Last posted
Total of 1000 posts
Ky ที่ฟวกเฟซบอกนิยายชื่อเรื่องซ้ำไม่ผิดลิขสิทธิ์ ใช้ซ้ำได้ กูเห็นเคสนักอ่านซื้อนิยายเพราะนามปากกาซ้ำ เข้าใจว่าเป็นนักเขียนดังอีกคนที่หายไปนานแต่เหมือนคนหลังใส่นามอิ้ง ระบบเลยไม่แจ้งซ้ำ กูไม่ได้ตามว่าเคสนั้นจบยังไง กูสงสัย เอาตรงๆ นามปากกาซ้ำกันมันไม่ควรอยู่แล้วเพราะคนอ่านสับสน แล้วชื่อเรื่องซ้ำนี่แน่ใจกันว่าใช้ได้จริงแล้วนักอ่านไม่สับสนจริงเหรอ สุดท้ายจะโยนเป็นความผิดคนอ่านที่ไม่แหกตาดูให้ดีอีกมั้ย สมมุติถ้านักอ่านขอเงินคืนเพราะไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองอยากเปย์ ใครจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบ
>>638 ชื่อเรื่อง มีอิงค์แต่ยังไปเตือนคนกดตาม นปก (แต่ตอนนี้เวลาตั้ง นปก ซ้ำ อีเม็ด มันเตือนนะ เพียงแต่มันได้แค่เตือน เพราะนข.คนเดียวกัน บางทีอยู่ สนพ.นั้น อยู่ไอดี ตัวเอง มันเลยห้ามล็อก สำหรับ ไอดรเดียวต่อหนึ่ง นปก) มันต้องโทษอีเม็ด ชื่อเรื่องส่วนมากที่ซ้ำส่วนใหญ่มันชื่อโหลๆ อันนี้โทษนอ.ดิ ช่วยแหกตาดู นปก กับ คำโปรยสักหน่อยเหอะ มึงต้องรับผิดชอบตัวเองบ้าง
>>638 ส่วนตัวกูไม่ชอบให้ซ้ำกัย ไม่ว่าจะเป็นชื่อเรื่องหรือนามปากกา มันไม่ผิดลิขสิทธิ์แต่ก็มารยาทนิดนึงอ่ะ กุไม่ชอบให้ชื่อเรื่องซ้ำกับใคร ต่อให้อยากได้แค่ไหน ถ้ากูมาทีหลัง กูก็ไม่เอา ถ้ากระสันอยากได้จริงๆ ก็อาจจะบิดคำไม่ให้เหมือนกับอีกคน กุเลยไม่อยากให้คนมาซ้ำกุเหมือนกัน แล้วถ้ากุตั้งก่อน ขายก่อน กุไม่มีสิทธิ์แก้ไขชื่อเรื่องแล้วด้วยอ่ะ เพราะมันขายไปแล้ว อีกอย่างกุว่าถ้าจะเป็นนักเขียนแล้วไม่มีปัญญาตั้งชื่อนิยายไม่ให้ซ้ำกันไม่ได้ แม่งก็บอกสติปัญญานิดนึงอ่ะ
มีอีกกรณีนะ มึงว่าควรโทษใครอะ
นข1 เคยออกกะ สนพ.เล็กๆ ชื่อเรื่อง โหลๆ บ่งบอกงานเรทๆ พอหมด สัญญา เลยเอามาตั้งชื่อใหม่เก๋ๆ
นข2 ตั้งชื่อไปซ้ำกะ ชื่อแรก โดยไม่รู้ตัว และค้นแล้วว่าไม่มีทั้งในเม็ด ในเว็บ
ฟค.เดนตา.ยจำชื่อนิยายอย่างแม่น เลยกดซื้อเลย เพราะนิยายเล่มหายปลวกแดก
ใครผิดสุดล่ะ? จะซื้ออะไรก็สติหน่อยเหอะ
Ky เพื่อนโม่ง"เข้าถ้ำ"คืออะไรเหรอ
งดโซเชียล งดอ่านนิยาย มุ่งมั่นเขียนให้จบ แบบนี้รึป่าว
มรึง กูถามความเห็นหน่อย จะลงตัวอย่างในรีด กูควรลงยังไงดี ระหว่างลงทั้งบทแบบเต็มไปเลย กับลงทีละนิด นักอ่านชอบแบบไหนกว่าวะ
ปรึกษาเพื่อนโม่ง กุได้อ่านต้นฉบับที่คนเขียนขยี้ประเด็นซึมเส้าแบบทำถึงจัด อ่านละดิ่งตาม มึงว่ากุควรแนะนำให้เขาปรับๆ ลดการขยี้ลงมั้ย นักอ่านจะได้ไม่ทริกเก้อมาก หรือเอาแบบจัดเต็มตามเดิมก็ดีแล้ว ปล.กุไม่ใช่บ.ก. แต่เป็นเชิงๆ เบต้ารี้ดให้เพื่อนน่ะ แนะนำได้ เจ้าของงานก็อยากรู้เหมือนกันว่าปรับดีมั้ย เพื่อนคิดว่าไง
>>649 เขียนถึงขยี้ถึงคือเรื่องดี-ดีมาก มึงควรให้นักอ่านของเขาหาทางหนีทีไล่เองด้วยการติดtwตัวใหญ่ๆ ย้ำๆไป บางคนอาจอ่านแล้วไม่ดิ่งอย่างที่มึงรู้สึกก็ได้ มึงเคยอ่าน ท่าวันนู้นฝนบ่ตก ไหมนั่นก็เขียนโรคซึมเส้าถึงอกถึงใจคนมีทั้งกลัวและชอบ ยกให้เป็นนิยายขึ้นหิ้ง อย่าแผ่วอย่าเบาเพราะกลัวนั่นนี่เลย
แนวระลึกชาติ เขียนยังไงให้ออกมาดูเป็นเด็กเหมือนเดิมวะ ไม่ได้อยากเขียนผู้ใหญ่ในร่างเด็ก นางเอกกูแค่เจ็ดขวบ เป็นเด็กป.1 เพิ่งพ้นจากอนุบาลเลย นางแค่ระลึกชาติได้แบบไม่ตั้งใจเฉยๆ
กุขอถามในมู้นี้หน่อย เพราะไม่มีมู้อื่นพอเกี่ยวข้องอ่ะ เวลาพวกมึงทำงานแปลภาษาเชี่ยวชาญทำไงกันว่ะ พวกแอพเว็บแปลไรงี้ จากไทย-อังกฤษก็พอ ให้ลากมาที่กูเกิ้ลแปลมันก็ทะแม่งๆกับภาษา ไม่รู้เพราะภาษาอังกฤษไม่มีฟิลลิ่งหรือเปล่าว่ะ แบบอังกฤษเรียกไอลูกเดียวพอ แต่ไทยดันมีแต่ฉัน ข้าพเจ้า กู บลาๆ แถมกูก็โง่แกรมท่าด้วย แบบ ทารกอย่าเจ็บฉัน แบบทางการอ่ะพอได้ แต่อยากได้ฟิลลิ่งเพื่อนเข้าถึงง่ายกว่า ฮือTT กูไม่รู้ว่าฝรั่งพูดภาษาพูดแบบไหนกันว่ะ ส่วนสำนวนพอถูไถๆบ้าง
กูเพิ่งลาออกงานประจำ กูพยายามจัดตารางระหว่างเรียน กับ เขียนนิยาย แต่รู้สึกว่ากูทำแต่ละอย่างได้น้อย ไม่สมกับที่มีเวลาว่างทั้งวันเลย ทีนี้ความรู้สึกผิด กดดัน ไม่เอาไหนมันก็มา กลายเป็นยิ่งทำให้ไม่มีอารมณ์แต่งนิยาย ปกตินักเขียนเต็มตัวเขาเขียนกันทั้งวันไหม กูพอเข้าบ่ายพลังงานกูก็หมดละอ่ะ
>>658 กูเพิ่งอ่าน สตีเฟนคิงก์มา เขากำหนดเลยว่าวันนึง2kคำหรือ10หน้า วันละ3ชั่วโมง ปิดประตูปิดโทรศัพท์เข้าห้องอยู่ในโลกของตัวเอง เริ่มตั้งแต่เช้า ถ้าครบ2kเร็วก็พักเร็ว พอบ่ายก็กินข้าวแล้วงีบ และทำงานบ้านซักผ้าถูบ้านนู่นนี่ ถ้าวันไหนยังไม่ได้ตามที่กำหนดก็จะยังไม่ออกจากห้อง เขาเขียนทุกวันไม่มีวันหยุด คริสตร์มาส วันเกิดก็ไม่หยุด กำหนดไว้ว่าร่างแรก(ราวๆแสนแปดหมื่นคำต้องเสร็จไม่เกิน3เดือน เพราะถ้าเกินจากนี้จะบูด ไม่สดใหม่
ทมยันตี เริ่มแต่เช้าเหมือนกัน ปิดห้องไม่สุงสิงกับใคร ไม่รับโทรศัพท์ จนกว่าจะเสร็จ1ตอนตามที่ตั้งใจ จะเขียนแต่ละตอนต้องรู้ก่อนว่าจะจบตอนนี้ที่ประโยคอะไร จากนั้นก็ลงมือเขียน
>>658 เท่าที่กูสังเกต จะมีสองประเภทใหญ่ๆ คือเขียนเป็นรูทีนทุกวัน กับเขียนเป็นช่วงๆ ให้จบเรื่องแล้วพักเป็นเดือนๆ ค่อยเริ่มเขียนเรื่องใหม่ กูว่ามันสไตล์ใครสไตล์มันว่ะ ถ้ามึงไม่ถนัดเขียนทุกวัน มึงก็เขียนๆ พักๆ ก็ได้ ไม่ต้องกดดันตัวเอง ยิ่งกดดันยิ่งเขียนไม่ออกซะเปล่า
ky แรกทีเดียว คือไรวะ.. ถ้าเขาเขียน แรกทีเดิม กูยังพอเข้าใจ แต่แรกทีเดียวมันไม่น่าใช่ หรือกูศัพท์น้อยเอง
>>661 กูเจอบ่อยเลยนะ ตอนแรกจะทำแบบนี้แต่พอเจออีกเหตุการณ์เลยยังไม่ทำหรือทำไม่ครบจบ
แรกทีเดียวเขาคิดจะบอกเลิกเธอในวันนี้แต่พอคิดว่าจะเป็นการใจร้ายกับเธอเกินไปที่จะบอกเลิกเธอในช่วงเวลาคริสต์มาส เขาจึงคิดจะทอดเวลาออกไปอีกสักพัก ไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะบานปลายไปกันใหญ่หลังจากปาร์ตี้ในคืนวันคริสต์มาสนั้น
ว่าแต่ไอ้คำที่ไม่มีในพจนานุกรมแบบนี้ เราไม่เคยเจอเราจะรู้ความหมายได้ไงวะ อันนี้สงสัยจริง ๆ ถ้าไม่ใช้วิธีถามคนอื่นเนี่ย เดา ๆ เอาก็ไม่ถูก 100% อีก
มึง ถ้ากูแต่งแนวนางเอกกลับชาติมาเกิดแต่นางไม่ได้ฉลาดขึ้นไม่ได้ซูงี้นางเอกกูจะโดนด่าปะ กูอยากแต่งแบบจีนโบราณนางเอกมันแต่งงานตอน14-15แล้วตายตอน17ไรงี้แบบตายก่อนจะเกิดเรื่องราวใหญ่ๆในชาติที่แล้ว นางเอกมันเป็นเมียเอกตระกูลดีใช้ชีวิตไปวันๆแล้วตายแบบงงๆไม่รู้ไรเลย แต่นอกจากนางเอกพระเอกก็กลับชาติมาเกิดเหมือนกัน พล็อตฝั่งที่ตบกันแก้แค้นจริงๆคือฝั่งพระเอก ส่วนนางเอกพล็อตคือพยายามหายจากอาการPTSDที่โดนฆ่าตายชาติที่แล้วงี้
Ky กูมือใหม่ นูกูสุดๆ ไม่มั่นใจในฝีมือ กลัวคนไม่อ่าน และอยากลองขายดูแต่ไม่กล้าขายแพง ถ้ากูติดเหรียญตอนนึงที่เรทต่ำสุด แล้วขายebook 35kคำ เล่มละ69บาท จัดโปร30วันเหลือ49บาท พวกมึงคิดว่าการตลาดของกูแบบนี้ ตัดราคาหรือดูถูกอาชีพนักเขียนไหม หรือตามสะดวกของกูได้เลย
>>678 กุเป็นคนนึงที่คิดว่า นข.จะขายราคาไหนก็เรื่องของนข. การขูดเลือดขูดเนื้อตัวเองเพื่อขายถูก ๆ มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อวงการขนาดนั้นอะ (ถ้าเทียบกับนว.ในเฟซที่ขายถูกชิบหายจนช็อกอะนะ อันนั้นเห็นภาพชัดว่ามันกระทบจริง วงการจะพังเอา) ดังนั้นถ้ามึงพอใจกับราคาที่มึงตั้งก็ขายไป แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงด้วยว่านักอ่านมันมีร้อยพ่อพันแม่ คนที่ไม่อยากกดเข้าไปดูเพราะราคาต่ำไปก็มี อย่างกุเอง 5555 ส่วนตัวกุอยากอ่านเรื่องยาว ๆ แสนคำ+ ราคาที่เหมาะก็ประมาณ 250+ กุมีกำลังพอ+อยากสนับสนุนนข. กุเลยยินดีจ่าย ถ้ากุเจอเรื่องใหม่ราคา 50 บาท กุก็จะคิดละว่าเรื่องไม่ยาวมาก ไม่ก็นข.ขายถูกมาก คิดว่าให้ค่างานตัวเองน้อยไปป่าว กุก็ไม่กดเข้าไปดูละ แต่คนชอบถูก ๆ ก็มี (มีเยอะมากด้วย 555) ก็เลือกเอา แล้วแต่มึง
การเอาเรื่องที่ขายไปแล้วมาเปิดฟรีเนี่ย มึงว่ามันจะไม่เป็นการทำร้ายจิตใจนักอ่านที่หนับหนุนเหรอวะ
>>682 ส่วนตัวกุถ้าเป็นเรื่องเก่าๆราคาไม่แรงมากจัดโปรลดนั่นนี่บ่อยๆ อ่านกันมานานจบไปจนลืมก็ไม่เอามาคิดมากนะ มันนานแล้วจบไปแล้วอะ
เคยมีนักเขียนเอาเรื่องเก่า3ปีอัพมาแจกฟรีในเดือนเกิด หรือวันเกิดหลายคนเลย ถ้ามัวมาคิดหยุมหยิมรู้งี้รอฟรีดีกว่าก็เป็นคนแปกๆละ
แต่ถ้าราคาแพงมากกกก จนต้องกัดฟันซื้อ แล้วไม่นานกลับมาแจกฟรีอันนี้น่าเคือง
สำหรับกู นักอ่านฐานเก่าเนี่ยเป็นคนที่กูแคร์เขามากสุด เวลาแจกฟรีเนี่ยบางคนเขาก็เอาแค่แจกฟรี ไม่เคยมาแลงานเรื่องอื่น อาจจะตกนักอ่านใหม่ได้ก็จริง แต่กูว่าแม่งก็ได้ไม่เยอะเท่ารักษาน้ำใจคนเดิมไว้หรอก ไม่อ่านก็ยังซื้อดอง ประเสริสุดละ ถ้าจะแจกเรื่องใหม่ไปเลย ได้ใจทุกฝ่าย ส่วนลดราคา อันนี้เป็นสัจธรรม นักอ่านเขารู้ดีอยู๋แล้วว่าต้องเจอ
>>668 บริบทรอบข้าง การเปรียบเปรย สถานการณ์ ฯลฯ จะบอกเราเองว่ะ
เปิดใจกว้างๆ ไม่ตีกรอบจ้องจับผิดไปก่อนว่าไม่เคยเห็นแม่งผิดแน่ มันจะพอเข้าใจคำเอง แต่เรื่องแบบนี้มันก้ำกึ่งระหว่างใช้คำมั่วๆที่สื่อไม่ได้เลยกับการเล่นคำสร้างสำนวน สุดท้ายถ้ามีคนอ่านเข้าใจตรงกันมาก คำนี้ก็กลายเป็นคำคุ้นหูไปในที่สุดแหละ
ช่วงปีใหม่มานี้กูเพิ่งพบสไตล์การเขียนใหม่ของตัวเองที่ไม่กดดันมากแฮะ
คือปกติกูจะพยายามเขียนคราวเดียวให้จบ 1 ตอน โดยเฉลี่ยตอนละ 3-4 พันคำใช่ปะ โดยที่พยายามกดดันตัวเองว่าต้องเขียนให้ได้เท่านี้ๆ และวันไหนเขียนไม่ได้ตามยอดก็จะรู้สึกเฟลแล้วไม่อยากเขียนเป็นประจำเลย
แต่มาช่วงหลังๆ นี้กูได้เริ่มตัดย่อย 1 ตอนออกกลายเป็น 2-3 ตอน ตอนละ 1500 คำโดยประมาณแทนแล้วรู้สึกเขียนง่ายขึ้นเยอะ อย่างน้อยคือกำหนดเอาไว้ว่าวันนี้ขอซัก 1500 คำ ไม่มากไปไม่น้อยไปกำลังดี ซึ่งพอเขียนครบจำนวนที่ว่าแล้วก็รู้สึกพอใจไม่หงุดหงิด แถมถ้าพลังเหลือก็เขียนต่ออีกตอนเป็น 3000 คำตามมาตรฐานเดิมได้ด้วย
Ky ไทโป 150 จัดอาร์ต250
ไทโป กูเข้าใจว่าคือเขียนชื่อเรื่อง+นปก.+นักวาดด้วยฟอนต์ต่างๆ
แล้วจัดอาร์ตคืออะไรเหรอวะ
ใช่การเอาชื่อเรื่อง+นปก.+ชื่อนักวาดไปแปะในปกไหมวะ ปกติที่พวกมึงทำกันมันต้องคิดแยกด้วยเหรอวะ?
