Last posted
Total of 1000 posts
กูรอดูธันวาเลย เขาต้องมาอีกแน่ 1ปี12เล่ม เล่มละแสนกว่าคำ คุณพระคุณเจ้า 🔥🔥
กูเคยเขียนได้ไวสุดก็เดือนนึง 70000 คำอะนะ แต่หลังจากนั้นไฟก็มอดจนเขียนต่อไม่ออกเลย
เคยได้ยิน กลทด บอกว่าตัวเองเขียนได้เดือนละเล่ม เล่มละแสนกว่าคำเช่นกัน และใช้เวลาเขียนแค่ 2 สัปดาห์ ที่เหลือเอาไปคิดเรื่องกับจัดหน้า
ไม่แน่ใจว่าถูกกระทู้มั้ย แต่อยากสอบถามเพื่อนโม่งว่าตอนจะเขียนงานแรกออกมา มีความรู้สึกว่าตัวเองน่าจะทำมันได้ไม่ดีมั้ย แบบไม่น่าทำมันได้ แบบรู้สึกตัวเองไม่น่าจะเก่งพอที่จะเขียนมันออกมาได้ เลยรู้สึกไม่กล้าเขียนออกมา จนไม่ได้เขียนสักทีแต่จริงๆก็อยากเขียนมันออกมา จัดการความรู้สึกแบบนี้ยังไงดีTT
>>117 กูบอกตัวเองเลย ออกมากากแน่นอน งานแรกจะเอาจากไหนมาเพอร์เฟควะ กุก็ไม่ใช่เทพจากที่ไหน พรสววรรค์ล้นฟ้าหรือก็เปล่า กูบอกตัวเองว่ากูแค่อยากเขียน อยากท้าทายตัวเองว่าจะพยายามเขียนจนเสร็จได้มั้ย จากนั้นกูก็ลากเลือดไปเป็นระยะๆ เพราะคำถามมึงมันแค่ด่านแรก พอเริ่มลงมือมึงอาจจะเจออีกสารพัดด่าน ไม่ว่าจะเขียนไม่ไป ตัน อยากเขียนแต่บรรยายไม่ออก นานแล้วทำไมไม่เสร็จ กุแม่งกากมากชาวบ้านใช้เวลาเดือนเดียวได้ทำไมกูปีนึงแล้วยังไม่เสร็จ และถ้ามึงเขียนแล้วลงเลยมึงจะเจอสารพัดคอมเมนต์เทกระหน้่ำได้อีกทั้งดีและร้าย ปิดท้ายหลังลงงานคือ งานกูไม่มีคนอ่าน งานกูกากหรือแค่แสงหากูไม่เจอ ฯลฯ
ดังนั้นกุขอเสนอ มึงไม่ต้องสงสัย มึงแค่ลงมือทำและทำต่อไป บอกตัวเองว่ากูเขียนเพราะกูอยากเขียน และกูจะเขียนให้มันจบให้ได้ แค่นั้นพอ
อีกอย่างกุก็รู้สึกเหมือน >>118 บางงานแม่งเป็นงั้นจริงๆ เหมือนหมูไม่กลัวน้ำร้อนอ่ะมึง อาจจะเด็กมาก มั่นมาก อยากทำไรลงเลย เพราะเห็นมาไม่มากไง ไม่มีความคิดว่าเราไม่ได้มาตรฐานตามนั้นนี่โน่นยังไม่ควรลงหรอก แต่พอลงก็ปรากฎว่ายังมีคนสนุกกับเรื่องของเค้าได้อยู่ อาจจะวัยเดียวกันหรืออะไรก็เหอะ แต่นั่นแหละ มันก็เป็นตัวอย่างว่าทำไมมึงถึงควรเลิกกังวลและลงมือทำน่ะ
ปล.กุก็มือใหม่ กุเขียนมาปีกว่า เพิ่งจบเรื่องสั้นไปเรื่องนึงสามหมื่นกว่าคำ แล้วกูก็ชาเลนท์ตัวเองด้วยเรื่องยาวต่อเลย จะปีนึงแล้วยังไม่จบเลยมึง ท้อๆ วาง ๆ อย่างที่กุเล่าข้างบนตลอดแหละ กุก็บอกตัวเองอย่างที่บอกมึง คือเออ กุก็กากมือใหม่นั่นแหละ จะเอาไรมาราบลื่น เรียบสะดวกสบายวะ ไม่เจอปัญหาจะเรียกมือใหม่เหรอ ดังนั้นพักจนอารมณ์นอยด์หายแล้วกูก็กลับมาทู่ซี้เขียนต่อไป กุต้องเขียนส่งลูกกูไปถึง happy ending ให้ได้
>>117 เรื่องแรกรู้สึกว่าไม่ดี ออกมาแย่แน่ๆ แต่ดีกว่าที่คิดพอสมควร กลายเป็นว่าเรื่องสองกริบว่ะ คาดหวังไว้เยอะว่าน่าจะดีเหมือนเล่มแรก เจ็บมากมึ้งงง555555 กล้าๆเขียนเข้าไว้ คิดว่าคนจะด่า งานจะห่วย หรือชมตัวเองว่าเก่งสุบๆก็ได้ ท้อได้ ฮึบได้ แต่มือต้องเขียนต่อด้วย ยังไงก็ต้องจบถึงจะรู้ผลลัพธ์ สู้ๆนะมึง
ขอบคุณทุกคนมากๆนะ หายไปนอนมาตื่นแล้วเข้ามาอ่านแล้วน้ำตาซึม เดี๋ยวจะฮึบแล้วลองเขียนขึ้นมาดู ขอบคุณทุกคนมากๆ ขอให้ทุกคนแฮปปี้กับงานตัวเองเหมือนกันนะ
เห็นพวกมึงบางคนเขียนไม่เป็นปีไม่เสร็จนี่ทำเอากูรู้สึกผิดเลยที่ปีนี้กูเขียนไปแล้วทั้งหมด 4 เล่ม ที่จริงควรได้ 6 เล่ม แต่ตันตอนจบเล่ม 4 เลยกลับไปรีไรท์แทนซะงั้น
เคสกูคงเอามาเทียบไม่ได้ เพราะกูเองก็เขียนมาหลายปีแล้ว เมื่อก่อนคือเจ็บมาเยอะแหละ แถมเคยโดนโม่งโขกสับในมู้เด็กดวกด้วย จำได้สมัยนั้้นเขียนงานแรกมาลงมั่นหน้ามากประกาศเลยว่านิยายกูคุณภาพเท่านิยายแปลต่างประเทศ โดยหาได้รู้ไม่ว่าไอ้การเขียนตัวหนังสือเบียดๆ กันเป็นพรืดแบบนิยายแปลฝรั่งมันไม่ทำชวนรู้สึกน่าอ่านเลยซักนิด ถถถถถ
กูเองก็เลิกเขียนไปนานราวๆ 5-6 ปี มาปัจจุบันกูเองก็เพิ่งกลับมาเขียนช่วงปีนี้เช่นกัน ถึงปัญหาหลายๆ อย่างจะทำการบ้านมาในระดับหนึ่งแล้วก้เถอะ แต่ก็ยังมีเรื่องให้กลุ้มตลอด ยกตัวอย่างเช่น ...ตอนนี้กูยังไม่รู้เลยว่าจะเอาไปวางเว้ปไหนดี กูเขียนแนวพัฒนาเมืองน่าจะต้องลง ดด ล่ะมั้ง
ถ้ากูถนัดแนวนึง แต่อยากลองอีกแนวนึงเพราะกูอยากแย่งส่วนแบ่งตลาดกับแนวนั้นด้วย (เห็นขายได้ขายดีกันจัง) แต่เขียนแล้วไม่ใช่ กูจะถอยกลับไปแนวถนัดแต่กูเขียนมาไกลเกินครึ่งเรื่องมาแล้ว กูควรดันทุรังต่อให้จบหรือเปลี่ยนแนวแล้วตัดจบขายๆ ไปเลยดี กูเขียนด้วยฟีลเบื่อ ๆ เซ็งๆ ไม่ใช่สิ่งที่กูถนัดซะเลย ฝืนสัส ถ้ากลับไปแก้ก็งานช้างอีก
สณพ.ดอกหย้า จะคัมแบคแหละมึง พัฒนาebookด้วย เห็นว่าจะมางานหนังสือปีหน้า กุรอชม
>>127 ครึ่งเรื่องที่ว่ามานี่คือยาวเท่าไร?
กูเคยเขียนใหม่ทั้งหมดทั้งที่เขียนไปแล้วราวๆ 2 แสนคำ เปลี่ยนเนื้อหาเปลี่ยนการดำเนินเรื่อง คงเอาไว้แค่ตัวละคร ด้วยเหตุผลติงต๊องเพียงแค่ว่ากูหาเหตุผลที่ลงตัวให้พี่สาวพระเอกไปลงเอยกับตัวร้ายทั้งที่โดนอีกฝ่ายข่มขืนมาไม่ได้ด้วยซ้ำ ถถถถถถถถถ
การถอยหลังกลับไปเขียนใหม่โดยอิงพล็อตเดิมดีอย่างนึงนะ คือทำให้เห็นช่องโหว่อะไรต่อมิอะไรแล้วเอามาปรับแก้ได้ดีขึ้น ทุกวันนี้ถ้ากูเขียนแล้วตันหรือว่าไปต่อไม่ได้กูก็จะถอยหลัง 1 ก้าวไปมองภาพรวมแล้วมาเขียนใหม่นี่ล่ะ
>>126 ฮือ... ไม่ใช่แนวจีนว่ะ กูไม่ถนัดอะไรจีนๆ
ถ้าเขียนแนวโตมาด้วยกันเหมือนพี่น้อง นางเอกเป็นลูกเพื่อนที่มาฝากเลี้ยงด้วยเหตุผลซัมติงตั้งแต่แบเบาะ พระเอกก็เข้าใจว่าเป็นน้องในตอนแรกเลยรักเหมือนน้องสาวจริงๆแบบคลานตามกันมา แต่โตขึ้นหน่อยมีเหตุให้ห่างกันไปหลายๆปี ทางนั้นเขามาเอาตัวน้องกลับบ้านไปเลยได้รู้ว่านี่น้องไม่แท้ คัมแบ็คกลับมาน้องนางสวยจนใจพี่หวั่นไหว มีคนมาจีบคือหึงเกินพี่ไปอีก อันนี้จะโดนฉอดป่ะวะ 555555555
>>131 ปกติมาก มาแนวคล้ายๆลูกสลับบ้านกันอะแหละ อยู่ด้วยกันแต่เด็กมารู้ความจริงตอนโต แยกกันอยู่สักพักมาเจอหน้ากันความรู้สึกก็ต้องมีเปลี่ยนบ้าง
ว่าแล้วกูก็นึกถึงนิยายเกาเรื่องนึง เก่าละ มีครอบครัวคนรวยที่นางเอกกับพระเอกมันโตกันมาแต่เด็กคิดว่าเป็นพี่น้องแท้ๆ แต่จู่ๆ ก็มารู้ตอนโตแล้ว สักม.ต้นมั้ง ว่าลูกสลับตัวกันจ้า นางเอกเลยต้องไปอยู่บ้านคนจนที่มีแต่พ่อขี้เมากับพี่ชายชอบทุบตี ส่วนน้องพระเอกตัวจริงมาอยู่เป็นนางอิจฉากรี้ดๆไปวันๆ พอเข้าใจว่าโดนเลี้ยงในบ้านจนๆเลยนิสียเสียแหละ แต่โตมายันวัยทำงานก็ทำตัวเป็นนังอิจฉานางเอกไม่เลิก ส่วนนางเอกพอมาเจอพระเอกอีกทีก็คือตอนทำงานนี่ละห่างกันสิบกว่าปี จีบไปจีบมาแบบหวานมั่งขมมั่ง ความเคยเป็นพี่น้องมันค้ำคอ กว่าจะรู้ใจตัวเองคือสายไปละนางเอกป่วยเป็นลูคีเมีย (โรคยอดฮิตของซีรี่ส์เกาอีกละ555) มาบอกรักกันไม่ทันไรก็ขิตแล้ว พระเอกเฮิร์ทจัดออกไปขับรถเหม่อๆ ก็รถชนตายคาที่ไปเลย จบแบบขมสัส ขิตคู่ไม่พอก่อนจากกันก็โคตรจะอาลัยอาวรณ์
แม่งจำชื่อเรื่องไม่ได้ เคยทำเป็นซี่รี่ส์ด้วยนะ เก่ามากๆสักสิบปีก่อน กูอ่านนิยายแต่ยังไม่เคบดูแบบซีรี่ส์อะ
เออว่ะ มึงระวังจะไม่โดนแค่ฉอดว่าพี่น้องรักกันอันนั้นจิ๊บๆปกติ แต่จะโดนฉอดว่าก็อป ซีรีส์เกาเรื่องพี่ชายยยฉันหนาวอะ ที่ซงเฮคโยเล่นเป็นลูคิวเมียตายอะ
>>134 >>135 เออเรื่องนี้เอง แม่งนานจริง ขอบใจที่ช่วยบอกให้555
แล้วเรื่องนี้กูชอบอย่างคือน้องแท้พระเอกเปิดมาเป็นนางอิจฉา แต่คือร้ายแบบมีเหตุผลอะ ครอบครัวแท้ไม่ยอมรับ ยิ่งนางเอกมาพัวพันคือเหมือนโดนกีดกัน ไม่ได้อิจฉาแบบร้ายโง่ๆ แต่คือมีเหตุผลอยู่ที่ต้องอิจฉา ถึงแม้บางทีจะเยอะจนน่ารำคาญก็เหอะ555 แต่สุดท้ายนางก็กลับใจได้อะนะ พอรู้นางเอกจะขิตอะ ยังย้อนนึกถึงแม่ปลอมที่เคยเลี้ยงตัวเองแต่เด็กอยู่เลยรับปากว่าจะดูแลให้ เลิกจองเวรนางเอกสักที
>>137 หมายถึงพ่อแม่แท้นางอะนะ คือเลี้ยงนางเอกมาตั้ง14 ปีไงมึง ก็มีผูกพันมั่งละ พอจุ่ๆต้องมาเลี้ยงเด็กใหม่ที่ถึงเป็นลูกแท้ๆแต่คือเพิ่งเจอหน้ากันในรอบ 14 ปี ก็เลยไม่คลิ๊กกันอะ แล้วนางก็ทำตัวนิสัยเสียด้วยแบบเรียกร้องนั่นนี่เพื่อชดเชยที่ถูกทิ้งไป 14 ปี พ่อแม่ก็ให้นะแต่ให้เพราะความรู้สึกผิด พอนานเข้าเลยกลายเป็นแค่เด็กนิสัยเสียเอาแต่ใจที่พ่อแม่ก็เอือม พี่อย่างพระเอกก็ไม่เห็นเป็นน้อง เลยยิ่งเดือดกว่าเดิมแบบอยู่กับครอบครัวแท้ๆแต่ทุกคนก็ห่างเหินกับนาง(แม้จะทำตัวเองแต่แรกก็เหอะ) ยังดีที่ตอนจบเริ่มปรับนิสัยกลับเนื้อกลับตัวได้
https://twitter.com/soniabinggarabo/status/1724444638080049510
นักเขียนเล่าเรื่องหนังสือนิยายโดนเอาไปสแกนไฟล์เถื่อนขาย และการฟ้องร้อง
มาแชร์เผื่อมีประโยชน์
>>141 เคสนี้ไม่ใช่เยาวชนด้วยปะ เลยบี้ง่ายหน่อย ถ้าเจอเยาวชนแบบนข.อีกคนนี่ซวยชิบหาย พ่อแม่ต้องชดใช้แล้วไงทำมึนซะอย่างไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ศาลยังเอาเรื่องไม่ได้ให้รอมชอมกันเองนะ กว่าเรื่องจะจบลากยาวเป็นปีอีก
เพราะงั้นถ้าโดนละเมิดงี้สิ่งแรกที่ก฿ขอคืออย่า้ป็นเยาวชนนะสัส555 เอาเรื่องยากชิบหายกฏหมายคุ้มครองมากกว่าผู้เสียหายอย่างกูอีก
Kyทำไมนิยายชอบกินข้าวต้มกุ้งเป็นอาหารเช้าวะ กูสังเกตหลายเรื่องละ แม่ครัว,นางเอก ,บ้านพระเอกล้วนกินข้าวต้มกุ้ง
ทำไงดีวะโม่ง เจอนักวาดถูกใจอยากจะได้มาวาดปกให้ แต่กูไม่กล้าทักเขา ถถถถถถ
ระดับปีกนกเป็นตัววัดฝีมือปะวะ กุไปอ่านงานคนนี้เนื่อเรื่องอาจจะไม่หวือหวาแต่พอฉากเอนซีเรทไฟลุก ไปย้อนดูปีกทองทุกคน ถึงจะมีติดเขียนซี้ดก้เถอะ
เพื่อน…แนะนำหน่อยสิ แต่งนิยายฮาเร็ม 18+ ตัวเอกชายนี่ลงออนไลน์ที่ไหนได้บ้างเหรอ ฐานคนอ่านอยู่แอพไหนอ่ะ
ไหนๆ พวกมึงก็ตอบแนวแฟนตาซีแล้ว กูถามบ้างสิว่าไอ้แนวแฟนตาซีพัฒนาเมืองของกูจะเอาไปลงไหนดี
ของกูเน้นการเผชิญ event กาวๆ ไปพลางคอยพัฒนาบ้านเมืองไปพลางมากกว่าไปนั่งปลูกผักชิลๆ ส่วนฮาเร็มมั้ยอันนี้กูตั้งใจกำหนดให้ตัวเอกมีสาวมาติดแค่ 2-3 คนไม่เกินนี้ แต่แต่งจริงแค่คนเดียว เน้นกระจายคู่ให้พวกลูกบ้านมากกว่าอะไรทำนองนั้น
>>162 เด็กดวกมันเป็นตามกระแสอะ อย่างช่วงเกมออนไลน์บูมๆ แม่งก็เกมออนไลน์เต็มท็อป จนมีคนเรียกร้องว่าให้ตั้งหมวดอยกทีมันเบียดนิยายสายแฟนตาซีอื่นๆซะเรียบเลย แม่งช่วงนั้นคือเยอะจริงแบบไอ้พวกอิเซไกที่ว่าแน่ เจอเกมออนไลน์เข้ามาครองหมวดหมดเลย ทั้งหน้าท็อปทั้งหน้าอัปเดตแรกมีแต่แนวเกมออนไลน์ๆ
ฮูเร่ได้นักวาดที่ต้องการมาวาดปกแล้ว ถึงจะโคตรแพง + คิวยาวจนถึงปีหน้าก็เถอะ มุแง้
ตอนนี้นอกจากคิดหาเว็ปจะลงแล้ว กูต้องมาคิดชื่อนิยายด้วยให้ตายสิ
กูคิดชื่อภาษาอังกฤษได้นะ แต่พอมาชื่อไทยนี่รู้สึกคิดมากชะมัด กลัวไม่ติดหูบ้าง กลัวไม่คล้องจองบ้าง
แต่ได้คิวปกมาแบบนี้ดูเหมือนต้องเร่งรีไรท์ละ ทุกวันนี้ขี้เกียจจนงานแทบไม่เสร็จ
Ky เรื่องกุมีฉาก 18+ หวานๆ แค่ฉากเดียว ไม่ซี้ดไม่ตับ บรรยายแบบนุ่มละมุนไม่อนาจาร (เท่าที่ทำได้) ถึงงี้กุก็ยังต้องอยู่หมวดโรแม้งตามกฏใช่มั้ย ToT คือกุอยากอยู่หมวดรักมากเลย ซิกๆ เรื่องมันไม่ได้เน้น 18+ ง่ะ พอคิดว่าต้องอยู่โรแม้งละนักอ่านคงคาดหวังฉากแซ่บก็เลยห่อเหี่ยว หรือเขาจะอนุโลมให้กุไปอยู่หมวดรักได้ ToT
>>166 >>167 ก...กูเห็นพี่เม้ดเขาบอกไว้ตอนจะเลือกหมวดว่า
"นิยายโรมานซ์ = เน้นการดำเนินเนื้อเรื่อง โดยอาจมีฉากอีโรติกเป็นส่วนประกอบ หากเน้นฉากอีโรติกเป็นหลักโดยไม่เน้นเนื้อเรื่อง ให้เลือกหมวดนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ หากไม่มีฉากอีโรติกให้เลือกเป็นนิยายรัก"
กูเข้าใจว่าฉากอีโรติกคือฉากเอนสีอะ ร..หรือมิใช่ สอดใส่มันไม่อีโรติกหลอ หรือ point อยู่ที่คำว่าส่วนประกอบ คือมีเยอะๆ ??
Kyกูมีตัวละครนึงจบนอกเรียนโรงเรียนอินเตอร์เพื่อนฝรั่งเยอะตั้งใจจะให้เป็นคนพูดไทยคำอังกฤษคำ //เวลาพิมพ์กูควร ถอดเสียงคำภาษาอังกฤษเป็นคำไทยตามราชบัณฑิตยสถาน ~หรือพิมพ์ภาษาอังกฤษไปเลยให้คนอ่านเห็นนิสัยตัวละครว่าพูดไทยคำอังกฤษคำ (ใจกูเลือกอย่างหลังว่ะแต่ลองมาถามดูเผื่อพวกมึงคิดเห็นต่างไป)/ขอบคุณล่วงหน้า
ถ้านิยาย หรือปกนิยายมึงโดนคนอื่นดูดไปใช้หรือขายจะทำไงวะ ทักไปเตือน หรือแจ้งความ ฟ้องศาลเรียกค่าเสียหลักแสน
ถามหน่อย อัพนิยายใน ธวล มีระบบขึ้นหน้าใหม่มาแรงภายในสิบสี่วันเหมือนใน รอร ไหม ประเด็นคือกูอยากเปิดเรื่องไว้จองชื่อ แต่กลัวว่าถ้ามีระบบใหม่มาแรงแล้วผ่านไปหลายเดือนกูมาอัพเนื้อหาทีหลัง มันจะไม่ได้ขึ้นหน้าใหม่มาแรง
อยากถามว่าถ้าอยากเขียนนิยายรักใสๆ ไม่มีแตะเรื่องอย่างว่าเลยแม้แต่นิดเดียว
ตัวละครวัย 18-20 แต่อยู่กินด้วยกันในหอนอก มีเหตุที่ทำให้ต้องห่างกันนานๆ
ซึ่งเป็นชีวิตจริงต่อให้อยู่ด้วยกันแล้วอดใจไหว ก่อนจะจากกันนานๆคงไม่พ้นขอจัดกันซักที
แต่ในนิยายคือใสๆ ไม่มีอะไรพวกนี้เลยมันจะดูแปลกป่ะ
>>178 เคยมีซีรีส์เกา พระเอก-นางเอกวัยเรียนมหาลัยย้ายมาอยู่ด้วยกันใสๆไม่มีอะไรเกินเลยเพราะพระเอกมันมุ่งหมายจะเป็นบาทหลวง
โดยส่วนตัวกูมองว่าถ้าไม่ปูพื้นให้ พระเอกไม่รู้ใจตัวเองว่ารักนางเอกคบฟีลเพื่อน/ยึดมั่นศาสนาตั้งใจจะบวชแบบซีรีส์เกาที่กูเคยดู/ถูกสอนมาให้เกียรติสุภาพสตรี/หรือเนิร์ดมากก ก็แปลกว่ะ มันดูขัดกับฮอร์โมนวัยรุ่น มันต้องมีโด่ตอนเช้าหรือเว็ทดรีม หรือ ช่วยตัวเองบ้างอะ
>>176 การ์ตูนญี่ปุ่นสมัยก่อนที่ไม่ใช่แนว Smug ก็ออกทำนองนั้นนะ คือตัวเอกอาจจะอยู่ใกล้กันระดับเข้าไปดูแลทำโน้นที่นี่ให้แล้ว แต่คือไม่ได้มีอะไรกันจนกระทั่งถึงจุดพีคตอนจบภาคอะไรแบบนี้
ยกตัวอย่าง Nodame Cantabile นี่ชัดเลย พระเอกนางเอกเป็นเด็กมหาลัยฯ กว่าจะได้โอกาสเยเย่กัน ก็ปาไปตอนที่สารภาพรักแล้วจบภาค
คือการ์ตูนสมัยก่อนมันเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์เป็นหลักอะ พอตัวเอกเข้าใจความรู้สึกตัวเองแล้วค่อยมีอะไรกัน ต่างจากพวกคู่รองที่แค่ถูกใจก็พาเข้าห้องปั่มปั๊มกันละ
>>178 อ๋อออ หมายถึงไม่คิดแบบไม่มีในหัวเลยว่าซั่น งั้นแปลกนิสนึง 55 แต่มันแล้วแต่คนจริงๆ มึง ถ้าจะเอาพระนางใสๆ ตามนั้นก็ไม่ผิดหรอก คนเรามันหลากหลายน่ะ ถ้ากลัวนักอ่านหาว่าไม่เรียลงั้นมึงก็ตัดเรื่องนั้นออกไปแบบไม่กล่าวถึงเลยก็ได้ แทนจะบรรยายว่า "ตลอดที่ผ่านมา เขาไม่เคยคิดเรื่องอย่างว่ากับเธอเลย..." ให้นักอ่านหรี่ตาแซวว่าไอ่หนุ่มมุงเป็นพระอิฐพระปูนบ่ ส่วนตัวกุเห็นด้วยกะ >>179 ยังไงถ้าใกล้ชิดมันก็ต้องมีซู่ซ่าบ้างแหละ ยิ่งวัยนั้นด้วย 555
ส่วนอันนี้บอกไว้เฉยๆ เผื่อเพื่อนโม่งคนอื่นอยากเขียน กุขอดันหลังแนวพระเอกหื่นแต่พยายามข่มใจตลอดว่ะ 555 มันน่ารักอะ ฟีลพยายามถนอมเธอ พวกนี้ตอนตบะแตกแม่งจัดหนักเลอ ฟรินคะ
>>179 >>180 >>181 ขอบคุณความเห็นทุกคนมาก ตอนแรกกูคิดว่าจะไปทางไม่พูดถึงเลย
ไปทางว่าไม่ได้เฉลยว่าเค้าได้กันแล้วหรือยังไม่ได้กัน แล้วแต่คนอ่านตีความเองดีมั้ย
แต่คิดไปคิดมามันไม่ชัดเจน แล้วเดี๋ยวเรื่องมันจะยิ่งแปลก กูแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนเป็นอยู่หอใกล้กันหรือหอเดียวกันคนละห้องไปเลยดีกว่า
จริงๆตอนแรกที่ให้อยู่ด้วยกันเพราะจะได้เขียนบทให้ตัวติดกันเกือบตลอดได้
ยังไงก็ไม่ได้จะใส่ฉาก NC อยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องให้อยู่กินกันก็ได้ แค่นี้ก็น่าจะพอสำหรับคู่รักวัยมหาลัยแล้ว
กูมือใหม่หัดเขียน อยากรู้ว่าเรื่องสั้นกับนิยายต่างกันยังไงวะ
อยากตามข่าวนักเขียน อยากเขียนประกวดบ้าง
ติดตามได้ที่ไหนวะ น่าสนุกดี
กุขายเดือนแรกได้ 400กว่าบาท แต่ยอดมันจะโอนให้เมื่อถึง1k จะขำก็ไม่ขำจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก 555TT555กุมาบ่นเฉยๆ
ky กูมือไม่นิ่งเลย วันนี้เขียนได้แบบนึง เมื่อวานเขียนได้แบบนึง ทั้งที่เขียนมุมมองบุคคลที่สามเหมือนกัน แต่พอเทียบกันแล้วมันต่างมากกกกกกกกกกกกอะ ทำไงให้มือนิ่งวะมึง ให้เทียบแบบเห็นภาพคือวันนึงเป็นนิยายแปล อีกวันเป็นนิทานอีสป พอมะรืนเป็นเรียงความ ฮือ กูไม่เข้าใจตัวเอง
>>187 ของกูถ้าเอาทางลัดแบบที่ว่าเขียนแล้วยังไม่นิ่งสักที เพราะกูก็มีหลายนามปากกา เรื่องเสียวใช้อีกแบบ บุรุษ 1 อีกแบบ บุรุษ 3 อีกแบบ กูจะไปย้อนอ่านสัก 2-3 บทว่ะ อ่านแบบจริงจังเลยนะ แปลงเป็น pdf จัดกระจายแบบไทยให้เหมือนอ่าน ebook จริง ๆ อ่านเสร็จละเขียนต่อเลย ภาษามันจะยังติดในหัวในมืออยู่
มึง มีใครเคยส่งหนังสือให้ร้านนายอินทร์บ้าง มันมีเงื่อนไขยังไงบ้างเหรอ บอกกูหน่อยสิ
Ky ถ้ามึงเจอนักอ่านเอาebook มาแลกกันอ่าน แบบไม่ได้ทำการขสยหรือให้เช่า มึงโอเคกันไหมวะ แล่วมันผิดไหม กุขอถามในมุมที่กุเปนนักอ่านนะ
มีแนวพระเอกโบ้แล้ว แล้วมันเคยมีนางเอกโบ้ไหม
แล้วแนวมาเฟียละ มีนางเอกเป็นมาเฟียเองที่ไม่ใช่เมียมาเฟียบ้างไหม
>>193 กูเอง ต้องมีเพื่อนที่ไว้ใจได้ที่เราจะแชร์กันอ่านได้ ทำให้กูประหยัดและได้อ่านอะไรที่แค่อยากลองอ่านสักครั้ง ถ้าเล่มไหนชอบกุก็ซื้อเก็บเอง กุอ่านของเพื่อน เพื่อนก็มาอ่านของกู สลับกันไปมา มันดีนะ เพื่อนกูมีแทบทุกเล่มดังสายโรมานซ์ ส่วนกูมีหลายแนวหลากหลาย พอเรามาแชร์กันมันก็ดี
ในมุมนักอ่าน พวกมึงว่า มีไหมที่เขาชอบนิยายเรื่องนึงของนักเขียนคนนึง แล้วจะตามอ่านเรื่องอื่นๆ ที่มันคนละแนวกับเรื่องที่เขาชอบเป็นเรื่องแรกด้วย เอาง่ายง่ายคือติดตามนามปากกาอ่ะ
>>198 เยอะเลยค่ะมึง ส่วนใหญ่คนรอบตัวกูเป็นแบบนั้น ดูอย่าง ม้ายภาย เพื่อนกูตามทุกเล่มแม้จะไม่เคยอ่านสืบสวนสอบสวน นางก็เปิดใจอ่าน ;ป้าบัว เขียนตอนจบเหมือนรีบไปเก็บผ้าเขียนจระเข้ ควาย พลายแก้ว เพื่อนกูก็ตามทุกเล่ม ลองได้รักปักใจแล้วไม่ว่าจะเปลี่ยนแนวเขียนพาไปขึ้นเขาลงห้วยส่วนใหญ่ก็จะเชื่อในฝีมือ ตามกันต่อไป
ถ้าเขียนแนวยูริ แล้วให้นางเอกโดนนางร้ายเรป นี่จะโดนดราม่าไหม มันก็ยูริเหมือนกัน นางร้ายก็หน้าตาดีกว่าพวกนางเอกอีก รี้ดจะคิดมากไหม
Kyเหมือนกันไหมวะ วิธีแก้หัวตัน งานไม่เดินรู้สึกแย่ของกูคือเอฟปก มันเหมือนมีอะไรคืบหน้ามาบ้าง อย่างน้อยกูก็มีปกกับชืรอเรื่องวะ แต่เนื้อเรื่องอยู่ไหนนนนถถถถถถ
>>198 ถ้ามีก็คือต้องอ่านงานเค้างานแรกแล้วชอบมากๆจนอยากตามงานอื่นๆต่อ
ซึ่งสำหรับกูแล้วคนที่ติดใจแล้วตามไปได้นานๆเลยนี่ไม่ค่อยมีหรอก
และถ้ามีก็ไม่ได้ถึงขั้นเขียนอะไรมาก็ตามซื้อหมด เจอแนวที่ไม่ได้ชอบก็อาจจะไม่ซื้อเป็นบางเล่ม
ส่วนมากที่เจอแล้วทำให้ไม่ได้ตามต่อคือ
- นักเขียนไม่ได้ทำเป็นอาชีพ แล้วส่วนมากพวกนี้ออกแค่เรื่องเดียวหรือสองเรื่องแล้วก็เลิกไป
- เรื่องแรกชอบ แล้วตั้งใจจะตามต่อ แต่อ่านเรื่องอื่นๆแล้วรู้สึกไม่ชอบ แบบนี้ก็เลิกตาม
โดยเฉพาะเอาเรื่องที่ชอบและจบดีแล้ว ขุดมาเขียนภาคต่อแล้วเละนี่คือเคืองมาก
Kyชื่อเรื่องไม่มีลิขสิทธิ์ใช่ไหมวะ กูซุ่มแต่งเตรียมปกไว้แล้วแต่ยังไม่เผยแพร่ แล้วดันเหมือนเป๊ะเลยแต่กูไม่มีภาษาอังกฤษ เช่นของกู สมชายรักสมศรี /ของนักเขียนอีกคน สมชายรักสมศรี(forever love)
มู้ไหนนะที่คุยเรื่องทำแท้งในนิยาย กุแอบสงสัยเลยว่าถ้ามีนิยายให้ข้อคิดสนับสนุนทำแท้งเสรี พวกป้าไดโนเสาร์มาเจอจะทัวร์ลงเขามั้ยวะ ล่าสุดอ่านกระทู้เว็บม่วงประเด็นนี้ (นศ.เป็นแฟนกัน ละพลาดท้องทั้งที่ป้องกันแล้ว) กุก็นึกว่าสมัยนี้คนคงเปิดกว้างมากละ เจอเม้นด่าไม่รักนวลสงวนตัว บอกห้ามเอาออก อ้างบาปๆๆๆ ละหลอนมาก ถ้าพวกนี้มาอ่านนิยายเจอแนวคิดงี้จะว้อแตกมั้ยน้อ
คิดคอมโพสต์ให้ปกนิยายตัวเองไม่ออกแฮะ
ไอ้ที่คิดเอาไว้พอร่างออกมาแล้วก็กลัวว่าจะรกเกินไป จนใส่รายละเอียดไม่หมด orz
กู208 ขอบคุณพวกมึงมากๆที่ช่วยคิด กูไปเพิ่มคำมา1คำ ไม่ให้เหมือนเป๊ะแล้ว
ดอกหญ้ามีให้ส่งประกวดพล็อตด้วยนะพวกมึง 1 พล็อตต่อ 1 นามปากกา ไม่เกิน 5,000 คำ ชนะได้ 10,000 นึง ใครสนใจก็ลองดู
เห็นนข.ดังยังยืมเมจดารา/รูปคนจริงมาแปะเป็นพระนางอยู่เลย สมัยนี้เขาก็ยังไม่เคร่งเน้อ อยากรู้ประเด็นนี้เคยขึ้นบนบกบ้างมั้ยวะ หรือคนโนสนโนแคร์ จะแปะรูปใครก็แปะไป
โย่ว โม่งนักเขียนทั้งหลาย มีเทคนิคดี ๆ ในการเขียนแนวต่อสู้ไม่ให้ตัวละครช่วงแรก ๆ power creep กันไหม
Kyโม่ง กูจะเขียนพระเอก21ปิ๊งนางเอกตอนน้องอายุ16แล้วนะ ปิ๊งแล้วเก็บไว้ในใจไม่ได้คิดจะจีบอะไร แต่บังเอิญเจอกันอีกทีตอน18 เลยจีบ บอกความในใจ+ได้คบกัน จนน้องอายุ20ก็ได้กันน่ะนะ จากนี้ถ้ากูโดนฉอดในเอ็กซ์หรือที่ไหนก็ขอให้กูล้มแล้วลุกได้ กูอยากบอกเจตนารมณ์เฉยๆ แค่นี้แหละ5555
ยอดขายที่หักเข้าเม็บ เข้ารอร เวลายื่นเสียภาษี ต้องเสียของรายได้ทั้งหมด หรือรายได้ที่หักแล้วอะ
>>218 ก็ไม่ยาก แค่ระหว่างต่อสู้ให้สร้างเหตุการณ์สลับ รุก-รับ ขึ้นมาแทนที่จะเป็นแค่การระเบิดพลังตูมเดียวปิดฉากเท่านั้น
ยกตัวอย่างนาย A มีเรื่องกับนาย B มึงก็กำหนดช่วงการต่อสู้เป็น 3 ระยะ คือ
1. ระยะดูเชิง ปล่อยหมัดแยบ เข้าสู้กันแบบยังไม่เอาจริงประเมินฝีมืออีกฝ่าย ตรงนี้อาจจะให้ฝั่งตัวเอกรุกหนักๆ ไล่ต้อนตัวร้ายไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยขึ้นระยะต่อไปก็คือ
2. ระยะโต้กลับ ถัดจากข้างบนคือตัวร้ายโดนไล่ต้อนจนต้องแสดงฝีมือที่แท้จริงออกมา ทำเอาตัวเอกตกใจก่อนจะเป็นฝ่ายโดนไล่ต้อนกลับบ้าง อาจจะทำให้ตัวเอกเสียท่า หรือได้แต่ตั้งรับจนทำอะไรไม่ได้ ซึ่งในระหว่างนั้นก็อาจจะให้มองหาจุดอ่อนอีกฝ่ายไปด้วยอะไรทำนองนี้ ก่อนจะขึ้นระยะต่อไปคือ
3. ระยะปิดฉาก ก็ตามชื่อเลยตรงนี้มึงอยากจะใส่อะไรก็ใส่ ถ้ากำหนดให้พระเอกจะต้องชนะ จะใช้พลังมิตรภาพโชเน็นเอาชนะ จะเบ่งพลังภายในขี้โม้ จะให้พลังแฝงตื่นขึ้น ฯลฯ ก็งัดมาใช้ได้เลยแล้วแต่ ซึ่งมันจะทำให้ Power creep ระหว่างตัวละครทั้งสองย่นระยะลงมากกว่ามาถึงเปิดใช้พลังขั้นสุดยอดกันเลย
ยกตัวอย่างโง่ๆ ก็เรื่อง Dragonball อะ ตอนสู้กับฟรีสเซอร์ แม่งต่อยกันลองเชิงไปกี่ตอนฟรีสเซอร์แปลงร่างไปกี่ครั้ง (ระยะแรก) ก่อนฟรีสเซอร์จะเผยร่างสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุดให้เห็นทำเอาโกคูสู้ลำบาก (ระยะที่สอง) ก่อนที่จะพีคกว่านั้นที่คุริรินโดนระเบิดต่อหน้าทำให้พลังแฝงของโกคูถูกดึงออกมากลายเป็น Super Saiya และตบฟรีสเซอร์ร่วงในเวลาอันสั้น (ระยะที่สาม) ซึ่งที่ว่ามานี่คือแพทเทิร์นเบสิกสุดๆ ละ สำหรับการเขียนฉากต่อสู้
ถ้าเปิดแอคใหม่เอี่ยมอ่อง 0 ฟอล 0 งานเขียน แล้วจะลงนิยายนี่มีโอกาสแค่ไหนที่งานจะโดนค้นพบวะ บอกไว้เลยว่ากูจะเขียนแนวตลาดเกร่อๆผัวโบ้หอบท้องหนีผัวนี่ล่ะ มันจะไปจมกับมหาสมุทรแนวผัวโบ้มั้ย หรือกูต้องเขียนให้น้ำเน่าสุดตีน พระเอกเหี้ยจนคนอ่านต้องตามด่าทุกตอน 55555555555555
เขียนตลคคุยกันยังไงให้มันดูธรรมชาติเหรอ คือเห็นหลายคนเขียนแล้วดูธรรมชาติมากเหมือนคนคุยกันจริงๆ นี่เขียนแล้วแข็งมากเลย
ky กูอยากจะเปลี่ยนปกในเม้ด(ไม่ได้ทำเล่ม)แบบ...ปกเดิม แต่เปลี่ยนแค่ไทโปชื่อเรื่องเฉย ๆ นักอ่านเขาจะว่าอะไรมั้ยนะ5555
โอ้ยนั่งขำตัวเอง กำลังนั่งคิดบทสนทนาแบบลิเกๆ แนวกำลังภายในแล้วจู่ๆ ก็ปิ้งไอเดียขึ้นมา
พอเขียนเสร็จแล้วเอามานั่งอ่านเอง โอ้วชิส! ไอ้ที่เขียนมานี่มันพล็อตนิยายชัดๆ ถ้าเอามาเกลามาขยายอีกหน่อยนี่ได้เป็นพล็อตนิยายอีกเรื่องได้เลย
Kyถ้าสปินออฟ ออกเผยแพร่ ก่อนเรื่องหลักจะแปลกๆไหมวะ คือกูคิดเรื่องหลักไม่ออก ตัน แต่ไปโลดกับสปินออฟ TT ได้แหละเนอะเพื่อนโม่ง
มีคำถามว่ะ บท nc กูอยากให้นางเอกพูด dirty talk กับพระเอก แต่ถ้ากูให้ตัวละครพูดคำว่า "xxx(ชื่อตัวละคร) เสียวค่ะ" ไรงี้ มันจะดูเป็นนิยายเสียวไปป่ะวะ แล้วถ้าไม่พูดควรใช้คำอะไรดี กูเขียน dirty talk ไม่เก่ง ปกติกูเลยไม่ได้ให้มันคุยกันตอนเข้าจังหวะเท่าไหร่ 555555
>>238 แล้วแต่นักอ่านจะมองว่ะ มีทั้งคนไม่ชอบแต่คนชอบก็เยอะ แต่ถ้าจะมาทางนี้มึงอย่าเหนียม ที่กูเจอนิยายขายดีของตัวแม่พอมีเดอตี้ทอล์กในncคนก็ชอบนะ เป็นสีสันของเรื่องเลย
ตย.เช่น สมมติพระเอกชื่อวิน นางเอกชื่อแพร "พี่วินแพรเสียวค่ะ" "พี่อยากเ_าแพร" "แพรรู้ไหมว่าแพรทำหน้าแบบนี้มันน่าเ-ามาก" "เสียวไหมครับ แพรเห็นพี่อยู่ในตัวแพรแบบนี้ยิ่งเสียวขึ้นไหม"
>>237 ได้น่า เหมือนมังงะญี่ปุ่นที่ชอบออกวันช็อตมาก่อนงี้ แล้วพอมาเขียนเรื่องยาวถึงจะมีไรต่างจากวันช็อตมั่งแต่ก็ถือซะว่าอันเดียวกันแหละ อย่าง nisekoi นี่ไง ออกมาแรกๆคือวันช็อตล็อกนางเอกไว้แล้ว พอเป็นเรื่องยาวก็ยืดเพิ่มด้วยการใส่สาวอื่นเข้ามา+ปมเรื่องคำสัญญา ถึงมีคนที่เคยอ่านวันช็อตจะรู้ว่าใครนางเอก แต่ก็ยังลุ้นไปเรื่อยอะว่าใครคือคำในสัญญางี้
>>243 เรื่องเสริมหรือภาคพิเศษ ไม่ได้ถูกเล่าในเรื่องหลักเพราะเล่าไม่หมด ส่วนใหญ่จะเป็นตัวเอกคนละคน เช่นเรื่องหลักเล่าเรื่องของนายเอกับผองเพื่อน ในกลุ่มมีนายบีรวมอยู่ด้วย แต่เส้นเรื่องของนายบีน่าสนใจ ก็เขียนเสริมออกมาว่าก่อนหน้านั้นนายบีมันไปทำอะไรมาก่อนจะเจอนายเอ แล้วหลังจากนั้นนายบีจะทำอะไรต่อไป
แบบ attack on titan เรื่องหลักพระเอกคือเอเรน แต่รีไวถูกเล่าประวัติไว้ในเรื่องหลักว่าเคยไปทำ บลาๆๆๆๆ ก็เลยเอาเนื้อเรื่องของรีไวมาทำเสริมคู่ไปกับภาคหลักว่ามาอยู่หน่วยสำรวจได้ไง แล้วก็มีตัวละครอื่นที่พวกเอเรนไม่รู้จัก ไม่โผล่ในภาคหลัก แต่ก็เป็นคนในหน่วยสำรวจ เหมือนช่วยอธิบายโลกให้ละเอียดขึ้นผ่านมุมมองตัวละครอื่น
กู 243 นะ ขอบคุณพวกมึงมาก ปกติกูเขียนเองก็เขียนแล้วนับแม่งเป็นเรื่องหลักหมด ก็เลยงงๆ ว่ามันมีการออกเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องหลักด้วยหรือวะ เปิดโลกกูมาก 555
>>248 ก็เอาง่ายๆ มึงมีเส้นเรื่องหลักอยู่แล้ว ถ้าใส่เส้นเรื่องของตัวละครรองมามันจะยืดและทำให้รู้สึกว่ามึงจะใส่มาทำไมวะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องหลัก ก็มาออกเป็นสปินออฟแทน เช่นเนื้อเรื่องของมึงคือแม่ใช้ไปซื้อน้ำปลา เล่าถึงการผจญภัยของตัวเอกที่ไปซื้อน้ำปลาว่าเจออะไรบ้าง แต่ระหว่างทางเสือกเจอป้าติ๋มขาเม้ามาชวนคุย มึงจะใส่เส้นเรื่องป้าติ๋มตั้งแต่เกิดยันแก่เข้ามาเบียดบังการไปซื้อน้ำปลาของตัวเอกมั้ย ใส่เข้ามาก็ดูยืดไงเพราะป้าติ๋มแม่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการซื้อน้ำปลาของมึงเลย แค่แวะมาเม้าเฉยๆ แต่มึงอยากเล่าเรื่องของป้าแบบเต็มๆเน้นๆ มึงก็เอาไปใส่สปินออฟแทน
เขียนให้ตัวเอก ปลูกฝิ่นปลูกกัญชา กระท่อม เอาไปขาย ทำแปรรูปขายบ้างแล้วขยายตลาด เจ้าเมืองได้ไอเดียซื้อฝิ่นตัวเอก ไปขายให้ปท.ศัตรู ให้คนในเมืองติดฝิ่นเล่นๆ จนตัวเอกจู่ๆได้เส้นสายทางการเมือง เป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ปลูกผักใบเขียวอันดับหนึ่ง ต่อมามีการพัฒนาทำเป็นเม็ดยา ส่งออกไปทั่ว
แบบนี้พออ้างกับใส่แท็คว่าเป็นแนวปลูกผัก สโลไลฟ์แบบที่ตลาดกำลังฮิตตอนนี้ได้ไหมโม่ง
แล้วมันจะโดนแบนโดนฉอดไหมอะ เขียนลงเว็บก่อนเช่น เด็กดี รี้ด ธัญ ไรงี้
>>250 สงครามฝิ่นเหรอวะนั่น555 โดนฉอดอะถ้าคนมันจะฉอดก็ฉอดแหละ แต่โดนแบนไหมอันนี้ไม่แน่ใจ ถึงจะเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงแต่ก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดอะนะ จะขัดกับกฏเว็บไหมลองไล่ดู ถ้าเว็บแค่ห้ามพาดพิงศาสนาการเมือง แต่ไม่มีบอกว่าห้ามเขียนเรื่องยาเสพติด ก็จัดไปเลยจ้า แล้วพอเข้าแนวปลูกผักได้เพราะพล็อตหลักคือปลูกผักจนได้ดีใช่ปะละ
กุขอถามแทรกได้มั้ย แนวปลูกผักสโลวไลฟ์มันฮิตเหรอวะ 55555
>>255 เด็กดวกนี่กลายเป็นสวนผักไปแล้วมึง ฮิตแนวแบบ ยีนย้อนยุค วิญญาณไปเข้าร่างสาวย้อนยุค แล้วแม่งต้องมีของวิเศษ พลังวิเศษ ปลูหผัก จากบ้านอีจ๊นนจนแล้วก็จะรวยขึ้น อีสาวบ้านนา บ้านนอก สุกดท้ายจะได้ผัวเป็นอ๋องบ้างแหละ องค์ชายบ้างแหละ ไม่ก็ผัวของเจ้าของร่าง ที่เคยเมินอีเมีย ที่อาจจะนิสัยวร๊ายน่ะ แต่ร่างเดิมเท่าที่เห็น เจอบ่อย จะเป็นสาวปัญญาทึบ ปัญญาอ่อนไรงี้ก็เยอะนะ พอนางเข้าร่างปุ๊บ ซูมม๊ากกกกกกกกกกก
ถ้าเขียนเรื่องพ่อบุญธรรม แตะอั๋งลวนลามลูก นี่มันจะขาย ebookได้ป่าววะ เว็บจะให้ผ่านมั้ย
กำลังจะเขียนจบตอนท้าย ๆ แล้วด้วยเจอเรื่องทำให้เซ็ง เขียนไม่ออกเลยยย
>>262 ไปอยู่หมวดรักผู้ใหญ่ และให้ลูกอายุ20ปีขึ้นไป(ประมาณมหาลัยปี2)
อยู่ถูกที่ไม่ต้องกลัว มีหลายเรื่องที่พ่อเลี้ยง/พ่อบุญธรรมxxxลูกสาว บางเรื่องให้แม่มาเห็นตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มแล้วเป็นลมตา ย ก็มี ขายได้ดีด้วยนะ มีคนรีวิวให้ด้วย จั่วหัวว่าเป็นดาร์กอีโรติก แล้วไปสุดในสายดาร์ก
สำคัญคืออายุนางเอกถ้าต่ำกว่า18 หรือ18-19 มีเรื่องให้รีพอร์ตได้
>>262 ถ้ามึงจะให้เขาได้กัน ตามที่โม่งบอก ไปหมวดรักผู้ใหญ่ อายุอย่าต่ำกว่า 18-20 เด็ดขาด แต่ ๆๆๆ ถ้าไม่ได้จะให้ได้กัน เป็นแค่ฉากลวนลามสื่อว่านางเอกถูกคุกคามเฉย ๆ พ่อบุญธรรมไม่ใช่พระเอก มีพระเอกตัวจริง ก็ลงหมวดโรมานซ์ปกตินี่แหละ เม้ดไม่ได้มาลงดาบข้อหาเปโดอนาจารอะไร
ถามโม่งหน่อยว่าฉาก นอ. ยั่วยวนพระเอกนี่
- ถ้าเป็นแบบนางเอกตั้งใจปลดกระดุมบางเม็ด แล้วแกล้งทำเป็นหลับตอนอยู่กับ พอ. สองต่อสอง แล้วหรี่ตาแอบดูว่า พอ. จะมองนมมั้ย
แล้ว พอ. ก็เผลอมองอยู่พักนึงจริงๆตามสัญชาติญาณผู้ชายก่อนจะไปหาผ้ามาคลุมให้ แล้วนางเอกก็ทำเป็นตื่นแล้วบอกว่าตะกี้รู้นะว่าแอบดู
แบบนี้ถ้าคนคิดมากจะคิดว่า พอ. จะดูเป็นคนเหี้ยฉวยโอกาสตอนอีกฝ่ายหลับ หรือ นอ. ดูเป็นคนเหี้ยที่วางแผนหลอกปั่นหัว พอ. ป่ะ
- ถ้ายั่วแรงๆด้วยการไปนอนทับแล้วตั้งใจเอานมไปโดนอีกฝ่าย, ตั้งใจเอานมไปโดนหลัง/มือ/แขน พอ.
