Last posted
Total of 1000 posts
>>957 อีกคนที่กูรู้จักคือ เกิดมาสวยตลอด ไม่เคยเป็นสิว นอนทั้งเครื่องสำอางตื่นมายังไม่เป็นอะไร แม่งเลยไม่เข้าใจว่าคนเป็นสิวบางทีมันก็เป็นแบบเลือกไม่ได้ เช่น เป็นเพราะฮอร์โมน มันไม่เคยเป็น มันเลยคิดว่าคนเป็นสิว = สกปรก มันก็เลยจะขยะแขยงคนเป็นสิวมาก คบแต่คนที่หน้าใสเท่านั้น เป็นสิวไม่คบ เห็นหน้าแล้วกินข้าวไม่ลง จะอ้วก กูนี่เจ็บชิบหาย อีห่าราก กูมั่นใจว่าคนเป็นสิว 99% แม่งรักษาความสะอาดยิ่งกว่าพวกหน้าใสๆ อีก ดูแลตัวเองจะตายห่าอยู่แล้ว แต่มันก็เป็นสิวอยู่ดี จะให้ทำไงวะ
>>959 ก็คบแต่พวกหน้าสิวที่ดูแลตัวเองนี่แหละมึงจะเอาไงอะ :( ไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน กูนี่อ้วนดำเตี้ยหน้าเหี้ยหุ่นเผละ กูก็ไม่ได้หวังจะคบกับคนหุ่นดาราไอดอลอะ มองเพื่อนในมอก็คิดทุกวันว่าถ้ากูผอมบางทีกูอาจจะน่าคบมากกว่านี้ คนอ้วนแม่งไม่น่าคบจริงๆนะ ดูดุ หยิ่ง ยิ่งเงียบด้วย เหมือนเป็นหมีควายในรุ่นที่ไม่มีใครอยากคบอะอีเหี้ย
แต่กูก็ชอบอยู่คนเดียวน่ะนะ แต่บางทีก็อยากหุ่นดีหน้าสวยเหมือนกัน รู้สึกว่าหน้าตาดีแม่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้มึงอยู่เหนือคนอื่นจิรงๆอะ ;_;
อยู่รุ่นเดียวกับดาราไอดอล/คนหน้าตาดี รู้สึกเลยว่าเค้าต่างจากคนอื่น พวกหน้าเห็ดก็เป็นหน้าเห็ดต่อไป
เพื่อนมหาลัยแม่งต่างจากมัธยม ส่วนมากแม่งก็มาจากที่ๆรู้จักกันอยู่ก่อนแล้ว จะคบอะไรคิดผลประโยชน์ก่อน (กูเป็น) ได้แต่คาดหวังว่ามันจะดีขึ้น ทั้งสิ่งรอบตัวและตัวกูเอง สรุปมาระบาย 5555+
>>962 เห็นด้วยว่าสิ่งดีๆ เข้ามาเยอะ ได้รับโอกาสต่างๆ แต่สิ่งไม่ดีก็เข้ามาเยอะเหมือนกัน สรุปคือถ้าเป็นคนสวยแม่งจะโดดเด่น เลยดึงดูดทั้งสิ่งที่ดีและเหี้ยเข้ามามากมาย จากปสก.ตรงที่เป็นคนมีช่วงชีวิตหลายแบบ เป็นคนหน้าตาปานกลาง(ค่อนข้างไปทางดี แต่ไม่ต้องสวยมาก)และทำตัว low-key ชีวิตจะมีความสุขที่สุดแล้ว แต่ก็แล้วแต่ด้วยแหละว่าชอบชีวิตแบบไหน กูเคยใช้ชีวิตท่ามกลางแสงไฟแล้วรู้สึกเหนื่อยและฝืนตัวเองเกินไปอ่ะ ชอบชีวิตแบบ low-key มากกว่า เพื่อนก็จริงใจดีด้วย ไม่ได้หมายความว่าตอนสวยเพื่อนไม่จริงใจนะ แต่มันมีคนเข้ามาเยอะจนต้องมาเหนื่อยกรอง แต่คนดีๆ จริงใจยังไงก็จริงใจกับเราอยู่ดีนั่นแหละ
