เวลาเจอนข.ย้ำดอกจันขอให้อ่านตัวอย่างก่อนซื้อแล้วกุแอบหดหู่แฮะ (เจอเยอะด้วยสิ ไม่ว่าตัวใหญ่ตัวเล็ก) แม่งมีจริงๆ เหรอพวกไม่อ่านตย.แล้วซื้อ (แล้วผิดหวัง?) กุนึกว่าเป็นเรื่อง common ซะอีก Orz
Last posted
Total of 551 posts
เวลาเจอนข.ย้ำดอกจันขอให้อ่านตัวอย่างก่อนซื้อแล้วกุแอบหดหู่แฮะ (เจอเยอะด้วยสิ ไม่ว่าตัวใหญ่ตัวเล็ก) แม่งมีจริงๆ เหรอพวกไม่อ่านตย.แล้วซื้อ (แล้วผิดหวัง?) กุนึกว่าเป็นเรื่อง common ซะอีก Orz
โชคดีที่กูรู้จักโม่ง ไม่งั้นกลายเป็นคนจิตอ่อน ไม่กล้าเขียนห่าอะไรสักอย่าง
>>122 พวกป้าๆก็เป็นแบบนี้เยอะเลยนะ พวกแฮชแท็กซื้อก่อนให้ทันโปรอ่านเมื่อไหร่ไม่รู้น่ะ เห็นเขาว่าดีncแซ่บของมันต้องมีก็ซื้อๆตามกัน ไม่อ่านตย. แล้วก็ทำเป็นโทษตัวเองพอเป็นพิธีที่ไม่ยอม อ่านต.ย.เพราะเชื่อใจนข.บ้าง โทษคนรีวิวว่าอวยเกินบ้าง ทั้งที่จริงๆไม่ต้องพิมพ์อะไรลบๆให้คนรู้สึกแย่ก็ได้แต่ไหนๆเสียตังค์แล้วก็ขอระบายสักหน่อย
แต่กุขอบอก นข.ว่าเจอนักอ่านแบบนี้ ตั้งสติดีๆ ไม่ต้องเอามาแขวนหรือตอบโต้ด่ากราดนะจะยิ่งไปกันใหญ่ ไหนๆก็ขึ้นว่า-มีแล้ว ของซื้อของขายแม้ใจจะอยากถีบ ก็จงพิมพ์ตอบด้วยคำสุภาพ น้อมรับคำติชมแล้วจะนำไปปรับปรุงในงานหน้านะคะ ก็ว่ากันไป พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส คนอ่านคอมเม้นที่มีสติเขารู้และแยกแยะได้ว่าคนไม่อ่านตัวอย่างแล้วมาเม้นลบๆโทษนู่นโทษนี่ ควรจัดไว้หมวดไหน
>>126 จริง และนข.บางคนปากบอกจะปรับปรุงก็ปรับตามที่นอ.แนะสักนิดก็ได้ บางคนตัวอย่างสนุก แต่พอกลางเรื่องกับช่วงครึ่งหลังรีบเร่งเขียนให้จบ เอาให้ทันเดดไลน์ หมดไฟกลางทางก็เยอะนะ มีนอ.หลายคนอ่านตัวอย่างและตัดสินใจซื้อเพราะตัวอย่าง ที่เขาวิจารณ์ก็เพราะอ่านมาทั้งเล่มแล้วจับจุดได้ว่ามันมีปัญหาตรงส่วนไหน
นข.บางคนเข้าใจไปว่านอ.ไม่ถูกใจเพราะไม่ได้อ่านตัวอย่าง ก็เลยติดคำเตือนไว้ ซึ่งไม่จริงเสมอไป เพราะอ่านทั้งเล่มนี่แหละถึงรู้ว่าการดำเนินเรื่องหลังจากนั้นมันมีอะไรเปลี่ยนไปมาก
แล้วไอ้เรื่องอวย ถ้าป้ามันเชื่ออวย ที่คนอ่านชอบจริงอวยจริง อันนี้ป้าแกทำตัวเอง แต่อีกกรณี พวกรับจ้างอวยอะจร้า มึงว่าป้าจะรู้กันบ้างมั้ยว่ามีแบบนี้ด้วย
กุสังเกตหลายรอบละ โม่งมันชอบด่าคนในเอ็กซ์แล้วมาอวยป้าๆในเฟซว่ะ ใครจุดประเด็นด่าป้า มันจะมาทันทีเจ้าที่แรงมาก ที่ว่าป้าๆไม่เล่นโม่งนี่ไม่จริงม้าง
แล้วไอ้สันดานบอกคนอื่นเป็นพวกนู้นพวกนี้ เวลามาอวยก็หาว่าม้า เป็นมาตั้งแต่โม่งก่อตั้ง ก็ไม่เลิกสันดานนี้สักที ขำ55555555555555
>>130 รุ่นป้าส่วนใหญ่ไม่เล่นโม่งจริง ไม่ว่าง ต้องไปกินเลี้ยงโต๊ะแชร์ ไปสังสรรค์ ไปเที่ยวกับเพื่อนฝูง ไหนจะต้องตามดูละคงละครกับอ่านนิยายไว้เม้ามอยอีก บางคนลำบากหน่อยต้องวุ่นวายกับลูกหลานจะไปสอบเข้าที่นั่นที่นี่ คนเล่นโม่งรุ่นเด็กกว่าป้าทั้งนั้นแหละ แต่มีหน้าที่การงานไง ไม่อยากเสี่ยงโดนแหกบนบก ส่วนพวกโม่งรุ่นเล็กๆเด็กม.ต้นกินขนมแจ๊บๆแล้วจิ้มมือถือไปด้วย คือพวกที่มาคอยจัดจ์ว่าโม่งไหนเป็นพวกไหน มึงต้องเป็นอีฉอด ส่วนมึงก็อีป้า แล้วมึงโม่งนั้นก็เป็นอีแก่ ฯลฯ
ช่างสังเกต แล้วมึงเคยสังเกตมั้ย ว่าโม่งมันจะมี วัฏจักร เมื่อก่อนถมถุยป้าๆ พวกนี้ พอชาวเอ็กซ์เริ่มด่าป้า โม่งก็ลุกขึ้นมาเข้าข้างป้า โลตัสสมัยดังแรกๆ โม่งถมถุยในมู้สับมู้ตู้นิยายบ่อยๆ ว่านิยายพล็อตไม่เห็นแปลกใหม่ คนอวยว่าแปลกกันทำไม พอชาวเอ็กซ์เริ่มระรานชี โม่งก็อวยและเข้าข้างชี
ขอขัดบรรยากาศมู้หน่อยนะ กูไม่ใช่นักเขียนโด่งดังอะไรหรอก กูแค่แต่งฟิคเฉยๆ แต่ตอนล่าสุดที่ลงคือผลตอบรับแย่ไม่มีคนอ่าน กูเลยเฟลมาก ไม่ได้ไปเขียนต่อมาหลายเดือนแล้ว แต่กูก็อยากไปเขียนต่อ เลยอยากถามว่าพวกมึงมีวิธีดันตัวเองให้เขียนต่อยังไงอ่ะ
>>135 ไม่รู้คำตอบของกูจะช่วยได้ไหม กูเขียนทั้งนิยายและแฟนฟิค แต่ทุกครั้งจุดประสงค์ที่กูเขียนฟิคคือกูติ่งเมะเรื่องนั้นๆ จนจิ้น จนอยากสร้างเรื่องราวในแบบฉบับของตัวเองขึ้นมา ก็แค่เขียนไป เข้าใจมึงนะที่พอไม่มีคนอ่านมันก็ท้อ มึงไม่ได้ผิดอะไรเลย เราก็อยากให้มีคนมาร่วมหวีด อยากเจอคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน แล้วแฟนฟิคเนี่ยเป็นอะไรที่ใช้ใจ ใช้อารมณ์ล้วนๆ ถ้าไม่ไหวมึงก็ต้องพัก แต่ถ้ามึงอยากเขียนต่อจริงๆ มึงก็ไปมองคนที่เขาผลตอบรับไม่ดีเหมือนกัน หรือคนที่แย่กว่า อาจจะช่วยพอให้มึงมีกำลังใจสู้ต่อไปบ้างว่าเอออย่างน้อยมึงก็ไม่ได้โดดเดี่ยว แล้วก็ลองย้อนคิดถึงฟีลตอนมึงเปิดเรื่องๆ นี้ขึ้นมา ตอนมึงลุกขึ้นมาแต่ง อาจพอทำให้กลับมามีแรงนะมึง
>>135 ใช้แค่ความอยากเห็นผลงานเสร็จสำเร็จสมบูรณ์นั่นแหละดึงไป
ท้อบ้างเฟลบ้าง ก็ใช้เวลากับเรื่องอื่นๆในชีวิตช่วยดึงไม่ให้หมกมุ่น สักพักความเฟลก็จาง ความอยากเขียนก็กลับมา
กลับไปถามตัวเองว่าตอนแรกมึงเขียนเพราะอยากเห็นงานสำเร็จเป็นตัวเป็นตน หรือหวังจะได้เสียงอวย
ถ้าตอบอันแรก มึงก็จะพอบอกตัวเองได้ว่า แต่แรกกุก็ไม่ได้หวังเสียงอวยนี่หว่า ไม่ได้หวังแล้วเฟลทำไมวะ หลงทางลืมจุดหมายแรกเริ่มไปรึเปล่า
มันก็มีหลายมุมมองนะ ที่จะดึงตัวเองขึ้นมา ก็ขึ้นอยู่กะนิสัยมึง เป้าหมายของมึงแล้วล่ะ ว่าให้ค่ากับอะไรมากกว่ากัน
กูไม่ใช่ 135 แต่อยากมาขอแบบ136 137 อีก กูจะแคปไว้เป็นยาใจ อ่านยามท้อ ไหว้ย่อจ้า
Ky เวลามีพลอตตั้งต้นแต่ปิดไม่ลงยังคิดไม่ลงตัว ทำยังไงได้บ้าง กูอยากหาคนปรึกษาเพราะมันอยู่แค่ในหัวแล้วมันวนไปวนมากับเรื่องเดิมๆ แต่ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร
>>135 กูเอาแรงใจจากการที่ไม่มีคนเขียนเรื่องแบบที่กูอยากอ่านอะ แต่เห็นด้วยกะ>>137 นะ ต้องลองถามตัวเองก่อนแหละว่าทำไมถึงเริ่มเขียนขึ้นมา หรือไม่ก็ลองใช้วิธีอย่างลงหลายๆเว็บไรงี้ อย่างกูคือฟีลอยากเผยแผ่ศาสนาอะ555 เผื่อมีคนหลงมาอ่านละเกิดอยากเขียนฟิคแนวเดียวกันบ้าง กูจะได้มีฟิคให้อ่านเพิ่ม เพราะของกูมันด้อมเล็กหาฟิคถูกใจยากชิบหาย จะให้ไปขุดฟิคจีนหรือญปกูเกิลบางทีแปลได้โคตรห่วยอีก ลงท้ายเลยเขียนเองแม่ง
>>135 กูไม่สนเรื่องนั้นเลยว่ะเวลาเขียนฟิคคู่ชิป ฟีลตอนนั้นแค่อยากเขียนเพื่อเห็นคู่ชิปกูทำแบบนี้ ลงเอยกันแบบนี้แค่นั้นเอง อฟช.มันไม่มีวันประทานฉากนี้มาให้แน่ๆกูก็มีแต่จะต้องปรุงเองจากวัตถุดิบเท่านั้น กูเขียนให้ตัวเองอ่านเองฟินเอง จะมีคนมาอ่านมั้ยคือผลพลอยได้เฉยๆ ถ้ามีก็ดีจะได้มีคนร่วมหวีด แต่ไม่มีก็ไม่เป็นไร
แต่ปกติแล้วถ้าไม่ใช่คู่แรร์ คู่เรือผีไม้จิ้มฟันแบบที่มั่นใจว่ามึงชิปอยู่คนเดียวบนโลก(เช่นคู่ซาสึเกะxโพคาฮอนทัส) หรือด้อมเล็กขนาดนั้นบางทีมันก็มีคนหลงมาหวีดด้วยเป็นระยะๆนะมึง ถ้าแบบไม่มีคนอ่านเลยมึงลองไปเกาะตามคอมมูของด้อมเพื่อหาเพื่อนดูก่อนมะ ถ้าเจอคนที่ชิปตรงกันเดี๋ยวคนเม้ามอยก็ตามมาเอง ไปหวีดหรือคอมเมนต์รูปภาพแฟนอาร์ตอะไรก็ได้แต่อย่าให้น่ารำคาญไป คอมเมนต์ฟิคคนอื่นแบบดีๆตั้งใจๆ ชวนเขาคุยสนุกๆหวีดโมเมนต์เดี๋ยวเขาก็มาอ่านฟิคมึงเอง ยิ่งชิปคู่เดียวกันยิ่งจูนกันติดง่ายมาก กูทำแบบนี้ทุกด้อมเลยคนอ่านก็มีประมาณนึงนะ
>>147 มีคนชิปจริงๆกูไม่ได้พูดเล่น ลองหาคลิปในยูทูปดู ตัดต่อเป็นเรื่องเป็นราวมาก 5555555
เอาเป็นว่าถ้าชิปมึงไม่ได้แรร์ระดับนี้ เดี๋ยวก็มีคนหลงมาเองเชื่อกู ลองเวิ่นๆคู่ชิปลงทวิตดู บางทีก็มีคนหาอะไรอ่านจากชื่อตัวละคร เช่นมึงชิปคู่ทันจิโร่×อิโนะสุเกะ มึงก็หวีดโมเมนต์เข้าไป ทันจิโร่เทคแคร์อิโนะดีจังเลย บลาๆๆๆๆ ถ้าคนชิปเดียวกับมึงเขาจะเข้ามาหวีดกับมึงเอง
เพื่อนโม่งในนี้มีใครแต่งนิยายพอร์น เน้นเยไม่เน้นเนื้อเรื่องกันไหม คือกูมีความคิดอยู่ ไปคุ้ยดูพวกหมวดซีเคร็ตแล้วก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ สรุปว่าหมวดพวกนี้ในเนื้อหาสามารถใช้คำตรง หลีๆกวยๆ เย้x เด้x อะไรงี้เลยได้ไหม? หรือว่าต้องเซ็นเซอร์คำ? ขอบคุณทุกคนที่ตอบล่วงหน้า
>>150 หมวดผู้ใหญ่ก็ ใช้ตรงๆไม่ได้นะ 🚫ฮี ฆว ย yes คือห้ามเลย🚫ถ้าเจอคือหลงหูหลงตาเอไอ ถ้ามึงหมั่นไส้ถ่ายรูปไปแจ้งเมดให้ระงับการขายชั่วคราวได้
นข.ที่ขาย"ดี"ในหมวดรักผู้ใหญ่เรตติ้งสามร้อยกว่า (เรื่องที่หน้าปกเป็นหนุ่มวิดวะใส่เสื้อช็อปน่ะ)เลี่ยง เป็น เสียวหั วค... ,เย็... แบบนี้ได้ บางคนก็ k, เย ,กร ะเ ด้ า ,ปี้ ,น้ำหอยแตก ,ดุ้น ,ท่อนลำ คำที่เพลย์เซฟสุดแต่ยังพอได้ฟีลลิ่งหยาบๆคือ เอา ,อึ๊ บ
>>152 จริงๆจะ เมพ หรือจะเวบดิบก็ห้ามคำตรงๆทั้งหมดนะมึง มันสุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องเรียนคดีเผยแพร่สื่อลามก ที่มึงเห็นกันเยอะๆนั่นอาศัยหลงหูหลงตากับจงใจปล่อยเบลอ ถ้าลงก็เตรียมใจหน่อย ถูกคนรีพอร์ทได้ทุกเมื่อ และถูกเวบล้างบางได้เป็นระยะ ขึ้นกับกระแสสังคมล้วนๆ
แต่ถ้าคิดว่าอายุนิยายแนวนี้ไม่ค่อยยาว ก็รีบโกยรีบจาก ก็ไม่เป็นไร กระแสล้างบางเพิ่งมีไปปีสองปีก่อน กว่าจะจุดติดอีกนาน แต่เข้าใจไว้หน่อยว่าที่ทำได้ ไม่ใช่ว่าถูกต้องเพราะเห็นคนทำกันเยอะก็พอ
ky สักนิด จะลงนิยายเรื่องแรกชายหญิง แต่ไม่มีปกวาดเลย ถ้าใช้ปกกราฟฟิกจะมีคนสนใจไหม หรือควรกัดฟันจ้างนักวาดเลยจะดีกว่า
มีใครใช้ machanical keybord เขียนนิยายมั้ย อยากได้รีวิว ควรตำรึเปล่าไอเท็มนี้
>>158 ขึ้นอยู่กับคน และขึ้นอยู่กับมึงว่าอยากได้เพราะอะไร เพราะมันดูทำให้เขียนนิยายไว? เพราะมันตั้งโต๊ะถ่ายลงเพจแล้วสวย?
แต่เข้าใจว่าช่วงนี้ไถต๊อกๆไม่ก็ส่องเฟสนักเขียนแล้วเจอคีย์บอร์ดพวกนี้เป็นไอเท็มยอดฮิตบนโต๊ะใช่ม้า555 มันไม่ใช่ไอเท็มที่เหมาะกับทุกคน อย่างกูเมื่อก่อนก็บ้ามาก แต่เพิ่งมาค้นพบว่าตัวเองเขียนไวกว่าตอนใช้คีย์บอร์ด apple แบบแบนๆ ไร้เสียง อันเล็กๆ จบเลย ไม่ตื่นเต้นกับไฟหลากสีและเสียงแต๊กๆ แล้ว แนะนำให้ลองใช้ก่อนนะ ถ้ามีเพื่อนเล่นคีย์บอร์ดแนวนี้ ลองยืมมาใช้สักวันสองวัน ไม่ก็ไปห้างไปดูตามบูธที่เขาขายคีย์บอร์ด ไปลองเล่นดู
ตัวคีย์บอร์ดอะไม่เท่าไหร่ สวิตช์ต่างหากที่สำคัญ red blue brown มีแยกย่อยเพิ่มอีก มึงชอบเสียงดังมั้ย เพราะพวกนี้ถึงคนจะรีวิวว่า brown เบา red เบา แต่พวกนี้ยังไงก็ดังเกินมาตรฐานคีย์บอร์ดปกติอยู่ดี บางตัวต้องออกแรงกดมากหน่อย บางคนไม่ชอบนะ เวลาเขียนนิยายมันเสียสมาธิ ยิ่งเขียนกลางบ้านพ่อแม่ด่าอ่ะ แต่บางคนชอบ อยู่ห้องส่วนตัว เพราะเสียงกดมันทำให้ทำงานไว มีความสุขกับการเขียน อะไรก็ว่าไป ขึ้นอยู่กับคนว่ะ ถ้างบเหลือก็ลองซื้อมาสักอันก็ได้ ไม่ถูกใจค่อยขายต่อเอา
Kyกุเป็นนักอ่าน อ่านเรื่องนึงแล้วไม่ชอบ ขัดใจ รู้สึกอิหยังวะสุดๆกับเหตุผลและการกระทำของนางเอก (แต่รีวิวส่วนใหญ่ไม่มีใครพูดถึงประเด็นนี้เลย) กุควรบอกนักเขียนตรงๆดีไหมว่าไม่ชอบเพราะอะไร หรือช่างแม่ง
>>159 ขอบใจมาก เดี๋ยวต้องไปลองกด ๆ ของจริงดู ที่สนใจเพราะเห็นว่าเขาพิมพ์มันส์มือน่ะ เผื่อจะจิ้มเพลินกว่าเดิม 5555 แต่นักเขียนในไลฟ์ก็มีเป็นไอเท็มยอดฮิตจริงแหละ 5555 บางทีก็ทึ่งพวกนี้อยู่ ตัวกูถ้าตั้งกล้องส่องตัวเองงั้นคนดูคงได้เห็นกุนั่งนิ่งแต่งไรไม่ออกแน่ 55555
KY ปกตินิยายความยาวเรื่องประมาณ 100K มึงจ้างบก.อิสระเรื่องละกี่บาทกัน แล้วเขาใช้เวลาทำจนเสร็จนานมั้ยวะ กูกำลังจะหาจ้าง แต่กลัวโดนโขกราคาว่ะ
พวกขายนิยายเป็นแสนเป็นล้านนี่ต้องทำยังไงกันวะนั่น
นิยายกูคนอ่านเฉลี่ยวันละ 20-30 คน เรื่องหารายได้นี่คงไม่ต้องหวัง
>>168 มีเรื่องในสต๊อกเยอะประมาณหนึ่ง +เวลาที่ใช้ในการสร้างฐานแฟน สร้างสมความสามารถ และสะสมยอดขาย
กุไม่รู้มึงจะเข้าใจผิดเหมือนกุเคยเข้าใจผิดไหมมั้ย แต่ยอดสิบล้านที่อวดๆกันอ่ะ มันไม่ใช่ยอดเดือนเดียวนะมึง
แต่เดือนละแสนนี่ใช่ ถ้ามันปังเวลาลงเรื่องใหม่ก็ไปได้ถึงอยู่ แต่เวลาไม่มีงานใหม่มาออกยอดมันก็จะลดแหละ ไม่ใช่ว่าถาวรทุกเดือน
>>170 เอาเท่าที่รู้นะ แรกเข้าเป็นเด็กกองก็เงินเดือนทั่วไป 15k แล้ว ถ้าขึ้นเป็น บก.ก็อัปขึ้น แต่กูไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ แต่ไม่ต่ำกว่า 20k หรอก จำนวนงานทำตามแผนสนพ.กำหนด ช่วงงานหนังสืองานจะล้นมือ ทำกันไม่ได้หลับได้นอน สำหรับบก.มิจจี้กูมองว่าโอเวอร์เรตไป เขาไม่เคยเป็นเด็กกองด้วยซ้ำ อาศัยชื่อเสียงจากการรีวิว สนิทนักเขียน และความเอ็นดูของนักเขียนดังดันตัวเองขึ้นมาเป็นบก.เลย ลัดขั้นตอนไปมาก ผลเลยเป็นอย่างที่เห็น ตำแหน่งบก.จริงๆ แม่งศักดิ์สิทธิ์มากนะ สมัยก่อนต้องเป็นเด็กกองเก็บประสบการณ์ตั้งหลายปีกว่าจะขยับขึ้นมาเป็น บก. คนเป็นบก. มันต้องปั้นนักเขียนจนดังได้อะ แต่ทุกวันนี้เหมือนใครก็ตั้งตัวเป็นบก.ได้ บก.ไม่ได้ปั้นนักเขียนแต่นักเขียนปั้นบก.
