กระทู้สำหรับนิยายญี่ปุ่นแปลไทย
Last posted
Total of 1000 posts
กระทู้สำหรับนิยายญี่ปุ่นแปลไทย
แวะมาร้องไห้กับชื่อ กูเศร้า... 55
ตะเตือนไต
เปิดประเด็นให้ นิยายญี่ปุ่นที่เพื่อนโม่งชอบมากที่สุดมีเรื่องอะไรมั่ง
โอ้ย ไตกู
กุชอบอ่านงานของโอตสึอิจิว่ะ
โคโคโระอะ ที่สุดของกูแล้วจริงๆเรื่องนี้ ภาษาเรียบง่ายแต่ลึกนรยละเอียดมาก กูรักที่สุดเลย
>>>/subculture/2280/476
ก็ใช่ได้ในระดับหนึ่ง เหมือนอ่านราโชม่อน
>>14 ถ้ากุจะอ่านสไปรัล กุควรจะอ่านให้ครบชุดนี้ไหมวะ จริงๆ มันเป็นชุดใช่ป่ะ
https://www.img.in.th/image/7Kjb
พอบลิสไม่อยู่ก็หาอ่านยากชะมัด พวกแปลญี่ปุ่นหาอ่านจากไหนก็แปลไม่ถูกจริตซักที หรือทางนี้จะโลกแคบเองวะ
Humming Book
Humming Book มีกุหลาบเลือด นิยายระทึกขวัญสไตล์ญี่ปุ่น กำลังจะมีเล่มใหม่ของคนเดียวเดียวกัน แปลดีอ่านแล้วไม่สะดุด
ปาปริก้า ของ Earnest
คดีฆาตกรรมเจ้าหญิงสโนว์ ของ แพรว
คินดะของทาเล้นท์วัน
ประมาณนี้ว่ะ
กูแนะพระอาทิตย์เที่ยงคืน(Byakuyakou) เนื้อเรื่องค่อยๆเฉลยตัวเองออกมาได้น่าติดตามมากๆ มีเป็นซีรีย์ด้วย ลองดูละกัน
กูชอบบรรยากาศ กับความสัมพันธ์ของตัวละครว่ะเรื่องนี้ เยอะดี เยอะจนลืมว่าใครทำอะไร
ซีรีส์กูชอบเพลงปิดกว่าเนื้อเรื่องอีก
พูดถึงสำนักพิมพ์ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า Enter ก็เริ่มมาเอาดีทางสายนิยายสืบสวน
ปีที่แล้วกูซื้อมาสามเล่ม รร.แห่งความมืดสองเล่ม แล้วก็เรื่องเกี่ยวฆาตกรเกาหลีในคราบตำรวจ ก็โอเคนะทั้งสองเรื่องเลย
ราคาก็ไม่แพงมากด้วยเพราะว่าไปอยู่กับสำนักพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ขายเล่มละไม่ถึงสองร้อย กระดาษถนอมสายตาอย่างดี
จริงๆอยากให้บิเบลียไปอยู่กับพวกEnter สยาม แพรว มากกว่าว่ะ เพราะคนทั่วไปคงซื้อได้ง่ายกว่ามาอยู่กับสำนักพิมพ์ที่เน้นขาย LN
กูเห็นด้วยนะ งาน Otsuichi แม่งดรอปลง อย่างว่านะ เขียนมาหลายปี หมดมุกก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ยังไง Goth ก็เป็นหนังสือที่กูหยิบมาอ่านซ้ำบ่อยที่สุดอยู่ดี (ฮา) แต่ล่าสุดอ่านกล่องแห่งความฝันก็รู้สึก อืม เฉยๆ ไม่ได้เปรี้ยงเท่าไร แต่ก็คุ้มกับเงินที่เสียไป
ค่าย talent1 ถ้าไม่ซิ้อในงานหนังสือนี่ราคาโหดร้ายใช้ได้เลย
บิเบลียนี่กูไม่ถือว่าเป็น LN นะ แต่สำนักพิมพ์ A+ พิมพ์ LN เป็นหลัก คนเลยเข้าใจไปทางนั้น
แต่กูชอบบรรยากาศในเรื่องนะ อ่านแล้วเพลินดี ได้ระดับแบบเรื่อยๆ ไม่ได้ขวนขวายต้องอ่านในทันที
ปล. กระทู้นี้คุยเรื่อง LN ได้มั้ยวะ หรือว่าไม่ได้จะได้ระวังตัว
เพิ่งอ่านเรื่อง คนเลว จบ สะเทือนใจชิบหาย เป็นเรื่องเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นแล้วเล่าเรื่องทุกคนที่เกี่ยวข้องไปพร้อมๆ กัน บรรยายโคตรละเอียดจนภาพติดตา เน้นเนื้อหาแนวใครดีใครเลวไรพวกนี้
J-Horror ของเนชั่นบุ๊คส์นี่ก็ปิดไลน์ไปแล้วซินะ ไม่เห็นออกนิยายญี่ปุ่นมาเป็นชาติแล้ว
นิยายญี่ปุ่นนี่หลักๆกุอ่านแบบเก็บทุกเล่มนี่มีแต่ของ โอตสึอิจิ กะ ฮิงาชิโนะ เคโงะ
ตอนนี้ทั้งบลีส ทั้งเนชั่น เลิกหมด จะมีหวังให้สนพ.ไหนออกมาอีกบ้างนะ
(ยกเว้นทาเล้นท์วัน หนังสือแม่มแพงฉิบ)
หวังกับแพรวสำนักพิมพ์ว่ะ ล่าสุดออกมาสองเล่มอย่าง ห้องสมควรตาย กับ ฆาตกรรมสโนวไวท์
จริงๆ กูอยากให้ออกแนวรักหรือดราม่าที่ไม่มีคนตายหรือฆาตกรรมหรือผีบ้างนะ แต่ก็เข้าใจว่าคงขายยาก
กูอ่านเรื่องรักของนิยายญี่ปุ่นไม่ค่อยอินเลยนะ รู้สึกมันหวิวๆ ไม่เข้าใจตัวละครยังไงชอบกล เคยอ่านเรื่องของบลิสที่คุณหมอไปแต่งงานกับสาวขี้เหล้า
เพื่อปกปิดเรื่องที่ตัวเองเป็นเกย์ โดยที่สาวรับรู้เงื่อนไข ตอนจบสาวพยายามตั้งท้องโดยใช้วิธีผสมเทียมจากอสุจิของผู้ชายทั้งสองคนคือผัวเกย์และคู่ขาของผัว อ่านจบแล้วกูก็ทำตาลอยๆ และคิดว่า เพื่ออะไร...
กูอยากอ่านshin sekai yoriวะ มันเป็นเมะที่ดีงามมาก เนื้อเรื่องกลับไปกลับมาได้อีก มีครบรสทุกบรรยากาศ แต่เรื่องนี้ละที่ทำให้กูเชื่อคำกล่าวที่บอกว่านิยายญี่ปุ่นมักเบนเข็มไปทางsci-fi ไม่ว่าจะเริ่มจากตรงไหน
>>34 กูว่าเอกลักษณ์ของนิยาย/หนัง ญี่ปุ่น คือ ดราม่า ผี สืบสวน
ถ้าเป็นนิยายรักหวานแหววกูว่ามันขายอยากเพราะไม่มีความต่างจากนิยายไทยเท่าไร ไม่คุ้มต่อการแปล
นิยายรักของมุราคามิก็เข้าใจยากสำหรับคนอ่านทั่วไป ที่ใกล้เคียงหน่อยน่าจะนิยายแนวอบอุ่นที่ Bliss เคยเอามาแปล
อย่างพวก Be with you(แล้วชั้นจะกลับมา) แต่ก็ไม่ได้เน้นเรื่องความรักหนุ่มสาว เน้นความอบอุ่นในครอบครัวมากกว่า
กูเป็นพวกอ่านมูราคามิแล้วมองฟ้าไกลตอนอ่านจบว่ะ
แต่ในทางกลับกัน กูกลับชอบงานของคาวาบาตะยาสึนาริมากกว่า รูัสึกอ่านแล้วมีอารมณ์ร่วมไปมากกว่า
ยาสึนารินี่งานต้นแบบงานมูราคามิสินะ เท่าที่กูเคยได้ยินมา
งานหนังสือรอบหน้าจะไปจัดงานของอาคุตากาวะเซนเซย์มาให้ครบๆ เลย
เสียดายเมืองไทยไม่ค่อยเอาวรรณกรรมคลาสสิคญี่ปุ่นเข้ามาเท่าไร ทุกวันนี้ยังกระท่อนกระแท่นอ่าน โคโคโนะ ญี่ปุ่น ได้วันละหน้าเอง
สิ้นความเป็นมนุษย์ของดะไซนี่คิดว่าอาจจะมืดมนไปละมั้ง กลัวขายไม่ได้ จริงๆ นิยายแนวนี้เหมือนขายพวกชอบเสพอยู่แล้ว
ตลาดในไทยนี่ไม่รู้แหะว่าเป็นไง แต่หนังสือให้อ่านสำหรับตอนเรียนของญี่ปุ่นด้วย
นิยายคลาสสิคพวกนี้ที่ Amazon jp มีให้โหลดฟรีบน Kindle กูนี้โหลดรัวๆ... //ถามว่าอ่านออกมั้ยก็ต้องพยายามฝึกอ่านต่อไป
โอตสึอิจินี่เรื่องไหนสนุกบ้างอะ
กูชอบงานช่วงแรกๆ ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ หรือ ฉันหายไปในวันหยุด GOTH ก็ดีเหมือนกัน นอกนั้นอ่านเพลินๆ แล้วแต่ความชอบ ถ้าเพิ่งเคยอ่านแนวนี้มึงน่าจะชอบ แต่ถ้าอ่านแนวนี้เยอะๆ แล้วมึงอาจจะไม่ชอบงานยุคหลังๆ
ถ้าชอบโอตสึ กูแนะนำเรื่อง "เรื่องเล่าจากเงาสลัว" มาจากนักเขียนคนละคนกัน ให้บรรยากาศคล้ายๆ โอตสึช่วงแรกๆ แต่กุโร่ยน้อยกว่า ซึ้งกว่า
หลายคนชอบ 7 Room แฮะ คงเพราะซึ้งดี แต่กูไม่ค่อยอินเท่าไหร่ มันรู้สึกตัวละครไม่ใช่คนมากเกินไป
งานโอตสึอิจิที่ประทับใจที่สุดคือ รอยสักรูปหมา ไม่ได้ประทับใจเนื้อหานะ กูประทับใจปกอันแรกสุดของบลิส แบบไอ้เหี้ย มึงช่างทำออกมาได้...
