Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:wLFhnhxLy

กระทู้เพื่อพูดคุยเทคนิคการเขียน และเรื่องการประกวดต่างๆเกี่ยวกับนิยาย

2 Nameless Fanboi Posted ID:z5sMUFNH.

เขียนไงให้จบ...

3 Nameless Fanboi Posted ID:VCekC4rSm

งั้นกูถามมั่ง ไม่ต้องพูดถึงตอนจบ เริ่มเรื่องยังไงดีวะ 555

4 Nameless Fanboi Posted ID:bDMXGIona

พวกมึงแม่งถามคำถามโหดร้ายมาก มีกลางๆหัวท้ยไม่มี
ว่าแต่ในโม่งมีคนลงประกวด enter มั้ย

5 Nameless Fanboi Posted ID:h40qKXgnx

กุมีแต่หัวกะท้ายว่ะ อยากเริ่มเรื่องงี้ จบแบบนี้ แต่กลางเรื่องยึกยือไม่รู้จะเดินเรื่องยังไง 55555

6 Nameless Fanboi Posted ID:T.LiyLd45

กูสร้างฉากเริ่มและจบไว้แล้ว turn of eventที่สำคัญที่สุดก็กำหนดไว้แล้ว โปรไฟล์ของตลค.ก็กำหนดไว้แล้ว จินตนาการในหัวก็พร้อมสรรพ แต่เขียนออกมาไม่ได้วะ

7 Nameless Fanboi Posted ID:VCekC4rSm

>>5-6 เออ อันนี้กูก็มีปัญหาว่ะ 55

8 Nameless Fanboi Posted ID:ZCUZ6mgBP

ควรจะชื่อกระทู้ว่านักไม่เขียนนิยายชิบเป้ง

9 Nameless Fanboi Posted ID:9aUT5rMlw

กูแค่"ยัง"ไม่เขียนเว้ย แบบเดียวกับล้างจาน เก็บผ้า หรือจัดห้องนั่นละ

10 Nameless Fanboi Posted ID:UHdSpFom8

>>4 กู มายกมือ และส่งไปแล้วด้วย อีแหม่เหยด กูอุตส่าห์รอบอร์ดโม่งมาคุยเรื่องนี้นานแระ ว่าจะปรึกษาซะหน่อยจะได้เขียนถูก เห็นอยู่ในประเด็นอื่นไม่มีคนเปิดซะที กูก็เกรงใจเขียนส่งหมดแล้วเพิ่งจะมาเห็น ฮ่วยบักก้วยเต้ด

เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนๆ มึงคิดว่ารอบนี้สนพ.จะเอาแบบไหนยังไงวะ? ไอ้คำประเภทแปลกใหม่ไม่เหมือนใครก็ดูกว้างไปหน่อยนะ แล้วอีกอย่างคือสนพ.มันจะเอาแต่วายเข้ารอบหรือเปล่าวะ กูแอบเครียดเรื่องนี้เพราะของกูแม่งไม่วายเลย แม้ว่าจะมีเพื่อนผู้ชายสองคนอยู่ในเรื่องแต่ก็ไม่ได้มีชงอะไรนะเว้ย คือเพื่อนแบบเพื่อนกันเลยไม่ร่างใหญ่ร่างบางอะไรทั้งนั้น กูว่าเขาอาจจะขยับปรับเปลี่ยนไม่ให้วายแล้วก็ได้นะตอนหลังๆ ไม่ได้ไปดูนิยายที่ชนะรอบสี่มาเลย ฟินด์อะไรนั่นเพื่อนโม่งว่าไงกันมั่งล่ะ ไม่ค่อยเห็นพูดถึงกันเลย มันโอหรือไม่โอ มาตรฐานถือว่าดีขึ้นยังวะ แฉ่งแต่ไอ้ที่ชนะรอบแรกๆตลอด

11 Nameless Fanboi Posted ID:MlGPbVvTx

>>10 ลองไปดูที่ลวิตร์ที่เป็นกรรมการเขาแนะแนวทางการเขียนไหมล่ะ เขาไม่ได้พูดเรื่องวายนะ แต่เห็นบอกว่าถ้าส่งประกวดแรกๆ ก็เน้นเดินเรื่องให้ฉับไวเร้าใจหน่อย

12 Nameless Fanboi Posted ID:Qe6+IBEG0

ก็มีeverYแล้วไม่ใช่เหรอ ทีนี้ก็ไม่ต้องพึ่งจิ้นวายจากเอนเทอร์ละ 555 กูก็พูดไปเรื่อย

13 Nameless Fanboi Posted ID:CjOuXVt++

จะเสล่อมาตั้งมู้ซ้ำทำไมวะ

14 Nameless Fanboi Posted ID:iNp/6NKXp

>>13 ในซับมันนักวาดนักเขียน ซึ่งก็ไม่เคยมีนักเขียนไปถามในนั้นตรงๆ ซักที มาตั้งแยกในนี้ละเหมาะแล้ว ในนั้นปรับเป็นนักวาดอย่างเดียวก็พอ ถึงมันจะเป็นตั้งแต่แรกแล้วก็เถอะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:zwoADyof6

กูอ่านเรื่องฟินด์มาแล้ว ถ้ามึงจิ้นแมงมุมกับพ่อมดให้วายได้ก็วาย แต่ถ้าไม่ก็ไม่วาย ปีนี้กรรมการเป็นลวิตร์กับดาวิษ(ปะวะ) กุว่าคงไม่วายหรอก

16 Nameless Fanboi Posted ID:UHdSpFom8

เห็นโม่งบ่นกันว่าปีก่อนๆ ตัวละครโครตส่อวายแล้วทำซึนว่าไม่วายนะเว้ย ทั้งๆที่เสนอมาซะพร้อมเคียงคู่ตุนาหงันขนาดนั้น หรือว่าเพราะปีนั้นยังไม่มี EverY วะ เลยไปลงกับแฟนตาซี กูไม่ได้ตามเป็นเรื่องเป็นราวอ่ะ แล้วคุณลวิตร์เพิ่งเป็นกรรมการปีนี้หรอวะ? ตายละหว่า ถึงจะฟังเสียงส่วนรวมแต่กูว่าสไตล์กรรมการมันก็มีส่วน ลืมศึกษาเบื้องหลังของกรรมการซะงั้น

17 Nameless Fanboi Posted ID:EYzTFCw82

>>16 จำได้ว่าลวิตร์เคยเป็นกรรมการแล้วนะ
กูว่ายังไงๆถ้าคุณภาพพอๆไม่ห่างกันมากสนพ.คงเลือกแบบส่อวายเพื่อขายนะแหละ

18 Nameless Fanboi Posted ID:BW1JjvVSS

ลวิตร์เป็นมาตั้งแต่ปีสองแล้วหรือเปล่าวะ แต่กูว่าไม่น่าห่วงมากหรอกมึง ก่อนหน้านี้ก็มีที่ดราม่าๆ เรื่องจิ้นวายตอนฟินด์ออก ที่แอดมินเพจออกมาโพสน่ะ สำนักพิมพ์ก็คงไม่เน้นวายมากเท่าปีก่อนๆ

19 Nameless Fanboi Posted ID:Qe6+IBEG0

>>18 ดราม่าอะไรวะ กูไม่รู้เรื่องเลยว่ะ

20 Nameless Fanboi Posted ID:WKE3gSJXr

ใช่ที่คนอ่านไปบ่นๆในโพสเพจใช่ป่ะว่า ทำไมเจอแต่แนววายๆเต็มไปหมด สนพ.ต้องการจะขายแต่แบบนี้จริงๆหรอครับ บางคนสาววายก็บ่นเอียนเหมือนกัน จนสนพ.ต้องออกมาชี้แจงว่าเราจะเปิดรับแนวอื่นๆมาด้วยแล้ว ชวนจิ้นจะเป็นส่วนนึงคือ Enter Here //แต่ในโพสประกาศกูก็เห็นสาววายมาพร่ำเพ้อว่าหนูชอบ Here ๆๆ นะค้าาา กูสาววายยังเบะปากหมั่นไส้ มึงให้พื้นที่คนไม่จิ้นมั่งเห้ออออ

21 Nameless Fanboi Posted ID:Cv/j9ZA0f

โดนไล่มามู้นี้...

คือกูจะขอคำปรึกษานิดหน่อย
กูเป็นนักเขียนโนเนม ไม่มีชื่อเสียงอะไร เรื่องคือมีประกวดพล็อต แล้วกูชนะ เท่ากับว่ากูต้องขายพล็อตให้สนพ.
สนพ.ให้ทางเลือกว่ากูจะเขียนหรือไม่เขียนก็ได้ ถ้ากูเขียนเอง จะกลายเป็นจ้างวานเขียน ไม่ใช่เซ็นสัญญาแบบตามปกติ
ซึ่งก็พอเดาได้ว่าเงินที่ได้จะน้อยกว่า ลิขสิทธิ์ขายขาดเป็นของสนพ.ไปเลย กูเขียนจบก็จบกันไป
แล้วการเลือกเขียนเองก็ไม่ใช่ว่าจะได้ตีพิมพ์แน่นอน 100% นิยายที่เขียนเสร็จต้องผ่านกระบวนการพิจารณาตามปกติ
กูเลือกเขียนเองไป เพราะเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะได้ตีพิมพ์ กูเลือกทางโง่เกินไปหรือเปล่าวะ...

22 Nameless Fanboi Posted ID:xXQNO8h/S

>>21 กูว่ามึงเลือกถูกว่ะ มั่นใจในตัวเองหน่อย เขียนเองต่อให้ไม่ได้รับเลือก แต่กูก็ว่าดีกว่าขายพล็อตไปแล้วกลายเป็นของสนพ. ลองนึกดูสิว่าทั้งที่ตัวมึงมีศักยภาพพอจะทำได้(รึอย่างน้อยก็อบากลองทำ) แต่ตัดสินใจไม่ทำ แล้วขายพล็อตไป ถ้ามันดังขึ้นมาจริงก็ได้มองตาปริบๆแบบนั้นมันน่าเจ็บใจออกว่ะ

23 Nameless Fanboi Posted ID:xXQNO8h/S

>>21 เดี๋ยว กูลองอ่านอีกที ไม่เข้าใจกฏเกณฑ์เรื่องการประกวดพล็อตนัก แต่พล็อตของมึง มึงเขียนเอง = จ้างวานเขียน = ได้เงินน้อยกว่าเขียนส่งปกติ แถมลิขสิทธิ์บายขาดอีก
ทำไมกูรู้สึกมันโคตรเอาเปรียบ มึงแน่ใจแล้วเหรอที่จะเขียนส่งสนพ.นี้จริงๆ

24 Nameless Fanboi Posted ID:1DohKESW0

>>21 >>21 เลือกเขียนเองแล้วจะส่งให้สนพ.พิจารณาอีกป่ะ แล้วถ้าผ่านนี่เรื่องนั้นก็ขายขาดอยู่ดีใช่ป่ะ กูเข้าใจถูกมั้ย? ถ้าแบบนั้นแล้วยังจะส่งสนพ.นี้ให้ได้จะว่าโง่ก็โง่ สัญญาขายขาดนี่ส่วนใหญ่หลอกเด็กทั้งนั้น
พวกเด็กๆที่อยากตีพิมพ์จนตัวสั่นก็ยอมให้โขกสับต่อไป เพราะกูเชื่อว่าถ้าส่งไปที่เดิมมึงก็คงผ่านแหละ สนพ.แม่งกำไรกว่าได้ขายขาด ได้ทั้งจ่ายเงินค่าสัญญาน้อย แต่ถ้ามึงเลือกที่จะเขียนเองเพื่อไปส่งที่อื่นนับว่ามึงฉลาด ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ

25 Nameless Fanboi Posted ID:HphsagWX.

>>21 ถ้าขายขาดนี่ไม่ต้องส่ง อาจจะฟังดูตัดโอกาสนะ แต่แบบมันต้องมีที่ดีกว่านี้ดิ เก็บของกลับมาเลย กูคนหนึ่งแหละที่ไม่สนับสนุนให้ลดตัวไปขายให้เขา มีที่ให้ส่งถมเท ว่าแต่สมัยนี้ยังมีอีกเหรอวะ สนพ.ขายขาดเนี้ย =_=;;;

26 Nameless Fanboi Posted ID:PdnonO1q3

ที่มึงว่านี่สนพ.1168ป่าววะ เห็นมีข่าวประกวดพลอตอยู่ช่วงนึง ไม่รู้นะ เดาเอา ฮ่าๆ

27 Nameless Fanboi Posted ID:Cv/j9ZA0f

ขออธิบายอีกทีก่อน เห็นเพื่อนโม่งไม่ค่อยเข้าใจ
เกณฑ์ประกวดพล็อตคือ ถ้าชนะ ก็ได้ตังค์ สนพ.ก็ได้พล็อตไป = ตอนนี้พล็อตกูลิขสิทธิ์เป็นของสนพ.ไปแล้ว
สนพ. จะไปจ้างใครเขียนก็ได้ ซึ่งเขาก็เลยให้ทางเลือกมา ระหว่างให้นักเขียนในสังกัดเขาเขียน กับ กูเขียนเอง แต่ต้องผ่านกระบวนการพิจารณา

เอาง่าย ๆ กูไม่มีสิทธิ์ฉลาด เหมือนที่ >>24 บอก มีทางเลือกแค่จะรับจ้างเขาเขียนเพื่อได้เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ (จะถึง 3000 มั้ยวะเนี่ย) หรือไม่ก็ขายพล็อต บาย จบ ปิ๊ง ไม่ต้องทำอะไรต่อ
กูก็เพิ่งมาตาสว่างว่าการประกวดพล็อตมัน It's a trap มาก ขนาดกูเขียนพล็อตแบบง่าว ๆ แล้วเสือกชนะยังเซ็งจิต กระเหี้ยนกระหือรืออยากจะเขียนต่อ เพราะว่าโง่อยากตีพิมพ์ (ก็กูไม่เคยตีพิมพ์มาก่อน) ใครที่ตั้งใจเขียนพล็อตแล้วพล็อตเจ๋ง คงจะกระอั่กกว่ากูแน่ ๆ

28 Nameless Fanboi Posted ID:NKxkFRgT2

>>27 รู้สึกคุ้นๆสนพ.ไหนสักที่ เออ สมมุติบอกจะเขียนแต่ไม่ยอมเขียนไปส่งงี้(อารมณ์ถ่วงเวลา เขียนไม่ออกไรงี้) สนพ.จะว่าไรมั้ย มีกฏบังคับรึเปล่าว่าต้องส่งในเวลาเท่านี้ถ้าไม่งั้นโดนยึดพล็อต หรือส่งแบบแย่ๆเขามไม่ให้ผ่านก็โดนยึดรึเปล่า

29 Nameless Fanboi Posted ID:Cv/j9ZA0f

>>28 จริง ๆ เขาให้ส่งตั้งแต่เดือนกรกฎาแล้ว แต่กูไม่ว่างเขียนให้เขา เขาก็หายไปเลย เพิ่งมาคุยกันอีกรอบ 2-3 วันก่อนนี่เอง
กูถามเขาว่าให้ใครเขียนไปยัง เขาก็บอกว่ายัง กูเลยแบบ เออ เขียน ๆ ไปก็ได้มั้ง คือพวกระยะเวลาอะไรเขาก็ยังไม่ได้กำหนดมาอีกนะ
บอกแค่ว่าขอต้นฉบับแบบเต็มเล่มนาจา แต่อนุญาตให้อัพลงเด็กดีได้

ส่วนเรื่องแกล้งลืมไม่ส่ง กูไม่อยากทำเลย แม่งกลัวติดแบล็คลิสต์ว่าเป็นนักเขียนที่เหี้ย ยังไม่อยากตัดโอกาสชีวิตตัวเอง

จริง ๆ ตอนนี้โม่งน่าจะแตกแล้ว แต่ไม่ค่อยแคร์ คนไม่ค่อยรู้จักกูหรอก เพื่อนในเฟซกูก็รู้กันอยู่แล้วว่ากูสิงโม่ง ถถถถถ

30 Nameless Fanboi Posted ID:HphsagWX.

>>27 กู 21 เอง สงสารมึงจัง โอ๋ๆมามะ มาให้กอดหน่อย ไม่ว่ายังไงก็ตามกูก็ยังคงแนะนำให้มึงทิ้งพล๊อตจะดีที่สุด เพราะมันไม่แฟร์กับงานมึงมากจริงๆ ทิ้งเถอะ งานเรายังทำใหม่ได้นะ

31 Nameless Fanboi Posted ID:Cv/j9ZA0f

>>30 ร้องไห้แรง ขอบคุณมึงมากนะเพื่อนโม่ง กูน่าจะลองมาปรึกษาในนี้ก่อน ถามคนรอบตัวก็บอกให้กูเขียนไป จะได้เป็นโอกาสในชีวิต
เอาเถอะ กูตัดสินใจไปแล้วว่าจะเขียน ก็คงต้องดันทุรังเขียนต่อไป สักวันหนึ่งนิยายมุก 5 บาท 10 บาท ของกูอาจจะได้มีโอกาสโดนด่าในโม่งก็ได้...

ส่วนใครที่คิดจะประกวดพล็อต แนะนำให้ทิ้งความคิดเหี้ย ๆ นี่ไปเลย เขียนแล้วส่งสนพ.เถอะ ชีวิตเจริญกว่า

32 Nameless Fanboi Posted ID:NKxkFRgT2

ประกวดพล็อตกูว่ามันเหมาะกับพล็อตชั้นรองที่คิดมาแล้วว่าเอามาเขียนไม่เวิร์คแน่ จะได้รับรางวัลรึเปล่าก็ช่างมันเป็นพล็อตขยะไม่สนใจแต่ถ้ามารีไซเคิลเป็นตังได้ก็เอาอะไรแบบนี้วะ

33 Nameless Fanboi Posted ID:wKzpGA9nN

มึงมาไม่ทันสิงโม่งช่วงมันจัดประกวดใช่ป่ะ ตอนนั้นโม่งด่าเละอ่ะแม่งโคตรเอาเปรียบ แต่อะไรผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป เขียนแบบเอาเวลาว่างมาใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นประสบการณ์ อย่าไปจริงจังจนเสียเวลาจะเจ็บตัวกว่าตอนนี้ เขียนให้จบ ต่อให้ขายขาดมึงก็เขียนจบเล่มนึงแล้วเล่มที่สองจะง่ายขึ้น สู้ๆนะมึง

34 Nameless Fanboi Posted ID:Cv/j9ZA0f

>>33 กูสิงห้องอื่น ไม่ได้เข้าพวกวรรณกรรมเลย
ขอบคุณมึงมาก กูว่ากูจะเขียนเล่น ๆ ไป ไหน ๆ มันก็เป็นนิยายไร้สาระอยู่แล้ว

35 Nameless Fanboi Posted ID:qpPl26ZyU

มีแบบนี้ด้วยหรอวะ สนพ.อะไรอ่ะ ไม่ได้มาสิงโม่งตลอด ตกๆหายๆ

36 Nameless Fanboi Posted ID:sNxIgC0PA

>>35 น่าจะ 1168 เห็นมีประกวดพล็อตเมื่อปีที่แล้ว

37 Nameless Fanboi Posted ID:EKDjB.OyU

>>36 ทั้งประกวดพลอต ทั้งประกวดแฟนอาร์ตแต่กฏระเบียบนี่แบบ...ตลอด 555

38 Nameless Fanboi Posted ID:.iI3MhbSW

>>34 มึงพลาดไปจริงโม่ง อารมณ์เหมือนแคมเปญคิดรสชาติให้เลย์ สนพ.จ่ายค่ายพล็อตไม่กี่อัน ที่เหลือได้พล็อตใหม่ไปรียูสได้ เป็นแคมเปญที่เอาเปรียบมาก แต่ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ถือว่าตอนนี้มึงได้ตังค่ากินหนมมานิดหน่อยๆแล้วกัน

ส่วนเรื่องที่มึงจะเขียนเองดีมั้ย ต้องดูว่าตอนนี้มึงสามารถเขียนจากพล็อตที่มึงเขียนแค่ไหนดีกว่า ขนาดตัวมึงพูดเองว่า"เขียนพล็อตแบบง่าว ๆ แล้วเสือกชนะ" มึงคิดยังว่าจะเขียนยังไงจากพล็อตของมึง

พอดีกุไม่ได้เข้าไปอ่านพล็อตที่ชนะของมึงเลยไม่รู้ว่าพล็อตที่มึงส่งประกวดละเอียดแค่ไหน คือถ้ามึงเขียนดีแค่เสมอตัว เขียนแย่โดนด่าเละ ลองคิดดูแล้วกันว่าพล็อตมึงมีค่าแค่ไหน ขยำทิ้งเขียนใหม่คุ้มกว่าป่าว

39 Nameless Fanboi Posted ID:fKE5zuL+W

กูมีปัญหากูคิดภาพในหัวเป็นการ์ตูนมากไป(อารมณ์อนิเมชั่น)จนกูจะเอาฉากที่อยู่ในหัวมาบรรยายไม่ได้กูควรทำไงดี
คือกูมีเรื่องในหัว(ขาดๆเกินๆ)แต่กูอยากแต่งมาก กูอยากเขียนมันลงไปแต่ก็ไม่รุ้จะบรรยายยังไงเรียบเรียงยังไง

40 Nameless Fanboi Posted ID:fKE5zuL+W

อีกเรื่องคือจังหวะสนทนาคือกูอยากให้คุยสลับกันรัวๆคำสั้นๆ แต่แต่งแล้วไม่เหมือนคนคุยกันประโยคมันแข็งๆ กับการกระทำหรือสีหน้าท่าทางหลังพูดเสร็จไปประโยคกูรู้สึกมันอธิบายยาวไปบ้างสั้นไปบ้างแต่ก็อยากลงรายละเอียดการกระทำแต่ก็รู้สึกเหมือนมันเยอะและไร้ความจำเป็นเหมือนกัน กูไม่รู้จังหวะในการใส่มันลงไป

41 Nameless Fanboi Posted ID:l9uUldVvh

>>40 ถ้าเอาวิธีกูนะ กูก็คล้ายๆ มึงนั่นแหล่ะ กูใช้วิธีนึกฉากอะไรออกก็เขียน เขียนออกมาไม่ดี ไม่สนุกยังกูก็เขียนไปก่อน โยนๆ ไว้ เสร็จแล้วพอมีเวลาค่อยมานั่งเขียนแบบจริงจัง เริ่มตั้งแต่หนึ่ง แล้วค่อยๆ ดึงไอ้ที่เขียนไว้มาเรียงใส่ไทม์ไลน์ตามความเหมาะสม เขียนไปเกลาไป ยังไม่พอใจก็ช่างแม่งก่อน พอหมดมุขกูก็หยุดอีกที ไปหาอย่างอื่นทำ แล้วค่อยกลับมานั่งรีไรท์ตั้งแต่ต้น ระหว่างนี้นึกฉากไหนออกก็เขียนกองไว้ แล้ววนลูปกลับไปทำตามวิธีแรกเรื่อยๆ จนจบเรื่อง กูใช้วิธีนี้ มึงพอเข้าใจปะวะ

42 Nameless Fanboi Posted ID:7xjEhKvkz

>>39-40 อ่านเยอะๆ แล้วลองสังเกตดูว่าเขาเขียนอะไร บรรยายอะไร มันจะช่วยได้มากเรื่องการบรรยาย
ส่วนเรื่องประโยคสนทนาที่ต่อเนื่องกัน อันนี้สไตล์กูนะ ไม่ได้เขียนเก่งอะไรหรอก กูจะไม่ค่อยเขียน dialogue ที่มันสั้นๆ แต่จะรวบๆ เข้าด้วยกัน บรรยายท่าทางประกอบที่พอให้เห็นภาพว่าตัวละครทำหน้ายังไง คิดยังไง แต่ไม่ใช่บรรยายทุกอิริยาบถ แต่ถ้าคิดไม่ออก ลองพิมพ์ dialogue ไปก่อน แล้วค่อยเติมส่วนบรรยายก็ได้ กูทำงั้นเวลาง่วงนอน คิดบทบรรยายไม่ออก

ยกตัวอย่าง
แบบ dialogue สั้นๆ
"สุวรรณ มีคนจับภาพยมทูตของเราได้"
"ไม่จริงน่า"
"เรื่องจริง เจ้าเช็คสิว่าเป็นใคร โจงกระเบนแดงเสียด้วย"
"คงจะเป็นคืนก่อนที่มีงานเลี้ยงแฟนซีในนรกมั้งท่าน "
"พวกมันก็ไม่น่าจะโผล่ขึ้นไปบนโลกทั้งอย่างนั้น"
"งานด่วนเข้ามาเลยลืมเปลี่ยนชุด"
"เออ...นั่นล่ะ เจ้าไปหาตัวพวกมันมา แล้วสั่งสอนเสียด้วยว่าคราวหน้าถ้าจะออกสื่อให้แต่งเนื้อแต่งตัวดี ๆ หน่อย เดี๋ยวคนเขาจะหาว่านรกของเราเชยแหลก...ยุคนี้ยังต้องมานุ่งโจง ถือไม้เท้า ห้อยสร้อยสังวาลอีก!"

แบบปกติที่กูบรรยาย
"สุวรรณ มีคนจับภาพยมทูตของเราได้...เจ้าเช็คสิว่าเป็นใคร โจงกระเบนแดงเสียด้วย" เสียงสั่งจากท่านยมบาลดังขึ้นขณะที่ผมกำลังคีย์ข้อมูลคนตายประจำไตรมาสแรกของปีอยู่ จากน้ำเสียงแข็งกร้าวและดวงตาวาววับที่จ้องเขม็งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอารมณ์ไม่ดีขนาดไหน
"คงจะเป็นคืนก่อนที่มีงานเลี้ยงแฟนซีในนรกมั้งท่าน เจ้าพวกนั้นคงมีงานด่วนเข้ามาเลยลืมเปลี่ยนชุดเสียก่อน" ผมตอบคำถามพร้อมกับยกมือขึ้นดันแว่นด้วยความเคยชิน
"เออ...นั่นล่ะ" ริมฝีปากเบะออกอย่างไม่พอใจ "เจ้าไปหาตัวพวกมันมา แล้วสั่งสอนเสียด้วยว่าคราวหน้าถ้าจะออกสื่อให้แต่งเนื้อแต่งตัวดี ๆ หน่อย เดี๋ยวคนเขาจะหาว่านรกของเราเชยแหลก...ยุคนี้ยังต้องมานุ่งโจง ถือไม้เท้า ห้อยสร้อยสังวาลอีก!"
อ้าว...ไม่พอใจเรื่องนั้นหรอกเรอะ?

