Last posted
Total of 1000 posts
เพื่อนโม่งคือล่าสุดกูพึ่งสมัครutccเอกยุ่นไปแล้วกูเข้ามาอ่านเห็นข้างบนๆเล่าละกูรู้สึกเหี้ยมากควรถอยออกมารอซิ่วปีหน้าไหมวะ
อีช่อ ล้มเจ้า !! อีช่อ ล้มเจ้า !! อีช่อ ล้มเจ้า !! อีช่อ ล้มเจ้า !! อีช่อ ล้มเจ้า !!
พรรคอนาคตใหม่ ล้มเจ้า !! พรรคอนาคตใหม่ ล้มเจ้า !! พรรคอนาคตใหม่ ล้มเจ้า !!
คนเลือกพรรคอนาคตใหม่ คือพวกล้มเจ้า !! คนเลือกพรรคอนาคตใหม่ คือพวกล้มเจ้า !!
เพิ่งม.4แต่ตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะเรียนต่อสายไหน
คือกูอยากต่อสายโบราณคดีของม.ศิลปากรว่ะ
แม่งเป็นสายที่อยากเรียนตั้งแต่เด็กละอะ แถมมีที่เดียวในไทยด้วย ไม่รู้ว่ารุ่นกูจะเปลี่ยนระบบสอบมั้ยอีก กูก็เลยสงสัยว่าถ้าจะไปต่อแนวนี้เนี่ยรอบพอร์ทต้องเน้นเก็บอะไรวะ แบบเกียรติบัตรไปจอยค่าย งานสัมนา (แข่งขันนี่มีอะไรบ้างวะ555555) นิทรรศการพิพิธภัณฑ์อะไรงี้อ่อ? หาดูตย.ของรุ่นก่อนๆก็แบบคิดในใจว่าเค้าเทพสัส หรือกูควรปลงใจแล้วหวังกับรอบอื่นแทน เหล่าพี่ๆโม่งช่วยชี้ทางข้าน้อยด้วย (((ร่ำไห้))) หรือมีสายประวัติศาสตร์ของม.ไหนแนะนำก็ช่วยบอกกูที ;_____;
>>695 มึงอยากเข้าสาขาไหนของโบราณอะ สายภาษาหรือสายโบราณไปเลย ถ้าสายภาษาก็เรียนภาษา แต่ไม่เหมือนอักษรนะ จะเรียนแนวเอาไปใช้มากกว่า ถ้าอักษรจะเรียนวรรณคดี วรรณกรรมซะเยอะ
เอาจริง ๆ นะ เอาจริง ๆ นะมึง
อย่าหวังรอบพอร์ตมาก เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรก็แข่งขันรอบนี้กันมากอยู่แล้ว กูยื่นเข้าอักษรของที่นี่ตอนปีบุพเพสันนิวาสอะ แล้วคนยื่นโบราณเยอะมาก อัตตราการแข่งขันสูงเหี้ย ๆ ไปรอบแอดอะไรแบบนี้ดีกว่าอะมึง เพราะมันมีที่เดียวในไทย คนเลยแข่งขันกันเยอะโดยเฉพาะรอบพอร์ต
>>696 กูว่ามันหมายถึงสายโบราณ เอกโบราณไรงี้มากกว่านะ..
กูเห็นด้วยว่าไปรอบรับตรงรอบแอดเหอะ ขนาดปีนี้รอบแอดคะแนนขึ้นแทบทุกเอก กูยังว่าไม่ได้ติดยากไรขนาดนั้นอยู่ดีขนาดแกทเฟ้อรับน้อยแล้วยังประมาณ 22k เอง ฟิตๆ เรียนในห้องหน่อยตั้งแต่ม.4 ก็สบายละ แต่ถ้าอยากเก็บพอร์ตจริงๆ กูก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ใช่สายพอร์ต 555 ส่วนตัวกูว่ามศก.ค่อนข้างติดง่ายอยู่นะ ไม่ใช่ม.ที่คะแนนเว่อร์วังอะไรขนาดนั้น แต่สายประวัติศาสตร์กับสายโบราณเท่าที่กูเข้าใจมันต่างกันอยู่นะ มศก.เอกประวัติอยู่ในอักษร แต่เอกโบราณอยู่คณะโบราณ เรียนคนละแบบกันนะ ดูดีๆ ว่ามึงชอบแบบไหน ถ้าสายประวัติก็แนะนำพวกจุฬา มธ. เลย 555555
>>697 เออ สายโบราณน่าจะมารอบแอดมากกว่า ศิลปากรติดไม่ยากหรอก แต่เรียนยาก เรียน ๆ ไปซิ่วออกก็เยอะ มีทุกคณะคนซิ่วเนี่ย โดยเฉพาะอักษร ซิ่วเข้าซิ่วออก ถ้าคิดว่าจะเรียนไม่ไหว ก็ไปมออื่นจะดีกว่า ติดง่ายไม่ได้แปลว่าจะเรียนไหว กูไม่ได้ขู่นะ แต่มันเป็นแบบนี้จริง ๆ คณะกู แค่ปีหนึ่งเทอมแรกซิ่วไปเกือบร้อยคนอะ >>695
>>697 ต่อ ๆ กู 696 นะ อยู่อักษร สายประวัติศาสตร์ของอักษรยากมาก ยากชิบหาย แค่ตัว intro ตัวพื้นฐานก็ยากแล้ว ข้อสอบยากยังไม่พอ อาจารย์อาจจะสอนไม่ค่อยรู้เรื่อง ส่วนของโบราณคดีคือมึงต้องแม่นมาก ประหนึ่งต้มชีทแดก เพราะข้อสอบเขียนล้วน ๆ ให้คะแนนทีละจุด ๆ เหมือนต้องอ่านหนังสือมาจนจำได้ทุกวรรค ถึงจะเขียนตอบได้แล้วได้คะแนนเต็ม เป็นแบบนั้นเลย เน้นความจำมาก
>>691 กูคือ >>17 ที่รีวิวนะ อันนี้กูเรียนหลักสูตรใบที่สอง แต่วิชาการเรียนการสอนมันก็เหมือนหลักสูตรปกติ เพียงแค่เค้ายกเว้นวิชาทั่วไปเท่านั้นน่ะ คือถ้ามึงเจออาจารย์ดีก็อาจจะโชคดีก็ได้ แต่กูดันเจออาจารย์ที่กูรู้สึกว่า กูเข้ากับเค้าไม่ได้น่ะ แล้วจารย์ที่สอนกูก็ค่อนข้างเวิ่นเว้อ สอนจากที่เข้าใจกลายเป็นทำให้ไม่เข้าใจได้ พยายามอธิบายจนคนเรียนงง แถมไม่สามารถรักษาเวลาได้ เหมือนแกเวิ่นเว้อเยอะมาก พอใกล้ๆจะจบเทอมสอนไม่ทัน แกก็จะอัดสอนจนเหมือนไม่ได้สอน แค่พูดลอยๆ ผ่านๆ ข้ามไป บางหัวข้อก็ข้ามแบบไม่สอนเลย เหมือนแกลืมไปด้วยซ้ำว่ายังไม่ได้สอน จนต้องมีคนท้วงเรื่อยๆว่า หัวข้อนั้น นี้ยังไม่ได้สอนนะ
พวกตัวคันจิ ให้มาแต่ตัวนะว่ามีตัวอะไรบ้างของเทอม แต่วิธีการเขียนแกให้ไปหาเอาเอง ไม่เคยสอนวิธีเขียน ไม่ได้เน้นเลยเวลาเรียน แต่ออกสอบรัวๆ แถมในข้อสอบดันมีคันจิตัวที่แกไม่ได้สอนมาออกสอบ ถ้าไม่รู้ความหมายก็ทำข้อสอบข้อนั้นไม่ได้ไปเลยน่ะ กูแบบ งี้ก็ได้เหรอวะ
ส่วนวิชาที่ไม่ใช่พวกไวยกรณ์ พวกวิชาเลือก คือเรียนเหมือนไม่ได้เรียน จารย์แกแค่มานั่งอ่านหนังสือที่แกสอนให้ฟังในห้องเท่านั้น มานั่งเรียนเหมือนไม่ได้มาเรียนเลย แค่ซื้อหนังสือมาอ่านเองก็ได้นาจาแบบนี้
บางทีกูก็รู้สึกเสียดายเงินนะ แต่นอกจากเรียนเพื่อความรู้แล้ว กูต้องการวุฒิด้วยน่ะ เลยต้องทนเรียนต่อไปให้จบ
>>698 แย้งหน่อย ม.ไหนก็เรียนยากทั้งนั้นแหละมึง เท่าที่มึงเล่าจะม.ไหนก็เป็นแบบนั้นทั้งนั้นสายประวัติอ่ะ ยกเว้นม.อื่นของมึงจะหมายถึงม.เกรดล่างๆ ลงมา จะม.ไหนมันก็มีเด็กซิ่วออกทั้งนั้นแหละ อย่าเอาการซิ่วมาวัดว่ามันโหดเลย เพราะเพื่อนกูหลายคนติดอักษรมศก.ปีแรกเพราะคะแนนปีนั้นไม่ดีละปีต่อไปก็ซิ่วไปม.ที่อยากได้กัน 55555 หลักสูตรมันอ่ะคงดีจริง กูไม่รู้ ไม่ได้เรียน แต่ถ้ามึงจะเอาไอ้การเรียนหนักคนซิ่วออกเยอะมาบอกให้ไปม.อื่นดีกว่า กูว่าม.ไหนก็เป็นละล่ะ
reference letter เข้ามหาลัยนี่จำเป็นแค่ไหน เห็นบอกกรณีกำลังศึกษาอยู่ ถ้าจบแล้วต้องใช้อยู่ไหม
อยากคุยภาษาอังกฤษกับฝรั่ง ไม่เอาแบบแชท ควรไปหาจากไหนอะ
เราฟัง อ่าน เขียน ได้ในระดับดี คะแนนโทอิคเลยค่อนข้างสูง อยากจะเอาไปสมัครงาน แต่เพราะพูดไม่คล่อง เลยจะโดนปัดตกตอนสัมภาษณ์นี่แหละ
ไม่เคยมีบทสนทนาจริงๆจังๆกับฝรั่งเลย เคยแต่แบบถามคำตอบคำ อยากให้มันเป็นธรรมชาติมากกว่านี้อะ ถ้าให้พิมพ์โต้ตอบ ก็จะทำได้ดี แต่พอเป็นการพูดแล้วยังต้องฝึกอีกเยอะมาก อยากหาที่ฝึกภาษาอะ เสียตังค์ก็ได้ มีคำแนะนำบ้างไหม
กูขอคำปรึกษาหน่อย
ที่บ้านกูอยากให้เรียนต่อโท ตัวกูก็เคยคิดอยากเรียน แต่พอนึกถึงเวลาที่ต้องวิจัย/ธีสิท กูจะรู้สึกว่ามันยาก และกูไม่รู้ว่าตัวเองจะทำหัวข้อเรื่องอะไร เวลาจะสมัครเรียนโท ก็ชอบให้เขียน proposal ซึ่งกูก็ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรลงไปดีตลอดน่ะ กูจบตรีมาเกือบสิบปีแล้ว แต่เพราะติดเรื่องยิบย่อยพวกนี้เลยยังไม่ได้เรียนโทซักที
กูเบื่อคณะที่เรียนว่ะ
กูเครียดจังใครกู้กรอกยศแนะทางทีดิ
กูมีพ่อแม่ยังไม่ตายแต่เขาคงไม่ยอมให้กูกู้เรียน
กูอายุ20ทำงานพอมีค่าเทอมไว้1เทอมแต่ที่กูจะกู้เป็นเพราะกูกลัวหาไม่ทันจ่าย
กูไม่มีคนค้ำที่เป็นข้าราขการด้วยครูที่จบมาอะไรก็ไม่สนิท
เซ็งกูมีปัญญาจ่ายใช้หนี้คืนกูจะเอาแค่ค่าเทอมไม่เอาค่าครองชีพแต่ไม่มีคนช่วยเครียดอ่ะ
กูควรกูอะไรดี กรอ หรือ กยศ
ต้องมีเอกสารอะไรบ้างกูไปอ่านละงงๆ ต้องมีภาพบ้านภาพพ่อแม่ด้วยหรอกลัวไม่ผ่านอ่ะ ช่วยทีนะ
>>708 แล้วทำไมมึงไม่หางานทำส่งเสียตัวเองเรียนไปเลยวะ? อยู่โคราชนี่หางานยากขนาดนั้นเลยอ่อ? อันนี้สงสัยตรงที่พ่อแม่มึงอ่ะ เค้าไม่ส่งเสียเรื่องเรียนแต่อย่างน้อยๆเค้าส่งเสียพวกค่ากินอยู่บ้างไหม? อ่อ เป็นไปได้นะ มึงควรกลับไปรักษาโรคซึมเศร้าให้หายก่อนเถอะ โรคทางจิตหายไปอย่างน้อยๆมึงจะไม่ดาวน์กับเรื่องเรียนและสังคมมหาลัย
กรอ. --> ไม่เอาคนค้ำ ไม่ต้องหาข้าราชการรองรับ แต่ต้องมีลายเซ็นผู้ปกครองรองรับ มีชั่วโมงจิตอาสามากกว่า36ชั่วโมงต่อเทอม ให้ยืมเฉพาะค่าเทอมเท่านั้น
กยศ. --> เอาคนค้ำ ต้องมีลายเซ็นผู้ปกครองรองรับ มีชั่วโมงจิตอาสามากกว่า36ชั่วโมงต่อเทอม ให้ยืมทั้งค่าครองชีพและค่าเทอม
กูต้องอธิบายที่บ้านยังไงดีวะเพราะกูจะเข้าอักษร คืออยู่สายศิลป์ละเป็นผู้ชายนี่ต้องเรียนแต่นิติ รัดสาดไรงี้อ่อ คุยเรื่องมหาลัยทีไรชอบบอกว่าเข้าที่ไหนก็ได้แต่พอพูดถึงอักษร นิเทศหรืออะไรที่นอกเหนือนิติ รัดสาดนี่โดนด่าแล้วเลิกคุยตลอด ละเรื่องมหาลัยนี่เหยียดที่อื่นมากนอกจากมอดังแถวสยาม พอเป็นอินเตอร์ก็เหยียดอีกว่าไม่ต้องสอบเข้าก็ได้ บ้านกูเป็นพวกหัวโบราณสุดๆ เปลี่ยน mindset ไม่ได้เลย แล้วเพิ่งมาเป็นตอนที่กูเรียนเก่งอีก เหมือนกับว่ายิ่งกูเก่งที่บ้านยิ่งอีโก้สูงยิ่งขึ้นอะ ในขณะที่กูไม่ได้แคร์ห่าไรเลย
>>710 เอาจริงๆทำไมถึงจะเข้าอักษรวะ
ก็ถ้าที่บ้านไม่ฟัง ก็ลองทำแบบกู คือบอกแบบกว้างๆว่าสนใจพวกภาษา international cultures บลาๆ ตอนยื่นพอร์ตก็เออออไปว่ายื่นอันนี้แหละแต่ยื่นอันอื่นด้วยดีกว่าเผื่อไม่ได้ แต่พอผ่านสัมภาษณ์ตอนเลือกคณะจริงๆก็เลือกที่อยากเรียนเอา
มันซิ่วได้นะมึง บางคนเลือกคณะที่คิดว่าตัวเองชอบแต่สรุปเรียนไม่ไหว ก็ซิ่ว
ไอ้สัสเอ้ยเรียนรามแต่ไม่มีข้อมูลเลยกูไม่มีรุ่นพี่ละกูงง ไปถามได้ที่ไหนบ้างเพจแม่งก็ไม่ตอบกูไอ่หน้าหี
ถามหน่อยจ้า อยากเรียนภาษาจีนอ่ะ แถวๆสยามช่วงเย็นๆ มีที่ไหนสอนดีๆบ้าง นี่คือแบบไม่มีพื้นฐานใดๆเลยสักนิ๊ด
โม่ง อยากรู้ว่าพวกมึงจะโอเคไหมถ้าเกิดมีกลุ่มหรือช่องทางเว็บบอร์ดเอาไว้แจกพวกคอร์สออนไลน์วิชาต่างๆที่มีเอกสารให้และมึงสามารถดูได้แบบฟรีๆไม่จำกัดอายุคอร์ส โดยคอร์สจะมาจากติวเตอร์ออนไลน์ชื่อดังตามเว็บต่างๆ ถ้าเกิดมีแบบนี้เกิดขึ้นมาพวกมึงคิดว่ายังไงวะ?
