นักเขียนท็อปๆไม่ค่อยโวยเพราะส่วนใหญ่พวกนี้เคยได้ตีพิมพ์กับสนพไง แล้วไอ้สนพเนี่ย จ่ายให้นขแค่ 10-12% เอง เมbนี่เรียกว่าตลาดใหญ่ใกว้างไปเลย
Last posted
Total of 1000 posts
นักเขียนท็อปๆไม่ค่อยโวยเพราะส่วนใหญ่พวกนี้เคยได้ตีพิมพ์กับสนพไง แล้วไอ้สนพเนี่ย จ่ายให้นขแค่ 10-12% เอง เมbนี่เรียกว่าตลาดใหญ่ใกว้างไปเลย
กรุ๊ปนักเขียนnovel มีนข.มาบ่น เรื่องคนบอกติดเหรียญแพง อันนี้กูกูไม่ยุ่งนะ สิทธิ์ของ นข. จะติดกี่บาท แต่กุสะดุด เรื่องที่บอกเอาค่าปกไรมาคิด ทำให้กูละนึกถึงตอนกระแสที่เคยทวิตบอก ไม่เคยเอาค่าปก ภาพวาดประกอบ เอาโน่นนี่มาคิด เป็นต้นทุนนะ ทำด้วยใจให้นักอ่านและ สนองนี๊ดตัวเอง เจออันนี้ไป กุป้องปากขำละ
>>841 เออคนเรามันร้อยพ่อพันแม่อะ คิดไม่เหมือนกันอย่างที่ >>842 ว่า บางคนคือไม่คิดปกเลยเพราะขายแป๊บๆสักสิบเล่มงี้ก็ได้ทุนคืนละค่าปก ปกเดียวออลอินวันใช้กับอีบุ๊คด้วยยิ่งคืนทุนเร็วอีก หรือไม่ซีเรียสมากเพราะไม่ได้ยึดเป็นงานหลักงี้
แต่นั่นแหละก็มีพวกที่คิดค่าปกค่าของพรีด้วยเหมือนกัน แม่งก็ไม่ผิดเพราะมันคือต้นทุนอะ ยิ่งคนที่ชอบคอมมิชรูปมาเยอะๆ แบบสามเล่มใช้ปกสามรูป แล้วก็ทำพวงกุญแจ โปสเตอร์ ไอ้นั่นไอ้นี่จับฉ่าย ทุนแม่งก็ยับแม่ยับจนต้องมาบวกเพิ่มเป็นทุนไป
สรุปคือถ้ามีคนบอกเหรียญแพงเพราะค่าปกจ่ายมาแพง กูก็ไม่ไรหรอกนะแม่งก็ทุนเขาอะ แต่ไอ้พวกเอามาเป็นตัวประกันแบบเนี่ยๆ เรานอกจากจะทำปกแพงยังมีของพรีเมี่ยมที่ราคาแรงสมชื่อ ถ้าไม่ช่วยกันซื้อคนเขียนขิตแน่ค่ะ นี่ทำด้วยใจรักก็จริงนิยายเราอยากให้มีกู้ดสวยๆเยอะ แต่ถ้าคนอ่านไม่ช่วยเราก็ขิตค่ะ อันนี้กูขอเบ้ปาก มึงขายนิยายก็ควรรู้ลิมิตตัวเองแต่แรกมะ ออกกู้ดออกปกแพงๆเกินกำลังละมาหวังความเมตตาจากนักอ่านนี่ก็ไงๆอยู่นะ ของที่ไม่จำเป็นอย่างกู้ดนี่ถ้าเกินกำลังไม่ต้องทำก็ได้ ไงคนอ่านก็ซื้อเพราะตัวนิยายเป็นหลักอะ
ไปมุงประเด็นสำนักพิมพ์ใหญ่ออกนิยายแปลของแถมราคาแรงไม่พอยังออกปกแข็งตามหลังมาแบบเซอร์ไพรส์นักอ่านดีกว่าสู กูว่าการตลาดแบบนี้น่าดิสคันนะ 555
ช่วงนี้โม่งเป็นคนดีแบบแปลกๆ ปกติเห็นด่าเหมารวม ขยี้ตาหน่อย555
จริงๆราคามันก็แล้วแต่นขจะตั้งแหละ แต่ที่เอาราคาปกแพง มีภาพประกอบมาอ้าง ปกตินักเขียนเขาไม่ขายตัวอักษรกันเหรอ เน้นเฉพาะปกกับรูปโป๊ที่สอดใส่ไว้ เนื้อหาจะเป็นยังไงก็คุ้มเพราะบิตปกมาแพงเหรอ ฟังดูตลก แถมเนื้องานกลับดูราคาถูกมาก เหมือนไม่มีปกกับรูปโป๊ก็จะขายไม่ได้งั้นแหละ
สนพS บ้งบ่อยจริง ล้มอีกแล้ว คราวนี้ทำเปิดพรีปกแข็งรัวๆ คือทำไมไม่ทำแต่แรก
>>854 พูดถึงสนพ.วายที่ประกาศปกแข็งวันนี้ใช่ป่ะ ว่าไปมันก็แค่รีปรินท์แล้วราคาถูกลงนิดนึง กูนึกว่าสาววายไม่อะไรกับเรื่องพวกนี้
คราวก่อนที่มีประเด็นนักเขียนทำมือเอานิยายมารีปรินท์กับสนพ.ตั้งแต่ส่งทำมือครบแบบกรุ่นๆ ราคารอบรีปรินท์กับสนพ.ถูกกว่าด้วย กูนึกว่าคนอ่านจะบ่นแต่เห็นส่วนใหญ่ก็ชมกันนี่หว่า แต่งวดนี้สนพ.ที่มึงพูดถึงก็เห็นปกเดิมด้วย กลับมีปัญหากันซะงั้น กูไม่เข้าใจตรรกกะสาววายเลย 55555
>>855 ที่ทำมือไปออกกะสนพ คือนขมันบอกตอนเปืดพรีรอบแรกจะไม่รีปริ้นไง แต่กลืนน้ำลายตัวเองคนเลยสาป ส่วนสนพเอส กรณีนี้ มันอาจจะมีคนที่อยากได้แบบลิมิเตดแหละ แต่ตอนแรกเหนมีแต่ปกอ่อนเลยซื้อเก็บมาเรื่อยๆ พอสนพมาตู้มลงปกแข็งรัวๆ คนเลยด่า เพราะใช่ว่าทุกคนจะมีเงินแฝด ถ้าอย่างกูเลือกได้ ถ้ามันมีช้อยให้เลือกแต่แรก กุคงเก็บแต่ปกแข็งอะ พอสนพทำแบบนี้มันเลยดูแย่ตรง ถ้าทำปกแข็งได้ ทำไมไม่เปิดพนีพร้อมกันแต่แรกละ
>>859 ที่ทำมือ กูจำได้ว่าคนอ่านไม่สาปนะ น่าจะเพราะปกรอบรีปรินท์สวยกว่ามั้ง กูยังงงว่าฝั่งชายหญิงสาปหสม.จะตาย ทำไมฝั่งวายเปิดใจกันดีจัง ซื้อใหม่รอบรีปรินท์ได้แบบไม่รู้สึกว่าหลังหักกัน
ส่วนสนพ.เอสรอบนี้ กูไปอ่านเมนต์ในเพจสนพ.เพิ่มแล้ว เข้าใจว่าพวกที่สาปส่วนหนึ่งน่าจะเพราะแฝดปกอ่อนไว้เยอะ พอมีปกแข็งออกมา แล้วบอกว่าเป็นลิมิเต็ดด้วยเลยเหมือนโดนตกอีกรอบ.....ใช่มั้ยวะ ? กูไม่รู้เรื่องนี้เล่มนึงๆ มันหนามั้ย แต่ถ้ามันหนาและถ้าให้เลือกปกแข็งปกอ่อน กูคงเลือกปกอ่อนว่ะ เปิดอ่านง่ายกว่า (คหสต.นะ) ถ้าราคาไม่ต่างกันมาก
เพิ่มเติมอีกนิด กูว่าถ้าเคสสนพ.เอส รอดนะ อีกหน่อยสายวายจะได้มีโมเดลผลิตภัณฑ์ใหม่ ออกปกอ่อนก่อน แล้วค่อยตามด้วยปกแข็งลิมิเต็ดสำหรับสะสม เงินฝั่งวายแม่งสะพัดดีนะ 5555555 อิจฉาว่ะ งานหนังสือทีไรเห็นแต่สาววายร้านรับหิ้วไปมุงกันเต็ม
คนแฝดปกอ่อน แฝด2 แฝด3 น่าจะแค้นน่าดูโดนสนพทำแบบนี้
แหมเห็นในแท็กด่าเอสอวย สนพ.ใบไม้แห่งความโชคดี ขึ้นมากุละอยากจะแหมมมมม ทีงานวายนี่มันดูพิถีพิถันจุงเบย
เห็นในแท็ก เอสดองนิยาย? ล้มยาวเลยทีนี้
>>850 เออจริง เป็นนักเขียนมึงก็ต้องขายตัวนิยายปะ จะเอาปกเอารูปมาเป็นเครื่องเครียงก็พอ แต่แม่งชอบเอามาชูโรงว่านิยายเราควรซื้อเพราะปกแพงรูปเลิศ อิหยังวะ แทนที่จะขายเนื้อหาว่ามาอ่านสิสกิลเราก็แซ่บอยู่นะงี้ เพราะงี้ปะถึงยังติดหล่มกันไม่ได้เป็นนักเขียนชื่อดังมีฐานแฟนแน่นหนาระดับเดนตายที่ออกปกกราฟิกง่อยๆเป็นดอกไม้หมาแมวโง่ๆก็ยังรุมซื้ออะ
สักแต่จะหากินแบบฉาบฉวยเขียนนิยายกันแบบส่งๆ แล้วเอาปกเอารูปมากลบแทนให้ดูแพงไว้ก่อน แต่ดูถูกงานตัวเองก็เหมือนดูถูกนักอ่านนะ สุดท้ายถ้าคนอ่านจดจำว่านักเขียนคนนี้แต่งนิยายไม่ได้ดีเท่าปกที่เอามาล่อ ก็บายจ้า
>>869 บก.เก๊ปะวะ สำนวนไม่ทางการดูเป็นวานเลย แต่แม่งกูเคยเจอคล้ายๆแบบนี้ เป็นอีกสนพ.นึงชญ.นะ ติดต่อกูซะดิบดี เหลือแค่ส่งาัญญามาให้เซ็น แต่จู่ๆเงียบหายไปเดือนนึงละ ทักเฟสที่ทักกูมาก็ไม่อยู่ปลิว ส่งเมล์ทวงก็เงียบ เลยไปถามแอดมินเพจสนพ.แม่ง สรุปบก.มันลาออกไปละเดือนนึงพอดีกับที่พึ่งมาดีลงานกับกูเลย แล้วแม่งไม่ได้ส่งเรื่องกูให้สนพ.รับรู้ด้วย อ้าวอีผี งี้กูเสียเวลาฟรีเลยดิ จะร้องเรียกไรกับสนพ.ไม่ได้เลยเพราะบก.แม่งชิ่งไปละ แอดมินก็ตอบดีนะบอกจะให้ส่งมาพิจารณาอีกครั้งก็ได้รออีกสามเดือนนะ แต่กูบายละ เริ่มต้นบก.ก็หนีดูทรงงานกูจะไม่ราบรื่น ทำเล่มขายเองก็ได้วะ
อันนี้กุสังเกตนะ
นักเขียนชญ.ที่มีทวิตเตอร์ กุเจอเค้าในทวิตบ่อยๆคนตามฟอลเยอะ นิยายเค้าจะมี TW ยาวววววเหยียด
ส่วนนักเขียนที่อยู่ในเฟซ ไม่มีTWเลยว่ะ พวกสายโรมานซ์จ๋าncเยอะ ยิ่งตัวท็อปยอดขายปัง กุไม่เห็นมีTWสักแอะ5555