43 Nameless Fanboi Posted ID:XTx/ao3fm

>>41-42 กูก็พยายามทำแบบที่ว่าอยู่ว่ะ มีอะไรก็พิมพ์ๆไปก่อน เดี๋ยวค่อยมาแก้ทีหลังก็ได้ แต่บางทีก็แก้ไม่ออกซักที 555

44 Nameless Fanboi Posted ID:S1gD8wE69

>>42 วิธีน่าสนใจว่ะ เดี๋ยวกูขอลองเอาไปใช้บ้างนะ กูเป็นพวกบรรยายคล่องกว่าสนทนา เวลาเขียนนิยายหนึ่งบทมีปัญหาเรื่องบทสนทนาเกือบทุกย่อหน้า

45 Nameless Fanboi Posted ID:9G/60H3DL

กูขอปรึกษาปัญหาพล็อตกับตัวละครหน่อยนะ คือกูวางบทให้นางเอกเป็นพวกแอนตี้ฮีโร่ ฆาตกรต่อเนื่อง 10 ศพ แล้วตอนจบคือหลังช่วยพวกพ้องที่เป็นพวกแอนตี้เหมือนกันบรรลุเป้าหมายแล้ว ก็แยกย้ายไปใช้ชีวิตแบบคนปกติ เปลื่อนชื่อเปลี่ยนหน้าตาสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่โดยไม่ได้รับโทษทางกฎหมายอะไรเลย นิยายกูเป็นแนวดาร์กแฟนตาซีผสมดิสโทเปียหน่อยๆ อะมึง จบแบบนี้จะดีเปล่าวะ คือกูไม่ได้แต่งเพื่อจรรโลงสังคมหรือมีสาระอะไรมากหรอกนะมึง แต่กลัวว่าถ้าจบแบบนี้จะถูกว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้แก่เยาวชน สมควรโดนแบน บลาๆ คือมันจะมีประเด็นเรื่องทาส มุมมืดของกฎหมาย การทดลองที่ใช้เด็กกำพร้ามาดัดแปลงร่างกายเป็นอาวุธชีวภาพเพื่อใช้ในสงคราม และตัวละครหลักตายเป็นสิบ ถึงธีมเรื่องจะเน้นดาร์กเป็นหลักแต่ก็ยังแอบกังวลอยู่นะว่าจะเกินไปรึเปล่า

ปล.นิยายกูนับว่าเป็นแนว YA ไม่เหมาะสำหรับเยาวชนแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นผู้ใหญ่เท่านั้นที่อ่านได้

46 Nameless Fanboi Posted ID:AjRjsu.GC

>>45 มันอยู่ที่วิธีการนำเสนอของมึงด้วยว่าจะออกมาในรูปแบบไหน เหตุผลของตัวละครคืออะไร ดำเนินเรื่องด้วยวิธีไหน คือถ้ามาตรงๆโต้งๆ ฆ่าๆๆ เอาสะใจ ไม่ได้มีอะไรที่ลงลึกให้เห็นถึงการที่นางเอกต้องทำแบบนี้ อันนี้โดนด่าแน่

ถ้าเขียนนิยายดิสโทเปียส่วนตัวกูว่านักเขียนต้องพาจนไปถึงระบบโครงสร้าง ระบบอำนาจ เหมือนแบบเป้าหมายคือการโค่นล้มโครงสร้างที่กดทับอยู่ แต่ประเด็นคือนักเขียนในไทยที่เห็นพยายามดิสโทเปียกัน พากันไปไม่ถึงจุดนั้น ได้แค่ตื้นๆ ว่าโลกเนี่ยเลวร้ายนะ ดิสโทเปียนะ ซึ่งแบบ...แล้วไงอ่ะ

ดิสโทเปียไม่ต้องจบสวย แฮปปี้เอนดิ้งก็ได้ มันทำได้ทั้งล้มระบบ หรือให้หดหู่หนักกว่าเดิมด้วยการตอกย้ำว่าระบบมันต้องเป็นแบบนี้ต่อไป บอกตรงๆ ยังมองไม่ค่อยเห็นนักเขียนที่เก่งๆแบบนี้เท่าไร

สำหรับกู ธีมดิสโทเปียมาคู่กับการเมือง ดิสโทเปียไม่ได้มาคู่กับแฟนตาซี ต่อให้โลกจะบรรเจิดแฟนตาซีแค่ไหนมันก็เป็นเรื่องการเมือง เรื่องการใช้อำนาจอยู่ดี

เหมือนจะพานอกเรื่อง ซอรี่

47 Nameless Fanboi Posted ID:4.oswyf5S

>>46 คือ นางเอกเคยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกทดลองแล้วหนีมาได้เพราะความผิดพลาดบางอย่างในการทดลองที่ทำให้เพื่อนระเบิดพลังทำลายศูนย์วิจัยซะราบ พอนางเอกหนีมาได้ก็ไปเจอกับพวกตัวเอกที่รวมกลุ่มกันหาทางเปิดโปงโปรเจคลับของรัฐบาล(ที่นางเอกถูกทดลองนั่นแหละ) เพราะไอ้พวกรัฐบาลก็ฆ่าล้างโคตรพวกตัวเอกที่เป็นชนเผ่าพื้นเมืองเอาเกาะที่อยู่กันมาหลายร้อยปีมาเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของประเทศ นางเอกเลยผันตัวเป็นนักฆ่ายามจำเป็น เวลาสืบข้อมูลถ้าถูกจับได้แล้วจวนตัวหาทางหนีอื่นไม่ได้ืก็เชือดคนจับทิ้ง หรือถูกพวกตัวเอกที่เลี้ยงดูมาสั่งให้ไปเก็บคนที่มีพลังจิตมากพอที่จะถูกพวกรัฐบาลจับตัวไปร่วมโปรเจคเพื่อพัฒนาอาวุธชีวภาพ

48 Nameless Fanboi Posted ID:4.oswyf5S

>>47 ต่อนะ มือมันลั่น เหตุผลที่กูเขียนคือได้แรงบันดาลใจจากนิยายดาร์กแฟนตาซีเรื่องหนึ่งที่มีเรื่องความเชื่อมาเป็นตัวตัดสินชะตาชีวิตตัวละคร มนุษย์คนไหนที่วันดีคืนดีมีเขางอกออกมาจะถูกตราหน้าว่าเป็นปีศาจแล้วถูกฆ่าทิ้งบ้าง ถูกครอบครัวรังเกียจ ฯลฯ แต่มีประเทศหนึ่งเอาคนพวกนี้มาจับไปทดลองซะ ซึ่งบางคนจากที่เป็นคนดีก็กลายเป็นคนเลวหนีไปเข้ากับพวกกบฏช่วยล้มล้างประเทศนี้ซะเลย บางคนที่ดีอยู่แล้วก็ยังดีต่อไป แต่แนวคิดหลายอย่างเปลี่ยนไป และอีกเหตุผลคือกูอยากอ่านนิยายแนวนี้แต่ไม่มีใครเขียน ก็เลยเขียนเองแม่งเลย ไม่ค่อยเน้นการเมืองเท่าไหร่ เน้นพวกสงครามและเรื่องการแบ่งชนชั้นในสังคมที่ตัดสินจากฐานะและอำนาจความฉลาด แบบนี้พอจะได้รึเปล่าวะ

49 Nameless Fanboi Posted ID:a8wGNT1ch

>>47-48 กูพูดว่ามึงจะหาเหตุผลการกระทำของตัวละครมึงได้มั้ย กูไม่ได้ถามเหตุผลที่มึงเขียน โธ่ //ล้อเล่นนะ
ดูเหมือนมึงจะเข้าใจคำว่าการเมืองผิดไปหน่อย การเมืองมันไม่ใช่แค่แบบใครจะได้เป็นรัฐบาลอะไรแบบนี้นะเว้ย การเมืองเกี่ยวกับอำนาจ สงคราม การแบ่งชนชน อะไรนี่ก็การเมืองทั้งนั้น เพียงแต่มึงจะเอาทฤษฎีไหนเป็นหลัก มาร์กซิส สังคมนิยมแบบเหมา-สตาลิน ทุนนิยม ประชาธิปไตย อะไรก็ว่าไป

นิยายมึง ได้ไม่ได้ กูตัดสินให้ไม่ได้หรอกนะ มึงต้องลองเขียนดู ลองร่างพล็อตคร่าวๆก็ได้ ดูความสมเหตุสมผลของเรื่อง ดูว่ามึงจะพามันไปได้ไกลแค่ไหน ฐานที่แน่นจะทำให้มึงสานเรื่องต่อได้ง่ายขึ้น พยายามยึดหลักความคิดที่เป็นแก่นของเรื่องเอาไว้ จะได้ไม่หลงทาง ไม่เขว

อย่างกูเงี้ยะ สมมติว่านิยายมีแก่นหลักคือการทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ ถึงจะเล่าเรื่องแบบบั่นทอนสติปัญญา แต่สุดท้ายกูก็ต้องดึงเข้าแก่นเรื่องอยู่ดี

งงมะ

50 Nameless Fanboi Posted ID:4.oswyf5S

>>49 งงตอนท้ายๆ แต่ก็เข้าใจนะ

เหตุผลก็ทำตามคำสั่งอะมึง บวกกับความแค้นส่วนตัวด้วย แต่จากที่อ่านความเห็นมึงแล้วสงสัยกูต้องปรับเหตุผลเพิ่มหน่อยว่ะ

แก่นของเรื่องก็คือการแบ่งชนชั้นทางสังคม คนที่ฉลาด มีอำนาจ รวย ชาติกำเนิดดี ก็จะเป็นชนชั้นสูงๆ อยู่ในลำดับต้นๆ ของสังคม คนที่โง่ จน ไม่มีอำนาจ ชาติกำเนิดธรรมดา ก็จะถูกลดตำแหน่งต่ำลงมา แล้วพวกชนชั้นล่างสุดก็จะถูกพวกชนชั้นสูงกว่ามองในฐานะต่ำกว่าสัตว์ ไร้ประโยชน์ต่อสังคม เลยเอาไปพัฒนาให้มีประโยชน์ด้วยการเป็นอาวุธชีวภาพ ถูกใช้เป็นเบี้ยในสงครามตายไปก็ถูกเผาไม่มีหลุมศพให้ฝัง ผลงานในสงครามก็ถูกพวกยศสูงๆ ฮุบไปอวดเอาหน้าแทน

51 Nameless Fanboi Posted ID:tGyDhK/Ec

อืม เหมือนมึงยังมองไม่เห็นภาพรวมของเรื่อง กูแนะนำให้ทำตามนี้
www.dek-d.com/writer/36811/

https://www.scribendi.com/advice/goldenrulesforagoodplot.en.html

แล้วก็เริ่มเขียนไปเลยอย่ารอช้า หลักการแค่ทำให้ไม่หลงทาง-วนเรือในอ่าง

52 Nameless Fanboi Posted ID:eunHlTY3W

>>51 ขอบใจว่ะ เดี๋ยวกูจะเอาไปใช้ ตอนนี้ก็เพิ่งเขียนบทนำบทเดียว

53 Nameless Fanboi Posted ID:ZtOH4+Iy+

มึง กูขอความเห็นหน่อย คือกูอยากลองเขียนนิยายอินเซสท์พี่น้องดู แต่กำลังตันมากว่าจะให้มันมาเริ่มความรู้สึกเชิงรักกันได้ยังไง ตามปกติแล้วพี่น้องท้องเดียวกันมันไม่น่าจะเกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ เพราะงั้นเลยคิดว่าจะปูจากการที่พี่น้องสองคนนี้มันเหลือกันอยู่สองคนแบบโดดเดี่ยวมากจนคนที่คิดว่าสำคัญที่สุดของชีวิตคือพี่น้องกันเองนี่แหละ แล้วก็เกิดเหตุให้แยกจากกันไป จนสุดท้ายก็กลับมาเจอกันอีกครั้ง ในสถานาการณ์ที่ทุกอย่างรอบตัวบีบคั้นจนเหลือคนที่ไว้ใจได้แค่พี่น้องเท่านั้น ความสำคัญเลยเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจนความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงไป
แต่กูคิดไปคิดมากูก็ยังว่าระหว่างครอบครัวมันจะมีเส้นแบ่งของความรักอยู่ เป็นเส้นแบ่งแบบที่ไม่ว่ายังไงกูก็ยังคิดหาสาเหตุที่มันไปรักกันไม่ได้ หรือกูไม่ต้องสนอะไรมาก รักก็คือรัก ห้ามกันไม่ได้อะไรงี้ไปเลย? คิดไม่ออกว่ะ..กูไปอ่านเคสอินเซสท์ในชีวิตจริงมาแล้วเหมือนกันนะ แต่ก็ยังไม่เห็นสิ่งที่จะเอามารองรับความรักแบบนี้ในนิยายกูได้เลย..

54 Nameless Fanboi Posted ID:mtP5axDMd

>>53 อ่านเท่าที่มึงเล่ามา กูรู้สึกว่ามันไม่ได้รักอะไรกันตรงไหนเลย สถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่บีบคั้นมันทำให้กูรู้สึกเหมือนมันแค่เป็นความโหยหา ต้องการที่พึ่งพิง แบบใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกันมากกว่าจะเป็นความรัก อันนี้ความรู้สึกกูนะ

55 Nameless Fanboi Posted ID:5Fruvw+UH

ความรักคืออะไร....คำถามจากโม่งที่อยากลองเขียนนิยายรักแต่ไม่เคยรู้สึกพิเศษกับใคร....

56 Nameless Fanboi Posted ID:ZtOH4+Iy+

>>54 ใช่..กูก็รู้สึกอย่างนั้นแหละ..เลยแบบ มันรักตรงไหนเนี่ย แล้วถ้าจะรักได้ มันจะรักกันยังไงวะ orz แต่จริงๆคือ สำหรับกูอะ อันนี้ความคิดส่วนตัวนะ กูมองว่ารักแบบอินเซสต์ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องการที่พึ่งพิงที่เราเชื่อใจได้ตลอดไปอะ มันเหมือนจะแตกต่างจากความรักแบบชู้สาวปกติซักหน่อย เพราะงั้น ด้วยทัศนคติกูมันก็เลยคิดออกมาเป็นแบบนี้ orz

57 Nameless Fanboi Posted ID:mtP5axDMd

>>56 ทัศนคติของกูเลวร้ายกว่ามึงแน่นอน เพราะกูมองว่าคนที่ incest คือคนที่มีความผิดปรกติทางจิตไม่มากก็น้อย เพราะว่าแหกกรอบพวกศีลธรรมของมนุษย์ในยุคปัจจุบันที่ถูกปลูกฝังว่ามันเป็นรักต้องห้าม กูก็ไม่รู้ว่าตัวละครมึงมันมีความจิตหรือเปล่า เลยให้คำปรึกษาไม่ได้
ส่วนตัวกูกูว่าถ้าเป็นพล็อตแบบอีกคนรักคลั่งแบบจิตๆ แต่อีกคนคิดว่ารักมากๆ แต่จริงๆแล้วมันกลับเป็นแค่ความโหยหา ความผูกผัน ไม่ใช่ความรัก มันคงจะเจ็บปวดดี

>>55 คำถามมึงเด็กดวกมาก เห็นแล้วไม่ค่อยอยากตอบ บางทีคนเขียนนิยายรักก็ไม่ต้องเคยรู้สึกพิเศษกับใครก็ได้มั้ง

58 Nameless Fanboi Posted ID:bzIoTVogl

>>53 ความสัมพันธ์แบบเซซาเรกับลูเครเซีย บอร์เจียไง คนน้องถูกพ่อจับแต่งงานสานสัมพันธ์กับคนอื่นเพื่ออำนาจตัวเองไปเรื่อย คนพี่ถูกใช้ให้รบเพื่อพ่อ แต่ตัวเซซาเรเองก็ทะเยอทะยานมากเหมือนกัน คนที่ถูกเลี้ยงมาในครอบครัวขาดๆเกินๆแบบนี้ น่าจะมีนิสัยบิดเบี้ยวไปในระดับหนึ่ง หรือเอาแบบแลนนิสเตอร์ที่ฝาแฝดอินเชสต์กันเอง นี่ก็น่าจะโอเค

59 Nameless Fanboi Posted ID:dldelETpw

เรื่องการบรรยายเห็นก่อนหน้าโม่งเด็กดีมาสับนิยายพิมพ์ขายเองเล่มหนึ่ง(ไม่รู้จักเหมือนกัน)ลองเอาไปอ่านปรับใช้ดู ยกตัวอย่างโม่งคนนี้พูดได้ดีมากๆ >>>netwatch/2202/687

ใจจริงกุไม่อยากจะบอกหรอกนะ(ถ้าเปิดโมงคุย)ว่านิยายแนวตัวเอกมีปัญหาคนนี้ๆเลว กุโครตเกลียด เพราะนิยายพวกนี้พวกวัยรุ่นแต่งเห็นมีแต่เหตุผลเบี้ยวๆ ไม่ก็พ่นคำหล่อๆทั้งนั้นเลย ไม่ต้องในไทยนะนอกก็มี

มึงต้องบอกให้ได้ว่าทำไมตัวร้ายต้องทำวิธีที่เสี่ยงตารางแทนวิธีปกติ อย่างอ้างแค่ผลประโยชน์ส่วนบุคคล เพราะประเด็นนี้คนเล่นจนเบื่อแล้ว

60 Nameless Fanboi Posted ID:dldelETpw

ในกรณีที่มึงอยากหาอ้างอิงเข้ากับทีมเรื่องของมึงดู ลองอ่านเรื่องของสิทธิมนุษยที่มนุษย์ทุกคนควรได้รับ การเกิดกบฎในที่ต่างๆ อย่าง isis ยูเครน ที่แบ่งได้กันค่อนข้างสงบสุขอย่างที่อินโดก็ได้

จะให้ดีลองศึกษาสงครามโลกครั้งที่2+สงครามเย็นก็ได้ การเมืองสมัยใหม่มันต่างจากสมัยอินเดียแดงที่เป็นยุคล่าอนานิคม

จุดอ่อนของเรื่องมึงยังมีเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลของรัฐ แหล่งเงินทุน กำลังและอำนาจของกบฎ สเกลโลกที่ดูไม่คล้ายการมีปัญหาในพื้นที่ๆหนึ่ง(ที่ไม่เป็นประเทศด้วยซ้ำ)

61 Nameless Fanboi Posted ID:.z.A7tuR9

เห็นพูดถึงลูเครเซียกับเชซาเลย์ขึ้นมา

ถามจริง เชื่อมั้ยวะว่าพี่น้องคู่นี้มีอะไรกัน? กูว่าโดนใส่ไข่จากฝ่ายที่ไม่ชอบว่ะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:AcL8CSN0X

>>61 นิยาย เกมและการ์ตูนส่วนใหญ่ที่พูดถึงพี่น้องคู่นี้ก็ให้รักกันในเชิงชู้สาวกันหมดเลยนะ บอร์เจียมีชื่อเรื่องนี้จะตาย ที่ incest กันในครอบครัวน่ะ

63 Nameless Fanboi Posted ID:kyX+xVfD0

>>56 จะเอาแบบโดนเลี้ยงแยกกัน ตอนมาเจอกันจำไมไ่ด้ว่าเป้นพี่น้อง จนชอบกันแล้วเพิ่งรู้ แต่ไม่หยุดแล้ว แบบที่เคยมีข่าวเกิดขึ้นจริงของต่างาติไหมล่ะ , รึอย่ากให้ inest แบบรู้อยู่แล้วแต่ยังอยากรักกัน

64 Nameless Fanboi Posted ID:FImHCMZd1

>>61 กุว่าเหมือนเป็นข่าวลือมากกว่าว่ะ ซึ่งเป็นข่าวลือที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือเพราะตระกูลนี้มันชื่อเสียงไม่ดีอยู่แล้ว คนก็พร้อมที่จะเชื่อแหละ มันเลยถูกบันทึกมาในรูปแบบนี้
หรือบางทีแม่งอาจแสดงความรักแบบพี่น้องที่คนนอกดูแล้วรู้สึกว่ามากไป บวกกับการที่สามีลูเครเซียตายห่าด้วยเลยเหมือนแบบถูกฆ่าเพราะแย่งลูเครเซียกันอ่ะ

65 Nameless Fanboi Posted ID:.+0Ow1eOe

เพื่อนโม่ง กูห่างหายจากการเขียนไปพักใหญ่ แล้วเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้อ่านนิยายอะไรเลยด้วย พอมาลองกลับมาเขียนเล่นๆดูกลายเป็นว่ากูบรรยายสั้นลงว่ะ ไม่รู้ว่าห้วนไปป่ะ 555 สมัยก่อนกูติดพวกสำนวนสวยๆยาวๆพรรณาเยอะๆอารมณ์บารามอสไรงี้ นึกออกนะ เช่น "เสียงหวานใสราวระฆังแก้วบรรเลงบทเพลงถูกเอ่ยเอื้อนออกจากปากของหญิงสาว" แต่เดี๋ยวนี้จะเป็นแบบแค่ "หญิงสาวเอ่ยเสียงหวาน"ว่ะ กูเขียนคำวิเศษณ์ขยายความเยอะๆไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ก๊าก

66 Nameless Fanboi Posted ID:uon052sTQ

มึง ขอถามอะไร ปกติเวลากำหนดให้ตัวละครทำอาชีพต่างๆ นี่ หาข้อมูลกันยังไง จากเน็ตอย่างเดียวไหม หรือถามจากคนรู้จักที่ทำอาชีพนั้นด้วย คือกูกำหนดให้ตัวเอกเป็นหมอ แต่กูกลัวมันไม่ค่อยสมจริงสักเท่าไหร่ จะถามจากตัวจริงกูก็ไม่กล้า ในเน็ตข้อมูลไม่ค่อยพอ จริงๆ ก็มีเพื่อนในเน็ตบางคนเป็นนศ.แพทย์ จะถามจากเขาได้ไหมวะ หรือจะบุกไปถามหมอตัวจริงดี?

67 Nameless Fanboi Posted ID:ZyKusqfRE

>>66 ถ้าเอาให้เนียนถามตัวจริงดีกว่า ไม่ก็หาหนังสือประสบการณ์ในสายอาชีพอ่าน ตอนนี้หมอก็เขียนหนังสือแบบนี้เยอะ ถ้าไม่ลงลึกมากไปจะไม่มีใครแหกหน้ามึงหรอก

68 Nameless Fanboi Posted ID:.+0Ow1eOe

>>66 อาจไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไหร่ แต่กูเพิ่งดูช่องnhkเมื่อวาน รายการกำลังนำเสนอมังกะเรื่องนึงเกี่ยวกับนางเอกทำงานเป็นดีเจในสถานีวิทยุพอดี เห็นมีติดต่อโทรคุยกับเจ้าของสถานีวิทยุจริงๆด้วยกับไปขอถ่ายสถานที่จริงมาเก็บอัลบั้มไว้เลย แหม่ กูเห็นแล้วอยากให้คนไทยแต่งอะไรแล้วหาข้อมูลจริงจังให้ถูกต้องแบบนี้จัง แต่ก็นะมันยุ่งยาก เท่านั้นยังไม่พอ ยิ่งเด็กแต่งล่ะยิ่งคิดเองเออเองอีก

69 Nameless Fanboi Posted ID:Y4w169OWh

>>65 สั้นๆ ก็ดีแล้วนี่หว่า กูเบื่อพวกชอบบรรยายแบบเพ้อๆ อ่านไปสิบหน้าแม่งบรรยายแต่ความสวยความหล่อกันอยู่นั่นแล้ว เลิกอ่านแม่ง

70 Nameless Fanboi Posted ID:HIn.3kCU4

>>65 กูคล้ายๆ มึงแต่ของกูอารมณ์มันดิบเถื่อนขึ้น55555555

71 Nameless Fanboi Posted ID:.+0Ow1eOe

>>69 เมื่อก่อนกูโคตรชอบแบบนั้นเลย บรรยากาศเพ้อๆฟุ้ง ประมาณพระเอกนางเอกคุยกันที บรรยากาศเหมือนการ์ตูนตาหวาน มีละอองฟุ้งๆ ดอกไม้บานเต็มช่อง แต่เดี๋ยวนี้แม่งโคตีเบื่อ มึงจะเดิน จะหันหน้า จะเขินที อ่านแล้วรำสุดๆ
เออ เพิ่งเห็นในเด็กดี เวลาทายอายุใช้ยังงี้ได้ด้วยเหรอวะ 20...4อะ มันต้องยี่สิบ...สี่ไม่ใช่เรอะ กูว่าสมัยก่อนวิบัติเยอะแล้วนะแต่ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าว่าปัจจุบันมันยิ่งวิบัติกว่าเดิมน่ะ...
20...4อ่ะ แบบมันควรใช้คำเขียนมากกว่าป่ะวะ

72 Nameless Fanboi Posted ID:SR6tj.0CX

>>71 พูดเรื่องตัวเลข พวกมึงใช้ตัวเขียนหรือตัวเลขยังไง ที่กูใช้ส่วนใหญ่เป็นตัวเขียน บางทีกูก็อยากใช้ตัวเลขบ้างนะ แต่ใช้แล้วบางทีมันรู้สึกไม่เข้ากันนะ

73 Nameless Fanboi Posted ID:0VYdXAzAD

ตัวเขียนคือคำพูด ข้อความ ตัวเลข คือ ข้อความไว้โชว์ พวกหน้าจอ หรือป้้าย กูว่าใช้แบบนี้เหมาะกว่า

74 Nameless Fanboi Posted ID:2.bs..4vq

>>71 ต้องใช้คำเขียนดิ ประหลาดว่ะ แต่เอาเหอะ รุ่นน้องรร.กู(โรงเรียนอันดับสองไม่ก็หนึ่งของไทยอะ)แม่งยังเขียนเรียงความกันไม่เป็นเลย ย่อน่งย่อหน้าไม่รู้จัก ย่อความแม่งก็ไม่รู้จัก กูปวดหัวโคตร

75 Nameless Fanboi Posted ID:YjTjFeOdM

กูเรียนมหาลัยที่ชอบอ้างว่าตัวเองเป็นเสาหลักของแผ่นดิน ยังต้องมีวิชาเขียนย่อหน้าไว้ให้ลงเรียนเลย...นิสิตบางคนเขียนให้อ่านยังอ่านไม่รู้เรื่อง
ส่วนตัวเลข ส่วนใหญ่กูใช้ตัวเขียน ยกเว้นมาแบบ 12,498 อันนี้เขียนแล้วสงสารคนอ่าน

76 Nameless Fanboi Posted ID:n2G/.MMxh

>>75 วิชา _a_a_r_ph w_it_n_ ใช่มั้ยวะ ถ้าวิชานี้กูก็เคยเรียน เพื่อนกูด่าเละเทะมาก 55555555555

77 Nameless Fanboi Posted ID:LuojM.hta

ในฐานะคนอ่านถ้าเรื่องไหนคุยตัวเลขเยอะๆบ่อยๆก็ชอบให้เป็นตัวเลขมากกว่า

78 Nameless Fanboi Posted ID:YO9Bq9Ofk

นอกจากกรณีคล้ายๆ >>71 ที่จำเป็นต้องสื่อด้วยตัวเขียน กูใช้ตัวเลขตลอด

79 Nameless Fanboi Posted ID:cBDMNHF2n

>>76 วิชาที่เอาไว้เก็บเกรดสินะ /ไอ

80 Nameless Fanboi Posted ID:7BKEN1CHM

>>79 เก็บกรงเก็บเกรดอะไรรร๊ พูดไปเรื่อยนะมึง เข้าใจผิดละมึง ออกจะยากกกขนาดนี้

81 Nameless Fanboi Posted ID:uOkTmNpKh

กูรู้สึกท้อๆแบบบอกไม่ถูกว่ะ กูกลับมาเขียนนิยายแฟนตาซีลงเด็กดีใหม่แบบเปลี่ยนนามปากกาเริ่มต้นจาก 0 แต่คงเพราะเริ่มใหม่นิยายกูก็เลยไม่มีคนอ่าน ลง 4 ตอน วิว 100 นึง เห็นแล้วมันปวดใจแปลบๆ ทั้งที่ก็รู้ว่ากูกำลังเริ่มใหม่ กูต้องทำใจ ต้องค่อยๆพยายามไต่ระดับไป สักวันนิยายกูคงจะมียอดวิวสัก 1,000 แต่สุดท้ายแล้วมันก็อดเศร้าไม่ได้อยู่ดี การเริ่มใหม่มันยากจริงๆ

กูขอโทษที่เอามาระบายในนี้ กูสับสน ตอนนี้กูไม่มีใครเลย แม้กระทั่งเพื่อนที่เคยอ่านนิยายให้ ตอนนี้ก็เอาแต่พร่ำเพ้อชีวิตดราม่าใส่กูจนกูเครียดตาม กูเองก็มีเรื่องที่เครียดเหมือนกัน ตอนนี้กูอยากร้องไห้ ร้องเสร็จแม่งจะได้ไปเขียนนิยายต่อ

82 Nameless Fanboi Posted ID:OUlhL1cH7

>>81 กุไม่รุจะปลอบยังไง แต่กุเข้าใจและขอกอด

83 Nameless Fanboi Posted ID:SZZWemumh

>>81 กอดมึง มึงลองลงในนี้สิเดี๋ยวกูจะเข้าไปอ่านเอง

84 Nameless Fanboi Posted ID:uOkTmNpKh

>>82-83 ฮือออออ ขอบคุณพวกมึงมากนะเพื่อนโม่ง
แต่ให้ลงนิยายในนี้โม่งก็แตกสิฟระ...

