Fanboi Channel

วันศุกร์ที่สิบ ของเหล่าซาลารี่แมน

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:GaBpCO/y+w

>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
>>>/lifestyle/3353/ วันศุกร์ที่แปด
>>>/lifestyle/5047/ วันศุกร์ที่เก้า

2 Nameless Fanboi Posted ID:GaBpCO/y+w

.......มาดูแล้วเป็นกระทู้ที่ตั้งชื่อได้เรียบง่ายเสมอมาดีจริงๆ สมกับที่เป็นเหล่าซาลารี่แมนผู้สิ้นหวังกับอนาคตอันเจิดจรัสแล้วนั่งทำงานไปวันๆ

>>>/lifestyle/5047/999 ดูที่นิสัยคนที่บอกแล้วมีผลต่อคอนเนคชั่นในอนาคตมากที่สุด ให้เค้ารู้สึกดีกับเหตุผลเรา

3 Nameless Fanboi Posted ID:ee5JZ92Jts

สมมุติว่าเข้าทำงานที่นึงได้ไม่นาน แล้วที่ที่อยากได้พึ่งติดต่อมา จะทำยังไงวะ ใครเคยเจอแบบนี้

4 Nameless Fanboi Posted ID:ee5JZ92Jts

>>2 ตอนแรกว่าจะอ้างว่าย้ายไปอยู่แถวๆบ้าน 555

5 Nameless Fanboi Posted ID:jbiRdxIqLk

ปรึกษาหน่อย LTF นี่ควรซื้อจนปี 62 เลยมั้ย คือกูไม่ค่อยเข้าใจว่าถ้าพอสิ้นสุดสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ไม่มีคนซื้อเข้า มีแต่คนทยอยเทขายทุกปี มันจะมีผลยังไงบ้าง เห็นบางคนบอกว่าพอมีแต่คนแห่ขาย NAV ก็จะลงๆๆจนขาดทุน แต่บางคนก็บอกว่าแรงเทขายไม่เกี่ยว มันแค่ทำให้ขนาดกองทุนเล็กลง แต่ยังไง NAV ก็ขึ้นอยู่กับตลาดหุ้นอยู่ดี ซึ่ง LTF เป็นสัดส่วนที่น้อยมากไม่ได้มีผลอะไรกับตลาดหุ้นขนาดนั้น คือกูไม่ค่อยมีความรู้ ซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีล้วนๆ เลย //แล้วถ้าไม่ซื้อ LTF จะไปซื้ออะไรดี ยังไม่อยากซื้อ RMF อ่ะ แม่งนานไป กูอายุ 30 ฐานภาษี 15

6 Nameless Fanboi Posted ID:+wkt0uc5T3

>>3 ทำไม่นานก็ยังไม่ผ่านโปรสามเดือนปะ?
ในช่วงโปร ไม่ใช่แค่บริษัทเลิกจ้างได้นะ พนักงานถ้าไม่พอใจก็ไม่ทำต่อได้เหมือนกัน
ถ้าชอบที่ใหม่มากกว่าจริงๆ ก็หาข้ออ้างดีๆ ขอไม่ทำต่อเอา เช่นเดินทางไม่สะดวก, มีเหตุจำเป็็นทางบ้าน, ฯลฯ
มึงก็อ้างไปเท่าที่จะคิดได้ ให้เนียนๆหน่อยพอ

7 Nameless Fanboi Posted ID:+wkt0uc5T3

บ่น เตรียมการและประสานงานเรื่องการจัดซื้อไปตั้งแต่อาทิตย์ก่อน เห็นบอกเร่งๆ ก็จัดแจงเสร็จ ส่งเรื่องต่อให้ฝั่งธุรการ (กูอยู่ dev)
ปรากฎวันนี้โทรมาบอกว่าให้ช่วยดำเนินการด้วย ด่วน จะรีบใช้
กูก็ อ้าว... สัส (ในใจ) คือจัดเตรียมทุกอย่างให้หมดแล้ว เหลือแค่สั่งซื้อ ไม่ทำล่ะครับ
แล้วโยนเรื่องกลับมาทางกู แถมบอกรีบด้วย (เยี่ยม) กูอยากปรบมือให้จริงๆ
คือเมื่อก่อน คนไม่พอ กูก็ทำให้ ไม่คิดอะไรอะนะ
แต่ตอนนี้คนก็มีแล้ว ยังติดนิสัยแบ่งงานอีกฝั่งมาทางกู ด้วยความเคยชินหรืออะไรก็ตาม
กูก็ได้แต่บ่นในโม่งนี่แหละ เพราะพนักงานที่ดีต้องทำได้ทุกอย่าง

8 Nameless Fanboi Posted ID:hC4RdqM.8M

>>3 ก็บอกไปตามตรงไม่ได้หรอ กูก็ไม่เคยโดนจังหวะแบบนี้หรอกนะ แต่คิดว่าน่าจะบอกแบบตรงไปตรงมาได้นะ

9 Nameless Fanboi Posted ID:.3+6CGxRzE

เงินเดือน 20,000 ถ้ารวมโอขยันๆก็ได้ 36,000 ถ้าขี้เกียจๆก็ได้ 28,000 อายุกู25 ตอนนี้ยังไม่แต่งงาน แต่มีภาระผ่อนบ้านให้แม่เดือนละ 6,500
กำลังคิดว่าอยากดาวน์รถสักคันแต่ยังไม่มีเงินก้อน เลยจะหาดาวน์มือสอง มองๆไว้ผ่อนไม่เกิน 10,000 ต่อเดือน จะไหวไหมวะเรา แล้วถ้าหามือสอง
จะหารุ่นไหนดีนะ เก๋งตัวกลางๆหน่อยหรือรถ mini suv อเนกประสงค์ดีวะ หรือรวมๆเงินให้ได้เป็นก้อนแล้วไปดาวน์รถมือ 1 มาขับ แต่เรื่องมือ1มือ2
กูไม่มายด์ว่ะ ตอนนี้แค่อยากเอามาใช้งานเพราะชีวิตประจำวันเดินทางลำบาก ขี่มอไซต์ฝนตกก็เปียกยันไข่

10 Nameless Fanboi Posted ID:R8z4nj5hSz

>>9 มือสองผ่อนมันจะคุ้มหรอดอกแพงแถมมีVat ไม่รวมค่าซ่อม​ค่าน้ำมัน​ค่าประกันอีก

11 Nameless Fanboi Posted ID:jJUaxpVCYC

>>9 ดีอ่ะนี่ดรอปไปทำงานเดือนเดียวออก จะสู้ชีวิตไหวมั้ย

12 Nameless Fanboi Posted ID:wRdr7FY/Dk

พรุ่งนี้ต้องไปทำงานอีกแล้ว เครียดจนนอนไม่หลับเลยว่ะ

13 Nameless Fanboi Posted ID:0+Pu3AOau2

ไปติดถ้ำดีกว่าไหม ทนทำงานไปทำไม

14 Nameless Fanboi Posted ID:VMAHR91thE

>>13 อย่าเลย อย่างกูไปติดคงไม่มีใครช่วย

15 Nameless Fanboi Posted ID:YM4QxUBV6m

มึง มีอะไรที่แดกแล้วจะทำให้สมองเฟรชๆ ป่าววะ ยกเว้นกาแฟ
เรื่องของเรื่องคือกูกินกาแฟแล้วคลื่นไส้ กินแบบหวานก็ท้องเสีย กินแบบขมก็จะอ้วก
แล้วกูแอบหลับไม่ได้ด้วย เจอลูกค้าตลอด แว้บเข้าห้องน้ำยาก
กูง่วงทุกเช้าเลยอยากหลุดจากวังวนนี้ซักที

16 Nameless Fanboi Posted ID:n9DLXOa+yx

>>15 แบรนด์

18 Nameless Fanboi Posted ID:TRDgm0euwI

>>17 ทำงานกับCP มีเหี้ยไรให้เชื่อว่าเพอร์เฟคไม่เจอเอารัดเอาเปรียบวะ

20 Nameless Fanboi Posted ID:kkO+my1uRN

จะโหลด pornhubลงเครื่องที่ออฟฟิศไงดีวะ

21 Nameless Fanboi Posted ID:mMtkxzDUBF

>>18 ปล่อยไป มันมาโฆษณา ฟลัดในเล้าไปหลายเม้นละ

22 Nameless Fanboi Posted ID:yprp.HoJ9A

>>21 พูดดี ๆ ครับใครมาโฆษณา

23 Nameless Fanboi Posted ID:TXZe3UZhIc

>>15 ของกูกินกล้วยนะ กล้วยสัก2ลูกคู่กับนมกล่องนึงอิ่มสบายท้อง กะปรี้กระเปร่าจากกลูโคสในผลไม้

24 Nameless Fanboi Posted ID:YM4QxUBV6m

>>16 มึง ต้องแบรนด์รสอะไรเป็นพิเศษป่ะ คือกูหืนอะกูกินแล้วจะอ้วกเหมือนกัน กูไม่ถูกกะพวกขมๆ เลยอ่ะ
>>23 กูกลัวว่าอิ่มสบายท้องแล้วหลับเลย 555 แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ลองดูนะ ภาวนาให้กูรอดตายด้วย

25 Nameless Fanboi Posted ID:TRDgm0euwI

>>19 โอเค ถ้าบริษัทอินเตอร์นี่น่าจะโอเคขึ้น เพราะเจ้าของรายใหญ่มาจากเยอรมัน ถ้าเป็นงั้นจริงคงใส่ใจเรื่องwork-life balanceของ พนง.

26 Nameless Fanboi Posted ID:wb1HiyDnH/

VITB / โสม / แปะก๊วย / พรมมิ ส่วนตัวเชียร์ใบแปะก๊วย

28 Nameless Fanboi Posted ID:efKSiGjjdH

มาโฆษณาบริษัทในโม่งนี่ HR เค้าจ่ายมึงเท่าไหร่วะ

30 Nameless Fanboi Posted ID:Zf0Q1wl6y0

วันนี้น่าจะได้โต้รุ่งอีกแล้ว
หวังว่าปีใหม่จะได้โบนัสสักสามเดือนเป็นอย่างน้อยนะ

31 Nameless Fanboi Posted ID:p7guZi9hjF

>>30 งานหนักแล้วได้โบนัสเยอะก็ยังดีนะมึง ของกูไม่มีโอที ไม่มีโบนัส
แต่สุดท้ายก็ยังไม่ย้ายเพราะมันใกล้บ้านนี่แหละ

32 Nameless Fanboi Posted ID:+m3TyEM96u

ถามโม่งๆซาลารี่แมนกันหน่อยนะว่า ถ้าเกิดเจอหัวหน้างานของเราหรือคนที่เราเกลียดขี้หน้าไปพูดจาตะคอกมารยาทแย่ๆใส่เด็กๆหรือคนทั่วๆไป พูดจาเชิงข่มขู่ ใช้อำนาจบาตรใหญ่ใส่เค้าเพราะตำแหน่งที่ทำงานเป็น บ.ใหญ่ ไม่มีใครกล้าขัดขืนไรได้ และพวกมึงมีโอกาสถ่ายคลิป อัดเสียงส่งหลักฐานไปให้ผู้บริหารดู พวกคณะกรรมการของ บ. นั้นๆจะมีรีแอคชั่นไรไหมวะ? สงสัยมาก แล้วถ้าข่าวมันดังแบบสื่อทุกสำนักต้องมาขยี้อีก บ.จะมีการปกป้องคนๆนั้นไหม?

33 Nameless Fanboi Posted ID:tnRMUJLVXM

>>32 เอกชนไม่รู้ กูทำราชการ เจออะไรอย่างนี้บ่อยมาก ล่าสุดน้องที่ทำงานเจอผู้ใหญ่'หยอกเล่น' เด็กมันไม่อยากเล่นด้วย สรุปตัวเด็กโดนเรียกเข้าห้องเย็น เอาหัวหน้าแผนกไปประกบอีกสองคน บอกจะอะไรนักหนาแค่หยอกเฉยๆ
เด็กโดนพักงาน จบข่าว

34 Nameless Fanboi Posted ID:sOXksxh0ji

>>32 จะฟ้องข้างบนต้องดูด้วยว่าข้างบนเค้าอยู่ข้างไหน ถ้าข้างบนเค้าพวกเดียวกัน เราจะโดนเล่นเอง
ฟ้องสื่อได้ จะเป็นการกดดันฝ่ายบริหารให้ต้องลงโทษถึงจะอยู่ข้างเดียวกัน แต่ถ้ารู้ว่าเอ็งเป็นคนถ่ายคลิปเอาไปให้สื่อเอ็งจะอยู่ไม่ได้เหมือนกัน

สรุปถ่ายคลิปเอาไปให้สื่อได้แต่อย่าให้รู้ว่าเราเป็นคนถ่าย

35 Nameless Fanboi Posted ID:HmIlKexVdF

>>32 แล้วแต่ บ. / แต่ถ้าให้กูเดา บ.จะไม่ทำอะไร เพราะไม่ได้มีผลอะไรกับผลประกอบการโดยตรง อาจจะมีส่ง HR มาพูดเตือนๆ นิดๆ หน่อยๆ แยกคุยทีละฝ่ายแล้วพยายามทำให้เรื่องเงียบเร็วที่สุด แต่ถ้าเรื่องออกไปถึงสื่อ ถึงคนภายนอก ไม่ว่าใครจะเป็นคนผิด คนที่ปล่อยข่าวนั่นแหละจะโดนให้ออก เพราะทำให้ บ.เสื่อมเสียเชื่อเสียง และให้ข่าวว่าได้ทำการตักเตือนพนักงานนั้นๆ แล้ว(แต่จะยังเก็บพนักงานคนนั้นไว้)

36 Nameless Fanboi Posted ID:6IdRSoHqF+

>>26 กูกินวิตามิน B ทุกเช้านะ กินแบบโด๊บอ่ะ 55 ไม่รอดเลย โสมกับแปะก๊วยนี่กินไม่เป็น สารภาพ
ว่าแต่พรมมิคืออะไรอะ

37 Nameless Fanboi Posted ID:ew63fXRSMk

>>33 พวกทำงานราชการ แล้วตำแหน่งใหญ่ๆ นะ บ้าอำนาจกันชิบ
ไม่ได้พูดเฉพาะเจาะจงใครนะ แต่ที่เคยเจอมา คือไม่ไหว
บางคนคิดว่าตัวเองถูกตลอดเวลา บางคนขี้เหวี่ยง ขี้วีน เครียดไรมาก็มาลงกับตำแหน่งล่างๆ ทุเรศ บางคนหลงตัวเองชิบหาย
นี่ยังไม่นับเรื่องการเมืองในที่ทำงานอีกนะ แล้วก็ขี้นินทาด้วย
อยากรู้ว่าสังคมทำงานต่างประเทศเป็นอย่างงี้รึเปล่า เพราะพอย้ายมาทำราชการละตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้
ก่อนหน้านี้ทำเอกชน เจอแต่เพื่อนร่วมงานดีๆ มีเจ้าของบริษัทเหี้ยคนเดียว (ชอบเหวี่ยง ด่า , จ่ายเงินช้า)

38 Nameless Fanboi Posted ID:ew63fXRSMk

ปล. คนดีๆ ก็คงมี แต่คนไม่ดี มันเห็นชัด
มีเรื่องอยากเมาท์อีกเยอะ แต่เดี๋ยวคนรู้จักมาอ่าน เจอเรื่องคุ้นๆ โม่งกูจะแตกเอา เฮ้อ

39 Nameless Fanboi Posted ID:n9mzgjPHKT

มันจริงปะวะ ที่ว่าบางบริษัทประกาศรับคนทิ้งไว้ตามเวบหางาน แต่จริงๆไม่ได้รับ เพื่อให้บริษัทดูขยายดูเติบโต

40 Nameless Fanboi Posted ID:+m3TyEM96u

>>37 ขอบคุณที่แชร์เรื่องราวนะโม่ง แต่ที่กูเจอมาคือไม่ใช่หน่วยงานราชการนะ แต่เป็นคนทำงาน บ. ใหญ่ระดับชาติพอตัว ผลิตสินค้าขึ้นห้างแทบทุกจุดของประเทศ ทำงานแผนกห่าไรไม่รู้แต่รู้ว่ากร่างมากกับคนภายนอก ทำสันดานแย่ๆแบบเหมือนกับCEOรายนึงที่พิษณุโลเลย

41 Nameless Fanboi Posted ID:sOXksxh0ji

>>39 คิดว่ามีจริง ส่วนนึงคือเก็บดาต้าเบสไว้เผื่อเรียกมาคุยด้วย คือถ้าไปดูคตามเวปหางานมันจะมีบาง บ.รับสมัครงานตำแหน่งเดิมๆซึ่งกูดูก็ไม่ใช่ตำแหน่งประหลาดอะไร สมัยนี้คนตกงานเยอะมีคนสมัครไปเยอะชัวร์ แต่ก็เห็นเปิดเรื่อยๆเปิดทุกเดือนตำแหน่งเดิมๆนี่สิแปลก

42 Nameless Fanboi Posted ID:HmIlKexVdF

>>41 พวกมาตรฐานสูงก็มี แบบไม่ได้รีบใช้ แต่เปิดหาเรื่อยๆ จนกว่าจะมีเด็ดๆ โผล่มา กูก็เล็งอยู่ที่นึงตำแหน่งนึง เล็งมาสามเดือนละห่า ไม่กล้าไปสมัครซักที พอดีเมเนเจอร์ที่ปัจจุบันก็มาจากที่นู่นละก็พอมีสายอยู่ที่นู่น เห็นว่าเขาตั้งมาตรฐานไว้สูง จนป่านนี้ยังไม่ได้คน กูเลยปอดเลย

43 Nameless Fanboi Posted ID:iKRIGdS/hL

ทำไงกับพวกลูกน้องฉลาด ลูกน้องอัจฉริยะ ประสบการณ์สูงส่ง ที่พอกูไปสั่งให้ทำอะไรก็จะมีข้อแย้ง มีหลักการนู่นนี่นั่นยกมาเพื่อจะไม่ทำตามคำสั่งกูวะ
พอกูลองให้ทำตามที่มันเสนอมาดิ๊ ก็ไม่เห็นทำได้จริงสักคน หรือพอทำเข้าจริง ก็ไม่เป็นตามที่โม้ไว้ สุดท้ายก็ต้องยอมทำตามกูแบบมีอารมณ์เสียนิดๆ
กับลูกน้องอีกจำพวกนึง เน้นโวยวายไว้ก่อน สั่งงานอะไรนิดหน่อยไม่ฟังเนื้องาน เน้นโวยวายไว้ก่อน เหนื่อยยังงู้น วิธีมันไม่ถูกต้องยังงั้น
พอลองให้บอกวิธีที่คิดว่าโอเค ก็เงียบ ไม่พูดไรพูดแต่วิธีที่กูสั่งมันไม่ถูกต้องยังงู้น พอเจอเข้ามากๆแม่งก็น่าเหนื่อยนะ คิดงานหัวแทบแตกยังต้อง
มาคิดวิธีสั่ง/วิธีรับมือกับพวกนี้อีก หรือเพราะมันเห็นกูเป็นหัวหน้าที่ใจดีละวะ คือกูไม่ชอบไปโวยวายใส่ใครไง พยายามเข้าไปคุยดีๆก่อน
ทำให้เริ่มรู้สึกว่าพอเป็นหัวหน้าที่โอนอ่อนมากๆเข้า เหมือนบารมีมันจะไม่ค่อยมี ลูกน้องจะไม่ค่อยเกรงกันเท่าไรเลย
แต่ถ้าจะให้เปลี่ยนสไตล์เป็นหัวหน้าขี้โวยวาย กูก็ไม่เอาด้วยหรอก ไม่ถนัด เห้อทำไงดีวะ

44 Nameless Fanboi Posted ID:EnOGVv3pkd

>>43 หัวหน้าที่ดีต้องมีลักษณะเป็นผู้นำ เสนออะไรคนก็อยากทำตาม

45 Nameless Fanboi Posted ID:QFazpY9vhW

>>43 มึงเป็นร่างแยกกูใช่ไหม กูเคยมาบ่นปัญหาเดียวกัน อารมณ์เดียวกันเลย แต่ตอนนี้ปัญหามันหมดไปเพราะตัวหัวโจกที่ชอบพูดเรื่องแย่ๆเกี่ยวกับ บ. กับหัวหน้างานมันออกไป พอมันออกไปงานแม่งโครตราบรื่น กูก็ไม่ต้องปวดหัว และคนอื่นๆก็ฟังกูมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาลูกน้องไปฟังไอ้เหี้ยนี่งานเลยออกมาโครตเหี้ย ต้องตามแก้งานโครตเหนื่อย

>>44 จากประสบการณ์ของกูถ้าลูกน้องมันกากเกินเยียวยาจริงๆแถมพูดเหี้ยไรก็ไม่ฟัง ต่อให้มึงเป็นโอบาม่าก็เอาไม่อยู่ว่ะ

46 Nameless Fanboi Posted ID:rYc84zD/ep

>>45 เออจริง ตัวหัวโจกขัดกูประจำแถมพอกูเลี่ยงๆไปสั่งคนอื่นแทนมันก็ทำท่าไม่พอใจ ทำน้อยใจ บ่นจะลาออกๆ กูเห็นคนอื่นบอกแม่งบ่นจะลาออกมา10ปีละว่ะ 55555

>>44 กูรับฟังนะ

47 Nameless Fanboi Posted ID:VigzWdoPUB

หัวหน้ากูเก่งและน่าเคารพมาก กูเนี่ยทั้งกากทั้งดื้อ เวลากูเถียงอะไรโง่ๆ เค้ามีวิธีอธิบายเชิงประจักษ์ให้กูเข้าใจว่าที่กูคิดมันยังผิดยังไง มันยังไม่รอบด้านพอยังไง ช่องโหว่คือตรงไหน ต่อให้โง่ให้ดื้อแค่ไหน ถ้าได้ฟังคำอธิบายที่มันเป็นเชิงประจักษ์ ไม่มโน ไม่เลื่อนลอย มันก็ต้องเข้าใจและยอมรับจนได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่กูคิดถูก คิดไปอีกทางแล้วมันเป็นสิ่งที่เขาลืมคิดไป เขาก็ขอบคุณกู ทำตามที่กูแนะ ไม่อีโก้ว่าตัวเองเป็นหัวหน้าทำตามลูกน้องบอกแล้วจะเสียหน้าเสียเหลี่ยม บางทีกูดื้อจะทำแบบที่กูคิด เขารู้อยู่แล้วล่ะว่ามันผิด แต่ถ้าไม่ร้ายแรงมากบางทีเขาก็ปล่อยให้กูทำ ให้กูได้ลองผิดพลาดเอง จะได้เรียนรู้เป็นบทเรียน คนแบบนี้น่าเคารพ ไม่ใช่ตะบี้ตะบันสั่งแต่จะให้ทำตาม คิดว่าตัวเองคิดถูกเสมอ พอลูกน้องคิดผิดก็เบ้ปากใส่ ไงล่ะมึง กูบอกแล้ว ซ้ำเติมไปอีก ยิ่งทำแบบนั้นลูกน้องยิ่งไม่อยากจะคิดอะไรแม่งแล้ว ทำตามสั่งโง่ๆ ไปวันๆ พอไม่ต้องคิดพัฒนาอะไรดีกว่า มันไม่มีใครในโลกหรอกนะที่คิดถูกตลอดเวลา หัวหน้าคิดถูกมากกว่าลูกน้องมันก็ถูกต้องอยู่แล้ว ถ้าลูกน้องคิดถูกมากกว่าหัวหน้า จะมาเป็นลูกน้องทำหอกอะไรวะ ก็ไปเป็นหัวหน้าแล้วดิ

48 Nameless Fanboi Posted ID:m.VyurHTNV

>>47 จริง กูมีหัวหน้าแบบนี้ประเสริฐมาก ใช้เหตุผลคุยกัน น้ำเสียงคือไม่ได้ใส่อารมณ์อ่ะ แล้วยังมี sense of humor อีกนิด ๆ ด้วย แต่อย่างไรก็ตามกูว่ามันก็มีคนบนโลกที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ฟัง ต่อให้มีเหตุผลก็ไม่ฟัง กูจะทำตามวิธีของกูอยู่ หรือพวกขอให้ได้บ่นได้เล่นใหญ่อยู่ อันนี้ก็ยากแล้ว

49 Nameless Fanboi Posted ID:aNLwAOjFZ6

หัวหน้าเก่ากูเนี่ย ตั่วเฮียเลยจ้าา ทำงานเก่งนะ แต่ไม่มีความเป็นผู้นำที่ดี สักแต่จะชี้นิ้วสั่ง ด่าลูกน้อง ชอบโยนความผิด แม่งคือทั้งปากหมา ทั้งใช้กำลัง เบอร์ว่าตบหน้าเพื่อนร่วมงานกูอ่ะจ้า ชอบส่งข้อความมาด่าตอน 6 โมงเช้า ไม่พอใจก็ด่าประจานต่อหน้าที่ประชุมที่มีที่ปรึกษาโครงการอยู่

ตอนเข้าไปก็ขายฝัน หาคนช่วยคิด อยากได้คนต้าน พอกูต้านแม่งด่ากูยับไม่เหลือชิ้นดี ทำเพจคอนเท้นต์แต่ไม่มีสต็อกงาน ตำข้าวสารกรอกหม้อไปวันๆ เสร็จงานไหนก็เอาลงเพจเลย พอบทไม่มี ก็คือไม่มีอะไรลงเป็นเดือนๆ แล้วก็มาบี้ไล่ว่าทำไมไม่มีงานออก กูบอกมีงานที่ให้คนในทีมเขียนนะ ที่ต้องรอเขา approved ก็ไล่กูไปทำลิสต์รายการมา เขาจะตามอ่าน กูลิสต์มาได้ 43 ชิ้น พอเวลามาโบ้ยไม่มีงาน กูก็โยนลิสต์ให้ มาด่ากูว่าอ่านหมดแล้ว แต่ไม่มีงานไหนใช้ได้สักงาน ส่วนอะไรที่เรียกว่าใช้ได้กูก็ไม่รู้ เพราะไม่มีมาตรฐานในการตรวจงาน แล้วแต่ความพอใจล้วนๆ แต่ตอนแรกที่เข้ามาคือบอกว่าให้ลองเขียนหลายๆ รูปแบบนะ พอกูลองก็ด่ากูจ้าาา

เวลาเขาอยากได้อะไร อยากทำอะไร ก็จะโยนให้กูไปศึกษา ประหนึ่งว่ากูเป็นงานเลขา พอกูบอกให้ลงคอนเท้นต์ตาม insight เพจ แม่งเสือกบอกว่าจะปรับพฤติกรรมคนเข้าเพจ ควาย มีงเปลี่ยนพฤติกรรมคนเล่นเฟสได้อ่อ ด่ากูทุกอย่าง ด่ากูโง่ทุกวัน จนกูต้องไปหาจิตแพทย์ เป็นโรควิตกกังวล เพราะจมกับคำว่าไม่เก่งที่เขายัดให้ทุกวัน อะไรที่เป็นจุดแข็งกูเขาด่าได้หมด กูจบจุฬาคนเดียวในทีมก็โดนด่า แม้กระทั่งกูบอกเขาว่า ม.ม้า ใส่ไม้จัตวาไม่ได้ เพราะเป็นอักษรต่ำ เขายังด่าพ่อกูอ่ะ

จุดที่กูไม่ไหวละคือมาติเรื่องไม่แก้คำผิดในเพจ ที่เขาอัพตอนสามทุ่มครึ่ง กูบอกปรกติวันเสาร์อาทิตย์กูแก้ให้เขาหมดนะ เม้นท์ไหนเขาพิมพ์ผิดกูแก้ให้หมด แต่วันนั้นกูไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม เลิกสี่ทุ่ม ก็ด่ากูอีกว่าอดีตไม่เกี่ยว บลาๆ ล่ามมาเรื่องทำงานไม่ได้ดั่งใจเขาอีก อ้างแต่ว่าจ้างแพงนะ ต้องทำงานนอกเวลาด้วย ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ต้องทำ

สุดท้ายคือบีบว่าทำไมงานไม่ออกๆๆๆ ซึ่งกูพูดมา 8 เดือนละว่าทำไม กูเลยเขียนแผนงานให้เป็นลายลักษณ์อักษร เขียนด้วยว่าถ้าทำงานแบบมีแผนงาน มีการจัด priority มีการ proof read มีสต็อก มี schedule จะลดการทำงานนอกเวลาลงไม่ต้องมาคอยแก้กันตามหลัง สรุปคือด่ากูเละจ้า กูหัวเราะเลย รับความจริงไม่ได้ มึงก็จงเป็นควายต่อไป กูออก!

50 Nameless Fanboi Posted ID:zzR2zBAoEp

>>49 อันนี้คือเหี้ยมาก มีใครให้เหี้ยกว่านี้มั้ย

51 Nameless Fanboi Posted ID:bIpgjmFS.Z

อันนี้กูไม่รู้จะถามในมู้ไหนเลยลองถามในนี้นะ
อยากรู้ร้านเสื้อผ้าที่ใช้เเต่งตัวไปทำงานอะ เพื่อนพี่โม่ง กางเกง,เสื้อเชิ้ตอะไรพวกนี้ซื้อร้านหรือยี่ห้อไหนดี มีเพื่อนเเนะนำมาบางส่วนคือยูนิโคล่ ลองหาข้อมูลก็ดูเหมือนจะดีพอใช้ได้ เเต่อยากได้คำเเนะนำเพิ่มเติมหรือลิสต์ร้านจะได้ไปลองดูเพิ่มเติม

ละมีพวกร้านไหนที่เชิ้ตดีสวยๆเลยบ้างเเบบใส่ออกงานทางการ ไม่ใช่เเนวประจำวันชิลๆหรือไปงานสังคมอะไร อยากได้เก็บไว้ซักตัวเผื่อได้ใช้

52 Nameless Fanboi Posted ID:BtGGY3XSx2

>>47 ถ้ากุเจอคนแบบนี้สิ่งแรกที่กุจะทำคือจีบ

53 Nameless Fanboi Posted ID:z1U30GUr/5

>>51 กูไม่ได้ซื้อร้านแบบแบรนด์อ่ะ คือกูเป็นคนอ้วน กูไปเดินซอยร้อยร้านตรงอนุฯ มันก็มีหลายร้านที่โอเคอยู่นะ
แต่เวลาทำงานกูเจอผู้บริหารหรือระดับเจ้าของแทบทุกวัน กูต้องใส่สูท สูทลำลองก็ได้นะถ้าไม่ได้เจอระดับใหญ่มาก แล้วก็เน้นเสื้อด้านในเรียบๆ สีไม่ฉูดฉาด กางเกงเป็นกางเกงสแลคหรือกางพอดีตัว หรือใส่กระโปรงก็ได้นะ ไม่สั้นเกินไป รองเท้าก็หุ้มส้น ส้นสูงเตี้ยแล้วแต่

กูอาจจะดู old fashion นิดนึง 555 แต่ว่าแต่งอย่างนี้คือเซฟสุดชีวิต ใส่ไปเจอได้เกือบทุกระดับละ ไม่รู้ของมึงออกงานทางการขนาดไหนอ่ะนะ

54 Nameless Fanboi Posted ID:lLCLZJv2ZH

>>52 อีร่านเอ้ยยย เป็นได้แค่ sex toy ล่ะมึงน่ะ

55 Nameless Fanboi Posted ID:LhZSqHfoCn

jobsdb ผู้ประกอบการเปิดดูแล้ว รออีกนานปะวะ จะได้สัมภาษณ์

56 Nameless Fanboi Posted ID:IJOm+7Qq8d

เผลอเหวี่ยงใส่หัวหน้าเพราะโดนแกจะลากไปประชุมด้วย ทั้งที่ทำงานงานกันไม่ทัน
แอบรู้สึกผิดนิดหน่อย เพราะแกเองก็ไม่ได้อยากจะประชุม แต่โดนคนอื่นบังคับมาอีกทีเหมือนกัน

57 Nameless Fanboi Posted ID:/rjRDT7LCA

ยัตต้าาาาา พรุ่งนี้ก็วันศุกร์ซะที ถึงวันที่กูลายาววววววว 5 วันละโว้ยยยยยยยยยยยยยย
OT เดือนละ 135 ชม. ที่กูปั่นๆๆมาเพื่อการนี้ กูจะใช้แม่งให้เหี้ยนเลย วะฮ่าฮ่าฮ๋าฮ๋าฮ๋าฮ๋าฮ๋า

58 Nameless Fanboi Posted ID:7xbIHRPxEW

>>57 ไหนมึงบอกจะเอาไปเลือกตั้งไอสัส

59 Nameless Fanboi Posted ID:+BrVzj/gel

มีเรื่องอึดอัดอยากจะระบายว่ะ คือกูมาทำงานที่นี่ได้ปีกว่าๆแล้วเพราะใกล้บ้าน ค่าครองชีพถูก บริษัทกูเป็นบริษัทเล็กๆ มีพนักงานอยู่ 4 คนรวมกูด้วย แรกๆเข้าไปทุกคนก็เฮฮาอัธยาศัยดีต้อนรับกูดีมาก มีเพื่อนดีคุยได้ทุกเรื่อง มีพี่สาวที่ดีเป็นที่ปรึกษา เจ้านายก็ปล่อยให้กูทำงานตามวิธีที่กูถนัดไม่ก้าวก่าย ขอแค่มีงานมาส่งและไม่พลาดเยอะก็พอ ทุกวันก็สนุก จนกูคิดว่ากูคงจะไม่ย้ายบริษัทไปไหนแล้ว เงินเดือนก็โอเค พออยู่ได้ มีเงินให้เก็บไม่เดือดร้อน แต่พอมาพักหลังๆเขาทำมึนตึงใส่กูกันหมดทั้งออฟฟิศเลย กูก็พยายามนึกว่ากูไปทำอะไรให้เขาขุ่นเคืองใจรึเปล่า พอกูเลียบๆเคียงๆถามก็โดนมองเหยียดมาว่ายังไม่รู้ตัวอีกเหรอ

กูก็พยายามนึกเหตุการณ์ว่าทำไม ก็คือช่วงสามสี่เดือนที่ผ่านมามันมีงานชิ้นหนึ่งเข้าออฟฟิศ เป็นโปรเจคใหญ่พอสมควร เจ้านายกูก็แบ่งๆงานให้ตามที่แกแพลนไว้ กูก็รับในส่วนของกูมาทำจนเสร็จ เลิกงานกูก็กลับบ้านแต่พวกเขายังอยู่โอทีต่อ พอวันรุ่งขึ้นมาทำงานกูก็รู้สึกถึงความมาคุในออฟฟิศเลย แต่ยังไม่ได้อะไรนะ ช่วงนี้เขาก็ยังคุยเฮฮากับกูอยู่ แต่พอผ่านไปซักเดือนกูรู้สึกเขาเงียบใส่กูกันหมด กูถามก็ไม่ค่อยมีใครพูดหรือตอบกูเลย พี่สาวเลขาก็ทำหน้าบึ้งใส่กู กระแทกแดกดัน บางทีกูลุกไปเข้าห้องน้ำ พอกูกลับเข้ามาจากที่เขาคุยๆหัวเราะกันอยู่ เขาเงียบกันทันที ทำเอากูรู้สึกแย่ว่ะ เหมือนกูเป็นตัวทำบรรยากาศกร่อย แต่เราก็ยังทำโปรเจคร่วมกันอยู่นะ แล้วกูก็พิมพ์ไลน์บ่นๆกับเพื่อนกูที่ไม่ได้อยู่ออฟฟิศนี้ว่าอึดอัดกับสภาพนี้ว่ะ อยากลาออกแล้วเนี่ย

พอจบโปรเจคเขาสามคนก็มาเปิดฉากรุมด่าว่ากูไม่ยอมช่วยเหลืองานเพื่อน เอาแต่ส่วนของตัวเอง เป็นคนเห็นแก่ตัว เพื่อนเขาอยู่โอทีกลับบ้านตีหนึ่งตีสองกันทุกวัน แต่กูเป็นคนเดียวที่เลิกตรงเวลา แล้วกูก็ไม่ถามซักคำว่าจะให้ช่วยอะไรมั้ย เป็นคนไร้น้ำใจจนไม่อยากทำงานด้วยแล้วก็เงียบใส่กูกันหมด ทุกอย่างทำเหมือนกูไม่มีตัวตนในออฟฟิศไปแล้ว พี่สาวเลขาที่กูคิดว่าเป็นพี่ที่สนิทไว้ใจได้แม่งก็แกล้งไม่ต่อสายโทรศัพท์ให้กูจนลูกค้าโทรมาด่ากูโดยตรง ฝากบอกเจ้านายว่าวันนี้กูลาก็ไม่ยอมบอก เจ้านายก็เรียกไปคุยว่ากูไม่ทุ่มเทให้เต็มร้อยเหมือนเพื่อนคนอื่นเขา อยากให้กูจริงใจกว่านี้ กูเสียใจมากเลยนะ งานทุกอันที่กูได้มากูก็ทำเต็มที่ทุกอัน ไม่เคยมีอันไหนไม่ตั้งใจเลย แต่ถูกว่าแบบนี้กูเจ็บมาก

