>>489 กูว่าไม่แปลก ผญ. มักจะเข้าใจ ผญ. ด้วยกันว่าต้องการผู้ชายแบบไหน เลยสะท้อนออกมาผ่านพระเอกนิยายไง ส่วนผู้ชายก็เข้าใจว่าผู้ชายต้องการผู้หญิงแบบไหน ผู้ชายเลยมักเขียนโรแมนซ์แบบฮาเร็มไง แต่มันไม่ค่อยปังในหมู่นิยายโรแมนซ์ ต้องเป็นพล็อตแฟนตาซีผสมโรแมนซ์ พวกเจาะเวลาหาจิ๋นซี (เก่าไปปะ กูก็ไม่ค่อยอ่านแนวฮาเร็ม) ถามว่าเกี่ยวกับเพศไหม กูว่ามันเกี่ยว มันเริ่มจากการปลูกฝังคติเรื่องเพศ ตั้งแต่เกิดยันโตอะมึง ผู้ชายก็มี norm แบบผู้ชาย มี gender role แบบผู้ชาย ผู้หญิงก็จะมี norm แบบผู้หญิง ซึ่งถูกปลูกฝังมาต่างกัน
ประเด็นคือคนส่วนใหญ่บนโลกนี้เป็น monogamy แต่ด้วยคติเรื่องเพศผู้ชายหลายลึกๆ แล้วอาจอยากเป็นพวก polygamy (ผัวเดียวหลายเมีย) มันเลยสะท้อนออกมาผ่านการมีฮาเร็ม แต่ฐานนักอ่านโรแมนซ์ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ซึ่งจริงจังกับเรื่องผัวเดียวเมียเดียวมากกว่า (เพราะสำหรับผู้หญิงการมีหลัวหลายคนมันผิดบาปกว่าผู้ชายมาก) โรแมนซ์แบบฮาเร็มเลยไม่ค่อยฮิตในหมู่นักอ่านโรแมนซ์เท่าไหร่ หรือถ้ามีนักเขียนผู้ชายคนไหนไม่ได้เขียนแนวฮาเร็ม มันก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ตัวพระเอก หรือ story ความรักระหว่างพระนาง มันยังไม่ตอบโจทย์สิ่งที่นักอ่านผู้หญิงต้องการ (ไม่ได้ตัดสินว่าดีหรือไม่ดีนะ)
กูเห็นนักเขียนผู้ชายเขียนเรื่องรักใคร่ๆ แล้วฮิตคือออกแนวกึ่งๆ ปรัชญาไปเลย แบบมูราคามิ (แต่สำหรับกูมูราคามิก็เวิ่นเว้อชิบหาย) คือไม่ได้อ่านเอาสนุกวาบหวิวฟินจิกหมอนแต่อ่านแล้วมีประเด็นอะไรให้คิด เหมือนอ่านวรรณกรรมคลาสสิคอะ ไม่สนุก แต่ปวดสมอง กูคิดว่าอย่างนั้นนะ