Last posted
Total of 1000 posts
>>918 กูนิสัยชอบเผื่อเอาไว้ก่อน เลยมักจะเก็บเงินใว้ในหลายๆบัญชีซึ่งมันจะสามารถโอนไปมาหากันผ่านแอปมือถือได้ตลอด 24ชม.ไง
ตอนนี้เลยสนใจอยากตัดเป็นฝากประจำ แต่ฝากประจำผลตอบแทน+ระยะเวลามันก็ไม่คุ้มว่ะสำหรับกูอ่ะนะ เพื่อนโม่งเเบ่งเงินไปลงตัวไหนวะแบบตัด
รายเดือนไปเลย สมมุติ Fix ไว้เดือนละ 15K ตัวไหนคุ้มสุด ออมทอง? กองทุน? DCA? VA? พวกนี้ในระยะต้นๆน่าจะพอเห็นผลตอบแทนบ้างละ
แล้วอย่างน้อยกูก็จะได้สบายใจ มีเงินตัดไปเที่ยวเหลือๆอีกที
หลังจากกูไปสัมภาษณ์งานมาหลายที่ กูสงสัยว่าเดี๋ยวนี้บริษัทชอบให้พนักงานทำโอทีฟรีหรอวะ เงินเดือนก็ไม่ถึงหมื่น ถามเจงงงงง
เพื่อนโม่ง เงินเดือนกูออกแล้ว โนโบนัส โนปรับเงินเดือน โนเฮียอะไรซักอย่าง ก่อนปิดปีใหม่ก็ทำงานรากเลือด อยู่โยงยันเที่ยงคืนก็ไม่ได้โอที พอขอโยกวันลาที่เหลือ(ที่แม่งแคนเซิลวันลากู)ก็เป็นประเด็นอีก ชวนแฟนกินชาบูย้อมใจก็บอกไดเอท ชวนดูหนังก็บอกนี่ไม่ใช่วันศุกร์นะ ไม่อยากนอนดึก กูเศร้า กูเหนื่อยจังเลย
เพื่อนโม่ง มันเหี้ยมากเลย เมื่อวานแม่งเกินรับมือจริงๆว่ะ งานเกิดปัญหา กูก็ประสานงานให้เจ้าของงานเข้ามาดำเนินการแก้ไข
อีสัสลูกน้องมันกูตามแม่งก็ไม่มาจัดการ อ้างงานด่วน จนสุดท้ายหัวหน้ามันระเบิดลง ลงทั้งกูทั้งอีลูกน้อง สัสน้ำตากูนี่ไหลแม่งตรงนั้น
แล้วไงไม่ฟังกู สุดท้ายก็ก็ต้องทำแบบที่กูบอก ยังมีการบอกว่าไม่ใช่ความผิดกู แต่แม่งคือมันใช่หรอวะ อีเหี้ย กอดกูที กูแม่งอยากลาออกชิบหาย
>>925 ใจนะเพื่อนโม่ง กู 924 เอง นี่อยากหยุดงานชิบหาย แต่แม่งคือกลัวว่าจะมองว่ากูไม่แยกแยะ แค่นี้ก็ทนไม่ได้
สัส ใจคืออยากตั้งหลักเว้ย ทำงานที่นี่มากูไม่เคยหยุดเลย มาเกิดเรื่องนี้แล้วหยุด แม่งต้องว่ากูนอยด์เพราะเรื่องโดนด่าแน่ๆ
ไม่อยากโดนด่าว่าแค่นี้ก็ทำเป็นเรื่องใหญ่
>>921 กูกำลังมีความสงสัยแบบเดียวกัน ตะก่อนทำอยูชลบุรี บ.ญี่ปุ่นปล่อยโอเรี่ยราด แต่กูไม่เคยอยู่ถ้าไม่จำเป็น ทีนี้มาอยู่กทม.บ.ไทยที่มีวัฒนธรรมฝรั่ง(?) เลิกงานตามเวลาน่ะห้าโมง แต่เอาเข้าจริงก็ทุ่ม++ ทุกวัน อ้างว่าไม่มีตอกบัตร ถ้าเข้างานช้าก็เลิกช้าตามนั้น แต่สัดดดกูเข้างานตั้งแต่เจ็ดครึ่งเพราะงานแม่งเยอะจนไม่มีเวลาฉี่ วันไหนกูงานน้อยหน่อยสามารถเคลียร์ได้ตั้งแต่ห้าโมงครึ่งจะถูกหน.มองว่า เอ..งานน้อยไปหรือเปล่า เอางานอะไรไปเพิ่มดีมั้ยน้า ทั้งที่วันๆ กูทำงกๆ แทบไม่มีเวลาเงยหน้า มีแต่ปากเนี่ยแหละที่พอจะตอบรับเรื่องพูดคุยไร้สาระของพวกแม่งได้ ไม่เข้าใจทำไมชอบชวนกุคุยกันจริ๊ง คือคนอื่นในแผนกมีเวลาเก็งหวย ดูคลิปสัปดน ถกเรื่องดารา ทำงานเรื่อยๆ จนเลิกหกโมงครึ่งก็กลับเหมือนเป็นวัฒนธรรมที่ถ้ากลับเร็วกลัวจะดูงานน้อยอ่ะ ละหน.กูก็โง๊โง่ดูไม่ออก
