Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:wLFhnhxLy

กระทู้เพื่อพูดคุยเทคนิคการเขียน และเรื่องการประกวดต่างๆเกี่ยวกับนิยาย

2 Nameless Fanboi Posted ID:z5sMUFNH.

เขียนไงให้จบ...

3 Nameless Fanboi Posted ID:VCekC4rSm

งั้นกูถามมั่ง ไม่ต้องพูดถึงตอนจบ เริ่มเรื่องยังไงดีวะ 555

4 Nameless Fanboi Posted ID:bDMXGIona

พวกมึงแม่งถามคำถามโหดร้ายมาก มีกลางๆหัวท้ยไม่มี
ว่าแต่ในโม่งมีคนลงประกวด enter มั้ย

5 Nameless Fanboi Posted ID:h40qKXgnx

กุมีแต่หัวกะท้ายว่ะ อยากเริ่มเรื่องงี้ จบแบบนี้ แต่กลางเรื่องยึกยือไม่รู้จะเดินเรื่องยังไง 55555

6 Nameless Fanboi Posted ID:T.LiyLd45

กูสร้างฉากเริ่มและจบไว้แล้ว turn of eventที่สำคัญที่สุดก็กำหนดไว้แล้ว โปรไฟล์ของตลค.ก็กำหนดไว้แล้ว จินตนาการในหัวก็พร้อมสรรพ แต่เขียนออกมาไม่ได้วะ

7 Nameless Fanboi Posted ID:VCekC4rSm

>>5-6 เออ อันนี้กูก็มีปัญหาว่ะ 55

8 Nameless Fanboi Posted ID:ZCUZ6mgBP

ควรจะชื่อกระทู้ว่านักไม่เขียนนิยายชิบเป้ง

9 Nameless Fanboi Posted ID:9aUT5rMlw

กูแค่"ยัง"ไม่เขียนเว้ย แบบเดียวกับล้างจาน เก็บผ้า หรือจัดห้องนั่นละ

10 Nameless Fanboi Posted ID:UHdSpFom8

>>4 กู มายกมือ และส่งไปแล้วด้วย อีแหม่เหยด กูอุตส่าห์รอบอร์ดโม่งมาคุยเรื่องนี้นานแระ ว่าจะปรึกษาซะหน่อยจะได้เขียนถูก เห็นอยู่ในประเด็นอื่นไม่มีคนเปิดซะที กูก็เกรงใจเขียนส่งหมดแล้วเพิ่งจะมาเห็น ฮ่วยบักก้วยเต้ด

เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนๆ มึงคิดว่ารอบนี้สนพ.จะเอาแบบไหนยังไงวะ? ไอ้คำประเภทแปลกใหม่ไม่เหมือนใครก็ดูกว้างไปหน่อยนะ แล้วอีกอย่างคือสนพ.มันจะเอาแต่วายเข้ารอบหรือเปล่าวะ กูแอบเครียดเรื่องนี้เพราะของกูแม่งไม่วายเลย แม้ว่าจะมีเพื่อนผู้ชายสองคนอยู่ในเรื่องแต่ก็ไม่ได้มีชงอะไรนะเว้ย คือเพื่อนแบบเพื่อนกันเลยไม่ร่างใหญ่ร่างบางอะไรทั้งนั้น กูว่าเขาอาจจะขยับปรับเปลี่ยนไม่ให้วายแล้วก็ได้นะตอนหลังๆ ไม่ได้ไปดูนิยายที่ชนะรอบสี่มาเลย ฟินด์อะไรนั่นเพื่อนโม่งว่าไงกันมั่งล่ะ ไม่ค่อยเห็นพูดถึงกันเลย มันโอหรือไม่โอ มาตรฐานถือว่าดีขึ้นยังวะ แฉ่งแต่ไอ้ที่ชนะรอบแรกๆตลอด

11 Nameless Fanboi Posted ID:MlGPbVvTx

>>10 ลองไปดูที่ลวิตร์ที่เป็นกรรมการเขาแนะแนวทางการเขียนไหมล่ะ เขาไม่ได้พูดเรื่องวายนะ แต่เห็นบอกว่าถ้าส่งประกวดแรกๆ ก็เน้นเดินเรื่องให้ฉับไวเร้าใจหน่อย

12 Nameless Fanboi Posted ID:Qe6+IBEG0

ก็มีeverYแล้วไม่ใช่เหรอ ทีนี้ก็ไม่ต้องพึ่งจิ้นวายจากเอนเทอร์ละ 555 กูก็พูดไปเรื่อย

13 Nameless Fanboi Posted ID:CjOuXVt++

จะเสล่อมาตั้งมู้ซ้ำทำไมวะ

14 Nameless Fanboi Posted ID:iNp/6NKXp

>>13 ในซับมันนักวาดนักเขียน ซึ่งก็ไม่เคยมีนักเขียนไปถามในนั้นตรงๆ ซักที มาตั้งแยกในนี้ละเหมาะแล้ว ในนั้นปรับเป็นนักวาดอย่างเดียวก็พอ ถึงมันจะเป็นตั้งแต่แรกแล้วก็เถอะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:zwoADyof6

กูอ่านเรื่องฟินด์มาแล้ว ถ้ามึงจิ้นแมงมุมกับพ่อมดให้วายได้ก็วาย แต่ถ้าไม่ก็ไม่วาย ปีนี้กรรมการเป็นลวิตร์กับดาวิษ(ปะวะ) กุว่าคงไม่วายหรอก

16 Nameless Fanboi Posted ID:UHdSpFom8

เห็นโม่งบ่นกันว่าปีก่อนๆ ตัวละครโครตส่อวายแล้วทำซึนว่าไม่วายนะเว้ย ทั้งๆที่เสนอมาซะพร้อมเคียงคู่ตุนาหงันขนาดนั้น หรือว่าเพราะปีนั้นยังไม่มี EverY วะ เลยไปลงกับแฟนตาซี กูไม่ได้ตามเป็นเรื่องเป็นราวอ่ะ แล้วคุณลวิตร์เพิ่งเป็นกรรมการปีนี้หรอวะ? ตายละหว่า ถึงจะฟังเสียงส่วนรวมแต่กูว่าสไตล์กรรมการมันก็มีส่วน ลืมศึกษาเบื้องหลังของกรรมการซะงั้น

17 Nameless Fanboi Posted ID:EYzTFCw82

>>16 จำได้ว่าลวิตร์เคยเป็นกรรมการแล้วนะ
กูว่ายังไงๆถ้าคุณภาพพอๆไม่ห่างกันมากสนพ.คงเลือกแบบส่อวายเพื่อขายนะแหละ

18 Nameless Fanboi Posted ID:BW1JjvVSS

ลวิตร์เป็นมาตั้งแต่ปีสองแล้วหรือเปล่าวะ แต่กูว่าไม่น่าห่วงมากหรอกมึง ก่อนหน้านี้ก็มีที่ดราม่าๆ เรื่องจิ้นวายตอนฟินด์ออก ที่แอดมินเพจออกมาโพสน่ะ สำนักพิมพ์ก็คงไม่เน้นวายมากเท่าปีก่อนๆ

19 Nameless Fanboi Posted ID:Qe6+IBEG0

>>18 ดราม่าอะไรวะ กูไม่รู้เรื่องเลยว่ะ

20 Nameless Fanboi Posted ID:WKE3gSJXr

ใช่ที่คนอ่านไปบ่นๆในโพสเพจใช่ป่ะว่า ทำไมเจอแต่แนววายๆเต็มไปหมด สนพ.ต้องการจะขายแต่แบบนี้จริงๆหรอครับ บางคนสาววายก็บ่นเอียนเหมือนกัน จนสนพ.ต้องออกมาชี้แจงว่าเราจะเปิดรับแนวอื่นๆมาด้วยแล้ว ชวนจิ้นจะเป็นส่วนนึงคือ Enter Here //แต่ในโพสประกาศกูก็เห็นสาววายมาพร่ำเพ้อว่าหนูชอบ Here ๆๆ นะค้าาา กูสาววายยังเบะปากหมั่นไส้ มึงให้พื้นที่คนไม่จิ้นมั่งเห้ออออ

21 Nameless Fanboi Posted ID:Cv/j9ZA0f

โดนไล่มามู้นี้...

คือกูจะขอคำปรึกษานิดหน่อย
กูเป็นนักเขียนโนเนม ไม่มีชื่อเสียงอะไร เรื่องคือมีประกวดพล็อต แล้วกูชนะ เท่ากับว่ากูต้องขายพล็อตให้สนพ.
สนพ.ให้ทางเลือกว่ากูจะเขียนหรือไม่เขียนก็ได้ ถ้ากูเขียนเอง จะกลายเป็นจ้างวานเขียน ไม่ใช่เซ็นสัญญาแบบตามปกติ
ซึ่งก็พอเดาได้ว่าเงินที่ได้จะน้อยกว่า ลิขสิทธิ์ขายขาดเป็นของสนพ.ไปเลย กูเขียนจบก็จบกันไป
แล้วการเลือกเขียนเองก็ไม่ใช่ว่าจะได้ตีพิมพ์แน่นอน 100% นิยายที่เขียนเสร็จต้องผ่านกระบวนการพิจารณาตามปกติ
กูเลือกเขียนเองไป เพราะเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะได้ตีพิมพ์ กูเลือกทางโง่เกินไปหรือเปล่าวะ...