กูคงคิดตื้นๆไปอะว่าถ้ากูรับผิดชอบในส่วนของกูให้ดีไม่ไปรบกวนคนอื่นมันก็คงจะโอเค แต่กูก็สงสัยว่าแค่กูไม่ได้ถามว่าจะให้ช่วยอะไรมั้ยมันคือความผิดร้ายแรงมากเลยเหรอวะ กูคงจะเห็นแก่ตัวจริงแบบที่เขาว่านะ เพราะตอนกูลำบากก็ไม่เห็นมีใครยื่นมือมาช่วยกูเลย กูต้องดิ้นรนทำเองคนเดียวทุกครั้ง ถ้าขอให้ช่วยก็จะได้รับคำตอบว่าไม่ว่างบ้าง ติดงานบ้าง จนกูถอดใจหอบกลับมาทำเองหมด แถมเรื่องที่กูพิมพ์บ่นกับเพื่อนเขาก็มาพูดเหยียดๆใส่ว่าอึดอัดคิดจะลาออกสินะ ประเด็นคือกูล็อคอินไลน์ไว้ที่เครื่องออฟฟิศตอนไปทำงาน กูสงสัยว่าเขาจะแอบอ่านแชทไลน์ของกูกันรึเปล่า แต่ก็ไม่มีหลักฐานว่ะ กูควรจะลาออกไปแบบนี้เลยดีมั้ยวะ ลองปรึกษาคนอื่นเขาก็บอกให้อดทน งานหายาก กูอายุเยอะแล้วที่ไหนเขาจะจ้าง แต่กูรู้สึกเครียด ตื่นมาก็ไม่อยากไปทำงานเลย เอาไงกับชีวิตต่อไปดีวะ

60 Nameless Fanboi Posted ID:tGpOAYu8G0

สัดเอ้ยนอนไม่หลับ เสาร์นี้กูทำงานด้วยดิ

61 Nameless Fanboi Posted ID:1xdl0lu8+o

พวกมึงมีวิธีรับมือกับซองผ้าป่าในที่ทำงานกันยังไง ออกพรรษารอบนี้กูโดนไป5ซอง เสียดายตังสัส

62 Nameless Fanboi Posted ID:sVZGp+Z.SL

>>61 ทำเป็นลืมไป ถ้ามาทวงก็ใส่ให้สักซองละ20บาท

63 Nameless Fanboi Posted ID:.zfg+vM3IV

>>59 กกูเข้าใจนะ การอยู่ในสังคมบางทีมันก็อย่างงี้แหละ กูก็เคยโดนด่าเรื่องนี้ตอนกุทำโปรเจกแต่กูเป้นประเภท​ไม่แคร์เท่าไไหร่เลยต้านกับแรงกดดันได้
ถ้าเป็นกู กูคงจะทำเฉยๆแล้วก็เข้าไปคุยแบบปกติ หรืออาจจะขอโทษเขาเรื่องที่ไม่ช่วยงาน แต่ก็จะบอกต่อด้วยว่า กูคิดว่าแค่การรับผิดชอบงานในส่วนของตัวเองให้ไม่มีปัญหาก็น่าจะพอแล้ว เลยไม่ได้คิดว่าการที่ไม่ทำโอทีจะเป็นปัญหา​ กูไม่ได้ตั้งใจจะเอาเปรียบคนอื่นจริงๆ ซึ่งถ้าคราวหน้าอยากให้ช่วยอะไรก็บอก บลาๆ ประมาณนี้แต่พูดให้ดีกว่านี้นะ

64 Nameless Fanboi Posted ID:Wato7c5cCY

>>59 ลองคุยกับเขาดู จริงๆ กูว่าถ้าทำงานกันเป็นทีม ยิ่งทีมเล็กแบบนี้เขาก็คงคาดหวังให้มึงถามแหละ ว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย หรือถามความเป็นไปเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี มันดูใส่ใจอะ อย่างกูทำงานกูก็กลับไวนะ เลิกงานปุ๊บดีดตัวปั๊บตลอด ในทีมก็มีคนทำโอทีเลิกดึกหลายคนเหมือนกัน แต่กูก็เคลียร์กับทีมไว้ตั้งแต่ต้นเลยว่า เออ บ้านกูไกลนะ ต้องออกไวไม่งั้นรถจะติดมากแล้วกูจะถึงบ้านดึก กูเข้าบ้านไม่สะดวกเพราะมอไซหมด ไรเงี้ย เขาก็โอเคอะ ถ้าอันไหนกูทำเสร็จไม่ทันก็กลับมาทำต่อที่บ้าน วันไหนกูมีสเปซก็ถามในทีมเผื่อเขามีไรให้ช่วยได้บ้าง ของแบบนี้ต้องคุยต้องปรับความเข้าใจกันให้ดีๆ แหละ ส่วนพี่เลขาคนนั้นของมึงกูว่าไม่โอเคว่ะ โตๆ กันแล้ว คุยกันแบบใช้เหตุผลสิวะ ไม่ใช่มาขัดแข้งขัดขากันปัญญาอ่อน ถ้าเกิดผลกระทบกับงานขึ้นมาก็เสียกันทุกคนอะ

65 Nameless Fanboi Posted ID:+BrVzj/gel

>>63 >>64 กูขอโทษแล้วนะ พยายามอ่อนน้อมมากๆด้วย อะไรลงได้หรือยอมได้กูก็ยอมหมด แต่เขาก็บอกกูดูไม่จริงใจ ที่ขอโทษมานี่คือขอโทษแค่ให้มันพอผ่านๆไปใช่มั้ยล่ะ แล้วมาขอโทษตอนนี้มันสายไปแล้ว เสียแรงที่เคยให้ใจกัน และอีกสารพัดที่ด่า กูเลยแบบ...เออ คิดงั้นก็ตามใจพวกมึงเลยละกัน ส่วนพี่เลขาเขาสนิทกับคนที่กูมีเรื่องด้วย เลยมองว่ากูเหี้ยที่ไปเอาเปรียบพวกของเขา ทำให้เขาเกลียดกูสุดๆ

จริงๆตอนกูคุยกับเจ้านายกูก็บอกเรื่องที่เขาแกล้งขัดขากูในการทำงานนะ แต่เจ้านายเขาก็ไม่ได้จัดการอะไร ไม่มีแม้จะเรียกไปเตือน บอกแค่ว่าเขาก็เป็นอย่างนั้นของเขาอยู่แล้วอย่าไปคิดมากเลย ทำงานของเราไป กูเลยรู้สึกว่าทุกอย่างคือการบีบให้กูออก แต่ติดตรงที่กูยังหางานใหม่ไม่ได้เลยยังไปไม่ได้นี่ล่ะ

66 Nameless Fanboi Posted ID:MQjpgex0yW

>>65 อ่ะ ถ้ายอมลงให้ขนาดนี้แล้วยังี่เง่า ก็ช่างแม่งละ ก็ไม่ออก ทำงานของมึงไป หางานที่อื่นไปด้วย โนสน โนแคร์

67 Nameless Fanboi Posted ID:Whs9gxIrFc

เมิง เวลาไปกุไปทำงานที่ไหนโดนเขม่นเรื่องเงินเดือนเยอะกว่าชาวบ้านตลอดเวลาเพราะได้ภาษาญี่ปุ่น จนกุรำพำพำพำหนักมาก
ต้องทำยังไงคนถึงจะเลิกแซะ รึกุต้องทำเป้นไมแคร์ แค่แซะไม่พอยังขัดแข้งขัดขาเรื่องงานให้กุลำบากพรำเพรื่ออีก

68 Nameless Fanboi Posted ID:Wato7c5cCY

>>66 เห็นด้วยว่ะ ในเมื่อเราพยายามแล้วเขาก็ยังไม่เชื่อ ไม่คิดจะเห็นใจเรา โอกาสที่มันจะกลับไปดีเหมือนเดิมได้แม่งก็น้อยแล้วมั้ยอะ ถึงเค้าจะกลับมาดีกับมึง ความรู้สึกมันก็ไม่เหมือนเดิมแล้วว่ะ

การปรับตัวให้เข้ากับที่ทำงานหรือเพื่อนร่วมงานได้มันก็ดีนะ แต่จริงๆ เขาจ้างเรามาทำงาน ไม่ได้มาหาเพื่อนอะ ถ้ามึงรับการทำงานในสภาพแบบนี้ได้แล้วคิดว่าสุขภาพไม่เสีย ก็ทำต่อไป แต่ถ้าเริ่มไม่โอเคแล้วก็มองหางานใหม่ ไปสมัครงาน สัมภาษณ์ไว้ก่อนเลย หาได้ปุ๊บก็ลาออกแม่ง อย่าฝืนว่ะ ยิ่งฝืนยิ่งแย่กับตัวเองอะ

69 Nameless Fanboi Posted ID:WDfHSyv/Bo

>>59 ที่ว่าอายุเยอะแล้วเลยกลัวกับการหางานใหม่นี่อายุเท่าไหร่วะ? กูเห็นน้องที่ทำงานบ่นว่าอายุเยอะแล้ว กลัวหางานยาก ทั้งที่มันเพิ่งจะ 20 ปลายๆ เอ๊งงง กูเนี่ย 30+ แล้วจ้า แต่ก็ยังมีความหวังนะว่าจะหางานใหม่อยู่นะ เดี๋ยวว่าจะลองพึ่งพวกรีครูทดู

70 Nameless Fanboi Posted ID:+BrVzj/gel

>>69 อายุ 35 เกือบๆ 36 น่ะ เปิดเว็บสมัครงานที่ไหนก็รับแบบไม่เกิน 35 ทั้งนั้น แล้วกูก็รู้ตัวว่าความสามารถที่มีมันไม่ถึงพวกตำแหน่งหัวหน้างานด้วย เลยไม่กล้าสมัคร ลองปรึกษาเพื่อนเขาก็แนะนำให้กูไปฝึกอบรมเพื่ออัพสกิลการทำงานดู กูก็ลองสมัครคอร์สบริหารสั้นๆ แล้วก็ไปหาจิตแพทย์ด้วย หมอก็ให้ยามากิน ปรับสารเคมีในสมองอะไรแบบนี้ แต่กินแล้วกูจะมีอาการง่วง ซึม บางทีก็เบลอๆไม่รู้เรื่อง กลายเป็นโดนแอนตี้ที่ทำงานหนักกว่าเดิมอีก บางวันที่โดนกระแนะกระแหน กูก็เกือบร้องไห้กลางที่ทำงานแล้ว ติดอยู่แค่ทิฐิอันเดียวที่มันค้ำคอไว้ไม่ให้ร้อง กูไม่ชอบแสดงความอ่อนแอออกมาให้ใครเห็นน่ะ

เมื่อก่อนกูก็ไม่เป็นแบบนี้นะ แต่ตอนนี้กูรู้สึกว่ากูเฟล เครียด ขาดความมั่นใจ มีแต่ความทุกข์ แต่ถ้าไม่ไปทำงานก็ไม่มีเงิน หรือควรลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวซักอย่างแบบที่ไม่ต้องเจอใครมากดีวะ แต่กูก็มืดแปดด้านไปหมดจนไม่รู้จะทำยังไง จะเริ่มจากตรงไหน กูถูกคนที่บ้านแนะนำให้ไปปฏิบัติธรรมอะไรพวกนี้อยู่นะ แต่กูลองไปนั่งสมาธิที่วัดก็ไม่เกิดประโยชน์ว่ะ กูยังเครียดและฟุ้งซ่านไปหมด อยู่บ้านก็ถูกเอาหนังสือธรรมะต่างๆมาให้ มันไม่ช่วยอะไรกูเลย มีแต่จะทำให้กูเบื่อหนักกว่าเดิมอีก

71 Nameless Fanboi Posted ID:WDfHSyv/Bo

>>70 อันนี้จริง ถ้าระดับปฏิบัติการส่วนมากรับไม่เกิน 30 ด้วยซ้ำไป โลกแม่งไปวัยมาก อายุ 30 เป็นเมเนเจอร์กันหมดละ ชีวิตมึงคล้ายกูมาก กูก็รู้สึกเฟลๆ ขาดความมั่นใจ ไม่อินกับธรรมะ เป็นพนักงานธรรมดา เรื่องความสามารถในการทำงานกูค่อนข้างมั่นใจ แต่ที่ไม่คิดไปสมัครงานเป็นระดับหัวหน้าเพราะกูไม่มี leadership ขาดทักษะทางสังคม ความจริงกูว่ากูเรียนผิดสายว่ะ นิสัยกูน่าจะเรียนวิทย์แล้วไปเป็นนักวิจัยอยู่ในห้องแล็บไปวันๆ น่าจะเหมาะกว่า แต่มาคิดได้ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เรื่องทำธุรกิจส่วนตัวก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำอะไรดี มีทุนแต่ไม่มีหัวก็เหมือนเอาเงินเก็บไปโยนทิ้งเปล่าๆ สู้ต่อไปนะมึง เป็นผู้ใหญ่แม่งยากจริงๆ ของกูแพลนจะลาออกสิ้นปีนี่แหละ งานใหม่ก็หาไปเรื่อยๆ ตอนนี้ได้แต่ท่องคำว่าอดทน แม้บางครั้งจะรู้สึกเหมือนแทบจะทนไม่ไหวแล้วก็ตาม...

72 Nameless Fanboi Posted ID:eDS3tEyzNa

ถ้า 30 แก่ ก็ว่างงานกันทั้งโลกและสัด
หางานตามความสามารถ ยังไงก็ได้หวะ ไม่มีความรู้อะไรเลยจะเอาเงินเดือนเยอะเกิน ไม่มีใครให้หรอก

73 Nameless Fanboi Posted ID:B/xV53Tg0I

>>72 แต่ละสายงานมันมีอายุขัยไม่เท่ากัน อาชีพแพทย์อาชีพครูยิ่งแก่คนยิ่งเชื่อถือ เป็นแอร์ 30 กว่าก็ถือว่าแก่แล้ว เป็นไอดอล 20 นิดๆ ก็เป็นชราไลน์ได้ .... พอดีอาชีพสายงานที่กูทำมันเป็นสายงานที่แก่ไวน่ะ พอจะเปลี่ยนงานมันเลยคิดหนัก จะเปลี่ยนสายงานก็ยิ่งยากไปกันใหญ่เลย อายุไม่น้อยแล้วแต่ไม่มีความรู้และประสบการณ์ในสายงานนั้นๆ หายาก แต่ก็ยังหวังแหละว่าน่าจะไม่ถึงกับหาไม่ได้ แต่แน่นอนว่ามันไม่ง่ายแบบตอน 20 กว่าๆ แล้ว ตอนนั้นกำลังเนื้อหอมเลย ไม่แก่มาก ประสบการณ์ทำงานก็มีกำลังดี หางานง่ายรีครูทรุมโทรตื๊อสุดๆ

74 Nameless Fanboi Posted ID:JqvO+Vv6RD

>>73 ทำงานสายอะไรวะ

75 Nameless Fanboi Posted ID:BvpIt9vRWQ

>>73 พูดมานี่ชวนให้คิด งาน....... ปะวะ

76 Nameless Fanboi Posted ID:979syJUhzN

โปรแกรมเมอร์นี่อายุเกิน 30 ก็หางานยากแล้ว
แต่เวลาสมัครงานนี่เสือกจะเอาประสบการณ์จำนวนปีเยอะๆตลอด

77 Nameless Fanboi Posted ID:zrGAsexiZ1

>>70 แต่กูก็เห็นหลายทีแล้ว เวลามีคนบอกว่าเครียดทีไรมักจะโดนบอกให้ไปปฏิบัติธรรมทุกที กูไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่นิยมแนะนำให้ไปหาจิตแพทย์วะ ใจยังฟุ้งซ่านอยู่เข้าวัดไปก็เท่านั้น พระก็ใช่ว่าจะเข้าใจเราถ่องแท้หรือให้คำปรึกษาได้ทุกอย่าง กลัวการไปหาจิตแพทย์แล้วเขาจะว่าอีนี่เป็นบ้าแน่ๆเหรอวะ

78 Nameless Fanboi Posted ID:CFfH2B0.gl

เอาจริงๆ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะเจอกับปัญหาเหรอพระถึงได้มาอยู่วัด จะไปให้คำปรึกษาใครได้ถามจริง แค่วิถีชีวิตก็เหมือนอยู่คนละโลกแล้ว

79 Nameless Fanboi Posted ID:Ixvu2YyK.4

>>77 คนไทยยังไม่ค่อยเข้าใจน่ะแหละ

80 Nameless Fanboi Posted ID:ds1BJDNf6s

>>76 โปรแกรมเมอร์มันล้นไง

81 Nameless Fanboi Posted ID:HbawXPbug2

>>80 ถ้าเอาจำนวนคนจริงๆอาจจะเหมือนมีเยอะ แต่ถ้านับคนที่พอทำงานได้จริงๆนี่มันมีไม่พอนะ

82 Nameless Fanboi Posted ID:xaZDztHSG7

>>76 จริงดิ กูเห็นมีแต่โอดครวญ​ว่าโปรแกรมเมอร์​มีไม่พอ เงินเดือนก็สูงชิบหาย บริษัทกูยังหาdevไม่ได้เลยเนี่ย หามาเกือบปีละ

83 Nameless Fanboi Posted ID:H38rzmtb0q

สวัสดีวันหยุดมนุษย์เงินเดือนแห่งชาติ วันนี้มีใครลางานกันบ้าง

84 Nameless Fanboi Posted ID:LaT47kOqu3

>>83 กูจ้า แต่ไม่ค่อยสบายใจยังไงไม่รู้ เดดไลน์งานวันศุกร์นี้ไม่รู้จะเสร็จมั้ย 555

85 Nameless Fanboi Posted ID:xYuPcISLjX

คือคนว่างงานหรืออยากย้าย บ.น่ะเยอะ
บ.รับคนก็อยากได้คนมีความสามารถรับเข้าแล้วทำงานได้เลย
แต่ก็งกกดเงินกันชิบหายไง เอากูก็ได้ อายุ 30++ (ยังไม่ถึง 35) เงินเดือน 60k กว่า หางานจะกลับกรุงเทพไปดูแลครอบครัว ไปสัมมาตอนเมเนเจอร์โทรมาแม่งอยากได้กูมากขอให้มาสัมก่อน
วันสัม GM แม่งลงมาเขียนเลขให้กู 35k บอกให้ได้เท่านี้กูคงจะไปให้แม่งหรอก

86 Nameless Fanboi Posted ID:Sv/ACmVlta

>>85 เชี่ยเอ๊ย กู 32 แล้วเงินเดือนก็ยัง 32k อยู่เลย พอพูดเรื่องเงินแล้วก็อยากกลับไปทำงาน กทม. เพราะเรทเงินแม่งผิดกันเลย แต่มาคิดอีกที.. เพื่อสุขภาพจิตแล้ว ไม่ดีกว่า

87 Nameless Fanboi Posted ID:EdaqLapCT4

เพื่อนโมง อายุไม่เกิน 30 เนี่ยในความคิดเพื่อนโมงควรมีเงินเดือนเท่าไหร่อะ เอาแบบสายงานทั่วไปนะ เฉพาะทางเราไม่ยุ่ง

88 Nameless Fanboi Posted ID:xYuPcISLjX

>>87 สายงานอะไรล่ะ มันต้องระบุสายงานแล้วให้คนในวงบอกอีกที

ปล. ในไทยนี่มีจัดชาร์ต Black Company กันมั่งไม้วะ บ.ไหนสวัสดิการห่วย จ้างถูก ใช้เยี่ยงทาส ของญี่ปุ่นถึงขนาดมีจัดประกวดกันต่อปีๆเลย

89 Nameless Fanboi Posted ID:EdaqLapCT4

>>88 แอดมินละกัน จริงๆ อยากรู้แบบสายงานใกล้เคียง เช่นแบบ ประสานงาน แอดมิน ไรงี้

90 Nameless Fanboi Posted ID:s5ZKv86qGn

>>88 ไม่มีนะ แต่ถ้ามี มันจะเจอฟ้องร้องกันทางกฎหมายแน่ๆ แล้วมันจะเป็นระบบกล่าวหากันซะเยอะไหมด้วยนี่สิ แต่ถ้าในไทยทำได้จริงๆก็น่าสนนะ

91 Nameless Fanboi Posted ID:P8WlHetdCV

เป็นเด็กเพิ่งจบใหม่ควรพูดเรื่องเงินเดือนกับเพื่อนไหมวะ มันจะไปสร้างความกดดันกันเองรึเปล่า

92 Nameless Fanboi Posted ID:xYuPcISLjX

>>91 ไม่ควร ถ้ามึงเปิดมึงจะกลายเป็นคนเหี้ยอวดเงินเดือน

93 Nameless Fanboi Posted ID:lz7G2aQMgQ

>>91 แล้วแต่ว่าเพื่อนคบกันแบบไหน พวกกูคือไม่อวด กูอยากรู้กูก็ถาม เพื่อนถามกูก็บอก รู้สึกเปรียบเทียบมั้ยมันก็มีบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีผลกับการคบกัน ดีซะอีก ทำให้รู้ว่าเวลานัดแดกนัดเที่ยวเรตที่ทุกคนรับได้คือเท่าไร

94 Nameless Fanboi Posted ID:PsNtdK4Ugz

เพื่อนกูทำสื่อสารไม่ถึงปีได้ 50000 แต่สัญญาสั้นมากนะ ปีเดียวเอง กูสตาร์ท18000เอง

95 Nameless Fanboi Posted ID:ZgIKDNR3c/

>>93 ก็พูดยากนะ ของกูรู้เงินเดือนกันหมดแล้วก็ไม่ได้ต่างกันมาก
แต่นัดกินข้าวทีนึงลำบากเลือกร้านมาก
คนนึงต้องแบ่งให้ที่บ้าน เงินตัวเองเลยไม่ค่อยเหลือ
คนนึงจะแดกบุฟเฟต์ เน้นเยอะไว้ก่อน
อีกคนไม่แดกบุฟเฟต์ เน้นรสชาติปริมาณไม่ต้อง
อีกคนบอกเท่าไหร่ก็ได้ แต่เลือกมาให้มันแต่ละร้านราคากลางๆเสือกบอกว่าเงินงบ

แค่นี้ก็ตีกันชิบหายแล้ว สุดท้ายเลยไม่นัดกินข้าวกันอีกเลย 555

96 Nameless Fanboi Posted ID:PsNtdK4Ugz

>>95 พวกบ้านอยู่ กรุงเทพอะ ค่อนข้างดีหน่อย นอนบ้าน กินข้าวบ้าน เงินเหลือเยอะกว่าเพื่อน

97 Nameless Fanboi Posted ID:rM53/LQ.2s

>>89 แอดมิน/ประสานงาน เอาแบบดาดๆ ไม่มีอะไรเลย 15-20k ได้ภาษาอังกฤษ 20-35k ได้ภาษาอังกฤษ+ญี่ปุ่น 30-45k แต่ถ้าใครจะได้มากหรือน้อยกว่า range ที่ว่ามานีี้ก็ไม่ต้องแปลกใจ นอกจาก qualification ของตัวเองมันยังมี factor อื่นๆ อีกเยอะ เช่น ระดับ/ประเภทขององค์กร สถานที่ตั้ง ประเภทธุรกิจ สโคปงาน ฯลฯ

98 Nameless Fanboi Posted ID:iDsbVCUL/f

กูอยากขอบคุณ​เจ้านายที่ยังให้โอกาศกุทั้งๆที่กูแม่งโครตกาก ผลงานเฮงซวย กูรู้สึกแย่มากที่ไม่เก่งพอที่เค้าต้องการทั้งๆที่อายุก็ไม่น้อย กูจะพยายาม

99 Nameless Fanboi Posted ID:AzAcJX8KV9

ทำยังไงถึงจะเป็นคนที่เก่งขึ้นได้วะ ในสายการตลาดหรือการวางแผนไรงี้ คือกูเหมือนเป็นคนหัวช้าขาดความเฉลียว เค้าพูดไรก็เข้าใจนะแต่เหมือนยังเอามาประยุกต์ใช้​ไม่ได้ ในขณะที่คนอื่นเค้าคิดได้แล้ว กูคิดไม่ได้คนเดียว
พยายามอ่านหนังสือหาข้อมมูลก้เหมือนรู้แต่ทฤษฎี​ปฎิบัติจริงไม่ได้ ไม่รู้จะเอามาประยุกต์​กับสิ่งที่ตัวเองทำยังไง คิดเลขก็ช้า บางทีคิดตามคนอื่นก็ไม่ทัน คือหัวช้ามากๆ จะ​พัฒนา​ตัวเองยังไงดี

100 Nameless Fanboi Posted ID:DnACB1ul25

>>99 สายทฤษฎีหาเคสสตัดดี้มาอ่านเยอะๆ มั้ย พวก brandage.com นี่อ่านมั้ย เวลาศึกษาเขาแล้วก็คิดต่อด้วยว่าถ้าเป็นตัวเองเจอปัญหาเดียวกันจะทำยังไง ฝึกคิดเอง ช่างสังเกตรอบๆ ตัวแล้วเอามาผูกกันกับการตลาด กูไม่ใช่สายการตลาดหรอกนะแค่มีเกี่ยวๆ กันบ้าง เวลาเห็นอะไรรอบๆ ตัว อย่างไปซุปเปอร์แล้วเห็นผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนแพ็คเกจใหม่ก็จะคอยคิดละ ว่าเปลี่ยนเพราะอะไร เปลี่ยนแล้วดีกว่าเดิมมั้ยยังไง อะไรแบบนี้ หรือจริงๆ ตามพวกดราม่าต่างๆ ก็มีส่วนนะ ทำแบบนี้แบบนั้นแล้วเจอปัญหาอะไร ผู้บริโภคทำยังไง แล้วเจ้าของแบรนด์แก้วิกฤติยังไง คิดว่าที่เขาทำถูกหรือผิดยังไง ฯลฯ

101 Nameless Fanboi Posted ID:C4l7jbLuFx

>>95 กูเคยเป็นแบบมึง ปัจจุบันนี่เลยนัดกันใน line group นับหัวแล้วคนโอเค 3+ ก็ไปเลย

102 Nameless Fanboi Posted ID:zkI+8MCVwd

กูเครียดงานมาก ก่อนหน้านี้บ.ให้กูทดลองตน.ใหม่เพื่อเตรียมโปรโมต แต่กูทำแล้วไม่ชอบไปขอหัวหน้าว่าไม่อยากทำ อยากทำตำแหน่งเดิม ชอบงานแบบเดิมมากกว่า เค้าก็ไม่ให้กูลง มีแต่จะพยายามดันกูขึ้นมาให้ได้ แล้วพี่เลี้ยงที่ดูแลกูก็เอาแต่ด่ากูที่ทำงานไม่ได้ ทำงานช้า ไม่เข้าใจงานเค้า หาว่ากูไปเป็นภาระถ่วงแข้งขาเค้าอีก กูก็ปรึกษาหัวหน้าตลอดว่ากูไม่ไหวแล้ว แต่เค้าก็บอกแค่ให้กูทนๆๆๆๆๆๆๆ จนกูขึ้นตำแหน่งใหม่มา กูก็ยิ่งโดนด่าหนักกว่าเดิมอีก กูจะสติแตกอยุ่แล้วว่ะ ตัวกูไม่มีความมั่นใจพอที่จะย้ายบ. กูเลยทนอยู่ต่อที่บ.นี้ แต่กูก็พยายามขอเค้าลงจากตำแหน่งใหม่ เค้าก็ไม่เข้าใจกูซะที

103 Nameless Fanboi Posted ID:5nU+d5sbRc

>>97 แต้งกิ้วค่ะมึง กูทำสายงานนี้อยู่กำลังคิดว่าจะเปลี่ยนหรืออะไรยังดี จะ 30 แล้วยังหาตัวเองไม่เจอเลย

104 Nameless Fanboi Posted ID:I15.W/b+UM

พวก recruit ดีปะวะ เค้าติดต่อมาอะ

105 Nameless Fanboi Posted ID:p7xcCRKR72

งานสายโปรแกรมเมอร์ ตอนอายุ25นี่ควรจะเงินเดือนประมาณเท่าไหร่ดีวะ อยากพัฒนาตัวเองนะ แต่ช่วงนี้ไม่มีไฟเลย

106 Nameless Fanboi Posted ID:70tQ7NmEzL

>>105 กูอยู่สายนี้นะ แต่บ.กูกดเงินมาก ในขณะที่เพื่อนกูได้ 30k กันแล้วกูเพิ่งแตะ 25k ตอนอายุ 25น่ะ แต่นั่นก็เป็นเรื่องหลายปีมาแล้ว จนตอนนี้กูเพิ่งจะได้ลิ้มรสของคำว่า 30k เอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเงินเดือนขึ้นอยู่กับบริษัท และเป็นพนง.ประจำหรือเป็น outsource ถ้า outsource ยังไงเงินก็ดีกว่าพนง.ประจำ แต่ไม่มีสวัสดิการ หักค่าจ้างรายวันถ้ามึงหยุดไรงี้ เพราะฉะนั้นก็ต้องชั่งนน.เอา แต่ที่แน่ๆ เดี๋ยวนี้โปรแกรมเมอร์สตาร์ททีก็น่าจะ 20k up แล้วล่ะ

107 Nameless Fanboi Posted ID:4LdZyiLqd1

>>105 มันหลากหลายมากเลยไม่ใช่หรอโปรแกรมเมอร์ เงินเดือนก็คงเรนจ์กว้างไปด้วยยากจะประมาณว่ะ
กูทำงานสายกราฟิกอยู่แต่กำลังต่อตรีอีกใบวิทยาการคอม อยากรู้เหมือนกันสายไหนรุ่งน่าไปสายไหนร่วงไม่น่าลอง

108 Nameless Fanboi Posted ID:4LdZyiLqd1

>>107 ปล.แต่ทำกราฟิกมาจนเงินเดือนมากกว่า 30k แล้ว ถ้าจะสตาร์ทใหม่ที่ 20k ก็คงไม่เปลี่ยนสายงาน แต่คงต้องหางานที่จะใช้สกิลทั้งสองด้านได้(และเงินดีกว่า)
>>105 นั่นแหละ การเบนมาสายใกล้เคียงบ้างคือการพัฒนาตัวเองยามหมดไฟของกุเอง

109 Nameless Fanboi Posted ID:.7AJAjpk.8

ขอปรึกษาหน่อยได้ไหมพี่โม่ง
กูเงินเดือน15k-35k เเต่ทำงานฟรีเเลนซ์อยู่บ้าน รายจ่ายน้อย อยากรู้ว่าดีไหมเทียบกับทำงานบ.
กุเรียนจบมาเเต่ชอบทำงานฟรีเเลนซ์ของตัวเอง พ่อเเม่ก็ชอบพูดกรอกหูว่าไปทำงานบ.ไปมันไม่มั่นคง เเต่กูไม่อยากไปทำเพราะสายที่กูจบมากูไม่ชอบเลย

เเต่ฟรีเเลนซ์มันก็ไม่เเน่ไม่นอน อยากขอคำเเนะนำหน่อยว่า ควรลองไปทำงานประจำไหม ฟรีเเลนซ์กูรายได้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกเดือน ตามปริมาณลูกค้าที่เข้ามา ทำเเล้วมีความสุขดี

เเต่พอลองๆมาคิดดูก็กลัวๆเหมือนกัน เผื่อลูกค้าหายงี้ เงินหด ประกันสังคมก็ไม่มีด้วยสิ

110 Nameless Fanboi Posted ID:HTplXN+M5P

>>109 มีอีกวิธี ปล่อยไปตามธรรมชาติ โดยทั่วไป 80-90% พอทำฟรีแลนซ์ไปได้ซักปี มักจะไปหางานบริษัททำเอง
แต่ถ้ามึงเป็น 10% ที่เหลือ คือทำฟรีแลนซ์แล้วอยู่รอดได้ 2 ปี ก็ขอแสดงความยินดีด้วยมึงได้เป็นผู้ประกอบการขนาดย่อย

111 Nameless Fanboi Posted ID:CmvLlG6UR3

>>109 ถ้าอายุยังน้อยแนะนำให้ลองทำงานประจำ+ทำงานเดิมเป็นงานเสริมแบบกูมั้ย เพราะงานประจำจะลองทำได้ก็แค่ช่วงนี้เท่านั้น พอแก่ตัวแล้วไม่เคยทำงานประจำมาก่อนเลยถึงตอนนั้นจะไปหางานประจำทำก็หายากแล้ว คิดว่าทำแบบนี้ตอบโจทย์ที่สุด มีความมั่นคงจากงานประจำ แต่ก็ยังรักษาคอนเนคชั่นงานเสริมเอาไว้ เผื่อวันไหนไปต่อกับงานประจำไม่ไหวก็ยังมีงานเสริมเอาไว้ทำเป็นฟรีแลนซ์ต่อไป แต่ข้อเสียคือเหนื่อยมากทำงาน 7 วัน เวลาท้อๆ บางทีก็จะถามตัวเองว่าจำเป็นต้องเหนื่อยขนาดนี้มั้ยเนี่ย โสด ตัวคนเดียว ภาระอะไรก็ไม่มี จะไปเที่ยวไหนไม่ค่อยได้ไปเลย ติดทำงานเสริมนี่แหละ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้รับปากเค้าไว้แล้ว ทุกอย่างมันก็มีดิวของมัน เดือนไหนมีวันหยุดนักขัตฤกษ์เยอะๆ หน่อยถึงพอได้หายใจหายคอชิลล์กับเค้าบ้าง

112 Nameless Fanboi Posted ID:YbTlWxoI7r

>>109 ตอนนี้เป็นฟรีแลนซ์ได้อยู่ก็เป็นไปก่อน ได้ทำงานที่ชอบยังไงก็ยั่งยืนกว่า ไม่ว่างานประจำหรือฟรีแลนซ์ต่างก็ไม่มั่นคงกันทั้งนั้นแหละ ที่ต่างกันกูว่าคือสวัสดิการต่างๆ ซึ่งถ้างานฟรีแลนซ์มึงโอเคมึงก็สามารถจัดหาสวัสดิการให้ตัวเองได้ เช่นการซื้อประกัน ส่วนเรื่องความคิดเห็นที่บ้าน เขาก็ห่วงนั่นแหละ คาดหวังว่าบริษัทจะช่วยดูแล(จริงๆ ก็ไม่หรอก) มึงก็ต้องทำให้เขาเห็นว่ามึงดูแลตัวเองได้ ทำแล้วมีเงินเก็บ(ถือซะว่าเป็นโบนัส) มีประกันสุขภาพ(ดีกว่าประกันสังคมอีก) และให้แบบสวยหรูเลยมึงก็บอกเขาไปว่าที่ทำๆ ฟรีแลนซ์อยู่เนี่ยก็กำลังสะสมทั้งประสบการณ์และเงินทุนเพื่อเปิด บ.ของตัวเองไง พอพ่อแม่เห็นมึงมุ่งมั่น โอเค เขาก็วางใจแล้ว

113 Nameless Fanboi Posted ID:wXccs5o2ZE

ถ้ากูทำฟรีเเลนซ์ไปซักปี-สองปีเเล้ว รายได้เท่าเดิมควรจะไปหางานบ.เเล้วสินะ เพราะน่าจะไม่เหมาะละ ทำบ.เงินเดือนขึ้นทุกปี

114 Nameless Fanboi Posted ID:GBsnEau7Ie

>>113 ลองดู กูว่าเหนือกว่าเรื่องเงินคือพฤติกรรมการทำงานร่วมกับคนอื่นมากกว่า อย่างกูนิเข้า บ.สายตลอด ทำงานกลางคืนทำงานคนเดียวจะมีสมาธิและประสิทธิภาพมากกว่า และมักจะหงุดหงิดเวลาคนอื่นทำสิ่งนึงไว้ไม่ดี(ไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่มันไม่ยอมทำให้เต็มที่ ทำไปวันๆ)โดยที่รู้ว่ากูสามารถทำเองได้ดีกว่า หรือการหัวเสียกับตรรกกะเพี้ยนๆ ของคนแผนกอื่น รู้สึกเหมือนกำลังโดนกล่อมเกลาให้ทำงานส่งๆ ไปวันๆ ตามพวกเขาแล้วทำให้กูรู้สึกแย่กับตัวเอง อะไรเหล่านี้กูคิดว่ากูเหมาะกับการเป็นฟรีแลนซ์มากกว่า ก่อนนี้ก็ทำได้สองสามปีอยู่ จนพี่ที่เคารพรักดึงมาร่วมทีมเลยทนสภาพแวดล้อมมาได้ 2 ปีละ มันก็ดีในแง่เงินมั่นคงในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ถ้าพี่เขาออกเมื่อไหร่แน่นอนกูออกแน่ รู้ตัวเลย

115 Nameless Fanboi Posted ID:SJ1viWMMUE

>>88 Black Company กูนี่นึกถึงพวกบ.ญป.โซนสุขุมวิทเลย พวกผิดกม.เยอะชิบหาย กูอยากให้กวาดล้างบ.พวกนี้ไปให้หมด เด็กจบใหม่จะได้ไม่หลงไปเสียเวลาในชีวิตให้พวกมัน

116 Nameless Fanboi Posted ID:RrlrpM2bJZ

>>109 ถ้าสามารถทไงานประจำควบฟรีแลนซ์ได้มันก็ดีนะ ลดงานฟรีแลนซ์ลงจะได้ไม่เหนื่อยมาก แต่ยังมีคอนเนคชั่นอยู่ เผื่ออยากจะเปลี่ยนงานหรือออกจากงานมาทำฟรีแลนซ์อีกรอบ

บริษัทเดี๋ยวนี้มันก็ไม่ค่อยมั่นคงแหละว่ะ ยกเว้นมึงจะทำงานดีและเก่งพอจะอยู่บ. ใหญ่ได้นานๆ แต่อย่างน้อยเข้าบริษัทมันก็มีคอนเนคชั่นเพิ่มมากขึ้น ได้เก็บปสก การทำงานด้วย เผื่อในอนาคตอยากจะเลิกทำฟรีแลนซ์แล้วก็ยังมีทางไปต่อได้

117 Nameless Fanboi Posted ID:lC03p.63B4

>>115 ถ้าไม่กลัวโม่งแตก มาคุยกันในแชทโม่งดิสคอร์ดได้ป่ะ? บ.ญป. สุขุมวิทซอยไหนบ้างวะ? กูจะได้ไม่เผลอตัว มีประกาศหางานในกลุ่มjobs for thai proxxxxบ้างป่ะ?

