Fanboi Channel

มหกรรมงานหนังสือแห่งบอร์ดโม่ง ครั้งที่ 15

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:lPZqnBE0U

สำหรับคุยเรื่องหนังสือรวมๆที่ยังไม่มีแยกย่อย
>>>/subculture/648/ แม่บ้านโม่งสายหนังสือ วงการนิยายไทยมีเหี้ยไรให้นินทามั้ย
>>>/subculture/890/ มหกรรมแม่บ้านสายหนังสือแห่งเว็บโม่งครั้งที่ 2
>>>/subculture/1074/ สารบัญหนังสือแห่งบอร์ดโม่ง เล่มที่3
>>>/subculture/1243/ บันทึกชุมนุมหนังสือแห่งบอร์ดโม่ง เล่มที่4
>>>/subculture/1467/ โม่งหนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 5
>>>/subculture/1639/ มหกรรมงานหนังสือประจำบอร์ดโม่ง ครั้งที่ 6
>>>/subculture/1731/ มหกรรมงานหนังสือแห่งบอร์ดโม่ง ครั้งที่ 7
>>>/subculture/1815/ มหกรรมงานหนังสือแห่งบอร์ดโม่ง ครั้งที่ 8
>>>/subculture/1863/ งานหนังสือจบไปแล้วแต่โม่งยังคงอยู่ เล่มที่ 9
>>>/subculture/1932/ งานหนังสือแห่งบอร์ดโม่ง ครั้งที่ 10
>>>/subculture/2008/ ห้องสมุดหนังสือแห่งบอร์ดโม่ง ห้องหมายเลข 11
>>>/subculture/2071/ ห้องสมุดหนังสือแห่งบอร์ดโม่ง ชั้นที่ 12
>>>/subculture/2142/ หิ้งหนังสือแห่งบอร์ดโม่ง อาถรรพ์หิ้งที่ 13
>>>/subculture/2280/ มหกรรมงานหนังสือแห่งบอร์ดโม่ง ครั้งที่ 14

2 Nameless Fanboi Posted ID:0oA8Zoz1m

ใครสอนให้พวกมึงอ่านว่าเฮสเสวะ
อาจารย์กูยังไม่เคยเรียกแบบนั้นเลย

3 Nameless Fanboi Posted ID:7WQUxAgdM

>>2 ออกเสียงตามปก ผิด ?

4 Nameless Fanboi Posted ID:esQUqB8xi

>>3 ผิดดิ พ่อแม่เค้ายังไม่เคยเรียกชื่อลูกอย่างนี้เลยนะ

5 Nameless Fanboi Posted ID:GyBXnGO.6

>>2 แล้วต้องเรียกว่าอะไร

6 Nameless Fanboi Posted ID:qvpSv1Moj

https://th.wikipedia.org/wiki/แฮร์มันน์_เฮสเซอ

7 Nameless Fanboi Posted ID:qvpSv1Moj

เฮสเสคงเป็นการอ่านแบบภาษาอังกฤษ ไม่ถือว่าผิดมากมายอะไร เพราะพวกมึงก็คงไม่อ่านปารีค์ แบร์ลิน ฟรังฟรวท กูเตนแบร์กกันหรอก

8 Nameless Fanboi Posted ID:Dp6dugjuy

อย่างที่ >>7 ว่า อันนี้เวลาเรียกชื่อนักบอลก็เคยมีคนพูดว่าพวกเรียกมึลเลอร์ว่ามุลเลอร์มันผิด มี umlaut ต้องอ่านมึล แต่เจ้าตัวก็ยังอ่าน Goetze ว่าเกิตเซ่
จริงๆแล้วชื่อพวกนี้ถ้ามันเป็นสากลแล้ว ก็อ่านอะไรก็ได้ที่สบายปากนั่นแหละ อย่าง Mercedes-Benz เองยังอ่านได้ตั้งหลายอย่าง จะไปบอกว่าคนอ่านเมอร์ซีเดสมันอ่านผิดก็ไม่ใช่เหมือนกัน
ถ้าให้อ่านทุกอย่างตามภาษาต้นฉบับ ตอนนี้คงต้องอ่านปาคี แบร์ลีน มัสคาว หรืออะไรๆไปหมดแล้ว เอาให้สื่อสารเข้าใจกันว่าหมายถึงอะไรก็พอ

9 Nameless Fanboi Posted ID:esQUqB8xi

>>7 เฮสเส มีแต่คนไทยเท่านั้นแหละที่เรียก

10 Nameless Fanboi Posted ID:Rx3On7+.f

>>4 มึงทำกูสำลักกาแฟ

11 Nameless Fanboi Posted ID:wlG9ow2rz

https://www.facebook.com/pottermore/photos/a.444547445579625.115539.213276278706744/1116425115058518/?type=3&theater

12 Nameless Fanboi Posted ID:/7MsG1g9T

>>11 โอ้ววว กูจะได้เห็นน้องอัลบัส เซเวอรัสแล้วสินะ

13 Nameless Fanboi Posted ID:uGEhyDtvA

>>12 ทำไมตอนอ่านเล่มจบกูรู้สึกว่าพี่ชายอัลบัสเท่กว่าวะ /เช่นเดียวกับที่พ่อดูเท่กว่าแฮรี่

14 Nameless Fanboi Posted ID:/7MsG1g9T

>>13 น้องอัลบัสคนแสดงหน้าตาน่ารัก คนเลยชอบกว่าไอ้เจมส์มั้ง เจมส์แม่งเกรียนเหมือนปู่มันเลยว่ะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:uGEhyDtvA

>>14 กูชอบผู้ชายนิสัยเกรียนๆ ไม่ว่าเจมส์คนปู่หรือคนหลานนิสัยตรงสเปกกูทั้งนั้น 5555

16 Nameless Fanboi Posted ID:8JPg.+Oow

ช่วงนี้เรื่องหนังสือเป็น trend ในโม่งเหรอวะ ดราม่าแยกมู้ มหาภารตะใน lounge ตั้งห้องใหม่ ล่าสุดเมื่อคืนก็ขุนแผนในแม่บ้าน game พวกมึงอยู่ๆฟีเวอร์อะไรกัน

17 Nameless Fanboi Posted ID:VpmbrRsAc

>>11 จริงป้ะเนี่ย กูเตรียมกรี๊ดรอเลยนะ

18 Nameless Fanboi Posted ID:TuV9CXd0s

ในโลกแฮรี่กูแปลกใจเรื่องโรงเวียนเวทมนต์วะ JKบอกมี 11 โรงเรียนใหญ่ ที่น่าแปลกคือในเอเชียมีแค่โรงเรียนที่ญี่ปุ่น

อันนี้เป็นข้อสังเกตุนะ คนอังกฤษมักชอบและอวยญี่ปุ่น หนังสือเรื่องประวัติศาสตร์กระดาษของopen worldก็อวยญี่ปุ่นออกนอกหน้ามาก

โลกนี้มันใหญ่นะ คนเอเชียมีกว่าครึ่งโลก แต่มีโรงเรียนเวทมนต์แค่ที่เดียว แถมรับแค่คนญี่ปุ่นอีก กูว่ามันไม่สมดุลย์สุดๆ

19 Nameless Fanboi Posted ID:8tL1d7k.y

>>18 ในเอเชียก็มีแค่ญี่ปุ่นที่เดียวที่เป็นประเทศโลกที่1 ฝรั่งเขาก็รู้จักแค่ญี่ปุ่นเนี่ยแหละ อีกอย่างก็เคยคบกับอังกฤษมานานด้วย สงครามโลกครั้งที่ 1 ญี่ปุ่นก็ซี้อังกฤษนะ กับประเทศอื่นแถบเอเชียไม่ค่อยลงรอย เพราะเรื่องตั้งแต่สมัยล่าอาณานิคมตอนนู้นเลย
ยกตัวอย่างเช่น การขับรถชิดซ้าย ก็มีไทยกับญี่ปุ่นนี่ ที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นแล้วยังขับชิดซ้ายตามแบบอังกฤษ นอกนั้นเขาเปลี่ยนไปขับขวาหมด เพราะไม่อยากใช้ตามแบบอังกฤษ
ยังดีที่บอกสายพันธุ์มังกรเอเชียว่าเป็นพันธุ์ chinese ไม่ใช่ japanese นะ 55555

20 Nameless Fanboi Posted ID:8JPg.+Oow

ก็ญี่ปุ่นส่งออกวัฒนธรรมมากกว่าชาติอื่นนี่นะ พวกฝรั่งตื้นเขินที่ศึกษามาน้อย รับแต่สื่อที่หาได้ทั่วไปจะคิดว่าญี่ปุ่นมีศาสตร์ด้านนี้ลึกล้ำกว่าประเทศอื่นๆก็ไม่แปลก ใช่ กูด่า JK อยู่ แล้วอันที่จริง.... JK นี่ก็ฟุนิดๆอะนะ mildset คุณเธอไม่ค่อยต่างกับคนแต่ง twilight แค่แก่กว่าหน่อย

21 Nameless Fanboi Posted ID:t1mGfp5hc

>>20 เป็นเหี้ยอะไรชอบลากเข้าเรื่องฟุนักวะ คุยเรื่องเอเชียอยู่เสือกมาหย่อนประเด็นฟุ
บางคนยังพอได้ แต่ jk นี่กูหาความฟุไม่ได้เลย มึงเลิกเอาขยะในสมองมึงมาพ่นที่นี่ได้ละ คอกมึงก็มีอีควาย

22 Nameless Fanboi Posted ID:ohr8I/7i7

>>21 ดัมเบิลดอร์ละมึง... เอาเถอะ ว่าแต่ jk นี้เข้าธรรมเนียบเขียนเรื่องเดียวจอดเหมือนกันแฮะ

23 Nameless Fanboi Posted ID:ak/SltHnC

>>21 กูว่านั่นด่าฟุนะมึง มึงเริ่มกลับละ

24 Nameless Fanboi Posted ID:8JPg.+Oow

>>21 ไม่ได้จะหาเรื่องด่าฟุเว้ย นี่ดูภาพรวมจากนิยาย + บทสัมภาษณ์ + activity ของป้าเค้าเอง

25 Nameless Fanboi Posted ID:suI6XByTf

KY หน่อยทำไม circle เปลี่ยนคนวาดปกวะ กูชอบของ skyfly มากกว่าที่ lou------- ไอสัตว์ชื่อเขาพิมพ์ยาก เอาเป็นว่ากูชอบคนแรกวาดมากกว่า

26 Nameless Fanboi Posted ID:dnjgzp63i

ดัมเบิลดอร์กูว่าเขาแค่นึกอยากยัดประเด็นเพศที่สามมาใส่เฉยๆ กูชอบที่เขานำเสนอเรื่องนี้นะแต่แม่งไม่เนียนแปลกๆ คือนึกจะบอกก็บอก แล้วแค่เรื่องนี้มาตีขลุมเขาเป็นฟุ สมองเน่าเกินไปมั้ง

27 Nameless Fanboi Posted ID:VpmbrRsAc

>>20 ฮาย mindset มั้ยละมึง กูขอโทษแต่พอดีมันอดไม่ได้ จะด่าก็เช็คคำหน่อยก็ดีโนะ ส่วนเรื่องฟุ เรื่องเขาเป็นฟุยังไงวะ ? อันนี้กูอยากรู้จริงๆ ไม่ได้กวนตีน อยากรู้เหตุผลมึงอะ

28 Nameless Fanboi Posted ID:5R10BHCuG

>>25 อ่าว เล่มที่เท่าไหร่วะ แล้วออกแล้วเหรอ มีรูปป่าว กูรอเรื่องนี้จนลืมแล้วนะเนี่ย 555

29 Nameless Fanboi Posted ID:/7MsG1g9T

กูอ่านแล้วยังไม่เห็นมีตรงไหนให้วายได้ในเรื่องนี้ นอกจากดัมเบิลดอร์เป็นเกย์แล้วใส่ hint เรื่องกรินเดวัลมาให้ ถ้าไม่คิดหรือสังเกตก็จะไม่รู้เลย ถ้าป้าแกไม่บอก คนอ่านก็ไม่รู้หรอก เพราะมันไม่ได้สื่อมากขนาดนั้น แถมรู้สึกมันเป็นรักข้างเดียวยังไงไม่รู้ ส่วนคู่อื่นมีแต่จิ้นกันไปเองทั้งนั้น เจเคแกไม่ได้หยอดไม่ได้ส่งเสริมอะไรเลยนะ เจเคไม่ใช่สาววายหรอก ป้าแกเป็นยอดนักจมเรือต่างหาก แฟนอวยตายกันเกลื่อนแทบไม่เหลือเรือ มีเรือจินนี่ลอยเข้าวินแบบงงๆ

30 Nameless Fanboi Posted ID:uU6SgTOr2

>>29 บอกให้สังเกตกูยังไม่เห็นเลย มีแต่พวกปริมาณขยะในสมองเยอะแบบอีพวกฟุนั่นแหละที่จิ้นไปได้ทุกเรื่อง
อุตสาห์ได้ห้องใหม่ แต่รู้ว่าต้องมาอยู่ร่วมกับอีพวกสังคมรังเกียจแล้วเซ็งจริงๆ

>>26 + 999

31 Nameless Fanboi Posted ID:VpmbrRsAc

>>29 ป้านี่นักจมเรือจริง ห่า มีกี่คู่ๆ ป้ากูป่นเป็นเม็ดทรายหมด ขนาดเรือรอนเฮอร์ป้ายังจมในชีวิตจริงได้ ..
>>30 จ้ะ เอาที่สบายใจ

32 Nameless Fanboi Posted ID:DWZSk+RvO

>>31 กูเชียร์ลูน่ามาก ภาคห้า ภาคหกอยู่ด้วยกัน เข้าอกเข้าใจกัน แฮร์รี่สบายใจมากที่ได้อยู่กับลูน่า แต่จินนี่...ภาคหกเพิ่งจะเริ่มมามอง ก่อนหน้านั้นแทบไม่แยแส เหมือนป้าแกเพิ่งมาดันจินนี่เอาตอนท้ายๆ แต่คนอ่านไม่ค่อยเหลือพื้นที่ให้นางแล้ว

33 Nameless Fanboi Posted ID:5R10BHCuG

>>32 กูก็งงๆนะ จู่ๆจินนี่มีบทซะงั้น มาจากไหนเนี่ย

34 Nameless Fanboi Posted ID:IVSvq76j9

jkไม่เหลือคู่ให้แฮรี่แล้วไง เฮอไมโอนี่ก็ยกให้รอนไปแล้ว ลูน่าก็มีข้อครหา สาวอินเดียก็ไม่เหมาะ โชก็กู้ดบาย หวยเลยมาลงที่จินนี่ ไม่ได้ดีสุดแต่ก็มีข้อเสียน้อยสุด

35 Nameless Fanboi Posted ID:n27ZVWgpH

>>34 ข้อครหาอะไรน่ะลูน่า?

36 Nameless Fanboi Posted ID:oyrv.ZgBl

ลุน่าได้ใครเป็นผัวนะ

37 Nameless Fanboi Posted ID:IVSvq76j9

คนแสดงลูน่าเป็นแฟนหนังสือที่ป่วยหนัก jkบอกว่าถ้าหายดีจะให้มาเล่นหนัง แล้วก็สร้างลูน่ามาให้กำลับใจเด็กคนนี้ พอหายจริงก็แคสมาเล่นหนัง มึงลองคิดดูนะ ถ้าลูน่าคู่กับแฮรี่จะโดนด่าแค่ไหน

38 Nameless Fanboi Posted ID:sSB/N6cGU

>>36 ได้หลานของคนเขียนตำราสัตว์วิเศษที่แฮร์รี่ใช้เรียน

39 Nameless Fanboi Posted ID:fA4xImyFM

>>37 กูไม่เคยได้ยินนะเรื่องนี้ ป้าโจแกไม่ได้เขียนลูน่าไว้ก่อนแล้วเหรอ มาเจอคนเล่นลูน่าที่ตอนนั้นป่วยเป็นอะนอแรกเซียอยู่ ป้าแกเลยบอกว่าถ้ารักษาหายจะได้เล่นบทลูน่า นางเลยพยายามรักษาให้หายแล้วก็ได้บทลูน่าไป

40 Nameless Fanboi Posted ID:quuSa0lAt

>>39 เออนั่นสิ กูคุ้นๆ เหมือนมึงนะ คือคาแรกเตอร์ในหนังสือน่ะมีอยู่แล้ว แต่ว่านักแสดงคือได้มาหลังจากเค้าหายป่วย

41 Nameless Fanboi Posted ID:IuN2aPVwU

คงจำผิดว่าสร้างก่อนหลังละ แต่อื่นๆ ก็ตามนั้น
>>>/subculture/1467/582/

42 Nameless Fanboi Posted ID:cYOYbos2n

กูเกลียดนิยายของมหาชนที่ต้องคำนึงถึงคนอ่านขนาดนี้แฮะ

43 Nameless Fanboi Posted ID:grF1gdBDJ

http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1368677

เรื่องนี้โม่งคนไหนแปะวะ เออ Plot พื้นฐานมันซ้ำกับหลายเรื่องจริง
แต่กูว่าคนแต่งมันทำการบ้านมาดีนะ อ่านเพลินดี ได้นิยายติดตามเพิ่มใน dek-d พร้อมกับ MSO ละ

44 Nameless Fanboi Posted ID:zN53/q+kj

>>43 มีกลิ่นหลายเรื่องเลย แต่เทียบกับเรื่องอื่นในเด็กดีแล้วถือว่าจางกว่าพอควร
ส่วนmsoกูปลงแล้ว คนเขียนดองมากกก เข้าใจว่างานยุ่งแต่กว่าจะมาแต่ละทีก็เหนื่อยแทน

45 Nameless Fanboi Posted ID:BZ3gU.Mzf

>>43 กูโคตรชอบเรื่องนี้ กูว่าพล๊อตมันซ้ำแค่ ฮิคารุเซียนโกะ ว่ะ ความสัมพันธ์ของตัวเอกมันคล้ายๆ (แต่คนเขียนก็ออกตัวแล้วว่า ได้แรงบันดาลใจมา)
นอกนั้นกูไม่เห็นมันจะคล้ายพล๊อตเรื่องไหนเลย เดินเรื่องแบบแฟนตาซีปนทำไร่ทำสวนทำเกษตร

46 Nameless Fanboi Posted ID:Vc5qPnAa6

มันมีนิยายวรรณกรรมเยาวชนเรื่องไหนที่เหมือนซีรีส์ the 39 clues ปริศนาสมบัติอัจฉริยะ บ้างมั้ยอะ
แบบมีปริศนาคำ ให้คนอ่านแก้ไปด้วยเล่ม

47 Nameless Fanboi Posted ID:V27QGaZmv

>>29 จมเรือตลอด กูนี่เชียร์เฮอร์ไมโอนี่มาตั้งแต่ภาคแรก พอเข้าภาค 4 ก็เริ่มปลงล่ะว่าคงส่งให้รอนแทน เข้าภาค5 ได้ลูน่ามาปลอนโยนจิตใจ แล้วเป็นไง... เรือล่มหมด ชริ

