พอไม่มีความหมายอะไรกับชีวิตตัวเอง เลยขี้เกียจสอบ นี่ก็สะท้อนคุณภาพเด็กไทยละ
Last posted
Total of 1000 posts
พอไม่มีความหมายอะไรกับชีวิตตัวเอง เลยขี้เกียจสอบ นี่ก็สะท้อนคุณภาพเด็กไทยละ
>>576-577 ถ้ามันง่ายก็ดีนะ ยังไงก็เถอะ ทุกวันนี้มึงเห็นข่าวที่สื่อพยายามไล่ขยี้ตาม รร. อยู่ไหมวะ? ขนาดงบข้าวกลางวันยังโกงอ่ะ มึงจะหวังอะไรอีกอ่ะ? แล้วหนักสุดๆที่กูว่าสิ้นหวังมากๆเลยคือ พวก รร. กินนอนเน้นวิทยาศาสตร์แบบจุฬาภรณ์มีข่าวอื้อฉาวเรื่องอาหารคุณภาพแย่กับไม่อนามัย ทีนี้มึงเข้าใจรึยังว่าทำไมถึงไม่กล้าทุ่มทุน เพราะทำแล้วเดี๋ยวก็เจอโกงอีกไงเลยไม่กล้าสร้างอะไรใหม่ๆเพราะเดี๋ยวจะเจอปัญหาใหม่ๆอีก แล้วแทนที่จะยอมรับว่าคะแนนเด็กทั้งประเทศต่ำก็เสือกปัดมันทิ้งๆไป กูยังตกใจเลยว่าเมืองไทยที่เห็นๆกันอยู่นี่กลายเป็นสังคมที่คนไม่พยายามยอมรับความผิดของตัวเองกันไปหมดแล้วเหรอวะ?
เออ ไหนๆก็ไหนๆ กูขอฝากลิงค์ตัวนี้จากquoraหน่อยนะ เว็บนี้ข้อมูลแม่งพอๆกับstackoverflowเลย ชอบสัส
https://www.quora.com/What-are-the-darkest-secrets-of-elite-US-universities
>>574 กูว่าภาษามันเป็นศาสตร์ที่สะท้อนอะไรได้เยอะนะ การศึกษาเกี่ยวกับศิลป์หรือที่เรียกว่าสายมนุษยศาสตร์มันมีปริศนาลึกลับมากกว่าทางสายวิทย์ที่แม่งหาได้ก็จบ เพราะมันศึกษามนุษย์ไง มนุษย์นี่แหละที่ซับซ้อนกว่าวิทยาศาสตร์เพราะมนุษยืเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาภายใต้ขอบเขตที่ถูกกำหนดไว้ เวลามึงจะเรียนวิชาสายศิลป์มึงต้องมองให้ลึกกว่าที่เรียน ลึกกว่าอารมณ์มันคือตรรกะและความเป็นเหตุเป็นผลอยู่แล้ว แม้แต่ความรู้สึกทั่วไปของคนก็ยังใช้ตรรกะอธิบายได้ถ้ามึงศึกษาดีๆ ภาษาเองก็เหมือนกัน มันสะท้อนไปถึงตัวผู้ใช้ว่าทำไมคนชาตินี้ถึงใช้ภาษาแบบนี้ ทำไมออกเสียงแบบนี้ ทำไมตัวอักษรเป็นเส้น ทำไมตัวอักษาเป็นก้อน มันมีที่มาของมัน ถ้ามึงสนใจกูแนะนำสิ่งที่เรียกว่าภาษาศาสตร์ แม้แต่วรรณคดีเองก็มีที่มา มันสะท้อนได้ดียิ่งกว่าตัวภาษาซะอีก มันสะท้อนให้เห็นว่าคนในยุคสมัยที่มีวรรณคดีนั้นขึ้นมาเป็นอย่างไร หน้าที่มึงคือวิเคราะห์ต่อว่าปัจจัยตัวไหนที่ทำให้คนเป็นแบบนั้น อย่างที่กูบอก อารมณ์ความรู้สึกมันคือตรรกะ
มาเริ่มอธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ จากที่มึงว่ามา ถ้าพูดถึงการันต์ ทำไมต้องใส่การันต์? เข้าใจก่อนว่าคำที่มีไอ้ตัวนี้มันไม่ใช่ภาษาไทย มันเป็นความพยายามของคนไทยในอดีตที่พยายามจะเอาคำบาลีสันสกฤตมาเขียนเป็นภาษาตัวเองแต่ไม่มีตัวอักษรที่จะใช้แทนเสียงนั้นๆ ก็เลยใช้วิธีเอาตัวอักษรมาเขียนรวมกัน แต่พอมาอ่านคนไทยก็ออกเสียงไม่ถูก สุดท้ายเลยละเสียงไว้ (ขึ้นชื่อว่าคนละภาษาการออกเสียงก็ต่างแล้ว มึงเลิกคิดเลยว่าเสียง น.หนูกับตัว N ของอังกฤษออกเสียงเหมือนกัน เพราะมันคือคนละภาษาคนละวัฒนธรรม การขยับปากการใช้ลิ้นก็จะต่าง มึงลองไปศึกษาสัทศาสตร์ มันก็คือฟิสิกส์กับชีวะดีๆ นะกูว่า) แต่จะเอาตัวอักษรออกก็ไม่ได้เพราะจะกลายเป็นอีกคำหนึ่งไปแทน สุดท้ายก็เลยใส่การันต์แทนเพื่อบอกให้รู้ว่าไม่มีการออกเสียงนะจ๊ะแต่มึงก็ต้องเก็บตัวอักษรไว้นะ
ตัวอย่างเช่น การณ์ ดั้งเดิมตัว ณ มันถูกออกเสียงโดยเจ้าของภาษา แต่พอคนไทยเอามาลืมก๊อปวิธีออกเสียงมาด้วย ก็เลยออกเสียงเป็น การ แต่ถามว่าถ้ามึงตัด ณ์ ออกจะเกิดอะไร มันจะเป็น การ ที่เป็นอีกความหมายไปทันที
คราวนี้ ถามต่อว่าทำไมต้องเขียนให้ถูก? เขียนให้อ่านได้เขียนให้พอเข้าใจไม่ได้เหรอ? ถ้ามึงสามารถเขียนให้เข้าใจได้ก็โอเค อย่างถ้ากูเขียน "กุหิงทุเรียนมาก ซื้อมสฝากกุด้วบ" มึงก็เข้าใจใช่ไหมว่าหมายถึง "กูหิวทุเรียนมาก ซื้อมาฝากกูด้วย" เพราะมันอยู่ในระดับที่เดาได้ว่าต้นฉบับเดิมคืออะไร แต่ถ้าเป็นคำพ้องเสียงล่ะ ความลำบากจะเกิดขึ้นทันทีเพราะคำพ้องเสียงมักความหมายต่างกันแทบจะสิ้นเชิงเลย ลองมาดูตัวที่ไม่ใช่การันต์ แต่เป็นยอดฮิตคือแม่กน คำว่า ร้าน กับ ล้าน ถ้ากูมักง่ายขี่เกียจเอื้อมมือไปกดแป้น ล.ลิง จัง กูกด ร.เรือใกล้ๆ นะ งี้ล่ะ ความหมายเปลี่ยนทันที "วันนี้มีอุบัติเหตุทำเอาเสียหายไปสองร้าน" กับ "วันนี้มีอบัติเหตุทำเอาเสียหายไปสองล้าน" ในบริบทอื่นมันก็พอแยกได้หรอกแต่ลองในตัวอย่าง มึงจะรู้ได้ยังไงว่าร้านพังหรือเสียงบไปเป็นล้านบาท นั่นคือสาเหตุว่าทำไมมึงควรสนใจการเขียนให้ถูกมากกว่าแค่เขียนให้อ่านเข้าใจ เพราะคนอ่านจะไม่เข้าใจมึง (แต่กรณีแบบที่กูยกมาคงไม่เกิดมั้ง)
แต่เดี๋ยว อีกสิ่งหนึ่งที่มึงควรสนใจคือคำคล้าย ตัวอย่างที่กูนึกออกตอนนี้คือ หลงไหล กับ หลงรัก ความเหมือนของสองคำนี้คือมันหมายความอาการชอบ แต่ต่างกันตรงไหน ตรงนิยาม อันนี้กูไม่เคยศึกษาแต่เดาเอาตามที่เข้าใจคือ หลงรัก คือ รัก เป็นอาการที่มึงไม่ได้คิดว่าจะรักหรอกแต่ก็มารักจนได้ เลย"หลง"รัก แต่ หลงไหล หมายถึงมึงหลงมารักนั่นแหละ แต่มึงไหลไปตามสิ่งที่มึงรักจนไม่รู้อะไรเป็นอะไร แต่ก็ไม่ถึงขั้นโงหัวไม่ขึ้น (ไม่รู้กูเข้าใจถูกไหม) ที่จะสื่อคือทุกคำมันมีนิยายของมัน บางคำมันคล้ายกันก็จริงแต่มันต่างที่นิยาย ดังนั้นการเลือกใช้คำจึงสำคัญ
เพิ่นโม่ง กุอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นว่ะ แบบ ตั้งแต่เริ่มต้นเลยอ่ะนะ พื้นฐานอ่ะ
คือเคยเรียนมาบ้างแบบ ตัว-ตัว แต่ตอนนั้นไมาได้เรียนจริงจังกุเลบไม่ค่อยได้อะไรมาก
แต่ตอนนี้อยากจริงจังละอ่ะ มีเวลาว่าง3เดือนก่อนเปิดเทอม กุอยากรู้ว่าเพื่อนโม่งแนะนำเรียนแบบไหนดี แถวกทม. วิภาวดี/ลาดพร้าว/bts
1 เรียนกับสถาบัน/รร สอนภาษา (แนะนำที่ไหน)
2 เรียนตัว-ตัว กับพวกเด็กมหาลัยที่เปิดรับสอนไรงี้ (มีใครแนะนำคนไหนไหม)
?ข้อถามเรื่องข้อสอบหน่อย
มีอ.คนนึงบอกเทคนิคทำข้อสอบว่า "ถ้าโจทย์ถามว่าข้อใดถูกต้องที่สุด แล้วช้อยส์มันมีถูกทุกข้อ ให้ตัดช้อยส์นี้ทิ้งไปได้เลย เพราะข้อใดถูกต้องที่สุดต้องมีข้อเดียวไม่ใช่ถูกทุกข้อ"
อันนี้มันจริงเปล่าวะ
คือตอนนี้กูทำข้อสอบวิชาไรแม่ง ถ้ามีช้อยส์ถูกทุกขัอ ทำเอากูลังเลไปหมด จากตอนแรกกูจะตอบช้อยส์ถูกทุกข้อแบบไม่คิดมาก(ถ้ากูดูแล้วว่ามันเข้าข่ายถูกทุกข้อจริงๆ)
รอบแอดยื่นแพทภาษา 21,9xx มีโอกาสหลุดเอกรวมสินสาดมธมั้ย อีก3อันดับเป็นเอกอื่นในสินสาดมธหมดเลย จ่ายค่าหอไปด้วยแล้วว่ะ
ใครเรียนอยู่จุฬาบ้าง cu tep มันใช้เก็บวิชาพวกอิ้งได้ด้วยเหรอ แบบยื่นคะแนนเอาไม่ต้องไปเรียน
เมื่อวานมีใครไปสอบทุนรัฐบาลญี่ปุ่นบ้าง ข้อสอบอิ้ง/ญปของป.ตรีเหมือนกับในเว็บstudyjapanมะ กูสอบทุนอาชีวะ กูไม่นึกว่าโจทย์มันจะต่างกันขนาดนี้...
>>594 กูคิดว่าน่าจะจัดสอบเพื่อวัดระดับความรู้อิ๊งของนิสิตเฉยๆอะ
สอบฟรีตอนปี 1 กับปีก่อนสุดท้าย(เช่น ถ้าหลักสูตรเรียน 5 ปี ก็จะมีให้สอบฟรีตอนปี 4)
ตอนปี 1 ต้องสอบทุกคน ถ้าไม่ไปสอบตามวันที่กำหนดต้องจ่ายเงินสมัครสอบเอง ส่วนอีกครั้งนึงจะสอบหรือไม่สอบก็ได้
ถ้าตอนปี 1 ได้คะแนนต่ำ(น่าจะตัดที่ 30 มั้ง) เหมือนต้องไปเก็บชั่วโมงที่คูลี่ แต่รายละเอียดไม่รู้เหมือนกัน
กูdek62 คืออีกซักพักก็สอบละ กูยังไม่อ่านนส.เลยว่ะ นี่แลกเปลี่ยนอยู่ตปท. อีกไม่กี่วันกลับละ ยังไม่รู้จุดหมายเลยสัส แนะนำหน่อยได้ไหม ว่าพวกวิชาพื้นฐานควรเรียนที่ไหน กูศิลป์ภาษา โอเน็ตเลขวิทย์ทวนเองได้ไหม ญี่ปุ่นเรียนที่ไหนดี
รอบแอดมิชชั่น วุฒิกศนติดมธ จุฬา ฯลฯ ได้ปกติใช่ปะ เห็นมีคนเคยติดอักษรแล้วแต่ก็ฟุ้งซ่าน
ขอ how to กู้ กยศ. ตอนปี2 ให้ผ่านหน่อยครับ
>>600 ศึกษาข้อมูลมาดีๆๆๆๆๆ อ่านให้ละเอียดดูว่าต้องยื่นเอกสารไรบ้าง ต้องให้ใครเซ็นรับรองอะไรยังไงตรงไหน คุณสมบัติต่างๆตามเกณฑ์ที่กำหนดไหม เช่น รายได้ครอบครัวผ่านเกณฑ์ไหม ถ้าอ่านข้อมูลตรงไหนไม่เข้าใจ ให้ลองโทรถามเจ้าหน้าที่ที่รับทำเรื่องกยศของมหาลัยดู แต่แนะนำว่าศึกษาให้ละเอียดก่อนค่อยไปถามคนอื่น อย่าลืมเก็บชมจิตอาสาให้ครบด้วย
ตอนนี้สทศ ปล่อยข้อสอบ9วิชา ถึงพศ แล้วเหรอ กูไม่ได้ตาม
>>602 ไอ้การเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ว่าต้องใช้เอกสารไรบ้าง หมายความว่าคุณเข้าไปถามแบบไม่มีข้อมูลอะไรมาก่อนเลย คือถ้ามาถามเราด้วยคำถามเดียวกันนี้ เราก็จะบอกให้คุณไปดูในเว็บเหมือนกันเพราะเอกสารที่ต้องใช้มันเยอะมาก ข้างบนก็บอกแล้วใช่ไหมว่าให้ศึกษาข้อมูลมาดีๆ แล้วการที่เตรียมตัวไม่ดีเองก่อนไปถามแต่ไปว่าจนท.บริการไม่ดีก็ไม่ถูก ถ้ามีเด็กอยากกู้แบบคุณ1000คนเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ด้วยคำถามเดียวกับคุณทุกคน เขาไม่แย่เหรอคะ อย่าให้คนอื่นต้องคอยมาป้อนข้อมูลทั้งหมดให้อย่างเดียวเลย โตแล้วนะช่วยเหลือตัวเองให้มากๆนะคะ เตือนเพราะเป็นห่วงนะโม่งนะ อีกอย่างตอนกู้ต้องคอยติดตามข่าวสารให้ดีๆ ถ้าเขานัดส่งเอกสารอะไรตอนไหนก็ไปส่งตามที่เขากำหนดด้วย
กู้*
ถามที่นี่ได้มั้ย มีใครทำงานพิเศษบ้าง ทำอะไรกัน ได้เงินประมาณเท่าไหร่ จะทำช่วงเรียนมหาลัยอ่ะ (เป็นงานทำหน้าคอมจะดี 5555)
อยากรู้ในนี้มีนักศึกษาแพทย์หรือหมอมั้ยอ่ะ คือตอนนี้เรียนอยู่ปี2 กำลังปรับตัวอยู่ ตอนนี้เพิ่งเปิดบล็อคเขาบอกว่ายังชิว ต่อๆไปยิ่งหนักกว่านี้
คือสำหรับกุตอนนี้ก็ว่าหนักแล้วอ่ะ (แต่ก็ยังไปไหวอยู่) คือเปิดสัปดาห์ที่สอง หลายวันที่ผ่านมาคือนอนวันละ 4 ชม แต่แบบไม่ได้นอนยาวรวดนะ เป็นเผลอหลับ แล้วสะดุ้งตื่นมาอ่านหนังสือ แล้วก็เผลอหลับ เป็นงี้มาหลายวันล้ะ กุลองหลับยาวแล้วตื่นมาอ่าน คือไม่ตื่นอ่ะ ถ้ายาวก็ยาวไป 7-8ชมเลย กุอ่านหนังสือได้ช้ามากๆ เทียบกับเพื่อนที่อ่านแล้วปัดสไลด์ ส่วนกุดูคลิป อ่าน แล้วทำสรุป คือรู้สึกมันช้ามากกว่าจะเข้าใจแต่ละเลคเชอร์ กุเครียดที่เพื่อนเข้าใจเร็วมากๆๆ จนกุคิดว่ากุเหมาะรึเปล่า? แต่กุก็สนุกนะกับการเรียนการอ่าน แต่มันก็เครียดเพราะคะแนนนี่แหละ ถ้ากุพยายามคิดว่ากุจะรอดมั้ยอ่ะ
>>610 กูเรียนเภสัชปี4นะ ตอนปี2กับปี3ก็เนื้อหาหนักมากเหมือนกัน นอนวันละ3ชั่วโมงทำให้ป่วยบ่อย ตอนเข้าเลคเชอร์ก็สมองเบลอๆไม่ค่อยสดชื่น แต่วันไหนที่ได้นอนเยอะๆทำให้เรียนเข้าหัวมากกว่า แล้วก็กลับไปอ่านทวนเร็วขึ้นด้วย ก็เลยพยายามให้ความสำคัญกับการนอนอะ วันไหนทำแลปนานมากกลับมาเหนื่อยก็นอนก่อนค่อยตื่นมาอ่าน แล้วก็จะไม่นอน3ชั่วโมงทุกวัน แต่จะเป็น 4ชั่วโมงครึ่งบ้าง ช่วงไหนร่างกายล้ามากๆก็นอน6ชั่วโมงไปเลย แต่ถ้าเอาเวลาไปนอนมันจะอ่านไม่ทันใช่มะ555 ก็พยายามเรียนในห้องให้เข้าใจจะได้ไม่เป็นภาระตอนอ่าน โดยเฉพาะพวกฟิสิโอ ฟาร์มาโค อิมมูน พาโถ วิชาตั่งต่างที่มันต้องใช้ความเข้าใจอะต้องเข้าใจในห้องจริงๆแล้วก็กลับไปต้องทวนวันนั้นเลย แต่พวกวิชาจำอย่าง อนาโตมี่ ไมโคร ก็อาศัยจำได้ตอนแลปอะ แต่กูเคยแบบตอนที่ต้องท่องยาเป็นร้อยๆตัว ชื่อยาแต่ละตัวก็อลังการงานสร้างแล้วไม่มีแลปช่วยเหมือนอนาโตมี่นี่ก็เกือบแย่เหมือนกัน ตอนนั้นก็ใช้วิธีท่องสะสมเอา วันละสิบยี่สิบตัวเหมือนท่องศัพท์ภาษาอังกฤษเลย บางทีก็ช่วยๆกันจำกับเพื่อนอะ
เมื่อก่อนกูชอบทำสรุปมาก แต่พอเนื้อหาเยอะจนเริ่มทำไม่ไหว(คือใกล้สอบแล้วมันทำไม่ทัน แล้วถ้าเสียเวลาไปทำก็จะอ่านไม่ทันด้วย5555) ก็เลยเปลี่ยนไปทำสรุปแค่จุดที่ต้องใช้ความเข้าใจอย่างเดียว พวกวิชาท่องก็คัดๆๆๆเอา ลดเวลาไปได้เยอะ ที่เพื่อนมึงเข้าใจเร็วคืออ่านมาล่วงหน้าแล้วรึเปล่า หรือเพื่อนเรียนเข้าใจในห้องมาแล้วมั้ย ลองไปถามเทคนิคจากเพื่อนดูก็ได้ คือวิธีเรียนแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ถ้ามึงคิดว่าวิธีเรียนตอนนี้มันยังไม่เวิร์ค มันยังช้าไปก็ลองปรับๆดู
จุดที่กูคิดว่ามันหนักที่สุดสำหรับกูคือ ตอนใกล้สอบปีสาม แรกๆปรับตัวไม่ได้ตอนนั้นกูทั้งเครียดทั้งกดดัน กูกลัวทำข้อสอบไม่ได้ กลัวจำไม่ได้ กูกลัวไปหมดเลย รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในจุดตกต่ำที่สุดแล้ว จากที่ม.ปลายเคยคิดว่าตัวเองเก่ง พอมาเรียนนี่แล้วกูรู้สึกตัวเองแม่งโคตรโง่ กูสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปเยอะมาก แล้วพอเครียดมากๆอารมณ์กูก็ไม่คงที่ หงุดหงิดง่าย อ่อนไหวก็ง่าย บางวันจะอ่านหนังสือก็เอาแต่ร้องไห้ทำให้กูอ่านไม่ได้เลย สำหรับกูคือหนักมากจริงๆช่วงนั้น กูดิ่งบ่อยจนกลัวจะเป็นโรคซึมเศร้าเลยอะ แต่ก็ผ่านมาได้เพราะคนรอบข้างให้กำลังใจดีมาก กูพยายามเรียนรู้ที่จะจัดการกับความเครียดด้วย กูคิดว่าสิ่งนี้มันสำคัญมากนะ คงมีคนที่ไม่ได้โชคดีแบบกูที่เรียนหนักจนใจพังไปเลยก็มี ดังนั้นโม่งอย่าลืมหาอะไรไว้พักใจในวันที่จิตใจอ่อนล้าด้วยนะ ต่อจากนี้โม่งอาจจะต้องเจออะไรหนักๆอีกมากมาย อาจจะมีวันที่เหนื่อยจนแทบอยากร้องไห้ก็ได้ แต่อย่าปล่อยให้ความเครียดมาทำให้ทุกอย่างพังไปหมด เหนื่อยก็พักบ้าง อะไรก็ไม่สำคัญเท่าใจของตัวเอง ถ้ากำลังใจดี มึงจะผ่านไปได้แน่ๆเว้ยโม่ง สู้!!
