เรื่องไลท์โนเวลเนี่ยกูสรุปให้เลย
มันเริ่มมาจากความกากของวงการนิยายญี่ปุ่น เพราะประเทศห่าเนี่ยแม่งนิยมแต่นิยายผ่านมือถือ(คนญี่ปุ่นพิมพ์ในมือถือเร็วมาก) เพราะฉะนั้นไอ้นิยายที่โผล่ๆ ดังๆ มาได้เนี่ย แม่งก็ไม่ใช่นิยายเลิศเลออะไรนักหรอก ทุกอย่างถูกรวบรัดให้ย่อยง่าย การดำเนินเรื่องมักเป็นบุคคลที่ 1 เพื่อให้ผู้อ่านเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้ง่ายมากขึ้นไปอีก กลายเป็นว่าทั้งเรื่องมีแต่ความคิดของตัวเอก กับบทสนทนา และแน่นอนว่านิยายประเภทนี้ส่วนใหญ่ไม่ยาวมาก สนพ. ก็คิดสิครับว่าถ้าแม่งพิมพ์รวดเดียวก็ไม่คุ้มสิวะ ซอยเล่มหาแดกดีกว่า (และมีหลายเรื่องที่ยังแต่งไม่จบ ประมาณนิยายติดท็อปเด็กดีล่ะ แต่งไม่จบก็เอามาขายก่อน แฟนคลับเยอะ ซอยเล่มขายกันยาวๆ) ยิ่งประกอบกับวัฒนธรรมอนิเมะของมันด้วย นิยายก็จะกลายมาเป็นแนวๆ กึ่งการ์ตูน (คำว่าการ์ตูนญี่ปุ่นนี่พูดกันโคตรยาวอีก เพราะแม่งมีหลายแนวเหลือเกิน แนวแฟนตาซี รักในโรงเรียน ฯลฯ) เอาเป็นว่านิยายพวกนี้แม่งคือการ์ตูนที่ไม่ค่อยมีภาพก็แล้วกัน
ก็ประมาณนี้ล่ะ สรุปว่าไลท์โนเวลก็คือการ์ตูนที่ไม่ค่อยมีภาพ แต่เอาตัวหนังสือมาใส่แทน และซอยเล่มเล็กๆ ขายตามการตลาดของสำนักพิมพ์ พวกคิโม่ยที่คลั่งไคล้วัฒนธรรมญี่ปุ่นก็จะออกมาอวยกันนักหนาว่านี่คือนิยายเหมือนกัน แต่จริงๆ มันไม่ใช่ไง ไอ้ห่า มึงจะเอาเศษกระดาษที่เขียนว่า "อ๊ะ" "โอ๊ย" "อะไรกันเนี่ย" "มะ- ไม่ได้ตั้งใจนะ" มาเปรียบเทียบกับนิยายดีๆ ได้ไงวะ
ส่วนไอ้คำว่า "เรื่องที่คุณคิดว่าเป็นไลท์โนเวล มันก็คือไลท์โนเวล แต่ไม่จำเป็นว่าทุกคนจะต้องเห็นด้วยเสมอไป" มันเสร่อว่ะ เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าอะไรคือไลท์โนเวล อะไรไม่ใช่ มึงเอาแฮร์รี่ พอตเตอร์มาซอยเล่มทำเป็นไลท์โนเวลได้เหรอ LOTR ล่ะ ไอ้ไลท์โนเวลกากๆของมึงมันมีปัญญาเขียนบทบรรยายจริงจังได้อย่างเขาไหม แล้วไม่ต้องกระแดะหาตัวอย่าง 1 ใน 1000 มาให้กูดูนะ กูพูดถึงภาพรวมของเรื่องโว้ย