สรุปว่าจะมี-ไม่มีTWมันขึ้นอยู่กับว่านข.กบดานอยู่โซเชี่ยลไหนด้วย😆
>>872 ทวิตเตอร์มันแดนตื่นรู้และอ่อนไหว ใครตั้งหลักที่นั่นก็เหมือนมีสังคมในดงคนใจบางที่พร้อมซวกมึงเหมือนหมาบ้าอะ แล้วคนที่อยู่ที่แบบนั้นได้ก็คือคนประเภทเดียวกันไปเลยดูไหลตามง่ายในเรื่องๆเดียวกัน ยังกะลัทธิคลั่งที่เหมือนจะเปิดกว้างนะเราอยากเปลี่ยนโลก แต่โลกไม่ไหลตามเรางั้นเราจะรุมปาหินใส่จนกว่ามึงจะเข้ามาอยู่ในโลกเดียวกับกู
ส่วนในเฟซนี่มันแดนคนโนสนโนแคร์ ก่อนจะรับผิดชอบสังคมมึงก็รับผิดชอบตัวเองก่อนดิ
>>873 อันนี้ก็มีส่วน รุ่นป้ามีภูมิด้วยก็เลยไม่สะเทือนใจไรง่ายๆ ทวิตนี่นักอ่านเด็กเยอะมากภูมิไม่พอไหนจะคลั่งความตื่นรู้อีก เลยอ่อนไหวไปซะหมดจนกูสงสัยมึงรอดจากนิทานวัยเด็กอย่างหน๔ร้อยหมวกแดงกับฮันเซลเกรเทลไงวะ มีครบทั้งฉากฆ่าฮากความรุนแรง555
นิยายกุว่าอ่านได้หมด แต่ภูมิคุ้มกันเรป กะ แนวนอกใจ ไม่ค่อยแข็งแรง ถ้าจะเขียนแปะบอกหน่อยก็ดีไม่ชอบเซอไพร้ทีหลัง555555
กูชอบให้มี tw นะ ถึงจะมีภูมิคุ้มกันยังไง แต่เวลาอารมณ์ดาวน์ๆมันไม่พร้อมรับมืออะ ถ้ามีเตือนกันไว้ก่อนกูจะขอบคุณมาก
กุเจอเรปแบบไม่เตือน กุจะไม่อ่านนามปากกานั้นอีกเลย
>>875- >>877 >>880 เรื่องเรปนี่กูเห็นด้วยว่าควรคิดtw กูมีภูมินะ แต่แม่งก็ไม่ชอบแนวนี้อะ ถ้าเปิดเจอแบบเซอไพรส์ก็ขอบายจ้า
>>878 ใช่ปะ555 คือทวิตมันแดนตื่นรู้ เซนซิทีฟจนไปหมดละสตงสติ ถ้าถ้าเตือนพื้นๆอย่างเรป ฆาตกรรม กูเฉยๆนะจะเตือนก็เตือนไป แต่ถ้าจะลึกๆแบบ บอกในตอนด้วยว่ามีฉากแทงกันงั้นงี้ มีตัวละครตาย แม่งก็เกินไป นี่ถ้ากูอ่านนิยายอยู่ละเจอเตือนแต่แรกว่ามีคนแทงกันตาย คือหมดสนุกเลยนะเพราะแม่งสปอยกูงี้555
คือมันเป็นเรื่องดีนะที่เราจะตื่นรู้ว่าควรเซฟใจคนด้วยการคิดTW แต่ถึงขั้นไล่ฉอดคนไม่ติดยังกะหมาว้อก็เกินไปค่ะซิส คนที่ไม่อยากติดเพราะไม่ชอบสแอยก็มี คนที่ติดไม่ครบเพราะคิดไม่ถึงว่าต้องติดก็มี อย่างเช่นมีคนทรอม่ากับปลาแล้วไปเจอคนเขียนไม่ติดเตือนว่ามีฉากบรรยายปลา ก็ลากเขามาแขวนประจานว่าแย่มากไม่รับผิดชอบสังคม เรากลัวมากใจสั่นเลย คนเขียนงงดิ ปกติปลามันไม่ใช่สัตว์ที่คนส่วนใหญ่กลัวเลยไม่ติดอะ บอกกันดีๆก็ได้มั้งต้องลากกูมาประจานขนาดนี้เลยดิ
>>881 กูติด tw เป็นรายตอน เอาเฉพาะตอนที่มีความรุนแรงสูงเท่านั้น เช่นฆ่าสัตว์ ทรมาน ทารุณกรรม เรป ความรุนแรงเกี่ยวกับเด็กและครอบครัว ฆาตกรรม ส่วนเรื่องนอกใจนอกกายมีติดบอกไว้ตอนต้นครั้งเดียวว่านิยายกูมีแบบนี้นะ แต่ไอ้การต่อยตีทะเลาะวิวาท คำหยาบคาย หรือในบทมีคนตายกูไม่ติด ไร้สาระชิบหาย
แต่พวกฉอดบางตัวก็แปลกๆ ขนาดเขาติด tw ไว้ แทนที่จะเห็นว่าไม่ตรงไทป์แล้วปิดไป เสือกไปด่าเขาอีกว่าติดแท็กยาวๆก็ไม่ช่วยอะไรค่ะ ไม่ได้เป็นยันต์กันโดนด่า เอ้า แล้วจะอ่านทำไมวะนั่น ถ้าในตอนเตือนว่ามีเรป มึงไม่ชอบมึงจะไปอ่านตะไมมมมมม อ่านจบมาด่าเขาอีกว่าทำไมถึงเขียนงานแบบนี้ออกมา งง
>>882 เออใช่ อันนี้กูก็งง ไม่ติดก็ด่า พอติดก็ด่า เห้ไรวะเนี่ย บอกว่าไม่รับผิดชอบสังคมที่เขียนงานแนวนี้ออกมา ติดแล้วไงไม่ใช่ยันต์กันด่านะคะ คือไรวะ จุดประสงค์ของการติด tw คือไม่ใช่การเตือนเหรอวะว่าไม่เหมาะกับคนแบบมึงเลี่ยงได้เลี่ยงนะอย่าเข้ามา แต่ก็ยังลดตัวลงมาเพื่อเอาไปฉอดเรียกแสงอะจ้า
แม่งเหมือนมีคนติดป้ายคุกกี้นี้มีส่วนผสมของไข่ถ้าแพ้อย่าแดก ดันมีอีบ้าตัวนึงหยิบมากินแล้วแพ้ เลยด่าคนทำแม่งว่าทำอาหารที่มีส่วนผสมของคนแพ้ไข่ทำไม ไม่เห็นใจคนแพ้ไข่เลยนะ ทั้งที่แม่งป้ายติดเตือนก็มีมึงอ่านละไม่สน แล้วคุกกี้ที่ไม่มีไข่ผสมก็มีทำไมไม่หยิบอันนั้นมากิน จะดันทุรังเพื่อ
มันเป็นผลโดยตรงของโวกไง คือหลักใหญ่ของโวกจะต้องไม่นิ่งเฉยต้องออกมาประจานออกมาโวยทันทีที่เห็นในสิ่งที่ไม่สบายใจหรือคิดว่าผิด ใครที่ไม่เห็นด้วยก็คือศัตรูหมด ดูเคสJKเป็นตัวอย่าง
>>884 แบบที่โว้กเรื่องเมะเฮนไตนักฆ่าผมแดง ในเรื่องมีทั้งเรป sh แทนที่อีพวกโว้กจะอยู่เงียบๆให้เรื่องมันโดนกลบฝังไป ดันขุดออกมาฉอดให้แสงกับผลงาน จากงานที่อยู่แค่ในวงแคบๆในรู มีคนรู้อยู่ไม่เท่าไหร่กลายเป็นรู้กันหมดว่ามีเรื่องนี้บนโลกด้วย พวกโว้กมันประสาทป่ะวะ แบบนี้พอคนรู้ก็ยิ่งไปหาเสพมากขึ้นไง ถ้าไม่โวยวายอะไรมันก็แค่เมะโป๊เรื่องนึงแค่นั้น
ของกุมี พยายามฆตต ต้องติด tw ใช่ไหม
>>884 ป้าเจเคนี่โดนหนักถึงขั้นมีคนตามไปด่ายันหน้าบ้านที่แกอยู่กับลูกๆ ถ่ายรูปหน้าบ้านติดที่อยู่ลงเนตให้คนอื่นรู้ เชี่ยมาก แล้วแม่งพอมีคนเห็นต่างเรื่องทรานส์แบบป้าเจเค ก็ขู่ด้วยนะระวังตัวไว้เหอะมึงเห็นที่สิ่งที่ป้าเจเคเจอปะละ เดี๋ยวมึงจะโดนด้วยมั่ง
คือป้าแกก็ปากแซ่ใช้ได้ แต่แม่งแกไม่ได้มีแนวคิดเหยียดหยามทรานส์ถึงขั้นไม่เห็นเป็นมนุษย์ด้วยกันสักหน่อย แต่โดนแปะป้ายซะแล้วว่าทรานโฟบตัวแม่ แม่งอิหยังวะคนเรา เห็นกระแสโว้กแรงขึ้นทุกวันยังงี้กูไม่แปลกใจละทำไมฮิตเลอร์มันสร้างนาซีสำเร็จแค่เอาคนยิวมาเป็นแพะ นักตื่นรู้นี่แม่งยังกะเกสตาโปคอยไล่ส่องว่าใครทำตัวผิดผี เจอก็จับมารมแก๊ส เห็นต่างได้ไม่มีจริง เพราะถ้ามึงไม่อยู่ฝั่งเดียวกับกู=ศัตรูออล ไม่มีพื้นที่ให้มักเกิ้ลจ้า
>>888 แถมกระแสเกมหอกวอดแรงขนาดที่มักเกิ้ลยังรู้จักดราม่าทรานส์โฟบของแก แต่แทนที่ฝั่งโว้กจะได้พวกเพิ่ม คนดันเห็นด้วยกับป้าแกไปอีก พวกคนที่เห็นด้วยก็คนกลางๆแบบไม่ได้เหยียด ไล่ฆ่า ไล่ไปตุย แต่ก็มองว่าทรานส์คือทรานส์ แปลงเพศมาก็เป็นทรานส์ พอมีดราม่าเจเคก็ยิ่งเหมือนตอกย้ำแนวคิดนี้ไปอีก แถมเจอการเอดุเขตด้วยการด่าก่อน สอนปนเหยียด ใครมันจะไปเปิดใจฟัง
กูว่าบางคนกำลังเข้าใจผิดระหว่าง woke กับ political correctness นะ
โว้คคือการตื่นรู้ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในกรณีเหยียดสีผิว ต่อมาลามไปกรณีอื่นๆ แต่หลักๆก็อยู่ที่การเหยียดเชื้อชาติ
ส่วนพีซีหรือ political correctness คือการพยายามไม่ใช้ (และไม่ให้คนอื่นใช้) คำพูด หรือแสดงความคิดความเห็นที่ดูหมิ่นเพศ ผิว วัฒนธรรม วัย ฯลฯ
เคสที่พวกมึงยกมาส่วนใหญ่คือ pc ถ้าใครพูดอะไรที่ดูระคายเคืองคนบางกลุ่ม พวกคลั่ง pc จะพุ่งเข้ามาฉอดสั่งสอนให้แก้ไขทันทีอย่างดุร้าย ซึ่งตอนนี้หลายๆกลุ่มทั่วโลกก็รู้สึกตรงกันว่าพวกขี้ฉอดพวกนี้มันเป็นปัญหา
