Last posted
Total of 1000 posts
คุยเรื่องการบ้าน ถกกันเรื่องวิชาการ(ไม่จำกัดวิชา) แนวทางการเรียนหรือแก้เกรด เชิญกระทู้นี้
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
>>>/lounge/475 เคยติด0 กันมั้ย
>>>/lounge/1088 โม่งเตรียมสอบ
>>>/lifestyle/1536 โม่งรักการเรียน[สาระ]
>>>/lifestyle/1961 โม่งรักการเรียน[สาระ 2]
>>>/lifestyle/2927 โม่งรักการเรียน[สาระ 3]
>>>/lifestyle/3527 โม่งรักการเรียน[สาระ 4]
>>>/lifestyle/4408 โม่งรักการเรียน[สาระ 5]
>>>/lifestyle/5640 โม่งรักการเรียน[สาระ 6]
เจิม จะไฟนอลแล้วกูยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย ควยยยยยย
กู 994 เองจากทู้ที่แล้วเองนะ คนที่อยากเรียนคณะมนุษย์ที่มศวอ่ะ กูอยากเรียนสาขานั้นมากจริงแม่งมีที่้เดียวในไทยไม่งั้นต้องไปตปท.แต่ถ้าเกิดเป็นแบบนี้จริงกูคงไม่เอาที่มศว สิ่งที่ชอบรองลงมาก็ทำอาหารสนใจที่สวนดุสิตอยู่ แต่ก็กลัวสังคมอีกนั่นแหละ กูสามารถดรอปไปปีหนึ่งได้นะคุยกับที่บ้านแล้ว ในมธกับจุฬา กูไม่รู้ว่าจะเรียนสาขาไหนดีอ่ะ
วรรณเด็กเดี๋ยวนี้ไม่สอบตรงเหรอวะ กุพูดในฐานมี่เคยสอบตรงเข้าที่นั่นมา (ติดด้วย)
จะบอกว่าถ้ารักวรรณกรรม ชอบอ่านหนังสือจริงๆ ข้อสอบโคตรง่ายเลยนะ
>>6 กูเห็นว่ามันได้ทั้งวาดรูปและเขียนนิยายไงมันเหมือนเหมาะกับกูดีอ่ะเพราะกูอยากทำงานด้านหนังสือ ตอนไปเปิดบ้านมศว กูรู้สึกเขาแนะนำโอเคนะแต่กูไม่รู้เบื้องหลังแต่ถ้าเป็นแบบนั้นกูจะฮึบเข้าอักษร ฬ แต่กูไม่ได้ชอบเรียนภาษาโดยตรงขนาดนั้นตอนนี้เลยสนใสาขาสารนิเทศศึกษากับศิลปการละคร
>>8 งั้นลองพวกการละคร นิเทศน์ไหม? เหมือนมึงจะเอาไปทำนิยายสินะเลยต้องเรียนแนวๆนี้ แต่กูว่ามึงลองหันมาดูนิเทศก็ได้นะ เพราะเผลอๆตอนไหนมึงเบื่อเขียนนิยายจะได้มีลู่ทางเขียนบทหนัง ละคร สามารถพลิกตัวไปเป็น ผกก.ได้อีก แต่เข้า ฬ นี่มึงอย่าไปเลือกสินกำนะ รายนั้นแม่งเหี้ย55555
เออ ลองคณะศิลปศาสตร์เอกไทย/อังกฤษของมหิดล อันนี้ไม่คอนเซอร์ ไปสืบมาแล้วถ้ามึงโอเคกับพวกวิชาวรรณคดีนะ
>>8 ประเด็นมึงต้องตั้งคำถามว่ามึงไปเรียนเเล้วมึงจะได้อะไรเเล้วมึงต้องการอะไร ถ้ามึงอยากวาดรูปเเละเขียนนิยายเป็นอาชีพคือ คีย์ของมึงเเม่งไม่ได้อยู่เเค่คณะเเล้วไง้พราะความรู้ในด้านนี้เเม่งกว้างสัส ้้ละอิสระเหี้ยๆ มึงควรเจาะดูรายวิชาเลยว่ามึงต้องการเรียนวิชาไหนจากคณะนี้บ้างลองไปหาดู เเล้วมันจะช่วยมึงเขียนกับวาดรูปดีขึ้นจริงๆ วิชาไหนหาเรียนได้ทุกที่ วิชาเรียนได้เฉพาะคณะนั่นเท่านั่นชั่งความคุ่้มค่าเอาเอง เพราะบางทีมึงอาจจะไม่ชอบเรียนเเบบนี้ก็ได้มันจะค่อนข้่างเหมือนมีีกรอบมาล้อมรอบความคิดมึงอะ
เรียนนิเทศก็ไม่ได้เรียนเขียนนิยายนะ ต่อให้ภาคฟิล์มก็เถอะ กูเข้านิยายไปสายนิยายเต็มตัว จบมาด้วยรางวัลข่าวและสารคดี 4-5 รางวัล นิเทศออกแนวเอาพื้นฐานมาประยุกต์ใช้มากกว่า กูเห็นด้วยกับ >>11 นะ เอาให้ดีว่าอยากทำอะไรแล้วไปดูหลักสูตร เรื่องสังคมมันก็อีกเรื่อง ถ้ามึงมัวแต่กลัวแม่งจะปิดโอกาสที่ตัวเองควรจะได้เรียนรู้หรือเปล่า อย่างกูไม่ชอบวัฒนธรรมคณะ กูก็เทคณะ ก็จบมาได้ มีเพื่อนสนิทกลุ่มนึงที่ความสนใจเหมือนกัน กูออกตัวว่าต้านคณะยังไม่มีใครมาสอยหัวกูได้เลย
>>13 คืองี้เว้ยมึง ถ้ามันปกติทางใจ มีอะไรๆโอเคหมดนี่ก็แนะแนวตามที่แม่งชอบก็ได้ แต่เห็นมันสภาวะทางใจเพิ่งดีขึ้นแต่ยังดูป่วยๆทางจิตอยู่เอาเข้าจริงไม่ควรซี้ซั้วให้มันไปเรียนนะ สังคมเด็กมหาลัยเดี๋ยวนี้เหี้ยระยำตำบอนกว่าก่อนเยอะมาก สภาวะแวดล้อมมีผลต่อความสุขในการเรียน บุคคลากรสถาบันไม่แคร์ นศ. ด้วยเอาแต่prท่าเดียวแบบนี้ต้องคิดมุมอื่นด้วย เออ มึงเทคณะได้ แล้วไอ >>8 มันจะเทแล้วรอดเหมือนมึงรึเปล่านี่สิน่าคิดนะ อย่าลืมดิว่าคนเรามันแบกรับอะไรมาไม่เท่ากัน
>>14 เข้าใจที่มึงสื่อแหละว่าแต่ละคนมันแบกรับได้ไม่เท่ากัน กูมองว่ามันน่าเสียดายอ่ะ โอเค กูเป็นคนแข็งๆ อันที่จริงใช้ความกล้าอยู่ไม่น้อยนะกับการต้านคนอินที่อยู่รอบข้าง แต่ที่สงสัยคือว่ามันจะไม่มีพื้นที่ให้คนไม่อินเลยอ่อวะ แบบเมทกูมันก็ไม่อินสังคมอักษร มันก็เฟดมาหาเพื่อนคณะอื่น อยู่กับคนอื่น ทำให้มันจบเป็นจ็อบๆ ไปน่ะ
ตอนนี้กูกำลังเรียนตรีใบที่สองภาษาญี่ปุ่นที่เค้าเคลมกันว่าเรียน 2.5ปีจบ กูเพิ่งเรียนเทอมนี้เทอมแรก และมันกำลังจะจบเทอมหนึ่งแล้วกูเลยอยากมารีวิวเล็กๆน้อยๆ เผื่อใครอยากจะเรียนจะได้หันไปความคิดไปทางอื่นแทนนะ จะได้ไม่ต้องมาพังมาพลาดแบบกู
ก่อนมาเรียนที่นี่กูก็ค่อนข้างทำการบ้านมาส่วนนึง เห็นรีวิวว่าภาษาญี่ปุ่นที่นี่แข็ง แล้วกูอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมานานแล้ว มีพื้นฐานนิดๆหน่อยๆ เลยมาเรียนที่นี่เพราะเห็นว่าเรียนแค่ 2.5ปีจะได้ความรู้ถึง N2 เมื่อเทียบกับว่าถ้ากูไปเรียนสถาบันสอนภาษาทั่วๆไปน่าจะต้องใช้ระยะเวลามากกว่านั้น แล้วเห็นว่า 2.5ปีก็เรียนจบตรีได้อีกใบ แล้วกูก็อยากต่อโทด้านญี่ปุ่นศึกษาต่อเลยเลือกเรียนอันนี้ ถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ครบทุกอย่างแล้วเค้าก็บอกว่าไม่ต้องโอนหน่วยกิตอะไรเรียนตามหลักสูตรพอก็จบ
แต่พอวันแรกที่เริ่มเรียนมีปฐมนิเทศกูก็โดนอาจารย์ดับฝัน เพราะถ้าอยากเรียน 2.5ปีจบต้องโอนหน่วยกิตวิชาโทได้ 5วิชาเท่านั้น ซึ่งวิชาโทที่เปิดให้โอนได้มีน้อยคณะมาก และทุกวันนี้อาจารย์ขอเอกสารไปตั้งแต่สัปดาห์แรกเรื่องการโอนหน่วยกิต อาจารย์ก็ยังไม่ยอมทำเรื่องให้ อ้างว่าอาจารย์ไม่รู้ว่าใครจะเรียนต่อ ใครจะไป ทำไปก็เสียเวลา รอให้จะเรียนจบก่อนค่อยทำเรื่องก็ไม่สาย ดอกมาก กูไม่พอใจ กูบอกอาจารย์ไปว่ากูอยากรู้ว่ากูต้องเรียนหรือโอนได้จะได้วางแผนได้ถูกเค้าก็ไม่ฟังกู นี่คือดอกแรกที่กูไม่ประทับใจ
ดอกที่สอง คือเรื่องการเรียนภาษาญี่ปุ่น สอนตัวหนังสือนานมาก เกือบเดือนได้ถึงจะเริ่มเข้าไวยกรณ์ ไวยกรณ์บางบทก็สอนเร็วเวอร์ บางบทก็สอนช้าเวอร์ แล้วไวยกรณ์ที่สอนก็กระโดดไปๆมาๆ เช่น บทแรกสอนเรื่องประโยคคำนามบอกเล่ากับปฏิเสธ แต่ไม่เคยสอนรุปอดีตเลยว่าผันยังไง แต่พอมาบทที่สามสอนเรื่องคำกริยา ก็สอนประโยคกริยาที่มีทั้งบอกเล่า ปฏิเสธ บอกเล่าอดีต ปฏิเสธอดีต ครบหมด แถมพ่วงสอน adj i มาอยู่สองสามคำแบบไม่มีหลักการอะไร บอกแค่ว่าใช้แบบนี้ ไม่บอกประเภทด้วยว่านี่คือ adj i บอกว่าว่าคำนามต่อท้ายได้เลย แล้วพอมาบทที่สี่ค่อยวกกลับมาสอนประโยคคำนามแบบอดีต คนเรียนสับสนตายห่าพอดี
ดอกที่สาม ไม่เคยสอนเขียนคันจิ ให้ชีทเรียนมาว่ามีคำอะไรบ้าง ลำดับเส้นยังไง แล้วให้ไปหัดคัดกันเอง ไม่มีสอนอ่านเป็นกิจลักษณะ ในชีทเรียนก็ไม่มีคำอ่านให้ด้วย
ดอกที่สี่ ไม่มีสอนฟัง สอนพูด คือมีให้พูดตามอาจารย์นิดๆหน่อยๆ ไม่มีการฟังแบบจริงจัง แล้วตอนแรกจะมีสอบฟัง อาจารย์ก็เปลี่ยนใจบอกไม่เอาละ สอบคันจิดีกว่า พวกฟังพูดไว้ไปเรียนปีอื่น เทอมอื่นเอาละกัน เพราะอาจารย์เห็นว่าคะแนนมิดเทอมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยเปลี่ยนจาก quiz การฟังเป็นคันจิแทน แบบนี้ก็ได้เหรอ ไม่มีหลักการอะไรเลย นึกอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยน ไม่มีมาตรฐานการเรียนการสอนอะไรเลยเหรอวะ ไม่มีการเรียนการสอนจากอาจารย์เจ้าของภาษาในปีแรกแน่นอน พังมากกกกก สอนแบบสไตล์ไทยแท้เลย เน้นแกรมมาร์(เหรอ) แต่ไม่ฝึกให้ใช้ได้จริง
ดอกที่ห้า จนจะสอบไฟนอลเดือนหน้าแล้ว คะแนนมิดเทอมยังไม่ออกมาเลยซักวิชาจ้าาาา เอาที่อาจารย์สบายใจกันเลยจ้าาาา
คือนี่แค่เล็กๆน้อยๆ ยังไม่รวมถึงว่าอาจารย์ขี้ลืมขนาดไหนอีก อาทิตย์ก่อนบอกอาทิตย์หน้าสอบ พอวันสอบมาถึงอาจารย์บอกลืมหยิบข้อสอบมา ไม่ก็หยิบข้อสอบมาผิด เลื่อนไปอีกเรื่อยๆแบบนี้ คือการเรียนการสอนแบบนี้ กูเข้าใจละว่าทำไมยิ่งเรียนคนถึงยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ กูเคยอ่านรีวิวมาว่าบางรุ่นจบนับหัวไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ กูก็สงสัยว่าเพราะอะไร แต่มาเจอกับตัวแบบนี้กูเข้าใจแล้วว่าเพราะอะไร นี่ขนาดเพิ่งเริ่มเรียนได้ไม่นานก็มีคนออกไปแล้วเกือบห้าคน กูคิดว่าเทอมหน้าก็ต้องมีคนออกอีกเรื่อยๆ
สรุปคือ กูโคตรไม่ประทับใจการเรียนที่นี่เท่าไหร่ แต่กูคิดว่ากูก็จะเรียนต่อให้จบจนได้ใบปริญญาล่ะวะ ไว้ว่างๆถ้ามีอะไรอีกกูอาจจะมีรีวิวเพิ่ม
กู >>17 นะ คือกูมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาระดับนึง แต่กูมาเจอการเรียนการสอนของที่นี่แล้ว กูบอกตรงๆเลยว่าโคตรผิดหวัง จากข้อมูลที่กูหาๆมา เค้าก็บอกว่าที่นี่แข็งเรื่องภาษาญี่ปุ่น กูเลยมาเสี่ยงลองเรียนดู แต่แม่งเอ๊ย กูอยากเอาหัวโขกเต้าหู้ตาย ตอนนี้กูโคตรสงสารคนที่ไม่มีพื้นมาก่อนเลยจริงๆ เทอมแรกเรียนสามวิชา ส่วนวิชาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น ก็เรียนเหมือนไม่ได้เรียนน่ะ มันเป็นวิชาเลือก ที่โดนบังคับเลือกไม่ได้เลือกเรียนเอง เค้าจัดตารางมาให้เรียน วิชานึงคือให้นักศึกษาทำรายงานมาพรีเซ้นต์อาจารย์ แล้วอาจารย์ก็ออกสอบ กับอีกวิชาคืออาจารย์มานั่งอ่านหนังสือให้ฟัง คือกูอ่านเองก็ได้เปล่าวะ ไม่ต้องมีอาจารย์มาสอนหรอก
>>18 ในรุ่นที่กูเรียนมา มีคนที่เรียนภาคภาษาอื่นมาก่อนแล้วจบแล้วมาต่อภาษาญี่ปุ่น เค้าบอกว่าภาคเค้าที่จบมาจบกันแค่ 3 คนนอกนั้นถอดใจกันหมด ถถถถ
>>19 กูแนะนำว่าถ้ามึงมีเวลา ไม่ต้องทำงานทำการอะไร วันธรรมดาว้าง ว่างน่ะ กูแนะนำให้ไปเรียนของวาเซดะ กูไม่เคยเรียนที่นี่นะ แต่ดูจากที่เพื่อนกูเรียนที่นี่กันหลายคนเพื่อไปเรียนต่อภาษาที่ญี่ปุ่น ดูแล้วเข้มจริง แต่เรียนวาเซดะแล้วมึงจะเหมือนตัดขาดจากสังคมไปเลย เพราะเรียน สอบ เรียน สอบ วนอยู่แบบนั้นน่ะ
เพิ่มเติมอีกนิด คือที่มันสามารถเรียนจบ 2.5ปีได้น่ะ เพราะว่าเค้ายกเว้นพวกวิชาพื้นฐานบังคับ พวกภาษาไทย พละ อังกฤษ เลข ไรพวกนี้น่ะ มาถึงก็คือให้เรียนวิชาที่เป็นของเอกไปเลย แล้ววิชาโทใครที่สามารถเทียบโอนได้ก็เทียบไป 5วิชา เทียบไม่ได้ก็คือมึงต้องเลือกเอาจากวิชาเลือกสาขามาเป็นวิชาโทน่ะ ประเด็นคือ มันมีเรื่องเหี้ยอีก ในเว็บมันมีเขียนว่าสามารถเทียบโอนวิชาโทอะไรได้บ้าง ซึ่งกูไปเจอมาหลังจากที่อาจารย์มาแจ้งว่าต้องเทียบโอนวิชาโท เค้าก็แยกมาเป็นคณะๆ มีทั้งในคณะต่างสาขา หรือต่างคณะ พวกบัญชี เศรษฐศาสตร์ IT นิเทศ ไรงี้ แต่วันปฐมนิเทศ อาจารย์แม่งเสือกบอกว่า บัญชี เศรษฐศาสตร์ หรือพวกคณะวิศวะ ไม่สามารถเทียบโอนได้ ห่ามากกกก แล้วในเว็บมึงจะเขียนแบบนั้นไปทำเพื่อไรวะ ตอนนี้กูก็ได้แต่ลุ้นว่าตกลงแล้วกูจะเทียบได้มั๊ย เพราะถ้าเทียบไม่ได้กูต้องเรียน 3-3.5ปีแล้ว แล้วมันจะต่างอะไรกับถ้ากูไปลงเรียนคอร์สสอนภาษาทั่วไปดีกว่าเปล่าวะนั่น
