Last posted
Total of 552 posts
แล้วนี่คือกุกำลังจะเริ่มเขียนเรื่องใหม่เลย ถ้าเพื่อนโม่งจะกรุณา พวกมึงช่วยแชร์แต่ละขั้นตอนการเขียนกับระยะเวลาคร่าวๆ ให้กุเป็นวิทยาทานหน่อยได้มั้ย แบบตั้งแต่พล็อตปิ๊งมาในหัว ใส่รายละเอียดคาร์ วางโครงเรื่อง ทรีตเมนต์ (ถ้ามี) เขียนจริง อะไรแบบนั้นน่ะ
>>349 สองสามเรื่องแรกกุได้ป้ายแดงแหละ แต่เรื่องล่าสุดตอนลงรายตอนทุกอย่างไต่ขึ้นเรื่อยๆ ตอนได้ขึ้นแบนเนอร์คือรายตอนคนอ่านคนเม้นทะลักทลายมาก แต่ความที่กุเขียนตามอารมณ์แล้วไม่ได้ตุนตอน สุดท้ายกุลงช้าทิ้งช่วง คนก็ค่อยๆ น้อยลงตั้งแต่ตอนนั้น พอขายอีบุ๊คก็ได้เงินเป็นหมื่นนะ แต่ขายได้แค่เดือนสองเดือนแรกว่ะ จนตอนนี้เป็นปีละกุยังเขียนเรื่องใหม่ไม่เสร็จ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาว่าจะเอาพล็อตไหนดี พอจะเริ่มลงมือเขียนก็กังวลยอดขายอีก
กุอยากเขียนเรื่องแนวคล้ายผัวโบ้ คือ พอ.เจอ นอ.แล้วชอบแต่ยังติดสนุกกับชีวิตเลยปล่อยหลุดมือไป แยกแบบสงบๆ ไม่ใช่ไม่เผาผีกัน มีคิดถึงเป็นระยะเพราะตามโซเชียลกันอยุ่ตลอด แล้ววนมาเจอกันอีกทีค่อยรุ้ตัวว่าที่จริงคนนี้รุ้สึกพิเศษมาก ค่อยๆ ยอมปรับตัวลงจน นอ. ให้โอกาสเริ่มจีบอีกครั้ง (ติดสนุกที่ว่าคือรักอิสระ เที่ยวรอบโลก ไม่คิดลงหลักปักฐาน มีได้กับสาวๆ อื่นบ้างแบบเรียลๆแต่ไม่ใช่เมนที่เขาไม่ยอมหยุด) แต่กุรุ้สึกว่าคนอ่านน่าจะยี้แฮะ มีตย.เรื่องที่เขียนราวๆ นี้แล้ว พอ ไม่โดนด่าเยอะมั้ย
>>352 ถ้าได้กับคนอื่นระหว่างที่เลิก มึงต้องพร้อมรับแรงปะทะนะ
มีเรื่องนึงเลิกทั้งที่ยังรักนั่นแหละพอห่างกัน พระเอกไปได้กับคนอื่น(แบบคบเพื่อxxxเฉยๆฝ่ายหญิงได้เงิน) คนอ่านผิดหวังมากกกกก ลดดาว เมลไปหานข. คอมเม้นประเด็นนี้ท่วมท้น บ้างรับไม่ได้ แต่คนรับได้ก็มีนะเยอะด้วย เป็นความเจ็บช้ำฝังใจของคนอ่านที่หวงอยากให้พระเอกxxxกับนางเอกคนเดียว
ประเด็นนี้นักอ่านบางคนเป็นทรอม่าแผลในใจเลย แบบระแวงนข.คนนี้ไปเลย ส่วนที่ว่าเลิกกันแล้วไปได้กับคนอื่นแล้วไม่โดนด่าเยอะกูนึกถึงพระเอก ลัก , พอนพะจันซ่อนเลิฟ
กุคิดไว้ประมาณ >>356 คือเริ่มจากตอนกลับมาเจอกันนี่ล่ะแบบโตๆ ดันแล้วเลยพูดเล่นได้ว่าดีแล้วเมื่อก่อนเราไม่ได้ฝืนคบกันเพราะไม่งั้นคงจบไม่สวยเกลียดกันไปทั้งคู่ แล้วถ้าเกิดทีแรกก็ไม่ได้คบกันแล้วเลิกอ่ะ แค่แบบชอบๆ กัน มากสุดจูบๆ นัวๆ แต่ห้ามใจทันแล้วพอ.หนีไปปท อื่นเลยงี้
ถามหน่อย พระเอกแบบไหนที่คนอ่านรับไม่ได้กัน หรืออ่านแล้วรู้สึกหงุดหงิดขัดใจบ้างวะ?
กูว่าอยากจะลองเขียนแนวพระเอกสถุนถ่อยแบบขีดสุดตอนต้นเรื่องดู แต่อยากรู้ว่าคนอ่านมีการขีดเส้นเอาไว้ถึงไหน
*เอาผู้ชายอื่นต่อหน้าเมียก็ด้วย
มึง มึงอย่าดูถูกนักอ่าน ขนาดเลิฟษ์ของ >>354 กุยังเห็นด่าอยู่เนืองๆ ตามแพล้ตฟอร์มอื่นที่ไม่ใช่รีวิวในเม้ดตรงๆ อะนะ 555 เรื่องเย้กสาวอื่นระหว่างเลิกกันนี่แม่งเรื่องใหญ่ เอาดี รู้แหละว่าเรียลแต่ในนิยายคนรีเควสความขายฝันว่ะ เป็นพระอิฐพระปูนไม่แตะไม่มองสาวอื่นได้ยิ่งดี
>>358 เอาแบบรับไม่ได้เลยคือนอกกายนอกใจเนี่ยแหละมึง ง่ายสุด แต่ๆๆๆ บางคนมันยังให้อภัยได้ ถ้าเอาแบบ dealbreaker เลบมึงต้องให้แม่งเหี้ยสัสๆ เห็นแก่ตัว สันดานชายแท้ หรือตบตีเมีย แต่มึงจะไหวเรอะ นักอ่านจะยี้เอานะ 555555 หรืออยากได้แบบสถุนแต่กลับตัวกลับใจ
เรื่องเรตติ้ง2kของโลตัสตงกง พระเอกไปอาบอบนวด แต่ไม่ได้มีอะไรกับใครนะแค่ไปนวด คนยังด่าเลย แต่คนให้อภัยก็เยอะเพราะถึงไปอาบอบนวดแต่ไม่นอกกาย เรื่องนอกกายคือเรืรองใหญ่ ถ้ารู้ว่านิยายเรื่องไหนมีประเด็นนี้ หลายคนจบเลย ไม่ให้ไปต่อ ไม่ฝืนอ่านให้เสียอารมณ์
ky เพื่อน กุชอบอ่านฟีลกู้ด slice of life daily life ไรงี้นะ แต่เขียนเองจับทางไม่ถูกเลย ปกติเป็นสายดราม่าตับแตก อะไรคือเคล็ดลับการเขียนแนวที่ว่ามาแบบให้มันมีอะไร น่าติดตาม ไม่น่าเบื่อวะ
>>358 ถ้าเอาแบบสถุนแต่รับได้ มีพัฒนาการตัวละคร มึงลองอ่านพิดพันทะกาน ของ อชร. สปอย.....................พระเอกตอนวัยรุ่นคือชีวิตเหลวแหลกจัด ปากหมา ขี้โมโห ติดเพื่อนเลว ๆ เล่นยาด้วย มีคบกับสาวอื่น (แต่ยังไม่คบกับนางเอก) แต่พอเจอจุดเปลี่ยนกลายเป็นผู้ใหญ่นิ่งขรึม แดดดี้แส้บ ๆ นักอ่านกรี้ดลืมความเปรตตอนวัยรุ่นหมด ส่วนตัวร้ายก็เหี้ยแบบเหี้ยสุดตีน แต่ก็ยังมี redemption ark คนอ่านให้อภัยได้ (?) สำหรับความขมปี๋กูสะใจอยู่
>>364 สำหรับกูคือคาร์เลยเพื่อน พื้นฐานยืนหนึ่ง ถ้าคาร์พระนาง / ไดนามิคความสัมพันธ์น่าสนใจก็น่าอ่านแล้ว แต่ก็ลางเนื้อลางยาอะนะ
>>366 ไม่ชอบเหมือนกัน ตามโม่งบน คือเก้ท เข้าใจ แต่ไม่ชอบไง ง่าย ๆ คนไม่คิดอะไรก็มี แต่กาหัวไว้เลยว่ามีคนไม่ชอบแน่ ๆ (เช่นกูและคนอื่น ๆ) อย่าว่าแต่ค่อย ๆ ลดเลย เอาแค่ในเรื่องมี hint หรือมีซีนพระเอกได้กับคนอื่นสักเสี้ยวเดียวต่อให้มีเหตุผลอะไรรองรับก็มีคนไม่เคอยู่แล้วว่ะ ฟีลเดียวกับนางเอกซิงอะแหละ อย่างที่บน ๆ ว่า บางคนมันโหยหานิยายขายฝันชีวิตนี้มีแต่เธอคนเดียวน่ะ ชีวิตจริงเรียล ๆ เป็นไงช่างแม่งเหอะ อ่านนิยายอยากได้อะไรที่ escape from reality ใด ๆ มึงมีสิทธิ์เขียนนะ แต่นักอ่านก็มีสิทธิ์คิดเห็นเหมือนกัน ช่วยไม่ได้หรอก อยากเพลย์เซฟหรืออยากตามใจฉันก็เลือกโลด
ขอบใจสำหรับคำตอบทุกคนมากเลย
ตอนนี้หนักใจล่ะ เพราะตอนแรกตั้งใจจะกำหนดให้พระเอกทรงแบดๆ หน่อย ก่อนเจอนางเอกจะให้มีซื้อกินอยู่บ่อยๆ หลังเจอกันแต่ยังไม่ได้คบก็มีแวะไปบ้างก่อนจะค่อยๆ ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นอะไรทำนองนี้
แต่ถ้าหลายคนว่ามันไม่โอเค กูคงต้องเปลี่ยนแล้วล่ะ ฮืออออ
>>371 เอาจริงมีคนโอเคนะมึง เคยเห็นแนวนี้อยู่บ้าง นข.ดัง ขนาดคนยี้พระเอกธงแดงยังอ่านแล้วอวย คือถ้าใจมันอยากเขียนก็เขียนเหอะ มีพล็อต มีไฟ สตอรี่คู่นี้ต้องเวย์นี้เท่านั้นก็เอาเลย ไม่มีใครสารภาพออกมาตามตรงหรอกว่าชอบ/รับแนวนี้ได้ ถ้าเขาอ่านได้เขาก็ซื้อเอง โอ๋ๆ แล้วแต่มึงเลย555
พูดถึงแนวธงแดงแล้ว อยู่ๆ กูนึกย้อนถึงสมัยตอนกูยังเป็นวัยรุ่นๆ สมัย F4 ฉบับไต้หวันเลยแฮะ
จำได้คือสมัยนั้นนางเอกแม่งโดนพวกตัวเอกกลุ่ม F4 บูลลี่ เพราะไปตั้งตัวกันเป็นศัตรู พระเอกลูกคุณหนูแบ็คใหญ่โตใช้อำนาจข่มเหงคนอื่นงี้ หลอกนางเอกไปทำให้ขายหน้างี้ ฯลฯ ชายแทร้ที่ไม่น่าคบอย่างยิ่ง แต่กูจำเนื้อเรื่องไม่ได้ละว่าทำไมหลังๆ มันถึงไปได้ลงเอยกันวะ ถถถถถ
