Last posted
Total of 1000 posts
Kyขอถามนักเขียน กูเป็นนักอ่าน เห็นนักเขียนให้เรตติ้งตัวเองและขึ้นว่า-มีแล้ว (แบบไม่ใช่Gift) แบบนี้แสดงว่านักเขียนเสียเงินซื้อนิยายของตัวเองใช่ไหมวะ หรือว่านักเขียนที่ขายebookจะได้นิยายfreeมาเข้าshelfอัตโนมัติ
KY พวกมึงมีวิธีเขียนฉาก NC ยังไงให้เก่งๆหรอ บรรยายยังให้เห็นภาพอะไรแบบนี้อ่ะ
>>297 จริงจังปะ ไม่ว่าจะฉากไหน บรรยายฝห้เห็นภาพก็ใช้เทคนิกเดียวกันแหละมึง
มึงต้องเริ่มหัดจากเขียนบรรยายเรื่องอื่น ดูรูปแล้วลองหัดบรรยายวิว บรรยายอาหาร บรรยายคน บรรยายลักษณะท่าทาง อารมณ์ หัดไปเรื่อยๆอะมึง แล้วลองทดสอบด้วยการให้คนอ่านคำบรรยายของมึงก่อนจะลองเลือกรูปที่ใกล้เคียงกันดู ถ้าเขาเลือกถูกแผลว่ามึงเริ่มเก่ง ถ้ามึงบรรยายรูปร่างคนกับความรู้สึกคนได้ มึงก็บรรยาย nc ได้ มันไม่ได้อยู่ที่การใช้คำอย่างเดียวว่ะ มันอยู่ที่การสังเกตด้วย
>>299 ลองดูงานบรรยายฉากNCที่อ่านแล้วชอบก็ได้นะเพื่อนโม่ง อ่านแล้วก็สังเกตว่าเขาใช้คำยังไงบรรยาย อย่างกูส่วนตัวชอบNCแบบอีโรติก อ่านแล้วเสวเป็นเรื่องรอง เรื่องหลักคือความรู้สึกของตัวละครระหว่างฉาก เวลาเลือกนิยายอ่านหรือแต่งเองกูก็ใช้อุปมาอุปไมย ใช้สัญลักษณ์ดอกบัวเอยลำไผ่เอยอะไรงี้แทนตรงนั้นของชายหญิงน่ะ
>>299 สังเกตจากทุกอย่างเลยมึง รูป รส กลิ่น เสียง มันเอามาบรรยายได้หมด มึงเห็นอะไร สมมติเห็นเขาจูบกัน เขาจูบกันท่าไหน ใครโน้มเข้าหาใครก่อน สายตาเขายังไง หลับตาหรือลืมตา ขนตาเขายาวไหม ถ้าขนตายาว มันมีเงาขนตาบนแก้มไหม ริมฝีปากสีอะไร จมูกปัดกันไหม จูบแล้วไงต่อ หยุดพักหรือไปต่อเลย คือมึงต้องลองสังเกตว่าเวลาชาวบ้านจูบกันเขาทำยังไง มึงถึงจะจินตนาการฉากที่มึงต้องการขึ้นมาในหัวได้ แล้วถึงจะเขียนได้สมจริง แต่ถ้ามองว่าเออ ก็จูบ แค่จูบ มันก็แห้งแล้งจริงปะ ต่อให้มึงใช้คำหรูแค่ไหนมาบรรยายหยดย้อย ถ้าไม่มีรายละเอียดมันก็เหมือนภาพวาดที่มีแค่โครงร่างอ่ะ แล้วไอ้การสังเกตพวกนี้มึงต้องลองหัดตั้งแต่วัตถุที่อยู่นิ่งๆก่อน
แต่ตอนเขียนมึงไม่จำเป็นต้องเขียนทั้งหมดที่มึงเห็นหรือมึงนึกภาพออก มึงเขียนแค่สิ่งที่จะมีความหมายก็พอ
Ky จัดการความคิดตัวเองยังไง เวลาเขียนทีไรต้องคิดว่าเขียนไปก็ขายไม่ได้ กูเขียนมาหลายปี ยอดขายไม่พอค่าไฟ อยากเริ่มเขียนเรื่องใหม่เผื่อจะแมส แต่ก็ความคิดติดหล่มเดิม ยอมรับแหละว่ากูอยากได้เงิน เขียนหาเงิน
>>305 ลองตลาดเรื่องเสวยังวะ สั้นๆง่ายๆ ติดเหรียญเบาๆ ให้ปลดง่ายๆตอนหน้ามืดแล้วจากไปเงียบๆ
มึงอาจควรคิดถึงมุขตลกที่ว่า "ถ้านิยายขายได้เรื่องละ 1 บาท มึงเขียนเดือนละล้านเรื่อง ก็ได้ล้านบาทแล้ว" ถึงเป็นมุขตลกแต่มันสอดแทรกความจริงบางส่วนไว้นะ บรรดาคนไม่ปังแต่ปั่นกันไวชิบหาย เดือนนึงออกสองสามเรื่องอย่างต่ำ ครบปีสะสมไว้เป็นร้อย ถ้าตรงเทสส่วนใหญ่ของตลาดกุว่าค่าไฟต่อเดือนควรจะพอว่ะ ส่วนงานเก่ารอลุ้นไปเรื่อยๆ ก็น่าจะเกี่ยวยอดมาเพิ่มได้ตามอรรถภาพ
>>305 พอมีเงินสำหรับค่าไฟเดือนหน้าไหมวะ ถ้ามีคือดีเลย ปล่อยใจ ให้เวลาตัวเองเดือนนึง ไม่คิดอะไรเลยคิดแต่จะทำให้เสร็จ เขียนแนวตลาดที่น่าจะพอค่าไฟ เขียนเสร็จแล้ววางขาย
....ถ้าผลสรุปสุดท้าย เล่มนี้ยังไม่พอค่าไฟ ค่อยหาวิธีอื่น แต่ตอนนี้ลองทำให้ได้มาสักเล่มนึงก่อนเพื่อขายด่วนๆก่อน
KY นิยายดราม่า แบบดราม่าจัดน้ำตาไหลเป็นเลือด (เวอร์) มันสามารถจบแฮปปี้แบบฟรินตัวลอยได้มั้ยวะมึง คือดราม่าจบแฮปมันก็มีเยอะแหละ แต่เอาแบบแฮปปี้สุดๆๆๆ รุ้งออกจากกระดาษเลยนี่มันทำได้อ๊ะเปล่าวะ กุเคยอ่านส่วนใหญ่เวลาจบแฮปมันก็ยังดูหม่นๆ อึนๆ ยังไงไม่รู้ เพราะอิมแพคจากพาร์ทดราม่ามันแรงด้วยแหละมั้ง นึกไม่ออกเลยว่ามันจะแฮปปี้กระดี๊กระด๊าได้ไง เหมือนถ้าจะเขียนดราม่ามันต้องคุมโทนทั้งเรื่องงี้ ถ้าแหวกมาดี๊ด๊าอารมณ์ดีมันจะขัดมู้ดเหรอ
>>310 ขอบใจมาก แต่เรื่องนี้คหสต.กุคือ ตย.ที่ยกมาเลยเนี่ย 55555 จบแฮปปี้แต่มันยังหม่นแบบแปกๆ 5555 กูสงสารนางเอกมากกก จบแฮปปี้แหละ แต่กุว่าน้อง deserve better ได้มากกว่านี้ คือเจอเรื่องเหี้ยห่ามาเยอะแต่ได้ไรดีๆ ตอบแทนยังไม่พอ เหมือนมันยังไม่สุด แต่กุก็ยังไม่รู้ว่าต้องเพิ่มอะไร อาจจะเป็นตอนพิเศษ (?) 55555 แต่กุไม่ได้อ่านเล่มลูกนะ ถ้าอ่านก็คงเจอแฮปกว่านี้แหละ นี่ว่าตามเนื้อผ้าเรื่องเดี่ยวๆ
>>311 เออ กูก็ว่ายังขาดอะไรไป เหมือนเรื่องนี้คนได้ประโยชน์สูงสุดคือลูก แล้วนางเอกเสียอะไรไปเยอะมาก จะเกลียดนางร้ายก็เกลียดไม่ลง ชีก็อยู่ข้างๆพระเอกมาตลอด ไม่มีสัญญาณว่าจะมีใคร แล้วอยู่ดีๆพระเอกก็ได้รับลูกสาววัยรุ่นและเมียกลับมาในคราวเดียวเลย แต่เหมือนแผลที่ผ่านมายังไม่ได้รับการสมานอะ ลึกๆกูอ่านแล้วเศร้าเพราะเหมือนพระเอกยังเห็นนางเอกเป็นแฟนสาววัยมัธยมปลายอยู่ แต่สาวแกร่งแม่เลี้ยงเดี่ยวตรงหน้าเหมือนเขายังไม่ได้รักขนาดนั้น กูคิดมากไปปะนะ ฮือ
ถ้าเพื่อนโม่งมีเรื่องอื่นแนะนำก็อยากได้ด้วยคน สำหรับกูรักส์มันยังไม่ขนาดนั้น
KY ถามความเห็นหน่อยโม่ง ถ้าตั้งใจว่าเขียนเล่มนึงจะมีซัก 50-60 ตอน แล้วจะติดเหรียญอ่านล่วงหน้านี่ควรทิ้งระยะเวลาซักเท่าไรดี?
ตอนนี้ในหัวว่าจะซัก 2 เดือน จะได้ปั่นงานได้ชิลๆ แล้วถ้าเขียนตอนละประมาณ 1500-2500 คำนี่ควรติดเหรียญซักกี่บาทดี?
ถามเพิ่มอีกอย่างคือถ้าจะทำ E-book ด้วยนี่ราคาควรซักเท่าไรดี เล่มนึงความยาวประมาณ 85k-100k คำ
>>313 ขอเกาะฟังคำตอบด้วยคน ขอถามเพิ่มด้วยว่าถ้าเขียนชญ. มี nc พอกรุบกริบ ปกติควรตั้งราคารายตอนกับอีบุ๊คในเม้ดต่างกันยังไงดี?
กุเห็นคนอื่นสายชญ.เน้นรัก ส่วนใหญ่ปิดตอนไปเลย แล้วขายแต่อีบุ๊ค หรือกุควรทำแบบนั้น?
แต่ส่วนตัวกุเห็นว่าอีบุ๊คมันเป็นเงินก้อนไง ถ้ารายตอนคนยังกล้าชิมๆ เพราะมันเงินไม่มาก เผื่อชอบจะได้ไปซื้ออีบุ๊คต่อ
ky มีวิธีเอาไอ้นิยายตรง "อ่านต่อ" ของรอร.ออกมั้ยเพื่อน กุจิ้มไว้หลายเรื่องเกิน อยากเอาออกมาก
>>318 ตลาดแต่ละแนวมีธรรมเนียมการขายไม่เหมือนกัน มึงเห็นกรุ๊ปนข.ในเฟสมั้ย ไปใช้คีย์เวริ์ด พวกติดเหรียญ ตั้งราคา อะไรพวกนี้ค้นๆดู มีกรณีศึกษาที่คนมาแชร์ให้หลายเคสอยู่ บางอันก็เก่าๆ หน่อย อ่านแล้วก็พินาดู ว่าจะเล่นทางไหน
ส่วนคำแนะนำที่เหลือ ถ้าติดเหรียญแล้วยอด 0 ทั้งๆยอดวิวหน้าหลักยังวิ่งอยู่ ยอดเข้าชั้นไม่ขึ้น ก็ตอบแบบโลกไม่สวยนะ ว่างานมึงยังดีไม่พอ ไม่น่าสนใจพอ คงต้องไปลองค้นจุดมาปรับทีละอย่าง เช่นตัวอย่างลงน้อยไปมั้ย คำผิดเยอะมั้ย คำโปรยมีอะไรไล่แขกป่าวเป็นต้น
ส่วนที่ยอดเข้าชั้นยังพอวิ่ง มึงรอตอนกดจบอีกที คนไม่เปย์เรื่องที่ไม่จบ/รอจบอ่านทีเดียวมีเยอะ ไปตัดเชือกกันอีกทีตอนกดจบ
ky 18+ หน่อย บทเสวนี่กุเห็นสายฝ.ชอบสบถว่า *f* เดี่ยวๆ ถ้าเป็นคนไทยมันจะเป็นคำว่าไรแทนอะเพื่อน *แม่ง* ก็ดูดุดันไปหน่อยปะ? หรือทับศัพท์เลยจะแปลกมั้ยวะถ้าเป็นไทยแท้ไม่ใช่ลูกครึ่งงี้
อ้อ แล้วก็นางเอกนิสัย naughtyๆ ขี้อ่อย ขี้ยั่ว เชี่ยวชาญเรื่องในมุ้งนี่นักอ่านรับได้กันมั้ยวะ ส่วนใหญ่กุเห็นแต่แนวสงวนกิริยาอารมณ์ / ขี้เขินขี้อายให้พระเอก take control ตลอด ถ้าเป็นสาว dom on top นี่คนจะมองไม่ดีมั้ยย
>>323 รับได้จ้า ยุคนี้แล้ว ไม่ใช่แค่ป้า วัยรุ่นใน x ยิ่งชอบ ดูที่ติดท็อปในเว็บดิ ก็แนวนี้ทั้งนั้น อย่าไปสนใจอะไรแบบนี้เลย ชอบอะไรก็เขียนเหอะ แล้วคนที่ชอบแบบนี้ก็จะหาเจอเอง เดี๋ยวนี้เขาก็ไม่ได้หัวโบราณกันขนาดนั้น ใครฉอดเรื่องซิงสมัยนี้คือโดนรุมด่าเละแล้วนะ แค่นข.แคปเมนต์มาชี้แจง คนอ่านก็เฮโลช่วยด่าตามแล้ว อย่าไปซีเรียส
>>322 แม่ง สำหรับกูไม่ดุดันนะ ใช้กันทั่วไปเลยในฉากเสวนิยายไทย ปกติมึงเป็นสายอ่าน/ดูโรมานซ์ฝรั่งเหรอ? ทับศัพท์ก็ได้ แต่ถ้าเอา f word ตั้งให้เป็นคำสบถยอดฮิตในฉากเสว ของไทยส่วนใหญ่ก็จะมาแนวๆ แน่นฉิบ เสวโคตร รัดแน่นมาก โคตรดี ไม่ก็บิดเป็นไม่มีคำสบถ แต่เป็นเสียงครางแทน อา อูย ซี้ด ไรงี้ไปเลย ใครแม่นเรื่องนี้มาเพิ่มเติมอีกได้
เอาจริงกูก็เริ่มแก่ละ พลิกๆเห็นแต่ฉากเสวก็เหน่ยๆเวลาอ่านว่ะ เข้าใจละทำไมบางคนขอนิยายไม่มี nc บทจะไม่อยากอ่านมันก็ไม่อยากแตะเลยจริงๆ ไม่เหมือนสมัยวัยรุ่น555
>>328 ขึ้นอยู่กับคนมอง แต่สต.กูก็มองว่าหลุด5555 มันจะดูไม่ ooc ก็ต่อเมื่อมีการเกริ่นว่าตลค.นี้เป็นคนสุภาพที่แอบร้ายอะ มีซีนทำหน้านิ่ง ตาดุ บรรยายไปสิมีความร้ายซุกซ่อนในรอยยิ้ม พอบนเตียงมาสบถหยาบคายจะเร้าใจมาก เพราะเกริ่นให้นอ.ได้รู้และเตรียมใจแต่แรกแล้วว่าไอ้บ่าวมันแอบแส่บ แต่ถ้าสุภาพแสนดีมาตลอด แล้วมาพ่นอะไรหยาบๆบนเตียงนี่มันหาความเชื่อมโยงไม่ค่อยเจอ คนจะเอนเอียงไปทางหลุดคาร์/ไม่อินมากกว่า
>>322 นี่ว่าฉากของแต่ละชาติมีขนบต่างกันนะ (มาจากวัฒนธรรม ภาษาที่ต่างกันอ่ะ ถ้ามึงไม่ได้คิดจะใช้เซตติ้งต่างชาติ อยากเขียนให้ได้ฟีลงานแปล หรือเป็นฝ.ที่เผลอสบถ มึงไม่ต้องไปหาคำแปล f word มาใส่หรอก มันจะได้ฟีลผิดที่ผิดทางสุดๆ เหมือน 326 ว่าอ่ะ
แต่ถ้ามึงอยากแปล มันก็คำสบถอ่ะ จะเวร จะแม่ง จะให้ตายเถอะ มันก็ได้หมดนะ ขึ้นกับบริบทอีกที คำไทยเสือกหลากหลายกว่านี่หว่า
จริง ถ้าทั้งเรื่อง พระเอกไม่เคยพูดอิ๊งหรือแบบพื้นเพเรียน รร สองภาษา มีแม่เลี้ยง พ่อเลี้ยง ฝรั่ง ถ้าตอนเยส ฟัคๆ มันจะผิดผี ผิดมู้ด แบบที่มีคนเคยบ่น ไรสักอย่างว่า พอเลิฟซีนแล้ว พระเอกดูหลุดคาร์
พานจะไม่เสวเอา กลายเป็นอิหยังวะพระเอกไป
Kyเพื่อนโม่งกูเป็นนักอ่าน เจอคำผิดในคำโปรยบอกนข. นข.บอกว่าต้องรอเมดอนุมัติแก้
คำโปรยของนิยายตัวเอง นข.เจ้าของเรื่องไม่สามารถแก้เมื่อไหร่ก็ได้เหรอวะ
ต่อนิดนึง เลยอยากให้ทุกคนเช็กความถูกต้องให้ดีๆ ไม่ใช่อะไร เวลาส่งแก้แล้วต้องรอเขาแก้แม่งทรมานมาก นักอ่านบางคนพอเห็นพิมพ์คำโปรยผิดก็ตัดสินละว่าข้างในคำผิดบานเบอะชัวร์ ไม่อ่านแม่ง หงุดหงิด ทั้งที่เนื้อในมึงอาจจะส่งพิสูจน์อักษรมาล้านรอบ แค่เบลอๆนอนน้อยตอนพิมพ์คำโปรยเฉยๆ555
KY ชวนคุยเล่นหน่อย มีใครเกลียดตัวเองเวลาไม่มีอารมณ์เขียนกันบ้างวะ กูรู้สึกเป็นตลอดเลยกับวันไหนที่เปิดไฟล์มาแล้วเขียนไม่ออกเนี่ย
คงเพราะกูตั้งเป้าว่าจะพยายามเขียนทุกวัน วันละประมาณพันคำด้วยมั้ง เน้นค่อยๆ คลานไปช้าๆ แต่วันไหนเขียนไม่ได้ก็หงุดหงิดตัวเองตลอด แม้ว่าวันถัดมาจะบิ้วอารมณ์ขึ้นแล้วรวบยอดเขียนได้ก็เถอะ
>>338 กุเป็นอยู่เลยเพื่อน ไม่เกลียดตัวเองแต่เครียดจัดจนใจสั่นเลย คือกุตั้งใจจะออกอีบุ๊กเดือนตุลาแล้วเนี่ย แต่ตอนแรกกุยังเขียนไม่จบเลย แต่กุทำงานประจำด้วยไง เห็นปฏิทินแล้วโคตรเครียด ติ๊กไปทีละช่องๆๆ พอเครียดว่าจะเขียนไม่ทันขาย กุก็หนีไปทำอย่างอื่น หาอะไรกิน อ่านตูน ดูยท. แล้วกลางคืนก็นอนไม่หลับว่าแม่งยังไม่ได้เขียนเลย ยิ่งเครียดก็เขียนไม่ออก กุอุตส่าห์กะจะตั้งใจเรื่องนี้ดีๆ เพราะอยากออกจากงานประจำ ก็รู้แหละว่ากุเป็นสายรอมีอารมณ์ติสก่อนค่อยเขียน แต่ไม่นึกว่าจะเป็นขนาดนี้
เห็น >>319 พูดถึงงานดีไม่พอแล้วยอดน้อยนึกถึงงานตัวเองตอนนี้เลยว่ะ
ลองสังเกตยอดวิวแล้วช่วงแรกก็เยอะอยู่นะ แต่จะมีตอนนึงที่ดรอปแบบ spike ลงไปเลยแบบเห็นได้ชัดแล้วก็ไม่เคยกลับมาสูงเท่าก่อนหน้าอีกเลย
กูไม่รู้ด้วยว่าผิดพลาดตรงไหน คอมเม้นท์ไม่มีบ่นไม่มีติ อ่านเองก็สนุกอยู่แต่เอาไปเป็นเกณฑ์ไม่ได้เพราะความสนุกกูไม่เหมือนคนทั่วไป
ที่พอนึกออกคือเนื้อหาขัดใจคนอ่านล่ะมั้ง? เรื่องเก่าๆ เคยมีประเด็นทำนองนี้อยู่
>>338 ยืดหยุ่นกะตัวเองหน่อย งานเขียนเป็นศิลปะส่วนหนึ่ง ถ้ามึงยังไม่ใช่มืออาชีพขนาดที่ทำงานได้โดยไม่ต่องพึ่งอารมณ์ก็ไม่ต้องไปล๊อคตัวเองกับเป้าหมายที่ไม่สอดคล้องในทางปฎิบัติให้ตัวเอง
มึงลองดูสถานการณ์ดีๆนะ -->เขียนได้ แค่ไม่ใช่ทุกวัน = ประมวลผลรายเดือนรายสัปดาห์แล้ว ผลงานออกมาพอๆกัน
มึงเห็นอะไรจากสถานการณ์นี้มั้ย
แล้วมึงจะมานั่งทุบหัวให้ตัวเองรู้สึกแย่ทำไมวะ ซาดิสเหรอ
มึงลองเปลี่ยนเป้าจากรายวันเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือนด้วยจำนวนคำเท่าเดิมดู
ต้องอย่างกูนี่ ไอเดียตีบตัน อารมณ์ไม่มา ใจมี เวลามี แต่เขียนไม่ออก กุอุตส่าห์แก้ด้วยการไปทำทรีต สุดท้ายก็ยังตันเพราะดีเทลของฉากไม่พอ ต้องมานั่งคิดดีเทลเพิ่มตันตอนดีเทลนี่แหละ เดือนๆนึงผลิตได้แค่ไม่กี่ตอนเอง ยังไม่นับว่าทรีตกูนั่น ก็ใช้เวลาร่างเป็นเดือนๆอีกเหมือนกัน หวังว่าจะทำให้กูปั่นหูดับได้แบบที่เค้าสอนๆกันบ้าง แต่ก็.... 🥹
กุมันเป็นแค่นักอยากเขียนที่ฝืนจะเขียนของแท้เลยมึง ถ้าหวังเงินกินข้าว กุอดตายแน่นอน
เนี่ยคือสาเหตุเลยที่กุอยากรู้เคล็ดลับของพวกนข.ออกเรื่องเร็วอย่างโลตัสตงกงกับคนอื่นๆ เลย คือกุเป็นคนอ่านบางทียังเบื่อพล็อตเลย อ่านอะไรรักๆ ติดต่อกันมันก็เบื่อ แต่เขาเขียนเดือนสองเดือนออกเรื่องใหม่ละ กุอยากรู้มากว่าเขาไม่เคยมีช่วงเบื่อ ขี้เกียจ หรืออะไรแบบนี้บ้างรึไง คือกุเข้าใจเรื่องถ้าเขียนเป็นอาชีพ ไม่เขียนก็ไม่มีเงินกินข้าว แต่ของกุความเบื่อความขี้เกียจมันมีมากกว่าไง ไม่รู้จะเอาอะไรมากระตุ้นตัวเองละ มีพล็อตแต่ขี้เกียจเขียน
กุอยากรู้ของ ตยก. ด้วย ออกแทบทุกเดือนเขียนมา100กว่าเรื่องป้ายแดงทุกเรื่อง มีซิกเนเจอร์ในงานด้วย ไม่เบื่อบ้างรึไงกันนะ
ช่วงพีคๆ กูเขียน 1-2 เดือน 1 เล่มได้สบายนะ แต่นั่นล่ะเจออะไรหลายๆ อย่างเข้าทำให้อารมณ์มันไม่ได้
ปัญหาของกูตอนนี้คือ เขียนยังไงให้มีคนซื้อมากกว่า กูตีโจทย์ตรงนี้ไม่แตกจนเกิดความกังวล แล้วพอทำไม่สำเร็จนานๆ เข้ามันก็เริ่มหมดไฟแบบทุกวันนี้
ถ้าเรื่องที่กูเขียนยอดปังขายดี กูเองก็ทุ่มสุดตัวเขียนทุกวันรีบเข็นออกมาไวๆ เหมือนกันนั่นล่ะ
เห็นด้วยกับข้างบน ถ้าเขียนแล้วมีคนอ่านมีคนซื้อก็ขยันอะ มีเงินเหยียบแสนเข้าทุกวันมันก็ชื่นใจป่าววะ เขียนในฝันได้กูก็ยอม5555
กูเคยว่างงาน 1 ปี เวลาเขียนโคตรเยอะแต่ออกนิยายไม่ได้สักเรื่อง เพราะเครียดเรื่องเงินตลอด อายสายตาชาวบ้านตอนถามว่าเรียนจบทำงานยัง เครียดฟีดแบ็คด้วย ยิ่งไม่มีงานมาเบี่ยงเบนความสนใจ ความเครียดยิ่งเทไปหานิยายจนเขียนไม่ออก คนอ่านก็รับรู้ได้นะ งานมันไม่สนุก มันมีความหม่นๆแทรกอยู่ พอมีงานมีเงินก็ค่อยยังชั่ว ออกนิยายได้สักที เขาถึงบอกให้คนจะลาออกมาเขียนนิยายอย่างเดียวคิดดีๆไง รอเป็นตัวแม่ได้เงินเหยียบแสนสัก 2 ปีขึ้นไปก่อนค่อยออกจากงานนะ จริงๆ มันเครียดดด
กู 346 ไม่ใช่เงินเข้าทุกวันดิ ทุกเดือน ขอยาดแก้ๆๆๆ
อย่างของโลตัสตงกงกับทุกคนที่ออก 1-2 เดือนเล่ม กุอยากรู้ด้วยว่าเขาทำงานยังไง อย่างเขียน 1-2 เดือนเสร็จออกเรื่อง A แล้วต่อไปก็แพลนเรื่อง B ตั้งแต่คิดพล็อตยาวไปจนออกอีกเล่ม หรือตอนเขาออกเรื่อง A จริงๆ เขาตุนเรื่อง B ไว้คร่าวๆ แล้วอะไรแบบนี้ คือสำหรับกุ 1-2 เดือนถ้าเริ่มตั้งแต่คิดพล็อตใหม่จาก 0 เลยมันเขียนจนจบไม่น่าทันเลยว่ะ แต่เหมือนกุไปส่องระยะเวลาที่เขาออก ที่เขียนไว้ที่อีบุ๊คแต่ละเรื่อง มันแค่ 1-3 เดือนตลอด ถ้าจะตุนก็ไม่น่าตุนทัน ทำได้ไงวะ
แล้วนี่คือกุกำลังจะเริ่มเขียนเรื่องใหม่เลย ถ้าเพื่อนโม่งจะกรุณา พวกมึงช่วยแชร์แต่ละขั้นตอนการเขียนกับระยะเวลาคร่าวๆ ให้กุเป็นวิทยาทานหน่อยได้มั้ย แบบตั้งแต่พล็อตปิ๊งมาในหัว ใส่รายละเอียดคาร์ วางโครงเรื่อง ทรีตเมนต์ (ถ้ามี) เขียนจริง อะไรแบบนั้นน่ะ
>>349 สองสามเรื่องแรกกุได้ป้ายแดงแหละ แต่เรื่องล่าสุดตอนลงรายตอนทุกอย่างไต่ขึ้นเรื่อยๆ ตอนได้ขึ้นแบนเนอร์คือรายตอนคนอ่านคนเม้นทะลักทลายมาก แต่ความที่กุเขียนตามอารมณ์แล้วไม่ได้ตุนตอน สุดท้ายกุลงช้าทิ้งช่วง คนก็ค่อยๆ น้อยลงตั้งแต่ตอนนั้น พอขายอีบุ๊คก็ได้เงินเป็นหมื่นนะ แต่ขายได้แค่เดือนสองเดือนแรกว่ะ จนตอนนี้เป็นปีละกุยังเขียนเรื่องใหม่ไม่เสร็จ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาว่าจะเอาพล็อตไหนดี พอจะเริ่มลงมือเขียนก็กังวลยอดขายอีก
กุอยากเขียนเรื่องแนวคล้ายผัวโบ้ คือ พอ.เจอ นอ.แล้วชอบแต่ยังติดสนุกกับชีวิตเลยปล่อยหลุดมือไป แยกแบบสงบๆ ไม่ใช่ไม่เผาผีกัน มีคิดถึงเป็นระยะเพราะตามโซเชียลกันอยุ่ตลอด แล้ววนมาเจอกันอีกทีค่อยรุ้ตัวว่าที่จริงคนนี้รุ้สึกพิเศษมาก ค่อยๆ ยอมปรับตัวลงจน นอ. ให้โอกาสเริ่มจีบอีกครั้ง (ติดสนุกที่ว่าคือรักอิสระ เที่ยวรอบโลก ไม่คิดลงหลักปักฐาน มีได้กับสาวๆ อื่นบ้างแบบเรียลๆแต่ไม่ใช่เมนที่เขาไม่ยอมหยุด) แต่กุรุ้สึกว่าคนอ่านน่าจะยี้แฮะ มีตย.เรื่องที่เขียนราวๆ นี้แล้ว พอ ไม่โดนด่าเยอะมั้ย
>>352 ถ้าได้กับคนอื่นระหว่างที่เลิก มึงต้องพร้อมรับแรงปะทะนะ
มีเรื่องนึงเลิกทั้งที่ยังรักนั่นแหละพอห่างกัน พระเอกไปได้กับคนอื่น(แบบคบเพื่อxxxเฉยๆฝ่ายหญิงได้เงิน) คนอ่านผิดหวังมากกกกก ลดดาว เมลไปหานข. คอมเม้นประเด็นนี้ท่วมท้น บ้างรับไม่ได้ แต่คนรับได้ก็มีนะเยอะด้วย เป็นความเจ็บช้ำฝังใจของคนอ่านที่หวงอยากให้พระเอกxxxกับนางเอกคนเดียว
ประเด็นนี้นักอ่านบางคนเป็นทรอม่าแผลในใจเลย แบบระแวงนข.คนนี้ไปเลย ส่วนที่ว่าเลิกกันแล้วไปได้กับคนอื่นแล้วไม่โดนด่าเยอะกูนึกถึงพระเอก ลัก , พอนพะจันซ่อนเลิฟ
กุคิดไว้ประมาณ >>356 คือเริ่มจากตอนกลับมาเจอกันนี่ล่ะแบบโตๆ ดันแล้วเลยพูดเล่นได้ว่าดีแล้วเมื่อก่อนเราไม่ได้ฝืนคบกันเพราะไม่งั้นคงจบไม่สวยเกลียดกันไปทั้งคู่ แล้วถ้าเกิดทีแรกก็ไม่ได้คบกันแล้วเลิกอ่ะ แค่แบบชอบๆ กัน มากสุดจูบๆ นัวๆ แต่ห้ามใจทันแล้วพอ.หนีไปปท อื่นเลยงี้
ถามหน่อย พระเอกแบบไหนที่คนอ่านรับไม่ได้กัน หรืออ่านแล้วรู้สึกหงุดหงิดขัดใจบ้างวะ?
