เพื่อนโม่ง กูมาขอกำลังใจ เขียนนิยายเรื่องนึงมาสองปี กำลังจะจบในสองสามเดือนก่อนหมดปีนี้แล้ว กูทั้งดีใจทั้งจะไม่ไหวแล้วว่ะ กูทำอะไรลงไปวะเนี่ย ใช้เวลานานเกิน แทบจะขายวิญญาณเขียน เพื่อสุดท้ายได้นิยายที่ไม่รู้จะขายออกรึเปล่าเนี่ยนะ หน่านิ้!?
Last posted
Total of 579 posts
เพื่อนโม่ง กูมาขอกำลังใจ เขียนนิยายเรื่องนึงมาสองปี กำลังจะจบในสองสามเดือนก่อนหมดปีนี้แล้ว กูทั้งดีใจทั้งจะไม่ไหวแล้วว่ะ กูทำอะไรลงไปวะเนี่ย ใช้เวลานานเกิน แทบจะขายวิญญาณเขียน เพื่อสุดท้ายได้นิยายที่ไม่รู้จะขายออกรึเปล่าเนี่ยนะ หน่านิ้!?
>>525 ถ้าแยกแอค ไม่ได้วิจารณ์ในฐานะนักเขียนก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าด่าแบบเปิดหน้าเลยว่าตัวเองเป็นนักเขียนก็ไม่ค่อยดี มันก็จะเหมือนชักจูงคนนิดนึง ในทางกลับกัน ถ้ากระแสตีกลับ มันจะส่งผลถึงนิยายมึงด้วย เพื่อความเซฟของตัวมึงเอง มึงขุดหลุมให้มิดเลย อย่าให้ใครรู้
แต่ถ้าชมนะ มึงชมแบบเปิดหน้าเลย คำชมใครๆก็ชอบ
ใครเคยลองใช้indesignจัดหน้าแล้วจะพอทไปทำepubบ้าง
กุอยากรู้ว่าพวกshitf+enterที่กุเคาะตอนจัดหน้านี่มันจะติดไปด้วยไหม แล้วถ้าในไฟล์มีภาพประกอบด้วยจะเป็นไรป่าว
ky ถ้าแนวชญ. เน้นรัก มี nc แต่ไม่แรงมาก เพิ่งเริ่มเขียนได้เรื่องสองเรื่อง แล้วอยากติดเหรียญกับขายอีบุ๊ค วิธีไหนถึงขายดีสุดน่ะเพื่อน
ปิดตอนส่วนใหญ่ไปเลยเน้นขายอีบุ๊ค หรือติดเหรียญเฉพาะ nc หรือติดเหรียญด้วยขายอีบุ๊คด้วย
>>527 เก่งมากมึง ช่วงแรกๆมันก็จะตั้งคำถามกับตัวเองแหละ แต่ได้ทำสำเร็จขนาดนี้มึงก็จะใจดีกับตัวเองและโอบกอดตัวเองได้ละ ของกูเคยมีเล่มนึงเขียนมาปีนึงมั้ง จบแล้วก็ขายไม่ดี เม้นต์ก็ร้าง ช่วงแรกก็ซึมมาก แต่นานวันเข้าก็ภูมิใจอะ เขียนจบได้โดยไม่ทิ้งกลางทางเลยหน่า ตั้งปีนึงแน่ะ! อย่างข้อความของมึงก็เป็นกำลังใจให้กูนะ เพราะตอนนี้กูก็เขียนนิยายมา 1 ปีละยังไม่จบเลย กลัวว่าจะได้ดองตลอดไปจนไม่มีวันจบด้วยซ้ำ คนรอบตัวแทบจะออกเดือนละเล่มกันหมด มาเจอมึงก็คือเอ้อ ไม่เห็นเป็นไร กูยังเหลือเดดไลน์ให้ตัวเองอีกตั้ง 1 ปี ไม่ใช่ทุกคนจะเขียนจบเร็วนี่หว่า มึงทำได้กูก็ต้องทำได้ ขอบใจนะ มึงเก่งมาก!