นายกูสั่งเพิ่มงานที่มันซ้ำซ้อนกับงานเดิมว่ะ กูไม่เข้าใจเลยว่าทำไปทำไมเพราะมันเพิ่มต้นทุนและไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ... ตอนนี้กูตั้งแง่ว่าเขาไม่เก่งเรื่องการจัดการ เพราะนอกจากเรื่องนี้ ระบบงานเดิมมันไม่ค่อยดีอาศัยพวกคนเก่าคนแก่ประคับประคอง บ.ไปได้
กูรู้สึกว่ากูอยู่ผิดที่จริงๆว่ะ ตอนที่กูเข้ามากูหวังจริงๆนะว่ากูจะอยู่กับ บ. นี้ยาวๆ แต่อยู่ไปอยู่มานอกจากปัญหาเรื่องคน เรื่องงานมันมาแบบไม่ขาดสายเลย .. กูอยากรู้ว่าถ้าคิดว่านายไม่เก่งแถม บ. ก็ไม่ดี พวกมึงจะทนกันอยู่ไหมวะเพื่อนโม่ง
อ่อ บ. กูเป็น บ. ญี่ปุ่น เล็กๆ ผลิตของที่กำลังโดนจีนพยายามเลียนแบบอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ว่ะ ถ้ามันเลียนแบบได้อย่างสมบูรณ์เมื่อไหร่กูก็ตกงานอยู่ดีว่ะ ถถถถถถ
>>929 ถ้ามึงมองออกว่าบ.ไม่รุ่งแน่ก็พยายามหาทางออกไปบ.อื่น บ.กูนี่กูมองว่ายังไงก็เจ๊ง จนเมเนเจอร์กูบอกเองว่าถ้าเป็นต่อไปไม่ปรับตัวยังไงก็เจ๊ง แต่โว้ยนโยบายมันออกมาจากมึงไง ถ้ามึงไม่ทำไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ชิบหายแหละ ซุ่งพี่แกก็ไม่ทำอะไรจริงๆได้แต่พูดลอยๆ
ตอนนี้กูก็ได้แต่หางานใหม่อยู่เนี่ย งานหายากชิบหาย
>>929 โอ้ยเหมือนนายกูเลยย แม่งให้ทำรายงานสินค้าเข้าออก ซึ่งโรงงานก็มีทำ (กูเป็นออฟฟิศขาย) ส่วนไอ้สินค้าออกเนี่ยมันซ้ำกับรายงานขาย นายกูแม่งรับสามตัว แถมเอามาชนกันจับผิดอีก ผิดบ้างถูกบ้าง โคตรเบื่อ บางอันแม่งก็ไม่ตรงไงวันขายกับวันส่งเพราะเป็นของขายตปท นายก็ไม่เข้าใจอีก อธิบายมาหลายรอบแล้ว
ทำใจ รอแม่งหมดวาระย้ายกลับบ้านไป ไม่รู้ใครจะไปก่อน
โดนเจ้านายที่ทำงานจีบ ชอบเดินมาข้างหลัง มาจับมือ คล้องแขน วันนี้เลยสะบัดมือทิ้ง บอกว่า ไม่ชอบ ไม่โอเค
อวยพรกูด้วยนะ ไม่รู้ชีวิตหน้าที่การงานจะเป็นยังไงต่อ งานราชการซะด้วย
เกลียดมัน รำคาญ จะอ้วก
ถามหน่อยสิ พวกคุณในนี้ที่บ่นเบื่องาน งานหนัก เงินเดือนเท่าไหร่กันอะ
ของเรางานสบาย อายุงาน5ปี ได้แค่18k โคตรไม่ก้าวหน้า
คือเวลาเห็นคนบ่นเรื่องงานหนัก สภาพแวดล้อมห่วยแตกแต่ก็ยังทนทำอยู่เลยคิดว่าน่าจะได้เงินเดือนดีเลยทนอยู่