แล้วยังหาซื้อได้ปะวะเนี่ย T__T
พวกร้านหนังสือมือสองน่าจะมี ไม่ก็ลองไปหาในกลุ่มแลกเปลี่ยนหนังสือกันอ่าน (ซึ่งกูไม่กล้าแลก เพราะกลัวหนังสือที่รักกูหายไป)
ซีรี่ยส์ ฝันร้าย ของ talent 1 นี่สนุกมั้ยวะ เป็นแนวลึกลับที่พอเฉลยแล้วห่วยจนเงิบรึเปล่า
เงิบแบบไหนวะ ประมาณเฉลยออกมาไม่พีคหรือเนื้อเรื่องพังป่ะ
>>58 จำไม่ค่อยได้ละ ไม่มีหนังสืออยู่ด้วย แต่คุ้นๆว่ามันหักมุมอะ หักแบบที่กุว่ามันไม่โอเคกะมันเท่าไหร่ (อาจจะพอเดาได้ตั้งแต่กลางเรื่อง แต่พอเฉลยดูดริฟท์ไป กลวงไป)
การดำเนินเรื่องมันจะเล่าสลับบุคคลที่ติดในลิฟท์ไปเรื่อยๆ เล่าฉากซ้ำๆกันบ้าง ยืดเยื้อจนง่วงไป อ่านแล้วไม่อินอะ
นิยายเรื่อง ยามะเนโกะของคนแต่งยาคุโมะมีเล่มเดียวเองเหรอ คือ กูอ่านจบละติดใจ...ถ้ามีเล่มอื่น ๆอีกน่าจะดี
นิยายสืบสวนเกาหลีเอามาคุยในนี้ได้ม่ะ เท่าที่อ่านมาอารมณ์เดียวกับนิยายญี่ปุ่นเลย
ถ้าไม่ให้มึงจะโกรธป่าววะ
ยามาเนโกะที่ญี่ปุ่นออกมาสามเล่มละ
เออ ตอนนี้เรื่องนี้ทำเป็นละครกำลังฉายอยู่เลย
กุไม่รู้ว่าบ่นห้องไหนจะตรง ขอบ่นห้องนี้แล้วกัน
เวลาเมิงไปแปลญี่ปุ่นแล้วมีคนมาแย้งว่าเมิงแปลผิดนี่เมิงหงุดหงิดกันมะ การที่คุณกูต้องไปขุดโคตรเหง้าศักราชคันจิกับไวยากรณ์มาสำแดงให้ดูว่ากุถูกตรงไหน แล้วพวกเบียวยังพยายามแปลไฝว้แบบเก้ๆกังๆถูเอาสีข้างเข้าแทรก กุเหนื่อยใจว่ะ... นี่คือกุเช็คแม่งไวยากรณ์เช็คกะเพื่อนเช็คกะคนญี่ปุ่นแถมกุจะจบเอกยุ่นมา บางทีก็อยากถามว่าที่มาแย้งเนี่ยคิดว่าตัวเองเจ๋งพอแล้วป้ะ?
ทางนี้ทำงานกับสนพ.นิยายแปลก็เจอคนมาแย้งโดยไม่มีความรู้แบบนั้นอยู่เรื่อยๆ นะ เข้าใจว่ามีความรู้หางอึ่ง แต่อยากดังโชว์พาว ส่วนมากก็เป็นเด็กๆ วัยรุ่น อยากเป็นซัมวันขึ้นมามั้ง อารมณ์ตอนโดนแรกๆ คือหงุดหงิด แต่ก็พยายามทำใจร่มๆ อธิบายสวยๆ กลับไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะกลายเป็นสีซอให้ควายฟังบ้าง หนีไปไม่กลับมาอ่านบ้าง พอเจอไปนานเข้า ในใจตอนนี้มันเหลือแต่ความสมเพชเสียแล้ว
นี่ขนาดว่าเป็นแนวทั่วไป ถ้าเป็นสนพ.ที่ทำนิยายไลท์โนเวล ขายพวกคุๆเบียวๆ จินตนาการออกเลยว่าคนในสนพ.พวกนั้นจะต้องเจออะไรบ้าง ในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ แค่คิดก็รู้สึกสงสารจับจิต
รึควรให้คนแย้งมันเป็นคนไปหาไวยากรณ์มาแสดงดี ว่ามันถูกยังไงในความคิดมัน จะได้แสดงความบื้อออกมาอีกรอบ 5555555555++
เวรของกรรมที่คนถูกต้องเป็นคนเหนื่อยหาแทน เปลืองตัวเปล่าๆปี้ๆ
>>64 เหมือนกันมึงงงงง ที่น่ารำคาญมากคือบางคนนี่สกิลภาษาญ๊่ปุ่นเละเทะมาก แต่ความมั่นใจแม่งเต็มร้อย ปักใจเชื่อมาแต่ต้นเลยว่าคนแปลของ สนพ. แปลผิดแน่ๆ (ถ้าสงสัยแล้วมาถามดีๆ นี่กจะอธิบายให้ด้วยความยินดีเลยด้วยซ้ำ)
อีกพวกที่น่ารำคาญคือพวกที่ยึดแปลเถื่อนเป็นพระเจ้า ถ้า สนพ. แปลไม่ตรงของเถื่อน -> สนพ.โดนสงสัยว่าแปลผิดไว้ก่อนเลย ทั้งที่จริงๆ ฝั่งเถื่อนมันมีโอกาสผิดสูงกว่าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ
สวัสดี 66,69 เรา 64 นะ ขอบคุณที่เข้าใจเรา
[แด่เบียว]
>น้องควรคบเพื่อนที่ช่วยห้ามน้องไม่ให้ทำอะไรขายหน้าชาวบ้าน
>น้องไม่ควรมโนความหมายเกินไวยากรณ์ที่ให้มา
>น้องควรกลับไปเรียนญี่ปุ่นใหม่
>น้องควรมีสติ
ถ้ายังไม่เคยชาบูลอร์ดอะกิโกะและณัฐฐา,มินนะโนะทั้งสี่เล่ม, ต้มกุญแจสองร้อยประโยคเป็นอาหาร, ทำควิซ สอบจนจะร้องไห้....