>>534 นักเขียนที่ทำแบบนี้ โดนนักอ่านแอบเทแบบเงียบๆ ก็เยอะนะ ถ้าคิดว่าติดเหรียญถูกกว่าตั้งเยอะ มึงก้ติดเหรียญตอนพิเศษแพงหน่อยก็ได้ อย่าหาทำเลยอีแบบเหมือนบังคับถ้าอยากอ่านก็ต้องซื้ออีบุ๊คทั้งเล่มเพื่ออ่านตอนพิเศษอะ หรือถ้ามึงจะทำ มึงต้องแจ้งให้เขาเห็นชัดเจนว่ามึงจะไม่ลงตอนพิเศษในติดเหรียญ
>>538 เรื่องนึงของกุ กุบอกตั้งแต่เปิดเรื่องเลยว่าจะมีตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊ค ก็ไม่มีใครบ่นอะไร แต่กุสังเกตเองว่าฝั่งรายตอนที่ติดเหรียญ คนซื้อประปรายมากเลยเพื่อน กุเลยไม่แน่ใจว่าจะยังไงดี
แต่กุเข้าใจที่มึงว่ามามากๆ เลย กำลังหาทางอยู่ คือกุรักคนที่ตามอ่านรายตอนตั้งแต่แรกมากเลย เหมือนบางคนที่ซื้ออีบุ๊คเพิ่งมาเจอเรื่องกุทีหลังตอนลงเม้ด กุเลยกำลังคิดว่าระหว่างทำแบบเดิม บอกแต่ต้นว่ามีตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊ค แล้วติดเหรียญรายตอนถูกกว่า กับอีกทีลงตอนพิเศษรายตอนด้วยแต่ติดเหรียญแพงหน่อยแบบที่มึงว่า แต่แบบนี้ไม่ทำให้คนซื้ออีบุ๊คน้อยลงใช่มั้ย?
กุงงว่าทำไมต้องทำเหมือนบังคับซื้ออีบุคอีกรอบทั้ง ๆ ที่ติดเหรียญก็ได้ บางคนขายเฉพาะอีบุคไปเลย ไม่ติดเหรียญในเว็บพอเข้าใจได้ แต่ติดเหรียญแล้วกั๊กตอนพิเศษไปลงแค่อีบุค มองยังไงก็เหมือนบังคับซื้อ เป็นกูคงลงขายตอนพิเศษให้ครบทุกแพลตฟอร์ม เฉลี่ยราคาติดเหรียญกับขายอีบุคพอ ๆ กัน เพราะทั้งซื้อเหรียญซื้ออีบุคก็ลูกค้าเหมือนกัน มีแค่เล่มกระดาษที่ราคาสูงกว่า เพราะต้นทุนมันสูงกว่าอย่างอื่น จะอยู่นาน ๆ อย่าเม้ดเยอะกับคนอ่านดีกว่านะกุว่า ถึงจะบอกล่วงหน้าว่าตอนพิเศษมีแค่ในอีบุค แต่ถ้ากูเป็นคนอ่านก็คงรู้สึกว่า แล้วกูที่ซื้อเหรียญนี่ไม่ใช่ลูกค้ามึงหรอ
>>540 >>541 ขอบใจเพื่อนโม่งมาก กุไม่เคยคิดแง่นี้มาก่อนเลย
คือกุเป็นสายลงตอนพิเศษสนองนี้ดตัวเองน่ะ ไม่ได้มองมันในแง่การตลาดหรือเพิ่มมูลค่าให้อีบุ๊ค
แค่อยากอ่านเรื่องของตลค.ต่อ แบบนอกความดราม่าในเรื่องหลักไรงี้
ก่อนกุออกอีบุ๊คครั้งแรก กุไปส่องตามที่นข.คุยกันในทวิต ว่าติดเหรียญยังไง ขายยังไง
เหมือนในนั้นส่วนใหญ่จะมองว่าถ้าไม่ลงตอนพิเศษในอีบุ๊คที่เดียวแล้วจะขายอีบุ๊คไม่ได้
กุก็ยึดตามแบบที่คนอื่นเขาทำกันมา
แต่พอมาฟังพวกมึงแบบนี้ มันก็คล้ายๆ กับที่กุรู้สึกมาตลอดจริงๆ
ว่า อ้าว แล้วรายตอนไม่ใช่ลูกป๊าเหรอ
