Last posted
Total of 1000 posts
อย่าสวมหัวโขนเลยว่าฝ่ายนี้ต้องเป็นอุดมคติอะไรแบบนี้
นักเขียนก็คนธรรมดา นักอ่านก็คนธรรมดา
เพราะนักเขียนก็เป็นคนอ่านเสมอ คนอ่านบางคนมีไฟก็ลุกขึ้นมาเขียนเป็นนักเขียนได้เสมอ
>>952 >>952 กูกำลังพยายามทำความเข้าใจมึงอะ นั่นคือเหตุผลที่กูกำลังเถียงกับมึงอยู่ .. เออ แปลกๆ ว่ะ แต่กูคิดแบบนั้นจริงๆ นะ มึงมองว่ากูไม่รับฟังก็ได้อะ เพราะที่มึงบอกว่า ตรรกะป่วยมาก ก็แสดงว่าตอนนี้มึงก็กำลังทำแบบเดียวกัน
กูว่าตั้งแต่ต้นที่กูบ่นเรื่องตีพิมพ์ใหม่มา กูไม่เคยว่านักเขียนเลยนะ กูมองว่าเป็นปัญหาที่สนพ ล้วนๆ แล้วถ้ากูมองว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโถคนี่มันผิดตรงไหนวะ ตัดเรื่องการรีไรท์แล้วแก้คำผิดหรือเปลี่ยนหน้าปกออกไปนะ แก้คำผิดก็ดีแล้ว เป็นการปรับปรุงผลงาน เปลี่ยนปก อันนี้ก็ความพอใจส่วนบุคคลว่าอยากจะเก็บปกใหม่มั้ย มันเลือกได้เพราะเนื้อหาเหมือนเดิม แต่ เฮ้ย ถ้าเพิ่มตอนล่ะ มึงอาจจะบอกว่าก็เท่าเทียมสิ กูได้อ่านก่อน... อ้าว เดี๋ยวนะ ถ้าตอนนั้นกูรู้ว่ามันจะมีฉบับเพิ่มตอนพิเศษมา กูอาจจะรอก็ได้นี่หว่า ในเมื่อตอนนั้นมันไม่ได้มีตัวเลือกให้กู กูก็ซื้อเท่าที่มีสิ หรือจะบอกว่า ค่าหนังสือสมัยนั้นถูกกว่านะเว้ย (คงไม่มีคนใช้เหตุผลนี้หรอกใช่มั้ยวะ) ... มันก็ต้องมองค่าครองชีพโดยรวมมั้ยอะ
การที่กูมองว่ากูต้องจ่ายเงินซื้อหนังสือราคาเต็มเพื่ออ่านเฉพาะตอนพิเศษ มันไม่แฟร์สำหรับกู กูไม่คุ้มนี่ ก็กูอ่านเนื้อเรื่องหลักไปแล้วอะ มันตรรกะป่วยตรงไหน อธิบายซิ
>>956 ไม่รู้หมายถึงกูรึเปล่า แต่ก่อนหน้านี้กูไม่เคยมาเถียงเรื่องนี้เลยอะ เรื่องลงจบไม่จบนี่ก็ไม่เคยเถียง กูพึ่งโผล่มาเช้านี้นี่แหละ ปกติกูจะซื้อเรื่องที่กูชอบว่ะ ลงจบหรือไม่จบไม่เกี่ยวกัน ถ้าลงจบแล้วใส่ตอนพิเศษไปในเล่มตั้งแต่ตีพิมพ์รอบแรก กูก็ซื้อถ้ากูชอบ แต่ถ้ากูไม่ชอบตั้งแต่แรก แล้วกูไม่ซื้อ มันผิดเหรอ ?