>>610 ต้องจัดแพลนการเรียนของตัวเองดีๆ หาให้เจอว่าอ่านตอนไหน effective สุด ถ้ากลางคืนดันทุรังอ่านแล้วเข้าหัวได้นิดเดียว นอนไม่พอ ตื่นมาอีกวันก็ concentrate กับเล็คเชอร์ต่อไม่ได้อีก แล้วก็ต้องไปนั่งอ่านส่วนที่เรียนวันนี้แล้วไม่รู้เรื่องอีก ทบไปทบมายิ่งสติแตก
สมัยกุเรียนคือ 06.30-08.00 นั่งรถเมล์ไปเรียนก็นั่งเปิดดูว่าวันนี้มีเล็คอะไรบ้าง (ถ้าไม่เมารถ)อ่าน skim ดูคร่าวๆ กรองว่าเล็คไหนต้องจำแบบ Brute force เล็คไหนต้องใช้ความเข้าใจเยอะ ตรงไหนสไลด์แม่งลำไย ไม่อ่านก็ได้
08.00-16.00 ก็เรียนไป โฟกัสในห้องเรียนให้ได้มากที่สุด กาฟงกาแฟก็กินๆ ไป โดยเฉพาะพวกที่เป็น Physiology/Biochem/Phamaco ที่อาศัยความเข้าใจเยอะก็ต้องเอาให้เคลียร์ตรงนั้นให้ได้ ส่วนวิชาที่ต้องจำแบบ Brute force ถ้าเหนื่อยก็งีบๆ ไปบ้างก็ได้ 5555
ช่วงเย็นตอนนั่งรถกลับกูก็ทวนที่เรียนมา ยกเว้นถ้าเหนื่อยก็นอน 555555
ช่วงก่อนนอนก็แล้วแต่วิธีการเรียนที่ถนัด อยากจะสรุป อยากจะฟังคลิปที่อัดมาก็แล้วแต่ (กุอ่าน text เล่มที่อาจารย์ reference มา เวลาที่กุต้องแปลจากอังกฤษเป็นไทยเหมือนมันเข้าหัวสองรอบง่ะ ภาษาไทยรอบ อังกฤษรอบ) แต่ถ้าง่วงแล้วรู้สึกว่าอ่านไปยังไงก็เข้าหัวน้อยแล้วก็นอน
เนื้อหามันเยอะมากมึง มึงต้องเรียนรู้ว่าอันไหนเทได้ อันไหนห้ามเท 5555
สุดท้ายแล้วช่วงใกล้สอบลงกองก็ท่องโพยข้อสอบเก่าวนไปอยู่ดี อ่านแนวข้อสอบไปซักพักจะเริ่มเดาออกว่าตรงนี้น่าจะออกข้อสอบได้ ตรงไหนเป็น key point ของโรคนี้ ฯลฯ
ถ้าพูดถึงเนื้อหา lecture ปี 2-3 นี่หนักสุดละ ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ (+ NLME step 1 กูว่ายากสุดละ) พอขึ้นชั้น Clinic แม่งจะเป็นโลกคนละใบเลย แต่ความรู้ Preclinic ต้องเหลือมาบ้างนะ ชีวิตจะง่ายขึ้นเล็กน้อย
ว่าแต่เรียนแบบไหน ใช่ Block course วนตามวิชาพวก Musculoskeleton/Cardio/Respi/GI ไรพวกนี้ปะ หรือเป็นวิชา Anatomy/Physiology/Phamaco
มีใครไม่ได้โปรดปรานนิติแล้วเรียนป่ะ รอดมั้ย กูสอบติดนิติ ม.ดัง ม.นึง ความจริงกูอยากเรียนภาษาแต่สอบไม่ติด เลยเอานิติแทน ไม่รู้จะรอดมั้ย แต่ลองไปศึกษาก็ชอบนิดนึง
>>611 >>612 ขอบใจมากนะสหาย(พี่)โม่ง กูจะสู้ให้ถึงที่สุดด ทางม.เขาก็เข้มเรื่องพวก depression เหมือนกัน แบบย้ำพวกกุบ่อยมากๆ ว่ามีอะไรให้ไปคุยได้ตลอด แต่กุยังไม่ถึงจุดนั้นเลยยังไม่เข้าไปคุย55555
ไว้กุจะลองนอนให้มากขึ้น หลายครั้งกุง่วงแล้ววูบ สรุปที่กุอ่านมาเข้าหัวบ้างไม่เข้าหัวบ้าง โซแซดมาก
ปล. กุเรียนแบบแยก AnatomyกะPhysiology อ่ะ
ปล2. กุกำลังจะเทสสัปดาห์หน้าล้ะ ครั้งนี้อาจจะไม่ทัน แต่ครั้งหน้ากุจะพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองดู YY
อยากเรียนภาษาจีนแต่ไม่มีเวลาว่ะ มีใครมีหนังสือเรียนหรือคอสออนไลน์แนะนำไหม
https://www.youtube.com/watch?v=t0mBJAbrHwc
สำหรับพวกเด็กสายสุขภาพนะ อย่างน้อยๆควรนอนเพื่อให้อะดีโนซีนลดๆไปบ้าง แล้วเวลาอ่านบทเรียน ฝึกทำแบบฝึกหัดแม่งจะได้ง่ายต่อชีวิตมากขึ้น
พรุ่งนี้ละไอ้สัส
ติดไปด้วยกันนะพวกมึงงง นี่คือรอบสุดท้ายของกูละ
ky แป้ป เพื่อนโม่ง กุอยากทำสีผม แต่กุเพิ่งเข้าปี1 แม่กุบอกให้ทำเทอมสอง กุควรรอใช่รึมั่ย?
อีก4ชม
อีก1ชั่วโมงแล้วมึงง กูตื่นเต้นน
เพื่อนกูไม่ติดม.ที่มันอยากได้ จะปลอบมันยังไงดีวะ สงสารมันอะ
ติดอักษรฬแล้วว ยังมีพี่โม่งอักษรอยู่แถวนี้มั้ยคะะ
จะกู้กยศหรือกรอ ก็ต้องมีคนรับรองเหรอวะ วุ่นเลยกู
น้องกูติดมฟลว่าจะทำเรื่องกู้
เพื่อนโม่ง ตอนนี้กูขึ้นปี 2 แล้ว ถ้ากูจะซิ่วนี่ต้องลาออกจาก ม. เก่าก่อนหรือปล่าว หรือหายตัวไปเฉยๆได้เลย
>>641 เออนั่นแหละ กูจะเรียนรอดมั้ยวะ แบบเค้าคุยกันเรื่องแข่งกฎหมาย งานความสามารถเรื่องกฎหมาย คุยเรื่องหนังสือ เรื่องการเมือง เรื่องอะไรกันเงี้ย กูไม่รู้เรื่องกับเค้าซักอย่าง อจ.ที่มาสัมภาษณ์กูจะต้องร้องไห้เพราะสมองกูว่างเปล่า สงสัยไปเป็นค่ามีนของเค้าแน่เลยว่ะ กัว
โครงการอบรมภาษาตปท.(อิ๊ง)ของศิลปศาสตร์มธ.ท่าพระจันทร์สอนโอเคมั้ยอะเพื่อนโม่ง เห็นราคาไม่แพงดี
มึง กูขอบ่นเรียนภาษาตรงสาทร กูไม่ได้เหยียดนะ แต่กูเสียเงินเยอะ ก็อยากเรียนกับเจ้าของภาษานะ พอก็เรียนนะดับกลางอะ แล้วสองเดือนติดกัน คนสอนเป็นคนอินเดีย สอนโคตรแย่ สำเนียงก็ไม่ไหว เอกสารก็ไม่แจก ไม่เตรียมไรมาสอนเลยด้วย
>>639 กูดูในถามตอบ admission ในเว็ป tcas มันก็บอกว่าเด็กซิ่วปี 1 จะมา admission ไม่จำเป็นต้องลาออก แต่ไปดูคุณสมบัติทั่วไปที่มาจากเว็ป tcas เหมือนกัน(ของมหาลัยที่กูเข้าไม่ได้ระบุ)แม่งเสือกบอกว่า ต้องไม่เป็นผู้ที่กำลังศึกษาเกินกว่ำชั้นปี ที่ 1 ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาที่ ร่วมในการคัดเลือกนี้ เว้นแต่จะได้ลาออกจากสถาบันอุดมศึกษานั้นเสียก่อน สรุปแม่งจะเอายังไง ส่วนตัวก็โทรไปถามทปอ.ละ เขาบอกว่ารอให้มีสิทธิ์เข้าศึกษาก่อนแล้วค่อยลาออกก็ได้ กูเชื่อใจแม่งได้กี่เปอร์เซนต์วะ หาข้อมูลจากหลายๆแหล่งมันก็มี 2 เสียงทั้งลาออกก่อนสัมภาษณ์กับลาออกหลังมีสิทธิ์เข้าศึกษา ใครที่มีประสบการณ์คล้ายๆแบบนี้ช่วยมาตอบที
>>651 จบปี1แต่ยังไม่ลงทะเบียนปี2 เท่ากับคือมึงยังปี 1 อยู่ ยังไม่ขึ้นปี 2 ว่ะ
จะลาออกตอนไหนสุดท้ายก็ต้องลาออกอยู่ดี ไปที่เก่าทำเรื่องให้เรียบร้อยซะ มันยากตรงไหนวะแค่ลาออกเนี่ย เอาผู้ปกครองไปเซ็นๆรับรองวันเดียวทำเรื่องให้เรียบร้อยก็จบละ หรือกลัวที่ใหม่เขาไม่รับเหรอ แอดติดเขาก็รับหมดนั่นแหละถ้าไม่ผิดปกติไม่ตกสัมหรอก
>>652 ไม่ต้องกลัวเรื่องคุณสมบัติไม่ผ่าน เพราะชื่อมึงโผล่ในเว็บแล้วแสดงว่ามึงติดจริงๆแล้ว มึงจะเก็บหลักฐานไว้ก็ได้ถ้ากลัวมันมีปัญหาทีหลังจะได้แย้งได้
พอทปอ.ประกาศรายชื่ออกมา คือมันจบหน้าที่ของทปอ.แล้ว ไม่มีสิทธิ์คัดเด็กออกทีหลัง หลังจากนี้คือเรื่องของคณะที่มึงติดแล้วว่าจะรับเด็กหรือไม่รับ ซึ่งมหาลัยส่วนใหญ่มันอยากได้เด็กอยู่แล้วไม่ว่ามึงจะเป็นใครซิ่วมาหรือไม่ คะแนนมึงก็ถึงและมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเรียนที่นี่ โอเค้ ดังนั้นมึงก็ควรไปลาออกให้เรียบร้อยจะได้ไม่ต้องมากังวลอยู่แบบนี้ จบๆไปซักที
งานวันแรกพบกับสืบสานของมธทำไรกันบ้าง กิจกรรมสันทนาการหมดเลยเหรอ
เบื่อชิบหาย มธ.แม่งให้ย้ายเข้าหอได้วันที่ 1 สค. ละกูไปกลับๆบ้าน มธ.บ่อยมากเนี้ยเพราะช่วงนี้กิจกรรมเยอะชิบหาย ละส่วนใหญ่ต้องอยู่สองวันเสียค่ารถไปกลับหกร้อยละยังต้องเสียค่าที่พัก = ='
แรกพบมธกะจะไม่ไป แต่ถามคนที่คณะกูบอกว่ามีจับโต๊ะ ไม่งั้นก็จับย้อนหลัง อยากทำให้มันจบๆอะ
อยู่มธ. เซมจับโต๊ะถ้าสินสาดไม่ซีนะ แต่เห็นบัญชี นิติ รัฐศาสตร์ดูเคร่งๆ คือกูออกโต๊ะมานานแล้ว โต๊ะมันก็กิจกรรมิะ สมัครใจเข้าก็ไปไม่สมัครใจก็ไม่ต้องไป กูไปแรกพบกะสืบสานนะ สืบสานก็โอเคดี กลางคืนมีคอนเสิร์ต แนวแจวๆ ทำกิจกรรม ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องไปก็ได้ไม่บังคับ เดี๋ยวก็ไปเจอเพื่อนในเอกอยู่ดี เอาจริงๆ คิอถ้าไม่อยากเข้ากิจกรรมไม่อยากมีโต๊ะแนะนำว่าอย่าไปตั้งแต่แรก คือกูไปแหละอยากรู้ว่าเป็นไง แต่พออยากออกแล้วเกรงใจเพื่อนนิดหน่อย เพื่อนก็คะยั้นคะยอให้เข้าโต๊ะไง แต่กูชอบอยู่หอมากกว่า เข้ากิจกรรมไรงี้เสียเงินก็มีบ้างแล้วแต่ตกลง กูไม่ค่อยอยากจ่ายเลยเททั้งหมดเลย ส่วนพวกงานรับน้อฃของเอกไรนี่ของกูให้จ่ายเฉพาะคนไป ส่วนตัวว่าก็แฟร์ดี 55555 ขอให้โชคดีในรั้วมธ.
ทำไมโต๊ะใน มธ. นี่ออกแนวเหมือนซุ้มในรามคำแหงเลยวะ? บรรยากาศกิจกกรรมมันคล้ายๆกันป้ะ? เพราะมหาลัยทั้งสองแห่งนี้มันเริ่มมาจากมหาลัยตลาดวิชาเลยมีอะไรคล้ายกัน
สห่ยโม่ง วันแรกพบมธวันไหนอ่ะ
ทำไม ต้อง สินกำ สินสาดว่ะ มึงพิมพ์ ศิลปกรรม ศิลปศาสตร์ ดีๆไม่ได้หรือไงว่ะ
ใครอยู่แพทย์ถามหน่อย แรกพบ สพท ที่มีไรสำคัญมากปะ กูไปไม่ได้อะ TT
โม่งมหาลัยใช้โน๊ตบุ๊คบ่อยไหม ลังเลระหว่างโน๊ตบุ๊คกับไอแพด
มธ.แม่งมีสี่งานแล้ว first meet/ปฐมนิเทศ/บอดี้แสลม/งานอาสา
กูเสือกลงไปสี่อันเลยอ่ะ55555 แต่ขี้เกียจแล้ว อันไหนไม่ต้องไปก็ได้บ้างอ่ะ แล้วเค้าจะว่ามั้ย
>>672 งานอาสากุไม่ไปกุไม่มีเพื่อน555 บอดี้แสลมอยากดูก้ไปดึกๆกว่าจะมาของกุวงดังๆปีที่แล้วเกือบ4ทุ่มละแม่งมีเรียกเปนรอบไม่ได้ให้เข้าตลอด ปฐมนิเทศนี่วันเดียวกับบอดี้แสลมป่ะ วันนั้นมีให้ตรวจสุขภาพกับเอาบัตรนศที่เหลือก้ไม่มีไรแล้วมีให้ไปดูชุมนุมอ่ะไม่ไปก้ได้ เฟิสมีทกุไปมันมีจับโต๊ะแล้วพี่พาแดกข้าวแล้วแต่คณะมั้งช่วงบ่าย ช่วงเช้าก้ไม่มีไนอ่ะหาเพื่อนข้างๆกับมีชุมนุมมาโช
วันนี้ถูกญาติบอกว่าโง่ที่สละสิททันตะมาเรียนครู
คือ...มันก็เรื่องกูป่ะวะ??
เพื่อนโม่ง กูอยากเรียน ปอตรี ใบที่สองว่ะ กูรู้สึกว่า ป ตรี ใบแรกไม่ค่อยได้อะไร เรียนๆไปเสียเวลาหรือกูไม่เจอกับคนสอนเก่งๆ วะ กูเรียนคณะที่ต้องไปสอนคนอะมึง แต่กูยังรู้สึกว่าก็ไม่ทั้งไม่เก่งและสอนคนอื่นไม่เก่งว่ะ
ทำไมโม่งมธเยอะจังวะ สร้างมู้คุยกันเหมือนม.สีชมพูเลยป่ะ 5555 เผื่อมีไรจะได้ค้นง่าย
>>677 ก็ไม่แปลกนะ ที่คนอื่นจะคิดแบบนั้น คือถึงจะเป็นเรื่องการตัดสินใจของมึงก็เถอะ แต่มันเหมือนมึงทิ้งทองในมือเพื่อไปเอาทองแดงอะ
ครูในประเทศไทยไม่ได้สูงส่งหรือถูกนับถือเหมือนกับครูต่างประเทศหรอกนะ ต่อให้มึงจบ ป.เอก มาจากต่างประเทศ ทำงานกับมหาวิทยาลัยดังๆ เงินเดือนในตำแหน่งมึงก็ไม่เกิน 30000 หากอยากได้มากกว่านั้น มึงก็จำเป็นต้องใช้ชื่อเสียงตัวเองไปหาเงินนอก หางานนอก ซึ่งขอบอกเลยว่าโคตรเหนื่อเพราะมึงจะไม่มีเวลาได้พักเลยแม้กระทั่งเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดราชการ
ซึ่งกลับกันถ้าได้ทันตะ มึงสามารถทำงานโรงพยาบาลในช่วงปกติได้ เข้าเวรจันทร์-ศุกร์ แล้วกลับมาเปิดคลีนิกเองหลังเลิกงาน + เสาร์ - อาทิตย์ กอบโกยเงินเดือนเป็นแสนๆ
>>680 ป.ตรี ใบที่สอง ก่อนอื่นกูต้องถามก่อนว่ามึงต้องการเรียนเพื่ออะไร?