กูว่าอยากจะลองเขียนแนวพระเอกสถุนถ่อยแบบขีดสุดตอนต้นเรื่องดู แต่อยากรู้ว่าคนอ่านมีการขีดเส้นเอาไว้ถึงไหน
*เอาผู้ชายอื่นต่อหน้าเมียก็ด้วย
มึง มึงอย่าดูถูกนักอ่าน ขนาดเลิฟษ์ของ >>354 กุยังเห็นด่าอยู่เนืองๆ ตามแพล้ตฟอร์มอื่นที่ไม่ใช่รีวิวในเม้ดตรงๆ อะนะ 555 เรื่องเย้กสาวอื่นระหว่างเลิกกันนี่แม่งเรื่องใหญ่ เอาดี รู้แหละว่าเรียลแต่ในนิยายคนรีเควสความขายฝันว่ะ เป็นพระอิฐพระปูนไม่แตะไม่มองสาวอื่นได้ยิ่งดี
>>358 เอาแบบรับไม่ได้เลยคือนอกกายนอกใจเนี่ยแหละมึง ง่ายสุด แต่ๆๆๆ บางคนมันยังให้อภัยได้ ถ้าเอาแบบ dealbreaker เลบมึงต้องให้แม่งเหี้ยสัสๆ เห็นแก่ตัว สันดานชายแท้ หรือตบตีเมีย แต่มึงจะไหวเรอะ นักอ่านจะยี้เอานะ 555555 หรืออยากได้แบบสถุนแต่กลับตัวกลับใจ
เรื่องเรตติ้ง2kของโลตัสตงกง พระเอกไปอาบอบนวด แต่ไม่ได้มีอะไรกับใครนะแค่ไปนวด คนยังด่าเลย แต่คนให้อภัยก็เยอะเพราะถึงไปอาบอบนวดแต่ไม่นอกกาย เรื่องนอกกายคือเรืรองใหญ่ ถ้ารู้ว่านิยายเรื่องไหนมีประเด็นนี้ หลายคนจบเลย ไม่ให้ไปต่อ ไม่ฝืนอ่านให้เสียอารมณ์
ky เพื่อน กุชอบอ่านฟีลกู้ด slice of life daily life ไรงี้นะ แต่เขียนเองจับทางไม่ถูกเลย ปกติเป็นสายดราม่าตับแตก อะไรคือเคล็ดลับการเขียนแนวที่ว่ามาแบบให้มันมีอะไร น่าติดตาม ไม่น่าเบื่อวะ
>>358 ถ้าเอาแบบสถุนแต่รับได้ มีพัฒนาการตัวละคร มึงลองอ่านพิดพันทะกาน ของ อชร. สปอย.....................พระเอกตอนวัยรุ่นคือชีวิตเหลวแหลกจัด ปากหมา ขี้โมโห ติดเพื่อนเลว ๆ เล่นยาด้วย มีคบกับสาวอื่น (แต่ยังไม่คบกับนางเอก) แต่พอเจอจุดเปลี่ยนกลายเป็นผู้ใหญ่นิ่งขรึม แดดดี้แส้บ ๆ นักอ่านกรี้ดลืมความเปรตตอนวัยรุ่นหมด ส่วนตัวร้ายก็เหี้ยแบบเหี้ยสุดตีน แต่ก็ยังมี redemption ark คนอ่านให้อภัยได้ (?) สำหรับความขมปี๋กูสะใจอยู่
>>364 สำหรับกูคือคาร์เลยเพื่อน พื้นฐานยืนหนึ่ง ถ้าคาร์พระนาง / ไดนามิคความสัมพันธ์น่าสนใจก็น่าอ่านแล้ว แต่ก็ลางเนื้อลางยาอะนะ
>>366 ไม่ชอบเหมือนกัน ตามโม่งบน คือเก้ท เข้าใจ แต่ไม่ชอบไง ง่าย ๆ คนไม่คิดอะไรก็มี แต่กาหัวไว้เลยว่ามีคนไม่ชอบแน่ ๆ (เช่นกูและคนอื่น ๆ) อย่าว่าแต่ค่อย ๆ ลดเลย เอาแค่ในเรื่องมี hint หรือมีซีนพระเอกได้กับคนอื่นสักเสี้ยวเดียวต่อให้มีเหตุผลอะไรรองรับก็มีคนไม่เคอยู่แล้วว่ะ ฟีลเดียวกับนางเอกซิงอะแหละ อย่างที่บน ๆ ว่า บางคนมันโหยหานิยายขายฝันชีวิตนี้มีแต่เธอคนเดียวน่ะ ชีวิตจริงเรียล ๆ เป็นไงช่างแม่งเหอะ อ่านนิยายอยากได้อะไรที่ escape from reality ใด ๆ มึงมีสิทธิ์เขียนนะ แต่นักอ่านก็มีสิทธิ์คิดเห็นเหมือนกัน ช่วยไม่ได้หรอก อยากเพลย์เซฟหรืออยากตามใจฉันก็เลือกโลด
ขอบใจสำหรับคำตอบทุกคนมากเลย
ตอนนี้หนักใจล่ะ เพราะตอนแรกตั้งใจจะกำหนดให้พระเอกทรงแบดๆ หน่อย ก่อนเจอนางเอกจะให้มีซื้อกินอยู่บ่อยๆ หลังเจอกันแต่ยังไม่ได้คบก็มีแวะไปบ้างก่อนจะค่อยๆ ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นอะไรทำนองนี้
แต่ถ้าหลายคนว่ามันไม่โอเค กูคงต้องเปลี่ยนแล้วล่ะ ฮืออออ
>>371 เอาจริงมีคนโอเคนะมึง เคยเห็นแนวนี้อยู่บ้าง นข.ดัง ขนาดคนยี้พระเอกธงแดงยังอ่านแล้วอวย คือถ้าใจมันอยากเขียนก็เขียนเหอะ มีพล็อต มีไฟ สตอรี่คู่นี้ต้องเวย์นี้เท่านั้นก็เอาเลย ไม่มีใครสารภาพออกมาตามตรงหรอกว่าชอบ/รับแนวนี้ได้ ถ้าเขาอ่านได้เขาก็ซื้อเอง โอ๋ๆ แล้วแต่มึงเลย555
พูดถึงแนวธงแดงแล้ว อยู่ๆ กูนึกย้อนถึงสมัยตอนกูยังเป็นวัยรุ่นๆ สมัย F4 ฉบับไต้หวันเลยแฮะ
จำได้คือสมัยนั้นนางเอกแม่งโดนพวกตัวเอกกลุ่ม F4 บูลลี่ เพราะไปตั้งตัวกันเป็นศัตรู พระเอกลูกคุณหนูแบ็คใหญ่โตใช้อำนาจข่มเหงคนอื่นงี้ หลอกนางเอกไปทำให้ขายหน้างี้ ฯลฯ ชายแทร้ที่ไม่น่าคบอย่างยิ่ง แต่กูจำเนื้อเรื่องไม่ได้ละว่าทำไมหลังๆ มันถึงไปได้ลงเอยกันวะ ถถถถถ
>>374 กูจำของไต้หวันไม่ได้แล้วว่ายังไง แต่ตามต้นฉบับคือได้เห็นความดีเลยเปิดใจให้กัน คือนางเอกมันชอบพระรองเพราะเป็นคนเดียวที่ดีกับนางท่ามกลางสภาพแวดล้อมห่าเหวนั่น แต่พระรองมันมีคนที่ชอบอยู่แล้วนางเอกเลยอกหัก พระเอกมันก็รู้ว่านางเอกชอบพระรอง เห็นนางเอกอกหักเลยปลอบ นางเอกทำใจได้ มูฟออนแล้วเชียร์อัพให้พระรองไปสารภาพรักกับคนที่ฮีชอบ ช่วงนี้พระเอกก็จะเริ่มทำให้หัวใจนางโดขิมั่งละ แต่ยังอยู่มู้ดเศร้าที่อกหักเลยยังไม่ได้อะไรมาก
ทีนี้มันมีตัวร้ายที่เคยมีความแค้นกับพระเอกมาเล่นงานนางเอก ทำลายชื่อเสียงนางเอกในโรงเรียนทำให้นางดูเป็นอีร่านจับปลาสองมือหลอกพระเอกแล้วโดนรุมแบนแบบตอนเข้าเรียน ทีนี้นางเอกโดนจับไป พระเอกมันเลยเอาตัวมาปกป้อง บอกนางเอกไม่เกี่ยว ตัวร้ายมันเลยเสนอว่าถ้าพระเอกยอมโดนกระทืบแต่โดยดีมันจะปล่อยนางเอกไป พระเอกก็ยอมโดนยำตีนไม่โต้ตอบซึ่งผิดนิสัย แต่เพื่อนๆแก๊งค์ F4 มาช่วยทัน แล้วก็นั่นล่ะ นางเอกเลยยอมเปิดใจให้ กูอ่านนานแล้ว ถ้าความจำผิดเพี้ยนกูก็ขออภัย
>>374 โคตรเก่า ถ้ากุเล่าจะฟ้องอายุมั้ย
คือนางเอกมันสู้ สู้แบบวลีพี่ก้องอ่ะมึง "กูไม่ออก ออกแล้วกูจะเอาไรแดก!" ประมาณนั้นแหละ จนพระเอกมันติดใจความแกร่งความแปลก แล้วก็ไปหลงรักขึ้นมาแบบไม่รู้ตัวนั่นแหละ
แต่เอาจริงๆที่การบุลลี่นอ.เจอแรงนะ ถ้าไม่ฉาบความโปกฮาเข้าไปมันจะกลายเป็นฟีล มังงะเรื่อง LIFE (ใช่ชื่อนี้ป่าววะ)ที่สะท้อนปัญหาการบุลลี่ในรร.ญป.ที่โคตรจะแรงแทน
Kyถ้ากูทำนิยายขายคู่ แต่มีคนมาขอซื้อเดี่ยวกูไม่ขาย มันก็สิทธิ์กูใช่ไหมวะ กูไม่การตลาดอะไรทั้งนั้น แค่อยากให้ลูกกูไปพร้อมกัน ขายไม่ออกก็อยู่ด้วยกัน
เพิ่มหน่อย สมมติ ขายคู่ แต่กูแม่งไม่ชอบงานอีกคน ค่อนไปทางยี้ ถ้ามาบังคับขายคู่ กูเทแม่งทั้งคู่ไปเลย
>>377 สิทธิ์มึงแหละ แต่คนอ่านก็มีสิทธิ์เทเหมือนกันนะ
ถ้าถามกูคือไม่ชอบอ่ะ ต่อให้งานคนเดียวกันแต่มันก็ต้องมีจุดที่ชอบไม่ชอบในเรื่องต่างกันออกไปอยู่ดี กุจะเสพแล้วกรี๊ดแต่อันที่กุชอบไม่ได้เหรอวะ ทำไมต้องฝืนอ่านคู่
มันก็ขึ้นกับสถานการณ์ บางทีกุก็เฉยๆรอคนเอามาปล่อยแยกได้(ถ้าเป็นเล่มปกติมักจะมี) แต่ถ้าให้ความรู้สึกถึงขนาดที่ว่าคนเขียนบังคับกูจังวะ ทางเลือกไม่ให้กุเลย หยิ่งติสท์เหมือนกูไปขออ่าน นี่กูเททั้งนามปากกาเลยล่ะ
จริง สิทธิ์ของนข.ติสต์ สิทธิ์เทของนักอ่านเหมือนกัน 55555 แบบนี้เรียกไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายได้มั้ง แต่ก็ต้องรู้ไว้แหละว่ามันนับเป็นการไล่แขก อะไร 'เยอะ' ทำนองนี้มันมีคนเหม็นอยู่แล้ว เหมือนร้านอาหารเรื่องมาก ไม่ซื้อแม่งละ
คนเดียวกันเว้ย เรื่องจักรวาลเดียวกัน กูกะทำเก็บเอง ขายแต่ebook ก็มีคนมาขอให้ทำเล่มขาย กูก็เลยทำเผื่อให้ ไม่เยอะ แต่พอมีคนอื่นรู้ก็จะมาขอแยก ซึ่งกูไม่ได้คิดจะแยกตั้งแต่แรก
ขอบคุณพวกมึงนะ กุไม่รู้ตัวจริงๆว่าแบบนี้คือติสต์ อินดี้ กุแค่สะดวกขายแบบนี้ ใครไม่สะดวกก็ผ่านกันไป 555
นี่แหระ นี่แหระเหตุที่ต้องมีคนช่วยให้คห.เวลาทำอะไร ไม่ว่าบก, เบต้ารี้ด, ผู้ช่วยอื่นๆ เวลาลุยเดี่ยวแล้วมันจะไม่ทันตระหนักอะ อย่างกุเวลาเผลอเขียนอะไรบ้งๆ ถ้าไม่มีเพื่อนมีบก.คอยรีเช้คปล่อยงานออกไปโดน แรงกระแทกทีคือเสวเลย 5555 แม่งบางอย่างก็เผลอมองข้ามจริงๆ ฟีลต้องมีพิสูจน์อักษรแก้แหละ เจ้าแม่สะกดเป๊ะแค่ไหนตรวจเองเพลินเกิน อ่านข้ามคำผิดเบิ้ด
ว่าไปเบต้ารี้ดกูแม่งอู้งานแน่ๆ ส่งไปให้แล้วแม่งบอกแค่ว่าสนุก โอเค ยอดมาก อวยคมกูซะดิบดี
พอปล่อยงานออกไปจริงแม่งกริบ ทำเอากูเสียเวลาเขียนไปตั้งเยอะ
Ky เพื่อนโม่ง ถ้าส่งไฟล์อีบุ๊กให้เมพวันอาทิตย์ประมาณสี่โมงเย็น จะได้วางขายหลังเที่ยงคืนวันนั้นเลยป่าว
ว่าไปขอถามเป็นวิทยาทานหน่อยโม่ง ถ้าสมมุติว่ากูเขียนเรื่องหนึ่งแล้วมันควบอยู่หลายหมวดนี่ ควรใช้อะไรในการเลือกดีว่าจะลงหมวดไหน
อย่างเช่นเรื่องเป็นแนวรักดราม่า + โศกนาฏกรรม เรื่องดำเนินอยู่ในโลกแฟนตาซี เซ็ตติ้งเป็นยุคขุนนางพรีเรียด แล้วในขณะเดียวกันก็เป็นนิยายวายด้วยงี้
>>390 เอาแบบตามสามัญสำนึกของกูไม่การตลาดนะ
ดูแกนหลักของเรื่อง ว่าเน้นไปที่เอเลเมนต์ไหนมากกว่า เช่น เส้นเรื่องหลักคือรักดราม่าของผู้ชายสองคน ไม่ว่าจะเซตติ้งไหน ไปหมวดวาย
ถ้าไม่เน้นรัก แต่เน้นการผจญภัย/ใช้ชีวิตในโลกแฟนตาซี มีเลิฟไลน์เป็นแบคกราวด์ ก็ลงแฟนตาซีได้ แล้วแปะหมวดรองเป็นวาย
Kyมีวิธีรับมือกับความอ่อนไหวใจบางของนักเขียนไหมวะ คนอ่านทักถาม คำที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ นข อธิบายแล้วแต่ก็คิดว่าเป็นความผิดตัวเอง ปิดเรื่องหนีไปเลย
ต้องขายดีขนาดไหนวะ ถึงเรียกว่านขชื่อดังได้ ถ้าเคยได้ทำซีรี ละคร นับไหม
>>394 ไม่มี เรื่องปัจเจกสุด ๆ สุดแล้วแต่บุญแต่กรรมว่าจะเจอนข.ใจหินโดนด่ายับแต่ยิ้มไหว้ย่อหรือนข.ใจบางเป็นซึมเส้าเซ้วเอสตีมต่ำ
>>395 แล้วแต่บาร์คนอีก แต่ได้ทำละครปังเปรี้ยงเรื่องเดียวก็ไม่ใช่ว่าคนจะรู้จักกันถ้วนหน้นะ ต้องยอดแบบเรตติ้งถล่มทลายคนจำนามปากกาได้นั่นแหละ ส่วนตัวกุสมัยก่อนใช้บาร์ถามมักเกิ้ลแล้วคุ้นๆ, นามปากกาติดหูติดตา, มีผลงานเยอะจัดเกลื่อนร้านนส.? พวกชั้นครู ฯลฯ
เพื่อนโม่งกุสงสัยว่าเวลานักเขียนเปิดเรื่องไว้ แต่ยังไม่ได้ลงซักตอน แบบนี้มันจะไม่เสียโอกาสขึ้นใหม่มาแรงเหรอวะ ปกติมันนับตั้งแต่วันเปิดเรื่องเลยป่ะ หรือนับวันที่ลงตอนแรก
ky กุเครียดมาก ตอนนี้เดดไลน์จี้ตูดกุแบบหายใจรดต้นคอเลย แต่กุไม่ลงมือเขียนซักทีเพราะกุกลัวมันออกมาได้ไม่สนุกไม่ดีเหมือนที่กุตั้งใจไว้ เพื่อนโม่งช่วยโอ๋หรือช่วยด่าให้กุแจ้นไปเขียนไฟลุกที
>>401 เป็นกันทุกคนมึง แต่เราต้องผ่านมันไปให้ได้ นี่คือบททดสอบชีวิตของมึงแล้ว งานทุกงานมีส่วนยาก และนี่คือส่วนยากมากกกของงานเขียน มึงต้องสู้กับมัน ต้องแข็งใจทำ แล้วมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน เหมือนมึงอ่านหนังสือไปสอบ หัดขี่จักรยาน หัดขับรถ หัดว่ายน้ำ มันไม่มีทางดีเลิศตั้งแต่แรก มึงก็ต้องทำไปทั้งอย่างนั้นแหละเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้น ไปเว้ย ไปสู้
>>401 มันมาถึงเดดไลน์ขนาดนี้ละ รออารมณ์ไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะเดี๋ยวมึงก็มารู้สึกผิดทีหลังอีกว่าเขียนไม่ดี งั้นก็เหลือเป้าเดียวให้ตัวเองภูมิใจละว่าต้องทันเดดไลน์ วินัยเท่านั้นมึง หายใจเข้าหายใจออกก็ต้องเขียนออกมาให้ได้ เรื่องใหม่ค่อยจัดเวลาใหม่ แต่เรื่องนี้ยังไงก็ต้องปั่นให้เสร็จทันเวลา!
ky ถ้ากูกดขอให้เม้บทำนิยายเสียงให้ไปแล้ว กูต้องทำอะไรต่อไหมวะ สมควรถามเขาไหมว่าเรื่องกูจะได้ทำเมื่อไร ยังไง
Ky พวก สมมติว่ามึงมีนามปากกาเก่า ซึ่งก็ขายดีแหละ แต่อาจจะเผลอทำไรสักอย่างบ้งละโดนนักอ่านบางส่วนสาปถึงขั้นขอเลิกตาม มึงอวตารถอดร่างไปเปิดนปก.ใหม่ ทีนี้ปังเปรี้ยง ประวัติขาวสะอาด ขณะนั้นมึงจะยังกลับไปอัปเดตอะไรในฐานะนปก.เดิมมั้ยวะ หรือปล่อยแม่งร้างไปเลยเหมือนตายไปจากโลกนี้แล้ว พอดีกุเห็นนข.ขายดีบางคนเคยออกงานสม่ำเสมอแล้วจู่ ๆ ก็หายไปเลย ไม่บอกไม่กล่าวไม่มีอัปเดต ละไปนานละเป็นหลายปี ไอ้กุก็มโนแจ่มไปดิ พส.อวตารแล้วปะว้า 55555
>>409 กลับไปทำไมอะมึง5555 กลับไปก็โดนด่าดิ เนียนๆอยู่นปก.ใหม่อะดีละ มีเยอะด้วย มึงจะลองมโนก็ไม่เสียหาย ตามบายเลยเพราะเกิดขึ้นจริง แค่จะเกิดขึ้นกับนักเขียนที่เราชอบมั้ยอันนี้ก็อีกเรื่อง
เอาจริงถ้าเปิดนปก.ใหม่แล้วยังดังคือโชคดีมากนะ สำหรับกูยุคนี้เขียนดีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีดวง มีโชค สู้กับยอดเอนเกจอันน้อยนิด กูเห็นคนดังๆบางคนเขียนพระนางนิสัยเดิมๆ อีเว้นท์จีบกันเริ่มดูซ้ำๆ มีการรียูสในเรื่องใหม่เยอะแยะ แบบที่ถ้าเริ่มตะลุยอ่านเรื่องเก่ามาเรื่องใหม่คือจับจุดได้เลยด้วยซ้ำเพราะเขียนมานาน แต่อยู่ได้เพราะเป็นคนแรกๆที่เขียนลงเว็บแล้วแฟนคลับเหนียวแน่น ได้เป็นคนแรกของนักอ่านหลายคนพอดี เขาไม่อยากไปหานักเขียนคนอื่นเฉยๆ (บางคนบ้งหนักถึงขั้นโกงเลยไม่ยอมทิ้งโซเชียลเดิมของตัวเองไปไง เพราะยังต้องหากินกับแฟนคลับเก่าอยู่ อย่างน้อยคนรีไปด่ายอดรีมันก็หอม)
>>408 ตลาดนิยายเสียงเป็นไงวะ มีคนสนใจเยอะมั้ย
กูเป็นคนนึงที่รู้สึกว่าฟีงนิยายเสียงไม่ไหวเลย ชินกับการอ่านแล้วจินตนาการเอง พอมีเสียงแล้วรู้สึกเสียงมันขัดมูด ผสมๆชวนให้นึกถึงละครวิทยุสมัยคุณย่าคุณยาย แต่น่าจะดีกับคนสูงอายุที่อ่านไม่สะดวก
กูเคยไปอ่านหนังสือให้คนตาบอด แต่กุฝึกไม่ผ่าน ไปสามครั้งไม่ผ่านสักที ท้อ ไกลด้วยสุดท้ายเลยเลิกไป
นข.ที่กุรู้จัก ทุว้าฎารา เขียนเองอ่านเอง ครบจบไม่ต้องรอใครมาพากย์ และเข้าใจอารมณ์ตลค.สุด รับเงินเต็มๆ เสียงโคตรน่ารักนางฟ้านางสวรรค์ด้วยมึง ลองไปฟังจะตกหลุม
>>414 เข้าใจไม่ผิดหรอก กูรู้ว่ามีคนกลุ่มอื่นฟังด้วยในแบบที่มึงว่า แต่กูไม่รู้ตลาดมันกว้างขนาดไหน เลยถาม 408 ที่น่าจะเคยเล่นในตลาดนี้แล้ว ส่วนในรีกูพูดถึงครส.ส่วนตัวที่มีกับนส.เสียง และคห.ในแง่ว่ามันดีกับกลุ่มสูงอายุที่สายตาเริ่มมีความเสื่อม ไม่ได้หมายความคลุมทั้งหมดว่ามาร์เกตมีแค่ผู้สูงอายุ
>>411 >>416 ถ้าถามว่าตลาดนี้เป็นไง กูก็จะตอบว่าไม่รู้อะไรเลยว่ะ กูไม่ได้ช่ำชองตลาดหนังสือเสียงเลย หนังสือเสียงของกูไม่ได้ยอดเยอะเท่าไร ขนาดจัดโปรลดแล้วลดอีกก็ไม่กระเตื้องเลยมึง ฮ่าๆ
อ้อลืมบอก ตรงการกำหนดว่าจะร่วมโปรลดราคานี่เรากำหนดได้เองเหมือนเป็นอีบุ๊คของเราเลย ดูยอดขายอะไรก็ทำได้เหมือนอีบุ๊ค แค่ตอนเอาไฟล์ลงขายพรี่เม็ดเขาจะทำให้
พูดถึง NC ถ้ากูติด Tag NC เอาไว้ แต่ไม่เน้นขายเนื้อหาเสว แค่มีเนื้อหา NC ราวๆ เล่มละ 1-3 ตอนเองนี่กูยังควรติดเอาไว้ปะวะ?
Kyเวลาส่งไฟล์ให้พิสูจน์อักษร มันเยอะมากกก เพื่อนโม่ง ส่งทางไหนกันเหรอ อีเมล? หรืออะไร
ขอบคุณล่วงหน้า🙏🏻
ติดไว้เพื่ออะไรล่ะ
ถ้ากะขายคนหาฉากเรท สามฉากจากเนื้อหาเป็นเล่ม แถมไม่เน้นขายเสว น่าจะไม่ทันใจและไม่มากพอตอบสนองคนที่ตั้งใจหาแนวนั้นอ่านหรอก
ส่วนถ้าจะเอาไว้เตือนคน ถ้าฉากมึงมันล่อแหลมมากจริง +เป็นncด้านอื่นที่ไม่ใช่ด้านเสว แปะ 18+ ติดบัตร ไปเลยตรงจุดกว่านะ
ความหมาย nc ของนักอ่านก็เพี้ยนไปเป็นเฉพาะฉากเยแบบจัดหนักจัดเต็มคำตรงๆเกลื่อนไปแล้วด้วย
ส่วนตัวคิดว่าถ้าอยากติดเพื่อบอกว่ามีเลิฟซีนแบบบรรยายการแทงอยู่นะก็ติดไปได้ แต่มันไม่ค่อยให้ผลทางการค้นหาเท่าไหร่ถ้ามึงไม่คิดขายเสว มันเป็นแท๊กที่กว้างมากน่ะ
ความย้อนแย้งคือ เขียนนิยายมี nc แต่ไม่แปะบัตรกันเต็มเวบ คือ no childern allows แบบใด?
ky พี่หรือน้องตัวเอกตายไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่กูยังเอาความตายของเขามาขยี้ใจตัวละครซ้ำๆ ต้องติด TW มั้ย อยากรู้ว่าคิดกับประเด็นนี้ยังไง มันร้ายแรงถึงขั้น trigger คนเคยสูญเสียครอบครัวเลยหรือเปล่า คือถ้าข่มขืนกับล่วงละเมิดกูพอเข้าใจ ติด TW แน่ๆ แต่ความตายในอดีตของคนคนนึงที่ยังตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในใจตัวละคร ต้องติดมั้ยนะ
>>422 ขึ้นอยู่กับกลุ่มตลาดมึงคือใคร ถ้าตลาดหลักขายพวกป้าๆในเฟซแนวรักหรือโรมานซ์จ๋าๆไม่ต้องติดก็ได้ กูอ่านเรื่องล่าสุดนิยายที่ป้าๆหลายคนรีวิวไว้ นางเอกคิดถึงพ่องที่เป็นลมตาEไปต่อหน้าแทบทุกบท นึกถึงพ่อตลอด นิยายไม่ติดtwประเด็นนี้ และไม่มีใครมองว่าเป็นเรื่องสำคัญก็แค่นางเอกเศร้าที่พ่องตาEและคิดถึงขึ้นมา
แต่ๆๆๆถ้าตลาดหลักของมึงคือx กูไม่รับประกัน พวกนักฉอดในxมันใจบางทุกอณู
>>423 แต๊งจ้า เคยไปส่องหลังบ้านกลุ่มคนอ่านก็ดูสูสีไล่เลี่ยกัน555 กูลังเลจะติด TW ดีมั้ยเพราะอยากหลอกคนอ่านว่าพี่น้องตัวเอกยังมีชีวิตอยู่ แล้วค่อยมาเฉลยกลางเรื่องแบบเซอร์ไพรส์ว่าตายไปสักพักแล้ว ขยี้ด้วยฉากย้อนอดีตไปถึงงานศพกับความดีที่อีกฝ่ายเคยทำอีกสักหน่อย ถ้าติดคือเฉลยแน่ โอเคตัดสินใจละ กูไม่ติดละกัน อยากได้น้ำตา
มึง คนเขียนสั้น ๆ ≈60-80k คำนี้เขาเขียนกันยังไงอะ 55555 ของกุแค่ bg พระนางก็ยาวแล้ว ช่วงจีบกัน ช่วงเดินเรื่อง แก้ปม ซีนตัวละครอื่น ฯลฯ อย่างน้อยต้องทะลุแสนคำ กุยังเขียนไม่สะใจเลย เขียนน้อย ๆ มันยัดพอเหรอ หรือต้องคัดแต่เนื้อเน้น ๆ ;-;
อยากถามว่าถ้ากูอยากเขียนแนวแฟนตาซี ตัวเอกหลักเป็นผู้หญิง ตัวเอกรองเป็นผู้ชาย ดำเนินเรื่องคู่กันยังจบ แต่มันไม่ได้คู่กัน เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากเฉยๆ (นึกภาพโตะเกะ คิรัวกอน ไรประมาณนั้นที่คสพ.ดูส่อสัสๆแต่เป็นโบรแม้น) แล้วนางเอกมีผัวเป็นคนอื่น
คำถาม กูจะโดนนักอ่านด่าไหม55555
>>429 มึงอย่าเขียนแบบยมทูตผงซักฟอกละกัน555 ชงเข้ม แต่เสือกเรือแตก555 ถ้ามันเป็นเพื่อนก็เขียนว่าเป็นเพื่อนกันให้จริง อย่าใส่โมเม้นท์กูว่านักอ่านรับได้ ถ้ามึงหยอดมาตลอดว่า สองตัวนี้ อนาคตผัวเมียแน่ๆ แต่ถ้าเสือกใส่โมเม้นท์ต์โดขิๆ จบแบบเรือแตก มึงเกียมจองหลุมอยู่ในลิสต์นปกที่นักอ่านระแวงได้เลย
#หมายถึงนางเอกกับผัว
ถ้ามึงหยอดมาตลอดว่า สองตัวนี้ อนาคตผัวเมียแน่ๆ
Kyปรึกษากุควรเขียนประวัติการศึกษา การทำงานในเพจนปก.,กู๊ดรี้ดหรือในไอจีดีไหมวะ เช่นจบเตรียมอุฯ+อักษรจุ๊ งี้ มันจะดูดีขึ้นหรือดูสะเหล่อไหมวะ ควรปิดๆไว้หรือเปิดเผยดี หรือพวกมึงคิดเห็นยังไงกับการที่นข.บอกประวัติพวกนี้ในหน้าโปรไฟล์
ky กูเขียนเรื่องนึงจะจบแล้ว แต่มี self doubt หนักมาก ว่าสิ่งที่เราเขียนมันสนุกจริงๆ เหรอวะ มันเผยแพร่ได้จริงๆ เหรอวะ กลัวนักอ่านผิดหวัง พวกมึงเป็นกันบ้างไหมวะ ถ้าเป็นแล้วแก้ยังไง
>>432 ไม่คิดอะไรนะ แต่ถ้าโปรไฟล์มึงอลังจัดจบคิงตันไอวีลีคงี้อาจจะมีคนมองว่าอวด 555 หยอกๆ จริงๆ ชีวประวัตินข.พวกนี้ปกติมากมึง ไปเปิดดูงานสนพ.เก่าๆ เลย บอกหมดเป็นคนบ้านไหน จบรร.ไรม.ไรทำงานไรอยู่ นข.ต่างชาติก็บอกเหมือนกัน ไม่ต้องคิดมาก
>>434 ก็เป็นบ้าง แต่มันจะจบแล้วก็เข็นๆ ออกมาเถอะมึง ช่างแม่งเข้าไว้ มัวแต่กลัวนั่นนี่ลูกมึงก็ถูกดองไว้ในไหอย่างงั้นแหละ ไม่ได้เฉิดฉายสักที ฮึบๆ
กุมา ky ด้วย คำนำนข.ในเล่มนี่กูเล่าได้มั้ยวะว่าเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง/ภาพอะไร ควรไม่ควรมึงว่า หรืองุบงิบไว้คนเดียวดีกว่า ไม่ต้องพาดพิงผลงานจริง (แม้กุจะคันปาก(มือ)อยากเล่ามาก)
>>437 ความเห็นกูนะ ต่อให้มึงไม่ได้รับแรงบันดาลใจจากที่ไหนเลยก็ควรจะปั้นขึ้นมาว่ะ ดักไว้ก่อน จะบอกว่าได้มาจากเรื่องของป้าข้างบ้านในฝันของปู่หรืออะไรก็ได้ เดี๋ยวนี้คนประสาทแดกเที่ยวจับผิดว่านักเขียนลอกคนนั้นคนนี้มันเยอะ กูเคยโดน หาว่ากูลอกซีรีส์มาเฉยเลย ทั้งที่กูไม่เคยดูซักกะแอะ เดี๋ยวนี้กูเขียนอะไรกูมีแรงบันดาลใจหมดอ่ะ นอกจากแต่งนิยายแล้วกูแต่งแรงบันดาลใจด้วย เพื่อความปลอดภัยของกู
กูอยากเขียนบทสนทนาระหว่างตัวละครให้สนุกว่ะ คือคุยกันเฉยๆก็สนุกแล้ว หรือไม่ก็อ่านแล้วไม่น่าเบื่อ กูควรศึกษางานจากไหนวะ จะต่อปากต่อคำคือพูดจาหวานๆก็ได้ อยากอ่านเรื่องที่ตัวละครโต้ตอบกันได้ดี หรือมีเคล็ดลับอะไรมะที่ทำให้ตัวละครคุยกันสนุก
เงิบว่ะกู ช่วงนี้ไม่มีอารมณ์ ไม่มีแรงบันดาลใจให้เขียนเลยลองไปเดินร้านหนังสืออย่างนายอินทร์หวังหาแรงบันดาลใจ
แต่พอไปก็ถึงกับเฟล เพราะดูเหมือนจะมีนิยายขายไม่ออกวางบนเชลฟเพียบ ซึ่งทำเอาคิดย้อนเลยว่าขนาดเรื่องพวกนี้ยังขายไม่ออก แล้วเรื่องที่กูจะเขียนมันจะขายออกเหรอ จนกลับมากอดเข่านอนจิตตกอยู่กับบ้านเลย
ky กูจะแจกโค้ดนิยาย เลยให้ตอบคำถามในเม้น แล้วมีบางคนดูก็รู้ว่าสมัครมาตอบคำถามแบบหว่านแหเผื่อถูกในเวลาไล่เลี่ยกันอะ แอคเพิ่งเปิดแล้วมาเม้นตอบรัวๆจนถูกแบบไม่มีการเว้นช่วงให้กูไม่ติดใจสงสัยเลย ขนแอคมาขนาดนี้ก็ต้องตอบถูกอยู่แล้ว กูก็ผิดเองด้วยที่ไม่ได้เขียนกติกาชัดเจนว่าคนเดียวตอบได้แค่ 1 ข้อ ไม่คิดว่าจะมีคนลงทุนขนาดนี้ พอจะแจกให้เขามันก็รู้สึกผิดกับคนอื่นที่เล่นตามกติกาอะ คนอื่นเขาก็ทำได้ ทำเนียนกว่าด้วย แต่เลือกจะไม่ทำไง ถ้ากูให้เขาก็เหมือนให้ท้ายคนหัวหมออีก กลุ้มใจนิดๆว่ะ
>>447 สารภาพว่ากูเคยทำแบบนี้กับนข.คนหนึ่ง เอาหลายๆแอคที่มีมาตอบให้ตัวเองอย่างน้อยก็ต้องได้ สัก1
ตอนนั้นคนดูออกก็มีแต่ความอยากได้ของฟรีมีมากกว่า และนข.ก็มีแจกเยอะเลยรอดตัวไป
อย่างน้อยมึงก็ได้เรียนรู้แหละว่ามันมีจริงคนที่อยากได้ของฟรี(เอาไปขายได้เงิน)และทำได้ทุกอย่างเพราะกติกาไม่ได้กำหนด
>>448-449 ขอบคุณนะ ได้เรียนรู้แหละ แง555 หลายๆคนก็คิดได้และน่าจะเคยทำแหละ ถ้าทำเนียนก็รอดหูรอดตาไป แต่อันนี้ไม่เนียนมากๆจนกูละเหี่ยใจ เว้นระยะเวลาสักวันสองวัน รึครึ่งวันยังดูมีความพยายามนะ อันนี้คือทำติดๆกันห่างแค่ไม่กี่หน่วยนาทีแบบไม่ไว้หน้ากันเลย กูก็แอบโกรธอะ
น่าจะเพิ่มโควต้าแจกให้คนตอบใกล้เคียงด้วยแหละ ไม่เข้าเนื้อ เขียนเป็นงานดิเรกเฉยๆ ไม่ก็ภาวนาให้คนนั้นเขาหายไปไม่มาเอาของรางวัล (ไหว้มาก) เมื่อก่อนเว็บมันยังโชว์ ip address นะเลยรู้ว่าใครสมัครแอคใหม่ ไปเปิดแอคร้านคอมก็ยังพอเดาได้ แต่เดี๋ยวนี้คือใช้เซนส์อย่างเดียวเลย พอเจอพวกคนจ้องเอาไปขายด้วยคือเซ็งมาก เอาซะคราวหลังอยากจับสุ่มกลุ่มคนที่เม้นบ่อยให้มันจบๆไป แจกแบบเซอร์ไพรส์ไม่ทันตั้งตัวไปเลย
ky ช่วยด้วยเพื่อน กุ ref ท่วม กำลังจะเริ่มเขียนแต่ ref กับ topic ที่จดเก็บไว้เตรียมเขียนมันกระจัดกระจาย คืออยู่ในไฟล์เดียวนี่แหละ แต่กุคิดอะไรออกก็ไปหย่อนไว้ในนั้น ทำยังไงให้กุจัดระเบียบมันให้หยิบมาเขียนตามไทม์ไลน์ได้เร็วๆ บ้างเพื่อน ไม่เอาแบบที่ด่ากุว่ามึงก็จัดแต่แรกนะ 5555 กุรู้ตัว กุผิดไปแล้ว แต่ตอนนี้อยากได้วิธีแก้ปัญหาแบบด่วนๆ
>>452 พูดถูก ไม่มีจริงๆ555 เว้นเสียแต่ว่ามึงจะตบตีตัวเองว่าต้องจัดให้เป็นระเบียบให้ได้ แล้วใช้เวลาครึ่งวันจัดๆอะได้อยู่ กูก็ยอมเสียเวลาวันนึงมาจัดเรียงเลย แลกกับกระบวนการหลังจากนี้มันจะไวขึ้นมากๆ ต้องทำอยู่ดีว่ะ บางที ctrl+f ในแอปที่ใช้จดโน้ตแล้วมันอ๊องๆหาไม่เจอด้วยนะ จัดไว้เป็นระเบียบหยิบใช้ง่ายยังไงก็อุ่นใจกว่า แค่ต้องเตรียมใจนิดนึง
ky เพื่อนโม่ง ถ้ามีคนคอมเมนนิยายว่าภาษาอ่านง่ายภาษาเข้าใจง่ายนี่มันเชิงบวกหรือเชิงลบวะ ไม่เคยเจอคอมเมนงี้ไม่แน่ใจอ่ะ
ky เราจะเปลี่ยนชื่อสำนักพิมพ์ในแม๊พให้ต่างจากนามปากกายังไงนะ กูลองทำแล้วมันแสดงเป็น นามปากกา/ชื่อสนพ. อยู่ดี อยากได้แบบแสดงเป็นชื่อสำนักพิมพ์อย่างเดียวว่ะ
ky เพื่อน กุคือคนที่เคยสงสัยว่าพวกนข.อย่างโลตัสตงกงเขาคิดพล็อตแล้วเขียนจบทุก 1 - 2 เดือน แล้วไม่ทำให้คนเบื่อได้ยังไง ขนาดกุเองชอบเรื่องรักๆ ยังอ่านนิยายรักติดต่อกันทุกเดือน เรื่องต่อเรื่อง แบบนั้นไม่ไหว มีเอียนบ้าง
วันนี้กุสงสัยอีกอย่าง ว่าคนที่เคยอ่านงานของโลตัสตงกง กับพวกนข.ตัวท็อปทั้งหลาย คือ nc เขา พระนางมีท่าซ้ำๆ บ้างมั้ย คือสตอรี่ความรักมันต่างกันได้ในแต่ละเรื่อง แต่กุสงสัยว่าถ้าออกงานถี่ขนาดนั้น ฉากบนเตียงเขานข.พวกนี้เขาไม่ซ้ำกันเลยเหรอ (เพราะเรื่องนึงมันก็ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว มันก็หลายครั้งเข้าไปแล้ว) เพราะไม่งั้นคนคงไม่ตามอ่านขนาดนั้น กุเรสเปกจริงๆ
>>460 ตอบในฐานะคนอ่าน เรื่องนึงท่าจะไม่ซ้ำนะและพอไปเรื่องอื่นบริบทของเรื่องที่พาไปสู่เซ็กซ์ซีนมันก็จะให้อารมณ์ที่ต่างกันไปเรื่องนึงเริ่มเรื่องที่หลังจากxxxกันแล้วจนเหงื่อไหล อีกเรื่องก็อาจเริ่มจากรู้จักไต่ระดับความสัมพันธ์จนได้xxxกัน ถ้าเป็นนิยายรัก อาจจะมีบรรยายแซ่บๆ1ครั้งว่าแก่นกายเข้าไปแต่นอกนั้นก็จูบ และจับตรงไหนก็บรรยายไป
คนอ่านอย่างกูไม่รู้สึกว่าแพทเทิร์นมันซ้ำเพราะบริบทส่งให้เกิดซีนนี้มันต่างกัน ส่วนคนเขียนรู้สึกเบื่อหรือซ้ำไหมอันนี้ไม่รู้ว่ะ
ky อีกที พอดีกุไปเจอประเด็นลูกมีแฟนที่นิสัย/หน้าตาคล้ายพ่อ/แม่ตัวเอง แล้วคนบอกว่ามันบ้ง มันแปลก มันเหมือนอินเซสทางใจ (?) คิดว่าไงกัน อย่างลูกสาวชอบผช.ขาวตี๋ ไทป์โกลเด้น ใส่แว่น เป็นหมอเหมือนพ่อตัวเองงี้ มันต้องตีความว่าลูกอยากได้พ่อเป็นผัวเหรอวะ
คือช่วงนี้กุอยากเวิ่นเว้อเขียนแนว ญ อกหักโลกหม่นมาเจอคนที่ทำให้อยากรักอีกครั้ง แต่ๆๆ กุดันชอบที่ตัวเอกจมทุกข์ว่ะ รู้สึกมันดูรักซึมลึกแล้วผช ในความทรงจำนั้นมันดูพิเศษจริงๆ แต่กุก็ไม่อยากเขียนให้สองคนนี้มันวนกลับมาได้กันแฮะ กลุ้มวุ้ย ลูกกุต้องโสดและเศร้าต่อไปเหรอ
ky ถามหน่อยเพื่อนโม่ง ปกติเม้ดจะจัดโปรงานหนังสือที่บ้าน ทีนี้รอบนี้งนส.คือ 10 ตุลา มันเช็คได้มั้ยว่าเม้ดจะจัด 10 ตุลาเป็นต้นไป หรือเริ่มวันที่ 1 เลย กุกลัวออกเรื่องใหม่ชนกับงานหนังสือแล้วจะจม แต่ใดๆ กุไปถามเม้ดมาแล้ว แอดมินบอกรอติดตาม เพื่อนโม่งพอรู้คร่าวๆ มั้ยว่ารอบก่อนๆ คือตรงตามวันเลยหรือยังไง ขอบใจล่วงหน้าเพื่อน
>>470 คือปกติกุไม่เคยดูฤกษ์ไง งานก็ขายโอเค ไม่ถึงกับเปรี้ยงแต่ก็ไม่ดับ ยอดออกกลางๆ ค่อนไปทางดี แต่ไม่ดีมากกก กุชอบเห็นพวกนข.ในเอ้กมาหวีดว่ายอดปังมากกกก ต่างจากเรื่องที่แล้ว เพราะหัดมู สวดนั่นนี่ ดูวันมงคล แต่ความที่กุไม่เชื่ออะไรแบบนี้ไง เห็นนข.โดยเฉพาะสาย ngl ชอบพูดถึงหมอดูประจำตัว ทั้งหมอในเอ้กนอกเอ้ก กุแอบคิดด้วยซ้ำว่าเป็น propaganda ระหว่างนข.กับแอคดูดวงรึเปล่าด้วยซ้ำ 55555 แต่พอยอดกับความแมสมันกลางๆ เรื่อยๆ แล้วช่วงนี้เห็นคนบ่นว่างานขายไม่ค่อยได้กัน กุก็เริ่มคิดว่าหรือกุควรทำอะไรสักอย่างด้วยวะ 5555
KyกุไปเจอนักเขียนประกาศเปิดAffiliateใน ติกตอ กด้วย บอกว่าให้นักอ่านอ่านนิยายและมีรายได้ไปด้วยกัน ดีอะ กุชอบแม้กุจะไม่ได้เล่น ติกๆก็ตาม
ky เพื่อน ปกติกุเขียนไม่เคยอิง plot structure ทีนี้เรื่องใหม่อยากลองตามขนบดู เผื่อจะได้พัฒนาตัวเองด้วย เลยอยากถามเพื่อนโม่งว่าถ้าเป็นรักโรแมนติก ไม่เกิน 50k คำ การวางพล็อตรูปแบบไหนเหมาะสุดน่ะ เช่น 3 ส่วน 5 ส่วน 7 ส่วน อะไรนั่น
ทำไงดีเพื่อน กุกะออกเล่มใหม่ก่อนงานนส. ไม่น่าทันละ จมแน่นวลลล กุออกๆ ไปซะ หรือย้ายไปต้นพฤจิดีวะ ช่วยด้วยเพื่อนนน
>>486 กุเพิ่งเคยออกชนงานนส.ก็รอบนี้แหละ เศร้าว่ะ
ปกติยอดกุก็โอเค กลางๆ มีป้ายแดงบ้างเรื่องสองเรื่อง แต่ไม่ถึงกับเสือนอนกิน
แต่ช่วงนี้เห็นมีแต่คนบ่นเรื่องเศรษฐกิจ เลยปั่นน่าดู กะว่าพอมีเวลา
เม้ดแม่งเริ่มโปรปลายก.ย.เลย กุจะเครซี่ 55555
ถ้าฉิวเฉียดแล้วกุยังว่าเรื่องไม่พร้อม กุเกลาๆ ไป แล้วค่อยออกพ.ย.แบบที่มึงว่าดีกว่า
มึง สมมติเคสนิยายบ้งติดเตือนฉ่ำแล้วนักอ่านยังดั้นด้นฝ่าดงไปอ่านแล้วด่าฉ่ำ
นข : กุเตือนแล้ว มึงจะอ่านทำไม
นอ : ก็กุจะด่า มึงจะทำไม
ความเห็นใคร valid กว่า หรือว่ามวยถูกคู่ 55555
KY ชวนเหล่าโม่งคุยหน่อย
มันเกี่ยวกันมั้ยนะที่ ผญ จะประสบความสำเร็จในวงการนิยาย (โดยเฉพาะแนวรัก) มากกว่า ผช.