>>171 มีโซเซียล มีคนอวย ก็เป็นได้ทุกอย่างอ่ะ ตอนนี้ คนจ้างก็ซวยไป
ม.ต้นอ่านนิยายมาเยอะเลยมารับพิสูจน์อักษร
นักวาดหัดได้3 วันรูปเหมือนเด็กหัดจับดินสอ ออกมารับงานขายงาน 50-100
นักเขียนที่ไม่เคยอ่านหนังสือเลยสะกดคำผิดๆถูกๆออกนิยายขายอีบุค
ภาพเดียวกันหมด
ไม้ใช่ว่าอายุน้อยทำไม่ได้ พอยน์คือ คนที่ความรู้ความสามารถ ความเข้าใจยังไม่ถึง แต่เข้าใจผิเคิดว่าตัวเองทำได้ ออกสู่ตลาดกันเป็นแถว อันทึ่ส่องงงานแล้วบอกได้ก็ดีไป ไอ้ที่มองไม่ค่อยออกนี่คนจ้างก็ลำบากไป
ถ้าหมายถึง บก.มิจจี้กูว่างานเขาโอเคนะมึง กูดูจากงานที่ผ่านเขาคือเรื่องที่กูชอบแทบทั้งนั้นเลยว่ะ อาจจะเสริมด้วยนข.ที่มีฝีมืออยู่แล้วเขาได้นับความสนับสนุนเอ็นดูเป็นพิเศษจริง ซึ่งกูไม่เถียง โดยรวมเขาเรียนจบด้านนี้มาด้วยกูว่างานเขาโอเค …แต่…นิสัยส่วนตัวและการจัดการด้านการเงินมีปัญหา และเป็นปัญหาใหญ่สุด บ้งสุดที่กลบทุกความเก่งด้านอื่นไปเลย
พูดถึงบก. กูอยากรู้ว่าบก.ที่นข. แพรflower แล้วส่งงานช้านี่ใครวะ กูกลัวจะเป็นคนเดียวกับที่กูจองคิวไว้จัง ได้ข่าวว่าคนนี้ทำงานช้าอยู่ด้วย
>>173 โดยส่วนตัวกูไม่ได้ชอบงานที่เขาเป็นบก.เลย แต่รู้สึกว่าคนนี้เขาวาทะศิลป์ดี เวลานข.ออกเล่มแล้วก็มาอวย มาบอกเล่าความรู้สึก แล้วเรียบเรียงคำพูดดีมาก นข.ส่วนใหญ่ก็แทบให้ใจบก.กันอยู่ละ หน้าบ้านยังขนาดนี้ หลังบ้านก็คงที่พักใจพอสมควร คิดว่าคงเป็นคนนิสัยดีด้วยมะ? ช่วงโดนบิดเงินหรือตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้แพร่สะพัดข่าวฉาว ยังให้เหลือฐานแฟนๆกับคนที่เชื่อมั่นในบก.คนนี้อยู่ เพราะยังคิดว่าคนดีคนนี้จะปรับปรุงตัวได้ พร้อมให้อภัยเสมอ
Ky ถ้าไปเจอเรื่องนึงคล้ายกับที่เขียนอยู่ [พอ.กับนอ.ทำงานที่เดียวกัน บังเอิญเมาแล้วได้กัน แล้วเลยตามเลยแอบคบกัน แล้วพัฒนาเป็นความรัก] เป็นมึงจะไปต่อหรือพอแค่นี้ดี TT
Ok 179 180 ขอบคุณมากกก
กู >>135 เองนะ ขอบคุณ >>136 >>137 >>142 และเพื่อนๆโม่งทุกคนนะ ขอโทษที่มากราบตักช้าเพราะกูไปไล่เขียนฟิคตามที่พวกมึงบอกอยู่ พอกลับมาเขียนแล้ว กูก็รู้สึกมีความสุขจริงๆนะที่ได้ใช้จินตนาการ(ถึงคู่ชิป)แบบนี้ ไอ้เรื่องฟีดแบคที่เคยบ่นๆดูไม่สำคัญไปเลยฟินว่ะ
แต่กูมีปัญหาอย่างหนึ่งคือ เวลากูมีไอเดียปุ๊ป กูก็รีบร่ายไอเดียลงในโน้ตคร่าวๆไว้ประมาณ 40% แต่ส่วนอื่นๆหรือครึ่งหลังคือกูไปต่อไม่เป็นอ่ะ ไม่รู้จะหาทางลงไปต่อยังไงดี🥺
>>183 ถ้าเป็นบก.มือดีนี่จ้างสักทีน่าจะดีกว่าลงคอร์สนข แต่สำหรับกูคือ มองรายได้จากเรื่องที่เคยขายแล้ว.... ถ้าจะเปย์คือยอมเข้าเนื้อเอาความรู้จริงๆล่ะ
>>185 เรื่องปกติ ทำไรไม่ได้ ได้แต่นึกไปเรื่อยๆ ว่าจะเติมจะลากยังไงให้มันไปถึงปลายทางแบบสมูทๆ ไม่อิหยังวะจนเกินไป ปิ๊งไอเดียเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ถ้าจำเป็นต้องใช้สารตั้งต้นก็นึกถึงนิสัยคาร์ไว้ก็ได้ คาร์แบบนี้ใช้ชีวิตยังไง ชอบไปไหน ไปแล้วจะเกิดอะไร จะมาชนกันประมาณไหน ก็พอให้มีไอเดียอยู่
คือไอ้ฉากสปาร์คๆ ที่เป็นแรงบันดาลใจ นึกแล้วฟินจนทำให้อยากเขียนอ่ะ แม่งยอดน้ำแข็งทั้งนั้นเสี้ยวเดียวของนิยายตัวเต็มเหอะ ยังต้องใช้ความพยายามอีกเยอะ ใครบอกนิยายก็แค่เขียนๆ ต้องลองลงมือเองสักเรื่องแล้วจะเข้าใจ
เห็น >>185 แล้ว จึงมาขอจังหวะ KY มาระบายบ้าง เพราะกูรู้สึกว่าพาตัวเองไปไม่ถึงฝั่งซักทีว่ะ
โน๊ตหน่อยคือกูอะหัดเขียนนิยายมาตั้งแต่ตอนยังเยาว์วัย (ราวๆ ประถมปลาย แล้วเขียนจริงจังตอน ม.ต้น) โดยได้แรงบันดาลใจจากช่วงนิยายแปลบูมๆ ก่อนจะตามมาด้วยยุครุ่งเรืองของนิยายไทย ซึ่งเมื่อก่อนกูก็ตั้งเป้าว่าอยากจะเป็นนักเขียนหาเลี้ยงตัวเองด้วยการเขียนนั่นล่ะ
แต่แล้วจนถึงทุกวันนี้กูก็ไม่เคยไปถึงจุดนั้นเลยซักครั้ง แม้ว่ากูจะมีความสามารถในการเขียน เขียนได้เร็ว ปิ๊งไอเดียได้เร็ว วางปูมเรื่องได้ ฯลฯ แต่ทุกครั้งที่กูเผยแพร่ก็ไม่เคยได้รับการตอบรับดีๆ เลยซักครั้ง ถึงช่วงเรียนมหาลัยฯ จะเคยได้รับโอกาสตีพิมพ์กับสนพ. ก็เถอะ แต่ก็ดันเป็นยุคขาลงทำให้ได้ออกแค่เล่มเดียว แถมยอดขายไม่ดีจึงโดนกลืนหายไปกับกาลเวลาเลย ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาที่กูเขียนมาตลอดนี่ก็น่าจะ 20 ปีได้ละกูยังไม่อาจไปถึงจุดที่ฝันได้เลย
มาทุกวันนี้ก็ปลงเรื่องหารายได้จากการเขียน กลับสู่โลกความจริงทำงานประจำมีเงินเดือนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นกูก็ทิ้งสิ่งที่เคยฝันไม่ลงแล้วหาเวลามาเขียนตลอด ทว่าพอดูกระแสตอบรับในทุกวันนี้ที่ต่ำกว่าที่เคยๆ ประสบมาจากประวัติการเขียนกูแล้ว กูก็เริ่มกลับมาตั้งคำถามตัวเองแล้วล่ะว่าทำไมกูยังต้องมาเขียนอยู่ ทำไมต้องมาเสียเวลาชีวิตวันละ 2-4 ชั่วโมงหลังเลิกงานมาทำงานเพิ่มโดยไม่ได้อะไรกลับมา ทั้งที่เลือกเอาเวลาไปนอนตีพุงหย่อนใจก็ทำได้
เคยมีโม่งทักว่ากูสับสนในตัวเอง เพราะเคยบอกว่ากูไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่อยากขายนิยาย ซึ่งตรงนี้ต้องอธิบายหน่อยคือกูไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินจริงๆ งานประจำกูรายได้พอตัว ไม่สูงแต่ก็ไม่ลำบาก แต่ที่กูตั้งเป้าเอาไว้ก็คือ อยากจะขายนิยายให้ได้เป็นเงินจำนวนที่ใกล้เคียงหรือมากกว่าเงินเดือนของงานประจำ เพื่อให้เหมือนชีวิตได้ปลดล็อค Achievement พิสูจน์ว่าตัวเองก็สามารถเป็นนักเขียนคนนึงที่หาเลี้ยงตัวเองโดยการเขียนนิยายได้นั่นล่ะ
ทุกวันนี้เขียนไปก็บ่นไป แต่ที่ยังเขียนอยู่ก็เพราะยังไม่อยากทิ้งเรื่องที่เริ่มเอาไว้แม้ว่ายอดวิวจะไม่ดีก็เถอะ แต่อีกใจแม่งก็คิดหลายครั้งแล้วนะว่าควรเลิกเขียนแล้วเอาเวลาไปทำอย่างอื่นซะที ถึงจะมีตัวอย่างหลายๆ คนที่กว่างานเขียนจะดังก็ตอนคนเขียนตายก็เถอะ แต่กูก็ไม่อยากจะไปถึงจุดนั้นเลยว่ะ orz
>>187 จะว่ายังไงดีล่ะ ถ้ามึงเอาผลตอบรับเป็นถ้วย มึงก็ต้องปรับวิธีตามผู้ตัดสินอ่ะ ซึ่งในที่นี้ก็คือตลาด
เทคนิคการเขียนมึง ลีลาการเขียนมึง จากประสบการณ์ กูคิดว่าพื้นฐานคงไม่มีปัญหาแล้วมั้ง ถ้ามึงหวังถ้วย ซึ่งกุก็ไม่รู้ว่าบาร์มึงคือเท่าไหร่ ก็กลับมาดูแนวที่มึงเขียน วิธีการนำเสนอ ไปวิเคราะห์ตลาดออกมาก่อน ถ้าบาร์มึงหลักล้าน จะไปไฟท์ตลาดสยองขวัญกุว่สก็อ่อมแน่ล่ะ ดังนั้นกลับมาที่ตลาดนิยายรักจะง่ายกว่า
ถ้าตั้งทาร์เกตแล้ว ปั่นงานแล้ว ทีนี้ก็อย่างโม่งบนว่า การตลาด อินฟลู เกาะแก๊ง บลาๆ เอาให้คนมามองงานมึง สร้างอุปทานมาสนใจงานมึงได้ ทุกอย่างช่วยมึงไปถึงฝันได้หมดนะ
แต่ถึงทำทั้งหมดแล้วสุดท้ายบางทียอดก็อาจไม่ส่งมึงก็เป็นได้ เพราะความสามารถ วิชามาร ไม่ใช่เรื่องที่จะการันตีความสำเร็จได้ 100% ถ้าทั้งหมดนี้พามึงไปไม่ถึงถ้วยที่มึงต้องการ กูขอแนะนำที่สุดท้าย ธรรมะทำใจ
บางทีการไม่หวังมากแม่งมีความสุขมากกว่าดิ้นรนโดยไม่รู้ว่าจะดิ้นไปทำไมอีก
ถึงจะได้ถ้วยมาจริงๆ มึงอาจพบว่าเวลาความสุขแม่งสั้นจังวะ แค่ไม่กี่เดือนก็อยากได้ถ้วยให้งานใหม่อีกแล้ว ก็เป็นได้
แง ขอเข้ามาบ่น กุเป็นคนไอเดียเยอะแต่เขียนช้ามาก เขียนลบๆ เขียนได้เรื่องเดียวแล้วหมดพลังไปสองสามปี ระหว่างนี้มีแต่เขียนแดร๊บเบิล ไม่ก็อะไรโน้ตที่น่าสนใจเก็บไว้ แต่ไม่ได้เขียนอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อ้อ มีวันช็อตไม่ถึงหมื่นคำสองสามเรื่อง ทีนี้พอจะกลับมาเขียนก็เลยเอาทีละขั้นอยากจะเริ่มจากเรื่องสั้นก่อน วอร์มมือ แต่พอขีดๆ พล็อตแล้วก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องยาวได้เลยนี่หว่าก็เลยพับเก็บไว้แล้วไปคิดเรื่องใหม่ พอจะเขียนๆ มันก็ดูทรงยาวอีก เป็นอย่างงี้สี่ห้าเรื่อง จนผ่านมาสามเดือนละกุยังไม่ได้มีเรื่องที่เริ่มจริงจังซะที อยากละทิ้งทุกอย่างแล้วไปนั่งเขียนกระท่อมปลายนาไม่มีอะไรมาทำให้จิตใจวอกแวกจังโว้ยย
>>190 ตั้งเป้าหมายเอาสักเรื่องก่อน สั้นยาวช่างแม่ง ขอหมื่นคำ++ พอ เอาไอเดียที่มึงชอบที่สุด อินที่สุดในตอนนี้ แล้วตั้งเป้าว่าจะเข็นมันออกมาให้ได้ ไอ้เรื่องที่มีแนวโน้มจะยาวบางทีเราหลอกตัวเองนะเว้ย เขียนไปก่อนเลยถ้ากำลังชอบและอินพล็อตนั้น บางทีมันอาจสั้นกว่าที่คิด ไม่ยาว แต่ถ้าเรื่องไหนเสียดายว่ะ เขียนสั้นทำไม ยาวได้ มึงค่อยเอามาเขียนยาวทีหลัง ตอนนี้ใจมันว่อกแว่กเพราะยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน โฟกัสกับฮึดสู้ออกให้ได้สักเล่มก่อน แล้วใจมันจะเบาขึ้น ทำงานต่อไปง่ายขึ้น
Kyมึง ถ้ากูตั้งราคาถูกๆ(49-99)ให้ขายได้ เพราะกูร้อนเงินจริงๆ สิ้นไร้ไม้ตอกขอให้ได้เงินมาให้รอดไปก่อน กูจะโดนอะไรไหม พวกมึงจะรุมรังเกียจนข.ที่ขายถูกไหมวะ กูจะทำตลาดล่มไหม หรือกูควรโฟกัสที่ตัวเองให้รอดก่อน😢
เอิ่มมม ถ้ากูเขียนมาถึงกลางเรื่องแล้วไม่อยากเขียนต่อละควรจะตัดจบยังไงดีวะ?
คือกูกำลังจะปิดเล่มที่เขียนอยู่ละ แต่ก็รู้สึกว่าเขียนต่อก็ไม่รุ่งแล้ว สู้ตัดจบไปแล้วเขียนเรื่องใหม่ดีกว่า แต่ไม่รู้จะตัดยังไงดีให้ไม่โดนด่า (ถึงไม่น่าจะมีคนด่าก็เถอะ)
Kyพระเอกโดนวางยาปลุกเซ็กซ์แล้วไปxxxนางเอกที่เมาหลับอยู่ พระเอกรู้สึกผิด ขอโทษตอนทำ แต่ห้ามตัวเองไม่ได้ จากนั้นก็รู้สึกผิดตลอด คอยตามช่วยนางเอก ทำทุกอย่างเผื่อไถ่โทษ จนรักกัน แบบนี้problematicไหมวะ
>>197 ฉวยโอกาสลักหลับเขา = ข่มขืน = problematic อยู่แล้วจร้า ถ้าจะแถให้โดนด่าน้อยลงคือต้องเป็นแฟนกันอยู่แล้ว ไม่ก็นางเอกมีใจให้แต่แรก ถ้าไม่รู้จักกันเลยนี่แม่งครีปปี้เหี้ย ๆ ควรเข้าคุกมากกว่ารักกันหวานแหววนะ 555 แต่ถ้ามึงเขียนบอกถูกบอกผิดชัด ๆ พระเอกได้รับกรรมสาสมแล้วก็แปลว่าไม่ได้โรแมนติไซ้ นักอ่านคงพอเข้าใจแหละ แต่ยังไงก็โดนข้อหาเขียนนิยายข่มขืนแล้วรักกันอยู่ดีอะนะ ทางที่ดีกุแนะนำให้มึงปรับให้ซอฟต์ลงหน่อย อย่าถึงขั้นสอดใส่เพราะมันคืออาชญากรรมติดคุกได้เลย แค่นัวเฉย ๆ แบบเกือบละแต่ดึงสติได้+รู้สึกผิดจะได้ใจกว่า กรณีไม่อยากตัดฉากออกจริงๆ ก็เขียนผลของการกระทำให้ดี ๆ อย่าใส่มาแบบฉาบฉวย ต้องเทคอิทซีเรียส ประเด็นข่มขืนไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ฟริน ๆ เด้อ
>>197 ก็ problematic แหละ แต่ต้องถามว่ามึงขายแนวไหน ถ้าขายแนวผู้ใหญ่เน้นขายเย็บแบบทาสสวาทซาตานเพลิงก็เชิญเลย เพราะแนวอื่นๆแบบ Omegaverse ที่พระเอกเกิดคลั่งฟีโรโมนแล้วข่มข๊มนายเอก พอมีสติก็ขอโทษขอโพยผิดไปแล้วคับแบบนี้ยังขายได้ ซึ่งกูก็มองว่า problematic ไม่ต่างกัน แต่มันขายแนวเย็บเจ็ดย่านน้ำกูเลยปล่อยผ่านได้
Ky ขอถามหน่อย กูเขียนแนวนางเอกทำสัญญากับพระเอกเป็นที่ปีศาจ หลอกคนอื่นว่าเป็นสามีภรรยากันซึ่งปลายทางกูกะจะให้พระเอกมารักนางเอกจริง แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่กูมีภาพจำจากเลิฟคราฟว่าเทพหรือปีศาจเป็นตัวตนที่แตกต่างกับมนุษย์อย่างสิ้นเชิงอ่ะ อารมณ์เหมือนคนกับแมวอ่ะ ตอนนี้กูเขียนถึงแค่พระเอกเห็นว่านางเอกน่ารักดี แต่ยังอยู่ในเส้นที่เออแมวที่เลี้ยงไว้ก็น่ารักดี กูจะเขียนยังไงให้ปีศาจอย่างพระเอกลดตัวลงมารักนางเอกดีง่ะ
>>202 นางเอกมึงมีอะไรโดดเด่นหน้าสนใจมีเสน่ห์เฉพาะตัวอะไรไหม,พระเอกปีศาจมึงมีปมขาดอะไรรึป่าวแล้วนางเอกมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายได้,นางเอกตัวอุ่น หอม สดใสแบบที่ไม่เคยพบเจอ ยิ่งใกล้ชิดยิ่งตื่นเต้นหัวใจปีศาจเต้นรัวไม่เป็นตัวเอง ,หรือเห็นอะไรในตัวนางเอกที่คล้ายตัวเองเปล่าเปลี่ยวโหยหาเกิดความเข้าใจเห็นอกเห็นใจ
>>202 ง่ายมาก มึงลองวางเลิฟคราฟต์แล้วลองเบนไปสายซีรี่ส์เกา ไม่ก็ลองอ่านเว็บตูนแนวนายปีศาจกับนางเอกก่อนนะ อ่านตูนตาหวานด่วน555 นางเอกสายอะไร ยิ้มง่าย สดใส ขี้วีน หรือสาวคูล เอาง่ายๆส่วนใหญ่แนวนี้ชอบให้ปีศาจมันมารักมาหลงรอยยิ้มสดใส ความใจดี มีเมตตา แต่ก็อยากครอบครองไว้คนเดียว เจอเธอไปทำดีกับคนอื่นบ้างชักเริ่มหึง อยากเก็บไว้คนเดียว เขาแต่งสวยก็เริ่มใจเต้น มึงอาจให้ปีศาจมีปม นางเอกกอดปลอบ พอจับมือก็เริ่มหวั่นไหว ยิ่งตอนหลอกคนอื่นว่าเป็นผัวเมีย แกล้งใส่ฉากคนสงสัยเลยต้องหอมแก้ม กอดจูบให้คนอื่นเขาเชื่อ แล้วทำเสร็จค่อยมาหวั่นไหว งงว่ากูใจเต้นกับแมวน้อยตัวนี้ได้ไงวะยังได้เลย ความหวั่นไหวก่อตัวในใจฉัน อีเว้นท์เยอะมากมึง สู้ๆจ้า
