XBX

มันน่าจะแล้วแต่สังคมด้วยเปล่า
น้องเราอยู่โยธิน มึง กู ตลอด (ญ)
เราอยู่มหิดลวิทย์ จะใช้ เรา/ช่ื่อเล่น เธอ นาย แก (ถ้าสนิท)
อันนี้เป็น ญ-ญ ญ-ช ช-ญ นะ ผู้ชายเรียกกันเองลับตาผู้หญิงไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ว่าต่อหน้าเรามี กูมึงบ้าง แต่ไม่มาก ต้องสนิทมากจริง ๆ (พวกกลุ่มที่เล่นเกมด้วยกัน ยืม ckid อ่านทุกสัปดาห์อะนะ - กูก็ร่วมวงยืมด้วย) ที่เหลือเป็น เรา-แกมากกว่า

61 Nameless Fanboi Posted ID:jcV.Qc4dh

>>56 ไม่ใช้อะ มันแปลกขนาดนั้นเลยเหรอ ;-;

62 Nameless Fanboi Posted ID:T5zu+qXX0

พูดถึงสรรพนาม กูใช้ปนๆกันไปว่ะ กูมึงบ้าง เองเค้าบ้าง(มาจากตัวเองแต่ดูแมนๆกว่า ใช้กับผช.ซะส่วนใหญ่) เตงเค้า(ใช้เวลาคุยกับเพื่อนผญ.น่ารักๆ) แกกับชั้นก็มี ล่าสุดมีเพื่อนผช.เรียกกูว่าเธอ รู้สึกนุ่มนิ่มสัสๆไม่เคยโดนเรียกแบบนี้ปกติเรียกแต่ชื่อกูกันทั้งนั้น

63 Nameless Fanboi Posted ID:HJDaO83GX

>>58 เหมือนกูเลย เพื่อนผญใช้เรา-นายกับกู อันนี้สมัยมอต้น
กูยังงง มานายๆห่าไรกับกู เมากาวหรอ
แถมรรกูหญิงล้วนด้วย
ถ้าเพื่อนผชที่เห็นมีใช้กันก็มี เรา-(เรียกชื่อ) ชั้น-แก ที่มุ้งมิ้งๆก็เรียกชื่อตัว /เขิน อันนี้ผชแนวเรียบร้อยๆ สุภาพชิบหาย

64 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

ถามเพื่อนโม่งหน่อย คำว่า"แถม" นี้ฟังโบราณมั้ย แบบของ"แถม" งี้ ธีมนิยายกุเป็นแฟนตาซียุคกลาง ถ้าไม่ใช้คำว่า"แถม" มันมีคำแทนมั้ยอ่ะ

65 Nameless Fanboi Posted ID:gJYLzR.uI

เราจะรู้หรือค้นได้ยังไว่าศัพท์​นี้มันเป็​น​คำยุคเก่า​ยุคใหม่ เริ่มใช้เมื่อไหร่​? อย่างเพื่อนโม่งข้างบนบอกว่า สิทธิ์​เป็นคำใหม่​ นี่กูก็เพิ่งรู้
ถ้าเป็น​คำอังกฤษ​ยังพอค้นประวัติ​ที่มายุคสมัยได้​ แต่ของ​ไทย​สืบค้นยากชะมัด​
อีกอย่าง สมมุติ​เซ็ตติ้งยุโรปยุคกลางหรือยุควิค​ตอเรีย​ ถ้าไม่ใช้คำทักทายว่า สวัสดี​ (เพราะ​คำนี้เพิ่งยุคจอมพลป.) จะใช้คำไหนแทน?

66 Nameless Fanboi Posted ID:ENrdGWVaw

กูว่ามันยากนะ กับการที่รู้ว่าคำไหนโบราณใช้ได้รึเปล่า อย่างสิทธิงี้ กูว่ามันก็ไม่ได้ดูใหม่นะ มันมาจากบาลีสันสกฤตป่ะ

คือยังไง มันจะแปลกนะ ถ้ามึงมีเซตติ้งสมัยวิกตอเรียแล้วต้องใช้คำพูดภาษาไทยที่ใช้ในสมัยนั้น งี้ถ้ากูเขียนยุคกลางนี่จะต้องใช้คำพูดแบบไหนอ่ะ มันเก่ากว่าสุโขทัย อยุธยาอีกนะ ถ้ามึงจะยึดตามไทม์ไลน์ของภาษาไทยไม่ต้องใช้คำไทยแท้ทั้งหมด แล้วพูดกูมึงเหรอ คำว่าฉันก็ไม่มีป่ะะะ
ยิ่งถ้าเทียบกับประวัติศาสตร์จีนก็ยิ่งไปกันใหญ่

"เมื่อชั่วเอดดาร์ด สตาร์ก แดนเหนือนี้ดี" งี้เหรออ (ไม่ได้ลบหลู่ใครหรืออะไรทั้งสิ้น ยกตัวอย่างให้ฟังเท่านั้นสำหรับประโยคนี้ ถ้าไปบังเอิญตรงกับประโยคจริงที่ไหน คือบังเอิญ)

กูว่านิยายมันเป็นแค่ฟีลลิ่ง การที่มึงคิดว่าคำนี้ไม่ใช้ในสมัยนั้น (ไม่นับคำใหม่จริงๆอย่างคอมพิวเตอร์ ซึ่งเอาจริงก็ไม่น่าจะไปโผล่ในนิยายย้อนยุคที่ไหน) มันเป็นเพราะว่านิยายเรื่องอื่นๆเค้าไม่ใช้กัน แค่นั้นแหละ

ถ้าเป็นภาษาอังกฤษอ่ะว่าไปอย่าง อย่างโทลคีนงี้ เค้าก็ใช้คำอังกฤษแท้เยอะ แต่ของเรามันแปลมาแล้ว มึงจะมาไล่ไทม์ไลน์มันคงไม่ได้อ่ะ

67 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

>>66 ว่าจะทำแบบนั้นแต่กลัวโดนโม่งนินทา

68 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

กูว่าต้องแยกให้ออกก่อนดีมั้ย ว่าปัญหาที่เจอนี่มันคือการใช้ภาษาผิดสมัยผิดวัฒนธรรม ผิดบริบท ผิดอารมณ์ หรือว่าผิดกับระดับภาษาของทั้งเรื่องกันแน่

สำหรับกู ถ้าผิดสมัยผิดวัฒนธรรมแบบเห็นชัดๆก็คือพวกที่เอาคำทักทายแบบสวัสดีค่ะ ดี อะไรงี้ไปใช้ในเรื่องแนวโบราณหลายเรื่องที่มันไม่ได้มีการทักทายแบบนั้นเลย อย่างบ้านเรายุคก่อนหน้าอันนี้ก็ไม่ได้ใช้สวัสดี ถ้าเด็กทักผู้ใหญ่ก็คือบอกว่ากราบผู้ใหญ่เลย ถ้ารุ่นอ่อนกว่าก็รับไหว้ หรือถามว่าไปไหนมา กินข้าวกินปลาหรือยัง อะไรพวกนี้ ซึ่งถ้าพวกแบบนี้มันผิด กูมองว่าปัญหาอยู่ที่คนเขียนทำการบ้านไม่พอ ไม่เข้าใจวัฒนธรรมว่ะ

ถ้าผิดบริบท ให้ยกตัวอย่างแบบชัดๆก็ยุคเดียวกับข้างบน แต่เจอผู้ใหญ่แทนที่จะใช้ว่ากราบหรือไหว้ ก็บอกว่า 'ธุ ท่านเสีย อะไรแบบนี้ ทั้งที่คนที่ถูกบอกไม่เด็กขนาดนั้นหรือไม่ก็เป็นครอบครัวที่เป็นทางการแท้ๆ อันนี้คือเข้าใจว่าวัฒนธรรมคือต้องไหว้ แต่ดันเลือกใช้คำที่เป็นทางการเหมาะกับสถานะครอบครัวและสภาพแวดล้อมไม่ได้ คือผิดบริบทในความคิดกู

ส่วนผิดอารมณ์ อันนี้อธิบายยาก แล้วแต่จริตด้วยว่าเป็นไงมาไง บางทีก็สถานการณ์เดิม แต่สำหรับกู แค่ใช้คำว่า "เข้าไปกราบท่านเสียสิลูก" "มากราบท่านเสียสิ" แต่ทีนี้ประโยคหลังให้อารมณ์แนวๆคุณหญิงท่านผู้หญิงที่นิสัยหวานๆพูด กูก็จึ้กๆล่ะ เพราะรู้สึกว่าทำไมคนนิสัยหวานๆพูดห้วนจัง ผิดกับอารมณ์ที่พยายามบรรยายมาจัง อะไรแบบนี้

สุดท้ายคือผิดระดับภาษาของตลอดเรื่อง อันนี้น่าจะปัญหาที่เจอกันบ่อย คือบางช่วงใช้คำเป็นแนวๆโบราณ ใช้ข้าใช้เจ้าใช้ท่าน พูดเจ้าคะ ขอรับ แต่เวลาบรรยายดันบอกว่า "เรือนร่างอรชรของหญิงสาวโสภาร่วงหล่นพรวด จนร้องว๊าย" อะไรแบบนี้จะเห็นว่ามันไม่ได้ใช้คำใหม่ แต่มันใช้คำแบบกระโดดกับระดับคำอื่นในประโยคเดียวกันมากมาย ซึ่งเอาจริงๆมันคงไม่ได้กระโดดแบบเห็นชัดในประโยคหรอก แต่เห็นหลายๆเรื่องแล้วว่าทั้งเรื่องมันคุมให้อยู่ระดับเดียวกันตลอดไม่ได้ไง (ซึ่งถามส่วนตัวกูว่าจำเป็นต้องระดับเดียวกันหมดมั้ย ก็ไม่ แต่ช่วยให้มันเนียนๆอย่ากระโดดมากเหอะ)

เอาล่ะ สรุปสำหรับกู กูมองว่านี่ไม่ใช่ปัญหาแค่ว่ามีคำไทยแท้ไม่แท้ หรือสมัยนั้นมีคำนั้นมั้ย มันคือปัญหาความเข้าใจ และปัญหาในเรื่องการเขียนที่คนเขียนต้องพยายามเขียนดึงอารมณ์คนอ่านให้ไม่สะดุดให้ได้ แต่คนที่ทำแบบนั้นได้ก็คือคนที่เข้าใจระดับคำ สเกล+อารมณ์เรื่องตัวเอง อะไรแบบนี้ดีอยู่นั่นแหละ

69 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

อีกนิดหนึ่งจากข้างบน

อย่าง >>65 ถามเนี่ย กูมองว่าคำว่าสิทธิ์เนี่ย มันเพิ่งมีมาเพราะคนตื่นตััวสมัยไหนไง เหมือนที่คำว่าลิขสิทธิ์ก็เพิ่งมาสำคัญเอายุคหลังๆนี่เอง ถ้าเป็นสมัยสุโขทัย ที่การเมืองยังไม่สมตติเทพเท่าอยุธยา แต่ในไทยก็ยังให้ความสำคัญกับผู้ใหญ่ตัดสินใจมากกว่า มันก็ไม่น่ามีการตื่นตัวเรื่องสิทธิ์ ส่วนสมัยอยุธยาอะไรแบบนี้มันเป็นสมมติเทพฯ ซึ่งคำว่าสิทธิ์ควรจะมีอย่างสิทธิ์ในการสืบบัลลังก์อะไรงี้ใช่มะ แต่ลองคิดดูว่าพอใช้คำงี้มันไม่ศักดิ์สิทธิ์เอาซะเลย ส่วนมากเขาก็จะใช้คำว่าความชอบธรรม หรืออะไรอื่นๆที่ดูศักดิ์สิทธิ์กว่าจะได้ขลังๆ และจะได้ชักนำคนมากกว่าอะไรแบบนี้ ก็เท่ากับว่าคำแต่ละคำมันมีความสำคัญในสมัยไหนยังไง มันถึงได้ปรากฎตัวราวๆนั้นแหละ

