Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร [กระทู้ที่ 11]

Last posted

Total of 1000 posts

948 Nameless Fanboi Posted ID:1V84GOWGXp

>>946 คอนเนคชั่นนี่มันจะช่วยกันแบบรีตอนมึงเปิดพรีออเดอร์ไรงี้ป่ะ กุฟอลกลับแต่นักอ่าน 55555

949 Nameless Fanboi Posted ID:DG9feOnDSo

>>929 แล้วแต่สไตล์นิยายด้วยว่ะถ้านิยายตามกระแส เขียนเป็นเรื่องสั้นยังไงก็ขายได้ แต่ถ้าทำเป็นยาว ๆ เรื่องอาจจะซับซ้อนหน่อย แต่ก็ต้องจับกระแสตลาดอยู่ดีถึงจะได้เงินดี
ส่วนตัวกูเป็นคนเขียนนิยายตามใจตัวเอง ขายได้มบ้าง บางเรื่องขายดีบ้าง บางเรื่องเฉย ๆ ก็มีเงินเขามาหลายหมื่นทุกเดือน กูตั้งไว้ว่าจะมีนิยายออกทุกเดือน เขียนเรื่องสั้น พอมันถึงจุดนิยายมีหลายเล่มแล้ว คราวนี้เวลานักอ่านมาอ่าน เขาจะมากดซื้อเรื่องอื่นแบบรวดเดียวก็มี กูเคยเจอ วันหนึ่งขายได้18เล่ม แต่พอกดดูทุกเรื่องเรื่องละเล่ม
ส่วนเรื่องยาวก็แต่งแบบแต่ง ๆ หยุด ๆ แต่ไม่เอาลงเว็บให้อ่าน เขียนจบก่อนแล้วค่อยให้อ่านทีเดียว
สำหรับคนอื่นเป็นไงไม่รู้นะ แต่กูเป็นค่าขนมลูกได้ ไม่เดือดร้อนเงินประจำ ก็เลยทำแบบนี้ต่อไป

950 Nameless Fanboi Posted ID:l9jHw2lvLn

>>946 คีพคอนเนคชั่นไว้ทำไมวะ เอาไว้ให้ช่วยตอนมึงอัพนิยายกับตอนลงขายเหรอ
ถ้ามึงคบไว้เพื่อผลประโยชน์ก็ต้องทนท็อกซิคไรที่ว่ามาพวกนั้นให้ได้ว่ะ ผลประโยชน์ไม่คุ้มกับความประสาทเสียเมื่อไรก็เดินออกมา ง่ายแค่นั้น

951 Nameless Fanboi Posted ID:dlcQx5guOo

>>938 ทำไปเถอะ คนละคนได้อยู่แล้ว หลายคนก็ทำงี้ แต่กูอยากให้แจ้งตอนเปิดพรีว่ะ ว่าแบบ ปกโดยคนนี้น้า แต่ภาพในเล่มคนนี้วาดนะเออ คนละคน กูเห็นหลายคนชอบไม่บอกอะ แค่บอกว่าด้านในมีรุปประกอบ มันก็ทำคนคาดหวังมะว่าภาพขาวดำข้างในคนเดียวกับนักวาดปก ถึงไม่คาดหวังแต่พอเจอคุณภาพต่างกันโคตรๆ ปกสวยเช้ง แต่ด้านในอนาโตมี่เพี้ยนแบบไม่ต้องมีก็ได้มันก็แอบหมดอารมณ์อะมึง แต่ถ้ามีดีและสวยทั้งสองแบบก็ไม่ขัดนะ

กูเล่นทวิตแต่ช่วงนี้อัลกอริธึมมันเหี้ย ชอบสุ่มนักเขียนมาบนฟีดให้กูตลอด ทั้งที่กูไม่ฟอลใครเลยเพราะไม่อยากเครียดกดดัน แล้วกูก็จะเห็นคนอวดยอดขาย อวยนิยายตัวเองว่าดีเริ่ดกว่าใคร ชั้นบอกให้ทุกคนซื้อบนเว็บแล้วได้เงินเพิ่มขึ้นมั่ก หน้าเดิมๆคนเดิมๆมาตลอด จะบล็อกก็ดูรุนแรงไป โอ่ยย เหลือแค่ลบแอปละ มันกดดันไป55555