Kyกูแต่งนิยายของรุ่นพ่อ-แม่ ราวๆปี2526 สมัยสาวๆหนุ่มๆจีบกันด้วยจดหมาย ไม่มีไลน์ ถ่ายรูปฟิล์ม กะจะเป็นพีเรียดเบาๆ
แล้วกูไปเจอคำว่า Nostalgia เกร่อเลยในหนังในคอนเทนต์ กูเลยอยากรู้ว่านิยายกูถือเป็นแนว Nostalgia ไหมวะในมุมมองพวกมึง
เผื่อกูจะได้ใช้จุดนี้โปรโมทได้
ขอไอเดีย โคแก่แบบไหนฮิตวะ ทรงลุง ?? ทรงแดดดี ???
Kyถามคนมีหลายนามปากกา ถ้าแยกอีกนามปากกาแบบไม่ให้ใครรู้>>คือใช้อีกอีเมลสมัครเมbใหม่ด้วยชื่อนปก.ใหม่ ส่งเลขบัญชีธนาคารใหม่ใช่ไหมวะ?
หรือใช้ธนาคารเดียวกันได้
มุง ถ้ากุติดเตือนเต็มรูปแบบในหน้ารี้ดที่ลงให้อ่านตย. แต่ไม่ได้ใส่ไว้ในเล่มเต็ม คนที่ซื้อเล่มเต็มเลยโดยไม่ได้อ่านคำเตือนในรี้ดมาอ่านละแจ้กพ้อต เจอทริกเกอร์ กุจะผิดมั้ยนิ คำเตือนนี่ต้องใส่ในเล่มด้วยเหลอ นักอ่านที่ไม่อยากได้สปอยในเล่มจะวีนกุอีกมั้ย เห้อม
ky กูเพิ่งกลับมาลงนิยายในรอบสองปี ตื่นเต้นมาก ๆ แต่ยอดเพิ่มเข้าชั้น ยอดวิวไรอย่างนี้ไม่ค่อยขึ้นเลย ยอดขายในเม้ดจะแย่หรือเปล่า จ้างคอมมิชชั่นมาด้วย กลัวเข้าเนื้อ แต่ฟินมากเวลามองปก 555555
>>696 เคยเจอในมังงะเฮนไต นางเอกทีแรกชอบเพื่อนสนิทผู้ชายข้างตัว แต่แม่งเสือกโตมาไม่เป็นโล้เป็นพาย ทำตัวเป็นภาระไม่ได้เรื่อง มีดีแค่หน้าหล่อ ทีนี้เจอคุณพ่อของฮีเข้าไปเลยมีดวงตาเห็นธรรม กูจะเอาไอ้หล่อแต่นิสัยเชี่ยแบบนี้ทำไมวะ ในเมื่อกูเจอคนหล่อแต่นิสัยดีในคนเดียวกัน แล้วตั้งหน้าตั้งตาเข้าหาคุณพ่อ เป็นหญ้าอ่อนรุกโคแก่ คุณพ่อทีแรกก็ขัดเขิน พ่ออายุมากกว่าหนูสองเท่าเลยนะลูก (กูไม่แน่ใจว่าแม่ไอ้นี่มันตายหรือหย่ากันนะ) แต่นางเอกปักธงแล้วว่านุอยากได้คุณพ่ออะค่ะ เลยได้แซ่บกัน ปล่อยอีเพื่อนชายมั่นหน้าไปว่านางเอกยังรักมันอยู่ อ๋อเปล่าจ้า กูไม่เอาขยะมาทำผัว เรียกแม่สิลูก
กูชอบพล็อตแบบนี้มากเลย ใครเขียนให้อ่านที 5555555555555
>>710 >>711 มังงะเฮนไต ไม่มีรหัสไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่เอวี? ลองถามที่ห้องนี้ว่าเรื่องอะไร https://fanboi.ch/animanga/17421/recent/
หรือไม่ก็ห้องน้องพร https://fanboi.ch/animanga/13923/recent/
แนวรักแฟนตาซี ผจญภัยหน่อยๆ ชช หรือ ชญ ปังกว่ากันวะเพื่อนว่า
Kyถ้าพยามใส่มุกตลก(ที่คนเขียนขำ)แต่กลัวคนอ่านไม่เก็ตมุก กูควรอธิบาย(ขยี้)ว่าตลกยังไง หรือปล่อยเบลอให้คนอ่านเข้าใจเองขำเองดีวะ
ใครเขียน full time กูขอคำแนะนำหน่อย กูเริ่มมาได้อาทิตย์นึงร่ำๆ จะเป็นซึมเศร้าเอา กูไม่ได้เขียนทั้งวันหรอก แต่ขี้เกียจจะลุกออกไปไหน ข้าวก็สั่งออนไลน์ ทีนี้รู้สึกอารมณ์แม่งไม่มั่นคงเลย บางวันหดหู่ หงุดหงิดง่าย แต่นอนไม่หลับเลยสักคืน มันเหมือนพลังงานชีวิตกูถูกห้องสี่เหลี่ยมสูบ (ทั้งที่กูนี่อินโทรเวิร์ตจ๋าเลย) พฤติกรรมกูผิดใช่ไหม กูอยากออกไปนั่งร้านกาแฟนะ อย่างวันแรกนั่งร้านกาแฟแล้วสดชื่นดี แต่บางทีก็ไม่สะดวกเหมือนอยู่บ้านอ่ะ จะเยี่ยว จะกินน้ำงี้
>>719 มึงอยู่บ้านหรืออยู่ห้องวะ กูก็ฟูลไทม์ เวลาเพลียจอ กูก็ถูบ้านจนเงาวับ งีบกลางวัน เล่นกับหมา พาหมาไปฉี่บ้าง ชาเลนจ์ถอนหญ้าที่ขึ้นข้างบ้าน1นาที20ต้นบ้าง หิวก็หาไรกิน(ทำเอง) 4โมงขับรถพาหมาเดินไปขรี้ แวะซื้อของกินเย็นถ้าขี้เกียจทำ ค่ำก็อ่านหนังสือบ้างดูซีรีส์บ้าง คิดบทสนทนาได้ก็พิมพ์เลย แล้วก็นอนเที่ยงคืน หลับเป็นตาย
ถ้ามึงอยู่หอ หรือคอนโด หันไปทางไหนก็ผนัง ลองถูบ้านจัดที่นอนขัดส้วม สควอช ยืดเส้น หรือทำอะไรให้เหงื่อออกบ้างไหม หรือออกไปเดินรับแสงรับลมรับpm2.5เปลี่ยนบยก.บ้าง อาการนอนไม่หลับมันทรมานและเป็นจุดเริ่มซึมส้วมได้นะ
>>719 ไปออกกำลังกายซะ ตื่นเช้ามาไปวิ่งรอบๆแถวที่มึงอยู่ก็ได้ ถ้าวิ่งไม่ไหวก็เดินชมนกชมไม้เรื่อยๆเอา ตั้งเป้าหมายเล็กๆก็ได้แบบเดินไปกินก๋วยเตี๋ยวซอยข้างๆ เดินไปร้านกาแฟ ซื้อขนมเล็กๆน้อยๆกลับมาไม่ต้องนั่งแช่ก็ได้ รับแสงแดด สูดอากาศบ้าง หากิจกรรมทำให้มึงออกแรง พบปะคุยกับผู้คนบ้าง ถ้ามีเงินแนะนำให้ไปปีนผาจำลองออกกำลังกายหรือไม่ก็พิลาทิส อันนี้มันจะฝึกสมาธิมึงด้วย ได้ยืดเส้นยืดสายด้วย
กูอยากทุ่มแรงทุ่มใจฟูลไทม์มาก แต่กูพบว่ากูเขียนไม่ออกเลย ต่อให้มีเวลาก็ตาม ถ้าอารมณ์ไม่มา หัวไม่แล่น ก็ไม่ได้งานเลย กุสิ้นหวังกับความฝันที่จะเขียนฟูลไทม์มาก พอเห็นชาวบ้านปั่นกันได้เดือนละเรื่อง ปีละสี่ห้าเรื่องละกูท้อ กูคงไม่มีความสามารถด้านนี้มากพอจะทำเป็นอาชีพ
>>719 ต่อให้อินโทรเวริ์ดมันก็มีช่วงที่เบื่อหน่ายห้องสี่เหลี่ยมเดิมๆหรือจำเป็นต้องไปรับแสงรับลมจากภายนอกบ้างนะมึง เหมือนคนติดคุกนานๆสุขภาพจิตเสื่อมนั่นแหละ หลักการของอินโทรเวิร์ดคือมึงต้องพื้นพลังเวลาที่อยู่ตามลำพังได้ ไม่ใช่รู้สึกเหมือนถูกสูบ อันนี้กูว่ามึงเครียดสะสม บวกกับเอางานไปบวกในห้องส่วนตัวทำให้สมองมันแยกแยะเวลาพักกับเวลางานไม่ออก เหมือนอยู่ในโหมดทำงาน 24 ชม. ป่าววะ ยิ่งงานไม่เดินก็ยิ่งเหมือนไม่ได้พัก อยู่กับตัวเองความคิดก็ยิ่งวนวุ่นเป็นเกลียวไปอีก ต้องไปหาเวลาหย่อนใจข้างนอกบ้างว่ะ
>>723 ใช่ มึงต้องหากิจกรรมทำ ไม่ใช่ขังตัวเองในห้องสี่เหลี่ยมแล้วคอยปั่นงาน อันนี้มันจะทำได้ต่อเมื่อมู้ดมึงมา ไฟมึงมี แต่ถ้าเครียดหรือตันๆให้ไปออกกำลังกายรับแสงแดดหรือทำงานบ้าน ทำความสะอาดอะไรก็ได้ ทำให้มันเป็นกิจวัตรอย่าผลัดวัน ตั้งเป้าหมายเล็กๆไว้ว่าวันนี้มึงเดินไปซอยข้างๆได้ มิชชั่นคอมพลีทแล้ว มีเรื่องทำสำเร็จด้วยแน่ะ แล้วจะมีกำลังใจเอง
กูเพิ่งรู้ว่า ปก ฉongกong 2ตลค.รวมฉากเบ็ดเสร็จ30kแถมยัง ต้องมีค่าล่ามอีกต่างหาก4k และรอนานระดับปีกว่าขึ้นไป
ผู้ได้ครอบครองต้องมีทั้งเงิน คอนเนคชั่น และความอดทนเป็นเลิศ สุดยอดเลยถถถถ
>>725 ถ้าเป็นหลายปีก่อนที่ ฉก. ยังฮ็อต ๆ กุว่าปล่อยแป๊บเดียว ก้อคงมีคนเอฟต่อแล้ว แต่ตอนนี้นักวาดไทย นักวาดเกาหลี เก่ง ๆ เยอะอ้ะ ราคานี้ได้ปกวิจิตรเลย แล้วตอนหลังวีรกรรม ฉก. เยอะ คนคงยี้กันบ้างแล้ว กุก็เคยชอบงานเขา แต่ช่วงหลังดูไปก็เบื่อ รู้สึกเหมือนกันไปหมด งานแอบดร็อบลง
>>728 ล่าสุดที่สนพ.ไทยเจ้านึงออกมาบอกว่าต้องเปลี่ยนปกเพราะฉก.ไม่ออกจากลูปอนันต์นั่นไง555 ขนาดระดับสนพ.ยังโดน คนทั่วไปจะเหลือเรอะ กูเห็นคนไทยด่าตรึมอยู่ ต่างชาติก็เริ่มยี้คือกัน แม่งงงมากฉก.ผีเข้าเหรอวะ โอกาสพร้อมทุกด้านขนาดนี้ยังจะทำตัวแย่แบบนี้อีก แต่นั่นละเพราะมีคนพร้อมแย่งกันเปย์ แกคงไม่เดือดร้อนสักเท่าไหร่หรอก เหมือนนว.ไทยคนดังที่โดนบิดกันถ้วนหน้า แต่มีคนพร้อมซัพตลอดอะจ้าเลยไม่ล้มสักที
ใครเข้าเมบไม่ได้บ้าง ตอนนี้เมบล่มเหรอ
คนเอียนพฤติกรรมดองงานของฉก.กับเบื่อๆลายเส้นด้วยแหละ จ้างกันเยอะเกิน เห็นเต็มเชลฟ์ จนกูเฉยๆละ ยิ่งเจอความชอบดองงานยิ่งส่ายหน้า
แถมยังรับงานต่างชาติ ก็คงเพราะจีนไม่เอาสันดานแหละ
สอบถามเพื่อนๆนักอ่านนักเขียน คิดเห็นยังไงเกี่ยวกับ งานเขียน 'หักมุม' ส่วนตัวชอบมาก อยากลองเขียน แต่คนรอบข้างไม่มีใครชอบเลยอะ เสียใจ
>>739 ถ้าหุกมุมดี ชอบนะ เช่นพระเอกเป็นลุงจนๆขับรถบุโรทั่ง อยู่บ้านซอมซ่อมาตลอดเรื่อง
แล้วตอนท้ายๆหักมุมเฉลยว่าเป็นลุงเป็นเจ้าสัว ที่ไม่บอกว่ารวยเพราะจะลองใจนางเอกอะไรงี้ หักมุมแบบนี้โอเค
แต่ถ้าหักมุมอิหยังวะ เช่น ตายทั้งคู่พระเอกนางเอกเหลือกูคนอ่านคนเดียว;นางร้ายที่เกลียดมาตลอดทั้งเรื่องดันได้กับพี่ชายนางเอกที่หล่อแสนดี
อันนี้สาป
>>740 ไม่ใช่คนถาม แต่โห คือหักมุมดีแบบที่มึงยกตัวอย่างคือแบบที่กูเกลียดเข้าไส้เลย จนมาทั้งเรื่องอยู่ดีๆมาเฉลยว่ารวยเนี่ย55 ส่วนหักมุมแย่แบบที่มึงบอกกูโคตรอยากเขียนอะ5555
หักมุมนี่มันได้หลายเวย์แล้วแต่คนชอบจริงๆ มึงอยากเขียนก็เขียนไปเถอะ คีย์บอร์ดอยู่ในมือมึง ตอนนี้กูกำลังเขียนคู่รองที่ค่อยๆจีบกันมาตลอดทั้งเรื่อง แต่ตอนจบมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายอยู่(แต่จะบรรยายว่ารักกันตลอดไป ไม่แต่งงานใหม่) ถ้าเจอ สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นกูนะ
หักมุมนี่ดีนะมึง อ่านสนุกมาก แต่กุว่าทำยากมาก กุชอบหักมุมแบบใบ้ไว้โคตรลึกอ่ะ แบบอ่านรอบแรกคิดไม่ถึง แต่พอช๊อคไปตอนเฉลยแล้ว กลับมาอ่านใหม่ก็เออ แม่งคนเขียนใบ้ไว้ตลอดทางนี่หว่าแต่เนียนจนกูคิดไม่ถึงเองอะไรแบบนี้ มีเหตุมีผลให้คล้อยตาม
แต่หักมุมแย่ๆนี่จะเป็นแบบอยู่ๆก็โผล่มาแบบคนเขียนอยากใส่อยากหักเป็นแนวอื่นก็หักเลย เช่น สไตล์คลาสสิคที่กุเกลียดก็แบบที่ลุ้นที่อ่านมาทั้งเรื่องคือความฝัน ตัวเอกแม่งนอนเป็นผักแล้วจบงี้ อันนี้ไม่ได้ว่ะ 555
กุชอบมากนะหักมุมอะ จะเป็นเวย์ไหนก็โอเค อย่างที่เพื่อนโม่งบอกไม่โอข้างบนกุชอบหมด นับถือนข.ด้วยที่กล้า แต่อย่างว่า นักอ่านไทยส่วนมากไม่ชอบว่ะ คงชอบคอมฟอร์ตโซนกัน
กูยกเรื่อง the mist เลยละกัน ต้นฉบับคือนิยายของสตีเฟน ส่วนฉบับหนังคือผกก.สร้างตอนจบใหม่ที่หักมุมได้เชี่ยมากจนคนเขียนยังชมอะว่าทำไมกูคิดแบบนี้ไม่ได้วะ55 คือเป็นการหักมุมที่แบบทำเอาเหม่ออารมณ์แม่งเคว้งๆคว้างๆ ไปเลย คือจบแย่แหละเศร้าเลย แต่คือมันเป็นไรที่น่าจดจำมากๆและโคตรเจ๋งมากๆอะ แบบทั้งเรื่องชงมาซะดีใส่ซีนสู้ชีวิตเต็มที่ แต่ก็หยอดความสิ้นหวังเอาเรื่อยๆ พอมาถึงตอนจบเลยกลมกล่อมพอดี
ในมุมนักอ่านถ้าช่วงเครียดๆชีวิตดิ่งๆอยากหานิยายฮีลใจกูจะไม่ชอบอะไรหักมุมเลยว่ะ มันดูเป็นสิ่งที่ควบคุม(เดา)ไม่ได้ ชีวิตจริงหักมุมพอแล้วกูไม่พร้อมรองรับการปล่อยของ ของนักเขียน กูต้องการพักใจอ่านนิยายที่เป็นเซฟโซน
แต่ถ้าช่วงชีวิตดีมีความสุข จะหักมุมยังไงก็ไม่ติดอะ ถ้าหักมุมแบบคาดไม่ถึงได้สมเหตุสมผลจะมองว่านข.โคตรเจ๋งด้วย
ดังนั้นมึงอยากเขียนแบบไหนก็เอาที่ชอบที่อยากเถอะ ขนาดคนๆเดียวเช่นกู ยังเปลี่ยนทุกวัน มีหลากอารมณ์บางวันชอบแบบนั้นวันนี้ชอบแบบนี้เลย
>>739 ตอบยากมากอ่ะ กูว่าปัจจัยที่คนจะรู้สึกว่าจุดหักมุมที่ใส่มามันเจ๋งรึเปล่ามันหลากหลายมาก
ทั้งชั้นเชิงในการเล่าเรื่องของคนเขียน จังหวะที่เฉลย ความรู้/ประสบการณ์ในการอ่านของคนอ่าน ความคาดหวังของคนอ่าน
เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างอารมณ์ของคนอ่านก็อาจจะมีผลได้ วันนั้นอารมณ์ดีอาจจะอินไปกับเรื่องได้ง่ายขึ้นได้
ยกตัวอย่างที่กูคิดว่าน่าสนใจละกัน
- การ์ตูนแนวสืบสวนเรื่องนึงตัวร้ายของเรื่องคุยโทรศัพท์กับคนที่มีอำนาจเหนือกว่าสั่งงานตลอด บิ้วให้คนอ่านคิดว่ามีองค์กรลับ
เฉลยคือจริงๆแล้วตัวร้ายมีอาการทางจิต ที่ปลายสายไม่มีใครมาแต่แรกแล้ว คนไม่ชอบจุดหักมุมนี้เยอะมาก
แต่กูรู้สึกว่าถึงจะไม่ว้าว แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร เพราะปกติเรื่องแนวสืบสวนต้องให้องค์กรลับมีจริงตลอด เฉลยมาว่าไม่มีบ้างก็แปลกดี
- นิยายเรื่องนึงใบ้ประเด็นอย่างนึงมาทั้งเรื่อง แต่สุดท้ายจนจบเรื่องก็ไม่เฉลย มาเฉลยในตอนแถมที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย
เลยรู้สึกว่ามาเฉลยตอนนี้ไม่ต้องใส่ประเด็นนี้มาแต่แรกก็ได้มั้ยวะ...