>ขอให้หุบปากแล้วคิดดีๆก่อนจะโชว์เมพแย้งใครค่ะ บัยส์//
กูขอแก้ตัวแทนคนแย้ง เดี๋ยวสนพ.แปลแย่มันเยอะขึ้นอะไรที่ดูแล้ว...แปลกๆและถ้ามีเทียบกับที่อื่น(ถึงจะผิดลิขสิทธิ์)แล้วมันดูไม่แปลก(ถึงจริงๆจะผิดก็ตาม)กูก็สงสัยนะว่าเออ นี้ตกลงสนพ.มันแปลผิดเลยแปลกงี้รึเปล่า กูไม่ไว้ใจ กูคิดว่าคนอ่านมีสิทธิ์ที่จะสงสัยได้นะ
>>71 ใช่ มีสิทธิ์แย้งได้ แต่ควรอยู่ในขอบเขตของคำว่าสุภาพ บางคนที่โหมกระหน่ำตั้งกระทู้ด้วยอารมณ์ แทนที่จะอีเมล์ไปสอบถาม หรือตั้งกระทู้แบบสุภาพๆ บางทีตั้งมานี่แบบจะชวนให้ไปทะเลาะมาก คนเรามีคำพูดให้เลือกพูดเยอะแยะ ให้หลีกเลี่ยงดราม่าก็เยอะ แต่ทำไมทำกันไม่ได้ก็ไม่รู้
มีใครที่ยังชีพด้วยการแปลเพียวๆบ้าง คือเคยแปลพวกการ์ตูน นิยายมาก่อน รู้สึกว่าค่าแรงค่อนข้างน้อย
อยากจะเบนสายไปแปลเอกสาร แต่งานก็มาแบบน้อยๆ ไม่ได้มาถี่ป้อนให้ตลอดเหมือนตามสนพ.อีก
แนะนำหน่อยได้ไหมจ้ะ ตอนนี้ว่าจะลองไปแปลพวก How-to หรืออะไรที่ไม่ใช่นิยายแล้ว
อยากทำฟรีแลนซ์แต่ไม่แน่ใจเรื่องช่องทาง เพราะปกติส่งงานการ์ตูนผ่านเมลตลอด
>>76 ลองลิสต์ผลงานที่ผ่านมาหรือส่งต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น-ภาษาไทยแนบไปด้วยก็ได้ ถ้าเขาอ่านแล้วเห็นว่าสำนวนใช้ได้น่าข้ามขั้นการเทสต์ไปได้
กูไม่เคยร่วมงานกับวีเลิร์นนะ แต่นานมีจ่ายค่าต้นฉบับแปลโดยคำนวณจากภาษาไทยที่ผ่านการแปลและเกลาแล้ว สำหรับกูมันไม่ค่อยคุ้มค่าเหนื่อยเท่าไหร่ว่ะ
เคยแปลนิยายสองเล่ม การ์ตูนสอง อ้าว... มีงี้ด้วยเหรอ คิดจากที่แปลแล้วเนี่ยนะ ที่ผ่านมาเห็นมีแต่นับรายหน้าภาษาญี่ปุ่น
ใจจริงแอบอยากแปลเอกสารมากกว่างานเล่ม ORZ แต่กุไม่มีคอนเนคชั่นเนี่ยดิ
กุสมัคร Conyac ล่ะนะ ขอมารีวิวหน่อย
- มีการแปลแบบโปรเจค /กับแปลประโยคสั้นๆแบบสปีด
[โปรเจค] ต้องให้นักแปลเขียนข้อความไปแนะนำตัว รึไม่ก็ทำเทส แล้วรอให้เจ้าของโปรเจคตัดสินใจว่าจะรับไม่รับ
บางโปรเจคปิดไปแล้วก็ไม่ยอมขึ้นเตือน ให้คนสมัครไปอยู่นั่นแหละ
เทสผ่านแล้วรับกุ แต่พอถึงเวลากุจะทำงานเอาตังเสือกไม่ผ่าน แอบสงสัยว่าคอยเก็บงานที่คนเทสฟรีไปนี่ก็หลายร้อยคนละนะ...
เจ้าของมีสิทธิจะเห็นงานของทุกคน สมมตโปรเจคมีสิบงาน ให้ผ่านหก ไม่ผ่านสี่ แต่ไอ้งานอีกสี่อันนั้นเจ้าของก็มีสิทธิอ่าน ซึ่งตรงนี้ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าเขาจะก๊อปทั้งสิบอันเอาไปใช้รึเปล่าน่ะสิ...
[งานแปลแบบสปีด]
ไม่มี Jap-Thai ส่วนมากจะมีแค่ Jap-Eng ซึ่งค่าแรงต่ำเกินไปถ้าเทียบเป็น Jap-Eng เช่น 1500 คำ 1400 เยน ห้าร้อยกว่าบาท ถูกจนน้ำตาไหล.. เจ็ดแปดประโยคยี่สิบบาทงี้ เอาเวลาไปนอนเถอะ..
งานแปลกรณี Speed ใครแปลเร็วกว่าได้ก่อน สองคนแรกที่แปลแล้วลูกค้าตอบรับ จะได้เงิน ซึ่งกุว่าไม่แฟร์สัสๆ ควรจะให้คนที่แปลดีที่สุดดิ
ถ้าให้โอนPaypal ต้องทำยอดถึงสามร้อยบาท บัญชีไทยต้องได้เงินถึงสามพันบาท
Conyac คิดค่าหัวคิว 10% ถ้ายอดไม่ถึง ถอนออกไม่ไ่ด้....
Conyac มีแต่เมลบอทไม่ให้เมลติดต่อส่วนตัว สงสัยอะไรให้ส่งQuestionในเว็บแทน อะไรแว้....
หลังจากที่กุลองไปจิ้มๆแปลๆแย่งกะเขามาได้ทั้งหมด..สรุปว่ากุแปลไป สองประโยค 15 Yen 5 บาทถ้วน แถมถอนออกมาเป็นเงินจริงไมไ่ด้ด้วย
ผ่านเทสฟรีหนึ่งงาน เลยส่งไปสองงานเพิ่มในโปรเจคเดียวกันแต่เจ้าของยังไม่ยอมกดโอเค (กุว่าแม่งแดกฟรีแหง อุอุอุ) จบการรีวิวโลกสวย ณ บัดนี้
บ.ไหนให้ค่าแรงโอเคบ้าง กุเคยแปลสองบ. เรตต่างกันชิบหาย
เท่าที่รู้ก็มี
Zenshu
A+
Luckpim
Dex มีแต่เล่มใหญ่?
Animag
เผอิญทำตอนเรียน กุเลยเอาเข้าแบ๊งค์ไว้เป็นปี ถอนเอาไปทำหน้ากะเอาไปเที่ยวตปท. 5555555555555++
โคโคโระพิมพ์ใหม่ปกแข็งล่ะมึง
http://candidebooks.com/book/850 แปะลิงค์
ข้างในคงใช้พิมพ์เดิม แต่กูว่าสวยมาก เห็นแล้วหวั่นไหว
กูมีเวอร์ชันดอกหญ้าแล้วสองเล่ม กูอยากได้ปกแข็งอีก ฮว้ากกกก
ซื้อแน่นอนนน นี่รอบทจัง รองานของดะไซให้มีคนเอามาแปลเนี่ยฮืออ
อยากอ่านเมลอสกับนินเง็นชิขะขุมากกกกก
วารณกรรมคลาสสิคญี่ปุ่นกูว่าหาคนแปลยาก คงกลัวขายไม่ออกด้วย
บทจังเคยมีแปลไทยแล้ว ของสำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม แต่กูแนะนำว่าอย่าซื้อ
วรรณกรรมญี่ปุ่นมีแปลไทยขายเยอะกว่าที่คิดนะ ส่วนใหญ่ก็อาจารย์มหาลัยแปลแบบไม่หวังกำไร แต่หาซื้อยากหน่อย
ถ้ามีนักแปลโนเนมเอาวรรณกรรมญี่ปุ่นคลาสสิคมาแปลขายแบบทำมือพร้อมภาพประกอบสวยงาม ราคากลางๆ พวกมึงจะซื้อกันไหมอ่ะ
มีตัวอย่างให้อ่านก่อนตัดสินใจ
กูไม่เอาภาพประกอบได้มะ สงสัยเฉยๆว่าใส่ภาพประกอบทำไมอ่ะ ถ้าแปลดีทำการบ้านดีไม่แพงก็ซื้อแหละ
>>96 กูได้ไอเดียภาพประกอบเพราะเห็นนินเง็นชิคคาุเอามาพิมพ์ใหม่ใช้ภาพหน้าปกลายเส้นอ.โอบาตะแล้วขายดีนะมึง ภาพประกอบที่พูดถึงก็แค่หน้าปกน่ะแหละ เอาจริงคือหวังเผื่อแฟนๆ ของนักวาดด้วย
>>97 ยังไม่ได้คิดว่ะ แต่เกนจิกูไม่ไหวนะ มัน้เป็นวรรณคดีเฮอันกูอ่านไม่ออก
>>98 ขอบใจนะ ถ้าได้ทำจริงกูจะมาโปรโมทแบบอ้อมๆ ละกัน //กุมโม่งแน่น
เกนจิมีอาจารย์มหาลัยท่านนึงแปลอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะได้อ่านเมื่อไหร่นะ
นินเง็นนี้กูได้ยินข่าวจะทำสรุปไม่ทำแล้วใช้มั้ย ถ้ามึงจะแปลขายกูอยากเชียร์เรื่องนี้วะ
เมลอสสส กูอยากอ่านเมลอสสส
งานของดาไซเล่มอื่นก็อยากอ่านนะ แต่แปลนินเง็นมาก็ดีเหมือนกัน สู้ราคาที่คิโนะไม่ไหวเลย orz
ขอบคุณทุกคนนะ กูดูๆ แล้วน่าจะเริ่มจากเมลอสก่อน เพราะมันสั้น แต่เรื่องราวมันไม่ได้หวือหวาอะไรนะเว้ย ตามประสาคลาสสิคอ่ะ อย่าคาดหวังมาก
โคโคโระสนุก แต่เนื้อหาหน่วงมาก ถ้าเศร้าอยู่ไม่ควรอ่าน
ช่วงนี้ควานหา JBook, NB ที่เคยพลาดไปมาอ่าน ได้โอตสึ อิจิมาเล่มนึงไม่อิน เหมือนรีวิวหลายๆ ที่ว่าไว้เลยว่ะ
ว่าแต่ แสงสว่างกลางทะเลลึก นี่ดีไหม กูติดใจคนเขียนชุดริงอ่ะ
http://readery.co/9786167144443 เคยอ่านกันยัง สนุกปะ