แต่พวกนี้ก็เป็นความคิดส่วนตัวกูนะ คนอื่นอาจมีความเข้าใจ หรือเทคนิคอะไรแบบอื่นก็ได้

70 Nameless Fanboi Posted ID:ENrdGWVaw

กู 66
อ่านแล้วไม่สะดุดเป็นพอสำหรับกู กูว่าไม่ต้องไปถึงขนาดหาทีละคำๆว่ามันอีคำนี้มันเกิดตอนไหน (เพราะมึงหาไม่เจอหรอก) ทางแก้คือ มึงไปหาหนังสือที่สำนวนดีๆมาอ่านดีกว่า เอาสำนวนพวกนั้นฝังเข้าไปในหัวมึง ทับถมๆไปเดี๋ยวมันก็ได้ไปเองอ่ะ ไม่งั้นหาทีละคำๆเมื่อไหร่มึงจะเขียนเสร็จคะ

71 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

มึงนี่ธีมโบราณนะ น้องพูดกับพี่ ใช้แทนตัวเองประมาณไหน สมมุติประโยค "คารวะท่านพี่สิบเอ็ด 'ข้า'ว่าจะไปเยี่ยมท่านพี่ที่ตำหนักพอดี"
อีกคำว่าข้ามันก็ดูทะแม่งๆ สำหรับกู ช่วยชี้แนะด้วย

72 Nameless Fanboi Posted ID:IgHkcusfw

>>71 ไม่เห็นแปลกเลย
แต่กูเป็นคนไม่เรื่องมาก ถ้าไม่ประหลาดจริง ๆ จะไม่ค่อยรู้สึก หนูทดลองอะไรนั่นยังเฉย ๆ

73 Nameless Fanboi Posted ID:74u12eCVo

>>71 ใช้เป็นคำว่า ผู้น้อย ก็ได้มั้งคะ

74 Nameless Fanboi Posted ID:Iao3y.JjB

>>71 กูว่าไม่แปลกนะ ที่มึงคิดว่าแปลก เป็นเพราะมึงผูกติดอยู่กับระดับภาษาที่ว่าต้องใช้คำในลักษณะนี้กับคนยศสูงกว่าบลาๆๆ อะไรหรือเปล่า มึงงงงง มันธีมโบราณ ทำเนียบภาษามันไม่ได้เจ้ายศเจ้าอย่างขนาดนั้นมะ ข้าก็เท่ากับฉัน เท่ากับหนูนี่แหละมึง มันไม่ได้แปลกหรอกกกก

75 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

>>74 กูเห็นด้วยกับ 71 นะ เขียนธีมโบราณที่ให้ความสำคัญกับชนชั้นฐานะยศ แต่ไม่ให้ความสำคัญกับคำแทนตัวนี่แปลกนะ

76 Nameless Fanboi Posted ID:FWt5M.5B7

>>74 คนพูดมันนับพูดพี่มันไง

77 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

กู >>75 นะ มาเพิ่มให้อีกว่า ถ้าเอาจริงๆจะบอกไม่แปลกได้มั้ย ก็ได้อยู่ถ้าใช้กับสนิทๆกัน อย่างที่เห็นนี่ไปเยี่ยมตำหนักนี่ก็น่าจะสนิทกันใช่มะ ? เออ ถ้าสนิทแล้วมาแทนตัวว่าเปิ่นกงหรือไรงี้คงแปลกๆแทนแหละ แต่มันก็จะตงิดใจอีกที่สนิทกันแล้วเจอหน้ากันยังคารวะกันอย่างเป็นทางการซะขนาดนั้น ตกลงจะสนิทกันหรือไม่สนิทกันแน่

คือกูอาจคิดมากไปก็ได้ แต่กูเขียนงานโดยมีความเชื่อว่าคนเขียนเป็นคนที่บอกลักษณะตัวละคร ฉากหลัง ทุกสิ่งอย่างในเรื่องผ่านคำเล็กคำน้อยพวกนี้แหละ มันเป็นคีย์เวิร์ดให้คนอ่าน บางคนไม่คิดไม่รู้สึก แต่คนที่คิดที่รู้สึกก็น่าจะมี แล้วคนเขียนจะเขียนให้เขาอิน ให้เขารู้สึกได้มั้ย มันก็ขึ้นอยู่กับเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้นะ

78 Nameless Fanboi Posted ID:2OIAEFX0L

>>76นับถือ เชี่ยกุพิมพ์ตก

79 Nameless Fanboi Posted ID:9rILr7OMw

>>77 คารวะสำหรับยุคนั้นก็แค่สวัสดีเปล่า

80 Nameless Fanboi Posted ID:ENrdGWVaw

กูเห็นด้วยกับ >>79
ไม่คารวะมึงจะให้พูดคำว่าอะไร แล้วถ้าจะใช้ภาษาไทย แม่งไม่มีอะไรที่ดีกว่าข้าแล้ว ในสายตากูนะ
ส่วนตัวกูไม่ชอบคำว่าเปิ่นกง 5555 แบบถ้าจะแทนตัวจีนก็แทนไปเลยย แทนให้หมดเลย แบบกูกูสมัยนู้น ที่ใช้ถอดเสียงจีนแทนตัว

81 Nameless Fanboi Posted ID:aD3VBM+Lv

>>79 เท่าที่กุดุซีรีย์มาา มันเจอหน้ากันก็พูดแบบนี้นะ จอมยุทธเจอหน้ากันงี้หวัดดีพี่น้องร่วมสาบาน "คารวะพี่ใหญ่"

82 Nameless Fanboi Posted ID:bY/5Hq1o+

>>80 เปิ่นกงน่าจะไม่ได้นะ เปิ่นมันใช้กับคนที่ต่ำกว่า ให้อารมณ์ประมาณถือตัวด้วยนะ ใช้กับตอนที่ผู้พูดต้องการเน้นว่าฉันใหญ่กว่าเธอนะจ๊ะ จงยอมซะดี ๆ ปะ ปกติก็น่าจะข้านั่นแหละ

83 Nameless Fanboi Posted ID:Iao3y.JjB

>>80 จริงมึง ภาษาไทยมันไม่ได้มีแบ่งยิบย่อยขนาดของจีนพรรค์นั้นอะ ข้าคือสรรพนามที่โอเคที่สุดแล้วในพวกนิยายย้อนยุค เออ แต่ถ้ามี มันก็แบบไท้ไทย (อย่างในเรื่องบุพเพสันนิวาสงี้) ซึ่งเอาไปใส่ในนิยายจีนไม่ได้แน่ๆ แต่ถ้าจะใช้พวกเปิ่นกง นูปี้ เจิ้น บลาๆๆ คนเขียนต้องอธิบายและทำความเข้าใจกับคนอ่านไว้ก่อนอะ เดี๋ยวงง

84 Nameless Fanboi Posted ID:Y+VPEt7Vs

>>77 ที่กลับมาตอบนะ เออ ส่วนมากสมัยก่อนเจอหน้าก็คารวะแทนสวัสดีจริงๆนั่นแหละ ไม่ผิดๆ

ส่วนเรื่องความสงสัยว่าสนิทกันขนาดไปหาที่ตำหนักโดยไม่ต้องส่งคนไปบอกก่อน แล้วเจอหน้ายังทักทายแบบนี้อะไรนี่กูอาจจะคิดมากไป นี่ไม่ใช่ประโยคเต็มหรืออ่านมาทั้งเรื่องด้วย

เรื่องคำแทนตัวก็อย่างว่ามา สำหรับบริบทอันนี้ที่คุยกันคงเหมาะที่สุดแล้ว

ขอบคุณที่มาแลกเปลี่ยนความเห็นกันนะ

85 Nameless Fanboi Posted ID:6XIelJpGH

กุคนถามเอง กุแค่สมมุติขึ้นมาไม่ได้คิดเรื่องก่อนหน้า แค่จะถามว่ารุ่สึกแปลกไหม เอง โน้มรับที่ดม่งแนะนำทุกคน เดี๋ยวไปลองให้หมด แล้วจะโผล่มาใหม่

86 Nameless Fanboi Posted ID:6XIelJpGH

น้อมรับ เชี่ยพิมพ์ผิดอีกละ

87 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

กุเพิ่งค้นพบว่าตัวเองใช้คำว่าอนุญาตผิดมานาน ใช้เป็นอนุญาติมานาน ความหมายเปลี่ยนไปเลย

88 Nameless Fanboi Posted ID:Iao3y.JjB

>>87 อ.ของกูเคยแปลอนุญาติแบบขำๆ แซ็วพวกที่ชอบใช้ผิดว่าญาติผู้น้อยอะ หลังจา่กนั้นกูจำไม่ลืมและไม่เคยใช้ผิดอีกเรยยยยย

89 Nameless Fanboi Posted ID:6XIelJpGH

สังเกตกูก็ใช้ผิด เป็นสังเกตุมาตลอด
ภาษาไทยซับซ้อนกว่าที่คิด555

90 Nameless Fanboi Posted ID:5blsJMIU5

กูใช้วิจารณ์ เป็นวิจารย์มาตลอดเหมือนกัน โชคดีที่ไม่ค่อยได้เขียนคำนี้ในนิยายนัก

91 Nameless Fanboi Posted ID:C4MaLD8fo

ริอาจ ❌
ริอ่าน ✔

92 Nameless Fanboi Posted ID:xvq83.aAq

มึงทำไมนิยายไทยที่ใช้ตัวละครตะวันตกชอบตั้งชื่อตัวละครเป็นเซตวะ คือปกติกูก็แต่งนิยายอยู่บ้างนะมึงเลยพอจะรู้จักคนที่แต่งนิยายคนอื่นๆเหมือนกัน แล้วมันมีเด็ก(ซึ่งไม่เด็กหรอกแค่อ่อนกว่ากู)​เอานิยายมาให้กูอ่านแล้วบอกให้วิจารณ์หน่อย กูก็วิจารณ์​ไปตามเรื่องตามราวแล้วกูก็แค่เปรยๆไปว่าชื่อตัวละครแต่ละครอบครัวมันคล้ายๆกันหมดเลยเนอะ (สมมุตินะถ้าพ่อชื่อแองเจลโล่ ลูกก็ชื่อแองเจลา กับแองเจลิก้า แองเจรีส ทำนองนั้น)​นางก็ขึ้นหน่อยๆแล้วบอกว่าก็มันครอบครัวเดียวกัน... คือกูอยากจะบอกนางอะว่าฝรั่งจริงๆเขาไม่ได้ชื่อคล้ายพ่อแม่ขนาดนั้น แต่นางก็ไม่ฟังกูละ

93 Nameless Fanboi Posted ID:r/5tGBich

>>91 ว้ายกุใช้คำนี้ผิดมาตลอด

94 Nameless Fanboi Posted ID:/foweEEzL

>>92 คนรู้จักกูหลายคนละชื่อคล้ายพ่อแม่ ฝรั่งไม่ได้เป็นแบบมุงคิดทุกคน

95 Nameless Fanboi Posted ID:q1wqLJM8E

>>94 ชื่อคล้ายมันก็มีไงมึงบางคนเขาก็เอาชื่อพ่อแม่มาผสมกันบางคนเขาก็ตั้งชื่อลูกให้คล้ายกับพ่อแม่แต่ที่กูเห็นแต่งมาคือแม่งมีลูกห้าคนก็ชื่อคล้ายกันหมด ทุกครอบครัวต้องมีธีมชื่ออะมึงซึ่งมันไม่ใช่ไง ฝรั่งส่วนมากที่กูเห็นว่าชื่อคล้ายพ่อแม่จะเป็นลูกคนแรกวะ ส่วนคนหลังๆเหมือนไม่เห่อเท่าไหร่ละเลยตั้งชื่อแบบอื่นไป

96 Nameless Fanboi Posted ID:rtROjhSxi

>>95 แต่มันก็ไม่ผิดปะ ถ้าคนแต่งจะตั้งแบบนั้น?

