Last posted
Total of 1000 posts
>>571 >>572 >>573 >>574 >>575 กูเอง570 จะไม่โลเลละ ขอบคุณพวกมึงมากนะ กูก็ว่าแยกดีกว่าว่ะ คิดไปคิดมากลัวนักอ่านรับไม่ได้ 555
ข้อความต่อไปนี้ค่อนข้างยาวนะ กูพยามเขียนทุกอย่างที่นึกได้มารีวิว ไม่สนใจกดเลื่อนผ่านๆกันไปเลยเด้อ
ตอบ 573ใช่มึง ยอดโหลด กูหมายถึงอย่างนั้นแหละ แต่เอามาแปลงเป็นเงินบาทมันอาจจะยังไม่เยอะนะเพราะกูตั้งขายถูกมากอ่ะมึง
สำหรับคำถาม575 กูไม่แน่ใจว่าปูคสพ.ของมึงคือปูลึกซึ้งแค่ไหนว่ะ เพราะเป็นแค่เรื่องสั้น ส่วนใหญ่กูปูบทเดียวแล้วเตรียมเย้บเลยว่ะ ประมาณครึ่งบทหรือ3/4เป็นการปู 555 แล้วแบบกำลังจะจบบทครึ่งหลังที่เหลือของที่เป็นตัวอย่างก็เขียนฉากเล้าโลมด้วย พอกำลังจะเสียบกูก็ตัด อยากอ่านต่อก็กดซื้อจ้า ประมาณนี้ แบบนี้ถือว่าปูไหมวะ
มึงกูไม่รู้จะรีวิวอะไรเลย อีกทั้งกูก็ยังโนเนมว่ะไม่ได้ถือว่าประสบความสำเร็จอะไรขนาดนั้น ไม่รู้จะช่วยพวกมึงได้ไหม ที่กูเขียนคือเรื่องสั้น ประมาณสองหมื่นไม่เกินสี่หมื่นคำต่อเรื่อง(ส่วนใหญ่สองมื่นปลายๆคำ) มีประมาณ5-6ตอนต่อเล่ม ฉากเยก็เยยาวๆ เยทั้งตอนเลยจัดหนักจัดเต็ม กูตั้งเป้าออกทุกเดือน เขียนยาวไม่ไหว งานประจำกูก็มี งานเขียนหลักกูอีก ด้วยข้อจำกัดกูเลยเขียนได้ประมาณนั้น อาศัยความขยันพยายามเขียนเกือบทุกวัน ตั้งขายตั้งแต่ 49-99 บาทแล้วแต่ความยากให้การ create ฉากอย่างว่า 555
สำหรับกูเขียนแทบทุกวัน อาศัยค.ขยันปั่นวันละห้าร้อยวันละพันคำเอามึง ยกเว้นเสาร์อาทิตย์คือไม่เขียนงานเย้บเลย กูเอาเวลาไว้ปั่นนิยายในนปก.หลักกู สำหรับกูงานยั่วเยเขียนยากนะ กูว่าเขียนไปเขียนมารู้สึกกามจะตายด้านแล้ว แม่งปวดขมอง ต้องดีไซน์ให้ฉากไม่ซ้ำซาก
กูขอโทษ กูไม่เคยรีวิวกูไม่มีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ให้พวกมึงเลยอ่ะ แต่ขอวิแคะเอง หลักๆคือลงสม่ำเสมอ+จัดโปร+โชค+timingดี
ขยัน: กูว่าภาษาที่กูเขียนก็ดาษดื่น ตรงเรื่องของภาษาดีไม่ดีไม่น่าจะมีผล อ้อ แต่ไม่มีไอ้พวกแจ๊ะๆๆ ตั่บๆๆ นะ งานกูไม่แนวนั้นว่ะ 555 ที่เริ่มขายได้อาจจะเป็นเพราะกูลงขายสม่ำเสมอด้วยป่ะวะ
ช่วงวางขายงานแรกๆ ห้าสิบโหลดร้อยโหลดเอง พอลงขายบ่อยๆประมาณเดือนที่สามมั้งคนซื้อที่มาคอมเม้นคือคนชื่อเดิมๆ (ใจกูเริ่มชื้นละ) ช่วงนั้นกูwfh เวลาว่างเยอะ กูลงงานได้เดือนละ 3-5 เรื่องเลย แถมขายแบบ 29/39 จัดโปรทีเหลือ19 บาทงี้อ่ะ (ตอนนี้ขึ้นราคาละนะ) กูคิดว่ามันน่าจะเริ่มมีฐานจากตอนนั้นป่ะวะ
โชค+timing: ช่วงนั้นคนยังไม่ค่อยมีกระแาสpornมากเท่าตอนนี้ พอกูลงขายเป็นประจำแฟนคลับเริ่มเกิดป่ะ อย่างที่บอก wfh เป็นใจ กูเลยมีเวลาปั่นเยอะๆ เขียนตุน สแปร์ไว้ลงเดือนถัดๆไป = เกิดค.ต่อเนื่อง -> นักอ่านเริ่มติดตาม สมมุติเดือนนั้นกูขายวันที่ 1/15/30 กูพอ ช่วงแรกๆเขียนเยอะ กำลังมีไฟก็เลยเก็บใช้เดือนต่อๆไปได้ (แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้วนะ ได้เดือนละเรื่องสองเรื่องกูยังโอเคอยู่)
โปรโมต: กูขายแค่ ebook นะ กูกลัวว่าลงเว็บมันจะกระจายยอด เพราะถ้าลงเว็บมันต้องตั้งขายถูกกว่า กูเลยกัดฟันขายแค่ ebook และกูเล่นทวิต+เฟสด้วยนะ กูพยามอัพเดตทุกวัน อัพแต่เกี่ยวกับงานเขียน เช่นสปอยงานถัดไปบ้าง หรือแจกหนังสือบ้างอ่ะมึง กูพยายามทุกทางเลย น่าจะมีส่วนบ้างแหละตรงนี้
โปรโมชั่น: กูจัดโปร5-7วันแรก ช่วงเวลานี้ค่อนข้างขายดี และกูจะแจ้งนักอ่านผ่านทวิตเสมอว่าเทศกาลอะไรบ้างที่กูจะลดอีก ให้ติดตามทวิตดีๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ฉะนั้นเรื่องเก่าๆบางเรื่องก็ยังพอดีคนกดซื้อบ้างเวลาจัดโปร กูเน้นยอดยอมขายถูก อยากให้ได้best seller อ่ะ ได้บ้างไม่ได้บ้างคละๆกันไป
ว่าด้วยเรื่องปก+ทำเล่ม ส่วนใหญ่ซื้อปกสำเร็จ+จ้างเพื่อนนะราคาไม่แพง คือกูไม่มีปัญญาแต่งภาพ ก็เลยต้องซื้อ ส่วนจ้างเพื่อน คือกูจ้างให้มันมารูปมาตัดแปะๆแต่งรูปให้อ่ะมึง โชคดีเพื่อนกูสายแฟนฟิคมันแต่งรูปเก่ง งบทำปกกูคือประมาณ500 กูเจียดไว้ทำพวกปก/ไทโป ปกกูคือกูไม่ใช้พวกคนนะ กูใช้ของที่สื่อถึงเนื้อเรื่องกู ส่วนพวกพิสูจน์อักษร ตรวจเล่มกูทำเองหมดนะ มีแค่ปกที่ทำไม่ได้
หมดละ การรีวิวนี้อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากและไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เลย แต่กูหวังว่าจะพอมีประโยชน์บ้างนะ ซักวันจะต้องเป็นวันของพวกเรา ฮือ ทำยังไงให้งานเขียนหลักไปได้สวยแบบนี้บ้างวะ แม่งก็ทำเหมือนกัน ทำไมไม่เวิร์กเท่ากันวะ
ปล. กูไม่ได้เคลมว่ากูเก่งนะ ยังโนเนมอยู่เหมือนกัน มารีวิวตามคำขอเฉยๆ ลองเอาไปปรับใช้ดูนะ หรือใครมีวิธีดีๆ ช่วยกันแชร์ พวกเราจะรวยจะแมสไปด้วยกัน!!
>>576 ขอบคุณนะ ละเอียดโคตรแต่กุอ่านทุกตัวอักษรเลย สัมผัสได้ว่ามึงมีความพยายามจริงๆ สมควรกับผลตอบแทนแล้ว เก่งมาก ชาบูเลย ยิ่งทำงานประจำแล้วยังออกได้เดือนละเรื่องอีก มึงนี่ยอดคนแล้ว เทียบกับกุที่ทำงานประจำเหมือนกันแต่ห้าเดือนเขียนเรื่องยาวได้เรื่องเดียวคือ… 5555 กุเลยจะปรับไปเขียนเรื่องสั้นแทนละ จะได้ฝึกสำนวนให้กระชับ ขมวดความคิดได้ดีขึ้น เดี๋ยวไว้ลองเขียนตุนดูบ้าง จะพยายามไม่พะวงปูเรื่องมาก เย้บกันให้หัวกระเด็นไปเลย
ปล. แต่สำหรับกุถ้างานแตะพันโหลดนี่ไม่เรียกโนเนมแล้วนะ ตกคนได้ตั้งเป็นพัน มึงมีดีระดับนึงแล้วล่ะ ขอให้นปก.หลักมึงแมสในเร็ววันนะะะะ
ky ขอนอกเรื่องนิดหน่อย กูเขียน NC ครั้งแรก พวกมึงว่าการบรรยาย ใหญ่โตจนแทบกำไม่รอบ ไอ้กำไม่รอบนี่มันเวอร์ไปป่าววะ กูกลัวเวอร์ ไม่กล้าใช้ 555
ky แต่งฟิคลงรอรได้ยอดแค่ไหนถึงรู้สึกว่าแมสแล้วกันอะ
>>570 กูแยกนามปากกานะมึง แต่กูไม่เคยปังทั้งสองสาย 555 อยากจะร้องไห้ กูก็แต่งนิยายสั้นยั่วเยแต่ขายได้กลางๆ ไม่เคยถึงร้อยโหลดสักเรื่อง ภาษากูออกไปทางใช้คำเลี่ยง อาจจะขัดมู้ดคนอ่านแหละ กูปูเรื่องกว่าจะนู่นนี่นั่น คงไม่ตรงใจคนอ่านสายผู้ใหญ่มั้ง กูยังตีโจทย์ไม่แตกว่านิยายผู้ใหญ่ขนาดสั้นควรเริ่มแล้วจบแบบไหนในจำนวน 2-3 หมื่นคำ เฮ้อ ยังต้องฝึกอีกเยอะ อ่ะเข้าเรื่อง กูถามอีกนิดได้มั้ย dirty talk ของมึงใช้คำตรงไปตรงมาปะ ค-ว-ย มั้ย เวลากูแต่งกูอยากใช้ เวลานั่งแต่งเอง กูว่าคำแบบนี้ในนิยายผู้ใหญ่มันได้อารมณ์กว่า แต่กูเขิลตัวเอง กลัวโดนด่าหาว่างานขยะต่ำตมว่ะ
>>584 มึงไม่ต้องกลัวว่าคนจะด่าว่ามันคืองานขยะ ไม่ว่าเขียนเรื่องเสียวใช้ภาษาตรงไปตรงมาเกินไปหรือหรูหราหมาเห่าอย่างสุภาพแค่ไหนก็มีคุณค่าของมัน คนเขียนโป๊ก็ไม่ได้แปลว่ามีคุณค่าน้อยกว่านิยายศีลธรรมดีงาม ของแบบนี้มีคนเลือกเสพตามทาร์เกตคนอ่านอยู่แล้ว คนที่ไม่ชอบก็แค่ควรกดปิดไป ถ้ามารังควาญเอาแต่ฉอด ๆๆ แปลว่ามันปสด. ไม่ต้องให้ค่า กุเป็นกำลังใจให้
>>586 ขอบใจมากนะมึง กูขอรับกำลังใจไว้ กูเป็นท้อแล้ว แต่งสายขาวก็ขายไม่ได้ ลองแต่งสายเสียวก็ขายไม่ดี หรือเป็นที่กูแต่งไม่สนุกก็ไม่รู้ 555 เห็นเค้าขายพอร์นกันเป็นกอบเป็นกำ รวยๆ ป้ายแดง บรื่น ๆ ของกูลุ้นยอดขายหลักร้อยยังหืดขึ้นคอ กูแต่งพอร์นสั้นจบเดือนละเรื่อง แต่ยอดขายน้อยนิด ปวดหัว อยากได้ตัง ร้อนเงิน แต่มาเกาะโม่งขอเทคนิคพวกมึงแถวนี้เอา หาทางต่อไป
KY พอมีวิธีฝึกจิตใจให้เข้มแข็งพร้อมรับคำวิจารณ์แรง ๆ มั้งมั้ยเพื่อนโม่ง กูเป็นพวกใจบางมาก กลัวนู่นกลัวนี่กลัวโดนฉอด ทั้งที่รู้แหละว่ามีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด แต่ลองอ่านรีวิวเรื่องคนอื่นพอเจอแอนตี้แฟน เจอรีวิวสับ ๆ (เช่นในโม่งบางครั้งเป็นต้น 555) เหมือนไม่เหลืออะไรดีแล้วยังใจเหี่ยวแทนนข. แค่คิดว่าตัวเองโดนบ้างแล้วดิ่งชิบหาย เป็นงี้ต่อไปกูคงไม่กล้าลงนิยายสักที นิสัยแบบนี้เอาเซฟสุดควรเขียนให้ตัวเองอ่านอย่างเดียวอะ แต่กูก็อยากให้คนอื่นเห็นผลงาน โฮ อยากพัฒนาค.แข็งแกร่งจิตใจว่ะ มีวิธีมีแนวคิดไรมาแบ่งปันบ้างมั้ย TーT
>>588 ตอนนี้คือยังไม่ได้ลงใช่มั้ย ถ้าเรื่องมึงไม่ได้หมิ่นเหม่ศีลธรรมหนักจริงๆ ก็อย่าพึ่งกังวล เอาแค่ให้มีคอมเม้นก่อน…… กุก้ใจบางเหมือนกันจะตอบเม้นจะคุยกับคนในเน็ตทีคิดคำเป็นยี่สิบนาที กลัวผิดหูเขา ปรากดว่านิยายกุมีแต่กดเข้าชั้นกดหัวใจ แทบไม่มีใครเม้นเลย เล่นเอากุคิดว่าจะด่าก็ได้ บ่นตัวละครก็ได้ อะไรก้ได้ไม่เรื่องมากเลย แค่อยากรุ้ว่าอ่านแล้วคิดอะไร แง
รบกวนสอบถามครับ ถ้าผมเอารูปจากเวป google มาใส่ในนิยาย แล้วให้เครดิตว่า รูปจากอินเตอร์เน็ต/จาก google แบบนี้ผิดลิขสิทธิ์ไหมครับ กำลังรวมเล่ม กลัวโดนฟ้อง
นข.ไทยกับเรื่องลิขสิทธิ์นี่เหมือนปัญหาโลกแตก 555555
>>588 ต้องลองอะ ยังไงถ้าเจอจริงๆ มึงก็ต้องรู้สึก ต้องฝึกลงสนามจริงบ่อยๆ แล้วมันจะด้านชาเอง -กูผู้อ่อนต่อโลก โลกสวย ใจบางมาก่อน- การถูกวิจารณ์ครั้งแรกของกูคือในโม่งนี่เลย มึงคิดดูว่าจะสาหัสขนาดไหน แต่พอกูเจอกูก็เรียนรู้เรื่อยๆ ว่าต้องนิ่งไว้ๆ คอมเม้นติของนักอ่านกระจอกไปเลย กูสามารถตอบเขาอย่างมีเหตุผลได้โดยไม่มีอารมณ์เลย ส่วนที่ใส่อารมณ์ หรือตำหนิตัวละครล้วนๆ กูไม่รู้จะตอบยังไงก็เฉยซะ กูจิตแข็งขึ้นมาก กูขอบคุณอาจารย์โม่งอยู่จนถึงทุกวันนี้
>>588 กูอยากให้ลองลดอัตตาว่าตัวเองเขียนดี งานเราโอเคแล้ว ลงอ่ะ ให้คิดไปเลยว่างานเรามันก็เท่านี้ จุดด้อยจุดติก็มากมาย ความจริงแล้วงานเราอาจจะเห้กว่าที่เขาด่ากันเสียอีก พอคิดแบบนี้แล้วชิลสัด มาเลยค่ะ haters กูพร้อมนั่งแคะขี้ฟันอ่านคอมเมนท์มึง มีปัญญาตำหนิได้เท่านี้เหรอ หึ ลองให้กูพูดถึงงานตัวเองดูบ้างไหม
กูว่านักเขียนหลายคนสมัยนี้ติดในอัตตาตัวเองเยอะ พอมันมีช่องทางใกล้ชิดกับคนอ่านที่ชื่นชอบตนได้เยอะ ก็เข้าใจว่างานตัวเองดี พอเจอวิจารณ์หรือติเข้าไป นึกอะไรไม่ออกกูแขวนไว้ก่อน ไม่ก็รับบทนางเอกโดนทำร้าย กูนี่ล่าสุดไปติงคำผิดเจอ 6 คำในตอนเดียวของนิยายวายนักเขียนดังที่ติดเหรียญ โดนแคปลงกลุ่มนักเขียนเรียบร้อย หาว่ากูช่างจับผิด 555 ดีจริงๆ ไม่นึกบ้างเลยว่ากูจ่ายเงินอ่านงานมึงนะ กูก็คาดหวังคุณภาพที่ดีไง
KY มีใครรู้สึกเหมือนกูบ้างมั้ยว่ารีวิวใน meb วันนี้มันไม่ขึ้นจำนวนเวลานักอ่านใหม่มารีวิวให้ดาว กูดูคาตาเลยนะ มันไม่ขึ้นจริงๆ ว่ะมึง
นางเอกไม่ซิง
แต่งพอรนบ่อยๆ เอียนกันบ้างมั้ยวะ กูเขียนมา 3 เรื่อง พอจะเรื่มเรื่องใหม่รู้สึกอีกแล้วเหรอวะพะะะ
ขอ KY ทำไมเดี๋ยวนี้เมปเขาบังคับตรวจบัตรนิยายเองวะ
จับย้ายหมวดยังได้เลย
มีเทคนิคแต่งยังไงให้ไม่ยืดมั้ย นี่แต่งทีสองพันคำยืนคุยกันไม่ไปไหนเลย ประโยคคุยไม่ได้เยอะแต่บรรยายความในใจเยอะมากมีเรื่องที่ต้องปูเหตุผลไว้แล้วยังต้องอธิบายความรู้สึกพระเอกนางเอกอีกเลยตัดออกไม่ได้แต่อยากแต่งให้กระชับแต่แต่งทีไรมันยืดทุกที
ขอ KY อีกนิด ตอนนี้สายสะพายสายพร (หมวดวาย) อยู่เท่าไหร่วะ ยอดกุจะสามร้อยละยังไม่ได้เลย
>>611 กระชับได้ด้วยตรงไหนสำคัญค่อยเล่นความรู้สึก บทพูดต้องพูดให้เนื้อเรื่องมีการดำเนินไปว่าสื่ออะไรในนั้นด้วย สื่อถึงความรู้สึกตัวละครด้วยโดยที่เราไม่ต้องบรรยาย ให้นักอ่านจินตนาการเองบ้าง อย่าไปบอกหมด เพราะถ้าบอกตลอดเวลา มันเหมือนคนย้ำคิดย้ำทำ อ่านแล้วจะเบื่อ
กูมีเพื่อนนักเขียนสายบรรยาย คือเขาบรรยายจนเขาลืมไปว่าเคยบรรยายตรงนี้ด้วยตัวละครอื่นไปแล้ว พอมาบรรยายอีกกลายเป็นเรื่องย่ำอยู่กับที่ แล้วกลายเป็นลำไยกับการวกไปวนมาของเนื้อเรื่อง
คือบทพูดสองประโยค บรรยายความรู้สึกนึกคิดจองสองตัวละครสองหน้าเอ5 กูอ่านแล้วหลับ
>>613 จริงๆ กูเกร็งที่จะแนะนำ เพราะกูก็ขี้เวิ่น แต่กูเพิ่งไปจับเทคนิคนข.คนนึงมาได้ คือ เขาจะใช้การบรรยายการกระทำหรือคำพูดตลค.แทนการบรรยายครส.ตัวละครจนหมดเปลือก กูรู้สึกว่ามีเสน่ห์ชห. เช่น ก่อนหน้านี้พระเอกต้องกลับบ้านเร็วเพราะนางเอกรอ นข.ก็ไม่ได้เล่าความลำบากของพระเอกในตอนนั้นเลย มาเล่าอีกทีตอนพระเอกนั่งทำงานอยู่ที่ทำงานจนดึกแล้วมีคนถามว่าไม่หอบไปทำที่บ้านแล้วเหรอ พระเอกก็ตอบว่า ก่อนหน้าที่มีความจำเป็นต้องรีบกลับ …คนอ่านอย่างกูก็ อ๋อ~ สัมผัสได้ถึงความใส่ใจแบบปิดทองหลังพระของพระเอกแบบที่ไม่ต้องบรรยายขยี้อะไรมากมายเลย
โม่งส่งสนพ.ยังอยู่ม้ายย กุอยากถาม ถ้าเราได้เมลล์แรกว่าพิจารณาผ่านแล้วมา อีกประมาณกี่เดือนเหรอถึงจะเสร็จทุกอย่างลงเล่มวางขายร้านได้ อยากลองคำนวณระยะเวลาดู
ช่วงนี้นักเขียนระดับกลาง ๆ นี่รายได้เป็นไงบ้างวะ เมื่อเดือนก่อน ๆ กูยังพอโอเคอยู่ แต่ดูช่วงสองเดือนนี้แล้วต่อให้เปิดเรื่องใหม่ก็กริบแบบแปลก ๆ ท้อแท้ชิบหาย