48 Nameless Fanboi Posted ID:Z6MZZMuq.

เข้! นอกจากจะมีนักเขียนโกงคนอ่านยังมีนักเขียนโกงคนวาดด้วยว่ะ นามปากกาอักษรย่อ ต.เต่า นี่ใครว่ะ กูอยากเผือกแต่เวลขุดไม่ถึง

https://mobile.facebook.com/story.php?story_fbid=938109312924418&id=456763767725644&_ft_=top_level_post_id.938109312924418:tl_objid.938109312924418&refid=17&__tn__=,;

49 Nameless Fanboi Posted ID:.Ol5B4Sgb

>>48 เห็นบอกไม่ใช่โนเนมด้วย เรียกว่ามีขื่อมีผลงานพอสมควรอีกต่างหาก รออย่างใจจดใจจ่อ

50 Nameless Fanboi Posted ID:Vc5qPnAa6

>>48 ลองเอารูปงานปกที่เขาอ้างอิงว่านักวาดเคยวาดให้ตอนได้ตีพิมพ์ ไปเสิร์จกูเกิ้ลก็เจอแล้ว
แต่กุไม่รู้จักอยู่ดีว่ะ ชื่อสนพ.ยังไม่รู้จักเลย -_-;
แต่มีงานตีพิมพ์ 6 เล่มแล้ว

51 Nameless Fanboi Posted ID:.Ol5B4Sgb

>>50 กูเล่นมือถือ ก้อปรูปไปหาไม่ได้ มึงช่วนแปะให้กูได้ไหม จะเป็นพระคุณมาก /กราบ

52 Nameless Fanboi Posted ID:qtJ+iHM2W

>>50 ลายเส้นปกแบบนี้เป็นนิยายรักวัยรุ่นของพวกแจ่มใสไม่ก็อินเลิฟว่ะ

53 Nameless Fanboi Posted ID:Vc5qPnAa6

>>51-52 สนพ.Reindeer Books, ชูการ์เรน อะ คงเพราะกุไม่ใช่สายนี้เลยไม่รู้จักมั้ง
แปะโต้งๆเลยจะดีเหรอวะ แปะปกหนังสือให้ละกัน ไปค้นจากชื่อหนังสือต่อเอง
http://cd.lnwfile.com/_/cd/_raw/s5/31/xx.jpg

(ปล.ชื่อนามปากกาในปก ไม่ใช่ ต. เพราะเขามี 3 นามปากกาอะ)

54 Nameless Fanboi Posted ID:.Ol5B4Sgb

>>53 กราบงามๆอีกรอบ ขอบใจมากๆ 55

55 Nameless Fanboi Posted ID:.Ol5B4Sgb

https://m.facebook.com/reindeerbooks/posts/702015173243986?comment_id=702234443222059&reply_comment_id=702367696542067&total_comments=2&comment_tracking={"tn":"R0"}
ปล. อันนี้ไม่เกี่ยวแต่กูฮา นี่ประมูลแล้วเรอะ 555

56 Nameless Fanboi Posted ID:.Ol5B4Sgb

http://my.dek-d.com/toonlovego/writer/
คะ คนนี้ใข่ไหม ต.คือตุ๊กตาต้วมเตี้ยมใช่มั้ย มีผลงานตีพิมพ์แล้วหกเล่ม ต้องใช่แน่ๆ...

57 Nameless Fanboi Posted ID:boaxr.Akr

>>55 มีคนประมูลคนเดียวก็ต้องขายว่ะมึง สงสัยจะร้อนเงินเลยรีบเคาะ
>>56 ชะ ใช่เลยมึง ลองเอานามปากกาไปหาในเน็ตเจอเฟซด้วยว่ะ

58 Nameless Fanboi Posted ID:+SYZHFyfv

>>56 ตายแล้วววว 55555555555555 ไม่มีคนไปเปิดวอร์เหรอ เดี๋ยวไปเบี้ยวนักวาดคนอื่นอีก 55555555

59 Nameless Fanboi Posted ID:4iQe7a/df

มึง http://writer.dek-d.com/kodhippie3/story/view.php?id=1376591 เรื่องนี้โอเคไหมวะ กูไม่ว่างอ่านไงช่วงนี้ ใครอ่านแล้วมารีวิวหน่อยนะ
ถ้าไม่แย่กูจะได้สั่งมาดองไว้ ราคาจริงกูละไม่สู้ เห็นมีเปิดจองลดราคาพอดี
ปล.นิยายของพิมพ์คำแม่งแพงงี้ทุกเล่มเลยป่าววะ เห็นมาหลายเรื่องละ

60 Nameless Fanboi Posted ID:sv9co92oP

>>59 กูๆกูเคยอ่าน มันก็น่ารักใสๆดีนะ กุ๊กกิ๊ก นางเอกแก่นๆ พระเอกหล่อขรึม รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก นางเอกเป็นคนสวยมีเสน่ห์ใจดีผู้ใหญ่เห็นก็เอ็นดู ต้องมาแต่งกันเพราะพระเอกไปขอให้แต่งหลอกๆด้วย สุดท้ายก็รู้ใจรักกันแต่ก่อนหน้านั้นก็ต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆมาก่อน
สรุปคือขนบหนังไทยอะจ้ะ 55555 มีตัวร้ายมากรี๊ดๆด้วยนะ ถ้ามีคนซื้อเอาไปทำละครกูจะไม่แปลกใจเลย แต่ถามว่าอ่านได้มั้ยก็อ่านเอาเพลินๆได้อ่ะถือว่าโอเค ถ้าชอบแนวนี้ก็ซื้อโลดหรือถ้าอยากอ่านอะไรไม่คิดมากก็ซื้อก็ได้

61 Nameless Fanboi Posted ID:6i61ckBXU

>>60 อือหือ ขนบแรงมาก แล้วสำนวนเป็นไงมั่ง

62 Nameless Fanboi Posted ID:.KbbRXrcI

>>59 กูชะงักไปตอนเห็นคำว่าร่างบางเปิดตัวมา เลยไม่ค่อยชอบสำนวนเขาหลังจากที่อ่านจบไป รู้สึกมันขนบละครไทยโครตๆ มีนางอิจฉากร๊ดๆจะเอาพระเอก นางเอกเป็นชนชั้นต่ำไม่คู่ควร
ปล.กูเพิ่งกลับมาถึงบ้าน เดี๋ยวรีวิวการแปลของโลลิต้าให้นิดนึง เทียบจากประโยคอังกฤษต้นฉบับด้วยละกัน

63 Nameless Fanboi Posted ID:sv9co92oP

>>61 สำนวนก็อ่านได้นะกูว่าไม่ได้แย่ สำหรับกูคือเฉยๆอ่านได้แบบไม่ต้องทนอ่าน แต่เนื้อเรื่องมันขนบแรงจริงๆละครไทยเลยมึงมึงเจออะไรในละครไทยบ้างจะเจอทุกอย่างในเรื่องนี้เลย 5555 มีคนก็กรี๊ดเป็นบ้าเป็นหลังใส่กูจนกูต้องไปตามอ่านปรากฏว่าเฉยมากทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยความที่มันขนบมันเลยอ่านได้มีบทกุ๊กกิ๊กน่ารักแต่ไม่คุ้มกับการจ่ายเงินว่ะสำหรับกู

64 Nameless Fanboi Posted ID:kTAO2XpqR

ขอคั่นแปปนะ คือกุอยากอ่านนิยายจีนแนวย้อนยุค ที่พระเอกหน้าตาสวยๆอ่ะ จะเป็นฮ่องเต้ หรือ ขุนนางหรืออะไรก้อได้ เพื่อนโม่งช่วยแนะนำกุที ไม่เอาแม่ทัพอยู่บนกับราชบุตรเขยนะเพราะกุอ่านแล้ว

65 Nameless Fanboi Posted ID:pbH3DXlED

>>64 >>>/literature/2331/

66 Nameless Fanboi Posted ID:kTAO2XpqR

>>65 โทดๆ พอดีเพิ่งเหน

67 Nameless Fanboi Posted ID:PsO9WvspI

Winter ของmuse สนุกมั้ยวะ

68 Nameless Fanboi Posted ID:HYlxWbGCW

กูอยากบ่น จริงๆก็ไม่เชิงบ่นหรอกกูแค่อยากระบายความหงุดหงิด คือกูชอบนักเขียนคนหนึ่ง ชอบมากด้วย ชอบแนวคิดชอบโทนเรื่องชอบภาษา แต่เกลียดมุมมองในแง่เรืองเพศของเขา คือมันก็ไม่เชิงแย่แต่คือมันเก่ามันติดอยู่ในกรอบหญิงชายต้องเป็นงั้นงี้ ถึงเขาจะสร้างหญิงแกร่งก็ติดอยู่ในกรอบอยู่ดี ซึ่งไอ้ที่เขาสร้างมันขัดกับความคิดกูมาก อย่างอื่นเขาดีกูชอบแต่อ่านๆไปก็เหมือนเสี้ยนเล็กๆมาตำหัวใจกูตลอด

69 Nameless Fanboi Posted ID:R8e2rT9Gm

>>68 เรื่องอะไรวะ

70 Nameless Fanboi Posted ID:I0LmFQJQA

>>68

บอกชื่อนักแต่งมาดิครับ
เผื่อเคยอ่านจะได้แชร์ประสบการณ์
ถ้าไม่เคยอ่านจะได้หาดู

71 Nameless Fanboi Posted ID:P/Nbld57Z

>>ถามเล่นๆ ว่าใช่นักเขียนที่นามปากกาขึ้นต้นด้วย ล. และมึงกำลังพูดถึงเรื่องใหม่ที่เขาเขียนอยู่หรือเปล่า ถ้าใช่ก็จับมือกัน เพราะกูก็ชอบเรื่องของเขา
แต่ก็เอียนตรงนี้เหมือนกัน

72 Nameless Fanboi Posted ID:hWLy4J2W7

>>71 มึงแม่งงงงง รู้ได้ไง!!! กูเลี่ยงๆชื่อเขาเพราะกูชอบเรื่องเขามาก(มากจริงๆ เรื่องใหม่เขากูก็ชอบแค่มีแต่ประเด็นที่กูบ่นนั้นแหละที่เหมือนเสี้ยน)
ที่พูดก็หลายๆเรื่องเขานะ เรียกว่าแนวคิดเรื่องเพศเขามันมีจุดที่ต่างกับกูและเป็นจุดที่กูไม่ค่อยชอบเท่าไร

73 Nameless Fanboi Posted ID:PHion2Wq4

ถ้าจะคุยเรื่องนิยายจีนที่คนไทยเขียน กูต้องคุยห้องไหนวะ

74 Nameless Fanboi Posted ID:HPwdMb5Os

>>71 ลวิตร์? ไม่รู้นะ กูมั่ว 555

75 Nameless Fanboi Posted ID:P/Nbld57Z

>>72 เอาเป็นว่ากูเข้าใจมึง และเห็นด้วยที่เราจะคุยกันแบบติดรหัสต่อไป กูคิดว่ามันเป็นกรอบที่เขาดิ้นไม่หลุด (หรือไม่อยากดิ้นก็ไม่รู้เหมือนกัน) คือเป็นคอนเซปต์ที่ผู้หญิงอ่อนไหวได้แต่ต้องแข็งแกร่ง โน่นก็ได้นี่ก็เก่ง หรือไม่ก็ต้องมีความ pure บางอย่าง ส่วนผู้ชายก็เฮตาเระหน่อยๆ แต่ถึงเวลาก็พึ่งได้เหมือนกัน ไรงี้ป่ะ บางทีกูอยากอ่านเรื่องที่ผู้หญิงแบบบิทช์ๆ ให้สุดตีนไปเลย แต่คิดว่าคงยาก...

76 Nameless Fanboi Posted ID:Y4OWWafIY

http://www.dek-d.com/writer/40111/

"ได้ตีพิมพ์ครั้งที่ 3 ตั้งแต่หนังสือยังไม่ได้วางแผง" หมายความว่าไงวะ ครั้งแรกกับครั้งที่สองตีพิมพ์น้อยไปเลยต้องตีพิมพ์เพิ่มงั้นเรอะ นี่กูเข้าใจผิดมาตลอดเลยสินะว่า ตีพิมพ์ใหม่=หนังสือขายหมดเกลี้ยงแผง

77 Nameless Fanboi Posted ID:Z6rbvZG0G

>>75 ลวิตร์แหงๆ

78 Nameless Fanboi Posted ID:Jc5hvkVU4

>>76 เรียกว่าพิมพ์กันเป็นล๊อตๆจะเข้าใจง่ายกว่า ถ้าเห็นว่ากระแสมีแนวโน้มว่าจะขายดี ก็สั่งตีพิมพ์อีกล๊อตสต๊อกเพิ่มไป
เคยไปช่วยขายหนังสือสนพ.นึงที่งานหนังสือ เป็นหนังสือใหม่ แต่ก็ยังมีพิมพ์ครั้งที่สอง ครั้งสามโผล่มาด้วย ทั้งที่ยังขายพิมพ์ครั้งหนึ่งไม่หมดนั่นละ

79 Nameless Fanboi Posted ID:80fbBGVmK

>>78 แล้ว best seller ตั้งแต่วางแผงเรียกว่าไงวะ 555555555

80 Nameless Fanboi Posted ID:kyQCxKlPi

>>79 เรียกว่าถือเคล็ดให้โชคสิมึง

81 Nameless Fanboi Posted ID:9qDvMaSyC

กูมารีวิวโลลิต้าตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วมู้วรรณกรรมที่งดงาม จะคืนกลับมาาาาาาาาาาา
กูยกมาจากหนังสือของไลท์เฮาส์นะ ไปเลือกซื้อเลือกหากันได้
จากบทแรก พารากราฟแรก
ต้นฉบับ - "Lolita, light of my life, fire of my loins. My sin, my soul. Lo-lee-ta:
the tip of the tongue taking a trip of three steps down the palate to tap,
at three, on the teeth. Lo. Lee. Ta."
แปลไทยโดย ปราบดา หยุ่น
โลลิต้า แสงสว่างในชีวิตของผม เพลิงเร้าในท้องน้อยของผม บาปของผม จิตวิญญาณของผม โล.ลี.ต้า.
ปลายลิ้นไล่แตะสามจังหวะจากเพดานปาก จบลงที่ฟัน โล.ลี.ต้า.

บทแรก พารากราฟสอง
ต้นฉบับ - She was Lo, plain Lo, in the morning, standing four feet ten in one sock.
She was Lola in slacks. She was Dolly at school.
She was Dolores on the dotted line.
But in my arms she was always Lolita.
แปลไทยโดยปราบดา หยุ่น
เธอคือโล เพียงแค่โลในยามเช้า สูงสี่ฟุตสิบ สวมถุงเท้าข้างเดียว
เธอคือโลลาเมื่อสวมกางเกงแสลค เธอคือดอลลี่เมื่ออยู่ที่โรงเรียน
เธอคือโดโรเรสเมื่อเขียนชื่อบนเส้นประ
แต่ในอ้อมแขนผม เธอคือโลลิต้าเสมอ

บทแรก พารากราฟสาม
ต้นฉบับ - "Did she have a precursor? She did, indeed she did. In point of fact,
there might have been no Lolita at all had I not loved, one summer, a
certain initial girl-child. In a princedom by the sea. Oh when? About as
many years before Lolita was born as my age was that summer. You can always
count on a murderer for a fancy prose style."
แปลไทย
หากถามว่ามีใครมาก่อนหน้าเธอหรือไม่ มีสิครับ มีแน่ๆ น่าจะกล่าวได้ว่าอาจไม่มีโลลิต้าด้วยซ้ำ
หากผมไม่เคนรักเด็กสาวนางหนึ่งในช่วงฤดูร้อนปีหนึ่ง ณ อาณาจักรชายทะเลแห่งหนึ่ง เมื่อไหร่น่ะหรือ
นานหลายปีก่อนที่โลลิต้าจะเกิด พอๆกับอายุของผมในฤดูร้อนครั้งนั้น ฆาตกรก็มักช่ำชองในการเล่นลิ้นเช่นนี้แล

82 Nameless Fanboi Posted ID:7p.m.weaz

กูอยากได้โลลิต้าฉบับภาษาอังกฤษ กูจะหาซื้อที่ไหนได้บ้าง

83 Nameless Fanboi Posted ID:y5Xutiy+n

>>82 คิโนะมีขาย กูเห็นอยู่

84 Nameless Fanboi Posted ID:Ng65F4mIN

>>81 นี่มันเรียกรีวิวตรงไหนฟระ

85 Nameless Fanboi Posted ID:RZh6WxU5T

>>81 มึงเมายา?

86 Nameless Fanboi Posted ID:XQzXEJ/o7

>>84-85 มู้ก่อนๆเคยขอรีวิวคุณภาพสำนวนฉบับแปลไทย หรือพวกมึงมีวิธีอื่นที่ดีกว่าเอาเนื้อหามาให้อ่านเทียบกันจะๆแบบนี้?

87 Nameless Fanboi Posted ID:vjkmpAcoS

>>86 รีวิวน่ะนอกจากมึงจะเอามาเปรียบเทียบกันแล้ว มึงต้องแสดงความคิดเห็นและบอกได้ว่าจุดเด่นจุดด้อยของสำนวนนี้คืออะไร

ไอ้ที่มึงเอาแปะก็แค่เอามาให้ "ดู" เฉยๆ ไม่ได้ "รีวิว" ห่าอะไรเลย

88 Nameless Fanboi Posted ID:sB6qhvl28

เวลาเห็นหนังสือที่ซื้อราคาเต็มลดเหลือครึ่งราคานี่ปวดใจจริงๆ...ไม่ใช่แค่เล่มเดียวด้วยแม่ง........