เพราะการเรียน ป.ตรี อีกใบนั้นจำเป็นต้องเสียเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี และอาจจะถึงขั้น 4 ปีเลยหากวิชาพื้นฐานของสาขาที่มึงเรียนมันไม่ตรงกัน ฉะนั้นหากคิดจะเรียน ป.ตรี อีกใบจึงต้องมีการวางแผน และมีจุดหมายที่แน่นอนเอาไว้ก่อนด้วยเพื่อไม่ให้เสียเวลา
อย่างของกูเนี่ย เรียนจบกฎหมายมา และตอนนี้กูก็กำลังเรียนบัญชี เป็น ป.ตรี ใบที่สองต่ออีกใบหนึ่ง โดยกูตั้งเป้าหมายว่าจะใช้วิชาชีพทั้งสองเนี่ยควบคู่กันแล้วเปิดสำนักงานเองในอนาคต เพราะทั้งคู่มันเป็นสาขาที่มีวิชาชีพเป็นของตัวเอง ถ้ากูได้ใบประกอบวิชาชีพทั้งสองมาจะทำให้กูสามารถเปิดสำนักงานที่เป็นทั้ง สนง.กฎหมาย และ สนง.บัญชี ควบกันได้เลยนั่นเอง
>>683 ขอบคุณมากนะมึง อันนี้กูลองถามดู เผื่ออนาคตอยากเปลี่ยนสายงาน แต่พวกกลุ่มวิศวะ, นิติ อะไรพกวนี้มันต้องเรียนป.ตรีก่อนใช่ไหมวะ เท่าที่กูหามา การจะไปต่อโทเลย โดยที่ป.ตรีเรียนอะไรที่ไม่ได้เกี่ยวข้องมาก็ค่อนข้างยาก
กูขอถามมึงอีกนิดนคง ที่มึงเรียนใบที่สองนี่มึงทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยรึเปล่าวะ หรือว่าเรียนอย่างเดียวเลย
>>682 ก็เพราะทุกคนมองแต่เรื่องเงินแบบนี้ไง มันถึงได้โดนญาติด่าเอา คนดีๆกำลังใจหายหมด แล้วมันจะมีครูดีๆเก่งๆไหม
ไปเรียนทันตะกว่าจะจบนี่ ถ้าเรียนแล้วไม่ชอบมันจะเหนื่อยกว่าใจรักมากนะ ยิ่งเป็นสายสุขภาพที่เรียนไปมีแต่ทำให้เสียสุขภาพด้วยแล้ว
ให้กำลังใจโม่ง >>677 นะ สู้ๆเว้ย เป็นครูที่ดีให้ได้นะ อะไรที่คิดว่ามันไม่ใช่ตัวเองอย่าไปฝืนเลย
>>685 ขอบคุณกำลังใจมึงมาก
ที่ได้ทันตะเพราะคะแนนสอบเยอะเฉยๆ ลองสมัครเล่นๆติดซะงั้นตอนรอบกสพท ยืนยันไปแล้วแต่คิดไปคิดมาเลยยกเลิกมาเอาครูรอบแอด
จริงๆกูชอบคณิตนะ บ้าเลขมาตั้งแต่เด็กละ ตอนสอบวิชาอื่นกูสอบได้สูงทั้งนั้น แต่ชีวะกูอย่างห่วยเลย ทั้งม.ปลายได้4แค่ครั้งเดียวคือเทอมนั้นครูปล่อยเกรด กูไม่ตั้งเรียนด้วยแหล่ะเพราะไม่ชอบ เพราะงี้เลยไม่อยากเรียนสายสุขภาพ ทั้งๆที่คนรอบข้างๆเชียร์ให้เรียนหมอกัน
ใครก็ได้สร้างโม่งมธ.ที กูจะไปเจอ อยากเม้าท์มานานละสัด
>>688-689 https://fanboi.ch/lifestyle/5806/ พวกมึงสองคนไปคุย กุรอฟัง
https://twitter.com/PHATI0/status/1017098048672059393
สมกับมหาลัยที่รวยที่สุดในประเทศ รู้สึกภูมิใจ
https://twitter.com/PHATI0/status/1016890393147801600
เมื่อกี้ผิดลิ้ง
KY เพื่อนโม่งแนะนำหนังสือกายวิภาคและสรีระ เวอร์ชันไทยให้หน่อยได้ไหม กูต้องซื้อออนไลน์ แล้วเปิดเนื้อในไม่ได้เลยไม่รู้จะเลือกอะไรดี
>>691
มันคือความบิดเบี้ยวของไทยเลยนะ เจริญอยู่ที่เดียวคือ กรุงเทพ ภาษีมาลงกะกรุงเทพเยอะมากๆ
เยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลี ประเทศเล็กๆที่เจริญ เค้ามี metropolis ตั้งหลายแห่ง แต่ละที่ก็มี Headquarter ของ บ.เทพๆอยู่เป็นความภูมิใจของท้องถิ่น
ไทยไม่มีแบบนี้เลย เอะอะ กรุงเทพๆ
อันนี้ถามแบบสาระเลยนะ เผื่อโม่งผู้ใหญ่ บอร์ดบริหาร บริษัทจะมาตอบ ทำไมพวกสำนักงานใหญ่ของบริษัทต่างๆ ต้องมาอยู่ในกรุงเทพว่ะ พอเป็นแบบนี้ มหาลัยดัง โรงเรียนดัง ก็ต้องมาตั้งในกรุงเทพ เพราะอาจารย์ก็รับงานนอกให้บริษัทพวกนี้ หรือผู้ปกครองนักเรียน ก็ทำงานในบริษัทพวกนี้ อย่างของราชการ กูพอเข้าใจ ว่ามันต้องโคกันเอง
>>695 สภาพภูมิศาสตร์มันได้เปรียบไงทำ Logisticสะดวก ใกล้ทะเลเป็นเมืองท่า ขึ้นเหนือลงใต้สะดวกระยะเท่าๆกัน ไปต่างประเทศก้อง่ายฮับการเดินทางในปท.รึต่างปท.มาอยู่นี่หมด นิคมอุตใหญ่ๆที่พึ่งขนส่งทางทะเลมันก้อต้องอยู่แถบชายฝั่งท่าเรือน้ำลึกก้อไม่หนีระยอง ชลบุรี อยู่กทม.มันใกล้กว่า
>>700 โตโยต้าสนง.ใหญ่ไงอยู่บางนา แต่มึงคะ ถ้ามึงอยู่ใกล้กทม.ขนาดนั้นมึงจะไปตั้งบ.ที่อื่นทำไโว้ย คนทำงานที่ไหนอยากจะถ่อไป ขนาดโตต้าตรงสำโรงยังมีรถรับส่งพนักงานเลยมันไกลเค้าอยู่ตรงนั้นเพราะใกล้โรงงานแต่ยังมีออฟฟิตที่ All season เลย มึงรู้จักคำว่า CBD ไหมที่ย่อมาจาก Central Business District อ่ะ บ.ใหญ่ๆนานาชาติเค้าเลือกแถวนั้นทั้งนั้น เพราะจุดที่จะมีคนกล้าลงทุนสร้างสำนักงานออฟฟิตใหญ่ๆให้เช่าคือในตัวเมืองที่มีคมนาคมสะดวกทำเลมีศักภาพจะโต พวกที่ไปตั้งที่อื่นนะลงทุนสร้างตึกกันเองเป็นส่วนใหญ่ซึ่งเด๋วนี้ไม่ค่อยทำแล้วเงินมันจม ส่วนใหญ่เช่ากันทั้งนั้นนะจ๊ะ
กูว่ามหาลัยกับโรงเรียนดังหลายแห่งตั้งมาก่อนบริษัทใหญ่ๆมาอีกนะ มหาลัยก็มีอยู่ทั่วแหละ รังสิตไม่เจริญเท่าในตัวเมืองก็มีม.ดังตั้งหลายม. แล้วทำไมถึงไม่กระจายความเจริญไปนอกเมืองบ้าง โม่งบนก็มาตอบแล้วไงว่าการเดินทางมันไม่สะดวก รถติดจะตายห่า เดี๋ยวนี้ออกนอกเมืองนิดเดียวรถยังติดเลย ก็รอให้สร้างรถไฟฟ้านั่นแหละ แต่พอรถไฟฟ้า คอนโดก็ตามมา และอื่นๆก็จะตามมาเอง
>>693 เล่มไทยกูใช้อ่านเสริมแค่ physio ของมหิดลเล่มเขียวๆฟ้าๆอะ ส่วน anatomy ไม่ได้ใช้เล่มไทยเลย
กูว่าถ้าซื้อมาเรียนไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่นะ พอเรียนปีสูงๆกูรู้สึกว่าไม่ค่อยได้ใช้อะ จะใช้พวก therapy หรือเปิดหา guideline เอามากกว่า
สมัยกูก็ยืมห้องสมุดเอาไม่ค่อยได้เปิดเล่มไทยหรอก แล้ว textbook บางทีอ่านง่ายกว่าแปลไทยอีก ศัพท์ไม่ค่อยยาก แปลไทยแล้วงงกว่าเดิมก็มี
เอางาย่ๆ หน่วยงานราชการสมัยก่อนจะต้องอยู่ใกล้กับเจ้ากับวัง เพราะจะได้ใช้งานได้สะดวก หน่วยธุรกิจอยากจะทำธุรกิจง่ายก็ต้องมาตั้งใกล้ๆหน่วยราชการจะเดินเรื่องได้สะดวก ไหนจะการเดินทางก็สะดวก เพราะมันเป็นเมืองของผู้ปกครอง ต้องพัฒนาให้ดี บลาๆ หลังจากนี้มึงก็จินตนาการเอาเองละกันว่าทำไมกรุงเทพกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ
>>705 เพิ่มเติม เมืองของผู้ปกครองรัฐ(เมืองหลวง) จะมีประชากรเยอะกว่าเมืองอื่น ไว้เวลาทำสงคราม ใช้แรงงาน แบบเคยได้ยินกันปะ เวลาสงครามแล้วอยุธยาเกณฑ์คนเข้าอยุธยา หรือเวลาชนะก็เกณฑ์เชลยศึกคนมาเข้าเมือง พอคนเยอะ ความต้องการสินค้าก็เยอะ เกิดการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจ กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ ในปัจจุบันก็คล้ายๆกัน
มึงกูคิดไปเองรึป่าว ว่า
มหาลัยรัฐบาลอย่างราชภัฎกับมธ.ไรงี้ต่างกันมากด้านสังคม
เพื่อนไปเรียนในกทม กับมหาลัยดีๆ คือเขาแฮปปี้มากตัดภาพมาที่กูไปเรียนอย่างเดียวกิจกรรมไม่เข้าเพราะทั้งคณะแบน
เพื่อนโม่งคือปีหน้ากุอยากไปwork&travelอ่ะมันต้องเตรียมตัวไงบ้างแล้วมันต้องสอบอะไรป่ะ คือกุไม่เก่งอิ้งอ่ะแต่อยากไปหาปสกบ้างมันต้องได้ระดับไหนหรอ ใครมีวิธีให้เก่งอิ้งขึ้นบ้างบอกวิธีกันหน่อยคือกุไม่ชอบมันด้วยมั้งแบบไม่ใช่วิชาที่ถนัดเลยทำให้มันดไม่ได้สักที;______; กราบตัก
เพื่อนโม่งแนะนำเครื่องพิมพ์ให้กูหน่อยสิ กูชอบพิมพ์เยอะๆ ก็เอาไว้เรียนโทอะ ไม่เอา caนon นะมึง ใช้มาสามเครื่องแม่งที่ซับมึงเต็มตลอด
เอออยากไปwatเซม โครงการไหนดีวะ รัฐไหนดีหางานสองง่าย กูไม่กะเที่ยว ไปทำงานเอาเงินอย่างเดียว5555 โซโล่ได้ชะ
Ky ปรึกษาในนี้น่าจะได้มั้ง คือกูกำลังขึ้นปี4 ละซัมเมอร์ช่วงที่ทำแล็บธีสิสจบนี่ เหมือนอ.ท่ีเป็นadvisorธีสิสจบพูดเหมือนชวนกูเรียนโทต่อกะเค้า กูก็ตอบไปว่าอยากเรียน แต่ปีหน้าที่บ้านต้องส่งน้องเข้ามหาลัยอีกคน เลยยังไม่แน่ใจ ละวันนี้ล่าสุดพี่ป.เอกในแล็บก็มาทักกูว่าเดี๋ยวตอนกูเรียนโทกับอ.ละก็จะได้ทำงั้นงี้นะ กูก็อึดอัดเพราะยังไม่ได้คอนเฟิร์มกะที่บ้าน เลยตอบอ้อมแอ้มไปแบบที่กูบอกอ. พี่แม่งก็ไซโคหนักมาก บอกว่าอ.หาทุนให้ได้ พวกทุนพวอ.ไรงี้มีค่าใช้จ่ายรายเดือน ค่าวิจัย ค่าเทอมให้ทุกอย่าง ถ้าอยากได้ค่าขนมเพิ่มก็ช่วยอ.ทำวิจัยไป เดี๋ยวก็ได้เองเพราะอ.กุเป็นคนขยัน ทำวิจัยส่งนู่นนี่ตีพิมพ์ตลอดๆ ละนางพูดเหมือนอ.วางแผนไว้หมดละว่าจะหาทุนให้กูกับคนที่อยู่ร่วมแล็บอีกคนเรียนละจะส่งไปทำแล็บตปท.ซักเดือนบลาๆๆ กูนี่ฟังละเคว้งแปลกๆอะ ใจนึงก็อยากเรียนเลยแหละ แต่ยังไม่ได้คุยกับที่บ้านเลย กลัวเขาไม่โอเค อีกใจก็สงสัยว่าถ้าจบแล้วทำงานก่อนค่อยมาต่อกับเรียนไปมันทีเดียวเลย แบบไหนจะดีกว่ากัน คำพูดพี่แม่งทำให้กูกดดันอะ เพราะเหมือนอ.จะอยากให้กูต่อจริงจัง แต่กูก็กลัว กูไม่ใช่คนเก่งคนเทพขนาดนั้น เรียนก็โดดบ้างขาดบ้างตลอด เกรดก็แค่2.6 (ม.กูต่อโทขั้นต่ำ2.5น่ะ) ไม่ได้สวยหรูเท่าเพื่อนอีกคนที่จะต่อโท แต่พี่ป.เอกบอกอ.เห็นภาษากูดีเลยอยากสนับสนุน กูอยากต่อแหละแต่จริงๆสันดานกูเป็นคนขี้เกียจ เลยกลัวเรียนละไม่รอด แต่ว่าโอกาสก็มาขนาดนี้ละ กูควรไปคุยกับที่บ้านก่อนใช่มั้ย พวกปีก่อนๆเอกกูส่วนใหญ่จบไปก็ทำงานกันยาวตลอดไม่กลับมาเรียนแล้ว กูเลยไม่รู้จะเอาไงกับชีวิตมากๆตอนนี้
ขอ ky ปรึกษาหน่อย อยากถามคนที่กำลังเรียนหรือมีคนรู้จักเรียนหมอ ฬ ศิริราช รามา คืออยากรู้เรื่องหลักสูตร ระบบโน่นนี่ ค่าใช้จ่าย ความยากง่ายในการหาหอ สังคมในคณะ ฯลฯ ประกอบการตัดสินใจ คือนี่จบจาก ร.ร. แห่งนึงแถวสามย่านที่เพื่อนร่วมรุ่นเลือกหมอ ฬ กันซะมาก แต่เหมือนเขาเลือกเพราะชินกับทำเลและสภาพแวดล้อมมากกว่าจะเลือกที่หลักสูตร นี่ก็ลังเลว่าถ้าเลือก ฬ อาจจะปรับตัวง่ายกว่า แต่อีกใจก็อยากได้ข้อมูลเรื่องอื่นประกอบการตัดสินใจด้วย
ป.ล. นี่เป็นเด็กซิ่ว พอดีสอบได้ทุนมาเรียน ตปท. ใจเร็วรีบตอบรับมาเรียน แต่เอาเข้าจริงดันไม่โอเคเลยอยากกลับไปเรียนที่ไทย รอบนี้เลยยิ่งอยากคิดดีๆ จากข้อมูลหลายๆ ด้านก่อนเลือกมหาลัย
ป.ล.2 คิดถูกมั้ยเนี่ยที่มาถามโม่ง 5555 คือไล่อ่านเม้นบนๆ แล้วรู้สึกประทับใจว่าถึงคราวแนะนำจริงจังก็จริงจังกันเชียว เลยลองถามดูซะหน่อยเผื่อได้ข้อมูลแบบที่หาจากเว็บอื่นไม่ได้ ไม่กลัวโม่งแหกละ โดนเพื่อนที่สนิทๆ รู้หมดแล้วว่าเล่นโม่ง 55 (ประเด็นคือเพื่อนสนิทจริงๆ มีแต่พวกเรียนคณะอื่น กับพวกได้ทุนเหมือนกัน เลยถามข้อมูลจากมันไม่ได้อีก)
>>720 ตอนนี้เราอยู่ ศรร มาจากโรงเรียนวิทย์แถว ๆ ศาลายา นครปฐม เราว่าเรื่องปรับตัวไม่มีปัญหาหรอก เด็กรรนั้นมาศรรก็เยอะเหมือนกันนะในรุ่นเรา พอ ๆ กับรรเรานี่แหล่ะ แค่อาจจะมีบาเรียหน่อยที่เป็นรุ่นพี่ เพื่อนเราที่ซิ่วมาเข้าศรรปีนี้ก็มีมาปรึกษาเรานิดหน่อยทั้งที่ยังไม่เปิดเทอมนี่แหละ แต่ถ้าไปงานรับน้องที่ปีสองอะไรทำนองนี้จัดให้ก็ไม่มีปัญหาหรอกนะเราว่า เพื่อนเราได้เพื่อนเยอะเลยตอนไป (เราไม่ได้ไป ตอนนั้นอยู่ตปท5555555) ถ้ายังอีกก็ลงกรรมการ ทำงานเยอะมาก ประชุมทุกวันจันทร์ตอนเย็นหลังเลิกเรียน ทำงานจนสนิทชัวร์ ๆ (ไม่ได้เป้นอีกเช่นกัน according to คุณเพื่อน) อีกอย่างคือกิจกรรมเยอะมากกก ถ้าเกิดลงไป ก็ได้สนิทกับรุ่นพี่ เพื่อนที่จะลงกิจกรรมกันบ่อย ๆ อยู่แล้วว เพราะงั้นพูดเลยว่าขนาดเราที่เก็บตัวอยู่ในห้องเป้นส่วนมากยังหาเพื่อนได้ เราว่าสังคมการปรับตัวไม่มีปัญหาหรอก ถ้าจะมีคือเรื่องที่เที่ยวมันไม่ค่อยมีอะไรนี่แหล่ะ หรือเพราะเราอยู่มาสี่ปีแล้วก็ไม่รู้นะ55555 ถ้าจะกินคือต้องไปไกลนิดนึงเป็นส่วนใหญ่แบบเดินเอาไม่ค่อยได้(พวกที่เดินได้ก็แถวหน้าม.อะไรงี้) อันนี้แค่ปีหนึ่งนะ ปีสองอยู่ตรงนั้นก้มีตลาดวังหลัง อะไรตามเรื่องนั่นแหล่ะะ
คือ ถ้าเรื่องเพื่อน/ปรับตัวไม่ต้องห่วงง มีแน่นอน
สังคมจะการแข่งขัน(คะแนน)แรงกว่ารามานิดนึงมั้ง แต่ถ้าเทียบ ฬ ไม่รู้แฮะ แต่ที่แน่ ๆ คือหลักสูตรปีหนึ่งของ ฬ เริ่มมีพวกวิชาแพทย์แล้ว แต่ศรรกับรามายังไม่มี อีกอย่าง คือ ระบบ seniority ค่อนข้างแรงอะ555555 รุ่นเรามีบางคนซิ่วนะแล้วเรียกพรหเขาด้วยชื่อตรงๆเพราะมีเพื่อนเขา(ที่อยู่เป็นรุ่นพี่)เรียกด้วยชื่อ พรหเพื่อนเราคนนั้นคือโกรธไปเลยเพราะความจริงพี่เขาก็ซิ่วมาเหมือนกัน แล้วก็เคร่งกว่ารามาตรงระเบียบตอนปีสองขึ้นไปนี่แหละ รองเท้าดำรัดส้น โบว์ตลอดเวลาอะไรทำนองนี้ เพราะมาอยู่ศรร (เทียบแต่กับรามา เพราะพี่เราอยู่รามา ถถถถ เทียบได้แค่นี้แหล่ะ)
อื้ม ละก็ อาจารย์อะไรงี้จะพรานด์ในความเป็นศรรมาก ๆ รักสถาบันกันสุด ๆ จะแบบ อย่าทำให้ศรรต้องเสียชื่อทำนองนี้ หมั่นไส้นิดหน่อย แต่ปล่อยๆไปบ้าง รักสถาบันก็ไม่ใช่เรื่องผิด5555555
พวกหลักสูตรปีสองอะก็จะเริ่มเรียนต่างกับรามาละจากที่เหมือนกันแทบทุกวิชาปีหนึ่ง(เทอมสองรามาจะมีไบโอเคมแต่ศรรไม่มี-มาเรียนปีสอง) ถ้าจำไม่ผิดคือรามาจะเรียนแบบ block by block เหมือนกับ อะ ขาส่วนล่าง สอบ ขาส่วนบน สอบ ก็คือจะสอบบ่อยสอบถี่ สองสามวีกสอบครั้งนึง จบแล้วจบเลย แต่ศรรคือจะเรียนละค่อยสอบทีเดียวหกเจ็ดตัว แค่จะมีสอบคล้ายๆควิซเรื่อยๆ ละก็มีการลำดับวิชาที่ไม่เหมือนกัน เหมือนจะเรียนแบบพยายามให้พ่วงๆกันละต่อยอดได้ แต่ คือ เรียนแล้วเยอะๆมันก็งง อะไรแบบนี้ เราอธิบายไม่ค่อยถูก รอโม่งคนต่อไปมาตอบ 555555
ละก็ทีนี้จะมีสอบที่คล้าย ๆ NL ศรรจะมีมาสอบของในคณะที่ล้อกันไป ด้วยตอน ปีสาม ปีห้า ปีหก
เหมือนจะอยากได้้เทียบศรรกับของฬมากกว่า แต่ฬอันนั้นเราไม่รู้จริง ๆ 5555 เพื่อนมีแต่เรียนทันตะ วิศวะ ที่เรียนหมอก็ไม่สนิทเท่าไหร่ เลยไม่ได้ถาม