>>619 ถามต่อด้วยอีกเรื่อง ในนี้มีโม่งคนไหนที่ออกแต่อีบุ๊คไม่ลงรายตอน หรือออกอีบุ๊คเป็นหลักแล้วนาน ๆ ทีลงแบบรายตอนบ้าง ช่วงนี้รู้สึกว่าทำแบบรายตอนแล้วเครียด ๆ เสียสุขภาพจิตยังไงไม่รู้ ว่าจะไปเขียนแนวกามแล้วเขียนแบบสั้น ๆ ออกได้หลาย ๆ เรื่อง แบบ 1-2 เดือน/เรื่องเอา แบบไหนดีกว่ากันวะ
>>614 กูก็เป็นสายบรรยายยิบย่อย บอกรายละเอียดทุกสิ่งอย่าง กลัวคนอ่านไม่เห็นภาพ 555 เขียนเยอะสิ่งจนติดเป็นนิสัย กูกำลังหาทางปรับแก้ไขอยู่ แต่กูแปลกใจอย่างว่ะ เห็นห้องตู้มันคุยกันว่าว่านิยายของ พนร. เขียนตั้งสองแสนกว่าคำ แล้วเค้าเน้นบรรยายแทบทุกสิ่งอย่างเลยแต่คนอ่านก็ดูชอบๆ กัน เห็นว่าขายดิบขายดี ก็แสดงว่าแล้วแต่คนอ่านรึเปล่าวะว่าเค้าจะชอบแบบบรรยายเยอะหรือไม่เยอะ
กูว่านักอ่านที่ชอบบรรยายเยอะเทียบกะน้อยนี่มีพอๆกันแหละ ตรงๆคือมีโอกาสเกิดทั้งคุ่ สำคัญคือเขียนให้คนติดได้ป่าว เรื่องนางร้ายบรรยายน้อย คนติดเพราะสาปพระเอก เรื่องพนร. บรรยายเยอะ คนติดเพราะพระเอกน่าสาป+มันเขี้ยว
ส่วนกุ....บรรยายกึ่งกลางระหว่างสองคนนี้ แต่เขียนให้สนุกไม่ได้ก็เลยไม่มีคนอ่าน อ้าว ร้องไห้เลย 55555
กำลังจะลงนิยายเรื่องแรก เพื่อนโม่งมีแนะนำไรมะแบบวิธีรับมือกับความนอยด์ ยอดเม้นกริบ ยอดวิวป่าช้า รู้ว่าทุกคนน่าจะผ่านฟีลนี้มาละ พวกมึงอยู่กับความนูกูนี้กันนานปะกว่าจะพอมีแฟนคลับมีลูกหาบกับเขาบ้าง
ตอนนี้ RAW แบนเนอร์จะได้ชึ้นคนละอาทิตย์ปะ? เหมือนเงยหน้าขึ้นไปดูทีก็เปลี่ยน เปลี่ยนไวมาก เพราะคนคงขอขึ้นเยอะ
ของกุได้5วันนะ พึ่งลงวันนี้
>>620 กูเน้นแต่งให้จบแล้วขายอีบุ๊กเลย ไม่ติดเหรียญรายตอนเพราะกูเหนื่อยคำนวนให้เท่าอีบุ๊ก จะลงรายตอนบางตอนแค่โปรโมทอีบุ๊กเฉย ๆ เดือนที่แล้วยอดกูตกมาก ได้น้อยสุดของปีที่แล้วเลย เห็นนข. บ่นกันหลายคน น่าจะไม่ใช่แค่มึงกับกู อ้อ ยกเว้นพวกแมสนะ ถ้ามึงไหวก็สลับแต่งกับพอร์นสั้นออกเดือนละเรื่องสองเรื่องด้วย ผลงานมึงจะได้ไม่จม แต่จะขายดีไม่ดีอยู่ที่ฝีมือกับดวงอีกแหละ มั่น ๆ ปั่นๆ เข้า เดี๋ยวยอดก็มาเอง
กูรุ้สึกว่า วางแผนมากไปกว่าจะได้แต่งแพชชั่นในการแต่งเรื่องนั้นแม่งหมด เหมือนจะต้องวางไปแต่งไป แต่กลัวบ้งอีก ถ้าเผยแพร่ก่อนข้อมูลครบ ปวดหัวจังกุ
ว่าจะเปลื่ยนเขียนแนวโรมานซ์กับรัก ปกติคนอ่านแนวนี้เขาชอบพล็อตแนวยังไง ไม่ค่อยมีข้อมูลเลย
KY นิยายกุตอนละปม. 3000 คำบวกลบ เห็นโม่งเคยแนะนำให้ซอยเป็น 2 ตอน ละเวลาอัพงี้ ควรอัพ 1.1 วันนึง พน. 1.2 แยกกันหรือว่าวันนึงอัพทั้ง 1.1 + 1.2 พร้อมกันไปเลยดี
>>642 อีสัสก็กูศึกษามาสักพักแล้ว กูก็แต่งชญ ลองเปลี่ยนพล็อตหลายแบบแล้วมันก็เป็นแบบที่กูบอก ถ้ามึงเกาะกลุ่มรีวิวก็จะเห็นมีขอนิยายแนวเหี้ยเรื่อยๆ ถูกจริตนักอ่านวัยแม่บ้าน วัยป้าข้างบ้านนักแหละ ถ้าจะตกนักอ่านวัยทำงานเจนวายปลายหรือเจนแซดต้น ๆ ก็ต้องฟีลกู๊ดส์ อบอุ่นละมุนหวาน จู๋หอมกีหอม ไม่ต้องมีปมหนัก ไม่ต้องใส่อุปสรรคมากมาย 555
ky ขอคำแนะนำเพื่อนโม่งหน่อย กูเขียนนิยายจนจบแล้วและมีแพลนรวมเล่ม แต่กูไม่รู้จะจัดการตัวเองเรื่องการลงนิยายยังไงดี
คือกูควรลงทีละตอนติดเหรียญไปเรื่อยๆจนจบก่อนแล้วค่อยประกาศรวมเล่ม หรือประกาศว่ามีรวมเล่มไปเลยตั้งแต่ต้นง่ะ สมมติประกาศว่ามีเล่มไปก่อนแล้วค่อยลงติดเหรียญทีละตอนมันจะยังมีคนซื้ออยู่มั้ย กูยิ่งเป็นหน้าใหม่ไม่มีฐานคนอ่านด้วย กลัวว่าถ้าอยู่ๆมาลงขายเป็นเล่มแต่แรกเลยจะแป้กเอา
>>648 มึงก็ลงขายรวมเล่มไปเลย พร้อมๆ ลงรายตอน ระหว่างลงรายตอนก็จะทำให้มีคนเห็นงานเล่มที่วางขายด้วย ถ้าลองอ่านไปตอน สองตอนแล้วติดเขาก็จะได้รีบซื้อ หรือไม่พวกที่ไม่ชอบความขะยักขะย่อน ก็จะซื้อเล่มเลยแต่แรกถ้าเห็นว่าน่าสนใจ เรื่องขายได้/ไม่ได้ ให้เป็นเรื่องของอนาคต มึงเขียนจบนี่คือ มึงเริ่ดละนะ ส่วนใหญ่เขียนไป อัปไป เปิดพรีทั้งที่ยังแต่งไม่จบไปอีกก็มี มึงสุดยอดแล้ว โม่งเอย
>>651 ถ้าจำไม่ผิด ลิมิตรอร.ให้แจ้งเตือนต่อเรื่องวันละไม่เกินสองครั้ง เกินจากนั้นไม่แจ้งเตือน ส่วนดด.ให้สามกระดิ่ง
ถ้าอยากให้คนอ่านติด ช่วงแรกมึงอัพวันละ 2-3 ตอนไปเลย ยิ่งถ้าปมกับจุดดึงคนอ่านไม่ได้อยู่ตอนแรกๆ แล้วมึงลงไม่เร็วพอ คนเปิดมาเห็นนิยายมึงเพิ่งลงไม่กี่ตอนก็ไม่อ่านกันหรอก อ่านไปก็ยังไม่ได้เนื้อหาเท่าไร
ใหม่มาแรงนี่นับจากไร ยอดวิวเหรอ
กูสังเกตว่าตั้งแต่ปลายปีก่อนเรื่องฮิตติดง่ายขึ้นนะ ยอดไม่สูงก็ติดท็อปได้ ถ้าไม่เพราะคนลงนิยายน้อยก็เพราะคนอ่านน้อย ถถถถถ เอาเป็นว่าใครหาจังหวะลงนิยายอยู่ ลองโกยคะแนนช่วงนี้
กุเขียนนิยายรักดราม่า จะลงรอร.ต้องไปหมวดรักหรือดราม่าวะ 55555 หรือลง ๆ ไปเหอะเดี๋ยวเขาก็จับย้ายให้เอง
ปกติหาข้อมูลการทำงานแต่ละอาชีพจากไหนกันอะ ถามอากู๋เอารู้สึกไม่ค่อยได้เรื่องเลย แบบไปต่อไม่ค่อยถูก จะทำงานเป็นผู้บริหารก็ไม่รู้ว่าจะให้เจอกับปัญหาอะไรดี
โปร canva คุ้มที่กูจะซื้อไหมวะ ใบจอง แบนเนอร์ แม่งทำเองให้หมด มีใครใช้อยู่ พวกมึงว่าสิ่งนี้กูควรลงทุนไหม
Ky แวะมาบ่น กูเบื่อตัวเองสัส ไม่รู้จะแต่งนิยายให้ตกนักอ่านได้ตั้งแต่บทแรกยังไงดี เฮ้อ...
มึง ปกติกุแต่งโรมานซ์เรื่องยาว แต่พักนี้หัวเอื่อยๆ เลยจะสลับไปแต่งเรื่องสั้นแทนไม่อยากหยุดให้มันฝืด แต่แต่งๆ ไปหลายตอนแล้วมันยังไม่ได้กันเลยว่ะ ติดนิสัยให้ตัวละครค่อยๆ ยอมรับ/คุ้นเคยกันก่อนเอา หรือชอบหาความสมเหตุสมผลจริงจังไปทุกที ที่ว่าจะเขียนสั้นคั่นเวลาดูจากพล็อตน่าจะไปถึงสี่หมื่นคำแล้วเนี่ย อยากแต่งเรื่องหื่นๆแบบตื่นมาก้เอา กินข้าวก้เอา จะนอนก้เอาเฉยๆ ว้อยยย หยุดเดี๋ยวนี้
>>671 กูแต่งเรื่องสั้นหลายเรื่อง ส่วนใหญ่จะบอกมาเลยว่าตัวละครรู้จักกันมาก่อน แล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชอบ ชอบเพราะอะไร เล่าคร่าว ๆ จากนั้นก็จีบ ให้แตกต่างกันก็ดูที่ตามเนื้อเรื่อง ตามบุคลิกตัวละคร
แต่ถ้าต้องมาเพิ่งรู้จักกันแล้วค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์ กูก็แสนคำขึ้นทุกเรื่องแหละ
กุเหมือนเคยเห็นคนถกกันไปแต่จำไม่ได้ นางเอกสิบแปด พระเอกยี่สิบห้าได้กันนี่ถือว่ารอดพ้นฉอดเดอร์ยังวะ เนื้อเรื่องไม่ได้ออกแนวกรูมมิ่งนะ แค่อายุมันเท่านั้นเฉยๆ หรือต้องยี่สิบขึ้นให้พ้นความเป็นผู้เยาว์ก่อน
>>674 ได้กันนี่เยดเหรอ ถ้าขั้นนั้นอาจจะโดนนะ เพราะ 18 สำหรับกุก้ยังแอบเด็กอยู่ เรียนม.6 ช้ะ ถึงจะพ้นผู้เยาว์แล้วก็เถอะ และนักฉอดมันฉอดได้ทุกอย่างแหละมึง 5555 แต่ถ้ารักกันเฉย ๆ ยังไม่เยดก้น่าจะผ่านได้ ส่วนตัวถ้ากุเจอก้ไม่คิดไรอะ กีใครกีมัน ถ้าสมัครใจ คิดมาดีแล้ว ไม่โดนเขาหลอกก็โอเคละ
ky กุไม่ชอบสำนวนตัวเองเลยว่ะเพื่อนโม่ง มีวิธีพัฒนาปะ TT ชอบพล็อต ชอบปม ชอบคาร์ตัวเองมาก ๆ แต่ตายห่าเวลาแปลงเป็นตัวหนังสือ เห้อ ยากจัง อยากกกรี๊ด
>>675 >>676 ใช่ ได้แบบเยด ยุคปัจจุบัน 555 กุใจบาง ไทม์สกิปแม่งไปละ เอาสัก21 รอดทุกสถาบัน
>>677 มึงต้องอธิบายหน่อยนะว่าตอนนี้สำนวนตัวเองที่ไม่ชอบเป็นยังไง แล้วที่ชอบเป็นยังไงเพื่อนโม่งจะได้แนะนำถูก แต่ปกติถ้ามีสำนวนที่ชอบเขาก็แนะนำให้อ่านงานคนนั้นเยอะๆ แล้วมันจะซึมซับวิธีการบรรยาย การเล่นคำ การสื่ออารมณ์ ตรงไหนเว้น ตรงไหนเวิ่นของเขามาเอง แล้วก้เอาวิธีพวกนั้นมาดัดแปลงเข้ากับฉากมึง คือมันจะไม่ถึงกับลอกอ่ะ (สต.กุคิดว่าคนสองคนถ้าไม่ได้ก็อปแบบเปิดเทียบคำต่อคำมันแทบไม่มีโอกาสเหมือน100%)
18ยังถือว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะ
ก็นะผช25ผญ18 ผชก็รอดคุกอยู่ ไม่ได้กรูมมิ่งเลยมั้งอีกคนยังไม่เข้ามหาลัยอีกคนอยู่ในวัยทำงาน
มึง กุอยากมีลูกหาบ อยากมีแฟนคลับเหนียวแน่นกับเขาบ้าง นอกจากทำให้งานปังน่าสนใจแล้วกุต้องโซเชียลกะเขามั้ยยังไง มีวิธีตกนักอ่านรึปะ เขาชอบคนเฟรนลี่หรือไว้ตัววะ กุกลัวนักอ่านรำคาญแทน TT
ขอปรึกษาหน่อย ตอนนี้กูกำลีงเขียนนิยายจีนโบราณ แล้วกุคิดว่ามันควรมีฉาก nc บ้าง แต่ไม่มากกูชอบแล้วบรรยายสำนวนสวยๆ สงสัยว่า เรท 18+ มันต่างกับ 25+ ตรงไหน
>>682 เรท 25+ ไม่มีจริง เพศ ความรุนแรง ภาษา ของผิดจริยธรรมมันกองรวมกันที่เรท 18+ หมดแล้ว เลขมันไม่ได้บอกระดับความรุนแรง แต่บอกระดับอายุที่ควรรับสื่อเฉยๆ
แต่กูก็เห็นด้วยกับ >>683 นะ ถ้ามึงจะเขียนแนวแรงๆ ผิดศีลธรรม กรูมมิ่ง อินเซิร์ท ข่มขืน เซ็กส์แฟนตาซี ฆาตกรโรคจิตบลาๆ บรรยายแรงๆ ก็ติด 25+ ไปเลยก็ได้ อย่างน้อยๆ คนอ่านจะได้รู้ว่าเรื่องนี้แรงมากขนาดไหน คนรับไม่ได้จะได้ไม่กด
แต่ถ้าไม่มีอะไรรุนแรง แค่เน้ดกันดุเดือดก็ 18+ ไปเหอะ อย่าไปเรทเยอะเลย เน้ดดุเดือดคนเราไม่เท่ากัน 55555
กุ 682 ขอบใจพวกมึงมากๆ เปิดโลกให้กูจริงๆ 5555 กูคงเขียนแค่ nc ปกติแหละ แนวพิสดารนี่คงไม่ไหว
กู 682 เอง ขอบใจพวกึงมาก ช่วยเปิดโลกให้กูเลย แต่กูคงเขียนแนว NC ธรรมดาล่ะ แนวพิสดารนี่คงไม่ไหว 5555
ขอคำปรึกษาหน่อย กูอยากให้พระเอก-นางเอกกลับมารักกันหลังพระเอกหักอกนางเอกไปแต่งงานกับ A ซึ่งจะตายในตอนหลัง ตอนเขียนออกมาจริง พระเอกกูมันเหี้ยกว่าที่คิดผิดกับที่วางแผนไว้ตอนแรกมาก ถ้าใช้แผนเดิมที่กูคิดไว้ นางเอกจะดูเป็นผู้หญิงใจง่ายเกินไป แต่กูก็นึกไม่ออกว่าจะเขียน redemption arc ของพระเอกยังไงให้ยุติธรรมกับนางเอกแต่ยังจบที่พระเอก-นางเอกกลับมารักกันได้
เพื่อนโม่ง ปกกราฟฟิคดี ๆ ไปหาจ้างจากที่ไหนวะ ถ้าเป็นนักวาดกุก็พอมีแหล่งหาอยู่ มีตัวท็อป ๆ ที่เห็นผ่านตาบ้าง แต่ปกกราฟฟิคนี่ไม่มีข้อมูลเลยว่ะ ชี้ทางกูที
ky มีใครพอรู้จักนักเขียนที่เขียนเป็นงานอดิเรกจริงๆมั้ย แบบไม่ติดเหรียญไม่ทำเล่มไม่ขายอีบุ๊คส์ แล้วเป็นนักเขียนออรินะ ไม่ใช่แฟนฟิค อยากลองไปติดตามไว้เป็น role model พอดีกุมีอาชีพหลักอยู่แล้ว แต่อยากเขียนอะไรสนองนี้ดเพราะรสนิยมกุค่อนข้างหาอะไรที่ชอบยาก แล้วพอแค่อยากเขียนอะไรอินดี้ๆสนองตัณหาตัวเองแบบไม่ต้องมาคอยห่วงว่าคนอ่านเขาจะต้องมาจ่ายเงินเพื่ออ่านสิ่งที่กุเขียนให้ตัวเองอ่าน ก็อยากรู้จักคนอื่นที่ทำแบบนี้เหมือนกัน กุไม่รู้ว่าสมัยที่เศรษฐกิจแย่ๆอย่างนี้ยังมีอยู่มั้ย เท่าที่ดูในรอร ต่อให้นักเขียนหลายๆคนเองก็เขียนสนองนี้ดเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ใช่แฟนฟิค พอมียอดอ่านประมาณนึงก็ติดเหรียญกันหมด(ไม่ใช่บอกว่าไม่ดีนะ แค่กุไม่ได้อยากทำอย่างนั้น จุดประสงค์แค่อยากเขียนให้ตัวเองคลายเครียดล้วนๆแบบไม่ต้องมาพะวงเรื่องติดเหรียญทำเล่ม อารมณ์เหมือนแต่งฟิคที่เป็นออริของตัวเอง เลยอยากหาตัวอย่างคนที่เค้าทำเป็นงานอดิเรกเพียวๆเลยน่ะ กุพูดงงมั้ยฮือ)
>>692 ไม่งง แต่กูว่ามึงมีภาพสิ่งที่ตัวเองต้องการชัดเจน (เขียนเอาอดิเรก ไม่เอาเงิน) กูเลยว่ามึงไม่ต้องยึด role models ไหนแล้ว ตามเค้าไป ชีวิตมันก็คนละแบบอยู่ดี ไม่ต้องให้เค้า lead หรอก กูว่ามึงมีแนวชีวิตชัดแล้ว เผลอๆมึงจะเป็น role model ให้คนอื่นได้ ยึดตามจังหวะชีวิตตัวเองดีกว่า
นอกจากมึงต้องการ role models ด้านเขียนเป็นอาชีพเสริมอายุน้อยร้อยล้าน //ผายมือไปทางเพจนักเขียนนิยายทุกวันที่ 5 ของเดือน
>>692 ไม่งง แต่ส่วนใหญ่คนที่เขียนเป็นงานอดิเรกที่กุตาม พอเขียนจบจริงๆ เขาก็ชอบทำเล่มขำๆ แบบยอดหลักสิบ ไม่ก็อีบุคอยู่ดีอ่ะ อารมณ์แบบรวมไว้ให้จับต้องได้ว่าทำสำเร็จน่ะ แต่ถ้าไม่เคยเห็นทำไรเชิงพาณิชย์เลยกุรุ้จักแค่คนนี้ anna c. ว่าแต่กุอยากจับเข่าคุยกะมึงมากกว่า คือมึงกลัวว่าถ้ามีเงินมาเกี่ยวข้องแล้วจะทำให้เขียนได้ไม่อิสระเหรอ อยากเข้าใจ 555
ky ถามเพื่อนโม่งหน่อยปกติอัปนิยายอาทิตย์ละกี่ตอนกัน แล้วถ้าในฐานะคนอ่านมึงว่าเท่าไหร่ถึงจะดี
กุ >>692 นะ
>>693 ขอบใจมึงมาก สงสัยกุคงแค่อยากหาเพื่อนคนเป็นคล้ายๆเพื่อนคุยด้วยนั่นแหละ มานึกๆดูใช้คำว่า role model ก็แปลกๆ ส่วนเพจนั้นปล่อยเขาไป55555
>>694 จริงๆคือกุเคยเป็นนักเขียนมีเล่มตีพิมพ์มาก่อน แล้วตอนนั้นกุอึดอัดบวกกับค่อนข้างมี trauma กับการต้องปรับสไตล์การเขียนของตัวเองเข้ากับนักอ่านเพื่อให้มันขายได้ มาตอนนี้มีอาชีพอื่นแล้ว แถมรู้ตัวว่ากุยังชอบเขียนมาก เลยอยากจะเขียนอะไรที่กุจะได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองเต็มที่ แล้วเพราะกุเคยมีนิยายเป็นรูปเล่มของตัวเองมาพอสมควร เลยไม่ค่อยยึดติดกับการจะออกรูปเล่มเป็นที่ระลึกเท่าไหร่ ขอแค่กุได้เขียนอะไรที่อยากเขียนก็พอใจแล้ว เรื่องถ้ามีเงินมาเกี่ยวข้องจะทำให้เขียนได้ไม่อิสระนี่ก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน เพราะเอาจริงๆต่อให้ทำเล่มเองหรือติดเหรียญก็ยังเขียนในสไตล์ตัวเองได้ แต่ใจกุคือไม่อยากให้งานอดิเรกที่กุรักมากขนาดนี้มีเงินเกี่ยวข้องแล้วน่ะ อธิบายไม่ค่อยถูกเหมือนกัน