มันจะดูล้ำเส้นจนกลายเป็นการคุกคามทางเพศ พอ. แทนมั้ย
ทั้งหมดนี่คือทำตอนคบกันแล้วนะ แต่ก็ไม่แน่ใจว่ามันโอเคมั้ย เพราะบทแบบนี้ถ้าคนซีเรียสจะไปคิดว่ามันดูไม่โอเคก็ได้
ขอปรึกษา เครียดทุกครั้งที่จะขายอีบุ๊ค กลัวยอดไม่เป็นไปตามคาด แต่มันไม่ตามคาดตลอดนะ กูพยายามนอนหลับแบบไม่คิดไร แต่กลัวอะ นอนไม่หลับ
>>267 ไม่โอกรณีเหมือนที่ >>270 บอก แต่ใส่บอกไปข้างหน้าเลยว่าเป็นแนวแบบไหนก็ดี เพราะบางคนเขาไม่ต้องแค่ฉอดหรอก บางคนเขาก็ไม่โอกับการกระทำนางเอก เขาจะได้เลือกได้ด้วย จริงๆ แค่มึงใส่twกับอาจมีเสริมว่านางเอกแนวยั่วยวนก็ว่าไป เพราะนักอ่านธรรมดาบางคนที่ไม่ใช่ฉอดเขาก็อาจจะมีปมกับคนลักษณะนิสัยแบบนี้ เป็นการปกป้องตัวมึงด้วย+เป็นทางเลือกให้นักอ่านด้วยว่าจะไปต่อหรือไม่ไปต่อ
ส่วนตัวกูคิดว่าพูดถึงตรงคำนำนักเขียน หรือจากใจนักเขียนว่าตั้งใจให้คาร์นางเอกเป็นแบบนี้ๆก็พอว่ะ กูว่าtwมันดูเยอะแยะหยุมหยิมไป เก็บไว้ที่แรงๆหนักๆดีกว่า
แต่ความจริงมันสิวๆมากเลยนะยั่วคนที่เป็นแฟนกันคบกันแล้วอะ ให้ไปรับรู้เอาเองก็เป็นอรรถรสอีกแบบตอนอ่าน ไม่งั้นก็สปอยล์กันไม่จบไม่สิ้น
มา KY รูปประกอบในเรื่องนี่เวลาให้พี่เม้ดทำ epub เขาจะใส่รูปให้เราด้วยมั้ยอะ แบบเราต้องรีเควสไรเพิ่มเติมหรือแค่แนบรูปใส่ไฟล์ word ไปเลยจบ
Kyคือกูคิดใหญ่คิดโตเขียนงานพีเรียด แล้วมันต้องใช้เพลงประกอบเพลงนึงคนแต่งเพลงรุ่น60อัพ ทีนี้กูไปติดต่อขอลขส.เอาเนื้อเพลงมาใส่ในนิยาย เขาอยู่ต่างจังหวัดว่ะ กูจะขอบัตรปชช.ขอทำสัญญาทางเมสเซนเจอร์ได้ไหมวะ กูงงตรงเขาจะเซ็นรับเงินยังไง หรือแค่กูโอนก็เป็นหลักฐานแล้ว แบบตอนกูซื้อปกสำเร็จ
เพื่อนโม่งเคยทำสัญญากันทางเมสเซนเจอร์ไหม มันได้ใช่ไหมวะ
กุงงกับคำว่าเมียพระราชทาน ถ้าผชแต่งงานอยู่แล้ว ก็โดนยัดให้มีเมียพระราชมานได้หรอ แปกๆ
กุหมายถึงถ้าพระเอกแต่งงานอยู่แล้ว ถ้ามีพระราชเมียให้อีก เมียพระราชจะมรศักดิ์ต่ำหว่าหรือสูงกว่าเมียหลวง ถ้าของไทยนี่จะสูงกว่าใช่ปะ
>>286 ก็ถ้ามีเมียเอกอยู๋แล้วอะ ก็ไม่มีใครจะมาสูงกว่าได้นะ ถ้าสมมุติเจ้าหญิงสักคนจะเอาจริงๆ แม่งก็ต้องหาเรื่อง สอยเมียเก่าก่อนนอะ เพราะถ้าไม่ตาย อีเจ้าหญิงก็ต้องมาเป็นชายารอง เมียรองนะ ส่วนใหญ่พวกขุนนางจะให้เป็นของขวัญกันด้วย แต่ถ้าพวกเจ้าหญิงมาเป็นรอง อีกนางเอกก็ไม่ค่อยรองจริงอะ เมียหลวงก็ทำไรไม่ค่อยได้
สมัยก่อนของไทยมีเมียสี่ประเภทนะ เมียเอก เมียรอง เมียทาส เมียแต่ง ที่เคยอ่านมาจำได้คร่าวๆคือเมียแต่งนี่คือเมียราชทานนั่นละแบบเจ้ายกสาวให้อาจเป็นเจ้าหญิงก็ได้ หรือเป็นลูกสาวขุนนางสักคนแบบพระเอกไปรบมาทำคุณงามความดี แต่งเมียแล้วไงเจ้าอยากปูนบำเหน็จให้เลยหยิบลูกสาวขุนนางฝั่งตัวเองที่อยากมีคอนเนคชั่นกับพระเอกให้เป็นเมียแต่งไป ถ้าพระเอกมีเมียก่อนสองคนก็กลายเป็นเมียลำดับที่สามไป แต่ถ้าเจอเจ้าซีเรียสแบบไม่ได้ดิ คนของกูต้องอยู่สูงกว่า เมียเอกมึงลูกพ่อค้า เมียรองมึงลูกเจ้าเมืองปลายแถว เมียราชทานคือลูกขุนนางกรมคลัง ก็ต้องจัดลำดับใหม่ซะ ถึงชาวบ้านจะรู้กันทั่วว่าเมียราชทานมาคนสุดท้าย แต่ออกงานอะไรก็ต้องมาเป็นคนแรกๆ กิจการในบ้านต้องเป็นคนได้จัดการเอง เมียเอกเมียรองที่อยู่มาก่อนก็เป็นผู้ช่วยไปนะ
>>289 >>292 ไอ้เรื่องเมียมาทีหลังแต่ตำแหน่งสูงกว่าเลยได้ออกงานออกหน้าออกตาแทนเมียหลวงแม่งมีมาตั้งแต่โบราณละ ไอ้ตำนานเก็นจิไง เมียคนสุดท้ายของเก็นจิแม่งเป็นเจ้าหญิง มาทีหลังใครเขา แต่ได้ยกขึ้นเป็นเมียเอก ได้ออกงานแบบเป็นหน้าเป็นตาเพราะศักดิ์สูงกว่าทุกคน ข้ามหัวเมียหลวงแบบมุราซากิที่อยู่กับเก็นจิมาเป็นสิบปี จะบ่นก็ไม่ได้เพราะเขาศักดิ์สูง แถมอีผัวห่านี่ไปขอเขามาเป็นเมียเอง เจ้าหญิงนางก็อยู่เฉยๆแต่เสือกสาระแนมักมากนักอีเก็นจิ ยังดีที่เจ้าหญิงมันไม่เอาไม่สนใจอะไรด้านนี้ ไม่สนใจผัวด้วย มุราซากิเลยต้องจัดการในเรือนเองเหมือนเดิม เจ้าหญิงนางนอนเฉยๆเลี้ยงแมวไปวันๆ แต่อีแม่นมแม่งก็สาระแนไปฟ้องพ่อเจ้าหญิง อีเก็นจิเลยโดนด่าว่ามึงทรีตลูกกูแย่ๆแบบนั้นได้ไง ลูกกูเป็นเมียเอกนะเว้ย อีเก็นจิก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกไปเพราะหาเรื่องใส่ตัว
นิยายจีนที่กูอ่าน พระเอกเป็นอ๋องกำลังหาเมีย ต้องตาต้องใจนางเอก กะเลือกนางมาแต่ง สุดท้ายอีเต้แม่งแต่งตั้งลูกสาวขุนนางเป็นเมียพระราชทาน กลายเป็นเมียเอก นางเอกกุถูกดีดไปเป็นอนุ ดอกทองมาก อิเต้แม่งสาระแนจริงๆ
>>293 เมียคนนี้น่าสงสารสุดด้วยปะ เหมือนจะเป็นออทิสติกอ่อนๆ แม่นมสาระแนไปหาผู้ให้มาเยนางอีก ผู้คนนี้รักนางมากแม่นมก็แบบอุ้ยดีกว่าไอ้เห้เกนจิที่ละเลยเจ้าหญิง แต่นางไม่เต็มใจไงก็คือโดนข่มขืนนั่นละ แล้วโดนซ้ำๆหลายครั้งจนสติแตกเป็นบ้าจริงๆไปเลย ลูกชายนางยังเวทนาอะ แม่ทำตัวเป็นเด็กสาวเล่นกับแมวไปวันๆไม่รับรู้อะไรตำลูกไม่ได้ด้วยมั้ง คือเหมือนคนพังไปละ เรียกได้ว่าเป็นเมียที่ชีวิตชิบหายสองต่อ ต่อแรกคือเกนจิ ต่อสองคือแม่นม
>>293 เออแก้อีกๆ เมียคนนี้เกนจิไม่ได้ขอ แต่พ่อจะออกบวชเลยยกให้เองเพราะไว้วางใจเกนจิว่าเป็นคนที่ดีงั้นงี้ ซึ่งตรงไหนวะ555 แต่เอาเป็นว่าเมียคนนี้คือเหมือนมาทำให้เก็นจิใช้กรรมเก่าที่เคยทำไว้ในอดีต ไป ntr เมียพ่อแล้วมีลูกก็ดันให้พ่อรับเป็นลูกตัวเองไปซะ เจ้าหญิงสามนี่คือโดน ntr แล้วมีลูก เก็นจิก็ต้องรับเละทนเลี้ยงลูกชู้ไป จะปัดก็ไม่ได้เพราะพ่อเมียอุตส่าห์วางใจฝากตัวเองไว้ละ แถมเจ้าหญิงก็สติแตกไปอีกดูแลเด็กไม่ได้
>>296 จริงๆตอนแรกไม่ได้ขอไว้เองแต่ขอให้ลูกชายมั้ง แต่เสือกได้ยินว่าเจ้าหญิงมันเป็นญาติกับผู้หญิงที่เป็นรักแรกของมัน อาจจะหน้าตาคล้ายกันก็ได้เลยเกิดอาการเงี่ยน กูจะปล่อยให้คนที่อาจจะหน้าเหมือนรักแรกของกูหลุดมือไปไม่ได้ เลยบอกพ่อนางไปเดี๋ยวกูดูแลเจ้าหญิงเอง ทำผิดสัญญากับมุราซากิที่ว่าจะไม่มีเมียใหม่จนนางใจสลายลั่นวาจาว่าชาติหน้ากูไม่ขอเกิดมาเจอมึงอีก อีเก็นจิรับกรรมไปเพราะแม่งไม่ลืมรักแรกซักที แถมได้มาก็ไม่ตรงปกด้วยเพราะแม่งไม่เหมือนเลย แถมยังเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตไปอีก ผู้ชายในเรื่องเหี้ยล้วนทั้งนั้น ได้ผู้หญิงเพราะเข้ามาเรปถึงห้องทุกคน
>>298 ใช่ เมียแต่ละคนก็น่าสงสารนะ มุราซากิคือรับเละสุด เป็นเมียหลวงที่ระทมสัสๆ
แต่แม่งเป็นนิยายที่เหมาะแก่การเสพหาไอเดียแนวจบขมหรือโศกนาฏกรรมสุดๆ555 แบบกูอ่านละไอเดียพุ่งเลย อย่างขมอะแม่งจบแบบไม่มีใครมีความสุขสักคน เก็นจิตัวต้นเหตุนี่กูด่าได้ทั้งเรื่อง ขนาดมุราซากิขอก่อนตายว่าอยากออกบวชเป็นชีละทางโลก เก็นจิไม่ยอมกูหวงจ้ามึงต้องอยู่กับกูตลอดไป พอเมียขิตจริงค่อยมาสำนึกว่าทำเชี่ยไรไปวะ เลยบวชแก้กรรมให้แทนละงั้น ก็อยู่กับนรกในใจที่ไม่ยอมปล่อยมุราซากิไปนี่ละ
>>299 คนที่มีความสุขที่สุดน่าจะเจ้าหญิงดอกส้มมั้ง จากเจ้าหญิงอ้วนขายไม่ออก โดนสาวในวังแซะทุกวันหนังหน้าอย่างมึงใครจะมาขอแต่ง แต่เก็นจิถูกใจนิสัยเลยได้แต่งมาอยู่กันแบบเพื่อน เป็นที่ปรึกษา เก็นจิบอกจะเยกันก็ได้นะไม่ได้รังเกียจเพราะยังไงมึงก็แต่งมาเป็นเมียกู แต่นางบอกแบบนี้โอเคแล้ว ถือว่าจบดีและมีความสุข
Ky บ่นนิดนึง กูอยากเพิ่มหนังสือทำมือในกู้ดรี้ดจนทำ quiz เป็นไลบราเรี่ยนผ่านเกณฑ์มา 2 รอบละยังไม่ส่งเมลส่งอะไรมาเลย คือไม่รับกูเหรอ ให้ทำใหม่เนี่ย อะไรยังไง เจอกูปล่อยเฉลยลงเน็ตแน่
>>301 กูเคยไปอ่านที่โพสต์(ชาวต่างชาติอะนะ)เขาด่ากัน หลังๆรับไลบราเลี่ยนยากมากกก ยากแบบไม่รู้ใช้หลักเกณฑ์อะไรตัดสิน ทำไปก็ไม่มีประโยชน์ เสียเวลาเสียความรู้สึกเว้ย มันให้ทำแบบไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ผ่านควิซแล้วจะได้นะ ยังต้องผ่านเกณฑ์ตัดสินพิจารณาห่านเหวของมันด้วย หลายคนก็เหมือนมึงเลย เงียบหาย
>>302 โห ก่อนหน้านั้นไม่กี่วันกูไปเจอคนบอกว่าได้รับการอนุมัติใน 24 ชม เลยฮึดสู้ขึ้นมา เจองี้ละเซ็งเลย แล้วจะบังคับให้ไลบราเรี่ยนเพิ่มหนังสือได้ปค่ฝ่ายเดียวเพื่อ บางคนก็เป็นจนเลิกเล่นไปนานละ ไม่ใช่ทุกคนจะมีเวลา แต่ถ้ายังไม่รับอีกกูก็ว่าจะกวนตีนทำ quiz ให้ผ่านไปเรื่อย ๆ แหละ จดเฉลยไว้หมดละ แค่ก๊อปคีย์เวิร์ดลงแล้วตอบ555
ตอนนี้ก็อาศัย ไลบราเรี่ยนไทยไปแบบไม่คาดหวังเพราะช้ามากกก อยากแอดเรื่องไหนก็ยื่นเรื่องยื่นลิงค์ขอๆไปก่อนแล้วแต่ท่านจะเมตตา จนลืมๆไปแล้วอะ ถึงจะมาแอดให้ ก็ต้องทำใจมันงานฟรี ไลบราเรี่ยนเป็นร้อย คนมาเมตตาทำให้ไม่ถึง10
ถามความเห้นหน่อย สมมติประเด็นตลค.ญ.เป้นพี่น้องกัน แต่ 2 คนนี้ต่างกันม้ากก ฟีล A สวยเริ่ดหุ่นดีเรียนเก่งเป้นสาวเพอร์เฟก B ตรงข้ามทุกอย่างจนโดนพวกปากหมาแซว/เปรียบเทียบบ่อยๆ ทำนองโดนเก้บมาเลี้ยงเหรอ แม้แต่พ่อแม่ญาติก้ลำเอียงรัก A มากกว่า มันยังมีความเป้นไปได้มั้ยวะว่า B จะยังรัก A แบบบริสุทธิ์ใจ ไม่น้อยใจ ไม่อิจฉา (กรณี A เป็นคนดีและคอยปกป้อง B ด้วย)
คือกุลองมองมุมตัวเอง ถ้ากุเป้น B ลึกๆ ก้คงมีนอยด์ๆ บ้างแหละวะ 555 ถึง A จะดีกับกุกุก้คงไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้ให้โดนเปรียบเทียบอะ งี้ถ้าเป็นในนิยาย ถ้า B ผู้ชีวิตรัน
นทดยังเป็นสาวจิตใจดีรักพี่น้อง มันจะดูนางเอ้กนางเอกเกินไปไม๊วะ หรือถ้ามันไม่อยากยุ่งกับ A นักอ่านจะเห็นใจหรือคิดว่าอินี่ใจแคบจังมากกว่า ;-; ( เพราะยังไง A คนสวยก้ดีกับชีอะ แค่สภาพแวดล้อมส่งเสริมให้ B มันอิจฉา/รู้สึกแย่เฉยๆ)
>>307 ได้ ถ้า A รักแบบบริสุทธิ์ใจจริงๆ แต่ B อาจไปตั้งแง่กับพ่อแม่แทนแบบในครอบครัวนี้มีแค่พี่สาวเป็นเซฟโซน พ่อแม่ก็แค่คนแปลกหน้า คนอื่นร้ายกับกูไงก็ช่าง มีAที่แสนดีกับกูคนเดียวก็พอใจแล้ว
แต่ถ้ามึงไม่วางยาให้ A เป็นอิดอกแอ๊บใสใช้ B เป็นตัวเทียบเฉยๆ ก็ให้ A มีซีนปกป้อง B จากพ่อแม่ด้วยแบบพ่อแม่ด่าว่าโง่งั้นงี้ตอน A สอบยังได้คะแนนดีทำไม B ทำไม่ได้ A จะมีซีนมาปกป้องเลยแบบว่าพ่อแม่อย่าดุน้อง หนูแค่ถนัดวิชานี้เลยทำได้ดี ซึ่งถ้ามึงวางให้พ่อแม่ลำเอียงสัสๆ ก็จะยอมฟัง A เลิกด่า แต่ก็ยังไม่ฟัง B ต่อไปนั่นละ B ก็จะบวกความชอบไปอีกว่า A ทำดีกับเรา ถึงพ่อแม่จะรัก A ากปว่า แต่ A ก็ยังรักเรามากกว่า
ถ้าจะให้ B อิจฉา A ให้ได้ มึงต้องหย่อนปัจจัยเสริมอื่นๆมาแบบ B อยากได้รับการยอมรับจากพ่อแม่ Aช่วยหยุดโดนด่าให้ แต่B ก็อิจฉาไปอีกแบบพ่อแม่ฟังแต่พี่ไม่ฟังกูเลย สักวันกูจะมาเหนือกว่าให้พ่อแม่ยอมรับ พอ A มีอะไรดีๆเข้ามาในชีวิต เช่นแฟน เพื่อน B ก็จะแค้นไปอีกว่ากูไม่ได้ไรดีๆแบบนี้มั่งวะ เหมือนอยู่ใต้เงา A ตลอดเลย
Kyถ้าหนังสือออกกับสนพ.แล้วขายดีจนได้ตีพิมพ์ครั้งที่x =นักเขียนจะได้เงินทุกครั้งที่ตีพิมพ์เพิ่มใช่ไหมวะ?
กูเห็นหนังสือเล่มนึงขายดีมากตีพิมพ์เพิ่มไม่หวาดไม่ไหว เลยอยากรู้ววว
>>307 ตอบตรงๆคือได้ ขึ้นกับมึงจะใส่เหตุผลแบบไหน มันก็ขึ้นกับอดีตที่มึงจะเซท ถ้ามึงอยากให้คนน้องไม่อิจฉาคนพี่แม้แต่น้อย มึงก็อาจใส่ความใกล้ชิดพี่น้องแบบมากๆเข้าไป แบบสนิทกันรักกันจนไม่คิดอิจฉา หรือจะพลิกความอิจฉาเป็นความชื่นชมไปเลยก็ได้ มันต้องแล้วแต่ความสัมพันธ์และสภาพแวดล้อมที่มึงตั้งใจจะเซท จะเล่นแบบพ่อแม่สร้าง self esteemไว้ดีมาก แม้คนนอกจะมองว่าต่าง แต่ความมั่นใจที่ทางบ้านมอบให้คือทำให้นางสดใสรู้คุณค่าตัวเองก็เลยไม่จำเป็นต้องอิจฉาใครแล้วไรงี้ก็ได้
แต่ถ้าถามกูจะโลกสวยหรือไรคนจริงๆมันก็มีหมดนะ ขึ้นกับว่ามึงจะบรรยายแง่มุมให้คนคล้อยตามยังไงอ่ะ
แต่เดี๋ยวนี้นางเอกไทป์ยอมโดนรังแกโง่ๆไม่คิดเอาคืนคนอ่านไม่ค่อยชอบ ซึ่งกุว่าหลายเรื่องก็ไม่ใช่เพราะไร้เหตุผลซัพพอร์ทคาร์นะ เพียงแต่คนยุคนี้มักจะรู้สึกว่าได้รับความอยุติธรรมกดดันจากสังคมสูง พอมาอ่านอะไรแบบจำยอมๆเหมือนเดิมมันก็เครียด อยากเห็นอีสาวสู้เฟียสๆแทนกูที่โดนกดจนเฟียสมาฆ่าหักคอหัวหน้าหรือคู่แข่งหัวใจง่ายๆไม่ได้ มึงไม่สู้กุก็ไม่อ่านแล้ว ขัดใจ ซึ่งอันนี้นับว่าคนอ่านทิ้งเพราะคาร์ไม่ตรงเทสมากกว่าจะไม่สมเหตุสมผลล่ะมั้ง
>>307 มึงก็เอาจุดนี้เป็น conflict ตัวละครไปเลยดิ B อิจฉาพี่ A แต่ก็รักพี่ A มากเหมือนกัน เลยรู้สึกขัดแย้งในใจ อาจจะให้มีซีนปรับความเข้าใจ ได้เห็นแง่มุมของ A ว่า A ก็ไม่ได้เพอร์เฟคไปซะหมด สาวสวยเพียบพร้อมนิสัยดีก็มีมุมแย่ๆโก๊ะๆหลุดๆบ้าง ใครจะมาเพอร์เฟคตลอดเวลาแบบนั้น มังงะญี่ปุ่นเยอะแยะไปที่พี่น้องอิจฉากันแต่ก็รักกันจนอยู่ห่างๆแล้วมาปรับความเข้าใจกันทีหลัง
แนะนำให้ไปอ่านเรื่องสั้นของคนเขียนทาโกปี้ พี่ชายเป็นฮีโร่ของน้องในวัยเด็ก สนิทกันมาก มีกันสองคนมาตลอด แต่โตมาน้องเป็นนักเขียนการ์ตูนขายได้ร้อยล้าน พี่ชายเป็นแค่พนักงานออฟฟิศธรรมดา พ่อแม่และคนรอบข้างก็เอาแต่ยกย่องน้องชาย พี่เลยเกิดความอิจฉารู้สึกน้อยใจว่าตัวเองต่ำต้อยจนขอห่างน้องไปเอง แต่เวลาที่คับขัน พี่ก็เป็นที่พึ่งให้น้องได้ตลอดจนพี่มันก้าวข้ามผ่านปมในใจที่อิจฉาน้องไปได้ น้องก็รักพี่มากเหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้น้องมันจะเอาลักษณะนิสัยของพี่มันไปใส่ตัวละครพระเอกในการ์ตูนมันหมดเลยมั้ง เห็นพี่เป็นฮีโร่ของน้องเสมอ พี่น้องก็เลยกลับมาคืนดีกัน เรื่องแม่งโคตรดีเลย
Ky สอบถามคนเขียนนิยายในมือถือหน่อยว่าทำไงอะ ผ่าน doc เอาเหรอ คือกูลองแล้วแต่ไม่ชินอย่างแรงเลย ทั้งพิมมือถือทั้งซื้อคีย์บอร์ดบลูทูทมาใช้ จอมันเล็กเกิน มันไม่ได้อารมณ์เหมือนทำงานหน้าคอมว่ะ อุตส่าห์จะเอาเวลาว่างตอนพักในที่ทำงานมาทำซะหน่อย หมดกัน หาคอมพ์ที่บ้านท่าเดียวเลย แนะนำหน่อยสิ
>>313 ต้องลองใช้สักพักว่ะ แรกๆมันจะไม่ชินกันทั้งนั้นเพราะจอมันเล็ก ยกเว้นมึงใช้แทบเล็ตจะอึดอัดน้อยหน่อย พิมพ์ด้วยนิ้วจิ้มมันก็จะช้าๆหน่อย แต่ถ้าที่ไม่มีคนใช้พิมพ์ด้วยเสียงก็สะดวกดี ข้อดีคือนึกได้ตอนไหนกดพิมพ์ได้ทันที อารมณ์มาเมื่อไหร่บรรเลงได้เลย ฟีลประมาณเมาท์ไลน์อย่างเมามันน่ะ
แต่กุใช้แค่พิมพ์เนื้อหาแฮะ เวลาจัดหน้า ไล่วรรคตอนอะไรงี้กูยังจัดบนคอมสะดวกกว่าอยู่ดี doc มันนับคำไม่ได้ด้วยอีกต่างหาก รอคนที่บรรเลงบนมือถือล้วนมาแชร์แล้วกันนะ
ถามความเห็นหน่อยนิยายแนวแฟนตาซี ตัวเอกหลักถูกขังถูกผนึกอะไรก็ว่าไปห้าหมื่นปี ออกมาได้ก็ได้เจอตัวเอกอีกคนที่จะคู่กันก็ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆแล้วมาเฉลยทีหลังว่าตัวเอกอีกคนเนี่ยมันมีบรรพบุรุษเป็นพี่น้องของตัวเอกหลัก แบบนี้นับว่า incest ปะ แบบว่าห่างกัน2000รุ่นนับญาติแบบไม่ถูกละทั้งสองฝ่ายก็ไม่รู้มาก่อนว่าเกี่ยวข้องกัน นี่ส่วนตัวคิดว่าไม่ incest นะ แต่งงานกับคนในพื้นที่ใกล้ๆกันยังมีโอกาศรุ่นใกล้ชิดกว่านี้อีก แต่ดันไปเจอความเห็นว่ามัน incest เยอะเลย
>>313 กุ ๆ บรรเลงในโทสับจนจบดราฟต์แรก รีไรท์เช็กความเรียบร้อยค่อยทำในคอม ตอนแรกก็เป็นเหมือนมึง ไม่ชินเลย คิดว่าคงเขียนในโทสับไม่ได้แน่ รู้สึกมันเล็กไป + ตัวอักษรที่แสดงมันจำกัด มองไม่เห็นภาพรวมฉาก // แต่มหัศจรรย์มากที่ใช้ไปใช้มาเสือกชิน 5555 กุว่ามันอยู่ที่สไตล์มึงด้วย อย่าง >>314 ว่า อารมณ์มาเมื่อไหร่พิมพ์ได้เลย รึพิมพ์พล้อตเก็บไว้ ถ้ามึงพิมพ์อะไรในโทสับบ่อยจะชิน ทำไปนานๆ เดี๋ยวก็ชิน ตอนนี้กุไม่มองว่าจอเล็กละ บรรเลงมันส์ 55555
แต่ยังไงสุดท้ายก็ต้องใช้จอใหญ่ๆ ช่วยเช็กอยู่ดีว่ะ กุว่าตอนอ่านรีไรท์นี่จอขนาดไอแพดกำลังดี รู้สึกจอคอมใหญ่ไป กวาดตาอ่านละมีหลุด นั่งเช็กนานๆ ละเมื่อย
>>314 >>323 แต๊งมากกก คือกูพิมพ์พล็อตชั่วคราวรึบทพูดที่ปิ๊งขึ้นในได้นะ แต่ให้พิมพ์ดราฟต์จริงจังไรงี้ไม่ได้ว่ะ แต่คงต้องทำให้ได้
กูว่างงานมาตลอดแล้วเพิ่งได้ทำงานจริงจัง เข้าใจฟีลโม่งที่เคยมาบ่น ๆ ว่าหาเวลาเขียนนิยายหลังเลิกงานไม่ได้ละ เออ เหนื่อยเหมือนกัน ไม่มีอารมณ์เลยว่ะ อยากนอน อยากพัก 1 ชั่วโมงเพื่อเขียนนิยายกูก็ไม่มีให้ โหนรถทำงานมันเหน่ย จะพิมพ์ในมือถือในที่ทำงานคนก็เม้าฉ่ำ ทีวีในที่ทำงานก็ต้องเปิดค้างไว้ ยากมากจริง ๆ หาสมาธิไม่เจอ555 แต่ก็ได้เป็นแรงฮึดแหละว่าอยากออกนิยายบ่อย ๆ ออกเยอะ ๆ จนไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายได้ สู้!
