เมื่อสามปีก่อนกูยังมั่นใจกับการทำงานในฐานะฟรีแลนซ์อยู่เลย ตั้งแต่เข้าระบบงานประจำจนตอนนี้อยากกลับไปทำฟรีแลนซ์สุดๆ แต่กลัวชิบหายเลยไม่ได้ออกมาซักที ไม่ชอบตัวเองตอนนี้เลย ทำไมตอนนู้นกูยังไม่เห็นกลัวอะไรแบบนี้ ติดกับดักเงินเดือนแล้วกู
Last posted
Total of 1000 posts
เมื่อสามปีก่อนกูยังมั่นใจกับการทำงานในฐานะฟรีแลนซ์อยู่เลย ตั้งแต่เข้าระบบงานประจำจนตอนนี้อยากกลับไปทำฟรีแลนซ์สุดๆ แต่กลัวชิบหายเลยไม่ได้ออกมาซักที ไม่ชอบตัวเองตอนนี้เลย ทำไมตอนนู้นกูยังไม่เห็นกลัวอะไรแบบนี้ ติดกับดักเงินเดือนแล้วกู
เพื่อนโม่ง พอดีกูกำลังจะย้ายงาน ที่นี้กูเลยกะว่าจะย้ายหอด้วย ซึ่งที่ทำงานมันอยู่ติดmrt
ถ้ากูอยากหาที่อยู่โซนที่ติดmrt และสามารถเดินทางไปสายใต้ใหม่แบบไม่ลำบากเกินไป(เอาไว้กลับบ้านช่วงเทศกาล) กูควรย้ายไปอยู่แถวไหนดี
>>935 จริงๆมันก็แล้วแต่นะ งานแรกกูงานหนักกว่า แต่เงินน้อยกว่า
งานปัจจุบันงานเบากว่า แต่เงินเยอะกว่ามาก ถึงสวัสดิการจะมีน้อยเหมือนไม่มีก็ยังคุ้มกว่า
แต่ขอขึ้นเงินเดือนทียาก แถมได้ขึ้นน้อยมากๆ อีกไม่นานคงได้ย้าย
>>942 จากประสบการณ์ส่วนตัวคือมันก็ไม่มาก แต่ถ้าอยู่แล้วรู้สึกว่ามันไม่โอเคก็ต้องกัดฟันกล้าออกอ่ะ
ถ้าจมอยู่กับมันเพราะเสียดายเพื่อนหรือกลัวที่จะไปเริ่มใหม่ มันก็จะไม่ได้ไปไหนซักที
แล้วก็ถ้าออกมาแล้วเงินเดือนงานแรกไม่เยอะบางที่เวลารับเข้า เค้าอาจจะเอาเงินเดือนที่แรกมาเป็นข้ออ้างให้เงินเราน้อยได้
>>งานแรกของกูคือได้ที่ไหนก็ไปทำก่อน ดูแค่ตำแหน่งที่สนใจพอ เข้าไปทำๆๆ สวัสดิการ,เงินเดือนอะไรค่อยว่ากันทีหลัง คือกูแค่อยากลองทำงาน
เพื่อให้รู้ว่าเออนี้นะ โลกการทำงานมันเป็นแบบนี้นะ สังคมมันเป็นแบบนี้นะ ถ้าทนไหวก็ทนแต่ส่วนใหญ่ทนกันไม่นาน ของกูก็8เดือนออกเลย
แต่ทุกวันนี้พอมองหันหลังกลับไปกูขอบคุณทุกคนที่นั่นนะ งานหนักทุกงานที่โยนๆมาให้เด็กจบใหม่ทำมันทำให้กูทนทุกอย่างของงานได้อ่ะ
กูอาจจะโชคร้ายมั้ง ที่ไปได้งานแรกในบริษัทประเภท Black company ทำจันทร์ถึงเสาร์ วันอาทิตย์มีบังคับทำสองแรง สวัสดิการมีแค่นั่งท้ายกระบะ
ไปส่งกลับหอ พอกลับมาเจอบริษัทปกติๆกูเลยรู้สึกแฮปปี้ดีมาก อาจจะมีบ้างที่กดดัน แต่ทุกทีกูก็คิดว่าเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป เหมือนที่เคยทนที่แรกได้