22 Nameless Fanboi Posted ID:xXQNO8h/S

>>21 กูว่ามึงเลือกถูกว่ะ มั่นใจในตัวเองหน่อย เขียนเองต่อให้ไม่ได้รับเลือก แต่กูก็ว่าดีกว่าขายพล็อตไปแล้วกลายเป็นของสนพ. ลองนึกดูสิว่าทั้งที่ตัวมึงมีศักยภาพพอจะทำได้(รึอย่างน้อยก็อบากลองทำ) แต่ตัดสินใจไม่ทำ แล้วขายพล็อตไป ถ้ามันดังขึ้นมาจริงก็ได้มองตาปริบๆแบบนั้นมันน่าเจ็บใจออกว่ะ

23 Nameless Fanboi Posted ID:xXQNO8h/S

>>21 เดี๋ยว กูลองอ่านอีกที ไม่เข้าใจกฏเกณฑ์เรื่องการประกวดพล็อตนัก แต่พล็อตของมึง มึงเขียนเอง = จ้างวานเขียน = ได้เงินน้อยกว่าเขียนส่งปกติ แถมลิขสิทธิ์บายขาดอีก
ทำไมกูรู้สึกมันโคตรเอาเปรียบ มึงแน่ใจแล้วเหรอที่จะเขียนส่งสนพ.นี้จริงๆ

24 Nameless Fanboi Posted ID:1DohKESW0

>>21 >>21 เลือกเขียนเองแล้วจะส่งให้สนพ.พิจารณาอีกป่ะ แล้วถ้าผ่านนี่เรื่องนั้นก็ขายขาดอยู่ดีใช่ป่ะ กูเข้าใจถูกมั้ย? ถ้าแบบนั้นแล้วยังจะส่งสนพ.นี้ให้ได้จะว่าโง่ก็โง่ สัญญาขายขาดนี่ส่วนใหญ่หลอกเด็กทั้งนั้น
พวกเด็กๆที่อยากตีพิมพ์จนตัวสั่นก็ยอมให้โขกสับต่อไป เพราะกูเชื่อว่าถ้าส่งไปที่เดิมมึงก็คงผ่านแหละ สนพ.แม่งกำไรกว่าได้ขายขาด ได้ทั้งจ่ายเงินค่าสัญญาน้อย แต่ถ้ามึงเลือกที่จะเขียนเองเพื่อไปส่งที่อื่นนับว่ามึงฉลาด ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ

25 Nameless Fanboi Posted ID:HphsagWX.

>>21 ถ้าขายขาดนี่ไม่ต้องส่ง อาจจะฟังดูตัดโอกาสนะ แต่แบบมันต้องมีที่ดีกว่านี้ดิ เก็บของกลับมาเลย กูคนหนึ่งแหละที่ไม่สนับสนุนให้ลดตัวไปขายให้เขา มีที่ให้ส่งถมเท ว่าแต่สมัยนี้ยังมีอีกเหรอวะ สนพ.ขายขาดเนี้ย =_=;;;

26 Nameless Fanboi Posted ID:PdnonO1q3

ที่มึงว่านี่สนพ.1168ป่าววะ เห็นมีข่าวประกวดพลอตอยู่ช่วงนึง ไม่รู้นะ เดาเอา ฮ่าๆ

27 Nameless Fanboi Posted ID:Cv/j9ZA0f

ขออธิบายอีกทีก่อน เห็นเพื่อนโม่งไม่ค่อยเข้าใจ
เกณฑ์ประกวดพล็อตคือ ถ้าชนะ ก็ได้ตังค์ สนพ.ก็ได้พล็อตไป = ตอนนี้พล็อตกูลิขสิทธิ์เป็นของสนพ.ไปแล้ว
สนพ. จะไปจ้างใครเขียนก็ได้ ซึ่งเขาก็เลยให้ทางเลือกมา ระหว่างให้นักเขียนในสังกัดเขาเขียน กับ กูเขียนเอง แต่ต้องผ่านกระบวนการพิจารณา

เอาง่าย ๆ กูไม่มีสิทธิ์ฉลาด เหมือนที่ >>24 บอก มีทางเลือกแค่จะรับจ้างเขาเขียนเพื่อได้เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ (จะถึง 3000 มั้ยวะเนี่ย) หรือไม่ก็ขายพล็อต บาย จบ ปิ๊ง ไม่ต้องทำอะไรต่อ
กูก็เพิ่งมาตาสว่างว่าการประกวดพล็อตมัน It's a trap มาก ขนาดกูเขียนพล็อตแบบง่าว ๆ แล้วเสือกชนะยังเซ็งจิต กระเหี้ยนกระหือรืออยากจะเขียนต่อ เพราะว่าโง่อยากตีพิมพ์ (ก็กูไม่เคยตีพิมพ์มาก่อน) ใครที่ตั้งใจเขียนพล็อตแล้วพล็อตเจ๋ง คงจะกระอั่กกว่ากูแน่ ๆ

28 Nameless Fanboi Posted ID:NKxkFRgT2

>>27 รู้สึกคุ้นๆสนพ.ไหนสักที่ เออ สมมุติบอกจะเขียนแต่ไม่ยอมเขียนไปส่งงี้(อารมณ์ถ่วงเวลา เขียนไม่ออกไรงี้) สนพ.จะว่าไรมั้ย มีกฏบังคับรึเปล่าว่าต้องส่งในเวลาเท่านี้ถ้าไม่งั้นโดนยึดพล็อต หรือส่งแบบแย่ๆเขามไม่ให้ผ่านก็โดนยึดรึเปล่า

29 Nameless Fanboi Posted ID:Cv/j9ZA0f

>>28 จริง ๆ เขาให้ส่งตั้งแต่เดือนกรกฎาแล้ว แต่กูไม่ว่างเขียนให้เขา เขาก็หายไปเลย เพิ่งมาคุยกันอีกรอบ 2-3 วันก่อนนี่เอง
กูถามเขาว่าให้ใครเขียนไปยัง เขาก็บอกว่ายัง กูเลยแบบ เออ เขียน ๆ ไปก็ได้มั้ง คือพวกระยะเวลาอะไรเขาก็ยังไม่ได้กำหนดมาอีกนะ
บอกแค่ว่าขอต้นฉบับแบบเต็มเล่มนาจา แต่อนุญาตให้อัพลงเด็กดีได้

ส่วนเรื่องแกล้งลืมไม่ส่ง กูไม่อยากทำเลย แม่งกลัวติดแบล็คลิสต์ว่าเป็นนักเขียนที่เหี้ย ยังไม่อยากตัดโอกาสชีวิตตัวเอง

จริง ๆ ตอนนี้โม่งน่าจะแตกแล้ว แต่ไม่ค่อยแคร์ คนไม่ค่อยรู้จักกูหรอก เพื่อนในเฟซกูก็รู้กันอยู่แล้วว่ากูสิงโม่ง ถถถถถ

30 Nameless Fanboi Posted ID:HphsagWX.

>>27 กู 21 เอง สงสารมึงจัง โอ๋ๆมามะ มาให้กอดหน่อย ไม่ว่ายังไงก็ตามกูก็ยังคงแนะนำให้มึงทิ้งพล๊อตจะดีที่สุด เพราะมันไม่แฟร์กับงานมึงมากจริงๆ ทิ้งเถอะ งานเรายังทำใหม่ได้นะ

31 Nameless Fanboi Posted ID:Cv/j9ZA0f

>>30 ร้องไห้แรง ขอบคุณมึงมากนะเพื่อนโม่ง กูน่าจะลองมาปรึกษาในนี้ก่อน ถามคนรอบตัวก็บอกให้กูเขียนไป จะได้เป็นโอกาสในชีวิต
เอาเถอะ กูตัดสินใจไปแล้วว่าจะเขียน ก็คงต้องดันทุรังเขียนต่อไป สักวันหนึ่งนิยายมุก 5 บาท 10 บาท ของกูอาจจะได้มีโอกาสโดนด่าในโม่งก็ได้...

ส่วนใครที่คิดจะประกวดพล็อต แนะนำให้ทิ้งความคิดเหี้ย ๆ นี่ไปเลย เขียนแล้วส่งสนพ.เถอะ ชีวิตเจริญกว่า

32 Nameless Fanboi Posted ID:NKxkFRgT2

ประกวดพล็อตกูว่ามันเหมาะกับพล็อตชั้นรองที่คิดมาแล้วว่าเอามาเขียนไม่เวิร์คแน่ จะได้รับรางวัลรึเปล่าก็ช่างมันเป็นพล็อตขยะไม่สนใจแต่ถ้ามารีไซเคิลเป็นตังได้ก็เอาอะไรแบบนี้วะ

33 Nameless Fanboi Posted ID:wKzpGA9nN

มึงมาไม่ทันสิงโม่งช่วงมันจัดประกวดใช่ป่ะ ตอนนั้นโม่งด่าเละอ่ะแม่งโคตรเอาเปรียบ แต่อะไรผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป เขียนแบบเอาเวลาว่างมาใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นประสบการณ์ อย่าไปจริงจังจนเสียเวลาจะเจ็บตัวกว่าตอนนี้ เขียนให้จบ ต่อให้ขายขาดมึงก็เขียนจบเล่มนึงแล้วเล่มที่สองจะง่ายขึ้น สู้ๆนะมึง

34 Nameless Fanboi Posted ID:Cv/j9ZA0f

>>33 กูสิงห้องอื่น ไม่ได้เข้าพวกวรรณกรรมเลย
ขอบคุณมึงมาก กูว่ากูจะเขียนเล่น ๆ ไป ไหน ๆ มันก็เป็นนิยายไร้สาระอยู่แล้ว

35 Nameless Fanboi Posted ID:qpPl26ZyU

มีแบบนี้ด้วยหรอวะ สนพ.อะไรอ่ะ ไม่ได้มาสิงโม่งตลอด ตกๆหายๆ

36 Nameless Fanboi Posted ID:sNxIgC0PA

>>35 น่าจะ 1168 เห็นมีประกวดพล็อตเมื่อปีที่แล้ว

37 Nameless Fanboi Posted ID:EKDjB.OyU

>>36 ทั้งประกวดพลอต ทั้งประกวดแฟนอาร์ตแต่กฏระเบียบนี่แบบ...ตลอด 555

38 Nameless Fanboi Posted ID:.iI3MhbSW

>>34 มึงพลาดไปจริงโม่ง อารมณ์เหมือนแคมเปญคิดรสชาติให้เลย์ สนพ.จ่ายค่ายพล็อตไม่กี่อัน ที่เหลือได้พล็อตใหม่ไปรียูสได้ เป็นแคมเปญที่เอาเปรียบมาก แต่ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ถือว่าตอนนี้มึงได้ตังค่ากินหนมมานิดหน่อยๆแล้วกัน

ส่วนเรื่องที่มึงจะเขียนเองดีมั้ย ต้องดูว่าตอนนี้มึงสามารถเขียนจากพล็อตที่มึงเขียนแค่ไหนดีกว่า ขนาดตัวมึงพูดเองว่า"เขียนพล็อตแบบง่าว ๆ แล้วเสือกชนะ" มึงคิดยังว่าจะเขียนยังไงจากพล็อตของมึง

พอดีกุไม่ได้เข้าไปอ่านพล็อตที่ชนะของมึงเลยไม่รู้ว่าพล็อตที่มึงส่งประกวดละเอียดแค่ไหน คือถ้ามึงเขียนดีแค่เสมอตัว เขียนแย่โดนด่าเละ ลองคิดดูแล้วกันว่าพล็อตมึงมีค่าแค่ไหน ขยำทิ้งเขียนใหม่คุ้มกว่าป่าว

39 Nameless Fanboi Posted ID:fKE5zuL+W

กูมีปัญหากูคิดภาพในหัวเป็นการ์ตูนมากไป(อารมณ์อนิเมชั่น)จนกูจะเอาฉากที่อยู่ในหัวมาบรรยายไม่ได้กูควรทำไงดี
คือกูมีเรื่องในหัว(ขาดๆเกินๆ)แต่กูอยากแต่งมาก กูอยากเขียนมันลงไปแต่ก็ไม่รุ้จะบรรยายยังไงเรียบเรียงยังไง