พอกูมีเพื่อน นข. ชาย จำนวนนึงเคยเป็นนักเขียนมาก่อน สมัยแนวแฟนตาซีบูมๆ นี่ดังพอตัวทั้งนั้น แต่ปัจจุบันแทบเรียกได้ว่าไม่มีใครรู้จักงานใหม่ๆ จนต้องทำงานอื่นมาเสริม หลายคนเลิกเขียนเป็นงานหลักลดให้กลายเป็นแค่งานอดิเรกเลย
ส่วนของพวกเพื่อน นข. หญิง ที่เห็นมีแต่ออกงานใหม่มาเรื่อยๆ ขายได้เรื่อยๆ ไม่ได้ปังมาก แต่ขายเลี้ยงตัวเองได้ตลอดทั้งนั้นเลย
>>489 แฟนตาซีช่วงนี้มันก็แนวระบบ ดันเจี้ยน ผู้กล้า ปลูกผัก สวมร่างราชา บลาๆอะไรประมาณนี้นะ มีกลุ่มตลาดของเขา เมื่อก่อนฝ่ายชายนี่สายเขียนส่งสนพ.ด้วยป่ะ แนวรักที่ผญ.แต่งหลายคนก็ไม่ได้ขายได้ขายดี บางทีไม่ดังแต่มีเงินตลอดเพราะเน้นออกเดือนละเล่มเลยมีเงินหมุนเข้าออกตลอด ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอ แต่แฟนตาซีมันยากตรงไม่ได้จบแค่เรื่องรักอะดิ สงคราม การเมือง ต้องใช้เวลาเซ็ตติ้งกับมีหลายภาคหลายเล่มเลยใช้เวลาหน่อย กูเห็นผช.สายแฟนตาซีบางคนก็เปลี่ยนมาขายวายแทน เขาก็มีเงินใช้นะ ขึ้นอยู่กับการปรับตัวตามยุคว่ะ กับผช.บางคนไม่ได้อยากเขียนแนวรักไง เขาก็ไม่ลงสนามสายนิยายรัก แฟนตาซีวายเบทก็ขายได้
เอาจริงเดี๋ยวนี้แต่ละคนเหมือนต้องออกมาเขียนเองไม่พึ่งสนพ.กันทั้งนั้นแล้ว สนพ.สมัยนี้อย่างกะพื้นที่สงวนไว้แค่นิยายแปล ส่วนนิยายไทยก็เขียนเองขายกันเองนะพวกมึง555
>>491 ต่อนิดๆ แต่แนวรักใช่ ผู้หญิงประสบความสำเร็จมากกว่า แต่ผช.ประสบความสำเร็จก็มี หนุ่มบางคนเบนไปสายรักแบบวายชช ก็ประสบความสำเร็จเหมือนกัน แค่ไม่ได้อยู่หมวดโรมานซ์ แต่อยู่หมวด boy love ไง หมวดนี้ก็เปย์เหรียญฉ่ำ ยอดหลังบ้านก็เยอะพอตัว ถ้าไม่โกงไม่แขวนคนยังไงก็อยู่รอดถึงขั้นปลูกบ้านกันได้หลายคนอะ
>>494 อย่า ถ้ามึงไม่เสพสายนี้แต่อยากตกสาววาย มึงอย่าคิดว่าแค่เอาคำว่าผมไปใส่ให้นางเอกก็พอแล้วเชียวนะ
Bromance นั่นแหละคำตอบ สไตล์เพื่อนสนิทตายแทนกันได้ มีฉากสนิทๆกันหน่อย หวงเพื่อนนิดๆ ทุ่มเพื่อเพื่อนได้สุดๆ เป็นเพื่อนคนสำคัญเป็นพิเศษอะไรงี้ก็พอ ถ้ามึงไม่ใส่ฉากเยบและไม่ได้ให้มันได้กันอย่างเป็นทางการ ก็ถือว่ามีฟีลวายเบททั้งนั้น ส่วนระดับความเบทค่อยว่ากันอีกที
>>489 แฟนคลับสายแฟนตาซีผชแท้ๆมันมีฐานลูกค้าเป็นพวกวัยรุ่นสายเทคโน พวกนี้ไม่สนสำนวน ไม่สนความสมเหตุสมผล แค่พล็อตสะใจก็โอเค แถมมีทัศนคติว่าจ่ายเงินซื้อแปลว่าโง่ เดี๋ยวนี้เขาเลยไปอ่านนิยายแปลเกรดซีกัน เพราะเรื่องยาว ราคาถูก ยิ่งใช้ AI แปลให้อ่านฟรียิ่งชอบ ดีกว่านั้นก็อ่านพวกหมึกหินที่แปลรู้เรื่องหน่อย ติดเหรียญตอนละไม่กี่บาทแทน มึงลองไปส่องตามกลุ่มนิยายพวกนั้นดิ คนอ่านยังเยอะนะมึง แต่พวกนี้นิสัยองุ่นเปรี้ยว ตัวเองไม่มีเงินซื้องานคุณภาพ เลยแก้เกี้ยวด้วยการเหยียดพวกงานคุณภาพดีว่าคลั่งความถูกต้องในการใช้ภาษาเกินไป อ่านไม่สนุก
>>500 อย่าร้องเลยมึง ความจริงคือคนพวกนี้ไม่จ่ายเงินซื้อหนังสืออยู่แล้ว สมัยก่อนมันก็เช่าเอา แต่มีร้านเช่ามาช่วยชุบชูนักเขียนไว้ไง สมัยนี้ไม่มีร้านเช่า พวกมันก็ไปหาของถูกของฟรีจากที่อื่น มึงเน้นคุณภาพเข้าไว้ คีปความต่อเนื่อง คุณภาพงานของมึงจะขายตัวของมันเอง ส่วนความต่อเนื่องของมึงคือการไม่ปล่อยโอกาส วันไหนโชคเข้าข้างมึง คนอ่านเรื่องที่มึงเขียนอยู่แล้วชอบ งานเก่าๆของมึงจะพลอยขายได้ไปด้วย งานคุณภาพไม่มีเสียของ
ต้องดังแค่ไหน ถึงจะเรียกว่าตัวแม่วะ มีเกนวัดไหม
>>500 นักเขียนไทยแฟนตาซี ถ้ามองโลกแง่ดีคือยังพอมีข้อได้เปรียบบ้างคือไม่มีงานไพเรทออกมาให้อ่านฟรี ถ้ามีก็ส่วนน้อย ถ้ามีนักอ่านจริงๆยังไงนักอ่านก็เปย์ พวกนิยายแปลแฟนตาซีติดเหรียญ แค่เสริชชื่อเรื่องในกูเกิ้ลก็เจอเว็บเถื่อนอ่านฟรีล่ะ คนอ่านดูเยอะแต่ไม่รู้ว่าคนจ่ายจริงมันสัดส่วนขนาดไหน กูว่าเรื่องนี้แย่กว่าแปลเอไออีก
>>489 กูว่าไม่แปลก ผญ. มักจะเข้าใจ ผญ. ด้วยกันว่าต้องการผู้ชายแบบไหน เลยสะท้อนออกมาผ่านพระเอกนิยายไง ส่วนผู้ชายก็เข้าใจว่าผู้ชายต้องการผู้หญิงแบบไหน ผู้ชายเลยมักเขียนโรแมนซ์แบบฮาเร็มไง แต่มันไม่ค่อยปังในหมู่นิยายโรแมนซ์ ต้องเป็นพล็อตแฟนตาซีผสมโรแมนซ์ พวกเจาะเวลาหาจิ๋นซี (เก่าไปปะ กูก็ไม่ค่อยอ่านแนวฮาเร็ม) ถามว่าเกี่ยวกับเพศไหม กูว่ามันเกี่ยว มันเริ่มจากการปลูกฝังคติเรื่องเพศ ตั้งแต่เกิดยันโตอะมึง ผู้ชายก็มี norm แบบผู้ชาย มี gender role แบบผู้ชาย ผู้หญิงก็จะมี norm แบบผู้หญิง ซึ่งถูกปลูกฝังมาต่างกัน
ประเด็นคือคนส่วนใหญ่บนโลกนี้เป็น monogamy แต่ด้วยคติเรื่องเพศผู้ชายหลายลึกๆ แล้วอาจอยากเป็นพวก polygamy (ผัวเดียวหลายเมีย) มันเลยสะท้อนออกมาผ่านการมีฮาเร็ม แต่ฐานนักอ่านโรแมนซ์ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ซึ่งจริงจังกับเรื่องผัวเดียวเมียเดียวมากกว่า (เพราะสำหรับผู้หญิงการมีหลัวหลายคนมันผิดบาปกว่าผู้ชายมาก) โรแมนซ์แบบฮาเร็มเลยไม่ค่อยฮิตในหมู่นักอ่านโรแมนซ์เท่าไหร่ หรือถ้ามีนักเขียนผู้ชายคนไหนไม่ได้เขียนแนวฮาเร็ม มันก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ตัวพระเอก หรือ story ความรักระหว่างพระนาง มันยังไม่ตอบโจทย์สิ่งที่นักอ่านผู้หญิงต้องการ (ไม่ได้ตัดสินว่าดีหรือไม่ดีนะ)
กูเห็นนักเขียนผู้ชายเขียนเรื่องรักใคร่ๆ แล้วฮิตคือออกแนวกึ่งๆ ปรัชญาไปเลย แบบมูราคามิ (แต่สำหรับกูมูราคามิก็เวิ่นเว้อชิบหาย) คือไม่ได้อ่านเอาสนุกวาบหวิวฟินจิกหมอนแต่อ่านแล้วมีประเด็นอะไรให้คิด เหมือนอ่านวรรณกรรมคลาสสิคอะ ไม่สนุก แต่ปวดสมอง กูคิดว่าอย่างนั้นนะ
>>509 เออว่ะ นอกจากปรัชญา ชายแท้ สืบสวน บางทีเลิฟซีนออกแนวซาดิสต์ ดิบๆดุๆ (แต่เรื่องสืบสวนนี่เห็นด้วยมากๆๆๆ พี่ผู้ชายที่กูเคยทำงานด้วยก็เขียนนิยายรักชญ แต่ละแนวของเขาคือมีสืบสวนเป็นพล็อตหลักทุกเรื่อง แกทำงานสายนี้ด้วยแหละ หรือคนสายนี้เขียนนิยายเป็นงานเสริมเยอะวะ555)
ky กูเพิ่งค้นพบว่านิรนามในเม้ดไม่มีอยู่จริง วันนี้ลองเข้าหลังบ้านมันก็โชว์คอมเมนต์ตามปกติ แล้วเมนต์คนนิรนามที่จะเป็นหน้าเทาๆเวลาดูผ่านหน้านิยาย หลังบ้านยังไม่เห็นชื่อก็จริง แต่เห็นรูปโปรเว้ย ใครตั้งรูปโปรเป็นไทโปนามปากกาแล้วไปโหวต 2 ดาว 3 ดาว ด่าแรงๆในนิยายคนอื่น ถ้าเขาคนเช็กหลังบ้านเขาสืบจากรูปได้นะเว้ย ตีกันตายเลยหน่า ใครสายนี้ก็ระวังๆไว้ ต้องงอกแอคหลุมเพิ่มนะมึง555
ใช่ หนังสือของฉัน > ความคิดเห็น ปะ?
เชี่ย กุไปดูมาละ ถึงได้เห็นว่าเรื่องอื่นของกุ มีคนอ่านที่แสดงตัวเรื่องอื่น ไปให้ดาวแบบนิรนามไว้ด้วย เพราะรูปโปรเดียวกันเด๊ะ แบบไม่ใช่รูป stock image ด้วย ขอบใจมึงมากเพื่อน เบิกเนตรมาก
เมดไม่ระบุตัวตนไม่ใช่เซฟโซนของกูอีกต่อปัยยย
เชี่ยยย กว่ากูจะกล้าพิมพ์บอกเหตุผล108ที่กูไม่ชอบได้อย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีเงาแค้นตามมาทีหลัง
เมดแม่งเปิดช่องโหว่เฉยยย😢
แต่ก็ดีกับนข.ที่อยากรู้ว่าเขาคนนั้นคือใครอะนะ 🥴🥴
สำหรับนักอ่านที่มีใจรักการรีวิวแบบไม่ระบุตัวตนวิธีแก้ง่ายๆคือไม่ต้องใส่รูปโปรไฟล์ตอนพิมพ์รีวิวนั่นแหละ พอพิมพ์เสร็จค่อยกับไปตั้งค่าใส่รูปใหม่ก็ได้ เพราะระบบมันไม่เรียลไทม์ มันจะโชว์ให้เห็นเฉพาะรูปขณะที่พิมพ์รีวิวนั้นๆ
เหมือนสถานะ-มีแล้ว ก็เหมือนกัน ตอนยังไม่ซื้อไปรีวิว จะไม่ขึ้น-มีแล้ว
แต่พอหลังจากซื้อแล้ว รีวิวที่คอมเม้นไว้ก่อนหน้าก็จะไม่ขึ้นว่า-มีแล้ว เหมือนเดิม -มีแล้ว-จะขึ้นถัดจากชื่อแอคเค้าเมื่อซื้อแล้วเรียบร้อยเท่านั้น
>>514 ช่าย
>>516 ดาบสองคมฉิบหาย ใครเช็กเจอนักเขียนหน้าไหว้หลังหลอก ในแชทแอ๊บบอกว่ารัก กอดๆคับออกเล่มใหม่ แต่ดันมากด 1 ดาวหรือดิสเครดิตแบบนิรนามคือตีกันตาย กูนึกภาพคนแคปจอเอารูปโปรมาเทียบแล้วแหกกันได้เลย555
>>518 กูลองเปลี่ยนละ พอคลิกขวาดูรูปอีก tap มันโชว์รูปปัจจุบันที่เพิ่งเปลี่ยนด้วยอะ แต่แต๊งกิ้วมาก เดี๋ยวลองปรับตาม บางทีอาจมีวิธีแก้ แต่ก็มีคนพลาดเรื่องไม่ได้เอารูปโปรออกเหมือนกูเยอะ ระวังๆไว้เด้อ
>>518 กู 519 ลองทำละเออ ตามอันนี้เลย รูปโปรตอนติ๊กระบุตัวตนกับตอนเอาติ๊กระบุตัวตนออกเหมือนจะแยกกัน แบ่งใช้ให้ต่างกันก็จบ กูตื่นตูมไปเองสินะ กราบขอโทษเพื่อนโม่งมาด้วย ณ ที่นี้ที่ทำให้ตกใจ ส่วนใครที่เพิ่งรู้เหมือนกูก็...ทำอะไรให้รอบคอบละกัน คนหน้าคุ้นในโหมดนิรนามเยอะเหลือเกิน ไม่อยากเห็นก็ดันไปเห็นเข้าซะงั้น555
ky เพื่อน ปกติอีบุ๊คขนาด A5 นี่ margins ซ้าย ขวา บน ล่างของหน้ากระดาษ อย่างละ 2.54 ซม. ตามค่า default มันใหญ่ไปมะ ปกติใช้ขนาดเท่าไหร่กันน่ะ
ปกติเวลาเลือก Thai distributed บางที word มันแยกคำตอนขึ้นบรรทัดใหม่ แบบ "เจ้า" บรรทัดบน "ชาย" บรรทัดล่าง แบบนี้กุทำไรได้บ้างเพื่อน ปรับตรงไหน
ลองเอาไม้บรรทัดวัดคร่าวๆ จากเล่มนิยายทั่วไปก็ได้มึง แต่ปกติด้านขวากับด้านล่างกุจะเว้นน้อยกว่าอีก 2 ด้น เช่นถ้า ซ้าย บน 2.5 ด้านขวากับล่างจะ 2.0 ส่วนตัวกุชอบแบบนี้ มันสบายตาดี
>>522 ที่กุเคยทำคือครอปทั้งบรรทัดแล้วปรับความห่างให้แคบเข้ามาหน่อย ถ้ายังไม่เข้ามาก็ครอป 2 บรรทัดเลย แล้วดูคำอื่นด้วยให้มันโอเค เวลาพิมพ์ลงมาในกระดาษมันเห็นความต่างไม่มาก
Kyถ้าเป็นนักเขียน แต่มีแอคหลุมไว้ใช้ในฐานะนักอ่านและรีวิวนิยายที่ชอบ-ไม่ชอบ โดยไม่เปรียบเทียบอะไรกับใคร แค่บอกว่าชอบไม่ชอบตรงไหนมันจะน่าเกลียดไหมวะ การมีสถานะเป็นนักเขียนมาวิจารณ์งานของนข.คนอื่นมันไม่ดีใช่ไหม
เพื่อนโม่ง กูมาขอกำลังใจ เขียนนิยายเรื่องนึงมาสองปี กำลังจะจบในสองสามเดือนก่อนหมดปีนี้แล้ว กูทั้งดีใจทั้งจะไม่ไหวแล้วว่ะ กูทำอะไรลงไปวะเนี่ย ใช้เวลานานเกิน แทบจะขายวิญญาณเขียน เพื่อสุดท้ายได้นิยายที่ไม่รู้จะขายออกรึเปล่าเนี่ยนะ หน่านิ้!?
>>525 ถ้าแยกแอค ไม่ได้วิจารณ์ในฐานะนักเขียนก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าด่าแบบเปิดหน้าเลยว่าตัวเองเป็นนักเขียนก็ไม่ค่อยดี มันก็จะเหมือนชักจูงคนนิดนึง ในทางกลับกัน ถ้ากระแสตีกลับ มันจะส่งผลถึงนิยายมึงด้วย เพื่อความเซฟของตัวมึงเอง มึงขุดหลุมให้มิดเลย อย่าให้ใครรู้
แต่ถ้าชมนะ มึงชมแบบเปิดหน้าเลย คำชมใครๆก็ชอบ
ใครเคยลองใช้indesignจัดหน้าแล้วจะพอทไปทำepubบ้าง
กุอยากรู้ว่าพวกshitf+enterที่กุเคาะตอนจัดหน้านี่มันจะติดไปด้วยไหม แล้วถ้าในไฟล์มีภาพประกอบด้วยจะเป็นไรป่าว
ky ถ้าแนวชญ. เน้นรัก มี nc แต่ไม่แรงมาก เพิ่งเริ่มเขียนได้เรื่องสองเรื่อง แล้วอยากติดเหรียญกับขายอีบุ๊ค วิธีไหนถึงขายดีสุดน่ะเพื่อน
ปิดตอนส่วนใหญ่ไปเลยเน้นขายอีบุ๊ค หรือติดเหรียญเฉพาะ nc หรือติดเหรียญด้วยขายอีบุ๊คด้วย
>>527 เก่งมากมึง ช่วงแรกๆมันก็จะตั้งคำถามกับตัวเองแหละ แต่ได้ทำสำเร็จขนาดนี้มึงก็จะใจดีกับตัวเองและโอบกอดตัวเองได้ละ ของกูเคยมีเล่มนึงเขียนมาปีนึงมั้ง จบแล้วก็ขายไม่ดี เม้นต์ก็ร้าง ช่วงแรกก็ซึมมาก แต่นานวันเข้าก็ภูมิใจอะ เขียนจบได้โดยไม่ทิ้งกลางทางเลยหน่า ตั้งปีนึงแน่ะ! อย่างข้อความของมึงก็เป็นกำลังใจให้กูนะ เพราะตอนนี้กูก็เขียนนิยายมา 1 ปีละยังไม่จบเลย กลัวว่าจะได้ดองตลอดไปจนไม่มีวันจบด้วยซ้ำ คนรอบตัวแทบจะออกเดือนละเล่มกันหมด มาเจอมึงก็คือเอ้อ ไม่เห็นเป็นไร กูยังเหลือเดดไลน์ให้ตัวเองอีกตั้ง 1 ปี ไม่ใช่ทุกคนจะเขียนจบเร็วนี่หว่า มึงทำได้กูก็ต้องทำได้ ขอบใจนะ มึงเก่งมาก!
>>534 นักเขียนที่ทำแบบนี้ โดนนักอ่านแอบเทแบบเงียบๆ ก็เยอะนะ ถ้าคิดว่าติดเหรียญถูกกว่าตั้งเยอะ มึงก้ติดเหรียญตอนพิเศษแพงหน่อยก็ได้ อย่าหาทำเลยอีแบบเหมือนบังคับถ้าอยากอ่านก็ต้องซื้ออีบุ๊คทั้งเล่มเพื่ออ่านตอนพิเศษอะ หรือถ้ามึงจะทำ มึงต้องแจ้งให้เขาเห็นชัดเจนว่ามึงจะไม่ลงตอนพิเศษในติดเหรียญ
>>538 เรื่องนึงของกุ กุบอกตั้งแต่เปิดเรื่องเลยว่าจะมีตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊ค ก็ไม่มีใครบ่นอะไร แต่กุสังเกตเองว่าฝั่งรายตอนที่ติดเหรียญ คนซื้อประปรายมากเลยเพื่อน กุเลยไม่แน่ใจว่าจะยังไงดี
แต่กุเข้าใจที่มึงว่ามามากๆ เลย กำลังหาทางอยู่ คือกุรักคนที่ตามอ่านรายตอนตั้งแต่แรกมากเลย เหมือนบางคนที่ซื้ออีบุ๊คเพิ่งมาเจอเรื่องกุทีหลังตอนลงเม้ด กุเลยกำลังคิดว่าระหว่างทำแบบเดิม บอกแต่ต้นว่ามีตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊ค แล้วติดเหรียญรายตอนถูกกว่า กับอีกทีลงตอนพิเศษรายตอนด้วยแต่ติดเหรียญแพงหน่อยแบบที่มึงว่า แต่แบบนี้ไม่ทำให้คนซื้ออีบุ๊คน้อยลงใช่มั้ย?
กุงงว่าทำไมต้องทำเหมือนบังคับซื้ออีบุคอีกรอบทั้ง ๆ ที่ติดเหรียญก็ได้ บางคนขายเฉพาะอีบุคไปเลย ไม่ติดเหรียญในเว็บพอเข้าใจได้ แต่ติดเหรียญแล้วกั๊กตอนพิเศษไปลงแค่อีบุค มองยังไงก็เหมือนบังคับซื้อ เป็นกูคงลงขายตอนพิเศษให้ครบทุกแพลตฟอร์ม เฉลี่ยราคาติดเหรียญกับขายอีบุคพอ ๆ กัน เพราะทั้งซื้อเหรียญซื้ออีบุคก็ลูกค้าเหมือนกัน มีแค่เล่มกระดาษที่ราคาสูงกว่า เพราะต้นทุนมันสูงกว่าอย่างอื่น จะอยู่นาน ๆ อย่าเม้ดเยอะกับคนอ่านดีกว่านะกุว่า ถึงจะบอกล่วงหน้าว่าตอนพิเศษมีแค่ในอีบุค แต่ถ้ากูเป็นคนอ่านก็คงรู้สึกว่า แล้วกูที่ซื้อเหรียญนี่ไม่ใช่ลูกค้ามึงหรอ
>>540 >>541 ขอบใจเพื่อนโม่งมาก กุไม่เคยคิดแง่นี้มาก่อนเลย
คือกุเป็นสายลงตอนพิเศษสนองนี้ดตัวเองน่ะ ไม่ได้มองมันในแง่การตลาดหรือเพิ่มมูลค่าให้อีบุ๊ค
แค่อยากอ่านเรื่องของตลค.ต่อ แบบนอกความดราม่าในเรื่องหลักไรงี้
ก่อนกุออกอีบุ๊คครั้งแรก กุไปส่องตามที่นข.คุยกันในทวิต ว่าติดเหรียญยังไง ขายยังไง
เหมือนในนั้นส่วนใหญ่จะมองว่าถ้าไม่ลงตอนพิเศษในอีบุ๊คที่เดียวแล้วจะขายอีบุ๊คไม่ได้
กุก็ยึดตามแบบที่คนอื่นเขาทำกันมา
แต่พอมาฟังพวกมึงแบบนี้ มันก็คล้ายๆ กับที่กุรู้สึกมาตลอดจริงๆ
ว่า อ้าว แล้วรายตอนไม่ใช่ลูกป๊าเหรอ
ขอบใจมากๆ เพื่อน เดี๋ยวเรื่องใหม่กุลงตอนพิเศษในรายตอนด้วยดีกว่า
>>542 กูบอกเลยพวกในเอ็กซ์มึงดูด้วยคนที่แนะนำมันขายดีหรือเปล่า กูยังไม่เคยเห็นนักเขียนดังๆ ทำแบบที่พวกนั้นว่าเลย มีแต่เอาตอนพิเศษมาแยกเป็นเล่มฟรี ไม่ก็แยกขาย ใครอยากจะอ่านต่อตอนพิเศษก็ซื้อ ไม่อยากอ่านก็ไม่ซื้อก็ได้ หรือว่าลงเฉลี่ยเท่ากันทั้งสองแบบ นักเขียนที่ดังกูว่าเขาทรีตลูกค้าทุกคนเหมือนคนพิเศษทั้งหมดไง คนเลยรักและหนับหนุน ส่วนพวกในเอ็กซ์แขวนเก่ง ตัดพ้อนักอ่านเก่ง มึงเลือกเอาจะเป็นนักเขียนแบบไหนในสายตานักอ่าน
พวกมึงก็น่ารักมากเลย กุคิดถูกจริงๆ ที่มาถามในโม่ง ถามข้างนอกกุกลัวผิดๆ ถูกๆ แล้วโดนด่า 555
ขอถามเพิ่มนะเพื่อน จากที่ไปส่องในทวิตมาเหมือนเดิม
มีหลายคนบอกให้ติดเหรียญแบบซอยตอน ถ้าแต่ละตอนถูกลง คนจะกดซื้อแบบไม่ลังเล
แบบถ้าปกติตอนละ 3k - 4k คำ แล้วตอนละ 4 - 5 เหรียญ
ให้ซอยเป็นตอนละพันคำ ขายตอนละ 2 - 3 เหรียญแทน
แบบนี้โอเคมั้ย? หรือควรขายเต็มๆ ตอนไปเลย เพราะเรื่องที่แล้วที่กุบอกคนซื้อประปราย กุก็ไม่ได้ซอยตอน
เมื่อกี๊วิ่งไปส่องของพวกโลตัสตงกงกับตัวท็อปชญ. ก็เหมือนเขาซอยตอนกัน เป็น 1/3 2/3 อะไรแบบนั้น
บางคนกุเห็นซอยเหลือตอนละ 700 - 800 คำเอง
>>545 แล้วมึงจะพบว่า ถ้ามึงใช้เรทราคานั้นทำรายตอน มึงอัดยังไงก็ทำให้ราคาเท่ากับอีบุคที่คิดจากเรท 0.0020-0.0025 *คำไม่ได้
ของกูรายตอนถูกกว่าอีบุคเกือบ 40% แต่กูไม่สามารถตั้งราคารายตอนอัพไปเกิน 5 บาทต่อตอนได้ กูตั้ง 5 บาทที่ 3200 คำอัพ ตอนปกติอยู่ที่ 1500 -3000 คำ ตั้ง 2-4 เหรียญ
แต่กูถือว่าอีบุคมีความเป็นรูปเล่มถาวรมากกว่ารายตอนอ่ะ ถือว่าเป็นการแบ่งแยกตลาดไปเลย ลูกค้าที่กังวลราคาไปรายตอน ส่วนลูกค้าที่โอเคกับอีบุคก็มาอีบุค กุบอกชัดตั้งแต่ต้นว่ามันถูกกว่า
กูในฐานะนักอ่าน ถ้าเห็นรายตอนราคาเกิน 4 บาทสมองมันจะคิดไปในทางว่าแพงทันที แล้วก็ไม่ได้มาดูหรอกว่าตอนนั้นมันมีกี่พันคำ
แต่ถ้าราคาไม่เกิน 3 บาทแม้ว่าจะมีแค่ไม่กี่ร้อยคำกูก็มองว่าถูกเพราะเลข 3 ในเชิงจิตวิทยาคือถูกกว่าเลข 4 5 แน่ๆ
ดังนั้นกูขอแนะนำว่าซอยตอนย่อยๆ แล้วขายไม่เกินตอนละ 3 บาท และราคารวมควรให้ถูกกว่าอีบุ๊คนิดหน่อยหรือเท่ากันก็ได้ แต่ขอให้มีตอนพิเศษครบอะไรครบเหมือนอีบุ๊ค
Ky มึงว่าการเป็นนข.แล้วไม่ทำตัวเมคเฟรนกับนข.คนอื่น ไม่ค่อยลงมาคุยเล่นกับนักอ่านนี่ดูไม่ดีหรือพลาดอะไรไปป่าววะ
คือกุเป็นพวกสกิลชิทแชทต่ำสัสๆ และขี้รำคาญคนมาก กุเลยกำลังคิดอยู่ว่าควรปรับให้ตัวเองดูเฟรนลี่กว่านี้ไหม
>>551 มึงทำให้กูคิดว่านข.ที่กูเลิกตามคนนึงอาจเป็นแบบมึงอยู่ คือกูเคยชอบงานเขาตามอ่านตามคอมเม้นยาวๆให้หลายเรื่องแต่เขาไม่ตอบกูเลยเว้ย กูเลยรู้สึกคุยคนเดียว เลยไม่คอมเม้นอะไร
แต่เพิ่งไปส่องคอมเม้นเรื่องใหม่...ชีกลายเป็นคนตอบคอมเม้นนักอ่านทุกคอมเม้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ขอบคุณนั่นนี่ ทุกคอมเม้นเลย กูที่เคยโดนเมินเลยงง และหมั่นไส้นิดๆแบบ อ้าวตอบเม้นเป็นแล้วเหรอ555
>>546 >>548 โอเคเลย กุเก็บข้อมูลเรียบร้อย
>>547 ค่อยๆ ลองกันไป กุเป็นกำลังใจให้
ไม่ใช่ไร กุคิดแบบ >>548 เรื่องถ้าคนอ่านแล้วติดพัน เห็นตอนละ 2-3 เหรียญน่าจะกดซื้อรัวๆ จิตวิทยาแบบที่มึงว่า
แต่ในเอ้กกุเห็นเคยมีประเด็นยี้นข.ซอยตอน บอกว่าถ้าเจอตอนละแค่ 800 คำหรือไม่ถึงพันจะเลิกอ่าน
แล้วมีพวกแอครีวิวกับนข.ขาประจำ ngl มาเห็นด้วยกันใหญ่ กุเลยไม่ค่อยแน่ใจว่าจะยังไงดี
แต่เดี๋ยวจะลองแบบที่เพื่อนโม่งว่ามาดู
>>552 คือถ้าอย่างกุอ่ะ กุเป็นดีปทอคได้อย่างเดียว สกิลชิทแชทห่วยมาก ถ้ากุตอบเม้นคือคิดออกแต่ขอบคุณค่ะ หรือไม่งั้นบางอันเม้นเดายาวๆกุอยากตอบยาวนะแต่ถ้าตอบยาวกุเผลอสปอยแน่ ถ้าคิดภาพว่ากุไปไล่ตอบแต่ขอบคุณเหมือนก็อปวางงี้มันดูแย่กว่าไม่ตอบเม้นอีก เลยไม่ตอบ (+กุมองว่าการเม้นคือการสื่อสารทางเดียวแบบไม่ได้อยากให้ตอบด้วย) แต่มุชวลที่เป็นนักเขียนกุเค้าดูเคร่งกับการตอบทุกเม้น บอกกุว่าควรตอบเม้น กุเลยแบบ หรือกุควร?