>>374 กูจำของไต้หวันไม่ได้แล้วว่ายังไง แต่ตามต้นฉบับคือได้เห็นความดีเลยเปิดใจให้กัน คือนางเอกมันชอบพระรองเพราะเป็นคนเดียวที่ดีกับนางท่ามกลางสภาพแวดล้อมห่าเหวนั่น แต่พระรองมันมีคนที่ชอบอยู่แล้วนางเอกเลยอกหัก พระเอกมันก็รู้ว่านางเอกชอบพระรอง เห็นนางเอกอกหักเลยปลอบ นางเอกทำใจได้ มูฟออนแล้วเชียร์อัพให้พระรองไปสารภาพรักกับคนที่ฮีชอบ ช่วงนี้พระเอกก็จะเริ่มทำให้หัวใจนางโดขิมั่งละ แต่ยังอยู่มู้ดเศร้าที่อกหักเลยยังไม่ได้อะไรมาก
ทีนี้มันมีตัวร้ายที่เคยมีความแค้นกับพระเอกมาเล่นงานนางเอก ทำลายชื่อเสียงนางเอกในโรงเรียนทำให้นางดูเป็นอีร่านจับปลาสองมือหลอกพระเอกแล้วโดนรุมแบนแบบตอนเข้าเรียน ทีนี้นางเอกโดนจับไป พระเอกมันเลยเอาตัวมาปกป้อง บอกนางเอกไม่เกี่ยว ตัวร้ายมันเลยเสนอว่าถ้าพระเอกยอมโดนกระทืบแต่โดยดีมันจะปล่อยนางเอกไป พระเอกก็ยอมโดนยำตีนไม่โต้ตอบซึ่งผิดนิสัย แต่เพื่อนๆแก๊งค์ F4 มาช่วยทัน แล้วก็นั่นล่ะ นางเอกเลยยอมเปิดใจให้ กูอ่านนานแล้ว ถ้าความจำผิดเพี้ยนกูก็ขออภัย
>>374 โคตรเก่า ถ้ากุเล่าจะฟ้องอายุมั้ย
คือนางเอกมันสู้ สู้แบบวลีพี่ก้องอ่ะมึง "กูไม่ออก ออกแล้วกูจะเอาไรแดก!" ประมาณนั้นแหละ จนพระเอกมันติดใจความแกร่งความแปลก แล้วก็ไปหลงรักขึ้นมาแบบไม่รู้ตัวนั่นแหละ
แต่เอาจริงๆที่การบุลลี่นอ.เจอแรงนะ ถ้าไม่ฉาบความโปกฮาเข้าไปมันจะกลายเป็นฟีล มังงะเรื่อง LIFE (ใช่ชื่อนี้ป่าววะ)ที่สะท้อนปัญหาการบุลลี่ในรร.ญป.ที่โคตรจะแรงแทน
Kyถ้ากูทำนิยายขายคู่ แต่มีคนมาขอซื้อเดี่ยวกูไม่ขาย มันก็สิทธิ์กูใช่ไหมวะ กูไม่การตลาดอะไรทั้งนั้น แค่อยากให้ลูกกูไปพร้อมกัน ขายไม่ออกก็อยู่ด้วยกัน
เพิ่มหน่อย สมมติ ขายคู่ แต่กูแม่งไม่ชอบงานอีกคน ค่อนไปทางยี้ ถ้ามาบังคับขายคู่ กูเทแม่งทั้งคู่ไปเลย
>>377 สิทธิ์มึงแหละ แต่คนอ่านก็มีสิทธิ์เทเหมือนกันนะ
ถ้าถามกูคือไม่ชอบอ่ะ ต่อให้งานคนเดียวกันแต่มันก็ต้องมีจุดที่ชอบไม่ชอบในเรื่องต่างกันออกไปอยู่ดี กุจะเสพแล้วกรี๊ดแต่อันที่กุชอบไม่ได้เหรอวะ ทำไมต้องฝืนอ่านคู่
มันก็ขึ้นกับสถานการณ์ บางทีกุก็เฉยๆรอคนเอามาปล่อยแยกได้(ถ้าเป็นเล่มปกติมักจะมี) แต่ถ้าให้ความรู้สึกถึงขนาดที่ว่าคนเขียนบังคับกูจังวะ ทางเลือกไม่ให้กุเลย หยิ่งติสท์เหมือนกูไปขออ่าน นี่กูเททั้งนามปากกาเลยล่ะ
จริง สิทธิ์ของนข.ติสต์ สิทธิ์เทของนักอ่านเหมือนกัน 55555 แบบนี้เรียกไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายได้มั้ง แต่ก็ต้องรู้ไว้แหละว่ามันนับเป็นการไล่แขก อะไร 'เยอะ' ทำนองนี้มันมีคนเหม็นอยู่แล้ว เหมือนร้านอาหารเรื่องมาก ไม่ซื้อแม่งละ
คนเดียวกันเว้ย เรื่องจักรวาลเดียวกัน กูกะทำเก็บเอง ขายแต่ebook ก็มีคนมาขอให้ทำเล่มขาย กูก็เลยทำเผื่อให้ ไม่เยอะ แต่พอมีคนอื่นรู้ก็จะมาขอแยก ซึ่งกูไม่ได้คิดจะแยกตั้งแต่แรก
ขอบคุณพวกมึงนะ กุไม่รู้ตัวจริงๆว่าแบบนี้คือติสต์ อินดี้ กุแค่สะดวกขายแบบนี้ ใครไม่สะดวกก็ผ่านกันไป 555
นี่แหระ นี่แหระเหตุที่ต้องมีคนช่วยให้คห.เวลาทำอะไร ไม่ว่าบก, เบต้ารี้ด, ผู้ช่วยอื่นๆ เวลาลุยเดี่ยวแล้วมันจะไม่ทันตระหนักอะ อย่างกุเวลาเผลอเขียนอะไรบ้งๆ ถ้าไม่มีเพื่อนมีบก.คอยรีเช้คปล่อยงานออกไปโดน แรงกระแทกทีคือเสวเลย 5555 แม่งบางอย่างก็เผลอมองข้ามจริงๆ ฟีลต้องมีพิสูจน์อักษรแก้แหละ เจ้าแม่สะกดเป๊ะแค่ไหนตรวจเองเพลินเกิน อ่านข้ามคำผิดเบิ้ด
ว่าไปเบต้ารี้ดกูแม่งอู้งานแน่ๆ ส่งไปให้แล้วแม่งบอกแค่ว่าสนุก โอเค ยอดมาก อวยคมกูซะดิบดี
พอปล่อยงานออกไปจริงแม่งกริบ ทำเอากูเสียเวลาเขียนไปตั้งเยอะ
Ky เพื่อนโม่ง ถ้าส่งไฟล์อีบุ๊กให้เมพวันอาทิตย์ประมาณสี่โมงเย็น จะได้วางขายหลังเที่ยงคืนวันนั้นเลยป่าว
ว่าไปขอถามเป็นวิทยาทานหน่อยโม่ง ถ้าสมมุติว่ากูเขียนเรื่องหนึ่งแล้วมันควบอยู่หลายหมวดนี่ ควรใช้อะไรในการเลือกดีว่าจะลงหมวดไหน
อย่างเช่นเรื่องเป็นแนวรักดราม่า + โศกนาฏกรรม เรื่องดำเนินอยู่ในโลกแฟนตาซี เซ็ตติ้งเป็นยุคขุนนางพรีเรียด แล้วในขณะเดียวกันก็เป็นนิยายวายด้วยงี้
>>390 เอาแบบตามสามัญสำนึกของกูไม่การตลาดนะ
ดูแกนหลักของเรื่อง ว่าเน้นไปที่เอเลเมนต์ไหนมากกว่า เช่น เส้นเรื่องหลักคือรักดราม่าของผู้ชายสองคน ไม่ว่าจะเซตติ้งไหน ไปหมวดวาย
ถ้าไม่เน้นรัก แต่เน้นการผจญภัย/ใช้ชีวิตในโลกแฟนตาซี มีเลิฟไลน์เป็นแบคกราวด์ ก็ลงแฟนตาซีได้ แล้วแปะหมวดรองเป็นวาย
Kyมีวิธีรับมือกับความอ่อนไหวใจบางของนักเขียนไหมวะ คนอ่านทักถาม คำที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ นข อธิบายแล้วแต่ก็คิดว่าเป็นความผิดตัวเอง ปิดเรื่องหนีไปเลย
ต้องขายดีขนาดไหนวะ ถึงเรียกว่านขชื่อดังได้ ถ้าเคยได้ทำซีรี ละคร นับไหม
>>394 ไม่มี เรื่องปัจเจกสุด ๆ สุดแล้วแต่บุญแต่กรรมว่าจะเจอนข.ใจหินโดนด่ายับแต่ยิ้มไหว้ย่อหรือนข.ใจบางเป็นซึมเส้าเซ้วเอสตีมต่ำ
>>395 แล้วแต่บาร์คนอีก แต่ได้ทำละครปังเปรี้ยงเรื่องเดียวก็ไม่ใช่ว่าคนจะรู้จักกันถ้วนหน้นะ ต้องยอดแบบเรตติ้งถล่มทลายคนจำนามปากกาได้นั่นแหละ ส่วนตัวกุสมัยก่อนใช้บาร์ถามมักเกิ้ลแล้วคุ้นๆ, นามปากกาติดหูติดตา, มีผลงานเยอะจัดเกลื่อนร้านนส.? พวกชั้นครู ฯลฯ
เพื่อนโม่งกุสงสัยว่าเวลานักเขียนเปิดเรื่องไว้ แต่ยังไม่ได้ลงซักตอน แบบนี้มันจะไม่เสียโอกาสขึ้นใหม่มาแรงเหรอวะ ปกติมันนับตั้งแต่วันเปิดเรื่องเลยป่ะ หรือนับวันที่ลงตอนแรก
ky กุเครียดมาก ตอนนี้เดดไลน์จี้ตูดกุแบบหายใจรดต้นคอเลย แต่กุไม่ลงมือเขียนซักทีเพราะกุกลัวมันออกมาได้ไม่สนุกไม่ดีเหมือนที่กุตั้งใจไว้ เพื่อนโม่งช่วยโอ๋หรือช่วยด่าให้กุแจ้นไปเขียนไฟลุกที
>>401 เป็นกันทุกคนมึง แต่เราต้องผ่านมันไปให้ได้ นี่คือบททดสอบชีวิตของมึงแล้ว งานทุกงานมีส่วนยาก และนี่คือส่วนยากมากกกของงานเขียน มึงต้องสู้กับมัน ต้องแข็งใจทำ แล้วมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน เหมือนมึงอ่านหนังสือไปสอบ หัดขี่จักรยาน หัดขับรถ หัดว่ายน้ำ มันไม่มีทางดีเลิศตั้งแต่แรก มึงก็ต้องทำไปทั้งอย่างนั้นแหละเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้น ไปเว้ย ไปสู้
>>401 มันมาถึงเดดไลน์ขนาดนี้ละ รออารมณ์ไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะเดี๋ยวมึงก็มารู้สึกผิดทีหลังอีกว่าเขียนไม่ดี งั้นก็เหลือเป้าเดียวให้ตัวเองภูมิใจละว่าต้องทันเดดไลน์ วินัยเท่านั้นมึง หายใจเข้าหายใจออกก็ต้องเขียนออกมาให้ได้ เรื่องใหม่ค่อยจัดเวลาใหม่ แต่เรื่องนี้ยังไงก็ต้องปั่นให้เสร็จทันเวลา!