40 Nameless Fanboi Posted ID:fKE5zuL+W

อีกเรื่องคือจังหวะสนทนาคือกูอยากให้คุยสลับกันรัวๆคำสั้นๆ แต่แต่งแล้วไม่เหมือนคนคุยกันประโยคมันแข็งๆ กับการกระทำหรือสีหน้าท่าทางหลังพูดเสร็จไปประโยคกูรู้สึกมันอธิบายยาวไปบ้างสั้นไปบ้างแต่ก็อยากลงรายละเอียดการกระทำแต่ก็รู้สึกเหมือนมันเยอะและไร้ความจำเป็นเหมือนกัน กูไม่รู้จังหวะในการใส่มันลงไป

41 Nameless Fanboi Posted ID:l9uUldVvh

>>40 ถ้าเอาวิธีกูนะ กูก็คล้ายๆ มึงนั่นแหล่ะ กูใช้วิธีนึกฉากอะไรออกก็เขียน เขียนออกมาไม่ดี ไม่สนุกยังกูก็เขียนไปก่อน โยนๆ ไว้ เสร็จแล้วพอมีเวลาค่อยมานั่งเขียนแบบจริงจัง เริ่มตั้งแต่หนึ่ง แล้วค่อยๆ ดึงไอ้ที่เขียนไว้มาเรียงใส่ไทม์ไลน์ตามความเหมาะสม เขียนไปเกลาไป ยังไม่พอใจก็ช่างแม่งก่อน พอหมดมุขกูก็หยุดอีกที ไปหาอย่างอื่นทำ แล้วค่อยกลับมานั่งรีไรท์ตั้งแต่ต้น ระหว่างนี้นึกฉากไหนออกก็เขียนกองไว้ แล้ววนลูปกลับไปทำตามวิธีแรกเรื่อยๆ จนจบเรื่อง กูใช้วิธีนี้ มึงพอเข้าใจปะวะ

42 Nameless Fanboi Posted ID:7xjEhKvkz

>>39-40 อ่านเยอะๆ แล้วลองสังเกตดูว่าเขาเขียนอะไร บรรยายอะไร มันจะช่วยได้มากเรื่องการบรรยาย
ส่วนเรื่องประโยคสนทนาที่ต่อเนื่องกัน อันนี้สไตล์กูนะ ไม่ได้เขียนเก่งอะไรหรอก กูจะไม่ค่อยเขียน dialogue ที่มันสั้นๆ แต่จะรวบๆ เข้าด้วยกัน บรรยายท่าทางประกอบที่พอให้เห็นภาพว่าตัวละครทำหน้ายังไง คิดยังไง แต่ไม่ใช่บรรยายทุกอิริยาบถ แต่ถ้าคิดไม่ออก ลองพิมพ์ dialogue ไปก่อน แล้วค่อยเติมส่วนบรรยายก็ได้ กูทำงั้นเวลาง่วงนอน คิดบทบรรยายไม่ออก

ยกตัวอย่าง
แบบ dialogue สั้นๆ
"สุวรรณ มีคนจับภาพยมทูตของเราได้"
"ไม่จริงน่า"
"เรื่องจริง เจ้าเช็คสิว่าเป็นใคร โจงกระเบนแดงเสียด้วย"
"คงจะเป็นคืนก่อนที่มีงานเลี้ยงแฟนซีในนรกมั้งท่าน "
"พวกมันก็ไม่น่าจะโผล่ขึ้นไปบนโลกทั้งอย่างนั้น"
"งานด่วนเข้ามาเลยลืมเปลี่ยนชุด"
"เออ...นั่นล่ะ เจ้าไปหาตัวพวกมันมา แล้วสั่งสอนเสียด้วยว่าคราวหน้าถ้าจะออกสื่อให้แต่งเนื้อแต่งตัวดี ๆ หน่อย เดี๋ยวคนเขาจะหาว่านรกของเราเชยแหลก...ยุคนี้ยังต้องมานุ่งโจง ถือไม้เท้า ห้อยสร้อยสังวาลอีก!"

แบบปกติที่กูบรรยาย
"สุวรรณ มีคนจับภาพยมทูตของเราได้...เจ้าเช็คสิว่าเป็นใคร โจงกระเบนแดงเสียด้วย" เสียงสั่งจากท่านยมบาลดังขึ้นขณะที่ผมกำลังคีย์ข้อมูลคนตายประจำไตรมาสแรกของปีอยู่ จากน้ำเสียงแข็งกร้าวและดวงตาวาววับที่จ้องเขม็งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอารมณ์ไม่ดีขนาดไหน
"คงจะเป็นคืนก่อนที่มีงานเลี้ยงแฟนซีในนรกมั้งท่าน เจ้าพวกนั้นคงมีงานด่วนเข้ามาเลยลืมเปลี่ยนชุดเสียก่อน" ผมตอบคำถามพร้อมกับยกมือขึ้นดันแว่นด้วยความเคยชิน
"เออ...นั่นล่ะ" ริมฝีปากเบะออกอย่างไม่พอใจ "เจ้าไปหาตัวพวกมันมา แล้วสั่งสอนเสียด้วยว่าคราวหน้าถ้าจะออกสื่อให้แต่งเนื้อแต่งตัวดี ๆ หน่อย เดี๋ยวคนเขาจะหาว่านรกของเราเชยแหลก...ยุคนี้ยังต้องมานุ่งโจง ถือไม้เท้า ห้อยสร้อยสังวาลอีก!"
อ้าว...ไม่พอใจเรื่องนั้นหรอกเรอะ?

43 Nameless Fanboi Posted ID:XTx/ao3fm

>>41-42 กูก็พยายามทำแบบที่ว่าอยู่ว่ะ มีอะไรก็พิมพ์ๆไปก่อน เดี๋ยวค่อยมาแก้ทีหลังก็ได้ แต่บางทีก็แก้ไม่ออกซักที 555

44 Nameless Fanboi Posted ID:S1gD8wE69

>>42 วิธีน่าสนใจว่ะ เดี๋ยวกูขอลองเอาไปใช้บ้างนะ กูเป็นพวกบรรยายคล่องกว่าสนทนา เวลาเขียนนิยายหนึ่งบทมีปัญหาเรื่องบทสนทนาเกือบทุกย่อหน้า

45 Nameless Fanboi Posted ID:9G/60H3DL

กูขอปรึกษาปัญหาพล็อตกับตัวละครหน่อยนะ คือกูวางบทให้นางเอกเป็นพวกแอนตี้ฮีโร่ ฆาตกรต่อเนื่อง 10 ศพ แล้วตอนจบคือหลังช่วยพวกพ้องที่เป็นพวกแอนตี้เหมือนกันบรรลุเป้าหมายแล้ว ก็แยกย้ายไปใช้ชีวิตแบบคนปกติ เปลื่อนชื่อเปลี่ยนหน้าตาสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่โดยไม่ได้รับโทษทางกฎหมายอะไรเลย นิยายกูเป็นแนวดาร์กแฟนตาซีผสมดิสโทเปียหน่อยๆ อะมึง จบแบบนี้จะดีเปล่าวะ คือกูไม่ได้แต่งเพื่อจรรโลงสังคมหรือมีสาระอะไรมากหรอกนะมึง แต่กลัวว่าถ้าจบแบบนี้จะถูกว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้แก่เยาวชน สมควรโดนแบน บลาๆ คือมันจะมีประเด็นเรื่องทาส มุมมืดของกฎหมาย การทดลองที่ใช้เด็กกำพร้ามาดัดแปลงร่างกายเป็นอาวุธชีวภาพเพื่อใช้ในสงคราม และตัวละครหลักตายเป็นสิบ ถึงธีมเรื่องจะเน้นดาร์กเป็นหลักแต่ก็ยังแอบกังวลอยู่นะว่าจะเกินไปรึเปล่า

ปล.นิยายกูนับว่าเป็นแนว YA ไม่เหมาะสำหรับเยาวชนแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นผู้ใหญ่เท่านั้นที่อ่านได้

46 Nameless Fanboi Posted ID:AjRjsu.GC

>>45 มันอยู่ที่วิธีการนำเสนอของมึงด้วยว่าจะออกมาในรูปแบบไหน เหตุผลของตัวละครคืออะไร ดำเนินเรื่องด้วยวิธีไหน คือถ้ามาตรงๆโต้งๆ ฆ่าๆๆ เอาสะใจ ไม่ได้มีอะไรที่ลงลึกให้เห็นถึงการที่นางเอกต้องทำแบบนี้ อันนี้โดนด่าแน่

ถ้าเขียนนิยายดิสโทเปียส่วนตัวกูว่านักเขียนต้องพาจนไปถึงระบบโครงสร้าง ระบบอำนาจ เหมือนแบบเป้าหมายคือการโค่นล้มโครงสร้างที่กดทับอยู่ แต่ประเด็นคือนักเขียนในไทยที่เห็นพยายามดิสโทเปียกัน พากันไปไม่ถึงจุดนั้น ได้แค่ตื้นๆ ว่าโลกเนี่ยเลวร้ายนะ ดิสโทเปียนะ ซึ่งแบบ...แล้วไงอ่ะ

ดิสโทเปียไม่ต้องจบสวย แฮปปี้เอนดิ้งก็ได้ มันทำได้ทั้งล้มระบบ หรือให้หดหู่หนักกว่าเดิมด้วยการตอกย้ำว่าระบบมันต้องเป็นแบบนี้ต่อไป บอกตรงๆ ยังมองไม่ค่อยเห็นนักเขียนที่เก่งๆแบบนี้เท่าไร

สำหรับกู ธีมดิสโทเปียมาคู่กับการเมือง ดิสโทเปียไม่ได้มาคู่กับแฟนตาซี ต่อให้โลกจะบรรเจิดแฟนตาซีแค่ไหนมันก็เป็นเรื่องการเมือง เรื่องการใช้อำนาจอยู่ดี

เหมือนจะพานอกเรื่อง ซอรี่

47 Nameless Fanboi Posted ID:4.oswyf5S

>>46 คือ นางเอกเคยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกทดลองแล้วหนีมาได้เพราะความผิดพลาดบางอย่างในการทดลองที่ทำให้เพื่อนระเบิดพลังทำลายศูนย์วิจัยซะราบ พอนางเอกหนีมาได้ก็ไปเจอกับพวกตัวเอกที่รวมกลุ่มกันหาทางเปิดโปงโปรเจคลับของรัฐบาล(ที่นางเอกถูกทดลองนั่นแหละ) เพราะไอ้พวกรัฐบาลก็ฆ่าล้างโคตรพวกตัวเอกที่เป็นชนเผ่าพื้นเมืองเอาเกาะที่อยู่กันมาหลายร้อยปีมาเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของประเทศ นางเอกเลยผันตัวเป็นนักฆ่ายามจำเป็น เวลาสืบข้อมูลถ้าถูกจับได้แล้วจวนตัวหาทางหนีอื่นไม่ได้ืก็เชือดคนจับทิ้ง หรือถูกพวกตัวเอกที่เลี้ยงดูมาสั่งให้ไปเก็บคนที่มีพลังจิตมากพอที่จะถูกพวกรัฐบาลจับตัวไปร่วมโปรเจคเพื่อพัฒนาอาวุธชีวภาพ