>>553 มันสั้นจริงนะมึง 800 คำเนี่ย ฟีลมันไม่ใช่แบบกดเปย์รัวๆแล้วสนุกเพลิน แต่เป็นแบบดูหนังแล้วมีโฆษณาคั่นทุก 5 นาที โฆษณามึงอาจแค่รำคาญ แต่อันนี้ทุกครั้งที่รำคาญมึงจะต้องกดจ่ายตังด้วย
สุดท้ายจะกลายเป็นความรู้สึกว่า สามบาทฟินได้แค่นาทีเดียวเหรอวะ ยิ่งถ้าเป็นบทเกริ่น บทเสริม ที่ไม่ใช่ไคลแมกซ์ หรืออะไรกระแทกอารมณ์ ฟีลนี้จะยิ่งชัด เหมือนจ่ายอ่านวิธีเปิดประตู จ่ายอ่านสภาพบ้าน จ่ายอ่านสูตรอาหารงี้อ่ะ
แต่หมวดเรื่องเสียวไม่มีปัญหานี้เลย เพราะเกริ่นนิดเดียวก็ซี้ดซ้าด แป๊บๆก็ตรับๆ บ๊วบๆ อ่ะ จำนวนคำนี้หมวดเรื่องเสียวกินได้งามอยู่
>>554 ในสายตานักอ่านกุอุ่นใจว่ะที่นข.มาตอบ เหมือนที่กุพิมพ์ไปเขารับรู้อะ สารส่งถึง หรือบางคนกุเห็นมากดไลค์ทุกเม้นก็พอเดาได้ว่าเป็น นข.มากด(เช่น ลอล;1medซายกุเห็นเขากดไลค์ทุกคอมเม้น) บางคนก็มาตอบแต่คำถามที่นักอ่านถาม หรือมีเหตุจะเป็นดราม่า(เช่นถามว่าปกเอไอรึป่าว) แต่บางคนก็ไม่ตอบไม่อะไรเลยจริงๆ แต่เอามาพูดถึงในx ซึ่งไม่ตอบก็ไม่เป็นไรนะ มันเรื่องเล็กเท่าจิ๋มมด แต่ส่วนตัวกุนับถือคนที่ตอบทุกเม้น เขาดูแคร์นักอ่านของเขาดี แม้จะซ้ำก็อปวางบ้างแต่ถ้ามึงรู้สึกขอบคุณจริงๆ จะเป็นไรไป
>>555 อันนี้ที่กุบอกใน >>545 กุไปส่องของพวกตัวท็อปชญ.อย่างโลตัสตงกงพวกนั้น เห็นเขาซอยเป็น 3 ตอน ตอนละ 800-900 คำ แต่นั่นเขาน่าจะดังแล้ว แต่กุเขียนไปแค่ไม่กี่เรื่อง ถ้าจะซอยจริงคงตอนละ 1k คำขึ้นแหละ ยังไม่มีคนตามอ่านเหนียวแน่นขนาดนั้น
ส่วนตัวถ้ากุเป็นคนอ่าน กุชอบแบบ 3-4k คำขึ้นไปต่อตอนอย่างที่เพื่อนโม่งว่า มันยาวดี แต่ตอนนี้กุกำลังทดลองหลายๆ อย่างให้รายตอนมันขายเพิ่มขึ้นได้น่ะ
เออ ky ขอถามหน่อย ถ้ากุจะทำอีบุคขาย แล้วแบบกรณีที่กุจะมีสุ่มแจกอีบุ๊คฟรีงี้คือมันจะหักตังกุป่ะ หรือแจกฟรีคือฟรีเลย
>>560 กุไม่เคยอ่านงานเขานะ แต่ที่กุไปส่องๆ มา อย่างของโลตัสตงกง กุจิ้มเข้าไปสองสามเรื่อง ทั้งเรื่องเขาไม่เกิน 1k คำสักตอนเลยเพื่อน ยกเว้นตอนพิเศษท้ายเรื่อง แต่อย่างที่มึงว่า กุเห็นเขาเขียนทุกเรื่องว่าอ่านฟรีจนจบ
ใช่ๆ กุกะว่าจะซอยประมาณนั้นเลยเพื่อน พันห้าขึ้น
ของกุก็อ่านฟรีจนจบนะ ไม่เคยลองติดเหรียญล่วงหน้าเลย อยากลองบ้างเหมือนกัน แต่เขียนไปอัพไปไง ไม่สามารถ 5555
เออ กุอธิบายไม่เคลียร์เองว่ะ 555
ที่ว่าจะลองซอยตอนคำน้อยๆ แบบเขาบ้าง คือกุปล่อยอ่านฟรีจนจบนะ แล้วค่อยติดเหรียญทีหลัง
แบบนี้สรุปจำนวนคำน้อยๆ คือทำได้ใช่มั้ย
>>562 ที่กุบอกว่าอยากลองทำแบบ >>548 คือหมายถึงตอนกุเขียนจบแล้ว ออกอีบุ๊คแล้ว มาติดเหรียญรายตอนน่ะ
คือเท่าที่กุเข้าใจตอนนี้ คนที่ตามอ่านตั้งแต่กุลงแรกๆ จนจบ เขาจะโอเคกับจำนวนคำน้อยใช่มะ เพราะเขายังอ่านฟรีอยู่
แต่ถ้าใครมาเจอเรื่องกุตอนจบแล้ว ติดเหรียญไปแล้ว สมมุติว่าไม่เกิน 1000 คำ 3 เหรียญ
แบบนี้เขาจะยังรำคาญเหมือนที่มึงบอกใน >>555 อยู่รึเปล่าวะ
ถ้าเสียเงินอะ กุมีเหตุให้รำคาญอะไรก็ได้ง่ายๆนะเพื่อน แค่ต้องเลื่อนตอนบ่อยๆ ตัวอักษรเล็ก ช่องไฟห่าง นข.พูดไม่ถูกใจก็เหม็นได้ง่ายๆ กุจะมีความต้องการนั่นนี่เยอะเพราะกุถือว่ากุเสียเงิน555
ซอยสั้นเอาไว้เป็นทริคติดใหม่มาแรงเถอะ ซอยสั้นอ่านฟรีจะไม่รู้สึกเป็นภาระเท่าซอยสั้นแล้วเสียเงิน
แต่คือลงแบบอ่านฟรีตอนแรกไปกี่คำก็ตาม ตอนติดเหรียญหลังจบ มันก็คือตอนเดิมจำนวนคำเดิมน่ะ
ยังไงก็ขอบคุณเพื่อนโม่งทุกคนนะ กุจะลองไปหาตรงกลางดู
นักเขียนดังเขามีฐานแฟนที่มีความเชื่อใจแล้วน่ะ ต้องบอกว่าการวัดค่างานศิลปะนี่ ครส.ส่วนตัวกับแบรนดิ้งมีส่วนว่ะ ถ้าแฟนคลับเชื่อใจ กดซื้อทุกตอนปัญหานี้จะหายไปครึ่งนึง รวมถึงไม่คิดมากกับราคา เพราะเขาเชื่อใจนามปากกาตั้งแต่ต้น ส่วนคนรำคาญเขาจะหนีไปอีบุคกันก็ทำได้เลย
ตลาดมันไม่มีสูตรสำเร็จอ่ะมึง ลูกค้าก็หลากหลาย มึงไม่สามารถพลีสทุกกลุ่มได้ ทำได้แค่วิเคราะห์แล้วลองเลือกมาสักทางอ่ะ แล้ววัดผลสุดท้ายว่าแบบไหนดีสุดผ่านยอดขายอีกที
อยากลองเปลี่ยนแนวเรื่องที่เขียนไปเป็นวายเบทดูจังแฮะว่าจะเป็นยังไง แต่กูดันเขียนให้พระเอกกับพระรองมีเมียแล้วทั้งคู่เนี่ยสิ เฮ้ออออออ แถมเยเย่กันแทบทุกคืนด้วย
>>566 ใช่ๆ กุกำลังอยู่ในช่วงสร้างฐานคนอ่านเลย เรื่องสองเรื่องแรกกุคิดว่าเคารพงานตัวเองดิวะ เลยจัดไปตอนละ 4 - 5 เหรียญ 5555 ตอนนึงมี 3000 คำขึ้น บางตอน 5000 คำ แต่ทีนี้กุปล่อยอ่านฟรีจนจบไง แล้วไม่ได้เขียนตุนไว้ เขียนไปลงไป ตอนได้ขึ้นแบนเนอร์จริงๆ ตรงกับช่วงพีคในเนื้อเรื่องเลย แต่กุดันออกอีบุ๊คไม่ทัน จบ 5555
พอเขียนจนจบแล้วออกอีบุ๊คกุพอใจยอดนะ ได้หมื่นกว่าตั้งแต่เดือนแรก แต่ปัญหาคือรายตอนขายแทบไม่ได้ กุอธิบายไปข้างบนแล้ว >>542 ว่ากุลงตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊ค (บอกตั้งแต่เปิดเรื่อง) กับติดเหรียญแบบที่ว่า จำนวนตอนที่ให้อ่านฟรีหลังติดเหรียญคือ 20% - 30% ของเรื่อง (เหมือนตย.อีบุ๊คที่เม้ดแนะนำว่า 10% ขึ้น) จุดนี้กุจะปรับละ คือลงตอนพิเศษทั้งรายตอนทั้งอีบุ๊ค
ส่วนที่หาวิธีอยู่คือติดเหรียญ >>545 ซึ่งตอนนี้กุเห็นไปทางเดียวกับ >>548 เพราะเห็นหลายคนบอก แต่ก็อย่างที่โม่งบนว่า ในแอค ngl เคยมีประเด็นเรื่องทำไมซอยตอนเยอะ ตอนละไม่ถึง 1000 คำ บางที 800 คนเห็นด้วยเยอะ ในขณะที่กุไปส่องนข.ตัวท็อป อย่างที่ยกตย.โลตัสตงกงว่าก็เห็นเขาทำกัน แต่กุก็เข้าใจว่าเขาติดลมบนแล้ว ที่บอกว่าจะหาตรงกลางคือเรื่องราคานี่แหละ
>>568 กุอธิบายไว้ย่อหน้าข้างบนแล้วเพื่อน ปกติมีตย.อ่านฟรีแบบนี้แหละ แต่ที่หาราคาเหมาะๆ กระตุ้นยอดขายรายตอนในแบบที่กึ่งๆ นูกูแบบกุ กุว่าจะซอยตอนละ 1500 แบบที่มึงว่านี่แหละ
กูอยากติดเหรียญบ้างนะ แต่ยอดคนอ่านกูเฉลี่ยตอนละ 40-50 คนเอง กูเลยไม่กล้าติดจนถึงทุกวันนี้ ถถถถ
ว่าไปไม่ได้เห็นมานานแล้วแฮะ คอมเมนท์ Toxic เข้ามาแขวะนิยายในที่สุดวันนี้ก็มีคนเข้ามาเปิดประเด็นในเรื่องใหม่กูซะที
นี่กูควรดีใจหรือเสียใจดีวะ เพราะปกติไม่มีใครมาคอมเม้นท์นิยายกูอยู่ละ มีแต่นักอ่านเงา ถถถถถ
>>571 ดูทรงละ >>567 เขียนแฟนตาซีปะ เลยอยากขายวายเบท5555
เอาจริงจะมีเมียก็วายเบทได้ เคมีดีคนมันก็จิ้นก็ฟินอะ กูไม่รู้จะยกตัวอย่างอะไร ใครนะผมดำๆที่มีเมียสวยในลอร์ดออฟเดอะริงส์ รักกันขนาดนั้นยังโดนจิ้นกับหนุ่มเอลฟ์555 แต่อันนี้เขาห่างกับเมียด้วยไง มาเจอกันทีก็ฉากสำคัญ เน้นผจญภัยกับหนุ่มๆมากกว่า เอาจริงนะ เรื่องได้กับเมียทุกวันมึงเขียนเพื่ออออ จะวายเบทก็อย่าไปบรรยายคู่ชญเยอะจ้า มีคนชอบมั้ยก็มี แต่บางคนก็จิ้นแบบไม่สบายใจ มึงจะขายตลาดไหนก็ดูดีๆ /ทุบไหล่เรียกสติ
ช่วยกุคิดหน่อย กุจะเขียนให้พอ.เป็นฝ ไม่รวย คนปกติธรรมดา นอ.ก็คนธรรมดา ตามท้องเรื่องคือรักกันฝ่าฟันอุปสรรค ห่างกันคนละประเทศ ตอนจบจะให้นอ.ย้ายไปอยุ่ปท.พอ.แต่กุเสือกคิดไม่ตกเรื่องวีซ่าและค่าใช้จ่ายเพราะทั้งคู่เป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เชื่อเรื่องการทำงาน บ ทั้งคู่ กุกลุ้มเลย หาทางลงไม่ได้ จริงจังป่ะ 55555
>>573 เท่าที่ฟังมึงเล่า กุนึกถึง digital nomad ว่ะ ลองหาช่องยท.ของพวกนี้ดูก็ได้ เที่ยวไปเรื่อยๆ ทำงานด้วยโน้ตบุ๊กแล็ปท็อปเครื่องเดียว จะริมหาด บนดอย ในโรงแรมอะไรก็ได้ เหมือนฟรีแลนซ์น่ะ
เอาเฉพาะฝรั่งนะ พวกนี้ส่วนมากที่กุเห็นจะมีรายได้จากงานฟรีแลนซ์ ช่องท่องเที่ยว แล้วก็โฆษณาที่เข้า ที่เห็นบ่อยๆ ก็พวก vpn service น่ะ
แต่ถ้านอ.คนไทย มึงก็ให้ทำไอที นักแปล นข.แบบมึง 555 หรือกราฟิก อะไรก็ได้ที่ฟรีแลนซ์ แล้วหาอาชีพเสริมเข้าไป ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์หรือเหตุการณ์ในเรื่องน่ะ
วีซ่าถ้าท่องเที่ยว มึงจะทำอะไรก็ได้ ฟรีแลนซ์ก็ได้ ถ้ามีหลักฐานการทำงานจริง เงินพอเลี้ยงตัวแล้วซัพตัวเองตอนไปเที่ยวได้ แต่ถ้าตอนจบจะให้ไปอยู่ปท.ใคร มึงก็ต้องไปดูวีซ่าคู่หมั้นหรือวีซ่าทำงานที่แบบ wfh หรือทำงานทางไกล (remote) ได้
>>572 แฟนตาซีนั่นล่ะ
ช่วงแรกของเรื่องมันก็ออกเชิงวายเบทนะ เพราะคนดำเนินเรื่องมีแค่พระเอก + พระรอง ส่วนนางเอกโผล่มาอีกทีคือช่วงเล่ม 2 ละ
แต่คือที่กูเขียนมาถึงตอนนี้มันไปไกลละไง คู่เอก/คู่รอง มีคู่กันหมดแล้ว แถมเขียนให้ปั้มกันบ่อยด้วย จะให้กลับไปเป็นวายเบทก็คงไม่ทันละ ถถถถ ถ้าจะมีก็คงเป็นแค่โมเม้นท์ Bromance ห่วงเพื่อนเกินตัวอะไรแบบนั้นเท่านั้นล่ะ
พอมาคิดแล้วเสียดายเลยที่เพิ่งมารู้ว่านิยามของวายเบท ไม่ใช่ระดับวายแบบผช. ท้องได้ เพราะกูว่ากูเขียนวายเบทได้ไม่ยาก กูมีเพื่อนสนิทโตมาด้วยกันคนนึงรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเลย ทุกวันนี้ยังคบซี้กันแบบใครเดือนร้อนก็รีบไปช่วย มีเรื่องกลุ้มก็เอามาปรึกษา ไปไหนมาไหนกันสองคนบ่อย ถ้าเอา ปสก. นั้นมาแต่งเติมเพิ่มคงกลายเป็นวายเบทอะ
ทำไมนักเขียนนิยายรักถึงมีแต่ผญ อันนี้กุสงสัยเฉยๆนะ แต่นข ผชกลับไม่มีเลย แบบที่เป็นชายแท้ๆ
>>576 เท่าที่กุเคยเห็น นิยายรักของชายแท้ (ที่ไม่ใช่คนในคอมมู lgbtq ไม่ได้เป็นชายแทร่เบียวหรือ toxic) ส่วนใหญ่จะแนวความรักของวัยผู้ใหญ่ (ถ้าไม่กลางคนไปเลย) เน้นดราม่า พูดถึงคนรักเก่า รักที่ไม่สมหวังไรงั้น คือเรื่องจะออกแนวเนิบๆ ละเมียดๆ น่ะ ไม่ค่อยเห็นชายแท้วัยรุ่นหรือ 20 - 30 เขียนนิยายรักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเพศกำเนิดชายแต่เป็นคนในคอมมูจะเจอบ่อยกว่านะ
>>576 เอาตามหลักวิทยาศาสตร์เลยคือ ผู้ชายไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ขับดันด้วยอารมณ์เหมือนผู้หญิง แต่ใช้เหตุและผลมากกว่า ซึ่งเป็น Biological ไม่เกี่ยวกับการเลี้ยงดู …กูโตมาในบ้านที่มีแต่ผู้หญิง เลี้ยงแบบผู้หญิง กูยังโตมาเป็นชายแทร้เลย ถถถถถ
ซึ่งด้วยเหตุผลนี้เองนิยายที่ผู้ชายเขียนจึงเน้นไปที่เรื่องราว การดำเนินเรื่อง การผูกปมซับซ้อน ทำนองนิยายสืบสวนหรือแนวเวิล์ดบิลด์แฟนตาซีเลย ซึ่งผู้ชายจะถนัดเขียนแนวนี้มากกว่า
กลับกันผู้หญิงจะสามารถสอดแทรกอารมณ์และบรรยายให้เข้าถึงบรรยากาศได้มากกว่า ดึงอารมณ์ร่วมโดยเฉพาะเรื่องรักๆ ได้มากกว่า ทำให้ได้เปรียบในการเขียนนิยายรักมากกว่าในขณะที่ผู้ชายถ้าไม่ออกมาเป็นความรักที่มีลำดับขั้นตอน ก็จะเขียนออกมาเชิงระทมมากกว่าเพราะกระบวนการคิดต่างกัน
ทั้งนี้ใช่ว่าผู้ชายจะเขียนนิยายรักไม่ได้นะ แต่เขียนแล้วจะออกมาได้อารมณ์ร่วมไม่เท่าที่ผู้หญิงเขียน อาจจะต้องใช้จินตนาการและพลังงานในการเขียนมากกว่า
กุอ่านงานนิยายรักที่ผู้ชายเขียน3เรื่อง 2เรื่องรักกันหวานซึ้งแต่ตา ยคู่😭 อีกเรื่องอยู่ด้วยกันเพื่อลูกแต่ไม่รักกัน😑จนกุไม่หวังอะไรกับนิยายรักที่ผู้ชายแต่งละ
Kyขอถาม ถ้าบอกว่าพระเอกหรือนางเอก"เอวหวาน" จะสื่อว่า แซ่บ ลีลาเด็ด เป็นคำเชิงบวกและ18+ ในคำเดียวใช่ไหมวะ
ถ้ากูเขียนให้นางเอกมีเพื่อนสนิทที่รักกันดี คบกันมายาวนานตั้งแต่เรียนประถมจนถึงวัยทำงาน แต่ค่อยๆหย่อน hint มาเรื่อยๆว่านางแอบอิจฉานางเอกมานานแล้วเพราะนางเอกรวยกว่า เรียนเก่งกว่า นางเลยชอบคิดว่านางเอกคบนางเพื่อให้ตัวเองดูดี แต่ก็พยายามห้ามตัวเองไม่ให้คิดแย่ๆกับเพื่อนอยู่เป็นระยะๆ แถมนางเอกก็นิสัยดีเลยยังคบเป็นเพื่อนกันอยู่ พอโตแล้วนางมีผู้ชายมาจีบก็ติดผู้ก็ไม่เอาใครนอกจากผัว แต่เสือกได้ผัวแย่ๆแถมโดน manipulate เพื่อนอย่างนางเอกจะเตือนสติยังไงก็ไม่ฟัง พอตกต่ำแล้วพัฒนาไปเป็นนางร้ายเลย พวกมึงว่าคาร์ดิวิลอปประมาณนี้มันพอโอเคป่ะวะที่จะเทิร์นให้คนธรรมดาๆกลายเป็นอีดอกไปได้ ไม่ดูยัดเยียดให้เป็นนางร้ายไปใช่มั้ย
>>588 ได้นะ ศึกษาคาร์ดีๆ มัดปมน้อยเนื้อต่ำใจของชีให้แน่น จะได้ไม่กลายเป็นนางร้ายดาษดื่น ผัวชีสาย manipulate ใช่ปะ ระหว่างนี้มึงใส่คำพูดคำจาให้ผัวเลวของเพื่อนนางเอกมันใส่ไฟต่อด้วยว่านางเอกมันแอ๊บ ทำดีกับเธอไปงั้นเพราะอยากดูดีในสายตาคนอื่น ผู้ชายเขาดูออก มองหน้าก็รู้แล้วว่าแรด ใส่ร้ายว่านางเอกเคยมาแอบอ่อยมัน ทำให้เข้าใจผิดจนเพื่อนคนนี้เชื่อ (กูพอเดาออกเลยว่านข.บางคนจะใส่พล็อตแฟนเพื่อนแอบชอบนางเอกไปด้วย เพื่อยิ่งโหมไฟให้ชีต้องร้ายและแค้นนางเอกขึ้น)
KY กูอยากเขียนเรื่องแนวๆ ข้างหลังภาพ แต่เป็นบริบทปัจจุบัน และสถานะของนางเอกกับพระเอกคืออาจารย์กับนักศึกษา พระเอกแม่งพยามจะไม่สนบรรทัดฐานจรรยาบรรณห่าเหวใดๆทั้งสิ้น แต่ชีนางเอกซีเรียสกับเรื่องนี้มาก พอรู้ตัวว่ารักก็ห้ามใจไม่เกี่ยว จนอิพระเอกเข้าใจว่าไม่รัก แล้วอินางเอกก็ตายไปโดยที่พระเอกไม่รู้ว่ารัก คือยังไงก็จะไม่ได้ให้จบแฮปปี้อะมึง มันจะยังดูโรแมนติไซด์มั้ยวะ
>>591 เอาจริงๆ ถ้าไม่ใช่อาจารย์เจ้าของวิชาที่นักศึกษาคนนั้นเรียนอยู่ก็เป็นแฟนกันได้แบบไม่น่าเกลียดนะ ชีวิตจริงมีให้เห็นเยอะอยู่ ส่วนบริบทนิยายมึงก็ถือว่าโอเคนะ มีอีกฝ่ายหนึ่งพยายามหักห้ามใจแถมยังไม่ได้กันอีก ไม่ต้องกลัวทัวร์ลงหรอก หรือทัวร์จะลงเพราะอาจารย์สาวไม่รับรักพระเอกวะ 555+
ky ถ้ามึงมีพล็อตมีอะไรครบแล้วพร้อมเขียน ถ้าเขียนคือได้ยาวๆ จนจบเลยเพราะเตรียมอะไรพร้อมหมดแล้ว แต่ลงมือเขียนจริงไม่ได้ซักทีเพราะ
1.อารมณ์ช่วงนั้นมันไม่ match กับงานเขียน เช่น มึงเศร้าอยู่ แต่เรื่องที่มึงวางไว้เป็นรักเบาๆ สดใสๆ
2.สภาพแวดล้อมภายนอก เสียงรบกวน คนรบกวน กังวลเรื่องนั่นนี่ (เงิน งาน สุขภาพ)
3.กลัวเขียนออกมาได้ไม่ครบทุกอย่างที่อยากจะเขียนออกมา กลัวเขียนได้ไม่ดีเท่าที่ตั้งใจไว้ (ไม่ได้เทียบคนอื่นแต่เทียบมาตรฐานตัวเอง)
กุต้องทำยังไงวะ
>>594 ข้อ 1,2 ให้มึงลองนึกภาพเป็นนักกีฬาไม่ก็นักดนตรีอาชีพ ถึงเวลาต้องลงสนามฟีลลิ่งไม่มีก็ต้อง go on พวกทำเป็นอาชีพคงไม่โชคดีที่สภาพอารมณ์ match กับงานทุกครั้งหรอก สภาพร่างกายสภาพแวดล้อมไม่เต็มร้อยแต่พวกทำเพื่อเงินก็ต้องทำไงมึงลองนึกแบบนี้ แต่ถ้ากรณีมึงทำเพื่อความบันเทิงก็เป็นอีกเรื่อง คือมึงไม่ต้องฝืน ไม่ต้องลงทุนไปดูดเหล้ายาเพื่อบิลด์อารมณ์
ส่วนข้อ 3 ที่ >>595 ตอบมาดีมาก ชอบว่ะคตินี้
KY ถามหน่อย ถ้ามีคนเก็บเข้าชั้นประมาณ 300 เกือบๆ 400 แต่ตอนใหม่ๆ มีคนอ่านแค่ 30-50 คนนี่คือปกติแล้วป่าววะ คิดเป็นจำนวน 1/10 เกือบพอดีเลย
ky ถามง่าว ๆ เลยนะ บ.ก.ดี ๆ มืออาชีพ+มีคุณภาพ นี่ต้องไปงมหาที่ไหนวะ ถ้าไม่ใช่เส้นใหญ่คนรู้จักในวงการเยอะแนะนำกันไปมาอะ งมหาในทวิตก็เหมือนจะเจอเด็กรับงานซะเยอะ (ไม่ได้ดูถูกแต่อยากได้มืออาชีพจริง ๆ น่ะ) กุไม่เกี่ยงราคา จ่ายหลักหมื่นได้สบาย แต่ไม่รู้จริงว่าต้องไปหาจากไหน ToT
>>602 ตอบง่าวๆนะเพื่อน มึงลองอ่านงานนักเขียนที่มึงชอบและ เขาใช้บ.ก.ดู เขาจะบอกชื่อบ.ก.ที่หน้า ลขส. ซึ่งพอรู้ชื่อก็มีข้อมูลละมึงก็dmถามนักเขียนคนนั้นเลย หรือมึงจะตัดตอนเอาชื่อไปค้นหาโซเชียลของบก.คนนั้นโดยตรงเลยก็ได้(แต่กูเคยทำแล้วไม่เจอ ชื่อในหน้าลขส.กับชื่อในโซเชี่ยลมักจะคนละชื่อกัน)
อย่าง พยย.,หลังมีนาริน,เพื่อนชินจัง นข.ในเมดที่ออกงานประจำมีบ.ก.กันทั้งนั้น ได้รีวิวจากผู้ใช้จริงด้วย
เอาแค่ราคาเบาๆ พอนะ ไม่ต้องทุ่มมากเกิน
>>602 คิดแบบนี้เลย สาเหตุที่ไม่จ้างพสอษ.กับบ.ก.ในเอ้กเพราะส่วนใหญ่เป็นเด็กรับงานแล้วชอบโหนดราม่า มึงลองคิดดูว่าถ้าแอคที่รับงานมึงชอบฉอด สนิทกับพวกนข.มุงแอค ngl มึงจะอยากให้เขารู้งานเบื้องหลังมึงมั้ย ถ้าวันไหนผิดใจหรือมีแอคใหญ่มาแซะมาแขวน แน่ใจได้ยังไงว่าคนที่มึงจ้างจะไม่เอาอะไรของมึงไปซุบซิบกับพวกนั้น
แต่บ.ก.ดีๆ ก็หายากจริง กุอยากได้ทั้งบ.ก. เบต้ารีด แอครีวิวแบบนักวิจารณ์ แล้วโปรๆ ไม่สิงเอ้กมุงดราม่าน่ะ
Kyถ้าสมมตินามปากกาลับของกูคือ “ฝนตกริน” ทำปกอะไรเรียบร้อย แต่งไปได้ครึ่งๆแล้วแต่ยังไม่เปิดเรื่อง แล้ววันนี้กูไปเจอนปก. “ฝนตกรินไหล”
กูควรเปลี่ยนนปก.ไหมวะ เฮ้อ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า กูควรเปิดเรื่องจองนามปากกาไว้เป็นหลักฐานก่อน
>>610 จริงๆ ถามกุในฐานะคนเขียน คนอ่าน มันไม่ซ้ำขนาดนั้น แต่ถ้ามึงไม่สบายใจก็เปลี่ยนก็ได้ เพราะก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในเอ้กมันมีคนปสด.เยอะจริงๆ เว้นแต่มึงเป็นสายเขียนอย่างเดียว ไม่ค่อยได้เล่นเอ้ก ไม่ค่อยได้โปรโมตในเอ้ก ขายในเม้ดเลย
แต่คราวหน้าแนะนำให้มึงจองแท็กทั้งชื่อเรื่อง ทั้งนปก.ไว้ก่อนเลยแบบที่โม่งบนบอก เซฟสุด
ถามคห.นข. พอดีนข.คนโปรดของกุเจอคอมเม้นติดาวต่ำ ๆ กัน (นข.หลายคนเลยช่วงนี้ แบบน่าแปลกใจมากทำไมโดนช่วงเดียวกันเลยวะ ช่วงจัดโปร คนเลื่อนมาเห็นรีวิวแย่ก่อนเพื่อนเนี่ย Orz) แล้วกุในฐานะแฟนเดนตายรู้สึกแย่แทน กลัวนข.นอยอ่า คำถามคือกุสามารถทำไรให้นข.รู้สึกดีขึ้นได้บ้างมั้ยวะ (เช่นโดเนทซะ) หรือปล่อยไปตามยถากรรม ให้เขาจัดการตัวเองไป ถ้าเพื่อนเป็นนข.ในสถานการณ์แบบนั้นมีอะไรทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ย
>>615 ปกติเป็นสายอวยหลังอ่านจบปะ ถ้าไม่ใช่ก็ไปเมนต์อวยแล้วเพิ่มหัวใจให้เขา ดึงมีนให้สูง ถ้าเคยเมนต์เคยกดใจแล้วเปลี่ยนไปรีวิวติดแท็กตาม x ตามเฟส ไม่ก็ไปโพสต์ป้ายยาในกรุ๊ปนิยายแทน รึอยากให้เขาเห็นชัดๆก็ในโพสต์แจ้งโปรหนังสือลดของนข. ไปอวยใต้โพสต์เลย ไม่ก็ทักแชทไปบอกว่าชอบเรื่องนี้มาก โดเนทกับปล่อยเขาจัดการตัวเองนี่เป็นตัวเลือกท้ายๆที่กูแนะนำเลย แต่จะทำก็ได้นะ555
>>615 กูเข้าใจว่ามึงรักเค้ามาก อาจดูใจร้ายแต่ถ้ามึงเฉยๆได้ลองเฉยๆก่อน รอดูเขารับมือกับปัญหารอดูสติปัญญาเขา ถ้าทนไม่ไหวก็ให้กำลังใจเขาจากใจจริง บอกเขาว่ามีคนชอบงานคุณอยู่ตรงนี้นะ แล้วปล่อยให้เขาจัดการตัวเอง
กูเคยเป็นนักอ่านที่เจอเหตุการณ์นข.ที่ชอบโดนด่าแรงมากกก ให้เรตติ้ง2ดาว กูโกรธมากกก ไปร้อนรนเศร้าซึมแทนเขา ถึงขั้นเอาแอคหลุมไปตอบกลับคนที่ด่าเขา สุดท้ายกูโดนนข.เขาลบข้อความ (กูเพิ่งรู้ว่าเmบลบข้อความยูสเซอร์ที่ไม่ขึ้นว่า-มีแล้ว -แบบไม่มีร่องรอยได้) เขาลบความเห็นกู แล้วเขาก็ตอบคอมเม้นแย่ๆนั้นประมาณว่า ขอบคุณที่อ่านงานนะคะถ้าทำให้ไม่สบายใจต้องขอโทษด้วย ยังไงขอโอกาสให้(นปก.)ในเรื่องหน้านะค้าา
จบสวยสุดๆ //สรุปว่าเป็นกูที่ร้อนรนสะเหล่อไปเองอะมึง เขาจัดการชีวิตเขาเองได้ ทำได้ดีด้วย เรื่องมันก็เป็นแบบนี้
>>615 สำหรับกุนะ เอาตามตรงแบบไม่ถนอมน้ำใจ คือกุจะดีใจจากใจจริงอย่างเดียว ยิ่งกว่าตอนมึงซื้ออีบุ๊คกุอีก คือตอนมึงตามเม้นให้กุรายตอนน่ะ แบบอัพนิยายปุ๊บแล้วมีคนมาอ่านแล้วเม้นแบบรู้ว่าอ่านจริงๆ ตั้งแต่แรกๆ ที่อัพน่ะ
ส่วนเวลากุดาวน์ไม่ว่าเรื่องอะไร กุจะไม่ค่อยอยากคุยกับใคร จะนอยเงียบๆ จนมันผ่านไปแล้วคลี่คลายไปเอง ใครผ่านมาให้กำลังใจช่วงนั้นกุก็จะขอบคุณและจะจดจำไว้ว่าเขาดีกับกุจริงๆ แต่เอาตามตรงคือมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะมันไม่ได้แก้ปัญหาให้กุ
เพราะงั้นตอนนี้ถ้ามึงอยากทักไปหรืออะไรก็เอาแค่พอดี ฟีลมาเช็คชื่อว่ามึงคือนักอ่านที่ห่วงใย แต่อย่าไปเซ้าซี้มากน่ะ ถ้าเป็นกุนะ ว่าแต่มึงน่ารักมากเลยเพื่อนโม่ง
พวกมึง ทำรูปโปรโมตของเมบแคมเปนงานหนังสือนี้ที่มีราคาหรือรูปหมูเด้งยังไงอะ กุหาที่โหลดแล้วไม่เจอเลยได้แต่รูปแบบธรรมดา ไม่มีราคาเลยย เห็นคนอื่นเขามีกัน ขอบคุณค้าบ
ขอระบายนะเพื่อน 555 ช่วงนี้สดนส.ที่บ้านของเม้ด ในเอ้กเลยมีคนรีนิยายที่เข้าร่วมผ่านมาเรื่อยๆ กุไปสะดุดกับชญ.เรื่องนึงที่นอ.เป็นสาวออฟฟิศ แก่กว่าพอ. พอ.เป็นลูกเจ้าของหรือซักอย่างเข้ามาทำงานใหม่แล้วนอ.ต้องสอนงานให้ กุเห็นปกเป็นของนว.วต.คนนึง ชอบมู้ดเลยเข้าไปส่อง ถึงได้เห็นว่านข.นิยายคนนี้ในรอร.มีนิยาย 3 เรื่อง แล้วเริ่มอัพนิยายครั้งแรกเดือนตุลาปีที่แล้วเอง นี่ผ่านมาแค่จะปีเดียว ทั้ง 3 เรื่องของเขาในเม้ดได้ป้ายแดงครบทุกเรื่อง แล้วทั้งที่ในเอ้กกับเฟส แอคนข.เขามีคนฟอลอยู่แค่ 70 กว่าคนเอง รู้สึกอิจฉามากที่เขาใช้ชีวิตนข.แบบที่กุใฝ่ฝันเลย โซเชียลคนติดตามน้อยๆ จะได้ไม่วุ่นวายดราม่า แต่งานขายได้ป้ายแดงหมด แล้วเขียนปีละ 2 - 3 เรื่อง แต่คงไม่ใช่ทุกคนที่ทำแบบนี้ได้ ของกุผ่านมา 2 ปีแล้วยังออกได้แค่เรื่องเดียวเองเพื่อน ท้อว่ะ
>>624 แล้วกุแอบไปอ่านในเอ้กเขา เขาเองยังตกใจนิดๆ ที่ขายอีบุ๊คแล้วคนมาซื้อเยอะกว่าที่คิด แบบนี้พลังป้าๆ ในเม้ดใช่มั้ย จริงๆ เรื่องเขาก็แนวชีวิตออฟฟิศ slice of life ไม่ใช่รักดราม่าเข้มข้นแบบที่กุเห็นฮิตในหมู่ป้าๆ แล้วรายตอนกุเห็นแต่ละเรื่องเขาอยู่ที่หมื่นกว่าวิว สี่หมื่นกว่าวิว กับอีกเรื่องแสนกว่า คนมาเอนเกจในเอ้กเวลาเขาโพสอะไรก็หลักหน่วยหลักสิบ แต่ป้ายแดงทุกเรื่องแล้วรีวิวเป็นร้อย แบบนี้สมการหรือสูตรของความสำเร็จเขาคืออะไรวะ นิยายสนุกล้วนๆ เลยใช่มั้ย พูดแล้วก็วนกลับมาที่อิจฉามากกก
ขอสอบถามหน่อยเน้อ จริงๆเคยถามไปแล้วแหละ คือว่าอยากซื้อหนังสือนิยายเก่าเรื่องนึงที่ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ แล้วตอนนั้นเพื่อนโม่งบอกให้รองานหนังสือ แต่ตอนนี้เห็นในเมปมีสัปดาห์หนังสือที่บ้าน ราคาลดไปนิดหน่อยน่าจะสัก 10% เลยอยากรู้ว่าปกติถ้างานหนังสือมาจะลดกว่านี้อีกไหมในเมป หรือถ้าไปซื้อที่งานจะถูกกว่านี้อะป่าวน่ะ
เพื่อนโม่ง กุปรึกษาปัญหาชีวิตหน่อย นักอ่านกุส่วนใหญ่เป็นสายดองว่ะกดเข้าชั้น รออ่านตอนกุเขียนจบ ระหว่างทางคนอ่านหลักสิบ คนเม้นสองคน =.= พอจบถึงจะแตะหลักพัน กุบอกตรงว่าระหว่างทางท้อใจมาก ที่กุเปิดให้อ่านฟรีจนจบเพราะอยากได้เอนเกจจะหว่างเขียน ถ้ากุบอกนักอ่านไปว่าต่อไปไม่มีอ่านฟรีจนจบละ กุเปลี่ยนเป็นอ่านฟรีแค่ตัวอย่าง ที่เหลือซื้ออีบุ๊กซื้อเหรียญเอา จะดูใจร้ายไปเปล่าวะ
>>628 ไม่เรียกใจร้ายหรอก แต่เหอๆๆๆ ถ้ามึงเปิดให้อ่านฟรีจนจบเพราะอยากได้เอนเกจจะหว่างเขียนมึงใช้วิธีนี้ก็ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
ต้องการเอนเกจกับเมนต์ มีวิธีเยอะแยะมึงไปศึกพวกยอดไลค์ยอดเมนต์สูงๆเค้ายั่วเค้าอ้อนนักอ่านยังไง ไอ้ที่น่าทำตามก็มี ที่น่าด่าแต่ได้ผลก็มี เมนต์ครบ 100 ลงต่อตอนต่อไปทันทีไรงี้
ขอคำปรึกษาจากเพื่อนโม่ง
กุพบว่ากุเป็นคนที่เขียนแบบด้นสดไม่ได้เลย มันจะติดกะฉุกกะฉักตะลิดติ๊ดซึ่งมาก กว่าไฟจะมา กว่าแต่ละฉากจะผุดในหัวจนต่อกันติด กูเลยแก้ปัญหาด้วยการพึ่งพาทรีตเม้นอย่างที่เขาแนะนำกัน
กุก็ทำแบบงูๆปลาๆ เหมือนเล่าเรื่องย่อตั้งแต่ต้นจนจบ มาร์คเหตุการณ์ ความเป็นไปคร่าวๆ จนเกือบเสร็จ แล้วกูก็ลงมือเขียน แต่แบบ ไม่รู้มึงจะเข้าใจฟีลกูมั้ย จากสเกลระดับเริ่องย่อ พอลงรายละเอียดแล้วฟีลแม่งพลิกไปคนละทาง ความไม่สมเหตุสมเล็กน้อยๆโผล่ออกใาเต็มไปหมด ไอ้ที่ตอนเป็นเรื่องย่อดูแล้วสมเหตุสมผล อารมณ์เรื่องดูไหลต่อกันดี พอกลายเป็นฉากมันก็แหม่งๆ ไปซะงั้น สรุปคือติดตุกกะฉึกเหมือนเดิม ต้องกลับไปแก้ทรีตใหม่อีก สามเดือนได้มา 9 ตอน แบบแกนๆ(ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะต้องโละทิ้งมั้ยด้วยนะ) รู้สึกต๊อแต๊ 5555 เมื่อไหร่จะเสร็จเรื่องนึงวะ ยังไม่พูดว่าเสร็จแล้วก็ไม่ใช่ว่าขายได้ขายดีด้วยนะ
อีกอย่าง พอเขียนเซ็กซีนไปเยอะๆ แม่งชอบซ้ำแบบไม่รู้ตัวด้วย (ซ้ำตามรสนิยมกูนี่แหละ ชอบkink ไหน kink นั้นจะโผล่บ่อยจนซ้ำ) มาเจอทีหลัง เอ้า แก้อีก แก้ไงดีวะ
มีใครพอจะเข้าใจปัญหาของกูมั้ยวะ คือ แม้แต่กุเองยังสงสัยเลยว่าปัญหาของกูมันอยู่ตรงไปกันแน่ กุอยากเขียนลื่นอย่างคนอื่นเขาบ้าง เหอๆ
หรือแนวอีโรติกดราม่ามันจะยากไปสำหรับคน exp. น้อยแบบกูวะ
หรือพวกมึงมีวิธีให้เขียนได้ต่อเนื่องลื่นๆยังไงบ้าง แชร์กูที กุจะได้เอาไปลอง
>>624 เขาดังในกลุ่มศอวอป้ายยา จากเรื่องแรกที่นางเอกเป็นแม่บ้าน ป้าๆรีวิวม่วนจอยกัน เรื่องนี้เพื่อนกูยังซื้อตามด้วย จากนั้นพอเปิดใจป้าๆได้เล่ม2-3ก็จะเข้าที่เข้าทางขึ้นอะมึง เพราะป้าๆก็ตามอ่านตัวละครที่รู้จักกันให้ครบ อย่างพระเอกเล่ม3ก็คือทิ้งhintไว้ให้น่าสนใจ อยากตามอ่านชีวิตคุณโชคตั้งแต่เล่มแรกเลย
แต่ๆๆ ลาสต์วันไปรีวิวให้ด้วยนะ มึงแอบบอกนข.ที หนีไปค่ะ55555
>>633 แบบนี้นี่เอง ทางจะสว่างต้องซื้อใจป้าๆ ได้ซักเล่มสินะ
ว่าแต่กุไปส่องรีวิวในเม้ดของเขา มีคนนึงให้สองดาวเพราะบอกไม่ค่อยมีอะไร เรื่อยๆ แต่ที่คนอื่นๆ ห้าดาวชอบกันเพราะความเรื่อยๆ slice of life ไม่มีดราม่า ไม่ขม เน้นเติมเงินมาดูเขารักกัน กุเลยอยากถามต่อว่าทำยังไงให้เขียนเรื่องเน้นรักเรื่อยๆ ชีวิตประจำวันแล้วคนตามอ่านแบบนี้วะเพื่อน
>>633 แก๊งนี้เขาเอามาตรฐานอะไรรีวิวนิยายวะ กุเห็นช่วงนึงเหยียดพระเอกธงแดง นิยาย problematic กันสุดขีดจนพากันบอยขอดนักเขียนบางคน แต่เมื่อวานงานหนังสือเห็นแนะนำนิยายพระเอกธงแดงกันเพียบ แอคนึงลิสต์มาหลายเรื่อง หัวข้อนิยายเข้มข้น น้ำดี หมูชมพูรีมาด้วย กุตามไปอ่านแต่ละเรื่องแล้วเหม่อเลย น้ำดีของเขาหมายถึงน้ำอย่างว่าใช่มั้ย เอาดีๆ มันไม่ใช่นิยายน้ำดีแบบที่กุเข้าใจมาตลอด
ky นิดเพื่อน รักวัยรุ่น นี่ใช้อะไรกำหนดน่ะ อายุคาร์เหรอ?
ถ้าคาร์อายุ 20-25 แต่ทำงานแล้ว แบบนี้ยังเข้าข่ายหมวดนี้มั้ย?
หรือถ้าคาร์ต่ำกว่า 20 แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องเรียนเลย เป็นชีวิตนอกโรงเรียน ก็รักวัยรุ่น?
เออใช่ แล้วถ้าอายุ 20 ขึ้น เช่น เด็กมหาลัยหรือเพิ่งจบหางานทำงาน แบบนี้จะมี nc ไม่ได้เลยใช่มั้ย?
ถ้ามี nc คือตัดไป วัยว้าวุ่น เหรอ?