>>108 หาจากไหนอะ กุรองานหนังสือเนี่ย อยากอ่านของโอตสึ
เห็น Earnest มีนิยายญี่ปุ่นด้วย งานของริเอโกะ มัตสุอุระ กูลองอ่านตัวอย่างแอบน่าสนใจ ใครเคยอ่านงานเก่าเค้ามั่ง
ไปงานหนังสือกันยัง โอตสึอิจิยังหาได้มะ
เออ มีไม้บันทัดของยมทูตอยู่บู้ทกำมะหยี่มั้ง แต่เหลือน้อยละนะ
เพิ่งอ่านโคะโคะโระ กูรู้สึกว่าชีวิตกูต้องซึมไปอีก 3-4 วัน
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=984565058301310&id=392375287520293
สิ้นไร้ความเป็นมนุษย์จะได้แปลแล้วมึง
สนพนี้ไม่เคยพิมพ์เรื่องอื่นมาก่อนใช่ป่ะ ถ้าแอดมินเฟสมาแถวนี้ฝากบอกด้วยว่าหน้าเฟสมึงงงมาก ตกลงจะเป็นอะไรกันแน่ระหว่างสำนักพิมพ์หรือเพจข่าววรรรณกรรมญี่ปุ่น
นิยายญี่ปุ่นกุอ่านแล้วขึ้นหิ้งสุดๆกุให้โตเกียวทาวเวอร์ว่ะ มีเรื่องไหนฟีลคล้ายๆกันแนะนำกุมั้ย
กูรอซื้ออยู่นะ ดีใจที่จะได้อ่านงานของดาไซมาก
สูญสิ้นความเป็นคน ของดะไซกำลังจะเปิดให้พรีแล้วเว้ย
https://www.facebook.com/105948546469264/photos/a.107624899634962.1073741828.105948546469264/182612688802849/?type=3&permPage=1
แล้วจะมีรีปริ้นโอตสึอิจิไหมครับ ฮือๆๆ
สูญสิ้นความเป็นคนนี่ มันเคยไปโผล่ในหนังสือเรื่องอะไรมาก เพื่อนโม่งพอจำกันได้มะ กุว่าได้ยินบ่อยมากแต่นึกไม่ออกละ
ในเรื่องสาวกินหนังสือ
เรื่องคุณครูสิ้นหวัง ชื่อนี้มั้ง
ชื่อที่ไปโผล่ที่อื่นบางทีคือโผล่ชื่อนักเขียนบ่อยนะ
กูได้ยินชื่อดาไซ โอซามุบ่อยอยู่
ยังไงกูก็ซื้อแต่คิดว่าปกไม่สวยเลยวะ ดูแล้วเหมือนวิชากำลังภายในอะไรสักอย่าง
งานระดับอาจารย์แบบนี้เชื่อมือได้อยู่แล้ว รอเก็บทุกเล่ม
เห็นว่า jlit นี่ก็บลิสเก่า แต่คนละกลุ่มกับทาเลนท์1
คนแปลฝันสิบราตรีบางคนก็ไม่ใช่ระดับอาจารย์นะ
กูลองไปเสริชชื่อดูมาอ่ะ
ดูเป็นเด็ก(?)รุ่นใหม่อ่ะ
แม่กูจะหยิบผิดไปจดบัญชีมั้ยเนี่ย
กูก็ไม่ชอบปก คือถ้าจะเล่นฟอนต์ก็น่าจะดรอปลายปกลงอะ พอมารวมกันแล้วมันรกๆไงไม่รู้ แล้วจริงๆกูอยากได้เรียบๆกว่านี้ด้วย ปกสีทึมๆหน่อยก็ไม่เลว แต่มันก็แล้วแต่รสนิยมคนด้วยแหละมั้ง (ยังไงกูก็ซื้ออยู่ดี5555)
เออ เห็นเขาบอกปลายปีจะมีงานของนัตสึเมะมาอีก2เรื่อง มีของดะไซด้วยแต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ดีจัง
ที่เขาใช้หน้าปกแบบนี้เพราะถ้าใช้ปกแบบเดียวกับญป
ปกลายการ์ตูนอะไรแบบนั้นต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ป่ะ
ตัวนิยายมันไม่มีลิขสิทธิ์แล้ว แต่ปกคงมี
ปกกูก็ไม่ค่อยชอบแต่จะมองข้ามไป แค่เขาเอามาแปลให้อ่านก็ดีใจมากแล้วจริงๆ
ปกการ์ตูนมีลิขสิทธิ์สิ ที่สำคัญคือเค้าจะขายให้หรือเปล่าหรอก ดีไม่ดีต้องแบ่ง % ให้อีก
จ้างคนทางนี้ทำลดคอสต์ได้ไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนเท่า แถมยังขายขาด จ่ายแพงกว่าทำไม จริงป่ะ
แต่ปกกำลังภายในนี่เห็นภาพเลย เล่นแนวเรียบๆ less is more น่าจะดี
ยิ่งถ้าตัดมุมให้มนๆก็คงจะยิ่งดี
ว่าไป jlit นี้กูจะหวังเคียวโกคุโดได้ปะวะ 5555
เค้าคงรอดูแหละว่าจะไปรอดไหม ถ้าสนพ.ไปได้สวยอาจมีสิทธิ์ทำเรื่องที่ต้องซื้อลิขสิทธิ์ก็ได้นะ
ส่วนเรื่องปกนี่โนคอมเม้นท์ คงเป็นความชอบของเจ้าของสนพ.เค้า แต่กูก็ไม่ชอบนะ 55555555
>>142 วรรณกรรมบริสุทธิ์ก็คือพวก 純文学 อ่ะนะ ถ้าถามว่าอะไรคือมาตรฐานของวรรณกรรมบริสุทธิ์ สำหรับกูคืออ่านแล้วไม่ค่อยสนุก จำพวกวรรณกรรมส่งประกวดซีไรต์ ต้องมีธีมหนักๆ สะท้อนสังคมอะไรพวกนั้น ส่วนเคียวโกะคุโดที่สุดท้ายก็เป็นเรื่องสวนสืบสวนมันจัดเข้าวรรณกรรมเพื่อความบันเทิงประโลมโลก ไม่จัดเข้าพวกนี้ว่ะ
แคมพิโอเน่นิยายมันโดน lc ยังวะ ถามตรงนี้คงไม่ผิดที่นะ
JLIT นี่พิมพ์นิยายที่ไม่มีลิขสิทธิ์แล้ว ทำไมขายแพงจังวะ
กูว่าค่าแปลน่าจะแพงอยู่มั้ง เดาเอาล้วนๆ
เพราะวรรณกรรมแบบนี้น่าจะแปลยากอยู่
+ กลุ่มคนที่ซื้อมีจํานวนไม่ได้มากมายแบบมากๆ
คงจะไม่ได้พิมพ์เยอะมากมายนัก
ราคาอาจจะสูงเพราะแบบนี้
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1065950616813020&id=611370672271019
จากโพสนี้ตรงคอมเม้นเห็นที่ตอบคำถามบอกจะเอาเก็นจิเข้ามาปลายปีวะ
ของมูลนิธินี่ไม่รู้จะเอาใครมาแปล และแปลจากต้นฉบับอะไรด้วยว่ะ
ถ้าแปลญี่ปุ่นกูคงอุดหนุน JLIT อย่างเดียว แต่เรื่องอื่นของมูลนิธิที่แปลจากภาษาฝรั่งเศส อังกฤษอะไรแบบนี้โอเคเลย
เห็นชื่อ 人間失格 ที่ลงเพจเป็น 人间失格 แล้วก็บายเลย ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น
ตกลงคนละเจ้าเหรอ อยากรู้ว่าของมูลนิธิให้ใครแปลแฮะ
แต่ของมูลนิธิคงไม่แคร์เรื่องกำไรขาดทุนอยู่แล้วรึเปล่า ยังไงก็เป็นมูลนิธิด้วย
ของมูลนิธิขายแบบรวม 4 เรื่องในเล่มเดียวด้วยว่ะ
ฝันสิบราตรีนี่เกี่ยวกับอะไรอะ
หนังสือค่าย Hummingbook เงียบไปเลยว่ะ เห็นว่าจะออกเล่มใหม่งานหนังสือเมื่อต้นปีแต่ก็เลื่อนไป กูกลัวค่ายเจ๊งชิบหาย
เสียดายนิยายสืบสวนญี่ปุ่นที่แปลออกมาดี
ขอคำแนะนำหน่อยเพื่อนโม่ง มีใครรู้สึกนิยายญี่ปุ่นที่แฟนตาซีหน่อยๆ ไหม
อารมณ์ประมาณ ไม้บรรทัดของยมทูต อะมึง กุเพิ่งได้อ่าน อยากอ่านแบบนี้อีก
ได้สิ้นไร้ความเป็นคนของ JLIT มาสักพักแล้วแต่พึ่งแกะ กูคงไม่ได้รู้สึกไปเองใช้มั้ยว่าปกกับกระดาษมันแย่ อาจเป็นรสนิยมกูเองด้วยที่ไม่ชอบกระดาษที่มันสากๆยิ่งขอบกระดาษรู้สึกแม่งเป็นขุยหน่อยๆ แล้วกลิ่นก็เหม็นประมาณหนึ่งเลย
กูไม่รู้ญี่ปุ่นไม่รู้ถูกต้องมากน้อยแค่ไหนแต่กูว่ามันแปลดีนะชอบคำแปลของ JLIT มากกว่าของมูลนิธิ(อิงจากคำแปลของมูลนิธิอันนี้ https://www.facebook.com/bookforsociety/photos/a.626425884098831.1073741829.611370672271019/1090199141054834/?type=3&theater) อ่านเทียบแล้วถ้าไม่ใช้ของ JLIT เพิ่มคำเองของมูลนิธิก็ตัดคำขยายบางช่วงทิ้ง