48 Nameless Fanboi Posted ID:4.oswyf5S

>>47 ต่อนะ มือมันลั่น เหตุผลที่กูเขียนคือได้แรงบันดาลใจจากนิยายดาร์กแฟนตาซีเรื่องหนึ่งที่มีเรื่องความเชื่อมาเป็นตัวตัดสินชะตาชีวิตตัวละคร มนุษย์คนไหนที่วันดีคืนดีมีเขางอกออกมาจะถูกตราหน้าว่าเป็นปีศาจแล้วถูกฆ่าทิ้งบ้าง ถูกครอบครัวรังเกียจ ฯลฯ แต่มีประเทศหนึ่งเอาคนพวกนี้มาจับไปทดลองซะ ซึ่งบางคนจากที่เป็นคนดีก็กลายเป็นคนเลวหนีไปเข้ากับพวกกบฏช่วยล้มล้างประเทศนี้ซะเลย บางคนที่ดีอยู่แล้วก็ยังดีต่อไป แต่แนวคิดหลายอย่างเปลี่ยนไป และอีกเหตุผลคือกูอยากอ่านนิยายแนวนี้แต่ไม่มีใครเขียน ก็เลยเขียนเองแม่งเลย ไม่ค่อยเน้นการเมืองเท่าไหร่ เน้นพวกสงครามและเรื่องการแบ่งชนชั้นในสังคมที่ตัดสินจากฐานะและอำนาจความฉลาด แบบนี้พอจะได้รึเปล่าวะ

49 Nameless Fanboi Posted ID:a8wGNT1ch

>>47-48 กูพูดว่ามึงจะหาเหตุผลการกระทำของตัวละครมึงได้มั้ย กูไม่ได้ถามเหตุผลที่มึงเขียน โธ่ //ล้อเล่นนะ
ดูเหมือนมึงจะเข้าใจคำว่าการเมืองผิดไปหน่อย การเมืองมันไม่ใช่แค่แบบใครจะได้เป็นรัฐบาลอะไรแบบนี้นะเว้ย การเมืองเกี่ยวกับอำนาจ สงคราม การแบ่งชนชน อะไรนี่ก็การเมืองทั้งนั้น เพียงแต่มึงจะเอาทฤษฎีไหนเป็นหลัก มาร์กซิส สังคมนิยมแบบเหมา-สตาลิน ทุนนิยม ประชาธิปไตย อะไรก็ว่าไป

นิยายมึง ได้ไม่ได้ กูตัดสินให้ไม่ได้หรอกนะ มึงต้องลองเขียนดู ลองร่างพล็อตคร่าวๆก็ได้ ดูความสมเหตุสมผลของเรื่อง ดูว่ามึงจะพามันไปได้ไกลแค่ไหน ฐานที่แน่นจะทำให้มึงสานเรื่องต่อได้ง่ายขึ้น พยายามยึดหลักความคิดที่เป็นแก่นของเรื่องเอาไว้ จะได้ไม่หลงทาง ไม่เขว

อย่างกูเงี้ยะ สมมติว่านิยายมีแก่นหลักคือการทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ ถึงจะเล่าเรื่องแบบบั่นทอนสติปัญญา แต่สุดท้ายกูก็ต้องดึงเข้าแก่นเรื่องอยู่ดี

งงมะ

50 Nameless Fanboi Posted ID:4.oswyf5S

>>49 งงตอนท้ายๆ แต่ก็เข้าใจนะ

เหตุผลก็ทำตามคำสั่งอะมึง บวกกับความแค้นส่วนตัวด้วย แต่จากที่อ่านความเห็นมึงแล้วสงสัยกูต้องปรับเหตุผลเพิ่มหน่อยว่ะ

แก่นของเรื่องก็คือการแบ่งชนชั้นทางสังคม คนที่ฉลาด มีอำนาจ รวย ชาติกำเนิดดี ก็จะเป็นชนชั้นสูงๆ อยู่ในลำดับต้นๆ ของสังคม คนที่โง่ จน ไม่มีอำนาจ ชาติกำเนิดธรรมดา ก็จะถูกลดตำแหน่งต่ำลงมา แล้วพวกชนชั้นล่างสุดก็จะถูกพวกชนชั้นสูงกว่ามองในฐานะต่ำกว่าสัตว์ ไร้ประโยชน์ต่อสังคม เลยเอาไปพัฒนาให้มีประโยชน์ด้วยการเป็นอาวุธชีวภาพ ถูกใช้เป็นเบี้ยในสงครามตายไปก็ถูกเผาไม่มีหลุมศพให้ฝัง ผลงานในสงครามก็ถูกพวกยศสูงๆ ฮุบไปอวดเอาหน้าแทน

51 Nameless Fanboi Posted ID:tGyDhK/Ec

อืม เหมือนมึงยังมองไม่เห็นภาพรวมของเรื่อง กูแนะนำให้ทำตามนี้
www.dek-d.com/writer/36811/

https://www.scribendi.com/advice/goldenrulesforagoodplot.en.html

แล้วก็เริ่มเขียนไปเลยอย่ารอช้า หลักการแค่ทำให้ไม่หลงทาง-วนเรือในอ่าง

52 Nameless Fanboi Posted ID:eunHlTY3W

>>51 ขอบใจว่ะ เดี๋ยวกูจะเอาไปใช้ ตอนนี้ก็เพิ่งเขียนบทนำบทเดียว

53 Nameless Fanboi Posted ID:ZtOH4+Iy+

มึง กูขอความเห็นหน่อย คือกูอยากลองเขียนนิยายอินเซสท์พี่น้องดู แต่กำลังตันมากว่าจะให้มันมาเริ่มความรู้สึกเชิงรักกันได้ยังไง ตามปกติแล้วพี่น้องท้องเดียวกันมันไม่น่าจะเกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ เพราะงั้นเลยคิดว่าจะปูจากการที่พี่น้องสองคนนี้มันเหลือกันอยู่สองคนแบบโดดเดี่ยวมากจนคนที่คิดว่าสำคัญที่สุดของชีวิตคือพี่น้องกันเองนี่แหละ แล้วก็เกิดเหตุให้แยกจากกันไป จนสุดท้ายก็กลับมาเจอกันอีกครั้ง ในสถานาการณ์ที่ทุกอย่างรอบตัวบีบคั้นจนเหลือคนที่ไว้ใจได้แค่พี่น้องเท่านั้น ความสำคัญเลยเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจนความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงไป
แต่กูคิดไปคิดมากูก็ยังว่าระหว่างครอบครัวมันจะมีเส้นแบ่งของความรักอยู่ เป็นเส้นแบ่งแบบที่ไม่ว่ายังไงกูก็ยังคิดหาสาเหตุที่มันไปรักกันไม่ได้ หรือกูไม่ต้องสนอะไรมาก รักก็คือรัก ห้ามกันไม่ได้อะไรงี้ไปเลย? คิดไม่ออกว่ะ..กูไปอ่านเคสอินเซสท์ในชีวิตจริงมาแล้วเหมือนกันนะ แต่ก็ยังไม่เห็นสิ่งที่จะเอามารองรับความรักแบบนี้ในนิยายกูได้เลย..

54 Nameless Fanboi Posted ID:mtP5axDMd

>>53 อ่านเท่าที่มึงเล่ามา กูรู้สึกว่ามันไม่ได้รักอะไรกันตรงไหนเลย สถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่บีบคั้นมันทำให้กูรู้สึกเหมือนมันแค่เป็นความโหยหา ต้องการที่พึ่งพิง แบบใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกันมากกว่าจะเป็นความรัก อันนี้ความรู้สึกกูนะ

55 Nameless Fanboi Posted ID:5Fruvw+UH

ความรักคืออะไร....คำถามจากโม่งที่อยากลองเขียนนิยายรักแต่ไม่เคยรู้สึกพิเศษกับใคร....

56 Nameless Fanboi Posted ID:ZtOH4+Iy+

>>54 ใช่..กูก็รู้สึกอย่างนั้นแหละ..เลยแบบ มันรักตรงไหนเนี่ย แล้วถ้าจะรักได้ มันจะรักกันยังไงวะ orz แต่จริงๆคือ สำหรับกูอะ อันนี้ความคิดส่วนตัวนะ กูมองว่ารักแบบอินเซสต์ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องการที่พึ่งพิงที่เราเชื่อใจได้ตลอดไปอะ มันเหมือนจะแตกต่างจากความรักแบบชู้สาวปกติซักหน่อย เพราะงั้น ด้วยทัศนคติกูมันก็เลยคิดออกมาเป็นแบบนี้ orz

57 Nameless Fanboi Posted ID:mtP5axDMd

>>56 ทัศนคติของกูเลวร้ายกว่ามึงแน่นอน เพราะกูมองว่าคนที่ incest คือคนที่มีความผิดปรกติทางจิตไม่มากก็น้อย เพราะว่าแหกกรอบพวกศีลธรรมของมนุษย์ในยุคปัจจุบันที่ถูกปลูกฝังว่ามันเป็นรักต้องห้าม กูก็ไม่รู้ว่าตัวละครมึงมันมีความจิตหรือเปล่า เลยให้คำปรึกษาไม่ได้
ส่วนตัวกูกูว่าถ้าเป็นพล็อตแบบอีกคนรักคลั่งแบบจิตๆ แต่อีกคนคิดว่ารักมากๆ แต่จริงๆแล้วมันกลับเป็นแค่ความโหยหา ความผูกผัน ไม่ใช่ความรัก มันคงจะเจ็บปวดดี

>>55 คำถามมึงเด็กดวกมาก เห็นแล้วไม่ค่อยอยากตอบ บางทีคนเขียนนิยายรักก็ไม่ต้องเคยรู้สึกพิเศษกับใครก็ได้มั้ง