85 Nameless Fanboi Posted ID:OUlhL1cH7

>>84 ถ้าไม่ใช่แนวเกิดใหม่ ออนไลน์ แปลไลท์โนเวลฮาเร็มลง หรือเป็นแนวรักแฟนตาซี กุว่าเมิงควรทำใจตั้งแต่เนิ่นๆ ตลาดเด็กดวกส่วนใหญ่มีแต่เด็กๆชอบอ่านแนวแกรี่สตูหว่ะ แม่งมีแต่เด็กเม้นว่ามะไรพระเอกจะเทพคับอ่ะเมิง 5555

86 Nameless Fanboi Posted ID:uOkTmNpKh

>>85 แนวกูเป็นแบบตลกโปกฮามุก 5 บาท 10 บาท คุ้นๆเหมือนโม่งที่เคยเพ้อไปด้านบนมั้ย เออ กูเอง คนเดิมเลย T_T

87 Nameless Fanboi Posted ID:m9lNsyK/n

ถามหน่อย ถ้านิยายทำมือของมึงขายออกเพราะภาพประกอบ (ลูกค้าบอก) จะรู้สึกยังไงกันบ้างวะ

88 Nameless Fanboi Posted ID:h.7ylgOJp

>>87 อันนี้มันวัดแค่เล่มแรกวะ ถ้าเรื่องมึงห่วย ต่อให้ภาพประกอบดีแค่ไหนคนก็ไม่สนหรอก ยกเว้นมึงจะสร้างตลค.มาให้บุฮี้ได้มากพอแบบIS

89 Nameless Fanboi Posted ID:oG9TqhJTn

กูเขียนแล้วตลค.ดูแบบเป็นคนคิดมากนี่จะน่ารำคาญป่าววะ โดยนิสัยแล้วตลค.เป็นคนคิดมากสุดๆ ชอบคอมเม้น ชอบโยงอะไรต่อมิอะไรเข้าหากันในหัว
เวลาบรรยายออกมากูเลยเอาความคิดในหัวมาแทรกตลอด ทำเป็นตัวเอียงแทรกบทบรรยาย พอมาอ่านเองแล้วรำคาญไงไม่รู้ กูเซ็ตคาร์.ไว่แบบนี้ก็จริง แต่เขียนแล้วรำคาญมากเลยวะ
คงกูควรคงการเขียนแบบนี้ไว้หรือเปลี่ยนดี แต่กูอยากสื่อให้เห็นว่ามันเป็นคนคิดมากคิดไร้สาระตลอดเวลานะ กูควรทำไงดี

90 Nameless Fanboi Posted ID:JAjRcnmaW

ถามหน่อยครับผู้เขียนทุกท่าน ทุกท่านชอบอ่านบทวิเคราะห์ของคนอ่านไหม
ถ้าคอมเม้นท์คนอ่านมันลึกล้ำกว่าเนื้อเรื่องจริงๆจะรู้สึกยังไง
ถ้าท่านขมวดปมหรือตั้งใจเซอร์ไพรซ์แล้วมีคนอ่านที่วิเคราะห์และทำนายถูก ท่านรู้สึกยังไง จะเขียนตามที่ตั้งใจไว้ต่อไหม
ถ้าคุณอ่านบอกสิ่งที่อยู่ในหัวคุณออกมาเป็นฉากๆได้ พูดง่ายๆคือมีคนอ่านที่รู้ว่าคุณจะเขียนอะไรต่อไป คุณจะรู้สึกดีหรือแย่

ผมเป็นคนอ่านคนนึงที่กลัวคนเขียนได้รับตัวแปรจากคนอ่านมากไป จึงไม่กล้าคอมเม้นท์หรือวิเคราะห์ตอนต่อไปตรงๆ
จึงมักจะแค่วิเคราะห์ตอนเก่าๆ หรือชมเชยให้กำลังใจว่ารอตอนต่อไปงี้ เพราะผมกลัวคนเขียนเป๋จากสิ่งที่ตั้งใจ
นึกภาพว่ามีคนดักทางคุณถูกแล้วคุณพยายามไปทางอื่น มันกลับกลายเป็นหลงทางไปกันใหญ่
มีครั้งนึงผมเคยเผลอวิเคราะห์ออกไป แล้วเนื้อเรื่องต่อๆไปมันออกมาตื้นและโดดมาก
ผมเลยคิดว่าเป็นเพราะเราเปิดเผยมันออกไปรึเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริงจะได้ไม่บอกออกมาอีก
เพราะสิ่งที่ผมวิเคราะห์ได้ก็เป็นสิ่งเดียวกับที่ผมอยากให้มันเกิด เพราะมันสมควรที่จะเกิดแบบนั้น
"ถ้ากูบอกออกไปมันก็เขียนแบบอื่นสิวะ แบบนั้นมันก็ไม่ถูกต้องดิ ฉะนั้น กูเงียบๆไว้ดีกว่า" ผมจะคิดประมาณนี้

ลองนึกดู ถ้าสมมติมีคนทำนายอะไรคือวันพีซตามที่โอดะตั้งใจไว้แต่เดิมได้เป๊ะๆเป็นฉากๆ
แล้วทฤษฎีนี้ดังมากจนกลายเป็นกระแสหลักของนักอ่านทั่วโลก โอดะจะเขียนตามที่คิดไว้หรือพยายามฉีกออกไป?
โอเค วันพีซมันยิ่งใหญ่ไป แล้วทฤษฎีจริงๆลวงๆมันก็เยอะ มันอาจไม่มีผลอะไรมาก แต่ถ้าเรื่องเล็กๆที่มีคนตามหลักพันหลักหมื่นคนหล่ะ?

ผมไม่ใช่คนแบบไล่พ่นซึ่งที่ตัวเองคิดออกมานะ ทุกครั้งส่วนใหญ่เวลาปิ๊งเห็นแพทเทิร์นของเนื้อเรื่องผมเลือกที่จะเงียบมากกว่า
คือถ้าเงียบไว้ส่วนใหญ่ 80% ออกมาตรงกับที่คิดไว้ คือผมเป็นพวกที่ดักทางมุขตลกได้ทุกครั้ง แต่ชอบฟังมุขตลกไปเรื่อยๆแม้จะเดาได้ก็ตาม
ฉะนั้น ต่อให้เดาได้ผมก็ไม่บอกออกมา ลองนึกดูว่าจู่ๆคนในวงเฉลยมุขที่คุณกำลังจะเล่า คุณคงไม่มีอารมณ์เล่าต่อ

สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือเผลอไปชี้นำคนเขียน ซึ่งนิสัยคนเขียนทั่วไปย่อมไม่ชอบถูกชี้นำจึงมักพยายามขบถออกมา แล้วถ้าไม่เทพจริงมันจะเฟลกว่าเดิม

อยากทราบมุมมองความรู้สึกของนักเขียนที่เจอจริงๆครับ ใครยังไม่เคยเขียนหรือไม่มีประสบการณ์เจอแบบนี้รบกวนวงเล็บบอกก่อนนะ

91 Nameless Fanboi Posted ID:QS.+MYtWA

enter ประกาศแล้วว่ะ พวกเมิงคิดว่าไง

92 Nameless Fanboi Posted ID:eESmTAhIf

>>91 เท่าที่อ่านผ่านๆ ทำไมมันดูเลเวลต่ำกว่าปีที่แล้วเยอะจังวะ เอาเป็นว่ายังไม่มีตัวเก็งสำหรับกู

93 Nameless Fanboi Posted ID:ZioqbNShG

>>92 อ่านผ่านๆ ของมึงนี่เฉพาะคำโปรยใช่ไหมวะ
สำหรับกู กูว่าบางเรื่องน่าสนใจดี แต่ต้องดูอีกทีว่าภาษาเขียนนี่เป็นยังไง
บางคนพล็อตดี แต่ตายตรงวิธีเล่าเรื่องกูก็เห็นมาเยอะ

94 Nameless Fanboi Posted ID:E4G4BXZ1W

>>91 กูไม่ผ่านวะ ร้องไห้แปบ 55555

95 Nameless Fanboi Posted ID:E4G4BXZ1W

ปลอบกูที กูไม่ผ่านเว้ย สงสัยเรื่องมันหนักไป ปีหน้าส่งแบบแฟนตาซีเอาใจสาวแต่ไม่วายไปซะดีมั้ย

96 Nameless Fanboi Posted ID:zsmaBg3Dr

กูไม่ผ่านเหมือนกัน อุตส่าห์ตั้งใจกว่าปีที่แล้ว ปีนี้ดันไม่เข้ารอดเฉย 555//หรือปีนี้เรื่องกูมืดมนไปวะ ก็ไม่น่าใช่...

97 Nameless Fanboi Posted ID:i/z6yTAzs

เพื่อนโม่งที่ไม่ติด อย่าเสียใจไปเลยมึง มันก็แค่การประกวด มึงเขียนให้จบแล้วส่งสนพ. ผ่านการพิจารณาก็ได้ตีพิมพ์เหมือนกัน เก็บความเสียใจไว้ไปลงกับฉากดราม่าในนิยายดีกว่า ปีนี้ไม่ได้ ปีหน้าก็ยังมี

98 Nameless Fanboi Posted ID:6bacXDF8.

แต่เดี๋ยวนี้กูว่ามึงเขียนพอให้มีฐานลูกค้าแล้วพิมพ์ขายเองเหอะ ดูทรงจากสนพ.หลายๆที่แล้ว

99 Nameless Fanboi Posted ID:nx55uP4nM

Enterปีนี้ย้อนเวลาเยอะจังเลย

100 Nameless Fanboi Posted ID:19oNoFFjK

>>90 มาตอบให้ว่า "แล้วแต่คน" นะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะฟัง ไม่ใช่ทุกคนที่จะโอเคเวลามีใครมาบอก
แตมันก็ประเภทฟังแล้วเก็บไปคิดมาก พูดได้แล้วแต่คนจริงๆ ถ้าคนฟังแล้วใจอ่อนก็เป๋
แต่ถ้าคนไม่ฟังบวกเพิ่มอีโก้พี่ก็มา โอ้โห ไม่ฟังหรอก เผลอๆอาจจะได้บวก
แต่การคอมเม้นแบบเปิดเผยพล๊อตมากเกินไป ทำให้คนเขียนกังวลนะ
บางคนก็ไม่ได้ถนัดแนวล้ำๆมาก บางคนก็เขียนเอาหนุกๆแบบขนบพล๊อตทั่วๆไป
ถ้าถามว่าควรคอมเม้นท์ไหม อันนี้สิทธิ์ขึ้นกับตัวเราว่ะ เห็นใจเขาเราก็ไม่โพสก็ได้
ส่วนตัวเคยเจอคอมเม้นวิเคราะห์งานเขียนเชิงลึก ถึงกับก๊ากเลย ตอนเขียนไม่ได้คิดงั้นไง
แค่ ก็มันแบบนี้ไง มันเป็นแบบนี้ แต่ถ้ากับนักเขียนสายวางพล๊อตเขาจะกังวลงิ
ชอบคนมามีส่วนร่วมกับงานเรานะ แต่บางทีก็ตอบไม่ได้ไง ว่าทำไมเป็นงั้นงี้ล่ะ นี่ติดคำตอบพี่คนหนึ่งจะปีแล้ว
เป็นสายคาแรคเตอร์นำ เลยไม่รู้สึกอะไร ความผันผวนงานเราสูงกว่าสายพล๊อตด้วย

101 Nameless Fanboi Posted ID:W7OXB/A8E

>>90 ถ้าอ่านของผมตั้งแต่ต้นจนจบแล้ววิจารณ์ จะไม่ว่าสักคำ แต่ถ้าอ่านแค่ครึ่งๆ กลางๆ แล้วมาบอกว่าเดาพล็อตต่างๆ ออกหมดแล้ว นี่ผมขำ เพราะผลของมันจะออกมาแค่สองแบบ
1. เป็นอย่างที่ถูกเดาเอาไว้ > เทพเดาถูก
2. ไม่เป็นอย่างที่เดาเอาไว้ > นักเขียนเปลี่ยนพล็อตถูกเดาเอาไว้ - ก็เทพอยู่ดี
ไม่ว่ายังไงมันก็เหมือนกัน ดังนั้นส่วนใหญ่ถ้าเจอพวกนักอ่านแบบ 90 จะอ่านผ่านๆ พอ เพราะคำวิจารณ์แบบนี้ไม่ได้ช่วยให้ผมแต่งเรื่องได้สนุกขึ้นหรือดีขึ้นเลย ก็แค่ทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเองเพิ่มขึ้นเท่านั้น

102 Nameless Fanboi Posted ID:mnZutk/0j

พึ่งเห็นว่าenterเปิดให้อ่านตอน1แล้ว

103 Nameless Fanboi Posted ID:i1qO7iwt2

เรื่องไหนโอเคมั่ง

104 Nameless Fanboi Posted ID:LkQ4BiKIm

กูไม่รู้ควรบอกว่ากูโอเคไหม แต่ตอนนี้กูเริ่มตัดลิสต์นิยายที่จะอ่านทิ้งแล้วว่ะ เรื่องแรกที่จะตัดก็คือเรื่องที่คนเขียนบอกว่าส่งภาคต่อเข้าประกวด(ไม่ใช่หน้าที่ที่กูต้องตามอ่านภาคก่อนหน้าอีดอก)

105 Nameless Fanboi Posted ID:S68gvwV7w

>>104 เรื่องไหนวะมึง บอกหน่อย

106 Nameless Fanboi Posted ID:LkQ4BiKIm

https://www.facebook.com/bestyworld/posts/694895477318838

107 Nameless Fanboi Posted ID:Po8t9kEtd

>>106 ใช่คนเดียวกับที่มีเรื่อง"แรงบันดาลใจ"ตอนเปิดตัวทะเล้นป่าววะ

108 Nameless Fanboi Posted ID:lKYR7EcCY

>>107 คนเดียวกัน

109 Nameless Fanboi Posted ID:IiC8Dsirk

>>106 แบ่งปันเผือกที

110 Nameless Fanboi Posted ID:0Cj2.xiVr

/นอกเรื่อง เข้าไปดูในเฟสเห็นมีลงคลิปเล่นเปียโนด้วยว่ะ แต่กูไม่ได้กดดูนะ ทำเอาเกิดสงสัย มีเปียโนในบ้านได้นี่ต้องมีฐานะระดับนึงป่าววะ อันนี้สงสัยเฉยๆนะ

111 Nameless Fanboi Posted ID:3DEG9fmpN

>>107 เรื่องไหนวะ 555555

112 Nameless Fanboi Posted ID:3DFSUts9F

>>110 ไม่น่าจะใช่เปียโน น่าจะเป็นคีย์บอร์ดมากกว่า ราคาไม่เกินห้าหมื่น

113 Nameless Fanboi Posted ID:L6u4Wxnks

>>112 อ่อ โอเค แล้วนิยายมันเป็นไงมั่ง ยังไม่ได้ลองอ่านเลยว่ะ

114 Nameless Fanboi Posted ID:hx8k8tjRy

ถ้าดราม่านี่ใช่ดราม่าที่กรรมการงานประกวดเข้าข้างจนน่าเกลียดหรือเปล่า? เหมือนกูจำได้ว่ากูเคยอ่านผ่าน ๆ ใน Netwatch กูโม่ง >>111 น่ะ ลองไปคุ้ยดู 5555555555

115 Nameless Fanboi Posted ID:L6u4Wxnks

>>104 เออ ถ้าสมมติเขียนดี พลอตดีล่ะ มันยังโอเคที่จะอ่านอยู่ป่ะวะ
>>114 หืม กูจำได้แค่เรื่องแรงบันดาลใจว่ะ มีเรื่องเข้าข้างด้วยเหรอเนี่ย

116 Nameless Fanboi Posted ID:brUDli7h5

>>115 แรงบันดาลใจไรวะ เล่าหน่อย อยากเสือก ไม่งั้นขอวาร์ปก็ได้

117 Nameless Fanboi Posted ID:RMg0o/I+H

>>116 โชคดีที่จขกท.ไม่ได้ลบตามที่ฝั่งนั้นบอก กระทู้เลยยังอยู่ http://www.dek-d.com/board/view/3536996/

118 Nameless Fanboi Posted ID:hx8k8tjRy

>>115 มีมึงอ่านในกระทู้อ่ะ จะมีคนบอกให้ จขกท ลบกระทู้ บอกว่าใจร้าย บลา บลา แล้วโค้ชงานประกวดมั้งเข้าข้างคนลอกด้วยซ้ำ

119 Nameless Fanboi Posted ID:L6u4Wxnks

>>117 แข่งของอะไรวะ มีพี่โค้ชด้วย

120 Nameless Fanboi Posted ID:ULKhMOMYz

KY เพจ มมล คืบหน้านิดหน่อย แต่โดนรุมด่าเละ
และวันนี้ผู้เสียหายจะมารวมตัวกันที่กองปราบ พร้อมนัดนักข่าวเอาไว้ด้วย

121 Nameless Fanboi Posted ID:FasFUe9ZH

>>120 มมล เพจไรวะ กูตกข่าว

122 Nameless Fanboi Posted ID:6rWXi+3pF

>>121 มามาเลด โกงเงินนิยาย Y

123 Nameless Fanboi Posted ID:5QZgv0J0w

>>121 กูเห็นจากอันนี้ว่ะ แล้วก็ห้องฟุเขาคุยกัน https://twitter.com/HarunaKung/status/702503104516730880
>>119 แข่งของกลุ่มทะเล้นจัดกันเอง(ถ้าเอาตามที่ทางนั้นพูด) แต่เหตุการณ์แย่ตรงที่โค้ชออกมาปกป้องเด็กที่ทำผิด ทั้งๆที่ผิดระดับแจ้งความแพ่งข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์งานได้ ในมู้นั้นมีแต่คนบอกว่าใจร้าย ลองให้เขาเอาไปแจ้งความสักรอบดูไหม จะได้รู้ไปเลยว่าของจริงเป็นไง มีคดีติดตัวนี่ไม่รู้นะว่ามีผลกับการเข้ามหาวิทยาลัยมั้ย

124 Nameless Fanboi Posted ID:i2vCGzdac

>>123 เสริมให้ในห้อง Netwatch ที่ตอนนั้นโม่งคุยประเด็นนี้กัน เหมือนมีโค้ชเข้ามาคุยมาเถียงด้วย

125 Nameless Fanboi Posted ID:YVRD0tgXl

>>119 แข่งแต่งนิยายมาประกวดกัน โค้ชคือกลุ่มทะเล้นที่ตอนนี้มีผลงานตีพิมพ์กับเมจิคไป 3 คน พวกที่เข้าแข่งคือนักเขียนที่เข้าร่วมกลุ่มทะเล้นในไลน์ชื่อเดอะไรต์เตอร์ พอเรื่องลอกนิยายมันแดงขึ้นการประกวดก็ถูกล้มไปด้วย
>>124 โค้ชนกฮูกกับกิ่งน้า

126 Nameless Fanboi Posted ID:Jq/tARMLh

เพื่อนโม่ง ปรึกษาเรื่องแต่งนิยายหน่อย บทคุยกันคนละภาษาอะ (ต่างชาติ) เราต้องแปลให้คนอ่านป่าววะ วงเล็บไปเหรอ หรือปล่อยให้แปลเอง หรือบรรยายว่าคุยเป็นภาษาอังกฤษแล้วเขียนแปลให้เลย แบบไม่ต้องเขียนปะกิดมา ขอบคุณล่วงหน้า

127 Nameless Fanboi Posted ID:5p5pweYbc

>>126 แต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าตัวเอกฟังภาษาอื่นรู้เรื่อง กูก็คงพิมพ์เริ่มต้นว่า "คุณ A. เริ่มพูดภาษาอังกฤษ" อะไรแบบนี้ แต่ถ้าฟังไม่ออกก็ใส่ " @#$%$#^ " แล้วพิมพ์บรรยายว่าเป็นภาษาที่ไม่เข้าใจ ไปเลย

128 Nameless Fanboi Posted ID:AytcWboq9

เขียนตัวเอียงแยกไว้สมมติว่าอิ้งได้มั้ยวะ

129 Nameless Fanboi Posted ID:PC+jeeZcf

KY กูมีปัญหาเรื่องตั้งชื่อนิยายว่ะ คือกูจะตั้งชื่อสองภาษาทั้งที่มีความหมายเดียวกัน แต่กูรู้สึกว่ามันยืดยาวไปเลยอยากตัดเหลือภาษาเดียว แต่ไปๆ มาๆ กูก็ไม่อยากตัดว่ะ แบบว่ากูชอบการตั้งชื่อที่คล้องจองหรือเรียงตัวอักษรเหมือนๆ กันไง เช่น ตั้งชื่อว่า "Story's Seven Servant เรื่องราวของเจ็ดข้ารับใช้" ตัวย่อก็ SSS (ชื่อสมมุตินะ) แบบนี้อะมึง คือกูเกิดลังเลเสียดายไม่อยากตัดสักภาษา แต่คิดอีกทีมันก็ควรจะตัดว่ะ ถ้าในมุมคนอ่าน มึงว่าควรยัดใส่ทั้งสองภาษาหรือภาษาเดียวดีวะ

130 Nameless Fanboi Posted ID:x37yKu5kT

>>129 ที่ยกตัวอย่างมาก็โอเคอยู่นิ ไม่ได้ยืดยาวอะไร

131 Nameless Fanboi Posted ID:AytcWboq9

>>129 มันต้อง Seven Servants's Story ไม่ใช่เหรอวะ แต่กูชอบชื่อนะ 555

132 Nameless Fanboi Posted ID:wGoEjp0BS

>>130 งั้นเหรอ? ของจริงมันเพิ่มอีกหนึ่งคำ ก็คงพอๆ กันแหละ งั้นกูก็ตั้งสองภาษาได้เลยสินะ
>>131 กูใช้กูเกิ้ลแปลภาษาอะมึง มันก็เพี้ยนนิดหน่อย แต่นี่มันชื่อที่กูตั้งมาเป็นตัวอย่าง ถ้ามึงชอบก็เอาไปใช้สิ ลองไปหาแล้วยังไม่มีใครเอาไปตั้งนิยาย

