>>96 >>97 ไม่รู้ว่าเลือกเยอะในมุมมองของเราตรงกันป่าวนะ กูเองก็พยายามหาคำตอบเรื่องนี้อยู่เหมือนกันว่ากูสเปคสูงไปรึเปล่า
พอกูลิสออกมาเป็นข้อๆว่าผู้ชายที่อยากได้จริงๆเป็นยังไง กูก็มักจะรู้สึกว่าสเปคกูธรรมดาและทั่วไปมาก เช่น ใจดี อบอุ่น มีความรับผิดชอบ ขยันและทัศนคติไปด้วยกันได้ หน้าตายังไงก็ได้ขอแค่สูงกว่า (แต่กุก็เตี้ยชิบหายอยู่ละ โลกนี้ไม่มีผู้ชายเตี้ยกว่ากูแล้วล่ะนอกจากคนแคระ)
แต่ปัญหาคือ พอเจอคนที่ถูกใจ กูจะลังเล แบบ จะดีหรอ ควรจะเป็นคนนี้หรอ กูยังมีโอกาสเจอคนอื่นอีกนะจะเอาคนนี้จริงๆหรอ บลาๆ ทั้งๆที่เขาไม่มีอะไรเสียหายแต่กูก็ยังลังเลใจจะคบอ่ะ กูจริงจังมากคิดไปถึงขั้นว่าคบแล้วถ้าเลิกกันจะเป็นไง สุดท้ายก็หยุดไว้แค่เพื่อน หรือบางคนอาจไม่ตรงทั้งหมดแต่ความรู้สึกก็ชอบแล้ว พอจะให้คบจริงๆก็จะลังเลอีก กูก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงกลัว
จริงๆแล้วถ้าลองคบไปก่อนไม่ชอบก็เลิกยังได้ แต่กูกลับเลือกที่จะไม่ทำ เหมือนว่าถ้าคบกันแล้วจะไม่อยากให้จบลง ไม่อยากให้มีอะไรด่างพร้อยไรงี้อ่ะ กูว่ากูซีเรียสจนเกินไปแต่กูก็หยุดความรู้สึกที่ไม่อยากคบคนที่แค่ชอบเฉยๆไม่ได้ ประมาณว่าจะคบใครกูคิดไปถึงเรื่องแต่งงานเลยนู่น ทั้งๆที่กูก็เข้าใจความจริงนะว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะมาคิดยาวไกลขนาดนั้นกับคนที่เรายังไม่ได้คบจริงจัง กูเข้าใจความจริงแต่เสือกมีนิสัยที่เกือบๆจะฝืนความจริงอ่ะ แล้วกูก็สับสนในตัวเองว่ากูควรจะคิดยังไงต่อไปดี
พออายุยิ่งมากก็ยิ่งคิดเยอะ แล้วก็คิดว่าประสบการณ์กูน้อยมากเหลือเกิน คิดๆแล้วมันก็รู้สึกว่าผิดปกติ โตป่านนี้แล้วไม่ทีประสบการณ์ความรักเลย ทัศนคติเลยยังมองเป็นเด็กๆอยู่ แล้วมันก็อายไม่แปลกใจที่ทำไมคนอื่นมองว่ากูยังเด็กน้อยนัก ไปๆมาๆก็ชักรุ้สึกสมเพชตัวเองไงไม่รู้
ส่วนเรื่องเซ็กซ์มันคือคนละส่วนกันกูเข้าใจแหละ แต่คนอายุเท่ากันเค้ามักไม่ซิงแล้วไง แม่งเลยทำให้กูรู้สึกว่า ในขณะที่คนอื่นเค้ามีประสบการณ์ด้านนี้จนไปถึงขั้นมีเซ็กซ์แล้ว กูน่ะ แค่แฟนคนแรกยังไม่มีเลย ไม่ใช่ว่ากูคิดว่าการไม่มีเซ็กซ์ทำให้ไม่มีแฟนนะ
ตอนนี้เลยแบบ อายจังวะ ถ้าไม่มีโม่งกูไม่กล้าพูดกับใครแน่ๆ