เพื่อนโม่ง ความรู้ภาษาญี่ปุ่นกูเป็น 0 แต่กุอยากไปทำงานประเทศญี่ปุ่น ก็เลยอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจัง กุต้องใช้เวลาในการเรียนนานเท่าไหร่ถ้าเรียนช่วงเย็นจนดึกทุกวันสม่ำเสมอ แล้วกุควรหาคอร์สเรียนไหม การเรียนด้วยตัวเองยากมากไหม กุต้องเตรียมเงินประมาณเท่าไหร่ในกรณีตั้งใจเรียนด้วยตัวเองกับหาคอร์ส และคำถามสุดท้าย เวลา 2 ปีพอไหม
ขอบคุณเพื่อนโม่งมากๆที่ช่วยตอบให้ล่วงหน้านะ กุจริงจังมาก แต่ไม่มีเพื่อนรอบตัวที่เชี่ยวชาญหรือรู้ภาษาญี่ปุ่นมากพอจะตอบได้เลย
>>22 เรียนเองไม่ยากหรอกแต่ทำความเข้าใจยาก บางอย่างภาษาไทยไม่มีให้เทียบรวมถึงภาษาอังกฤษด้วย ช่วงแรกให้แนะนำไปเรียนดีกว่าจนคิดว่าพอเข้าใจโครงสร้างแล้วค่อยอ่านเอง แต่ถ้าอ่านเองอย่างเดียวตอนทำงานโครตลำบาก เวลาสื่อสารจะสื่อสารไม่ดี แปลก็จะแปลถูกๆผิดๆเพราะไม่มีคนไกด์ให้
อยากเรียนด้วยตัวเองอยู่แนะนำ อากิโกะก่อนแล้วค่อยไปใช้มินนะโนะเรียน อากิโกะอธิบายดีกว่ามินนะโนะละเอียดกว่า แต่มินนะโนะแกรมม่าไปไวกว่าแล้วก็เยอะกว่า
เพื่อโม่งทำยังไงกับอังกฤษดีวะ คือกุอยุ่ในุจุดที่พอพูดได้ เเต่เวลาสร้างประโยคโครงสร้างมันผิดๆถูกๆ ประเด็นคือกุเเม่งใช้เซ้นมาตลอดตั้งเเต่เกิดไงพอกุเริ้มอยากจะเรียนเเกร่มม่าเเม่งเลยงงกับโง่ชิบหายคือ สรุปมันต้องเรียนลึกถึงเเค่ไหนวะถึงจะสร้างประโยคได้แบบเนทีฟ หรือรุ้เเค่เท้นก็พอ
เออเเล้วกุควรเรียนภาษาที่สามควบตั้งเเต่ตอนนี้เลยปะเเเต่อังกฤษกุก้ยังอ่อนๆอยุ่นะ
>>22 2 ปีน่ะเหรอ ถ้าตั้งใจเรียนจริงๆ วันละ 5-6 ชั่วโมงก็อาจเป็นไปได้ในกรณีไม่ได้ไปเรียนที่ญี่ปุ่น เคยเห็นคนได้ n2 ภายใน1ปี แต่แม่งขยันชิบหาย อ่านหนังสือวันละ 7 ชั่วโมงเลยมั้ง (ไปเรียนภาษาที่ญี่ปุ่น) เอางี้ก่อน มึงอยากจะไปทำงานในฐานะอะไรยังไง ไปเป็นพนักงานบริษัท, เด็กเสิร์ฟ หรืออะไร ถ้าแบบแรกคือมึงต้องได้ n1 ไม่ก็ n2 ไหนเขาจะเอาวุฒิ ดีไม่ดีเอาผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษด้วยซะอีก ไม่ได้ไปง่ายๆนะเวย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริษัทที่มึงจะเข้าไปอีก เขาจะ require อะไรแตกต่างกัน ยิ่งเป็นคนต่างชาติแล้วถ้ายิ่งพูดญี่ปุ่นไม่ได้ มึงจะเป็นเป้าหมายการโดนบูลลี่(ถ้าสังคมไม่ดี) ไม่ได้พูดให้เสียขวัญนะ ประสบการณ์ตรง
ถามในนี้ได้มั้ยอ่ะ ว่ากระโปรงพลีตสีดำ ของร้านไหนดีกว่ากันระหว่าง มุมทองกับนิสิต(สามย่าน)
คือเคยจับกระโปรงนิสิต(เพื่อน) รู้สึกผ้าดีมากก พลีตน่าจะทนสุดๆ แต่แพงอ่ะราคา 900 เพื่อนบอกของมุมทองก็ดี ราคาถูกกว่า2-3เท่าได้ อยากรู้ว่าของมุมทองจะใช้ได้ทนรึเปล่า?
>>27 เอาจริงๆ ต่อให้ยังสตาร์ราคาตัวละสองร้อยแม่งก็ทนเหมือนกันมึง คือนิสิตผ้าดีมากกกกจริงๆ แต่ราคาก็แพงมากกกเช่นกัน ส่วนตัวกูชอบเสื้อของร้านนิสิตมาก ผ้านิ่ม ใส่สบาย ซักเสร็จสะบัดๆ ไม่ต้องรีดก็ได้เพราะมันไม่ค่อยยับ เขาบริการค่อนข้างดีด้วย อย่างกูนมใหญ่ เขาก็สั่งตัดแบบขยายตรงอกให้สุดปลายผ้าให้ ไม่ต้องเสื้อเงินไปใส่อีกไซส์เพิ่ม ร้านนิสิตมันดีตรงนี้แหละ สั่งแก้ได้ ขยับขยายได้ จริงๆ ยังสตาร์ตรงโบนันซ่าเก่า (ชื่อใหม่อะไรนะลืมไปละ) ก็สั่งแก้ได้เหมือนกัน ราคาถูกกว่าครึ่ง-ครึ่ง แค่เนื้อผ้าหยาบกว่า แค่นั้น
ปกติถ้าจะโดดเรียนนี่ พยายามให้โดดไม่เกิน สามครั้งต่อเทอม นี่แย่มากรึเปล่าอ่ะ เรารู้ปลแระโยชน์ก็ออกตัวเราอยู่ดี แต่ก็ขี้เกียจไปหมดเลยย
ปรึกษาหน่อยเพื่อนโม่ง กูอยู่ปี4กำลังจะไปสหกิจ เคยบอกกับthesis advisorไปว่าอยากต่อโทกับเขา วันนี้ไปคุยกันเรื่องธีสิส จบละเขาก็พูดเรื่องทุนมา เขาถามกูว่าจบโทไปแล้วอยากทำอะไร กูนี่เคว้งคว้างเลย ไม่รู้จะตอบไง แล้วอ.ก็พูดต่อว่า ที่ถามเพราะจะได้ส่งเสริมให้ถูก ไม่อยากให้คิดแค่ว่าเรียนเพราะไม่อยากทำงานหรือแค่เอาใบปริญญาเฉยๆ อยากให้ได้อะไรไปใช้ต่อได้ในอนาคตด้วย ทีนี้ ทุนมันเป็นทุนที่ต้องโคกับฝั่งอุตสาหกรรม แต่สายที่กูสนใจ มันดูเป็นสายที่ไม่น่าไปได้ในเชิงอุตสาหกรรมอะ คือที่กูอยากทำสายนี้เพราะกูมีพื้นความรู้จากการทำธีสิสมาแล้ว ถ้าจะไปต่อทางนี้กูรู้สึกชัวร์กว่า แต่ถ้าไปอีกแนวนึง มันตอบโจทย์อุตสาหกรรมมากกว่า แต่กูกังวลว่ากูอาจต้องมาค้นคว้าความรู้ใหม่เพราะมันจะไม่เหมือนกับที่กูเคยทำมา กูควรเลือกยังไงดี จะเลือกอันที่สนใจแล้วไปให้สุด หรือลองเลือกอะไรใหม่ๆที่น่าจะไปได้ไกลกว่าแทนดี
เอาจริงๆกูก็ยังมองภาพตัวเองไม่ออกเหมือนกันว่าจบโทแล้วกูจะไปอยู่ที่จุดไหนของสังคมหรือระบบ เด็กๆก็เคยฝันอยากเป็นอ.มหาลัย แต่ปัจจุบันรู้สึกว่าไม่ได้อยากเรียนจนจบเอก ที่บ้านไม่ได้มีฐานะด้วย น้องก็กำลังจะขึ้นมหาลัย ที่บ้านบอกว่าถ้าได้ทุนก็เรียนไปเลย แต่ถ้ายังไม่ได้ก็ไปทำงานเก็บเงินก่อนแล้วค่อยมาเรียน กูเองก็ไม่ได้คิดไกลไปกว่าปัจจุบันมากนัก เลยยังไม่รู้ตัวเองว่าควรไปทางไหนดี จากตอนแรกเครียดเรื่องธีสิส กลายเป็นว่ามาคิดมากเรื่องนี้แทนแล้วเนี่ย 5555555
>>11 ขอบคุณมากๆนะ ที่หายไปกูไปนั่งไล่ดูอะไรหลายๆอย่างแหละ กูอยากจะทำงานช่วยเหลือคนจะได้ไม่ต้องเป็นซึมเศร้าเหมือนกู ขณะเดียวกันก็มีความสุขกับสิ่งที่เรียน ซึ่งกูรักวรรณกรรมด้วยไง กูเลยสนใจวรรณกรรมและเด็กเพราะกูไม่อยากเห็นเด็กต้องมาเจออะไรแย่ๆแบบกูอย่างน้อยให้กูเป็นอะไรดีๆในชีวิตบ้างหรือไม่ก็เขียนเรื่องราวหรือทำสิ่งที่เสนอโรคนี้ให้ถูกต้อง ตอนนี้กูเลือกอักษรจุฬา ศิลปการละคร เพราะดูหลักสูตรแล้วมันใกล้เคียงกับสิ่งที่ต้องการ สังคมก็น่าจะโอเคกว่าด้วย
>>15 ขอบคุณเช่นกันทำให้กูมีความกล้าหน่อย มึงพูดถูกนะกูเอาแต่กลัวคือ กูเทสังคมได้ก็จริงแต่ไม่รู้ว่าจะทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนไหมแล้วไม่รู้ว่าอาจารย์จะรู้เห็นเป็นใจหรือชอบเรื่องพวกนี้หรือเปล่าด้วย บ้านกูก็ไม่ได้รวย มีน้องห่างกันปีหนึ่งไม่อยากเสี่ยงกับเสียเวลาด้วย
>>30 แล้วแต่มึงจริงๆ อะ ถ้าเข้าแล้วไม่เรียนอยู่ดี โดดเลยก็ได้ กูกล้าพูดเลยว่ากูโดดเต็มโควต้าเกือบทุกวิชา โดดจนเพื่อนด่า 555555555555 แต่ส่วนมากที่กูโดดหนักๆ คือช่วงปีหนึ่งปีสองอะ พวกวิชาเรียนรวม (กูอักษร) พอช่วงหลังๆ เรียนแต่วิชาเอกกูก็ไม่ค่อยโดดแล้ว จารย์จำหน้าได้ 555555 แล้วตอนอ่านสอบกูก็ตั้งใจจริงๆ อะนะ เกรดก็ออกมาดูดีอยู่
นิเทศ มธ.ดีมั้ยไม่อยากเข้าจุฬ
>>27 กูเคยใช้แต่ของนิสิตนะ กูว่าเนื้อผ้าดี ทิ้งตัว ลมพัดมาก็ไม่ต้องกลัวเปิด แต่เนื้อผ้าเวลาใส่มันจะรู้สึกหนักๆหน่อย โดยรวมกูว่า 900บาทคือโอเคเลย แต่กูใช้แป๊บๆก็ไม่ได้ใส่ต่อละ กูอ้วนขึ้น 555 กับเปลี่ยนไปใส่พลีททรงทวิสแทน กูชอบทรงแบบนั้นมากกว่า เลยไปซื้อเอาตามร้านทั่วๆไปตัวละ 200
อยากเสริมสร้างทักษะทางวิชาการ ตอนนี้ดู ๆ ไว้สองที่คือคุมองกับโค้ดสตา เพื่อน ๆ ว่าเรียนที่ไหนจะมีอนาคตกว่ากันครับ
มีโม่งคนไหนสอบจบ GED บ้างวะ ช่วยบอกประสบการณ์ให้กูหน่อย กูยังลังเลอยู่ว่าจะเอา GED ดีไหม
ส่วนตัวกูเองแม่งเป็นคนเหี้ยว่ะ ไม่ค่อยรับผิดชอบ วันๆ มัวแต่หมกหมุ่นกับโม่งและเกม กูอยากเรียนว่ะ อยากเรียนภาษา กูเรียนอิงเก่งด้วย แต่ไม่กล้าไปรร จนรรตัดซื่อกูออกไปล่ะ ตอนแรกๆ ก็พอไปได้อยู่ แต่แม่งเจอเพื่อนเหี้ยๆ แล้วกูเองก็ไม่แกร่งอีก เจอเพื่อนทักก็ไม่กล้าทักกลับ สุดท้ายเลยเฟลไป คือกูยังพอมีเพื่อนที่รรบ้างแต่ก็ไม่ถึงขั้นสนิท กูมีไลน์เพื่อนกูที่รร แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้คุยกันแล้วว่ะ ยังดีอยู่ที่แม่กูมีธุรกิจส่วนตัวเลยพอได้ช่วยงานบ้าง แต่นอกนั้นกูก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลย
อีกอย่างนึงที่กูอยากรู้คือจบ GED แล้วเอาวุฒิไปทำอะไรต่อได้บ้าง เข้าคณะอะไรได้บ้าง แต่กูไม่รู้ว่ากูจะรอดในม.หรือเปล่าหรือจะเฟลแบบในรร
รู้ตัวเองว่าขกไม่อ่านหนังสือ อยากเปลี่ยนตัวเองให้ได้แต่เอาจริงๆแม่งก็เหมือนเดิม กูทิ้งสอบส่งกระดาษเปล่าไป เกรดแม่งก็เหี้ย โง่ก็โง่ชิบหาย กูเบื่อตัวเองวะ
>>39 เรียนกศน.ไปก่อนมั๊ย ถ้ามึงสอบ ged แล้วอยากเข้ามหาลัยก็ต้องเข้าแต่หลักสูตรอินเตอร์ไปนะ
>>40 มึงเรียนมหาลัยแล้วยัง?? ถ้าเป็นมหาลัย อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่คณะที่ตัวเองชอบจริงๆเปล่า มันเลยทำให้ไม่มีแรงกระตุ้นหรือแรงจูงใจที่อยากจะเรียนน่ะ กูผ่านประสบการณ์แบบนั้นมาแล้ว ฝืนๆเรียนไปให้จบๆ ตอนเรียนไม่ตั้งใจเรียน แต่ตอนจะสอบกูจะอ่านคืนก่อนสอบ หรือเช้าก่อนสอบ เพื่อให้มีอะไรไปเขียนบ้าง แต่กูก็เคยส่งกระดาษเปล่ามาแล้วเหมือนกัน ส่งเสร็จกูเดินไปเคลียร์กับอาจารย์เลยว่ากูทำไม่ได้ ขอทำอะไรอย่างอื่นชดเชยได้เปล่า อ.หลายๆคนเค้าเห็นใจไม่อยากให้เด็กมาเรียนซ่อมเค้าก็จะช่วยๆดูให้ หรืออาจจะหาคะแนนอะไรมาเสริมให้
มีใครเรียนจิตวิทยามั้ยวะ เเบบ กูอยากเอาศิลปะไปบำบัดพวกผู้ป่วยงี้อะ ต้องทำไงวะ คือควรเลือกซักอย่างปะระหว่างศิลปะกับจิตวิทยา หรือมันเอามาผสมๆๆกันได้ แบบ อนาคตกูอยากทำเเนวนี้อะ ละตอนนี้กูเรียนสายศิลปะอยู่ มหาลัยควรไปทางไหนต่อ
>>43 ความต่างมีอยู่เยอะ โดยเฉพาะเรื่องเงินเลยมาอย่างแรกและจะมาตามหลอกหลอนมึงหลายๆครั้งทั้งในเรื่องของภาษีสังคม(บางสถาบันนะ) แล้วก็การสอน สังคมไรงี้จะมีเด็กต่างชาติ ครูก็ต่างชาติ(คิดว่า80%คงต่างชาติเกือบทั้งหมด) ต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และก็เรื่องความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลาก็ควรจะสูงๆไว้ด้วยก็ดี อย่าไปตามสังคม เพื่อนให้มาก ให้อิสระในการดำเนินชีวิตสูงกว่าพวกหลักสูตรไทยในสถาบันเดียวกันพอสมควร
