บางทีถ้ากุรู้สึกว่างานไม่ดีพอ กูก็ปล่อยออกไปก็เยอะนะ แบบก็แก้เท่าที่แก้ได้อะ แต่สุดท้ายก็ปล่อยออกไปหมดอยู่ดี เขียนมาแล้วอะ นับเปนงานกุที่ ณ โมเม้นนั้น ตัวแทนสกิลกุตอนนั้น ถ้ามัวรอให้เพอร์เฟคทุกอย่างไม่ได้ทำอะไรพอดี 555555
Last posted
Total of 1000 posts
บางทีถ้ากุรู้สึกว่างานไม่ดีพอ กูก็ปล่อยออกไปก็เยอะนะ แบบก็แก้เท่าที่แก้ได้อะ แต่สุดท้ายก็ปล่อยออกไปหมดอยู่ดี เขียนมาแล้วอะ นับเปนงานกุที่ ณ โมเม้นนั้น ตัวแทนสกิลกุตอนนั้น ถ้ามัวรอให้เพอร์เฟคทุกอย่างไม่ได้ทำอะไรพอดี 555555
มันจะมีงานเขียนหลายงานที่เราอ่านแล้วรู้สึกถึงความตั้งใจมากจนอ่านแล้วรู้สึกเกร็ง อ่านแล้วเหนื่อย ถามว่ามีที่ติตรงไหน บางเรื่องไม่มีที่ให้ติเลย แต่มันไม่จับใจ เพราะบางทีมันขาดความเป็นธรรมชาติ
>>801 อันนี้อยากรุ้ทำไมเราถึงมองงานคนอื่นว่าต้องแก้ไขแล้วตบท้ายว่าเราปล่อยงานไม่ได้เพราะเราเพอเฟคชันนิสไม่ได้เหรอ สงสัยจริงๆ เผื่อกุตกหลุมนี้ด้วย
สมมติว่ามองด้วยมาตรฐานทางภาษาไม่ใช่อคติ แล้วงานนั้นบกพร่องจริงๆ เราเลยเทียบว่าเป็นเราๆ ปล่อยไม่ได้เลยต้องแก้วนไป มันก็สมเหตุสมผลอยู่ป่ะ
>>807 บางทีมองจุดบกพร่องคนอื่นมากไปอาจจะกลบข้อดีของเรื่องนั้น ในมุมนักเขียนนะ ถ้าอยากแมสมันต้องมองวานคนอื่นบ้างว่ามีข้อดีอะไร เช่น นิยายบางเรื่องแมสมากแต่มึงคิดว่าไม่ผ่านมาตรฐานตัวเอง เป็นมึงจะไม่ปล่อยออกมา ก็อาจจะจับจุดไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงแมส บางทีภาษาที่มึงบอกว่าไม่ดีมันอาจจะดีสำหรับคนอ่านก็ได้ ก็แทนที่ว่าจะเอาข้อดีมาจับจุดงานตัวเองจนพัฒนาไปได้ก็กลายเป็นไม่ได้อะไรเลย อีกอย่างมองเห็นแต่งานตัวเองว่าไม่ดีสักทีก็เขียนไม่จบซะทีอะ สำหรับกุต่อให้ประสบการณ์เยอะแค่ไหนก็ไม่มีคำว่าเพอร์เฟ็กต์ นักเขียนแทบทุกคนเวลากลับมาอ่านงานตัวเองก็เห็นจุดบกพร่องทั้งนั้น ถ้ามึงคิดว่าจะรอให้มันเพอร์เฟ็กต์ก่อน เมื่อไหร่จะเขียนจบ
จริงนะ ขนาดผ่านไปแค่ไม่กี่วัน กลับมาอ่านมีจุดให้ต้องรีไรท์ไม่รู้จบเลย
มองงานคนอื่นบกพร่อง >> เป็นเราจะไม่ทำงั้น >> เป็นเราจะทำได้ดีกว่า >> เราเก่งกว่า พอคิดงี้ปุ๊บก็ไปไหนไม่ได้แล้ว อยากพัฒนาก็ต้องมองคนที่เก่งกว่าจ้า เวลาวิ่งแข่งเขาก็มองเส้นชัยกัน ไม่ได้วิ่งถอยหลังแล้วมองว่าใครวิ่งช้ากว่าเรา บิบิ
กูคนที่ถามเรื่องนางเอกลงอย่างหมาเอง ขอบคุณโม่งทุกท่านมาก *กราบร่องนม เดี๋ยวกูลองไปตามดูละคร แต่ทุกเรื่องนางเอกดูร้ายๆเอาแต่ใจเนอะ กูชอบนางเอกแนวดีกับคนอื่นแต่ร้ายกับเธอคนเดียว ฟีลลิ่งสุภาพบุรุษแต่ฉุดคุณขึ้นเตียงได้ (จะได้มีข้อดีให้ไม่โดนด่า) พอสลับบทหมาแล้วทำไมของผู้หญิงแต่งยากจัง ต้องมีเหตุผลรองรับ ไอ้เหตุผลที่ว่าก็ต้องหนักแน่นด้วย T-T รู้สึกว่าพระเอกหมาเวลาคนด่าเขาก็เชียร์ให้ได้กะนางเอกอยู่ดี ถึงชั่วก็ให้โอกาส แต่พอนางเอกหมาบ้างกลายเป็นว่าอินี่นิสัยไม่น่ารัก ไม่ตรงขนบ ran ตอแหล โง่ ใฝ่สูง ทะเยอทะยาน แล้วบางครั้งกูก็ดันคิดแบบนี้ด้วยนะ ต้องแก้มายเซ้ตตัวเองก่อนเลยกู....
กุอะหนึ่ง ไม่ชอบนางเอกน่ารำคาญที่ทำตัวร้าย นิสัยเหี้ยใส่พระเอก (พระเอกแนวนี้ด้วย แต่ที่พอยอมได้เพราะรู้ว่าเดี๋ยวอีพวกนี้มันก็เป็นหมา สมน้ำหน้ามึง ในขณะที่นอ.จะร้ายเท่าไหร่ พระเอกส่วนมากก็ยอมปล่อยไปตลอดเหมือนที่ผ่านมาไม่มีไรเกิดขึ้น นอ.ก็ไม่ได้รับกรรมเลย จนกุรู้สึกว่าแม่งง่ายไปอะ) พวกนิสัยขี้ระแวง เอะอะด่าพอ.ทั้งที่เขาไม่ผิดงี้กุก็ไม่ชอบ สรุปอ่านได้แต่นอ.สายน้อง ไม่ก็นิ่ง ๆ ไปเลย เพื่อนโม่งไหนเขียนนอ.น่ารัก ๆ อยู่ก็ขอให้แต่งต่อไป จุ๊บ ๆ
มึงกุเขียนไปได้หมื่นกว่าคำแล้วรู้สึกว่าปูเรื่องนานไป กะจะโละทิ้งแล้วเลือกเล่าเหตุการณ์อื่นที่ทำให้กระชับกว่าแทน เสียดายจังโว้ยยย
เห็นแล้วนึกสงสัย คอสระเอียนี่คนเดียวกับจิ้งจอกซิลล่าป่ะวะ เมื่อไม่กี่วันก่อนเห็นนักวาดแท็กทวิตเค้าว่าวาดปกเรื่องแม่มดราตรีอะไรนี่ให้ ไม่กี่วันถัดมา เจ้าตัวก็ถ่ายเนื้อหาในหนังสือมาชวนคุยในทวิตน่ะ
>>815 กูก็เป็นคล้ายๆกัน ตอนแรกเขียนไหลไปลื่นๆ พอมาอ่านอีกที ก็เออ ชอบตรงนั้นตรงนี้นะ แต่ขัดกับพลอต เอ้า จำใจตัดทิ้ง 555
กูอาจจะเข้าใจผิด เป็นคนละคนกันก็ได้ แต่นักวาดเค้าแท็กคอสระเอียไง กูเลยงงๆ
ยอดอีบุ๊กคือมันลดจริงๆ ใช่ไหม คนที่เคยได้ พันก็อาจจะตกลงมาคนที่ อาทิตย์นึงได้โหลดนึงแบบกูตอนนี้คือ เป็น 0 มา เดือนนึง ละ