ถามเยอะมาก ขอโทษด้วย ขอบคุณมากเพื่อน
>>637 เรื่องอายุคาร์นี่บิดแหลกกันชิบหายมาสักพักละ ป้ายแดงบางเรื่องทำงานทำงานทำการ เจ้าของแบรนด์ ไม่มีเรียนกันแล้วยังกล้าเอาลงรักวัยรุ่นเลย แล้วส่วนใหญ่ขายดีด้วย555 มึงไม่แคร์โลกก็ได้ ให้ทุกอย่างรักวัยรุ่นแล้วใส่เลข 18+ ด้านหลังเอา เม้ดก็ใช้หลักการนี้ เรื่องไหนมีเลิฟซีนก็แค่ห้อยป้าย 18+ แต่ส่วนใหญ่ไม่ห้อยกันหรอก ขึ้นแบนเนอร์ไม่ได้ ตรวจบัตรเด็กอ่านไม่ได้
แต่ถ้าเอาให้ถูกหลัก อันไหนวัยมหาลัยมี nc ก็ลงวัยว้าวุ่นไป ชีวิตนอกโรงเรียนลูกหลานมาเฟียแต่ตัวละครยัง 20 ต้นๆก็ไปได้หลายเวย์ อยากเลือกโรมานซ์หรือวัยว้าวุ่นก็ตามใจ แต่ส่วนใหญ่ถ้าไม่มี nc ก็ลงรักวัยรุ่นธรรมดาไป ถ้ามี nc ก็จะมี 2 หมวดให้เลือกแหละว่าโรมานซ์หรือวัยว้าวุ่น คู่แข่งเยอะทั้งสองหมวด ค่อยๆจิบน้ำเลือกดีๆ แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นปกการ์ตูนกูเชียร์รักวัยว้าวุ่นนะ
ky เพื่อนโม่งเตือนสติให้กูเลิกคอมมิชปกการ์ตูนหน่อย คือกูก็ไม่ได้มีงานการรายได้ดีอะไร พออยู่ได้ แต่ดันติดหรูชอบคอมมิชปกเป็นหมื่น ทั้งๆที่ยอดขายก็ไม่ได้มาอุดค่าปกเลย ต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก เครียดตลอดเวลาใกล้ถึงคิว ถึงจะหามาจ่ายทันแต่ก็เครียดปนสุขว่ะ เดี๋ยวนี้เริ่มหันมาเขียนโรมานซ์อย่างจริงจังละเลยว่าจะเปลี่ยนไปใช้ปกแก้วไวน์ ดอกไม้ ภาพมือคนไรงี้แทน ไม่ต้องมาเขียนบรีฟให้ปวดหัวด้วย กูไม่มีหัวด้านปกอีกต่างหาก ได้นักวาดสวยแค่ไหนมึงคิดดูกูบรีฟท่ายืนตรงเข้าหากล้องอะ555 เคยมาขอให้โม่งเตือนสติเรื่องเอฟของพรีเมี่ยมจนกูลดละเลิกซื้อกับพรีไวได้ละ กราบเตือนสติเรื่องนี้ทีว่าลดต้นทุนด่วน
>>640 เสียใจด้วย มึงเจอคู่ปรับของมึงแล้ว กูก็เอฟปกเป็นว่าเล่น ปกคน-กราฟฟิก-การ์ตูน ปกออกนิยายไม่ออก 555555555
คหสต.ถ้ามึงทำแล้วเป็นสุข (เท่าที่เห็นมึงเขียนมา) ไม่ถึงกับต้องกู้หนี้ยืมสิน มึงก็เอฟมาบ้างจะเป็นไรไป มึงประหยัดค่าเอฟของพรีเมียมได้ แล้วมึงมาเขียมเรื่องปก ความสุขเร้ก ๆ น้อย ๆ มึงให้ตัวเองบ้างก็ได้ ไม่ต้องตึงหรือหย่อนไป
เห็นมั้ยว่ากูบอกแล้วกูคือคู่ปรับ 555555555 ส่วนคำแนะนำลดละเลิกรอโม่งคนถัดไปนะ
>>639 โห ตอบทุกอย่างที่กุสงสัยเลย ขอบคุณมากเพื่อน ใช่ๆ กุปกการ์ตูน 5555
ขอถามอีกนิดว่าถ้าอยากเป็นขวัญใจป้าๆ ปกติป้าๆ อ่านแต่หมวดรักหรือโรมานซ์อย่างเดียวมั้ย วัยว้าวุ่นป้าอ่านเปล่า 555
คืออยากรู้ว่าเรื่องแนวเพิ่งเริ่มทำงาน แนวสาวออฟฟิศ แนว coming of age/slice of life แล้วพอ.อายุน้อยกว่า แบบยังเรียนมหาลัยใกล้จบ หรือเป็นรุ่นน้องในออฟฟิศ แล้ว nc น้อยๆ หรือตัดเข้าโคม แบบนี้ลงวัยว้าวุ่นดีมั้ย คือกุมองว่ามันไม่ใสซ่าขนาดวัยรุ่นน่ะ
ปกติทาร์เก็ตกรุ๊ปคนอ่านวัยรุ่น วัยว้าวุ่น นี่อายุประมาณเท่าไหร่นะเพื่อน คือกลัวว่าถ้าเรื่องกุนอ.แก่กว่าพอ.จะอยู่หมวดนี้ไหวมั้ย คือนอ.ก็ยังไม่ผู้ใหญ่จ๋าขนาดนั้น แต่เหมือนหมวดวัยรุ่น วัยว้าวุ่น พอ.จะอายุเท่ากันหรือมากกว่าน่ะ
>>640 ถ้าเลิกไม่ได้ มึงลองใช้หลัก เก่าไปใหม่มาไหมเช่นตั้งกฎกับตัวเองเอาที่ดองๆมาใช้ครบ2ได้เงินมาแล้วค่อยเอฟใหม่สัก1ไหม ค่อยๆลดละเลิกไป ไม่งั้นมันจมเงินจริงๆนะมึง ถ้ามึงยังมีเงินหมุนเวียนมีรายได้เข้ามาในชีวิตมึงจะไม่รู้สึกอะไรมาก จ่ายไปก็หาใหม่ได้ แต่วันไหนที่ขัดสน สิ้นไร้ไม้ตอก จะรู้สึก เสียใจที่เอาเงินมาจมตรงนี้ ปล่อยต่อก็ยากเย็น ขายได้ก็ขาดทุน ที่เอาการเอฟปกมาอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมงาน ปกงอก แต่งานส่วนอื่นไม่งอกนั่นคือหลอกตัวเองไปวันๆ
>>642 ขวัญใจวัยป้าไม่นับอายุนางเอก นับที่อายุพระเอกเป็นหลัก สามสิบอัพยิ่งดี วัยโคแก่ วัยแด๊ดดี้ป้าชอบ แล้วแนวพระเอกอายุน้อยกว่านางเอกป้าไม่ค่อยปลื้มนะ ต้องให้แก่กว่านางเอกถึงจะดี
แนวที่มึงพูดถึงกลุ่มคนอ่านเป็นนักเรียนนักศึกษา วัยทำงานต้นๆว่ะ วัยสิบกว่าถึงยี่สิบกว่าซะส่วนใหญ่ ก็มีอายุเลขสามมาอ่านบ้างแหละ แต่ไม่เยอะเท่ากลุ่มแรก สรุปก็คือไม่ใช่วัยป้าอะ
ถ้าเขียนให้นางเอกอายุแก่กว่าพระเอกก็เขียนได้ มันก็มีคนชอบอ่านอยู่ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเนื้อเรื่องและคาร์พระเอกด้วยว่าจะดึงดูดนักอ่านได้ไหม
กุ >>615 ขอบใจทุกคนที่ตอบนะ ไอ้กุก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไรหรอก แค่กลัวนข.นอยละกระทบกับงาน (เคยเจอคนเล่าประสบการณ์โดนด่าแรง ๆ ละจิตตก หมดใจเขียนเป็นปี น่าสงสารเหมือนกันนะ) คนซวยคือคนรออ่านอย่างกูน่ะสิ 555555 รู้แหละว่าคนเราเทสไม่เหมือนกัน แต่มันก็สัจธรรมโลกอะนะ คงต้องคิดว่าเป็นด่านเคราะห์ที่เขาต้องผ่านไปได้แหละ เฮ้อ สู้ ๆ นะคับคุณนข.ทั้งหลาย TT
>>648 ไม่ใช่นข.มึงนะ แต่วันนี้กูหาดูไปเรื่อยแล้วไปเจอแบบนี้มาสงสารนข.เลยว่ะ นข.เพิ่งวางขาย เจอคนรีวิวเจิมคนแรก ให้2ดาว คอมเม้น อ่านแล้วเครียด บลาๆ ฉากหวานๆมีอยู่นิดเดียวแถมใส่สปอยล์ ตอนใกล้จบไม่เมคเซนส์เลย
มึงคิดว่าจะมีใครกล้าซื้อไหมวะ เฮ้อ น่าจะขายคนรีวิวนี้ได้1คน เข้าใจว่าอ่านจบก็คอมเม้นเป็นเรื่องปกติแต่แม่งก็ใจร้ายว่ะ เป็นหนึ่งบทพิสูจน์แหละ ขอให้นักเขียนทำใจดีๆสู้ๆต่อไป
ky กุมีภาพจำว่าแอพธัญเป็นแนวผู้ใหญ่เสว ๆ ดด. แนวรักละมุน รอร.นี่วายเยอะจัด ฐานคนอ่านก็น่าจะตามนั้น รอร.นี่เจนซีเจนวายซะส่วนใหญ่ ส่วนป้า ๆ กำลังซื้อหนานี่เขาไม่ค่อยได้สิงรอร.ใช่ปะ เข้าใจถูกป่าว
>>641 >>643 ขอบคุณมากจ้า เชื่อละว่านักเขียนใจอ่อนต่อปกวาดกันจริงๆ จะตัดก็ตัดไม่ขาด ใจมันอยากเอฟอยากบรีฟอยากได้คิว555 ของกูเป็นปัญหาที่การวิ่งควายเอฟคิวมากกว่า คิดเผื่อตัวเองในอนาคตแล้วก็ต้องมากลุ้มกับค่าใช้จ่ายหลังจากนั้นน่ะ มันจะเกิดอาการเสียดายอะมึง แบบ ถ้าไม่จองคิวตอนนี้ก็ต้องรอปีหน้าเลยนะเว้ยกว่าจะได้คิวเขา บรีฟไม่มีแต่วิ่งมาจองก่อนละกู พยายามสะกดจิตตัวเองว่าปีหน้าก็ได้ ไม่ต้องรีบ มึงไม่มีเงินแต่นักวาดเขามี ขาดกูไปเขาก็มีลูกค้าคนอื่น แต่ปกดองกูก็เยอะจริง คงต้องทยอยเขียนให้จบแล้วทยอยเอฟเรื่อยๆ
>>645 กูถึงได้เกริ่นไงว่าตัวเองไร้หัวศิลป์ในการบรีฟ ไม่ค่อยอยากให้ท่าซ้ำอะ (กูเรื่องมาก แง้) บางทีคิดท่าไม่ออก จะนั่งตัก จะนอน ก็เอาไปหมดละ บางคนก็วาดหน้าตรงสวยแต่หน้าด้านข้างดันเบี้ยวซะงั้น ส่องงานเขากูเลยต้องบรีฟหน้าตรงอย่างช่วยไม่ได้ อะไรประมาณเน้55
ky กุท้อจังเลยเพื่อน เริ่มเขียนหลายปีก่อนเพราะชอบอ่านเลยอยากเขียนของตัวเองบ้าง เรื่องแรกก็ปังนะแต่กุเขียนช้าไง ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองแก่ นข.ใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน ได้แต่ด่าตัวเองว่าทำไมกุไม่เขียนต่อทั้งๆ ที่แสงก็ส่องกุแล้ว ตอนนี้กุทำงานเต็มตัวแบบไม่มีพ่อแม่เลี้ยงมาหลายปีแล้ว ค่าใช้จ่ายก็เยอะ เวลาเขียนก็น้อย เขียนด้วยความกังวลว่าจะมีคนอ่านมั้ย ขายได้มั้ย ปกที่เอฟไปหลายพันจะถอนทุนคือได้มั้ย กลัวว่าความนอยความดิ่งกุจะแผ่จากนิยายด้วย อยากให้คนอ่านสนุกไม่ต้องมารู้ความกังวลของกุ พอนอยหนักๆ ก็เขียนไม่ออก สมัยก่อนกุเขียนแบบปล่อยจอย เขียนแล้วเหมือนหลุดเข้าไปในโลกนิยายตัวเอง ตอนนี้แม่งเหมือนคนทรงที่สัญญาณขาดๆ หายๆ
>>649 รีวิวเพราะซื้อไปแล้วไม่สนุกนี่คือใจร้ายหรอวะ5555555 ยิ่งถ้าเขายอมเสียเงินเปิดใจให้กับนปก.ไม่ดังแต่เขาไม่ได้รับความสนุกมันก็ต้องผิดหวังเป็นธรรมดา เป็นลูกค้าแท้ๆ แต่เป็นวงการเดียวเลยปะวะที่คนขายโดนโอ๋ชห เคสเดียวกับเปิดใจไปกินข้าวร้านใหม่แล้วมาบ่นว่าไม่อร่อยแต่สังคมปกติก็ไม่ได้โอ๋ร้านกัน รีวิวในเมพถึงได้เฟ้อไปหมดเพราะนข.แม่งใจบาง ไม่นับพวกนปก.ที่ช่วยไปกดให้กำลังใจกันเพื่อนนข.ด้วยกันอีก
>>647 พูดไม่ถูกแหะ555 มีเหตุการณ์ มีอุปสรรค มีการใช้ชีวิตว่ะ ถ้าชีวิตมันน่าเบื่อเกินไปคนอ่านก็จะเบื่อ แต่ถ้าระหว่างทางมันมีพัฒนาการตัวละคร เป็นแฟนกันช้าๆ รู้ใจกันแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆไต่ มีอีเวนท์ที่ทำงานพอเป็นสีสัน มีฉากโชว์ความฉลาดตัวละคร กูว่าอันนี้เรียบเรื่อยแบบพอดี ขึ้นอยู่กับคนมากมึ้ง บางคนก็หาว บางทีมึงต้องหาความเรียบเรื่อยที่ชอบให้เจอแล้วลองวิเคราะห์เอง หรือบอกว่าชอบเรื่องไหน แล้วรบกวนให้เพื่อนโม่งมาช่วยวิเคราะห์ว่าส่วนใหญ่ไปสนุกจุดไหนกัน
แต่ถ้ายกตัวอย่างแนวที่น่าเบื่อ กูเคยเจอเรื่องนึงบรรยายว่านางเอกทำงาน แล้วก็เขียนโต้งๆเลยว่า 5 วันผ่านไป วันนี้พระเอกติดต่อมา ชวนกินข้าว แล้วบทสนทนาบนโต๊ะน่าเบื่อโคตร ชีคุยคนเดียวถามว่าอร่อยมั้ย พระเอกก็อืมๆ รสชาติงั้นๆ แล้วก็ตัดไป 2 วันต่อมา นางเอกทำงาน พระเอกไม่โทรมา น่าเบื่อฉิบหาย แต่คนชอบก็คือชอบ เมนต์อวยโคตรเยอะว่าแนวเรียบเรื่อย slice of life ที่ถูกต้อง กูเกาหัว ไดอารี่น่าเบื่อๆชัดๆ งานบอกเล่าผ่านจดหมายอย่างพ่อขายาวยังสนุกกว่า ขนาดคุยคนเดียวนะนั่น เพราะงั้นมันขึ้นอยู่กับคนจริงๆเว้ย
slice of life นี่ต้องไลท์โนเวลอะ อย่างเรื่อง ขาดคุณนางฟ้า ชีวิตประจำวัน หวาน ดราม่า มีปมให้ตาม ยกให้เกาะเลย สไลด์เป็นสิบๆ เล่ม คนก็ยังตามอ่าน5555
ไม่เฉพาะ sol หรอก ความสนุกคนมันเป็นเรื่องปัจเจกมากมึง สนุกเราไม่เท่ากันอยู่แล้ว อย่างประเด็นเดียวกันคนนึงชอบมาก คนนึงหาวแปดรอบอ่านไปข้ามไป ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น ผลตอบรับงานมันขึ้นอยู่กับเทสต์คนเสพจริง ๆ ส่วนใหญ่เขาไม่มาวิจารณ์วรรณกรรมว่าเทคนิคการเขียนเป็นไง สำนวนเริสมั้ย เอาแค่เรื่องแม่งถูกจริตเทสต์คนอ่านก็พอละ อย่างที่บ่นกันตลอดกาลว่าท็อปชาร์ตมีแต่อะไรไม่รู้ บางเรื่องลองอ่านตอนเดียวก็ปิดแล้ว แต่คนส่วนใหญ่ชอบ มันก็ขายได้ขายดีได้ไง ส่วนคนไม่ชอบมันก็ไม่อ่าน แค่นั้นแล
SoL นี่มันต้องดันตัวละครให้เด่น และผสมผสานแนวอื่นเข้าไปด้วยไม่งั้นมันไปไม่ได้
ยกตัวอย่าง K-on กับ Bocchi the rock นอกจากตัวละครเด่นแล้ว ก็เป็น SoL แต่ใส่แนวดนตรีกับ coming age กับ Cute Girl do Cute thing เข้ามา ถ้าลองให้เป็นแนว SoL เพียวๆ จะกลายเป็นสาวๆ เอาแต่นั่งจกขนมกินกันไปแต่ละวัน ซึ่งจะออกมาจืดชืดแน่นอน การใส่แนวอื่นเข้ามาปนกับ SoL ด้วยจึงช่วยให้เรื่องมันไม่จืดและน่าติดตามเพิ่ม
ส่วนกรณี SoL หนุ่มๆ กูยกตัวอย่าง "วันๆ ของพวกผมก็อย่างงี้" หรือ "Danshi koukousei no nichijou" ที่ตัวละครดูเป็นแค่หนุ่มๆ วัยรุ่นธรรมดา แต่ที่ยัดเข้ามาเพิ่มคือเรื่องความบ้าๆ บอๆ ของพวกวัยรุ่นชายวัยกลัดมัน ที่พากันไปทำอะไรสุดปัญญาอ่อนในสายตาคนนอก หรือถ้าของไทยก็แนะนำ "ชมรมวารสารตํานานสถาบัน" ของคุณเกษม ที่เขียนทำ SoL ออกมาได้สนุกชิบหาย ทั้งที่แม่งก็แค่เรื่องบ้าๆ บอๆ ในรั้วโรงเรียนอะไรทำนองนี้
ว่าไปขอ KY บ่นมั่ง เริ่มทำ E-book เองแล้วเหนื่อยจังแฮะ
ไม่มีงบเลยต้องมานั่งพิสูจน์อักษรเอง ต้องอ่านตั้งแต่แรกจนจบเล่มเอง จัดหน้ากระดาษเอง หาติดต่อทำปกทำไทโปเอง จนไม่มีเวลาไปเขียนงานเพิ่มเลย orz
SoL ก็แนวเรื่อยๆชิลๆไม่หวือหวา มีอีเวนท์นิดหน่อยไม่ให้เรื่องน่าเบื่อ สมมติมึงเขียนคุณทานากะตื่นเช้าไปทำงานขึ้นรถไฟแดกข้าวกล่องทำงานแล้วกลับบ้านทำกับข้าวทำงานบ้าน ชีวิตวนอยู่แบบนี้เป็นรูทีน มึงต้องคิดก่อนว่าจะนำเสนอแบบไหนไม่ให้จำเจ อย่างคุณทานากะตื่นเช้าไปทำงาน อ๊ะ วันนี้แวะซื้อขนมปังเป็นมื้อเที่ยง Explore Map มีตัวละครใหม่เข้ามา อีกตอนคุณทานากะไปทำงาน เจอคนเป็นลมที่สถานีรถไฟเลยช่วยไว้ อีกตอนเล่าถึงการทำมื้อเช้าของคุณทานากะก่อนไปทำงานทั้งตอน วันหยุดคุณทานากะทำงานบ้านเอาผ้ามาซักตากแดด เพื่อนบ้านเอาหัวไชเท้ามาให้เลยต้มโอเด้งกินไรงี้ ทั้งที่เส้นเรื่องแม่งก็อยู่กับคุณทานากะนี่ล่ะ แต่มันก็มีวิธีเล่าไม่ให้น่าเบื่อตั้งเยอะ
แนว slice of life ก็แบบ Aria ก็สาวพายเรือนี่ล่ะ ชีวิตแต่ละวันของพวกนาง อ่านแบบเรียบๆเรื่อยๆฮีลใจ อีเวนท์พวกนางไม่เคยซ้ำกันเลยนะในแต่ละตอน สาวๆทำงานเสร็จแวะมาเจอกัน ซ้อมพายเรือ จิบชา กินขนม ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายอะไรหวือหวา อ่านเอาชีวิตพวกนางว่าทำอะไรกันบ้างในแต่ละวัน เล่าเรื่องโลกของพวกนางไปด้วย ถ้าเขียน >>660 แม่งก็น่าเบื่อสิวะที่อีเวนท์มันวนลูปไม่เจออะไรใหม่ๆเลย
จะว่าไปถ้า SoL ชิลเกินไปเรื่องก็ชวนน่าเบื่อเหมือนกัน กูยกตัวอย่างไอ้แว่นตั้งแคมป์ได้เมียเนี่ย
คือช่วงแรกๆ มันก็โอเคเว้ย เรื่องของนายแว่นพระเอกที่ชอบตั้งแคมป์ ทำบาร์บิคิว บังเอิญไปเจอนางเอกเลยชวนไปกินบาร์บีคิวฝีมือแก พอเจอกันบ่อยครั้งเข้าฝ่ายสาวเกิดติดใจฝีมือ (ทำอาหาร) ของพระเอกเลยขอแต่งด้วย (ซะงั้น) ซึ่งถ้าเป็นนิยายรักมันก็คงควรจบลงตรงนี้นี่ล่ะ แต่พอหลังแต่งเนื้อเรื่องเป็น SoL พากันแดกของสองผัวเมียซะงั้น เนื้อหาดรอปลงเรื่อยๆ จนน่าเบื่อในที่สุดกูก็เลิกอ่านเลิกซื้อละ แถมฉากเลิฟซีนจืดสนิทอีก
Sol ที่ดีนี่ส่วนมากกูจะนึกถึงพวกมังะ หรือเมะที่เป็นแนวสัตว์ๆ เช่น ยูคิจิจัง ถ้าไม่ใช่ว่าอีตัวยูคิจิมันแฟนตาซีสัด เนื้อเรื่องก็ไม่ไรมากเลยนะ แต่ละวันของสาวออฟฟิศที่มีแมว(?)เยียวยาใจไปวันๆ อื่นๆก็เช่น
Chi sweet home, นายท่านอยู่บนหัว, วันๆของลุงกะแมว etc
แนวเด็กก็ชินจัง (ไม่นับตอนพิเศษภาคพิเศษนะมึง) กะจิบิมารุโกะ, พี่เลี้ยงเด็ก
แนวนี้เนี่ย นอกจากคาร์จะต้องเด่นจนคนรักแบบที่เรามองไอดอลแล้วอยากรู้ว่าต่อไปเค้าจะทำอะไร จะสุขเศร้าไหมแล้วเนี่ย กูว่าจุดดึงดูดมันจะอยู่ที่แต่ช่วง แต่ละตอนมันจะมีใจความเท่ห์ๆ คูลๆซ่อนอยู่อ่ะ จะเป็นคำคม แนวคิดอะไรก็ได้ ที่ซ่อนอยู่ในชีวิตในแต่ละวันที่คนทั่วๆไปมักมองข้ามนี่แหละ แล้วตลค.หลักมันก็ดีเวลลอปจากมุมมองพื้นๆพวกนี้ไปเรื่อยๆด้วยนะ
อีกแง่นึงคือไม่ใช่ว่ามันไม่มีอะไร ถ้ามองดูจริงๆ ตลค.ต้นเรื่องจะไม่ใช่คนเดียวกับตอนจบอ่ะ อย่างน้อยก็จะมีคอร์นึง ที่โดนเติมเต็ม แม้จะเป็นแค่ "ชีวิตมัธยมของเราเนี่ยผ่านไปอย่างแสนจะมีค่าอย่างที่หวังจริงๆด้วยนะ" ก็เถอะ
>>668 คาร์มันก็ดิวิลอปไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปในเรื่องอะ แบบยูคิจิ นางเอกก่อนเก็บแมวมาเลี้ยงก็เป็นสาวออฟฟิศอยู่แบบซกมกรกรุงรัง ได้แมวมาช่วยทำงานบ้านให้ ความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น สุขภาพกายและจิตก็ดีขึ้น ทำงานดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงมันเริ่มจากจุดเล็กๆน้อยๆพวกนี้แทรกเอาไว้ ถึงฉากหน้ามันจะให้เห็นความไม่เอาไหนในด้านงานบ้านคู่ไปกับการเป็นสาวออฟฟิศทำงานเก่งของนางเอกก็เหอะ แต่เรื่องพวกนี้มันก็ไปแทรกอยู่ตามเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเรื่อง ก็เป็นแบบที่มึงบอกว่าคาร์แรคเตอร์ตอนต้นเรื่องกับท้ายเรื่องจะไม่ใช่แบบเดิมแล้วเพราะมันพัฒนาตัวเองไปละ โดนเติมเต็มด้วยสิ่งที่ฮีลลิ่งใจของนาง ซึ่งก็คือแมว เขียน sol แม่งก็ไม่ง่ายเท่าไหร่เพราะถ้าคาร์ไม่มีเสน่ห์หรือสตอรี่มันไม่น่าสนใจคนก็ไม่อยากตามอ่านละ
เอาจริงเหมือนตายตกไปตามกันเหมือนกันนะ ทดสอบความเข้มแข็งในจิตใจของทั้งคู่ ใครจะจมปลักต่อหรือมูฟออนฟื้นตัวไปเรื่องใหม่ได้เร็วกว่ากัน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นนักอ่านว่ะ 555
มันตายตกไปตามกันตรงไหนวะ คนอ่านไม่ชอบก็มีสิทธิ์พูดป่ะ (ไม่นับกรณีโดนแกล้งลดดาวนะ) จะขายไม่ออกเพราะงานมันไม่ดีก็สมควรแล้วมั้ยอ่ะ วงการนี้แปลกทำไม่ดีกลับต้องมาโอ๋ ไม่ชอบก็ต้องเงียบๆ โม่งบนๆพูดเรื่องข้าวไม่อร่อยก็บ่นได้นะกูเห็นด้วยเลย ปกติมันก็ต้องเป็นแบบนั้นป่ะวะ หรือเพราะกูเป็นนักอ่านกูเลยคิดแบบนักอ่าน ไม่รู้ว่ะ
นิยายไทยย้อนยุคของคนเขียน 100000ชัง ใช่ป่ะ ไปดูที่รีวิวมา เค้าก็วิจารย์ได้ตรงประเด็น ไม่มีอะไรหยาบคายเลย แหมะนึกถึงเวลาพวกมึงสับนิยายคนอื่นในโม่งแบบเละเทะด้วยจร้า
ทำ Ebook เสร็จละ 2 เล่ม เล่มแรก 80k คำ เล่ม 2 100k คำ
ตั้งราคาขายไป 159 กับ 219 นี่ถูกไปปะหว่า กูโนเนมด้วยไม่กล้าขายแพง แต่เห็นคนรอบๆ ขายกัน 250+ หมดเลย
มันจะเป็นไปได้ไหม ที่จะสร้างรายได้จากนิยาย ให้ได้โดยเฉลี่ย เดือนละ 5000 บาท ให้ได้เหมือนเก็บค่าเช่าห้อง ถ้าขายบนเน็ตอย่างเดียวนะ
>>681 ทำทีละสเตป เอาเขียนเรื่องขายในไทยให้ได้ก่อน พ้นหกเดือนไปแล้วถ้าทุกอย่างมันโอเคมีรายได้ต่อเนื่องค่อยขยับไปแปลขายนอก แต่ขายนอกถ้าเนื้อเรื่องไม่โดนใจฝรั่งก็เท่านั้นว่ะ ซึ่งความชอบของฝรั่งกับคนไทยก็ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียวด้วย
พวกได้หลักหมื่นต่อเดือนคือพวกเขียนเรื่องยาวๆ เพราะจะได้ราคาต่อหนึ่งโหลดมากกว่าเรื่องสั้น หรือไม่ก็เขียนเรื่องสั้นได้หลายๆ เรื่องแบบเกินสิบเรื่อง ยอดซื้อในแต่ละเดือนก็คือนิยายทุกเรื่องที่ขายได้ในเดือนนั้น
เรื่องยาวไม่จำเป็นต้องฟูลไทม์ก็เขียนได้ถ้าจัดสรรเวลามาเขียนได้
3 หมื่นคำนี่มันไม่สั้นไปเหรอวะ กุสงสัยมานานละ บางคนเขียนสั้นมาก มันปิดประเด็นครบจบเหรอในเรื่องเดียวเหรอ ไม่กี่หมื่นคำกูนับเป็นตอนพิเศษหมดเลย 5555
>>683 กำลังดีนะ มีคนที่อยากอ่านอะไรที่เน้นๆฟินๆสั้นๆ จบเร็ว เพื่อคั่นเวลาอ่านเรื่องยาว บางคนอ่านยาวๆแสนคำมาหลายเรื่องก็เหนื่อย อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาอ่านอะไรแป๊บๆจบบ้าง คนที่แต่ง3-4หมื่นคำแล้วเก็บครบทุกประเด็นมีเยอะเลยในดงโรมานซ์-นิยายรัก นักอ่านชอบก็จะบอกว่า อ่านแป๊บเดียวจบรอเรื่องยาวๆนะคะ/สนุกมาก อยากให้ยาวกว่านี้จัง
>>683 ตามที่ >>684 ว่า บางเรื่องเก็บปมครบเพราะปมมันไม่ค่อยมีอะไรไง แค่เรื่องเข้าใจผิดเล็กๆ พูดไม่กี่หน้าตอนใกล้จบก็เคลียร์ละ เหมาะกับเรื่องหักมุมตื่นเต้นที่เปิดมาด้วยความเลวของตัวละครแล้วมาเฉลยตอนท้ายว่าตัวละครไม่ได้ทำอะไรผิดมากๆ เช่น นางเอกเข้าใจว่าตัวเองเป็นชู้พระเอกมาตลอด ยอมอยู่เรื่อยไปจนกระทั่งตอนจบเฉลยว่าเมียพระเอกเป็นเลสเบี้ยนต่างหาก เราแต่งการเมืองเฉยๆ นางเอกบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นชู้ใครแต่อย่างใด (ถึงจะชวนเอ๊ะมากก็เหอะ แต่ระหว่างที่อ่านจะตื่นเต้นกับความบาปมาก) หรือหน้ามืดเผลอนอนกับชู้แต่มาเฉลยว่าผัวแค่แต่งหน้าลองใจเฉยๆ5555
ว่าจะลงนิยายในธัญ/ดด.บ้าง ระบบมันต่างจากรี้ดมากมั้ยวะ มีหน้าใหม่มาแรงเอื้อเรื่องใหม่ๆ บ้างปะ
>>686 ของธัญถ้าอัพบ่อยอัพต่อเนื่อง (ไม่จำเป็นต้องปังมากในวันแรก) เหมือนมีหมวดฟินสุดหยุดไม่ได้สุ่มโชว์ขึ้นเหมือนใหม่มาแรงอยู่นะ โชว์น้อยด้วย แค่ 10 เรื่อง ไม่มีเปิดหน้า 2 หน้า 3 ติดก็คือเพิ่มโอกาสคนคลิกอ่านแน่นอน ส่วนเด็กDอันนี้กูไม่อ่านละ วิวโคตรน้อย ขายได้แต่แนวระบบกับปลูกผักมั้ง555
>>683 มึงยังไม่เคยเปิดโลกมาตลาดเรื่องสั้นสินะ เห็นเงียบๆ รายได้เพียบนะครัชพวกเรื่องสั้นเนี่ย โดยเฉพาะหมวดรัก โรมานซ์ รักผู้ใหญ่ นักเขียนบางคนสร้างบ้านซื้อรถได้ก็เขียนเรื่องสั้นขายนี่แหละ แต่ต้องเขียนสะสมมาหลายปีนะ ไม่ใช่แค่เรื่องสองเรื่องแล้วจะมีรายได้อู้ฟู่เลยทันที
แล้วถ้าในรอร. ตอนนี้ 14 วันแรกยังต้องลงติดกันทุกวันมั้ยเพื่อน
ระหว่างอัพวันเว้นวัน แต่เป็นตอนเต็มๆ
กับอัพทุกวัน แต่หั่นตอนครึ่งนึง 1/2 2/2 แบบนี้
อันไหนโอเคกว่ากันน่ะ
>>690 ถือเป็นกึ่งๆ passive income เพราะมันคือเงินของเรื่องใหม่รวมกับเงินของเรื่องเก่า
passive income จริงๆ คือไม่ต้องทำอะไรก็มีเงินเข้าบัญชี ในกรณีนี้คืออาศัยเงินของเรื่องเก่าอย่างเดียว ไม่เขียนเรื่องใหม่ออกมาขาย
ซึ่งถ้าหยุดออกงานไปจริงๆ รายได้ในเดือนถัดๆ ไปจะลดลงแน่นอน เช่น ปกติออกงานทุกเดือนได้หลักหมื่น แต่พอหยุดออกงานรายได้ลดเหลือหลักพัน มันก็คือ passive income ในยอดเงินหลักพันอะนะ ซึ่งมันคนละเรื่องกับการมีอิสระทางการเงิน
อยากถามเหมือนกัน ว่าถ้าไม่ออกงานใหม่ งานเก่าขายได้กันบ้างมั้ย
ของกูคือ เรื่องแนวรักปกติ 3 เดือนก็กริบแล้ว แต่เรื่องเสวแม่งออกไหลรินยาวๆไปเกือบปีกว่ากว่าจะหยุดเป็น 0
Kyกูวางขายงานที่อยากทำแต่ไม่ใช่แนวตลาด ตั้งใจว่าจะลงebook ปุ๊บจะไปทำงานใหม่ ไม่เข้าไปเช็กยอด(ไม่กล้าดูนั่นแหละ)กะจะ ไปเช็กอีกทีสิ้นปี
แต่วันนี้555อดไม่ไหวลองๆไปกดเช็กยอดมา ยอดเรื่องใหม่=0
กูไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะเรื่องอื่นที่ปังก็มี แต่ลึกๆก็เฟลว่ะ ไม่อยากไปบ่นในโซเชียลให้พลังงานลบกับใคร กูขอกำลังใจฉุดกูขึ้นมาทีได้ไหม ขอบคุณล่วงหน้าเลยโม่ง
>>697 งานมึงอยู่ในกลุ่มที่ตลาดมีความต้องการน้อยอยู่แล้ว บวกกับช่วงนี้คนโดนน้ำท่วมเล่นงานกัน เศรษฐกิจก็ไม่ดี ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่น่ามีใจหานิยายอ่าน และพอมันจมแล้วมันก็จมเลย
มึงเฟลไปเถอะ แต่เฟลในฐานะที่ผลงานมึงยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดนะ อย่าเอาคุณค่าตัวเองไปใส่ในงานแล้วเอาความรู้สึกลบมาลงที่ตัวเอง
ตัวอย่างงานดีที่ต้องรอคนเขียนตายก่อนค่อยดังมีเยอะเลย นี่บอกมึงได้ว่าคุณภาพงานไม่ได้สัมพันธ์กับยอดขาย ของดีแต่ไม่ตรงความต้องการในขณะนั้นคนเลยไม่เอามันก็ไม่แปลก จังหวะ โอกาส เป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่ง และก็ไม่ใช่ปัจจัยที่มึงควบคุมได้
>>696 กุก็คิดว่าแนวนี้มันน่าจะอายุสั้น เพราะมันหาทดแทนง่ายคนไม่น่าจะต้องค้นเยอะ คิดว่าแนวโรแมนติกจะขายได้นานๆ ปรากฎว่าจมไวกว่าเรื่องเสวซะงั้น
>>695 เรื่องเสวกูเอาลงหมวดวายว่ะ แต่เป็นแบบคำไม่ตรงนะ
เฮ้อออ ปลอบตัวเองอยู่เรื่อยนะว่าเขียนนิยายเพราะชอบ ขนาดคนอ่านน้อย + ขายไม่ออกกูก็ยังเขียนต่อไปเรื่อยๆ
แต่ทุกครั้งพอแอบเข้าไปมองยอดแล้วก็ถอนหายใจทุกทีเลย พาลคิดว่ากูเอาเวลานั่งเขียนนิยายเล่มละแสนคำไปทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ยตลอด
เอาวะ! สู้ต่อไปมาได้ครึ่งละ ถ้าไม่ผิดพลาดอะไรก็อีก 5-6 เล่มน่าจะจบ ถถถถ
>>699 อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเลย งานที่ดีคืองานที่เสร็จ ไม่มีคนอ่านก็คิดซะว่าเขียนเรื่องที่ถูกจริตที่สุดให้ตัวเองในอนาคตได้มานั่งอ่านอย่างสนุกสนาน พอส่องยอดตัวเองบ่อยๆกับเห็นความสำเร็จคนอื่นบ่อยเข้ามันเป็นประสาทจริงๆนะมึง ยอมรับให้ได้ก็พอ มีความสุขระหว่างทางกับการบรีฟปกนิยายไป ของกูก็เคยผ่านสเตจนั้นมา ถึงขั้นไม่มีอะไรให้พิมพ์บ่นตัดพ้อกับคนอ่านละ ลบก่อนโพสต์อะไรลบๆลงโซเชียลทุกที เอาเป็นว่าสู้ๆเว้ย!
>>702 ถ้าตามอัลกอล่าสุดที่คนแชร์ๆกัน ก็ดันตามระบบเดิมแหละ แต่เงื่อนไขโดนปรับไปโดยหารจำนวนตอนเข้ามาด้วย ดังนั้นอัพบ่อย = มีตัวหารมากขึ้น ลำดับมึงจะอยู่ล่างกว่าคนที่มีจำนวนตอนน้อยแต่ค่าความนิยมอื่นๆเท่ากัน
ตามคห.กูไอ้ใหม่มาแรงเนี่ย มันมีระบบชัดเจนนะ จะมาว่าแอพดันไม่ดันก็ไม่ได้ว่ะ ยกเว้นเรื่องเก่าๆที่หลุดไปแล้ว ที่ต้องใช้ pool สุ่มดึงขึ้นมาแนวเรื่องที่คุณอาจสนใจ อันนี้กูไม่รู้ว่าใช้อะไรสุ่ม และเกณฑ์ดึงขึ้นทั่วถึงไหม
ทุกวันนี้กูก็ยังงงๆกับนข.บางพวกที่บ่นว่า รอร. ไม่ดันนะ ถ้าบ่นว่าอยากให้มีพื้นที่สุ่มแสดงเรื่องเก่าๆที่จมดินแล้วมากขึ้นอันนี้กูเข้าใจ แต่พวกลงไม่ถึง 15 วัน ไต่แรงก์ไม่ขึ้นแล้วบอกว่า รอร.ไม่ดัน อันนี้กูก็เกาๆหัวนิดหน่อยว่ะ
พวกมึง ใครจัดโปรพี่เมพรอบนี้บ้าง เป็นไงบ้างวะ ของกูได้กะปริบกะปอยมากกกก
>>705 ของกูจัดโปรทั้งหมดสี่ปก จนถึงวันนี้ได้ยอดมาหนึ่งเล่มถ้วน อ่ะมีใครให้น้อยกว่านี้อีกมั้ยค้า 55555
>>699 เรื่องเอาเวลาไปทำอย่างอื่นแทนนี่กูคิดแบบมึงทุกครั้งเวลาเพื่อนเรียกไปช่วยมันรับโปรเจกท์งาน เพราะคิดชั่วโมงเท่ากับที่กูเขียนนิยายไปนั่งทำงานกับเพื่อน กูได้เงินมากกว่าแบบเอาศูนย์เติมข้างหลังอีกสามตัวเป็นอย่างน้อย (เพราะยอดขายนิยายกูต่ำเตี้ยแบบที่พิมพ์บอกไปข้างบน 55555) แต่กูก็ยังเลือกทางนิยาย นี่ต้องเป็นรักแท้แน่ ๆ เลยหรือไม่ก็กูเป็น M
ถ้ากูเขียนแฟนตาซีแนว no love ไปก่อน แต่เดินเรื่องไปซักระยะแล้วเคมีกับตัวละครแม่งดีมาก ทีนี้อยากจะเปลี่ยนให้มาคู่กันกูควรแจ้งนักอ่านป่ะ หรือเขียนไปเรื่อยๆให้นักอ่านลุ้นเองว่ามันจะลงเอยกันมั้ย หรือเขียนแบบจิ้นๆส่อๆแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ให้คู่กันเพราะจั่วหัวว่า no love
ว่าไปสอบถามหน่อยกูว่ากูส่งไฟล์ E-book ไปแบบส่งๆ แหงเลยว่ะ
คือไม่มีสารบัญ ไม่มีคำนำ ส่งไปคือขึ้นตอนที่ 1 เลย เพราะทางเว็ปมันรีเควสแค่นั้น และไกด์สอนทำ E-book ก็บอกแค่นั้น ซึ่งกูกำลังกังวลว่าพอ e-book ออกมาแม่งต้องเหลวแหงๆ เลยว่ะ
ถามคนทำ E-book หน่อยว่าอันนี้คือเรื่องปกติเปล่าวะ?
อีกอย่างคือถามหน่อย พอดีกูเขียนไปหลายเล่มมากละ แต่ทุกวันนี้กูทยอยอัพลงอาทิตย์ละ 3-4 ตอน เพราะกลัวเขียนไม่ทัน ถ้ากูทำ E-book นำตอนที่ลงให้อ่านปกติไปเลยมันจะดีกว่ารึเปล่าวะ?
>>710 ตอบคำถามในส่วนไม่มีสารบัญ ปกติ ไม่จำเป็นต้องมีเว้ย หลายปีก่อนกูเคยทำหยาบๆขึ้นแค่เลขตอน 1 2 3 เขาก็รู้นะ ไฟล์ epub ก็เหมือนชาวบ้าน สารบัญเขาก็ทำให้ครบ เราไม่จำเป็นต้องทำสารบัญเว้ย เขารู้ เดี๋ยวเขาทำให้เอง คราวหลังมึงแค่ทำชื่อ/เลขตอนให้ใหญ่กับคลุมดำให้เลขตอนเป็น heading ไปก็พอ
เห็นแอค ngl รีโพสนึงมา ที่บอกการที่นข.อัพรายตอนไปครึ่งเรื่องแล้วปล่อยอีบุ๊คเลย ทำให้พฤติกรรมนักอ่านพัง เพื่อนโม่งคิดเห็นกันยังไงอะ
ส่วนตัวถ้ามุมคนเขียน ไม่เคยทำได้เพราะเขียนไปอัพไป 55555 แต่เห็นนข.คนอื่นในเอ้ก กับที่เคยอ่านในโม่ง บอกว่าให้ขายอีบุ๊คตอนรายตอนกำลังพีคแล้วคนอยากตามต่อ รอตอนไม่ไหวจะได้พุ่งไปซื้ออีบุ๊ค เลยงงๆ ว่าสรุปมันไม่ดีเหรอ
แต่ถ้ามุมคนอ่าน ถ้าเขายังลงรายตอนตามปกติ แบบวันละครั้ง อาทิตย์ละครั้งอะไรแบบนั้น ก็อ่านไปเรื่อยๆ ชอบแล้วค่อยซื้อเก็บ โดยเฉพาะถ้าตอนพิเศษมีเฉพาะในอีบุ๊ค
Ky ถึงกูจะนิวเฟซ ขายของไม่ค่อยได้แต่กูก็อยากลงลขส. กูรู้ว่าเรื่องคอมมันเบสิกแต่กูไม่มีความรู้เท่าไร ไปลงตามร้านคอมก็โดนแกง พนง.บอกว่าร้านลงของถูกแต่แท้นะ? แท้แบบใดใช้แป้บๆหมดอายุ กูต้องลงใหม่ซ้ำซาก เบื่อตรงนี้ กูปรึกษากับใครได้วะ ถามในนี้ได้มั้ย
เวลาทำไฟล์epubนี่ต้องนั่งเคลียร์ ที่ตัดตกคำด้วยshilft+enter ออกไหมวะ
>>719 มึงหมายถึง office แท้ในคอม?