58 Nameless Fanboi Posted ID:bzIoTVogl

>>53 ความสัมพันธ์แบบเซซาเรกับลูเครเซีย บอร์เจียไง คนน้องถูกพ่อจับแต่งงานสานสัมพันธ์กับคนอื่นเพื่ออำนาจตัวเองไปเรื่อย คนพี่ถูกใช้ให้รบเพื่อพ่อ แต่ตัวเซซาเรเองก็ทะเยอทะยานมากเหมือนกัน คนที่ถูกเลี้ยงมาในครอบครัวขาดๆเกินๆแบบนี้ น่าจะมีนิสัยบิดเบี้ยวไปในระดับหนึ่ง หรือเอาแบบแลนนิสเตอร์ที่ฝาแฝดอินเชสต์กันเอง นี่ก็น่าจะโอเค

59 Nameless Fanboi Posted ID:dldelETpw

เรื่องการบรรยายเห็นก่อนหน้าโม่งเด็กดีมาสับนิยายพิมพ์ขายเองเล่มหนึ่ง(ไม่รู้จักเหมือนกัน)ลองเอาไปอ่านปรับใช้ดู ยกตัวอย่างโม่งคนนี้พูดได้ดีมากๆ >>>netwatch/2202/687

ใจจริงกุไม่อยากจะบอกหรอกนะ(ถ้าเปิดโมงคุย)ว่านิยายแนวตัวเอกมีปัญหาคนนี้ๆเลว กุโครตเกลียด เพราะนิยายพวกนี้พวกวัยรุ่นแต่งเห็นมีแต่เหตุผลเบี้ยวๆ ไม่ก็พ่นคำหล่อๆทั้งนั้นเลย ไม่ต้องในไทยนะนอกก็มี

มึงต้องบอกให้ได้ว่าทำไมตัวร้ายต้องทำวิธีที่เสี่ยงตารางแทนวิธีปกติ อย่างอ้างแค่ผลประโยชน์ส่วนบุคคล เพราะประเด็นนี้คนเล่นจนเบื่อแล้ว

60 Nameless Fanboi Posted ID:dldelETpw

ในกรณีที่มึงอยากหาอ้างอิงเข้ากับทีมเรื่องของมึงดู ลองอ่านเรื่องของสิทธิมนุษยที่มนุษย์ทุกคนควรได้รับ การเกิดกบฎในที่ต่างๆ อย่าง isis ยูเครน ที่แบ่งได้กันค่อนข้างสงบสุขอย่างที่อินโดก็ได้

จะให้ดีลองศึกษาสงครามโลกครั้งที่2+สงครามเย็นก็ได้ การเมืองสมัยใหม่มันต่างจากสมัยอินเดียแดงที่เป็นยุคล่าอนานิคม

จุดอ่อนของเรื่องมึงยังมีเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลของรัฐ แหล่งเงินทุน กำลังและอำนาจของกบฎ สเกลโลกที่ดูไม่คล้ายการมีปัญหาในพื้นที่ๆหนึ่ง(ที่ไม่เป็นประเทศด้วยซ้ำ)

61 Nameless Fanboi Posted ID:.z.A7tuR9

เห็นพูดถึงลูเครเซียกับเชซาเลย์ขึ้นมา

ถามจริง เชื่อมั้ยวะว่าพี่น้องคู่นี้มีอะไรกัน? กูว่าโดนใส่ไข่จากฝ่ายที่ไม่ชอบว่ะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:AcL8CSN0X

>>61 นิยาย เกมและการ์ตูนส่วนใหญ่ที่พูดถึงพี่น้องคู่นี้ก็ให้รักกันในเชิงชู้สาวกันหมดเลยนะ บอร์เจียมีชื่อเรื่องนี้จะตาย ที่ incest กันในครอบครัวน่ะ

63 Nameless Fanboi Posted ID:kyX+xVfD0

>>56 จะเอาแบบโดนเลี้ยงแยกกัน ตอนมาเจอกันจำไมไ่ด้ว่าเป้นพี่น้อง จนชอบกันแล้วเพิ่งรู้ แต่ไม่หยุดแล้ว แบบที่เคยมีข่าวเกิดขึ้นจริงของต่างาติไหมล่ะ , รึอย่ากให้ inest แบบรู้อยู่แล้วแต่ยังอยากรักกัน

64 Nameless Fanboi Posted ID:FImHCMZd1

>>61 กุว่าเหมือนเป็นข่าวลือมากกว่าว่ะ ซึ่งเป็นข่าวลือที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือเพราะตระกูลนี้มันชื่อเสียงไม่ดีอยู่แล้ว คนก็พร้อมที่จะเชื่อแหละ มันเลยถูกบันทึกมาในรูปแบบนี้
หรือบางทีแม่งอาจแสดงความรักแบบพี่น้องที่คนนอกดูแล้วรู้สึกว่ามากไป บวกกับการที่สามีลูเครเซียตายห่าด้วยเลยเหมือนแบบถูกฆ่าเพราะแย่งลูเครเซียกันอ่ะ

65 Nameless Fanboi Posted ID:.+0Ow1eOe

เพื่อนโม่ง กูห่างหายจากการเขียนไปพักใหญ่ แล้วเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้อ่านนิยายอะไรเลยด้วย พอมาลองกลับมาเขียนเล่นๆดูกลายเป็นว่ากูบรรยายสั้นลงว่ะ ไม่รู้ว่าห้วนไปป่ะ 555 สมัยก่อนกูติดพวกสำนวนสวยๆยาวๆพรรณาเยอะๆอารมณ์บารามอสไรงี้ นึกออกนะ เช่น "เสียงหวานใสราวระฆังแก้วบรรเลงบทเพลงถูกเอ่ยเอื้อนออกจากปากของหญิงสาว" แต่เดี๋ยวนี้จะเป็นแบบแค่ "หญิงสาวเอ่ยเสียงหวาน"ว่ะ กูเขียนคำวิเศษณ์ขยายความเยอะๆไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ก๊าก

66 Nameless Fanboi Posted ID:uon052sTQ

มึง ขอถามอะไร ปกติเวลากำหนดให้ตัวละครทำอาชีพต่างๆ นี่ หาข้อมูลกันยังไง จากเน็ตอย่างเดียวไหม หรือถามจากคนรู้จักที่ทำอาชีพนั้นด้วย คือกูกำหนดให้ตัวเอกเป็นหมอ แต่กูกลัวมันไม่ค่อยสมจริงสักเท่าไหร่ จะถามจากตัวจริงกูก็ไม่กล้า ในเน็ตข้อมูลไม่ค่อยพอ จริงๆ ก็มีเพื่อนในเน็ตบางคนเป็นนศ.แพทย์ จะถามจากเขาได้ไหมวะ หรือจะบุกไปถามหมอตัวจริงดี?

67 Nameless Fanboi Posted ID:ZyKusqfRE

>>66 ถ้าเอาให้เนียนถามตัวจริงดีกว่า ไม่ก็หาหนังสือประสบการณ์ในสายอาชีพอ่าน ตอนนี้หมอก็เขียนหนังสือแบบนี้เยอะ ถ้าไม่ลงลึกมากไปจะไม่มีใครแหกหน้ามึงหรอก

68 Nameless Fanboi Posted ID:.+0Ow1eOe

>>66 อาจไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไหร่ แต่กูเพิ่งดูช่องnhkเมื่อวาน รายการกำลังนำเสนอมังกะเรื่องนึงเกี่ยวกับนางเอกทำงานเป็นดีเจในสถานีวิทยุพอดี เห็นมีติดต่อโทรคุยกับเจ้าของสถานีวิทยุจริงๆด้วยกับไปขอถ่ายสถานที่จริงมาเก็บอัลบั้มไว้เลย แหม่ กูเห็นแล้วอยากให้คนไทยแต่งอะไรแล้วหาข้อมูลจริงจังให้ถูกต้องแบบนี้จัง แต่ก็นะมันยุ่งยาก เท่านั้นยังไม่พอ ยิ่งเด็กแต่งล่ะยิ่งคิดเองเออเองอีก

69 Nameless Fanboi Posted ID:Y4w169OWh

>>65 สั้นๆ ก็ดีแล้วนี่หว่า กูเบื่อพวกชอบบรรยายแบบเพ้อๆ อ่านไปสิบหน้าแม่งบรรยายแต่ความสวยความหล่อกันอยู่นั่นแล้ว เลิกอ่านแม่ง

70 Nameless Fanboi Posted ID:HIn.3kCU4

>>65 กูคล้ายๆ มึงแต่ของกูอารมณ์มันดิบเถื่อนขึ้น55555555

71 Nameless Fanboi Posted ID:.+0Ow1eOe

>>69 เมื่อก่อนกูโคตรชอบแบบนั้นเลย บรรยากาศเพ้อๆฟุ้ง ประมาณพระเอกนางเอกคุยกันที บรรยากาศเหมือนการ์ตูนตาหวาน มีละอองฟุ้งๆ ดอกไม้บานเต็มช่อง แต่เดี๋ยวนี้แม่งโคตีเบื่อ มึงจะเดิน จะหันหน้า จะเขินที อ่านแล้วรำสุดๆ
เออ เพิ่งเห็นในเด็กดี เวลาทายอายุใช้ยังงี้ได้ด้วยเหรอวะ 20...4อะ มันต้องยี่สิบ...สี่ไม่ใช่เรอะ กูว่าสมัยก่อนวิบัติเยอะแล้วนะแต่ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าว่าปัจจุบันมันยิ่งวิบัติกว่าเดิมน่ะ...
20...4อ่ะ แบบมันควรใช้คำเขียนมากกว่าป่ะวะ

72 Nameless Fanboi Posted ID:SR6tj.0CX

>>71 พูดเรื่องตัวเลข พวกมึงใช้ตัวเขียนหรือตัวเลขยังไง ที่กูใช้ส่วนใหญ่เป็นตัวเขียน บางทีกูก็อยากใช้ตัวเลขบ้างนะ แต่ใช้แล้วบางทีมันรู้สึกไม่เข้ากันนะ

73 Nameless Fanboi Posted ID:0VYdXAzAD

ตัวเขียนคือคำพูด ข้อความ ตัวเลข คือ ข้อความไว้โชว์ พวกหน้าจอ หรือป้้าย กูว่าใช้แบบนี้เหมาะกว่า

74 Nameless Fanboi Posted ID:2.bs..4vq

>>71 ต้องใช้คำเขียนดิ ประหลาดว่ะ แต่เอาเหอะ รุ่นน้องรร.กู(โรงเรียนอันดับสองไม่ก็หนึ่งของไทยอะ)แม่งยังเขียนเรียงความกันไม่เป็นเลย ย่อน่งย่อหน้าไม่รู้จัก ย่อความแม่งก็ไม่รู้จัก กูปวดหัวโคตร

75 Nameless Fanboi Posted ID:YjTjFeOdM

กูเรียนมหาลัยที่ชอบอ้างว่าตัวเองเป็นเสาหลักของแผ่นดิน ยังต้องมีวิชาเขียนย่อหน้าไว้ให้ลงเรียนเลย...นิสิตบางคนเขียนให้อ่านยังอ่านไม่รู้เรื่อง
ส่วนตัวเลข ส่วนใหญ่กูใช้ตัวเขียน ยกเว้นมาแบบ 12,498 อันนี้เขียนแล้วสงสารคนอ่าน