133 Nameless Fanboi Posted ID:AytcWboq9

>>132 เอาเรื่องเกี่ยวกับอะไรดีล่ะมึง สโนไวท์กับข้ารับใช้ทั้งเจ็ดไรงี้เหรอวะ 555

134 Nameless Fanboi Posted ID:BIhipjvzH

>>131 Seven Servants' Story แค่นี้พอมึงไม่ต้องมี s อีกตัว
แต่ story ควรเป็น stories นะเพราะหลายเรื่องราว (Seven Servant's stories) กูแนะไว้อีกแบบว่าเป็น The story of seven servants น่าจะโอเค
ทั้งนี้ทั้งนั้นกูแนะนำอีกแบบไว้เฉยๆ จะทำยังไงต่อก็ตามสะดวกนะ ไม่ได้แกรมม่านาซีแต่อย่างใด 55555 ขื่อเรื่องเป็นความพอใจของคนแต่งด้วย เพราะของเดิมไม่ได้ผผิดอะไรแค่ story ควรเป็น stories

135 Nameless Fanboi Posted ID:BIhipjvzH

>>132 อ้าวเพิ่งเห็นว่าชื่อตัวอย่างเฉยๆด้วย โทษๆ กูไม่ทันมอง เวรกรรม

136 Nameless Fanboi Posted ID:wGoEjp0BS

>>134 ขอบใจสำหรับความรู้ใหม่ว่ะ อากู๋แม่งมั่วสลัด
>>135 ไม่เป็นไร ถือเป็นความรู้ใหม่ เพราะชื่อจริงนิยายกูก็คล้ายๆ กัน

137 Nameless Fanboi Posted ID:AytcWboq9

เอสเยอะแล้วกูชักงง 55

138 Nameless Fanboi Posted ID:Jktc4zdi9

>>126 ถ้าสั้นๆ ก็ใส่ประโยคอิ๊งมาแล้วแปล แต่ถ้าจะคุยยาว ใส่เป็นตัวเอียงแล้วลงไว้ในบทบรรยายดีกว่า
ส่วนถ้าตัวเอกฟังแล้วไม่เข้าใจ กูไม่แนะนำให้ใช้สัญลักษณ์แบบที่ >>127 ว่าแฮะ กูว่ามันแปลกๆ ไม่ได้จะบลัฟมึงนะ 127 แค่ความรู้สึกกูเฉยๆ ใส่เป็นบทบรรยายประมาณอีกฝ่ายพูดอะไรบางอย่างที่ฟังไม่เข้าใจดีกว่า หรืถ้าอยากได้เป็นประโยคๆ เลยกูว่าใส่ประโยคอังกฤษไปเลยนั่นแหละ

139 Nameless Fanboi Posted ID:BIhipjvzH

>>136 มาแว่บแก้นิดนึงพอดีในคอมเม้นตัวเองพิมพ์พลาดไปนิด
ที่โอเคและตรงกับของดั้งเดิมสุดต้องเวอร์ชัน Seven Servants' Stories นะ พอดีไอ้ที่กูพิมพ์ไปว่า Seven servant's stories รอบหลังกดพลาด
คือกรณีถ้าเป็นนามพูพจน์เติม s (servants, students etc.)
เวลาแสดงความเป็นเจ้าของใส่เครื่องหมาย ' ต่อท้ายพอน่ะ
เผื่อเอาไว้ปรับๆใช้กับชื่อเรื่องจริงแล้วกันเน่อ ถ้าชื่อเรื่องจริงมีนามพหูพจน์นะ 55555

140 Nameless Fanboi Posted ID:Qfj36pJV.

>>139 ขอบใจว่ะ

141 Nameless Fanboi Posted ID:aY+cuMvGt

เพื่อนโม่ง กูขอระบายหน่อย พวกมึงเคยเขียนหรือแปลนิยายอะไรไปแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่แนวมึงป่ะ แบบไม่ได้บอกไม่ดี แต่มันคนละแนวกับกูอะไรงี้ แต่คนอ่านชอบ ......คือกูสับสนมาก มันทำให้กูรู้สึกรักนิยายเรื่องนี้น้อยลงเรื่อย ๆ อ้ะแต่กูก็ต้องไปต่อ ขอโทษนะมึง ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร กูแค่อยากพูด 5555 ขอโทษถ้ากูมาผิดห้อง

142 Nameless Fanboi Posted ID:1eEmKxFwF

>>141 ถ้าเป็นนักแปลอาชีพแล้วเจองานที่ไม่ถูกจริตตัวเองนะ บอกคำเดียว นรกสัดๆ ได้เงินค่าแปลมาก็ไม่คุ้มกับการเยียวยาตัวเอง

143 Nameless Fanboi Posted ID:aY+cuMvGt

>>142 กูไม่ใช่มืออาชีพนะ แต่ยิ่งแปลสปิริตกูยิ่งตกต่ำว่ะมึง นรกแม่งอยู่ในใจกูเลยเนี่ย

144 Nameless Fanboi Posted ID:1eEmKxFwF

>>143 แล้วจะทนทำต่อไปทำไมวะ เสียงชื่นชอบจากนักอ่านมันคุ้มค่ามากเรอะ

145 Nameless Fanboi Posted ID:DWLpQzxJK

>>144 กูรูสึกเหมือนกูต้องรับผิดชอบเขาว่ะ

146 Nameless Fanboi Posted ID:TP5FwUaa5

>>145 ทำไมคนแปลเรื่องที่กูตามไม่คิดอย่างมึงมั่งวะ

147 Nameless Fanboi Posted ID:B8j60OsBl

>>146 เพราะเขาไม่ใช่มึง (เผ่น)

148 Nameless Fanboi Posted ID:B8j60OsBl

>>146 อย่าโกรธกูนะกูแค่มาเม้นเล่นๆ

149 Nameless Fanboi Posted ID:B7KVIHPOA

เฮ้ยขำ 555555

150 Nameless Fanboi Posted ID:B8j60OsBl

>>145 เพราะมึงมีความรู้สึกเล็กๆบางอย่างเกิดขึ้นในใจมึงแล้ว

151 Nameless Fanboi Posted ID:B8j60OsBl

คนดีต้องรับผิดชอบว่ะ

152 Nameless Fanboi Posted ID:B8j60OsBl

กูไม่กวนละ พวกมึงคุยกันตามสบาย

153 Nameless Fanboi Posted ID:XM1jDOzpx

>>152 ไปเหอะอีเหี้ย รำคาญ

154 Nameless Fanboi Posted ID:x+ku3S..a

>>150 ความรู้สึกเล็กๆ555555 เหมือนมึงจะเขียนคำโปรยหนังสือเลย55555

155 Nameless Fanboi Posted ID:5T2FvbD0z

กูว่าประกวด Enter งวดนี้ EN09 เรื่องมากิอาร์น่าจะได้ ความจริงก็ชอบเรื่อง Dragonic Chronicle มากกว่า แต่คนโหวตน้อย มากิอาร์นี่น่าจะเข้าเสป็คกรรมการมากกว่า

156 Nameless Fanboi Posted ID:D+9EH7ez9

>>155 เล็ง ๆ อยากให้ EN01 "The Huntsman Way" EN05 "Draconic Chronicle" EN20 "Tales" เข้ารอบอยู่ เขียนดีอ่านสนุก แต่พวกนี้สายเครียดทั้งนั้นเลย มีให้โหวตคะแนนยังไงก็เข้าทางพวกจิ้นวายกับขายฉากเสี่ยว ๆ

157 Nameless Fanboi Posted ID:qdKepuhzy

กูเคยคิดว่าเขียนบทบู๊ไม่เป็นนะ แต่เขียนออกมาแล้วลื่นมากเลยวะ หัวกูจินตนาการได้เป็นฉากๆ เขียนออกมาก็ใช้คำให้สั้น กระชับ ตรงประเด็น เขียนแล้วตื่นเต้นดีวะ เหมือนดูหนังจอนวูเลย

158 Nameless Fanboi Posted ID:WLWzu56WL

>>157 โอ้โห เก่งจางงงงง สิ่งเล็กๆในใจมึงก็คือการแต่งฉากบู้นี่แหร่

159 Nameless Fanboi Posted ID:/fJx6nA5l

>>158 กูดูไม่ออกว่ามึงชมหรือด่านะ แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับกูอยู่ดี

160 Nameless Fanboi Posted ID:Xd+ZvEf1j

>>157 แนะนำกูหน่อย กูกำลังเขียนบทบู๊แล้วตันเลย

161 Nameless Fanboi Posted ID:2JpdpeYTT

KY หน่อย ตอนๆนึงต้องใช้ประมาณกี่หน้า A4 วะ แล้วที่เป็นหนังสือหนาๆเนี่ยเขียนกี่หน้า a4 ถึงได้หนาขนาดนั้น
มันคำนวณยังไง

162 Nameless Fanboi Posted ID:EuMNp6V9K

>>161 ตอนนึงกี่หน้านี่แล้วแต่คนว่ะ 7-8 หน้าบางคนก็ยาวกว่านั้น บางตอนก็สั้นกว่าก็มีต้องดูามความเหมาะสมอีกที แต่ความหนาหนังสือปกติจะ 100 หน้า A4 ขึ้นไป เวลาเป็น A5 ก็คูณสองโดยประมาณเอาง่ายๆ

163 Nameless Fanboi Posted ID:YTdAAnIkb

>>159 มึงว่ะแต่ติดสันดานกวนตีนมาจากบอร์ดอื่น ตอนนี้โดนแบนละ

164 Nameless Fanboi Posted ID:Rt4grBNVh

กูว่ามึงโดนแบนเพราะพูดไม่รู้เรื่องมากกว่ามั้ง

165 Nameless Fanboi Posted ID:wewyFh0BA

พวกฉากบู๊แบบสงครามงี้ หรือฉากรุมๆกันหลายคนนี้จะเขียนแบบไหนให้ลื่นดีวะมึง

166 Nameless Fanboi Posted ID:YTdAAnIkb

>>164 เห็นด้วยว่ะตอนกูพิมพ์ >>159 ตอนแรกกูจะพิมพ์ว่า กูชมมึงว่ะแต่ติดสันดานกวนตีนมาจากบอร์ดอื่น ตอนนี้โดนแบนจนเข็ดแล้ว แต่ไปๆมาๆรีบเกินคำแม่งหายไปเยอะสัส

167 Nameless Fanboi Posted ID:qVrzx2.+t

>>165 กูว่ามึงต้องนั่งนึกภาพแบบเวลาดูหนังเลยอ่ะ แล้วเขียนออกมาเป็นแนวบรรยายใช้คำกระชับๆไป มึงจำไว้ว่าคนเราสู้กันได้ทีละ1-1เว้ย รุมเข้ามาก็ต้องจัดการทีละคนอยู่ดี เตะเข่าคนนี้ล้มลงไปละหันไปกันหมัดอีกคนที่พุ่งเข้ามา ไรงี้

168 Nameless Fanboi Posted ID:YTdAAnIkb

>>165 มึงลองคิดถึงหนังฮีโร่ หนังแอคชั่น หรือพวกเกมส์สงครามดูจะเห็นเป็นภาพได้ดีมากแล้วก็ตามที่ >>167 พูดไว้

169 Nameless Fanboi Posted ID:CCa8nchY4

>>165 แนะนำให้อ่านไตรภาคสุยถัง อันนี้บรรยายการรบดีมาก เป็นจุดเด่นของเรื่องเลย แต่เรื่องฉากรบกูว่าภาคแรกดูดีสุดนะ

170 Nameless Fanboi Posted ID:niYah0TeJ

กุติดเกมจนเขียนนิยายไม่ได้มา2สัปดาห์แล้ว ตั้งใจจะเขียนๆแม่งเปิดเกมเล่นแล้ววาร์ปยาว เสาร์อาทิตย์รู้ตัวว่าต้องเลิกคือฟ้าสาง กูควรทำไงดีวะ

171 Nameless Fanboi Posted ID:xkNO759aY

>>170 uninstall... ใช่ stardew ป่าววะ ส่ง account มาให้กูเล่นแทนได้นะ

172 Nameless Fanboi Posted ID:yOnbQ2rE7

เวทย์มนต์ เวทมนต์ เวทย์มนตร์ แบบไหนสะกดถูกวะ แล้วมันใช้ต่างกันยังไง

173 Nameless Fanboi Posted ID:+fwdXy9Nr

เวทมนต์ป้ะมึง กูเคยอ่านจากที่ไหนสักที่เนี่ยแหละว่าคำว่า มนต์ ไม่มี ร มาต่อท้าย
เวท ไม่มี ย์

174 Nameless Fanboi Posted ID:+fwdXy9Nr

เห้ยลืม>>172 ผิดกูขอโทษละกัน

175 Nameless Fanboi Posted ID:/kJj4kbR4

>>172 กูเข้าใจว่า มนต์>พุทธ ส่วน มนตร์>ศาสนาอื่น ไสยศาสตร์ พราหมณ์ ฯลฯ
ส่วนเวทย์ = ว. พึงรู้, ควรรู้. (ส.).
เวท = น. ความรู้, ความรู้ทางศาสนา; ถ้อยคําศักดิ์สิทธิ์ที่ผูก ขึ้นเป็นมนตร์หรือคาถาอาคมเมื่อนํามาเสกเป่าหรือบริกรรมตาม ลัทธิวิธีที่มีกําหนดไว้ สามารถให้ร้ายหรือดี หรือป้องกันอันตราย ต่าง ๆ ตามคติไสยศาสตร์ได้ เช่น ร่ายเวท, บางทีก็ใช้เข้าคู่กับคำ มนตร์ เป็น เวทมนตร์
สองคำสุดท้ายเอามาจากราชบัณฑิต

176 Nameless Fanboi Posted ID:+fwdXy9Nr

>>175 เออมึงเข้าใจถูกละ กูลองหามาดู
มนต์ " มาจากคำบาลี และ " มนตร์ " มาจากคำสันสกฤต ......

ทว่า เวลาใช้กลับใช้ต่างกัน คือ ......
ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา จะใช้ " มนต์ " เช่น เจริญพระพุทธมนต์
น้ำพระพุทธมนต์ หรือหนังสือสวดมนต์ฉบับหลวง ......

แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนาอื่น อย่างศาสนาพราหมณ์ ก็จะใช้ " มนตร์ "
เช่น น้ำเทพมนตร์ เวทมนตร์คาถา น้ำมันมนตร์ เป็นต้น .....

ตามนี้

177 Nameless Fanboi Posted ID:XDIzNt/n3

กูขอถามมั่ง สงสัยปนสบสันเหมือนกัน อาคม มนตรา คาถา ต่างกันยังไงวะ ที่กูเข้าใจคืออาคมเป็นเวทมนตร์แนวไสยศาสตร์ มนตราก็เกี่ยวกับเรื่องจิตใจลับลวงพรางเน้นการป้องกัน คาถาคือบทเวทมนตร์สั้นๆ พูดสองสามประโยคจบการร่ายมนตร์ เน้นโจมตีหรือย่นเวลาร่ายเวท

ที่กูเข้าใจถูกเปล่าวะ แล้วถ้าเรียงลำดับเก่งสุดเรียงยังไง บางทีกูแต่งนิยายตอนสู้กันด้วยเวทมนตร์ก็มึนๆ งงๆ นะว่าตัวเอกเขียนวงเวทมันต้องเรียกว่าคาถาหรืออาคมวะ สุดท้ายเลยดัดแปลงเป็นบู๊ด้วยอาวุธเวทมนตร์แทน(ฮา)

178 Nameless Fanboi Posted ID:/kJj4kbR4

>>177 อยากรู้เหมือนกัน
กูไม่สามารถแยกความแตกต่างโดยเฉพาะได้ เลยนิยามความหมายเฉพาะของคำพวกนี้ (ในเรื่องของกู) เลย

179 Nameless Fanboi Posted ID:vruGpibZp

พวกมึง kyแป้บ มีใครอยู่กลุ่มThai fantasy writer ในเฟสอะไรนี่ป่ะ คือกูเข้ากลุ่มแต่ไม่เคยไลค์หรือเม้นท์หรือแนะนำตัวอะไรเลย คือมันไม่เห็นมีอะไรถูกใจกูจริงๆซักทีน่ะ ทีนี้ตอนนี้แอดมินก็มีกฏออกมาว่าใครที่เข้าแล้วไม่เคยแสดงตัวหรือไลค์แม้แต่ครั้งเดียวจะถูกลบออกจากกลุ่มว่ะ เอาจริงๆ กูเห็นชื่อน่าสนใจหรอกถึงเข้าน่ะ แต่เอาเข้าจริงก็แทบไม่ได้สนใจเข้าไปดูเลย รู้สึกมันไม่มีอะไรใหม่ว่ะ กูเลยว่าจะปล่อยให้ลบๆไปอยู่เนี่ย อยากรู้ว่ากรุ๊ปมันมีอะไรดีมั้ยเผื่ออยู่ต่อ

180 Nameless Fanboi Posted ID:5LoEWu1Gr

คาถา น. ถ้อยคำที่ร้อยกรอง ถ้อยคำที่ผูกไว้ ถ้อยคำที่ขับร้อง ท่อง สวด
น. คําเสกที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์.

อาคม น. บทและมนตร์ในศาสนา, คาถาที่จำสืบเนื่องกันมา, เดิมหมายถึงมนตร์ ซึ่งอยู่ในคัมภีร์พระเวทของศาสนาพราหมณ์ ต่อมาหมายถึงคัมภีร์ที่เป็นสูตรคาถาต่างๆ

มนตรา อันนี้มาจากคำว่า มนตร์,มนต์ (ความหมายเดียวกัน)

สรุป 3 คำนี้ใกล้เคียงกัน
*(ในมุมมองกูนะ) คาถา ให้ความรู้สึกประมาณว่าต้องมีการท่องเป็นคำๆ มากกว่า
อาคมมันให้ความรู้สึกทางไสยศาสตร์กว่า (พวกที่มีอุปกรณ์เสริม อย่างยันต์ เขียนเขตอาคม อะไรอย่างนั้น)
ส่วนมนตรา รู้สึกว่ามันจะเกียวข้องกับจิตใจมากกว่าอันอื่น

181 Nameless Fanboi Posted ID:wsw8CMKZC

มันเป็นกลุ่มแลกเปลี่ยนข่าวสาร แลกความคิดเห็น
ถ้ามึงไม่สนใจจริงๆ ก็กดออกจากกลุ่มไปเองเลยสิ เขาก็บอกเหตุผลอยู่ จะเข้ากลุ่มแล้วก็หัดดูข้อมูล หรือกฏที่เขาตั้งบ้าง จะรอแต่ให้คนอื่นมาป้อนข้อมูลหรือไง
ปล.กูเป็นสายซุ่มในกลุ่มนั่น

182 Nameless Fanboi Posted ID:vruGpibZp

>>181 เออๆ กูผิดเอง

183 Nameless Fanboi Posted ID:XPGIuTNXJ

>>180 ที่มนตรามาจากมนตร์/มนต์ มันคือคำขยายรึเปล่าวะ เหมือนพวกจันทร์/จันทรา น่ะ

184 Nameless Fanboi Posted ID:5LoEWu1Gr

>>183 รากศัพท์มันมาจาก มนฺต(บาลี) มนฺตฺร(สันสกฤต)
พอไทยมาใช้ก็มีการเพิ่มเสียงกลายเป็น มนตรา (ใช้ในร้อยกรองให้ตรงตามฉันทลักษณ์)
อย่างจันทร์กับจันทรา นี่ก็เพิ่มเสียงมาเหมือนกัน

185 Nameless Fanboi Posted ID:XhrLHp60t

>>177 กูเข้าใจแบบนี้
อาคม = เวทย์สายดีบัฟ เสกหนังควาย ตอกตุ๊กตาฟาง สาปแช่งชาวบ้าน
มนตรา = เวทย์สายฮีลสายบัฟ เอาง่ายๆแม่งก็ตรงข้ามกับดีบัฟนั่นแหละ
คาถา = พวกบทสวดคำร่าย หลักๆฝั่งไทยนี่ดึงเอาจากการบริกรรมตามคัมภีร์พระเวท แต่ฝั่งตะวันตกกูไม่รู้

186 Nameless Fanboi Posted ID:pfONFPhCJ

เมื่อก่อนกูอ่านิยายแฟนซีเห่อหมอยเยอะอยู่เลยติดสำนวนแนวบารามอสมาบ้าง แม้จะไม่เลิศเลออะไรแต่อย่างน้อยก็ทำให้กูเขียนลื่นดีว่ะ พอมาปัจจุบันยังชอบแนวนี้นะแต่อ่านน้อยลงจนแทบไม่อ่านเลย มันทำใจอ่านเหมือนตอนเด็กไม่ไหวว่ะ ในใจมันตีกันตลอด ยิ่งเรียนมาด้านนี้ด้วย ยิ่งคอยจับผิดเข้าไปใหญ่ จากที่อ่านแล้วสนุกกลายเป็นอ่านแล้วไม่สนุกอีกแล้วว่ะ แถมเขียนไม่ออกด้วย สำนวนตอนนี้นี่ทั้งห้วนทั้งสั้นเลยว่ะแม่ง ครั้นจะหานิยายมาอ่านก็อย่างว่า กูชอบแนวเห่อหมอยแต่ทนอ่านไม่ได้จริงๆ

187 Nameless Fanboi Posted ID:7SIhuexCg

>>186 เวลาเปลี่ยน มุมมองเปลี่ยน ให้กูกลับไปเขียนแนวแฟนตาซียิงพลังตูมๆแบบเมื่อก่อนกูก็ไม่ไหวเหมือนกัน

188 Nameless Fanboi Posted ID:yo2XZ8ZXW

>>186 กอดมึงงงง เหมือนกู กูยังชอบนิยายแบบนั้นอยู่แต่พอโตมันสมเหตุสมผลเอย ภาษาเอยเข้ามาจนไม่สนุก
ปล.ำไม่รู้จะเข้าแนวรึเปล่าแต่แนะนำเรื่องนี้ http://my.dek-d.com/yong_le/writer/view.php?id=1420302

189 Nameless Fanboi Posted ID:pfONFPhCJ

>>188 โอเค เดี๋ยวจะลองดู อ่านบทแรกผ่านๆแอบเห็นคำผิด แต่ก็พอปล่อยผ่านได้อยู่ ปกติไม่ค่อยอ่านไซไฟ ลองเปลี่ยนแนวหน่อยท่าจะดี

190 Nameless Fanboi Posted ID:1c4f06qq5

เวลาคิดพล็อตอะไรได้ รู้สึกมันสนุกมากเลย แต่คิดยังไม่ว่างแต่ง เก็บพล็อตไว้ก่อน แล้วก็เขียนพล็อตทิ้งไว้
ผ่านไป ผ่านไป ว่างจะแต่งแล้ว กลับมาดูพล็อตที่เขียน ....
...มันน่าสนุกตรงไหนวะ อะไรดลใจทำให้กูอยากเขียนเรื่องแนวนี้วะ อ่านพล็อตไม่อินเหมือนใหม่ๆเลยล้มเลิกไปซะงั้น

191 Nameless Fanboi Posted ID:DvkU9l1cZ

กูเพิ่งเห็นเอนเธอร์ประกาศเข้ารอบ 3 เรื่องแรกแล้ว เป็นยังไงบ้างวะ

192 Nameless Fanboi Posted ID:JAkWnOWih

>>190 กูก็เป็น 555

193 Nameless Fanboi Posted ID:QmKPnMS4n

วันก่อนจัดตู้หนังสือ เจอนิยายแฟนตาซีที่บ้าซื้อมาช่วงรรเวทมนตร์ ...อิเหี้ยกูเปิดอ่านละกูนิ่งเลย ตอนเด็กกูเป็นยังไงวะเนี่ย55555

194 Nameless Fanboi Posted ID:k69jtvML1

>>191 คนที่เข้ารอบไม่ค่อยโอสำหรับกูว่ะ คหสต.นะ
EN7 บู๊เลือดสาด ตัวละครแบนอีก แต่กูมีความรู้สึกว่าเอนเธอร์แมร่งชอบวะ อ่านๆไปแมร่งเริ่มเหมือนไฟนอลเจ็ดผสมอะไรต่อมิอะไร แต่มันจะไปชนกับ Dear Noir ที่เพิ่งออกใหม่นะมึง
EN11 บุรุษไปรษณีย์โอเคเลยมึงแต่กูว่าไม่น่าจะชนะ
EN15 กูเฉยยยยย มีงงๆ

เรื่องที่กูชอบไม่เข้ารอบสักเรื่องเลยว่ะ
EN5 Draconic คนเขียนแมร่งประกาศถอนตัวจากการแข่งขัน กูต้องไปตามอ่านในเด็กดี เซ็งเลยมึง
EN6 จางซื่อฉวน ข้อมูลแน่นนะมึง เหมือนอ่านนิยายแปลของจีนอ่ะมึง ทำได้ดีเลย
EN16 Botanica ตอนแรกฟอร์มดีนะ แต่กูรู้สึกว่าคนเขียนเร่งไปนิด ตัวละครเลยโผล่มาเยอะไป ถ้าเขาแข่งแบบลงสิบตอน กูว่าเขาอาจจะชนะ
EN17 กามเทพ กับ EN2 หนุ่มน้อยเวทย์มนตร์ ถ้าอ่านแล้วไม่คิดอะไรมากก็สนุกดี โดยเฉพาะ EN2 กูขำไม่หยุดเลยมึง
EN18 มาสคอตต์ เเรกๆกูตกใจมากเพราะแมร่งไม่เหมือนในคำโปรย เกือบจะเลิกอ่านแล้วมรึง แต่อ่านๆไปกูว่่าเรื่องนี้เจ๋งว่ะ ไม่ค่อยเห็นแนวนี้ เหมือนเอาลุงมุมาเขียนนิยายบู๊อ่ะมึง ปรัชญาจัดหนักแต่บทล่าสุดแมร่งพีค
EN19 หนึ่งหน้ากระดาษ กูนับถือจินตนาการของคนแต่งนะ บทแรกๆอาจจะกระตุกบ้างไรบ้าง แต่บทสนทนากูว่าทำได้ดีเลยมึง

195 Nameless Fanboi Posted ID:izpYHLwSJ

>>193
ตอนเด็ก จินตนาการ ความนึกคิด ยังมองโลกได้สนุกไปกับมันจริงๆ

พอเข้าวัยทำงาน พบโลกแห่งความจริงและการกดดันจากหน้าที่การงาน เงิน หรือครอบครัว
มึงก็จะคิดว่าโลกจริงๆ มันช่างโหดร้าย