กูใช้ รุ่น home &student ที่ติดมากับเครื่อง เวอร์จะเก่าหน่อยแต่ใช้ได้ไปจนเครื่องพัง ถ้ามึงซื้อ 365 อันนี้มันจะเป็นรายปี/รายพีเรียดแล้วแต่จะเลือกนะ
แต่เข้าใจว่ามันจะมีพวกที่ซื้อแบบหลาย user / แบบ business มาแชร์ หรืออะไรพวกนี้ซึ่งมันจะถูกกว่า แต่ก็เป็นรายปีเหมือนกัน เอ่อ กุก็ไม่เชี่ยวเรื่องนี้บอกไปจะผิดเปล่าๆ ไปถามห้องที่เชี่ยวเถอะ
ถามเอาสาระ ผญดวงกินผัว มันมีอยุ่จิงปะวะ หรือแค่คิดกันไปเอง
ky ถามเรื่องน้ำเสียงหน่อยเพื่อนโม่ง ปกติกูเขียนแต่นางเอกเสียงหวานเลยบรรยายกับคิดคำง่าย แต่รอบนี้อยากได้คนที่เสียงไม่หวานมากแต่ฟีลเป็นนักร้องเสียงเท่ๆแบบคุณแม่อะเดล แม่เอมี่บ้านขาวไรงี้ เลยอยากรู้ว่าเสียงแบบนี้ต้องบรรยายว่าเสียงแบบไหนเหรอ (มีฉากร้องเพลงที่ต้องบรรยายเนื้อเสียง) ทุ้ม ทุ้มนุ่ม แหบเสน่ห์ เหรอ
>>727 กูเพิ่งอ่านนิยายนางเอกที่มีเสียงเสน่ห์ที่พระเอกหลงใหล เสียงขึ้นจมูกไม่เหมือนใคร ที่พระเอกแค่ได้ยินก็รู้สึกดี(และแอบเอาเสียงมาจินตนาการเสว) ตย.นะ--
น้ำเสียงของเธอไม่ได้ใสกระจ่างหรืออ่อนหวานเหมือนกับผู้หญิงหลายๆคนมันค่อนข้างแหบพร่าขึ้นจมูกด้วยซ้ำเพราะแบบนั้นมันเลยยิ่งเสริมให้อีกฝ่ายดูเซ็กซี่เหมือนกับภาพลักษณ์ภายนอก
เตรียมตัวครับ อ.มาเตือน
https://www.youtube.com/watch?v=RVY25QTPUfY&t=1s
ถ้ากุเขียนโรมานส์ นอ.ได้พอ.คนแรก แต่พอ.ยังไม่รัก นอ.มูปออนด้วยการหาคนใหม่ แล้วได้กันจริงๆ แต่ไปไม่รอด นอ.กุตามหารักแท้ไปเรื่อยๆ ได้ผช.หลายคนเลยเป็นปีๆ จนวนกลับมาเจอพอ.ที่ก็โตขึ้นกว่าเดิม และพอได้รุ้จักตัวตนนอ. ณ ปัจจุบันที่โตขึ้นเหมือนกันแล้วมันพอดีกันเลยได้ลงเอยในที่สุด ไม่อยากจับลงรักผญ เลย เพราะกุอยากเขียนแนวๆ การเดินทางของคนๆ นึง แต่กุรส.ว่านักอ่านส่วนใหญ่จะไม่ปลื้มว่ะ
>>731 เขียนเรื่องย่อนี้คร่าวๆไว้ว่าตัวละครไม่ซิง มาลุ้นกันนะตะว่าพระเอกคือใคร จบ คนรับได้ก็อ่านเอง เอาจริงแนวนี้คนเขียนเยอะนะมึง เขาแค่สคิปช่วงคบคนเก่าเฉยๆ แต่มึงบอกอยากเขียนแนวการเดินทางตามหารักแท้ แสดงว่าจะไม่ค่อยสคิปใช่มะ? ออกแนวให้ลุ้นไปเรื่อยๆว่าจะหยุดที่ใครไรงี้ปะ แล้วค่อยวนมาเจอพระเอกอีกครั้ง เพราะส่วนใหญ่คนเขียนพล็อตแบบที่มึงว่าเขาจะมีตัวละครหลักคือพระเอกกับนางเอก คนอื่นที่นางเอกเคยได้นับเป็นแฟนเก่าและอดีตหมด ไม่ใส่รายละเอียดเยอะว่าเคยรักกับแฟนเก่ามากขนาดไหน ได้กันท่าอะไรบ้าง
มันจะสคิปแบบเลิกกับพระเอก - พอมาบทต่อไปก็เขียนห้าปีผ่านไป ไม่บอกเล่าโดยตรงว่าผ่านผช.มากี่คน แต่ก็บอกใบ้ว่าเคยมีแฟนเก่ามาหลายคน ที่เหลือก็เหมือนให้นักอ่านคิดเอาเอง - จากนั้นกลับมาเจอพระเอกอีกครั้ง ดำเนินเรื่องต่อ โรมานซ์หลายเรื่องเป็นงี้
กูยังไม่เคยอ่านนิยายแนวที่บรรยายคสพ.ถึงผู้ชายแต่ละคนในอดีตอย่างละเอียด แต่กูเคยอ่านเว็บตูนแบบนี้เลย (ยูมิเซลล์) คบผู้ชายจริงจังประมาณ 3 คนเห็นจะได้ เขียนเรื่องราวละเอียดหมดว่าในช่วงชีวิตนึงพบเจอกันได้ไง จีบกันยังไง ช่วยเหลือกันยังไง ฉากได้กันก็มีบอกเป็นนัยๆตลอด ก็แฟนกันอะ เลิกทีคนอ่านก็จะเป็นจะตายตาม มีฉากรีเทิร์นคนเก่าด้วยนะมึง แต่ไม่รอด สุดท้ายได้ผัวใหม่อยู่ดี555
มีนักอ่านอันฟอลกูว่ะ เฟลนิดหน่อย
แต่กูต้องท่องว่า มันเป็นเรื่องที่ดูควบคุมไม้ได้ทุกข์ใจไปก็เปล่าประโยชน์ ที่กูทำได้คือทำงานของกูให้ดีที่สุด ฮืออ
>>735 คิดถูกแล้วเพื่อน ไม่ต้องไปทุกข์ใจให้มาก ส่วนหลังจากนี้คือความเป็นไปได้เพื่อปลอบใจตัวเอง บางทีเขาอันฟอลเพราะรำคาญโซเชียลเฉยๆนะ มึงอาจเป็นนข.ประเภทที่ชอบรีข่าวสารเหตุการณ์ หรือเป็นพวกกระโดดไปคุยทุกมาม่า ไม่ใช่ไร กูก็เพิ่งอันฟอลไป เพื่อไปกดติดตามในเม้ดแทน นิยายออกใหม่เมื่อไหร่ก็มีแจ้งเตือนเลย บางคนไม่ได้อยากรู้จักนักเขียนขนาดนั้น อยากรู้แค่ผลงาน เขาอยากมาหาเมื่อไหร่ก็ค่อยมาส่องเอา นักอ่านไม่กดฟอลมีเยอะแยะ
>>731 กูคิดว่านักอ่านรับได้นะ แต่อย่ามาตกม้าตายด้วยการย้ำความไม่ซิงของนางเอกอย่างกับว่ามันคือเรื่องสำคัญ นิยายจีนเรื่องหนึ่งติดท็อปเว็บ เริ่มเรื่องสมัยวัยรุ่นใสๆนอ.ชอบพอ.เลยตามจีบ แต่พอ.ไม่ชอบ พอโตนอ.ก็มูฟออนไปแต่งงานกับผชอีกคน ไม่ได้รักกันแต่พ่อแม่นัดดูตัวตามธรรมเนียมจีนแหละ แล้วผชก็นิสัยโอเคเลยแต่ง แต่งก็ได้กันแต่ไปๆมาๆนิสัยเข้ากันไม่ค่อยได้ หย่าหลังแต่ง3ปี พอ.มาเจอนอ.อีกรอบแล้วรักเลยตามจีบ คือดีทุกอย่างเริ่มจากวัยใส วันทำงาน มีดราม่าเพิ่มตามอายุ แต่มาตกม้าตายที่ตอนพิเศษ เขียนให้พอ.ฝันถึงตอนนอ.แต่งงานกับอดีตผัวแล้วมีฉากเข้าหอ นอ.พูดกับอดีตผัวว่าเจ็บบลาๆไรงี้ พอ.มันจินตนาการตอนนอ.ได้กับผัวเก่า คือกุก็เกทว่านข.จะสื่อว่าพอ.เสียดายเวลาที่ห่างกันไป ถ้าย้อนไปได้จะไม่ปล่อยให้นอ.มีโอกาสไปได้กับคนอื่น แต่พอฝันถึงเรื่องนอ.เข้าหอกับผัวเก่าแล้วมันรู้สึกว่าพอ.ก็ติดใจเรื่องนอ.ไม่ซิงอยู่เหมือนกัน กูคิดว่าไม่ใส่ฉากนี้ยังดีกว่า
>>737 เหมือนไลท์โนเวท หนุ่มซิง สาวฮอต เหมือนจะสื่อ ว่าคนเราไม่ต้องไปสนความซิง แต่ไปไอ้สัส ทั้งเรื่องแทบจะย้ำเรื่องซิงของนางเอกที่เสียไปแล้ว มัวแต่เสียดายว่าจริงๆ ลแ้วน่าจะเก็บไว้ให้พระเอก ไอ้สัสท่าดีทีเหลว นี่ถ้าเพื่อนโม่ง เขียนๆ ไป บอกนางเอกเสียดาย น่าจะเก็บไว้ให้พระเอก มึงตกม้า คอหักตายเลย
ky เพื่อน ขอคำแนะนำหน่อยว่าถ้าเป็นนิยายรักสั้นๆ (ชญ เน้นรัก ดราม่าจึ๋งนึง nc มีน้อยมากหรือไม่มีเลย) ไม่เกิน 30,000 - 50,000 คำ ใช้โครงเรื่องแบบ 3 act หรือ harmon's circle ดีนะ
เพิ่งรู้เมื่อวานนี้แฮะว่าเดี๋ยวนี้สำนักพิมพ์บางแห่งเขาจำกัด Genres ของหนังสือนิยายเอาไว้แค่ 3 แบบเท่านั้นเองแฮะ
มีแบบแรกคือแนวรัก/เลิฟคอม แบบที่สองคือแนววาย
และแบบที่สามคือ แนวแฟนตาซีผจญภัย ซึ่งเรื่องไหนไม่ใช่แนวรัก/เลิฟคอม ไม่ใช่แนววาย แม่งโดนโยนมาหมวดแฟนตาซีผจญภัยหมด แม้ว่าในเรื่องจะชิล จะดราม่าแค่ไหน
อาจจะมีย่อยกว่านั้น แต่ค่ายที่กูดูเขาไม่ทำแนวไซไฟกับแนวสืบสวนเลยไม่มีแนวนี้ล่ะมั้ง
>>732>>737 ใช่ กุตั้งใจเล่าละเอียดเลย ผุ้ทุกคนต้องได้ฉายแสงในเรื่องอย่างว่า 555 เพราะกุไม่ได้ตั้งใจให้ใครเป็นตัวร้าย แค่คนมันไปกันไม่ได้ >>738 ซิงพอ.เป็นคนได้ไปน่ะแหละ แค่หลังจากนั้นนอ.กุออกทะเลไปฝึกฝนกับคนอื่น แต่กุว่าจะเขียนให้พอ.มันเสียใจนิดๆ ที่โง่รู้ตัวช้า กว่าจะลงเอยกันก็ล้มลุกคลุกคลานกันมาทั้งสองฝ่ายแล้ว
ky มึง กูแค่จะมาบอกว่านักเขียนที่ชอบโพสต์ลงโซเชียลว่าตัวเองเก่งมาก เขียนนิยายสองแสนคำในหนึ่งเดือน ออกนิยายได้ทุกเดือน ตื่นมาตีสี่เขียนงานได้ทุกวัน สิบวันเขียนได้แปดหมื่นคำ รอรีไรท์พิสูจน์อักษร ทำต่อไปนะเพื่อน 🥹 กูเคยเบือนหน้าหนีมาตลอดด้วยความอิจฉา แต่ก็ยังแอบแคปและบุ๊คมาร์คไว้ดูให้เจ็บใจเล่น พอไปย้อนดูเยอะๆเข้าเกิดฮึดขึ้นมาเขียนเรื่องสั้นปมน้อยจบหกหมื่นคำในสิบกว่าวันจริงๆ อย่างกะการ manifest แน่ะ ฟีลคนอื่นทำได้แล้วกูจะต้องทำไม่ได้เหรอวะ ได้ใช้ปกดองไปหนึ่งปก (จากปกในคลังเป็นล้าน) เย้ๆๆ พออยู่กับความอิจฉาและจัดการความคิดตัวเองได้ ก็เข้าใจละว่าทำไมเพื่อนโม่งบางคนถึงบอกพอเห็นคนแบบนี้แล้วมันมีพลังฮึดตามได้ กฎแรงดึงดูดจริงๆด้วย
>>748 ยินดีด้วยนะเพื่อนโม่ง มึงคือคนที่จัดการกับความอิจฉาได้ถูกวิธีแล้ว กุเป็นคนนึงที่เคยพิมพ์ในโม่งว่าดูคนอื่นทำได้ แล้วกุก็ฮึดขึ้นมา จากที่เคยมีรายได้จากงานเขียนน้อยนิด จนตอนนี้พอจะเลี้ยงตัวเองได้สบาย ๆ ก็มาจากไฟอิจฉา เห็นคนอื่นทำได้กุก็ต้องทำได้นี่แหละ พวกที่เห็นคนอื่นอวดความสำเร็จแล้วไปด่าเขา งอแงว่าทรอม่า ด่าคนอื่นขี้อวด คือมึงใช้ความอิจฉาไม่เป็นประโยชน์นะ เอาใหม่ ๆ มันต้องแบบนี้เว้ย เอามาปลุกไฟในการทำงาน อย่างน้อยทำไม่ได้เท่าเขา แต่มันก็ได้ทำแหละว่ะ
กูเป็นนักเขียนฟิค ชีวิตนี้เขียนแค่ฟิคคู่ชิปเฉยๆ ไม่ได้คิดหารายได้หรือมีชื่อเสียงจากงานเขียนอะไรหรอก แต่บางทีกูอ่านงานดีๆจากคนอื่นกูก็อดนอยไม่ได้เหมือนกัน คนอื่นเขาดูเขียนอะไรดีๆแบบปรัชญาลึกล้ำ งานกินใจ เสียดสีสังคม เรื่องสั้นที่ฮุคคนอ่านจนน็อคได้ ส่วนกูนี่ถ้าไม่มีโมเมนต์คู่ชิปกูเขียนไม่ได้เลย แถมสิ่งที่เขียนก็แค่ชงชิปให้เขาได้กันเฉยๆ กูอยากเขียนอะไรดีๆแบบที่ว่านะ แต่ก็อย่างที่บอกว่าถ้าไม่ใช่คู่ชิปกูจิ้นสตอรี่ไม่ออกเลย เคยลองพยายามจะพิมพ์พล็อตเรื่องแล้วก็พิมพ์ไม่ออก ไม่รู้จะเขียนอะไรเลย อยากเป็นคนเขียนอะไรเก่งๆบ้างว่ะ มีวิธีฝึกบ้างมะ
>>752 +1 กูไม่ได้มาช่วย751 กูแค่อยากบอกว่า มีคนที่อยากอ่านแค่มาดูคนเค้ารักกัน ได้กัน หวานๆฟินๆม่วนๆจอยๆ ไม่ได้อยากอ่านงานสะท้อนสังคมห่านเหวอะไร ชีวิตจริงกูมีสาระเข้มข้นพอแล้ว แค่เอาสภาพจิตใจตัวเองให้รอดในแต่ละวันก็ยากแล้ว กูเหนื่อย กูอยากผ่อนคลาย กูอยากไร้สาระ และกูเกลียดคนที่มาเหยียดงานฟิคว่ามันง่ายๆจิ้นง่ายๆยกงานธงเขียวของตัวเองว่าทรงคุณค่ามากกก
วันนี้กูพึ่งพบว่านามปากกาที่กูใช้ไปตรงกับนักวาดไทยคนนึง
กูควรช่างแม่งปล้วปล่อยไว้งั้นหรือยังไงดีวะ
>>751 ในฐานะคนเขียนฟิคเหมือนกัน กูแนะนำว่ามึงปล่อยจอยดีกว่า เขียนอย่างที่อยากเขียนไปนั่นแหละ เขียนแต่เรื่องรักๆ มันไม่ได้แย่นะ เขียนให้คนรักกันมีความสุขเป็นเรื่องดีจะตาย(ยกเว้นแต่มึงชงขม) ทุกวันนี้กูก็เขียนแต่เรื่องรักชงคู่ชิปไปวันๆ ล่ะ
แต่ถ้ามึงอยากฝึกจริงๆ กูก็แนะนำให้เริ่มอ่านพวกประเด็นที่มึงอยากลองเขียนอะ ค่อยๆ ศึกษาตกผลึกไปไม่ต้องรีบ งานพวกนี้กูว่ามันต้องใช้เวลาตกผลึกอยู่แล้วกว่าจะเขียนออกมาได้ดี
>>751 เริ่มจากแก่นก่อนอ่ะ ประเด็นโดนๆสักอัน เช่น "ความเท่าเทียมไม่มีจริงในโลกนี้"
ทีนี้ก็คิดต่อว่า กรณีไหนที่มึงเห็นแล้วทำให้มึงเห็นประเด็นนี้ขึ้นมา
จากนั้นก็สร้างตลค. มาโยนลงไป สร้างต้นกลางจบ
ในฐานะที่มึงเขียนฟิค ถ้าคิดไม่ออก กุจะบอกทริกให้ ว่าเอาคาร์คู่จิ้นมึงอ่ะมาเลย ตอนเขียนต้นฉบับมึงจะใช้พลังจิ้นเขียนด้วยชื่อคู่จิ้นมึงก็ได้ แต่พอจะลงงานจริงให้เปลี่ยนชื่อให้หมด ไม่เอาชื่อเขามาเกี่ยว
ข้อเสียคือ คาร์มึงมีมิติเดียวอ่ะ ใช้กับออริหลายเรื่องไม่ได้ มันจะซ้ำ
ส่วนประเด็นอื่น มึงจะเขียนอะไรก็ได้ ถ้าคนอ่านสนุก พาคนอ่านไปอินกับตัวอักษรมึงได้ ก็ถือว่ามึงเขียนเก่งแล้ว อย่าไปติดหล่มว่าต้องโวคต้องหนังสือธรรมะ ต้องสอนใจ ต้องเป็นเนื้อหาตามวัฒนะธรรมและค่านิยมอันสูงส่งถึงจะเรียกว่าดีเลยว่ะ แน่นอนถ้ามันสอนได้ด้วยมันก็ดี++ แต่ยังไงมึงก็เขียนบันเทิงคดีอ่ะ ไม่ใช่ตำราจริยธรรม
2. งานทรงคุณค่ามักได้โล่ห์แต่ไม่ได้ตังก์และไม่ได้แสง เส้นทางฮีโร่มักโดดเดี่ยว ถ้ามึงอยากลองชาเลนจ์ตัวเองก็ทำเลย ทำเรื่อยๆสักเรื่อง ควบไปกับนิยายฟินหนีโลกของมึง ภูมิใจในงานวิจิตรของมึงไป แต่อย่าหวังคนมาอวยมากรี๊ด เพราะมันจะผิดหวัง 98%
เพื่อนโม่ง ถามอะไรหน่อย
แนวแฟนตาซี แอคชั่น ตลก พระเอกสลับเพศเป็นหญิง เราควรนับตัวเอกเป็นพระเอก หรือเป็นนางเอกดี? ยิ่งถ้าตัวละครรองส่วนใหญ่เป็นชายด้วย
แล้วเราควรตั้งเป้าขายนักอ่านเพศไหน วัยไหนดี? ชายแท้? หญิงแท้?เกย์? ยูริ?
>>761 กุว่านับเป็นพระเอกนะ เพราะจิตใจเอย ความคิดเอยยังเป็นผช นอกจากว่ามึงเขียนให้มันเทิร์นแล้วตุ้งติ้งตามร่าง เริ่มมองว่า ผช หล่องี้ ค่อยเรียกว่านางเอก ส่วนขายใครก็ต้องอยู่ที่เนื้อเรื่องเพื่อนโม่งอะ แฟนตาซีแนวไหน รวมตี้ตีดันเจี้ยน พารานอมอล สงคราม แต่กุเดาว่าน่าจะขายนักอ่านชายวัยมัธยมถึงทำงาน
มึงกูขอปรึกษาคนที่ขายหมวดโรมานซ์หรือหมวดรักหน่อย กูลงนิยายในรอร.ไปกระแสตอบรับค่อนข้างดี แต่กูเสียวว่าลงเมพไปมันจะเงียบแบบนข.หลายคนที่ยอดอ่านหลายแสนเกือบล้าน แต่ลงเมพแล้วยอดนิ่งมาก(กูเคยเจอกับตัวเองมาเหมือนกัน แต่ก็ไม่ทุกเล่ม) ทีนี้กูสงสัยว่าอะไรเป็นแฟคเตอร์ให้คนกดซื้อนิยายในเมพวะ กูว่ายอดอ่านหลักล้านในรอร.มันก็ไม่ได้การันตียอดขายเสมอไปอะ หรือกูต้องลงโปรโมตในต๊อกๆกับในเฟซด้วยวะ หรือต้องหวังให้ใครสักคนหยิบหนังสือกูไปรีวิวในกลุ่มป้าๆ
ky ถ้าทั้งเรื่องมี nc ตอนเดียว (ไม่ได้ตัดเข้าโคม แต่ก็ไม่เรทมาก ไม่ได้บรรยายอวัยวะ ใช้คำเปรียบเทียบ) สมมุติว่าถ้าเป็นอีบุ๊คแสนคำงี้ แต่มี nc ตอนเดียว แบบนี้ในรอรกับในเม้ดต้องติด 18+ มั้ยเพื่อน ขอบคุณนะ
Kyกู คมช.รวมเชิงพาณิชย์ปกวาดมาตั้งแต่ธันวาปีก่อน แล้วก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับนักวาดอีก ทีนี้หลายเดือนผ่านไปเพิ่งมาเห็นนักวาดประกาศไม่รับงานธงแดง แต่กูตั้งใจจะเอาปกนั้นมาใช้กับพระเอกธงแดง(ไม่เรพนะ/คลั่งรักแบบจิตๆดาร์กๆดุดันน่ะ) กูปล่อยเบลอเอาไปใช้เลยได้ไหมวะ หรือต้องมีมารยาทอะไรที่กูไม่รู้ไหม
อยากเขียนนิยาย แต่ภาษายังไม่สวย ยังไม่เก่ง แต่มั่นใจในพล็อต ควรเขียนแนวอะไรดี ขายให้รี้ดกลุ่มไหนดี ที่ภาษากากาหน่อย ก็ขาบได้ ไม่โดนด่าแบบไรท์คนอื่นๆที่เราเคยเห็นในโซเชี่ยว
>>757 >>759 ขอบคุณพวกมึงมาก อันที่จริงกูไม่ได้ซีเรียสเท่าไหร่กับเรื่องนี้เพราะกูเขียนฟิคเป็นงานอดิเรกเฉยๆ แต่ก็รู้สึกว่ากูอยากเก่งขึ้นน่ะ เลยอยากลองชาเลนจ์ตัวเองดู แต่ก็อย่างที่บอกว่าถ้าไม่ใช่คู่ชิป กูเขียนไม่ได้เลย ขนาดจะเขียนออริตัวเองกูยังรู้สึกฝืดๆ ต้องวกกลับมาเขียนคู่ชิปทุกทีเพราะเคมีที่ตรงจริต
กูสงสัยว่าเม็ดเค้าใช้เกณฑ์อะไรในการวัดว่าเรื่องไหนจะโดนล้อคบัตรไม่โดนวะ เรื่องนึงมีบรรยายตับๆๆๆ อวัยวะเป็นแท่งเป็นลำถึงพริกถึงขิง ขายได้ไม่โดน ซัดกันแทบจะตอนเว้นตอน อีกเรื่องใช้คำอ้อมๆ ต้องใช้จินตนาการ ฉากมหัศจรรย์ก็ไม่ได้ถี่เท่าเรื่องแรกแต่ดันโดน ทั้งเรื่องมีอยู่ 3 ฉากเองมั้ง ขึ้นอยู่กับอารมณ์คนตรวจหรอ ใครมันจะมานั่งอ่านทุกเล่มที่ส่งเข้าไปวะ
>>783 กูเคยเจอ เล่มที่อยู่หมวดนิยายรักแต่ซัดกันนัว เมb ลองไปดู+คุยกับนักเขียนแล้วย้ายเป็นหมวดโรมานซ์ให้
แต่อีกเรื่อง อยู่หมวดรัก กูแจ้งไป เมbไปดูแล้วบอกว่านักเขียนเห็นสมควรว่าต้องอยู่หมวดนี้ แล้วคุยแบบนักการทูตว่า มันก็ไม่ได้เยอะมีประมาณ3ฉาก อยู่หมวดนี้ก็ได้ครับถ้าไปย้ายหมวดเดี๋ยวนักเขียนเขาไม่พอใจแล้วไม่มาขายกับเราจะแย่ครับ
จากนั้นกูก็ไม่เสือกเรื่องนี้อีก555 กูจัดการตัวเองง่ายกว่า ใครอยากอยู่หมวดไหนก็ช่างมันเถอะ
แต่ถ้ามึงเจอคำแรงๆพวก คร วย แต ด ฮี ถ่ายรูปไปแจ้งได้นะเว้ย อันนี้ยุ่งยากน้อยกว่า แยกหมวด
>>785 อย่างวายที่กูลงขายกูกดทุกเรื่องนะว่าจำกัดอายุแต่ไม่ใช่ทุกเรื่องที่โดนล็อคบัตร คือกูเห็นนข.โดนย้ายจากโรมานซ์ไปรักผู้ใหญ่กันเยอะมากพักหลังๆ รักผู้ใหญ่บางเรื่องที่กูลองกดเข้าไปอ่าน ฉากเยกันธรรมดามาก เลยงงว่าหลงมาได้ไง ส่วนนักเขียนตัวแม่ที่ยอดกดใจเยอะๆ ขายดีๆ กูอ่านละมาเป็นลำเป็นกลีบ นมเป็นนม เยกันตอนเว้นตอนทั้งเรื่อง แต่เฮ้ยทำไมเค้าไม่โดนย้ายหมวดล็อคบัตรบ้างวะ พอได้อ่าน >>784 ก็เข้าใจแล้วว่ะ เม็ดคงกลัวตัวแม่ตัวทำเงินงอน กลัวดราม่าไรงี้ปะ เลยมาบี้กับพวกล่างๆ ลงมาหน่อย หรือจัดการแบบเคสบายเคสไป
>>786 ใช่เลยค่ะมึง นข.ที่กูแจ้งคือพี่สาวคนสวยของแก๊งรีวิว ตัวแม่จริง ถ้าเมbจัดการอะไรที่นักเขียนไม่ได้เห็นด้วยขึ้นมาก็อาจจะมีปัญหาดราม่ากันได้ เลยแก้ปัญหากันครึ่งทาง ด้วยการใส่ตรงคำโปรยว่า นิยายนี้เหมาะสำหรับบลาๆ18ปีขึ้นไป (ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลย555)
ติดบัตรไม่ติดบัตรขึ้นอยู่กับจิตสำนึกนักเขียนจริงๆ
>>787 กูจำได้เลย 2 ปีที่แล้วปะ ประมาณธันวา 65 ที่มีคนไปแจ้งความเม็ดเลยโดนกวาดล้าง นข.ออกมาบ่นกันเพียบเพราะโดนปิดการมองเห็นทั้งหมวด ค้นยังไงก็ไม่เจอ แล้วมีคนมาโวยว่าทำไมเรื่องนี้ๆๆๆ ไม่โดน พอกูไปส่องเรื่องที่เค้าว่ามีแต่ของตัวแม่ทั้งนั้น แล้วมีคนส่งเมลไปถามเม็ดมั้งว่าชื่อเรื่องล่อแหลมขนาดนี้ทำไมยังปล่อย เม็ดไม่ตอบกลับจ้าแต่เบลอไปเลย แต่พอถามจริงนข.คนอื่นที่ไม่ใช่ตัวแม่ นางไล่ตอบหมดค่ะ 55555555 สุดจริง แตะไม่ได้เลย
เข้าใจละทำไมเพื่อนโม่งเคยมาบ่นว่าเจอ ครวย แตรด เน้ด ตรงๆจากนข.ดังแล้วยังลอยหน้าลอยตาได้ หลังไมค์น่าจะมีคนแจ้งแล้วแต่โดนเมินนี่เอง
คุกมีไว้ขังแค่คนจน กฎเกณฑ์เข้มงวดเอาไว้ตบแต่แมลง
จำเป็นแค่ไหนวะที่ต้องคีพความเป็นคนดีใส่นางเอกหรือตัวเอกตลอดเวลา พอดีกูดูละครเรื่อง 1 ใน 100 แล้วซีนนางเอกอกหักเลยพูดจาแย่ๆใส่ผู้ชายแนวๆประชดประชัน มีผู้ตื่นรู้บอกว่าบทบ้ง นางเอกไม่ควรทำตัวแบบนี้กันเต็มไปหมด แต่กูว่าแม่งก็เรียลดีจะตาย คนเราแม่งก็ไม่ได้เป็นคนดีกันเต็ม 100 อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วป่ะ เวลาโกรธ เสียใจ เศร้า ผิดหวัง แม่งก็หาทางระบายออกไม่เหมือนกัน จะให้มีสติคิดวิเคราะห์ฉลาดทางอารมณ์อยู่ตลอดเวลาเลยเหรอวะ ไอ้การที่ใส่ด้านมืดหรือสิ่งแย่ๆเข้ามาในตัวละครนี่ทำให้คนไม่ชอบได้ขนาดนั้นเลยเรอะ
18+ กุพึ่งเข้าใจตอนเจอกับตัวนี่แหละว่ะว่าถ้าเราไม่ได้ชอบ ไม่ได้สเปกเลยแต่พอเมาแล้วโดนอีกฝ่ายจู่โจมหนักๆ มันทำให้เคลิ้มจนเลยเถิดได้จริงๆ แต่กุรู้ตัวทุกอย่างนะ ถ้าจะปฏิเสธก็ได้แต่พอดีกำลังเสียใจอยากลืมคนเก่าเลยปล่อยเลย แต่ถ้าจะเอามาเขียนมันออกเป็น dub-con ป่ะ
เพื่อนโม่ง ใครเคยขายอีบุ๊คช่วงสัปดาห์หนังสือบ้าง ผลประกอบการยังไงปังรึไม่ปัง
ky นิยาม พระเอกงานดี นี่ครอบคลุมถึงไหนวะเพื่อน กุแอบงงๆ บางเรื่องพระเอกปากหมาสันดานดูทุมากแต่เคลมงานดี หรือมันนับแค่โปรไฟล์ภายนอก แบบหล่อรวยใหญ่ แค่นี้เรียกก็นับละ
>>799 กว้างมาก
หล่อ รวย เป้าดี เบ้าหน้าดี โพร์ไฟล์ดีดีกรีนร.นอกลูกหลานเจ้าสัวอะไรก็ว่าไปแต่นิสัยเห้ ก็เป็นสับเซ็ตหนึ่งของงานดี
พวกนิสัยดี อบอุ่น ธงเขียวป่าแอมาซอน ไถนาเก่ง ก็เป็นสับเซ็ตหนึ่งของงานดีเช่นกัน
โดยรวมคือมีคุณสมบัติที่มีข้อดีที่ทำให้ดึงดูดคนทำให้คนชอบได้อะ
มู้นี้ถูกมั้ยวะ เจอทั้งทวิตดราม่าแปลติดกลิ่นเนยนมจนทื่อๆ แปล่งๆไป ก็เออ เรื่องนึง แต่บางทีก็แค่ไม่ถูกใจเฉยๆป่ะ ไอ้พวกทวิตที่บอกแปลยังงี้ใช้แชทจีพีทีดีกว่าก็เกินไป ไอ้ที่บอกประมาณว่าต้นฉบับไมใช่เดอะเบส ไม่ต้องมาอ้างรสนิยม หรืออีต้นเรื่องที่ออกมาโวยวาย(ใช่มั้ยนะ) พอให้ลองแก้ดูก็ออกตัวว่าไม่รู้เรื่องหลักการแปลใดๆเลย แต่ถ้าให้แก้จะตัดประโยคหลังทิ้งไปเลย ไหนจะดราม่าเขียนกลอนเฮอเร่อแล้วแคปชั่นว่าทำไงดี หลานป.สองเขียนยังงี้ออกมา ชื่อแอคก็ใส่ชัดเจนว่าเรื่องแต่ง ไม่ใช่เรื่องจริง มีติด twไว้ในทวิตถัดไป ใช้ไฟล์ดิจิตัลพื้นหลังลายกระดาษมีเส้น บรัชก็ดูดิจิตัล มีการเล่นการเน้นคำที่เกินอายุ แต่ก็ยังมีคนเชื่อจริงจังว่าเรื่องจริง พอไม่ใช่บางคนก็ด่าซะสาดเสียเทเสีย ทำไมไม่ใส่tw ตั้งแต่แรก บลาๆ สิ้นหวังกับวงการงานเขียนและอ่านสมัยนี้จริงๆ ว่ะ
>>801 มู้สับเพื่อน https://fanboi.ch/literature/18919/recent/
ไปเจอรีวิวเรื่องนึงมา เขาว่าไม่มีตัวร้าย ไม่มีดราม่า แนวสุขนิยมจัด ๆ งี้เขาใช้อะไรเป็นไคลแมกซ์อะ กุอยากเขียนแบบไม่มีอะไรท็อกซิกน่าขัดใจในเรื่องมั่ง แต่กลัวจะเรียบเรื่อยไปแล้วคนเบื่อง่ะ
>>804 น่าจะประมาณเส้นทางความรักระหว่างพระเอกนางเอกไง ก่อนมารักกันพระเอก-นางเอก ผ่านพบเจออะไรมาบ้าง แล้วทำให้รักคนนี้ ไม่มีตัวร้าย ไม่มีดราม่า เพียงแค่ยอมรับว่ารักแล้วเดินหน้าลุย
คนอ่านก็คือคนที่คอยดูว่า เอ๊ะ เขาจะรักกันเมื่อไหร่ พอคนแบบนี้มีความรักแล้วจะมีพฤติกรรมยังไง มาดูคนเขาเจอกัน ตกหลุมรักกัน จีบกัน เป็นแฟนกันหนุงๆหนิงๆ ~อาจจะใส่กิมมิคให้คนรอบข้างตกใจแบบ เฮ้ย! 2คนนี้เนี่ยนะจะเป็นแฟนกัน เป็นไปไม่ได้ "ไอ้x(พระเอก)ไหนมึงบอกน้องเขาไม่ใช่สเป็กไง แล้วนี่อะไรเช้าถึงเย็นถึง" หรือจะใส่ความโบ้ของพระเอกไป (ตอนแรกไม่คิดว่าจะรัก แต่สุดท้ายคลั่งรักเธอขาสุด)
~ก็ประมาณเนี้ย ไม่มีดราม่า ไม่มีตัวร้าย ไม่มีปมหน่วง แค่มาดูคนเขาจีบกันฟินๆ
>>804 น่าจะประมาณเส้นทางความรักระหว่างพระเอกนางเอกไง ก่อนมารักกันพระเอก-นางเอก ผ่านพบเจออะไรมาบ้าง แล้วทำให้รักคนนี้ ไม่มีตัวร้าย ไม่มีดราม่า เพียงแค่ยอมรับว่ารักแล้วเดินหน้าลุย
คนอ่านก็คือคนที่คอยดูว่า เอ๊ะ เขาจะรักกันเมื่อไหร่ พอคนแบบนี้มีความรักแล้วจะมีพฤติกรรมยังไง มาดูคนเขาเจอกัน ตกหลุมรักกัน จีบกัน เป็นแฟนกันหนุงๆหนิงๆ ~อาจจะใส่กิมมิคให้คนรอบข้างตกใจแบบ เฮ้ย! 2คนนี้เนี่ยนะจะเป็นแฟนกัน เป็นไปไม่ได้ "ไอ้x(พระเอก)ไหนมึงบอกน้องเขาไม่ใช่สเป็กไง แล้วนี่อะไรเช้าถึงเย็นถึง" หรือจะใส่ความโบ้ของพระเอกไป (ตอนแรกไม่คิดว่าจะรัก แต่สุดท้ายคลั่งรักเธอขาสุด)
~ก็ประมาณเนี้ย ไม่มีดราม่า ไม่มีตัวร้าย ไม่มีปมหน่วง แค่มาดูคนเขาจีบกันฟินๆ
>>804 กุเป็นคนนึงที่ค่อนข้างเบื่อเรื่องสไตล์นี้แฮะ ที่กุเจอจะเป็นแบบผสม sol อ่ะ คือตัวเอกมันจะมีเป้านึงแหละ แต่เป้านี้คือราบรื่นไปเรื่อยมาก ไร้อุปสรรค+มีความซู เส้นเรื่องพอ.นอ.ก็ขนาบไปวนๆอยู่กับเป้าหลัก
ยกตย. แนวยอดฮิต
นอ.ทะลุมิติไปทำสวน เริ่มต้นมีแค่ที่กับครอบครัวจนๆ ก็เก็บของบนป่าไปซื้อที่ เจอพอ.สนใจกัน นอ.ปลูกผักเพลี้ยลง พอ.แวะมาช่วยเด็ดเพลี้ยจนหมดผักไม่เสียหาย จากนั้นเริ่มมีความโดขิๆขายอาหารหมา จานแตกหลังคาพัง น้องสาวมีไข้ บลาๆ ก็ช่วยกันไป ฟาร์มโตวันโตคืนยิ่งกว่าแม่ข่ายฟอเร็ก ส่วนพอ.จีบกันได้ที่ก็ลงเอยกัน แต่งกัน มีลูกกัน จบบริบูรณ์
กูขอแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนโม่งหน่อยดิ เขียนนิยายมาสักพักละ นับดูเกินสิบ กูสังเกตว่าความเร็วการเขียนมีแพทเทิร์นซ้ำๆกันเกือบทุกเรื่อง กูเลยอยากรู้ว่านักเขียนส่วนใหญ่เป็นแบบไหนกัน สมมติความเร็ว MAX ที่ 100 นะ เอาแบบตัดปัจจัยชวนว่อกแว่กออกไปหมดแล้ว ของกูเกือบทั้งหมดเป็นแบบนี้
อารัมภบท~ปูพื้น 10-25
เปิดปม~ปูทางแก้ 25-50
เริ่มคลายปม~ไคลแมกซ์ 0-10
ใกล้จบ 80-100
คือตอนใกล้บทสุดท้ายจำนวนคำกูไหลเร็วมาก งานไม่ดิบไม่เผาด้วย กูเดาว่าเพราะทุกอย่างมันปูครบแล้วก็เลยไวมั้ง แต่ทุกตอนกูก็วางทรีตเมนต์ไว้แน่นระดับนึง ที่แย่คือช่วงใกล้ไคลแมกซ์กูเอื่อยอืดสุดๆ โดยรวมกราฟความเร็วของกูเหมือนเลข ๗ เลยว่ะ ดร็อปช่วงนั้นแล้วไปดีดตีนปลาย
คนอื่นสปีดคงที่กันมั้ยวะ แล้วใช้วิธียังไงให้มันเขียนไหลแบบไม่ติดตรงจุดซ้ำ ๆ แบบกูกันอ่ะ
เมิง นางเอกอายุ 3x คือแก่เหรอวะ กุเจอเม้นคนบอกนางเอกเลข 3 คือแก่ไป (แต่พระเอกแก่กว่านะ) กุกุมหัวแทนนข.......