76 Nameless Fanboi Posted ID:n2G/.MMxh

>>75 วิชา _a_a_r_ph w_it_n_ ใช่มั้ยวะ ถ้าวิชานี้กูก็เคยเรียน เพื่อนกูด่าเละเทะมาก 55555555555

77 Nameless Fanboi Posted ID:LuojM.hta

ในฐานะคนอ่านถ้าเรื่องไหนคุยตัวเลขเยอะๆบ่อยๆก็ชอบให้เป็นตัวเลขมากกว่า

78 Nameless Fanboi Posted ID:YO9Bq9Ofk

นอกจากกรณีคล้ายๆ >>71 ที่จำเป็นต้องสื่อด้วยตัวเขียน กูใช้ตัวเลขตลอด

79 Nameless Fanboi Posted ID:cBDMNHF2n

>>76 วิชาที่เอาไว้เก็บเกรดสินะ /ไอ

80 Nameless Fanboi Posted ID:7BKEN1CHM

>>79 เก็บกรงเก็บเกรดอะไรรร๊ พูดไปเรื่อยนะมึง เข้าใจผิดละมึง ออกจะยากกกขนาดนี้

81 Nameless Fanboi Posted ID:uOkTmNpKh

กูรู้สึกท้อๆแบบบอกไม่ถูกว่ะ กูกลับมาเขียนนิยายแฟนตาซีลงเด็กดีใหม่แบบเปลี่ยนนามปากกาเริ่มต้นจาก 0 แต่คงเพราะเริ่มใหม่นิยายกูก็เลยไม่มีคนอ่าน ลง 4 ตอน วิว 100 นึง เห็นแล้วมันปวดใจแปลบๆ ทั้งที่ก็รู้ว่ากูกำลังเริ่มใหม่ กูต้องทำใจ ต้องค่อยๆพยายามไต่ระดับไป สักวันนิยายกูคงจะมียอดวิวสัก 1,000 แต่สุดท้ายแล้วมันก็อดเศร้าไม่ได้อยู่ดี การเริ่มใหม่มันยากจริงๆ

กูขอโทษที่เอามาระบายในนี้ กูสับสน ตอนนี้กูไม่มีใครเลย แม้กระทั่งเพื่อนที่เคยอ่านนิยายให้ ตอนนี้ก็เอาแต่พร่ำเพ้อชีวิตดราม่าใส่กูจนกูเครียดตาม กูเองก็มีเรื่องที่เครียดเหมือนกัน ตอนนี้กูอยากร้องไห้ ร้องเสร็จแม่งจะได้ไปเขียนนิยายต่อ

82 Nameless Fanboi Posted ID:OUlhL1cH7

>>81 กุไม่รุจะปลอบยังไง แต่กุเข้าใจและขอกอด

83 Nameless Fanboi Posted ID:SZZWemumh

>>81 กอดมึง มึงลองลงในนี้สิเดี๋ยวกูจะเข้าไปอ่านเอง

84 Nameless Fanboi Posted ID:uOkTmNpKh

>>82-83 ฮือออออ ขอบคุณพวกมึงมากนะเพื่อนโม่ง
แต่ให้ลงนิยายในนี้โม่งก็แตกสิฟระ...

85 Nameless Fanboi Posted ID:OUlhL1cH7

>>84 ถ้าไม่ใช่แนวเกิดใหม่ ออนไลน์ แปลไลท์โนเวลฮาเร็มลง หรือเป็นแนวรักแฟนตาซี กุว่าเมิงควรทำใจตั้งแต่เนิ่นๆ ตลาดเด็กดวกส่วนใหญ่มีแต่เด็กๆชอบอ่านแนวแกรี่สตูหว่ะ แม่งมีแต่เด็กเม้นว่ามะไรพระเอกจะเทพคับอ่ะเมิง 5555

86 Nameless Fanboi Posted ID:uOkTmNpKh

>>85 แนวกูเป็นแบบตลกโปกฮามุก 5 บาท 10 บาท คุ้นๆเหมือนโม่งที่เคยเพ้อไปด้านบนมั้ย เออ กูเอง คนเดิมเลย T_T

87 Nameless Fanboi Posted ID:m9lNsyK/n

ถามหน่อย ถ้านิยายทำมือของมึงขายออกเพราะภาพประกอบ (ลูกค้าบอก) จะรู้สึกยังไงกันบ้างวะ

88 Nameless Fanboi Posted ID:h.7ylgOJp

>>87 อันนี้มันวัดแค่เล่มแรกวะ ถ้าเรื่องมึงห่วย ต่อให้ภาพประกอบดีแค่ไหนคนก็ไม่สนหรอก ยกเว้นมึงจะสร้างตลค.มาให้บุฮี้ได้มากพอแบบIS

89 Nameless Fanboi Posted ID:oG9TqhJTn

กูเขียนแล้วตลค.ดูแบบเป็นคนคิดมากนี่จะน่ารำคาญป่าววะ โดยนิสัยแล้วตลค.เป็นคนคิดมากสุดๆ ชอบคอมเม้น ชอบโยงอะไรต่อมิอะไรเข้าหากันในหัว
เวลาบรรยายออกมากูเลยเอาความคิดในหัวมาแทรกตลอด ทำเป็นตัวเอียงแทรกบทบรรยาย พอมาอ่านเองแล้วรำคาญไงไม่รู้ กูเซ็ตคาร์.ไว่แบบนี้ก็จริง แต่เขียนแล้วรำคาญมากเลยวะ
คงกูควรคงการเขียนแบบนี้ไว้หรือเปลี่ยนดี แต่กูอยากสื่อให้เห็นว่ามันเป็นคนคิดมากคิดไร้สาระตลอดเวลานะ กูควรทำไงดี

90 Nameless Fanboi Posted ID:JAjRcnmaW

ถามหน่อยครับผู้เขียนทุกท่าน ทุกท่านชอบอ่านบทวิเคราะห์ของคนอ่านไหม
ถ้าคอมเม้นท์คนอ่านมันลึกล้ำกว่าเนื้อเรื่องจริงๆจะรู้สึกยังไง
ถ้าท่านขมวดปมหรือตั้งใจเซอร์ไพรซ์แล้วมีคนอ่านที่วิเคราะห์และทำนายถูก ท่านรู้สึกยังไง จะเขียนตามที่ตั้งใจไว้ต่อไหม
ถ้าคุณอ่านบอกสิ่งที่อยู่ในหัวคุณออกมาเป็นฉากๆได้ พูดง่ายๆคือมีคนอ่านที่รู้ว่าคุณจะเขียนอะไรต่อไป คุณจะรู้สึกดีหรือแย่

ผมเป็นคนอ่านคนนึงที่กลัวคนเขียนได้รับตัวแปรจากคนอ่านมากไป จึงไม่กล้าคอมเม้นท์หรือวิเคราะห์ตอนต่อไปตรงๆ
จึงมักจะแค่วิเคราะห์ตอนเก่าๆ หรือชมเชยให้กำลังใจว่ารอตอนต่อไปงี้ เพราะผมกลัวคนเขียนเป๋จากสิ่งที่ตั้งใจ
นึกภาพว่ามีคนดักทางคุณถูกแล้วคุณพยายามไปทางอื่น มันกลับกลายเป็นหลงทางไปกันใหญ่
มีครั้งนึงผมเคยเผลอวิเคราะห์ออกไป แล้วเนื้อเรื่องต่อๆไปมันออกมาตื้นและโดดมาก
ผมเลยคิดว่าเป็นเพราะเราเปิดเผยมันออกไปรึเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริงจะได้ไม่บอกออกมาอีก
เพราะสิ่งที่ผมวิเคราะห์ได้ก็เป็นสิ่งเดียวกับที่ผมอยากให้มันเกิด เพราะมันสมควรที่จะเกิดแบบนั้น
"ถ้ากูบอกออกไปมันก็เขียนแบบอื่นสิวะ แบบนั้นมันก็ไม่ถูกต้องดิ ฉะนั้น กูเงียบๆไว้ดีกว่า" ผมจะคิดประมาณนี้

ลองนึกดู ถ้าสมมติมีคนทำนายอะไรคือวันพีซตามที่โอดะตั้งใจไว้แต่เดิมได้เป๊ะๆเป็นฉากๆ
แล้วทฤษฎีนี้ดังมากจนกลายเป็นกระแสหลักของนักอ่านทั่วโลก โอดะจะเขียนตามที่คิดไว้หรือพยายามฉีกออกไป?
โอเค วันพีซมันยิ่งใหญ่ไป แล้วทฤษฎีจริงๆลวงๆมันก็เยอะ มันอาจไม่มีผลอะไรมาก แต่ถ้าเรื่องเล็กๆที่มีคนตามหลักพันหลักหมื่นคนหล่ะ?

ผมไม่ใช่คนแบบไล่พ่นซึ่งที่ตัวเองคิดออกมานะ ทุกครั้งส่วนใหญ่เวลาปิ๊งเห็นแพทเทิร์นของเนื้อเรื่องผมเลือกที่จะเงียบมากกว่า
คือถ้าเงียบไว้ส่วนใหญ่ 80% ออกมาตรงกับที่คิดไว้ คือผมเป็นพวกที่ดักทางมุขตลกได้ทุกครั้ง แต่ชอบฟังมุขตลกไปเรื่อยๆแม้จะเดาได้ก็ตาม
ฉะนั้น ต่อให้เดาได้ผมก็ไม่บอกออกมา ลองนึกดูว่าจู่ๆคนในวงเฉลยมุขที่คุณกำลังจะเล่า คุณคงไม่มีอารมณ์เล่าต่อ

สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือเผลอไปชี้นำคนเขียน ซึ่งนิสัยคนเขียนทั่วไปย่อมไม่ชอบถูกชี้นำจึงมักพยายามขบถออกมา แล้วถ้าไม่เทพจริงมันจะเฟลกว่าเดิม

อยากทราบมุมมองความรู้สึกของนักเขียนที่เจอจริงๆครับ ใครยังไม่เคยเขียนหรือไม่มีประสบการณ์เจอแบบนี้รบกวนวงเล็บบอกก่อนนะ

91 Nameless Fanboi Posted ID:QS.+MYtWA

enter ประกาศแล้วว่ะ พวกเมิงคิดว่าไง

92 Nameless Fanboi Posted ID:eESmTAhIf

>>91 เท่าที่อ่านผ่านๆ ทำไมมันดูเลเวลต่ำกว่าปีที่แล้วเยอะจังวะ เอาเป็นว่ายังไม่มีตัวเก็งสำหรับกู

93 Nameless Fanboi Posted ID:ZioqbNShG

>>92 อ่านผ่านๆ ของมึงนี่เฉพาะคำโปรยใช่ไหมวะ
สำหรับกู กูว่าบางเรื่องน่าสนใจดี แต่ต้องดูอีกทีว่าภาษาเขียนนี่เป็นยังไง
บางคนพล็อตดี แต่ตายตรงวิธีเล่าเรื่องกูก็เห็นมาเยอะ

94 Nameless Fanboi Posted ID:E4G4BXZ1W

>>91 กูไม่ผ่านวะ ร้องไห้แปบ 55555

95 Nameless Fanboi Posted ID:E4G4BXZ1W

ปลอบกูที กูไม่ผ่านเว้ย สงสัยเรื่องมันหนักไป ปีหน้าส่งแบบแฟนตาซีเอาใจสาวแต่ไม่วายไปซะดีมั้ย

96 Nameless Fanboi Posted ID:zsmaBg3Dr

กูไม่ผ่านเหมือนกัน อุตส่าห์ตั้งใจกว่าปีที่แล้ว ปีนี้ดันไม่เข้ารอดเฉย 555//หรือปีนี้เรื่องกูมืดมนไปวะ ก็ไม่น่าใช่...