>>39 เรื่องสอบGED หรือไม่ก็ IGCSEสองตัวนี้สามารถเทียบเท่า ม.ปลายของไทยได้ แต่มึงมีปัญญาจ่ายค่าสอบกับค่าเรียนไหม? ค่าสอบIGCSEกูตีเลขกลมๆให้นะราว 30000 บาท ไม่นับค่าติวต่างๆนาๆ คิดว่าGEDราคาคงไม่หนีกันมากแต่ความรู้GEDใช้ในมหาลัยยากกว่าIGCSEอีก ไม่รู้ว่ามึงโม่ง ญ หรือ ช ถ้าโม่ง ช. จะเรียนไรตอนนี้รีบเรียนนะ กศน. ก็ได้ แต่ถ้าเงินถึงควรขอพ่อแม่เรียนIGCSEเพราะ ทั่วโลกยอมรับมากกว่า เพราะว่าถ้ามึงถึงอายุ21ปี ไม่มีวุฒิ ม.6 และไม่ได้เรียนรักษาดินแดน ชีวิตมึงคือจมปลักกับงานจับกังและได้จับใบแดง(คิดว่าใบดำมีไว้กับคนมีเงินนะ)ไปชักว่าวให้ครูพี่เลี้ยงดูเล่นๆในค่ายทหารอ่ะนะ
เรียนเครียดต้องทำยังไงให้ไม่เครียด กูเพิ่งเข้าปี1ไม่ถึงเทอมแต่รู้สึกเหมือนจะตายแล้ว อยากได้เกรดดีๆให้พ่อแม่ปลื้มแต่ยากกว่าตอนมัธยมชิบหายเลย เคลียร์งานไม่ทันอ่านหนังสือไม่ทัน นอนน้อยลงเรื่อยๆ ไม่ไหวแล้วว่ะ
>>44 ขอบใจมากเพี่อนโม่งที่ช่วยอธิบายให้กู กู >>39 คนเดียวกับ >>43
กูโม่งชาย ใจกูอยากจบ GED ว่ะ เพราะกูก็เสียเวลากับช่วงม.ปลายมาเยอะแล้ว ดรอปมาเยอะแล้วด้วย เข้ากศน. บ้างออกเข้าระบบบ้าง กู 18 แล้วยังอยู่ ม.4 เอง ถ้ากูกลับไปที่โรงเรียนก็ไม่รู้ว่าจะไปต่อจนจบ ม.6 ไหวหรือเปล่า กูอยู่ในสายศิลป์คำนวน (แต่กูอยากเรียนภาษาญี่ปุ่น แล้วอยากเป็นนักแปล ตอนแรกกูเข้าใจผิดว่าสายศิลป์คำนวนที่จะเน้นภาษา+คำนวน ซึ่งมันก็จริงแหละแต่จะหนักไปทางภาษาอังกฤษกับคณิตเอาซะมากกว่า ส่วนภาษาญี่ปุ่นที่กูอยากเรียนดันเรียนเป็นภาษาเสริม ซึ่งกูอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก) แล้วกูเองก็ไม่มีเพื่อนที่กูสนิทในโรงเรียนชัพพอร์ตให้อีก
ภาษาอังกฤษกูอยู่ในระดับที่ OK (จากการอ่านข่าวในเน็ตและวิดีโอของฝรั่ง 555) แต่ใจกูอยากเรียนหลักสูตรปกติกับเพื่อนคนไทยมากกว่าเพื่อนต่างชาติเพราะส่วนตัวแล้วกูอยากใช้ภาษาไทยสื่อสารมากกว่าว่ะ
>>46 งั้นกูแนะแนวทางนี้เลยนาจา ที่รามมีคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาญี่ปุ่น สามารถเรียนพรีดีกรีได้ มึงเรียน/สอบวุฒิเทียบ ม.ปลายจบ สามารถยื่นวุฒิเทียบโอนหน่วยกิตวิชาที่มึงเคยเรียนสมัยพรีดีกรีกับวิชาของสายญี่ปุ่นเฉพาะของภาควิชาที่ไม่มีเชคชื่อเข้าเรียนเพื่อเรียนให้จบไวๆได้จากเรียนสี่ปีป.ตรี อาจจะลดเหลือแค่สามหรือสองปี เอกยุ่นไม่รู้ว่าสอนดีแค่ไหน แต่ที่กูรู้ๆมานะ ภาษาจีน เกาหลี และเยอรมันล่าสุดทำตำราออกมาดีมากและคาดว่าดีขึ้นเรื่อยๆเพราะตัวครูผู้สอนเองแกอัพเกรดวิชาพื้นฐานเรื่อยๆเลย กูเรียนจีนเป็นวิชาเสรีคือโอเคมาก ละคณะนี้ก็คณะสมัยก่อตั้ง เอกยุ่นอยู่มาไล่ๆกับจีน คนสอนรุ่นเดอะในภาควิชาคงเด็กเก่ารามทั้งสองที่แน่ๆ ใจมึงไปทางGEDงั้นคงต้องเข้าเรียนรามหว่ะ แต่มึงแน่ใจใช่ไหมว่ามีเงินค่าสอบ? เพราะแพงและข้อสอบกูว่าก็ไม่ใช่เล่นๆด้วยนะ พยายามก็ต้องให้เต็มที่ละกัน เว้นซะแต่ว่ามึงจะขี้เกียจจนอยากได้ใบแดงไปแดกข้าวและวิญญาณอาหาร+เป็นเบ๊และคอมโบด้วยการแข่งชักว่าวมาราธอนน้ำพุ่งไกล30ซม.ให้ครูฝึกพี่เลี้ยงcommentควยของมึงว่าเย็ดหีใครแหกได้บ้างตอนอาบน้ำรวมก็เชิญ
จะเอนแล้วกูยังอ่านไม่จบซักวิชาเลย คนรอบตัวคิดว่ายังไงกูก็ติดแน่ๆ เพราะกูในโรงเรียนเรียนดีมาก แต่กูในหัวคือเตรียมซิ่วไปปีหน้าละ
แบบนี้กูโดนครูลวนลามหรือเปล่า
วันนี้กุได้วิ่งรอบอาคาร แล้วแกก็วิ่งมาขนาบกูพอดีแล้วก็เอามือแตะตูดกูอะ แบบรู้สึกได้เลย แกก็รู้ตัวว่าแตะตูดกูนะเว้ย แต่แกก็ทำเป็นขำๆ กู 18 แล้วไง แล้วครูก็เป็นผู้ชายด้วย ปล.แกเคยเเซวเรื่องหุ่นกูด้วย บางครั้งก็ชอบเนียนๆ เอามือมาโดนมือกู ไม่รู้กูคิดมากไปเองมั้ย เวลาอยู่กับเพื่อนในห้องเยอะๆ แกไม่ค่อยกล้าคุยกับกูนะ แต่เวลาอยู่กันแบบที่น้อยๆ คน แกจะชอบแซวอะ ส่วนตัวกูก็ไม่ได้อึดอัดอะไรหรอก แต่ถ้ามีอะไรมากกว่านี้ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงว่ะ
>>49 ลองคิดว่าเขาไม่ใช่ครูอ่ะ ถ้าเป้นผช.ชอบเอามือมาโดนก้นโดนตัวมึงมันโอเคอ่อ บอกเพื่อนไว้ไปไหนเป็นกรุปๆ
ละถ้าโดนอีกร้องเลยแก เขาจะได้ไม่เข้าใจผิดว่าแกเล่นด้วยแบบ ครูโดนตัวหนูป่าว โดนก้นนะไรงี้ เราไม่ควรเป้นคนอาย มันต่างหากที่ควรอาย
เป็นห่วงนะถ้าต่อไปมันมีอะไรมากกว่านี้ ถึงขั้นละเมิดได้เลยนะแกร บอกพ่อแม่เพื่อนไว้บ้างก้ดี
ทำยังไงถึงจะสร้างนิสัยขยันอ่านขยันทบทวนได้วะ จะไฟนอลปีสองแล้วกูยังขี้เกียจเหมือนเดิม
ทำได้แค่ตั้งใจจริงๆใช่ไหมวะ แต่กูชอบอู้ คือจะอ่านก็อ่านได้ แต่มันไม่เริ่มทำสักที
>>42 อะ กูเป็นนักจิตวิทยาคลินิก มันมีการบำบัดที่เรียกว่าศิลปะบำบัด แต่อย่าถามว่าทำยังไง กูไม่รู้ กูถูกเทรนให้ทำแต่บำบัดสายหลัก ศิลปะบำบัดเหมือนเป็นสายทางเลือก แต่ก็มีเปิดเป็นคอร์สสั้นๆให้เรียนอยู่นะ เคยเห็นที่ รร แพทย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเปิดอยู่ อ.กูก็เคยเรียน แต่กูไม่เคยถามเขา ไม่รู้จะตอบให้ยังไงดี
กุอยากมีงานวิจัยเองวะ มันจะทำได้ไหมวะกุปี1นะ อยากตีพิมพ์อะไรพวกนี้อะ
>>59 อ่า อันนี้ก็ถูก แต่ก็อ่ะนะ มันจะมีให้ได้ไงในเมื่อภาษีแม่งได้จากพวกคนจนยากชิบจะเอาจากไหนมาเปย์นักวิชาเกรียน ละยิ่งยุคนี้เด็กเริ่มเกิดน้อยๆลง รายรับมหาลัยชั้นนำยังต้องปรับจากหลักสูตรให้เข้ากับวัยอื่นๆมากขึ้น
>>57 กูลองค้นเล่นๆเรื่องงานวิจัย ได้มาอย่างนึงคือ ถ้ามึงคิดจะตีพิมพ์จริงๆนะ ตอนนี้มึงควรเตรียมตัวให้พร้อมกับงานวิจัยมึงเลย กูบอกไว้ก่อนนะว่างานวิจัยล้วนมีทุ่มทุนสร้างเหมือนภาพยนตร์ ป.ตรีไม่มีใครมาเอาทุนให้มึงง่ายๆ และอาจจะเจออาจารย์ขโมยผลงานเด็กตรงนี้ก็ค่อนข้างน่ากลัว ดังนั้นถ้าอยากให้ถึงขั้นได้ตีพิมพ์ โปรเจคจบมึงสักตัวต้องว้าว ต้องรอบคอบกับงาน มึงต้องโชว์ความเทพของผลงานตัวนี้แบบล้ำๆให้ได้โดยเฉพาะเรื่องแก้ปัญหาสังคม พัฒนาความเป็นอยู่ของหมานุษย์ทั้งหลาย แล้วที่แน่ๆอีกอย่างคือสามารถกันครูอาจารย์ก้อปผลงานมึงไปหาแดกได้ด้วย
>>60 อ่ะ ต่อๆๆ ละทีนี้กูไปลองค้นอากู๋ดูคือ ถ้าโปรเจคจบมึงว้าว+ มึงเรียนได้เกรดแบบเข้าข่ายเกียรตินิยมสักอันดับแน่ๆ(อันนี้ต้องได้มาควบคู่กับโปรเจคขิงๆของมึงนะ) มึงสามารถสอบเข้าเรียนระดับ ป.เอก ได้ละเอาของดีมึงไปหาแดกต่อยอดไปสักทางในระดับ ป.เอก อ่ะนะ ก็เรียนจาก ป.ตรีไปเอกละราวราวๆ8ปีอ่ะนะ แต่ได้วุฒินำหน้าชื่อเป็น "ดร....." ไรเง้ด้วย
พวกมึง กูขอระบายเรื่องกลุ่มเพื่อนที่เรียนหน่อยเหอะ กูไม่ไหวแล้ว ตอนนี้กูเรียนปีหนึ่งอยู่ แต่กูรู้สึกว่าโดนเพื่อนเกาะ โดนปลิงเกาะยังไงก็ไม่รู้ ตั้งแต่ทำงานกลุ่มไม่มีคนช่วยกูทำ กูต้องทำคนเดียวเองหมดทุกอย่าง ตั้งแต่หาข้อมูล ซื้อหนังสือมาอ่านเพื่อหาข้อมูล เดินทางไปยังหอสมุดต่างๆเพื่อยืมหนังสือมาอ่านเพิ่มเติม จนเรียบเรียงออกมาเป็นรูปเล่ม กูเหนื่อยมาก ทำงานยันตีสอง ตีสาม อยู่เป็นอาทิตย์ๆ เพื่อทำรูปเล่มคนเดียวหมดไม่มีใครคิดจะช่วย พอส่งไฟล์รายงานให้อ่านล่วงหน้าเกือบสองเดือนเพื่อเตรียมตัวนำเสนอก็ไม่อ่านกัน บอกให้ช่วยหารูป หาคลิปวีดีโอมาทำสไลด์ก็เงียบ วันแบ่งหัวข้อว่าใครจะพูดตรงไหน กูก็อุตส่าห์เลือกหัวข้อยากๆ เนื้อหาเยอะๆ เหลือแต่ของง่ายๆไม่กี่อย่างให้คนในกลุ่มไปแบ่งกัน ก่อนถึงวันพรีเซน คนนึงก็บอกว่าป่วยกระทันหัน โอเคกูรับเหมาให้ แต่ที่เหลือพอวันพรีเซน กูให้มาเล่า มาพูดให้กูฟังก็ไม่มีใครยอมพูด ปากเอาแต่บอกว่าจำได้ๆ กูก็บอกแล้วนะว่าไม่ให้ถือโพยนะตอนพรีเซน กูไม่ชอบ กูรู้สึกว่ามันไม่โปร ดูไม่ดี พอตอนพรีเซนจริง แม่งถือโพส ถือหนังสือยืนอ่านกัน จนสุดท้ายกูต้องพูดแทรก นำเสนอเองคนเดียวหมด ตอบคำถามอาจารย์คนเดียว กูรู้สึกว่ากูโดนเอาเปรียบโคตรๆ ทำไมกูต้องเหนื่อยคนเดียว แต่คนทั้งกลุ่มได้คะแนนเท่ากันหมดวะ
แล้วล่าสุด ช่วงนี้เริ่มสอบไฟนอล เพื่อนมันก็มาวอแว งอแงใส่กูอีก บอกว่าไม่รู้จะจับจุดตรงไหนมาอ่านหนังสือ เริ่มอ่านไม่ถูก จะขอให้กูช่วยติว ให้กูทำสรุปแบบสั้นๆให้เพื่อตัวเองจะได้อ่านที่กูสรุปเอาไปสอบ อห กูสุดจะทนแล้วว่ะ ทำไมกูต้องโดนเอารัดเอาเปรียบแบบนี้ด้วยวะกูไม่เข้าใจ เริ่มเรียนก็พร้อมๆกัน ความรู้ตั้งต้นก็เท่าๆกัน แล้วทำไมกูต้องโดนเอาเปรียบแบบนี้ด้วยวะ กูไม่เข้าใจจริงๆว่ะ กูเหนื่อยมาก จนถึงขั้นกูอยากให้ปลิงพวกนี้สอบตกให้หมดเลย กูจะได้หลุดพ้น
>>58 ของกูไม่เเน่ใจอะ มันคล้ายวิจัย ไม่เเน่ใจว่าใช่ป่าเริ่มทำปี่สี่บังคับให้เสร็จก่อนขึ้นปีหก อย่างงี้ปะ คือกูอยากทำเพราะอย้างที่มึงบอกละเอาไว้ต่อโทนอก เพื่อได้จะหาโอกาศงานที่นั่นทำเพือเขาสนใจงานกุจะได้ทำต่อที่นั่นเลย เเล้วอีกอย่างกุก็ชอบอะไรเเบบนี้มันเป็นความใันกุอยุ่เเล้ว
>>60 ประเด็นคือกูจะเริ่มยังไง คือสมมุติเกิดเจอหัวข้อที่กุอยากทำสนใจ กุเริ่มนั่งเขียนเอวทุกอย่างคนเดียว เเล้วไงต่อ เเล้วส่งให้วารสารเเบบนี้เหรอวะ ความรุ้กระบวนการขั้นตอน ตอนนี้กุเป็นศูนย์เลยรุ่นพี่ก้ไม่ค่อยรุ้อะไรมึนๆกันหมดเเค่เรียนก้จะตายห่ากันละ ที่ปรึกษาก้หาตัวยากสัสเมลยังไม่รุ้เลย
>>62 เรียกเพื่อนมึงมาคุยเเบบจริงจัง ถ้ายังตีมึน เฟดตัวเองออกมายังมีคนดีๆกว่านี้ที่ต้องการมึงเเล้วจะไม่เอาเปรียบ
>>64 ก็เพราะมึงคิดแบบนี้ไง มึงเลยโดนเอาเปรียบ มึงกลัวไม่มีคะแนน มึงเลยทำงานงก ๆ คนอื่นเขาไม่กลัวอย่างมึง เพราะเขารู้ว่ามึงจะทำแทนให้ทั้งหมดเพราะกลัวไม่มีคะแนน กูเคยยืนในจุดเดียวกันมึง มันต้องเลือกว่าจะทิ้งคนกลุ่มนี้แบบเฟดตัวออกมา หรือทิ้งแบบไปฟ้องอจให้เป็นเรื่องเป็นราวกันไป
SIITของมธ.นี่ถือว่าดีมั้ย? แบบสังคม เนื้อหา โอกาสหางานอะไรอย่างนี้
พวกมึงติดตามข่าวทุนสำหรับไปต่างประเทศ/หรือพวกกิจกรรมเวิร์ชอป(ทั้งในไทย/ตปท) จากช่องทางไหนกันบ้างอะ แนะนำหน่อย (จริงๆกุก็พยายามหาเองแล้วแหละ แต่กุเจอน้อยมากอะ ขณะที่เพื่อนในคณะกุแทบจะไปเวิคชอปทุกอาทิตย์อยู่แล้ว มันหากันจากไหนวะ T_T
กุแม่งไม่ชอบคำว่า เข้าง่าย จบยาก
มันจบยากเพราะเข้าง่ายเนี่ยและ เด็กบ้างคนคุณภาพไม่ถึงที่จะเรียนได้
พี่โม่งกูเครียดว่ะ พอร์ตห้ามเกินสิบหน้า กูเขียน personal statement แนะนำตัวเองแทนคำนำได้ไหมวะ คำนำมันก็มีแค่แฟ้มสะสมชิ้นงานเล่มนี้จัดขึ้นเพือบลาๆ ขอขอบคุณบลาๆๆ ดูไม่ค่อยน่าอ่านเลยอะ
โปรแรงส่งท้ายปี ของ จงหยวน ต้อนรับมาตรการลดหย่อนภาษี
แอบไปส่องการเตรียมงาน บอกเลย ลดแรงมาก ทั้งลดทั้งแถมพรีเมียม ยังกะแจกฟรี อย่าเพิ่งเอาเงินไปใช้หมด ไม่งั้นพลาด!