แต่กูเชื่อนะว่า มนุษย์ทุกคนยังมีวัยเด็กติดตัวกันอยู่ทุกคน
รอเวลาที่มึงมีอารมณ์อยากผ่อนคลาย มีความเผลอฝันในความคิดจินตนา มึงจะกลับมาอ่านแนวนี้สนุกได้เอง
หรือถ้ามึงอาจจะจริงจังกับชีวิตมาก
คงต้องอาศัยแนวรักตบตีแย่งชิงสามี พระเอกโครตหล่อ รวย คอยปล้ำนางเอกอย่างเดียว
เป็นคำตอบก็ได้

196 Nameless Fanboi Posted ID:izpYHLwSJ

>>194
มีกลิ่นวายบ้างไหม เพื่อนโม่ง เรื่องที่ว่ามา

197 Nameless Fanboi Posted ID:1cb4p8qRq

>>195 ชอบแนวคิดมึงว่ะ เอาจริง ๆนิยายพวกนั้นตอนกูอ่าน กูสนุกมากเลยถ้าไม่คิดอะไร วัยเด็กกูแม่งก็อยู่ตรงนั้นล่ะ กูพอใจละ โต ๆขึ้นมาอ่านนิยายไปมันหาแต่ข้อติไปหมด กูจะพยายามไม่คิดมาก 5555

198 Nameless Fanboi Posted ID:MPDZrF143

>>191 เรื่องไทม์นี่เหมือนเหรอวะ กูอ่าน Dear Noir แล้วนะ กูว่าสองเรื่องนี้ไม่เหมือนกันแต่คล้ายกันเพราะแนวเดียวกันเลยมีองค์ประกอบเหมือนกัน แบบเดียวกับเกมออนไลน์ โรงเรียนเวทมนตร์นั่นแหล่ะ

199 Nameless Fanboi Posted ID:MPDZrF143

เพิ่งเห็นว่าชี้ผิด ต้อง >>194 สิ

200 Nameless Fanboi Posted ID:iX0SaO60d

>>196 ปีนี้ไม่ค่อยวายนะ กุว่า

201 Nameless Fanboi Posted ID:M/1hefU4x

>>194 มึงคิดเหมือนกูเลยว่ะ เหมือนff7 แถมมีอะไรที่คล้ายๆกับพลังหมี่หยกด้วย
แล้วอันที่นางเคยมีปัญหาเรื่องดัดแปลงยังมีอยู่ในเรื่องอีกไหม ถ้ายังมีส่วนนั้นอยู่ก็ด้านมากนะ
พาพวกมารุมถล่มเขาแล้วยังเอาไปใช้ต่อ เจ้าตัวเขาไม่อัพนิยายต่อละแม่งเดี๋ยวโดนลักไปแล้วยกพวกรุมข่มขู่อีก

202 Nameless Fanboi Posted ID:xI5A1HxMR

>>194 เมิงอ่านทุกเรื่องเลยหรอว่ะเพื่อนโม่ง
แต่กุชอบบุรุษไปรษณีย์นะเมิง

203 Nameless Fanboi Posted ID:nS/rpVgUV

กูเอง จาก 194
>>196 กูเห็นด้วยกับ >>200 กูว่าปีนี้ไม่ค่อยวาย ถึงจะวาย กูก็จิ้นไม่ค่อยออกว่ะบางเรื่อง อย่างเรื่องกามเทพเนี่ย หนุ่มๆเยอะอยู่แต่กูจิ้นไม่ออกจริงๆเพราะเอาแต่ยิงบึ้มกับปล่อยมุขกันทั้งบท ไม่มีฉากชวนจิ้นอ่ะมึง แต่อ่านเอาฮากูก็แนะนำนะ มุขอารมณ์ชายโสดอ่ะมึง เรื่องไทม์กูก็จิ้นไม่ค่อยออกเพราะมันอึนๆ เรื่องพฤกษานี่หนุ่มๆเยอะอยุ่มึง พอจิ้นได้ จิ้นได้หลายคู่ด้วย มีสาวๆอีก ได้ทั้งนอร์มอลทั้งวายเลยมึง เรื่องเจ้าชายกับจอมมารทั้งเจ็ดกูยังไม่ได้อ่านแต่กูเชื่อว่าต้องจิ้นได้เยอะเเน่
>>198 อาจจะจริงของมึง แต่กูเชื่อว่านิยายดิสโทเปีย ยังสามารถเขียนให้แตกต่างได้มากกว่านี้ว่ะ มันไม่ได้เหมือนนิยายเกมออนไลน์หรือโรงเรียนเวทมนตร์ที่เป็นสูตรสำเร็จมากขนาดนั้นว่ะ อันนี้คหสต.นะ เหมือนทั้งสองเรื่องจะพูดถึงเรื่องการแบ่งแยกเผ่าพันธุ์ มาสคอตต์ ก็เหมือนกัน แต่ถ้ามึงลองไปอ่านดู มึงจะเห็นว่าคนเขียนเรื่องไทม์คิดโลกมาดีก็จริงแต่คอนเซ็ปต์ตื้นว่ะ มิวแทนต์โดนเหยียดแล้วก็จะปฏิวัติให้เกิดความเท่าเทียมไรงี้ ตัวเอกสับสนว่าเป็นไรกันแน่ระหว่างคนกับมิวเเทนต์เพราะมีหัวใจที่เป็นจักรกล (คือมันเป็นประเด็นที่สำคัญมั้ย กูถามหน่อย) ส่วนเรื่อง Dear Noir กูขอยังไม่พูดถึงเพราะกูยังอ่านไม่จบแต่กูอ่านแล้วสนุกว่าไทม์มาก มาสคอตต์ตอนแรกกูก็นึกว่าคงจะมาแนวเดียวกับไทม์แต่ไม่ใช่ว่ะ เหมือนคนเขียนเขาต้องการเสียดสีเรื่องอื่นๆว่าการปฏิวัติอะไรพวกนั้นแมร่งไม่สมจริงและเป็นไปไม่ได้ กูชอบความคิดเขานะ สวนกระแสดี แต่จะว่าคนเขียนไทม์ก็ไม่ได้ว่ะมึง กูลองไปอ่านคอมเม้นต์มา คนเขียนยังเด็กอยู่เลย เห็นเรียกคนอื่นว่าพี่ตลอด คงจะประสบการณ์ไม่เยอะว่ะ
>>201 ใช่ๆ กูเห็นมีคนทักคนเขียนด้วยเว้ยว่าเหมือนไฟนอลเจ็ดแต่คนเขียนก็ออกมาค้านหัวชนฝาว่าไม่เหมือน เรื่องที่นางลอกนี่ ใช่เรื่องนี้เหรอวะ กูนึกว่าเป็นอีกเรื่อง แต่กูเชื่อนะว่าคนไหนที่มีพรสวรรค์จริงๆ ต่อให้โดนลอกแค่ไหน เขาก็จะนำหน้าคนขี้ลอกหนึ่งก้าวตลอด เพราะทุกอย่างอยู่ในหัวของเขา เขาสามารถสร้างสรรค์งานใหม่ๆได้เสมอ ในขณะที่คนลอกก็เอาแต่ลอกไปว่ะ
>>202 กูอ่านเกือบหมดล่ะ พอดีคนรู้จักกูก็แข่งอยู่(แต่กูว่าไม่ชนะแน่ๆ กูอ่านแล้วกูเฉยยยย) แต่บางเรื่องกูก็เว้นเอาไว้บ้าง อย่าง EN20 เดี๋ยวกูอ่านแน่ เห็นเพื่อนบอกว่าดีแต่ยาว มากิอาร์ กับ จอมมาทั้งเจ็ดก็เหมือนกัน รอกูเคลียร์งานก่อน
บุรุษไปรษณีย์กูว่าบรรยายดีเลยมึง แต่บางทีอาจจะไม่ใช่แนวกูว่ะ คงน่าจะเป็นความชอบส่วนตัว

204 Nameless Fanboi Posted ID:5C+thVYn7

>>202 บุรุษไปรษณีย์แม่งกุงงเลย ไปประกวดนิยายสืบสวนแทนแฟนตาซีดีกว่าป่าวว่ะ

205 Nameless Fanboi Posted ID:i8lSRRl91

พูดถึงประกวดเอนเธอร์ มีปีนึงที่ใช้รามเกียรติ์มาเล่นกับเนื้อเรื่องอะ ที่พระเอกมีเชื้อสายทศกัณฐ์ น้องชายสองคน(คนละแม่กับพระเอก) คนนึงได้พลังของพระราม อีกคนได้พลังของหนุมานอ่ะ กูอยากอ่านต่อมาก พูดตรงๆ คือกูชอบพระเอกคนนี้ม๊ากมาก คนเขียนเขาไปแต่งที่ไหนเพิ่มป่าววะ หรือใครในนี้รู้จักคนเขียน ช่วยบอกเขาทีว่ามีคนรออ่านตรงนี้อยู่คนนึง

206 Nameless Fanboi Posted ID:.nBKGlqSj

>>203 เรื่องหัวใจจักรกลไม่ใช่ประเด็นมึง ตอนนี้เขากำลังปลูกถ่ายหัวใจเทียมให้คนอยู่นี่ หรือปลูกถ่ายได้แล้ววะ? อันนี้กูจำไม่ได้ เพราะงั้นกูถือว่าไม่ใช่ประเด็น 5555

207 Nameless Fanboi Posted ID:0o4ilkWza

>>206 แต่ทำไมกูอ่านแล้วเหมือนมันกำลังเล่นประเด็นที่พระเอกเป็นมิวแทนต์เพราะหัวใจจักรกลวะ
ที่ตัวผู้คุมมันบอกว่าหุ่นแสกนจนพังเพราะแยกไม่ได้
ถ้าเทียบกับความจริงแล้ว หัวใจจักรกลก็ไม่ต่างกับพวกแขนขาเทียม ไตเทียม เลยนะ
อย่างนี้คนพิการที่ใช้อวัยวะเทียมก็มิวแทนต์ละ

208 Nameless Fanboi Posted ID:5kypnFK1D

ถ้ากูตั้งชื่อนิยายแล้วดันไปซ้ำกับคนที่แต่งก่อนหน้าต้องเปลี่ยนไหมวะ คือเขายังไม่ได้ตีพิมพ์นะ แต่แต่งมาก่อนกูเกือบสองปีแล้วแต่ยังไม่จบหายเงียบ แต่กูเองก็แต่งมาปีกว่าก็เกือบจะจบแล้ว ไม่อยากเปลี่ยนอะมึง แค่ซ้ำกันตรงชื่ออังกฤษแต่ชื่อไทยไม่เหมือนนี่ยังพอผ่านได้เปล่าวะ

209 Nameless Fanboi Posted ID:IWGvUkRDr

>>208 หนังสือในท้องตลาดที่ชื่อซ้ำก็มีเยอะแยะเมิง กลัวไร
เช่น นิยายการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง เซนจูรี่ นิยายฝรั่งชื่อเรื่อง เซนจูรี่ ก็มี

210 Nameless Fanboi Posted ID:DnZ6J7jSU

>>208 มันก็ไม่น่าเป็นไรหรอก แต่ถ้าชื่อมันซ้ำเกินไปเวลาคนหาเรื่องมึงมันอาจขึ้นเรื่องอื่นแทนได้

211 Nameless Fanboi Posted ID:2xWJDlLf1

โอเค งั้นกูก็ใช้ชื่อเดิมไม่ต้องเปลี่ยนละ ขอบใจนะเพื่อนโม่ง

212 Nameless Fanboi Posted ID:T+NfZyA9E

มึงว่า Enter ปีนี้ใครจะชนะ

213 Nameless Fanboi Posted ID:JX2Fr0eEk

>>212 กูว่าไทม์ เพราะดูกรรมการอวยหนักมาก
แต่ในใจกูอยากให้มาสคอตชนะว่ะ อยากอ่านอะไรที่ไม่ใช่ดิสโทเปียกับปฏิวัติโดยเด็ก กูไม่ถูกกับYAด้วย

214 Nameless Fanboi Posted ID:oIdtVsfVi

>>213 โทษนะ เพื่อนโม่ง อะไรคือYA

215 Nameless Fanboi Posted ID:VTIlYrjx1

>>214 young adults?

216 Nameless Fanboi Posted ID:oIdtVsfVi

>>215 ขอบคุณมากๆ

217 Nameless Fanboi Posted ID:gdDbT2MOW

>>213 จริง ตอนนี้กระแสดิสโทเปียมาเพราะหนังด้วย แต่กูก็แอบเชียร์หลุยส์นะ จางซื่อชวนก็โอเค

218 Nameless Fanboi Posted ID:vcyVCi22I

>>213 กูไปไล่อ่านบทที่ห้ามาหลายเรื่อง กูว่ากูคงจะเชียร์มาสคอตเหมือนกับมึง เป็นบทที่ห้าที่กูประทับใจที่สุดแล้ว

219 Nameless Fanboi Posted ID:k9N.DIHhD

ตอนเด็กๆกูสนุกกับการเขียน พอโตเลยหันมาเรียนด้านนี้ ก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะขึ้นและเจอคนที่เก่งกว่า ตั้งแต่นั้นมากูก็ยิ่งกดดันว่ะ กูไม่สนุกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เอาแต่คิดว่าต้องเขียนออกมาให้เพอเฟคที่สุด ให้ดีที่สุดไรงี้ จนสุดท้ายก็เครียดจนห่างหายจากการเขียนไปพักใหญ่ทีเดียว ตอนนี้กลับมาเขียนเหมือนเดิมแล้วเพราะตัดไม่ขาดจริงๆ กูปลงแล้ว กะว่าจะกลับไปสนุกกัยการเขียนเหมือนเดิม ใจนึงก็อยากได้คำวิจารณ์นะ แต่อีกใจก็คิดว่ายังไม่พร้อมว่ะ กูว่าจะรับฟังแล้วเก็บไว้ใช้ทีหลังตอนกูมั่นใจกว่านี้ว่ะ แต่ก็กลัวอีกว่ามันจะกลายเป็นกูเอาแต่หนีนี่สิ ก็กลับมากดดันอีกรอบเลยแม่ง สรุปคือกูยังอยากสนุกกับการเขียน เขียนช้าๆไปเรื่อยๆจนได้ความมั่นใจกลับมาก่อนว่ะ หลังจากนั้นตงค่อยว่ากันอีกที ถึงไม่รู้ว่าจะสำเร็จมั้ยหรือใช้เวลานานแค่ไหนก็เถอะ...

220 Nameless Fanboi Posted ID:4aQk3XBWV

ปกติถ้าเขียนแล้ว ตัวเองรู้สึกไม่สนุก
ไม่หยุดเขียนเรื่องนั้น ก็ต้องกลับมาปรับปรุงให้เข้ารูปเข้ารอย
กูยอมรับอย่างหนึ่งคืออารมณ์ในการเขียน ถ้าไม่มีเนี่ย ยังไงเรื่องก็ไม่ไป
ซ้ำรู้สึกทรมารตัวเองยังไงก็ไม่รู้

221 Nameless Fanboi Posted ID:tB75jQP4h

กูมีปัญหากับการบรรยายฉากแนวๆโรแมนติคว่ะ พอถามได้ไหม? ไม่รู้เก่าๆมีถามไว้ยัง แต่อ่านๆดุแล้วไม่เจอนะ ถ้ากูไม่เห้นก็ขอโทษด้วย ตาลายสัสๆ

222 Nameless Fanboi Posted ID:KGSMH+X05

เอนเทอร์ประกาศผลคนเข้ารอบหกคนแล้วเว้ย พวกเมริงงงงง

223 Nameless Fanboi Posted ID:BhaVpQrin

>>222 ใครมั่งวะ

224 Nameless Fanboi Posted ID:KGSMH+X05

>>223 สามเรื่องแรกที่เข้ารอบเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เรื่อง ไทม์ บุรุษไปรษณีย์ วันวาล
สามเรื่องที่เข้ารอบสัปดาห์นี้ก็ อาร์ติซาน จางซื่อซวน นิทานหายนะ
กูไม่รู้จะเชียร์ใครเลยมึง ไม่ชอบซักเรื่อง กูว่าถ้าหนึ่งในหกเรื่องนี้ชนะ กูก็คงไม่ซื้อหนังสือเค้าว่ะ
บางเรื่องที่ตกรอบไป กูยังชอบมากกว่า กูอยากให้พวกเขาลงต่อในเด็กดีว่ะ

225 Nameless Fanboi Posted ID:fBtYgm4jS

>>224 เมิงลองอ่านดูยัง กูว่า3-4 เรื่องสนุกเลยนะ แต่คงแล้วแต่รสนิยม

226 Nameless Fanboi Posted ID:KGSMH+X05

>>225 อ่านแล้วกูถึงมาบ่นไงเมิง คงเป็นความชอบส่วนตัวของกูมั้ง

227 Nameless Fanboi Posted ID:volftjgWL

กูถามห้องนี้ได้ไหม กรุ๊ปปล่อยของบึ้มไปแล้วหรือวะ กูไม่ได้เข้าไปพักนึงอยู่ๆก็หายไป

228 Nameless Fanboi Posted ID:uvW/GRlVN

พดดีแต่งนิยายอยู่เรื่องหนึ่ง จีนโบราณนะ เพื่อนโม่ง
แล้วคิดในใจไว้ว่าตอนจบพระเอกน่าจะมีกับนางเอกหลายคน ( 6-7 คน)
กับแบบคิดว่าใช่ที่สุดคนเดียว (คนอื่นๆ แบบอกหักไปตามๆ กัน)

คนอ่านระบุเพศว่า คนอ่านผู้หญิง แบบไหนจะชอบมากกว่ากัน

ส่วน คนอ่านผู้ชาย ที่ลองเกริ่นๆ คงชอบแบบฮาเร็มอยู่แล้ว

229 Nameless Fanboi Posted ID:5w4SUfyFU

>>228 กูเลือกคนเดียววะ คือเอาฮาเร็มแล้วกูยี้มากยกเว้นเรื่องที่มันใช้จริงๆกูถึงไม่ค่อยเป็นอะไร

230 Nameless Fanboi Posted ID:yMLE4c.52

>>228 กูคงแนวคล้ายเรื่องschool of the wildว่ะเหมือนจะฮาเรมแต่สุดท้ายก็ปรากฎว่าควีนคือคนที่ใช่ อันนั้นกูโอเลย

231 Nameless Fanboi Posted ID:tMN+gzi26

>>228 ยุคก่อนมีหลายเมียไม่ผิดนะ ถ้ามึงอยากจบแนวนี้ก็ต้องทำให้พระเอกดีงามและสร้า่งสตอรี่ให้คนอ่านเชื่อว่ารักจริง อย่างเจาะเวลากับพยัคฆราชก็มีหลายเมียแต่ผู้หญิงก็ชอบกัน สำคัญที่สุดคือเรื่องของมึงทำให้คนอ่านยอมรับได้รึป่าว

232 Nameless Fanboi Posted ID:uvW/GRlVN

>>231 นี่แหละที่กูกลัวสุด ลองยังสองจิตสองใจจะเอายังไงดีอยู่

233 Nameless Fanboi Posted ID:j6GoTM/PK

ถ้าจะมีหลายเมียตามยุคสมัยกูก็เข้าใจ แต่ยังไงกูก็ยี้ฮาเร็มอยู่ดี

234 Nameless Fanboi Posted ID:zMbuUe504

>>230 สรุปเลือกควีนแล้วเหรอเราอ่านถึงช่วงควีนหายพระเอกลังเลสับสน โคตรรำคาญพระเอกเลย

235 Nameless Fanboi Posted ID:JX4aEQWhk

>>234 มันอวยซะขนาดนั้น แต่กูชอบดัลดัลมากกว่าวะ

236 Nameless Fanboi Posted ID:9uUUI0mG1

>>234 ควีนว่ะมึง กูชอบดัลดัลนะแต่ดูมีแววไปคู่กับคนอื่น ดีแล้วมึง กูเริ่มหมั่นไส้พระเอกเบาๆ

237 Nameless Fanboi Posted ID:2ddVXXTaJ

เออมึง คืองี้นะ กูพล้อตนิยายคร่าวๆไว้ 2 เรื่อง ซึ่งนิสัยพระเอกนางเอก 2 เรื่องนี้แม่งคล้ายกัน ประเด็นคือกูจะให้สองเรื่องนี้ใช้นามปากกาคนละอันกันมัน สมมุติถ้าคนอ่านได้อ่านทั้ง 2 เรื่องจะมันจะมองว่าก้อปรึเปล่าวะ หรือนี่คิดมากไปเอง ;-;

238 Nameless Fanboi Posted ID:IX9HK1IZT

>>237 นิสัยคล้ายไม่น่าเป็นไรนะมึง กูอ่านสิบเรื่องมันก็มีตัวละครนิสัยซ้ำกันสักเรื่องสองเรื่องละ(และอาจไม่ใช้แค่คนเดียวด้วย)

239 Nameless Fanboi Posted ID:+1tsEoFgc

ประกาศรางวัลชนะเลิศแล้วนะเมิง เอนเธอร์
ที่1 INCOGNITO
ที่2 จางซื่อชวน
ที่3 หลุยส์

240 Nameless Fanboi Posted ID:awefFWmu8

>>239 เบสตี้ไม่ติดใช่ป่ะ กูยังรู้สึกแปลกๆกับข่าวที่ว่าเคยลอกกับนิยายที่ส่งเป็นภาคต่อ อยากรู้เรื่องต้องอ่านให้ครบน่ะ

241 Nameless Fanboi Posted ID:n6PCvtRDX

ถ้ากูวางคาแรคเตอร์สาวๆในนิยายแบบตามสูตร เช่นสาวห้าว สาวคูล สาวร่าเริง สาวซึนไรอย่างนี้มันจะดูคิโม่ยเป่าวะ ถ้าให้ลักษณะนิสัยคล้ายๆกันหรือเรียลไปมันจะทำให้นิยายดูจืดมั้ย

242 Nameless Fanboi Posted ID:cxw4TeFDe

>>240 ช่าย ไม่ติดหนึ่งในสาม เรื่องลอกอะไรนี่ไม่รู้นะ แต่เขาส่งนิยายภาคสองมาก่อนภาคหนึ่งว่ะ คืออ่านมากุก้งงๆ เลย อยู่ๆเหมือนอ่านมาเจอแก่นเรื่องเฉยๆ

243 Nameless Fanboi Posted ID:a6euy0GTH

>>241 จริงๆก็แล้วแต่เรื่องมึงนะถ้าแนวแฟนตาซีเบียวๆก็คงไม่ต้องเรียลขนาดนั้น แต่ถ้ามันตามเทมเพลตสาวซึน สาวคูล อะไรแบบนี้เกินไปมันจะน่าเบื่อวะ แบบอะไรกันตัวละครแบบนี้อีกแล้วเหรอ ได้อารมณ์สาวปั๊มโรงงานวะ

244 Nameless Fanboi Posted ID:nKo.SHO8C

>>242 กูก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรมาก แค่เห็นเขาพูดๆกัน แต่เอาภาคสองลงประกวดนี่มันยังไงๆอยู่นะ อธิบายไม่ถูกว่ะ คืออ่านตอนแรกผ่านๆ กูว่าภาษาก็โออยู่นะ แต่มานึกว่ากูต้องตามอ่านทุกภาคเพื่อจะได้เข้าใจนี่มันก็ไม่ใช่อ่ะ

245 Nameless Fanboi Posted ID:s4IvhPVdH

>>245 เฮ้ยกุไปอ่านตอนล่าสุดในหน้าประกวดมา มันก็บอกนะว่าอันเก่าแค่ภาคเสริม ไม่ต้องอ่านก็ได้ หรือกุจะเข้าใจผิดไปวะ

246 Nameless Fanboi Posted ID:660HyUUr4

กูไม่รู้ว่าต้องไปมู้ไหน แต่ขอพื้นที่มู้นี้แล้วกัน กูอัดอั้นตันใจจริงๆ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=815674155178248&set=a.803123763099954.1073741866.100002070135583&type=3&theater

อีห่านี่แชร์กันเป็นพัน แต่แม่งมั่วชิบหาย กูหงุดหงิดที่แม่งเขียนอะไรมั่วๆเหมือนให้ความรู้คนอื่น แต่จริงๆแม่งไม่ได้รู้จริง หลักฐานมีตรงไหนเหรอที่บอกว่าอันนี้เป็นต้นฉบับของฝรั่งเศสจริงๆ แค่ชื่อ Blanchette อ่านเป็นบลันเชตเต้ก็ผิดแล้วอีสัส ยังจะมีน้ำหน้ามาแถอีก

จริงอยู่ว่าต้นฉบับของหนูน้อยหมวกแดงตีพิมพ์ครั้งแรกที่ฝรั่งเศสโดยชาร์ล แปร์โรต์ ก่อนที่พี่น้องตระกูลกริมม์จะเอาไปรวบรวมใหม่แล้วเปลี่ยนบางส่วน แต่เนื้อหามันไม่ใช่แบบนี้ค่ะอีดอก แค่มึงหาว่า Le petit chaperon rouge Perreux แม่งก็มีมาให้อ่านแล้วว่าเป็นเรื่องราวยังไง อ่านฝรั่งเศสไม่ออกก็มีแปลอังกฤษให้อ่าน ไม่มีหนูน้อยหมวกแดงขี้ หรือว่าหมาป่าเป็นพระเอกเหี้ยอะไรหรอก เพราะตัวแปร์โรต์ก็เขียนสรุปให้เองด้วยซ้ำว่าเนื้อเรื่องมันต้องการสื่อว่าเด็กสาวไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้า นี่เหี้ยอะไรก็ไม่รู้

เวอร์ชั่นอื่นๆถึงจะเนื้อหาแตกต่างกันบ้างแต่ก็จะคล้ายๆกัน บางเวอร์ชั่นของฝรั่งเศสหมาป่าเหี้ยขนาดเอาเนื้อยายให้หนูน้อยหมวกแดงกิน กริมม์เพิ่มคนตัดไม้/นายพราน มาช่วยหนูน้อยหมวกแดง ถ้าเป็นเวอร์ชั่นที่เล่าในอิตาลีก็จะเฟมินิสต์หน่อยแบบว่าหนูน้อยหมวกแดงฉลาดสามารถจัดการหมาป่าได้ด้วยตัวเอง แต่อันนี้คือไรอ่ะมึงงงง เหี้ยเอ๊ยยยย