ขอบใจมากๆ เพื่อน เดี๋ยวเรื่องใหม่กุลงตอนพิเศษในรายตอนด้วยดีกว่า
>>542 กูบอกเลยพวกในเอ็กซ์มึงดูด้วยคนที่แนะนำมันขายดีหรือเปล่า กูยังไม่เคยเห็นนักเขียนดังๆ ทำแบบที่พวกนั้นว่าเลย มีแต่เอาตอนพิเศษมาแยกเป็นเล่มฟรี ไม่ก็แยกขาย ใครอยากจะอ่านต่อตอนพิเศษก็ซื้อ ไม่อยากอ่านก็ไม่ซื้อก็ได้ หรือว่าลงเฉลี่ยเท่ากันทั้งสองแบบ นักเขียนที่ดังกูว่าเขาทรีตลูกค้าทุกคนเหมือนคนพิเศษทั้งหมดไง คนเลยรักและหนับหนุน ส่วนพวกในเอ็กซ์แขวนเก่ง ตัดพ้อนักอ่านเก่ง มึงเลือกเอาจะเป็นนักเขียนแบบไหนในสายตานักอ่าน
พวกมึงก็น่ารักมากเลย กุคิดถูกจริงๆ ที่มาถามในโม่ง ถามข้างนอกกุกลัวผิดๆ ถูกๆ แล้วโดนด่า 555
ขอถามเพิ่มนะเพื่อน จากที่ไปส่องในทวิตมาเหมือนเดิม
มีหลายคนบอกให้ติดเหรียญแบบซอยตอน ถ้าแต่ละตอนถูกลง คนจะกดซื้อแบบไม่ลังเล
แบบถ้าปกติตอนละ 3k - 4k คำ แล้วตอนละ 4 - 5 เหรียญ
ให้ซอยเป็นตอนละพันคำ ขายตอนละ 2 - 3 เหรียญแทน
แบบนี้โอเคมั้ย? หรือควรขายเต็มๆ ตอนไปเลย เพราะเรื่องที่แล้วที่กุบอกคนซื้อประปราย กุก็ไม่ได้ซอยตอน
เมื่อกี๊วิ่งไปส่องของพวกโลตัสตงกงกับตัวท็อปชญ. ก็เหมือนเขาซอยตอนกัน เป็น 1/3 2/3 อะไรแบบนั้น
บางคนกุเห็นซอยเหลือตอนละ 700 - 800 คำเอง
>>545 แล้วมึงจะพบว่า ถ้ามึงใช้เรทราคานั้นทำรายตอน มึงอัดยังไงก็ทำให้ราคาเท่ากับอีบุคที่คิดจากเรท 0.0020-0.0025 *คำไม่ได้
ของกูรายตอนถูกกว่าอีบุคเกือบ 40% แต่กูไม่สามารถตั้งราคารายตอนอัพไปเกิน 5 บาทต่อตอนได้ กูตั้ง 5 บาทที่ 3200 คำอัพ ตอนปกติอยู่ที่ 1500 -3000 คำ ตั้ง 2-4 เหรียญ
แต่กูถือว่าอีบุคมีความเป็นรูปเล่มถาวรมากกว่ารายตอนอ่ะ ถือว่าเป็นการแบ่งแยกตลาดไปเลย ลูกค้าที่กังวลราคาไปรายตอน ส่วนลูกค้าที่โอเคกับอีบุคก็มาอีบุค กุบอกชัดตั้งแต่ต้นว่ามันถูกกว่า
กูในฐานะนักอ่าน ถ้าเห็นรายตอนราคาเกิน 4 บาทสมองมันจะคิดไปในทางว่าแพงทันที แล้วก็ไม่ได้มาดูหรอกว่าตอนนั้นมันมีกี่พันคำ
แต่ถ้าราคาไม่เกิน 3 บาทแม้ว่าจะมีแค่ไม่กี่ร้อยคำกูก็มองว่าถูกเพราะเลข 3 ในเชิงจิตวิทยาคือถูกกว่าเลข 4 5 แน่ๆ
ดังนั้นกูขอแนะนำว่าซอยตอนย่อยๆ แล้วขายไม่เกินตอนละ 3 บาท และราคารวมควรให้ถูกกว่าอีบุ๊คนิดหน่อยหรือเท่ากันก็ได้ แต่ขอให้มีตอนพิเศษครบอะไรครบเหมือนอีบุ๊ค
Ky มึงว่าการเป็นนข.แล้วไม่ทำตัวเมคเฟรนกับนข.คนอื่น ไม่ค่อยลงมาคุยเล่นกับนักอ่านนี่ดูไม่ดีหรือพลาดอะไรไปป่าววะ