89 Nameless Fanboi Posted ID:0ydQHSP3d

ใจเย็นพวกมึง กูกลัวแล้ว ขอโทษ
กูพิมพ์ไปด้วยเล่นเกมไปด้วย กูไม่ใช่นักวิจารณ์หรือเรียนอักษรเลยแจกแจงละเอียดตามหลักภาษาหรือแก่นกระพี้ไม่ได้นะ

รูปเล่ม- หนาดี แต่ปกอ่อน โค้งงอง่าย
เนื้อกระดาษ - เป็นกระดาษถนอมสายตา มาตรฐานหนังสือทั่วไป
ราคา - 447 บาท ตอนซื้อ ไว้อาลัยกระเป๋าตังไปสิบวิ

ฉบับแปลไทยของปราบดา หยุ่น กูว่าโอเค แปลได้สะสวยสำนวนดี แต่อ่านแล้วค่อนข้างจะงงกับคำแปลกๆที่เขาเลือกใช้เช่น "สางสาว" จากประโยค "ผมสาบานว่ามีรอยฟกช้ำสีเหลืองม่วงอยู่บนต้นขาอันงดงามของสางสาวที่มือหนาขนดกของผมกำลังนวดคลึงและจับกุมอย่างช้าๆ"
จากประโยคนี้ I swear, a yellowish-violet bruise on her lovely nymphet thigh which my huge hairy hand massaged and slowly enveloped
สางสาวคืออะไรวะ สางมันแปลว่าผีนี่หว่า บริบทก่อนหน้าคือโลลิต้าเดินเตะหีบที่ทางเดิน อีลุงเลยรีบเข้าไปดูรอยช้ำและบังเกิดความอยากอึ๊บ เห็นโลลิต้าเป็นภูติพรายที่มาทำให้หลงใหล

กูไม่เคยอ่านแปลของสำนักพิมพ์อื่น เทียบจากต้นฉบับก็ใช้คำออกมาตรงตามที่เขียน แต่กูให้ความเห็นว่าต้นฉบับภาษาสวยกว่าฉบับแปล และอ่านยากมากเพราะแม่งเล่นคำแทบทุกย่อหน้า เช่นไอ้หนุ่มที่โลลิต้าหนีตามชื่อคิวตี้ เล่นคำกับ guilty แล้วก็เป็นตัวแทน guilty ของฮัมเบิร์ตไปด้วย ทั้งเรื่องก็มีคำพ้องเสียงแบบนี้เต็มไปหมด มีประโยคยาวมากกกกกกก ติดกันเป็นพรืดแบบไม่เว้นวรรคบ่อยๆ อ่านไปอึดอัดไป เมื่อไหร่แม่งจะจบบรรทัดวะ แต่สำนวนหวานหยดย้อยมาก ทำเอาเรื่องลุงแก่อยากอึ๊บเด็กกลายเป็นงานศิลป์ไปเลย

ช่วงแรกๆ ฮัมเบิร์ตจะดูน่าสงสารมาก เป็นผู้ถูกกระทำจนต้องมาติดคุก แต่อ่านๆไปกลางเรื่องจะขยะแขยงและสมเพชอีลุงนี่มากภายใต้ภาษาสวยๆ เพราะอีลุงคิดลามกกับเด็กวัย 12 ขวบตลอดเวลาที่อยู่ใกล้กันและไกลกัน คือลุงมันก็พยายามห้ามใจไปพร้อมๆกับอยากเอา เวลาที่ฮัมเบิร์ตมันละเมอเพ้อถึงโลลิต้าก็ใช้คำที่ค่อนข้างดี แต่อีโรติค เช่น "และเพราะเสื้อผ้าชั้นในที่หละหลวม ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่จะกีดกันนิ้วโป้งกำยำของผมจากการล้วงเข้าไปถึงโพรงผ่าวระหว่างขาของเธอ"

ในเรื่องโลลิต้าอ่อยแบบออกนอกหน้ามาก แต่เป็นไปแนวให้ความอยากแล้วจากไป อีน้องแกไม่คิดจะเอาลุงแก่ๆเป็นผัวถาวร แค่หลอกใช้เฉยๆ น้องแกเป็นเด็กแรดและเคยมีอย่างว่ามาแล้ว แต่ฮัมเบิร์ตหลงใหล บรรยายว่าเป็นนางฟ้านางสวรรค์ ทุกอย่างของโลลิต้าสดใส สว่างบริ้งๆในสายตาแก แล้วก็จะมาตัดพ้อว่าตัวเองเป็นลุงไม่คู่ควร อยากกลับเป็นหนุ่มจังเลย ตอนฉากเซ็กส์ ใครอ่านแล้วช่วยตัวเองไปด้วยกูนี่นับถือเลย มันไม่ได้หื่น มันออกแนวน่าสมเพชอีลุงจริงๆว่ะ

จุดเด่น..กูไม่รู้จะอะไรดี แต่นับว่าโอเคที่แปลออกมาตรงตามต้นฉบับ
จุดด้อย เลือกใช้คำแปลกๆในบางที่ แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร เพียงแต่กูจะแย้งอยู่ในใจเฉยๆว่า ใช้คำนี้ๆๆๆ จะฟังดูดีกว่ามั้ย

กูไม่สรุปคะแนนเพราะอันนี้จากความเห็นกูเอง คนอื่นคงคิดไม่เหมือนกู ถ้าพวกมึงอยากให้ชัวร์ก็ไปหาทดลองอ่านกันได้

90 Nameless Fanboi Posted ID:KtePC2omc

>>89 ขอบคุณมาก อ่านแล้วอยากอ่านต้นฉบับเลย
แต่ตาลุงน่ากลัวมาก

91 Nameless Fanboi Posted ID:xxyH2hQcA

>>89 แทงยู กูตัดสินใจได้ละว่ากูจะอ่านต้นฉบับ
แต่มียกข้อความแบบ >>81 มาก็ดีนะมึง ได้ดูประกอบการตัดสินใจ

92 Nameless Fanboi Posted ID:mpY9ca2FO

>>89 นี่สิรีวิว ตรงสางสาวนี่ถ้าปรับเป็นพรายสาวน่าจะโอเคกว่าถ้สอยากบอกว่างามเหมือนผีสางอะไรทำนองนั้น ตัดคำว่าผีออกไปเหลือแต่สางแปลกๆ

93 Nameless Fanboi Posted ID:OHiXl7ExH

>>89 ขอบใจมากมึง อ่านแล้วอีลุงนี่น่าขยะแขยงจริงๆด้วย

94 Nameless Fanboi Posted ID:MlGPbVvTx

>>89 รีวิวแล้วน่าอ่านดีว่ะ แทงส์ๆ ตอนดูหนังกูรู้สึกว่าอีเด็กโลลิต้านี่แม่งอ่อยและแร่ดมาก (ที่สงสัยคืออีแม่ทำให้เลือกเสื้อผ้าแร่ดๆ ขนาดนี้มาให้ลูกสาวใส่วะ) ก็ดูจะเล่นได้สมเหตุสมผลดี...

95 Nameless Fanboi Posted ID:0ydQHSP3d

>>94 โลลิต้าตัวจริงเป็นเด็กแก่แดด แรด อ่อย ไปเอากับผู้ชายตอนเข้าค่ายทั้งๆที่อายุแค่สิบสอง แต่ฮัมเบิร์ตมันไม่รู้เรื่องนี้ คิดว่าโลลิต้าคือเทพธิดาของมันตลอด น้องโลลิต้าในหนังเล่นได้ยั่วมากและหน้าตาน่ารักมาก ฉากนอนอาบแดดดูดอมยิ้มในชุดบิกินี่แม่งโครตแก่แดด แต่ยั่วยวนสุดๆ ทั้งๆที่ไม่มีฉากเซ็กส์ซักนิด แต่แรงดึงดูดทางเพศมันสูงมาก ไม่แปลกที่ฮัมเบิร์ตมันจะหลงหัวปักหัวปำ

96 Nameless Fanboi Posted ID:X7f3uFuuA

กูขอ KY หน่อย
พวกมึงว่านักเขียนแฟนตาซีไทยเดี๋ยวนี้มีคนไหนเขียนโอเคๆ มั่งวะ

97 Nameless Fanboi Posted ID:BW1JjvVSS

ชอบ เซอร์เซส ลวิตร์ กัล สีสัน เสราฟิมก็โอเคแต่หายไปนานแล้ว ที่เหลือกูนึกไม่ออกไม่ก็ไม่ผ่านเกณฑ์กู

98 Nameless Fanboi Posted ID:S72VMhDNr

>>97 เซอร์เซสกูว่าแฟนตาซีเขาดี แต่งานวายไม่ผ่าน...... กูชอบเรื่องมังกรที่สุดแล้ว ส่วนเรื่อง Friday นี่เฉย ๆ

99 Nameless Fanboi Posted ID:DM0m+Y2cd

นักเขียนแฟนตาซีไทย นึกไม่ออกนอกจากพวกแรบบิท ลวิตร์ กัลฐิดา ไม่ได้หมายความว่าพวกนี้โอเคสำหรับกูนะ แต่กูนึกไม่ออกจริงๆ

100 Nameless Fanboi Posted ID:QW3WViUhs

>>96 คุณวีด้วย คนนี้กูชอบนา

101 Nameless Fanboi Posted ID:pdKUU.9nY

>>96 ตั้งแต่เริ่มทำงานกูก็อ่านนิยายน้อยลงเยอะเลยว่ะ อาจจะไม่อัพเดทนักเขียนหน้าใหม่เท่าไหร่

หิ้งกูคือคุณลวิตร์กับคุณแบงค์
2 คนนี้ออกกี่งานกูก็เก็บทุกงาน คนแรกนี่เริ่มด้วยมาโอ ตามด้วยเซรีญา แล้วก็ไล่เก็บที่เหลือทั้งหมด (ตั้งแต่10 ปีก่อนได้มั้งนี่) คนหลังกูชอบตั้งแต่งานแรก โซเคนโยที่ออกกับบลูเบลล์
ชอบส่วนตัวคือคนแต่ง anther history ถูกใจนิสัยทั้งพระทั้งนางและตัวประกอบ ที่ตอนนี้หายเงียบไปละ (เล่มจบเมื่อไหร่จะออกวะ!!)

คนดังในวงการตอนนี้คือคุณกัลฐิดามะ แต่กูเบื่อแนวกงล้อแห่งชะตากรรมของเขาแล้วว่ะ ตอนออกเซวีน่า 3 เล่มแรกกูชอบมาก ต่อๆมาชักเริ่มเบื่อละ castle กูไม่ได้ซื้อ ส่วนlost หยุดที่เล่ม 2
ส่วนrabbit ดังเรื่องเดียวแล้วหายเลยไม่รู้จะถือว่าโออ๊ะป่าว
ที่กูว่าโออีกก็มี V. Rondell กับ D dora
มาซาลัน ก็น่าจะพอไหว แต่กูเบื่อบทตบมุกในทุกเรื่องของเขา ส่วนสีสันกูไม่ได้อ่าน

เซอเซสกับเพนกวิน ของ enter ก็น่าจะโอมั้ง แต่ตอนนี้กูเริ่มรู้สึกว่าตัวเองแก่ อ่านแล้วไม่อิน ไม่กรี๊ดเหมือนสมัยเด็กๆอะนะ 555

ล่าสุดเพิ่งไปอ่านนิยายในเด็กดีที่มีโม่งพูดถึง เรื่อง ศาสตร์ลับหลอมวิญญาณ อันนี้กูก็ชอบ ภาษาโอเค เนื้อเรื่องน่าสนใจ เสียแต่ว่าได้ยินว่าโครงเรื่องเหมือนเอาการ์ตูนมาผสมกัน แต่ถือเป็นโชคดีสำหรับกูรึป่าวไม่รู้ เพราะกูดันไม่ได้อ่าน เดอลูดาลู กับอีกเรื่องที่พี่กูบอกว่าพระเอกมีอ.เป็นวิญญาณและเป็นจอมยา กูเลยไม่รู้สึกอะไรเลย อ่านได้แบบไม่คิดมาก (ฮิคารุกูอ่าน แต่จุดเหมือนเห็นแค่อ.เป็นวิญญาณ ซึ่งจิ๊บจ๊อยมากสำหรับกู)

ของสนพ. Pc/hb นี่ไม่มีคนไหนติดอยู่ในหัวกูเลย นึกไม่ออก

102 Nameless Fanboi Posted ID:sJ3V60m5P

งานหนังสือสอยไรดีวะ ปีนี้ไม่ค่อยมีไรพีคๆเลย

103 Nameless Fanboi Posted ID:eMBtY.NHF

กูชอบ foxilla ตามงานเขามาตั้งแต่แม่มดราตรี บางเรื่องกูโคตรเห็นแย้งพระเอก แต่ก็ยังอ่าน...

104 Nameless Fanboi Posted ID:kjJc5VR/l

>>101 กูรู้สึกว่าแม่งเหมือน doupo cangqiong โคตรเลยมึง เวลาอ่านกูเลยรู้สึกตงิดๆทุกรอบ

105 Nameless Fanboi Posted ID:foHstew6e

>>104 ได้ยินคนพูดมานานแต่ไม่เคยอ่าน เรื่องย่อมาหน่อยดิ๊

106 Nameless Fanboi Posted ID:3BX4K6tii

>>103 foxilla กูชอบแม่มดราตรีกับนิรันดร์กาลในม่านหมอกที่สุดละ ความลับในหุบเขาหมอกกูรำคาญนางเอกมาก มาทำเอย์ระของกู ถึงจะมีเหตุผลก็เหอะ แต่กูก็รำคาญความโลเลของนางอยู่ดี

107 Nameless Fanboi Posted ID:1FXq9bygS

กู 96 เองนะ ขอบใจพวกมึงมาก จุ๊บบบ
จริงๆ ที่พวกมึงพูดมากูก็รู้จักเกือบหมดแฮะ แสดงว่าวงการแฟนตาซีเดี๋ยวนี้แม่งไม่ค่อยมีใครเด่นๆ เลยสินะ ... อย่างคุณกัลนี่จริงๆ กูก็ชอบ แต่พออ่านๆไปก็เริ่มเอียนว่ะ จักรวาลเค้าคล้ายๆ กันทุกเรื่อง สไตล์เหมือนกันไปหมด ที่ตามๆอ่านอยู่ตอนนี้กูรู้สึกเหมือนทำตามหน้าที่ยังไงไม่รู้
>>101 มาซาลันกูเคยอ่านแต่ไพรด์ว่ะ เรื่องอื่นเป็นไงวะ ? อ้อ ไม่สิ การ์เดี้ยนก็เคยอ่าน แต่พอเจอฮาเร็มเราสามคนมาแต่งงานกันเถอะจ้ะเข้าไปกูก็ปาทิ้งไปนานละ

108 Nameless Fanboi Posted ID:I68OYFiXC

กู>>101
>>104 เรื่องที่มึงว่าคือพระเอกมีอ.เป็นวิญญาณ แล้วเรื่องเกี่ยวกับการทำยาปะวะ?

>>107
คุณกัลเขามาแนวเดิมอะ หลุดกรอบเดิมไม่ได้เลย กูเลยขี้เกียจตามละ

มาซาก็มีเพิ่มมาแค่ element ว่ะ เรื่องก็ต่อเนื่องมาจาก pride
พระเอกซูและทะเล้นเหมือนเดิม สัตว์เลี้ยงก็โลลิๆ ตัวละครหญิงชายมากมาย พวกตัวเอกก็ซูกันทุกคน มียาสลับร่าง เตรียมสร้างยานขึ้นเกาะแห่งท้องฟ้า ตามล่าหาวันพีซ(ผิด!!)
ส่วนการ์เดี้ยน กูก็อ่านถึงแค่รักเราสามคน แล้วขี้เกียจตามต่อ

109 Nameless Fanboi Posted ID:fcD0DrkY5

>>107 มาซากูตามแต่ไพรด์เหมือนกัน ส่วนกาเดี้ยนกุอ่านเล่มหนึ่งแล้วจบ หนาฟาดหัวคนตายได้แต่เสือกมีแต่บทโชว์เทพพระเอก

วีกูอ่านแล้วเฉยๆ ว่ะ เรื่อยๆ อ่านแค่เมอเมดสองเล่มกับจอมคาถาอีกสอง หรือหลังจากนี้มันสนุกขึ้นกูจะได้ลองหาอ่าน

ดีโดรา กูอ่านผลึกแล้วตัวละครเขาซูมากกูเลยพอ

กัล กูเห็นด้วยว่าโลกเขาคล้ายๆ กัน แต่กูชอบลอสนะ เขาทำได้ดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ทิ้งกลิ่นอายแบบกัลอยู่ดี

110 Nameless Fanboi Posted ID:OeVfXd3tu

>>107 แต่เห็นประเด็น พระเอกจบกับผู้หญิงสองคน แต่งงานกันเป็น 3P แล้วพวกมึงรับได้แค่ไหนวะ มันควรมีพล็อตอะไรที่คนอ่านเชียร์ให้จบฮาเร็มได้บ้าง คือกูสนใจอยากเขียนแนวฮาเร็มน่ะ แต่อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูล

111 Nameless Fanboi Posted ID:+Dt64h0Y/

>>105 มันเหมือนกันตรงทำยากับมีอาจารย์เป็นผีว่ะ ช่วง 4-5 ตอนแรกนั่นแหละ แต่นอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรเหมือนกันสักอย่าง กูไปลองอ่านดูกับเรื่องนึงที่ตัวเอกปัญญาอ่อนโวยวายไปวันๆ อ่านไปได้สักสี่สิบห้าสิบตอนมั้ง ส่วนอีกเรื่องตัวเอกไปทำไร่ทำนาเน้นพัฒนาเมืองพัฒนาคุณภาพชีวิตงี้ เป็นนิยายเรื่องแรกที่กูชอบฉากปลูกต้นไม้สัสๆ

112 Nameless Fanboi Posted ID:mq79J4pFH

>>109 ดีโดราซูมาก อ่านได้เฉพาะตอนอยู่ม.ต้นว่ะมึง พอหลังจากนั้นกูลองกลับไปอ่านอีกก็ .. อืม แล้วจบได้แบบ .. มึงเอางี้จริงดิ โอเค๊
ส่วนของคุณวีกูอ่านแต่เมอร์เมด ชอบเรื่องคุณป๋าว่ะ จะโผล่มาตอนเล่มสามเล่มสี่นี่แหละ อินกว่าเรื่องไคอาควอเรียเยอะ กูชอบเซ็ตนี้เพราะพ่อไคอาเลยมึง สองเล่มแรกกูก็เฉยๆ
>>110 เหตุผลล่ะมั้ง แต่กูก็นึกเหตุผลดีๆ ไม่ออกเหมือนกันว่ะ ตรงๆ เลยคือกูไม่คิดว่าฮาเร็มจะเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงน่ะนะ มันเป็นไปได้ยากที่ฝ่ายหญิง(หรือชาย)จะสนับสนุนเห็นดีด้วยเวลาคนรักตัวเองรักอีกคนนึงว่ะ แล้วมันพลอยทำให้รู้สึกสงสัยความรู้สึกของคนตรงกลางที่มีคนรักสองคนน่ะ มันไม่มีทางที่คนสามคนจะรักกัน มีความรู้สึกเท่ากันเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่ามั้ยวะ ? ถ้าอยากแต่งฮาเร็มจริงๆ กูว่าเป็นฮาเร็มน้องสาว เพื่อนหรืออะไรที่ไม่มีความสัมพันธ์โรแมนติกเนี่ย พอจะโอเค

113 Nameless Fanboi Posted ID:3yJR0cqt/

>>110 สำหรับกูต้องดูก่อนว่าเรื่องแนวไหนคือไงดี ถ้าแนวชูป้ายว่า"นี้กูกำลังแต่ฮาเร็มสนองนีทอยู่นะ"ตั้งแต่แรกกูก็จะอ่านเรื่อยๆไม่ต่อต้าน เพราะกูทิ้งเหตุผลไปตั้งแต่เปิดเรื่องแล้ว
แต่ถ้าเรื่องมาแนวปกติแล้วฮาเร็มกูจะต่อต้านเหี้ยๆ ยิ่งไอ้แนวสองสาวรักพระเอกแต่อยู่ด้วยกันก็หนุงหนิงนี้กูโคตรยี้
ปล.สำหรับกูพระเอกฮาเร็มคือพวกโลเล

114 Nameless Fanboi Posted ID:v6RWciu8E

>>110 ฮาเร็มมันก็มีสองอย่างมึง ฮาเร็มแบบบริบทสังคมกับฮาเร็มเขียนเอามัน ถ้าเป็นอย่างแรกก็ก็พอรับได้อยู่บ้าง แต่มันคงไม่สวยหรูไร้ปัญหานักหรอกและถ้าคนเขียนเอามาผูกปมสร้างประเด็นกูก็จะยิ่งชอบว่ะ มันดูไม่สิ้นคิดดี ไม่ใช่พวกสร้างตัวละครหญิงมาเยอะแล้วไม่กล้าตัดทิ้งหรือสร้างมาล่อกองอวย เจอแบบนั้นกูเลิกอ่าน

115 Nameless Fanboi Posted ID:mq79J4pFH

>>114 ถ้ามาแนวบริบทสังคมแล้ววางปมดีๆนี่เนื้อเรื่องน่าจะหนักพอสมควรอยู่นะ ถ้าเป็นแบบนั้นกูก็อยากอ่านเหมือนกัน

116 Nameless Fanboi Posted ID:gWEdtKsNw

>>114 ถ้าแนวบริบทสังคมและดราม่าก็ดูจะน่าอ่านอยู่

117 Nameless Fanboi Posted ID:bjw+FFi6u

>>110 สำหรับกู
ถ้าจั่วหัวมาว่าฮาเร็มแต่แรก กูก็จะอ่านเอามันส์ไม่คิดเหตุผล
ถ้าไม่จั่ว แต่มาแนวออนไลน์ ฮาเร็ม npc อันนี้กูก็รับได้ แต่ไม่จั่วแล้วจบแบบฮาเร็ม กูขอดูโทนเรื่องและเหตุผลก่อนว่ะ แต่ต้องเป็นแบบไหนถึงจะรับได้ กูก็ไม่รู้ มันต้องมีให้อ่านก่อนถึงจะตัดสินใจได้ว่ะ

อย่างการ์เดี้ยน กูไม่โอ เพราะปูมาให้พระนางคู่กันแน่ๆ อยู่ดีๆคุณซายะมาได้ไง๊ จริงๆกูชอบซายะมากกว่าด้วย แต่เห็นตั้งแต่เล่ม 1 แล้วเลยไม่หวัง มาจบแบบ3p ก็เอิ่ม

118 Nameless Fanboi Posted ID:gWEdtKsNw

>>117 กอดมึง สิ่งเดียวที่ทำให้กูทำใจอ่านการ์เดี้ยนที่เพื่อนยัดเยียดให้กูคือคุณซายะ ซึ่งแม่งก็....