>>960 เดี๋ยวนะมึง ก็มึงมาเมนชั่นกู มึงถามกูใน >>956 มีสตรอเบอร์ร่งเบอร์รี่ไรด้วย กูก็ออกมาให้ข้อมูลว่าไม่ใช่กู กูไม่ได้ร้อนตัว แต่มึงต่างหากที่หัวร้อน กูไม่ได้แค่อยากเข้ามาด่า กูก็มาตอบดีๆ มึงยังเขียนเลยนี่ว่าข้อความหลังๆ ยิ่งเขียนยิ่งส่อ แต่ข้อความหลังๆ ไม่ใช่กู กูไม่มีอะไรพิสูจน์ว่าไม่ใช่กู แต่กูก็ได้แต่บอกตรงนี้ว่าไม่ใช่กูแค่นั้น
>>962 ผลงานที่ออกมา เพื่อนโม่งได้อ่านไปจนจบใช่มั้ย ในราคาหนังสือที่ซื้อมา ซึ่งมันสร้างความสนุกความบันเทิงไปแล้วจะกี่ปีมาแล้วก็ตาม
ต่อมานักเขียน หรือสนพ. ต้องการพิมพ์ใหม่เพื่อสร้างรายได้หาเลี้ยงชีวิตของเขาหรือสนพ.เขา
ก็จะให้ออกมาแบบเดิมเป๊ะๆ บอกได้เลยว่าเข้าเนื้อแน่ๆ ซึ่งเรื่องนี้เพื่อนโม่งเข้าใจใช่มั้ยว่าสนพ.ไม่ใช่องค์กรการกุศล
เข้าใจเรื่องการตลาดไหม ถึงได้เน้นย้ำนักหนา
จะออกมาใหม่ก็ต้องมีอะไรพิเศษในสินค้า ไม่เช่นนั้นมันจะขายได้หรือ (คิดสิคิด)
เด็กเรียนประถมยังรู้เลยว่าของเก่าเดิมๆ กับของใหม่ที่ปรับโฉมขึ้นมา อะไรจะน่าซื้อกว่ากัน
ไม่รวมไปถึงแก้ไขจุดบกพร่องในคราวก่อนด้วย
ฉะนั้นจะรีไรท์พิมพ์ใหม่ มันก็ควรจะเป็นแบบนี้ใช่มั้ย (จะเก็จมั้ยนี่)
จะให้ออกมาเดิมๆ แล้วมันจะมีอะไรดึงดูดนักอ่านล่ะ (พิมพ์แบบนี้ออกมาก็กินทุนนะสิ)
อย่ามาใช้คำว่าศิลปินต้องใส่ใจนักอ่านอะไรทุกอย่าง
ซึ่งก็อุตสาพิมพ์ว่านักเขียนก็เป็นคนธรรมดา ที่ต้องกินต้องใช้ถูกมั้ย (มันเข้าใจยากหรือไง)
สรุปเป็นพื้นฐานจนไม่รู้จะพื้นฐานยังไงแล้ว ในการตลาด (ซึ่งก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีหรือไง)
>>963 กูว่าไม่ได้ทำลายขวัญนักเขียนอะไรเลย
เพราะเจอคอมเมนต์ โหด เลว ดี มากกว่านี้เยอะในหน้านิยาย
ไม่ว่าจะด่าเนื้อเรื่อง ไม่ว่าจะบอกว่าจะเอาไปสแกนแจก (ไม่ได้หมายถึงเพื่อนโม่งนะ)
บ้างทีลามปามด่าแบบ พ่องมึงตาย อะไรยังงี้
แต่ในนั้นนักเขียนมาตอบโต้นักอ่านเกรียนๆ แบบนั้นไม่ได้
ส่วนที่นี้เด็กๆ วะ จะบ่นมายังไง มันเล็กน้อยมาก ที่เปรียบกับที่เจอในหน้านิยาย
>>965 หัวร้อนมาแต่ไกลเชียว คุยกันดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องแขวะ มึงบอกว่ากูไม่เข้าใจ? กูเข้าใจ ทั้งหมดที่มึงว่ามานั่นแหละ กูว่ากูเคยเขียนด้วยว่ามันคือปัญหาด้านการตลาดของสนพ ว่ะ อย่างแรก ถ้าสนพ หรือนักเขียนจำเป็นต้องเอางานเก่ามาขาย "เพื่อกินเพื่อใช้" แสดงว่าทั้งชีวิตมีขายได้แค่นี้งั้นสิ