ทำไมลดวะ คนอ่านคนซื้อทยอยหายไป กูเขียนหลากแนวก็หดทุกแนว เพราะเด็กเปิดเทอมหรือผู้ใหญ่งานยุ่งหลังเปิดปี กูกำลังจะขึ้นเรื่องใหม่เลือกไม่ถูกเลยจะเขียนแนวไหนที่ยังพอขายได้มั่งวะ
เศรษฐกิจไม่ดีจ้ะ เงินเฟ้อ ของแพง โรคระบาด ตลาดหุ้น/คริปโตดิ่งลงเหว
ขอบคุณทุกคห. สรุปว่ามันเป็นเรื่องฤดูซบเซา(เดือนหลังปีใหม่)แล้วก็เศรษฐกิจด้วยสินะ 😭
ตอนนี้รีดอะไรต์เหมือนปรับวันแบนเนอร์นะ เปลี่ยนไวมาก ลองส่งกันยัง กุลองแล้วนะ แม้ว่าจะเปลี่ยนกันไวขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่ได้คิวเลย555
ky เพื่อนโม่งกุขอบ่นหน่อย ไม่แน่ใจว่าถูกห้องมั้ยนะ กุไม่โอเคกับสังคมนักเขียนบางกลุ่มเลยว่ะ กุว่าตอนเขียนนิยายคนเดียวมีความสุขกว่านี้ พอรู้จักกับนักเขียนกลุ่มใหญ่เพราะอยากมีเพื่อนแวดวงเดียวกัน แต่สนิทกันมากเข้าแล้วกุไม่ค่อยโอเค สังคมแม่งปลอมเปลือกนินทากันลับหลังสนุกปาก กุควรทำไงดีวะ อยู่ๆ ออกมาเลยจะบาดหมางกันมั้ยวะ กุอยากเฟดตัวเองออกมาว่ะ แม่งไม่มีความสุขกับการเขียนงานเลยกุ
นักเขียนคนนึงบอกว่าอย่าเอางานไปเทียบกับคนอื่นแล้วตัวเองก็มานอยด์ แต่ตะเองก็อวดยอดมันทุกเดือน คนที่เป็นเพื่อนเห็นแล้วจะอดเทียบกะตัวเองได้ไงวะ 5555
>>829 กูโชคดีอะ เจอเพื่อนนักเขียนน่ารัก เม้ากันนะแล้วก็ด่าตัวเองไปด้วย สนิทกันจนคุยเรื่องทั่วไปได้ มีอยู่คนหนึ่งออกนิยายกับสนพมาหลายเรื่องมากๆๆๆๆๆ แต่คุยน่ารัก ไม่ถือตัวหรืออวดว่าตัวเองดี พอเขาจะเปลี่ยนแนวเขียนก็หาความรู้ มาถามว่าต้องเริ่มจากตรงไหนบ้าง
กูเลือกคบเพื่อนนักเขียนด้วยแหละ
บางคนรู้จักไว้พอประมาณ ส่วนตัวกูไม่ชอบคนอวดแบบข่มคนอื่นอะ หรือพูดจิกคนอื่นในประโยค
หรืออวดแบบ ‘นักอ่านตามงานแล้วแต่ฉันยังนั่งโน่นนี่นั่น ก็น่ะฉันเขียนเป็นงานอดิเรก ไม่เดือดร้อนเงินบลาๆๆๆ’ พอกูไปดู สองเดือน นักอ่านตามงาน1คน
พวกนี้กูจะคบแค่ผิวเผิน
หรือพวกที่ว่างมากบ่นในเฟสตลอดเวลา เหมือนเรียกร้องความสนใจ พวกนี้กูแค่เป็นเพื่อนในเฟสเฉย ๆ ไม่คุย กดไลค์อะไรพวกนี้พอ
>>838 กูคือ>>834 ในขณะที่กูมีเพื่อนนข.ดี ก็มีเจอนข.ที่กูไม่โอเคนะ
กูเคยเฟดตัวเองออกมาจากนข.สองคน คนที่กูเฟดออกมา เป็นคนที่คุยด้วยแล้วมีความtoxic เขาอยากพัฒนางานเขียนตัวเอง พอเพื่อนนข.แนะนำอะไร เขาไม่เคยทำ แล้วคุย ๆ ไปจะรู้ได้ว่ามีความหมองๆ ในจิตใจจริงๆ พวกนี้กูจะเฟดออกมา อ้างว่าทำโน่นนี่นั่นบ้าง แล้วคุยน้อยลง น้อยจริงจังเลยนะ ถามอะไรมากูจะตอบข้ามวัน แล้วความสนิทก็จะหายไปเอง
ส่วนการเลือกสแกน มันจะเป็นเซ้นที่จะรู้ว่าคนนี้ไทป์แบบเดียวกัน คุยได้ กูก็อาศัยประสบการณ์คบคนล้วนๆ อะ ถ้านข.คนไหนแบ๊วไปเวลาคุยกันสองสามครั้งแรกเลยนะ กูนี่ก็เฟดตัวออก รู้ในใจแล้วว่าคบได้ผิวเผินพอ
อาจจะดูว่ากูค่อนข้างเรื่องเยอะ แต่กูรำคาญนข.ประเภท โพสในเฟสไม่มีเวลาเขียนเลย ทำงานเยอะมาก แต่พวกนี้มีเวลามาเล่นเฟส?
เอาเวลาเล่นเฟสเขียนนิยายดีไหม?
คนมีตรรกะแบบนี้สำหรับกูคือเรียกร้องความสนใจ พวกนี้กูจะคบผิวเผิน เพราะเดาได้ว่าเป็นพวกน่ารำคาญสำหรับกูระดับหนึ่ง แล้วกูไม่ใช่พวกชอบบ่นอะไรในเฟส กูเลยไม่ค่อยชอบนข.ที่บ่นได้ตลอดเวลา หรือบอกตลอดเวลาว่าทำอะไรยังไง แต่กูไม่ว่าอะไรนะ แค่unfollow ไม่ได้unfriend รำคาญก็รำคาญกับตัวเอง ไม่ได้ไปบ่นให้ใครฟัง หรือบอกเพื่อนนข. เพราะนี่คือนิสัยการเลือกคบเพื่อนของกูเองล้วนๆ อะ
อ่อๆๆนักเขียนที่กูคุยอายุเลขสามกันหมดแล้วด้วย มีวุฒิภาวะเลยแหละ
ถ้าจะโพสอวดก็บอกในโพสเลยว่า ฉันจะมาอวด ขอพื้นที่ให้ฉันได้อวด
นข คนหนึ่งเม้นบอกว่าแต่งนิยายมาราวครึ่งปี เดือนแรกได้เงินหลักร้อย แต่งไปเรื่อยๆได้หกหลักแล้ว กูลองเข้าไปส่องงานเขา ไม่มีป้ายแดงสักเรื่องเลยว่ะ คนรีวิวก็หลักหน่วยถึงหลักสิบต้นๆ ในเว็บสีน้ำตาล ยอดเหรียญนิยายเขายังไม่ถึงล้านเหรียญเลย แบบนี้รายได้หกหลักจริงเหรอวะ
>>844 บ่นได้เลยมึง มันคือเฟสของมึงไง มึงอยากบ่นไรได้เลย แค่กูเอง มันเป็นปัญหาของกูเอง กูก็เลยunfollow แค่นั้นแหละ กูให้ความเคารพในการบ่นของพวกเขานะ เพราะบางคนเขาอาจจะเครียด การได้พิมพ์แบบนี้เป็นการระบาย แต่สำหรับกูการอ่านแบบนั้นมันtoxicกับตัวกูเอง กูเลือกทางออกให้ตัวเอง ไม่ได้เอาคนที่กูรำคาญไปเม้ากับเพื่อนนข.