แค่อยากรู้ว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆหรือเปล่า
ค้นพบทางสว่างละโว้ยยยยยย จากที่เคยเสียค่าดริ๊งโง่ๆเดือนละ 2-3 หมื่น เมื่อวานกรึ่มๆลองไปอ่างดู เหยดเขร้ กูล่อตัวท๊อปในระดับราคาแค่ 30%
ของค่าดริ๊งที่เคยเสียเอง ต่อไปนี้กูจะไม่ไปดริ๊งแล้ววว กูจะไปอางอ่างอ้างอ๊างอ๋างงงงงงงงงงงง
>>935 อายุ 24 เงินเดือน 26 เข้างาน8.00 am เลิก7.00 pm รับออเดอร์ ทำเอกสารส่งออก ดีลกับเรือและโรงงาน ติดต่อรมยา ขอฟอร์มกรมการค้า ติดต่อแบงค์ กูทำส่งออกทั้งงานรถ เรือ แล้วก้แบบที่สั่งซื้อตปท.ไปขายตปท. เรียกได้ว่าต้นยันจบครบที่กูคนเดียว เพื่อนร่วมงานนิสัยดีมีมารยาท แต่หัวหน้าหลอกใช้เก่งเหี้ยๆ บอกว่ากูเป็นไรซิ่งสตาร์ หัวไวเต็มใจเรียนรู้ ละชอบเอางานของลูกรักแบ่งมาให้กูทำเพราะว่า "น้องจะได้เรียนรู้ไว้" ไอ่เหี้ย กูเข้ามาปีเดียวทำเป็นทุกอย่างแล้ว คนที่อยู่มาเป็นสิบปีแม่งได้ทำแค่อย่างสองอย่างเองเพราะหน.กูประเมินว่าแม่งไม่น่าทำได้ คนที่ทำได้ก็ให้แม่งทำเยอะๆ โง่ก็ไม่ต้องทำ มันใช่เหรอวะ
>>937 มึงเจอหัวหน้าเก่งน่ะแบบนั้น พวกเด็กใหม่ๆไฟแรงเวลาเข้ามาเจอเสี้ยม น้องเก่ง น้องขยัน พร้อมกับโยนงานที่ไม่มีใครอยากทำให้ นั่นละ นั่งโงหัวทำไปเหอะ แต่บริษัทตอบแทนมึงที่ทำงานหนักไหม ไม่หรอก แต่ข้อดีอย่างเดียวคือมึงจะได้พัฒนาสกิลตัวเอง เวลามึงมั่นใจว่าตัวเองสกิลมากพอให้ลองคิดย้ายไปโตที่อื่น
พี่กูเดะ สร้างคนมาฆ่าตัวเอง
คือขายของอ่ะมันจะมีดิลเลอร์อะไรประมานนี้พี่กูสร้างละต้องมาปวดหัวเพราะลูกทีม
>>935 70k +OT +Bonus +Allowance ต่างหาก ทำงานด้วยความรู้สึกเหมือนเส้นเลือดสมองจะแตกในทุกๆ วัน เข้างาน 08.00 เลิกงานสี่ห้าทุ่มเที่ยงคืนแล้วแต่จะทำไหว ถ้าทำไม่ทันอีก ส-อ.ก็ต้องหอบกลับมาทำที่บ้าน ยังทนอยู่เพราะหลายสาเหตุ หลักๆ ก็เรื่องเงินแหละ เพราะงานที่กูทำมันออกแนว specialist ความรู้ลึกแต่แคบ หางานยาก ถ้าเปลี่ยนสายงานเงินเดือนตกเยอะ นอกนั้นก็เพราะองค์กรดี สวัสดิการโอเค สังคมพอใช้ เจ้านายคุยรู้เรื่อง แต่ก็หางานใหม่อยู่ตลอดนะ ถ้าเจองานเหมาะๆ ก็ไปแน่นอนยอมลดเงินเดือนลงนิดหน่อยได้
เจอแบบกูป่ะ ทำงานหาลูกค้าแทบตายหวังว่าจะได้ลูกค้าประจำแดกค่าคอมไปเรื่อยๆ พอผ่านไป 4-5ปี เงินเดือนเริ่มขยับ ค่าคอมเยอะขึ้นเพราะรักษาลูกค้าประจำได้ เจ้านายแอบส่งรุ่นน้องไปคุยลูกค้าประจำกู โดยให้ราคาขายถูกกว่ากู เพื่อตัดยอดขายกูทิ้ง เพราะเงินเดือนกูขึ้น......
และที่กูรู้เพราะลูกค้าขาประจำบอกกู......
