>>423 กูคิดว่างั้นนะ เหมือนกูเป็นก้างอ่ะ พอไม่มีกูเลยมาเสียบ คือในใจกูมันรู้สึกเฟลๆไง กูไม่ได้คิดจะขวางเวลาเพื่อนมีใครนะ เวลามีคนมาจีบมันกูก็บอกให้มันลองคุยดู เวลามันจะไปเดทกับเขากูก็ทำตัวหายไปจากสารโลก ข้อความยังไม่ส่งไปกวนเลย ให้มันใช้เวลาเต็มที่ อันนี้มันเหมือนผู้ชายหาจังหวะเสียบตอนที่เพื่อนกูเหงาอ่ะ เหตุผลที่เพื่อนกูไปกับมันก็แค่ว่าตั้งแต่กูไม่อยู่ มันกินข้าวคนเดียวทุกวันเลย กูก็เอ้าาาาา
>>424 กูก็ไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องของกูนี่ กูแค่ขวางหูขวางตา ไม่ได้ไปบอกให้เพื่อนเลิกคุยเลิกคบ คือกูก็มีสิทธิ์จะคิดเนอะ มีสิทธิ์ที่จะไม่ชอบผู้ชายที่มองกูเป็นก้างขวางคออ่ะ ทั้งที่กูก็ไม่ได้ไปเสือกเวลามันคุยกัน กูเคยถามแค่ครั้งเดียวเองว่าผู้ชายคนนี้มีไลฟ์สไตล์บางอย่างที่ไม่ตรงกับมันอย่างสิ้นเชิง มันโอเคเหรอ มันตอบมาว่ามันเคยเกริ่นๆแล้ว มันคิดว่าจะเปลี่ยนผู้ชายคนนี้ได้ ซึ่งกูในฐานะเพื่อน กูก็บอกมันแค่ว่าบางทีคนเราไม่สามารถเปลี่ยนคนอื่นได้หรอกนะ ถ้าเปลี่ยนไม่ได้จะทำยังไง มันจะรับได้เหรอ แล้วกูก็พูดเรื่องผู้ชายคนนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่เคยไปจุกจิกอะไรเลย ยกเว้นเมื่อวานมันอัพรูปของที่กูซื้อส่งไปให้ ผู้ชายที่ปรกติไลค์ทุกตัส คือไม่ไลค์อันนี้ กูก็สงสัยนะว่ามันไม่ชอบกูป่ะวะ ตอนอยู่ไทยแม่งก็ไม่คุย เขม่นๆ ชอบมองแปลกๆ กูก็อึดอัดได้เน้อ
>>425 ไม่ได้คิดอย่างนั้น ถ้าจะคบกันจริงๆ คงคบกันไปนานแล้ว มันเหมือนดูแลกันมามั้ง คนอยู่ด้วยกันทุกวัน 7 ปีอ่ะ เกิดเรื่องดีหรือร้ายก็อยู่ข้างกัน กว่าจะมาเรียนต่อได้นี่กูปลอบมันจนเหนื่อยอ่ะ มันหมดน้ำตาไปหลายลิตร ดราม่าไม่อยากให้กูมา กูคิดนะว่าช่วงจิตใจมันอ่อนไหว อ่อนแอ ถ้ามีคนมาหลอกฟันมันตอนกูไม่อยู่กูจะทำยังไงวะ กูไปรับปากพ่อมันก่อนเขาจะเสียด้วยว่าจะดูแลลูกเขาให้