>>964 เออคล้ายกูเลย55555 กูก็เป็นคนที่ถ้าแต่งหน้าแต่งตัวก็ค่อนข้างหน้าตาดี ถ้าปล่อยตัวก็คือศพ ช่วงแรกไปมหาลัยก็แต่งจัดเต็ม มีเพื่อนกลุ่มใหญ่สวยๆ คนเข้าหาเยอะ และในลักษณะมาจีบก็เยอะ แต่โคตรไม่ชอบเลย รู้สึกไม่ใช่ตัวเอง แบบกลุ่มเพื่อนความสนใจมันไม่ตรงกันอะ ตอนนี้ก็เลยเลิกแต่งตัวละ+เฟดตัวออกห่าง มาอยู่กับกลุ่มแบบปกติๆดู คือมันก็เรื่อยเปื่อยดี แต่ยังไงมันก็แล้วแต่คนอะ กูเป็นพวกไม่ชอบอยู่กับกลุ่มเพื่อนใหญ่ๆมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้วด้วย พอมาอยู่กับกลุ่มใหญ่+พึ่บรู้จัก+ความสนใจไม่ตรงกัน(แบบสวยๆ คุยเรื่องคสอ คุยเรื่องยูทูปเบอร์ ดาราไทย รุ่นพี่ในคณะสุดหล่อ) แล้วก็ค่อนข้างกดดันเวลาคนอื่นสนใจเรามากๆด้วย55555
คนสวยมันเหมือนเปิดไฟจ้าบนหัวอะ คนก็มอง แมลงก็เข้าหา คนดีก็มีมา คนไม่ดีก็ถมไป
กุอ้วนดำมาเกือบทั้งชีวิต พอกุผอม ผชก็จีบ แต่ละคนคือแม่งมีแฟนแล้ว ไม่จริงจังกะกุสักคน
ไปทำงานก็โดนเซกชวลฮาราสเม้นทั้งทางวาจา และสายตา
ไปไหนๆ ก็โดนมอง คือการเป็นจุดโฟกัส มันเหนื่อยนะเว้ย
บางทีกุก็คิดถึงตอนกุโทรมๆ เหมือนกัน แต่มันก็เลือกกลับไปเยินเหมือนเดิมไม่ได้นี่หว่า
มันเหมือนได้รับทั้งพรและคำสาปอะ ว่าชั่วชีวิตจะมีแต่คนเข้าหา
ก็ต้องคัดกรอง มีสติอะ ก็ยังดีที่มาสวยตอนโต ถ้าเป็นงี้ตั้งแต่ 16 17 วุ่นวายตายห่า
บางทีกุก็หน้าสดออกจากบ้าน ใส่ชุดวอร์ม แบบทำตัวโทรมๆไม่เป็นที่จดจำโคตรสบาย
>>957 in general นะ หน้าตาและบุคคลิกภาพมันคือสิ่งที่ attract ความสนใจในตอนแรก ตอนที่ยังไม่รู้จักกัน แต่หลังจากนั้นการคบกันมันไม่ใช่แค่เรื่องหน้าตา มันมีทัศนคติ มีงานอดิเรก มีความสามารถในการใช้จ่ายเงินที่ใกล้เคียงกัน ฯลฯ แล้วก็อย่างที่เรปบนๆพูดไป มันอาจจะไม่ใช่ว่าเค้าคบกันเพราะหน้าตาอ่ะ เค้าอาจจะคบกันเพราะฉลาด/vibeตรงกัน แต่บังเอิญหน้าตาดีกันด้วยเลยทำให้คนอื่นคิดว่าคบกันเพราะหน้าตา
vibeตรงกัน นี่หายากกว่าคนหล่อสวยอีก เขาไปหากันที่ไหนวะ
นัดเที่ยวกับเพื่อนแม่งจะให้ไปแต่แถวบ้านมัน คือบ้านกูกับบ้านมึงห่างกันเป็นโยชน์โว้ย เอาสะดวกอยู่คนเดียว