พี่ๆสะระลิมัง งานแรกสำคัญแค่ไหน ปัจจัยเลือกงานแรก จากประสบการณ์ และความคิดตอนนี้ถ้าย้อนไปได้ เป็นยังไงบ้างครับ
เอาจริงๆ ที่กูทำงานหนักเครียดโหลดแทบตายแต่ยังลังเลที่จะเปลี่ยนงานส่วนนึงก็เพราะเรื่องเล่าของพวกมึงนี่แหละ ถถถ สิ่งที่แต่ละคนเจอกันนี่... งานกูหนักก็จริงแต่อย่างน้อยก็ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเพื่อนร่วมงานกับนาย ไม่เคยโดนขโมยผลงาน ไม่เคยโดนทำร้ายแทงข้างหลัง อาจเป็นเพราะต่างคนต่างงานหนักแทบจะตายห่าคาบริษัทอยู่แล้วมั้ง เลยไม่ค่อยมีเวลาว่างมาก่อดราม่าเพิ่มใส่กันอีก กูจำได้ว่าสมัย 2-3 ก่อนตอนงานยังไม่โหลดเท่านี้ก็มีดราม่าเหมือนกัน เดี๋ยวนี้หายกริ๊บ ถถถ
เมื่อสามปีก่อนกูยังมั่นใจกับการทำงานในฐานะฟรีแลนซ์อยู่เลย ตั้งแต่เข้าระบบงานประจำจนตอนนี้อยากกลับไปทำฟรีแลนซ์สุดๆ แต่กลัวชิบหายเลยไม่ได้ออกมาซักที ไม่ชอบตัวเองตอนนี้เลย ทำไมตอนนู้นกูยังไม่เห็นกลัวอะไรแบบนี้ ติดกับดักเงินเดือนแล้วกู
เพื่อนโม่ง พอดีกูกำลังจะย้ายงาน ที่นี้กูเลยกะว่าจะย้ายหอด้วย ซึ่งที่ทำงานมันอยู่ติดmrt
ถ้ากูอยากหาที่อยู่โซนที่ติดmrt และสามารถเดินทางไปสายใต้ใหม่แบบไม่ลำบากเกินไป(เอาไว้กลับบ้านช่วงเทศกาล) กูควรย้ายไปอยู่แถวไหนดี
>>935 จริงๆมันก็แล้วแต่นะ งานแรกกูงานหนักกว่า แต่เงินน้อยกว่า
งานปัจจุบันงานเบากว่า แต่เงินเยอะกว่ามาก ถึงสวัสดิการจะมีน้อยเหมือนไม่มีก็ยังคุ้มกว่า
แต่ขอขึ้นเงินเดือนทียาก แถมได้ขึ้นน้อยมากๆ อีกไม่นานคงได้ย้าย
>>942 จากประสบการณ์ส่วนตัวคือมันก็ไม่มาก แต่ถ้าอยู่แล้วรู้สึกว่ามันไม่โอเคก็ต้องกัดฟันกล้าออกอ่ะ
ถ้าจมอยู่กับมันเพราะเสียดายเพื่อนหรือกลัวที่จะไปเริ่มใหม่ มันก็จะไม่ได้ไปไหนซักที
แล้วก็ถ้าออกมาแล้วเงินเดือนงานแรกไม่เยอะบางที่เวลารับเข้า เค้าอาจจะเอาเงินเดือนที่แรกมาเป็นข้ออ้างให้เงินเราน้อยได้
>>งานแรกของกูคือได้ที่ไหนก็ไปทำก่อน ดูแค่ตำแหน่งที่สนใจพอ เข้าไปทำๆๆ สวัสดิการ,เงินเดือนอะไรค่อยว่ากันทีหลัง คือกูแค่อยากลองทำงาน
เพื่อให้รู้ว่าเออนี้นะ โลกการทำงานมันเป็นแบบนี้นะ สังคมมันเป็นแบบนี้นะ ถ้าทนไหวก็ทนแต่ส่วนใหญ่ทนกันไม่นาน ของกูก็8เดือนออกเลย
แต่ทุกวันนี้พอมองหันหลังกลับไปกูขอบคุณทุกคนที่นั่นนะ งานหนักทุกงานที่โยนๆมาให้เด็กจบใหม่ทำมันทำให้กูทนทุกอย่างของงานได้อ่ะ
กูอาจจะโชคร้ายมั้ง ที่ไปได้งานแรกในบริษัทประเภท Black company ทำจันทร์ถึงเสาร์ วันอาทิตย์มีบังคับทำสองแรง สวัสดิการมีแค่นั่งท้ายกระบะ