247 Nameless Fanboi Posted ID:nKo.SHO8C

>>245 เหรอ ไม่รู้สิ กูอ่านแค่ผ่านๆน่ะ
>>246 อะไรของแม่ง กูอ่านไม่จบว่ะ รู้สึกมั่วๆชอบกล

248 Nameless Fanboi Posted ID:r8RxwEGev

>>246 ขอต้นฉบับที่มีเนื้อความตามที่มันเขียนมาที

249 Nameless Fanboi Posted ID:WPm4YKutv

>>248 มันจะไปมีได้ยังไง กูว่ามันมั่ว ทำนองเขียนมั่วๆแล้วไม่คิดว่าจะดังขนาดนั้นมั้ง มันบอกมันเคยได้ยินมา เดี๋ยวจะหาหลักฐานมาประกอบ แถมบอกว่าให้ลองไปกูเกิ้ลหาดูมีแน่ๆ กูนี่อุตส่าห์ไปหากูเกิ้ลว่า blanchette le petit chaperon rouge แม่งไม่มีข้อมูลเหี้ยนี่ด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเป็นต้นฉบับภาษาฝรั่งเศสบ้านไหนที่หาเป็นภาษาฝรั่งเศสยังค้นไม่เจอ

250 Nameless Fanboi Posted ID:7GHgdlYtp

กุว่าน่าจะหมายถึง Blanchette ที่มาจากนิทาน The True History of Little Golden-Hood ของ Charles Marelles มากกว่า เป็นหนูน้อยหมวกแดงอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ซึ่งเนื้อเรื่องแม่งคนละเรื่องกับไอ้ที่แชร์ๆ กันมาเลย เวอร์ชั่นที่เขาแชร์ กุไม่เคยอ่านเจอที่ไหนเหมือนกัน

251 Nameless Fanboi Posted ID:Xk3.fJy2U

>>246 กูสงสัย เห็นบอกอยู่เนเธอแลนด์ ภาษาเค้าอ่านงี้ได้มั้ยวะ เข้าไปดูเฟสกับทวิตยังไม่เห็นอาการเบียวเท่าไหร่แต่ไม่แน่ใจว่ะ โตยังวะเนี่ย

252 Nameless Fanboi Posted ID:cqPAHsgBV

มึง กูมีอะไรจะบ่น คือตอนนี้กูเอียนความที่คนแม่งบอกนิยายกูดีว่ะ กูแม่งเขียนนิยายรักใช่ปะ แล้วกูไม่ใช่สายหลัก พระเอกกูบ้าน นางเอกกูก็บ้าน เขียนนิยายวาย กูก็ไม่ใช่สายโหดเถื่อนเป็นสายดราม่าเล่นกับความรู้สึก ปมวัยเด็กที่เคยผ่านความรุนแรงในครอบครัวมาแบบนี้
คือจริงๆ กูควรดีใจนะที่เขาบอกนิยายดี แต่คือกูเริ่มเอียน กูโดนบก. ดองเพราะบอกว่านิยายกูดีแต่ไม่ใช่กระแส พอกูถามว่ามีปัญหาอะไรให้แก้ไข พวกพล็อตเรื่องหรือภาษา แม่งก็บอกกูว่าไม่มี แต่มันเป็นเรื่องกระแส ไม่อยากให้แก้ไขเลย ดีแล้ว แต่กระแสมันไม่ดี กูแบบ เอ้า... สรุปกูต้องทำยังไงไหนบอกกูสิ
คือกูก็ดีใจนะที่นิยายโดนเรียกว่าดี แต่แม่งแบบ... เฮ้ย นิยายกูดีแล้วก็ดอง แม่งเป็นความรู้สึกที่เจ็บใจเสียฉิบ กูแม่งขาดความมั่นใจมากตอนนี้ กูมีความสุขมากตอนที่เขียนนิยายที่เขาบอกว่าดี ชอบมากที่จะศึกษา ใส่ปมเล็กๆ น้อยๆ หรือเรื่องที่ไม่เพ้อฝัน ชอบใส่ปมด้านจิตวิทยา แต่แม่ง กูรู้สึกเหมือนที่กูทำมาไร้ค่า สมัยกูเป็นเด็กจูนิเบียว กูเขียนเหี้ยอะไรไม่รู้ ภาษาก็ห่วย อีโมติคอนก็มี พล็อตแม่งกลวงๆ แต่เสือกคนชอบ คนอ่านเยอะ อยู่ในกระแส คือกูก็โตขึ้นแล้ว กูกลับไปเขียนอะไรแบบนั้นแล้วแม่งมีความขัดแย้งในตัวว่ะ แล้วกูก็ทำใจไม่ได้ถ้ากูจะไปเขียนแนวพระเอกเป็นมาเฟียปล้ำนางเอกโดยไม่ได้รับความผิดด้วย กูควรทำยังไงดีวะ ตอนนี้ลึกๆ ในใจกูอยากได้จุดยืนในชั้นหนังสือหรือในวงการบ้าง ไม่ใช่แบบ ชมกูแต่ฉุดกูให้เจอเรื่องเหี้ยๆ ทิ้งกูไว้กลางทางแบบนี้อ่ะ แม่ง

253 Nameless Fanboi Posted ID:Xk3.fJy2U

>>252 อ่านแล้วจุกจัง...

254 Nameless Fanboi Posted ID:0c1kDY8FZ

>>252 มึงไม่ต้องแก้ เอาจริงๆนิยายมึงมันก็มีกลุ่มตลาดรองรับ กูก็อยู่ในกลุ่มตลาดนั้น สนพอาจจะไม่เข้ากับสไตล์มึง ลองหาดูก่อน ไม่ต้องแก้งาน ของมันดีก็ไม่มีอะไรต้องแก้

255 Nameless Fanboi Posted ID:JloTBLDW2

กู >>252 ขอบคุณมาก แต่แม่ง เจ็บใจชิบหาย เจ็บใจสัดๆ ยอมให้ด่าว่างานไม่ดีน่าจะดีกว่าการโดนบอกว่างานดีแต่ขายไม่ได้อีก ฟักมาก

256 Nameless Fanboi Posted ID:/U.1J0eid

>>255 มึงลองเพิ่มฉากกระแสเข้าไปในช่วงกำลังคลายปมมั้ย เผื่อคนอ่านจะได้ไม่จุกมาก เครียดครึ่งนึง กระแสครึ่งนึง ถือว่าชาเล้นตัวเองใหม่ว่าจะทำไงให้มันลงตัวอย่างละครึ่ง

257 Nameless Fanboi Posted ID:r5csOXjFy

>>256 ขอบคุณมากเว้ย กูกำลังหาจุดสมดุลอยู่ แต่ยอมรับว่าเสียสูญไปหน่อยเจอแบบนี้เข้าไป บก. กูแม่งบอกว่า เดี๋ยวนี้เด็กๆ อ่านเยอะ ไม่ชอบเรื่องมีสาระ เรื่องหนักๆ เรื่องจริงจัง กูแม่งชอบทุกอย่างที่พูดมา ก็ว่าแม่งทำไมหาอ่านอะไรแบบที่ชอบยากฉิบ

258 Nameless Fanboi Posted ID:h3rj+mPjy

>>257 ลองลงในเน็ตดูฐานกระแสก่อนมั้ย ไม่ก็เลือกสนพ.ที่โตขึ้นมานิดนึง

259 Nameless Fanboi Posted ID:SNyLWY.nk

>>258 กูลงในเน็ตไปแล้วแหละ แต่ไม่เวิร์ก555555555555

260 Nameless Fanboi Posted ID:h3rj+mPjy

>>259 งั้นทำใจว่ะ... แต่กูเชื่อว่าถ้าของมึงดีจริงๆ ซักวันก็ต้องคนเห็นคุณค่านะ... น้ำเน่าไปไหมวะ...

261 Nameless Fanboi Posted ID:ysSiPOpU9

>>260 ขอบใจว่ะ ถึงแม้จะน้ำเน่าแต่กูสัมผัสได้ ถุยยย

262 Nameless Fanboi Posted ID:w3ev9GPOm

กูว่าลงเน็ตมึงก็ต้องหาวิธีโปรโมทหน่อยนะแบบถ้าลง dek-d กูก็ไม่ไปขุดหาหรอก ไปเสนอหน้าเอาลิงค์ไปโฆษณาในกลุ่มที่ดูแล้วน่าจะอ่านงานมึง(ก็คงไม่ใช้กลุ่มเด็กๆ)อะไรแบบนี้วะ

263 Nameless Fanboi Posted ID:Gk0sXKYGF

มึงก็พิมพ์ขายเองเลย เปิดพรีออเดอร์แล้วจัดไป จะได้ไม่ต้องรอกระแส กูบอกเลยการรอให้กระแสมาทางมึงไม่ทำให้มึงมีจุดยืนได้หรอก เพราะถึงตอนนั้นพวกที่มีแฟนคลับมากๆ มันก็เอาไปแดกหมดแล้ว มึงต้องเดินไปข้างหน้าถึงมันจะลำบากก็ตาม ถ้านิยายมึงดีคนอ่านแล้วติด เดี๋ยวมันก็ขายได้มากขึ้นเรื่อยๆ เอง เดี๋ยวมึงก็มีจุดยืนที่มึงอยากมี

264 Nameless Fanboi Posted ID:AEYae1+mH

ขอบคุณทุกคนมาก กูกำลังหาทางอื่นในการลงนอกจากเด็กดีอยู่ เรื่องพิมพ์เอง กูเคยพิมพ์เองอยู่สามสี่เล่ม ยิ่งเปลี่ยนมาแนวโตขึ้น ดราม่าขึ้นยิ่งไปไม่รอดว่ะ คนอ่านน้อย แล้วนิยายรักทั่วไป (ไม่วาย,ไม่สายเถื่อน,ไม่สายหื่น) แฟนคลับที่จะซื้อก็น้อยด้วย กูจะพยายาม

265 Nameless Fanboi Posted ID:ZgHsnCMZy

>>264 กูอยากอ่านงานมึงเลยยย

266 Nameless Fanboi Posted ID:4ycl7bVHp

>>265 ขอบคุณที่อยากอ่านนะแต่กูกลัวโม่งแหกว่ะ *กำโม่งแน่นมาก*

267 Nameless Fanboi Posted ID:SKGDsdkvb

มึง เอ่อ กูไม่รู้ตรงนี้ถูกรึเปล่า แต่ถ้าใครรู้ ช่วยรบกวนแนะนำหนังสือที่มีบทบรรยายรูปลักษณ์ นิสัยตัวละครแบบที่คิดว่าดีสำหรับตอนอ่านมาให้หน่อยได้มั้ย(คือกูชอบบทบรรยายแบบไม่เวิ่นเว้อ เห็นภาพชัดเจน แล้วก็ไม่เลี่ยนน่ะนะ) จะเอาไปให้เพื่อนอ่าน
[บ่นนิด(ไม่ใช่นินทานะเพราะกูบอกเพื่อนกูไปตรงๆละ) คือ ถ้าพวกมึงนึกภาพการบรรยายแบบแจ่มใสออก อย่างแบบ ผมสีถ่านชาโคลผสมกับสีมอคค่า ไล่โคนด้วยสีสันแสบตาอย่างส้มซันคิสต์ ริมฝีปากทาด้วยลิปของชาแนล ดวงตาอ่อนหวานของเธอหรี่ลงอย่างอ่อนโยน เม็ดอัลมอนด์สีน้ำตาลอ่อนหวานซึ้งกลอกไปมาราวจะยั่วยวน ร่างบาง แขนบาง ตัวบาง ข้อเท้าบาง ข้อศอกบาง(อันนี้กูงงแล้วนะ แต่แม่งมีตาบางด้วย..มันเป็นไงวะ..) คือแบบ บางคำก็โอเคอยู่นะ แต่โผล่มาบ่อยเกินไปมั้ย อย่างอ่านสามบรรทัดจบ ร่างบางมา สองบรรทัดจบ ใบหน้าหวานอมเปรี้ยว(?)มาอีกเป็นชุด บางทีก็แบบ บรรยายความงามตลอด แบบจะเดินจะยืนยังต้องพรรณนาความสวยแทบจะทุกวินาทีจนกูเอากระดาษตบหัวมัน นี่มึงจะเเต่งบทนารีปราโมทย์รึไงคะสัส]

268 Nameless Fanboi Posted ID:YTpLYpkhm

>>267 โอ๊ย กูมารอด้วย แค่บรรยายผมสีธรรมดาก็ว่ายากแล้วนะ อย่างผมสีดำรัตติกาลกูยังพอทน แต่ไอ้ผมสีชาโคลห่านี่มันอาร๊ายยย!! แล้วข้อเท้าบางกับข้อศอกบางคือ? เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินวุ้ย ตาบางนี่ตารีเล็กไรงี้ป่ะ แต่แบบ... /กุมขมับ
กูสายนิยายแฟนตาซี ตอนเด็กชอบนะเว้ย การบรรยายความงามตลอดเวลาน่ะ แบบแต่งเก่งว่ะ แต่พอโตมา เอิ่ม รำคาญสุดๆ

269 Nameless Fanboi Posted ID:SKGDsdkvb

>>268 ฮือ เนอะมึง...เมื่อก่อนกูก็อ่านของกัลฐิดาและบลาๆอย่างไม่ขัดตานะ แต่พอโตขึ้นมาแล้วแบบ อ่านสะดุด อ่านสะดุด นี่จะเดินไปตลาดรึไปงานพรอมกันคะเนี่ย555//ชาโคลรู้สึกจะเป็นถ่านดำๆ แต่พอกูขอให้มันอธิบาย มันก็บอกให้กูไปกูเกิ้ลเอาเอง..แต่ตาบางนี่มันไม่ได้อธิบายกู..ข้อศอกบางด้วย แต่กูเกินจะทนกับบรรดาแบรนด์เนมทั้งหลายที่มันยกขโยงมา..เพราะตัวเอกแม่งเป็นนักเรียนโรงเรียนรัฐ บ้านจนด้วย นางเลยขอทุนโรงเรียนอยู่ แล้วแบบ แชนเนล? แอร์เมส? ดิออร์ ?ไนกี้? เวอร์ซาเช่?(คือกูไม่ค่อยสนพวกของแบรนด์เท่าไหร่ แต่ดูมันจะสนชิบหายจนกูสงสัยว่านี่มึงได้ค่าโฆษณามาปะวะ) แม่งโคตรจะไม่ดูบริบทเล้ยย

270 Nameless Fanboi Posted ID:o1olD.bsA

>>267 มันก็เยอะนะถ้าไม่ใช่นิยายรักๆ หรือแฟนตาซีเด็กเขียน คิดว่ามันอยู่ที่นิยายแต่ละเรื่องด้วยมั้ยนะ อย่างกูอ่านพวกนิยายทั่วไป สืบสวน มันมีตัวละครหลากหลายประเภท ทั้งคนแก่ คนหนุ่ม คนอ้วน คนผอม จมูกบี้แบน จมูกโด่ง ใบหน้ากลม ใบหน้ารูปไข่ คนหน้าตาดีในเรื่องก็เลยจะไม่พร่ำเพรื่อก็จะบรรยายผ่านจากมีสาวๆ หรือหนุ่มเข้ามาทัก หรือมีบริบทที่ทำให้เข้าใจว่าคนนี้มีเสน่หฺ์และเจ้าชู้ บลาๆ ก็ว่าไป

ขณะที่นิยายที่เน้นว่าทุกคนหน้าตาดีหมด แบบนี้แหละจะปวดหัวเพราะมึงจะเจอชุดคำซ้ำซาก (มึงบอกเขาแก้มตอบ ผิวซีด หรือมีกระก็ไม่ได้ จะบอกตัวอ้วนเผละหรือผอมเป็นไม่เสียบผีก็ลำบาก) เลยออกมาเป็นการเปรียบเปรยอะไรประหลาดๆ เยอะมาก คือสีตา/สีผมสารพัดจะหาพืชพันธุ์บนโลกมาเปรียบ ตาแม่งก็กลมหรือคมได้อย่างเดียว มีช่วงนึงนิยายรักกูนี่เห็นเอะอะก็ทรงรากไทรๆ โวะ ไม่มีทรงอื่นกันหรือไงวะ หัวล้านได้มั้ย รองทรงก็ยังดีเป็นต้น

ส่วนแบรนด์กูไม่ชอบการบรรยายแบบประโคมแบรนด์มาก คือบางทีพอใส่ไปเยอะๆ กูว่าคนเขียนดูแบบสงสัยตอนเขียนเพิ่งเคยรวยเหรอเขียนมารัวๆ นึกภาพแล้วมันออกมาไม่น่าจะเข้ากันเท่าไรว่ะ อันที่จริงชอบพวกบรรยายเสื้อแบบไหนๆ ไปมากกว่า จะสเวตเตอร์ จะเดนิม แจ๊คเกต หรือนุ่งผ้าซิ่นก็ว่ามา อันนี้ทำได้หลากหลายกว่าบรรยายหน้าตาอีก

ไปๆมาๆ เหมือนแค่มาบ่นมากกว่าเลย 55+

271 Nameless Fanboi Posted ID:MBhibBYMQ

>>269 คืออย่างน้อยขอให้อ่านแล้วนึกภาพในหัวเลยได้ป่ะ เผื่อกูอ่านนอกบ้านไม่มีเนท หาอากู๋ไม่ได้ให้ทำไง ต้องจำกลับมาหาที่บ้านเหรอ แล้วอ่านไปค้นไปเนี่ยนะมึ้ง ไม่ใช่นะเว้ย
>>270 เออว่ะ บรรยายเสื้อผ้ายี่กูค่อนข้างชอบนะ ต้องมาหาว่าไอ้นี่เรียกยังไงๆ ไหนจะต้องตามแฟชั่นอีก 555 แต่กูไม่ใส่แบรนด์เพราะมันก็แค่ชื่อเนอะ อย่างลิปชาแนลที่ว่า ลิปเนื้ออะไร? ลิปสีไหน? ก็ไม่บอก บอกแต่ยี่ห้อ...

272 Nameless Fanboi Posted ID:o1olD.bsA

>>271 เป็นเหตุผลนึงที่ไม่ชอบการบรรยายด้วยยี่ห้อว่ะ คือแฟชั่นมันตามกระแสด้วย ให้ความรู้สึกไม่กี่ปีมาอ่านใหม่ความรู้สึกมันก็เปลี่ยนว่ะ และอย่างที่มึงบอกคือมันบรรยายแค่ ฉันถือกระเป๋าแอร์เมสโก้หรู แต่มึงไม่สามารถบอกรุ่นมันได้ ใส่ได้แค่ limited กูว่ามันดูทื่อพิลึก

ว่าไปเลยนึกออก การบรรยายพวกแบรนด์เนม นึกถึง คำสารภาพของสาวนักช๊อป ว่ะ กูว่าเรื่องนี้ถือว่ามึงจะได้เห็นความคลั่งแบรนด์ของอีนางเอก มีการพูดถึงแบรนด์ต่างๆ หรือเวลามันพล่ามเสื้อผ้าดีอยู่นะ แต่ต้องทนความเหี้ยของอีนางเอกได้หน่อย เพราะมันเป็นพวก chic lit น่ะ 555+

273 Nameless Fanboi Posted ID:0y6aAw4pM

>>267 เหี้ยไรเนี่ย กูอ่านแล้วคันคอจริงๆ เมื่อก่อนก็อ่านได้นะพวกบรรยายฟุ้งๆฉากหลังเป็นสีชมพู นางเอกต้องสวยตลอดเวลา แต่ตอนนี้อ่านแล้วขนลุกแปลกๆ

274 Nameless Fanboi Posted ID:qbPeJMHIk

>>272 เรื่องนั้นกูมันมากเวลาอ่านนางเอกพูดเรื่องแบรนด์ รู้สึกแด๊ะแด๋ตามนางขึ้นมาทันที

275 Nameless Fanboi Posted ID:V7rJqjzWW

>>274 กูมันส์เวลานางแม่งสร้างเรื่อง ก่อปัญหาแล้วหมักหมม อ่านไปเครียดแทนอีนี่ ยิ่งตอนความจะแตก กูแบบโอ้ยย ไม่อยากเห็นเสี้ยววินาทีนั้นเล้ยยยย (แต่งานคนนี้เป็นแบบนี้ทุกครั้ง นางเอกต้องเจอสถานการณ์ทุกอย่างวินาศสันตะโรแล้ว) โทษทีที่นอกเรื่อง 55+

276 Nameless Fanboi Posted ID:yIVS.fOEy

เทียบกับนิยายฝรั่งนะ แทบไม่มีบรรยายสีผมสีตาเลย ยกเว้นตัวหลักจริง ๆ บางเรื่องน้องนางเอกผมสีไรยังจำไม่ได้ เพราะเขาไม่ค่อยบรรยาย ทั้ง ๆ ที่เขามีผม/ตาหลากสีนะ ของไทยมันก็มีแค่ดำกะน้ำตาลเข้มป่ะ จะบรรยายไรมากมาย

แต่พอเป็นแฟนตาซีนะ เล่นสีเป็นลูกกวาดกันเลยว่ะ สงสัยเก็บกดที่ประเทศเราไม่หลากสี
กูเคยอ่านเรื่องนึงมีตาแดง 2 คน นางเอกตอนแรกว่าแดงอาทิตย์ตก อีกคนแดงเชอร์รี่ แต่อ่าน ๆ ไปแม่งกลายเป็นแดงสตอเบอรรี่มั้ง กุหลาบมั้ง เลือดมั้ง กูเริ่มงง ว่าสรุปยังไงเลยเลิกอ่านมันเลย รำคาญ

277 Nameless Fanboi Posted ID:t6AOwqNgX

>>276 ติดมาจากบารามอสมั่ง แต่แฟนตาซี(ที่อิงการ์ตูน)มันมีความหลากหลายทางธรรมชาติ ต้องบรรยายสิ่งที่มันไม่ปกติในโลกกูก็พอให้อภัยนะ แต่ถ้าไม่เด่นจริงอย่าย้ำทุกๆรอบเถอะ พูดรอบสองรอบตอนช่วงเปิดตัวหรือบรรยายความงามก็พอ เกลียดมากเลยไอ้จำพวกใช้ลักษณะทางร่างกายเป็นสัพนามจำพวกเจ้าของดวงตาสีXXX ผมสีYYY บรรยายด้วยชื่อหรืออย่างน้อยก็ฉายาเถอะ

278 Nameless Fanboi Posted ID:PzcVqcxIv

แล้วแต่คนนะ แต่กูไม่แนะนำให้มึงใส่ฉากดราม่ามากเกินความจำเป็นวะ ยิงศีลธรรมแบบตายตัว
ดัดจริตในละครไทยนี่อย่าใส่เด็ดขาดวะ แล้วฐานข้อมูลทำให้แน่นด้วย

279 Nameless Fanboi Posted ID:ccP+eThoX

>>277 กูโอเคนะ ถ้าใช้บรรยายตัวละครหลักหรือมีลักษณะเด่น แต่ถ้าแม่งมาเป็นคำขยายสีแบบ >>276 นี่ก็ไม่ไหวว่ะ หรือถ้าตัวละครแม่งมีเป็นสิบ ออกฉากละหลายๆ ตัว หรือบรรยายตัวประกอบเงี้ย ใครจะไปจำกะมึ้งง

280 Nameless Fanboi Posted ID:GY4EZOxA1

ถ้าแฟนตาซี ชอบแบบให้ใช้คำแทน บุตรแห่ง(ชื่อวงศ์) หรือจะ ผู้แทนเผ่าบลาๆ ผู้พิทักษ์จากนครบลาๆ ถ้าเป็นสีผมสารพัดสี กูว่าสู้สร้างเอกลักษณ์ไปเลย เหมือนอย่างคำสาปฟาโรห์ นังแครอลโดดเด้งด้วยการให้คนฮือฮาผมทอง ก็คือจะใช้สีอะไรก็เอาให้มันพิเศษ ไม่ใช่ ทุกคนมีสีผมโดดเด้งกันหมด อ่านไปปวดหัวเปล่าๆ ว่ะ

281 Nameless Fanboi Posted ID:PWGKu6H6E

>>277 บรรยายด้วยชื่ออย่างเดียวก็เจอคำซ้ำกันบานเบอะน่ะสิ แล้วยิ่งถ้าเป็นฉากที่ตัวละครชายสองคนอยู่ด้วยกันก็ยิ่งยาก จะมาชายหนุ่มๆก็งงว่าหนุ่มคนไหน จะเรียกแต่ชื่อก็เยอะไป มันก็จำเป็นที่จะต้องมีลูกเล่นบ้างแบบคนตัวสูง หนุ่มร่างบาง ซึ่งไอ้สีผมเนี่ยเล่นง่ายที่สุดแล้วสำหรับเหตุการณ์คับขันแบบนี้

282 Nameless Fanboi Posted ID:97k.Os6SB

>>276 แฮรี่มีนะ เรื่องสีนี่เป็นจุดเด่นจุดนึงของการบรรยายเลย อย่างสีม่วงดอกไลแลคที่ล็อคฮาร์ทชอบ สีน้ำเงินเข้มของท้องฟ้ายามค่ำ สีแดงทับทิมของดัมเบิ้ลดอร์ ฯลฯ เรียกได้ว่าบรรยายเรื่องสีจนเป็นเอกลักษณ์เลย

นิยายฝรั่งเรื่องอื่นก็มีการบรรยายเรื่องสี แต่จะบอกผ่านๆ เช่น โซฟีมีผมสีบรูเน็ตกับตาสีดำเหมือนแม่ของเธอ ซึ่งรับกับทรงผมสาวทำงานของเธอ ส่วนฟรองซัวนั้นมีผมบลอนอ่อนและตาสีฟ้าสดใสตามแบบสแกนดิเนเวียน ฯลฯ

เขาจะบรรยายครั้งแรกให้เป็น first impression ไว้ว่าตลค.นี้มีลักษณะแบบนี้เพื่อให้จินตนาการถูก อย่างมากก็สองสามประโยค แล้วค่อยขยายขึ้นเมื่อรู้จักตลค.มากขึ้น แต่ของไทยคือใส่มาทีเดียวหมด มันเลยดูเฟ้อไง