119 Nameless Fanboi Posted ID:mq79J4pFH

>>117 กูก็งง ไม่มี foreshadowing อะไรทั้งนั้น อยากจะใส่กูก็ใส่งี้เหรอวะ จริงๆ เรื่องนี้กูก็โอเคนะ อ่านได้แบบข้ามๆ ความซูพระเอกไป แต่พอเจองี้กูก็ไม่อ่านต่อว่ะ หาที่ปล่อยหนังสือต่ออยู่เนี่ย

120 Nameless Fanboi Posted ID:QHFJ7MlRj

เรื่องฮาเร็มนี่บางทีกูก็สงสัยนะ ถึงพระเอกและสาวๆ จะรับได้รักกันดี ถ้าถึงรุ่นลูกรุ่นหลานจะไม่มีปัญหาเรอะ เพราะกูเห็นวรรณคดีไทยเรื่องไหนพระเอกมีเมียเกินสองพอมาถึงรุ่นลูก ลูกก็มาทำศึกฆ่าพ่อที่ไม่เคยเห็นหน้าหรือสงครามกับพี่น้องปู่ย่าตายายเพื่อชิงเมือง

อืม...นี่กูคิดมากเกินไปเปล่าว่ะ แต่เจอนิยายเรื่องไหนที่จบลงด้วยการแต่งงานหมู่อยู่กันทั้งฮาเร็ม 4+ ก็อดคิดมากไม่ได้ว่ะ

121 Nameless Fanboi Posted ID:CpItNsw4p

>>120 ขึ้นอยู่กับworld settingเป็นหลักมากกว่า อย่างนิยายย้อนยุคถ้าไม่ใช่ยุโรปก็ 1 ผัวหลายเมีย ธิเบตก็ 1 เมียหลายผัว
ถ้ามึงกำหนดให้โลกนั้นยอมรับpolygamy(พหุสมรส)ได้ก็ไม่ใช่ปัญหา ในสังคมปัจจุบันแค่ให้เป็นอิสลามก็พอ
แต่ค่านิยมปัจจุบันเป็นmonogamy ดังนั้นมึงต้องเขียนบทให้ดีๆ ว่าทำใมถึงต้องมีเมียหลายคน และทำใมผู้หญิงถึงยอมรับ
วิธีง่ายถ้าไม่ย้อนยุคก็สร้างโลกใหม่เลย อย่าง 8 สามีกับขันทีก็สร้างโลกที่ผู้หญิงมีผัวหลายคนได้ ในประวัติศาสตร์ก็ใช่ว่าไม่มี
โลกนี้กว้างใหญ่ ประเพณีหลากหลาย มึงสร้างโลกมาให้สมเหตุสมผลก็พอ ลแงอ่านเรื่องของเผ่าทัวเร็กแล้วมึงอาจมองมุมใหม่ได้
https://www.facebook.com/padcha.bels/posts/1174737095875873

122 Nameless Fanboi Posted ID:m6iZJ+msG

ที่พนมเทียนไปเจอนี่เป็นฟิครึเปล่าวะ อยากรู้ว่ะว่าเรื่องไหนที่ไปเจอ ถึงบอกว่าถูกลอกเอาไปหากินทั้งในเด็กดีกับพันทิป

http://www.dek-d.com/board/view/3607020

123 Nameless Fanboi Posted ID:3Nkm1nwd6

>>120 กูว่ามันน่าจะขึ้นอยู่กับบริบทโดยรอบนะมึง ในฮาเร็มเนี่ย ฝ่ายหญิงจะมีความเป็น submissive มากกว่า ยอมทำตามความต้องการของสามีได้ทุกอย่าง มันค่อนข้างจะเป็นเชิงสุขนิยม(และอุดมคติสำหรับฝ่ายชาย)หน่อยๆ คือทุกคนอยู่ร่วมกันได้แบบไม่มีปัญหา มีกระทบกระทั่งกันบ้างแต่ไม่ร้ายแรง แต่ในกรณีที่มึงบอกว่าลูกฆ่าพ่อที่ไม่รู้จัก หรือลูกหลานเชื้อสายเดียวกันมาฆ่ากันเองมันมักจะเป็นสังคมที่มีการแก่งแย่งแข่งขันสูง มักจะมีเค้าโครงความเป็นจริงในประวัติศาสตร์ด้วย เช่นพวกเรื่องเล่าของกรีก อียิปต์ หรือจีน อะไรประมาณนี้ ก็จะเป็นอีกบริบทนึงไป

124 Nameless Fanboi Posted ID:fLX8MIMiS

>>122 เพชรพระอุมาก็แฟนฟิคเหมือนกันนี่หว่า ทำเป็นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไปได้
ว่าแต่ว่าลุงแกไม่รู้จักแฟนฟิค แฟนอาร์ตจริงดิ แฮร์รี่ เดอะลอร์ด นิยายนั่นนี่ก็มีแฟนฟิค แฟนอาร์ตให้เพียบ นักเขียนเขาก็ไม่เห็นจะออกมาโวยวายกัน

125 Nameless Fanboi Posted ID:v/BuQjq2R

JKโวยนะถ้ามีฉากลามก ป้าแกแอนตี้เลยละ

126 Nameless Fanboi Posted ID:Phlt4FJvW

คนอ่านเอาไปแต่งฟิคต่างๆนานา กูว่าคงได้แต่ปลงว่ะ มันห้ามความคิดกันไม่ได้ ทุกอย่างบนโลกเอามาทำเป็นพอร์นได้หมดอยู่แล้ว เช่นแฟนฟิคทไวไลท์ยังกลายเป็นเรื่อง 50 สีเทาได้ ทั้งๆที่ในทไวไลท์มันก็ไม่ได้มีฉากตรั่บๆแบบโซ่แส้กุญแจมือซักหน่อย

127 Nameless Fanboi Posted ID:2CuPXkc2X

>>122 ไม่ใช่ฟิค กูเคยเห็นนิยายอยู่เรื่องนึง มันต้องเป็นเรื่องนั้นแน่ๆ ขายกับ สนพ สายวาย กับขายเป็น อีบุ๊คด้วย
ชื่อเรื่อง Feel คนเจ้าอารมณ์ คนแต่งชื่อ Memew
มึงเอาชื่อลองไปเซิร์สดูจะรู้เลยว่าทำไมพนมเทียนถึงรับไม่ได้
กูตอนเห็นเรื่องนี้ครั้งแรกก็คิดอยู่ว่ามันต้องโดนเล่นเข้าสักวัน

128 Nameless Fanboi Posted ID:2CuPXkc2X

>>127 ต่อนะ กูผลอกดเอนเตอร์
แค่คู่พระนายนะมึง คู่แรก พี่ชายxรพินทร์ คู่สอง เชษฐาxไชยยันต์ คู่ที่สาม สแตนลีย์xเชิดวุธ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคู่
คนเขียนมันอยากเกาะกระแสเพชรพระอุมาดังด้วยล่ะ กูว่า แต่กูเข้าใจฝั่งพนมเทียนมากกว่า ถ้าโดนแบบนี้ใครก็รับไม่ได้

129 Nameless Fanboi Posted ID:pJJvQzeDq

>>124 ลุงแกเขียนฉากเย็ดในเรื่องตั้งเยอะ พอโดนแบบนี้ทำเป็นบ่น เหอะๆ

130 Nameless Fanboi Posted ID:Phlt4FJvW

>>127 กูลองไปอ่านมาละ ถ้ามันอยู่ในขอบเขตของแฟนฟิค ตีพิมพ์เองขายกันน้อยๆในวงแคบๆ คนเขียนก็คงยังทำไม่รู้ไม่เห็นไปได้ แต่นี้ตีพิมพ์กับสนพ.เป็นล่ำเป็นสัน มีลิขสิทธิ์ขายแล้ว เหมือนก็อปทรัพย์สินทางปัญญากันซึ่งๆหน้า โอเคกูเข้าใจแล้วว่าทำไมลุงแกไม่ยอม
ปล.เนื้อเรื่องเหี้ยสัส แค่กูอ่านไปสามบรรทัดแรกก็อยากปิดแล้ว

131 Nameless Fanboi Posted ID:kuKVywyOn

>>127 กูไปอ่านแล้ว แม่งโคตรเหี้ย นักเขียนก็ทุเรศชิบหาย นี่ขนาดอ้างตัวว่าเป็นแฟนพนมเทียน ลุงแกเขียนเชิงรังเกียจขนาดนั้นยังไม่รู้สึกรู้สา แม่งจะเปลี่ยนชื่อตัวละครแล้วเอามาขายต่ออี๊ก ทำไมหน้าด้านจังวะ แฟนๆ แม่งก็อวยกันไม่ลืมหูลืมตา

132 Nameless Fanboi Posted ID:f2p6.nyWo

>>128 แล้วสำนักพิมพ์อนุมัติโดยไม่ตรวจสอบอะไรเลยเรอะ หรือบก.จะไม่เคยอ่านเพชรพระอุมา (กูก็ไม่เคยอ่าน อ่านแต่สปอยจบในพันทิป)

133 Nameless Fanboi Posted ID:aBNZlrGmM

คงคิดว่าไม่เป็นไรมั้ง คนไทยเคยแคร์เรื่องนี้ด้วยเหรอ

134 Nameless Fanboi Posted ID:.ubwcpl4H

ว่าไปแล้วหนที่มีจะเอาไปทำเป็นการ์ตูนแต่ลุงแกไม่ให้ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่แกเล่นใช้กฏหมานแทนการออกมาเตือนๆด้วยรึเปล่า

135 Nameless Fanboi Posted ID:HRFx4DvzR

>>127 กูตามเข้าไปอ่านในเพจมันบอกจะเปลี่ยนชื่อตัวละคร กับ อ้างว่านิยายเรื่อวนี้ในเด็กดีโดนแบนกระทันหันเพราะมันเรท.... กูว่ามันลบเองเพราะกลัวลิขสิทธิ์มากกว่า = =

136 Nameless Fanboi Posted ID:F2uwilx27

กูไม่รู้จะไปปรึกษาห้องไหนดี ขอพื้นที่ตรงนี้หน่อยแล้วกัน
กูเป็นนักเขียนโนเนม ไม่มีชื่อเสียงอะไร เรื่องคือมีประกวดพล็อต แล้วกูชนะ เท่ากับว่ากูต้องขายพล็อตให้สนพ.
สนพ.ให้ทางเลือกว่ากูจะเขียนหรือไม่เขียนก็ได้ ถ้ากูเขียนเอง จะกลายเป็นจ้างวานเขียน ไม่ใช่เซ็นสัญญาแบบตามปกติ
ซึ่งก็พอเดาได้ว่าเงินที่ได้จะน้อยกว่า ลิขสิทธิ์ขายขาดเป็นของสนพ.ไปเลย กูเขียนจบก็จบกันไป
แล้วการเลือกเขียนเองก็ไม่ใช่ว่าจะได้ตีพิมพ์แน่นอน 100% นิยายที่เขียนเสร็จต้องผ่านกระบวนการพิจารณาตามปกติ
กูเลือกเขียนเองไป เพราะเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะได้ตีพิมพ์ กูเลือกทางโง่เกินไปหรือเปล่าวะ...

137 Nameless Fanboi Posted ID:H6J+GT4TT

>>136 แนะนำกระทู้นี้ >>>/literature/2342/ แต่กูมองว่ามึงเลือกถูกละนะ

138 Nameless Fanboi Posted ID:IJYhGE2TW

>>131 Memewมันไม่ได้เป็นเเฟนพนมเทียนแต่เเรกป่ะ เเต่อ่านตามกระเเสจิ้นวายจากเเฟนอาร์ต
ช่วงนึงมันเคยเเชร์รูปในเพจรัวๆ ไม่ใช่เเชร์สิแค่ก๊อปรูปชาวบ้านมาเรียกไลค์เพจตัวเอง สุดท้ายก็งอกเเฟนฟิกจังไรสนองนักอ่านเฮอร์มอย
เขียนเองพิมพ์เองขายเองเงินก็เข้ากระเป๋าตัวเอง ลุงพนมเทียนรู้คงจะยินดีหรอกนะมึง

139 Nameless Fanboi Posted ID:sNxIgC0PA

ข่าวลุงพนมเตือนเรื่องแฟนฟิคมีคนไปตั้งในพันทิปแล้วว่ะ สรุปคือลูกของพนมเทียนไปอ่านเจอฟิคแล้วมาบอกพ่อ เลยกลายเป็นข่าวดังล่ะทีนี้(เหมือนฟิคที่ไปอ่านเจอจะเป็น Y ด้วย เลยยิ่งรับไม่ได้)

140 Nameless Fanboi Posted ID:sNxIgC0PA

http://pantip.com/topic/34809300

141 Nameless Fanboi Posted ID:L7FHicvmF

http://www.manager.co.th/Drama/ViewNews.aspx?NewsID=9590000017725
อ่านจากตรงนี้กูรู้สึกเหมือนความต่างด้านเจนเนอร์เรชั่น เหมือนลุงแกไม่พอใจที่มีคนเอาของแกไปแต่งโดยไม่ขอไม่อะไร(ซึ่งมันเป็นเรื่องสีเทาๆปกติของสมัยนี้) ส่วนตัวกูว่าต่อให้แต่งแบบเคารพงานแกก็คงไมพอใจอยู่ดี
ปล.ถึงไอ้เรื่องที่แกไปลอกคิงโซโลมอนมายมันจะไม่เกี่ยวกับเคสนี้ก็เถอะ แต่แบบกูก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าลุงแกยังมีหน้ามาหวงอีกเรอะ กูรู้สึกผิดมาก

142 Nameless Fanboi Posted ID:sNxIgC0PA

เพิ่งไปดูเพจคนเขียนที่น่าจะเป็นต้นเหตุของข่าวนี้ นิยายโดนแบนไปแล้วว่ะ เจ้าตัวบอกว่าเพราะฉาก NC เยอะไปเลยถูกแบนถาวร (จริงดิ? ไม่ใช่เพราะก็อปเพรชพระอุมาเรอะ) แฟนคลับก็ติ่งพอกัน ด่าคนกดแบนว่าเลวงั้นงี้ เห็นแล้วกูเพลีย ติ่งนี่มันติ่งจริงๆ

143 Nameless Fanboi Posted ID:sNxIgC0PA

>>141 แหม ลุงแกแต่งจนดังแล้วจะบอกว่าก็อปก็เสียหน้า เรียกว่าแรงบันดาลใจจะเหมาะกว่า คำอ้างสุดฮิตเลยนะเวลานักเขียนถูกหาว่าลอก (พอๆ กับรู้เท่าไม่ถึงการณ์) แล้วเรื่องนี้คนที่รู้จริงมีน้อย หรือรู้แล้วแต่ปิดหูปิดตาไม่ยอมรับก็มีเยอะ คงต้องให้คนแต่งโซโลมอนมายืนยันเองว่าลอกไม่ลอก ตอนนี้กลายเป็นนิยายระดับตำนานแล้วหาอะไรไปติก็ยากว่ะ แรงอวยจากแฟนคลับมันเยอะ

144 Nameless Fanboi Posted ID:Z21+kXGyu

>>142 กูเห็นละ ในเพจนางบอกว่าที่ลุงเตือนมาไม่ใช่เรื่องที่นางเเต่ง พอโดนเเบนก็บอกว่าNCเยอะ เเถตลอด
เห็นข้อเเก้ตัวเรื่องอยากใช้ชื่อตัวละครว่าหนานอินเหมือนเดิมนั่นด้วย ติ่งออกมาชาบูบอกว่าอย่าปลี่ยนชื่อเลยค่ะ
ถ้าเปลี่ยนชื่อตัวละครจะไม่เหมือนเดิมนะคะ ตลค.นี้ต้องชื่อนี้เท่านั้นค่ะ ชื่อตลค.ซ้ำบ้างไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ฯลฯ เเม่งกูเอือมแรง

145 Nameless Fanboi Posted ID:L7FHicvmF

กูสงสัยนะ จากที่กูเคยอ่านเรื่องย่อแล้วก็รู้สึกนอกจากชื่อแล้วอย่างอื่นก็ไม่เหมือนนี้มันจะฟ้องเรื่อง lc ได้รึมึง

146 Nameless Fanboi Posted ID:4XvtXlfLL

ถ้าเขียนให้เข้าใจว่าเป็นก็ฟ้องได้ อย่างมึงเขียนแฟนฟิคโดเรม่อน มึงบอกโนบิตะมึงเป็นโนบิตะจากโลกคู่ขนานที่อยากเย็ดม่อน ไม่ใช่โนบิตะของฟูจิโกะฟูจิโอะ ใครจะเชื่อมั่งละ