ไปส่งกลับหอ พอกลับมาเจอบริษัทปกติๆกูเลยรู้สึกแฮปปี้ดีมาก อาจจะมีบ้างที่กดดัน แต่ทุกทีกูก็คิดว่าเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป เหมือนที่เคยทนที่แรกได้
โหเห็นเงินเดือนพวกมึงแล้วแม่งกูนึกว่าอยู่คนละโลกกูตันที่ 12,000เองนะเฟ้ยยยย
กู 32k ในวัย 32 รู้สึกว่าไม่พอ แต่มีทางเลือกไม่มาก
กู32 ในวัย 30 รู้สึกพอใช้ตั้งแต่ 25 แล้ว อยู่บ้านพ่อแม่ ไม่มีรถ ไม่มีคอนโด
กูว่าพอเงินเดือนถึงช่วงนึงเมิงจะเริ่มไม่มีปัญหาเรื่องเงินละ ถ้าอยากย้ายงานอีกก็เรื่องคน เรื่องงาน
กูไม่เคยบ่นเรื่องงานหนักในนี้นะ มีแต่เรื่องไม่โปร่งใส เพื่อนร่วมงานเหี้ย ที่อยากย้ายงานอีกก็เพราะสองเรื่องนี้แหละ
เบื่อนายกากๆชิบหาย เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยากตลอด แต่เขาใหญ่นะเว้ยยย ห้ามเถียงเด็ดขาดเขาทำผิดก็บอกไม่ได้ ควยเอ้ย
>>955 >>956 กู>>954 ไม่ได้จะขิงใส่นะ แค่จะสื่อว่ากูไม่มีภาระ 25นี่คือกูรับคนเดียวเป็นระดับที่กูสบายๆ เหลือใช้มีเก็บ
พ่อแม่มีเงินเก็บไม่เกาะแดกเหมือนพ่อเมิง(แรงไปไหม แต่เมิงก็ใช้คำนี้กับกู) ไม่ต้องเช่าบ้านซื้อรถ แดกข้าวบ้านบางมื้อ แต่รถไม่มีนะ นั่งพี่วิน รถเมล บีทีเอสเอา
เงินน่ะไม่ต้องออมหรอก ทำประกันสุขภาพ ประกันชีวิตให้พ่อดีกว่า กูมีเงินเก็บไม่ต้องห่วงกูหรอก ห่วงตัวเองเถอะเงินเก็บก็ไม่มี ไม่ต้องรอเมิงแก่หรอก รอพ่อเมิงแก่นี่แหละ โรคฮิต เข่า ไต หัวใจ มะเร็ง ต้อ ความดัน เป็นกันหมดไม่ต้องกลัว
ถ้าแรงไปก็โทษที เมิงไประบายต่อห้องข้างล่างละกันนะ
>>958 กูไม่ได้ตั้งใจจะด่ามึงนะกูสาบานได้ เพราะคำว่า'เกาะ'ใช่มั้ย กูขอโทษ แต่คำนี้กูหมายถึงแค่มึงอาศัยอยู่ในบ้านพ่อบ้านแม่ ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้านเอง เผลอๆ ค่าน้ำค่าไฟอินเตอร์เน็ตทีวีก็ไม่ต้องจ่าย แค่นี้แม่งก็ลดค่าใช้จ่ายไปเยอะชิบหายแล้ว กูอิจฉามึงนะเว้ย แต่ก่อนกูก็มีแม่ให้เกาะ พอไม่มีถึงได้มาสำนึกว่าที่ผ่านมากูต้องเกาะเขาอยู่มาก(ใช้คำว่าพึ่งพาก็ได้ถ้ามึงจะสบายใจขึ้น) เมิงไม่ต้องไล่กูก็ห่วงตัวเองชิบหายแล้วเนี่ย พ่อกูปล่อยให้เขาเกาะไปเถอะเพราะแกเกษียณนานแล้ว กูไม่ได้จะมาด่ามาขิงข่าอะไรกับมึงทั้งนั้นแหละ ถ้ามึงจะอินกับโม่งทึกทักว่าโดนคนแปลกหน้าด่าขนาดนั้นก็ถือว่ากูไม่ได้พูดถึงมึงก็ได้
>>958 กูฮามึงว่ะ trigger ง่ายๆกับคำว่าเกาะคำเดียว แล้วก็มาแขวะชวนทะเลาะ แต่จากมุมมองกู มึงอะคือคนที่ไปเสือกชีวิตเค้าก่อน ตั้งแต่เม้น >>954 เกทับ >>953 ละ หรือไม่รู้ตัว?