>>723 ขอบคุณมากกกกกก ละเอียดมาก ช่วยได้เยอะเลย ฮือออ
เคยได้ยินเรื่องระเบียบกับเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องมาเหมือนกัน กังวลอยู่เลยว่าถ้าเป็นเด็กซิ่วจะวางตัวลำบากมั้ย เราโอเคมากถ้ารุ่นพี่(ที่อายุเท่าเรา รึไม่อาจจะน้อยกว่า)จะมองเราเป็นรุ่นน้อง หรือเพื่อน(ที่เป็นรุ่นน้อง)มองเราเป็นเพื่อน จะได้รู้สึกเด็กลง 5555 ไม่ใช่ๆ รู้สึกกลมกลืนไรงี้ ยังดีกว่ามองเราเป็นรุ่นพี่แล้ววางตัวลำบากอะ
ขอถามนิดนะ เรื่องกิจกรรมรับน้อง โซตัส กับห้องเชียร์ทาง ศรร ซีเรียสมากมั้ย เห็นเพื่อนที่ ฬ บอกว่าทาง ฬ คณะนี้ไม่มีห้องเชียร์แล้ว แต่นี่ไม่รู้เรื่องของ ม. อื่นเลย
อ้อ แล้วเราเช็คเรื่องค่าเทอมอยู่ แต่เปิดหน้าเว็บ ม. แล้วเจอแบบที่เรทราคาแต่ละปีไม่เท่ากัน เลยไม่แน่ใจว่าเราเช็คถูกหลักสูตรรึเปล่า ว่าจะดูเรื่องค่าเทอม+ค่าหอประกอบการตัดสินใจด้วยน่ะ
>>725 ไม่เคร่งๆ เหมือนจะไม่มีด้วย ความจริงรับน้องที่พูดก็หมายถึงพวกตอนปิดเทอมน่ะ แต่ก่อนชื่อว่า first date กับ tour salaya จัดที่ศรรและม.มหิดลตามลำดับ แต่ปีนี่เปลี่ยนเพราะทางศรรมองว่ากิจกรรมมันซ้ำ ๆ เลยเปลี่ยนชื่อ จำไม่ได้ละว่าชื่ออะไร
พอตอนเปิดเทอมก็ส่วนใหญ่ถ้ารุ่นพี่จะเลี้ยงคือจะมีมาบอกในไลน์รุ่นไรงี้ ตอนเปิดสายไปทีเดียวเลย ไม่มีมารับก่อนหน้านั้นเพราะส่วนใหญ่อยู่ที่ศรรกันไม่ค่อยว่างมา ก้จะนัดตอนเย็นหลังเลิกเรียนง่ะ แล้วก็ถ้าปีสอง-สามจะมีกิจกรรมอยู่นะ แบบให้หลับตา มีคนมาสะกิดให้ของให้คำใบ้ แต่งตัวนิดๆหน่อยๆตามหาพี่รหัส (เช่นนัดสี่ครึ่ง ให้เล่นๆเดินๆเต้นๆตามหาถึงหกโมงไรงี้แล้วแยกย้ายกันไปเลี้ยงตามสายที่พี่ๆนัดกลุ่มกันไว้) แต่ถ้าปีสี่เป็นต้นไปจะไม่ค่อยมีแล้วเพราะเริ่มยุ่ง พาไปเลี้ยงกันเลย
ห้องเชียร์คือ...เหมือนซ้อมกีฬามหาลัยมั้ย ถ้าแบบนั้นคือไม่เคร่ง ตอนปิดเทอมจะมีให้ลงชื่อว่าใครจะทำหน้าที่อะไร เช่น ฝ่ายศิลป์ ลีด แสตน คุมแสตน(เพื่อนเราคุมกันเอง-รุ่นพี่ไม่มาเหมือนเดิม55555) มีเพื่อนบางคนคือขกลงชื่อละก็ไม่ลง จนถึงวันสุดท้ายแล้วก็ยังไม่ลงชื่อด้วยซ้ำกลายเป็นว่าแสตนตรงนั้นว่างไปต้องให้พวกคุมแสตนมานั่งแทนในวันจริง หรือบางคนไม่ลงเลยมาซ้อมสองวันสุดท้ายก็มี เราเคยเห็นคลิปแสตนศรรแล้วไม่พร้อมกันแบบโคตรๆ ส่วนใหญ่นัดช่วงที่ว่างไม่เกินครั้งละ1-2ชม. โดดไปไม่มีใครตาม(ยกเว้นเพื่อนข้าง/ใกล้วันจริง)
ส่วนที่รุ่นพี่นัดคือไม่มีเลยมั้งมีแค่มาเฉลยสายนี่แหล่ะ
แต่ถ้าห้องเชียร์หมายถึงพี่นัดมาทำกิจกรรมร้องเพลง เฉยๆ คือ ไม่มีง่ะ
ปล.แอบขายของว่าศรรโดยเฉพาะ รุ่นพี่ปีสองเลี้ยงบ่อยมาก เคยมีอยู่ช่วงนึงพี่มาเจอที่ศาลายาวีกละ3ครั้งอยู่ 2-3 อาทิตย์ แบบเหนื่อยแทน เลี้ยงไรเยอะแยะ ฟฟฟ เคยนับได้ว่าแค่ปีสองเลี้ยงคือสิบกว่าครั้ง แต่ว่าก็แล้วแต่สายแหล่ะะ
ค่าเทอม ปีเราใช้หลักสูตรปี 2557 ได้ยินว่าจะเปลี่ยนทุก 4 หรือ 5 ปีนี่แหล่ะ ไม่แน่ใจ อาจารย์เหมือนเคยพูดให้ฟัง คิดว่าเป็นตามวิชา/หน่วยกิต เมื่อกี้ไปดูของปีหนึ่งมาให้ เทอมแรก 15050 เทอมสอง 9300 +(วิชาเลือกเสรี-ราคาแล้วแต่วิชา)
แต่ถ้าปรับตอนปีต่อไปพอดีก็อาจจะมีบวกลบตามหน่วยกิตที่เรียนแต่ไม่เหวี่ยงมากหรอก
พวกค่าหอ งืม ที่ศรรนิยมจะอยู่แถวๆซอยตั้งศิลป์ จะบั*ฑิ* ยูน*ลอ*ต์ คริ*ตัล ฯลฯ (เด็กรรแถวศาลายานิยม ยนล แต่เด็กเตรียมนิยม คต มากกว่า เท่าที่รู้จักนะ) ซึ่งค่าหอพวกนี้ส่วนใหญ่หารกันสองสามคนแล้วแต่ห้อง เรตก็มีตั้งแต่ 7500 - หมื่นต้นๆ แต่พวกนี้มีข้อเสียคือต้องนั่งรถตู้ไปมหาลัยเท่านั้นซึ่งถ้าใกล้ ๆ เวลาเรียน บางทีเพื่อนเราเลือกโบกแท๊กหรือไม่ก็วินเพราะคนรอเยอะมากก แต่ข้อดีคือส่งได้หลายที่ แต่ถ้าเดินคือ 15นาทีบวกไปถึงที่เรียน ลองไปดูๆเองได้ แต่ก็มีที่อยู่หน้ามอเหมือนกัน อย่างเราอยู่หน้าม.ก็บางที่ก็มีรถ บางที่ไม่มี แต่รถรอบจะน้อยกว่าด้านบนอะ เราเดิน 7-8นาทีก็ถึงอาคารที่ส่วนใหญ่ศรรใช้เรียนประจำแต่ก็บางครั้งถ้าตึกไกลก็รอรถแทรมหรือไม่ก็ออกมาเดินเองก็ได้ ปีที่แล้วตอนเทอมสองเห็นว่าเริ่มมีรถ ออฟโฟ เป็นจักรยานเคลื่นอที่ให้เช่าผ่านแอพ(ผูกกับบัตรเครดิตมั้งไม่เคยใช้ แต่คือมีทดลองฟรีหนึงเดือน) รถพวกนี้จะจอดอยู่รอบๆม.ถ้ามันมีอันที่จอดก็ใช้ได้แหละ
ที่ต้องเช็คก็อย่าลืมพวกรอบการรับ-ส่งของรถด้วยนะ เช่น ชอบอ่านหนังสือดึกหสมบางทีมีรถถึงกี่โมง หรือว่าชอบอ่านที่ห้อง หรือว่าชอบอ่านพวกแนวๆทูฟาสต์(มีอยู่ที่ซอยตั้งศิลป์) รู้สึกว่าหน้าม.ก้มีแต่ไม่เคยใช้ ละก็แบบพวกฟิตเนส สระว่ายน้ำอะไรงี้ เผื่อจะเล่น555555
จริงๆเรทราคาค่าน้ำค่าไฟแต่ก่อนต้องคิดด้วยเช่นเราเนี่ยค่าไฟหน่วยละ 9 แต่ที่ยนลคือหน่วยละ7แบบนี้ แต่ปจบ มันมีกฎหมายบังคับห้ามเก็บเกินละนะ คงไม่เป็นไรมั้ง
พอปีสองขึ้นมาจะต้องมีชื่ออยู่หอในศรร ซึ่งเนื่องจากที่มันไม่พอรุ่นเลขคู่กับเลขคี่จะอยู่คนละหอ แต่เอาเป็นว่าปีละ9000บาท ค่าน้ำค่าไฟจ่ายเอง(แต่จะมีคอนโดอยู่ด้านนอกก็แล้วแต่ แค่ชื่ออยู่ก็พอ แหะๆ) พอปีสี่ต้องเปลี่ยนหอ
อีกนิดเรื่องเด็กซิ่ว ความจริงถ้าเราไม่รู้จักกันมาก่อนอะไม่เป็นไร แค่รุ่นพี่บางคนที่เห็นหน้ากันมาในรรแล้วสองปีแล้วไรเงี้ยจะวางตัวลำบากอะ เพราะชินกับการเรียกเค้าว่าพี่ในใจแต่พี่เค้าบอกให้เรียกชื่อเลย (แต่มีเรื่องน่าเศร้าคือพี่คนนึงจบวิศวะ ฬ มาละ4ปีแต่หน้าเด็กมาก เราเรียกพี่เขาด้วยชื่อเลยเต็มๆมารู้ทีหลังว่าแก่กว่าอย่างน้อย4ปีก็...ฮื่อ ไม่กล้าทักออกมาเป้นชื่อแล้ว555555 แต่พี่เขาก็ไม่ได้ชักสีหน้าใส่อะไรนะ) ไม่ต้องกังวลลลลล
>>726 ฮือออออ ขอบคุณมากๆ จริงๆ นะ
ห้องเชียร์ที่เคยกังวลเพราะได้ยินว่าบางที่ถ้าซีเรียสคือซีเรียสจริงๆ ประมาณว่ามีพี่ว้าก ทุกคนต้องเข้าร่วมเด็ดขาด แต่เราเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์เลยไม่รู้อะ แค่ได้ยินคนบอกมาว่าบางมหาลัยบางคณะมีแบบนี้ ก็ไม่ได้แอนตี้อะไร แต่ถ้าบังคับขนาดที่ว่าถ้าไม่ไปจะตัดรุ่นอะไรงี้ก็คงไม่โอเคเท่าไหร่ ถ้าแบบที่เล่ามาข้างบนนี่โอเคเลย กำลังดี 5555
เรื่องค่าเทอมเป็นแบบนี้นี่เอง เคยเข้าใจผิดคิดว่า ม. อื่นๆ จะเป็นเหมาแบบของ ฬ (แบบเท่ากันทุกเทอมไม่เกี่ยวว่าลงกี่หน่วยกิต) ตอนแรกเลยงงนึกว่าเปิดผิดเว็บ 5555 เพิ่งรู้จริงๆ ขอบคุณมากๆ
เรื่องหออธิบายละเอียดมาก ขอบคุณน้า นี่ไม่เคยไปแถวนั้นเลย ว่างๆ อยากลองไปสำรวจ (อันที่จริงที่สนใจ ศรร ส่วนนึงก็เพราะอยากเปลี่ยนทำเลเปลี่ยนบรรยากาศด้วยนี่แหละ.....)
ขอบคุณอีกครั้งจริงๆ นะ m(_ _)m
>>727 อยู่ฬเด้อ สังคมก็คล้ายๆเตรียมอ่ะ ไม่นู้จะอธิบายไง5555 แต่ถ้าเรื่องหลักสูตรเนี่ย เพิ่งเปลี่ยนไป ซึ่งจากที่ฟังมาจากน้องๆก็รู้สึกว่ามันintenseขึ้น แต่โดยรวมก็เรียนเนื้อหาแบบหลักสูตรเก่า เรียนเป็นblock แต่สอบเป็นสอบ4รอบนะ midterm final อย่างละ2 ค่าเทอมก็ประมาณ20000+ เท่าฬใหญ่นะรู้สึก เอ้อ ที่นี่ไม่มีsotusนะ5555
>>728 ขอบคุณน้าา ถ้าสังคมแบบเตรียมก็พอนึกภาพออก 5555 ว่าแต่ที่ ฬ พอขึ้นชั้นคลินิกที่ต้องไปราวน์เช้าๆ เขามีหอในให้รึเปล่า หรือต้องไปหาเอาเอง
(สมัย ม.ปลายไม่ได้อยู่หอ แต่บ้านไกลเลยเหนื่อยกับการเดินทางมากกว่าการเรียนอีก 55555 ถ้าจะเข้ามหาลัยแถวละแวกนั้นจริงก็ขอเปลี่ยนไปอยู่หอดีกว่า)
เสริม(แอบบ่น) ศรร แสตนด์ปี 1 เละมาก ซ้อมแค่ตามมีตามเกิด (ซึ่งก็ดีกูชอบ) ไม่มีว๊าก ไม่มีอะไร
ปี 2 มีรับน้องข้ามฟาก ก็ออกแนวอบรม ก็ถ้านั่งเฉยๆ (ซัก 6-7 ชั่วโมง) ได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
โดยรวมก็เป็นที่เรียนที่มีความสุขดี ยกเว้นอยู่ 2 อย่างที่พึงระวัง
1. โอกาสเจอคนหัวโบราณเยอะ ไม่เจอก็แล้วไป แต่เจอก็ระวังหน่อย
2. เนื่องจากมีพวก หัวโบราณเยอะ ก็จะมีบางคน ที่คิดว่าควรจะเปลี่ยนมันหมด ซึ่งก็ระวังพวกนี้ไว้ด้วย
สุดท้ายคือแน่ใจเหรอจะเป็นหมอ 555
เด็กเก่ง อาจจะไม่รู้ว่าเลือกอะไรดี เลยมาเป็นหมอก็เยอะ แต่คำแนะนำกูคือ ถ้าบ้านมึงรวยก็อย่าเป็นหมอดีกว่า
>>730 ขอบคุณสำหรับข้อพึงระวังนะ 5555
ตอนแรกก็เคยสงสัยตัวเองเหมือนกันว่าอยากเป็นหมอแน่เหรอ รู้แต่ชอบชีวะมาตั้งแต่เด็ก สนใจเรื่องร่างกายคนเป็นพิเศษ (ส่วนพวกเรื่องระบบนิเวศนี่ orz.......) รู้สึกว่าอยากเรียนให้ลึกกว่านี้ คณะวิทย์ก็อยากเข้า แต่อีกใจก็อยากทำงานที่เจอผู้คนหลากหลายมากกว่าวิจัยในแล็บ เลยค่อนข้างเอนเอียงมาทางหมอ แต่ก็อย่างว่าแหละ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจหรอกว่าแค่อยากเรียนเฉยๆ หรืออยากทำอาชีพนี้จริง ถึงได้สอบทุนมาเรียนสายที่น่าจะชิล (กว่าหมอ) จบไปแล้วน่าจะเงินดี (กว่าหมอ รพ.รัฐ) แต่เพราะได้มาลองทางนี้แหละถึงยิ่งรู้ว่าชอบทางนั้นมากกว่า คือบ้านก็ไม่ได้รวยนะ เงินก็อยากได้ 5555 แต่เหมือนตอนนี้อยากให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยากทำที่สุดจริงๆ มากกว่าความสบายกับเงิน จะได้ไม่ต้องมานึกเสียดายเสียใจภายหลังด้วย ต่อให้รู้ว่ามันจะทำให้ชีวิตลำบากกว่าสาขาที่เรียนอยู่ตอนนี้ก็เถอะ
...ไม่ใช่มาโซนะ 555555
>>731 ขอบคุณจ้า อย่างน้อยถ้าชั้นคลินิกมีหอก็ค่อยโล่งใจหน่อย ส่วนพรีคลินิกคงต้องลองหาหนทางดู 5555
>>730 กูเสริมให้อีกนะ รุ่นพี่หลายๆคนแม่งบอกอีกว่าวิชาเรียนสูงขึ้นๆจะเจอพวกรุ่นพี่ อาจารย์หมอเปรตๆเยอะ ชอบเอานั่นนี่มาลงใส่ นศพ. หรือทำพฤติกรรมประมาณว่า กินหัว จนหนีไปฆ่าตัวตายหลายคนละ จริงๆไม่ใช่แค่ ศิริราชหรอก คือ ม.รัฐเกือบทั้งหมดที่มีโรงเรียนสอนแพทย์จะแนวๆนี้ทั้งนั้น
อ่อ เตือนอีกเรื่องนึงสำหรับพวกโม่งที่จะเข้ามหิดลนะ ที่ระบบsotusไม่ค่อยมีนี่มีแต่พวก ศรร กับ รามา อ่ะ ส่วนคณะอย่างสาธารณสุข สิ่งแวดล้อม วิทย์กีฬาพวกนี้มีหมดอ่ะ แรงมากน้อยต่างกันออกไป ส่วนอีพวกวิทยาเขตนี่ซ่อนเถื่อนๆหน่อยแบบแอบทำกัน ถ้าไม่เข้าจะโดนกดดันยันพนง.วิทยาเขตเขม่นหน้าใส่ก็มี สาขาวิชาไหนเข้าง่ายๆเตรียมใจไว้เลยว่าพวกโง่ๆมีเยอะ พอมีพวกรุ่นพี่ที่จบไปมากร่างหน่อยคือทำตามหมด คิดเหี้ยไรเองไม่เป็นหรอก ตามนี้ เดี๋ยวกูนึกอะไรได้อีกจะมาบอก
>>733 จริง ตายทั้งที่ไม่ควรจะตายมาหลายคนละ เอาเป็นว่า รุ่นพี่-จารย์หมอ ก็คน มีทั้งดีและไม่ดี
แต่ที่ตายส่วนมากไม่ใช่โดนกินหัวหรอก สาเหตุมัน 108
เอาเป็นว่าไม่ไหวจริงๆ ก็หยุดได้ กูยังดรอปไปเป็นปี 555
กูชอบคำพูดรุ่นพี่บางคนมาก จะเครียด จะเสียใจ จะเป็นทุกข์ยังไง ก็ระบายออกมา จะไปตะลุยแดก ไปร้องไห้ ร้องเกะ ฟูมฟาย ลาออกก็ได้
ขออย่างเดียว อย่าตาย ถ้าผ่านมันมาได้ เรา.....ก็จะผ่านมันมาได้นั่นแหละ
เรียนนิติมธ ยังไงให้รอดชีวิต
เด็กเดคเข้ามาเล่าเรื่องโซตัสให้ฟังหน่อยย เห็นคณะนี้รับน้องโหด เคยมีประเด็นด้วย เป็นไงมั่งวะ
>>733 นี่เราคนที่มาจุดประเด็นถามเองนะ เคยได้ยินมาเยอะเหมือนกัน เรื่องอื่นๆ หลังจบก็ตามอยู่ นี่ก็กลัวๆ ปัญหาเรื่องสตาฟกินหัว เรื่องตกเบิก เรื่องระบบภายใน รพ. โน่นนี่ ตอนแรกถึงได้ตัดสินใจเลี่ยงๆ ไปสอบทุนเรียนอย่างอื่นทั้งที่รอบตัวเข้าหมอกันเยอะ แต่สุดท้ายก็รู้ตัวว่าอยากเรียนหมอจริงๆ แถมกลับไปเรียนในไทยก็สบายใจสบายเงินกว่าด้วย ทั้งที่ก็รู้นะว่ามันมีเรื่องแย่ๆ เยอะก็ห้ามใจไม่ได้แล้ว ควรทำไงดีเนี่ย 5555
>>735 หมออ่ะเหรอ ไม่ได้แค่ตายโดนสตาฟกินหัวหรอกค่ะมึงถ้ายังอยู่ในระบบนะ ทำงานหนักขับรถกลับบ้านหลับในตายเยอะเยะ งานหนักเครียดซึมเศร้าอีก ยังไม่นับโดนญาติคนไข้ไล่ฟัน ออกเวรดึกๆดื่นๆรึออกไปตรวจตามบ้านโดนลากไปข่มขืน อะไรอีกเยอะเยะถึงได้ลาออกไปอยู่เอกชนรึหนีไปทำอาชีพอื่นกันหมด ทุกวันนี้แม่กูยังบอกเลยว่ารู้งี้ไม่ให้ลูกเรียนหมดหรอก สงสาร
>>741 แล้วแต่ช่องทางที่เข้ามา
กสพท --> ไปสัมภาษณ์หาที่ใช้ทุนเองได้ตาม รพ. ศุนย์ หรือไม่ก็เข้า Process จับสลากใช้ทุน 3 ปี
CPIRD/ODOD --> กลับไปฝึก รพ.ศุนย์หรือ รพ. ทั่วไปตามท้องถิ่นที่สอบเข้ามา 1 ปี แล้วก็ไปอยู่ รพ. ชุมชน
ถามว่าไปอยู่เอกชนได้เลยมั้ย ก็ได้ตั้งแต่มึงจ่ายตังค์ (สี่แสนกว่า) แล้วออกมาเลยก่อนจะไปใช้ทุน หรือใช้ทุนไปก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินออกมา (ส่วนมากทนอยู่ปี 1 เอาใบ Cer. เพื่อไปเรียนต่อได้ในบางสาขา)
ส่วนเอกชนนี่ถามว่าอายุเท่าไหร่ตอนไปเริ่ม ก็มีตั้งแต่หมอจบใหม่ก็ 24-26
ถ้าจบเฉพาะทางก็ 30+ แต่ส่วนมากจะเรียนเฉพาะทางต้องเอาทุนจากโรงพยาบาลต้นสังกัดไป ก็ต้องไปใช้ทุนหลังเรียนจบอีกอย่างน้อย 3 ปี เพราะงั้นก็เฉียดๆ 35 ไปแล้วถ้าไม่เบี้ยวทุน
กูไม่เคยคิดเลยว่าการเตรียมเอกสารแม่งจะทำให้กูหัวร้อนได้ขนาดนี้
เรียนหมอต้องใช้ทุน นี่จะบอกว่าตอนแม่งเรียนๆกันอยู่คือไม่จ่ายค่าเทอมกันเหรอวะ? นี่หมายถึงเรียนหมอหลักสูตรปกตินะ
อ๋อ สงสัยอีกเรื่องนะ พวกหมอประเภทที่ว่าแพทย์ทหารแบบพระมงกุฏนี่คือมันเรียนแบบเหมือนพวก ศรร ไหมวะ? คือรู้แหละว่าเรียนทหารด้วย แต่ว่าตอนปีสูงๆเลยปีสี่ปีห้ามันต้องดั้นด้นหาอะไรเรียนแบบหมอพลเรือนป่ะ?