147 Nameless Fanboi Posted ID:kucCeJKBK

>>146 ชัดเจนมาก

148 Nameless Fanboi Posted ID:yPcHPRVte

>>145 ตามปกติคิดว่าไม่น่าจะฟ้องได้นะ ชื่อตัวละครอย่างเดียวอาจจะไม่สื่อว่ามาจากเรื่องไหน ยกเว้นจะมีคาแรคเตอร์หรือคำบอกใบ้ใดๆ ที่ทำให้คนอ่านเข้าใจว่าเป็นตัวละครจากเรื่องนั้นๆ แบบ ที่ >>146 บอกแหละ ถ้างั้นก็จะเข้าข่ายลิขสิทธิ์ ฟ้องได้
ส่วนอีกรณีนี้เพราะชื่อแม่งค่อนข้างจะเป็นเอกลักษณ์อะมึง อย่างแงซายเงี้ย มันไม่ใช่ชื่อที่คนเค้าเอามาใช้เขียนนิยายบ่อยๆ แน่นอน แถมไม่ได้มาชื่อเดียว แทบจะยกมาทั้งแผง ก็ค่อนข้างเข้าข่ายว่าชื่อพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของวรรณกรรม คนอ่านอ่านปุ๊บนึกถึงเพชรฯ เป็นส่วนใหญ่ ก็มีสิทธิ์ฟ้องได้อยู่แหละ

149 Nameless Fanboi Posted ID:uvl8wnYTe

ไอ้เรื่องต้นเหตุ จากเรื่องย่อที่มันลง ชื่อตัวละครมันทั้งหมด ทำให้คิดถึงเพชรพระอุมาชัดเจนว่ะ กูว่าฟ้องได้
ส่วนเรื่องลูกเพจมันที่ยังอวย ส่วนใหญ่คิดว่า พวกนี้อายุยังไม่เยอะ หลายคนไม่รู้จักเพชรพระอุมาด้วยซ้ำ ยิ่งคนเขียนแถว่าโดนแบนเพราะติดเรทด้วย ก็เลยยังอวยต่อไปตามประสาคนไม่รู้ว่ามันไปเอาชื่อตัวละครชาวบ้านเขามาอีกที

150 Nameless Fanboi Posted ID:KJkm7/YaF

ไอ้ห่ากูอ่านคำแถแล้วจะอ้วกยิ่งตรงหนานอินนี่ พ่อมึงฟัคฟัคolo ถ้าไมใช่่หนานอินมาพร้อมอนุชากูคงยังหลับหูหลับตาไปได้หรอก สีข้างเหวอะแล้วดอก

151 Nameless Fanboi Posted ID:IJXt4jn4g

>>141 พูดถึงเรื่องคิงโซโลมอนกับเพชรยังคงเป็นที่ถกเถียงกันใช่ปะว่าแค่แรงบันดาลใจหรือลอกมา
แต่ส่วนใหญ่ก็สรุปไปว่าเป็นแรงบันดาลใจเฉยๆ เพราะมีอีกมากมายหลายสิ่งในเรื่องที่เป็นสิ่งที่เขาแต่งเอง

แต่กูสงสัยว่า งี้ถ้ามีคนแต่งนิยายที่มีธีมเกี่ยวกับพรานหนุ่มที่เชี่ยวชาญการล่าสัตว์และเดินป่าถูกว่าจ้างโดยนายจ้างที่ต้องการตามหาน้องชายที่หายตัวไปในป่าลึกพร้อมกับพรานคู่ใจหนึ่งคน โดยที่ในป่านั้นเล่าลือกันว่ามีขุมทรัพย์เอกอนันต์ของชนเผ่าโบราณซ่อนอยู่ หากแต่ก็เต็มไปด้วยอันตรายมากมาย ก่อนจะเดินทางก็มีพรานเร่ร่อนคนนึงขอร่วมคณะไปด้วยแต่แท้จริงแล้วเขาเป็นเจ้าชายตกยากของเมืองชนเผ่าโบราณนั้นที่ต้องการกลับไปกู้บัลลังก์ แต่รายละเอียดการเดินทางไปถึงขุมทรัพย์นั้นแตกต่างจากโซโลมอนหรือเพชรอย่างสิ้นเชิง
แบบนี้จะถูกหาว่าลอกหรือเป็นแค่แรงบันดาลใจ?

152 Nameless Fanboi Posted ID:6bpiegww3

ขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนของมึงและตัวละครวะ อย่างกูคิดบันทึกโจรสุสานได้แรงบันดาลใจมาจากคนขุดสุสาน ซึ่งก็แน่ละเพราะคนขุดสุสานเป็นต้นแบบแนวขุดสุสาน แต่ตัวละครมันต่าง ถึงกูจะคิดว่าพี่เหมินกับเชอรี่หยางมีส่วนคล้านกัน แต่ที่คล้ายสุดคือไอ้อ้วนที่เป็นตัวฮาทั้งสองเรื่อง

ขั้นแรกที่ควรทำคือเปลี่ยนโลเคชั่น เพศ และอาชีพซะ แค่นี้ต่อให้เหมือนกว่านี้คนก็สามารถเบลอผ่านได้ แต่อย่าเอาคำพูด การกระทำ แบคกราวน์ ความสามารถยกเว้นจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ควรทำได้ และที่สำคัญที่สุดคือบทบรรยาย ทำแค่นี้ที่เหลือก็พอเบลอไปได้

มีเรื่องหนึ่งที่น่าจะเทียบเคียงได้ ไอ้เรื่องใหม่ของenterที่ก่อนออกโดนโม่งในห้องblสับว่าลอกบันทึกโจรสุสานและคนขุดสุสานมา ส่วนตัวกูคิดว่าน่าจะได้แรงบันดาลใจ แต่ปรับเปลี่ยนหลายอย่างจนกลายเป็นอีกเรื่องนึงเลย ตอนนั้นมันสนุกที่คนแปลมาแขวะว่าคิดว่าดีก็ทำไปนี่ละ

153 Nameless Fanboi Posted ID:MPQaAgFw9

>>151 ถ้าเป็นแค่พล็อตกูยังพอให้เป็นแรงดันบาลใจได้อาจต้องดูบริบทและเหตุการณ์ในเรื่องอีกทีว่าเหมือนกันแค่ไหน อย่างเพชรกูอาจเรียกว่าแรงบันดาลใจ(เอาน่า เดี๋ยวนี้เราเจอเรื่องแฟนตาซีลอกอินเซสชั่นยังพอว่ามันเป็นแรงบันดาลใจได้เลย...)
ถ้าไม่เจอว่ามันดันลอกมาทั้งย่อหน้าเลย http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/03/K5198549/K5198549.html แบบนี้ไม่เรียกว่าอ้างอิงหรือแรงบันดาลใจแล้ว แบบนี้เขาเรียกว่าลอกวะถึงจะไม่ใช้ทั้งหมด ถึงจะเป็นส่วนเล็กๆ มันก็เรียกว่าลอกนะ
ปล.บางทีกูก็สงสัยนักเขียนขึ้นหิ้งไทยมีกี่คนที่ลอกงานต่างชาติมาขายกันนะ

154 Nameless Fanboi Posted ID:xa9G4.isT

>>153 ก็อย่างที่คห.15 บอกนั่นแหละ พนมเทียนลอกแล้วดัดแปลงได้ถูกใจคนอ่าน ถูกยกย่องให้เป็นผลงานระดับชาติ ความผิดพวกนั้นก็เลยถูกมองข้ามไป ขึ้นชื่อว่าผลงานระดับชาติเรื่องผิดๆ ทั้งหลายก็จะถูกกวาดไว้ใต้พรมในบันดล เชิดชูแต่ด้านดีๆ ปิดด้านเสียๆ ไว้ให้มิด

155 Nameless Fanboi Posted ID:uvl8wnYTe

>>153 กูว่าที่กระทู้นี้ยกมา ไม่ใช่ทั้งย่อหน้าว่ะมึง มันยกมาแค่เป็นประโยค
กูอ่านแล้วคิดว่าออกแนวจับผิดมากกว่า ถ้ามึงจะจับผิดใคร มึงแค่หาประโยคคล้ายๆกันแล้วยกมา
เพชรพระอุมามี 48 เล่ม มันต้องมีประโยคใกล้ๆกันให้จับผิดบ้างสิ

อย่างไอ้ประโยค

โซโลมอน : นำความขึ้นกราบทูลต่อองค์กษัตริย์ เพื่อที่พระองค์จักโปรดให้เคลื่อนกองทัพ ซึ่งแม้นรอดชีวิตผ่านทเลทรายและเทือกเขาไปได้
เพชรพระอุมา: จงนำเรื่องราวนี้ขึ้นกราบบังคมทูลต่อพระเจ้ากรุงหงสาวดีผู้ทรงพระปัญญา เพื่อพระองค์จะได้เสด็จยาตราทัพมาตามลายแทงนี้

ที่มันยกมาในกระทู้ กูว่ามันต่างกันนะมึง เพราะ เพชรพระอุมาประเด็นคือ ยกทัพมาตามลายแทง แต่โซโลมอนยกทัพมาเลย

ประโยคอื่นก็ดูแปลกๆ เพราะยกมาเป็นคำๆ เช่น ใช้เลือดแทนหมึก ถ้าอันนี้นับ นิยายจีนแม่งโดนไปหลายเรื่องแล้ว , เรื่องร่ำรวยมั่งคั่งมันมาตามหาสมบัติกันป่ะ ไม่โฟกัสที่ร่ำรวยมั่งคั่งก็แปลกไปละ เป็นต้น

กูเคยเห็นบางคนที่อ่านแค่สองสามตอนแล้วทึกทักว่าเรื่องนั้นเหมือนเรื่องนี้ พยายามจะจับมาโยงให้ได้ก็อาการเดียวกันแบบนี้เลยว่ะ
ทั้งๆที่คนอ่านจนจบจะนิ่วหน้าแล้วบอกว่า ไม่เหมือนไม่คล้าย แต่ละเรื่องมีเอกลัษณ์ในแบบของตัวเองแล้ว

156 Nameless Fanboi Posted ID:MPQaAgFw9

>>155 ความเห็นที่ 33 อ่านตรงนั้นแล้วกูว่ามันต่างกับต้นฉบับไม่เกิน 10 %

157 Nameless Fanboi Posted ID:tgIX4DJN8

>>155 เดี๋ยวนี้ลอกบางส่วนก็ฟ้องได้นะ ไปศึกษาเรื่องการโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญาได้
เอาเฉพาะที่กูอ่านเนื้อความของจดหมายนะ
เนื้อหาในจดหมายมีความใกล้เคียงกันมากเกินกว่าบังเอิญว่ะ ทั้งลำดับเนื้อหา กลวิธี(เขียนด้วยเลือด/แม่มดทรยศ) พอมาเทียบช็อตต่อช็อตก็ยิ่งชัดเจน
แล้วมันมาเป็นกลุ่มเนื้อหาตามลำดับเหมือนกัน

158 Nameless Fanboi Posted ID:aYbf3NCfj

>>155 ถ้าอย่างที่มึงแย้งว่าใช้เลือดแทนหมึกแล้วนิยายจีนก็เท่ากับก๊อป อันนี้เกินไปหน่อย จะดูแยกเป็น fragment แล้วบอกว่าก๊อปไม่ก๊อป คล้ายไม่คล้ายอย่างนั้นก็กว้างเกินไปสิวะ งี้นิยายทั้งโลกแม่งก็ก๊อปกันเกือบหมด
ถ้าจะเทียบจริงๆ จังๆ มึงต้องเอาสองเรื่องนั้นมาดูกันเป็นช็อตๆ ถ้าตัวพล็อตเหมือนกันยังจะพอถือว่าเป็นแรงบันดาลใจได้ แต่ถ้ารายละเอียดในประโยค การเรียบเรียงลำดับเนื้อหา (ไม่นับเรื่องสำนวนนะ) เหมือนกัน กูก็ว่าก๊อป ที่มึงยกมาว่าต่าง ความต่างแม่งมีซักกี่เปอร์เซ็นต์กันวะ ? ใจความหลักแทบจะเหมือนกันเป๊ะ ต่างกันที่สำนวนนั่นแหละ

159 Nameless Fanboi Posted ID:aYbf3NCfj

>>158 อีกเรื่อง เห็นบางคห ในกระทู้นั้นบอกว่าลุงแกยอมรับแล้ว ... กูว่าเหตุผลที่ว่าลุงยอมรับเองว่าได้แรงบันดาลใจ เพชรฯ ก็เลยไม่ผิดลิขสิทธิ์นี่แม่ง ... ไม่ได้เกี่ยวเหี้ยไรกันเล๊ยยย แค่พยายามหาความชอบธรรมให้ลุงเท่านั้นแหละวะ ลุงยอมรับแล้วคนเขียนโซโลม่อนเขารับรู้ โอเคไปกะลุงเหรอ ? ก็เปล่า แล้วจะเอามาใช้เป็นข้ออ้างว่าไม่ลอก ไม่ผิดได้ไงวะ

160 Nameless Fanboi Posted ID:jPoai.S.d

กู>>151 นะ ขอบคุณที่พวกมึงมาแสดงความคิดเห็นกัน
กูอ่านกระทู้พันทิปที่>>153 แปะล่ะ กูว่าตรงจดหมายนี่มันคล้ายกันเกินไป เหมือนกับลอกมาแต่ปรับบริบทนิดหน่อยให้เข้ากับนิยายตัวเอง แต่มันคือ plagiarism ใช่รึป่าว ความรู้เรื่องลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญากูก็น้อยนิดซะด้วยสิ แต่กูเข้าใจว่า ต่อให้เขียนได้ดีแค่ไหน มีจุดที่ต่างอีกมากมาย แต่มันไม่สามารถลบล้างความผิดที่ว่าคุณลอกบางส่วนเล็กๆน้อยๆมานี่นา
เห็นหลายคนในกระทู้พันทิปนั้นบอกว่า ตัดส่วนที่เหมือนออก ส่วนที่ไม่เหมือนอีกมากมายที่เขาแต่งเองทำให้เรื่องสนุกสนานขึ้น มีความเป็นออริจินัลของตัวเอง
อ่านแล้วนึกถึงเรื่อง สามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่เลยว่ะ อันนั้นก็มีประเด็น plagiarism แล้วคุณหลินก็เคยมาบอกว่า ตัดสิ่งที่เหมือนออกไป เรื่องยังสนุกก็ถือว่าไม่ลอก และแล้วนิยายเรื่องนี้ก็ยังโด่งดังขายดี ไม่โดนฟ้องและได้ทำซีรีส์ต่อไปอยู่ดี

161 Nameless Fanboi Posted ID:jPoai.S.d

ต่ออีกนิด กูอ่านยังไม่ทันจบกระทู้พันทิปแล้วโพส นี่ไปอ่านต่อเพิ่ม มีเรื่องบริบททางสังคมกับเวลามาเกี่ยวข้องอีก กูชักมึนละ สรุปสมัยก่อนพวกกฎหมายด้านลิขสิทธิ์ยังไม่เด่นชัด เพราะฉะนั้นงานสมัยก่อนที่หยิบยกแค่บางส่วนของนิยายอื่นมาปรับนิดๆแล้วบอกว่าเอามาจากเรื่องไหนก็ถือว่าไม่ผิด ต่างจากปัจจุบันที่จะเอามามากน้อยแค่ไหน ให้เครดิตหรือไม่ก็ถือว่าผิด แค่ว่าจะมีคนรู้ คนวิจารณ์และเจ้าของมาตามฟ้องหรือไม่ ประมาณนี้มั้ย?

162 Nameless Fanboi Posted ID:fAz+qlZXy

>>155 เอ่อ กูว่าในลิงก์ตาม >>153 จะเหมือนอะไรขนาดนั้น แบบนี้กูเรียกว่าลอกว่ะ นิยายกี่เรื่องที่จะมองภูเขาแล้วนึกถึงเต้านมเทพ จะตายด้วยความหิวหลังไปเจอขุมทรัพย์เหมือนกัน เขียนจดหมายไปในแนวเดียวกัน เจอกลแม่มดร้ายเหมือนกัน ดูไปตามเนื้อเรื่องกับใจความมันก็คล้ายกันเกือบ 100% แล้วว่ะ ไม่ได้จับผิดเป็นคำๆ แต่ตามเนื้อเรื่องลุงแกก็เป็นไปตามสมบัติพระศุลีนั่นล่ะ แค่ยืดกว่าและสำนวนไม่เหมือน
ถ้าเป็นนักเขียนไม่ดังคงโดนด่าแบบไม่ได้ผุดได้เกิด แต่เรื่องนี้มันดังก็เลยอ้อมแอ้มตอบว่าแรงบันดาลใจ อย่าไปจับผิดเขามาก เขายอมรับแล้วก็แล้วกันไปสิ กูล่ะเกลียดแฟนคลับพวกนี้เป็นที่สุดเลย เหมือนติ่งไร้สมองที่ต้องออกมาเลียแข้งเลียขาโอปป้าในดวงใจ

163 Nameless Fanboi Posted ID:xJcitTm.B

รู้สึกว่าสมัยนั้นกฎหมายลิขสิทธิ์ยังไม่มีมั้ง นิยายไทยก็เอาพล็อตมาจากฝรั่งเยอะแยะ ไม่มีใครว่า

164 Nameless Fanboi Posted ID:fKE5zuL+W

>>163 กูคิดว่าบางทีก็ขึ้นกับสามัญสำนึกด้วยรึเปล่ามึง

165 Nameless Fanboi Posted ID:aYbf3NCfj

>>164 ก็ถูก แต่ความเข้าใจกูคือพอมันไม่มีกฎหมายลิขสิทธิ์ยังไม่มีคนสนใจ คนก็จะคิดว่ามันคือเรื่องปกติ ทำได้ เพราะงั้น สามัญสำนึกที่มึงว่าก็จะตกไป
จะว่าไป เปิดมู้นินทาแบบห้องฟุดีมั้ยวะ มู้นี้เอาไว้คุยเรื่องหนังสืออย่างเดียว ประเด็นนักเขียนพวกนี้ก็ยกไปอีกห้อง ?