แต่จริงๆนะ >>959 อะพูดถูกแล้ว มึงลองคำนวณรายจ่ายที่คนอื่นออกให้ใช้ร่วมกันแล้วลองคิดว่าทั้งหมดนั้นต้องรับไว้เองดูสิ
25k ถ้าอยู่ตัวคนเดียว ต่อให้ไม่มีบ้านตัวเองต้องเช่าหอด้วยเอ้า มันก็พอแหล่ะ แต่ถ้าถึงวัยที่ต้องซัพพอร์ตคนอื่น พ่อแม่วัยเกษียณ แฟน เมีย ลูก หรือถ้าจะโสดก็ต้องคิดเรื่องเงินใช้ในวัยเกษียณตัวเองอีก
ผ่านมาเห็น
สำหรับกูถ้าใช้คำว่าเกาะก็คือยังต้องใช้เงินพ่อแม่ ค่าน้ำไฟค่ากินอยู่ก็พ่อแม่จ่าย ไม่ต้องรับผิดชอบรายจ่ายของที่บ้าน(ถ้ามี) แต่ถ้ามึงเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องขอยืมพ่อแม่จ่ายอะไรๆ แล้วยังอาจจะจ่ายค่านู่นนี่ให้ด้วย แค่อยู่บ้านเดียวกันเฉยๆ กูไม่เรียกเกาะว่ะ มีบ้านให้อยู่หรือมีรถให้ขับ ไม่ต้องไปซื้อหรือเช่ามันก็ดีแล้วนี่ ทำไมต้องคิดว่ามันคือการเกาะวะ หรือต้องซื้อต่อจากพ่อแม่ถึงจะไม่เรียกว่าเกาะ กูงง
ถั้มอะไรก้ได้กูไม่ได้ขอตังคร๊าย ห๊ามาด้วยตัวเองกูทำให้แม่ภูมิจ๊าย
เบื่อนายทำเรื่องโง่ๆ เบื่อเพื่อนร่วมงานที่แม่งโง่งมบรมบรรลัยก็ยังไปเลียแม่งอีก ... กูต้องออกเท่านั้นสินะ
>>961 สำหรับกูเกาะก็คือการใช้ทุกอย่างที่ไม่ได้หามาด้วยตัวเอง จะบ้านหรือรถหรือน้ำไฟข้าวปลาก็เถอะ แต่ไม่เถียงเลยว่าดี มันก็ดีนี่หว่ามีพ่อแม่ให้เกาะ ถ้าพ่อแม่ไม่ได้เดือดร้อนอะไรยินดีให้อะนะ ถือเป็นต้นทุนชีวิต ไม่ต้องลำบากดิ้นรนหาเองทุกอย่างก็ดีแล้ว บางคนต้นทุนชีวิตบวก บางคนเป็นศูนย์ บางคนติดลบ มันก็เรื่องธรรมดาของสังคมอยู่แล้ว
ว่าแต่อ่านเพลินจนลืมเรื่องที่ตัวเองจะพิมพ์เลย ต้นปีแล้วมีใครหางานใหม่บ้าง เป็นไงกันบ้าง บริษัทกูออกกันรัวๆ เลยช่วงนี้หลังโบนัสออก แต่กุยังหางานดีๆ ไม่ได้เลย อยากไปใจจะขาดแล้ว
หางานเหมือนกันแต่อายุเยอะแล้วหายากจัง บางทีเรียกก็กดราคาซะนึกว่าเด็กใหม่
พวกเกาะพ่อแม่แดกนี่มันหน้าบางจังวะ เกาะก็เกาะดิวะไม่ได้หนักหัวใคร กูก็อยากมีพ่อแม่ให้เกาะเหมือนกันนั่นแหละ
เออกูก็เกาะพูดแบบไม่อายเลย งานมีแต่งานราชการเงินเดือนกากๆชิวๆไปวันๆ ก็ไม่ถึงกับรวยมากหรอกแต่ก็ทำงานแบบนี้ไปชิวๆได้ กูละอยากมีเมียรวยๆให้เกาะอีกคนชิบหายแต่ก็รู้อยู่โปรไฟล์มันไม่ถึง5555แค่ฝันกลางวันเล่นๆ
ชีวิต easy mode น่าอายตรงไหน กูยังอยากได้แบบนั้นเลย กูนี่แม่ง ultra hard มาตลอดชีวิต
เออ แปลกเนอะ เลี้ยงตัวเองได้แต่ยังโดนคนบอกว่าเกาะพ่อแม่กินแค่เพราะไม่ออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียว ต้องยิ้มรับสินะ