97 Nameless Fanboi Posted ID:q1wqLJM8E

>>96 ก็กูก็ไม่ได้ว่าอะไรไงเขามาให้กูวิจารณ์​กูก็วิจารณ์​ไปตามความคิดกู คือแบบบางทีปมชาติกำเนิดตัวละครเป็นความลับงี้แต่กูอ่านชื่อกูก็เดาได้ละว่ามันเป็นใครกูเลยอยากวิจารณ์​ไปตรงจุดนี้ไงมึง

98 Nameless Fanboi Posted ID:q1wqLJM8E

กุต่อ>>97 กุลืมยกตัวอย่าง คือมันมีบทที่มีตัวร้ายเป็นผู้ชายมีโมเมนต์กับนางเอกหน่อยๆแต่ไม่เคยเฉลยว่าเป็นใครคนแต่งจะไปเฉลยช่วงใกล้จบแต่กูอ่านชื่อกูก็ฟันธงไปละไอ้นี่ไม่พี่ก็น้องนางเอกชัวร์ไรงี้ กูเลยอยากให้คนแต่งลองชื่อที่มันหลากหลายอีกนิดวะ

99 Nameless Fanboi Posted ID:giNr/iKUz

>>98 คิดในแง่ดีมันจงใจ ในแง่ร้าย มันหาชื่อในเว็บเดียวกัน แล้วชื่อมันอักษรเดียวกันขี้เกียจหาอักษรอื่น

100 Nameless Fanboi Posted ID:coZzbT5+9

>>92 ในฐานะกุคนเขียนแนวที่มึงว่า...
กุขี้เกียจคิด โอเค๊!? โดยเฉพาะตัวประกอบงี้ บทออกมาแค่นิดเดียวกุยิ่งขี้เกียจคิดชื่อเลย ถ้าไม่ใช่ตัวหลักสำหรับดำเนินเรื่องนี้กุเองก็ตั้งส่งๆ เหมือนกัน เผลอๆ ใช้เว็ป name generator ตั้งให้เลยซะด้วยซ้ำ
การตั้งชื่อมันไม่ใช่ว่าจะหาแค่ชื่อเก๋ๆ นะ มึงต้องมานั่งหาความหมาย ซึ่งส่วนใหญ่ควรจะตรงกับลักษณะและนิสัยของตัวละคร ก่อนที่จะไปหามาเป็นชื่อตั้ง ซึ่งถ้าให้กุตั้งแบบประณีตกับตัวประกอบทุกตัวล่ะก็ กุตาย!!

101 Nameless Fanboi Posted ID:F1/6v9wxN

>>100 ทำไมชื่อต้องเข้ากับนิสัยวะมึงอันนี้กูไม่ได้กวนนะ คือถ้ามองว่านิยายคือโลกใบหนึ่งคนตั้งชื่อตัวละครมันก็พ่อแม่ ไม่ก็คนเลี้ยงตัวละครปะ มันไม่ได้รู้สักหน่อยว่าโตมาตัวละครโตมาจะนิสัยยังไง อย่างเพื่อนกูแม่งชื่อโคตรสาวความหมายคือหญิงงามเรียบร้อย อินี่ยังเป็นทอมมีเมียตีกับผู้ชายอยู่เลย

102 Nameless Fanboi Posted ID:jBqpGimzW

>>101 แต่นิยายส่วนมากก็ประมาณนี้จะ มันทำให้คนจำคาร์ตลคได้ง่ายขึ้นไง
อย่างพระเอกต่ำต้อยชอบมีชื่อประมาณดิน ปฐพี
หรือดาว เดือน จะเป็นพี่น้องที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้ากันงี้ (ข่มแสงกัน)
คือถ้าชื่อมีความหมายก็ต้องตรงกับลักษณะซักอย่างของตลค. ไม่งั้นก็ต้องนิสัยตรงข้ามชื่อไปเลยก็มี

103 Nameless Fanboi Posted ID:coZzbT5+9

>>101 อันนี้กุใช้คำผิดเองที่ไปเขียนว่า "นิสัย (Personal)" ต้องบอกว่ามันคือ "คุณลักษณะ (Alignment)" สิ

ที่จริงแล้วไอ้การตั้งชื่อมันสำคัญก็แค่ความหมายนั่นล่ะ

แต่กรณีของกุนี่ติดมาจากสมัยเล่น Boardgame ไง เวลากุสร้างตัวละครมา 1 ตัว กุจะกำหนด Alignment ก่อนเลยว่าจะให้เป็นแนวไหน Good , Neutral , Evil เป็นพวก Lawful , Neutral , Chaotic เสมอ ซึ่งกุก็จะพยายามตั้งชื่อให้ตรงกับ Alignment ของตัวละครตลอด ต้องมานั่งหาความหมาย หาชื่อที่เข้าท่า ซึ่งกว่าจะได้ซักตัวนี่กุแทบจะหัวระเบิด

104 Nameless Fanboi Posted ID:JRuAA3jSQ

กูเลือกชื่ออะไรก็ได้ที่กูชอบ แบบจิ้มๆตามเว็บชื่อเก๋ๆอ่ะ พิมพ์ง่ายไม่ต้องกดชิพ แค่นี้กูพอใจแระ

นักเขียนบางคน กูเคยเจอ แม่งจงใจตั้งชื่อยาวๆเว่อๆ อารมแบบ พิศยมลธาราทอง อะไรประมาณนี้เพราะคิดว่าไฮโซและโกงจำนวนอักขระเวลาพิมพ์

105 Nameless Fanboi Posted ID:0ohdNag0f

>>104 แล้วย่อเหลืออีทองปะ

106 Nameless Fanboi Posted ID:S4fMuLvOF

>>101 อันนี้ถ้าตามที่กูเรียนพวกวิแคะวรรณกรรมมา บางทีมันเป็นคลูหรือเป็นสารจากคนเขียนบอกใบ้ถึงลักษณะนิสัย ชะตากรรม ที่มา หรือกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ของตัวละครน่ะนะ ในไทยก็มีให้เจอบ้างในนักเขียนรุ่นเก่า ส่วนทางฝั่งฝรั่ง กูไม่รู้ว่าแฮร์รี่นี่นับได้ไหม อย่างนามสกุลของรอน วิสลีย์มันก็มาจากตัววีเซิลมะ แล้วตัววีเซิลขนมันก็สีแดงกับผมของคนในบ้านนี้อะ (เคยอ่านเจอมา) อย่างซีบิล ทรีลอว์นีย์ อาจารย์สอนพยากรณ์ ชื่อซีบิลคือชื่อนักพยากรณ์ในวิหารของเทพอพอลโล ซึ่งก็สอดคล้องกับวิชาที่ซีบิลสอนในเรื่อง

107 Nameless Fanboi Posted ID:Zd5ckROPp

>>106 ถ้าของแฮรี่มีเยอะมาก

ลูปินเป็นชื่อหมาป่า

ซีรีอัสเป็นชื่อกลุ่มดาวหมาป่า
เจเคซ่อนคำใบ้ไว้ในชื่อตัวละครเยอะมาก

108 Nameless Fanboi Posted ID:tp5z6abkB

นี่ตั้งชื่อจากความหมายที่ชอบแล้วลองเรียกตัวละตครด้วยชื่อนั้นดูว่ามันเหมาะไหม ถ้าเหมาะก็ผ่าน ถ้าไม่เหมาะก็หาต่อไป

109 Nameless Fanboi Posted ID:S4fMuLvOF

>>107 ตรงชื่อรีมัสก็ด้วย รีมัสเป็นชื่อหนึ่งในฝาแฝดผู้ก่อตั้งกรุงโรม ซึ่งแฝดคู่นี้ได้รับการเลี้ยงดูมาจากนางหมาป่า ความจริงคือมีเยอะอะ ของพวกนักเขียนตปท.อะนะ แต่ของไทย อืม อย่างเรื่องจันดารานี่นับไหมอะ พระเอกชื่อจัน มาจากจัญไร เพราะพ่อเลี้ยงตั้งให้จากความเกลียดชังส่วนตัวที่เป็นเด็กที่เกิดจากการที่แม่ถูกข่มขืน หรืออย่างชื่อนางเอกเรื่องคุณชายธราธร ที่นางเอกชื่อระวีรำไพ ก็เพราะพ่อชื่ออาทิตยรังสี วึ่งมันเหมือนเป็นกิมมิคเล็กๆ ที่ผู้เขียนใส่ไว้ไหมวะ ว่าเจ้าสมัยก่อนนิยมตั้งชื่อลูกเป็นเซ็ตๆ ไม่ให้ต่างจากพ่อแม่นัก โดยรวม ชื่อตัวละครสำหรับนักเขียนหลายคน มันอาจจะทั้งแฝงความนัยหรือไม่แฝงก็ได้อะ บางคนก็เลือกเอาตามสบายใจ แต่บางคนเขาก็คิดลึกกว่านั้น ประมาณนี้แหละ

110 Nameless Fanboi Posted ID:Jt6F6UJkI

ชื่อตัวละครกุนอกจากตัวเอก กุจะตั้งแต่หาความหมายตรงกับปมในเรื่อง(ไม่คิดว่าคนอ่านจะหาความหมาย) แล้วตัวรองสุ่มแม่งหมด555

111 Nameless Fanboi Posted ID:+L5.XWclc

กูตั้งโดยคิดว่าตัวเองเป็นพ่อเป็นแม่ตัวละครนั้น หรือเป็นคนที่ตั้งชื่อให้จริงๆเลยอ่ะ จะตั้งว่าไงว่ะ อย่างถ้าพื้นหลังตัวละครเป็นกำนันหมู่บ้านเมื่อ 50 ปีก่อน คงไม่ตั้งชื่อลูกสาวว่าอริสราหรอก ถ้าตั้งเองชื่อนี้นี่ก็จะสงสัยพื้นเพกำนันมาก ว่ากำนันต้องเป็นคนเมืองแน่ๆ <<<< อะไรราวๆนี้

112 Nameless Fanboi Posted ID:anjWaU5HK

พวกมึง เวลาแต่งนิยายที่ต้องใช้ฉากต่างประเทศ หรือเกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ไปหาข้อมูลที่ไหนกันวะ ถ้าจะสัมภาษณ์จากคนที่เคยไปประเทศนั้นๆ หรือเคยทำงานเป็นอาชีพที่เราอยากรู้ ต้องจ้างเขามั้ย

ปล.ไปถามมู้นักวาดมา เขาบอกให้มาที่นี่ หุหิ

113 Nameless Fanboi Posted ID:NM/GKF90h

>>112 ฉากกุอาศัยดูหนังและก็กระทู้ท่องเที่ยว บล็อก ดูรูปภาพแล้วบรรยายเอา ส่วนอาชีพกุอยากรุ้เหมือนกัน เคยคิดจะตั้งกระทู้พันทิปให้คนมาแชร์ชื่อตำแหน่ง จ้อบดิสคริปชั่นตอนสมัครงาน และขอบเขตงานเวลาได้ทำจริงอยู่เหมือนกัน แต่กูป๊อดๆ กลัวพันทิปเลยไม่ได้ตั้งที

114 Nameless Fanboi Posted ID:PET3CrxOq

>>112 ขึ้นอยู่กับว่าอยากจะได้รายละเอียดลึกขนาดไหน
ถ้าลึกก็ต้องไปดูงาน ไปลองทำ หรือไม่ก็เก็บข้อมูลละเอียด แต่ถ้าเอาไม่ลึกก็ใช้วิธีมักง่ายเปิดวิกิฯ ก็พอละ

115 Nameless Fanboi Posted ID:anjWaU5HK

>>113 >>114 ขอบใจพวกมึงมาก ปกติกุใช้ google earth ดูบรรยากาศประเทศเอา 555 อย่างน้อยก็ได้ดูภูมิประเทศคร่าวๆ ขอบคุณนะมึง