กูถามนิดนึง วิชาเคมีม.ปลาย พวกที่มันมีค่าlogแปลกๆไม่ใช่ตัวพื้นๆ แล้วไม่ได้ให้มาว่าlogนี้เท่ากับนี้ๆ ถ้าไม่ให้ใช้เครื่องคิดเลขนี่คิดออกมาได้ยังไงอะ ช่วยกูทีT_T
>>726 ฉันก็คิดว่าการศึกษาบ้านเมืองเรามันเหลื่อมล้ำนะคะ ถ้าอย่างน้อยๆเรามีวิธีทำให้คนกลุ่มนึงความเหลื่อมล้ำลดลงไปได้จนสามารถลืมตาอ้าปากสอบเข้ามหาลัยดีๆ โรงเรียนดีๆได้ มันจะช่วยให้สังคมพัฒนาขึ้นได้ไม่ใช่เหรอคะ? เราจะได้ผลิตบุคคลากรที่มีความรู้สู่สังคมทุกชนชั้นอย่างแท้จริงไงคะ
เริ่มโทรลตั้งแต่เม้นไหนกันนะ 🤔
>>728 ทำไมฉันคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นนะคะ ทำไมไม่ลองคิดบ้างคะว่าติวเตอร์เหล่านี้เค้ามาหากินกับความเหลื่อมล้ำและยังสนับสนุนให้คนมีการศึกษาที่เหลื่อมล้ำกันเข้าไปอีก คนที่ด้อยโอกาสจึงมองว่าการเรียนคือธุรกิจการศึกษา ทั้งๆที่ประเทศชาติเราสมควรให้การศึกษากันอย่างเท่าเทียมให้ได้มากกว่านี้แบบในยุโรปแสกนดิเนเวียนะคะ การที่ฉันคิดว่าเห็นด้วยกับเรื่องนี้เพราะรัฐบาลก็ไม่สนับสนุนการเรียนฟรีหรือขยายโอกาสทางการศึกษาให้มากขึ้นจากที่จะมีการยกเลิกเรียนฟรีม.ปลายอีก เมื่อเด็กมองไปทางไหนก็เจอแต่เอาเงินเข้าแลกเพื่อวุฒิปริญญาหรือใบเบิกทางของคนรวย หากคุณเป็นเด็กม.ปลายยุคนี้แถมเจอแบบที่ว่ามาคุณจะไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอคะ? หรือแค่คุณมองว่าไม่ใช่ปัญหาของคุณและไม่มีปัญญาจะลุกขึ้นมาทำอะไรได้รึเปล่าก็แค่นั้นแหละค่ะ
อยากทำก็ทำไป ทำแล้วมาบอกด้วย
จะแจ้งตำรวจไปลากเข้าซังเต
มีที่เรียนจีนแนะนำไหมแถวสยามหรือรฟฟก็ได้ อยากได้ทักษะเพิ่มกุแม่งไม่ไรเด่นเลย ปล.ถ้าอิ้งกุไม่ค่อยเก่งด้วยจะฟังเขารู้เรื่องปะวะถ้าเอาคนจีนมาสอนงี้
กูเป็นคนสนใจอะไรหลายอย่างเลย เช่น ปรัชญา ประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษา จนอะไรอีกหลายๆอย่าง เช่น คณิต ก็สนใจพวก ทฤษฎีเซต กรุ๊ป ริง ฟิว
อยากเข้าใจอยากพิสูจน์ได้ ถ้าเป็น พวกประวัติศาสตร์ก็เช่น ไทย กูอาจจะรู้ว่า ชื่อประเทศไทยตั้งขึ้นจริงๆเมื่อ
2482 หรือกูรู้ว่า ปี 1917 มีปฎิวัติรัสเซีย มีสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ถ้ามาถามกูว่า ปฏิวัติรัสเซียมันมีไร
ฟิวคืออะไร ยังงี้กูตอบไม่ได้ กูกลายเป็นไม่รู้อะไรสักอย่าง แต่กูดูเหมือนรู้ไปหมด ทั้งๆที่จริงๆแล้วกูไม่รู้
ตอนมต้นมปลายไม่ตั้งใจเรียนพอโตมาแม่งกลายเป็นหาคนสอนเรื่องพวกนี้ไม่ได้ จะเริ่มอ่านเองก็ไปไม่ถูก
ช่วยแนะนำหรือบอกอะไรกูหน่อยสิ
อีกอย่างกูอ่านหนังสือเองแล้วไม่รู้เรื่องเลย
>>730 ยุโรปสแกนดิเนเวียมันก็ไม่ได้ปล่อยไห้คนละเมิดลิขสิทธิเอาผลงานการศึึษาคนอื่นไปปล่อยฟรีๆนะ การศึกษาถ้าไม่ต้องการไห้เหลื่อมล้ำคือต้องทำไห้ทุกคนโง่อย่างเท่าเทียมเพราะไม่มีใครทำไห้ทุกคนฉลาดได้ มึงปล่อยสูบฟรีก็คือหมดอาชีพติวเตอร์ ทุกคนต้องเรียนแบบโง่ๆเหมือนกันหมด
วันศุกร์สัมภาษณ์ทุนไปป.โทเมกาแล้วโว้ย ตื่นเต้น
เมื่อวานไปสอบวัดระดับ n4 มา รู้สึกดีกับสภาพแวดล้อมชิบหายถึงหน้าอาคารมีขยะก็เหอะ แต่แม่มดูดีกว่า วค.ที่ตูเรียนที่ไม่มีห่าอะไรเลย ต้องรอตังจากรัฐอย่างเดียว สภาพโทรม สังคมหัวดอ ไม่ได้ห่าอะไรเลย is am are ยังใช้ไม่ค่อยเป็น... แม่มเอ้ย 55+ สิ้นหวังสัสๆ ทำใจเรียน
ตอน พรีเซนจบ พวกโม่งใช้ไปกี่นาทีอะ นี่ตื่นเต้นมาก พูดไม่เก่งเลย
กูได้ admission offer ป.โทจากม.ที่เยอรมันแล้วว้อยยย เป็นม. top 10 ของประเทศ กูแม่งดีใจมากๆ เพราะงมทำเอกสารเองตั้งแต่ตอนมาเรียนภาษาเมื่อปีก่อน จนถึงตอนได้ม.ก็ไม่เคยผ่านเอเจนซี่ ไม่ได้เสียเงินให้ uni-asist ที่เป็นส่วนกลางด้วยซ้ำ เสียแค่ค่ารับรองสำเนากับค่าส่งเอกสารทางไปรษณีย์เท่านั้นเอง วีซ่านร.เรียนภาษากำลังจะหมดพอดี รู้สึกภูมิใจที่มาได้ขนาดนี้ ถึงก่อนหน้าจะประสาทเสียแทบตายก็เถอะ แม่งคนอื่นเรียนภาษากันปีครึ่ง กูเอา C1 ใน 8 เดือน เรียนข้ามชั้นไปข้ามชั้นมา จนผ่านมาได้ รู้ว่าต่อไปแม่งต้องยากขึ้นไปอีก แต่อย่างน้อยก็ไม่เฟลตั้งแต่เริ่มต้นวะ
ปีหน้าต้องสอบ Ielts ให้ได้รวม6.0 แต่ละ Part ห้ามต่ำกว่า5.5
แต่ตอนนี้ภาษาอังกฤษกูอ่อนมากๆ ลองทำแบบทดสอบในเน็ตเทียบคะแนนได้แค่ 4-4.5 เอง
เครียดมากตอนนี้ จะฝึกยังไงดี มีที่ติวแนะนำมั้ย
>>749 ติว1ปีเอาให้ผ่านอ่ะทําได้เว้ยย สู้ๆ กูติวประมาน7เดือนจาก4.5ได้6เหมือนกัน แต่สอบไปสองรอบ รอบแรกได้5.5
เวลาติว หาติวตัวต่อตัวดีกว่าติวกลุ่ม ติวกลุ่มไม่ได้ห่าไรเลยบอกตรง แล้วหาครูที่สอนแล้วให้เทคนิครวบรัดดีกว่า ที่เหลือโจทย์ต้องฝึกทําเองบ่อยๆ มันมีขายหนังสืออยู่ แบบซีลอกก็มี ถูกกว่าเล่มจริง แนะนําให้ทําเล่ม7เป็นต้นไป รุ้สึกว่าเล่มแรกๆมันจะง่ายกว่าข้อสอบ เล่ม7นี่กําลังดี
บอกเทคนิคให้แล้วกัน ถือว่ามึงเจอชะตากรรมเดียวกับกุในอดีต5555
พาร์ทฟัง
-ได้กระดาษข้อสอบมา แล้วอ่านก่อนแม่งเลย ไม่ต้องรอมันพล่ามเกริ่น
-อย่าลืมอ่านคําสั่งด้วยว่า ต้องตอบ1คําหรือมากกว่า1คําได้ , หรือให้ตอบเขียนหรือตอบใส่abc
-อ่านบริบทแล้วเดาว่าช่องว่างนี้ต้องเติมอะไร เป็นตัวเลข คํา หรือชื่อ , เป็นnoun verb adverb adjectiveมั้ย อันนี้จะทําให้เราจับคําได้ง่าย
-หาคีย์เวิร์ด ที่เป็นคําสําคัญของประโยค จะทําให้เราจับจุดได้ง่ายขึ้น
-อะไรที่เติมไม่ทัน มูฟออนไปเลย พยายามตามที่แม่งพูดให้ทันทําข้อต่อไปก่อน แล้วเดี๋ยวมันมีเวลาให้เช็คคําตอบตอนสุดท้ายแล้วค่อยกลับมานึกหรือมั่วอะไรไป
-พอสมมุติว่าเติมช่องว่างครบแล้ว แต่บทพูดอาจจะพูดต่อ ก็ไม่ต้องไปฟังมัน เปิดไปอ่านอันต่อไปเลย
-พาร์ทนี้เขียนตัวพิมพ์ใหญ่ทุกตัวได้ก็ได้คะแนน ดังนั้นควรเขียนพิมพ์ใหญ่ เพราะถ้าเขียนพิมพ์เล็กอาจพลาดพวกชื่อเฉพาะอะไรที่ต้องขึ้นต้นพิมพ์ใหญ่
อ่าน
-อ่านสกรีนก่อนว่าน่าจะเป็นเรื่องแนวไหน เกี่ยวกับอะไร แล้วไปอ่านคําถามเลย แล้วค่อยกลับมาหาคําตอบในPassageอีกที
-ไม่ต้องอ่านหมดทุกบรรทัด อ่านสกรีนเอา อ่านแค่ประโยคmain idea ส่วนใหญ่จะอยู่ต้นกับท้ายประโยค แล้วขึดเส้นใต้เอา
-รู้สึกว่า60นาที3 Passages ควรทําเรื่องละไม่เกิน15นาที เวลาที่เหลือเอาไปตรวจทาน
เขียน
-ไปเรียนเหอะ อันนี้ยาก แต่บอกเลยถ้าครูติวเก่งเขาจะให้จําเป็นแบบฟรอมในการเขียน แล้วมันจะอแดปใช้ได้ทุกเรื่อง พอเป็นแบบฟอร์ม มันจะประหยัดเวลาคิดมากว่าจะควรเขียนไง
-ก็ควรเขียนให้เสร็จเร็ว เหลือเวลาตรงจทานด้วย
-ไปจําคําศัพท์ให้เป็นหมวดหมู่ แบบอันนี้หัวข้อเทคโนโลยี อันนี้หัวข้อglobalization บลาๆ
-ให้เขียนประโยคให้ได้หลายๆแบบแต่มีความหมายเหมือนกัน ยิ่งเขียนประโยคซับซ้อน คะแนนก็จะดีตาม
-พูด
อันนี้กูไม่ได้ติวละเอียด ก็คุยเรื่อยเปลื่อยให้ยาวๆ แต่ยังอยู่ในtopic โม้ๆไปเลย bullshitโกหกไร้สาระได้ (กูเป็นพวกที่ต้องโกหกหว่ะ เพราะถ้าเรื่องจริงไม่ค่อยจะมีอะไรให้คุย) ใช้grammaถูก พูดชัด ก็ได้6.5ละ ไม่รู้เหมือนกันไอพูดต้องทางการหรืออะไรปล่าววะ คือตอนนั้นกูโครตnoobเพิ่งพูดอิงได้ ตอนนั้นอยู่ๆก็พูดอิงได้แบบงงๆ เลยการพูดมันสื่อสารพื้นฐานทั่วไป ไม่ได้ทางการอะไร //กุชอบดูYouTuberฝรั่ง แล้วแบบคําพงคําพูดก็ติดมาจากการฟังเยอะๆ
เอ่อแล้วสุดท้ายไอเอิลมันซํ้าๆกัน มึงซื้อไอหนังสือมาแล้วลองมาดูก็ได้ว่ามันมีพาร์ทอะไรยังไง มันเป็นฟอร์มแพทเทิร์นคล้ายกัน ถ้าไปติวที่ดีๆเดี๋ยวจารก็บอกเอง พาร์ทนี้มีอะไรยังไง
สู้ๆมึง ฝึกทําบ่อยๆเดี๋ยวก็ได้
เพื่อนโม่งมีใครเคยเรียนภาษาจีนที่ okls มั้ยเป็นยังไงบ้าง กูลังเลระหว่าง okls กับ oca อะ มันต่างกันเยอะมั้ย
>>749 กูไม่แนะนำให้ไปติว (ที่บ้านกูบอกว่าเอาตังไปสอบใหม่เถอะ ไม่ต้องไปติวหรอก ค่าติวแพงกว่าค่าสอบอีก😂 (10k)ถ้าได้ครั้งเดียวก็คุ้มแหละ แต่ถ้าไม่ได้ก็อีกเรื่องนึง)
คะแนนยังไม่ออก ยังไม่อยากพูดเยอะ แต่แนะนำได้เพราะไปสอบมาแล้ว 55
Online sources แนะนำ :
Ieltsadvantage (YT) - หลายคลิปมองว่าไร้สาระ แต่คลิปที่interviewคนที่สอบได้ band9 ก็ค่อนข้างมีประโยชน์อยู่ แสกนดีๆถ้าไม่อยากเสียเวลาแบบกู
Ieltsonlinetests - เว็บฝึกข้อสอบ พร้อมเฉลย จะมีบอกเป็นประโยคๆเลยว่าจะหาข้อมูล&คำตอบได้ตรงไหน ค่อนข้างดีกับการทวน
Quizlet - เว็บ flashcards ทั่วไปของฝรั่ง แนะนำคำศัพท์เเนว social science, science เพราะออกแน่ๆแต่กูฝึกของ SAT เพราะมีสอบต่อ
Grammarly - ฝึกเขียน essay สามารถหา essay prompt ได้ทั่วไปในยูทูป แต่ที่แนะนำจะเป็น essay prompt for provincial exam ซึ่งจะท้าทายกว่า ielts แต่เอาไว้เขียนเล่นได้ เวลาหัวตัน ส่วนมาก prompt ที่เห็นจะให้เป็นพวก comparison essay ก็ฝึกแค่ส่วนนี่พอ ใช้ transitionให้คล่อง
พวก structure ของ essay topic,concluding sentence สำคัญมากในทุกพารากราฟต้องมี ในintro ก็อย่าลืม thesis ด้วย ที่เห็นเค้าแนะนำมานะคือ ในส่วนของ prompt เราไม่ควรเห็นด้วยกับตัว statement 100% ให้ใช้ 2 พารากราฟ discuss ว่าแต่ละอย่างก็มีแบบอย่างที่ดีของมันเอง แล้วจะหมดปัญหาว่า”ไม่รู้จะเขียนอะไร”
สำคัญ introduction อย่าลืม hook จะสร้าง rhetorical question หรือ statement สั้นๆโง่ๆก็ได้ ในช่วงเริ่มต้นของพารากราฟ อย่ามักง่ายก้อป given prompt มาเป็น intro
Word counter -ไว้นับคำ & บอก reading level (อย่าสนใจว่าต้องได้ 12th-grade หรือ college graduate ถ้าได้ก็ดี แปลว่ารู้ศัพท์เยอะ)
Thesaurus - สำหรับหาศัพท์
>>754 sat quizlet ที่กูฝึกนะ
https://quizlet.com/402/100-most-common-sat-words-flash-cards/
ไม่แนะนำ ted talk เพราะคนพูดติดaccent ไม่เหมาะกับการเรียนสำหรับสอบ แต่ถ้าอยากบิ้ลโวแคปก็เป็นสื่อที่ดีสื่อนึง ส่วนพาร์ท speaking เจอฝรั่งสำเนียงบริติชแน่นอน ถามคำถามทั่วไป ไม่ยากเว้ยสู้ๆ
/ส่วนกูน่าจะได้สอบใหม่เร็วๆนี้ 😂 ทันทีที่กูออกมาจากห้องสอบก็รู้แล้วว่าทำอะไรพลาดไป โครตเซ็งเลยโว้ยย
พวกมึง มีใครติดโซเชี่ยลมาก ๆ มั้ยวะ คือวันนี้อะกูเรียนอังกฤษพื้นฐาน แล้วอาจารย์บอกว่าว่างก็หาเวลาอ่านหนังสือ พัฒนาทักษะ ไม่ใช่เอาแต่เล่นโซเชี่ยล (พูดให้นศ.ฟังทั้งห้องนะ ไม่ใช่แค่กูคนเดียว 55) เออ ละกูก็คิดได้อะว่ากูปิดไฟนอน 4 ทุ่ม แต่ไถทวิตจนตีสอง ง่วงก็นอน อีเหี้ย เสีย 4 ชั่วโมงไปกับการเผือก (บางทีกูเข้าแท็กละครไม่ก็ดราม่าดาราไรงี้อะ) กูอยากลดโซเชี่ยลว่ะพวกมึง เอาแบบค่อยเป็นค่อยไป กูหักดิบไม่ได้ แบบอยากได้เวลาอ่านหนังสือมากกว่านี้ ที่ผ่านมากูเข้าคณะนี้ได้ด้วยคะแนนพอสมควร เกรดก็ 3.5 ประมาณนี้ แต่กูเป็นพวกอ่านก่อนสอบคืนเดียวบ้าง สองวันบ้าง อีกอย่างกูเก็งข้อสอบได้อะเลยทำข้อสอบได้ แต่กูไม่อยากอ่านก่อนสอบ อ่านเพื่อสอบแล้ว เพราะอีกไม่กี่ปีก็จะเรียนจบแล้วอะ อยากพัฒนาตัวเองมากขึ้น อ้อ ๆ กูอยู่หอคนเดียวนะ ไม่มีเมท พวกมึงอยากแนะนำให้ทำอะไรก็แนะนำได้เลย กูสะดวกทุกอย่าง หออยู่ใกล้หอสมุดด้วย เดิน 3 นาทีก็ถึง หรือใครอยากด่ากูที่กูขี้เกียจเกินไรงี้ก็ด่ามาได้เลยนะ กูไม่ซี 55
เป็นเด็กเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยที่ไม่มีแรงฮึดในการอ่านหนังสือเลยว่ะ แต่เดิมก็ไม่ใช่คนอ่านหนังสืออยู่แล้ว(อ่านได้แต่ไม่มีไฟ/แรงกระตุ้นทำให้อยากอ่าน) ขอวิธีทำให้มีแรงฮึดหน่อย
>>758 กูมารอด้วย แต่กูขอเล่าก่อนว่ากูเป็นเด็กซิ่วจากคณะที่ตอนเรียนหนักกว่าตอนสอบเข้ามาก
เพราะงั้นไอพวกเรื่องคิดภาพความสำเร็จหรือเพื่อคัวเราเพื่อพ่อแม่ไรงี้กูไม่อินเท่าไหร่แล้ว
กูหมดไฟไปกับการต้องฮึดมาเป็นปีแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นมีแต่จะแย่ลงเพราะยากขึ้น
กูยังอ่านหนังสือสอบได้แต่เฉื่อยแฉะมาก กูรู้สึกตัวเองกำลังอยากเป็นนีท ก่อนหน้านี้กูเป็นคนมองโลกในแง่ดีมองคนอื่นในแง่ดี แต่ตอนเรียนมหาลัยสอนหลายๆอย่างกูหนักจริงๆ ทั้งเรื่องเรียนที่ทำเท่าไหร่ก็ตามไม่ทัน เพื่อน ทัศนคติสังคมมหาลัย
ปกติกูเป็นคนถ้าไฟติดกูอ่านได้เป็นวันๆแบบแทบไม่พักกินข้าวไปอ่านนส.ไปไรงี้ แต่พอหมดไฟแล้วนาทีนึงก็ยากที่จะไม่วอกแวกว่ะ
กูไม่อยากเป็นนีททททท
>>759 ฮือ เหมือนกูเลยอ่ามึง กูอยากอ่านเยอะ ๆ แต่กูมีปัญหาเป็นพวกจับจด เบื่อง่าย ไร้แรงกระตุ้น แถมยังติดโซเชี่ยล กูคือคนเดียวกับ 756 นะ แบบอยากอ่านให้ได้เยอะกว่านี้อะ แต่ลงมืออ่านทีไรแล้วอ่านได้แป๊บเดียวเอง
มึงมีปัญหาอะไรกับเพื่อนที่คณะหรอ มึงมีปัญหาเหมือนกูมั้ยนะ กูค่อนข้างเบื่อ ๆ กับระบบคณะแล้วอะ ระบบการเรียนการสอนที่บางวิชาอาจารย์ไม่ปรึกษากันก่อนจะออกข้อสอบ กูไม่รู้มหาลัยอื่นเป็นมั้ย แต่ที่มหาลัยกู อาจารย์แต่ละเซคไม่เหมือนกันเลย บางคนสอนอันนี้ บางคนก็ไม่สอน บางคนตรวจงานเร็ว แป๊บเดียวได้คืน แต่บางคนตรวจงานช้า นานมากกว่าจะได้ เห้อ
>>760 ตอนนี้กูเป็นเหมือนมึงเลย ติดโซเชียลไถทวิตทั้งวัน555 แต่สมัยก่อนกูไม่เป็นนะ
อันนี้กูพูดเรื่องส่วนตัวนะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเรียน ใครไม่สนใจข้ามไป
กูคล้ายๆมึง แต่มีเรื่องอ.เขม่นนักศึกษาจนโดยเพื่อนแบน(ไม่ใช่กู) อันนี้กูแค่ค่อนข้างแพนิค
กูไม่เคยมีปัญหามีเรื่องกับใคร ยกเว้นคนเดียวคือเพื่อนที่เคยสนิทกับกู คือกูมีกลุ่มเพื่อนที่สนิทๆกันแหละ แต่สนิทกับมันสุด แต่มันเป็นคนแบบ ยิ่งสนิทยิ่งไม่เกรงใจ มองว่าเพื่อนๆในกลุ่มทุกคนแม่งโง่ โดยเฉพาะกู มันคอยกันไม่ให้คนอื่นสนิทกับกูมากกว่ามัน แล้วไม่แคร์ด้วย ถ้าทำให้มันไม่พอใจก็หาใหม่ แล้วเอาเพื่อนสนิทคนเก่าไปด่าสาดเสียเทเสีย พยายามทำให้เพื่อนคนอื่นๆในคณะแบน ที่มันไม่ย้ายกลุ่มเพราะมันยังไม่สนิทกับกลุ่มที่มันจะย้ายไป
กูเหนื่อยที่ต้องอยู่อย่างระแวง ทั้งจากเพื่อนและจากคณะ(โซตัสด้วยอิเหี้ย)
สุดท้ายกูเลยตัดเพื่อน ไล่มันออกจากกลุ่ม คือกูก็ชนะแหละเพื่อนเห็นใจกูอยู่กับกูไรงี้ แต่ใจกูมันพังไปหมดแล้ว กูเสียศรัทธา เหมือนกูมองคนอื่นในแง่ดีเกินไปแล้วรับไม่ได้ กูให้โอกาสมันกลับตัวหลายครั้งแล้ว กูชนะไปใจกูก็ยังพังอยู่ดี กูเป็นคนกับเพื่อนกูให้ใจไปเต็มๆอะ
ตอนกูติดFกูยังลัลล้ารู้สึกว่าเกือบจะผ่านแล้วๆ ดีกว่าตอนม.ปลายอีก! แท้ๆ แต่พอเจอโดนกดว่าโง่ เคยเป็นที่โหล่ของรุ่นในวิชาหลัก โดนทำเหมือนเป็นแค่คนใช้ที่กูอุส่าห์เมตตามาเป็นเพื่อนมึง
หลายๆเรื่องรวมกันใจกูรับต่อไปไม่ไหวจริงๆ