โหเห็นเงินเดือนพวกมึงแล้วแม่งกูนึกว่าอยู่คนละโลกกูตันที่ 12,000เองนะเฟ้ยยยย
กู 32k ในวัย 32 รู้สึกว่าไม่พอ แต่มีทางเลือกไม่มาก
กู32 ในวัย 30 รู้สึกพอใช้ตั้งแต่ 25 แล้ว อยู่บ้านพ่อแม่ ไม่มีรถ ไม่มีคอนโด
กูว่าพอเงินเดือนถึงช่วงนึงเมิงจะเริ่มไม่มีปัญหาเรื่องเงินละ ถ้าอยากย้ายงานอีกก็เรื่องคน เรื่องงาน
กูไม่เคยบ่นเรื่องงานหนักในนี้นะ มีแต่เรื่องไม่โปร่งใส เพื่อนร่วมงานเหี้ย ที่อยากย้ายงานอีกก็เพราะสองเรื่องนี้แหละ
เบื่อนายกากๆชิบหาย เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยากตลอด แต่เขาใหญ่นะเว้ยยย ห้ามเถียงเด็ดขาดเขาทำผิดก็บอกไม่ได้ ควยเอ้ย
>>955 >>956 กู>>954 ไม่ได้จะขิงใส่นะ แค่จะสื่อว่ากูไม่มีภาระ 25นี่คือกูรับคนเดียวเป็นระดับที่กูสบายๆ เหลือใช้มีเก็บ
พ่อแม่มีเงินเก็บไม่เกาะแดกเหมือนพ่อเมิง(แรงไปไหม แต่เมิงก็ใช้คำนี้กับกู) ไม่ต้องเช่าบ้านซื้อรถ แดกข้าวบ้านบางมื้อ แต่รถไม่มีนะ นั่งพี่วิน รถเมล บีทีเอสเอา
เงินน่ะไม่ต้องออมหรอก ทำประกันสุขภาพ ประกันชีวิตให้พ่อดีกว่า กูมีเงินเก็บไม่ต้องห่วงกูหรอก ห่วงตัวเองเถอะเงินเก็บก็ไม่มี ไม่ต้องรอเมิงแก่หรอก รอพ่อเมิงแก่นี่แหละ โรคฮิต เข่า ไต หัวใจ มะเร็ง ต้อ ความดัน เป็นกันหมดไม่ต้องกลัว
ถ้าแรงไปก็โทษที เมิงไประบายต่อห้องข้างล่างละกันนะ
>>958 กูไม่ได้ตั้งใจจะด่ามึงนะกูสาบานได้ เพราะคำว่า'เกาะ'ใช่มั้ย กูขอโทษ แต่คำนี้กูหมายถึงแค่มึงอาศัยอยู่ในบ้านพ่อบ้านแม่ ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้านเอง เผลอๆ ค่าน้ำค่าไฟอินเตอร์เน็ตทีวีก็ไม่ต้องจ่าย แค่นี้แม่งก็ลดค่าใช้จ่ายไปเยอะชิบหายแล้ว กูอิจฉามึงนะเว้ย แต่ก่อนกูก็มีแม่ให้เกาะ พอไม่มีถึงได้มาสำนึกว่าที่ผ่านมากูต้องเกาะเขาอยู่มาก(ใช้คำว่าพึ่งพาก็ได้ถ้ามึงจะสบายใจขึ้น) เมิงไม่ต้องไล่กูก็ห่วงตัวเองชิบหายแล้วเนี่ย พ่อกูปล่อยให้เขาเกาะไปเถอะเพราะแกเกษียณนานแล้ว กูไม่ได้จะมาด่ามาขิงข่าอะไรกับมึงทั้งนั้นแหละ ถ้ามึงจะอินกับโม่งทึกทักว่าโดนคนแปลกหน้าด่าขนาดนั้นก็ถือว่ากูไม่ได้พูดถึงมึงก็ได้
>>958 กูฮามึงว่ะ trigger ง่ายๆกับคำว่าเกาะคำเดียว แล้วก็มาแขวะชวนทะเลาะ แต่จากมุมมองกู มึงอะคือคนที่ไปเสือกชีวิตเค้าก่อน ตั้งแต่เม้น >>954 เกทับ >>953 ละ หรือไม่รู้ตัว?