จากแหนตตี้ที่ปากบอกว่าเป็นนักอ่านธรรมดา เผื่อโม่งคนไหนอยากลองงานจงหยวน.... แต่กูคนนึงล่ะที่บายยยย
>>69 ดีไหมไม่รู้ กูเรียนอยู่ แต่กูก็ไม่เคยเรียนของมหาลัยอื่นด้วยสิ เปรียบเทียบไม่ได้
แต่คิดว่าถ้ามึงเป็นเด็กทุนก็จัดว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีพอสมควรเลย ที่คิดว่าจุดเด่นก็น่าจะเป็นเรื่องภาษา เรื่องทุนต่างๆ ก็เยอะแยะ
สังคม ปฏิเสธไม่ได้ว่าแอบไฮโซ กูเข้ามาช็อกกับสังคมคณะมากอยู่ ตอนนี้ก็ยังรับไม่ค่อยได้ แต่รู้สึกว่าเพื่อนในภาคคือดี เรื่องเพื่อนแล้วแต่มึงอะว่าจะเลือกคบเพื่อนแบบไหน เพื่อนดีก็ดี๊ดี ทุกวันนี้กูแฮปปี้มาก
เนื้อหาที่เรียน สำหรับกูคิดว่าแอบง่าย เรื่องเข้าง่ายจบยากกูขอค้านหัวชนฝา การันตีว่าถ้าเข้ามาเพื่อจะมาเรียนหนังสือจริงๆ เรียนยังไงก็จบแน่นอน
แนะนำให้ลองคุยกับรุ่นพี่ในคณะดู ไม่ก็ลองมาสัมผัสบรรยากาศคณะนะ เพราะภาคกูกับที่มึงอยากเข้าอาจจะไม่ตรงกัน หลายๆ อย่างก็ไม่เหมือนกันจ้า
พวกมึงเคยเป็นกันปะวะ แบบ อึนๆ มึนๆ ไม่อยากทำอะไรเลย นั่งเฉยๆ
แต่สมองก็เอาแต่สั่งว่า ไปทำงานๆๆๆๆ ต้องส่งโปรเจคแล้วๆๆๆ
แต่มึงไม่อยากทำอะไรเลยเพราะมึงอึน สมองมันตื้อ เหนื่อย นั่งเหม่อได้เป็นวันๆ
ตอนนี้กุเป็นแบบนี้เลยอ่ะ เพิงอยู่ปี1เอง
อีกส่วนคือเหมือนเพิ่งเริ่มเรียน (เรียนวาดรูป)แล้วเหมือนกุรู้สึกว่ามันไม่ใช่ มันเคยเป็นอะไรที่ชอบมาก
แต่พอเข้ามหาลัยแล้วรู้สึกว่าทำไมมันตะหงิดๆ เหมือนมหาลัยสอนไม่พอ ทำงานเท่าไหร่ก็ดีไม่พอ แบบที่ตัวเองคิดเอาเองว่าไม่พอ
ชอบเอาตัเวองไปเปรียบเทียบกับเพื่อนคนอื่นๆในคลาส จนตอนนี้เรียนมา3เดือน มันตื้อไปหมดเลยอ่ะ
ได้ D+ วิชาพื้นฐาน มีผลต่อการสมัครงานกับขอทุนแค่ไหน
พวกมึง กูมาขอระบาย กูเรียนป.ตรีใบที่สองอยู่ช่วงนี้สอบไฟนอล อ.ก็แจ้งล่วงหน้าละว่าวิชาไหนสอบวันไหน ตกลงนัดหมายเรียบร้อย พรุ่งนี้มีสอบวิชานึง วันนี้กูอุตส่าห์ลางานมาเพื่ออ่านหนังสือสอบโดยเฉพาะ แม่งสลัด อ.เลื่อนสอบออกไป เพราะบอกว่ามีคนมาสอบพน.ไม่ได้ คนส่วนใหญ่แม่งก็เห็นดีเห็นงามกันอีกว่าเลื่อนเลยๆ
ไหนจะอีกวิชานึง จารย์บอกว่า สอนเสร็จพน. เริ่มสอบวันที่ 9 ได้เลยถ้าพร้อม ไม่พร้อมก็ 15 16 22 23 แล้วแต่สะดวก
ตอนแรกกูแพลนเรียบร้อยเลยนะ สอบเสาร์กับอาทิตย์นี้จบก็ปิดเทอม กูก็สบาย แพลนเที่ยว ทำธุระที่ค้างคาให้เสร็จๆในอาทิตย์ถัดๆไป ปรากฏว่า เหี้ยเอ๊ยยย วิชาที่บอกสอบวันที่ 9 ได้บอกว่าเปิดสอบวันอาทิตย์ไม่ได้เพราะห้องสมุดไม่ให้ใช้ วิชาที่สอบวันพรุ่งนี้เลื่อนออกเพราะเหตุว่าคนส่วนน้อยไม่ว่างมาสอบ สรุปเลื่อนเป็นสอบ15หมด แล้วไง แพลนกูพังล่มหมด ไม่ยอมให้แบ่งสอบด้วย เอาแต่บอกว่า ใครไม่ว่าง15ให้ไปนัดสอบวันหลัง ห่านนนนน กูโคตรเซ็ง ทำงานไม่เป็นมืออาชีพเลยว่ะ นี่เหรอมหาวิทยาลัย ทำเหมือนเด็กเล่นขายของชิบหาย อาจาย์แม่งก็โคตรขี้ลืม อาทิตย์ก่อนบอกจะาอบเก็บคะแนนอาทิตย์หน้า พอวันมาถึงก็ลืมไม่ก็หยิบข้อสอบมาผิดชุดตลอด สอนก็ไม่ทัน ตะบี้ตะบันยัดสอน การบ้านไม่เฉลย สอนยัวผิดๆถูกๆเลยบางที คะแนนเก็บจนป่านนี้ก็ไม่เคยประกาศซักวิชา เอาแต่บอกว่า มาเรียนภาษาเกรดไม่ต้องสนใจ ให้สนที่ใบเซอร์ภาษาพอ เรื่องการโอนหน่วยกิตวิชาโทก็ไม่ยอมทำให้ อ้างแต่ว่าเสียเวลาทำเพราะไม่รู้ใครจะเลิกเรียนกลางทาง ใกล้จบค่อยทำ คือกูต้องแพลนค่าใช้จ่าย แพลนระยะเวลาเรียน แพลนการลงทะเบียนเรียนเปล่าวะ แต่นี่คือไม่สนใจห่าไรเลย พอใจจะทำก็ทำ ยังไม่อยากทำก็ไม่ทำ เสียเวลาก็ไม่ทำซะงั้นว่ะ กูขอแนะนำเลยว่าใครที่คิดจะมาเรียนหลักสูตรนี้ เบนเข็มไปทำอย่างอื่นเถอะ อย่ามาเสียเวลาเสียเงินและต้องเสียอารมณ์แบบกูเลย
>>93 จากที่กูเรียนเอกญี่ปุ่นมักจะเจอเอกอิ้งบ่อยๆ
เห็นนั่งพยายามออกแอคเซ้นกันอยู่ว่าต้องออกไงให้เป๊ะ แต่กูไม่รู้ว่าดีเปล่า รู้แค่ว่ากูแนะนำอย่ามาเรียนเลยกลัวเจอปัญหาแบบกู ในคลาสกูมีคนเรียนจบเแกจีนที่นี่มาละแล้วมาต่อเอกญี่ปุ่นเพิ่ม เห็นว่าเรียนหลักหลายสิบจบกันหลักหน่วยน่ะ
เออ ถามหน่อย หาแหล่งข้อสอบญี่ปุ่นในปีล่าสุด(ซัก2-3ปีก่อนก้ได้)ได้ที่ไหนบ้าง และ เราสมัครgat pat 7.3 เพราะอยากเข้าเอกญี่ปุ่น แต่เรากลัวคะแนนรวมจะน้อยน่ะ เพราะเราสมัครแค่ pat 7.3 เราอยากถามว่า จะสมัครpat ไหนเพิ่มดีหรือไม่สมัครเพิ่ม และ แพทครูดีไหม
>>97 ใบที่สองมีบัญชีนะ ยังเคยเห็นคนเรียนอยู่เลย ตอนแรกกูก็ลังเลด้วยซ้ำว่าจะเรียนดีเปล่า
เออกูขอบ่นเพิ่ม วันนี้ไปเรียนเพื่อวิชาเดียว แต่แม่งเอ๊ยยยยย ไม่ได้เรียน อ.อ้างว่าพวกภาคปกติใช้เวลาทำควิซนานเป็นชั่วโมงๆต่อชุด วันนี้เลยไม่สอน แต่ให้ควิซอย่างเดียว ดอกมากกกก กูแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเพื่อไปควิซที่ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชม.ก็เสร็จ โคตรเสียเวลาชีวิตเลยว่ะ แถมบทสุดท้ายที่ควรสอนวันนี้ก็ไม่สอนเว้ย บอกว่าเดี๋ยวอัดคลิปสอน ประเสริฐเชี่ย กูเสียเงินค่าหน่วยกิตไปเพื่อเรียนกับวีดีโอเหรอว้าาาาาาา
archaic english จำพวกงานของเชคสเปียร์นี่ศึกษาจากไหนเหรอ เราอยากได้หนังสือ/วิดีโอสอนที่อธิบายเข้าใจง่า งงกับการผันกริยา/สรรพนามมากๆ เลย ; ;
จะฝึก Writing ด้วยตัวเอง แต่ติดตรงที่ถ้าไม่มีคนมาตรวจให้ ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าที่เขียนมันมีจุดผิดตรงไหน
มีติวเตอร์ที่ไหนที่รับคอมเมนงาน essay บ้างมั้ย แบบว่าไม่ต้องติว แค่เอา essay ไปตรวจแล้วคอมเม้น์กลับ
เซ็ง สมัครรอบ1ไปแล้วลืมเซ็นรับรองสำเนาบัตรปชช เมลไปถามทางมหาลัยแล้วว่าทำไง แต่ดึกขนาดนี้ใครมันจะมาตอบวะะะ
สมัคร 9 วิชา ของศิลปศาสตร์ ต้องเอาวิทย์ด้วยมั้ย เห็นเพื่อนมันไม่ได้สมัคร มันเอาแค่4 วิชา
จบม หก เมืองนอกกลับมาคิดว่าจะพักปีนึง ระหว่างนั้นทำไรได้มั่ง ตอนนี้เราอายุ สิบหก แต่จะจบ ก็สิบเจ็ดพอดี
ถามหน่อย เรียนนิติอยู่ ละถ้าได้ F หนึ่ง-สองตัว แล้วไปสมัครทุนต่างประเทศจะมีโอกาสมากน้อยขนาดไหนที่จะได้
>>112 มึงไปทำอะไรถึงจะเอฟวะ อยากรู้อ่ะ บอกได้ป้ะ กุก้นิติเหมือนกัน แต่่ใช่ว่าคะแนนกูจะดีเด่อะไร 55555 สอบทั้งมิดเทอมกับไฟนอลกูตอบคนละอย่างกับอ.เลย พูดละน้ำตาจะไหล
กูยังหาแพชชั่นให้ตัวเองอ่านหนังสือไม่ได้เลยมึง มีกลจอ่านแค่ตอนวันก่อนสอบ เดดไลน์ ซึ่งอ่านไม่ทัน555555
ใครเรียนนิติ มีทริคจำมาตราดีๆมั้ย กุเข้าไปสอบละนั่งว่างเปล่าเพราะจำเลขมาตราไม่ได้ คือหลักก็พอจำได้แต่ดันจำได้เป็นคำๆ ;____;
กูไม่ได้จบวิศวะแต่จบศิลปะมา ทีนี้กูเพิ่งมาสนใจด้านเขียนโปรแกรมและเอไอ อยากถามว่าถ้ากูเรียนความรู้พื้นฐานเองอย่างพวกจาว่าแล้วไปต่อโท กูควรต่ออะไร วิศวะคอมหรอ หรือกูควรต้องไปต่อป.ตรีใหม่ แต่กูต้องทำงานไม่มีเวลาเรียนป.ตรีอ่ะ มากสุดคือป.โทเพราะมันเรียนเสาร์ทิตย์ได้ ทำไงดี
วิศวะ TNI นี่ดีไหมวะ คือกูเรียนไม่เก่งมาก เลยอยากได้ภาษาที่สามมาเพิ่มด้วย ก็เลยสนใจที่นี่ แต่ไม่รู้ว่าหลักสูตรเป็นไง
>>123 กูไม่รู้นะว่ามึงสนใจวิศวะสาขาอะไร แต่ลองอ่านดู มีคนรีวิวไว้ครบทุกแง่มุม https://ryodaii.wordpress.com/2014/02/24/review-automotive-engineering-thai-nichi-institute-of-technology/
มีพี่โม่ง ict ศิลปากรมั้ย
>>123 กูรีวิวให้เล็กน้อย กูจบจากที่นี่แต่ไม่ได้จบวิศวะ สมัยที่กูเรียนมันยังมีสาขาไม่เยอะนะของวิศวะ มีแต่ AE PE CE เท่านั้น ถ้าวิศวะตัวเด่นๆคือ AE นอกนั้นเฉยๆนะ แล้ว AE เกรดให้ยากอยู่ คนที่ได้เกียรตินิยมมีไม่กี่คนเท่านั้น ถ้ามึงอยากได้ภาษาญี่ปุ่น ถ้าไม่ได้เรียน BJ กูบอกเลยว่า ภาษาญี่ปุ่นมึงจะไม่ค่อยได้เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ ถ้ายึดตามสมัยกูเรียน เค้าบังคับเรียนอังกฤษ 3ตัว ญี่ปุ่น3ตัว นอกนั้นจะลองภาษาอะไรก็ได้ระหว่างอังกฤษกับญี่ปุ่นอีก 4ตัวให้ครบหน่วยกิต ที่นี่เหมือนจะเน้นภาษา แต่ถ้าเรียน BJ อันนี้ภาษาเค้าเรียนหนัก เรียนจริงจังมาก ที่ TNI เค้าเน้นให้พูดเป็นฟังได้ มากกว่าจะเน้นอ่านเขียนน่ะ ตอนกูเรียนเค้าบังคับว่าต้องได้ TOEIC 600 JLPT N4 ถึงจะสามารถจบได้ แต่จริงๆแล้วแม่งก็ไม่ได้ซีเรียสไรเลย แต่ที่ดีที่มีทุนให้ไปเรียนซัมเมอร์หรือแลกเปลี่ยนหรือไปฝึกงานที่ญี่ปุ่นเยอะอยู่ สมัยกูยังไม่ค่อยมีทุนเยอะเท่าสมัยนี้เลย แต่ทุนคือ ส่วนใหญ่เค้าก็แค่ออกค่าเรียนให้ แต่พวกค่าที่อยู่ ค่าตั๋ว ค่าครองชีพจ่ายเองหมด ยกเว้นบางทุนขอ jasso เพิ่มได้ แต่ก็อยู่ที่เค้าพิจารณาว่าใครจะเป็นคนที่ได้อีก
>>127 กูสอบติดที่นี่นะ แต่ไม่ได้เรียนสละสิทธิ์ไปเรียน tni แต่มีเพื่อนที่เรียนจบมาหลายคน อยากรู้อะไรเผื่อกูพอบอกได้ กูรู้แค่ว่าค่าเทอมที่นี่มหาโหดอยู่เมื่อเทียบกับม.รัฐ