283 Nameless Fanboi Posted ID:NNhdAuW/q

ขอบเขตนิยายแฟนตาซีวัดจากอะไรวะเพื่อนโม่ง นอกเรื่องจินตนาการเหนือธรรมชาติที่มีเวทมนตร์มอนสเตอร์ พวกภูตผีวิญญาณนี่นับด้วยปะ คือกูจะแต่งนิยายที่มีพล็อตเป็นไขปริศนาที่มีวิญญาณมาข้องเกี่ยวด้วย 70% อีก 30% คือคนเป็นที่เล่นเกมไขปริศนาอดีตของวิญญาณ จะมีปีศาจมาเกี่ยวด้วยนิดหน่อยในตอนท้าย แบบนี้จะนับว่าเป็นแฟนตาซีหรือไขปริศนาดีวะ

284 Nameless Fanboi Posted ID:CzlnOpGPy

>>283 พลังหรือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ทั้งหมดถือเป็นแฟนตาซี แต่ถ้ามีการอธิบายโดยใช้วิทยาศาสตร์ก็เป็นsci-fiได้ อย่างพลังจิตหรือเจได

285 Nameless Fanboi Posted ID:ROkme.Xyh

แล้วพารานอมอลมันจัดเป็นแฟนตาซีป่ะวะ

286 Nameless Fanboi Posted ID:uVHX1SAdi

>>281 อา ปัญหาที่กูกำลังประสบเลย ฉากแบบนี้ คิดสรรพนามไม่ออกจริงๆ 555

287 Nameless Fanboi Posted ID:PtgHVxjTI

>>284 ขอบใจ กูกระจ่างละ แต่ถ้ามีเล่นเกมทายปริศนาแนวไล่เชือด ใบ้ผิดถูกเชือดใบ้ถูกก็รอด มีผีโผล่มาพอให้รู้ว่ามีตัวตนและเป็นกุญแจสำคัญของเกม จะจัดว่าเป็นแนวระทึกขวัญหรือปริศนาดีวะ

>>285 ขึ้นอยู่กับธีมเรื่องนะมึง พารานอมอลคือสาย แต่ธีมคือรูปแบบเนื้อหา ถ้าเนื้อแนวเหนือธรรมชาติก็รักแฟนตาซี ถ้ายังอยู่ในขอบเขตปกติพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ก็ปกติ

288 Nameless Fanboi Posted ID:QG1OjUcXK

เพื่อนโม่ง คำว่าเซเลสเทียลกับเฮเว่นที่แปลว่าเกี่ยวกับท้องฟ้า/สวรรค์ มันต่างกันยังไงวะ คือกูจะตั้งชื่อเมืองลอยฟ้าที่มนุษย์พยายามทำให้เป็นสวรรค์เทียม โดยมีพวกเทพในสวรรค์แท้คอยมาแกล้งป่วนอยู่พักๆ จะเรียกสวรรค์เทียมว่าเฮเว่นหรือเซเลสเทียลดีล่ะ

289 Nameless Fanboi Posted ID:6iOMFiOCI

>>288 เรื่องของมึงสิคะ จะเรียกเฮเวนเนียหรือกรุงเทพก็ยังได้

290 Nameless Fanboi Posted ID:NRsqUBJxa

>>288 มันคือsynonymละมั้ง เลือกอันไหนก็ได้แหละมึงตามชอบ ชื่อกรุงเทพแบบที่289พูดมาก็ฮาดีนะ

291 Nameless Fanboi Posted ID:bBEhfAWx1

>>290 กันดั้ม00 เคยตั้งชื่อโคโลนี่ของเซเลสเชียลบีอิ้งว่ากรุงเทพนะ
ตามตัวเลยว่าเป็นเมืองที่อยู่อาศัยของเทพ

292 Nameless Fanboi Posted ID:BMVqXotyT

ขอบใจว่ะ ตกลงจะใช้อะไรก็ได้สินะ

293 Nameless Fanboi Posted ID:Q+aZA/Agw

ชื่ออะไรก็ได้ ขอให้บรรยายเมืองให้ตรงกับที่ต้องการสื่อก็พอ

294 Nameless Fanboi Posted ID:3GWVruMDN

>>292 ชื่อเมืองคือชื่อเฉพาะ ไม่มีข้อบังคับอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้ชื่อที่แปลความหมายว่าสวรรค์โดยตรงก็ได้ หรือมึงจะตั้งว่าเซเลสเทรียลแต่เขียนเป็นเซเล้ดเที่ยวก็ไม่ผิดด้วยซ้ำ แต่แค่อาจจะดูขัดตาเฉยๆ เพราะขัดกับการทับศัพท์ปกติ

295 Nameless Fanboi Posted ID:glvQWi9QB

ใครช่วยแนะนำการเขียนนิยายตอนที่มีเหตุการณ์และตัวละครเยอะๆหน่อยจะได้ไหม ประมาณฉากสงคราม หรือฉากที่มีตัวละครหลายๆกลุ่มอยู่คนละที่กัน เงี้ย

296 Nameless Fanboi Posted ID:Jgy6AQOKm

>>295 ลองอ่านแฮรี่เล่ม 7 บทสงครามที่ฮอกวอร์ด นิยายของจิ่วถู มาเฟียบู๊ลิ้มเล่มหลังๆ 8 เทพอสูรมังกรฟ้า

297 Nameless Fanboi Posted ID:IMtTqJPw+

>>295 ปัญหาคือเรื่องกลัวคนอ่านแยกว่าใครเป็นใครไม่ค่อยออกเวลามากันหลายๆตัวป่ะ? ถ้าใช่ กูว่าต้องปูเรื่องมาดีๆ ให้ตัวละครแต่ละตัวมีลักษณะการพูดที่มีเอกลักษณ์พออ่ะ ไอ้ประเภทบรรยายด้วยการ เจ้าของดวงตาสีม่วงเอ่ย คนผมแดงว่า ไรงี้ไม่น่าเวิร์ค เพราะคนอ่านอาจไม่มานั่งจำสีพวกนั้น(โดยเฉพาะเรื่องที่ตลค.เยอะๆ) แล้วก็ถ้าจำเป็นต้องตัดฉากสลับไปมาระหว่างคนหลายกลุ่ม ควรเขียนด้วยมุมมองบุคคลที่สาม น่าจะรู้อยู่แล้วอ่ะเนอะ สรุปกูแนะนำอะไรได้มั่งเนี่ย ฮือ

298 Nameless Fanboi Posted ID:Jxnx8Kx/7

ขอบใจมากสหายโม่งทั้งสอง กุเพิ่งหัดเขียนอะไรแบบนี้เลยกลัวคนอ่านงง กะว่าจะเขียนแบบยึดตัวละครนึงไปก่อนแล้วค่อยบรรยายภาพรวมในภายหลังเอา

ปล. มีหนัง ตย. แนะนำอีกไหม กุอยากได้เยอะๆเลย ขอบคุณ

299 Nameless Fanboi Posted ID:AZPqDbVRS

ขึ้นอยู่กับว่าเธออยากมีตัวเอกเดี่ยวหรือกลุ่มด้วย คิดว่าจะมีมุมมองกี่คน ถ้า harry จะเป็นมุมมองคนเดียวนะ แต่ถ้าหลายคนเรื่องที่เราแนะนำก็ percy jackson ภาคสอง ที่หมุนมุมมอง eragon ก็หมุนมุมมองแต่เป็นบุคคลที่ 3 ปล. ถ้าไม่เทพจริงไม่แนะนำบุคคลที่ 1 แบบหมุนมุมมอง เน่าตายกันมาหลายคนแล้ว

ยึดตัวละครนึงไปก่อนแล้วค่อยบรรยายภาพรวมในภายหลังนี่แปลว่าไร ตอนแรก บค1 แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นบค3 เหรอ เราไม่เห็นด้วยนะ อารมณ์มันจะสะดุด แล้ว ก็แสดงถึงความไม่เก่งของคนเขียนด้วย ว่าไม่สามารถเขียนแบบเดียวได้เลยต้องเปลี่ยนไปมา (ข้อยกเว้นเดียวคือเขียนบทนำหรือส่งท้ายเป็นอีกมุมมอง แล้วก็พวกตอนพิเศษ)

อ้อแล้วก็ไม่ควรเขียนฉากนึงหลาย ๆ มุมมอง เช่น ก. พูดก็มองจาก มุม ก. พอ ข. ตอบก็เปลี่ยนเป็น ข. มันทำให้คนเขียนมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครยากมากเพราะสับสนไม่รู้จะร่วมกับใครดี
ไม่ค่อยอยากประจานแต่เราขอแนะนำเรื่องที่เราคิดว่าหมุนมุมมองแย่มากนะคะ เคยบอกนักเขียน เขาบอกเป็นสไตล์เขา แถมอ้างถึงปิกัสโซอีกต่างหาก http://writer.dek-d.com/oongga/story/view.php?id=1048031 แต่รู้สึกเราจะเป็นคนเดียวที่คิดมากเรื่องแบบนี้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าคนอื่นสะดุดเหมือนเราบ้างรึเปล่า

300 Nameless Fanboi Posted ID:aZ4LrgavN

เรา 299 ต่อนะ เรื่องที่มีหลายมุมมองแต่เราคิดว่าทำได้ค่อนข้างดีก็ http://writer.dek-d.com/rondell/story/view.php?id=802494
บทแรกกับท้ายจะเป็นบค1 ของตัวเอกคือ เซลริคตลอด แต่ที่เหลือจะเป็นบค3 ส่วนมากเป็นเซลริคแต่ก็จะมีบางฉากที่เป็นตัวอื่นเหมือนกัน แต่ทำได้ค่อนข้างแนบเนียนอ่ะ ที่สำคัญคือสนุกด้วย

301 Nameless Fanboi Posted ID:vtrP20Nuk

>>299 เรื่องนี้อ่านแล้วสะดุดตั้งแต่ภาษา

ฉากสู้ลองดูการแบ่งบทตัวละครตอนรบของหนังแนวอื่นที่ไม่ใช่แฟนตาซีก็ดี saving private ryan avenger ?

302 Nameless Fanboi Posted ID:PruMkSkXn

>>299 กูสุ่มอ่าน เจอตอนสุดท้ายมีคำว่าเปรยวนนี่ชะงัก แบบไม่ไหวจริงๆจนอยากบ่นว่ะ 555

303 Nameless Fanboi Posted ID:Jxnx8Kx/7

>>299 บรรยายแบบ บค3 แหละครับ แต่ไม่ได้โยกไปบรรยายถึงกลุ่มหรือคนอื่นๆที่อยู่คนละที่กัน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ

304 Nameless Fanboi Posted ID:NDcmOH4Bc

>>302 เปรยวนยังดี เราเจอ โคสก (โฆษก) กับ เสาร์ไฟ

305 Nameless Fanboi Posted ID:N3L/tOTI9

>>304 เรื่องไรวะเนี่ย 555

306 Nameless Fanboi Posted ID:ttdvw/XLr

>>305 ก็อันที่เราพูดมะกี้แหละ http://writer.dek-d.com/oongga/story/view.php?id=1048031 555
ถามคนเขียนว่าทำไมไม่เช็คคำผิดบ้างไรบ้าง เขาบอกถ้ากลับมาเช็คเขาจะสะดุดเลยไม่เช็คเลย....
เดี๋ยวจะหาว่าโกหก โคสก>> http://writer.dek-d.com/oongga/story/viewlongc.php?id=1048031&chapter=19

307 Nameless Fanboi Posted ID:P76fFhTDS

>>306 คือใช่ เช็คแล้วจะสะดุด กูก็เป็น แต่แบยเขียนเสร็จก็ต้องเช็คป่ะวะ ไม่ใช่เขียนไปไม่เช็ค เขียนเสร็จแม่งก็ไม่เช็คแบบเน้!!

308 Nameless Fanboi Posted ID:gjkGJ6WSt

มึง ใครมีนิยายแฟนตาซี ไม่สิ นิยายอะไรก็ได้แนะนำบ้างวะ กูจะเขียนนิยายเขียนฟิคอะไรช่วงนี้รู้สึกภาษาดรอปชิบหายมาก

309 Nameless Fanboi Posted ID:FYiVuHY/4

>>308 นิยายแฟนตาซีมีห้องนี้ >>>/literature/2419/

310 Nameless Fanboi Posted ID:CBnJGZ9a2

ถามหน่อยดิวะ
กูกำลังพิมพ์นิยายช-ญ เป็นเล่ม เอาไปโปรโมทได้ที่ไหนบ้างวะ ตอนนี้ยังสั่งไม่ถึงสิบคนเลย

311 Nameless Fanboi Posted ID:gjkGJ6WSt

>>309 สาส 555 กูโดนไล่ไปกี่ห้องละเนี่ย ขอบใจมากมึง

312 Nameless Fanboi Posted ID:hCF1dZInF

>>310
ลงให้อ่านก่อนสักครึ่งเล่ม ทะยอยลงนะ ทีละตอน
http://www.tunwalai.com/

ถ้าไม่มี NC หรือคำหยาบหนักๆ
ก็ลงที่เว็บเด็กดี

313 Nameless Fanboi Posted ID:9AVBIf8Ju

>>311 กูก็ตามมึงอยู่นะ เป็นเพื่อนๆ 555

314 Nameless Fanboi Posted ID:hAq+0kz1r

กู >>310 นะ ลงที่เว็บเด็กดีอยู่แล้ว
NC ไม่มี ไม่มีคำหยาบ บรรยายแบบบุรุษที่ 1
ไม่มีอีโม แนวโตกว่าแจ่มใสแต่เด็กกว่าพวกแนวผู้ใหญ่
หาที่ลงยากมากว่ะ 5555

315 Nameless Fanboi Posted ID:M2jz/k18T

เอาตรงๆ นะมึง ช-ญ แบบนิยายสีขาวเนี่ย เป็นอะไรที่ขายยากที่สุดแล้ว สู้ๆ นะ
ลองลงเป็นอีบุ้คด้วย น่าจะพอขายได้

316 Nameless Fanboi Posted ID:wcerOTzyk

เอาจริงๆ กูว่าขายยากจริงนะ คือมีคนอ่านถามว่ามีเอ็นซีไหม เราก็บอกเลยว่าไม่มี คนอ่านหายจ๋อย นี่งงเลยว่าเขาต้องการเอ็นซีกันขนาดนั้นเลยเหรอ

317 Nameless Fanboi Posted ID:MqqQ2j+oz

กูเขียนรักแฟนตาซีทำมือ ระหว่างเกือบสามร้อยเล่มเดียวจบ กับซอยสองเล่ม เล่มละร้อย+ เอาให้ไม่เกินสองร้อย แบบไหนดีกว่ากันวะ
แต่ถ้าสองเล่ม กูก็ต้องจ่ายค่าวาดปกเพิ่ม
ขายสามร้อย มีคนมาถามบ่อยแต่ก็ไม่ซื้อว่ะ T T

318 Nameless Fanboi Posted ID:/ZyBditxk

>>317 เล่มเดียวจบ เพราะเล่มละเกือบสามร้อยแสดงว่าหนังสือไม่หนามาก ไม่ควรซอยเล่ม

319 Nameless Fanboi Posted ID:mgduY6nBM

>>317 แล้วแต่ฐานแฟนคลับและเงินทุน ถ้าส่วนมากคนอ่านเป็นเด็กนักเรียนขายสองเล่มดีกว่า เล่มร้อยกว่าเก็บตังซื้อง่ายกว่าเล่มเกือบสามร้อย แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานก็เล่มเดียวไปเลย ส่วนค่าปกลองทำภาพเดียวที่แยกได้สองส่วนสิมึง แบบตรงกลางเป็นวิวทิวทัศน์อะไรก็ว่าไป แต่ริมขอบภาพก็เป็นตัวละคร ผ่าครึ่งก็ได้หน้าปกสองเล่มพอดี หน้าปกแรกตัวละครฝั่งขวา หลังปกคือวิว ปกหน้าสองก็เอาฝั่งขวา หลังคือวิวอีกส่วน แต่ถ้าอยากประหยัดงบมึงก็ไม่ต้องเอาภาพหลัง ปกพื้นขาวมีแต่ตัวอักษรและรูปตัวละครไปเลย แบบพวกไลท์โนเวลอะ ค่อยไปแต่งสันปกให้สีหรือลายเพิ่มอะไรก็ว่าไป

320 Nameless Fanboi Posted ID:rumem0z33

กูว่าเล่มเดียวจบดีกว่านะ ในสายตากูคือ เพราะยังไงๆ ก็ต้องขายพร้อมกันอยู่แล้วปะวะ ถ้าหั่นเล่มแล้วราคาบวกกันกูว่าอาจจะโดนคนคิดว่าซอยทำไมเล่มแค่นี้ แต่ถ้าจะขายแยกเป็นภาคต่างเวลาก็โอเคนะ (แต่เล่มแรกคนคงซื้อน้อยกว่าเพราะเขาก็จะรอซื้อสองเล่มพร้อมกันเลยอยู่ดี)
อีกหนทางเลยก็คือ ให้คนอ่านเลือกแบบเอา ถ้าคนอ่านมีเยอะ อาจจะแบบ มี2แบบให้ซื้อ ราคาประมาณกัน คือเล่มเดียวไปเลยปกแข็ง แยกเล่มปกต่อกันได้ อะไรงีเ
แต่ถ้าคนอ่านไม่เยอะอย่าเลย กำลังซื้อไม่มี รั้งแต่จะขาดทุนเอา
คนที่มาลงชื่อจองมีประมาณเท่าไหร่ล่ะ ?

321 Nameless Fanboi Posted ID:DVIMJj6bW

โอเค ขอบคุณ กูถามหลายทางแล้วว่าเอาเล่มเดียวดีกว่า

322 Nameless Fanboi Posted ID:Wb2hhjAiL

โม่งว่าถ้าเขียนตัวละครชายหญิงเป็นเพื่อนสนิทกันแล้วมารักกันตอนหลังเนี่ย ใช้สรรพนาม "ฉัน-แก" หรือ "ฉัน-นาย" ดีกว่ากัน orz

323 Nameless Fanboi Posted ID:ax.FuW/YF

เราว่าได้ทั้งสองอย่าง

324 Nameless Fanboi Posted ID:Hk4y98udB

>>322 แต่โทนของเรื่องด้วยแหละ ถ้าเป็นวัยรุ่นแจ่มใสก็ชอบฉัน-แกมากกว่า มันเป็นธรรมชาติดี

325 Nameless Fanboi Posted ID:9VtdF6DWH

วัยตัวละครด้วย สมมุติวัยรุ่นผู้ฉัน-นายก็คงแปลกๆ แต่มันโอเคกับวัยทำงานที่จะพูดแบบนั้นนะ

326 Nameless Fanboi Posted ID:gz921s3t0

ปกติ นายคู่กับเรามากกว่านะ

327 Nameless Fanboi Posted ID:NcrewJwJo

>>322 แล้วแต่ระดับความสนิทและนิสัยตัวละครนะ กูมึง ฉันแก เรา มันก็สนิทกันได้หมดอ่ะ

328 Nameless Fanboi Posted ID:Daohj7F+E

ถามโม่งหน่อย พวกมึงคิดยังไงกับการคอมเม้นท์นิยายในเว็บวะ

329 Nameless Fanboi Posted ID:l9T0Cr9m1

>>328 หมายถึงอะไรล่ะ คำพูด จำนวน?

คือคอมเมนต์แม่งนานาจิตตังว่ะมึง ชอบหรือไม่ชอบก็แล้วแต่คน บางเรื่องเห็นคอมเมนต์น้อยๆก็ใช่ว่าจะไม่สนุก แล้วแต่กลุ่มนักอ่านด้วยว่าจะชอบเมนต์กันแค่ไหน

330 Nameless Fanboi Posted ID:Daohj7F+E

กูไปเจอมานะ คือไรท์คนนึงมันบ่นลงในเพจตัวเองประมาณว่า ไอพวกที่อ่านนิยายแล้วไม่เม้นท์นี่ไม่ทราบว่าไม่ว่างกันหรือนั่งขี้แล้วตกส้วมตายไปแล้วจำได้ลางๆว่าด่าถึงพ่อถึงแม่พวกนักอ่านเงาด้วย(นางคงของขึ้นมากถถถ)
ปล.กูก็จำไม่ได้เพราะมันนานแล้วและดูเหมือนนางจะลบโพสไปแล้ว

331 Nameless Fanboi Posted ID:oqZw0rw7c

กูก็อยากได้เมนต์ แต่ไม่เมนต์ก็ช่าง ตามศรัทธา
เขาอาจจะคิดว่าแต่งนิยายให้แม่งอ่าน เมนต์ตอบแทนกูหน่อยไม่ได้หรือไง
แต่พวกด่า แช่งนี่มันก็เอาแต่ใจเกินไป คนอ่านไม่ใช่ทาส ต้องทำตามใจแม่งทุกอย่าง
นักเขียนก็เช่นกัน ไม่ใช่ทาสนักอ่าน ต้องให้ถูกใจแม่งทุกอย่าง

332 Nameless Fanboi Posted ID:AWyG0GEhx

พูดในฐานะคนไม่เมนต์คือกูอ่านจบดูไม่รู้จะพูดอะไรกับคนเขียน จะให้เขียนไปว่าเออสนุกดีนะทุกตอนก็ยังไงอยู่วะ

333 Nameless Fanboi Posted ID:Daohj7F+E

ในฐานะที่กูก็เขียนฟิคเหมือนกันนะ กูอัพไม่บ่อยหรอกเพราะกูขี้เกียจ+กูตันเขียนไม่ออกด้วย
แต่แค่ยอดวิวเพิ่มกูก็ดีใจชิบหายละใครมาเม้นฟิคกูก็ตอบหมดอะ
ถึงจะเป็นฟิคไม้จิ้มฟันผีที่ไม่ค่อยมีใครชิปแต่มีคนมาอ่านกูก็ปริ่มสัสๆ

334 Nameless Fanboi Posted ID:uEgrGiZf0

กูเป็นพวกเขียนแล้วถ้าไม่มีคนเม้นแปลว่ากูห่วยเอง ทำให้คนอ่านไม่รู้สึกอยากเม้นหรืออยากพิมพ์อะไร ไอ้พวกเรียกร้องเม้นบางทีก็อยากให้แม่งพิจารณาแบบที่ >>332 เป็นเราเองหรือเปล่าเขียนให้คนอ่านคิดไม่ออกจะเม้นไรดี

แต่ถ้ามีคนมาเขียนสนุกดี ทุกตอน หรือ มาต่อเร็วๆ นะ กูดีใจนะ แปลว่ามันอยากอ่านที่เราเขียนต่อ กูไม่ได้ต้องการคำวิจารณ์มากมายได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

335 Nameless Fanboi Posted ID:o3eBxJbFV

>>333 กูเขียนฟิคคู่ดัง เพราะงั้นต่อให้ห่วยก็ยังมีคนเข้ามาอ่านมาเม้นอ่ะนะ แต่ก็มีแต่แนวเห่อหมอยชมๆน่ะ มีแค่เพื่อนกูนี่แหละที่ยังพอวิจารณ์อะไรหน่อย กูก็อยากอัพบ่อยๆ แต่ตันบ่อย ขี้เกียจบ่อยอยู่เหมือนกัน 555

336 Nameless Fanboi Posted ID:4H918glVm

กูเป็นพวกงกเม้นว่ะ ถ้าไม่มีสาระคำสัญอะไรที่อยากพูดก็เป็นนักอ่านเงาตลอด จะโผล่ไปเม้นแค่พวกที่เนื้อเรื่องลึกๆ ที่ต้องวิเคราะห์ตีความถามความเห็นนักอ่านคนอื่นมานั่งถกกัน และไม่ใช่ทุกตอนด้วย กูเม้นเฉพาะบทที่ทิ้งเบาะแสมาให้เดาต่อ
หรือไม่อีกอย่างคือเจอจุดที่โคตรไม่สมเหตุสมผลในเรื่อง กูจะโผล่มาคอมเม้นท้วงนักเขียน จากนั้นเป็นไปได้ว่าจะไม่กลับมาอ่านอีกเลย

ว่าไปสมัยก่อนจะมีนักอ่านในตำนานอยู่คนหนึ่ง "สนุกมากค่ะ" ตอนนี้นางยังอยู่ป่ะวะ ใครรู้จักมั่ง

337 Nameless Fanboi Posted ID:7Aqu4xe0c

ตอนจบแบบ Good End กับ Happy End ต่างกันยังไงวะ คือกูจะเขียนนิยายเกี่ยวกับเกมพัลเซิลปริศนาการฆาตรกรรมในคฤหาสน์ปิดตาย แล้วจะมีฉากจบที่แย่(Bad) กับฉากจบที่ดี ซึ่งไอ้ฉากจบที่ดีนี่กูสงสัยว่าจะใช้ Good หรือ Happy ดี คือกูจะเขียนให้จบได้สามแบบอะมึง แบบแรกคือตัวเอกรอดตัวร้ายตาย แบบที่สองที่ตัวเอกตายตัวร้ายรอด แบบที่สามคือตัวเอกพิการตัวร้ายก็รอดแต่กลับใจยอมรับผิด

338 Nameless Fanboi Posted ID:Daohj7F+E

>>335 กูรู้สึกว่าคู่ดังที่กูชิปคนอื่นเขียนเยอะแล้วเลยหันมาเขียนพวกคู่เรือผีบ้าง ขอนไม้ผีบ้างเพราะแม่งไม่มีคนเขียนเลย
กูเลยเขียนเองอ่านเองฟินเอง

339 Nameless Fanboi Posted ID:o3eBxJbFV

>>338 บางคู่กูเป็นคู่ดัง แต่บางคู่ก็ไม่ดัง กูแค่อยากเขียนสนองนี้ดเท่านั้นแหละ บังเอิญตอนนี้กูบ้าคู่ดังเฉยๆ ฮา

340 Nameless Fanboi Posted ID:4PFaRrkQx

เรื่องคอมเม้นแม่งแล้วแต่ทัศนคติ กูแม่งก็เฟลนะที่คอมเม้นนิยายเรื่องเก่าๆ (จูนิเบียวมาก) แม่งเยอะ ในขณะที่เรื่องใหม่ๆ คอมเม้นก่อนจบคือร้อยกว่าๆ แต่มันก็แลกมาด้วยอะไรที่ดีขึ้นนะ คนอ่านกูแม่งดูโตขึ้น คอมเม้นมีสติมาก มันทำให้กูมองมุมที่ต่างออกไปได้มากขึ้น

341 Nameless Fanboi Posted ID:6u5Z6eLA4

>>336 กูว่ากูเคยเห็นนะ แม่นางสนุกมากค่ะเนี่ย ในนิยายออนไลน์รึเปล่า 555555
ตอนนี้กูเห็นมีเม้นต์"ขอบคุณครับ"ทุกตอน 300 ตอนก็ 300 เม้นอะ 555555

342 Nameless Fanboi Posted ID:dWR4rQnAp

>>337 Happy End - จบแบบตัวละครมีความสุข : พจมานเย็ดกับชายกลางในบ้านยทรายทอง
Good End - จบแบบมีหรือไม่มีความสุขก็ได้ : ราชากุหลาบแดงทำทุกอย่างสำเร็จ ปลดปล่อยตัวเองได้แล้วก็ตาย

Good End ที่ดีต้องเคลียปมทั้งหมดให้ด้ด้วยนะ จบแบบว่าต่อให้ตัวร้ายชนะแต่ก็เป็นตอนจบที่คู่ควร อย่าง Watchmen นั่นละ ทุกอย่างมันลงตัวหมด ที่ผ่านมาทั้งเรื่องสอดประสานเพื่อให้จบแบบสมบูรณ์ นี่คือ Good End

343 Nameless Fanboi Posted ID:fpkoB5XxL

จบแบบเศร้าแต่สุขเรียกว่าอะไร Sappy End?