118 Nameless Fanboi Posted ID:fj1kaXiJiv

>>114 นั่นแหละคือข้อดีข้อนึงของการทำงานประจำ ต้องมาอดทนกับพวกตรรกะเพี้ยนๆ กับอะไรอีกมากมาย กูว่าวุฒิภาวะและความอดทนกูดีขึ้นเยอะเลย สมัยทำงานฟรีแลนซ์กูต้องรับมือแค่กับลูกค้าอย่างเดียว อย่างอื่นกู manage เองได้หมด พอมาทำงานบริษัท ต้องทำงานเป็นทีม ต้องประสานงานกับแผนกอื่น ลูกค้าก็ต้องรับมือ เจออะไรบัดซบเยอะดี ถือเป็นประสบการณ์และฝึกความอดทน ฝึกสกิลการจัดการที่กว้างขึ้น การแก้ไขปัญหาทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว แต่ถ้าใครชอบไม่ชอบก็แล้วแต่นะ กูก็มีทั้งโมเมนท์ที่คิดว่ามันก็ดีที่ทำให้ตัวเองโตขึ้น เก่งขึ้น กับทั้งโมเมนท์ท้อๆ ว่าทำไมกูต้องมาประสาทแดรกกับพวกhereนี่ด้วย กลับไปทำฟรีแลนซ์เหมือนเดิมดีกว่ามั้ย

119 Nameless Fanboi Posted ID:USYdx.T7Q5

>>118 ความคิดมึงดีหว่ะ บวกดี กูเคยไปทำบริษัทและจะประสาทแดก ตอนนี้ทำของตัวเองชิลล์ๆ

120 Nameless Fanboi Posted ID:ri4LJuR6Id

ไม่รู้ว่าถูกมู้มั้ย กูเพิ่งมารู้ตอนมีอายุนี่แหละ ว่ากูใช้เงินเป็น...........เป็นเบี้ยเลยว้อย
สมัยเด็กๆ กูมีเงินเก็บเยอะมากนะ แบบที่บ้านไม่ให้ซื้อไรเลย
แต่พอเริ่มทำงาน กูก็เริ่มใช้เงินเดือนไปซื้อของไม่จำเป็น
ตอนนี้ เกม ของเล่น หนังสือ นี่ แทบจะเต็มห้องกูโดยที่กูไม่ได้เล่น/อ่าน
กูก็พอรู้ว่า ซื้อมาดองไม่ค่อยจะดี แต่บางทีกูก็แบบ shopping therapee อ่ะ รู้สึกดีที่ได้ซื้อของที่อยากได้ตอนเด็ก
แต่มันจะมาเชี่ยตอนปลายๆ เดือนแบบนี้แหละ 555

121 Nameless Fanboi Posted ID:DM9qWlQIJf

>>120 เชี่ยยยย มึงกับกูนี่เหมือนกันมาก
พอกูทำงานหาเงินเองนี่กลับไม่มีเงินเก็บเลย กูแบบตั้งใจทำงานหาเงิน เครียดกับงานแล้วพอถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เงินเดือนออก กูก็ไปคลายเครียดด้วยการช็อปปิ้ง จากที่เครียดแทบตายคือฟินยิ้มหน้าบาน วนลูปไปเรื่อยๆ

ยิ่งกูหักใจไม่ไปซื้อของข้างนอกนะ เว๊งงง กูช็อปในแอปมือถือก็ได้ อิแอปสีส้มๆนี่ตัวดูดเงินกูเลย เอามือเลื่อนหาไปหามา จากที่ไม่จำเป็นกูก็กดเข้าตะกร้า กดชำระเงิน นั่งยิ้มรอของมาส่งที่บ. พอของมาถึงกูก็กุมขมับ กูทำอะไรลงไป๊----- /ตีมือตัวเอง

122 Nameless Fanboi Posted ID:.MK3vMxHY3

>>120 กุก็ซื้อหนังสือมาแล้วก็อ่านทิ้งไว้ วันไหนมีอารมณ์อ่านค่อยอ่าน ตอนนี้ก็เลิกซื้อของใหม่แล้วกลับไปอ่าน/เล่นของเก่าๆ อาจจะมีประโยชน์กว่าซื้อใหม่ก็ได้นะ

123 Nameless Fanboi Posted ID:tO6lgzuWhZ

>>119 ไม่หรอก อย่างที่บอกโมเมนท์ท้อๆ ก็มีแหละ บ่อยด้วย

124 Nameless Fanboi Posted ID:qa.LLA8gaI

>>123 ธรรมดาคนมันก็มีบ้าง แต่ตอนนี้ก็ยังทำอยู่นี่ สู้ๆละกัล

125 Nameless Fanboi Posted ID:vTi677DdVI

>>120 กูก็เป็นจ้า ใครแม่งบอกวะว่าพอทำงานเองแล้วจะไม่อยากใช้เงิน โอโห โคตรไม่จริง กูนี่ซื้อของมากองไว้ในห้องเยอะมาก หนังสือ เกม ซื้อมาแล้วก็ไม่ได้แตะซักที วางดองไว้จนฝุ่นเกาะไปหมดแล้ว กูว่าจริงๆ กูแค่มีความสุขเวลาได้จ่ายเงินซื้ออะมึง ก่อนจะซื้อก็อยากได้มาก แต่พอเป็นเจ้าของจริงๆก็เฉยๆ ละ รู้สึกดีสุดตอนได้จ่ายเงินแล้วรู้ว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นเจ้าของนั่นแหละ แย่ชิบหายเลยโว่ย

126 Nameless Fanboi Posted ID:EglSRZ/3Vp

>>121 กูด้วย สมัยเรียนประถม-มัธยม พ่อแม่ให้เงินน้อยจนทุกวันนี้ยังคิดอยู่เลยว่าเค้าคิดอะไรของเค้าอยู่วะ
คือน้อยแบบวันไหนข้าวโรงเรียนกินไม่ได้ก็ไม่มีเงินซื้อน้ำหวาน เพราะเงินวันนึงก็พอแค่ซื้อข้าวไข่ดาวจานเดียว
ขึ้นมหาลัยก็ไปอยู่ชานเมือง แล้วไม่มีรถจะไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ ยังดีที่มีเพื่อนฐานะพอๆกันสุมหัวด้วยกัน

ทำงานแรกๆก็ไม่กล้าใช้เงินนะ รู้ตัวอีกทีก็ผลาญเงินเป็นว่าเล่นไปแล้ว
ทุกวันนี้ไม่ถึงกับใช้เดินชนเดือน พอมีเหลือเก็บเดือนละนิดๆหน่อยๆ แต่พอเก็บเงินได้ประมาณนึงก็เอาไปเที่ยวหมด
ของนี่ซื้อมาดองแม่งทุกอย่าง นิยาย เกมส์ การ์ตูน กองเต็ม แต่ก็ยังไปซื้อมาสุมเพิ่มทั้งที่ของเก่ายังไม่ได้เอาออกจากถุง
ยังดีว่าไม่ติดซื้อของออนไลน์

เงินอีกส่วนเลยหายไปเป็นค่าอาหาร+ค่าเหล้า ช่วงที่หนักๆซัก 2 ปีก่อนนี่ข้าวกลางวันกินร้านแพงๆตลอด เลิกงานไปกินเหล้าทุกวัน
แต่ถึงจุดนึงต้องเลิกเพราะอ้วนซะงั้น

127 Nameless Fanboi Posted ID:hRTmfzAn4T

อ่านของเพื่อนโม่งหลายๆคนแล้วอดคิดไม่ได้ว่า การที่พ่อแม่ให้เงินน้อยๆเพื่อสอนให้เรารู้จักการประหยัด ดันทำให้เด็กเกิดใช้เงินมือเติบเพื่อตอบสนองในความต้องการวัยเด็กรึเปล่าวะ

128 Nameless Fanboi Posted ID:tEqIEgz7rS

>>127 กูประหยัดตอนเด็กจนเป็นนิสัยโตมาก็ใช้เงินเยอะขึ้นแต่ก็ประหยัดมากเทียบคนรายได้เท่ากันเงินเก็บกูนี่เกินครึ่งของรายได้นะ จะจ่ายกะเกมส์ซะส่วนมาก คอมก็เก่าๆใช้จนเสป็คมันเล่นเกมส์ไม่ได้ถึงเปลี่ยน กูว่าสร้างนิสัยมันก็ช่วยได้นะแต่ต้องสอนเหตุผลและขึ้นกับตัวลูกด้วย

129 Nameless Fanboi Posted ID:SLHkMufHf1

>>127 มันเป็นนิสัยที่ดีนะ การให้เงินน้อยตั้งแต่เด็กช่วยให้ไม่ใช้เงินเกินตัว ที่บอกว่าโตแล้วใช้เงินเยอะๆได้ กุว่ามันใช้เงินไม่เป็น ใช้วันนึงก็หมดไปพรุ่งนี้หาใหม่ มันไร้สาระถ้ารู้จักใช้เงินแต่ละวันให้เป็นกุว่าใครๆก็มีตังเก็บทั้งนั้นแหละ เป็นคนประหยัดดีอยู่แล้วแค่ต้องหัดคุมเงินด้วย โตมาแล้วใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายมีถมเถไป

130 Nameless Fanboi Posted ID:2MscXvLnKI

>>127 ถ้าถามกูคือมันต้องมีความพอดีด้วย เหมือนที่คนรายได้น้อยมากๆจะไม่ค่อยเก็บออมหรือลงทุนเพราะมองไม่เห็นอนาคตนั่นแหละ
อย่างกูเงี้ยไม่มีโมเม้นเก็บเงินซื้อของที่อยากได้เองเหมือนเด็กคนอื่นเลย
เพราะค่าขนมที่ได้น้อยจนถึงไม่ใช้เลยก็ต้องเก็บ 2-3 ปี ถึงจะพอซื้อ ถึงกูจะไม่ค่อยใช้เงิน
ถึงเวลาเก็บได้ของที่อยากได้มันก็เอาท์แล้วอะไรแบบนี้ เลยไม่ซื้ออยู่ดี เด็กๆเลยเป็นพวกอยากได้อะไรก็ช่างแม่งไป

มีอีกเคสที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินเท่าไหร่ คือญาติกูห้ามลูกกินขนมหรือ junk food จนเด็กเก็บกดอยากกิน
จะได้กินเฉพาะเวลาญาติพาไปเที่ยงแล้วพ่อแม่ไม่อยู่ด้วยเท่านั้นเลย กลายเป็นคนชอบของพวกนี้ไปเลย
โตขึ้นมาก็แอบไปซื้อกินลับหลังพ่อแม่จนอ้วน ยังดีที่ถึงจุดนึงเริ่มโตห่วงเรื่องหน้าตาเลยค่อยๆเลิกไปได้เอง

สรุปสำคัญที่สุดคือความพอดี ซึ่งพูดง่ายแต่ทำยากชิบหาย

131 Nameless Fanboi Posted ID:LyZP0SKZpx

https://pantip.com/topic/38205493

เห็นว่าโลตัสจ้างออกทั้งประเทศ คิดว่าไงกันวะกับอนาคตสภาพเศรษฐกิจไทย

132 Nameless Fanboi Posted ID:9e8SNGf4jp

>>131 แบ่งเป็น 2 ประเด็นนะ
- จ้างออก ด้วยการจ่ายเงินชดเชย *10-*17 ตามกฏหมายแรงงาน จะว่าก็ไม่ได้มันไม่ผิด
- จะว่าเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย ก็ไม่ถูกนักเพราะสาเหตุที่จ้างออกเพราะบริษัทแม่ขาดทุนหนัก เลยปรับโครงสร้างใหม่
ถ้าบริษัทแม่ไม่สั่ง โลตัสไทยอยู่ได้นะเพราะมันติด top 10 บริษัทที่ทำรายได้สูงในไทย และมันก็แก้เกมทยอยเดินแผนย่อยสาขาเป็นร้านสะดวกซื้อไปบางส่วนแล้ว แต่ล่าสุดบริษัทแม่ไม่ยอมเดินเกมแบบสายป่านยาวเหมือนแต่ก่อน อันนี้แบบสายฟ้าแลปเลย

ส่วนเรื่องนี้ จะว่าไงล่ะเป็นกันทั้งโลกนะ สภาพนี้ธรุกิจไหนเอามาขาย online ได้ก็ใช้คนน้อยลง
ร้านค้าขนาดใหญ่ ที่ไม่อยู่ในตัวเมือง ความจำเป็นก็ลดลงเป็นธรรมดา เพราะคนสั่งให้เอาของมาส่งที่บ้านได้ พวกธุรกิจการเงิน ธนาคารอันนั้นก็กระทบหนักยุปสาขาเป็นว่าเล่น

ปล. เรื่องยุบสาขาเดี๋ยวมีอีกเยอะ เพราะมีอีกเรื่องที่กระทบทั่วโลกคือการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ เกมโยนตังค์สลับกระเป๋าขนาดใหญ่นี้ ตัวเล็กตัวน้อยชิบหายหมด

133 Nameless Fanboi Posted ID:ZDy1Y+WzNX

>>131 เป็นมาตั้งแต่ปีที่แล้วละ แถมเงินเดือนนี่น้อยกว่าร้านอาหารง่อยๆบางเจ้าอีกนะ คิดดูKFCเค้ากล้าให้สตาร์ท15000 แต่ที่นี่ให้แค่10000 ต้นๆ หักนั่นนี่ไปเยอะกว่าเงินเดือนทหารเกณฑ์ไม่กี่บาท

134 Nameless Fanboi Posted ID:KOqenck+tj

ไปขายออนไลน์บ้างดีมั้ยเนึ่ย เห็นเพื่อนขายครีมออนไลน์อะพเตตัสชีวิตดี๊ดี

135 Nameless Fanboi Posted ID:6ZaoN3ptea

>>127 ไม่นะ สมัยเรียนแม่ให้เงินกูน้อยมาก เดือนละ 4,000 บาทเอง ตอนนี้กูเพิ่งจบทำงาน ก็ยังติดนิสัยประหยัดอ่ะ ประหยัดกว่าตอนเรียนอีก ร้านแพงๆ บุฟกูไม่กินเลย ใช้เงินแค่กับของกินพื้นๆ มีซื้อเครื่องสำอางค์นิดหน่อย เดือนนึงกูเก็บเงินได้อย่างน้อยประมาณ 70% ของรายรับ
แต่คือกูมีเป้าหมายการเก็บเงินไปเรียนต่อไง

136 Nameless Fanboi Posted ID:rtVo0ZcgkO

>>134 สร้างภาพเพื่อนกูขายบางเดือนหมุนเงินไม่ทัน

137 Nameless Fanboi Posted ID:RwylKV6aRz

>>134 ตลาดมีขึ้นมีลงว่ะ กูว่าเพื่อนมึงตอแหลเพื่อหาดาวไลน์หรือไม่ก็โปรโมทว่าสินค้าขายดี สมัยนี้พนง.ประจำมั่นคงกว่าเยอะ กูเป็นแม่ค้าออนไลน์ยังอยากหางานประจำเลยมึง

138 Nameless Fanboi Posted ID:IQpwfFW.y4

>>127 แล้วแต่คนว่ะ อย่างกูเนี่ย ตอนเด็กๆ ได้เงินน้อยมาก มหาลัยได้เดือนละสี่พันงี้ พอหาเงินได้ก็ใช้เยอะนะ แต่ไม่เคยชนเดือนเลย กูใช้ในขอบเขตที่กูหาได้อะ ได้เงินมาปุ๊บ กูแบ่งไปฝากธนาคารเลยครึ่งนึง ที่เหลือกูถือว่ากูมีเงินเก็บแล้ว จะใช้กับอะไรก็ได้เงี้ย แล้วส่วนมากมันจะไปลงอยู่สามอย่าง กิน เที่ยว ซื้อของ สองอย่างแรกเนี่ย โอเค ส่วนซื้อของอะ บางทีกูแค่มีความสุขเพราะได้จ่ายเงินจริงๆ ว่ะ 5555

139 Nameless Fanboi Posted ID:wa2EJdjbSu

ถ้าบริษัทนึงให้เงินเดือนจูเนียร์ 40 สตาฟ 45 ซุป 50
1.คิดว่าระดับเมเนเจอร์บริษัทนี้จะให้ประมาณเท่าไหร่?
2.เงินเดือนห่างกันประมาณนี้คือปกติไหม? ความรู้สึกเราคือบริษัทนี้สตาร์ทสูงพอสมควร แต่ระยะห่างของแต่ละตำแหน่งทำไมมันต่างน้อยจัง เพราะอย่างจูเนียร์สตาร์ท 40 ทำงานไปเงินเดือนมันก็ขึ้นทุกปีใช่ปะ พอได้ปรับตำแหน่งเป็นสตาฟ เอาจริงๆ เงินเดือนที่ปรับประจำปีมามันก็แทบจะไปชนกับเงินเดือนเริ่มต้นของระดับสตาฟอยู่ดีแล้วอะ -_-" กลายเป็นเหมือนปรับเงินเดือนประจำปีเฉยๆ หรือมันเป็นเรื่องปกติ? พอดีไม่เคยทำงานที่อื่น

140 Nameless Fanboi Posted ID:Ea.mGgNnGk

>>139 ถ้างาน office ที่กูเจอทั่วไปไม่เฉพาะทาง ถ้าเด็กใหม่สตาท 20k สตาฟ มี ปสก ราวๆ 25-30k ซีเนียร์ก็ 30-45 แล้วแต่อายุ หัวๆขึ้นไป 60k - 100k ยาวไปไดเรคเตอร์ก็สัก 2-300 k (มโนเอาแต่น่าจะประมาณนี้เห็นโม้ว่าโบนัส 4.5 เดือนได้หลักล้าน) แต่มันก็แล้วแต่สายงานด้วยละพูดยาก ถ้าเห็นก็ gap พอๆกัน 5-10k แต่ถ้าของมึงเริ่ม 40k ไอ 5k มันเลยดูน้อยไงคิดเป็น %

141 Nameless Fanboi Posted ID:jBlawkg.9s

>>140 จริงด้วยแฮะ ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล

142 Nameless Fanboi Posted ID:21PMXRFBOF

เห็นราคาบ้านในเมืองแล้วท้อใจชิบหาย ถึงจะเป็นมนุษย์เงินเดือนจนๆก็อยากมีบ้านนะ ทุกวันนี้อาศัยคนอื่นเค้าแม่งก็รู้​สึกเหมือนเป็นประชากรชั้นสอง จะซื้อบ้านเองก็ไม่ไหว แถมทำงานในเมือง ให้ไปซื้อบ้านนอกเมืองมันก็ไม่สะดวก ทำไงดี มีใครมีทางออกให้กูมั่งมะ

143 Nameless Fanboi Posted ID:pqtc2N9P63

>>142 มึงก็ไปเช่าอยู่สิ

144 Nameless Fanboi Posted ID:YqsGdpFPK2

กูสมัครงานไม่ผ่านอีกแล้วอ่า ฮือออออ คือเจอ Assesment Test กุตอบตามตรงไปทุกข้อเลย ละไม่ผ่านคือเค้าแค่ไม่อยากได้คนแบบกู หรือกูควรตอบให้มันโปรกว่านี้วะ (,__,

145 Nameless Fanboi Posted ID:hqmXDkNNp+

>>142 เช่าเอา แล้วไปหาบ้านชานๆเมืองไกลๆเมืองตอนมีตัง

146 Nameless Fanboi Posted ID:bAXtAmBwIo

>>142 คิดเหมือนกูเลย แต่ว่ากูเป็นคอนโดแทน ตอนนี้กูเพิ่งซื้อคอนโดอะนะกำลังผ่อนอยู่ แต่กูรู้สึกงั้นจริงๆ

147 Nameless Fanboi Posted ID:GlqnBArxzV

>>142 ย้ายไปทำงานต่างจังหวัด กรุงเทพมีแต่จะถีบคนไม่รวยออก

148 Nameless Fanboi Posted ID:s7AuQ8v.Zu

>>142 คอนโดไปก่อนเถอะมึง แล้วค่อยซื้อบ้าน สร้างบ้านต่างจังหวัด วางอผยอนาคตดีๆ มึงซื้อบ้านตอนนี้การจราจรกรุงเทพก็ไม่เอื้อให้มึงไปทำงานหรอก

149 Nameless Fanboi Posted ID:s7AuQ8v.Zu

*วางแผน

150 Nameless Fanboi Posted ID:+aL/LqwGKm

ฉันคิดจะทนให้นานแต่นานกว่านี้คงไม่ไหว

151 Nameless Fanboi Posted ID:6sOh0fHuSy

>>143 เช่าแล้วรู้สึกไม่คุ้มค่า กูจะสามสิบแล้วอยากมีสมบัติเป็นของตัวเองบ้าง อย่างน้อยถ้ามีบ้านเป็นของตัวเองมันก็มีที่ให้กลับไป มีสถานที่ที่เป็นของตัวเองจริงๆ เช่าเค้าอยู่เหมือนลงเงินไปแต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย กูอยากได้บ้านของตัวเองอยผุ่ระยะยาวไม่ใช่ที่อยู่อาศัย​ชั่วคราว

>>145 >>147 >>148 สายอาชีพกุไม่มีอยู่ในต่างจังหวัด กุเลยจำเป็นต้องทำงานในเมือง ถ้าซื้อบ้านชานเมือง กูจะต้องเสียเวลาเดินทาง ค่าโดยสาร ถ้าซื้อรถเองก็จะมีภาระเรื่องรถอีก แล้วรถก็ติดชิบหาย อย่างน้อยถ้ายังอยู่ในเมืองชีวิตมันก็ง่ายกว่า เพราะอย่างที่บอกว่าสายงานกูมันมีงานแค่ในกรุงเทพ
แล้วที่อยากได้เป็นบ้านหรืออาคารพาณิชย์​มากกว่าเพราะกูอยากจะวางแผนทำธุรกิจในอนาคตควบคู่​ไปกับงานประจำด้วย คอนโดมันมีไว้แค่อยู่แต่ทำอะไรไม่ค่อยได้ จะเลี้ยงหมา ปลูกผัก ทำสวนหรือขยับขยายอะไรก็ไม่ได้ ถ้าเป็นบ้านกูอาจจะทำอย่างอื่นได้มากกว่าแค่อยู่เฉยๆ แต่ยังไงก็ไม่คิดจะออกจากงานประจำแน่ๆ เลยต้องหาในเมืองเพราะตั้งใจว่าจะปักหลักอยู่ที่นี่แล้ว

ส่วนบ้านต่างจังหวัดมันก็มีอยู่แล้ว เป็นบ้านมรดกเนี่ยแหละ แค่ต่างจังหวัดมันไม่มีงานไง ก็จบ เดินทางตั้ง 12 ชม. ชิบหาย

152 Nameless Fanboi Posted ID:1ttcv95EJf

>>151 ถ้างั้นต้องผ่อนแต่เอาที่มึงมีปัญญาผ่อนไหวจริงๆนะ ไม่ควรเกิน 30% ของรายรับแต่ต่ำกว่านั้นก็ดี ไกล้ที่ทำงาน

153 Nameless Fanboi Posted ID:6sOh0fHuSy

>>152 ก้นั่นแหละที่หาอยู่​ ดันเสือกทำงานในตัวเมืองเลย แถวๆอารี​ย์เงี้ยะ แล้วราคคาที่ก็แพงสัส เอาออกมาจากอารยืหน่อยๆก็ยังแพงชิบหายอยู่​ดี​ถ้าเอาแบบยังพอหายใจได้บ้างก้นุ่นเลย ดอนเมือง ซึ่งแม่งก้ไกลและกว่าจะมาถึงที่ทำงาน รถก้ติดเหี้ย รถไฟฟ้าก็ไม่มี คือเดินทางยากเวอร์
เอาแค่ผ่อนคอนโดแถวนี้ ราคาแม่งก็สี่ห้าล้านละ กุท้อใจ

154 Nameless Fanboi Posted ID:30fajyPE6M

>>153 มึงไม่ลองดูพวกบ้านมือสองบ้างล่ะ กูซื้อบ้านตั้งแต่อายุ 24 คือทำงานมาปีนึงก็ตัดสินใจกู้ธนาคารซื้อบ้านเลย ซื้อเป็นทาวน์โฮมมือสองแนวรถไฟฟ้า แต่ไม่ใช่ใจกลางเมือง ราคากูรับได้ กูก็ทำงานในตัวเมืองก็อาศัยนั่งรถไฟฟ้าเอา ซึ่งกูว่ากูโอเคกว่าการไปซื้อบ้านหรือคอนโดที่ใจกลางเมือง เพราะราคาที่ดินมันแพงเวอร์เกินไปที่กูจะรับไหว เดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็แป๊บๆ ถ้ามันไม่งี่เง่าเสียบ่อยๆน่ะ

155 Nameless Fanboi Posted ID:QwHS9bJLBf

>>154 ซื้อเท่าไรวะ เผื่อกูพอจะซื้อได้บ้าง ตอนนี้คือเบื่อครอบครัวสัสๆปัญหาที่ไม่เกี่ยวกับกูมีมาทุกวันแต่ต้องทนอยู่เพราะเป็นบ้านที่กู้ไว้ให้แม่
ถ้าหาที่อยู่อื่นได้ กูพร้อมย้ายงาน ย้านบ้านไปตั้งต้นชีวิตใหม่เลย

156 Nameless Fanboi Posted ID:Ns.ec+eulr

>>155 มีนะ ล้านเดียวยังมี แต่ไม่เพื่อนบ้านอาจไม่ค่อยน่าคบสำหรับชนชั้นกลางทำงานออฟฟิศ

157 Nameless Fanboi Posted ID:Rs.7rIjU5g

บ้านที่ภูเก็ตก็แพง กู 3x แล้วยังต้องเช่าเขาอยู่ เศร้า อาการเดียวกับ 151 ตรงที่ถ้าไม่ใช่ กทม.หรือจังหวัดหัวเมืองก็ไม่มีงานสายนี้ให้ทำ กูอุตส่าห์หนีกรุงเทพมาแล้ว ที่นี่แม่งเสือกค่าครองชีพสูงกว่าตอนอยู่กรุงเทพอีก(แต่อยู่สบายใจกว่า) จริงๆ ราคาคอนโดก็พอผ่อนได้อยู่หรอก แต่กูดันมีแมวติดมาด้วยนี่สิ

158 Nameless Fanboi Posted ID:30fajyPE6M

>>155 กูซื้อมา 2M แถวบ้านกูยังมีคนประกาศขายอยู่เรื่อยๆอยู่เลย ตั้งแต่ 1.5-2.7M น่ะ ถ้าถูกๆก็คือต้องซื้อมาปรับปรุงต่อเอง ถ้าราคาแพงหน่อยคือพร้อมย้ายเข้าไปอยู่เจ้าของปรับปรุงพร้อมแล้ว อย่างตอนกูซื้อมา กูเอามาปรับปรุงเองต่ออีกหน่อย

159 Nameless Fanboi Posted ID:uqyJv55m7c

>>158 อยู่แถวไหนวะ แนวรถไฟฟ้าด้วย กูสนใจ

160 Nameless Fanboi Posted ID:30fajyPE6M

>>159 อยู่ซื้อในซอยที่ติดกับรฟฟแบริ่ง แถวนั้นขายบ้านกันเยอะอยู่ เดินหาเอาตามซอยใหญ่ๆเลย หรือลองเปิดหาตามเว็บรับฝากขายบ้านน่ะ พยายามลองดุที่ชอบ ราคาโอเค แล้วไปดูบ้านจริงก่อน เพราะพวกนี้บางหลังประกาศขายแต่เจ้าของบ้านยังอาศัยอยู่ มึงจะได้ติดต่อเจ้าของบ้านได้โดยตรงไม่ผ่านนายหน้าเสียเงินเปล่าๆ หรือบางหลังเค้าไม่ลงประกาศตามเว็บ แต่ติดป้ายขายหน้าบ้านแทน ตอนกูซื้อกูก็ทำแบบนี้แหละ อาศัยเดินดูตามซอย แล้วหาอันที่โอเค ติดต่อเจ้าของโดยตรงเอา

161 Nameless Fanboi Posted ID:MDRF3J9H1U

มึงง กูไม่อยากทำงานขายเลยอ่าา กูไม่ชอบการต้องไปนั่งตื้อชาวบ้านหรือว่าโฆษณาอะไรหลายๆ รอบเลย นี่นายกูให้โปรโมตอีเว้นท์แล้วมันไม่มีคนเข้า กูก็ส่งเมล์ / ไลน์ส่วนตัวอะไรมาหลายรอบแล้วกูเกรงใจเค้าอ่ะ แบบอีนี่แม่งตื้อจังเลยว้อยกูไม่สนๆๆๆ ไรงี้ กูก็กลัวเขารำคาญ รอบนี้มีลดราคากูก็ส่งไปอีกนะแต่กูรู้สึกไม่ดีเลย หลายๆ คนก็บอกว่าก็มีอัพเดทส่งไปใหม่ก็ไม่เห็นเป็นไรแต่ทำไมกูไม่เห็นรู้สึกอะไรแบบนั้นได้เลย กูก็เลยทำๆ ให้มันจบไปพอ นี่กูต้องรู้สึกไม่ดีแบบนี้ไปจนกว่าถึงงานอีเว้นท์เลยสินะ Y Y ไปทำงานต่อละกูมาบ่น กูเครียดจัง

162 Nameless Fanboi Posted ID:cnUav1SGM/

กูนี่ไม่เครียดเรื่องงาน แต่เครียดเรื่องเพื่อนร่วมงานว่ะ
คือกูทำงานให้กับบริษัทที่บ้านอะนะทำมาจะ 3 ปีแล้ว แล้วเมื่อปีที่แล้วเนี่ยน้องสาวกูเพิ่งเรียนจบมาเลยมาช่วย แต่กลายเป็นว่านางเอางานทั้งหมดกูไปทำจนกูไม่มีงาน แล้วมาบ่นว่ากูไม่ยอมช่วยงานซะงั้น ซ้ำร้ายก็คือพี่สาวกูที่เป็นเจ้าของบริษัทเริ่มมองกูว่าไม่มีประโยชน์แล้วว่ะ สังเกตได้ชัดเลยว่างานกูมีน้อยลงจนทุกวันนี้กูว่างไม่มีอะไรทำกันเลย

คือไม่ได้มาบ่นว่าไม่พอใจกับงานนะ แต่มันรู้สึกอึดอัดคล้ายกับว่าอยู่ทำงานไปก็ไม่ได้อะไรอะ แล้วไอ้ความรู้สึกนั้นก็ติดหัวกูอยู่ตลอดเลย แม้ว่าตอนนี้กูไปเรียนต่อในวัน เสาร์-อาทิตย์ แล้วยังไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย เจอแบบกูควรทำไงดีวะ?

163 Nameless Fanboi Posted ID:QwHS9bJLBf

>>162 ข้อแรกทำตัวสบายๆ งานไม่ต้องทำมีคนทำแทนอยู่แล้ว ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ กูว่าสักวันคงมีคนพูดแหละว่าไม่ทำไรเลย
ตอนนั้นค่อยตอบกลับไปว่าก็มึงไม่ให้กูทำไรเลย อยากให้ช่วยทำไรก็บอก

ข้อสอง ไหนๆก็สบายๆงานไม่เยอะแล้ว เอาเวลาไปเรียนเพิ่มในวันปกติ หรือหางานนอกรับเพิ่มประสบการณ์ไปอีกที

164 Nameless Fanboi Posted ID:Rs.7rIjU5g

>>162 ออกมาหางานอื่นทำ

165 Nameless Fanboi Posted ID:rewU/x2itT

>>162 ก็ฝากงานไว้ที่น้องสาว แล้วมึงก็ออกมาหางานข้างนอกแทนสิ
มองโลกในแง่ดี นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้เป็นอิสระจากกงสีเลยนะ

166 Nameless Fanboi Posted ID:8DD/Vz8N7j

กู >>162 นะ
เพราะหางานอื่นไม่ได้นี่ล่ะเลยต้องทำงานกับ บ.ที่บ้านแทน แถมปัจจุบันกูก็อายุจะเลข 3 แล้วด้วย คงหางานยากเว้นแต่กูบังเอิญสอบตั๋วทนายผ่าน
จะว่าไปตอนนี้กูอยากหาอะไรเรียนเพิ่มเหมือนกัน แต่ตอนนี้กูกำลังเรียนบัญชีอีกใบในวันเสาร์-อาทิตย์นี่สิ ถ้าจะลาออกมาเพื่อไปเรียนอย่างเดียวมันจะคุ้มมั้ยวะ?

167 Nameless Fanboi Posted ID:QFmpoE19ZQ

มันต้องมีเหตุผลว่าทำไมน้องมึงเอางานไปทำหมด ที่ทำงานกุมีรุ่นพี่คนนึง อายุมากกว่า อยู่มานานกว่า แค่ตำแหน่งเท่ากัน สะเพร่ามาก ชุ่ยมาก ทำงานอะไรง่ายๆ เล็กๆ น้อยๆ ก็ผิด เวลาผิดแล้วกุต้องเข้าไปช่วยไปแก้ปัญหาเพราะถึงจะไม่ใช่งานในสโคปกุ แต่ result มันเชื่อมโยงมาถึงงานกุด้วย เดี๋ยวนี้กุเลยอยากให้พี่แกนั่งหายใจทิ้งไปวันๆ ยังจะถือว่ามีพระคุณมากกว่าอีก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ให้นางทำอะไรเลยนะ พยายามให้ทำงานที่ง่ายที่สุด งานที่ผิดแล้วจะมีผลกระทบน้อยที่สุด นางก็ดราม่าว่าทำไมให้พี่ทำแต่งานไม่สำคัญ นางคงคิดว่าเด็กๆ ในทีมจะเอาหน้า จะเกทับนาง จริงๆ ไม่ใช่โว้ย ทุกคนเหนื่อยกับการต้องตามแก้ปัญหาที่นางก่อจนทำเองดีกว่า

168 Nameless Fanboi Posted ID:QFmpoE19ZQ

ปล อย่าดราม่านะ ไม่ได้ว่ามึง แค่อยากเล่าประสบการณ์ส่วนตัวเพื่อให้เห็นว่าเหรียญมันมีหลายด้าน ลองพิจารณาประกอบดู

169 Nameless Fanboi Posted ID:PD4ABBQtxd

กูไปถามในพันทิปแม่งโดนแซะรัวๆ คือพวกมึงเป็นอะไรกะรัฐบาลมากป่าววะ คือกูไม่ได้แซะ กูก็แค่ถามดีๆ สงสัยแค่ว่า
พอมีคนมาโพสว่าขายของไม่ได้ร้านเจ๊งเศรษฐกิจไม่ดี ก็จะมีคนมาบอกไม่ปรับตัว ไปขายออนไลน์สิ
ทีนี้พอมันบอกให้ไปขายออนไลน์กันหมด กูก็คิดว่าอ่าวถ้าไปขายของเหมือนๆกันหมด ยังงี้มันก็วัดกันแค่ราคาแล้วป่ะ
ซึ่งคนที่ทำราคาถูกสุดได้ก็คือผู้ผลิต ถ้าเป็นยังงั้นรายย่อยไปขายออนไลน์แม่งก็ตายอยู่ดีป่ะวะ
เหมือนแค่ป้องรัฐบาลเฉยๆ คือไปขายออนไลน์มันแก้ปัญหาได้ไม่จริงไงในรายย่อย

170 Nameless Fanboi Posted ID:eAs8LRlcXm

>>167 คนแบบนี้กูว่าไม่น่าให้ผ่านโปรมาแต่แรกเลยนะ

171 Nameless Fanboi Posted ID:bjJFPoPE1y

>>167 มึงพูดมาก็ถูกนะ แต่กรณีของกูนี่กูมั่นใจว่ากูทำงานได้ดีกว่าน้องกู เพราะทุกอย่างที่มันทำกูก็ทำมาก่อนมันทั้งหมดละ
แต่จะมีแค่บางอย่างที่กูทำแบบมันไม่ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการรับลูกค้า กับการเข้างานเร็วเท่านั้น แต่เรื่องความละเอียด ความถูกต้องนี่กูดีกว่าหมด แถมกูทำบัญชีด้วย

172 Nameless Fanboi Posted ID:IY6Advii6/

>>171 มึงควรไปคุยแบบเปิดอกกับพี่น้องมึงมากกว่าพวกกูนะ ยังไงพวกมึงก็รู้จักกันเองดีกว่าคนในเน็ตอยู่แล้ว

173 Nameless Fanboi Posted ID:Da7MqhFwJL

>>169 กูว่าพวกแนะนำมันไม่ได้ขายเองมั้ง
แต่คิดว่าคนขายน่าจะเพิ่มขึ้นจริงๆนะ พันทิพ(รวมถึงทุกที่)บางทีก็ไม่น่าฟังทุกอย่างที่มีคนพิมพ์อ่ะ
โม่งก็มีความเห็นไม่น่าฟังเยอะ แต่เพราะเป็นโม่งเราเลยมี filtered กรองคนโทรลทิ้งอัตโนมัติ
ความเห็นส่วนตัวคือ เศรษฐกิจมันไม่ดีแหละ แต่มันก็ไม่ดีมานานมากละ ตั้งกะยุคฟองสบู่เลยมั้ง
แต่คนขายของออนไลน์เยอะขึ้นจริงๆ นะ
ลูกค้า(ไม่ใช่ลูกค้าหรอก แต่ถ้าพูดรายละเอียดเดี๋ยวโม่งแหก)ของกู แม่ง เป็นขายของออนไลน์เพิ่มขึ้นจากช่วง 4-5 ปีก่อน พอสมควร เมื่อก่อนแทบไม่มี เดี๋ยวนี้เจอราวๆ 40%

174 Nameless Fanboi Posted ID:IY6Advii6/

>>169 จริงๆ มันก็ไม่ถูกต้องไปซะทั้งหมด ผู้ผลิตที่ไม่ขายรายย่อยก็มี / เอาจริงๆ กูคิดว่าที่มึงมาบ่นๆ เนี่ย เพราะอยากจะแซะรัฐบาลแต่ดันมาปกป้องก็เลยหัวเสียซะมากกว่า แต่ถ้ากูเข้าใจผิด แล้วมึงอยากรู้รายละเอียดเรื่องการขายของออนไลน์ หรือการที่เป็นผู้ผลิตแล้วปรับตัวขยายตลาดออนไลน์ ก็ค่อยมาถกกันอีกทีโดยตัดประเด็นเรื่องพันทิพและรัฐบาลออกไปนะ พอดีที่นี่มันซาลารี่แมน

175 Nameless Fanboi Posted ID:bjJFPoPE1y

โอ้วววกู >>171 นะวันนี้มีเรื่องอีกแล้ว
น้องกูจะเอางานบัญชีที่ปกติกูเป็นคนทำไปทำด้วยว่ะเฮ้ย~!