ไม่ใช่ว่าเพื่อนกลวงๆนี่มันเรื่องปกติเหรอวะ ใครๆก็มีเพื่อนกลวงๆกันหมดแหละ แต่ละคนก็รู้อยู่แก่ใจว่าคบไปเพื่อภาพลักษณ์ ว่ากูเข้าสังคมได้มีเพื่อนมีคอนเนคชั่น เพื่อการช่วยเหลือกัยเบื้องต้น แต่แม่งก็มีจุดที่รำคาญกันละกันอ่ะ พวกเพื่อนรักจริงๆแม่งมีน้อยกว่าอีก
เราไปสนิทกับคนที่เพื่อนขอบผิดปะ
สนิทจนไปเที่ยวด้วยกัน
>>972 ไม่ผิดแต่ขอบเขตของแต่ละคนไม่เท่ากัน เช่น การจับมือ ถือเเขน ตบหัวกันระหว่างเพื่อน บางคนมองว่าสนิทมากเกินไป สนิทน้อยไป หรือทำกันเป็นเรื่องปกติ แถมยังช่วงเวลาอีกคือสนิทมานานก่อนเพื่อนชอบ หรือพึ่งมาสนิทหลังเพื่อนชอบ ใดๆในโลกสิ่งที่วัดยากสุดก็คนเนี่ยล่ะ กูมองว่าให้มึงยึดเกณฑ์จากคนรอบๆตัวมึง
เคสกูพอเพื่อนในกลุ่มเป็นแฟนกัน จากที่เล่นกัน ตบหัว เเซว หยอกล้อกันก็เพลาๆลงมาเกรงใจคนที่เป็นแฟน อาจจะเพราะรู้นิสัยเพื่อนตัวเองทั้งคู่ เเละก็เพราะกูนึกใจเขาใจเรา ตัวกูเอง กูคงไม่อยากให้คนอื่นมาสนิทกับเเฟนกูมากกว่ากูมั้งนะ ก็ลองพิจารณาดู เคสคนชอบนี่ไม่เเน่ใจเท่าไร เเต่ก็คงคล้ายๆกัน ลองเอาไปปรับใช้ดู
กูสับสนในตัวเอง กูรู้ตัวแหละว่ากูเป็นคนน่าเบื่อ คุยไม่เก่ง ไม่ใช่คนตลก ดูเข้าถึงยาก อาจด้วยความที่กูใส่แว่นและหน้าตาเป็นดูเป็นเด็กเรียน บวกกับกูไม่ชอบแชทด้วย ทำให้กูสนิทกับคนยาก กูเข้าชมรม เป็นสโม แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนย่ำอยู่กับที่ ไม่ได้สนิทกับใครเพิ่มแต่อย่างใด กูคิดมากทุกคำพูด พูดแบบนี้จะดีมั้ย สิ่งที่กูทำมันทำให้เพื่อนรู้สึกแย่รึเปล่า เพื่อนจะมองกูไม่ดีมั้ย กูโดนคนที่กูอยากสนิทด้วยบอกว่ากูเป็นคนแปลกๆ สำหรับกูคำว่าแปลกคือความหมายลบ เพราะตอนม.ปลายมีเพื่อนที่เป็นหลุมดำไม่มีใครคบเพราะทุกคนบอกว่าอีนี่แปลก รวมถึงกูในตอนนั้นด้วยที่มองว่าคนนั้นแปลกเลยไม่คบ กูกลัวสายตาคนที่มองมา ไม่กล้าสบตาคน กูแม่งมีปมซวยชิบหายตรงที่ไว้ใจใครก็โดนหักหลังตลอดทั้งอาจารย์ที่เคารพ แฟนเก่า เพื่อนที่ทำแสตนด์ด้วย กูอยากเป็นคนเฟรนด์ลี่ กล้าทัก กล้าชวนคนอื่นไปบ้าง อยากมีคอนเนคชั่น แต่อีกใจนึงกูรู้ตัวว่ากูไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบรอใครและไม่ชอบให้ใครรอ กูสับสนมากๆ หาจุดที่ลงตัวไม่ได้สักที กูชอบอยู่คนเดียวมากกว่า แต่กูไม่อยากทิ้งมิตรภาพดีๆไปเหมือนเมื่อตัวเองเมื่อก่อน กูควรทำยังไงดีเพื่อนโม่ง
