กูเป็นคนนึงที่ไม่อินกับเรื่องความรัก
กูไม่เข้าใจว่าทำไมคนๆนึงต้องโหยหาคนๆนึงอย่างเอาเป็นเอาตายด้วย ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่จะเป็นอะไรกันมันก็อยู่กันได้ไม่ใช่เหรอ?
ยิ่งสมัยนี้มันไม่เหมือนสมัยก่อนแล้วที่ต้องมีช้างเท้าหน้าหรือช้างเท้าหลัง มันดูไม่จำเป็นที่จะต้องยึดติดขนาดนั้น
การเป็นแฟนกันมันไม่เหนื่อยเหรอที่จะต้องมารายงานว่าอยู่ไหน กับใคร ทำอะไร จะกลับกี่โมงแบบนั้น หรือต้องเสียสละวันหยุดเพื่ออยู่กับคนๆนึง ทั้งที่น่าจะเอาเวลาเหล่านั้นพักผ่อนที่เหนื่อยกับงานกับการเรียนมา 5-6 วันแล้ว
ทำไมต้องหวาดระแวงว่าอีกคนหนึ่งจะมีใครซ่อนไว้ ทั้งๆที่บางคนก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น
กูรู้สึกว่ามันดูเหนื่อยๆ
ทำไมต้องแต่งงานและมีลูกเพื่อที่จะบอกว่านั่นคือชีวิตที่สมบูรณ์แบบ จะให้ลูกเลี้ยงตอนแก่เหรอ ถ้าลูกตายก่อนล่ะ? มันจะไม่ต่างกับต้องอยู่คนเดียวหรือยังไง
สำหรับกูน่ะตอนมีแฟนมันไม่ได้รู้สึกสนุกเลยสักนิด มันเหมือนมีอะไรต้องแบกไว้ เขาก็เป็นคนดีนะ แต่จะให้จับมือตลอดเวลาเนี่ยมันก็ไม่ใช่ แต่พอเลิกกันแล้วกูกลับโล่งขึ้น นับจากนั้นกูก็ไม่ขวยขวายกับมันอีก
จนกูชักแน่ใจแล้วว่าถ้ากูตายไปคงตายอย่างลำพังกับกองดีวีดีและกองหนังสือโดยมีแมวเพ่นพ่านรอบศพกูแน่ๆ พอส่งกลิ่นเหม็นพวกคนแถวนั้นก็จะรู้เอง และกูก็ไปสมัครบริจากร่างกายแล้ว
แต่กูไม่ได้เหงานะ กูแค่รู้สึกไม่เข้าใจคนอีกประเภทที่ตรงข้ามกับกูเท่านั้นเอง
โอเค แค่นี้แหละ ขอบคุณที่ผ่านมาอ่าน