มีในโม่งนี่แหละที่กูมาบอกแค่ว่าเลือกคบยังไง
กุก็ชอบหวีดในทวิตตัวเองว่ายุ่งชิบหาย อยากแต่งนิยายโว้ย แต่มีเวลาไถทวิตเล่นเพราะถือว่ายังไงก็เป็นเวลาพักผ่อนกุ ไม่นึกเลยนะว่าจะมีคนรำคาญอย่างโม่งบน คิดถูกละจริง ๆ ที่ไม่คบใคร ดีกว่ามาเสียความรู้สึกทีหลังว่าอีนี่แม่งจะรำคาญกุปะวะ 555555
พี่โม่งแนะนำกุที อนาคตถ้ากุอยากเขียนงานขาย กูไม่ควรทำงานสายสนพ. พวกนี้รึเปล่าวะ แบบบก. งานแปล พิสูจน์อักษรงี้ กุสงสัยว่ามันจะตีกับงานตัวเองรึเปล่า แบบ อ่านบ่อย ๆ ละเผลอดึงคำมาใช้ ติดสำนวนชาวบ้านเขางี้อะ หรือว่าไม่มีผลหรอก ตอนนี้กุเรียนอยู่ กำลังสับสนกับเส้นทางชีวิตน่ะ 555
>>850 ส่วนตัวกูว่าขึ้นอยู่กับต้นทุนของมึงเอง หมายถึงต้นทุนชีวิตในแง่ฐานะความพร้อมของที่บ้านมึงต้องส่งเงินให้มั้ย พร้อมสนับสนุนถ้ามึงจะเขียนงานขายแบบเต็มเวลา คนที่บ้านเข้าใจมั้ยว่ามันคืองานที่เหมือนมึงนั่งอยู่หน้าจอเฉยๆไม่ทำมาหาแดก และมันคืองานที่ต้องการสมาธิไม่ใช่เรียกไปช่วยขายของหรือช่วยกิจการที่บ้านได้เต็มที่
ต้นทุนอีกแง่ที่อยากให้มองคือประสบการณ์ชีวิตของมึง ถ้ามึงไม่ไปหาจากการทำงานประจำ(ไม่ว่าจะสนพ.หรือไม่เกี่ยวกับหนังสือเลยก็ตาม) มึงมีวิธีอื่นในการพัฒนาให้มันเติบโตมั้ย ของพวกนี้มีไว้จะทำให้งานเขียนมึงมีมิติและสร้างเอกลักษณ์ให้ต่างจากงานอื่นในตลาด
อีกแง่ก็พวกทักษะการเขียนของมึง คอนเน็คชั่นหรืออะไรพวกนี้ เพื่อนกูทำงานสายแปลคนนึง อีกคนทำงานบ.ก. กว่าจะเริ่มจับงานเขียนก็ถือว่าช้ากว่าคนอื่นมาก แต่งานสายสนพ.ที่เคยทำก็ช่วยเอามาต่อยอดได้ พวกมันบอกว่างั้นนะ แต่ในทางกลับกันงานเกี่ยวกับหนังสือแม่งโคตรเหนื่อยและกินพลังชีวิตมึงมาก 5555 เรื่องที่ห่วงว่าจะดึงสำนวนชาวบ้านมากูว่าไม่ต้องกลัว
กูว่าดีนะที่มึงอยู่ในวัยเรียนแล้วเริ่มคิดวางแผนอนาคตของตัวเอง ลองมองปัจจัยรอบตัวกับต้นทุนที่บอกไปแล้วลองตัดสินใจดู ขอให้โชคดี
>>851 >>852 ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ แต่เอาจริงกุคงไม่กล้าทำงานเขียนเต็มตัวว่ะ (ถึงจะอยากก็เหอะ ถ้ารวยเงินเหลือใช้กุคงไปละ TT ) กลัวงานแป้กละไม่มีจะแดก ฮือ ตอนนี้สายที่กุเรียนอยู่เงินค่อนข้างดีมาก แต่งานก็น่าจะเหนื่อยสัสหมาเลย เลยเล็งไว้ว่าถ้าเปลี่ยนสายไปทำสนพ.พลาง ๆ จะโอมั้ยนะ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเผลอติดสำนวนคนอื่น / ได้อินสไปร์มาก็น่าคิด แต่เดี๋ยวอนาคตกุลองตัดสินใจอีกที *ไหว้ย่อ*
กุถามคนที่จัดหน้าเองหน่อย เวลาคลุมดำแล้วกดกระจายแบบไทยให้ซ้ายขวาเสมอกัน สุดท้ายเราต้องมานั่งดูทีละบรรทัดเพื่อเคาะบรรทัดที่มันกระจายตัวห่างอยู่ดีใช่ป่ะ คือกุดูทิวทอเรียลเขาโชว์สเตปนี้แล้วของเขามันคลิกปึ๊งสวยเลย ไม่มีประโยคที่ ห่ า ง ม า ก แบบกุเลย รึกุทำไรผิด (กุกดสัญลักษณ์พายแล้ว ไม่มีย่อหน้าที่shift+enter )
ขอ Ky หน่อย นิยายเรื่องนึงยังไม่ติดเหรียญ ยังไม่มีอีบุ๊ก (แต่อนาคตต้องขายแน่) เอารูปจากพินมาทำปกถือว่าไม่ผิดใช่มั้ย กูเล็งรูปนี้จากในพิน https://www.pinterest.c0m/pin/152137293653958450/ กูเห็นประเด็นรูปปกต้องถูก ลขส ก็เลยไม่กล้าเอามาทำปกชั่วคราวใน รอร ถึงกูจะเปิดให้อ่านฟรีก็เหอะ แล้วกูไปเจอนิยายฮิตเรื่องนึงหมวดนิยายจีนเอารูปนี้มาใช้ ไม่เห็นใครว่า ถ้าทำได้ไม่ผิด กูจะได้ทำมั่ง
>>829 กูเคยมีเพื่อนนักเขียนสนิท เวลาคุยกันเม้ากันมันชอบบ่นนอยว่ายอดน้อย แต่ไม่เยอะของมันคือมากกว่ากูเท่าตัว บางทีก็ชอบแขวะ กูแต่งแนวเสื่อมตับพัง แนวเสียว ต่ำตม มันแซะกูว่าผลิตผลงานขยะ ได้เงินจากงานแบบนี้ภูมิใจเหรอ? ขู่จะเอากูไปแขวนให้ทัวร์ลงแต่มันบอกพูดเล่น กูแต่งปรกติไม่ได้เงิน กูก็เปลี่ยนแนวสิ ตอนนี้กูเลยไม่คุยด้วย แต่จะแต่งนิยายเดียวกับมันออกมาแข่ง จะเอาคำเหยียดของมันผลักกูขึ้นไปเหยียบหัวมันให้ได้ 555 กูไม่คบใครแล้ว ปั่นงานคนเดียว คุยแต่กับพวกมึงในโม่ง ไม่ต้องแสดงตัว จะเม้าจะขอทริกก็หาในนี้
>>861 ผิดจ้า มึงไม่มีสิทธิ์เอาของเขามาใช้โดยไม่อนุญาต นักวาดด่ากันจนตามด่าไม่ไหว ถ้ามึงมีสันดาน ใครๆ ก็ทำ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผิด ก็ขอแช่งให้แจ็กพอตถูกนักวาดตามมาเหยียบหน้าสักวันเถอะ ทำบุญเยอะๆ นะเมิง จะได้รอดไปจนจบ
ภาพลูกลิขสิทธิ์ มีเยอะแยะ นักเขียนก็เป็นเหี้ยไรกัน ไม่อยากถูกคนอื่นละเมิดลิขสิทธิ์ แต่พวกมึงก็ยังละเมิดลิขสิทธิ์ไม่หยุด ขอให้ฉิบหายตายโหงกันให้หมดๆ สักวัน เพี้ยง!
>>864 ระยำ! แช่งกูซะอย่างกับกูทำแล้วเลย พ่อแม่ไม่รัก ผัวไม่รักเหรอมึง กูถามเฉย ๆ ถ้าทำไม่ได้กูก็ไม่ทำ มึงเก่งนัก เป็นนักพิทักษ์ ลขส ดีนักไปฉอดอีนิยายเรื่องนี้ที่ใช้ปกอันนี้ใน รอร หน่อยนะ นิยายที่ได้ยอดหัวใจ 1404 ใจ อย่าปากเก่งแค่ในโม่ง อยากดูน้ำหน้าจะกล้ามั้ย ไม่ใช่สักแต่แช่งลอย ๆ ในโม่ง ขำ 555
>>865 กูแต่งมา 2 ปี เขียนนอกกระแสยอดโหลดไม่ถึงสิบ พอแต่งท้องแล้วหนี ผัวชั่ว กูได้ยอดดีขึ้นหน่อย บางเรื่องถึง 100 โหลด ยังไม่ปังนะ แต่ถือว่าดีกว่าแต่งนอกกระแส
pinterest นี่อยากให้สำนึกกันเยอะๆ ว่ามันเป็นแหล่งที่ไม่ควรดึงภาพมาใช้ เพราะเจ้าของภาพบางคนเค้าก็ไม่ได้อนุญาตให้นำมาใช้ เคยมีนักวาดเกาหลี ที่ถูกเอามาใช้บ่อยๆ ด่านักเขียนไทยด้วยมั้ง วาสนาดีอาจมีนักวาดมาช่วยโปรโมตให้ได้ เป็นเกลียดเป็นสีกับชีวิต
ผิดจ้า ผิดหมด ดูดภาพเขามา ถ้าเจ้าตัวไม่อนุญาตนี่ไม่ว่าจะอ่านฟรีชั่วคราววันเดียวก็คือผิด พวกที่ทำ ๆ ก็มีอยู่ 2 ประเภทแหละ 1. เด็กน้อยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ทันตระหนัก แต่ถ้ามีคนบอกก็เข้าใจ ยอมรับผิดไม่ทำอีก = เค คนเราไม่รู้ก็ต้องเรียนรู้ว่ะ 2. สันดานส้นตีน รู้อยู่ว่าผิด ใครเตือนกุก็ไม่สน แต่สักจะอ้างว่าใคร ๆ ก็ทำนี่คร๊ มงืออ = อีพวกเหี้ย สมควรถูกฉอดอย่าง >>865