ส่วนกรณีโว้คที่กูเห็นเถียงกันอยู่เร็วๆนี้มีแค่เงือกน้อยกับแอนนี่ของเพอร์ซี่ ซึ่งขอบอกว่าพวกแอนตี้โว้คในเคสนี้แม่งทรามบัดซบ เล่นมุกทาสไร่ฝ้ายได้โคตรเหี้ยสัส ทำให้กูรู้สึกว่าแอนตี้โว้คแม่งน่าขยะแขยง
เพราะงั้นอย่าเอาโว้คไปรวมกับพีซีเลย กูรู้ว่าเดี๋ยวนี้ใช้ปนกันเยอะแล้ว แต่เพื่อความไม่เข้าใจผิดและเพื่อความดูดีของตัวเอง กูว่าพยายามแยกนิดนึงก็จะดีนะ
>>890 กรณีแอเรียลนี่กุก็ไม่เห็นด้วยกับการโจมตีนักแสดงเรื่องผิว แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจู่ๆ เขาลุกขึ้นมาต่อต้านคนผิวดำกันนะ อิค่ายก็เหี้ยอ่ะ เล่นกับความรู้สึกคน ยัดเยียดเกินเหตุ นักแสดงก็ปากแซ่บ เอาความผิวดำมาเป็นเกราะป้องกันตัวเองจนไม่รับฟังความเห็นต่าง แล้วพอมีคนแสดงความคิดเห็นแบบกูก็จะกลายเป็นว่ากูเป็นพวกแอนตี้โว้ค เหยียดผิว ทั้งๆ ที่ความจริงมันมีที่มาที่ไป ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลนะ
แต่ที่ต้องรับเต็มๆ คือค่ายที่แม่งคิดจะเกาะกระแสโว้คเปลี่ยนกลุ่มลูกค้า จะทำเงิน แต่ก็ออกมาออกมาแบบกลวงๆ แถมยังยัดเยียดจนจากคนที่จะสนับสนุนกลับมาโจมตี ความคิดแบ่งเป็นฝักฝ่าย สงสารก็แต่น้องแอเรียลที่แท้จริง ถูกดันหลังออกมาเป็นหนังหน้าไฟ
>>891 เดี๋ยวก่อน หนังมันยังไม่ออกเลยเพื่อน รู้ได้ไงว่ามันจะกลวงอะ กูว่าเราควรดูก่อนว่าเขาจะตีความไปในทางไหนปะ ถ้าออกมาแล้วแมสเสจมันไม่ดีค่อยด่าก็ได้ ถ้าด่าทั้งๆที่ยังไม่ดู มันก็คือด่าเพราะเขาผิวดำเฉยๆไม่ใช่เหรอ
แล้วนักแสดงมันปากแซ่บยังไงอะ อันนี้ไม่ได้กวนนะ ไม่รู้จริงๆ ชีพูดอะไรเหรอ
>>893 ใช่ค่ะมึง ถ้าตามประเด็นนี้จริงๆ อ่ะก็น่าจะเก็ทว่าทำไมคนเค้าดราม่า บางคนก็ปิดหูปิดตาหาว่าคนเขาเหยียดผิวอยู่นั่น เอาไปเอามาคนพวกนี้แหละที่ลึกๆ ในใจมันเหยียด คนอื่นพูดอะไรถึงคิดว่าคนเหยียดไปหมด ส่วนสัมภาษณ์นักแสดง สัมภาษณ์ผู้กำกับต่างๆ ไปหาอ่านเอาเถอะ แล้วจะเข้าใจที่กูสื่อ เพราะถ้ามึงไม่ได้ตามแต่หาว่าคนนอกที่เขาไม่เห็นด้วยกับแอเรียลที่แท้จริงภาคนี้เพราะเหยียดนักแสดง มันก็เอ่อ...นิดนึงนะ
>>895 ก็กูอ่านบทสัมภาษณ์แล้ว กูยังไม่เห็นปัญหาไง แต่กูไม่รู้ว่าหลงหูหลงตาอะไรไปไหม เลยมาถามนี่ไงเพื่อน
เท่าที่อ่านดราม่ามา คนที่ไม่โอเคเนี่ย เหมือนจะมีแค่ข้ออ้างเดียวเลยนะคือ "ต้นฉบับมันเป็นคนขาวผมแดง ทำไมในไลฟ์แอคชั่นถึงเป็นผิวดำ" ปัญหามันอยู่ที่สีผิวอย่างเดียวเลยไง จะบอกว่าเพราะภาพจำของฉันแอเรียลเป็นเงือกผิวขาว งั้นทำไมถึงเปิดรับภาพใหม่ไม่ได้ล่ะ ติดอะไร ติดตรงไหน
นี่ยังไม่นับพวกคอมเมนต์ว่าแอเรียลเป็นทาสไร่ฝ้าย หน้าเงือก เจ้าชายเห็นหน้าแล้วหนี ฯลฯ นะ อันนี้ถ้าบอกว่าไม่เหยียดกูก็ไม่รู้แล้วแหละเพื่อน ว่าต้องขนาดไหนถึงจะเหยียด หน้าต้องหนาขนาดไหนถึงไม่ยอมรับว่าคำพวกนี้คือคำเหยียด
ถ้าดิสนีย์เลือกแคสนักแสดงผิวสีมาโดยไม่มีเหตุผลอะไรเลย แถมยังทำผลงานออกมาได้ไม่ดี คนจะด่ามันก็ปกติไง แต่นี่ด่าตั้งแต่หนังยังไม่ออก นอกจาก racist แล้วกูนึกไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นเพราะอะไรได้
ส่วนตัวกู กูเดาว่าเขาคงจงใจแคสนางเงือกผิวสีเพื่อเป็นสัญลักษณ์ล้อกับเพลง Part of your world แหละ เพราะคนผิวสีแทบไม่เคยได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมตะวันตกจริงๆ แต่จะทำได้มีชั้นเชิงขนาดไหนก็ต้องรอดู หรือต่อให้มันไม่ใช่สัญลักษณ์อะไรเลย ถ้าทำออกมาดี แอเรียลผิวสีมันก็ไม่ผิดปะวะ
>>896 ปากไม่แซ่บไงวะ สัมภาษณ์มั่นหน้าว่าตัวเองรู้ว่าจะถูกเกลียดเพียงเพราะฉันคือคนดำ ทั้งที่จริงคือเขาด่ากันเรื่องคาร์ไม่ตรงปก เอาคนดำมาเล่นบทคนขาว แถมเป็นสาวจิงเจอร์ที่หายากกว่าคนดำอีกเพราะโดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ก่อนยุคนาซีด้วย
คือในทางกลับกันถ้าเอาคนขาวมาเล่นบทคนดำอย่างเทียน่า โมอาน่า คนก็ด่าคนขาวที่มารับบทเหมือนกันว้อย
แล้วหลายสัมคือพยายามยกความเป็นคนดำมาปกป้องว่าทุกคนเกลียดฉัน=เกลียดคนดำ ทั้งที่แม่งคนดำด้วยกันยังไม่ปลื้มเลยอะว่ามึงทำเชี่ยไร ได้ดีเพราะแค่เป็นเด็กเส้นเจ้บีเท่านั้นแหละ อย่าเอาความคนดำด้วยกันไปโหนดิ เขาไม่ได้ด่ากันเพราะเอาคนดำมาเล่น ด่าเพราะเอาคนไม่ตรงแคสมาเล่น แถมไม่มีไรที่พอเข้าคาร์ด้วย ดูพี่สาวแอเรียลที่เหลือดิ ไม่ตรงแคสคือกันแต่แม่งยังดูเข้าคาร์กว่าเลย มีคนดำด้วยเหมือนกันแต่ดูสวยมีออร่ากว่าอีก ก็ยังมีคนด่าบ้างแหละว่าเจ็ดพี่น้องเชี่ยไรหน้าตาคนละเชื้อชาติ แต่แอเรียลคือหน้าตาของหนังเลยอะก็โดนหนักกว่า
>>900 ไม่รวมการบอกบทแอเรียลที่ตนเองถ่ายทอดนั้นตีความใหม่ ไม่ใช่แอเรียลที่อยากขึ้นบกเพราะตามหาผู้ชาย ทั้งๆ ที่ความจริงแอเรียลแต่เดิมก็ขบถพอตัว ก็ไม่ได้จะขึ้นบกเพราะผู้ชายเท่านั้นหรือเปล่า ทำไมชีต้องกดแอเรียลดั้งเดิมเพื่อดันบทแอเรียลใหม่ว่ามันดีกว่างู้นงี้ ถ้าดีขนาดนั้นทำไมไม่เขียนบทใหม่เลย มาเกาะบทเก่าทำไม
>>899 ถ้าเปาบุ้นจิ้นผมทองเพราะต้องการสื่อว่าเปาเจิ่งมีความ "แตกต่าง" กูไม่ติดนะ เปาเจิ่งในประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้หน้าดำและมีพระจันทร์เสี้ยวแปะบนหน้าผากสักหน่อย หรือถ้าแบล็คแพนเตอร์จะเป็นคนผิวขาวที่ถูกมองว่าไม่มีวิทยาการในหมู่คนดำที่คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าโลกแบบที่หนังมันพยายามสื่อว่าคนดำเองก็มีอารยธรรม กูก็ไม่ติดเหมือนกัน หรือจะแอนน์ โบลินผิวสีที่สื่อถึงความเป็นคนแปลกแยก (เพราะแอนน์โตในราชสำนักฝรั่งเศส ไม่ใช่อังกฤษ) กูก็ไม่มีปัญหา
ที่กูต้องการสื่อคือ รอดูผลงานก่อนไหมว่าเขามีคอนเซ็ปต์อะไร แล้วค่อยด่า ด่าตอนนี้ด่าแค่สีผิวไม่ตรงกับภาพจำเนี่ย มันไม่มีเหตุผล มันเป็นแค่ความไม่ถูกใจเฉยๆ และไอ้การไม่ถูกใจเพราะสีผิว = racist ไม่ว่าจะไม่ถูกใจเพราะผิวขาวหรือดำก็เหอะ
>>900 คือหนังมันยังไม่ออกไง ด่าเพราะแอเรียลคนนี้ไม่ได้ผิวขาวแบบในการ์ตูน ก็คือด่าเพราะเป็นคนดำแหละมึง กูถามหน่อยว่า ทำไมคาร์ต้อง "ตรงปก" ก็อันนี้ปกใหม่ เขาตีความใหม่ปะ แถมที่มึงพูดนี่กูว่าตรงประเด็นมากเลยนะ "พี่สาวแอเรียลมีคนดำแต่ดูสวยมีออร่ากว่า" คือมึงตัดสินที่หน้าตาเลยนะ โดยอ้างอิงตามรสนิยมมึงเฉยๆเลย มึงไม่ชอบ เขาเลยไม่สวย แต่ถ้าคนอื่นชอบแล้วมันสวยในสายตาเขาอะ?
