>>261 กุเป็นหนึ่งในคนที่เขียนไม่ค่อยดี คือเวลาสกิลมันติดลบมันก็ติดลบจริงๆ แบบเขียนประโยคต้องคิดแล้วคิดอีก มันไม่โฟลว์อ่ะ พอย้อนอ่านก็จะเจอจุดที่คิดว่ามันน่าจะดีกว่านี้ได้หลายจุดอยู่แต่คือก็แก้หลายรอบแล้วก็ยะงไม่ได้ดั่งใจ แล้วอารมณ์เปลี่ยนครส.ก็เปลี่ยนทุกรอบที่แก้อีก เลยคิดว่าพอเหอะ ลงไปงี้แหละ
งานลงไปก็ไม่ปังหรอก ยอดวิวกริบ ยอดอ่านรายตอนก็กริบ แต่แม่งโชคดี ไปเจอสุดยอดนักอ่านอยู่คนสองคนที่เขาชอบงานกู ใจกูเลยฟูเลย อีกอย่างคือกูเป็นพวกเขียนจบแล้วค่อยลง ดังนั้นจะปังจะฟุบกุก็ไม่มีที่ให้ถอยแล้วไงมึง ได้แต่ the show must go on 555
แต่งานที่ไม่มีคอมเมนต์กูก็จะปลอบใจตัวเองว่า อย่างน้อยแม่งก็ไม่เห้จนคนที่ซื้อกลับมาโพสท์ด่าว่ะ
งานทุกวันนี้มันล้นตลาดจริง ๆ มึง ลองนึกสภาพมึงคุ้ยเสื้อลดราคามือสองอ่ะ กว่าจะเจอชิ้นที่ใช่ คนหลายๆคนก็ยอมซื้อราคาเต็มที่วางเชลฟ์ให้เห็นง่ายมากกว่าไป ตลาดนิยายกูว่าไม่ต่างกันเลย มึงต้องดูงานแปลที่สนพ.คัดมาแล้ว เอาข้ามประเทศมา ลงทุนซื้อลงทุนแปล นั่นคืองานที่ผ่านการตัดสินมาหลายด่านแล้วนะ แต่สุดท้ายก็ยังแป๊กเลหลังเยอะแยะ ดังนั้นยอดขายไม่ได้บอกความสามารถนะ จะทำต่อหรือไม่ก็ต้องชั่งน้ำหนักเอาแล้วล่ะ ว่ามีอย่างอื่นที่ทำแล้วสุขกว่าคุ้มเวลากว่า ได้สิ่งที่ต้องการง่ายกว่ามั้ย สภาพการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันอ่ะเนอะ
แต่ใดๆ ถ้ามันจบ มึงก็ทำเล่มวางขายใส่ชั้นไว้ให้ตัวเองพราวได้นะ กุรักงานตัวเองแบบที่พอกลับมาอ่านกูก็มีนิยายที่ตรงใจกูทุกอย่างหนึ่งเล่ม เป็นชิ้นงานเหมือนถ้วยรางวัลวางไว้ตรงนั้นแหละ ต่อให้แม่งจะทำเงินไม่คุ้มค่าเวลากูสักนิดเดียวเลยก็เหอะ
เห้อ ว่าแล้วก็ไปฮึบเขียนงานต่อ สองปีเรื่องแหนะสำหรับกู