งบประมาณมหาลัยที่มีคณะแพทย์ จะโดดจากม.อื่นเลยนะ ค่าใช้จ่ายมันเยอะ
>>748 เคยถามเพื่อนเรียนหมอทหาร ตอนปีสอง(ปีนี้เข้าไปวันที่3กคที่ผ่านมามั้ง)มีฝึกทหารก่อนเรียนประมาณเดือน?ระยะหนึ่งอะ ละพอจบปีสี่ขึ้นคลีนิกที่โรงบาลทหาร จบไปก็มียศด้วย ถ้าอยู่เรื่อยๆก็น่าจะไต่ยศได้มั้ง รู้แค่นี้555555 แต่เนื้อหาน่าจะเหมือนกันนะ
>>749 ผ่านๆ คือถ้าไม่ได้เป็นโรคจิตแบบเข้ากับเพื่อนไม่ได้แบบแปลกจริงๆ ส่วนใหญ่เขาก็ให้ผ่านอยู่ (ถ้าไม่ดีคือจะโดนเรียกรอบสอง แต่เราก็ไม่โดนนะ) นี่เหมือนจะโดนถามก่อนหน้านั้นแค่สองสามคำถามเองว่า ทำไมอยากเป็นหมอ อะไรแนวนี้ละก็โดนคำถามนี้ก็บ่อน้ำตาแตก นั่งร้องไห้พักหนึ่งก็โดนส่งไปห้องจิตวิทยาต่อเลย55555 แล้วก็เข้าไปนั่งร้องไห้ต่อ พี่ห้องจิตวิทยาคือให้ทิชชูด้วย ให้ร้องให้เสร็จละค่อยเริ่มถาม
จริงผปคเราที่เป็นหมอก็บอกนะว่าแปลกที่เอาเรื่องส่วนตัวมาจี้ แต่ปจบคือเครียดอยู่ว่านี่มันจะโดนเอาไปใส่ในพอร์ทมั้ยเนี่ย ถ้าพลาดโอกาสอะไรไปเพราะเค้าเห็นว่าเรารับแรงกดดันได้ไม่ดีนี่จะเสียใจมากนะ😂😂 มันมีระบบประมาณว่าเก็บรายงานพฤติกรรมนักศึกษา ผลจิตวิทยา เข้าใจว่าเผื่อเด็กเป็นโรคซึมเศร้าอะไรจะรู้รักษาได้ทัน แต่เด็กเข้าไปดูไม่ได้
>>752 เก็บรายงานพฤติกรรมกันตั้งแต่รอบสัมภาษณ์เลยเหรอเนี่ย งี้ถ้าอาจารย์สัมภาษณ์เจอหน้าในมหาลัยก็จำเด็กได้เกือบหมด? ของเรานี่ไม่แน่ใจว่าทาง อ. จำเราได้มั้ย แต่ที่แน่ๆ คือทางเราเจอ อ.สัมภาษณ์รุมรอบทิศจนจำใครไม่ได้เลย 5555555 ว่าแต่แอบชอบตรงที่มีห้องจิตวิทยาให้ด้วยนี่แหละ
มึงกูเครียดสัส คือกูสมาธิสั้นและติดโทรศัพท์มาก แล้วเวลาอ่านหนังสือคือเป็นคนที่จำอะไรได้เร็วมากอะ เลยชอบทำตัวชิล พรุ่งนี้สอบอ่านวันนี้กลางคืนโต้รุ่งแบบนี้ คือแบบถ้าไม่จวนเจียนจริงๆไม่ยอมอ่าน แต่คะแนนคือดีมาตลอด แต่กูกลัวมากไงอีกไม่กี่เดือนจะแอดมิดชั่นละ กูรู้ว่าแอดมิดชั่นไม่เหมือนสอบที่รร.(ถึงแม้กูว่าข้อสอบรร.กูจะยากแบบแอดก็ตามorz) ทำไงให้อ่านหนังสือดี กูรู้สึกว่าแบบอยู่บ้านละกูไม่ค่อยยอมอ่านหนังสือ แต่พ่อแม่ไม่ยอมให้กูออกไปอ่านตามร้านกาแฟ เขาบอกไร้สาระ ละเวลาอ่านกูต้องใช้โทรศัพท์หาข้อมูลเนื้อหาไปด้วยไง มันเลยขาดไม่ได้
>>755 ใช้ใจล้วนๆ เลย กูมีวิธีหนึ่งมาแนะนำแต่อาจทำให้มึงสมาธิแตก/อ่านนส.ไม่ราบรื่น คือมึงตั้งนาฬิกาไว้มห้มันดังทุกๆ 5 นาที(เฉพาะช่วงที่มึงตั้งใจว่าจะอ่านนะ) ถ้านาฬิกาดังคือมึงต้องอ่านนส. สมมติมึงหาข้อมูลในทรศแล้วเผลอไหลไป พอนาฬิกาดังมึงต้องระลึกได้ว่าต้องอ่านนส ต้องเลิกไหลไป กลับมาๆ อะไรแบบนั้น แต่ถ้ามันดังตอนที่มึงกำลังอ่านนส.อยู่ก็อาจจะใช้วิธีนับแต้มแบบทำวงกลมหรือทำเครื่องหมายไว้ อารมณ์อบบคนติดเกาะเค้านับวัน มึงก็นับไปว่ามึงอ่านมาได้กี่ห้านาทีแล้ว(ทำทุกครั้งที่ดัง) ข้อดีคือถ้ามึงวอกแวกมึงจะกลับมาทัน แต่ข้อเสียคือถ้ามึงตั้งใจอ่านอยู่สมาธิอาจกระเจิงไป ต้องรวบรวมใหม่ ไว้ถ้าฝึกสมาธิยาวๆ ได้แล้วค่อยปรับเป็นสิบนาทีหรือมากกว่านั้นก็ได้
กูเป็นโม่งจบจากโรงเรียนสามย่าน(เผลอๆกูว่ากูรู้ว่าโม่งที่ติดทุนแล้วจะซิ่วหมอเป็นใครอ่ะ555)แล้วติดสัตว ซึ่งกุยอมรับแหละว่าคะแนนกุไม่ดี แบบเลือกไว้อันดับ4 ทีนี้กูก็โอเคไงเพราะมันเรียนเหมือนหมอ&กูรักสัตว์(แค่ไม่มีใช้ทุนกับอยู่เวรไม่บ้าคลั่งแบบหมอ) แต่ทีนี้เพื่อนพ่อกูที่เป็นหมอแม่งก็พูดว่าให้กูไปซิ่วเถอะ ยังไงศักดิ์ศรีก็ไม่เท่าหมอ,ประสบความสำเร็จไม่เท่าหมอ,หาเงินได้ไม่เท่า(มันใช้อะไรวัดวะ555)+เพื่อนกูติดหมอกันเป็นเบือ+กูอาวรณ์ร่างกายมนุษย์นิดๆ กูเลยคิดจะซิ่วหลังเข้าเรียนไปเพราะคณะกูมันมีวิชาคณะตั้งแต่ปี1รวมอนาโตมี่ ด้วย แต่พออ่านโม่งในนี้กูเริ่มคิดว่ากูเรียนหมอสัตว์เหมือนเดิมดีมั้ยเนี่ย555555
//ที่บ้านกูโอเค พ่อแม่กูรักปลารักแมวมากกว่ากู
>>757 ถ้ามองในมุมที่ว่าจบมารายได้ขั้นต่ำ 50k-100k แน่ๆ มีที่ทำงานแน่ๆ มีโอกาสโตมากกว่านั้น ที่เพื่อนพ่อพูดมันก็ถูกแหละ แต่เอาตรงๆ ชีวิตการทำงานของหมอทุกวันนี้กับของหมอที่อายุ 40-50 เคยเจอมันไม่เหมือนกัน
แต่ถ้ามึงเรียนหมอด้วยเหตุผลที่ว่าคนอื่นบอกว่าดี วันที่มึงเหนื่อยมึงท้อขึ้นมามันจะทรมานมากๆ อะ เพราะกุเองก็หลงมาด้วยเหตุผลนั้น
>>757 สัตวแพทย์ทำงานได้หลายสายนะ จะรักษาสัตว์เล็กทั่วไปก็ได้ ทำบริษัทให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการวางแผนฟาร์มสำหรับปศุสัตว์ก็ได้ คุมโรงงานผลิตเนื้อหรือโรงเชือดก็ได้ ขายอุปกรณ์การแพทย์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ยาหรืออาหารเสริมสำหรับสัตว์ก็ได้ เป็นหมอสัตว์ป่า หมอม้าตามสนามม้าหรือคอกม้าก็ได้ ทำราชการก็ได้ พวกระบาดวิทยาอะไรเงี้ย แต่ละสายมันก็ได้เงินไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่ก็น้อยกว่าหมอคน แต่ความเครียดหรือกดดันก็น้อยกว่าด้วย ถ้าเบื่อสายนึง ก็ย้ายไปทำอีกสายได้ง่ายๆ นี่พูดถึงตอนทำงานแล้วนะ ถ้าตอนเรียน ปริมาณเนื้อหาชั่วโมงเรียนไม่ต่างจากหมอคนเท่าไหร่ หรืออาจจะมากกว่าเพราะ Species ที่ต้องเรียนมันเยอะกว่า แต่อาจจะไม่ลงลึกเท่า เพราะของคนมันเน้นการรักษาถึงที่สุด ของสัตว์มันมีปัจจัยเรื่องความคุ้มค่าในการรักษา มีการยุติการรักษา หรือถ้าเป็นสัตว์ฟาร์มทั้งหลายก็ใช้วิธีคัดทิ้ง เอาจริงๆคิดว่าสองอาชีพนี้เทียบกันแทบไม่ได้ คนเรียนเป็นคนละไทป์เลย ถามตัวเองดีๆว่าชอบเป็นอะไรมากกว่าดีกว่านะ
เพื่อนโม่ง เรียนครูต่อต่างประเทศยากจังวะ กูท้อใจ
ถามหน่อย ถ้ากูฝากแบบสอบถามมาให้ทุกคนในนี้ทำให้หน่อยได้ไหม? พอดีกูเรียนวิจัยแล้วต้องเก็บข้อมูล400คนแต่เวลาแม่งกระชั้นชิด แถมหัวหน้ากลุ่มกูก็เร่งๆ กูไม่รู้จะทำไงแล้ววะ ขอเถอะนะ คิดว่าช่วยให้กูไม่ติดFที
>>765 ตอนนี้กูกลัวFกับหัวหน้ากลุ่มกูมากกว่า
https://docs.google.com/forms/d/1oteqpG-d2fZuvuaW6ALa6wv-_TqaQxnVYcRZGvP1FhI/edit?chromeless=1
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคนตอบแบบสอบถามให้ ขอให้รู้ไว้ว่าพวกคุณได้ช่วยเด็ก 6 คนไม่ได้ติดF วันพระทำบุญกะนเยอะๆ เนอะ
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfOldJiOKSkn07xYDaK1cDZa2Zw4PuhBu2YbcZEwKq-Nbpw6A/viewform
ฝากอันนี้ด้วย ของเพื่อนคนละกลุ่ม กราบงามๆ
กูเครียดมาก คณะที่กูอยากเข้ารอบยื่นพอร์ตมันยื่นได้แค่ที่เดียว ชื่อเสียงมันก็ดัง ถึงกับมีมู้แยกในโม่ง แต่กูไม่อยากเข้า ค่าเทอมแพง+ฟังจากปากรุ่นพี่หลายๆคนมาว่าไม่ดี ส่วนที่ที่กูอยากเข้าแม่งยื่นไม่ได้ จะเข้าได้อีกทีก็ต้องไปฟาดฟันกันรอบ 3 ที่ใช้ GAT/PAT อะ ซึ่งกูกลัวคะแนนดิ่งมากๆ พวกมึงว่ากูควรยื่นพอร์ตให้จบๆไปเลยรอบแรก หรือไปเสี่ยงรอบ 3 ที่จัดอันดับแทนดี ;__;
ปล. ขอไม่บอกคณะนะ กลัวโม่งแตก
>>771 ขอบคุณมึง กูจะลองคิดดู TT คือรอบพอร์ตที่ไม่อยากได้มันเป็นคณะ, สาขาเดียวกันนะ คิดว่าติดแน่ๆแต่กูไม่อยากได้ม.นี้ ค่าเทอมแพงเกินเหตุ บวกกับเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าไม่ดี กูเลยอยากรอรอบสาม แต่ติดที่คนที่บ้านน่ะสิ เป็นติ่งม.นี้มากๆ อยากให้เข้าให้ได้ บอกกูถ้าค่าเทอมเป็นล้านก็มีปัญญาจ่ายได้ พี่ๆกูก็ติดรอบรับตรงกันทุกคนเลย กดดันชิบหาย อยากทึ้งหัวตัวเองตายห่า
>>770 กูเชียร์ให้รอรอบ 3 อีกคนนะ เพราะมึงจะได้สอบเข้าคณะที่มึงชอบไง ไม่ใช่ไปติดแหง็กอยู่กับคณะที่มึงไม่ชอบแต่ดันติดตั้งแต่รอบ 1
อย่าได้ทิ้งความใฝ่ฝันของตัวเองเพื่อแลกกับการได้ที่เรียนไวๆ หรือเสียงชื่นชมของคนรอบข้าง มันไม่คุ้มเลย ทำตามที่ใจมึงต้องการดีกว่า
กูเป็นเด็ก 61 ที่เห็นเพื่อนเจ็บกับรอบพอร์ตหลายต่อหลายคน เพราะพอติดรอบพอร์ตแล้วก็จะยืนยันเลย ทั้งที่มันไม่ใช่คณะเป้าหมาย เรื่องของเรื่องคือกลัวว่าจะสอบสู้คนอื่นในรอบ 3 ไม่ได้ (อย่าดูถูกตัวเองขนาดนั้น กูพูดเลย) จนกูอยากหาโอกาสมาเตือนรุ่นน้องว่า ถ้าไม่ได้มั่นใจว่าอยากเรียนคณะนี้ ม.นี้จริง มึงไม่ต้องยืนยันสิทธิ์นะ
ปล. ติดช้าหรือติดเร็วไม่สำคัญ สำคัญคือมึงจะติดมั้ยแค่นั้นแหละ สู้ๆ นะเว้ย พวกเด็ก 62
"สัมภาษณ์ความรู้สึกน้องเอกนี้กันดีกว่า น้องคนนี้เลย น่ารักเชียว ค่ะ มาเลยค่ะน้องคนสวย"
ยืนชี้หน้าแถวกู (ที่แถวมี2คน) แต่เรียกคนข้างหลังกู กูก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ
>>774 กรุยิ้มแห้งเป็นเพื่อนมึง 55555 ต่อแถวลงทะเบียนอยู่รุ่นพี่ที่รับผิดชอบแถวกรุก็ถามคนที่ลงชื่ออยู่อีกแถวข้างๆกรุส่าน้องสนใจเป็นหลีดมั้ยคะ ละแจกนามบัตรนั่นนี่อีก กรุอยากสะกิดบอกพี่แกมากว่าพี่เปลี่ยนไปดูแลแถวนั้นก่อนก็ได้ค่ะจะได้ไม่ต้องเอี้ยวตัวเยอะ
แต่คนนั้นก็สวยจริงแหละ เห็นแวบแรกกรุยังตาค้างเลย
มีแอป dictionary ดีๆแบบฟรีแนะนำไหมเพื่อนโม่ง ทั้ง EN-TH กับ EN-EN เลย
หรือว่าจะเสียเงินซื้อApp ของ oxford เลยจะดีปะวะ
กูใช้Longman อ่ะ กูว่าครบดี
ถามโม่งเรียนญี่ปุ่นหรือใครก็ตาม กูว่าจะสอบ N3 ซึ่งสอบ 2 ธ.ค. กูค่อนข้างมั่นใจไวยากรณ์กับการฟัง แต่คันจิปัจจุบันกูยังจำของ N4 ได้ไม่หมดเลย(แต่กูเก็บ N4 ได้แล้วนะ) ถ้าแค่คำศัพท์แบบเป็นคานะกูจำได้ถึงระดับ N3 แล้วแต่กูจำวิธีเขียนแบบคันจิไม่ได้ไง ถามคือกูควรสอบรอบนี้ดีมั้ย กูไม่อยากเสียเวลารอสอบหน้าเพราะกูจะไม่ว่างแล้ว แต่กูก็กลัวจะสอบไม่ได้แล้วมาเสียดายค่าสมัคร
อยากเรียนภาษา อยากฝึก speaking อังกฤษ มีเทคนิคแนะนำหรือมีที่ไหนสอนให้สื่อสารได้จริงบ้างมั้ยเพื่อนโม่ง
กูฟัง อ่าน เขียนได้อะ แต่ไม่สามารถคิดในหัวเร็วๆ แล้วพูดออกมาได้ มันจะเวิ่นเว้อ งงๆ อะ บวกกับกูเป็นคนพูดเร็วและเสียงเบาด้วย
เหนื่อยว่ะ เพิ่งเปิดเทอมเอง อ.สั่งการบ้านโบ้มๆ
เฮ้อ......กุจะบอกยังไงให้พ่อฟังดีวะเนี่ย คือคณะที่กูอยากเข้าอ่ะมันเป็นคณะสายภาษาตอนแรกนึกว่าเข้าใจกันแล้ว แต่คือพ่อกูบอกว่าจะให้สอบ GATPAT 9 วิชาสามัญทุกวิชาเลยอ่ะ บอกว่าต้องใช้เผื่อไว้ก่อน คือ ใน 6 อันดับพ่อกุจะให้ลงสายแพทย์ไว้ด้วยคือกุอ่านไม่น่าจะไหว กุไม่ได้อยากได้พวกคณะพวกนี้เลย คือมันหนักมากนะ ทำไมพ่อไม่เข้าใจกูเลย กุอธิบายไปหลายรอบแล้ว กุเครียดมากเลยตอนนี้
มึง กุกลุ้มใจมาก กุอ่านหนังสือไปได้ไม่ถึง10หน้าก็หลับแล้วว่ะ กุจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี
ตอนมัธยมกุใช้วิธีทำโจทย์เอา วิชาที่ต้องจำก็ใช้วิธีฟังครูสอนในห้องละมาเก็บเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากเฉลยข้อสอบ แต่มามหาลัยกุใช้วิธีนั้ไม่ได้ว่ะ กุต้องอ่ายก่อนเข้าเรียน แล้วฝึกทำโจทย์ก็ไม่ได้เพราะกุต้องเข้าใจ+จำเนื้อหาให้ได้ก่อน กุเครียดมาก กุอ่านไปได้ไม่ถึง15นาทีก็ง่วงแล้ว กุไม่กล้าหอบหนังสือไปอ่านที่ห้องสมุดเลยเพราะรู้ว่ายังไงก็หลับแน่ๆ
กาแฟแม่งก็ไม่ช่วยอะไร แดกกาแฟไปกุก็ยังง่วง สัส ใครนอนไม่หลับกุแนะนำให้อ่านหนังสือเรียน ฮือออ
แล้ววิชาที่เรียนก็เป็นวิชาที่กุสนุกกับมันด้วยนะ แต่กุก็ยังหลับอะ คือกุเครียด เครียดมากๆ
ขอรีวิว senseino หน่อยสิ เจอโฆษณามาทางเฟซบุ๊ก น่าสนใจเพราะถูกดี แต่ดูจะยังไม่ค่อยมีรีวิว
อ่านหนังสือคนเดียวแล้วง่วงจะหลับให้ได้ก็หาคนอ่านเป็นเพื่อน หรือจับกลุ่มกันติวสิ
พวกมึงมีใครเรียนหรือเคยเรียนหลักสูตรตรีใบที่สองมั่งวะ กูลงเรียนหลักสูตรตรีใบที่สองญี่ปุ่นไป กูว่ากูถามรายละเอียดดีแล้วนะว่าต้องโอนหน่วยกิตเปล่า เรียน 2.5ปีจบจริงเปล่า จนท.บอกเรียนตามหลักสูตรนี้ๆๆๆๆๆได้เลย จบตามนี้ เค้าจัดมาเพื่อให้จบตามนี้ แต่แม่งพอกูไปเรียนจริง อาจารย์ดันบอกว่าต้องโอนวิชาโท ใครโอนไม่ได้ 2.5ปีไม่มีทางจบ กูร้องเหี้ยหนักมาก กูลงเรียนเพราะเห็นว่าเรียนแป๊บๆก็จบ แต่แม่งของจริงคือ มึงไม่มีทางจบ 2.5ปีได้ง่ายๆเลย เพราะวิชาที่เปิดให้โอนได้น้อยมาก แต่โฆษณาที่ทำประชาสัมพันธ์หลักสูตรเน้นนักเน้นหนาว่า 2.5ปี กูโคตรเซ็ง แม่งอยากเลิกเรียนในบัดดล แต่อีโก้กูก็ค้ำคอ เงินค่าเทอมก็จ่ายไปแล้ว ก็คงต้องฝืนยันเรียนจนจบให้ได้ว่ะ
>>796 เกือบละกู เกือบหลงกลไปลงเรียนละ 5555555+ เห้ย มึงคือผู้กล้าตายให้กูจริงๆอ่ะ เห็นครั้งแรกนี่แทบตกใจกับหลักสูตรอยู่นะว่าทำแบบนี้มันได้จริงๆเหรอ ถ้าทำได้จริงทำไมรามคำแหงที่เป็นมหาลัยเปิดไม่ทำแบบนี้เป็น ป.ตรีใบที่สองมั่งในคณะมนุษยศาสตร์วะ เป็นมหาลัยเอกชนที่ตอแหลสัสๆเลย ใครจบมหาลัยที่ตัวเองเรียนมาแล้วลงวิชาโทไม่ได้ก็ซวยไปดิ
กูเล็งไว้จะลงเอกจีนนี่หนักกว่าของมึงอีกนะ เพราะหาข้อมูลเอกจีนไม่บอกข้อมูลเหี้ยไรเลย แม่งลับลมคมในสัสๆ ขนาดมีแค่หลักสูตรให้อ่านกูยังไม่เชื่อว่ามันแค่นี้จริงๆ เปิดหลักสูตรมาเพื่อหาแดกซะมากกว่า แถมแดกเยอะกว่าหลักสูตรปกติด้วยนะ เป็นกูเองกูไม่เรียนหรอก เพราะทำงานจริงๆถ้ามีวุฒิสาขาอื่นแต่เราสามารถสื่อสารภาษาที่สามได้จริงๆก็ไปสอบใบวัดผลพวก HSK,IELTS,TOCLF,JPLTไรงี้เอามายื่นก็ได้
>>797 >>798 กูบอกเลยว่า ตอนนี้กูใจตุ้มๆต่อมๆมากว่ากูจะเทียบโอนได้ครบ 5วิชาเปล่า คือกูเคยลองถามอาจารย์แล้วด้วยนะว่า กูจะรู้ได้ไงว่าคณะหลักสูตรที่กูเรียนเปิดให้เทียบโอนวิชาโทอะไรได้บ้าง แม่งก็ไม่ยอมบอก ไม่รู้จะทำเป็นความลับไปถึงไหน ตอนนี้รู้แค่ว่ากูต้องถีบตัวเองเรียนให้จบหลักสูตรให้ได้ เพราะกูเสียค่าโง่ไปเรียนแล้ว จะจบกี่ปีก็ช่างแม่งละ ตอนแรกกูก็ชั่งใจแล้วนะเว้ยว่า ระหว่างไปเรียนตามสถาบันสอนภาษา กับเรียนหลักสูตรตรีอันนี้ อันไหนจะได้ N2 เร็วกว่ากัน กูเทียบไปเทียบมา เห็นอันนี้เรียน 2.5ปีก็มีแวว N2 กูเลยเลือกเรียน เพราะถ้าไปเรียนสถาบันข้างนอก จากประสบการณ์แล้วกูว่า อีกนานกว่ากูจะได้น่ะ เพราะข้อจำกัดของกูคือกูเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ว่างแค่เสาร์อาทิตย์เท่านั้น จริงๆกูเคยคิดจะไปเรียนของรามแล้วนะ แต่มันติดที่ว่าต้องเรียนวันธรรมดา กูไม่มีทางไปเรียนทันหลังเลิกงานได้เลย กูเลยต้องแห้วไม่ได้เรียนที่ราม แล้วบังเอิญมาเจออันนี้เลยเอาวะเรียนก็เรียน
แล้วแม่งเป็นอะไรที่ตลกอีกอย่างนะ อัพเดทข่าวสารทาง fanpage เท่านั้นนะเว้ย กูไม่ได้ติด facebook ถึงขั้นต้องมาตามข่าวสารอะไรขนาดนั้น ไม่ได้กด like page เอาไว้ เปิดไปวันแรกยังเหวอๆ งงๆเลย ทำไมเค้ามีชีทเรียนกันแล้ว แม่งเอ๊ยยย เค้าแปะ line ให้ add group กันบน fb แล้วอัพชีทเรียนในไลน์ คือแบบ จะส่งเมลล์แจ้งอะไรไม่ได้เหรอวะ facebook มันไม่ควรจะเป็นช่องทางติดต่อนักศึกษา แต่ควรจะเป็น email ที่ให้ไว้ตอนสมัครเรียนเปล่า
>>799 ถ้ามึงอยากได้ N2 แล้วมีเวลาว่างแค่เสาร์-อาทิตย์นะ กูว่าเรียนข้างนอกอาจจะได้ไวกว่าอีกมึง คือเน้นติว คัดมาเนื้อเน้น ๆ มันมีที่ติวอยู่อ่ะมึง แบบที่มึงไม่ต้องไปเรียนตามมหาลัย แต่กูไม่รู้ว่าพวกหลักสูตรตามมหาลัยเนี่ยมันสอนยังไงกัน แต่ที่กูเรียนคือคอร์ส 3-4 เดือนติว N2,N1 ไรงี้ กูว่าประหยัดเวลากว่าอ่ะ หรือมึงไม่มีพื้นฐานเลย ?