สงสัยนิยาย ชญ ติดท็อปๆ นี่ดังเพราะรีวิวหรือบอกต่อกัน
>>697 หาเพื่อนนักเขียน ในกลุ่มไลน์ openchat มีเยอะนะ แต่ 99% ก็นั่นแหละ มีแต่พวกตะบันแปะอัพเดตนิยายรายตอนไม่ค่อยมีใครคุยสาระจริงจัง
หรือถ้าเจอกลุ่มที่คุยด้านงานเขียน มันก็จะวนไปเรื่องเขียนเพื่อขายทำเงินอยู่ดี ไม่น่าใช่ที่มึงต้องการ (มึงอยากได้เพื่อนคุยเรื่องเขียนนิยายหรือเรื่องทั่วไป กูไม่แน่ใจ)
ส่วนตัวกูไม่คุยเรื่องนี้กับกลุ่มเพื่อนที่เป็นนักเขียน เพราะคุยไป แนวเขียน/เทคนิค/ค่านิยมไม่ตรง แนะนำกันไม่ค่อยได้ และพอเป็นเพื่อนมันก็จะมีการเปรียบเทียบกันในกลุ่มเกิดขึ้น ความอิจฉามันมีในวงอยู่ ไอ้ความสนุกในการเขียนแบบชิลๆ มันจะหมดไปทันทีเมื่อมีการเปรียบเทียบ
ถ้ามึงจะมองหาจริง กูว่าเริ่มจากนักเขียนที่มึงชอบงานเขา ถ้าเห็นว่าเป็นพวกไม่เร่งออกงานเหมือนกัน ลองติดตามดูแล้วทักไปคุยก็ได้ กูว่านักเขียนเป็นมนุษย์ที่ขี้เหงานะ ทักไปดีๆก็คุยตอบอยู่ ที่แนะนำให้ลองมองหาจากนักเขียนที่ชอบ คือมึงจะได้มีเรื่องชวนเค้าคุยก่อนด้วย
กูเป็นนะ เหงาถึงขั้นเปิดคฮ.ที่คนคุยกันเรื่อยเปื่อยแบบไม่ได้สนสี่สนแปด แค่ไม่ให้มันเงียบเกินไป ปรากฏว่ารู้ตัวอีกทีเหมือนกูเป็นคนอื่นที่เข้าไปเสือกฟังในกลุ่มเพื่อนอะ คือ มีกูเป็นคนนอกคนเดียว อีห่า ถอยทัพไม่ทัน
ไม่ได้ดราม่านะแต่สงสัยว่าพวกแนว
โลลิ(เพโด โม่ยเด็ก)
incest
ที่พวกโม่งแอนตี้กันนี่ พวกนี้ถือว่าขายดี คนอ่านเยอะไหม
เห็นมีหนังสือของค่ายpalo ขายแนวโลลิได้เห็นว่าขายดีเป็นประวัติศาสตร์ของค่าย
ไอ้พวกนิยายแปลของยุ่น หมวดแฟนตาซีหลายเรื่องก็มาแนวนี้
แล้วถ้าวันนึงกระแสมาทางนี้โม่งยอมขายวิญญาณเขียนแนวนี้ขายไหม
>>707 ไม่ใช่แค่โม่งแอนตี้จ้าไปดูโลกบ้าง incestนี่ก็อย่าไปพยายามบอกโต้งๆโง่ๆมาฉันมาขายincestนะ ก็แค่ความสัมพันธ์หนึ่งอะเขียนไป ส่วนเกี่ยวกับเด็กมันก็ผิดกฎหมายอยู่แล้ว ยิ่งญปนี่โทษหนักเลยนะ มึงไปเอามาจากไหนอะที่มึงว่ามา หรือสมองไม่อัปเดต?
พวกเรื่องผิดศีลธรรมแต่ไม่ผิดกฎหมาย จะเขียนก็เขียนไปเหอะ แต่อย่าประกาศตัวเอง ฉันเขียนมาเพื่อขายเรื่องแบบนี้โดยเฉพาะนะ มันทำให้คนที่ต้องการเขียนพล็อตแบบนั้น แต่ไม่ได้ส่งเสริมอะ แค่อยากเขียนออกมาเล่าเรื่อง กูไม่รู้จะใช้คำยังไงให้เข้าใจ นั้นแหละ
>>708 เคยอ่านเว็บnarouของญป ไหม แนวนี้เพียบ แน่นอนว่าไม่ผิดกฎหมายเพราะกฎหมายคุ้มครองบุคคลจริง ไม่ใช่ตัวละคร นอกจากกฎหมายมันจะเขียนไว้เฉพาะ อย่าสับสนคนจริงกับตัวละคน
ส่วนเรื่องผิดกฎหมายในนิยายนี่ก็ฆ่า ฟัน ค้ายา rape ฯลฯ กันเรื่องปกติแทบทุกเรื่องอยู่ละ
เลยสังสัยนี่แหละว่าไอ้แนวนี้ในไทยมันมีคนอ่านเยอะไหม
>>707 นางเอกหรือตัวเอกแนวโลลินี่คือกลุ่มเป้าหมายเป็นผชว่ะ ไลท์โนเวลของญป ต้องมีตัวเอกหรือผญในแก๊งพระเอกแนวนี้สักคน กูการันตีเลย แต่ถ้าไปทางเกาหลี จีน ทั้งนิยายทั้งmanhwa manhuaจะไม่ค่อยเจอโลลิเท่าไร ถ้ามึงไม่ได้เขียนนิยายที่มีกลุ่มเป้าหมายเหมือนไลท์โนเวลญปก็ไม่ต้องขายวิญญาณหรอก แนวโลลิไม่เคยฮิตในกลุ่มคนอ่านผญ
>>707 จะพยายามตอบอย่างเป็นกลาง เคสนิยาย ในไทยถ้าสนพ.ใหญ่ ๆ กูไม่เห็นเลยนะอินเซสเปโด ผิดศีลธรรมชัดแบบนี้ไม่ผ่านตั้งแต่ส่งบก.แล้ว (ส่วนผิดศีลธรรมแบบอื่น ค้ายา ฆ่าคน เรป ฯลฯ อาจมีให้เห็นบ้าง เข้าใจว่ายอมหลับหูหลับตา และเป็นแฟนซีที่ขายได้เสมอ ไม่เชื่อลองส่องผลตอบรับดู)
***เปโด คือพวกจ้องเยดเด็ก ไม่เด็กแล้วไม่เอากุทิ้งทันที นิยายที่นางเอกเป็นเด็กตลอดเรื่องก็ไม่เห็นนะ ถ้ามีก็ประมาณย้อนอดีตละไปรักกันตอนโตนู่น
เปโดอินเซสที่ลงกันส่วนมากก็เป็นในเว็บนั่นแหละ เขียนตามใจฉัน ผลคือโดนฉอดสิคะ แต่คนชอบมันก็มีจริง ๆ ปฏิเสธไม่ได้ ทุกแนวแหละบ้งแค่ไหนมันก็มีคนซื้อ เป็นรสนิยมเขาที่กุก็เข้าไม่ถึง ส่วนเรื่องญป. >>714 ตอบดีเลย กลุ่มเป้าหมายต่างกันชัดเจน
สรุปที่ไทย เขียนมา อาจมีคนซื้อ แต่ไม่บูมตีตลาดขนาดนั้น ยังต้องแอบอยู่ในซอกหลืบหลบคนมาฉอด ส่วนตัวกูให้ตายก็ไม่ขายวิญญาณเขียนแน่นอนเพราะไม่อินส่วนตัว เขียนไปก็คงกุมขมับตัวเอง
>>714 เห็นด้วย แนวโลลิพี่น้องรักกันสาวม.ต้นหนุ่มวันทำงานไม่เคยฮิตในแนวรักกับโรมานซ์ นิยายจีนขนาดคนเข้าใจบริบทว่าสมัยก่อนแต่งงานไวบางคนยังไม่สะดวกใจจะอ่านเลย แล้วกูว่าแนวนี้มันก็ไม่น่าจะบูมขึ้นมาได้ง่ายๆด้วย เฉพาะกลุ่มจริง เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแนวนี้ขายดีเป็นประวัติศาสตร์ของสนพ.นั้น
Ky เคยส่งปกนิยายขึ้นแบนเน่อรีดอะไร้เรื่องเดิมบ่อยๆคือเขาเมินไม่ตอบเมลละ รอส่งเรื่องหน้าอย่างเดียวเลย คนมีบุญก็มีบุญเกินไปหน่อยมะ บางคนส่งทุกเรื่องได้ทุกเรื่อง สองสามอาทิตย์ที่แล้วเพิ่งขึ้น อาทิตย์นี้ขึ้นอีกละ TT อวยพรให้เรื่องหน้ากูมีบุญได้ขึ้นที หิวแสงโว้ย
ถ้าเขียนนิยายไปนานๆหลายปีจะรวยมั๊ยวะ เห็นนักเขียนหลายคนซื้อแบรนด์เนมเป็นว่าเล่น มีบ้างมั๊ยวะนักเขียนที่แต่งนิยายมาเกือบสิบปีแต่ไม่แมสไม่ปังจนกรอบแบบเดิม
>>717 ในฐานะคนอ่านนะ แบบกุจะตามนขใหม่เมื่อพล็อตหรือคาแรคเตอร์พระเอกนางเอกเขาน่าสนใจอะ แบบดึงดูดกูได้ ส่วนสำนวนมันพัฒนาได้ทีหลัง แต่ขอร้องว่าพล็อตอย่าแผ่วปลาย ปีที่แล้วนขที่กุตามปีนึงออกเฃ่มใหม่กันแค่คนละ1-2เล่ม เลยไปหานามปากกาใหม่ๆอ่านตั้งเยอะในmeb แต่เสียดายตังทีหลังก็เยอะนะ
>>716 ขอสงสัยในฐานะนักอ่าน แบนเนอร์รอรนี่มันขึ้นยากขนาดนั้นเลยเหรอ เห็นนักเขียนที่ตามทวิตอยู่บอกว่าคุ้มที่รอคิวนาน เลยเข้าใจไปว่ายากตรงรอคิวนาน แต่ถ้าเสนอไปก็ได้ลงเป็นส่วนใหญ่ซะอีก แล้วบางคนก็เห็นขึ้นบ่อยจริง เลยนึกว่าเขาลงให้เกือบหมด นี่กูเข้าใจผิดมาตลอดใช่มั้ย
จำได้ว่าสิบกว่าปีก่อนในเด็กดี ยุคพวกH.A.C.K อะไรพวกนี้ยังขายอยู่ จำได้ว่าTOP10 ของนิยายมีความหลากหลายกว่านี้มาก มีรักซักสองสามเรื่อง ดราม่าซัก1 แฟนตาซีไซไฟแอคชั่นผจญภัยซักสองสาม ตลกซักเรื่อง แนวอื่นๆที่เหลือๆ ปัจจุบันที่ฮิตคนอ่านเยอะๆมีไม่กี่แนว เช่นเกิดใหม่จุติใหม่เทพซ่า แนววาย รักหวานๆ แนวอื่นๆที่คนอ่านเยอะๆเริ่มหายากละ
ใครพอจะมีวิธีเขียนเรื่องสั้น1หน้ากระดาษให้น่าสนใจบ้าง
Kyถ้ากูอยากรู้จัก ฉงkong นักวาดปกนิยาย ในมุมโม่งๆ กูควรไปเริ่มที่มู้ไหนวะ
สำหรับคนที่มีนปก.หลัก และนปก.รองไว้เขียนเรื่องเสียว มึงเคยเจอคนจำได้แล้วทักมาว่าใช่คนนี้ๆ มั้ยคะบ้างมั้ยวะ นปก.หลักกุค่อนข้างใสๆ แต่ภาษาบรรยายกุจะมีความเว่อวังหน่อย พอไปเขียนเรื่องเสียวมันก็ยังติดลายเซ็นอยู่ อยากรุ้มีใครเคยโดนจับได้ แล้วเขินบ้างมั้ยวะ
>>725 เริ่มจากมู้นี้ก็ได้ มีโม่งเคยแชร์ว่าติสต์ของนาง บางสนพ.รองานนางไม่ต่ำกว่า 5 ปก บางเรื่องรอไม่ไหวก็ต้องไปจ้างนว.คนอื่น กลายเป็นนิยายเรื่องเดียวแต่ใช้สองนักวาด ไถมู้นี้เสร็จแล้วก็แวะไปดูมู้นักเขียนห้อง 801 มีแชร์บ้างประปราย
แต่ถ้ามึงอยากรู้จักนักวาดก็ทักไปจะเร็วกว่าไล่อ่านกระทู้
กูขอปรึกษาหน่อย กูเป็นนักเขียนโนเนมที่แต่งนิยายแนวจีนโบราณโพสในเนตแล้วมี สนพ ติดต่อมา พอกูอ่านสัญญาเลยเริ่มลังเลค่าตอบแทน 10 % ของราคาหนังสือ ระยะเวลาสัญญา 3 ปี สมมติกูลองคิดเล่นๆ ราคาเล่มนึง 300 พิมพ์เยอะสุดๆที่กูเผื่อไว้เลย 2000 เล่ม ใน3 ปีกูจะได้ ประมาณ 60000 บาท แต่เวบที่กูโพส มีแนะให้เปิดติดเหรียญมีการันตีน่าจะได้ประมาณ 10000/เดือน คิดจากยอดคนที่ติดตาม กูผู้อยากมีรูปเล่มเป็นของตัวเองบ้าง แล้วยังเป็นโนเนม คิดว่าถ้าลงขายกับ สนพมีชื่อจะช่วยสร้างฐานคนอ่านไว้ก่อน หรือว่าจะขายออนไลน์อย่างเดียวดี กูคิดมาหลายวันมาก เลยมาถามพวกมึงที่มี ปสก ดีกว่า ว่าทำแบบไหนดีกว่า ขอบคุณพวกเมิงล่วงหน้ามากๆ
>>730 ถ้าอยากออกอีบุ๊คเองต้องต่อรอง แต่มือใหม่อาจจะไม่ได้
ลิขสิทธิ์เวลาเซ็นมีสองฉบับ หนังสือ + อีบุ๊ค แต่ระยะเลาสัญญาน่าจะเท่ากัน ที่ต่างคือ %
อีบุ๊คเดี๋ยวนี้คงจะให้ที่50% หลังหักตัวกลางเป็นอย่างต่ำ (เช่น ปก300 ลดราคาเป็นอีบุ๊คที่ประมาณ 245--หลังจากแอพหักมึงจะได้จากสนพประมาณ 70 กว่าบาทต่อโหลด)
ลองคิดเอาว่าคุ้มไหม
สัญญาแยกมา 2 ฉบับเลย เขียนว่าระยะ 3 ปี ห้ามจำหน่ายรวมทั้ง Ebook ด้วย (ยกเว้นออกกับทาง สนพ ) กูคงต้องไปต่อรองดูว่า สนพ จะให้ไหม ถ้าให้กูดองงาน3ปีเพื่อออกเล่มแต่ ebook ไม่ได้ทำ กูคงเสียดายเวลาดองงานไปอีก ขอบใจมากๆ ถ้าได้เรื่องยังไงจะมาเขียนบอกอีกทีนะ
พกมึง แย่แล้วกู TT คือ กูอยากหาความบันเทิง บวกเปลี่ยนแนวเขียน เลยลองไปอ่านนิยายป้ายแดงของตัวทัอปๆ แล้วกูติดมาก สนุกชห. สองนปก. สองเรื่องละ แล้วอยู่ๆ กูรู้สึกฝ่อขึ้นมาว่า เขาแต่งได้ขนาดนี้ กูจะไหวเรอ~ กูก็ไม่รู้หรอกว่าเรื่องแรกๆ ของเขาเป็นไง แต่เรื่องปจบ.ทำกูอยากหลบเข้ามุมมืด รู้สึกว่าตัวเองคงโนเนมตลอดไป ลูซเซอร์ฉิบหายเลย ฮือ~
ใครมีวิธีเขียนให้คนอ่านรู้สึกค้างคาบ้าง
>>733 มึงจะเศร้าทำไม การเห็นความห่างชั้นแลดจุดที่ตัวเองอยากพัฒนาคือก้าวที่ยิ่งใหญ่แล้วโว้ย ลองนึกถึงพวกน้ำเต็มแก้วนึกว่าตัวเองเก่งแล้วย้ำอยู่กับที่ตลอดชาติ
เอาว่าตอนนี้มึงเลิกหลบคุดคู้ตู้ในเสื้อผ้าลูซเซอร์ มึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในนั้น ควรดีใจที่ได้ตระหนักรู้ มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่
ทีนี้ก้าวต่อไปที่ใหญ่กว่าที่จะทำให้มึงไปถึงนปก.ทั้งหลายที่มึงทึ่งได้ก็คือ
>>738 เอาค้างแบบด่านข. หรือบางทีถึงขั้นเกลียดเลยไหม แบบ แม่ง จะรีบไปไหนวะ กลับมาเขียนให้จบๆให้กูคอมพลีทก่อนนน หงิดโว้ย แบบนี้ป่ะ สำหรับกูที่เป็นบ่อยคือจะค้างคาเกี่ยวกับชีวิตของ พอ.นอ. ที่กูลุ้นให้รักกันมานาน พอดูทรงว่าจะลงเอยด้วยดี หรือมีแววว่าจะรักกัน แม่งตัดจบ ฉับเลย ไม่แต่งงงแต่งงาน ไม่มีชีวิตครอบครัวในฝัน อะไรต่อทั้งนั้น ยกตย.เช่น เสraDarun หรือ งานของนข. ยุคเก่า เช่น ม.มธุgaree
ไม่รู้จะไปบ่นในไหน บ่นในนี้ละกัน กระแสตอบรับนิยายวาย ชช กับนิยายอื่น (ทั้งแนวรักที่ไม่ใช่ ชช และไม่เน้นรัก) ของนามปากกาเดียวกันของกูกระแสตอบรับต่างกันมาก แถมเขียนแนวอื่นที่ไม่ใช่ ชช ก็โดนคนไล่ให้กลับไปเขียน ชช ทั้งๆ ที่กูอยากเขียนแนวอื่นมากกว่า แถมไม่ใช่ไล่กลับไปเพราะกูเขียน ชช ดีกว่านะ แค่เพราะคนอยากอ่านแนวนั้นมากกว่าเท่านั้นเอง ยิ่งแนวไม่เน้นรักแทบไม่ได้ผุดได้เกิด เดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยอ่านแนวอื่นกันเท่าไหร่แล้วเหรอ เขียน ชช บ่อยๆ กูก็ชักอิ่มตัวเหมือนกัน แล้วก็ไม่ได้ชอบด้วย แค่เขียนไว้เพื่อให้มันขายได้ ใจจริงกูก็อยากเขียนอะไรที่มันไม่มีความรักมาเกี่ยวมากกว่า
เออ ว่าแต่ใครมีนักเขียนแนวไม่เน้นรักที่นักเขียนไม่ได้ดัง (ไม่ใช่เซเลบทวิต) แต่ตัวผลงานผลตอบรับดีระดับนึงมาแนะนำมั้ย กูอยากดูไว้เป็นกรณีศึกษา และกูก็อยากอ่านด้วย
>>741 กูขอแยกสองกรณี
๑.มีคนไล่กลับไปเขียนแนววายเพราะชอบที่มึงเขียนแนวนั้นมากกว่า
ถ้าไม่นับพวกเชียร์เพราะอยากอ่านฟรี (กุคิดเผื่อแง่นั้นเพราะรู้มาว่าแนววายสายฟรีเยอะ อยากอ่านวายฟรีๆก็เลยเรียกมึงกลับไปเขียนให้อ่าน) กูอ่านทั้งสองแนวและมองว่าฝั่งชญ.มันวางพล็อตอะไรดีกว่าฝั่งแนวเยอะ มองภาพรวมนะ ฝั่งวายพล็อตกูว่ากลวงเยอะ วนอยู่ไม่กี่แบบ ขึ้นหงส์ลงไปง้อตอนจบเพราะท้อง ขายตัวใช้หนี้เจอแด็ดดีแสนดีมีความสุขทั้งเรื่อง กูออกตัวอีกทีว่ากูมองภาพรวมนะ แนววายไม่ค่อยฉีกจากนี้เท่าไรในกลุ่มฮิตขายดี เวลาจะอ่านพล็อตอย่างอื่นกูต้องงมลงไปหาจากพวกอันดับท้ายๆขึ้นมาทุกที ขณะที่ฝั่งชญ. กูว่ามันเติบโตจนมีพล็อตหลากหลายกว่า (และตลาดคนอ่านที่จะรับความหลากหลายพวกนั้นได้ก็เลยมี)
(ต่อ) กูมองว่าถ้ามึงอยากเขียนนิยายที่ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง มึงถอยห่างจากแนววายก่อน เพราะตลาดนิยายชญ.กูว่าคนอ่านยืดหยุ่นรับตรงนี้ได้มากกว่า มึงจะสืบสวนทั้งเรื่อง มีรักกันนิดเดียวก็ยังมีเคยอ่าน (ถ้าพล็อตหลักคือสืบสวนของมึงแข็งแรงพอ)
แต่ข้อสรุปข้างต้นมันจะโยงกับประเด็นข้อ ๒
๒.กูจับใจความว่าสิ่งที่มึงให้ความสำคัญตอนนี้คือรายได้และกระแสตอบรับ ซึ่งกูคิดว่าเป็นปกติที่นักเขียนจะจะต้องการสองสิ่งนี้ แต่ทีนี้เรื่องรายได้ถ้ามึงยังทำจากแนวอื่นไม่ได้นอกจากวาย อันนี้กูว่ามึงเลือกเองได้แหละว่าจะฝืนเขียนทำเงิน หรือเลิกฝืน ส่วนเรื่องกระแสตอบรับอ่ะ กูว่าแทนที่
>>745 ขอบใจมาก ว่าแต่นี่มันคือการจบแบบค้างคาชวนให้ติดตามต่อแบบที่คุยกันข้างบนๆ รึเปล่า.....