>>763 เรื่องเพื่อนนี่แม่งบั่นทอนจริงมึง ดีที่คณะกูมีคนเยอะ แล้วก็ไม่บังคับทำกิจกรรม อิสระมาก คนในคณะเลยต่างคนต่างอยู่ไปเลย ที่กูอยู่มาไม่เคยมีใครมีปัญหากับใคร แต่เรื่องอาจารย์ไม่ปรึกษาการสอนก่อนว่าจะสอนอะไรให้เท่ากันทุกเซค อันนี้กูไม่ชอบ แต่ก็ต้องเรียนต่อไปอะ ตัดเกรดก็ไม่เหมือนกัน (อาจารย์คนไหนเข้มหน่อยก็กดคะแนน คนไหนใจดี ๆ หน่อยก็ให้คะแนนเยอะ) แบบกูเหมือนเอาชีวิตสี่ปีของปริญญาตรีมาทำไรไม่รู้อะ ก็รู้นะว่าเรื่องหางานทำ ไว้ค่อยปีสามปีสี่ค่อยคิดว่าจะทำอะไร แต่ตอนนี้คือมันต้องพัฒนาทักษะตัวเองให้สามารถสมัครงานได้แล้วอะ
โม่งมึงใช้ไอแพดเรียนกันมั้ยอ่ะถ้าใช้นี่แนะนำรุ่นไหนกับซื้อที่ไหนราคาไม่แพงมาก ปล.ถ้าจะขอแม่ซื้อนี่ขอยังไงดี
>>766 คณะกูโลวเทค 55 แจกชีทเป็นหลัก หนังสือหาอ่านหอสมุด แต่กูก็อยากได้ไอแพดนะ ไม่กล้าขอที่บ้านเหมือนกัน แต่ไม่ใช้ก็ได้ สำหรับกูคืออยากได้แต่ไม่ซื้อเพราะยังไงก็ต้องใช้หนังสือเล่ม ๆ อัดเสียงกูก็ใช้ไอโฟน ถ้ามึงจำเป็นต้องใช้ยังไงเขาก็ให้ว่ะ มึงบอกตรง ๆ ไปเลยว่าใช้อะไรบ้าง ใช้แอพไหน บอกความคุ้มค่า บลา ๆ บอกตรง ๆ ไปเลยมึง
>>769 >>769 มึงบอกปัญหาเรื่องชีทเลย ซื้อไม่ทัน อยากอ่านชีทก่อนไม่ใช่ไปซื้อเอาตอนก่อนจะเรียน กูก็มีวิชาที่ถ้าใช้ไอแพดจะสะดวกกว่านะ แต่แค่วิชาเดียว เพื่อนในคลาสก็มีแค่คนสองคนที่ใช้ไอแพดอะ แต่คณะกูแจกไฟล์ก่อนเป็นอาทิตย์ ๆ ให้ปรินท์มาเองเหมือนกัน แต่จะปรินท์ตอนไหนก็ได้ ไม่เอาชีทไปเรียนด้วยก็ได้ กูเล่าเพราะมึงจะได้คิดตาม จะได้มีเหตุผลไปพูดกับพ่อแม่ เช่น ชีทที่อาจารย์แจกไฟล์คือมีเวลากำหนดว่าจะหมดอายุบนเว็บตอนไหน ไม่ก็บางทีอาจารย์อัพชีทคืนนั้นละรุ่งเช้าต้องเรียนเลย ไม่ใช่อัพชีทเป็นอาทิตย์ ๆ แบบของคณะกู ปัญหาเรื่องที่เก็บชีทก็สำคัญ ชีทเป็นกระดาษ ถ้าเก็บไม่ดีคือทำหาย สู้เป็นไฟล์รวม ๆ กันในไอแพดไม่ได้ สะดวกต่อการค้นหา อยากจดอะไรเพิ่มก็จดได้เลย ไม่เปลืองที่เก็บเหมือนชีทดีด้วย
>>766 ให้แนะนำ ipad pro งบน้อยก็ ipad air แล้วแต่ว่าเอาไปทำอะไร ถ้าเรียนเอกสารปกติair ก็พอ แต่ถ้าเรียนพวกกราฟิกไรงี้จัด pro ดีกว่า ห่างกันไม่กี่พัน
แนะนำซื้อที่ u-store ได้รุ่นใหม่ล่าสุดแน่นอน (2019) แค่เอาบัตรนศ. ไปก็ซื้อได้เลยราคาลดมาเยอะมาก สาขาเยอะแยะหาดู
(ตอนนี้เห็นยูทูป peanut butter อะไรนี่แจกคูปองลดอยู่ตั้ง500 บาท)
/กูไม่ได้ซื้อไอแพดอะกูซื้อแมคบุ้ค กูบอกแม่ว่าเอามาเรียน ไม่ได้แมคไม่มีสมาธิ(...) กล่อมเป็นเดือน พาอ้อมๆi-studio บ่อยๆ โม้สเป็คไปเรื่อย ซึ่งก็ได้นะ55 (กูทำกราฟิกด้วยนิดนึง)
ถ้าถามถึงความสำคัญ ก็มองว่าไม่ได้จำเป็นแบบเว่อๆ ยังไงมันก็ใช้คอมแทนได้ (เหมือนกูที่ไม่ได้ซื้อไอแพด) การจดดินสอหรือเขียนบนไอแพดเนี่ย มีปัญหาเรื่องลายมือไก่เขี่ยเวลาผีเข้ามากๆ กูมองว่าง่ายสุดก็เอาใช้คอมอยู่ดีอ่ะ กูคงหัวโบราณด้วยมั้ง555 พิมพ์ถนัดกว่าแถมยังไงก็อ่านออก ถ้าอยากทำโน้ตกระดาษน่ารักๆก็ค่อยมาเขียนใหม่ แต่กูไม่ทำหรอกขี้เกียจ555 ขอเกาะเพื่อนที่ทำโน้ตน่ารักๆในไอแพดก็ได้ ไม่ต้องทำเองด้วย แชร์ได้เหมือนกัน
พวกมึงเรียน ม.ปิดชื่อดังๆกันป่ะวะ? ทำไมอาจารย์แม่งไม่มีความมืออาชีพเลยนะ กูเรียน ม.ราม คณะเรียนแบบปิด ไม่มีวิดีโอบรรยายย้อนหลังหรือถ่ายทอดสด ปัญหาอาจารย์มาอัพสไลด์ปริศนา มาอัพเดตเนื้อหาเพิ่มนี่คือไม่เจออ่ะ เจอจริงๆก็ไม่กี่คนด้วยซ้ำ โคตรน้อย เรื่องอัพก่อนเรียนเจออย่างมากก็แค่ว่าอัพช่วงกลางดึกของวันที่จะมีเรียน ตลกสัสมาก ทำงานกันแบบไหนวะทำไมเรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้ไม่มีปัญญาทำให้มันดูสมกับเงินเดือนที่ตัวเองได้รับมา
>>773 มืออาชีพไม่มืออาชีพกูไม่รู้ แต่กูรู้ว่าแต่ละมหาลัยต้องไปตามสภาพของนักศึกษา รามเป็นมอเปิด เน้นอ่านหนังสืออยู่แล้ว ยังไงก็ต้องโหลดไฟล์ต่าง ๆ เข้าระบบตั้งแต่แรก ในเว็บรามก็มีเอกสารเรียนให้บุคคลภายนอกโหลดฟรีนี่ หรือไม่จริง? มอปิดอื่น ๆ เขาต้องไปเรียนวันต่อวัน พอเรียนวันต่อวัน อจ.เขาก็เลยไม่ค่อยให้ไฟล์ก่อนนาน ๆ ไม่ก็ไปวางชีทไว้ที่ร้านถ่ายเอกสาร อย่าเอาคำว่ามืออาชีพไม่มืออาชีพมาใช้เลยว่ะ แต่ละมอก็แตกต่างกันไปปะวะ แล้วแต่สภาพผู้เรียนว่าเป็นยังไง มหาลัยกูคณะศิลปะแม่งบางห้องเรียนไม่มีโต๊ะเรียนให้คนเรียนด้วยซ้ำ เพราะเด็กคณะนี้มันชอบวาดรูปกับพื้น คณะศิลปะมออื่นอาจมีโต๊ะให้เด็กวาดรูปครบทุกห้องเรียน แต่ละมอก็แตกต่างกันออกไปอะ อย่าเปรียบเทียบอะไรเยอะเลย
>>774 ของมึงนี่ไอมหาลัยสีเขียวๆที่มีเรื่องฉาวรับน้องแก้ผ้าเอายาสีฟันถูควยไหมวะ? ถ้าเป็นแนวนั้นกูไม่อาจจะทราบแนวทางการเรียนได้ กูไม่ได้เรียนศิลปะจ๋าขนาดนั้น แล้วในฐานะเด็กรามกูบอกให้ว่าไอเอกสารที่คนนอกโหลดฟรีนี่ที่เค้าทำแบบนั้นไม่ใช่ว่าเค้าใจบุญให้เด็กอ่านเองห่าไรนะ ส่วนนึงคือ ม.รามเหมือนกับ ม.รัฐอื่นๆที่4ปีจะปรับหลักสูตรทีนึง เอกสารที่อัพในเว็บไม่ได้หมายความว่าจะอัพเดต ต้องไปหาซื้อที่มหาลัยรวมกับวิชาบางตัวที่ไม่ใช่นิติ รัฐศาสตร์ มันมีให้เข้าห้องเรียนและต้องเข้าเพื่อรู้ว่าอาจารย์แกสอนอะไร เอกสารประกอบการเรียนการสอนคืออะไรบ้าง และตอนนี้กูว่าเว็บแจกของฟรีนั่นกำลังรอโดเมนหมดอายุจนเว็บปิดตัวไปเองด้วยซ้ำ เรื่องวางชีทตามร้านถ่ายเอกสารถ้ามันมีปกติก็ดีไป แต่ไอพวกประเภทมาอัพสไลด์ปริศนาเพิ่มหรือเนื้อหาสไลด์ที่มึงไปถ่ายเอกสารคนละเรื่องกับที่ของอาจารย์เค้ามีตอนเรียนในห้องมึงจะรู้สึกโอเคอยู่ไหมละ? ประเด็นคือ เนื้อหาที่จะสอนแม่งเขวไปเขวมา คลาสแต่ละครั้งแม่งหาความแน่นอนไม่ได้กับเนื้อหาจนเกินเหตุนี่มันควรจะมีเหรอ เด็กมันจะประสาทแดกกับงาน/การบ้าน สอบ นี่มันก็เยอะแล้วนะ
>>773 ม.กูเป็นม.ปิด ดังรึเปล่าไม่รู้แต่ไม่ใช่ชั้นนำเรียนสายวิทย์สุขภาพเนื้อหามันเยอะมากๆ บางทีข้อมูลที่สำคัญหรืออะไรที่อ.ใส่มาเพราะคิดว่าทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นทีหลังก็มี แบบ ส่งสไลด์ของปีก่อนมา แต่สไลด์ที่ใช้สอนเป็นปรับปรุงแล้วก็มี วิชานึงสอนเวียนกันเป็นสิบคน จะเจอแบบที่กูว่ามันไม่แปลกเลย ม.อื่นๆก็เป็นกันปกติ
เรื่องอัพสไลด์ปริศนา เอาจริง ๆ กูก็สงสัยนะ อ.ที่เขาอัพสไลด์เพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ไม่มืออาชีพตรงไหน เขาอาจจะอยากให้นศ.รู้อะไรเพิ่มมากขึ้น ลืมจุดนั้นจุดนี้ไป อยากจะเพิ่มเติมอัพเดตอะไรใหม่ ๆ เข้ามา อาจารย์ที่ทำสไลด์ครบแล้วเอามาสอนเท่านั้นไม่เพิ่มเติมอะไรทั้ง ๆ ที่อาจจะมีเรื่องให้เพิ่มนี่ไม่มืออาชีพกว่าหรือเปล่า? บางทีที่มึงเรียนแบบเค้าไม่ให้สไลด์ปริศนาเพิ่มเพราะเขาขี้เกียจเพิ่มให้เฉย ๆ มั้ง
เขาขี้เกียจไหมอันนี้กูไม่รู้ได้ ด้วยความที่อาจารย์สาขากูส่วนใหญ่มักจะมีเขียนตำราเองกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าไม่เขียนไว้ก็จะมีแบบสคริปต์ของเค้าเองและฉายโปรเจกต์เตอร์ให้ นศ. จดตามก็ว่ากันไปแต่ส่วนน้อยโคตร เนื้อหาทุกเทอมเรื่องเดิมแต่สอนและออกข้อสอบไม่เหมือนกันแถมแต่ละคนที่กูเคยเรียนมาเวลาสอนเค้าดูพร้อมพอสมควร เค้าสอนแค่ไหนออกข้อสอบแค่นั้น ถ้าเค้าบอกว่าให้ไปอ่านเพิ่มเอาคือเค้าก็จะบอกเสมอ ก็อาจจะจริงอย่างที่พวกมึงว่ามาคือ ม.ราม เน้นอ่านหนังสือเองเพื่อมาสอบมากกว่าจะมีสไลด์บรรยายให้ นศ. ไปอ่านเล่นอ่ะนะ ที่ไม่ถูกใจอีกเรื่องคือวิชาที่ นศ. ลงทะเบียนเรียนไม่เยอะมาก ครูบางคนยังกระแดะใช้โลว์เทคแบบระบบถ่ายเอกสารทั้งๆที่สไลด์การสอนนี่ส่งเข้าเมล์ นศ. รายคนก็ได้
การเรียนป.โทมันยากที่ตรงไหน กูไม่ได้กวนตีนนะ อยากรู้จริงๆ เพราะนี่จบตรีแล้ว จะต่อโทก็เห็นมีแต่คนบ่นนักบ่นหนาว่ายาก ทรมาน โหด เหนื่อย อยากรู้ว่ามันยากที่ตรงไหน
>>779 ขึ้นอยู่กับตัวมึงว่าจะเข้าที่ไหน พี่กุต่อมหาลัยสีน้ำเงิน (ที่มีศิริราช) สอบภาษาอังกฤษ ต้องลงเรียนพิเศษเป็นหมื่น รับน้อย อาจารย์ที่ปรึกษาธีสิสคือคนต่อคน อาจารย์ 1 คนเป็นที่ปรึกษาของนศ.แค่คนเดียว เรื่องเงินก็สำคัญ พี่กูมีประมาณ 600K สำหรับเรียนอะ เป็นเงินนิ่ง ๆ แต่มันก็บ่นตลอดว่าจะรอดมั้ย หางานเสริมทำดีมั้ย มันไม่ลาออกจากงานด้วยเพราะมันกลัวเงินเก็บหมดไปกับการเรียน ส่วนน้ากูจบโทจากมอครุยสีแดง แพลนไว้ว่าจะจบ 2 ปี สุดท้ายใช้เวลา 3 ปีเพราะธีสิสแก้แล้วแก้อีก 1 ปีที่เพิ่มมาสำหรับปอโทไม่ใช่เรื่องเล็กอะ หนึ่งคือเงินจมไปอีกเป็นแสน สองคือกดดัน เครียด โทกับตรีต่างกันเยอะมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับว่ามึงจะไปต่อที่ไหนด้วย
กู 779 เองนะ คืที่มึงกล่าวมามันคือการบ่นว่าป.โทแม่งยากอย่างงั้นงี้ๆๆ เรียนกี่ปี ต้องต่ออีกกี่ปี แต่ที่กูอยากรู้คือตรงที่ว่า ป.โทมันยากที่ตรงไหนและเพราะอะไรอ่ะ เข้าใจป่ะ ยกตัวอย่างเช่น ยากที่การหาหัวข้อวิทยานิพนธ์ เพราะอะไรถึงว่ายาก, ยากที่การเขียนวิทยานิพนธ์ เพราะอะไรถึงว่ายาก, ยากที่การหาเงินเรียน เพราะอะไรถึงยาก อะไรแบบนี้อ่ะ คือกูรู้แล้วว่ามันยาก แต่อยากรู้ว่ายากที่ตรงไหนอ่ะ ใครช่วยบอกที ย้ำว่าไม่ได้กวนตีนนะ แต่สงสัยจริงๆ และไม่อยากไปรู้เองตอนเรียนเพราะมันก็จะไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ
อืม เค ๆ อืม
ถามในนี้ได้ปะ สิทธิ์นร/นักศึกษาของ apple store ที่ไอค่อนสยาม จำเป็นต้องเป็นนร/นศที่ไทยปะ คือกุเรียนอยู่ตปท แต่อยากซื้อราคานศอ่ะ มันทำได้ปะ หรือกุต้องไปซื้อที่ประเทศที่กุเรียนอยู่ คือกุอยากได้แป้นพิมพ์ไทยด้วย
>>788 ได้ กูนร นอกก็ไปซื้อมาละ แต่กูซื้อใน u -store ของจุฬาตรงศาลาพระเกี้ยวอ่ะ แค่เตรียมบัตรประชาชนไทยกับบัตรนักเรียนต่างชาติไปก็พอ เพราะมันต้องยืนยันตัวตน พี่ๆที่ขายก็ใจเย็นดี แต่คนเยอะหน่อยนะช่วงนี้เห็นว่าพึ่งเปิดเทอม ถ้าไปที่แอปเปิ้ลสโตร์ตามห้างเหมือนเค้าจะจำกัดให้เฉพาะนักศึกษาไทยนะ เพราะกูเคยถามพวก apple store ที่เซนทรัลอยู่เค้าว่างั้น
ราคา นศ. มันลดไปแม่งก็ไม่ได้ทำให้ดูเหมือนว่ามันถูกลงไปมากเท่าไหร่เลยนะ ราคาสินค้าแบรนด์นี้แม่งแพงเป็นทุนเดิมอยู่ละ มีเงินมากพอจะซื้อได้นี่แม่งตัวแทนขายก็อยากจะดำเนินเรื่องให้จะตายชัก แต่ก็แอบงงๆนะ แอปเปิ้ลสินค้าก็ทั่วโลกอยู่ละ โปรส่วนลด นศ. ก็มีเป็นหลักๆ ทำไมต้องมาจำกัดพื้นที่วะ
เทคนิคการแพทย์ ฬหรือมหิดลน่าเรียนกว่ากันวะปรึกษาหน่อย
พวกมึง กูขอพลีชีพเลย ยังไงในคณะก็คนเยอะ กูไม่ซีอยู่ละ ไม่น่ามีใครรู้ว่าเป็นกู คือตอนนี้กูอยู่นิติ มหาลัยตรงสยามชื่อดัง พึ่งเข้าปี1 และรู้สึกว่าตัวเองเข้าไม่ได้กับคณะนี้ ระเบียบจัด คอนเซอเวทีฟมาก ยังมีตัวแทนทำความเคารพอาจารย์บอกสวัสดีค่ะ/ครับ ก่อนและหลังอาจารย์สอนอยู่เลย(คณะสั่งมา) คือกูเลือกคณะนี้เพราะกูไม่รู้จะเรียนอะไร เลยเลือกอะไรที่อาชีพดูมั่นคงในอนาคตอะ แต่พอเรียนจริงคือกูไม่รู้เรื่องเลย มันยากมาก แล้วเพื่อนในคณะก็ไม่ใช่แนวกูเท่าไหร่ กูควรซิ่วไหม หรือควรทนๆไป คือมีแต่คนบอกให้กูทนรอเกรดเทอม1ออก แล้วจะดรอปหรืออะไรก็ค่อยว่ากัน แต่กูขี้เกียจรอละอะ คือกูรู้ตัวแล้วว่ากูเรียนไม่ได้ กูไม่ชอบและมันไม่ใช่แนวกู กูควรดรอปตอนนี้แล้วออกเลยไหม ถ้าออกปีหน้าคงซิ่วมาไม่อักษรก็ครุ มหาลัยเดิมนี่แหละ ควรไปคณะไหนมากกว่ากันวะ โดยส่วนตัวอยากเป็นครู แต่ไม่มีใครบอกว่ากูเข้ากับอาชีพนี้เลย+ลึกๆแล้วกูค่อนข้างเหยียดคณะนี้ระดับนึงเพราะคะแนนต่ำ แบบกูคิดอะว่ากูเรียนหนักมาแทบตายตลอดชีวิตมัธยม กูค่อนข้างเรียนดีและอยู่รรดัง สุดท้ายเพื่อซิ่วมาเอาครุที่เพื่อนที่เรียนไม่เก่งจากโรงเรียนมัธยมกูเอาไว้ลำดับสุดท้ายกันหลุดอะ แต่ลึกๆกูก็อยากเข้าอยู่ดี แพลนเรียนเอกคู่มัธยมศิลป์อังกฤษ-สังคม แต่อักษรกูก็ไม่ชอบ เพราะคณะนี้ด่ารรกูไว้เยอะ555555555 ไม่อยากเข้าไปเป็นคนแบบนั้น และกูก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เก่งอังกฤษขนาดนั้น(กูกะเข้าเอกอิ้ง คิดว่าตัวเองเข้าเอกได้ แต่จะเรียนสู้คนในเอกไม่ได้ ถ้าเข้าไปจริง กูไม่ชอบความรู้สึกที่ตัวเองอ่อนกว่าคนอื่นมากๆอะ มันทำกูกดดัน เอาจริงๆที่กูไม่เคกับนิติอาจเป็นเพราะรู้สึกว่าตัวเองโง่แต่ทุกคนเก่งก็ได้) แต่วิชาเรียนก็น่าสนใจมากก เป็นสิ่งที่กูชอบเกือบหมดเลย พวกอารยธรรม วิชาภาษา ควรเลือกยังไงดี หรือทนๆเรียนนิติให้จบไป จะได้ไม่เสียเวลาปีนึง คือกูว่ากูเรียนไหว ในแง่ของวิชาเรียน แต่อาจไม่ได้ทำได้ดีมากอะ กูแค่ไม่ชอบเฉยๆ มันไม่ใช่แนวกู
*เสรีภาพ
มึงมีคำตอบอยู่แล้ว
>>800 กูมีหลายคำตอบอะมึง พวกมึงถ้าช่วยให้คำตอบกันจะดีมากๆ ทุกๆคำตอบมีค่ามากจริงๆ เพราะกูเลือกไม่ได้ และคนที่บ้านทุกคนคือแล้วแต่กู กูเลือกผิดมาครั้งนึงแล้ว ตอนเลือกนิติกูตัดสินใจด้วยตัวเอง แล้วกูก็คิดผิดมากๆ
>>801 รู้ตัวอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนเข้ามาละอะว่าไม่ชอบ+ไม่คิดจะทำงานสายนี้อยู่แล้วด้วย ยิ่งมาเจอสภาพแวดล้อมในคณะที่ไม่โออีก ค่าเทอมมันไม่แพงอะแล้วกูก็ไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรในการเข้าด้วย เลยไม่ได้เสียดายที่จะซิ่วเท่าไหร่;_; แค่ยังคิดไม่ออกว่าควรดรอปตั้งแต่ตอนนี้เลย หรือรอจบเทอม1 หรือรอจบปี1ดี
>>802 ซิ่วออกมาอ่านเตรียมสอบใหม่เลยมันพึ่งเปิดเทอมมาแปบเดียวเอง เดือนนึงยังไม่ถึงเลยนี่ คนรอบตัวที่บอกก็คงเสียดายค่าใช้จ่ายนู่นนี่นั่นอยู่แหละ แต่ถ้าใจมึงบอกว่ากูไม่ไหวกับสังคมหันขวาในนั้นก็ออกมา แต่จริงๆจากใจกูว่า ม. นั้นแม่งปลูกฝังให้คนหันขวานิดๆอยู่นะ555 ย้ายไปคณะไหนคงไม่ต่างกัน
ทีนี้ อักษร กับ ครุ
บอกในฐานะคนวัยเดียวกัน กูว่า อักษร>ครุว่ะ
คือครุอ่ะ อีก 5 ปีกูว่าเด็กเรียนกับคอมหมดละ ตอนนี้ก็เรียนใช้ ipad ดูวิดิโอ ออนไลน์กัน เป็นแค่ครูไม่มีความสามารถพอที่จะสอนเด็กหรอกเอาจริงๆ เหมือนพวกบัญชีอ่ะ สุดท้ายคอมทำเองหมด ละเอียดกว่าด้วย ละการเป็นครูก็คือการเอาตัวเองเข้าไปในระบบไปโดนเขาโขกสับแท้ๆ คือกูไม่ชอบคณะนี้ว่ะ มันต้องใจรักอ่ะ 55555 มึงเคยเห็น สำนวนปอกกล้วยเข้าปากภาษาอังกฤษ ในหนังสือสอบครุไหม 55555
ที่มึงพูดก็ถูกที่คนส่วนใหญ่เลือกครุไว้อันสุดท้ายทำให้มันดูเป็นคณะที่ด่างพร้อย เอาจริงๆเรียนจบครุ มันเฉยๆว่ะ เพราะคนส่วนใหญ่ก็ตีความหมายไปแล้วว่าจบครุ=ไม่มีปัญญาไปเข้าคณะอื่น อยากสอนไม่สู้จบเฉพาะทาง specialist แล้วไปเป็นวิทยากร พูดชั่วโมงละ1000+ แทน?