952 Nameless Fanboi Posted ID:/MyFyjx5XU

>>951 กุกดซ่อนเอา

953 Nameless Fanboi Posted ID:ZUtflN9zxl

>>948 เออสงสัยนิดนึง ปกตินักเขียนนักอ่านที่ฟอลกันอยู่เนี่ยเค้าคุยกันบ่อยมั้ย ในฐานะที่กุเป็นนักอ่านสายเงียบ(แบบคอยซื้อคอยโดเนทตลอด แต่ไม่ค่อยได้หวีดเป็นตัวอักษรมากนัก) ถ้านักเขียนที่ชอบมาฟอลก็จะเลิ่กลั่กนิดนึง คือแบบ ใจนึงก็ดีใจแบบกรี๊ดดดดดในใจว่านักเขียนที่ชอบฟอลกลับแหละ อีกใจก็แบบ เขินๆนิดนึงเวลาจะหวีด กลัวเจ้าตัวเห็น (แบบบางอารมณ์มันจะอยากหวีดแบบไม่ได้หวีดลงแท็กไรงี้ อธิบายไม่ถูก) เลยอยากรู้ว่านักอ่านคนอื่นนอกจากกุเค้ายังไงกันเหรอ5555

954 Nameless Fanboi Posted ID:kczYNNzSRv

จะผิดบอร์ดมั้ยวะ เกี่ยวกับการเขียนเหมือนกันแต่กุเป็นนักอ่าน ขอระบายหน่อย กุตามแอครีวิวในทวิตอยู่พอสมควร แล้วบางแอคทำกุรู้สึกอึดอัด กุไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนกุมั้ย หรือกุก็แค่เซ้นสิทีฟไปเอง คือบางแอคเค้าจะชอบใช้คำแบบว่า "ทุกคนต้องอ่านให้ได้ ห้ามพลาดเด็ดขาด" "บังคับรี(เรื่องที่แอครีวิวอยู่)" หรืออื่นๆที่เว่อร์มากๆ อวยมากๆ หรือเหมารวมว่ามันดีมันสนุกสำหรับทุกคน ยิ่งบางแอคพยายามขายเรื่องเดิมซ้ำๆ ซึ่งกุก็เข้าใจว่าเขาคงชอบมากและก็อยากจะซัพนักเขียนจริงๆ แต่บางทีในฐานะนักอ่านกุก็อึดอัดนิดนึง ไม่รู้เพราะวิธีใช้คำของเขามั้ย เหมือนกุโดนบังคับว่าต้องเข้าไปช่วยรีช่วยอ่าน พอยอดรีน้อยก็มาตัดพ้อว่าตัวเองรีวิวไม่ดีพอจนกุก็รู้สึกผิดอีก ทั้งๆที่เรื่องแบบนี้มันขึ้นกับรสนิยมด้วยอ่ะ บางแอคเค้าก็พยายามพูดดีๆว่าเค้าชอบเรื่องนี้ตรงนี้ๆๆแล้วย้ำว่ารสนิยมคนเราไม่เหมือนกัน ลองเข้าไปชิมดูได้ แบบนี้กุสบายใจที่จะตามอ่านนะ แต่แอคที่พูดเป็นแนวๆบังคับหรืออวยเกินเหตุนี่บางทีกุก็พลอยรู้สึกแย่กับงานที่เขารีวิวไปด้วย ทั้งที่นักเขียนไม่ผิดเลยอ่ะ

โทษทีบ่นยาวไปหน่อย จริงๆกุ mute แอครีวิวที่ทำให้กุรู้สึกไม่สบายใจไปแล้วแหละ แต่ก็เสียดายเพราะงานที่เขารีวิวมันโดนใจกุหลายเรื่องอยู่ กุแค่รู้สึกอีดอัดกับวิธีใช้คำพูดของเจ้าของแอครีวิวเท่านั้นเอง