เอาจริง ๆ ถ้าทางไหนมันดีกว่ามึงเลือกทางนั้นเหอะ อย่ามีอีโก้เลย คิดซะว่าเป็น sunk cost ก็ได้ 3 ปีนี่นานนะ
>>800 คือกูทิ้งช่วงมานานแล้วด้วย ไม่ได้ใช้ภาษานาน พฐ.มันเลยเริ่มๆจาง แล้วกูชอบแบบค่อยๆเรียนไปมากกว่าไปเรียนติวน่ะ กูรู้สึกส่าการติวมันไม่ใช่แนวกูเท่าไหร่ จริงๆกูมี N3 แล้ว แต่กูยังไม่แม่นไวยกรณ์เท่าไหร่ด้วย เลยเลือกมาทางนี้ แล้วกะต่อยอดเอาวิชาความรู้บางส่วนไปต่อโทด้วยเลย
กูปี3ควรซื้อพวก ipad หรืออะไรแนวนี้ในการเรียนมั้ยวะ มีแต่ชีทปริ้นเรียนไอสัส เยอะชิบหาย
เรียนแบบแบ่งกลุ่ม แล้วอาจารย์ให้แบ่งทำในกลุ่มอีก เพราะไม่งั้นทำไม่ทันแน่ๆ ทีนี้พอเลิกเรียนแล้ว ได้เวลาเก็บ กูบอกให้เก็บ พวกมันดันบอกว่าอีกแป๊ปนึง หลังเก็บแล้ว กูขอให้อธิบาย มันดันบอกว่าอาจารย์พูดเร็วเกินไป ฟังไม่ทัน แล้วที่ใช้เวลาก่อนหน้านี้เพื่ออะไรฟระ เนื้อหาของทางฝั่งมันกูไม่ได้แตะเลย เดี๋ยวทำสอบไม่ได้อีก
ตอนนี้ใช้แท็บเล็ตธรรมดาอ่านเอกสารอยู่ แต่ใกล้พังเลยว่าจะซื้อใหม่ ลังเลว่าจะซื้อเป็นไอแพดไปเลยดีมั้ย ปกติไม่เคยใช้ของแอปเปิ้ลเพราะอยากประหยัด แต่เห็นคนแนะนำมาว่ามีแอพที่ใช้กับการเรียนสะดวกๆ เยอะกว่ามาก เลยอยากถามจากคนเคยใช้ทั้งสองแบบหน่อยอะ
ส่วนตัวกูมองว่าเพิ่มเงินอีกหน่อยไปซื้อ notebook เลยมันใช้ประโยชน์ได้หลากหลายกว่านะ
>>811 วิธีใช้งานมันต่างกัน tablet คือใช้แทนสมุดจด/ชีทไปเลย จดโน้ตด้วยปากกาได้ ถ่ายสไลด์มาจดได้ทันที เบา คล่องตัว แบตนาน
notebook ใช้งานได้หลากหลายกว่า เน้นจดด้วยการพิมพ์ ถ้าอยากใช้งานแบบเดียวกับ tablet ก็ต้องเลือกที่เป็นจอสัมผัส มีกล้องหลัง และเบาบางแบบพวกเนตบุ๊ค ราคามันก็โดดไปอีกขั้น และถ้าเก้าอี้เลคเชอร์เป็นแบบที่ที่วางของเลื่อนเก็บลงข้างล่างได้ มันจะลำบากชีวิตขึ้นอีกระดับ
ถามด้วย ระหว่าง ipad กับแท็บเล็ต android ยี่ห้ออื่นที่ราคาซอฟต์ลงมา อันไหนมันคุ้มกว่ากัน ปกติใช้แต่โน้ตบุ๊ค ไม่ช่ำชองเรื่องแอพฯ ของแต่ละระบบเลย
>>816 สำหรับกูนะ tablet ไม่มีเจ้าไหนคุ้มค่ากว่า ipad ได้อีกแล้ว แพงกว่าหน่อยแต่ระยะใช้งานยาวกว่าแบบเทียบกันไม่ติด ถ้า android คือไม่เกินปีนึงจะเริ่มรองรับ os ตัวล่าสุดไม่ไหว เพราะจะกระตุกมาก แต่ ipad การันตีซัพพอร์ต 3 ปีแบบยังลื่นพอตัว
เรื่องแอพ เดี๋ยวนี้แทบไม่ต่าง เพราะแอพตัวเด่นๆถ้าไม่ลงทั้งคู่ก็จะมีแอพอื่นแทนกันได้
เพื่อนโม่ง เข้ามหาลัยแล้วใช้แลปทอปยี่ห้อ/รุ่นอะไรกันเหรอ
ipad ,หมื่นต้นๆพอแล้ว
>>824 ยาก แต่ไม่มากขนาดนั้น
N4 ไป N3 ใช้เวลาแป๊บเดียว แต่ N3 ไป N2 นี่นานมากๆ เพราะต้องเรียนคันจิเพิ่มอีกเกือบ 500 ตัว และรูปไวยากรณ์จะเน้นภาษาเขียนเป็นหลัก แบบที่พบได้บ่อยตามหนังสือพิมพ์ไรงี้ มันจะเกิน scope อนิเมะและมังงะไปแล้ว
ถ้ามึงอ่านหนังสือติวของสสท. ที่หน้าปกสีขาว N4/N3 อ่านแล้วจะตรงกับข้อสอบ แต่ N2 นี่ไม่ตรงเลย ไม่สิ ต้องบอกว่าของ N2 ง่ายเกินไปจนไม่เอามาออกสอบ ต้องไปหาอ่านเพิ่มเล่มอื่น แนะนำของ shinkanzen master ซื้อได้ที่ร้านคิโนะคุนิยะ
ขอพื้นที่ระบายหน่อยนะมึง ไม่กล้าไปบ่นกะคนใกล้ตัวละ เกรงใจเดี๋ยวทุกคนประสาทแดกตามกู บ่นมาเยอะมาก;;
กูเพิ่งสอบ IELTS มา แล้วคะแนนไม่ผ่านอยู่พาร์ทนึงคือพาร์ทเขียนว่ะ เลยจะไปสอบใหม่อีกที เว้นระยะประมาณ1-2เดือน
ทีนี้ ตอนแรกที่บ้านกูถามว่าจะไปเรียนพิเศษมั้ย แต่กูปฏิเสธไปเพราะเกรงใจ คอร์สมันก็แพงอ่ะ แถมตอนนั้นคิดด้วยว่าถ้าแค่สอบวัดระดับภาษายังไม่ผ่าน แล้วไปเรียนต่อต่างประเทศจะรอดได้ไงวะ5555 แต่สรุปว่าพาร์ทเขียนแม่งเป็นไรที่แบบ ถ้าไม่มีคนแนะนำเรื่อยๆ มันก็ย่ำอยู่กับที่อย่างงั้นอ่ะ กูฝึกเขียนข้อสอบเก่าเรื่อยๆก็รู้สึกว่าตัวเองไม่พัฒนาเลยอ่ะมึง กลายเป็นว่าตอนนี้ยังไม่กล้าสมัครสอบอีกรอบเลยเพราะกลัวสมัครเร็วไปก็ไปสอบแล้วไม่ผ่าน แต่จะมาดูคอร์สเรียนตอนนี้ มันก็เริ่มคอร์สหมดแล้วอ่ะมึง ถ้ารอเรียนคอร์สหน้าก็คือ กว่าจะเรียนจบ ไปสอบ มันก็ไม่ทันช่วงยื่นสมัครเรียนแล้ว
ตอนนี้คือแบบ ควรทำไงดีวะ สมัครไปก่อนเลยดีมั้ย? กลัวว่าถ้าสอบช้ากว่านี้จะไม่ทันยื่นเรียนต่อแล้ว แต่ถ้าไปสอบแล้วคะแนนมันไม่เพิ่มเลย ก็เหมือนเอาเงินเกือบหมื่นไปโยนฟรีอ่ะะะะ จะร้องไห้ เห้อ
ไหนๆก็บ่นแล้ว ขอถามทิ้งไว้ด้วยละกัน มีใครพอรู้มั้ยว่าถ้าจะหาคนรับสอนพิเศษพวกนี้ เอาแบบคิดรายชม. ไม่ใช่นับเป็นคอร์สยาวๆอ่ะ จะหาจากไหนวะ? คือเสิร์ชเจอคอร์สแต่แบบ 30 ชั่วโมงอัพ กูไม่ได้มีเวลาเยอะขนาดนั้นอ่ะ กูแค่ต้องการคนช่วยตรวจข้อสอบ และแนะนำแบบเน้นๆเลยว่ากูต้องแก้ตรงไหนบ้าง แง
>>828 มึงอ่านบทความทางเนตก็ได้อ่านเยอะๆ ลอกสำนวนดีๆจำไว้ใช้ เอาเรื่องที่ชอบออกสอบ ข้อเขียนนี่กูสอบได้7 เพราะกูเขียนสั้นแต่ได้ใจความ ตรงประเด็น ต้องแสดงความเห็นด้วยหรือโต้แย้งเป็น มีเหตุผลมารองรับ บางคนเขียนยาวๆวกไปวนมาอ่านแล้วยิ่งงงนะมึง สรุปคือมึงสื่อสารความคิดได้ ภาษาไม่ต้องเลิศเพริดแพร้ว แต่ลื่นไหลไม่สะดุด มีประโยคโชว์เหนือสักสองสามที่ คนตรวจแม่งก็สมองล้าเป็นนะมึง อันไหนเวิ่นเว้อก็ได้น้อยหน่อย
>>827 หลักๆ ก็ Minna no Nihongo 4 เล่ม (ได้ข่าวว่าตอนนี้มีเวอร์ชั่นใหม่ออกมาแล้ว ของกูเป็นรุ่นเก่าที่ราคา 250 บาท) และก็ 200 รูปประโยคภาษาญี่ปุ่นชั้นต้น และก็หนังสือเสริมคันจิ จำชื่อไม่ได้แล้ว
กูเคยไปเรียนคอร์สเบื้องต้นได้แค่ 1-2 คอร์ส และก็ออกมาอ่านด้วยเอง เพราะในคลาสแม่งช้า ต้องรอไปพร้อมๆ กันทั้งคลาส (อาจจะเป็นความซวยของกูที่เจอพวกที่พ่อแม่บังคับมาเรียนและไม่ได้สนใจภาษาญี่ปุ่น)
>>828 อันนี้เป็นความคิดที่ผิด การสอบภาษาผ่านไม่ผ่านไม่เกี่ยวกับว่าจะเรียนเมืองนอกรอดหรือไม่ ยิ่งถ้าเป็น ป.โท ยิ่งแล้วใหญ่ ถ้ามึงจะไปต่อ ป.โท สายเดียวกับที่มึงเรียนตรีมา แล้วมึงมั่นใจว่าพื้นความรู้มึงแน่น ภาษาอังกฤษพอใช้ได้ กูบอกเลยว่ามึงรอด ยิ่งถ้าไปประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักอย่างกัน แคน ออส อัง เนี่ยยิ่งชิว มึงมีพื้นฐานภาษาอยู่แล้ว หัดใช้บ่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งเอง เด็กทุนรัฐบาลหลายคน (ย้ำเลยนะว่าเด็กทุนรัฐบาล) ภาษาอังกฤษแม่งกากมาก กากจนบางทีกูก็งงนะว่าไอ้เหี้ย มึงสอบชิงทุนหรือมึงจับสลากชิงทุนมาวะ
แนะนำเรื่องพาร์ทเขียนไอเอล ความจริงไม่ยาก มึงไม่ต้องไปสรรหาศัพท์เวอร์วังมา มันมีแพทเทิร์นของมันอยู่ว่าต้องเขียนยังไง คือศัพท์น่ะถ้าใช้แบบหรูๆได้มันก็ดี แต่ที่สำคัญกว่าคือแกรมม่า ถ้าแกรมม่ามึงเป๊ะ รูปประโยคมีความหลากหลาย ต่อให้คำศัพท์ระดับธรรมดา (แต่สะกดถูก) ก็เก็บ writing band 7 ได้ เชื่อกู (หรือมึงอยากจะได้มากกว่า 7 ขอโทษ กูสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำรึเปล่า ถถ)
>>828 ถ้าพาร์ทอื่นผ่านหมด ไม่ผ่านแค่พาร์ทเขียน ลองหาหนังสือมาดูวิธีเขียนดีไหม อย่างที่ >>831 ว่า คือมันจะมีวิธีเขียนของมันอยู่ ถ้าจับแนวได้ก็สบาย
อย่างเล่มที่ซื้อมาอ่านนี่คือเล่ม Official Cambridge Guide to IELTS ก็จะมีพาร์ทต่างๆ อธิบายและสอนครบในเล่ม นี่ซื้อจากคิโนะมาเกือบหกร้อยบาท เอามาพลิกๆสักสัปดาห์ก่อนสอบ ดูแพทเทิร์นมัน ก็โอเค จบ เรียบร้อย
หรือ ถ้าจะหาคนสอนจริงๆ ลองตามหาพวกสายอักษรก็มีคนรับสอนพิเศษเป็นรายชั่วโมงนะ ไม่มั่นใจว่าตอนนี้สอนกันชั่วโมงละเท่าไหร่ น่าจะสัก 300 หรือราวๆนั้นต่อชั่วโมงได้
ถ้ามึงเรียนเองแล้วไม่มั่นใจ ต้องการคนตรวจ กูว่าเจาะลงคอร์สacademic writing สักตัวเดียวก็พอ มึงจะได้รูปแบบ โครงสร้างการเขียน และติวแกรมม่าในตัว แล้วมึงมาทบทวนต่อเอง สมัยกูกูลงที่บริติชเคานซิล แพงกว่าที่อื่นหน่อยเดียว แต่กูว่าไม่สะเปะสะปะ ไม่ต้องลงหลายตัว
นักเรียนทุนกูเห็นได้5.5ก็ได้ไปกันละ เพราะมีเงินทุนให้ไปเรียนpre sessional ก่อน แต่มันขึ้นกับคณะ พวกที่เรียนแลปเยอะๆไม่ต้องคุยมาก เขียนรายงานด้วยผลแลป แม่งรอดกันไป เวลาไปจ่ายตลาดใหม่ๆกูยังต้องพูดแปลให้มันเลย แต่สักพักมึงอยู่ในที่ๆคนแม่งพูดกรอกหูทุกวันมึงก็ได้เอง อย่าไปกลัว เรื่องการเรียนฟังเถียงในห้องไม่หนักเท่าการต้องมาอ่านหนังสือใหม่ๆเองเป็นตั้งๆ
ถ้ามึงอ่านรู้เรื่อง คือรอด
กูอ่านมินนะ 4 เล่มแล้วลองไปสอบ n3 ดูแนวข้อสอบเล่นๆ ปรากฏว่าผ่านแค่พา์ทฟังว่ะ คือคันจิมีตัวที่ยังไม่ได้อ่านเยอะ แล้วที่เหี้ยสุดคือพาร์ทอ่านอะมันเนอะและยาวมากกูอ่านไม่ทันเลยมึงทำไงดี
>>829 เดี๋ยวจะลองหาบทความแนะนำทริคเขียนอ่านเยอะๆดู เหมือนเคยเจอคนแนะนำเว็บต่างประเทศเว็บนึงไว้ แต่ยังไม่ได้ลองอ่านละเอียดๆสักที
>>831 กูอยากได้ 6+ อ่ะ แต่ที่คะแนนรอบที่แล้วได้ 5.5 ห่างกับพาร์ทอื่นพอสมควรเลย กลายเป็นตัวฉุดคะแนนไปเลยอ่ะ
>>832 เล่มที่มึงแนะนำมาก็เคยใช้อ่านอยู่นะ แต่กูเริ่มลืมพวก tips ที่เขียนไว้ตามหน้าแรกๆกับในข้อสอบละ ไว้จะไปนั่งอ่านแล้วจำวิธีมาใช้อีกที
>>833 กูตัดสินใจช้าไปอ่ะดิ เสียใจ เรียนตอนนี้ไม่ทันแล้วเพราะเจอแต่คอร์สยาวๆ TT ฮือขอบคุณนะ มีแต่คนบอกว่าเดี๋ยวไปอยู่ก็ได้ภาษาเอง แต่กูกลัวจะไม่เข้าใจวิชาเรียนนี่ดิมึง กลัวไปเจอศัพท์ยากๆแล้วตายอ่ะ ฮื่อออ5555555555 พอได้ยินที่มึงพูดก็มีกำลังใจขึ้นมาหน่อย ฮา
ขอบคุณพวกมึงทุกคนมากนะ ดีใจที่มีคนมาตอบ รู้สึกเหมือนได้สติขึ้นนิดนึง แต่เมื่อคืนนี่เคว้งคว้างมาก5555555 กูตัดสินใจสมัครสอบไปละ เพราะกลัวรอบเต็ม555555 นี่ก็ตัดสินใจช้าจนต้องสอบพูดแยกอีกวันละเนี่ย ที่เหลือแม่งเต็มหมด
อยู่มหาลัยเรียนตัวสูงๆ แล้วจำของเก่าไม่ได้ แล้วมีวิชานึงพอจะถามจารย์ จารย์ก็พูดดักก่อนว่าถ้าเรื่องแค่นี้(เรื่องที่กูจะไปถามพอดี)ไม่รู้มีสิทธิ์ให้F อยากรู้ว่ากูผิดเองใช่ไหม ทำไมกูถึงถามอะไรง่ายๆ ไม่ได้วะ หรือต้องถามแต่เรื่องที่เรียนใหม่
สอบโทอิคต้องใส่ชุดอะไรไปวะ ในเว็บที่สมัครไม่เห็นมีบอก
แต่งสวยๆนี่กูแต่งชุดมิกุไปสอบได้เปล่าวะ
กูมีเรื่องจะปรึกษา กูจะจบป.ตรีเทอมหน้า ม.รัฐ
แต่กูอยากเรียนcomsciเลยว่าจะไปลงที่หอการค้าอีก4ปีเรียนจ-ศ
หรือกูจะเรียนป.ตรีใบที่2ภาษาจีนเรียนเสาร์อาทิตย์อีก2ปีดีวะ คือกูอยากเรียนจีนด้วยอ่ะ
กูพึ่งเข้าใจว่าเรื่องบางเรื่องเรียนให้ตายยังไงกูก็ไม่เข้าใจ
>>844 กูเรียนอยู่ ดูจากตารางเรียนแล้วไม่ได้ 2 ปีจริงๆ ด้วยแหละ
กรณี 2 ปีมันต้องเทียบโอนวิชาทั้งหมดมา ซึ่งถ้าเทียบโอนไม่ได้ก็ต้องไปนั่งเรียนเสียเวลาอีก
แต่ว่ากูขอปรึกษาหน่อยเว้ย! ตอนนี้กำลังไปเรียนป.ตรีอีกใบ แล้วไอ้คณะนี้ดันต้องทำรายงาน ซึ่งกูก็ไม่ได้ทำรายงานมาเกือบๆ 10 ปีได้แล้ว รายงานนี่มันต้องทำอะไรยังไงวะ?