176 Nameless Fanboi Posted ID:Da7MqhFwJL

>>175 ต้องคุยกันละ

177 Nameless Fanboi Posted ID:bjJFPoPE1y

บ่นเพิ่มนิด ขอบอกเลยว่าในฐานะคนทำบัญชีให้ บ. แล้วกูปวดกะบาลกับการทำงานของพี่และน้องกูมาก
คือแม่งจ่ายกันแบบไม่มีการคำนวณอะ จะจัดจะจ้าง organize แม่งก็จ่ายแบบไม่คำนึงถึงกำไร-ขาดทุนเลย ซึ่งไอ้คนที่เห็นตัวเลขอย่างกูนี่เห็นแล้วถึงกับสะดุ้งจนต้องไปเตือนว่านี่มันฟุ่มเฟือยเกิน

แต่เชื่อมั้ย? พอเตือนแล้วแม่งก็ไม่ฟังยังทำเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือใบเสร็จไม่รับ แถมบางอันก็ไม่กรอกด้วยว่าจ่ายไปเท่าไรอีกต่างหาก จนตอนนี้ทำบัญชีไปก็เท่านั้นเพราะแม่งไม่รู้รายจ่ายที่แท้จริงเป็นยังไง

178 Nameless Fanboi Posted ID:PD4ABBQtxd

>>177 มึงนิ่งจนมันไม่ให้ความสำคัญกับความคิดเห็นมึงไงถึงความคิดเห็นมึงจะถูกก็เหอะ
กูโดนอยู่ใน บ. เนี่ยคือกูมีประสบการณ์มากกว่า ทำงานสายงานนี้มาเยอะกว่า 10 ปีแล้ว แต่กูเข้า บ. มาทีหลังแม่งไง แล้วแม่งเป็นผญ.แรงๆ อีโก้สูงๆแบบไม่ยอมใคร แถมเป็นลูกรักเมเนเจอร์ด้วย ประสบการณ์ในสายงานต่ำเตี้ย แล้วงานที่แม่งทำขาดทุนตลอด ดีเลย์มั่ง ซื้อของเกินมั่ง ผิดมั่ง
กูเห็นแม่งทำงานไม่มี procedure กูก็เตือนไปเฮ่ยงานมึงจะไม่ทันนะ มึงต้องเช็คของยังงี้นะ กูแนะนู่นนี่ให้สรุปไม่ฟัง ไม่เอากูจะทำแบบเดิมๆ
สรุปโปรเจ็คแม่งก็เจ้งแบบเดิมๆ พอประชุมสรุปกันก็โทดนู่นนี่ ไม่โทดตัวเอง

ตอนนี้มึงระวังถ้า บ.มึงขาดทุนไว้ล่ะกันมันจะหาแพะ

179 Nameless Fanboi Posted ID:uvevVGg4Yg

>>177 กูโม่งกงสีเหมือนกัน กูก็ไม่รู้รายละเอียดเบื้องลึกในครอบครัวมึงนะว่าเป็นยังไง
แนะนำว่ามึงก็ลองเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นที่นอกจากบัญชีบ้าง ต้องเข้าใจว่ามึงเป็นเจ้าของเพราะฉะนั้นมึงก็ควรจะรู้รายละเอียดงานส่วนอื่นของในบริษัทให้ได้ทั้งหมด พี่มึงอาจจะคิดว่าเอาน้องมาฝึกงานกับมึงให้น้องมันทำเป็น ส่วนมึงก็ให้ไปเรียนรู้งานในส่วนอื่น ต่อไปพี่น้องจะได้ช่วยกันทำบริษัทก็ก้าวหน้า อันนี้ในกรณี good end
ส่วนกรณี bad end ก็คือ เขาก็เตรียมเฉดหัวมึงออกจากกงสี กูก็ไม่รู้ว่ามึงมีปัญหาอะไรในครอบครัวรึเปล่า หรือมีเรื่องอะไรเบื้องหลัง แต่กำหนดเส้นตายก็คือวันที่ผู้ใหญ่ไม่อยู่ ถ้าผู้ใหญ่ยังอยู่เขาก็เกรงใจผู้ใหญ่กันไม่อยากให้พี่น้องทะเลาะกัน ถ้าจบ bad end จริงมึงก็โดนลอยแพ

180 Nameless Fanboi Posted ID:xPi.zOisl/

ที่นี่มีโม่งเป็นซาลารี่แมนที่ญี่ปุ่นไหม กูอยากปรึกษาไรด้วยหน่อย

181 Nameless Fanboi Posted ID:fONeA62VgO

เข้าไปทำงานวันแรกแต่เสือกโง่ทำพลาดไปหน่อยนึง ฮือๆ ขอกำลังใจให้กูที

182 Nameless Fanboi Posted ID:2MmfjJSkI/

มึงจะพลาดอีกหลายเรื่องไม่ต้องคิดมาก เป็นเด็กใหม่ไม่มีทางเป้ะร้อยเปอหรอก เขาเข้าใจ

183 Nameless Fanboi Posted ID:2MmfjJSkI/

>>180 รุ่นน้องกุทำยุ มีไรว่ามา

184 Nameless Fanboi Posted ID:jPBX0u0ZsO

งายเหล่าซาลารี่แมนจะปลายปีแล้วช่วงนี้เป็นไงมั่งวะ บ.กูโดนไม่จ่ายโบนัสกลางปีแล้ว+เพดานเงินเดือนใหม่ เงินเดือนใครชนเพดานแล้วเงินเดือนไม่ขึ้นนะฮะ
แล้วพอถามหาเพดานมันเท่าไหร่ HR บอกฟามลับบ.ฮ่ะ อิอิ...
แล้วพอถามอ้าวยังงี้ HR บอกตันแล้วคือตันแล้วตรวจสอบอะไรไม่ได้เลยหรอ HR บอกตามนั้นแหละฮ่ะ อิอิ...
ควย

185 Nameless Fanboi Posted ID:x8I0.e9ULE

>>178 >>179 ขอบใจมากสำหรับความเห็น สงสัยกูต้องรีบหาทางชิ่งโดยไวละ

186 Nameless Fanboi Posted ID:Zjs1SKtlW2

>>184 โบปกติ เงินเดือนขึ้นปกติ แต่กุได้โบก็จะลาออกแล้วล่ะ ไม่ไหว อยู่ที่นี่ต่อไปคงได้ประสาทแดกตายเข้าซักวัน

187 Nameless Fanboi Posted ID:edilahPP8s

>>184 โบไม่เคยได้อยู่แล้วเป็นปกติ เงินเดือนก็ไม่รู้จะขึ้น 3% ทั้ง บ.เหมือนปีที่แล้วป่าว ไดเรคเตอร์ท้อง อารมณ์แปรปรวน กลายเป็นคนทำงานแบบประสาทแดก อยากออกจังน๊า... ใจนึงก็อยากกลับไปทำงานกทม.แต่ชวนแฟนละแฟนไม่ยอมไปด้วย ว๊า...

188 Nameless Fanboi Posted ID:p5FhOsLBJJ

>>184 โบปรกติเงินเดือนขึ้นปรกติ แต่ปรกติกูขีดเส้นไว้ถ้าทำงานแล้วเงินขึ้นน้อยกว่า 10% กูชิ่งล่ะ

ปัจจุบันทำที่เดิมมาหลายปีแล้วเพราะมันขึ้นเกิน 10% ทุกปี แต่ปีนี้ปริ่มๆ อาจจะอยู่เป็นปีสุดท้าย เพราะหลังจากหัวหน้ากูออกไปปีนึง กลายเป็นเหี้ยอะไรไม่รู้ยัดงานมาให้ยังกะกูกลายเป็น HM กลายๆ เรื่องอะไรก็ให้กูตัดสินใจหมด กูผมเครียสจนผมร่วงแล้วนะฮือ จะลาก็ลาไม่ได้ทั้งที่วันลากูสะสมจนสามารถลาได้ 2 เดือนด้วยซ้ำ ;_;

189 Nameless Fanboi Posted ID:dedXOFvkqR

เบื่อทำงานวันเสาร์ แบตกูหมดแล้วจ้า อยากอยู่บ้านพักผ่อนใจจะขาด วันนี้ทีไรได้ทำงานอย่างเบลอๆทุกที

190 Nameless Fanboi Posted ID:pIUfd3wonR

>>189 555 กูก็จะบ่นพอดีว่าเบื่อทำงานวันเสาร์ ... กูทำงานเสาร์เว้นเสาร์ยังเหนื่อยแทบขาดใจเลยสาด

191 Nameless Fanboi Posted ID:ZCz6k4nqfN

ถามโม่งวัยทำงานหน่อย พวกพี่ๆมีวิธีรับมือกับการทำงานบรรยากาศกดดันๆกันยังไงอะ ทั้งจากคนกับจากงาน

192 Nameless Fanboi Posted ID:4/Q+GtAlvb

>>191 ไม่มีเหมือนกัลล์ กำลังจะลาออกเพราะทนไม่ไหวอยู่เนี่ย ห้าๆๆ

193 Nameless Fanboi Posted ID:V7bS8x+iPb

>>184 เป็น outsource ไม่มีโบนัส เรื่องขึ้นเงินเดือนก็กำลังคิดอยู่เนี่ยว่าจะลองขอ HR ดีมั้ย
เพราะที่นี่เหมือน outsource เค้าจะไม่ขอพร่ำเพรื่อกัน แล้วปีที่แล้วกูขอไปแล้วทีนึง

194 Nameless Fanboi Posted ID:PNQUFV/GnZ

>>191 ทนจนกว่าจะทนไม่ไหว ตอนอยู่ที่เก่าคือทนทุกข์ทุกอย่าง ได้แต่ถามตัวเองในกระจกซ้ำๆจะต้องทนถึงเมื่อไหร่ ได้แต่ตอบตัวเองไปเรื่อยๆว่าก็แค่ทนอีกวันน่ะ จนมันถึงวันที่รู้ตัวแล้วว่า มันถึงเวลาเลิกทนได้แล้วพอกันทีที่แบบนี้

195 Nameless Fanboi Posted ID:qK6raBZsxo

>>183

196 Nameless Fanboi Posted ID:qK6raBZsxo

>183 พอดีกูกะว่าจะไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่ญี่ปุ่น คำนวนจากอายุกู + เรียนภาษา +เรียนต่อป.โท = 30ขวบ จะยังหางานทำที่นู่นได้อยู่ป่าว
สมมุติเรามีวุฒิป.โทของญี่ปุ่น ได้ TOEIC 700+ ประสบการณ์ทำโรงงานในไทยแต่เป็นแบรนด์ดังมากๆที่ญี่ปุ่น

197 Nameless Fanboi Posted ID:kdXI3.sQpO

ยุ่น อยู่ยากจะตายตอนนี้ มึงจะไปอยู่อีกเนยอะแถม ไกจิน นี่โครตต่ำพอๆกะจัณฑาณ

198 Nameless Fanboi Posted ID:l8+ofl5nOM

>>197 ฮาปปุแบบกูคงยากแค่ช่วงแรกๆแหละ ยังไงก็ดีกว่าทำงานจ่ายภาษีอยู่ในประเทศกูมี

199 Nameless Fanboi Posted ID:KdCXamjdN1

>>197 ต้องบอกว่าแล้วแต่ที่ว่ะ
กูไม่ได้อยู่เมืองหลวง ค่าครองชีพก็ไม่ได้ลำบากมากมาย
บ.ก็ค่อนข้างเปิดกว้างสำหรับคนต่างชาติ ก็ไม่ได้มีสถานะเป็นจันฑาลเหมือนมึงว่านะ

200 Nameless Fanboi Posted ID:+0glSCF+4l

แล้วในนี้มีใครทำอยู่สิงค์โปร์บ้างมั้ย บอกทีน่าตามไปหรือเปล่า

201 Nameless Fanboi Posted ID:sk5k3ESSNC

เพื่อนโม่งอายุ 30 ควรได้เงินเดือนเท่าไหร่ดี

202 Nameless Fanboi Posted ID:.zhZyGHfMd

>>201 แบบคนโคตรธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่นทำงานเป็นสตาฟถึงระดับซุปทั่วไปก็ 25-50k
แบบพวกเด็กม.ดังจบนอกเก่งได้ภาษาคอนเนคชั่นดีอายุเท่านี้ก็ได้เป็นเมเนเจอร์ในบ.ข้ามชาติแล้วก็ 70-150k
มากกว่านี้คือพวก extraordinary ประมาณไม่ได้แล้วแต่เคสไป

203 Nameless Fanboi Posted ID:0sjfWUtnLj

>>196 คือหมายถึงตอนนี้ยังไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลยเหรอวะ ถ้างั้นกูว่ามึงไปจีนดีกว่ามั้ย ยุ่นถ้ามึงไม่มีพื้นเลยแล้วต้องไปฟาดกะพวกเก่งเมพภาษาแม่งยากอยู่นะ ส่วนถ้าจีนศก แม่งโตขึ้นทุกวันอะ บริษัทขยายเรื่อยๆ โอกาสได้งานมีมากกว่า แล้วถ้าทำงานในพวกบ ต่างชาติที่จีนนี่อย่างน้อยยังเจอต่างชาติเยอะ อาจจะปรับตัวง่ายกว่าสังคมยุ่นก็ได้

204 Nameless Fanboi Posted ID:.zhZyGHfMd

ฮาปปุก็มีหลายแบบ ถ้าเป็นฮาปปุแบบเกิดไทยโตไทยภาษาญี่ปุ่นกระท่อนกระแท่น เค้าก็ไม่นับมึงเป็นพวกเดียวกับเค้าอยู่ดี ที่บริษัทกูมีทั้งฮาปปุและไกจินเดินกันให้ว่อน ถ้าคนไหนพูดญี่ปุ่นแบบไกจินก็จะโดนมัดรวมอยู่ในกลุ่มไกจิน ไม่ถึงขั้นชนชั้นจัณฑาล แต่ยังไงก็ถูกปฏิบัติแบบคนวงนอกอยู่ดี แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ไม่ต้องแคร์ ยิ่งถ้าทำบ.อินเตอร์ยังไงก็มีเพื่อนต่างชาติอยู่แล้ว

205 Nameless Fanboi Posted ID:5BhAHWt.hP

>>201 มึงควรจะได้เงินเดือนตามความสามารถมึงอะ 20,000-30,000ทั่วๆไป แต่ถ้ามึงเก่งมากๆก็ได้เยอะ

206 Nameless Fanboi Posted ID:8ZLrP/188j

>>204 ขอบใจมากมืง กูเป็นฮาปปุเกิดไทยโตไทยแหละ แต่มีญาติอยู่ที่ญี่ปุ่น เลยวางแผนว่าทำงานเก็บเงินอีกสักปีจะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นละตั้งต้นทำงานใช้ชีวิตอยู่นู่นไปเลย เป็นเพราะหลังๆมานี้กูเบื่อชีวิตในประเทศกูมีว่ะ เหมือนทำงานจ่ายภาษีทิ้งเปล่าๆ อยู่นู่นกฎเกณฑ์มันเยอะงานหนัก ทำงานแบบเดือนชนเดือนไม่เห็นดวงตะวันกูว่ากูรับได้นะ เพราะคิดว่าไงๆชีวิตนี้คงทำงานเป็นซาลารี่แมนจนแก่แหละ อย่างน้อยเวลามีครอบครัวก็มีครอบครัวในสังคมที่มันโอเคขึ้นมาหน่อย

207 Nameless Fanboi Posted ID:qdg0Zj54Cc

พรุ่งนี้ สัมภาษณ์งานครั้งแรก ปกติเค้าสัมกันกี่นาทีอะ

208 Nameless Fanboi Posted ID:en+e5UFFas

สังคมทำงานญี่ปุ่นเป็นไงไม่รู้ แต่เพื่อนไปทำงานเยอะมาก เงินเดือนตีเป็นไทยตก 5-6 หมื่น เห็นแฮปปี้กันดีนะ รวมถึงคนที่แอบปิ๊งด้วย 55555 ถ้าโม่งบอกที่โน่นกีดกันจะภาวนาให้เบื่อกลับไทยมาอยู่กับเราซักที 5555

209 Nameless Fanboi Posted ID:MASdfbQq4Y

>>207 แล้วแต่ที่นะ อยู่ที่ว่าพอเค้าถามแล้วเราตอบยาวมั้ยด้วยอะ สมมติพูดๆ ไปแล้วตรงกับเรื่องที่เค้าอยากรู้ต่อพอดี ก็อาจจะถามไม่เยอะ

210 Nameless Fanboi Posted ID:y0s5PBDMun

>>208 เทียบค่าเงินเฉยๆไม่ได้ ค่าครองชีพที่นู่นแพงกว่าไทย ถ้าเทียบแบบคำนึงถึงค่าครองชีพ เรตเท่านั้นเหมือนได้18-20k ที่ไทยเองนะ เรตเด็กจบใหม่ธรรมดาๆเลย

211 Nameless Fanboi Posted ID:Q9fG.dEWIw

>>209 ขอบคุณฮะ
อีกสามสิบนาทีจะสัมภาษณ์แล้วโว้ยยย

212 Nameless Fanboi Posted ID:P1z3Bd64uu

>>211 ขอให้โชคดี

213 Nameless Fanboi Posted ID:s/rrnotfWq

อันนี้อาจไม่เกี่ยวกับงาน เเต่อยากถามอะไรหน่อยว่ะ
คือกูมีญาติกูที่เเบบชอบถามชอบเสือกว่า ทำงานอะไร เงินเดือนเท่าไร ชีวิตเป็นไงมั่งอะไรเเบบนี้ตลอดทุกครั้งที่เจอกัน
เเล้วที่เเย่คือไอญาตินี่เเม่งก็ชอบเปรียบเทียบ เเบบทำมาปีนึงเเล้วเงินเดือนขึ้นนิดเดียวบลาๆ ดูลูกสิดูพี่คนนู้นนี่นั่นไรงี้ กูเลยรู้สึกโคตรรำคาญมาก เเต่ก็ไม่อยากอะไรกับญาติผู้ใหญ่

อันนี้อยากถามเป็นสกิลหน่อยว่ะ ถ้าสมมุติมีคนชอบถามเเบบนี้ ควรจะเลี่ยงตอบอย่างไรให้ไม่น่าเกลียดวะ เเบบตอบเเล้วผู้ฟังจะไม่อยากถามต่อหรือไม่ดูถูก เรื่องเงินเดือนนี่มันก็เรื่องSensitiveด้วยใช่ปะ ปกติกูก็ไม่ได้บอกใครนะ บอกเเค่เพื่อนสนิทๆที่ไว้ใจได้

214 Nameless Fanboi Posted ID:LQG92S2jGn

>>213 กูก็มีญาติเหี้ยแบบนี้ที่เสือกกะทุกเรื่องในชีวิตกู วิธีของกูคือ ไม่ว่ามันจะพูดอะไรมาก็แค่ยิ้มให้เเล้วเงียบเเม่ง จะนั่งบี้มดเหม่อมองฟ้าไรก็ได้ให้ญาติรู้สึกเหมือนคุยกะตอไม้ ถ้ามันถามซ้ำซากก็ยิ้มให้อีกทีสวยๆ เดี๋ยวมันเบื่อมันก็หยุดไปเอง

215 Nameless Fanboi Posted ID:6yeCyCbxhL

>>213 ไม่มีทางที่จะรักษาน้ำใจด้วยและเราพอใจด้วย ปากเค้าเป็นอย่างงั้น ยังไงก็หาเรื่องมาข่มอยู่ดี งาน -> เงิน -> บ้าน -> รถ -> แฟน -> แต่งงาน -> ลูก ->ไปเรื่อยๆ คือหาอะไรมาข่มได้ก็จะคุยอันนั้นไม่หยุดอะ

กูมีญาติคนนึงเว้ย timeline แกแม่งฮามาก
มันเริ่มที่ประมาณม.ต้น กูเรียนรร.ตจว ลูกแกก็ตจว กูชอบอ่านการ์ตูน - ด่ากูทุกวัน อ่านทำไมการ์ตูน ไร้สาระ
เกรดกูออกมาเท่าๆกับลูกแก - เลิกพูดเรื่องเกรด แขวะกูเรื่องไม่ค่อยมี activity นอกบ้านแทน
กูเข้าม.ปลายดังในกทมได้ - เลิกถามเรื่องเรียน
ลูกแกต่อนอก - กลับมาข่ม (ข่มทำไมวะ ก็แค่เอาเงินเก็บมาจ่ายค่าเทอมแพงๆ ใครๆก็ทำได้ป้ะ?)
กูเข้าม.รัฐคณะค่อนข้างดังได้ - อวดน้อยลง
กูจบ ทำงาน ลูกแกยังไม่จบ - เงียบกริ๊บ
time skip มาตอนลูกแกได้ปั๋วรวย - ชั้นภูมิใจกับลูกคนนี้เหลือเกินนนน
ม.ต้นกูเหม็นแม่งมาก เครียดมาก แต่ประมาณม.5กูเริ่มบรรลุ แล้วก็อืมๆกับแกมาตลอดตั้งแต่บัดนั้น ยาวๆไป

216 Nameless Fanboi Posted ID:6yeCyCbxhL

แต่มึงควรไปถามใน มู้ปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้องมากกว่านะ

217 Nameless Fanboi Posted ID:s/rrnotfWq

โทษทีว่ะ งั้นเปลี่ยนเป็นถ้าเป็นคนในบ.ชอบถามกันเรื่องเงินเดือนนี่ทำไงวะ

218 Nameless Fanboi Posted ID:P1z3Bd64uu

>>217 กูบอกปัดว่าตามกฎบ.เขาไม่ให้พูดเงินเดือน
แรกๆกูก็โดนถามบ่อยอะ พอกูไม่บอกก็ทายกันใหญ่เลยเด้อ เท่านี้ใช่มั้ย เท่านี้ใช่มั้ย บางทีก็ทายกันซะเวอร์ซะจนกูเกือบหลุดบอกไปแล้วว่าไม่ถึงขนาดนั้น แค่...ต่างหาก ดีนะกัดฟันเบรกไว้ทัน ถ้าปฏิเสธหนักแน่นเข้าไว้พอผ่านไปนานๆเขาก็ไม่ถามกันละ ขี้เกียจถาม

219 Nameless Fanboi Posted ID:QmGx4ThES7

>>217 ในบริษัทไม่มีกฏห้ามพูดถึงเรื่องเงินเดือนเหรอวะ ของกูมีกฏนะ ไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องเงินเดือนกันเลย เฉียดสุดก็คุยเรื่องภาษีกัน แล้วใครจะเอาไปเดาเงินที่ได้ต่อก็แล้วแต่

220 Nameless Fanboi Posted ID:F70isfy3+4

อีดอก กูเจอทิ้งบอมป์ทิ้งงานไว้ให้กูทำว่ะ แล้วไม่ใช่ธรรมดา คืออีนี่คนโปรดเมเนเจอร์ ทำงานฟิลเดียวกะกูแต่ไม่ชอบขี้หน้ากู
คืองานกูมันก็มี procedure ของมันอยู่ต้องทำอะไรมั่ง ทีนี้อีนี่ดันไปคุยกะเมเนเจอร์ว่าให้พวกกู+มันทำนู่นนี่นั่นเพิ่ม เมเนเจอร์เออออบอกดีๆ ทำเยอะๆ
พวกกูไม่เห็นด้วย คือแม่งโคตรเยอะทำไม่ทันแน่ๆ แต่อีนี่กระต่ายขาเดียวว่าทันๆ ไม่มีปัญหา พวกกูตะงิดๆ คือมึงก็ไม่น่าทำทันป่ะ

มาถึงบางอ้อวันนี้ คือแม่งขอเมเนเจอร์ย้ายไปทำส่วนอื่น ส่วนพวกกูเจองานหนักโคตร แล้วแม่งย้ายแบบไม่บอกใคร ควยเหอะมึง
ส่งสัยถึงเวลาลาออกแล้วล่ะว่ะ ขอกูหางานใหม่ก่อนเหอะสัด

221 Nameless Fanboi Posted ID:SvyOXUwar8

ถามหน่อยพวกบริษัทใหญ่ๆหรือทั่วไปก้ได้นี่ถ้ารับคนเข้าทำงานเขาดูโหงวเฮ้งกันป่ะวะ พอดีจะทำเคสสตัดดี้เกี่ยวกับความเชื่ออ่ะ ละบริษัทนี่มีคนจีนมะหรือเชื่อกันต่อๆมา ขอบคุณมากก

222 Nameless Fanboi Posted ID:mnmIVfSuKQ

มีใครเบื่องานแต่ยังไม่ออกซักทีเพราะไม่อยากเสียเพื่อนในที่ทำงานมั้ยวะ แม่งงี่เง่าเกินป่าววะ(กู) ยิ่งอยู่ยิ่งเกลียดบริษัท แต่ยังอยากมากินข้าวเม้าท์มอยไปเที่ยวตจว.กินหมูกระทะกันบ้างกับเพื่อนที่สนิทๆ ในแผนก เพื่อนสมัยมหาลัยก็ห่างกันจนเลิกคบกันไปหมดแล้ว ถ้าไม่มีแก๊งค์นี้อีกกูคงจะเหงา เฮ้อ..

223 Nameless Fanboi Posted ID:gD6jpZrT41

>>221 กูตอบเลยว่าบางบริษัทมีดูโหวงเฮ้ง เหมือนเป็นความเชื่อน่ะ อย่างพวกตัวเลขหรือสีที่เหมาะสมก็มี แต่อย่างว่าแหล่ะขึ้นกับผู้บริหารล้วน ๆ บริษัทกูแม่งมีแจกผ้ายันต์ด้วยนะมึง

224 Nameless Fanboi Posted ID:OhM5DBf0+C

>>222 กูว่าก็ไม่งี่เง่านะ ก็มันความผูกพันธ์ระหว่างเพื่อนอะ ถ้ามึงไปอยู่ที่อื่นแต่ยังคบกับเพื่อนกลุ่มนี้ได้สนิทใจกันเหมือนเดิมก็ดีไป แต่ส่วนมากพอออกมาแล้วก็มักจะเริ่มห่างๆกัน

225 Nameless Fanboi Posted ID:FFKbFL5B7O

>>221 พี่กูทำกลุ่มบ.ใหญ่ที่มีคนจีน เค้าดูโหวงเฮ้งก่อนรับเข้าทำงานนะ
>>222 เหตุผลไม่น่าเกลียดหรอก เพื่อนร่วมงานกับบ.มันแยกกันอยู่แล้ว อยุ่เพราะผูกพันเพื่อนร่วมงาน แต่เกลียดบ.มีเยอะแยะไป อย่างกูอยู่เพราะสวัสดิการ แต่ตัวกูเองเกลียดเพื่อนร่วมงานบางคนว่ะ 555

226 Nameless Fanboi Posted ID:9kt5yLl/pe

>>225 บ.เก่า กูเกลียดหัวหน้า เกลียดเพื่อนร่วมงาน เกลียดสวัสดิการ เกลียดทุกอย่าง ยกเว้นลูกค้ากับพวกคนจากบ.อื่นที่ดีลงานด้วย คือไปๆมาๆกูดันได้กำลังใจจากคนนอกบ.แทนซะงั้น สุดท้ายเลยกัดฟันอยู่จนงานสุดท้ายจบถึงได้ออก ได้บอกลาคนรู้จักอย่างสบายใจ ส่วนบ.บ้านั่นกูภาวนาขอให้แม่งย่อยยับ ซึ่งมารู้ตอนหลังว่าได้ยับสมใจ 55555555555

227 Nameless Fanboi Posted ID:STrk/0DVZ3

บางทีแค่กูสัมภาษณ์ก็รู้สึกได้เลยนะ ว่ากูจะไม่ชอบหัวหน้าคนนี้ แอคเหลือเกิน รักองค์กรเว่อๆ

228 Nameless Fanboi Posted ID:RcJkLM7pxv

>>227 มึงคือโม่งที่มาสัมก่อนหน้านี้ปะ เขาอาจจะไม่แย่ก็ได้เว่ย ของแบบนี้ต้องดูๆ ไป ที่ควรดูตอนไปสัมภาษณ์คือวัฒนธรรมองค์กรเป็นยังไง คนทำงานส่วนมากสไตล์ไหน ก็ช่วยตัดปัญหาได้อยู่นะ แต่ถ้ามึงไม่มีเงินหรือจำเป็นต้องได้งาน ก็ก้มหน้าก้มตาทำไปก่อนเถอะ

229 Nameless Fanboi Posted ID:+iTGEP4csF

>>222 กูเคยเป็นเลย ตัดสินใจอยู่นานจะออกหรืออยู่ เพื่อนร่วมงาน-หัวหน้าเลี้ยงดูปูเสื่อกูอย่างดีอบอุ่นสัสๆ เเต่สุดท้ายเลือกออก เพราะตัวงานเเม่งทำกูเป็นซอมบี้ หลังออกมาก็เริ่มห่างเหิน คิดถึงเเต่ทำไรไม่ไ้ด้ละ เศร้า

230 Nameless Fanboi Posted ID:IAreLM8gwg

ช่วงนี้ใกล้สิ้นปีแล้ว เพื่อนโม่งได้โบนัสเท่าไหร่กัน เราได้แค่สามเดือนเอง น้อยกว่าปีที่แล้ว เซง!!!!

231 Nameless Fanboi Posted ID:v.d54sm3lo

>>230 โถ่มึง ได้แค่สามเดือน? ที่ผ่านมาบ.กูยังไม่เคยได้ถึงสามเลยนะเออ /เช็ดน้ำตา

232 Nameless Fanboi Posted ID:JsOnquL4FK

>>230 กูไม่มีโบนัสซักเดือนยังไม่อวดเลย

233 Nameless Fanboi Posted ID:rrtQsc+7eQ

โบนัสปีนี้ของกุ กุจะถือซะว่ามันคือเงินชดเชยเลิกจ้างละกัน...ลาก่อย

234 Nameless Fanboi Posted ID:+/KpqORlZw

โบนัสคืออะไรวะ

235 Nameless Fanboi Posted ID:nLI2M5LzD+

>>234 การที่เจ้านายให้ร่วมเพศเป็นรางวัล หน่วยเป็นเดือน โบนัส 3 เดือน คือได้ 3 น้ำ

236 Nameless Fanboi Posted ID:xlrKEa2pGR

>>230 มึงต้องไม่เคยได้โบนัสอย่างกูนี่ จะได้ไม่เซ็ง หึ!

237 Nameless Fanboi Posted ID:rc75ABwpUl

เพื่อนโม่งซาลารี่แมนคิดจะรีไทร์ตัวเองตอนกี่ขวบแล้วคิดว่าควรมีเงินเก็บเท่าไรดี หรือเก็บเงินก้อนไปตายเอาดาบหน้าประเทศอื่นตอนอายุเท่าไร

238 Nameless Fanboi Posted ID:7jQdL1+qJu

ถ้าอยากลองอะไรแปลกๆ ให้รีบทำก่อน 30 เพราะถึงมึงหมดตัว อายุเท่านี้รอบตัวมึงก็ไม่มีเงินกันเยอะแยะไม่แปลกอะไร สำคัญคือห้ามทำแล้วหนี้สินล้นพ้นตัวเด็ดขาด

แต่ถ้าอายุมากกว่านั้น มีภาระ มีครอบครัว ขอตอบเลยว่า
การเก็บเงินก้อนไปตายเอาดาบหน้า คือ ความคิดโง่ๆ ที่รักสบายชั่ววูป ว่าทำงานประเทศอื่นแล้วดีกว่าเก่า ไปจริงแล้วปากกัดตีนถีบกว่าเดิมเยอะจนมึงคิดเสียดายเลย คนประสบความสำเร็จมีแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่เหลือล้มเหลวกับทรงตัวแย่กว่าเดิมเยอะ ถ้าอยากไปทำต่างประเทศไม่ใช่ออกมั่วซั่ว แต่คือมึงต้องหางานต่างประเทศที่มั่นคงได้แล้วไปทำด้วยตัวเองมากกว่า

ส่วนถ้าคิดอยากจะรีไทร์ตัวเอง แนะนำให้มึงลองเปลี่ยนงานดีกว่า รีไทร์ไว้ใช้ตอนมึงแก่ทำงานไม่ไหว แต่ถ้าคิดออกมาทำธรุกิจตัวเองก็คือมึงต้องได้เงินจากธุรกิจนั้นจนมั่นคง แล้วทำงานคู่กับงานปรกติแล้วเสียโอกาส มากกว่าที่ทะลึ่งออกโดยไม่คิดอะไร ถ้าคิดหวังน้ำบ่อหน้ามึงได้ออกมาแล้วเป็นนีท และกลับไปทำงานประจำตอนเงินหมดแทนแน่นอน

239 Nameless Fanboi Posted ID:vwk2Stfcz4

เพื่อนโม่ง กูถามหน่อยดิ ลูกค้าส่งของมาให้แล้วติดกรมศุลกากรอยู่ตอนนี้ ถ้าเกิน 20,000 บาทต้องทำอะไรบ้างวะ คือแค่เอาใบเขียวไป declare กับที่กรม ? ใครมีประสบการณ์ด้านนี้มั้ยมึง วันนี้กูลองโทรไปหาที่กรมละ พูดจาหมาไม่แดกมาก

240 Nameless Fanboi Posted ID:CYY8Xccf7Q

>>ขอบใจมากมึง ตอนนี้กู26ละ กำลังคิดว่าจะเอาไงต่อกับชีวิตดีแม่งโคตรสับสนมากๆ กูเข้าช่วง Midlife crisis ไวไปป่าววะ

241 Nameless Fanboi Posted ID:CYY8Xccf7Q

>>238 ลืมแปะเลขโทดๆ

242 Nameless Fanboi Posted ID:bz.XX3e.c0

>>240 นี่ไม่ใช่มิดไลฟ์ การที่วัยทำงานมองหาอนาคตเป็นเรื่องปกติ

243 Nameless Fanboi Posted ID:bz.XX3e.c0

อยากลาออกกลับไปทำฟรีแลนซ์เหมือนเดิม แต่ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้มันเสี่ยงเกินไป ติดกับดักเงินเดือนเข้าแล้ว

244 Nameless Fanboi Posted ID:aWkx8UyeK3

>>240 เพิ่งจะ 26 มึงเอาอะไรมามิดไลฟ์วะ กูว่ามึงอยู่ระหว่างเพื่อนที่แม่งดูประสบความสำเร็จมากๆ ชีวิตดีชิบหาย พอกลับมามองตัวเองก้มหน้าก้มตาทำงานไปวันๆ เลยรู้สึกเหนื่อยกะสิ่งที่ทำอยู่เฉยๆ เปล่า

245 Nameless Fanboi Posted ID:ZMl8YQ9wTW

>>244 หลายๆคนคือ ชนชั้นกลางรุ่น2 ไม่ต้องดิ้นรนหาซื้อบ้านหรือไรมาก บางคนมีรถตั้งแต่เรียนด้วยซ้ำ ชีวิตเลยดูดี เหลือตังไว้เที่ยวเยอะ

246 Nameless Fanboi Posted ID:bz.XX3e.c0

>>245 กูเคยเป็นแบบนั้น(แต่ไม่มีรถนะ)จนถึงวันที่แม่ตาย ชีวิตแม่งเปลี่ยนเลย เหมือนเพิ่งตื่นมาเห็นความเป็นจริง แทบไม่เหลืออะไรเป็นชื่อตัวเอง ทุกวันนี้ใช้หนี้ของที่บ้านหมดแล้ว ก็ต้องดิ้นรนหาสร้างของตัวเอง เสียดายตังค์ที่เคยเอาไปเที่ยวเล่น แต่ก็เป็นได้แค่บทเรียน

247 Nameless Fanboi Posted ID:O8Kv7LWvWS

>>243 นึกว่าร่างแยกกูมาพิมพ์ แต่กูว่ากูไม่ไหวแล้วว่ะ แค่จะอดทนอยู่ในถึงวันโบนัสออกยังต้องข่มใจแทบทุกวัน จะเดินไปเอาใบลาออกกับ HR หลายรอบละ พยายามท่องคำว่าอดทนไว้เพื่อเงินแสน กะว่าต้นปีหน้าจะออกมาซักพัก เคลียร์งานที่รับมาหมดให้เรียบร้อย(อดีตเป็นงานฟรีแลนซ์ ปัจจุบันเป็นงานเสริม อนาคตคงเป็นงานฟรีแลนซ์อีกรอบ) อาจจะไปเที่ยวตปท.ใกล้ๆ ที่ไม่แพงมากซักที่ แล้วค่อยกลับมาหางานใหม่และทำฟรีแลนซ์ไปพลางๆ จนกว่าจะหางานใหม่ได้

248 Nameless Fanboi Posted ID:bz.XX3e.c0

>>247 จริงๆ ตอนยังไม่ลาออกมึงก็ลางานไปเที่ยวได้นะ เวียดนามก็โอเคไม่แพง เผื่อได้พักแล้วจะกลับมามีแรงอดทนต่อได้อีกหน่อย

249 Nameless Fanboi Posted ID:CYY8Xccf7Q

>>244 มันก็ส่วนนึงแหละที่กูมองเพื่อนอัพชีวิตดีลงโซเชี่ยลแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ แต่งานในปัจจุบันก็ไม่ได้แย่อะไรมีเส้นทางเติบโตชัดเจน
ตอนนี้กูมีหนี้คือผ่อนบ้านให้แม่แค่นั้น ถ้าจะดาวน์รถออกมาขับก็สบายๆแต่ขี้เกียจผ่อนเพราะขี่มอไซค์ไปทำงาน15นาทีถึงและ แต่กำลังกูสับสนในอนาคตอยู่ว่าทำงานกินเงินเดือนเรื่อยๆปีหน้าเรียนป.โทเพิ่มบวกทำงานไปด้วยกลับมาอัพตำแหน่งอัพเงินขึ้นไปอีกแต่สโคปงานก็คงเดิมๆไปเรื่อยๆจนแก่หรือทำงานเก็บเงินเก็บโอทีเยอะๆไปเลยสักไม่เกินสองปีแล้วไปเรียนต่อต่างประเทศหาลู่ทางทำงานต่อซึ่งในสายงานกูมันก็พอไปได้อยู่และถ้าไปกูก็มีภาษีดีตรงได้สามภาษาหางานคงได้งานเงินพอใช้ได้อยู่ อารมณ์ตอนนี้มันแบบจะเลือกทางสบายๆค่อยๆเป็นค่อยๆไปในประเทศตัวเอง หรือเลือกไปท้าทายสิ่งใหม่ๆในประเทศอื่นดีกว่าวะ ซึ่งตัวกูมีคำตอบอยู่ในใจละว่าอยากไปข้อสอง แต่บางทีก็กลัวตัดสินใจพลาดแล้วมันแก้ไขไรไม่ได้ว่ะ

250 Nameless Fanboi Posted ID:O8Kv7LWvWS

>>248 ขอบคุณนะ แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะเอาเวลาตอนไหนไปลาดี ทั้งงานประจำและงานเสริมช่วงนี้โหลดมาก ถ้าได้ลาไปพักคงรู้สึกดีขึ้น แต่พอกลับมาทุกอย่างก็คงเหมือนเดิม เหมือนเดือนตุลาที่มีวันหยุดเยอะหน่อย รู้สึกดีมาก ได้พัก รู้สึกมีแรงมาก ตอนนั้นคิดว่าเอาวะ เราอาจจะสู้ต่อไหว แต่พอกลับมาทำงานเท่านั้นแหละ ความรู้สึกเดิมๆ ก็กลับมา เพราะทุกอย่างมันเหมือนเดิม

251 Nameless Fanboi Posted ID:o045UFRstb

กูอยากถามความเห็นหน่อยได้ไหม กูเป็นเด็กเพิ่งจบมา2ปี ตอนนี้ทำฟรีเเลนซ์ส่วนตัว กูมีรายได้ฟรีเเลนซ์ประมาณ 7000-40000 กูมีความสุขกับชีวิตดีเพราะว่ามันจัดสรรเวลาได้ง่าย อยากทำอะไรก็ทำพอได้เเต่ข้อเสียคือรายได้มันไม่คงที่ บางเดือนไม่มีลูกค้าเลย บางเดือนก็ได้เยอะมากๆ เเล้วเเต่เดือน บางเดือนเยอะบางเดือนน้อยกูเคยทำงานประจำปีนึงรายได้ประมาณ 18000 บวกรวมๆเเล้วได้สองหมื่นกว่าๆ เเต่กูรู้สึกว่ามันเหนื่อยเเละเครียดมาก รู้สึกไม่ชอบเลย บางวันงานไม่มีก็รู้สึกว่านั่งเสียเวลาไปวันๆ ไม่สามารถทำอะไรได้ เเต่ฟรีเเลนซ์ที่ทำนี่จัดสรรเวลาตื่นนอนเองได้ มีเวลาทำอะไรหลายๆอย่าง

เเต่พอเริ่มเเก่ๆขึ้น 25 26 กูก็รู้สึกว่ามันเหมือนต้องเลือกสักทาง คือถ้ากูทำงานประจำมันคงมีเวลามาทำฟรีเเลนซ์น้อย เเถมเงินเดือนขึ้นทุกปี มีโบนัส

กูอยากถามพวกพี่ พวกมึงหน่อย ว่าถ้ามีความคิดจะทำงานฟรีเเลนซ์นี่ควรจะได้รายได้คงที่ +เยอะกว่างานประจำใช่ไหมถึงควรจะทำ เพราะไม่งั้นมาลองคิดดูถึงความก้าวหน้า ถ้าเงินเดือนมันเเกว่งๆเยอะเเบบนี้ถึงจะได้เยอะบางเดือน ได้สุขภาพจิต เเต่ว่าสวัสดิการ ความมั่นคงอะไรมันไม่มีเลย..