เอาจริงๆ คือเงินกูก็อยากได้แหละ แต่หลังจากเขียนวาย (ชช) เพื่อหาเงินโดยที่กูไม่ได้ชอบมานาน มันก็เริ่มไม่ไหวแล้ว กูอยากพักฮีลใจตัวเองเหมือนกัน เลยว่าตอนนี้พักเรื่องเงินไว้ก่อน แล้วกูก็ไม่ได้ชอบแนว ชญ เพราะกูชอบโพ ญช และแนว ชญ ส่วนใหญ่มันเป็นโพ ช ซ้ายซึ่งกูไม่ฟิน กูเลยว่าถ้างั้นเลือกเขียน ชช ไปเลยดีกว่า แต่อย่างที่บอกว่ากูชักเอียนแล้ว อยากขอพักไปหาแนวไม่เน้นรักเลยดีกว่า
ทีนี้กูไม่ถนัดแนวสืบสวนและแฟนตาซี ถ้าจะเขียนมันเลยออกไปในแนว slice of life+ไม่เน้นรัก ซึ่งน่าจะขายยากโคตร แต่กูชอบอ่านเป็นการส่วนตัว เลยอยากเขียนแนวนี้เพื่อพักใจก่อน ปัญหาคือ slice of life ที่กูรู้จักมีแต่ผลงานนักเขียนที่ดังอยู่แล้วทั้งนั้น (i.e.เซเลบทวิตคนตาม10k+) กูเลยไม่ค่อยเห็นอนาคตว่าแนวนี้จะขายได้เท่าไหร่ หรือต้องทำใจว่าถ้าจะเขียนแนวนี้ก็เพื่อแค่พักใจเฉยๆ ให้หายเอียนแล้วกลับไปเขียนแนวที่ทำเงินให้กูได้ต่อ
ใดๆ เลยถ้าใครมีนักเขียนแนวนี้แนะนำให้กูได้ก็แนะนำมาเลย ยิ่งถ้าเป็นคนที่เขียนแต่แนวนี้ล้วนๆ แล้วยังพอมีกระแสตอบรับประมาณนึงหลายๆ เรื่องติดกันนี่กูอยากอ่านมาก กูนึกภาพไม่ออกเลยว่าแนวนี้ต้องยังไงถึงจะไปรอดได้ถ้าคนเขียนไม่ใช่คนดังแต่แรกแล้ว
ขอยาด KY หน้าใหม่ใสกิ๊งอยากขายเล่มครั้งแรก ระหว่างออกเล่มช่วงโควิดแบบนี้กับตอนโควิดหาย (ซึ่งจะมีวันนั้นมั้ย...) แบบไหนมีแววรุ่งกว่ากัน /กุไม่ซีเรื่องเงินน่ะ ออกตอนไหนก้ได้ แต่อยากลองวางแผนเล็งจังหวะดี ๆ ดู
>>746 กุเหมือนมึงเลย ชอบงาน ญช แต่หาอ่านยากเหลือเกิน ถ้าเจอก็ชอบเจอแบบ ญ นิสัยร้ายๆ คุณหนูเอาแต่ใจ พอ.เป็นเบี้ยล่างรองมือรองตีนอย่างหน้ามืดตามัวซึ่งไม่แนวอีกก็เลยเขียนเองแม่ง จะบอกว่าคนชอบอ่านแนวนี้มันก้มีนะ แต่ก้น้อยกว่าคนชอบพอ.บ้าอำนาจเยอะอ่ะแหละ
ว่าแต่เซเลทวิตนี่คุณ ค ป่ะวะ 5555
>>749 เฮ้ย มึงคือร่างแยกของกู กูชอบแนวที่มึงว่ามาเลย อยากอ่านงานมึงเลย 5555 ว่าแต่กูกระหายแนวนี้มาก หายากชห กูควรไปขุดหาจากช่องทางไหนดีเนี่ย
เซเลบทวิตจริงๆกูก็หมายถึงคนนั้นแหละ 555555555555555 เอาจริงๆ กูไม่รู้จักคนเขียนแนวนี้เลยนอกจากคนนั้นกับพวกเพื่อนๆ เขา พอกูเข้าแท็ก slice of life ในรอรกูก็เจอแต่แนววายกับแนวรักจนกูท้อที่จะหาแล้ว
ขอถามหน่อย ครั้งแรกที่พวกมึงเริ่มเขียนกัน อะไรที่เป็นแผลของงานเขียนนั้น แล้วพวกมึงแก้กันยังไง
>>752 ไม่เป็นไรมึง 5555 มึงทำให้กูคิดได้ว่ากูต้องการอะไร และตอนนี้กูได้คำตอบแล้วว่ากูคงต้องเอาแนววายของกูไว้หาเงิน แต่ตอนนี้กูอิ่มตัวอยู่เลยคงจะไปลองแนวที่ชอบเพื่อพักใจตัวเองก่อน ปัญหาคือตอนนี้กูอยากอ่านมากกว่าเขียน แต่นอกจากของเซเลบทวิตคนนั้นและผองเพื่อนแล้วกูไม่รู้จักใครที่เขียนแนวนี้เลย ฮือออ
slice of life ที่ไม่แฟนตาซีกูไม่เคยอ่านเลยว่ะ ใกล้สุดน่าจะนิยายแปล ญป น้อบน้อมและหนักแน่นฯ มั้งนะ แต่ดองมาสี่ห้าปีแล้วเนี่ย
ถ้าแฟนตาซีได้ ท่านคารันแห่งสวนผักนับเป็นแนวนี้ไหมน่ะ?
>>750 จะบอกว่ากุก็หาไม่เจอเหมือนกันเลยต้องเขียนเองเนี่ย 555 ที่จริงมันคงมี แต่แสงไม่เยอะพวกเราเลยไม่เห็นว่ะ
>>751 แผลกุหลายจุดเลย ตอนเขียนจบ ทิ้งสักพักแล้วอ่านทวน กุก็จะลิสต์ในเอ็กเซลไว้เป็นข้อๆ ของแต่ละเรื่องเลยว่าตรงไหนบกพร่อง ตรงไหนน่าจะเติมเพิ่มให้สมบูรณ์ได้ กุบ้าน่ะ 55 แต่มันทำให้กุหารูทได้ว่าที่มันเกิดเหตุนี้เพราะกุไม่ทำทรีตเม้นต์อ่ะ กุเป็นพวกคิดแค่คร่าวๆ ว่าบทนี้ต้องมีเหตุการณ์อะไร เช่น ไปตลาด ทะเลาะกับแม่ค้า กลับมาเจอพอ.กวนตีนใส่ แค่นี้เลย แล้วเวลาเขียนจริงก็ด้นเนื้อหาสด ทำให้หลายๆ ครั้งมีฉากดีๆ ที่กุอยากเขียนถึงก็จริง แต่กลับเก็บรายละเอียดไม่ครบอย่างน่าเสียดายเลยว่ะ ทางแก้ของกุก้คือ...ไม่ได้ทำทรีตเม้นต์อยู่ดี 555 แต่เป็นเขียนจบ ไปเขียนเรื่องอื่นสักกลางๆ เรื่อง แล้วค่อยกลับมารีไรท์เรื่องแรกว่ะ ทำงี้มันทำให้กุเคลียร์สมองได้หน่อยนึงอ่ะ
>>755 ส่วนใหญ่กูนึกออกฝั่ง ญป เหมือนกัน แต่ในไทยยากมาก แนวนี้มันคงไม่เป็นที่นิยมเลยไม่ค่อยมีใครเขียนมั้ง ยิ่งถ้าไม่เน้นรักยิ่งยาก แฟนตาซีนี่ถ้าไม่ใช่แนว รร เวทมนตร์ ต่างโลกทะลุมิติ ย้อนยุคไปเกิดในอะไรโน่นนี่ก็อยากอ่านอยู่
>>756 พูดซะกูอยากเขียนเองเลย แต่บางโมเม้นกูแบบ อยากอ่านอยากเสพนะ พอจะเขียนให้ตัวเองเสพบางทีมันก็ขี้เกียจ เลยอยากเสพของคนอื่น หาได้ยากเย็นมาก ทุกวันนี้ถ้าเป็น ญช กูเสพจากแฟนอาร์ตหรือโดจินของอนิเมะญปเอา แต่จริตกูชอบอ่านเป็นนิยายมีตัวอักษรเยอะๆ มากกว่า แล้วกูอ่านได้แค่ภาษาไทย(อังกฤษพอได้แต่ค่อนข้างง่อย) เลยยังคงตามหาอ่านอยู่เสมอ ฮือ
งาน ญช คือไรอะ หมายถึงนางเอกเป็นใหญ่ไรงี้เหรอ อธิบายกูที
>>760 ถ้าในความหมายที่กูใช้ เอาแบบไม่คิดอะไรมากเลยนะ มันคือนิยาย ชญ นั่นแหละ แต่ว่ากูค่อนข้างตะขิดตะขวงใจกับการเรียกว่า ชญ เพราะมันรู้สึกเหมือนโดนสวนโพ ฟีลเดียวกับ ชช ที่มีเมะxเคะ แล้วกูฟินกับความสัมพันธ์ที่ฝ่าย ญ เป็นเมะ (โพซ้าย) แบบไม่สลับโพ พอเห็นเขียนว่า ชญ เลยรู้สึกชะงักนิดๆ อย่างที่บอกว่าเหมือนโดนสวนโพนั่นแหละ แต่ถ้า ญช แล้วจะมี ญ เป็นใหญ่หรือมี bdsm หรือมีอะไรอย่างอื่นมาเกี่ยวมั้ยนี่แล้วแต่เลย แต่โดยส่วนตัวจะแบบไหนกูเอาทั้งนั้น เพราะแค่นิยายโพ ญช เฉยๆ เนี่ยก็หายากมากจนกูไม่อยากเรื่องมากแล้ว มีให้เสพกูก็คว้าไว้หมดแหละ
นิยาย ชญ ไม่มีโพ จะเอาตรรกะนิยายวายมาใส่ไม่ได้เด้อ ชช/ญญ มันมีโพเพราะตัวละครเพศเดียวกัน คนอ่านเลยอยากรู้ว่าตอนเอากันใครเสียบใคร ถ้าจะรุกรับสลับโพก็ต้องแจ้งล่วงหน้าเพราะบางคนไม่ชอบเวลาเมะจะเป็นฝ่ายโดนเสียบด้วย ไม่เกี่ยวกับว่าใครเป็นฝ่ายจีบเลย บางเรื่องเคะรุกก่อนแต่ถ้าตอนเอากันโดนเขาเสียบก็ขวาอยู่ดี นิยาย ชญ ไม่มีโพเพราะมึงไม่จำเป็นต้องบอกว่าใครเสียบใคร นอกจากว่า ญ ของมึงจะเอาดุ้นปลอมมาเสียบพระเอก ซึ่งมันก็เฉพาะกลุ่มมากจนกูแทบไม่เห็นใครแต่ง
อ้าว กุนึกว่า ญช ที่พูดๆ กันนี่หมายถึงนางเอกออกแมนๆ หน่อย อาจจะไม่ถึงกับห้าวเป็นทัดดาวบุษยา (555) แต่เป็นจุดจบของพระเอกสายอัลฟ่า บ้าฉุดกระชาก เธอห้ามขัดใจชั้นนะโสรยา! อะไรงี้ซะอีก เพราะอย่างหลังนี่แทบจะเรียกว่าครองตลาดเลย
งั้นกุถามนข.ในนี้เลยละกัน ทำไมถึงไม่ค่อยแต่งแนวนี้กันเหรอ 1มันไม่ตรงเป้าหมายกลุ่มนักอ่าน หรือ2มันขัดกับบุคลิกคนแต่งเลยไม่สามารถเข้าใจนอ.แบบนี้ได้อ่ะ
อ่านโควตแล้วแอบสงสัย ไม่อ่ายแนวแฟนตาซีเพราะไม่ใช่แนวยังไม่อะไร แต่เจอหลายคนแบบอ่านยาก ต้องทำความเข้าใจโลกใหม่หมด จำชื่อตลค.ไม่ได้ (เห็นโควตนึงบอกแต่อ่านแนวจีนโบราณดันจำได้ อ่าว...) กูเลยนึกถึงสมัยก่อนที่แนวแฟนตาซีฮิต สมัยนั้นดูอ่านกันเยอะแยะไปหมด มาตอนนี้โดนบอกว่าอ่านยากซะแล้ว 555
https://twitter.com/fernhaeforY/status/1484495091851227136?t=L35xe4CRIUeHltsLPsD0Xw&s=19
พี่โม่ง ระหว่างยามเช้ากะสถ. ค่ายไหนแก้ต้นฉบับเรายับกว่ากันวะ ใครมีปสก.มั้ย ลังเลจะส่งไหนดี (แต่ยามเช้าแม่งยังรับต้นฉบับอยู่มั้ยวะเนี่ย เห็นออกแต่งานจีนจนนึกว่าเลิกขายไทยไปละ มันไม่มีคนส่งหรือนางไม่รับ 5555)
>>769 อ้าว กุก็นึกว่าแม่งให้น้อยทุกสนพ.ซะอีก มีที่ไหนให้เยอะด้วยเรอะ 555
ว่าแต่ถามเพิ่มอีกหน่อย ถ้าอยู่ในหัวย่อยอย่างที่โม่งว่า อิมเมจที่ได้มันจะต่างกันมากปะวะ เพราะลงเครือย่อยคนก็ไม่ค่อยรู้จักกันปะ สู้ให้กูไปอยู่หัวหลักสนพ.ใหญ่ตรง ๆ ค่ายอื่นจะมีภาษีดีกว่ามั้ย หรือมึงว่าก็ค่าเท่า ๆ กันแหละ ?