>>861 กูว่ามึงลองถามมู้นี้ดีกว่านะ จะได้คำตอบชัดเจน อย่าเก่งแค่ในทู้นี้ https://fanboi.ch/netwatch/14411/recent/
พักก่อนเห็นมีเรื่องแบนพวกยืมเมจดารา อันนั้นกุเข้าใจว่าไม่ได้นะ แต่เห็นหลายคนเหมือนไปไกลขนาดว่าแบนนิยายที่มีปกรูปคน/นายแบบ/ซิกซ์แพ็คไรพวกนี้แล้วเหมาะรวมมาว่าผิด ลขส. หมดเลย อันนี้คือแยกแยะยังไงว่าเขาเอามาจากเว็บฟรีที่อนุญาต หรือเป็นรูปที่เซฟมาใช้มั่วๆ แบบผิดจริง
>>874 ใช้โปรแกรมค้นหาโดยใช้ภาพก็เจอแหล่งละมั้ง แต่ถ้าใช้ภาพฟรี แม่งใครมาปากแจ๋วก็ฟาดกลับด้วยลิงค์เว็บภาพฟรีดิ แต่เอาจริงๆ นะเว้ย ภาพฟรีที่มีหน้าคน เจ้าของหน้าต้องอนุญาตนะ ถึงเอามาใช้ได้ แต่คิดว่าถ้ามันอยู่ในเว็บฟรี ก็น่าจะอนุญาตแล้วมั้ง ตรงนี้ขอความรู้เพิ่มหน่อย ว่ายังไงกับพวกภาพหน้าคน
ปกติเริ่มเขียนเรื่องๆนึงเริ่มจากสร้างตัวละครก่อนหรือคิดเรื่องก่อนว่ะ
>>878 อยากจับมือ เซมมม >>876 กูก็ชอบคิดคาร์ก่อน พล็อตค่อยมาทีหลังเพราะมันจะงอกจากนิสัยพระนางว่าเข้ากันรึขัดแย้งตรงไหน จะมาป๊ะกันได้ยังไง เลิฟซีนจะเป็นแบบใด dirty talk จะมาแนวไหน ส่วนพล็อตมาก่อนคาร์นี่เป็น นปก.สายพอร์นของกูว่ะ แต่งแบบไม่คิดไรมากพล็อตก็ต้องมาก่อน ชื่อตัวละครไปสุ่มเว็บตั้งชื่อลูกเอา55555 ส่วนนปก.จริงจังมันทรมานและแต่งยาว (ขายไม่ดีด้วยอิเวน) เลยต้องรู้จักลูกตัวเองก่อน
>>746 ขอโทษที่ ky กุเเพิ่งมาไถดูมู้นี้แล้วกุสนใจแนวที่โม่งคนนี้ถามหาจัง สรุปมีใครแนะนำไปรึยัง กุก็รู้จักแค่คุณ ค กับแอคฟลวหลักพันหลักหมื่นเพื่อนๆคุณ ค กุอยากรู้ด้วยคน ว่าคนเขียนแนวนี้ที่ไม่ใช่คนดังและมีคนช่วยโปรโมทแบบกลุ่มนั้น แต่กลับยังพอมีผลตอบรับดีประมาณนึงเนี่ยมีบ้างมั้ย กุย้อนรีพลายไปไกลเกินมั้ยวะ กุขอโทษ T_T แต่อยากรู้จริงจัง กุชอบอ่านแนวนี้ เผื่อในอนาคตอยากเขียนบ้าง
มีใครเคยมีปัญหาไม่รู้จะจบเรื่องยังไงไหม
เรื่องภาพที่ชอบไปยิมมาใช้โดยไม่ได้ขออนุญาตนักวาดเนี่ย สามัญสำนึกมันต้องมี เป็นหน้าที่ของนักเขียน ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นที่ต้องไปคอยไล่จี้หรือไ่ล่ฉอด
ตอนนิยายโดนลอกร้องแรกแหกกระเชอจะเป็นจะตาย แต่ลิขสิทธิ์ด้านภาพรู้เท่าไม่ถึงการณ์ค่า ยืมมาใช้เฉย ๆ คนอื่นก็ทำนี่ไปด่าคนอื่นให้ครบทุกแอคเคานต์สิค่อยมาว่าเรา
ky ช่วยด้วยจ้า ก่อนหน้านี้แต่งนิยายไปได้สักครึ่งเรื่องละหยุดไปหลายเดือน พอกลับมาอีกทีรู้สึกว่าพลอตไม่แน่นเลยเติมช่วงย้อนอดีตเข้าไปเล็กน้อยทำให้มีเหตุผลขึ้นเยอะเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแหม่งๆบางช่วงอยู่ดี แล้วพอเติมนั่นนี่เข้าไปปรากฏว่าสำนวนดันเปลี่ยนไปด้วยอะ รู้สึกไม่ค่อยเข้ากันยังไงชอบกล สุดท้ายเลยทิ้งไว้อาทิตย์นึงให้ลืมๆไปละกลับมานั่งอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดันชอบช่วงที่เขียนใหม่เข้าไปมากกว่าเดิมมากจนอยากโละก่อนหน้านี้ทิ้งให้หมด แต่ก็นั่นแหละ เสียดายอะเขียนไปเยอะแล้ว ยังไม่ได้ลงนะกะเอาให้จบก่อน ควรเอาไงดี
เพื่อนโม่ง เวลาที่พวกมึงออก E-Book นี่ เอาตอนพิเศษใส่ไปแค่ใน E-Book เพื่อเพิ่มยอดโหลดได้ไหมวะ แต่ที่เว็บก็ติดเหรียญนะ แต่ถูกกว่าเกือบครึ่งแล้วมีแค่เรื่องหลักอ่ะ เพราะกูรู้สึกว่าเอาตอนพิเศษลงเว็บติดเหรียญเนื้อหาเหมือนอีบุ๊คทุกอย่างแล้วยอดอีบุ๊คไม่ค่อยกระเตื้องเลย ยอดเว็บก็ไม่กระเตื้องด้วยเพราะคนอ่านไม่ได้ซื้อตอนพิเศษทุกตอน (ส่วนใหญ่ซื้อแต่ตอนเรท แล้วกูเหนื่อยเขียนเรทมากกกกกก) แต่อีกใจก็กลัวโดนทัวร์ลงว่าเนื้อหาไม่เหมือนกัน แต่อีบุ๊คมันแพงกว่าเว็บนะ ;;w;;
ปรึกษาค่ะ
เราอยากแต่งนิยาย แต่ปัญหาคือพล็อตที่เราคิดมาในหัว อยู่ดีๆก็กลายเป็นพล็อตในหนังไปแล้วอ่ะค่ะ คือไม่เคยดูทีเซอร์หนังหรืออ่านนิยายของมัน พอได้เห็นผ่านตาดันเหมือนเรื่องที่คิดไว้ว่าจะเขียนซะงั้น
เราควรทิ้งพล้อตนั้นไปเลยหรือพยายามแต่งต่อดีคะ ; = ;
>>891 มี2เรื่องที่โครงเหมือนที่เราคิดไว้
Red Notice พึ่งได้มีโอกาสดู ดูละซึมเลยเหมือนเรื่องที่กำลังจะแต่ง
อีกอันพล้อตคิดนานละแต่ไม่ได้จดไว้จริงจัง ดันเหมือนกับหนังกำลังที่จะเข้า(ลืมละว่าชื่ออะไร แบบผญโดนทดลองเรื่องสมอง? แยกความจริงกับฝันไม่ออก มีปีศาจ สักอย่าง) โครงเรื่องใกล้ๆกันเลยแต่ไม่ใช่แนวสยองขวัญแบบหนังอ่ะ
ปัญหานี้จะว่าน่ารำคาญก็น่ารำคาญว่ะ โลกนี้แม่งมีแต่อะไรเดิม ๆ ทั้งนั้น จับนู้นมาใส่นี้ก็ได้เป็นเรื่องใหม่ละก็ยังมีอีพวกชอบบอก อุ๊ย เหมือนเรื่องนั้นจังค่า อุ๊ย ก๊อปหนังดังมาเหรอ อุ๊ย อ่านแล้วนึกถึง...เลย โถอี ถึง material นึงจะดูคล้ายจริงเป็น fact แต่มึงจะแหกปากบอกเพื่อ เสียมารยาท คนก๊อปจริงก็มีแต่คนที่เขาไม่ได้ก๊อปก็เสียความรู้สึกปะ
"ทำไมอ่ะ ก็กูซื้อมาอ่าน อ่านแล้วกูรูสึกว่าจุดนี้มันเหมือนเรื่องนี้ เรื่องนั้น ทำไมกูจะบอกไม่ได้ ทำไมกูต้องรักษามารยาทอะไรที่กูไม่รู้ เพราะกูซื้อมาอ่าน"...จะมีจุดเหมือนหรือคล้ายยังไงมึงก็เขียนเถอะ แต่ต้องเตรียมใจไว้กว้างๆเผื่อเจอคนอ่านประมาณนี้ด้วยว่ะ
สอบถามคนเคยมีประสบการณ์หน่อยเรื่องอีบุ๊ค คือกูแต่งไปเรื่อยๆอะไม่ได้แต่งตุนจบเรื่องไว้ มีนี้นิยายกูมีสามภาค เพิ่งแต่งจบภาคหนึ่ง อยากรู้ว่าถ้าทำอีบุ๊คภาคหนึ่งขายเลยได้ปะ หรือต้องรอเขียนจบเรื่องสามภาคถึงจะทำอีบุ๊คขายได้ คือกูแต่ตามสะดวกอะมีงานประจำ บางทีก็ยุ่งจนดองยาวหายไปเดือนนึงเลย กว่าจะจบภาคแรกนี่กูใช้เวลาเป็นปี พอเห็นดราม่าล่าสุดที่คนเขียนเทนิยายเล่มสุดท้ายเลยชักแหยงๆ กูจะถูกสาปส่งไหมอะถ้าออกอีบุ๊คเล่มแรกทั้งที่ยังแต่งไม่จบเรื่อง แถมไม่มีกำหนดการณ์แน่นอนอีกว่าจะจบเมื่อไหร่