97 Nameless Fanboi Posted ID:i/z6yTAzs

เพื่อนโม่งที่ไม่ติด อย่าเสียใจไปเลยมึง มันก็แค่การประกวด มึงเขียนให้จบแล้วส่งสนพ. ผ่านการพิจารณาก็ได้ตีพิมพ์เหมือนกัน เก็บความเสียใจไว้ไปลงกับฉากดราม่าในนิยายดีกว่า ปีนี้ไม่ได้ ปีหน้าก็ยังมี

98 Nameless Fanboi Posted ID:6bacXDF8.

แต่เดี๋ยวนี้กูว่ามึงเขียนพอให้มีฐานลูกค้าแล้วพิมพ์ขายเองเหอะ ดูทรงจากสนพ.หลายๆที่แล้ว

99 Nameless Fanboi Posted ID:nx55uP4nM

Enterปีนี้ย้อนเวลาเยอะจังเลย

100 Nameless Fanboi Posted ID:19oNoFFjK

>>90 มาตอบให้ว่า "แล้วแต่คน" นะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะฟัง ไม่ใช่ทุกคนที่จะโอเคเวลามีใครมาบอก
แตมันก็ประเภทฟังแล้วเก็บไปคิดมาก พูดได้แล้วแต่คนจริงๆ ถ้าคนฟังแล้วใจอ่อนก็เป๋
แต่ถ้าคนไม่ฟังบวกเพิ่มอีโก้พี่ก็มา โอ้โห ไม่ฟังหรอก เผลอๆอาจจะได้บวก
แต่การคอมเม้นแบบเปิดเผยพล๊อตมากเกินไป ทำให้คนเขียนกังวลนะ
บางคนก็ไม่ได้ถนัดแนวล้ำๆมาก บางคนก็เขียนเอาหนุกๆแบบขนบพล๊อตทั่วๆไป
ถ้าถามว่าควรคอมเม้นท์ไหม อันนี้สิทธิ์ขึ้นกับตัวเราว่ะ เห็นใจเขาเราก็ไม่โพสก็ได้
ส่วนตัวเคยเจอคอมเม้นวิเคราะห์งานเขียนเชิงลึก ถึงกับก๊ากเลย ตอนเขียนไม่ได้คิดงั้นไง
แค่ ก็มันแบบนี้ไง มันเป็นแบบนี้ แต่ถ้ากับนักเขียนสายวางพล๊อตเขาจะกังวลงิ
ชอบคนมามีส่วนร่วมกับงานเรานะ แต่บางทีก็ตอบไม่ได้ไง ว่าทำไมเป็นงั้นงี้ล่ะ นี่ติดคำตอบพี่คนหนึ่งจะปีแล้ว
เป็นสายคาแรคเตอร์นำ เลยไม่รู้สึกอะไร ความผันผวนงานเราสูงกว่าสายพล๊อตด้วย

101 Nameless Fanboi Posted ID:W7OXB/A8E

>>90 ถ้าอ่านของผมตั้งแต่ต้นจนจบแล้ววิจารณ์ จะไม่ว่าสักคำ แต่ถ้าอ่านแค่ครึ่งๆ กลางๆ แล้วมาบอกว่าเดาพล็อตต่างๆ ออกหมดแล้ว นี่ผมขำ เพราะผลของมันจะออกมาแค่สองแบบ
1. เป็นอย่างที่ถูกเดาเอาไว้ > เทพเดาถูก
2. ไม่เป็นอย่างที่เดาเอาไว้ > นักเขียนเปลี่ยนพล็อตถูกเดาเอาไว้ - ก็เทพอยู่ดี
ไม่ว่ายังไงมันก็เหมือนกัน ดังนั้นส่วนใหญ่ถ้าเจอพวกนักอ่านแบบ 90 จะอ่านผ่านๆ พอ เพราะคำวิจารณ์แบบนี้ไม่ได้ช่วยให้ผมแต่งเรื่องได้สนุกขึ้นหรือดีขึ้นเลย ก็แค่ทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเองเพิ่มขึ้นเท่านั้น

102 Nameless Fanboi Posted ID:mnZutk/0j

พึ่งเห็นว่าenterเปิดให้อ่านตอน1แล้ว

103 Nameless Fanboi Posted ID:i1qO7iwt2

เรื่องไหนโอเคมั่ง

104 Nameless Fanboi Posted ID:LkQ4BiKIm

กูไม่รู้ควรบอกว่ากูโอเคไหม แต่ตอนนี้กูเริ่มตัดลิสต์นิยายที่จะอ่านทิ้งแล้วว่ะ เรื่องแรกที่จะตัดก็คือเรื่องที่คนเขียนบอกว่าส่งภาคต่อเข้าประกวด(ไม่ใช่หน้าที่ที่กูต้องตามอ่านภาคก่อนหน้าอีดอก)

105 Nameless Fanboi Posted ID:S68gvwV7w

>>104 เรื่องไหนวะมึง บอกหน่อย

106 Nameless Fanboi Posted ID:LkQ4BiKIm

https://www.facebook.com/bestyworld/posts/694895477318838

107 Nameless Fanboi Posted ID:Po8t9kEtd

>>106 ใช่คนเดียวกับที่มีเรื่อง"แรงบันดาลใจ"ตอนเปิดตัวทะเล้นป่าววะ

108 Nameless Fanboi Posted ID:lKYR7EcCY

>>107 คนเดียวกัน

109 Nameless Fanboi Posted ID:IiC8Dsirk

>>106 แบ่งปันเผือกที

110 Nameless Fanboi Posted ID:0Cj2.xiVr

/นอกเรื่อง เข้าไปดูในเฟสเห็นมีลงคลิปเล่นเปียโนด้วยว่ะ แต่กูไม่ได้กดดูนะ ทำเอาเกิดสงสัย มีเปียโนในบ้านได้นี่ต้องมีฐานะระดับนึงป่าววะ อันนี้สงสัยเฉยๆนะ

111 Nameless Fanboi Posted ID:3DEG9fmpN

>>107 เรื่องไหนวะ 555555

112 Nameless Fanboi Posted ID:3DFSUts9F

>>110 ไม่น่าจะใช่เปียโน น่าจะเป็นคีย์บอร์ดมากกว่า ราคาไม่เกินห้าหมื่น

113 Nameless Fanboi Posted ID:L6u4Wxnks

>>112 อ่อ โอเค แล้วนิยายมันเป็นไงมั่ง ยังไม่ได้ลองอ่านเลยว่ะ

114 Nameless Fanboi Posted ID:hx8k8tjRy

ถ้าดราม่านี่ใช่ดราม่าที่กรรมการงานประกวดเข้าข้างจนน่าเกลียดหรือเปล่า? เหมือนกูจำได้ว่ากูเคยอ่านผ่าน ๆ ใน Netwatch กูโม่ง >>111 น่ะ ลองไปคุ้ยดู 5555555555

115 Nameless Fanboi Posted ID:L6u4Wxnks

>>104 เออ ถ้าสมมติเขียนดี พลอตดีล่ะ มันยังโอเคที่จะอ่านอยู่ป่ะวะ
>>114 หืม กูจำได้แค่เรื่องแรงบันดาลใจว่ะ มีเรื่องเข้าข้างด้วยเหรอเนี่ย

116 Nameless Fanboi Posted ID:brUDli7h5

>>115 แรงบันดาลใจไรวะ เล่าหน่อย อยากเสือก ไม่งั้นขอวาร์ปก็ได้

117 Nameless Fanboi Posted ID:RMg0o/I+H

>>116 โชคดีที่จขกท.ไม่ได้ลบตามที่ฝั่งนั้นบอก กระทู้เลยยังอยู่ http://www.dek-d.com/board/view/3536996/

118 Nameless Fanboi Posted ID:hx8k8tjRy

>>115 มีมึงอ่านในกระทู้อ่ะ จะมีคนบอกให้ จขกท ลบกระทู้ บอกว่าใจร้าย บลา บลา แล้วโค้ชงานประกวดมั้งเข้าข้างคนลอกด้วยซ้ำ

119 Nameless Fanboi Posted ID:L6u4Wxnks

>>117 แข่งของอะไรวะ มีพี่โค้ชด้วย

120 Nameless Fanboi Posted ID:ULKhMOMYz

KY เพจ มมล คืบหน้านิดหน่อย แต่โดนรุมด่าเละ
และวันนี้ผู้เสียหายจะมารวมตัวกันที่กองปราบ พร้อมนัดนักข่าวเอาไว้ด้วย

121 Nameless Fanboi Posted ID:FasFUe9ZH

>>120 มมล เพจไรวะ กูตกข่าว

122 Nameless Fanboi Posted ID:6rWXi+3pF

>>121 มามาเลด โกงเงินนิยาย Y

123 Nameless Fanboi Posted ID:5QZgv0J0w

>>121 กูเห็นจากอันนี้ว่ะ แล้วก็ห้องฟุเขาคุยกัน https://twitter.com/HarunaKung/status/702503104516730880
>>119 แข่งของกลุ่มทะเล้นจัดกันเอง(ถ้าเอาตามที่ทางนั้นพูด) แต่เหตุการณ์แย่ตรงที่โค้ชออกมาปกป้องเด็กที่ทำผิด ทั้งๆที่ผิดระดับแจ้งความแพ่งข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์งานได้ ในมู้นั้นมีแต่คนบอกว่าใจร้าย ลองให้เขาเอาไปแจ้งความสักรอบดูไหม จะได้รู้ไปเลยว่าของจริงเป็นไง มีคดีติดตัวนี่ไม่รู้นะว่ามีผลกับการเข้ามหาวิทยาลัยมั้ย