มึงลืมไปรึเปล่าว่าการเอางานเก่าๆ มาขายกินแปลได้สองอย่าง เรื่องนั้นดัง หรือไม่ก็ สนพ หรือนักเขียนไม่มีปัญญาหางานใหม่ที่ดีกว่ามาทำ แล้วก็วนขายเรื่องเดิมอยู่อย่างเดียว นี่คือวิธีการทำมาหากินที่ดีและได้กำไรสินะ สาบานเถอะว่าเข้าใจเรื่องการตลาด ทั้งๆ ที่อ้างเรื่องการตลาดขึ้นมาแท้ๆ
กูเห็นบางเจ้าเค้าก็ตีพิมพ์เรื่องเดิม ไม่เพิ่มเนื้อหาก็ขายได้นะ ที่มึงบอกว่ามีฉบับเก่ากับใหม่ อันไหนจะขายได้มากกว่า ถ้าฉบับใหม่มีการปรับปรุง นั่นก็แปลว่ามึงมีสองอีดิชั่นอยู่ในตลาดสิวะ ถ้ามีอีดิชั่นเดียวแล้วมันดีจริง ยังไงก็ขายลูกค้าใหม่ได้ แต่ถ้ามีให้เลือกคนก็เลือกอันใหม่อยู่แล้ว อย่างนี้ก็แปลว่ามึงทำอีกแบบออกมาเพื่อดึงดูดลูกค้าเดิมที่มีหนังสือมึงอยู่แล้วให้กลับไปซื้อฉบับใหม่ด้วยสิ ? ไม่งั้นทำเป็นเรื่องใหม่ ภาคใหม่ออกมาเลย ยังไงก็ขายได้ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่มั้ย
>>967
ไขความกระจ่างให้ นักเขียนคนหนึ่งจะมีมาสเตอร์พีทผลงานอยู่ไม่กี่เรื่องที่นักอ่านจะจดจำได้
ยามเมื่อออกเรื่องใหม่ๆ มา
คนอ่านที่เพิ่งรู้ก็จะย้อนกลับไปซื้อผลงานที่เป็นมาสเตอร์พีทของนักเขียนคนนี้ด้วย
สนพ.จึงยอมลงทุนพิมพ์ซ้ำขึ้นมาใหม่เพราะเล็งผลถึงเรื่องนี้
ต่อมาในมุมหนังสือเก่าเรื่องนี้จะถูกนำไปเป็นหนังสือเช่าในร้านหนังสือทั่วประเทศแล้วใช่มั้ย สำหรับคนอ่านที่เคยเช่าอ่านและชอบขึ้นมาจริงๆ
เมื่อเห็นหน้าปกหรือคำว่ารีไรท์ใหม่ขึ้นมา ก็จะตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นไปอีก
นี่การตลาดที่สูงขึ้นมาหน่อย ตามหลักจิตวิทยา
ยังไม่รวมประเถทที่อ่านแล้วยังไม่ได้ซื้อในครั้งแรกๆ พอประกาศว่าจะเพิ่มอะไรให้หรือไม่ถูกใจปกในครั้งแรกๆ การตัดสินใจจะง่ายขึ้นกว่าเดิม
สรุปว่า สนพ. ต้องการรายได้ที่ชัวร์ๆ มีกำไร นี่เขียนลงรายละเอียดปลีกย่อยให้เข้าใจขึ้นแล้วนะ
คือบอกตรงๆ ที่ทำทั้งหมดก็เพื่อทำให้หนังสือขายออกไปได้ยังไง ไม่ขาดทุน น่าจะเข้าใจได้มากขึ้นนะ
(เป็นเรื่องของเงินและกำไร เงินและกำไร เงินและกำไร)
เป็นมู้ที่มันสัดๆ อย่างกะฉลองท้ายห้อง