แต่จริงๆนะ >>959 อะพูดถูกแล้ว มึงลองคำนวณรายจ่ายที่คนอื่นออกให้ใช้ร่วมกันแล้วลองคิดว่าทั้งหมดนั้นต้องรับไว้เองดูสิ
25k ถ้าอยู่ตัวคนเดียว ต่อให้ไม่มีบ้านตัวเองต้องเช่าหอด้วยเอ้า มันก็พอแหล่ะ แต่ถ้าถึงวัยที่ต้องซัพพอร์ตคนอื่น พ่อแม่วัยเกษียณ แฟน เมีย ลูก หรือถ้าจะโสดก็ต้องคิดเรื่องเงินใช้ในวัยเกษียณตัวเองอีก
ผ่านมาเห็น
สำหรับกูถ้าใช้คำว่าเกาะก็คือยังต้องใช้เงินพ่อแม่ ค่าน้ำไฟค่ากินอยู่ก็พ่อแม่จ่าย ไม่ต้องรับผิดชอบรายจ่ายของที่บ้าน(ถ้ามี) แต่ถ้ามึงเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องขอยืมพ่อแม่จ่ายอะไรๆ แล้วยังอาจจะจ่ายค่านู่นนี่ให้ด้วย แค่อยู่บ้านเดียวกันเฉยๆ กูไม่เรียกเกาะว่ะ มีบ้านให้อยู่หรือมีรถให้ขับ ไม่ต้องไปซื้อหรือเช่ามันก็ดีแล้วนี่ ทำไมต้องคิดว่ามันคือการเกาะวะ หรือต้องซื้อต่อจากพ่อแม่ถึงจะไม่เรียกว่าเกาะ กูงง
ถั้มอะไรก้ได้กูไม่ได้ขอตังคร๊าย ห๊ามาด้วยตัวเองกูทำให้แม่ภูมิจ๊าย
เบื่อนายทำเรื่องโง่ๆ เบื่อเพื่อนร่วมงานที่แม่งโง่งมบรมบรรลัยก็ยังไปเลียแม่งอีก ... กูต้องออกเท่านั้นสินะ
>>961 สำหรับกูเกาะก็คือการใช้ทุกอย่างที่ไม่ได้หามาด้วยตัวเอง จะบ้านหรือรถหรือน้ำไฟข้าวปลาก็เถอะ แต่ไม่เถียงเลยว่าดี มันก็ดีนี่หว่ามีพ่อแม่ให้เกาะ ถ้าพ่อแม่ไม่ได้เดือดร้อนอะไรยินดีให้อะนะ ถือเป็นต้นทุนชีวิต ไม่ต้องลำบากดิ้นรนหาเองทุกอย่างก็ดีแล้ว บางคนต้นทุนชีวิตบวก บางคนเป็นศูนย์ บางคนติดลบ มันก็เรื่องธรรมดาของสังคมอยู่แล้ว
ว่าแต่อ่านเพลินจนลืมเรื่องที่ตัวเองจะพิมพ์เลย ต้นปีแล้วมีใครหางานใหม่บ้าง เป็นไงกันบ้าง บริษัทกูออกกันรัวๆ เลยช่วงนี้หลังโบนัสออก แต่กุยังหางานดีๆ ไม่ได้เลย อยากไปใจจะขาดแล้ว
หางานเหมือนกันแต่อายุเยอะแล้วหายากจัง บางทีเรียกก็กดราคาซะนึกว่าเด็กใหม่
พวกเกาะพ่อแม่แดกนี่มันหน้าบางจังวะ เกาะก็เกาะดิวะไม่ได้หนักหัวใคร กูก็อยากมีพ่อแม่ให้เกาะเหมือนกันนั่นแหละ
เออกูก็เกาะพูดแบบไม่อายเลย งานมีแต่งานราชการเงินเดือนกากๆชิวๆไปวันๆ ก็ไม่ถึงกับรวยมากหรอกแต่ก็ทำงานแบบนี้ไปชิวๆได้ กูละอยากมีเมียรวยๆให้เกาะอีกคนชิบหายแต่ก็รู้อยู่โปรไฟล์มันไม่ถึง5555แค่ฝันกลางวันเล่นๆ
ชีวิต easy mode น่าอายตรงไหน กูยังอยากได้แบบนั้นเลย กูนี่แม่ง ultra hard มาตลอดชีวิต
เออ แปลกเนอะ เลี้ยงตัวเองได้แต่ยังโดนคนบอกว่าเกาะพ่อแม่กินแค่เพราะไม่ออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียว ต้องยิ้มรับสินะ