ส่วนที่สาวจินเจอร์หายาก เพราะยีน MC1R มันหายากด้วยตัวของมันเองตั้งแต่แรก จริงอยู่ที่กาลครั้งหนึ่งจนถึงเมื่อไม่นานมานี้คนผมแดงถูกเหยียด แต่นั่นเพราะเขาเป็นคนกลุ่มน้อยอยู่แล้ว พอมีน้อยก็กลายเป็นของแปลกและถูกเหยียด ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ไม่ใช่ถูกเหยียดเลยมีน้อย กูไม่รู้หรอกนะว่าทำไมดิสนีย์ถึงเลือกคนผิวสีแทนสาวจินเจอร์ แต่ดูงานไฟนอลก่อนวิจารณ์ดีมั้ย จะด่าใครทั้งที อย่าด่าที่หน้าตาหรือสีผิวที่เจ้าตัวเขาแก้ไม่ได้เลย
>>902 ตะตะแต่ แอนโบลีนคือคนจริงในปวศ.นะมึง ทายาทเขาก็ยังอยู่ จะให้แอนดูแปลกแยกด้วยการแต่งตัว การพูดจา ก็ได้ปะ ทำไมต้องให้คนดำเล่นแทนเพื่อบอกว่านี่คือตัวตนของแอนโบลีนอ่า ถ้าคิดงี้ก็เหมือนคนเอเชีย=ตาตี่ออลและผิวเหลือง ใครตาสองชั้นหรือผิวขาวหน่อยๆม่ใช่เอเชียด้วยกัน คนผิวสี=คนดำเท่านั้น คนผิวคล้ำแบบสาวละตินผิวน้ำตาลไม่นับ คนขาว=ยุโรปเท่านั้น แขกขาวไม่นับ งี้เหรอวะ
>>901 ต้นฉบับคือ
“I’m really excited for my version of the film because we’ve definitely changed that perspective of just her wanting to leave the ocean for a boy,”
ดูดีๆ มันมีคำว่า that perspective of ด้วย เขาไม่ได้บอกว่าแอเรียลขึ้นบกเพราะผู้ชาย แต่ของเดิมมีคนมองว่าชีขึ้นบกเพราะผู้ชาย ฉะนั้นคราวนี้ก็จะเปลี่ยนวิธีการเล่าเรื่อง (เพื่อให้คนดูเปลี่ยน perspective นั้นไป)
>>896 กูว่ามันควรไปแคสสาวจินเจอร์มากกว่าว่ะ เพราะอีหนูผีมันขายคาร์สาวผิวขาวผมแดงมาตลอด เพื่อนฝรั่งที่เป็นสาวจินเจอร์ในคอมมูที่เคยคุยกันนางก็ยึดเอาแอเรียลเป็นที่ตั้งเหมือนกันเวลาอยากมโนเป็นเจ้าหญิง สาวจินเจอร์ก็มีหัวใจไม่ต่างจากสาวผิวสีนะเว้ย พอแม่งอะไรๆก็ผิวดำไปหมดมันก็มองได้ไงว่ามึงเอาใจแต่คนดำหราาาาา
ถ้าใช้เหตุผลแบบ "ส่วนตัวกู กูเดาว่าเขาคงจงใจแคสนางเงือกผิวสีเพื่อเป็นสัญลักษณ์ล้อกับเพลง Part of your world แหละ เพราะคนผิวสีแทบไม่เคยได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมตะวันตกจริงๆ" จินเจอร์ที่กล่าวก็โดนเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าจะมีแต่คนดำที่โดนเหยียดโดนล้อซักหน่อยนี่หว่า แถมตอนยุคปวศ.ก็โดนไล่ฆ่าเพราะสงสัยว่าเป็นแม่มดด้วยนะ เพราะแค่ผมแดงนี่ล่ะเลยโดนฆ่า
แต่กูก็ไม่ติดปัญหาอะไรหรอกถ้าน้องเงือกแอเรียลจะเป็นคนดำ เพียงแค่กูคิดว่านางแม่งไม่มีออร่านางเอกเลย ไม่สะกดสายตา ไม่รู้สึกโดดเด้งอะไรทั้งนั้น เอาจากทีเซอร์ที่ปล่อยออกมาแม่งเหมือนเอานักแสดงมาแกง คนดำสวยๆร้องเพลงเพราะกว่านี้ไม่มีแล้วเหรอวะ
>>903 อีกอย่างนึงคือ แอนน์ไม่ได้แปลกด้วยการแต่งตัวและการพูดจา เพราะจากหลักฐานภาพวาด ตอนอยู่อังกฤษชีก็แต่งตัวแบบอังกฤษ ส่วนการพูดจา แคทเธอรีนแห่งอารากอนน่าจะแปลกกว่าชีอีก แต่ชีแปลกกว่าคนยุคนั้นด้วยทัศนคติ ชีไม่ยอมเป็นเมียน้อย ถ้าจะแต่งกับชีก็ต้องหย่ากับเมียแต่งเท่านั้น ความดึงดันจะเรียกร้องให้ได้ตามสิทธิ์ของตัวเองมันแปลกแยกไปกว่านอร์มของสังคมอังกฤษสมัยทูเดอร์ ซึ่งสิ่งพวกนี้มันอยู่ข้างใน คนสร้างเขาแค่กลับมันออกมาให้อยู่ข้างนอกในรูปของสีผิว มันไม่ได้อยู่ดีๆก็เอาคนดำมาหย่อนโดยไม่มีเหตุผลน่ะนะ
>>904 กุอ่านละเอียดแล้วค่า สุดท้ายก็อย่างที่บอกชีเอาเวอร์ชั่นตัวเองไปกดเวอร์ชั่นเก่าเพื่อยกหางเวอร์ชั่นตัวเองให้สูงขึ้น จริงๆ มันมีวิธีสัมมากมายโดยให้เกียรติเวอร์ชั่นดั้งเดิมและอวยเวอร์ชั่นตัวเองได้นะ แล้วก็อย่างที่บนๆ บอกว่าหลายครั้งคำพูดนางเองนั่นแหละที่โหนคนดำทั้งๆ ที่ความจริงหลายคนเขาไม่เห็นด้วยมันมีเหตุผลกว่านั้น
อีกครั้งนะ ถ้าจะส่งเสริมความเท่าเทียมมันทำได้โดยไม่ต้องยัดเยียด นี่คือจงใจยัดเยียด ก็ไม่แปลกที่จะมีคนต่อต้าน
ต่อให้มีคนเอาเหตุผลมาแย้งเท่าไหร่แต่ก็ปัดตกและบอกว่าอ้อ เขาไม่เอาแอเรียลคนนี้เพราะผิวดำ ผิวดำ ผิวดำ อยู่นั่นแหละ กุงงมึงมาก อะไรจะยัดเยียดให้คนอื่นเขาเหยียดสีผิวขนาดนั้น กลายเป็นว่าคนไม่ชอบ = เหยียดผิวกันหมด จะบอกให้นะ คนที่เหยียดจริงๆ คือคนแบบนี้นั่นแหละ เหยียดจนไม่มองเหตุผลอื่นเลย จำฝังหัวว่าคนต่อต้านเพราะผิวสีต่อให้คนจะให้เหตุผลอะไรก็ตาม อีกอย่างนะโว้คแบบนี้แทนที่จะทำให้คนหันมาสนับสนุนเขาก็จะมีแต่ต่อต้าน สุดท้ายแล้วโว้คแบบนี้เป็นการสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนทางสังคมจริงๆ มั้ย ก็ไม่ ขับเคลื่อนได้อย่างเดียวคืออีคนพูดได้สำเร็จความใคร่ทางศีลธรรม
>>896 >>902 มันผิดตั้งแต่คิดจะเปลี่ยนสื่อเพื่อความบันเทิง ดัดแปลงโดยใส่ประเด็นความเป็นการเมืองเข้าไปแล้วไง ทั้งที่คนชอบมันแค่อยากเห็นไลฟ์แอคชั่นที่ออกมาคล้ายต้นฉบับที่คนเขาชอบ คนมันดูเอาบันเทิง แค่นี้เลย คือถ้ามึงไม่ใช่ดิสนี่ย์แต่เป็นแฟนๆเอามาดัดแปลงเล่าใหม่นี่คนมันจะไม่ด่าเยอะเท่านี้เลย
แต่ทีนี้พอมีคนออกมาบอกไม่ชอบเพราะแคสต์ไม่ตรงมึงก็ปัดไปทางเรซิสซะหมดละ ซึ่งแน่นอน คนด่าแอเรียลผิวดำมันมีพวกเรซิสมาผสมโรงจริง อิพวกเล่นมุกไร่ฝ้ายนั่นแหละ
แต่ถามจริง คิดว่าการชี้หน้าคนที่ไม่ชอบทั้งหมดว่าเรซิสนี่มึงคิดว่ามันจะทำให้คนกลางๆที่แค่ไม่ชอบไม่เกลียดและคงแค่คงไม่ดู เกิดเห็นใจจน “อุ๊ย กูไปลองเปิดใจดีกว่า” หรือ “อ้าว เหี้ยไรนี่ ตอนแรกเฉยๆ แต่ตอนนี้กูจะรำคาญมึงจริงๆละนะ” เหรอ?