955 Nameless Fanboi Posted ID:W1u3guipJT

>>953 ไม่บ่อยนะ

956 Nameless Fanboi Posted ID:483WC9VD6W

>>953 มันก็แค่คุยกันที่ทวิต ไม่ได้คุยข้อความอะไรนะ นานๆ คุยมีด้วย กดไลค์บ้าง

957 Nameless Fanboi Posted ID:o10/WNbu5q

>>954 มึงอาจจะซีเรียสเกินไป กุว่าพวกนี้มันพิมพ์ไปงั้นแหละ อย่าไปเครียดๆ เขาไม่มีโกรธคนที่ไม่อ่านหรือไม่รีหรอก

958 Nameless Fanboi Posted ID:1YpgbCHP2n

>>957 คงงั้น แต่เห็นรีวิวยัดเยียดแนวนี้แล้วอึดอัดตลอด กุเลยเลือกที่จะเซฟความรู้สึกตัวเองโดยการตามแค่แอคที่ตามแล้วสบายใจ

959 Nameless Fanboi Posted ID:PVQQZDTJV2

>>954 มึงไม่ได้คิดมากไปอะ คอมมูสายผลิตคลั่งยอดกันจนท๊อกซิกไปหมดแล้วอะมึง ถ้าเป็นคนทำอาชีพนี้เป็นหลักกูจะไม่อะไรเลย แต่ที่บ่นเยอะๆดันเป็นพวกไม่ได้ทำขายเนี่ย

960 Nameless Fanboi Posted ID:1YpgbCHP2n

>>954 ทำไมอ่านแล้วคุ้นๆเหมือนรู้ว่าแอคไหน หรือจริงๆมันอาจมีแอครีวิวหลายแอคที่เป็นงี้ แต่ที่กูรู้จักมีแอคนึงที่ทำให้กูอึดอัดกับทุกตัวอักษรได้อยู่

961 Nameless Fanboi Posted ID:1YpgbCHP2n

>>958 ลืมบอกไป นี่กูเองนะ กูไม่ได้จะตอบแทน >>954 แต่กูรู้สึกเหมือนกันเลยตอบไปว่ากุคงคิดมากไปเองเหมือนกัน ต่างกันตรงกูไม่ได้ mute แต่บล็อกไปเลย

962 Nameless Fanboi Posted ID:MuaJzLVgSw

>>954 มึงไม่ได้ซีเรียสเกินไป กูก็อึดอัด เหมือนโดนกดดันทั้งที่มันก็ไม่มาบังคับกูได้อ่ะนะ
พอๆ กับทอล์คท้ายตอน บางทีกูเจอนักเขียนชอบบิลด์จัง อย่างตอนไหนมีมือที่สามโผล่มาก็ว่า พวกเธอต้องเลือกเดี๋ยวนี้ จะอยู่ข้างใคร (พระเอกหรือพระรอง) / ทีมไหน แสดงตัว / รีบเกียมไม้มะยมเอาไว้ตีขานางเอก
ซีนไหนนางเอกโดนเข้าใจผิดก็จะแบบ โอ๋ลูก วงวาร ชั้นไม่ยกให้พระเอกแล้ว / รีบพาลูกสาวหนี

อะไรทำนองนี้ กูก็เข้าใจว่านักเขียนอยากบิลด์เพื่อเรียกเมนต์นะ แต่บางอย่างมันน่าจะมาจากนักอ่านเองมากกว่า เป็นคนเขียนให้นางเอกโดนเองแล้วมาอินเอง มันแปลกสำหรับกู ทีนี้กูจะเมนต์จุดอื่นที่ไม่เกี่ยวกับทอล์ค กูเลยเกรงๆนิดนึงว่าขวานผ่าซากจังวะเรา

963 Nameless Fanboi Posted ID:AlVuh.cYr0

เออ พวกมึงเรียกสรรพนามของบล็อกว่าอะไรวะ เขียนๆอยู่แล้วชะงัก กลายเป็นคาใจ ไปต่อไม่ถูกเลย กูใช้คำว่าแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าได้มั้ย 555

964 Nameless Fanboi Posted ID:AlVuh.cYr0

แบบกูจะเขียนว่าเอรู้จักกับบีผ่านบล็อกแห่งหนึ่งอะไรงี้

965 Nameless Fanboi Posted ID:MuaJzLVgSw

>>964 แอคเคานต์หนึ่ง ? เว็บหนึ่ง ?