>>127 กูเคยส่องคณะนี้อยู่นะ ดูจากหลักสูตร ค่าเทอมแล้ว กลายเป็นว่าพวกคณะit ของสามพระจอมบางมดกับลาดกระบังน่าจะโอเคกว่า เพราะไอพวกบังคับปี1อยู่หอพักมหาลัยเท่านั้นนี่แม่งต้องวัดดวงจริงๆ ดีก็ดี แย่ก็คือทนไปปีนึงเลย ซึ่งสถาบันดีๆเจ้าอื่นมันไม่มีนโยบายเหี้ยๆเท่านี้ ที่เห็นๆชอบจับปี1จ่ายเงินอยู่หอจะเป็น ม.ต่างจังหวัดแถมตลาดล่างแบบ ราชมงคล แม่โจ้ แม่ฟ้าหลวง นี่แหละที่เก็บแพงแต่ว่าหาคุณภาพไม่ได้ อีกเรื่องคือ ict ศิลปากร หลักสูตรแม่งครึ่งๆกลางๆ จะเขียนโปรแกรมก็ไม่ใช่ นิเทศน์ก็ไม่เชิง สุดท้ายไปทางวาดรูปกับพวกมีเดียซะมาก ไม่งั้นก็ออกไปทางคอมธุรกิจ ซึ่งตลกสัสเพราะสมัยนี้ถ้าจ้างเด็กป.ตรี คอมธุรกิจ ไปจ้างพวกสายอาชีพมาทำแทนก็ได้มั้ง คหสต. คือ ถ้าสนพวกมัลติมีเดียสามพระจอมก็มีเปิดเรียนพวกนี้นะ แถมไม่ต้องมาเจอชีวะ ฟิสิกส์ เคมีแบบictศิลปากรด้วย คิดเอาเองละกัน แล้วระบบดูแล นศ. ของศิลปากรนี่แม่งดูละรู้เลยว่าเก็บบุญเก่ากินเพราะเห็นจากรับน้องคณะจิตกรรม กับพวกแกงค์กระเทยเถื่อนวางอำนาจให้เพศตัวเองเป็นใหญ่ไปทั่วละกูพอเข้าถึงความต่ำตมอยู่ไม่น้อย ไหนจะอาจารย์ที่ปลูกฝังความคิดเหี้ยๆกับลูกศิษย์ในสถาบันอีก
บ่นนิด ...กูเคยคิดว่าตัวเองเกลียดวิชาเลขมาตั้งแต่ ม.ปลาย เลยเลี่ยงที่จะทำอะไรเกี่ยวกับตัวเลขมาตลอด
แต่ปัจจุบันกูโดนโยนบัญชีมาให้ทำ + ตอนนี้ไปเรียนบัญชีอีกใบก็พบว่า ตัวเองแม่งไม่ได้เกลียดเลขนี่หว่า
...กูแค่เกลียดวิชาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย กับ อาจารย์ที่สอนเท่านั้นเอง!!
>>131 กูเกลียดเลข แต่เลขเป็นวิชาที่กูทำเกรดได้ดีมาก กูเกลียดพวกตัวเลข การทำบัญชี แต่ตอนเรียนวิชาเลือกกูลงบัญชีค้นพบว่ากูได้ท็อป ตอนนี้กูทำงาน กูต้องทำเกี่ยวกับงบประมาณ ผลออกมาว่า กูเข้าใจระบบได้เร็วมาก จนกูรู้สึกแบบ กูไปเรียนบัญชีเพิ่มอีกใบดีมั๊ยวะ แล้วย้ายสายงานแม่ง
>>131 กูเกลียดครูสอนเลข ตั้งแต่กูเรียนม.ต้น กูก็ไม่เคยรู้เรื่องอีก อีกเรื่องคือวิทยาศาสตร์ ครูชอบโม้เรื่องคนโน้นคนนี้ให้ฟังจนกูไม่อยากเรียนด้วย กูสอบตกครั้งแรกในชีวิตเพราะครูคนนี้นี่แหละ กูว่ากูออกจะชอบวิทย์แต่สอนแย่ๆจนกูเกลียดไปเลย กูอ่านหนังสือความรู้วิทย์ทั่วไปได้หมดทุกอย่างยกเว้นเรียนกับคนนี้นี่แหละ ครูเกลียดเข้ากระดูกเลย
ขอบ่นในฐานะเด็กมอปลายแปป กูอยากติดสอ.สักสาขานึง แต่กูว่ากูกากไปอะ อยู่รร.ดังใจกลางกรุง แต่ลำดับก็ไม่ได้ดีเด่ไร(ตัวจริง) ขอถามพี่โม่งที่เคยติดสอ.สักค่ายนึงหน่อยว่าเตรียมตัวกันยังไง ฮือออออ
>>142 เออกุสอ.เลขนี้กุเห็นด้วยเป็นข้อยกเว้นกับคอม พวกติดค่ายสองค่ายสามเเม่งเหนือมนุษย์ไปละจากที่สัมผัสมา มึงชอบอะไรละฟิสิกส์กับเคมี ก็เลือกอันนั่นเเค่นั่นเอง ถ้ายังเลือกไม่ได้ลองมองอนาคตไหม ถ้าติดเคมีมันจะยื่นคณะได้เเบบนึง ฟิาิกก้อีกเเบบนึง อยากเรียนคณะไหนหรือต่อยอดยังไงก้ลองไปคิดมาดู
ฟิสิกส์ของพงษ์ศักดิ์นี่จะแห้งตายแบบเคมี ครูกุ๊กไหมวะเนี่ย เห็นขายบนgoogle bookอีก รู้สึกแม่งมีแววได้กลายเป็นติวเตอร์รับเงินสอนอีกรายชัวร์เลย
กูสอ.คอมนะ เอาจริงๆไม่มีไรเลย เหมือนไปตอบปัญหาเชาว์ ถ้ารรใครสอนภาษาซีแล้วคิดว่าตัวเองเรียนรู้เรื่อง ก็อยากให้ลองไปสอบกันดู ไม่ยากแบบที่คิด หรือปีกูมันง่ายไม่รู้ (คณิตออกเรื่องเซ็ต ฟังก์ชัน ความน่าจะเป็น อะไรประมาณนี้มั้ง กูลืมแล้ว)
แต่พอค่ายสองนะ กูเป็นควายไปเลยจ้า แต่ไปสอบกันเถอะๆๆ เลือกสอบวิชาที่ตัวเองถนัดอะ เพราะถ้าติดมันได้โควต้า+เงิน
กูสอ.คอมค่าย2นะ และกูได้ค่าย2หลายปี อยากบอกว่ามันโหดขึ้นแต่ไม่ถึงกับไม่รู้เรื่อง ทุกอย่างที่เขาจะออกสอบ มึงสามารถ master ได้ในเวลาค่ายจริงๆ ถ้ามึงไม่เอาเวลาไปเล่นเกมซะก่อน
ช่วงนี้กำลังเมามันกับ approximation algorithms มาก เพื่อน ๆ อาจสงสัยว่ามันคืออะไร
ยังงี้ครับ สมมติว่าในโรงงาน เราต้องการที่จะหาค่าใช้จ่ายที่ตำ่ที่สุด แต่หาไม่ได้ “ง่าย” ๆ เราจะทำอย่างไรนะครับ approximation algorithms เป็นวิธีที่ให้คำตอบที่การันตีได้ว่าไม่เกินเท่าไร (เช่น ไม่เกิน 2 เท่า) ของค่าใช้จ่ายที่ตำ่ที่สุดได้นะครับ
ในกรณีของการค่าที่มากที่สุด ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันครับ เพื่อน ๆ ประหลาดใจไหมครับที่เราสามารถทำแบบนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่เราไม่รู้ว่าค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุดคืออะไร
วิธีอื่น ๆ ที่ใช้แก้ปัญหาประเภทนี้ (optimization problems) ไม่สามารถให้การันตีได้นะครับ
วิชานี้ไม่มีสอนในเมืองไทย (เท่าที่ทราบ) แต่สามารถเรียนได้จาก MIT OCW ครับ
หากใครชอบอะไรแบบนี้ ผมแนะนำให้เรียน online algorithms กับ competitive analysis ด้วยครับ อันคือ approximation algorithms ที่ไม่รู้ข้อมูลเข้าทั้งหมดล่วงหน้าครับ ยังไม่มีสอนในเมืองไทยเช่นกัน แต่มีสอนที่ MIT OCW ครับผม
เลื่อนเลือกตั้ง dek62 ว่าไงครับ
อยากมีเป้าหมายในการเรียนเพื่อให้กูพยายามเรียนเกรดดีๆวะ ตอนนี้ในความคิดกูคือเรียนไปเรื่อยๆจบปีไหนก็ได้ แต่ครอบครัวกูก็ไม่ได้รวยแต่ กูเสือกไม่สนใจ เค้าพอส่งกูเรียนได้ กูเลยมีความคิดแบบนี้ ติดโปรสูงอีก จารกูก็เป็นห่วง โทรมาคุยกับแม่กูเรื่องกู แต่กูเสือกเฉยๆ ไม่สนเหี้ยไรเลยวะ กูเคยฝันว่าอยากทำงานบริษัทเกมส์ดังๆสักเกมส์ ได้ทำเกมส์ แต่พอกูเรียนกูเบื่อไม่สนุกกับมันแต่กูก็ยังมีความฝันเรื่องเกมส์แถมมีคนเคยบอกกูว่ามันไม่มีทางในไทยแถมเกรดมึงก็เหี้ยบัดซบ อยู่นะ ทั้งที่สมัยมปลายกับต้นกูชอบเขียนโค้ทอยู่เหมือนกัน เกรดสวยด้วยวิชานี้ พอกูมีความคิดที่ว่ากูเรียนไปเรื่อยๆกุก็ติดเกมส์ ไม่รู้วะ ในหัวกูเฉยๆอยากเรียนๆเล่น ไม่สนใจพ่อแม่หรือใคร สนใจแต่ตัวเอง กูแม่งเหี้ยดีวะ หรือเพราะกูฝันมากไปวะ
>>155 มึงไม่มี passion มากพอ แล้วก็อยู่ในโลกอุดมคติมากไปเลยไม่ออกมาเผขิญข้างนอก กูไม่รู้ว่ามึงโดนครอบครัวสปอยมาแต่เด็กด้วยเปล่าเลยเป็นแบบนี้ หรือว่าจริงๆแล้วมึงแค่คิดว่าการที่มึงชอบเล่นเกม ติดเกมเลยทำให้คิดว่าอยากเขียนเกม ทำเกม แต่จริงๆแล้วมึงก็แค่อยากเล่นเกมไปวันๆแล้วหาข้ออ้างมาทำให้ตัวเองดูดีน่ะ คือถ้ามึงยังคิดว่ามึงอยากทำเกม อยากโค้ดดิ้งอยู่ มึงก็ต้องหลุดออกมาจากโลกที่มึงอยู่ตอนนี้ให้ได้ แล้วออกมายอมรับความจริงให้ได้ว่า สิ่งที่ตัวเองทำอยู่ตอนนี้มันแย่ขนาดไหน
>>156 >>158 กูไม่รู้ว่ากูควรกดดันตัวเองยังไงแบบไหนดี และอาจเพราะกูอยู่กับญาติตั้งแต่เด็กพ่อแม่กูเลยตามใจกู กูเลยทำตัวสบาย ไม่รู้จักความลำบาก ตามที่พวกมึงบอก แถมกูเป็นคนคิดมากไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆหรือรู้จักใคร เลยไม่ออกจากกรอบ กูก็คิดอยากจะออกนะ แต่กูไม่กล้า ขี้เกียจ บ้างครั้งก็คิดว่าที่กูอยากทำเกมส์มันเป็นข้ออ้างจริงๆหรือป่าว กูก็อยากทำมันนะ ตือกูต้องยังไงวะ กูไม่รู้จริงๆ
มึง ทุกคนบอกกูว่าเรียนอะไรก็ได้ที่ชอบ ที่อยากเรียน แต่พอกูอยากเรียนที่เป็นม.เอกชน เขาแทบจะเบ้ปากใส่ จะดีหรอ ไปนู่นดีกว่ามั้ย นี่ดีกว่ามั้ย เอกชนมีเงินก็เข้าได้สบาย ไปลองม.รัฐก่อนมั้ย พอเขาว่างี้กูก็รู้สึกเสียใจนิดๆนะ แอบรู้สึกว่าในเมื่อกูรู้ว่ากูต้องการอะไร ทำไมเขาไม่ซับกูเลย แค่ไม่ต้องไปสอบแข่งกับคนอื่น=กูเป็นคนกากงี้หรอ รัฐเอกชน เข้ายากง่าย สุดท้ายเรียนไปมันก็จบเหมือนกันป่าววะ(เว้นแต่จะติดFอ่ะ)
>>163 ในทางกลับกันสิ่งที่มึงต้องการเรียนมันมีแค่ในม.เอกชนเหรอ ม.รัฐอื่นไม่มีเหรอ หรือมึงไม่ลองสอบดูก่อนอะ ตกแล้วค่อยลองไปเอกชน แสดงให้เขาเห็นว่าเออ มึงพยายามแล้ว หรือไม่ก็ต้องหาเหตุผลไปซัพพอร์ตตัวเองว่าทำไมต้องเป็นม.เอกชน มึงลองมองในมุมคนส่งมึงเรียนด้วยดิ เขาออกตังค่าเรียนค่ากินอยู่ให้มึงเขาก็เป็นห่วงแหละ ค่าเทอมก็แพงกว่า ในสายตาเขาก็คิดว่าม.รัฐเครดิตดีกว่า กลัวหลักสูตรมันไม่ดีไง นี่เขายังตามใจมึงนะที่ให้เลือกเรียนสิ่งที่ชอบอะ แล้วมึงบอกเขาไม่ซัพมึงเนี่ยนะ ลองเขาไม่ซัพมึงจริงๆเดี๋ยวร้องเหอะ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้ามึงออกตังเรียนเองก็อีกเรื่องนะ
>>163 มึงอยากเรียนอะไรเหรอที่มีสอนแต่เอกชน มึงต้องเทียบให้เค้าดูว่าจบไปทำอะไร ใครมันรวยมั่ง
ม เอกชน กูว่าที่เรียน facilitate นักศึกษาได้ดีกว่า คอร์สเรียนหลากหลาย น่าสนใจกว่า ม รัฐหลายที่ แต่ความยากคือ เพื่อน มันมีเพื่อนไม่ตั้งใจเรียนเยอะ บางทีเกินครึ่งห้อง มันไม่แข่งกันเรียนเท่าไหร่ กูว่าบรรยากาศการเรียนสำคัญ มึงต้องเป็นผู้ใหญ่ และจริงจังกว่าปกติ มึงก็จะได้ความรู้เต็มที่ จบเอกชน หรือ รัฐ พอทำงาน ขอบอกเลยว่าไม่ต่างกันมันอยู่ที่คนจริงๆ