>>898 ดราม่านั่นเกิดเพราะเขารับปากว่าเล่มสองมาเมื่อไหร่แต่ผิดนัดมากกว่าว่ะ ถ้าเขาพูดว่าเล่มสองยังไม่มีกำหนดคนอ่านก็ไม่ด่าหรอก ของมึงกูว่าแค่บอกชัดเจนในทุกช่องทางว่ายังไม่มีกำหนดและอาจเทก็ได้ คนที่ซื้อก็คือคนที่รับความเสี่ยงนี้ได้แหละ แต่ยอดอาจไม่ดีและก็มีคนเม้นในเมบงอแงหน่อย
มือลั่นไปก่อน ที่บอกว่ากลัวคือประเภทมึงเนี่ยมันไม่ใช่นักเขียนประจำ ความรับผิดชอบกูก็ไม่รุ้ว่ามีแค่ไหน แต่ถ้าเป็นนักเขียนที่ออกงานเรื่อยๆ ก็จะมั่นใจหน่อย(ขนาดอีประเภทนี้ยังมีเทเลย นับประสาอะไรกับพวกตามสะดวก ถ้ารู้ว่ามึงแต่งตามสะดวกกุยอมรอ) ขี้เกียจค้างคาเหมือนขี้ติดตูด
>>904 มึงเป็นคนแปลกๆ นะเนี่ย 555 กุไม่แน่ใจว่านักวาดเค้าจะโอเคมั้ยนะที่ต้องแบ่งกันวาดกะคนอื่น บางคนก็อาจไม่โอเค มึงต้องบอกนักวาดก่อน แล้วก็ระวังดราม่าว่าทำไมใช้ปกคนละนักวาด รวมทั้งการเปรียบเทียบ คนนี้วาดสวยกส่าคนนั้น บลาๆๆๆ ส่วนตัวกูในฐานะนักเขียนและนักอ่านกูชอบปกนักวาดคนเดียวกัน ถ้ามันเป็นเรื่องเดียวกันหรือเซ็ตเดียวกันน่ะนะ มันจะมีเอกลักษณ์และเข้าชุดกันมากกว่า
Ky หายจากวงนักเขียนไปนาน แต่มีเพื่อนเป็นนักเขียนสิงในทวิตอยู่ ช่วงนี้เขามีดราม่าอะไรกันอีกแล้ววะ เห็นมีนักเขียนออกมาตัดพ้อขอกำลังใจ เพื่อให้นิยายมีคนมาชอบมาอ่าน แล้วก็มีหลายคนพูดแนวโอ๋ๆกอดๆ เดี๋ยวตามอ่านนะ เฝ แล้วงงว่าวิธีแบบนี้เรียกนักอ่านได้จริงเหรอ คนที่บอกจะตามไปสุดท้ายก็เห็นกลับมาเล่นแท็กนิยายด้วย คงไปอ่านจริงๆนั่ยแหละ ปัญหาคือถ้านักเขียนไม่ตัดพ้อ เขาจะอ่านมั้ย
>>904 เอาจริงๆ นักวาดเขาไม่คิดไรมากหรอก เขาก็รับงานแค่นั้น แต่คนอ่านอะคิดค่ะมึง 55555 ช่วยให้ปกมันเข้า set กันเถอะ ถ้านักวาดแพงมาก มึงจะ 1 2 3 ปกเดียวกัน แล้วเปลี่ยนเลข กุในฐานะ นักอ่าน กุโอเคกว่าสามปกสามนว.อีก ยิ่งถ้าพิมพ์เล่ม กุยิ่งรู้สึกว่าพระนางเหมือนศัลยกรรมใหม่ไปทุกปก หัวปวด แบบสนพ.หนึ่ง แถวๆ นี้ที่มีทู้แยก แล้วหน้าปกใช้ปกสำเร็จจากนักวาดแต่ละคน นางเอกหน้าตาไม่ไปทางเดียวกัน จนนักอ่านถาม ละแถกันไปเรื่อยว่าปกสุดท้าย ตัวร้ายขึ้นปก
>>909 เป็นนักวาดที่แปลกนะฝากบอกมันด้วยละ ทบทวนความคิดตัวเองบ้างเหอะ อีโก้ค้ำคอเหรอ นักวาดดังๆเพื่อนกูที่วาดปกนิยายก็ไม่ถามด้วยซ้ำว่าเรื่องอะไร
บางทีจ้างทีละปกแล้วพอปกถามไปคิวนักวาดเต็มก็ต้องไปจ้างคนอื่น กูเจอประจำ ขอโทษได้ปะละ ทำไมไม่จองคิวไว้ก่อนน555555555 บางคนคงก็ไม่รู้ตัวเองว่าต้องงอกกี่เล่มเขียนไปเรื่อยๆ กูสงสารบางคนจ้างปกเล่ม1แล้วพอเสร็จงานถึงบอกจะจ้างเล่ม2 แต่คิวกูอีกทีปีหน้าละ555
>>910 จริง นักวาดไม่เคยถามนะว่าเรื่องอะไร กี่ภาคยังไง ถ้าคนที่ติดว่ากุจะต้องวาดทุกภาค นี่ม่ะใช่แล้วมะ สิทธิ์ของคนจ้างล้วนๆ เยอะนักก็หาคนวาดอื่น แต่กูยืนยันนะ สามภาค ไม่ควรสามลายเส้น เท่าที่เจอหลายภาค ถ้าต้องเปลี่ยน นักเขียนก็จะพยายามหาลายเส้นที่ดูไปทางเดียวกันอะ
>>912 3500 ไปจนถึง 7500 ในทวิตมีเยอะแยะอะ ส่วนใหญ่เจอจากทวิต นักวาดดังก็จองยากหน่อย แต่ที่ยังไม่ดังมาก แต่งานดีเยอะแยะ กรุ๊ปนักวาดก็ได้ อันนี้มึงสามารถบอกแนวกับงบเลย เค้าจะมาเสนอเอง กุยืนยันนะ นักวาดหาไม่ยาก ที่มันยากคือเส้นที่มึงชอบละเค้าแท่งฮิตในหมู่นักเขียน เปิดรับทีเต็มภายในไม่ถึงนาทีนี่กุก็ซึม จองไม่ทัน
กุไม่ใช่นักวาดนะแต่ถ้ากุเป็นคนวาดเล่ม 2 คงกุมหัวว่าต้องคิดคาร์ใหม่หมดไหมหรือตามเล่ม 1 ไปได้เลย แล้วจะโดนนักอ่านด่าไหม 55
>>916 เล่ม 2 ก็คงโดนบ่นๆ ถ้ามันไม่สวยเท่าเล่มแรก ถ้าเล่มแรกสวยว้าว แล้วคนชอบเยอะ เล่มต่อมาไม่ได้ ก็คงบ่นว่าเสียดาย ไม่เข้ากัน บลาๆๆ แต่ว่านักวาดไม่ต้องคิดสิ คนบรีฟคิด แบบที่จำเป็นต้องเปลี่ยนนี่แอบสงสารนักวาดที่มาแทน กุเคยเห็นแบบที่ไม่ใบ่เล่มต่อ แต่แค่เซตเดียวกัน เปลี่ยนนักวาดยังบ่นเลย ตอนนั้นยังไม่เข้าวงการ555 กุยังบ่นเลย แบบเซตเดียวกันอะ ทำไมวะ ทำไม ตอนนี้รู้แล้ว ระบบการจองงาน นักวาดดังๆ บางทีคอมมิชชันยาวยันปีหน้า 🤣
ยอดอีบุ๊กกลับมาปกติแล้วว่ะ สรุปแม่งเป็นอาถรรพ์ มกราทมิฬ จริงๆ //น้ำตาจิไหล
ขอแวะมาky
อยู่ดีๆเฟสบุ้คก็โชว์กรุ้ปนักเขียนมาให้กูส่อง
ทำไมโชว์รายได้กันเยอะจังวะ ไม่กลัวสรรพกรลงกันเรอะ
อ่อแล้วก็ถึงนขไม่แชร์รายได้ สรรพากรก็มา meb มันหัก ภาษี ณ ที่จ่าย ยังไงก็รู้ ไม่ใช่เหรอวะ มึงน่ะ จ่ายยัง เดี๋ยวเก็บย้อนหลังจะอ้วกเอา
KY ในทวิตประเด็น adult minor ไม่เหมาะสมวนมาอีกแล้ว ก็จะมีพวกมหาลัยกะม.ปลายก็ผิดค่ะ บลา ๆ กุถามจริงว่าถ้าสมมติพระนางกุเขารักกันบริสุทธิ์ไม่ได้จ้องเยดกันตอนนั้นก็ยังผิดอยู่ดีมั้ย กุจะโดนฉอดมั้ยน้อ
ถามนักเขียนที่เคยเขียนมาทั้งเรื่องสั้นแล้วเรื่องยาวหน่อย ระหว่างเขียนเรื่องสั้นได้เดือนล่ะ 1-2 เรื่อง กับเขียนเรื่องยาว 4-5 เดือนขึ้นไป รายได้ของพวกมึงอันไหนดีกว่ากัน แล้วเขียนแนวไหน กูอยากลอกข้อสอบ คืออยากเขียนเรื่องยาวนะ แต่กูเขียนมาหลายเรื่องแล้วแม่งไม่รุ่งสักที ในเว็บก็ยอดดีพอใช้ได้อยู่หรอก แต่อีบุ๊คนี่เงียบกริบเลย แต่กูอยากได้เงินเป็นก้อนหน่อย ติดเหรียญมันได้เป็นก้อนยากถ้าเรื่องมันไม่แมส ลงตอนเดียวคนซื้อหลักพันอะ
คบกันตอนมัธยม คนนึง 17 อีกคน 18 ผ่านมาปีนึงกลายเป็น 18 19 ต้องเลิก ห้ามคบต่อ ไว้ปีหน้าค่อยว่ากัน ยังงี้เหรอวะ 55
โม่งไหนก็ได้ขายสนพ.ดี ๆ ให้กุที กุหน้าใหม่ไร้ประสบการณ์ ส่องรีวิวบน ๆ เห็นบอกสนพ.เล็กดีกว่าสนพ.ใหญ่ ยกตย.มา 2 ที่ D ตื๊ด กะ ดีตื๊ดตื๊ด ที่แรกลองส่องดูละไม่ค่อยชอบปก ที่สองดูดีหน่อยแต่ค่าตอบแทนน้อยกว่า ละที่ที่บรีฟปกได้มันอันไหนวะ เฉลยกูที ต้องการมากเรื่องนี้เรื่องใหญ่ 5555