ส่วนอักษร ส่วนตัวกูว่าควรเรียนภาษาที่ 3 เพราะ สมัยนี้คนพูดอังกฤษได้ทุกคน แล้วการเรียนรู้วัฒนธรรม อารยธรรมก็น่าสนใจนะ แต่จบมามันทำอะไร ? มึงอย่าดู career oppotunites นะ ต้องดู alumni
สมัยนี้คอร์สออนไลน์สอนเยอะแยะ พวกยูต่างประเทศก็มีสอนมีเกียรติบัตรให้ด้วย บางทีไม่ต้องไปทนเรียนสี่ปีหรอกถ้ารู้ตั้งแต่ต้นว่าอยากเรียนวิชาอะไร กูก็ไปเรียน ดีไซน์มา ถึงจะเทคนิคไม่เก่งเท่าพวกจบดีไซน์ตรงๆ แต่กูก็แฮปปี้ 5555
สภาพสังคมจุฬากับมหิดลต่างกันยังไงกูอยากเข้าเภสัช กูค่อนข้่งมั่นใจในคณะ(และคะแนนสอบ)แต่ไม่มั่นใจตัวมหาลัย ส่วนตัวกูไม่ค่อยชอบสังคมแบบขวาจัดหรือพวกแบบบังคับกิจกรรมซักเท่าไหร่
>>803 กูยื่นคะแนนเก่าได้อยู่ แค่ถ้าจะเข้าครุก็มีแค่ต้องสอบpat5ใหม่ ซึ่งมันไม่ยากอะ เตาียมตัวก่อนสอบอาทิตย์นึงก็น่าจะทัน เออกูเข้าใจที่ทึงพูดเลย ขอบคุณมึงมาก กูรู้ว่ามหาลัยนี้แม่งขวา แต่กูแค่ต้องการคณะที่ขวาน้อยกว่านิติอะ อันนี้หนักไปจริงๆ เหมือนกูออกจากโรงเรียนมัธยม มาเจอมัธยมอีกที่แต่ใหญ่กว่า แต่กูทนย้ายมหาลัยไม่ได้แง คือพูดแล้วกลัวโม่งแตกอะ เอาเป็นว่าวิชาที่ชอบอยู่นี่ประมาณ4ตัว ละหาเรียนที่อื่นไม่ได้แล้ว
กูเก็ตเรื่องอักษร ถ้าไม่ติดเรื่องอาชีพ กูคือพร้อมมากกับการเรียนเอกปวศหรือเอกปรัชญา แต่เงินไม่รักกู ที่บ้านกูไม่มีธุรกิจส่วนตัว ส่วนบาสซาย รู้สึกมันยังไม่เสถียรเท่าไหร่อะ พึ่งเปิดปีแรกรุ่น62เอง ส่วนเอกที่มึงแนะนำให้เรียนภาษา3 กูยังไม่รู้ว่ากูควรเรียนภาษาไร5555555 กูมีพื้นญป แต่ญปแม่งบังคับเรียนเอกเดี๋ยว และกูมีคนรู้จักอยู่เอกนี้เยอะ ถ้าไม่ชอบ=ตาย ซึ่งกูเกลียดมากกกก pat7.3กูน่าจะคะแนนต่ำสุดในคนที่ติดมหาลัยนี้ละมั๊ง แต่กูเข้ามาได้เพราะคะแนนตรงอื่นกูสูง มันเลยช่วยๆพยุงกัน
เชียร์เภสัช จุฬา ตาม >>808 หว่ะ ของมหิดลมีATให้มึงทำ ถ้าไม่เก็บให้ครบ100คะแนนมึงไม่ทำเรื่องขอจบได้ สมัย40-50ปีก่อนมหิดลมีระบบส้นตีนๆแบบนี้ที่ไหนกันวะ ชิลเหมือนธรรมศาสตร์ซะด้วยซ้ำ ยิ่งช่วงก่อน6ตุลานี่โคตรฟรีด้อมก่อนจะมาเนิร์ฟมหาลัยให้เหี้ยลง ละบางทีเด็กเข้ากิจกรรมแต่โดนหลอกกินแรงไปไม่ได้คะแนนก็มี นี่กูแทบไม่นึกอ่ะว่าจุฬาคือปล่อยเสรีเรื่องกิจกรรมขนาดนี้ ยังกับธรรมศาสตร์เลย
>>805 กูอยู่มหิดล แต่ไม่ใช่เภสัชนะ มึงไปฬตามคหบน ๆ เหอะ ถ้าไม่นับเรื่องการเรียนการสอนกูว่ามหิดลดีกว่าแค่บรรยากาศกะพวกสิ่งแวดล้อมเขียว ๆ เรื่องกิจกรรมแม่งเอาจริง ๆ โซตัสก็ยังมี แค่มันอยู่ในกิจกรรมของภาค ซึ่งแม่งก็ไม่ได้บังคับหรอก แต่กิจกรรมแบบนี้แม่งยังเสือกได้ AT อีกไง กูไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์เหี้ยอะไรเลย เสียเวลาชิบหาย
>>810 จริง ละทีนี้บางคณะ(บางภาค) แม่งแถหน้าด้านๆเลยว่าที่แม่งทำๆกันอยู่นี่คือไม่ใช่โซตัสนะไรงี้ เอาตามตรงกูละจะอ้วกอีสัส ตอแหลเก่งกว่า ม.ต่างจังหวัดแบบม.แถวภาคเหนืออีก นี่แหละโซตัสแค่พวกมึงแอบเอาไปยัดลงแสตนเชียร์ก็เท่านั้น ที่เหี้ยคือของกูนี่มีศิษย์เก่าดีเด่นมาว้ากด้วย แม่งเหลือเชื่อมากว่าบัณฑิตดีเด่นของสถาบันนี้นี่ต้องถ่อยต่อหน้าเด็กเหรอวะ กูงงชิบหาย ที่เลวร้ายกว่าเลยนะคือ ม.มหิดลหิวเงินสัสๆ ถ้าใครเข้าเรียนนานาชาติจะไม่เจอระบบห่านี่ คะแนนกิจกรรมไม่ต้องเก็บไม่ต้องเข้า จ่ายแพงๆคือปลอดภัยชัวร์ป้าบจากกลุ่มรุ่นพี่ตลาดล่าง เทียบกับ ฬ เห็นนิสิตออกมาบอกปาวๆเลยว่าเงินทุนหนาแบบแจกให้เด็กจนๆคว้าวุฒิพระเกี้ยวได้จริงๆ สังคมนิสิตแบบเนติวิทย์มีเยอะแถมแอคทีฟกว่าด้วย ริมน้ำมีสังคมดีๆแค่แพทย์รามา วิทย์ ดนตรี กับนานาชาติ ที่เหลือนี่แม่งปิดข่าวกันเก่งยิ่งกว่าบ่อนติดสลัมกลางกรุง
>>812 ในมหิดลสายIT เงินหนาๆไว้นะ มีของวิทยาลัยนานาชาติเป็นcom sciกับICTที่ไปแยกเปิดเองจัดหลักสูตรเองสารพัดแล้วสอนอังกฤษสำเนียงไทย ราคาอาจจะไม่หลักแสนแบบicแต่ก็ดูแลให้ไม่มีระบบเหี้ยๆแบบหลักสูตรภาษาไทย อ่อ อีกอันที่หลักสูตรไทยเหมือนกันแต่ไม่มีบังคับเข้าคือ ศิลปศาสตร์ อันนี้ก็ใช้ได้
+1 เรื่องโซตัสมหิดลมีจริงอีสัส ลากยาวไปถึงตอนทำงานด้วยซ้ำ แต่ตอนทำงานไม่โซตัส แค่ใช้ระบบรุ่นพี่รุ่นน้องกดกันเอง (คณะสายสุขภาพคณะหนึ่งที่จบมาทำงานศิริราช) ตอนกูรู้ก็อึ้ง ๆ เพราะคิดว่าจะมีแค่ตอนเรียน แต่อีห่า ถึงขั้นลากยาวมาตอนทำงาน เยอะสิ่งเยอะอย่าง
>>814 มึงนี่ NS , NR ,PH ,SH หรืออะไรวะ 555555 แม่งโคตรบังเอิญสัสๆที่มีโม่งเรียนคณะดงสลิ่่มของมหิดลแต่เสือกผ่าเหล่าผ่ากอ คิดไงเข้าเรียนที่นี่วะ? ของกูนี่คิดว่ามันเซฟแต่ที่ไหนได้ ของกูเรียนวิทยาเขตแม่งอาจารย์ฝั่งนึงเด็กเก่าแม่โจ้ ส่วนฝั่งบริหารเด็ก มศว. แบบโซตัสเข้มข้น แถมศิษย์เก่าดีเด่นนี่ว้ากแสตนเก่งด้วยนะ
>>816 เห็นด้วยว่า PH นี่เหี้ยสุดละ ตามราวีเด็กปี 1ทุกคน ขนาดเด็กทำงานระหว่างเรียนมันยังให้ลาออกมาเข้าเชียร์ ตรรกะวิบัติสุดละ ตอนปฐมนิเทศบอกห่าไรที่ไหนว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ ถ้าบอกคงไม่หลงเข้ามาหรอก อ่อ อาจารย์คณะแม่งรู้เห็นเป็นใจด้วยนะ เป็นใจให้พวกระบบเหี้ยๆนี่แหละ กูไม่รู้ว่ามันจะรู้จักคำว่าผ่อนปรนไหมนะเพราะเห็นคณะกากๆของมหาลัยนั้นแม่งเด็กเข้ามาเรียนน้อยเหมือนราชภัฏเลย แบบเปิดรอบพิเศษถี่ชิบหาย หวังว่าPHจะเจอชะตากรรมเดียวกันแล้วกูบอกเลยว่าสมน้ำหน้าสัสๆ ไปหาลูกค้าเขมร เวียดนาม พม่ามาเรียนแทนเถอะ
เอาจริงกูไม่เข้าใจนะ ในยุคที่ข้อมูลและความรู้ต่างๆเข้าถึงได้ง่ายและแพร่หลายขนาดนี้ ทำไมมันยังมีคนเห็นด้วยกับไอเรื่องพรรค์นี้วะ ทั้งเรื่องโซตัส วัฒนธรรม ประเพณีต่าง ๆ ในสถานศึกษาเนี่ย แม่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกฝังแนวคิดอำนาจนิยมและระบบอุปถัมภ์ตั้งแต่ยังไม่เข้าวัยทำงานเลย ซึ่งไอสองสิ่งที่กล่าวมาเนี่ย กูไม่เห็นว่ามันจะดีตรงไหนเลย แม่งเอื้อแต่ประโยชน์ให้กับพวกตัวเอง ยิ่งบางคนแม่งมาทีแรกอุดมการ์อย่างดี ได้ผลประโยชน์เข้าหน่อยแม่งพลิกหน้ามือเป็นฝ่าตีน แต่ก็อย่างว่า เป็นทาสคอยทำตามต้อยๆแม่งเซฟสุดละ
>>818 อารมณ์เดียวกับพวกดักจี้ปล้น มิจฉาชีพอ่ะ ยังไงๆก็เกิดใหม่ตลอด คือ ต้องบอกว่ามหาลัยชาติอื่นก็มีนะ แค่มันไม่ปัญญาอ่อนแบบบ้านเราก็แค่นั้นแหละ แล้วใครสนใจก้ไปเข้าร่วมซะไม่มาบ้าออทิสติกฝังกรรมพันธุ์กำเริบโวยวายใส่คนไม่เอาด้วยแบบไทยเรา ในอาเซียนกูว่าเป็นงี้หมด ขนาดในสิงคโปร์ก็มี
จริง ๆ พี่กูน่าจะมีอะไรอึดอัดอีกเยอะ สงสารมันเหมือนกัน แต่มันไม่พูด เพราะตอนนั้นอะกูบอกไปว่าเออ มหาลัยกูก็มีนะโซตัสแรง ๆ อะ มันบอกว่าของมันยังแรงซะกว่า ลามมาถึงขั้นที่ทำงาน ทำนองรุ่นพี่รุ่นน้องนี่แหละ มันไม่ได้พูดมากกว่านี้
>>820-821 โอ๋ๆพี่มึงนะ กูบอกให้มันเป็นงี้หลักๆก็คล้ายๆระบบทหารเนี่ยแหละ มันผูกขาดแล้วการทำงานถ้าไม่รับราชการนี่โตยากจริงแท้ ส่วนคนคุมระบบเหี้ยๆนี่เค้าเรียกกันว่าเหล่า ส. หรือแกงค์ข้าราชการสารธารณสุข ทุกวันนี้พวกที่มาคุมก็พรรภูมิใจไทยพรรคหุ่นเชิดกลายๆของพลังประชาเรื้อนนั่นแหละ(ไม่การเมืองนะ ผิดเนื้อหามู้) ซึ่งกูตกใจนิดๆว่าสองสายงานนี้ตอนเริ่มรับเด็ก ม.ปลายมาก็เอาเด็กสายวิทย์ สายงานหมอที่เป็นแพทย์ไปเลยนี่แม่งสภาพสังคม ตรรกะความคิดก้าวกระโดดกว่ามาก แต่แม่งสายงานพยาบาลยันสาธารณสุขต่ำตมอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้ ตปท. เป็นงี้ด้วยไหมแต่เอาตามตรงว่าใช้ระบบสังคมหีหมาแบบนี้แล้วเด็กยังมาเรียนก็ทำต่อไปเถอะ เห็นคนจากNSบ่นกันพอสมควรว่าเด็กจบมาน้อยสัสๆ กูยิ่งสมเพช ยังไงก็เถอะ นี่เพิ่งมาเปิดหูเปิดตามากพอรู้ว่าจริงๆละมันมีหลักสูตรอีกแบบที่เรียกว่าวิทยาลัยสาธาฯ ด้วย อันนี้เหี้ยแบบเตรียมทหารเลย(ทั้งๆที่จบมาก็ไม่ได้ไปรบ) เผลอๆอัปรีย์กว่าที่แม่โจ้ทำๆกันอีก เข้าขั้นเหี้ยแบบ ปวช.ช่างกล เอกชนชั้นต่ำไรงี้อ่ะนะ
คือกูน่ะไม่รู้มาก่อนเลยมึงว่ามีแบบนี้ กูอยู่สายภาษามาตั้งแต่เด็กเลยไม่ได้สนใจสายสุขภาพ พอรู้ว่ามีแบบนี้ก็แบบ.... แดกจุดอะ สงสารพี่สาว ตอนกูติดมอศิลปะสั้น นางยังดีใจมาก ๆ นางบอกว่าเป็นมหาลัยในฝัน กูเลยบอกไปว่าคณะทางสายวิทย์ของมอกูก็โซตัสเยอะเหมือนกัน แต่พี่สาวกูนางบอกว่าไม่เท่าคณะนางที่มอสีน้ำเงิน กูละแบบ... เชี่ย
>>823 คณะสายวิทย์ ม.เทพเจ้าช้างนั่นกูว่าหนักกว่านะมึง แถมบอกให้พี่สาวมึงฝันสลายไปหน่อยนะว่า มศก นี่แม่งหนักกว่ามหิดลอีก มหิดลมันจะเน้นสงครามประสาท บีบด้วยกรอบที่ตัวเองพอทำได้ แต่มศก. เถื่อนๆถ่อยๆตรงๆเลย ไม่กลัวกฏหมาย มหิดลนี่อิสระเยอะกว่านะ เพศที่สามไรงี้ไม่โดนหาเรื่อง เดินไปเข้าที่ไหนก็ได้รุ่นพี่ไม่ว่า ขอแค่เข้ากิจกรรมให้ครบ ละอีกอย่างมึงเรียนสายภาษาคงจะไม่รู้ความติสสัสๆของคณะก่อตั้งของมหายมึงที่รับน้องให้แก้ผ้าเอายาสีฟันถูควย ส่วนเฟรชชี่หญิงโดนจับมาแต่งโป๊เต้นยั่วรุ่นพี่ ไหนจะอกกท.ที่ตามราวีผช.แต่ง ญ ในมออีก
>>824 แต่ละคณะในมอนี้มันก็ปกครองตัวเองกันหมดอะ ถ้าไม่ได้อยู่คณะนั้น ๆ จะไม่รู้เลยว่ามันเป็นยังไงบ้าง แต่ก่อนเข้ามาเรียนที่นี่กูก็พอรู้เรื่องคณะติสท์ จริง ๆ ก็สองคณะนั้นแหละที่ฉาวบ่อย หลายปีก่อนก็คณะส้ม อันนี้ฉาวมากจริง ๆ แต่ที่นี่มันโซตัสแล้วเป็นข่าว ไม่เหมือนมหิดลอะ เอาจริง ๆ ของกูคนนอกยังรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น (คนที่เข้ามาเรียนก็คือรู้แต่แรกแล้วว่าต้องโดนแบบนี้) แต่มหิดล ถ้าไม่มีคนในมาเล่าจะรู้มั้ย แต่ทั้งนี้กูไม่ได้บอกนะว่าเป็นข่าวดีกว่าปิดเงียบ มันก็แย่เหมือนกันทั้งคู่อะ
ขอบคุณทุกความเห็นกูคงเลือกเภสัชฬแหละ
ภาษาอังกฤษนี่ฝึกพูดเองได้ปะวะ เข้าใจภาษาอังกฤษนะ ทำข้อสอบได้คะแนนเยอะ ฟังรู้เรื่อง ดูหนังปิดซับพอไหว แต่พอต้องพูดอะไรยาวๆนี่ไปไม่เป็น น่าจะเป็นเพราะไม่เคยได้พูด ก่อนหน้านี้เรียนภาษาแล้วเขาจัดให้มี impromtu speech กูพูดได้สามประโยคง่อยๆก็ยอมแพ้ละ
มีคนเรียนที่ปัญญาภิวัฒน์มั้ยยย ธุรกิจการบินของปัญญาภิวัฒน์ดีมั้ยอ่ะ จบมาแล้วได้งานทำนี่จริงรึเปล่า คือวันนี้พี่เขามาแนะแนวเลยแอบกลัวๆว่าจะพูดให้ดูสวยหรูเกินจริงมั้ย เห็นว่ามีทั้งฝึกงานสลับกับเรียนไปด้วยก็เลยแอบๆสนใจ
กูพึ่งรู้ว่าม.บูไม่มีอธิการบดีจริงๆมาหลายปีแล้ว ก็ว่าทำไมเกือบทุกคณะจะมี อ. บางท่านที่กร่าง ปสด สุดๆ มีเรื่องใหญ่มากๆกับนิสิตทุกปี บางเรื่องก็เรื่องเดิมแต่เปลี่ยนนิสิตที่โดน แต่ไม่มีใครเคยจัดการหรือให้ความเป็นธรรมกับนิสิตเลย
ความปสดของอ.บางท่านในม.บู ยิ่งกว่าเรื่องรับน้องที่ดังๆซะอีก