จะสอนพิเศษลเด็กมัธยมประถมนี่โพสทีไ่หนดีวะ รับงานเเม่งค่านายหน้าขูดรีดชิบหาย
กูไม่รู้จะถามห้องไหนดี มันเป็นงานวิชาหนึ่ง
สมมติมีคำถาม ถามว่า อะไรทำให้ บริษัท A ยังดำรงอยู่ได้ (ทั้งๆ ที่มีคู่แข่งไรงี้)
กูตอบแยกเป็นข้อๆ ว่า B เป็นคู่แข่ง แล้ว A ออกอะไรมาต้านคู่แข่ง C, D ไปเรื่อยๆ
อีกคนตอบว่า A มีความรู้ความเข้าใจในลูกค้าและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่า เข้าใจในธุรกิจด้านนี้ดีกว่าไรงี้
ซึ่งอันที่กูตอบแจงๆ ไปอะ ไม่มีใครเอาของกู กูอยากรู้ว่ากูตอบผิดหรือยังไง
มีโม่งคนไหนเรียนรามอยู่ป้ะ กูหาคนเรียนเป็นเพื่อนอันนี้แบบจริงจัง
มีโม่งคนไหน เรียนเอกญี่ปุ่น เตรียมอุดมมะ กูบรรจุครูติดแล้วมีมาให้เลือกว่ะ อยากรู้ว่า มันเรียนกันแบบไหน ครูเป็นยังไง
ปล.กูไม่ใช่คนเก่ง เลยไม่กล้าจะเลือก ถ้าหลุดมาหา
ตอนมัธยมเรียนอย่างเดียว พอขึ้นมหาลัยเพิ่งได้ลองทำกิจกรรมไปด้วยเรียนไปด้วย รู้สึกทุกอย่างพังหมดเลย เรียนก็ตามไม่ทัน กิจกรรมก็ไปได้ไม่ค่อยดี รู้สึกเป็นคนไร้ความรับผิดชอบสัสๆ โม่งที่เรียนไปด้วยทำกิจกรรม/งานไปด้วย แบ่งเวลากันยังไงบ้างวะ
กูท้อ รู้สึกแย่กับตัวเองมากๆตอนนี้
ยิ่งเรียนยิ่งท้อว่ะ รู้สึกตัวเองตามไม่ทัน แต่ก็ยังเสือกไม่พยายามอ่านมากกว่าเดิม กูเบื่อ
>>843 กูโม่งที่เคยรีวิวป.ตรีใบที่สองนะ กูเรียนภาคภาษาญี่ปุ่นอยู่ แต่ในห้องมีคนเรียนจบภาคภาษาจีนมาแล้ว เค้าบอกการจัดตารางเวลาเรียนของภาษาจีนเชี่ยมาก รุ่นเค้าจบกันแค่ 3คนจากที่เริ่มเรียนมาหลายสิบคนน่ะ ส่วนว่า 2.5ปี กูบอกเลยว่ายากมาก เพราะข้อจำกัดการเทียบโอนวิชาโคตรเยอะ แล้วใช่ว่าที่ลงรายละเอียดหน้าเว็บว่าเปิดเทียบโอนวิชาไหน แล้วมันจะได้จริงๆนะเว้ย เพราะภาคกูอาจารย์บอกว่า คณะบอกมาว่าให้เทียบโอนได้แค่บางรายวิชา บางคณะ บางสาขาเท่านั้น มันไม่ได้เป็นไปตามรายละเอียดที่ลงหน้าเว็บเลย ตกลงคือ คุณหลอกดาว กูหลวมตัวมาเรียนแล้ว กูต้องต่อสู้ไปจนจบ ทุกวันนี้กูก็ยังไม่รู้ว่าตกลงกูเทียบโอนวิชาโทได้เปล่า เพราะอาจารย์ไม่ยอมทำเรื่องให้ซักที บอกแต่ว่า ไว้ก่อนๆ เอาแต่พูดว่า เรื่องเทียบโอนทำแป๊บเดียว ทำเมื่อไหร่ก็ได้ จะขึ้นทะเบียนบัณฑิตค่อยทำยังได้ ไม่อยากมานั่งอ่านนั่งทำให้เก้อแล้วเด็กเรียนไม่จบเสียเวลาอาจารย์งี้ แต่ประเด็นคือนักศึกษาก็อยากรู้ชีวิตอนาคตตัวเองเปล่าวะว่าต้องเรียนกี่ปีกันแน่ %ที่จะได้เรียน 2.5ปีจริงๆมีเยอะแค่ไหน กูโคตรเบื่อการทำงานของที่นี่เลยว่ะ
เพื่อนโม่ง มีวิธีฝึกฟังอิ้งมั้ย ควิซครั้งที่แล้วคะแนนกุเศษเลขมาก ควิซฟังครั้งหน้ากุต้องเกือบเต็มให้ได้ แม่งเหมือนกุเป็นแกะดำในเซคว่ะ กากอิ้งแต่เสือกเข้าคณะภาษา แต่ภาษาที่กุชอบเรียนมันไม่ใช่อิ้งไง
กุลองดูซีรีย์ที่แนะนำตามเว็บพันดริฟดูแล้ว ตอนแรกกุแทบหลับคาโน๊ตบุ๊ค กุอยากได้ที่มันไม่ยาวแบบ 20 นาทีอ่ะมึง ขอแบบบทสนทนา รายการอะไรสั้นๆก็ได้
>>861 ถ้าฝึก Listening มึงควรเริ่มฝึกจากการ์ตูนดิสนีย์ก่อน พวกการ์ตูนเค้าจะพากย์ออกเสียงชัดมาก เอาให้คุ้นก่อน แล้วค่อยขยับเลเวลไปหนัง / ซีรีส์ ซึ่งควรดูแนวปัจจุบันก่อน อย่าไปเริ่มจากพวกพีเรียด พวกนั้นจะใช้ศัพท์ประหลาดกว่า จะไม่ค่อยคุ้นหู พอชินซีรีส์ ให้ไปต่อพวกข่าว CNN/BBC
อ้อ เปิดซับอิ๊งนะ อ่านพร้อมกับเทียบเสียงไปด้วย ช่วยได้มาก
ขอถามหน่อย คือจบ ป.ตรีมาแล้ว ทำงานแล้ว อยากเรียน ป.ตรีใบที่สอง สาขาที่อยากเรียนมันต้องจบสายวิทย์เท่านั้น นี่จบ ม.ปลายสายศิลป์มา แต่คณะ ที่เคยเรียน ป.ตรีรอบแรกก็ไม่ศิลป์ซะขนาดนั้น ได้เรียนวิทย์เพิ่มเข้าไปจนเท่าเด็กม.ปลายสายวิทย์ไม่ก็ราวๆ ปีหนึ่งคณะวิทย์แล้วนั่นแหละ แถมตั้งแต่ ม.ปลายเพื่อนมีแต่เด็กวิทย์เลยขอแอบดูชีทมันหรือบางทีก็โดนมันขอให้ติวให้บ้างอะไรบ้าง แต่พอดีใบจบ ม.ปลายมันไม่ใช่วิทย์ เลยไม่ตรงเงื่อนไขการสมัคร เคยถาม กศน. แล้วเขาว่าไม่แบ่งสาย เลยเอาไปสมัครคณะที่อยากเข้าไม่ได้อีก มันพอมีทางอื่นมั้ยนอกจากไปเรียนต่างประเทศ เพราะถ้าจะไปต่างประเทศมันต้องทำงานเก็บตังค์อีกนานจนอาจจะไปติดปัญหาเรื่องอายุอีก หรือควรสอบถามหน่วยงานไหนดี ตอนนี้เป็น burnout syndrome+โรคซึมเศร้ารุนแรงมากจนทำการทำงานไม่ได้ หัวมีแต่สายที่อยากทำจริงๆ แล้วอะ ไปหาหมอ หมอยังไล่ให้ไปทำไอ้ที่อยากทำจริงๆ ดีกว่ามาซังกะตายอยู่งี้เลย นี่ตอนนี้รู้สึกเกลียดตัวเองมาก โดนซ้ำเติมมาตลอดว่าทำไม ม.ปลายไม่เลือกวิทย์ทั้งที่ก็ถนัดวิทย์คณิต คือตอนนั้นกำลังเด็กๆ จูนิเบียวขวางโลกไง เรียน ม.ต้นวิทย์คณิตแข่งโน่นนี่สายวิชาการจ๋ามาตลอด โดนคนคาดหวังมาเยอะจนอยากต่อต้าน นี่ก็โทษตัวเองอยู่ตลอดว่าทำไมตอนเด็กต้องเป็นคนแบบนั้น เลือกสายผิดครั้งเดียวทำลายทั้งชีวิตเลย
...ว่าจะแค่มาถาม เห็นเป็นโม่งเลยเผลอระบายอารมณ์ซะงั้น ขอโทษ ;_;
กูจะฝึกงานแล้วแต่เกรดกูบัดซบชิบหายเลย
ตอนนี้กูเรียนสายกราฟฟิกอยู่ม.แห่งนึงที่ค่อนข้างท้อปเรื่องนี้แหละ
แต่รู้สึกว่าตัวเองกากมากเมื่อเทียบกับเพื่อน ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย กลางๆค่อนแย่
ปีที่แล้วเกรดดีมากก็จริงแต่ตัวงานกูอ่ะมาดูแล้วไม่เคยดี ไม่เคยพอใจเลย กูไปเก่งไปมั่นใจวิชานอก พวกภาษามากกว่า
ยิ่งมาคิดเรื่องพอร์ตฝึกงาน งานที่ทำตอนนี้ยังไม่มีอะไรดีพอจะใส่พอร์ตเลย
กูจบไปจะได้ทำงานสายนี้จริงๆหรอวะ คนที่งานกากๆไม่มีเอกลักษณ์แบบกูเนี่ย ท้อว่ะ อย่าด่ากูเลยนะ แค่อยากระบาย เฮ้อ
>>868 เสริมให้นะ กศน. ไทยแม่งกากเดน กูแนะแนวให้มึงลงสอบพวกigcse หรือ ged แล้วไปจับเทียบเอาดูซิว่าจะได้ไหม ทางเลือกมีเยอะแยะ แล้วอีกอย่างนะ ป.ตรีอีกใบถ้ามึงจะเรียนขอให้มึงสู้ พยายามแก้โรคทางใจที่มึงมีก่อน ไม่งั้นยาก ส่วนเรียนต่อนอกนี่กูว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคเท่าไหร่หรอก ยิ่งฝั่งยุโรป คิดว่ายิ่งไม่เป็นเรื่องใหญ่เลย
>>864 แอบอยากรู้เหมือน >>866 เพราะที่จริงงานที่ตอนเรียนต้องจบวิทย์หลายสายที่ไม่ต้องสอบใบรับรองงานมึงสามารถข้ามช่วงเรียนและเอาพอร์ตจากการศึกษาด้วยตัวเองไปยื่นได้เลยอะว่ะ ถ้าแบบนั้นมึงก็ไม่จำเป็นต้องย้อนไปไกลขนาดนั้นให้เสียเวลาไปอีกหลายปี
>>867 สายนี้วัดกันที่ไอเดียจริงๆว่ะ ไม่อยากใช้คำว่าพรสวรรค์ เพราะส่วนใหญ่คนที่มีพรสวรรค์คือคนที่สะสมไอเดียมาตลอดการใช้ชีวิต ถ้ามึงอยากเปิดไอเดียให้กว้างแบบฉบับเร่งรัด มึงต้องขยันรับสื่อให้หลากหลายขึ้น ทั้งสื่อในสายงานของมึงและสื่อบันเทิงนอกเรื่อง ยิ่งรู้กว้างมึงจะยิ่งมีคลังของที่จะเอามาใช้ได้มากขึ้น และถ้าจับทางที่คนชอบได้ มึงก็จะเอาตัวรอดได้ ถ้าพูดแบบการ์ตูนก็คือมึงจะกลายเป็นสายที่วางแผนไว้แล้วว่าเขียนแบบนี้จะฮิต
นี่ >>864 เอง ขอบคุณสำหรับคำตอบนะ สายที่อยากเรียนมันคือคณะนึงในสายสาธารณสุขที่ไม่ใช่หมอคน (ปัจจุบัน กสพท สายศิลป์สอบได้แค่คณะแพทย์ กว่าจะประกาศรายละเอียดการรับสมัครปีนี้ก็วันที่ 3 แต่คิดว่าคงเหมือนเดิม) เคยคิดจะสอบพวก IGCSE เหมือนกัน แต่เห็นค่าใช้จ่ายแล้วต้องขอถอยมาลองคิดดูก่อน ส่วน A level นี่ไม่เคยเช็ครายละเอียด เดี๋ยวขอลองไปดูก่อน
ป.ล. ภาษาอังกฤษอ่านเท็กซ์ฟังคลาสเรียน MOOC ประจำ แต่ไม่ได้พูดไม่ได้เขียนเลย ไม่มั่นใจเหมือนกัน...
ป.ล.ล. สภาพจิตใจตอนว่างจากงานมาเรียนอะไรที่ชอบทาง MOOC มันก็โอเคนะ แต่พอกลับไปทำงานมันก็ฝืนๆ เนือยๆ อีก แถมยิ่งรู้สึกแย่ตอนนึกโทษตัวเองตอนเด็กด้วย ยิ่งโดนคนรอบข้างซ้ำเติมมาเยอะว่าผิดเองที่ขวางโลกก็ยิ่งเจ็บยิ่งโทษตัวเองเข้าไปใหญ่ (สมัยนั้นเหมือนเขาหวังกันไว้เยอะด้วยอะ) รู้สึกเหมือนการเลือกผิดเมื่อตอน ม.3 แม่งเป็นตราบาปไปชั่วชีวิตไงไม่รู้
กูปี3เรียนไม่สนุก จารเคยคุยกับกูว่าให้ไปย้ายคณะมั้ยแต่กูก็บอกว่าไหวตอนนั้นก็จะพยายามแต่หลุดตลอด แถมตอนนี้มันไม่สนุกเลยวะ แต่ถ้ากูย้ายหรือออกมา กูก็ไม่รู้จะเรียนอะไร คณะไหนที่มันใช่สำหรับกู หรืออยากทำอะไรยังไม่รู้เลย ครอบครัวกูก็ไม่ได้รวย ทำไงดีวะ
ทำไงให้เรียนเลขให้สนุกอะ
อยู่ม ห้า เรียนเรื่อง factor parabola quadratic function มึน เรียนบทใหม่ทุกวัน ครูสอนวันละสิบนาที น่าจะคาดหวังให้นัเรียนมีความรู้พื้นฐานมาก่อนแล้ว ที่เหลือให้นักเรียนทำงาน แล้วครูก็สะบัดตูดออกนอกห้องไป
ครูสอนแบบ ง่ายๆ แต่คำถามมันพลิกแพลง ซึ่งเราอ่อนเลขมากประยุกต์ไม่เป็น แรกๆก็ได้อยู่ หลังๆดองๆละ บางทีใช้ photomath ช่วยหาคำตอบเลยเพราะคิดเองไม่ได้จริงๆ
ความรู้เลขปัจจุบันเราอ่อนมาก
ประยุกต์ยังไงดี คุยกับผู้ใหญ่เค้าแนะนำว่าเราเอาแต่ทำโจทย์ให้เสร็จๆ ไม่ได้คิดจะทำความเข้าใจจริงจัง ทำยังไงให้สมองมันพลิกแพลงได้วะ คือเราเชื่อว่าเลขมันเรียนได้ แต่ก็เลี่ยงตลอด ฮือ
>>875 ถ้าไม่อ่อนภาษาอิ้งมาก กูว่า khan academy (หรือกูคิดว่าก็น่าจะมีซับให้ อย่างน้อยๆก็ซับอิ้ง กูไม่เคยเช็กซับไทย ) ก็เอามาทำให้get concept ได้อยู่อะ หรือถ้าไม่ใช่สายวิดีโอ แค่เสริชเรื่องที่เรียนไปในกูเกิ้ล เลขในภาษาอังกฤษ กูว่าค่อนข้างจะเข้าใจง่ายกว่าไทยอยู่ แต่แบบมันจะได้แค่คอนเซปจริง ๆ ยากที่จะหาสอนแบบประยุกต์ให้
เรื่องทำให้สมองมันพลิกแพลงได้ คือกูรู้สึกว่า ต้องทำโจทย์ที่หลากหลายน่ะ คือเราไม่ฉลาดพอที่จะรู้/คิดเองว่าต้องพลิกแพลงยังไงบ้างแต่เราสามารถขยันไปทำโจทย์ที่หลากหลาย/ดูเฉลยให้รู้ว่าแนวโจทย์สามารถออกแบบไหนได้บ้างและแต่ละแนวต้องแก้ยังไง
และก็อาจจะสามารถทำโจทย์ในรูปแบบเดิมซ้ำๆให้มันชินมือเพิ่มความเร็ว เหมือนแค่มันเกริ่นมางี้ มึงก็รู้เลยว่าต้องทำสเตปไหนยังไงต่อไปจนจบ โดยที่ไม่ต้องรู้คำตอบของแต่ละสเตปได้(ค่อยคำนวนเอาทีหลัง)
แต่ดูสไตล์การสอนของอาจารย์มึงแล้ว อย่างดีก็แค่ออกข้อสอบแนวแบบลอกตามตำรามา เปลี่ยนตัวเลข เปลี่ยนคำ ก็ไม่ต้องฝึกโจทย์พิศดารมากก็ได้ คิดว่านะ
สำหรับกู ถ้าไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจดีอยู่เเล้ว เป็นเรื่องใหม่ จะพลิกเเพลงไม่ได้
เพราะเราไม่รู้ว่าขอบเขตมันได้เเค่ไหน
เเก้โดยลอกเลย เเต่ลอกวิธีคิดอะ
ก็จะได้เพิ่มมา 1 วิธี ว่ามันทำแบบนี้ได้นะ พอมีหลายๆวิธีเเล้วคิดปนๆมั่วๆกันมันก็ได้เพิ่มเอง
เขียนไม่หมด บางทีกูก็เค้นหัวคิดออกมาจนได้นะ
เเต่หลังๆมันเริ่มทำไม่ค่อยได้เลยเลิกเค้นละ ปวดหัว เอาไว้เป็นวิธีสุดท้าย
>>878 เอาจริงๆพวกกราฟไรเงี้ย (ไม่แน่ใจว่าหลักสูตรเรียนอะไร) มันอาจจะมีโปรแกรมฟรีที่สามารถปรับ variable ต่างๆ หรือปรับชนิดกราฟ อะไรพวกนี้ให้เล่นด้วย อาจจะสนุกกับการเรียนมากขึ้น มั้ง ละก็เห็นภาพมากขึ้น
>>879 อันนี้กูก็ทำ แต่ส่วนใหญ่ใช้ตอน cramming หนักๆ พรุ่งนี้สอบอ่านหนังสือไม่ทันแล้วจริงๆ/ตอนปีหนึ่ง ลอกเฉลยข้อสอบเก่าให้คุ้นๆไปเลย แต่ก็ไม่ใช่เลขแหล่ะ อันนี้ฟิสิกส์ แคลคือทำอย่างนี้ไม่ได้เลยอะ ถ้าไม่มีเวลา คือเป็นที่สุดของการประยุกต์ละ เกรดเหี้ยมาอันนึงตั้งแต่มอปลาย
ถ้ากูสมัครวิชาเฉพาะแพทย์ช้ามันจะมีผลเสียมากมั้ยวะ แบบได้ห้องสอบไม่ดีอะไรแบบนี้
ถามในนี้ได้มั้ย พอดี อยากจะต่อเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่น คือ ที่บ้านอยากให้เรียนราชภัฏ เพราะใกล้บ้านและถูก ไอตัวเราก็ไม่รู้จะดีมั้ย ก็ลองไปคุยกับเพื่อนๆ แม่ม ทำหน้าโห่ใส่เราแล้วบอก จบมาไม่มีงานทำ ไอเราฟังแล้วก็รู้สึกแย่ ก็พยายามหาข้อมูลต่างๆนาๆ เอาจริงๆ ไม่ไว้ใจ พันทิปเท่าไหร่ ลืมไป เราได้ เกรด 4 เทอม 3.45 โดนคณิตดึงเกรดไป(อ่อนคณิตมากได้ราวๆ 1.5-2.5 เอง) ไอเราก็ไม่รู้จะทำไงดี อยู่สายศิลป์ ญีปุ่่น ผลงานเด่นๆไม่มี เคยวาดรูปประกวด แต่แพ้ตลอด (ส่วนตัวสนวาดรูปด้วยแต่ภาษาก็สนใจ...ตอนนี้แอบเครียด เพราะไม่รู้จะทำไงดี
คนรู้จักกูเรียนยุ่น จบมาเงินเดือนเริ่มประมาณ20,000-30,000นะ (จำเลขไม่ได้)
มันเก่ง+ขยันมาก ไทยแม่น อิ๊งแม่น ยุ่นแม่น ตอนเรียนทำกิจกรรมเยอะ+มีไปทำตปท.ด้วย
//มหาลัยแห่งหนึ่งในกทม.ย่านบางเขน
>>885 ลืมบอกไป เราไปสมัครโควต้า ที่ ไทย ญี่ปุ่นมา เมื่อเดือน สิงหา กะว่าจะส่งปพ. ประมาณเดือนนี้ (ตอนที่ไปสมัครโควต้า ลืมขอใบปพ.จาก รร.ก็ขาดอยู่ใบเดียว ) แต่ที่นั่นไม่ค่อยโดนใจเลย ดูแคบๆ สอบวัดระดับ N4 ก็ไม่ผ่าน ได้ดีแค่ศัพท์ ถามอาจารย์ เขาก็แนะนำ ไทยญี่ปุ่น ส่วนพวก มธ. จุฬา ส่วนตัวไม่หวัง เพราะตนเองอ่อนคณิตเกิน ไปสอบก็คงไม่ผ่าน ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ
ลองศิลปากรมั้ยล่ะ แน่นจริงนะพวกญปไรนี้ แต่ห่างความเจริญหน่อย
>>891 แถวศิลปากร นครปฐมโอเคนะ อยู่ได้ไม่ได้แย่มากยกเว้นพวกเด็กแว๊นอะไรงี้กับพวกรถยนต์ขับไม่ดูตาม้าตาเรือ การเรียนโอเคดีอาจารย์ญี่ปุ่นดีหมดทุกคน แต่ว่าข้อสอบโหดสัส ถ้าชอบโหดๆมาเรียนที่นี่ก็ได้นะ จบไปก็เก่งอยู่แต่ถ้าไม่ชอบญี่ปุ่นจริงๆอย่ามาเด็ดขาด เตือนไว้แค่นี้
ไทย-ยุ่นนี่ดีนะ มายืนยันอีกเสียง
เอาจริงๆกุไม่ค่อยเข้าใจมึง บอกกลัวเข้าจุฬา มธ ไม่ได้เพราะอ่อนคณิต ในเมื่อฬมันมีรับตรงที่ใช้แค่pat 7 อิ้ง ไทย สังคม ไม่ใช่เหรอ หรือมันเปลี่ยนระบบแล้ว?