>>324 คืองี้นะ ครั้งแรกสุด มันเริ่มจากการที่กูจะหลับ แต่เสือกปิ๊งไอเดียที่กำลังตันได้ขึ้นมา กูก็คว้าโทรสับมาพิมพ์เลย ทั้งๆที่นอนหงายในห้องมืดๆอย่างงั้นแหละ พิมพ์ไปพิมพ์มายาวเว้ย จากจะนอนห้าทุ่มปาไปตีหนึ่ง
พอเกิดแบบนี้ซ้ำบ่อยๆ (ไม่รู้เป็นไรหัวกุจะแล่นดีมากตอนใกล้หลับ ถ้าลุกมาเปิดคอมนะ บางทีไอเดียมันดับมันหายไปเลยว่ะ) สุดท่้ายแม่งก็ชินเฉยเลย กุเลยต้องเขียนบน doc เพราะมันสะดวกในเปิดเกลาบนคอมด้วย
ส่วนหน้าจอเล็กกุแก้ปัญหาด้วยการแบ่งพาร์ทไฟล์เอา กุไม่ได้เขียนตอนละไฟล์นะ แบบประมาณ ไม่เกิน 50 -60 หน้า ก็ขึ้นไฟล์ใหม่เลย ยังไงตอนเกลาไฟล์ใหญ่กุจะย้ายเอาไปเกลา final ใน word อีกทีอยู่แล้ว
แค่เรื่องอายุก็กินขาดแล้ว ผนึกเป็นร้อยปีพันปียังจะมากลัวเลือดชิดไรอีกวะ หรือถ้าจะอิงความเป็นจริงให้ได้ เขาก็มีนับกันว่าห่างกันกี่รุ่นถึงจะแต่งงานกันได้โดยไม่ผิดกฏหมายหรือศีลธรรม นับถัดไปอีก 4-5 รุ่นนี่แหละมั้งจำไม่ได้ คือแบบปู่มีลูกสองคน(0) ลูกคนแรกก็พ่อมึง ลูกคนสองก็อามึง(1) แล้วก็นับถัดไปจากตัวมึงหรือลูกของอา(2) หลาน(3) เหลน(4) ลื่อ(5) ตีซะว่าแต่ละรุ่นอายุขัยที่ 80 ปี 80×5= 400 ปี ระดับนี้ปู่มึงเป็นขี้เถ้า(0) พ่อมึงก็เกียมลงโลง(1) ตัวมึงก็แก่หง่อม(2) หลานก็วัยกลางคน(3) เหลนก็ผู้ใหญ่(4) ลื่อก็วัยรุ่น(5)
ถ้าจะแต่งกันก็คือในช่วงของ 4 หรือ 5 แบบเหลนจากฝั่งอากับเหลนของฝั่งพ่อ มีปู่คนเดียวกันแล้วไงผ่านมาถึงรุ่นสี่คือเลือดจางแล้ว จาก 1/1>1/2>1/3>1/4 พ้นเลือดชิดละ แต่ถ้าจะนับแค่มีปู่คนเดียวกัน(0)ยังไงก็ไม่ได้ งั้นชั่วชีวิตนี้คงไม่ค้องแต่งกับใครละเพราะมนุษย์มันสืบรากเหง้ามาจากบรรพบุรุษเดียวกันหมดอะ
>>276 >>278 มันมีมึง แบบกุมองในกรณีคนไม่มาปสด.เอาไปด่านะ มันมีคนที่เขาไม่คอมฟอทกับคนแบบนี้อ่ะ ซึ่งบางทีสมมติว่าเปิดมากำลังจีบๆดูๆกันเงี้ย(ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องของคห.ที่มาถามนะ)กว่ามันจะไปถึงจุดที่เป็นแฟนกันมันมีคนไม่โอกับคนลักษณะแนวนี้กับต่อให้เป็นแฟนกันบางคนเขาก็ไม่คอมฟอทอ่ะ ซึ่งบอกแต่เนิ่นๆมันเป็นอะไรที่เซฟทั้งสองฝ่าย ทั้งตัวคนเขียนและนักอ่านในการเลือกได้ เก็ทมั้ย ไม่ว่าจะแต่งแนวไหนเขียนบอกเลยว่ามีลักษณ์แบบนี้ไม่ใช่การสปอยเนื้อเรื่องแต่มันคือการบอกว่านิยายกุมีเนื้อหาแบบนี้นะ มึงจะไปต่อหรือพอแค่นี้ก็จงเลือก ถ้าเจอคำเตือนแล้วยังอ่านต่อแล้วมาดราม่าทีหลังก็คือไปจัดการตัวเองอะไรงี้อ่ะมึง มุมกุคือมันเป็นทางเลือกให้นักอ่านด้วยกับเป็นการเซฟตัวคนเขียนด้วยว่าเตือนแล้วจ้าไรงี้
>>313 กูใช้เวิร์คปกติเลยแต่อัปลงไดร์ฟ ตอนพิมพ์ก็พิมพ์แบบนึกไรออกก็เขียนๆไป แล้วค่อยจับคอมมาดึงไฟล์ที่แชร์ลงไดร์ฟไปเกลาเพิ่มแบบแก้คำผิด จัดหน้า ให้สมบูรณ์กว่าเดิมอะนะ พิมพ์ด้วยแป้นในมือถือนี่ละไม่ใช้อุปกรณ์เสริมอะไร ข้อดีอย่างรือไม่ต้องหลงเปลี่ยนภาษาด้วย ในคอมทำกูหัวเสียมากเพราะชอบลืมสลับภาษา555 กูติดนิสัยพิมพ์แบบต้องแต่แป้นก่อน พิมพ์จนจบค่อยมามองจอไง
มีใครเขียนแนวทำฟาร์มสร้างเนื้อสร้างตัว ทำกิจการ ในเซตติ้งแฟนตาซี หรือพีเรียดมั้ยวะ มีทริกกำหนดค่าเงิน ค่าของแบบง่ายๆ ที่ใช้ได้แบบไม่ต้องคิดเยอะมั้ยวะ คือกุกำลังมึนมาก มันต้องบรรยายแผนธุรกิจตัวเอกอ่ะ มีคาดการณ์กำไรพวกนี้ด้วย แต่กำหนดไปกำหนดมาคืองงเอง เพราะเทียบราคาสินค้าอุปโภค เทียบค่าต่างๆในบทก่อนๆ กะกำไรกิจการแล้วคิดว่าดูแปลกๆ พิกลแฮะ
>>331 กูทำค่าเงินใหม่เลยแบบ สกุลเหรียญละกัน หมูหนึ่งตัวก็ 1,000 เหรียญ จะทำให้ถูกหรือแพงแล้วแต่จะเสริมไปเช่นคุโรบุตะ ก็อัปไปซะ 2,000 เหรียญ หรือเล่นกับพื้นที่ได้แบบบ้านริมทะเลเลี้ยงหมูยาก บ้านบนเขาเลี้ยงหมูว่าย บนเขาตัวละ 1,000 เหรียญคือราคาถูกสุด ที่ทะเล 1,000 เหรียญคือได้หมูครึ่งตัวเองงี้ แล้วก็เอาสินค้าอื่นมาทำให้มูลค่าเพิ่มเช่นเกลือที่บ้านทะเล ขายเป็นโลละ 1,000 เหรียญ บ้านภูเขาหายากก็คิดเป็นกรัมละ 500 เหรียญ คราวนี้ง่ายเลยจะแลกเป็นของกันก็ได้แบบบ้านภูเขาจะเอาเกลือ ก็ส่งหมูไปแลกเกลือในมูลค่าเท่ากันไรก็ว่าไป
ส่วนจะมาแปลงค่าเป็นเงินปจบ.ไงอย่าไปสน ถ้ามึงเซตโลกขึ้นใหม่อะ
>>336 ยกตัวอย่าง เสื้อผ้าชุดนึงตีราคาแล้วได้ 100 เหรียญ สามารถเอาแลกปลาตัวละ 5 เหรียญได้ 20 ตัวงี้ ถ้ามีไม่พอก็เอาของอย่างอื่นมาแลกเพิ่ม อย่างพวกสมุนไพรใบละ 3 เหรียญ เนื้อตากแห้งชิ้นละ 10 เหรียญ ฯลฯ เอามาสุมๆ กันให้ได้มูลค่า 100 งี้ และถ้าขาด-เหลือก็อาจจะไปก็จะเอาแร่เงินที่มาหลอมเป็นเหรียญแบนๆ ง่ายๆ มาจ่ายเพิ่ม อะไรทำนองนั้น
ส่วนเรื่องเก่ากูแนวแฟนตาซีอันนี้กูคิดระบบเงินตราขึ้นมาง่ายๆ เลยคือ เหรียญทองแดง > เหรียญเงิน > เหรียญทอง
อุหว่าาาา วันนี้อารมณ์มานั่งเขียนไปได้ตั้งหมื่นคำ
อยากให้ทุกวันเป็นแบบนี้จังว้อยยยยย
ขอบคุณเพื่อนโม่งทุกโม่งมากมาก กุ 331 นะ
กุลองเอาค่าเงินปัจจุบันไปอะแดปตามที่โม่งแนะนำแล้วก็ได้พบว่า เงินแม่งโคตรจะเฟ้อเลยมึง 555 ทำไมกุต้องพบเจอความจริงของเศรษฐกิจโลกในนิยายกุอีกวะเนี่ย แต่เดี๋ยวกุค่อยๆตบจากหลักการนี้ก่อน บางทีตบแล้วอาจดูสมเหตุสมผลกว่าอันเดิมกู
คือตัวหน่วยเงินสมมุติอ่ะไม่มีปัญหาหรอกมึง มันมีปัญหาตรงค่าเงินเทียบของนี่แหละ คือพอ.นอ. กูจีบกันบนการตั้งเนื้อตั้งตัวของนอ.น่ะ ดังนั้นค่าแรง ค่าจ้าง ค่าของขวัญ การฟ้องร้อง ค่าที่ดิน ค่าจ้างคนปรับปรุงร้าน ภาษี รายได้ต่อหัวประชากร แม่งทยอยกันโผล่มาตลอด เป็นส่วนสำคัญในการสร้างสถานการณ์ของกูน่ะ พอนานๆไปแม่งพบว่ารายได้กิจการพระเอกรวยเว่อร์ ชาวบ้านจนสัดหมา ของถูกชิบหายพระเอกขายกี่ล้านชิ้นต่อปีวะถึงรวย เป็นแค่พ่อค้าเมืองขนาดกลางแท้ๆ ประชากรมึงเยอะขนาดนั้นที่ไหน แล้วนอ.กูต้องทำกำไรจากร้านกี่ปีจะคุ้มทุนปลดหนี้จากพอ.ได้วะ กุเจอความไม่บาลานซ์อย่างจังตอนที่พวกพอ.ต้องสุมหัวเสนอแผนกิจการลวงนอ.ไว้จีบนี่แหละมึง
>>339 ถ้าอิงจากความจริงนะ ถ้าเริ่มตั้งแต่ตั้งร้านและปลดหนี้ได้หมดก็ใช้เวลานับสิบปีแหละ แต่ถ้าว่าต่อมันจะเป็นเรื่องการบัญชีแล้ว
เอาเป็นว่ากูเขียนลำดับการสร้างกิจการง่ายๆ โดยอิงความจริงละกัน
1. เวลาตั้งธุรกิจขึ้นมาโดยไม่มีทุนมึงก็จำเป็นต้องไปกู้เงินกับธนาคารให้เขาช่วยลงทุน
2. เอาเงินมาสร้างร้านซื้อวัตถุดิบทำสินค้าขาย
3. ขายของได้เงินมาก็ต้องเอามาหักต้นทุน + ค่าแรง + ค่าใช้จ่ายต่างๆ + ภาษี + หนี้สินใช้หนี้ ส่วนที่เหลือเท่ากับกำไร แต่ถ้าเข้าเนื้อก็ขาดทุน
4. ถ้าได้กำไรก็ต้องเก็บเอาไว้เป็นทุนสำรอง หรือไม่ก็เอาไปลงทุนต่อขยายกิจการ
5. วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังมีกำไรจนกว่าหนี้ที่กู้มาจะหมด แต่ถ้าบังเอิญเจอเหตุการณ์ขาดทุนก็เตรียมหายนะได้เลย
นี่คือการดำเนินธุรกิจแบบง่ายๆ ที่ควรจะรู้ แต่เวลาเขียนนิยายจริงเขาก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไร คนเขียนมักจะใช้วิธี 'เสก' มาเลย เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่คนอ่านสนใจจะอ่าน จึงพอหยวนๆ ให้มันดูไม่สมเหตุสมผลได้ เว้นแต่ว่าเซ็ตติ้งสุดโต่งจริงๆ อย่างเช่นเปิดร้านอยู่ในสถานที่ห่างไกลแต่กลับมีรายได้เป็นล้านๆ งี้ อันนี้คงโดนติเพราะไม่สมเหตุสมผลอะ
Kyถ้าสมมติตั้งเวลาวางขายนิยายล่วงหน้าวันที่12ธค.
ระหว่างนี้จะใช้สิทธิ์ขอกิฟต์โค้ดฟรี เพื่อมาเช็กงานตัวเองก่อนวางขายได้ไหมวะ
หรือต้องรอวันที่12ทีเดียว
แนวผัวโหดตบจูบจับnc แล้วมาโบ้ทีหลัง แนวนี้มันจะมีโอกาสหมดกระแสหรือเบื่อกัน เปล่าหว่า
เราสังเกตมาทั้งของไทย ยุ่น เกา จีน แนวขายญ นี่ แนวไหน รูปแบบไหนขายได้ มันจะขายดีไปนานมากแม้จะมีแนวเดียวกันซ้ำๆจนแถมจะลอกกันมาก็ตาม จะเป็นนิยาย มังงะ webtoon ไรก็ตามแต่
ปรึกษาโม่งหน่อย กูเปิดพรีเล่มได้ไม่ถึงสิบ ซึ่งขาดทุน แต่กูโอนเงินให้ร้านออนไลน์ไปแล้วด้วยจำนวนหนึ่ง ในส่วนที่กูเปิดพรีได้เอง (เพื่อให้เขาจัดห่อส่งให้คนซื้อแทนไปเลย) จะโอนเงินคืนลูกค้าก็ลำบากละทีนี้ กูเอาไงดีวะ
-สั่งพิมพ์มาเลยสิบเล่ม ควักเนื้อออกไปก่อน แล้วรอกำไรจากเล่มพร้อมขายทีหลัง (ซึ่งไม่รู้ว่าจะค้างสต็อกไปอีกนานแสนนานเท่าไร)
-หรือ สั่งพิมพ์ตามยอดพรี แล้วไปรอกำไรจากอีบุ๊ก /เหรียญรายตอน พวกนี้ดี (ซึ่งก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย มาเรื่อยๆ ตอนยอนๆ แต่มันก็เป็น passive income ไม่เจ่า ไม่เสื่อม ไม่เสี่ยง ด้วย)
Kyถ้าราคาปกติครึ่งตัว1,700 นำไปใช้เชิงพาณิชย์×2 จะเท่ากับ =3,400
กูเข้าใจถูกใช่ไหมวะ กูสงสัยแต่ยังไม่กล้าถามอะไรนักวาดว่ะ กลัวถามเยอะแล้วไม่เอาเขาจะแขวนTT
>>347 เดามันคือความต้องการลึกๆ ของคนอ่านโดยเฉพาะเหล่าผู้หญิงน่ะ
ความเป็นจริงคือผู้ชายที่มันโบ้น่ะแทบไม่มีจริงหรอก ถ้าฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วยก็มีแต่ใช้กำลังชิงมา ไม่ก็ไม่ง้อไปหาคนใหม่เลย ในขณะที่นิยายแนวผัวโบ้คือไม่ว่าอย่างไรมึงก็ต้องคลานมาหากูอะไรทำนองนั้น ถ้าให้กูเดาคืออ่านแล้วอินเซิร์ทตัวเองเข้าไปให้รู้สึกมีอำนาจมีคนคอยกระดิกหางให้ ในขณะที่ความเป็นจริงมันไม่มีอะไรแบบนั้นล่ะมั้ง
อารมณ์เดียวกับแนวต่างโลกที่คนอยากจะไปอวดความสามารถโชว์เหนือกว่าให้คนอื่นดู ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไอ้สิ่งที่โชว์นั้นเป็นอะไรที่โคตรเบสิกนั่นล่ะ
>>352 เออว่ะ ชีวิตจริงมันโหดร้าย ผัวโบ้มาขอคืนดี ผู้หญิงใจแข็งไม่กลับไปอยู่ด้วย ผัวมาเฟียคลั่งรักมันเอาปืนมายิงเราทิ้งแล้วยิงตัวตายอีก
แต่กูว่าแนวนี้มันมีความตื่นเต้นด้วยแหละ มีความหน่วงหัวใจ ช่วงแรกไม่รัก ช่วงหลังก็ว้ายย สมน้ำหน้า รักเขาแล้วล่ะซี้ แต่กูไม่คลิกกับแนวผัวโบ้เพราะยังหาคนแต่งน้ำเน่าแบบกลมกล่อมถูกจริตกูไม่เจอ555 แต่ถ้าเจอคือจะแฮปปี้สุดๆ
>>345 ราคาต่างกันเยอะมั้ยมึง ระหว่างสั่งพิมพ์ ตามจำนวนกับสั่งพิมพ์ 10 ถ้าต่างไม่เท่าไหร่ แล้วไม่อยากรำคาญใจจัดการ กูว่าก็สั่งตามจำนวนที่ขายได้ ยอมขาดทุนแล้วปิดจ๊อบดีกว่า
ในมุมมองกู ถ้าค่าพิมพ์ต่างมาก การแบกสต๊อกไม่ถึง 10 เล่มนี่สำหรับกูมันโอเคนะ ไม่ได้จมอะไรมากเท่าไหร่ (แต่มันก็ขึ้นกับสภาพเศรษฐกิจมึงอีกทีอ่ะ ความจำเป็นแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน) ถ้าแปะในรายตอนเลยว่ามีเล่มพร้อมส่งให้สั่ง และมึงยังลงงานใหม่ไปเรื่อยๆ กูว่ามันต้องมีคนหลังๆสนใจเล่มบ้างแหละ ถ้ามีพร้อมส่งก็คงไม่คิดมากอ่ะสั่งแล้วได้เลยไม่เสี่ยง
ว่าแต่ไม่พิมพ์เผื่อเคลมหรือเผื่อเกิดปัญหาสักหน่อยเหรอ
กูขอมาแก้เขินหน่อยนะ กูคุยกับนักวาด ครั้งแรก เขินมาก กูนูกูสุดๆและจนมากด้วย ฮือออ
พวกมึงตลกดีว่ะ ไอ้โม่งบน มาแบบใสๆรักแรก สดใหม่เขินอายเพิ่งคุยกับนักวาดครั้งแรก
ส่วนไอ้โม่งล่างให้ฟีลเหมือนรอหย่าผัว เหม็นเบื่อ หมดรักหมดใจ รอมันส่งงานแล้วจะได้เลิกๆกันซะที5555
กูเองก็เพิ่งจ้างวาดปกไป โดนดองงานยาว คิวกูนี่ต้นเดือนปีหน้าเลย
ส่วนนักวาดกู ก่อนจ่ายมัดจำพูดดี มีตัวตน สบายๆ ชิลๆ พอกูจ่ายมัดจำเงียบหายไปเลย ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบใดๆ ตอบกูสักคำก็ดี เหมือนคุยกำแพง เฮ้อ กูก็รอตอบกลับ ภาวนาให้กูไม่ใช่ผู้ประสบภัย
พวกนายเองก็มีได้นะ นักวาดคนเปรตน่ะ
//ฉากหลังเป็นแสงอาทิตย์สาดส่อง
พูดถึงนักวาดช่วงนี้หลายคนชอบอวดกันว่ารับงานนอกได้เงินดีกว่าไทยหลายเท่าตัว
มานั่งดูนักเขียนอย่างเราๆ จะออกนอกคงเป็นไปไม่ได้ ไหนจะภาษา ไหนจะความต่างทางคัลเจอร์อีก
>>365 จริงมึง วายมาแรงมาก พวกยูริยาโอยของไทยเราได้แปลอิ๊งหลายเรื่องเลย ทยอยสร้างซีรี่ย์เอาดาราตัวท้อป ๆ มาเล่นอีกต่างหาก ไม่ใช่แค่สมัยที่เอาคนหนุ่มสาวหน้าดีอย่างเดียวมาเล่นละ พวกรุ่นใหญ่ในวงการก็อยากมาแตะบทพวกนี้กัน ได้ทีคือปังยาว ถ้ามีความฝันยิ่งใหญ่คือเริ่มวางแผนดี ๆ ฝึกปรือฝีมือแล้วเบนไปทางนี้ได้เลย
แนวยูริกูเขียนได้สบาย แต่มันก็ต้องมี สนพ ปะวะ
แล้วยุคนี้งานที่พิมพ์กับ สนพ นี่นับหัวได้เบย
Kyกุขอกลับไปถามที่ประเด็นนักวาด พวกมึงเคยเทกลางคันไหม แบบถ้าวาดออกมาแล้วรู้สึกว่าไม่หล่อเหมือนที่บรีฟไป แก้ยังไงก็ไม่ดีขึ้น กูเลยไม่เอาไม่จ่ายไฟนอลได้ไหมวะ
หรือโดยมารยาทก็ต้องฝืนใจเอามาและเสียงเงินไฟนอลไป
ถามโม่งหน่อย ถ้าพล๊อตพระเอกนางเอกอายุห่างกัน 1-2 ปี เป็นแฟนกันอยู่แล้ว และพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน แต่ทั้งสองคนก็ปิดไว้ไม่ให้พ่อแม่รู้
วันนึงเกิดมีเหตุอะไรซักอย่างให้ต้องมาอยู่บ้านเดียวกัน พล๊อตคลาสสิกก็อาจจะพ่อแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปทำงานต่างประเทศนานๆ
ด้วยความที่ตอนย้ายมายังไม่ 18 เลยต้องรับเป็นลูกบุญธรรม ทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นพี่น้องบุญธรรม
โดยนิยามมันก็ถือเป็น Pseudo incest แหละ แต่ด้วยความที่เป็นแฟนกันมาก่อนจะเป็นพี่น้องบุญธรรม แบบนี้มันจะโอเคป่ะ
เป็นรักใสๆ ไม่มีการบีบบังคับ grooming หรือใช้อำนาจความเป็นเจ้าบ้านรังแกข่มเหงอะไรเลย ฉาก NC จะมีก็คือตอนที่อายุ 18 ทั้งคู่ไปแล้ว
>>374 พล็อตเบสิคฝั่งเกาะเลยมึง แอบชอบ แอบมองกันอยู่ ยังไม่ทันจะไปบอกชอบ แต่พ่อแม่เราแต่งงานกันเลยกลายมาเป็นพี่น้อง
แต่เคสมึงนี่ไม่เห็นจำเป็นต้องมารับเป็นลูกบุญธรรมเลย พ่อแม่ก็ยังอยู่แค่ไปต่างประเทศ ก็เหมือนกับเขาฝากเลี้ยงเฉยๆนี่ ฟีลแบบลุงโมริรับเลี้ยงโคนันก็ไม่เห็นต้องไปยื่นเรื่องให้เป็นลูกบุญธรรมให้โคนันมันเป็นลูก ถ้าอีกฝั่งพ่อแม่ตายหมดก็ว่าไปอย่าง
>>379 มันจะกลายเป็นพล็อตปัญหาครอบครัวแทนอะเด่ะ หลายเรื่องเลยที่พ่อแม่แต่งงานกันใหม่ นางเอก/พระเอกเข้าไปอาศัยในฐานะลูกติดอีกฝั่ง แต่พ่อหรือแม่ตัวเอกดันมาตาย บ้านมาคุทันทีเพราะตัวเอกเป็นคนนอกแต่ต้องอาศัยบ้านเขาอยู่ ถ้าบ้านไหนดีกับลูกเลี้ยงก็ดีไปหรอก แต่ส่วนใหญ่จะไม่ใช่
ถ้านางเอกคุณหนูอายุน้อยกว่ามากพยายามเลี้ยงและฝึกพระเอก(ลูกน้องนางเอก)ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วเพื่อให้เป็นสามีในอนาคตอย่างลับๆ
แบบนี้grooming ไหม
>>375 >>377 ขอบคุณมาก กูอาจจะคิดเยอะไปเอง
>>376 ไม่รู้จักอ่ะ นิยายญี่ปุ่นกูไม่ค่อยอ่านแนวรักๆ ส่วนถ้าการ์ตูนคุ้นๆเหมือนมีพล๊อตคล้ายๆแบบนี้หลายเรื่อง
แต่ส่วนมากเป็นแค่คนคุยๆกันหรือเพิ่งเริ่มสนใจกันมากกว่าเป็นแฟนแล้ว มีแหวกแนวเรื่องนึงก็คือเป็นแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว
>>378 คือด้วยความที่เกาะดูไม่ซีเรียสกับประเด็นพวกนี้มาก กูเลยลังเลอยู่ว่ามาตราฐานเกาะใช้กับบ้านเราได้แค่ไหนน่ะ 555
จริงๆกูเริ่มคิดแล้วว่าเรื่องพี่น้องบุญธรรมมันจำเป็นแค่ไหน เพราะตอนแรกแค่อยากให้มาอยู่บ้านอีกฝ่ายนานๆได้โดยไม่ดูแปลกเฉยๆ
แล้วพอมาที่งั้นฝากเลี้ยงละกัน แล้วก็ลามมาเพิ่มเรื่องพี่น้องบุญธรรมเข้ามา ไม่งั้นอาจจะตัดประเด็นนี้ออกไปเลย
Kyแป้บ จู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ อยากถามมานานละ คืองี้ กูเคยดูคลิปยูทูปเล่าเรื่องสั้นในนิยายแนวระทึกขวัญของเกาะให้เป็นพรีวิวอยู่เรื่องนึง (สนพ.ส่งให้ ช่วยโปรโมทอ่ะแหละ) แล้วในเรื่องมันก็มีแบบตลค.ไปสถานที่ทางปวศ.งี้ คนเขียนก็มัเขียนถึงประวัติความเป็นมาคร่าวๆประกอบด้วยว่าใครอะไรยังไง ทีนี้ตอนอ่านจบ คนอ่านก็แบบออกคห.ว่าไอ้ตรงนี้มันดาบสองคม ทำให้เข้าใจผิดว่าต้องจำชื่อคนในปวศ.พวกนี้ด้วย เผื่อสำคัญต่อเรื่อง แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร ดังนั้นจึงไม่น่าใส่ไปลงเลย ซึ่งกูก็ตงิดๆตรงคำสุดท้ายแฮะ แบบมันใช่เหรอวะ ปวศ.บ้านเค้า เค้าก็รู้กันอยู่แล้วงี้ สมมติคนไทยเขียนแล้วใส่ประวัติอยุธยา คนต่างชาติมาอ่านก็ไม่รู้จักไม่คุ้นเคยเหมือนกันนิ ไอ้จะมาบอกว่าไม่น่าใส่มาเลยก็นะ... พวกมึงคิดว่าไงกันบ้างวะ กูคิดมากไปเองป่าว
หรือมาลองคิดดู เออ บางเรื่อง ชื่อพวกนี้อาจจะมีส่วนต่อเนื้อเรื่องจริงๆ แต่แบบ...กรณีนี้ก็แค่เล่าประวัติสถานที่ประกอบเฉยๆอยู่ดีอ่ะ จะแยกไม่ได้ว่าควรจำมั้ยเลยเหรอวะ
เอ๊ยๆ อีกนิด กูเพิ่งนึกได้ ไม่ใช่ตลค.ไปสถานที่ปวศ.ดิ แต่เป็นตลค.ยกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครอบครัวไปเปรียบเทียบว่ามีความคล้ายเหตุการณ์ในปวศ.นี้ๆต่างหาก แต่ก็นั่นแหละ
ปสด ตัวละครที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์แต่ออกมาทำอะไรไม่เหมือนในประวัติศาสตร์เยอะจะตาย
อย่างเกม Assassin creed 2 เรามีเพื่อนเป็นดาวินชี่วัยหนุ่ม เขาก็ยกมาแค่เป็นนักประดิษฐ์อัจฉริยะที่คอยทำของนั่นโน้นนี่ให้เราระหว่างอยู่ฟรอเรนท์เท่านั้น
คือในเมื่อเป็นเรื่องแต่งมันก็ควรหยิบยกมาแค่บางส่วนที่เด่นๆ ของตัวละครนั่นๆ ยกเว้นเรื่องนั้นตั้งใจย้อนเวลาไปแก้ไขประวัติศาสตร์จริงๆ แบบอีหนูหลุดไปยุคเซ็นโกคุ สปอยเนื้อเรื่องประวัติศาสตร์ให้โนบุนากะฟังพร้อมกับอัพเกรดยุทโธปกรณ์ให้เต็มอัตรา ซึ่งอันนี้คือแม่งฉีกตำราประวัติศาสตร์ทิ้งแล้วเขียนเรื่องใหม่เลย
ถ้างง สับสนเพราะไม่คุ้นชิน กูก็พอเข้าใจ ไม่ใช่ทุกคนจะรู้ประวัติศาสต์ต่างชาติขนาดนั้น แต่จะมาบอกว่าไม่ควรใส่มาก็ไม่ใช่นะ 555
มึงกูคาใจช่วงก่อนกูไม่มีไรทำเลยไปดำน้ำอ่านนิยายแนวเทพเซียนมาละพล็อตมันคืออิพระเอกอะความจำเสื่อม แล้วมันก็ผจญภัยฝึกวิชาแล้วก็ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกะคนๆหนึ่งมันเลยรักกัน แล้วก็มาเฉลยช่วงกลางๆเรื่องว่าอิพระเอกมันคือเทพระดับสูงมันเคยหมั้นแล้วจะแต่งแล้ว(ด้วยความเต็มใจและมันไปจีบเขาเอง)แต่มีสงครามก่อนมันเจ็บหนักหายตัวไปหลายพันปี คู่หมั้นมันอะรอมันมาตลอดเป็นคนเดียวที่บอกว่ามันยังไม่ตาย พอมันโผล่กลับมาอีกรอบคู่หมั้นมันคือพยายามจะทำให้มันความจำกลับมาอีกครั้งอยากให้กลับมารักกันเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ไปร้ายอะไรใส่คนรักปัจจุบันนะ แต่ออกแนวตามตื้อทั้งๆที่อิพระเอกบอกว่าไม่ใช่ จำไม่ได้ ไม่ได้รัก เป็นพวกมึงจะด่าตัวละครแบบนี้กันมะ กูงงทำไมกูอ่านเมนต์ละมีแต่คนด่านาง
>>405 ถ้าย้อนไปได้นางน่าจะปลงไม่เอาอะไรละมากกว่า ตอนจบกูงงๆเพราะมันแปลมึนๆแต่เหมือนที่นางยอมตายไม่ใช่เพื่ออิพระเอกแต่เพราะปวดใจเพราะหลังจากที่พระเอกที่รักนางทำลายตัวเองแล้วนางใช้เวลาเป็นพันๆปีกว่าจะฟื้นฟูโลกมาได้นางเชื่อว่าอิพระเอกรอดอยากให้มันกลับมาเห็นเลยตั้งใจดูแลสามภพอย่างดี แต่พออิพระเอกปัจจุบันสู้กับตัวร้ายอีกรอบสามภพก็แม่งจะพังอีกรอบ ซึ่งเอาจริงถึงนางไม่สละตัวเองอิพระเอกก็น่าจะชนะ แต่จะชนะแบบโลกเละเทะ90%ไรงี้นางทนดูสภาพนี้ไม่ไหวรับไม่ได้ที่คนตายเป็นเบือ ภูเขาแม่น้ำที่ตั้งใจจัดก็พังหมดซ้ำรอยเดิมเหมือนสิ่งที่ทำมาเป็นพันๆปีหายวับไปกับตาไรงี้
ขอพื้นที่ระบายอารมณ์ท้อแทร้ ปล่อยพลังงานลบ 555 กุเป็นนข.สายติสต์ ชอบเขียนแนวเฉพาะกลุ่มสุดๆ ขายเรื่องแรกละกริบสนิท ขาดทุนด้วยซ้ำ 555 ปลอบใจตัวเองไปวันๆ ว่าอย่างน้อยกุก็สนุกกับการเขียนนร้า ตอนนี้ก้ยังเขียนแนวเดิมอยู่ แต่เรื่องปจบ.แม่งยาวชิบหายยย จนเขียนไปเขียนมาละรู้สึกว่า แม่ง ใครจะมาซื้อวะ 555555 เอาซะหดหู่เลอ เขียนต่อไม่ออก คิดว่าแค่เขี่ยๆ ละเก็บไว้อ่านเองจะดีกว่ามั้ยนะ อย่างน้อยก้ไม่ต้องลงทุนลงแรงซีเรียสเรื่องคุณภาพงานเพื่อตอบแทนนักอ่าน ไม่ต้องแอบคาดหวังว่าจะมีคนซื้อมั้ย ไม่ต้องคิดเรื่องขาดทุนด้วย orz
นับถือใจนข.ทุกคนที่ผิดหวังกับผลตอบรับแต่ยังไม่หมดกำลังใจนะ พส.เก่งมากจริงๆ ขอคารวะ พอคิดว่าคงมีหลายคนที่ท้อจนยอมแพ้ไปก็เศร้าแทน เฮ้อ
>>409 กูเช่นกัน นอยด์ไปหลายวัน เพิ่งฟื้น ขายได้ 2,000 บาท จ่ายค่าพิมพ์ไป 7,000 (กูที่ถามเรื่องยอดพรีไม่ถึงวันก่อนแหละ) กะจะมาระบาย พิมพ์แล้วลบๆ แล้วรอบ สุดท้ายกูพิมพ์ไรไม่ถูก คิดว่าให้มันเป็นบทเรียนแล้วกัน ต่อไปจะไม่อยากได้อยากมีอย่างคนอื่นแล้ว เป็นแม่ค้าคิดกำไรเต็มตัว ที่ผ่านมาถือว่าลองผิดลองถูก …กูจะบอกว่าถ้าเขียนอดิเรก พยายามปล่อยวางให้มากกับผลลัพธ์เถอะ เอาที่มีความสุขเข้าว่า แต่ถ้าเขียนหาเงิน ยอดขายไม่ดีก็น่าเครียดอยู่ แล้วกูก็ไม่มีวิธีแก้ด้วย ดวงเอย ฝีมือเอย ใครจะวัดเส้น ใครจะกำหนดวันให้กูได้ ก็มีแต่ต้องทำไปเรื่อยๆ
Ky ถ้าพิมพ์จดหมายในนิยาย แบบพระเอกนางเอกคุยตอบกัน
พิมพ์เนื้อความในจ.ม.เป็นตัวเอียง หรือตัวหนาดีวะ
มีคำถามว่ะ เด็กม.ปลายมีซิกแพคนี่แปลกป่ะวะ พอดีตอนเรียนกูแม่งไม่เคยเจอ จะไปเจอกับพวกเด็กมหาลัยหรือไม่ก็วัยทำงานมากกว่า
>>417 นั่นมันเคสพิเศษป่ะวะ 5555555555555
ความทรงจำสมัยเรียนของกูคือ ต่อให้ผู้ชายจะหน้าตาดียังไงแต่หุ่นแม่งจะขี้ก้างกันหรือไม่ก็อ้วน ถ้าไม่ใช่คนที่ทำงานแบบต้องใช้รูปร่างหน้าตาก็ไม่ค่อยทำอะไรกับหุ่นตัวเอง ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้น ต้องขึ้นมหาลัยหรือวัยทำงานอะ ที่ผู้ชายมันจะหันมาดูแลตัวเอง เข้ายิม ออกกำลังกาย กินเวย์โปรตีน แต่สาวๆม.ปลายนี่หุ่นดีๆกันเพียบ เหมือนเด็กผู้หญิงจะสนใจดูแลตัวเองก่อนเด็กผู้ชาย
กูตัดสินใจไม่ถูกแฮะกับอายุตัวละครพี่น้องสองสาวนี้
คนพี่น่ะกำหนดเอาไว้ว่าอายุราวๆ 25 สวยเด่นเก่งสง่าเป็นคู่พระรอง รักน้องคอยดูแลน้องมาตลอด ส่วนคนน้องนี่จะธรรมดาบ้านๆ แต่เก่งงานหลังบ้านเป็นตัวละคร support แต่อายุกูยังเลือกไม่ได้ว่าจะเอา 18 ให้ดูมีวุฒิภาวะนิดหน่อย หรือจะลดอายุลงมาหน่อยเหลือซัก 15 ให้ดูเป็นเด็กน่าเอ็นดูไปเลยดีกว่ากัน
ตอนแรกเขียนเอาไว้คือราวๆ 14-15 ให้ดูเด็กไปเลยเพื่อตัดปัญหารักๆ ออก แต่พอมานึกดูแล้วให้อายุ 18 โตเป็นสาวหน่อยๆ แล้วแอบใสโมเม้นท์แอบปลื้มพระเอกอะไรทำนองนั้นน่าจะดูสนุกกว่ารึเปล่านะ?