อีกอย่างกูชอบการใช้คำของ JLIT มากกว่า มันลื่นแล้วก็มีลูกล่อลูกชนกว่า อย่างของ JLIT มันมีประโยคหนึ่งว่า"จริงอยู่ว่าหากมองจากคนไม่คิดมากทึ่มทื่อ ไม่ใส่ใจในรูปลักษณ์หรือความงาม" แต่ชองมูลนิธิใช้คำว่า "แม้คนที่ความรู้สึกช้า (คนที่ไม่สนใจสิ่งที่เป็นความงามกับความน่าเกลียด)" ว่าไปกูรู้สึกความหมายสองประโยคนี้มันก็ต่างกันนิดหน่อยแฮะ
>>168 กูยังไม่เห็นชื่อแฮะ(อาจหาไม่ดีเอง) เพิ่มเติมของ JLIT อีกนิดมีเชิงอรรถกับประวัติผู้เขียนหลายหน้าเลยแฮะ
แล้วเห็นบอกของมูลนิธิจะพรีในเดือนนี้แต่ยังไม่เปิดเลยแฮะ
ปล.ชื่อญี่ปุ่นทำไมตัวอักษรไม่เหมือนกันหว่า ไปหาดูแล้วส่วนใหญ่ก็เขียนแบบ JLIT แต่ก็เห็นปกหนึ่งเขียนแบบมูลนิธิมันเป็นอักษรที่เขียนได้หลายแบบเหรอ
งงเหมือนกัน ทำไมใช้ตัวแบบจีน เพราะตัวแบบนี้ 间 ญี่ปุ่นไม่ใช้เลย มีแต่จีนที่ใช้
วันนี้เข้า Readery ไปดูๆสนพEarnest ที่แปลปาปริก้า ตอนแรกนึกว่าสนพ.นี้เน้นแปลแต่นิยายดัง แต่ก็เห็นนิยายญี่ปุ่นอยู่หลายเรื่องเหมือนกันแฮะ แต่ละเล่มชื่อไม่คุ้นเลยว่ะ โม่งที่เคยอ่านลองเอามารีวิวที
กูอ่านสูญสิ้นความเป็นคนของjlitไปครึ่งเล่ม แปลดีนะ แต่ทำไมมีแต่เลขเชิงอรรถแล้วไม่มีคำอธิบายเชิงอรถให้กูวะ
กูพึ่งอ่านอาจินจบ(ไม่ใช่มังงะของสยามนะ)
งานแปลเรื่องสั้นญี่ปุ่นเขย่าขวัญเรื่องแรกของลักพิมพ์(และคงเรื่องสุดท้ายมั้ง ไม่เห็นออกมาอีกเลย)
โอเคเลยอะ ถึงบางตอนจะwtfเหมือนการ์ตูนจุนจิอิโต้ไปหน่อย(ช่วงนั้นกูอ่านจุนจิคู่ไปด้วยเลยนึกภาพตามแล้วขำสุด)
และอีกอย่าง ใครเคยอ่าน เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม(Colorful) บ้างไหม ดูอนิเมจบมาหลายปีแต่ไม่เคยได้อ่านนิยายเลย กูจะหาได้จากไหนบ้าง
เพื่อนโม่ง งานของมุราคามิเป็นยังไงเหรอ ช่วงนี้เริ่มติดนิยายฝั่งญี่ปุ่น(ที่ไม่ใช่LN)ผ่านร้านหนังสือเจอแต่งานมุราคามิ
ถ้าจะเริ่มอ่านงานเฮียแกเริ่มที่เล่มไหนดี
>>185 เรื่องอาจิน สั่งได้อยู่นะ http://www.luckpim.com/license_show/808/
เอ่อ.....นพดลเขาทำไมเหรอมึง ขอสรุปให้กูแบบความยาวไม่เกินหนึ่งหน้าa4หน่อย
>>185 ซื้อมาสองปีได้แล้วมั้งในงานหนังสือ ถ้าตามร้านคงหายากหน่อยนะ ไปหาในงานหนังสือดีกว่า
เออ แล้วเนื้อเรื่องมันไม่เกี่ยวกับมังงะเลยนะ ให้มึงโละภาพมังงะทิ้งไปเลย จริงๆกูยังไม่ค่อยเข้าใจเลยว่าทำไมถึงตั้งชื่อหนังสือว่าอาจิน
>>188 เค้าใช้ภาษาฟุ่มเฟือยน่ะมึง คือสำนวนนพดลไม่ใช่สำนวนมุราคามิ อย่างเช่น ถ้ามุราคามิเขียนว่า "ฉันจิบกาแฟแล้วมองออกนอกหน้าต่าง" นพดลจะแปลว่า "ข้าพเจ้าครุ่นคิดซักครู่ก่อนเสพกาแฟด้วยริมฝีปาก พลางทอดสายตาไปยังทิวทัศน์นอกกรอบหน้าต่างบานนั้น" อะไรแบบนี้ แต่นี่กูยกตัวอย่างแบบ extreme อ่ะนะ
เพิ่งอ่านคดีฆาตกรรมเจ้าหญิงสโนว์ไวท์จบ หลังจากดองมาตั้งแต่ต้นปี
ก็สนุกดีนะ นิยายสืบสวนที่ออกแนวเดินเรื่องแบบราโชม่อนให้ตัวละครหลายๆตัวมาเล่าในมุมมองที่ต่างกัน
โรงเรียนแห่งความมืด กูดองตั้งแต่ก่อนปีใหม่ เพิ่งเอามาอ่านรวดเดียวเมื่อวาน หนุกใช้ได้ว่ะ
ช่วงแรกๆยังไม่มีอะไรตื่นเต้นแต่จะเริ่มลุ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
พล็อตมาแนวๆเวลาคนเราอยู่ในสถานการณ์ไม่ปรกติจะแสดงสันดานดิบออกมา
เนื้อเรื่อคือโรงเรียนในเรื่องจมไปในดิน แล้วเด็กที่มาโรงเรียนในวันเสาร์ก็หาทางรอด
ระหว่่างนั้นบางคนก็เริ่มประสาทแดก คิดว่าเป็นเทพเจ้าสาปแช่ง หลุดมานอกโลก มีคนจัดฉากเป็นรายการเรียลลิตี้ บลาๆๆๆ
ถ้าอ่านแล้วจินตนาการไปด้วยตามตัวละครในเรื่องจะเข้าใจเลยว่าถ้าเราไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นก็ชวนให้ประสาทแดกไม่ต่างกัน
ว่าจะอ่านโรงเรียนแห่งความมืดเหมือนกัน แต่ยังไม่มีจังหวะ
ยักษ์ของ Talent1 ปกหลอกว่ะ หน้าปกอย่างหลอนพอไปอ่านจริงตอนจบนี่ซึ้งดี
confessionsพิมพ์ใหม่แล้ว กูชอบปกเก่ามากกว่าปกใหม่ไม่สวยเบย
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1168006466597405&substory_index=0&id=130396337025095
>>197 ปกนิยายของแพรวมันทำให้ Mass มากกว่าปกแนวๆ Bliss Jbook Talent1
เอาภาพเรียบๆพอ ฆาตกรรมเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ก็เป็นภาพเรียบๆ
คือคอนิยายญี่ปุ่นที่คุ้นกับปก Bliss คงชอบปก Bliss มากกว่า แต่ข้อเสียปก Bliss คือแม่งโหด(สำหรับนักอ่านทั่วไปที่ไม่เน้นอ่านแนวสืบสวน)
แพรวมันเรียบแต่เข้าถึงนักอ่านได้มากกว่านะกูว่า โดยเฉพาะนักอ่านมัธยมต้นที่เวลาซื้อหนังสือก็ต้องมากับผู้ปกครอง
หรือไม่งั้นซื้อเองแล้วที่บ้านเจอก็ไม่ต้องโดนผู้ปกครองสงสัยว่า ลูกซื้อนิยายอะไรมาอ่านวะทำไมหน้าปกมันโหดร้ายจัง
>>199 ตอนมอต้นซื้อคินดะมาอ่าน แม่ก็มีบ่นๆเหมือนกันว่าอ่านแต่หนังสือฆาตกรรม ตอนนี้ไม่มีปัญหาเพราะกูทำงานแล้ว
แต่ Talent1 นี่ไม่ทิ้งลายเลยว่ะ ปกแม่งโหดเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
นิยายภาคต่อของ The Ring เอารูปคนผูกคอตายมาขึ้นปก
คินดะตอนกระดิ่งลมหัวคน ก็เอาหัวคนจริงๆ มาเป็นรูปปก
คนที่ซื้อนี่นอกจากจะชอบนิยายญี่ปุ่นแล้วต้องจิตแข็งในระดับหนึ่งเลย
เวลากูอ่านกูก็ไม่กล้าวางเอาหน้าปกออกนะ คว่ำแล้วเอาปกหลังออก
ปกเก่าของคำสารภาพนี่กูมองแว๊บแรกนึกว่าตู้ไปรษณีย์นะเอาจริงๆ
แมวสามสีกับซายากะนี่มีอะไรให้ติดตามมั้ย
กูเอาซายากะเล่มแรกมาอ่านแล้วรู้สึกเฉยๆว่ะ จะว่าเน้นสืบสวนก็สู้สายโหดอย่างคินดะไม่ได้ จะอ่านเอาความน่ารักแบบเฮียวกะก็ไม่ถึงขนาดนั้น
จะเน้นตลกๆแบบ คู่แฝดสลับขั้วของคนเขียนเดียวกันก็ยังเฉยๆ
คือเห็นทาเล้น1เอามาพิมพ์ต่อเลยสนใจอยากซื้อ คิดว่านิยายภาคต่อยาวเป็น 20ตอนน่าจะมีอะไรดึงดูดคนอ่าน ไม่รู้ว่าเล่มหลังๆมันจะสนุกมั้ย
>>205 ใช่เรื่องshoujoปะ เห็นแว่บๆ จากนิยายนะ
>>204 2เรื่องนี้กูเคยอ่านแค่เล่มแรกๆ คดีมันก็เฉยๆแบบที่มึงว่าอะ อ่านเพลินๆ แต่กูชอบซายากะตรงที่แต่ละเล่มมันอายุมากขึ้น1ปี เห็นถึงความสัมพันธ์ความเปลี่ยนแปลงของตัวละคร กูช่วยตอบไรไม่ได้รอคนอื่นละกัน55555555 เอ้อซายากะสยามเอามาพิมพ์ต่อนะ แต่ไม่รู้จะลอยแพอีกรอบไหม...