966 Nameless Fanboi Posted ID:zIC3E52t2S

ky ตอนนี้ติดนิยายกำลังภายในจัดๆ อยากเขียนบรรยายแอคชั่นแต่คิดพล็อตไม่ออกเลยไปตั้งรับคอมมิชฟิกกำลังภายในหาค่าหนมไปด้วยหาคนคิดพล็อตให้ด้วย ได้คนติดต่อมาจะเอาแนวเย้กำลังภายในเป็นน้ำจิ้ม จะรับดีมั้ย นึกไม่ออกว่าจะเย้พ่นแรงวัตต์ยังไงเลย ทำใจจิตใจจัดๆ T_T

967 Nameless Fanboi Posted ID:84fk7DQTA7

>>962 กุล่ะหนึ่งที่อยากหวีดมาก แบบที่มึงยกตย.เนี่ย เพราะอะไร เพราะเขียนเองกูก็อินเอง อยู่ในหัวกูมานานก็อยากหวีดในที่สาธารณะบ้าง ไม่ได้จะบิ้วใคร สรุปเจอมาว่านักอ่านอาจจะไม่ชอบ เลยพับค.คิดเก็บไว้หวีดเองในใจต่อ เศร้าแต่ก็ต้องทน กลัวโดนเขาเหม็น 555 แต่ถ้าเจอนข.เม้นเองแบบนี้กุยิ่งชอบนะ อาจจะรีเลทกะตัวเอง 555 ดูเขาอินกับลูกตัวเองดี

968 Nameless Fanboi Posted ID:AlVuh.cYr0

>>965 เออ เพิ่งนึกออกว่าเหมือนเคยเห็นคำว่าเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งอยู่เหมือนกัน น่าจะใช้กับบล็อกได้มั้ง

969 Nameless Fanboi Posted ID:MuaJzLVgSw

>>967 มึงทำไปเถอะ งานเขียนของมึงเองอ่ะ ถ้ามึงรู้สึกอินก็แปลว่ามึงเขียนได้ดี วิธีหวีดแบบนี้คนชอบ/ไม่ชอบมันมีอยู่แล้ว
กูแชร์เพราะนึกได้ว่ามันคล้ายความรู้สึกเวลาเจอขายของ/รีวิวแบบเร่งให้ไปซื้อ สรุปอีกทีมึงมีสิทธิ์ว่าจะทอล์คแบบไหน ถ้าอดทนแล้วมันเศร้าก็ปล่อยๆออกมาบ้าง กูว่าคนชอบก็ไม่น้อยนะบิลด์สไตล์นี้

970 Nameless Fanboi Posted ID:RjPtpZMa77

มึง ทำไงดี กุพึ่งแต่งเรื่องแรกจบลงขายไปได้สองเดือนกว่าแต่กุยังมูฟออนจากมันไม่ได้เลย ตอนอัพไฟล์แก้คำผิดก็รีไรต์เพิ่มไปเป็นพันๆ คำ อัพไฟล์ใหม่สองรอบละ พอนึกตอนนี้ยังมีจุดที่อยากแก้อีก อยากเขียนตอนพิเศษเพิ่ม ละไม่ใช่ว่ากุไม่มีเรื่องอื่นรอคิวนะ กุเปิดเรื่องใหม่ไว้สามสี่เรื่องแต่แต่งๆ ไปก็ยังวนไปคิดถึงเรื่องแรกอยุ่อ่ะ ไม่รุ้ว่ากุรักมากหรือแค่เป็นพวกทำงานไม่จบ มีวิธีมูฟออนป่ะ

971 Nameless Fanboi Posted ID:MfI1o/Fh/c

>>970 ทุ่มเทกับเรื่องใหม่ให้มากๆ ใช้เวลากับมันเยอะๆ อย่าไปยุ่งกับเรื่องเก่า แต่ถถ้ามันค้างคาในในจริงแบบยังไม่มีตอนพิเศษไรวี้ก็ไปแต่งให้จบแล้วบอกตัวเองว่าพอ มันจบไปแล้ว เริ่มใหม่กับเรื่องใหม่!