กู >>960 นะ คือกูคิดแบบ >>966 ไง แต่กูก็ไม่ได้คิดว่าคำว่าเกาะถ้าใช้ในกรณีที่ดูแลตัวเองได้ซะส่วนใหญ่เป็นการดูถูก เพราะฉะนั้นที่กูพูดไม่ใช่อยากหาเรื่องด่าคนอื่นแบบที่มึง >>969 เข้าใจ กูแค่พูดในมุมมองว่า การที่ต้องใช้เงินตัวเองกับทุกอย่างมันทำให้รายจ่ายเพิ่มขึ้นจริง no intention / no offense อะว่ะ ไม่ขอโทษนะ กูไม่ได้รู้สึกว่าที่กูพูดมันผิด
อ่อ >>968 ป่าว กูไม่ได้โตมาในสังคมฝรั่ง กูลูกคนจีน แต่กูเกลียดระบบกงสีมาก คงเพราะงี้มั้ง
ทำงานเงินเดือนไม่มาก อยู่บ้านตัวเอง หนี้สินไม่มี แฮปปี้อยู่นได้อยู่กับครอบครัวบางทีก็ทำให้กูคิดมากเหมือนกันนะถ้าวันนึงเหลือกูคนเดียวในบ้านจะไงต่อวะเห้อมมมมม
พวกบ้านพ่อ บ้านแม่รวย จนลูกไม่ต้องทำงานเกาะแดรกไปวันๆ จริงๆโดนด่าเพราะอิจกันทั้งนั้น ตราบใดที่พ่อแม่ไม่ใช่คนด่ามึงซะเองก็ไม่ต้องสนใจ
แค่อยู่บ้าน ถึงมีงานมีการทำไม่ขอเงินก็เรียกเกาะแดรก ชีวิตมันเศร้าจริงๆ
สำหรับคนที่อยู่บ้านพ่อบ้านแม่แต่ไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองเกาะนะครับ ให้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในบ้านครับ พ่อแม่ปลื้มแน่ครับ ถึงเขาจะบอกว่าไม่จำเป็น แต่เขาจะรู้สึกวางใจว่าคุณโตเป็นผู้ใหญ่ที่พึ่งพาได้ครับ แฮปปี้กันทุกฝ่าย ถ้าไม่ต้องเช่าต้องผ่อนบ้าน ก็ดูแลค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าจิปาถะอื่นๆ ครับ ถ้าปกติทำแบบนั้นอยู่แล้วก็อย่าเอาตัวเข้ามารับคำโม่งครับ คุยกันแบบนี้เข้าใจกันไปคนละทิศละทางได้ครับ
ออฟฟิศมีเพื่อนคนนึงไม่ชอบเสียงดัง อีกคนนึงเสียงดัง แม่งเคยทะเลาะกันแล้วเรื่องนี้ก็ยังทำอยู่
หลังๆมาแม่งดังทุกอย่างเลยว่ะ ทำงานไปพูดไปตะโกนๆ เคาะคีย์บอร์ดแป้กๆๆๆๆๆๆ
อันนี้มันเล่นสงครามประสาทป่าววะ กลัวแม่งตีกัน กูทำอะไรได้บ้าง
ออกจากงานโดยยังไม่ได้งานใหม่นี่ เวลาสัมภาษณ์มึงอ้างยังไงดีวะ
บางทีความสุขง่ายๆของซาลารี่แมนแบบกูคือหลังทำโอเสร็จค่ำๆ ก็ออกไปสั่งต้มเล้ง1 ข้าวเปล่า1 ลีโอ1 ที่ร้านเจ้าประจำ ไปนั่งคนเดียวเงียบๆมุมร้าน
อ่อ แต่กูไม่กินดื่ม 555
ไม่ดื่ม*
>>986-987 ร้านอาหารหรูๆแบบเหลา หรือตามตึกระฟ้า โรงแรมไรงี้ทำไมมึงไม่ไปแดกมั่งวะ? อาจจะไม่เอาบุฟเฟต์แต่สั่งจานหรูๆสักจาน2จานก็ได้ เอ แต่ว่าแกล้มเบียร์คงไม่เหมาะกัน ไม่รู้นะว่ารายได้เท่าไหร่ยังไง แต่ถ้าแบบระดับ30k up กูไม่แดกแบบนี้แน่ๆ วันไหนเลิกโอมาเหนื่อยๆต้องมีให้รางวัลตัวเองมั่ง
กูอายุจะ 30 ปีนี้ ทำงานสายไอทีเงินเดือน 38k นี่ถือว่าปกติหรือน้อยไปวะ
กูเห็นเพื่อนไปทำสายโลจิสติกแม่งมาโม้ว่าได้ 60k อะ
>>991 กูเงินเดือนถือว่าเยอะนะถ้าเทียบค่าเฉลี่ยเด็กอายุ 25 ทั่วๆไป เคยลองให้รางวัลตัวเองเป็นมื้อหรูๆ ขาหมูเยอรมันทอด แซลมอนรมควัน