>>419 >>421 แต๊งกิ้ว กูเอาจากประสบการณ์และคนรอบตัวกูเป็นเรฟน่ะ จะให้มีซีนนางเอก(สาวม.ปลาย) มองพระเอก(หนุ่มม.ปลาย)ถอดเสื้อหลังเล่นกีฬา จะเขียนให้ฮีมีซิกแพคด้วยแต่กูก็นึกถึงสมัยเรียนที่ถึงพวกรุ่นพี่หรือผู้ชายในห้อง ถึงมันจะไปถอดเสื้อเตะบอลกัน กูก็ไม่เคยเห็นพวกมันมีซิกแพคกันเลย อาจจะมีกล้ามลีนๆบ้างแต่ก็ไม่ได้เห็นแถวขนมปังแบบหุ่นนายแบบ แต่นี่พระเอกนิยายขายฝันมันก็ต้องหุ่นดีกันหน่อยอะนะ 55555555555555
>>422 มึง ตำแหน่งพระเอก เกิดมามีซิกแพคติดตัวค่ะ (แซว) นึกถึงเว็บตูนอะ จะเป็นบัณฑิตหนุ่ม เป็นเนิร์ด เป็นคนประเภทไม่น่ามีเวลาออกกำลังกายแน่ๆ ยังไงแม่งก็มีซิกแพคแน่นทุกตัว เหมือนเป็นสกินติดตัว กุละชอบมาก 555555
แต่เอาชีวิตจริง มันก็มีได้เหมือนกัน ไม่แปลกนะ เพื่อนกุพี่ชายเพื่อนพี่ คนรอบตัวกุแม่งบ้ากล้ามรึไงไม่รู้ กุเห็นมีหมด 555 ซิกแพคมันมีหลายรูปอะ ต่อให้ไม่แน่นปั้กเห็นเป็นก้อนเรียงสวยแบบนายแบบแต่เห็นรางๆ ก็นับว่ามีแล้ว เป็นพระเอกทั้งทีก็ขอซิกแพคให้หน่อย ใส่ๆ ไปโลด 55555
ปกติเด็กวัยรุ่นเนี่ย ผู้หญิงจะโตไวกว่าผู้ชายอะ สักม.6 นี่ผู้หญิงเป็นสาวแล้วใช่ปะมีปจด.มีหน้าอกเอวเริ่มเว้าขอด ส่วนผู้ชายก็คือเริ่มมีเสียงแตก นมแตกพาน ถ้าจะเอาเรียลๆม.6ที่มีกล้ามได้คือแตกหนุ่มแล้ว+ออกกำลังกายด้วย กินดีอยู่ดีประมาณนึงไม่อดอยากแดกแต่ขนมปังแทนข้าวงี้ พวกตัวแบนๆแต่เตะบอลประจำ ตอนถอดเสื้อก็เห็นกล้ามหน้าท้องอยู่นะไม่ใช่มีแต่ซี่โครง แต่กล้ามก็เล็กๆอะด้วยความมวลกล้ามเนื้อไม่มากงี้ ยิ่งตัวสูงด้วยเลยกลายเป็นคนตัวผอมโย่งไปอีก มีกล้ามแต่ต้องเบ่งถึงจะเห็นชัดหน่อย
แต่ถ้าจะมโนเสริมฝันพระเอกเป็นเด็กเนิร์ดไม่เคยออกกำลังกายแดกแต่ขนมแทนข้าว มีกล้ามโชว์สาวเฉยเออมึงก็ทำๆไปเหอะถือว่าเสริมฝัน555
ถ้าเด็กม.ปลายมีซิกแพคกูนึกถึงพวกเด็กไฮสคูลเมืองนอกมากกว่า พวกที่สังกัดชมรมกีฬาน่ะ เขาเล่นกีฬาจริงจังกว่าเด็กม.ปลายไทยเยอะ เด็กไทยแค่เตะบอลเหยาะแหยะหลังเลิกเรียน เด็กเมืองนอกแม่งเล่นกีฬากันจริงจังมีเป็นลีค ถ้าฟอร์มดีๆจะมีแมวมองมาดูแล้วพาไปเข้าทีมกับให้ทุน ตอนกูไปเรียนต่อที่เมกา ทางกลับบ้านกูมันใกล้สวนเจอพวกชมรมกีฬามาวิ่งจ๊อกกิ้งฝึกกล้ามเนื้อกันประจำ ยิ่งพวกชมรมเมกันฟุตบอลหรือฮอคกี้นี่ล่ำสัส ถอดเสื้อมาเห็นแถวขนมปังกันทั้งนั้น
มึง กุจริงจังจอมแก่นมาก ทำไงให้เขียนนิยายจบสักเรื่องวะ คือกุจะมุ่งมั่นอยู่แค่ตอนคิดพล็อตออก เรียบเรียงวางพล็อตว่ามีเหตุการณ์อะไรบ้างๆ อยู่ 2-3 วันแรก หลังจากนั้นก็ก็ไม่มีอารมณ์เข็นต่ออีกเลยอะ ใจกุจะเน้นถึกตะลุยเขียนแม่งให้ได้มากที่สุดตอนมีอารมณ์เขียน แต่คนเราจะเขียนได้สักเท่าไหร่ในสองสามวัน ถ้าไม่ใช่ขวัญใจโม่ง (ตกลงเขาบูชา ห้อยพระอะไร มีใครรู้มั่ง กุจะไปอัญเชิญบ้าง)
มันผ่านมาหลายเดือนแล้ว กุเขียนได้แต่สั้นๆ กะปริบกะปรอย เหมือนคนเยี่ยวไม่สุด พล็อตงอกเป็นล้าน เขียนจบเป็นศูนย์ มันวิกฤตมากจริงๆ พวกมึงเขียนจบกันได้ยังไง๊ มาบอกบุญกูหน่อย พลีสสส
>>428 ไม่เคยเอาลงเน็ตเลยอะ กะจะเขียนให้จบก่อนค่อยลง (ซึ่งไม่เคยจบ) หรือนี่คือสิ่งที่ขาดวะ แบบ แรงกระตุ้น การเขียนให้จบเพราะนึกถึงคนที่ติดตามงี้ ลงไปแล้วกูจะต้องแบ่งสมองมาเฟลถ้าไม่มีคนอ่านมั้ย แต่ความเห็นมึงก็น่าสนใจ อาจจะถึงเวลาที่กูต้องลองเริ่มทำให้มันจริงจัง
>>427 กูใช้วิธีตัดว่ะ ต่อให้วางเรื่องเป็นมหากาพย์แค่ไหน สเกลแม่งใหญ่สัสๆ กูจะโยนมันทิ้งแล้วดึงเอาแค่ช่วงก่อนจุดเปลี่ยน จุดเปลี่ยน ผลลัพธ์ของตัวละครมาเขียน เรื่องคู่รงคู่รองกูตัดทิ้งหมด ทั้งหมดมันจะอยู่ที่ประมาณสี่ถึงหกตอนจบ มึงก็จะได้ฉบับจบมาแล้วชุดหนึ่ง หลังจากนั้นกูก็ปล่อยจอยเลย ทิ้งๆ ไว้ถ้าอารมณ์มา เขียนเพิ่มส่วนที่ทิ้งไปได้ก็ขึ้นไฟล์ใหม่แล้วใส่เนื้อกลับเข้าไปตามที่ไหว เรียบเรียงเพิ่มอีกหน่อย ทีนี้มึงก็จะได้มาอีกฉบับล่ะ แล้วก็เลือกเลยว่าจะเอาฉบับไหนลง
Ky โม่งขอคำปรึกษานิดนึง กูคิดนามสกุลตัวละครนานมากกก background แบบผู้ดี มีเชื้อมีสาย กูคิดมาหลายนามสกุล เป็นพวกคำบาลีสั้นๆ แต่ที่เวิร์คสุดคืออันที่แปลว่าฝนดาวตก แต่กูเพิ่งเอ๊ะว่า เมิงงง ฝนดาวตก ดาวที่ร่วงจากฟ้า มันดูไม่เป็นมงคลปะวะ เขาจะเอามาตั้งนามสกุลหันเหรอ ปรากฏการณ์ฝนดาวตกโบราณเขาถือเป็นมงคลมั้ยมีใครรู้บ้าง หรือกูคิดมากไป ถ้าชอบก็ใช้ไปเลย
>>427 คือมึงเริ่มแล้ว แต่ไปต่อไม่ได้ใช่ป่ะ
ถ้ามันวิกฤตที่ความรู้สึกมึงนี่ ช่วยยากว่ะ คงบอกได้แค่มึงต้องฮึดอ่ะ อยากเห็นเรื่องนี้จบ อยากเห็นเรื่องนี้คอมพลีสอะไรงี้แล้วก็กลับมาหามันเรื่อยๆ หมดไฟก็ไปที่อื่นแป๊บนึง แต่สุดท้ายต้องกลับมาหามัน อย่าเอาความสนใจไปลงเรื่องใหม่แบบเต็มสเกลอ่ะ นึกอะไรออกโน้ตทิ้งไว้ แต่อย่าเพิ่งลงมือ
สองก็คือถ้ามึงโฟกัสได้แค่สองวันจริงๆ จงเขียนแค่เรื่องสั้น สามวันถ้าหัวแล่น อารมณ์มาจริงๆ หมื่นกว่าคำกูว่าไม่เกินแรงอ่ะมึง
สามถ้ามึงได้เนื้อมากระท่อนกระแท่นแล้วก็ไม่เป็นไร ให้ใช้เวลาเชื่อมทั้งหมดเข้าด้วยกัน เรื่องมึงก็จะสมบูรณ์เอง
กูดิ้นรนมาปีนึงแล้ว ได้มาแสนคำ แบบกระท่อนกระแท่น พอ.กูเพิ่งจะตกหลุมรักเอง กำลังจะจีบนอ. มึงว่ากุจะจบปีไหน ถ้ามึงท้อก็รู้ไว้ว่ามีกูดิ้นรนเป็นเพื่อนมึงอยู่คนนึงก็แล้วกัน
>>430 ปกติจะจดพล็อตไว้เป็นข้อๆ แล้วแยกว่าควรมีเหตุการณ์สำคัญกี่สถานการณ์ โน้ตคร่าวๆ ว่าจะเชื่อมยังไง จบประมาณไหน ที่จดไว้มันเนื๊อออออเนื้อ ได้อยู่หน้าหรือสองหน้า แล้วความรู้สึกมันเหมือนมันจบแล้วอะ 555 เวลามาต่อเหมือนต้องมาแทรกว่าควรให้ตัวละครพูดยังไงดี มันกระท่อนกระแท่นพอตัว ที่ผีคือบางทีผ่านไปมีอารมณ์มาต่อ ดันไปขัดแย้งกะที่เขียนไว้อีก พอมันรุงรังใจกูก็ไม่อยากอยู่กะเรื่องนั้นแหล่วว
>>433 ไม่ให้ไปสนใจเรื่องใหม่มากนี่ยากเลย กูมันสาวนักรักซะด้วยสิ 5555555 บางทีกูก็คิดจะทำแบบที่สามนี่แหละ นั่งเปิดไฟล์แล้วเล็งมาอันไหนมันมาผสมกันได้มั่งวะจะได้ดูเป็นเรื่องยาว 555 แต่พิจารณาแล้วคาร์พระนางมันไม่นิ่ง ไอ้พระเอกพล็อต1 มันไม่น่าทำอะไรแบบพระเอกพล็อต2 เลยว่ะงี้ จะกลายเป็นแกงโฮะไปหน่อย
ขอบใจพวกมึงที่มาแนะนำกันนะ กูอาจต้องไปแข็งใจเข็นให้มันจบเป็นกำลังใจตัวเองสักเรื่องมั่งแล้ว ถึงตอนนี้กูจะยังไม่รู้ว่าทำยังไงถึงรักษาอารมณ์ให้คิดหรือเขียนเรื่องสักเรื่องได้ติดต่อกันนานๆ ก็เถอะ
โม่งขอคำปรึกษานิดนึง พวกมึงรู้สึกยังไงกับประโยคนี้อ่า 'ดวงตาโศกซึ้งสีอำพันคู่นั้นงดงามราวกับโศกนาฎกรรมของเชกสเปียร์ส'
คือกูกำลังเขียนซีนที่พระนางเจอกันตัวเป็นๆ ครั้งแรก แล้วต้องบรรยายครส.พระเอกตอนสบตากับนอ. อ่า ซึ่งนอ.กูมีนัยน์ตาเศร้า เศร้าแบบสวยซึ้ง มองละสะเทือนอารมณ์ เหมือนเห็นหนังชีวิตฉายในแววตา (นางเอกกูโดนชีวิตสู้กลับหนักมาก แววตาไม่ได้สดใสตามอายุ) จะอธิบายว่าไงดีวะ 5555 สำหรับกูมันเป็นความเศร้าเหมือนตอนอ่านเชกสเปียร์ ทั้งสวยงาม รวดร้าว และน่าหลงใหลอารมณ์นั้นเลย คำถามคือจากประโยคข้างบน พวกมึงอ่านแล้วรู้สึกยังไง จับอารมณ์ของประโยคได้แบบเดียวกับที่กูพยายามจะสื่อมั้ย ขอบคุณล่วงหน้าทุกคำตอบเลย
'ดวงตาโศกซึ้งสีอำพันคู่นั้นงดงามราวกับโศกนาฎกรรมของเชกสเปียร์ส' < อันนี้อ่านละตีความว่าเชก ชีวิตบัดซับ
น่าจะเพิ่มว่างี้ป่ะ 'ดวงตาโศกซึ้งสีอำพันคู่นั้นงดงามราวกับบทประพันธ์โศกนาฎกรรมของเชกสเปียร์ส'
กูขอต่อจาก438 กูว่าน่าจะเพิ่มต่อจาก 'ดวงตาโศกซึ้งสีอำพันคู่นั้นงดงามราวกับบทประพันธ์โศกนาฎกรรมของเชกสเปียร์ส' ให้คนอ่านรู้เพิ่มด้วยว่าหมายถึงอะไร เช่น 'ดวงตาโศกซึ้งสีอำพันคู่นั้นงดงามราวกับบทประพันธ์โศกนาฎกรรมของเชกสเปียร์ส' งดงามตราตรึงแต่ก็ดูเศร้าซึ้งสะเทือนอารมณ์เพียงแค่ได้มองลึกไปในดวงตาคู่นั้นของเธอ ก็รู้สึกทั้งหลงใหลและรวดร้าวเจียนคลั่ง อะไรก็ว่าไป
*ขยี้ให้คนอ่านรู้สึกเพิ่ม
พอดีกุไปเห็นนข.ดังออกมาแชร์ปสก. (โพสต์นานละ) คนนึงขายเรื่องแรกวันแรกได้ไม่ถึง 5 โหลด อีกคนอวตารนามปากกาไปเปิดเรื่องใหม่ กะจะอุบไว้จนยอมออกมาสารภาพ (แต่สำนวนเขายูนีคจริง อวตารไปกุยังจับได้เลย555) บอกลงเว้บวันแรกคนอ่านกริบเหมือนเรื่องแรกที่เขียนเลย (ผลคือเรื่องนี้ติดท้อปออฟเยียร์ไปแล้ว555) อ่านแล้วกุรุสึกมีแรงฮึดยังไงไม่รู้ ตัวท้อปเขาก้เคยนูกูมาก่อนเนอะ บางคนขายไม่ดีก็คงท้อแทร้เหมือนเราๆ นั่นแหละ แต่ก็ยังปังได้ เอาว่ะ สักวันคงเป็นวันของกู ฮึบๆๆๆๆ เพื่อนโม่งก็สู้ๆ ใครได้เป็นตัวแม่ละมาให้กำลังใจกันบ้างนะ 5555
กูเขียนค่อนข้างช้าแต่อยากลงรายตอนนี่จะบริหารยังไงดีวะเนี่ย
รายตอนมันต้องลงต่อเนื่องถี่ๆ เพื่อดึงคนอ่านเอาไว้ตลอด แต่อาทิตย์นึงกูเขียนได้เฉลี่ยราวๆ 5000 คำเอง ถ้าหรูหน่อยก็อาจจะ 10000+ แต่เฉลี่ยก็แค่ราวๆ นั้นล่ะ ตอนนี้เขียนเก็บเอาไว้ราวๆ สองแสนละ แต่ด้วยความช้าก็กลัวเขียนไม่ทันลงอยู่ดี
KY พอมีใครรู้บ้างไหมว่า เวลาเราโหลด Fonts ภาษาไทย มาใช้เป็นคำโปรยในหน้าปกนิยายที่จะพิมพ์ขายอ่ะมึง มันต้องไปขออนุญาตใช้เชิงพาณิชย์กับผู้สร้าง Fonts เขาไหมวะ แล้วถ้าต้องขอ ต้องขอยังไง สมมติว่ากูไปโหลด Fonts ที่จะใช้มาได้จากเว็บไซต์ทั่วไปงี้
มึงงงงงงกูขอถามหน่อย กูจะเขียนพล็อตทะลุมิติเข้านิยายฟีลแบบเว็บตูน ดยุคเลดี้ไรงี้ แต่พระเอกกูในชาติก่อนอายุ 33 (เพราะกูจะเขียนให้มันมีความรู้เรื่องบอร์ดบริหาร จะได้ไม่ดูซูๆ) พอทะลุเข้านิยายอายุเหลือ 21 ส่วนนางเอก 19ย่าง20 แบบนี้พระเอกจะดูเป็นโคแก่แอ๊บเด็กป่ะวะ นิสัยพระเอกที่กูเขียนเป็นคนร่าเริงเอเนจี้ล้นๆ มองเผินๆเหมือนไม่ได้ความ แต่มีภาวะผู้นำคนสูง มีไอเดียสร้างสรรค์ พยายามยั้งๆสกินชิพกับนางเอก(มันก็รู้ตัวเองแหละ) แต่แอบอวยนางเอกในใจ ฟีลเหมือนนางเอกหลายๆเรื่องที่ติ่งพระเอกนั่นแหละแต่เปลี่ยนเพศเฉยๆ รวมๆแล้วมันจะดูกระลิ้มกระเหลี่ย เซ็กชวลฮาราจูกุนางเอกไปป่าววะ
แล้วคือ ส่วนใหญ่เลี้ยงผัวโตมากับมือ
>>454 กูไม่เขียนอะไรแบบนั้นหรอกเว้ย555555 นางเอกกูก็วางตัวดีแต่ดูออกว่าพระเอกคิดยังไง คือใจความหลักๆคือ พระเอกทะลุมาเยียวยาความเศร้าใจของนางเอก ค่อยๆสร้างความเชื่อใจใหม่ไปด้วยกันอ่ะ
>>455 >>456 นั่นแหละที่กูหวั่นๆ พอเป็นมุมมองตัวเอกหญิงแล้วมันดูซอฟๆลงอ่ะ บางเรื่องนางเอกทะลุมาเป็นเด็กตะเร้กๆแล้วหวีดตัวละชายแถมน้ำลายไหลได้โดยนักอ่านยังฟิน พอเขียนเป็น male lead แล้วมันต้องเพิ่มความเป็น gentleman+1000 ไม่งั้นกูโดนด่าฉ่ำ
เอาจริงๆนะมึงคนด่าอ่ะส่วนใหญ่แม่งไม่ซื้ออ่าน
คนอ่านจริงไม่ด่า
มีใครสายเอฟปกประมูลบ้างเพื่อน กุว่าจะเข้าวงการนี้แระ มีคำแนะนำให้กุมั่งบ่ สมมติกุมีงบ 10k เขาเปิดปุ๊บกุควรจัด 10k แต่แรกเลยดีมั้ย ใครให้มากกว่านี้ก็เอาไปเลย ไม่สู้แระ 5555 หรือควรดูลาดเลาก่อนเป็นดี??? ++++ เรื่องความคุ้มค่า ปกเดี่ยว 2 ตลค. 15k นี่มึงว่ากำลังพอดีมั้ย หรือมากไป เอาไปจ้างคมช.ปกติดีกว่า
>>459 ถ้าเล็งไว้มาบิดต่ำๆก่อนsbก็ได้ แล้วตั้งเวลามาส่องเรื่อยๆ เช่น24ชั่วโมงก็8ชั่วโมงมาส่องทีถ้าว่างจะถี่หน่อยก็ได้ พอ2ชั่วโมงสุดท้ายมาเฝ้าไว้ ถ้ายอดบิดยังไม่ถึงเท่างบมึงก็ดีไป ชั่วโมงสุดท้ายก็ เตรียมบิดได้เลย แต่ถ้าเกินไปไกลเช่นหลักแสน กูก็ลาละ5555
คมช.คู่ หมื่นห้าได้ดีๆอยู่นะ หัวถึงตีน รวมฉาก รวมองค์ประกอบเช่นรอยสัก แหวน นาฬิกาเครื่องประดับ รวม ชพณ.ก็ราวๆนี้
ky สอบถามเรื่องคำแทนตัวว่าเฮียหน่อยมึง คนที่แทนตัวเองด้วยคำว่าเฮียเนี่ย เขาจะเรียกพ่อตัวเองว่าป๊าหรือเตี่ยอะ
>>462 มันก็หลากหลายว่ะ ขึ้นกะตัวละครมึงเป็นจีนสายไหน ถ้าจำไม่ผิดนะ แคระจะเรียกป๊า ส่วนแต้จิ๋วจะเรียกเตี่ย จีนกลางเรียกไรวะ น่าจะป๊า เหมือนกันมั้ง
แต่บางคนก็เรียกพ่อเนี่ยแหละ ฟีลป๋า ฟีลลูกพี่เบียวๆ แค่นั้น ไม่ได้มีเชื้อจีนหรอก
และถึงเป็นคนจีนเค้าก็แทนตัวเองว่าเฮียแค่กับน้องๆว่ะ ความหมายที่พวกเชื้อจีนใช้กันจริงๆ มันก็แทนคำว่าพี่นั่นแหละ
>>462 อีกนิด เท่าที่กูเห็น ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีคนเรียกตัวเองว่าเฮียนะ ปกติใช้อั๊ว คำว่าเฮียมักจะเป็นคนอื่นเรียก นานๆจะเห็นคนแทนตัวเองว่าเฮียซักที และมักจะใช้กับคนสนิทๆ ฟีลอบอุ่น ไม่ได้ใช้กับทุกคน เพราะมันสื่อถึงความอาวุโสด้วย บางทีคนฟังอาจไม่พอใจ หาว่าไปข่มเค้า เคยเห็นคนจีนเยาวราชรุ่น 50-60 อัพคุยกัน ต่างฝ่ายต่างเรียกอีกคนว่าเฮียก็มี
>>462 ส่วนกูเจอในนิยายบ่อย คนชอบนะเรียกพระเอกเป็นเฮียอะ ในกรณีที่หมายถึงแทนตัวว่า"เฮีย"กับนางเอก(แล้วนางเอกแทนตัวว่าหนู) ในนิยายหมวดรักวัยรุ่น ส่วนใหญ่พระเอกเชื้อสายจีนสไตล์นี้จะแทนตัวว่าเฮียกับนางเอกแล้วเรียกพ่อตัวเองว่าป๊า
พระเอกของบบลล.; Lทีa หลายเรื่องคือสไตล์นี้เลย
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องพระเอกเชื้อสายจีน กูขอเสนอความเห็นนิดนึง
หลังๆกูรู้สึกว่านิยายแนวคนจีนที่เขียนๆกันมันจะจีนแค่คำเรียก ป๊า ม้า เฮีย เจ๊ แต่การใช้ชีวิตของตัวละครไม่ค่อยจีนเท่าไหร่ ซึ่งจริงๆก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกถ้าปูเรื่องว่าเป็นครอบครัวจีนยุคใหม่ ไม่ถือธรรมเนียม ปัญหาคือบางเรื่องบอกว่าจีนจัดๆ อพยพมาตั้งแต่สมัยอาเหล่ากง แต่ไปงานศพไม่มีกิ่งทับทิม บ้านไม่ไหว้ตี่จู่เอี๊ย ไม่ไหว้เจ้า ไม่พูดถึงน้ำชา ไม่มีแต่เหลี่ยว ตอนเช้าไม่กินข้าวต้ม ลูกสาวแต่งงานไม่มีฉากแจกขนมหมั้น กูว่ามันก็เป็นจีนที่แห้งๆยังไงอยู่ ถ้าเสริมรายละเอียดเล็กๆน้อยๆพวกนี้เข้าไปในเรื่องได้ มันน่าจะสมจริงขึ้นนะ
Ky ช่วงเดือนสองเดือนมานี้มีใครเป็นแบบกูไหม คือพออัพนิยายลง raw แล้วมันชอบตัดตอนประโยคบางอันหายไปเลย โดยกูก็กดวางปกติไม่ได้พิมพ์แก้ไขอะไร แล้วมาเห็นอีกทีตอนเผยแพร่ไปแล้วด้วย เซ็ง
>>471 ใช่ กูไม่ได้มีปัญหากับเรื่องนั้นเลยนะ งานดี อ่านเพลิน แต่กลิ่นบางอย่างมันทำให้รู้สึกว่าคนเขียนไม่น่าโตมาในครอบครัวจีน อาจจะมีญาติหรือที่ปรึกษาเป็นคนจีนแต้จิ๋วแหละ แต่ตัวนักเขียนน่าจะใช้ชีวิตแบบไทยๆมากกว่า
เรื่องที่กูคิดว่าโคตรจะไทยเชื้อสายจีนที่สุดเท่าที่อ่านมาคือลอดลายมังกร แต่ถ้าใครมีเรื่องอื่นก็แนะนำได้นะ
มึง ถามหน่อยถ้าพล็อตแบบตัวเอกมันเป็นคู่รักกันแล้วตายกลับชาติมาเกิดใหม่มีความทรงจำชาติที่แล้วทั้งคู่ แล้วทั้งคู่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายมีความทรงจำ แต่คนหนึ่งมาเกิดก่อนเลยเป็นผู้ใหญ่ละอีกคนยังเป็นเด็กอยู่ มึงจะถือเป็นเปโดกับกรูมมิ่งมะถ้าแบบว่าเอออีสองคนนี้มันก็รักกันเชิงชู้สาวตามความรู้สึกจากชาติก่อนนั่นแหละ แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางกายอะไรกันเกินเลยในชาตินี้ก่อนที่อีกคนจะโต มีมากสุดคือหอมแก้ม
>>481 ถ้าอย่างนั้น น่าจะแค่สัก 1/4 ของเรื่องมั้ยล่ะ กูว่าคิดว่าน่าจะรอดอยู่ล่ะ แต่แบบ ไม่ใช่ว่านางเอกทำตัวแอ๊บแอ๋เด็กตลอดเวลาล่ะ เอาจริงๆ เคยอ่านนิยายเรื่องหน่ง นางเอกมันเหมือนมีร่างใหม่แล้วยังอยู่ร่างเด็ก หรืออ่อนแอจนอยู่ร่างเด็กลืม นางเอกมันก็อยู่กับพระเอก แบบอุ้มซุกอยู่ในเสื้อพระเอกไปมา ก็ไม่ได้ครีปปี้นะ แต่อันนี้เปิดมาทุกคนรู้ว่าเป็นผู้ใหญ่ แล้วค่อยเป็นร่างเด็ก
มีคนเขียนสายจีนคนไหนเคยเจอเฟซส่วนตัวที่นามสกุลจีนๆ หน่อย ทักมาเหมือนจะซื้อ จะสนใจนิยาย แต่ออกแนวมาป่วนมากกว่าป่ะ
ช่วงปลายปีคิวคมช.เดือดมาก เล็งใครไว้ก็ขอให้ได้ขอให้โดนเด้อ ซู่ๆๆๆๆ
ky คนที่ใช้ลายเซ็นเป็นชื่อตัวเอง เวลาเปลี่ยนชื่อจะเปลี่ยนลายเซ็นตามมะ สมมติชื่อเดิมคือมิลิน ชื่อใหม่คือมิริน เวลาเซ็นชื่อจะเซ็นว่ามิลินหรือมิริน
คือกูจะให้มีฉากน้องสาวฝาแฝดเซ็นชื่อแล้วลืมตัวใส่ชื่อตัวเองแทนจะเป็นชื่อแฝดพี่ เพื่อนเห็นเลยถามแล้วนางเอกแถว่ากูเปลี่ยนชื่ออะจ้า
คือนางเอกกับพี่แยกกันอยู่แต่เด็กตามพ่อแม่ที่หย่ากันอะ ผ่านไปสิบปีเพิ่งมาเจอกัน เพื่อนแฝดพี่ก็ไม่รู้ว่ามีแฝดน้องเพราะแฝดพี่ไม่เคยบอก แนวๆสวมรอยแทนพี่เพื่อสืบสวนอะเพราะพี่นอนโคม่าอยู่งี้ นางเอกเลยมาสวมรอยแทน
ขายนิยายในต้อกๆ มันช่วยเพิ่มยอดจริงอ่อวะ มึงเคยซื้อนิยายจากการเห็นโปรโมตในนั้นมั้ย 55555
แล้วถ้าเป็น นว.เกาอะ พวกที่รับงานไทย คือ ยังไม่ใช่จุดสูงสุดขอฃห่วงโซ่ด้วยนะ พวกเกา การแข่งขันสูงมากกกก เทพเมพขิง นี่ส่วนใหญ่มีงาน สนพ.หมด ไม่เหลือคิวให้ ต่างชาติ
คำแสลงพวกตัวมารดา ปังมากพี่นัท บลาๆ ควรยกให้เป็นสำนวนได้แล้วเพราะทำหน้าที่ไม่ต่าง สำนวนไทยหลายอย่างก็ไม่ค่อยมีคนใช้เท่าไหร่แล้ว เหี้ยไรวะเนี่ย 5555
>>498 อีกอย่างกูว่าถ้าใส่แสลงพวกนี้เข้าไปในนิยาย ถึงตอนนี้มันจะยังฮิต แต่พอกลับมาอ่านในวันที่คำพวกนี้เชยไปแล้ว นิยายมันก็จะดูกระอักกระอ่วนอยู่นะ กูเคยใช้มาก่อน ให้ตัวละครพูดคำว่าจ๊าบมากลูกเพ่ กิ๊บเก๋ยูเรก้า พูดไปก็ไลฟ์บอย พอกลับมาอ่านอีกทีตอนคำพวกนี้ตกยุคหมดแล้วมันก็จะ cringe สัสๆ
แล้วกูเคยโดนโม่งบอกว่าอย่าไปใส่พวกคำฮิตในยุคนี้ลงนิยายให้มาก(รวมการเมืองบางอย่างด้วย) ตอนนั้นกูไม่เชื่อนะ แหงล่ะ เป็นลูกเจี๊ยบไม่ฟังคำนักเก็ต พอมาตอนนี้กูรู้ซึ้งละ แค่ไปอ่านนิยายเก่าๆหน่อย ปีสองปี ไม่ก็ห้าปี เจอคำฮิตในยุคนั้น ชิมิ รับแซ่บ 11รด บลาๆอีชะนี(แบบที่ใส่คำนี้มาเยอะมากๆๆๆๆ) มันก็ตกยุคแล้วเกิดความรู้สึกแปลกๆตอนอ่านเหมือนกันนะ เอาจริงกูรำคาญด้วยซ้ำตอนเจอ5555
มันจะแบบสำนวนฝรั่งที่ว่า age like milk น่ะสิ ทันสมัยตอนนี้ เดี๋ยวไม่กี่ปีก็เลิกฮิตแล้ว กูล่ะชอบโควตพวกที่บอกชาวนกเอ็กซ์ออกจากเอคโค่แชมเบอร์บ้างเถอะ ไปเจอโลกจริงบ้าง ใช้ในเน็ตก็ไม่ใช่หมายความว่าจะต้องรู้จักทุกคนมั้ย จะเล่นทีก็ต้องมาอธิบายกัน ยิ่งสมัยนี้มาเร็วไปเร็วจนตามแทบไม่ทันแล้วเนี่ย ไม่ต้องยกเป็นสำนวนใหม่เยอะแยะตายห่าเลยเหรอ บางคนยังมีหน้าด่าราชบัณฑิตว่าไดโนเสาร์ยังงี้ จะใส่เร้ออีก 5555
>>500 ของแบบนี้เวลาเขียนบางทีมันเดายากด้วยว่าคำไหนจะอยู่ไปนานๆ คำไหนจะเดี๋ยวมาเดี๋ยวไป
บางคำบางสำนวนใช้กันจนชินในชีวิตประจำวันบางทีมันก็ไม่ทันคิดว่าเวลาผ่านไปแป๊ปเดียวคนจะเลิกใช้กัน
ไหนจะเรื่องสังคมของคนอ่านคนเขียนไม่ตรงกันอีก อย่างคำว่า อะบูริจี้ มีมาเป็นปีแล้ว
แต่ไม่รู้เพราะอะไรกูถึงไม่เคยเห็นผ่านตาเลย เพิ่งรู้จักคำนี้เมื่อเร็วๆนี้เอง
ว่าแต่คำว่าชะนีเดี๋ยวนี้เค้าเลิกใช้กันแล้วหรอ ทุกวันนี้กูยังใช้คุยกับเพื่อนอยู่เลยนะ
แต่อาจจะเพราะคุยกับคนรุ่นเดียวกัน ไม่ค่อยคุยกับคนรุ่นใหม่เลยทำให้ยังติดใช้คำเดิมๆสมัยรู้จักกันใหม่ก็ได้มั้ง 555
ถ้าใส่นิยาย ว่าไงดี กูว่าเหมือนหลักฐานทสงเวลาอ่ะ แบบอ่อ แสลงนี้ ยุคนี้นี่นา แต่จะให้ยกเป็นสำนวนไทยคืออะไร๊ 555
>>504 ที่มามันเป็นคำเหยียดที่กะเทยเรียกผู้หญิงก็จริง แต่ที่คณะกูเป็นคำที่ใช้กันแบบฟรีสไตล์มาก
เรียกได้ทั้งผู้หญิง ผู้ชายที่แรดๆหรือตุ้งติ้งหน่อย เกย์ กระเทย เหมือนๆกับคำว่านางอ่ะ
ผู้ชาย/ผู้หญิงใช้เรียกผู้ชายที่แรดๆหรือตุ้งติ้งหน่อยมากกว่าเคสอื่นเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันสลับกับความหมายเดิมไปเลย
กูก็เลยก็ติดใช้แบบนั้นมาตลอดแบบไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นคำเหยียด ถ้าเผลอเอามาใส่ในนิยายสงสัยทัวร์ลงแหงๆ
อ๋อไม่ๆ ที่จริงกูก็ไม่ได้ซีเรียสกับคำว่าชะนีขนาดนั้น สาวๆหลายคนก็เต็มใจให้ใช้ ตุ๊ดบางคนก็เต็มใจให้เรียกตุ๊ด แค่บางทีเวลาเจอในนิยายมันคือคำว่าชะนีมาวางติดๆกัน แล้วเป็นคำอุทานซ้ำซากใช้เยอะๆเต็มเรื่องเหมือนคนเห่อ คู่ไปกับคำวัยรุ่นยุคนั้น จนกูอ่านแล้วรำคาญตาเฉยๆน่ะ กูยกคำนี้มายกตัวอย่างผิดเอง โทษทีๆ
แต่ถ้านิยายกูเป็นพีเรียด จะใส่บางคำเพื่อให้ดูเป็นคำพูดคำจาช่วงสมัยนั้นน่าจะดีกว่าไหมวะหรือมึงคิดว่าควรตัดไปเลย เช่น แทนตัวว่า"กัน" หรือ จ๊าบ ;เลิศสะแมนแตน;เด๊ดสะมอเร่
มึงกูไม่รู้จะถามที่ไหนขอถามห้องนี้หน่อยว่าคำนี้มันควรแปลว่าอะไรดี คือกูไปอ่านนิยายจีนแปลอิงค์มาละมีคำว่า hand-off shopkeeper ซึ่งความหมายมันคือแบบพวกหัวหน้า/เจ้าของที่วันๆไม่ทำงานเองแต่ผลักภาระให้ชาวบ้านทำแทนส่วนตัวเองไปลั้ลลาอะ
เรื่องภาษี ประเทศอื่นเขาเสียยุ่งยากแบบที่ไทยปะวะ
Kyถ้าในนิยายนางเอกเป็นดารา มีละครออนแอร์ รับบทเป็นอังสุมาริว แล้วในนิยาย มีซีนที่นางเอกถ่ายละคร ที่ยกบทพูดมาจากนิยายต้นฉบับ
แบบนี้ไม่ได้ เข้าข่ายทำซ้ำ ดัดแปลงใช่ไหมวะ
>>512 มันน่าจะเพี้ยนตั้งแต่แปล eng มาทอดหนึ่งแล้วล่ะ
เห็นทุกเรื่องพระนางที่เป็นคุณหนูคุณนายขุนนางก็สไตล์นี้หมดนะ จ้างหลงจู๊ทำ ถึงเดือนตรวจบัญชีกับรับเงินกำไร แต่ถ้าเป็นลูกพ่อค้าร้านตลาด จะมีเป็นคำว่าถังข้าว คือกินๆนอนๆผลาญเงินที่บ้านไปวันๆ กับ กินข้าวนิ่ม คือผู้ชายที่เกาะเมียกิน ออกแนวไม่ทำมาหากินทั้งคู่
แต่ทำนองเจ้านายที่ดีแต่ปากนี่ ตอนนี้กูนึกไม่ออกว่ะ
ถ้ามึงรุ้นิยายebookมึงโดนเอาไปปล่อยเช่ามึงจะทำไงวะ ฟ้องคุ้มไหม
ky สมมติว่าตัวละครเด็กฝึกงานคนนึงรู้จักกับคนใหญ่คนโตในบ. ได้มาฝึกงานเพราะผู้ใหญ่ฝากให้ แต่ชีขอไม่รับเงิน (เด็กฝึกคนอื่นได้เงิน) และเป็นคนเก่ง นิสัยดี ตั้งใจทำงาน ยังงี้คนในเรื่องกะคนอ่านจะมองนางไม่ดีมั้ยวะ แบบ อินี่แม่งเด็กเส้น จะโดนเหม็นมั้ยมึงว่า รึ เฉย ๆ มองว่าคอนเนคชั่น ไม่ผิด
>>523 อย่าเลย ปกติเรื่องแบบนี้เขาไม่ป่าวประกาศกันว่ะ คนเก่งๆใครจะไปยืดอกยอมรับว่าชั้นคือเด็กเส้นวะ ยิ่งมาบอกว่าไม่รับเงินฝึกงานยิ่งน่าหมั่นไส้อะ ให้นางทำตัวปกติทั่วไปเหอะ เด็กฝึกงานโดนทรีตยังไงนางก็โดนแบบนั้นไปด้วยดีกว่าจะให้นางทำตัวพิเศษไม่รับค่าแรงอยู่คนเดียว
บ.ที่กูทำงานก็มีเด็กฝากเด็กนายไรงี้อยู่ มี 2 อารมณ์แบบรู้ๆกันนี่เด็กเส้นแต่ไม่ได้พูดตรงๆ กับเปิดเผยตรงๆเลยว่าเออ นี่ล่ะเด็กฝาก แต่เด็กฝากคนนั้นคือลูกหลานเจ้าของบริษัทหรือคนรู้จักของเจ้าของบ. เรียนจบแล้วมาฝึกงาน มาทำงาน การทรีตก็จะคนละแบบกันเลย ถ้าไอ้เด็กเส้นทำตัวแบบกูมีแบ็ค กูเก๋า ส่วนใหญ่ก็นินทา มึงๆเออๆ แต่ถ้าทำตัวปกติไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าใครแถมยังขยันทำงาน คนเขาก็เฉยๆเรื่องเด็กฝากกันไปเอง
นั่งร้องไห้แป๊บ ช่วงนี้รู้สึกเขียนงานช้ามากกกกก
ล่าสุด 1 บท ความยาว 40 หน้าใช้เวลาเขียนทั้งสิ้น 11 วัน ถึงจะไม่ได้เขียนทุกวันก็เถอะ แต่ใช้เวลาเยอะไปแล้วว้อยยยย
พวกมึงปรึกษาหน่อย ถ้ามีตัวละครพูดภาษาถิ่น เช่น ภาษาอีสาน ควรจะวงเล็บแปลเป็นภาษากลางให้ไหมหรือปล่อยให้นักอ่านเข้าใจกันเอง
>>530 วงเล็บแปลด้วย หรือขยายความในอีกวรรคก็ได้จะดีมากกก กูเคยเจอภาษาใต้;อีสานไม่แปลให้หงุดหงิดแบบอ่านไปฉาบนักเขียนไป บางเล่มเป็นชื่อเรื่องเลย เช่น สายแนนจุดจุดจุด ก็จะมีหลายคนมาถามในเม้นเลยว่าสายแนนคืออะไรคะ?
คำในใจกูนะ เช่น เขียนเหมือนไม่อยากให้ภา คอื่นอ่าน ;ถ้าจะยัดภาษามาแบบนี้แล้วไม่มีซับ เก็บไว้อ่านกับคนที่บ้านไหมคะอย่าเอามาขายเลย
Ky ไปเจอคนเตือนภัยมา นานแล้วแหละ แต่กูเพิ่งรู้ว่าแบบนี้ก็มีด้วย คือส่งพรูฟ/บ.ก./เบต้ารี้ดใดๆ ละแม่งเอาไฟล์เราไปขาย สันดานเหี้ยจริงๆ น่ากัวว่ะ
ky มึงเคยเป็นไหม ที่ชีวิตจริงมึงเป็นคนไม่เครียด แต่ชอบมีแต่ไอเดียเขียนนิยายปมเครียดๆ แล้วพอเขียนจริงเพราะคิดพล๊อตอื่นไม่ออกก็เสือกเครียดเองอีก ใจมันจะตบมุกสามบาทห้าบาทตลอด กูสับสนมาก
>>532 ใช่ ส่วนนึงที่ไฟล์หลุดกันจนโดนไปทำเถื่อนก็มาจากขั้นตอนนี้ละ แบบบางคนล้ำกว่าทำกินสองทางไง ส่งงานให้นข.ได้ตังไม่พอ ก็เอาไฟล์ไปปล่อยเถื่อนต่อได้ตังอีกกรุบ แล้วพอไฟล์กระจายไปนานๆเข้าก็หาตัวยากละอะ ที่จับได้อาจไม่ใช่คนปล่อยคนแรกด้วยซ้ำ แต่ไปดูดมาปล่อยค่ออีกที เช่นคนแรกปล่อบในโอเพ่นแชท>มีคนดูดมาปล่อยต่อในโฟร์แชร์>จับได้แค่คนที่ใสโฟร์แชร์ เพราะจะสืบสาวถึงโอเพ่นแชท แชทแม่งอาจระเบิดหายไปละงี้ หรือตัวคนดูดมาก็หาหลักฐานมาให้ไม่ได้เพราะนานละอะ เลยรับเละคนเดียวไป คนแรกมันก้ลอยตัวสวยๆ
ไม่ใช่แค่ทำมือที่โดน ระดับสนพ.ก็ยังโดนจ้า ไอ้ที่ไฟล์เถื่อนออกก่อนอีบุ๊ค หรือสนพ.มีแค่งานเล่มไม่ทำอีบุ๊คก็ดันมีไฟล์เถื่อนออหอยู่ดีงี้
กูอยากจะร้องไห้ ยอดพรีกูขาดทุนย่อยยับอยู่ละ ยังมาเจอเหี้ยไรไม่รุ …ลูกค้า A มาบอกว่าจะสั่ง 1 แต่ไม่พร้อมโอน กูบอกเดดไลน์ไป เลยมาบอกว่าจะให้เขาสั่งให้แล้วไรท์ค่อยโอนคืนเรา แล้วก็มียอดโอนเข้ามาที่กู ชื่อที่อยู่จัดส่ง A
ต่อมา ลูกค้า B
แจ้งโอนมา 1 ให้ชื่อที่อยู่จัดส่ง B (กูถามแล้วว่ารู้จักลูกค้า A ไหม บอก ไม่รู้จัก กูเลยเข้าใจว่ายอดเป็นท2 บอกละนะทีนี้) สองสามวันผ่านไป หลังกูสั่งพิมพ์เรียบร้อย ลูกค้า B มาแจ้งกูขอเปลี่ที่อยู่จัดส่ง เป็นที่อยู่ A
กูถามยืนยันไปมา สรุปมันคือยอดเดียว แต่คุยข้ามไปมา ผ่านตัวกลางไม่รู้กี่ตัว สึดท้าย A บอก ก็บอกแล้วไงว่าให้ไรท์โอนคืนมาให้เราก็ได้
คำถามคือ ทำไมมึงไม่ไปจัดการโอนคืนกันเอง
กูแย้งไปแต่แรกละนะ ว่าอ่านอีบุ๊กไรก็ได้ เดี๋ยวจะสับสน
สรุปเล่นกูจริง
คราวนี้คำถามกูคือ…
กูสามารถโอนคืนมันได้ตามปกติไหม ปลอดภัยไหม
พฤติการณ์ คำพูดมันทำกูงง จนกูระแวง
ทำไมมึงสั่งตรงไปตรงมาไม่ได้ แล้วมาทำเหมือนกูเป็นแม่ค้าคนสนิท แปะโป้ง เซ็นไว้ก่อน แถวบ้าน ไรงี้
กูไม่เข้าจายยย กูเสียหายด้วยประเด็น เท่ากับกูสั่งเกินยอดมา 1
กูควรทำอย่างไรจ่อไป TT^TT
ไอเหี้ย ทำกูเข็ดกับหารทำเล่มแล้วจริงๆ มันเหนื่อยนะเว้ย !
>>539 อย่าว่าแต่มึงเลย กูอ่านก็งง สรุปคือ a โอนมาจองหนังสือไว้ก่อน แล้วให้ b โอนเงินยอดจริงมาทีหลังเพราะกลัวจองไม่ทัน แต่ b ดันบอกคนล่ะคนกับ a มึงเลยเข้าใจผิด สั่งไปสองยอด แต่สองคนนี้ดันมาบอกทีหลังว่าเป็นยอดสั่งเดียวกัน มึงต้องคืนเงินให้ a ถูกไหม?
ถ้าตามที่กูเข้าใจ มึงอย่าเพิ่งโอนคืน แคปส่วนที่ b บอกว่าไม่ใช่ a ให้ a ดู แล้วบอกไม่เลยว่ากรณีนี้จะไม่คืนเงิน เพราะถือว่าสอบถามก่อนแล้วเพื่อยืนยันยอดจอง
ของซื้อของขายไม่ใช่ของเล่นนะมึง มาโอนบ้าอะไรให้แม่ค้าเพื่อเอาคืน แทนที่จะโอนคืนกันเองตั้งแต่แรกเพื่อไม่ให้ยอดมันซ้ำกัน บ้าเปล่า
>>539 ทรงมิจจี้มากๆ ยังกะมุกABC ในตำนานอะ คือ A เป็นมิจจี้มาทักขายของให้ B แต่เอาสินค้าของ C มาขายนะ แล้วเนียนๆว้าเป็นคนขายของชิ่นนี้เอง พอ B โอนเงินให้ A ก็ชิ่งหายเลย B เลยเข้าใจว่า C มึงเล่นกูแล้วเลยไปแจ้งจับ C แทนที่จะเป็น A
แล้วมุกมีต่อยอดอีกแบบคือ A ก็เนียนเป็น B ไปคุยกับ C ว่าจะซื้อนะๆ หลอกถามข้อมูลเพื่อจะได้เนียนเป็น C ไปคุยกับ B สุดท้ายพอ A มันชิ่ง B ที่เข้าใจว่าคุยกับ C มาตลอดเลยไปแจ้งจับ C ส่วน C ก็นึกว่าคุยกับ B มาตลอดเช่นกัน ทั้งสองคนไม่มีใครนึกถึง A ไม่ดิ ไม่รับรู้การมีอยู่ของ A ด้วยซ้ำ เพราะ A มันเนียนเป็นทั้ง B และ C สับขาหลอกเลย
ใดๆคือถ้ามึงซื้อขายอะไรแบบนี้แล้วโดนบอกให้โอนคืน มึงอย่าไปสน อยู่เฉยๆนิ่งๆอย่าเอาเงินไปใช้ด้วย เดี๋ยวติดร่างแหว่าร่วมฟอกเงินบัญชีม้าไรไปอีก ถ้ามันอยากได้ตังคืนจริงมันก็วิ่งไปแจ้งธนาคารให้ดึงกลับเองได้อะ
กู 539 กูทำไงดีอ่ะทีนี้>>540 >>541 (มึงเข้าใจถูกแล้ว) >>542
คือ อี A มันบอกว่าเดี๋ยวบอกให้เขาโอนให้ก่อน (ซึ่งกูไม่รู้ว่าใคร จากนั้นมี B โอนเงินมาให้กู แล้วก็มีอีกยอดโอนเข้ามา แล้วปรากฏเป็นอี A ส่งสลิปมา กูเลยเข้าใจว่า 2 ไง ตอนแรกอี B ก็บอกไม่รู้จัก A แต่เมื่อคืนมากลับคำว่าเปลี่ยนที่อยู่ เป็นตรงกับ A แล้วบอกว่า C (ที่อยู่เดิมที่แจ้ง) บอกว่าสั่งให้คนที่ตรงหับที่อยู่ A สรุปนะ ตอนนี้มีขื่อคน 4 คนอ่ะ
มันโอนคืนกันเองไม่ได้ เพราะ A กับ B เป็นคนเดียวกันงี้ป่ะ C ที่อยู่เดิมก็คือมันอีกหรือเปล่า อะไรวะเนี่ย กูเอ็นดูตั้งแต่มึงมาถามจะตีพิมพ์กี่เล่มดีครั้งก่อนล่ะ
เรื่องเตือนภัยนี่ยังก่อนมั้ยมึง คือมันยังไม่สรุปว่าอะไรเป็นยังไงเลย เผื่อจะพีคกว่านี้ นี่เพิ่ง 4 คนเอง 5555
อ่า กูแค่ลงบันทึกพอ …กูก็เอ็นดูตัวเองนะ T^T กูเขียนแบบนูกูๆ แบบไม่เคยเรียกร้องความสนใจ เห็นใจ หาแสง เขียนไป ขายไปเรื่อยๆ มาเจอแบบนี้อีกกูเป็นท้อ คงเขียนขายแต่อีบุ๊กยาวๆ เรียบง่ายๆ ยาวๆ 5555 เทพสามตาอาจจะมอบสิ่งนี้ให้กูเพื่อบอกว่า พอค่ะะมึงพอ จะผลาญเงินตัวเองเล่นไปถึงมะไหร่
>>546 มิจฉาชีพชัวร์ มันทรงมิจจี้ตั้งแต่ที่มึงถามว่ารู้จัก A มั้ย แล้ว B บอกไม่รู้จัก แต่มากลับคำทีหลังให้เปลี่ยนเป็นที่อยู่ของ A แสดงว่ามันรู้จักกันหรือไม่ก็เป็นคนคนเดียวกัน
มึงไปแจ้งความไว้เลยเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจแล้วบอกให้มันทำเรื่องกับธนาคารดึงบัญชีไปเอง เจอแบบนี้โคตรหงุดหงิดเลยเพราะกูขายของเคยเจอ แต่กูบอกกูไม่โอนคืนใดๆทั้งสิ้น แล้วกูก็มาเดือดร้อนเพราะบัญชีนั้นกูใช้รับเงินแล้วมีเงินเข้าออกตลอด ต้องมาโดนฟรีซบัญชีเพื่อทำเรื่องคืนเงินให้แม่งไปอีก
เพื่อนนักเขียนกูขอปรึกษาหน่อย กูวางองค์นิยายรักไว้ 4 องค์ แต่ไม่รู้ว่ามันจะยืดไปมั้ย คือกูขอปูเสื่อหาเก้าอี้ให้มึงมานั่งฟังกูก่อนนะ
นิยายกูคือ ตบเกรียนนางเอกทะลุมิติ พระเอกชอบนางเอกเก่าในนิยายมานาน แอบตามเชียร์ตลอดจนวันนึงอิเซไคไปทั้งตัวเข้านิยายไปเลย แต่นางเอกอ่ะนางอยู่ใน 5 Stages of Grief ขั้น 4 คือโศกเศร้าจากการที่ถูกแย่งพระเอก(นิยาย)โดยสาวทะลุมิติ พระเอกกูเลยมาดามใจ โดยเริ่มจากสถานะหุ้นส่วนทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งกูไม่อยากให้ความสัมพันธ์ไปเร็วเกินไปเลยแบ่งองค์ด้วยกำหนดตอนจบแบบนี้
องค์ 1 : จบด้วยนางเอกเปิดใจให้พระเอก ให้เข้าบ้านได้(ห้องรับแขก)โดยไม่ต้องมีเรื่องงานมาก็ได้
องค์ 2 : จบด้วยนางเอกมีใจให้พระเอก เริ่มมีความหึงๆ ใจเต้นตึกตักๆ ส่วนพระเอกพัฒนาจากความรู้สึกชอบ+ตามเชียร์เป็นความรักจริงๆ ไม่ได้มองว่าเป็นตัวละครหรือไอดอลที่เอาไว้ชาบูเฉยๆ
องค์ 3 : จบด้วยพระเอกสารภาพรักนางเอก นางเอกก็รักตอบ มูฟออนจากพระเอกเก่าได้สนิทใจ ทั้งคู่หมั้นหมายแต่พระเอกยังเก็บความลับเรื่องเป็นคนจากโลกอื่นไว้อยู่
องค์ 4 : เกิดเหตุเฉียดตาย พระเอกเลยยอมบอกความลับ ผมไม่ใช่คนในโลกนี้อ่ะคับเตง ส่วนเตงและโลกนี้เป็นนิยายอ่ะคับ แต่นางเอกเข้าใจค่ะคุณ ทั้งคู่ฝ่าฟันอุปสรรค ปิดด้วยการแต่งงานอย่างแฮปปี้ จบ
มึงว่าเป็นยังไงวะ มันดูสโลว์เกินไปมั้ย หรือดูเร็วแรงทะลุนรกตอนท้ายๆ แนะนำกูหน่อยนะ กราบขอบพระคุณล่วงหน้า//ไหว้ย่อ
โม่งเรากำลังฝึกเขียนนิยายส่ง เลยอยากถามหน่อยว่า
เวลาเขียนสิ่งที่ตัวละครกำลังคิดอยู่ในหัวเนี่ยมันต้องเขียนยังไง
ใช้ ตัวเอียง หรือ
ใช้ [ ] หรือ
ใช้ "" แต่เขียนว่ากำลังคิด คิดออกมาไรงี้แทน
เราอ่านนิยายมาเคยเห้นหมดทุกแบบเลย แต่มาตราฐานนิยายไทยใช้แบบไหนกัน
>>553 กูว่าก็ไม่นะ ไปทีล่ะเสตปๆ แบบนี้โอเคแล้ว ที่เหลือคือมึงเดินเรื่องยังไง
>>554 ไม่มีมาตรฐานหรอก ใช้ตามความถนัดแต่ล่ะคน แล้วมึงใช้มุมมองไหนเขียนก่อน ถ้ามุมมองแรกก็เ ขียนปกติไปเถอะ แต่ถ้ามุมมองที่สามของกูจะใช้ตัวปกติเล่าในรูปแบบหนึ่ง อย่างเช่น:
เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้จะสำคัญ.. หรือหากสำคัญมันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาอยู่ดี
Kyพวกมึงง กุขอถาม
1.เวลามึงให้ร้านออกแบบไทโปมึงหาแบบไปบรีฟหรือให้ร้านเขาดีไซน์เองวะ
2.ถ้ากูนึกภาพไม่ออกว่ามันควรเป็นแบบไหน
แล้วกูอยากดูหลายๆฟอนต์หลายๆแบบเผื่อตัดสินใจแบบนี้คือปกติไหมวะ( คือเห็นฟอนต์ว่าน่าจะดีแต่พอทำมาแล้วไม่ชอบก็อยากจะลองดูฟอนต์อื่น)หรือถ้าระบุฟอนต์ไหนไปพอเขาทำออกมาแล้วไม่ถูกใจก็เปลี่ยนไม่ได้
>>556 อันที่จริงเงื่อนไขที่มึงบอกมา คุยกับร้านดีๆแล้วดีลกันได้เว้ย เขาจะได้เข้าใจว่าอาจต้องแก้เยอะหน่อยกว่าจะไฟนอล บอกเหตุผลไป ถ้าร้านไหนทำได้ก็จะบอกว่าได้ ร้านไหนไม่อยากทำไรยุ่งยากก็จะบอกปัดไป บางคนอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเยอะหน่อย แต่ส่วนใหญ่จะให้แก้ประมาณ 2-3 ครั้งนะ ลองคุยดูๆ
ส่วนกูไม่มีภาพในหัวกับไทโปมานานละ กูดีลกับร้านประจำไว้เลยว่าตามใจเขาทุกอย่าง555
งานไต้หวันเค้ารับกี่เล่มเหรอ เห็นผ่านเข้างานกันเต็ม TL
พวกมึงปรึกษาหน่อย กูควรแยกแอคแยกนามปากกาขายระหว่างนิยาย ชช ชญไหมวะ คือกูเขียนจบแล้วทั้งวาย ชญแล้วอ่ะ แต่กูยังไม่เคยลงงานลงขายเลย ขอคำแนะนำเบื้องต้นหน่อยดิ หรือถ้าไม่แยกกูไม่แน่ใจว่าควรเดบิวต์จากนักเขียนวายหรือชญดีวะ จะส่งผลต่อแฟนคลับในอนาคตกูไหมถ้ากูจะเหยียบแม่งทั้งสองแคมเนี่ย
>>559 โชว์เฉยๆ นข.ต้องมีงานเป็นตัวเล่มไปให้ด้วย แบบเป็นภาษาไทยนี่ละ ฟีลไปเปิดตัวให้คนอ่านต่างประเทศเห็นงานตัวเองมากขึ้น ใส่เรื่องย่อเป็นภาษาอังกฤษให้พอรู้เรื่อง
ก็เหมือนนิยายจีนแหละที่บ้านเรายังไม่มีลขส. ไม่มีคนแปลเถื่อน แต่ถ้ามีคนอ่านจีนออกไปส่องละสนุกเลยมาป้ายยาต่อ คนก็รู้จักนิยายเรื่องนี้มากขึ้นจนอาจไปเตะตาสนพ.ไทยให้ลขส.มางี้
>>560 แยกกันก็ดี แต่ถ้าไม่แยก กุแนะนำให้เดบิวต์ชายชายก่อน ดังแล้วคนอ่านจะตามมาอ่านชายหญิงด้วย แต่สายชายหญิงนี่ไม่ค่อยตามไปอ่านชายชาย อีกอย่างพวกด้อมชายชายมันเหมือนหวงที่อ่ะ ถ้ามึงเขียนชายหญิงแล้วไปเขียนชายชาย มันจะมีคนแซะมึงว่ากลิ่นเงินมาหอม ยี้ มาเขียนชายชายเพราะขายได้ขายดี ไม่ใช่เขียนเพราะใจรักแต่แรก แต่ถ้ามึงเขียนชายชายแล้วมาเขียนชายหญิงด้วยจะไม่เป็นไร
ทำไมจะไม่ได้ คือได้ ใช่ไหมวะ ?