252 Nameless Fanboi Posted ID:Hk4nj9hoK3

กูอายุ 26 เงินเดือนสองหมื่น ทำงานอารีย์ จะซื้อบ้านแถวๆนนทบุรี ราคาประมาณ​ล้านห้าถึงสองล้าน แล้วซื้อรถด้วยเพื่อขับเข้ามาทำงานในอารีย์ หรือจะซื้อบ้านในเมืองซึ่งราคาอยู่ที่ห้าล้านกับบ้านกากๆ แต่ไม่ต้องซื้อรถ
แบบไหนจะดีและคุ้มค่ากว่ากันวะเพื่อน

253 Nameless Fanboi Posted ID:io4C17qhFY

>>252 ถ้ากะอยู่ในเมืองและไม่ไมน์รถติดก็เอาบ้านในเมือง ส่วนตัวออกเร็ว ๆ รถไม่ติดได้บ้านดี ๆ มันก็โอเคนะ เรื่องนี้ค่อนข้างใหญ่คิดเยอะ ๆ สุดท้ายแล้วให้มึงลองนึกภาพมึงต่อจากนี้ดูนะ มึงบอกเงินเดือนสองหมื่น ผ่อนอย่างต่ำเดือนละหมื่นไม่รวมรถ ค่าน้ำมันเอยอะไรเอย แต่ข้อดีคือมึงไปไหนก็ได้ บ้านไม่กาก ถ้ารถไม่ติดสภาพชีวิตมึงจะดีมาก

ส่วนอันหลังห้าล้านก็ตามนั้นไม่ต้องมีรถบ้านกาก ๆ แต่ห้าล้านกว่าจะผ่อนหมด

254 Nameless Fanboi Posted ID:3fFXGxFTYi

>>252 เงินเดือนสองหมื่นมึงกู้บ้านไหวหรอวะ เดือนๆ นึงจะเหลือตังค์ใช้เท่าไหร่ แล้วทำไมต้องเป็นบ้านอ่ะ คอนโดเส้นรถไฟฟ้าไปก่อนมั้ยไม่ต้องซื้อรถ หรือเป็นกูเองที่เงินเดือน 32k แต่เสือกกลัวการกู้ซื้อบ้านวะเนี่ย? (ของกูต้องเป็นบ้านเพราะมีแมว)

255 Nameless Fanboi Posted ID:Xfyjpmf5vF

>>254 กูเห็นด้วยกับมึงนะ กูว่า 20k ยังน้อยไป ส่งบ้านแล้วจะเหลือเงินทำอะไรวะนะ ภาระอื่นๆ ค่ากินอยู่ ค่าเดินทางอีกล่ะ เพื่อนสนิทกูเงินเดือน 40k อายุ 23 จะผ่อนคอนโดแม่งยังคิดแล้วคิดอีกเลย

256 Nameless Fanboi Posted ID:U2qWpTYCtV

>>254 ไม่อยากอยู่คอนโดอ่ะ มันเอามาทำไรต่อไม่ได้เลยนอกจากอยู่ แออัดคับแคบ ทำสวนก็ไม่ได้ แถมราคาก็แพง ซื้อบ้านกูมองว่าคุ้มค่ากว่า มีความสุขกว่าอ่ะ

257 Nameless Fanboi Posted ID:8lxIP7Ts7B

>>256 อยู่ที่นิสัยมึงแล้วอ่ะแบบนั้น สายคอนโดมันจะประมาณชอบความเป็นส่วนตัวไม่ค่อยจะต้องไปมีปัญหากะข้างๆบ้าน เดินทางสะดวก (ตอนเช้าๆรถติดน่ะนะ)

258 Nameless Fanboi Posted ID:pqdDmG9y+O

>>252 นอกจากรสนิยมฝั่งมึง มึงควรศึกษาอีกฝั่งด้วย
สินเชื่อที่อยู่อาศัย 1.6M ผ่อน 30 ปี(max) ตกเดือนละ 9-10K ขึ้นอยู่กับดอกของแต่ละธนาคาร
ประเมินความสามารถในการผ่อน = เงินได้ต่อเดือนหลังหักยอดผ่อนอย่างอื่นที่มีอยู่แล้ว *30%
แปลว่าคนที่ไม่มีผ่อนรถหรือผ่อนหนี้อย่างอื่นอยู่ ต้องมีรายได้ประมาณ 30K เพื่อที่จะผ่อนคอนโด 1.7-2M ขึ้นอยู่กับจ่ายดาวน์ไปแล้วเท่าไร
ถ้าไม่ถึงก็กู้ร่วม ไม่ก็พนักงานต้องทำเอกสารให้มึงประมาณนึงเลยถึงจะผ่าน ลองเอาโปรไฟล์มึงไปลองคุยเล่นดูก่อน

259 Nameless Fanboi Posted ID:vCCM1XFqAp

ถ้างานการก้าวหน้าตลอดเกินปีที่สิบก็ชิวๆแล้ว

260 Nameless Fanboi Posted ID:bdmuNaHnHl

คอนโดกับบ้านโครงการจัดสรรแบบที่ค่าส่วนกลางโหดๆคือที่อยู่ที่กูไม่อยากจะจ่ายเลยจริงๆ ที่อยู่เหี้ยไรซื้อมาได้เองละต้องมานั่งจ่ายทีเดือนๆนึงเหมือนค่าเช่าหอพัก บางทีอยู่ไปอยู่มากลายเป็นสลัมแนวตั้ง แถมยังต้องมาจ่ายแพงอีก แค่นั้นไม่พอ ต้องมาปากหวานใส่นิติด้วยเพื่อให้เค้าดูแลห้อง/บ้าน เราให้ดีๆ โจรขโมยขึ้นห้องถามหน่อยเหอะว่าค่าส่วนกลางที่จ่ายๆไปมันช่วยให้กูได้รับเงินชดเชยไหมก็ไม่ ยาม รปภ. มีตามตึกมันไม่ต่างจากมีตำรวจโง่ๆไทยมาเดินไปเดินมาก็เท่านั้นอ่ะ นี่ยังไม่นับถึงที่อยู่โดนโกงวัสดุ ฝนตกเจอรั่วซึม ไฟฟ้าลัดวงจรจนใช้งานไม่ได้อีกนะ ถ้ากูมีรายได้ร้อยล้านพันล้านกูยอมซื้อนะ แต่กับรายได้ไม่ถึงแสนกูไม่อินจริงๆ

261 Nameless Fanboi Posted ID:8lxIP7Ts7B

>>260 ไอ้ที่มึงว่ามาบ้านสร้างเดี่ยวๆก็เจอไม่ใช่เรอะ - -
พวกที่อยู่คอนโดหรือบ้านจัดสันแล้วคุ้ม คือพวกใช้ส่วนกลางโว้ยพวกฟิตเนส สระว่ายน้ำน่ะ

262 Nameless Fanboi Posted ID:2cpbGs5d6W

ค่าส่วนกลางที่มึงจ่ายๆ ไปนั่นมันจะเอาไปลงก็จำพวกค่าบำรุงฟิตเนส บำรุงสระว่ายน้ำ ค่าจ้างยามหน้าหมู่บ้านอะไรทำนองนี้ ถ้าไม่อยากมีค่าพวกนี้มึงก็ต้องหาบ้านเดี่ยว หรือไม่ก็ทาว์เฮ้าส์ที่ไม่ได้สร้างในโครงการหรือหมู่บ้าน

เรื่องจ่ายค่าบ้านนั้นเท่าที่ฟังมาผู้ใหญ่กูสอนว่าอย่าให้เกิน 40% ของเงินเดือน ไม่งั้นจะลำบาก

แต่เรื่องจะเลือกคอนโดหรือบ้านนั้นขึ้นอยู่หลายปัจจัยอะ คนรู้จักข้างบ้านกูก็เคยซื้อคอนโดมาเพราะคิดว่าจะอยู่คนเดียว แต่พอ 30+ ปุ๊บเขาแต่งงานแล้วมีลูกไง เลยขายคอนโดแล้วซื้อบ้านในหมู่บ้าน เพราะจะได้อาศัยกันทั้งครอบครัว ซึ่งถ้ามึงคิดจะครองโสดไปตลอดกาลหรือไม่คิดจะมีลูก คอนโดก็เป็นหนึ่งในคำตอบที่ไม่เลว แต่ถ้าอยากจะปักหลักสร้างครอบครัวก็ซื้อบ้านเถอะ

263 Nameless Fanboi Posted ID:IOvdWSPcQg

กูรู้สึกว่าคอนโดมันชั่วคราวว่ะ แค่ช่วงไม่เกินสิบปีที่ต้องทำงานอยู่ในเมือง เพื่อความสะดวกในการทำงาน พอหลังจากนั้นถ้าตั้งตัวได้แล้วก็ขายออกไปอยู่รอบนอก(พร้อมรถ) แบบไม่ใช่วัยที่ต้องตอกบัตรเข้างานให้ตรงเวลาแล้วอ่ะ ไม่ก็ปลูกบ้านต่างจังหวัดแบบมีกิจการของตัวเองไปเลย

264 Nameless Fanboi Posted ID:mkLU/BYCyP

แนะนำซื้อที่เล็กๆ แถบชานเมืองหรือต่างจังหวัด เอาแบบพอปลูกบ้านได้ ราคาไม่กี่แสน ซื้อเก็บไว้พอวันนึงมีเงินพอ ก็ปลูกบ้านย้ายออกมาอยู่นอกกรุงเทพ

265 Nameless Fanboi Posted ID:WbNsf9H0Vm

>>263-264 แต่น่าคิดอยู่เรื่องนึงคือการซื้อไว้ปล่อยเช่า อันนี้จะโอเคมากถ้าเกิดเราอายุเยอะๆละแต่สามารถซื้อบ้านตามชานเมืองได้ก็เอาคอนโดในตัวเมืองนี่แหละปล่อยเช่าเก็บกินเอาแล้วแค่นี้คงแก้ปัญหาเรื่องความไม่ยั่งยืนได้ระดับนึง

266 Nameless Fanboi Posted ID:xgOUyUSLEV

>>265 เออจะว่าไป มีพี่ที่ออฟฟิศคนนึงแกมีคนโดปล่อยเช่า ส่วนตัวแกก็ไปเช่าคนอื่นอยู่อีกที แต่เป็นบ้านเช่านะ เพราะแกเลี้ยงแมวด้วยแหละเลยอยู่คอนโดไม่ได้ เห็นว่าต่อให้ขายคอนโดแกก็เอามาซื้อบ้านไม่ได้ แกเลยปล่อยเช่าคอนโดมาเป็นค่าเช่าบ้านคนอื่นอยู่อีกที ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคุ้มกันมั้ย

267 Nameless Fanboi Posted ID:+5mjWGWVRy

มีคนเป็นครูบ้างมั้ย อยากรู้ว่านักเรียนเขาอะไรกับการติ่ง การเป็นสาววายของครูไหมวะ กูหวีดได้แต่ 2D นะบอกไว้ก่อน เผื่อพวกมึงกลัวกูเป็นภัยสังคม กังวลว่ะ เด็กสมัยนี้เซนส์ดีจนกูตามไม่ทันแล้ว โรงเรียนที่กูไปฝึกสอนขนาดไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับรสนิยม เขายังรู้อะว่ากูชอบผู้หญิง รู้ได้ไงวะ นี่ก็กำลังจะไปบรรจุละ กลัวความลับแตก กังวลเกินไปละมั้ยนี่

268 Nameless Fanboi Posted ID:+5mjWGWVRy

>>267 เพิ่มเติม ติ่งของเล่น กันพลานะ ไม่ใช่ติ่งไอดอล

269 Nameless Fanboi Posted ID:E67h/z1VWa

พอมึงบรรจุ มึงจะยุ่งจนไม่มีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้ - -"

270 Nameless Fanboi Posted ID:E67h/z1VWa

ปล.จากโม่งเพิ่งบรรจุที่ต้องไปรร.มา 14วันรวด.......

271 Nameless Fanboi Posted ID:Q/3eo.pnGE

>>267 เด็กๆอะไม่คิด เดี๋ยวนี้ไม่มีเด็กที่ไม่เคารพเพราะครูมีงานอดิเรกแบบเด็กๆ หรือครูมรสนิยมทางเพศทางเลือกแล้ว ตรงข้าม เด็กจะรู้สึกสนิทกว่าเดิมด้วยซ้ำเพราะรู้สึกใกล้ชิดกว่า แต่มึงต้องขีดเส้นนะว่าตอนไหนเล่น ตอนไหนต้องจริงจัง
....แต่ครูผู้ใหญ่อะจะเป็นปัญหา

272 Nameless Fanboi Posted ID:OcyF/cghQ7

อาชีพครูข้าราชการสมัยนี้นี่ทำงานกันยังไงวะรีวิวหน่อย?

273 Nameless Fanboi Posted ID:xgOUyUSLEV

>>267 กูเห็นด้วยกับ 271 นะ เด็กสมัยนี้แนวโน้มเปิดกว้างกว่าครูชั้นผู้ใหญ่เยอะ มึงก็เป็นตัวเองไปนั่นแหละ แค่ไม่ทำไรโฉ่งฉ่างให้ครูผู้ใหญ่เอามาเป็นประเด็น ....หรือไม่ก็ช่างแม่งสายตาครูๆ ไปเลย 555

274 Nameless Fanboi Posted ID:oWfcQU1YiX

นายฝรั่งกูเรียกประชุมปลายปีบอกว่าตอนนี้ บ.เราอยู่ในสภาวะต้มกบนี่คือกูต้องเตรียมลู่ทางแล้วช่ะ -*- แม่ง 30 กว่าแล้วงานยิ่งหายากๆอยู่

275 Nameless Fanboi Posted ID:wqqpu9DbU/

โห้ ทำไมกูเห็นเงินเดือนพวกมึงหมื่นอัพกว่าๆง่ายจังวะ แถวบ้านกูอยากจะต่อขึ้นเป็นหมื่นนึงหืดแทบขึ้นคอ

276 Nameless Fanboi Posted ID:+SDKnFj8LH

>>275 แต่แถวบ้านกูข้าวราดแกง 50-60 บาทนะ

277 Nameless Fanboi Posted ID:U+GQjw7nxj

>>276 ของกู 35-40 เฉียดมั้ย

278 Nameless Fanboi Posted ID:P6YcpC2vgc

พวกมึ้ง ถ้าบ.ที่พวกมึงทำงานอยู่มันรับงานมาทำโดยที่บ.มึงไม่ชำนาญแต่ต้องรับเพราะไม่มีโปรเจ็คแล้วไม่มีเงินเลี้ยงพนักงาน
แล้วมึงมีประสบการณ์ทำงานด้านนี้มาก่อนมึงดูออกว่าบ.มึงพลาดเจ๊งยับแน่ๆ
โดยที่มึงโดนประเมินแย่ทั้งๆที่โปรเจ็คที่มึงทำก็ไม่มีปัญหา ทำกำไรได้ถึงจะงานเล็ก โบนัสน้อย ขึ้นเงินนิดเดียว
เป็นมึงมึงจะเข้าไปเตือนไม้วะว่าควรทำยังไง คือกูอยู่ในโปรเจ็คนี้ด้วยแหละ กูสามารถตามน้ำทำตามที่สั่งจนจบโปรเจ็คได้แต่เจ๊งยับแน่นอน
หรือทำตามที่บนๆสั่งมาโดยหางานใหม่รอเลย

279 Nameless Fanboi Posted ID:MBMl9+.VkY

>>278 กูว่าขึ้นกะความสัมพันธ์มึงกะบริษัทนะ ได้ทั้ง 2 แบบแหละ

280 Nameless Fanboi Posted ID:jTHtQqkx3A

บริษัทกูต้องเปลี่ยนแหล่งวัตถุดิบ ของก็จะชอร์ต ปกติก็ขาดทุนอยู่แล้ว ยิ่งต้องเปลี่ยนแหล่งวัตถุดิบต้นทุนยิ่งสูงอีก จากปกติขายของไปตปทตู้นึงขาดทุนหนักสุด 4-5 แสน แม่งจะหนักขึ้นอีก ก่อนนี้บริษัทแม่เคยประชุมกันเรื่องนี้ นายกูมาสรุปผลให้ฟังว่า "เราตกลงที่จะทำธุรกิจนี้ต่อ" (อ่าวไอ้เหี้ยคือไร ประชุมเรื่องเลิกกิจการหรอ) กำลังโดนเคลมมูลค่าความเสียหายสามร้อยล้าน(บาท) ยังรอสรุปผลอยู่
แต่บริษัทกูรักคนมาก ไอ้เหี้ยทำโอทีกันจนเสียภาษีเรต 20% (ลืมตัวโวยวายหาว่าบุคคลคิดภาษีผิดกูเลยรู้)
กูก็ลังเลนะ ทำๆไป เลียนแบบคนอื่นๆขยันรีดหน่อย เก็บเงินเรื่อยๆ รอแม่งเจ๊งเอา 10 เดือน ยังไงมันก็ต้องจ่ายเงินเรา
แต่อีกใจแม่งก็อยากออก เบื่อสังคม เบื่อการเห็นคนนั่งเล่นเน็ตจนสี่ทุ่มห้าทุ่มแล้วบ่นว่างานเยอะๆ
จะไปบริษัทใหม่ ก็อยากได้ใหญ่ๆมั่นคง แต่เขาไม่เรียกกูเลยว่ะ ที่เรียกมีแต่พวกเล็กๆบ้าง เพิ่งตั้งบ้าง เรียกไปทำตำแหน่งอื่นบ้าง ไม่ก็นอกเขตที่อยากได้ เพื่อนกูก็แขวะว่าหางานนานแล้วคงไม่ได้ออกแล้วล่ะ
อันนี้บ่นเฉยๆ กูคงหางานไปเรื่อยๆแหละ ได้ก็ไป ไม่ได้ก็ทำไปก่อน

281 Nameless Fanboi Posted ID:P6YcpC2vgc

>>280 ของมึงดีว่ะของกูนี่หาเรื่องรีดคนออกแบบไม่จ่ายซองรัวๆ ล่าสุดมีคนโดนเรื่องเซฟงานจาก SV ลงไดรฟ์ส่วนตัว
โคตรเหี้ย บ.ที่มันเป็นธรรมหน่อยมันต้องเตือนก่อนป่ะวะ แล้วบ.กูทำกันแทบทุกคน คือมึงจะเล่นใครก็ได้สินะ

282 Nameless Fanboi Posted ID:R3/yH3jjdv

>>281 ของกูคนน้อยเมิง ตำแหน่งละ 1-2คน ออกคือเละเลยไม่มีคนทำเป็น
ก่อนนี้ก็ขู่ออกขอขึ้นเงินกัน หลักหมื่นบ้าง หลักพันบ้าง แสบๆกันทั้งนั้น

283 Nameless Fanboi Posted ID:81qxBcVTP1

บอสัทกูจ้างคนมาเล่นโปรแกรมหาเงินสุดท้ายแม่งไม่จ่ายเงินเดือนสองเดือน เพราะเอาเงินลูกน้องไปลงโปรแกรมหมด มาสารภาพเอาทีหลังไม่มีเงินจ่ายบลาๆ เฮ้ยสัสไม่เมคเซ้นควารับผิดชอบอยู่ไหนวะแถมยังจะใช้ให้พวกกูทำงานใหม่เพื่อหาเงินเข้าบริษัท อย่าให้คนอื่นมารับผิดชอบความผิดพลาดของมึงดิวะ กูออกเลยจ้ะกูไม่สนใจด้วยแม่งโคตรเซ็ง

284 Nameless Fanboi Posted ID:EcUNZ3ejzy

กูขับรถไม่เป็น กะว่าจะไปเรียนขับรถแล้วไปทำใบขับขี่
แต่กำลังคิดอยู่ว่าวิชาที่กูเรียนมามันทำงานนั่งโต๊ะเป็นส่วนใหญ่
ลงทุนเรียนขับรถจะคุ้มมั้ย เพราะในความเข้าใจของกู
ถ้าไม่มีรถ ต่อให้ไปเรียนขับรถก็ได้แค่พื้นฐานอยู่ดี
แต่ประสบการณ์ออกถนนใหญ่นี่ต้องมีรถให้ขับทุกวันอ่ะ

285 Nameless Fanboi Posted ID:JIA5OU1p/A

>>284 ใบขับขี่เป็นแค่บัตรกันโดนตำรวจจับอ่ะ ทุกวันนี้กูขี่มอไซแบบไม่มีใบขับขี่ก็ปกติดี ในขณะที่นรถยนต์กูมีใบขับขี่6ปี แต่ถ้าถามว่าขับเป็นมั้ย ก็ไม่

286 Nameless Fanboi Posted ID:YFN/G2mby5

ก็หาคนสอนฟรีดิ ขับเป็นค่อยไปสอบ รถมีไหม

287 Nameless Fanboi Posted ID:JhfDLvY8cp

>>284 กูไปเรียนขับรถแค่ให้สอบเอาใบขับขี่ได้ว่ะ นี่ก็หลายปีละ กูก็ยังขับไม่เป็นเหมือนเดิมอะ ... แต่มีไว้ก่อนมันก็ดีมั้ง

288 Nameless Fanboi Posted ID:BYy6BYthal

เหนื่อยว่ะ ช่วงใกล้สิ้นปีแทนที่จะชิวๆดันงานหนักทั้งที่กูอยู่บริษัทคนไทยแท้ๆ

289 Nameless Fanboi Posted ID:BYy6BYthal

>>288 ผิดๆ อยู่บริษัทฝรั่งไม่ใช่บริษัทคนไทย

290 Nameless Fanboi Posted ID:KEk0bYqU3c

ได้งานใหม่ที่ท้าทาย โอกาสทอง เงินเดือนเยอะกว่าแต่รู้ว่างานโหดมาก ซีเนียริตี้สูง กับอยู่ที่เดิม เงินธรรมดา ใกล้บ้าน สังคมดี อันไหนดีกว่ากันวะ

291 Nameless Fanboi Posted ID:igjiD8D6sl

>>289 บ.กูก็เป็น แต่เดี๋ยวพอหลังคริสต์มาสแม่งก็หายหัวกันไปหมดแล้ว

292 Nameless Fanboi Posted ID:AEyxGfnn6U

>>290 ปกติคนจะออกจากงานจากสังคมที่ทำงานมากกว่า คือถ้าที่เก่ามึงอยู่แล้วสบายใจกูเลือกที่เก่าดีกว่า อ่อดูความก้าวหน้าด้วย ยกเว้นแต่บ.ใหม่จะมั่นคงกว่าน่ะแหละ
>>291 ช่วงคริสมัสนี่โคตรชิว หายหัวกันหมด

293 Nameless Fanboi Posted ID:Pin3uolEyw

>>288 ช่วงใกล้สิ้นปีเซลล์จะเเข่งปิดยอดกัน เดือดร้อนแพลนนิ่งกับฝ่ายผลิตทำงานกันขาขวิดเลย
ทั้งปีขายนิดๆหน่อยๆแล้วมาดันยอดสิ้นปีทีเดียวเพื่อจะปิดยอดทำผลงาน ทำงานแบบนี้ก็ได้หรอวะ โม่งเซลล์ขอความคิดเห็นหน่อย

294 Nameless Fanboi Posted ID:igjiD8D6sl

>>293 เดี๋ยวไม่มีผลงานไปอวดในสต๊าฟปาร์ตี้ (กูป่าวเซลล์ แต่เจ็บหัวกับเซลล์นิ)

295 Nameless Fanboi Posted ID:SVNT0JMsed

>>293 กูเซลไม่มีทำยอด ขายขาดทุนตลอด กูไม่สน ไม่อยากขายด้วย ส่งแค่ที่สั่ง
แต่แพลนนิ่งกับผลิตเนี่ย ทำเหี้ยไร ผลิตเอายอดอยู่นั่น ของผลิตจนสต็อกล้นก็ยังทำต่อ ลูกค้า eop แล้วก็ยังผลิตไม่ดู 4 ดู 8

296 Nameless Fanboi Posted ID:Pin3uolEyw

>>295 ต้องไปเคลมที่แพลนนิ่งละมึง โฟลวงานยังไงให้สต๊อคเต็ม กลับกันของกูนิ๊ ปรับแผนปรับยอดกันวันต่อวันแล้วกูต้องเตรียมของไว้ผลิตไง
ปรับไปปรับมาของที่กูเบิกไว้ก็ล้น พอหมดอายุกูก็ผิดอีก พอกูขอเลื่อนแผนก็อ้างเสียโอกาสขายๆๆ สึส ตลอดทั้งปีมึงไม่รีบทำยอดล่ะ

297 Nameless Fanboi Posted ID:SwputBUBku

กูเบื่องานเลี้ยงบริษัทสัดไอเหี้ยยยยยยย คนออก คนเข้า เทศกาล ห่า ควยไรแม่งเลี้ยงกันอยู่นั่นตังกูก็ไม่ได้เยอะ ไม่ไปก็ไม่ได้เดี๋ยวแม่งมองว่าไม่เข้าสังคมเพื่อนร่วมงาน ไม่มีส่วนร่วม ไอสัดดดด แถมแดกกันแพงเหลือเกินตกหารทีไร 500-800 ทุกทีควย

298 Nameless Fanboi Posted ID:6cTYK8bIkg

>>297 นึกถึงโม่งที่ต้องไปงานเลี้ยงปีใหม่เพราะได้งบจาก HR เลยว่ะ >>>/lifestyle/5047/878-883

299 Nameless Fanboi Posted ID:IqhuxpboRL

เราเป็นเซลล์ที่ไม่ต้องทำยอดเหมือนกัน แต่ทำงานขาขวิดตลอดทั้งปี (อยู่บริษัทญี่ปุ่น) เมื่อก่อนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นก็แบบ...ทำไมตัวละครที่อยู่แผนกเอเกียวต้องกลับรถไฟเที่ยวสุดท้ายไม่ทันตลอด มาอยู่เองซึ้งเลยจ้าา ถถถ ว่าแต่บริษัทส่วนมากปิดยอดกันธันวาเหรอ ไม่ได้ปิดตาม fiscal year เหรอ? ของเราอะไรๆ จะไปประดังประเดโหดสัสรัสเซียตอนมีนาโน่นแหละ ตาม fiscal year ของญี่ปุ่นอะนะ ช่วงสิ้นปีนี่ก็ทำงานขาขวิดตามปกติไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ดีหน่อยตรงวันหยุดเยอะดี

300 Nameless Fanboi Posted ID:6cTYK8bIkg

https://mobile.twitter.com/Colorangest/status/1062709269265440768
มีใครเจอแบบนี้มั่ง

301 Nameless Fanboi Posted ID:3staJ1AXqg

>>299 กูเหมือนปิดสองรอบว่ะ ของไทยสิ้นปีก็ปิดงบตามปกติออดิดตามปกติ มีนาเมษาก็ต้องปิดตามญปแล้วก็โดนออดิดอีกรอบจากญป
ไอ้ญปเหี้ยอยู่ไทยก็ปรับตัวบ้างสิวะ
ของเมิงไม่ปิดสิ้นปีกันหรอ แล้วเวลาส่งงบกรมการค้า สรรพากรทำไง

302 Nameless Fanboi Posted ID:Te774nxsuo

>>300 เจอบ่อยเลย กดเข้าไปแล้วเจอว่าล็อคแอคเนี่ย โคตรบ่อย

303 Nameless Fanboi Posted ID:NKZR6MzCuc

>>302 เมื่อวานด่า รัฐวิสาหกิจ แก่ๆ นั่งเฉยๆได้เงินเป็นแสน
วันนี้ ปิดพับลิคหนีเลย สงสัยโดน dox

304 Nameless Fanboi Posted ID:Te774nxsuo

>>303 อืม มึงอธิบายได้เคลียร์มาก(ประชด) ขอกูรู้เรื่องบ้างได้มั้ย

305 Nameless Fanboi Posted ID:649C3RxMu.

>>301 ไม่มีนะ ของเราปิดงบสรุปยอดทุกอย่างตอนสิ้นเดือนมีนาอะ และถ้ามีเครดิตเดบิตอินวอยซ์อะไรก็จะต้องเคลียร์ให้จบภายใน 31 มีนาเท่านั้น ห้ามเลทเด็ดขาดเพราะมันจะข้าม fiscal year จะกลายเป็นมหากาพย์ยุ่งยากสุดๆ ส่วนเรื่องสรรพากรนี่ไม่แน่ใจ สงสัยอันนั้นจะเกี่ยวข้องกับบัญชีแต่ไม่เกี่ยวกับเซลล์มั้ง แต่ย้อนกลับไปประเด็นแรก ไม่ว่าจะปิดงบตอนไหน เราก็ไม่เคยต้องมาเร่งทำยอดก่อนปิดงบอยู่ดีอะนะ

306 Nameless Fanboi Posted ID:CuNkxL0Qnl

>>304 เมื่อวานเขาทวิตไว้ประมาณว่า "เพิ่งเคยหมดศรัทธาคนก็เมื่อมาทำงานรัฐวิสาหกิจ เห็นผู้ใหญ่เงินเดือนเป็นแสนแต่วันๆ ไม่ทำห่าอะไรเลย" ไม่มีอะไรต้องอธิบายเพิ่มเติมแล้ว

307 Nameless Fanboi Posted ID:gECpeQtBgS

>>305 สาขาไทยกูแค่ตอนสิ้นปีอย่างเดียว แต่กูได้ยินมาว่าสาขาแม่ที่ญป.เขาปิดตอนมีนา ช่วงนั้นนี่จะวุ่นวายมาถึงสาขาไทยเลย กูจำได้

308 Nameless Fanboi Posted ID:YQRUXmFV3L

บริษัทฝรั่งที่กูเคยอยู่จะเน้นเร่งยอดให้ทันประเมินพนักงานประจำปี อย่างช้าก็เสร็จไม่เกิน 15 ธันวา
หลังจากนั้นก็สบายๆ แล้วค่อยมาปวดหัวต่อหลังกลับมาจากหยุดปีใหม่

309 Nameless Fanboi Posted ID:8nELgdjXVP

บ.ที่เปิดรับคนช่วงสิ้นปีเอามาแทนคนที่ลาออก เค้าจะเรียกสัมภาษณ์ช่วงไหนอะ

310 Nameless Fanboi Posted ID:1aiQNDvI1e

>>309 เมื่อเค้าว่าง (สำหรับรอบแรก) เมื่อผู้บริหารว่าง (สำหรับรอบสองหรือสาม)

311 Nameless Fanboi Posted ID:cvNXDl+Ix7

พี่โม่ง กูเรียนจบมาเเล้วยังไม่เคยทำงานบ. จบช้าไปปีนึง ซึ่งกูก็ทำงานฟรีเเลนซ์อยู่บ้าน(ไม่ตรงตามสายที่เรียน)รอรับปริญญาเเล้วเพิ่งจะรับไปเเล้ว ทีนี้ปีหน้ากูจะเริ่มสมัครงานบ.ละ งานฟรีเเลนซ์ที่ทำเป็นงานพวกงานอาร์ตศิลปะ,ทำพวกคอมมิชชั่น อะไรพวกนี้ ซึ่งโคตรจะเเหวกเเนวจากสายที่เรียนกูจบคอมไซ กูไม่ได้ชื่นชอบพวกIT programmingเท่าไร ชอบงานฟรีเเลนซ์ที่ทำอยู่

มีคำถามสอบถามเกี่ยวกับศิลปะการตอบสัมภาษณ์งานในฐานะจบใหม่(เเละจบช้า)หน่อย

-กูควรบอกไหมว่าทำงานฟรีเเลนซ์อยู่บ้านที่ไม่ตรงตามสายที่เรียนในช่วงเวลาที่ผ่านมา เเล้วอธิบายงานคร่าวๆหากเขาถาม(เเต่มันไม่น่าจะมีประโยชน์ต่อสายงาน) หรือ ควรจะบอกว่าตกงานอยู่ครึ่งปี อันไหนดีกว่า
-หากมีคำถามว่า อยากทำงานที่นี่เพราะอะไร กูอยากจะตอบว่าอยากได้ประสบการณ์ เเต่หากข้อเเรกกูตอบว่าทำงานฟรีเเลนซ์ไป น่าจะมีคำถามย้อนกลับมาว่าทำไมถึงเลิกฟรีเเลนซ์มาทำงานบ. เเต่ถ้าตอบข้อสองว่าตกงานไม่น่าจะมีอะไรเเต่ตกงานมันจะดูขี้เกียจไปหน่อยไหม คือถ้าดิ้นยังไงมันก็น่าจะหางานได้เเหละเด็กจบใหม่

ส่วนถ้าตอบว่าทำงานฟรีเเลนซ์อยู่ มันก็น่าจะมีคำถามมาอีกคือเจ้าของก็น่าจะลังเลละว่าจะรับดีรึเปล่า ทำไมเลิกฟรีเเลนซ์ เเถมงานฟรีเเลนซ์ก็ไม่ตรงสาย มันส่อถึงว่าไม่มีความกระตือรือร้นในสายที่เรียน บลาๆ (หรือกูกังวลไปเอง) หรือเฟคคำตอบไป เบื่อ ทำเเล้วดูไม่มีความก้าวหน้า พยายามตอบเเนวที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน บลาๆ

กูไม่ได้สนเงินเดือนบ.ด้วยซ้ำ เเต่อยากได้ประสบการณ์ล้วนๆเพราะกูไม่เคยสัมผัสงานบ.เลยอยากลองทำงานสายที่จบมาดู กูควรตอบคำถามเเบบโปร่งใสไหม หรือเฟคๆหน่อย