คือกุเป็นพวกสกิลชิทแชทต่ำสัสๆ และขี้รำคาญคนมาก กุเลยกำลังคิดอยู่ว่าควรปรับให้ตัวเองดูเฟรนลี่กว่านี้ไหม
>>551 มึงทำให้กูคิดว่านข.ที่กูเลิกตามคนนึงอาจเป็นแบบมึงอยู่ คือกูเคยชอบงานเขาตามอ่านตามคอมเม้นยาวๆให้หลายเรื่องแต่เขาไม่ตอบกูเลยเว้ย กูเลยรู้สึกคุยคนเดียว เลยไม่คอมเม้นอะไร
แต่เพิ่งไปส่องคอมเม้นเรื่องใหม่...ชีกลายเป็นคนตอบคอมเม้นนักอ่านทุกคอมเม้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ขอบคุณนั่นนี่ ทุกคอมเม้นเลย กูที่เคยโดนเมินเลยงง และหมั่นไส้นิดๆแบบ อ้าวตอบเม้นเป็นแล้วเหรอ555
>>546 >>548 โอเคเลย กุเก็บข้อมูลเรียบร้อย
>>547 ค่อยๆ ลองกันไป กุเป็นกำลังใจให้
ไม่ใช่ไร กุคิดแบบ >>548 เรื่องถ้าคนอ่านแล้วติดพัน เห็นตอนละ 2-3 เหรียญน่าจะกดซื้อรัวๆ จิตวิทยาแบบที่มึงว่า
แต่ในเอ้กกุเห็นเคยมีประเด็นยี้นข.ซอยตอน บอกว่าถ้าเจอตอนละแค่ 800 คำหรือไม่ถึงพันจะเลิกอ่าน
แล้วมีพวกแอครีวิวกับนข.ขาประจำ ngl มาเห็นด้วยกันใหญ่ กุเลยไม่ค่อยแน่ใจว่าจะยังไงดี
แต่เดี๋ยวจะลองแบบที่เพื่อนโม่งว่ามาดู
>>552 คือถ้าอย่างกุอ่ะ กุเป็นดีปทอคได้อย่างเดียว สกิลชิทแชทห่วยมาก ถ้ากุตอบเม้นคือคิดออกแต่ขอบคุณค่ะ หรือไม่งั้นบางอันเม้นเดายาวๆกุอยากตอบยาวนะแต่ถ้าตอบยาวกุเผลอสปอยแน่ ถ้าคิดภาพว่ากุไปไล่ตอบแต่ขอบคุณเหมือนก็อปวางงี้มันดูแย่กว่าไม่ตอบเม้นอีก เลยไม่ตอบ (+กุมองว่าการเม้นคือการสื่อสารทางเดียวแบบไม่ได้อยากให้ตอบด้วย) แต่มุชวลที่เป็นนักเขียนกุเค้าดูเคร่งกับการตอบทุกเม้น บอกกุว่าควรตอบเม้น กุเลยแบบ หรือกุควร?
>>553 มันสั้นจริงนะมึง 800 คำเนี่ย ฟีลมันไม่ใช่แบบกดเปย์รัวๆแล้วสนุกเพลิน แต่เป็นแบบดูหนังแล้วมีโฆษณาคั่นทุก 5 นาที โฆษณามึงอาจแค่รำคาญ แต่อันนี้ทุกครั้งที่รำคาญมึงจะต้องกดจ่ายตังด้วย
สุดท้ายจะกลายเป็นความรู้สึกว่า สามบาทฟินได้แค่นาทีเดียวเหรอวะ ยิ่งถ้าเป็นบทเกริ่น บทเสริม ที่ไม่ใช่ไคลแมกซ์ หรืออะไรกระแทกอารมณ์ ฟีลนี้จะยิ่งชัด เหมือนจ่ายอ่านวิธีเปิดประตู จ่ายอ่านสภาพบ้าน จ่ายอ่านสูตรอาหารงี้อ่ะ
แต่หมวดเรื่องเสียวไม่มีปัญหานี้เลย เพราะเกริ่นนิดเดียวก็ซี้ดซ้าด แป๊บๆก็ตรับๆ บ๊วบๆ อ่ะ จำนวนคำนี้หมวดเรื่องเสียวกินได้งามอยู่