ky ถ้ากูกดขอให้เม้บทำนิยายเสียงให้ไปแล้ว กูต้องทำอะไรต่อไหมวะ สมควรถามเขาไหมว่าเรื่องกูจะได้ทำเมื่อไร ยังไง
Ky พวก สมมติว่ามึงมีนามปากกาเก่า ซึ่งก็ขายดีแหละ แต่อาจจะเผลอทำไรสักอย่างบ้งละโดนนักอ่านบางส่วนสาปถึงขั้นขอเลิกตาม มึงอวตารถอดร่างไปเปิดนปก.ใหม่ ทีนี้ปังเปรี้ยง ประวัติขาวสะอาด ขณะนั้นมึงจะยังกลับไปอัปเดตอะไรในฐานะนปก.เดิมมั้ยวะ หรือปล่อยแม่งร้างไปเลยเหมือนตายไปจากโลกนี้แล้ว พอดีกุเห็นนข.ขายดีบางคนเคยออกงานสม่ำเสมอแล้วจู่ ๆ ก็หายไปเลย ไม่บอกไม่กล่าวไม่มีอัปเดต ละไปนานละเป็นหลายปี ไอ้กุก็มโนแจ่มไปดิ พส.อวตารแล้วปะว้า 55555
>>409 กลับไปทำไมอะมึง5555 กลับไปก็โดนด่าดิ เนียนๆอยู่นปก.ใหม่อะดีละ มีเยอะด้วย มึงจะลองมโนก็ไม่เสียหาย ตามบายเลยเพราะเกิดขึ้นจริง แค่จะเกิดขึ้นกับนักเขียนที่เราชอบมั้ยอันนี้ก็อีกเรื่อง
เอาจริงถ้าเปิดนปก.ใหม่แล้วยังดังคือโชคดีมากนะ สำหรับกูยุคนี้เขียนดีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีดวง มีโชค สู้กับยอดเอนเกจอันน้อยนิด กูเห็นคนดังๆบางคนเขียนพระนางนิสัยเดิมๆ อีเว้นท์จีบกันเริ่มดูซ้ำๆ มีการรียูสในเรื่องใหม่เยอะแยะ แบบที่ถ้าเริ่มตะลุยอ่านเรื่องเก่ามาเรื่องใหม่คือจับจุดได้เลยด้วยซ้ำเพราะเขียนมานาน แต่อยู่ได้เพราะเป็นคนแรกๆที่เขียนลงเว็บแล้วแฟนคลับเหนียวแน่น ได้เป็นคนแรกของนักอ่านหลายคนพอดี เขาไม่อยากไปหานักเขียนคนอื่นเฉยๆ (บางคนบ้งหนักถึงขั้นโกงเลยไม่ยอมทิ้งโซเชียลเดิมของตัวเองไปไง เพราะยังต้องหากินกับแฟนคลับเก่าอยู่ อย่างน้อยคนรีไปด่ายอดรีมันก็หอม)
>>408 ตลาดนิยายเสียงเป็นไงวะ มีคนสนใจเยอะมั้ย
กูเป็นคนนึงที่รู้สึกว่าฟีงนิยายเสียงไม่ไหวเลย ชินกับการอ่านแล้วจินตนาการเอง พอมีเสียงแล้วรู้สึกเสียงมันขัดมูด ผสมๆชวนให้นึกถึงละครวิทยุสมัยคุณย่าคุณยาย แต่น่าจะดีกับคนสูงอายุที่อ่านไม่สะดวก
กูเคยไปอ่านหนังสือให้คนตาบอด แต่กุฝึกไม่ผ่าน ไปสามครั้งไม่ผ่านสักที ท้อ ไกลด้วยสุดท้ายเลยเลิกไป
นข.ที่กุรู้จัก ทุว้าฎารา เขียนเองอ่านเอง ครบจบไม่ต้องรอใครมาพากย์ และเข้าใจอารมณ์ตลค.สุด รับเงินเต็มๆ เสียงโคตรน่ารักนางฟ้านางสวรรค์ด้วยมึง ลองไปฟังจะตกหลุม
>>414 เข้าใจไม่ผิดหรอก กูรู้ว่ามีคนกลุ่มอื่นฟังด้วยในแบบที่มึงว่า แต่กูไม่รู้ตลาดมันกว้างขนาดไหน เลยถาม 408 ที่น่าจะเคยเล่นในตลาดนี้แล้ว ส่วนในรีกูพูดถึงครส.ส่วนตัวที่มีกับนส.เสียง และคห.ในแง่ว่ามันดีกับกลุ่มสูงอายุที่สายตาเริ่มมีความเสื่อม ไม่ได้หมายความคลุมทั้งหมดว่ามาร์เกตมีแค่ผู้สูงอายุ
>>411 >>416 ถ้าถามว่าตลาดนี้เป็นไง กูก็จะตอบว่าไม่รู้อะไรเลยว่ะ กูไม่ได้ช่ำชองตลาดหนังสือเสียงเลย หนังสือเสียงของกูไม่ได้ยอดเยอะเท่าไร ขนาดจัดโปรลดแล้วลดอีกก็ไม่กระเตื้องเลยมึง ฮ่าๆ
อ้อลืมบอก ตรงการกำหนดว่าจะร่วมโปรลดราคานี่เรากำหนดได้เองเหมือนเป็นอีบุ๊คของเราเลย ดูยอดขายอะไรก็ทำได้เหมือนอีบุ๊ค แค่ตอนเอาไฟล์ลงขายพรี่เม็ดเขาจะทำให้
พูดถึง NC ถ้ากูติด Tag NC เอาไว้ แต่ไม่เน้นขายเนื้อหาเสว แค่มีเนื้อหา NC ราวๆ เล่มละ 1-3 ตอนเองนี่กูยังควรติดเอาไว้ปะวะ?
Kyเวลาส่งไฟล์ให้พิสูจน์อักษร มันเยอะมากกก เพื่อนโม่ง ส่งทางไหนกันเหรอ อีเมล? หรืออะไร
ขอบคุณล่วงหน้า🙏🏻
ติดไว้เพื่ออะไรล่ะ
ถ้ากะขายคนหาฉากเรท สามฉากจากเนื้อหาเป็นเล่ม แถมไม่เน้นขายเสว น่าจะไม่ทันใจและไม่มากพอตอบสนองคนที่ตั้งใจหาแนวนั้นอ่านหรอก
ส่วนถ้าจะเอาไว้เตือนคน ถ้าฉากมึงมันล่อแหลมมากจริง +เป็นncด้านอื่นที่ไม่ใช่ด้านเสว แปะ 18+ ติดบัตร ไปเลยตรงจุดกว่านะ
ความหมาย nc ของนักอ่านก็เพี้ยนไปเป็นเฉพาะฉากเยแบบจัดหนักจัดเต็มคำตรงๆเกลื่อนไปแล้วด้วย
ส่วนตัวคิดว่าถ้าอยากติดเพื่อบอกว่ามีเลิฟซีนแบบบรรยายการแทงอยู่นะก็ติดไปได้ แต่มันไม่ค่อยให้ผลทางการค้นหาเท่าไหร่ถ้ามึงไม่คิดขายเสว มันเป็นแท๊กที่กว้างมากน่ะ
ความย้อนแย้งคือ เขียนนิยายมี nc แต่ไม่แปะบัตรกันเต็มเวบ คือ no childern allows แบบใด?