ขอคำเเนะนำเรื่องศิลปะการสัมภาษณ์งานหน่อยพี่โม่ง

312 Nameless Fanboi Posted ID:cvNXDl+Ix7

ปล.งานฟรีเเลนซ์ที่ทำอยู่คิดว่ากูได้เงินเยอะกว่าเด็กจบใหม่หน่อยนึงนะ เเต่กูอยากได้รายได้สองทางคืออยากได้เงินเดือนบ.ด้วย ทำฟรีเเลนซ์ด้วยเเต่จะทำน้อยลง +คิดว่าถ้าไปทำงานบ.น่าจะได้สังคม,ฝึกความอดทน,ได้มีประสบการณ์ติดตัวเป็นโปรไฟล์ติดไว้

313 Nameless Fanboi Posted ID:f8DvmN.ukT

>>311 กูไม่ใช่สายเดียวกับมึง กูเลยไม่รู้ว่าปกติสายงานนี้คนสัมภาษณ์จะประมาณไหนนะ แต่ถ้าเป็นกู กูจะตอบตามนี้

- ปกติเราไม่จำเป็นต้องสมัครหรือเคยทำงานตรงตามสายที่ตัวเองเรียนมาเป๊ะๆ อยู่แล้ว เพราะงั้นบอกไปเลยว่าทำฟรีแลนซ์อะไรมาบ้าง ถึงประสบการณ์การทำงานจะไม่ตรงกับสายงานจริง แต่ยังไงก็เป็นประโยชน์ อย่างน้อยฟรีแลนซ์ก็มีประสบการณ์การดีลกับลูกค้าโดยตรงแหละ
- อย่าตอบว่าหาประสบการณ์ ถ้ากูเป็นคนสัม ตอบแบบนี้กูจะคิดไว้ก่อนเลยว่าบ. กูเป็นทางผ่านเฉยๆ แป๊บๆ มึงก็คงออกไปหางานที่ใหม่แล้ว อย่างน้อยก็ลองดูว่าบริษัทที่จะไปสมัครมีอะไรน่าสนใจบ้าง มีอะไรให้มึงพูดถึงได้มั้ย
- ทำฟรีแลนซ์ไม่ได้เกี่ยวกับความไม่กระตือรือร้นกับสายที่เรียนมาว่ะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้ามึงบอกเค้าว่าจะยังรับฟรีแลนซ์ไปด้วย โอกาสที่เขาจะไม่รับก็มีนะ หลายบริษัทจะมองว่ามึงไม่มีเวลาทุ่มเทให้กับงานเขา หรือถ้าบางสาย งานมันดัน overlap กันก็ทำไม่ได้อีก เป็นกูคงตอบเชิงแบบ มั่นคงกว่า ได้ฝึกทีมเวิร์ค เรียนรู้นู่นนี่

แต่รอคำแนะนำจากคนอื่นอีกทีก็ดี

314 Nameless Fanboi Posted ID:mLMc17qmDm

>>311 กูเป็นกราฟิกที่กำลังเรียน ป.ตรีอีกใบคอมไซ กูคิดว่ากูน่าจะพอเข้าใจสถานการณ์นะ
ก่อนอื่นสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนคือ ส่วนใหญ่ บ.ไม่ได้คาดหวังอะไรกับเด็กจบใหม่ขนาดนั้น มาเป็นแรงงานไม่ได้คาดหวังประสบการณ์อะไร
เกี่ยวกับเรื่องเคยทำอะไรมาก่อน ตอนนี้ทำอะไรอยู่ จะอยู่นานมั้ย เรื่องนี้ HR (บางที่)สนใจมากกว่าหัวหน้างานด้วยซ้ำ
- บอกไปเถอะว่าทำฟรีแลนซ์มาก่อน บางคนแคร์ บางคนไม่ แต่มันมีภาษีดีกว่านั่งว่างๆ อยู่แล้ว
- บอกไปก็ได้ว่ายังทำฟรีแลนซ์อยู่ และบอกไปให้แน่ใจด้วยว่าไม่เอางานฟรีแลนซ์มาทำในเวลางานหรือให้กระทบงานประจำแน่นอน ถ้าเขาสนใจมากขึ้นว่างานที่ทำอยู่เป็นยังไง ก็ค่อยเล่า จะเอื้อประโยชน์กันหรือเปล่าปล่อยให้หัวหน้างานตัดสินใจเอง เช่น อาจจะวางตำแหน่งให้รับงานต่อจากดีไซน์เนอร์เพราะเห็นว่ามีพื้นฐานงานอาร์ตอยู่เป็นต้น ก็เรื่องของเขา เราให้ข้อมูลตัวเองเฉยๆ
- ถ้าถูกถามว่ามาทำงานที่นี่เพราะอะไร แล้วตอบว่า มาหาประสบการณ์ ก็เป็นเบสิคทั่วๆ ไปของเด็กจบใหม่ HR จะเผื่อใจไว้ส่วนนึงแล้วว่ามันอาจอยู่ไม่นาน ก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไป ถ้าอยากได้ราคาเด็กจบใหม่ก็ต้องยอมรับตรงนี้อยู่แล้ว / ถ้าจะตอบให้ดูดีขึ้นมาอีกนิด ก็บอกไปว่า อยากนำความรู้ที่ได้เรียนจนจบมาใช้ประโยชน์ อันนี้ดูมีแพชชั่นในสายงานตัวเองนิดนึง / คำตอบที่กูคิดว่าดีที่สุด คือไปหาข้อมูล บ.มาก่อนว่าทำอะไรบ้าง แล้วก็บอกว่า สนใจเนื้อหางานที่บริษัททำ นอกจากประสบการณ์การทำงานจริงแล้ว ก็อยากได้ความรู้ในส่วนเนื้องานนี้เพิ่มจากที่ได้เรียนมาด้วย / ซึ่งคำตอบพวกนี้จะมีเปอร์เซ็นความจริงในตัวมึงอยู่แค่ไหน มึงชั่งน้ำหนักเอาเลย เอาที่ไม่ขัดหรือผูกมัดกับตัวเองมากเกินไป

ส่วนตัวแล้วสองสายงานนี้จะว่าใกล้กันมันก็ได้อยู่นะ แล้วแต่ว่าจะทำงานสายไหน ถ้าไประบบ เน็คเวิร์คไรงี๊ก็โอเคไม่เกี่ยวกันเลย
แต่สมมติเป็นทางเว็บ แอพ เกม อะไรแบบนี้มันก็มีความเกี่ยวกันอยู่นะ ถ้าถามว่าเอื้อประโยชน์กันมั้ยกูว่ามันก็พอจะอ้อมๆ กันได้อยู่
มองๆ บริษัทไว้ยังอ่ะว่าจะไปสมัครงานประมาณไหน

315 Nameless Fanboi Posted ID:sHQHIvOArL

เพิ่งเริ่มทำงานได้ครึ่งปี แต่งานหนักมากๆ เงินเดือนก็น้อย หันไปมองรุ่นเดียวกันเข้าพร้อมกันที่อยู่คนละแผนกได้แต่งานง่ายๆ ชิลๆ นั่งเล่นเฟสในเวลางานไปวันๆดันเงินเยอะกว่า โอทีไม่ทำแต่ได้ทุกเดือน
ทุกวันนี้เหมือนโดนเป่าหู ให้ทำงานเยอะๆ ทำงานให้เป็นหลายอย่าง วันข้างหน้าจะได้สบาย โหยย กูจะตายก่อนอะดิ แล้วงานที่เยอะนี่ก็จุกจิก ไม่ได้ต้องใช้ทักษะ หรือฝึกคิดอะไรเลย มองดูก็เหมือนจะเสียเวลาพักผ่อน เวลาไปพัฒนาตัวเอง
รู้สึกแย่ว่ะ แล้วก็ยอมรับตรงๆเลยว่าอิจฉาเพื่อน มีเวลาพักไปรับจ็อบ มีเงินเก็บเยอะ ทุกวันนี้ไปทำงานแล้วรู้สึกไม่ดี เหมือนตัวเองโง่ ทำอะไรที่ทรมาน เสียสุขภาพจิต มีวิธีคิดหรือคำแนะนำให้รู้สึกดีขึ้นหน่อยมั้ย เผื่อจะปลอบใจตัวเองที่ต้องทนทำงานราชการห่วยๆให้ได้อีกสักปีนึง ก่อนจะลาออกได้

316 Nameless Fanboi Posted ID:2SemgySRIx

>>315 กูไม่รู้ระบบราชการ ทำไมต้องรอให้ครบปีถึงจะออกได้?

317 Nameless Fanboi Posted ID:d4EsmsmNfm

>>316 ไม่ใช่ระบบราชการ แต่กูวางแผนเคลียร์ทุกอย่างในชีวิตให้เรียบร้อย ทั้งงาน เรียนต่อ เรื่องเงิน อะไรคร่าวๆก่อนจะจบกับที่นี่ คำนวณดูแล้วเร็วสุดจะประมาณอีกปีนึง

318 Nameless Fanboi Posted ID:mSgSQe+dJE

มีใครเคยทำงานที่ CHINA PETROLEUM PIPELINE มั่งไม้วะหรือว่าพึ่งมาเปิดที่ไทยกูหาข้อมูลไม่เจอเลย รู้แต่เคยสร้างโรงงานให้ PTT อยู่หรอก
คืองี้กูสาย piping หางานอยู่แล้วกดส่งไป บ.นี้เมื่อเดือนที่แล้ว แล้วเมื่อวานมีเมลล์มานัดสัม ตอนกูส่งไม่ได้หาข้อมูลบ. พอตอนนี้มานั่งหารู้แต่ว่าบ. epc ใหญ่สุดของจีนแค่นั้น คือมันยังไม่เคยเปิดในไทยช่ะ กูอยากรู้เรื่องสวัสดิการกับสภาพการทำงานน่ะ

319 Nameless Fanboi Posted ID:qk+BpCSUv.

อยากถามพี่โม่งว่าเด็กจบป.ตรี ภาษาอังกฤษ ผลการเรีบนกลางๆ ไม่มีไรโดดเด่นสักเท่าไร ไม่มีเส้นสายอะไร พอจะมีโอกาสได้งานข้าราชการในกทม.บ้างมั้ย

320 Nameless Fanboi Posted ID:ev+NJ5GtJK

>>319 มึงไปสมัครแถวๆ ยะลา , นราธิวาส ดิ
โควต้ารับข้าราชการไปทำงานเยอะมาก

321 Nameless Fanboi Posted ID:JooRV04gQA

พวกงานสายน้ำมันที่เป็น contract มันมั่นคงขนาดไหนวะ ตอนนี้ทำงานประจำอยู่มีรีคู้ทชวนไปสมัครทางนี้ แต่ถามถามแล้วอึกอักๆตอบกั๊กๆ เลยปัดไป
ใจก็อยากลอง แต่ดูไม่จริงจังไงไม่รู้ว่ะ

322 Nameless Fanboi Posted ID:cNa.Go3.rP

>>319 ไม่ใช่ว่ามันต้องสอบภาคก ภาคข เหรอวะ พวกข้าราชการเนี่ย

323 Nameless Fanboi Posted ID:ZI79gqgiWX

>>321 ถ้าสมัย 5 ปีก่อน++ กูจะเชียร์ให้มึงไป แต่ตอนหลังๆมานี่สายงานนี้ไม่ได้รุ่งเหมือนเมื่อก่อนว่ะ เอาเป็นมึงเกาะเก้าอี้มั่นๆดีกว่า

324 Nameless Fanboi Posted ID:MUtZxyYqQZ

>>322 ใช่ๆ หมายถึงกรณีที่ผ่านไอ้พวกนี้ไปแล้วน่ะสิ

325 Nameless Fanboi Posted ID:NxqDB9oOk4

>>324 ถ้าไม่เก่งจริงบอกเลยว่ายาก เพราะพวกนี้เส้นสายเยอะมาก เค้าล็อกตัวไว้ตั้งแต่ทำภาค ข แล้วน่ะ บางที่เปิดรับสองตำแหน่ง เพื่อเอาเส้นสองคนเข้าไปก็มี

326 Nameless Fanboi Posted ID:qlYCTNgl/d

นั่งเซ็งชิบ
คือกูทำงานให้อย่างดี ทุ่มเทเต็มที่ในสิ่งที่กูทำได้มาตลอดเกือบสามปี แต่อีกฝ่ายกลับมองว่าการเข้างานสายของกูเป็นปัญหาซะงั้นว่ะ
กูก็ไม่ได้อยากสายนะ แต่ร่างกายแม่งไม่ไหวอะ มีโรคประจำตัวคือความดันต่ำ พอเช้าตื่นมาความดันไม่ขึ้นก็ลุกไม่ได้จนไปทำงานสายอีก

327 Nameless Fanboi Posted ID:1HJM03rxp1

>>ไปหาหมอ ขอใบรับรองแพทย์ เอาไปยื่นกับ HR กับ หัวหน้า ขอเป็นข้อยกเว้นให้เข้าสายได้บางวันโดยอาจจะยอมเลิกงานช้าตามเวลาที่สาย

328 Nameless Fanboi Posted ID:NapsTpxJ8R

>>326 ย้ายงานเลย หาใกล้ๆที่พัก

329 Nameless Fanboi Posted ID:4Ignfs/E/T

>>326 ก็เป็นปัญหาจริงๆ นะกับบางบริษัทที่มีระบบต้องรักษา แต่เดี๋ยวนี้ก็มีหลายบริษัทแล้วที่ยืดหยุ่นเรื่องเวลาเข้างาน ก็เลือกเอาอ่ะ

330 Nameless Fanboi Posted ID:CRgduxa++q

บางคนแม่งตัดสินใจอะไรเองไม่ได้เลยหรอวะ ทำไมจะต้องมาถามความเห็นไปหมดซะทุกเรื่อง งานอะไรไม่ใช่ของเราก็ยังอยากจะให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมไปกับมันด้วย เห็นอะไรยาก ๆ หน่อยนี่เริ่มละ ให้กูทำ

331 Nameless Fanboi Posted ID:0/bH1aKclh

หัวหน้ากูจะออกสิ้นเดือนนี้ คนที่ผู้ใหญ่บอกว่าจะมาแทนยังไม่โผล่มา transfer งานเลย
หัวหน้าเก่าเลยลองไปถามเจ้าตัว เหมือนเจ้าตัวยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย
กูเห็นแววหายนะรำไรละ...

332 Nameless Fanboi Posted ID:jBJiQ3De8C

>>331 กูว่าการเมืองข้างใน เป็นไปไม่ได้หรอกตำแหน่งใหญ่ๆจะไม่รู้อะไรเรื่องอะไรเลย โดนจับยัดมากกว่า
เหมือนแผนกกูตอนอยู่บ.เก่า คนเก่าทำงานดีๆโดนย้ายไปทำอย่างอื่น แล้วย้ายเด็กเค้ามาคุมแทน ไม่รู้เรื่องห่าอะไรเลยจ้า เอ๋อๆงงๆ สิ้นปีคนลาออกกันรัวๆ
แผนกจะชิบหายจนข้างบนต้องโยกให้คนอื่นที่พอเป็นมาทำแทน

ปล. ตอนนี้บ.กู นายฝรั่งก็บอกว่าบ.เรากะลังโดนต้มกบอยู่นะ ลางชิบหายรำไรเหมือนกัล

333 Nameless Fanboi Posted ID:ifH8ByiMch

>>326 กูก็ความดันต่ำ โดนเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ของกูเขามองว่ามันเป็นเรื่องของกูเองกูต้องดูแลตัวเองว่ะ ความดันต่ำก็รีบๆนอน ตื่นเผื่อเวลาไปอีก มันก็จริงเขานะ รู้ว่าสุขภาพไม่ดีก็ต้องดูแลตัวเองว่ะเอามาอ้างไม่ได้ กฏเขามีเมิงก็ต้องทำตามกฎ(ตอนนี้กูออกแล้ว)
ความดันกูต่ำแบบถ้าไปหาหมอตอนเช้าจะวัดไม่ขึ้นเลย ก็ไปรักษาไปตรวจอย่างอื่นก่อน ค่อยกลับมาวัดความดันอีกที
หมอบอกออกกำลังกายแล้วดีขึ้นได้นะ เมิงลองดู
>>332 บริษัทกูโดนอยู่ ย้ายคนของประธานคนปจบมา แม่งตีกับคนอื่นชิบหาย คนไทยอยู่ไม่ได้ออกรัวๆ
เวลาออกจากงานด้วยเหตุผลแบบนี้เมิงบอกบริษัทใหม่ว่ายังไงวะ กูบอกไปว่าเหตุผลภายใน พอแม่งถามต่อกูก็บอกไปตรงๆว่าไม่ชอบที่เขาขัดขากันเองคนปจบก็จะเด้งแล้วกูเลยเด้งบ้าง นี่ยังหางานไม่ได้เลย 5555

334 Nameless Fanboi Posted ID:vswcEp1IRY

อ่านประกาศงานอันหนึ่งแล้วรู้สึกสงสัย
คือเนื้องานตามประกาศใช้ภาษาไทยทำทั้งหมด ไม่มีการติดต่อกับต่างประเทศ แต่กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครว่าต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้

อันนี้ HR เผื่อไว้เฉยๆเพื่อกรองคนรึยังไงวะ
ประมาณว่าอยากได้ผู้รับสมัครที่คุณสมบัติดีๆใช้ภาษาอังกฤษได้ ถึงเนื้องานจะใช้แต่ภาษาไทยก็เถอะ

335 Nameless Fanboi Posted ID:PcNFYxF8eT

>>334 เผื่อดีร้ายมันอาจจะต้องใช้ไงมึง กูเนี่ยเคยไปทำที่นึง มีโทรศัพท์สายอังกฤษเข้า แอดมินที่ต้องรับโทรศัพท์ไม่มีใครพูดได้สักคน สรุปต้องตามตัวกูมาคุย เสียเวลาชิบหาย

ที่ทำงานเดี๋ยวนี้ใครเก่งอังกฤษหน่อยก็อาจจะโดนใช้งานเกินหน้าที่จ้า ที่ทำงานต่อมาของกูมีน้องจบจากอักษรอินเตอร์ โดนใช้ทั้งแปลงานจากฝั่ง mktg pr เวลามีคนมาสัมงานกับนายฝรั่งน้องก็ต้องเข้าไปแปล สรุปงานการตัวเองไม่ได้ ต้องไปช่วยงานคนอื่น นางขอย้ายไปแผนกอื่นหัวหน้าก็ไม่ให้ย้าย จนเปลี่ยนหัวหน้าใหม่ น้องถึงได้ย้ายไปตำแหน่งอื่น กูนี่สงสารชิบหาย

336 Nameless Fanboi Posted ID:/2XM0T1k8u

>>335 แก้ปัญหาได้เหี้ยมาก แทนที่จะกำหนดคุณสมบัติทุกแผนกไปเลยว่าต้องใช้ภาษาอังกฤษได้

337 Nameless Fanboi Posted ID:27ClVMXkG.

>>335-336 ก็งี้แหละมึง คนเดี๋ยวนี้อยากได้ของถูกและคุณภาพเกินตัวด้วย คิดดูนะกูทำงานแค่เด็กเสิร์ฟละพอมีลูกค้าเจ๊กๆ ฝรั่งๆที่พอพูดอิงค์ได้หน่อยกูต้องรับหน้าแทนเลยจ้า เทียบกับที่ทำงานที่อื่นในเขตเมืองๆหน่อยละทำงานแนวนี้เหมือนกันแต่รายได้เค้าเยอะกว่าเพราะได้ภาษา กูนี่เศร้าใจชิบ

338 Nameless Fanboi Posted ID:DEdWy/hwYr

>>337 อ้าว แล้วมึงไม่ไปทำงานแถวเมืองที่มึงว่าล่ะ หรือคะแนน TOEIC มึงไม่ถึง

จริงๆกูว่ามึงลงทุนติวคอร์ส TOEIC แล้วหางานในเมืองทำอัพเงินเดือนตัวเองดีกว่ามั้ยนั้น

339 Nameless Fanboi Posted ID:sVUiV.MYUr

แต่บอกตรงๆว่าภาษาอังกฤษดีแม่งต่อเงินเดือนได้นะมึง ที่ทำงานที่สองตอนแรกเจ้านายจะให้กู 20K กูเลยบอก hr ไปว่า เห็นแก่คะแนน IELTS Speaking Brand 7.5 ด้วยค่ะ ยิ่งในออฟฟิศต้องใช้ภาษาอังกฤษ 60% ด้วย ถ้าให้แค่นั้นกูไม่เอา สรุปได้มา 25k อาจไม่เยอะมาก แค่กูจบได้แค่ปีเดียว ถือว่าโอเคละ

340 Nameless Fanboi Posted ID:fN7xgoqxsK

กูไม่เคยสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอะไรเลยว่ะ กูจบมาเป็นสิบปีแล้ว ปัจจุบันทำงาน บ.ฝรั่ง ใช้ภาษาอังกฤษบ้างกับเพื่อนร่วมงาน ไม่เคยต้องติดต่อกับลูกค้าฝรั่งโดยตรง แบบนี้กูควรไปสอบไว้บ้างมั้ยวะโทอิกไอเอลนิ ถ้าสุดท้ายเอามาขอเงินเดือนเพิ่มไม่ได้ก็รู้สึกเสียดายตังค์ไปติวไปสอบจัง

341 Nameless Fanboi Posted ID:i9lJ8cWRbO

>>340 ขอโทษนะ แต่ 10ปี++แล้วมึงยังต้องมาถามในโม่งแบบนี้? เหมือนมึงเพิ่งรู้อะว่ามีสอบแล้วได้เงินเพิ่ม ทำไมมึงไม่ถามหัวหน้าหรือ HR วะ

342 Nameless Fanboi Posted ID:69iF4QGNs4

>>340 ทำงานบ ฝรั่งนี่ก่อนเข้าไม่ต้องใช้คะแนนภาษายื่นเหรอวะ ยิ่งมีเพื่อนร่วมงานต่างชาติด้วย

343 Nameless Fanboi Posted ID:fFNY58SyMn

>>342 กูเคยทำงานกับสมัครบริษัทฝรั่งมาตั้งหลายที่ไม่เห็นจะมีที่ไหนเค้าให้ยื่นนะ
มีแต่ทำข้อสอบของบริษัทเองทั้งนั้น ที่ไหนอยากเทสเพิ่มก็อาจจะมีให้คุยภาษาอังกฤษตอนสัมภาษณ์

344 Nameless Fanboi Posted ID:69iF4QGNs4

>>343 เหรอ ของกูขอดูทุกที่เลยนะ สมัยเรียนตอนมีโอเพนเฮาส์ขริษัทต่างๆ โทอิกก็ชอบมาแจกคูปองลดราคาประจำ เพราะบอสัดที่มาจัดบูธเขาใช้คะแนนเกือบหมด

345 Nameless Fanboi Posted ID:fFNY58SyMn

>>344 งั้นคงอยู่ที่สายอาชีพด้วยมั้ง

346 Nameless Fanboi Posted ID:i9lJ8cWRbO

>>344 ก็แล้วแต่ที่แหล่ะ จะบอกว่าบ.ที่ไม่ขอแต่ใช้วิธีทำข้อสอบหรือสัม Eng เองไม่ใช่บ.ที่ดีก็ไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละที่ แต่ถึงไม่ขอ มีไว้ก็ดี โอกาสได้งานมากขึ้นอยู่แล้ว(หรือน้อยลงถ้าคะแนนน้อย)
และจะเพิ่มเงินให้มั้ยก็แล้วแต่ที่ด้วยเหมือนกัน

347 Nameless Fanboi Posted ID:FnI3UqZH.H

>>346 กูไม่เคยสอบอะไรพวกนี้เลย เลยไม่รู้ว่าคะแนนจะวัดเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในการทำงานจริงๆได้แค่ไหน
ส่วนข้อสอบของบริษัมเองมันก็แล้วแต่ที่ด้วย
ที่เจอมาสอบภาษาอังกฤษบางที่ก็ดีเวอร์ๆ แบบข้อสอบข้อเขียนที่ดูแบบถามอะไรสมเหตุสมผล มีสอบฟัง สอบพูด
ข้อสอบบางที่ก็แย่ๆ อย่างเช่นข้อสอบตัวเลือกไม่กี่ข้อที่เอาคำแปลกๆที่คนทั่วไปไม่ได้ใช้มาถาม แล้วมีการมาโฆษณาว่าฝรั่งออกข้อสอบนะอีก

348 Nameless Fanboi Posted ID:BLOWMe8oIp

>>341 ทั้งที่มึงก็รู้ว่าไม่ใช่ทุก บ.จะขึ้นเงินเดือนให้เพราะการสอบมึงก็ยังจะใช้คำพูดแบบนั้นตอบกู(340)เนี่ยนะ ที่ถามเนี่ยเพราะ บ.ที่กูทำอยู่แม่งไม่สนเลย สอบไปก็ไม่ขึ้นเงินให้ ไอ้สเปนกับรัสเซียที่กูทำงานด้วยยังภาษาอังกฤษแย่กันอยู่หลายคนเลย กูไม่ได้ถามโม่งเรื่องขึ้นเงิน บ.ตัวเอง แต่อยากรู้ว่า "มันเป็นบรรทัดฐานใหม่ของยุคนี้แล้วหรือเปล่าที่ต้องมีผลสอบไว้ยื่นสมัครงาน" เพราะกูก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล กูหมายถึง ในกรณีที่สอบแล้วไม่มีผลกับเงินเดือน(ปัจจุบัน)ถ้ามันไม่ได้จำเป็นเพื่อการไปสมัครที่อื่นแล้ว ก็จะเสียดายตังค์ไง /มึงใช้คำพูดไม่ดีเลยนะ แต่กูให้อภัยเพราะกูโม่งอยู่

349 Nameless Fanboi Posted ID:ymOAY1okeZ

>>348 ใน >>340 มึงไม่ได้ถามอะไรที่จะสื่อถึงที่มึงพูดถึงใน 348 เลยซักนิดเลยว่ะ
มึงแค่บอกว่าถัาบ.ตัวเองไม่ให้ก็ไม่ค่อยอยากสอบ คือมึงดูไม่ขวนขวายอะว่ะ กูตอบแบบนั้นจงใจแขวะแหล่ะ เพราะกูตีความเจตนามึงได้แบบนั้นไง มึงถามไม่เคลียร์เอง
ส่วนเรื่องอื่นที่มึงถามเพิ่มใน 348 มึงคงได้คำตอบจากเม้นอื่นแล้ว (ซึ่งมีเม้นกูในนั้นด้วย)

350 Nameless Fanboi Posted ID:WY9nYiVnRE

กูเอง >>334 เอง คือกูไปอ่านเจอประกาศของ กลต ไง
ตำแหน่งด้านกฎหมาย ทำงานเกี่ยวกับคดีอะไรพวกนี้ ซึ่งอ่านแล้วเนื้องานมันก็ใช้แต่ภาษาไทยแหละ
เพราะถ้าเป็นร่างสัญญาภาษาต่างประเทศคงบอกในเนื้องานไปแล้ว
แต่กูสงสัยตรงคุณสมบัติว่าต้องใช้ภาษาอังกฤษในระดับสื่อสารได้
พอไปดูประกาศภาพรวมก็บอกว่าทุกตำแหน่งต้องยื่น TOEIC 670 ขึ้นไป

กูเลยสงสัยว่า กลต พยายามคัดคนรึเปล่า ประมาณว่าต่อให้เป็นงานที่ติดต่อกับคนไทย
แต่ก็อยากได้คนที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ด้วย

351 Nameless Fanboi Posted ID:Iu5oI5LfgX

>>350 อาจจะก็ได้นะ เหมือนเค้าอาจจะตั้งคุณสมบัติสูงกว่าเนื้องานนิดๆเพราะจะได้คัดคนเก่งๆงี้
อย่างเรื่องภาษาอังกฤษนี่ถึงมันดูไม่เกี่ยวกับงาน แต่คนสมัยนี้ก็ควรได้ภาษาอังกฤษกันอยู่แล้ว เพราะงั้นเลยใส่ไปในคุณสมบัติซะเลย
อีกอย่าง ถ้าได้ภาษาอังกฤษมันก็อาจจะมีประโยชน์กว่าคนที่ได้ภาษาไทยแค่อย่างเดียว เผื่อมันอาจจะมีสถานการณ์ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ พนักงานจะได้จัดการสถานการณ์นั้นได้เองเลย ไม่ต้องรอให้คนอื่นที่ได้ภาษาอังกฤษมาช่วย หรือต้องเสียเวลาเทรนภาษาอังกฤษให้พนักงาน ไรงี้ปะ

352 Nameless Fanboi Posted ID:ymOAY1okeZ

>>350 เหมือนงานราชการ-รัฐวิสาหกิจจะเริ่มให้มีคะแนนสอบ eng เป็นคุณสมบัติพื้นฐานกันมั้ง แบบโครงการครูคืนถิ่นที่ดราม่ากันหลายเดือนก่อนนั่นน่ะ

353 Nameless Fanboi Posted ID:y/u77QwwQc

เบื่องาน จะลาออกหัวหน้าก็ไม่ยอม
คือเข้าใจหัวหน้าแหละ เพราะตอนนี้ทำงานราชการอยู่ ถ้าอยากลาออกมันควรมีเหตุผลที่ดีพอ แถมกูไม่มีงานรองรับด้วย

แต่ตอนนี้ความคิดกูคือ ถ้าอยู่แล้วลำบากใจกูก็ไม่อยากอยู่ แค่นั้นแหละ

354 Nameless Fanboi Posted ID:sIbQBAnxYb

กูทำงานมาปีนึงยังรู้สึกว่าทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่างเลยนี่มันเรื่องปกติป่าววะ

355 Nameless Fanboi Posted ID:JU9w.9pNE/

รำคาญคนในที่ทำงานวะ ไม่รู้เป็นเหี้ยไรเหวี่ยงใส่คนอื่นได้ทุกวัน อีห่า น่าเบื่อแต่เช้าเลยวันนี้

356 Nameless Fanboi Posted ID:1HN3jacu/K

>>354 ปกติมาก
>>355 สมัยพันทิปมันยังมีห้องการเมือง เคยเจอคนว่างงานจัด เล่น pantip ห้องนั้นทั้งวันแล้วโวยวายการเมืองห่าอะไรไม่รู้โคตรรำคาญ

357 Nameless Fanboi Posted ID:Kpbokn5tiH

ปีใหม่นี้หยุด 28ธันวา เพิ่ม หรือ 2มกรา เพิ่มดีฟระ

358 Nameless Fanboi Posted ID:/k.R5Jpvqh

>>353 ลาออกคือแจ้งให้ทราบ เค้าไม่มีสิทธิหยุดมึง

359 Nameless Fanboi Posted ID:/k.R5Jpvqh

>>353 >>358 เอ่อโทดที ราชการกูเช็คแล้วเค้ามีสิทธิยับยั้งมึงได้ 90 วัน หลังจากนั้นถือว่ามีผลทันที

360 Nameless Fanboi Posted ID:ICOQZc6..j

ตอนนี้อาชีพเสริมอะไรรุ่งมั่งกะทำเสาว์อาทิตย์

361 Nameless Fanboi Posted ID:vjjE7vAKcl

กูเบื่อ บ. กูชิหายเลยว่ะ ฝ่ายวางแผนคิดแต่แผนที่ฝ่ายปฏิบัติงานโครตลำบาก แล้วก็อยากเก็บคนเก่งๆไว้แต่เสือกให้เงินเดือนต่ำติดดิน (ติดดินจริงๆเพื่อนโม่ง) เรื่องการรับคนกูก็ไม่มีสิทธิเลือกอีกทั้งๆที่กูเป็นหัวหน้างาน แต่ถ้าใครเป็นลูกรักของนาย กูห้ามไปอะไรกับแม่งนะไม่ว่าแม่งจะไร้ประโยชน์ขนาดไหนก็ตาม และก็ต่อให้กูทำดีแค่ไหนแม่งก็แค่เสมอตัว แต่พอผิดกูกากเลยว่ะ ทั้งๆที่กูก็เพิ่งจะเข้ามาใหม่ไม่ถึงปี ตอนเข้ามาก็ไม่มีใครบอกไม่มีคู่มือเป็นลายลักษณ์อักษรใดๆทั้งสิ้น (กูต้องตรัสรู้เอง) กูจะทนจนอายุได้อายุงานก่อนหลังจากนั้นกูไม่ทนและไอ้สัด เบื่อชิบ

362 Nameless Fanboi Posted ID:/nuzJz4y5q

กูก็เบื่อ บ.ชิบหาย กะจะรอดูต้นปีหน้าว่าเงินเดือนจะขึ้นมั๊ย(เดาไว้อยู่แล้วว่าแม่งจะขึ้นอย่างมากก็ 3% อย่างที่มันเคยเป็นมา) กะว่าจะเอาอัตราที่แทบจะไม่เติบโตนี้เป็นเหตุผลในการลาออก เมื่อคืนมีงานสต๊าฟปาร์ตี้ ก็ไปเมากัน พี่ในทีมตอนเมาๆ ก็หันมาบอกรักบอกขอบคุณกันและกัน เต้นกันเป็นบ้า หัวเราะกันน้ำตาเล็ด ไอ้เหี้ยเอ้ย กูรักทีมนี้จริงๆ นั่นแหละ แต่บริษัทมันเหี้ยไง ไปไปมามาอายุงานกูจะเข้าสู่ปีที่สี่ก็เพราะเสียดายทีมอีกมั้ยเนี่ย

363 Nameless Fanboi Posted ID:3dpfd6xfgg

>>360 ขับแท็กซี่

364 Nameless Fanboi Posted ID:9ogzgb7+QV

>>361 ทนจนได้อายุงานนี่เท่าไหร่อ่ะ อยากรู้จริงๆ

365 Nameless Fanboi Posted ID:c+yWN8eTug

>>362 อายุงานใกล้เคียงกัน ส่วนกูรักบริษัท สวัสดิการดี ค่าตอบแทนดี มั่นคง เคารพเจ้านายใหญ่ เฉยๆ กับเพื่อนร่วมงานแต่ก็ถือว่าโอเค แต่เหตุผลที่ทำให้กูท้อคือหัวหน้าทีม ... ช่างเถอะ ทนอีกเดือนกว่าๆ โบนัสก็ออกละ ทนมาได้ตั้งสามปี ทนอีกนิดเดียวทำไมจะทนไม่ได้ เหตุผลในการลาออกกูก็มีละ ทนไม่ปริปากมาได้ตั้งสามปี ตอนลาออกกูจะไม่พาดพิงใครทั้งนั้น กูรู้ว่าที่กูทำงานกับเขาไม่ได้มันเป็นปัญหาของกูเอง attitude กูไม่ดีเอง กูยอมแพ้ กูจะไปเอง ขอแค่ชาตินี้ชาติหน้าอย่าได้มาพบพานกันอีกเลย _/\_

366 Nameless Fanboi Posted ID:x7JfFjtHaM

>>365 มึงบอกว่าค่าตอบแทนดีแต่ใน >>362 บ่นค่า % ขึ้นน้อย

คือเงินเดือนสตาร์ทสูง % เงินเดือนเลยไม่สูงตามงั้นเหรอ

367 Nameless Fanboi Posted ID:vPk+sHp8io

กูยื่นใบลาออกเพราะเบื่อระบบงาน แต่โดนหัวหน้าขอให้อยู่ต่อ แกบอกว่าลาออกแล้วจะไปทำอะไร คืองานตอนนี้ถึงจะปัญหาเยอะแต่ค่าตอบแทนมันสูงว่ะ กูยอมรับว่าตอนแรกรู้สึกน้อยใจและอึดอัดหลายอย่างเลยอยากลาออกเพื่อหนีออกมาจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ
แต่ก็โดนหัวหน้ายั้งไว้

ปัญหามันเลยเหมือนจะหนักขึ้น เพราะถึงหัวหน้า(และเพื่อนร่วมงาน)รู้ว่ามีคนในทีมเริ่มทนไม่ไหวจนจะลาออกได้รู้ว่า เฮ้ย แม่งระบบมีปัญหาจริงๆนะ แต่การที่กูยังอยู่ต่อพวกเค้าก็จะมองกูไม่ดีอีก เพราะเหมือนให้คนที่หมดใจหมดไฟกับองค์กรไปแล้วมาอยู่กินเงินเดือนๆ

ตอนนี้กูทำได้แค่ตั้งใจทำงานดีๆให้ข้อผิดพลาดมันน้อยลง ทำงานให้เก่งขึ้นจนถึงขั้นวันที่กูพร้อมจะลาออกจริงๆเค้าต้องเสียหายและยอมรับว่าคนแบบกูสมควรไปที่อื่นแล้วจริงๆ

368 Nameless Fanboi Posted ID:3QFw/gJ16v

>>362 โอ๊ะ เหมือนกูเลยแฮะ จำนวนปีก็ใกล้ๆ กันด้วย งานกูแม่ง เงินเดือนขึ้นน้อย แถมฐานก็ไม่ได้สูงอะไรตั้งแต่ต้นด้วย อยู่แล้วไม่เห็นความก้าวหน้าในชีวิตเลย กูก็เลยตัดสินใจออก ตอนออกก็เสียดายทีมเหมือนกันเพราะกูรู้สึกว่าเข้ากับทีมได้ดีมาก แต่กูว่าก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซนไปหาอะไรใหม่ๆ มันน่าจะดีกว่าว่ะ ถึงออกแล้วกูก็ยังไปเจอ นัดกินข้าวกับเขาอยู่บ้างเหมือนกัน ถือว่าจบโอเคเลยแหละ

369 Nameless Fanboi Posted ID:qr4Ohfm2Lf

บริษัทกูมันจะมี JD ไปเพื่อไรวะ ในเมื่อหน้างานจริงแม่งใช้งานกูอย่างจับฉ่ายมาก ทำตั้งแต่งานช่าง ยันงานของโอเปอเรเตอร์
แล้วพวกผูบริหารฝ่ายบนๆก็ชอบเหลือเกินกับการประชุมโดยที่ไม่รู้จะประชุมเรื่องอะไรกัน โปรเจคเดิมๆเอามาพูดกัน2-3วาระแล้ว
ไม่รวมกับวิสัยชอบลดพนักงาน ต้นปีสั่งลดคนประจำ ท้ายๆปีพอพวกเซลล์จะสต๊อคของก็รับพนักงานรายวันเข้ามารัวๆๆ เสียเวลานั่งสอนงานอีก
เบื่อชิบหัย แต่ก็ได้แต่บ่นแหละ