ถ้าจะใช้เหตุผลว่าคอมเพลนตั้งแต่หน้าตาออก โดยยังไม่ดูการแสดง งี้ตอนแคสต์ยูยูฮาคุโชออกมาแล้วคนบ่นทั้งที่มันก็ญี่ปุ่นล้วนทั้งเรื่องนี่คือเหยียดอะไรอะ? ถ้าจะบอกว่าบิวตี้สแตนดาร์ด ตัวละครชื่อคุวาบาระนี่แคสต์ดันหล่อกว่าต้นฉบับ คนยังบ่นว่าอยากได้ท่าทางกุ๊ยๆมากกว่าด้วยซ้ำ
สื่อบันเทิงใดใด ถ้าจะมองด้วยมุมศิลปะ มันย่อมมีการเปลี่ยนแปลงดัดแปลง ก็ใช่ แต่ยอมรับเหอะว่าคนเรามันไม่ได้เสพแบบลึกขนาดนั้นตลอด บางคนเขาแค่อยากเห็นสิ่งที่ชอบมีชีวิตขึ้นมา ช่างห่าประเด็นการเมือง ถ้าจะแก้ก็แค่ดัดมุกเรซิสหรือสุ่มเสี่ยงในอดีตออก แต่ที่เหลืออย่าไปแตะหรือเปลี่ยน เอาให้ใกล้เคียงต้นฉบับ แค่นี้ก็พอแล้ว
อ๋อ แล้วดักไว้ก่อน ถ้าจะยกอนิเมหรือสตอรี่ใดใดของญี่ปุ่นที่มันเอาประวัติศาสตร์มาดัดแปลง แบบเฟทโก กินทามะ หนุ่มดาบ อันนี้มึงก็เทียบผิดขั้นนะ เพราะถ้าจะเทียบมันต้อง
1.ประวัติศาสตร์จริง=นิยายต้นฉบับ
2.เฟทโก กินทามะ หนุ่มดาบ=อนิเมชั่นแอเรียล
3.บุไต ไลฟ์แอคชั่น มิวสิคัล=แอเรียลคนแสดง
มึงลองให้สักแฟนด้อมเอาคนที่ไม่คล้ายเลยมาแสดงบุไต ไลฟ์แอคชั่น มิวสิคัล แล้วรอดูรีแอคชั่นดิ ไฟลามทวิตเหมือนกันนั่นแหละ ไอ้ที่ไม่ชอบเนี่ย ส่วนนึงมันแค่โอตาคุที่กูจะเอาภาพจำที่กูชอบไรงี้ไง
แล้วถ้าจะมาด่าว่า อุ้ย โตเป็นควายยังงอแงเรื่องตัวการ์ตูนคนแสดงไม่ตรง ตลกดีค่ะเห็นผู้ชายวัยกลางคนมางอแงไม่ได้เพราะเงือกน้อยไม่ตรงภาพจำ🤭 กูก็จะนึกถึงเวลาพวกแม่งพูดแนวๆทำไมต้องเหยียดงานอดิเรกคนอื่นด้วยคะ หรือ เพศไหนวัยไหนจะชอบอะไรก็ทำได้นะคะ แบบ แต่ทีงี้ล่ะลืมหลักการตัวเองเลยนะ 55
ผ่านมาเห็นคนลงโม่งมาโดนratio KEKW โม่งบนๆพูดไปหมดแล้วกูไม่ต้องพูดไรต่อเลย5555555555555555 ไอสาสสส
ชอบอะไรมันเป็นรสนิยมเว้ยมาเปิดใจไม่เปิดใจอะไร
ฉอดเดอร์ที่เคยไปด่าพวกชายแท้เวลามันบอกเลสแซฟฟิคทำไมไม่เปิดใจ ด่าอะไรไว้วันนี้เข้าตัวหมดละนะ
พูดก็พูดเถอะ คนแสดงแอเรียลรูปถ่ายเดี่ยวๆที่แต่งหน้าก็ยังดูดี ทำไมเล่นหนังแล้วหน้าสดจังวะ จมไปเลยจ้า สไตล์ลิสแกงชีหรือว่าใช้ข้ออ้างว่าหนังเรียลๆๆๆอีกแล้วเหรอ ส่วนตัวกูนะคือชีออร่าไม่จับเลยในโหมด gif เออ ยังไงดีวะ ดูดีได้ในรูปแบบ jpg เฉยๆอ่ะสำหรับกู แต่อันนี้ไม่ต้องห่วง นักแสดงหลายคนก็เป็น ก็รอดูกันต่อไปว่าหนังจะรอดหรือรุ่ง แต่ในฐานะคนดูหนังไลฟ์หนูผีมาหลายเรื่องต้องบอกว่าบทจืดมากแม่ ลุ้นๆเสวๆกันค่า
ขอพท.บ่นเพราะถ้าบ่นในทวิตเตอร์ พี่ๆจะบอกว่าอย่าเหยียดค่ะๆๆๆๆ คอมเม้นอะไรก็บอกว่าเหยียด อ้วก โลกแตก เป็นไรกันวะ แต่ตอนนี้น่าจะนอกประเด็นมู้ละ กลับมากันเถอะ555
ไม่ชอบแอเรียลเวอร์นี้เพราะสีไม่เจิด โทนหม่น เมคอัพไม่ส่ง เทรลเลอร์ดูงั้นๆ = รสนิยม
ไม่ชอบแอเรียลเวอร์นี้เพราะไม่ขาว หน้าเหียก เหมือนสาวไร่ฝ้าย เงือกถูกจับไปเป็นทาส = เหยียด+อคติด้วย beauty standard
ไม่ชอบเพราะไม่เหมือนการ์ตูน = ทำใจไม่ได้ที่มีการตีความใหม่ อยากได้โลกใบเดิมในเวอร์ชั่นสวยงามอลังการแบบที่อิหนูผีทำกับซินเดอเรลลา อยากเสพ aestetic เฉยๆ ไม่ใช่ social movement
รับได้หมดถ้าเหมาะสมและมีเหตุผล = เปิดกว้าง
รับได้หมดถ้าเหมาะสม มีเหตุผล และพยายามเอดดูเขตคนอื่น = โว้ก
หมั่นไส้ไอ้คนข้างบนและมองว่าคนดำชักจะเรียกร้องเยอะไปละ = แอนตี้โว้ก
เข้าใจยากตรงไหนวะ อยากเป็นคนยังไงก็เลือกเอาเองเหอะ
เด่วๆ นี่มู้อะไรกันแน่เนี่ยพวกมึงข้างบน
คนบางคนก็หาว่าคนอื่นลอกพล็อต ยำพล็อตตัวเองเนอะ พล็อตนิยายตัวเองคลิเช่แน่เหรอ ถ้าแค่พล็อตดาดๆ กากๆหาได้ตามแผงก็เงียบปากเหอะสาว ออกมาเต้นแล้วดูตลกโจ๊กโสคูลว่ะ
>>931 อ่านทุกตัวอักษรที่มึงเขียนเลยค่ะ ที่บอกว่ายัดเยียดเพราะที่มึงแจ้งมาเป็นข้อๆ มันไม่ต่างจากเด็กน้อยทำการบ้าน จับคู่โยง อันไหนตรงกับข้อไหน ใครตรงข้อไหนจับเข้าข้อนั้น ไม่มีการคิด วิเคราะห์ แยกแยะไปมากกว่านั้นว่าทุกอย่างมันมีเหตุและผล ชีวิตจริงมันมีหลายองค์ประกอบ เหตุผลก็มีหลายความเห็นเขามาอธิบายจนเขาไม่คุยกับมึงแล้วเพราะเหมือนคุยกับกำแพง คนที่อ่านแค่ความคิดเห็นที่ตรงกับตัวเองน่าจะเป็นมึงมากกว่า แต่ในนี้ไม่มีคนอินกับมึงไง เพราะเหตุผลมันกลวง สิ่งที่มึงพูดมันแค่การเอาทฤษฎีมาจับโยง เหมือนเด็กอนุบาลเวลาทำการบ้าน ออกจากโลกภายนอกและไปใช้ชีวิตเยอะๆ บ้างมึง คนเขาจะได้ไม่มานั่งขำมึงแบบนี้
มา กูเปลี่ยนเรื่องให้
ตอนนี้เห็นกระแสแฟนตาซีกำลังมา มีคนบ่นว่าหาอ่านงานไทยไม่ค่อยมี นักเขียนเลยออกมาบอกว่ากูเขียน แต่คนอ่านไม่มี ไปอ่านนิยายแปลกันหมด สู้เปิดเรื่องเขียนแนวแมสยอดนิยมผัวโบ้ท็อกสิกไม่ดีกว่าเหรอ ส่วนหนึ่งคนก็ชอบด้อยค่างานคนไทยกันด้วยป่ะวะ แบบตอนนี้พวกสนพ.ก็จับแต่งานแปล งานคนไทยไม่รับพิจารณาต้นฉบับค่ะ
>>935 ส่วนตัวกูไม่อะไรกับพล็อตคลิเช่นะ มึงจะทะลุไปเป็นนางร้ายอะไรก็ช่างแม่ง แต่ขอให้มีแหวกๆบิดพล็อตออกมาหน่อย ไม่ใช่เขียนแต่แนวแพทเทิร์นอ่านตอนแรกก็รู้ทั้งเรื่อง
งานเกาห่วยๆ cringeๆก็มีเยอะ แต่คนเสือกยกย่องเพราะมันเป็นงานแปล คนต่างชาติเขียน พอคนไทยเขียนแนวนี้มั่งดันถ่มถุยแล้วก็ปล่อยให้วงการเน่าตายไปไม่มีใครอ่าน อ่านงานแปลกันหมด
>>918 ไม่ถูก ข้อแรกกับข้อสองมันก็คือรสนิยมเหมือนกัน บิวตงบิวตี้สแตนดาร์ดเหี้ยไร ถ้ากุมีรสนิยมชอบผู้หญิงขาว จมูกโด่ง ผมทองแบบนอร์วีเจียน แล้วบอกว่าแบบนี้คือสวย มึงก็หาว่ากุเหยียดผิวดำ ทั้งๆที่มันก็คือรสนิยมกู