>>975 +1 ทำไมนายเจอปัญหาเหมือนเราเลยนะ เราเพิ่งรู้ว่าเราโดนเพื่อนคนนั้นหักหลังมาตลอดเมื่อเร็วๆนี้เอง ทุกวันนี้ก็อยากให้เพื่อนคนนั้นได้เจอบทเรียนเจ็บแสบแบบที่เราเจอบ้าง555 เอาจริงถ้าเป็นเราเราจะเลือกรักตัวเองก่อนนะ เพื่อน คอนเนคชั่นพวกนั้นมันหาใหม่กันได้ ขอแค่มีความมั่นใจในตนเอง
ไอ้พวกทำตัวเงียบๆน่ะแปลกทุกคน เป็นตัวตลกเอาไว้ให้คนอื่นหัวเราะและรุมกระทืบ
ใครมันจะเอาเป็นเพื่อนวะ
>>975 กูเป็นแบบมึงมากว่า6-7ปีละ มาถึงจุดๆหนึ่งมึงจะรู้ว่าจริงๆมึงไม่ได้ชอบอยู่คนเดียวหรอก แต่กลัวการเข้าหาคนอื่นมากว่า กลัวการหักหลัง กลัวโดนเกลียด เลยเหมือนโกหกตัวเองจําใจคิดว่าอยู่คนเดียวมันก็สนุกดีไม่ได้แย่อะไร แล้วการเข้าหาคนมันวุ่นวายน่ารำคาญ
ซึ่งมันก็จริง การมีเพื่อนเนี่ยมันน่ารำคาญ มีความวุ่นวาย มีเรื่องที่ลงรอยกันไม่ได้ มีนินทากันหักหลังกัน เชื่อใจกันไม่ได้หมด
แต่มันเป็นปกติของการเข้าสังคมอ่ะ ไม่ได้จะว่าสังคมมันแย่หรือเน่าเฟะอะไรนะ คือมนุษย์มันก็งี้แหละ มีรักโลภโกรธหลง มีเรื่องน่ารำคาญมากมาย แต่ในความน่ารำคาญมันก็มีเรื่องสนุก เจอคนมันก็หายเหงา มีเรื่องให้คุย คือมันเป็นความสนุกที่คนละแบบกับตอนอยู่คนเดียวอ่ะ
รวมๆก็คือไม่อยากให้มึงคิดมากกับสังคม มันเป็นแบบนี้แหละ เหรียญมีสองด้าน ไม่มีที่ไหนที่มันสวยหรูไปหมดหรอก การมีความสัมพันธ์มันก็มีเรื่องเจ็บปวดเป็นธรรมดา ซึ่งกูว่าความเจ็บปวดนี้มันดีกว่าความว่างเปล่าอยู่อย่างโดดเดี่ยวนะ
- เรื่องที่ถูกมองว่าแปลก คําว่าแปลกมันเป็นความหมายเชิงลบอยู่แล้ว ไม่ใช่ในความรู้สึกมึงคนเดียวนะ
ปกติของคนเรามันไม่ชอบความแปลก เรียกได้ว่าการเอาความแปลกมาเป็นจุดขาย(การมองความแปลกในแง่บวก)เนี่ยเป็นสิ่งที่ใหม่มากในประวัติศาสตร์มนุษย์นะ คือที่เราโดนว่าแปลกเนี่ยมันเป็นกลไกป้องกันตัวของคนที่พูด กดอีกคนเพื่อที่จะได้ยืนในสังคม การโยนให้อีกคนแปลกเราจะได้ไม่แปลกไรงี้ ซึ่งเอาตรงๆในโลกนี่ไม่มีใครแปลกหรือพิเศษหรอกไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหลุมดําของมึง ตัวมึง หรือถ้ามึงแปลก คนที่บอกว่ามึงแปลกก็แปลกเช่นกัน คนมันก็คนเหมือนกัน แต่มันเป็นการอุปโภคขึ้นมาของสังคม แล้วtreatคนๆนั้นแบบนั้น จนคนๆนั้นกลายเป็นแบบนั้นแบบPygmalion effect ก็คือมึงอย่าให้ความคิดนั้นมาครอบงำมึงเลยว่ามึงเป็นคนยังไง ปล่อยผ่านๆไป
ส่วนอยากมีเพื่อนคุยเริ่มยังไง ก็เริ่มคุยกับคนทั่วๆไปแบบคุยทั่วไปง่ายๆอ่ะ แบบทักเห้ยไปไหนหรอ คือถ้าเรายังไม่ชินกับคนเยอะๆ ไม่ต้องไปฝืนคุย หาเพื่อนติดกันเป็นกลุ่มแต่แรกๆ กูลองแล้ว มันรู้สึกยัดเยียดเกินไป จนกูไม่ใช่ตัวของกูเอง กูเลยเปลี่ยนมาเป็นค่อยๆทักคนที่เฟรนลี่เหมือนกัน ก็คุยผ่านๆเรื่อยๆไป แล้วทำกิจกรรม พยายามเข้าสังคมให้มากขึ้น
ก็อย่างที่บอกไปมันต้องเรื่อยๆจริงๆ กูก็พยายามปฎิวัติตัวเองมา1ปี จนตอนนี้ก็ได้เป็นที่รู้จักในเอกในคณะบ้าง มีกลุ่มเพื่อนดีๆมากลุ่มเล็กๆ แต่กูก็ไม่กล้าคุยแชทอะไรอยู่ดี ส่วนเพื่อนในคณะนี่ไม่มีใครมีคอนแทคกูอ่ะ5555 เพราะกูยังไม่ชิยคุยลึกขนาดนั้น แต่กูก็จะพยายามคุยกับเพื่อนในกลุ่ม สัปดาห์ละครั้งก็ดี แบบพยายามให้เรากลับเข้ามาในสังคมให้ได้
ก็พื้นฐานชีวิตแม่งไม่ได้มีเพื่อนมา6กว่าปี แล้วที่บ้านก็ไม่คุยกัน ก็แบบนี้แหละ โครตawkward แล้วหลายๆครั้งก็ชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่ป๊อปปูล่า ซึ่งเอาตรงๆคนที่เพื่อนเยอะเขาใช้เวลาสร้างเพื่อนมากี่ปีๆ เจอหลายสังคมเยอะกว่าเราอีก มันก็ปกติแหละ
แล้วก่อน1ปีที่จะหาเพื่อนลงตัวนี่อยู่ไปหลายกลุ่มหลายสังคมมาก เจอทั้งมีเรื่องชิบหายกันอีก หรือไอเพื่อนกลุ่มทีาลงตัว ก็มีเรื่องทะเลาะกับกูอยู่เลย แต่ต่างคนมันก็ต่างเคลียร์ปัญหา คือไม่ได้ขอโทษไรจริงจังหรอก แต่ทําเป็นว่าไม่เกิดขึ้น แล้วไปเอนจอยเรื่องอื่นๆดีกว่า ก็คือลองไปแบบเรื่อยๆ เดี๋ยวเราก็เจอที่ๆเราโอเคสุดไรงี้แหละ
การที่หงายการ์ดโรคซึมเศร้าในคนในเน็ตนี่คือยังไงวะ กูเริ่มทะแม่งๆอีเหี้ยแต่ก็อึดอัดละ รู้จักยังไม่ถึงเดือนเลยแค่เล่นเกมด้วยกัน ;;__;; ตอนนี้ขอเฟสละแต่กูให้ไลน์ไป (ไม่ใช่โปรไฟล์รูปกู) เค้าจะรู้มั้ยว่ากูปิดกั้นๆ