- ถ้าจะหักมุมที่ประมาณกลางเรื่อง แล้วจุดหักมุมเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่อง กูคิดว่าสิ่งสำคัญเลยคือหลังจากหักมุมตรงนั้นไปแล้ว
เรื่องมันสนุกมากขึ้นหรือน้อยลง ถึงจุดหักมุมจะไม่ได้เจ๋งมากโดยตัวของมันเอง ถ้าหลังจากตรงนั้นเรื่องมันสนุกขึ้นกูว่าคนก็จะไม่คิดมาก
- กูเกลียดมากๆคือเรื่องที่กลุ่มตัวเอกผ่านอุปสรรคสำคัญมาได้แล้ว แต่สุดท้ายต้องมามีคนตาย/พิการ เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องตอนใกล้จบ
เช่นลูกน้องตัวร้ายที่รอดมาได้ตามมาแก้แค้น เหมือนอยู่ๆก็กลัวเรื่องมันแฮปปี้เกินไป เลยต้องหาเรื่องให้มันจบไม่ค่อยดีมาถ่วงดุล
ชักจะสงสัยว่า มีคนชอบ มีคนไม่โอ งี้ นข.ต้องติด spoil ให้มั้ยวะ แบบ คำเตือน เรื่องนี้มีหักมุม งี้ นักอ่านจะได้ไม่มาด่ากราด ให้หนึ่งดาวบอกเสียดายตัง 555555
>>748 กูคิดว่าไม่ต้องติดtwหรอกว้ะ ถ้าลองกล้าหักมุมต้องกล้าให้ตลอดดิ ยอมรับทุกแรงปะทะของผลตอบรับ ถ้าหักมุมแล้วมาแบ่งรับแบ่งสู้กลัวคนด่างั้นงี้เลยไม่สุดสักทางก็อย่าหักอะไรเลย เขียนเรียบๆจบตามวิถีไปเถอะ
หัวใจของหักมุมคือเซอร์ไพรส์คนอ่านไม่ใช่เหรอวะ การสปอยก็สปอยเหมือนบิขนมปังรายทางจุดเล็กจุดน้อยให้คนอ่านเก็บเล็กผสมน้อยเอง มาบอกแต่แรกว่าจะมีหักมุมนะคะ มันเสียอรรถรถนะกูว่า
วะ;อรรถรส
ถ้าไม่หักแบบเปิดมา feel good ดันจบ bad end หมาแมวตาย กุรับได้นะ
อืมมมม กูชักไม่แน่ใจแฮะว่าจะหน้าด้านพอลงตอนละ 1000 คำไหวไหมนะ
คือปกติกูคอนละ 3000-4000 คำ แต่ตั้งใจจะแบ่งครึ่งซักตอนละ 1500 น่ะ ทว่าบางตอนอาจจะยาวเกิน 4000 และจังหวะตัดตอนมันไม่ลงตัว ทำให้อาจจะมีบางตอนที่ตัดแล้วเหลือราวๆ พันคำเศษๆ ซึ่งกูรู้สึกหน้าไม่ด้านพอจะลงเหมือนกับใครบางคนว่ะ ถถถถถ
แต่ถ้าจะรวมเป็น 2000+ ก็ดูยาวไปหน่อยแฮะ เอาไงดีวะ
แม่งโมงแถวนี้หน้าด้านเพียบ 5555
แนะนำกันมาตลอดว่าถ้าลงเอายอดวิว 800-1000 คำพอ โปรโมต นิยายฟรี
นักอ่านเขาไม่มายด์ ถ้าได้อ่านต่อเรื่อง
ยาวขนาดสามพันคำ ซอยไปเลยก็ได้ แบ่งซอย สามตอนลงสามเวลาก็ยังได้ เอาวิว
จะถือว่าเป็นการปั๊มวิวก็ได้ แต่เป็นปั๊มวิวที่อยู่ในกฎ ไม่มีใครว่า
*ตอเนื่อง
>>756 เลียวก็เหี้ยละเพื่ิอน พูดให้ถูกคือกูตามยุคไม่ทันต่างหาก
ยุคกูเขียนแม่งบังคับหน้านึงไม่ต่ำกว่า 500 คำ ตอนนึงยาวเป็นหมื่นคำ พอมาสมัยลงเน็ตก็เริ่ม 3-4 พันตลอด พอเลิกเขียนไปหลายปีเพิ่งกลับมาเขียนก็เจอ culture shock เลย เพราะปีที่แล้วโม่งแนะนำราวๆ 1500-2000 คำ แต่พอมาคราวนี้บอกเหลือพันเดียวอีก
นี่กูต้องอ่านงานตัวเองย้อนอีกรอบ เพื่อแบ่งตอนใหม่อีกแล้วเหรอเนี่ย ถถถถ
>>764 มันเป็นไรที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยไงมึง ยุคก่อนเขียนเยอะสิดี บทละหมื่นคำสามัญมาก ใครเขียนแค่2-3 พันคำคือมึงเนียนซอยตอนสินะ
แต่พอมายุคนี้คนสมาธิสั้นขึ้น ถึงจะไถจออ่านในเนตคือเก่า แต่เราจะโฟกัสข้อความยาวๆได้ยากขึ้นอะ อ่านแล้วรู้สึกเหนื่อย ผลคือพวกสายปูเรื่องแบบเรื่อยๆมาเรียงๆก็ตายเรียบ คนที่เขียนแบบตัดยับๆฉุบฉับทั้งจำนวนคำและเนื้อหา คือผู้อยู่รอด พันคำก็เบสิคๆ ได้สามพันคำก็อย่างเทพ หมื่นคำมึงเขียนให้ใครอ่าน กูไถ ่านไม่ถึงครึ่งบทก็บัยจ้า กว่าจะจบบทก็เบื่อก่อนละ
ปัญหาพวกนี้เลยส่งผลไปยังพวกคลิปคอนเท้นต่างๆด้วยอะ สังเกตดิ เพลงสมัยก่อนเริ่มต้นที่ 3-5 นาที สมัยนี้ 2-3 นาทีก็เต็มกลืนละ ยาวกว่านี้ถ้าเพลงไม่เพราะติดหูกูไม่ฟังซ้ำจ้า หรือแค่เห็นจำนวนนาทีก็ไม่แท้แต่จะกดไปฟัง ก็ผลพวงต่อเนื่องมาจากการเสพคลิปย่อสรุปไรงี้อะ ตต.นี่ตัวริเริ่มเลย
ที่ได้ใหม่มาแรงเพราะซอยสั้น1,000คำนิดๆ แต่ตัดจบได้อย่างน่าติดตาม ตัดจบตอนในตอนที่ทำให้คนอ่านรู้สึกอยากรู้อยากไปต่อ แล้วนักเขียนก็อัพฟรีทุกวันบ้าง ติดเหรียญล่วงหน้าบ้าง ตอนที่พีคๆสุดก็ปล่อยebookบ้าง เป็นกลยุทธ์การขายไปตามยุคสมัย สอดคล้องกับผู้บริโภคส่วนใหญ่
ลงทีเยอะๆ ยาวๆให้ไถอ่านแบบหาจุดสิ้นสุดตอนไม่เจอสักทีก็ได้
ถ้ามึงไม่เน้นรายได้ มาขายศิลปะ อยากอ่านเมื่อไหร่ก็เรื่องมึง จะลงทีละหลายพันคำก็แล้วแต่
แล้วลองมาดูว่าผลลัพธ์เป็นยังไง
จุดที่ไปแตะพันโหลดของแต่ละคนมันยากมั้ยวะ แล้วทำยังไงถึงจะไปถึงจุดนั้น
กูว่ากูขี้เกียจย้อนกลับไปแก้ละ เพราะย้อนกลับไปแก้มา 3 รอบละ
เอาเป็นว่าตอนเก่าเป็นตอน 1500-2000 ไปก่อน แล้วหลังๆ ค่อยลดหลั่นลงละกัน
>>770 มันไม่มีอะไรตายตัวหรอกว่ะ จะลงหมื่นคำแต่ทั้งพล็อตและสำนวนมึงเจ๋งจนดึงคนให้อยากอ่านต่อเรื่อยๆไม่เบื่อก็ได้ แล้วแต่มึงสะดวกและอยากทำ แต่มึงต้องยอมรับความจริงว่านักอ่านสมัยนี้สมาธิสั้น ชอบอะไรเร็วๆสั้นๆ อ่านอะไรยาวๆไม่ไหว ถ้ามึงไม่เจ๋งจริง ไอ้หมื่นคำที่มึงจะลงมันจะพาคนอ่านเบื่อแล้วปิดหนีไม่อ่านต่ออีกเลยรึเปล่า ทั้งนี้ทั้งนั้นมันไม่มีอะไรถูกผิดอะ จะลงสั้นๆทีละ500 คำหรือจะยาวไปแบบอ่านจบอีกทีปีหน้าก็ได้ มึงสะดวกแบบไหนก็ลงแบบนั้นเถอะ
กูลองมาตัดให้เหลือราวๆ พันคำแล้วรู้สึกลำบากแฮะ จังหวะการเดินเรื่องมันต้องไวมากซึ่งไม่ใช่สไตล์เลย
แถมพอลองตัดแบ่งจาก 4000 เป็น 1000 4 ตอนแล้วรู้สึกเหมือนเรื่องไม่เดินด้วย เอาเป็นว่ากูคงไว้เท่าเดิมตอนละ 1500 ก่อนดีกว่า น่าจะเป็นจำนวนกลางๆ ไม่ยาวไป ไม่สั้นไปแหละ ...มั้ง
อย่างกุตอนหนึ่งก็ 3-4 พันคำ แต่พอกุไปลง กุก็หั่นๆ 3 ครั้ง ลงแม่งสามเวลา เจ็ดโมง อ่านก่อนไปทำงาน เที่ยงิอ่านตอนแดกข้าวหรือแดกอิ่มแล้ว กลางคืนสองทุ่มเลิกงานละมานอนอ่านชิลๆ หรือมึงคงคำว่าตอนของมึงกับตอนใน รีดช่ายม้ายยยย
พิมพ์มือถือนิ้วเบียดชิบหาย ถึงกับต้องเปิดคอม กุขอแนะนำแล้วกัน ซึ่งมันเป็นทริคที่โม่งแชร์ๆ กันและกุใช้แล้วแม่งได้ผล
ถือว่าเป็นการปั๊มวิวโดยสุจริต ไม่มีใครมาเหม็นหน้ามึงและนักอ่านเขาก็สะดวกแบบนี้ นักอ่านไม่ได้ติดอะไร ถ้ามึงมาประจำสม่ำเสมอ ไม่ใช่ชาติหนึ่งอัพที
อันนี้คือการที่มึงลงเพื่อโปรโมท เพื่อไต่ชาร์ต เพื่อยอดวิวอะไรก็ว่าไป บลาๆๆ
จะขอยึดว่าเป็น raw ที่อื่นก็น่าจะนับวิวกันแบบนี้ เด็กดอยเต่าดอยไม่เอามาเข้ากรุ๊ปด้วย
การนับวิวของที่นี่ มันจะเป็นการหนึ่งวิวเท่ากับผ่านต่อหนึ่งตอน(รีด)**** ตอน(รีด) =/= คำว่า ตอน(ของนข.) ให้เก็ทตามนี้****
นักอ่านทุกวันนี้คือต้องการความสม่ำเสมอมากกว่า ตอน(รีด) 1 ตอน อาจจะมีสัก 1000-1500 (หรือเคยเห็นน้อย 800 ก็ยังได้! ค่ะสาว นักเขียนดังก็แนวนี้) แต่สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมออัพทุกวัน จะดีที่สุด ยิ่งเปิดเรื่องใหม่มาแรง วันหนึ่ง สมมุติมี ตอน(ของนข.) ของมึงมี 4000 ก็แบ่งๆ ออกมาสามก้อน ลงไป 3 ตอน(รีด) เอาจริง ไม่ต้องคำนึงว่าจะต้องทิ้งปมอะไรด้วยซ้ำในตอน(รีด) มึงเขียนตอนนั้นมายังไงก็ตัดตามจำนวนไปเลย ปมที่มึงจะทิ้งเดี๋ยวมันรวมกันออกมาดีเอง ถ้าไม่ลงจนจบ พอถึงไคลแม็กซ์ แปะอีบุ๊ค (อีบุ๊คมึงน่ะก็ทำเตรียมให้พร้อม ในกรณีที่จบแล้ว กำหนดวันวางขาย กำหนดการลงออนไลน์ให้ตรงกับความลงแดง ยอดขายก็จะมา)
ส่วนใครบอกยังสะดวกลงไปทีละสามพันคำห้าพันคำก็ตามนั้น แต่มึงอย่าลืม สมัยนี้ตั้งเวลาอัพได้ด้วย เข้าไปที่เดียวก็แม่งแบ่งซอยและลงไว้ให้มันทำงานอัตโนมัติ
ky เวลาเขียนเรท มึงเริ่มเขียนกันยังไง แบบเปิดหาของคนอื่นมาอ้างอิงวิธีไหมอะ กูกำลังลองเขียนแต่ตันมาก กังวลมากด้วย
เหมือนกูเคยเห็นโม่งแนะนำวิธีเขียนอยู่ แต่หาไม่เจอแล้วอะ;;—;; ไม่รู้อยู่มู้ไหน
แล้วแบบๆๆ ถ้ากูชอบการเขียนเรทของคนนึงมากแล้วอ่านแต่เรทของเขา พอเขียนออกมาแล้วคล้ายเขา (วิธีบรรยายกับพวกศัพท์) กูจะโดนตีไหม
>>775 >>776 >>777 ไม่ใช่ไม่เข้าใจโว้ย แต่เนื้อหาที่กูเขียนมันตัดตอนช่วงราวๆ นั้นพอดีแทบทุกตอน ซึ่งถ้าเอาต่ำกว่านั้นแล้วมันดูไม่ลงตัวซึ่งกูอ่านเองแล้วรู้สึกขาดๆ เกินๆ ก็เท่านั้น กูเลยคิดว่างานกูจะต้องตัดประมาณนี้ถึงจะกำลังดี!!