166 Nameless Fanboi Posted ID:ElNH8CXQp

>>165 ก็ดีนะ อีกห้องชื่อไรดี
สมาพันธ์แม่บ้านพูดคุยนักเขียนและสนพ.
คำจำกัดความ คุยเรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรม ทัศนคติและอื่นๆเกี่ยวกับนักเขียนและสนพ.ที่มีผลกับหนังสือ

167 Nameless Fanboi Posted ID:QH2EipJOB

>>166 มันมีมู้นินทาเด็กดวกใน netwatch ละปะวะ พอจะใช้แทนกันได้มะ

168 Nameless Fanboi Posted ID:aYbf3NCfj

>>167 อันนั้นมันก็บอกอยู่ว่านินทาเด็กดวกเปล่าวะ กูรู้สึกว่าถ้าเป็นมู้สนพ ไรพวกนี้ไปเลยจะดีกว่า แล้วจะได้อยู่ห้องนี้ด้วยไม่ต้องสลับไปๆมาๆ

169 Nameless Fanboi Posted ID:S1gD8wE69

มู้นินทาเด็กดวกก็ใช้นินทาพวกในเด็กดวกนั่นแหละ แต่บางทีนินทานักเขียนแล้วมีลามปามไปถึงสนพ.กับบก. ด้วย กูว่าถ้าจะคุยเรื่องนักเขียนหรือสำนักพิมพ์ก็คุยกันห้องนี้แหละ จะตั้งมู้ใหม่หรือใช้ม฿้เดิมก็ตามสบาย ถ้าตั้งใหม่กูของเสนอชื่อ "วงการนิยายไทยมีอะไรให้นินทา"

170 Nameless Fanboi Posted ID:fJRMtNnij

กูไม่ได้จะแก้ตัวแทนพนมเทียนนะ แต่สมัยนั้นเขาไม่ถือเรื่องแบบนี้วะ อย่างรธน.เมกาลอกรธน.ของอินเดียนแดงมาตั้งเยอะ ไม่เคยให้เครดิตหรืออ้างอิงด้วย 200 ปีให้หลังถึงพึ่งพูดเรื่องนี้

171 Nameless Fanboi Posted ID:G0W+2qNsk

>>170 กูว่าถือนะ คนที่เกิดทันยุคที่พนมเทียนเขียนลงนิตยสารเล่าว่า คนที่เขาจับได้เขาก็พูดกันหนาหูอยู่พอสมควรนะ ว่าทำแบบนี้ดีแล้วเหรอ นี่ลอกมาใช่มั้ย บลาๆๆ แต่อย่างว่า คนพูดมันส่วนน้อยไง แล้วก็ยังไม่มีโซเชียลเนตเวิร์คเม้ามอยกระจายไกลเหมือนเดี๋ยวนี้

สมัย ร.หกแปลงานของเชคสเปียร์ ก็ให้เครดิตนะ

172 Nameless Fanboi Posted ID:aYbf3NCfj

>>170 ทำไมกูรู้สึกว่าเรื่องรธน ไม่เกี่ยวกันกะเรื่องนี้วะ ปกติตัวบทกฎหมายนี่มีลิขสิทธิ์ด้วยเหรอวะ

173 Nameless Fanboi Posted ID:MoSJQOeC6

ตอนที่เขียนเพชรพระอุมา กระแสที่คนไทยจะผกป้องลิขสิทธ์ของคนประเทศอิ่นมันไม่มีนะ คนใหญ่คนโตบ้านเราจงใจลอกพลอตเรื่องมาเขียนเป็นสำนวนไทยชื่อไทยแทนมีเยอะมาก ซึ่งตอนนั้นมันไม่น่าเกลียด แต่ถ้ายุคนี้ทำแบบนั้นคนจะตอบว่าผิดทันทีเลย

ซึ่งถ้าให้กูใช้ความเห็นกูเองตอบได้ว่า
1.เพชรพระอุมา ลอกมาอย่างน่าเกลียด แต่ตอนนั้นมันไม่สนเรื่องลิขสิทธ์
2.ถ้าปัจจุบัน ทำแบบนั้นบ้างโดนคนจวกเละแน่นอน
3.ป่วยการที่จะเอาทัศนคติปัจจุบันไปตัดสินการกระทำในอดีตคนละยุคสมัยกัน
4.คนไทยสามารถเต็มใจอ่านเพชรพระอุมาว่าเป็นผลงานจาก คนเขียนวรรณกรรมเด่นได้โดยไม่ต้องตะขวิดตะขวนใจ
5.แต่ถ้าคนปัจจุบันเสร่อเอาเพชรพระอุมาแปลย้อนรอยไปต้นภาษาเรื่องโซโลมอนไมด์ แล้วคนทักว่ามึงลอกมานี่หว่า นักเขียนเราผิด50%,คนแปลผิด50%

174 Nameless Fanboi Posted ID:B+AQdIdjK

>>172 ลอกสำนวนด้วยนะ โดยเฉพาะประโยคดังอย่าง we the people of..... ที่เอามาจากโชโชนแล้วดัดแปลงเป็นคำของตัวเองโดยไม่ให้เครดิต จริงๆ ถ้าบอกซักหน่อยว่าเอาต้นแบบรธน.เมกามาจากอินเดียนแดงพวกนี้คงไมถูกฆ่าล้างเผ่าพันธ์หรอก แต่มันก็คนละเรื่องกับเรื่องนี้อะนะ

175 Nameless Fanboi Posted ID:oqzXuvtgy

>>170 กูงง ข้อความในกฎหมายมันมีลิขสิทธิ์เหรอวะ สมมติประเทศก.ให้คนขโมยของติดคุกห้าปี ประเทศข.ที่เมื่อก่อนคนขโมยของก็ตัดมือ ได้ไปเรียนเมืองนอกเห็นว่ากฎหมายที่ข.ใช้มันล้าหลังป่าเถื่อน เลยเอากฎหมายของก.มาปรับใช้เป็นติดคุกบ้าง แต่ซักเจ็ดปีไรงี้ ผ่านการพิจารณาและลงมติถึงได้มาเป็นตัวบทกฎหมายบังคับใช้ ใช่ว่าจะเอามาทั้งหมด และกูว่ามันเป็นคนละเรื่องกับการลอกวรรณกรรมนะ

176 Nameless Fanboi Posted ID:aYbf3NCfj

>>174 กูก็ยังคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันอยู่ดีว่ะ คือส่วนตัวกูคิดว่าสำนวน/ข้อความในรธน ใช้มันไม่มมีลิขสิทธิ์ เพราะตัวบทมันน่าจะเริ่มตั้งแต่บาบิโลนแล้วปรับมาเรื่อยๆ รึเปล่า ? ส่วนที่ว่าให้เครดิทอาจจะทำให้อินเดียนแดงไม่โดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ .. พวกที่ไปบุกบ้านเขาแม่งก็แปะป้ายอินเดียนแดงว่าไร้อารยธรรมอยู่ละนี่ ต่อให้กฎหมายจะเลิศเลอยังไงแม่งก็ไม่สนหรอก ไม่มีทางที่สมัยนั้นมันจะเอาไปเป็นข้อเท็จจริงให้คนรู้แน่ๆ มันอยากได้ดินแดนเค้าอะมึง ก็ต้องสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองมากกว่าปะ

177 Nameless Fanboi Posted ID:HBA6qjseR

>>170 กฎหมายไทยก็เอามาจากอังกฤษหลายอันอยู่นะ กูยังไม่เห็นอังกฤษออกมาบอกว่ามึงผิดลิขสิทธิ์กูเลย การที่รธน.เมกากับรธน.อินเดียแดงมันเหมือนกัน กูว่ามันก็มาจากเรื่องพื้นฐานของความต้องการของประชาชนอยู่รึเปล่าวะ
จริงๆกฎหมายมันเป็นข้อตกลงที่จะอยู่ร่วมกันระหว่างสังคม มันเริ่มมาตั้งแต่ฮัมมูราบีสมัยบาบิโลน ไอ้กฎหมายตาต่อตา ฟันต่อฟันอะ แล้วก็พัฒนาต่อๆกันมาเรื่อย อะไรที่มันล้าหลัง มันไม่อารยะเขาก็ปรับแก้กันไป ประเทศไทยก็ยังยกเลิกกฎหมายตราสามดวง แล้วปรับปรุงใหม่ตามแบบตะวันตกให้มันทันสมัยเลย

178 Nameless Fanboi Posted ID:ZA1oGeSR4

ขอกูแทรกหน่อย แล้วแบบนี้คนที่มันเอาชื่อตัวละครเพชรพระอุมาไปยำ แล้วทำขายแบบในกระทู้นั่น มันผิดมั้ยวะ ?? เห็นมันยังขายต่ออยู่เลย

179 Nameless Fanboi Posted ID:zVyicMWIN

>>178 ผิดแน่นอน เป็นการดัดแปลง ทำซ้ำ แบบที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ยังถือลิขสิทธิ์อยู่ ถ้าเจ้าของจะเอาเรื่องก็ทำได้ ส่วนมากวงการโดจินและฟิคจะไม่มีใครมาฟ้ องเอาเรื่องเพราะถือเป็นการช่วยโปรโมทมาจากแฟนคลับ แต่อะไรที่มันมากไปจนอาจทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดหรือเสียรายได้ คนถือลิขสิทธิ์ก็สามารถฟ้องได้

180 Nameless Fanboi Posted ID:vtT2QHnGJ

>>170 กฎหมายไม่มีลิขสิทธิ์ว่ะ เผื่อมึงจะไม่รู้

181 Nameless Fanboi Posted ID:uvzok8hpN

>>170

อย่างนั้นก็ต้องบอกว่า กฏหมายของทางยุโรปที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็ลอกกฏหมายโรมัน กฏหมายบาบิโลเนีย จารีตแองโกลแซกซัน พื้นฐานประชาธิปไตยแบบกรีกน่ะสิถ้าใช้ตรรกะแบบนั้นมาวัด ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ยกเว้นพวกปินส์ เวียดนามอะไรงี้) เองก็ใช่ย่อยนะ สมัยก่อนกฎหมายตราสามดวงก็มาจากกฏหมายธรรมศาสตร์ของพระธรรมนูเกือบทั้งนั้นเลย

แล้วถ้าบอกว่ากฏหมายมีลิขสิทธิ์ ทุกประเทศในโลกที่เป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติแล้วเอากฏบัตรที่สหประชาชาติกำหนดขึ้นมาไปใช้ ไปบรรจุเข้ากับรธน.และกฏหมายของตัวเอง ก็เท่ากับว่าละเมิดลิขสิทธิ์ แบบนั้นรึเปล่า???

182 Nameless Fanboi Posted ID:smOiHJNIv

>>170 กูมายืนยันอีกคน กฎหมายไม่มีลิขสิทธิ์ตามหลักกฎหมายลิขสิทธิ์ทั้งของไทยและต่างชาติ (ไทยเราก็ก็อปมาว่ะ ตรงๆ เลย)

ถ้าพูดให้ถูกมันมีความต้องการจากหลายชาติเลยนะ ที่ต้องการให้แต่ละประเทศมีมาตรฐานทางกฎหมายเดียวกัน ก็เลยต้องมีพวกสนธิสัญญาระหว่างกันขึ้นมาไง ที่มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศไม่ใช่การอนุญาตให้เอาลิขสิทธิ์กฎหมายไปใช้นะเว้ย ตรงกันข้ามเลยเพราะต้องการให้ก็อปไปใช้มากกว่า กฎหมายน่ะมันคือข้อบังคับ การรับกฎหมายคือการเสียสิทธิบางส่วนไปแล้ว ดังนั้นส่วนใหญ่เขามีแต่พยายามเลี่ยงว่ะ ไม่ใช่พยายามไปก็อปมาบีบคอตัวเอง

ยกตัวอย่างง่าย ๆ เลยกฎหมายลิขสิทธิ์ที่ใช้กันเนี่ยมันก็มีร่างฉบับกลางอยู่ แล้วประเทศสนธิสัญญาก็เอาไปใช้กับประเทศของตนเอง เพื่ออะไร? เพื่อให้สามารถใช้มาตรฐานเดียวกันได้ทั่วโลกไง ไม่อย่างนั้นก็นำกฎหมายลิขสิทธิ์ไปบังคับใช้กับพวกประเทศที่ไม่ยอมรับสนธิสัญญาลิขสิทธิ์ไม่ได้เพราะเป็นการล่วงละเมิดอำนาจอธิปไตย (ขัดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ) พวกที่ไม่ยอมเข้าร่วมสนธิสัญญาก็จะโดนกดดันทางการค้าจนกว่าจะยอมรับนั่นแหละ แล้วกฎหมายลิขสิทธิ์มันจะอ้างถึงลิขสิทธิ์ของกฎหมายเพื่ออะไรล่ะนั่น

183 Nameless Fanboi Posted ID:bzIoTVogl

ถ้ากฎหมายมีลิขสิทธิ์ ไทยคงต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ให้ฝรั่งเศสกับอังกฤษรัวๆแล้วว่ะ

184 Nameless Fanboi Posted ID:9FyUEt/PC

กลับไปเรื่องแฟนฟิคพพอ.นะ กุว่าคนเขียนแม่งมีความหน้าด้านอยู่สูงมาก เจ้าตัวบอกว่าแค่ยืมชื่อมาเฉยๆ ประมาณว่าเป็นทริบิวท์ให้พพอ. แต่เมิง...ต่อให้เนื้อหาไม่มีความคล้ายพพอ.เลย แต่พอพูดชื่อเหล่านั้นออกมาปุ๊บ คนที่เคยอ่านก็ต้องนึกถึงตัวละครจากพพอ. เหมือนกับสมมติกุบอกว่าจะเขียนนิยาย ประยุ_ธ์xสุเท_ กูว่าในหัวพวกเมิงนี่ภาพแรกต้องเป็นคนที่กูเองก็คิดถึงอยู่ตอนนี้แน่นอนเพราะเห็นหน้ากันแทบทุกวันในทีวี ต่อให้เนื้อในเป็นเรื่องของเด็กหนุ่มจากทุ่งหมาม้วยที่เดินทางเข้ากรุงมาเรียนรัฐศาสตร์แล้วพบรักกับนักเรียนนายร้อยหนุ่มก็ตามที

สรุปคือ ในความคิดกุ แค่ดึงชื่อมาเฉยๆก็ทำให้เกิด "ความเสื่อมเสีย" ให้ฟ้องร้องกันได้ (ความเสื่อมเสียในความหมายกุคือลุงพนมเทียนแกไม่โอเคกับการที่ผู้ชายจะปี้กัน แค่เห็นชื่อตัวละครชายแกปี้กัน แกก็รู้สึกว่าผลงานเกิดความเสื่อมเสียแล้ว เหมือนกุไม่ค่อยโอเคกับยูริ ถ้านิยายกุโดนจับเขียนฟิคทุ่งลิลลี่บานกุก็คงไม่ชอบ)

185 Nameless Fanboi Posted ID:m6C.5emD.

หึๆ เอาของใครไม่เอา ดั๊นไปเอาระดับสูงขนาดนั้น ทีนี้ล่ะดังเลย 5555

186 Nameless Fanboi Posted ID:E+J2zQAVW

>>>literature/2383/
กูเปิดมู้ใหม่ให้พวกมึงนินทานักเขียน สนพ บลาๆ ไรละนะ แยกออกมาจากเด็กดวกอีกที จะได้รวมข้อมูลง่ายๆ

187 Nameless Fanboi Posted ID:Bw5LlKzJy

สมัยก่อนไม่เคร่งเรื่องลิกสิทธิระหว่างประเทศ...ไม่ใช่พนมเทียนคนเดียวหรอกเขียนนิยายโดยเอาพล๊อตเรื่องฝรั่งมาแปลงเป็นไทย อย่าง กาหว่าวที่บางเพลง รักเดียวของเจนจิรา ก็มาจากนิยายฝรั่ง มงกุฏดอกส้มก็มาจากนิยายจีน

188 Nameless Fanboi Posted ID:l43gtmxD7

>>187 นิยายป้าวลัย นวาระเองก็ขึ้นชื่อเรื่องลอกนะ

189 Nameless Fanboi Posted ID:38ATPsuia

ร่มฉัตรนี่เหมือนสี่แผ่นดินเอามากๆ

190 Nameless Fanboi Posted ID:llogWSGP2

>>189 ร่มฉัตรก็อปสี่แผ่นดินโต้งๆเลย แต่มีความเป็นรอยัลลิสต์สูงกว่าสี่แผ่นดินมากๆๆๆๆๆๆ

191 Nameless Fanboi Posted ID:DApMGUL0q

มึงลืมนึกถึงกฏหมายตราการค้าด้วยนะ พวกที่ยี่ห้อดังๆ มันรักษาคุณภาพตัวเองได้ไง อย่างบะหมี่กึ่งฯ มึงก็นึกถึงมาม่าว่าอร่อยสุด แล้ววันนึงเสือกมีคนปั้มตรามาม่ามาทำให้ลูกค้าสับสน กินไม่อร่อยลูกค้าเลยบอกของยี่ห้อมาม่าไม่อร่อยไปหมด

ประเด็นแฟนฟิคคือมันเอาชื่อที่ปรากฏในตัวละคร พพอ. มาโต้งๆแล้วไม่ได้คงคาแรคเตอร์ต้นฉบับไว้ ต่อไปคนอ่านแฟนฟิค ก่อนแล้วไปอ่าน พพอ. ในหัวจะนึกถึงการงอนระหว่าง รพินท์ที่เป็นซึนเดเระ กับ แงซาย หนุ่มรูปงามหรือเปล่าวะ
ซึ่งตัวคนเขียนพพอ. แกเป็นคนซีเรียสพอสมควรด้วย ถ้าออกมาเตือนกันแบบนี้ก็น่าจะหยุดและไปขอโทษด้วย

192 Nameless Fanboi Posted ID:1iimBQvwd

วรรณกรรมรัสเซียมีเรื่องไหนน่าสนใจมั่ง กูเคยอ่านอาชญากรรมและการลงทัณฑ์แค่เรื่องเดียว นิยายรัสเซียมันจะให้ความรู้สึกเทาๆหม่นๆแบบนี้หมดเลยป่ะวะ

193 Nameless Fanboi Posted ID:yN0bikJGD

>>192 โลลิต้า ;P

194 Nameless Fanboi Posted ID:K4b0Gtdfh

ตามหานิยายเรื่องที่ประกวดเอ็นเทอร์ปีที่แล้ว ชื่อประมาณว่า writing is magic
นางเอกเป็นผู้ช่วยนักเขียน ติดตามไปผจญภัย นักเขียน (ไม่รู้เป็นพระเอกหรือเปล่า) เขียนเก่งมาก ได้เจอกับนักเขียนดังๆ คนอื่นด้วย คิดว่ามีคนแคระ แล้วเรียกคนแคระว่าดวาร์ฟหรืออะไรสักอย่าง
อยากอ่านต่อมาก แต่ไม่รู้ว่าเขาไปโพสต์ที่ไหนบ้างหรือเปล่า
>>192 เคยอ่านดอสโตเยฟสกีไม่กี่เรื่อง ก็หม่นๆ เหมือนกัน...