ตอนกูแต่งเรื่องแรกจบก็มูฟออยไม่ได้เซม ต้องไปเปิดไฟล์อ่านเรื่อยๆ (เห่อแหละ) แก้คำผิดตลอด ตัดคำเติมคำ ขนาดแต่งเรื่องใหม่ยังเขียนชื่อพระนางจากเรื่องเก่าเลย แต่ต้องมูฟว่ะ คิดเรื่องใหม่ใช้เวลากับมันเยอะๆแล้วจะมูฟออนได้เอง มันผูกพันแหละ แต่งมานาน พิมเวิร์ดเรื่องนี้เป็นเดือนๆอะเนาะ สู้ๆ น้ามึง รีบเข็นเล่มใหม่ออกมาเร้ววว

972 Nameless Fanboi Posted ID:RjPtpZMa77

>>971 ตอนพิเศษที่มีในเล่มตอนนี้ก็เกือบหมื่นแปดพันละ ยังอยากเขียนอีกหลายฉากเลย แง 5555 ขอบใจมากน้า มันคงต้องมูฟแหละ จะท่องไว้ว่าฉากพวกนั้นเอาไปเขียนเรื่องใหม่ก็ได้

973 Nameless Fanboi Posted ID:2.Di8fu6cm

Ky พวกนิยายผู้ใหญ่ตาม meb พิมพ์อวัยวะเพศหยาบๆตรงๆในเรื่องเลยได้มั้ย พวก kuy he เงี้ย กูแต่ง pwp ติดเหรียญตามเน็ตแล้วอยากเอามารวมๆ กันไปขาย ถ้าลงไม่ได้จะได้บิดแก้สำนวน

974 Nameless Fanboi Posted ID:Nmjuaqxzc7

ยอดอีบุ๊ควันแรกเยอะสุดชะปะ เห็นวันหลังๆ หัวทิ่มดิน

975 Nameless Fanboi Posted ID:Gc0HEwR6X1

ของกุวันแรกยังไม่สู้วันสุดท้ายที่หมดโปรว่ะ พุ่งมาก ส่วนที่เหลือก็นะ ตามนั้น 555

976 Nameless Fanboi Posted ID:jD7rboSB5w

>>972 ทำไมมึงคิดตอนพิเศษเก่งวะ มีเทคนิคหรือแนวทางดีๆ มะ กูไม่เคยคิดตอนพิเศษหลายๆ ตอนได้เลย เหมือนพอคลี่คลายปมจบกูก็คิดไรต่อไม่ออกแล้ว

977 Nameless Fanboi Posted ID:jD7rboSB5w

อีกอย่างที่กูอยากถามโม่งทุกคน คือ ทำไงให้ไม่รู้สึกว่าแต่งเพื่อเงินจนเกินไปวะ คือ กูก็มีงานประจำอยู่แล้ว แต่ยังชอบหน้าเงิน ชอบนึกถึงว่าอยากได้เงินแล้วพอแต่งๆ อยู่เลยทำให้ไม่ใจเย็นกับมัน อยากรีบจบๆ รีบขาย ซึ่งก็ทำให้กูไม่พอใจงานตัวเองเท่าที่ควร

978 Nameless Fanboi Posted ID:/gu.EZ7gQP

อยากเขียนนิยายบ้างแต่กว่าจะจัดการงานเสร็จก็ไม่มีแรงเหลือแล้ว ขอคำแนะนำหน่อยเพื่อนโม่ง

979 Nameless Fanboi Posted ID:QXAXd5BB5L

>>978 อยากได้เหมือนกัน มาน้อมรับคำแนะนำ 555555

980 Nameless Fanboi Posted ID:Gc0HEwR6X1

>>976 กุคงชอบนิสัยคู่นี้มาก รุ้สึกว่าไปกันรอดแน่เลยอยากเห็นการเดินทางของเขาต่อจากนี้อ่ะ เห็นความเป็นไปได้เต็มไปหมด 5555

981 Nameless Fanboi Posted ID:VJjMplE0bS

>>980 ถ้ามึงยังสนุกกับการเขียนตอนพิเศษ มีไอเดียเขียนไม่ตัน กูแนะนำว่าลองลงในคำนำหรือท้ายเล่มหรือตรงหน้าขายของเม็บก็ได้ บอกว่าถ้ารีวิวถึงกี่ยอดเท่าไรจะเพิ่มตอนพิเศษกี่ตอนก็ว่าไป ไหนๆเขียนออกมาแล้วก็ลงอัพเดตก็เอามาใช้ประโยชน์ให้คุ้ม