>>972 อ่ะ กูขออธิบายว่ากูคือคนแรกที่มาบ่น แล้วกูก็ตอบคำถามมึงที่มึงเขียนใน >>956 มึงเขียนมาว่า "มึงใช่เพื่อนโม่งที่พยายามพูดมาตลอดว่าซื้อเวอร์ชั่นแรกโน่นนี่นั่นป่ะวะ ถ้าใช่ ตกลงที่สร้างภาพว่าเป็นนักอ่านจ่ายเงินซื้อมาตลอดนี่แจกสตอเบอรี่เหรอวะ" กูเข้าใจว่ามันเป็นคำถามนะ กูถึงเข้ามาตอบ พอกูมาตอบมึงก็ว่ากูร้อนตัว กูไม่ได้ร้อนตัวไง ก็มึงถามกูก็มาตอบดีๆ แล้วนี่มึงยังจะถามต่ออีกว่า "แสดงว่ามึงคือคนต้นข้อความทำนองอ่อนแอก็แพ้ไปเหรอวะ" ใน >>972 มันเป็นประโยคคำถามมั้ย ก็มึงลงท้ายด้วยคำว่าเหรอวะๆๆๆ กูก็เข้ามาตอบ และกูก็จะตอบตรงนี้อีกว่า กูไม่ใช่คนที่พูดว่า "อ่อนแอก็แพ้ไป" มึง นี่มันโม่ง กูบอกอีกที มึงไม่ต้องไปหาว่าใครพูดไร เพราะมันสวมโม่งกัน แต่กูรู้สึกว่ากูโดนด่าตั้งแต่สตอเบอรี่อะไรแล้ว กูก็มาแสดงตัวว่ากูไม่ใช่อย่างที่มึงกล่าวหา ทำไมการที่กูออกอธิบายสิ่งที่กูทำ/ไม่ได้ทำมึงถึงมองว่ากูร้อนตัวไปได้วะ
อ้อ แล้วนี่เลขข้างหลังกูเปลี่ยนเพราะกูเล่นจากมือถือนะ เดี๋ยวมึงจะหาว่ากูเป็นคนนู้นคนนี้อีก
กูไม่รู้จะคุยมู้ไหนดี คืองี้นะ กูลองไปดูใบเมนูของงานคอมิคอเวนิวดูเห็นมีบูธของวีรอนเดลกับกัณฑิดาด้วย เห็นมีตอนพิเศษของเซวีน่ากับแผนผังตระกูลขาย กูเลยงงๆว่าลิขสิทธิ์มันอยู่กับสนพ.แต่ตัวนักเขียนสามารถทำงี้ได้เหรอวะ
เฮือก กูเพิ่งเห็นในทวิต นิตยสารI likeจะเลิกแล้วว่ะ เห็นว่าTwilightของค่ายเดียวกันที่เน้นเรื่องผีก็เลิกไปก่อนแล้วด้วย
เมื่อก่อนกูซื้อตลอดอะ I like ซื้อมาบางทีอ่านไม่ครบทุกคอลัมน์ ก็ยังซื้อมาเก็บไว้
ถึงจะปรับเปลี่ยนอะไรใหม่แล้วกูว่ามันขาดเสน่ห์เดิมไป ก็คิดเอาน่า...มันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง
จนวันนึงคอลัมน์ที่กูอ่านประจำ(เรื่องสั้น)เพิ่งซื้อมาฉบับใหม่กริ๊บเลย อ่านไปอ่านมามันคุ้นๆว่ะ
เลยลองไปค้นเล่มเก่าๆดู แม่ง...เอาของเดิมมาพิมพ์ซ้ำ
กูก็พยายามหาว่าคนเขียนคอลัมน์เขาป่วย/ไม่ว่าง/หยุดหรือเปล่าวะ (ยัง ยังจะเข้าข้าง) ก็ไม่มีบอกเตือนอะไร
เอ๊า กูจะให้โอกาส ลองซื้อเล่มต่อมาอีกเล่มนึงดู พบว่าเอาเรื่องที่เคยตีพิมพ์ไปแล้วมาพิมพ์ซ้ำใหม่อีกแล้วขรั่บทั่น
คอลัมน์ที่ไม่เคยอ่านพอเทียบดูก็ซ้ำเดิมเยอะมาก ฟ้าคคคคคค อิเชี่ยมมมมมมมมม เหมือนถูกหักหลัง
ต่อไปเธอจะไม่ได้แดกเงินกูอีกนะ เล่มที่แล้วมาก็ถุงกล้วยแขกแล้วกัน....