116 Nameless Fanboi Posted ID:z5ERkssBE

>>112 พวกอาชีพถ้าจะได้บรรยากาศจริงๆแม่งยากนะ อย่างบางเรื่องที่แบบดีมากๆแม่งรู้สึกเลยว่า คนเขียนแม่งทำอาชีพเดียวกับตัวละครชัวร์

117 Nameless Fanboi Posted ID:+qYiabvlj

>>112 ฉากต่างประเทศกูเอาที่กูเคยเห็นมา แต่เอาจริงๆกูก็รู้อะไรไม่เยอะไปอยู่แค่ปีเดียวแถมกูยังจิตตกอาการซึมเศร้ากำเริบอีก แต่มันก็ทำให้กูได้รู้แนวคิดคนต่างชาติพอสมควร
ส่วนอาชีพกูจะชอบแต่งอะไรที่ใกล้ตัวหน่อย อย่างกูมาสายการแพทย์เพื่อนกูก็มาทางนี้เยอะกูก็จะแต่งทางนี้ ไม่ก็หาข้อมูลเอา

118 Nameless Fanboi Posted ID:a/iTcA/zj

ขอพื้นที่บ่นนิด กูตั้งใจแต่งนิยายแต่ละตอนมาก กว่าจะออกมาตอนนึงคือวางพลอตซ้อนไว้หลายชั้น นิยายกูไม่มีเรื่องรักๆเน้นเนื้อหาผจญภัย95%กุ๊กกิ๊กแบบหอมปากหอมคอ แต่คนอ่านน้อยโคตรรรรร คือคนที่เข้ามาอ่านก็มีชมนะว่าภาษาดีเนื้อเรื่องน่าสนุก พยายามจะไม่เหลิงนะแต่กูก็ดีใจแหละ แต่ในฐานะนักเขียนที่ตั้งใจเขียนก็อยากให้มีคนมาอ่านเยอะๆว่ะ เข้าไปอ่านพวกนิยายติดท็อปเพื่อศึกษาแล้วกูรู้สึกผิดแปลกมาก แม่งไม่ใช่แนวเลย และนิยายติดท็อปที่กูสุ่มกดไปแม่งมีแต่บทพูดไม่มีบรรยายพรรณาใดๆ เห็นแล้วท้อว่ะ

119 Nameless Fanboi Posted ID:HBwmkMZsJ

>>118 ไม่ใช่มึงคนเดียวที่คิดงั้นหรอก 555

120 Nameless Fanboi Posted ID:LZvOc90oZ

>>118 ยินดีด้วย มึงได้รู้สัจจธรรมแห่งวงการ Web novel แล้ว

121 Nameless Fanboi Posted ID:a8ph/04VU

>>118 เป็นกำลังใจให้มึงว่ะ ติดท็อปนี่หลายเรื่องต้องไร้สมองในการอ่าน แม่งคำผิด เรื่องก็็อปนิยายจีน มีแต่บรรยายเหมือนนิยายไทย
บวกท่าเย่แยะๆ

122 Nameless Fanboi Posted ID:IWiU.4N/Y

>>118 จริงๆ นิยายมึงอาจจะสนุกไม่พอ อาจจะแค่ ก็น่าสนุกดี มึงลองนึกถึงหนังนะ หนังประเภทที่คนบอกว่ามันก็ดี แปลว่าอะไร แปลว่าดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ เทียบกับหนังที่คนด่าฉิบหายในขณะเดียวกันก็มีแฟนคลับชอบฉิบหาย อย่างหลังคนดูเยอะกว่า มึงอยากแต่งให้คนอ่านเยอะมึงอย่าคิดเข้าข้างตัวเองมากแล้วก็อย่าอคติกับเรื่องที่คนตามมาก มึงไปทำความเข้าใจ ข้อเสียมันอาจจะร้อยแปดข้อดีมีข้อสองข้อ แต่ข้อสองข้อนั่นมันโดนคนอ่านมากกว่าข้อดีร้อยแปดของมึงก็ได้ แต่ถ้ามึงยึดว่านิยายมึงเป็นนิยายคุณภาพในแบบที่มึงอยากให้เป็นมึงก็อย่าไปซีเรียสคนอ่านมาก อย่าเอาไปเทียบนิยายคนอ่านเยอะ แนวทางมันอาจจะต่างกัน

123 Nameless Fanboi Posted ID:G8gg31+dP

กุแม่งน้อยใจกว่านิยายกุแนวค่อยๆรัก
เดิ่งจะเริ่มแม่งมีคนมาทวงnc ..
สลัดนางเอกกุยังไม่พ้นประถมเลย

124 Nameless Fanboi Posted ID:AcznQddvH

>>123 เขียนตอนพิเศษ เป็นnc ที่ตอนจบพระเอกโดนจับข้อหาพรากผู้เยาว์เบย

125 Nameless Fanboi Posted ID:ADD.iK44z

>>124 ดาร์กเลย

126 Nameless Fanboi Posted ID:hcn4vwM/Q

>>123 เหยด Loli

127 Nameless Fanboi Posted ID:DSerTq5fC

กูเป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่เคยติดท็อปเด็กดวกนะมึง ระดับ 1-5
กูแค่อัพทุกวัน อ่ะๆ กูไม่ได้อัพหลอกอัพลมนะ กูอยู่โม่ง กูก็ไม่ชอบแถมขี้เกียจอัพหลอกด้วย กูอัพวันละครั้ง ครั้งละประมาณสามสี่หน้าเอสี่ อ่ะๆ นิยายกูไม่ใช่แนวขายฉากเยนะ ดักคอไว้ก่อน

ตอนเริ่มเปิดเรื่องใหม่ๆ กูก็ท้อ ไม่มีคนอ่าน เม้นต์ไม่ต้องพูดถึงน้อยมากสำหรับกู แต่พอถึงจุดหนึ่งคนแห่มาจากไหนไม่รู้ มากันพรึ่บ ยอดฟูจนงง
เพราะฉะนั้นการอัพงานเป็นเวลาและแน่นอนจะช่วยมึงได้มาก
ส่วนเทคนิคเพิ่มยอดโดยไม่ต้องอัพหลอกมันมีเยอะแยะ จับจุดให้ได้ก็แล้วกันค่ะมึง ไม่ใช่คนอ่านงานตัวเองน้อยแล้วมาแขวะเรื่องอื่น คิดแบบนั้นมันบั่นทอนค่ะ

ปล.กูไม่แตะเรื่องสนุกไม่สนุกนะ งานใครงานมันพัฒนากันเอง

128 Nameless Fanboi Posted ID:oVgnLSQNJ

>>126 ไม่ช่ายยยย เดี๋ยวสิบตอนก็โตแล้ว

129 Nameless Fanboi Posted ID:BvZ6SeI7G

เฮ้อ ...กุอยากเปลี่ยนสไตล์การเล่าเรื่องจัง ตอนแรกไม่ทันคิดว่ามีวิธีนี้ เลยใช้วิธีเล่าแบบเก็บทุกเม็ดไปซะงั้น
พอรู้ตัวอีกทีตอนนี้ก็เขียนไปถึง 400 หน้าแล้ว ...กุควรลบแก้ใหม่หมดเลยมั้ยเนี่ย

130 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

ตอนละสิบสองสิบสามหน้าเอสี่มันเยอะไปแมะมึง แค่สามตอนแรกนิยายกูปาไปห้าสิบกว่าหน้าแล้ว= =
แม่งเพลิน ตัวละครกูมันเป็นพวกนิสัยฟุ้งซ่านเลยจัดเต็มตามความคิดนาง แม่งยาวเลย เหมือนตัวละครสิงกูให้เขียนจริงๆ

131 Nameless Fanboi Posted ID:YgOv2wjQi

>>130 ถ้าลงในเว็บกูว่าเยอะไป นอกจากซอยแบ่งตอนลง

132 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

>>131 วันหลังค่อยทำละกัน ป่านนี้นักอ่านของกุน่าจะชินกับตนยาวๆ ไปแล้ว ลงอาทิตย์ละครั้ง๕๕๕

133 Nameless Fanboi Posted ID:CGQKLqq8D

ขอก๊อปมาแปะตรงนี้นะ พึ่งรุ้ตัวว่าไปถามในเม้นที่ 999 แล้วปิดมู้เลย
ถามหน่อย คือกุเรียนมหาลัยอินเตอร์ในไทยที่มีนศ.ต่างชาติเยอะมาก ทั้งเยอรมัน ฝรั่งเศส ออสเตรีย อินเดีย อิหร่าน อังกฤษ สวิส เมกา บราซิล กินี ไนจีเรีย เดนมาร์ก ยันเพื่อนบ้าน ฯลฯ อาจารย์ส่วนใหญ่ก็มาจากยุโรป แล้วกุจะเขียนนิยายโดยอ้างอิงเซตติ้งจากม.กูเนี่ยแหละ อ่านแล้วจะรุ้สึกอินมั้ยวะ คือไม่ใช่อะไรหรอกลำพังแค่กูเล่าให้ญาติฟังว่าม.กูอย่างงั้นๆ เขาก็นึกภาพไม่ออก ไม่ชื่อว่าในไทยมีม.แบบนี้อยู่ด้วยแล้ว เขาจะติดภาพแบบว่าภาคอินเตอร์คงมีหัวทองสักสามคนในห้าร้อย ต่างชาติที่เหลือเป็นเพื่อนบ้าน 70เปอเซ็นต์เป็นไทยหมดอะไรงี้ จริงๆ จะเปลี่ยนเป็นม.คนไทยทั้งหมดก็ได้แหละ แต่กูแค่กูไม่ค่อยโปรเรื่องกิจกรรม หรือความรักสถาบัน เคารพรุ่นพี่อะไรพวกนี้ ไม่อยากจะเขียนอะไรที่กูไม่รู้ว่ะ

134 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

>>133 มอมันไม่ได้เหมือนกันทุกมอซักหน่อยไม่เป็นไรหรอก
มอกุยังต่างคนต่างอยู่เลยภาคปกติด้วย ไม่เคารพใครทั้งนั้น๕๕๕
ภาคอินเตอร์มอกูมีคนไทยเกินครึ่ง จีนอีก30% ฝรั่ง 5% นิโกร 5%
กิจกรรมก็มีร่วมกับคณะไรพวกนี้ แต่เห็นม่รับน้องละภาคอินเตอร์หรือมีเล็กๆ น้อยๆ พอหอมปากหอมคอ แต่ไม่เห็นมีถึงขั้นเต้นไก่ย่างไปมาต่อหน้าสาธารณะชน

135 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

>>133 เพิ่ม มันอยู่ที่ฝีมือการบรรยายเรื่องของมึงจะทำให้คนอินได้มั้ย

136 Nameless Fanboi Posted ID:5xOaMBSfm

เขียนนิยายรัก แต่ไม่เคยรักใคร นี่กุโตเป็นผู้ใหญ่ละนะเนี่ย เง้อ มีใครเป็นมั่ง๕๕๕
พอแบบแต่งมาตรรกะความรักในนิยายกุเพี้ยนมาก นักอ่านว่าตัวละครกุยันเดเระชิบหาย
หรือตัวตนกุมันยันเดเระ

137 Nameless Fanboi Posted ID:.aF7Uwsqg

>>136 กุก็แก่จะตายละแต่ก็ไม่เคยมีความรักกับเขาสักที ชีวิตกุก็มีแต่ปมเต็มไปหมด พอมาแต่งนิยายรักคนอ่านก็บอกว่าตัวละครกูมันเป็นพวกมีปม ดูท่าจะลงเอยเรื่องรักๆยาก คนอ่านเลยบอกกุว่าขอจบเคลียร์​ปมตัวละครให้หมดเถอะเรื่องรักค่อยว่ากันอีกที

138 Nameless Fanboi Posted ID:FKu7hMev7

>>136 ถ้ามึงมีรัก
ระวังนิยายจะยันกว่าเดิม เชื่อกุกุผ่านมาแล้ว

139 Nameless Fanboi Posted ID:3HC+WcRwB

>>136 กูว่าการมีความรักจะทำให้เขียนง่ายขึ้น นิยายทุกเล่มของกูมีความรักส่วนตัวกูอยู่ในนั้นหมด

