>>218 ก็ไม่ยาก แค่ระหว่างต่อสู้ให้สร้างเหตุการณ์สลับ รุก-รับ ขึ้นมาแทนที่จะเป็นแค่การระเบิดพลังตูมเดียวปิดฉากเท่านั้น
ยกตัวอย่างนาย A มีเรื่องกับนาย B มึงก็กำหนดช่วงการต่อสู้เป็น 3 ระยะ คือ
1. ระยะดูเชิง ปล่อยหมัดแยบ เข้าสู้กันแบบยังไม่เอาจริงประเมินฝีมืออีกฝ่าย ตรงนี้อาจจะให้ฝั่งตัวเอกรุกหนักๆ ไล่ต้อนตัวร้ายไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยขึ้นระยะต่อไปก็คือ
2. ระยะโต้กลับ ถัดจากข้างบนคือตัวร้ายโดนไล่ต้อนจนต้องแสดงฝีมือที่แท้จริงออกมา ทำเอาตัวเอกตกใจก่อนจะเป็นฝ่ายโดนไล่ต้อนกลับบ้าง อาจจะทำให้ตัวเอกเสียท่า หรือได้แต่ตั้งรับจนทำอะไรไม่ได้ ซึ่งในระหว่างนั้นก็อาจจะให้มองหาจุดอ่อนอีกฝ่ายไปด้วยอะไรทำนองนี้ ก่อนจะขึ้นระยะต่อไปคือ
3. ระยะปิดฉาก ก็ตามชื่อเลยตรงนี้มึงอยากจะใส่อะไรก็ใส่ ถ้ากำหนดให้พระเอกจะต้องชนะ จะใช้พลังมิตรภาพโชเน็นเอาชนะ จะเบ่งพลังภายในขี้โม้ จะให้พลังแฝงตื่นขึ้น ฯลฯ ก็งัดมาใช้ได้เลยแล้วแต่ ซึ่งมันจะทำให้ Power creep ระหว่างตัวละครทั้งสองย่นระยะลงมากกว่ามาถึงเปิดใช้พลังขั้นสุดยอดกันเลย
ยกตัวอย่างโง่ๆ ก็เรื่อง Dragonball อะ ตอนสู้กับฟรีสเซอร์ แม่งต่อยกันลองเชิงไปกี่ตอนฟรีสเซอร์แปลงร่างไปกี่ครั้ง (ระยะแรก) ก่อนฟรีสเซอร์จะเผยร่างสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุดให้เห็นทำเอาโกคูสู้ลำบาก (ระยะที่สอง) ก่อนที่จะพีคกว่านั้นที่คุริรินโดนระเบิดต่อหน้าทำให้พลังแฝงของโกคูถูกดึงออกมากลายเป็น Super Saiya และตบฟรีสเซอร์ร่วงในเวลาอันสั้น (ระยะที่สาม) ซึ่งที่ว่ามานี่คือแพทเทิร์นเบสิกสุดๆ ละ สำหรับการเขียนฉากต่อสู้