กำลังหาโรงเรียนดนตรีในกทม. ที่มีจัดคอนเสิร์ตหรือกิจกรรมในโรงเรียนเยอะๆนี่หายากมาก คือกุขี้เหงาน่ะ เรียนไวโอลิน ชอบเล่นเพลงคลาสสิก ไม่อยากเรียนให้ผ่านไปวันๆคนเดียว เพิ่งติดต่อสอบถามโรงเรียนเอื้อมอารีย์ไป แต่ไม่รู้จะได้เรียนมั้ย แวดวงเขาดูเกินเอื้อมกูแปลกๆ เรื่องหาโรงเรียนนี่ทั้งๆที่กุตั้งใจจะไม่ซีเรียสนะ แต่ก็จริงจังเพราะเรียนแบบจ้างครูมาสอนเฉยๆกุรู้สึกเหงาจริง เห็นพวกโรงเรียนดนตรีชอบมีกิจกรรมแล้วก็อยากไปลองแบบนั้นบ้าง มืดแปดด้านว่ะ แทบจะไม่รู้จักเลยว่ามีโรงเรียนดนตรีที่ไหนโอเคบ้าง ถ้าโม่งตัวไหนชี้เป้าได้ก็จะเป็นพระคุณ
ค่อนข้างเชื่อ >>833 พวกที่ทำงานกับCPมาแม่งใช้วัฒนธรรมองค์กรแนวนี้ ปรับแรงมาก บางบ.เผลอๆหันมาหากินกับ พนง.ขาจรเป็นรายได้หลักเลยมั้ง ส่วนทุนลดป.ตรีทั้งหลายแหล่นี่กูยังหวั่นๆเลยว่าแจกหนักขนาดนี้นี่สัญญาการชดใช้ทุนแม่งจะน่ากลัวแค่ไหน แถมการเรียนไม่ได้ลูกคุณหนูอย่างที่คิดหรอก เรียนรัฐบาลก็พอๆกันอาะแถมถูกกว่าด้วย
เห็นพวกเมิงคุยกันต่อยอยากเผือกมันก็ร้อนทันทีไปคุ้ยกระทู้พันทิพมาอ่านนี่แมร่งยังกะตั้งสถานศึกษามาหลอกแดกหาเด็กน้อยไปเป็นกรรมกรแบบได้ค่าแรงน้อยกว่าปกติเพราะถือว่าเป็นเด็กฝึกงาน
จริง กูบอกเลยนะว่าขูดรีดจริง มึงไม่ต้องเอาไรมาก มันเป็นของซีพีอะ ทุกอย่างคือกำไร รุ่นพี่กูเรียนการบิน ตอนเรียนอยู่คือหรูหรามาก ลงรูปตลอดว่าชั้นสวย ชั้นเก่ง ชั้นฝึกงานสายการบินญี่ปุ่น พอจบมากูยังเห็นอยู่บ้านเฉย ๆ เลย สถาบันขายฝัน เรียนสาจาไหน ส่วนใหญ่ก็ต้องฝึกงานกับเซเว่นอยู่ดี เขาก็สบายไป ไม่ต้องจ้างคนงาน มีเด็กของปัญญาฯ มาทำให้ เรียนว่าไม่ดีแล้ว ฝึกงานกับเซเว่นต้องทำทุกอย่างอีก ญาติกูได้ฝึกงานที่ภูเก็ต ตัวเองอยู่ภาคกลาง อีเหี้ย เขาส่งไปภูเก็ตเลยนะ (มหาลัยเป็นคนเลือกจังหวัดให้) ทำงานก็เหนื่อย ค่าครองชีพก็แพง หลอกฝันชิบหาย
>>836 มึงกูเคยสัมผัสคนที่ทำงานจากCPมานอมินี ม.ริมน้ำ (คณะไม่ดังมากและไม่ใช่สายวิทย์สุขภาพ) นโยบายดูแลเด็กมันเหี้ยมาก อะไรที่บังคับเด็กได้มันทำหมด ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมไรทั้งนั้น ชอบหาแดกกับเด็กผ่านกิจกรรมของสถาบัน เห็นที่เด็กเข้ากิจกรรมไปนั่นเค้าโดนขูดรีดด้วยนะ ไปตีสนิทกับพวกคอนเซอร์ใน ม. เอามาเป็นแบ๊คให้ตัวเองเพื่อข่มรุ่นน้องสารพัด ส่วนครูอาจารย์เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่สนหีสนแตดเพราะตัวเองได้ส่วยจากกิจกรรมที่นอมินีจัดขึ้นมา นอมินีคนนี้กูไม่รู้ว่าทุกวันนี้ยังมายุ่งกิจการในสถาบันอยู่ไหมนะ ที่แน่ๆคือตอนนี้เรียน ป.เอก ม.ราม จบโท มธ. ศิษย์เก่าสถาบันนี้ รายได้ระดับน้องๆเจ้าสัว แต่งตัวดีแต่พฤติกรรมถ่อยขัดกับรูปลักษณ์เลย อีกคนไม่แน่ใจทำงานที่ไหนอีกไหม เท่าที่รู้มาคือน่าจะเปลี่ยนแล้วแต่ยังคงไว้ซึ่งCP ถ้าอยากเผือกต่อมาคุยในแชทโม่งได้นะมึง ช่วงนี้ไม่ค่อยมั่นใจว่าเว็บโม่งจะปลิวตอนไหวหว่ะมึง
>>841 สัส กูไม่รู้ 555 กูอยู่มอศิลปะยืนยาว แต่ตอนมอหกหาข้อมูลเยอะจนรู้ว่ามอริมน้ำมีคณะไหนบ้าง ไม่ต้องระแวงกู กูไม่รู้จักมึง แค่อยากคุยเรื่องนี้ด้วยเฉย ๆ เพราะคนใกล้ ๆ ตัวกูก็เรียนปัญญา กูสงสารมันที่ต้องฝึกงานหนักในเซเว่น แต่ก็นะ หลวมตัวไปแล้ว จะให้ซิ่วออกมาก็ค่าปรับบาน
ฮื่อออ ขอบคุณที่มาตอบกันนะ ต่อจากนี้คือบ่นเฉยๆนะ ไม่ต้องอ่านก็ได้..
ที่แวะมาถามเรื่องปัญญาภิวัฒน์นี่คือตอนนั้นสนใจจริง กลัวไม่ติดม.รัฐด้วยแหละ นี่ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น เลยลองหาข้อมูลดูก็เจอแบบความเห็นสองด้าน บ้างดีบ้างไม่ดี แต่ดันไปขอใบสัมภาษณ์มาแล้ว วันนี้เลยต้องไปเอา แบบตอนไปเอาใบคิดหนักมากๆเพราะดันเจอครูแนะแนว เจอพี่จากสถาบันอีก นี่แบบแย่แล้ว ไม่น่าเลย สถาการณ์ตอนรอเอาใบคือแย่มาก ปวดหัวมาก ตอนนี้คือไม่เอาละแหละ นี่ว่าคงไม่ไหวกับค่าอะไรหลายๆอย่าง
>>846 อย่าเพิ่งจ่ายค่าเทอมนะ แล้วเค้าให้เซ็นต์อะไรอ่านก่อนเซนต์ทุกครั้ง ถามไปว่าผ่อนผันค่าเทอมได้ไหม นอกจากเรียนแล้วบังคับเข้ากิจกรรมอะไรบ้าง(ตรงนี้โคตรสำคัญเพราะมหาลัยที่บังคับเข้ากิจกรรมส่วนมากแม่งสังคมรุ่นพี่เป็นใหญ่ เด็กไม่มีสิทธิอะไรมาก) ถ้าอิสระอะไรน้อยสัสๆก็เก็บๆไว้ แล้วออกมาไปหาที่อื่นดีกว่า ซึ่งถ้ามึงถามเรื่องทั่วๆไปละระเบียบสถาบันให้โอกาสเด็กน้อยมากๆนี่มึงต้องเริ่มคิดลบก่อนละ ส่วนกิจกรรมถ้าบังคับเข้า มีคะแนนเก็บเพื่อทำเรื่องจบไหม มีผลต่อการเรียนหรือเปล่าไรงี้มึงถามไปนะ แต่อย่าถามพวกรับน้องโหดไหม รุ่นพี่ตามสั่งให้แต่งพร้อพประชุมรุ่นรึเปล่า ตรงนี้คำตอบเดายากมาก กรรมการบางคนถ้าเค้าไม่เลี่ยงเค้าจะตอแหลตรงๆให้เด็กไปเจอสิ่งตรงกันข้ามไปเลยก็มี บอกเลยนะว่าสาขาที่มึงจะเรียนเนี่ย จบไปนอกจากสจ๊วตกับแอร์นี่ไปทำไรได้ต่ออีกวะ? เพราะแอร์ สจ๊วต ที่กูเห็นๆเค้าจบมาจากศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ เยอะแยะก่ายกองเลย มึงเรียนสายแบบภาษาเลี่ยงๆไปนี่จบมายื่นทำงานสายการบินมีผลเหรอวะว่าจบมาตรงสายหรือไม่ตรงอ่ะ?
แนะแนวเพิ่ม ถ้ามึงมั่นใจอยากจบไปเป็นแอร์ ศิลปศาสตร์ มหิดล อันนี้เคยเห็นคนจบมาไปทำงานสายการบินอยู่คนนึง สภาพสังคมดีมาก ค่าเทอมไม่ดุ แสตนเชียร์ไม่บังคับ ถ้าคิดว่าจะเรียนอิงค์ให้เซียนสัสๆแบบสุดๆเอาเลย หรือมึงรักครูลิลลี่มากก็เรียนเอกไทยไปสำรองเผื่ออยากไปเป็นครูสอนภาษาไทย มีสองสาขาให้มึงเลือกนะ ไทย กับ อังกฤษ
มอบางมอที่มีสาขาการบิน เอาจริง ๆ คือเขาไม่ได้พาไปส่งที่การเป็นแอร์ เป็นสจ๊วต เพื่อนกูเรียนสาขานี้ที่มอนึง (เคยเป็นเครือของราชภัฏแต่ตอนนี้แยกเป็นอิสระแล้ว) นางบอกกูว่าจริง ๆ สุดท้ายก็ทำงานสนามบินแค่นั้น ถ้าจะขึ้นไปเป็นแอร์สจ๊วตต้องหาเพิ่มเติมเอาเอง
กูก็คิดอยู่อ่ะว่าสาขาธุรกิจการบินนี่แม่งไม่ต่างไรกับคอมพิวเตอร์ธุรกิจเลยนะ คือเปิดมาแล้วจบไปทำห่าไรกันแน่ เรียนเหมือนเป็ดสัสๆ ถ้าอยากใช้ชีวิตอยู่กับเครื่องบินละรายได้สูงๆจบมามีงานทำชัวร์ไปสถาบันการบินพลเรือนก็ได้มั้ง อันนี้จบมางานเยอะกว่าคนอีก
อยากเป็นแอร์ เรียนอะไรก็ได้จริงๆ ขอแค่มึงภาษาเป๊ะ มั่นใจในตัวเอง ส่วนสูงกับน้ำหนักตามเกณฑ์ คือสายการบินมันเปิดรับแอร์อยู่แล้ว ไม่จำกัดวุฒิป.ตรีสาขาอะไรๆ อะนะ
ถ้าให้กูแนะนำคงเป็นสินสาด อักษร มนุษย์ พวกนี้น่ะ แล้วเอกอิ้ง โทภาษาอื่นๆ จะได้เปรียบกว่ามาก เรียนการบิน เฉยๆ ว่ะ มีแค่เรียนว่าต้องทำแบบนี้ ทำแบบนั้น แต่สุดท้ายแล้ว พอได้เป็นแอร์จริงๆ ก็ต้องเข้าไปฝึกอบรมก่อนบินจริงๆ อีกทีนึง
ตอนฝึกงานเขาให้ทำสีผมได้มั้ยงะ ถ้าสีน้ำตาลไรงี้เขาให้ป่ะหรือต้องผมดำ ทั้งธนาคารละก็บริษัทเรย
อักษรเอกอิ๊งคือเรียนสายวรรณคดีว่ะ ปวดหัวเรื่องวิเคราะห์วรรณคดีแน่ ๆ ไม่ชอบอ่านนี่นรกแตก แต่จริง ๆ ก็ไปเป็นแอร์กันเยอะ (ทั้งเอกอิ๊งทั้งเอกอื่น) ถ้าอยากเป็นแอร์ กูแนะนำมนุษย์กับสินสาดเลย แต่จะอักษรก็ได้ แค่ต้องชอบอ่านวรรณกรรม วรรณคดี
สัม ธุรกิจระหว่างประเทศ ควร cover ท้อปปิกอะไรมั่ง กูดูวิชาของมอมาแม่งมีแต่เรื่องที่กูไม่รู้จัก การขนส่งในหัวกูมีแต่เคอรี่ บอกแค่คำถามที่จารถามมึงก็ได้ แบบเค้าอิงบทความอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า ปกติสัมคณะนี้คิดเยอะมั้ย หรือแค่ถ้าความคิดไม่นอกคอกจนเกินไปก็รับหมด
มี คำที่ต้องใช้เป็นพิเศษมั้ย แบบโลกาภิวัฒน์อะไรงี้
จริงๆคำตอบหลายๆอย่างกูก็รู้แหละ แต่เก็บไว้คนเดียวมันก็อยากมาบ่นว่ะ ที่บ้านบอกแค่ให้เข้าที่นี่ละก็ไม่สนใจกูอีก - -
คณะกูทำไมมันเรียนชิลขนาดนี้วะ ชิลจนกุงงว่ากุจะเรียนเพื่ออะไร ว่างจนคณะต้องหาวิชานอกคณะมายัดให้เต็มหน่วยกิตอ่ะ วิชาที่กุไม่เรียนก็ไม่ตาย ไมืมีผลอะไรกับการงานในอนาคตใส่มาทำเพื่อ เรียนมาจนปีสองละยังมีแต่พื้นฐาน มออื่นที่หลักสูตรคล้ายๆกันยังได้ทำอะไรมากกว่า ยังดีที่ค่าเทอมคณะกุมันถูก ไม่ใช่คณะต๊อกต๋อยด้วยนะคณะดังเลยแหละ นึกว่าจะเรียนหนักงานถมทุกสัปดาห์
จากโม่งที่ต้องการความตื่นเต้นเร้าใจในการเรียน
กุอยากลาออกจากโรงเรียน แต่ตอนนี้กุเรียนใกล้จบเทอมนึงแล้ว ครูบอกต้องจบเทอมนี้ก่อนถึงออกได้ แต่เพื่อนกุที่ออกไปก่อนหน้าไม่เห็นต้องรอให้จบเทอมเลย ครูเหมือนไม่อยากให้กูลาออก บอกให้มาคุยกันก่อน แต่ปัญหาที่กุเจออยู่มันทำให้กูอยู่ต่อไม่ได้แล้วจริงๆ ถ้าขอเขาออกก่อนจะได้ไหมวะ
ปล.กุต้องเรียนอีกสามปีถึงจบจากนี่ แต่สังคมในห้องที่กุอยู่เขาไม่ชอบกูกับเพื่อนสนิทกู แล้วเพื่อนสนิทกูลาออกไปแล้ว เพื่อนในห้องเรียนก็น้อยมากก ผู้หญิงทั้งห้องอยู่กลุ่มเดียวกัน ชอบแขวะ แซะ กูบ่อยๆ กูไม่อยากทนแล้ว
เพื่อนโม่ง กู 23 จบป.ตรีแล้วใบนึง คณะที่บ้านบังคับให้เรียน แต่กูอยากเป็นหมอ ถ้ากูไปต่อหมอตอนนี้มันสายไปมั้ยวะ กว่าจะจบกูจะแก่เกินไปไหมอ่ะ
ใครเรียนคณะสายอาร์ต ออกแบบ ครีเอทีฟ ต้องมีงานส่งตลอดบ้าง เวลาตันๆสมองไม่มีอะไร นอกจากดวดเหล้า เย้วๆหน้าเวทีเพลง ไปงานศิลปะ ไปเที่ยวแล้วมีวิธีไหนทำให้หายตันได้บ้าง
กช แม่งสุดแล้ว หลาย ๆ หลุมเลยสัส
ร นี่ดีกว่า 0 มั้ย กูเคยติด 0 ตอนม.3 แต่เพิ่งเคยติด ร ครั้งแรก คือมันแก้แล้วมีโอกาสได้ 2-3+ ป้ะเพราะมันเป็นวิชาที่กูทำได้ดีมากแค่งานกูหายงานเดียวแล้วต้องทำใหม่ แล้วถ้าแก้เสร็จนี่เกรดเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นมั้ยวะ
>>869 จากที่เคยเจอคนติด ร มาแต่ละคนคิดว่าคงขึ้นอยู่กับครูมั้ง โชคดีที่ ร ทั้ง 3 ตัวของกูเป็นวิชาครูใจดี ขอบคุณสำหรับข้อมูลละกัน คิดว่าน่าจะได้ต่ำสุดที่ 2.5 นะ(หวังว่างั้น) เพราะสอบได้เกือบท็อปทุกครั้ง ที่ติด ร เพราะงานขาดวิชาละงาน แค่ไม่ใช่ 0 1 1.5 ก็โอเคสำหรับกูละ5555
กุเรียนมหาลัยที่ตปท. ปกติไม่เคยต้องทำงานกลุ่ม
แต่เทอมนี้มันปรับคอร์สใหม่ มีวิชานึงจ้องทำโปรเจคกลุ่มกับเพื่อนคณะอื่นๆ กุเครียดมากเลยอ่ะ กลุ่มเล็ก5คน มีหลายชาติ แล้วดันไปเจอคนไทยในกลุ่มด้วย กุกลัวการคบคนไทย/ต้องข้องแวะคนไทยมากเพราะที่เจอมาไม่เคยเจอดีๆเลย
แถมแบบ งานกลุ่มครั้งแรก กุกลัวไปถ่วงเขา หรือเข้ากับพวกเขาไม่ได้ หรือไอเดียไม่ตรงกันแล้งพูดอะไรไม่ได้ หรือกลัวว่าเขาจะถ่วงกู ทำงานช้า ทำงานคนละแบบไรงี้อ่ะ
กุรู้ว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจออ่ะ งานกลุ่ม แต่กุไม่เคยเจอเลยมานานมากๆแล้ว สมัยมัธยมกุก็เรียนรร.ที่เป็นแบบ independentมากๆ ไม่มีงานกลุ่มเลย ยอมรับว่าตัวเองมนุษสัมพันธ์แย่ด้วย ไม่รู้จะคุยอะไรกับใคร เสนออะไรไปเขาก็เฉยๆกัน ดูไม่ เออ อันนี้น่าสนไรงี้ คงเพราะมาจากต่างคณะด้วย ความสนใจมันคนละเรื่องกัน