(เพิ่มนิด ดูทุกที่สนพ.มันให้เงินเราน้อยจังวะ หรือกุแค่โลภมากไปเองฮือ ๆ รู้แหละว่าต้องแบกรีบทุนเยอะ แต่ก็...ทำมือเองจะได้กำไรกว่านี้มั้ยหว่า)
มีเรื่องอยากถามหน่อย พอดีเพื่อนแนะนำนักเขียนคนนึงมาให้แล้วกุว้าวมาก เขาเขียนลงเว็บ RAW นั่นแหละ เขียนเยอะมาก เท่าที่เห็นก็เกินสิบเรื่องแล้วมั้ง เรื่องนึงก็ยาวพอสมควร แนวเรื่องก็เป็นตัวของตัวเองโคตรๆ แต่ที่กุพีคคือเขาไม่ติดเหรียญ ไม่ขายเล่ม ไม่ทำอะไรเลยทั้งที่เขาน่าจะคมช.ภาพมาเยอะ กระแสตอบรับก็น่าจะดีระดับนึงสำหรับแนวโคตรจะนอกกระแส(เป็นแนวอะไรไม่รู้ ขนาดกุอ่านแล้วชอบกุยังระบุแนวไม่ถูกเลย) กุเลยเกิดความสงสัย(อยากเผือก)ขึ้นมา เลยขอมาถามโม่งนักเขียนหน่อย คือด้วยความที่กุไม่ใช่นักเขียน กุเลยสงสัยว่าคนเราจะรักการเขียนมากซะจนเขียนเป็นงานอดิเรกเพียวๆมาเยอะขนาดนี้โดยไม่สร้างรายได้บ้างเลยเหรอ ไม่แม้แต่จะถอนทุนค่าคมช.คืนด้วยซ้ำ ที่กุสงสัยเพราะกุเคยเจอนักเขียนแบบนี้ก็จริง แต่ส่วนใหญ่เขียนเรื่องสั้นระบายไม่ก็แฟนฟิค บางคนไม่ติดเหรียญก็มีเปิดคมช.งานเขียนบ้าง แต่คนที่เขียนเรื่องยาวเยอะขนาดนี้แล้วไม่เปิดคมช.ไม่ทำอะไรเกี่ยวกับการเขียนเลยเนี่ยกุเพิ่งเคยเจอ
>>933 รู้สึกว่ากุพิมพ์งงไปหน่อย ประเด็นมีแค่กุว้าวจนอยากรู้อยากเห็น(อยากเผือก)เฉยๆ แต่อยู่ๆจะทักไปถามนักเขียนก็ดูเสียมารยาท ถามในโม่งก็ดูแปลกๆแหละแต่กุไม่รู้จะไปถามใครดี เห็นในนี้มีนักเขียนอยู่เยอะเลยมาถาม ใครมีแพชชั่นกับงานเขียนมากขนาดนั้นช่วยอธิบายให้กุเข้าใจทีฮรือ
>>935 กูก็แพชชั่นแรง ถ้ารวยเหลือเฟือ ไม่ต้องทำงานทำงานก็อยากทำแบบนั้นแหละ นักอ่านจะได้อ่านฟรี ได้เข้าถึงนิยายกูเยอะ ๆ แต่อยากได้เล่มเก็บไว้กับตัวด้วย ก็อาจพิมพ์มาแจกเล่น คอมมิชภาพก็เอามาดูเล่น เห็นลูกตัวเองมีหน้าตาเป็นตัวเป็นตน ลายเส้นงาม ๆ ก็มีความสุข ทุกอย่างนี้ติดอย่างเดียวคือนอกจากไม่รวยเหลือเฟือแล้วยังจนด้วย สัส
กูขอกลับไปเรื่องคนละลายเส้นนิดนึง กูแพลนว่าปกจะจ้างนักวาดคนนึง ซึ่งหลายหมื่น ส่วนภาพประกอบจะจ้างอีกคนนึงที่กูชอบลายเส้นเค้า แต่อาจจะยังไม่ใช่สำหรับกูทุกจุดและราคาก็เบาลงมา นักอ่านจะติดอะไรมั้ยวะ คือจะให้กูจ้างคนวาดปกวาดภาพประกอบด้วย กูไม่มีปัญญาไง เล่มแรกของกูด้วย อยากให้มีภาพประกอบอะ
ไอดอลมหัศจรรย์มีหีที่แร้ 555
https://imgur.com/7jOzPGr
https://imgur.com/63yeL4F
https://imgur.com/TtHPa0p
>>938 " นักอ่านจะติดอะไรมั้ยวะ" <-- นิยายมึง อยากให้เป็นแบบไหน จ้างคนวาดกี่คนก็ตามใจ นี่คือข้อดีของการทำมือ มึงมีสิทธิ์กำหนดออกแบบเองทุกอย่าง เรื่องยาวกี่แสนคำกี่เล่ม พิสูจน์อักษรกี่รอบหรือไม่ส่งตรวจ ปกวาดปกสำเร็จ กระดาษเคลือบด้านเคลือบเงาใส่กลิตเตอร์ทำบ็อกซ์มีพวงกุญแจยังไงก็ได้
ส่วนตัวกูไม่ทำแบบที่มึงถาม (แยกนักวาดสีภาพปกกับขาวดำภาพแทรก) กูกัดฟันจ้างนักวาดคนเดียวกันแต่ลดจำนวนรูป เพราะเคยเห็นหลายงานที่ภาพขาวดำคุณภาพดร็อปจากปกเยอะมาก ในฐานะที่กูซื้อนะ ยิ่งถ้าฝีมือด้อยกว่ามากและเลือกจังหวะใส่ภาพแทรกไม่ดี (ฉากแอ็กชั่น เสือกเลือกนักวาดที่แอ็กชั่นกะโหลกกะลา เส้นสปีดระดับอนุบาล หรือฉากเดินในเมืองแต่ตึกรามเบี้ยวเปอร์สเปกทีฟ ฉากต่อสู้วาดอาวุธอย่างกับปืนฉีดน้ำ) คือไม่ใส่มาเหอะถ้าอย่างนี้ สงสารคนวาด เลือกมาฆ่ากันชัด ๆ แต่คนวาดอาจไม่คิดอะไรมากก็ได้มั้ง
แต่ก็นิยายมึงเองอ่ะ ชอบแบบไหนก็ลองเลย เอาให้พอใจ
พวกมึง นข ที่ขายอีบุ๊คสองสามเรื่องแล้วปังรายได้ถล่มทลายนี่เขาเปลี่ยนนามปากกาอวตารมารึเปล่าวะ บางคนภาษาสวยมากเหมือนคนมีประสบการณ์มานานหลายปี
เฟล ไม่รู้จะไปบ่นที่ไหน มาระบายในนี้ละกัน กูอึดอัดกับสังคมนักเขียนในทวิตชหเลย แต่กูยังอยากคีพคอนเนคชั่นไว้ ล่าสุดเจอนักเขียนที่มั่นใจว่างานตัวเองเริ่ดสุดแต่ไม่แมสเพราะคนอ่านรสนิยมเข้าไม่ถึง แล้ววิธีพูดเหมือนแขวะเรื่องคุณค่างานกูนิดหน่อยจนกูเฟลมาก หรือบางทีก็วิจารณ์งานคนอื่นแบบไม่ใช่ติเพื่อก่อบ่อยจนกูเห็นแล้วเครียด นี่ขนาดมิ้วแอคนั้นไปแล้วก็ยังหนีความท็อกซิคไม่พ้น เหนื่อย จริงๆ มีอีกเยอะ พวกดราม่ารายวัน เยอะจนกูคนเดียว ระบายไม่ไหว แต่ไงก็ขอบคุณสำหรับที่ระบาย พวกมึงคุยเรื่องเดิมกันต่อไปเลยไม่ต้องสนกู ไปละ
>>946 ไม่แปลกใจเท่าไหร่ สังคมทวิตเตี้ยนมันเหี้ยกว่าเฟสอีก นักฉอดนักแซะเยอะขนาดนั้นผมึงก็ทนอยู่ได้เนอะ555 กุว่าเพื่อสุขภาพจิตที่เีมึงควรเฟดตัวออกจากสังคมนั้นเธอะ คอนเนคชั่นก็สำหรับแต่สุดท้ายความสำคัญคือคุณค่าของตัวมึงนะ ถ้าอยู่แล้วทำให้เหนื่อยใจถูกด้อยค่างานเรื่อยๆ เพื่อแลกกับคอนเนคชั่นคือมันไม่คุ้มนะในระยะยาวงี้ โลกกว้างขนาดนี้แม่งจะมีคนกลุ่มเดียวเองเหรอที่ทำให้มึงหาแดกได้อะ
>>929 แล้วแต่สไตล์นิยายด้วยว่ะถ้านิยายตามกระแส เขียนเป็นเรื่องสั้นยังไงก็ขายได้ แต่ถ้าทำเป็นยาว ๆ เรื่องอาจจะซับซ้อนหน่อย แต่ก็ต้องจับกระแสตลาดอยู่ดีถึงจะได้เงินดี
ส่วนตัวกูเป็นคนเขียนนิยายตามใจตัวเอง ขายได้มบ้าง บางเรื่องขายดีบ้าง บางเรื่องเฉย ๆ ก็มีเงินเขามาหลายหมื่นทุกเดือน กูตั้งไว้ว่าจะมีนิยายออกทุกเดือน เขียนเรื่องสั้น พอมันถึงจุดนิยายมีหลายเล่มแล้ว คราวนี้เวลานักอ่านมาอ่าน เขาจะมากดซื้อเรื่องอื่นแบบรวดเดียวก็มี กูเคยเจอ วันหนึ่งขายได้18เล่ม แต่พอกดดูทุกเรื่องเรื่องละเล่ม
ส่วนเรื่องยาวก็แต่งแบบแต่ง ๆ หยุด ๆ แต่ไม่เอาลงเว็บให้อ่าน เขียนจบก่อนแล้วค่อยให้อ่านทีเดียว
สำหรับคนอื่นเป็นไงไม่รู้นะ แต่กูเป็นค่าขนมลูกได้ ไม่เดือดร้อนเงินประจำ ก็เลยทำแบบนี้ต่อไป