370 Nameless Fanboi Posted ID:faTqEJYHo.

>>369 บริษัทกู JD มีไว้ให้ออดิตตรวจอย่างเดียวจริงๆไอสัส หน้าที่จริงๆไม่เคยตรง ทำแม่งทุกอย่าง เกินJDตลอดดดดดดดดดดด

371 Nameless Fanboi Posted ID:/8+JQ3Tfm4

>>369 มึงจบอะไรมาวะ บริษัทถึงให้ไปทำงานช่าง

372 Nameless Fanboi Posted ID:qr4Ohfm2Lf

>>371 จบวิทย์มา แต่งานกูคือรับผิดชอบยอดผลิตของโรงงานไง พอเครื่องเสียตามช่างไม่มา กูก็ต้องลุกไปทำเอง พอคอมเพลนไปทางหัวหน้า
พวกช่างแม่งก็งอนกูไม่ยอมมาซ่อมให้อีก

373 Nameless Fanboi Posted ID:xehZWb5Fns

ทำไมใบสมัครงาน ถึงถามละเอียดชิบหายเลยวะ ข้อมูลพ่อแม่พี่น้องถามหมด โครงสร้างองค์กรณ์เก่า ข้อมูลบ.เก่า

374 Nameless Fanboi Posted ID:lsdsp.3LHS

>>373 ก็ไม่อยากขู่ให้นายนอยด์นะ แต่ HR อย่างเรา บางทีก็แกล้งถามเรื่องที่ไม่ควรจะถาม เพื่อหลอกดูว่ารักษาความลับได้มั้ยเหมือนกัน
ถ้าปากเปราะเล่าอะไรที่ไม่ควรจะเล่าออกไป มีโดนมาร์คหัว

375 Nameless Fanboi Posted ID:DtbQo.5Xvs

ทำไมที่ทำงานกูมารยาทแย่่จังวะ คุยงานอยู่ก็พูดแทรก หรือคุยโทรศัพท์อยู่ก็มาถามแทรก ทั้งๆที่คำตอบที่ต้องการก็ไปถามเองได้หรือรู้ไปก็ไม่ได้เอาไป
ทำอะไรต่ออยู่ดี บางครั้งเจอเข้ามาถามพร้อมกัน 3 คน คนนึงกูคุยทางโทรศัพท์อยู่ อีกคนเดินมาถาม อีกคนตะโกนถาม เจอแบบนี้ไปสมองกูเอ๋อแดกเลย

376 Nameless Fanboi Posted ID:RDESzoMej+

เพื่อนโม่งกูถามหน่อยดิ คือกูมีหน้าที่ต้องไปรับ-ส่ง หัวหน้างานญี่ปุ่น จากโรงแรมไปที่ทำงานรวมถึงต้องไปรับส่งที่สนามบินด้วย และก็ต้องเตรียมหาอาหารมาให้เขาด้วย พอกูขอโอเขา เขาก็ให้นะ แต่ดูไม่ค่อยเต็มใจ แถมหลังจากที่ให้โอกู มาบอกกูเป็นนัยว่ากูไม่ควรขอโอ? กูนี่แบบหือค่าน้ำมันมรึงก็ไม่ให้ ค่าอาหารก็เบิกไม่ได้ มึงยังจะไม่ให้โอกูอีกเหรอทั้่งๆที่มอบหมายงานให้กูทำนอกเวลางานนี่นะ เงินเดือนกูก็ไม่ได้เยอะเลยนะเว้ยไอ้สัดกูไม่ใช่ผู้บริหารทำงานไม่เอาโอ

กูอยากถามว่ากูไม่ควรขอโอเขาจริงๆเหรอวะ หักค่าน้ำมันกับค่ากินหัวหน้า กูได้แค่นิดเดียวเองนะ

377 Nameless Fanboi Posted ID:PDq7Ap0hLK

กูเบื่อออออ โว้ยยยยยยยยย
เพื่อนโม่งช่วยกูหน่อยว่าไม่ใช่กูคนเดียวที่เจออะไรแบบนี้

คืองานปัจจุบันที่กูทำค่าตอบแทนสูงมาก เป็นงานสายกฎหมาย เงินเดือนดี สวัสดิการดี ปรับเงินเดือนปีละ 2 ครั้ง อยู่ยาวๆได้ยันเกษียณอ่ะ
แต่สภาพงานแม่งบั่นทอนจิตใจกูมาก สำนวนอันหนึ่งกว่าจะผ่านใช้เวลาเสนอเป็นเดือน ทั้งที่คนทำงานระดับผู้ปฏิบัติอ่านสำนวนแค่ชั่วโมงเดียว
ก็รู้แล้วว่าจะจบยังไง แต่เพราะสำนวนในสายงานนี้มันไม่มีกำหนดเวลา ระบบงานที่กูทำเลยไปเน้นเรื่องยิบย่อยแทน
อย่างเช่นรูปแบบการเขียน ผิดนิดหน่อยๆ ใจความไม่ได้ หัวหน้างานก็ไม่ให้ผ่าน ทั้งที่ในความคิดกูนะ แต่สรุปให้มันได้ประเด็นก็พอ
แต่องค์กรกูมันอนุรัก์นิยมไง อะไรที่ผิดรูปแบบไปนี่ไม่ผ่านเลย

ไหนจะเรื่องปริมาณเอกสาร ปัญหาเล็กๆน้อยๆเสือกต้องมาเสียเวลาเป็นอาทิตย์สร้างภาระเอกสารเป็นกอง เพื่อสรุปใจความออกมา
แค่ไม่กี่หน้า

คือต่อให้เงินเดือนมันดี แต่เจอแบบนี้กูก็เสียสุขภาพจิตว่ะ ทำงานไปก็คิดไปว่า กูรับเงินเดือนเป็นหมื่นเพื่อมานั่งทำอะไรแบบนี้เหรอวะ
แม่งเอ้ยยยยยย พวกมึงช่วยบอกกูทีว่าไม่ใช่แค่กูคนเดียวที่เจอแบบนี้
องค์กรที่มีรายรับเป็นพันล้านต่อปี แต่ระบบงานชวนประสาทแดกแบบนี้ไม่ได้มีที่เดียว

378 Nameless Fanboi Posted ID:LD7A4Y9FSJ

>>377 มึงไม่ใช่คนเดียวที่เจอแบบนี้ อะ สบายใจขึ้นมั้ย? 555 ค่าตอบแทนงานปัจจุบันกูก็สูงมากเหมือนกัน มากจนทำให้กูไม่สามารถหางานใหม่ที่ได้ total package เท่าเดิมได้ (นี่ขนาดไม่ขอเพิ่มด้วยซ้ำนะ) สวัสดิการก็ดี องค์กรก็มั่นคง แลกมาด้วยสุขภาพกายและสุขภาพจิต กูรู้สึกเหมือนจะตายในทุกๆ วัน ปริมาณงานที่ถาโถมยิ่งกว่าสึนามิ เป็นเดอะแบก แบกงานที่มีแต่ปัญหาเข้ามาให้แก้ตลอดเวลา และไม่ว่ามึงจะแก้จะพัฒนาอะไรเท่าไหร่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะต่อให้ปัญหาเดิมมึงแก้ไปได้ แต่ปัญหาใหม่ก็จะงอกยิ่งกว่าไฮดร้า กูแพลนว่าจะลาออกหลังได้โบนัส แต่เหมือนเจ้านายใหญ่กูจะรู้เว้ย สงสัยเห็นช่วงนี้กู annual leave บ่อย ถถถ วันก่อนเรียกไปคุย ถามไถ่ว่ามีอะไรอยากให้เค้าช่วย ปรับปรุง แก้ไขมั้ย เค้าเป็นห่วงนะ ไม่อยากให้กูฝืน มีอะไรให้บอกกันมาตรงๆ จะให้กูบอกไงวะ ปัญหาที่มันเป็นอยู่มันแก้ไม่ได้ง่ายๆ เพราะปัจจัยมันมาจากภายนอกซะเป็นส่วนใหญ่ เหมือนจะให้คนที่เป็นแค่อบต. ไปแก้ปัญหาเกาหลีเหนือกับอเมริกาเงี้ย มันแก้ไม่ได้หรอก มันมีแค่ทนได้กับทนไม่ได้เท่านั้นแหละ ซึ่งกูทนมาหลายปี ระหว่างทนก็พยายามพัฒนาวิธีการทำงานมาตลอด พยายามเพราะหวังว่ามันจะมีอะไรดีขึ้น แต่ในเมื่อมันเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นไม่ได้ กูก็คงขอยอมแพ้ว่ะ ได้โบนัสแล้วว่าจะไปตั้งหลักรักษาสุขภาพกายใจซักพักค่อยหางานใหม่

379 Nameless Fanboi Posted ID:GMbGLR7hA5

>>376 ต้องขอดิวะ มึงไม่ได้มาทำบุญนะ

380 Nameless Fanboi Posted ID:VVylOcK+e1

>>376 มันเป็นเรื่องของ mind set ว่ะ เจ้านายมึงเขี้ยวลากดินและเห็นแก่ตัว
เค้ามองว่ามึงไม่ควรขอ แต่ถ้าเป็นเจ้านายกู เค้าจะให้โดยไม่รอให้ลูกน้องร้องขอ
ไม่สิ ถ้าไม่คอขาดบาดตายจริงๆ เค้าไม่กล้ารบกวนกูนอกเวลางานด้วยซ้ำ

381 Nameless Fanboi Posted ID:v8s165Mcvv

>>380 mind set บ.ญี่ปุ่นแม่งชอบเป็นแบบนี้ กูก็ไม่เคยสัมผัสเองหรอกนะ แต่ฟังจากเพื่อนแต่ละคนแล้วขยาดเลยว่ะ

382 Nameless Fanboi Posted ID:F4LDHOoo.B

>>381 mindset รักองค์กร องค์กรมีบุญคุณที่จ้างมึง กูเจอเยอะพวกวิดวะคนไทยที่insecureอายุ40+ กลัวโดนไล่ออกเพราะยังต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ ส่งลูกเรียน เลยต้องเอาหน้าเข้าไว้

383 Nameless Fanboi Posted ID:9D/h0iwP3n

>>382 รักองค์กรอะ รักอยู่หรอแต่กูเกลียดเจ้านายแบบญี่ปุ่น แม่งกระจุ่มกระจิ๋มชิบหาย

384 Nameless Fanboi Posted ID:8jM1z7GGOL

กู >>380 เจ้านายกูก็คนญี่ปุ่นนะ แต่ใจดีมาก ไม่มีอะไรแบบนั้นเลย ว่าแต่พูดถึงเรื่องเอาหน้าใน >>382 แล้วกูนึกถึงตัวเองเลย กูเป็นคนไทยที่เป็น Japanese Speaking Staff จึงดีลงานกับคนญี่ปุ่นที่ HQ ซะเป็นส่วนมาก งานหนัก ทำงานโอทีดึกดื่นบ่อยทั้งที่ทำเต็มที่ เวลางานไม่เคยอู้ คนไทยก็มองว่ากูเอาหน้า บ้างาน ในขณะที่กูทำงานหนักจนคนไทยด้วยกันมองกูแบบนั้น คนญี่ปุ่นยังมองว่ากูขี้เกียจอยู่เลย เพราะบางทีโทรเข้าออฟฟิศตอนสี่ห้าทุ่ม(ของประเทศไทย)แต่กูกลับบ้านแล้ว 555 ดวกดีแท้ อยู่ตรงกลางนี่โดนประนามจากทั้งสองฝ่าย เหนื่อยใจจริงๆ ยังดีมีเจ้านายดีและค่าตอบแทนที่สูงเป็น oasis ให้ชีวิตการทำงานอันแสนจะส้นตีนของกู

385 Nameless Fanboi Posted ID:6QeckW4Dz2

>>384 ถามหน่อย ถ้าเรามีสกิล Speaking japanse สักประมาน N2 ควรทำงานที่ไหนจะดีกว่ากันวะ ทำที่ไทยอยู่ฝ่ายปฏิบัติการอาจได้บวกค่าภาษาเยอะหน่อย หรือ บินไปทำญี่ปุ่นดี กูกำลังจะวางแผนชีวิตยาวๆละ นอกจากภาษาญี่ปุ่นแล้ว ก็มีได้ภาษาอังกฤษนิดๆ TOEIC ประมาน 700

386 Nameless Fanboi Posted ID:9D/h0iwP3n

>>384 กุ >>382 กำลังจะเรียนจบญี่ปุ่นแล้วคิดจะทำงานกับบ.ญี่ปุ่นนี่คิดถูกรึเปล่าเนี่ย บางทีเห็นเจ้านายญี่ปุ่นแล้วเครียดกับ mindset ชิบหาย คือกุไม่ใช่พวกบ้างานนะ เวลางานกุก็ขยันแหละ แต่เวลาส่วนตัวต้องการเยอะๆอะ ปกติเป็น introvert ที่อยู่ข้างนอกได้แต่เวลาส่วนใหญ่อยู่คนเดียวมากกว่าอะ ตอนนี้เลยลังเลว่าจะเอายังไงดี อยากทำงานบริษัทญี่ปุ่นแต่ไม่เอาเฮี๊ยบจนน่ารำคาญอะ เห็นอ่านดราม่าแต่ละทีปวดหัวแทน

387 Nameless Fanboi Posted ID:9D/h0iwP3n

>>386 ลืมบอกกุไม่ค่อยอยากให้ใครมายุ่งหลังเวลางานอะ อยากได้เวลากลับบ้านเล่นเกมไม่ก็วาดรูปอะ

388 Nameless Fanboi Posted ID:kxbm/XoDmT

>>387 งั้นทำงานไทยเถอะ จบนอกมายังไงก็สบายกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ชิลๆ แข็งขันไม่สูงเท่าญี่ปุ่น

389 Nameless Fanboi Posted ID:QNIep2eEjj

>>388 คือกูไม่เเคร์เรื่องานสาย/ไม่สบาย แต่กูแคร์เกี่ยวกับสวัสดิภาพต่างๆในชีวิตว่ะ กูเกิดไทย โตไทย เห็นอะไรมากมายก็เริ่มคิดว่าบางทีชีวิต
ของรุ่นลูกรุ่นหลานถ้ามันอยู่ในทีนี้คงไม่มีอะไรมากก่าเป็นทาสเค้าไปวันๆ กลับกัน กูยอมย้ายไปอยู่ที่ๆทำงานหนักแล้วผลตอบแทนงาม กูก็จะเอา
ผลตอบแทนนั้นๆเป็นของขวัญสร้างพื้นที่ให้รุ่นลูก/หลานต่อๆไปสามารถโตมาในสังคมที่มีคุณภาพและตอบแทนความพยามได้อย่างเต็มที่ไง
กูจึงเลือกจะmoveตัวเองไปอยู่ที่อื่น และทนทำงานหนักต่อไป สร้างพื้นที่ของลูก/หลานต่อๆไป

390 Nameless Fanboi Posted ID:NJrNuCuRj4

ดีละที่กูไม่มีลูก 555 ...แต่เซ็ง แค่จะกู้ร่วมกับแฟนเพศเดียวกันเพื่อซื้อบ้านยังไม่ได้เลย

391 Nameless Fanboi Posted ID:cglZuqfbYT

>>389 ถ้ายังอยากลองหาบริษัทต่างชาติที่เปิดในญี่ปุ่นดูถ้าหาไม่ได้แนะนำ กลับไทยแล้วทำงานที่บริษัทญี่ปุ่นแทน (ได้เจอคนยุ่น อาจได้ไปญี่ปุ่นครั้งคราวตาม ตสม เมิง)

392 Nameless Fanboi Posted ID:ywiI7o3sbp

ช่อง3ปลดพนักงานร่วมร้อย ประเทศนี้มนุษย์เงินเดือนที่สบายดีที่สุดคือข้าราชการซินะ
ผลตอบแทนในระยะยาวสูง และรับประกันไม่โดนปลดออกจากงาน

393 Nameless Fanboi Posted ID:2YalFOs95s

ไม่ปลด บ.ก็อยู่ไม่ได้อ่ะ ถึงปลดไปก็ยังหายใจพะงาบๆ อยู่ดี มันไม่ใช่ความผิดพนักงานหรือผู้บริหารเลย แค่โลกมันเปลี่ยนไป

394 Nameless Fanboi Posted ID:NJrNuCuRj4

>>393 ถ้าในกรณีช่องสามกูว่าผิดที่ผู้บริหารนั่นแหละ มาเป็นเจ้าใหญ่นำเพื่อนอยู่ดีๆ พอเจอคดีก็ล้มไม่เป็นท่า โดนหน้าใหม่แซงไปไกลโพ้นแล้ว โลกมันเปลี่ยนน่ะใช่ แต่ผู้บริหารที่ไม่ปรับตามโลกก็ผิดอยู่ดี มันค่อยๆ ล่มสลายขนาดที่คนนอกก็ดูรู้มาตั้งนานละ กุว่าพนักงานก็รอเวลาเขาเลย์ออฟนั่นแหละ ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ตัวกัน

395 Nameless Fanboi Posted ID:sOySk1MRRI

ปลดกูคิดว่ายังแฟร์ว่ะ บ.กูนี่หาเรื่องให้ออกไม่ต้องจ่ายซองรัวๆ...คือง่ายๆบ.ถังแตกไม่มีตังจ่ายน่ะแหละ กูนี่ก็ทำๆไปรอเจ๊งแล้วแยกย้าย

396 Nameless Fanboi Posted ID:oLOGwTnZLi

ช่องสามแบกดาราตัวเป้งๆไว้เต็มเลยเมิง จำหลายปีก่อนที่ดึงดาราช่อง7ไปได้ไหม ดึงไปแล้วไงไปดองยาวววววจ้า ปีสองปีมีหนังเรื่องนึง ช่วงหลังมานี้ถึงปล่อยมาเป็นฟรีแลนซ์
กลับกันจีเอ็มเอ็มดาราเด็กน้อยเต็มไปหมด แค่พวกทีมนาดาวก็20-30แล้ว แต่ค่าใช้จ่ายต่อคนน่าจะน้อยกว่าเป็นสิบเท่า แต่ขายได้บ่อยกว่า มีงานมีตติ้งงานโชว์ตัวตลอด การจัดการดีกว่าเห็นๆ

397 Nameless Fanboi Posted ID:scuj3HyxsD

>>396 เงินเดือนดาราไม่ใช่ส่วนสำคัญมั้ง
หลักๆคือรายได้จากโฆษณามันหายไปเป็นพันล้านนั้นแหละ

398 Nameless Fanboi Posted ID:e0Ez0/8Pl0

โอยกูจะบ้าแล้ว มีที่ไหนรับฟังคำระบายแบบตั้งใจฟัง คุยให้กะลังใจมั่งไม้วะ
ระบายให้เมียฟังแม่งก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ได้แต่อืมๆ สู้ๆ
ระบายให้คนในที่ทำงานฟังยังสบายใจกว่า แต่ก็กลัวโดนมีดเสียหลัง เพราะไม่รู้พี่แกเอาไปพูดให้ใครฟังอีก

399 Nameless Fanboi Posted ID:A/7PoASN0G

ขอขึ้นเงินเดือนไป 10% (รู้แหละว่าเค้าให้ไม่ถึงหรอก ขอเผื่อต่อเฉยๆ) แต่ได้จริงๆแค่ 3% กว่าๆเอง
ตำแหน่งก็ไม่ได้เลื่อนทั้งที่อายุงานกูถึง และความรับผิดชอบที่โดนยัดให้ก็เกินตำแหน่งไปเยอะแล้ว
อยากจะลาออกแม่ง บ่นไปงั้นแหละ คงยังไม่ไปเร็วๆนี้

400 Nameless Fanboi Posted ID:I52XE13B3t

ฝ่ายโรงงานต้องรับหน้ารับคำด่าจากพนักงานไปวันๆ ฝ่ายบริหารจ้องแต่จะลดคนต้นปี ปลายปีรับรายวันมานั่งสะเงาะสะแงะ
สรุปสิ้นปีคนได้หน้ามีแต่พวกฝ่ายบริหาร ฝ่ายโรงงานกริบไปตามๆกัน กูว่ากูต้องพิจารณางานใหม่ละวะ กูอยากได้งานที่สร้างคุณค่าให้ตนเองและผู้อื่น
มากกว่าตอนนี้ ทุกวันนี้เหมือนรับคำสั่งจากพวกบนๆมา แล้วบีบมาว่าต้องทำให้ได้ พอกูคิดกูพยายามจนได้ตามเป้าหมาย พวกบนๆก็ฮูเล้ฉลองกันเอง
พวกฝ่ายโรงงานก็หัวหมุนแก้ปัญหากันต่อไป

401 Nameless Fanboi Posted ID:l8uGN64Ku+

>>399 มึงตรงข้ามกับกูเลย ของกูตั้งใจว่าหลังได้โบจะลาออก ทนไม่ไหวกับงานละ ประสาทจะกิน รู้สึกเหมือนเส้นเลือดสมองจะแตกในทุกๆ วัน ปรากฎว่าประเมินออกมาดีมาก โบเยอะมาก เงินเดือนขึ้นเยอะมาก เลยทำให้ลังเลซะงั้น งานที่ดีทุกอย่างยกเว้นเนื้องานนี่มันควรจะทำไงกับมันดีว้า...

402 Nameless Fanboi Posted ID:scuj3HyxsD

>>398 https://m.pantip.com/topic/34675783?

403 Nameless Fanboi Posted ID:53wtpKYO8k

>>401 อยากมีโมเม้นผลประเมินดีแล้วได้โบนัสเยอะๆบ้างว่ะ
ตอนกูทำงานที่แรก HR หลอกว่าอยู่ไม่ครบปีก็ได้โบนัสเต็ม สุดท้ายโดนหักตามสัดส่วน
สองปีต่อมาผลประเมินกูก็ดี แต่โบนัสได้กระจึ๋งเดียว แล้วบริษัทก็อ้างว่าผลประกอบการไม่ดี

404 Nameless Fanboi Posted ID:F50lcAgGdo

กูเครียดจังเลย

405 Nameless Fanboi Posted ID:Z5t8bPJiBC

>>400 ฝ่ายบริหารแม่งเหี้ยงี้แหละคิดแต่เรื่องต้นทุน แต่ไอ้พวกเหี้ยนี่มันจะบินกันแต่ first class เท่านั้นนะจ๊ะ คือกูอยากบอกพวกแม่งว่าถ้าจะลดต้นทุนมึงเริ่มจากค่าเครื่องบินมึงบ้างเหอะ ในขณะที่พวกกูพนงตาดำๆนั่ง low cost ถถถถถ

406 Nameless Fanboi Posted ID:o3NTCS4rPf

>>405 มันก็ปกติ พวกบริหารก็เอาแต่ของตัวเองดีๆไว้ก่อน ลูกน้องเขี่ยๆออกตังให้เท่านั้นแหละ จะมีผู้บริหารกี่คนที่ยอมมานั่งกับลูกน้องล่ะ

407 Nameless Fanboi Posted ID:vEa29gbZ4G

พวกมึงมาสอบเข้าราชการดิ สบายกว่านะ ไม่มีโบนัสก็จริงแต่ ขึ้นเงินเดือน2ครั้ง เต็มที่ 12%
แน่นอนว่าในทางปฏิบัติมีแต่เด็กได้ที่ได้
แต่คนที่ไม่ได้ก็ประมาณ 2.5-3% ต่อครั้งอ่ะ
ปีหนึ่งก็ตก 5-6% แบบแน่นอน แถมปรับฐานเงินเดือนเป็นระยะด้วย

408 Nameless Fanboi Posted ID:fjfeYzI7O2

ใช่ๆ กูทำราชการอยู่ ปีนี้เงินเดือนขึ้นมา 300 บาท
กูแบบว้าวๆๆ เครียดเลย ไม่รู้จะใช้ยังไงให้หมดดี

409 Nameless Fanboi Posted ID:++qG6Pp2Uo

เสนอโปรเจคลดcostได้ปีละ10ล้านบาทผ่านละว่ะ คิดหัวแทบแตก ลองทำจริงพนักงานก็ชื่นชม ลดขั้นตอนงานได้มากโข แต่ที่ได้รับกลับมาคือแค่เสียงปรบมือจากนายญี่ปุ่นเท่านั้น แล้วคงบี้ให้ทำสไลด์ไปเสนอสำนักงานใหญ่ปีหน้าเหมือนเดิม ตัวบนๆได้หน้ากระจาย ตัวล่างๆระดับกูคิดให้หัวแตกได้แค่เสียงตบมือ หลังปีใหม่นี้กูควรมองหางานใหม่ละ

410 Nameless Fanboi Posted ID:9FU5Zf0o15

กูรู้สึกว่า บ.สัญชาติญี่ปุ่นเนี่ยไม่เหมาะกับคนเก่งๆเลยว่ะ ทำให้ตายก็ได้เท่าพวกเช้าชามเย็นชามอยู่ดี
บางคนทำงานเก่ง เสร็จเร็ว กลับบ้านตรงเวลา แต่นายมองว่าขี้เกียจ สู้พวกทำโอทีดึกๆไม่ได้

411 Nameless Fanboi Posted ID:dcYyikpiRQ

>>410 มึงดูญี่ปุ่นทุกวันนี้ดิ โดนเกาหลี ไต้หวันแซง หมดและเรื่อง อิเล็กทรอนิกส์

412 Nameless Fanboi Posted ID:pKmHv3KLzh

อีดอกที่ทำงานแม่งไม่ถูกกะกู ทำงานสายงานเดียวกัน ทำงานไปครึ่งค่อนโปรเจ็ค แม่งอยู่ดีๆโอนงานมาให้กู บอกเมเนเจอร์ไม่ทำและนะจะทำอย่างอื่น เมเนเจอร์กูก็ขอนไม้แม่งให้อีก ตอนแรกกูก็เออเอาเหอะเอามากูจะลองซักตั้ง
พอเริ่มทำคือคนโอนงานแม่งก็ต้องบอกป่าววะ ว่างานมึงถึงไหน มีดีลอะไรกะใคร อีสัดไม่บอกอะไรกูเลยจ้าให้กูงมเอง วันดีคืนดีแม่งก็มีคนมาเอางานก็ชี้มาที่กู งานบางเรื่องมีปัญหาคาราคาซังอยู่ก็ไม่บอกกู บางเรื่องฟอร์มไม่เหมือนโปรเจ็คกูก็ไม่บอกกูต้องทำแล้วทำอีก
สัดกูหมดความอดทน หัวร้อนยังกะไฟเออร์ กูเดินไปหาเมเนเจอร์บอกกูทำไม่ได้นะแบบนี้ เอาแม่งกลับมาทำด่วน แม่งก็ด่ากูไม่มีความรับผิดชอบ กูสวนมึงสิไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ยอมทำงานให้จบโปรเจ็ค แล้วก็ฮึ่มๆใส่อีกหลายดอก อีสัดหมา
อย่าให้กูหางานใหม่ได้นะมึง กูจะโยนงานกูให้มึงทำมั่ง แล้วเดินแคทวอร์คออกมาสวยๆ

413 Nameless Fanboi Posted ID:RcPUhQcUb9

>>410 จากที่สัมผัสเขาจะชอบคนที่จงรักภักดีกับเขาถึงจะไม่เก่งก็ตามอะ ไหลตามกระแสเขาได้ ถ้าเก่งแต่สวนกระแสนี่อยู่ยาก แต่ก็เริ่มมีคนญป.ที่เริ่มมองมุมใหม่ๆบ้างละ แต่ยังมีน้อยอยู่ พวกหัวโบราณเยอะ

414 Nameless Fanboi Posted ID:sK5pj7A6sb

>>410 จาก ปสก ที่กูทำมานะ นายกู(ญี่ปุ่น) ชอบคนเลียเขามากๆ และก็ถ้าเขาทำผิดห้ามไปท้วงเขานะเว้ยมีโกรธแน่นอน แต่ถ้ากูทำผิดเหรอกูโดนรุมด่าเลยเว้ยเฮ้ย กูไม่รู้นะว่าเป็นแบบนี้ทุกที่มั้ยแต่กูโครตอึดอัดว่ะ

ตอนนี้กูแบกฝ่ายของกูอยู่ แต่ถ้าเงินเดือนกูขึ้นไม่เยอะกูจะไม่แปลกใจเลยเพราะกูไม่เคยเลียนายว่ะ ถถถถถถ

415 Nameless Fanboi Posted ID:+HhiZQ/sq0

>>410 ที่กุอ่านมาบริษัทส่วนใหญ่จะขึ้นเงินเดือน ตำแหน่งตามปีที่ทำในบริษัทอะ ต่อให้เก่งขนาดไหนกว่าจะก้าวหน้าคงหมดไฟก่อน แถมไอระบบอาวุโสของมันโครตขัดหูขัดตาเลย คนรุ่นใหม่ต้องทำตามคนรุ่นเก่า คนที่มีความเห็นแปลกๆก็จะโดนกีดกัน แถมพวกญี่ปุ่นชอบให้เลียเห็นด้วย คล้อยตามห้ามขัดอีก ถ้ามันจะล้าหลังสักวันคงเป็นเพราะระบบนี้นี่แหละ แต่มันก็มีบริษัทที่ให้เงินเดือนตามความสามารถเหมือนกันแต่ต้องเก่งจริงอะนะ

แถมระบบจ้างงานตลอดชีพกับรักบริษัทเท่าชีวิต เห็นแล้วมันน้ำเน่าอะ มันตัดสินคนจากเวลาที่ทำงานมากกว่าความสามารถซะอีก คือพวกบ้างานถึงจะดี กุไม่เห็นด้วยกับระบบนี้เลยอะ มันทำให้เวลาในครอบครัวญี่ปุ่นปั่นป่วนแถมทำให้เกิดความเครียดสะสมอีก

416 Nameless Fanboi Posted ID:hQkELd7ifH

10 ปีที่แล้วสมัยเรียนวิศวะ เคยฝึกงานกับโรงงานญี่ปุ่นสองที่ แม่งทำเอากูไม่อยากทำกับบริษัทญี่ปุ่นเลยว่ะ
แบบที่พวกมึงว่ามา ระบบอาวุโส นายญี่ปุ่นก็ค่อยแต่จะต้องจับผิด

มีตอนนึงกูจำได้แม่น ก่อนประชุมเครื่องจักรมีปัญหา แล้วนายเดินไปเจอ แทนที่จะรีบแจ้งรีบบอกคนที่รับผิดชอบ แม่งรอจนประชุมเกือบเสร็จ แล้วมาด่าๆ พูดประชดประชัน คือพี่ที่เขารับผิดชอบเขาก็ติดประชุมอยู่ไง โรงงานก็ใช่เล็กๆ มันก็ต้องมีพลาดกันได้ มีปัญหาแทนที่จะช่วยกันแก้ นี่รอด่าอย่างเดียว แล้วไม่ได้มีครั้งเดียวด้วย มีหลายอย่างที่กูไม่ชอบที่เกี่ยวกับคนญี่ปุ่น
ตอนนั้นกูเป็นเด็กฝึกงาน แม่งใช้กูมาทำงานเสาร์อาทิตย์ เงินไม่จ่ายซักบาท เห็นกูทำโปรเจ็กให้มันได้ ใช้เอาๆ สัส

417 Nameless Fanboi Posted ID:XI+xYinu/U

HR นี่ถ้าเราผ่านรอบสัมภาษณ์ไปได้ จะยอมบอกเวลางานตรงๆมั้ยวะ คือกูซีเรียสเรื่องนี้มากกว่าเงินเดือนนะ คือเงินเดือนไม่สูงไม่ว่าแต่อย่าใช้เกินเวลา ซึ่งถ้ากูถามตรงๆไม่รู้ว่า HR จะหมกเม็ดอะไรมั้ย แบบอยากหาคนมาแทนมากจนไม่ยอมเผยว่าบริษัทมันโรงงานนรกดีๆนี่เอง

418 Nameless Fanboi Posted ID:zHqzsXQDm1

>>417 อย่าหวังถาม HR เลย ถ้าคนขาดเค้าไม่บอกมึงหรอก กูนี่เจอมากับตัว ชอบให้กูเลิกเกินเวลานั่งกันทำเชี่ยไรไม่รู้ ไม่กลับบ้านกลับช่อง

419 Nameless Fanboi Posted ID:0SDysWfHhC

>>414 ของกูตรงข้ามเลยค่ะ นายญี่ปุ่นดีมาก ตรงไปตรงมา ดูกันที่ผลงานอย่างเดียว เอาจริงๆ นะ นิสัยกูอะเหี้ยมากบอกเลย ถถถ เรื่องเลียอย่าหวัง เรื่องปากไวนี่ที่หนึ่ง ถ้าเป็นเรื่องงานที่กูมั่นใจ กู defend ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ในขณะที่นายคนไทย ออกความคิดเห็นอะไรขัดแย้งไม่ได้เลย ได้ค่ะพี่ดีค่ะท่านเท่านั้นที่นางต้องการได้ยิน ใครขัดความคิดเห็นนางนี่แค้นฝังหุ่นยันชาติหน้า เรื่องส่วนตัวเรื่องงานปนมั่วกันไปหมดแยกแยะไม่ได้

420 Nameless Fanboi Posted ID:0SDysWfHhC

>>417 ถ้าบริษัทใหญ่มากๆ บางที HR ก็ไม่ได้รู้เรื่องของแต่ละแผนกอะไรมากมายขนาดนั้น ปกติสัมภาษณ์งานว่าที่เจ้านายต้องเป็นคนมาสัมภาษณ์มึงอยู่แล้ว มึงอยากรู้อะไรมึงถามไปตอนนั้นเลยดีกว่า HR เป็นแค่ตัวกลางมากกว่าว่ะ

421 Nameless Fanboi Posted ID:AAFQq+IgDt

น่าเบื่อว่ะ บริษัทกูแม่งคิดจะลดคนๆๆท่าเดียว แล้วพอลดได้ก็ไม่หาคนมาแทนหรือหามาแทนก็ได้พวกรายวันมาๆหายๆ คนระดับซุปก็ต้องลงไป
ทำงานระดับโอเปอเรเตอร์เองในขณะที่ยังต้องรับผิดชอบงานระดับซุปไปด้วย กูนี่หัวแทบจะระเบิด

422 Nameless Fanboi Posted ID:0SDysWfHhC

>>421 ลาออก

423 Nameless Fanboi Posted ID:ms5wayQxjM

>>421 มึงคือไอ้ >>400 สินะ กูอยากบอกว่ามึงก็เหมือนกูอ่ะ กูเป็นวิศวกรแต่ตอนนี้กูทำงานเยี่ยงโอเปเรเตอร์เลย แม่งคนไม่พอแต่ไม่ยอมจ้างเพิ่มว่ะ
กูดูแลทั้ง วางแผนผลิต QC maintenance น่ะ ใจกู กูอยากจะดูภาพรวมให้ออกนะว่า ตอนนี้มีอะไรที่ต้อง maintenance บ้าง งานที่ออกมาได้ตามมาตรฐานไหม แต่กูทำได้ไม่เต็มที่ว่ะ ...