แกล้มเบียร์คราฟ แต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ว่ะ ลองไปลองมา สุดท้ายก็ค้นพบว่ามื้อง่ายๆ ต้มเล้งต้มเเซ่บ หรือคอหมูน้ำตก คู่กับลีโอไม่ก็สิงห์สักขวด
หิ้วไปนั่งกินมุมๆคนเดียว ปล่อยใจนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อย มันคือความสุขง่ายๆที่ไม่ได้รู้สึก Loser เลยว่ะ มันรู้สึกแค่เวลามันช้าลง อากาศรอบตัวมันสบายๆ
กูอายุ 30 เงิน 27 แดกหงส์ถูกสัดๆ ดูดหรี่ กูโครตมีความสุขอ่ะ แต่กูจะถูกพวกมึงมองว่ากูเป็น loser ไหมวะ
>>995 ไม่ Loser หรอกเพื่อน ความสุขมันไม่ได้วัดจากเงินเดือน หรือ ราคาของอาหารที่กิน มันอยู่ที่ว่าเราพอใจกับจุดไหนตะหาก
สำหรับกูคือวันไหนเลิกงานค่ำๆ ขับรถมาร้านลาบ แล้วพ่อค้าทักว่า "เอ้าหนุ่ม มาๆ ลีโอแช่เป็นวุ้นให้แล้ว วันนี้มีเอ็นแก้ว จะเอาต้มแซ่บมั้ย มาๆนั่งเลย"
แค่นี้กูก็ยิ้มและหายเหนื่อยละ
>>991 เงินเดือนกูเกินนั้น แต่สำหรับกูอาหารต้องอร่อย พวกดาดฟ้าโรงแรมเคยไปมา 2-3 ครั้งแล้วรู้สึกไม่ใช่แนวกูเลย
ไปกินอาหารรสชาติธรรมดาค่อนไปทางห่วย แต่แพงบรรลัยเพราะค่าวิวแล้วรู้สึกว่าไม่คุ้ม
ส่วนเหลากูชอบนะ แต่ไม่ค่อยได้ไปเพราะมันเสิร์ฟจานใหญ่ แล้วกูไม่ค่อยมีเพื่อนกิน แถมไม่ค่อยเหมาะเป็นกับแกล้มเท่าไหร่
ถ้าอยากหรูกูไปกินพวกอิซากายะมากกว่า กูชอบตรงมันขายเหล้าเป็นแก้วนี่แหละ
เพราะกูเป็นพวกชอบเปลี่ยนร้านไปเรื่อยๆเลยไม่อยากซื้อเป็นขวดฝากร้าน แต่บางทีก็รู้สึกว่าราคาอาหารมันเวอร์ไปนิด
ถึงกูจะชอบเหล้ามากกว่าเบียร์แต่ก็ยอมไปกินเบียร์ที่ร้านส้มตำ เพราะชอบความที่ไปได้บ่อยๆโดยไม่ต้องกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายมากกว่า
บ่อยๆคือช่วงไหนหนักๆก็ไปแม่งเกือบทุกวันเลยอะไรงี้
ปล. ช่วงนี้ต้องลดเพราะกูเริ่มอ้วนแล้วว่ะ โคตรเสียใจ
>>997 เมื่อก่อนกูชอบไปนะ ร้านอิซะกะยะ แล้วก็ร้านปิ้งย่างอาลาคาร์ทตามทองหล่อ อารีย์ แต่หลังๆไม่ได้ไปละ เรื่องราคาด้วย บวกกับเรื่องคนเยอะเกิน
ตอนนี้เลยเทมาทางร้านข้างทางมากกว่า บางร้านดึกๆไม่มีคนเลย กินไป ดูทีวีที่ร้านเปิดทิ้งไว้ นั่งมองถนน มองคนไปเรื่อยเปื่อย มันสงบมากๆเลยเว้ย
เออ และถ้าไม่อยากอ้วนก็เข้ายิมไป ถ้าวันไหนไม่ต้องทำโอกูก็จะไปยิมก่อน ไปวิ่งเอาไขมันเบียร์ออกนี่แหละ แล้วก็มานั่งกินเบียร์ต่อ 555
ตั้งทู้ใหม่ด้วยครับไอ้พวกมนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งซมซานกลับมาจากออฟฟิสทั้งหลาย
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.