195 Nameless Fanboi Posted ID:1iimBQvwd

>>193 เห็นรีวิวข้างบนละ โอเคกูซื้อเก็บแน่
>>194 กูเล็งๆพี่น้องครามาซอฟอยู่ เห็นเขาว่าอ่านยากกว่าอาชญากรรมฯ มันจริงป่ะวะ

196 Nameless Fanboi Posted ID:K4b0Gtdfh

>>195 ยังไม่เคยอ่านอาชญากรรมว่ะ โทษทีๆ
สำหรับกู ตอนแรกๆ อ่านยากอยู่ เพราะบรรยายติดกันยาว ตัวละครเยอะ ชื่อรัสเซียทั้งชื่อจริงชื่อเล่นนามสกุล แต่พอรู้จักตัวละครแต่ละตัวแล้วก็สนุกดี
ถ้าจำไม่ผิด บทแรกกูใช้เวลาหลายเดือนอ่าน แต่พอผ่านตรงนั้นไปแล้วก็ติดงอมแงม อ่านประมาณอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ก็จบ

197 Nameless Fanboi Posted ID:o27ws4R8h

http://www.nytimes.com/interactive/2014/11/25/books/review/30infographic.html?_r=2
รวมวรรณกรรมคลาสสิครัสเซียตามGenre

198 Nameless Fanboi Posted ID:ylfMm9dLC

>>194 Write is Magic นักเขียนเคยลงเด็กดี แต่ตอนนี้ลบเหี้ยนเลย เขาไม่ชอบเรื่องนี้มั้ง สรุปหมดโอกาสอ่านต่อละ
คนนั้นนามปากกา กานดา คุณ
ตามงานอื่นๆที่ http://my.dek-d.com/kanda-kung/writer/

199 Nameless Fanboi Posted ID:K4b0Gtdfh

>>198 ขอบคุณมาก TT
ดูไปดูมา ตูเคยอ่านเรื่องเก่าๆ ของเขานี่หว่า หลายเรื่องด้วย

200 Nameless Fanboi Posted ID:w/8zjwEoC

>>192 ไม่เคยอ่าน แต่เดาว่าน่าจะโทนนี้หมดนะ อารมณ์เดียวกันกับวรรณกรรมเยอรมันน่ะ

201 Nameless Fanboi Posted ID:0p9c1lYMk

งานหนังสือจะซื้ออะไรกันบ้างครับเพื่อนโม่ง

202 Nameless Fanboi Posted ID:JEcJN+rAN

เชี่ย จะมาถึงแล้วเหรอ กูยังอ่านของงวดที่แล้วๆมาไม่หมดเลย

203 Nameless Fanboi Posted ID:0nh2nVVoC

>>201 อาชญากรรมและการรัฐประหารครับ

204 Nameless Fanboi Posted ID:OtmJOziMD

เห็นสยามอินเตอร์ลดราคาหนังสือกระหน่ำมาก ตอนนี้มีจัดโปรลดอยู่ที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ใครเคยซื้อมั่งวะ คือสภาพหนังสือมันโอเคป้ะนอกจากที่เค้าบอกว่ามีขีดที่สันเนี่ย ? ละแม่งหมดไวมั้ยวะ

205 Nameless Fanboi Posted ID:14y/t6Lrp

>>204 เห็นหลายที สภาพดีอยู่ ยกเว้นขีด
เท่าที่เห็นมาหมดไม่เร็วนะ แต่กุว่าขึ้นกับทำเลขาย จัดแต่ละทีชานเมืองทั้งนั้น งามวงศ์วานไม่แน่ว่ะ ถ้าแม่ค้าเหมาก็คงไป

206 Nameless Fanboi Posted ID:OtmJOziMD

>>205 กูเห็นรูปขีดแล้วแหละ ก็ดูรับได้นะ เพราะแม่งถูกดี ว่าแต่เอากระดาษทรายมาขัดๆ ถูๆ จะออกมั้ยนะ ?

207 Nameless Fanboi Posted ID:JEcJN+rAN

>>204 เออ แถวบ้านกูเลย มีนิยายป่ะวะ กูว่าจะสอยปู้ปู้จิงชินกับหลางหยางป่าอยู่

208 Nameless Fanboi Posted ID:n2G/.MMxh

>>207 มีๆ แต่ถ้าเล่มลด 50% คือมึงต้องไปตามวันนั้นๆ ไม่งั้นก็เป็นราคาแยกเล่ม ลด 20%

209 Nameless Fanboi Posted ID:n2G/.MMxh

หนังสือของสถาพรที่ลด70เปอตอนนี้มีเล่มไหนโอเคมั่งวะ นำเสนอกูทีพลีส แม่งถูกมากจนอยากซื้อมาอ่านเล่นๆ

210 Nameless Fanboi Posted ID:EU4ohG+K1

>>209 แม่งบางเรื่องลดตั้ง70% ทำเอาอยากซื้อจริงๆนั่นแหละ ในขณะที่บางเรื่อง...กูซื้อตอนออกทีละเล่ม ดีนะซื้อในงานหนังสือบ่อยๆเลยได้ลดบ้าง แต่ก็รู้สึกเหมือนถูกหักหลังเล็กๆอยู่ดี 5555

211 Nameless Fanboi Posted ID:gZ+xv6+MH

>>209 circle ว่ะ กุตามเรื่องเดียว

212 Nameless Fanboi Posted ID:EU4ohG+K1

>>211 เหมือนกันเลย แต่สำหรับกู ค่อนข้างมั่นใจว่าลอยแพแล้วว่ะ เห็นตอนแรกในเว็บมีใส่วงเล็บหลังเองว่าหกเล่มจบไรงี้ ตอนนี้ไปดูไม่มีละ เซ็งชิบ ปกติก็ไม่ค่อยตามอะไรของสถาอยู่แล้วเลยไม่ค่อยเจอการลอยแพเท่าไหร่ เซ็งว่ะ

213 Nameless Fanboi Posted ID:gZ+xv6+MH

>>212 ลอยจริงนี่ทุเรศมาก ออกอยู่แหมบๆ เดือนตุลา ผ่านไม่กี่เดือนลอยแพ

214 Nameless Fanboi Posted ID:ThF3OLRim

กูก็ตาม circle เรื่องเดียว
แต่กูว่าอย่าเพิ่งตัดสินว่ามันลอยแพนะ นักเขียนหยุดอัพไปตั้งนาน เพิ่งมาอัพต่อเมื่อไม่นานมานี้(แล้วตอนนี้ก็หายอีก) อาจจะเป็นเพราะยังแต่งไม่เสร็จก็ได้นะเว้ย กูยังมีความหวัง กูยังอยากอ่านต่อ

215 Nameless Fanboi Posted ID:itBnWp0QN

รู้สึกเหมือนเดี๋ยวนี้เขียนลงเน็ตแล้วพิมพ์เองจะรุ่งกว่ารึเปล่าวะ

216 Nameless Fanboi Posted ID:xBhBs5IpQ

KY ไม่รู้ถูกมู้รึเปล่านะ นิยายเรื่องThe prince อลวนเจ้าชายปีศาจ คนเขียนตายหรือสถาพร.ลอยแพวะ จะสิบปีแล้วเล่มสามยังไม่ออกมาซักที ถึงคำผิดเยอะแต่ก็สนุกว่ะมึง และเป็นนิยายสถาพรเล่มแรกที่กูอ่านไปด่าบก.ไป คือตอนนั้นยังไม่มีหน่วยพิสูจน์อักษรหรือบก.มักง่ายวะถึงปล่อยให้มีคำผิดบานเบอะขนาดนี้

217 Nameless Fanboi Posted ID:NkImtURVv

>>211 เซอร์เคิลนี่ดูทรงละไม่รอดว่ะ กูคงไม่ซื้อ อยากซื้อที่เป็นชุดจบแล้วมากกว่า แต่ก็ขอบใจนะมึง
มีใครแนะนำกูได้มั่งมั้ยย
>>216 ถ้าไม่ลอยแพคือคนเขียนไม่ออกเล่มใหม่ซะทีจนสนพ ไม่ทนแล้ว ส่วนคำผิดเนี่ย เดี๋ยวนี้ก็ยังมีว่ะ
เออ บ่นนิด กูพึ่งซื้อ ex demon king จากงานหนังสือล่าสุด แม่งงงงงง เอามาลดซะงั้น เจ็บปวดอีดอก

218 Nameless Fanboi Posted ID:yOwyA5fNA

>>217 กอดมึงแน่นๆ กูจะคิดในแง่ดีที่กูซื้อราคาแพงก็เพื่อบำรุงนักเขียนที่รักของกู

219 Nameless Fanboi Posted ID:yXET.CLRZ

Circle นี่กูว่าสนุกน่ะ แต่กูไม่ชอบพระเอก 555555555 เหี้ยตรงนี้

220 Nameless Fanboi Posted ID:2Iapl2CW0

หนังสือลดราคามีผลกระทบต่อนักเขียนด้วยเหรอวะ กูนึกว่าเขาหัก % จากราคาปกก็จบแล้ว หรือมีหัก % จากราคาที่ขายได้?

221 Nameless Fanboi Posted ID:NkImtURVv

>>218 กอดมึงงง กูจะพยายามมมองอย่างนั้นละกัน .. คือเงินมันถึงนักเขียนแน่ๆ ใช่มั้ยวะ ;__;)

222 Nameless Fanboi Posted ID:VPUPt1y8Z

>>221 ถึงไหมนี่กูว่านักเขียนก็ได้เท่าเดิมแหละ แต่ที่รู้ๆจอมมารของคุณวีโดนตัดทิ้ง 5 เล่มเขามาประกาศที่หน้าเพจว่ะ กูละเซ็งกับสถาพร

223 Nameless Fanboi Posted ID:EmFJ/F+9w

>>216 กูก็อยากรู้เรื่องเดียวกับมึง จบเล่ม 2 อย่างค้าง สัสเอ๋ย ซื้อตั้งแต่ออกใหม่ๆ หารู้ชะตากรรมไม่ว่าจะถูกแพ

224 Nameless Fanboi Posted ID:SZVpyHlUz

สรุปคือสถาพรจะลอยแพทุกเรื่องยกเว้นบารามอส เซวีน่า แล้วก็ยุทธภพออนไลน์ใช่มั้ย???

225 Nameless Fanboi Posted ID:EZ3ogTvOR

>>222 กูไม่ได้ตามเรื่องนี้ ปกติเขาวางแพลนกี่เล่มวะ แล้วตอนนี้ออกมากี่เล่มละ แต่ตัดตั้งห้าเล่มนี่เยอะนะ จะยัดเนื้อหาลงเล่มที่เหลือยังไงล่ะนั่น แต่สมัยนี้นิยมทำมือกันด้วยนี่ เค้าอาจจะออกแบบทำมือก็ได้ หวังว่านะ

226 Nameless Fanboi Posted ID:XISqgaufI

>>225 ถ้าจำไม่ผิดเขาบอกปกติแพลนไว้ 13 เล่มแล้วลดเหลือ 8 เล่ม จะเขียนเรื่องหลักให้จบใน 8 แล้วค่อยออกเล่มพิเศษ(ทำมือ)สักสองสามเล่ม แต่ไงๆกูก็เสียใจอยู่ดี

227 Nameless Fanboi Posted ID:FNz0S1qQt

แล้วณ.ปัจจุบันเลยเรื่องจอมมารนี่ออกมากี่เล่มแล้ววะ 3 หรือ 4 สถามันถึงจะให้จบใน 5 แต่โหดฉิบหาย กูว่านักเขียนแม่งน่าจะจบแบบแค่จบภาคไปก็พอแล้วที่เหลือไปพิมพ์เองเหอะ อย่าตัดมั่วเลย กูเศร้าแทนคนอ่าน

228 Nameless Fanboi Posted ID:XcIPkCz00

>>227 ตอนนี้ออกมา 4 เล่มละ ส่วนตัวกูก็อยากให้เขาออกแบบจบภาคแทนเพราะตัวละครรองๆเขา(ที่เยอะและกูอยากอ่านเกี่ยวกับตัวละครรองๆ)คงโดนตัดบทหมดแน่ ; _ ;
ปล.อันนี้ยังไม่รมปมทั้งหลายแหล่ที่ยังเหลืออีกเยอะเลยนะ

229 Nameless Fanboi Posted ID:1Ggl6M4+1

>>222 อ้าว ไม่ใช่ลดเหลือ 8 เหรอวะ 5 นี่เหี้ยเลยนะ กูขอกรีีดร้อง ถ้าแค่นี้เค้าคงทำแค่จบภาคว่ะ เพราะกูคุ้นๆ ว่าเค้ากะจะทำภาคพิเศษเองอะ อาจจะเปลี่ยนเป็นว่าไหนๆ จะตัดจบกูแล้ว กูก็เอาภาคต่อไปทำใหม่เองเลยละกัน ? แต่ถ้าทำต่อหนังสือก็ต้องไซส์ปกติใช่มั้ยวะ ;___; แม่ง ฮือ

230 Nameless Fanboi Posted ID:XcIPkCz00

>>229 เหลือ 8 มึงเหลือ 8 ; _ ; ทำภาคพิเศษคุ้นเขาพูดว่าจะทำแค่เล่มสองเล่ม เอาจริงกูดีใจที่ทำเป็นไซต์ปกตินะไซต์เล็กแบบนั้นถือยากมาก
ปล.กูไม่เข้าใจว่าสถาจะทำเล่มเล็กๆแบบนั้นทำไม เกาะกระแส ln เรอะ

231 Nameless Fanboi Posted ID:t2Coaquu6

>>229 เหลือ 8 เล่มึง

232 Nameless Fanboi Posted ID:D7MCDvh7.

จอมมารนี่เรื่องเป็นยังไงวะ กูไม่คุ้นเลย ช่วงหลังไม่ได้ตามสถาพรเลยอ่ะ มีแต่เรื่องอะไรไม่รู้ ไม่ใช่แนวกู

233 Nameless Fanboi Posted ID:xXufL1cS+

ผิดมู้มั้ยวะคือกูเพิ่งได้ตามงานประกวดเอ็นเธอร์มันยังไงวะ คนได้เข้ารอบรู้ผลก่อนวันประกาศ แล้วคนที่ไม่ได้คือรอเก้อจนวันประกาศงี้เหรอ ตัวกูเคยส่งประกวดมาบ้างอ่ะนะแต่ไม่เคยเจอระบบนี้ว่ะรู้สึกแปลกๆ

234 Nameless Fanboi Posted ID:.2bOxpf.V

>233 กูว่าเขาแค่คอนเฟิร์มว่านักเขียนจะเขียนต่อได้ไหม มีตัวตรจริงๆ ติดต่อได้ไหม คนที่ผ่านเข้ารอบก็เลยได้รู้ก่อน

235 Nameless Fanboi Posted ID:xXufL1cS+

>>234 งี้เอง จริงๆกูไม่คุ้นตั้งแต่ระบบออนไลน์แล้วล่ะ555555 เพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ด้วย

236 Nameless Fanboi Posted ID:.7Ysxqxsg

เอนเตอร์มีเรื่องไหนน่าสอยมั่งวะ กูสอยงานอวี้หว่อ ลวิตร์หมดแล้ว อยากลองอ่านคนอื่นดูแต่ไม่มั่นใจ

237 Nameless Fanboi Posted ID:e2Gbh8xyN

>>233 ปกติประกวดก็แบบนี้อยู่แล้ว คนได้เข้ารอบหรือได้รางวัลเขาจะโทรบอก ถ้าโทรศัพท์เงียบก็ทำใจได้

238 Nameless Fanboi Posted ID:5.RkZtoTM

>>236 แปลจีน บันทึกเมืองพิศวงก็โอนะ
แปล eng ชุดเพอร์ซีย์ ส่วนชุดอื่นกูเฉยเช่น อัมเบอร์
สมรภูมิล่าเมือง กูชอบไอเดียนะ แต่จบเล่ม 3 คนที่กูชอบเหี้ยเกิน กูเลยไม่ต่อเล่ม 4

239 Nameless Fanboi Posted ID:AZt/GjsJy

http://thaipublica.org/2016/02/print-6/
พวกมึงคิดว่าไงกัน

240 Nameless Fanboi Posted ID:h.7ylgOJp

>>239 >>>/subculture/1074/700-706

241 Nameless Fanboi Posted ID:j/YDYmETZ

>>239 เอาง่ายๆ คือ ถ้ามึงมองในมุมคนซื้อ งานหนังสือคือเรื่องดีเว่ย หนังสือถูกกว่า ถึงไม่ถูกกว่าก็มีตัวเลือกเยอะ ถ้ามึงไปตามร้านหนังสือ มึงอาจจะไม่ได้ทุกเล่มตามลิทส์ แต่ไปงานเนี่ย โอกาสได้ตามที่ต้องการก็เกิน 90% ละ จะไม่ได้ก็พวกเล่มหายากจริงๆ เท่านั้น
แต่ถ้ามึงมองจากมุมของร้านหนังสือรายย่อย พอมีงานหนังสือ แทนที่คนจะซื้อหนังสือเรื่อยๆ ทั้งปี คนก็รอไปงานทีเดียวมากกว่า โอกาสขายได้ก็น้อย ก็กลายเป็นตลาดผูกขาด มีพื้นที่ให้รายใหญ่ได้ทำกำไรอย่างเดียว

242 Nameless Fanboi Posted ID:j/YDYmETZ

>>241 อ้อ อีกนิด เอาจริงกูไม่ค่อยเห็นด้วยกับไอ้เรื่อง "ตั้งราคาเผื่อลด" ที่เค้าบอกว่าจะทำให้ค่าหนังสือแพงเกินจริงแฮะ อันนี้กูอาจจะโง่เอง แต่ในความรู้สึกกูอะ มันก็ไม่ได้มีอะไรมายืนยันปะวะว่าถ้าไม่ลดราคาหนังสือออกใหม่แล้วมันจะถูกลง ? กูว่าเผลอๆ แม่งก็เท่าเดิม ฟันกำไรไปเต็มๆ อีก

243 Nameless Fanboi Posted ID:Tu/jWbI.E

>>239 กูคนนึงไม่เข้าร้านเลย สมัยก่อนมีเข้าไปลองอ่านหนังสือออกใหม่ แต่หลังๆมีทดลองอ่านในเว็บ รีวิวหาง่าย เหยียบร้านน้อยมาก ไม่เข้ามาแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นยอดร้านหายไม่เกี่ยวกับกู
เห็นด้วยว่า ร้านมีส่วนซบเซาเพราะคนรองาน แต่ส่วนนึงก็มีคนไม่รองาน ชอบซื้อทันทีที่ออก ความคิดที่ห้ามลดราคาหนังสือใหม่โคตรน่ากลัว เสน่ห์งานหนังสือหายเลย กลายเป็นรวมโล๊ะสต็อกของสนพ.แต่ก็น่าจะช่วยร้านได้จริงๆ
ตั้งราคาเผื่อลดนี่กูว่าไม่ใช่ว่ะ เป็นราคาเผื่อโลภมากกว่า อย่างบางสนพ ลดน้อยนิด ราคาเล่มนึงๆ ก็แพงชิบ หนังสือมันก็ผูกขาดในตัวของมัน ถ้าเรื่องนี้ใช่ เท่าไรคนก็กัดฟันซื้อ ทำให้คนขายนึกจะตั้งเท่าไรก็ตั้งได้

244 Nameless Fanboi Posted ID:jjRnhop0l

กูกลัวมันตรงที่มีหนังสือล็อตใหญ่เข้าแค่สองช่วงต่อปีนอกนั้นก็แทบไม่มีเลยกูว่ามันเป็นรูปแบบที่ไม่ดีเท่าไร