แนวเยๆแบบมีสตอรี่เนี่ย ควรเขียนแบบเยทุกตอนหรือประมาณสองสามตอนค่อยเยวะ กูเขียนเยทุกตอนแล้วเหมือนจะหมดมุกในการบิลด์บรรยากาศให้มันเยกันอะ แต่จะเขียนแบบเว้นไปหลายตอนค่อยมาเยก็กลัวคนอ่านหงุดหงิดที่ไม่มีฉากนั้น แบบไหนที่พวกมึงว่าโอเควะ
>>567 มึงต้องลำดับก่อนเลยว่าจะเอาสัดส่วนเนื้อเรื่องกับฉากเยยังไง ถ้าเยสัก 70% มึงก็เอากันแบบตอนเว้นตอนยังได้ จะเยกันแบบห้องเดิมวันเดียวแต่งัดมาสี่น้ำก็เขียนไปสี่ตอนติดเลยงี้ แต่ถ้าจะเอาเนื้อเรื่องสัก 70% มึงก็ 2-3 ตอนเยที หรือจัดฉากเยจุกๆ ช่วงกลางๆสักห้าตอนรวด แล้วจากนั้นก็เป็นเนื้อเรื่องยาวๆไปสักสิบตอนแล้วค่อยแวะเยอีกทีตอนจบก็ยังได้ เรื่องนึงมียี่สิบตอนจบ เยกันไปแค่หกบท ที่เหลือเนื้อเรื่องล้วนๆ
>>567 มึงลงหมวดไหน ถ้าไม่ใช่รักผู้ใหญ่ก็ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มึง คนอ่านเอียนเปล่าๆ กุว่าบทเยมันควรสอดรับไปกับพล็อต ใส่มาจังหวะที่พอดี ไม่ใช่เอาเยนำแล้วทำพล็อตให้ต้องมีฉากเย แบบนี้เขียนได้ไม่นานก็จะเบื่อเอา กุว่า พราwพริ้m คนนี้ฉากเยกับพล็อตเรื่องดำเนินไปด้วยกัน ทำได้ดีทีเดียว ลองอ่านเพื่อศึกษาดู
>>567 ได้ทั้ง2แบบเลยมึง แล้วแต่ว่ามึงจะบิ้วให้เกิดอารมณ์ได้มากแค่ไหน มีคนอ่านชอบทั้ง2แบบ
แบบ1เยทุกตอน -ตัวอย่างเรื่อง ม่ า ย ษาวไหม ขายดีเรตติ้งหลัก2ร้อยอยู่หมวดรักผู้ใหญ่ ที่หน้าปกวาดสวยๆน่ะ นั่นน่ะแรกๆกูก็ตื่นเต้นลุ้นให้เยกัน แต่พอเยกันทุกตอน กูเอียนสุดๆเลย แต่นี่คือเดอะเบสต์หมวดรักผู้ใหญ่ของหลายๆคน เยกันฉ่ำๆลองกันทุกท่าทุกที่
แบบ2เยกันมันส์แต่ก็มีเหตุมีบิ้วอารมณ์นำไปสู่การเย ตัวอย่าง-มาญาหวามเลิฟ หมวดรักผู้ใหญ่เรตติ้ง4ร้อยกว่า คาแรคเตอร์พระเอกเกรียนมีเสน่ห์ พระเอกนางเอกมีเว้นช่วงการเยไปทำงานทำการ แต่ขทจะเยแต่ละทีคือแซ่บมากกกหนักๆเน้นๆ โดยส่วนตัวกูชอบแบบนี้ มากกว่า
มึงกูอยากแต่งนิยายพล็อตประมาณปลาคาร์ฟถ้ากระโดดข้ามประตูมังกรได้ก็จะได้เป็นมังกร นางเอกเป็นปลาโตเต็มวัยไปเจอพระเอกที่เป็นลูกปลาจะโดนนกไล่จิกโดนปลาใหญ่ไล่กินนางเลยเอาพระเอกมาดูแลพอพระเอกมันโตมันกระโดดข้ามประตูมังกรได้แต่นางเอกอะโดดไม่ได้เลยติดอยู่ในบ่อน้ำเหมือนเดิม แต่อีพระเอกลอยขึ้นสวรรค์ไปละ มาเจอกันอีกทีหลายพันปีพระเอกมันเป็นมังกรโตเต็มวัยส่วนนางเอกเป็นปลาแก่ใกล้หมดอายุขัยบทมันเลยกลับกันพระเอกเลยเป็นฝ่ายเก็บนางเอกมาเลี้ยงแทนบ้าง ประมาณนี้กูเสี่ยงโดนว่ากรูมมิ่งมะ แต่ตอนเป็นปลาทั้งคู่ไม่โรแมนซ์นะ เน้นการเอาชีวิตรอดของปลา
>>572 >>574 แต่ตอนแรกพระเอกมันเป็นลูกปลาพึ่งเกิดอะ กลัวโดนด่าช่วงนี้แหละ
>>573 ใช่ๆ เป็นปลาในสระน้ำที่มีพลังพิเศษ สัตว์กับพืชในนี้ส่วนมากถ้าฝึกมานานพอก็กลายเป็นเซียนไม่ก็ปีศาจกันหมด แต่ปีศาจปลาเป็นปีศาจชั้นต่ำถูกชาวบ้านเขาจับกินไม่ก็เอาไปตุ๋นแกงบ่อยๆถ้าอยากรอดชีวิตยืนยาวต้องอัพตัวเองไปเป็นมังกรแต่นางเอกทำยังไงก็โดดข้ามประตูมังกรไม่ผ่านสักทีจนกลายเป็นผู้เฒ่าเจ้าสระแบบปลงใจว่าจะแก่ตายแล้วอะไรประมาณนั้นแต่พระเอกที่มันโตแล้วกลับมาหว่านแหจับกลับไปเลี้ยง
>>575 เปโดคือเงี่ยนเด็ก ถ้านางเอกมึงแฮ่กๆๆๆๆใส่พระเอกที่ยังเป็นโชตะขาสั้นกรุบกรอบอยู่ แต่พอมันโตแล้วนางเอกมึงเฉยๆแล้วไปแฮ่กๆใส่โชตะคนใหม่ อันนี้นางเอกมึงเปโด แต่ถ้ามึงเลี้ยงมาไม่ได้คิดห่าไรเชิงชู้สาว พอโตแล้วค่อยสานสัมพันธ์ ก็ไม่ได้เข้าข่ายเปโดหรือกรูมมิ่ง
>>576 เส็ตมันเป็นปีศาจอายุยืนเป็นร้อยเป็นพันปีด้วยซ้ำ ต่อให้มาแต่งกับคนอายุ 18-19 หรือ 50 มันก็เป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของอายุขัยมันเอง เวลาเขียนเซ็ตติ้งคนกับปีศาจหรือพวกเทพเซียนมึงจะเอาเงื่อนไขอายุมาจำกัดว่าไอ้นี่มันเปโดไม่ได้อะ เพราะทุกคนละอ่อนกว่าเทพหรือปีศาจหมด
>>577 กูเอาพล็อตไปถามในกรุ๊ปมาละมันมีแต่คนบอกว่านางเอกกูกรูมมิ่งพระเอกแล้วก็ pseudo incestอะ มันบอกว่าดูแลเลี้ยงมาก็เหมือนเป็นแม่ เป็นพี่สาว นางเอกรักเด็กที่เลี้ยงมากับมือลงคือ pseudo incest แล้วก็ถึงนางเอกไม่แฮ่กๆใส่พระเอกแต่ทำดีด้วยจนพระเอกมันรู้สึกดีๆด้วยจนโตมารักคือกรูมมิ่ง กูเลยงงๆว่าคำจำกัดความของคำว่ากรูมมิ่งเดี๋ยวนี้มันอยู่ตรงไหนกันวะ
กู >>571>>578 นะ เอาจริงตอนนี้กูจะแต่งอะไรกูก็กลัวโดนด่าไปหมด เคยแต่งแบบพ่อพระเอกนางเอกเป็นพี่น้องร่วมสาบานพ่อนางเอกไปทำอะไรบางอย่างเลยเอานางเอกไปฝากเลี้ยงบ้านพระเอกแล้วมันเลี้ยงเหมือนลูกสาวแท้ๆแต่บอกตลอดว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แต่พระเอกนางเอกมันชอบกันขึ้นมาอันนี้กูก็โดนด่าว่าไม่ควรมันเหมือนพี่น้องได้กันไรงี้
พูดถึงกรูมมิ่งพระเอกแล้ว
เซียวเหล่งนึ่งนี่นับว่าเป็นกรูมมิ่งเอี้ยก้วยปะวะ!? อายุห่างกับเป็นสิบๆ ปี ฝ่ายหญิงก็เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กด้วย ถถถถถถถ
>>580 เอี้ยก้วยขึ้นเขาจงน้ำตอน 13 ช่วงเดียวกับที่เกิดเหตุลี้มกโช้วปล่อยข่าวว่าเซี่ยวเหล่งนึ่งอายุครบ 18 เลยจะจัดงานเลือกคู่จนมีคนขึ้นไปป่วนบนภูเขาเยอะแยะ ก้วยเจ๋งพาเอี้ยก้วยไปฝากตัวช่วงนั้นยังพลอยโดนเข้าใจผิดไปด้วย เพราะงั้นสองคนนี้น่าจะอายุห่างกัน 4-5 ปีเท่านั้นแหละ
ส่วนเรื่องกรูมมิ่ง กูว่าถ้าคู่นี้จะมีใครกรูมใคร ก็ควรจะเป็นเอี้ยก้วยที่กร้านโลกกว่านั่นแหละกรูมท่านอาที่อยู่ในสุสานมาตลอดชีวิตไม่เคยไปไหนเลย เข้าไปถึงก็ประจบนั่นนี่ บอกว่าท่านอาดีกับข้างั้นนี้จนเซียวเหล่งนึ่งหลอนตามว่าเออ ชั้นก็ดีกับมันจริงๆนะ แต่เอาเข้าจริงแล้วมันไม่ใช่กรูมมิ่งอะ เอี้ยก้วยนางเคารพของนางจริงๆ เพิ่งจะมารู้ตัวว่ารักกันตอนพลัดกันไปแล้วนี่แหละ
ใครพอเข้าใจแวดวงธุรกิจบ้าง คือกุสงสัยว่าทำไมทายาทบ.ใหญ่ ๆ แม่งต้องโดนบังคับให้ทำงานให้ที่ธุรกิจบ้านตัวเองวะ 555 คือให้เป็นผู้ถือหุ้นสวย ๆ ก็โอเคแล้วป่าว พวกตำแหน่งบริหารใหญ่ ๆ ไรงี้ก็ไปจ้างคนเก่ง ๆ มาไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าทายาทแม่งโหง้ ไม่กลัวมันทำบอเจ๊งเหรอ คือไม่เก้ทว่าทำไมต้องโยนภาระให้ลูกหลานน่ะ ธุรกิจเล็ก ๆ ขายข้าวมันไก่ ร้านชำ ยังพอเข้าใจ แต่พวกบ.ใหญ่ท็อปประเทศอะ งอง
>>584 ระบบกงสีไม่ต้องรวยมากหลายบ้านที่มีร้านมีกิจการก็มีกันทั้งนั้น แนวความคิดที่ว่ากิจการของเราเองไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร พ่อแม่ปู่ย่าตายายสร้างมาก็อยากดูแลสานต่อกันเอง โตมามีกินมีใช้ได้ทุกวันนี้ก็เพราะมัน โตมากับมันทำเองย่อมดีกว่าไปจ้างคนอื่นเขาที่ไม่รู้ว่าจะมาโกงมาอะไรไหม ง่ายๆ ไม่งั้นพี่พีททททก็ไม่ต้องเป็นceoดิมาช่วย กบ.ขายของฟูลไทม์แล้วจ้างคนมาทำงานแทน ถถถถถถ
>>578 กรูมมิ่งคือเลี้ยงมาแบบเจาะจงเลยจะเอาเป็นเมีย/ผัว เช่นมึงเห็นเด็กคนนี้แล้วถูกใจแต่เขาอายุยังน้อย มึงเลยไปเข้าหาทางพ่อแม่ ทำตัวดีๆให้เด็กมันรักและไว้ใจ พอโตแล้วค่อยจับทำเมีย อันนี้แหล่ะคือกรูมมิ่งแท้ๆ แต่ถ้าเลี้ยงเฉยๆไม่ได้พิศวาสอะไรต่อกัน โตมาแล้วค่อยสานสัมพันธ์ อันนี้ไม่ใช่กรูมมิ่ง สมัยนี้ชอบรู้อะไรไปผิดๆแล้วฉอด
>>584 เลือดข้นกว่าน้ำไงมึง กิจการปู่ย่าตายายสร้าง จะจ้างคนมาบริหารยังไงก็ไม่ไว้ใจเท่าลูกหลานดูแลเอง ยังไงอีลูกหลานก็ต้องเก่งด้วยไม่งั้นก็โดนโกง
>>584 ถ้าไม่ส่งมันเข้าไปเรียนรู้มันก็จะแม่งโง่ จริงๆไงล่ะมึง
ส่วนมากบ.พวกนี้ที่ส่งลูกหลานเข้าไปได้ก็จะเป็นกึ่งๆบ.ครอบครัวอ่ะ คือถึงจ้างคนมาบริหารแต่อำนาจในการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ กำหนดทิศทางกิจการไรงี้ เจ้าของบริษัทยังต้องเป็นตัดสินใจนะ ถ้าทายาทที่จะนั่งตรงนี้แม่งไม่เข้าใจห่าไรเลย กิจการก็เตรียมล่มจมได้
ต่อให้เป็น บ.มหาชน ส่วนมากทายาทก็จะเป็นหุ้นใหญ่ ซึ่งสามารถออกเสียถ่วงพวกฝ่ายผู้บริหารได้เหมือนกัน เวลาที่เกิดอะไรแหม่งๆ ก็ยังเทคแอคชั่นลดความสูญเสียได้บ้าง ไม่ใช่ปล่อยคนปลอมบัญชีขนเงินหนีต่างประเทศ สมบัติบรรพบุรุษหมดตัวแล้วค่อยรู้ ประมาณนี้
>>588 อันนี้กูไม่เรียกว่าโหง้นะ นี่มันคือความเสี่ยงในธุรกิจใหม่ และว่าก็ว่า กูมองว่าการขนส่งระบบรางจะพัฒนาไปสู่ไฮเปอร์ลูปไม่วันใดก็วันหนึ่งอยู่ดี มันแค่ไม่ใช่วันนี้ คอสต์มันสูงไป วันไหนที่คอสต์ต่ำลง มันก็จะกลับมาใหม่จนได้นั่นแหละ และถ้ามองอย่างยุติธรรม ไฮเปอร์ลูปวันเปิดตัวกระสวยปี 2020 ชนโควิดเปรี้ยงๆ ไหนจะเจอสงครามรัสเซียยูเครนอีก ขนาดขนส่งเจ้าใหญ่ฐานแข็งอย่าง maexxx ยังต้องปลดพนักงานเป็นหมื่นไปเมื่อเดือนที่แล้วเลยมึงเอ๊ย สถานการณ์โลกช่วงนี้ไม่ส่งเสริมเลยเหอะ
ส่วนเรื่องให้ลูกสาวบริหารกิจการหลัก ถ้าเป็นลูกสาวคนโตที่ยังใช้แซ่เดิม มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะ มีน้อย แต่มีจริง ยิ่งถ้าอยู่ในแวดวงคนจีนแต้จิ๋วตระกูลใหญ่ๆ มันจะต้องมีให้เห็นซักบ้านแหละที่ผู้หญิงเป็น "เถ้าแก่" ไม่ใช่ "เถ้าแก่เนี้ย"
จริงๆแล้วส่วนใหญ่ที่ลูกสาวไม่ค่อยได้รับความสำคัญมักจะมาจาก 2 อย่าง 1. แต่งงานออกไปใช้แซ่คนอื่น ถือเป็นคนนอก 2. ไม่ได้มีส่วนร่วมทำงานในกงสี เพราะงั้นถ้าลูกสาวยังเป็นคนในตระกูล แถมสร้างพรอฟิตให้ตระกูลได้ ลูกสาวก็มีสิทธิได้อำนาจบริหารเหมือนกัน ยิ่งลูกสาวคนโต พ่อแม่เกรงใจนะเออ
แล้วธนาธรก็ไปเล่นการเมืองไม่ใช่เหรอ ไม่เข้ามามีอำนาจในบริษัทของตระกูลก็ถูกแล้วนิ เกิดอะไรขึ้นเซฟที่เหลือได้
เงิบชะมัด จ้างวาดปกแต่พอส่งบรีพไปแล้วเจอราคาหลักหมื่นเลย บรีพแค่ตัวละครสองตัวนั่งด้วยกันเนี่ย
นีีราคา คมช ปกพุ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนเกือบสามเท่าตัวเลยงั้นเหรอเนี่ย
>>594 hyperloop ของศักสิทธิ์ เเตะไม่ได้ ต่อให้เจ๊ง ก็ห้ามถือว่าเจ๊ง ต้องอ้างว่าซักวันคงทำได้จริง ปีไหนชาติไหนไม่รู้ช่างมัน ถือว่าตัดสินใจถูกแล้ว ส่วนจะหมดตูดวันนี้ไปถึงวันไหน อย่าไปคิดมาก ถึงนักธุรกิจตัวจริง กับธนาคารจะมองว่าแบบนี้คือเจ๊งก็ช่างมัน
หากวันนี้มีคนขอให้เข้าหุ้นhyperloop ซักหลายสิบล้านก็จะเข้าร่วมทันทีแม้จะไม่ได้เงินกำไรคืนตอนนี้ เพราะเป็นเทคโนโลยีอนาคตต้องได้ทุนคืนซักวันแน่นอนนนนน ธนาธรไม่เคยคิดผิด เขาคือสุดยอดมหาบุรุษยอดอัจฉริยะผู้มาจากอนาคตที่คนไทยอย่างเราไม่อาจล่วงรู้ความคิดได้
ปล. อาม่าไม่ให้ธนาธรบริหารธุรกิจหลักๆ ก่อนเล่นการเมืองแล้วนะ แต่ก็นะเรียนเกือบไม่จบ อาม่าคงคิดถูกแล้ว
ถ้ากูเขียนแนวมัลติเวิร์สแบบคนที่มีรากฐานวิญญาณเดียวกัน แต่อยู่คนละโลกในสภาพที่แตกต่างกัน โลกหนึ่งเป็นนักบุญหญิงในโลกแฟนตาซี โลกหนึ่งเกิดเป็นผู้ชาย อีกโลกเกิดเป็นมนุษย์ปลา ฯลฯ แล้วสมมติว่าโลกนักบุญเสือกตาย ในโลกนั้นต้องมาควานหาตัวตนของนักบุญจากอีกโลกเพื่ออุดช่องว่างนั้น แต่ตัวตนในทุกโลกก็ไม่ได้มีการเชื่อมต่ออะไรกัน กรณีแบบนี้มันจะถือว่าเป็นคนคนเดียวกันได้มั้ยวะ หรือเป็นคนละคนไปแล้ว
กูเขียนแนวรักโรแมนติก กูพยายามคิดพล๊อตล้ำๆ ซึ่วกูว่ากูก็ล้ำเกินไปมากแล้ว พอมาเจอพล๊อตในโม่งกูเงิบแดก ทำไมมันล้ำจังวะ แต่ละโม่ง 55
>>592 >>593 มันอยู่ที่ตัวนว.ปะมึง ถ้ามึงจ้างตัวเทพ งานดี หรือเด็กอาร์ตที่ไม่ยอมกดราคาตัวเอง ยังไงก็เกินหมื่น กุไม่แปลกใจราคาสูงเลยนะ แปลกใจที่เจอราคาไม่กี่ร้อย-พันนี่แหละ รึอาจอยู่ที่สังคมมั้ง กุตามแต่นว.งานดี /ต่างชาติ ราคาต่ำเหมือนในเฟซนี่แทบไม่เห็น ยังไงแม่งก็คือฝีมืออะ มึงให้ ๆ เขาไปเหอะ ไม่ถือว่าแพงหรอก (เว้นแต่งานกากเสียดายตังนะ 5555)
>>601 นี่แหละมุง ผลของการกดราคางาน ในเฟซแม่งขายตัดราคากันจัด ๆ บางคนงานดีเหี้ย ๆ แต่ไม่กล้าให้ราคางานตัวเอง กลัวคนไม่จ้าง คนได้ราคาต่ำไปเจอเรตราคาปกติก็ช็อก เห้ย มึงขายแพงจังวะ นว.A งานเริสยังขายถูกกว่านี้เลย อินว.B ราคาปกติ ก็แห้งเหี่ยวไป คนไม่จ้าง ถ้าจิตอ่อนหน่อยก็ยอมกดราคาลงตาม วงจรอุบาทว์ เพราะค่าครองชีพกับค่าแรงคนไทยแม่งเหี้ยนี่แหละ งานศิลป์อยู่ยาก
>>602 เอาจริงๆกูก็อยากให้ค่าฝีมือนะ แต่เจอนักวาดห่วยๆที่วาดให้เซเลปกับปกสำเร็จซะสวย กูเห็นเลยจ้างแต่เสือกทำของกูที่โนเนมแม่งวาดเหมือนเอาตีนเขี่ยให้จบแถมดองงานกูลากยาวมาสามสี่เดือน อย่าว่าแต่สี่ห้าพันเลย พันเดียวกูก็ยังไม่อยากจะจ่าย พวกงานสวยการันตีคุณภาพแน่ๆก็คิวทองจนยาวเหยียดได้คิวอีกทีสามปีข้างหน้า และหลังๆกูไม่คอมมิชรูปคนแล้ว ไปทางงานปกกราฟฟิคเอา แบบนี้โอเคกว่าเยอะ
ถ้ากูคมช.ปกมาโดยยังไม่รู้ว่าจะใช้กับเรื่องไหน คิวว่างก็คมช.มาก่อน
สักพักเจอนว.ประกาศตนไม่รับงาน ธงแดง 🚩Problematic
งานกูที่เพิ่งแต่งเสร็จพระเอกธงแดง และกะจะใช้ปกนั้น
กูควรเกรงใจนักวาดไหมวะ หรืออยากทำอะไรก็ทำ เรื่องกู5555
ตอนเขียนนิยายรู้สึกสนุกอะ พอมานั่งพรูฟนั่งแก้นิยายตัวเอง อ่านซ้ำแล้วไม่สนุกเหมือนตอนเขียน สงสัยว่าคนอ่านรู้สึกเดียวกันกับคนเขียนมั้ยว่านิยายมันไม่สนุกกกกก
>>605 เรื่องของมึงเลย เพราะคมช.มาก่อนนว.จะประกาศนี่หว่า แต่ถ้าประกาศก่อน ทางออกที่ดีที่สุดคือขายปกทิ้งแม่ง จะได้ไม่มีปัญหาหยุมหยิมตามมา
>>607 มีเดะ กระแสแบนนิยายธงแดงกำลังมา ถึงขั้นไปไล่จี้นว.เลยอะว่าทำไมรับงานจากนข.งานธงแดงแบบนี้ ไม่รับผิดชอบสังคมเหรอคะๆ หรือนว.บางคนก็ทรงฉอดซะเอง ออกมาประกาศให้สังคมรับรู้ว่ากูเป็นคนเีด้วยการไม่รับงานธงแดงนี่แหละ
ซึ่งถ้ามึงไม่ใช่นักฉอด ก็ไม่ต้องไปสนใจอีพวกนี้หรอก เพราะมึงไม่ใช่ทาร์เกตเขาไง555 ปกติมากซื้อปกมาดองแบบไม่รู้จะใช้กับงานไหนก่อน ไงนักฉอด เอ้ย นข.งานธงเขียวก็เยอะกว่านข.งานธงแดงอยู่ละ นว.พวกนี้เขาไม่อดตายหรอกน่า
พระเอกเป็นอาจารย์ นางเอกเป็นนักศึกษาปีสามนี่จะเป็นไรป่ะวะ อยู่กันคนละมหาลัย เจอกันตอนไปเที่ยว คุยๆกันพักหนึ่งถึงรู้ว่าพระเอกทำงานเป็นอาจารย์ แต่นางเอกชอบฮีไปแล้วเลยรุกเข้าหาเลย
>>610 กุขำ เขียนห่าไรก็โดนได้ อย่าไปแคร์ ชอบ ๆ 5555
>>609 คนปกติมองไม่ไรหรอก ปี 3 นี่ก็โตละ อยู่กันคนละหมาลัยอีก ไม่มีข้อครหา มีเรื่องนึง เก่าละ พอ.เป็นอ.พิเศษ นอ.มาลองนั่งในคลาสเฉย ๆ ไม่ได้เรียนเอานก. พระนางวางตัวดี คนกรี้สถล่มทลายขายดิบขายดีเป็นตำนาน
จริง ๆ เอาแค่เขียนให้เป็นคสพ.คลีน ๆ ก็พอละ ถ้ามาแนวเอาเต้าไต่/อ.บังคับแลกเกรด
ครูหลอกแดกเด็กมัธยมแบบครีปปี้ ๆ นี่ค่อยน่าฉอด
(อ้อ เคยเจอนศพ.-อาจารย์หมอก็ยังรอดนะ)
>>614 นิยายที่เน้นฉากอีโรติกเป็นหลักโดยไม่เน้นเนื้อเรื่อง หากเน้นการดำเนินเรื่อง โดยมีฉากอีโรติกเป็นเพียงส่วนประกอบ ให้เลือกหมวดนิยายโรมานซ์ / อีโรติก หากไม่มีฉากอีโรติกเลยให้เลือกเป็นนิยายรัก
* ห้ามมีฉากบรรยายเพศสัมพันธ์ของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี, บรรยายเพศสัมพันธ์ของคนที่มีสายเลือดเดียวกัน, มีคำหยาบคายในฉากบรรยายเพศสัมพันธ์ หากมีฉากเหล่านี้ทางเราขอไม่รับวางจำหน่าย
** ขอความกรุณางดใช้ชื่อผลงานหรือหน้าปก ที่มีรายละเอียดที่ระบุถึงกิจกรรมทางเพศ มีสถานการณ์ยั่วยุทางเพศ หรือสื่อถึงอวัยวะเพศ
ขอขึ้นแบนเนอร์มาหลายเดือนแระ ไม่ได้สักที ท้อแทร่มาก ดวงกุน้อ orz
ถ้ากูสร้างโลกแฟนตาซีขึ้นแล้วกำหนดว่าเพศหญิงส่วนใหญ่อายุเฉลี่ยไม่เกิน30-35 ดังนั้นการรักกันก่อนอายุ15กับชายอายุมากกว่า จึงเป็นเรื่องปกติ จะทำได้ไหม
เอ่อ กุว่าอาจจะเป็นโทรล เห็นมาถามหลายครั้งละนะ เหมือนโทรลถามเรื่องผญ.ซิงมู้ก่อนๆ อะ ย้ำคิดย้ำทำมาก ปล่อยไปเถอะ
ky พวกมึงมีอาชีพหรือนิสัยตัวละครที่จะไม่ค่อยอยากเขียน/อ่านกันป่ะ ของกูคือแนวที่ตัวเอกเป็นนักเขียน กูจะไม่อ่านและไม่เขียนเลย ไม่รู้ทำไม555 กับตำรวจเพราะกูอยู่ในสายนี้ละไม่ค่อยเจอคนที่น่าเอาเป็นพระเอกเท่าไหร่ แต่ถ้านางเอกน่าจะมีเพราะตำรวจสาวๆที่กูคลุกคลีด้วยน่ารักกันแทบทุกคน
>>625 ไม่ค่อยมีเจาะจงแบบถ้าเจอจะไม่อ่านเลย แต่ไม่ค่อยอยากอ่านหมอหญิง (เพราะอะไรไม่รู้) ทหารไทย (บอกไม่ถูก สงสัยติดภาพจำชีวิตจริง +มันชอบมาแนวคลั่งชาติด้วยมั้ง อ่านละแอบ cringe)
ส่วนนักฆ่า มาเฟีย โสเภณี ตำรวจ ของโม่งบน ๆ นี่กุชอบมาก ถ้าทำถึง 555 โทนจริงจังนี่เริ่ด แต่ส่วนมากเห็นเอามาโรแมนติไซ้ฟิน ๆ เฉย ๆ
>>625 ยิ่งถ้าเป็นนักเขียนแล้วทะลุเข้านิยายตัวเองเพื่อสอยพระเอกนิยายทำผัวแม่งยิ่ง cringe มโนเป็นนางเอกหรือเขียนแทนตัวเองเป็นนางเอกมันเอาท์แล้ว มันต้องเข้าไปแย่งผัวชาวบ้านด้วยตัวเองฟินๆค่ะ พล็อตที่เขียนมาเพื่อสนองนี้ดนักเขียนที่อยากได้ผัวเริ่ดด้วยการแย่งคนอื่นมาแม่งดู cringe ชิบหาย เจาะตลาดพวกชอบพล็อต ntr เหรอวะ
คำถามจากคนที่เป็นนีทติดบ้านอย่างกู วัยใกล้30 ปฎิสัมพันธ์กะคนอื่นเป็น0 ไม่เคยมีแฟน ขนาดจวยสำคัญมากไหมวะ เพื่อจะเอามาเป็นไอเดียเขียนนิยาย เหนไรเต้อทุกคนมักจะบรรยายว่าใหญ่ไว้ก่อน ถ้าเล็กนี่มันจะเสียวใช่ปะ เผื่อกุไว้จินตนาการเวลาเขียน
>>631 เขียนนิยายมโนให้ตัวเองเป็นนางเอกเพื่อคู่กับพระเอกกูพอเข้าใจ แต่เขียนให้เป็นนักเขียนที่ทะลุเข้านิยายตัวเองไปสอยผัวนางเอกนิยายมาเป็นผัวตัวเองคือไรวะ นางเอกที่เป็นตัวแทนไม่จำเป็นแล้ว เพราะนักเขียนตัวจริงมาเอาพระเอกเองเหรอ พล็อตตั้งต้นแม่งเหมือนพวกแนว ntr สุดๆ เจาะตลาดพวกฟินที่จินตนาการว่าได้แย่งผัวคนอื่นเหรอวะ
>>632 แล้วแต่คน ในโลกจริงคือยิ่งใหญ่คือเจ็บ จุก ไม่ฟินเลย คนเยเป็นมันฟินดี แต่ส่วนมากจะเจอแบบกูใหญ่อะเยไม่เก่งแต่แทนกันได้ ซึ่งบ่ใช่ไงสู คนโดนเยกลายเป็นโดนยัด ทำเอามดลูกฉีกก็มี ส่วนพวกเล็กๆก็เล็กจนไม่รู้สึกก็มี หรือเล็กสั้นขยันซอยเออถ้าคนเยเก่งก็ฟินแหละ แต่ถ้าเยไม่เก่งก็แบบเหมือนเอานิ้วแหย่รู
ในนิยายที่ชอบเขียนให้ใหญ่ๆฟินๆ ก็สนองจินตนาการแหละ ว่าโดนของใหญ่มันฟินจริง แน่นๆ เต็มคำ โดนทีเหมือนกลับไปเป็นสาวซิงอีกรอบ กีฟิตขมิบสู้ เล่นท่ายากได้ด้วยแบบยกขึ้นงี้ กวยเล็กทำไม่ได้เดี๋ยวหลุด555 แต่ถ้ามีกวยเท่าแขนต่อให้ไม่แข็งแต่มันก็แนบแน่นดี
>>632 ไม่เชิงอะ ตอบแบบคนเคยผ่านทั้งเล็กทั้งใหญ่ มันขึ้นกับลีลาและความเอาใจใส่จริงๆ ใหญ่ๆที่เคยทำแม่งเจ็บอะ เจ็บจนหมดอารมณ์ ส่วนเล็กๆที่เคยทำฮีก็รู้ขนาดตัวเอง เลยไปฝึกปรือฝีมือด้านอื่นแทนแบบนิ้วกับลิ้น กูเสร็จเพราะฮีเล้าโลมดีกับเอาใจใส่นี่ล่ะ
แต่เอาในแง่งานเขียนมันต้องใหญ่ๆเพื่อพิสูจน์ความเป็นชายและความดูดีไง พระเอกหนุ่มหล่อกล้ามโตตัวใหญ่แต่ถอดกางเกงออกมากวยเล็กกะจิ๋วหลิวมันก็ตลกใช่ป่ะล่ะ แต่ถ้าปฏิบัติจริงกูขอกลางๆไว้ก่อนดีกว่า เล็กไปกูขี้เกียจมาแอ๊บว่าเสียวตอนใส่ 5555555555
>>632 เป็นพระเอกนิยายรัก โรมานซ์ชวนฝันจะมาเล็กๆไม่ได้นะ มันต้องมีดีทั้งขนาดและลีลา บรรยายหัวหยักหัวบาน เส้นเลือดปูดโปนก็จะยิ่งเพิ่มความเสว ความใส่ใจคู่นอนเล้าโลมก็สำคัญ ในชีวิตจริงจะเล็กหรือใหญ่น้อยคนที่จะเลือกได้ แต่ในนิยายต้องเลือกได้ จวยพระเอกต้อง ดูดีไม่น้อยหน้าพระรอง และทำให้นางเอก(คนอ่าน)ฟินได้
Ky ที่ฟวกเฟซบอกนิยายชื่อเรื่องซ้ำไม่ผิดลิขสิทธิ์ ใช้ซ้ำได้ กูเห็นเคสนักอ่านซื้อนิยายเพราะนามปากกาซ้ำ เข้าใจว่าเป็นนักเขียนดังอีกคนที่หายไปนานแต่เหมือนคนหลังใส่นามอิ้ง ระบบเลยไม่แจ้งซ้ำ กูไม่ได้ตามว่าเคสนั้นจบยังไง กูสงสัย เอาตรงๆ นามปากกาซ้ำกันมันไม่ควรอยู่แล้วเพราะคนอ่านสับสน แล้วชื่อเรื่องซ้ำนี่แน่ใจกันว่าใช้ได้จริงแล้วนักอ่านไม่สับสนจริงเหรอ สุดท้ายจะโยนเป็นความผิดคนอ่านที่ไม่แหกตาดูให้ดีอีกมั้ย สมมุติถ้านักอ่านขอเงินคืนเพราะไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองอยากเปย์ ใครจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบ
>>638 ชื่อเรื่อง มีอิงค์แต่ยังไปเตือนคนกดตาม นปก (แต่ตอนนี้เวลาตั้ง นปก ซ้ำ อีเม็ด มันเตือนนะ เพียงแต่มันได้แค่เตือน เพราะนข.คนเดียวกัน บางทีอยู่ สนพ.นั้น อยู่ไอดี ตัวเอง มันเลยห้ามล็อก สำหรับ ไอดรเดียวต่อหนึ่ง นปก) มันต้องโทษอีเม็ด ชื่อเรื่องส่วนมากที่ซ้ำส่วนใหญ่มันชื่อโหลๆ อันนี้โทษนอ.ดิ ช่วยแหกตาดู นปก กับ คำโปรยสักหน่อยเหอะ มึงต้องรับผิดชอบตัวเองบ้าง
>>638 ส่วนตัวกูไม่ชอบให้ซ้ำกัย ไม่ว่าจะเป็นชื่อเรื่องหรือนามปากกา มันไม่ผิดลิขสิทธิ์แต่ก็มารยาทนิดนึงอ่ะ กุไม่ชอบให้ชื่อเรื่องซ้ำกับใคร ต่อให้อยากได้แค่ไหน ถ้ากูมาทีหลัง กูก็ไม่เอา ถ้ากระสันอยากได้จริงๆ ก็อาจจะบิดคำไม่ให้เหมือนกับอีกคน กุเลยไม่อยากให้คนมาซ้ำกุเหมือนกัน แล้วถ้ากุตั้งก่อน ขายก่อน กุไม่มีสิทธิ์แก้ไขชื่อเรื่องแล้วด้วยอ่ะ เพราะมันขายไปแล้ว อีกอย่างกุว่าถ้าจะเป็นนักเขียนแล้วไม่มีปัญญาตั้งชื่อนิยายไม่ให้ซ้ำกันไม่ได้ แม่งก็บอกสติปัญญานิดนึงอ่ะ
มีอีกกรณีนะ มึงว่าควรโทษใครอะ
นข1 เคยออกกะ สนพ.เล็กๆ ชื่อเรื่อง โหลๆ บ่งบอกงานเรทๆ พอหมด สัญญา เลยเอามาตั้งชื่อใหม่เก๋ๆ
นข2 ตั้งชื่อไปซ้ำกะ ชื่อแรก โดยไม่รู้ตัว และค้นแล้วว่าไม่มีทั้งในเม็ด ในเว็บ
ฟค.เดนตา.ยจำชื่อนิยายอย่างแม่น เลยกดซื้อเลย เพราะนิยายเล่มหายปลวกแดก
ใครผิดสุดล่ะ? จะซื้ออะไรก็สติหน่อยเหอะ
Ky เพื่อนโม่ง"เข้าถ้ำ"คืออะไรเหรอ
งดโซเชียล งดอ่านนิยาย มุ่งมั่นเขียนให้จบ แบบนี้รึป่าว
มรึง กูถามความเห็นหน่อย จะลงตัวอย่างในรีด กูควรลงยังไงดี ระหว่างลงทั้งบทแบบเต็มไปเลย กับลงทีละนิด นักอ่านชอบแบบไหนกว่าวะ
ปรึกษาเพื่อนโม่ง กุได้อ่านต้นฉบับที่คนเขียนขยี้ประเด็นซึมเส้าแบบทำถึงจัด อ่านละดิ่งตาม มึงว่ากุควรแนะนำให้เขาปรับๆ ลดการขยี้ลงมั้ย นักอ่านจะได้ไม่ทริกเก้อมาก หรือเอาแบบจัดเต็มตามเดิมก็ดีแล้ว ปล.กุไม่ใช่บ.ก. แต่เป็นเชิงๆ เบต้ารี้ดให้เพื่อนน่ะ แนะนำได้ เจ้าของงานก็อยากรู้เหมือนกันว่าปรับดีมั้ย เพื่อนคิดว่าไง
>>649 เขียนถึงขยี้ถึงคือเรื่องดี-ดีมาก มึงควรให้นักอ่านของเขาหาทางหนีทีไล่เองด้วยการติดtwตัวใหญ่ๆ ย้ำๆไป บางคนอาจอ่านแล้วไม่ดิ่งอย่างที่มึงรู้สึกก็ได้ มึงเคยอ่าน ท่าวันนู้นฝนบ่ตก ไหมนั่นก็เขียนโรคซึมเส้าถึงอกถึงใจคนมีทั้งกลัวและชอบ ยกให้เป็นนิยายขึ้นหิ้ง อย่าแผ่วอย่าเบาเพราะกลัวนั่นนี่เลย
แนวระลึกชาติ เขียนยังไงให้ออกมาดูเป็นเด็กเหมือนเดิมวะ ไม่ได้อยากเขียนผู้ใหญ่ในร่างเด็ก นางเอกกูแค่เจ็ดขวบ เป็นเด็กป.1 เพิ่งพ้นจากอนุบาลเลย นางแค่ระลึกชาติได้แบบไม่ตั้งใจเฉยๆ
กุขอถามในมู้นี้หน่อย เพราะไม่มีมู้อื่นพอเกี่ยวข้องอ่ะ เวลาพวกมึงทำงานแปลภาษาเชี่ยวชาญทำไงกันว่ะ พวกแอพเว็บแปลไรงี้ จากไทย-อังกฤษก็พอ ให้ลากมาที่กูเกิ้ลแปลมันก็ทะแม่งๆกับภาษา ไม่รู้เพราะภาษาอังกฤษไม่มีฟิลลิ่งหรือเปล่าว่ะ แบบอังกฤษเรียกไอลูกเดียวพอ แต่ไทยดันมีแต่ฉัน ข้าพเจ้า กู บลาๆ แถมกูก็โง่แกรมท่าด้วย แบบ ทารกอย่าเจ็บฉัน แบบทางการอ่ะพอได้ แต่อยากได้ฟิลลิ่งเพื่อนเข้าถึงง่ายกว่า ฮือTT กูไม่รู้ว่าฝรั่งพูดภาษาพูดแบบไหนกันว่ะ ส่วนสำนวนพอถูไถๆบ้าง
กูเพิ่งลาออกงานประจำ กูพยายามจัดตารางระหว่างเรียน กับ เขียนนิยาย แต่รู้สึกว่ากูทำแต่ละอย่างได้น้อย ไม่สมกับที่มีเวลาว่างทั้งวันเลย ทีนี้ความรู้สึกผิด กดดัน ไม่เอาไหนมันก็มา กลายเป็นยิ่งทำให้ไม่มีอารมณ์แต่งนิยาย ปกตินักเขียนเต็มตัวเขาเขียนกันทั้งวันไหม กูพอเข้าบ่ายพลังงานกูก็หมดละอ่ะ
>>658 กูเพิ่งอ่าน สตีเฟนคิงก์มา เขากำหนดเลยว่าวันนึง2kคำหรือ10หน้า วันละ3ชั่วโมง ปิดประตูปิดโทรศัพท์เข้าห้องอยู่ในโลกของตัวเอง เริ่มตั้งแต่เช้า ถ้าครบ2kเร็วก็พักเร็ว พอบ่ายก็กินข้าวแล้วงีบ และทำงานบ้านซักผ้าถูบ้านนู่นนี่ ถ้าวันไหนยังไม่ได้ตามที่กำหนดก็จะยังไม่ออกจากห้อง เขาเขียนทุกวันไม่มีวันหยุด คริสตร์มาส วันเกิดก็ไม่หยุด กำหนดไว้ว่าร่างแรก(ราวๆแสนแปดหมื่นคำต้องเสร็จไม่เกิน3เดือน เพราะถ้าเกินจากนี้จะบูด ไม่สดใหม่
ทมยันตี เริ่มแต่เช้าเหมือนกัน ปิดห้องไม่สุงสิงกับใคร ไม่รับโทรศัพท์ จนกว่าจะเสร็จ1ตอนตามที่ตั้งใจ จะเขียนแต่ละตอนต้องรู้ก่อนว่าจะจบตอนนี้ที่ประโยคอะไร จากนั้นก็ลงมือเขียน
>>658 เท่าที่กูสังเกต จะมีสองประเภทใหญ่ๆ คือเขียนเป็นรูทีนทุกวัน กับเขียนเป็นช่วงๆ ให้จบเรื่องแล้วพักเป็นเดือนๆ ค่อยเริ่มเขียนเรื่องใหม่ กูว่ามันสไตล์ใครสไตล์มันว่ะ ถ้ามึงไม่ถนัดเขียนทุกวัน มึงก็เขียนๆ พักๆ ก็ได้ ไม่ต้องกดดันตัวเอง ยิ่งกดดันยิ่งเขียนไม่ออกซะเปล่า
ky แรกทีเดียว คือไรวะ.. ถ้าเขาเขียน แรกทีเดิม กูยังพอเข้าใจ แต่แรกทีเดียวมันไม่น่าใช่ หรือกูศัพท์น้อยเอง
>>661 กูเจอบ่อยเลยนะ ตอนแรกจะทำแบบนี้แต่พอเจออีกเหตุการณ์เลยยังไม่ทำหรือทำไม่ครบจบ
แรกทีเดียวเขาคิดจะบอกเลิกเธอในวันนี้แต่พอคิดว่าจะเป็นการใจร้ายกับเธอเกินไปที่จะบอกเลิกเธอในช่วงเวลาคริสต์มาส เขาจึงคิดจะทอดเวลาออกไปอีกสักพัก ไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะบานปลายไปกันใหญ่หลังจากปาร์ตี้ในคืนวันคริสต์มาสนั้น
ว่าแต่ไอ้คำที่ไม่มีในพจนานุกรมแบบนี้ เราไม่เคยเจอเราจะรู้ความหมายได้ไงวะ อันนี้สงสัยจริง ๆ ถ้าไม่ใช้วิธีถามคนอื่นเนี่ย เดา ๆ เอาก็ไม่ถูก 100% อีก
มึง ถ้ากูแต่งแนวนางเอกกลับชาติมาเกิดแต่นางไม่ได้ฉลาดขึ้นไม่ได้ซูงี้นางเอกกูจะโดนด่าปะ กูอยากแต่งแบบจีนโบราณนางเอกมันแต่งงานตอน14-15แล้วตายตอน17ไรงี้แบบตายก่อนจะเกิดเรื่องราวใหญ่ๆในชาติที่แล้ว นางเอกมันเป็นเมียเอกตระกูลดีใช้ชีวิตไปวันๆแล้วตายแบบงงๆไม่รู้ไรเลย แต่นอกจากนางเอกพระเอกก็กลับชาติมาเกิดเหมือนกัน พล็อตฝั่งที่ตบกันแก้แค้นจริงๆคือฝั่งพระเอก ส่วนนางเอกพล็อตคือพยายามหายจากอาการPTSDที่โดนฆ่าตายชาติที่แล้วงี้
Ky กูมือใหม่ นูกูสุดๆ ไม่มั่นใจในฝีมือ กลัวคนไม่อ่าน และอยากลองขายดูแต่ไม่กล้าขายแพง ถ้ากูติดเหรียญตอนนึงที่เรทต่ำสุด แล้วขายebook 35kคำ เล่มละ69บาท จัดโปร30วันเหลือ49บาท พวกมึงคิดว่าการตลาดของกูแบบนี้ ตัดราคาหรือดูถูกอาชีพนักเขียนไหม หรือตามสะดวกของกูได้เลย
>>678 กุเป็นคนนึงที่คิดว่า นข.จะขายราคาไหนก็เรื่องของนข. การขูดเลือดขูดเนื้อตัวเองเพื่อขายถูก ๆ มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อวงการขนาดนั้นอะ (ถ้าเทียบกับนว.ในเฟซที่ขายถูกชิบหายจนช็อกอะนะ อันนั้นเห็นภาพชัดว่ามันกระทบจริง วงการจะพังเอา) ดังนั้นถ้ามึงพอใจกับราคาที่มึงตั้งก็ขายไป แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงด้วยว่านักอ่านมันมีร้อยพ่อพันแม่ คนที่ไม่อยากกดเข้าไปดูเพราะราคาต่ำไปก็มี อย่างกุเอง 5555 ส่วนตัวกุอยากอ่านเรื่องยาว ๆ แสนคำ+ ราคาที่เหมาะก็ประมาณ 250+ กุมีกำลังพอ+อยากสนับสนุนนข. กุเลยยินดีจ่าย ถ้ากุเจอเรื่องใหม่ราคา 50 บาท กุก็จะคิดละว่าเรื่องไม่ยาวมาก ไม่ก็นข.ขายถูกมาก คิดว่าให้ค่างานตัวเองน้อยไปป่าว กุก็ไม่กดเข้าไปดูละ แต่คนชอบถูก ๆ ก็มี (มีเยอะมากด้วย 555) ก็เลือกเอา แล้วแต่มึง
การเอาเรื่องที่ขายไปแล้วมาเปิดฟรีเนี่ย มึงว่ามันจะไม่เป็นการทำร้ายจิตใจนักอ่านที่หนับหนุนเหรอวะ
>>682 ส่วนตัวกุถ้าเป็นเรื่องเก่าๆราคาไม่แรงมากจัดโปรลดนั่นนี่บ่อยๆ อ่านกันมานานจบไปจนลืมก็ไม่เอามาคิดมากนะ มันนานแล้วจบไปแล้วอะ
เคยมีนักเขียนเอาเรื่องเก่า3ปีอัพมาแจกฟรีในเดือนเกิด หรือวันเกิดหลายคนเลย ถ้ามัวมาคิดหยุมหยิมรู้งี้รอฟรีดีกว่าก็เป็นคนแปกๆละ
แต่ถ้าราคาแพงมากกกก จนต้องกัดฟันซื้อ แล้วไม่นานกลับมาแจกฟรีอันนี้น่าเคือง
สำหรับกู นักอ่านฐานเก่าเนี่ยเป็นคนที่กูแคร์เขามากสุด เวลาแจกฟรีเนี่ยบางคนเขาก็เอาแค่แจกฟรี ไม่เคยมาแลงานเรื่องอื่น อาจจะตกนักอ่านใหม่ได้ก็จริง แต่กูว่าแม่งก็ได้ไม่เยอะเท่ารักษาน้ำใจคนเดิมไว้หรอก ไม่อ่านก็ยังซื้อดอง ประเสริสุดละ ถ้าจะแจกเรื่องใหม่ไปเลย ได้ใจทุกฝ่าย ส่วนลดราคา อันนี้เป็นสัจธรรม นักอ่านเขารู้ดีอยู๋แล้วว่าต้องเจอ
>>668 บริบทรอบข้าง การเปรียบเปรย สถานการณ์ ฯลฯ จะบอกเราเองว่ะ
เปิดใจกว้างๆ ไม่ตีกรอบจ้องจับผิดไปก่อนว่าไม่เคยเห็นแม่งผิดแน่ มันจะพอเข้าใจคำเอง แต่เรื่องแบบนี้มันก้ำกึ่งระหว่างใช้คำมั่วๆที่สื่อไม่ได้เลยกับการเล่นคำสร้างสำนวน สุดท้ายถ้ามีคนอ่านเข้าใจตรงกันมาก คำนี้ก็กลายเป็นคำคุ้นหูไปในที่สุดแหละ
ช่วงปีใหม่มานี้กูเพิ่งพบสไตล์การเขียนใหม่ของตัวเองที่ไม่กดดันมากแฮะ
คือปกติกูจะพยายามเขียนคราวเดียวให้จบ 1 ตอน โดยเฉลี่ยตอนละ 3-4 พันคำใช่ปะ โดยที่พยายามกดดันตัวเองว่าต้องเขียนให้ได้เท่านี้ๆ และวันไหนเขียนไม่ได้ตามยอดก็จะรู้สึกเฟลแล้วไม่อยากเขียนเป็นประจำเลย
แต่มาช่วงหลังๆ นี้กูได้เริ่มตัดย่อย 1 ตอนออกกลายเป็น 2-3 ตอน ตอนละ 1500 คำโดยประมาณแทนแล้วรู้สึกเขียนง่ายขึ้นเยอะ อย่างน้อยคือกำหนดเอาไว้ว่าวันนี้ขอซัก 1500 คำ ไม่มากไปไม่น้อยไปกำลังดี ซึ่งพอเขียนครบจำนวนที่ว่าแล้วก็รู้สึกพอใจไม่หงุดหงิด แถมถ้าพลังเหลือก็เขียนต่ออีกตอนเป็น 3000 คำตามมาตรฐานเดิมได้ด้วย
Ky ไทโป 150 จัดอาร์ต250
ไทโป กูเข้าใจว่าคือเขียนชื่อเรื่อง+นปก.+นักวาดด้วยฟอนต์ต่างๆ
แล้วจัดอาร์ตคืออะไรเหรอวะ
ใช่การเอาชื่อเรื่อง+นปก.+ชื่อนักวาดไปแปะในปกไหมวะ ปกติที่พวกมึงทำกันมันต้องคิดแยกด้วยเหรอวะ?