เป็นงานกลุ่มในรอบหลายปี แล้วคือโปรเจคนี้3เดือน
กุได้แต่ภาวนาว่าจะดีขึ้นเร็วๆนี้เพราะยีาเพิ่งเริ่มต้น กุเครียดจนอาการ anxiety disorderกุเริ่มกลับมาแบบเห็นไดชัดเลย เครียดอ่ะมึง มีคำแนะนำอะไรสำหรับการทำงานร่วมกับคนอื่นไหม
>>871 กูว่าต้องหาเสียงส่วนใหญ่ที่เห็นด้วย ให้ความสนใจมัน flow ไปทางเดียวกันก่อน จากนั้นก็ทำส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด คืองานกลุ่มพอทำกับคนไม่สนิทจะมีสองแบบ คือไม่ตั้งใจทำเพราะเกรงใจ ไม่อยากโดนนินทาข้ามคณะ ก็โยนเพราะไม่รู้จักกันไม่สนใจกัน ไม่มีอะไรต้องแคร์
ตอนกูอยู่มัธยมที่นู่น มันจะมีคนที่เรียนเก่ง หรือดูมีความเป็นผู้นำที่สุดนำกลุ่มอ่ะ ก็จะเป็นคนที่คอยบอกให้ทุกคนนำเสนอไอเดีย ไม่ใช่เอาแต่สั่งๆๆนะ แค่บอกให้คนทำอะไรๆจะได้ไม่เสียเวลา แบบตอนแบ่งงานรีเสิช หรือคิดเกี่ยวกับ topic ที่อยากจะทำ
ส่วนที่มึงกังวล จะอยู่ไทยหรือเทศก็กังวลเพื่อนในกลุ่มทำงานชุ่ยกันทั้งนั้น กูเลยแนะนำอะไรไม่ได้มาก เพราะกูก็เจอในสถานการ์ณเดียวกันอยู่
ให้ร มผ นี่ดูแล้วแต่ครูยังไงไม่รู้ ครูบางคนขาดงานเดียวให้ ร แล้ว(แต่ก็ดีจะเพิ่มคะแนน) แต่บางคนขาดหลายช่องก็ให้เกรดโหดไปเลย ไม่ต้องแก้ วิธีปลอดภัยที่สุดคงเหลือแค่ตั้งใจเรียน ถถถถถถถถถ
เหนื่อยกับการเรียนมหาลัยว่ะ ตอนนี้อยู่ปีสอง ปีที่แล้ววิชาภาคได้เกรดแย่ทุกตัว ในขณะที่วิชาอื่นเอหมด เหนื่อยใจ จะซิ่วก็เสียดายเวลาที่ฝืนเข้าร่วมกิจกรรมพวกรับน้องอะไรพวกนี้ อุส่าฝืนตัวเองผ่านกิจกรรมพวกนั้นมาแล้ว ถ้าต้องไปเจออีกก็ไม่ไหว ถ้าทำกิจกรรมในห้องแอร์ยังพอว่า นี่ตอนรับน้องต้องไปทำกิจกรรมกลางแจ้งนั่งกับพื้นที่มีทรายๆ กูที่ใช้ชีวิตในโรงเรียนคุณหนูมาตลอดคือไม่ไหวอ่ะ แต่สิ่งที่เรียนอยู่ก็ทำได้ไม่ดี ถามว่าเข้าใจมั้ย มันก็พอเข้าใจคอนเซ็ปต่างๆนะ รู้ว่าถ้าเราอยากได้อย่างงี้ ต้องทำยังไง ผลของสิ่งนี้คืออะไร แต่ให้เขียนอธิบายในข้อสอบกลับเขียนไม่ถูก แล้วไอวิชาภาคตัวร้ายทั้งหลายก็มีแต่คะแนนสอบล้วนๆ 100% เลยด้วย เหนื่อยใจโว้ยยย ไม่อยากเรียนอะไรอีกแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้แม่โดนนินทาว่ามีลูกเรียนไม่จบมหาลัย ไม่อยากโดนสายตาดูถูกของคนอื่น เห้อ แล้วถ้ามีแค่วุฒิม.6 กูจะไปทำอะไรได้บ้างวะ คิดไม่ออกจริงๆ อยากเปิดคาเฟ่เป็นของตัวเอง แต่ตอนนี้คาเฟ่แม่งผุดอย่างกับดอกเห็ด ถ้าจะทำแนวนิชแบบที่กูชอบก็กลัวคนไม่เข้าเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ไม่กล้าสู้ค่าเช่าที่ในแหล่งใจกลางเมือง แต่ถ้าเอาใกล้ๆบ้านก็กลัวจะไม่แมส จะทำของขายแบบไม่มีหน้าร้านก็ยังไม่รู้จะทำอะไรดี พวกงานศิลปะอะไรพวกนี้ที่พอมีฝีมือทำได้ก็คงไม่สู้ เพราะเรทราคาก็กดกันกราว จนรู้สึกว่าถ้าทำได้แค่นี้นอนหายใจทิ้งดีกว่า ไม่เสียสุขภาพด้วย สุดท้ายก็คงต้องฝืนเรียนให้จบไปนั่นแหละ ตอนนี้กูไม่หวังต่อโทแล้ว เอาแค่ตรีให้จบให้ได้ก็พอ เห้อออ
กูก็เครียดเรื่องมหาลัยนะ คณะกูคืออาจารย์ประหลาด ๆ เอาจริงมอกูเป็นมอที่คนภายนอกมองว่าเป็นแหล่งรวมคนนิสัยแปลกอยู่แล้ว แต่คณะกูแม่งระบบการสอนแปลกมาก ตอบข้อสอบทีคือตอบเหมือนในหนังสือก็ได้คะแนนน้อย ต้องตอบให้กว้างออกไปอีก บางวิชาคนถอนกันออกไปครึ่งต่อครึ่ง ข้อสอบเขียนตอบ ตัดคะแนนแบบทศนิยมสามตำแหน่ง เรื่องยิบย่อยเยอะชิบหาย พอมองเพื่อนที่ซิ่วออกไปทีละคนสองคน บางคนอยู่อาทิตย์เดียวก็ไป บางคนไปตอนเทอม 1 บางคนไปตอนปีสอง บางคนไปตอนปีสามแล้วเหงา ๆ ยังไงไม่รู้ บางคนซิ่วไปที่อื่นเพราะไม่ชอบระบบที่ซับซ้อนของคณะ บางคนซิ่วเพราะอยู่ปีสูงแล้วแต่ยังไม่ผ่านวิชาของปี 1 สักที กูก็คิดนะว่าจะซิ่วออกไปดีมั้ย ไปอยู่ที่อื่นที่ระบบแน่นอนชัดเจนกว่านี้ แต่ก็ได้แต่บ่น ไป ๆ มา ๆ เออก็ทนได้ แป๊บ ๆ ก็จบเทอมอีกแล้ว ทนเอาหน่อย อีกแป๊บเดียวก็จบ แค่ต้องรักษาเกรดไว้ไม่ให้โดนไทร์ไม่ก็เรียนเกินปี
ม.ที่ติสท์แดกกันทั้งมอออ
>>875 ของกูตัดทศนิยม 4 ตำแหน่ง.. ใบคะแนนแม่งอย่างกับใบ้หวย ดูคะแนนเสร็จเดินไปแผงลอตเตอรี่ได้เลย มี 6 หลักพอดี แล้วเนื้อหาที่เรียนคือออกแนวพื้นฐาน แต่ข้อสอบประยุกต์ชิบหายวายวอด ข้อสอบก็เยอะเหลือเกิน แล้วอาจารย์แม่งก็ชอบตัดคะแนนโหดๆ บางคนถ้าคะแนนเท่ามีนแม่งก็ไม่ให้ดร็อปบอกว่าเดี๋ยวมันจะทำให้มีนเปลี่ยน ถ้าจะดร็อปได้คือแบบ มึงได้ 10 จาก 50 ปสด พอสิ้นเทอมไลน์สาขาแทบแตกเพราะคะแนนเหี้ยกันถ้วนหน้า เขาเคยพูดว่าวิชาเขาจะมีคนเอแค่ประมาณ 10 คนจากประมาณ 130 คน ขนาดคนเรียนเก่งๆยังได้บีเลย กูจะบ้า แถมวิชานี้แม่งเสือกเปิดแค่ปีละครั้งแถมมีตัวต่อด้วย จะไม่จบก็เพราะงี้แหละ
ของกูวิชาไม่ยาก ยากที่อาจารย์เลย อาจารย์แปลกประหลาด วิชายังเข้าใจง่ายกว่าอาจารย์อีก
ไปงานรับปริญญาเพื่อนสนิท ให้ไรเป็นของขวัญดีอะ ไม่เอาดอกไม้และลูกโป่งอะ
เครื่องเพลสาม
กูเอาตังค์ใส่ซอง บัณฑิตขอมาแบบนั้น
เพื่อนโม่ง กูมีเรื่องมาปรึกษา คือตอนนี้กูอยู่ปี 1 และกำลังชั่งใจว่ากูเลือกถูกคณะมั้ย กูเห็นเพื่อนๆสถ เขาทำงานวาดรูปอะไรแล้วกูอิน กูอยากทำ แต่ตอนนี้กูเรียนอยู่คณะที่มันดีกว่าคือกูเรียนไปแล้วเฉยๆไม่ได้ชอบแต่ก็ไม่ได้แย่ จริงๆกูเลือกเพราะมันอนาคตสดใสกว่าแต่กูกลัวว่าตอนโตทำงานแล้วจะไม่มีความสุขแล้วกูมาเสียดายทีหลัง
สถ หมายถึงถาปัดหรอวะ ถ้าใช่ กูบอกเลยถาปัดก็หนักอะ จะแค่มาอินกับวาดรูปคือไม่ได้ ตัดโมเก่ง งานธีสิสก็มา มันไม่ได้มีแค่วาดรูป กูอยู่มอศิลปะ เรียนสายมนุษย์ เห็นเพื่อนเรียนจิตกำ เรียนมัณฑนศิลป์ อห.ตอนแรก ๆ ก็คิดว่าเท่ ติสท์ แปลก เก่ง แต่พออยู่ใกล้ ๆ มัน อยู่หอเดียวกับมันละรู้เรื่อง อีห่า ตีสามยังมาเคาะไม้โป๊ก ๆ ทำประติมากรรม จะตื่นจะนอนก็ไม่พร้อมชาวบ้าน หาตัวยาก กูเข้าหอมาเดินสวนกับเด็กศิลปะไปเรียนตอนสองทุ่มในวันหยุดราชการ มึ
งลองมองอะไรรอบ ๆ ด้านดู คณะที่เรียนตอนนี้อาจแค่ไม่ได้ชอบไม่ได้แย่ แค่เฉย ๆ แต่ถ้ามาทางศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ก็ต้องมี ไฟก็หมดไม่ได้ ไอเดียก็ต้องสดใหม่ ประกอบโมก็ต้องแม่น (ถาปัดต้องมีตรวจโม ประกอบไม่ดีคะแนนก็ F)
มึง มีใครเคยลาออกปะ ตอนมึงลาออกมึงได้ใบอนุมัติให้ลาออกแบบที่อ.เซ็นครบแล้วไหม กูลาออกจะสมัครกสพท.แล้วไม่มีใบนี้อะ จะหาแบบฟอร์มขอใบนี้ก็ไม่มีอีก กูไม่รู้ต้องทำไงอะ ติดต่อกสพท.ทางอีเมล์ไปแล้ว แต่ใครมีประสบการณ์แนะนำกูที
อ่าว กูเจอเอกสารแล้ว โทษมึง กูใจร้อนดูไม่ถี่ถ้วนเองT_T
>>886 มีสิทธิ์ติดเอฟได้ทุกงานแหละสถาปัด กูอยากดรอปอยู่เนี่ย เหนื่อยชิบหาย ท้อจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ไม่มีความสุข ร้องไห้แทบทุกวัน อยากดรอปแต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปเรียนคณะไหนต่อดี กูชอบเรียนด้านนี้นะ แต่สั่งงานเยอะไปร่างกายมันก็รับไม่ไหว กูกับเพื่อนขอร้องอาจารย์ในห้องให้ลดงานลงบ้างเขาก็หัวเราะแล้วบอกปีสองยังผ่านมาได้ ตัดภาพไปดูงาน ดูชีวิตเพื่อนๆสาขาเดียวกันแต่อยู่คนละมหาลัยแล้วกูเศร้าตลอด เหมือนกูเลือกมหาลัยผิด พ่อแม่ก็ไม่ให้ดรอปไปที่นั่นด้วย กูเครียดจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
กูปี4แต่กูรู้ว่าตัวเองไม่จบ4แน่นอนมีต่อไป5ไม่ก็6 ตอนแรกมันก็มีกำลังใจนะ แต่ตอนนี้ท้อวะไม่มีกำลังใจเลย คิดมากสัสๆ เคยคิดว่าอยากจะลาออกไม่ก็ซิ่วไปที่อื่นแต่มันก็4ปีแล้วอะ และก็คิดว่ากูยังไม่เคยจริงจังกับเรื่องเรียนสักครั้งเลย สอบก็อ่าน1-2วันก่อนสอบ การบ้านส่งบ้าง แต่กูก็พยายามปรับนะตอนนี้ ก็คิดสู้อยู่แต่มันก็ท้ออะ ไม่รู้จะยังไงละชีวิตกู
ถ้ากูเรียนวิทย์คณิตอยู่แล้วเรียน predegree คณะวิดยาของม.รามนี่จะโหดไปมั้ย
เพื่อนโม่ง ดิจิทัลมิเดียจบไปทำงานไรได้บ้างวะ ไม่ก็พวกอักษรอะกูเรียนญี่ปุ่น
>>894 กูอยู่อักษร ถ้าจะเรียนอักษรแล้วต้องการภาษา ต้องเลือกเรียนภาษาที่ 3 เพราะถึงจะเรียนเอกอิ๊งก็เจอวรรณกรรมฝรั่ง เป็นวิชาบังคับเลยตั้งแต่ก่อนเข้าเอกโท ยังไง ๆ ก็ต้องเรียน เข้าเอกไปก็เรียนรรณกรรมเน้น ๆ จะเรียนให้ได้ต้องรู้พื้นหลังมนุษยศาสตร์ การเมือง ประวัติศาสตร์ ทาส การเหยียดผิว สงคราม สมัยยุควิคตอเรียน ฯลฯ อีดอก เยอะ บางทีอยากเรียนฟังพูดอังกฤษก็ไม่ได้เรียนเยอะขนาดนั้น วิชาวรรณกรรมมาเบียดไปหมด ถ้าจะเรียนอักษรให้ได้ภาษาเน้น ๆ กูแนะนำเลือกภาษาที่สามเลย แต่คณะนี้เรียนสนุกอยู่ คณะทางมนุษยศาสตร์ มีอะไรให้เลือกเรียนเยอะ การละคร สังคมศาสตร์ ปรัชญา ภูมิศาสตร์ แต่ถ้าเรียนภาษา จะมีวิชาการแปลอยู่ในทุกภาคภาษาเลยมั้ง ทำสายหนังสือก็ดีอยู่ แต่เห็นด้วยกับเมนต์ข้างบนที่บอกว่าเด็กอักษรจบไปทำได้หลายอย่าง แค่คนนอกอาจมองว่ามันไม่เฉพาะเจาะจงเพราะมันไม่ใช่คณะวิชาชีพ บางวิชาก็เป็นนามธรรม เอาไปประยุกต์กับชีวิตจริงยาก สำหรับคณะอักษรก็คือถ้าเลือกเรียนให้ถูกความสามารถก็สนุก แต่มึงจะเรียนญี่ปุ่นใช่มั้ยล่ะ เออ อักษรทั้งสองที่ก็เหมือนกันอะ ญี่ปุ่นนี่ตัวยากของอักษร คนถอนพรึ่บ แล้วก็ต้องมีพื้นฐานดีถึงดีมากก่อนมาเรียนด้วย อย่าเชื่อญี่ปุ่นอักษรมหาลัยสีเขียวว่าไม่มีพื้นฐานก็เรียนได้ อีห่า ไม่จริง ต้องมีพื้นฐานดีถึงดีมากถึงจะตามอาจารย์ทัน
ราชพัด กูไม่แน่ใจนะว่านอกจากค่าเทอมแพงกว่ารามราวๆ1-2เท่าตัวเนี่ย กฏการลงทะเบียนแม่งบ้าบอแค่ไหน เช่น ลงเรียนไปไม่ครบตามที่เค้าจัดหลักสูตรมาให้นี่คือขาดทุนนะ เช่น เทอมนี้ลงห้าตัว ค่าเทอม 9600 แต่เสือกเรียนแค่สี่ตัวไม่ลงวิชาที่5 เราจะขาดทุนและขอค่าหน่วยกิตที่ไม่ลงคืนไม่ได้ทุกกรณี กับ ม.รามไม่มีปัญหานี้เลย เพราะลงเรียนแล้วไม่โอเค มีช่วงเวลาให้ถอน-เพิ่มได้ แค่พกเงิน(หลักร้อยๆ) ไปจ่ายเพิ่ม แล้วที่โคตรดีเลยคือ ลงเรียนวิชานึงไป ละไม่ไปสอบ ได้F ไม่เอามาคิดเกรดในใบtranscript ลงเรียนใหม่ได้ ไม่ต้องรีเกรด ไม่ตัดสิทธิ์การได้เกียรตินิยมด้วย ยกเว้นว่าได้DหรือD+ มา ม.รามไม่มีไทร์ถ้าตกหลายๆครั้ง มีแต่ไทร์ไปรหัสใหม่เพราะเรียนเกิน8ปีตามนโยบาย
นิติรามกูว่าโอเคกว่ามาก ทั้งในเรื่องของอิสระ ทั้งความสะดวกของมึงที่จะลงวิชาอะไรก็ได้ในเทอม2ปี1 เพราะแม่งให้อิสระมึงในการถอนและลงทะเบียนเรียนสูงสัสๆ แล้วตอนสอบเนติ มีแค่ห้ามหาลัยไทยเท่านั้นที่เรียนจบแล้วให้ไปสอบได้เลย ไม่ต้องไปสอบเทียบวิทยฐานะเพิ่มอีก เทียบกับราชมงคล ราดพัด นิติรามยังกินขาดเสมอในเรื่องของอภิสิทธิ์อะไรๆที่แม่งพอๆกับนิติของ จุฬา หรือ มธ.