>>203 นางเอกกูหรอ ก็มีความเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีของตัวเอง จะไม่ร้องขอความช่วยเหลือจนถึงที่สุดจริงๆ พระเอกกูไม่เคยเห็นใจใครมาก่อนอยู่แล้ว พอเจอนางเอกที่ดูไม่เหมือนมนุษย์คนก่อนๆที่ทำสัญญาด้วย ก็ยิ่งยุให้นางเอกร้องขอให้ได้เหมือนตอนแรกที่เจอกันอ่ะ เรียกว่าเป็นส่วนเติมเต็มได้มั้ยวะ555
>>204 ต้องวางเลิฟคราฟลงจริงๆว่ะ55555 กูเอ๊ะๆแม่งทุกอย่างที่กูอ่านแนวตาหวาน แบบมึงบันดาลได้ทุกอย่าง เป็นตัวตนที่อยู่อีกโลกแต่เสือกโดขิๆกับมนุษย์คนนึงอ่ะนะ แต่ไม่ด้ายยยยยยยย5555 กูจะเขียนโรแมนซ์ กูต้องทำให้มันรักกันให้ได้5555 แต่ไอเดียมึงดีมากเลย ขอบใจหลายๆ กูซื้อตรงพระเอกไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกนี้คืออะไร แต่รู้แค่ว่าอยากครอบครองนางเอกไว้คนเดียว กูซื้อ!!//ปาเงินใส่
>>202 อันที่จริงมึงพยายามให้มารักกันได้มันก็ขัดกับเลิฟคราฟแล้วนะ ดังนั้นวางๆเลิฟคราฟลงก่อนเถอะ
ไอเดียอยู่ที่ว่ามึงให้ความสำคัญกับการกำหนดให้พระเอกเป็นปิศาจแบบไหน มากกว่าการกำหนดอีเว้นท์
ถ้าจะให้มารักกัน มีโดขิๆ อะไรพวกนี้ มันจะอยู่ในกลุ่มทั่วๆไปที่ปิศาจไม่ต่างจากมนุษย์ นอกจากเผ่าพันธุ์ที่เปลี่ยน มันก็อยู่ในบรรยากาศเดิมๆแบบนายเย็นชากับสาวแข็งไม่ยอมใคร กับคสพกึ่งsmอ่อนๆ ส่วนตัวกูมองว่ามันใช้ประโยชน์จากธีมได้ไม่เต็มที่อะ เป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ ตัวละครเดิมเปลี่ยนสกินเท่านั้นเอง
ถ้าเอาแบบนี้มึงก็ไปไล่ๆอ่านนิยายรักทั่วๆไปมาอ้างอิงได้เลย ก็อีเว้นท์เดิมๆนั่นแหละ
แต่ถ้าผลักให้สุดทางมันจะน่าสนใจกว่า เหมือนฟรีเรนในองก์นครทองคำ ที่ปิศาจทองคำทำสัญญากับขุนนางมนุษย์น่ะ อันนั้นคือเล่นกับธีมได้เข้าทีมาก คสพ.เหมือนจะพัฒนาไปข้างหน้า แต่แกนหลักที่ปิศาจไร้ความรู้สึกยังคงอยู่ คือมึงใส่ๆอีเว้นท์คสพ.ไปเถอะ แต่มันต้องมีการย้ำ มีการขยี้ให้เห็นชัดๆว่า ยังไงก็เป็นปิศาจ เป็นสิ่งที่แตกต่างกัน ทั้งๆที่ทางทฤษฎีและปฏิบัติหักล้างอย่างชัดเจนว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันจะชวนให้คนอ่านตั้งคำถามว่าปิศาจตัวนี้มีความรักจริงๆรึเปล่าแทน
ส่วนตัวกูชอบแบบนี้มากกว่า เหมือนนิยายรักที่ไม่มีคำว่ารักให้เห็นซักประโยค แต่กินใจแบบบอกไม่ถูก
พูดตรงๆแบบแรกมันจะออกฉาบฉวย อ่านง่าย เน้นฟินไปตอนๆ และเขียนง่ายกว่ามาก แบบหลังมันจะอ่านยาก เขียนลำบาก ฟินก็อาจไม่สุด แต่ขายความแตกต่าง
อยากรู้ว่าปกติเวลาพิมพ์เล่มนี่ใช้สนพ.ไหนกัน มีใครแปะรีวิวสนพ.ให้ได้มะ
ky เพื่อน กุกำลังอยากเขียนนิยายรักวัยทำงานที่ไม่มี nc คือไม่บรรยายฉากบนเตียง แต่ hint ว่าเขาได้กันแล้ว หรือพอ.แซ่บมาก ผ่านบทสนทนาที่นอ.พอ.คุยกันแทน เพื่อนโม่งพอจะมีตย.ใบ้ๆ ชื่อให้กุพอเห็นบ้างมั้ย พวกนิยายแนวนี้ที่ดังๆ หรือคนอ่านเยอะๆ น่ะ ขอบคุณล่วงหน้าเพื่อน
เออ แล้วเรื่อง คคร #จพ นั่นมี nc มั้ยมึง เห็นเขาไม่ได้ติด 18+ ไว้ กุไม่เคยอ่านแต่เห็นว่ายาวมากแล้วดังมาก
ประเด็นคือกุไม่ได้จะเอาไปศึกษาตัวเรื่องหรือวิธีการเขียนอะไรนะ แค่อยากได้เคสสตด.ทางการตลาด ว่าถ้ากุไม่เน้น nc เป็นไปได้มั้ยที่จะขายได้ แบบไม่แป้ก
>>215 มึงใบ้ยากมากเพื่อน 5555 อะกุช่วยแปล = ค่อยค่อยเลิฟ แต่เรื่องนี้วายอะ กุไม่รู้ข้อมูล ลองไปถามห้องวายนะ
ส่วนเรื่องนิยายรักไม่มี nc โจ่งแจ้งแต่แซ่บ นี่ก็นึกไม่ออกเหมือนกัน นึกออกแต่แซ่บไปเลย กับขาวสะอาดไปเลย 555 ใดๆ ถ้าอยากเขียนก็เขียนโลด เดี๋ยวก็มีคนอ่านเองแหละ
เล่าให้ฟังเพิ่ม บางเรื่องกุเคยอ่านตอนเด็กใส ๆ ไม่รู้เรื่องสิบแปดบวก ตอนนั้นไม่คิดไร เอามาอ่านอีกรอบตอนโตเพิ่งพบว่าพระนางมันทำอะไรกันแซ่บมาก แต่กุวัยเด็กไม่รู้เฉย ๆ ว่ามันสื่อถึงอะไร (นึกว่านอนกอดกันเฉย ๆ ทำนองนั้น) 555555
>>216 กุขอโทด 5555 ไม่รู้ว่าใบ้ได้ชัดแค่ไหนไง
เปล่าๆ กุเขียนชญนี่แหละ แต่กุแค่กำลังหาเรื่องชช ชญ ญญ ก็ได้หมด ที่เขาไม่มี nc แล้วแมสหรือยอดวิวยอดขายโอเคน่ะ คือกุมีพล็อตที่อยากเน้นตอนเขาทำความรู้จัก รักกัน มากกว่าเยน่ะ แต่ก็อยากให้ออกแนวเซ็กซี่ เรื่องเยคือหยอดๆ มาในบทสนทนาไรงี้ แต่ก็กลัวว่าในดง nc กุจะถูกกลืนหายไปเลย 55
ขอบใจมากเพื่อน ปกติกุสาย nc ฉ่ำนั่นแหละ แต่เบื่อ อยากเปลี่ยนบรรยากาศ แล้วปกติก็ส่องอยู่แต่มู้แฉแหลก เพิ่งรู้ว่ามีมู้นี้ มีอะไรจะแวบมาปรึกษาเพื่อนโม่งเรื่อยๆ
Ky กูไม่ชอบเขียนนิยายสั้นเท่าไรแต่กูเป็นคนเขียนเรื่องยาวมีชั้นเชิงเชิงลึก แจกบททุกคาร์ กว่าเรื่องยาวจะออก กว่าจะเขียนจบก็ครึ่งปีผ่านไปเพราะกูมัวแต่ไล่ปิดปม ทีนี้กูก็ไม่มีงานใหม่ออกเลยถ้าไม่เข็นสั้นออกมา แต่งานสั้นก็อัดดีเทลน้อย เขียนจบแล้วรู้สึกงานขาดๆ เกินๆ ไม่อิ่ม ไม่เข้ามือ มึงช่วยกูหน่อยว่าถ้าจะเข็นเรื่องสั้นสักเรื่องอีก เอาพล็อตประมาณไหนดีที่กูไม่ต้องกังวลเรื่องปมมากมาย เขียนแล้วไม่รู้สึกผิดว่าเขียนอ่อม หรือว่ากูจะเขียนเป็นตอนพิเศษนิยายแต่ละเรื่องแล้วปล่อยแจกฟรีดี กูเห็นนักเขียนบางคนทำอยู่แต่ไม่รู้ว่าโอเคมั้ย (บางเรื่องกูเพิ่มตอนพิเศษในเรื่องไปบ้างแล้ว)
ปก ปยพ เป็นเอกลักษณ์ดีว่ะ ถ่ายเอง ไทโปเอง จบๆ เน้นเนื้อหา
>>219 กูก็คล้ายๆ มึงอะ แต่กูแก้ปัญหาโดยการเขียน Side story แทนว่ะ
เนื้อหาหลักให้พวกตัวเอกดำเนินเรื่องไป ส่วน Side story ก็เป็นพวกเรื่องราวในมุมมองอื่นๆ อาจจะตัวละครอื่นดำเนินเรื่อง หรือจะสร้างขึ้นเป็นส่วนเสริมเนื้อหาก็ได้
กูยกตัวอย่างเลยเกม Arknights เนี่ย ที่ว่า Story rich แบบชิบหาย เนื้อหาหลักช่วงภาคแรกมีแค่การจราจลของผู้ติดเชื้อก่อม๊อบประท้วง โดยมีองค์กรใหญ่หนุนหลังก่อนจะรู้ว่าแม่งองค์กรนั้นโดนคนอื่นชักใยอีกทีพวกตัวเอกเลยต้องไปหยุดเท่านั้นเอง
แต่เพื่อขยายโลกให้กว้างแม่งจัด Side story มาเป็น event เพียบ จนตอนนี้ถ้าคนที่ตามเรื่องจะรู้เลยว่าโลกแม่งโคตรกว้างน่าค้นหาชิบหาย
ยกตัวอย่างเช่นตอนแรกเนื้อหาเป็นแค่ตามหาสมบัติของอัศวินที่ว่ากันว่าถูกฝังอยู่ในภูเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งถ้าปกติเรื่องก็น่าจะจบแค่นี้นะ แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าสมบัตินั้นกลายเป็นกุญแจซึ่งเป็นมรดกตกทอดของอดีตอัศวิน ที่ได้มาจากนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง ซึ่งมันก็ได้โยงเรื่องไปยัง Side story อื่นอีกทีอะไรทำนองนี้
Ky ตัวละครเป็นไทยเชื้อสายจีน แต่เรียกครอบครัวแบบไทย (พ่อแม่ลุงป้าปู่ย่า ฯลฯ) ไม่ได้เรียกป๊าม้าอาม่าอากง ถือว่าแปลกมั้ยวะ ชีวิตจริงมันเป็นไปได้มั้ย แล้วถ้าสมมติแรร์เคส (มั้ง) ฝั่งพ่อเป็นสายจีน ฝั่งแม่เป็นไทยแท้งี้ เราก็เรียกฝั่งพ่อแบบจีน ฝั่งแม่แบบไทย งี้เลยปะ คนเขาซีมากป่าว หรือเรียกอะไรก็เรียกไปเหอะ 555 กุไม่รู้ธรรมเนียมเขาน่ะ
Ky กุถามหน่อยเพื่อน เวลาพวกมึงเจอคอมเม้นติแบบด่านิยายเละเทะ กดเรตติ้งต่ำๆพวกมึงทำไงวะ ตอบกลับหรือทำเฉยแบบไหนดีสุด
>>224 รุ่นหลังๆบางทีก็แต่งกับคนไทย เรียกตามไทยไปหมดแล้ว เหลือแค่รุ่นปู่ย่าที่ยังเรียกตามแบบจีน ส่วนรุ่นก่อนที่คนหนึ่งเป็นไทยคนหนึ่งจีนอย่างที่ 225 ว่า ใครเชื้อไหนเรียกตามนั้น
และถ้าว่ากันตามจริง จีนแคระ จีนแต้จิ๋ว ก็เรียกไม่เหมือนกันนะ
ในขณะเดียวกัน บางครอบครัวไทยล้วน แต่ใช้คำเรียกป๊าม๊า ก็ยังมี หลานกูยังเรียกแม่ที่เป็นไทยแท้ว่าหมี่มี้ยันโต ติดมาตั้งแต่สมัยยังอ๊องแอ๊ง แล้วพี่สะใภ้กุเป็นแนวมุ้งมิ้ง เลยได้ออกมาอีหรอบนี้น่ะ
>>226 ในไหน ถ้าในเมดขึ้นว่า-มีแล้ว ยิ้มการค้า มองข้ามคำหยาบไป แล้วพิมพ์ตอบกลับว่า
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะคะ ต้องขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจอะไรก็ว่าไป(โยงจากที่ด่ามา) ถ้าคนอ่านมีอีโมชั่นเจือปนเช่นบอกว่าอ่านงานเรามาตลอดเรื่องนี้ผิดหวังมากบลาๆ ยิ่งต้องขอบคุณที่สนับสนุนผลงานเรามาตลอด จากนั้นชี้แจงในมุมเรา(อย่ายาวมาก จะโดนแซวว่า ปกติหายหัวพอโดนด่ามาตอบยาว5หน้าA4เชียว) และจบข้อความด้วย จะขอนำไปปรับปรุงแก้ไขในเรื่องหน้านะคะ
แต่ถ้าไม่ขึ้นว่ามีแล้ว ลบไปเลย อย่าเก็บไว้
>>224 ฝั่งจีนนี่อพยพมาตั้งแต่สมัยไหน เทือกเถาเหล่ากอเป็นใครอะ ถ้าอพยพมาตั้งแต่สมัยเจียงไคเช็ค แล้วพื้นเพเดิมเป็นชาวแต้จิ๋วตระกูลใหญ่ ส่วนใหญ่เรียกภาษาจีนนะ เพราะชาวแต้จิ๋วส่วนมากค่อนข้างเคร่งธรรมเนียม ยิ่งมาก่อนปฏิวัติวัฒนธรรมนะมึง รายละเอียดเพียบ ยังไม่ต้องพูดถึงไหว้เจ้า เอาแค่ลำดับเรียกกินข้าวก็มีมารยาทของมัน ไม่ใช่แค่เรียกป๊าม้าแล้วจบ เป็นคนจีนแล้ว ไม่ใช่เด้อ
แต่ถ้ามึงไม่รู้ธรรมเนียมอะไรเลยแล้วไม่อยากโป๊ะ เขียนให้รุ่นปู่มาแบบเสื่อผืนหมอนใบ ญาติมิตรไม่มี มาแต่งกับคนไทยเชื้อสายจีน (รุ่นปู่ย่า คนจีนจากจีนยังไม่นิยมแต่งกับคนไทยแท้ เพราะยังไม่ชินวัฒนธรรม) ค่อยๆกลืนไปกับสังคมตั้งแต่รุ่นพ่อ แล้วพ่อแต่งงานแยกบ้าน อยู่เป็นครอบครัวเล็ก อันนี้เป็นไปได้สูงมากว่ารุ่นลูกจะแทบไม่มีความจีนเหลือเลย
Ky ถ้ากูแต่งแนวพระเอกรักลูกเพื่อน /ห่างกันเกือบ20ปี มาเจออีกทีตอนโต พระเอกถึงรู้สึกรัก พอ.39จะ40 //นอ.20-21 และแอบรักพอ.มาตั้งแต่วัยรุ่น
กูมีTW age gap และตั้งใจจะไปอยู่หมวดนิยายรักผู้ใหญ่ /หรือโรมานซ์ 18+
//เพื่อนโม่งคิดว่ายังมีอะไรที่กูต้องทำเพิ่มไหมวะ ขอบคุณล่วงหน้า
กูตลกตัวเองแฮะ
ตอนนี้กูไม่ได้ลงใน รอร ละ เพราะยอดอ่านน้อยเกิน + ขี้เกียจดูแลหลายที่ ตอนนี้ลง ดด ที่เดียว
แต่เวลากูจะพิสูจน์อักษรหาคำผิด กูจะก็อบลง รอร ก่อนแล้วค่อยก็อบไปลง ดด อีกที เพราะระบบของ รอร แม่งดีกว่า ถถถถถถ
ky สอบถามเรื่องซื้อนิยายเป็นของขวัญให้คนอื่นในเม้ดนิดนึง พอดีว่านข.คนโปรดกูลดราคา เลยว่าจะซื้อแจกในกรุ๊ปนักอ่านให้คนมาลองชิมงานเขา พอกดซื้อเป็นของขวัญมันบอกว่าจะส่งเป็น gift code คือส่งมาให้เราเอาไปแจกต่อใช่มั้ย แล้วถ้าคนอื่นได้รับแล้วเขาไปกดหัวใจหรือรีวิวให้ มันจะขึ้นว่ามีแล้ว (Gift) ใช่หรือเปล่า ขอบคุณล่วงหน้าจ้า
>>247 กุที่ไม่เคยคิดซื้อ ebookเป็นของขวัญไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
ที่จริง gift จากผู้บริโภคให้ผู้บริโภคนี่ไม่น่าขึ้นสถานะ gift เลยนะ ถ้าคำนึงถึงว่าแรกเริ่ม meb ทำระบบนี้ไว้เพื่อแสดงความโปร่งใสของรีวิวเป็นหลักเพราะกรณีนี้คือคนซื้อก็จ่ายเงินเต็มอ่ะ เหมือนผู้บริโภคทั่วๆไป แต่พอรีวิวกลับกลายเป็นเป็นรีวิวสปอนเซอร์ที่ถูกลบความน่าเชื่อถือไปซะงั้น
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อ่ะนะ บางทีมันอาจเป็นความสะดวกของระบบเค้า เคสนี้คงมีไม่เยอะ กุก็คลุมหลุม รีวิว gift เท่ากับรีวิวสปอนต่อไป
อยากลองศึกษาแนวโรมานต์ดูบ้างว่ะ ว่าควรเขียนยังไงมุ่งเน้นไปทางไหนจึงอยากจะขอให้ช่วยแนะนำเรื่องเอาไว้ศึกษาหน่อย
ถ้าเป็นไปได้ขอเป็นเรื่องที่ผู้ชายเขียน หรือตัวเอกดำเนินเรื่องเป็นชายด้วยจะดีมาก เพราะกูเป็นตัวผู้น่าจะเขียนตัวเอกชายได้ง่ายกว่า
>>248 กุซื้อบ่อย ให้เป็นของขวัญวันเกิดให้เพื่อนบ้าง ปีใหม่บ้าง ซื้อแจกให้คนเล่นเกมในกลุ่มบ้าง ก็ไม่อะไรนะ เพราะคนที่รับไป ถ้าจะรีวิวจริงจังก็แค่บอกว่าได้มาจากกิจกรรมนี้ เพื่อนให้เป็นของขวัญอะไรก็ว่าไป ก็โปร่งใสนะในความคิดกู
กูเคยได้จากนักเขียนเพราะร่วมเล่นเกมด้วย ถ้าจะรีวิวนิยายก็จะบอกแบบนี้เหมือนกันว่าได้มาจากอะไรยังไง
ถ้ามึงคือโม่งชายไลท์โนเวลที่เลิกเขียนไปหลายปีแล้วจะกลับมาใหม่ และมีคนมาแนะนำมึงทุกอาทิตย์ ไม่ต้องขอคำแนะแล้ว ไปเขียนอะไรสักอย่างเหอะ
ถ้ามึงไม่ใช่ กูขอโทษด้วย
Ky กูไปเจอนามปากกาซ้ำกันในรอร. ซ้ำกันได้เพราะจุดเดียว เช่นคนหนึ่ง "ปลายแสงดาว"อีกคน"ปลายแสงดาว." ง่ายๆแบบนี้เลยว่ะ