982 Nameless Fanboi Posted ID:4O3+GhIwbO

อยู่กะสนพ. อีบุ๊คให้เรา 50% โม่งว่าน้อยไปปะ หรือเรทนี้แหละ ปกติ เห็นบางที่ก็ได้ 70 น่ะ กุเลยสงสัยว่าเรทไหนคือปกติวะ 555555

983 Nameless Fanboi Posted ID:XRyPPJfXl3

>>982 กุเคยได้ 10% เอง เท่าเล่ม 5555

984 Nameless Fanboi Posted ID:7iNTuFJ7.s

>>982 น้อยนะเราว่า น่าจะได้เกินมาสั่งหน่อย สนพ ไม่ได้ลงแรงเท่าพิมพ์เล่มอยู่แล้ว

985 Nameless Fanboi Posted ID:6v7BN0.MTW

มีใครขาย e-book แล้วยอดดีสวนทางกับในเว็บไหม ของกูยอดในเว็บ(ค่อนข้าง)ดีสวนทางกับ e-book ที่ดิ่งลงเหว เครียด

986 Nameless Fanboi Posted ID:zMEm3A1asH

>>985 ของกุวิวตอนอัปไม่สูงเท่าเรื่องก่อนแต่ยอด ebook ดันดีกว่า

987 Nameless Fanboi Posted ID:a8NoIjw4.4

>>985 กูเองงงง ยอดวิวหลักสิบ ยอดโหลดหลักร้อย 5566 แสดงว่านักอ่านบางคนไม่ได้อ่านตามเว็บ แต่รอโหลดอีบุ๊กอย่างเดียวก็มี

988 Nameless Fanboi Posted ID:bO3S7ACTDv

>>985 กูเอง ยอดอ่านหลักสิบกว่า ยอดขายอีบุ๊คเดือนแรกเกือบสี่ร้อยโหลด กูอัปตอนแรก คือลงขายอีบุ๊ควันแรกด้วยแหละ

989 Nameless Fanboi Posted ID:.OKSbirQIj

ในโม่งมีใครหน้าใหม่ละปังตั้งแต่เรื่องแรกบ้างมั้ย คือกุไม่ได้กะเปรี้ยงปร้างหรอก แต่อยากได้ป้ายแดงก็ยังดีน่ะ

990 Nameless Fanboi Posted ID:7iNTuFJ7.s

กูคิด turning point ของตัวเอกไม่ออก เพื่อนโม่งมีวิธีมั้ย มันเป็นจุดเล็กๆ ที่จะต่อเหตุการณ์ถัดไปอ่ะ

991 Nameless Fanboi Posted ID:7W6/PXGiF2

>>989 ถามว่าปังมั้ยมันก็ปังอ่ะนะ กับเรื่องแรกที่ได้ตีพิมพ์สนพ. ได้ top of the year ได้รับการกล่าวถึงอยู่ตลอด แต่จริงๆ กูว่าของพวกนี้ไม่จีรังอ่ะมึง ปังเรื่องแรก เรื่องถัดไปก็อาจจะไม่ปัง แต่เรื่องแรกไม่ปัง เรื่องต่อไปปังขึ้นเรื่อยๆ ก็ถมเถ กูว่าเรื่องแรกปังไม่ปังมันไม่ได้กำหนดอะไรหรอก อย่าไปอะไรกับมันเลย 55

992 Nameless Fanboi Posted ID:a9PUPJrckE

>>991 มึงเป็นใครเนี่ย กูอยากรู้เลย 55555

993 Nameless Fanboi Posted ID:3+YibHRoh6

จากใจคนที่ปังเรื่องแรกและเงียบลงเรื่องสอง ทีแรกมันก็ดีแต่โดนเปรียบเทียบงานแรกให้ช้ำใจพักใหญ่เลย ออกงานสามปังกว่าเรื่องแรก ก็ยังมีคตพูดฃว่าทำไมไม่ทำงานเก่าดีกว่านี้แต่แรก มาเหมือนชมแต้หลอกด่าเฉย สรุปแม่งขึ้นอยู่กับเรื่องที่เขียนว่ะ ว่ามันโดนใจตลาดตอนนั้นมากน้อยแค่ไหน