เข้าใจแล้วว่ายิ่งซอยตอน = ยิ่งทำให้ยอดวิวเยอะ แต่งานกูอยากให้มันมีความสมบูรณ์ในระดับหนึ่งด้วย กูเลยเลือกจะตัดประมาณนั้นแทนที่จะเลือกตัดแหลกก็เท่านั้นแหละ เข้าใจอะไรยากส์~~
จะว่าไปเมื่อก่อน 2-3 ปีก่อนกูเคยเอาเรื่องนี้ไปถาม นข. มืออาชีพในเฟสคนหนึ่ง ที่มาโปรโมทงานจีนของตัวเอง โดยเรื่องการซอยตอนยิบย่อยนี่ล่ะ ผลที่ได้คือกูโดนอีกฝ่ายด่ายับกลับมาเฉยเลยว่าดูถูกนักอ่าน ไหงปัจจุบันแบบนี้มันกลายเป็นมาตรฐานใหม่ซะงั้นวะ
>>779 ของกูเริ่มแรกคือกำหนดก่อนว่าซีนนี้จะเอาแค่ถึงไหน(ข้างนอก-ข้างใน) ท่าไหน เริ่มจากอะไร แล้วไล่เล้าโลมไป ชายแก่นกายต้องแข็งขึงพรักพร้อม หญิงต้องฉ่ำแฉะจูบ เลีย ดูดตรงไหน ก่อนจะทนไม่ไหว ควานหาคอนด้อม ใส่คอนด้อม(ท่าเท่ๆฉีกซองก็สำคัญ)แล้วเอา คะรวยเข้าร่องรักน่ะจะทีเดียวมิดด้ามหรือค่อยๆแบบทะนุถนอม (ถ้าขอ ยสตน ก็ได้แต่ต้องปูมาดีๆเซฟเซ็กส์ยืนพื้น) แล้วระหว่างอยู่ในร่องรัก ก็จะทำอะไรบ้าง มืออยู่ตรงไหนปากอยู่ตรงไหน อกบดเบียดกันแล้วรู้สึกยังไงบรรยายไป จนเร่งเร้าขึ้นเรื่อยๆ แล้วพีค ครางต่ำ หอบหายใจสะท้าน จากนั้นจะต่อจะพอ ก็อย่าให้ขาดห้วง ต้องมีกอดมีพูดคุยว่าโคตรดี โคตรมัน ด้วย เพิ่มอรรถรส
>>779 สำหรับกูนะ
ถ้าแบบนิยายรักปกติแค่นึกภาพให้ชัดก็พอ ว่าคาร์เราเป็นแบบนี้ สถานการณ์นี้ มันจะเริ่มเล้าโลมกันท่าไหนยังไง ได้บรรรยากาศออกมาประมาณไหน พอนึกภาพได้ก็เอาตามภาพเลย อันไหนขาดช่วงก็เบลอๆไปบ้างได้ ไม่ต้องคมชัดไฮเดฟมาก
แต่ถ้า pwp นี่คือเปิดเวบ under ground เท่านั้น เพราะกุนึก kink ที่จะใส่ไม่ออก การต้องมานั่งลิสให้ไม่ซ้ำซากกัน +บิด kink เดิมให้ดูแปลกใหม่นี่แม่งเหนื่อยชิบ
ของกูหาฉากอ้างอิงก่อนแล้วค่อยเอามาบรรยายเป็นภาษาตัวเอง
อย่างที่ทำอยู่บ่อยๆ คืออ่านมังงะ 18+ โดยเฉพาะพวกโดจิน แล้วมาหัดเขียนบรรยายว่าตัวละครทำอะไรกัน พอทำบ่อยๆ มันก็ซึมซับไปเอง
แต่กูเน้นการ์ตูน 18+ เพราะมันแสดงสีหน้าและอารมณ์ชัดดี ในขณะถ้าเป็นหนังมันเฟคจนดูไม่ออกอะ และเน้นการ์ตูนญี่ปุ่นในนิตรสารผู้ใหญ่ด้วยนะ ไม่ใช่มังฮวาเกาหลีที่เน้นเยกันจนไม่สนอารมณ์
เพื่อนโม่ง กูมือใหม่หัดลงนิยาย อยากรู้ว่ามีวันหรือเวลาที่มงคลในการลงมั้ยอ่ะ แบบว่าลงเวลานี้แล้วคนจะอ่านเยอะไรงี้ เช้า เย็น หรือดึกๆวะ แล้วลงวันหยุดหรือวันธรรมดาดี ;;; ;;;
>>789 มึงเอาสายมู หรือสายตรรกะล่ะ ถ้าสายมูกุไม่มีไรจะแนะนำ แต่ถ้าสายตรรกะ อันนี้ของอ่านและเขียนนะ ส่วนมากก็ช่วงเย็นอ่ะ ลงเวลาที่คนส่วนมากมักจะมาหานิยายอ่าน เพราะลงปุ๊บ นิยายมึงจะเด้งขึ้นไปอยู่บนสุดของแถบอัพเดทซึ่งคนจำนวนมากที่เข้ามาเวลานั้นจะเห็นงานมึงง่าย แต่ใดๆ พอมีคนคิดอย่างเดียวกันเยอะ แล้วมาลงพร้อมกัน ก็จะกลายเป็นว่างานมึงอยู่บนสุดได้ไม่กี่นาทีก็โดนเรื่องอื่นๆที่อัพต่อจากมึงดันลงมาอีกเช่นกัน
ในขณะที่อัพตอนเช้า คนไม่ค่อยเข้ามาไถอ่านมาเท่าตอนเย็นก็จริง แต่คนอัพก็ไม่ค่อยมี กว่านิยายกุจะหลุดจากด้านบนไปไกล ๆ ใช้เวลาเกือบทั้งวันแน่ะ
>>789
ถ้าขายนิยายรักผู้ใหญ่ แซ่บๆ เต็มไปด้วยตัณหาราคะ อ่านแล้วเสว แนะนำ เทศาตรีฤกษ์เป็นฤกษ์ โสเภณี บำบัดความใคร่ หลงใหลมอมเมาแบบใช้ความหื่นนำทาง พวกตลาดใหญ่ๆ ห้าง บ่อ น สถานที่ที่ต้องการให้คนเข้าไปล้นหลาม มักเลือกฤกษ์นี้เปิดตลาด เปิด บ่อ น
มหัทธโณฤกษ์ ฤกษ์เศรษฐี ตามชื่อส่วนใหญ่ทั่วไปใช้ฤกษ์นี้กัน
เทวีฤกษ์ ฤกษ์ตัวแม่ คนสวยเฉิดฉาย ในกรณีอยากเดบิวต์เป็นตัวแม่อะนะ
ทั้งหมดสามารถseaechหาได้ในกูเกิล เช่นพิมพ์ เทศาตรีฤกษ์มกราคม2567
ส่วนฤกษ์เน้นคนว่างมีคนเคยสำรวจไว้แล้วได้ผลตอบรับดี ถ้าวันธรรมดา คือเวลา12.00น. และ19.00น.
ถ้าเสาร์-อาทิตย์ 8.00น.เป็นต้นไปถึง2ทุ่ม
อันนี้ถามจริงจังวิชาการนิดนึง ถ้าพ่อเป็นฝรั่ง แม่เป็นเอเชีย ลูกเกิดมาจะผมทองได้มั้ย หรือได้มากสุดก็สีน้ำตาลแต่จะไม่เป็นสีทอง
>>794 ในโลกขริงมันก็มีเคสแฝดคนดำกับคนขาวอะ ที้งพ่อแม่ปู่ย่าตายายก็คนขาวหมด พอสืบย้อนไปคือมีบรรพบุรุษเป็นคนดำเมื่อหลายเจนก่อน ยีนคนดำเลยเพิ่งมาแสดงออกในรุ่นนี้ ถึงหน้าตาน้องจะต่างจากแฝดและพ่อแม่ แต่ดีเอนเอตือตรงกันนะ
เพราะงั้นไม่ฝืนหรอก แต่อธิบายสักหน่อยว่าเออเป็นยีนส์จากบรรพบุรุษงี้ ถ้าแนวแฟนตาซีหน่อยๆก็คือผู้ถูกเลือกอะ555 ยัดพลังวิเศษใส่เลยก็ถือว่าแถเนียน
ถ้าเราเอาปกที่เอฟมาจากเพจขายปก มาตกแต่งเองจะถือว่าผิดลิขสิทธิ์อะไรเขาไหมวะ คือ กุซื้อมานานแล้ว หลายปี พอหยิบมาใช้อยากจะเปลี่ยนชื่อเรื่องขึ้นมา
แวะมาบ่นเฉย ๆ กุอยากเขียนเรื่องเบาสมองสั้น ๆ ไม่ถึงแสนคำ ขายถูก ๆ เหมือนคนอื่นเขาบ้างว่ะ 555 ชีวิตนข.อินดี้เขียนทีเล่มหนาปึ้ก เบาสมองคืออะไรไม่รู้จัก เขียนเป็นแต่เรื่องหนัก ๆ แนวเข้าถึงยาก ปมรุงรัง แต่งยากแล้วยังขายยากอีก ไม่คุ้มเลยสักนิด สภาพ 55555
>>803 เห้ย นึกว่ากูมาบ่นเอง5555 กูแก้ปัญหาด้วยการแยกนามปากกาแหละ อันนึงไว้เขียนเรื่องชิลๆเสวๆสั้นๆไม่ถึงแสนคำ เอฟปกสำเร็จ
ส่วนอีกนามปากกาเขียนให้ทะลุแสนไป ระหว่างนั้นจะได้เอาเงินจากอีกนปก.มาใช้เป็นแรงใจให้ปั่นไอ้เรื่องแสนคำได้
แต่กูก็อยากเขียนนปก.หลักให้ไม่ถึงแสนคำเหมือนกัน งงตัวเองว่าจะให้ยาวอะไรจนาดนั้นวะ555
เวลาพวกมึงเขียนนิยายแบบมีตัวละครหลายๆตัวที่มีโมเมนต์กับนางเอก มึงจะล็อคพระเอกไว้ก่อนป่ะ หรือเขียนๆไปซักพักแล้วดูว่าตัวไหนเคมีดีสุดค่อยดันตัวนั้นมาคู่นางเอก กูอยากทำวิธีหลังแต่กลัวแป้กว่ะ
ky เห็นประเด็นเรื่องหนุ่มเกาหลีเที่ยวไทยอัพค่าตัวแพงๆเพราะไม่อยากให้คนจ้าง แล้วกูก็เกิดความคิดอยากตั้งราคานิยายเม้ดที่ซื้อผ่านผลไม้แดงให้แพงเว่อๆ แบบ 1,000 ไปเลย แต่ความจริงถ้าซื้อผ่านเว็บก็แค่ 200 นิดๆจะได้ป่าววะ แล้วเขียนบอกไปในคำโปรยว่าตั้งใจทำไม่ให้คนซื้อผ่านช่องทางนั้น มีใครลองยัง คือกูเคยลองตั้ง+เยอะๆ แต่ยังไม่เคยทำเว่อขนาดอัพไปพัน เลยอยากรู้ว่ามันจะworkมั้ยวะวิธีนี้ กูแค่ไม่อยากให้นักอ่านไปซื้อผ่านผลไม้แดงอะ กูไม่ชอบมันด้วย1 และมันหักเงินเยอะจนกูหมั่นไส้ด้วย2 แค่นั้นเลย555
>>810 น่าลองถ้านักอ่านมึงไม่ใช้ผลไม้เป็นหลัก555 คือส่วนมากที่คนยังจ่ายผ่านผลไม้ตรงๆ เพราะสะดวกกว่านี่ละ แพงกว่ากันไม่บาทเองถือซะว่าเสียค่าสะดวกสบาย ถ้ามึงจะตั้งราคาโอเวอร์เรทไว้พร้อมเหตุผลแบบนั้น มึงอาจเสียนักอ่านสายขี้เกียจไปแบบปกติกูเปย์แบบนี้ ถ้าต้องย้ายวิธีจ่ายก็ช่างแม่งเหอะงั้น กดอ่านในเว็บต่อก็ได้
อย่าประมาทความขี้เกียจของคนอ่านนะ แม่งอิหยังวะจริง กูเคยเจอคล้ายๆกันแบบจัดโปรซื้อเล่มคู่ลดราคา เอานิยายที่เหลือค้างสต็อกไว้มาโล๊ะนั่นละ มีนักอ่านมาขอจ่ายผ่านทรูวอลเลต แต่กูเลิกใช้ไปเป็นชาติละมีแค่พร้อมเพย์กับธนาคารไง ก็เลยไม่รับ มาฮึดฮัดใส่อีกบอกไม่อยากได้เงินเราก็แล้วแต่เลย นักเขียนคนอื่นไม่เห็นว่าอะไร ไม่มีเขาก็ไปหาคนมีมารับแทน เราสะดวกจ่ายแบบนี้แต่ถ้าลำบากขนาดนี้ไม่ซื้อแล้วก็ได้ เชี่ยกูงงชิบหาย วอลเลตมันก็มีโอนเข้าพร้อมเพย์ป่าววะ ช่างแม่งเหอะกูไม่ใช่พวกง้อลูกค้า เรื่องของมึงเช่นกันค่ะซิส กูขายโล๊ะไม่ได้ร้อนเงิน แต่มันรกบ้าน
ถ้าตัวละครตัวเอกทำสิ่งที่ไม่ได้ถูกต้องตามธรรมนองคลองทำแบบที่คนดีๆเขาจะทำกัน แต่มันสมเหตุสมผลด้วยนิสัยที่ปูพื้นและเซ็ตติ้งของเรื่อง แล้วสิ่งนั้นมันค่อนข้างแรง พวกมึงจะกล้าเขียนออกไปให้โดนด่าป่ะ ยกตัวอย่างเช่น พระเอกเป็นคิง ถูกใจนางเอกแต่นางมีผัวแล้ว เลยก่อสงครามฆ่าผัวนางทิ้งแล้วชิงเมียมันมา บังคับให้นางมาเป็นเมีย อะไรแบบนี้ (ไม่ใช่พล็อตที่กูจะเขียนนะเว้ย แค่ยกตัวอย่าง 55555)
>>816 ถ้ากล้าเขียนก็ต้องกล้ายอมรับผลที่ตามมาอะ มันจะมีทั้งคนชอบในความไปสุดในทุกทางนี้ กับคนแอนตี้ รับไม่ได้เลย
เคยมีนข.เขียนให้พระเอกเลิกกับนางเอก แล้วพระเอกรักนางเอกอยู่เลยxxxกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นไซด์ไลน์หน้าหุ่นผมเหมือนนางเอกเวลาxxxจะให้หันหลังและจินตนาการว่าเป็นนางเอก