>>554 ในสายตานักอ่านกุอุ่นใจว่ะที่นข.มาตอบ เหมือนที่กุพิมพ์ไปเขารับรู้อะ สารส่งถึง หรือบางคนกุเห็นมากดไลค์ทุกเม้นก็พอเดาได้ว่าเป็น นข.มากด(เช่น ลอล;1medซายกุเห็นเขากดไลค์ทุกคอมเม้น) บางคนก็มาตอบแต่คำถามที่นักอ่านถาม หรือมีเหตุจะเป็นดราม่า(เช่นถามว่าปกเอไอรึป่าว) แต่บางคนก็ไม่ตอบไม่อะไรเลยจริงๆ แต่เอามาพูดถึงในx ซึ่งไม่ตอบก็ไม่เป็นไรนะ มันเรื่องเล็กเท่าจิ๋มมด แต่ส่วนตัวกุนับถือคนที่ตอบทุกเม้น เขาดูแคร์นักอ่านของเขาดี แม้จะซ้ำก็อปวางบ้างแต่ถ้ามึงรู้สึกขอบคุณจริงๆ จะเป็นไรไป
>>555 อันนี้ที่กุบอกใน >>545 กุไปส่องของพวกตัวท็อปชญ.อย่างโลตัสตงกงพวกนั้น เห็นเขาซอยเป็น 3 ตอน ตอนละ 800-900 คำ แต่นั่นเขาน่าจะดังแล้ว แต่กุเขียนไปแค่ไม่กี่เรื่อง ถ้าจะซอยจริงคงตอนละ 1k คำขึ้นแหละ ยังไม่มีคนตามอ่านเหนียวแน่นขนาดนั้น
ส่วนตัวถ้ากุเป็นคนอ่าน กุชอบแบบ 3-4k คำขึ้นไปต่อตอนอย่างที่เพื่อนโม่งว่า มันยาวดี แต่ตอนนี้กุกำลังทดลองหลายๆ อย่างให้รายตอนมันขายเพิ่มขึ้นได้น่ะ
เออ ky ขอถามหน่อย ถ้ากุจะทำอีบุคขาย แล้วแบบกรณีที่กุจะมีสุ่มแจกอีบุ๊คฟรีงี้คือมันจะหักตังกุป่ะ หรือแจกฟรีคือฟรีเลย
>>560 กุไม่เคยอ่านงานเขานะ แต่ที่กุไปส่องๆ มา อย่างของโลตัสตงกง กุจิ้มเข้าไปสองสามเรื่อง ทั้งเรื่องเขาไม่เกิน 1k คำสักตอนเลยเพื่อน ยกเว้นตอนพิเศษท้ายเรื่อง แต่อย่างที่มึงว่า กุเห็นเขาเขียนทุกเรื่องว่าอ่านฟรีจนจบ
ใช่ๆ กุกะว่าจะซอยประมาณนั้นเลยเพื่อน พันห้าขึ้น
ของกุก็อ่านฟรีจนจบนะ ไม่เคยลองติดเหรียญล่วงหน้าเลย อยากลองบ้างเหมือนกัน แต่เขียนไปอัพไปไง ไม่สามารถ 5555
เออ กุอธิบายไม่เคลียร์เองว่ะ 555
ที่ว่าจะลองซอยตอนคำน้อยๆ แบบเขาบ้าง คือกุปล่อยอ่านฟรีจนจบนะ แล้วค่อยติดเหรียญทีหลัง
แบบนี้สรุปจำนวนคำน้อยๆ คือทำได้ใช่มั้ย
>>562 ที่กุบอกว่าอยากลองทำแบบ >>548 คือหมายถึงตอนกุเขียนจบแล้ว ออกอีบุ๊คแล้ว มาติดเหรียญรายตอนน่ะ
คือเท่าที่กุเข้าใจตอนนี้ คนที่ตามอ่านตั้งแต่กุลงแรกๆ จนจบ เขาจะโอเคกับจำนวนคำน้อยใช่มะ เพราะเขายังอ่านฟรีอยู่
แต่ถ้าใครมาเจอเรื่องกุตอนจบแล้ว ติดเหรียญไปแล้ว สมมุติว่าไม่เกิน 1000 คำ 3 เหรียญ
แบบนี้เขาจะยังรำคาญเหมือนที่มึงบอกใน >>555 อยู่รึเปล่าวะ
ถ้าเสียเงินอะ กุมีเหตุให้รำคาญอะไรก็ได้ง่ายๆนะเพื่อน แค่ต้องเลื่อนตอนบ่อยๆ ตัวอักษรเล็ก ช่องไฟห่าง นข.พูดไม่ถูกใจก็เหม็นได้ง่ายๆ กุจะมีความต้องการนั่นนี่เยอะเพราะกุถือว่ากุเสียเงิน555
ซอยสั้นเอาไว้เป็นทริคติดใหม่มาแรงเถอะ ซอยสั้นอ่านฟรีจะไม่รู้สึกเป็นภาระเท่าซอยสั้นแล้วเสียเงิน