245 Nameless Fanboi Posted ID:E7sQ6Zy6V

>>244 จริง กูว่าวิธีที่ดีที่สุดคือแบบของแซลมอนว่ะ พยายามออกหนังสือใหม่เรื่อยๆ ไม่ต้องไปกองเอาช่วงงาน กูมั่นใจว่ามีคนยอมจ่ายเพื่ออ่านก่อนงานแน่ๆ แล้วก็พวกไม่สนใจจะไปงานหนังสือ ไปงานไม่ได้อีกเงี้ย
แถมยิ่งช่วงงานหนังสือออกเยอะเท่าไหร่ หลังงานก็ล้นตลาดเท่านั้น เยอะมากไปก็ไม่มีที่วางในร้านอีก กูว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่งานหนังสือหรอก อยู่ที่สำนักพิมพ์มากกว่า คือขายแบบนี้ยังไงมันก็ได้กำไรปะวะ เดี๋ยวนี้แม่งขายออนไลน์กันเองเป็นล่ำเป็นสันอีก มันก็เลยไม่ค่อยสนใจพวกร้านเล็กร้านน้อยละ

246 Nameless Fanboi Posted ID:pThRVXWvu

ตั้งเผื่อลดนี่ยกให้สนพ สีม่วงเลย

247 Nameless Fanboi Posted ID:d4LTtIFM6

>>239 กูว่าเป็นบทความเอาใจพวกร้านหนังสือว่ะ มึงลองคิดดู ร้านหนังสือเก็บค่าฝากวาง 50% จากปกนะไม่ว่าใหญ่หรือเก่า ในขณะที่ในงานหนังสือหนังสือใหม่ลดอย่างมากก็ 30% แล้วอย่างที่พวกมึงเห็นว่าคนซื้อหนังสือน้อยจะตายอยู่แล้ว สนพ. ก็ต้องเอาวิธีที่ตัวเองได้เงินมากที่สุดไว้ก่อนเพื่อต่อลมหายใจตัวเองดิวะ

นี่ยังไม่นับร้านหนังสือที่พอเห็นหนังสือแปลกๆ วางวันแรกก็เสียบสันหมด จะทำโปรโมชั่นอะไรก็คิดเงินพร้อม ซื้อชั้นวางห่าเหวอะไรอีก กูว่าส่วนหนึ่งที่การทำหนังสือมันเหมือนทำนาที่มีเวลาขายแค่สองครั้งแบบ นาปรัง นาปี มันก็เพราะร้านหนังสือบีบมาไม่ใช่เหรอไง

กูคิดว่าวันนึงถ้าหากร้านหนังสือพวกผูกขาดตายห่ากันไปหมด อาจจะดีกว่าตอนนี้ก็ได้ ร้านหนังสืออิสระที่เลือกหนังสือที่เข้ากับกลุ่มคนที่เข้ามาในร้านหนังสือตัวเองจะได้เกิด อย่างอยู่ในเขตคนทำงานเยอะๆ ก็ขายพวกหนังสือขายหุ้น หนังสือสุขถาพ อยู่ใกล้โรงเรียนก็พวกนิยายแฟนตาซี ไม่ได้เป็นหนังสือบล็อคเดียวกันหมดอย่างร้านหนังสือใหญ่ๆ ที่จะเข้าสาขาไหนมันก็เหมือนกันหมดไม่มีอะไรน่าค้นหา

248 Nameless Fanboi Posted ID:E7sQ6Zy6V

>>247 เชี่ยยย 50% เลยเหรอวะ กูพึ่งรู้นะเนี่ย แต่อันนี้น่าจะเฉพาะร้านใหญ่ๆ หน่อยสินะ ? พวกร้านเล็กๆ น้อยๆ ใกล้โรงเรียนไรงี้น่าจะเป็นอีกแบบ
แต่ก็นะ เท่าที่กูสังเกตุร้านหนังสือหน้ารร. หรือพวกร้านเล้กๆ ส่วนมากจะเน้นการ์ตูนกับนิตยสารมากกว่า ไม่ค่อยมีสต็อกนิยาย เพราะงั้นจริงๆ ก็ไม่ควรได้รับผลกระทบในจุดนี้รึเปล่า ? ถ้าจะมีสต็อกนิยายก็เป็นร้านใหญ่อยู่แล้ว อันนั้นไม่จำเป็นจะต้องห่วงมั้ยวะ พวกนั้นแม่งมีดีลกับสนพ. อยู่แล้วเถอะ

249 Nameless Fanboi Posted ID:dNtxY5Hfr

เมื่อเกือบสิบปีที่แล้วกูจำได้ว่า SE-ED คิด 40%จากราคาปก แล้วคิดเพิ่มอีก1%เป็นค่าวาง
ตอนนี้ไม่รู้เปลี่ยนรึยัง แต่ราคาหุ้นSE-EDจาก 10กว่าบาทตอนนี้เหลือ 5บาท
กำไรบริษัทมาลดลงหนักๆช่วงนโยบายรถคันแรก จากกำไรปีล่ะสองสามร้อยล้าน เหลือกำไรปีล่ะไม่ถึงห้าสิบล้าน

250 Nameless Fanboi Posted ID:eESmTAhIf

>>249 เดี๋ยวนี้ถ้าเข้าไปจะรู้สึกว่าบรรยากาศ SE-ED เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเลยนะ ที่แน่ๆ คือมี Product ต่างๆ นานามาวางขายมากขึ้น เหลือที่วางหนังสือน้อยลง เพราะหนังสือแม่งไม่ใช่ตัวทำกำไร...

251 Nameless Fanboi Posted ID:l2CzDDdDG

>>250 เมื่อก่อนซักสี่ห้าปีที่แล้ว หุ้นSE-EDนี่น่าเก็บมาก ราคาวิ่งอยู่ที่ 10กว่าบาท จ่ายปั่นผลปีละ4ครั้ง รวมๆกัน7%จากราคาหุ้น
พอเจอปัญหาหลายๆอย่าง น้ำท่วม ค่าแรง300 นโยบายรถคันแรก เท่านั้นแหละ กำไรหดฮวบๆ ราคาหุ้นแม่งดิ่งชิบหาย
แต่กูก็คิดอยู่เหมือนกันว่าธุรกิจร้านหนังสือมันโตยากอยู่แล้ว พอเจอปัญหาหลายๆอย่างเข้ากำไรเลยหด
ถึงกับต้องหาอย่างอื่นมาขายแทน
แต่ส่วนหนึ่ง SE-EDก็หน้าเลือดจริงๆอย่างที่ >>247 ว่าไว้

252 Nameless Fanboi Posted ID:AdKa1ZvoB

หุ้นเกี่ยวกับหนังสือมันก็แย่ลงเรื่อยๆ
เดี๋ยวปีหน้า หุ้นสยาม ที่หมดลิขสิทธิ์จากบอลไทยพรีเมียร์ลีก กำไรต่อหุ้นคงรูดลงสู้พื้นฐานเช่นเดียวกัน
ปล. หุ้นสยาม กำไรมาจากลิขสิทธิ์จากบอลไทยพรีเมียร์ลีกหลายร้อยล้าน
แต่กำไรจากงานพิมพ์หลักสิบล้าน
ต่างกันเห็นๆ

253 Nameless Fanboi Posted ID:7g.z/72sw

>>252 อมรินทร์กับมติชนยังพอไปไหวอยู่ แต่สองบริษัทนี้ก็จัดว่าเป็นสำนักพิมพ์(ร้านนายอินทร์ไม่ใหญ่และไม่มีสาขาเยอะเหมือนSE-ED)
ส่วนธุรกิจที่ทำร้านหนังสือเต็มตัวอย่าง SE-ED กำไรหดลงทุกวัน
อีกหน่อถ้าระบบร้านหนังสือออนไลน์อย่าง Readery Bookmoby วรรณกรรมไม่จำกัด Afterword โตขึ้นมามากๆ
ร้านSE-EDก็ยิ่งกำไรน้อยเข้าไปอีก

254 Nameless Fanboi Posted ID:NhWe7UKia

เคยทำสนพ.เล็กๆ ที่นึง เมื่อ 15 ปีก่อน (บอกอายุตัวเองมาก) เคยเอาไปฝากวางขายร้านทั่วไปไม่รับฝากบอกถ้ารับฝากจะถูกสายส่งตำหนิแล้วจะไม่ได้ส่วนลดพิเศษ เราต้องไปฝากผ่านสายส่ง เลยต้องติดต่อสายส่งเจ้าใหญ่เอา 40% ขึ้นไปทั้งนั้น ถ้าจะให้วางชั้นต้องจ่ายเพิ่มชั้นหลบมุมห้าหมื่น ชั้นโปรโมทลูกค้าเห็นชัดๆ เป็นแสนคูณด้วยสาขาที่จะให้วางชั้น บังคับต้องส่งเข้าโกดังอย่างน้อย 3000 เล่ม ผลคือหนังสือตีกลับเกือบหมดขายได้ไม่กี่ร้อยเล่ม เพราะเลือกจ่ายวางชั้นราคาถูกสุดเนื่องจากสนพ.เล็กไม่มีงบ เดินสำรวจจริงหนังสือเราโดนเอาเก็บโชว์แต่สันไม่ได้วางโชว์ปก

พอไปถามสายส่งเจ้าเล็กเอา 30% ไม่มีค่าวางชั้นแต่ไม่รับรองว่าตามร้านปลีกจะเก็บหนังสืออย่างไร ผลคือขายได้เกือบพันเล่มแต่หนังสือเสียกลับมาเท่านึง ปกซีดตากแดด หนังสือยุบจากขนส่ง ฯลฯ คัดหนังสือแล้วต้องทำลายทิ้งเกือบพันเล่ม

พอมีงานหนังสือถึงได้มีเงินมาหมุนต่อ

ตอนนี้ตัวเองไม่ได้ทำสนพ. แล้ว บทความนี้ไม่เห็นใจร้านปลีกและสายส่งเลย

255 Nameless Fanboi Posted ID:NhWe7UKia

ใช่ยังไม่รวมกับเรื่องสายส่งไม่ยอมจ่ายเงิน เจ้าเล็กโกงหนีต้องแจ้งความถึงยอมจ่ายเพื่อให้ยอมความถอนฟ้อง

เจ้าใหญ่บอกจ่าย 6 เดือน แต่ถ่วงเช็คสต็อกรอหนังสือตีกลับ ฯลฯ กว่าจะได้เช็คปีนิดๆ เป็นเช็คล่วงหน้าอีกซึ่งได้เงินจริงอีกนิดก็ครบสองปีพอดีที่ส่งหนังสือไปฝาก

วางงานหนังสือได้เงินเลย หมดปัญหาเงินทุนทันที

256 Nameless Fanboi Posted ID:nU6e+Rxz4

>>254 เก็บ 40% ก็ว่าโหดแล้ว นี่คิดค่าวางด้วยเหรอเนี่ย มิน่าพอสำนักพิมพ์เริ่มมาหาทางขายเองในงานหนังสือกำไรของพวกร้านใหญ่เลยหด

257 Nameless Fanboi Posted ID:zNxphtx1m

>>254 ทำไมกูรู้สึกว่าสายส่งเหมือนปลิงวะ ไม่ได้ลงทุนลงแรงอะไรมาก แต่ดันได้กำไรไปซะครึ่งต่อครึ่ง

258 Nameless Fanboi Posted ID:g.3.Cv.Wd

>>257 ถ้ามึงไม่ใช่สายส่ง มึงมีปัญญาส่งเองเก็บเงินเองทั่วประเทศเปล่าเหอะ

259 Nameless Fanboi Posted ID:wbED4A2Ib

มา KY หน่อยฮับ ใครเคยอ่านเรื่อง The Library of Babel ของ Borges มั่งปะ เสิร์ชหาละไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ในภาษาไทยเบย

260 Nameless Fanboi Posted ID:79uCG.9Qq

>>252 สยามปิดสาขาบุ๊คเฟรนด์ เลย์ออฟพนง.ไปแล้วรอบนึงปลายปีทึ่แล้ว แล้วตอนนี้พนง.โดนลดเงินเดือน 10% ถ้าไม่ดีขึ้นปลายๆ ปีจะมีเลย์ออฟรอบสองอีก

261 Nameless Fanboi Posted ID:FDz+0r7G.

กูไปเดิน Se-ed มาวันนี้ เจอนิยายของพุชคิน กับมาร์ค ทเวนขาย เล่มบางๆของสนพ.สมิต 2005 กระดาษไม่ดีเท่าไหร่ เหมือนกระดาษหนังสือพิมพ์อะ กูชั่งใจอยู่ว่าจะซื้อดีมั้ย หรือมันมีสนพ.อื่นเอามาร์ค ทเวนมาขายแล้วมันดีกว่านี้วะ กูจะได้ไปซื้อเจ้าอื่นแทน

262 Nameless Fanboi Posted ID:VmiPapmd7

เพื่อนโม่งสมรภูมิล่าเมืองของ Enter สนุกป่ะ

เห็นออกจนจบแล้ว กูเล็ง ๆไว้อยู่ แต่อยากรู้ฟีดแบ็ค

263 Nameless Fanboi Posted ID:c/5vXBAHB

>>262 สนุกมาก! กูคอนเฟิร์มเลย ไซไฟแฟนตาซีสตีมพังค์แบบมาเต็มอ่ะมึง อ่านแล้วกูคิดถึงพวกหนังสือวรรณกรรมเยาวชนสมัยยุคก่อนแฮร์รี่ พวกโกลเด้นคอมพาส ไรงี้ ก่อนที่ YA มันจะกลายเป็นเน้นโรแมนซ์ไปหมด กูอ่านแล้วลุ้นยังกะเพชรพระอุมา สรุปว่าอ่านเหอะไม่เสียดายตังกะเวลาว่ะ

264 Nameless Fanboi Posted ID:8NrDYJ4VR

>>261 ลองหาในเว็บซีเอ็ดให้ ของมาร์ค ทเวน มีอีกเล่มที่แอร์โร่วแปล ลองหาดูนะ

265 Nameless Fanboi Posted ID:LeUjuER14

>>262 สนุก แต่ระวังตับหน่อยนะ เพราะเรื่องนี้แม่งเจ็บจริงตายจริง ตายเยอะด้วยเทียบกับมาตราฐานวรรณเยาวชน

266 Nameless Fanboi Posted ID:9YQqm+Gpu

>>262 สนุกไอเดียดีด้วย แต่... กูยังไม่ได้อ่านเล่ม 4 ว่ะ ตอนที่กูอ่านเล่ม 3 จบแล้วเล่ม 4 ยังไม่ออก กูไปหา eng อ่าน แต่อ่านยังไม่จบนะ ห่านตับ คนที่กูชอบทำให้กูรับไม่ได้ พอเล่ม 4 ออกกูก็เลยยังไม่อ่านจนกระทั่งตอนนี้

267 Nameless Fanboi Posted ID:a/kBQX1J0

มึงเผื่อคนไม่รู้ Circle เหมือนจะกลับมาอัพแล้วนะ

268 Nameless Fanboi Posted ID:Xk8SAQ.FW

>>267 แล้วจะออกกับสถาต่อมั้ยวะ ... ?

269 Nameless Fanboi Posted ID:DlbwtezDR

>>263 >>265 >>266 แต๊งกิ้วมากเพื่อนโม่ง น่าเสียดายไม่ค่อยมีคนพูดถึงเท่าไหร่เลย

270 Nameless Fanboi Posted ID:xxqrQmVVa

ลุงพนมเทียนให้สัมภาษณ์ไทยรัฐเรื่องแฟนฟิค

http://www.thairath.co.th/content/585048

เนื้อวิบัติชั่วช้าเลยทีเดียว เรื่องไหนวะที่แต่งให้พี่น้องเอากัน แถมพอตัวเอกอีกตัวมาเห็นเข้าก็ไปล่อสาวชาวบ้านมาแก้หื่นอีก เชี่ยยย วงการแฟนฟิคได้จบลงแน่ถ้าลุงพนมแกฟ้องจริงๆ

271 Nameless Fanboi Posted ID:s14ZXH62M

>>270 นึกถึงยุคหลุมดำเลยว่ะ

272 Nameless Fanboi Posted ID:YmaGoGXeU

เป็นไงล่ะ พอเค้าเปิดก็เหลิงดีนัก ทีนี้คนที่ไม่ทันหลุมดำคราวก่อนจะได้รู้ก็คราวนี้แหละ /ยิ้มเยาะ

273 Nameless Fanboi Posted ID:UVDBYlTAX

>>271 มันคือยุคอะไรวะ กูตามไม่ทัน

274 Nameless Fanboi Posted ID:6rWXi+3pF

>>273 ใช่ยุคที่ตำรวจไปจับพวกการ์ตูนนิยายเรทที่งานหนังสือ ร้านวายที่สยามก็โดนจับกันมั้ยวะ จากนั้นวายก็หลบใต้ดิน

275 Nameless Fanboi Posted ID:FRRD1kDsw

>>273 ตามกระทู้นี้น่าจะอธิบายได้ดีกว่า http://pantip.com/topic/31264338

276 Nameless Fanboi Posted ID:6rWXi+3pF

>>275 ชัดแท้ กูก็เพิ่งรู้ว่าที่มาจากรายการทีวี เพราะบ้านกูไม่ดู หนังสือก็ไม่โดนเผา 555

277 Nameless Fanboi Posted ID:YmaGoGXeU

>>276 กูก็โชคดีที่ตอนนั้น พ่อแม่กูไม่ได้ดูมั้ง ไม่เห็นจะพูดอะไรเรื่องนี้ซักคำ กูก็ยังเข้าโลกการ์ตูนไม่เต็มตัวด้วยเลยรอดไป 555

278 Nameless Fanboi Posted ID:FRRD1kDsw

กูเคยโดนเอาเลิฟฮินะไปเผา กูโครตเกลียดรายการเหี้ยห่านี่เลย บางเล่มหาซื้อไม่ได้แล้วด้วย

279 Nameless Fanboi Posted ID:QA1vUHZut

>>275 อ๋อ กูตอนนั้นยังไม่รู้จักการ์ตูนอื่นนอกจากพวกโดเรม่อน ยังเป็นเด็กใสๆ วัยประถม ยุคมืดของสาววายที่เคยได้ยินก็มาจากช่วงนั้นด้วยสินะ

280 Nameless Fanboi Posted ID:6rWXi+3pF

ky กูสงสัย ใครไหมที่อ่านเดมอน เบเกอรี่แล้วไม่สนุก กูเข้าใจว่าต่างคนต่างชอบ แต่กูเป็นหนึ่งในแฟนคลับลวิตร์เลย อ่านทุกเรื่อง และกูก็สงสัยตัวเองว่า ทำไมกูอ่านไม่จบกับเรื่องนี้ กูแปลกไหม

281 Nameless Fanboi Posted ID:FRRD1kDsw

>>280 กูอ่านแล้วหิวว่ะ แต่จากนิยายทำอาหาร กลายไปเป็นดราม่าใหญ่โตได้ไงก็ไม่รู้

282 Nameless Fanboi Posted ID:JaUBr1N6Q

>>280 ไม่แปลก เอาจริงกูชอบ แต่ถ้ามีคนไม่ชอบมันก็ไม่แปลกอะไร ใช้ว่านักเขียนที่เราชอบจะแต่งอะไรที่เราชอบหมดซะหน่อย มึงอ่านไม่จบแสดงว่าเรื่องนั้นมันไม่ใช้แนวมึงก็แค่นั้นแหละ

283 Nameless Fanboi Posted ID:JJRlW2wcQ

>>280 กูก็ไม่ชอบเรื่องนี้นะ แต่ไม่ชอบผู้เสกทรายมากกว่า

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.