124 Nameless Fanboi Posted ID:i2vCGzdac

>>123 เสริมให้ในห้อง Netwatch ที่ตอนนั้นโม่งคุยประเด็นนี้กัน เหมือนมีโค้ชเข้ามาคุยมาเถียงด้วย

125 Nameless Fanboi Posted ID:YVRD0tgXl

>>119 แข่งแต่งนิยายมาประกวดกัน โค้ชคือกลุ่มทะเล้นที่ตอนนี้มีผลงานตีพิมพ์กับเมจิคไป 3 คน พวกที่เข้าแข่งคือนักเขียนที่เข้าร่วมกลุ่มทะเล้นในไลน์ชื่อเดอะไรต์เตอร์ พอเรื่องลอกนิยายมันแดงขึ้นการประกวดก็ถูกล้มไปด้วย
>>124 โค้ชนกฮูกกับกิ่งน้า

126 Nameless Fanboi Posted ID:Jq/tARMLh

เพื่อนโม่ง ปรึกษาเรื่องแต่งนิยายหน่อย บทคุยกันคนละภาษาอะ (ต่างชาติ) เราต้องแปลให้คนอ่านป่าววะ วงเล็บไปเหรอ หรือปล่อยให้แปลเอง หรือบรรยายว่าคุยเป็นภาษาอังกฤษแล้วเขียนแปลให้เลย แบบไม่ต้องเขียนปะกิดมา ขอบคุณล่วงหน้า

127 Nameless Fanboi Posted ID:5p5pweYbc

>>126 แต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าตัวเอกฟังภาษาอื่นรู้เรื่อง กูก็คงพิมพ์เริ่มต้นว่า "คุณ A. เริ่มพูดภาษาอังกฤษ" อะไรแบบนี้ แต่ถ้าฟังไม่ออกก็ใส่ " @#$%$#^ " แล้วพิมพ์บรรยายว่าเป็นภาษาที่ไม่เข้าใจ ไปเลย

128 Nameless Fanboi Posted ID:AytcWboq9

เขียนตัวเอียงแยกไว้สมมติว่าอิ้งได้มั้ยวะ

129 Nameless Fanboi Posted ID:PC+jeeZcf

KY กูมีปัญหาเรื่องตั้งชื่อนิยายว่ะ คือกูจะตั้งชื่อสองภาษาทั้งที่มีความหมายเดียวกัน แต่กูรู้สึกว่ามันยืดยาวไปเลยอยากตัดเหลือภาษาเดียว แต่ไปๆ มาๆ กูก็ไม่อยากตัดว่ะ แบบว่ากูชอบการตั้งชื่อที่คล้องจองหรือเรียงตัวอักษรเหมือนๆ กันไง เช่น ตั้งชื่อว่า "Story's Seven Servant เรื่องราวของเจ็ดข้ารับใช้" ตัวย่อก็ SSS (ชื่อสมมุตินะ) แบบนี้อะมึง คือกูเกิดลังเลเสียดายไม่อยากตัดสักภาษา แต่คิดอีกทีมันก็ควรจะตัดว่ะ ถ้าในมุมคนอ่าน มึงว่าควรยัดใส่ทั้งสองภาษาหรือภาษาเดียวดีวะ

130 Nameless Fanboi Posted ID:x37yKu5kT

>>129 ที่ยกตัวอย่างมาก็โอเคอยู่นิ ไม่ได้ยืดยาวอะไร

131 Nameless Fanboi Posted ID:AytcWboq9

>>129 มันต้อง Seven Servants's Story ไม่ใช่เหรอวะ แต่กูชอบชื่อนะ 555

132 Nameless Fanboi Posted ID:wGoEjp0BS

>>130 งั้นเหรอ? ของจริงมันเพิ่มอีกหนึ่งคำ ก็คงพอๆ กันแหละ งั้นกูก็ตั้งสองภาษาได้เลยสินะ
>>131 กูใช้กูเกิ้ลแปลภาษาอะมึง มันก็เพี้ยนนิดหน่อย แต่นี่มันชื่อที่กูตั้งมาเป็นตัวอย่าง ถ้ามึงชอบก็เอาไปใช้สิ ลองไปหาแล้วยังไม่มีใครเอาไปตั้งนิยาย

133 Nameless Fanboi Posted ID:AytcWboq9

>>132 เอาเรื่องเกี่ยวกับอะไรดีล่ะมึง สโนไวท์กับข้ารับใช้ทั้งเจ็ดไรงี้เหรอวะ 555

134 Nameless Fanboi Posted ID:BIhipjvzH

>>131 Seven Servants' Story แค่นี้พอมึงไม่ต้องมี s อีกตัว
แต่ story ควรเป็น stories นะเพราะหลายเรื่องราว (Seven Servant's stories) กูแนะไว้อีกแบบว่าเป็น The story of seven servants น่าจะโอเค
ทั้งนี้ทั้งนั้นกูแนะนำอีกแบบไว้เฉยๆ จะทำยังไงต่อก็ตามสะดวกนะ ไม่ได้แกรมม่านาซีแต่อย่างใด 55555 ขื่อเรื่องเป็นความพอใจของคนแต่งด้วย เพราะของเดิมไม่ได้ผผิดอะไรแค่ story ควรเป็น stories

135 Nameless Fanboi Posted ID:BIhipjvzH

>>132 อ้าวเพิ่งเห็นว่าชื่อตัวอย่างเฉยๆด้วย โทษๆ กูไม่ทันมอง เวรกรรม

136 Nameless Fanboi Posted ID:wGoEjp0BS

>>134 ขอบใจสำหรับความรู้ใหม่ว่ะ อากู๋แม่งมั่วสลัด
>>135 ไม่เป็นไร ถือเป็นความรู้ใหม่ เพราะชื่อจริงนิยายกูก็คล้ายๆ กัน

137 Nameless Fanboi Posted ID:AytcWboq9

เอสเยอะแล้วกูชักงง 55

138 Nameless Fanboi Posted ID:Jktc4zdi9

>>126 ถ้าสั้นๆ ก็ใส่ประโยคอิ๊งมาแล้วแปล แต่ถ้าจะคุยยาว ใส่เป็นตัวเอียงแล้วลงไว้ในบทบรรยายดีกว่า
ส่วนถ้าตัวเอกฟังแล้วไม่เข้าใจ กูไม่แนะนำให้ใช้สัญลักษณ์แบบที่ >>127 ว่าแฮะ กูว่ามันแปลกๆ ไม่ได้จะบลัฟมึงนะ 127 แค่ความรู้สึกกูเฉยๆ ใส่เป็นบทบรรยายประมาณอีกฝ่ายพูดอะไรบางอย่างที่ฟังไม่เข้าใจดีกว่า หรืถ้าอยากได้เป็นประโยคๆ เลยกูว่าใส่ประโยคอังกฤษไปเลยนั่นแหละ

139 Nameless Fanboi Posted ID:BIhipjvzH

>>136 มาแว่บแก้นิดนึงพอดีในคอมเม้นตัวเองพิมพ์พลาดไปนิด
ที่โอเคและตรงกับของดั้งเดิมสุดต้องเวอร์ชัน Seven Servants' Stories นะ พอดีไอ้ที่กูพิมพ์ไปว่า Seven servant's stories รอบหลังกดพลาด
คือกรณีถ้าเป็นนามพูพจน์เติม s (servants, students etc.)
เวลาแสดงความเป็นเจ้าของใส่เครื่องหมาย ' ต่อท้ายพอน่ะ
เผื่อเอาไว้ปรับๆใช้กับชื่อเรื่องจริงแล้วกันเน่อ ถ้าชื่อเรื่องจริงมีนามพหูพจน์นะ 55555

140 Nameless Fanboi Posted ID:Qfj36pJV.

>>139 ขอบใจว่ะ

141 Nameless Fanboi Posted ID:aY+cuMvGt

เพื่อนโม่ง กูขอระบายหน่อย พวกมึงเคยเขียนหรือแปลนิยายอะไรไปแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่แนวมึงป่ะ แบบไม่ได้บอกไม่ดี แต่มันคนละแนวกับกูอะไรงี้ แต่คนอ่านชอบ ......คือกูสับสนมาก มันทำให้กูรู้สึกรักนิยายเรื่องนี้น้อยลงเรื่อย ๆ อ้ะแต่กูก็ต้องไปต่อ ขอโทษนะมึง ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร กูแค่อยากพูด 5555 ขอโทษถ้ากูมาผิดห้อง

142 Nameless Fanboi Posted ID:1eEmKxFwF

>>141 ถ้าเป็นนักแปลอาชีพแล้วเจองานที่ไม่ถูกจริตตัวเองนะ บอกคำเดียว นรกสัดๆ ได้เงินค่าแปลมาก็ไม่คุ้มกับการเยียวยาตัวเอง

143 Nameless Fanboi Posted ID:aY+cuMvGt

>>142 กูไม่ใช่มืออาชีพนะ แต่ยิ่งแปลสปิริตกูยิ่งตกต่ำว่ะมึง นรกแม่งอยู่ในใจกูเลยเนี่ย

144 Nameless Fanboi Posted ID:1eEmKxFwF

>>143 แล้วจะทนทำต่อไปทำไมวะ เสียงชื่นชอบจากนักอ่านมันคุ้มค่ามากเรอะ

145 Nameless Fanboi Posted ID:DWLpQzxJK

>>144 กูรูสึกเหมือนกูต้องรับผิดชอบเขาว่ะ

146 Nameless Fanboi Posted ID:TP5FwUaa5

>>145 ทำไมคนแปลเรื่องที่กูตามไม่คิดอย่างมึงมั่งวะ

147 Nameless Fanboi Posted ID:B8j60OsBl

>>146 เพราะเขาไม่ใช่มึง (เผ่น)

148 Nameless Fanboi Posted ID:B8j60OsBl

>>146 อย่าโกรธกูนะกูแค่มาเม้นเล่นๆ

149 Nameless Fanboi Posted ID:B7KVIHPOA

เฮ้ยขำ 555555

150 Nameless Fanboi Posted ID:B8j60OsBl

>>145 เพราะมึงมีความรู้สึกเล็กๆบางอย่างเกิดขึ้นในใจมึงแล้ว

151 Nameless Fanboi Posted ID:B8j60OsBl

คนดีต้องรับผิดชอบว่ะ

152 Nameless Fanboi Posted ID:B8j60OsBl

กูไม่กวนละ พวกมึงคุยกันตามสบาย

153 Nameless Fanboi Posted ID:XM1jDOzpx

>>152 ไปเหอะอีเหี้ย รำคาญ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.