แต่คือลงแบบอ่านฟรีตอนแรกไปกี่คำก็ตาม ตอนติดเหรียญหลังจบ มันก็คือตอนเดิมจำนวนคำเดิมน่ะ
ยังไงก็ขอบคุณเพื่อนโม่งทุกคนนะ กุจะลองไปหาตรงกลางดู
นักเขียนดังเขามีฐานแฟนที่มีความเชื่อใจแล้วน่ะ ต้องบอกว่าการวัดค่างานศิลปะนี่ ครส.ส่วนตัวกับแบรนดิ้งมีส่วนว่ะ ถ้าแฟนคลับเชื่อใจ กดซื้อทุกตอนปัญหานี้จะหายไปครึ่งนึง รวมถึงไม่คิดมากกับราคา เพราะเขาเชื่อใจนามปากกาตั้งแต่ต้น ส่วนคนรำคาญเขาจะหนีไปอีบุคกันก็ทำได้เลย
ตลาดมันไม่มีสูตรสำเร็จอ่ะมึง ลูกค้าก็หลากหลาย มึงไม่สามารถพลีสทุกกลุ่มได้ ทำได้แค่วิเคราะห์แล้วลองเลือกมาสักทางอ่ะ แล้ววัดผลสุดท้ายว่าแบบไหนดีสุดผ่านยอดขายอีกที
อยากลองเปลี่ยนแนวเรื่องที่เขียนไปเป็นวายเบทดูจังแฮะว่าจะเป็นยังไง แต่กูดันเขียนให้พระเอกกับพระรองมีเมียแล้วทั้งคู่เนี่ยสิ เฮ้ออออออ แถมเยเย่กันแทบทุกคืนด้วย
>>566 ใช่ๆ กุกำลังอยู่ในช่วงสร้างฐานคนอ่านเลย เรื่องสองเรื่องแรกกุคิดว่าเคารพงานตัวเองดิวะ เลยจัดไปตอนละ 4 - 5 เหรียญ 5555 ตอนนึงมี 3000 คำขึ้น บางตอน 5000 คำ แต่ทีนี้กุปล่อยอ่านฟรีจนจบไง แล้วไม่ได้เขียนตุนไว้ เขียนไปลงไป ตอนได้ขึ้นแบนเนอร์จริงๆ ตรงกับช่วงพีคในเนื้อเรื่องเลย แต่กุดันออกอีบุ๊คไม่ทัน จบ 5555
พอเขียนจนจบแล้วออกอีบุ๊คกุพอใจยอดนะ ได้หมื่นกว่าตั้งแต่เดือนแรก แต่ปัญหาคือรายตอนขายแทบไม่ได้ กุอธิบายไปข้างบนแล้ว >>542 ว่ากุลงตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊ค (บอกตั้งแต่เปิดเรื่อง) กับติดเหรียญแบบที่ว่า จำนวนตอนที่ให้อ่านฟรีหลังติดเหรียญคือ 20% - 30% ของเรื่อง (เหมือนตย.อีบุ๊คที่เม้ดแนะนำว่า 10% ขึ้น) จุดนี้กุจะปรับละ คือลงตอนพิเศษทั้งรายตอนทั้งอีบุ๊ค
ส่วนที่หาวิธีอยู่คือติดเหรียญ >>545 ซึ่งตอนนี้กุเห็นไปทางเดียวกับ >>548 เพราะเห็นหลายคนบอก แต่ก็อย่างที่โม่งบนว่า ในแอค ngl เคยมีประเด็นเรื่องทำไมซอยตอนเยอะ ตอนละไม่ถึง 1000 คำ บางที 800 คนเห็นด้วยเยอะ ในขณะที่กุไปส่องนข.ตัวท็อป อย่างที่ยกตย.โลตัสตงกงว่าก็เห็นเขาทำกัน แต่กุก็เข้าใจว่าเขาติดลมบนแล้ว ที่บอกว่าจะหาตรงกลางคือเรื่องราคานี่แหละ
>>568 กุอธิบายไว้ย่อหน้าข้างบนแล้วเพื่อน ปกติมีตย.อ่านฟรีแบบนี้แหละ แต่ที่หาราคาเหมาะๆ กระตุ้นยอดขายรายตอนในแบบที่กึ่งๆ นูกูแบบกุ กุว่าจะซอยตอนละ 1500 แบบที่มึงว่านี่แหละ