140 Nameless Fanboi Posted ID:volbrw.L2

>>136 บางทีถ้ามึงไม่เคยมีความรัก อาจจะต้องศึกษาความรักของคนรอบข้างใส่ลงไปว่ะ แล้วมันจะดูเรียลมากขึ้น แต่เอาจริงๆ ปะ บางทีความรักของแต่ละคน มันก็ตรรกะวิบัติชนิดกู่ไม่กลับอะมึงงงง ดูอย่างเพื่อนกู เลิกกับอิแฟนคนที่คบกันอยู่ปัจจุบันมาแปดครั้งแล้ว แต่ก็ยังกลับมาคบกันอีก มันบ่นว่าเบื่อฉิบหาย แต่มันก็ยังกลับไปคบ มันบอกมันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เออ กูก็ไม่เข้าใจเพื่อนกูเหมือนกัน

141 Nameless Fanboi Posted ID:FYyi9RV36

>>140 กุอ่านยังไม่เข้าใจเพื่อนมุงเหมือนกัน เพื่อนมุงเป็นไรรร

142 Nameless Fanboi Posted ID:lh7xtwr6c

>>141 กูเข้าใจว่าเพื่อน >>140 มันคบๆเลิกๆแฟนคนเดียวกันมา 8 ครั้งแล้ว แล้วก็ชอบมาบ่นๆกับ >>140

143 Nameless Fanboi Posted ID:p+wFSD0gU

>>140 กูคาดว่าเพื่อนมึงคงคบ ๆ เลิก ๆ ตลอดไปแหละ คนจริงไม่เลิกหลายรอบ ตูมเดียวเลยแบบแอฟ

144 Nameless Fanboi Posted ID:FYyi9RV36

แต่งนิยายทำยังไงไม่ให้บรรยายเยอะเกินไปวะ
กุมาอ่านของตัวเองทีหลังแล้วอยากจะตบตัวเองชิบหาย ตัวเอกกูเป็นพวกคิดมาก พอกุแต่งละอิน มันอินจริงๆ ว่ะมึงเหมือนตัวกุเป็นตัวละครนั้น แต่มันเยอะไปอ่ะ เยอะชิบหายบรรยายยาว กุอยากตบตัวละครตัวเองและตัวเองด้วย

145 Nameless Fanboi Posted ID:dZRvQmKmg

>>144 แล้วคนอ่านมีปัญหาบ่นๆปะ ถ้าไม่มีก็แต่งแบบที่ต้องการแต่งไป กูเคยแต่งแบบทั้งบทห้าหน้าเป็นบรรยายหมดมีบทพูดประโยคเดียว ทั้งๆที่ในเนื้อเรื่องก็มีบทพูดนะแต่กูใช้การบรรยายบทพูดผ่านๆในบทบรรยายความคิดตัวละครแทนเพราะอยากให้ได้อารมณ์ว่ามันฟังเฉยๆแค่ผ่านหูไม่ใส่ใจ แล้วกูก็เคยอ่านนิยาย YA ของฝรั่งหลายๆเรื่องที่ตัวเอกมันอีโมๆหน่อยบทหนึ่งใช้สองมือนับประโยคคำพูดก็ยังเหลือก็มี เพราะงั้นแต่งแบบที่ชอบไปเถอะมันเป็นสไตล์

146 Nameless Fanboi Posted ID:k2BcSGTb0

>>144 กูก็ติดบรรยาย คนอ่านยังพูดเลยว่ากูแบบสายบรรยายเยอะ แต่ก็ไม่มีคนบ่นอะไร แต่เอาจริงๆ คนอ่านจะบ่นออวะปกติ กูไม่เห็นคนอ่านจะบ่นอะไรสักอย่างเลยนะ คือกูว่าต่อให้มันไม่ดี (โอเคอาจจะไม่ได้ไม่ดีเว่ออออะไร) แต่แบบถ้ามันไม่ดีแบบมีข้อติ คนอ่านส่วนมากก้ไม่ค่อยตินะเว่ย มันต้องแบบอ่านเองแล้วรู้เอง ไม่ก็ให้คนเขียนด้วยกันเป็นคนติอ่ะ

147 Nameless Fanboi Posted ID:vXV08Yf4s

>>145 มีแต่เพื่อนกุบ่นว่ายาวไปตาลาย คนอ่านฝในเว็บไม่มีใครบ่นนะ

148 Nameless Fanboi Posted ID:SzLKcnwry

เพื่อนโม่ง อยากถามนิดว่าแต่ละตอนของแต่ละคนนี่ยาวกี่หน้า a4 ฟ้อนต์ 14 อ่ะ

149 Nameless Fanboi Posted ID:prB6YV62Z

>>148 cordia new 14 จะตกที่3-4หน้า ปกติกุจะไม่ให้เกิน3000คำ แต่พอไปลงกุก็ปรับเป็น16อยู่ดี 14เล็กไปก็จะตกประมาณ 6-7หน้า

150 Nameless Fanboi Posted ID:U9EYD4HB3

>>148 ของกู คอร์เดีย 14 อย่างน้อย 10 หน้า อย่างเยอะ 20 แต่ A5 นะ แบบจัดหน้าพร้อมพิมพ์แล้วอ่ะ แบบ line spacing 17
ปกติกูพิมพ์ในฟอร์มนี้ตลอด จะได้ไม่ต้องมาจัดหน้าใหม่อีกรอบ

151 Nameless Fanboi Posted ID:A1Co/FCbS

>>148 ของเราอยู่ที่ 3500 - 4000 คำ ขนาดตัวอักษรก็เหมือนกับพวกข้างบนน่ะ ชอบยาว ๆ

152 Nameless Fanboi Posted ID:vXV08Yf4s

>>148 18 หน้า...
กุผิดไปแล้ว

153 Nameless Fanboi Posted ID:vXV08Yf4s

>>152 มีแต่กุใช้Angsana newเร้อะ

154 Nameless Fanboi Posted ID:U9EYD4HB3

>>153 กูไม่ค่อยชอบ angsana อ่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเขียนรายงาน แต่ตอนนี้ก็เริ่มเบื่อคอเดียนะ มีใครใช้ฟอนต์อะไรสวยๆมะ

155 Nameless Fanboi Posted ID:405YTCSKP

>>154 กูชอบ browallia

156 Nameless Fanboi Posted ID:vXV08Yf4s

>>154 กูใช้คอร์เดียแล้ว วรรณยุกต์กับสระ มันเลื่อนมาข้างหน้ากันว่ะ อย่างสระ อุ ปกติมันอยู่เกือบหลังๆ ใต้อักษรใช้มะ มันเลื่อนมาหน้าๆ แทน

157 Nameless Fanboi Posted ID:eQoY.OXhJ

>>154 ใช้แต่สารบัญ กูว่ามันง่ายสบายตาสุด..

158 Nameless Fanboi Posted ID:X32kjlosA

>>148 30-50 หน้า... แต่กุแบ่งทยอยลงประมาณ 7-8 หน้า (ประมาณ 3000 คำ)
ใช้ cordia new 16 จัดช่องว่างระหว่างย่อหน้า 1.0 ความกว้างระหว่างบรรทัด 10p

159 Nameless Fanboi Posted ID:OKxHU.Xcw

ฮือ... กุต้องเขียนยังไงวะถึงจะเข้าถึงอารมณ์?
คนอ่านกุบอกว่าเนื้อเรื่องดีแล้ว แต่บรรยายยังไม่ถึงอารมณ์ซะงั้น กุไม่รู้เลยจะไปปรับปรุงยังไง

160 Nameless Fanboi Posted ID:.EfDBGXpL

>>159 ตัวมึงเองอินยัง แบบเขียนฉากเศร้า มึงร้องไห้เลยมั้ย
คือกูว่าถ้าตัวเองอินมากๆ มันน่าจะเขียนออกมาได้นะ ปกติกูเขียนฉากเศร้ากูร้องตามตลอดเลย 55555 คนอ่านก็ต้องร้องตามกู กูถึงจะถือว่าโอเค ฉากเศร้าของกูนิผ่านนน

161 Nameless Fanboi Posted ID:wt7aUmQWA

>>159 ลองกลับไปอ่านนิยายตัวเองดู ว่ามึงอ่านของตัวเองแล้วอินไหม

162 Nameless Fanboi Posted ID:UNT8loEk5

>>160 >>161 ถ้าบังเอิญกุตายด้านกุต้องทำไงวะ

163 Nameless Fanboi Posted ID:wt7aUmQWA

>>162 เอามาให้กุอ่าน อิอิ

164 Nameless Fanboi Posted ID:wt7aUmQWA

เชี่ยกุเพิ่งรู้ตัวเองเขียนสังเกตผิดมาตลอด กุเขียนเป็นสังเกตุ อายชิบหาย อายวายวอด

165 Nameless Fanboi Posted ID:QGVhnK/Ge

ทำยังไงไม่ให้ตัวเองเป็นนักเขียนวิตกจริตมัวแต่กังวลยอดเฟบกับวิว

166 Nameless Fanboi Posted ID:TpxPQIAsS

เห็นทู้ในพันทิปที่นักเขียนในเด็กดีไล่คนอ่านไปตายแล้วสยองว่ะ ป่วยฉิบ

167 Nameless Fanboi Posted ID:EDRxWOcIv

>>165 อย่าไปมองมันอะมึง ท่องเอาไว้ว่าอย่าไปมอง เมื่อก่อนกูนี่มองทุกวัน หลังๆ ปลง ไม่มองแม่งละ มามองคอมเมนต์แทน วิตกจริตหนักกว่าเดิม

168 Nameless Fanboi Posted ID:tUaPBYpI2

>>165 กูทำไม่ได้บอกเลย ยอกเม้นตกนี่กูแบบประสาทแดกละ แบบกูทำไรผิด ทำไมไม่ชอบกูแล้วหรอออออไรงี้

169 Nameless Fanboi Posted ID:288cHFqmJ

>>166 นั่นดิ เกิดมาเพิ่งเคยเจอ นักเขียนไล่คนอ่านไปตาย แนะนำวิธีเสร็จสรรพ
ไอ้คนที่คอมเม้นต์นิยายเขาก็ไม่ได้จะด่าทอหยาบคายเลย เขาแค่อินกับนิยายเฉยๆ นักเขียนแม่งควรพบจิตแพทย์

170 Nameless Fanboi Posted ID:/eBZtZhNQ

>>169 เหมือนเป็นไบโพลาร์ขั้นรุนแรง พยายามประกาศมากว่าเขียนนิยายสีขาว แต่การปะทะกับคนอ่านนี่บั่บว่า..............................