994 Nameless Fanboi Posted ID:lZg7bq+Q49

โอเคมั้ยวะที่กูไม่ถนัดเขียนนิยายเรื่องยาวๆ กูถนัดเขียนแต่เรื่องสั้นๆว่ะ แต่ด้วยความที่พอมองไปทางไหนก็เจอแต่คนเขียนนิยายก็แบบแอบเฟล คิดแบบว่านิยายคิอห่วงโซ่สูงสุดของวงการเขียนไปเลย ใครทำได้คือเก่งที่สุดอะไรงี้ พยายามเปลี่ยนความคิดว่าแต่ละคนก็ถนัดต่างกันไป แต่ก็อดกลับมาคิดแบบเดิมเป็นระยะไม่ไหว

995 Nameless Fanboi Posted ID:QxP5+LiNS7

>>994 สั้นคือสั้นแค่ไหนวะ?

996 Nameless Fanboi Posted ID:Aoxg8/tgDO

>>995 ส่วนใหญ่แฟลชฟิคชั่น มีเรื่องสั้นช็อตสตอรี่บ้างประปราย ก็ตั้งแต่สามร้อยอัพ แต่ไม่เกินพันกว่าคำแหละ

997 Nameless Fanboi Posted ID:iOuNH4OoEK

>>994 กูงงคำถาม พยายามแตกย่อยตามนี้
1.มึงอยากเขียนสั้น <<< เขียนเลย คนชอบอ่านสั้นก็มี นิยายยาวหลักสิบเล่มคนไทยไม่นิยมซื้อถ้าไม่ใช่เรื่องแปล
2.มึงเฟลที่นักเขียนเรื่องยาวได้แสง <<< หยุดคิดหยุดเฟล
3.พยายามเปลี่ยนความคิดว่าแต่ละคนก็ถนัดต่างกันไป <<< ทำถูกแล้ว
4.แต่ก็อดกลับมาคิดแบบเดิมเป็นระยะไม่ไหว <<< อย่าหาว่ากูประชด กูเจอเคสแบบนี้จริง โซลูชั่นที่ช่วยได้มาก หนึ่ง.ถ้าการเขียนเรื่องสั้น/นิยายสั้นทำร้ายจิตใจมึงมากเกินไป มึงยังเขียนทำไมวะ สอง.มึงมองไปทางไหนเจอแต่คนเขียนนิยาย(ยาว) แสดงว่ามึงหยุดการเข้าโซเชียลของมึงไม่ได้และมึงกำลังได้รับท็อกซิคจากมันโดยไม่รู้ตัว หรือรู้ตัวมึงก็ยังไถเข้าไปเห็นเค้าได้แสง มึงฟังกูอีกที มึงเชื่อกูนะ มึงลองปิดมือถือ ปิดไปเลยให้ได้ 24. ชั่วโมง แรกๆมึงจะกระวนกระวาย ให้มึงเอาเวลาไปทำอย่างอื่น กูขอพิมพ์เท่านี้ก่อน เผื่อว่ามึงคิดว่าไม่ได้นึกอยากทำ กูจะได้ไม่เหนื่อยฟรี

998 Nameless Fanboi Posted ID:Aoxg8/tgDO

>>997 ประมาณนั้นแหละ โทษทีที่เขียนไม่เคลียร์ 55
กูชอบหลุดคิดประมาณว่าถ้าอยากเก่ง ต้องเขียนเป็นเรื่องยาว ถ้าเขียนไม่ได้หมายความว่าไม่เก่งอะไรประมาณนี้น่ะ

999 Nameless Fanboi Posted ID:Aoxg8/tgDO

>>997 ลืม แต้งกิ้วสำหรับคำแนะนำ กูเฟลเพราะแม่งเห็นในโซเชียลเยอะไปจริงๆนั่นแหละ

1000 Nameless Fanboi Posted ID:Aoxg8/tgDO

อีกนิดนึง ตอนแรกกูก็เขียนเรื่องสั้นแบบสบายใจแหละ แต่พอเปลี่ยนมาพักไถทวิตก็เจอคนนั้นคนนี้แต่งเรื่องยาวหลายตอนจบ แล้วก็แบบเฟลเลย 55

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.