กูอยากติดเหรียญบ้างนะ แต่ยอดคนอ่านกูเฉลี่ยตอนละ 40-50 คนเอง กูเลยไม่กล้าติดจนถึงทุกวันนี้ ถถถถ
ว่าไปไม่ได้เห็นมานานแล้วแฮะ คอมเมนท์ Toxic เข้ามาแขวะนิยายในที่สุดวันนี้ก็มีคนเข้ามาเปิดประเด็นในเรื่องใหม่กูซะที
นี่กูควรดีใจหรือเสียใจดีวะ เพราะปกติไม่มีใครมาคอมเม้นท์นิยายกูอยู่ละ มีแต่นักอ่านเงา ถถถถถ
>>571 ดูทรงละ >>567 เขียนแฟนตาซีปะ เลยอยากขายวายเบท5555
เอาจริงจะมีเมียก็วายเบทได้ เคมีดีคนมันก็จิ้นก็ฟินอะ กูไม่รู้จะยกตัวอย่างอะไร ใครนะผมดำๆที่มีเมียสวยในลอร์ดออฟเดอะริงส์ รักกันขนาดนั้นยังโดนจิ้นกับหนุ่มเอลฟ์555 แต่อันนี้เขาห่างกับเมียด้วยไง มาเจอกันทีก็ฉากสำคัญ เน้นผจญภัยกับหนุ่มๆมากกว่า เอาจริงนะ เรื่องได้กับเมียทุกวันมึงเขียนเพื่ออออ จะวายเบทก็อย่าไปบรรยายคู่ชญเยอะจ้า มีคนชอบมั้ยก็มี แต่บางคนก็จิ้นแบบไม่สบายใจ มึงจะขายตลาดไหนก็ดูดีๆ /ทุบไหล่เรียกสติ
ช่วยกุคิดหน่อย กุจะเขียนให้พอ.เป็นฝ ไม่รวย คนปกติธรรมดา นอ.ก็คนธรรมดา ตามท้องเรื่องคือรักกันฝ่าฟันอุปสรรค ห่างกันคนละประเทศ ตอนจบจะให้นอ.ย้ายไปอยุ่ปท.พอ.แต่กุเสือกคิดไม่ตกเรื่องวีซ่าและค่าใช้จ่ายเพราะทั้งคู่เป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เชื่อเรื่องการทำงาน บ ทั้งคู่ กุกลุ้มเลย หาทางลงไม่ได้ จริงจังป่ะ 55555
>>573 เท่าที่ฟังมึงเล่า กุนึกถึง digital nomad ว่ะ ลองหาช่องยท.ของพวกนี้ดูก็ได้ เที่ยวไปเรื่อยๆ ทำงานด้วยโน้ตบุ๊กแล็ปท็อปเครื่องเดียว จะริมหาด บนดอย ในโรงแรมอะไรก็ได้ เหมือนฟรีแลนซ์น่ะ
เอาเฉพาะฝรั่งนะ พวกนี้ส่วนมากที่กุเห็นจะมีรายได้จากงานฟรีแลนซ์ ช่องท่องเที่ยว แล้วก็โฆษณาที่เข้า ที่เห็นบ่อยๆ ก็พวก vpn service น่ะ
แต่ถ้านอ.คนไทย มึงก็ให้ทำไอที นักแปล นข.แบบมึง 555 หรือกราฟิก อะไรก็ได้ที่ฟรีแลนซ์ แล้วหาอาชีพเสริมเข้าไป ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์หรือเหตุการณ์ในเรื่องน่ะ
วีซ่าถ้าท่องเที่ยว มึงจะทำอะไรก็ได้ ฟรีแลนซ์ก็ได้ ถ้ามีหลักฐานการทำงานจริง เงินพอเลี้ยงตัวแล้วซัพตัวเองตอนไปเที่ยวได้ แต่ถ้าตอนจบจะให้ไปอยู่ปท.ใคร มึงก็ต้องไปดูวีซ่าคู่หมั้นหรือวีซ่าทำงานที่แบบ wfh หรือทำงานทางไกล (remote) ได้
>>572 แฟนตาซีนั่นล่ะ
ช่วงแรกของเรื่องมันก็ออกเชิงวายเบทนะ เพราะคนดำเนินเรื่องมีแค่พระเอก + พระรอง ส่วนนางเอกโผล่มาอีกทีคือช่วงเล่ม 2 ละ