>>812 แก่จริง แต่แก่ไปไม่แก่ไป อันนี้ขึ้นกับความคิดคนอ่านว่ะ
มึงไม่ต้องคิดบอบบางอย่างพวกนข.วงกากบาท คนอ่านเขาแค่เพลินปาก เขาไม่จำเป็นต้องมีวาทศิลป์อะไรนักหรอก(ถ้ามีเขาอาจเป็นคนเขียนแทนมึงแล้ว) เขาชอบนางเอกอายุน้อยแต่ดันมาเจอนิยายมึง ซึ่งก็น่าจะมีอะไรดีอยู่เขาถึงยังอ่านต่อทั้งๆที่ไม่ตรงเทส เลยจบลงที่คห.ที่ไบแอสตามอารมณ์ ซึ่งก็ไม่ผิด นิยายก็ใช้อารมณ์เสพนี่นะ
ก็แค่ยอมรับว่าเขานิยมนางเอกอายุน้อย ถ้าอยากตอบก็แค่ "ขอบคุณค่า เดี๋ยวจะมีเรื่องที่นอ.อายุน้อย/เรื่อง xxนางเอกอายุน้อยอยู่ ลองอ่านดูได้น้า"
>>811 กุติดทุกบททุกตรง เขียนได้เดือนละ สามตอน ให้กำลังใจมึงพร้อมกับรอดูทริกศิษย์พี่โม่งกับมึงนะ
>>812 กุอ่านทั้งชญ ชช ญญ นะ อ่านนิยายยันการ์ตูนเลย พอเจอคนบอกว่าสายชญ นอ. 30 ขึ้นไปไม่อ่านเพราะแก่ กุเลยงง เพราะเห็นสายชช คนชอบหวีดเวลามีพอ.นอ. อายุ 30 - 40 ขึ้นไป อย่างเรื่องล่าสุดที่คนหวีดๆ ที่พอ.นอ.เป็นเพื่อนเก่าหรืออะไรกัน ที่อายุ 47 นั่น ทำไมพอเป็นชญแล้วโดนจำกัดหลายอย่างจังวะ ผญ 30 คือสิ้นหวังแล้วงี้
ไม่ใช่อะไร กุมีพล็อตที่อยากเขียนผญ 30 - 40 บ้าง แต่ไม่ใช่คาร์สาวแกร่ง ทำงานเก่ง มั่น อะไรแบบนั้นไง เป็นแนวฮีลใจว่าถึงจะอายุเกินนอร์มแล้ว แต่บางอย่างก็ไม่รู้ได้ ยังเรียนรู้ได้ พลาดได้ เริ่มใหม่ได้ แต่พอเห็นความเห็นทำนองนี้ เหมือนที่ >>812 ว่า กุก็เลยไม่กล้าเขียนซักที
>>815 กุเฉยๆมาก ขอแค่ทุกอย่างสมเหตสมผลกับอายุและสตอรี่สนุกพอ
นางเอกเป็นแม่ม่ายลูกติดกูยังอ่านเลย แต่ถ้ามึงยึดตลาดโดยรวม กุเข้าใจ ว่าคนที่ชอบเด็กๆเอ๊าะๆ มันมีมากกว่า เพราะด้วยอายุอ่ะนะ จะให้สดใสอ่อนต่อโลกทุกอย่างใสกิ๊งมันก็นิดนึง คนอ่านที่เซลล์อินเสริทน่ะใครมันจะอยากแก่วะ อินเสริททั้งทีก็ขอสาวเอ๊าะๆ เถอะ
โอเค สรุปแนวรักชญ.จำกัดอายุแค่เลข 2 สินะ Orz คือที่เรื่องที่กุเจอคนว่าแก่มันแค่ 30-31 เอง คหสต.แค่สามสิบต้นๆ กุว่ามันไม่ได้ต่างจาก 29 เลยอะ พอเห็นคนว่าเลขสามปุ๊บแก่ปั๊บกุเลยช็อกซินิม่านิดนึง สะเทือนใจอ่าคุณน้า 555555
>>817 นางเอกอายุมากก็มีคนอ่านนะมึง แต่ไม่ใช่แนวแมส เป็นเฉพาะกลุ่ม ยกต.ย. งานของฎวงฏะวัน นางเอกแก่ตามอายุคนเขียนเลย ก็จะมองความรักไปอีกแบบ 40อัป 50อัปก็มี กูเห็นคนรีวิวว่าเกิดมาไม่เคยอ่านนิยายที่นางเอกพระเอกอายุ50กว่า แต่ก็อ่านเพราะอยากรู้ว่าคนวัยนี้จะมีความรักกันยังไง บ้างก็รีวิวว่าอ่านแล้วอบอุ่นใจ เตรียมพร้อมวัยเกษียณ
>>812 เวลาเจอเม้นแนวนี้กูชอบสไลด์หน้าไปตอบว่าไม่แก่นะค่ะ กำลังดี ต้องลองชิมค่า เค้าว่าแซ่บบ ช่วยนักเขียนตอบ555 เข้าใจว่าบางคนยังยึดติดกับอายุน้อยๆวัยรุ่นหน่อย กับบางคนไม่กล้าอ่านเพราะอายุไล่เลี่ยกับตัวเอง ไม่ได้อยากอ่านอะไรเรียลๆขนาดนั้น ให้เวลาเขาไป แต่การที่เขาตั้งคำถามแบบนี้ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วย ส่วนใหญ่กูเห็นโดนทัวร์ลงพอๆกะว้อแตกเอานางเอกซิง555
กุนึกถึงคนอ่านที่บอกเบื่อนิยายไทย มีแต่อะไรเดิมๆ ไม่กล้าลองอะไรใหม่ๆ เหมือนนิยายตปท. กุเห็นทีไรอยากบอกแค่อายุนอ.มึงยังก้าวข้ามไม่พ้นกันเลย 55555 พอมีใครลองอะไรใหม่ๆ ก็โดนเอามาแขวนบ้าง ไม่อ่านบ้าง กุจะล่าแบ้
Ky เพื่อนโม่ง เขาหา บก กันจากไหนหรอ แบบที่พอทีเครดิตดี ๆ อะ กุลองเสิร์ชหาในเน็ตละไม่แน่ใจว่าเครดิตดีมั้ย แนะนำหน่อยสิ ขอบคุณล่วงหน้าจ้า
>>822 มีโม่งแนะนำวิชามารว่าให้ไปหาจากนข.ดัง ๆ นี่แหละ โหลดตย.งานนข.ดังๆ /งานดี ไปส่องดูในเครดิตเล่มว่าเขาใช้ใครเป็นบก. ถ้ามีชื่อแต่หาตัวไม่เจอก็ทำหน้าทนหน่อยแล้วทักไปขอคอนแท็คนข.เลย กุว่าวิธีนี้ดี มีผลงานประจักษ์ไม่ต้องไปหารีวิวหน้าม้าในเน็ต บางคนอวยมีรีวิวติดแท็กอวยฉ่ำแต่พอไปจ้างเสือกไม่ตรงปก (เพื่อนกุเคยเจอ) แต่ถ้าจะเอาบก.ดังของนข.ดังนี่ต้องทำใจหน่อยนะว่าเงินต้องถึง (เป็นหมื่นอะพื้นฐาน พวกโปรเขาไม่กดราคาตัวเอง) ละบางคนเขาอาจเลือกงาน อาจจะต้องมีเส้นมีอะไร ไม่รับนข.นูกู (not all)
แต่แต่แต่ อันนี้ก็ไม่การันตี 100% ว่าเป็นบก.นข.ดังละจะเครดิตดี เป็นเคยมีเคสบก.ดังเป็นมิจจี้สะเทือนวงการมาแล้ว ละวงการนี้มากสุดได้แต่กระซิบใบ้กันเงียบๆ เตือนภัยแบล็กลิสต์ชัดๆ ก็ไม่มี กรรมมาตกที่นข.หลวมตัวไปจ้างอีก อยู่ที่ดวงจริงๆ เพื่อน ขอให้โชคดีนะ
Ky มีใครยอมลดราคาเพื่อนักอ่านคนเดียวมั่ง คือกูก็นูกู 3 เดือนมียอดที นักอ่านถามมีแพลนลดอีกทีตอนไหน กูลดให้เขาตอนนี้เลยได้มะ555 หรือถามวันที่สะดวกแล้วค่อยจัดโปร โปรแค่วันเดียวเพื่อเขาเพราะทักมาว่าอยากได้ และยอดก็กินไข่พอดี มันเหมาะสมป่าววะ
เอ้อ นึกได้พอดี พูดได้มั้ย พวกงานบก.งานปรู๊ฟหาตามเน็ตนี่อย่าดูแค่รีวิวเลยมึง ส่วนมากอวยฉ่ำหมดอยู่ละ ใครมันจะกล้าด่าออกสื่อวะ 5555 เด็กร้อนวิชารับงานก็เยอะ (กุไม่ได้อยากโซตัสอคติกะเด็กแต่อย่างใด ขออภัยถ้าออฟเฟ้น) บางคนไม่โปรเลยสักนิด แค่เหมือนหาค่าขนมเล่น คิดราคาถูกหน่อย คุณภาพก็ตามนั้นอะ (จำไว้ว่าของถูกและดี คือของแรร์) กูขอแนะนำว่าถ้ามึงเน้นคุณภาพอย่าเห็นแก่ราคาถูกมาก +ส่องประวัติเขาดี ๆ บางคนที่จริงจังหน่อยเขาจะใส่ไว้เลยว่าจบเอกอะไรมา ทำงานเรื่องไหนมาบ้าง บลาๆ อันนี้น่าเชื่อถือกว่าพวกรับงานลอยๆ ใดๆ จำไว้ว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นอยู่ดี อยู่ที่ดวงจริง
ว่าก็ว่า ส่วนมากงานแบบนี้มันรู้ๆ กัน แนะนำกันมาปากต่อปากอะเพื่อน มันถึงต้องมีพรรคมีพวกมีเพื่อนนข.ไว้ถามรีวิว/ปรึกษาไง แต่ก็นะ มากคนมากความ มีราคาต้องจ่าย orz
>>824 อยากได้ยอดก็เอาเลยเพื่อน แต่กูว่าลดแค่วันเดียวมันดูโจ่งแจ้งไปนะ มันจะทำนักอ่าน(คนนี้)ของมึงเสียนิสัยปะ แบบอยากได้เมื่อไหร่ก็มาอ้อนนข.งี้ 5555 ว่าแต่ลืมลดงานนส.เหรอวะ ตอนนี้ยังช่วงโปรอยู่ จัดยาว ๆ ไปเลยก็ได้มั้ง เหลืออีกไม่กี่วันเอง ละบอกเขาว่าลืมจัดโปรงนส. ตอนนี้เพิ่มให้แล้ว จัดเลยค่า
>>826 ขอบใจมาก กูก็ว่ามันโจ่งแจ้งไป กลัวครั้งหน้าเขามาขออีกมันจะพาลเสียความรู้สึกด้วย (กูเสียครส.คนเดียว555) แต่เขาก็อุตส่าห์ทักหลังไมค์มา กูยิ่งใจอ่อนอยู่ ถือคติกล้าขอก็กล้าให้555 อาจจะลองเอาเข้าโปรงานนส.ดู ไม่ได้เอาเข้าเพราะมันเป็นเรื่องใหม่น่ะ เกรงใจคนซื้อช่วงแรก เรื่องอื่นเข้าหมด
>>828 แต๊งกิ้วมาก เดี๋ยวจดๆไว้เผื่อโดนขออีก กูก็ชอบลดช่วงสิ้นปีเป็นการส่งท้าย
KY กูถามเทคนิคเขียนนิยายสั้น แต่ก่อนเขียนแต่ยาวๆ เพิ่งเริ่มหัดเขียนสั้น เราต้องแบ่งบทในอีบุ๊กกประมาณไหน แบบสมมุติมีแค่ 1-2 หมื่นคำ ถ้าแบ่งคำเยอะเลื่อนแป้บๆ ก็จบแล้ว ถ้าแต่ละตอนสั้นไปมันก็ไม่อิ่มมั้ย ดูไม่น่าลุ้น แล้วเขียนนิยายสั้นควรใส่ปมยังไง คือกูคิดภาพไม่ออก เช่นพล็อตผัวโบ้ กูเห็นหลายคนเขียนแต่กูไม่เข้าใจว่าแค่ 2-3 หมื่นคำจะมีอะไรให้เราเล่า จะเล่ารวบรัดไปมั้ย ประมาณนี้อะ
มึงมีวิธีทำยังไงให้คนที่กดซื้อนิยายในแอปเขียวไปรีวิวกดหัวใจเยอะๆวะ กูเห็นนักเขียนบางคนเดี๋ยวนี้แจกของแลกใจบ้าง บางคนก็ให้รีวิวแลกกับตอนพิเศษที่จะไม่ได้อัพใส่ในเล่มมาทีหลัง ที่กูนึกออกตอนนี้คือชวนคุยท้ายเล่ม เอาที่แบบไม่ให้ดูน่าเกลียดไม่ประเจิดประเจ้อ
เพิ่งอ่านโพสต์ในเพจนักเขียนเด็กดี เรื่องลายเซ็นนักเขียน พวกมึงช่วยยกตัวอย่างหน่อย ว่านักเขียนคนไหนใครมีลายเซ็นงานชัด กูจะเข้าไปศึกษาหาความรู้สักหน่อย
>>835 เธ่าถูป หมวดนิยายรัก ไม่มีnc นางเอกทุกเรื่อง ย้ำ ทุกเรื่อง สวย เก่ง ฉลาด คล่องแคล่ว อาร์ตๆ ติสต์ๆ(เหมือนนักเขียนนั้นแล) เวิกกิ้งวูเม่น มีแพชชั่นในการทำงาน ไม่สนเรื่องรัก มีเมตตามหานิยม ทุกคนในเรื่องรักเอ็นดูนาง ยามหน้าบริษัท หมา แมวฯลฯ รักนางเอกหมด
พระเอก หล่อแบบ นิ่งๆไม่เคยจีบใคร ใครๆก็อยากได้ แต่ฮีจีบนางเอกคนแรกและคนเดียว
--คาร์หลักๆประมาณนี้ทุกเรื่อง นอกนั้นสับเปลี่ยนไปตามอาชีพ ปมหลัง
>>835 ลายเซ็นนี่มีทั้งสำนวนกะแนวเรื่อง,ไดนามิคคาร์พระนาง ส่วนใหญ่ที่ชัดมากๆ คืออันหลังน่ะ แบบปิดชื่อนข.ละอ่านคือพอเดาออกเลยว่าใครเขียน เอาจริงๆ มีเยอะมากที่ลายเซ็นชัด นข.รุ่นสว.อย่างป้าทม >>836 ก็นับ ยิ่งชัดยิ่งตีหัวแฟนเดนตายได้ทุกคราว (กุนี่แหละโดนตลอด นข.คนโปรดออกไรมาต่อให้แนวซ้ำๆ เดาทางได้ตั้งแต่อ่านเรื่องย่อก็ซื้อละ 5555) อ่านไปมึงจะเริ่มจับทางถูกว่านข.ถนัด trope นี้ๆ แน่
อะกุเพิ่มให้อีก 2 คน >> raพัด : นางเอกพูดมาก ห้าวๆ กวนๆ พระเอกขี้เก๊ก เรื่องเบาสมองขายขำ / ผักบ.สระอุ้ง : โคแก่ เมียเด็ก
ky แนวพระนางมีความหลังกันเนี่ย เพื่อนว่าเดินเรื่องแบบ 1.) เล่าเป็นเส้นตรงตั้งแต่อดีต >> ปัจจุบัน หรือ 2.) เริ่มจากปัจจุบัน แล้วย้อนสลับเป็นพัก ๆ ให้ปะติดปะต่อเอง อันไหนดีกว่าวะ คือกุสองจิตสองใจ ถ้าย้อนอดีตม้วนเดียวจบเลยมันจะนานไปหน่อย อาจจะหลายสิบตอน, 1/3 ของเรื่องแน่ะ แต่เคยเห็นคนว่าสลับอดีตกับปัจจุบันบ่อยมันชวนสับสนอีก
>>840 ในฐานะคนเขียนกุชอบแบบ 2 มากกว่า เพราะเวลาตั้งใจเล่าถึงสองคนที่มีความหลัง กุอยากเน้นครส.ของตลค.ที่ปจบ.เป็นผู้ใหญ่แล้วมองย้อนกลับไป แต่เวลาเป็นคนอ่านกุดันชอบแบบ 1 มากกว่าว่ะ อ่านเจอเรื่องที่เขียนแบบสองทีไรพอจบกุมักรุ้สึกว่าอยากเห็นฉากปั๊บปี้เลิฟของสองคนนี้มากกว่านี้แฮะ เคมีตอนนู้นมันดีมาก อยากได้อะไรหวานๆ มาดับความขมของรสชาติชีวิตผุ้ใหญ่ สรุปกุไม่ช่วยให้มึงตัดสินใจได้เลย 555555
>>840 กูว่า 1-2-3-4-5มันน่าเบื่ออ่านแล้วง่วง คนอ่านอย่างกูชอบ3-1-3-2-3-4-5 ได้คิดปะติดปะต่อเองในหัวว่าทำไมปัจจุบันเป็นงี้ อ้อเพราะอดีตเจอเรื่องนี้มาปัจจุบันเลยเป็นแบบนี้นี่เอง (เฉลยที่อีกบท) เริ่มที่ปัจจุบัน 3 มีเหตุให้คิดถึงอดีตเล่าย้อนไป1(กลับมาจุดเริ่มต้นแว้บนึง)- แล้วกลับมา3ปัจจุบัน-แล้วกลับไป2สาเหตุที่เป็นปัญหา-แล้วกลับมา3ปัจจุบัน-ไป4คลี่คลายยาวไป5บทสรุป จนถึงตอนพิเศษมีลูกเลี้ยงลูกไปเลย จบครบบริบูรณ์
แวะมาบอกเผื่อเป็นประโยชน์ว่าลงขายนิยายในเม็ดสมัยนี้มึงจะสุ่มสี่สุ่มห้าลงแล้วหวังขาจรมากดทดลองอ่านแล้วกดซื้อเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะมึง เมื่อก่อนยอดวิว ยอดทดลองอ่านมันจะพุ่งๆไปด้วยกัน ส่วนยอดซื้อก็จะเป็นสัดส่วนกันลงมา กูเพิ่งเจอมากับตัวเลย ยอดซื้อ 80-90% มาจากนักอ่านที่กูลงโปรโมตเอาไว้ตามเว็บเป็นรายตอน กูใช้วิธีแยก seller link หลายๆแอคแยกกันสำหรับแต่ละแหล่งโปรโมต ละยอดส่วนมากมาจากนักอ่านที่ตามงานกูอยู่แล้ว ขาจรมีแค่ 5-10% เองมั้ง และใช่ค่ะ ยอดทดลองอ่านคือยอดขายกูแบบหาร 2 หาร 3 ยอดเข้าชมก็ต่ำมาก แต่ยอดขายที่เยอะๆ มาจากคนที่ติดตามงานกูอยู่แล้ว เพราะช่วงแรกยอดขายพุ่งเร็วมากโดยที่แทบไม่มีใครกดทดลองอ่านเลย แสดงว่าพฤติกรรมการซื้อมันเปลี่ยน คนจะตามซื้อจากเรื่องที่เค้าเคยตามอยู่แล้ว ไม่ใช่มาไถๆเม็ดแล้วสะดุดตาเลยกดเข้าไปอ่านเหมือนเมื่อก่อนที่มึงอาจไม่ต้องโปรโมตอะไรด้วยซ้ำก็พอขายได้ // อันนี้จากที่กูสังเกตและเก็บข้อมูลนะ นามปากกาใหม่เอี่ยมเริ่มจาก 0 ไม่โดนตรวจบัตรก่อนซื้อ แนวขายดี ผิดถูกยังไงขออภัย
>>843 นิยายมันเกลื่อน มันเยอะ จนคนไม่อยากหาแล้วอ่ะ ขาจรที่จะได้คือช่วงแรกที่มันอยู่บนๆ ถ้าปก/โปรย ดี ก็จะได้ช่วงนี้แหละ แต่พอโดนดันลงล่างๆแล้ว ก็นั่นล่ะ....
คนอ่านน่ะ ถ้าไม่ไปโผล่หน้าฟีดเขาเลย เขาก็ไม่สนใจคุ้ยหาหรอก อย่าว่าแต่คนอื่นเขา ตัวกูเองเวลาหาอะไรอ่านยังเวทนาตัวเองเลย หาสองสามวันยังการันตีไม่ได้เลยว่าจะเจอที่ถูกใจ จากจะผ่อนคลายกลายเป็นเครียดกว่าเดิม ดังนั้นบุพเพอาละวาดสำคัญมากในตอนนี้ บางทีคุ้ยสามหน้าไม่เจอกุก็ปล่อยวางแล้ว ไปอ่านเรื่องเก่า/ไปทำอย่างอื่นดีกว่า ยิ่งคุ้ยยิ่งหงุดเงี้ยวไม่เจออันที่ใช่สักที
ในฐานะคนอ่าน แต่ก่อนยังพอพึ่งเพจ พึ่งรีวิวได้ ทุกวันนี้แม่งไปทางไหนก็เกลื่อนแบบเดียวกันหมด
ส่วนคนที่ติดลมบนแล้ว ชื่อมันล๊อคเป้าแล้วไง ยิ่งคนขี้เกียจหาก็ยิ่งสบาย พิมพ์นามปากกานี้ สกิลไว้ใจได้ เรื่องย่อตรงใจสอยได้เลย จบง่าย
จริง มันเกลื่อนหายากจริงๆนะ ยิ่งถ้ามาพร้อมสนพ.ที่ออกเล่มแปลเป็นสิบๆเล่มปกเหมือนกันหมดคือจมหายไปกับหน้ามาใหม่เลย
แนว nc โม่งเคยเจอเรื่องไหน ที่จบแบบ นางเอกได้กับพระเอกมากกว่า 3 คนเป็นฮาเร็ม แล้วนางเอกก็โดนพระเอกทั้งหมดแก็งแบงค์ในคืนเดียว แบบเต็มใจนะ จนท้องกับทุกคน
คือ ถ้าเราแต่งให้จบแบบนี้ ปกติรี้ดจะชอบหรือเกลียดกันแน่
แล้วโม่งชอบไหม
>>846 หลายpเคยเจอเยอะเลยในหมวดรักผู้ใหญ่ //ถ้าปกติเฉยๆนะ แต่ถ้าไม่ปกติเช่นวันที่ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน(เง่น) ก็จะเข้าไปอ่าน กูเคยอ่านสูงสุด8p(ญ1ช7)ผัวทุกคนรักนางเอกหมด นางเอกท้องแบบไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเพราะลูกมีตาแบบผัวคนนั้น ผมสีคนนี้ เลือดกรุ๊ปคนโน้น แบบหลายมากและช่วยกันเลี้ยงลูกครอบครัวสุขสันต์(ซึ่งนางเอกบอกจะตรวจdnaก็ได้แต่ไม่ตรวจ) แต่ส่วนตัวกูไม่ชอบนะกูว่าผัวเยอะไปกูอ่านแล้วเป็นห่วงกีนางเอก กูว่า3pกำลังดี ดูไม่โดนรุมเกินไป
ky แต่เรื่องเดียวกัน
1.รักผู้ใหญ่นี่รอรติดบัตรอัตโนมัติมั้ยเพื่อน (คือหมวดอื่นเราเลือกระบุ 18+ 20+ แต่ไม่ได้ล็อคบัตรปชช.ได้)
2.ถ้าเนื้อเรื่องวัยรุ่น แบบพวกเด็กมหาลัยเที่ยวผับได้กันแต่ nc เรทหนักๆ ก็คือลงรักผู้ใหญ่ได้ใช่มะ
3.กุไม่เคยลงหมวดนี้แต่เห็นคนบอกขายคล่อง เคยลองเข้าไปส่องเรื่องฮิตๆ แม่งพิมพ์ผิดโคตรเยอะ แต่ความที่ nc โต้งๆ ไม่เลี่ยงคำ ภาพชัดมาก แสดงว่าหมวดนี้คนไม่ซีเรื่องภาษา เน้นเข้ามาน้ำแตกแล้วแยกทางมั้ย 5555
>>850
1. ใช่ คนซื้อจะโดนคัดตั้งแต่กดโหลดต.ย.หมวดนี้เลยว่าให้ไปแสดงบัตรก่อนจ้า
2,3 มึงเห็นเรื่องนึงที่ขายดีมากๆเรตติ้งเยอะๆหน้าปกหนุ่มวิศวะช็อปแดงไหม เรื่องนั้นถูกไล่มาจากหมวดรักวัยรุ่น แล้วก็อยู่หมวดรักผญ.ยาวๆขายดิบขายดีในหมวดนี้(ดีระดับนข.ซื้อบ้านซื้อรถได้เลย) พระเอก-นางเอก เรียนมหาลัย เข้าร้านเหล้าและเอากันฉ่ำๆ ภาษาเข้าใจง่ายแบบที่พวกคลั่งภาษาสวยมาอ่านจะกุมขมับ มีคนร่างบาง คนตัวเล็ก คนตัวใหญ่ร่างหนาเยอะ เขียนเดอตี้ทอลค์แรงๆ เขียนncให้คนอ่านแล้วเสว พระเอกคลั่งรัก มีที่มาที่ไปในการมาเอากัน มีภาพครวยแจก(คนที่ซื้อebookแล้วมารีวิว นข.จะให้แคปภาพนั้นแล้วdmส่งหลักฐานให้นข.แล้วนข.ะส่งภาพคะรวยแบบกำลังxxxกันกะนางเอก เอ็กคลูซีพสุดๆมาให้ดูประกอบการอ่าน) น่ะพอตกคนได้เรื่องนึง คนอ่านก็ติดตามผลงานยาวเลย ออกกี่เรื่องก็ขายดี
แอบมาสงสัยด้วย หมวดผู้ใหญ่นี่เหมือนหมวดลับแลเลยว่ะ 5555 มองไม่เห็นหมวดละหนึ่ง ต่อให้ขายดีก็ไม่ให้ป้ายปะหมวดนี้ ส่องแล้วถึงเรตติ้งพุ่งก็ไม่มีป้ายให้แฮะ ถึงว่าคนเลยงุบงิบแอบขึ้นมาเบียดหมวดโรแม้นซะเยอะ
>>852 ทั้งนักเขียนทั้งคนอ่านส่วนใหญ่ไม่ซีเรียสกับปกเท่าไหร่นะ จะปกอะไรก็ได้ที่ดูไม่ขี้เหร่จนเกินไป ไทโปอ่านรู้เรื่องก็ได้หมด เป็นหมวดที่หาปกสวยๆดูแกลมๆอาร์ตๆเหมือนพวกหมวดอื่นๆยากมากกกค่ะมึง ปกวาดหาที่สเกลดีๆอนาโตมี่สวยๆก็นานๆจะหลงมาที(ปกวาดสวยๆมักจะเป็นนักเขียนที่มีเงินและฐานแฟนในxอะ จะใช้ปกคมช.ก็สวยและดูลงทุนหน่อย) ส่วนใหญ่เห็นบ่อยคือปกเอไอ ปกสำเร็จ บ้างก็ทำกันเองไทโปกันเองเสร็จสรรพ ขาดๆเกินๆ พวกนิยายจีนเซิ่นเจิ้นที่มาอยู่หมวดนี้ก็ขายดีนะ(พระเอกเป็นศิษย์พี่,ท่านอา,ท่านอ๋อง,ท่านแม่ทัพ,ฮ่องเต้ร่านราคะต่างๆฯลฯ)ก็ใช้ปกเอไอกันทั้งนั้น
>>855 เพื่อนโม่งจะใช้แอคเดียวกันเลยป่ะหมวดรักกับ ผญ คือกุอยู่หมวดโรมานส์แต่เขียนช้ามากกกก ประดิดประดอยคำเยอะ เขียนได้ปีละเล่ม ระหว่างทางกะเขียนหมวด ผญ สั้นๆ ได้กันเร็วๆ บ้าง เผื่อเรียกแขกมาซื้องานหลักด้วย ทีนี้พอเขียนเป็นเรื่องเสียวแล้วสำนวน+นิสัยตัวละครมันก็ไม่คีพคาร์กุเลยอะ 55555 กลัวภาพลักษณ์เสีย แต่ถ้าจะสร้างแอคใหม่ไว้ลงเรื่องเสียวก็ไม่ตอบโจทย์ที่อยากให้คนเปิดเข้ามาเจองานหลักอีก
อ่านนิยายเจอแต่นางเอกใฝ่ดีสู้ชีวิต มีผัวรวยชิบหายก็ยังอยากอัปตัวเองให้คู่ควรเขา ไปเรียนตงเรียนต่อ ทำงานนอกบ้าน ฯลฯ ละกูอับอายตัวเองนิดนึง อยากอ่านแนวขายฝันสุดตีน ผัวรวยแล้วสบายแฮ เมียปล่อยจอยขี้เกียจตัวเป็นขน ไม่ทำห่าไรทั้งนั้น ขอเป็นคุณนายสวย ๆ นอนเกาพุงผลาญเงินเล่นเกาะผัวกินไปวัน ๆ have no shame ผัวก็ยังรักก็หลง เนี่ย มีใครจะแต่งมั้ย กุรออ่านอยู่นะ 5555555
>>864 ยินดีเพื่อนโม่ง กุไม่ชอบนิยายตลกเรี่ยราด แต่คนนี้จังหวะดี กุชอบ แต่กุมีแค่เล่มม่วงกับสติ้กวิทยูนะ555
ขอกลับมาเรื่องเขียนนิยายหน่อย ถ้าพระนางกุรักกันดีแต่เลิกกันไป กลับมาอีกทีพอ. มีคนใหม่แล้ว นอ.กุก็ยอมรับแต่มองๆ รอเขาเลิกกันอยุ่เงียบๆ นี่มันจะดูเป็นอีดอกป่ะวะ แถมคนใหม่แสนดี ไม่ได้มาทรงดีแตกหรือแอบร้ายลึกๆ อีก
>>866 แค่อยู่เงียบๆ ไม่ได้ไปยุแยงให้เขาเลิกกันก็โอแล้ว ไม่ดอกหรอก ถ้าดอกนี่ต้องเอาตัวเองไปสาระแนใกล้ชิดผู้ชายให้เขาหวั่นไหว ฯลฯ ใดๆ คหสต.กุไม่ชอบแนวนี้เท่าไหร่แฮะ (มีแฟนใหม่รักกันดีเนี่ย ถ้านางเอกยังรักอยู่ฝ่ายเดียวมันเจ่บนม 555) ถ้าอยากแต่งนิยายขายฝันพระนางต้องรักเดียวใจเดียวทั้งเรื่องนะ บอกไว้เป็นคห.เผื่อเฉย ๆ ต้องมีนักอ่านแบบกุอีกเยอะแน่เพื่อน ติดสปอยในหน้าเรื่องไว้จะเป็นพระคุณมาก โชคดีเด้อ
>>866 ส่วนตัวกูว่าถ้ารอเขาเลิกกันมันก็แอบดอกเล็กๆอะ จากปสกส่วนตัวเลยนะ สมัยเรียนมหาลัยเพื่อนกูมีแฟนที่อยู่คนละม. ชีรู้นะว่าเพื่อนผญของแฟนมันแอบชอบแฟนตัวเองอยู่ แต่ก็ไม่ได้มาวุ่นวายกับแฟนมันมาก พอชีเลิกกับแฟน สักพักแฟนเก่ามันก็ไปคบกับผญคนนั้น กูว่าก็แอบดอกอยู่ อารมณ์รอเลิกแล้วตัวเองเสียบแทนเนี่ย55555555
พวกเขียนวันละหมื่นคำมีไอเท็มลับอะไรเหรอ กูเขียน 5000 คำก้เริ่มไม่ไหวแล้ว วันถัดมาไม่อยากจะเขียนต่อ ขอไอเท็มลับของเพื่อนโม่ง นข ที่เขียนนานหน่อย เผื่อเป็นไอเดียแต่งโต๊ะ
มึง หมวดโรมานซ์นี่ของจริงว่ะ อายุขัยหนังสือสั้นมาก จมแล้วจมเลย กูให้ยอดพุ่งแค่1วันแล้วร่วงยาวๆถ้ามึงไม่ใช่ตัวแม่หรือนปก.ติดลมบน โหดกว่าผู้ใหญ่อีกว่ะ
>>873 กูว่าให้นางเอกมึงรับรู้ว่าพระเอกมีใหม่ไปแล้วก็ตัดใจแล้วแยกย้าย ผ่านไปหลายปีกลับมาเจอกันอีก อ้าว เลิกกับแฟนแล้วเหรอ ถ่านไฟเก่าคุ ปรับความเข้าใจ เริ่มต้นใหม่กับคนเดิม แบบนี้น่าจะโอเคกว่า ถ้าไปรอจ้องให้เขาเลิกกันแล้วไปเสียบต่อ กูจะรู้สึกว่าอีนี่ไม่น่าคบเลย
>>873 ใช่เพื่อน วงการนี้หวงพระเอกคือเรื่องจริงไม่เค้ก คือรักแล้วต้องรักเลย ต่อให้มีเหตุให้เลิกรักก็รักคนอื่นไม่ลง ถ้าแบ่งใจให้สาวอื่นลูกชายมึงโดนมองแรงละ 5555 มองอีกมุมนึงถ้ามึงจะสร้างแฟนใหม่ให้แสนดีสุบๆ แม่งก็ไม่แฟร์กะแฟนใหม่อีกอะ (ส่วนใหญ่เขาเลยเขียนให้แฟนใหม่แอบดอกไง) นึกภาพคสพ.ที่แฟนมีแฟนเก่าคนโปรด เลิกกะเราละกลับไปคบคนเก่าดิ แม่งจี๊ดเหี้ยๆ ฟีลแม่งเคยรักเราจริงปะวะ เห็นเป็นคนฆ่าเวลาเรอะ ToT พล็อตนี้มีแต่เสี่ยงกับเสี่ยงว่ะ ถ้าอยากเขียนจริงก็ตบบ่านะ
>>873 ถ้ามึงเขียนแนวเรียลไลฟ์แบบว.วินิจฉัยกุล กูก็ไม่เห็นคนบ่นเรื่องแบบนี้นะ ตัวเอกของแกบางทีก็เทาเข้มปี๊ดเกือบจะดำแล้วด้วย แบบราตรีประดับดาวที่พระเอกนอกใจมีเมียน้อย จุดดับในดวงตะวันที่ผัวนางเอกแต่งงานเพื่อหาคนรองมือรองตีนเฉยๆไม่ได้รักชอบอะไร ให้เมียทำงานงกๆส่วนตัวเองไปกกชู้ ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ฯลฯ มึงจะให้นางเอกจ้องรอเสียบกูว่าจิ๊บๆ 555555555555555
ถูกห้องแล้วนะทีนี้ กูเปิดประตูผิดบานไปห้องสับแหลก 😂อ๊ายอาย
เดือนนี้ไม่น่าลงนิยายใหม่ใช่มั้ยวะ กูอั้นไว้สักเดือนหน้าดีมั้ย หรือควรรอธันวาไปเลย
ky
1.โรมานซ์กับรักผู้ใหญ่ต่างกันยังไงเพื่อน รักผู้ใหญ่คือเน้น nc มากกว่าเนื้อเรื่อง แบบ pwp งี้เหรอ (แบบที่ฝรั่งเรื่อง erotica มั้ย)
2.แล้ว pwp ปกติยาวแค่ไหนที่แบบต่ำสุดที่พอจะขายในรีดในเม้ดได้น่ะ
*เรียก
>>878 ดูเชียร์เดือนหน้า
>>880
กูอยากให้มึงไปหาอ่านนิยายรักผู้ใหญ่ขายดีๆเรตติ้งสามร้อยอัพ สักเรื่องจังแล้วดูว่าทำไมเขามาอยู่หมวดนี้
1.ต่างกันตรง ผญ. เน้นnc เยอะๆบทต่อบท โรมานซ์มีแบ่ง2แบบ โรมานซ์ธรรมดา(บางเรื่อง) มีncมากกว่า3แต่ไม่เยอะแบบบทต่อบท มีเส้นเรื่องชัด มีความเสวแบบละมุน กับโรมานซ์18+ มีncมากกว่า3ซีน แต่ไม่ใช่บทต่อบท คำพูดคำจาเดอตี้ทอล์ค มีความรุนแรงทางอารมณ์ แบบพวกพระเอกจิตๆคลั่งรักมีปมมีเส้นเรื่องก็มักจะมาอยู่หมวดนี้กัน
2. กูเคยเจอต่ำสุด 8kคำก็มาขายกันแล้ว 29฿ 19฿
((เจอกัน ชอบถูกใจ มาเอากัน เล่าภูมิหลังนิดหน่อย แล้วเอากันๆๆๆจนจบ /ไม่ก็ชอบมานาน ได้โอกาสก็เอากันๆๆๆจบ/คนอ่านเสวเร็วเสวไว8kกว่าคำแป๊บๆจบในราคาประหยัด ))
นอกนั้นส่วนมาก ก็ประมาณ3-4หมื่นคำ แต่ยาวๆ8หมื่น-แสนก็มี
อย่าคิดว่าคนจะชอบแค่เอาๆกันเสวๆถ้ามีพล็อตมีที่มาที่ไปมีอารมณ์ว่าทำไมต้องเป็นคนนี้ที่จะมีเซ็กซ์ด้วยจะชอบเป็นพิเศษ
KY คิดยังไงกับไวยากรณ์ต่างประเทศในนิยายไทย สมมติ passive voice เขาถูก xx งี้ พอดีบก.กุบอกว่าไม่ควรใช้ ให้แก้เป็นไวยากรณ์ไทย ปธ. กริยา กรรม งี้ คือมันห้ามแบบห้ามเลยเรอะ หรือนักอ่านเขาก็หยวนๆ ให้กันวะ จะไวยากรณ์ประเทศไรก็เขียนมาเหอะ มันคือเทคนิคการเขียนแบบหนึ่ง หรือ ไม่ได้ ต้องถูกหลักภาษาไทย!!!