171 Nameless Fanboi Posted ID:EDRxWOcIv

>>166 ขอลิงก์ทู้หน่อย ไม่ได้ตามว่ะ แต่อยากเสือก

172 Nameless Fanboi Posted ID:tUaPBYpI2

>>171 https://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=1107548&chapter=294

173 Nameless Fanboi Posted ID:EDRxWOcIv

>>172 อ่านละมึง นักเขียนแม่งโหดสัสรัสเซียไปไหนวะ เมาขี้ตาหรือเมาตดอะไรขนาดนั้นอะ นักอ่านก่อดราม่าไรวะ เขาแค่อิน 55555555555555555

174 Nameless Fanboi Posted ID:/56LX+aOg

นักเขียนแม่งอาการหนักกว่ากุอีก

175 Nameless Fanboi Posted ID:kJlTCpsX1

เห็นเพื่อนนักเขียนคุยกันในเฟส เคยมีคนโดนด่าเหมือนกัน3ปีที่แล้ว ไม่ได้เพิ่งเป็นหรอกนะคนนี้

176 Nameless Fanboi Posted ID:oRIPIEVZ6

ไม่รู้ว่าจะถามไหน เอาเป็นว่าขอ KY ถามในนี้แล้วกัน
คือกูอยากรู้ว่าผู้หญิงแนว Under dog นี่ในสายตาคนอื่นเขาเห็นเป็นยังไงบ้าง?
ขอยกตัวอย่างนางเอกที่กูกำลังเขียนนะ คือเจ้าตัวชาติตระกูลต้อยต่ำมาก เป็นแค่คนชนชั้นแรงงานแถมยังเป็นสาวบ้านนอก ทว่าดันมีคุณชายมาตกหลุมรัก แต่คุณชายคนนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้วซึ่งเป็นไฮโซลูกคุณหนูนั่นล่ะ
นางเอกเองก็ไม่มีอำนาจอะไรไปทวงไปท้วงจึงได้แต่แอบคบกันไปเรื่อยๆ เท่านั้น
คืออยากรู้ว่าผู้หญิงแบบนี้คนอ่านจะรำคาญรึเปล่า? เพราะกูไม่อยากสร้างนางเอกขี้เหวี่ยงขี้วีนเลยอะ

177 Nameless Fanboi Posted ID:EDRxWOcIv

>>176 กูจะรำคาญ ถ้านางเอกมันง้องแง้งเจ้าน้ำตาว่ะ แต่ถ้าต่ำต้อย แล้วคบกันไปเรื่อยๆ หนักแน่นในความสัมพันธ์ กูจะเฉยๆ เพราะในเมื่อทักท้วงไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ หนีตามกันก็ยังไม่ได้ สู้คบแอบๆ ต่อไปมันก็โอเคไหมวะ 5555

178 Nameless Fanboi Posted ID:oRIPIEVZ6

>>177 นั่นล่ะที่กูกำลังคิดเลย - -
คือมันกลายเป็นรักคนมีเจ้าของเนี่ยล่ะ จะท้วงอะไรก็ไม่ได้ แบบนี้มันจะดูแหม่งๆ รึเปล่าหว่า?
ถึงในเรื่องจะระบุว่า พระเอกไม่ได้ชอบคู่หมั้นอยู่แล้วก็เถอะ แต่การที่นางเอกลงไปเล่นด้วยกับคุณชายทั้งที่รู้ว่าเขามีเจ้าของแล้ว แบบนี้มันดูแหม่งๆ มั้ยหว่า

179 Nameless Fanboi Posted ID:zLBXrOmaE

>>176 ขอโทษนะมึง กุบอกตรงๆ แนวนี้เกลื่อนตลาดแล้วซ้ำซาก แค่อ่านบรรยายกูยังรำคาญ อีเชี่ย เหมือนพวกไม่หนักแน่นไรเลย แล้วดันเป็นประเภทที่ผู้หญิงด้วยกันจะเกลียดมาก คนอาจจะเกลียดตัวเอกมึงไปเลย อย่าไปไล่เขาไปตายแบบนขคนหนึ่งนะ๕๕๕

180 Nameless Fanboi Posted ID:zLBXrOmaE

>>178 นางเอกมันแรด อุ๊บส์

181 Nameless Fanboi Posted ID:zLBXrOmaE

>>176 เหวี่ยงเยอะแล้วเงียบทนก็เยอะ มึงลองนางเอกทางสายกลางดิ้

182 Nameless Fanboi Posted ID:1hQ1KY8PH

>>176 กูไม่โอเคกับการที่ไปรักคนมีเจ้าของอะ อย่าว่าแต่คู่หมั้นเลย แค่เป็นแฟน แต่ยังไม่เลิกกัน มาแอบคบกันลับหลังแบบนี้ก็ไม่โอเค อ่านแล้วกูจะไม่เอาใจช่วยความรักของคู่นี้เลย เพราะจะรู้สึกว่าผู้ชายโลเล ทำอะไรไม่เด็ดขาด ส่วนผู้หญิงก็แรดเงียบ จะมาบอกว่าผู้ชายไม่ได้รักคู่หมั้น กูมองว่าแค่ข้ออ้างว่ะ ถ้ายังเคลียร์ตัวเองไม่ได้ก็ไม่ควรมายุ่งอะ ไม่งั้นอยู่ต่อๆไป ขัดการแต่งงานไม่ได้ แต่งกะคู่หมั้นไปวันดีคืนดีนางเอกได้เป็นเมียน้อยแทนซะงั้น

183 Nameless Fanboi Posted ID:o51XV0EH3

ฮือ นางเอกกูเรื่องนึงเป็นแบบที่พวกมึงไม่โอเลยอะ แต่ของกูมันมีผู้ชายที่คบกันแบบมากกว่าเพื่อน เกินคนรู้จัก แต่ไม่ใช่แฟนอยู่คนนึง ซึ่งก็โอเคกับคสพ.แบบนี้ทั้งสองฝ่าย และสุดท้ายคนที่นางลงเอยด้วยก็เป็นคนอื่น กูสงสารพระรองนะ แต่กูให้มันคู่กันไม่ได้จริง ๆ นิสัยมันไม่แมชต์ว่ะ

184 Nameless Fanboi Posted ID:9Rzh2elEn

พูดถึงเรื่องยุ่งกับคนมีเจ้าของ พวกมึงมีความเห็นยังไงกันบ้างวะ คือนางเอกกูก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วแม้จะไม่ได้รักกันเลย ในความจริงแล้วพระเอกมันควรจะอยู่ห่างๆกันไว้ใช่ม้ะ อห แล้วกว่าจะได้รักกัน กูกลัวคนอ่านรำคาญ ด่าพระเอกกูป๊อดอะ จะให้ไปแย่งมาเลยจะดูเหี้ยกว่าเดิมมั้ย ฮืออ

185 Nameless Fanboi Posted ID:XyVfqvggK

>>184 ถ้าพระเอกแสดงออกด้วยการเอาใจใส่มาตลอด แต่ไม่ได้รุกจีบอ่ะ อธิบายไงดีวะ ประมาณพระรองในซีรี่ส์ที่ไม่ได้จะแย่งนางเอกจากพระเอกอะ พอคู่เขาแตกแยกกันเองค่อยเสียบแบบนี้กูเชียร์นะ ไม่หาว่าป๊อดด้วย แต่มึงต้องเขียนบรรยายครส.ดีๆหน่อย
ถึงจะเป็นตัวเอกแต่ถ้าไปแย่งแฟนชาวบ้านนี่กูรับไม่ได้

186 Nameless Fanboi Posted ID:h+dMKCprT

ในนี้มีใครที่หาเลี้ยงตัวเองจากงานเขียนบ้างมั้ย แบบ..เป็นรายได้เสริมอะไรอย่างงี้บ้างก็ได้
กูอยากรู้ว่าส่วนใหญ่นี่เขียนเป็นอาชีพหรือเขียนให้อ่านฟรีตามเว็บ

187 Nameless Fanboi Posted ID:P5csC/3Ob

>>186 ก็หานะ แต่หาได้ไม่พอแดกหรอก ถ้าเป็นอาชีพอ่ะ เป็นค่าขนมแดกพอได้ ไม่งั้นต้องมีความเร็วระดับเขียนหนึ่งเรื่องต่อหนึ่งเดือน เปิดพรีทุกเดือนแบบนั้นอาจจะพอใช้แดกข้าวได้
ไม่รู้อ่ะ กูคิดว่าอะไรที่กูทำมันต้องมีอะไรงอกเงยกลับมามั่ง นิดๆหน่อยๆก็ยังดีวะ

188 Nameless Fanboi Posted ID:gcX+m2fzV

>>186 เขียนปีละเล่มออกกะสนพ. ถ้าไม่มีภาระอะไรก็พอไหว ปีไหนขายละครได้ก็สบายไป

189 Nameless Fanboi Posted ID:h+dMKCprT

ขอบใจ คือกูเป็นคนอ่านนั่นแหละ มาคิดๆดูเหมือนพฤติกรรมการอ่านมันเปลี่ยนคนเริ่มมาขายอีบุ๊คหรือเป็นตอนๆตามเน็ต กำลังซื้อน่าจะลดลงถ้าเทียบกับขายเป็นเล่ม เหมือนยังไม่ค่อยนิยมมากแล้วก็มีพวกแสกนทำให้เสียรายได้
แต่ตีพิมพ์เป็นเล่มก็มีปัญหากับสำนักพิมพ์ไม่จ่ายตามสัญญาอะไรอย่างนี้ (แต่คงไม่โดนทุกคนหรอกมั้ง)
เลยสงสัยว่านักเขียนจะอยู่กันยังไง หรือเขียนฟรีตามฝันตามใจไปเรื่อย

190 Nameless Fanboi Posted ID:gcX+m2fzV

>>189 ถ้าเขียนอาชีพแล้วผูกกะสนพ.อันนี้ก็ไม่ค่อยยากหรอกถ้ามือนิ่งแล้ว คุยได้ว่างานเสร็จเมื่อไหร่ก็ขอคิวส่ง (แต่จะเป็นที่รักแล้วได้ดันเท่านข.ในเว็บยอดอ่านเยอะๆรึเปล่านี่อีกเรื่องนึง) ถ้าจะทำงานนี้นานๆจริงๆต้องเข้าใจธรรมชาติของวงการด้วยสโลว์ไลฟ์ไปอีก ส่วนเรื่องสนพ.โกงเงินถ้าไม่ใช่หน้าใหม่ส่วนใหญ่ก็จะพอรู้กันอยู่แล้ว มาพิมพ์เองคงได้เงินเร็วและง่ายกว่า แต่ถ้าขี้เกียจรับความเสียงก็ส่งสนพ.ไป

191 Nameless Fanboi Posted ID:cRJwCOFbB

มึงว่ากูคิดมากไปป่ะวะ ที่เวลาจะเขียนอะไรแล้วต้องเป๊ะทุกอย่าง บอกที่มาปมทุกอย่าง ภูมิหลังครอบครัว อดีตแต่ละคน จนมันดูเยอะเกินไป
เพิ่งเริ่มคิดว่ามันไม่จำเป็นก็ตอนมาอ่านของนข.บางคน ปรากฏว่าของคนนั้นไม่เห็นต้องเปิดเผยอะไรมากเลย บางอันแม่งก็ไม่มีเหตุผลเอาดื้อๆ หรือไม่ก็ทิ้งปมแม่งไว้อย่างนั้นด้วยซ้ำ แต่เสือกสนุก (?)
กูควรยึดแนวกูต่อไปหรือทิ้งๆไปบ้างดีวะ บางทีเพราะกูคิดเยอะเกินไปจนเขียนแล้วเหนื่อยต้องมาเจาะข้อมูลอะ

192 Nameless Fanboi Posted ID:0afBh0XRD

>>191 ยีดแนวทางมึงไปเถอะ

193 Nameless Fanboi Posted ID:P5csC/3Ob

>>191 กูพยายามไม่เปิดปมเยอะนะ แบบแค่กูมีใส่ปมกับตัวละครตัวเดียวเนี่ย คนอ่านยังเริ่มงงกันแล้ว แบบมันต้องตั้งสติตั้งใจอ่านนิดนึงอ่ะ คือคนส่วนมากแบบชอบฉากหวานๆ รอฉากโรแมนติกกัน กูก็แบบตัวละครกูก็ต้องปมบ้าง ปริศนาที่วางก็ต้องคลี่คลายบ้าง 55555 ไม่กล้าใส่ปมเยอะ กลัวมันจะเยอะเกิน

194 Nameless Fanboi Posted ID:O6krZAN+K

>>189 มันมีทั้งเขียนเป็นงานเสริมกับงานหลักนั่นแหละ ถ้าอยู่ได้ก็อาจเขียนเป็นงานหลัก ถ้าอยู่ไม่ได้ก็เขียนเป็นงานเสริม พวกที่เขียนเป็นงานหลักคือยอดขายดีมากหรือเขียนได้เร็วมาก อาจจะออกกับสำนักพิมพ์หรือทำมือเองก็ได้ แต่คิดว่ารุ่นใหม่ๆ ที่เขียนเป็นงานหลักน่าจะทำมือกันเยอะกว่า
>>191 ถ้าคิดว่าเยอะไปก็ทบทวนแล้วก็ปรับปรุง ขนาดมึงเขียนเองยังคิดว่าเยอะเลยคนอ่านก็คงคิดเหมือนกันแหละ

