แม่กูชอบด้อยค่าทุกสิ่งทุกอย่างที่กูทำแล้วแกไม่เห็นด้วยตลอด ตั้งแต่เลือกทางเดินชีวิต แนวคิด ไลฟสไตล์ ยันเรื่องอย่างเลี้ยงแมว
คือกูเป็นคนเลี้ยงกูก็ต้องประเมินแล้วมั้ยว่าไหวแค่ไหน ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เวลา และอื่นๆ เอาจริงนะนี่เป็นแมวตัวแรก ซึ่งกูก็มีความหวาดกลัวลึกๆอยู่แล้ว แม่แม่งก็มาพูดแบบว่ากูทำไมไม่ปรึกษาก่อน เลี้ยงไม่รอดแน่ ชีวิตมีปัญหา มีแต่ภาระ บลาๆ จนกูรู้สึกแบบทำไรก็ผิดไปหมดและคงไม่สำเร็จ ทำให้ยิ่งไม่มั่นใจเข้าไปอีก
คือกูอายุ 30 แล้วนะไอ้เหี้ย กูยังต้องมาขอแม่เลี้ยงแมวหรอวะ ทั้งๆที่กูไม่เคยสร้างปัญหาเลยซักครั้ง ตั้งแต่เรียนจบมาเงินก็ไม่ได้ขอ แถมกูให้เวินเค้าด้วย กูจัดสรรชีวิตตัวเองดีไม่เคยเดือดร้อนใคร แมวนี่กูก็เลี้ยงกูเอง เงินกูเอง บ้านกูเอง ไม่ได้เกี่ยวไรกะเค้าเลย แล้วคือไรมาตัดสินว่ากูต้องไม่ไหวแน่ๆ
แล้วมาบอกว่าต้องรอให้พร้อมก่อน กูถามจริงมันมีวันที่พร้อมจริงๆด้วยหรอวะ วันนี้พร้อม แต่อนาคตจะยังพร้อมอยู่มั้ย ทุกวันนี้กูไม่ได้อดมื้อกินมื้อ ไม่ได้มีลูกมีผัว ภาระก็มีแค่ผ่อนบ้าน แล้วต้องรอเมื่อไหร่ถึงจะพร้อม รอยันตายก็ไม่มีวันที่พร้อมหรอกสัส กูถามจริงเวลาจะมีลูกต้องโทรไปขอพ่อแม่ด้วยมั้ยว่ามีลูกได้เปล่า ทั้งๆที่ผู้ใหญ่ต้องประเมิณชีวิตตัวเองได้ป่ะวะ แล้วอะไรคือแม่ยังมาประเมินชีวิตกูอยู่ได้ เพื่อนกูมีลูกมีผัวกันหมดแล้ว กูแค่แมวตัวเดียวมันจะอะไรนักหนา ชีวิตกูไอ้เหี้ย จะมาควบคุมอยู่ได้ พอแบ้งก็หาว่าไม่ยอมฟัง เป็นผู้ใหญ่รู้ดีกว่าคือควยไร ไม่ให้สิทธิกูตัดสินใจอะไรเลย จะต้องเสือกมาตัดสินใจให้ทุกเรื่อง กูย้ำนะว่ากูจะ 30 แล้ว ไม่ใช่เด็ก และมีวิจารณญาณพอ ไม่ได้เลี้ยงแมวเพราะอารมณ์ชั่ววูบ กูวางแผนเรื่องนี้มาเป็นปี เหี้ยสัส
เพราะแม่เป็นงี้แหละกูถึงเป็นคนขาดความมั่นใจในทุกๆเรื่อง กูแทบไม่กล้าตัดสินใจอะไร เพราะกลัวผิดพลาด เพราะกูถูกทำให้มีไมน์เซ็ทว่ากูต้องผิดพลาด ทั้งๆที่ชีวิตมาถึงทุกวันนี้ได้กูก็พยายามมาเอง แล้วมันก็ไม่ได้เหี้ยเลย แต่แม่มักจะเคลมความสำเร็จของกูไปหมดว่าเป็นเพราะเค้า แม่งเหี้ยมาก กูไม่ทนหรอกนะ