ส่วนข้อสามมันก็คือรายละเอียดของข้อสี่นั่นแหละ เพราะมึงบอกว่าคนเปิดกว้างคือคนที่รับได้ถ้ามีเหตุผล แต่มันไม่มีเหตุผลหรือเหตุผลมันฟังไม่ขึ้นสำหรับบางคนไง เพราะงั้นกลุ่มนี้ไม่ได้ใจแคบ มันสามารถเปิดกว้างได้ถ้ามันมองว่ามีเหตุผลจริงๆ แต่ตอนนี้มันไม่ได้มีเหตุผลหนักแน่นมันเลยไม่เอา มึงจะเหมาว่าพวกนี้คือใจแคบได้หรอ
ข้อห้ายิ่งแล้วใหญ่ โว้กไม่ได้มาจากการพยายามเอดดูเคต แต่มันมาจากพวกที่พยายามบังคับให้คนในข้อสามและสี่ต้องยอมรับให้ได้ทุกการเปลี่ยนแปลง โดยอ้างว่านี่คือการตีความใหม่จะหาก ถ้าใครรู้สึกว่าเหตุผลนั้นฟังไม่ขึ้นแปลว่าใจแคบ พวกที่ชอบแปะป้ายใส่ชาวบ้านแบบนี้แหละคือโว๊ก
>>926 กูเองนะ กูแค่เห็นในกลุ่มพวกบ่นว่าเหมือนตัวเองโดนลอกผ่านตา แค่สงสัยว่าพล็อตบางคนคลิเช่มากเหรอถึงว่าตัวเองโดนก๊อปไง
โอ๊ยยย พวกโว้กไม่โว้กไปเล่นกันที่อื่นได้มะ ยังไม่จบอีกหรา แค่ในทวิตกูก็ปวดหัวจะตาย5 ตอนนี้ลากเรื่องนิยายไทยดีไม่มีคนอ่าน คนอ่านแต่นิยายบ้งๆมาอีกแล้ว คือมึงว้อยย คนไม่อ่านเพราะนิยายมึงมันยัดเยียดความดีง่ามมากไปมันเลยไม่สนุก น่าเบื่อละปล่าวว อย่าเอานิยายดีกับนิยายเขียนไร้ชั้นเชิงไปเทียบกันนะว้อยย เอออ แต่พวกมึงด่านิยายพล็อตบ้งแค่ไหนกูก็จะเขียนต่อจ้าเพราะมันได้ตังจ้า แบร่ๆๆ
บางทีจะบ้งไม่บ้งคนอ่านมันก็ไม่ต้องการจะตีความอะไรเลยนะ มันก็แค่อยากอ่านดูให้รู้ หวีดๆฟินๆจบๆชอบก็อวยเกลียดก็บ่นๆแล้วก็ไปต่อเรื่องใหม่
แล้วคนรุ่นใหญ่มีทุนทรัพย์มักจะเป็นแบบนี้ ไม่ต้องไปร้องหาความถูกต้องดีงามจรรโลงสังคมให้สูงส่ง
ก็แค่อยากนอนอ่านนิยายแล้วตายอย่างสงบไม่ได้อยากมารับผิดชอบสังคมว่ะ
ky กูเห็นในทวิตคุยกันเรื่องหาทางลดต้นทุนหนังสือให้ถูกลงโดยใช้พวกกระดาษถูก ๆ อย่างกระดาษปรูฟงี้ ปรากฏว่ามีคนเคยทำละโดนด่ายับว่าไม่สวยไม่ดีเลยเลิกกันไปซะงั้น
เอออันนี้ก็น่าสนแฮะ เดี๋ยวนี้หนังสือนี่แทบอัปเกรดเป็นของสะสมกันหมดละ ราคาแพงจนเข้าถึงยาก พอจะหาทางลดต้นทุนอย่างเกรดกระดาษ นักอ่านก็ไม่ปลื้มอีก มันมีวิธีไหนที่จะพอเบรกๆราคาหนังสือบ้านเราได้ป่าววะ ขนาดกูทำงานหาเงินเองยังรู้สึกว่าแพงเลยจะกำตังซื้อที พันนึงได้นิยายแค่ 2-3 เล่มงี้ แล้วพวกเด็กวัยเรียนนี่จะหาตังจากไหนวะนั่นเหอๆ บางทีเขาก็พูดถูกแฮะ ที่ว่าวงการหนังสือไทยกำลังจะตายไม่ใช่เพราะไม่มีคนอ่าน แต่คนผลิตอะแม่งทำตัวเอง
>>938 แล้วมึงได้มองว่าผิวดำหน้าเหียกรูปชั่วเป็นจรกาปะล่ะ ถ้าไม่ได้คิดแบบนั้นก็คือข้อ 1 ไง ความต่างระหว่าง 1 กับ 2 คือข้อแรกไม่ได้ด่าแบบเหยียดชาติพันธุ์ มึงแค่ไม่ชอบสีสัน ไม่ชอบการนำเสนอ แต่ข้อสองมันเหยียดเต็มๆ มึงชอบสาวนอร์วิเจียนแล้วมึงได้เหยียดแอฟริกันหรือเปล่า ถ้าเปล่า มึงไม่น่าเดือดร้อนนะ กูว่าคนเรารู้อยู่แก่ใจแหละว่าตัวเองเหยียดหรือไม่เหยียด
กูบอกแค่ว่าคนที่รับได้ถ้ามีเหตุผลคือคนใจกว้าง ถ้าไม่มีเหตุผลแล้วรับไม่ได้มันก็ไม่ได้อยู่ในนิยามนี้ มึงก็วิจารณ์หักล้างไปสิ กูได้บอกว่าคนกลุ่มนี้ใจแคบเหรอ คือถ้าไม่ใช่คนใจกว้างปุ๊บมึงปัดว่าต้องใจแคบเลยเหรอ ตกลงกูเหมาหรือมึงเหมา
ส่วนข้อห้า Within the decade of the 2010s, the word woke (the colloquial, passively voiced past participle of wake) obtained the meaning 'politically and socially aware' among BLM activists.
>>941 อันนั้นต้องเป็นเรื่องรัฐบาลออกนโยบายมาช่วยแล้วว่ะ ภาษีนำเข้านั่นนี่ ค่ากระดาษอะไรต่อมิอะไรอีก อ่านหนังสือแพงเพราะไม่มีนโยบายส่งเสริมการอ่าน ค่าครองชีพสูงแต่รายได้ไม่เพิ่ม ปี 55 กำเงินไปงานหนังสือ 2000 ได้กลับมาสิบกว่าเล่ม แต่ปี 64 กำเงินไปสองพันเท่าเดิม ได้กลับมาสามสี่เล่ม เป็นเรื่องเงินเฟ้ออีก เนี่ย เรื่องการเมืองล้วนๆ เป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องสนใจการเมืองเพราะมันมีผลต่อการใช้ชีวิตไง
ยิ่งนักอ่านบ้านเราแม่งมีค่านิยมเป็นของสะสม พอเป็นของสะสมก็ต้องทำออกมาให้สวย กระดาษต้องดี ปกต้องอลัง ต้องมีบ็อกเซ็ท มีกู๊ดส์พรีเมี่ยม ไม่ทำก็ไม่ได้ เลยวนลูปเป็นวงจรอุบาทว์ อัพราคาขายแพงๆเพราะมีพรีเมียม ไม่มีก็ราคาตกขายยากไปอีก
>>941 เคสลดต้นทุนด้วยการลดคุณภาพกระดาษนี่ สำหรับกูรู้สึกก้ำกึ่งว่ะ บางเล่มบางเรื่องที่ชอบซื้อแล้วกูก็อยากให้มันคงทนนานๆ แบบที่อ่านได้นานไม่เหลือง ไม่จางผุง่ายนะ
ของตปท.ที่เค้าทำ 2 แบบชนิดกระดาษได้เพราะตลาดใหญ่กว่า มีฐานลูกค้าพอซัพพอร์ตทั้งสองแบบ ในไทยคงยาก
ถ้าตอนนี้คิดง่ายสุดคือพังระบบสายส่งทิ้งแล้วสนพ.ขายเองตรงๆ ก็ตัดต้นทุนลงได้ 15-35% แล้ว แต่ผลกระทบต่อมาจะมีอะไรตามมา ดีเสียยังไงนี่กูก็ชั่งน้ำหนักไม่ค่อยถูกแฮะ
>>941 อันนี้กุขอลองเสนอความเห็นแบบที่ ทำเองไม่ได้ ต้องให้รัฐช่วยนะ
ต้องทำห้องสมุดว่ะ ห้องสมุดทั่วประเทศ อำเภอละแห่ง (เลขสมมติ) แล้วให้ห้องสมุดพวกนั้นซื้อหนังสือ (อาจจะไม่ทุกปกที่ออก แต่ก็ซื้อสักส่วนใหญ่หน่อย) แบบนี้กำลังซื้อก็จะเพิ่มขึ้น และการันตียอดซื้อได้ประมาณนึง พอสนพมีการันตียอดซื้อจากห้องสมุด ก็พิมพ์ถูกลงได้ คนไม่มีเงินก็ยืมห้องสมุดอ่าน คนมีเงินก็ซื้อต่อไป ในราคาที่ถูกลง และน่าจะต้องมีมาตรการทางภาษีต่างๆ ช่วยเหลืออีก แต่การการันตียอดซื้อน่าจะเห็นผลได้ชัดเจนที่สุด
นี่เพิ่งเห็นข่าวมาหยกๆResident evil 4 remakeเปลี่ยนให้นางเอกใส่กางเกงแทนกระโปรงให้หมด กับบังคับใส่เสื้อปิดมิดชิดจากเดิมที่เป็นคอกลมเปิดแขน อ่านแล้วแบบคือว่า พวกมึงจะอะไรนักหนาวะ เสือกไปทั่วกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ใส่กระโปรงมันเลวร้ายตรงไหน หรือมันไม่ถูกใจLBGTQที่เห็นผู้หญิงเขาใส่กัน