195 Nameless Fanboi Posted ID:j2RzqH5p4

>>191 เราพยายามเปิดปมบทนี้แก้บทต่อไปเลยอ่ะ แต่บทต่อ ๆ ไปก็มีกล่าวย้อนบ้างเพื่อไม่ให้นักอ่านงง

196 Nameless Fanboi Posted ID:0GN.Hypyk

มึง กูขอระบายหน่อย

กูมีปัญหาเรื่องความอิจฉาว่ะ 55555555

แบบ ยังไงดีวะ นิยายกูมันก็ประสบความสำเร็จในประมาณนึง เอาเป็นว่ากูก็พอใจในระดับนี้แล้ว แต่พอกูไปดูบางเรื่องที่อยู่หมวดเดียวกัน คนอ่านของเขาต่อตอนน้อยกว่าของกูอีก แต่คอมเมนต์เยอะกว่าของกูมากเลย แล้วกูไปดูของเขา มันก็เป็นอย่างนี้ทุกตอน คือคอมเมนต์เยอะกว่าของกูเป็นเท่าตัว ซึ่งกูเห็นกี่ครั้งกูก็เจ็บทุกครั้ง กูไม่เข้าใจว่าทำไมของกูถึงคอมเมนต์น้อยกว่าเขาตั้งขนาดนั้น

คือกูรู้นะ ว่ามีคอมเมนต์มันก็ดีแล้วแหละ อย่างที่บอกว่ากูพอใจในประมาณนึงแล้ว แต่พอกูไปส่องของชาวบ้านเขาทีไรแล้วเจอความจริงข้อนี้ กูก็อิจฉาขึ้นมาทุกที กูจัดการความรู้สึกตรงนี้ของตัวเองไม่ได้ มันทำให้กูนอยด์และทำให้กูรู้สึกว่า ทำไม มันยังไม่ดีพออีกเหรอ

กูมาบ่นแค่นี้แหละ ดูเรื่องเยอะ ดูคิดมากเนอะ 55555555555

197 Nameless Fanboi Posted ID:fVJrVofJz

>>196 กูเข้าใจเว่ย บางทีคอมเมนต์แม่งอะไรหลายๆอย่างปนกัน เนื้อหาบ้าง ความสัมพันธ์มึงกับคนอ่านบ้างไรงี้
คือต่อให้เรื่องเดียวกันอ่ะ ยอดวิวต่อตอนพอๆกัน คอมเม้นยังไม่เท่ากันเลยมึง บางตอนคนคอมเม้นถล่มทลายเพราะว่าตอนนั้นมันมีอะไรให้หวีด ให้คนอยากพูดอะ แต่บางตอนมันไม่มีมันเรื่อยๆงี้

198 Nameless Fanboi Posted ID:cKjYL+puh

>>196 นขหลายคนทำให้คนอ่านเกร็งที่จะคอมเมนท์ บางคนบอกว่าอยากได้คำติชม การวิจารณ์ใช้พลังงานสูง เกิดเม้นท์แล้วไม่ถูกใจโดนประชดว่าอยากเขียนแบบนี้คนเม้นท์เงิบมาเยอะ เข็ดมาก
ถ้าอยากได้เม้นท์แบบคุยกันบ้าง เม้าท์บ้างลองเปิดเฟซคุยกับคนอ่านสิ

199 Nameless Fanboi Posted ID:vMk9NQ4Rl

>>196 ลองชวนคนอ่านคุยไหมมึง แบบคุยท้ายตอนไรงี้

200 Nameless Fanboi Posted ID:ThnF./Uue

>>196 แนะนำได้แค่อย่าพยายามไปเปรียบเทียบอ่ะมึง

201 Nameless Fanboi Posted ID:aSR/qBj.F

กรณีข้างบนเลย มีคนไปเม้นท์แล้วคนเขียนไม่พอใจไล่ไปตาย ช่วงหลังมาจะเม้นท์อะไรกูนี่คิดแล้วคิดอีก กลัวโดนแคปมาประจาน ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว

202 Nameless Fanboi Posted ID:a3A9nC7OY

>>201 เออ พูดแล้วนึกได้ เรื่องเป็นไงบ้างบะ ล่าสุดที่ตามคือเมื่อวานเห็นหนีไปอัพแกเรื่องเนียนๆ อยู่เลย

203 Nameless Fanboi Posted ID:igkJ+1UI1

>>196 มึงลองใส่ปมปริศนาสิ คนอ่านจะได้มีเรื่องให้เดาเล่น จะได้มาเม้น แต่ก็ต้องดูฐานคนอ่านของมึงอีกทีด้วยแหละ

204 Nameless Fanboi Posted ID:b7spob1wf

>>196 นึกว่ามึงเป็นกู
เฟบเยอะ คอมเม้นน้อย ตกลงคนอ่านอ่านหรือปักไว้เฉยๆ วะ
อ้อ ลืมเรื่องกูไม่ใช่แนวตบตีแย่งผัวเมีย
มันคู่พระเอกนางเอกมาตั้งแต่ตอนแรกเลยกุลืม คนอ่านเลยไม่ได้เลือกทีมว่า ทีมพระเอกหรือพระรอง๕๕๕

205 Nameless Fanboi Posted ID:b7spob1wf

>>204 มันไม่มีทีมให้เลือกกก

206 Nameless Fanboi Posted ID:hNOFzlRb3

เฮ้! ใครเคยเจอปัญหาเนื้อเรื่องพังตั้งแต่พล็อตเรื่องบ้าง?
กูเพิ่งมาเจอหลังจากเขียนไปได้จนเกือบจบแล้วว่ะ ถ้าจะแก้ก็คงต้องเขียนใหม่ทั้งหมด ซึ่งตอนนี้กูก็เขียนไปถึง 300 กว่าหน้าแล้ว
แบบนี้กูควรรีไรท์เขียนใหม่ทั้งหมดเลยใช่มั้ยเนี่ย

207 Nameless Fanboi Posted ID:hKPlOnMnG

>>206 อือ กุประจำ แก้จนจะแยกเป็นเรื่องใหม่ได้ละ

208 Nameless Fanboi Posted ID:iuRGp4Ns2

>>206 เขียนเรื่องใหม่ไปเลยง่ายกว่า

209 Nameless Fanboi Posted ID:4zMCtiKsI

>>206 มายกมือร่วมพวก กูก็เป็น ทุกวันนี้ปิดรีไรต์แล้วก็จริง แต่ยังไม่มีแรงจะรีไรต์เลยจ้ะ กูมารู้สึกว่ามันชักหลุดๆ ออกทะเลไปเกิน ก็เลยเอาใหม่แม่ม โดนด่ายับเหลย

210 Nameless Fanboi Posted ID:Uc9wXXV2H

เคยกลับมาอ่านนิยายตัวเองย้อนหลังแล้วอายชิบหายวายวอดมั้ย
แบบหลังไฟจูนิเบียวมันมอดลงงี้

211 Nameless Fanboi Posted ID:O.TLr+cwl

>>210 ปกติค่ะมึง กูอายจนบอมบ์ทิ้่งไปหลายเรื่องอยู่ นึกแล้วก็เสียดาย แต่ตอนนั้นอายแบบรู้สึกว่ามันไม่ควรมีตัวตนอยู่อีกต่อไปแล้ว 55555

212 Nameless Fanboi Posted ID:KGWd+RzP+

นี่เพื่อนโม่งขอถามความเห็นหน่อย
ไอ้การที่พระเอกเป็นลูกคุณหนูจะทิ้งตำแหน่งและฐานะ เพื่อหนีการคลุมถุงชนไปได้กับสาวใช้ตัวเองนี่มันสมเหตุสมผลรึเปล่าวะ? ประมาณว่า พระเอกกับนางเอกรู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้ว ใกล้ชิดกันมาตลอด แต่ทั้งสองก็เว้นระยะห่างเป็นแค่เพื่อนกันเอาไว้จนกระทั่งโตเป็นหนุ่มสาวด้วยกันทั้งคู่ถึงได้แอบคบกันแบบลับๆ จวบจนโดนทางบ้านจับได้น่ะ

213 Nameless Fanboi Posted ID:yguAZZ4ic

>>212 พระเอกมันจะทำไรกินวะ หนีไปทำไร่ไถนา?
หนีไปกันก็ได้ แต่พระเอกมันจะทำไรกิน จะเลี้ยงครอบครัวได้มั้ย

214 Nameless Fanboi Posted ID:uxOoL.qeT

>>212 งืมมมม อืมมม คิดเหมือนข้างบนว่าพระเอกจะไปทำไรต่อ
นึกถึงเรื่องนึงของแจ่มใส ที่พระเอกไปทำกิจการทอผ้าอะไรซัมติง ออกจากบ้านไปกับสาวใช้นี่แหละ แต่ว่าอันนั้นนางวางแผนมาของนางอยู่แล้ว ต่อให้ไม่มีนางเอกนางก็คงออกไปงี้
คือกูว่าถ้ามีเหตุผลรองรับมันก็ได้แหละ

215 Nameless Fanboi Posted ID:Zg5v85WoL

>>212 มันต้องดูยุคสมัยประกอบด้วยว่ะ แต่ถ้าถามว่าได้ไหม กูว่าได้นะ ยิ่งในยุคปัจจุบัน ถ้าอิพระเอกการศึกษาดีๆ หน่อยก็หางานทำได้สบายอะ แต่ถ้าเป็นยุคโบราณ ก็ต้องคิดหน่อยว่าจะหากินยังไง ไปเป็นครู? เสมียน? งานใช้แรงงาน?

216 Nameless Fanboi Posted ID:cbn9UMhra

>>212 กูว่าการทำให้มันสมเหตุสมผลนี่เป็นหน้าที่ของคนเขียนล้วนๆเลยนะ ว่าจะใส่อะไรลงไปบ้าง ให้คนอ่านเชื่อให้ได้ว่า เออ หนีตามกันไปนี่แหละ ดีที่สุดแล้วสำหรับคู่นี้

217 Nameless Fanboi Posted ID:KGWd+RzP+

>>213-216 โอเคขอบใจมาก
ธีมเรื่องมันอยู่ช่วงยุคกลางตอนปลาย เกือบๆ เรเนอซองค์น่ะ น่าจะหาบทสรุปได้ลงตัวอยู่

218 Nameless Fanboi Posted ID:uxOoL.qeT

>>217 โหห เลือกเซตติ้งได้แบบน่าสนใจๆ 5555 ท่ามกลางนิยายเสินเจิ้นและนิยายรักปัจจุบัน มึงก็ได้เลือกเรเนซองส์ น่าอ่านๆ

219 Nameless Fanboi Posted ID:KGWd+RzP+

>>218 ก็นะ กูเรียนจบ ป.โทมาจากเยอรมัน แล้วนี่เพิ่งกลับมาไทยช่วงกลางปีนี้เอง อยู่ที่นั้นหลายปีมันซึมซับความโรแมนติกของความเป็นยุโรปเพียบเลย

220 Nameless Fanboi Posted ID:hNDu6IlbY

ถามความน่าจะเป็น นักอ่านกูบอกว่าเรื่องกูมันไม่เมคเซ้นตรงที่ นางเอกยอมแต่งงานกับคนที่นางไม่ได้รัก พระเอกก็ไม่ยอมไขว่คว้า พยายาม (ว่างั้นนะ จริงๆคือพากันหนีตาม) บอกว่าพระนางดูไม่รักกันมั่งละ
คือเรื่องกูมันเซตติ้งโบราณเลยอะ นางเอกเป็นลูกคนมีหน้ามีตา ส่วนพระเอกก็เป็นแค่บ่าวไพร่ไม่มีตระกูล มันจะทำอะไรได้วะ
กูไม่เข้าใจว่าพากันหนีตามนี่มันดูน่ายกย่องเหรอ มันเป็นความรักที่เป็นไปไม่ได้ กูวางเรื่องให้เป็นแบบนี้มันดูแปลกเหรอ ทำไมต้องคอมเพลน ?
พวกมึงคิดว่าไง

221 Nameless Fanboi Posted ID:hNDu6IlbY

ลืมอ้างถึงข้างบน >>212 กูไม่ได้ว่ามึงหรือใครที่จะเซ็ตให้ตัวเองหนีตามกันไปนะ 5555 คือแต่ละคนก็มีเหตุผลของเขา ซึ่งเหตุผลของกูคือแบบนี้ กูแค่อยากแน่ใจว่าที่กูวางไว้ มันก็คงไม่ได้ผิดอะไรใช่มั้ยอะ (นักอ่านว่ากูไม่เป็นไร แต่มาว่าลูกกู กูยอมไม่ได้นิดนึง TT)

222 Nameless Fanboi Posted ID:yguAZZ4ic

>>221 ไม่ผิด ปล่อยไป

223 Nameless Fanboi Posted ID:yguAZZ4ic

กิ๊บหนีบผม ภาษาโบราณมันเรียกว่าไรวะ แบบนี้ ใช้หนีบผมเด็กที่ยังไม่โตเป็นสาว https://html2-f.scribdassets.com/5a0zpem4qo2srzi0/images/10-b507d06ce8.jpg
ฝรั่งมันแปลเป็นbarrette clip แปลไทยมาอีกก็กิ๊บ แล้วจะแปลอีกรอบให้มันโบราณกว่านี้ยังไงดีวะมึง

224 Nameless Fanboi Posted ID:lCeJ9go4a

>>223 ที่ติดผม? เครื่องประดับ​ผม?