ซีนนี้นข.โดนกระหน่ำ คนรับไม่ได้คือไม่ชอบเลย แต่คนรับได้ก็มองว่าทำไปเพราะรักนางเอกมากบ้าง;นี่คือจุดหน่วงสุดของเรื่องบ้าง ถ้าผ่านไปได้ก็ดีหมด
>>816 เคยอ่านบันไดหยกงามป่ะ พล็อตแบบมึงว่าเลย พระเอกคือตัวร้ายสัสๆ นางเอกจบไปแบบยังรักผัวเก่า แต่ก็ผูกพันกับพระเอกนะ ตบท้ายด้วยนอนพิเศษผัวเก่าที่ทำเพื่อนางเอก คนอ่านประทับใจนะ ทั้งสงสารเห็ยใจ แต่คนที่เชียร์อ่พระเอกก็มี มันเลวสมคาร์ แต่ก็มีจุดท่่ดี บางจุด นางเอกเข้าใจผิดไปจนตายเอง
>>817 >>818 >>819 พอดีสิ่งที่กูจะเขียนมันเป็นวิธีการแก้ปัญหาของตัวละครแบบหมิ่นเหม่ศีลธรรม ซึ่งมันมีวิธีที่คนปกติสามารถทำให้ดีได้นะ แต่มันจะผิดคาแรคเตอร์ตัวละครนี้เกินไป ด้วยนิสัยและเซ็ตติ้งมันไม่น่าจะคิดวิธีแบบที่คนจิตปกติเขาคิดกัน แต่เขียนแบบนี้โดนด่าชัวร์ แต่ถ้าเป็นคนที่เข้าใจนิสัยมัน อาจจะบอกว่าเหี้ยสมเป็นมึง 555555555
อันนี้คือต้องปล่อยให้มันเป็นไปอย่าฝืนใช่ป่ะ กูไม่รู้เทคนิคการเขียนแบบนี้เขาเรียกอะไรอะ เขียนๆไปแล้วพอรู้สึกว่าตัวนี้ไม่น่าทำแบบนี้ กูก็ต้องแก้ให้มันทำอีกแบบที่มองว่าเข้ามือและโอเคกว่า
จะว่าไปประเด็นที่นักอ่านรับไม่ได้แม่งก็แล้วแต่คนจริงว่ะ อย่างกุอะ ฆ่าคนได้ ทำเรื่องผิดกม.ได้ ถ้าเซตติ้งมันดาร์ค ๆ เถื่อน ๆ สมเหตุสมผล แต่เรื่องนอกกายนอกใจกูแบล้กลิสต์ท่าเดียว 555 สีนละทำเป็นหย่อม ๆ ไหมล่ะกู 55555555
>>822 เอาจริงแม่งก็ไม่ผิดหรอกเพราะเลิกกันละ แต่บางคนมองว่ารักกับเซ้กควรอยู่ด้วยกันปะ เหมือนนอกกายแต่ไม่นอกใจแม่งก็ไม่ควรอยู่ดี (ถึงเคสจะไม่ผิดก็เหอะ) เง่นมากก้จัดการตัวเองไปนึกถึงเธอไปคงฟินกว่า ย้ำอีกครั้งว่ามันไม่ผิดเว้ย แต่นิยายขายฝันอะ มึงเก้ทมะ ผช.มั่วไปทั่วกะคนรักมั่นขอเยเธอคนเดียว อันไหนฟรินกว่ามึงว่า
ส่วนที่กุถาม กุสงสัยเฉย ๆ ว่านข.เขาให้ตลค.มองเรื่องนี้ยังไง นึกได้ว่าไม่ควรเลยกู รู้สึกเฉย ๆ หรือไม่พูดถึงเลยน่ะ ไม่ได้บอกว่าต้องรู้สึกผิด เพราะมันก็ไม่ผิด
ใด ๆ ถึงกุจะไม่ชอบอะไรก็ไม่ด่านข.หรอก แต่ขอเม้นด่าตลค.ได้ปะอะ คนมันอินอะ 555 เคยเจอเรื่องนึงพระเอกสันดานเหี้ยสุดตีน ทัวร์รุมด่าพระเอกแบบจมดิน บรรยายซะคนไม่ได้อ่านยังเกลียดตาม สะใจชิบหาย 55 ไปส่องเม้นในรี้ดมีคนด่าถึงนข.เลย ด่าแรงเว่อด้วย อันนี้กุว่าเกินไป แต่ในเม้ดไม่ยักมีด่านข. มีแต่ชมว่าเขียนดี สงสัยคนด่าแม่งไม่ซื้อมัง
>>821 ปกติเลยมึง มันถึงมีคำว่าหลุดคาร์ไง ใครว่านข.ต้องคุมได้ทุกอย่าง เอาจริง ๆ บางเรื่องแม่งก็ไม่ควรไปฝืนบังคับอะ ไอ้ลูกเราทั้งหลายแม่งเหมือนม้าพยศดี ๆ นี่เอง 5555 กล้าสร้างคนเหี้ยก็ต้องปล่อยให้มันเหี้ย คิด พูด ทำ อะไรต้องสมเหตุสมผลกับคาร์มัน แต่นักอ่านจะด่าก็ทำไรไม่ได้แหละ เป็นกำลังใจให้นะ
>>820 นักอ่านที่รับได้ก็บอกอย่างที่โม่งบนมันบอกแหละว่าไม่ผิดเพราะเป็นช่วงที่เลิกกัน และพระเอกมันเง่น ก็ต้องระบายแบบใจรักเธอคิดถึงเธอเสมอแม้จะเยคนอื่นอยู่ก็ตาม และ พอนางเอกกลับมา พระเอกมันก็ไปเลิกกับไซด์ไลน์หุ่นเหมือนนางเอกที่ผูกปิ่นโตไว้ด้วยแอร์เมs1ใบ ตามคาร์พ่อหนุ่มใจสปอร์ต
ผลตอบรับจากคนอ่านคือ eเมลไปคร่ำครวญกับนข.เรื่องไม่รักแต่ทำไมต้องให้แอร์เมsบลาๆ
ในกู้ดรี้ดหลายคนก็กดดาวกระหน่ำเพราะไม่ชอบที่พระเอกไปมีอะไรกับคนอื่นรับไม่ได้
แต่โดยรวมนี่คือเรื่องที่หลายคนบอกว่าพระเอกโคตรคลั่งรักและยกเป็นนิยายขึ้นหิ้ง
ส่วนตัวกูคิดว่าถ้ามึงคิดว่าลูกมึงควรเป็นแบบไหน สถานการณ์อารมณ์ผลักดันให้ต้องทำเรื่องอะไรเลวร้ายก็ไปให้สุดเถอะ คนอ่านมีหลากหลาย ใครจะด่าก็บอกไปว่าลูกมึงเป็นคนดียย์
พื้นเพและสภาพแวดล้อมของตัวละครมันก็ส่งผลกับการกระทำและนิสัยด้วยนะ เคยเจอเรื่องนึง ปากกัดตีนถีบโตมาในสลัม สายตาแกร่งกร้าวกร้านโลก พอมีความรักกับพระเอกปุ๊บ เปิดโหมดสาวน้อยอินโนเซนต์โลกสวยมะงื้อมะแง้ขึ้นมาทันที อันนี้มันผิดคาร์แรคเตอร์เกิน เติบโตมาอย่างกร้านโลกมันควรมองโลกแง่ร้ายขี้ระแวงอะไรแบบนี้ให้เยอะๆป่ะ ไม่ใช่มาเข้าโหมดสาวใสไร้เดียงสาไม่เคยคุยกับผู้ชายมาก่อน
เพิ่งย้ายมาเขียน pwp วายเห็นเขาว่าเงินดี แต่ผิดคาดมากเปิดขายรายตอนแล้วยอดหลักร้อยไม่ถึงพัน เศร้ามากกกก เพราะเขียนตั้งใจแบบภาษาสวยเน้นบรรยาย แต่ยอดก็นะ คนติดตามส่วนใหญ่เหมือนรออ่านฟรีก่อนติดเหรียญมากกว่า ถ้าไปลง meb ต่อนี่มันจะรอดไหมวะ ฐานนักอ่านเดียวกันเปล่า? ถอดใจไม่ไหว ใครมีประสบการณ์บอกบุญที หรือเลิกเขียนย้ายไปหาเงินแนวอื่นดีกว่า
ไปเจอคนเม้นว่างี้มึงว่านิยายมั้ย
เคยเจอแบบยัยผมทองเหมือนกัน แต่เสริมหน่อยว่าดีกว่า(แบบแปลกๆแตกต่าง)ตรง..ผมมีเอกลักษณ์กว่าที่ค่อนข้างมืดมน
.
ผมสมัยเรียนปีแรกๆมองโลกแง่ร้าย ยิ้มบ่อยแต่เหมือนเสเเสร้งปนเหยียดและประชดเรียกว่าวอนตีนล้วนๆ แต่แปลกดีที่ไม่มีคนเกลียด การใช้บวกปรับสายตา(การขยัยกล้ามเนื้อรูปหนังตากับคิ้ว)เพื่อแสดงออกนี่ถ้าดูจากกระจกยังอึกเองเลยว่าตัวเองกำลังคิดไรอยู่ก็ไม่รู้ แถมทั้งหมดถูกจดจำมีแต่คนเป็นมิตรมาอยู่รอบตัวซึ่งทำสงสัยตัวเองมีดีอะไรนะถึงมีแต่คนคอยพยุงตลอดเวลา ตัวผมจะต่าง(กับตัวละครข้างบน)ที่ตรงไม่ค่อยเจอสายตื้อที่อยากเป็นเพื่อนแบบยันทอมในเรื่องแหะ ...
.
อ๊ะ!ใช่ว่าจะไม่เคยเจอนะ ผมเจอแค่ครั้งเดียวตอนปีหนึ่งเป็นหนุ่มหล่อขี้สงสัยจากคณะครุศาสตร์(ที่จ้วงหัวว่าแม่งตื้นเขินน่ารำคาญชะมัดแต่ก็ไม่เกลียด) และดูเหมือนผมจะถูกตีตัวออกห่างเองในหนึ่งวันแห่งความพยายามของเจ้าหมอนั่นซึ่งวันนั้นฝนตกซะด้วย ผมก็ไม่เห็นเจ้านั้นอยู่หลายปี.... ตื้นชะมัดเลยนะ ทั้งที่ทางนี้อุตสาห์เปิดหัวข้ออภิปรัชญา เช่น ความหมดศรัทธาว่ามนุษย์เป็นสัตว์ผู้มีเหตุผลหลังผ่านยุคโพสโมเดิร์น กับแนะนำหนังสือโลกของโซฟี่และนักปรัชญารุ่นเดอะ ต่างๆแท้ๆ การเมืองนู่นนี่ ความเป็นจริงและสิ่งที่ต้องจ่ายแม้จะทำตัวเมินเฉยในนาม "เป็นกลาง" ที่อ้างๆ กันของคนกลุ่มหนึ่งว่าตามจริงการอยู่เฉยก็มีราคาที่ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน ....... ผมพูดแต่เรื่องเครียดรึไงไอ้บ้านั้นเลยหนี เฮ้อ น่าขยะแขยงชะมัด
KY เห็นเขาว่านักอ่านชอบนิยายเบาสมอง ขายง่ายกว่างานปมยั้วเยี้ยหนัก ๆ แต่กุเห็นแนวผัว ๆ เมีย ๆ ดราม่าหอบลูกหนีขายดีจัง เทียบกับจีบกันกุ๊กกิ๊กไปวัน ๆ อันไหนขายดีกว่าหว่า
กูถามหน่อย นิยายที่จะโคแก่เนี่ย อายุห่างกันกี่ปีขึ้นไปดี คือไม่ใช่ไรกูไถเม้ดแท๊กโคแก่แล้วเจอพระเอกอายุ28 นางเอกอายุ23 ก็งงนิดหน่อย 5ปีนี้โคแก่มั้ยยังไง
โคแก่สำหรับกูคือ10ปีขึ้นไป ยึดแบบนี้มาหลายสิบเล่มแล้ว
Kyมึงว่าพระเอกเรียกตัวเองว่า”พี่”เรียกนางเอกว่า”หนู”มันให้ความรู้สึกยังไง
คือนิยายกูอะให้เรียกแบบนี้ไง
แต่เมื่อวานกูไปกินข้าวเจอคู่รักคู่นึงเรียกกันแบบนึ้แล้วกูเลี่ยนมากกกกกก ฟีลลิ่งในนิยายกับความเรียลในชีวิตมันต่างกันมากเลยว่ะ ถถถถ
ตอนนั้นเหมือนมีกระแสบอก ฟังดูเหมือนอ่อย เวลาผญใช้หนูกับผช กูว้อทททท
>>842 ในเรียลไลฟ์มีเยอะออกนะ กุว่ามันติดมาอ่ะมึง โดยเฉพาะคู่รักที่อายุต่างกัน จีบกันตั้งแต่สมัยยังแทนตัวว่าหนูได้ไม่ติดขัดอ่ะนะ บางคนก็ติดหนูไปหลายปีกว่าจะรู้สึกว่าตัวเองแก่จนควรบังคับตัวเอง เลิกแทนตัวเองว่าหนูได้แล้วก็อายุมากอยู่ 555
อ๋อแต่สมัยนี้เค้าไม่ใช้กันแล้วป่าววะ กูมึง หมดแล้ว 55
ที่ >>842 มันหมายถึง คือผช.เรียกผู้หญิงว่าหนูป่าว ไม่ใช่ผญ.เรียกตัวเองว่าหนู อันหลังนี่ปกติ แต่ชีวิตจริงเรียกอีกฝ่ายว่าหนูมันก็ดูแอบ ewwๆ จริงแหละว่ะ 555 แต่ก็ไม่ได้แย่มากนะ ดีกว่าเรียกมึงอะ 55555 ในนิยายกูไม่ได้อะไร แค่รู้สึกพี่มึงปากหวานขี้เต๊าะไปเร้กน้อย ยังไงมึงใช้ๆ ไปเหอะ
ปล. เคยเห็นคนแชร์ว่าชอบสรรพนาม พี่-เรา เออ อันนี้กูก็เขิน ส่วน พี่-ชื่อ ok / พี่-เธอ ให้คะแนนน้อยกว่า
มรึง... ขอถามเรื่องส่วนลดที่พวกมึงให้ร้านค้าหน่อยสิ ว่าส่วนใหญ่ให้ยังไง แบบสิบเล่ม มึงลดกี่% แล้วมากสุดถ้าเขาสั่ง 100 เล่ม มึงลดกันกี่ % ตอบกูกันด้วยนะ ขอบคุณมาก
หมวดรักผู้ใหญ่ ยังมีแบบข่มขืนแล้วรักป่ะ?