>>252 ใช่ เป็นแทบทุกเว็บทุกอย่างเลยมั้ง กูก็เคยลืมรหัสแอคเก่าแต่ยังรักนามปากกาตัวเองอยู่เลยลองทำเงี้ย เติม . เติม _ หรือเขียนเพิ่มเป็น V2 ก็ทำได้ ยังคิดอยู่เลยว่าแบบนี้แอบอ้างกันได้นะเนี่ย นักเขียนก็ไม่ได้มีเวลาไปเช็คขนาดนั้น ยิ่งมีเทคโนโลยี มี AI นิยายที่ขึ้นว่าห้ามแคป ดูทรงละพวกแอบอ้างก็เขียนตามเขา ไม่ก็โยนลงเว็บให้แปลงเป็นตัวอักษรได้อยู่ดี แอบน่ากลัว
KY หน่อย ถ้าจะติดเหรียญย้อนหลังนี่มันจะน่าเกลียดมั้ย? พอดีปล่อยอ่านฟรีมาหลายสิบตอนละ หรือว่าตอนเก่าๆ ควรปล่อยไป แล้วติดเหรียญตอนใหม่ๆ อย่างเดียวพอ
และกูขอถาม ถ้านิยายกุจะจบแบบไม่ได้คู่กัน แต่มีตอนพิเศษเป็นเหมือนปัจฉิมลิขิต ที่แก้ตัวสำเร็จอีกทีชาติหน้า กุจะไม่เตือนคนอ่านว่า จบปลายเปิด หรืออะไรได้มั้ย คือเรื่องของกูอ่ะ ปมสำคัญมันอยู่ที่ว่า พอ.แม่งรักเป็นพิษท๊อกซิกชนิดแก้ตัวเท่าไหร่ก็ลืมสันดานเดิมไม่ได้ นอ.กูคือพยายามแล้วเฟลซ้ำๆ ว่าจะหาทางออกให้คสพ.นี้ยังไง ซึ่งคำตอบสุดท้ายคือรักไม่ช่วยอะไร ทีนี้ถ้าแปะป้ายว่าไม่ได้คู่กันกุก็รู้สึกว่าคงไม่ต้องลุ้นแล้ว ยังไงก็แยกทาง ซึ่งรู้สึกว่ามันคิลอารมณ์เรื่องไปพอควร
คำถามคือ พวกมึงว่าคนอ่านจะนับว่าเป็น he มั้ยวะ ถ้ามันแก้กรรมกันด้วยตอนปัจฉิมลิขิตสั้นๆของชาติหน้าอ่ะ
Ky ถ้ากูเขียนแนววายแฟนตาซีที่ไม่เน้นเย้ดๆ เน้นเนื้องเรื่อง ระหว่างเอาลงรอร.หมวดบอยเลิฟกับหมวดแฟนตาซีอันไหนยอดจะดีกว่า
ky พวกมึงพิพม์เล่มชอบใช้ fonts กับจัดหน้าแบบไหนกันบ้างวะ กับมีของสนพ.ไหนที่อยากแนะนำบ้างมั้ยว่าอ่ายสบายตา กูขอมาซาวด์เสียงหน่อย
เรื่องระยะเวลารักกันก่อนแต่งนี่นักอ่านเขาซีกันมั่งมั้ยวะ แบบเพิ่งเจอหน้ารู้จักกันแป๊บๆ มีเหตุให้สปาร์ก > คลั่งรัก > คบกันไม่นาน (ไม่กี่เดือน-ไม่ถึงปี) ละแต่งกันเลยงี้ มันจะเวอร์ ไม่สมจริงไปมั้ย 5555
Kyอยากรู้ความคิดเห็นเพื่อนโม่ง ชอบนางเอกแบบไหน แบบอยู่สวยๆนิ่งๆ แล้วพระเอกมาจีบเอง หรือ สวยพยายาม แรดนิดๆ ทะเล้นหน่อยๆ ตามจีบพระเอก
>>274 ขึ้นอยู่กับคน ชาวบ้านนิยมทั้ง 2 แบบ กูก็ชอบทั้ง 2
แต่แบบหลังกูมีอคตินิดหน่อย เพราะถ้าตื๊อเกินไป หัวรั้นไม่ฟังคนเกินไป กูเกลียดอะ เขียนปมเขียนไรดีแค่ไหนก็ไม่ชอบ555 และส่วนใหญ่ไม่ค่อยเจอคนเขียนแบบพอดี ล้นกันจนเข้าขั้นน่ารำคาญตลอด เป็นคาร์แบบที่ถ้าสลับเป็นชายตื๊อบ้างแม่งจะน่ากลัวกับโดนทัวร์ลงโคตรๆ
>>272 >>273 ขอบใจมาก เขาคงไม่ซีมากเนอะ งั้นเดี๋ยวกุเขียนให้ดีๆ คนจะได้เชื่อความคลั่งรักละกัน 55
>>274 ชาวบ้านนิยมทั้งสองแบบจริง อย่างกุก็ได้หมด อ่านสลับกันเปลี่ยนฟีลบ้าง แต่สลับกับเพื่อนโม่งข้างบน กุไม่ชอบแนวหนุ่มจีบก่อนแล้วสาวใจแข็งเกิน บอกไม่ถูก 555 ส่วนตัวไม่ค่อยชอบสาวหัวแข็งด้วยแหละ โดยเฉพาะพวกชีมั่น ชีเริส ไม่เคารพคนอื่น เวลาเจอแบบนี้+พระเอกไทป์ถูกใจนี่กุจะเข้าข้างผช.ละชอบคิดว่า he deserved better น่ะ 5555555
พระเอกเพิ่งเรียนจบโทแบบหมาดๆทำงานเป็นอาจารย์ใช้ทุนมหาลัย นางเอกเป็นนักศึกษาอยู่มหาลัยเดียวกัน แต่สองคนนี้อยู่คนละคณะแบบคนละฟาก ไม่เคยสอนหรือเจอหน้ากันใดๆทั้งสิ้น ไปเจอกันข้างนอกแบบมีงานอดิเรกร่วมกัน ได้คุยกันถูกคอ รู้สึกดีๆต่อกัน มาเจอกันอีกทีอ้าว เป็นอาจารย์เหรอคะไรงี้ อันนี้มันจะโดนด่าเรื่องพาวเว่อร์ไดนาโมสถานะครูลูกศิษย์ป่ะวะ 555555555555
>>279 พอดีกูได้แรงบันดาลใจจากกิ๊กเก่ากูเอง แต่กูเรียนคนละที่กับที่เขาสอน เจอกันในร้านบอร์ดเกม คุยไปคุยมาฮีเป็นอาจารย์ แต่ตอนนั้นกูยังเป็นนักศึกษาอยู่ ก็คบๆคุยๆกันพักนึงแล้วห่างๆกันไป พอมาเจออีฉอดชอบด่าเรื่องครูลูกศิษย์กูก็มาคิดว่าแม่งจะเข้าข่ายโดนด่าป่ะวะ 5555555555555
KY หน่อย ถ้าสมมุติว่าถ้าเขียนแนวรอมคอมปนตลก ไม่ได้เน้นความรักอะไรมากนัก (แต่ก็มี) นี่ควรจัดอยู่หมวดไหนดีอะ
ขอถามหน่อย ถ้านับรายได้ต่อเดือนไม่เกิน20k กุต้องเสียภาษีไปหม รึมันคิดตามยอดเป็นต่อปี
ky เพื่อน เห็นในมู้แฉแหกนข.ที่สองมาตรฐานเรื่องไม่ใช้ภาพประกอบเอไอ แต่มา crop รูปไอดอลไปลงแทน ที่ว่าแค่แจ้งอัพก็ไม่ควรเอามาประกอบ กุเลยสงสัยว่าแล้วพวก reels หรือตต.โปรโมทนิยาย ใช้เพลงไทยฝรั่งเกาหลีที่มันกำลังฮิตได้ด้วยมั้ย จะเป็นประเด็นด้วยมั้ย เพราะมันก็เข้าข่ายโปรโมทชพณ.เหมือนกัน
kyมึงๆ นักเขียนพิมพ์ในคำโปรยว่า อ่านจบแล้วถ้าชอบรีวิวให้ด้วยน้าา แปลไทยว่าถ้ากูอ่านแล้วไม่ชอบกูไม่ต้องเสนอหน้าไปรีวิวใช่ไหมวะ555
Kyขอถามนักเขียน กูเป็นนักอ่าน เห็นนักเขียนให้เรตติ้งตัวเองและขึ้นว่า-มีแล้ว (แบบไม่ใช่Gift) แบบนี้แสดงว่านักเขียนเสียเงินซื้อนิยายของตัวเองใช่ไหมวะ หรือว่านักเขียนที่ขายebookจะได้นิยายfreeมาเข้าshelfอัตโนมัติ
KY พวกมึงมีวิธีเขียนฉาก NC ยังไงให้เก่งๆหรอ บรรยายยังให้เห็นภาพอะไรแบบนี้อ่ะ
>>297 จริงจังปะ ไม่ว่าจะฉากไหน บรรยายฝห้เห็นภาพก็ใช้เทคนิกเดียวกันแหละมึง
มึงต้องเริ่มหัดจากเขียนบรรยายเรื่องอื่น ดูรูปแล้วลองหัดบรรยายวิว บรรยายอาหาร บรรยายคน บรรยายลักษณะท่าทาง อารมณ์ หัดไปเรื่อยๆอะมึง แล้วลองทดสอบด้วยการให้คนอ่านคำบรรยายของมึงก่อนจะลองเลือกรูปที่ใกล้เคียงกันดู ถ้าเขาเลือกถูกแผลว่ามึงเริ่มเก่ง ถ้ามึงบรรยายรูปร่างคนกับความรู้สึกคนได้ มึงก็บรรยาย nc ได้ มันไม่ได้อยู่ที่การใช้คำอย่างเดียวว่ะ มันอยู่ที่การสังเกตด้วย
>>299 ลองดูงานบรรยายฉากNCที่อ่านแล้วชอบก็ได้นะเพื่อนโม่ง อ่านแล้วก็สังเกตว่าเขาใช้คำยังไงบรรยาย อย่างกูส่วนตัวชอบNCแบบอีโรติก อ่านแล้วเสวเป็นเรื่องรอง เรื่องหลักคือความรู้สึกของตัวละครระหว่างฉาก เวลาเลือกนิยายอ่านหรือแต่งเองกูก็ใช้อุปมาอุปไมย ใช้สัญลักษณ์ดอกบัวเอยลำไผ่เอยอะไรงี้แทนตรงนั้นของชายหญิงน่ะ
>>299 สังเกตจากทุกอย่างเลยมึง รูป รส กลิ่น เสียง มันเอามาบรรยายได้หมด มึงเห็นอะไร สมมติเห็นเขาจูบกัน เขาจูบกันท่าไหน ใครโน้มเข้าหาใครก่อน สายตาเขายังไง หลับตาหรือลืมตา ขนตาเขายาวไหม ถ้าขนตายาว มันมีเงาขนตาบนแก้มไหม ริมฝีปากสีอะไร จมูกปัดกันไหม จูบแล้วไงต่อ หยุดพักหรือไปต่อเลย คือมึงต้องลองสังเกตว่าเวลาชาวบ้านจูบกันเขาทำยังไง มึงถึงจะจินตนาการฉากที่มึงต้องการขึ้นมาในหัวได้ แล้วถึงจะเขียนได้สมจริง แต่ถ้ามองว่าเออ ก็จูบ แค่จูบ มันก็แห้งแล้งจริงปะ ต่อให้มึงใช้คำหรูแค่ไหนมาบรรยายหยดย้อย ถ้าไม่มีรายละเอียดมันก็เหมือนภาพวาดที่มีแค่โครงร่างอ่ะ แล้วไอ้การสังเกตพวกนี้มึงต้องลองหัดตั้งแต่วัตถุที่อยู่นิ่งๆก่อน
แต่ตอนเขียนมึงไม่จำเป็นต้องเขียนทั้งหมดที่มึงเห็นหรือมึงนึกภาพออก มึงเขียนแค่สิ่งที่จะมีความหมายก็พอ
Ky จัดการความคิดตัวเองยังไง เวลาเขียนทีไรต้องคิดว่าเขียนไปก็ขายไม่ได้ กูเขียนมาหลายปี ยอดขายไม่พอค่าไฟ อยากเริ่มเขียนเรื่องใหม่เผื่อจะแมส แต่ก็ความคิดติดหล่มเดิม ยอมรับแหละว่ากูอยากได้เงิน เขียนหาเงิน
>>305 ลองตลาดเรื่องเสวยังวะ สั้นๆง่ายๆ ติดเหรียญเบาๆ ให้ปลดง่ายๆตอนหน้ามืดแล้วจากไปเงียบๆ
มึงอาจควรคิดถึงมุขตลกที่ว่า "ถ้านิยายขายได้เรื่องละ 1 บาท มึงเขียนเดือนละล้านเรื่อง ก็ได้ล้านบาทแล้ว" ถึงเป็นมุขตลกแต่มันสอดแทรกความจริงบางส่วนไว้นะ บรรดาคนไม่ปังแต่ปั่นกันไวชิบหาย เดือนนึงออกสองสามเรื่องอย่างต่ำ ครบปีสะสมไว้เป็นร้อย ถ้าตรงเทสส่วนใหญ่ของตลาดกุว่าค่าไฟต่อเดือนควรจะพอว่ะ ส่วนงานเก่ารอลุ้นไปเรื่อยๆ ก็น่าจะเกี่ยวยอดมาเพิ่มได้ตามอรรถภาพ
>>305 พอมีเงินสำหรับค่าไฟเดือนหน้าไหมวะ ถ้ามีคือดีเลย ปล่อยใจ ให้เวลาตัวเองเดือนนึง ไม่คิดอะไรเลยคิดแต่จะทำให้เสร็จ เขียนแนวตลาดที่น่าจะพอค่าไฟ เขียนเสร็จแล้ววางขาย
....ถ้าผลสรุปสุดท้าย เล่มนี้ยังไม่พอค่าไฟ ค่อยหาวิธีอื่น แต่ตอนนี้ลองทำให้ได้มาสักเล่มนึงก่อนเพื่อขายด่วนๆก่อน
KY นิยายดราม่า แบบดราม่าจัดน้ำตาไหลเป็นเลือด (เวอร์) มันสามารถจบแฮปปี้แบบฟรินตัวลอยได้มั้ยวะมึง คือดราม่าจบแฮปมันก็มีเยอะแหละ แต่เอาแบบแฮปปี้สุดๆๆๆ รุ้งออกจากกระดาษเลยนี่มันทำได้อ๊ะเปล่าวะ กุเคยอ่านส่วนใหญ่เวลาจบแฮปมันก็ยังดูหม่นๆ อึนๆ ยังไงไม่รู้ เพราะอิมแพคจากพาร์ทดราม่ามันแรงด้วยแหละมั้ง นึกไม่ออกเลยว่ามันจะแฮปปี้กระดี๊กระด๊าได้ไง เหมือนถ้าจะเขียนดราม่ามันต้องคุมโทนทั้งเรื่องงี้ ถ้าแหวกมาดี๊ด๊าอารมณ์ดีมันจะขัดมู้ดเหรอ
>>310 ขอบใจมาก แต่เรื่องนี้คหสต.กุคือ ตย.ที่ยกมาเลยเนี่ย 55555 จบแฮปปี้แต่มันยังหม่นแบบแปกๆ 5555 กูสงสารนางเอกมากกก จบแฮปปี้แหละ แต่กุว่าน้อง deserve better ได้มากกว่านี้ คือเจอเรื่องเหี้ยห่ามาเยอะแต่ได้ไรดีๆ ตอบแทนยังไม่พอ เหมือนมันยังไม่สุด แต่กุก็ยังไม่รู้ว่าต้องเพิ่มอะไร อาจจะเป็นตอนพิเศษ (?) 55555 แต่กุไม่ได้อ่านเล่มลูกนะ ถ้าอ่านก็คงเจอแฮปกว่านี้แหละ นี่ว่าตามเนื้อผ้าเรื่องเดี่ยวๆ
>>311 เออ กูก็ว่ายังขาดอะไรไป เหมือนเรื่องนี้คนได้ประโยชน์สูงสุดคือลูก แล้วนางเอกเสียอะไรไปเยอะมาก จะเกลียดนางร้ายก็เกลียดไม่ลง ชีก็อยู่ข้างๆพระเอกมาตลอด ไม่มีสัญญาณว่าจะมีใคร แล้วอยู่ดีๆพระเอกก็ได้รับลูกสาววัยรุ่นและเมียกลับมาในคราวเดียวเลย แต่เหมือนแผลที่ผ่านมายังไม่ได้รับการสมานอะ ลึกๆกูอ่านแล้วเศร้าเพราะเหมือนพระเอกยังเห็นนางเอกเป็นแฟนสาววัยมัธยมปลายอยู่ แต่สาวแกร่งแม่เลี้ยงเดี่ยวตรงหน้าเหมือนเขายังไม่ได้รักขนาดนั้น กูคิดมากไปปะนะ ฮือ
ถ้าเพื่อนโม่งมีเรื่องอื่นแนะนำก็อยากได้ด้วยคน สำหรับกูรักส์มันยังไม่ขนาดนั้น
KY ถามความเห็นหน่อยโม่ง ถ้าตั้งใจว่าเขียนเล่มนึงจะมีซัก 50-60 ตอน แล้วจะติดเหรียญอ่านล่วงหน้านี่ควรทิ้งระยะเวลาซักเท่าไรดี?
ตอนนี้ในหัวว่าจะซัก 2 เดือน จะได้ปั่นงานได้ชิลๆ แล้วถ้าเขียนตอนละประมาณ 1500-2500 คำนี่ควรติดเหรียญซักกี่บาทดี?
ถามเพิ่มอีกอย่างคือถ้าจะทำ E-book ด้วยนี่ราคาควรซักเท่าไรดี เล่มนึงความยาวประมาณ 85k-100k คำ
>>313 ขอเกาะฟังคำตอบด้วยคน ขอถามเพิ่มด้วยว่าถ้าเขียนชญ. มี nc พอกรุบกริบ ปกติควรตั้งราคารายตอนกับอีบุ๊คในเม้ดต่างกันยังไงดี?
กุเห็นคนอื่นสายชญ.เน้นรัก ส่วนใหญ่ปิดตอนไปเลย แล้วขายแต่อีบุ๊ค หรือกุควรทำแบบนั้น?
แต่ส่วนตัวกุเห็นว่าอีบุ๊คมันเป็นเงินก้อนไง ถ้ารายตอนคนยังกล้าชิมๆ เพราะมันเงินไม่มาก เผื่อชอบจะได้ไปซื้ออีบุ๊คต่อ
ky มีวิธีเอาไอ้นิยายตรง "อ่านต่อ" ของรอร.ออกมั้ยเพื่อน กุจิ้มไว้หลายเรื่องเกิน อยากเอาออกมาก
>>318 ตลาดแต่ละแนวมีธรรมเนียมการขายไม่เหมือนกัน มึงเห็นกรุ๊ปนข.ในเฟสมั้ย ไปใช้คีย์เวริ์ด พวกติดเหรียญ ตั้งราคา อะไรพวกนี้ค้นๆดู มีกรณีศึกษาที่คนมาแชร์ให้หลายเคสอยู่ บางอันก็เก่าๆ หน่อย อ่านแล้วก็พินาดู ว่าจะเล่นทางไหน
ส่วนคำแนะนำที่เหลือ ถ้าติดเหรียญแล้วยอด 0 ทั้งๆยอดวิวหน้าหลักยังวิ่งอยู่ ยอดเข้าชั้นไม่ขึ้น ก็ตอบแบบโลกไม่สวยนะ ว่างานมึงยังดีไม่พอ ไม่น่าสนใจพอ คงต้องไปลองค้นจุดมาปรับทีละอย่าง เช่นตัวอย่างลงน้อยไปมั้ย คำผิดเยอะมั้ย คำโปรยมีอะไรไล่แขกป่าวเป็นต้น
ส่วนที่ยอดเข้าชั้นยังพอวิ่ง มึงรอตอนกดจบอีกที คนไม่เปย์เรื่องที่ไม่จบ/รอจบอ่านทีเดียวมีเยอะ ไปตัดเชือกกันอีกทีตอนกดจบ
ky 18+ หน่อย บทเสวนี่กุเห็นสายฝ.ชอบสบถว่า *f* เดี่ยวๆ ถ้าเป็นคนไทยมันจะเป็นคำว่าไรแทนอะเพื่อน *แม่ง* ก็ดูดุดันไปหน่อยปะ? หรือทับศัพท์เลยจะแปลกมั้ยวะถ้าเป็นไทยแท้ไม่ใช่ลูกครึ่งงี้
อ้อ แล้วก็นางเอกนิสัย naughtyๆ ขี้อ่อย ขี้ยั่ว เชี่ยวชาญเรื่องในมุ้งนี่นักอ่านรับได้กันมั้ยวะ ส่วนใหญ่กุเห็นแต่แนวสงวนกิริยาอารมณ์ / ขี้เขินขี้อายให้พระเอก take control ตลอด ถ้าเป็นสาว dom on top นี่คนจะมองไม่ดีมั้ยย
>>323 รับได้จ้า ยุคนี้แล้ว ไม่ใช่แค่ป้า วัยรุ่นใน x ยิ่งชอบ ดูที่ติดท็อปในเว็บดิ ก็แนวนี้ทั้งนั้น อย่าไปสนใจอะไรแบบนี้เลย ชอบอะไรก็เขียนเหอะ แล้วคนที่ชอบแบบนี้ก็จะหาเจอเอง เดี๋ยวนี้เขาก็ไม่ได้หัวโบราณกันขนาดนั้น ใครฉอดเรื่องซิงสมัยนี้คือโดนรุมด่าเละแล้วนะ แค่นข.แคปเมนต์มาชี้แจง คนอ่านก็เฮโลช่วยด่าตามแล้ว อย่าไปซีเรียส
>>322 แม่ง สำหรับกูไม่ดุดันนะ ใช้กันทั่วไปเลยในฉากเสวนิยายไทย ปกติมึงเป็นสายอ่าน/ดูโรมานซ์ฝรั่งเหรอ? ทับศัพท์ก็ได้ แต่ถ้าเอา f word ตั้งให้เป็นคำสบถยอดฮิตในฉากเสว ของไทยส่วนใหญ่ก็จะมาแนวๆ แน่นฉิบ เสวโคตร รัดแน่นมาก โคตรดี ไม่ก็บิดเป็นไม่มีคำสบถ แต่เป็นเสียงครางแทน อา อูย ซี้ด ไรงี้ไปเลย ใครแม่นเรื่องนี้มาเพิ่มเติมอีกได้