>>771 เคยอยุ่หัวใหญ่ ปัจจุบันเลือกออกกับหัวเล็กแทน ทั้งหัวใหญ่หัวเล็กก็อยู่ในชื่อที่พูดๆ กันมานั่นแหละ
จะบอกว่าเสียดายชีวิตตอนอยู่กับหัวใหญ่มาก การตลาดไม่โปรโมตงานเราเท่าที่ควร โอ๋เอ๋แต่ลูกรัก ส่วนแบ่งแย่ไม่พอ ไม่จ่ายด้วยจนต้องตามทวงอ่ะ อีบุ๊คหมดลิขสิทธิ์ก็ไม่ถอดให้ เคยโดนแซงคิวออกงานไปประมาณปีนึง รอจนลืมไปแล้วว่ามีนิยายจะออก ทำเหมือนเราไปขอให้ออกหนังสือให้ คงเพราะเราเป็นนักเขียนแบบอะไรก็ได้ ไม่วอวแววุ่นวายกับการทำงานสนพ แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนคือแบบนี้เลย ช่วงหลังมานี้อยู่กับหัวเล็ก ดูแลนขดีมาก ทุกอย่างโปร่งใส เป็นการทำงานที่ต่างกันเหมือนสวรรค์กับเหวเลย ดังนั้น เรื่องหัวเล็กหัวใหญ่ ถ้าออกงานใหม่ เชียร์หัวเล็กนะเพราะออกหัวใหญ่งานจะจางเร็วมาก หัวเล็กเขาจะทำการตลาดช่วยเราอย่างเต็มที่ และเอาจริงหัวเล็กก็มีฐานตลาดอยู่แล้วเหมือนกัน
>>770 ขอบใจสำหรับคำแนะนำเพื่อนโม่ง ฮือ กุเครียดจัง อยากเดบิ้วสนพ.ใหญ่เพราะคิดว่าน่าจะมีคนเห็นเยอะน่ะ อยากได้ฐานแฟนสะสมไว้ก่อน ToT ที่เห็นนข.ดัง ๆ หนีออกก็คงเพราะค่าตอบแทนด้วยมั้ง แต่มีฐานแฟนแล้วอะไรก็คงอำนวยกว่านูกูอย่างกุแหละ
แล้วสนพ.เล็กมันมีข้อดียังไงบ้างเหรอ พอชี้แนะได้มั้ย
กุว่าสมัยนี้ออกกับ สนพ ไม่ได้ดูเก่งดูดีเหมือนเมื่อก่อนแล้วว่ะ งานออก สนพ ก็งานลงเน็ตมาก่อนทั้งนั้น กว่า บก จะมาเจอนามปากกาก็มีฐานคนอ่านแล้ว ละเอาจริงๆ นักเขียนบ้งๆ ที่โดน สนพ อุ้มชูก็มีเยอะ คำผิด ข้อมูลเพี้ยน ลอกงาน ฯลฯ มาตรฐานไม่ได้สูงส่งกว่างานทำมือเลย นักเขียนที่เหมาะจะซบ สนพ คือพวกงานดีแต่ไม่มีแสง อันนี้ สนพ ก็อาจจะช่วยโปรโมทให้ได้ ไม่ก็พวกขี้เกียจพิมพ์ขายเอง มีรายได้หลักจากงานอื่นแค่อยากลองออกหนังสือไรงี้ เงินจาก สนพ มันหมาน้อยมากอะมึง 55555 กุเคยขายอีบุ๊กเดือนเดียวได้มากกว่าค่าลิขสิทธิ์ 3-5 ปีกับ สนพ อีก (อีกเรื่องคือมึงจะไม่มีสิทธิ์มีเสียงในการขอปกนิยายตัวเอง ถ้า บก บรีฟเหี้ยก็ต้องก้มหน้ารับ ละงานไทยนี่กูก็ไม่เห็นใครจะได้ปกดีๆ ถ้าไม่ใช่งานวายอะนะ)
>>773 สมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน ออกกับสนพ.ใหญ่ๆ ก็ใช่ว่ามึงจะได้ฐานเพิ่ม เดี๋ยวนี้นักอ่านไม่ตามสนพ.แล้ว เขาดูที่เนื้อเรื่อง (อาจจะพ่วงที่นักเขียนด้วยส่วนนึง) งานจะปังหรือเปล่าอยู่ที่งานกับการขายของนักเขียนนั่นแหละที่สำคัญ เพราะสนพ.ใหญ่ก็ใช่ว่าจะโปรโมทดี แบบที่ความเห็นบนๆ มันบอกอะ ลองสังเกตดูก็ได้ เอนเกจเม้นท์ในเพจ สนพ.ใหญ่ก็แทบไม่มี นักเขียนเพิ่งเริ่มเดบิวไปออกสนพ.ใหญ่ถ้าไม่มีฐานมาก่อนหรือไม่แมสในเว็บก็แป้กระนาว แม้แต่นักเขียนที่มีฐานก็ยังต้องถีบตัวเอง ขายงานตัวเอง กุอาจจะพูดเหมือนใจร้ายนะ แต่มันคือความจริง งานทุกวันนี้งานจะแป้กหรือปังอยู่ที่นักเขียนและจังหวะชีวิตว่ะ สนพ.มีส่วนแต่น้อยมาก มันไม่เหมือนสมัยก่อน
ky ช่วงนี้ยอดโหลดเป็นไงมั่งอ่ะมึง ตั้งแต่หลังหวยออก ยอดก็ตกแบบดิ่งเหวโงหัวไม่ขึ้นเลย วันนี้ได้ 0 โหลด ทั้งๆที่วันเสาร์-อาทิต ต้องได้แระยี่สิบสามสิบ เส้าชิบหาย ดิ่งสัส
ในไทยมีนิยายแนว Hard Science Fiction บ้างไหม
ปรกติแฟนเพจพวกมึงมีนักเขียนมากดไลค์กันเยอะป่ะ เพจกูมีมาเรื่อยๆ เลย
>>786 อาจจะมีคนเอางานมึงไปรีวิวรึไม่ก็ติดท็อปที่ไหนสักที่แหละมั้ง เวลาคนพูดถึงนามปากกาที่ไม่คุ้นกูก็เคยไปส่องๆ อยู่บ้างเหมือนกัน ถ้ามึงไม่มีประเด็นอะไรก็ไม่ต้องซี แต่ถ้ามีขึ้นมาแม่งเม้าท์กันสนุกเลย 555 เคยเห็นนักเขียนบางคนเลื่อนส่งหนังสือ แม่งก็มีนักเขียนคนอื่นสไลด์หน้าไปแคปเขามาเม้าท์ออกสื่อกับเพื่อนคนอื่น ไม่เกี่ยวกะกูหรอก แต่ดูแล้วตลกดี ประทับใจความขี้เสือก 55555
เออ KY หน่อย สมมติเรื่องกุแม่งคสพ.มาอย่างรันทดมาก ไม่ได้รักกันสักที ทีนี้ไคลแมกซ์เรื่องมันคืออุปสรรคที่ทั้งคู่ต้องผ่านให้ได้ ต้องจบไคลแมกซ์ก่อนถึงจะรักกันได้อะ งี้กุควรจบไคลแม็กซ์ปุ๊บตัดจบเรื่องหลักเลย แล้วค่อยใส่ตอนพิเศษที่หวานกันทีหลัง หรือจบไคลแมกซ์แล้วหวานกันต่อยาว ๆ ค่อยจบทีเดียว ไม่มีตอนพิเศษดีวะมึง
Ky อยากอ่านแนวนางเอกขึ้นอย่างหงส์ลงอย่างหมาใครแต่งบ้าง กูเห็นพระเอกแนวนี้เยอะละ อยากรู้ว่าแนวนี้จะเป็นยังไง เพราะกูอยากลองแต่งแต่นึกภาพไม่ออก ผู้ชายท้องแล้วหอบลูกหนีไม่ได้ซะด้วย จะมีปัจจัยอะไรให้พระเอกมันโกรธนางเอกมากๆจนนางเอกต้องตามง้อมะ
นอ.หลอกใช้พอ.เพื่อผลประโยชน์, หลอกให้รัก/แต่งงานด้วยแต่ความจริงรักคนอื่น, คนในครอบครัวนอ.ทำไม่ดีกับคนในครอบครัวพอ., แต่ส่วนใหญ่ ผช จะไม่หนีแต่โต้กลับว่ะ กุอยากอ่านพอ.หนีเหมือนกัน เอาใจช่วยมึงนะ 555
อ้าวกดผิด คนอยากอ่านพระเอกเลวมากกว่าไง เพราะเหมือนจะเข้าใจ เห็นใจนางเอกมากกว่า
กูนึกออกแต่บ่วงหงส์ นางเอกนิสัยเสียเอาแต่ใจ โดนพระเอกดัดสันดานจนเป็นผู้เป็นคนขึ้นมา แต่ไม่น่าจะใช่แนวที่พวกมึงอยากได้
นางเอกแสบ ๆ กูนึกของกิ่งฉัตรออกอีกเรื่อง ที่แอนเล่นเป็นนางเอกอะ อลินกับครูกุ๊ก นางร้ายโคตรน่าสงสาร ทำไรนางเอกไม่ได้เลย
ขอระบายนิดนึง กูแบบไปสุ่มอ่านงานไปเรื่อยเพื่อหาแรงบันดาลใจ แบบห่างจากการเขียน+การอ่านมาพักใหญ่ ฝีมือชักฝืดๆ พอเจอบางเรื่องเขียนคำซ้ำเยอะๆ ประโยคความหมายซ้ำซ้อน พรรณายืดยาวโดยใช่เหตุ กูก็ขัดใจนะ แต่อีกใจก็อิจฉานิดๆตรงที่เขาเขียนออกมาได้จนจบอ่ะ กูนี่กลายเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสไปซะงั้น เขียนอะไรก็กังวลไปหมด นั่งแก้อยู่นั่นเพราะกลัวออกมาไม่ดีพอ /อัดอั้นใจมาพักนึงละ ค่อยโล่งหน่อย 555
บางทีถ้ากุรู้สึกว่างานไม่ดีพอ กูก็ปล่อยออกไปก็เยอะนะ แบบก็แก้เท่าที่แก้ได้อะ แต่สุดท้ายก็ปล่อยออกไปหมดอยู่ดี เขียนมาแล้วอะ นับเปนงานกุที่ ณ โมเม้นนั้น ตัวแทนสกิลกุตอนนั้น ถ้ามัวรอให้เพอร์เฟคทุกอย่างไม่ได้ทำอะไรพอดี 555555
มันจะมีงานเขียนหลายงานที่เราอ่านแล้วรู้สึกถึงความตั้งใจมากจนอ่านแล้วรู้สึกเกร็ง อ่านแล้วเหนื่อย ถามว่ามีที่ติตรงไหน บางเรื่องไม่มีที่ให้ติเลย แต่มันไม่จับใจ เพราะบางทีมันขาดความเป็นธรรมชาติ
>>801 อันนี้อยากรุ้ทำไมเราถึงมองงานคนอื่นว่าต้องแก้ไขแล้วตบท้ายว่าเราปล่อยงานไม่ได้เพราะเราเพอเฟคชันนิสไม่ได้เหรอ สงสัยจริงๆ เผื่อกุตกหลุมนี้ด้วย
สมมติว่ามองด้วยมาตรฐานทางภาษาไม่ใช่อคติ แล้วงานนั้นบกพร่องจริงๆ เราเลยเทียบว่าเป็นเราๆ ปล่อยไม่ได้เลยต้องแก้วนไป มันก็สมเหตุสมผลอยู่ป่ะ
>>807 บางทีมองจุดบกพร่องคนอื่นมากไปอาจจะกลบข้อดีของเรื่องนั้น ในมุมนักเขียนนะ ถ้าอยากแมสมันต้องมองวานคนอื่นบ้างว่ามีข้อดีอะไร เช่น นิยายบางเรื่องแมสมากแต่มึงคิดว่าไม่ผ่านมาตรฐานตัวเอง เป็นมึงจะไม่ปล่อยออกมา ก็อาจจะจับจุดไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงแมส บางทีภาษาที่มึงบอกว่าไม่ดีมันอาจจะดีสำหรับคนอ่านก็ได้ ก็แทนที่ว่าจะเอาข้อดีมาจับจุดงานตัวเองจนพัฒนาไปได้ก็กลายเป็นไม่ได้อะไรเลย อีกอย่างมองเห็นแต่งานตัวเองว่าไม่ดีสักทีก็เขียนไม่จบซะทีอะ สำหรับกุต่อให้ประสบการณ์เยอะแค่ไหนก็ไม่มีคำว่าเพอร์เฟ็กต์ นักเขียนแทบทุกคนเวลากลับมาอ่านงานตัวเองก็เห็นจุดบกพร่องทั้งนั้น ถ้ามึงคิดว่าจะรอให้มันเพอร์เฟ็กต์ก่อน เมื่อไหร่จะเขียนจบ
จริงนะ ขนาดผ่านไปแค่ไม่กี่วัน กลับมาอ่านมีจุดให้ต้องรีไรท์ไม่รู้จบเลย
มองงานคนอื่นบกพร่อง >> เป็นเราจะไม่ทำงั้น >> เป็นเราจะทำได้ดีกว่า >> เราเก่งกว่า พอคิดงี้ปุ๊บก็ไปไหนไม่ได้แล้ว อยากพัฒนาก็ต้องมองคนที่เก่งกว่าจ้า เวลาวิ่งแข่งเขาก็มองเส้นชัยกัน ไม่ได้วิ่งถอยหลังแล้วมองว่าใครวิ่งช้ากว่าเรา บิบิ
กูคนที่ถามเรื่องนางเอกลงอย่างหมาเอง ขอบคุณโม่งทุกท่านมาก *กราบร่องนม เดี๋ยวกูลองไปตามดูละคร แต่ทุกเรื่องนางเอกดูร้ายๆเอาแต่ใจเนอะ กูชอบนางเอกแนวดีกับคนอื่นแต่ร้ายกับเธอคนเดียว ฟีลลิ่งสุภาพบุรุษแต่ฉุดคุณขึ้นเตียงได้ (จะได้มีข้อดีให้ไม่โดนด่า) พอสลับบทหมาแล้วทำไมของผู้หญิงแต่งยากจัง ต้องมีเหตุผลรองรับ ไอ้เหตุผลที่ว่าก็ต้องหนักแน่นด้วย T-T รู้สึกว่าพระเอกหมาเวลาคนด่าเขาก็เชียร์ให้ได้กะนางเอกอยู่ดี ถึงชั่วก็ให้โอกาส แต่พอนางเอกหมาบ้างกลายเป็นว่าอินี่นิสัยไม่น่ารัก ไม่ตรงขนบ ran ตอแหล โง่ ใฝ่สูง ทะเยอทะยาน แล้วบางครั้งกูก็ดันคิดแบบนี้ด้วยนะ ต้องแก้มายเซ้ตตัวเองก่อนเลยกู....
กุอะหนึ่ง ไม่ชอบนางเอกน่ารำคาญที่ทำตัวร้าย นิสัยเหี้ยใส่พระเอก (พระเอกแนวนี้ด้วย แต่ที่พอยอมได้เพราะรู้ว่าเดี๋ยวอีพวกนี้มันก็เป็นหมา สมน้ำหน้ามึง ในขณะที่นอ.จะร้ายเท่าไหร่ พระเอกส่วนมากก็ยอมปล่อยไปตลอดเหมือนที่ผ่านมาไม่มีไรเกิดขึ้น นอ.ก็ไม่ได้รับกรรมเลย จนกุรู้สึกว่าแม่งง่ายไปอะ) พวกนิสัยขี้ระแวง เอะอะด่าพอ.ทั้งที่เขาไม่ผิดงี้กุก็ไม่ชอบ สรุปอ่านได้แต่นอ.สายน้อง ไม่ก็นิ่ง ๆ ไปเลย เพื่อนโม่งไหนเขียนนอ.น่ารัก ๆ อยู่ก็ขอให้แต่งต่อไป จุ๊บ ๆ
มึงกุเขียนไปได้หมื่นกว่าคำแล้วรู้สึกว่าปูเรื่องนานไป กะจะโละทิ้งแล้วเลือกเล่าเหตุการณ์อื่นที่ทำให้กระชับกว่าแทน เสียดายจังโว้ยยย
เห็นแล้วนึกสงสัย คอสระเอียนี่คนเดียวกับจิ้งจอกซิลล่าป่ะวะ เมื่อไม่กี่วันก่อนเห็นนักวาดแท็กทวิตเค้าว่าวาดปกเรื่องแม่มดราตรีอะไรนี่ให้ ไม่กี่วันถัดมา เจ้าตัวก็ถ่ายเนื้อหาในหนังสือมาชวนคุยในทวิตน่ะ
>>815 กูก็เป็นคล้ายๆกัน ตอนแรกเขียนไหลไปลื่นๆ พอมาอ่านอีกที ก็เออ ชอบตรงนั้นตรงนี้นะ แต่ขัดกับพลอต เอ้า จำใจตัดทิ้ง 555
กูอาจจะเข้าใจผิด เป็นคนละคนกันก็ได้ แต่นักวาดเค้าแท็กคอสระเอียไง กูเลยงงๆ
ยอดอีบุ๊กคือมันลดจริงๆ ใช่ไหม คนที่เคยได้ พันก็อาจจะตกลงมาคนที่ อาทิตย์นึงได้โหลดนึงแบบกูตอนนี้คือ เป็น 0 มา เดือนนึง ละ
ทำไมลดวะ คนอ่านคนซื้อทยอยหายไป กูเขียนหลากแนวก็หดทุกแนว เพราะเด็กเปิดเทอมหรือผู้ใหญ่งานยุ่งหลังเปิดปี กูกำลังจะขึ้นเรื่องใหม่เลือกไม่ถูกเลยจะเขียนแนวไหนที่ยังพอขายได้มั่งวะ
เศรษฐกิจไม่ดีจ้ะ เงินเฟ้อ ของแพง โรคระบาด ตลาดหุ้น/คริปโตดิ่งลงเหว
ขอบคุณทุกคห. สรุปว่ามันเป็นเรื่องฤดูซบเซา(เดือนหลังปีใหม่)แล้วก็เศรษฐกิจด้วยสินะ 😭
ตอนนี้รีดอะไรต์เหมือนปรับวันแบนเนอร์นะ เปลี่ยนไวมาก ลองส่งกันยัง กุลองแล้วนะ แม้ว่าจะเปลี่ยนกันไวขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่ได้คิวเลย555
ky เพื่อนโม่งกุขอบ่นหน่อย ไม่แน่ใจว่าถูกห้องมั้ยนะ กุไม่โอเคกับสังคมนักเขียนบางกลุ่มเลยว่ะ กุว่าตอนเขียนนิยายคนเดียวมีความสุขกว่านี้ พอรู้จักกับนักเขียนกลุ่มใหญ่เพราะอยากมีเพื่อนแวดวงเดียวกัน แต่สนิทกันมากเข้าแล้วกุไม่ค่อยโอเค สังคมแม่งปลอมเปลือกนินทากันลับหลังสนุกปาก กุควรทำไงดีวะ อยู่ๆ ออกมาเลยจะบาดหมางกันมั้ยวะ กุอยากเฟดตัวเองออกมาว่ะ แม่งไม่มีความสุขกับการเขียนงานเลยกุ
นักเขียนคนนึงบอกว่าอย่าเอางานไปเทียบกับคนอื่นแล้วตัวเองก็มานอยด์ แต่ตะเองก็อวดยอดมันทุกเดือน คนที่เป็นเพื่อนเห็นแล้วจะอดเทียบกะตัวเองได้ไงวะ 5555
>>829 กูโชคดีอะ เจอเพื่อนนักเขียนน่ารัก เม้ากันนะแล้วก็ด่าตัวเองไปด้วย สนิทกันจนคุยเรื่องทั่วไปได้ มีอยู่คนหนึ่งออกนิยายกับสนพมาหลายเรื่องมากๆๆๆๆๆ แต่คุยน่ารัก ไม่ถือตัวหรืออวดว่าตัวเองดี พอเขาจะเปลี่ยนแนวเขียนก็หาความรู้ มาถามว่าต้องเริ่มจากตรงไหนบ้าง
กูเลือกคบเพื่อนนักเขียนด้วยแหละ
บางคนรู้จักไว้พอประมาณ ส่วนตัวกูไม่ชอบคนอวดแบบข่มคนอื่นอะ หรือพูดจิกคนอื่นในประโยค
หรืออวดแบบ ‘นักอ่านตามงานแล้วแต่ฉันยังนั่งโน่นนี่นั่น ก็น่ะฉันเขียนเป็นงานอดิเรก ไม่เดือดร้อนเงินบลาๆๆๆ’ พอกูไปดู สองเดือน นักอ่านตามงาน1คน
พวกนี้กูจะคบแค่ผิวเผิน
หรือพวกที่ว่างมากบ่นในเฟสตลอดเวลา เหมือนเรียกร้องความสนใจ พวกนี้กูแค่เป็นเพื่อนในเฟสเฉย ๆ ไม่คุย กดไลค์อะไรพวกนี้พอ
>>838 กูคือ>>834 ในขณะที่กูมีเพื่อนนข.ดี ก็มีเจอนข.ที่กูไม่โอเคนะ
กูเคยเฟดตัวเองออกมาจากนข.สองคน คนที่กูเฟดออกมา เป็นคนที่คุยด้วยแล้วมีความtoxic เขาอยากพัฒนางานเขียนตัวเอง พอเพื่อนนข.แนะนำอะไร เขาไม่เคยทำ แล้วคุย ๆ ไปจะรู้ได้ว่ามีความหมองๆ ในจิตใจจริงๆ พวกนี้กูจะเฟดออกมา อ้างว่าทำโน่นนี่นั่นบ้าง แล้วคุยน้อยลง น้อยจริงจังเลยนะ ถามอะไรมากูจะตอบข้ามวัน แล้วความสนิทก็จะหายไปเอง
ส่วนการเลือกสแกน มันจะเป็นเซ้นที่จะรู้ว่าคนนี้ไทป์แบบเดียวกัน คุยได้ กูก็อาศัยประสบการณ์คบคนล้วนๆ อะ ถ้านข.คนไหนแบ๊วไปเวลาคุยกันสองสามครั้งแรกเลยนะ กูนี่ก็เฟดตัวออก รู้ในใจแล้วว่าคบได้ผิวเผินพอ
อาจจะดูว่ากูค่อนข้างเรื่องเยอะ แต่กูรำคาญนข.ประเภท โพสในเฟสไม่มีเวลาเขียนเลย ทำงานเยอะมาก แต่พวกนี้มีเวลามาเล่นเฟส?