มึงคือกูสนใจสถาปัตย์อ่ะ เลยจะหาที่ติว พอลองหาๆ ดู ก็เลือกไม่ถูกอ่ะ คือมันเยอะมาก ละรอบตัวไม่มีใครมาแนวนี้แบบกูเลย มีแต่หมอกะวิศวะจนกุไม่รู้จะถามใครดี กุอยากได้ที่เรียนที่ห้องไม่ใหญ่มาก เด็กน้อยๆ ดูแลทั่วถึง พี่ติวสามารถช่วยแนะนำว่ากุเหมาะกะสาขาไหน ตามแนว bts mrt ได้หมด
>>168 กูได้ยินว่ามี ลาดกระบัง กะ บางมด มีช่วงทำครีเอทีฟแคมป์ ให้เด็กไปเข้าเวิร์คช้อป มีอาจารย์กับรุ่นพี่ดูแล กูว่าดีเพราะนอกจากโรงเรียนติวแล้วก็น่าจะไปดูนะว่าเค้าสอนยังไงกันบ้าง ส่วน รรติวไหนดีนี่กูไม่รู้จริงๆ แต่เบสิคคือมึงหัดเขียนตีฟให้เป็น ซึ่งหาหนังสือ หรือ ยูทูปหัดได้ง่ายๆ
ส่วนการฝึกมือด้วยตัวเองกูขอแนะนำ
ให้วาดรูปรอบๆตัวมึงให้สัดส่วนแม่นๆ รายละเอียดถึกๆ เห็นอะไรก็เก็บลงไป หัดเป็นนิสัย ทำทุกวันไม่ต้องรอ รรติวก็ได้
ถ้ามึงเป็นคนชอบอะไรละเอียดๆ มีรสนิยมวางแผนเก่งๆ บ้าจัดการระบบ สถาปัตย์ อินทีเรีย แลนด์สเคป เหมาะ
ถ้าชอบคิด สนุกๆ ชอบบันเทิง ดูหนัง อ่านหนังสือเยอะๆ ชอบเข้าใจชีวิตคน มีระบบความคิดไม่ฟุ้งซ่าน ชอบวาดรูป ถ่ายรูป ตัดต่อวีดีโอ นิเทศศิลป์เหมาะ
ถ้าเป็นคนชอบทำของเป็นชิ้นๆ ชอบระบบกลไก ชอบเห็นของใช้สอยตามห้าง เห็นวัสดุแปลกๆ แก้ปัญหาการใช้งานเก่ง ไปเรียนโปรดักเลย
นักออกแบบคือ นักวางแผน นักทดลอง นักแก้ปัญหา ที่เข้าใจรสนิยมหลากหลาย
ถ้ามึงคิดว่ามึงขยันและถึกด้วย มึงก็จะเป็นนักออกแบบที่ดี
>>163 กูบอกก่อนนะ ในฐานะที่จบเอกชนมา แล้วจบในคณะที่ม.รัฐดังๆมีคณะพวกนี้ หรือม.รัฐทั่วไปก็ยังมี กูบอกเลยว่า ถ้าคณะที่มึงอยากเรียนม.รัฐมี กูสนับสนุนให้ไปลองที่ม.รัฐก่อน เพราะถึงแม้เดี๋ยวนี้ในเน็ตชอบพูดว่า เกรดไม่สน สถาบันไม่สน สนแค่ผลงานกับความสามารถ อันนั้นน่ะมันก็แค่คำพูดที่สวยหรู แต่ชีวิตจริงไม่ใช่ คนพวกนั้นอาจจะโชคดีได้สังคมดี๊ดี แต่สังคมมักเกิ้ลทั่วไปไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน กูโดนมาหลายอย่างแล้ว ทั้งเหยียดสี เหยียดสถาบัน เหยียดในเหยียด จนกูก็คิดนะว่า กูจบเอกชนผิดตรงไหน กูจบเอกชนก็ยังทำงานได้ดีกว่าคนที่จบม.รัฐบางคนอีก แต่ก็เข้าใจสังคมคนโบราณ ยังไงม.รัฐก็ดีกว่าเอกชน
กูยกตัวอย่างที่กูเคยเจอมา 2-3เคสแล้วกัน
เคสหนึ่ง : สัมภาษณ์งาน
สัม : ทำไมน้องไม่เรียนที่ x ทำไมเรียนเอกชน
กู : โอเคกับสถานบันที่เรียนมา
สัม : แต่ที่นี่มีแต่คนจบจาก x
เคสสอง : สมัครงาน
สัม : ที่นี่รับแต่คนจบม.รัฐ
กู : (แล้วเรียกให้มาสัมไม???)
เคสสาม : ในที่ทำงาน
คนที่ทำงาน : จบจาก y มาใช่มั๊ย
กู : เปล่า จบเอกชนมา
คนที่ทำงาน : (มองกูหัวจรดตีนแล้วทำหน้าเหยียดใส่)
>>170 ถ้าจะเรียนเอกชน
สายบริหารทั่วไปกูแนะนำแค่เอแบค
สายบันเทิงสื่อกูให้มกท มรส
อาหารการโรงแรม ดสธน
ภาษาจีนกูให้มฟล มหฉ นอกนั้นไม่รู้ละ มอเอกชนมันเข้าง่าย จะเรียนก็เรียนที่มันเป็นตัวเด่นของมหาลัย สี่ปีไม่ใช่สี่เดือน
เล่นพรรคเล่นพวกมีจริงๆ ที่ไหนๆก็มี อย่างกูงานที่แรกก็ได้เพราะจบมหาลัยเดียวกับผบหเขาถึงเรียกกูไป งานที่สองป้าhr คนไหนจบที่เดียวกับเขา เขาดันสุดตัว ยิ่งองค์กรใหญ่ยิ่งมีเรื่องพวกนี้เยอะ
แล้วถ้าจบจากรามนี่จะขนาดไหนวะ? ม.เอกชนอย่างน้อยๆคัดคนระดับนึงด้วยแอดมิชชั่นนะ แต่ม.รามนี่เรียนเข้า สอบออก ถ้าไม่นับรัฐศาสตร์กับนิติ พวกคณะที่เหลือในรามคนนอกเค้ามองแบบไหนบ้างก็ไม่รู้.........
มีรุ่นพี่โม่งคนไหนเรียนนานาชาติมทส.บ้าง อยากรู้ว่าเวลาสัมภาษณ์เขาถามแบบไหนอะไรยังไง
สวัสดีชาวโม่ง มาขอคำปรึกษา
พอดีว่ากำลังจะวางแผนเกี่ยวกับมหาลัยนี่แหละ จริงๆ กุรู้ตัวนานแล้วนะว่าชอบวาดรูป แต่เมื่อก่อนก็แค่วาดเล่นไปเรื่อยแล้วทำได้ดีในระดับนึงแค่นั้น ไม่ได้คิดว่าจะเรียนสายนี้เลย ตั้งใจจะไปทางภาษา แต่กุเพิ่งรู้ตัวเมื่อไม่นานมานี้เองว่าอยากวาดรูปมากกว่า ในที่นี้คืออยากวาดพวกมังงะหรืออิลลัสแบบการ์ตูนจ๋าๆ เลยอ่ะ แต่อย่างว่าเมื่อก่อนแค่วาดเล่น ก็วาดๆ หยุดๆ ฝีมือแกว่งไปแกว่งมาดีบ้างแย่บ้าง ตอนนี้เลยไปติวเอาพื้นฐานพวกดรออิ้ง สีน้ำ-โปสเตอร์(ติวคอร์สนิเทศศิลป์ จังหวัดที่กุอยู่หาได้ใกล้เคียงสุดแค่นี้orz)
ไปลองหาข้อมูลได้มาแค่นี้เอง
มีเดียอาตบางมด(ไม่รู้ละเอียดเกี่ยวกับคณะนี้เลยแต่มีคนแนะนำมา)
ดิจิตอลอาต รังสิต(บางคนบอกดีบางคนบอกไม่ดี กุเลยงงมากตกลงมันยังไง)
นิเทศศิลป์ ศิลปากร(อันนี้ไม่ตรงสายเท่าไหร่แต่หลายคนเชียร์ให้สอบ)
เลยมาขอความเห็นแล้วก็ถามว่ามีคณะไหนมอไหนอีกไหมที่สอนแนวๆ นี้ กุเข้าใจนะว่าในไทยสายนี้มันน้อยหรืออาจจะไม่มีที่มันตรงสายเป๊ะๆ เลย แต่ทุนไม่หนาพอจะไปตปท.อ่ะ;_;
เพื่อนโม่ง เราอยากมาขอคำปรึกษา คือเราเป็นคนชอบดูหนังมากๆ มีความใฝ่ฝันว่าสักวันนึงจะได้มีส่วนร่วมในการทำหนัง แต่หนังที่เราชอบมันฮอลลีวูดอ่ะ ตั้งแต่หนังโรงยันบรอดเวย์(ถึงจะไม่มีปัญญาบินไปดูก็หาเนื้อเรื่องอ่าน+ฟังเพลงวนไป เป็นคนชอบฟังเพลงด้วยแหละ) พอดีไม่ใช่คอหนังไทยเท่าไหร่(ไม่ได้แอนตี้นะ แต่ไม่ค่อยโดนอ่ะ ที่ดูส่วนใหญ่จะเป็นของค่ายGDH ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่รีวิวบ้างไรงี้) คือเราอยากรู้ว่าพอจะมีมหาลัยไหนในไทยที่มีเปิดสอนเรื่องfilm,performance arts,theatre artsไรประมาณนี้แล้วมีหนทางได้ไปทำงานต่อที่นู่นได้บ้าง นี่ก็พอหาข้อมูลเอาไว้บ้างแล้ว แต่ยังอยากได้มากกว่านี้อีก จะไปถามใครก็กลัวโดนด่าว่าเพ้อเจ้อ มาลงในนี้ละกัน
>>177 ถ้าในไทยมหาลัยที่เปิดสอนเกี่ยวกับ ภาพยนตร์โดยตรงเลยที่กูนึกออกตอนนี้กูมี ม.กรุงเทพ ม.รังสิต ซึ่ง 2 มหาลัยเอกชนนี้โดดเด่นและเก่งมากๆในเรื่องของฟิล์มหมายถึง พวกวิชานิเทศ - ภาพยนตร์- ภาพนิ่ง การแสดง จะละเอียดและมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย อุปกรณ์เยอะมาก โรงถ่ายแม่งใหญ่สุดๆ วิชาเรียนก็ค่อนข้างจะหลากหลากนะ รู้สึกจะมีสอนพวก acting พื้นฐาน กับพวกกำกับการแสดงพื้นฐานด้วย แต่ไม่รู้มีสอนเขียนบทไหม แต่น่าจะมี
- ข้อเสียคือ ค่าเทอมที่แพง เพราะเป็นเอกชน
****นิเทศจุฬา อันนี้เป็นมหาลัยรัฐที่กูว่าน่าจะโดดเด่นเรื่องภาพยนตร์ที่สุดแล้วมั้ง พวกคนเก่งๆที่อยู่ใน นาดาว กับ GDH นี่ก็เด็กนิเทศจุฬาเยอะเลย
แถมรู้สึกว่าพวกนี้จะมีพวกแสดงละครเวทีด้วย มีสาขาภาพนิ่งด้วย ดังเหมือนกัน แล้วพวกเด็กนิเทศจุฬาที่กูรู้มามีข้อเสียอย่างนึง คือ เอาแต่พวกพ้องตัวเองเข้าทำงาน คือผู้กำกับหรือผู้ช่วย ผกก. บางคนที่อยู่ใน เฮ้าท์หรือสตูใหญ่ๆ รับแต่เด็กนิเทศจุฬา ไม่รับเด็ก ม.อื่นเลย ทั้งๆที่เรื่องของการทำงานภาพยนตร์มันไม่เกี่ยวกับมหาลัย มันเกี่ยวกับฝีมือล้วนๆ อย่างมึงเข้าไปทำงานในกอง ตำแหน่ง กราฟเฟอร์ หรือง่ายๆก็พวกทีมไฟอะ มึงต้องไปยกไฟ 2-4 k ซึ่งแม่งหนักเหี้ยๆ จัดแสง จัดองค์ประกอบแสงในกอง ซึ่งของพวกนี้มันได้มาจากประสบการณ์ล้วนๆ แต่ ผกก หรือ ผช ผกก.บางคนที่มาจาก ม.นี้เขาไม่สนไง เขาจะเอาน้องตัวเองไว้ก่อน เทรนให้เก่งๆที่หลังได้ ซึ่งแม่งก็นะ... คนที่มาจาก ม.อื่นเก่งกว่าแม่งชิบหายก็ต้องแห้วแดกไป กูพูดได้เพราะเห็นกับตามาแล้ว
***เครือราชมงคล ที่นึกออกมี 2 ที่ คือ ราชมงคลธัญญะบุรีหรือคลองหก กับราชมงคลกรุงเทพ(เทคนิคกรุงเทพ)
ขอพูดถึงคลอง6 ก่อนละกัน จัดว่าใช้ได้นะ ระบบการเรียนการสอนของที่นั่นถือว่าโอเคเลย เพื่อนกูที่จบจากที่นั่นก็เคยเล่าให้ฟังว่ามีคลาสสอนการแสดงพื้นฐาน การกำกับพื้นฐานด้วย ซึ่งถือว่าดีเลยเพราะคลาสเรียนพวกนี้หาเรียนยาก โดยเฉพาะคลาสการกำกับ หรือพวกเขียนบทภาพยนตร์นะ ไปเรียนข้างนอกเป็นคอร์สกับพวกสตูต่างๆหรือผู้กำกับไรเงี้ยนะ หลัก 10k อัพทุกที่ แพงมาก อุปกรณ์ของ ธัญญะก็ถือว่าใช้ได้ เครื่องไม้เครื่องมือโอเค สถานที่ก็ใหญ่ดี เดี๋ยวนี้เด็กฟิล์มคลองหกเริ่มมาเริ่มมีชื่อเสียงแล้ว ในกองละครภาพยนตร์ก็มีเด็ก คลองหกเยอะ
มาต่อที่ ราชมงคลกรุงเทพ อันนี้กูไม่ค่อยแนะนำ ระบบโซตัสของที่นี่ค่อนข้างแรงอยู่ ถ้ามึงไม่ชอบก็อย่ามา ไม่เวิร์ค เพราะมันเป็นอดีตสถาบันช่างเก่า ตีกับ พวกเหี้ยเทนบ่อย ถึงปัจจุบันจะไม่แรงเท่าเมื่อก่อนแต่ก็ยังมีหลงเหลืออยู่บ้าง ม.นี้เมื่อก่อน20ปี+ ดังสุดๆๆในเรื่องภาพนิ่งและภาพยนตร์เพราะเป็น ที่แรกในประเทศไทยที่เปิดสอนวิชาช่างภาพ หรือ photo ศิษย์เก่าเป็นผู้กำกับระดับประเทศ เป็นช่างภาพระดับประเทศก็เยอะมาก แต่หลังๆมานี้ไม่ค่อยดังแล้วเพราะ มหาลัยไม่ค่อยอัดฉีดงบ เครื่องไม้เครื่องมือเลยเก่า ไม่ค่อยทันสมัย แต่ดีที่ได้ประสบการณ์เก่าๆจากพวกรุ่นพี่ที่เป็นผู้กำกับคอยเข้ามาสอนให้น้องๆบ้าง ข้อดีของที่นี่คือ วิชาเขียนบทภาพยนตร์จะแน่นมากและลึกสุดๆ จะปูพื้นฐานการเขียนให้มึงตั้งแต่แรก ซึ่งหาเรียนที่ไหนไม่ได้ง่ายหรอกวิชาเขียนบทภาพยนตร์เนี่ย มีสอนวิชา จัดไฟและจัดแสงสำหรับภาพยนตร์ด้วย เอกลักษณ์ของ ม.นี้จะไม่เหมือนตรงที่สาขานี้จะชื่อสาขาว่า