อ่อ หลังจากที่กูมาทำที่นี่กูต้องดูดหรี่เพื่อแก้ปวดหัวว่ะ จากที่กูเคยลองแต่ไม่ติด ตอนนี้กูต้องดูดทุกวันไม่งั้นปวดหัวสัดๆ

424 Nameless Fanboi Posted ID:RW+1MJSfH4

>>421 ปีละไม่กี่แสน มันจะงกทำไมวะ งง

425 Nameless Fanboi Posted ID:KV4nbFFblf

มีความรู้สึกเหมือนนายลำเอียง เข้าข้างทีมข้างๆมากกว่ายังไงไม่รู้ว่ะ ทั้งที่งานทีมกูทำรายได้ได้มากกว่าแท้ๆ
มีอะไรดีๆประเคนให้ทีมนั้นหมด ทั้งพาไปกินข้าว เลี้ยงขนม ให้อุปกรณ์ที่ต้องใช้ทำงาน แจกโบนัสให้พนักงาน outsource ทีมนั้น
ทีมกูนี่ไม่เคยได้อะไรเลย พวกขนมของว่างนี่ซื้อมาให้แต่ทีมนั้นอย่างเดียว แล้วเค้ากินเหลือกันค่อยเรียกทีมกูไปกิน
ทีมกูนี่ทีวีต้องแย่งกันใช้กับแผนกอื่น ส่วนทีมข้างๆมีส่วนตัวของทีม 3-4 เครื่อง
คนที่เป็น contact point คุยงานก็ต้องแชร์กับทีมเค้า ซึ่งเค้าดูให้อีกทีมเป็นหลัก ทีมกูเหมือนเป็นปลิงไปฝากไว้ ว่างค่อยดูให้

ล่าสุดน้องในทีมเอารูปเกมเป็น screen saver แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ นายเดินผ่านมาเห็นหาว่าเล่นเกมในเวลางาน
อธิบายยังไงก็ไม่ฟัง จะหายัดข้อหาให้เค้าเล่นเกมในเวลางานให้ได้
ทั้งที่ทีมข้างๆดูหนังเล่นเกมกันในเวลางานแบบเปิดเผยได้ ตะโกนคุยเล่นกันดังลั่นในเวลางานได้

ถึงจะไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะต้องได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ แต่เจอแบบนี้ก็รู้สึกแย่ว่ะ

426 Nameless Fanboi Posted ID:zkQE9rb68T

>>423 ใช่ กูเองเพื่อนโม่ง กูถามตัวเองทุกวันว่า JD เค้าเขียนไว้ทำไมหนอ, ตอนสัมภาษณ์กูจะถามเรื่องระบบเรื่องบริหารทำไมหนอ ในเมื่อถึงเวลาจริงๆ งานแม่งจับฉ่ายชิบหาย กูทำตั้งเเต่เสนอโปรเจ็คยันหารถตู้รับส่งให้พนักงาน

>>424 งก เอาไว้โชว์ KPI Achive point ตามประสาผู้บริหารไง เอามาอวดๆกัน แล้วก็ฉลอง เฮฮา แต่ไม่เคยลงมาดูหน้างานจริงว่าลำบากกัน
ขนาดไหน

427 Nameless Fanboi Posted ID:zkQE9rb68T

หัวหน้าที่ใจดี คุยง่าย ไม่มีดุด่าคำหยาบหรือเสียงดังใส่ลูกน้อง มักจะไม่ค่อยมีลูกน้องเคารพสินะ เห็นกูเป็นหมาหัวอ่อนไปงั้นๆดิ
พื้นฐานกูเป็นสงบ ไม่อยากมีเรื่องทะเลาะอะไรกับใครง่ายๆ ถ้ามี ก็เป็นฝ่ายยอมก่อน แต่ในชีวิตทำงานจริงกูว่ามันไม่ค่อยดีที่เป็นแบบนี้ว่ะ
มึงจะถูกคนอื่นโยนงานให้ มึงจะถูกเพื่อนร่วมงานกดดันใส่ตลอด มึงจะถูกลูกน้องรวมหัวกันหัวเราะเยาะมองมึงเป็นตัวตลกเสมอ
กูว่าถึงเวลากูต้องเปลี่ยนอะไรบางอย่างแล้วว่ะ

428 Nameless Fanboi Posted ID:FA5bczICd0

>>426 มันไม่ได้เอาไว้อวดกันเฮฮาเฉยๆ เว้ย มันคือผลงานนั่นแหละ ได้หน้า ได้เลื่อนตำแหน่ง ผู้บริหารบ.กู ขยันลดคนมากๆ ลดจนคนที่เหลืออยู่งานโอเวอร์โหลด แต่มันรู้ไงว่าคนพวกนี้ไม่ลาออกหรอก เพราะบางคนก็บ้านใกล้ มีลูก อายุไม่น้อยแล้ว เลยไม่ค่อยคิดจะหางานใหม่ ยกเว้นใครต้องทำงานหนักอยู่โอดึกดื่นจนทนเสียสุขภาพไม่ไหวก็ลาออกไปเอง รับคนใหม่มาสบายไปอีก เงินเดือนถูก ได้ลด cost อีก ทำงานไม่ค่อยจะเป็นช่างแม่ง ผู้บริหารก็ไม่ได้ลำบากอยู่แล้ว โน่น ไปลำบากคนอยู่เก่าไปอีกต้องเป็นเดอะแบก คอยสอนงาน คอยตามแก้ปัญหาให้ ถ้างานหนักจนทนไม่ไหวก็ลาออกซะ รับคนใหม่ วนลูปนรกไปจ้า

429 Nameless Fanboi Posted ID:9h1jY1Iflh

พวกลด cost ด้วยการเอาคนออกนี่ของกูเจอเอาคนเก่งๆออก แล้วรับเด็กจบใหม่ทำงานไม่เป็นเข้ามาแทน
เข้ามาก็ทำงานไม่ได้ นั่งแช่ไปวันๆ งานก็ไม่ได้ สรุปนี่มึงลด cost หรือเพิ่ม cost กันแน่

430 Nameless Fanboi Posted ID:mdyQIiaO/x

>>429 งานมันมีสองแบบ งานที่สร้างรายได้และกำไรให้องค์กรโดยตรง พวกนี้ส่วนมากมันจะรักษาคนเก่งไว้แหละ แต่พวกงานแนวสนับสนุนเบื้องหลัง ทำให้แต่ละแผนกขับเคลื่อนไปอย่างราบรื่น พวกนี้โดนแน่บอกเลย (ถ้าองค์กรห่วยๆ อะนะ) เพราะผู้บริหารมันไม่สนใจหรอกว่าเอาคนเก่งออก รับคนโง่ราคาถูกมาแล้วจะเดือดร้อนยังไง เพราะมันก็แค่ทำให้งานทุกๆ อย่างมันไม่ราบรื่น ติดขัด ทำให้คนทำงานลำบาก ต้องเหนื่อยเกินความจำเป็น แต่มันไม่ได้มีผลกระทบกับรายได้และกำไรของบริษัท ผู้บริหารก็ไม่ได้มาเหนื่อยมาลำบากอะไรด้วย เค้าถึงชอบพูดว่าถ้าอยากทำงานแบบมีอนาคตมีความมั่นคง ควรทำในตำแหน่งหน้าที่ที่เป็น core business ของบริษัท เพราะถ้ามึงเก่ง เค้าจะให้ความสำคัญกับมึงสุดๆ แต่ถ้าอยู่ส่วน support บางทีเก่งให้ตายแม่งก็ไม่ค่อยเห็นค่าหรอกว่ะ ย้ำอีกทีว่าในกรณีที่องค์กรห่วยอะนะ เพราะถ้าองค์กรดีเค้าจะรู้ว่าทุกส่วนงานมันสำคัญหมด

431 Nameless Fanboi Posted ID:9Wc7GullK+

เวลาสมัครงาน นอกจากความสามารถหลักแล้ว สกิลเสริมนี่จะทำให้เราน่าสนใจจาก HR เยอะขึ้นมั้ยวะ
กูทำงานสายกฎหมายมาปีกว่า กำลังวางแผนไปสมัครงานธาคารที่หนึ่ง เป็นงานสายกฎหมายเหมือนกัน
ตอนนี้กูเตรียมตัวอ่านหนังสือพวกเศรษฐศาสตร์ การเงิน อะไรพวกนี้ไปด้วย ทีนี้กำลังคิดอยู่ว่า
งานสายธนาคารเดี๋ยวนี้มันใช้ระบบ IT มากขึ้น ถ้ามีความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งด้วยก็น่าจะดี
เลยจะหาคอร์สโปรแกรมมิ่งเรียนดูซักตัว แต่ก็ชั่งใจอยู่ว่าจะคุ้มมั้ย หรือ HR จะมองเราเป็นเป็ดแทน
คือรู้หลายอย่าง(นอกจากงานหลัก) แต่ก็รู้แค่พื้นๆ

432 Nameless Fanboi Posted ID:Gz82MNhcUe

โอทีคืออะไร มีแต่โอฟรี
วันหยุดมีแค่วันอาทิตย์ก็ทักมาของานทุกอาทิตย์เลยยย วันไหนมีวันหยุดยาวก็ไม่รอด ของานให้พี่หน่อย นิดเดียวนะ บางวันฟิตจัด 5 ทุ่มทักของาน พอเถอะะะะะะ ขอเวลาส่วนตัวบ้าง

433 Nameless Fanboi Posted ID:AbAZ66edrG

>>430 ชิบหายละ เสือกมาสาย support เห้อ

434 Nameless Fanboi Posted ID:dXD/fTqlS3

>>433 เหมือนทีมฟุตบอลอะ กองหน้าตัวยิงดังสุดเสมอ

435 Nameless Fanboi Posted ID:SG3hQe026K

>>430 จริงๆกูมองงานตัวเองว่าเป็นงานที่สร้างรายได้และกำไรให้องค์กรโดยตรงนะ ไม่ใช่พวก support
แต่ไม่รู้ข้างบนเค้ามองว่างานกูอยู่ในกลุ่มไหนนี่สิ

436 Nameless Fanboi Posted ID:NH9Vg6CSFX

กูมีเรื่องจะปรึกษาว่ะ กูทำงานเป็นสถาปนิกมาหลายปีแล้ว ความสามารถก็มีพื้นฐานที่ควรรู้ในสายงาน การใช้โปรแกรมที่อาชีพนี้ควรใช้ก็ทำเป็นหมดทุกโปรแกรม ก็ฟังดูโอเคใช่มั้ย แต่จริงๆกูไม่โอเคกับตัวเองเลย

กูเป็นคนที่ดีไซน์ห่วยมาก ไม่มีความคิดสร้างสรรค์เลยซักนิด ไม่ฉลาด พลิกแพลงไม่เป็น ทำนอกตำรากูจะไม่เข้าใจไปเลย องค์ประกอบศิลป์ การจัดวาง หรือการเลือกใช้สี ออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานไม่ได้เรื่อง รสนิยมแย่ ไม่สามารถทำงานออกมาให้สวยดูดีแบบที่ลูกค้าอยากซื้องานได้ กูไม่สามารถคิดนอกกรอบหรือเป็นคนละเอียดรอบคอบได้ ไม่มีเซนส์ของสถาปนิก กูทำงานพลาดบ่อยมาก และกูโดนหัวหน้าด่าบ่อยที่สุดในออฟฟิศแล้ว กูรู้ว่าเขาก็เหนื่อยใจกับกูที่ต้องมาด่าทุกวัน อยู่ออฟฟิศกูก็ไม่ค่อยสนุก กูเบื่อชีวิตที่ต้องตื่นมาตอกบัตรให้ตรงเวลา นั่งอยู่ในคอกสี่เหลี่ยมไปยันเที่ยง ไปกินข้าวแล้วกลับมานั่งคอกต่อไปถึงหกโมงเย็น เข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้เพราะเขาทำงานเก่งแล้วกูกาก เหมือนไปถ่วงมือถ่วงเท้าเขา ดูออกว่าเขาก็เบื่อ เหนื่อย ระอาใจ กูอย่างมากก็เป็นได้แค่คนดราฟท์งานให้ แต่ให้กูคิดเองกูทำไม่ได้เลย

ถ้ามีอะไรที่กูทำได้ดีและได้รับคำชมคือ กูประเมินราคาเก่งมาก ไม่ได้อวยตัวเองนะ คือกูถอดแบบคิดราคาค่อนข้างจะแม่นไม่มีผิดพลาดและไม่ต้องแก้บ่อย แต่ออฟฟิศกูมันเป็นออฟฟิศเล็กๆไง พองานประเมินราคาจบกูก็ต้องไปนั่งดีไซน์ต่ออยู่ดี ไม่ได้มีแยกฝ่ายว่าทำดีไซน์ ทำแบบ ทำราคา ทุกคนจะได้ไปคนละสามสี่โปรเจค แล้วก็ทำทุกอย่างตั้งแต่ออกแบบ เขียนแบบ ประเมินราคา ซึ่งกูตีบตันมากในการทำงานดีไซน์ พอกูคิดงานไม่ออก งานมันก็ช้า กูก็โดนด่าว่ากูทำงานช้าเกินไปมันมีผลต่อ kpi กูก็ยิ่งเฟลหนักว่ากูไร้ความสามารถ กูมันห่วยแตก

เคยพยายามเจรจากับหัวหน้าว่าขอทำแต่ประเมินราคาได้มั้ย แต่เขาก็บอกว่าเขาจ้างกูมาดีไซน์นะ ไม่ได้จ้างมาทำแค่ประเมินราคา อยากให้กูดึงศักยภาพตัวเองออกมาให้มากกว่านี้ แต่กูรู้ว่ากูไม่ไหวจริงๆ หัวไม่ไปเลย ใจไม่รักด้วยล่ะ

ช่วงหลังปีใหม่กูก็คิดว่ากูจะลาออก แต่ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะไปทำอาชีพอะไร กูแทบไม่มีความสามารถอะไรเลย หรือกูควรเข้าบริษัทใหญ่ๆแล้วไปแผนกประเมินราคาไปเลยวะ แต่กูก็ไม่อยากกลับไปทำอาชีพนี้แล้วว่ะ มันบั่นทอนสุขภาพกายใจกูมากๆเลย ตอนนี้กูสับสนชีวิตมากว่าจะไปทางไหนดี ตอนนี้ไม่มีความสุขเลย ไม่อยากไปทำงานแล้ว

437 Nameless Fanboi Posted ID:wOov2Vn+2U

>>436 นายมีคำตอบอยู่ในใจนายแล้วนะ แค่ไม่มั่นใจว่าออกแล้วจะดีกว่าไหม งั้นผมคอนเฟิร์มให้ละกันว่า ดีกว่าแน่นอน
ในจุดที่อยู่ตอนนี้ นายมีความสามารถด้านประเมินเเละตีราคาได้เเม่นยำ บริษัทใหญ่ๆจะชอบคนที่มีความสามารถนี้มาก เพราะมันส่งผลต่อกำไรบริษัท
ดังนั้น นายออกไปสายงานใหม่เริ่มในด้านที่ถนัดแล้วพ่วงความรู้นิดๆหน่อยๆของงานสถาปนิก รับรองว่าไปได้ดีแน่นอน ถ้าให้แนะนำก็ลองไปทางเซลล์
บัญชี หรือแผนกเกี่ยวต้นทุนไรพวกนี้นะ

ปล.เราก็เคยอยู่ในจุดที่ทำงานไปโดนด่าไปมาก่อน ทั้งๆที่ทำงานตรงสาย เราเลือกลาออกแล้วเปลี่ยนสายงาน ตอนนี้มีความสุขดี มีเครียดบ้างตามปกติ
แต่รวมๆแล้วมีความสุขกว่างานก่อนหน้ามาก

438 Nameless Fanboi Posted ID:aePw2JMlux

งานดี เงินดี องค์กรดี เสียอย่างเดียวเรื่องเจ้านาย และเจ้านายคนนี้จะไม่มีวันลาออกเด็ดขาด เป็นมึงมึงจะอยู่ต่อหรือหางานใหม่ ป.ล. ตัดเรื่องย้ายแผนกออกไปได้เลย ที่นี่ไม่มีนโยบาย

439 Nameless Fanboi Posted ID:05rksWwo4q

>>438 ถ้าย้ายแผนกไม่ได้ใช้วิธีลาออกแล้วเข้าใหม่ที่แผนกอื่นแทนได้ป่ะ เพื่อนกูเคยทำ

440 Nameless Fanboi Posted ID:RiJA4iqxnN

>>427 อห.มึงแม่งหัวหน้ากูป่ะวะ 5555555 ถึงเวลาต้องดุมึงดุลูกน้องมึงมั่งป่าวล่ะ ถ้ามึงแค่ด่าขำๆอ่ะน้องมันไม่กลัวหรอก มันจะนึกว่าเล่นด้วย แต่ถ้ามึงเอาจริง ทำใจแข็งลงโทษไปเลย อันเนี้ยมันน่าเกรงๆมึงมั่งแหละ //เอนี่เวย์ กูก็มีหน.แบบมึงเนี่ยแหละ ถึงกูจะชอบกวนตีนเค้าแต่กูเคารพนะ อย่าผันตัวไปเป็นสายโหดเลยมึง กูว่าการรายงานปัญหาที่เจอแม่งจะน่าจะน้อยลงเพราะไม่กล้าคุยกับมึงตรงๆกัน

441 Nameless Fanboi Posted ID:pF+vEQzP/l

ทำงานที่ใหม่มาเดือนกว่า ยังรู้สึกด๋อยชิบหาย ไม่มีคนสอนงานนี่มันหว่าเว้จริงๆ

442 Nameless Fanboi Posted ID:kZFL1qDnHb

>>436 กูเห็นด้วยกับ 437 นะ เบนไปทางสายบัญชีเลยดีกว่ามั้ย กูก็ไม่ค่อยรู้จักสายนี้หรอกแต่เห็นว่าบ.ใหญ่ๆ มันจะมีตำแหน่งพวกคอสคอนโทรลอะไรแบบนี้อยู่ด้วยนะ มีแบบฟอร์แคสล่วงหน้าด้วยว่าปีๆ นึงจะต้องกันเงินสำหรับส่วนไหนเท่าไหร่ยังไง

443 Nameless Fanboi Posted ID:y0kkMmvrUf

>>441 เดี๋ยวก็ดีขึ้นไอ้ตี๋ ระวังอย่าได้ใจมากไปล่ะ คนสอนงานไม่มี เป็นตายอยู่ที่มึงคนเดียว กูเคยมาแล้ว โดนเชิญออกตั้งกะครึ่งเดือนที่2 5555

444 Nameless Fanboi Posted ID:YWu8fOX1j5

บริษัท / สายงานไหน ที่ ได้ทำงานตาม JD เป๊ะๆมั่งวะ จะไม่ไหวแล้วสัส บริษัทกูงานจับฉ่ายชิบหาย ตาม JD กูแค่ควบคุมการผลิต / เสนอโปรเจ็คปรับปรุง
ต่างๆแค่นั้น แต่หน้างานกูทำแม่งทุกอย่างแทบจะทั้งโรงงานอยู่ละ เหนื่อยชิบหาย

445 Nameless Fanboi Posted ID:YWu8fOX1j5

กูจะปฏิเสธก็ไม่ได้เพราะคนตำแหน่งใหญ่ๆกว่าก็โยนมาให้กูอีกที แล้วพองานที่ไม่เกี่ยวข้องเยอะมากๆ งานที่กูต้องทำจริงๆมันก็ไม่ได้ทำ
เหมือนต้องเคลียงานส่วนอื่นๆให้เสร็จก่อนในแต่ละวัน แล้วค่อยมาทำงานจริงๆของกูในช่วงโอทีต่อ กว่าจะได้กลับบ้านก็ค่ำแล้ว
พอถึงบ้านก็หัวตื้อๆเหนื่อยๆ ไม่รู้เป็นเพราะเดี๋ยวคนนู้นนี้นั่นเรียก เดี๋ยวพูดแทรก เดี๋ยวโทรศัพท์กริ๊งกร๊างตลอดทั้งวัน ในขณะที่ในหัวกูก็ต้องคิดงาน
วางแผนงาน ทำงานนำเสนอออกมาตามรอบอีก งานมันMultitaskมากๆกูกลัวซักวันนึงสมองกูจะรับไม่ได้แล้วเอ๋อแดกว่ะ เอาไงดีวะ

446 Nameless Fanboi Posted ID:EEUTr/AKi3

>>445 อ่อเหมือนกูสมัยก่อนแหละต้องทำงานให้คนอื่นนู่นนี่นั่น โปรเจ็คเล็กให้คนน้อยกูต้องทำหลายอย่าง งานตัวเองไม่กระดิกมานั่งทำเอาตอนโอทีทำ ทำไปก็อิจพวกโปรเจ็คใหญ่มีคนเยอะๆ ทำงานแม่ง 7 วันมาครึ่งปีได้ วันหยุดคืออัลไล กูก็โคตรเครียดตอนนั้นก็คิดจะออกไม่ออกดี
จนสิ้นปีประเมินกู...พอใช้เพราะกูทำโปรเจ็คเล็ก พวกทำโปรเจ็คใหญ่ได้ประเมินดี กูเดือดจนฟิวขาด หางานใหม่อย่างไว

447 Nameless Fanboi Posted ID:p3LAFsosSs

>>441 นี่คือความระยำของโลกที่ทุกอย่างไปไวเกิน ไม่มีใครรอใคร

448 Nameless Fanboi Posted ID:JYgZy.V6Fs

>>447 ไม่เกี่ยวป่าววะ มันเป็นเรื่องระบบสอนงานวางมาไม่ดี

449 Nameless Fanboi Posted ID:EqcwwDuP2Z

>>444 หางานใหม่เถอะเพื่อน เห็นบ่นมาเยอะแล้ว อ่อ แต่ที่ๆกูทำอยู่มันเกิน JD เหมือนกันแหละ คงต้องไป บ.ใหญ่ๆที่เขาวางระบบดีๆอ่ะ

450 Nameless Fanboi Posted ID:STR7g18Ilc

>>449 JD คืออะไรอ่ะ

451 Nameless Fanboi Posted ID:IPNpGMupGh

>>450 Job Description

452 Nameless Fanboi Posted ID:edi5dx14Hh

>>450 JD ก็คือคำอธิบายขอบเขตงานที่ตำแหน่งเรารับผิดชอบ เช่น พนักงานบัญชี ก็ดูแลบิล,ระบบการเงิน ก็ว่าไป แต่ไม่ใช่เอาพนักงานบัญชีมารดน้ำต้นไม้, ซ่อมเครื่องตัดหญ้า แบบที่กูเจออยู่ทุกวันนี้

453 Nameless Fanboi Posted ID:JPcg3MW3mo

ประกาศรับสมัครงานกำหนดเงื่อนไขว่าต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แต่เรียกคะแนน TOEIC แค่550 อ่านแล้วแอบสงสัยว่าระดับสื่อสารได้นี่มันควรจะเรียก 650-700 ไปเลยดีมั้ย หรือเอาคะแนนสอบอย่างอื่นที่ไม่ใช่ TOEIC เพราะTOEIC มันแค่ฟังกับอ่าน ต่อให้ได้คะแนนสูงจริงแต่พอเอามาทำงานมันอาจจะมีปัญหาเรื่องพูดกับเขียรอยู่ดี

454 Nameless Fanboi Posted ID:OKCefmwPJz

>>453 มึงอย่าใช้คำว่าแค่ 550 ฮะ อยากจะบอกว่าแค่นั้นน่ะคนค่อนบ.ทำได้ไม่ถึงนะฮะ
ซีเนียร์กูบ.ปรับกฎใหม่ต้องได้ 550 ถึงขึ้นซีเนียร์ได้ จะจับสอบนี่ประท้วงกันชิบหายนะฮะ

ส่วนใหญ่ รีเควส 550 คือระดับพอใช้ คืออ่านอีเมล์รู้เรื่องแล้วเขียนตอบได้ว่ะครับ หรือแค่ตอบคำถามเป็นคำๆได้ไม่ต้องการรูปประโยคเป๊ะอะไรเบอร์นั้น
ส่วนใหญ่ฝรั่งมาทำงานไทยเค้าไม่ได้คาดหวังกะภาษามึงอยู่แล้ว แค่เค้าถามมึงงานได้เมื่อไหร่ แค่มึงตอบห้วนๆได้ว่า 4 โมงเย็นไม่ใบ้แดกเค้าก็พอใจแล้ว

455 Nameless Fanboi Posted ID:JPcg3MW3mo

>>454 ซีเนียร์บริษัทมึงอยู่มานานเหรอวะ ฟังดูแล้วเหมือนคนอยู่มานาน แต่ตอนแรกไม่มีสกิลด้านภาษาแต่เค้ามาแบบไม่โดนสอบภาษา พอปรับกฎเกณฑ์ใหม่ที่ตัวเองเสียเปรียบเลยต่อต้าน

456 Nameless Fanboi Posted ID:OKCefmwPJz

>>455 สาย Engineer อ่ะคือพอคุยได้แต่ไม่แม่นแกรมม่าให้ไปสอบก็ได้กันไม่ถึง 550 หรอก คือเวลาคุยกะฝรั่งใส่ศัพท์เทคนิคเป็นคำๆ ไม่ได้มีรูปประโยค
พี่ที่ทำงานกูมีอยู่คนเอะอะ "the" ไว้ก่อน นั่งฟังๆแกพูดๆกำลังจิบกาแฟเจอ "in the this" เข้าไปกูสำลักกาแฟเลยสัด

457 Nameless Fanboi Posted ID:JPcg3MW3mo

>>456 เข้าใจและ คือสายงานหลักของบริษัทมึงคือวิศวะ ซึ่งไม่ต้องเน้นภาษาอังกฤษมาก ขอแค่ฟังอ่านรู้เรื่องไม่เอ๋อแดก และเข้าใจศัพท์เทคนิคก็พอ ด้วยเหตุนี้ก็เลยเรียกTOEIC ไม่สูงซินะ

458 Nameless Fanboi Posted ID:ge.5gWj.7j

>>453 550 นี่สำหรับใครหลายๆคนยังทำกันไม่ถึงเลยนะเว้ย อย่างบ.พี่สาวกูเค้าเรียก TOEIC 550 เหมือนกันเพื่อปรับตำแหน่งขึ้นเมเนเจอร์ พี่สาวกูยังทำไม่ได้เลย ขนาดไปลงเรียนเพิ่มแล้วด้วยซ้ำ

หรืออย่างกูเคยไปสอบ TOEIC รอบเดียวกันตอนที่เค้าเปิดรับครูตจว.ที่จะให้ยื่น TOEIC กัน พวกนี้บ่นกันระนาวเลยนะว่า เอาแค่ 200คะแนนไม่ได้เหรอ 400คะแนนมากเกินไปไม่มีใครทำกันได้หรอก

>>454 บ.กูเคยมีงี้เหมือนกัน บังคับให้พวกซีเรียร์สอบกัน ใครสอบไม่ผ่านต้องเรียนภาษาอังกฤษกับบ. สุดท้ายพนง.ประท้วงชิบหายวายวอดเลย

อีกอย่างกูว่า TOEIC มันไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าจะใช้ภาษาอังกฤษได้ดีนะ บางคนทำข้อสอบได้ แต่พอต้องใช้จริง ต้องพูดจริงก็ทำกันไม่ได้น่ะ

459 Nameless Fanboi Posted ID:bFH/X/dZR8

กูเข้าใจแหละว่าคะแนน TOEIC สูง ไม่ได้แปลว่าจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เพราะมันแค่อ่านกับฟัง และมีเทคนิคในการตอบอยู่ หรือถ้าแค่จับใจความสำคัญในประโยคได้ก็ตอบได้และ ซึ่งกูว่าคนที่พอสามารถสื่อสารได้ คุยกับฝรั่งรู้เรื่องโดยแกรมม่าอาจจะไม่ถูก ยังไงก็ทำคะแนนได้ไม่ยากนะ โดยเฉพาะส่วนการฟังที่ศัพท์ก็ไม่ได้ยากอะไร แค่ถามคำถามคำศัพท์พื้นๆ

ทีนี้กูเลยเกิดความสงสัยว่าที่ HR เรียกคะแนน TOEIC ที่ไม่สูงมาก(สำหรับการใช้งานจริง) นี่เพราะแค่อยากกรองคนรึเปล่า หรือหน้างานจริงใช้ภาษาไทยเป็นหลัก ภาษาอังกฤษขอแค่ไม่ใบ้แดกแบบที่ >>454 ว่าไว้ก็พอ

460 Nameless Fanboi Posted ID:/4KjzNf4Fs

>>459 เค้าแค่เอาไว้กรองคนคือมึงจะสมัครตำแหน่งนี้มึงต้อง 550 นะ แค่นี้คัดคนออกไปได้เกินครึ่งเลยมั้ง
ส่วนภาษาอังกฤษใช้ได้ไม่ได้มาวัดกันตอนสัมเอา
มีทั้งผ่านเกณฑ์ 550 แต่พอให้พูดแนะนำตัวจริงไม่กระดิก พูดติดๆขัดๆ
มีทั้ง พูดได้แบบสำเนียงไทยๆ แต่ลงดีเทลงานได้ละเอียดยิบ
มีทั้ง พูดได้แบบเนทีฟ แต่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ทำงาน
ให้ HR เลือกเอา

461 Nameless Fanboi Posted ID:gRw3Ubujj/

วันจันทร์จะเริ่มงานใหม่แล้ว เฮ้อ กังวลว่ะ นี่สินะความรู้สึกกลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวสังคมทำงานเหี้ย กลัวเข้ากับใครไม่ได้

462 Nameless Fanboi Posted ID:wiPLDhmEQd

>>458-460 อันนี้สงสัยจริงๆนะมึง TOEIC ความยากมันคนละแบบกับIELTS/TOELFไหมวะ? การที่สามารถทำข้อสอบ2ตัวด้านบนได้ จะมีโอกาสมาทำTOEICได้คะแนนสูงไหม? เพราะเห็นพวกมึงบอกว่าแม่เน้นแค่พวกฟังกับอ่าน กูมองว่าเป็นข้อสอบที่ดูง่ายละนะถ้าเทียบกับที่จะต้องสอบทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน

463 Nameless Fanboi Posted ID:Drw.c9MotQ

>>462 TOEIC ใช้สมัครงาน เน้นสื่อสาร
IELTS/TOELF ใช้สมัครเรียน เน้นเอาไว้เขียนเปเปอร์

464 Nameless Fanboi Posted ID:mTHzjiKUsb

>>462 ยากคนละแบบ ไอเอลยากกว่ามาก ไอเอลเต็ม 9(มั้งนะ) โทอิค990 กุไปสอบโทอิคแบบไม่อ่านได้885 ไอเอลไม่อ่านเหมือนกันได้แค่ 6.5 อ่ะ ลองเอาข้อสอบมาเทียบกันจะเห็นชัดเลยว่าโทอิคจริงๆเน้นเทคนิคการทำข้อสอบมากกว่า แค่มึงมีพื้นอังกฤษกลางๆแต่รุ้วิธีทำข้อสอบพวกตัดช้อยส์ สกิมมิ่ง กุว่า700+ได้ง่ายๆ ในขณะที่ไอเอลเทคนิคมึงก้ต้องมี คลังคำก็ต้องมี ไอ้แพทเทิร์นการเขียนหรือพูดให้ได้คะแนนเยอะมันก็มีแหละ แต่การฝึกประยุกต์+ท่องจำแพทเทินพวกนั้นก็ทำให้ภาษามึงพัฒนาไปในระดับที่สูงกว่าโทอิคแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นในการทำงานจริงที่เรามักจะส่งอีเมลภาษาอังกฤษหาคนไทยด้วยกันเอง ประเทศเพื่อนบ้านที่อังกฤษไม่แม่นพอกะเรา หรือเจ้านายฝรั่งที่เขาพยายามข้าใจเราอยู่แล้วไอเอลไม่ได้จำเป็น

465 Nameless Fanboi Posted ID:bv4iVY9e6B

>>464 งานในระดับที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเน้นควสมถูกต้องไวยากรณ์นี่มีอะไรมั้งวะ กูนึกออกอยู่สายเดียวคือพวก Law firm ที่ต้องตรวจ/ร่าง สัญญาเป็นภาษาอังกฤษ ต้องใช้ความแม่นยำด้านภาษาสูงมาก

466 Nameless Fanboi Posted ID:mvVPEttR+w

>>465 สายแปลล่ะ แปลไปแปลกลับ / เขียนคอนเท้นท์ภาษาอังกฤษ ไม่รู้นะเดา

467 Nameless Fanboi Posted ID:qzmOFcp4Xc

>>465 สายอะไรก็ได้ที่ต้องทำเอกสารเป็นหลักฐานข้อตกลงกับบริษัทอื่นด้วยภาษาอังกฤษ อย่างของกูสายไอทีก็มีพวกออก Design Spec ให้ลูกค้า มันก็ไม่ต้องใช้ไวยากรณ์ขั้นสูงหรอก แค่พื้นๆ แต่ห้ามผิดห้ามมั่ว เพราะถ้าเกิดปัญหาทีหลังจะต้องยึดตามเอกสาร เอาง่ายๆอย่างลืมผัน verb ช่อง 3 เนี่ยทำเอาเสียเวลาแก้งานเพิ่มเป็นอาทิตย์ได้ง่ายๆเลย

468 Nameless Fanboi Posted ID:R1c/aJAfmL

>>466 สายแปลไม่ดูคะแนนพวกนี้นะ เทสด้วยการแปลบทความให้ดูเลย สายเขียนคอนเทนต์ก็น่าจะเหมือนกัน

469 Nameless Fanboi Posted ID:CdO+zpN7P1

โม่ง กุขอปรึกษาหน่อย พอดีกูตกงาน ไม่มีจะแดก
แล้วมีคนติดต่อขอให้เปิดบัญชีแล้วคนคิดต่อจะเอาเงินเข้าบัญชีเรา เข้า-ออกในชื่อเรา แต่เงินนั้นเป็นรายได้ รายจ่ายของคนติดต่อในเชิงธุรกิจวะ

คนติดต่อจะให้เงินกูด้วย เค้าบอกกูจะไม่ต้องอดมื้อกินมื้ออีกต่อไป แค่ไปเปิดบัญชีมาก็พอ

กูควรรับงานนี้ไหมวะ? กูว่ามันแปลกๆป่ะวะ แค่เปิดบัญชีแล้วได้เงินเนี่ย

470 Nameless Fanboi Posted ID:3PT2Yv4v7c

>>469 จ้างเปิดบัญชีผิดกฎหมายนะ ฟังๆดูแล้วคนจ้างต้องการเอาชื่อมึงมาใช้ฟอกเงิน สบายระยะสั้นแต่ถ้าโดนจับได้ก็จ้างทนายมาแก้ต่างเอาเอง

471 Nameless Fanboi Posted ID:CdO+zpN7P1

>>470 อ้าว เกือบซวยละกู ใจมากโม่ง

472 Nameless Fanboi Posted ID:8oV.Kh/0p0

>>469 ขายรูหีสิ กำไรดีนะ มาขายกับโค๊ดสตาร์ก็ได้

473 Nameless Fanboi Posted ID:CSKPaS3KUF

>>469 ผิดกฏหมายเหี้ยๆ โดนจับไม่รู้ตัวนะมึง

474 Nameless Fanboi Posted ID:jsAklphqLs

ตามอ่านประเด็น TOEIC มาซักพัก สรุปได้ว่าการทำงานมันมีสองแบบซินะ
แบบภาษาอังกฤษต้องเป๊ะ เพราะต้องใช้ในการร่างสัญญา แบบ >>467
กับอีกแบบ ไม่เน้นความเป๊ะ ขอแค่สื่อสารรู้เรื่องก็พอแบบ >>454 >>456 >>460

ซึ่งในความคิดกู ถ้าเรียกคะแนน TOEIC สูงๆ พร้อมกับทักษะในระดับสื่อสารได้จริง
มันจะเรียกเงินเดือนได้สูงกว่า คะแนน TOEIC สูงแต่หน้างานใช้แต่ภาษาไทย และพอสื่อสารกับนายฝรั่งได้เฉยๆ
ถูกป่ะ

475 Nameless Fanboi Posted ID:WEi7+kyrKZ

แต่ toeic มันง่ายจริงๆ นะ กูเรียนหลักสูตรภาษาไทยมาทั้งชีวิต จบ ป.ตรีไปสอบได้ 750 แบบไม่ต้องติวห่าอะไร ซื้อหนังสือมาดูแนวข้อสอบ ซ้อมทำไปแค่ 2 ชุดเองมั้ง เพื่อนๆ กูภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ กัน ยังไม่เห็นมีใครได้ต่ำกว่า 500 เลย

ยิ่งตอนขยับมาเรียน ป.โท หลักสูตรนานาชาติยิ่งแล้วใหญ่ กูไม่อ่านหนังสือสักตัวยังสอบได้ 900 กว่า เวลากูเห็นพวกติวเตอร์ติวโทอิคที่ชอบสอนให้จำประโยค จับหลักนั่นนี่แล้วก็ได้แต่ส่ายหัว บอกเลยว่าถ้าอยากจะสอบให้ได้คะแนนดีๆ มึงก็อ่านให้ออกฟังให้รู้เรื่องแค่นั้นแหละ

476 Nameless Fanboi Posted ID:P9rvMaWKka

>>469 มึงจะเข้าขบวนการฟอกเงินเหรอ

477 Nameless Fanboi Posted ID:e9EjYW3rFi

>>475 ก็คนที่ไปเรียนมันไม่เข้าใจภาษานี่หว่า อาศัยจำเอา

478 Nameless Fanboi Posted ID:P9rvMaWKka

>>475 มึงอยู่สังคมแบบไหนวะ เพื่อนๆได้สอบ TOEIC ทุกคนเนี่ย

479 Nameless Fanboi Posted ID:N3v3sxFv7y

>>469 เมิงเคยเห็นข่าวเวลาแชร์ลูกโซ่โป๊ะแตกแล้วคนโดนจับออกมาร้องไห้ว่าหนูไม่ได้ทำเป็นแค่คนรับโอนตัง
นี่แหละจุดเริ่มต้น

480 Nameless Fanboi Posted ID:Fn+7FtLrkS

>>469 เปิดบัญชีให้คนอื่นใช้ 99.9% เอาไปใช้ในเชิงทุจริต ถ้าเงินสะอาด มีที่ไหนจะเงินไปเข้าบัญชีชื่อคนอื่นแทนบัญชีตัวเอง

481 Nameless Fanboi Posted ID:7qBiQ7zNiZ

>>475 แล้วมึงอยู่สังคมแบบไหนถึงไม่ได้สอบวะเนี่ย ค่าสอบถูกกว่ากินข้าวอีก

482 Nameless Fanboi Posted ID:zZlN2OatjO

มันขึ้นอยู่กับสังคมจริงๆแหล่ะว่ะ มัธยมกับมหาลัยให้ความสำคัญกับ eng แค่ไหน ค่านิยมของเด็กที่เรียนเป็นยังไง ของกูเนี่ยตอนม.ต้นโรงเรียนสอน eng แน่นมาก กูขอบคุณจนถึงทุกวันนี้ที่ทำให้พื้นฐานกูดีตั้งแต่เด็ก
ม.ปลายย้ายโรงเรียนไปโรงเรียนใหญ่ แต่สอนไม่เข้มเท่าตอนม.ต้นซะงั้น แต่ดีตรงที่เด็กโรงเรียนมันแข่งขันกันเอง แค่ม.5ก็เริ่มคุยกันละว่าจะไปสอบ toeic, toefl, cu-tep กันมั้ย เอาคะแนนมาคุยกัน บางคนแอบไปสอบตั้งแต่ม.4
แต่ขึ้นมหาลัยแม่งหนักเลย สอนก็น้อย เพื่อนๆก็ไม่มีใครสนใจคุยเรื่องนี้กัน คือคณะกูมันได้ใช้ eng นะ แต่มันเอาแค่สื่อสารได้ ไม่เน้นเป๊ะ ไม่ต้องใช้ cert ในการหางาน ก็เลยฟรีๆกัน

ดังนั้นคนที่ทำได้เยอะเป็นปกติก็อย่าดูถูกคนอื่นเลย ถ้ารอบข้างไม่ส่งเสริมแล้วตัวเองไม่ได้ตั้งใจกับด้านนี้จะไม่เก่งแล้วทำได้น้อยก็ไม่แปลกอะว่ะ จะวัยเรียนหรือทำงานมาหลายปีแล้วก็ไม่ต่าง

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.