Kyกูแต่งนิยายของรุ่นพ่อ-แม่ ราวๆปี2526 สมัยสาวๆหนุ่มๆจีบกันด้วยจดหมาย ไม่มีไลน์ ถ่ายรูปฟิล์ม กะจะเป็นพีเรียดเบาๆ
แล้วกูไปเจอคำว่า Nostalgia เกร่อเลยในหนังในคอนเทนต์ กูเลยอยากรู้ว่านิยายกูถือเป็นแนว Nostalgia ไหมวะในมุมมองพวกมึง
เผื่อกูจะได้ใช้จุดนี้โปรโมทได้
ขอไอเดีย โคแก่แบบไหนฮิตวะ ทรงลุง ?? ทรงแดดดี ???
Kyถามคนมีหลายนามปากกา ถ้าแยกอีกนามปากกาแบบไม่ให้ใครรู้>>คือใช้อีกอีเมลสมัครเมbใหม่ด้วยชื่อนปก.ใหม่ ส่งเลขบัญชีธนาคารใหม่ใช่ไหมวะ?
หรือใช้ธนาคารเดียวกันได้
มุง ถ้ากุติดเตือนเต็มรูปแบบในหน้ารี้ดที่ลงให้อ่านตย. แต่ไม่ได้ใส่ไว้ในเล่มเต็ม คนที่ซื้อเล่มเต็มเลยโดยไม่ได้อ่านคำเตือนในรี้ดมาอ่านละแจ้กพ้อต เจอทริกเกอร์ กุจะผิดมั้ยนิ คำเตือนนี่ต้องใส่ในเล่มด้วยเหลอ นักอ่านที่ไม่อยากได้สปอยในเล่มจะวีนกุอีกมั้ย เห้อม
ky กูเพิ่งกลับมาลงนิยายในรอบสองปี ตื่นเต้นมาก ๆ แต่ยอดเพิ่มเข้าชั้น ยอดวิวไรอย่างนี้ไม่ค่อยขึ้นเลย ยอดขายในเม้ดจะแย่หรือเปล่า จ้างคอมมิชชั่นมาด้วย กลัวเข้าเนื้อ แต่ฟินมากเวลามองปก 555555
>>696 เคยเจอในมังงะเฮนไต นางเอกทีแรกชอบเพื่อนสนิทผู้ชายข้างตัว แต่แม่งเสือกโตมาไม่เป็นโล้เป็นพาย ทำตัวเป็นภาระไม่ได้เรื่อง มีดีแค่หน้าหล่อ ทีนี้เจอคุณพ่อของฮีเข้าไปเลยมีดวงตาเห็นธรรม กูจะเอาไอ้หล่อแต่นิสัยเชี่ยแบบนี้ทำไมวะ ในเมื่อกูเจอคนหล่อแต่นิสัยดีในคนเดียวกัน แล้วตั้งหน้าตั้งตาเข้าหาคุณพ่อ เป็นหญ้าอ่อนรุกโคแก่ คุณพ่อทีแรกก็ขัดเขิน พ่ออายุมากกว่าหนูสองเท่าเลยนะลูก (กูไม่แน่ใจว่าแม่ไอ้นี่มันตายหรือหย่ากันนะ) แต่นางเอกปักธงแล้วว่านุอยากได้คุณพ่ออะค่ะ เลยได้แซ่บกัน ปล่อยอีเพื่อนชายมั่นหน้าไปว่านางเอกยังรักมันอยู่ อ๋อเปล่าจ้า กูไม่เอาขยะมาทำผัว เรียกแม่สิลูก
กูชอบพล็อตแบบนี้มากเลย ใครเขียนให้อ่านที 5555555555555
>>710 >>711 มังงะเฮนไต ไม่มีรหัสไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่เอวี? ลองถามที่ห้องนี้ว่าเรื่องอะไร https://fanboi.ch/animanga/17421/recent/
หรือไม่ก็ห้องน้องพร https://fanboi.ch/animanga/13923/recent/
แนวรักแฟนตาซี ผจญภัยหน่อยๆ ชช หรือ ชญ ปังกว่ากันวะเพื่อนว่า
Kyถ้าพยามใส่มุกตลก(ที่คนเขียนขำ)แต่กลัวคนอ่านไม่เก็ตมุก กูควรอธิบาย(ขยี้)ว่าตลกยังไง หรือปล่อยเบลอให้คนอ่านเข้าใจเองขำเองดีวะ
ใครเขียน full time กูขอคำแนะนำหน่อย กูเริ่มมาได้อาทิตย์นึงร่ำๆ จะเป็นซึมเศร้าเอา กูไม่ได้เขียนทั้งวันหรอก แต่ขี้เกียจจะลุกออกไปไหน ข้าวก็สั่งออนไลน์ ทีนี้รู้สึกอารมณ์แม่งไม่มั่นคงเลย บางวันหดหู่ หงุดหงิดง่าย แต่นอนไม่หลับเลยสักคืน มันเหมือนพลังงานชีวิตกูถูกห้องสี่เหลี่ยมสูบ (ทั้งที่กูนี่อินโทรเวิร์ตจ๋าเลย) พฤติกรรมกูผิดใช่ไหม กูอยากออกไปนั่งร้านกาแฟนะ อย่างวันแรกนั่งร้านกาแฟแล้วสดชื่นดี แต่บางทีก็ไม่สะดวกเหมือนอยู่บ้านอ่ะ จะเยี่ยว จะกินน้ำงี้
>>719 มึงอยู่บ้านหรืออยู่ห้องวะ กูก็ฟูลไทม์ เวลาเพลียจอ กูก็ถูบ้านจนเงาวับ งีบกลางวัน เล่นกับหมา พาหมาไปฉี่บ้าง ชาเลนจ์ถอนหญ้าที่ขึ้นข้างบ้าน1นาที20ต้นบ้าง หิวก็หาไรกิน(ทำเอง) 4โมงขับรถพาหมาเดินไปขรี้ แวะซื้อของกินเย็นถ้าขี้เกียจทำ ค่ำก็อ่านหนังสือบ้างดูซีรีส์บ้าง คิดบทสนทนาได้ก็พิมพ์เลย แล้วก็นอนเที่ยงคืน หลับเป็นตาย
ถ้ามึงอยู่หอ หรือคอนโด หันไปทางไหนก็ผนัง ลองถูบ้านจัดที่นอนขัดส้วม สควอช ยืดเส้น หรือทำอะไรให้เหงื่อออกบ้างไหม หรือออกไปเดินรับแสงรับลมรับpm2.5เปลี่ยนบยก.บ้าง อาการนอนไม่หลับมันทรมานและเป็นจุดเริ่มซึมส้วมได้นะ
>>719 ไปออกกำลังกายซะ ตื่นเช้ามาไปวิ่งรอบๆแถวที่มึงอยู่ก็ได้ ถ้าวิ่งไม่ไหวก็เดินชมนกชมไม้เรื่อยๆเอา ตั้งเป้าหมายเล็กๆก็ได้แบบเดินไปกินก๋วยเตี๋ยวซอยข้างๆ เดินไปร้านกาแฟ ซื้อขนมเล็กๆน้อยๆกลับมาไม่ต้องนั่งแช่ก็ได้ รับแสงแดด สูดอากาศบ้าง หากิจกรรมทำให้มึงออกแรง พบปะคุยกับผู้คนบ้าง ถ้ามีเงินแนะนำให้ไปปีนผาจำลองออกกำลังกายหรือไม่ก็พิลาทิส อันนี้มันจะฝึกสมาธิมึงด้วย ได้ยืดเส้นยืดสายด้วย
กูอยากทุ่มแรงทุ่มใจฟูลไทม์มาก แต่กูพบว่ากูเขียนไม่ออกเลย ต่อให้มีเวลาก็ตาม ถ้าอารมณ์ไม่มา หัวไม่แล่น ก็ไม่ได้งานเลย กุสิ้นหวังกับความฝันที่จะเขียนฟูลไทม์มาก พอเห็นชาวบ้านปั่นกันได้เดือนละเรื่อง ปีละสี่ห้าเรื่องละกูท้อ กูคงไม่มีความสามารถด้านนี้มากพอจะทำเป็นอาชีพ
>>719 ต่อให้อินโทรเวริ์ดมันก็มีช่วงที่เบื่อหน่ายห้องสี่เหลี่ยมเดิมๆหรือจำเป็นต้องไปรับแสงรับลมจากภายนอกบ้างนะมึง เหมือนคนติดคุกนานๆสุขภาพจิตเสื่อมนั่นแหละ หลักการของอินโทรเวิร์ดคือมึงต้องพื้นพลังเวลาที่อยู่ตามลำพังได้ ไม่ใช่รู้สึกเหมือนถูกสูบ อันนี้กูว่ามึงเครียดสะสม บวกกับเอางานไปบวกในห้องส่วนตัวทำให้สมองมันแยกแยะเวลาพักกับเวลางานไม่ออก เหมือนอยู่ในโหมดทำงาน 24 ชม. ป่าววะ ยิ่งงานไม่เดินก็ยิ่งเหมือนไม่ได้พัก อยู่กับตัวเองความคิดก็ยิ่งวนวุ่นเป็นเกลียวไปอีก ต้องไปหาเวลาหย่อนใจข้างนอกบ้างว่ะ
>>723 ใช่ มึงต้องหากิจกรรมทำ ไม่ใช่ขังตัวเองในห้องสี่เหลี่ยมแล้วคอยปั่นงาน อันนี้มันจะทำได้ต่อเมื่อมู้ดมึงมา ไฟมึงมี แต่ถ้าเครียดหรือตันๆให้ไปออกกำลังกายรับแสงแดดหรือทำงานบ้าน ทำความสะอาดอะไรก็ได้ ทำให้มันเป็นกิจวัตรอย่าผลัดวัน ตั้งเป้าหมายเล็กๆไว้ว่าวันนี้มึงเดินไปซอยข้างๆได้ มิชชั่นคอมพลีทแล้ว มีเรื่องทำสำเร็จด้วยแน่ะ แล้วจะมีกำลังใจเอง
กูเพิ่งรู้ว่า ปก ฉongกong 2ตลค.รวมฉากเบ็ดเสร็จ30kแถมยัง ต้องมีค่าล่ามอีกต่างหาก4k และรอนานระดับปีกว่าขึ้นไป
ผู้ได้ครอบครองต้องมีทั้งเงิน คอนเนคชั่น และความอดทนเป็นเลิศ สุดยอดเลยถถถถ
>>725 ถ้าเป็นหลายปีก่อนที่ ฉก. ยังฮ็อต ๆ กุว่าปล่อยแป๊บเดียว ก้อคงมีคนเอฟต่อแล้ว แต่ตอนนี้นักวาดไทย นักวาดเกาหลี เก่ง ๆ เยอะอ้ะ ราคานี้ได้ปกวิจิตรเลย แล้วตอนหลังวีรกรรม ฉก. เยอะ คนคงยี้กันบ้างแล้ว กุก็เคยชอบงานเขา แต่ช่วงหลังดูไปก็เบื่อ รู้สึกเหมือนกันไปหมด งานแอบดร็อบลง
>>728 ล่าสุดที่สนพ.ไทยเจ้านึงออกมาบอกว่าต้องเปลี่ยนปกเพราะฉก.ไม่ออกจากลูปอนันต์นั่นไง555 ขนาดระดับสนพ.ยังโดน คนทั่วไปจะเหลือเรอะ กูเห็นคนไทยด่าตรึมอยู่ ต่างชาติก็เริ่มยี้คือกัน แม่งงงมากฉก.ผีเข้าเหรอวะ โอกาสพร้อมทุกด้านขนาดนี้ยังจะทำตัวแย่แบบนี้อีก แต่นั่นละเพราะมีคนพร้อมแย่งกันเปย์ แกคงไม่เดือดร้อนสักเท่าไหร่หรอก เหมือนนว.ไทยคนดังที่โดนบิดกันถ้วนหน้า แต่มีคนพร้อมซัพตลอดอะจ้าเลยไม่ล้มสักที
ใครเข้าเมบไม่ได้บ้าง ตอนนี้เมบล่มเหรอ
คนเอียนพฤติกรรมดองงานของฉก.กับเบื่อๆลายเส้นด้วยแหละ จ้างกันเยอะเกิน เห็นเต็มเชลฟ์ จนกูเฉยๆละ ยิ่งเจอความชอบดองงานยิ่งส่ายหน้า
แถมยังรับงานต่างชาติ ก็คงเพราะจีนไม่เอาสันดานแหละ
สอบถามเพื่อนๆนักอ่านนักเขียน คิดเห็นยังไงเกี่ยวกับ งานเขียน 'หักมุม' ส่วนตัวชอบมาก อยากลองเขียน แต่คนรอบข้างไม่มีใครชอบเลยอะ เสียใจ
>>739 ถ้าหุกมุมดี ชอบนะ เช่นพระเอกเป็นลุงจนๆขับรถบุโรทั่ง อยู่บ้านซอมซ่อมาตลอดเรื่อง
แล้วตอนท้ายๆหักมุมเฉลยว่าเป็นลุงเป็นเจ้าสัว ที่ไม่บอกว่ารวยเพราะจะลองใจนางเอกอะไรงี้ หักมุมแบบนี้โอเค
แต่ถ้าหักมุมอิหยังวะ เช่น ตายทั้งคู่พระเอกนางเอกเหลือกูคนอ่านคนเดียว;นางร้ายที่เกลียดมาตลอดทั้งเรื่องดันได้กับพี่ชายนางเอกที่หล่อแสนดี
อันนี้สาป
>>740 ไม่ใช่คนถาม แต่โห คือหักมุมดีแบบที่มึงยกตัวอย่างคือแบบที่กูเกลียดเข้าไส้เลย จนมาทั้งเรื่องอยู่ดีๆมาเฉลยว่ารวยเนี่ย55 ส่วนหักมุมแย่แบบที่มึงบอกกูโคตรอยากเขียนอะ5555
หักมุมนี่มันได้หลายเวย์แล้วแต่คนชอบจริงๆ มึงอยากเขียนก็เขียนไปเถอะ คีย์บอร์ดอยู่ในมือมึง ตอนนี้กูกำลังเขียนคู่รองที่ค่อยๆจีบกันมาตลอดทั้งเรื่อง แต่ตอนจบมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายอยู่(แต่จะบรรยายว่ารักกันตลอดไป ไม่แต่งงานใหม่) ถ้าเจอ สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นกูนะ
หักมุมนี่ดีนะมึง อ่านสนุกมาก แต่กุว่าทำยากมาก กุชอบหักมุมแบบใบ้ไว้โคตรลึกอ่ะ แบบอ่านรอบแรกคิดไม่ถึง แต่พอช๊อคไปตอนเฉลยแล้ว กลับมาอ่านใหม่ก็เออ แม่งคนเขียนใบ้ไว้ตลอดทางนี่หว่าแต่เนียนจนกูคิดไม่ถึงเองอะไรแบบนี้ มีเหตุมีผลให้คล้อยตาม
แต่หักมุมแย่ๆนี่จะเป็นแบบอยู่ๆก็โผล่มาแบบคนเขียนอยากใส่อยากหักเป็นแนวอื่นก็หักเลย เช่น สไตล์คลาสสิคที่กุเกลียดก็แบบที่ลุ้นที่อ่านมาทั้งเรื่องคือความฝัน ตัวเอกแม่งนอนเป็นผักแล้วจบงี้ อันนี้ไม่ได้ว่ะ 555
กุชอบมากนะหักมุมอะ จะเป็นเวย์ไหนก็โอเค อย่างที่เพื่อนโม่งบอกไม่โอข้างบนกุชอบหมด นับถือนข.ด้วยที่กล้า แต่อย่างว่า นักอ่านไทยส่วนมากไม่ชอบว่ะ คงชอบคอมฟอร์ตโซนกัน
กูยกเรื่อง the mist เลยละกัน ต้นฉบับคือนิยายของสตีเฟน ส่วนฉบับหนังคือผกก.สร้างตอนจบใหม่ที่หักมุมได้เชี่ยมากจนคนเขียนยังชมอะว่าทำไมกูคิดแบบนี้ไม่ได้วะ55 คือเป็นการหักมุมที่แบบทำเอาเหม่ออารมณ์แม่งเคว้งๆคว้างๆ ไปเลย คือจบแย่แหละเศร้าเลย แต่คือมันเป็นไรที่น่าจดจำมากๆและโคตรเจ๋งมากๆอะ แบบทั้งเรื่องชงมาซะดีใส่ซีนสู้ชีวิตเต็มที่ แต่ก็หยอดความสิ้นหวังเอาเรื่อยๆ พอมาถึงตอนจบเลยกลมกล่อมพอดี
ในมุมนักอ่านถ้าช่วงเครียดๆชีวิตดิ่งๆอยากหานิยายฮีลใจกูจะไม่ชอบอะไรหักมุมเลยว่ะ มันดูเป็นสิ่งที่ควบคุม(เดา)ไม่ได้ ชีวิตจริงหักมุมพอแล้วกูไม่พร้อมรองรับการปล่อยของ ของนักเขียน กูต้องการพักใจอ่านนิยายที่เป็นเซฟโซน
แต่ถ้าช่วงชีวิตดีมีความสุข จะหักมุมยังไงก็ไม่ติดอะ ถ้าหักมุมแบบคาดไม่ถึงได้สมเหตุสมผลจะมองว่านข.โคตรเจ๋งด้วย
ดังนั้นมึงอยากเขียนแบบไหนก็เอาที่ชอบที่อยากเถอะ ขนาดคนๆเดียวเช่นกู ยังเปลี่ยนทุกวัน มีหลากอารมณ์บางวันชอบแบบนั้นวันนี้ชอบแบบนี้เลย
>>739 ตอบยากมากอ่ะ กูว่าปัจจัยที่คนจะรู้สึกว่าจุดหักมุมที่ใส่มามันเจ๋งรึเปล่ามันหลากหลายมาก
ทั้งชั้นเชิงในการเล่าเรื่องของคนเขียน จังหวะที่เฉลย ความรู้/ประสบการณ์ในการอ่านของคนอ่าน ความคาดหวังของคนอ่าน
เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างอารมณ์ของคนอ่านก็อาจจะมีผลได้ วันนั้นอารมณ์ดีอาจจะอินไปกับเรื่องได้ง่ายขึ้นได้
ยกตัวอย่างที่กูคิดว่าน่าสนใจละกัน
- การ์ตูนแนวสืบสวนเรื่องนึงตัวร้ายของเรื่องคุยโทรศัพท์กับคนที่มีอำนาจเหนือกว่าสั่งงานตลอด บิ้วให้คนอ่านคิดว่ามีองค์กรลับ
เฉลยคือจริงๆแล้วตัวร้ายมีอาการทางจิต ที่ปลายสายไม่มีใครมาแต่แรกแล้ว คนไม่ชอบจุดหักมุมนี้เยอะมาก
แต่กูรู้สึกว่าถึงจะไม่ว้าว แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร เพราะปกติเรื่องแนวสืบสวนต้องให้องค์กรลับมีจริงตลอด เฉลยมาว่าไม่มีบ้างก็แปลกดี
- นิยายเรื่องนึงใบ้ประเด็นอย่างนึงมาทั้งเรื่อง แต่สุดท้ายจนจบเรื่องก็ไม่เฉลย มาเฉลยในตอนแถมที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย
เลยรู้สึกว่ามาเฉลยตอนนี้ไม่ต้องใส่ประเด็นนี้มาแต่แรกก็ได้มั้ยวะ...
- ถ้าจะหักมุมที่ประมาณกลางเรื่อง แล้วจุดหักมุมเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่อง กูคิดว่าสิ่งสำคัญเลยคือหลังจากหักมุมตรงนั้นไปแล้ว
เรื่องมันสนุกมากขึ้นหรือน้อยลง ถึงจุดหักมุมจะไม่ได้เจ๋งมากโดยตัวของมันเอง ถ้าหลังจากตรงนั้นเรื่องมันสนุกขึ้นกูว่าคนก็จะไม่คิดมาก
- กูเกลียดมากๆคือเรื่องที่กลุ่มตัวเอกผ่านอุปสรรคสำคัญมาได้แล้ว แต่สุดท้ายต้องมามีคนตาย/พิการ เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องตอนใกล้จบ
เช่นลูกน้องตัวร้ายที่รอดมาได้ตามมาแก้แค้น เหมือนอยู่ๆก็กลัวเรื่องมันแฮปปี้เกินไป เลยต้องหาเรื่องให้มันจบไม่ค่อยดีมาถ่วงดุล
ชักจะสงสัยว่า มีคนชอบ มีคนไม่โอ งี้ นข.ต้องติด spoil ให้มั้ยวะ แบบ คำเตือน เรื่องนี้มีหักมุม งี้ นักอ่านจะได้ไม่มาด่ากราด ให้หนึ่งดาวบอกเสียดายตัง 555555
>>748 กูคิดว่าไม่ต้องติดtwหรอกว้ะ ถ้าลองกล้าหักมุมต้องกล้าให้ตลอดดิ ยอมรับทุกแรงปะทะของผลตอบรับ ถ้าหักมุมแล้วมาแบ่งรับแบ่งสู้กลัวคนด่างั้นงี้เลยไม่สุดสักทางก็อย่าหักอะไรเลย เขียนเรียบๆจบตามวิถีไปเถอะ
หัวใจของหักมุมคือเซอร์ไพรส์คนอ่านไม่ใช่เหรอวะ การสปอยก็สปอยเหมือนบิขนมปังรายทางจุดเล็กจุดน้อยให้คนอ่านเก็บเล็กผสมน้อยเอง มาบอกแต่แรกว่าจะมีหักมุมนะคะ มันเสียอรรถรถนะกูว่า
วะ;อรรถรส
ถ้าไม่หักแบบเปิดมา feel good ดันจบ bad end หมาแมวตาย กุรับได้นะ
อืมมมม กูชักไม่แน่ใจแฮะว่าจะหน้าด้านพอลงตอนละ 1000 คำไหวไหมนะ
คือปกติกูคอนละ 3000-4000 คำ แต่ตั้งใจจะแบ่งครึ่งซักตอนละ 1500 น่ะ ทว่าบางตอนอาจจะยาวเกิน 4000 และจังหวะตัดตอนมันไม่ลงตัว ทำให้อาจจะมีบางตอนที่ตัดแล้วเหลือราวๆ พันคำเศษๆ ซึ่งกูรู้สึกหน้าไม่ด้านพอจะลงเหมือนกับใครบางคนว่ะ ถถถถถ
แต่ถ้าจะรวมเป็น 2000+ ก็ดูยาวไปหน่อยแฮะ เอาไงดีวะ
แม่งโมงแถวนี้หน้าด้านเพียบ 5555
แนะนำกันมาตลอดว่าถ้าลงเอายอดวิว 800-1000 คำพอ โปรโมต นิยายฟรี
นักอ่านเขาไม่มายด์ ถ้าได้อ่านต่อเรื่อง
ยาวขนาดสามพันคำ ซอยไปเลยก็ได้ แบ่งซอย สามตอนลงสามเวลาก็ยังได้ เอาวิว
จะถือว่าเป็นการปั๊มวิวก็ได้ แต่เป็นปั๊มวิวที่อยู่ในกฎ ไม่มีใครว่า
*ตอเนื่อง
>>756 เลียวก็เหี้ยละเพื่ิอน พูดให้ถูกคือกูตามยุคไม่ทันต่างหาก
ยุคกูเขียนแม่งบังคับหน้านึงไม่ต่ำกว่า 500 คำ ตอนนึงยาวเป็นหมื่นคำ พอมาสมัยลงเน็ตก็เริ่ม 3-4 พันตลอด พอเลิกเขียนไปหลายปีเพิ่งกลับมาเขียนก็เจอ culture shock เลย เพราะปีที่แล้วโม่งแนะนำราวๆ 1500-2000 คำ แต่พอมาคราวนี้บอกเหลือพันเดียวอีก
นี่กูต้องอ่านงานตัวเองย้อนอีกรอบ เพื่อแบ่งตอนใหม่อีกแล้วเหรอเนี่ย ถถถถ
>>764 มันเป็นไรที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยไงมึง ยุคก่อนเขียนเยอะสิดี บทละหมื่นคำสามัญมาก ใครเขียนแค่2-3 พันคำคือมึงเนียนซอยตอนสินะ
แต่พอมายุคนี้คนสมาธิสั้นขึ้น ถึงจะไถจออ่านในเนตคือเก่า แต่เราจะโฟกัสข้อความยาวๆได้ยากขึ้นอะ อ่านแล้วรู้สึกเหนื่อย ผลคือพวกสายปูเรื่องแบบเรื่อยๆมาเรียงๆก็ตายเรียบ คนที่เขียนแบบตัดยับๆฉุบฉับทั้งจำนวนคำและเนื้อหา คือผู้อยู่รอด พันคำก็เบสิคๆ ได้สามพันคำก็อย่างเทพ หมื่นคำมึงเขียนให้ใครอ่าน กูไถ ่านไม่ถึงครึ่งบทก็บัยจ้า กว่าจะจบบทก็เบื่อก่อนละ
ปัญหาพวกนี้เลยส่งผลไปยังพวกคลิปคอนเท้นต่างๆด้วยอะ สังเกตดิ เพลงสมัยก่อนเริ่มต้นที่ 3-5 นาที สมัยนี้ 2-3 นาทีก็เต็มกลืนละ ยาวกว่านี้ถ้าเพลงไม่เพราะติดหูกูไม่ฟังซ้ำจ้า หรือแค่เห็นจำนวนนาทีก็ไม่แท้แต่จะกดไปฟัง ก็ผลพวงต่อเนื่องมาจากการเสพคลิปย่อสรุปไรงี้อะ ตต.นี่ตัวริเริ่มเลย
ที่ได้ใหม่มาแรงเพราะซอยสั้น1,000คำนิดๆ แต่ตัดจบได้อย่างน่าติดตาม ตัดจบตอนในตอนที่ทำให้คนอ่านรู้สึกอยากรู้อยากไปต่อ แล้วนักเขียนก็อัพฟรีทุกวันบ้าง ติดเหรียญล่วงหน้าบ้าง ตอนที่พีคๆสุดก็ปล่อยebookบ้าง เป็นกลยุทธ์การขายไปตามยุคสมัย สอดคล้องกับผู้บริโภคส่วนใหญ่
ลงทีเยอะๆ ยาวๆให้ไถอ่านแบบหาจุดสิ้นสุดตอนไม่เจอสักทีก็ได้
ถ้ามึงไม่เน้นรายได้ มาขายศิลปะ อยากอ่านเมื่อไหร่ก็เรื่องมึง จะลงทีละหลายพันคำก็แล้วแต่
แล้วลองมาดูว่าผลลัพธ์เป็นยังไง
จุดที่ไปแตะพันโหลดของแต่ละคนมันยากมั้ยวะ แล้วทำยังไงถึงจะไปถึงจุดนั้น
กูว่ากูขี้เกียจย้อนกลับไปแก้ละ เพราะย้อนกลับไปแก้มา 3 รอบละ
เอาเป็นว่าตอนเก่าเป็นตอน 1500-2000 ไปก่อน แล้วหลังๆ ค่อยลดหลั่นลงละกัน
>>770 มันไม่มีอะไรตายตัวหรอกว่ะ จะลงหมื่นคำแต่ทั้งพล็อตและสำนวนมึงเจ๋งจนดึงคนให้อยากอ่านต่อเรื่อยๆไม่เบื่อก็ได้ แล้วแต่มึงสะดวกและอยากทำ แต่มึงต้องยอมรับความจริงว่านักอ่านสมัยนี้สมาธิสั้น ชอบอะไรเร็วๆสั้นๆ อ่านอะไรยาวๆไม่ไหว ถ้ามึงไม่เจ๋งจริง ไอ้หมื่นคำที่มึงจะลงมันจะพาคนอ่านเบื่อแล้วปิดหนีไม่อ่านต่ออีกเลยรึเปล่า ทั้งนี้ทั้งนั้นมันไม่มีอะไรถูกผิดอะ จะลงสั้นๆทีละ500 คำหรือจะยาวไปแบบอ่านจบอีกทีปีหน้าก็ได้ มึงสะดวกแบบไหนก็ลงแบบนั้นเถอะ
กูลองมาตัดให้เหลือราวๆ พันคำแล้วรู้สึกลำบากแฮะ จังหวะการเดินเรื่องมันต้องไวมากซึ่งไม่ใช่สไตล์เลย
แถมพอลองตัดแบ่งจาก 4000 เป็น 1000 4 ตอนแล้วรู้สึกเหมือนเรื่องไม่เดินด้วย เอาเป็นว่ากูคงไว้เท่าเดิมตอนละ 1500 ก่อนดีกว่า น่าจะเป็นจำนวนกลางๆ ไม่ยาวไป ไม่สั้นไปแหละ ...มั้ง
อย่างกุตอนหนึ่งก็ 3-4 พันคำ แต่พอกุไปลง กุก็หั่นๆ 3 ครั้ง ลงแม่งสามเวลา เจ็ดโมง อ่านก่อนไปทำงาน เที่ยงิอ่านตอนแดกข้าวหรือแดกอิ่มแล้ว กลางคืนสองทุ่มเลิกงานละมานอนอ่านชิลๆ หรือมึงคงคำว่าตอนของมึงกับตอนใน รีดช่ายม้ายยยย
พิมพ์มือถือนิ้วเบียดชิบหาย ถึงกับต้องเปิดคอม กุขอแนะนำแล้วกัน ซึ่งมันเป็นทริคที่โม่งแชร์ๆ กันและกุใช้แล้วแม่งได้ผล
ถือว่าเป็นการปั๊มวิวโดยสุจริต ไม่มีใครมาเหม็นหน้ามึงและนักอ่านเขาก็สะดวกแบบนี้ นักอ่านไม่ได้ติดอะไร ถ้ามึงมาประจำสม่ำเสมอ ไม่ใช่ชาติหนึ่งอัพที
อันนี้คือการที่มึงลงเพื่อโปรโมท เพื่อไต่ชาร์ต เพื่อยอดวิวอะไรก็ว่าไป บลาๆๆ
จะขอยึดว่าเป็น raw ที่อื่นก็น่าจะนับวิวกันแบบนี้ เด็กดอยเต่าดอยไม่เอามาเข้ากรุ๊ปด้วย
การนับวิวของที่นี่ มันจะเป็นการหนึ่งวิวเท่ากับผ่านต่อหนึ่งตอน(รีด)**** ตอน(รีด) =/= คำว่า ตอน(ของนข.) ให้เก็ทตามนี้****
นักอ่านทุกวันนี้คือต้องการความสม่ำเสมอมากกว่า ตอน(รีด) 1 ตอน อาจจะมีสัก 1000-1500 (หรือเคยเห็นน้อย 800 ก็ยังได้! ค่ะสาว นักเขียนดังก็แนวนี้) แต่สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมออัพทุกวัน จะดีที่สุด ยิ่งเปิดเรื่องใหม่มาแรง วันหนึ่ง สมมุติมี ตอน(ของนข.) ของมึงมี 4000 ก็แบ่งๆ ออกมาสามก้อน ลงไป 3 ตอน(รีด) เอาจริง ไม่ต้องคำนึงว่าจะต้องทิ้งปมอะไรด้วยซ้ำในตอน(รีด) มึงเขียนตอนนั้นมายังไงก็ตัดตามจำนวนไปเลย ปมที่มึงจะทิ้งเดี๋ยวมันรวมกันออกมาดีเอง ถ้าไม่ลงจนจบ พอถึงไคลแม็กซ์ แปะอีบุ๊ค (อีบุ๊คมึงน่ะก็ทำเตรียมให้พร้อม ในกรณีที่จบแล้ว กำหนดวันวางขาย กำหนดการลงออนไลน์ให้ตรงกับความลงแดง ยอดขายก็จะมา)
ส่วนใครบอกยังสะดวกลงไปทีละสามพันคำห้าพันคำก็ตามนั้น แต่มึงอย่าลืม สมัยนี้ตั้งเวลาอัพได้ด้วย เข้าไปที่เดียวก็แม่งแบ่งซอยและลงไว้ให้มันทำงานอัตโนมัติ
ky เวลาเขียนเรท มึงเริ่มเขียนกันยังไง แบบเปิดหาของคนอื่นมาอ้างอิงวิธีไหมอะ กูกำลังลองเขียนแต่ตันมาก กังวลมากด้วย
เหมือนกูเคยเห็นโม่งแนะนำวิธีเขียนอยู่ แต่หาไม่เจอแล้วอะ;;—;; ไม่รู้อยู่มู้ไหน
แล้วแบบๆๆ ถ้ากูชอบการเขียนเรทของคนนึงมากแล้วอ่านแต่เรทของเขา พอเขียนออกมาแล้วคล้ายเขา (วิธีบรรยายกับพวกศัพท์) กูจะโดนตีไหม
>>775 >>776 >>777 ไม่ใช่ไม่เข้าใจโว้ย แต่เนื้อหาที่กูเขียนมันตัดตอนช่วงราวๆ นั้นพอดีแทบทุกตอน ซึ่งถ้าเอาต่ำกว่านั้นแล้วมันดูไม่ลงตัวซึ่งกูอ่านเองแล้วรู้สึกขาดๆ เกินๆ ก็เท่านั้น กูเลยคิดว่างานกูจะต้องตัดประมาณนี้ถึงจะกำลังดี!!