เล่มที่เคยพิมพ์กับเล่มนั้นห่างกันประมาณ 150 เล่มได้ ยุคนั้นเน็ตยังไม่แพร่หลายหรือยังไงนี่แหละ กูได้แต่สงสัยว่าไม่มีใครรู้แล้วร้องเรียนเลยเหรอวะ กูเลิกอ่านก็ลืมๆเรื่องนี้ไปแล้ว จนเห็นประกาศหยุดทำนี่แหละ(แต่เห็นมีหยอดๆเล่มสุดท้ายขายดี จะมีเล่มพิเศษ ....พอเถอะ มึงไปเถอะนะ)
กรณีอย่างนี้เป็นความผิดของใครวะ คนเขียน(เนียนส่งเรื่องเดิม) บ.ก.(ไม่ตรวจหน่อยเหรอ หรือจำไม่ได้) หรือมีหน้าที่อื่น
บางทีบอร์ดนี้ก็ไปไวไปนะ กุตกข่าว/ พวกมึงด้านบนใจเย็นๆนะ
เดี๋ยวนี้อรุณทำสัญญากับนักเขียนแค่ปีเดียวหรอวะ กูเห็นเรื่องรักษ์ ราตรี อธิษฐาน ขายในmeb ทั้งที่เพิ่งออกกับสนพ. เมื่อปีที่แล้วเอง อรุณก็มีebookเรื่องนี้ เพิ่งจะมาถอดออก
อยากส่งต้นฉบับให้สนพดู แต่ไม่เคยลงใเว็บที่ไหน ไม่มีแฟนคลับ ใครเค้าจะมาตีพิมพ์ให้กู เฮ้อ
มีใครอ่านแถลงการสำนักพิมพ์ฉบับนี้แล้วมั่งวะ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1583535968619972&id=1570592673247635
คืออ่านแล้วกูงง เรื่องที่เคยพิมพ์แบบไม่มีลิขสิทธิ์ก่อนตะมีกฎหมายลิขสิทธิ์ เอามาพิมพ์ใหม่อีกทีหลังมีกฎหมายแล้ว ก็ยังยกเว้นอยู่เหรอวะ? แล้วสำนักพิมพ์ที่ไปซื้อลิขสิทธิ์มาทำ ไม่ได้มีสิทธิทำคนเดียวจนกว่าจะหมดสัญญาหรอกเหรอวะ
แม่งเอ้ย เป็นอะไรกันหมดวะ ดร.มอโร ก็ชน มาโควัลโดก็ชน นี่ยังไม่รู้ว่าเจคลาสกับเจลิสจะเอารัมโปมาชนกันอีกรายรึเปล่า
>>992 ตามต้นเรื่องจากเฟสคนแปล เจ้าของอีกสนพพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องอะ คือตัวเราก็ไม่เข้าใจตัวบทกฎหมายดีด้วยเลยไม่อยากพูดมาก แต่ตามมารยาท พอรู้ว่าอีกเจ้าจะทำเรื่องเดียวกัน ทำไมไม่ไปคุยกันก่อนบ้าง นี่เหมือนไม่เคยคุยกันเลย
พูดถึงงานรัมโป ช่วงนี้คงจะได้เห็นแปลออกมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะวรรณกรรมญี่ปุ่นหลายเรื่องกลายเป็น public domain แล้ว
>>997 มาร์โควัลโดไม่ใช่งาน public domain ย้ำว่าไม่ใช่ เพราะคัลวิโนตายปี 1985 มันต้องห้าสิบปีหลังผู้ประพันธ์เสียถึงจะกลายเป็นงานปลอดลิขสิทธิ์ แต่นี่มันถึงยังล่ะ ก็ยัง เจ้าของสนพน่ะตอแหล ใจจริงคงอยากปล่อยมาชนมากกว่า ต่อเผอิญมันมีช่องโหว่ส่วนนี้อยู่ เขาคงนึกไม่ถึงแหละ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.