กูเป็นอีกคนที่ชอบการอยู่คนเดียว
ตอนนี้กูยังสนุกกับการอยู่คนเดียวอยู่
รอกูเบื่อการอยู่คนเดียวก่อน เดี๋ยวค่อยเข้าสังคม
อิจฉาเพื่อนในคณะ นัดกันไปเที่ยวต่างประเทศขึ้นเครื่องบิน กูแค่นัดกันไปจังหวัดใกล้ๆยังบอกไม่มีเงินเลย เฮ้อ อยากไปเที่ยวกับเพื่อนแต่เพื่อนแม่งไม่มีเงิน แถมขี้เกียจออกจากบ้านกันอีก กูเบื่อกับการไปเที้ยวคนเดียว กูอยากมีเพื่อนเที่ยว
การอยู่ลำดับท้ายๆของการจัดอันดับความสำคัญในกลุ่มเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิด
คือกูรู้ตัวนะว่ากูไม่ใช่คนที่จะถูกจัดอันดับไว้บนๆอยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยหน้าตา บุคลิค ความรวย
แต่การที่ตอนที่พวกเพื่อนมึงยังไม่เข้ามาทำงานมึงคุยกับกูทุกเรื่อง
พอเพื่อนมึงเข้ามาทำงานแล้วมึงเมินแทบจะไม่คุยกับกูอีกเลย คุยกับกูแค่จะหาข้อมูลกับกูหรือมีปัญหากับแฟนแล้วมาเหวี่ยงกูแค่นั้นนี่น่าหงุดหงิดสัด
เพื่อนโม่ง คือกูเห็นมู้ขึ้นมา เลยอยากระบายฝัางตัวเองบ้าง คือในกลุ่มกูมีคนเป็นซึมเศร้า แล้วอยู่ๆ ก็เหวี่ยงใส่ทุกคนในกลุ่มว่าเมินเขา ทั้งที่กูกับทุกคนยังไม่มีใครเมินใครเลย พอกูถามดีๆ ไม่ได้จี้จุดไรเลย แค่ถามว่าเกิดไรขึ้น ทุกคนไม่ได้เมินนะ แค่ตอบไม่ทัน เขาก็เหวี่ยงใส่กู ถอนหายใจแบบเอือมระอากู แล้วบอกว่ากูแมางไม่รู้อะไรไม่เข้าใจอะไรมันเลย กูงงสิ สัส เออ ใช่ ไม่เข้าใจ กูแม่งผิดอีก ทั้งที่แค่ถามดีๆ เฉยๆ ทั้งที่เขาแม่งได้รับความสนใจจากทุกคนในกลุ่มมากๆ เพราะเป็นโรคอยู่แล้ว ส่วนคนที่โดนเมินตัวจริงอย่างกูทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดแถมยังโดนโยนความผิดให้จนต้องแก้หน้าตัวเองด้วยหลักฐานสามทีอย่างกูก็เอ๋อแดกสิ แถมแม่งพอรู้จักคนใหม่ๆ มันก็จะประกาศเลยว่ามันเป็นซึมเศร้านะ กรีดแขนนะ งั้นงี้ สัส สรุปกูผิดอะไรวะ
>>987 แล้วแม่งก็ชอบโชว์ว่าตัวเองเป็นซึมเศร้าตลอด ทำตัวดิ่ง&เครียดต่อหน้าคนอื่นบ่อยๆ จนคนสนิทไม่สนิทต่างก็เห็นใจสงสารตลอด อันนี้กูไม่อะไรหรอก แต่ทำไมกูต้องเป็นฝ่ายผิดเพราะเขาคิดเองเออเองว่าโดนเมินด้วยวะ ตอนนี้แม่งออกจากกลุ่มถาวรไปละ แล้วทุกคนก็ยิ่งเห็นใจยิ่งสงสารกันเข้าไป ตอนนี้กูว่าแม่งคงบอกทุกคนว่ากูไม่เข้าใจมันและทุกคนกำลังนินทากูอยู่แน่ๆ ซวยชอบหาย