>>945 ประเด็นคือ การคมนาคมในไทยมันเหี้ยมาก ขนาดอยู่กรุงเทพจะไปห้องสมุดซักที่แม่งเจอการจราจรเข้าไป กูนอนเกาตูดอยู่บ้านดีกว่า ยิ่งตามตจว.เงี้ย จะเข้าเมืองมาซื้อหนังสือแม่งต้องขี่รถมาร้อยกว่ากิโลเพื่อซื้อของ ทำห้องสมุดชุมชนก็ได้นะแต่ก็คงได้แค่เล็กๆหนังสือไม่เยอะ ถ้าจะให้เยาวชนรักอ่านอ่านก็ต้องทุ่มงบมาทำเป็นห้องสมุดชุมชนไปเลย หรือไม่ก็ห้องสมุดโรงเรียนอะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องให้รัฐทุ่มงบลงมาให้อยู่ดี
>>944 เอาตรงเดี๋ยวนี้สายส่งไม่ค่อยจำเป็นละ ขนาดนข.ทำมือพิมพ์เองขายเอง ราคาแม่งยังดีดพอๆกับสนพ.เลย แต่เออนข.มันมีต้นทุนเยอะกว่าอะนะราคาเลยค่อนข้างสมเหตุสมผลว่าทำไมแพง แต่สนพ.มีกำลังผลิตเยอะกว่าตเนทุนดีกว่า มาติดหล่อตรงสาวส่งแม่งก็ชวนอิหยังวะเหมือนกัน แล้วต้องนี้ระบบไปรษณีย์บ้านเรามันดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆ แบบไม่ต้องถ่อไปร้านหนังสือ นอนกระดิกตีนที่บ้านกดสั่งในเว็บเอาก็ได้ละ ความจำเป็นของสายส่งยิ่งแทบไม่มี ไหนจะระบบพรีออเดอร์ที่เริ่มนิยมใช้กันมากขึ้นขัดกับเมื่อก่อนที่ไม่มีพรี ตีพิมพ์ทีคือวัดดวงเลยว่าขั้นต่ำ 2-300 เล่มจะออกหมดมะ ถ้าสนพ.ใหญ่ก็พันเล่มอะหมดป่าว ไม่หมดก็เลหลังล้างสต๊อกีะหว่างนั้นก็แบกต้นทุนรอไปก่อนนะ แต่ตอนนี้มีระบบพรีเลยทำให้นอกจากจะไม่ต้องเสี่ยงหมุนทุนเก้อ ยังทำให้ประมาณถูกว่ามีคนสนใจเท่าไหร่ พรีได้ยอดสัก 200 เล่ม งั้นก็พิมพ์ชุดนั้นมาเผื่ออีกครึ่งนึงเลยละกันไว้ขายหน้าร้าน ประหยัดค่าพิมพ์ไม่พอยังมีของสำรองพร้อมขายต่อทันที
ขอถามหน่อย มือใหม่ขายเล่มเองดีใหม หรือทำแค่อีบุ๊คพอ แนะนำได้
>>947 เอาจริงๆ ในกทม. ห้องสมุดประชาชนมีจำนวนประมาณนึงเลยนะ กระจายอยู่ทั่วกรุงตามเขตต่างๆ กุเคยค้นข้อมูลตอนที่เห็นโครงการเกี่ยวกับห้องสมุดไดร์ฟทรูของกทม แต่คุณภาพแต่ละที่ และจำนวนหนังสือนี่ค่อนข้างต่างๆกันไป บางที่ก็เข้าถึงโคตรยาก เงินสนับสนุนไม่รู้ตอนนี้มีเท่าไหร่ แต่เข้าใจว่าเมืองนอกระบบห้องสมุดนี่ก็หนับหนุนวงการหนังสืออยู่แบบที่มึงว่าเลย
>>948 กูรู้สึกว่ายอดขายผ่านร้านนอ.ซึ่งเป็นสายส่งยังไม่น้อยนะ ราคาปกที่สนพ.ตั้งเลยยังรู้สึกว่ามีเผื่อค่าสายส่งอยู่ แต่สนพ.ก็เอามาลดเองอีกทีนึง กำไรส่วนที่ขายเองได้ก็เป็นกำไรสำรองของสนพ.ไป
>>953 เออใช่ ยิ่งหลังโควิดนี่งานการปกตินอหบ้านมันซบเซา ทำงานออนไลน์อยู่บ้านเลยรุ่งกว่าก็หันมาเขียนนิยายกันเยอะ คือก็ดีแหละแต่ช่วยใส่ใจในอาชีพกันนิดนึงเยอะ ลองเปลี่ยนนิยายเป็นอาหารอย่างลูกชิ้นทอดละกัน เห็นว่าทำง่ายแค่เอาลงทอดก็ขายได้ แต่ทำจริงมันก็ไม่ขนาดนั้นปะ ต้องมีดูไฟดูน้ำมัน ตะทำส่งๆไม่ได้ดิ อย่าแค่พอกินกันตาย ต้องใส่ใจทำในระดับแดกได้เรื่อยๆสิวะ นิยายก็นั่นแหละ สักแต่จะโยนๆไรก็ได้มายำๆเขียนออกมายทนึงว่าให้ดูเป็นเรื่องราวแล้วนะ แม่งก็ไม่ใช่ปะดูถูกคนอ่านไป เขาก็เสียตังจ่ายงานมึงมานะ ถ้างานไม่คุ้มค่าตัวเขาก็บายจ้าไม่มาเป็นขาประจำ เผลอๆบอกต่ออีกว่าคนเขียนเรื่องนี้แม่งแย่
จะขายไรอย่าคิดตื้นๆแค่พอขายๆด้ แต่ต้องคิดในมุมลูกค้าด้วยว่ามันซื้อมาแล้วใช้คุ้มตังมะ
https://twitter.com/SLeopard27/status/1585257940063203328
เรื่องพล๊อตนี่เคยมีประเด็นฟ้องร้องกันแล้วคนฟ้องแพ้ด้วย
แต่เคสนี้เป็นการที่นักเขียนแชร์ไอเดียกันแล้วมีปัญหากันทีหลังเลยมาฟ้อง
สรุปแบบย่อๆคือศาลมีความเห็นว่าพล๊อตที่เอามาฟ้องไม่ได้แปลกใหม่
และพล๊อตเป็นเพียงแค่ไอเดีย ยังไม่ได้เอามาเขียนเป็นนิยายเลยถือว่าไม่ใช่ผลงานที่จะอ้างลิขสิทธิ์ได้
>>955 เออกูทันเคสนี้ คนฟ้องแม่งแพ้แล้วพาลมาเล่นใหญ่เว่อร์ แชร์โพสตัวเองลงกลุ่มนข.ให้เพืือนร่วมวงการมาโอ๋+สาปส่งคนชนะ พอคนชนะมาโพสข้อมูลอีกด้าน แม่งเงิบกันเลย555 เป็นกูนะคดีจบแต่คนไม่จบ จัดอีกกระทงดีไหม ทั้งคนแพ้ทั้งคนเชียร์ แหมแซะกันซะยังกะนั่งในศาลด้วยกันอะ
เรื่องพล้อตกุเห็นด้วยนะว่ามันไม่มีlc ยกตัวอย่างอะการใช้คำ หรือกิมมิคอะไรสักอย่าง คนอื่นจะเอาไปใช้ก็ไม่ผิด กุยังนั่งขำนข.คนนั้นอยุ่เลย เล่นใหญ่หาว่าคนอื่นก๊อปกิมมิคตัวเองก่อน งานกุมันมาสเตอร์พีช กุเขียม555555 คำที่มึงคิดขึ้นก็เอามาจากที่อื่น มึงไม่ได้เป็นคนคิดเองอะ
สมัยก่อนในเว็บเขียนนิยายสีส้มๆอ่ะ มีพวกมาแฉว่าคนนั้นคนนี้ก็อปงานคนอื่นเยอะ แต่พออ่านดีๆ ที่มีมูลว่าก็อปจริงนี่ไม่กี่เรื่องเองมั้ง ที่เหลือนี่นักอ่านประสบการณ์น้อยเอง เห็นอะไรคล้ายๆที่ตัวเองเคยเจอก็ตีขลุมว่าก็อปชัวร์ไปหมด
ky คุยในนี้ได้ปะ เคสร้านพรีนิยายโกงมาอีกละ แต่งวดนี้เสียหายเยอะสัสจนสนพ.ต้องออกมาแถลงกันเยอะดลย แต่บางเจ้าก็ออกมาชดใช้ให้ฟรีๆ กูงงแฮะ ทำไมต้องชดใช้แทนวะนั่น ไม่ได้เงินจากร้านพรีนี่หว่า แล้วกลายเป็นสนพ.อื่นที่ไม่ชดใช้ให้โดยผู้เสียหายกดดันด้วยเฉย
กูได้กลิ่นตุๆว่ะดราม่านี้
>>962 เออกูงงตรงนี้แหละ ทำไมมาไล่บี้กับสนพ. แล้วบางสนพ.ทำไมถึงมาชดใช้แทนจนกลายเป็นสนพ.อื่นที่ไม่ชดใช้ด้วยเลยโดนด่ายับ แม่งแปลกกันไปหมดทั้งคนโดนโกงทั้งสนพ. กูว่าเรื่องนี้มันมีเงื่อนงำ
>>963 มึงไล่ๆดูที่สนพ.แต่ละเจ้าแถลงเลยชื่อร้านตรงกันอะ หลักไเรื่องที่โดนก็มีวายกับจีนแผล เปิดร้านในชอปปี้ลาซาด้าด้วยความเสียหายรวมๆจะล้านนึงละ
เห็นว่าเป็นนักเขียนด้วย ใบ้ว่านามปากกาคือทุ่งเข่าสาลี่ (ไปแปลงเองนะ 555)
โกงใครไม่โกง มาโกงสาววาย เจอโหดไม่ปล่อยแน่ ทนายพร้อม
เจออีกว่าไม่ใช่ครั้งแรก โกงตั้งแต่ปี59 (อายุ17) เคยโกงชุดคอสกับโกงหนังสือแจ่มใส มีกระทู้ในพันทิปด้วย ก็แสดงว่าไม่เด็กแล้ว