เข้าใจแล้วว่ายิ่งซอยตอน = ยิ่งทำให้ยอดวิวเยอะ แต่งานกูอยากให้มันมีความสมบูรณ์ในระดับหนึ่งด้วย กูเลยเลือกจะตัดประมาณนั้นแทนที่จะเลือกตัดแหลกก็เท่านั้นแหละ เข้าใจอะไรยากส์~~
จะว่าไปเมื่อก่อน 2-3 ปีก่อนกูเคยเอาเรื่องนี้ไปถาม นข. มืออาชีพในเฟสคนหนึ่ง ที่มาโปรโมทงานจีนของตัวเอง โดยเรื่องการซอยตอนยิบย่อยนี่ล่ะ ผลที่ได้คือกูโดนอีกฝ่ายด่ายับกลับมาเฉยเลยว่าดูถูกนักอ่าน ไหงปัจจุบันแบบนี้มันกลายเป็นมาตรฐานใหม่ซะงั้นวะ
>>779 ของกูเริ่มแรกคือกำหนดก่อนว่าซีนนี้จะเอาแค่ถึงไหน(ข้างนอก-ข้างใน) ท่าไหน เริ่มจากอะไร แล้วไล่เล้าโลมไป ชายแก่นกายต้องแข็งขึงพรักพร้อม หญิงต้องฉ่ำแฉะจูบ เลีย ดูดตรงไหน ก่อนจะทนไม่ไหว ควานหาคอนด้อม ใส่คอนด้อม(ท่าเท่ๆฉีกซองก็สำคัญ)แล้วเอา คะรวยเข้าร่องรักน่ะจะทีเดียวมิดด้ามหรือค่อยๆแบบทะนุถนอม (ถ้าขอ ยสตน ก็ได้แต่ต้องปูมาดีๆเซฟเซ็กส์ยืนพื้น) แล้วระหว่างอยู่ในร่องรัก ก็จะทำอะไรบ้าง มืออยู่ตรงไหนปากอยู่ตรงไหน อกบดเบียดกันแล้วรู้สึกยังไงบรรยายไป จนเร่งเร้าขึ้นเรื่อยๆ แล้วพีค ครางต่ำ หอบหายใจสะท้าน จากนั้นจะต่อจะพอ ก็อย่าให้ขาดห้วง ต้องมีกอดมีพูดคุยว่าโคตรดี โคตรมัน ด้วย เพิ่มอรรถรส
>>779 สำหรับกูนะ
ถ้าแบบนิยายรักปกติแค่นึกภาพให้ชัดก็พอ ว่าคาร์เราเป็นแบบนี้ สถานการณ์นี้ มันจะเริ่มเล้าโลมกันท่าไหนยังไง ได้บรรรยากาศออกมาประมาณไหน พอนึกภาพได้ก็เอาตามภาพเลย อันไหนขาดช่วงก็เบลอๆไปบ้างได้ ไม่ต้องคมชัดไฮเดฟมาก
แต่ถ้า pwp นี่คือเปิดเวบ under ground เท่านั้น เพราะกุนึก kink ที่จะใส่ไม่ออก การต้องมานั่งลิสให้ไม่ซ้ำซากกัน +บิด kink เดิมให้ดูแปลกใหม่นี่แม่งเหนื่อยชิบ
ของกูหาฉากอ้างอิงก่อนแล้วค่อยเอามาบรรยายเป็นภาษาตัวเอง
อย่างที่ทำอยู่บ่อยๆ คืออ่านมังงะ 18+ โดยเฉพาะพวกโดจิน แล้วมาหัดเขียนบรรยายว่าตัวละครทำอะไรกัน พอทำบ่อยๆ มันก็ซึมซับไปเอง
แต่กูเน้นการ์ตูน 18+ เพราะมันแสดงสีหน้าและอารมณ์ชัดดี ในขณะถ้าเป็นหนังมันเฟคจนดูไม่ออกอะ และเน้นการ์ตูนญี่ปุ่นในนิตรสารผู้ใหญ่ด้วยนะ ไม่ใช่มังฮวาเกาหลีที่เน้นเยกันจนไม่สนอารมณ์
เพื่อนโม่ง กูมือใหม่หัดลงนิยาย อยากรู้ว่ามีวันหรือเวลาที่มงคลในการลงมั้ยอ่ะ แบบว่าลงเวลานี้แล้วคนจะอ่านเยอะไรงี้ เช้า เย็น หรือดึกๆวะ แล้วลงวันหยุดหรือวันธรรมดาดี ;;; ;;;
>>789 มึงเอาสายมู หรือสายตรรกะล่ะ ถ้าสายมูกุไม่มีไรจะแนะนำ แต่ถ้าสายตรรกะ อันนี้ของอ่านและเขียนนะ ส่วนมากก็ช่วงเย็นอ่ะ ลงเวลาที่คนส่วนมากมักจะมาหานิยายอ่าน เพราะลงปุ๊บ นิยายมึงจะเด้งขึ้นไปอยู่บนสุดของแถบอัพเดทซึ่งคนจำนวนมากที่เข้ามาเวลานั้นจะเห็นงานมึงง่าย แต่ใดๆ พอมีคนคิดอย่างเดียวกันเยอะ แล้วมาลงพร้อมกัน ก็จะกลายเป็นว่างานมึงอยู่บนสุดได้ไม่กี่นาทีก็โดนเรื่องอื่นๆที่อัพต่อจากมึงดันลงมาอีกเช่นกัน
ในขณะที่อัพตอนเช้า คนไม่ค่อยเข้ามาไถอ่านมาเท่าตอนเย็นก็จริง แต่คนอัพก็ไม่ค่อยมี กว่านิยายกุจะหลุดจากด้านบนไปไกล ๆ ใช้เวลาเกือบทั้งวันแน่ะ
>>789
ถ้าขายนิยายรักผู้ใหญ่ แซ่บๆ เต็มไปด้วยตัณหาราคะ อ่านแล้วเสว แนะนำ เทศาตรีฤกษ์เป็นฤกษ์ โสเภณี บำบัดความใคร่ หลงใหลมอมเมาแบบใช้ความหื่นนำทาง พวกตลาดใหญ่ๆ ห้าง บ่อ น สถานที่ที่ต้องการให้คนเข้าไปล้นหลาม มักเลือกฤกษ์นี้เปิดตลาด เปิด บ่อ น
มหัทธโณฤกษ์ ฤกษ์เศรษฐี ตามชื่อส่วนใหญ่ทั่วไปใช้ฤกษ์นี้กัน
เทวีฤกษ์ ฤกษ์ตัวแม่ คนสวยเฉิดฉาย ในกรณีอยากเดบิวต์เป็นตัวแม่อะนะ
ทั้งหมดสามารถseaechหาได้ในกูเกิล เช่นพิมพ์ เทศาตรีฤกษ์มกราคม2567
ส่วนฤกษ์เน้นคนว่างมีคนเคยสำรวจไว้แล้วได้ผลตอบรับดี ถ้าวันธรรมดา คือเวลา12.00น. และ19.00น.
ถ้าเสาร์-อาทิตย์ 8.00น.เป็นต้นไปถึง2ทุ่ม
อันนี้ถามจริงจังวิชาการนิดนึง ถ้าพ่อเป็นฝรั่ง แม่เป็นเอเชีย ลูกเกิดมาจะผมทองได้มั้ย หรือได้มากสุดก็สีน้ำตาลแต่จะไม่เป็นสีทอง
>>794 ในโลกขริงมันก็มีเคสแฝดคนดำกับคนขาวอะ ที้งพ่อแม่ปู่ย่าตายายก็คนขาวหมด พอสืบย้อนไปคือมีบรรพบุรุษเป็นคนดำเมื่อหลายเจนก่อน ยีนคนดำเลยเพิ่งมาแสดงออกในรุ่นนี้ ถึงหน้าตาน้องจะต่างจากแฝดและพ่อแม่ แต่ดีเอนเอตือตรงกันนะ
เพราะงั้นไม่ฝืนหรอก แต่อธิบายสักหน่อยว่าเออเป็นยีนส์จากบรรพบุรุษงี้ ถ้าแนวแฟนตาซีหน่อยๆก็คือผู้ถูกเลือกอะ555 ยัดพลังวิเศษใส่เลยก็ถือว่าแถเนียน
ถ้าเราเอาปกที่เอฟมาจากเพจขายปก มาตกแต่งเองจะถือว่าผิดลิขสิทธิ์อะไรเขาไหมวะ คือ กุซื้อมานานแล้ว หลายปี พอหยิบมาใช้อยากจะเปลี่ยนชื่อเรื่องขึ้นมา
แวะมาบ่นเฉย ๆ กุอยากเขียนเรื่องเบาสมองสั้น ๆ ไม่ถึงแสนคำ ขายถูก ๆ เหมือนคนอื่นเขาบ้างว่ะ 555 ชีวิตนข.อินดี้เขียนทีเล่มหนาปึ้ก เบาสมองคืออะไรไม่รู้จัก เขียนเป็นแต่เรื่องหนัก ๆ แนวเข้าถึงยาก ปมรุงรัง แต่งยากแล้วยังขายยากอีก ไม่คุ้มเลยสักนิด สภาพ 55555
>>803 เห้ย นึกว่ากูมาบ่นเอง5555 กูแก้ปัญหาด้วยการแยกนามปากกาแหละ อันนึงไว้เขียนเรื่องชิลๆเสวๆสั้นๆไม่ถึงแสนคำ เอฟปกสำเร็จ
ส่วนอีกนามปากกาเขียนให้ทะลุแสนไป ระหว่างนั้นจะได้เอาเงินจากอีกนปก.มาใช้เป็นแรงใจให้ปั่นไอ้เรื่องแสนคำได้
แต่กูก็อยากเขียนนปก.หลักให้ไม่ถึงแสนคำเหมือนกัน งงตัวเองว่าจะให้ยาวอะไรจนาดนั้นวะ555
เวลาพวกมึงเขียนนิยายแบบมีตัวละครหลายๆตัวที่มีโมเมนต์กับนางเอก มึงจะล็อคพระเอกไว้ก่อนป่ะ หรือเขียนๆไปซักพักแล้วดูว่าตัวไหนเคมีดีสุดค่อยดันตัวนั้นมาคู่นางเอก กูอยากทำวิธีหลังแต่กลัวแป้กว่ะ
ky เห็นประเด็นเรื่องหนุ่มเกาหลีเที่ยวไทยอัพค่าตัวแพงๆเพราะไม่อยากให้คนจ้าง แล้วกูก็เกิดความคิดอยากตั้งราคานิยายเม้ดที่ซื้อผ่านผลไม้แดงให้แพงเว่อๆ แบบ 1,000 ไปเลย แต่ความจริงถ้าซื้อผ่านเว็บก็แค่ 200 นิดๆจะได้ป่าววะ แล้วเขียนบอกไปในคำโปรยว่าตั้งใจทำไม่ให้คนซื้อผ่านช่องทางนั้น มีใครลองยัง คือกูเคยลองตั้ง+เยอะๆ แต่ยังไม่เคยทำเว่อขนาดอัพไปพัน เลยอยากรู้ว่ามันจะworkมั้ยวะวิธีนี้ กูแค่ไม่อยากให้นักอ่านไปซื้อผ่านผลไม้แดงอะ กูไม่ชอบมันด้วย1 และมันหักเงินเยอะจนกูหมั่นไส้ด้วย2 แค่นั้นเลย555
>>810 น่าลองถ้านักอ่านมึงไม่ใช้ผลไม้เป็นหลัก555 คือส่วนมากที่คนยังจ่ายผ่านผลไม้ตรงๆ เพราะสะดวกกว่านี่ละ แพงกว่ากันไม่บาทเองถือซะว่าเสียค่าสะดวกสบาย ถ้ามึงจะตั้งราคาโอเวอร์เรทไว้พร้อมเหตุผลแบบนั้น มึงอาจเสียนักอ่านสายขี้เกียจไปแบบปกติกูเปย์แบบนี้ ถ้าต้องย้ายวิธีจ่ายก็ช่างแม่งเหอะงั้น กดอ่านในเว็บต่อก็ได้
อย่าประมาทความขี้เกียจของคนอ่านนะ แม่งอิหยังวะจริง กูเคยเจอคล้ายๆกันแบบจัดโปรซื้อเล่มคู่ลดราคา เอานิยายที่เหลือค้างสต็อกไว้มาโล๊ะนั่นละ มีนักอ่านมาขอจ่ายผ่านทรูวอลเลต แต่กูเลิกใช้ไปเป็นชาติละมีแค่พร้อมเพย์กับธนาคารไง ก็เลยไม่รับ มาฮึดฮัดใส่อีกบอกไม่อยากได้เงินเราก็แล้วแต่เลย นักเขียนคนอื่นไม่เห็นว่าอะไร ไม่มีเขาก็ไปหาคนมีมารับแทน เราสะดวกจ่ายแบบนี้แต่ถ้าลำบากขนาดนี้ไม่ซื้อแล้วก็ได้ เชี่ยกูงงชิบหาย วอลเลตมันก็มีโอนเข้าพร้อมเพย์ป่าววะ ช่างแม่งเหอะกูไม่ใช่พวกง้อลูกค้า เรื่องของมึงเช่นกันค่ะซิส กูขายโล๊ะไม่ได้ร้อนเงิน แต่มันรกบ้าน
ถ้าตัวละครตัวเอกทำสิ่งที่ไม่ได้ถูกต้องตามธรรมนองคลองทำแบบที่คนดีๆเขาจะทำกัน แต่มันสมเหตุสมผลด้วยนิสัยที่ปูพื้นและเซ็ตติ้งของเรื่อง แล้วสิ่งนั้นมันค่อนข้างแรง พวกมึงจะกล้าเขียนออกไปให้โดนด่าป่ะ ยกตัวอย่างเช่น พระเอกเป็นคิง ถูกใจนางเอกแต่นางมีผัวแล้ว เลยก่อสงครามฆ่าผัวนางทิ้งแล้วชิงเมียมันมา บังคับให้นางมาเป็นเมีย อะไรแบบนี้ (ไม่ใช่พล็อตที่กูจะเขียนนะเว้ย แค่ยกตัวอย่าง 55555)
>>816 ถ้ากล้าเขียนก็ต้องกล้ายอมรับผลที่ตามมาอะ มันจะมีทั้งคนชอบในความไปสุดในทุกทางนี้ กับคนแอนตี้ รับไม่ได้เลย
เคยมีนข.เขียนให้พระเอกเลิกกับนางเอก แล้วพระเอกรักนางเอกอยู่เลยxxxกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นไซด์ไลน์หน้าหุ่นผมเหมือนนางเอกเวลาxxxจะให้หันหลังและจินตนาการว่าเป็นนางเอก
ซีนนี้นข.โดนกระหน่ำ คนรับไม่ได้คือไม่ชอบเลย แต่คนรับได้ก็มองว่าทำไปเพราะรักนางเอกมากบ้าง;นี่คือจุดหน่วงสุดของเรื่องบ้าง ถ้าผ่านไปได้ก็ดีหมด
>>816 เคยอ่านบันไดหยกงามป่ะ พล็อตแบบมึงว่าเลย พระเอกคือตัวร้ายสัสๆ นางเอกจบไปแบบยังรักผัวเก่า แต่ก็ผูกพันกับพระเอกนะ ตบท้ายด้วยนอนพิเศษผัวเก่าที่ทำเพื่อนางเอก คนอ่านประทับใจนะ ทั้งสงสารเห็ยใจ แต่คนที่เชียร์อ่พระเอกก็มี มันเลวสมคาร์ แต่ก็มีจุดท่่ดี บางจุด นางเอกเข้าใจผิดไปจนตายเอง
>>817 >>818 >>819 พอดีสิ่งที่กูจะเขียนมันเป็นวิธีการแก้ปัญหาของตัวละครแบบหมิ่นเหม่ศีลธรรม ซึ่งมันมีวิธีที่คนปกติสามารถทำให้ดีได้นะ แต่มันจะผิดคาแรคเตอร์ตัวละครนี้เกินไป ด้วยนิสัยและเซ็ตติ้งมันไม่น่าจะคิดวิธีแบบที่คนจิตปกติเขาคิดกัน แต่เขียนแบบนี้โดนด่าชัวร์ แต่ถ้าเป็นคนที่เข้าใจนิสัยมัน อาจจะบอกว่าเหี้ยสมเป็นมึง 555555555
อันนี้คือต้องปล่อยให้มันเป็นไปอย่าฝืนใช่ป่ะ กูไม่รู้เทคนิคการเขียนแบบนี้เขาเรียกอะไรอะ เขียนๆไปแล้วพอรู้สึกว่าตัวนี้ไม่น่าทำแบบนี้ กูก็ต้องแก้ให้มันทำอีกแบบที่มองว่าเข้ามือและโอเคกว่า
จะว่าไปประเด็นที่นักอ่านรับไม่ได้แม่งก็แล้วแต่คนจริงว่ะ อย่างกุอะ ฆ่าคนได้ ทำเรื่องผิดกม.ได้ ถ้าเซตติ้งมันดาร์ค ๆ เถื่อน ๆ สมเหตุสมผล แต่เรื่องนอกกายนอกใจกูแบล้กลิสต์ท่าเดียว 555 สีนละทำเป็นหย่อม ๆ ไหมล่ะกู 55555555
>>822 เอาจริงแม่งก็ไม่ผิดหรอกเพราะเลิกกันละ แต่บางคนมองว่ารักกับเซ้กควรอยู่ด้วยกันปะ เหมือนนอกกายแต่ไม่นอกใจแม่งก็ไม่ควรอยู่ดี (ถึงเคสจะไม่ผิดก็เหอะ) เง่นมากก้จัดการตัวเองไปนึกถึงเธอไปคงฟินกว่า ย้ำอีกครั้งว่ามันไม่ผิดเว้ย แต่นิยายขายฝันอะ มึงเก้ทมะ ผช.มั่วไปทั่วกะคนรักมั่นขอเยเธอคนเดียว อันไหนฟรินกว่ามึงว่า
ส่วนที่กุถาม กุสงสัยเฉย ๆ ว่านข.เขาให้ตลค.มองเรื่องนี้ยังไง นึกได้ว่าไม่ควรเลยกู รู้สึกเฉย ๆ หรือไม่พูดถึงเลยน่ะ ไม่ได้บอกว่าต้องรู้สึกผิด เพราะมันก็ไม่ผิด
ใด ๆ ถึงกุจะไม่ชอบอะไรก็ไม่ด่านข.หรอก แต่ขอเม้นด่าตลค.ได้ปะอะ คนมันอินอะ 555 เคยเจอเรื่องนึงพระเอกสันดานเหี้ยสุดตีน ทัวร์รุมด่าพระเอกแบบจมดิน บรรยายซะคนไม่ได้อ่านยังเกลียดตาม สะใจชิบหาย 55 ไปส่องเม้นในรี้ดมีคนด่าถึงนข.เลย ด่าแรงเว่อด้วย อันนี้กุว่าเกินไป แต่ในเม้ดไม่ยักมีด่านข. มีแต่ชมว่าเขียนดี สงสัยคนด่าแม่งไม่ซื้อมัง
>>821 ปกติเลยมึง มันถึงมีคำว่าหลุดคาร์ไง ใครว่านข.ต้องคุมได้ทุกอย่าง เอาจริง ๆ บางเรื่องแม่งก็ไม่ควรไปฝืนบังคับอะ ไอ้ลูกเราทั้งหลายแม่งเหมือนม้าพยศดี ๆ นี่เอง 5555 กล้าสร้างคนเหี้ยก็ต้องปล่อยให้มันเหี้ย คิด พูด ทำ อะไรต้องสมเหตุสมผลกับคาร์มัน แต่นักอ่านจะด่าก็ทำไรไม่ได้แหละ เป็นกำลังใจให้นะ
>>820 นักอ่านที่รับได้ก็บอกอย่างที่โม่งบนมันบอกแหละว่าไม่ผิดเพราะเป็นช่วงที่เลิกกัน และพระเอกมันเง่น ก็ต้องระบายแบบใจรักเธอคิดถึงเธอเสมอแม้จะเยคนอื่นอยู่ก็ตาม และ พอนางเอกกลับมา พระเอกมันก็ไปเลิกกับไซด์ไลน์หุ่นเหมือนนางเอกที่ผูกปิ่นโตไว้ด้วยแอร์เมs1ใบ ตามคาร์พ่อหนุ่มใจสปอร์ต
ผลตอบรับจากคนอ่านคือ eเมลไปคร่ำครวญกับนข.เรื่องไม่รักแต่ทำไมต้องให้แอร์เมsบลาๆ
ในกู้ดรี้ดหลายคนก็กดดาวกระหน่ำเพราะไม่ชอบที่พระเอกไปมีอะไรกับคนอื่นรับไม่ได้
แต่โดยรวมนี่คือเรื่องที่หลายคนบอกว่าพระเอกโคตรคลั่งรักและยกเป็นนิยายขึ้นหิ้ง
ส่วนตัวกูคิดว่าถ้ามึงคิดว่าลูกมึงควรเป็นแบบไหน สถานการณ์อารมณ์ผลักดันให้ต้องทำเรื่องอะไรเลวร้ายก็ไปให้สุดเถอะ คนอ่านมีหลากหลาย ใครจะด่าก็บอกไปว่าลูกมึงเป็นคนดียย์
พื้นเพและสภาพแวดล้อมของตัวละครมันก็ส่งผลกับการกระทำและนิสัยด้วยนะ เคยเจอเรื่องนึง ปากกัดตีนถีบโตมาในสลัม สายตาแกร่งกร้าวกร้านโลก พอมีความรักกับพระเอกปุ๊บ เปิดโหมดสาวน้อยอินโนเซนต์โลกสวยมะงื้อมะแง้ขึ้นมาทันที อันนี้มันผิดคาร์แรคเตอร์เกิน เติบโตมาอย่างกร้านโลกมันควรมองโลกแง่ร้ายขี้ระแวงอะไรแบบนี้ให้เยอะๆป่ะ ไม่ใช่มาเข้าโหมดสาวใสไร้เดียงสาไม่เคยคุยกับผู้ชายมาก่อน
เพิ่งย้ายมาเขียน pwp วายเห็นเขาว่าเงินดี แต่ผิดคาดมากเปิดขายรายตอนแล้วยอดหลักร้อยไม่ถึงพัน เศร้ามากกกก เพราะเขียนตั้งใจแบบภาษาสวยเน้นบรรยาย แต่ยอดก็นะ คนติดตามส่วนใหญ่เหมือนรออ่านฟรีก่อนติดเหรียญมากกว่า ถ้าไปลง meb ต่อนี่มันจะรอดไหมวะ ฐานนักอ่านเดียวกันเปล่า? ถอดใจไม่ไหว ใครมีประสบการณ์บอกบุญที หรือเลิกเขียนย้ายไปหาเงินแนวอื่นดีกว่า
ไปเจอคนเม้นว่างี้มึงว่านิยายมั้ย
เคยเจอแบบยัยผมทองเหมือนกัน แต่เสริมหน่อยว่าดีกว่า(แบบแปลกๆแตกต่าง)ตรง..ผมมีเอกลักษณ์กว่าที่ค่อนข้างมืดมน
.
ผมสมัยเรียนปีแรกๆมองโลกแง่ร้าย ยิ้มบ่อยแต่เหมือนเสเเสร้งปนเหยียดและประชดเรียกว่าวอนตีนล้วนๆ แต่แปลกดีที่ไม่มีคนเกลียด การใช้บวกปรับสายตา(การขยัยกล้ามเนื้อรูปหนังตากับคิ้ว)เพื่อแสดงออกนี่ถ้าดูจากกระจกยังอึกเองเลยว่าตัวเองกำลังคิดไรอยู่ก็ไม่รู้ แถมทั้งหมดถูกจดจำมีแต่คนเป็นมิตรมาอยู่รอบตัวซึ่งทำสงสัยตัวเองมีดีอะไรนะถึงมีแต่คนคอยพยุงตลอดเวลา ตัวผมจะต่าง(กับตัวละครข้างบน)ที่ตรงไม่ค่อยเจอสายตื้อที่อยากเป็นเพื่อนแบบยันทอมในเรื่องแหะ ...
.
อ๊ะ!ใช่ว่าจะไม่เคยเจอนะ ผมเจอแค่ครั้งเดียวตอนปีหนึ่งเป็นหนุ่มหล่อขี้สงสัยจากคณะครุศาสตร์(ที่จ้วงหัวว่าแม่งตื้นเขินน่ารำคาญชะมัดแต่ก็ไม่เกลียด) และดูเหมือนผมจะถูกตีตัวออกห่างเองในหนึ่งวันแห่งความพยายามของเจ้าหมอนั่นซึ่งวันนั้นฝนตกซะด้วย ผมก็ไม่เห็นเจ้านั้นอยู่หลายปี.... ตื้นชะมัดเลยนะ ทั้งที่ทางนี้อุตสาห์เปิดหัวข้ออภิปรัชญา เช่น ความหมดศรัทธาว่ามนุษย์เป็นสัตว์ผู้มีเหตุผลหลังผ่านยุคโพสโมเดิร์น กับแนะนำหนังสือโลกของโซฟี่และนักปรัชญารุ่นเดอะ ต่างๆแท้ๆ การเมืองนู่นนี่ ความเป็นจริงและสิ่งที่ต้องจ่ายแม้จะทำตัวเมินเฉยในนาม "เป็นกลาง" ที่อ้างๆ กันของคนกลุ่มหนึ่งว่าตามจริงการอยู่เฉยก็มีราคาที่ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน ....... ผมพูดแต่เรื่องเครียดรึไงไอ้บ้านั้นเลยหนี เฮ้อ น่าขยะแขยงชะมัด
KY เห็นเขาว่านักอ่านชอบนิยายเบาสมอง ขายง่ายกว่างานปมยั้วเยี้ยหนัก ๆ แต่กุเห็นแนวผัว ๆ เมีย ๆ ดราม่าหอบลูกหนีขายดีจัง เทียบกับจีบกันกุ๊กกิ๊กไปวัน ๆ อันไหนขายดีกว่าหว่า
กูถามหน่อย นิยายที่จะโคแก่เนี่ย อายุห่างกันกี่ปีขึ้นไปดี คือไม่ใช่ไรกูไถเม้ดแท๊กโคแก่แล้วเจอพระเอกอายุ28 นางเอกอายุ23 ก็งงนิดหน่อย 5ปีนี้โคแก่มั้ยยังไง
โคแก่สำหรับกูคือ10ปีขึ้นไป ยึดแบบนี้มาหลายสิบเล่มแล้ว
Kyมึงว่าพระเอกเรียกตัวเองว่า”พี่”เรียกนางเอกว่า”หนู”มันให้ความรู้สึกยังไง
คือนิยายกูอะให้เรียกแบบนี้ไง
แต่เมื่อวานกูไปกินข้าวเจอคู่รักคู่นึงเรียกกันแบบนึ้แล้วกูเลี่ยนมากกกกกก ฟีลลิ่งในนิยายกับความเรียลในชีวิตมันต่างกันมากเลยว่ะ ถถถถ
ตอนนั้นเหมือนมีกระแสบอก ฟังดูเหมือนอ่อย เวลาผญใช้หนูกับผช กูว้อทททท
>>842 ในเรียลไลฟ์มีเยอะออกนะ กุว่ามันติดมาอ่ะมึง โดยเฉพาะคู่รักที่อายุต่างกัน จีบกันตั้งแต่สมัยยังแทนตัวว่าหนูได้ไม่ติดขัดอ่ะนะ บางคนก็ติดหนูไปหลายปีกว่าจะรู้สึกว่าตัวเองแก่จนควรบังคับตัวเอง เลิกแทนตัวเองว่าหนูได้แล้วก็อายุมากอยู่ 555
อ๋อแต่สมัยนี้เค้าไม่ใช้กันแล้วป่าววะ กูมึง หมดแล้ว 55
ที่ >>842 มันหมายถึง คือผช.เรียกผู้หญิงว่าหนูป่าว ไม่ใช่ผญ.เรียกตัวเองว่าหนู อันหลังนี่ปกติ แต่ชีวิตจริงเรียกอีกฝ่ายว่าหนูมันก็ดูแอบ ewwๆ จริงแหละว่ะ 555 แต่ก็ไม่ได้แย่มากนะ ดีกว่าเรียกมึงอะ 55555 ในนิยายกูไม่ได้อะไร แค่รู้สึกพี่มึงปากหวานขี้เต๊าะไปเร้กน้อย ยังไงมึงใช้ๆ ไปเหอะ
ปล. เคยเห็นคนแชร์ว่าชอบสรรพนาม พี่-เรา เออ อันนี้กูก็เขิน ส่วน พี่-ชื่อ ok / พี่-เธอ ให้คะแนนน้อยกว่า
มรึง... ขอถามเรื่องส่วนลดที่พวกมึงให้ร้านค้าหน่อยสิ ว่าส่วนใหญ่ให้ยังไง แบบสิบเล่ม มึงลดกี่% แล้วมากสุดถ้าเขาสั่ง 100 เล่ม มึงลดกันกี่ % ตอบกูกันด้วยนะ ขอบคุณมาก
หมวดรักผู้ใหญ่ ยังมีแบบข่มขืนแล้วรักป่ะ?
>>852 หมวดนี้ มีอยู่เรื่อยๆนะ แต่ส่วนใหญ่กูเจอแต่ ขข แล้วกลายเป็นชอบ กลายเป็นค้นพบด้านมืดของตัวเองไปซะอย่างงั้น
มีเรื่องนึงพอผัวคนแรก(ที่ ขข นางเอก) ตา ย จากนั้นนางเอกก็เป็นกระดังงารนไฟ เพิ่มปริมาณผช.เป็น3P 4P เลือกเดินเส้นทางค้ากาม รับเฉพาะชนชั้นสูง ผู้บริหาร ขรก.ระดับสูง
โม่ง พูดถึงแนวกินหญ้าอ่อน ถ้าให้นางเอกอายุค่อนข้างเด็ก แต่ พระเอกมันเป็นปิศาจ อายุพันปี (แต่หน้าออกตาลุง) แบบนี้ มันจะเมกเซนไหม รี้ดมันจะโอเคป่ะ
ถ้าเป็นปิศาจอายุพันปี จะกินเด็กไม่ถึง10ขวบหรือแก่ 70 ใกล้โลง ก็ไม่ต่างกันสำหรับปิศาจพันปี
แล้วก็ถ้าเป็นปิศาจตามโลจิค จะกินเด็กก็ไม่แปลก เพราะปิศาจชอบทำเรื่องผิดศีลธรรมอยู่แล้ว แบบนี้เข้าคาแรกเตอร์กว่าด้วย เป็นปิศาจจะแคร์ไรกับกฎหมายหรือศีลธรรมของมนุษย์ ปิศาจนะเว้ย มนุษย์ก็แค่แมลง
อารมณ์ มังงะ อนิเม เรื่องพ่อบ้านดำ อะประมาณนั้นถ้าคิดไม่ออก เห็นโคตรดังๆแฟนเยอะมาก แต่พระเอกก็พยายามจะกินเด็กอะนะ
โม่งว่าพล็อตแบบนี้เวิคไหม
โม่งเขียนย้อนอดีตตัวละครกันยังไงบ้างวะ ช่วยแชร์กันหน่อยสิ
พอดีของกูกำลังเขียนให้ตัวละครเล่าความเป็นมาของตัวเอง แต่รู้สึกว่ามันยาวไปหน่อยแฮะ
เนื้อหาของกูก็ประมาณว่านางเอกประจำภาค (ไม่ใช่นางเอกหลัก) เป็นอะไรที่คล้ายๆ ร่างทรงมีพลังที่ควบคุมไม่ได้ ถูกตัวร้ายจับตัวไป ระหว่างนั้นก็เล่าพื้นเพตัวเองไปเรื่อยว่าเกิดที่ไหน วัยเด็กเจออะไรบ้าง ต้องเผชิญกับเรื่องร้ายๆ อะไรมาบ้างจนสามารถถึงได้มาถึงจุดนี้ได้อะไรทำนองนั้น ซึ่งกูเขียนไปเขียนมาก็กลายเป็นว่านางพล่ามคนเดียวไปแล้วประมาณ 5 พัน กว่าตัวร้ายจะปรากฎตัวอะ ถถถถถถ
ก็ตั้งใจจะตัดแบ่งซักตอนละ 1000 คำแหละนะ แต่พอมานึกถึงตอนอัพลงแล้วก็เดาได้เลยว่าคนอ่านคงจะรำคาญ เพราะอีนี่มัน monologue ยาวอยู่คนเดียว 4-5 ตอน จึงอยากขอคำแนะนำหน่อยว่าควรทำยังไงดี
>>856 ถ้าถามกูนะ กูไม่มีปัญหาเรื่องอายุห่างอะถ้าเป็นเคสที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ใช่คน
แต่จะมีปัญหาคือนางเอกเด็กไป อายุไม่ถึง 10 แล้วให้มีบทบนเตียงนี่คือกูส่ายหน้าเลย และยิ่งถ้าเขียนแนวเด็กมันยั่วชวนอีกฝ่ายขึ้นเตียงทั้งที่อายุแค่นั้น ยิ่งกุมขมับด้วย เพราะมันเป็นช่วงอายุที่ควรจะขาวสะอาดและไร้เดียงสาอยู่เลย
ขั้นต่ำสุดกูให้อายุ 14 เป็นช่วยอายุที่เริ่มมีมลทิล เริ่มมีความรู้สึกตื่นตัวทางด้านนี้
>>858 14 มันวัยที่เริ่มเป็นวัยรุ่นแล้วไง มีนม มีเมนส์ มีความรู้สึกทางเพศ เป็นผู้ชายก็เสียงแตกหนุ่ม ฝันเปียก หัดว่าว ไอ้เคสที่มีนมกับเมนส์เร็วกว่าชาวบ้านเขาก็จริง แต่ค่าเฉลี่ยก็อยู่ในวัยราวๆ 13-14 อะ
ต่อให้มึงจะให้นางเอกมึงเป็นโลลิ 10 ขวบ โดนเยเย้ในช่วงนี้ ร่างกายนางเอกมึงก็ไม่มีความพร้อมสำหรับการมีลูกอยู่ดี ไม่ว่าจะสอดใส่หรือคลอดลูกก็เหอะ ไม่เคยอ่านข่าวพวกเจ้าสาวเด็กแถบๆประเทศอิสลามโดนเยจนตายตั้งแต่คืนแรกที่แต่งงานกับเจ้าบ่าวเหรอ เขียนเอาเส้กแฟนตาซีอะได้ แต่ของจริงก็ประมาณนั้นอะ
มึงระวังอิโทรลที่อยากจะเขียนเย่เด็กลงเม็ดด้วยนะ ที่วนเวียนมาถามเรื่องแนวๆ นี้ซ้ำซาก
>>860 เป็นโทรลตัวนั้นเองเหรอ กูก็ว่าอยู่ว่ามันจะเงี่ยนอยากให้พระเอกเยเด็ก 10 ขวบไปทำไม
อุตส่าห์ยกยายแก่ 70 มาบอกว่าไม่ต่างอะไรกันในสายตาปีศาจ แต่สรีระ รูปร่างหน้าตา ยายแก่มันจะเต่งตึงเท่าเด็ก 10 ขวบเหรอวะ ถ้าไม่ต่างกันมึงก็ให้พระเอกเยยายไปเลยสิวะ จะยกเด็ก 10 ขวบมาร่วมด้วยทำไม นอกจากแค่อยากเขียนให้พระเอกเยเด็กเลยต้องเอายายแก่มาอ้างด้วยว่าไม่ต่างอะไรกันในสายตาปีศาจพันปี
>>861 มันมีแนวที่เรียกว่า โลลิบาบะ (Lolibaba) อยู่
ตัวละครฝ่ายหญิงนั้น ร่างกายมันจะเป็นเด็กอายุราวๆ 10 ขวบนั่นล่ะ แต่เซ็ตติ้ง พฤติกรรม และจริตจะกำหนดให้เป็นยายแก่หรือขุ่นแม่อะไรทำนองนั้น
ดูเผินๆ มันก็แนวเยเย่เด็กนะ แต่ถ้าลองได้อ่านแล้วมันก็รู้สึกว่าไม่ใช่อะ มันไม่มีความใส่ซื่อหรือ Grooming เด็กแบบที่เขาต่อต้าน แต่มันมันเป็นแนวเยเย่ผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ มากกว่า ...แล้วกูก็ดันชอบแนวนี้ซะด้วยสิ
>>862 เออ ขอบใจไอเดียนี้มาก ลืมไปได้ไงว่ามีแนวนี้อยู่ อ่านแล้วได้ไอเดียละ
เราอยากให้เด็กมันใสๆ อยู่ เลยกะจะให้เป็นโลลิบาบะ ที่ความจำเสื่อมเลยทำตัวเป็นเด็ก พอเข้าช่วงไคลเม็กคลายปม ให้ความจำกลับมา แล้วเคลียกับพระเอกน่าจะดี
ที่นี่ก็ได้ทั้งตัวละครเด็ก และไม่ผิดกฎหมายด้วยทั้งคู่ แฟนตาซีจงเจริญ
>>857 มึงใช้วิธีเล่าอนาคต > ปัจจุบัน แทนดิ ถ้ามึงจะเล่าเรื่องนางเอกยาวขนาดนั้นอะ แบบ ตอนแรกเปิดมาเป็นสถานการณ์ตอนโดนจับมัดอยู่ แล้วนางเอกก็คิดทวนว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยัง ผิดพลาดตรงไหน แล้วก็ขึ้นใหม่เป็นเล่าเรื่องตัวเองเหมือนบทเปิดปกติ
กูอธิบายไม่เก่ง ไม่รู้มึงเข้าใจไหม แต่วิธีนี่ใช้บ่อยในพวกมังงะอะ
การบรรยายแบบ inner monologue ถ้าเยอะไปมันก็ไม่ดีช่ะ อาจจะทำให้รู้สึกเวิ่น แต่อีกทางถ้าพอดี มันก็ทำให้อ่านแล้วอินได้เหมือนกัน
>>868 แล้วแต่แนวด้วยอะ
ของกูเขียน Inner Monologue ทั้งเรื่อง เพราะตัวเอกมันเป็นคนเล่าเรื่องผ่านสายตาทั้งหมด ซึ่งกูได้รับอิทธิพลมาจากนิยายฝั่งยุ่นเยอะมาก ยกตัวอย่างดังๆ ดีๆ ก็แบบ บิเบลีย ที่พระเอกแม่ง Monologue ทั้งเรื่อง จนรู้สึกได้เลยว่ามันเงี่ยลมาก เอาแต่มองนมนางเอก
แนววันไนท์ / เด็กเสี่ย / ท้องหอบลูกหนี แม่งขายได้ขายดีม้ากกกกขนาดนั้นเลยอ่อวะมึง คือหมวดโรแม้งนี่มองไปทางไหนก็เจอ นักอ่านเขาไม่เบื่อเหรอวะ อันนี้กุไม่ได้เหยียดไม่ได้กวนตีนนะนี่
>>871 สำหรับกูมันคือแนวหนีความจริงว่ะ สาวโรงงานอย่างกูก็อ่านแนวนี้บ่อย เบื่อก็ไปอ่านแนวอื่นเอา จอยๆสลับกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเด้กเสี่ยวันไน้ท์มีให้อ่านเยอะกว่าจริงๆ555 เน้นแค่คสพ.พระนางกับความม่วนระหว่างทาง บางทีก็ไม่ได้โฟกัสเรื่องเด้กเสี่ยไรมากหรอก แค่อยากดูโมเม้นหวานๆคนได้กันเฉยๆ แนวไหนก็ไม่ติดทั้งนั้น สนุกถูกใจก็พอ
>>871 มันได้เรื่อยๆนะถ้าเขียนดี พล็อตเดิมแต่กลวิธีการเล่าเรื่องมันต่าง อย่างเด็กเสี่ยที่ พระเอกกะเล่นๆแต่สุดท้ายกลายเป็นรักจริงขึ้นมา มันเป็นอะไรที่คนอ่านเดาได้เหมือนชีวิตควบคุมได้อะ ชีวิตจริงแม่งมีหลายปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่นิยายพล็อตนี้เดาได้ว่าพระเอกมันจะต้องมาง้อเมีย คลั่งรักจนยอมทุกอย่างให้เมียกลับมา สุดท้ายทุกอย่างจะดีมีความสุข มันฟินตรงนี้แหละ
ถามหน่อยจ้าาาา คนอ่านในเม็ดกับรี้ดคนละกลุ่มกันใช่มั้ย กูลงในรี้ดยอดเพิ่มน้อยนิดหนึ่ง แต่ยังไม่เคยลงขายในเม็ด
>>875 เท่าที่สัง คละๆ กัน ไม่เชิงแยกกันเด็ดขาด แต่นิยายบางเรื่องยอดน้อยในรีด เพราะอาจจะแทรกหน้าใหม่มาแรงไม่ขึ้น เพราะระบบมันเอื้อหน้าแรก ใหม่มาแรก นิยายอพเดตใหม่อยู่ในลืบ คนไม่ค่อยกดเข้าไปดู แต่ถ้าสนุกจริง บางคนก็ปังเงียบๆ ในเม็ด เพราะนอ.ในเม็ดคืออาหวังจะซื้อ ตกเค้าได้ก็ยอดมาแน่
พูดถึงเรื่องเบาสมองแล้วกูก็กังวลแฮะ
ตอนแรกกูตั้งใจเขียนแนวชิลใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยเบาสมองไป แต่พอดำเนินเรื่องไปความซีเรียสก็เพิ่มขึ้นซะงั้น ถึงจะเป็นช่วง Climax ของเรื่องก็เถอะ แต่กูหาช่องผ่อนความตึงไม่ได้เลย
>>878 ชีวิตมันเครียดอ่ะมึง พอหนีออกมาส่วนมากก็อยากได้อะไรจรรโลงใจ ยิ่งสภาพสังคมเครียดมากเท่าไหร่งานบันเทิงใจก็ยิ่งเติบโต
Dilemma ของมันในคห.กูก็คือ วงการเรียกร้องให้ค่า งานซีเรียสมาสเตอร์พีซ นำเสนอคอร์ที่สะเทือนสังคมมากกว่า แต่งานพวกนี้ดันเขียนยาก ขายยาก คนที่อ่านพวกนี้เป็นประจำมีน้อยถ้าเทียบกับหมวดนิยายขายฟิน ถ้าไม่บังเอิญแสงดันขึ้นมาว่ามันยอดเยี่ยมก็ขายแทบไม่ออก คนไม่ค่อยสนใจ อย่างงานเนื้อหาอ่านแล้วกระแทกใจแต่โคตรดิ่ง แม้มันจะมีความยอดเยี่ยมในทางอรรถรสภาษาและแนวคิดแต่มันก็เหมือนยาขมอ่ะ แบบอ่านแล้วดิ่งไปสามวัน กุก็แค่โนตไว้ว่าเออ เยี่ยมนะ แต่จะถ้าไม่มีฟีลชีวิตดีสัดจนอยากคอนทรัส หรือฟีลดิ่งแบบอยากมาโซตัวเองกุก็คงไม่เปิดอ่านอีกว่ะ ส่วนมากอยู่ในชั้นต่อสักพักกุก็ส่งต่อแล้ว ผิดกะนิยายฟินจิกหมอน อ่านกี่รอบก็ได้ อ่านจบแล้วอารมณ์ดี สู้ความบัดซบของชีวิตต่อได้เลย
>>880 กูเป็นอีป้าแล้ว กูไม่อยากอ่านอะไรเครียดๆเลย ยอมรับว่าเหนื่อย ไม่สามารถรับความเครียดเข้าตัวเพิ่มมากไปกว่านี้แล้ว ไอ้ที่อ่านมันก็เลยมาแนวย่อยง่าย เน้นฟินจิกหมอน สร้างความบันเทิงใจไปวันๆ แต่ขอแบบสตอรี่ดีนิดนึง ไอ้จะมาแนวสมองไหลพล็อตหลวมไม่สมเหตุสมผลซักอย่างนี่ก็ไม่เอานะ 555555
พระเอกโบ้ ตอนช่วงง้อเพื่อแลนดิ้งจบ นางเอกควรเล่นตัวนานประมาณไหนวะถึงแลนดิ้งได้แบบนุ่มนวล กลมกล่อม ผู้โดยสารไม่ได้รับความกระทบกระเทือน
ง้อหนึ่งมุก สองมุก นานสัก 2-3 เดือนห้วนไปไหม
Kyถ้านักอ่านกดตัวอย่างebookเข้าชั้นหนังสือ(แต่ยังไม่ได้ซื้อนะแค่กดตัวอย่างไปลองอ่าน) นข.จะรู้ไหม หรือมีรายงาน จำนวนคนกดตัวอย่างไหม
ถ้าพระเอกกูพฤติกรรมเหมือนสตอล์กเกอร์นิดหน่อยคนจะอี๋กันป่ะวะ ไม่ได้ตามติดแบบเข้าไปคุกคามติดเครื่องดักฟังอะไรในห้องขนาดนั้น แต่ออกแนวรู้ว่าเธอไปไหนมาไหนทำอะไรยังไง ประมาณว่ามีสายข่าวเยอะ ใช้วิธีเข้าหาคนรอบข้างนางเอกแล้วตีสนิทจนเขาเผลอพูดเรื่องนางเอกออกมาไรงี้ แต่ฮีทำแบบลับๆไม่ได้ให้นางเอกรู้ เช่นไปเม้ามอยกับเพื่อนสาวนางเอก คุยลมฟ้าอากาศกันไป ทางนั้นก็เผลออัพเดทว่าไปเที่ยวมากับนางเอก โชว์รูปใน ig ให้ดู ฮีเลยได้รู้ว่านางเอกทำอะไรในช่วงวันหยุด ได้รู้ว่านางเอกชอบชาเขียวปั่นจากรูปของเพื่อนใน ig เวลาไปเที่ยวเลยซื้อของฝากเป็นชาเขียวให้นางเอกไรงี้ แบบนี้จะว่าครีปปี้ป่ะวะ หรือนิดๆหน่อยๆปกติ
แต๊งกิ้วพวกมึง พอดีเอาให้เบต้ารีดเดอร์อ่านแล้วเขาทักมาว่าเหมือนสตอล์กเกอร์เลย กูก็เลยเสียเซลฟ์เบาๆ 55555555555555
จริง ถ้าอยู่กับเอ็กมากๆ จะอีกเทสนึงเลย หยุมหยิมจิ๋มมด นู่นก็ไม่ได้นั่นคอนเซ้น นั่นกรูมมิ่ง นั่นเรพ เปโด ผิดบาปไปหมด
>>891 ของกูให้เบต้าคนสนิทลิสต์มาเลยว่ามีส่วนไหนน่าฉอด/ฉอดได้มั่ง ให้มองมุม worst case เลยว่าเจอฉอดเดอร์ปสด.เรื่องใสๆ มองเป็นต่ำ รู้ไว้แต่แรกดีแล้ว เจอนักอ่านงุ้งงิ้งใส่กูจะได้ไม่รู้สึกไร ถถถ แต่ต้องจิตแข็งมั่นหน้านิดนึงนะ อะไรเข้าข่ายคนส่วนมาก 90% รับไม่ได้ก็ปรับหน่อย อะไรไม่ผิดต้องมั่นไว้ว่ากุไม่ผิดจร้า
ตอนมัธยมไม่มีโทรศัพท์กูนั่งอ่านหนังสือเรียนทั้งวัน ทำการบ้านมีสมาธิไม่วอกแวก แต่พอตอนนี้มีโทรศัพท์กูไม่มีสมาธิแต่งนิยายเลย พอจะเขียนนิยายไม่ถึงสิบนาทีหยิบโทรศัพท์ดูอีกแล้ว ใครก็ได้แนะนำให้กูกลับไปมีสมาธิเหมือนตอนมัธยมหน่อย
ถ้างานเขียนมันเป็นพล็อตที่อุดมไปด้วย problematic เช่น พระเอกธงแดง เลี้ยงต้อย กรูมมิ่ง ฯลฯ หรืออะไรพวกนี้มึงยังจะอ่านกันอยู่ป่ะ หรือรับไม่ได้ ไม่อ่านเด็ดขาด
เพื่อนโม่ง ขอถามหน่อย ถ้าเขียนนิยายสืบสวน+ไซไฟ แบบไม่มีเลิฟไลน์ แต่เนื้อเรื่องแน่น นี่มันจะขายได้ไหมนะ
Ky
พระเอกจับตัวนางเอกไปเพราะเหตุผลเพื่อต่อรอง/แก้แค้นบางอย่าง แต่สุดท้ายพระเอก-นางเอกคือรักกัน
แบบนี้คือสต็อกโฮมซินโดรมใช่ไหมวะ
ปกติพวกมึงเปิดพรีกันกี่วันวะ มันควรจะเปิดนานหรือไม่นานดี นักอ่านชอบแบบไหนมากกว่า กูเห็นล่าสุดมีคนนึงเปิดแค่ 6 วัน แต่ยอดจองร้านออนไลน์ร้านนึง ตอนนี้ทะลุ ไป160 เล่มแล้ว ทั้งที่เปิดมาแค่ห้าชั่วโมง ตัดมาที่กู กูเปิดมาเกือบเดือน ยอดจองเพิ่ง37 เล่ม
เวลาเขียนแล้วกลับมาอ่านรู้สึกจืดๆ พวกมึงมีวิธีแก้ยังไงกันบ้างวะ?