แต่คือที่กูเขียนมาถึงตอนนี้มันไปไกลละไง คู่เอก/คู่รอง มีคู่กันหมดแล้ว แถมเขียนให้ปั้มกันบ่อยด้วย จะให้กลับไปเป็นวายเบทก็คงไม่ทันละ ถถถถ ถ้าจะมีก็คงเป็นแค่โมเม้นท์ Bromance ห่วงเพื่อนเกินตัวอะไรแบบนั้นเท่านั้นล่ะ
พอมาคิดแล้วเสียดายเลยที่เพิ่งมารู้ว่านิยามของวายเบท ไม่ใช่ระดับวายแบบผช. ท้องได้ เพราะกูว่ากูเขียนวายเบทได้ไม่ยาก กูมีเพื่อนสนิทโตมาด้วยกันคนนึงรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเลย ทุกวันนี้ยังคบซี้กันแบบใครเดือนร้อนก็รีบไปช่วย มีเรื่องกลุ้มก็เอามาปรึกษา ไปไหนมาไหนกันสองคนบ่อย ถ้าเอา ปสก. นั้นมาแต่งเติมเพิ่มคงกลายเป็นวายเบทอะ
ทำไมนักเขียนนิยายรักถึงมีแต่ผญ อันนี้กุสงสัยเฉยๆนะ แต่นข ผชกลับไม่มีเลย แบบที่เป็นชายแท้ๆ
>>576 เท่าที่กุเคยเห็น นิยายรักของชายแท้ (ที่ไม่ใช่คนในคอมมู lgbtq ไม่ได้เป็นชายแทร่เบียวหรือ toxic) ส่วนใหญ่จะแนวความรักของวัยผู้ใหญ่ (ถ้าไม่กลางคนไปเลย) เน้นดราม่า พูดถึงคนรักเก่า รักที่ไม่สมหวังไรงั้น คือเรื่องจะออกแนวเนิบๆ ละเมียดๆ น่ะ ไม่ค่อยเห็นชายแท้วัยรุ่นหรือ 20 - 30 เขียนนิยายรักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเพศกำเนิดชายแต่เป็นคนในคอมมูจะเจอบ่อยกว่านะ
>>576 เอาตามหลักวิทยาศาสตร์เลยคือ ผู้ชายไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ขับดันด้วยอารมณ์เหมือนผู้หญิง แต่ใช้เหตุและผลมากกว่า ซึ่งเป็น Biological ไม่เกี่ยวกับการเลี้ยงดู …กูโตมาในบ้านที่มีแต่ผู้หญิง เลี้ยงแบบผู้หญิง กูยังโตมาเป็นชายแทร้เลย ถถถถถ
ซึ่งด้วยเหตุผลนี้เองนิยายที่ผู้ชายเขียนจึงเน้นไปที่เรื่องราว การดำเนินเรื่อง การผูกปมซับซ้อน ทำนองนิยายสืบสวนหรือแนวเวิล์ดบิลด์แฟนตาซีเลย ซึ่งผู้ชายจะถนัดเขียนแนวนี้มากกว่า
กลับกันผู้หญิงจะสามารถสอดแทรกอารมณ์และบรรยายให้เข้าถึงบรรยากาศได้มากกว่า ดึงอารมณ์ร่วมโดยเฉพาะเรื่องรักๆ ได้มากกว่า ทำให้ได้เปรียบในการเขียนนิยายรักมากกว่าในขณะที่ผู้ชายถ้าไม่ออกมาเป็นความรักที่มีลำดับขั้นตอน ก็จะเขียนออกมาเชิงระทมมากกว่าเพราะกระบวนการคิดต่างกัน
ทั้งนี้ใช่ว่าผู้ชายจะเขียนนิยายรักไม่ได้นะ แต่เขียนแล้วจะออกมาได้อารมณ์ร่วมไม่เท่าที่ผู้หญิงเขียน อาจจะต้องใช้จินตนาการและพลังงานในการเขียนมากกว่า
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.