แมวสามสีเป็นนิยายสืบสวนแนวเบาสมองน่ะ (แต่บางประเด็นแม่งหนักชิบหาย) อ่านได้แบบเพลินๆ ฆ่าเวลาไม่ได้ฟินอะไรมาก เหมาะสำหรับคนไม่ค่อยอ่านนิยาย
โคโคโระนี่เป็นไงว่ะ คือเดินผ่านSE-ED แล้วเห็นร้านเอามาวางโชว์ ราคาแพงเอาเรื่องอยู่
ความรู้สึกกูคืออยากซื้อเพราะไม่อยากให้ สนพ.ขาดทุน คืออารมณ์เหมือนเห็นศิลปินเอางานคลาสสิคมาขายแล้วไม่อยากให้เจ๊ง
แต่กูก็มนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งไม่มีเงินถุงเงินถังมาอุปถัมภ์งานวรรณกรรม ถ้าเนื้อหาอ่านยากเข้าใจยากซื้อมาคงไม่คุ้ม
>>209 จริง ๆ แล้วพล็อตเรื่องธรรมดาเข้าถึงไม่ยากนะ แต่วิธีการถ่ายทอดเรื่องราวมันเทพมาก แล้วก็ไม่ได้เน้นเรื่องความรักแต่เน้นเรื่องความรู้สึกของตัวละครที่เล่า เน้นเรื่องอารมณ์ เน้นเรื่องจิตใจมาก สำหรับเรา เป็นเรื่องที่เป็นวรรณกรรมขึ้นหิ้งเพราะความสามารถในการเล่าเรื่องของผู้เขียนจริง ๆ แล้วก็เหมือนที่ 210 บอก เวลาอ่านควรอ่านแบบละเมียด จะได้อรรถรสสูงสุด
โคโคโระรูปเล่มน่าซื้อดีว่ะ แต่เสียเพราะเสือกแปะโลโก้ยิบซี ไปอ่านเจอวีรกรรมก็อบงานมาพิมพ์เป็นหนังสือขายแล้วไม่อยากอุดหนุนสำนักพิมพ์ที่มักง่ายแบบนี้ เข้าไปดูใน Readery.co ของก็หมดชั่วคราวด้วย ถ้าของไม่มาเติมกูก็ไม่ซื้อดีกว่า
กูเพิ่งเห็นjlit จะมีงานแปลหนังสือของรัมโป
เห็นว่ามาต้นปีหน้า
โคโคโระควรอ่านภาษาอะไร คือถ้าไทยมีแต่ของยิปซีเหรอมึง
>>209 เนื้อหาเข้าใจง่าย แต่การดำเนินเรื่องที่บรรยายโดยตัวละครอาจจะมีบางจุดที่ต้องตีความหน่อย นักเขียนสามารถหาคำมาใช้ได้เยี่ยมมาก อ่านแวบแรกจะไม่รู้สึกอะไร จนพออ่านรอบสองนี่แหละ ถึงได้รู้ว่าประโยคบางประโยคก็ไม่ได้ตรงไปตรงมาอย่างที่เห็น เหมือนใจคนที่ซับซ้อนนั่นแหละ โดยรวมแล้วเป็นวรรณกรรมที่เด่นด้านภาษามาก ไม่มีอะไรเข้าใจยาก ถ้าไม่ต้องการจะตีความเพิ่มเติม
ไปอ่านเจอระทู้เก่าในพันทิป Talent1ราคาสมาชิกลด 20% ไอ้ราคานี้คือต้องไปซื้องานหนังสือใช่มั้ย
กูจะได้เลิกสั่งจาก Mbook แล้วเก็บตังไปสอยงานหนังสือตอนตุลาทีเดียว
ตกลงวรรณกรรมญี่ปุ่นของมูลนิธิเค้าจะไม่ออกแล้วเหรอ
>>219 ชิบหายและ Blissก็ตายไปแล้วกลับชาติมาเกิดเป็น Talent1 ยังจะตายซ้ำตายซากอีกหรือ
แต่เดาว่าไม่น่าร้ายแรงจนถึงกับปิดสนพ.ป่าววะ เพราะTalent1 มี วิชา พูลวราลักษณ์เป็นกรรมการ เป็นบริษัทเครือเมเจอร์ ทุนน่าจะหนาอยู่
ยกเว้นว่านิยายแปลของ T1แม่งขายไม่ออกจริงๆ ทุนจม ขาดทุนบานจนกรรมการใหญ่สั่งงดพิมพ์เพิ่ม
ปฃ. พูดถึงสนพ.ปิดตัว กูเป็นหัวAnimagว่ะ บิเบลียเล่ม4 ทิ้งช่วงนานแล้วเนี่ย(มองแง่ดีว่ากะออกงานหนังสือตุลานี้)
คิโนะก็ใจกล้าพิมพ์เล่ม1-2 นับถือจริงๆเลยว่ะ ทั้งๆที่ฐานลูกค้าที่อ่านคิโนะส่วนมากซื้อเล่มแรกๆสมัยBlissยังไม่ปิดตัว
กูมีคิโนะเล่ม1ตอนลดราคา ซื้อมาตอนBlissเจ๊ง จะซื้อเล่ม1อีกรอบเพื่ออุดหนุนAnimag ก็ใจไม่ถึงพอ ทำได้แค่ตามเล่ม2 กับเล่ม10
ไม่เคยอ่านคิโนะว่ะเพื่อนโม่ง มันหนุกมะ คุ้มจะซื้อฉบับพิมพ์ใหม่ไหม
กูขำตรงออกช้า = เจ๊งนี่ล่ะนะ
อ่านบิเบลียแล้วรู้สึกว่าร้านในเรื่องเป็นร้านขายของเก่าว่ะ เอาหนังสือหายากมาอัพราคาและมีคนซื้อที่ซื้อเพราะคุณค่าของความเก่าในตัวหนังสือ
บิเบลีย อ่านเล่มแรกแล้วเฉยๆแฮะ มันน่ารักดีนะ แต่ไม่ดึงดูดเท่าไหร่ แถมแพงเลือดซิบ
กูชอบเวลาไอ้พระเอกมันมองคุณชิโอริโกะแล้วบรรยายความน่ารักของนางว่ะ สาวแว่นซื่อๆนี่ตรงสเปคกูเลย
>>232 คือกูพูดตรงๆ อย่าหาว่าดูถูกนักอ่าน Light novel เลยนะ บิเบลียเหมือนมวยรุ่นใหญ่กว่าลงไปต่อยกับมวยรุ่นเล็กอ่ะ LNในไทยมีแต่แนวขายตัวละครหญิง พระเอกโง่ๆมีฮาเร็ม เพราะงั้นถ้าเอาบิเบลียไปเทียบยังไงก็ดูดีกว่า เหมือนเอาสาวอักษรจุฬาไปนั่งข้างโคโยตี้
เนื้อเรื่อง การบรรยาย บทแปล ก็อ่านเพลิน ถ้ารู้จักหนังสือที่ในเรื่องพูดถึงก็เพิ่มความสนุก แต่กับนักอ่านที่มีประสบการณ์กับนิยายคุณภาพมาเยอะ(เช่นอ่านนิยายของBlissมาเยอะ) ก็อาจจะรู้สึกเฉยๆไม่ค่อยดึงดูดถึงขนาดว่าต้องตามเก็บให้หมด กูเองก็ด้วยว่ะ รู้สึกเนื้อเรื่องมันก็ดีในระดับมาตรฐานนิยายดีๆเรื่องหนึ่ง ถ้าให้แนะนำเพื่อนกูคงบอกว่าเดี๋ยวให้ยืมเล่ม1อ่าน ถ้าชอบก็ไปซื้อเล่ม 2 3 4เอง และสำหรับกู กูตามเก็บเพราะชอบฉากหวานๆของคู่พระนางว่ะ ดูน่ารักดี ไม่ต้องบรรยายหวานเลียนแต่ก็ดูมุ้งมิ้งอบอุ่น
>>233 ถ้ากูบอกว่าคุณชิโอริโกะไม่ซื่อมึงจะด่ากูมั้ยวะ
คือในเรื่องมันบรรยายว่าคุณชิโอริโกะเป็นสาวแว่นซื่อๆมันทันโลก ไม่ประสีประสาเรื่องผู้ชาย แต่บางจุดกูรู้สึกว่าคุณชิโอริโกะแอบร้ายแปลกๆ อ่อยพระเอกเนียนๆ อย่างเล่มแรกตอนสอง พระเอกเมลไปหาแล้วตามมา รพ. เจอชิโอริโกะเพิ่งอาบน้ำเสร็จนั่งเช็ดผม กูคิดในใจว่าคนเราถ้ารู้ว่าจะมีคนมาหาจะรีบอาบน้ำเหรอวะ พอพระเอกมาเจอในสภาพนั้นก็เขินแล้วหายใจเข้าออกแรงๆจนนมเด้ง?? เหมือนจงใจอ่อย
ไอ้เรื่องซ่อนกุญแจในนมอีก ที่อื่นมีให้เก็บเยอะแยะเอาไปซุกในหน้าอกตัวเอง แถมตอนล้วงก็ปลดกระดุมเสื้ออีก!! พระเอกรับกุญแจมายังนึกใจใจว่ากุญแจยังอุ่นๆ เชี่ย แม่งอ่อยนี่หว่า 55555
ชิโอริโกะถ้าเป็นเรื่องหนังสือก็ไม่ใสซื่อหรอก ไม่เลือกวิธีการ ส่วนซ่อนกุญแจก็น่าจะตอนดะไซ?