เอาจริงกูก็เริ่มแก่ละ พลิกๆเห็นแต่ฉากเสวก็เหน่ยๆเวลาอ่านว่ะ เข้าใจละทำไมบางคนขอนิยายไม่มี nc บทจะไม่อยากอ่านมันก็ไม่อยากแตะเลยจริงๆ ไม่เหมือนสมัยวัยรุ่น555
>>328 ขึ้นอยู่กับคนมอง แต่สต.กูก็มองว่าหลุด5555 มันจะดูไม่ ooc ก็ต่อเมื่อมีการเกริ่นว่าตลค.นี้เป็นคนสุภาพที่แอบร้ายอะ มีซีนทำหน้านิ่ง ตาดุ บรรยายไปสิมีความร้ายซุกซ่อนในรอยยิ้ม พอบนเตียงมาสบถหยาบคายจะเร้าใจมาก เพราะเกริ่นให้นอ.ได้รู้และเตรียมใจแต่แรกแล้วว่าไอ้บ่าวมันแอบแส่บ แต่ถ้าสุภาพแสนดีมาตลอด แล้วมาพ่นอะไรหยาบๆบนเตียงนี่มันหาความเชื่อมโยงไม่ค่อยเจอ คนจะเอนเอียงไปทางหลุดคาร์/ไม่อินมากกว่า
>>322 นี่ว่าฉากของแต่ละชาติมีขนบต่างกันนะ (มาจากวัฒนธรรม ภาษาที่ต่างกันอ่ะ ถ้ามึงไม่ได้คิดจะใช้เซตติ้งต่างชาติ อยากเขียนให้ได้ฟีลงานแปล หรือเป็นฝ.ที่เผลอสบถ มึงไม่ต้องไปหาคำแปล f word มาใส่หรอก มันจะได้ฟีลผิดที่ผิดทางสุดๆ เหมือน 326 ว่าอ่ะ
แต่ถ้ามึงอยากแปล มันก็คำสบถอ่ะ จะเวร จะแม่ง จะให้ตายเถอะ มันก็ได้หมดนะ ขึ้นกับบริบทอีกที คำไทยเสือกหลากหลายกว่านี่หว่า
จริง ถ้าทั้งเรื่อง พระเอกไม่เคยพูดอิ๊งหรือแบบพื้นเพเรียน รร สองภาษา มีแม่เลี้ยง พ่อเลี้ยง ฝรั่ง ถ้าตอนเยส ฟัคๆ มันจะผิดผี ผิดมู้ด แบบที่มีคนเคยบ่น ไรสักอย่างว่า พอเลิฟซีนแล้ว พระเอกดูหลุดคาร์
พานจะไม่เสวเอา กลายเป็นอิหยังวะพระเอกไป
Kyเพื่อนโม่งกูเป็นนักอ่าน เจอคำผิดในคำโปรยบอกนข. นข.บอกว่าต้องรอเมดอนุมัติแก้
คำโปรยของนิยายตัวเอง นข.เจ้าของเรื่องไม่สามารถแก้เมื่อไหร่ก็ได้เหรอวะ
ต่อนิดนึง เลยอยากให้ทุกคนเช็กความถูกต้องให้ดีๆ ไม่ใช่อะไร เวลาส่งแก้แล้วต้องรอเขาแก้แม่งทรมานมาก นักอ่านบางคนพอเห็นพิมพ์คำโปรยผิดก็ตัดสินละว่าข้างในคำผิดบานเบอะชัวร์ ไม่อ่านแม่ง หงุดหงิด ทั้งที่เนื้อในมึงอาจจะส่งพิสูจน์อักษรมาล้านรอบ แค่เบลอๆนอนน้อยตอนพิมพ์คำโปรยเฉยๆ555
KY ชวนคุยเล่นหน่อย มีใครเกลียดตัวเองเวลาไม่มีอารมณ์เขียนกันบ้างวะ กูรู้สึกเป็นตลอดเลยกับวันไหนที่เปิดไฟล์มาแล้วเขียนไม่ออกเนี่ย
คงเพราะกูตั้งเป้าว่าจะพยายามเขียนทุกวัน วันละประมาณพันคำด้วยมั้ง เน้นค่อยๆ คลานไปช้าๆ แต่วันไหนเขียนไม่ได้ก็หงุดหงิดตัวเองตลอด แม้ว่าวันถัดมาจะบิ้วอารมณ์ขึ้นแล้วรวบยอดเขียนได้ก็เถอะ
>>338 กุเป็นอยู่เลยเพื่อน ไม่เกลียดตัวเองแต่เครียดจัดจนใจสั่นเลย คือกุตั้งใจจะออกอีบุ๊กเดือนตุลาแล้วเนี่ย แต่ตอนแรกกุยังเขียนไม่จบเลย แต่กุทำงานประจำด้วยไง เห็นปฏิทินแล้วโคตรเครียด ติ๊กไปทีละช่องๆๆ พอเครียดว่าจะเขียนไม่ทันขาย กุก็หนีไปทำอย่างอื่น หาอะไรกิน อ่านตูน ดูยท. แล้วกลางคืนก็นอนไม่หลับว่าแม่งยังไม่ได้เขียนเลย ยิ่งเครียดก็เขียนไม่ออก กุอุตส่าห์กะจะตั้งใจเรื่องนี้ดีๆ เพราะอยากออกจากงานประจำ ก็รู้แหละว่ากุเป็นสายรอมีอารมณ์ติสก่อนค่อยเขียน แต่ไม่นึกว่าจะเป็นขนาดนี้
เห็น >>319 พูดถึงงานดีไม่พอแล้วยอดน้อยนึกถึงงานตัวเองตอนนี้เลยว่ะ
ลองสังเกตยอดวิวแล้วช่วงแรกก็เยอะอยู่นะ แต่จะมีตอนนึงที่ดรอปแบบ spike ลงไปเลยแบบเห็นได้ชัดแล้วก็ไม่เคยกลับมาสูงเท่าก่อนหน้าอีกเลย
กูไม่รู้ด้วยว่าผิดพลาดตรงไหน คอมเม้นท์ไม่มีบ่นไม่มีติ อ่านเองก็สนุกอยู่แต่เอาไปเป็นเกณฑ์ไม่ได้เพราะความสนุกกูไม่เหมือนคนทั่วไป
ที่พอนึกออกคือเนื้อหาขัดใจคนอ่านล่ะมั้ง? เรื่องเก่าๆ เคยมีประเด็นทำนองนี้อยู่
>>338 ยืดหยุ่นกะตัวเองหน่อย งานเขียนเป็นศิลปะส่วนหนึ่ง ถ้ามึงยังไม่ใช่มืออาชีพขนาดที่ทำงานได้โดยไม่ต่องพึ่งอารมณ์ก็ไม่ต้องไปล๊อคตัวเองกับเป้าหมายที่ไม่สอดคล้องในทางปฎิบัติให้ตัวเอง
มึงลองดูสถานการณ์ดีๆนะ -->เขียนได้ แค่ไม่ใช่ทุกวัน = ประมวลผลรายเดือนรายสัปดาห์แล้ว ผลงานออกมาพอๆกัน
มึงเห็นอะไรจากสถานการณ์นี้มั้ย
แล้วมึงจะมานั่งทุบหัวให้ตัวเองรู้สึกแย่ทำไมวะ ซาดิสเหรอ
มึงลองเปลี่ยนเป้าจากรายวันเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือนด้วยจำนวนคำเท่าเดิมดู
ต้องอย่างกูนี่ ไอเดียตีบตัน อารมณ์ไม่มา ใจมี เวลามี แต่เขียนไม่ออก กุอุตส่าห์แก้ด้วยการไปทำทรีต สุดท้ายก็ยังตันเพราะดีเทลของฉากไม่พอ ต้องมานั่งคิดดีเทลเพิ่มตันตอนดีเทลนี่แหละ เดือนๆนึงผลิตได้แค่ไม่กี่ตอนเอง ยังไม่นับว่าทรีตกูนั่น ก็ใช้เวลาร่างเป็นเดือนๆอีกเหมือนกัน หวังว่าจะทำให้กูปั่นหูดับได้แบบที่เค้าสอนๆกันบ้าง แต่ก็.... 🥹
กุมันเป็นแค่นักอยากเขียนที่ฝืนจะเขียนของแท้เลยมึง ถ้าหวังเงินกินข้าว กุอดตายแน่นอน
เนี่ยคือสาเหตุเลยที่กุอยากรู้เคล็ดลับของพวกนข.ออกเรื่องเร็วอย่างโลตัสตงกงกับคนอื่นๆ เลย คือกุเป็นคนอ่านบางทียังเบื่อพล็อตเลย อ่านอะไรรักๆ ติดต่อกันมันก็เบื่อ แต่เขาเขียนเดือนสองเดือนออกเรื่องใหม่ละ กุอยากรู้มากว่าเขาไม่เคยมีช่วงเบื่อ ขี้เกียจ หรืออะไรแบบนี้บ้างรึไง คือกุเข้าใจเรื่องถ้าเขียนเป็นอาชีพ ไม่เขียนก็ไม่มีเงินกินข้าว แต่ของกุความเบื่อความขี้เกียจมันมีมากกว่าไง ไม่รู้จะเอาอะไรมากระตุ้นตัวเองละ มีพล็อตแต่ขี้เกียจเขียน
กุอยากรู้ของ ตยก. ด้วย ออกแทบทุกเดือนเขียนมา100กว่าเรื่องป้ายแดงทุกเรื่อง มีซิกเนเจอร์ในงานด้วย ไม่เบื่อบ้างรึไงกันนะ
ช่วงพีคๆ กูเขียน 1-2 เดือน 1 เล่มได้สบายนะ แต่นั่นล่ะเจออะไรหลายๆ อย่างเข้าทำให้อารมณ์มันไม่ได้
ปัญหาของกูตอนนี้คือ เขียนยังไงให้มีคนซื้อมากกว่า กูตีโจทย์ตรงนี้ไม่แตกจนเกิดความกังวล แล้วพอทำไม่สำเร็จนานๆ เข้ามันก็เริ่มหมดไฟแบบทุกวันนี้
ถ้าเรื่องที่กูเขียนยอดปังขายดี กูเองก็ทุ่มสุดตัวเขียนทุกวันรีบเข็นออกมาไวๆ เหมือนกันนั่นล่ะ
เห็นด้วยกับข้างบน ถ้าเขียนแล้วมีคนอ่านมีคนซื้อก็ขยันอะ มีเงินเหยียบแสนเข้าทุกวันมันก็ชื่นใจป่าววะ เขียนในฝันได้กูก็ยอม5555
กูเคยว่างงาน 1 ปี เวลาเขียนโคตรเยอะแต่ออกนิยายไม่ได้สักเรื่อง เพราะเครียดเรื่องเงินตลอด อายสายตาชาวบ้านตอนถามว่าเรียนจบทำงานยัง เครียดฟีดแบ็คด้วย ยิ่งไม่มีงานมาเบี่ยงเบนความสนใจ ความเครียดยิ่งเทไปหานิยายจนเขียนไม่ออก คนอ่านก็รับรู้ได้นะ งานมันไม่สนุก มันมีความหม่นๆแทรกอยู่ พอมีงานมีเงินก็ค่อยยังชั่ว ออกนิยายได้สักที เขาถึงบอกให้คนจะลาออกมาเขียนนิยายอย่างเดียวคิดดีๆไง รอเป็นตัวแม่ได้เงินเหยียบแสนสัก 2 ปีขึ้นไปก่อนค่อยออกจากงานนะ จริงๆ มันเครียดดด
กู 346 ไม่ใช่เงินเข้าทุกวันดิ ทุกเดือน ขอยาดแก้ๆๆๆ
อย่างของโลตัสตงกงกับทุกคนที่ออก 1-2 เดือนเล่ม กุอยากรู้ด้วยว่าเขาทำงานยังไง อย่างเขียน 1-2 เดือนเสร็จออกเรื่อง A แล้วต่อไปก็แพลนเรื่อง B ตั้งแต่คิดพล็อตยาวไปจนออกอีกเล่ม หรือตอนเขาออกเรื่อง A จริงๆ เขาตุนเรื่อง B ไว้คร่าวๆ แล้วอะไรแบบนี้ คือสำหรับกุ 1-2 เดือนถ้าเริ่มตั้งแต่คิดพล็อตใหม่จาก 0 เลยมันเขียนจนจบไม่น่าทันเลยว่ะ แต่เหมือนกุไปส่องระยะเวลาที่เขาออก ที่เขียนไว้ที่อีบุ๊คแต่ละเรื่อง มันแค่ 1-3 เดือนตลอด ถ้าจะตุนก็ไม่น่าตุนทัน ทำได้ไงวะ
แล้วนี่คือกุกำลังจะเริ่มเขียนเรื่องใหม่เลย ถ้าเพื่อนโม่งจะกรุณา พวกมึงช่วยแชร์แต่ละขั้นตอนการเขียนกับระยะเวลาคร่าวๆ ให้กุเป็นวิทยาทานหน่อยได้มั้ย แบบตั้งแต่พล็อตปิ๊งมาในหัว ใส่รายละเอียดคาร์ วางโครงเรื่อง ทรีตเมนต์ (ถ้ามี) เขียนจริง อะไรแบบนั้นน่ะ
>>349 สองสามเรื่องแรกกุได้ป้ายแดงแหละ แต่เรื่องล่าสุดตอนลงรายตอนทุกอย่างไต่ขึ้นเรื่อยๆ ตอนได้ขึ้นแบนเนอร์คือรายตอนคนอ่านคนเม้นทะลักทลายมาก แต่ความที่กุเขียนตามอารมณ์แล้วไม่ได้ตุนตอน สุดท้ายกุลงช้าทิ้งช่วง คนก็ค่อยๆ น้อยลงตั้งแต่ตอนนั้น พอขายอีบุ๊คก็ได้เงินเป็นหมื่นนะ แต่ขายได้แค่เดือนสองเดือนแรกว่ะ จนตอนนี้เป็นปีละกุยังเขียนเรื่องใหม่ไม่เสร็จ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาว่าจะเอาพล็อตไหนดี พอจะเริ่มลงมือเขียนก็กังวลยอดขายอีก
กุอยากเขียนเรื่องแนวคล้ายผัวโบ้ คือ พอ.เจอ นอ.แล้วชอบแต่ยังติดสนุกกับชีวิตเลยปล่อยหลุดมือไป แยกแบบสงบๆ ไม่ใช่ไม่เผาผีกัน มีคิดถึงเป็นระยะเพราะตามโซเชียลกันอยุ่ตลอด แล้ววนมาเจอกันอีกทีค่อยรุ้ตัวว่าที่จริงคนนี้รุ้สึกพิเศษมาก ค่อยๆ ยอมปรับตัวลงจน นอ. ให้โอกาสเริ่มจีบอีกครั้ง (ติดสนุกที่ว่าคือรักอิสระ เที่ยวรอบโลก ไม่คิดลงหลักปักฐาน มีได้กับสาวๆ อื่นบ้างแบบเรียลๆแต่ไม่ใช่เมนที่เขาไม่ยอมหยุด) แต่กุรุ้สึกว่าคนอ่านน่าจะยี้แฮะ มีตย.เรื่องที่เขียนราวๆ นี้แล้ว พอ ไม่โดนด่าเยอะมั้ย
>>352 ถ้าได้กับคนอื่นระหว่างที่เลิก มึงต้องพร้อมรับแรงปะทะนะ
มีเรื่องนึงเลิกทั้งที่ยังรักนั่นแหละพอห่างกัน พระเอกไปได้กับคนอื่น(แบบคบเพื่อxxxเฉยๆฝ่ายหญิงได้เงิน) คนอ่านผิดหวังมากกกกก ลดดาว เมลไปหานข. คอมเม้นประเด็นนี้ท่วมท้น บ้างรับไม่ได้ แต่คนรับได้ก็มีนะเยอะด้วย เป็นความเจ็บช้ำฝังใจของคนอ่านที่หวงอยากให้พระเอกxxxกับนางเอกคนเดียว
ประเด็นนี้นักอ่านบางคนเป็นทรอม่าแผลในใจเลย แบบระแวงนข.คนนี้ไปเลย ส่วนที่ว่าเลิกกันแล้วไปได้กับคนอื่นแล้วไม่โดนด่าเยอะกูนึกถึงพระเอก ลัก , พอนพะจันซ่อนเลิฟ
กุคิดไว้ประมาณ >>356 คือเริ่มจากตอนกลับมาเจอกันนี่ล่ะแบบโตๆ ดันแล้วเลยพูดเล่นได้ว่าดีแล้วเมื่อก่อนเราไม่ได้ฝืนคบกันเพราะไม่งั้นคงจบไม่สวยเกลียดกันไปทั้งคู่ แล้วถ้าเกิดทีแรกก็ไม่ได้คบกันแล้วเลิกอ่ะ แค่แบบชอบๆ กัน มากสุดจูบๆ นัวๆ แต่ห้ามใจทันแล้วพอ.หนีไปปท อื่นเลยงี้
ถามหน่อย พระเอกแบบไหนที่คนอ่านรับไม่ได้กัน หรืออ่านแล้วรู้สึกหงุดหงิดขัดใจบ้างวะ?
กูว่าอยากจะลองเขียนแนวพระเอกสถุนถ่อยแบบขีดสุดตอนต้นเรื่องดู แต่อยากรู้ว่าคนอ่านมีการขีดเส้นเอาไว้ถึงไหน
*เอาผู้ชายอื่นต่อหน้าเมียก็ด้วย
มึง มึงอย่าดูถูกนักอ่าน ขนาดเลิฟษ์ของ >>354 กุยังเห็นด่าอยู่เนืองๆ ตามแพล้ตฟอร์มอื่นที่ไม่ใช่รีวิวในเม้ดตรงๆ อะนะ 555 เรื่องเย้กสาวอื่นระหว่างเลิกกันนี่แม่งเรื่องใหญ่ เอาดี รู้แหละว่าเรียลแต่ในนิยายคนรีเควสความขายฝันว่ะ เป็นพระอิฐพระปูนไม่แตะไม่มองสาวอื่นได้ยิ่งดี
>>358 เอาแบบรับไม่ได้เลยคือนอกกายนอกใจเนี่ยแหละมึง ง่ายสุด แต่ๆๆๆ บางคนมันยังให้อภัยได้ ถ้าเอาแบบ dealbreaker เลบมึงต้องให้แม่งเหี้ยสัสๆ เห็นแก่ตัว สันดานชายแท้ หรือตบตีเมีย แต่มึงจะไหวเรอะ นักอ่านจะยี้เอานะ 555555 หรืออยากได้แบบสถุนแต่กลับตัวกลับใจ
เรื่องเรตติ้ง2kของโลตัสตงกง พระเอกไปอาบอบนวด แต่ไม่ได้มีอะไรกับใครนะแค่ไปนวด คนยังด่าเลย แต่คนให้อภัยก็เยอะเพราะถึงไปอาบอบนวดแต่ไม่นอกกาย เรื่องนอกกายคือเรืรองใหญ่ ถ้ารู้ว่านิยายเรื่องไหนมีประเด็นนี้ หลายคนจบเลย ไม่ให้ไปต่อ ไม่ฝืนอ่านให้เสียอารมณ์
ky เพื่อน กุชอบอ่านฟีลกู้ด slice of life daily life ไรงี้นะ แต่เขียนเองจับทางไม่ถูกเลย ปกติเป็นสายดราม่าตับแตก อะไรคือเคล็ดลับการเขียนแนวที่ว่ามาแบบให้มันมีอะไร น่าติดตาม ไม่น่าเบื่อวะ
>>358 ถ้าเอาแบบสถุนแต่รับได้ มีพัฒนาการตัวละคร มึงลองอ่านพิดพันทะกาน ของ อชร. สปอย.....................พระเอกตอนวัยรุ่นคือชีวิตเหลวแหลกจัด ปากหมา ขี้โมโห ติดเพื่อนเลว ๆ เล่นยาด้วย มีคบกับสาวอื่น (แต่ยังไม่คบกับนางเอก) แต่พอเจอจุดเปลี่ยนกลายเป็นผู้ใหญ่นิ่งขรึม แดดดี้แส้บ ๆ นักอ่านกรี้ดลืมความเปรตตอนวัยรุ่นหมด ส่วนตัวร้ายก็เหี้ยแบบเหี้ยสุดตีน แต่ก็ยังมี redemption ark คนอ่านให้อภัยได้ (?) สำหรับความขมปี๋กูสะใจอยู่
>>364 สำหรับกูคือคาร์เลยเพื่อน พื้นฐานยืนหนึ่ง ถ้าคาร์พระนาง / ไดนามิคความสัมพันธ์น่าสนใจก็น่าอ่านแล้ว แต่ก็ลางเนื้อลางยาอะนะ
>>366 ไม่ชอบเหมือนกัน ตามโม่งบน คือเก้ท เข้าใจ แต่ไม่ชอบไง ง่าย ๆ คนไม่คิดอะไรก็มี แต่กาหัวไว้เลยว่ามีคนไม่ชอบแน่ ๆ (เช่นกูและคนอื่น ๆ) อย่าว่าแต่ค่อย ๆ ลดเลย เอาแค่ในเรื่องมี hint หรือมีซีนพระเอกได้กับคนอื่นสักเสี้ยวเดียวต่อให้มีเหตุผลอะไรรองรับก็มีคนไม่เคอยู่แล้วว่ะ ฟีลเดียวกับนางเอกซิงอะแหละ อย่างที่บน ๆ ว่า บางคนมันโหยหานิยายขายฝันชีวิตนี้มีแต่เธอคนเดียวน่ะ ชีวิตจริงเรียล ๆ เป็นไงช่างแม่งเหอะ อ่านนิยายอยากได้อะไรที่ escape from reality ใด ๆ มึงมีสิทธิ์เขียนนะ แต่นักอ่านก็มีสิทธิ์คิดเห็นเหมือนกัน ช่วยไม่ได้หรอก อยากเพลย์เซฟหรืออยากตามใจฉันก็เลือกโลด