ถ่ายภาพและภาพยนตร์ คือจะเรียนทั้งภาพนิ่งและภาพยนตร์ควบคู่กันไปทั้ง2วิชาเลย ต่างจาก ม.อื่นๆที่เค้าจะค่อนข้างแบ่งภาคหรือสาขากันไปเลย ซึ่งก็คือข้อดีอีกนั้นแหละเพราะมึงจะได้เรียนทั้งภาพนิ่งและภาพยนตร์ไปพร้อมๆกัน แถมจะคอยมีพวกรุ่นพี่ที่เป็นช่างภาพระดับประเทศหรือผู้กำกับเนี่ยเข้ามาเวิร์คช็อปให้บ่อยๆ ซึ่งก็ถือเป็นข้อดีที่มาทดแทนเรื่อง ความล้าหลังของอุปกรณ์และเครื่องไม้เครื่องมือที่ไม่ค่อยมีและพอใช้เท่าไหร่
**** ราชมงคลพระนคร กับ ราชมงคลตะวันออกวิทยาเขต จักรพงภูวนารถ 2 ที่นี้กูไม่ค่อยรู้เท่าไหร่เพราะไม่ค่อยมีเพื่อนมาจาก 2 ม.นี้
แต่มีคณะนิเทศเหมือนกัน ก็สอนพวก ฟิล์ม กับ ภาพนิ่งเหมือนที่กูยกมาข้างบนอะ แต่ไม่แน่ใจว่าระบบการสอนดีไหมเพราะไม่ค่อยรู้ละเอียดเท่าไหร่
>>177 ต่อๆ
ทีนี้มาต่อกันเรื่องแนวทางที่จะได้ไปทำงานที่เมืองนอกหรือฮอลลีวู้ดนะ ขอบอกก่อนว่ามันอยู่ที่ตัวมึงเองล้วนๆ มี2 ทางคือ เรียนมหาลัยในไทยแล้วตั้งใจเรียนเก็บทุกความรู้ให้ได้มากที่สุด กล้าคิดกล้าทำ ทุกปีจะมีการประกวดหนังสั้น เอาเลย ใส่เลย ทำเลย เก็บไว้เป็นพอร์ทได้ อย่าไปหยอง ฝึกไว้ตั้งแต่เนิ่นๆจะได้เก่งๆ เข้าหารุ่นพี่ตีซี้ไว้เยอะๆ โดยเฉพาะพี่คนไหนที่เค้ามีงานนอก เช่นเขาเก่งจนไปออกกอง รับงาน กอง ข้างนอกเองได้แล้ว ก็ไปตีซี้ไว้ ขอให้เขาช่วยพาไปด้วย ไม่เอาค่าแรงก็ได้ขอลองไปทำก่อน อยากไปช่วยอยากทำ เดี๋ยวเขาก็พามึงไปลองเอง เก็บประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานให้เยอะๆ คุยกับคนในกองให้มากๆ มือไม้อ่อนเข้าไหว้อย่าแข็ง ไหว้แม่งให้หมดทุกคนที่มึงเห็น เดี๋ยวเขาก็เอ็นดูมึงเอง เผื่อมึงทำพลาดอะไรในกองจนฉิบหายเขาจะได้ด่ามึงเบาลงบ้าง 555 หมั่นตีซี้กับคนไว้เยอะๆ ถึงมึงจะไม่เก่งแต่เขาเห็นมึงขยัน ตั้งใจ เดี๋ยวรุ่นพี่มีงานอะไรก็โยนให้มึง หรือพามึงไปทำอีก เพราะเขาไว้ใจได้แล้วไงว่ามึงใช้ได้ มีแวว ไรงี้ ยิ่งไปอยู่ในกอง พยายามชวนคุยกับคนในกองเยอะๆ ถามชื่อถามอะไร พยายามเสนอหน้าให้เขาจำได้ แต่มึงต้องตั้งใจทำงานด้วยนะอย่าพลาด อย่าเหม่อ ตื่นตัวเข้าไว้ ทำงานกองคือการทำงานแข่งกับเวลา จะพลาดไม่ได้ เขาเห็นบ่อยๆตีซี้บ่อยๆก็จำได้เอง เผื่อวันไหนกองคนขาด-ไม่พอ อาจจะเรียกมึงไปช่วยก็ได้ มีตังค์กินหนม หาเงินได้เองตั้งแต่เรียน
ส่วนที่2 ถ้ามีเงิน ก็ลองหาพวก คอลเลจในเมกาที่เปิดสอนพวกนี้เอา กูเคยดูอยู่มีเยอะแยะเลยพวกคลาสสอนการแสดง - เขียนบท -กำกับ- ตัดต่อ -กราฟเฟอร์(ทีมจัดแสง- ทีมไฟ) ราคาก็แพงบ้างถูกบ้าง ถ้าบ้านพอมีฐานะ ก็ลุยโลด พวกที่มาสอนเนี่ยส่วนมากก็เคยทำงานอยู่ในกองถ่ายระดับโลกมาแล้วทั้งนั้น ถ้าได้คุยได้เรียนก็น่าจะได้อะไรดีๆกลับมาเยอะ อาจจะได้มีโอกาสไปทำงานในกองถ่ายของพวกฝรั่ง ซึ่งก็จะต่อยอดไปได้เหมือนกันนะ
อีกวิธีนึงคือ ฝึกในไทยให้เก่งๆแล้วลองไปสมัครพวกเฮ้าท์หรือสตูไทย ที่รับงานนอก(หมายถึงงานฝรั่ง โฆษณา-ภาพยนตร์ไรงี้จากลูกค้าต่างชาติ-แบรนด์ระดับโลก)ที่เพื่อนกูทำอยู่ตอนนี้คือแถวเสรีไทย เป็นสตูที่ทำงานกับฝรั่ง ส่วนมากรับงานนอก งานต่างชาติ ทั้งนั้น เงินดีมาก แต่งานหนักเหี้ยๆๆ ข้อดีคือได้ร่วมงานกับพวกทีมถ่ายทำต่างชาติที่เก่งๆ ถ้ามึงฝีมือดีเขาอาจชวนไป joinกันได้
ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันคือ connectionอะเนอะ ลองดูละกัน กูก็แนะนำให้ได้เท่าที่กูรู้และทำอยู่ๆ สู้ๆ
>>177 ไม่เพ้อเจ้อหว่ะสำหรับงานสายนี้แล้วอยากไปต่อนอก เพราะสตูหลายๆที่ในไทยก็ทำงานส่งให้นอกอยู่แล้ว กุจบภาพยนตร์มาไม่บอกละกันว่าม.ไหน ถ้ามึงมีเงินอยู่แล้วอยากแนะนำให้เรียนนอกไปเลย อันนี้จะชัวร์สุด5555555555 แต่ถ้าในไทยเรื่องมหาลัยนี่ไม่รู้มากไม่อยากแนะนำ แต่สิ่งนึงที่มึงต้องทำชัวร์ๆเลยคือตั้งใจเรียนภาษา กุดูจากหลายๆคนที่ได้กับไม่ได้ภาษาหลังจบมาโอกาสในระยะยาวมันต่างกันชัดมากๆ อีกอย่างไม่ว่ามึงจะไปเรียนที่ไหนก็ตามถ้ามึงขยันออกกองหรือช่วยงานคนอื่นมึงก็จะมีโอกาสได้คอนเนคชั่นเยอะขึ้นแต่เหนื่อยเหี้ยๆ แล้วก็กระตือรือร้นอยากทำงาน มีงานห่าไรมาทำหมดไรเงี้ยะ
เอาจริงๆสมัยเรียนกุก็ไม่ค่อยอะไรกะชาวบ้านหรอก แรกๆก็แบบมึงอ่ะแต่พอเรียนๆไปแล้วโคตรเกลียดการออกกองและการทำงานกับมนุดเยอะๆเลยเบนสายเป็นสายเบื้องหลังนั่งหน้าคอมแทน เดี๋ยวเรียนๆไปมึงจะพบสิ่งที่มึงคิดว่ามึงอยากทำแต่สุดท้ายก็เกลียดเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่กุอยากบอกอีกทีว่ามึงอย่าไปคิดว่ามันเพ้อเจ้อเว้ยการอยากทำงานกะฮอลิวูดหรืองานเบื้องหลังสตูใหญ่ๆไรเงี้ยะอ่ะ มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับงานสายนี้ถ้ามึงตั้งใจจริงๆ
จบ5-6ปีแปลกมั้ยวะ แล้วกูต้องไปเรียนกับน้องๆอีกอสเขินชิบหาย
สวัสดี นี่177เองนะ ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้รับคำแนะนำมากมายขนาดนี้ ขอขอบคุณมากๆ>>179 >>181 >>183 >>184
เรื่องภาษาเราไม่ค่อยห่วงอ่ะ เป็นวิชาเดียวที่ทำแล้วได้เต็มทุกตัว เดี๋ยวเรียนติวภาษาเพิ่มอีกจะได้เซียนๆ อันที่จริงนี่ก็ยังไม่รู้หรอกว่าจบไปอยากเป็นอะไรกันแน่ ที่รู้ๆคือชอบดูหนังมากๆ รู้สึกอยากมีส่วนร่วมในหนังพวกนั้น อยากลองเรียนๆไปก่อนจะได้รู้ ถ้าไม่รอดยังไงก็คิดหางานล่ามงานอื่นๆสำรองเอาไว้แล้ว ยังไงก็ขออุทิศความพยายามของเราส่วนหนึ่งให้กับเพื่อนโม่ง รักนะ
>>185 กูเตือนเลยว่า ICT ศิลปากรเหี้ยไรนี่โฆษณาหว่ะ เห็นวีคที่แล้วคือเรื้อนบนเว็บเด็กดี ช่วงก่อนปีใหม่ก็เกษตร สกลนครมีเอาเด็กในสถาบันตัวเองมาฟลัดรีวิวบอร์ดแอดมิชชั่นว่าวิทยาเขตตัวเองงดงามนู่นนี่นั่น แถมสองสถาบันนี้นี่คณาจารย์ปัญญาอ่อน ให้ปี1ทุกคนอยู่หอในแต่สภาพหอจัญไรมาก
กุเรียน ict ศิลปากร (นิเทศ) หอเหี้ยจริง มีเรียนวิชาดรออิ้งด้วยตอนปี 1 เรียนทำห่าไรไม่รู้ ไอสัสดึงเกรดกูชิบ
ปี 1 2 อยู่เพชร 3 4 ย้ายมาเมืองทอง อุปกรณ์พวกสตู กล้อง ไมค์บูมก็มีไม่ค่อยเยอะ ต้องแย่งกัน สตูนี่อย่างกากเลย
วิชาเรียนกูว่าโอเคนะ หลักสูตรดี งานเยอะชิบหาย อาจารย์ก็มีดีบ้าง แย่บ้าง เป็นปกติอยู่แล้ว
ถ้าเรียนฟิลม์ที่นี่ ต้องทำโปรเจคจบเป็นหนังสั้น 1 เรื่อง ทำเดี่่ยวด้วยนะ มึงคิดดูเอาละกันว่าจะเปลืองตังแค่ไหน 55555
ไปที่อื่นเถอะ มศว จุฬา มธ มกรุงเทพ รังสิต
>>187 กูมีคำถามเพราะจากที่ https://www.dek-d.com/board/view/3901732/
มันมีคอมเมนต์สงสัยและหลายอันที่มันแย้งมาน่าเชื่อถือพอตัว(เพราะเห็นที่มาเม้นๆเองก็ยังเออออกับแม่งด้วย) ส่วนไอเจ้าของมู้บางอย่างมันไม่มีปัญญาจะตอบ คำถามที่กูสงสัยคือเรื่องรับน้อง รับกระเทย ละก็แลปนี่มันเป็นอย่างที่บอกจริงเหรอวะ? ไม่เข้ากิจกรรมก็คือพี่นอก ไม่โดนแบนแต่ก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับการจัดกิจกรรมอะไร กูไม่เชื่อว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลย แล้วยิ่งมหาลัยนี้ขนาดคณะดั้งเดิมยังมีรับน้องพิเรนณ์ๆอยู่อีก
>>188 รับน้องกระเทยมีจริง รับน้องก็เหมือนกัน แต่จะไม่เข้าก็ได้ กูช่วงปี 1 ยังโดดบ่อยๆ เลย เพื่อนก็ไม่ได้ว่าอะไร
ไม่โดนแบน แล้วก็ไม่ได้ยุ่งกับงานกิจกรรมอะไรด้วย แค่เรียนกับการบ้านกูก็จะตายแล้ว
แลปก็มีนิดหน่อยอย่างที่มันว่า อุปกรณ์อะไรๆ ก็ไม่ครบ เทียบกับค่าเทอมที่แพงแล้วอะนะ
เรียนพวกงานออกแบบ งานอาร์ต งานศิลป์กูยอม ดีจริง เข้มมาก
คอมดีฬ นี่เข้ายากมั้ย กูหาใน ดด ไม่ค่อยมีคนมาตอบ เทียบกับ มหิดลเป็นไงบ้าง
เพื่อนโม่ง ตอนนี้ได้วิศวะคอมสจล กับ มหิดล ส่วนตัวใจกูไปมหิดลและ แต่ครอบครัวกูเชียร์สจลว่ะ พวกมึงมีอะไรแนะนำไหม ดูในเน็ตแล้วเห็นแต่ของสจลเลย
มึงกุเรียนบชละงงอ่ะเขาให้วิเคราะงบการเงินแง้ ละพวกอัตราส่วนทางการเงินกุคืองงมากๆ แล้วงานมันถามถ้าจะเปรียบเทียบว่าควรลงทุนในบริษัทไหนมากกว่าควรจะดูไรมากอ่ะ ดูตรงไหนว่าบริษัทโตขึ้นกุงงจิงๆไม่ได้เรียนคนะนี้แต่วิชาบังคับ
>>196 เออ ถ้าเหตุผลนี้ยอม 55555
>>197 ไม่เหมือนดิวะ มึงคิดว่าเตรียมอุดมกับรรถิ่นทุรกันดารจะสอนเหมือนกันมั้ย บุคลากร เนื้อหาวิชาการ อุปกรณ์ ความพร้อม ระบบ ระเบียบ เพื่อนร่วมชั้น จะอยู่ระดับเดียวกันได้มั้ย หรือเอาแบบไม่ extreme แค่วิชาเดียวกันรรเดียวกัน อ.คนละคนสอนยังไม่เหมือนกันเลย
อันนี้ขอติง คนที่จะพูดได้ว่า "การเรียนการสอนมันก็เหมือน ๆ กัน" คือ
1. คนที่ขยันหรือเทพมากพอจนไม่ต้องพึ่งอ.