>>235 ท้ายเล่มแรก ชิโอริโกะซ่อนบั่นปลายในเซฟของ รพ. เก็บกุญแจเซฟไว้ในหน้าอก ตอนเปิดให้โกระดูครั้งแรกนางปลดกระดุมเสื้อออกหนึ่งเม็ดแล้วล้วงนมหยิบกุญแจ โกระแม่งนั่งตัวแข็งเลยมึง(อย่างอื่นก็คงแข็งไปด้วย) คือก็เข้าใจแหละว่าเซฟอยู่ในห้องกุญแจก็ควรเก็บไว้ใกล้ตัว แต่ที่อื่นก็มีเก็บนี่หว่า ใส่กระเป๋าเสื้อกระเป๋ากระโปรงก็ได้ นี่คุณเธอปลดกระดุมเสื้อล้วงนมต่อหน้าผู้ชายเลยนะ พอโกระหยิบมามันยังคิดเลยว่ากุญแจยังอุ่นๆ(สงสัยซุกไว้ในบรา) คือการพูดถึงชิโอริโกะในเรื่องมันบรรยายผ่านโกระเป็นหลัก กูอ่านๆตามแล้วรู้สึกว่าตัวละครนี่ไม่ใสเหมือนในมุมมองพระเอกว่ะ
>>234 มึงพูดถูกเรื่อง LN ในไทยส่วนใหญ่มีแต่ขายตัวละครนะ แต่จะเอาบิเบลียไปเทียบก็เกินไปอยู๋แล้วว่ะ ก็มันไม่ใช่ LN นี่หว่า เป็นวรรณกรรมทั่วไป ถ้าเรียกตามบลิสก็คือ หมวด Jbook ไม่ใช่ Jlight
แต่ถามว่ามี LN คุณภาพสูง ที่ไม่ได้ขายตัวละคร มีความแตกต่างจากพวกที่ขายๆกันอยู่ในบ้านเรามั้ย มันก็มีว่ะ กุขอแนะนำ "สึคุโมโดะ" ของ enter และ "สาวน้อยวรรณกรรม" ของ zenshu สองเรื่องนี้มึงไปอ่านได้เลย จะพบเลยว่าไม่จำเป็นต้องจัดอยู่ในกลุ่ม LN ก็ยังได้
ยิ่ง สึคุโมโดะ นะมึง ฉากหวานๆของพระเอกนางเอกนี่น่ารักมาก อ่านแล้วฟินจิกหมอน
สึคุโมโดะอ่านง่ายดี สนุกเพลินๆ แต่ไม่เคยอ่านปริศนาความทรงจำแฮะ ใครเคยอ่านมั่ง มันหนุกมะ
กูชอบเฮียวกะมากกกกก
กูชอบเฮียวกะมากกว่าบลิเบลียนะ กูคงอินกันชีวิตนักเรียนมากกว่าย่านหนังสือเก่า อีกอย่างชอบรูปแบบในการนำเสนอมากกว่าแบบเล่ม 2 ต้องถามทีละคนเพื่อต่อบทละครที่ไม่มีฉากจบ หรือเล่มล่าสุดที่วิ่งไปไขไป ชอบสุดก็เล่มงานโรงเรียนชอบธีมของเล่มนั้นด้วยไม่ว่าจะการแลกของของโฮทาโร่ หรือประเด็นหลักของเรื่อง
กูไม่ชอบจิทันดะว่ะ พาลไม่อยากตามต่อเลย ทั้งที่เนื้อเรื่องก็ดูน่าสนใจ แต่กูหยุดเพราะจิทันดะเลยจริงๆ
>>245 จิทันดะเล่มแรกกูไม่ชอบเลย แต่พออ่านไปเรื่อยๆ ถึงชอบขึ้น และทำให้กูกรี๊ดโมเม้นกับโฮทาโร่ขึ้นได้จริงๆ
เอาตามตรงกูชอบจิทันดะมากกว่าชิโอริโกะว่ะ... จิทันดะอ่านมาสักเล่ม 2 ก็โอเค โดยเฉพาะสามชอบมาก ชิโอริโกะนี่มาเล่ม 3 ก็ยังรุสึกยังไง แต่อาจเพราะกูไม่ชอบ ผญ สไตล์แอ๊บใสอ่ะนะ
สึคุโมโดก็สนุกนะ ยิ่งตอนใสๆ พระนางนี่น่ารักทั้งนั้นนน ไอ้เรื่อง เวทอาถรรพ์คนเขียนเดียวกันก็สนุก อันหลังนี่มีช่วงโหดจริงจังกว่าสึคุโมโดด้วย
>>236-237 >>246 บุคคลิกของชิโอริโกะ กูว่าไม่ใสซื่อนะ แต่ก็ไม่ถึงขั้นแอ๊บใสตอแหล กูอ่านเล่มหนึ่งแล้วสรุปได้ว่าชิโอริโกะมันก็มีใจให้พระเอกจริงๆนั้นแหละ บางจุดจะบอกว่าคุณเธอ "อ่อย" พระเอกกูก็ไม่เถียง แต่เป็นการอ่อยเพราะมีใจให้พระเอกไม่ได้อ่อยเพื่อหลอกใช้ให้ทำงานอย่างเดียว
แผนการตอนท้ายนางลงมือทำโดยไม่บอกโกระเพราะคิดว่าโกระคงท้วงว่าอันตราย พูดไปก็เท่านั้นยอมเสี่ยงด้วยตัวเองน่าจะมีโอกาสสำเร็จกว่า
ประเด็นที่โกระมันโกรธก็ไม่ใช่เรื่องโดนหลอกใช้งานแต่โกรธที่ชิโอริโกะไม่พูดความจริง และรู้สึกเฟลที่ชิโอริโกะไม่เชื่อใจ
บทบรรยายตรงนี้แม่งมุ้งมิ้งมาก เหมือนหนุ่มคนหนึ่งไปถามความจริงจากสาว พอสาวพูดความจริงก็ทำใจไม่ได้ขอบอกเลิก 5555
ตอนท้ายเล่มที่นางมาง้อ กูวายังไงก็ลงทุนมากเกินไปว่ะ นางคงรู้สึกดีๆกับโกระจริงๆถึงขนาดยอมมอบของสำคัญที่สุดให้อีกฝ่ายเก็บไว้ ถ้าอยากขอโทษเฉยๆคงไม่ลงทุนทำถึงขนาดนี้ กะว่าอ่อยให้โกระช่วยทำงานร้านต่อก็ไม่จำเป็นขนาดนั้น เพราะนางก็ออกจาก รพ.แล้ว กูว่านางชอบที่พระเอกเอ่ยปากชมเรื่องความรู้ นางบอกเองว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครชม หลายคนรำคาญนางด้วยซ้ำหาว่าพูดมาก ลูกจ้างคนก่อนหน้าก็ลาออกเพราะไม่ชอบเรื่องนี้ แต่โกระมันรับฟังตลอดนางจะรู้สึกดีด้วยก็ไม่แปลก บุคคลิกโกระมันออกแนวผู้ชายอบอุ่นคอยดูแลเอาใจใส่ผู้หญิงด้วย
>>249 กูอ่านแล้วไม่คิดว่าชิโอริโกะมีใจให้ว่ะ เต็มที่คือเปิดใจให้คนนี้เข้ามานอกจากครอบครัว ตอนเล่ม2 ก็บอกฉันไม่คิดจะแต่งงาน ดูออกไปทางไม่อยากมีความรัก passion หนังสือแรงกว่าว่ะ ตอนดะไซนี่แหละที่ทำให้มองชิโอริโกะถ้าเพื่อหนังสือทำได้โดยไม่เลือกวิธีการ ถึงได้มีปมกลัวจะเป็นเหมือนแม่ตัวเอง
เห็นพวกมึงพูดงี้กูชักอยากกลับไปตามเฮียวกะต่อแล้วว่ะ 555555 กูจะพยายามไม่สนใจความจิทันดะแล้วอ่านต่อไปเรื่อยๆดู
กูว่าโกระมันหนุ่มซิงไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงมาก่อน แถมเป็นพวกขี้อายเขินง่ายเวลาอยู่กับคนที่แอบชอบด้วย แค่ชิโอริโกะทำมือเป็นแมวกวักมันก็บอกว่าน่ารักจนต้องแอบมอง ไปเจอสาวตอนอาบน้ำเสร็จก็เขินจนต้องขอออกนอกห้อง(ตรงนี้กูไม่แน่ใจว่าชิโอริโกะโนบราหลังอาบน้ำรึเปล่าโกระมันเลยเขิน)