กุไม่รู้จะไปถามไหน ขอถามตรงนี้หน่อยนะโม่ง เมิงคิดว่าการที่นิยาย หนัง การ์ตูน เรื่องนึงเนี่ย มีความรู้พวกศาสตร์เฉพาะแฝงอยู่ เช่น ประวัติศาสตร์ ปรัชญา แล้วคนอ่าน/คนดู อ่านหรือดูแล้วไม่เข้าใจเนี่ย มันเป็นความผิดของตัวนิยายนั้น ๆ นั้นหรือคนเขียนวะ
แล้วถ้าคนอ่านไม่เข้าใจ คนอ่านมิสิทธิ์วิจารณ์เรื่องนั้นได้ไหม เช่น นิยายเรื่องนึงแม่งยัดปรัชญามาเยอะมาก แล้วเราไม่ได้เข้าใจทั้งหมด เราจะวิจารณ์ได้ปะวะ หรือเราต้องไปศึกษาปรัชญาที่แม่งยัดมาให้หมดก่อนถึงมีสิทธิ์วิจารณ์
>>917 วิจารณ์ได้ดิ ทำไมจะวิจารณ์ไม่ได้ อย่าง พรมลิคขวิต นั่นไงวิจารณ์กันยับ ในนิยายคนเขียนก็หาข้อมูลจากแหล่งๆหนึ่งมาเหมือนกัน ถ้าคนอ่านไปรู้มาจากอีกแหล่งหรือเคยได้ยินมาอีกแบบก็มาพูดได้แหละว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คนอื่นจะมองว่าเสร่อไหมก็อีกเรื่อง
แล้วบางเรื่องก็มีแปะเตือนไว้ตั้งแต่แรกว่า เป็นเรื่องสมมติ โดยจินตนาการของผู้เขียน
>>917 ต้องวิเคราะห์ก่อนว่าเป็นความผิดใครที่คนอ่านไม่เข้าใจ อย่างเคส >>919 เนี่ยโดนวิจารณ์ยับ กุเห็นด้วยว่านข.มือไม่ถึงจริง คือเทียบกับเรื่องอื่นที่คอนเซปต์ยากๆ บางเรื่องเขายังอธิบายให้เข้าใจง่ายๆได้ แต่เรื่องนี้มึงไปถามแฟนทั่วโลก 100 คนคงตอบไม่เข้าใจ 80+ คนอะ
แต่มันก็มีเรื่องเฉพาะกลุ่มที่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจถึงจะอินอะ บางทีเรื่องมันก็ย่อยมาแล้วแต่คนไม่รู้ไม่เข้าใจเอง อันนี้ก็อีกเรื่องมั้ง อย่างหนังค่าย A24 แต่ละเรื่องแม่งอินดี้ชิบหาย คนดูไม่เข้าใจก็ด่าสาดเสียเทเสีย ไม่สมมงออสก้า บลา ๆๆ แต่คนเข้าใจเขาก็อวยไง อันนี้ผิดที่ใครล่ะมึงว่า
วิจารณ์น่ะมันวิจารณ์ได้อยู่แล้ว (ในขอบเขตที่ติเพื่อก่อนะ ไม่ใช่ด่าแหลกเป็นแอนตี้แฟน) แต่ช่วยดูบท/ดูตัวเองก่อนวิจารณ์ด้วย ไม่งั้นบางทีมันแอบตลก คนส่วนใหญ่เข้าใจแต่มึงไม่เข้าใจคนเดียวละไปด่าตัวเรื่องแบบแม่งห่วยแตกชิบหายไรงี้ คือมันไม่ได้ห่วย มึงแค่เข้าไม่ถึงเองรึเปล่า 5555
>>917 ถ้าคอนเซ็ปที่ใส่เข้าไปมันยากเกิน หรือว่าไม่มีจริง มึงก็เขียนเชิงอรรถแทรกเอาไว้ก็ได้
อย่างการ์ตูนเรื่องที่กูกำลังย้อนอ่านแบบ Gunnm เนี่ย มันมีวิชาต่อสู้ที่ในเรื่องโม้ว่าเป็นสุดยอดของนั่นโน้นนี่มาบรรยายตลอด ก็มีเขียนเชิงอรรถเอาไว้อธิบายว่ามันคืออะไร ที่มาที่ไปมายังไงตลอดเช่นกัน ถึงจะเป็นวิชาที่แต่งขึ้นไม่มีในโลกจริงก็เถอะ แต่ในเรื่องนี้คือ Made Story มาตั้งแต่ต้นจนคนอ่านเข้าใจได้เลยว่า เมื่อไรที่ในเรื่องมันพูดถึงวิชานี้ก็เข้าใจที่มาที่ไปของมัน
ยกตัวอย่างไอ้วิชาหมัดแพนเซอร์คนุซ์แสนขี้โม้ ที่ว่าต่อยหุ่นยนต์ให้พังได้ง่ายๆ เนี่ย ในเรื่องก็บรรยายใส่มาในเชิงอรรถชัดเลยว่าเป็นวิชาหมัดของดาวอังคาร ใช้โดยกลุ่มคนไหน มีที่มาเป็นอย่างไร มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ยุคไหน ฯลฯ ซึ่งพอยกมาแบบนี้มันก็ทำให้ผู้อ่านได้อินกับเรื่องไปด้วยนั่นล่ะ
>>921 หรือจะพวกประวัติศาสตร์ พวกปรัชญาเองก็พอกัน ในเรื่องแม่งคุยกันเรื่องจิตวิญญาณในหุ่นยนต์งี้ฟังดูเหมือนมีหลักการ แล้วจู่ๆ ก็มีตัวละครพูดแทรกขึ้นมาว่า "อ้อ! เป็นคำพูดของนักปราชญ์ที่ชื่อ XXX สินะ!?" ก่อนที่จะใส่แทรกเชิงอรรถว่าเขาเป็นใครสั้นๆ เอาไว้
ซึ่งความฮาก็ยิ่งกว่านั้นอีกคือ นักปราชญ์บางคน (หลายๆ คน) ในเรื่องที่ยกขึ้นมาแม่งไม่มีตัวตนจริงๆ เป็นตัวละครที่ถูกแต่งขึ้นมานั่นล่ะ ถถถถถถ
หรือจะเอาแบบโรงเรียนลูกผู้ชายที่เขียนเชิงอรรถได้ฮาสลัด กล่าวถึงวิชาการต่อสู้ของจีนโบราณอายุ 3000+ ปี เป็นอย่างงั้นอย่างโง้นอย่างงี้ บรรยายกันจนแทบมีหลักการ แต่สุดท้ายปิดท้ายด้วยว่าเป็นตำราจากสำนักพิมพ์ มินเมย์ โชโบคัง ...ซึ่งมันคือ สำนักพิมพ์ในเรื่อง ไม่ได้มีตัวตนจริงๆ เช่นกัน ถถถถถ
มึง คนอ่านฟิคเดี๋ยวนี้เขาไม่ชอบอ่านฟิคที่ใช้ชื่อตัวละครตามต้นฉบับ กันเหรอวะ คือพอดีกูพักใจจากงานเขียนนิยายไปดูซีรีย์พีเรียดจีนละชอบเลยแต่งฟิคแล้วใช้ชื่อตัวละครจากในเรื่องเลยละมีคนมาเม้นเตือนกูว่าทำไมไม่เปลี่ยนชื่อทำแบบนี้ให้ใส่ disclaimer ดีๆนะเดี๋ยวนักแสดงเสียหาย กูเลยงงเลยแบบกูไม่ได้แปะรูปนักแสดง กูเอาแค่รูปที่ถ่ายโปรโมทละครมาแปะ ชื่อก็ใส่ชื่อตัวละครมันเกี่ยวไรกะนักแสดงวะ ไม่ใช่ฟิคrpsด้วย กูไปอ่านในao3หรทอในเว่ยทั้งฝรั่งทั้งแม่จีนก็ใช้ชื่อตัวละครไม่เห็นมีใครว่าไร กูงงทำไมของไทยมันต้องเปลี่ยน กูลองไปอ่านเรื่องอื่นในด้อมของไทยคือตัวละครเปลี่ยนชื่อ auอื่น แถมooc แบบนี้มันต่างไรกับการเอาออริตัวเองมาสวมเป็นฟิควะ
มึง กูท้อใจ เข้ามาถามว่ามีใครที่ยอดขายดี ๆ แล้วไม่ต้องโปรโมทบ้างมั้ย กูกลัวจ่ายตังค์แล้วไม่คุ้ม ช่วงนี้ต้องประหยัดด้วยยยยยย ส่วนขายนิยายตอนนี้คือยอดต่ำเตี้ยกว่าครั้งแรกมากกกก คนเข้ามาดูก็น้อยกว่าอีก เกิดอะไรขึ้นในเม็ดวะ
ถัดจากมกรา กุมภาตัวแม่เตรียมออกเยอะเลยนะเพื่อนโม่ง บบรพ. พยย. ลอล. จ่อออกebook กันเพียบเลย
>>933 ใช่ ส่วนนึ่งคือความสม่ำเสมอ แต่นี่คือเริ่มจากจุดติดในแอพมาก่อนนะ คือว่าเคยติดชาร์ต แล้วนิยายเรื่องหนึ่งก็ปัง ทำให้พอมีคนเห็นงาน พอเรื่องอื่นๆ นิยายก็พออยู่ตัว ถ้าออกได้สม่ำเสมอก็สองหมื่นอัพทุกเดือน ถ้าพีคๆ ก็จะไปแตะๆ หกหมื่นอะ ประมาณนี้ แต่ช่วงนี้แทบไม่ได้ออกก็แค่เดือนละสี่ห้าพัน ฝันอยากได้สักเรื่องล้านหนึ่งจะหยุดสักปี5555สาสเหนื่อย
ตอนนี้กูกำลังมองหาที่ลงนิยายแฮะ
กูเขียนแนวปลูกผัก พัฒนาเมือง ใช้ชีวิตชิลๆ ตอนแรกก็คิดจะเอาไปลง ดด นะ แต่เห็นว่าที่นั่นมันซบเซามากเลยไม่รู้ว่าจะลงที่นั่นเหมือนเดิมดีมั้ย จึงอยากถามหน่อยว่ามีที่ไหนน่าลงบ้างสำหรับแนวนี้
ky ในที่สุดเด็กดอกก็ทันความเจริญกับเขามั่งแล้วว่ะ 15 กพ.เป็นต้นไป การซื้อตอนล่วงหน้าจะถาวรแบบรอร.ละนะ แบบเก่าคือซื้อแล้วพอถึงเวลาอ่านต่อไม่ได้ เหมือนแค่เช่าอะ(แต่กันใช้ชื่อว่าซื้อล่วงหน้า) แบบใหม่ก็คือยเหมือนชาวบ้านเขาหน่อย คือซื้อล่วงหน้า=ได้อ่านถาวร
แม่งควรเขกกบาลคนคิดระบบนี้แต่แรกว่ะ555 ถ้าจั้งชื่อว่าเช่าตอนำร้อมอธิบายว่าแค่ได้อ่านล่วงหน้าแต่ไม่ถาวรนะ คนอ่านคงไม่มีปัญหาหรอก แต่เสือกใช้ชิ่อว่าอ่านล่วงหน้า พอถึงเวลาหมดละคนอ่านงงทำไมซื้อแล้วต้องซื้อซ้ำ มาด่าคนเขียนอีก กูผิดอะไร นี่ถ้าไม่ใช่แฟนตาซีที่รุ่งเรืองได้แค่ในเว็บนี้ กูม้วนเสื่อไปปักหลักรอร.ต่อยาวๆแล้ว
fictionlog นี่แนวแฟนตาซีขายได้ดีไหมเทียบกับเด็กดี
แต่fictionlog เว็บมันคนเล่นน้อยกว่าดด ด้วยรึเปล่า
>>941 ตอนนี้เน้นนิยายแปลเต็มเว็บละ นิบายคนไทยแต่งโดนกลบหมด เลยเงียบๆอะ ถ้ามึงแต่งแนวจีนโบก็ลองลงดูเพราะมันเนียนๆกับนิยายแปลจีนทั้งหลาย อาจมีคนเผลอกดอ่านมาก็ได้555 แต่แนวแฟนตาซีก็รองๆเด็กดีอะ
เรียงลำดับความป็อปแนวแฟนตาซีที่ขายได้นะ ดด.>ฟชล.>รอร.>ธวล. กูลองมาสี่เว็บนี้ละได้ผลตามนี้ หลังๆขี้เกียจเลยลงแค่ดด.กับรอร.เอา ฟชล.ถ้าลงอ่านฟรีเฉยๆเอายอดคนอ่านไม่เป็นไร แต่ถ้าจะขายส่วนแบ่งโหดไปขายไม่คุ้ม แต่ได้ข่าวว่าปรับส่วนแย่งละนี่เป็น70/30แบบคนอื่นละ
แนวนางร้ายทะลุมิติ ที่ไม่ใช่จีนโบ นี่มันขายได้ไหม เราชอบใส่พวกการเมือง พัฒนาเมืองไรงี้ไปด้วย อาจมีใส่ปลูกผัก หรือแฟนตาซีเข้าไปหน่อยขยายตลาด
แต่ดูในเว็บต่างๆตอนนี้ประเมินไม่ออกเลยแฮะ ไม่แน่ใจด้วยว่าที่ใส่ๆไปทั้งหมดนี้จะเรียกแขก หรือไล่แขก 555
เดาแม่งทะลุมิติจนกูสยองพองขนไปหมดละ
*เกาแม่ง
>>944 เห็นด้วยว่าเกาเล่นจนเอียนมาก
แต่สงสัยว่าถ้าอยากเขียนเรื่องนางร้ายแนวเอาตัวรอดธงตาย แต่ถ้าไม่ทะลุมิติมันจะทำได้ยังไง
เพราะนางร้าย มันเป็นตัวร้าย มีค.คิดเชี่ยๆ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะแพ้ มั่นมากสุด จู่ๆจะเขียนให้มาเริ่มทำดีเอาตัวรอดยังไง ถ้าไม่ได้ทะลุมิติ
แต่ถ้าเขียนให้ย้อนเวลามามันก็ไม่ได้เป็นนางร้ายแล้วแค่คนธรรมดา โจทยากอะ
มีใครเคยเห็นแบบใหม่ไหม
>>947 มีแนวฝันเอาอยู่ ฝันเห็นอนาคตแล้วมีอะไรให้เชื่อว่าถ้าเป็นอย่างเดิมต่อไปแม่งตายแน่ เลยยอมเปลี่ยนตัวเอง แล้วระวังมากขึ้น
แต่ง่าก็ว่าเหอะ ทะลุมิติ เดี๋ยวนี้แม่งควบรวมทุกอย่างไว้ในทะลุมิติกับเกิดใหม่หมด ตอนแรกกุอ่านพวกนี้กุจะติดในใจมาก
ไอ้ที่ย้อนกลับไปเป็นเด็กใหม่ทำไมมึงไม่เรียกย้อนเวลา
ไอ้ที่ไปเข้าร่างสิงชาวบ้านที่ตาย ทำไมมึงเรียกเกิดใหม่
มึงย้อนกลับไปในอดีตแก้ไขเรื่องราวชาติเก่า แล้วทำไมมึงเรียกชาตินี้ว่าชาติใหม่
ไอ้ฝั่งยุ่นที่ไปสิงร่างใหม่ที่โตแล้วต่างโลกก็ไม่เรียกทะลุมิติ เรียกว่าเกิดใหม่เป็น....
แต่ตอนนี้กุชินแล้ว มึงจะเรียกไรก็มาเหอะ กูปรับนิยายตามคนเขียนได้หมด ขอแค่เรื่องสนุกกูพอและ
พระเอกกรีนแฟลก เป็นไง เรดแฟลกเป็นไงวะ เข้าใจความหมายอยู่แต่ไม่เคยอ่านเจอว่า เรด คือ เวลไหน มีอะไรกะผู้หญิงอื่นขณะมีนางเอก ? ฯลฯ
>>950 เออจริง555 คำศัพท์แบบนี้กูงงคือกัน ทำไมเรียกไม่ตรง ทะลุมิติไปสิงร่างมันควรจะเรียกส่าสวมร่างป่าววะ ทำไมเกิดใหม่ แล้วทำไมย้อนเวลาไม่เรียกเป็นรูทแต่เป็นชาติไปเลยทั้งเหตุการณ์ในโลกเดิม แต่บางเรื่องมันบอกเป็นโลกคู่ขนานคนละไทม์ไลน์งี้ แม่งก็ไม่ใช่ชาติอยู่ดีปะวะ555
แต่มันก็คงแนวๆเดียวกับไปต่างโลกอะแหละ เฟ้อไปสักพักเดี๋ยวคนก็เอียนจนเงียบละ ถ้าคิดจะเขียนเพื่อขายจับกระแสก็ต้องแน่ใจว่ามึงมีของนะ เพราะตอนนี้คนเขาก็เขียนมาขายด้วยจนเกร่อไปหมดละ มึงต้องไปแย่งชิงคนอ่านฟีลปลาดุกวัดแย่งอาหารปลาอะ ในเมื่อเรื่องมึงก็กลมกลืนกับกระแสไปหมด ถ้าไม่มีเตะตาคนอ่านว่าเรื่องนี้แซ่บหลายจนเรื่องข้างๆเทียบไม่ติด คนอ่านก็ไม่แวะมาชิมหรอก ตัวเลือกเยอะนี่
แต่ถ้าจะเขียนเอาม่วนๆจอยๆไม่หวังยอดขาย มึงก็เขียนๆไปเหอะ ถึงคนอ่านกริบแต่มึงก็แฮปปี้นี่นะได้เขียนออกไปอะ
เอ้อ จริง ๆ พวกไม่ได้มีปัญหาให้เห็นชัด ๆ ก็ธงแดงได้นะมึง อย่างในชีวิตจริง พวกโมโหร้าย ทำลายข้าวของตอนโกรธงี้ก็นับ ถึงจะไม่ได้ตีเมียตรง ๆ ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่ามันจะไม่เปลี่ยนมาตีเมียอะ แบบหมดรักวันไหนมึงโดนแน่ เขาถึงเตือน ๆ กันไว้ เจอผช.แบบนี้ให้หนีปายยย อยากรู้พฤติกรรมเรดแฟลกอื่น ๆ ก็ลองเสิร์จดูโลด
>>951 red flag ก็พฤติกรรมแย่ๆที่แสดงออกน่ะ เช่น
-หึงบ้าหึงบอ หึงเรี่ยราด หมาเดินผ่านแล้วไปลูบหัวเล่นกับหมา หึงหมา
-โมโหร้าย ทำลายข้าวของ
-Manipulate ควบคุม บงการ ทำให้รู้สึกด้อยค่า กดเอาไว้ใต้ตีน ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าไม่มีเธอฉันจะอยู่ไม่ได้ มาคู่กับ Gaslighting
-Gaslighting รมควันให้รู้สึกผิด รู้สึกแย่ อ๋อ มันเป็นความผิดเธอไงที่ทำให้เรื่องแย่ เธอไม่น่าทำแบบนี้เลย
-เปโด
-สตอล์กกิ้ง
-ยันเดเระ
ฯลฯ
ถามละ พวกนักเขียนคิดยังไงกับแนว นักเขียนทะลุมิติไปในนิยายแล้วแย่งผัวแย่งอีเวนทลูกสาวมึง
ถามละ พวกนักเขียนคิดยังไงกับแนว นักเขียนทะลุมิติไปในนิยายแล้วแย่งผัวแย่งอีเวนทลูกสาวตัวเอง
Kyคนซื้อให้1ดาว (ขึ้นว่า-มีแล้ว)แต่ไม่คอมเม้นหรือบอกอะไร กูควรทำใจอย่างไรต่อไปดีวะ
กูอยากให้meb ทำแบบshoppee จะวิจารณ์หรือให้ดาวต้องใส่เหตุผลด้วย มีพยัญชนะขั้นต่ำ ไม่ถึงจะอดได้แต้ม
ให้ไปก็เท่านั้น กุยังไม่เคยสนแต้มชอปปี้เลย ถ้าคนจะสะดวกแค่ดาว ก็ดาวเดียวอยู่ดี
แนวเคโมะนี่มันนิยมป่ะวะ พระเอกกูเป็นหมาแบบเคโมะเลยคือหมาแบบเดินสองขา ใส่เสื้อผ้า นางเอกกูเป็นคน แนวๆหลงไปในแดนแฟนตาซีเคโมะ กูอยากเขียนมานานแล้วแต่ไม่กล้าลง กลัวไม่มีคนอ่าน แถม 18+ ด้วย 55555555
พวกมึง การใช้ปกเอไอเลวร้ายมากไหม คือ กูไม่มีทุน และ ปกเอไอมันถูก แต่ได้ปกที่ฟีลแบบจ้างวาดอ่ะ เทียบกับใช้ปกจัดอาร์ตธรรมดาไม่มีรูปตัวละคร ปกตัวละครมึงดึงดูดคนอ่านมากกว่าด้วย T^T
>>975 ถ้าวันหนึ่งมันเจนนิยายได้แล้วนิยายมึงโดนมันเลวร้ายมั้ยล่ะ คิดดู อีกอย่างปกเอไอโหลสัส มึงเข้ากลุ่มปกสำเร็จ สวยๆ ถูกๆ ก็เยอะ หรือมึงกำเงินไปเลย เรามีงบแค่พันเดียวค่ะ นักวาด หรือนักเขียนที่อยากขายปก ก็มาถมให้มึงเลือกเป็นร้อยๆ ละ อีกอย่างนะ ปกเอไอมึงโดนนักอ่านบางคนเหม็นตั้งแต่เห็นปกอะ มึงเสียลูกค้ากลุ่มหนึงละ และอีกอย่างคือ ปกง่อยๆ แต่นิยายมึงดีจริงก็ขายได้ ชื่อเรื่อง ความน่าดึงดูดของบทนำ
>>975 เลวร้ายในแง่ ai มันไปดูดงานนักวาดหลายคนมาเจนเป็นรูปให้มึง เหมือนมึงไปทำนาบนหลังคนอื่น ถ้ามึงไม่แคร์จุดนี้ก็ตามสบาย แต่กูเดานะว่ามึงไม่แคร์หรอก
แต่กูว่ามึงเจียดเงินซักก้อนประมาณสองสามพันไปจ้างคอมมิชชั่นดีๆเหอะ นักวาดราคาย่อมเยาว์มีหลายคน ไม่จำเป็นต้องไปจ้างวาดหลักหมื่นหลักแสนถ้าไม่มีเงินหรอก ปกสวยแต่ขายไม่ออกก็มีเยอะแยะ
กูน้ำตาจะไหล ทำไมในโม่งมันตระหนักรู้เรื่องพวกนี้มากกว่านข.บนดินว่ะTT
วันที่เอไอเขียนนิยายไทยได้จริงมาถึง ก็มีแต่คนตัวเล็กนี้แหละที่เดือดร้อน ต้องเขียนแข่งกับพวกขี้โกงที่แอบใช้เอไอทำ (เอไอ70 ตกแต่งคำ30)
หรือคิดง่ายกว่านั้น พวกมึงก็ไม่ชอบอีพวกหารอ่านใช่ไหม เอไอมันก็ทำนองนั้น มันทำนาบนหลังนว.ทั่วโลก ขโมยแรงกายแรงใจที่ฝึกฝนไปหากิน
ใครใช้ปกเอไอ กูไม่ให้ค่าแล้ว1 ขนาดนิยายตัวเอง ยังไม่ลงทุนกับหน้าปก ใช้ของไม่มีลิขสิทธิ์หน้าด้านๆ กูไม่ได้ต้องการให้มึงจ้างนว.หรอกนะ ถ้านว.มันทำให้พวกมึงทริกเกอร์ อ้างเลทนู้นนี้นั้น ภาพกราฟิก ภาพถูกลิขสิทธิ์ มีมากมาย เสือกไม่ใช่ ทำมาเป็นเหยื่อ มุแง ไม่มีเงิน นว.มันเลว มันชอบดองค*ค่า
>>981 มีอีนึงในกระทู้เด็กดวกห้อง web novel อ้างแบบนั้นล่ะ มันบอกถ้าเอาเงินส่วนจ้างนักวาดไปใช้ ai นักเขียนก็จะประหยัดเงิน มีเวลาไปเขียนงานดีๆ ไม่ต้องมาคิดเรื่องเงินแล้วเขียนเอาใจตลาด เป็นข้ออ้างส้นตีนเห็นแก่ตัวสัสหมา กูด่ามันไปว่า ai มันไปดูดรูปนักวาดมาเจน มันก็บอกว่าเป็น ai learning แต่พอกูถามกลับว่ามัน learning จากไหน แม่งตอบกูไม่ได้ว่ะ มันคิดว่ารูปถูกเสกออกมาได้เองจากเลขไบนารี่เหรอ
ทำงานสายสร้างสรรค์ก็ควรเข้าอกเข้าใจความยากลำบากของคนอื่นในการผลิตงานแต่ละชิ้นออกมาด้วย ไม่ใช่เอาแต่ตัวเองสบายแล้วคนอื่นเดือดร้อน มึงใช้ปก ai นักวาดเดือดร้อน แต่มึงไม่แคร์เพราะขายได้และสวยกว่า ไม่ต้องมารอคิวนักวาดทำงาน แล้วถ้ามีคนสั่วๆอยากเขียนนิยายแต่ไม่อยากเสียเวลาเลยเอา ai มาเขียน ใช้คีย์เวิร์ดเช่นผัวโบ้ หอบท้องหนีผัว เขียนออกมาสนุกกว่านักเขียนจริงๆคนเลยแห่กันมาอ่านนิยาย ai ใครๆก็เป็นนักเขียนได้แค่โยนคีย์เวิร์ดเดี๋ยว ai ก็เขียนนิยายออกมาให้อ่านเอง นักเขียนจริงก็โดนด่าว่ารอนาน ไม่สนุก ให้ ai เขียนดีกว่า จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย
KY ถ้ากูให้พระรองมูฟออนไปมีเมียสวยเริสชีวิตมีความสุข นักอ่านจะงอนมั้ยวะ 555 แบบว่าพระรองต้องรักมั่นนางเอกคนเดียวตลอดชีวิตงี้ คือกุแอบสงสารลูกนะ 5555
>>983 มีเยอะเลยนะ แต่ส่วนใหญ่จะแยกเป็นอีกเรื่องต่างหากแบบจากพระรองได้เดเป็นพระเอก หรือไม่ก็สปินออฟไปเลย ถ้ามาเรื่องเดียวกันมันแปลกๆอะ ถ้านข.ให้ต้นเรื่องพระรองชอบนางเอกมากกกมายย สุดจิตสุดใจ แต่ท้ายเรื่องมีเมียใหม่สวยๆรักเมียมากมันดูมูฟออนไวในความรู้สึก แล้วที่ดูรักมากตอนต้นเรื่องคืออะไร แล้วรักใหม่จะรักจริงเหรอ
ถ้าทิ้งระยะนานๆ จะเชื่อง่ายกว่า
ที่ส่วนใหญ่ให้พระรองรักมั่นนางเอกคนเดียวเพราะ มันทำให้เชื่อง่ายกว่า รักคนนั้นต้นเรืรองรักอีกคนท้ายเรื่องอะ
เขียนไปเขียนมา ดูเหมือนว่าจะได้ความยาวเล่มเท่ากับความยาวปกติ 2 เล่มเลยแฮะ จากปกติพยายามคุมเอาไว้ให้ยาวแค่เล่มละ 8 หมื่นคำไม่เกินแสน มาเล่มนี้เขียนยาวไปแสนหกละ ถึงจะปลายๆ แล้วแต่ก็ยังไม่จบดี
ชักเข้าใจแล้วว่าทำไมนิยายบางเรื่องถึงแบ่ง Part 1/2 แต่ระบุว่าเป็นเล่มเดียวกัน ที่แท้คือเนื้อหามันยิงยาวจนหนากว่าปกติเกินไปนี่เอง
ขอปรึกษาหน่อย นิยายกูมีปมหนึ่งที่ตัวละครไม่สามารถท้องได้ เพราะเคยทำแท้งเถื่อนประมาณ 20 ปีที่แล้ว ทำไปสองครั้งแล้วครั้งสุดท้ายมันผิดพลาดเกือบตาย แต่มีเอฟเฟกต์ตามมาคือไม่สามารถตั้งท้องได้อีก กูพยายามหาข้อมูลแล้วนะ คือจริงๆ มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะไม่สามารถมีลูกได้ แต่กูไม่รู้ว่าไอ้เป็นไปได้นี่เปอร์เซ็นมีเยอะมากน้อยแค่ไหน กลัวว่าใส่เหตุผลเรื่องทำแท้งเถื่อนแล้วพลาดมันจะโอเวอร์เกิน กลัวคนอ่านไม่เชื่ออะ
>>987 สาเหตุที่จะเป็นไปได้หลักๆเลยคือมดลูกพัง แบบโดนขูดจนเป็นแผลลึกมากๆ แล้วตัวอ่อนเข้าไปเกาะผนังฝังตัวไม่ได้งี้ หรือฝังตัวได้แหละท้องแล้ว แต่จะมาแบบพวกท้องนอกมดลํก คือเก็บไว้แม่เสี่ยงขิตตอนคลอด หรือไม่ต้องรอคลอดหรอกลูกจะขิตก่อนเพราะสภาพแวดล้อมไม่เหมาะแก่การเจริญเติบโต ถ้าไม่รีบเอาออกพอลูกตายแล้วแม่จะตายตามอีก
หาข้อมูลในเนตได้เลยเรื่องแบบนี้ มดลูกพังก็จบละท้องไม่ได้ ไม่ต้องจำเป็นแค่ทำแท้งเถื่อน เกิดมาร่างกายผิดปกติเองก็มีแบบผนังมดลูกบางงี้ หรือฮอร์โมนสักตัวทำงานผิดปกติทำให้ร่างกายส่วนนั้นใช้งานไม่ได้เหมือนผู้หญิงทั่งไป แต่เอาจริงต่อให้มีคนแท้งซ้ำๆตามธรรมชาติไม่ได้หาหมอเถื่อนหมอแท้ ก็จะมีลูกได้นะแล้วแต่ร่างกายคน บางคนคือท้องสองรอบ แท้งสองรอบ รอบที่สามถึงรอดปลอดภัยดี แต่ลูกที่ออกมาอาจน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์มั่ง หรือปกติดีไม่เป็นไรก็มี หรือคนที่แท้งซ้ำๆแบบท้องสี่รอบแท้งสี่รอบ พอรอบที่ห้าแท้งอีกก็คือมีลูกต่อไม่ได้เลยก็มีเพราะมดลูกใช้งานไม่ได้ละ อัตราการอยู่รอดของตัวอ่อนมันลดลงทุกครั้งที่แท้งอะนะ
>>986 ใช่ ทำเล่มแล้วต้นทุนสูง เล่มหนาด้วยพกพาลำบากที่เก็บก็หายาก พอทำเป็นอีบุ๊คมันก็ลดต้นทุนไปเยอะแต่ไถอ่านจนเหนื่อยอะ555 นอ.ล้านะเว้ย กูเคยอ่านแฮรี่สามเล่มใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะจบ เพ่งสายตาละเมิ่อยจริง สุดท้ายไปขุดแบบเล่มมาอ่านต่อ เออสบายตาขึ้นมาหน่อย ไม่ถึงเดือนหรอกกูปาไปห้าเล่มจบละ
ของกู เขียนไปเขียนมา แสนเจ็ดหมื่นคำแล้วว่ะ เข้าใกล้ฉากจบแล้ว น่าจะไปจดสองแสนคำแหงเลย 😅
กุไม่คิดเลยว่ามันจะยาวมาได้ขนาดนี้ ถูลู่ถูกังมาก นิยายเรื่องที่สองของกู
มึงถ้าตัวเอกวิญญาณหลุดไปเข้าร่างคนอื่นตอนเขากำลังมีอะไรกันแบบโรลเพลย์+bdsmแล้วตัวเอกมันไม่อยากทำแต่มันไม่รู้safe words เลยโดนต่อไปตามโรลที่เจ้าของร่างเดิมกับคู่ขาวางไว้แบบนี้มึงคิดว่ามันคือข่มขืนมะถ้าเจ้าของร่างเดิมกับคู่ขาคือตกลงคอนเซนทุกอย่าง ไม่ใช่นิยายกูนะแต่พอดีมีคนเอานิยายมาให้เป็นเบต้ารี้ดละคนอ่านเสียงแตกว่าตกลงอันนี้คือข่มขืนไหม
>992 wt : dub-con
พอ.มันไม่ได้ข่มขืน เพราะในมุมมองมันคือได้รับการยินยอมจากอีกฝ่ายแล้ว
ส่วนนอ.มันถูกข่มขืนนั่นแหละ แต่อันนี้คือจังหวะมันเฮียไง จะด่าพอ.ก็ไม่ได้ มันไม่มีใครเฮียแค่คนเขียนกำหนดสถานการณ์ไว้สัดเกิน ด่าใครไม่ได้นอกจากโชคชะตาจริงๆ
อ๋อแต่ถ้ากลัวฉอดx มึงจะติดอะไรหรือไม่ก็โดนอยู่ดี แหละ 😂
>>995 จริงๆ พอ.มันก็น่าสงสารคือกันด้วยซ้ำ555 นึกภาพมึงเยเมียอยู่ดีๆ มีคนมาสืงร่างเมียมึงเฉย กลายเป็นข่มขืนอีกฝ่ายไปซะงั้น แต่ทำไมพอ.ผิดคนเดียวเฉยเลย ไอ้คนมาสิงร่างมันไม่ยินยอมก็จริง แต่ว่ากันตามตรงนั่นก็ไม่ใช่ร่างมึงอะ ก่อนมึงจะมาสิงร่างกูก็เยกันเพลินๆเลยด้วยซ้ำ เลยอึกอักหน่อยแบบฝั่งนึงก็เยกันตามปกตินะก่อนมีคนมาสิงร่างก็สมนอมกันแหละ แต่คนมาสิงร่างคือเชี่ยไรเนี่ย กูโดนคนไม่รู้จักมาเยเฉย จังหวะนรกของแท้
แต่ถามวว่าเขียนได้มั้ย ก็เกียมใจหน่อยละกันว่าดราม่ามาแน่ๆ แบบมีคนปักธงแล้วว่าข่มขืนชัดๆไม่รับความเห็นต่าง หรือคนบอกไม่ข่มขืนอะ เพราะพอ.มันไม่ได้บังคับขืนใจ แล้วนอ.ไม่ใช่เจ้าของร่าง ซึ่งตอนนี้กระแสฉอดมันแรง จะเอียงไปทางฝั่งแรกมากกว่า555 ก็ต้องหาเหตุผลมาอธิบายดีๆละกันว่าทำไมต้องมาสิงร่างจังหวะนี้ ไอ้มุกมาสิงร่างเมียคนอื่นใช่ว่าจะไม่เคยมี ก็มีเยอะอยู่แต่จะมาแบบหลังเยกันเสร็จละหลับไง ตื่นมาอีกทีคือเชี่ยไรเนี่ย กูมาอยู่ร่างใครทำไมนอนโป๊ หรือมาสิงตอนท้องก็มีแบบ รู้ตัวอีกทีนอกจากจะมีผัวแล้วกูยังมีลูกในท้องอีกงี้
แนวสืบสวนสอบสวนเจ้มจ้นปมแน่นปึ้ก แสนคำเอาอยู่มั้ยวะ หรือว่าต้องเขียนยาว ๆ เลย จะได้ครอบคลุมหลาย ๆ ประเด็น
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.