>>938 ทำไปเถอะ คนละคนได้อยู่แล้ว หลายคนก็ทำงี้ แต่กูอยากให้แจ้งตอนเปิดพรีว่ะ ว่าแบบ ปกโดยคนนี้น้า แต่ภาพในเล่มคนนี้วาดนะเออ คนละคน กูเห็นหลายคนชอบไม่บอกอะ แค่บอกว่าด้านในมีรุปประกอบ มันก็ทำคนคาดหวังมะว่าภาพขาวดำข้างในคนเดียวกับนักวาดปก ถึงไม่คาดหวังแต่พอเจอคุณภาพต่างกันโคตรๆ ปกสวยเช้ง แต่ด้านในอนาโตมี่เพี้ยนแบบไม่ต้องมีก็ได้มันก็แอบหมดอารมณ์อะมึง แต่ถ้ามีดีและสวยทั้งสองแบบก็ไม่ขัดนะ
กูเล่นทวิตแต่ช่วงนี้อัลกอริธึมมันเหี้ย ชอบสุ่มนักเขียนมาบนฟีดให้กูตลอด ทั้งที่กูไม่ฟอลใครเลยเพราะไม่อยากเครียดกดดัน แล้วกูก็จะเห็นคนอวดยอดขาย อวยนิยายตัวเองว่าดีเริ่ดกว่าใคร ชั้นบอกให้ทุกคนซื้อบนเว็บแล้วได้เงินเพิ่มขึ้นมั่ก หน้าเดิมๆคนเดิมๆมาตลอด จะบล็อกก็ดูรุนแรงไป โอ่ยย เหลือแค่ลบแอปละ มันกดดันไป55555
>>948 เออสงสัยนิดนึง ปกตินักเขียนนักอ่านที่ฟอลกันอยู่เนี่ยเค้าคุยกันบ่อยมั้ย ในฐานะที่กุเป็นนักอ่านสายเงียบ(แบบคอยซื้อคอยโดเนทตลอด แต่ไม่ค่อยได้หวีดเป็นตัวอักษรมากนัก) ถ้านักเขียนที่ชอบมาฟอลก็จะเลิ่กลั่กนิดนึง คือแบบ ใจนึงก็ดีใจแบบกรี๊ดดดดดในใจว่านักเขียนที่ชอบฟอลกลับแหละ อีกใจก็แบบ เขินๆนิดนึงเวลาจะหวีด กลัวเจ้าตัวเห็น (แบบบางอารมณ์มันจะอยากหวีดแบบไม่ได้หวีดลงแท็กไรงี้ อธิบายไม่ถูก) เลยอยากรู้ว่านักอ่านคนอื่นนอกจากกุเค้ายังไงกันเหรอ5555
จะผิดบอร์ดมั้ยวะ เกี่ยวกับการเขียนเหมือนกันแต่กุเป็นนักอ่าน ขอระบายหน่อย กุตามแอครีวิวในทวิตอยู่พอสมควร แล้วบางแอคทำกุรู้สึกอึดอัด กุไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนกุมั้ย หรือกุก็แค่เซ้นสิทีฟไปเอง คือบางแอคเค้าจะชอบใช้คำแบบว่า "ทุกคนต้องอ่านให้ได้ ห้ามพลาดเด็ดขาด" "บังคับรี(เรื่องที่แอครีวิวอยู่)" หรืออื่นๆที่เว่อร์มากๆ อวยมากๆ หรือเหมารวมว่ามันดีมันสนุกสำหรับทุกคน ยิ่งบางแอคพยายามขายเรื่องเดิมซ้ำๆ ซึ่งกุก็เข้าใจว่าเขาคงชอบมากและก็อยากจะซัพนักเขียนจริงๆ แต่บางทีในฐานะนักอ่านกุก็อึดอัดนิดนึง ไม่รู้เพราะวิธีใช้คำของเขามั้ย เหมือนกุโดนบังคับว่าต้องเข้าไปช่วยรีช่วยอ่าน พอยอดรีน้อยก็มาตัดพ้อว่าตัวเองรีวิวไม่ดีพอจนกุก็รู้สึกผิดอีก ทั้งๆที่เรื่องแบบนี้มันขึ้นกับรสนิยมด้วยอ่ะ บางแอคเค้าก็พยายามพูดดีๆว่าเค้าชอบเรื่องนี้ตรงนี้ๆๆแล้วย้ำว่ารสนิยมคนเราไม่เหมือนกัน ลองเข้าไปชิมดูได้ แบบนี้กุสบายใจที่จะตามอ่านนะ แต่แอคที่พูดเป็นแนวๆบังคับหรืออวยเกินเหตุนี่บางทีกุก็พลอยรู้สึกแย่กับงานที่เขารีวิวไปด้วย ทั้งที่นักเขียนไม่ผิดเลยอ่ะ
โทษทีบ่นยาวไปหน่อย จริงๆกุ mute แอครีวิวที่ทำให้กุรู้สึกไม่สบายใจไปแล้วแหละ แต่ก็เสียดายเพราะงานที่เขารีวิวมันโดนใจกุหลายเรื่องอยู่ กุแค่รู้สึกอีดอัดกับวิธีใช้คำพูดของเจ้าของแอครีวิวเท่านั้นเอง
>>954 มึงไม่ได้ซีเรียสเกินไป กูก็อึดอัด เหมือนโดนกดดันทั้งที่มันก็ไม่มาบังคับกูได้อ่ะนะ
พอๆ กับทอล์คท้ายตอน บางทีกูเจอนักเขียนชอบบิลด์จัง อย่างตอนไหนมีมือที่สามโผล่มาก็ว่า พวกเธอต้องเลือกเดี๋ยวนี้ จะอยู่ข้างใคร (พระเอกหรือพระรอง) / ทีมไหน แสดงตัว / รีบเกียมไม้มะยมเอาไว้ตีขานางเอก
ซีนไหนนางเอกโดนเข้าใจผิดก็จะแบบ โอ๋ลูก วงวาร ชั้นไม่ยกให้พระเอกแล้ว / รีบพาลูกสาวหนี
อะไรทำนองนี้ กูก็เข้าใจว่านักเขียนอยากบิลด์เพื่อเรียกเมนต์นะ แต่บางอย่างมันน่าจะมาจากนักอ่านเองมากกว่า เป็นคนเขียนให้นางเอกโดนเองแล้วมาอินเอง มันแปลกสำหรับกู ทีนี้กูจะเมนต์จุดอื่นที่ไม่เกี่ยวกับทอล์ค กูเลยเกรงๆนิดนึงว่าขวานผ่าซากจังวะเรา
เออ พวกมึงเรียกสรรพนามของบล็อกว่าอะไรวะ เขียนๆอยู่แล้วชะงัก กลายเป็นคาใจ ไปต่อไม่ถูกเลย กูใช้คำว่าแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าได้มั้ย 555
แบบกูจะเขียนว่าเอรู้จักกับบีผ่านบล็อกแห่งหนึ่งอะไรงี้
ky ตอนนี้ติดนิยายกำลังภายในจัดๆ อยากเขียนบรรยายแอคชั่นแต่คิดพล็อตไม่ออกเลยไปตั้งรับคอมมิชฟิกกำลังภายในหาค่าหนมไปด้วยหาคนคิดพล็อตให้ด้วย ได้คนติดต่อมาจะเอาแนวเย้กำลังภายในเป็นน้ำจิ้ม จะรับดีมั้ย นึกไม่ออกว่าจะเย้พ่นแรงวัตต์ยังไงเลย ทำใจจิตใจจัดๆ T_T
>>962 กุล่ะหนึ่งที่อยากหวีดมาก แบบที่มึงยกตย.เนี่ย เพราะอะไร เพราะเขียนเองกูก็อินเอง อยู่ในหัวกูมานานก็อยากหวีดในที่สาธารณะบ้าง ไม่ได้จะบิ้วใคร สรุปเจอมาว่านักอ่านอาจจะไม่ชอบ เลยพับค.คิดเก็บไว้หวีดเองในใจต่อ เศร้าแต่ก็ต้องทน กลัวโดนเขาเหม็น 555 แต่ถ้าเจอนข.เม้นเองแบบนี้กุยิ่งชอบนะ อาจจะรีเลทกะตัวเอง 555 ดูเขาอินกับลูกตัวเองดี
>>967 มึงทำไปเถอะ งานเขียนของมึงเองอ่ะ ถ้ามึงรู้สึกอินก็แปลว่ามึงเขียนได้ดี วิธีหวีดแบบนี้คนชอบ/ไม่ชอบมันมีอยู่แล้ว
กูแชร์เพราะนึกได้ว่ามันคล้ายความรู้สึกเวลาเจอขายของ/รีวิวแบบเร่งให้ไปซื้อ สรุปอีกทีมึงมีสิทธิ์ว่าจะทอล์คแบบไหน ถ้าอดทนแล้วมันเศร้าก็ปล่อยๆออกมาบ้าง กูว่าคนชอบก็ไม่น้อยนะบิลด์สไตล์นี้
มึง ทำไงดี กุพึ่งแต่งเรื่องแรกจบลงขายไปได้สองเดือนกว่าแต่กุยังมูฟออนจากมันไม่ได้เลย ตอนอัพไฟล์แก้คำผิดก็รีไรต์เพิ่มไปเป็นพันๆ คำ อัพไฟล์ใหม่สองรอบละ พอนึกตอนนี้ยังมีจุดที่อยากแก้อีก อยากเขียนตอนพิเศษเพิ่ม ละไม่ใช่ว่ากุไม่มีเรื่องอื่นรอคิวนะ กุเปิดเรื่องใหม่ไว้สามสี่เรื่องแต่แต่งๆ ไปก็ยังวนไปคิดถึงเรื่องแรกอยุ่อ่ะ ไม่รุ้ว่ากุรักมากหรือแค่เป็นพวกทำงานไม่จบ มีวิธีมูฟออนป่ะ
>>970 ทุ่มเทกับเรื่องใหม่ให้มากๆ ใช้เวลากับมันเยอะๆ อย่าไปยุ่งกับเรื่องเก่า แต่ถถ้ามันค้างคาในในจริงแบบยังไม่มีตอนพิเศษไรวี้ก็ไปแต่งให้จบแล้วบอกตัวเองว่าพอ มันจบไปแล้ว เริ่มใหม่กับเรื่องใหม่!