เอาเวลาเล่นเฟสเขียนนิยายดีไหม?
คนมีตรรกะแบบนี้สำหรับกูคือเรียกร้องความสนใจ พวกนี้กูจะคบผิวเผิน เพราะเดาได้ว่าเป็นพวกน่ารำคาญสำหรับกูระดับหนึ่ง แล้วกูไม่ใช่พวกชอบบ่นอะไรในเฟส กูเลยไม่ค่อยชอบนข.ที่บ่นได้ตลอดเวลา หรือบอกตลอดเวลาว่าทำอะไรยังไง แต่กูไม่ว่าอะไรนะ แค่unfollow ไม่ได้unfriend รำคาญก็รำคาญกับตัวเอง ไม่ได้ไปบ่นให้ใครฟัง หรือบอกเพื่อนนข. เพราะนี่คือนิสัยการเลือกคบเพื่อนของกูเองล้วนๆ อะ
อ่อๆๆนักเขียนที่กูคุยอายุเลขสามกันหมดแล้วด้วย มีวุฒิภาวะเลยแหละ
ถ้าจะโพสอวดก็บอกในโพสเลยว่า ฉันจะมาอวด ขอพื้นที่ให้ฉันได้อวด
นข คนหนึ่งเม้นบอกว่าแต่งนิยายมาราวครึ่งปี เดือนแรกได้เงินหลักร้อย แต่งไปเรื่อยๆได้หกหลักแล้ว กูลองเข้าไปส่องงานเขา ไม่มีป้ายแดงสักเรื่องเลยว่ะ คนรีวิวก็หลักหน่วยถึงหลักสิบต้นๆ ในเว็บสีน้ำตาล ยอดเหรียญนิยายเขายังไม่ถึงล้านเหรียญเลย แบบนี้รายได้หกหลักจริงเหรอวะ
>>844 บ่นได้เลยมึง มันคือเฟสของมึงไง มึงอยากบ่นไรได้เลย แค่กูเอง มันเป็นปัญหาของกูเอง กูก็เลยunfollow แค่นั้นแหละ กูให้ความเคารพในการบ่นของพวกเขานะ เพราะบางคนเขาอาจจะเครียด การได้พิมพ์แบบนี้เป็นการระบาย แต่สำหรับกูการอ่านแบบนั้นมันtoxicกับตัวกูเอง กูเลือกทางออกให้ตัวเอง ไม่ได้เอาคนที่กูรำคาญไปเม้ากับเพื่อนนข.
มีในโม่งนี่แหละที่กูมาบอกแค่ว่าเลือกคบยังไง
กุก็ชอบหวีดในทวิตตัวเองว่ายุ่งชิบหาย อยากแต่งนิยายโว้ย แต่มีเวลาไถทวิตเล่นเพราะถือว่ายังไงก็เป็นเวลาพักผ่อนกุ ไม่นึกเลยนะว่าจะมีคนรำคาญอย่างโม่งบน คิดถูกละจริง ๆ ที่ไม่คบใคร ดีกว่ามาเสียความรู้สึกทีหลังว่าอีนี่แม่งจะรำคาญกุปะวะ 555555
พี่โม่งแนะนำกุที อนาคตถ้ากุอยากเขียนงานขาย กูไม่ควรทำงานสายสนพ. พวกนี้รึเปล่าวะ แบบบก. งานแปล พิสูจน์อักษรงี้ กุสงสัยว่ามันจะตีกับงานตัวเองรึเปล่า แบบ อ่านบ่อย ๆ ละเผลอดึงคำมาใช้ ติดสำนวนชาวบ้านเขางี้อะ หรือว่าไม่มีผลหรอก ตอนนี้กุเรียนอยู่ กำลังสับสนกับเส้นทางชีวิตน่ะ 555
>>850 ส่วนตัวกูว่าขึ้นอยู่กับต้นทุนของมึงเอง หมายถึงต้นทุนชีวิตในแง่ฐานะความพร้อมของที่บ้านมึงต้องส่งเงินให้มั้ย พร้อมสนับสนุนถ้ามึงจะเขียนงานขายแบบเต็มเวลา คนที่บ้านเข้าใจมั้ยว่ามันคืองานที่เหมือนมึงนั่งอยู่หน้าจอเฉยๆไม่ทำมาหาแดก และมันคืองานที่ต้องการสมาธิไม่ใช่เรียกไปช่วยขายของหรือช่วยกิจการที่บ้านได้เต็มที่
ต้นทุนอีกแง่ที่อยากให้มองคือประสบการณ์ชีวิตของมึง ถ้ามึงไม่ไปหาจากการทำงานประจำ(ไม่ว่าจะสนพ.หรือไม่เกี่ยวกับหนังสือเลยก็ตาม) มึงมีวิธีอื่นในการพัฒนาให้มันเติบโตมั้ย ของพวกนี้มีไว้จะทำให้งานเขียนมึงมีมิติและสร้างเอกลักษณ์ให้ต่างจากงานอื่นในตลาด
อีกแง่ก็พวกทักษะการเขียนของมึง คอนเน็คชั่นหรืออะไรพวกนี้ เพื่อนกูทำงานสายแปลคนนึง อีกคนทำงานบ.ก. กว่าจะเริ่มจับงานเขียนก็ถือว่าช้ากว่าคนอื่นมาก แต่งานสายสนพ.ที่เคยทำก็ช่วยเอามาต่อยอดได้ พวกมันบอกว่างั้นนะ แต่ในทางกลับกันงานเกี่ยวกับหนังสือแม่งโคตรเหนื่อยและกินพลังชีวิตมึงมาก 5555 เรื่องที่ห่วงว่าจะดึงสำนวนชาวบ้านมากูว่าไม่ต้องกลัว
กูว่าดีนะที่มึงอยู่ในวัยเรียนแล้วเริ่มคิดวางแผนอนาคตของตัวเอง ลองมองปัจจัยรอบตัวกับต้นทุนที่บอกไปแล้วลองตัดสินใจดู ขอให้โชคดี
>>851 >>852 ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ แต่เอาจริงกุคงไม่กล้าทำงานเขียนเต็มตัวว่ะ (ถึงจะอยากก็เหอะ ถ้ารวยเงินเหลือใช้กุคงไปละ TT ) กลัวงานแป้กละไม่มีจะแดก ฮือ ตอนนี้สายที่กุเรียนอยู่เงินค่อนข้างดีมาก แต่งานก็น่าจะเหนื่อยสัสหมาเลย เลยเล็งไว้ว่าถ้าเปลี่ยนสายไปทำสนพ.พลาง ๆ จะโอมั้ยนะ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเผลอติดสำนวนคนอื่น / ได้อินสไปร์มาก็น่าคิด แต่เดี๋ยวอนาคตกุลองตัดสินใจอีกที *ไหว้ย่อ*
กุถามคนที่จัดหน้าเองหน่อย เวลาคลุมดำแล้วกดกระจายแบบไทยให้ซ้ายขวาเสมอกัน สุดท้ายเราต้องมานั่งดูทีละบรรทัดเพื่อเคาะบรรทัดที่มันกระจายตัวห่างอยู่ดีใช่ป่ะ คือกุดูทิวทอเรียลเขาโชว์สเตปนี้แล้วของเขามันคลิกปึ๊งสวยเลย ไม่มีประโยคที่ ห่ า ง ม า ก แบบกุเลย รึกุทำไรผิด (กุกดสัญลักษณ์พายแล้ว ไม่มีย่อหน้าที่shift+enter )
ขอ Ky หน่อย นิยายเรื่องนึงยังไม่ติดเหรียญ ยังไม่มีอีบุ๊ก (แต่อนาคตต้องขายแน่) เอารูปจากพินมาทำปกถือว่าไม่ผิดใช่มั้ย กูเล็งรูปนี้จากในพิน https://www.pinterest.c0m/pin/152137293653958450/ กูเห็นประเด็นรูปปกต้องถูก ลขส ก็เลยไม่กล้าเอามาทำปกชั่วคราวใน รอร ถึงกูจะเปิดให้อ่านฟรีก็เหอะ แล้วกูไปเจอนิยายฮิตเรื่องนึงหมวดนิยายจีนเอารูปนี้มาใช้ ไม่เห็นใครว่า ถ้าทำได้ไม่ผิด กูจะได้ทำมั่ง
>>829 กูเคยมีเพื่อนนักเขียนสนิท เวลาคุยกันเม้ากันมันชอบบ่นนอยว่ายอดน้อย แต่ไม่เยอะของมันคือมากกว่ากูเท่าตัว บางทีก็ชอบแขวะ กูแต่งแนวเสื่อมตับพัง แนวเสียว ต่ำตม มันแซะกูว่าผลิตผลงานขยะ ได้เงินจากงานแบบนี้ภูมิใจเหรอ? ขู่จะเอากูไปแขวนให้ทัวร์ลงแต่มันบอกพูดเล่น กูแต่งปรกติไม่ได้เงิน กูก็เปลี่ยนแนวสิ ตอนนี้กูเลยไม่คุยด้วย แต่จะแต่งนิยายเดียวกับมันออกมาแข่ง จะเอาคำเหยียดของมันผลักกูขึ้นไปเหยียบหัวมันให้ได้ 555 กูไม่คบใครแล้ว ปั่นงานคนเดียว คุยแต่กับพวกมึงในโม่ง ไม่ต้องแสดงตัว จะเม้าจะขอทริกก็หาในนี้
>>861 ผิดจ้า มึงไม่มีสิทธิ์เอาของเขามาใช้โดยไม่อนุญาต นักวาดด่ากันจนตามด่าไม่ไหว ถ้ามึงมีสันดาน ใครๆ ก็ทำ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผิด ก็ขอแช่งให้แจ็กพอตถูกนักวาดตามมาเหยียบหน้าสักวันเถอะ ทำบุญเยอะๆ นะเมิง จะได้รอดไปจนจบ
ภาพลูกลิขสิทธิ์ มีเยอะแยะ นักเขียนก็เป็นเหี้ยไรกัน ไม่อยากถูกคนอื่นละเมิดลิขสิทธิ์ แต่พวกมึงก็ยังละเมิดลิขสิทธิ์ไม่หยุด ขอให้ฉิบหายตายโหงกันให้หมดๆ สักวัน เพี้ยง!
>>864 ระยำ! แช่งกูซะอย่างกับกูทำแล้วเลย พ่อแม่ไม่รัก ผัวไม่รักเหรอมึง กูถามเฉย ๆ ถ้าทำไม่ได้กูก็ไม่ทำ มึงเก่งนัก เป็นนักพิทักษ์ ลขส ดีนักไปฉอดอีนิยายเรื่องนี้ที่ใช้ปกอันนี้ใน รอร หน่อยนะ นิยายที่ได้ยอดหัวใจ 1404 ใจ อย่าปากเก่งแค่ในโม่ง อยากดูน้ำหน้าจะกล้ามั้ย ไม่ใช่สักแต่แช่งลอย ๆ ในโม่ง ขำ 555
>>865 กูแต่งมา 2 ปี เขียนนอกกระแสยอดโหลดไม่ถึงสิบ พอแต่งท้องแล้วหนี ผัวชั่ว กูได้ยอดดีขึ้นหน่อย บางเรื่องถึง 100 โหลด ยังไม่ปังนะ แต่ถือว่าดีกว่าแต่งนอกกระแส
pinterest นี่อยากให้สำนึกกันเยอะๆ ว่ามันเป็นแหล่งที่ไม่ควรดึงภาพมาใช้ เพราะเจ้าของภาพบางคนเค้าก็ไม่ได้อนุญาตให้นำมาใช้ เคยมีนักวาดเกาหลี ที่ถูกเอามาใช้บ่อยๆ ด่านักเขียนไทยด้วยมั้ง วาสนาดีอาจมีนักวาดมาช่วยโปรโมตให้ได้ เป็นเกลียดเป็นสีกับชีวิต
ผิดจ้า ผิดหมด ดูดภาพเขามา ถ้าเจ้าตัวไม่อนุญาตนี่ไม่ว่าจะอ่านฟรีชั่วคราววันเดียวก็คือผิด พวกที่ทำ ๆ ก็มีอยู่ 2 ประเภทแหละ 1. เด็กน้อยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ทันตระหนัก แต่ถ้ามีคนบอกก็เข้าใจ ยอมรับผิดไม่ทำอีก = เค คนเราไม่รู้ก็ต้องเรียนรู้ว่ะ 2. สันดานส้นตีน รู้อยู่ว่าผิด ใครเตือนกุก็ไม่สน แต่สักจะอ้างว่าใคร ๆ ก็ทำนี่คร๊ มงืออ = อีพวกเหี้ย สมควรถูกฉอดอย่าง >>865
>>861 กูว่ามึงลองถามมู้นี้ดีกว่านะ จะได้คำตอบชัดเจน อย่าเก่งแค่ในทู้นี้ https://fanboi.ch/netwatch/14411/recent/
พักก่อนเห็นมีเรื่องแบนพวกยืมเมจดารา อันนั้นกุเข้าใจว่าไม่ได้นะ แต่เห็นหลายคนเหมือนไปไกลขนาดว่าแบนนิยายที่มีปกรูปคน/นายแบบ/ซิกซ์แพ็คไรพวกนี้แล้วเหมาะรวมมาว่าผิด ลขส. หมดเลย อันนี้คือแยกแยะยังไงว่าเขาเอามาจากเว็บฟรีที่อนุญาต หรือเป็นรูปที่เซฟมาใช้มั่วๆ แบบผิดจริง
>>874 ใช้โปรแกรมค้นหาโดยใช้ภาพก็เจอแหล่งละมั้ง แต่ถ้าใช้ภาพฟรี แม่งใครมาปากแจ๋วก็ฟาดกลับด้วยลิงค์เว็บภาพฟรีดิ แต่เอาจริงๆ นะเว้ย ภาพฟรีที่มีหน้าคน เจ้าของหน้าต้องอนุญาตนะ ถึงเอามาใช้ได้ แต่คิดว่าถ้ามันอยู่ในเว็บฟรี ก็น่าจะอนุญาตแล้วมั้ง ตรงนี้ขอความรู้เพิ่มหน่อย ว่ายังไงกับพวกภาพหน้าคน
ปกติเริ่มเขียนเรื่องๆนึงเริ่มจากสร้างตัวละครก่อนหรือคิดเรื่องก่อนว่ะ
>>878 อยากจับมือ เซมมม >>876 กูก็ชอบคิดคาร์ก่อน พล็อตค่อยมาทีหลังเพราะมันจะงอกจากนิสัยพระนางว่าเข้ากันรึขัดแย้งตรงไหน จะมาป๊ะกันได้ยังไง เลิฟซีนจะเป็นแบบใด dirty talk จะมาแนวไหน ส่วนพล็อตมาก่อนคาร์นี่เป็น นปก.สายพอร์นของกูว่ะ แต่งแบบไม่คิดไรมากพล็อตก็ต้องมาก่อน ชื่อตัวละครไปสุ่มเว็บตั้งชื่อลูกเอา55555 ส่วนนปก.จริงจังมันทรมานและแต่งยาว (ขายไม่ดีด้วยอิเวน) เลยต้องรู้จักลูกตัวเองก่อน
>>746 ขอโทษที่ ky กุเเพิ่งมาไถดูมู้นี้แล้วกุสนใจแนวที่โม่งคนนี้ถามหาจัง สรุปมีใครแนะนำไปรึยัง กุก็รู้จักแค่คุณ ค กับแอคฟลวหลักพันหลักหมื่นเพื่อนๆคุณ ค กุอยากรู้ด้วยคน ว่าคนเขียนแนวนี้ที่ไม่ใช่คนดังและมีคนช่วยโปรโมทแบบกลุ่มนั้น แต่กลับยังพอมีผลตอบรับดีประมาณนึงเนี่ยมีบ้างมั้ย กุย้อนรีพลายไปไกลเกินมั้ยวะ กุขอโทษ T_T แต่อยากรู้จริงจัง กุชอบอ่านแนวนี้ เผื่อในอนาคตอยากเขียนบ้าง
มีใครเคยมีปัญหาไม่รู้จะจบเรื่องยังไงไหม
เรื่องภาพที่ชอบไปยิมมาใช้โดยไม่ได้ขออนุญาตนักวาดเนี่ย สามัญสำนึกมันต้องมี เป็นหน้าที่ของนักเขียน ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นที่ต้องไปคอยไล่จี้หรือไ่ล่ฉอด
ตอนนิยายโดนลอกร้องแรกแหกกระเชอจะเป็นจะตาย แต่ลิขสิทธิ์ด้านภาพรู้เท่าไม่ถึงการณ์ค่า ยืมมาใช้เฉย ๆ คนอื่นก็ทำนี่ไปด่าคนอื่นให้ครบทุกแอคเคานต์สิค่อยมาว่าเรา
ky ช่วยด้วยจ้า ก่อนหน้านี้แต่งนิยายไปได้สักครึ่งเรื่องละหยุดไปหลายเดือน พอกลับมาอีกทีรู้สึกว่าพลอตไม่แน่นเลยเติมช่วงย้อนอดีตเข้าไปเล็กน้อยทำให้มีเหตุผลขึ้นเยอะเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแหม่งๆบางช่วงอยู่ดี แล้วพอเติมนั่นนี่เข้าไปปรากฏว่าสำนวนดันเปลี่ยนไปด้วยอะ รู้สึกไม่ค่อยเข้ากันยังไงชอบกล สุดท้ายเลยทิ้งไว้อาทิตย์นึงให้ลืมๆไปละกลับมานั่งอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น ดันชอบช่วงที่เขียนใหม่เข้าไปมากกว่าเดิมมากจนอยากโละก่อนหน้านี้ทิ้งให้หมด แต่ก็นั่นแหละ เสียดายอะเขียนไปเยอะแล้ว ยังไม่ได้ลงนะกะเอาให้จบก่อน ควรเอาไงดี
เพื่อนโม่ง เวลาที่พวกมึงออก E-Book นี่ เอาตอนพิเศษใส่ไปแค่ใน E-Book เพื่อเพิ่มยอดโหลดได้ไหมวะ แต่ที่เว็บก็ติดเหรียญนะ แต่ถูกกว่าเกือบครึ่งแล้วมีแค่เรื่องหลักอ่ะ เพราะกูรู้สึกว่าเอาตอนพิเศษลงเว็บติดเหรียญเนื้อหาเหมือนอีบุ๊คทุกอย่างแล้วยอดอีบุ๊คไม่ค่อยกระเตื้องเลย ยอดเว็บก็ไม่กระเตื้องด้วยเพราะคนอ่านไม่ได้ซื้อตอนพิเศษทุกตอน (ส่วนใหญ่ซื้อแต่ตอนเรท แล้วกูเหนื่อยเขียนเรทมากกกกกก) แต่อีกใจก็กลัวโดนทัวร์ลงว่าเนื้อหาไม่เหมือนกัน แต่อีบุ๊คมันแพงกว่าเว็บนะ ;;w;;
ปรึกษาค่ะ
เราอยากแต่งนิยาย แต่ปัญหาคือพล็อตที่เราคิดมาในหัว อยู่ดีๆก็กลายเป็นพล็อตในหนังไปแล้วอ่ะค่ะ คือไม่เคยดูทีเซอร์หนังหรืออ่านนิยายของมัน พอได้เห็นผ่านตาดันเหมือนเรื่องที่คิดไว้ว่าจะเขียนซะงั้น
เราควรทิ้งพล้อตนั้นไปเลยหรือพยายามแต่งต่อดีคะ ; = ;
>>891 มี2เรื่องที่โครงเหมือนที่เราคิดไว้
Red Notice พึ่งได้มีโอกาสดู ดูละซึมเลยเหมือนเรื่องที่กำลังจะแต่ง