แล้วมันก็ไม่ใช่พวกจีบสาวเพื่อจ้องเย็ด(แต่จะแอบมองแล้วเอาไปว่าวรึเปล่าก็อีกเรื่อง) มันรู้สึกกับชิโอริโกะในฐานะผู้หญิงที่ชื่นชมทั้งเรื่องความสวยทั้งสติปัญญา อยากอยู่ด้วยอยากเป็นคนพิเศษของเธอ ไอ้ประโยค "ปลอดภัยนะ" มันเลยไม่เย็ด คงเพราะไม่อยากชิงสุกก่อนห่ามรอแต่งที่เดียวมั้ง
หรือมองอีกอย่างก็เอาคืนจากเล่มสอง อยากเล่นตัวดีนักบอกว่าจะจะไม่แต่ง คราวนี้กูเล่นตัวมั่งไม่เย็ดแม่ง ฮา
ซื้อโคะโคะโระมาแล้ว แพงชิบหายราคาเกือบๆ400 แต่รูปเล่มสวยงามน่าเก็บสะสมมาก การแปลไม่น่ามีปัญหาเพราะใช้นักแปลระดับอาจารย์มหาลัย
ตอนแรกว่าจะสั่งกับ Readery แต่ของหมด เมลไปถามก็ตอบมาว่าของหมดสต๊อกคุยกับสนพ.แล้วก็หมดสต๊อกเหมือนกัน ตอนนี้น่าจะหาซื้อได้ที่ซีเอ็ดอย่างเดียว ยิบซีแม่งพิมพ์กะเอากำไรเลยนี่หว่า ที่จริงวรรณกรรมคลาสสิคแบบนี้ไม่ต้องรีบขายยังไงของมันก็ค่อยๆทยอยหมดสต๊อกเองยังไงก็มีนักอ่านหน้าใหม่ที่อยากลองอ่านวรรณกรรมขึ้นหิ้งมาซื้อเรื่อยๆอยู่แล้ว และกูจะเต็มใจมากกว่านี้ถ้ายิบซีไม่มีประวัติลอกงานคนอื่นมาขาย
โคะโคะโระมันนิยายเกย์นี่หว่า จะคุยเรื่องนี้ไปคุยห้อง BL เหอะ
โคะโคะโระมันนิยายเกย์นี่หว่า จะคุยเรื่องนี้ไปคุยห้อง BL เหอะ
>>258 งานคลาสสิคจะว่าขายได้เรื่อยๆก็ใช่ แต่แบบนั้นมันจะลำบากสนพ.มั้ยอะ
เห็น jlit เปิดตัวแล้วดีใจแฮะ เห็นว่าเดี๋ยวจะปล่อยรวมเรื่องสั้นโอซามุด้วย ที่จริงอยากให้พิมพ์ the setting sun ใหม่ มีเป็นไฟล์ pdf อยู่แต่อ่านแล้วปวดตา =_= เออ เพิ่งรู้ว่าแจ่มใสเคยพิมพ์งานของมิชิม่าด้วยว่ะ ประหลาดใจแฮะ อยากให้เอาลงอีบุ๊ค มิชิม่านี่งานดีมากๆ
>>263 กูเปิดอ่านหน้าแรกๆแล้วอ่านต่อไม่ไหวว่ะ หยะแหยง ต้องนั่งพักหายใจก่อนแล้วค่อยๆเปิดอ่านต่อ
คือเด็กหนุ่มไปว่ายน้ำแล้วเจอชายวัยกลางคนเลยตามสต๊อกตามไปว่ายน้ำด้วยตามไปถึงบ้าน เจอเมียสาวสวยก็ไม่แสดงอาการสนใจ
ชวนคุยกนู้นนี่แบบว่าสนใจในตัวผู้ชายวัยกลางคนแบบนี้มากๆ กูอ่านแล้วยี้มากๆ
จะว่าเป็นก็เป็น จะว่าไม่เป็นก็ไม่เป็น ในส้งคมญี่ปุ่น การชอบทั้งหญิงและชายเป็นรสนิยมที่มีมาแต่โบราณ มีระบบวัฒนธรรมแน่ชัด แต่สมัยเมจิโดน Victorianization เข้าไป ทำให้เกลียดเกย์ ไทยก็เป็น
ในสังคมญี่ปุ่นตอนนั้น การชอบผู้ชาย ไม่ใช่เรื่องที่เปิดเผยได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ถือว่าเป็นเกย์ ในนิยามสมัยนั้น มันคือความรักรูปแบบหนึ่ง ที่เหนือกว่าความรักของชายหญิงที่เป็นความรักตามหน้าที่ผลิตลูก
กูว่าโคะโคะโระไม่เกย์นะ ถึงมันเหมือนจะใช่ก็เถอะ 5555555 แต่มึงไม่เคยเป็นเหรอ เวลาที่เราก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกแต่แค่มีความรู้สึกว่าเรากับเขาคล้ายๆกัน คุยกันได้ คุยกันรู้เรื่อง มันก็ต้องอยากเข้าหาเป็นธรรมดา อย่างตัวข้าพเจ้าก็เหงา เซนเซก็ดูเหงาไรงี้ ปะวะ 55555 บาย
กูอ่านงานคลาสสิคแล้วไม่ค่อยอินเลยว่ะ อย่างโคโคโระกูจับใจความได้แค่ เซนเซเกลียดมนุษย์เพราะโดนอาโกงมรดก แต่เซนเซก็เกลียดตัวเองที่เป็นคนขี้โกงจนเพื่อนฆ่าตัวตาย ประเด็นสิ้นหวังในมนุษย์นิยายPop สมัยใหม่กูอ่านแล้วอินมากกว่า อย่างพวก Battle royal โรงเรียนแห่งความมืด แต่กับวรรณกรรมคลาสสิคนี่กูเฉยๆกับพล็อต แต่ยอมรับว่าภาษาสวยงามจริงๆ
สงสัยกูจะ Shit taste เกินกว่าจะเสพย์งานคลาสสิค
เดือนหน้าทั้ง jilt ทั้ง chaichai ของ นข. ไทยที่ลิสต์ไว้อีกมากมาย
นอกจาก 2 เรื่องนี้ มีแปลญป.มาอีกไหมวะ แต่ไม่เอาของเฮียมูนะ กูเริ่มไม่ดี เลยอ่านไม่รอดมาจนทุกวันนี้
>>268 จริง ๆ พล็อตของนิยายสมัยใหม่ก็มาจากวรรณกรรมคลาสสิคทั้งนั้นแหละ แต่เข้าใจนะ คนเขียนอยู่คนละยุค มันมีหลายเรื่องที่จูนกับคนรุ่นใหม่ยากแหละ แนะนำว่าอ่านไปเรื่อย ๆ บางเรื่องอาจต้องโตก่อนถึงจะอ่านแล้วเข้าใจ พวกอะไรที่คลาสสิค ๆ นี่เรายังต้องรอตัวเองจบมหาลัยถึงค่อยอ่านแล้วอินเลย
ว่าแต่ถ้าอ่านโคโคโระไม่อิน เคยลองอ่านรวมเรื่องสั้นราโชมอนยัง เราว่าเด็ดมากทุกเรื่อง แล้วก็น่าจะอินง่ายกว่าเยอะ
>>271 ส่วนมากกูอ่านแต่แนวสืบสวนสอบสวนฟรือสยองขวัญพวกนิยายBliss LNแนวเบาสมองก็นานๆอ่านที
โคโคโระนี่เห็นโม่งมู้นี้พูดถึงบ่อยเลยซื้อมาอ่าน แต่กูรู้สึกเฉยๆ อารมณ์เดียวกับอ่านนิยายไทยสมัยเก่าพวกขุนศึก ผู้ชนะสิบทิศ ข้างหลังภาพ ละครแห่งชีวิต รู้สึกว่าพล็อตงั้นๆแต่ภาษาสวยดีอ่านเพื่อศึกษาวัฒนธรรมในยุคนั้น
ปล. ถ้าเรื่องสั้นกูอ่านอยู่สองเล่ม ยักษ์ของอิมามุระ อายะ กับห้องเรียนที่ไม่เปิดรับของอาราคาวะ จิโร่ อ่านจบแล้วคิดว่าคนเขียนเปิดประเด็นได้น่าสนใจดี ไม่ได้หลอนแบบผีตุ้งแช่แต่หลอนในความคิดของตัวละครในเรื่อง
นิยายญี่ปุ่นที่กูอ่านแล้วเศร้าๆกินใจจนไม่อยากหยิบมาอ่านรอบสองก็ 5 centimetre per second ของชินไค
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.