ขอบใจสำหรับคำตอบทุกคนมากเลย
ตอนนี้หนักใจล่ะ เพราะตอนแรกตั้งใจจะกำหนดให้พระเอกทรงแบดๆ หน่อย ก่อนเจอนางเอกจะให้มีซื้อกินอยู่บ่อยๆ หลังเจอกันแต่ยังไม่ได้คบก็มีแวะไปบ้างก่อนจะค่อยๆ ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นอะไรทำนองนี้
แต่ถ้าหลายคนว่ามันไม่โอเค กูคงต้องเปลี่ยนแล้วล่ะ ฮืออออ
>>371 เอาจริงมีคนโอเคนะมึง เคยเห็นแนวนี้อยู่บ้าง นข.ดัง ขนาดคนยี้พระเอกธงแดงยังอ่านแล้วอวย คือถ้าใจมันอยากเขียนก็เขียนเหอะ มีพล็อต มีไฟ สตอรี่คู่นี้ต้องเวย์นี้เท่านั้นก็เอาเลย ไม่มีใครสารภาพออกมาตามตรงหรอกว่าชอบ/รับแนวนี้ได้ ถ้าเขาอ่านได้เขาก็ซื้อเอง โอ๋ๆ แล้วแต่มึงเลย555
พูดถึงแนวธงแดงแล้ว อยู่ๆ กูนึกย้อนถึงสมัยตอนกูยังเป็นวัยรุ่นๆ สมัย F4 ฉบับไต้หวันเลยแฮะ
จำได้คือสมัยนั้นนางเอกแม่งโดนพวกตัวเอกกลุ่ม F4 บูลลี่ เพราะไปตั้งตัวกันเป็นศัตรู พระเอกลูกคุณหนูแบ็คใหญ่โตใช้อำนาจข่มเหงคนอื่นงี้ หลอกนางเอกไปทำให้ขายหน้างี้ ฯลฯ ชายแทร้ที่ไม่น่าคบอย่างยิ่ง แต่กูจำเนื้อเรื่องไม่ได้ละว่าทำไมหลังๆ มันถึงไปได้ลงเอยกันวะ ถถถถถ
>>374 กูจำของไต้หวันไม่ได้แล้วว่ายังไง แต่ตามต้นฉบับคือได้เห็นความดีเลยเปิดใจให้กัน คือนางเอกมันชอบพระรองเพราะเป็นคนเดียวที่ดีกับนางท่ามกลางสภาพแวดล้อมห่าเหวนั่น แต่พระรองมันมีคนที่ชอบอยู่แล้วนางเอกเลยอกหัก พระเอกมันก็รู้ว่านางเอกชอบพระรอง เห็นนางเอกอกหักเลยปลอบ นางเอกทำใจได้ มูฟออนแล้วเชียร์อัพให้พระรองไปสารภาพรักกับคนที่ฮีชอบ ช่วงนี้พระเอกก็จะเริ่มทำให้หัวใจนางโดขิมั่งละ แต่ยังอยู่มู้ดเศร้าที่อกหักเลยยังไม่ได้อะไรมาก
ทีนี้มันมีตัวร้ายที่เคยมีความแค้นกับพระเอกมาเล่นงานนางเอก ทำลายชื่อเสียงนางเอกในโรงเรียนทำให้นางดูเป็นอีร่านจับปลาสองมือหลอกพระเอกแล้วโดนรุมแบนแบบตอนเข้าเรียน ทีนี้นางเอกโดนจับไป พระเอกมันเลยเอาตัวมาปกป้อง บอกนางเอกไม่เกี่ยว ตัวร้ายมันเลยเสนอว่าถ้าพระเอกยอมโดนกระทืบแต่โดยดีมันจะปล่อยนางเอกไป พระเอกก็ยอมโดนยำตีนไม่โต้ตอบซึ่งผิดนิสัย แต่เพื่อนๆแก๊งค์ F4 มาช่วยทัน แล้วก็นั่นล่ะ นางเอกเลยยอมเปิดใจให้ กูอ่านนานแล้ว ถ้าความจำผิดเพี้ยนกูก็ขออภัย
>>374 โคตรเก่า ถ้ากุเล่าจะฟ้องอายุมั้ย
คือนางเอกมันสู้ สู้แบบวลีพี่ก้องอ่ะมึง "กูไม่ออก ออกแล้วกูจะเอาไรแดก!" ประมาณนั้นแหละ จนพระเอกมันติดใจความแกร่งความแปลก แล้วก็ไปหลงรักขึ้นมาแบบไม่รู้ตัวนั่นแหละ
แต่เอาจริงๆที่การบุลลี่นอ.เจอแรงนะ ถ้าไม่ฉาบความโปกฮาเข้าไปมันจะกลายเป็นฟีล มังงะเรื่อง LIFE (ใช่ชื่อนี้ป่าววะ)ที่สะท้อนปัญหาการบุลลี่ในรร.ญป.ที่โคตรจะแรงแทน
Kyถ้ากูทำนิยายขายคู่ แต่มีคนมาขอซื้อเดี่ยวกูไม่ขาย มันก็สิทธิ์กูใช่ไหมวะ กูไม่การตลาดอะไรทั้งนั้น แค่อยากให้ลูกกูไปพร้อมกัน ขายไม่ออกก็อยู่ด้วยกัน
เพิ่มหน่อย สมมติ ขายคู่ แต่กูแม่งไม่ชอบงานอีกคน ค่อนไปทางยี้ ถ้ามาบังคับขายคู่ กูเทแม่งทั้งคู่ไปเลย
>>377 สิทธิ์มึงแหละ แต่คนอ่านก็มีสิทธิ์เทเหมือนกันนะ
ถ้าถามกูคือไม่ชอบอ่ะ ต่อให้งานคนเดียวกันแต่มันก็ต้องมีจุดที่ชอบไม่ชอบในเรื่องต่างกันออกไปอยู่ดี กุจะเสพแล้วกรี๊ดแต่อันที่กุชอบไม่ได้เหรอวะ ทำไมต้องฝืนอ่านคู่
มันก็ขึ้นกับสถานการณ์ บางทีกุก็เฉยๆรอคนเอามาปล่อยแยกได้(ถ้าเป็นเล่มปกติมักจะมี) แต่ถ้าให้ความรู้สึกถึงขนาดที่ว่าคนเขียนบังคับกูจังวะ ทางเลือกไม่ให้กุเลย หยิ่งติสท์เหมือนกูไปขออ่าน นี่กูเททั้งนามปากกาเลยล่ะ
จริง สิทธิ์ของนข.ติสต์ สิทธิ์เทของนักอ่านเหมือนกัน 55555 แบบนี้เรียกไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายได้มั้ง แต่ก็ต้องรู้ไว้แหละว่ามันนับเป็นการไล่แขก อะไร 'เยอะ' ทำนองนี้มันมีคนเหม็นอยู่แล้ว เหมือนร้านอาหารเรื่องมาก ไม่ซื้อแม่งละ
คนเดียวกันเว้ย เรื่องจักรวาลเดียวกัน กูกะทำเก็บเอง ขายแต่ebook ก็มีคนมาขอให้ทำเล่มขาย กูก็เลยทำเผื่อให้ ไม่เยอะ แต่พอมีคนอื่นรู้ก็จะมาขอแยก ซึ่งกูไม่ได้คิดจะแยกตั้งแต่แรก
ขอบคุณพวกมึงนะ กุไม่รู้ตัวจริงๆว่าแบบนี้คือติสต์ อินดี้ กุแค่สะดวกขายแบบนี้ ใครไม่สะดวกก็ผ่านกันไป 555
นี่แหระ นี่แหระเหตุที่ต้องมีคนช่วยให้คห.เวลาทำอะไร ไม่ว่าบก, เบต้ารี้ด, ผู้ช่วยอื่นๆ เวลาลุยเดี่ยวแล้วมันจะไม่ทันตระหนักอะ อย่างกุเวลาเผลอเขียนอะไรบ้งๆ ถ้าไม่มีเพื่อนมีบก.คอยรีเช้คปล่อยงานออกไปโดน แรงกระแทกทีคือเสวเลย 5555 แม่งบางอย่างก็เผลอมองข้ามจริงๆ ฟีลต้องมีพิสูจน์อักษรแก้แหละ เจ้าแม่สะกดเป๊ะแค่ไหนตรวจเองเพลินเกิน อ่านข้ามคำผิดเบิ้ด
ว่าไปเบต้ารี้ดกูแม่งอู้งานแน่ๆ ส่งไปให้แล้วแม่งบอกแค่ว่าสนุก โอเค ยอดมาก อวยคมกูซะดิบดี
พอปล่อยงานออกไปจริงแม่งกริบ ทำเอากูเสียเวลาเขียนไปตั้งเยอะ
Ky เพื่อนโม่ง ถ้าส่งไฟล์อีบุ๊กให้เมพวันอาทิตย์ประมาณสี่โมงเย็น จะได้วางขายหลังเที่ยงคืนวันนั้นเลยป่าว
ว่าไปขอถามเป็นวิทยาทานหน่อยโม่ง ถ้าสมมุติว่ากูเขียนเรื่องหนึ่งแล้วมันควบอยู่หลายหมวดนี่ ควรใช้อะไรในการเลือกดีว่าจะลงหมวดไหน
อย่างเช่นเรื่องเป็นแนวรักดราม่า + โศกนาฏกรรม เรื่องดำเนินอยู่ในโลกแฟนตาซี เซ็ตติ้งเป็นยุคขุนนางพรีเรียด แล้วในขณะเดียวกันก็เป็นนิยายวายด้วยงี้
>>390 เอาแบบตามสามัญสำนึกของกูไม่การตลาดนะ
ดูแกนหลักของเรื่อง ว่าเน้นไปที่เอเลเมนต์ไหนมากกว่า เช่น เส้นเรื่องหลักคือรักดราม่าของผู้ชายสองคน ไม่ว่าจะเซตติ้งไหน ไปหมวดวาย
ถ้าไม่เน้นรัก แต่เน้นการผจญภัย/ใช้ชีวิตในโลกแฟนตาซี มีเลิฟไลน์เป็นแบคกราวด์ ก็ลงแฟนตาซีได้ แล้วแปะหมวดรองเป็นวาย
Kyมีวิธีรับมือกับความอ่อนไหวใจบางของนักเขียนไหมวะ คนอ่านทักถาม คำที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ นข อธิบายแล้วแต่ก็คิดว่าเป็นความผิดตัวเอง ปิดเรื่องหนีไปเลย
ต้องขายดีขนาดไหนวะ ถึงเรียกว่านขชื่อดังได้ ถ้าเคยได้ทำซีรี ละคร นับไหม
>>394 ไม่มี เรื่องปัจเจกสุด ๆ สุดแล้วแต่บุญแต่กรรมว่าจะเจอนข.ใจหินโดนด่ายับแต่ยิ้มไหว้ย่อหรือนข.ใจบางเป็นซึมเส้าเซ้วเอสตีมต่ำ
>>395 แล้วแต่บาร์คนอีก แต่ได้ทำละครปังเปรี้ยงเรื่องเดียวก็ไม่ใช่ว่าคนจะรู้จักกันถ้วนหน้นะ ต้องยอดแบบเรตติ้งถล่มทลายคนจำนามปากกาได้นั่นแหละ ส่วนตัวกุสมัยก่อนใช้บาร์ถามมักเกิ้ลแล้วคุ้นๆ, นามปากกาติดหูติดตา, มีผลงานเยอะจัดเกลื่อนร้านนส.? พวกชั้นครู ฯลฯ
เพื่อนโม่งกุสงสัยว่าเวลานักเขียนเปิดเรื่องไว้ แต่ยังไม่ได้ลงซักตอน แบบนี้มันจะไม่เสียโอกาสขึ้นใหม่มาแรงเหรอวะ ปกติมันนับตั้งแต่วันเปิดเรื่องเลยป่ะ หรือนับวันที่ลงตอนแรก
ky กุเครียดมาก ตอนนี้เดดไลน์จี้ตูดกุแบบหายใจรดต้นคอเลย แต่กุไม่ลงมือเขียนซักทีเพราะกุกลัวมันออกมาได้ไม่สนุกไม่ดีเหมือนที่กุตั้งใจไว้ เพื่อนโม่งช่วยโอ๋หรือช่วยด่าให้กุแจ้นไปเขียนไฟลุกที
>>401 เป็นกันทุกคนมึง แต่เราต้องผ่านมันไปให้ได้ นี่คือบททดสอบชีวิตของมึงแล้ว งานทุกงานมีส่วนยาก และนี่คือส่วนยากมากกกของงานเขียน มึงต้องสู้กับมัน ต้องแข็งใจทำ แล้วมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน เหมือนมึงอ่านหนังสือไปสอบ หัดขี่จักรยาน หัดขับรถ หัดว่ายน้ำ มันไม่มีทางดีเลิศตั้งแต่แรก มึงก็ต้องทำไปทั้งอย่างนั้นแหละเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้น ไปเว้ย ไปสู้
>>401 มันมาถึงเดดไลน์ขนาดนี้ละ รออารมณ์ไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะเดี๋ยวมึงก็มารู้สึกผิดทีหลังอีกว่าเขียนไม่ดี งั้นก็เหลือเป้าเดียวให้ตัวเองภูมิใจละว่าต้องทันเดดไลน์ วินัยเท่านั้นมึง หายใจเข้าหายใจออกก็ต้องเขียนออกมาให้ได้ เรื่องใหม่ค่อยจัดเวลาใหม่ แต่เรื่องนี้ยังไงก็ต้องปั่นให้เสร็จทันเวลา!
ky ถ้ากูกดขอให้เม้บทำนิยายเสียงให้ไปแล้ว กูต้องทำอะไรต่อไหมวะ สมควรถามเขาไหมว่าเรื่องกูจะได้ทำเมื่อไร ยังไง
Ky พวก สมมติว่ามึงมีนามปากกาเก่า ซึ่งก็ขายดีแหละ แต่อาจจะเผลอทำไรสักอย่างบ้งละโดนนักอ่านบางส่วนสาปถึงขั้นขอเลิกตาม มึงอวตารถอดร่างไปเปิดนปก.ใหม่ ทีนี้ปังเปรี้ยง ประวัติขาวสะอาด ขณะนั้นมึงจะยังกลับไปอัปเดตอะไรในฐานะนปก.เดิมมั้ยวะ หรือปล่อยแม่งร้างไปเลยเหมือนตายไปจากโลกนี้แล้ว พอดีกุเห็นนข.ขายดีบางคนเคยออกงานสม่ำเสมอแล้วจู่ ๆ ก็หายไปเลย ไม่บอกไม่กล่าวไม่มีอัปเดต ละไปนานละเป็นหลายปี ไอ้กุก็มโนแจ่มไปดิ พส.อวตารแล้วปะว้า 55555
>>409 กลับไปทำไมอะมึง5555 กลับไปก็โดนด่าดิ เนียนๆอยู่นปก.ใหม่อะดีละ มีเยอะด้วย มึงจะลองมโนก็ไม่เสียหาย ตามบายเลยเพราะเกิดขึ้นจริง แค่จะเกิดขึ้นกับนักเขียนที่เราชอบมั้ยอันนี้ก็อีกเรื่อง
เอาจริงถ้าเปิดนปก.ใหม่แล้วยังดังคือโชคดีมากนะ สำหรับกูยุคนี้เขียนดีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีดวง มีโชค สู้กับยอดเอนเกจอันน้อยนิด กูเห็นคนดังๆบางคนเขียนพระนางนิสัยเดิมๆ อีเว้นท์จีบกันเริ่มดูซ้ำๆ มีการรียูสในเรื่องใหม่เยอะแยะ แบบที่ถ้าเริ่มตะลุยอ่านเรื่องเก่ามาเรื่องใหม่คือจับจุดได้เลยด้วยซ้ำเพราะเขียนมานาน แต่อยู่ได้เพราะเป็นคนแรกๆที่เขียนลงเว็บแล้วแฟนคลับเหนียวแน่น ได้เป็นคนแรกของนักอ่านหลายคนพอดี เขาไม่อยากไปหานักเขียนคนอื่นเฉยๆ (บางคนบ้งหนักถึงขั้นโกงเลยไม่ยอมทิ้งโซเชียลเดิมของตัวเองไปไง เพราะยังต้องหากินกับแฟนคลับเก่าอยู่ อย่างน้อยคนรีไปด่ายอดรีมันก็หอม)
>>408 ตลาดนิยายเสียงเป็นไงวะ มีคนสนใจเยอะมั้ย
กูเป็นคนนึงที่รู้สึกว่าฟีงนิยายเสียงไม่ไหวเลย ชินกับการอ่านแล้วจินตนาการเอง พอมีเสียงแล้วรู้สึกเสียงมันขัดมูด ผสมๆชวนให้นึกถึงละครวิทยุสมัยคุณย่าคุณยาย แต่น่าจะดีกับคนสูงอายุที่อ่านไม่สะดวก
กูเคยไปอ่านหนังสือให้คนตาบอด แต่กุฝึกไม่ผ่าน ไปสามครั้งไม่ผ่านสักที ท้อ ไกลด้วยสุดท้ายเลยเลิกไป
นข.ที่กุรู้จัก ทุว้าฎารา เขียนเองอ่านเอง ครบจบไม่ต้องรอใครมาพากย์ และเข้าใจอารมณ์ตลค.สุด รับเงินเต็มๆ เสียงโคตรน่ารักนางฟ้านางสวรรค์ด้วยมึง ลองไปฟังจะตกหลุม
>>414 เข้าใจไม่ผิดหรอก กูรู้ว่ามีคนกลุ่มอื่นฟังด้วยในแบบที่มึงว่า แต่กูไม่รู้ตลาดมันกว้างขนาดไหน เลยถาม 408 ที่น่าจะเคยเล่นในตลาดนี้แล้ว ส่วนในรีกูพูดถึงครส.ส่วนตัวที่มีกับนส.เสียง และคห.ในแง่ว่ามันดีกับกลุ่มสูงอายุที่สายตาเริ่มมีความเสื่อม ไม่ได้หมายความคลุมทั้งหมดว่ามาร์เกตมีแค่ผู้สูงอายุ
>>411 >>416 ถ้าถามว่าตลาดนี้เป็นไง กูก็จะตอบว่าไม่รู้อะไรเลยว่ะ กูไม่ได้ช่ำชองตลาดหนังสือเสียงเลย หนังสือเสียงของกูไม่ได้ยอดเยอะเท่าไร ขนาดจัดโปรลดแล้วลดอีกก็ไม่กระเตื้องเลยมึง ฮ่าๆ
อ้อลืมบอก ตรงการกำหนดว่าจะร่วมโปรลดราคานี่เรากำหนดได้เองเหมือนเป็นอีบุ๊คของเราเลย ดูยอดขายอะไรก็ทำได้เหมือนอีบุ๊ค แค่ตอนเอาไฟล์ลงขายพรี่เม็ดเขาจะทำให้
พูดถึง NC ถ้ากูติด Tag NC เอาไว้ แต่ไม่เน้นขายเนื้อหาเสว แค่มีเนื้อหา NC ราวๆ เล่มละ 1-3 ตอนเองนี่กูยังควรติดเอาไว้ปะวะ?
Kyเวลาส่งไฟล์ให้พิสูจน์อักษร มันเยอะมากกก เพื่อนโม่ง ส่งทางไหนกันเหรอ อีเมล? หรืออะไร
ขอบคุณล่วงหน้า🙏🏻
ติดไว้เพื่ออะไรล่ะ
ถ้ากะขายคนหาฉากเรท สามฉากจากเนื้อหาเป็นเล่ม แถมไม่เน้นขายเสว น่าจะไม่ทันใจและไม่มากพอตอบสนองคนที่ตั้งใจหาแนวนั้นอ่านหรอก
ส่วนถ้าจะเอาไว้เตือนคน ถ้าฉากมึงมันล่อแหลมมากจริง +เป็นncด้านอื่นที่ไม่ใช่ด้านเสว แปะ 18+ ติดบัตร ไปเลยตรงจุดกว่านะ
ความหมาย nc ของนักอ่านก็เพี้ยนไปเป็นเฉพาะฉากเยแบบจัดหนักจัดเต็มคำตรงๆเกลื่อนไปแล้วด้วย
ส่วนตัวคิดว่าถ้าอยากติดเพื่อบอกว่ามีเลิฟซีนแบบบรรยายการแทงอยู่นะก็ติดไปได้ แต่มันไม่ค่อยให้ผลทางการค้นหาเท่าไหร่ถ้ามึงไม่คิดขายเสว มันเป็นแท๊กที่กว้างมากน่ะ
ความย้อนแย้งคือ เขียนนิยายมี nc แต่ไม่แปะบัตรกันเต็มเวบ คือ no childern allows แบบใด?