อยากรู้ว่าพวกที่ไปเที่ยวตปทกับเพื่อนๆคือพูดอิ้งกันได้หมดหรอ หรือยังไงอะอยากลองนัดเพื่อนๆดูบ้าง
กุเหนื่อยตอนอยู่กับเพื่อนจังว่ะ
กูอยากเพิ่มความมั่นใจในการสร้างเพื่อนในมหาลัยว่ะ คืออยากสนิทกับเพื่อน ไม่อยากมีกำแพง มีเพื่อนเยอะๆ ทำยังไงดี
------- กูเคยมีเหตุการณ์ตอนกูอยู่รร.นึงนี่คือตัวท็อปรร. กิจกรรมเด่น การเรียนดี เพื่อนเยอะ มีแฟนคลับด้วยซ้ำ555 แล้วกูไปสอบติดอีกรร.นึง 1 ปีในนรกของกู เพื่อนไม่คบ ไม่มีคนคุยด้วย เกลียดงานกลุ่มสัดๆ เพราะไปขอใครเข้าก็ไม่ให้เข้าทั้งที่ได้คะแนนดีตลอด ยอมเพื่อนทุกอย่างให้ลอกงาน เลี้ยงขนม ให้ยืมรถ แต่ก็ไม่มีใครคุยด้วย เลยกลายเป็นปมกูเลย คือไม่กล้าคุยกับใคร ไม่กล้าคาดหวังอะไร ปิดใจเก่งมาก
กินข้าวไม่ตรงเวลากับคนอื่นว่ะ ทำไงดีวะ
แบบ กูเป็นคนกินไว แล้วค่อนข้างกินเป็นroutineแล้ว ตอนเช้ากินเลทสุด9โมง เที่ยงเลทสุดบ่ายโมง เย็นเลทสุด6โมงครึ่ง แต่เพื่อนกูชอบกินดึกๆกัน อย่างตอนเย็นมันกินกัน2ทุ่มเงี้ย กูทนหิ้วท้องรอไม่ไหวเลยไปกินคนเดียวประจำ ทีนี้ก็เหงาๆว่ะ เคยพยายามทนรอกินข้าวพร้อมกันแล้วแต่ก็แสบกระเพาะ ทนไม่ไหวอะ เคยชวนเพื่อนกินไวแล้ว แต่มันก็กินไม่ค่อยได้เพราะยังไม่ใช่เวลาหิวพวกมัน เป็นแบบนี้ก็เลยไม่รู้ทำไงดี ฮือ
กูอยากคบเพื่อนกลุ่มใหม่ว่ะ แต่ไม่รู้จะเข้าหาเค้ายังไง เพราะกูไม่ใช่คนคุยเก่ง แล้วเค้าสนิทกันเป็นกลุ่มก้อนแล้วอ่ะ เพื่อนในกลุ่มกูมันเป็นความสัมพันธ์หลวมๆเหมือนคนมาอยู่รวมกัน ไม่สนิทกัน ไม่ได้รู้จักอะไรกัน กูไม่ชอบอะไรแบบนี้อ่ะแล้วรู้สึกพวกมันโอเคกับแบบนี้กัน แต่กูไม่ กูเลยอยากเปลี่ยน กูยอมทำทุกอย่างเลยนะ ฝืนใจทำก็ได้ ขอแค่ได้กลุ่มใหม่ทีเถอะ
ติดเกมอยู่ช่วงนึง เป็นเกมที่ต้องพิมพ์คุยกันเยอะ เล่นเวลาดึกๆเลยมีเพื่อนในเกมหลายคนที่เจอบ่อยๆเล่นกันบ่อยๆเกาะกันเป็นกลุ่ม ทีนี้มีเพื่อนคนนึงในเกมเป็นผู้ชาย ในเกมก๋ชอบหยอดกันขำๆ ก็คิดว่าสนิทกันนะ ไม่ได่บอกข้อมูลตัวจริงกัน แต่ก็เล่าความเป็นมาในชีวิตเวลาเจอกันในเกม แล้วเหมือนเขาขอไลน์เรา เราไม่ให้ เพราะแบบมันก็คือเกมอะ แล้วเขาก็ถามว่าควพ.