อักษรฬ กับ สินปะสาดมธ ข้อเด่นข้อด้อยต่างกันยังไงบ้างอะ
>>901 อักษรเน้นทางวรรณกรรมมากกว่า แต่สินสาดจะมาแนวให้เลือกได้มากกว่าว่าจะเน้นวรรณกรรมหรือเน้นทักษะ จริงๆ ก็เลือกได้ทั้งสองม.นั่นแหละแค่อักษรจะมีวรรณกรรมอยู่ในตัวบังคับมากกว่าถ้าจำไม่ผิด นอกนั้นไม่ค่อยได้ดูหลักสูตรของชูล่าเพราะไม่ติด แง แต่ชอบสินสาดมธตรงมันเลือกวิชา/โทได้ค่อนข้างอิสระ ด้วยความที่ชูล่าเป็นเอกรวมเลยแข่งขันกันชิบหาย แต่มธถ้าเข้ามาแบบมีเอกแล้วก็จะชิวนิดนึง (ยกเว้นมึงจะเข้ามาจากเอกรวมอีก) ครส.กูก็ยังให้อักสอนชูล่าอยู่สูงกว่านิดนึง ว่ากันตามตรงถ้าไม่ใช่เอกแมสๆ คะแนนมธก็ไม่ได้สูงเท่าไหร่อะ สองหมื่นก็ติดละ
มหาลัยมหิดลเข้ายากป้ะวะ กูจบมา2ปีแล้ว ยังสอบเข้าได้มั้ย กูไม่มีความรู้เรื่องมหาลัยเลย ตอนแรกคิดว่าจะไม่เรียนมหาลัยต่อแล้ว คนรอบข้างกูก็ไม่ได้เรียน แล้วมหิดลมีคุรุศาสตร์หรือป่าว
มหิดล จะนิยมในสายงานสาธารณสุข หมอ งานพยาบาล แต่เอาตามตรงนะ ในสายงานนี้power harrasmentจนเป็นวัฒนธรรมเลย ระบบรุ่นพี่แม่งบ้าบอมาก พวกสายงานที่ไม่ใช่เรียนจบเป็นแพทย์รักษาคน ระบบSOTUS ปญอ. พอๆกับพวกมหาลัยราดพัด ราชมงคลอ่ะ มีแค่หลักสูตรนานาชาติ วิทยาศาสตร์กับศิลปศาสตร์ที่ไม่มีอะไรแบบนั้น
>>910 แล้วบริหารเป็นไงมั่ง
กูว่าโม่งมู้ก่อนก็มีเหมือนกันว่ามหาลัยนี้รับน้องดุ แต่ไม่ได้เถื่อนเหมือนแม่โจ้... คือบ้านกูโอ๋กูพอสมควร กลัวรับไม่ไหว รับแบบไหน สั่งวิ่งรอบสนาม? มีรับนอกสถานที่ป่าวเป็นไงบ้างอ่ะ
คือบริหารกุว่าเซฟกว่าจบสายสุขภาพหรือรับราชการเพราะเราเลือกไปตปท หรือทำธุรกิจของตัวเองได้ แต่ถ้าเรียนหมอยังไงก็หนีไม่พ้นรุ่นพี่ที่จบก่อนอยู่ดี555
>>911 บริหารที่มึงว่านี่คือนานาชาติหรือที่เมืองกาญจน์? ถ้าเมืองกาญจน์ ขอเตือนมึงว่าเอาสาขาบัญชีแทน หรือไม่งั้นไปสอบธรรมศาสตร์จะดีกว่า เพราะถ้าเงินมึงไม่ถึงในมหาลัยนี้ สิทธิ์ต่างๆมึงโดนริดรอนเยอะมากจากรุ่นพี่สลิ่่มๆในมหาลัย แล้วขอเตือนนะ ด้วยความหวังดี บริหารเนี่ย มีระบบว้าก ไอคนว้ากเนี่ยผู้บริหาร บ. ยักษ์ใหญ่ย่านสีลม เครือขายไก่ แถมเป็นศิษย์เก่าดีเด่นด้วย คิดเอาเองละกัน
ม.ไหนไม่มีระบบว้ากและไม่ส ลิ่ม
>>916 ทำไมหลักสูตรนานาชาติไม่เจอ หรือเพราะไม่ได้อยู่ระบบการศึกษาไทยเลยไม่มีคะแนนวิชาเข้ารับน้องเหรอ
จริงๆเข้ามหาลัยจะรับน้องแบบสร้างสรรค์ให้รู้จักกันนี่กูโอเคนะ ปกติก็น่าจะเป็นแบบนี้ ไม่รู้ไอเรื่องแย่ๆจากการรับน้องในเพจแอนตี้โซตัสนี่เป็นเรื่องจริงได้ไง ตอนอยุ่มัธยมยังไม่เจอเลย
>>917 มึงนี่ยังเรียนไม่ถึงมหาลัย/เรียน กศน รึเปล่าวะ ตอนมัธยมมันก็มีนะเรื่องพวกนี้ เผลอๆส ลิ่มกว่าระดับมหาลัยอีก ความต่างก็แค่ว่าพวกครูมันซัพพอร์ตเรื่องพวกนี้ด้วยและมึงยังอ่อนประสบการณ์ ไม่รู้ว่านี่คือกิจกรรมดักดานสำหรับเยาวชน ส่วนสาเหตุที่หลักสูตรนานาชาติไม่เจออะไรแบบนี้นะ เพราะหลักสูตรนี้มันคัดกรองคนที่รู้ภาษามาระดับนึงแล้ว และต้องมีเงิน + ลูกค้าที่มาเรียนไม่ใช่แค่คนไทย ต่างชาติก็มาเรียนด้วย %ของ นศ. ตลาดล่างใช้ระบบโง่ๆมาบังคับลูกคนรวย คนมีอิทธิพล มันยากมาก ยิ่งทำแบบนี้ให้ต่างชาติรับรู้เค้าก็ยิ่งประชาสัมพันธ์ให้ไปเรียนที่อื่นแทนไง
เพื่อนโม่งน้องกูอายุ 12 แต่เขียนโปรแกรมจาก c++ กับโปรแกรมรถบังคับเองได้ พอกูบอกว่ามันสอนแต่ในมหาลัย นางบอกอยากลัดจากประถมไปมหาลัยเลย ต้องสอบเทียบยังไงบ้างวะ จริงจังนะ สกิลนางแม่งใกล้ๆกู แก้โจทย์ IBM จากบ.กูได้
>>920 กุรู้จักแต่ระบบของอังกฤษอ่ะ สอบ IGCSE (เทียบม3-4) เมื่อก่อน5ตัวก็เอาไปเทียบเท่าม.ปลายได้ แต่เดี๋ยวนี้ต้องสอบ a level ถึงจะเทียบมปลายได้
A-level (เทียบม.5-6) 3วิชาแล้วเอาเกรดไปเทียบเป็นม.ปลายได้เลย แล้วก็ใช้สมัครเข้ามหาลัย
ไม่แน่ใจว่าต้องสอบigcse ก่อน a levelไหม หรือสามารถข้ามไป a levelได้เลย แต่มันเป็นภาษาอังกฤษหมดเลย
>>920 บ้านมึงนี่ฐานะแบบไหนวะ? สำหรับกูแล้วถือว่าน้องมึงมีอนาคตมากๆ(มากกว่ากูอย่างเห็นได้ชัด) ถ้าอยากสอบเทียบทำได้ มี2แบบคือ IGCSE+A level ก็แบบที่โม่งตัวบนๆบอกอ่ะ กับGED+SATซึ่งอย่างหลังมันระบบเมกันจะง่ายกว่า ปัญหาของน้องมึง(ซึ่งมุ่งมั่นตั้งใจแบบนี้กูว่าคงไม่ใช่เรื่องยากถ้าแม่งแก้โจทย์ IBM ได้) คือยังไม่ได้เจอสิ่งที่เรียกว่าแคลคูลัส สถิติ และเรียนฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ของม.ปลาย อยากให้ใช้เวลา3ปีตรงนี้ไปติวเข้มๆเลย อ่อ อีกเรื่องนะ ถ้าน้องมึงมีควย ตอนเรียนมหาลัยอ่ะ สมัครเรียน รด. ซะ
>>923 GED ต้องดูข้อกำหนดของไทยหว่ะ รู้สึกว่าวุฒิ ม.3ก็ใช้ได้นะ แต่เรียน ม.4 ไปบ้างก็ดี เพราะว่าอย่างน้อยๆมีพื้นฐาน ม.ปลายมาติ่งๆก็ช่วยได้เยอะมากแล้ว เอาตามตรงนะ ถ้าคิดว่าก้าวข้ามจากชีวิตใน รร.มัธยมแล้วมาสู่มหาลัยได้เลยก็ลองดู แต่อยากให้เรียนในระบบนานาชาติเท่านั้นจะเซฟสุดๆ เพราะกลุ่มคนที่เรียนข้ามขั้นมาแบบนี้สำหรับเด็กไทยคือของแปลกและจะถูกแอนตี้/บูลลี่ง่ายมากๆ
เพื่อนกูลาออกจากเตรียมตอนมอสี่ มาอยู่กับบ้าน สอบ GED ตอนนี้อยู่หมอมอรัฐมอหนึ่ง ไม่รู้ว่าถูกบูลลี่อะไรมั้ย แต่เพื่อนกูนิสัยไม่เหมือนใครอยู่แล้ว ถ้าพูดถึงเรื่องสอบ GED มันก็โอเคอะ แต่มันจะมีปัญหาว่าถ้าวันหนึ่งอยากเปลี่ยนใจ อยากเรียนคณะอื่น ๆ แต่คณะนั้น ๆ รีเควสท์เด็กภาคปกติ ได้วุฒิมอปลายมาอะจะเสียดาย เพราะ GED ส่วนใหญ่เข้าได้แต่นานาชาติ
>>925 จะบอกว่าสาขาแพทย์ไม่โดนบูลลี่อยู่ละ เพราะ เรียนหมอคือแม่งมีคนแนวๆเรียนลัดแบบนี้มาสี่สิบกว่าปีแล้วอ่ะ เด็กสอบติดหมอตั้งแต่อายุยังน้อยเข้าเรียนแพทย์ได้นี่คือต้นแบบบุกเบิกของการเรียนลัดเข้ามหาลัยเลยนะ แล้วการที่การทรวงศึกษาธิการแม่งชอบปรับหลักสูตรปฏิวัติไอนั่นไอนี่ออกก็เพราะมีข่าวแบบนี้ออกมานี่แหละ ระบบสอบเทียบไทยๆสมัยก่อนเลยโดนยกเลิกทิ้งแล้วเอาคะแนนจิตอาสามาคั่นกลาง+class attendanceไง
มึงจะสมัครฝึกงานเรซูเม่มันต้องเขียนแบบไหนอ่ะต้องเปนขาวดำดูทางการหรือตกแต่งสีสันวะ(มันมีหลายแบบกุเลยงงๆ) ช่องความสามรถกุก้ไม่รุ้จะใส่อะไร.... แล้วถ่ายรูปติดบัตรกุไว้หน้าม้านี่ต้องปล่อยหน้าม้าได้มะหรือต้องเอาผมเก็บข้าง
>>927 ขาวดำไม่ก็เล่นสีสัก 1-2 สี ตามพินเทอเรสเลย ฝึกงานเน้นทางการก็ดีนะ เผื่อเวลาต้องทำงานจริงๆจะได้ใช้เรซูเม่อันนี้ยื่นไปเลยไม่ต้องทำใหม่555+
จัดlayout ดีๆให้ดูอ่านง่ายก็พอ ช่องความสามารถขึ้นอยู่กับว่าสมัครไปไหน ถ้าสมัครทำงานออฟฟิส ก็อาจจะเขียนว่าใช้ excel เป็น ถ้าสมัครงานดิจิตอลอาร์ต ก็เขียนว่าเออใช้ photoshop~อิลลัสได้
ความรู้ภาษาใส่ได้ทุกบ ใส่ๆไปเลย จะ n1 hsk3 ielts8 ใส่ได้หมด ส่วนอุปนิสัยที่จะส่งผลดีต่อองค์กร กูไม่รู้อะ
>>929 ลองดูเว็บนี้ ทำไรเป็นก้อปไปเลย general ledger, finance analyst
https://www.monster.com/career-advice/article/accounting-resume-sample
เสิชพวก accounting audit resume ในกูเกิ้ลอะ
ปล. มึงใส่ microsoft office ไปเลยดีกว่า
แล้วก็ควรไปเรียนภาษาที่2/3 เพิ่มตาม>>930 สมัยนี้ขั้นต่ำยังไงก็ต้องรู้อังกฤษนะ ไม่ต้องคุยได้เหมือนชีวิตประจำวัน แต่ถ้าอ่านเอกสาร ดีลงานกับลูกค้าไรงี้ต้องรู้เรื่อง ถ้ารู้ภาษาที่ 3 ยิ่งดีเลยเงินเดือนสูงแน่ เคยอ่านกระทู้พันทิปเงินเดือนเริ่มครึ่งแสน อันนี้เลยเอาไปอ่านเล่นๆก็ได้
มข สังคมเป็นไงวะ อยู่จังหวัดอื่นไกลๆน่าไปเรียนมะ
>>934 กูตามด้วยคน แต่โม่งอีสานฉลาดๆหายากหว่ะ เท่าที่กูรู้นะขอนแก่นวิทยาเขตหลักกูว่าสภาพแวดล้อมคือสังคมเมืองระดับนึงแล้วอ่ะ มีรถเมล์ขอนแก่นบัสเดินรถตามแหล่งสำคัญๆของเมืองแล้ว ไม่รู้นะว่าแม่งน่าอยู่ ระบบการไฟฟ้า ประปา และอินเตอร์เน็ตจะคุณภาพชนบทไหมหรือเทียบเท่าใน กทม. และปริมณฑลรึเปล่า
>>934 >>935 1.มึงพูดถึงคณะไหนล่ะ ถ้ามึงไม่ได้เอาไปเทียบกับฬ ที่แม่งอันดับ1ของประเทศ เกือบทุกคณะ ก็แล้วแต่คณะ อย่างมธ พูดถึงคณะสายวิทย์ก็สู้ม.ต่างจังหวัดไม่ได้ แต่ถ้าพูดถึงนิติ รัฐศาสตร์ มธแม่งก็ที่สุดในประเทศ สายการแพทย์ ถ้าไม่นับมหิดล ฬ ยิ่งบ้านนอกยิ่งเก่ง มึงก็เจาะลงมาว่ามึงพูดถึงคณะไหนล่ะ
2.แล้วก็2019แล้วมึง ไม่ใช่สมัยร.5 น้ำไฟ แม่งเข้าถึงทุกที่แล้วมึง
3.อยู่ต่างจังหวัด กรุณาไปหาเวลาไปเรียนขับรถ จำเป็นมาก มอไซต์ก็ได้ รถยนต์ก็ได้ รถยนต์หาที่จอดไม่ได้ มอไซต์ก็เสี่ยงหาย เสี่ยงตาย เนื้อหุ้มเหล็ก เลือกเอาล่ะกัน กูไม่เข้าใจทำไมเด็กกรุงเทพส่วนใหญ่ขับรถกันไม่เป็นว่ะ หัดอาทิตย์เดียวก็ไปสอบใบขับขี่ได้แล้ว เชื่อเถอะมึง ถึงมึงจะนั่งรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้ามาตลอดชีวิต แต่ถ้ารถไม่ติด ยังไงนั่งรถส่วนตัวก็สบายกว่าเยอะ แดดประเทศไทยก็ร้อนจะตาย มึงไม่อยากนั่งรอรถร้อนๆหรอก อีรถซัตเตอร์บัสที่จังหวัดโปรโมท มันวนรอบเมือง กว่าจะไปถึงเป็นชม. แต่ถ้าขับรถ15นาทีก็ถึงแล้ว รถซัตเตอร์บัสในมอมันก็ไม่ได้24ชม. 2-3ทุ่มก็หมดแล้ว
4.จราจรขอนแก่น ไม่ได้เหี้ยแบบกรุงเทพ มีกล้องเยอะมาก มาแรกๆกูไม่รู้ โดนไปหลายพัน จอดขาวแดงตำรวจล็อคล้ออย่างไว ไม่สวมหมวกกันน็อค ต้องบำเพ็ญประโยชน์ชดใช้ ไม่เปิดไฟเลี้ยว ปาดหน้า ขับรถเหี้ย ก็เตรียมตัวโดนถ่ายรูปประจานลงเฟส
5."โม่งอีสานฉลาดๆหายากหว่ะ"กูไม่รู้ว่ามึงหมายความอะไรว่ะ แต่เดียวนี้กูเห็นไม่ค่อยเห็น การเครม นายAได้รางวัลบลาๆ จบจากบลาๆแล้วว่ะ มึงก็เลยรู้สึกว่าหายากหรือเปล่า อย่างนักข่าวประกาศข่าวที่สวรรคตก็จบจากมข. เดี้ยวนี้ไม่ได้ต้องจบจากม.ดังๆ เท่านั้นถึงจะเก่งได้หรอก เมีตังค์ มีเวลา อยากจะเก่งแค่ไหน อยากจะเซียนแค่ไหน แม่งก็จัดได้ทั้งนั้นแหละ จบป.ตรี แม่งไม่สาแก่ใจ รู้สึกเก่งไม่พอ จะต่อโท ต่อเอก ต่อนอก ก็แล้วแต่ทุนทรัพย์ และเวลามึงเลย
6.มีอย่างนึงที่กูยอมรับว่า เด็กกรุงเทพ ดีกว่าเด็กต่างจังหวัดจริง คือหน้าตา ยิ่งใกล้กรุงเทพยิ่งหน้าตาดี
>>936
2. น้ำไฟเข้าถึงทุกที่แต่มึงดูหน่วยงานบริหารด้วยละกันเนาะว่าเค้าทำให้มันดีรึเปล่า
3. เด็ก กทม. ขับรถกันไม่ค่อยเป็นเพราะมีรถเมล์ รถสองแถว รถไฟฟ้ามาประเคนเยอะมาก ละขับรถในกทม.เสี่ยงด่านมากๆ ช่วงเงินเดือนออกนี่แม่งตั้งเป็นแฟรนไชนส์เซเว่นเลย ยัดยากันแบบสุดๆ แถมเจอเหี้ยขับรถพาตายเต็มท้องถนนอีก เจอเยอะกว่า ตจว. ก็พึ่งพาขนส่งมวลชนเถอะ อย่าง รฟฟ. นี่แม่งบางทีช่วยหนีรถติดทำได้จริงนะ
5. โม่งอีสานฉลาดๆที่อยู่ใน fanboi เนี่ยหายากอ่ะนะ ส่วนใหญ่ที่เจอๆก็คือ คอสเพลย์ตลาดล่างสมองหมาปัญญาควายไงเธอ คุยไปแม่งก็ประสาทแดก
>>937 กู936เอง กูก็ (เคย)เด็ก คอส แต่กูแก่แล้ว20กว่าแล้ว เรียนจนจะจบแหละ กูเก็ทอยู่ เด็กคอสเบียวๆแม่งเยอะจริง พวกโตๆ แก่ๆแบบกู หมดเวลาเบียวกันแล้ว ก็ติดเรียน ติดงาน ไม่ค่อยได้ไปคอสกันแล้ว ที่เหลือไปคอสได้มีแต่เบียวๆ
2.กูก็อยู่มาหลายจังหวัด แล้วแต่แหล่งด้วยเอาจริง ในกรุงเทพเอง บางที่น้ำแม่งได้น้ำชา แล้วแต่พื้นที่เลยเอาจริงๆ เรื่องหน่วยงานบริหารแม่งก็เหมือนกันทั้งประเทศแหละ เอาจริง กูสงสัยว่า ถ้ามาเรียน มึงก็ต้องมาอยู่หอ มึงจะซีเรียสเรื่องน้ำไฟทำไมว่ะ หอทุกที่แม่งก็มีแท๊งค์น้ำ ไฟสำรองทั้งนั้นแหละ
3.กูเคยผ่านจุดนั้นมาแหละ จุดที่ไม่เห็นจะจำเป็นเลย มีรถเมล์ รถไฟฟ้าไปทุกทีที่ แต่เชื่อเถอะ ถ้ามีรถ ขับรถเป็น มึงจะไม่อยากพึ่งขนส่งสาธารณะหรอก
ใครเคยไปเรียนภาษาที่ตปทบ้างเขาสอนยังไงวะ ละกุเเบบไม่เก่งอิ้งอ่ะเเต่พ่อบอกไปเรียนภาษาที่นู้นมั้ยกุจะรอดปะวะไม่เก่งอิ้งละจะเข้าใจที่เขาสอนหรอ;—; แต่กุสนใจอยู่อะใครมีรีวิวบ้าง
>>939 แล้วแต่ประเทศ กูเคยไปเรียนตอนเด็ก ๆ ไปประเทศไหนก็ได้สำเนียงนั้น ฟังง่าย ฟังยาก ของกูไปเที่ยวด้วยไปเรียนด้วย ได้เป็นรูมเมทกับนักศึกษาที่มหาลัยนั้นเลย เหมือนไปเรียนรู้วิถีชีวิตมากกว่ามั้งในความรู้สึกกู ไม่ค่อยได้อะไรกลับมา แต่สิ่งที่จะติดตัวมาเมื่อกลับไทยคือสามารถสื่อสารได้อะ กูไม่ค่อยอะไรกับการไปเมืองนอกเพื่อเรียนภาษาอยู่แล้วด้วยมั้ง เพราะใจจริงอยากเรียนเอาปริญญาที่เมืองนอกเลยมากกว่า
เรื่องจะใช้ชีวิตยากไม่ยากอันนี้กูไม่รู้อะ บางที่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวก ใช้ชีวิตสบาย ๆ แต่ควรได้ภาษาอังกฤษพื้นฐาน สั่งของกิน ทอนเงิน แลกเงิน ถามทาง ที่กูเคยไปก็อยู่สบายนะ เพราะในมหาลัยมีป้ายบอกทางครบ อยู่แทบจะใจกลางเมืองหลวง สิ่งสำคัญคือเลือกประเทศที่ปลอดภัยมาก ๆ จะได้เซฟตัวเอง
>>939 เคยแต่ไปซัมเมอร์เมกาเดือนนึงตอนมัธยม อ่ะ ถ้าไปเรียนแบบจริงจังน่าจะต่างกันนะ
ของกูพอไปถึงเขาจะมีให้สอบวัดระดับ แล้วเราก็เข้าเรียนตามคลาสที่เขาจัดมาให้ เนื้อหาที่เรียนก็จะต่างกัน อย่างกูอยู่คลาสสูงหน่อยก็จะเรียนพวกเขียนบทความ อ่าน text แล้วมาถกกัน บางวันก็มีให้ผ่อนคลายโดยการแต่งนิทานแล้วเวียนกันเขียนบ้าง แต่อย่างเพื่อนกูที่อยู่คลาสล่างหน่อยจะออกแนวเล่นเกมเยอะ เหมือนเขาแทรกการพูด การใช้คำไปในเกมอ่ะ
กลับมาก็ได้พวกภาษา คำศัพท์ใหม่ๆ ศัพท์เฉพาะ คำแสลง idioms อะไรพวกนี้นะ
พูดถึงภาษาอังกฤษ กูยังพูดไม่ได้เลยอะโง่มากมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีความสนใจทางด้านนี้ด้วยเลยไม่สนใจไปใหญ่ เรียนญี่ปุ่นอย่างเดียว ตอนนี้ก็ N2แต่อังกฤษคือไม่ได้เลย ตอนนี้เริ่มสำนึกว่าควรจะตั้งใจฝึกจริงจังอะ แต่กูโง่ด้านภาษามากพูดไม่ชัดแถมขี้เกียจถ้ากูไปเรียนภาษาที่นอกสักหนึ่งปีจะดีขึ้นมั้ย ถ้าเทียบกับเรียนที่ไทยไม่รุชาตินี้จะพูดได้กะเค้ามั้ย
>>945 กุเหมือนมึงเลยโง่ด้านภาษามาก แต่วิชาอื่นคือกุทำได้ดีแต่มาตกม้าตายที่ภาษาตลอดโง่อิ้งมาทั้งชีวิต จะไปเรียนภาษาอื่นกุก้ไม่น่ารอดอีก กุคือพยายามเรียนพยามฝึกแล้วแต่เข้าใจคนที่ไม่ชอบวิชานี้มั้ยกุฝืนใจเรียนไม่ได้จิงอิจฉาคนเก่งภาษามาก แล้วกุเปนพวกขี้อาย+กังวลเก่งไม่กล้าพูด กลัวไปหมด บางทีกุอาจมีปมกับภาษานี้ด้วยไม่ชอบจิงๆแต่แม้งก้สำคัญกับชีวิตอีก
เพื่อนโม่งรด.(เอาที่ยังเรียนอยู่นะเพราะระบบปีนี้) กูสงสัยว่าชดเชยล่วงหน้าได้มั้ย กูอยากไปเก็บชั่วโมงเพราะตอนนี้ปิดเทอมละใกล้เรียนจบแล้ว กะไปโผล่สัปดาห์สุดท้ายเลย
ดรอปล่าช้าวันพรุ่งนี้วันสุดท้าย อิวิชา 4 หน่วยกิต พึ่งออกคะแนนวันนี้ตอนทุ่มนึง แล้วพรุ่งนี้สำนักงานของคณะหยุดตอน 11 โมงถึง 5 โมงเย็นอีก ไอสัส เฮ็งซวยชิบหาย จะเรียนไม่จบก็เพราะอย่างงี้
ทำไงกับชีวิตดีอ่ะ เรียนจบตรีมาสักพักและ ได้งานทำแล้วแต่แม่งโครตไม่มีความสุขเลย กูอยากเริ่มเรียนในสิ่งที่กูรักมาก (ด้านภาพยนตร์) ก็เลยคิดๆว่าอยากจะเรียนปริญญาตรีอีกใบ คือแบบสอบเข้าเหมือนเด็กมัธยมนี่แหละ แต่ตังค์ก็ไม่มี เพื่อนโม่งคิดว่ายังไงบ้างวะ กูควรลาออกจากงานมานั่งเรียนจะดีมั้ย หรือเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ช่วยกูด้วยยย กูหาที่ปรึกษาไม่ได้เลย T_T
เพื่อนโม่ง ในนี้มีใครเป็นหมอบ้างไหม กูอยากเป็นหมอว่ะ แต่ภูมิหลังกูโคตรไม่ให้เลย กูป่วยมะเร็งแต่รักษาจนโรคสงบแล้ว ตอนนี้เรียนกศน. กูอยากเป็นจริงๆ หว่ะ มันจะมีทางเป็นไปได้มั้ย ร่างกายกูยกของหนักมากๆ ไม่ได้อะ ตอนนี้พยายามออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงกับฝึกภาษาอังกฤษอยู่
ปกติมหาลัยต้องอ่านนส หนักปะวะถึงขนาดถึงบ้านทบทวนเลยมั้ย พอรู้คำตอบแหละแต่มาย้ำให้กูเจ็บใจที
>>961 แล้วแต่คณะและสาขาปะ กูเรียนสายสังคม ลงตารางเรียนเอง 100% จิ้มได้เลยอยากลงตัวไหน ไม่ชอบก็ไปถอน ไม่ต้องมาเก็บใหม่เทอมหน้า (จะเก็บใหม่ก็ต่อเมื่อเป็นวิชาสำหรับยื่นเข้าสังกัดเอกโท) เรียนเทอมละไม่เกิน 16 หน่วยกิต 555 (เพราะกูถอนเก่งมาก ไม่ชอบก็ถอนเลย) มีเวลาว่างแต่ละสัปดาห์ก็เยอะ มันแล้วแต่จริง ๆ ว่าจะลงเรียนอะไรบ้าง แต่ก็แล้วแต่คณะด้วย ถ้าคณะสายวิทย์จะฟิกซ์ตารางมาเลยว่าวันหนึ่งต้องเรียนอะไรบ้าง ถอนก็ไม่ได้ อันนั้นก็บ๊ายบายจ้า เห็นเพื่อนเภสัชออกมาอ่านหนังสือที่ห้องคอมม่อนของหอยันเที่ยงคืนบ่อย ๆ ในขณะที่กูนอนตายห่าอยู่ในห้องตัวเอง บางทีเพื่อนวิศวะก็รีบตื่นมาอาบน้ำไปเรียน ขณะที่กูนั่งโง่ ๆ อยู่ที่โต๊ะจนเกือบเช้าแล้วค่อยนอน...