ky พี่หรือน้องตัวเอกตายไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่กูยังเอาความตายของเขามาขยี้ใจตัวละครซ้ำๆ ต้องติด TW มั้ย อยากรู้ว่าคิดกับประเด็นนี้ยังไง มันร้ายแรงถึงขั้น trigger คนเคยสูญเสียครอบครัวเลยหรือเปล่า คือถ้าข่มขืนกับล่วงละเมิดกูพอเข้าใจ ติด TW แน่ๆ แต่ความตายในอดีตของคนคนนึงที่ยังตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในใจตัวละคร ต้องติดมั้ยนะ
>>422 ขึ้นอยู่กับกลุ่มตลาดมึงคือใคร ถ้าตลาดหลักขายพวกป้าๆในเฟซแนวรักหรือโรมานซ์จ๋าๆไม่ต้องติดก็ได้ กูอ่านเรื่องล่าสุดนิยายที่ป้าๆหลายคนรีวิวไว้ นางเอกคิดถึงพ่องที่เป็นลมตาEไปต่อหน้าแทบทุกบท นึกถึงพ่อตลอด นิยายไม่ติดtwประเด็นนี้ และไม่มีใครมองว่าเป็นเรื่องสำคัญก็แค่นางเอกเศร้าที่พ่องตาEและคิดถึงขึ้นมา
แต่ๆๆๆถ้าตลาดหลักของมึงคือx กูไม่รับประกัน พวกนักฉอดในxมันใจบางทุกอณู
>>423 แต๊งจ้า เคยไปส่องหลังบ้านกลุ่มคนอ่านก็ดูสูสีไล่เลี่ยกัน555 กูลังเลจะติด TW ดีมั้ยเพราะอยากหลอกคนอ่านว่าพี่น้องตัวเอกยังมีชีวิตอยู่ แล้วค่อยมาเฉลยกลางเรื่องแบบเซอร์ไพรส์ว่าตายไปสักพักแล้ว ขยี้ด้วยฉากย้อนอดีตไปถึงงานศพกับความดีที่อีกฝ่ายเคยทำอีกสักหน่อย ถ้าติดคือเฉลยแน่ โอเคตัดสินใจละ กูไม่ติดละกัน อยากได้น้ำตา
มึง คนเขียนสั้น ๆ ≈60-80k คำนี้เขาเขียนกันยังไงอะ 55555 ของกุแค่ bg พระนางก็ยาวแล้ว ช่วงจีบกัน ช่วงเดินเรื่อง แก้ปม ซีนตัวละครอื่น ฯลฯ อย่างน้อยต้องทะลุแสนคำ กุยังเขียนไม่สะใจเลย เขียนน้อย ๆ มันยัดพอเหรอ หรือต้องคัดแต่เนื้อเน้น ๆ ;-;
อยากถามว่าถ้ากูอยากเขียนแนวแฟนตาซี ตัวเอกหลักเป็นผู้หญิง ตัวเอกรองเป็นผู้ชาย ดำเนินเรื่องคู่กันยังจบ แต่มันไม่ได้คู่กัน เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากเฉยๆ (นึกภาพโตะเกะ คิรัวกอน ไรประมาณนั้นที่คสพ.ดูส่อสัสๆแต่เป็นโบรแม้น) แล้วนางเอกมีผัวเป็นคนอื่น
คำถาม กูจะโดนนักอ่านด่าไหม55555
>>429 มึงอย่าเขียนแบบยมทูตผงซักฟอกละกัน555 ชงเข้ม แต่เสือกเรือแตก555 ถ้ามันเป็นเพื่อนก็เขียนว่าเป็นเพื่อนกันให้จริง อย่าใส่โมเม้นท์กูว่านักอ่านรับได้ ถ้ามึงหยอดมาตลอดว่า สองตัวนี้ อนาคตผัวเมียแน่ๆ แต่ถ้าเสือกใส่โมเม้นท์ต์โดขิๆ จบแบบเรือแตก มึงเกียมจองหลุมอยู่ในลิสต์นปกที่นักอ่านระแวงได้เลย
#หมายถึงนางเอกกับผัว
ถ้ามึงหยอดมาตลอดว่า สองตัวนี้ อนาคตผัวเมียแน่ๆ
Kyปรึกษากุควรเขียนประวัติการศึกษา การทำงานในเพจนปก.,กู๊ดรี้ดหรือในไอจีดีไหมวะ เช่นจบเตรียมอุฯ+อักษรจุ๊ งี้ มันจะดูดีขึ้นหรือดูสะเหล่อไหมวะ ควรปิดๆไว้หรือเปิดเผยดี หรือพวกมึงคิดเห็นยังไงกับการที่นข.บอกประวัติพวกนี้ในหน้าโปรไฟล์
ky กูเขียนเรื่องนึงจะจบแล้ว แต่มี self doubt หนักมาก ว่าสิ่งที่เราเขียนมันสนุกจริงๆ เหรอวะ มันเผยแพร่ได้จริงๆ เหรอวะ กลัวนักอ่านผิดหวัง พวกมึงเป็นกันบ้างไหมวะ ถ้าเป็นแล้วแก้ยังไง
>>432 ไม่คิดอะไรนะ แต่ถ้าโปรไฟล์มึงอลังจัดจบคิงตันไอวีลีคงี้อาจจะมีคนมองว่าอวด 555 หยอกๆ จริงๆ ชีวประวัตินข.พวกนี้ปกติมากมึง ไปเปิดดูงานสนพ.เก่าๆ เลย บอกหมดเป็นคนบ้านไหน จบรร.ไรม.ไรทำงานไรอยู่ นข.ต่างชาติก็บอกเหมือนกัน ไม่ต้องคิดมาก
>>434 ก็เป็นบ้าง แต่มันจะจบแล้วก็เข็นๆ ออกมาเถอะมึง ช่างแม่งเข้าไว้ มัวแต่กลัวนั่นนี่ลูกมึงก็ถูกดองไว้ในไหอย่างงั้นแหละ ไม่ได้เฉิดฉายสักที ฮึบๆ
กุมา ky ด้วย คำนำนข.ในเล่มนี่กูเล่าได้มั้ยวะว่าเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง/ภาพอะไร ควรไม่ควรมึงว่า หรืองุบงิบไว้คนเดียวดีกว่า ไม่ต้องพาดพิงผลงานจริง (แม้กุจะคันปาก(มือ)อยากเล่ามาก)
>>437 ความเห็นกูนะ ต่อให้มึงไม่ได้รับแรงบันดาลใจจากที่ไหนเลยก็ควรจะปั้นขึ้นมาว่ะ ดักไว้ก่อน จะบอกว่าได้มาจากเรื่องของป้าข้างบ้านในฝันของปู่หรืออะไรก็ได้ เดี๋ยวนี้คนประสาทแดกเที่ยวจับผิดว่านักเขียนลอกคนนั้นคนนี้มันเยอะ กูเคยโดน หาว่ากูลอกซีรีส์มาเฉยเลย ทั้งที่กูไม่เคยดูซักกะแอะ เดี๋ยวนี้กูเขียนอะไรกูมีแรงบันดาลใจหมดอ่ะ นอกจากแต่งนิยายแล้วกูแต่งแรงบันดาลใจด้วย เพื่อความปลอดภัยของกู
กูอยากเขียนบทสนทนาระหว่างตัวละครให้สนุกว่ะ คือคุยกันเฉยๆก็สนุกแล้ว หรือไม่ก็อ่านแล้วไม่น่าเบื่อ กูควรศึกษางานจากไหนวะ จะต่อปากต่อคำคือพูดจาหวานๆก็ได้ อยากอ่านเรื่องที่ตัวละครโต้ตอบกันได้ดี หรือมีเคล็ดลับอะไรมะที่ทำให้ตัวละครคุยกันสนุก
เงิบว่ะกู ช่วงนี้ไม่มีอารมณ์ ไม่มีแรงบันดาลใจให้เขียนเลยลองไปเดินร้านหนังสืออย่างนายอินทร์หวังหาแรงบันดาลใจ
แต่พอไปก็ถึงกับเฟล เพราะดูเหมือนจะมีนิยายขายไม่ออกวางบนเชลฟเพียบ ซึ่งทำเอาคิดย้อนเลยว่าขนาดเรื่องพวกนี้ยังขายไม่ออก แล้วเรื่องที่กูจะเขียนมันจะขายออกเหรอ จนกลับมากอดเข่านอนจิตตกอยู่กับบ้านเลย
ky กูจะแจกโค้ดนิยาย เลยให้ตอบคำถามในเม้น แล้วมีบางคนดูก็รู้ว่าสมัครมาตอบคำถามแบบหว่านแหเผื่อถูกในเวลาไล่เลี่ยกันอะ แอคเพิ่งเปิดแล้วมาเม้นตอบรัวๆจนถูกแบบไม่มีการเว้นช่วงให้กูไม่ติดใจสงสัยเลย ขนแอคมาขนาดนี้ก็ต้องตอบถูกอยู่แล้ว กูก็ผิดเองด้วยที่ไม่ได้เขียนกติกาชัดเจนว่าคนเดียวตอบได้แค่ 1 ข้อ ไม่คิดว่าจะมีคนลงทุนขนาดนี้ พอจะแจกให้เขามันก็รู้สึกผิดกับคนอื่นที่เล่นตามกติกาอะ คนอื่นเขาก็ทำได้ ทำเนียนกว่าด้วย แต่เลือกจะไม่ทำไง ถ้ากูให้เขาก็เหมือนให้ท้ายคนหัวหมออีก กลุ้มใจนิดๆว่ะ
>>447 สารภาพว่ากูเคยทำแบบนี้กับนข.คนหนึ่ง เอาหลายๆแอคที่มีมาตอบให้ตัวเองอย่างน้อยก็ต้องได้ สัก1
ตอนนั้นคนดูออกก็มีแต่ความอยากได้ของฟรีมีมากกว่า และนข.ก็มีแจกเยอะเลยรอดตัวไป
อย่างน้อยมึงก็ได้เรียนรู้แหละว่ามันมีจริงคนที่อยากได้ของฟรี(เอาไปขายได้เงิน)และทำได้ทุกอย่างเพราะกติกาไม่ได้กำหนด
>>448-449 ขอบคุณนะ ได้เรียนรู้แหละ แง555 หลายๆคนก็คิดได้และน่าจะเคยทำแหละ ถ้าทำเนียนก็รอดหูรอดตาไป แต่อันนี้ไม่เนียนมากๆจนกูละเหี่ยใจ เว้นระยะเวลาสักวันสองวัน รึครึ่งวันยังดูมีความพยายามนะ อันนี้คือทำติดๆกันห่างแค่ไม่กี่หน่วยนาทีแบบไม่ไว้หน้ากันเลย กูก็แอบโกรธอะ
น่าจะเพิ่มโควต้าแจกให้คนตอบใกล้เคียงด้วยแหละ ไม่เข้าเนื้อ เขียนเป็นงานดิเรกเฉยๆ ไม่ก็ภาวนาให้คนนั้นเขาหายไปไม่มาเอาของรางวัล (ไหว้มาก) เมื่อก่อนเว็บมันยังโชว์ ip address นะเลยรู้ว่าใครสมัครแอคใหม่ ไปเปิดแอคร้านคอมก็ยังพอเดาได้ แต่เดี๋ยวนี้คือใช้เซนส์อย่างเดียวเลย พอเจอพวกคนจ้องเอาไปขายด้วยคือเซ็งมาก เอาซะคราวหลังอยากจับสุ่มกลุ่มคนที่เม้นบ่อยให้มันจบๆไป แจกแบบเซอร์ไพรส์ไม่ทันตั้งตัวไปเลย
ky ช่วยด้วยเพื่อน กุ ref ท่วม กำลังจะเริ่มเขียนแต่ ref กับ topic ที่จดเก็บไว้เตรียมเขียนมันกระจัดกระจาย คืออยู่ในไฟล์เดียวนี่แหละ แต่กุคิดอะไรออกก็ไปหย่อนไว้ในนั้น ทำยังไงให้กุจัดระเบียบมันให้หยิบมาเขียนตามไทม์ไลน์ได้เร็วๆ บ้างเพื่อน ไม่เอาแบบที่ด่ากุว่ามึงก็จัดแต่แรกนะ 5555 กุรู้ตัว กุผิดไปแล้ว แต่ตอนนี้อยากได้วิธีแก้ปัญหาแบบด่วนๆ
>>452 พูดถูก ไม่มีจริงๆ555 เว้นเสียแต่ว่ามึงจะตบตีตัวเองว่าต้องจัดให้เป็นระเบียบให้ได้ แล้วใช้เวลาครึ่งวันจัดๆอะได้อยู่ กูก็ยอมเสียเวลาวันนึงมาจัดเรียงเลย แลกกับกระบวนการหลังจากนี้มันจะไวขึ้นมากๆ ต้องทำอยู่ดีว่ะ บางที ctrl+f ในแอปที่ใช้จดโน้ตแล้วมันอ๊องๆหาไม่เจอด้วยนะ จัดไว้เป็นระเบียบหยิบใช้ง่ายยังไงก็อุ่นใจกว่า แค่ต้องเตรียมใจนิดนึง
ky เพื่อนโม่ง ถ้ามีคนคอมเมนนิยายว่าภาษาอ่านง่ายภาษาเข้าใจง่ายนี่มันเชิงบวกหรือเชิงลบวะ ไม่เคยเจอคอมเมนงี้ไม่แน่ใจอ่ะ
ky เราจะเปลี่ยนชื่อสำนักพิมพ์ในแม๊พให้ต่างจากนามปากกายังไงนะ กูลองทำแล้วมันแสดงเป็น นามปากกา/ชื่อสนพ. อยู่ดี อยากได้แบบแสดงเป็นชื่อสำนักพิมพ์อย่างเดียวว่ะ
ky เพื่อน กุคือคนที่เคยสงสัยว่าพวกนข.อย่างโลตัสตงกงเขาคิดพล็อตแล้วเขียนจบทุก 1 - 2 เดือน แล้วไม่ทำให้คนเบื่อได้ยังไง ขนาดกุเองชอบเรื่องรักๆ ยังอ่านนิยายรักติดต่อกันทุกเดือน เรื่องต่อเรื่อง แบบนั้นไม่ไหว มีเอียนบ้าง
วันนี้กุสงสัยอีกอย่าง ว่าคนที่เคยอ่านงานของโลตัสตงกง กับพวกนข.ตัวท็อปทั้งหลาย คือ nc เขา พระนางมีท่าซ้ำๆ บ้างมั้ย คือสตอรี่ความรักมันต่างกันได้ในแต่ละเรื่อง แต่กุสงสัยว่าถ้าออกงานถี่ขนาดนั้น ฉากบนเตียงเขานข.พวกนี้เขาไม่ซ้ำกันเลยเหรอ (เพราะเรื่องนึงมันก็ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว มันก็หลายครั้งเข้าไปแล้ว) เพราะไม่งั้นคนคงไม่ตามอ่านขนาดนั้น กุเรสเปกจริงๆ
>>460 ตอบในฐานะคนอ่าน เรื่องนึงท่าจะไม่ซ้ำนะและพอไปเรื่องอื่นบริบทของเรื่องที่พาไปสู่เซ็กซ์ซีนมันก็จะให้อารมณ์ที่ต่างกันไปเรื่องนึงเริ่มเรื่องที่หลังจากxxxกันแล้วจนเหงื่อไหล อีกเรื่องก็อาจเริ่มจากรู้จักไต่ระดับความสัมพันธ์จนได้xxxกัน ถ้าเป็นนิยายรัก อาจจะมีบรรยายแซ่บๆ1ครั้งว่าแก่นกายเข้าไปแต่นอกนั้นก็จูบ และจับตรงไหนก็บรรยายไป
คนอ่านอย่างกูไม่รู้สึกว่าแพทเทิร์นมันซ้ำเพราะบริบทส่งให้เกิดซีนนี้มันต่างกัน ส่วนคนเขียนรู้สึกเบื่อหรือซ้ำไหมอันนี้ไม่รู้ว่ะ
ky อีกที พอดีกุไปเจอประเด็นลูกมีแฟนที่นิสัย/หน้าตาคล้ายพ่อ/แม่ตัวเอง แล้วคนบอกว่ามันบ้ง มันแปลก มันเหมือนอินเซสทางใจ (?) คิดว่าไงกัน อย่างลูกสาวชอบผช.ขาวตี๋ ไทป์โกลเด้น ใส่แว่น เป็นหมอเหมือนพ่อตัวเองงี้ มันต้องตีความว่าลูกอยากได้พ่อเป็นผัวเหรอวะ
คือช่วงนี้กุอยากเวิ่นเว้อเขียนแนว ญ อกหักโลกหม่นมาเจอคนที่ทำให้อยากรักอีกครั้ง แต่ๆๆ กุดันชอบที่ตัวเอกจมทุกข์ว่ะ รู้สึกมันดูรักซึมลึกแล้วผช ในความทรงจำนั้นมันดูพิเศษจริงๆ แต่กุก็ไม่อยากเขียนให้สองคนนี้มันวนกลับมาได้กันแฮะ กลุ้มวุ้ย ลูกกุต้องโสดและเศร้าต่อไปเหรอ
ky ถามหน่อยเพื่อนโม่ง ปกติเม้ดจะจัดโปรงานหนังสือที่บ้าน ทีนี้รอบนี้งนส.คือ 10 ตุลา มันเช็คได้มั้ยว่าเม้ดจะจัด 10 ตุลาเป็นต้นไป หรือเริ่มวันที่ 1 เลย กุกลัวออกเรื่องใหม่ชนกับงานหนังสือแล้วจะจม แต่ใดๆ กุไปถามเม้ดมาแล้ว แอดมินบอกรอติดตาม เพื่อนโม่งพอรู้คร่าวๆ มั้ยว่ารอบก่อนๆ คือตรงตามวันเลยหรือยังไง ขอบใจล่วงหน้าเพื่อน
>>470 คือปกติกุไม่เคยดูฤกษ์ไง งานก็ขายโอเค ไม่ถึงกับเปรี้ยงแต่ก็ไม่ดับ ยอดออกกลางๆ ค่อนไปทางดี แต่ไม่ดีมากกก กุชอบเห็นพวกนข.ในเอ้กมาหวีดว่ายอดปังมากกกก ต่างจากเรื่องที่แล้ว เพราะหัดมู สวดนั่นนี่ ดูวันมงคล แต่ความที่กุไม่เชื่ออะไรแบบนี้ไง เห็นนข.โดยเฉพาะสาย ngl ชอบพูดถึงหมอดูประจำตัว ทั้งหมอในเอ้กนอกเอ้ก กุแอบคิดด้วยซ้ำว่าเป็น propaganda ระหว่างนข.กับแอคดูดวงรึเปล่าด้วยซ้ำ 55555 แต่พอยอดกับความแมสมันกลางๆ เรื่อยๆ แล้วช่วงนี้เห็นคนบ่นว่างานขายไม่ค่อยได้กัน กุก็เริ่มคิดว่าหรือกุควรทำอะไรสักอย่างด้วยวะ 5555
KyกุไปเจอนักเขียนประกาศเปิดAffiliateใน ติกตอ กด้วย บอกว่าให้นักอ่านอ่านนิยายและมีรายได้ไปด้วยกัน ดีอะ กุชอบแม้กุจะไม่ได้เล่น ติกๆก็ตาม
ky เพื่อน ปกติกุเขียนไม่เคยอิง plot structure ทีนี้เรื่องใหม่อยากลองตามขนบดู เผื่อจะได้พัฒนาตัวเองด้วย เลยอยากถามเพื่อนโม่งว่าถ้าเป็นรักโรแมนติก ไม่เกิน 50k คำ การวางพล็อตรูปแบบไหนเหมาะสุดน่ะ เช่น 3 ส่วน 5 ส่วน 7 ส่วน อะไรนั่น
ทำไงดีเพื่อน กุกะออกเล่มใหม่ก่อนงานนส. ไม่น่าทันละ จมแน่นวลลล กุออกๆ ไปซะ หรือย้ายไปต้นพฤจิดีวะ ช่วยด้วยเพื่อนนน
>>486 กุเพิ่งเคยออกชนงานนส.ก็รอบนี้แหละ เศร้าว่ะ
ปกติยอดกุก็โอเค กลางๆ มีป้ายแดงบ้างเรื่องสองเรื่อง แต่ไม่ถึงกับเสือนอนกิน
แต่ช่วงนี้เห็นมีแต่คนบ่นเรื่องเศรษฐกิจ เลยปั่นน่าดู กะว่าพอมีเวลา
เม้ดแม่งเริ่มโปรปลายก.ย.เลย กุจะเครซี่ 55555
ถ้าฉิวเฉียดแล้วกุยังว่าเรื่องไม่พร้อม กุเกลาๆ ไป แล้วค่อยออกพ.ย.แบบที่มึงว่าดีกว่า
มึง สมมติเคสนิยายบ้งติดเตือนฉ่ำแล้วนักอ่านยังดั้นด้นฝ่าดงไปอ่านแล้วด่าฉ่ำ
นข : กุเตือนแล้ว มึงจะอ่านทำไม
นอ : ก็กุจะด่า มึงจะทำไม
ความเห็นใคร valid กว่า หรือว่ามวยถูกคู่ 55555
KY ชวนเหล่าโม่งคุยหน่อย
มันเกี่ยวกันมั้ยนะที่ ผญ จะประสบความสำเร็จในวงการนิยาย (โดยเฉพาะแนวรัก) มากกว่า ผช.
พอกูมีเพื่อน นข. ชาย จำนวนนึงเคยเป็นนักเขียนมาก่อน สมัยแนวแฟนตาซีบูมๆ นี่ดังพอตัวทั้งนั้น แต่ปัจจุบันแทบเรียกได้ว่าไม่มีใครรู้จักงานใหม่ๆ จนต้องทำงานอื่นมาเสริม หลายคนเลิกเขียนเป็นงานหลักลดให้กลายเป็นแค่งานอดิเรกเลย
ส่วนของพวกเพื่อน นข. หญิง ที่เห็นมีแต่ออกงานใหม่มาเรื่อยๆ ขายได้เรื่อยๆ ไม่ได้ปังมาก แต่ขายเลี้ยงตัวเองได้ตลอดทั้งนั้นเลย
>>489 แฟนตาซีช่วงนี้มันก็แนวระบบ ดันเจี้ยน ผู้กล้า ปลูกผัก สวมร่างราชา บลาๆอะไรประมาณนี้นะ มีกลุ่มตลาดของเขา เมื่อก่อนฝ่ายชายนี่สายเขียนส่งสนพ.ด้วยป่ะ แนวรักที่ผญ.แต่งหลายคนก็ไม่ได้ขายได้ขายดี บางทีไม่ดังแต่มีเงินตลอดเพราะเน้นออกเดือนละเล่มเลยมีเงินหมุนเข้าออกตลอด ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอ แต่แฟนตาซีมันยากตรงไม่ได้จบแค่เรื่องรักอะดิ สงคราม การเมือง ต้องใช้เวลาเซ็ตติ้งกับมีหลายภาคหลายเล่มเลยใช้เวลาหน่อย กูเห็นผช.สายแฟนตาซีบางคนก็เปลี่ยนมาขายวายแทน เขาก็มีเงินใช้นะ ขึ้นอยู่กับการปรับตัวตามยุคว่ะ กับผช.บางคนไม่ได้อยากเขียนแนวรักไง เขาก็ไม่ลงสนามสายนิยายรัก แฟนตาซีวายเบทก็ขายได้
เอาจริงเดี๋ยวนี้แต่ละคนเหมือนต้องออกมาเขียนเองไม่พึ่งสนพ.กันทั้งนั้นแล้ว สนพ.สมัยนี้อย่างกะพื้นที่สงวนไว้แค่นิยายแปล ส่วนนิยายไทยก็เขียนเองขายกันเองนะพวกมึง555
>>491 ต่อนิดๆ แต่แนวรักใช่ ผู้หญิงประสบความสำเร็จมากกว่า แต่ผช.ประสบความสำเร็จก็มี หนุ่มบางคนเบนไปสายรักแบบวายชช ก็ประสบความสำเร็จเหมือนกัน แค่ไม่ได้อยู่หมวดโรมานซ์ แต่อยู่หมวด boy love ไง หมวดนี้ก็เปย์เหรียญฉ่ำ ยอดหลังบ้านก็เยอะพอตัว ถ้าไม่โกงไม่แขวนคนยังไงก็อยู่รอดถึงขั้นปลูกบ้านกันได้หลายคนอะ
>>494 อย่า ถ้ามึงไม่เสพสายนี้แต่อยากตกสาววาย มึงอย่าคิดว่าแค่เอาคำว่าผมไปใส่ให้นางเอกก็พอแล้วเชียวนะ
Bromance นั่นแหละคำตอบ สไตล์เพื่อนสนิทตายแทนกันได้ มีฉากสนิทๆกันหน่อย หวงเพื่อนนิดๆ ทุ่มเพื่อเพื่อนได้สุดๆ เป็นเพื่อนคนสำคัญเป็นพิเศษอะไรงี้ก็พอ ถ้ามึงไม่ใส่ฉากเยบและไม่ได้ให้มันได้กันอย่างเป็นทางการ ก็ถือว่ามีฟีลวายเบททั้งนั้น ส่วนระดับความเบทค่อยว่ากันอีกที
>>489 แฟนคลับสายแฟนตาซีผชแท้ๆมันมีฐานลูกค้าเป็นพวกวัยรุ่นสายเทคโน พวกนี้ไม่สนสำนวน ไม่สนความสมเหตุสมผล แค่พล็อตสะใจก็โอเค แถมมีทัศนคติว่าจ่ายเงินซื้อแปลว่าโง่ เดี๋ยวนี้เขาเลยไปอ่านนิยายแปลเกรดซีกัน เพราะเรื่องยาว ราคาถูก ยิ่งใช้ AI แปลให้อ่านฟรียิ่งชอบ ดีกว่านั้นก็อ่านพวกหมึกหินที่แปลรู้เรื่องหน่อย ติดเหรียญตอนละไม่กี่บาทแทน มึงลองไปส่องตามกลุ่มนิยายพวกนั้นดิ คนอ่านยังเยอะนะมึง แต่พวกนี้นิสัยองุ่นเปรี้ยว ตัวเองไม่มีเงินซื้องานคุณภาพ เลยแก้เกี้ยวด้วยการเหยียดพวกงานคุณภาพดีว่าคลั่งความถูกต้องในการใช้ภาษาเกินไป อ่านไม่สนุก
>>500 อย่าร้องเลยมึง ความจริงคือคนพวกนี้ไม่จ่ายเงินซื้อหนังสืออยู่แล้ว สมัยก่อนมันก็เช่าเอา แต่มีร้านเช่ามาช่วยชุบชูนักเขียนไว้ไง สมัยนี้ไม่มีร้านเช่า พวกมันก็ไปหาของถูกของฟรีจากที่อื่น มึงเน้นคุณภาพเข้าไว้ คีปความต่อเนื่อง คุณภาพงานของมึงจะขายตัวของมันเอง ส่วนความต่อเนื่องของมึงคือการไม่ปล่อยโอกาส วันไหนโชคเข้าข้างมึง คนอ่านเรื่องที่มึงเขียนอยู่แล้วชอบ งานเก่าๆของมึงจะพลอยขายได้ไปด้วย งานคุณภาพไม่มีเสียของ
ต้องดังแค่ไหน ถึงจะเรียกว่าตัวแม่วะ มีเกนวัดไหม
>>500 นักเขียนไทยแฟนตาซี ถ้ามองโลกแง่ดีคือยังพอมีข้อได้เปรียบบ้างคือไม่มีงานไพเรทออกมาให้อ่านฟรี ถ้ามีก็ส่วนน้อย ถ้ามีนักอ่านจริงๆยังไงนักอ่านก็เปย์ พวกนิยายแปลแฟนตาซีติดเหรียญ แค่เสริชชื่อเรื่องในกูเกิ้ลก็เจอเว็บเถื่อนอ่านฟรีล่ะ คนอ่านดูเยอะแต่ไม่รู้ว่าคนจ่ายจริงมันสัดส่วนขนาดไหน กูว่าเรื่องนี้แย่กว่าแปลเอไออีก
>>489 กูว่าไม่แปลก ผญ. มักจะเข้าใจ ผญ. ด้วยกันว่าต้องการผู้ชายแบบไหน เลยสะท้อนออกมาผ่านพระเอกนิยายไง ส่วนผู้ชายก็เข้าใจว่าผู้ชายต้องการผู้หญิงแบบไหน ผู้ชายเลยมักเขียนโรแมนซ์แบบฮาเร็มไง แต่มันไม่ค่อยปังในหมู่นิยายโรแมนซ์ ต้องเป็นพล็อตแฟนตาซีผสมโรแมนซ์ พวกเจาะเวลาหาจิ๋นซี (เก่าไปปะ กูก็ไม่ค่อยอ่านแนวฮาเร็ม) ถามว่าเกี่ยวกับเพศไหม กูว่ามันเกี่ยว มันเริ่มจากการปลูกฝังคติเรื่องเพศ ตั้งแต่เกิดยันโตอะมึง ผู้ชายก็มี norm แบบผู้ชาย มี gender role แบบผู้ชาย ผู้หญิงก็จะมี norm แบบผู้หญิง ซึ่งถูกปลูกฝังมาต่างกัน
ประเด็นคือคนส่วนใหญ่บนโลกนี้เป็น monogamy แต่ด้วยคติเรื่องเพศผู้ชายหลายลึกๆ แล้วอาจอยากเป็นพวก polygamy (ผัวเดียวหลายเมีย) มันเลยสะท้อนออกมาผ่านการมีฮาเร็ม แต่ฐานนักอ่านโรแมนซ์ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ซึ่งจริงจังกับเรื่องผัวเดียวเมียเดียวมากกว่า (เพราะสำหรับผู้หญิงการมีหลัวหลายคนมันผิดบาปกว่าผู้ชายมาก) โรแมนซ์แบบฮาเร็มเลยไม่ค่อยฮิตในหมู่นักอ่านโรแมนซ์เท่าไหร่ หรือถ้ามีนักเขียนผู้ชายคนไหนไม่ได้เขียนแนวฮาเร็ม มันก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ตัวพระเอก หรือ story ความรักระหว่างพระนาง มันยังไม่ตอบโจทย์สิ่งที่นักอ่านผู้หญิงต้องการ (ไม่ได้ตัดสินว่าดีหรือไม่ดีนะ)
กูเห็นนักเขียนผู้ชายเขียนเรื่องรักใคร่ๆ แล้วฮิตคือออกแนวกึ่งๆ ปรัชญาไปเลย แบบมูราคามิ (แต่สำหรับกูมูราคามิก็เวิ่นเว้อชิบหาย) คือไม่ได้อ่านเอาสนุกวาบหวิวฟินจิกหมอนแต่อ่านแล้วมีประเด็นอะไรให้คิด เหมือนอ่านวรรณกรรมคลาสสิคอะ ไม่สนุก แต่ปวดสมอง กูคิดว่าอย่างนั้นนะ
>>509 เออว่ะ นอกจากปรัชญา ชายแท้ สืบสวน บางทีเลิฟซีนออกแนวซาดิสต์ ดิบๆดุๆ (แต่เรื่องสืบสวนนี่เห็นด้วยมากๆๆๆ พี่ผู้ชายที่กูเคยทำงานด้วยก็เขียนนิยายรักชญ แต่ละแนวของเขาคือมีสืบสวนเป็นพล็อตหลักทุกเรื่อง แกทำงานสายนี้ด้วยแหละ หรือคนสายนี้เขียนนิยายเป็นงานเสริมเยอะวะ555)
ky กูเพิ่งค้นพบว่านิรนามในเม้ดไม่มีอยู่จริง วันนี้ลองเข้าหลังบ้านมันก็โชว์คอมเมนต์ตามปกติ แล้วเมนต์คนนิรนามที่จะเป็นหน้าเทาๆเวลาดูผ่านหน้านิยาย หลังบ้านยังไม่เห็นชื่อก็จริง แต่เห็นรูปโปรเว้ย ใครตั้งรูปโปรเป็นไทโปนามปากกาแล้วไปโหวต 2 ดาว 3 ดาว ด่าแรงๆในนิยายคนอื่น ถ้าเขาคนเช็กหลังบ้านเขาสืบจากรูปได้นะเว้ย ตีกันตายเลยหน่า ใครสายนี้ก็ระวังๆไว้ ต้องงอกแอคหลุมเพิ่มนะมึง555
ใช่ หนังสือของฉัน > ความคิดเห็น ปะ?