กู >>960 นะ คือกูคิดแบบ >>966 ไง แต่กูก็ไม่ได้คิดว่าคำว่าเกาะถ้าใช้ในกรณีที่ดูแลตัวเองได้ซะส่วนใหญ่เป็นการดูถูก เพราะฉะนั้นที่กูพูดไม่ใช่อยากหาเรื่องด่าคนอื่นแบบที่มึง >>969 เข้าใจ กูแค่พูดในมุมมองว่า การที่ต้องใช้เงินตัวเองกับทุกอย่างมันทำให้รายจ่ายเพิ่มขึ้นจริง no intention / no offense อะว่ะ ไม่ขอโทษนะ กูไม่ได้รู้สึกว่าที่กูพูดมันผิด
อ่อ >>968 ป่าว กูไม่ได้โตมาในสังคมฝรั่ง กูลูกคนจีน แต่กูเกลียดระบบกงสีมาก คงเพราะงี้มั้ง
ทำงานเงินเดือนไม่มาก อยู่บ้านตัวเอง หนี้สินไม่มี แฮปปี้อยู่นได้อยู่กับครอบครัวบางทีก็ทำให้กูคิดมากเหมือนกันนะถ้าวันนึงเหลือกูคนเดียวในบ้านจะไงต่อวะเห้อมมมมม
พวกบ้านพ่อ บ้านแม่รวย จนลูกไม่ต้องทำงานเกาะแดรกไปวันๆ จริงๆโดนด่าเพราะอิจกันทั้งนั้น ตราบใดที่พ่อแม่ไม่ใช่คนด่ามึงซะเองก็ไม่ต้องสนใจ
แค่อยู่บ้าน ถึงมีงานมีการทำไม่ขอเงินก็เรียกเกาะแดรก ชีวิตมันเศร้าจริงๆ
สำหรับคนที่อยู่บ้านพ่อบ้านแม่แต่ไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองเกาะนะครับ ให้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในบ้านครับ พ่อแม่ปลื้มแน่ครับ ถึงเขาจะบอกว่าไม่จำเป็น แต่เขาจะรู้สึกวางใจว่าคุณโตเป็นผู้ใหญ่ที่พึ่งพาได้ครับ แฮปปี้กันทุกฝ่าย ถ้าไม่ต้องเช่าต้องผ่อนบ้าน ก็ดูแลค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าจิปาถะอื่นๆ ครับ ถ้าปกติทำแบบนั้นอยู่แล้วก็อย่าเอาตัวเข้ามารับคำโม่งครับ คุยกันแบบนี้เข้าใจกันไปคนละทิศละทางได้ครับ
ออฟฟิศมีเพื่อนคนนึงไม่ชอบเสียงดัง อีกคนนึงเสียงดัง แม่งเคยทะเลาะกันแล้วเรื่องนี้ก็ยังทำอยู่
หลังๆมาแม่งดังทุกอย่างเลยว่ะ ทำงานไปพูดไปตะโกนๆ เคาะคีย์บอร์ดแป้กๆๆๆๆๆๆ
อันนี้มันเล่นสงครามประสาทป่าววะ กลัวแม่งตีกัน กูทำอะไรได้บ้าง
ออกจากงานโดยยังไม่ได้งานใหม่นี่ เวลาสัมภาษณ์มึงอ้างยังไงดีวะ
บางทีความสุขง่ายๆของซาลารี่แมนแบบกูคือหลังทำโอเสร็จค่ำๆ ก็ออกไปสั่งต้มเล้ง1 ข้าวเปล่า1 ลีโอ1 ที่ร้านเจ้าประจำ ไปนั่งคนเดียวเงียบๆมุมร้าน
อ่อ แต่กูไม่กินดื่ม 555
ไม่ดื่ม*
>>986-987 ร้านอาหารหรูๆแบบเหลา หรือตามตึกระฟ้า โรงแรมไรงี้ทำไมมึงไม่ไปแดกมั่งวะ? อาจจะไม่เอาบุฟเฟต์แต่สั่งจานหรูๆสักจาน2จานก็ได้ เอ แต่ว่าแกล้มเบียร์คงไม่เหมาะกัน ไม่รู้นะว่ารายได้เท่าไหร่ยังไง แต่ถ้าแบบระดับ30k up กูไม่แดกแบบนี้แน่ๆ วันไหนเลิกโอมาเหนื่อยๆต้องมีให้รางวัลตัวเองมั่ง
กูอายุจะ 30 ปีนี้ ทำงานสายไอทีเงินเดือน 38k นี่ถือว่าปกติหรือน้อยไปวะ
กูเห็นเพื่อนไปทำสายโลจิสติกแม่งมาโม้ว่าได้ 60k อะ
>>991 กูเงินเดือนถือว่าเยอะนะถ้าเทียบค่าเฉลี่ยเด็กอายุ 25 ทั่วๆไป เคยลองให้รางวัลตัวเองเป็นมื้อหรูๆ ขาหมูเยอรมันทอด แซลมอนรมควัน