2. คนที่ศึกษาข้อมูลมาอย่างดีแล้ว มึงเข้าเวบของทั้ง 2 ม.ไปดูรายวิชาที่เปิดสอนรึยัง อ.ผู้สอนเป็นใคร แล้ว thesis ล่ะ ผลงานของเด็กม.ไหนน่าสนใจกว่า บลาๆๆ
3. คนที่ขี้เกียจ
มึงคิดว่าตัวเองเป็นคนกลุ่มไหนล่ะ
>>199 กูคิดว่ากูน่าจะ 2 นะ กูเปิดดูหลักสูตรของทั้งสองแล้วไม่ต่างกันมาก ดู ๆ แล้วสจลจะมีวิชาเลือกหลากหลายกว่า กูชอบสจลตรงไม่มีเคมีนี่แหละ 555555 ของมหิดลก็ไม่ต่างกันมาก แต่ตอนไปสัมรู้สึกคุยกับอ.ถูกคอดี ผลงานนี่ยังไม่ได้ดูเลยว่ะ แต่เท่าที่ดู ๆ แล้วมหิดลเหมือนห้องปฏิบัติการจะมีไม่เยอะเท่าไร แม่งเลือกยากจังโว้ย
>>200 กูขอเสริมต่ออีกหน่อย อีกเรื่องที่อยากรู้คือสภาพสังคมอ่ะ เห็นอ.บอกว่ามหิดลปีนึงมีนักศึกษาในภาคประมาณ 40-60 คน ส่วนของลกบอ่านในหลักสูตรตั้งเป้าไว้ 120 คน ไม่รู้ว่าเยอะหรือน้อยจะดีนะ แต่สำหรับกู 40 นี่กำลังดีเลย แล้วกูก็ไม่ค่อยชอบระบบรุ่นพี่รุ่นน้องอะไรนั่นเท่าไรด้วย หาอ่านเห็นข้อดีมาเยอะเลยมาถามดูในนี้เผื่อจะเห็นข้อเสียบ้าง
>>198 มึงพิมพ์ให้รู้เรื่องหน่อยสิ
ตกลง ชอบอนิเมชั่น หรือ ไม่ชอบ อ่านแล้วงง
ชอบวาดรูป แล้วรู้ยังว่าอยากทำงานแนวไหน
ทำงานกราฟิก มันไม่ค่อยได้วาดรูปหรอก ส่วนใหญ่ก็สเก็ตๆแล้วไปทำในคอม
แต่สายวาดก็มีที่มาเรียนนิเทศศิลป์เหมือนกัน มันจะมีวิชา illustration ฯลฯ
นอกจากนี้ก็มีวิชาพวก ad , photo ด้วย เพราะบางคนก็ไปทางสายโฆษณา หรือ ถ่ายภาพ ก็มี
ส่วนถ้าอยากทำอนิเมชั่น มันน่าจะมีคณะที่เฉพาะทางกว่านิเทศศิลป์อ่ะ แต่กูไม่รู้ชื่อคณะ
>>197 ต้องถามว่าบ้านมึงอยู่ใกล้มหิดลแค่ไหน ถ้าใกล้ถึงขนาดที่สามารถไปกลับได้โดยไม่จำเป็นต้องอยู่หอ กูก็เชียร์มหิดลนะ
กูมองว่าวิดวะคอมเนี่ยแม่งไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนในสถาบัน 8 เกียร์ เพื่อนๆ กูที่จบวิดวะคอมจาก ม. ดัง (ฬ เกษตร) ทั้งหมดแม่งก็ทำงานสายซอฟต์แวร์ (เขียนโค้ด เขียนโปรแกรม) ซึ่งไอ้งานสายนี้แม่งดูกันที่ทักษะเพียวๆ ไม่ได้เน้นสถาบัน เผลอๆ ต่อให้มึงไม่มีปริญญาตรี แต่มีความสามารถในการเขียนโค้ด ก็ยังมี บ. ดีๆ หลายแห่งสนใจดึงตัวเข้าทำงาน
ถึงมหิดลจะไม่ได้มีชื่อเสียงทางด้านวิดวะ แต่มันก็นับว่าเป็นมหาลัยใหญ่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศอยู่ (ถ้าเทียบแบบเพียวๆ ไม่ได้เจาะจงเป็นรายสาขา บางปีชนะ ฬ ด้วยซ้ำ ในการจัดอันดับ ม.โลก) แถมยังรวยอีกต่างหาก เพราะงั้นบอกได้เลยว่าอุปกรณ์ต่างๆ มีให้ใช้เรียนได้อย่างครบครันแน่นอน บวกกับ ผญ มหิดลสวยกว่า ผญ ลาดกระบัง (รวมอีก 2 พระจอมด้วย) เป็นล้านเท่า ดังนั้นถ้ามึงคิดอยากจะเรียนมหิดลอยู่แล้ว กูบอกเลยว่า สนับสนุนครับ !!!
>>203 กูก็คิดแบบนี้แหละ แต่กูก็ยังไม่ค่อยมั่นใจอยู่ดี คือน้ากูบอกมาเลยว่าอย่าไปมหิดล พ่อกับแม่กูก็ตามเค้าอีก เพราะชื่อเสียงกับคอนเนคชั่นนี่ก็เป็นปัจจัยสำคัญเหมือนกัน แต่ถ้าสมมติกูวางแผนที่จะเรียนต่อหลังจากจบปริญญาตรีไม่ว่าจะในไทยหรือต่างประเทศนี่ยังคงต้องสนใจเรื่องชื่อเสียงกับคอนเนคชั่นอยู่ไหม คืออันนี้แค่คิดเฉย ๆ แต่ที่จริงก็ตั้งใจว่าจะหางานทำก่อนนั่นแหละ
>>204 เรียนวิดวะคอม ถ้ามึงจะโตในสายงานนี้ กูบอกเลยว่าไอ้คอนเนกชั่นห่าเหวนี่ไม่จำเป็นเท่าไหร่ ให้มึงเก่งก็พอ มึงโตในสายงานได้สบายแน่ๆ มหิดลก็ไม่ใช่ ม.ห้องแถวไก่กานี่หว่า
ยิ่งเรียนต่อยิ่งชิว มหิดลมีชื่อเสียงจะตายห่า เชื่อกูถ้าบ้านใกล้เลือกมหิดล บรรยากาศดี สภาพแวดล้อมดี สาวๆ ดี ลาดกระบังแม่งแหล่งเสื่อมโทรม ผู้ชายเดินกันให้ควั่ก ไม่เจริญหูเจริญตา
กูไม่เคยเรียนวิศวะ มหิดล แต่เห็นพวกที่เรียนๆอยู คณะวิศวะค่อนข้างอลังนะมึง แล้วทำแลปทำชอปไรคือมีพื้นที่ให้อยู่แล้ว เห็นรุ่นพี่บางคนล่อทำโปรเจกค์ค้างคืนแม่งก็แคมป์ตึกคณะนี่แหละ5555 เรียนวิชาของภาคคือตึกคณะอยู่ใกล้กับทางเข้าสัสๆ ละเรื่องกับข้าว บอกเลยว่ามีทุกแบบ อยากแดกของถูกมีตลาดศาลายาให้มึงช้อปเลย วันไหนอยากกินแพงไปเซ็นทรัล ศาลายาก็ได้(ด้วย 84ก) ส่วนบ้านติดมหิดลหรือมีสายรถเมล์ผ่านยังไงก็พยายามมาเรียนเช้าเข้าไว้นะ รถเมล์บางสายรถน้อยมาก ภาพรวมวิศวะคอม มหิดล กูว่าโอเคมากตรงที่อากาศดี ปี1ให้อิสระพอสมควร แล้วคือในตัวมหาลัยอะไรๆก็ดูแพงเยอะมาก(ศาลายานะ วิทยาเขตนี่ห่วยแตก เฮงซวย) ในกรณีที่บ้านมึงไม่ติดมหิดล ไม่ค่อยแนะนำด้วยเหตุผลที่ว่าหอนอกแพง และหอในนี่สภาพแวดล้อมแย่มาก แมลงก้นกระดก หรือการที่หมอ/พยาบาลมหิดลเหยียด นศ. ระดับสิบ
>>209 ต้องทำใจนิดนึงว่ามหิดลเป็นมหาลัยสายวิทย์สุขภาพ ดังนั้นนักศึกษาสายสุขภาพจึงมองว่าตัวเอง "ระดับสูง" กว่าเด็กสายอื่น เพื่อนกูเคยเรียนวิทยาศาสตร์มหิดลบอกแม่งเหยียดจริงจัง (ซิ่วไปละ)
แต่ไม่ต้องห่วง ถ้ามึงเป็น ผช เรียนวิดวะก็เท่ดี ถ้ายังมี นศ.พยาบาลกล้าเหยียดมึง มึงก็เย็ดเลย
>>209 คืองี้ นศ.มหิดลเรียนปีสูงๆละจะมีสวัสดิการรักษาพยาบาลไรงี้นี่แหละ ถ้ามึงมารักษาด้วยสวัสดิการตัวนี้มึงจะเห็นหน้าพยาบาลในศูนย์การแพทย์กาญจนา/MU HEALTHเป็นหน้าพี่กิ๊ก สุวัจนีทั้งสถานพยาบาลเลย แนะนำว่าป่วย ไม่สบาย แอดมิดเข้า รพ.เอกชนดีๆไปเลยหรือไม่ก็ไปรักษาแบบจ่ายเงินซะ ไม่ได้เกี่ยวก้บพวกเด็กเรียนหมอหรือพยาบาลแต่อย่างใด พวกนั้นเฟรนลี่อยู่แล้ว
ฮื่อออ ฟังของมหิดลมาเยอะแล้วมีของลาดกระบังมาเหลาบ้างป่ะวะ รุ่นพี่กูไปเรียนเยอะชิบหาย เห็นสตอรี่อัพแต่ไปก๊งเหล้า ไปเที่ยวกัน การเรียน สังคมมันเป็นยังไงวะ
ปล.กูไม่ดื่ม
>>215 กูไม่ได้เรียนวิดวะ แต่เรียนคณะเพื่อนบ้าน วิดวะนี่คุณภาพชีวิตดีเป็นอันดับต้นๆ ของมอเลย (เพราะพี่เอ้ก็จบวิดวะ) การเรียนก็มีช่วงที่เห็นดึกอยู่เหมือนกัน เหมือนจะบังคับเข้าเชียร์ด้วย (ไม่แน่ใจ แต่เชียร์เลิกดึกแน่ๆ) ร้านกาแฟคณะตัวเองไม่ชอบเข้า ชอบมานั่งร้านในคณะกู (เพื่อ?) โรงอาหารสามโรง อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง มีเซเว่นสองสาขา บรรยากาศโอเค ดูรักกันดี ชมรมเยอะดีด้วย
>>216 บังคับแล้วไม่ทำได้ป่ะวะ กูไม่ค่อยชอบวัฒนธรรมอะไรแบบนี้สักเท่าไร แต่ก็คงปฏิเสธกับหลีกเลี่ยงได้ไม่หมดทุกครั้งหรอก ตอนนี้ที่ตัดสินใจยังไม่ได้เพราะชื่อเสียงของสจลนี่ล่ะ กูค่อนข้างยอมรับนะว่าการที่ม.เปิดคณะมานานกว่า ก็ต้องมีคนที่จบไปทำงานมากกว่า มันก็อาจเป็นลู่ทางการก้าวหน้าในสายงานได้ดีกว่า ถึงจะไม่เสมอไปก็เถอะ แต่กูว่าถ้าจะปฏิเสธเรื่องนี้เลยก็คงไม่ได้
ปล.เมื่อกี้โทรคุยกับครอบครัวแม่เริ่มยอมรับมหิดลแล้ว เหลือแต่พ่อนี่แหละ เครียดเลย 55555555
>>217 สจล คณะวิศวะนี่เคยได้ยินข่าวว่าระบบรับน้องถ่อยอันดับรองจาก มจพ เลยมึง พวกคณะบริหารธุรกิจนี่ก็พอๆกันอ่ะ เคยเห็นภาพหลุดสั่งรุ่นน้องนอนในแอ่งน้ำขังบนดาดฟ้าตึกเรียนละรุ่นพี่ยืนกร่างตั้งหลายปีละ สมัยนี้กูว่าก็คงแอบทำกันนั่นแหละ แล้วสจล นี่เวลาถ่อยมันถ่อยแบบว่าวิศวะ มหิดลกลายเป็นระดับน้องๆไปเลยนะมึง ถ้ามึงจะเอาตรงนั้นกูแนะนำว่าวิศวะ มหิดลเซฟกว่า(แต่ถ้าเค้าบูลลี่กันก็แรง ดังนั้น เชคดีๆว่าไม่มีรุ่นพี่/เพื่อนที่มึงเกลียดไปเข้าเรียนที่เดียวกับมึงนะ ไม่งั้นอยู่ลำบาก) มหิดลดีอย่างที่เวลาเข้าเชียร์มีมาตรการว่าไม่ควรเกินสองทุ่ม ไม่มีรับน้องแต่มีกิจกรรมรักน้องก็ไม่บังคับเข้าแต่อย่างใดด้วย การที่รุ่นพี่บังคับนัดพบปะเองมันขึ้นกับภาควิชาในวิศวะเลยว่าอันไหนแม่งบ้าระบบเส้นสาย เคารพรุ่นพี่เยี่ยงพระเจ้าที่ไหนบ้าง ถ้าให้กูยกตัวอย่างก็เช่น วิศวะเคมี,ไฟฟ้า,โยธา,ยานยนต์ ส่วนภาคคอมกูไม่แน่ใจนะ ยังไงถ้ามึงสงสัยอะไร อยากให้ทิ้งคำถามในแชทโม่งห้องรักการเรียนมา บางอย่างคุยในนี้ไม่สะดวกอ่ะมึง
คอมวิทยา มหิดลเป็นไงมั้งอะ ถอนกันเยอะไหม กลุ่มเพื่อนเป็นไง
เคยสอบติดรอบรับตรงเมื่อ2 ปีที่เเล้วแต่ค่าเทอมอลังมาก สายinterไรนี่แหละ เลยไปได้วิทย์คอมที่ ศิลปกรเเทน
ลูกพี่ลูกน้องสายยวิทย์ อยากไปต่อดูมหิดลดู
กูเหยียดราชภัฏหวะทำไงดีวะ
เพื่อนป่วยภูมิแพ้หอบหืดจะย้ายไปเรียนต่างจังหวัดละ เสียใจว่ะ
ย้ายไปสมุทรสาครน่ะ ติดทะเลอากาศน่าจะดีต่อสุขภาพมัน
ดูในแอปแล้ววอดวายทั้งประเทศ มีแต่ใต้ที่รอด
มาอัพเดตว่าตอนนี้เลือกมหิดลไปแล้ว ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ๆ ไว้มีอะไรเปลี่ยนแปลงจะมาอัพเดต คาดว่าหลังจากคะแนนแกะแพะออก มู้นี้น่าจะคึกคักขึ้น ขอบคุณพวกมึงทุกคนที่ให้คำปรึกษา
>>235 มธ. สายวิศวะกับวิทยาศาสตร์ ไม่ค่อยแนะนำ ระบบสังคมแม่งคือฝ่ายขวาจัดของฝ่ายซ้ายเลย เคยเห็นเพื่อนๆสมัย ม.ต้นกูเข้าไปเรียนนี่กลายเป็นพวกบ้าคลั่งอนุรักษ์เครื่องแบบ เห็นดีงามกับค่านิยมป่วยๆทั้งนั้น ล่าสุดเคยเสวนากับอดีตครูคนนึงของ รร.ที่กูจบมาแถมเป็นรุ่นพี่ด้วย และจบภาคคณิตของ มธ. บอกเลยว่าคอนเซอร์ชิบ ขนาดทุกวันนี้นางเรียนต่ออยู่เมืองนอกเมืองอย่างยุโรปไรงี้แม่งไม่ได้เปลี่ยนสันดานให้ลิเบอรัลขึ้นเลย
>>236 เสริมๆ จริงๆละมีพวกSIITที่แม่งเป็นลู่ทางสำหรับคนรักอิสระและเสรี บวกกับการเรียนแบบอินเตอร์นะ วิศวะก็มี ITก็มีแต่ค่าเทอมแบบว่ามหาโหดเหี้ยๆ ถ้าจะลงเรียนจริงๆอย่าเรียนภาคภาษาไทยจะดีกว่ามาก เรียนภาคอินเตอร์ไปเลยหรือไม่งั้นไม่ควรมาจริงๆหว่ะ ส่วนsafe zoneก็พวกคณะศิลปศาสตร์ นิติ รัฐศาสตร์ บริหาร บัญชี และก็วิทยาการการเรียนรู้ที่เพิ่งเปิดใหม่อ่ะนะ
>>238 ไม่ใช่ คณะนี้ต่างหากละ http://lsed.tu.ac.th/ จบไปเป็นครูหรือทำงานด้านการศึกษาไรงี้ แต่ที่นี่เหมือนเน้นการศึกษาต่อเนื่องตลอดชีพ
บริหาร จุฬา จัดอยู่ไหนคลาสไหน คณะดีหรือไม่ดี
พูดถึงราชภัฎถ้าคนมีเงินไม่อยากเรียนหรอกไอ้เหี้ยกูดิต้องจำใจเรียนแค่ราชภัฎแม่กูยังไม่มีปัญญาส่งเลย
ในนี้มีเพื่อนโม่งคุณครูมั่งมั้ยอะ พวกมึงเป็นยังไงกันบ้างท้อแท้เหมือนกันมั้ย เวลามีเรื่องเหี้ยๆแม่งก็โยนให้ครูหมด อาจารย์คณะบางคนแม่งก็เป็นพวกพฤติกรรมนิยมจัดจนน่ารำคาญ แถมยังโดนญาติสนิทมิตรสหายทั้งหลายดูถูกดูแคลนในศักยภาพทางวิชาการอีก อีเหี้ยมึงลองมาโดนตัดเกรดอึงกลุ่มกะอักษรเหมือนกูมั้ยหละ!!! กูท้อมากเลยว่ะ แต่ก็ยังชอบเวลาสอนเด็ก ทำไงกูถึงจะผ่านช่วงเวลาแย่ๆแบบนี้ได้วะ กูอยากมีความสุขในการเรียนมากกว่านี้
ใครเรียนกรุงเทพคริสเตียนบ้าง ขอถามตรงๆเลย ว่ามีเด็กฐานะปานกลางเรียนมั้ย (แบบพอมีพอกิน แต่ก็ไม่ได้สามารถซื้อได้ทุกอย่าง ต้องประหยัด) ขอบคุณล่วงหน้าจ้า
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.