225 Nameless Fanboi Posted ID:he0Ed2qfz

>>220 จะว่าตามจริงมันก็ไม่ผิดนะ แต่มันจะดูโลกสวยไปนิดหน่อยและ
คือของมึงน่ะเป็นฝ่ายหญิงฐานะสูงกว่า แต่ยุคโบราณเนี่ยสิทธิ์ของผู้หญิงยังต่ำกว่าชายมาก การทำงานจึงค่อนข้างจำกัด ต่อให้เรียนมาสูงฐานะดีอย่างไร ถ้าขาดการสนับสนุนจากทางบ้านก็ยิ่งยากใช่มั้ยล่ะ?
แถมแย่กว่านั่้นโดนหาว่าเกาะผู้หญิงกินอีก Orz

226 Nameless Fanboi Posted ID:e8GyaALhy

>>223 อันนี้ถือเป็นอย่างเดียวหรือคนละอย่างกับเกี้ยวครอบผม ?

227 Nameless Fanboi Posted ID:yguAZZ4ic

>>226 คนละอย่างมั้ง

228 Nameless Fanboi Posted ID:gTN5Z6gCD

เด็กดีเป็นไรวะ กุเข้าเพิ่มไรนิยายกุไม่ได้เลย

229 Nameless Fanboi Posted ID:gTN5Z6gCD

เคกุรู้ละเนตกุเน่าเอง แม่งเอ้ย

230 Nameless Fanboi Posted ID:kByqNglpW

มึงนิยายกุธีมหลักมันคอเมดี้นะ ทีนี้มันต้องมีให้ปวดตับ กูแต่งside storyที่เป็นเรื่องของตัวเอกในภพก่อนเพื่อปูว่าทำไมมันนิสัยระแวงในชาตินี้ แบบแต่งออกมาแม่งดาร์กชิบหาย กุแต่งเสร็จนอนตื่นมาอ่านพบว่ามันดาร์กชิบ เริ่มคิดละกุควรลงดีมั้ยหรือแต่งอีกเวอร์ชั่นนึงให้มันซอฟต์ขึ้นนิดหน่อย

231 Nameless Fanboi Posted ID:7Pdg5bJS/

>>230 มึงแต่งเป็นเรื่องแยกเลยใช่ปะ ถ้างั้นก็ลงๆไปเหอะ เรื่องแยกของกูเองก็ดาร์คชิบหายยังไม่เป็นไรเลย

232 Nameless Fanboi Posted ID:kByqNglpW

>>231 กูกลัวคนอ่านตับช้ำ๕๕๕

233 Nameless Fanboi Posted ID:9NRkATSm6

>>232 คนอ่านทนได้อยู่แล้ว

234 Nameless Fanboi Posted ID:VgPOjNe8j

KY หน่อยสิ เพิ่งไได้รับคอมเมนท์มาว่างงเพราะไม่มีเกริ่นนำ ทั้งที่คิดว่ามีแล้ว เวลาเริ่มเรื่องกล่าวนำประมาณไหนกันเหรอ
อันนี้เอามาให้ลองอ่าน https://writer.dek-d.com/ployyhara1993/story/viewlongc.php?id=1734261&chapter=1 คิดว่าจะนั่งแก้ไขอยู่แหละ ช่วยแนะนำหน่อยนะ แม้จะผ่านการเขียนมาหลายเรื่องแต่ยังไม่ค่อยพัฒนาเท่าไรเลย เรื่องอื่น ๆ คนอ่านก็งงเหมือนกันเพราะกล่าวนำเนี่ยแหละแต่ลบไปหมดแล้ว

235 Nameless Fanboi Posted ID:VgPOjNe8j

>>234 เองแก้ ๆ KY หน่อยสิ เพิ่งได้รับคอมเมนท์มาว่างงเพราะไม่มีกล่าวนำ ทั้งที่คิดว่ามีแล้ว เวลาเริ่มเรื่องกล่าวนำประมาณไหนกันเหรอ
อันนี้เอามาให้ลองอ่าน https://writer.dek-d.com/ployyhara1993/story/viewlongc.php?id=1734261&chapter=1 คิดว่าจะนั่งแก้ไขอยู่แหละ ช่วยแนะนำหน่อยนะ แม้จะผ่านการเขียนมาหลายเรื่องแต่ยังไม่ค่อยพัฒนาเท่าไรเลย เรื่องอื่น ๆ คนอ่านก็งงเหมือนกันเพราะกล่าวนำเนี่ยแหละแต่ลบไปหมดแล้ว

236 Nameless Fanboi Posted ID:m7uHIpJPP

>>235 ถ้าบอกว่าให้อ่านหนังสือให้เยอะขึ้นจะโกรธไหมเนี่ย เอาจริงๆ ไม่ใช่แค่เกริ่นแต่เป็นกับการขึ้นฉากใหม่ทุกฉากเลยอะ จนมันดูเหมือนกับการปรับทรีตเมนต์เพิ่มแล้วใส่ไดอะลอกเข้าไปแทน เช่น - สะพาน*** ขึ้นมาเท่านั้นคนอ่านก็ไม่เห็นภาพหรอก ต้องเพิ่มบรรยายเอาง่ายๆ เราคิดว่าภาพมันเป็นยังไงก็บรรยายเพิ่มลงไป

237 Nameless Fanboi Posted ID:5vXS6Quat

>>235 แบบละเอียด​ๆไปห้องสับนิยาย​เลยน่าจะดีกว่า >>>fanboi.ch/webnovel/4810/

คร่าวๆ เกริ่นสำหรับ​กูคือแนะนำ​หน้าตา นิสัย ความคิด​ของตัวละคร (รวมถึงธีมของเรื่อง)​ให้คนอ่านรู้จัก​อะ
ของมึงมันแบบเหมือนวาดมนุษย์​ก้างปลามาตัวนึงแล้วแปะป้ายว่ามันชื่อนี้นะ มันเป็นมาเฟียกะนักเขียนนะแค่นั้นจบ
การเล่าเรื่องตัดฉากก็อย่างที่ >>236 บอก

238 Nameless Fanboi Posted ID:5vXS6Quat

>>237 แปะผิด https://fanboi.ch/webnovel/4810/

239 Nameless Fanboi Posted ID:VgPOjNe8j

>>236 ไม่หรอก อ่านมาเยอะแล้วแต่คงอ่านยังไม่พอ 555
>>237 โอเคเข้าใจแล้ว
ขอบคุณทั้งสองความเห็นมาก ๆ เลย

240 Nameless Fanboi Posted ID:SZQyrDNs8

>>239 มึงมีปัญหาในการเล่าเรื่อง ถ้าอ่านมาเยอะแล้วปัญหาคงไม่ใช่เรื่องปริมาณที่อ่านมาแต่เป็นการเล่าเรื่องของมึงอารมณ์แบบบทละครกองถ่าย บอกแค่ลักษณะเหตุการณ์ขาดความงามของนิยายรุนแรง

241 Nameless Fanboi Posted ID:Wex+aYWRO

>>240 เห็นด้วย
ไม่เหมือนนิยายเท่าไหร่นะ เหมือนบทละคร ตัวละครเอซึ่งคือมาเฟีย ขยับไปทางนี้ กระทำสิ่งนี้
ใส่อารมณ์หน่อย ความรู้สึก ฟิลลิ่ง ในช่วงแรกให้ทั้ง tell และ show ไปเลย บรรยายมาว่าตัวละครรู้สึกไง และพฤติกรรมของตัวละครนั้นเป็นยังไงที่จะทำให้คนอ่านรู้ว่ารู้สึกยังไง
อันนี้มันห้วนๆ

242 Nameless Fanboi Posted ID:65tUk0yaq

>>240 >>241 ขอบคุณมาก กำลังจะลงมือแก้ไขเลย

243 Nameless Fanboi Posted ID:VDs63dQ+z

พูดถึงการเล่าเรื่อง ตอนนี้กูกำลังมีปัญหาเลย
ใช้ Show เยอะเกินไปบ้าง เล่าแบบเป็นขั้นเป็นลำดับบ้าง จนตอนนี้เขียนไป 400 หน้าแล้วยังไม่จบภาคเลย Orz
ดูเหมือนว่าสไตล์การเขียนกูจะเป็นแบบเล่าละเอียดแฮะ ทำยังไงดี? ขนาดเขียนพล็อต (แค่พล็อต) สำหรับเนื้อหา 200 หน้า กูยังกินหน้ากระดาษไปตั้ง 13 หน้าแนะ

244 Nameless Fanboi Posted ID:7mqMRDkUb

>>243 แม่งยังดี กุแค่สี่บทแรกปาไปสองร้อยกว่าหน้าแล้ว แม่งไม่รู้จะลดตรงไหน อะไรก็สำคัญ

245 Nameless Fanboi Posted ID:jrPfxD72u

>>244 พอกับกูนั่นล่ะ แต่ของกู 5 บท

246 Nameless Fanboi Posted ID:2eekxmfZv

พวกเอ็งเขียนยาวแข่งกับบทgame of throneหรือไง

247 Nameless Fanboi Posted ID:dt13J6pps

แฟนตาซีหรอ ยาวๆแบบนี้อ่ะ
ของกูตอนนี้กูครึ่งเรื่อง 200 หน้าก็ว่าเยอะละ พยายามจะปิดให้ลงภายใน 400 เนี่ย

248 Nameless Fanboi Posted ID:jrPfxD72u

กูเองก็พยายามตัดให้สั้นเนี่ย เดี๋ยวรอว่างคงต้องมานั่งตัดอีกครั้ง (รอบที่ 4)

249 Nameless Fanboi Posted ID:gxhhBcE/d

เขียนยาวกันจัง ทำได้ไงวะ กูนี่ตอนนึงกว่าจะได้สัก 2000 คำนี่เค้นแล้วเค้นอีก กลุ้มใจว่ะ

250 Nameless Fanboi Posted ID:MWXf+FduU

>>249 มึงต้องเป็นจูนิเบียวแบบกุ แล้วคำจะออกมาง่ายดาย ไม่ต่ำกว่าห้าพันคำภายในห้าชม
ว่าแต่ตอนนี้ คนอินกับตัวละครในนิยายกุจนด่าลุกรักกู ฮือ กุจะดีใจหรือเสียใจดี

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.