เชี่ย กุไปดูมาละ ถึงได้เห็นว่าเรื่องอื่นของกุ มีคนอ่านที่แสดงตัวเรื่องอื่น ไปให้ดาวแบบนิรนามไว้ด้วย เพราะรูปโปรเดียวกันเด๊ะ แบบไม่ใช่รูป stock image ด้วย ขอบใจมึงมากเพื่อน เบิกเนตรมาก
เมดไม่ระบุตัวตนไม่ใช่เซฟโซนของกูอีกต่อปัยยย
เชี่ยยย กว่ากูจะกล้าพิมพ์บอกเหตุผล108ที่กูไม่ชอบได้อย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีเงาแค้นตามมาทีหลัง
เมดแม่งเปิดช่องโหว่เฉยยย😢
แต่ก็ดีกับนข.ที่อยากรู้ว่าเขาคนนั้นคือใครอะนะ 🥴🥴
สำหรับนักอ่านที่มีใจรักการรีวิวแบบไม่ระบุตัวตนวิธีแก้ง่ายๆคือไม่ต้องใส่รูปโปรไฟล์ตอนพิมพ์รีวิวนั่นแหละ พอพิมพ์เสร็จค่อยกับไปตั้งค่าใส่รูปใหม่ก็ได้ เพราะระบบมันไม่เรียลไทม์ มันจะโชว์ให้เห็นเฉพาะรูปขณะที่พิมพ์รีวิวนั้นๆ
เหมือนสถานะ-มีแล้ว ก็เหมือนกัน ตอนยังไม่ซื้อไปรีวิว จะไม่ขึ้น-มีแล้ว
แต่พอหลังจากซื้อแล้ว รีวิวที่คอมเม้นไว้ก่อนหน้าก็จะไม่ขึ้นว่า-มีแล้ว เหมือนเดิม -มีแล้ว-จะขึ้นถัดจากชื่อแอคเค้าเมื่อซื้อแล้วเรียบร้อยเท่านั้น
>>514 ช่าย
>>516 ดาบสองคมฉิบหาย ใครเช็กเจอนักเขียนหน้าไหว้หลังหลอก ในแชทแอ๊บบอกว่ารัก กอดๆคับออกเล่มใหม่ แต่ดันมากด 1 ดาวหรือดิสเครดิตแบบนิรนามคือตีกันตาย กูนึกภาพคนแคปจอเอารูปโปรมาเทียบแล้วแหกกันได้เลย555
>>518 กูลองเปลี่ยนละ พอคลิกขวาดูรูปอีก tap มันโชว์รูปปัจจุบันที่เพิ่งเปลี่ยนด้วยอะ แต่แต๊งกิ้วมาก เดี๋ยวลองปรับตาม บางทีอาจมีวิธีแก้ แต่ก็มีคนพลาดเรื่องไม่ได้เอารูปโปรออกเหมือนกูเยอะ ระวังๆไว้เด้อ
>>518 กู 519 ลองทำละเออ ตามอันนี้เลย รูปโปรตอนติ๊กระบุตัวตนกับตอนเอาติ๊กระบุตัวตนออกเหมือนจะแยกกัน แบ่งใช้ให้ต่างกันก็จบ กูตื่นตูมไปเองสินะ กราบขอโทษเพื่อนโม่งมาด้วย ณ ที่นี้ที่ทำให้ตกใจ ส่วนใครที่เพิ่งรู้เหมือนกูก็...ทำอะไรให้รอบคอบละกัน คนหน้าคุ้นในโหมดนิรนามเยอะเหลือเกิน ไม่อยากเห็นก็ดันไปเห็นเข้าซะงั้น555
ky เพื่อน ปกติอีบุ๊คขนาด A5 นี่ margins ซ้าย ขวา บน ล่างของหน้ากระดาษ อย่างละ 2.54 ซม. ตามค่า default มันใหญ่ไปมะ ปกติใช้ขนาดเท่าไหร่กันน่ะ
ปกติเวลาเลือก Thai distributed บางที word มันแยกคำตอนขึ้นบรรทัดใหม่ แบบ "เจ้า" บรรทัดบน "ชาย" บรรทัดล่าง แบบนี้กุทำไรได้บ้างเพื่อน ปรับตรงไหน
ลองเอาไม้บรรทัดวัดคร่าวๆ จากเล่มนิยายทั่วไปก็ได้มึง แต่ปกติด้านขวากับด้านล่างกุจะเว้นน้อยกว่าอีก 2 ด้น เช่นถ้า ซ้าย บน 2.5 ด้านขวากับล่างจะ 2.0 ส่วนตัวกุชอบแบบนี้ มันสบายตาดี
>>522 ที่กุเคยทำคือครอปทั้งบรรทัดแล้วปรับความห่างให้แคบเข้ามาหน่อย ถ้ายังไม่เข้ามาก็ครอป 2 บรรทัดเลย แล้วดูคำอื่นด้วยให้มันโอเค เวลาพิมพ์ลงมาในกระดาษมันเห็นความต่างไม่มาก
Kyถ้าเป็นนักเขียน แต่มีแอคหลุมไว้ใช้ในฐานะนักอ่านและรีวิวนิยายที่ชอบ-ไม่ชอบ โดยไม่เปรียบเทียบอะไรกับใคร แค่บอกว่าชอบไม่ชอบตรงไหนมันจะน่าเกลียดไหมวะ การมีสถานะเป็นนักเขียนมาวิจารณ์งานของนข.คนอื่นมันไม่ดีใช่ไหม
เพื่อนโม่ง กูมาขอกำลังใจ เขียนนิยายเรื่องนึงมาสองปี กำลังจะจบในสองสามเดือนก่อนหมดปีนี้แล้ว กูทั้งดีใจทั้งจะไม่ไหวแล้วว่ะ กูทำอะไรลงไปวะเนี่ย ใช้เวลานานเกิน แทบจะขายวิญญาณเขียน เพื่อสุดท้ายได้นิยายที่ไม่รู้จะขายออกรึเปล่าเนี่ยนะ หน่านิ้!?
>>525 ถ้าแยกแอค ไม่ได้วิจารณ์ในฐานะนักเขียนก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าด่าแบบเปิดหน้าเลยว่าตัวเองเป็นนักเขียนก็ไม่ค่อยดี มันก็จะเหมือนชักจูงคนนิดนึง ในทางกลับกัน ถ้ากระแสตีกลับ มันจะส่งผลถึงนิยายมึงด้วย เพื่อความเซฟของตัวมึงเอง มึงขุดหลุมให้มิดเลย อย่าให้ใครรู้
แต่ถ้าชมนะ มึงชมแบบเปิดหน้าเลย คำชมใครๆก็ชอบ
ใครเคยลองใช้indesignจัดหน้าแล้วจะพอทไปทำepubบ้าง
กุอยากรู้ว่าพวกshitf+enterที่กุเคาะตอนจัดหน้านี่มันจะติดไปด้วยไหม แล้วถ้าในไฟล์มีภาพประกอบด้วยจะเป็นไรป่าว
ky ถ้าแนวชญ. เน้นรัก มี nc แต่ไม่แรงมาก เพิ่งเริ่มเขียนได้เรื่องสองเรื่อง แล้วอยากติดเหรียญกับขายอีบุ๊ค วิธีไหนถึงขายดีสุดน่ะเพื่อน
ปิดตอนส่วนใหญ่ไปเลยเน้นขายอีบุ๊ค หรือติดเหรียญเฉพาะ nc หรือติดเหรียญด้วยขายอีบุ๊คด้วย
>>527 เก่งมากมึง ช่วงแรกๆมันก็จะตั้งคำถามกับตัวเองแหละ แต่ได้ทำสำเร็จขนาดนี้มึงก็จะใจดีกับตัวเองและโอบกอดตัวเองได้ละ ของกูเคยมีเล่มนึงเขียนมาปีนึงมั้ง จบแล้วก็ขายไม่ดี เม้นต์ก็ร้าง ช่วงแรกก็ซึมมาก แต่นานวันเข้าก็ภูมิใจอะ เขียนจบได้โดยไม่ทิ้งกลางทางเลยหน่า ตั้งปีนึงแน่ะ! อย่างข้อความของมึงก็เป็นกำลังใจให้กูนะ เพราะตอนนี้กูก็เขียนนิยายมา 1 ปีละยังไม่จบเลย กลัวว่าจะได้ดองตลอดไปจนไม่มีวันจบด้วยซ้ำ คนรอบตัวแทบจะออกเดือนละเล่มกันหมด มาเจอมึงก็คือเอ้อ ไม่เห็นเป็นไร กูยังเหลือเดดไลน์ให้ตัวเองอีกตั้ง 1 ปี ไม่ใช่ทุกคนจะเขียนจบเร็วนี่หว่า มึงทำได้กูก็ต้องทำได้ ขอบใจนะ มึงเก่งมาก!
>>534 นักเขียนที่ทำแบบนี้ โดนนักอ่านแอบเทแบบเงียบๆ ก็เยอะนะ ถ้าคิดว่าติดเหรียญถูกกว่าตั้งเยอะ มึงก้ติดเหรียญตอนพิเศษแพงหน่อยก็ได้ อย่าหาทำเลยอีแบบเหมือนบังคับถ้าอยากอ่านก็ต้องซื้ออีบุ๊คทั้งเล่มเพื่ออ่านตอนพิเศษอะ หรือถ้ามึงจะทำ มึงต้องแจ้งให้เขาเห็นชัดเจนว่ามึงจะไม่ลงตอนพิเศษในติดเหรียญ
>>538 เรื่องนึงของกุ กุบอกตั้งแต่เปิดเรื่องเลยว่าจะมีตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊ค ก็ไม่มีใครบ่นอะไร แต่กุสังเกตเองว่าฝั่งรายตอนที่ติดเหรียญ คนซื้อประปรายมากเลยเพื่อน กุเลยไม่แน่ใจว่าจะยังไงดี
แต่กุเข้าใจที่มึงว่ามามากๆ เลย กำลังหาทางอยู่ คือกุรักคนที่ตามอ่านรายตอนตั้งแต่แรกมากเลย เหมือนบางคนที่ซื้ออีบุ๊คเพิ่งมาเจอเรื่องกุทีหลังตอนลงเม้ด กุเลยกำลังคิดว่าระหว่างทำแบบเดิม บอกแต่ต้นว่ามีตอนพิเศษเฉพาะในอีบุ๊ค แล้วติดเหรียญรายตอนถูกกว่า กับอีกทีลงตอนพิเศษรายตอนด้วยแต่ติดเหรียญแพงหน่อยแบบที่มึงว่า แต่แบบนี้ไม่ทำให้คนซื้ออีบุ๊คน้อยลงใช่มั้ย?
กุงงว่าทำไมต้องทำเหมือนบังคับซื้ออีบุคอีกรอบทั้ง ๆ ที่ติดเหรียญก็ได้ บางคนขายเฉพาะอีบุคไปเลย ไม่ติดเหรียญในเว็บพอเข้าใจได้ แต่ติดเหรียญแล้วกั๊กตอนพิเศษไปลงแค่อีบุค มองยังไงก็เหมือนบังคับซื้อ เป็นกูคงลงขายตอนพิเศษให้ครบทุกแพลตฟอร์ม เฉลี่ยราคาติดเหรียญกับขายอีบุคพอ ๆ กัน เพราะทั้งซื้อเหรียญซื้ออีบุคก็ลูกค้าเหมือนกัน มีแค่เล่มกระดาษที่ราคาสูงกว่า เพราะต้นทุนมันสูงกว่าอย่างอื่น จะอยู่นาน ๆ อย่าเม้ดเยอะกับคนอ่านดีกว่านะกุว่า ถึงจะบอกล่วงหน้าว่าตอนพิเศษมีแค่ในอีบุค แต่ถ้ากูเป็นคนอ่านก็คงรู้สึกว่า แล้วกูที่ซื้อเหรียญนี่ไม่ใช่ลูกค้ามึงหรอ
>>540 >>541 ขอบใจเพื่อนโม่งมาก กุไม่เคยคิดแง่นี้มาก่อนเลย
คือกุเป็นสายลงตอนพิเศษสนองนี้ดตัวเองน่ะ ไม่ได้มองมันในแง่การตลาดหรือเพิ่มมูลค่าให้อีบุ๊ค
แค่อยากอ่านเรื่องของตลค.ต่อ แบบนอกความดราม่าในเรื่องหลักไรงี้
ก่อนกุออกอีบุ๊คครั้งแรก กุไปส่องตามที่นข.คุยกันในทวิต ว่าติดเหรียญยังไง ขายยังไง
เหมือนในนั้นส่วนใหญ่จะมองว่าถ้าไม่ลงตอนพิเศษในอีบุ๊คที่เดียวแล้วจะขายอีบุ๊คไม่ได้
กุก็ยึดตามแบบที่คนอื่นเขาทำกันมา
แต่พอมาฟังพวกมึงแบบนี้ มันก็คล้ายๆ กับที่กุรู้สึกมาตลอดจริงๆ
ว่า อ้าว แล้วรายตอนไม่ใช่ลูกป๊าเหรอ
ขอบใจมากๆ เพื่อน เดี๋ยวเรื่องใหม่กุลงตอนพิเศษในรายตอนด้วยดีกว่า
>>542 กูบอกเลยพวกในเอ็กซ์มึงดูด้วยคนที่แนะนำมันขายดีหรือเปล่า กูยังไม่เคยเห็นนักเขียนดังๆ ทำแบบที่พวกนั้นว่าเลย มีแต่เอาตอนพิเศษมาแยกเป็นเล่มฟรี ไม่ก็แยกขาย ใครอยากจะอ่านต่อตอนพิเศษก็ซื้อ ไม่อยากอ่านก็ไม่ซื้อก็ได้ หรือว่าลงเฉลี่ยเท่ากันทั้งสองแบบ นักเขียนที่ดังกูว่าเขาทรีตลูกค้าทุกคนเหมือนคนพิเศษทั้งหมดไง คนเลยรักและหนับหนุน ส่วนพวกในเอ็กซ์แขวนเก่ง ตัดพ้อนักอ่านเก่ง มึงเลือกเอาจะเป็นนักเขียนแบบไหนในสายตานักอ่าน
พวกมึงก็น่ารักมากเลย กุคิดถูกจริงๆ ที่มาถามในโม่ง ถามข้างนอกกุกลัวผิดๆ ถูกๆ แล้วโดนด่า 555
ขอถามเพิ่มนะเพื่อน จากที่ไปส่องในทวิตมาเหมือนเดิม
มีหลายคนบอกให้ติดเหรียญแบบซอยตอน ถ้าแต่ละตอนถูกลง คนจะกดซื้อแบบไม่ลังเล
แบบถ้าปกติตอนละ 3k - 4k คำ แล้วตอนละ 4 - 5 เหรียญ
ให้ซอยเป็นตอนละพันคำ ขายตอนละ 2 - 3 เหรียญแทน
แบบนี้โอเคมั้ย? หรือควรขายเต็มๆ ตอนไปเลย เพราะเรื่องที่แล้วที่กุบอกคนซื้อประปราย กุก็ไม่ได้ซอยตอน
เมื่อกี๊วิ่งไปส่องของพวกโลตัสตงกงกับตัวท็อปชญ. ก็เหมือนเขาซอยตอนกัน เป็น 1/3 2/3 อะไรแบบนั้น
บางคนกุเห็นซอยเหลือตอนละ 700 - 800 คำเอง
>>545 แล้วมึงจะพบว่า ถ้ามึงใช้เรทราคานั้นทำรายตอน มึงอัดยังไงก็ทำให้ราคาเท่ากับอีบุคที่คิดจากเรท 0.0020-0.0025 *คำไม่ได้
ของกูรายตอนถูกกว่าอีบุคเกือบ 40% แต่กูไม่สามารถตั้งราคารายตอนอัพไปเกิน 5 บาทต่อตอนได้ กูตั้ง 5 บาทที่ 3200 คำอัพ ตอนปกติอยู่ที่ 1500 -3000 คำ ตั้ง 2-4 เหรียญ
แต่กูถือว่าอีบุคมีความเป็นรูปเล่มถาวรมากกว่ารายตอนอ่ะ ถือว่าเป็นการแบ่งแยกตลาดไปเลย ลูกค้าที่กังวลราคาไปรายตอน ส่วนลูกค้าที่โอเคกับอีบุคก็มาอีบุค กุบอกชัดตั้งแต่ต้นว่ามันถูกกว่า
กูในฐานะนักอ่าน ถ้าเห็นรายตอนราคาเกิน 4 บาทสมองมันจะคิดไปในทางว่าแพงทันที แล้วก็ไม่ได้มาดูหรอกว่าตอนนั้นมันมีกี่พันคำ
แต่ถ้าราคาไม่เกิน 3 บาทแม้ว่าจะมีแค่ไม่กี่ร้อยคำกูก็มองว่าถูกเพราะเลข 3 ในเชิงจิตวิทยาคือถูกกว่าเลข 4 5 แน่ๆ
ดังนั้นกูขอแนะนำว่าซอยตอนย่อยๆ แล้วขายไม่เกินตอนละ 3 บาท และราคารวมควรให้ถูกกว่าอีบุ๊คนิดหน่อยหรือเท่ากันก็ได้ แต่ขอให้มีตอนพิเศษครบอะไรครบเหมือนอีบุ๊ค
Ky มึงว่าการเป็นนข.แล้วไม่ทำตัวเมคเฟรนกับนข.คนอื่น ไม่ค่อยลงมาคุยเล่นกับนักอ่านนี่ดูไม่ดีหรือพลาดอะไรไปป่าววะ
คือกุเป็นพวกสกิลชิทแชทต่ำสัสๆ และขี้รำคาญคนมาก กุเลยกำลังคิดอยู่ว่าควรปรับให้ตัวเองดูเฟรนลี่กว่านี้ไหม
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.