ky พี่หรือน้องตัวเอกตายไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่กูยังเอาความตายของเขามาขยี้ใจตัวละครซ้ำๆ ต้องติด TW มั้ย อยากรู้ว่าคิดกับประเด็นนี้ยังไง มันร้ายแรงถึงขั้น trigger คนเคยสูญเสียครอบครัวเลยหรือเปล่า คือถ้าข่มขืนกับล่วงละเมิดกูพอเข้าใจ ติด TW แน่ๆ แต่ความตายในอดีตของคนคนนึงที่ยังตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในใจตัวละคร ต้องติดมั้ยนะ
>>422 ขึ้นอยู่กับกลุ่มตลาดมึงคือใคร ถ้าตลาดหลักขายพวกป้าๆในเฟซแนวรักหรือโรมานซ์จ๋าๆไม่ต้องติดก็ได้ กูอ่านเรื่องล่าสุดนิยายที่ป้าๆหลายคนรีวิวไว้ นางเอกคิดถึงพ่องที่เป็นลมตาEไปต่อหน้าแทบทุกบท นึกถึงพ่อตลอด นิยายไม่ติดtwประเด็นนี้ และไม่มีใครมองว่าเป็นเรื่องสำคัญก็แค่นางเอกเศร้าที่พ่องตาEและคิดถึงขึ้นมา
แต่ๆๆๆถ้าตลาดหลักของมึงคือx กูไม่รับประกัน พวกนักฉอดในxมันใจบางทุกอณู
>>423 แต๊งจ้า เคยไปส่องหลังบ้านกลุ่มคนอ่านก็ดูสูสีไล่เลี่ยกัน555 กูลังเลจะติด TW ดีมั้ยเพราะอยากหลอกคนอ่านว่าพี่น้องตัวเอกยังมีชีวิตอยู่ แล้วค่อยมาเฉลยกลางเรื่องแบบเซอร์ไพรส์ว่าตายไปสักพักแล้ว ขยี้ด้วยฉากย้อนอดีตไปถึงงานศพกับความดีที่อีกฝ่ายเคยทำอีกสักหน่อย ถ้าติดคือเฉลยแน่ โอเคตัดสินใจละ กูไม่ติดละกัน อยากได้น้ำตา
มึง คนเขียนสั้น ๆ ≈60-80k คำนี้เขาเขียนกันยังไงอะ 55555 ของกุแค่ bg พระนางก็ยาวแล้ว ช่วงจีบกัน ช่วงเดินเรื่อง แก้ปม ซีนตัวละครอื่น ฯลฯ อย่างน้อยต้องทะลุแสนคำ กุยังเขียนไม่สะใจเลย เขียนน้อย ๆ มันยัดพอเหรอ หรือต้องคัดแต่เนื้อเน้น ๆ ;-;
อยากถามว่าถ้ากูอยากเขียนแนวแฟนตาซี ตัวเอกหลักเป็นผู้หญิง ตัวเอกรองเป็นผู้ชาย ดำเนินเรื่องคู่กันยังจบ แต่มันไม่ได้คู่กัน เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากเฉยๆ (นึกภาพโตะเกะ คิรัวกอน ไรประมาณนั้นที่คสพ.ดูส่อสัสๆแต่เป็นโบรแม้น) แล้วนางเอกมีผัวเป็นคนอื่น
คำถาม กูจะโดนนักอ่านด่าไหม55555
>>429 มึงอย่าเขียนแบบยมทูตผงซักฟอกละกัน555 ชงเข้ม แต่เสือกเรือแตก555 ถ้ามันเป็นเพื่อนก็เขียนว่าเป็นเพื่อนกันให้จริง อย่าใส่โมเม้นท์กูว่านักอ่านรับได้ ถ้ามึงหยอดมาตลอดว่า สองตัวนี้ อนาคตผัวเมียแน่ๆ แต่ถ้าเสือกใส่โมเม้นท์ต์โดขิๆ จบแบบเรือแตก มึงเกียมจองหลุมอยู่ในลิสต์นปกที่นักอ่านระแวงได้เลย
#หมายถึงนางเอกกับผัว
ถ้ามึงหยอดมาตลอดว่า สองตัวนี้ อนาคตผัวเมียแน่ๆ
Kyปรึกษากุควรเขียนประวัติการศึกษา การทำงานในเพจนปก.,กู๊ดรี้ดหรือในไอจีดีไหมวะ เช่นจบเตรียมอุฯ+อักษรจุ๊ งี้ มันจะดูดีขึ้นหรือดูสะเหล่อไหมวะ ควรปิดๆไว้หรือเปิดเผยดี หรือพวกมึงคิดเห็นยังไงกับการที่นข.บอกประวัติพวกนี้ในหน้าโปรไฟล์
ky กูเขียนเรื่องนึงจะจบแล้ว แต่มี self doubt หนักมาก ว่าสิ่งที่เราเขียนมันสนุกจริงๆ เหรอวะ มันเผยแพร่ได้จริงๆ เหรอวะ กลัวนักอ่านผิดหวัง พวกมึงเป็นกันบ้างไหมวะ ถ้าเป็นแล้วแก้ยังไง
>>432 ไม่คิดอะไรนะ แต่ถ้าโปรไฟล์มึงอลังจัดจบคิงตันไอวีลีคงี้อาจจะมีคนมองว่าอวด 555 หยอกๆ จริงๆ ชีวประวัตินข.พวกนี้ปกติมากมึง ไปเปิดดูงานสนพ.เก่าๆ เลย บอกหมดเป็นคนบ้านไหน จบรร.ไรม.ไรทำงานไรอยู่ นข.ต่างชาติก็บอกเหมือนกัน ไม่ต้องคิดมาก
>>434 ก็เป็นบ้าง แต่มันจะจบแล้วก็เข็นๆ ออกมาเถอะมึง ช่างแม่งเข้าไว้ มัวแต่กลัวนั่นนี่ลูกมึงก็ถูกดองไว้ในไหอย่างงั้นแหละ ไม่ได้เฉิดฉายสักที ฮึบๆ
กุมา ky ด้วย คำนำนข.ในเล่มนี่กูเล่าได้มั้ยวะว่าเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง/ภาพอะไร ควรไม่ควรมึงว่า หรืองุบงิบไว้คนเดียวดีกว่า ไม่ต้องพาดพิงผลงานจริง (แม้กุจะคันปาก(มือ)อยากเล่ามาก)
>>437 ความเห็นกูนะ ต่อให้มึงไม่ได้รับแรงบันดาลใจจากที่ไหนเลยก็ควรจะปั้นขึ้นมาว่ะ ดักไว้ก่อน จะบอกว่าได้มาจากเรื่องของป้าข้างบ้านในฝันของปู่หรืออะไรก็ได้ เดี๋ยวนี้คนประสาทแดกเที่ยวจับผิดว่านักเขียนลอกคนนั้นคนนี้มันเยอะ กูเคยโดน หาว่ากูลอกซีรีส์มาเฉยเลย ทั้งที่กูไม่เคยดูซักกะแอะ เดี๋ยวนี้กูเขียนอะไรกูมีแรงบันดาลใจหมดอ่ะ นอกจากแต่งนิยายแล้วกูแต่งแรงบันดาลใจด้วย เพื่อความปลอดภัยของกู
กูอยากเขียนบทสนทนาระหว่างตัวละครให้สนุกว่ะ คือคุยกันเฉยๆก็สนุกแล้ว หรือไม่ก็อ่านแล้วไม่น่าเบื่อ กูควรศึกษางานจากไหนวะ จะต่อปากต่อคำคือพูดจาหวานๆก็ได้ อยากอ่านเรื่องที่ตัวละครโต้ตอบกันได้ดี หรือมีเคล็ดลับอะไรมะที่ทำให้ตัวละครคุยกันสนุก
เงิบว่ะกู ช่วงนี้ไม่มีอารมณ์ ไม่มีแรงบันดาลใจให้เขียนเลยลองไปเดินร้านหนังสืออย่างนายอินทร์หวังหาแรงบันดาลใจ
แต่พอไปก็ถึงกับเฟล เพราะดูเหมือนจะมีนิยายขายไม่ออกวางบนเชลฟเพียบ ซึ่งทำเอาคิดย้อนเลยว่าขนาดเรื่องพวกนี้ยังขายไม่ออก แล้วเรื่องที่กูจะเขียนมันจะขายออกเหรอ จนกลับมากอดเข่านอนจิตตกอยู่กับบ้านเลย
ky กูจะแจกโค้ดนิยาย เลยให้ตอบคำถามในเม้น แล้วมีบางคนดูก็รู้ว่าสมัครมาตอบคำถามแบบหว่านแหเผื่อถูกในเวลาไล่เลี่ยกันอะ แอคเพิ่งเปิดแล้วมาเม้นตอบรัวๆจนถูกแบบไม่มีการเว้นช่วงให้กูไม่ติดใจสงสัยเลย ขนแอคมาขนาดนี้ก็ต้องตอบถูกอยู่แล้ว กูก็ผิดเองด้วยที่ไม่ได้เขียนกติกาชัดเจนว่าคนเดียวตอบได้แค่ 1 ข้อ ไม่คิดว่าจะมีคนลงทุนขนาดนี้ พอจะแจกให้เขามันก็รู้สึกผิดกับคนอื่นที่เล่นตามกติกาอะ คนอื่นเขาก็ทำได้ ทำเนียนกว่าด้วย แต่เลือกจะไม่ทำไง ถ้ากูให้เขาก็เหมือนให้ท้ายคนหัวหมออีก กลุ้มใจนิดๆว่ะ
>>447 สารภาพว่ากูเคยทำแบบนี้กับนข.คนหนึ่ง เอาหลายๆแอคที่มีมาตอบให้ตัวเองอย่างน้อยก็ต้องได้ สัก1
ตอนนั้นคนดูออกก็มีแต่ความอยากได้ของฟรีมีมากกว่า และนข.ก็มีแจกเยอะเลยรอดตัวไป
อย่างน้อยมึงก็ได้เรียนรู้แหละว่ามันมีจริงคนที่อยากได้ของฟรี(เอาไปขายได้เงิน)และทำได้ทุกอย่างเพราะกติกาไม่ได้กำหนด
>>448-449 ขอบคุณนะ ได้เรียนรู้แหละ แง555 หลายๆคนก็คิดได้และน่าจะเคยทำแหละ ถ้าทำเนียนก็รอดหูรอดตาไป แต่อันนี้ไม่เนียนมากๆจนกูละเหี่ยใจ เว้นระยะเวลาสักวันสองวัน รึครึ่งวันยังดูมีความพยายามนะ อันนี้คือทำติดๆกันห่างแค่ไม่กี่หน่วยนาทีแบบไม่ไว้หน้ากันเลย กูก็แอบโกรธอะ