ตอนกูแต่งเรื่องแรกจบก็มูฟออยไม่ได้เซม ต้องไปเปิดไฟล์อ่านเรื่อยๆ (เห่อแหละ) แก้คำผิดตลอด ตัดคำเติมคำ ขนาดแต่งเรื่องใหม่ยังเขียนชื่อพระนางจากเรื่องเก่าเลย แต่ต้องมูฟว่ะ คิดเรื่องใหม่ใช้เวลากับมันเยอะๆแล้วจะมูฟออนได้เอง มันผูกพันแหละ แต่งมานาน พิมเวิร์ดเรื่องนี้เป็นเดือนๆอะเนาะ สู้ๆ น้ามึง รีบเข็นเล่มใหม่ออกมาเร้ววว
Ky พวกนิยายผู้ใหญ่ตาม meb พิมพ์อวัยวะเพศหยาบๆตรงๆในเรื่องเลยได้มั้ย พวก kuy he เงี้ย กูแต่ง pwp ติดเหรียญตามเน็ตแล้วอยากเอามารวมๆ กันไปขาย ถ้าลงไม่ได้จะได้บิดแก้สำนวน
ยอดอีบุ๊ควันแรกเยอะสุดชะปะ เห็นวันหลังๆ หัวทิ่มดิน
ของกุวันแรกยังไม่สู้วันสุดท้ายที่หมดโปรว่ะ พุ่งมาก ส่วนที่เหลือก็นะ ตามนั้น 555
อีกอย่างที่กูอยากถามโม่งทุกคน คือ ทำไงให้ไม่รู้สึกว่าแต่งเพื่อเงินจนเกินไปวะ คือ กูก็มีงานประจำอยู่แล้ว แต่ยังชอบหน้าเงิน ชอบนึกถึงว่าอยากได้เงินแล้วพอแต่งๆ อยู่เลยทำให้ไม่ใจเย็นกับมัน อยากรีบจบๆ รีบขาย ซึ่งก็ทำให้กูไม่พอใจงานตัวเองเท่าที่ควร
อยากเขียนนิยายบ้างแต่กว่าจะจัดการงานเสร็จก็ไม่มีแรงเหลือแล้ว ขอคำแนะนำหน่อยเพื่อนโม่ง
อยู่กะสนพ. อีบุ๊คให้เรา 50% โม่งว่าน้อยไปปะ หรือเรทนี้แหละ ปกติ เห็นบางที่ก็ได้ 70 น่ะ กุเลยสงสัยว่าเรทไหนคือปกติวะ 555555
มีใครขาย e-book แล้วยอดดีสวนทางกับในเว็บไหม ของกูยอดในเว็บ(ค่อนข้าง)ดีสวนทางกับ e-book ที่ดิ่งลงเหว เครียด
ในโม่งมีใครหน้าใหม่ละปังตั้งแต่เรื่องแรกบ้างมั้ย คือกุไม่ได้กะเปรี้ยงปร้างหรอก แต่อยากได้ป้ายแดงก็ยังดีน่ะ
กูคิด turning point ของตัวเอกไม่ออก เพื่อนโม่งมีวิธีมั้ย มันเป็นจุดเล็กๆ ที่จะต่อเหตุการณ์ถัดไปอ่ะ
>>989 ถามว่าปังมั้ยมันก็ปังอ่ะนะ กับเรื่องแรกที่ได้ตีพิมพ์สนพ. ได้ top of the year ได้รับการกล่าวถึงอยู่ตลอด แต่จริงๆ กูว่าของพวกนี้ไม่จีรังอ่ะมึง ปังเรื่องแรก เรื่องถัดไปก็อาจจะไม่ปัง แต่เรื่องแรกไม่ปัง เรื่องต่อไปปังขึ้นเรื่อยๆ ก็ถมเถ กูว่าเรื่องแรกปังไม่ปังมันไม่ได้กำหนดอะไรหรอก อย่าไปอะไรกับมันเลย 55
จากใจคนที่ปังเรื่องแรกและเงียบลงเรื่องสอง ทีแรกมันก็ดีแต่โดนเปรียบเทียบงานแรกให้ช้ำใจพักใหญ่เลย ออกงานสามปังกว่าเรื่องแรก ก็ยังมีคตพูดฃว่าทำไมไม่ทำงานเก่าดีกว่านี้แต่แรก มาเหมือนชมแต้หลอกด่าเฉย สรุปแม่งขึ้นอยู่กับเรื่องที่เขียนว่ะ ว่ามันโดนใจตลาดตอนนั้นมากน้อยแค่ไหน
โอเคมั้ยวะที่กูไม่ถนัดเขียนนิยายเรื่องยาวๆ กูถนัดเขียนแต่เรื่องสั้นๆว่ะ แต่ด้วยความที่พอมองไปทางไหนก็เจอแต่คนเขียนนิยายก็แบบแอบเฟล คิดแบบว่านิยายคิอห่วงโซ่สูงสุดของวงการเขียนไปเลย ใครทำได้คือเก่งที่สุดอะไรงี้ พยายามเปลี่ยนความคิดว่าแต่ละคนก็ถนัดต่างกันไป แต่ก็อดกลับมาคิดแบบเดิมเป็นระยะไม่ไหว
>>994 กูงงคำถาม พยายามแตกย่อยตามนี้
1.มึงอยากเขียนสั้น <<< เขียนเลย คนชอบอ่านสั้นก็มี นิยายยาวหลักสิบเล่มคนไทยไม่นิยมซื้อถ้าไม่ใช่เรื่องแปล
2.มึงเฟลที่นักเขียนเรื่องยาวได้แสง <<< หยุดคิดหยุดเฟล
3.พยายามเปลี่ยนความคิดว่าแต่ละคนก็ถนัดต่างกันไป <<< ทำถูกแล้ว
4.แต่ก็อดกลับมาคิดแบบเดิมเป็นระยะไม่ไหว <<< อย่าหาว่ากูประชด กูเจอเคสแบบนี้จริง โซลูชั่นที่ช่วยได้มาก หนึ่ง.ถ้าการเขียนเรื่องสั้น/นิยายสั้นทำร้ายจิตใจมึงมากเกินไป มึงยังเขียนทำไมวะ สอง.มึงมองไปทางไหนเจอแต่คนเขียนนิยาย(ยาว) แสดงว่ามึงหยุดการเข้าโซเชียลของมึงไม่ได้และมึงกำลังได้รับท็อกซิคจากมันโดยไม่รู้ตัว หรือรู้ตัวมึงก็ยังไถเข้าไปเห็นเค้าได้แสง มึงฟังกูอีกที มึงเชื่อกูนะ มึงลองปิดมือถือ ปิดไปเลยให้ได้ 24. ชั่วโมง แรกๆมึงจะกระวนกระวาย ให้มึงเอาเวลาไปทำอย่างอื่น กูขอพิมพ์เท่านี้ก่อน เผื่อว่ามึงคิดว่าไม่ได้นึกอยากทำ กูจะได้ไม่เหนื่อยฟรี
อีกนิดนึง ตอนแรกกูก็เขียนเรื่องสั้นแบบสบายใจแหละ แต่พอเปลี่ยนมาพักไถทวิตก็เจอคนนั้นคนนี้แต่งเรื่องยาวหลายตอนจบ แล้วก็แบบเฟลเลย 55
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.