อีกอันพล้อตคิดนานละแต่ไม่ได้จดไว้จริงจัง ดันเหมือนกับหนังกำลังที่จะเข้า(ลืมละว่าชื่ออะไร แบบผญโดนทดลองเรื่องสมอง? แยกความจริงกับฝันไม่ออก มีปีศาจ สักอย่าง) โครงเรื่องใกล้ๆกันเลยแต่ไม่ใช่แนวสยองขวัญแบบหนังอ่ะ
ปัญหานี้จะว่าน่ารำคาญก็น่ารำคาญว่ะ โลกนี้แม่งมีแต่อะไรเดิม ๆ ทั้งนั้น จับนู้นมาใส่นี้ก็ได้เป็นเรื่องใหม่ละก็ยังมีอีพวกชอบบอก อุ๊ย เหมือนเรื่องนั้นจังค่า อุ๊ย ก๊อปหนังดังมาเหรอ อุ๊ย อ่านแล้วนึกถึง...เลย โถอี ถึง material นึงจะดูคล้ายจริงเป็น fact แต่มึงจะแหกปากบอกเพื่อ เสียมารยาท คนก๊อปจริงก็มีแต่คนที่เขาไม่ได้ก๊อปก็เสียความรู้สึกปะ
"ทำไมอ่ะ ก็กูซื้อมาอ่าน อ่านแล้วกูรูสึกว่าจุดนี้มันเหมือนเรื่องนี้ เรื่องนั้น ทำไมกูจะบอกไม่ได้ ทำไมกูต้องรักษามารยาทอะไรที่กูไม่รู้ เพราะกูซื้อมาอ่าน"...จะมีจุดเหมือนหรือคล้ายยังไงมึงก็เขียนเถอะ แต่ต้องเตรียมใจไว้กว้างๆเผื่อเจอคนอ่านประมาณนี้ด้วยว่ะ
สอบถามคนเคยมีประสบการณ์หน่อยเรื่องอีบุ๊ค คือกูแต่งไปเรื่อยๆอะไม่ได้แต่งตุนจบเรื่องไว้ มีนี้นิยายกูมีสามภาค เพิ่งแต่งจบภาคหนึ่ง อยากรู้ว่าถ้าทำอีบุ๊คภาคหนึ่งขายเลยได้ปะ หรือต้องรอเขียนจบเรื่องสามภาคถึงจะทำอีบุ๊คขายได้ คือกูแต่ตามสะดวกอะมีงานประจำ บางทีก็ยุ่งจนดองยาวหายไปเดือนนึงเลย กว่าจะจบภาคแรกนี่กูใช้เวลาเป็นปี พอเห็นดราม่าล่าสุดที่คนเขียนเทนิยายเล่มสุดท้ายเลยชักแหยงๆ กูจะถูกสาปส่งไหมอะถ้าออกอีบุ๊คเล่มแรกทั้งที่ยังแต่งไม่จบเรื่อง แถมไม่มีกำหนดการณ์แน่นอนอีกว่าจะจบเมื่อไหร่
>>898 ดราม่านั่นเกิดเพราะเขารับปากว่าเล่มสองมาเมื่อไหร่แต่ผิดนัดมากกว่าว่ะ ถ้าเขาพูดว่าเล่มสองยังไม่มีกำหนดคนอ่านก็ไม่ด่าหรอก ของมึงกูว่าแค่บอกชัดเจนในทุกช่องทางว่ายังไม่มีกำหนดและอาจเทก็ได้ คนที่ซื้อก็คือคนที่รับความเสี่ยงนี้ได้แหละ แต่ยอดอาจไม่ดีและก็มีคนเม้นในเมบงอแงหน่อย
มือลั่นไปก่อน ที่บอกว่ากลัวคือประเภทมึงเนี่ยมันไม่ใช่นักเขียนประจำ ความรับผิดชอบกูก็ไม่รุ้ว่ามีแค่ไหน แต่ถ้าเป็นนักเขียนที่ออกงานเรื่อยๆ ก็จะมั่นใจหน่อย(ขนาดอีประเภทนี้ยังมีเทเลย นับประสาอะไรกับพวกตามสะดวก ถ้ารู้ว่ามึงแต่งตามสะดวกกุยอมรอ) ขี้เกียจค้างคาเหมือนขี้ติดตูด
>>904 มึงเป็นคนแปลกๆ นะเนี่ย 555 กุไม่แน่ใจว่านักวาดเค้าจะโอเคมั้ยนะที่ต้องแบ่งกันวาดกะคนอื่น บางคนก็อาจไม่โอเค มึงต้องบอกนักวาดก่อน แล้วก็ระวังดราม่าว่าทำไมใช้ปกคนละนักวาด รวมทั้งการเปรียบเทียบ คนนี้วาดสวยกส่าคนนั้น บลาๆๆๆ ส่วนตัวกูในฐานะนักเขียนและนักอ่านกูชอบปกนักวาดคนเดียวกัน ถ้ามันเป็นเรื่องเดียวกันหรือเซ็ตเดียวกันน่ะนะ มันจะมีเอกลักษณ์และเข้าชุดกันมากกว่า
Ky หายจากวงนักเขียนไปนาน แต่มีเพื่อนเป็นนักเขียนสิงในทวิตอยู่ ช่วงนี้เขามีดราม่าอะไรกันอีกแล้ววะ เห็นมีนักเขียนออกมาตัดพ้อขอกำลังใจ เพื่อให้นิยายมีคนมาชอบมาอ่าน แล้วก็มีหลายคนพูดแนวโอ๋ๆกอดๆ เดี๋ยวตามอ่านนะ เฝ แล้วงงว่าวิธีแบบนี้เรียกนักอ่านได้จริงเหรอ คนที่บอกจะตามไปสุดท้ายก็เห็นกลับมาเล่นแท็กนิยายด้วย คงไปอ่านจริงๆนั่ยแหละ ปัญหาคือถ้านักเขียนไม่ตัดพ้อ เขาจะอ่านมั้ย
>>904 เอาจริงๆ นักวาดเขาไม่คิดไรมากหรอก เขาก็รับงานแค่นั้น แต่คนอ่านอะคิดค่ะมึง 55555 ช่วยให้ปกมันเข้า set กันเถอะ ถ้านักวาดแพงมาก มึงจะ 1 2 3 ปกเดียวกัน แล้วเปลี่ยนเลข กุในฐานะ นักอ่าน กุโอเคกว่าสามปกสามนว.อีก ยิ่งถ้าพิมพ์เล่ม กุยิ่งรู้สึกว่าพระนางเหมือนศัลยกรรมใหม่ไปทุกปก หัวปวด แบบสนพ.หนึ่ง แถวๆ นี้ที่มีทู้แยก แล้วหน้าปกใช้ปกสำเร็จจากนักวาดแต่ละคน นางเอกหน้าตาไม่ไปทางเดียวกัน จนนักอ่านถาม ละแถกันไปเรื่อยว่าปกสุดท้าย ตัวร้ายขึ้นปก
>>909 เป็นนักวาดที่แปลกนะฝากบอกมันด้วยละ ทบทวนความคิดตัวเองบ้างเหอะ อีโก้ค้ำคอเหรอ นักวาดดังๆเพื่อนกูที่วาดปกนิยายก็ไม่ถามด้วยซ้ำว่าเรื่องอะไร
บางทีจ้างทีละปกแล้วพอปกถามไปคิวนักวาดเต็มก็ต้องไปจ้างคนอื่น กูเจอประจำ ขอโทษได้ปะละ ทำไมไม่จองคิวไว้ก่อนน555555555 บางคนคงก็ไม่รู้ตัวเองว่าต้องงอกกี่เล่มเขียนไปเรื่อยๆ กูสงสารบางคนจ้างปกเล่ม1แล้วพอเสร็จงานถึงบอกจะจ้างเล่ม2 แต่คิวกูอีกทีปีหน้าละ555
>>910 จริง นักวาดไม่เคยถามนะว่าเรื่องอะไร กี่ภาคยังไง ถ้าคนที่ติดว่ากุจะต้องวาดทุกภาค นี่ม่ะใช่แล้วมะ สิทธิ์ของคนจ้างล้วนๆ เยอะนักก็หาคนวาดอื่น แต่กูยืนยันนะ สามภาค ไม่ควรสามลายเส้น เท่าที่เจอหลายภาค ถ้าต้องเปลี่ยน นักเขียนก็จะพยายามหาลายเส้นที่ดูไปทางเดียวกันอะ
>>912 3500 ไปจนถึง 7500 ในทวิตมีเยอะแยะอะ ส่วนใหญ่เจอจากทวิต นักวาดดังก็จองยากหน่อย แต่ที่ยังไม่ดังมาก แต่งานดีเยอะแยะ กรุ๊ปนักวาดก็ได้ อันนี้มึงสามารถบอกแนวกับงบเลย เค้าจะมาเสนอเอง กุยืนยันนะ นักวาดหาไม่ยาก ที่มันยากคือเส้นที่มึงชอบละเค้าแท่งฮิตในหมู่นักเขียน เปิดรับทีเต็มภายในไม่ถึงนาทีนี่กุก็ซึม จองไม่ทัน
กุไม่ใช่นักวาดนะแต่ถ้ากุเป็นคนวาดเล่ม 2 คงกุมหัวว่าต้องคิดคาร์ใหม่หมดไหมหรือตามเล่ม 1 ไปได้เลย แล้วจะโดนนักอ่านด่าไหม 55
>>916 เล่ม 2 ก็คงโดนบ่นๆ ถ้ามันไม่สวยเท่าเล่มแรก ถ้าเล่มแรกสวยว้าว แล้วคนชอบเยอะ เล่มต่อมาไม่ได้ ก็คงบ่นว่าเสียดาย ไม่เข้ากัน บลาๆๆ แต่ว่านักวาดไม่ต้องคิดสิ คนบรีฟคิด แบบที่จำเป็นต้องเปลี่ยนนี่แอบสงสารนักวาดที่มาแทน กุเคยเห็นแบบที่ไม่ใบ่เล่มต่อ แต่แค่เซตเดียวกัน เปลี่ยนนักวาดยังบ่นเลย ตอนนั้นยังไม่เข้าวงการ555 กุยังบ่นเลย แบบเซตเดียวกันอะ ทำไมวะ ทำไม ตอนนี้รู้แล้ว ระบบการจองงาน นักวาดดังๆ บางทีคอมมิชชันยาวยันปีหน้า 🤣
ยอดอีบุ๊กกลับมาปกติแล้วว่ะ สรุปแม่งเป็นอาถรรพ์ มกราทมิฬ จริงๆ //น้ำตาจิไหล
ขอแวะมาky
อยู่ดีๆเฟสบุ้คก็โชว์กรุ้ปนักเขียนมาให้กูส่อง
ทำไมโชว์รายได้กันเยอะจังวะ ไม่กลัวสรรพกรลงกันเรอะ
อ่อแล้วก็ถึงนขไม่แชร์รายได้ สรรพากรก็มา meb มันหัก ภาษี ณ ที่จ่าย ยังไงก็รู้ ไม่ใช่เหรอวะ มึงน่ะ จ่ายยัง เดี๋ยวเก็บย้อนหลังจะอ้วกเอา
KY ในทวิตประเด็น adult minor ไม่เหมาะสมวนมาอีกแล้ว ก็จะมีพวกมหาลัยกะม.ปลายก็ผิดค่ะ บลา ๆ กุถามจริงว่าถ้าสมมติพระนางกุเขารักกันบริสุทธิ์ไม่ได้จ้องเยดกันตอนนั้นก็ยังผิดอยู่ดีมั้ย กุจะโดนฉอดมั้ยน้อ
ถามนักเขียนที่เคยเขียนมาทั้งเรื่องสั้นแล้วเรื่องยาวหน่อย ระหว่างเขียนเรื่องสั้นได้เดือนล่ะ 1-2 เรื่อง กับเขียนเรื่องยาว 4-5 เดือนขึ้นไป รายได้ของพวกมึงอันไหนดีกว่ากัน แล้วเขียนแนวไหน กูอยากลอกข้อสอบ คืออยากเขียนเรื่องยาวนะ แต่กูเขียนมาหลายเรื่องแล้วแม่งไม่รุ่งสักที ในเว็บก็ยอดดีพอใช้ได้อยู่หรอก แต่อีบุ๊คนี่เงียบกริบเลย แต่กูอยากได้เงินเป็นก้อนหน่อย ติดเหรียญมันได้เป็นก้อนยากถ้าเรื่องมันไม่แมส ลงตอนเดียวคนซื้อหลักพันอะ
คบกันตอนมัธยม คนนึง 17 อีกคน 18 ผ่านมาปีนึงกลายเป็น 18 19 ต้องเลิก ห้ามคบต่อ ไว้ปีหน้าค่อยว่ากัน ยังงี้เหรอวะ 55
โม่งไหนก็ได้ขายสนพ.ดี ๆ ให้กุที กุหน้าใหม่ไร้ประสบการณ์ ส่องรีวิวบน ๆ เห็นบอกสนพ.เล็กดีกว่าสนพ.ใหญ่ ยกตย.มา 2 ที่ D ตื๊ด กะ ดีตื๊ดตื๊ด ที่แรกลองส่องดูละไม่ค่อยชอบปก ที่สองดูดีหน่อยแต่ค่าตอบแทนน้อยกว่า ละที่ที่บรีฟปกได้มันอันไหนวะ เฉลยกูที ต้องการมากเรื่องนี้เรื่องใหญ่ 5555
(เพิ่มนิด ดูทุกที่สนพ.มันให้เงินเราน้อยจังวะ หรือกุแค่โลภมากไปเองฮือ ๆ รู้แหละว่าต้องแบกรีบทุนเยอะ แต่ก็...ทำมือเองจะได้กำไรกว่านี้มั้ยหว่า)
มีเรื่องอยากถามหน่อย พอดีเพื่อนแนะนำนักเขียนคนนึงมาให้แล้วกุว้าวมาก เขาเขียนลงเว็บ RAW นั่นแหละ เขียนเยอะมาก เท่าที่เห็นก็เกินสิบเรื่องแล้วมั้ง เรื่องนึงก็ยาวพอสมควร แนวเรื่องก็เป็นตัวของตัวเองโคตรๆ แต่ที่กุพีคคือเขาไม่ติดเหรียญ ไม่ขายเล่ม ไม่ทำอะไรเลยทั้งที่เขาน่าจะคมช.ภาพมาเยอะ กระแสตอบรับก็น่าจะดีระดับนึงสำหรับแนวโคตรจะนอกกระแส(เป็นแนวอะไรไม่รู้ ขนาดกุอ่านแล้วชอบกุยังระบุแนวไม่ถูกเลย) กุเลยเกิดความสงสัย(อยากเผือก)ขึ้นมา เลยขอมาถามโม่งนักเขียนหน่อย คือด้วยความที่กุไม่ใช่นักเขียน กุเลยสงสัยว่าคนเราจะรักการเขียนมากซะจนเขียนเป็นงานอดิเรกเพียวๆมาเยอะขนาดนี้โดยไม่สร้างรายได้บ้างเลยเหรอ ไม่แม้แต่จะถอนทุนค่าคมช.คืนด้วยซ้ำ ที่กุสงสัยเพราะกุเคยเจอนักเขียนแบบนี้ก็จริง แต่ส่วนใหญ่เขียนเรื่องสั้นระบายไม่ก็แฟนฟิค บางคนไม่ติดเหรียญก็มีเปิดคมช.งานเขียนบ้าง แต่คนที่เขียนเรื่องยาวเยอะขนาดนี้แล้วไม่เปิดคมช.ไม่ทำอะไรเกี่ยวกับการเขียนเลยเนี่ยกุเพิ่งเคยเจอ
>>933 รู้สึกว่ากุพิมพ์งงไปหน่อย ประเด็นมีแค่กุว้าวจนอยากรู้อยากเห็น(อยากเผือก)เฉยๆ แต่อยู่ๆจะทักไปถามนักเขียนก็ดูเสียมารยาท ถามในโม่งก็ดูแปลกๆแหละแต่กุไม่รู้จะไปถามใครดี เห็นในนี้มีนักเขียนอยู่เยอะเลยมาถาม ใครมีแพชชั่นกับงานเขียนมากขนาดนั้นช่วยอธิบายให้กุเข้าใจทีฮรือ
>>935 กูก็แพชชั่นแรง ถ้ารวยเหลือเฟือ ไม่ต้องทำงานทำงานก็อยากทำแบบนั้นแหละ นักอ่านจะได้อ่านฟรี ได้เข้าถึงนิยายกูเยอะ ๆ แต่อยากได้เล่มเก็บไว้กับตัวด้วย ก็อาจพิมพ์มาแจกเล่น คอมมิชภาพก็เอามาดูเล่น เห็นลูกตัวเองมีหน้าตาเป็นตัวเป็นตน ลายเส้นงาม ๆ ก็มีความสุข ทุกอย่างนี้ติดอย่างเดียวคือนอกจากไม่รวยเหลือเฟือแล้วยังจนด้วย สัส
กูขอกลับไปเรื่องคนละลายเส้นนิดนึง กูแพลนว่าปกจะจ้างนักวาดคนนึง ซึ่งหลายหมื่น ส่วนภาพประกอบจะจ้างอีกคนนึงที่กูชอบลายเส้นเค้า แต่อาจจะยังไม่ใช่สำหรับกูทุกจุดและราคาก็เบาลงมา นักอ่านจะติดอะไรมั้ยวะ คือจะให้กูจ้างคนวาดปกวาดภาพประกอบด้วย กูไม่มีปัญญาไง เล่มแรกของกูด้วย อยากให้มีภาพประกอบอะ
ไอดอลมหัศจรรย์มีหีที่แร้ 555
https://imgur.com/7jOzPGr
https://imgur.com/63yeL4F
https://imgur.com/TtHPa0p
>>938 " นักอ่านจะติดอะไรมั้ยวะ" <-- นิยายมึง อยากให้เป็นแบบไหน จ้างคนวาดกี่คนก็ตามใจ นี่คือข้อดีของการทำมือ มึงมีสิทธิ์กำหนดออกแบบเองทุกอย่าง เรื่องยาวกี่แสนคำกี่เล่ม พิสูจน์อักษรกี่รอบหรือไม่ส่งตรวจ ปกวาดปกสำเร็จ กระดาษเคลือบด้านเคลือบเงาใส่กลิตเตอร์ทำบ็อกซ์มีพวงกุญแจยังไงก็ได้
ส่วนตัวกูไม่ทำแบบที่มึงถาม (แยกนักวาดสีภาพปกกับขาวดำภาพแทรก) กูกัดฟันจ้างนักวาดคนเดียวกันแต่ลดจำนวนรูป เพราะเคยเห็นหลายงานที่ภาพขาวดำคุณภาพดร็อปจากปกเยอะมาก ในฐานะที่กูซื้อนะ ยิ่งถ้าฝีมือด้อยกว่ามากและเลือกจังหวะใส่ภาพแทรกไม่ดี (ฉากแอ็กชั่น เสือกเลือกนักวาดที่แอ็กชั่นกะโหลกกะลา เส้นสปีดระดับอนุบาล หรือฉากเดินในเมืองแต่ตึกรามเบี้ยวเปอร์สเปกทีฟ ฉากต่อสู้วาดอาวุธอย่างกับปืนฉีดน้ำ) คือไม่ใส่มาเหอะถ้าอย่างนี้ สงสารคนวาด เลือกมาฆ่ากันชัด ๆ แต่คนวาดอาจไม่คิดอะไรมากก็ได้มั้ง
แต่ก็นิยายมึงเองอ่ะ ชอบแบบไหนก็ลองเลย เอาให้พอใจ
พวกมึง นข ที่ขายอีบุ๊คสองสามเรื่องแล้วปังรายได้ถล่มทลายนี่เขาเปลี่ยนนามปากกาอวตารมารึเปล่าวะ บางคนภาษาสวยมากเหมือนคนมีประสบการณ์มานานหลายปี
เฟล ไม่รู้จะไปบ่นที่ไหน มาระบายในนี้ละกัน กูอึดอัดกับสังคมนักเขียนในทวิตชหเลย แต่กูยังอยากคีพคอนเนคชั่นไว้ ล่าสุดเจอนักเขียนที่มั่นใจว่างานตัวเองเริ่ดสุดแต่ไม่แมสเพราะคนอ่านรสนิยมเข้าไม่ถึง แล้ววิธีพูดเหมือนแขวะเรื่องคุณค่างานกูนิดหน่อยจนกูเฟลมาก หรือบางทีก็วิจารณ์งานคนอื่นแบบไม่ใช่ติเพื่อก่อบ่อยจนกูเห็นแล้วเครียด นี่ขนาดมิ้วแอคนั้นไปแล้วก็ยังหนีความท็อกซิคไม่พ้น เหนื่อย จริงๆ มีอีกเยอะ พวกดราม่ารายวัน เยอะจนกูคนเดียว ระบายไม่ไหว แต่ไงก็ขอบคุณสำหรับที่ระบาย พวกมึงคุยเรื่องเดิมกันต่อไปเลยไม่ต้องสนกู ไปละ