>>852 หมวดนี้ มีอยู่เรื่อยๆนะ แต่ส่วนใหญ่กูเจอแต่ ขข แล้วกลายเป็นชอบ กลายเป็นค้นพบด้านมืดของตัวเองไปซะอย่างงั้น
มีเรื่องนึงพอผัวคนแรก(ที่ ขข นางเอก) ตา ย จากนั้นนางเอกก็เป็นกระดังงารนไฟ เพิ่มปริมาณผช.เป็น3P 4P เลือกเดินเส้นทางค้ากาม รับเฉพาะชนชั้นสูง ผู้บริหาร ขรก.ระดับสูง
โม่ง พูดถึงแนวกินหญ้าอ่อน ถ้าให้นางเอกอายุค่อนข้างเด็ก แต่ พระเอกมันเป็นปิศาจ อายุพันปี (แต่หน้าออกตาลุง) แบบนี้ มันจะเมกเซนไหม รี้ดมันจะโอเคป่ะ
ถ้าเป็นปิศาจอายุพันปี จะกินเด็กไม่ถึง10ขวบหรือแก่ 70 ใกล้โลง ก็ไม่ต่างกันสำหรับปิศาจพันปี
แล้วก็ถ้าเป็นปิศาจตามโลจิค จะกินเด็กก็ไม่แปลก เพราะปิศาจชอบทำเรื่องผิดศีลธรรมอยู่แล้ว แบบนี้เข้าคาแรกเตอร์กว่าด้วย เป็นปิศาจจะแคร์ไรกับกฎหมายหรือศีลธรรมของมนุษย์ ปิศาจนะเว้ย มนุษย์ก็แค่แมลง
อารมณ์ มังงะ อนิเม เรื่องพ่อบ้านดำ อะประมาณนั้นถ้าคิดไม่ออก เห็นโคตรดังๆแฟนเยอะมาก แต่พระเอกก็พยายามจะกินเด็กอะนะ
โม่งว่าพล็อตแบบนี้เวิคไหม
โม่งเขียนย้อนอดีตตัวละครกันยังไงบ้างวะ ช่วยแชร์กันหน่อยสิ
พอดีของกูกำลังเขียนให้ตัวละครเล่าความเป็นมาของตัวเอง แต่รู้สึกว่ามันยาวไปหน่อยแฮะ
เนื้อหาของกูก็ประมาณว่านางเอกประจำภาค (ไม่ใช่นางเอกหลัก) เป็นอะไรที่คล้ายๆ ร่างทรงมีพลังที่ควบคุมไม่ได้ ถูกตัวร้ายจับตัวไป ระหว่างนั้นก็เล่าพื้นเพตัวเองไปเรื่อยว่าเกิดที่ไหน วัยเด็กเจออะไรบ้าง ต้องเผชิญกับเรื่องร้ายๆ อะไรมาบ้างจนสามารถถึงได้มาถึงจุดนี้ได้อะไรทำนองนั้น ซึ่งกูเขียนไปเขียนมาก็กลายเป็นว่านางพล่ามคนเดียวไปแล้วประมาณ 5 พัน กว่าตัวร้ายจะปรากฎตัวอะ ถถถถถถ
ก็ตั้งใจจะตัดแบ่งซักตอนละ 1000 คำแหละนะ แต่พอมานึกถึงตอนอัพลงแล้วก็เดาได้เลยว่าคนอ่านคงจะรำคาญ เพราะอีนี่มัน monologue ยาวอยู่คนเดียว 4-5 ตอน จึงอยากขอคำแนะนำหน่อยว่าควรทำยังไงดี
>>856 ถ้าถามกูนะ กูไม่มีปัญหาเรื่องอายุห่างอะถ้าเป็นเคสที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ใช่คน
แต่จะมีปัญหาคือนางเอกเด็กไป อายุไม่ถึง 10 แล้วให้มีบทบนเตียงนี่คือกูส่ายหน้าเลย และยิ่งถ้าเขียนแนวเด็กมันยั่วชวนอีกฝ่ายขึ้นเตียงทั้งที่อายุแค่นั้น ยิ่งกุมขมับด้วย เพราะมันเป็นช่วงอายุที่ควรจะขาวสะอาดและไร้เดียงสาอยู่เลย
ขั้นต่ำสุดกูให้อายุ 14 เป็นช่วยอายุที่เริ่มมีมลทิล เริ่มมีความรู้สึกตื่นตัวทางด้านนี้
>>858 14 มันวัยที่เริ่มเป็นวัยรุ่นแล้วไง มีนม มีเมนส์ มีความรู้สึกทางเพศ เป็นผู้ชายก็เสียงแตกหนุ่ม ฝันเปียก หัดว่าว ไอ้เคสที่มีนมกับเมนส์เร็วกว่าชาวบ้านเขาก็จริง แต่ค่าเฉลี่ยก็อยู่ในวัยราวๆ 13-14 อะ
ต่อให้มึงจะให้นางเอกมึงเป็นโลลิ 10 ขวบ โดนเยเย้ในช่วงนี้ ร่างกายนางเอกมึงก็ไม่มีความพร้อมสำหรับการมีลูกอยู่ดี ไม่ว่าจะสอดใส่หรือคลอดลูกก็เหอะ ไม่เคยอ่านข่าวพวกเจ้าสาวเด็กแถบๆประเทศอิสลามโดนเยจนตายตั้งแต่คืนแรกที่แต่งงานกับเจ้าบ่าวเหรอ เขียนเอาเส้กแฟนตาซีอะได้ แต่ของจริงก็ประมาณนั้นอะ
มึงระวังอิโทรลที่อยากจะเขียนเย่เด็กลงเม็ดด้วยนะ ที่วนเวียนมาถามเรื่องแนวๆ นี้ซ้ำซาก
>>860 เป็นโทรลตัวนั้นเองเหรอ กูก็ว่าอยู่ว่ามันจะเงี่ยนอยากให้พระเอกเยเด็ก 10 ขวบไปทำไม
อุตส่าห์ยกยายแก่ 70 มาบอกว่าไม่ต่างอะไรกันในสายตาปีศาจ แต่สรีระ รูปร่างหน้าตา ยายแก่มันจะเต่งตึงเท่าเด็ก 10 ขวบเหรอวะ ถ้าไม่ต่างกันมึงก็ให้พระเอกเยยายไปเลยสิวะ จะยกเด็ก 10 ขวบมาร่วมด้วยทำไม นอกจากแค่อยากเขียนให้พระเอกเยเด็กเลยต้องเอายายแก่มาอ้างด้วยว่าไม่ต่างอะไรกันในสายตาปีศาจพันปี
>>861 มันมีแนวที่เรียกว่า โลลิบาบะ (Lolibaba) อยู่
ตัวละครฝ่ายหญิงนั้น ร่างกายมันจะเป็นเด็กอายุราวๆ 10 ขวบนั่นล่ะ แต่เซ็ตติ้ง พฤติกรรม และจริตจะกำหนดให้เป็นยายแก่หรือขุ่นแม่อะไรทำนองนั้น
ดูเผินๆ มันก็แนวเยเย่เด็กนะ แต่ถ้าลองได้อ่านแล้วมันก็รู้สึกว่าไม่ใช่อะ มันไม่มีความใส่ซื่อหรือ Grooming เด็กแบบที่เขาต่อต้าน แต่มันมันเป็นแนวเยเย่ผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ มากกว่า ...แล้วกูก็ดันชอบแนวนี้ซะด้วยสิ
>>862 เออ ขอบใจไอเดียนี้มาก ลืมไปได้ไงว่ามีแนวนี้อยู่ อ่านแล้วได้ไอเดียละ
เราอยากให้เด็กมันใสๆ อยู่ เลยกะจะให้เป็นโลลิบาบะ ที่ความจำเสื่อมเลยทำตัวเป็นเด็ก พอเข้าช่วงไคลเม็กคลายปม ให้ความจำกลับมา แล้วเคลียกับพระเอกน่าจะดี
ที่นี่ก็ได้ทั้งตัวละครเด็ก และไม่ผิดกฎหมายด้วยทั้งคู่ แฟนตาซีจงเจริญ
>>857 มึงใช้วิธีเล่าอนาคต > ปัจจุบัน แทนดิ ถ้ามึงจะเล่าเรื่องนางเอกยาวขนาดนั้นอะ แบบ ตอนแรกเปิดมาเป็นสถานการณ์ตอนโดนจับมัดอยู่ แล้วนางเอกก็คิดทวนว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยัง ผิดพลาดตรงไหน แล้วก็ขึ้นใหม่เป็นเล่าเรื่องตัวเองเหมือนบทเปิดปกติ
กูอธิบายไม่เก่ง ไม่รู้มึงเข้าใจไหม แต่วิธีนี่ใช้บ่อยในพวกมังงะอะ
การบรรยายแบบ inner monologue ถ้าเยอะไปมันก็ไม่ดีช่ะ อาจจะทำให้รู้สึกเวิ่น แต่อีกทางถ้าพอดี มันก็ทำให้อ่านแล้วอินได้เหมือนกัน
>>868 แล้วแต่แนวด้วยอะ
ของกูเขียน Inner Monologue ทั้งเรื่อง เพราะตัวเอกมันเป็นคนเล่าเรื่องผ่านสายตาทั้งหมด ซึ่งกูได้รับอิทธิพลมาจากนิยายฝั่งยุ่นเยอะมาก ยกตัวอย่างดังๆ ดีๆ ก็แบบ บิเบลีย ที่พระเอกแม่ง Monologue ทั้งเรื่อง จนรู้สึกได้เลยว่ามันเงี่ยลมาก เอาแต่มองนมนางเอก
แนววันไนท์ / เด็กเสี่ย / ท้องหอบลูกหนี แม่งขายได้ขายดีม้ากกกกขนาดนั้นเลยอ่อวะมึง คือหมวดโรแม้งนี่มองไปทางไหนก็เจอ นักอ่านเขาไม่เบื่อเหรอวะ อันนี้กุไม่ได้เหยียดไม่ได้กวนตีนนะนี่
>>871 สำหรับกูมันคือแนวหนีความจริงว่ะ สาวโรงงานอย่างกูก็อ่านแนวนี้บ่อย เบื่อก็ไปอ่านแนวอื่นเอา จอยๆสลับกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเด้กเสี่ยวันไน้ท์มีให้อ่านเยอะกว่าจริงๆ555 เน้นแค่คสพ.พระนางกับความม่วนระหว่างทาง บางทีก็ไม่ได้โฟกัสเรื่องเด้กเสี่ยไรมากหรอก แค่อยากดูโมเม้นหวานๆคนได้กันเฉยๆ แนวไหนก็ไม่ติดทั้งนั้น สนุกถูกใจก็พอ
>>871 มันได้เรื่อยๆนะถ้าเขียนดี พล็อตเดิมแต่กลวิธีการเล่าเรื่องมันต่าง อย่างเด็กเสี่ยที่ พระเอกกะเล่นๆแต่สุดท้ายกลายเป็นรักจริงขึ้นมา มันเป็นอะไรที่คนอ่านเดาได้เหมือนชีวิตควบคุมได้อะ ชีวิตจริงแม่งมีหลายปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่นิยายพล็อตนี้เดาได้ว่าพระเอกมันจะต้องมาง้อเมีย คลั่งรักจนยอมทุกอย่างให้เมียกลับมา สุดท้ายทุกอย่างจะดีมีความสุข มันฟินตรงนี้แหละ
ถามหน่อยจ้าาาา คนอ่านในเม็ดกับรี้ดคนละกลุ่มกันใช่มั้ย กูลงในรี้ดยอดเพิ่มน้อยนิดหนึ่ง แต่ยังไม่เคยลงขายในเม็ด
>>875 เท่าที่สัง คละๆ กัน ไม่เชิงแยกกันเด็ดขาด แต่นิยายบางเรื่องยอดน้อยในรีด เพราะอาจจะแทรกหน้าใหม่มาแรงไม่ขึ้น เพราะระบบมันเอื้อหน้าแรก ใหม่มาแรก นิยายอพเดตใหม่อยู่ในลืบ คนไม่ค่อยกดเข้าไปดู แต่ถ้าสนุกจริง บางคนก็ปังเงียบๆ ในเม็ด เพราะนอ.ในเม็ดคืออาหวังจะซื้อ ตกเค้าได้ก็ยอดมาแน่
พูดถึงเรื่องเบาสมองแล้วกูก็กังวลแฮะ
ตอนแรกกูตั้งใจเขียนแนวชิลใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยเบาสมองไป แต่พอดำเนินเรื่องไปความซีเรียสก็เพิ่มขึ้นซะงั้น ถึงจะเป็นช่วง Climax ของเรื่องก็เถอะ แต่กูหาช่องผ่อนความตึงไม่ได้เลย
>>878 ชีวิตมันเครียดอ่ะมึง พอหนีออกมาส่วนมากก็อยากได้อะไรจรรโลงใจ ยิ่งสภาพสังคมเครียดมากเท่าไหร่งานบันเทิงใจก็ยิ่งเติบโต
Dilemma ของมันในคห.กูก็คือ วงการเรียกร้องให้ค่า งานซีเรียสมาสเตอร์พีซ นำเสนอคอร์ที่สะเทือนสังคมมากกว่า แต่งานพวกนี้ดันเขียนยาก ขายยาก คนที่อ่านพวกนี้เป็นประจำมีน้อยถ้าเทียบกับหมวดนิยายขายฟิน ถ้าไม่บังเอิญแสงดันขึ้นมาว่ามันยอดเยี่ยมก็ขายแทบไม่ออก คนไม่ค่อยสนใจ อย่างงานเนื้อหาอ่านแล้วกระแทกใจแต่โคตรดิ่ง แม้มันจะมีความยอดเยี่ยมในทางอรรถรสภาษาและแนวคิดแต่มันก็เหมือนยาขมอ่ะ แบบอ่านแล้วดิ่งไปสามวัน กุก็แค่โนตไว้ว่าเออ เยี่ยมนะ แต่จะถ้าไม่มีฟีลชีวิตดีสัดจนอยากคอนทรัส หรือฟีลดิ่งแบบอยากมาโซตัวเองกุก็คงไม่เปิดอ่านอีกว่ะ ส่วนมากอยู่ในชั้นต่อสักพักกุก็ส่งต่อแล้ว ผิดกะนิยายฟินจิกหมอน อ่านกี่รอบก็ได้ อ่านจบแล้วอารมณ์ดี สู้ความบัดซบของชีวิตต่อได้เลย
>>880 กูเป็นอีป้าแล้ว กูไม่อยากอ่านอะไรเครียดๆเลย ยอมรับว่าเหนื่อย ไม่สามารถรับความเครียดเข้าตัวเพิ่มมากไปกว่านี้แล้ว ไอ้ที่อ่านมันก็เลยมาแนวย่อยง่าย เน้นฟินจิกหมอน สร้างความบันเทิงใจไปวันๆ แต่ขอแบบสตอรี่ดีนิดนึง ไอ้จะมาแนวสมองไหลพล็อตหลวมไม่สมเหตุสมผลซักอย่างนี่ก็ไม่เอานะ 555555
พระเอกโบ้ ตอนช่วงง้อเพื่อแลนดิ้งจบ นางเอกควรเล่นตัวนานประมาณไหนวะถึงแลนดิ้งได้แบบนุ่มนวล กลมกล่อม ผู้โดยสารไม่ได้รับความกระทบกระเทือน
ง้อหนึ่งมุก สองมุก นานสัก 2-3 เดือนห้วนไปไหม
Kyถ้านักอ่านกดตัวอย่างebookเข้าชั้นหนังสือ(แต่ยังไม่ได้ซื้อนะแค่กดตัวอย่างไปลองอ่าน) นข.จะรู้ไหม หรือมีรายงาน จำนวนคนกดตัวอย่างไหม
ถ้าพระเอกกูพฤติกรรมเหมือนสตอล์กเกอร์นิดหน่อยคนจะอี๋กันป่ะวะ ไม่ได้ตามติดแบบเข้าไปคุกคามติดเครื่องดักฟังอะไรในห้องขนาดนั้น แต่ออกแนวรู้ว่าเธอไปไหนมาไหนทำอะไรยังไง ประมาณว่ามีสายข่าวเยอะ ใช้วิธีเข้าหาคนรอบข้างนางเอกแล้วตีสนิทจนเขาเผลอพูดเรื่องนางเอกออกมาไรงี้ แต่ฮีทำแบบลับๆไม่ได้ให้นางเอกรู้ เช่นไปเม้ามอยกับเพื่อนสาวนางเอก คุยลมฟ้าอากาศกันไป ทางนั้นก็เผลออัพเดทว่าไปเที่ยวมากับนางเอก โชว์รูปใน ig ให้ดู ฮีเลยได้รู้ว่านางเอกทำอะไรในช่วงวันหยุด ได้รู้ว่านางเอกชอบชาเขียวปั่นจากรูปของเพื่อนใน ig เวลาไปเที่ยวเลยซื้อของฝากเป็นชาเขียวให้นางเอกไรงี้ แบบนี้จะว่าครีปปี้ป่ะวะ หรือนิดๆหน่อยๆปกติ
แต๊งกิ้วพวกมึง พอดีเอาให้เบต้ารีดเดอร์อ่านแล้วเขาทักมาว่าเหมือนสตอล์กเกอร์เลย กูก็เลยเสียเซลฟ์เบาๆ 55555555555555
จริง ถ้าอยู่กับเอ็กมากๆ จะอีกเทสนึงเลย หยุมหยิมจิ๋มมด นู่นก็ไม่ได้นั่นคอนเซ้น นั่นกรูมมิ่ง นั่นเรพ เปโด ผิดบาปไปหมด
>>891 ของกูให้เบต้าคนสนิทลิสต์มาเลยว่ามีส่วนไหนน่าฉอด/ฉอดได้มั่ง ให้มองมุม worst case เลยว่าเจอฉอดเดอร์ปสด.เรื่องใสๆ มองเป็นต่ำ รู้ไว้แต่แรกดีแล้ว เจอนักอ่านงุ้งงิ้งใส่กูจะได้ไม่รู้สึกไร ถถถ แต่ต้องจิตแข็งมั่นหน้านิดนึงนะ อะไรเข้าข่ายคนส่วนมาก 90% รับไม่ได้ก็ปรับหน่อย อะไรไม่ผิดต้องมั่นไว้ว่ากุไม่ผิดจร้า
ตอนมัธยมไม่มีโทรศัพท์กูนั่งอ่านหนังสือเรียนทั้งวัน ทำการบ้านมีสมาธิไม่วอกแวก แต่พอตอนนี้มีโทรศัพท์กูไม่มีสมาธิแต่งนิยายเลย พอจะเขียนนิยายไม่ถึงสิบนาทีหยิบโทรศัพท์ดูอีกแล้ว ใครก็ได้แนะนำให้กูกลับไปมีสมาธิเหมือนตอนมัธยมหน่อย
ถ้างานเขียนมันเป็นพล็อตที่อุดมไปด้วย problematic เช่น พระเอกธงแดง เลี้ยงต้อย กรูมมิ่ง ฯลฯ หรืออะไรพวกนี้มึงยังจะอ่านกันอยู่ป่ะ หรือรับไม่ได้ ไม่อ่านเด็ดขาด
เพื่อนโม่ง ขอถามหน่อย ถ้าเขียนนิยายสืบสวน+ไซไฟ แบบไม่มีเลิฟไลน์ แต่เนื้อเรื่องแน่น นี่มันจะขายได้ไหมนะ
Ky
พระเอกจับตัวนางเอกไปเพราะเหตุผลเพื่อต่อรอง/แก้แค้นบางอย่าง แต่สุดท้ายพระเอก-นางเอกคือรักกัน
แบบนี้คือสต็อกโฮมซินโดรมใช่ไหมวะ
ปกติพวกมึงเปิดพรีกันกี่วันวะ มันควรจะเปิดนานหรือไม่นานดี นักอ่านชอบแบบไหนมากกว่า กูเห็นล่าสุดมีคนนึงเปิดแค่ 6 วัน แต่ยอดจองร้านออนไลน์ร้านนึง ตอนนี้ทะลุ ไป160 เล่มแล้ว ทั้งที่เปิดมาแค่ห้าชั่วโมง ตัดมาที่กู กูเปิดมาเกือบเดือน ยอดจองเพิ่ง37 เล่ม
เวลาเขียนแล้วกลับมาอ่านรู้สึกจืดๆ พวกมึงมีวิธีแก้ยังไงกันบ้างวะ?