น่าจะเพิ่มโควต้าแจกให้คนตอบใกล้เคียงด้วยแหละ ไม่เข้าเนื้อ เขียนเป็นงานดิเรกเฉยๆ ไม่ก็ภาวนาให้คนนั้นเขาหายไปไม่มาเอาของรางวัล (ไหว้มาก) เมื่อก่อนเว็บมันยังโชว์ ip address นะเลยรู้ว่าใครสมัครแอคใหม่ ไปเปิดแอคร้านคอมก็ยังพอเดาได้ แต่เดี๋ยวนี้คือใช้เซนส์อย่างเดียวเลย พอเจอพวกคนจ้องเอาไปขายด้วยคือเซ็งมาก เอาซะคราวหลังอยากจับสุ่มกลุ่มคนที่เม้นบ่อยให้มันจบๆไป แจกแบบเซอร์ไพรส์ไม่ทันตั้งตัวไปเลย
ky ช่วยด้วยเพื่อน กุ ref ท่วม กำลังจะเริ่มเขียนแต่ ref กับ topic ที่จดเก็บไว้เตรียมเขียนมันกระจัดกระจาย คืออยู่ในไฟล์เดียวนี่แหละ แต่กุคิดอะไรออกก็ไปหย่อนไว้ในนั้น ทำยังไงให้กุจัดระเบียบมันให้หยิบมาเขียนตามไทม์ไลน์ได้เร็วๆ บ้างเพื่อน ไม่เอาแบบที่ด่ากุว่ามึงก็จัดแต่แรกนะ 5555 กุรู้ตัว กุผิดไปแล้ว แต่ตอนนี้อยากได้วิธีแก้ปัญหาแบบด่วนๆ
>>452 พูดถูก ไม่มีจริงๆ555 เว้นเสียแต่ว่ามึงจะตบตีตัวเองว่าต้องจัดให้เป็นระเบียบให้ได้ แล้วใช้เวลาครึ่งวันจัดๆอะได้อยู่ กูก็ยอมเสียเวลาวันนึงมาจัดเรียงเลย แลกกับกระบวนการหลังจากนี้มันจะไวขึ้นมากๆ ต้องทำอยู่ดีว่ะ บางที ctrl+f ในแอปที่ใช้จดโน้ตแล้วมันอ๊องๆหาไม่เจอด้วยนะ จัดไว้เป็นระเบียบหยิบใช้ง่ายยังไงก็อุ่นใจกว่า แค่ต้องเตรียมใจนิดนึง
ky เพื่อนโม่ง ถ้ามีคนคอมเมนนิยายว่าภาษาอ่านง่ายภาษาเข้าใจง่ายนี่มันเชิงบวกหรือเชิงลบวะ ไม่เคยเจอคอมเมนงี้ไม่แน่ใจอ่ะ
ky เราจะเปลี่ยนชื่อสำนักพิมพ์ในแม๊พให้ต่างจากนามปากกายังไงนะ กูลองทำแล้วมันแสดงเป็น นามปากกา/ชื่อสนพ. อยู่ดี อยากได้แบบแสดงเป็นชื่อสำนักพิมพ์อย่างเดียวว่ะ
ky เพื่อน กุคือคนที่เคยสงสัยว่าพวกนข.อย่างโลตัสตงกงเขาคิดพล็อตแล้วเขียนจบทุก 1 - 2 เดือน แล้วไม่ทำให้คนเบื่อได้ยังไง ขนาดกุเองชอบเรื่องรักๆ ยังอ่านนิยายรักติดต่อกันทุกเดือน เรื่องต่อเรื่อง แบบนั้นไม่ไหว มีเอียนบ้าง
วันนี้กุสงสัยอีกอย่าง ว่าคนที่เคยอ่านงานของโลตัสตงกง กับพวกนข.ตัวท็อปทั้งหลาย คือ nc เขา พระนางมีท่าซ้ำๆ บ้างมั้ย คือสตอรี่ความรักมันต่างกันได้ในแต่ละเรื่อง แต่กุสงสัยว่าถ้าออกงานถี่ขนาดนั้น ฉากบนเตียงเขานข.พวกนี้เขาไม่ซ้ำกันเลยเหรอ (เพราะเรื่องนึงมันก็ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว มันก็หลายครั้งเข้าไปแล้ว) เพราะไม่งั้นคนคงไม่ตามอ่านขนาดนั้น กุเรสเปกจริงๆ
>>460 ตอบในฐานะคนอ่าน เรื่องนึงท่าจะไม่ซ้ำนะและพอไปเรื่องอื่นบริบทของเรื่องที่พาไปสู่เซ็กซ์ซีนมันก็จะให้อารมณ์ที่ต่างกันไปเรื่องนึงเริ่มเรื่องที่หลังจากxxxกันแล้วจนเหงื่อไหล อีกเรื่องก็อาจเริ่มจากรู้จักไต่ระดับความสัมพันธ์จนได้xxxกัน ถ้าเป็นนิยายรัก อาจจะมีบรรยายแซ่บๆ1ครั้งว่าแก่นกายเข้าไปแต่นอกนั้นก็จูบ และจับตรงไหนก็บรรยายไป
คนอ่านอย่างกูไม่รู้สึกว่าแพทเทิร์นมันซ้ำเพราะบริบทส่งให้เกิดซีนนี้มันต่างกัน ส่วนคนเขียนรู้สึกเบื่อหรือซ้ำไหมอันนี้ไม่รู้ว่ะ
ky อีกที พอดีกุไปเจอประเด็นลูกมีแฟนที่นิสัย/หน้าตาคล้ายพ่อ/แม่ตัวเอง แล้วคนบอกว่ามันบ้ง มันแปลก มันเหมือนอินเซสทางใจ (?) คิดว่าไงกัน อย่างลูกสาวชอบผช.ขาวตี๋ ไทป์โกลเด้น ใส่แว่น เป็นหมอเหมือนพ่อตัวเองงี้ มันต้องตีความว่าลูกอยากได้พ่อเป็นผัวเหรอวะ
คือช่วงนี้กุอยากเวิ่นเว้อเขียนแนว ญ อกหักโลกหม่นมาเจอคนที่ทำให้อยากรักอีกครั้ง แต่ๆๆ กุดันชอบที่ตัวเอกจมทุกข์ว่ะ รู้สึกมันดูรักซึมลึกแล้วผช ในความทรงจำนั้นมันดูพิเศษจริงๆ แต่กุก็ไม่อยากเขียนให้สองคนนี้มันวนกลับมาได้กันแฮะ กลุ้มวุ้ย ลูกกุต้องโสดและเศร้าต่อไปเหรอ
ky ถามหน่อยเพื่อนโม่ง ปกติเม้ดจะจัดโปรงานหนังสือที่บ้าน ทีนี้รอบนี้งนส.คือ 10 ตุลา มันเช็คได้มั้ยว่าเม้ดจะจัด 10 ตุลาเป็นต้นไป หรือเริ่มวันที่ 1 เลย กุกลัวออกเรื่องใหม่ชนกับงานหนังสือแล้วจะจม แต่ใดๆ กุไปถามเม้ดมาแล้ว แอดมินบอกรอติดตาม เพื่อนโม่งพอรู้คร่าวๆ มั้ยว่ารอบก่อนๆ คือตรงตามวันเลยหรือยังไง ขอบใจล่วงหน้าเพื่อน
>>470 คือปกติกุไม่เคยดูฤกษ์ไง งานก็ขายโอเค ไม่ถึงกับเปรี้ยงแต่ก็ไม่ดับ ยอดออกกลางๆ ค่อนไปทางดี แต่ไม่ดีมากกก กุชอบเห็นพวกนข.ในเอ้กมาหวีดว่ายอดปังมากกกก ต่างจากเรื่องที่แล้ว เพราะหัดมู สวดนั่นนี่ ดูวันมงคล แต่ความที่กุไม่เชื่ออะไรแบบนี้ไง เห็นนข.โดยเฉพาะสาย ngl ชอบพูดถึงหมอดูประจำตัว ทั้งหมอในเอ้กนอกเอ้ก กุแอบคิดด้วยซ้ำว่าเป็น propaganda ระหว่างนข.กับแอคดูดวงรึเปล่าด้วยซ้ำ 55555 แต่พอยอดกับความแมสมันกลางๆ เรื่อยๆ แล้วช่วงนี้เห็นคนบ่นว่างานขายไม่ค่อยได้กัน กุก็เริ่มคิดว่าหรือกุควรทำอะไรสักอย่างด้วยวะ 5555
KyกุไปเจอนักเขียนประกาศเปิดAffiliateใน ติกตอ กด้วย บอกว่าให้นักอ่านอ่านนิยายและมีรายได้ไปด้วยกัน ดีอะ กุชอบแม้กุจะไม่ได้เล่น ติกๆก็ตาม
ky เพื่อน ปกติกุเขียนไม่เคยอิง plot structure ทีนี้เรื่องใหม่อยากลองตามขนบดู เผื่อจะได้พัฒนาตัวเองด้วย เลยอยากถามเพื่อนโม่งว่าถ้าเป็นรักโรแมนติก ไม่เกิน 50k คำ การวางพล็อตรูปแบบไหนเหมาะสุดน่ะ เช่น 3 ส่วน 5 ส่วน 7 ส่วน อะไรนั่น
ทำไงดีเพื่อน กุกะออกเล่มใหม่ก่อนงานนส. ไม่น่าทันละ จมแน่นวลลล กุออกๆ ไปซะ หรือย้ายไปต้นพฤจิดีวะ ช่วยด้วยเพื่อนนน
>>486 กุเพิ่งเคยออกชนงานนส.ก็รอบนี้แหละ เศร้าว่ะ
ปกติยอดกุก็โอเค กลางๆ มีป้ายแดงบ้างเรื่องสองเรื่อง แต่ไม่ถึงกับเสือนอนกิน
แต่ช่วงนี้เห็นมีแต่คนบ่นเรื่องเศรษฐกิจ เลยปั่นน่าดู กะว่าพอมีเวลา
เม้ดแม่งเริ่มโปรปลายก.ย.เลย กุจะเครซี่ 55555
ถ้าฉิวเฉียดแล้วกุยังว่าเรื่องไม่พร้อม กุเกลาๆ ไป แล้วค่อยออกพ.ย.แบบที่มึงว่าดีกว่า
มึง สมมติเคสนิยายบ้งติดเตือนฉ่ำแล้วนักอ่านยังดั้นด้นฝ่าดงไปอ่านแล้วด่าฉ่ำ
นข : กุเตือนแล้ว มึงจะอ่านทำไม
นอ : ก็กุจะด่า มึงจะทำไม
ความเห็นใคร valid กว่า หรือว่ามวยถูกคู่ 55555
KY ชวนเหล่าโม่งคุยหน่อย
มันเกี่ยวกันมั้ยนะที่ ผญ จะประสบความสำเร็จในวงการนิยาย (โดยเฉพาะแนวรัก) มากกว่า ผช.