>>946 ไม่แปลกใจเท่าไหร่ สังคมทวิตเตี้ยนมันเหี้ยกว่าเฟสอีก นักฉอดนักแซะเยอะขนาดนั้นผมึงก็ทนอยู่ได้เนอะ555 กุว่าเพื่อสุขภาพจิตที่เีมึงควรเฟดตัวออกจากสังคมนั้นเธอะ คอนเนคชั่นก็สำหรับแต่สุดท้ายความสำคัญคือคุณค่าของตัวมึงนะ ถ้าอยู่แล้วทำให้เหนื่อยใจถูกด้อยค่างานเรื่อยๆ เพื่อแลกกับคอนเนคชั่นคือมันไม่คุ้มนะในระยะยาวงี้ โลกกว้างขนาดนี้แม่งจะมีคนกลุ่มเดียวเองเหรอที่ทำให้มึงหาแดกได้อะ
>>929 แล้วแต่สไตล์นิยายด้วยว่ะถ้านิยายตามกระแส เขียนเป็นเรื่องสั้นยังไงก็ขายได้ แต่ถ้าทำเป็นยาว ๆ เรื่องอาจจะซับซ้อนหน่อย แต่ก็ต้องจับกระแสตลาดอยู่ดีถึงจะได้เงินดี
ส่วนตัวกูเป็นคนเขียนนิยายตามใจตัวเอง ขายได้มบ้าง บางเรื่องขายดีบ้าง บางเรื่องเฉย ๆ ก็มีเงินเขามาหลายหมื่นทุกเดือน กูตั้งไว้ว่าจะมีนิยายออกทุกเดือน เขียนเรื่องสั้น พอมันถึงจุดนิยายมีหลายเล่มแล้ว คราวนี้เวลานักอ่านมาอ่าน เขาจะมากดซื้อเรื่องอื่นแบบรวดเดียวก็มี กูเคยเจอ วันหนึ่งขายได้18เล่ม แต่พอกดดูทุกเรื่องเรื่องละเล่ม
ส่วนเรื่องยาวก็แต่งแบบแต่ง ๆ หยุด ๆ แต่ไม่เอาลงเว็บให้อ่าน เขียนจบก่อนแล้วค่อยให้อ่านทีเดียว
สำหรับคนอื่นเป็นไงไม่รู้นะ แต่กูเป็นค่าขนมลูกได้ ไม่เดือดร้อนเงินประจำ ก็เลยทำแบบนี้ต่อไป
>>938 ทำไปเถอะ คนละคนได้อยู่แล้ว หลายคนก็ทำงี้ แต่กูอยากให้แจ้งตอนเปิดพรีว่ะ ว่าแบบ ปกโดยคนนี้น้า แต่ภาพในเล่มคนนี้วาดนะเออ คนละคน กูเห็นหลายคนชอบไม่บอกอะ แค่บอกว่าด้านในมีรุปประกอบ มันก็ทำคนคาดหวังมะว่าภาพขาวดำข้างในคนเดียวกับนักวาดปก ถึงไม่คาดหวังแต่พอเจอคุณภาพต่างกันโคตรๆ ปกสวยเช้ง แต่ด้านในอนาโตมี่เพี้ยนแบบไม่ต้องมีก็ได้มันก็แอบหมดอารมณ์อะมึง แต่ถ้ามีดีและสวยทั้งสองแบบก็ไม่ขัดนะ
กูเล่นทวิตแต่ช่วงนี้อัลกอริธึมมันเหี้ย ชอบสุ่มนักเขียนมาบนฟีดให้กูตลอด ทั้งที่กูไม่ฟอลใครเลยเพราะไม่อยากเครียดกดดัน แล้วกูก็จะเห็นคนอวดยอดขาย อวยนิยายตัวเองว่าดีเริ่ดกว่าใคร ชั้นบอกให้ทุกคนซื้อบนเว็บแล้วได้เงินเพิ่มขึ้นมั่ก หน้าเดิมๆคนเดิมๆมาตลอด จะบล็อกก็ดูรุนแรงไป โอ่ยย เหลือแค่ลบแอปละ มันกดดันไป55555
>>948 เออสงสัยนิดนึง ปกตินักเขียนนักอ่านที่ฟอลกันอยู่เนี่ยเค้าคุยกันบ่อยมั้ย ในฐานะที่กุเป็นนักอ่านสายเงียบ(แบบคอยซื้อคอยโดเนทตลอด แต่ไม่ค่อยได้หวีดเป็นตัวอักษรมากนัก) ถ้านักเขียนที่ชอบมาฟอลก็จะเลิ่กลั่กนิดนึง คือแบบ ใจนึงก็ดีใจแบบกรี๊ดดดดดในใจว่านักเขียนที่ชอบฟอลกลับแหละ อีกใจก็แบบ เขินๆนิดนึงเวลาจะหวีด กลัวเจ้าตัวเห็น (แบบบางอารมณ์มันจะอยากหวีดแบบไม่ได้หวีดลงแท็กไรงี้ อธิบายไม่ถูก) เลยอยากรู้ว่านักอ่านคนอื่นนอกจากกุเค้ายังไงกันเหรอ5555
จะผิดบอร์ดมั้ยวะ เกี่ยวกับการเขียนเหมือนกันแต่กุเป็นนักอ่าน ขอระบายหน่อย กุตามแอครีวิวในทวิตอยู่พอสมควร แล้วบางแอคทำกุรู้สึกอึดอัด กุไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนกุมั้ย หรือกุก็แค่เซ้นสิทีฟไปเอง คือบางแอคเค้าจะชอบใช้คำแบบว่า "ทุกคนต้องอ่านให้ได้ ห้ามพลาดเด็ดขาด" "บังคับรี(เรื่องที่แอครีวิวอยู่)" หรืออื่นๆที่เว่อร์มากๆ อวยมากๆ หรือเหมารวมว่ามันดีมันสนุกสำหรับทุกคน ยิ่งบางแอคพยายามขายเรื่องเดิมซ้ำๆ ซึ่งกุก็เข้าใจว่าเขาคงชอบมากและก็อยากจะซัพนักเขียนจริงๆ แต่บางทีในฐานะนักอ่านกุก็อึดอัดนิดนึง ไม่รู้เพราะวิธีใช้คำของเขามั้ย เหมือนกุโดนบังคับว่าต้องเข้าไปช่วยรีช่วยอ่าน พอยอดรีน้อยก็มาตัดพ้อว่าตัวเองรีวิวไม่ดีพอจนกุก็รู้สึกผิดอีก ทั้งๆที่เรื่องแบบนี้มันขึ้นกับรสนิยมด้วยอ่ะ บางแอคเค้าก็พยายามพูดดีๆว่าเค้าชอบเรื่องนี้ตรงนี้ๆๆแล้วย้ำว่ารสนิยมคนเราไม่เหมือนกัน ลองเข้าไปชิมดูได้ แบบนี้กุสบายใจที่จะตามอ่านนะ แต่แอคที่พูดเป็นแนวๆบังคับหรืออวยเกินเหตุนี่บางทีกุก็พลอยรู้สึกแย่กับงานที่เขารีวิวไปด้วย ทั้งที่นักเขียนไม่ผิดเลยอ่ะ
โทษทีบ่นยาวไปหน่อย จริงๆกุ mute แอครีวิวที่ทำให้กุรู้สึกไม่สบายใจไปแล้วแหละ แต่ก็เสียดายเพราะงานที่เขารีวิวมันโดนใจกุหลายเรื่องอยู่ กุแค่รู้สึกอีดอัดกับวิธีใช้คำพูดของเจ้าของแอครีวิวเท่านั้นเอง
>>954 มึงไม่ได้ซีเรียสเกินไป กูก็อึดอัด เหมือนโดนกดดันทั้งที่มันก็ไม่มาบังคับกูได้อ่ะนะ
พอๆ กับทอล์คท้ายตอน บางทีกูเจอนักเขียนชอบบิลด์จัง อย่างตอนไหนมีมือที่สามโผล่มาก็ว่า พวกเธอต้องเลือกเดี๋ยวนี้ จะอยู่ข้างใคร (พระเอกหรือพระรอง) / ทีมไหน แสดงตัว / รีบเกียมไม้มะยมเอาไว้ตีขานางเอก
ซีนไหนนางเอกโดนเข้าใจผิดก็จะแบบ โอ๋ลูก วงวาร ชั้นไม่ยกให้พระเอกแล้ว / รีบพาลูกสาวหนี
อะไรทำนองนี้ กูก็เข้าใจว่านักเขียนอยากบิลด์เพื่อเรียกเมนต์นะ แต่บางอย่างมันน่าจะมาจากนักอ่านเองมากกว่า เป็นคนเขียนให้นางเอกโดนเองแล้วมาอินเอง มันแปลกสำหรับกู ทีนี้กูจะเมนต์จุดอื่นที่ไม่เกี่ยวกับทอล์ค กูเลยเกรงๆนิดนึงว่าขวานผ่าซากจังวะเรา
เออ พวกมึงเรียกสรรพนามของบล็อกว่าอะไรวะ เขียนๆอยู่แล้วชะงัก กลายเป็นคาใจ ไปต่อไม่ถูกเลย กูใช้คำว่าแห่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าได้มั้ย 555
แบบกูจะเขียนว่าเอรู้จักกับบีผ่านบล็อกแห่งหนึ่งอะไรงี้
ky ตอนนี้ติดนิยายกำลังภายในจัดๆ อยากเขียนบรรยายแอคชั่นแต่คิดพล็อตไม่ออกเลยไปตั้งรับคอมมิชฟิกกำลังภายในหาค่าหนมไปด้วยหาคนคิดพล็อตให้ด้วย ได้คนติดต่อมาจะเอาแนวเย้กำลังภายในเป็นน้ำจิ้ม จะรับดีมั้ย นึกไม่ออกว่าจะเย้พ่นแรงวัตต์ยังไงเลย ทำใจจิตใจจัดๆ T_T
>>962 กุล่ะหนึ่งที่อยากหวีดมาก แบบที่มึงยกตย.เนี่ย เพราะอะไร เพราะเขียนเองกูก็อินเอง อยู่ในหัวกูมานานก็อยากหวีดในที่สาธารณะบ้าง ไม่ได้จะบิ้วใคร สรุปเจอมาว่านักอ่านอาจจะไม่ชอบ เลยพับค.คิดเก็บไว้หวีดเองในใจต่อ เศร้าแต่ก็ต้องทน กลัวโดนเขาเหม็น 555 แต่ถ้าเจอนข.เม้นเองแบบนี้กุยิ่งชอบนะ อาจจะรีเลทกะตัวเอง 555 ดูเขาอินกับลูกตัวเองดี
>>967 มึงทำไปเถอะ งานเขียนของมึงเองอ่ะ ถ้ามึงรู้สึกอินก็แปลว่ามึงเขียนได้ดี วิธีหวีดแบบนี้คนชอบ/ไม่ชอบมันมีอยู่แล้ว
กูแชร์เพราะนึกได้ว่ามันคล้ายความรู้สึกเวลาเจอขายของ/รีวิวแบบเร่งให้ไปซื้อ สรุปอีกทีมึงมีสิทธิ์ว่าจะทอล์คแบบไหน ถ้าอดทนแล้วมันเศร้าก็ปล่อยๆออกมาบ้าง กูว่าคนชอบก็ไม่น้อยนะบิลด์สไตล์นี้
มึง ทำไงดี กุพึ่งแต่งเรื่องแรกจบลงขายไปได้สองเดือนกว่าแต่กุยังมูฟออนจากมันไม่ได้เลย ตอนอัพไฟล์แก้คำผิดก็รีไรต์เพิ่มไปเป็นพันๆ คำ อัพไฟล์ใหม่สองรอบละ พอนึกตอนนี้ยังมีจุดที่อยากแก้อีก อยากเขียนตอนพิเศษเพิ่ม ละไม่ใช่ว่ากุไม่มีเรื่องอื่นรอคิวนะ กุเปิดเรื่องใหม่ไว้สามสี่เรื่องแต่แต่งๆ ไปก็ยังวนไปคิดถึงเรื่องแรกอยุ่อ่ะ ไม่รุ้ว่ากุรักมากหรือแค่เป็นพวกทำงานไม่จบ มีวิธีมูฟออนป่ะ
>>970 ทุ่มเทกับเรื่องใหม่ให้มากๆ ใช้เวลากับมันเยอะๆ อย่าไปยุ่งกับเรื่องเก่า แต่ถถ้ามันค้างคาในในจริงแบบยังไม่มีตอนพิเศษไรวี้ก็ไปแต่งให้จบแล้วบอกตัวเองว่าพอ มันจบไปแล้ว เริ่มใหม่กับเรื่องใหม่!
ตอนกูแต่งเรื่องแรกจบก็มูฟออยไม่ได้เซม ต้องไปเปิดไฟล์อ่านเรื่อยๆ (เห่อแหละ) แก้คำผิดตลอด ตัดคำเติมคำ ขนาดแต่งเรื่องใหม่ยังเขียนชื่อพระนางจากเรื่องเก่าเลย แต่ต้องมูฟว่ะ คิดเรื่องใหม่ใช้เวลากับมันเยอะๆแล้วจะมูฟออนได้เอง มันผูกพันแหละ แต่งมานาน พิมเวิร์ดเรื่องนี้เป็นเดือนๆอะเนาะ สู้ๆ น้ามึง รีบเข็นเล่มใหม่ออกมาเร้ววว
Ky พวกนิยายผู้ใหญ่ตาม meb พิมพ์อวัยวะเพศหยาบๆตรงๆในเรื่องเลยได้มั้ย พวก kuy he เงี้ย กูแต่ง pwp ติดเหรียญตามเน็ตแล้วอยากเอามารวมๆ กันไปขาย ถ้าลงไม่ได้จะได้บิดแก้สำนวน
ยอดอีบุ๊ควันแรกเยอะสุดชะปะ เห็นวันหลังๆ หัวทิ่มดิน
ของกุวันแรกยังไม่สู้วันสุดท้ายที่หมดโปรว่ะ พุ่งมาก ส่วนที่เหลือก็นะ ตามนั้น 555
อีกอย่างที่กูอยากถามโม่งทุกคน คือ ทำไงให้ไม่รู้สึกว่าแต่งเพื่อเงินจนเกินไปวะ คือ กูก็มีงานประจำอยู่แล้ว แต่ยังชอบหน้าเงิน ชอบนึกถึงว่าอยากได้เงินแล้วพอแต่งๆ อยู่เลยทำให้ไม่ใจเย็นกับมัน อยากรีบจบๆ รีบขาย ซึ่งก็ทำให้กูไม่พอใจงานตัวเองเท่าที่ควร
อยากเขียนนิยายบ้างแต่กว่าจะจัดการงานเสร็จก็ไม่มีแรงเหลือแล้ว ขอคำแนะนำหน่อยเพื่อนโม่ง
อยู่กะสนพ. อีบุ๊คให้เรา 50% โม่งว่าน้อยไปปะ หรือเรทนี้แหละ ปกติ เห็นบางที่ก็ได้ 70 น่ะ กุเลยสงสัยว่าเรทไหนคือปกติวะ 555555
มีใครขาย e-book แล้วยอดดีสวนทางกับในเว็บไหม ของกูยอดในเว็บ(ค่อนข้าง)ดีสวนทางกับ e-book ที่ดิ่งลงเหว เครียด
ในโม่งมีใครหน้าใหม่ละปังตั้งแต่เรื่องแรกบ้างมั้ย คือกุไม่ได้กะเปรี้ยงปร้างหรอก แต่อยากได้ป้ายแดงก็ยังดีน่ะ
กูคิด turning point ของตัวเอกไม่ออก เพื่อนโม่งมีวิธีมั้ย มันเป็นจุดเล็กๆ ที่จะต่อเหตุการณ์ถัดไปอ่ะ
>>989 ถามว่าปังมั้ยมันก็ปังอ่ะนะ กับเรื่องแรกที่ได้ตีพิมพ์สนพ. ได้ top of the year ได้รับการกล่าวถึงอยู่ตลอด แต่จริงๆ กูว่าของพวกนี้ไม่จีรังอ่ะมึง ปังเรื่องแรก เรื่องถัดไปก็อาจจะไม่ปัง แต่เรื่องแรกไม่ปัง เรื่องต่อไปปังขึ้นเรื่อยๆ ก็ถมเถ กูว่าเรื่องแรกปังไม่ปังมันไม่ได้กำหนดอะไรหรอก อย่าไปอะไรกับมันเลย 55
จากใจคนที่ปังเรื่องแรกและเงียบลงเรื่องสอง ทีแรกมันก็ดีแต่โดนเปรียบเทียบงานแรกให้ช้ำใจพักใหญ่เลย ออกงานสามปังกว่าเรื่องแรก ก็ยังมีคตพูดฃว่าทำไมไม่ทำงานเก่าดีกว่านี้แต่แรก มาเหมือนชมแต้หลอกด่าเฉย สรุปแม่งขึ้นอยู่กับเรื่องที่เขียนว่ะ ว่ามันโดนใจตลาดตอนนั้นมากน้อยแค่ไหน
โอเคมั้ยวะที่กูไม่ถนัดเขียนนิยายเรื่องยาวๆ กูถนัดเขียนแต่เรื่องสั้นๆว่ะ แต่ด้วยความที่พอมองไปทางไหนก็เจอแต่คนเขียนนิยายก็แบบแอบเฟล คิดแบบว่านิยายคิอห่วงโซ่สูงสุดของวงการเขียนไปเลย ใครทำได้คือเก่งที่สุดอะไรงี้ พยายามเปลี่ยนความคิดว่าแต่ละคนก็ถนัดต่างกันไป แต่ก็อดกลับมาคิดแบบเดิมเป็นระยะไม่ไหว
>>994 กูงงคำถาม พยายามแตกย่อยตามนี้
1.มึงอยากเขียนสั้น <<< เขียนเลย คนชอบอ่านสั้นก็มี นิยายยาวหลักสิบเล่มคนไทยไม่นิยมซื้อถ้าไม่ใช่เรื่องแปล
2.มึงเฟลที่นักเขียนเรื่องยาวได้แสง <<< หยุดคิดหยุดเฟล
3.พยายามเปลี่ยนความคิดว่าแต่ละคนก็ถนัดต่างกันไป <<< ทำถูกแล้ว
4.แต่ก็อดกลับมาคิดแบบเดิมเป็นระยะไม่ไหว <<< อย่าหาว่ากูประชด กูเจอเคสแบบนี้จริง โซลูชั่นที่ช่วยได้มาก หนึ่ง.ถ้าการเขียนเรื่องสั้น/นิยายสั้นทำร้ายจิตใจมึงมากเกินไป มึงยังเขียนทำไมวะ สอง.มึงมองไปทางไหนเจอแต่คนเขียนนิยาย(ยาว) แสดงว่ามึงหยุดการเข้าโซเชียลของมึงไม่ได้และมึงกำลังได้รับท็อกซิคจากมันโดยไม่รู้ตัว หรือรู้ตัวมึงก็ยังไถเข้าไปเห็นเค้าได้แสง มึงฟังกูอีกที มึงเชื่อกูนะ มึงลองปิดมือถือ ปิดไปเลยให้ได้ 24. ชั่วโมง แรกๆมึงจะกระวนกระวาย ให้มึงเอาเวลาไปทำอย่างอื่น กูขอพิมพ์เท่านี้ก่อน เผื่อว่ามึงคิดว่าไม่ได้นึกอยากทำ กูจะได้ไม่เหนื่อยฟรี
อีกนิดนึง ตอนแรกกูก็เขียนเรื่องสั้นแบบสบายใจแหละ แต่พอเปลี่ยนมาพักไถทวิตก็เจอคนนั้นคนนี้แต่งเรื่องยาวหลายตอนจบ แล้วก็แบบเฟลเลย 55
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.