เจอห้องวายวิเคราะห์กันว่าที่เคสร้านพรีโกงแต่สนพ.ยอมชดใช้ให้ฟรีแทนคือทำโฆษณาเฉยๆฟีลทำบุญสร้างภาพ เออว่ะมีมุมนี้ด้วยแฮะ กูนี่คิดไปไกลถึงพวกวงแชร์อะ555 แบบวงแชร์ล้มละพวกท้าวจะผันตัวมาเป็นเหยื่อว่ากูก็โดนหลอก หรือเจียดเงินมาจ่ายคืนปิดปากเหยื่อให้ลดปากลดเสียงเรื่องจะได้เงียบไวๆ
แล้วไปเสือกมาเพิ่มคือที่โดนโกงในชอปปี้ทั้งที่มีระบบดักเงินไว้ คือแม่งให้คนซื้อกดรับก่อนได้ของเองนี่หว่า เห้ไรเนี่ย มีการบอกจะไปรุมด่าชอปปี้ให้ช่วยเอาเรื่องด้วย กูละงงแทนเลย ชอปปี้มันก็ระบุชัดรัดกุมนะ ไม่ได้ของอย่าเพิ่งกดรับ ทำไมกลายเป็นความผิดกูได้ทั้งที่ห้ามแล้วเตือนละ
จากที่จะสงสารเหยื่อ กูเริ่มลำใยเหยื่อละ สมควรโดน ไปกดดันสนพ.ทั้งที่เขาไม่จำเป็นต้องมาชดใช้ ไปกดดันชอปปี้ทั้งที่เขาก็มีกฏอยู่แต่พวกมึงแหกเอง ถึงจะบอกคนขายบังคับ แต่คนซื้อจะไม่รู้แก่ใจเลยจริงดิว่ามันไม่ควรทำ
>>955 >>970 มันแค่ซีนนึงไม่ใช่เหรอวะ ไม่ใช่พล็อตที่เป็นโครงเรื่อง และส่วนสำคัญของการตัดสินคือการไม่เผยแพร่สู่สาธารณะไม่ถือว่ามีลิขสิทธิ์ปะ เพราะเขาดันฟ้องถึงการที่คุยกันสองคน
กูว่าคนฟ้องเขาโมโหแหละ ถ้าจำไม่ผิด มันเป็นรายละเอียดที่เขาแชร์ไอเดียว่าจะเขียนในเรื่องที่เขียนด้วยกัน สุดท้ายงานคู่ล้มแล้วดันไปอยู่ในงานเดี่ยวอีกฝ่าย เป็นกูกูก็โมโห ถึงไม่ฟ้องกูก็ไม่โอเคอยู่ดีวะ
>>971 เค้าไม่ได้เขียนด้วยกันไม่ใช่หรอ แค่เป็น beta reader ให้กัน กับช่วยออกไอเดียในจุดนั้น
ซึ่งไอเดียที่ออกมันเป็นอะไรที่ไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไรเลย เห็นได้ดาษดื่นในสื่อแนวเลิฟคอมต่างๆทั้งไทยและเทศ
มึงคิดว่าคนออกไอเดียในสิ่งที่มีให้เห็นทั่วไปอยู่แล้วควรมีสิทธิเคลมความเป็นเจ้าของไอเดียจริงๆหรอ
แล้วในแชทมีการบอกว่าถ้าจะเอาไปใช้จริงๆอย่าลืมบอกกันก่อนนะ จะได้ไม่เอาไปใช้ซ้ำ เหมือนมั่นใจว่าไอเดียนี้เป็นของแปลกใหม่
ทั้งที่ถ้าอ่านนิยาย 2 เรื่องติด แล้วเจอฉากแบบนี้ 2 เรื่องติดกูก็ไม่คิดว่าลอกกันมาด้วยซ้ำ เพราะมันเบสิคเกิน
ky ถ้าบอกว่านิยายเเปลภาษาเเละสำนวนสวยกว่าที่นขสมัยนี้เเต่งจะโดนถั่วลงปะ555
กูก็สงสัยเรื่องลอก พล็อตรีเทิร์นแบบเลิฟกับมูนซ่อนเลิฟไม่ได้คลิเช่เท่าไรสำหรับกู บางคนเคยเขียนมาก่อนแต่ไม่มีหาบมาแหกปาก เคยเห็นหาบบางคนบอกว่าเรื่องนู้นเรื่องนี้คล้ายเลิฟ คล้ายมูนซ่อนเลิฟ พล็อตอินสไปร์หรือไม่ก็ได้ ทำไมอ้างอิงนิยายเรื่องหนึ่งให้เป็นบรรทัดฐาน อีกคนอาจเขียนก่อนแต่เผยแพร่ทีหลังอีกคน ถ้าใครใช้การเล่าด้วยเมลบ้างคงโดนโยงว่าก๊อปอีก ป่านนี้ป้าทมไม่ลุกออกจากหลุมหาว่าคนลอกเพราะเล่าแบบจดหมายเหรอ นิยายป้าก็มีเล่าแบบจดหมาย (แต่สมัยนี้ใช้เมล) เอาความมั่นมาจากไหนกล้าเม้าเพราะคนโดนพาดพิงเค้าเสียหาย ถ้านักเขียนที่โดนกล่าวหาเขียนเองหมดจริงๆ พวกเม้าจะออกมาแก้ข่าวให้มั้ย
อันนี้กุถามแบบไม่รู้นะ แล้วความรู้สึกของคนอ่านที่อ่านแล้วมันรู้สึกว่าเรื่องนี้คล้ายเรื่องนั้นอ่านแล้วคุ้นๆ เหมือนเรื่องนั้น
มันบอกออกไปไม่ได้เหรอวะ ต้องแอบคุยไม่ให้ใครรู้ หรือdmถามนักเขียน2-2เหรอหรืออย่างไร ถึงจะดูเป็นนักอ่านที่ดีไม่ป้ายสีใคร
ถ้าอ่านแล้วเจอความรู้สึกแบบนี้ต้องทำยังไงวะ
>>976 ถ้ามันไม่มีหลักฐานเหมือนมึงไปปรักปรำเขาอะ มึงเล่นใหญ่เล่นโตออกมาฟาดไอ้เรื่องนี้มันเหมือนเรื่องที่เดี๊ยนอ่านเลยค่าาาา แต่พอเทียบแล้วก็แค่คล้ายๆ จะอ้างว่าแรงบันดาลใจก็ได้ ถ้าพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้ลอกแต่ชื่อเสียงอีกฝั่งก็เสียหายไปแล้ว เขาก็ฟ้องมึงกลับได้ไง
กูมองว่าพล็อตเหมือนน่ะได้ แต่ดีเทลในเรื่องเหมือนนี่คือลอกแล้ว ถ้ายังไม่ชัวร์ก็คุยๆกับเพื่อนหรือนักเขียนก่อน ถ้ามั่นใจว่าหลักฐานแน่น จับได้แบบดิ้นไม่หลุดก็ลุยเลย เปิดแผงให้คนมามุง
>>974 พูดแล้วจู่ๆก็นึกถึง กูจำได้ว่าเคยมีข่าวเด็กม.ต้นรับแปลจีน ได้เงินสามหมื่นอัพ เมื่อกี้ไปหามา เด็กม.สามช่วงปี59 กูก็อดคิดไม่ได้นะว่าเงินดีขนาดนี้ ดีกว่านักแปลจีนคนอื่นหรือนักแปลทั่วไปซะอีก แต่คุณภาพดีจริงมั้ยวะ แบบมันดูแหม่งๆอ่ะ แต่ก็พิสูจน์อะไรไม่ได้ ได้แต่คาใจจนถึงทุกวันนี้ 555
>>976 ก็บอกได้นะว่าอ่านแล้วนึกถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้เลย แต่ถ้าไม่มีหลักฐานจังๆแบบไดอาล็อกเป๊ะเป็นย่อหน้าไรงี้อย่าเพิ่งฟันธงว่าลอกดีกว่า จากคดีละเมิดลิขสิทธิ์จะกลายเป็นหมิ่นประมาทเอา
>>979 ลองเสิร์ชชื่อดูสิเพื่อนโม่ง รู้เรื่องเลย 555555555 นักแปลที่ได้เดือนละสามหมื่นอัพมันมีแหละ แต่ไม่ใช่งานที่จะทำแค่หลังเลิกเรียนได้ชิวๆว่ะ
ลองไปหาอากู๋มาละ คนที่หมั่นทำใช่มะ ถามเพื่อความแน่ใจ ห่าเอ๊ย โกงขายของเรอะ 555
มีใครเคยส่งต้นฉบับให้ AxN Exclusixx บ้าง คือกูอยากส่งแต่ติดที่ว่า ebook บังคับขายใน app AxN เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ตอนนี้คนอ่านอยู่ meb กันป่ะ กูกำลังคิดหนักมากตรงเงื่อนไขนี้ ถ้าไม่ลงใน meb ด้วยโอกาสคนมาเจอก็น้อยลงป่าววะ
มีใครที่เคยซื้อ ebook ในแอปนั้นวะ กูแอบรู้สึกว่ามันอ่านยากกว่า meb
กุสลับให้เอง555
ทำไมเรื่องใหม่รตอธฐไม่ค่อยแมสเหมือนเรื่องก่อนๆวะ กูลองอ่านแล้วเนื้อหาดีเลย หรือไม่ใช่แนวนิยม
แต่กุยังไม่ได้อ่านเรื่องใหม่ของ มภ เลย แฟรี่เทลสตาร์ เปนไงวะ
กุ จะมาถามพอดีว่า มภ มีวีรกรรมอะไรก่อนหายไปพักนึง มาเจอพอดี 555 แต่รีวิว เรื่องล่าคนชมเยอะเลยว่ะ คนน่าจะลืมกันแล้ว หรือไม่รู กุก็วนๆอยู่แถวนี้ยังไม่รู้เรื่องเลยว่ะ
ตั้งมู่ใหม่ยัง
ตั้งเร็ว กูมีเรื่องจะพูดละ แต่เดี๋ยวก่อน 555
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.