ในเกมมันได้แค่นี้เหรอ พฒนไม่ได้แล้วเหรอ เราก็บอก ไม่รู้สิ ทีนี้เพื่อนคนนั้น+เดอะแก๊งเล่นเกมที่สนิทๆกันเลยไม่ค่อยคุยกับกู เวลาเจอกันในเกมถิาอยูาห้องเดียวกันก็ออก กุรู้สึกเสียใจเบาๆ ทำไมเขาไม่คิดว่าโลกในเกมกับโลกความจริงมันคือคนละโลกที่ไม่ควรมาซ้อนทับกันบ้างนะ เป็นเพือ่นกันในเกมก็ดีอยู่แล้ว
>>998 ไม่ๆมันเป็นทัวร์แบบ เหลือที่เดียว ห้องเดี่ยว ไรงี้อะ แต่ก็มีคนโสดไปแหละ5555 พูดเองแม่งดูโครตเส้า+เหงาอะแต่ก็สนุกดีนะ ได้เพื่อนอยู่แต่ก็ไม่รู้สิยังไม่เคยเจอคนที่สนิทมาเป็นเพื่อนระยะยาว แต่ก็สนุกดีหายเหงาไปเลยช่วงนึง
//ของ unithai เลยมึงง
>>997 กูเดาว่า wwo ใช่ป่ะวะ ? ไลน์นี่กูบอกเลยว่าถ้าให้จะเป็นความประสาทแดกอย่างนึง มันจะบอกบทกันหลังไมค์ นินทาตามล่าฆ่าตามยิงแบบ*** ส่วนตัวกูเลิกเล่นไปสักพักแล้ว มีเหยื่อหลายคนเลยเกมนี้โดนบูลลี่ตามล่าแบบโง่ๆ ตอนนี้เลยเลิกเล่นเพราะประสาทแดกชิบหาย อีพวกกิลดังๆอ่ะ แนะนำให้เลิกเล่นไม่ก็สมัครไอดีใหม่เป็นคนใหม่แต่กูว่าเลิกเหอะ toxic
หงุดหงิดโว้ยแต่ระบายกับใครไม่ได้
เชี่ย!!! บ้านกู บ้านเมียกูแม่งพูดไม่ตรงกันซักอย่างโดยเฉพาะเรื่องลูกกูเนี่ย
แล้วกูก็เชื่อปากใครไม่ได้ด้วย แม่งแต่ละคนใส่ไฟกันมั่ง พูดอย่างเข้าใจอีกอย่างมั่ง ทำจริงๆ 10 แม่งเอาไปคุย+1000 กูจะบ้าตาย
1. แม่กู จอมคิดเองเออเอง คิดเข้าข้างตัวเองขั้นสุด คุยอย่างแต่จะเข้าใจอีกอย่างแบบเข้าข้างตัวเอง แล้วก็ไม่รับฟังใครใดๆ
2. พ่อกู เข้าข้างแม่ เออออตามแม่กู
3. เมียกู จอมใส่ไฟ ไม่ชอบพ่อแม่กูเวลาเลี้ยงหลาน แต่ก็ใส่ไฟเกิน แม่กูจะทำอะไรคือไม่ดีไปหมดในสายตาแม่ง บางทีก็ทำปกติแหละแต่นี่ก็จะพูดเหมือนการกระทำแม่กูเลวร้ายมาก เลี้ยงลูกแบบเยอะๆ
4. แม่ยายกู จอมมั่วเอาตัวรอด ประจบพ่อแม่กู คำพูดเชื่อได้ราวๆ 1% เพราะแม่งชอบมโนขึ้นมา หวงหลานมาก ลูกกูพยายามจะยืนแม่งไม่ยอมจะจับนั่งบอกกลัวกระดูกยังไม่แข็งแรง แล้วเมื่อไหร่จะยืนได้วะ โดยเมียกูด่าประจำ 555
แล้วกูทำงานตจว.กลับแค่เสาร์อาทิตย์ไง กูก็ไม่รู้ความเป็นไป
เวลาแม่งเอาเรื่องอีกฝั่งมาฟ้องกูนี่กูก็ได้แต่เออออตามเรื่องตามราว
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.