344 Nameless Fanboi Posted ID:XAjIUG1Pr

แล้วถ้าอย่างนี้คือจบแบบไหนเหรอมึง
ตัวเอกค้นพบความทรงจำของตัวเอง แต่ก็ได้รู้ว่าก่อนหน้านี้เคยเป็นนักโทษประหารคดีฆ่าข่มขืนมาก่อนจึงตัดสินใจจะฆ่าตัวตายตัดความรู้สึกผิดในใจ แต่พี่ของตัวเองมาเจอและช่วยเอาไว้ พี่สัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งไปไหนอีกแล้ว ตัวเอกเลยยอมมีชีวิตต่อ แต่ก็ต้องทนกับเสียงด่าว่า การหักหลัง การด่าทอและอีกต่างๆนาๆมากมาย แต่เพราะมีพี่คอยให้กำลังใจอยู่ ตัวเอกจึงพยายามสู้ต่อไป
วันหนึ่ง ตัวเอกไปเจออัลบั้มภาพในลิ้นชักแถวห้องนอนพี่ อัลบั้มนั้นเต็มไปด้วยรูปการข่มขืนและฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม และภาพสุดท้ายนั้น มีหน้าของคนๆนึงที่เขารู้จักดียืนชูสองนิ้วพร้อมเหยื่อที่ถูกเย็บตาอยู่ นั่นคือพี่ของเขานั่นเอง
เสียงพี่ชายเรียกชื่อตัวเอกดังขึ้น ตัวเอกปิดอัลบั้มลงแล้วเก็บไว้ที่เดิม เดินออกจากห้องไปทานข้าวพร้อมกับพี่เหมือนทุกๆวัน
มันจะเป็น True End หรืออะไรเนี่ย55(คือสำหรับกู ที่ปิดอัลบั้มคือตัวเอกช่างแม่งกับอดีต ขออยู่แค่ในปัจจุบันพร้อมกับพี่ตัวเองก็พอ แต่สิ่งที่อีพี่ทำ ตามปกติแล้วไม่น่ายอมรับได้ มันไม่ใช่ความจริงที่สวยงามน่ะสิ)

345 Nameless Fanboi Posted ID:XAjIUG1Pr

>>343 Bitter sweet ปะ แบบคึงจะเศร้าแต่ก็มีสุขอยู่ ถึงจะสุขแต่ก็ยังมีเศร้าหน่วง

346 Nameless Fanboi Posted ID:o3eBxJbFV

>>343 Sappy มันแปลทำนองว่าน้ำเน่าไม่ใช่เหรอมึง 555

347 Nameless Fanboi Posted ID:fpkoB5XxL

>>343 อ้าวเหรอ 555 อันนี้มั่วน่ะ Happy + Sad

348 Nameless Fanboi Posted ID:o3eBxJbFV

>>347 https://mobile.twitter.com/UngkritTweets/status/8837962175352832

http://www.urbandictionary.com/define.php?term=sappy

349 Nameless Fanboi Posted ID:zIWGDH9hf

>>344 ตอนเปิดอัลบัมรูป กูเข้าใจว่าที่จริงความผิดฆ่าข่มขืนทั้งหมดพี่เป็นคนทำ น้องที่หน้าตาคล้ายกันกลายเป็นแพะที่ต้องแบกรับบาปและคำด่าทอแทนทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดซะอีก
จบแบบหักมุม 55

350 Nameless Fanboi Posted ID:l4NNuEJ.z

เพื่อนโม่งใครมีวิธีแก้เวลาเขียนๆแล้วตัน ไปต่อไม่ถูกบ้างวะ

351 Nameless Fanboi Posted ID:4gSDu5.HV

>>348 ขอบคุณ

352 Nameless Fanboi Posted ID:gi4n2iz9C

>>350 ข้ามไปเขียนที่เขียนได้ก่อน นึกออกแล้วค่อยวนกลับมาเขียนทีหลัง ถ้าจ่อกับที่ไปเรื่อยๆ ทั้งชาติก็เขียนนิยายไม่จบสักเรื่อง

353 Nameless Fanboi Posted ID:0lVY9e0Z8

>>350 ลองเล่นเหตุการณ์ไม่ปกติกับตัวละครหลักๆ ดูสักคน เช่นถูกฆ่า หายตัวไปอย่างลึกลับ ไปติดพัน(ความรัก)กับคนอื่นๆจนต้องไปตามไปแย่งชิงกลับมา
สรุปมึงหาจะหาเหตุการณ์ใหม่เปิดทางขึ้น ก่อนย้อนกลับมาเนื้อเรื่องหลัก

354 Nameless Fanboi Posted ID:l4NNuEJ.z

>>352 >>353 ขอบใจมากพวกมึงในที่สุดกูก็เขียนจบฟฟฟ เมื่อคืนแม่งปั่นจนแทบไม่ได้นอน/orz

355 Nameless Fanboi Posted ID:2FKbKYgmX

>>354 มา เอามาให้อ่านเลย 555

356 Nameless Fanboi Posted ID:l4NNuEJ.z

>>355 ถ้าให้โม่งกูก็แตกสิฟระ ถถถ

357 Nameless Fanboi Posted ID:XtO1IgJ4T

>>356 มึงก็ทำเนียนๆประมาณเพื่อนอยากได้คำแนะนำสิ

358 Nameless Fanboi Posted ID:5dNawB933

ลงเหอะ เดี๋ยวมึงก็รีเราเตอร์ใหม่แล้ว

359 Nameless Fanboi Posted ID:Jsr8VjOUP

ไปเจอบทความเก่าๆ เรื่องแมรี่ซู กูเพิ่งรู้ว่ามันมาจากแฟนฟิคประชดแฟนฟิค (ฮา)
http://www.dek-d.com/writer/34128

360 Nameless Fanboi Posted ID:EbGYJkmNt

กูไม่รู้ว่าคุยเรื่องนี้ที่นี่ได้ไหม แต่เมื่อวันก่อนกูไปอ่านนิยายแล้วเจอคอมเมนท์ที่ว่า เราอ่านแล้วใส่ฟิลเตอร์คู่ชิปเราลงไปค่ะ เราเลยอินมากอยากรู้เลยว่าจะเป็นยังไงต่อ บลา บลา บลา

เจองี้พวกมึงคิดไงวะ

361 Nameless Fanboi Posted ID:fLgGV8o/H

>>360 คิดว่ามีนักอ่านเพิ่มขึ้นก็ดี แต่อย่ามันมาสั่งมึงได้ก็พอ นักอ่านสมัยนี้สติไม่ค่อยสมประกอบเยอะ มึงต้องตั้งสติดีๆ ด้วย

362 Nameless Fanboi Posted ID:BMTjo0/aB

ไปเจอคอมเมนท์ในนิยายที่เขียนจบแล้ว แต่ไม่ลงแค่ช่วงสุดท้ายของเล่มสุดท้ายให้อ่าน(จากที่ลงให้อ่านมาเกือบจบ)
งงว่า
บางเมนต์บอกไม่รู้ราวแล้วจะซื้อได้ไง (ทั้งๆที่ลงไปให้อ่านแล้ว 90 กว่าเปอร์เซนต์)
บางเมนต์บอกว่าไม่แน่ใจว่าจะจบมั้ยเลยไม่ซื้อ (ทั้งๆที่ประกาศว่าจบแล้ว)
บางเมนต์บอกว่านิยายสนุกดีตามอ่านมาตลอดแต่ลาก่อน (คนเขียนเขาจะอึ้งไหมนี่)
บางเมนต์บอกว่าอ่านมาตั้งนาน สุดท้ายก็เก็บชะงั้น(หมายถึงไม่ลงให้อ่าน) ดีนะที่ยังไม่ได้ซื้อ ปล. อุส่าเก็บตังจะซื้อทีเดียวเจองี้เงิบเลย (ทั้งๆที่ประกาศขายเล่มจบแล้ว)
นี่เป็นตัวอย่างของเรื่องหนึ่งที่คอมเมนต์แสดงว่าให้อ่านฟรีไม่มีปัญหา
แต่ให้ซื้อผลงานไม่มีทางหรอก ทั้งๆที่เป็นเรื่องยาวกลางๆเขียนจนจบด้วยนะ
คนเขียนที่ตั้งใจมาตลอดเจอเมนต์เล่านี้ไปคงอึ้งดี
สรุปถ้าแคร์คนอ่านมากไปก็มีสิทธิเจ็บตอนท้ายได้ง่ายๆเหมือนกัน

363 Nameless Fanboi Posted ID:fVm7Gfa.s

>>362 กลุ่มเป้าหมายอาจจะต่างกัน ส่วนตัวคือกูรู้จักคนที่ชอบอ่านนิยายในเน็ต อ่านไปเรื่อย แต่หนังสือเล่มไม่ค่อยจะซื้ออะ ปีๆ นึง
กับกูเอาในเน็ตไม่ค่อยจะอ่าน จะมาโปรยว่า ยอดวิวอันดับหนึ่งยังไงก็ดึงดูดกูไม่ได้ ถ้าจะรู้จักคือมีคนแนะนำ ซึ่งกูว่าในจุดนี้ อาจจะมองเป็นความคาดหวังสุดของการลงในเนต คือเพิ่มชื่อเสียง คนรู้จัก แต่ไอซื้อคนละกลุ่มกัน.....

364 Nameless Fanboi Posted ID:rupCc+ojd

>>363
ลงในเนทปกติคือนักเขียนหน้าใหม่ ที่ไม่ได้มีชื่อติดตลาด
แต่กลุ่มคนอ่านในเนทคือกลุ่มใหญ่ที่ชี้ผลของตลาดต่อไปได้
ถ้าคนอ่านเป็นแบบนี้
วงการหนังสือบ้านเราก็ซึมลงไปเรื่อยๆ เพราะไม่ต้องคาดหวังว่าจะพิมพ์ออกมาแล้วพอมีคนซื้อหรืออุดหนุมอยู่บ้าง
กูว่าต่อไป สนพ. ก็กำหนดยอดพิมพ์น้อยลงเรื่อยๆ นักเขียนก็หนีไปออกอีบุ๊คเป็นส่วนใหญ่ เพราะคงได้เงินพอๆ กับเซ็นสัญญายาวหลายปี

365 Nameless Fanboi Posted ID:rupCc+ojd

ลืมจุดสำคัญ
นักเขียนหน้าใหม่ ถ้ายังต้องการรายได้เลี้ยงตัว ก็หนีไปเขียนแนวตลาด ไม่ก็วาย หรือ nc กันไป
นี่แหละตลาดเมืองไทยละ
เพื่อนกูเอง เขียนนิยายปกติได้ตีพิมพ์ แต่ยอดไม่มา สุดท้าย สนพ. ลอยแพ
ตอนนี้เขียน nc ขายเลี้ยงชีพ มันบอกรายได้ดีกว่า สนพ. และออกผลงานได้ตลอดเวลา

366 Nameless Fanboi Posted ID:BSRrG.Frv

กูว่าการลงนิยายที่มึงตั้งใจจะขายลงในอินเตอร์เน็ต แมร่งคือความหายนะชิบหาย โดยเฉพาะแนวที่ชายพวกวัยรุ่น แนวแฟตาซี เพราะพวกนี้ถ้าอ่านแล้วก็ไม่อยากเสียเงินซื้อแล้ว แล้วนิยายในเน็ตนี่กูว่ามันสร้างนิสัยแบบ ลงไม่จบก็ช่าง อ่านไม่จบก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่ลงต่อเดี๋ยวโดดไปอ่านเรื่องอื่นก็ได้

ส่วนคนที่จะซื้อนี่จะอารมณ์ไม่มั่นใจว่านิยายจะออกจนจบไหม รอให้ออกหลายๆ เล่มแล้วค่อยซื้อ แต่ถ้ายอดเล่มแรกมันไม่วิ่ง มันก็คงไม่มีเล่มต่อออกมาหรอก นึกแล้วปวดหัวว่ะกับการอยากเป็นนักเขียนของกู

367 Nameless Fanboi Posted ID:w7cNpcz7P

มันก็ยากทั้งหมดแหละ นอกจากไม่คิดมาก พอใจหนีมาทำหนังสือทำมือ หรือ e-book เอง
นักเขียนหน้าใหม่ที่ส่ง สนพ. แบบตั้งใจเขียนส่งเลย ไม่ผ่านการลงเนท สมัยนี้โอกาสยากมาก
ลงในเนทส่วนหนึ่งคือการมีฐานแฟนคลับอยู่บ้าง ยังพอมีโอกาสมีคนอ่านช่วยซื้อบ้าง
บางเรื่องกูเห็น สนพ. ตีพิมพ์แล้ว ก็ยังต้องนำเอามาลงในเนทช่วงต้นเรื่องก่อนเสมอนะ

368 Nameless Fanboi Posted ID:5W405z.KL

มึงดูบางสนพ. ดิ ให้แนบลิงค์นิยายที่ลงเว็บไปด้วย ถ้าแฟนคลับเยอะกูว่าก็คงพิจารณาเป็นพิเศษแหละวะ

369 Nameless Fanboi Posted ID:NMvO4LxVN

เดือนๆ นึงออกกันไม่รู้กี่สิบปกถ้าจะให้คนเลือก ก็ต้องลงเนตก่อนล่ะ คนรู้จักประกอบกับทดลองอ่าน กูมองว่าที่มันซึมไม่ใช่เพราะลงให้อ่านในเนตเป็นหลัก แต่เพราะเรื่องไม่ดีพอจะโดนใจคนซื้อมากกว่า

370 Nameless Fanboi Posted ID:NMvO4LxVN

กูเสริมอีกนิด ถ้าจะยกตัวอย่างเป็นวายนี่จะพอใช้เป็นกรณีสำเร็จได้รึเปล่า
นิยายวายเรื่องนึงแปลจีน แปลลงในเด็กดีครบจนจบประมาณ 80 ตอน ต่อมาสนพ ซื้อลิขสิทธิ์ เอาคนแปลเดิมไปออกหนังสือ และถึงแม้จะยังไม่ลบเรื่องในช่วงเปิดจอง แต่ยอดจองแม่งถล่มทลาย (เพิ่งมาลบเรื่องตอนปิดจอง) เรื่องมันดีก็มีคนอยากเก็บ แต่เรื่องที่อ่านจบรอบนึงก็หมดความ ก็ขายไม่ออก

371 Nameless Fanboi Posted ID:BTNASWlgL

ขอออกความเห็นในฐานะนักอ่าน ถ้าชอบกูก็ซื้อนะถึงจะลงจนจบแล้วก็เถอะ แต่ถ้าในเล่ม = ที่ลงเน็ตกูก็เซงอยากให้มีพวกตอนพิเศษเพิ่มมาจะดีมาก

372 Nameless Fanboi Posted ID:Lty1J7oVs

>>370 ลูกค้าวายเป็นฐานที่คนอ่านในปัจจุบันกลุ่มนี้ซื้อง่ายกว่าทุกกลุ่ม
กูไม่อยากให้เทียบกับลูกค้าแนวอื่นๆ...
(แบบพอรู้ยอดการขายนิยายแนวนี้มาบ้าง)
เพราะกูรู้มาว่าขนาด สนพ. ที่ไม่เคยสนใจแนวนี้มาก่อน ยังซุ่มจะที่เปิดตัวกันหลายเจ้า
เพราะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อจะตัดสินใจง่ายกว่ากลุ่มอื่น...
นั่นทำให้สังเกตกระแสมีส่งอยู่ตลอดในแนวนี้ และทำให้ต่อไปคงเป็นเรื่องปกติที่ทุก สนพ. จะออกแนวนี้กัน
เพราะฐานลูกค้าคนอ่านนี่แหละ

373 Nameless Fanboi Posted ID:9+cDdq9wB

เคยถามไปแล้วในมู้อื่น แต่ไม่ได้คำตอบจริงๆสักที

การใช้สรรพนามแทนตัวเวลาตัวละครพูดกับเพื่อนในบทสนทนา ถ้าไม่ต้องการใช้คำหยาบแบบ กู มึง จะใช้อะไรได้บ้าง เว้นแต่คำว่า ข้า กับ เอ็ง ซึ่งเยอะแล้ว คือคิดไม่ออกจริงๆถ้าไม่ใช้คำว่าข้า แทนอีกฝ่ายว่าแกพอได้ แต่แทนตัวเองนอกจากกูกับข้าแล้วนึกไม่ออกจริงๆ ไอ้ที่ใกล้เคียงหน่อยก็เป็นกัน แต่มันก็ดูแปลกๆ "กันว่าแกไปนอนเถอะ" ส่วนไอ้อั๊วกับลื้อนี่มันนักเลงไป ไม่โอ

ตัวละครหญิงก็ยาก ใช้กัน ข้า ไม่ได้ เข้าเค้าสุดเป็นฉัน แต่ดัดจริตเกินกว่าจะใช้คุยกับเพื่อน ช่วยคิดหน่อยจ้า

374 Nameless Fanboi Posted ID:KIRWGg9cu

>>373 กูนึกออกแต่หญิงอ่ะ ใช้เราได้มั้ย

375 Nameless Fanboi Posted ID:EUkNF1Mn5

>>373 เพื่อนหญิงกู แทนตัวเองด้วยชื่อบ้าง หรือไม่ก็ใช้คำว่าเค้า นึกคำอื่นไม่ออกแล้วแฮะ แล้วโดยทั่วไปกูไม่ค่อยได้ยินคำว่าฉันนะ

376 Nameless Fanboi Posted ID:0wVUHENMp

ที่เคยได้ยินนะ
ญ : ฉัน เค้า กู ชื่อตัวเอง
ช : กู เค้า
คนที่คุยด้วย > ชื่อ แก มึง

377 Nameless Fanboi Posted ID:bfkVP1y1X

>>373 เค้า ฉัน เรา แทนด้วยชื่อตัวเอง

378 Nameless Fanboi Posted ID:9+cDdq9wB

เอาจริงๆ กูแทบไม่เคยได้ยินคนแทนตัวอย่างที่มึงว่ามาเลยเวลาคุยกับเพื่อนอะ ผญ. แทนด้วยชื่อมีบ้าง ในที่ทำงานก็มี ชั้น แก แต่ผู้ชายนี่มึงกูตลอด ถ้าเป็นเพื่อนอะนะ ข้าเอ็งนี่แทบไม่ได้ยินแล้ว

มีคำอื่นอีกไหม

379 Nameless Fanboi Posted ID:mZBCAtEp7

>>373 กู ญ นะ
ถ้าไม่ค่อยสนิทใช้ เรา/เค้า กับ เธอ/ชื่อ
ถ้าสนิท เค้า/กู กับ แก/มึง/ฉายา/เหี้ย+ชื่อ/ชื่อบุพการี
แต่ถ้ากับครอบครัวถึงจะใช้แทนตัวเองด้วยชื่อว่ะ
ปล.แต่กูเห็นเพื่อนกูส่วนใหญ่ถ้าไม่สนิทจริงๆก็จะไม่แทนตัวเองด้วยชื่อนะ ไม่งั้นมึงจะดูแอ๊บและทำให้ชาวบ้านคิดว่ามึงตอแหลไปเปล่าๆ

380 Nameless Fanboi Posted ID:EUkNF1Mn5

สำหรับกูถ้าใช้เค้าในนิยายมันก็ดูแปลกๆแฮะ ถึงเพื่อนทั่วไปรอบตัวกูก็ใช้งี้ก็เถอะ
ปล.ว่าไปกูพึ่งนึกได้ ว่าไอ้กูมึงเพื่อนไม่เคยใช้กับกูเลย... ถึงว่าทำไมอ่านนิยายใช้กูมึงแล้วกูถึงรู้สึกแปลกๆ

381 Nameless Fanboi Posted ID:eug4F3AXW

อยากแต่งแบบเน้นฉากตรั๊บๆ ช-ญ มีเว็ปไหนแนะนำบ้าง เอาแบบกันการก๊อปข้อความได้ระดับนึงก็ดี

382 Nameless Fanboi Posted ID:LuNh98yW2

กูเป็น ญ ปกติกูใช้แค่ เธอ ฉัน เค้า เรา กับเพื่อน เพื่อนกูก็จไม่กูมึงกับกู
กูแทบไม่พูด กู มึงกับใครเลย เว้นตอนโกรธกับในโม่ง
จะมีใครว่ากูกระแดะป่าววะ กูแค่ไม่ชอบพูดแบบนั้น

383 Nameless Fanboi Posted ID:D/Bq1p7Qw

รู้สึกว่ากูจะเป็นพวกหยาบคายแฮะ ยกตัวอย่างประโยคปกติตอนเรียนมหาลัย

"ไอ้เหี้ย มึงจะทนไปทำเหี้ยอะไรวะ ควย กูว่ามึงเลิกกับแม่งเหอะสัส ผู้หญิงเหี้ยๆแบบนั้นเย็ดไปก็เปลืองควย"

ลองเขียนแบบกัน-แก ดู

"แกจะทนไปทำไมวะ กันว่าแกเลิกกับหล่อนเถอะ ผู้หญิงพรรค์นั้นไม่มีอะไรให้เสียดายหรอก"

เหี้ย ใสๆเลย

384 Nameless Fanboi Posted ID:Jv8p+4e3k

>>382 กอดมึง นอกจากโม่งแล้วกูก็ไม่พูดกูมึงกับใครเลย เพื่อนก็ไม่พูดกูมึงกับกูทั้งๆที่พูดกับเพื่อนคนอื่น
ปกติกูใช้ เค้า เรา กับเพื่อนกูเรียกชื่อเอา ไม่ก็แกวะ

385 Nameless Fanboi Posted ID:B8VJ66vEh

>>381 ธัญวลัย?

386 Nameless Fanboi Posted ID:VSyopFqzm

>>381 ธัญวลัย+1 ไม่ก็เว็บเรื่องเสียวไปเลย

387 Nameless Fanboi Posted ID:eug4F3AXW

>>386 ตอนแรกก็กะแต่ลงเว็ปเรื่องเสียว แต่รู้สึกว่ามันลูกทุ่งไปหน่อยนะ
อยากแต่งพล็อตแนวตูนโป๊ยุ่นนะ

388 Nameless Fanboi Posted ID:aM2lOjsQF

>>387 ธีัญวลัยเลยมึงเคยเห็นแนวๆนั้นอยู่(ลงแล้วก็ส่งลิงค์มาให้กูด้วย) ว่าแต่มันควรคุยที่ห้อง webnovel นะ

389 Nameless Fanboi Posted ID:B8VJ66vEh

>>387 ว่าแต่ที่แต่งเนี่ย ถามจริงเบียวหรือแกรี่แมรี่ป่าววะ แล้วสำนวนนี่โอมั้ย 555

390 Nameless Fanboi Posted ID:TnVzMPQoy

>>387 จัดหนัก NTR เลย
แนวพระเอกแบบนี้ กูยังไม่ค่อยเห็นใครแต่งไทย

391 Nameless Fanboi Posted ID:kgbHHk2Mg

มึง ถ้าต้องการเขียนพาร์ทของตัวละครหลายๆตัวในหนังสือเล่มเดียว
กูต้องการเขียนนิยายในสรรพนามบุรุษที่ 1 เช่น ผมมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย อะไรงี้ แล้วในนิยาย 1 เล่ม กูต้องการให้มีทั้งพาร์ทพระเอก นางเอก พระรอง นางรอง ในเล่มเดียว กูควรเขียนแยกพาร์ทชัดเจนหรือยังไงดีวะ

392 Nameless Fanboi Posted ID:KiMGSl0vD

>>391 แยกพาร์ทชัดเจนไปเลยมึง ทางที่ดีคือแยกตอนและชื่อตอนก็มีชื่อของตัวละคร(หรืออะไรก็ตามที่สื่อถึงตัวละคร)อยู่
กูเคยเจอมุมมองบุคลที่ 1 ที่เปลี่ยนมุมในตอนเดียว(ถึงจะแยกส่วนกันระดับหนึ่งก็เถอะ)แล้วมึนชิบหายจริงๆ

393 Nameless Fanboi Posted ID:KiMGSl0vD

ถามหน่อยกูมีความคิดจะเขียนนิยายประเภทจากหญิงเปลี่ยนเป็นชาย คือปกติในชีวิตประจำวันชายมีปัญหาอะไรมั่งวะ แบบหญิงก็มีพวกประจำเดือนอะไรพวกนี้อะ

394 Nameless Fanboi Posted ID:HWFVPwf3p

>>393 จับมือ กูก็จะแต่งเหมิอนกัน
อยากรู้ด้วยคน

395 Nameless Fanboi Posted ID:b9pXV6jRL

>>393 มีอารมณ์ตอนเช้าๆนับป่ะ ถ้าญเป็นชคงมีปัญหาการเข้าห้องน้ำ เล็งไม่ตรง อายต้องเข้าส้วมปิด กูเดานะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.