Light Novel ต่างจากนิยายธรรมดายังไงน่ะ เนื้อเรื่องหรือฟอร์แมต
จำได้ว่าอ่านง่ายกว่า แต่ส่วนใหญ่เจอแต่ของเกาะ พวกลน.จากมังงะ อนิเมะงี้
แต่สรุปมันคือยังไงกันแน่เพื่อน เพราะเห็นในรีดก็มีหมวดนี้อยู่
ว่าแต่เมื่อไหร่รีดจะแยกแฟนตาซี ไซไฟ กับไลท์โนเวลออกจากกันวะ 55555
>>890 ถ้าให้กูลองเทียบจากนิยายที่อ่านของเกาะแบบโนเวลกับไลท์โนเวล
-Novel บรรยายเยอะ ศัพท์รุ่มรวย คำเปรียบเปรยเยอะ เช่นชมว่าผู้หญิงคนนี้สวย ก็บรรยายไปดิว่าใบหน้าเธอรูปไข่ ผิวขาวราวกระเบื้องเคลือบชั้นดี ดวงตาเธอเจิดจรัสชวนให้หลงใหลเอ็นดูอยากทนุถนอม เสียงเธอราวกับเครื่องดนตรีชั้นยอด บลาๆๆๆๆๆ
-LN บรรยายน้อย เน้นคำพูดโต้ตอบกันมากกว่า จะชมว่าผู้หญิงสวยก็ชมว่าสวยตรงๆ แบบโอ้โฮ เธอคนนี้สวยเป็นบ้าเลย เสียงก็เพราะ ไม่สลับซับซ้อน มีรูปการ์ตูนประกอบ เล่มเล็ก
จริงๆ LN มันก็แค่ซับเซ็ตของโนเวลนั่นล่ะ แค่ขยายกลุ่มลูกค้าเป็นวัยรุ่นสนใจอนิเมะให้มาอ่านหนังสือเพิ่มเฉยๆ
สรุปเท่าที่เข้ากูใจ ญี่ปุุ่นใช้ระดับภาษาเป็นเกณฑ์ในการแบ่ง โนเวล/ไลท์โนเวล ส่วนไทยเอามาใช้กลายเป็นแฟนตาซีไป
Kyกูเป็นนักเขียนที่ชอบอ่านทั้งธงเขียวธงแดงและอยากเขียนได้หลากหลาย แต่งานที่ออกไปวางขายก่อน2-3เรื่องคือธงเขียว เพราะคนดีเขียนง่ายกว่าคนชั่วที่คิดซับซ้อน ทีนี้นักอ่านกลุ่มนึงจัดกูอยูในกลุ่มนักเขียนธงเขียว ชอบผลงานกูเพราะความธงเขียว แต่ช่วงนี้ในหัวกูมีแต่พลอตธงแดงหมวดรักผู้ใหญ่และอยากเขียนมากกกก อยากเปิดเผยด้านนี้ กูต้องเกรงใจนักอ่านที่ฟอลกูเพราะความธงเขียวไหมวะ ใจนึงก็กลัวเขาผิดหวัง อีกใจก็อยากทำตามใจตัวเอง
>>902 เอาจริงกุเบื่อมากนะ เมื่อกี๊เล่นเอ้กก็เจอประเด็นวต.กับนิยายพอ.ธงเขียวธงแดงกันอีกแล้ว กุเห็นด้วยกับแอครีวิววต.แอคนึง คืออ่านเพราะมันสนุกน่ะ จะเขียวจะแดง ถ้าอ่านแล้วชอบแล้วสนุกก็อ่านต่อ ถ้าเขียวแบบฝืนๆ รู้ว่าเขียนเอาใจโว้กในเอ้ก มันก็ดูออก คนมันก็เท ไม่ได้ว่าเขียวคนไม่อ่าน แดงดำเม็ดเยอะคนอ่าน
ที่ร่ายมาคือกุเข้าใจเพื่อนโม่งมาก กุเองก็เริ่มจากพอ.เขียวโดยบังเอิญเพราะตอนนั้นอยากอ่านอะไรหวานๆ เลยเขียนเองแล้วอัพเผื่อคนอื่นอ่านด้วย แต่บางวันก็อยากชงเสวธงแดงดำเม็ดเยอะ ไม่อยากให้ใครมาคาดหวังกับกุเลย กุแค่อยากเขียนอะไรที่อยากอ่าน เดี๋ยวนี้อยากเขียนเงียบๆ ลงเงียบๆ ไม่อยากให้ใครพูดถึงนิยายกุในเอ้กเลย กลัววันดีคืนดีเสือกมีคนมาเอดุเขต
ทำแบบกุดิ แยกแอคเลย กุคือคนที่เข้ามาถามเรื่อง light novel กับนิยายหมวดรักผู้ใหญ่โม่งบนๆ เมื่อวานแหละ 55555 กุมีแอครีดแยกอยู่ไง กะจะเอาไว้ลงงานแนวอื่นตามที่อยากลอง จะได้ไม่มีคนมาฉอดมาผิดหวังอะไรถ้ากุไม่ได้เขียนแนวเดิมที่คนเคยตามอ่าน
>>902 คิดซะว่าขยายตลาดขยายกลุ่มเป้าหมาย ถ้านักอ่านมันผิดหวังมากนักมึงก็บอกไปว่าอยากเขียนหลายแนวท้าทายตัวเองดู เดี๋ยวคนที่ชอบงานแนวนี้เขาก็เข้ามาหามึงเองนั่นล่ะ มึงอย่าวอรี่เลย กูเคยเป็นแฟนผลงานป้าทมแต่กูก็ไม่ได้ชอบงานป้าไปซะทุกเรื่องเหมือนกัน
อีกอย่างถ้าเขียนสนุก จะธงเขียว ธงดำ ธงแดง ธงฟ้าราคาประหยัดก็มีคนอ่านหมด อย่าคิดมาก เขียนให้มึงรู้สึกแฮปปี้ที่ได้ทำก็พอ
ky ปกติกุเป็นคนขี้เกียจ เลยสงสัยว่าคนที่ลงนิยายหลายแอพหลายเว็บพร้อมกัน เขาลงเรื่องเดียวกันหมดมั้ย หรือแต่ละแอพก็แยกเรื่องไปเลย
>>906 มาเพื่อน เขียนกัน 5555
กุว่าลับแลแบบนี้ก็ดีอย่าง เพราะมันล็อคบัตรทั้งหมวด แต่ถ้าขยันเขียนมันก็น่าจะขายได้เรื่อยๆ เป็นแนวเขียนเงียบขายเงียบแบบที่กุชอบเลย กุเห็นเรื่องหมวดอื่นพอแมสทีก็โดนแซะโดนเอดุเขตนู่นนี่ มีเรื่องกัน กุเน้นเขียนอะไรที่อยากเขียนแล้วขายได้ดีกว่า
ขอให้มึงโชคดีนะ 555
Ky เว็บนิยายเว็บไหน(ของนอกก็ได้)มีระบบกรอกรหัสผ่านเพื่อเข้าไปอ่านตอนนั้นๆเหมือนพวกล็อครหัสเหมือนเว็บที่นักวาดชอบใช้กันยัง กูว่ามันน่าจะสนุกดีถ้าให้ไขรหัสเข้าไปอ่าน
>>912 เอาจริงปะ ทุกที่น่ารักหมด แต่มันจะเริ่มเถื่อนตอนมึงติดเหรียญอะ เม้นแรงๆเห็นแก่ได้มาเพียบ ติดเหรียญทำไม จะอ่านฟรี (โชคดีก็ไม่เจอ เอาเป็นว่าฝึกจัดการปัญหาด้วยตัวเองไว้ อธิบายเหตุผลไป ไม่ต้องไปแรงใส่เขา ภาพลักษณ์เราอ่ะจะดูไม่ดี) ธวล.ยังเรทเหมือนเดิม แต่ตอนนี้บ้านฟ้าก็เป็นไปกับเขาแล้ว
ถ้ามันไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงมากอัพให้หมดทุกเว็บเลยมึง คนในธวล.บางครั้งเขาก็เอียนความเรทแรง อยากอ่านแนวอื่นบ้าง ในดด.บางคนก็เอียนขายผักเหมือนกัน คิดซะว่าลงหลายเว็บก็ได้กำลังใจกับเพิ่มการมองเห็นและยอดคนซื้อแบบ x2 นะ เว็บนึงเม้นกับยอดวิวอาจกริบ แต่อีกเว็บอาจปัง อีกเว็บอาจพอมียอดเอ็นเกจ
ky ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร เขียนบทพระนางสวีทกันไม่ได้เฉยเลยว่ะ ดันไปถนัดบทต่อปากต่อคำ ชิงไหวชิงพริบแทน พวกที่มีแตะเนื้อต้องตัวกูเขียนไม่ออกเลย มีใครเป็นเหมือนกันบ้างไหมวะ
ky มันมีโอกาสติดใหม่มาแรงใน 2 อาทิตย์ใช่มะ แล้วถ้าเปิดนิยายไว้แต่ยังไม่ออน แบบนี้มันนับวันแรกตอนกดเผยแพร่ปะเพื่อน ขอบใจมากกก
จะว่าไปกุมีเรื่องสงสัย คือกุเป็นทีมแต่งเสร็จแล้วค่อยลงรวดเดียวติด ๆ กัน ตู้มเดียวกดจบลงอีบุ๊กเลย ข้อดีคืออันดับขึ้นไวมาก (เพราะอานิสงส์ใหม่มาแรง+กดจบ) ข้อเสียคือระยะยืนมันค่อนข้างสั้น เทียบกับพวกที่เปิดเรื่องไว้เป็นเดือน ๆ ปี ๆ มันตกคนอ่านได้เรื่อย ๆ มากกว่าหว่านแหรวดเดียว ที่สำคัญโอกาสได้แบนเนอร์ก็น้อย อย่างน้อยเดือนสองเดือนกว่าจะได้ขึ้น อย่างซวยก็อีกนานนนน เทียบกับเปิดเรื่อยไว้ ได้แบนเนอร์ตอนไหนก็ตอนนั้น ได้ทีก็ตกคนได้ก่อนลงอีบุ๊ก ทีนี้กุเลยเริ่มลังเล หรือกุจะเปิด ๆ เรื่องไปก่อน ขอแบนเนอร์ให้ได้ก่อน แล้วค่อยลงอีบุ๊คดีวะ แต่ข้อเสียคือกุอาจไม่ชาร์ตตอนแรกอะดิ 55555 เพราะไม่มีฐานแฟนละหนึ่ง แนวก็ไม่ได้ยอดนิยมขนาดนั้น Orz สรุปมึงว่ากุควรเลือกทางไหนดีวะ
>>926 เป็นกูนะ ช่วงแรกๆจะอัพถี่ๆ พอให้ขึ้นใหม่มาแรงได้ วันละ 3-4 ตอนไปเลย แล้วลงอีบุ๊คตอนใกล้ๆจะครบ 15 วันเพราะมันจะตกจากใหม่มาแรงละ (สัก 7-10 วันแรกกำลังดี) พอตกปุ๊บมึงอัพให้ช้าลง วันละตอน วันเว้นวัน แล้วเว้นเยอะขึ้นสักอาทิตย์ละ 2 ตอนจนกระทั่งจบอะ คนรอไม่ไหวเขาก็ไปอีบุ๊คกัน
ว่าแต่แบนเนอร์นี่ช่วยหรอวะ กูเห็นใครเพิ่งบอกว่ามันแค่ช่วยให้ยอดเข้าชมเพิ่ม แต่ยอดอีบุ๊คไม่ค่อยเท่าไร จากปสก.ส่วนตัว ยอดเอนเกจในรี้ดไม่ได้การันตียอดขายอีบุ๊ค
ky แต่ก็เรื่องเดียวกับ >>926 คืออย่างที่กุมาถามวันก่อน ว่าจะลองลงรักผู้ใหญ่น่ะ ถ้าเป็นเรื่องแรกที่จะลองหมวดนี้ มันแค่เรื่องสั้นๆ ไม่เกิน 8 - 10 ตอนจบ ลงแบบไหนดี
1.ลงทีเดียวจบ ติดเหรียญล่วงหน้า พร้อมอีบุ๊ค
2.ทยอยลงวันละตอน อ่านฟรีจนจบค่อยติดเหรียญ อีบุ๊คค่อยมา
หรือแบบไหน ช่วยด้วยเพื่อนนนน
>>928 1 ไม่เวิร์ค กูเห็นมีคนเคยทำ ยอดอ่านตอนติดเหรียญหลักสิบ ส่วน 2 กูแนะนำให้ลงอีบุ๊คก่อนเปิดเรื่องเลยมึง หมวดนี้มันไม่เหมือนหมวดอื่น ตัวแม่บางคนไม่ได้ลงรายตอนให้อ่านด้วยซ้ำยังขายได้เป็นพันๆเล่ม แต่มาลงหมวดนี้แรกๆมึงต้องทำใจนิดนึงนะ ยอดมันไม่ปังเหมือนแต่ก่อนแล้ว คนก็เลือกซื้อนิยายจากนามปากกาที่เค้ารู้จักก่อนจะลองอะไรใหม่ๆ
>>926 คหสต.นะ
กฎกติกาง่ายๆเลย ไม่ว่ามึงจะขายรายตอนหรืออีบุค มีคนเห็น= มีคนซื้อ
พวกที่เปิดเรื่องทิ้งไว้แล้วตกคนได้ก็เพราะสาเหตุเดียว คือทุกครั้งที่อัพมันจะเด้งขึ้นไปที่แถบอัพเดทให้คนเห็น
ดังนั้น การยืนระยะไม่ยืนระยะไม่เกี่ยวเลย มันขึ้นกับมึงกระจายตัวไปยึดพื้นที่ที่คนเห็นได้มากน้อยแค่ไหนต่างหาก
ถ้ามึงลงพรวดเดียวจบ มึงอาจได้หน้าต้นๆของใหม่มาแรง +อัพเดท ถ้าคนสนใจเค้าก็เปย์ทีเดียวจบ แล้วไปรอสวรรค์ประทานพรตอนที่ได้แบนเนอร์อีกที กับตอนที่ลงอีบุค ซึ่ง อีบุคมึงในเมพก็อยู่ต้นๆแค่ไม่กี่วัน จากนั้นก็จบ คนเห็นมึงเด่นๆ 3 เที่ยว เห็นที่เวบโนเวล 2 ช่วง เมพ 1 ช่วง
ถ้ามึงลงอีบุคแต่แรก แล้วดันขึ้นหน้าใหม่มาแรง กระจายตอนหลังๆไว้ยึดพื้นที่แถบอัพเดท มึงลองคิดดูว่านิยายมึงมีพื้นที่ที่คนเห็นนานขึ้นกี่วัน และในจำนวนนี้มึงสามารถใช้มันเป็นพื้นที่โฆษณาดึงคนไปเปย์เล่มสมบูรณ์ได้เลย ถ้าอีบุคมึงไม่พร้อม มึงไม่ได้ตรงนี้
อีกอย่างในคห.กูซึ่งเป็นโนเนมและสกิลยังไม่ถึงขั้นที่เรียกได้ว่าเป็นนข.ตัวจริงมีมาตรฐานนะ การยืนระยะไม่ใช่เรื่องที่ดี คนอ่านเดี๋ยวนี้ใจร้อนสมาธิสั้น ถ้าเรื่องมึงไม่เป๊ะดึงดูดใจจริง แป๊ปเดียวเขาก็ไปเจอเรื่องใหม่แล้ว ที่จะกลับมาค้นเฟบค้นอะไร ตรงนี้มีนักอ่านหลุดไปเยอะแน่ๆ เวลาผ่านไปเขาเลิกสนใจเขาก็ไปแล้ว
ดังนั้นถ้าตกเขามาได้แล้วให้เขาเปย์โดยเร็วก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจจะดีกว่าว่ะ
KY กูส่งนิยายขึ้นเม็ดไปตั้งแต่วันจันทร์ วันนี้พฤหัสยังไม่อนุมัติเลย ปกติมั้ยวะ รึเค้ายุ่งงานหนังสือหรือติดวันหยุดไรงี้
กูทำตามโม่งแนะนำแต่ก็ไม่เคยได้ขึ้นหน้าใหม่อะไรแบบนั้นอะ
แต่ของกูช่วยไม่ได้กูเขียนแฟนตาซี หมวดร้างๆ แถมแนวยังไม่น่าติดตามด้วยมั้ง
ขนาดช่วงแรกลงวันละ 3 ตอน 15 วันกูไปลง 50 ตอนได้ยังไม่ขึ้นหน้าใหม่ไฟแรง แถมพอผ่านไป 1 เดือนยอดอ่านเหลือ 0 ทุกตอน ถถถถ
เคยคิดนะว่ากลุ่มลูกค้ากูอาจจะอยู่ใน ดด. มากกว่า รอร. แต่ทุกวันนี้ลงไป 150 ตอนยอดยังไม่แตะหมื่นเลย ถถถถถ ดีนะกูไม่ซีเรียสเพราะเขียนเป็นแค่งานอดิเรก ...แต่ทุกวันนี้ก็แอบคิดนะว่าเลิกเขียนไอ้ที่เขียนอยู่ แล้วขึ้นเรื่องใหม่ที่มีแววกว่านี้ดีกว่ามั้ย
>>935 มันแค่ช่วยเพิ่มโอกาส พอทุกคนทำเหมือนกันหมด ค่าความได้เปรียบก็ =0 นั่นแหละ
ทุกคนถูกลิสต์ในใหม่มาแรงหมดนะ ที่เหลือมีแค่มึงจะดึงวิว ดึงใจ ดึงเฟบจากนักอ่านไปไต่ชาร์ทสู้เขาได้แค่ไหน
ถ้ามึงโนเนมก็ต้องเอาเนื้อหาสู้ ลงไปหลายๆ ตอนนี่คือให้คนอ่านได้อ่านยาวพอจะติดงาน อยากกดใจกดไลค์แวะมาส่องทุกครั้งที่อัพ ที่จะมีผลคือต้องไต่ไปให้ถึงสองสามหน้าแรกอ่ะ เพราะคนอ่านเขาไม่ไถฟีดลึกๆกันเท่าไหร่
ค่ามันต้องดูกันในหมวดอ่ะ มึงลงตลาดที่มาร์เกตไซส์ต่ำ อันนี้ต้องทำใจจริงๆว่ะ อย่าเอาไปเทียบหมวดอื่น แต่ในขณะเดียวกันกุว่ามันก็มีคู่แข่งน้อยลงด้วยนะ
Ky ถ้ากูโหลดตัวอย่างมาอ่านแล้วไม่ชอบ เลยลบออกจากบัญชี มันจะขึ้นโชว์กราฟหลังบ้านนักเขียนไหมวะ ว่าลบหนังสือออกจากบัญชี
ky สอบถามเพื่อนโม่งที่เคยอ่านรึเขียนแนวดารา รึเคยตามดาราจริงจัง สมัยนี้เขาจูบจริงกันมั้ย เมื่อก่อนเข้าใจว่ามุมกล้องเกือบหมด แต่เดี๋ยวนี้บางเรื่องเนียนมาก ปากแตะปากเต็มจอเลย(รู้เลยนะว่ากูเพิ่งดูเรื่องอะไรมา555)กูอยากเขียนแนวนางเอกเป็นดารา แล้วพระเอกไม่ได้เป็นดาราน่ะ ว่าจะเขียนซีนหึงดาราสาวในละครเบาๆนี่แหละ(แต่หึงไม่มาก เข้าใจ แค่แกล้งงอนหยอกสาว) ขอความมั่นใจหน่อยว่าเด๋วนี้จุ๊บปากจริงป่าว
>>942 แต๊งกิ็วมากเพื่อน เออเนอะ กูก็ลืมไปว่าเขาคงทำจริงอยู่ละ ถ้ามาเวย์ขายคู่จิ้นขายโรแมนซ์ ของชชญญก็ยังเอามาชงขายฉ่ำถ้าใครจูบจริง ถกจริง พระเอกกูเป็นคนธรรมดาแบบไม่ใช่นักธุรกิจ มาเฟีย ไรงี้ด้วยแหละ เก็บสิ่งนี้ไว้เป็นความตกใจปนหึงหน่อยๆให้พี่แกละกัน เอาน่า คนอื่นก็แค่จูบกับนัวในละคร แต่เจ้าของหัวใจทำได้ทุกท่าแบบไม่ต้องสั่งคัทหรือเครียดกับมุมกล้องเลยนะ555
ความเห็นคนปกติ แนวน้องน้อยมี puppy love แอบชอบพี่ชายใจดี พี่ไม่คิดอะไร ละค่อย time skip ไปมีโมเม้น+รักกันตอนโต อันนี้ก็ถือว่าบ้งเหรอวะ (เพราะพี่มันเคยเห็นน้องตอนเด็ก? เพราะผู้ใหญ่มันเสือกใจดีทำเด็กใจแตก? ) หรือว่ากุบ้งเองจนเกินเยียวยาแล้ว ถึงมองว่าไม่เสียหาย Orz
ดด มีหมวดใหม่มาแรง/ขอแบนเนอร์มั้ยวะ มีเคล็ดลับอัปยังไง กุเคยลงละเงียบกริบเลย
เอิ่มมมมขอถามเล่นๆ หน่อยนะโม่ง
ถ้าสมมุติเขียนแนววาย ชช แต่กำหนดให้พระเอกมีลูกมีเมียแล้ว ในขณะที่นายเอกเป็นแค่คนที่เข้ามาในชีวิตช่วงสั้นๆ นี่มันยังได้ป่าววะ!?
อะ สมมุติเรื่องประมาณครอบครัวพระเอกกำลังล้มเหลวได้ที่ ทำงานกลับบ้านดึก ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว เมียมีชู้กับคนส่งของ ลูกสาวบอกเหม็นกลิ่นตัวป๊ะป๋า พระเอกเลยไปนั่งก๊งเหล้าแล้วได้เจอกับชายคนหนึ่งเข้ามาคุยด้วยงี้
ไอ้พล็อตนี่แม่งอยู่ๆ ก็แล่นเข้าหัวมา แล้วแม่งดูเรียลเกิ้นทำเอากูไม่กล้าเขียนเลย
>>950 กูเพิ่งอ่าน นางเอกชอบพระเอกมาตั้งแต่เด็ก แต่พระเอกไม่แสดงท่าที นางเอกเลยไปมีแฟนเป็นนายเอ พระเอกเลยเริ่มรู้สึก ส่วนนายเอ คบกับนางเอกแต่แอบไปกินลับๆกับผู้หญิงอื่นและเพื่อนนางเอก ส่วนนางเอกก็ไปได้กับพระเอก(เป็นชู้กัน) ขณะที่เป็นแฟนกับนายเอ สุดท้ายพระเอกนางเอกก็ลงเอยแฮ้ปปี้ ส่วนเอทำเพื่อนนางเอกท้อง แต่งงานแล้วเลิกกัน ย้ายไปเมืองนอก
//มีคนเอ๊ะๆกันที่พระเอกนางเอกเป็นชู้ แต่รับได้ ส่วนใหญ่ชอบ เรตติ้งในเม็ดร้อยห้าสิบกว่าๆ
อยู่ที่ฝีมือการเขียนการเล่าเรื่อง การสร้างคาร์ตลค. จริงๆ
เพื่อนโม่งว่าแนวรักโตๆ กันแล้วเนี่ยอายุพระนางที่กรุบสุดคือประมาณไหน กุว่า 35 25 กำลังดี เอจแกปไปปะ 5555
>>958 ถ้าแบบไม่กลัวพวกปสด.เหยียด ใจกูชอบ 22,23 กับ35,36 กูชอบห่างกันเกินรอบนิดๆ นศ.สาวกับชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าที่การงาน ให้พระเอกดูต้องคิดเยอะๆคิดแล้วคิดอีกน้องยังเด็กยังเรียนปี3ปี4 แต่คิดไปคิดมาก็ต้านทานความน่ารักของเธอไม่ไหว แต่อย่างโม่งบนบอกก็เซฟดีนะ25คือนางเอกทำงานแล้ว
ky แต่ก็เกี่ยวกับเอจแก๊ป กุเห็นคนหวีดละครช่องน้อยสีที่ออนอยู่ตอนนี้ พี่สาวคนสวยกับหมาเด็กมหาลัย อันนี้บทออริใช่มะ ไม่ได้สร้างจากนิยาย เลยสงสัยว่าในเอ้กถึงคนใดคนหนึ่งอายุ 20 แล้ว แต่ถ้าอีกฝ่าย 28 - 30+ มันก็ยังมีปห.กัน บอกว่าคนวัยทำงานดีๆ ที่ไหนจะไปชอบเด็กที่ยังเรียนอยู่ ด่าเปโดไม่ได้เพราะไม่ใช่ไมเนอร์ มันก็จะทัวร์ลงเรื่องกรูมมิ่ง พาวเวอร์ไดนามิกแทน
กุเลยสงสัยว่ามีนิยายเรื่องไหนเอจแก๊ป (ช.เด็ก ญ.แก่กว่า) ประมาณละครเรื่องนี้แล้วโดนแซะมั้ย หรือสามารถเขียนได้มั้ย
เพราะเห็นพอเป็นหนังละคร ไม่ค่อยมีใครว่าอะไร แต่พอเป็นนิยาย ถั่วลงตลอด (ในเอ้ก)
ความเห็นกู ไม่ค่อยเจอป้าๆชอบแนวพระเอกเด็กกว่า ส่วนใหญ่อ่านได้แต่ไม่ปักเมน เห็นโม่งบนๆเคยบอกว่าขายนิยายพระเอกเด็กกว่ายอดไม่ค่อยพีค เหมือนที่บ้านก็มีลูกมีผัวกวนตัวอยู่แล้วมันเลยอินลำบาก อยากได้ฟีลคนมาปกป้องดูแลมากกว่า แนวม๋าเด็กกับพี่สาวคนสวยส่วนใหญ่กุเห็นในเอ็กมันหวีดนะ
>>961 เขียนได้ เขียนเตือนเป็นยันต์กันด่าก็พอ กรุ๊ปป้าๆบางทีเวลาเจอแนวนี้ก็มีแซวนะ เอ้อ เด็กไปปะนะ5555 นางเอกนี่ก็น้อ5555 แต่ส่วนใหญ่นข.กับคนเขียนบทอะหัวหมอ แนวนี้จะมีคนด่าผู้ใหญ่ใช่ม้าย งั้นก็ปรับให้เด็กมันมาเล่นกับไฟ มาอ่อยผู้ใหญ่ก่อนไง ผู้ใหญ่ก็หักห้ามใจพอเป็นพิธีไป ไม่ถือว่าคิดไม่ดีก่อน เด็กมันยั่วเอง นี่คือวิธีแก้ปัญหาถ้าไม่อยากโดนฉอด (แนวชายอายุมากกว่าหญิงมากๆก็ชอบใช้มุกนี้) แต่เด๋วนี้หลายคนก็ไม่ค่อยฉอดกันละนะ เขียนได้
>>964 +1 เรื่องเด็กมันยั่วเอง ใช้ได้ทุกสถานการณ์ แต่เลี่ยงบาลียังไงฉอดเดอร์มันก็ด่าได้หมดแหละ อย่าดูถูก 5555
เอาจริง เรื่องนี้ปัญหาเบสิคมาก คนด่ามันไม่ซื้อคนซื้อมันไม่ด่าไงเพื่อน (ใช้ได้กับทุกแนว) แล้วมึงจะแคร์คนไม่ซื้อทำไหม
ใดๆ เรื่องหมาเด็กเป็นที่นิยมมั้ยก็อยู่ที่กลุ่มนักอ่านแหละ แต่นิยมน้อยกว่าผัวแก่แน่ เชื่อกุ 5555 คหสต.ถ้าเด็กมันแซ่บ+เป็นผู้ใหญ่ไม่ง้องแง้งกูรับได้นะ มึงก็เขียนให้มันดีๆ ไม่ใช่ลูกคนที่ 2 ซะก็โอละ
เพิ่มนิดนึง ไม่เกี่ยวกับนิยายซะทีเดียว แต่คนชอบแนวนี้ก็เยอะยุ กุยกตย.เคสดาราที่น่าจะรู้กันว่าใคร คนฟรินเต็มบ้านเต็มเมืองนะ ถึงจะมีพวกปากหมาแซะเรื่อยๆ ก็โดนแม่ยกรุมด่าหัวหดกันหมด 5555
อีกเคสนึงกุให้เว็บตูนเกาเรื่องนึง นอ. 33 เลิกกับผัวเหี้ยมีชู้ ได้หม๋าเด็ก 20 ต้นๆ แซ่บๆ เลียแผลใจ คนกรี๊ดหวีดทั่วโลก แม้แต่เพื่อนกุไม่ชอบแนวนี้มันชิมแล้วยังถูกใจเลย ดังนั้นถ้าเคมีมันดีจริงก็ไม่มีปัญหามากหรอก จำไว้ว่าคนด่าไม่ซื้อ ให้แม่งอกแตกตายไป
ถ้ามีฝึมือเขียนยังไงก็ขายได้ว่ะ ระดับตำนานอย่างกิมย้ง มังกรหยก2 พล็อตพระเอกเรียกนางเอกว่าอาหญิงแถมป็นลูกศิษย์ นางเอกแก่กว่า นางเอกโดนข่มขืน พระเอกเสียท่าโดนตัวร้ายทำให้พิการถาวร ยำรวมทุกแนวที่ปกตินักอ่านไม่ค่อยชอบยังโคตรดัง
พอพวกฉอดตัวแม่ล้มไปหลายคน และการฉอดถูกกระแสตีกลับมากขึ้น การฉอดไม่ทำให้มีแสงอีก พวกที่คอยเอาอะไรมาหาฉอดเหมือนจะลดลง หรือกูไบแอสไปเอง
หลังๆ ที่โม่งด่านขชอบเข้าดราม่า เห็นสงบปากกันไปหลายตัวนะ
เพิ่งนึกได้ เรื่องพระเอกเด็กกว่าที่ขายได้เมื่อก่อน (สมัยนี้ชอบพรีเซ้นความหมาตามตื๊อพี่คนสวยขา) กูเห็นเป็นแนวที่พระเอกอานุน้อยกว่าแต่นิสัยใจคอคือหมาแก่เลยอะ ระดับผู้บริหาร ไม่ได้มาทำตัวหูลู่หางตก ดุด้วย ไม่สนว่าเธอจะอายุมากกว่ามั้ย นาเงอกบ้งเขาก็ตำหนิ กูใจเต้นชิบหาย เด็กที่เป็นผู้ใหญ่เนี่ย555 มีมุมอ้อนนิดๆให้กูตัวระเบิด
ไม่ใช่ไร กูแค่รู้สึกว่าภาพลักษณ์พระเอกอายุน้อยกว่าของนิยายเมื่อหลายปีที่แล้ว มันหลากหลายกว่านี้อะ เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่าพอพระเอกเด็กกว่า ต้องเป็นหมา ต้องอ้อน ต้องเรียกคนสวยขาทุกครั้งเวลานางเอกเข้าซีน เป็นภาพจำยอดฮิตไปละ
มึง กูขอปรึกษา ไม่รู้จะไปถามที่ไหนละ ช่วงนี้ทวิตเตี้ยนกำลังฮิตย้ายไปบลูสกายกันใช่มะ ทีนี้มีนักอ่านคนนึง (ที่ชอบเขียนรีวิวบ่อยๆ แต่ไม่ถึงกับเป็นนักรีวิว) เขาก็ไปเปิดแอคใหม่ในนั้น กูเลยตามไปฟอลเพราะฟอลกันในทวิตเตอร์อยู่แล้ว แต่ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนะ เคยคุยกันไม่กี่ที ทีนี้กูเห็นเขาฟอลกลับทุกคนเลยเว้ย แต่ไม่ฟอลกลับกู 55555 กูทำตัวไม่ถูกเลย จะอันฟอลตอนนี้ก็ awkward แปลกๆ แต่เจอแบบนี้กูก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาเหม็นอะไรกูป่าววะ รู้สึกแย่นิดหน่อยแหะ ฟอลต่อไปข้างเดียวก็เหมือนหมาหัวเน่ายังไงไม่รู้ ควรทำตัวยังไงดี
>>973 เขารีวิวงานก่อนของมึงดีไหมวะ ถ้าดีอ่านแล้วมีกำลังใจก็ตามต่อไปในฐานะลูกค้าที่เคยอ่านงานเรา เคยรีวิวอวยเรา เรื่องอื่นชวนหงุดหงิดก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ไป
ทีนี้ก็วัดกันที่ผลงานใหม่ละ ถ้ามันเจ๋งเดี๋ยวเขาก็มาหามึงเอง ไม่ใช่มาเพราะความเกรงใจฟอลมาต้องฟอลกลับ อันนี้ตอบจากมุมกูนะ กูมีนักเขียนมาฟอลเหมือนกันแต่กูก็ไม่ได้ฟอลกลับทุกคน
มึง เห้นเขาว่าหลังบ้านพรี่เม้ดมี function ใหม่ให้ดูยอดขายหลังอ่านตย. จริงมั้ย 555555
ไม่รู้ถามมู้ไหนดี ลองมานี่เผื่อมีโม่งรอบรู้ คือกุแอบสงสัยเรื่องความเรียล พระเอกทายาทแชโบลอายุ 30 ต้นๆ ได้เป็นทั่นประธานบริษัท (มหาชน) แล้ว แบบในนิยายในละครเนี่ย ชีวิตจริงมันเป็นไปได้อ่อวะ คือกูคิดว่า 30 ต้นๆ มันยังเด็ก/ปสก.น้อยไปหน่อยปะ พวกบ.มหาชนอยู่ในตลาดหุ้น ไม่ได้เป็น start up เล็กๆ ด้วย ถึงจะเป็นลูกหลานเจ้าของคนก่อตั้งบ.ก็น่าจะมีคนค้านคุณสมบัติบ้าง ให้มันสัก 35+ ถึงปลายๆ ยังดูเรียลกว่ามั้ย หรือชีวิตจริงมีเคสลูกหลานเจ้าสัวท่านใดได้ตำแหน่งเร็วขนาดนี้???
>>981 เอาแบบโลกจริงๆที่กูเห็นว่าขึ้นมาเป็นประธานตั้งแต่อายุยังน้อยก็พ่อตายเลยต้องขึ้นต่อ อันนี้ในกรณีที่เป็นลูกคนโตนะ
ถ้าเป็นลูกคนรองๆมา บางคนก็มาทำงานในบริษัท อาจจะสตาร์ทที่เมเนเจอร์หรือกรรมการบริหาร เคยดูหนังเกาหลีหลายเรื่อง พวกลูกๆหลานๆแชโบลก็สตาร์ทราวๆนี้เหมือนกัน ถ้ายังไม่ล็อคมงว่าใครได้นั่งประธานก็แข่งกันไต่ขึ้นไปให้พ่อเลือกตัวเองสืบทอด แต่ส่วนใหญ่ก็ล็อคมงให้ลูกชายคนโตนั่นล่ะ ถ้าพ่อแม่ยังไม่วางมือ ลูกก็ยังเป็นรองประธาน รองกรรมการบริหาร ผอ.นั่นนี่ไป
Kyชื่อเพลง(มาก่อน)ชื่อเดียวกับชื่อเรื่องนิยาย(มาทีหลัง)แบบนี้ผิดลขส.ไหมวะ?
เช่น อกหักมารักกับพ้ม , ทิ้vไว้กลาvทาv,ลมเปลี่ยuทิศ
เห็นกระทู้จะเต็มเลยตั้งไว้ให้
https://fanboi.ch/literature/19047/
>>988 คนตั้งชื่อเพลงเป็นชื่อตอนชื่อเรื่องมีเยอะแยะ ไม่ผิดลิขสิทธิ์ ถึงจะทำให้คนอ่านแล้วรู้ก็ตามว่าเพลงอะไร แต่ก็ไม่ได้ใส่เนื้อเพลงลงไปไง
>>991 อันนี้กูเคยสงสัยว่าลักไก่ทำแบบใส่ชื่อเพลง ใส่ footnote บรรยายว่าเพลงเกี่ยวกับอะไร แต่ไม่ใส่เนื้อเพลงลงไปสักท่อนได้มั้ย ไม่ใช่อะไร ตัวกูเมื่อหลายปีก่อนทำงั้น555 จะรีไรท์กับเปลี่ยนปกพอดี ถ้ามันไม่ดีเดี๋ยวกูลบแล้วหาทางเลี่ยงเอง อาจจะไม่ใส่ชื่อเพลง บรรยายเนื้อหาคร่าวๆแทน รึใส่แต่ไม่บรรยายอะไรมาก
>>994 มันเป็นวงการเทาๆ อะมึง เพลงไทยนี่เสี่ยงหน่อย แต่เพลงต่างชาตินี่เปิดช่องฉ่ำ ยังไงเจ้าของลขส.ก็ไม่มาฟ้องมึงอยู่ละ ใส่เนื้อเพลงสบายแฮร์เลย ก็ชุบมือเปิบนิดนึงแต่เขาก็หลับหูหลับตากันแหละ
พูดถึงเพลงไทยหน่อย ถ้าซื้อจากเจ้าพ่อลขส.อย่างค่ายแกรมx นี่กูว่ายังไม่คุ้มเท่าไหร่ (ข้อมูลไม่เป๊ะนะ) คือเพลงละ 150 แต่ขั้นต่ำปกละหมื่น ต่อให้ใช้เพลงเดียวสองสามท่อนก็ต้องจ่ายหมื่น? กุเดาว่าเงื่อนไขนี้มันน่าจะใช้สำหรับหนังสือคอร์ดกีตาร์เนื้อเพลงแหละ แต่ดันครอบคลุมมาใช้กับนิยายด้วย (ซึ่งไม่คุ้มสุดๆ) ยังไงใครสนใจไปถามเจ้าตัวโดยตรงดีกว่า ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนแล้ว
>>994 มีจ้า เท่าถูป มีใบขอลขส.แปะที่ท้ายเล่ม +แปะโชว์ในเพจเลย กูเพิ่งเห็นคนขอ ลขส.เป็นกิจจะลักษณะก็นี่แหละ
เพลงแรกนิทานหิ่งห้อยdmไปหาพี่จิก ปภ ชสรน.เลย ตอนแรกพี่คนแต่งเพลงจะให้ฟรีดีลกันไปด้วยความเกรงใจพี่เต้าเลยคิด5K
เพลงสองขอ กับ จี๋เอมm ค่าลขส.หมื่นกว่า มีเอกสารรับรอง ครบจบ
>>993 แต๊งจ้า เมื่อก่อนพลาดกันเยอะ เดี๋ยวนี้ก็เริ่มตื่นรู้กันบ้างละ
มีนักเขียนหลายคนเลยที่ไปขอซื้ออย่างถูกต้อง ส่วนเพลงอังกิดเกาหลีญี่ปุ่นไม่ค่อยน่าห่วง ผิดจริง แต่เขาตามมาฟ้องไม่ได้555 แต่เคยเห็นกรณีนึงที่โดนแหกก็คือไปก๊อปคำแปลจากบล็อกคนอื่นมาลงนิยายตัวเองนี่แหละ เลยโดนแฉไป ตอนนี้ใครตื่นรู้แล้วเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะ พอมันรู้ว่าไม่ถูกต้องไปครั้งนึงละ มันก็จะจำฝังหัวตลอดไปว่านี่ไม่ถูกต้องอะ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.