กุไม่รู้จะไปถามไหน ขอถามตรงนี้หน่อยนะโม่ง เมิงคิดว่าการที่นิยาย หนัง การ์ตูน เรื่องนึงเนี่ย มีความรู้พวกศาสตร์เฉพาะแฝงอยู่ เช่น ประวัติศาสตร์ ปรัชญา แล้วคนอ่าน/คนดู อ่านหรือดูแล้วไม่เข้าใจเนี่ย มันเป็นความผิดของตัวนิยายนั้น ๆ นั้นหรือคนเขียนวะ
แล้วถ้าคนอ่านไม่เข้าใจ คนอ่านมิสิทธิ์วิจารณ์เรื่องนั้นได้ไหม เช่น นิยายเรื่องนึงแม่งยัดปรัชญามาเยอะมาก แล้วเราไม่ได้เข้าใจทั้งหมด เราจะวิจารณ์ได้ปะวะ หรือเราต้องไปศึกษาปรัชญาที่แม่งยัดมาให้หมดก่อนถึงมีสิทธิ์วิจารณ์
>>917 วิจารณ์ได้ดิ ทำไมจะวิจารณ์ไม่ได้ อย่าง พรมลิคขวิต นั่นไงวิจารณ์กันยับ ในนิยายคนเขียนก็หาข้อมูลจากแหล่งๆหนึ่งมาเหมือนกัน ถ้าคนอ่านไปรู้มาจากอีกแหล่งหรือเคยได้ยินมาอีกแบบก็มาพูดได้แหละว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คนอื่นจะมองว่าเสร่อไหมก็อีกเรื่อง
แล้วบางเรื่องก็มีแปะเตือนไว้ตั้งแต่แรกว่า เป็นเรื่องสมมติ โดยจินตนาการของผู้เขียน
>>917 ต้องวิเคราะห์ก่อนว่าเป็นความผิดใครที่คนอ่านไม่เข้าใจ อย่างเคส >>919 เนี่ยโดนวิจารณ์ยับ กุเห็นด้วยว่านข.มือไม่ถึงจริง คือเทียบกับเรื่องอื่นที่คอนเซปต์ยากๆ บางเรื่องเขายังอธิบายให้เข้าใจง่ายๆได้ แต่เรื่องนี้มึงไปถามแฟนทั่วโลก 100 คนคงตอบไม่เข้าใจ 80+ คนอะ
แต่มันก็มีเรื่องเฉพาะกลุ่มที่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจถึงจะอินอะ บางทีเรื่องมันก็ย่อยมาแล้วแต่คนไม่รู้ไม่เข้าใจเอง อันนี้ก็อีกเรื่องมั้ง อย่างหนังค่าย A24 แต่ละเรื่องแม่งอินดี้ชิบหาย คนดูไม่เข้าใจก็ด่าสาดเสียเทเสีย ไม่สมมงออสก้า บลา ๆๆ แต่คนเข้าใจเขาก็อวยไง อันนี้ผิดที่ใครล่ะมึงว่า
วิจารณ์น่ะมันวิจารณ์ได้อยู่แล้ว (ในขอบเขตที่ติเพื่อก่อนะ ไม่ใช่ด่าแหลกเป็นแอนตี้แฟน) แต่ช่วยดูบท/ดูตัวเองก่อนวิจารณ์ด้วย ไม่งั้นบางทีมันแอบตลก คนส่วนใหญ่เข้าใจแต่มึงไม่เข้าใจคนเดียวละไปด่าตัวเรื่องแบบแม่งห่วยแตกชิบหายไรงี้ คือมันไม่ได้ห่วย มึงแค่เข้าไม่ถึงเองรึเปล่า 5555
>>917 ถ้าคอนเซ็ปที่ใส่เข้าไปมันยากเกิน หรือว่าไม่มีจริง มึงก็เขียนเชิงอรรถแทรกเอาไว้ก็ได้
อย่างการ์ตูนเรื่องที่กูกำลังย้อนอ่านแบบ Gunnm เนี่ย มันมีวิชาต่อสู้ที่ในเรื่องโม้ว่าเป็นสุดยอดของนั่นโน้นนี่มาบรรยายตลอด ก็มีเขียนเชิงอรรถเอาไว้อธิบายว่ามันคืออะไร ที่มาที่ไปมายังไงตลอดเช่นกัน ถึงจะเป็นวิชาที่แต่งขึ้นไม่มีในโลกจริงก็เถอะ แต่ในเรื่องนี้คือ Made Story มาตั้งแต่ต้นจนคนอ่านเข้าใจได้เลยว่า เมื่อไรที่ในเรื่องมันพูดถึงวิชานี้ก็เข้าใจที่มาที่ไปของมัน
ยกตัวอย่างไอ้วิชาหมัดแพนเซอร์คนุซ์แสนขี้โม้ ที่ว่าต่อยหุ่นยนต์ให้พังได้ง่ายๆ เนี่ย ในเรื่องก็บรรยายใส่มาในเชิงอรรถชัดเลยว่าเป็นวิชาหมัดของดาวอังคาร ใช้โดยกลุ่มคนไหน มีที่มาเป็นอย่างไร มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ยุคไหน ฯลฯ ซึ่งพอยกมาแบบนี้มันก็ทำให้ผู้อ่านได้อินกับเรื่องไปด้วยนั่นล่ะ
>>921 หรือจะพวกประวัติศาสตร์ พวกปรัชญาเองก็พอกัน ในเรื่องแม่งคุยกันเรื่องจิตวิญญาณในหุ่นยนต์งี้ฟังดูเหมือนมีหลักการ แล้วจู่ๆ ก็มีตัวละครพูดแทรกขึ้นมาว่า "อ้อ! เป็นคำพูดของนักปราชญ์ที่ชื่อ XXX สินะ!?" ก่อนที่จะใส่แทรกเชิงอรรถว่าเขาเป็นใครสั้นๆ เอาไว้
ซึ่งความฮาก็ยิ่งกว่านั้นอีกคือ นักปราชญ์บางคน (หลายๆ คน) ในเรื่องที่ยกขึ้นมาแม่งไม่มีตัวตนจริงๆ เป็นตัวละครที่ถูกแต่งขึ้นมานั่นล่ะ ถถถถถถ
หรือจะเอาแบบโรงเรียนลูกผู้ชายที่เขียนเชิงอรรถได้ฮาสลัด กล่าวถึงวิชาการต่อสู้ของจีนโบราณอายุ 3000+ ปี เป็นอย่างงั้นอย่างโง้นอย่างงี้ บรรยายกันจนแทบมีหลักการ แต่สุดท้ายปิดท้ายด้วยว่าเป็นตำราจากสำนักพิมพ์ มินเมย์ โชโบคัง ...ซึ่งมันคือ สำนักพิมพ์ในเรื่อง ไม่ได้มีตัวตนจริงๆ เช่นกัน ถถถถถ
มึง คนอ่านฟิคเดี๋ยวนี้เขาไม่ชอบอ่านฟิคที่ใช้ชื่อตัวละครตามต้นฉบับ กันเหรอวะ คือพอดีกูพักใจจากงานเขียนนิยายไปดูซีรีย์พีเรียดจีนละชอบเลยแต่งฟิคแล้วใช้ชื่อตัวละครจากในเรื่องเลยละมีคนมาเม้นเตือนกูว่าทำไมไม่เปลี่ยนชื่อทำแบบนี้ให้ใส่ disclaimer ดีๆนะเดี๋ยวนักแสดงเสียหาย กูเลยงงเลยแบบกูไม่ได้แปะรูปนักแสดง กูเอาแค่รูปที่ถ่ายโปรโมทละครมาแปะ ชื่อก็ใส่ชื่อตัวละครมันเกี่ยวไรกะนักแสดงวะ ไม่ใช่ฟิคrpsด้วย กูไปอ่านในao3หรทอในเว่ยทั้งฝรั่งทั้งแม่จีนก็ใช้ชื่อตัวละครไม่เห็นมีใครว่าไร กูงงทำไมของไทยมันต้องเปลี่ยน กูลองไปอ่านเรื่องอื่นในด้อมของไทยคือตัวละครเปลี่ยนชื่อ auอื่น แถมooc แบบนี้มันต่างไรกับการเอาออริตัวเองมาสวมเป็นฟิควะ
มึง กูท้อใจ เข้ามาถามว่ามีใครที่ยอดขายดี ๆ แล้วไม่ต้องโปรโมทบ้างมั้ย กูกลัวจ่ายตังค์แล้วไม่คุ้ม ช่วงนี้ต้องประหยัดด้วยยยยยย ส่วนขายนิยายตอนนี้คือยอดต่ำเตี้ยกว่าครั้งแรกมากกกก คนเข้ามาดูก็น้อยกว่าอีก เกิดอะไรขึ้นในเม็ดวะ
ถัดจากมกรา กุมภาตัวแม่เตรียมออกเยอะเลยนะเพื่อนโม่ง บบรพ. พยย. ลอล. จ่อออกebook กันเพียบเลย
>>933 ใช่ ส่วนนึ่งคือความสม่ำเสมอ แต่นี่คือเริ่มจากจุดติดในแอพมาก่อนนะ คือว่าเคยติดชาร์ต แล้วนิยายเรื่องหนึ่งก็ปัง ทำให้พอมีคนเห็นงาน พอเรื่องอื่นๆ นิยายก็พออยู่ตัว ถ้าออกได้สม่ำเสมอก็สองหมื่นอัพทุกเดือน ถ้าพีคๆ ก็จะไปแตะๆ หกหมื่นอะ ประมาณนี้ แต่ช่วงนี้แทบไม่ได้ออกก็แค่เดือนละสี่ห้าพัน ฝันอยากได้สักเรื่องล้านหนึ่งจะหยุดสักปี5555สาสเหนื่อย
ตอนนี้กูกำลังมองหาที่ลงนิยายแฮะ
กูเขียนแนวปลูกผัก พัฒนาเมือง ใช้ชีวิตชิลๆ ตอนแรกก็คิดจะเอาไปลง ดด นะ แต่เห็นว่าที่นั่นมันซบเซามากเลยไม่รู้ว่าจะลงที่นั่นเหมือนเดิมดีมั้ย จึงอยากถามหน่อยว่ามีที่ไหนน่าลงบ้างสำหรับแนวนี้
ky ในที่สุดเด็กดอกก็ทันความเจริญกับเขามั่งแล้วว่ะ 15 กพ.เป็นต้นไป การซื้อตอนล่วงหน้าจะถาวรแบบรอร.ละนะ แบบเก่าคือซื้อแล้วพอถึงเวลาอ่านต่อไม่ได้ เหมือนแค่เช่าอะ(แต่กันใช้ชื่อว่าซื้อล่วงหน้า) แบบใหม่ก็คือยเหมือนชาวบ้านเขาหน่อย คือซื้อล่วงหน้า=ได้อ่านถาวร
แม่งควรเขกกบาลคนคิดระบบนี้แต่แรกว่ะ555 ถ้าจั้งชื่อว่าเช่าตอนำร้อมอธิบายว่าแค่ได้อ่านล่วงหน้าแต่ไม่ถาวรนะ คนอ่านคงไม่มีปัญหาหรอก แต่เสือกใช้ชิ่อว่าอ่านล่วงหน้า พอถึงเวลาหมดละคนอ่านงงทำไมซื้อแล้วต้องซื้อซ้ำ มาด่าคนเขียนอีก กูผิดอะไร นี่ถ้าไม่ใช่แฟนตาซีที่รุ่งเรืองได้แค่ในเว็บนี้ กูม้วนเสื่อไปปักหลักรอร.ต่อยาวๆแล้ว
fictionlog นี่แนวแฟนตาซีขายได้ดีไหมเทียบกับเด็กดี
แต่fictionlog เว็บมันคนเล่นน้อยกว่าดด ด้วยรึเปล่า
>>941 ตอนนี้เน้นนิยายแปลเต็มเว็บละ นิบายคนไทยแต่งโดนกลบหมด เลยเงียบๆอะ ถ้ามึงแต่งแนวจีนโบก็ลองลงดูเพราะมันเนียนๆกับนิยายแปลจีนทั้งหลาย อาจมีคนเผลอกดอ่านมาก็ได้555 แต่แนวแฟนตาซีก็รองๆเด็กดีอะ
เรียงลำดับความป็อปแนวแฟนตาซีที่ขายได้นะ ดด.>ฟชล.>รอร.>ธวล. กูลองมาสี่เว็บนี้ละได้ผลตามนี้ หลังๆขี้เกียจเลยลงแค่ดด.กับรอร.เอา ฟชล.ถ้าลงอ่านฟรีเฉยๆเอายอดคนอ่านไม่เป็นไร แต่ถ้าจะขายส่วนแบ่งโหดไปขายไม่คุ้ม แต่ได้ข่าวว่าปรับส่วนแย่งละนี่เป็น70/30แบบคนอื่นละ
แนวนางร้ายทะลุมิติ ที่ไม่ใช่จีนโบ นี่มันขายได้ไหม เราชอบใส่พวกการเมือง พัฒนาเมืองไรงี้ไปด้วย อาจมีใส่ปลูกผัก หรือแฟนตาซีเข้าไปหน่อยขยายตลาด
แต่ดูในเว็บต่างๆตอนนี้ประเมินไม่ออกเลยแฮะ ไม่แน่ใจด้วยว่าที่ใส่ๆไปทั้งหมดนี้จะเรียกแขก หรือไล่แขก 555
เดาแม่งทะลุมิติจนกูสยองพองขนไปหมดละ
*เกาแม่ง
>>944 เห็นด้วยว่าเกาเล่นจนเอียนมาก
แต่สงสัยว่าถ้าอยากเขียนเรื่องนางร้ายแนวเอาตัวรอดธงตาย แต่ถ้าไม่ทะลุมิติมันจะทำได้ยังไง
เพราะนางร้าย มันเป็นตัวร้าย มีค.คิดเชี่ยๆ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะแพ้ มั่นมากสุด จู่ๆจะเขียนให้มาเริ่มทำดีเอาตัวรอดยังไง ถ้าไม่ได้ทะลุมิติ
แต่ถ้าเขียนให้ย้อนเวลามามันก็ไม่ได้เป็นนางร้ายแล้วแค่คนธรรมดา โจทยากอะ
มีใครเคยเห็นแบบใหม่ไหม
>>947 มีแนวฝันเอาอยู่ ฝันเห็นอนาคตแล้วมีอะไรให้เชื่อว่าถ้าเป็นอย่างเดิมต่อไปแม่งตายแน่ เลยยอมเปลี่ยนตัวเอง แล้วระวังมากขึ้น
แต่ง่าก็ว่าเหอะ ทะลุมิติ เดี๋ยวนี้แม่งควบรวมทุกอย่างไว้ในทะลุมิติกับเกิดใหม่หมด ตอนแรกกุอ่านพวกนี้กุจะติดในใจมาก
ไอ้ที่ย้อนกลับไปเป็นเด็กใหม่ทำไมมึงไม่เรียกย้อนเวลา
ไอ้ที่ไปเข้าร่างสิงชาวบ้านที่ตาย ทำไมมึงเรียกเกิดใหม่
มึงย้อนกลับไปในอดีตแก้ไขเรื่องราวชาติเก่า แล้วทำไมมึงเรียกชาตินี้ว่าชาติใหม่
ไอ้ฝั่งยุ่นที่ไปสิงร่างใหม่ที่โตแล้วต่างโลกก็ไม่เรียกทะลุมิติ เรียกว่าเกิดใหม่เป็น....