พอกูมีเพื่อน นข. ชาย จำนวนนึงเคยเป็นนักเขียนมาก่อน สมัยแนวแฟนตาซีบูมๆ นี่ดังพอตัวทั้งนั้น แต่ปัจจุบันแทบเรียกได้ว่าไม่มีใครรู้จักงานใหม่ๆ จนต้องทำงานอื่นมาเสริม หลายคนเลิกเขียนเป็นงานหลักลดให้กลายเป็นแค่งานอดิเรกเลย
ส่วนของพวกเพื่อน นข. หญิง ที่เห็นมีแต่ออกงานใหม่มาเรื่อยๆ ขายได้เรื่อยๆ ไม่ได้ปังมาก แต่ขายเลี้ยงตัวเองได้ตลอดทั้งนั้นเลย
>>489 แฟนตาซีช่วงนี้มันก็แนวระบบ ดันเจี้ยน ผู้กล้า ปลูกผัก สวมร่างราชา บลาๆอะไรประมาณนี้นะ มีกลุ่มตลาดของเขา เมื่อก่อนฝ่ายชายนี่สายเขียนส่งสนพ.ด้วยป่ะ แนวรักที่ผญ.แต่งหลายคนก็ไม่ได้ขายได้ขายดี บางทีไม่ดังแต่มีเงินตลอดเพราะเน้นออกเดือนละเล่มเลยมีเงินหมุนเข้าออกตลอด ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอ แต่แฟนตาซีมันยากตรงไม่ได้จบแค่เรื่องรักอะดิ สงคราม การเมือง ต้องใช้เวลาเซ็ตติ้งกับมีหลายภาคหลายเล่มเลยใช้เวลาหน่อย กูเห็นผช.สายแฟนตาซีบางคนก็เปลี่ยนมาขายวายแทน เขาก็มีเงินใช้นะ ขึ้นอยู่กับการปรับตัวตามยุคว่ะ กับผช.บางคนไม่ได้อยากเขียนแนวรักไง เขาก็ไม่ลงสนามสายนิยายรัก แฟนตาซีวายเบทก็ขายได้
เอาจริงเดี๋ยวนี้แต่ละคนเหมือนต้องออกมาเขียนเองไม่พึ่งสนพ.กันทั้งนั้นแล้ว สนพ.สมัยนี้อย่างกะพื้นที่สงวนไว้แค่นิยายแปล ส่วนนิยายไทยก็เขียนเองขายกันเองนะพวกมึง555
>>491 ต่อนิดๆ แต่แนวรักใช่ ผู้หญิงประสบความสำเร็จมากกว่า แต่ผช.ประสบความสำเร็จก็มี หนุ่มบางคนเบนไปสายรักแบบวายชช ก็ประสบความสำเร็จเหมือนกัน แค่ไม่ได้อยู่หมวดโรมานซ์ แต่อยู่หมวด boy love ไง หมวดนี้ก็เปย์เหรียญฉ่ำ ยอดหลังบ้านก็เยอะพอตัว ถ้าไม่โกงไม่แขวนคนยังไงก็อยู่รอดถึงขั้นปลูกบ้านกันได้หลายคนอะ
>>494 อย่า ถ้ามึงไม่เสพสายนี้แต่อยากตกสาววาย มึงอย่าคิดว่าแค่เอาคำว่าผมไปใส่ให้นางเอกก็พอแล้วเชียวนะ
Bromance นั่นแหละคำตอบ สไตล์เพื่อนสนิทตายแทนกันได้ มีฉากสนิทๆกันหน่อย หวงเพื่อนนิดๆ ทุ่มเพื่อเพื่อนได้สุดๆ เป็นเพื่อนคนสำคัญเป็นพิเศษอะไรงี้ก็พอ ถ้ามึงไม่ใส่ฉากเยบและไม่ได้ให้มันได้กันอย่างเป็นทางการ ก็ถือว่ามีฟีลวายเบททั้งนั้น ส่วนระดับความเบทค่อยว่ากันอีกที
>>489 แฟนคลับสายแฟนตาซีผชแท้ๆมันมีฐานลูกค้าเป็นพวกวัยรุ่นสายเทคโน พวกนี้ไม่สนสำนวน ไม่สนความสมเหตุสมผล แค่พล็อตสะใจก็โอเค แถมมีทัศนคติว่าจ่ายเงินซื้อแปลว่าโง่ เดี๋ยวนี้เขาเลยไปอ่านนิยายแปลเกรดซีกัน เพราะเรื่องยาว ราคาถูก ยิ่งใช้ AI แปลให้อ่านฟรียิ่งชอบ ดีกว่านั้นก็อ่านพวกหมึกหินที่แปลรู้เรื่องหน่อย ติดเหรียญตอนละไม่กี่บาทแทน มึงลองไปส่องตามกลุ่มนิยายพวกนั้นดิ คนอ่านยังเยอะนะมึง แต่พวกนี้นิสัยองุ่นเปรี้ยว ตัวเองไม่มีเงินซื้องานคุณภาพ เลยแก้เกี้ยวด้วยการเหยียดพวกงานคุณภาพดีว่าคลั่งความถูกต้องในการใช้ภาษาเกินไป อ่านไม่สนุก
>>500 อย่าร้องเลยมึง ความจริงคือคนพวกนี้ไม่จ่ายเงินซื้อหนังสืออยู่แล้ว สมัยก่อนมันก็เช่าเอา แต่มีร้านเช่ามาช่วยชุบชูนักเขียนไว้ไง สมัยนี้ไม่มีร้านเช่า พวกมันก็ไปหาของถูกของฟรีจากที่อื่น มึงเน้นคุณภาพเข้าไว้ คีปความต่อเนื่อง คุณภาพงานของมึงจะขายตัวของมันเอง ส่วนความต่อเนื่องของมึงคือการไม่ปล่อยโอกาส วันไหนโชคเข้าข้างมึง คนอ่านเรื่องที่มึงเขียนอยู่แล้วชอบ งานเก่าๆของมึงจะพลอยขายได้ไปด้วย งานคุณภาพไม่มีเสียของ
ต้องดังแค่ไหน ถึงจะเรียกว่าตัวแม่วะ มีเกนวัดไหม
>>500 นักเขียนไทยแฟนตาซี ถ้ามองโลกแง่ดีคือยังพอมีข้อได้เปรียบบ้างคือไม่มีงานไพเรทออกมาให้อ่านฟรี ถ้ามีก็ส่วนน้อย ถ้ามีนักอ่านจริงๆยังไงนักอ่านก็เปย์ พวกนิยายแปลแฟนตาซีติดเหรียญ แค่เสริชชื่อเรื่องในกูเกิ้ลก็เจอเว็บเถื่อนอ่านฟรีล่ะ คนอ่านดูเยอะแต่ไม่รู้ว่าคนจ่ายจริงมันสัดส่วนขนาดไหน กูว่าเรื่องนี้แย่กว่าแปลเอไออีก
>>489 กูว่าไม่แปลก ผญ. มักจะเข้าใจ ผญ. ด้วยกันว่าต้องการผู้ชายแบบไหน เลยสะท้อนออกมาผ่านพระเอกนิยายไง ส่วนผู้ชายก็เข้าใจว่าผู้ชายต้องการผู้หญิงแบบไหน ผู้ชายเลยมักเขียนโรแมนซ์แบบฮาเร็มไง แต่มันไม่ค่อยปังในหมู่นิยายโรแมนซ์ ต้องเป็นพล็อตแฟนตาซีผสมโรแมนซ์ พวกเจาะเวลาหาจิ๋นซี (เก่าไปปะ กูก็ไม่ค่อยอ่านแนวฮาเร็ม) ถามว่าเกี่ยวกับเพศไหม กูว่ามันเกี่ยว มันเริ่มจากการปลูกฝังคติเรื่องเพศ ตั้งแต่เกิดยันโตอะมึง ผู้ชายก็มี norm แบบผู้ชาย มี gender role แบบผู้ชาย ผู้หญิงก็จะมี norm แบบผู้หญิง ซึ่งถูกปลูกฝังมาต่างกัน
ประเด็นคือคนส่วนใหญ่บนโลกนี้เป็น monogamy แต่ด้วยคติเรื่องเพศผู้ชายหลายลึกๆ แล้วอาจอยากเป็นพวก polygamy (ผัวเดียวหลายเมีย) มันเลยสะท้อนออกมาผ่านการมีฮาเร็ม แต่ฐานนักอ่านโรแมนซ์ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ซึ่งจริงจังกับเรื่องผัวเดียวเมียเดียวมากกว่า (เพราะสำหรับผู้หญิงการมีหลัวหลายคนมันผิดบาปกว่าผู้ชายมาก) โรแมนซ์แบบฮาเร็มเลยไม่ค่อยฮิตในหมู่นักอ่านโรแมนซ์เท่าไหร่ หรือถ้ามีนักเขียนผู้ชายคนไหนไม่ได้เขียนแนวฮาเร็ม มันก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ตัวพระเอก หรือ story ความรักระหว่างพระนาง มันยังไม่ตอบโจทย์สิ่งที่นักอ่านผู้หญิงต้องการ (ไม่ได้ตัดสินว่าดีหรือไม่ดีนะ)
กูเห็นนักเขียนผู้ชายเขียนเรื่องรักใคร่ๆ แล้วฮิตคือออกแนวกึ่งๆ ปรัชญาไปเลย แบบมูราคามิ (แต่สำหรับกูมูราคามิก็เวิ่นเว้อชิบหาย) คือไม่ได้อ่านเอาสนุกวาบหวิวฟินจิกหมอนแต่อ่านแล้วมีประเด็นอะไรให้คิด เหมือนอ่านวรรณกรรมคลาสสิคอะ ไม่สนุก แต่ปวดสมอง กูคิดว่าอย่างนั้นนะ
>>509 เออว่ะ นอกจากปรัชญา ชายแท้ สืบสวน บางทีเลิฟซีนออกแนวซาดิสต์ ดิบๆดุๆ (แต่เรื่องสืบสวนนี่เห็นด้วยมากๆๆๆ พี่ผู้ชายที่กูเคยทำงานด้วยก็เขียนนิยายรักชญ แต่ละแนวของเขาคือมีสืบสวนเป็นพล็อตหลักทุกเรื่อง แกทำงานสายนี้ด้วยแหละ หรือคนสายนี้เขียนนิยายเป็นงานเสริมเยอะวะ555)
ky กูเพิ่งค้นพบว่านิรนามในเม้ดไม่มีอยู่จริง วันนี้ลองเข้าหลังบ้านมันก็โชว์คอมเมนต์ตามปกติ แล้วเมนต์คนนิรนามที่จะเป็นหน้าเทาๆเวลาดูผ่านหน้านิยาย หลังบ้านยังไม่เห็นชื่อก็จริง แต่เห็นรูปโปรเว้ย ใครตั้งรูปโปรเป็นไทโปนามปากกาแล้วไปโหวต 2 ดาว 3 ดาว ด่าแรงๆในนิยายคนอื่น ถ้าเขาคนเช็กหลังบ้านเขาสืบจากรูปได้นะเว้ย ตีกันตายเลยหน่า ใครสายนี้ก็ระวังๆไว้ ต้องงอกแอคหลุมเพิ่มนะมึง555
ใช่ หนังสือของฉัน > ความคิดเห็น ปะ?