ชีวิตในมหาลัยกูจืดมาก เรียนก็ไม่ค่อยเรียน เลือกวิชาที่ตัวเองถนัด (ไม่ค่อยคิดถึงอนาคตเท่าไร กูเรียนคณะนี้ รุ่นพี่ก็บอกอยู่แล้วว่าจบไปก็เหมือนเป็ด ไม่ใช่คณะวิชาชีพ ทำได้หลายอย่าง เจาะจงเป๊ะ ๆ ก็ไม่ได้) กิจกรรมก็ไม่ทำ เอาจริง ๆ ชีวิตมหาลัยออกแบบได้ตั้งแต่ตอนที่มึงสอบเข้ามา เลือกตามที่มึงอยากเรียนอะ เพราะบางทีคณะเดียวกัน แต่คนละมหาลัย สังคมก็แตกต่างกัน
ทำไมค่านิยมที่เรียนเอกชนแต่ละประเทศมันต่างมากเลย อย่างในไทยจะไม่นิยมเอกชนเพราะติดความคิดว่ามีแต่คนยัดซึ่งบางที่ก็จริง บางที่ก็ไม่จริง ในขณะที่พวกอเมริกา ญี่ปุ่น โรงเรียนเอกชนจะมีคุณภาพมากทั้งสภาพแวดล้อมและการเรียน โรงเรียนอันดับต้นๆของญี่ปุ่นก็เป็นโรงเรียนเอกชน ม.รัฐกับเอกชนเป็นที่นิยมพอๆกัน ในขณะที่ไทยพอพูดถึงมัธยมและมหาลัยเอกชนมีแต่คนยี้กันนอกจากจะเป็นคนที่ไม่แคร์
>>962 เรียนบริหาร สาขาธุรกิจระหว่างประเทศอะ
ปี 1 จะเรียนหนักป่ะวะ ถ้ากุเรียนกลางๆไปทางโง่หน่อยๆนี่ต้องอึดเท่าไหน เป็น minimum ถ้าไม่อยากตกสักคอร์สเพราะค่าเรียนแพงมากกไม่อยากเรียนใหม่...เผื่อจะได้เริ่มหาหนังสือมาอ่านผ่านๆเลย
>>963 นอกจากคนไม่แคร์ก็แหงล่ะคนที่ไม่แคร์เค้าไม่จู้จี้ว่าเรียนสถาบันไหนหรอก เมกาก็มีมึงอย่าไปมองพวกเขาดีนักเลย มึงแค่ไม่ได้อยู่ในสังคมนั้น สังคมเหยียดๆในเมกานี่ปสด ยิ่งกว่าสังคมทวิตของไทยเยอะ555
>>963 เมกา ยุ่น สถาบันการศึกษาเอกชนเค้าแบ่งคลาสไว้เรียบร้อยเลยหว่ะ แต่ของบ้านเรา ม.เอกชนคือแม่งหามาตรฐานยากชิบ แบ่งคลาสแบ่งแทบไม่ได้ แล้วเอกชนเจอแต่แบบแพงแม่งทุกอย่างโดยไม่สนคุณภาพ ต้องเรียนสาขาเฉพาะทางถึงจะเจอแบบดีๆบ้าง เช่น แพทย์รังสิต , เชฟ เลอกอดอง กับ ดุสิตธานี การโรงแรม
ส่วนไอพวก รร. เอกชนนี่กูบอกเลยนะ ดีสุดคือแบบนานาชาติ เอาเงินซื้อเสรีภาพ คุณภาพสังคมได้ใน
วัยมัธยม ไม่คอมเมนต์เยอะละกัน ด้วยความที่มันขึ้นตรงกับเงิน
สถาบันอุดมศึกษาของไทยเทียบกับของเมกาคืออย่างน้อยๆไอเมกาที่คุณภาพจริงๆคือจ่ายแพง แต่ นศ. ได้เจอติวเตอร์ให้คำปรึกษาได้ตลอดเวลา ของไทยคือแม่งหายากสัสอ่ะ consultative session เนี่ย ใน ม.รัฐแทบอย่าหวังเลยเหอะ ม.เอกชนก็หาเจอน้อยมาก ยิ่งเรื่องจำนวน นศ. ต่อคลาส ม.ไทยทั้งเอกชนและรัฐสอบตกสัสๆ อ่อ ใช่ๆ อีกอย่างนึงนะคือ ม.เอกชนไทย หาแบบแนวราคาถูกแต่คุณภาพดีจัดๆแบบ ฬ , มธ. นี่หาไม่มีเลยมั้ง เทียบกับเมกาที่อย่างน้อยๆ ไอวี่ ลีกส์ เรียนprincetonค่าเทอมสำหรับประเทศเค้ายังถือว่าพอจับต้องได้บ้างอ่ะ
เบื่อค่านิยมที่ว่ามหาลัยนอกต้องดีเสมอ เพื่อนบางคนไปเรียนเมืองนอกแต่เป็นมหาลัยอันดับไกลมากมาเย้ยว่าเก่งกว่า กูอยู่มหาลัยไทยอันดับสูงกว่ามันเยอะแต่มันก็ยังเชื่อว่าถ้าเรียนนอก = เหนือ
ถ้าสายบริหารกูว่าเรียนนอกไงก็ดีกว่านะ คณะนี้คือเมิงได้ภาษาจบ นอกนั้นค่อยมาเรียนงานเอา งานมันเรียนได้
ส่วนพวกสายเฉพาะทางอย่างบัญชี ออกแบบ กฎหมาย โปรแกรมเมอร์ วิศวะ ฯลฯ เห็นด้วยว่าเรียนในไทย มอดีๆดีกว่า
กูเลิกสนใจค่านิยมแล้ว มหาลัยกูไม่เคยติดแรงค์อะไรเลยทั้ง ๆ ที่เป็น 1 ใน 5 ของมหาลัยเก่าแก่ที่สุดในไทย 555 มหาลัยทุกที่ก็มีคาแรกเตอร์ของตัวเอง ในเมื่อเลือกเรียนแล้วก็ไม่ต้องไปประสาทแดกกับเสียงนกเสียงกา เรียนจบมานั่นแหละถึงจะวัดกันได้อีกครั้งว่าใครจะไปได้ไกลกว่ากัน
เพื่อนโม่ง อันนี้สงสัยจริงๆ เคยอ่านผ่านๆตามาสมัย ม.ต้น มีโม่งรุ่นพี่บอกว่าเคยเจอติวเตอร์สลิ่่มที่ชอบปลูกฝังความสลิ่่มบ่อยๆระหว่างการสอนนี่มีจริงเหรอวะ? เจอได้จากสถานที่กวดวิชาที่ไหนบ้างวะ?
มีแถวนึง กูส่องเฟซ ตอน กปปส นี่ด่ายิ่งลักชิบหาย ตอนนี้เงียบ
>>975 มีจริง จากปสกเรียนคอร์สสด คนที่สอนไทยสังคม สถาบันติวเตอร์ที่ดังที่สุด ที่สาขาใหญ่อยู่เยาวราชอะ ตัวดี
อีกลอนเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพก็ไม่ใช่ของฮิตเลอร์อย่างที่แกชอบพูด ซักพักก็อวยเจ้าให้ฟัง มาสอนก็มาเลตสัสๆ บางทีคอร์สสดมาเลตเป็นชั่วโมง ก็เลิกเลตอีก เลิกเรียนสี่ทุ่ม กูถึงบ้านเกือบเที่ยงคืนอีสัส กูก็ไม่คิดว่าจะสอนเลตชั่วโมงนึงขนาดนี้
ขอปรึกษาหน่อยครับเพื่อนโม่ง จะขอสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนายสิบครับคือผมมีอยู่2ทางเลือก 1.สอบนายสิบทหารต่อจากเกณฑ์(เขาว่าถ้าเป็นทหารเกณฑ์จะมีโอกาสสอบติดมากกว่า) 2.รอปลดแล้วสอบนายสิบตำรวจ อยากจะรู้ว่าเลือกข้อไหนดีครับ ตำรวจนี่รู้สึกว่ายศจะไหลไปเรื่อยๆไม่ต้องสอบการันตีเกษียณร้อยเอกแต่งานเครียดมาก *ตอนนี้อายุ20ครับ*
>>979 ถ้าเป็นทหารเกณฑ์มาก่อนคือคุณจะมีสิทธิ์ได้สอบเยอะกว่าอะครับถ้าเป็นพลเรือนไปโอกาสมีสิทธิ์ได้สอบน้อยกว่า
ถ้าอยากเป็นนายสิบทหารจริงๆผมแนะนำตอนเกณฑ์ยื่นข้อไปทัพอากาศเลยครับ เป็นนายสิบที่ทัพอากาศยศขึ้นไวกว่ามาก พยายามเลี่ยงทบ.ให้มากที่สุดเพราะงานเยอะมากกกก แต่ก็อยู่ที่ไปได้เหล่าไหนด้วยนะครับ
ส่วนตำรวจรอท่านอื่นมาตอบ
มีใครสายศิลป์ภาษาแต่จะเรียนหมอมั้ยอ่ะ
ไปถามในมู้อื่นแต่ไม่ได้คำตอบ ย้ายมาถามนี่ละกัน อยากรู้สังคมของอักษรจุฬาแบบรวมๆ + เอกญี่ปุ่นด้วยก็ดี
>>988 กูเรียนที่นี่ เด็กศิลป์ห้องละประมาณ 3-5 คน พื้นฐานวิทย์คณิตดีมาก หลายคนเข้าสายวิทย์โรงเรียนอื่นได้แต่มาเลือกสายศิลป์ที่นี่เพราะชอบ เพื่อนกูหลายคนเคยสอบติดห้องโครงการพิเศษวิทย์คณิตมาก่อนแต่มาเอานี่แทน และความบ้าอย่างนึงคือเด็กที่นี่อยากเรียนอะไรก็ต้องได้เรียน เรียนสายศิลป์แต่ชอบวิทย์ก็ลงทุนไปเรียนพิเศษ ซื้อหนังสือมาอ่าน
>>934 มาช้าแต่อยากตอบ
จากที่กุอยู่มากุว่าสายวิทย์สุขภาพสังคมค่อนข้างโอเค ยิ่งคณะที่มันมีกสพท.มันก็จะมีคนมาจากกทม.อะไรแบบนี้เยอะอยู่ ถ้ามึงจะคบเพื่อนที่มาจากกทม.เหมือนกันไลฟ์สไตล์เดียวกันก็หาได้แน่ๆ อะ อย่างคณะที่กุอยู่ก้คือกลุ่มแบบอีลีทแดกหรูอะไรไปเลยก้มี หรือพวกกินร้านธรรมดาข้างทางก้มี (พูดถึงไลฟ์สไตล์นะ แต่ถามว่าในคณะมีเขม่นกันเรื่องไลฟ์สไตล์มั้ยก้ไม่มีอะ ของพวกกุเกลียดใครก้คือนิสัยแม่งล้วนๆ) ((แต่เอาจริงกุแอบคิดนะว่าคนอีสานก็แอบอคติกะคนกทม.อะ จากเพื่อนกุเองนี่แหละ เหมือนเริ่มต้นมาต้องไบแอสก่อน ถ้าซักพักไม่มีเหตุให้เหม็นหน้าก็จะเลิกไบแอสเอง ซึ่งกุไม่เก็ทเลยอีเหี้ย))
ส่วนโซนคณะดั้งเดิมใหญ่ๆ แบบวิดวะ เกษตร วิทยาเอาจริงกุไม่รู้มันพัฒนาความคิดมากแค่ไหนแล้วแต่คือตอนปี 1 คือแม่ง toxic เหี้ยๆ คือโซตัสสัสๆ มีเพื่อนกุคนนึงลาออกเพราะเรื่องรุ่นพี่(+อยากเรียนอย่างอื่น) อะไรเงี้ย แต่คนดีๆ กุก็คิดว่ามีแหละ แต่โดยรวมที่กุอ่านจากดราม่าในกลุ่มเฟสมา(เมื่อสมัยก่อน 3-4ที่แล้ว) ความคิดหลายๆ อย่างในสังคมนั้นค่อนข้างล้าสมัย แต่ตอนนี้ที่รณรงค์เคารพสิทธิกันปาวๆ ก้น่าจะดีขึ้นมั้ง
ส่วนพวกมนุด บัญชี อะไรงี้ไม่รู้ว่ะ น้องกุบอกก้มีโซตัสนะแต่ไม่แรงแบบเอาตาย
ถ้าจะมาเรียนจริงๆ ควรขับรถเป็น มอไซค์หรือรถยนต์ก็ได้ ถ้าไม่ได้กะจะอยู่หอในไปตลอด (แต่มีก้ดีกว่าจริงๆ นะ มอแม่งกว้างชิบหาย อ้อแต่เดี๋ยวนี้มีแกร้บแล้ว)
อาหารการกินเยอะมาก เน็ตน้ำไฟเข้าถึงรอบมอ ถ้าเคยเห็นคนพูดว่าเราสามารถเกิดแก่เจ็บตายในมข.ได้อันนี้คือจริง รพก้มี รร ก้มี กุมีเพื่อนที่พ่อแม่เป็นอ.ในม. เกิดมาก็เข้าสาธิต มหาลัยก็ติดขอนแก่น ล่าสุดอาจจะได้เป็นอ.ในม.ต่อไปด้วย 555555555
ร้านเกม 24 ชม. ก็เยอะ ฟิตเนสมีทั้งของม. นอกม. หอสมุดมีโซน 24 ชม. ร้านเหล้ายังมีรอบมอ ไอ้ชห สิ่งเดียวที่มันหายไประหว่างที่กูอยู่คือร้านเช่าการ์ตูน เศร้าชิบหาย
ข้อควรระวังของมข.คือ ด่าอธิการได้ แต่ห้ามด่าหมอลำ อิเหี้ย กุไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมเวลามีคนออกมาบอกว่างานหมอลำเสียงดังแล้วกลายเป็นคนผิดวะ //แล้วก็อย่าไว้ใจตารางสอบปลายภาค ตั้งแต่กุอยู่มาไม่มีปีไหนไม่เลื่อน สัส
รวมๆ ก็ดีแหละมึง อยู่ไม่ยาก ไม่อดตาย
กุอยากไปเรียนต่อภาษาจีนที่ประเทศจีนสัก6เดือนอ่ะ มีโม่งคนไหนมีอะไรแนะนำใหม่อ่ะเช่นเมืองที่ไป บลาๆ ไรงี้อ่ะ กุก็ติดต่อเอเจนซี่อยู่ แต่ทางเลือกมันเยอะมากๆๆๆๆๆเลยอยากลองถามจากคนที่มีประสบการณ์อ่ะ
>>991 ฟังแล้วก็โอเคนะ ไม่ได้ดูลำบากอะไร เรื่องขับรถนี่กูโครตงงเด็ก กทม เลยว่าทำไมไม่หัดใช้กัน ขนส่งมวลชนแม่งเหี้ยจะตาย รฟฟเลิกเรียนแม่งก็เบียดกันเป็นปลากระป๋อง รถเมล์รถตู้ก็ติดกันไม่ต่างอะไรกับรถยนต์ส่วนตัว ไม่ได้สะดวกกว่าเหี้ยอะไรเลย คิดๆรายเดือนดูแล้วถูกกว่าก็ไม่ใช่
>>996 ลิ่มทั้งมหาลัยแหละเมิง กลางเมืองขนาดนั้น ช่วงเดินขบวนผ่านทุกวันมีแค่คนยืนเชียร์ให้กำลังใจ เส้นบีทีเอสทั้งเส้นนั่นแหละ ช่วงนั้นกระแสลุงไม่ต่างกับส้มๆหรอก ตอนนี้น่าจะกลายพันธ์เป็นส้มๆไปเยอะแล้ว ตามยุคตามสมัย
เอาจริงๆสอบให้ติดก่อนค่อยคิดดีกว่าว่ามอไหนลิ่มไม่ลิ่ม 5555
>>998 กูแนวลัทธิผู้บริโภคนิยมหว่ะ มหาลัยไทยบ้านเรามีให้เลือกพอๆกับไล่ตีซ่องกะหรี่ ถ้ามีสินค้าและบริการให้เลือกได้ย่อมควรเลือก อันไหนเข้าไปเจอกรุ๊ปหลากหลายหน่อยนี่พอว่าได้ ไม่ใช่เข้าไปเจอสล ิ่มเจอควา ยแดงเป็นฝูงๆแบบพวกมหาลัยทางเหนือ การสอบเข้าไปเรียนไม่ใช่เรื่องลำบากเลยถ้าเทียบกับว่ามีเงินเรียนไหมอ่ะนะ......... ยิ่งออกแนวธุรกิจการศึกษา รู้จักเรียนแล้วรู้คุณค่าของเงินก็ชิลๆได้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.