แกล้มเบียร์คราฟ แต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ว่ะ ลองไปลองมา สุดท้ายก็ค้นพบว่ามื้อง่ายๆ ต้มเล้งต้มเเซ่บ หรือคอหมูน้ำตก คู่กับลีโอไม่ก็สิงห์สักขวด
หิ้วไปนั่งกินมุมๆคนเดียว ปล่อยใจนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อย มันคือความสุขง่ายๆที่ไม่ได้รู้สึก Loser เลยว่ะ มันรู้สึกแค่เวลามันช้าลง อากาศรอบตัวมันสบายๆ
กูอายุ 30 เงิน 27 แดกหงส์ถูกสัดๆ ดูดหรี่ กูโครตมีความสุขอ่ะ แต่กูจะถูกพวกมึงมองว่ากูเป็น loser ไหมวะ
>>995 ไม่ Loser หรอกเพื่อน ความสุขมันไม่ได้วัดจากเงินเดือน หรือ ราคาของอาหารที่กิน มันอยู่ที่ว่าเราพอใจกับจุดไหนตะหาก
สำหรับกูคือวันไหนเลิกงานค่ำๆ ขับรถมาร้านลาบ แล้วพ่อค้าทักว่า "เอ้าหนุ่ม มาๆ ลีโอแช่เป็นวุ้นให้แล้ว วันนี้มีเอ็นแก้ว จะเอาต้มแซ่บมั้ย มาๆนั่งเลย"
แค่นี้กูก็ยิ้มและหายเหนื่อยละ
>>991 เงินเดือนกูเกินนั้น แต่สำหรับกูอาหารต้องอร่อย พวกดาดฟ้าโรงแรมเคยไปมา 2-3 ครั้งแล้วรู้สึกไม่ใช่แนวกูเลย
ไปกินอาหารรสชาติธรรมดาค่อนไปทางห่วย แต่แพงบรรลัยเพราะค่าวิวแล้วรู้สึกว่าไม่คุ้ม
ส่วนเหลากูชอบนะ แต่ไม่ค่อยได้ไปเพราะมันเสิร์ฟจานใหญ่ แล้วกูไม่ค่อยมีเพื่อนกิน แถมไม่ค่อยเหมาะเป็นกับแกล้มเท่าไหร่
ถ้าอยากหรูกูไปกินพวกอิซากายะมากกว่า กูชอบตรงมันขายเหล้าเป็นแก้วนี่แหละ
เพราะกูเป็นพวกชอบเปลี่ยนร้านไปเรื่อยๆเลยไม่อยากซื้อเป็นขวดฝากร้าน แต่บางทีก็รู้สึกว่าราคาอาหารมันเวอร์ไปนิด
ถึงกูจะชอบเหล้ามากกว่าเบียร์แต่ก็ยอมไปกินเบียร์ที่ร้านส้มตำ เพราะชอบความที่ไปได้บ่อยๆโดยไม่ต้องกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายมากกว่า
บ่อยๆคือช่วงไหนหนักๆก็ไปแม่งเกือบทุกวันเลยอะไรงี้
ปล. ช่วงนี้ต้องลดเพราะกูเริ่มอ้วนแล้วว่ะ โคตรเสียใจ
>>997 เมื่อก่อนกูชอบไปนะ ร้านอิซะกะยะ แล้วก็ร้านปิ้งย่างอาลาคาร์ทตามทองหล่อ อารีย์ แต่หลังๆไม่ได้ไปละ เรื่องราคาด้วย บวกกับเรื่องคนเยอะเกิน
ตอนนี้เลยเทมาทางร้านข้างทางมากกว่า บางร้านดึกๆไม่มีคนเลย กินไป ดูทีวีที่ร้านเปิดทิ้งไว้ นั่งมองถนน มองคนไปเรื่อยเปื่อย มันสงบมากๆเลยเว้ย
เออ และถ้าไม่อยากอ้วนก็เข้ายิมไป ถ้าวันไหนไม่ต้องทำโอกูก็จะไปยิมก่อน ไปวิ่งเอาไขมันเบียร์ออกนี่แหละ แล้วก็มานั่งกินเบียร์ต่อ 555
ตั้งทู้ใหม่ด้วยครับไอ้พวกมนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งซมซานกลับมาจากออฟฟิสทั้งหลาย
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.