เชี่ย กุไปดูมาละ ถึงได้เห็นว่าเรื่องอื่นของกุ มีคนอ่านที่แสดงตัวเรื่องอื่น ไปให้ดาวแบบนิรนามไว้ด้วย เพราะรูปโปรเดียวกันเด๊ะ แบบไม่ใช่รูป stock image ด้วย ขอบใจมึงมากเพื่อน เบิกเนตรมาก
เมดไม่ระบุตัวตนไม่ใช่เซฟโซนของกูอีกต่อปัยยย
เชี่ยยย กว่ากูจะกล้าพิมพ์บอกเหตุผล108ที่กูไม่ชอบได้อย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีเงาแค้นตามมาทีหลัง
เมดแม่งเปิดช่องโหว่เฉยยย😢
แต่ก็ดีกับนข.ที่อยากรู้ว่าเขาคนนั้นคือใครอะนะ 🥴🥴
สำหรับนักอ่านที่มีใจรักการรีวิวแบบไม่ระบุตัวตนวิธีแก้ง่ายๆคือไม่ต้องใส่รูปโปรไฟล์ตอนพิมพ์รีวิวนั่นแหละ พอพิมพ์เสร็จค่อยกับไปตั้งค่าใส่รูปใหม่ก็ได้ เพราะระบบมันไม่เรียลไทม์ มันจะโชว์ให้เห็นเฉพาะรูปขณะที่พิมพ์รีวิวนั้นๆ
เหมือนสถานะ-มีแล้ว ก็เหมือนกัน ตอนยังไม่ซื้อไปรีวิว จะไม่ขึ้น-มีแล้ว
แต่พอหลังจากซื้อแล้ว รีวิวที่คอมเม้นไว้ก่อนหน้าก็จะไม่ขึ้นว่า-มีแล้ว เหมือนเดิม -มีแล้ว-จะขึ้นถัดจากชื่อแอคเค้าเมื่อซื้อแล้วเรียบร้อยเท่านั้น
>>514 ช่าย
>>516 ดาบสองคมฉิบหาย ใครเช็กเจอนักเขียนหน้าไหว้หลังหลอก ในแชทแอ๊บบอกว่ารัก กอดๆคับออกเล่มใหม่ แต่ดันมากด 1 ดาวหรือดิสเครดิตแบบนิรนามคือตีกันตาย กูนึกภาพคนแคปจอเอารูปโปรมาเทียบแล้วแหกกันได้เลย555
>>518 กูลองเปลี่ยนละ พอคลิกขวาดูรูปอีก tap มันโชว์รูปปัจจุบันที่เพิ่งเปลี่ยนด้วยอะ แต่แต๊งกิ้วมาก เดี๋ยวลองปรับตาม บางทีอาจมีวิธีแก้ แต่ก็มีคนพลาดเรื่องไม่ได้เอารูปโปรออกเหมือนกูเยอะ ระวังๆไว้เด้อ
>>518 กู 519 ลองทำละเออ ตามอันนี้เลย รูปโปรตอนติ๊กระบุตัวตนกับตอนเอาติ๊กระบุตัวตนออกเหมือนจะแยกกัน แบ่งใช้ให้ต่างกันก็จบ กูตื่นตูมไปเองสินะ กราบขอโทษเพื่อนโม่งมาด้วย ณ ที่นี้ที่ทำให้ตกใจ ส่วนใครที่เพิ่งรู้เหมือนกูก็...ทำอะไรให้รอบคอบละกัน คนหน้าคุ้นในโหมดนิรนามเยอะเหลือเกิน ไม่อยากเห็นก็ดันไปเห็นเข้าซะงั้น555
ky เพื่อน ปกติอีบุ๊คขนาด A5 นี่ margins ซ้าย ขวา บน ล่างของหน้ากระดาษ อย่างละ 2.54 ซม. ตามค่า default มันใหญ่ไปมะ ปกติใช้ขนาดเท่าไหร่กันน่ะ
ปกติเวลาเลือก Thai distributed บางที word มันแยกคำตอนขึ้นบรรทัดใหม่ แบบ "เจ้า" บรรทัดบน "ชาย" บรรทัดล่าง แบบนี้กุทำไรได้บ้างเพื่อน ปรับตรงไหน
ลองเอาไม้บรรทัดวัดคร่าวๆ จากเล่มนิยายทั่วไปก็ได้มึง แต่ปกติด้านขวากับด้านล่างกุจะเว้นน้อยกว่าอีก 2 ด้น เช่นถ้า ซ้าย บน 2.5 ด้านขวากับล่างจะ 2.0 ส่วนตัวกุชอบแบบนี้ มันสบายตาดี
>>522 ที่กุเคยทำคือครอปทั้งบรรทัดแล้วปรับความห่างให้แคบเข้ามาหน่อย ถ้ายังไม่เข้ามาก็ครอป 2 บรรทัดเลย แล้วดูคำอื่นด้วยให้มันโอเค เวลาพิมพ์ลงมาในกระดาษมันเห็นความต่างไม่มาก
Kyถ้าเป็นนักเขียน แต่มีแอคหลุมไว้ใช้ในฐานะนักอ่านและรีวิวนิยายที่ชอบ-ไม่ชอบ โดยไม่เปรียบเทียบอะไรกับใคร แค่บอกว่าชอบไม่ชอบตรงไหนมันจะน่าเกลียดไหมวะ การมีสถานะเป็นนักเขียนมาวิจารณ์งานของนข.คนอื่นมันไม่ดีใช่ไหม
เพื่อนโม่ง กูมาขอกำลังใจ เขียนนิยายเรื่องนึงมาสองปี กำลังจะจบในสองสามเดือนก่อนหมดปีนี้แล้ว กูทั้งดีใจทั้งจะไม่ไหวแล้วว่ะ กูทำอะไรลงไปวะเนี่ย ใช้เวลานานเกิน แทบจะขายวิญญาณเขียน เพื่อสุดท้ายได้นิยายที่ไม่รู้จะขายออกรึเปล่าเนี่ยนะ หน่านิ้!?
>>525 ถ้าแยกแอค ไม่ได้วิจารณ์ในฐานะนักเขียนก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าด่าแบบเปิดหน้าเลยว่าตัวเองเป็นนักเขียนก็ไม่ค่อยดี มันก็จะเหมือนชักจูงคนนิดนึง ในทางกลับกัน ถ้ากระแสตีกลับ มันจะส่งผลถึงนิยายมึงด้วย เพื่อความเซฟของตัวมึงเอง มึงขุดหลุมให้มิดเลย อย่าให้ใครรู้
แต่ถ้าชมนะ มึงชมแบบเปิดหน้าเลย คำชมใครๆก็ชอบ
ใครเคยลองใช้indesignจัดหน้าแล้วจะพอทไปทำepubบ้าง
กุอยากรู้ว่าพวกshitf+enterที่กุเคาะตอนจัดหน้านี่มันจะติดไปด้วยไหม แล้วถ้าในไฟล์มีภาพประกอบด้วยจะเป็นไรป่าว
ky ถ้าแนวชญ. เน้นรัก มี nc แต่ไม่แรงมาก เพิ่งเริ่มเขียนได้เรื่องสองเรื่อง แล้วอยากติดเหรียญกับขายอีบุ๊ค วิธีไหนถึงขายดีสุดน่ะเพื่อน
ปิดตอนส่วนใหญ่ไปเลยเน้นขายอีบุ๊ค หรือติดเหรียญเฉพาะ nc หรือติดเหรียญด้วยขายอีบุ๊คด้วย
>>527 เก่งมากมึง ช่วงแรกๆมันก็จะตั้งคำถามกับตัวเองแหละ แต่ได้ทำสำเร็จขนาดนี้มึงก็จะใจดีกับตัวเองและโอบกอดตัวเองได้ละ ของกูเคยมีเล่มนึงเขียนมาปีนึงมั้ง จบแล้วก็ขายไม่ดี เม้นต์ก็ร้าง ช่วงแรกก็ซึมมาก แต่นานวันเข้าก็ภูมิใจอะ เขียนจบได้โดยไม่ทิ้งกลางทางเลยหน่า ตั้งปีนึงแน่ะ! อย่างข้อความของมึงก็เป็นกำลังใจให้กูนะ เพราะตอนนี้กูก็เขียนนิยายมา 1 ปีละยังไม่จบเลย กลัวว่าจะได้ดองตลอดไปจนไม่มีวันจบด้วยซ้ำ คนรอบตัวแทบจะออกเดือนละเล่มกันหมด มาเจอมึงก็คือเอ้อ ไม่เห็นเป็นไร กูยังเหลือเดดไลน์ให้ตัวเองอีกตั้ง 1 ปี ไม่ใช่ทุกคนจะเขียนจบเร็วนี่หว่า มึงทำได้กูก็ต้องทำได้ ขอบใจนะ มึงเก่งมาก!