แต่ตอนนี้กุชินแล้ว มึงจะเรียกไรก็มาเหอะ กูปรับนิยายตามคนเขียนได้หมด ขอแค่เรื่องสนุกกูพอและ
พระเอกกรีนแฟลก เป็นไง เรดแฟลกเป็นไงวะ เข้าใจความหมายอยู่แต่ไม่เคยอ่านเจอว่า เรด คือ เวลไหน มีอะไรกะผู้หญิงอื่นขณะมีนางเอก ? ฯลฯ
>>950 เออจริง555 คำศัพท์แบบนี้กูงงคือกัน ทำไมเรียกไม่ตรง ทะลุมิติไปสิงร่างมันควรจะเรียกส่าสวมร่างป่าววะ ทำไมเกิดใหม่ แล้วทำไมย้อนเวลาไม่เรียกเป็นรูทแต่เป็นชาติไปเลยทั้งเหตุการณ์ในโลกเดิม แต่บางเรื่องมันบอกเป็นโลกคู่ขนานคนละไทม์ไลน์งี้ แม่งก็ไม่ใช่ชาติอยู่ดีปะวะ555
แต่มันก็คงแนวๆเดียวกับไปต่างโลกอะแหละ เฟ้อไปสักพักเดี๋ยวคนก็เอียนจนเงียบละ ถ้าคิดจะเขียนเพื่อขายจับกระแสก็ต้องแน่ใจว่ามึงมีของนะ เพราะตอนนี้คนเขาก็เขียนมาขายด้วยจนเกร่อไปหมดละ มึงต้องไปแย่งชิงคนอ่านฟีลปลาดุกวัดแย่งอาหารปลาอะ ในเมื่อเรื่องมึงก็กลมกลืนกับกระแสไปหมด ถ้าไม่มีเตะตาคนอ่านว่าเรื่องนี้แซ่บหลายจนเรื่องข้างๆเทียบไม่ติด คนอ่านก็ไม่แวะมาชิมหรอก ตัวเลือกเยอะนี่
แต่ถ้าจะเขียนเอาม่วนๆจอยๆไม่หวังยอดขาย มึงก็เขียนๆไปเหอะ ถึงคนอ่านกริบแต่มึงก็แฮปปี้นี่นะได้เขียนออกไปอะ
เอ้อ จริง ๆ พวกไม่ได้มีปัญหาให้เห็นชัด ๆ ก็ธงแดงได้นะมึง อย่างในชีวิตจริง พวกโมโหร้าย ทำลายข้าวของตอนโกรธงี้ก็นับ ถึงจะไม่ได้ตีเมียตรง ๆ ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่ามันจะไม่เปลี่ยนมาตีเมียอะ แบบหมดรักวันไหนมึงโดนแน่ เขาถึงเตือน ๆ กันไว้ เจอผช.แบบนี้ให้หนีปายยย อยากรู้พฤติกรรมเรดแฟลกอื่น ๆ ก็ลองเสิร์จดูโลด
>>951 red flag ก็พฤติกรรมแย่ๆที่แสดงออกน่ะ เช่น
-หึงบ้าหึงบอ หึงเรี่ยราด หมาเดินผ่านแล้วไปลูบหัวเล่นกับหมา หึงหมา
-โมโหร้าย ทำลายข้าวของ
-Manipulate ควบคุม บงการ ทำให้รู้สึกด้อยค่า กดเอาไว้ใต้ตีน ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าไม่มีเธอฉันจะอยู่ไม่ได้ มาคู่กับ Gaslighting
-Gaslighting รมควันให้รู้สึกผิด รู้สึกแย่ อ๋อ มันเป็นความผิดเธอไงที่ทำให้เรื่องแย่ เธอไม่น่าทำแบบนี้เลย
-เปโด
-สตอล์กกิ้ง
-ยันเดเระ
ฯลฯ
ถามละ พวกนักเขียนคิดยังไงกับแนว นักเขียนทะลุมิติไปในนิยายแล้วแย่งผัวแย่งอีเวนทลูกสาวมึง
ถามละ พวกนักเขียนคิดยังไงกับแนว นักเขียนทะลุมิติไปในนิยายแล้วแย่งผัวแย่งอีเวนทลูกสาวตัวเอง
Kyคนซื้อให้1ดาว (ขึ้นว่า-มีแล้ว)แต่ไม่คอมเม้นหรือบอกอะไร กูควรทำใจอย่างไรต่อไปดีวะ
กูอยากให้meb ทำแบบshoppee จะวิจารณ์หรือให้ดาวต้องใส่เหตุผลด้วย มีพยัญชนะขั้นต่ำ ไม่ถึงจะอดได้แต้ม
ให้ไปก็เท่านั้น กุยังไม่เคยสนแต้มชอปปี้เลย ถ้าคนจะสะดวกแค่ดาว ก็ดาวเดียวอยู่ดี
แนวเคโมะนี่มันนิยมป่ะวะ พระเอกกูเป็นหมาแบบเคโมะเลยคือหมาแบบเดินสองขา ใส่เสื้อผ้า นางเอกกูเป็นคน แนวๆหลงไปในแดนแฟนตาซีเคโมะ กูอยากเขียนมานานแล้วแต่ไม่กล้าลง กลัวไม่มีคนอ่าน แถม 18+ ด้วย 55555555
พวกมึง การใช้ปกเอไอเลวร้ายมากไหม คือ กูไม่มีทุน และ ปกเอไอมันถูก แต่ได้ปกที่ฟีลแบบจ้างวาดอ่ะ เทียบกับใช้ปกจัดอาร์ตธรรมดาไม่มีรูปตัวละคร ปกตัวละครมึงดึงดูดคนอ่านมากกว่าด้วย T^T
>>975 ถ้าวันหนึ่งมันเจนนิยายได้แล้วนิยายมึงโดนมันเลวร้ายมั้ยล่ะ คิดดู อีกอย่างปกเอไอโหลสัส มึงเข้ากลุ่มปกสำเร็จ สวยๆ ถูกๆ ก็เยอะ หรือมึงกำเงินไปเลย เรามีงบแค่พันเดียวค่ะ นักวาด หรือนักเขียนที่อยากขายปก ก็มาถมให้มึงเลือกเป็นร้อยๆ ละ อีกอย่างนะ ปกเอไอมึงโดนนักอ่านบางคนเหม็นตั้งแต่เห็นปกอะ มึงเสียลูกค้ากลุ่มหนึงละ และอีกอย่างคือ ปกง่อยๆ แต่นิยายมึงดีจริงก็ขายได้ ชื่อเรื่อง ความน่าดึงดูดของบทนำ
>>975 เลวร้ายในแง่ ai มันไปดูดงานนักวาดหลายคนมาเจนเป็นรูปให้มึง เหมือนมึงไปทำนาบนหลังคนอื่น ถ้ามึงไม่แคร์จุดนี้ก็ตามสบาย แต่กูเดานะว่ามึงไม่แคร์หรอก
แต่กูว่ามึงเจียดเงินซักก้อนประมาณสองสามพันไปจ้างคอมมิชชั่นดีๆเหอะ นักวาดราคาย่อมเยาว์มีหลายคน ไม่จำเป็นต้องไปจ้างวาดหลักหมื่นหลักแสนถ้าไม่มีเงินหรอก ปกสวยแต่ขายไม่ออกก็มีเยอะแยะ
กูน้ำตาจะไหล ทำไมในโม่งมันตระหนักรู้เรื่องพวกนี้มากกว่านข.บนดินว่ะTT
วันที่เอไอเขียนนิยายไทยได้จริงมาถึง ก็มีแต่คนตัวเล็กนี้แหละที่เดือดร้อน ต้องเขียนแข่งกับพวกขี้โกงที่แอบใช้เอไอทำ (เอไอ70 ตกแต่งคำ30)
หรือคิดง่ายกว่านั้น พวกมึงก็ไม่ชอบอีพวกหารอ่านใช่ไหม เอไอมันก็ทำนองนั้น มันทำนาบนหลังนว.ทั่วโลก ขโมยแรงกายแรงใจที่ฝึกฝนไปหากิน
ใครใช้ปกเอไอ กูไม่ให้ค่าแล้ว1 ขนาดนิยายตัวเอง ยังไม่ลงทุนกับหน้าปก ใช้ของไม่มีลิขสิทธิ์หน้าด้านๆ กูไม่ได้ต้องการให้มึงจ้างนว.หรอกนะ ถ้านว.มันทำให้พวกมึงทริกเกอร์ อ้างเลทนู้นนี้นั้น ภาพกราฟิก ภาพถูกลิขสิทธิ์ มีมากมาย เสือกไม่ใช่ ทำมาเป็นเหยื่อ มุแง ไม่มีเงิน นว.มันเลว มันชอบดองค*ค่า
>>981 มีอีนึงในกระทู้เด็กดวกห้อง web novel อ้างแบบนั้นล่ะ มันบอกถ้าเอาเงินส่วนจ้างนักวาดไปใช้ ai นักเขียนก็จะประหยัดเงิน มีเวลาไปเขียนงานดีๆ ไม่ต้องมาคิดเรื่องเงินแล้วเขียนเอาใจตลาด เป็นข้ออ้างส้นตีนเห็นแก่ตัวสัสหมา กูด่ามันไปว่า ai มันไปดูดรูปนักวาดมาเจน มันก็บอกว่าเป็น ai learning แต่พอกูถามกลับว่ามัน learning จากไหน แม่งตอบกูไม่ได้ว่ะ มันคิดว่ารูปถูกเสกออกมาได้เองจากเลขไบนารี่เหรอ
ทำงานสายสร้างสรรค์ก็ควรเข้าอกเข้าใจความยากลำบากของคนอื่นในการผลิตงานแต่ละชิ้นออกมาด้วย ไม่ใช่เอาแต่ตัวเองสบายแล้วคนอื่นเดือดร้อน มึงใช้ปก ai นักวาดเดือดร้อน แต่มึงไม่แคร์เพราะขายได้และสวยกว่า ไม่ต้องมารอคิวนักวาดทำงาน แล้วถ้ามีคนสั่วๆอยากเขียนนิยายแต่ไม่อยากเสียเวลาเลยเอา ai มาเขียน ใช้คีย์เวิร์ดเช่นผัวโบ้ หอบท้องหนีผัว เขียนออกมาสนุกกว่านักเขียนจริงๆคนเลยแห่กันมาอ่านนิยาย ai ใครๆก็เป็นนักเขียนได้แค่โยนคีย์เวิร์ดเดี๋ยว ai ก็เขียนนิยายออกมาให้อ่านเอง นักเขียนจริงก็โดนด่าว่ารอนาน ไม่สนุก ให้ ai เขียนดีกว่า จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย
KY ถ้ากูให้พระรองมูฟออนไปมีเมียสวยเริสชีวิตมีความสุข นักอ่านจะงอนมั้ยวะ 555 แบบว่าพระรองต้องรักมั่นนางเอกคนเดียวตลอดชีวิตงี้ คือกุแอบสงสารลูกนะ 5555
>>983 มีเยอะเลยนะ แต่ส่วนใหญ่จะแยกเป็นอีกเรื่องต่างหากแบบจากพระรองได้เดเป็นพระเอก หรือไม่ก็สปินออฟไปเลย ถ้ามาเรื่องเดียวกันมันแปลกๆอะ ถ้านข.ให้ต้นเรื่องพระรองชอบนางเอกมากกกมายย สุดจิตสุดใจ แต่ท้ายเรื่องมีเมียใหม่สวยๆรักเมียมากมันดูมูฟออนไวในความรู้สึก แล้วที่ดูรักมากตอนต้นเรื่องคืออะไร แล้วรักใหม่จะรักจริงเหรอ
ถ้าทิ้งระยะนานๆ จะเชื่อง่ายกว่า
ที่ส่วนใหญ่ให้พระรองรักมั่นนางเอกคนเดียวเพราะ มันทำให้เชื่อง่ายกว่า รักคนนั้นต้นเรืรองรักอีกคนท้ายเรื่องอะ
เขียนไปเขียนมา ดูเหมือนว่าจะได้ความยาวเล่มเท่ากับความยาวปกติ 2 เล่มเลยแฮะ จากปกติพยายามคุมเอาไว้ให้ยาวแค่เล่มละ 8 หมื่นคำไม่เกินแสน มาเล่มนี้เขียนยาวไปแสนหกละ ถึงจะปลายๆ แล้วแต่ก็ยังไม่จบดี
ชักเข้าใจแล้วว่าทำไมนิยายบางเรื่องถึงแบ่ง Part 1/2 แต่ระบุว่าเป็นเล่มเดียวกัน ที่แท้คือเนื้อหามันยิงยาวจนหนากว่าปกติเกินไปนี่เอง
ขอปรึกษาหน่อย นิยายกูมีปมหนึ่งที่ตัวละครไม่สามารถท้องได้ เพราะเคยทำแท้งเถื่อนประมาณ 20 ปีที่แล้ว ทำไปสองครั้งแล้วครั้งสุดท้ายมันผิดพลาดเกือบตาย แต่มีเอฟเฟกต์ตามมาคือไม่สามารถตั้งท้องได้อีก กูพยายามหาข้อมูลแล้วนะ คือจริงๆ มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะไม่สามารถมีลูกได้ แต่กูไม่รู้ว่าไอ้เป็นไปได้นี่เปอร์เซ็นมีเยอะมากน้อยแค่ไหน กลัวว่าใส่เหตุผลเรื่องทำแท้งเถื่อนแล้วพลาดมันจะโอเวอร์เกิน กลัวคนอ่านไม่เชื่ออะ
>>987 สาเหตุที่จะเป็นไปได้หลักๆเลยคือมดลูกพัง แบบโดนขูดจนเป็นแผลลึกมากๆ แล้วตัวอ่อนเข้าไปเกาะผนังฝังตัวไม่ได้งี้ หรือฝังตัวได้แหละท้องแล้ว แต่จะมาแบบพวกท้องนอกมดลํก คือเก็บไว้แม่เสี่ยงขิตตอนคลอด หรือไม่ต้องรอคลอดหรอกลูกจะขิตก่อนเพราะสภาพแวดล้อมไม่เหมาะแก่การเจริญเติบโต ถ้าไม่รีบเอาออกพอลูกตายแล้วแม่จะตายตามอีก
หาข้อมูลในเนตได้เลยเรื่องแบบนี้ มดลูกพังก็จบละท้องไม่ได้ ไม่ต้องจำเป็นแค่ทำแท้งเถื่อน เกิดมาร่างกายผิดปกติเองก็มีแบบผนังมดลูกบางงี้ หรือฮอร์โมนสักตัวทำงานผิดปกติทำให้ร่างกายส่วนนั้นใช้งานไม่ได้เหมือนผู้หญิงทั่งไป แต่เอาจริงต่อให้มีคนแท้งซ้ำๆตามธรรมชาติไม่ได้หาหมอเถื่อนหมอแท้ ก็จะมีลูกได้นะแล้วแต่ร่างกายคน บางคนคือท้องสองรอบ แท้งสองรอบ รอบที่สามถึงรอดปลอดภัยดี แต่ลูกที่ออกมาอาจน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์มั่ง หรือปกติดีไม่เป็นไรก็มี หรือคนที่แท้งซ้ำๆแบบท้องสี่รอบแท้งสี่รอบ พอรอบที่ห้าแท้งอีกก็คือมีลูกต่อไม่ได้เลยก็มีเพราะมดลูกใช้งานไม่ได้ละ อัตราการอยู่รอดของตัวอ่อนมันลดลงทุกครั้งที่แท้งอะนะ
>>986 ใช่ ทำเล่มแล้วต้นทุนสูง เล่มหนาด้วยพกพาลำบากที่เก็บก็หายาก พอทำเป็นอีบุ๊คมันก็ลดต้นทุนไปเยอะแต่ไถอ่านจนเหนื่อยอะ555 นอ.ล้านะเว้ย กูเคยอ่านแฮรี่สามเล่มใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะจบ เพ่งสายตาละเมิ่อยจริง สุดท้ายไปขุดแบบเล่มมาอ่านต่อ เออสบายตาขึ้นมาหน่อย ไม่ถึงเดือนหรอกกูปาไปห้าเล่มจบละ
ของกู เขียนไปเขียนมา แสนเจ็ดหมื่นคำแล้วว่ะ เข้าใกล้ฉากจบแล้ว น่าจะไปจดสองแสนคำแหงเลย 😅
กุไม่คิดเลยว่ามันจะยาวมาได้ขนาดนี้ ถูลู่ถูกังมาก นิยายเรื่องที่สองของกู
มึงถ้าตัวเอกวิญญาณหลุดไปเข้าร่างคนอื่นตอนเขากำลังมีอะไรกันแบบโรลเพลย์+bdsmแล้วตัวเอกมันไม่อยากทำแต่มันไม่รู้safe words เลยโดนต่อไปตามโรลที่เจ้าของร่างเดิมกับคู่ขาวางไว้แบบนี้มึงคิดว่ามันคือข่มขืนมะถ้าเจ้าของร่างเดิมกับคู่ขาคือตกลงคอนเซนทุกอย่าง ไม่ใช่นิยายกูนะแต่พอดีมีคนเอานิยายมาให้เป็นเบต้ารี้ดละคนอ่านเสียงแตกว่าตกลงอันนี้คือข่มขืนไหม
>992 wt : dub-con
พอ.มันไม่ได้ข่มขืน เพราะในมุมมองมันคือได้รับการยินยอมจากอีกฝ่ายแล้ว
ส่วนนอ.มันถูกข่มขืนนั่นแหละ แต่อันนี้คือจังหวะมันเฮียไง จะด่าพอ.ก็ไม่ได้ มันไม่มีใครเฮียแค่คนเขียนกำหนดสถานการณ์ไว้สัดเกิน ด่าใครไม่ได้นอกจากโชคชะตาจริงๆ
อ๋อแต่ถ้ากลัวฉอดx มึงจะติดอะไรหรือไม่ก็โดนอยู่ดี แหละ 😂
>>995 จริงๆ พอ.มันก็น่าสงสารคือกันด้วยซ้ำ555 นึกภาพมึงเยเมียอยู่ดีๆ มีคนมาสืงร่างเมียมึงเฉย กลายเป็นข่มขืนอีกฝ่ายไปซะงั้น แต่ทำไมพอ.ผิดคนเดียวเฉยเลย ไอ้คนมาสิงร่างมันไม่ยินยอมก็จริง แต่ว่ากันตามตรงนั่นก็ไม่ใช่ร่างมึงอะ ก่อนมึงจะมาสิงร่างกูก็เยกันเพลินๆเลยด้วยซ้ำ เลยอึกอักหน่อยแบบฝั่งนึงก็เยกันตามปกตินะก่อนมีคนมาสิงร่างก็สมนอมกันแหละ แต่คนมาสิงร่างคือเชี่ยไรเนี่ย กูโดนคนไม่รู้จักมาเยเฉย จังหวะนรกของแท้
แต่ถามวว่าเขียนได้มั้ย ก็เกียมใจหน่อยละกันว่าดราม่ามาแน่ๆ แบบมีคนปักธงแล้วว่าข่มขืนชัดๆไม่รับความเห็นต่าง หรือคนบอกไม่ข่มขืนอะ เพราะพอ.มันไม่ได้บังคับขืนใจ แล้วนอ.ไม่ใช่เจ้าของร่าง ซึ่งตอนนี้กระแสฉอดมันแรง จะเอียงไปทางฝั่งแรกมากกว่า555 ก็ต้องหาเหตุผลมาอธิบายดีๆละกันว่าทำไมต้องมาสิงร่างจังหวะนี้ ไอ้มุกมาสิงร่างเมียคนอื่นใช่ว่าจะไม่เคยมี ก็มีเยอะอยู่แต่จะมาแบบหลังเยกันเสร็จละหลับไง ตื่นมาอีกทีคือเชี่ยไรเนี่ย กูมาอยู่ร่างใครทำไมนอนโป๊ หรือมาสิงตอนท้องก็มีแบบ รู้ตัวอีกทีนอกจากจะมีผัวแล้วกูยังมีลูกในท้องอีกงี้
แนวสืบสวนสอบสวนเจ้มจ้นปมแน่นปึ้ก แสนคำเอาอยู่มั้ยวะ หรือว่าต้องเขียนยาว ๆ เลย จะได้ครอบคลุมหลาย ๆ ประเด็น
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.