>>534 นักเขียนที่ทำแบบนี้ โดนนักอ่านแอบเทแบบเงียบๆ ก็เยอะนะ ถ้าคิดว่าติดเหรียญถูกกว่าตั้งเยอะ มึงก้ติดเหรียญตอนพิเศษแพงหน่อยก็ได้ อย่าหาทำเลยอีแบบเหมือนบังคับถ้าอยากอ่านก็ต้องซื้ออีบุ๊คทั้งเล่มเพื่ออ่านตอนพิเศษอะ หรือถ้ามึงจะทำ มึงต้องแจ้งให้เขาเห็นชัดเจนว่ามึงจะไม่ลงตอนพิเศษในติดเหรียญ
>>538 เรื่องนึงของกุ กุบอกตั้งแต่เปิดเรื่องเลยว่าจะมีตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊ค ก็ไม่มีใครบ่นอะไร แต่กุสังเกตเองว่าฝั่งรายตอนที่ติดเหรียญ คนซื้อประปรายมากเลยเพื่อน กุเลยไม่แน่ใจว่าจะยังไงดี
แต่กุเข้าใจที่มึงว่ามามากๆ เลย กำลังหาทางอยู่ คือกุรักคนที่ตามอ่านรายตอนตั้งแต่แรกมากเลย เหมือนบางคนที่ซื้ออีบุ๊คเพิ่งมาเจอเรื่องกุทีหลังตอนลงเม้ด กุเลยกำลังคิดว่าระหว่างทำแบบเดิม บอกแต่ต้นว่ามีตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊ค แล้วติดเหรียญรายตอนถูกกว่า กับอีกทีลงตอนพิเศษรายตอนด้วยแต่ติดเหรียญแพงหน่อยแบบที่มึงว่า แต่แบบนี้ไม่ทำให้คนซื้ออีบุ๊คน้อยลงใช่มั้ย?
กุงงว่าทำไมต้องทำเหมือนบังคับซื้ออีบุคอีกรอบทั้ง ๆ ที่ติดเหรียญก็ได้ บางคนขายเฉพาะอีบุคไปเลย ไม่ติดเหรียญในเว็บพอเข้าใจได้ แต่ติดเหรียญแล้วกั๊กตอนพิเศษไปลงแค่อีบุค มองยังไงก็เหมือนบังคับซื้อ เป็นกูคงลงขายตอนพิเศษให้ครบทุกแพลตฟอร์ม เฉลี่ยราคาติดเหรียญกับขายอีบุคพอ ๆ กัน เพราะทั้งซื้อเหรียญซื้ออีบุคก็ลูกค้าเหมือนกัน มีแค่เล่มกระดาษที่ราคาสูงกว่า เพราะต้นทุนมันสูงกว่าอย่างอื่น จะอยู่นาน ๆ อย่าเม้ดเยอะกับคนอ่านดีกว่านะกุว่า ถึงจะบอกล่วงหน้าว่าตอนพิเศษมีแค่ในอีบุค แต่ถ้ากูเป็นคนอ่านก็คงรู้สึกว่า แล้วกูที่ซื้อเหรียญนี่ไม่ใช่ลูกค้ามึงหรอ
>>540 >>541 ขอบใจเพื่อนโม่งมาก กุไม่เคยคิดแง่นี้มาก่อนเลย
คือกุเป็นสายลงตอนพิเศษสนองนี้ดตัวเองน่ะ ไม่ได้มองมันในแง่การตลาดหรือเพิ่มมูลค่าให้อีบุ๊ค
แค่อยากอ่านเรื่องของตลค.ต่อ แบบนอกความดราม่าในเรื่องหลักไรงี้
ก่อนกุออกอีบุ๊คครั้งแรก กุไปส่องตามที่นข.คุยกันในทวิต ว่าติดเหรียญยังไง ขายยังไง
เหมือนในนั้นส่วนใหญ่จะมองว่าถ้าไม่ลงตอนพิเศษในอีบุ๊คที่เดียวแล้วจะขายอีบุ๊คไม่ได้
กุก็ยึดตามแบบที่คนอื่นเขาทำกันมา
แต่พอมาฟังพวกมึงแบบนี้ มันก็คล้ายๆ กับที่กุรู้สึกมาตลอดจริงๆ
ว่า อ้าว แล้วรายตอนไม่ใช่ลูกป๊าเหรอ
ขอบใจมากๆ เพื่อน เดี๋ยวเรื่องใหม่กุลงตอนพิเศษในรายตอนด้วยดีกว่า
>>542 กูบอกเลยพวกในเอ็กซ์มึงดูด้วยคนที่แนะนำมันขายดีหรือเปล่า กูยังไม่เคยเห็นนักเขียนดังๆ ทำแบบที่พวกนั้นว่าเลย มีแต่เอาตอนพิเศษมาแยกเป็นเล่มฟรี ไม่ก็แยกขาย ใครอยากจะอ่านต่อตอนพิเศษก็ซื้อ ไม่อยากอ่านก็ไม่ซื้อก็ได้ หรือว่าลงเฉลี่ยเท่ากันทั้งสองแบบ นักเขียนที่ดังกูว่าเขาทรีตลูกค้าทุกคนเหมือนคนพิเศษทั้งหมดไง คนเลยรักและหนับหนุน ส่วนพวกในเอ็กซ์แขวนเก่ง ตัดพ้อนักอ่านเก่ง มึงเลือกเอาจะเป็นนักเขียนแบบไหนในสายตานักอ่าน
พวกมึงก็น่ารักมากเลย กุคิดถูกจริงๆ ที่มาถามในโม่ง ถามข้างนอกกุกลัวผิดๆ ถูกๆ แล้วโดนด่า 555
ขอถามเพิ่มนะเพื่อน จากที่ไปส่องในทวิตมาเหมือนเดิม
มีหลายคนบอกให้ติดเหรียญแบบซอยตอน ถ้าแต่ละตอนถูกลง คนจะกดซื้อแบบไม่ลังเล
แบบถ้าปกติตอนละ 3k - 4k คำ แล้วตอนละ 4 - 5 เหรียญ
ให้ซอยเป็นตอนละพันคำ ขายตอนละ 2 - 3 เหรียญแทน
แบบนี้โอเคมั้ย? หรือควรขายเต็มๆ ตอนไปเลย เพราะเรื่องที่แล้วที่กุบอกคนซื้อประปราย กุก็ไม่ได้ซอยตอน
เมื่อกี๊วิ่งไปส่องของพวกโลตัสตงกงกับตัวท็อปชญ. ก็เหมือนเขาซอยตอนกัน เป็น 1/3 2/3 อะไรแบบนั้น
บางคนกุเห็นซอยเหลือตอนละ 700 - 800 คำเอง
>>545 แล้วมึงจะพบว่า ถ้ามึงใช้เรทราคานั้นทำรายตอน มึงอัดยังไงก็ทำให้ราคาเท่ากับอีบุคที่คิดจากเรท 0.0020-0.0025 *คำไม่ได้
ของกูรายตอนถูกกว่าอีบุคเกือบ 40% แต่กูไม่สามารถตั้งราคารายตอนอัพไปเกิน 5 บาทต่อตอนได้ กูตั้ง 5 บาทที่ 3200 คำอัพ ตอนปกติอยู่ที่ 1500 -3000 คำ ตั้ง 2-4 เหรียญ
แต่กูถือว่าอีบุคมีความเป็นรูปเล่มถาวรมากกว่ารายตอนอ่ะ ถือว่าเป็นการแบ่งแยกตลาดไปเลย ลูกค้าที่กังวลราคาไปรายตอน ส่วนลูกค้าที่โอเคกับอีบุคก็มาอีบุค กุบอกชัดตั้งแต่ต้นว่ามันถูกกว่า
กูในฐานะนักอ่าน ถ้าเห็นรายตอนราคาเกิน 4 บาทสมองมันจะคิดไปในทางว่าแพงทันที แล้วก็ไม่ได้มาดูหรอกว่าตอนนั้นมันมีกี่พันคำ
แต่ถ้าราคาไม่เกิน 3 บาทแม้ว่าจะมีแค่ไม่กี่ร้อยคำกูก็มองว่าถูกเพราะเลข 3 ในเชิงจิตวิทยาคือถูกกว่าเลข 4 5 แน่ๆ
ดังนั้นกูขอแนะนำว่าซอยตอนย่อยๆ แล้วขายไม่เกินตอนละ 3 บาท และราคารวมควรให้ถูกกว่าอีบุ๊คนิดหน่อยหรือเท่ากันก็ได้ แต่ขอให้มีตอนพิเศษครบอะไรครบเหมือนอีบุ๊ค
Ky มึงว่าการเป็นนข.แล้วไม่ทำตัวเมคเฟรนกับนข.คนอื่น ไม่ค่อยลงมาคุยเล่นกับนักอ่านนี่ดูไม่ดีหรือพลาดอะไรไปป่าววะ
คือกุเป็นพวกสกิลชิทแชทต่ำสัสๆ และขี้รำคาญคนมาก กุเลยกำลังคิดอยู่ว่าควรปรับให้ตัวเองดูเฟรนลี่กว่านี้ไหม
>>551 มึงทำให้กูคิดว่านข.ที่กูเลิกตามคนนึงอาจเป็นแบบมึงอยู่ คือกูเคยชอบงานเขาตามอ่านตามคอมเม้นยาวๆให้หลายเรื่องแต่เขาไม่ตอบกูเลยเว้ย กูเลยรู้สึกคุยคนเดียว เลยไม่คอมเม้นอะไร
แต่เพิ่งไปส่องคอมเม้นเรื่องใหม่...ชีกลายเป็นคนตอบคอมเม้นนักอ่านทุกคอมเม้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ขอบคุณนั่นนี่ ทุกคอมเม้นเลย กูที่เคยโดนเมินเลยงง และหมั่นไส้นิดๆแบบ อ้าวตอบเม้นเป็นแล้วเหรอ555
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.