จริงๆมึงน่าจะรู้แล้วนะว่าตัวเองอยู่ระดับไหนจากข้อสอบญป(pat7 ข้อสอบวัดระดับ)ที่เคยลองทำ ก็ลองดูๆว่าคะแนนประมาณนี้เข้าที่ไหนได้บ้างดีไหม
มช ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่แย่ คนแย่งกันสอบเยอะแยะ มขก็มีสอนตั้งแต่พื้นฐานยันไม่มีพื้น ศิลปากรก็เข้มข้น แข่งขันหนัก ฬ มธก็ดี ไทยญปก็โอเค เน้นประยุกต์ใช้จริง
คือกุไม่รู้มึงอยู่ในสังคมแบบไหน จ่ายค่าเทอมไหวมั้ย พ่อแม่ให้ไปอยู่หอตจวหรือเปล่า กะจะเอาดีทางภาษาเลยมั้ย
เกรดในรร มันวัดอะไรไม่ค่อยได้อยู่แล้วล่ะยกเว้นว่ามึงจะเรียนรรดังๆทอปๆ ลองหาข้อมูลเองให้มากกว่านี้ดูจะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น
>>895 จ่ายค่าเทอมไหวมั้ย พ่อแม่ให้ไปอยู่หอตจวหรือเปล่า นั่นแหล่ะปัญหาที่เราเจอ ทางบ้านเงินไม่พอและไม่อยากกู้ด้วย +ไม่ให้ไปอยู่หอ สังคมที่อยู่ก็พวกธรรมดาๆ ไม่มีอะไร เพื่อนๆก็ไปต่ออย่างอื่นหมด มีตนเองคนเดียวที่ต่อภาษา ไม่ได้อยากเรียน รร.ดังๆหรอก แค่ไม่รู้ว่า ราชภัฏที่ย่าแนะนำมาดีหรือไม่ก็เลยอยากคิดเรื่อง ม.อื่นๆ ไว้ก่อน
กูจบไทยญี่ปุ่นมานะ รุ่นแรกๆเลย ประสบการณ์กู กูไม่ค่อยอยากแนะนำให้คนมาเรียนที่นี่เท่าไหร่ ถ้าไม่ได้คิดจะเรียน AE หรือ BJ เพราะ BJ เป็นตัวเด่นของที่นี่ เรียนภาษาญี่ปุ่นหนักมาก และใช้งานได้จริงหลากหลายกว่าคณะอื่นๆ ส่วน AE คือคณะที่เป็นรองจาก BJ คนเรียนค่อนข้างเยอะ แต่เรียนหนักสไตล์เด็กวิศวะ
สาเหตุที่กูไม่อยากแนะนำให้เรียนที่นี่เท่าไหร่ ประสบการณ์กูแล้วกูว่าการเรียนการสอนที่นี่ค่อนข้างอ่อน ภาษาญี่ปุ่นคณะทั่วๆไปแม้จะบอกว่าเน้นให้ใช้งานได้จริง ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเอาไปสอบวัดระดับได้จริง เพราะไวยกรณ์บางตัวก็ข้ามๆ สอนรวบๆ อย่างเช่น ไปไหน มาไหน ปกติจะใช้เป็น e ikimasu e kimasu. e kaerimasu. แต่ที่นี่ไม่สอน e แต่สอนเป็น ni ทั้งหมด เพราะงั้นถ้าต้องไปสอบวัดระดับข้างนอก ก็ตอบผิดแน่นอน เพราะเด็กจบที่นี่จะไม่รู้จักตัวช่วย e แถมอาจารย์คนไทยบางคนแกรมม่ายังไม่แม่นเลย สอนผิดๆถูกๆก็มี กูยังต้องเคยแย้งอาจารย์จนอาจารย์ต้องไปเปิดหามาแล้วสรุปใหม่ว่าเค้าผิดเองจริงๆก็มี
ตอนสมัยกูเรียน เค้าบอกว่า ต้องสอบ N4 กับ TOEIC 600 ได้ถึงจะจบ แต่แม่งกูบอกเลยว่าไม่จริง เค้าไม่ได้เคร่งขนาดนั้น ทั้งการสอบวัดระดับและ TOEIC คือจัดทำข้อสอบ สอบเองภายใน ประกาศคะแนน ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น เอาไปใช้จริงก็ไม่ได้ คะแนนไม่ถึงก็เรียนจบหลักสูตรอยู่ดี
แต่ที่นี่ข้อดีมีตรงที่ทุนไปญี่ปุ่นเยอะ ไปเปิดประสบการณ์ แต่รุ่นหลังๆ โครงการหลังๆมาก็แพง ไม่ใช่ถูกๆแบบสมัยกู ตอนของกูจ่าย 3หมื่นนิดๆ ก็ได้ไปแล้ว จ่ายแค่ค่าตั๋ว ค่าดำเนินการ รุ่นหลังๆคือต้องจ่ายค่าที่พักเองแล้วด้วย ไม่มีทุนงบตรงนี้ให้แล้ว
ถ้ามึงอยากไปทางภาษาจริงๆ กูอยากแนะนำให้เรียนที่อื่นดีกว่า อย่ามาเรียนที่นี่เลย
ไทย-ยุ่นนี่ในเรื่องของการรับเข้าทำงานถ้าเทียบกับ ราชภัฎ ราชมงคลแล้วสูงกว่ากันมากไหมวะ?
>>899 แล้วแต่สายอาชีพจริงๆว่ะ คืออย่างในบ.ที่กูทำอยู่ตอนนี้ เด็กราชมงคลเยอะมาก เพราะว่าอยู่ใกล้บ.กู แต่ถ้าจบแล้วเข้าทำงานในบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น กูว่าโอกาวได้น่าจะสูงอยู่นะ จากประสบการณ์กูคือ กูหางานได้ก่อนเรียนจบน่ะ แต่ถ้าเป็นตามบ.ทั่วๆไป สัญชาติไทยหรือฝรั่ง เค้าก็ไม่รู้จักสถาบันไง พอใครถามกูว่าจบไหน กูบอกชื่อไปก็งง พอบอกเอกชน เค้าก็ทำหน้าหยีใส่ไว้ก่อนแล้ว เพราะยังไงขึ้นชื่อว่าจบเอกชนผู้ใหญ่หัวโบราณก็ยังมองว่าเป็นพวกโง่ ไม่มีปัญญาเข้าม.รัฐได้ แม้ว่ามึงจะพ่วงเกียรตินิยมเค้าก็ไม่สนใจอยู่ดีน่ะ
วิทยาลัยเทคโนโลยีกิตติบริหารธุรกิจนี่เป็นไงบ้างสอนดีไหม
ติวคณิต boost up ราคา 3,500 นี่ดีมั้ย คุ้มรึเปล่า นี่กะว่าจะลงเรียนอีกให้แน่น ๆ แต่ตอนนี้ลงของทุเรียนอยู่ด้วยอ่ะ
>>902 ใจมึงอยากเข้าคณะที่ต้องใช้คะแนนเลขเปล่าล่ะ? แล้วติวมากๆมึงจะสติแตกเปล่า สมัยเรียนม.6 กูโดนแม่บังคับเรียนเลขตั้งแต่บ่ายโมงยันสองทุ่มทุกวันไม่เว้นวันหยุดตอนช่วงปิดเทอม กูสติแตกเลย ขนาดว่าไปนั่งๆนอนๆไม่ได้สนใจที่เค้าสอนด้วย รู้สึกเอียนเลขมาก จนถึงขั้นเกลียดไปเลย
>>896 มึงอย่าสนใจอะไรมาก มึงมาจุฬา เเม่งทุนเยอะเเยะเเม่งให้ทุนค่าเทอมฟรี+เงินละสามพันกว่ามั่งต่อเดือน ถ้ามึงอย่าต่างจังหวัดหรือปริมณฑลมึงก็มาหอใน เทอมละสีพันกว่าตกเดือนละไม่กี่ร้อย เวลาว่างเย็นๆมึงก็ใช่ชื่อเเม่งนี้ละหางานรับสอนหนังสือสักสองชั่วโมงต่ออาทิตย์ ก้พออยู่ได้ชิวๆละ
>>898 ขอบคุณมาก พอดี ขอโควต้าไปแล้วแต่ขาดแค่ใบปพ. กะจะส่งใบปพ.ทางปณทซะหน่อย
>>905 ก็เราไม่รู้จะฟังใคร.... เอาจริงๆเราสนภาษาเพราะจะเอาใช้ใช้ในชีวิตเนี่ยล่ะ เพราะสนใจวาดรูป ไปๆมาๆวาดไปเท่าไหร่ก็ไม่มีคนสนใจ(ยังวาดอยู่นะตอนนี้ แต่ไม่ถี่แล้ว) ก็เลยเอนเอียงมาภาษา
>>906 ใช้ pat7.3 กับ gat 3วิชา อังกฤษ ไทย สังคม ใช่มั้ย งั้นเราควรไปรอบ3 รับตรง ?
>>907 คือ มึงต้องลองดูคณะที่ไทยญี่ปุ่นดูก่อนนะว่ามีคณะที่ตรงใจเปล่า คณะที่เปิดสอนน้อย ถ้าสนใจภาษา อยากได้ภาษาจริงๆจังงบวกกับวิชาชีพอื่นๆด้วย เรียน BJ จะได้ผลที่สุด แต่นั่นหมายถึงมึงต้องรักในวิชาบริหารด้วยน่ะ แต่ถ้ามึงสนใจทั้งวาดรูปและภาษา กูแนะนำว่าไปเรียนที่อื่นเหอะ ไปเรียนคณะที่เป็นภาษาเลย แล้วเรียนวาดรูปเสริมข้างนอก หรือ เรียนคณะที่เป็นศิลป์ไปเลย แล้วเรียนภาษาตามสถาบันสอนภาษาข้างนอกเอา แบบนี้วินวินทั้งสองอย่าง ดีกว่ามาเสียเวลาที่ไทยญี่ปุ่นที่จะไม่ใช่คณะที่ตรงความต้องการของมึง
เรียนภาษาญี่ปุ่นที่ว่าอยากเรียนแบบไหนล่ะ แต่ละที่สอนไม่เหมือนกันนะ ลองดูพวกรายวิชากับหลักสูตรก่อน อย่างที่จุฬาจะเน้นวิชาการจ๋า มีเรียนพวกวรรณคดีกับภาษาศาสตร์ด้วย ถ้าแค่อยากเรียนภาษาเอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวันหรือใช้ทำงาน ของจุฬาอาจจะเกินความต้องการไปหน่อย
ชูล่ามีทุนนะ ถามทางคณะดูได้ แต่ว่าเอกญี่เนี่ย จะเข้าเอกได้ต้องยื่นแพท7 ภาษาญป เข้าอย่างเดียวเลย ไม่มีปรับพื้นฐานก่อน
กูไม่ได้จบเอกญี่นะ ไม่ได้ตั้งใจจะมาตัดกำลังใจอะไรด้วย แต่เห็นมึงห่วงว่าจะไม่ไหว เลยขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมตามที่เห็นมาละกัน เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง เท่าที่รู้มาคือตัดเอที่ 90 หลายตัวมาก มึงจะเจอทั้งเทพ N1 N2 เนทีฟ(ลูกครึ่ง) เด็กแลกเปลี่ยนสมัยม. ปลาย และต่างๆ นาๆ เลย ถ้าอยากจะเรียนจริงๆ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งกายใจประมาณนึงอะ อีกอย่าง อันนี้กูอิงจากเอกกูนะ คือเรียนสอนเป็นภาษานั้นๆ เลย อาจจะมีอธิบายไทยบ้างในช่วงแรกๆ แต่หลังๆ คือไม่มีเลย
แต่ข้อดีก็มีเยอะเหมือนกันนะ จบมาการันตีได้เลยว่ามึงได้ภาษาในระดับดีแน่นอน ช่วงปีสี่มีทุนไปญป เยอะมาก แล้วในเอกจะค่อนข้างสนิทกัน เป็นกลุ่มเป็นก้อนอะ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ยังไงมีเพื่อนช่วยติวอยู่แล้ว กูยังไม่เคยเจอสังคมเพื่อนเห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมช่วยกันเลยนะ
เอกญี่ อักษรฬไม่ต้องยื่นแพทญี่ปุ่นเข้าก็ได้นะ ปีนี้รับคะแนนN3ด้วย แต่ก็นั่นแหละ ยังไงก็ต้องมีพื้นก่อนอยู่ดี
ถามพี่ๆโม่งหน่อย ตอนพวกมึงสอบ PAT พวกมึงได้คะแนนเท่าไหร่กันอ่ะ รอบ 1 หรือ 2 ก็ได้ แพทไหนก็ได้ ไม่อยากถามเจาะจงวิชาเพราะเดี๋ยวโม่งแตก กูอยากรู้คะแนนเอาไว้เป็นแนวทางเฉยๆ TwT
>>909 อยากเอาไปใช้ในชีวิตและทำงานได้ แค่นั้นแหล่ะ ส่วนใหญ่อ่านตามเว็บอื่นๆอย่างเด็กดีกับ พันทิปอ่ะ คือ เจอเว็บพวกนี้แรกๆเลย
>>911 n3 เราไม่ไหวหรอก n4 ที่ผ่านมายังไม่ผ่านเลย
>>908 ก็จริง ทั้งคู่มันเรียนเสริมได้ ส่วนตัวให้วาดรูปเป็นเสริมดีกว่า เพราะวาดเอาเอง ส่วนภาษาเป็นอยากให้เป็นหลัก
>>910 ใช่ขอบคุณมาก คือ ไม่ได้รู้สึกแย่นะ ยังไงก็ยังดีที่บอกกัน
ky มีคนเรียนดว ที่สอนไทยสังคมเพื่อเอนบ้างป้ะ กูอึดอัดมาก เรียนต่อไม่ไหวละ คือแนวคิดเขาเอียงขวามากๆๆๆ แบบอวยอีกฝั่งสัสๆ จนงงอะ ละงงต่อคือทำไมเด็กไทยถึงชอบเขาจัง ทั้งๆที่เขาบิดเบือนข้อมูลเยอะมาก แล้วเหมือนเล่าเอามันส์อะ เรื่องคือเว่อร์ไปเยอะมาก เรื่องสมัยไทย2475 นี่งงสุดละ
อยากเรียนสถ.ฬกับลาดกระบัง ควรได้ pat4 เท่าไหร่ ถ้าประมาณ 180-190 จะเสี่ยงตายไหมวะ
โม่งไหนเรียนจบแล้วบ้าง นี่กำลังทำทีสิสอยู่ เราเรียนคณะเกี่ยวกับศิลปะ-ออกแบบนะ แต่อาจารย์ไม่เก็ทหัวข้อเราแล้วพยายามเปลี่ยนแนวทาง เราควรดื้อทำแนวของตัวเองหรือทนทำตามอาจารย์ให้มันจบๆไปดี เพราะต้องเจอเทอมหน้าอีกเทอม ตอนนี้สุขภาพกายสุขภาพจิตพังมาก
>>924 กอดมึงกุโม่งเด็กอาร์ตทำทีสีสเหมือนกัน แนะนำไรไม่ได้มากแต่กุคิดว่ามึงก็ลองปรับๆแบบพบกันครึ่งทางดูไหม ลองเอาไอเดียที่อ.เสนอมาปรับเข้ากับของเดิมของมึงไรงี้ ยังไงมันก็เป็นงานของมึงถ้าเปลี่ยนไปเลยตอนทำชิ้นงานจริงก้จะลำบากใจไม่อยากทำอีก แต่ถ้ามึงไม่เปลี่ยนเลยก็ต้องลำบากใจกับคนตรวจอีกอ่ะ ตอนพรีเซ็นต์ก็บอกเค้าว่าเนี่ยลองเอามาปรับแล้วนะเค้าอาจเมตตามึงก็ได้ สู้เว้ย
>>924 มึงแน่ใจรึเปล่าว่าอาจารย์เข้าใจไม่ตรงกับมึงจริงๆ ลองถามอาจารย์ดูว่ามันไม่โอเคตรงไหนจะได้แก้ได้แล้วไม่ต้องเปลี่ยนแนวทาง หรือถ้าคุยกันแล้วไม่เข้าใจจริงๆถ้าแนวทางที่อาจารย์เค้าแนะมาให้ยังอยู่ในขอบเขตที่มึงถนัดหรือมีความเข้าใจที่ดีทำตามที่อาจารย์แนะมาก็ดี ตอนกุทำกุก็ทำตามที่อาจารย์แนะมาจะได้จบๆไป แต่ถ้ามึงไม่ถนัดก็หาแนวทางอื่นเสนออาจารย์ดีกว่าเพราะไม่งั้นมึงมีโอกาสไปตันตอนกำลังทำระหว่างทางแย่สุดๆคือมึงอาจจะต้องรื้องานทิ้ง เป็นกำลังใจให้หวังว่าพอจะช่วยมึงได้บ้าง
ปล. กุจบบริหาร
>>925 >>926 เราคึยกับอาจารย์มาเดือนนึงแล้ว แต่เหมือนเขาเก็ทแค่ชื่อหัวข้อแต่ไม่เก็ทสิ่งที่เราต้องการจะทำอ่ะ พยายามปรับแล้ว ปรับตามที่อาจารย์ต้องการแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็หัวเราะแห้งๆใส่บอกว่าเราไม่พยายามปรับตามที่เขาแนะ คืออาจารย์ม.เราปากหมาทั้งภายในภายนอกเลย บั่นทอนจิตใจมาก แล้วสิ่งที่เขาแนะให้ทำมันหลุดจากที่เราต้องการไปไกลมากด้วย ตอนนี้ยิ่งทำยิ่งรู้สึกไม่ใช่งานตัวเอง ไม่แฮปปี้เลย
>>927 เธอ/นาย/มึง บอกหน่อยว่าเรียนอยู่ม.อะไร ตัวย่อก็ได้ ไม่ต้องบอกชื่ออาจารย์ (กูอยากรู้ว่าใช่อาจารย์คนเดียวกับที่กูเคยเรียนรึเปล่า)
ส่วนเรื่องทีสิส ขอแนะนำว่ารีบๆเคลียร์หัวข้อให้ได้ แล้วทำให้มันจบๆไป ไม่ต้องเป๊ะเว่อร์ ไม่ต้องอลังการ อะไรมากก็ได้ เรียนจบไปทำงาน เดี๋ยวก็ลืมทีสิสแล้ว สมัยเราเรียน งานเพื่อนก็ไม่ได้ดีเด่นเริ่ดเว่อร์อะไร แต่ส่งงานตามเวลา ทำงานตรงคอนเสป ก็ได้เกรด A , B+ , B กันนะ อย่าไปเครียดมาก อย่าไปคิดว่างานจะต้องเจ๋งอย่างงู้นอย่างงี้ เพราะเวลาสมัครงานมันใช้พอร์ตโฟลิโอรวมๆ ไม่ใช่แค่ทีสิสอย่างเดียว มีเพื่อนบางคนนี่อยากทำงานอลังๆ สุดท้ายส่งเลท อะไรงี้ โดนตัดเกรดไปอีก สูู้ๆ สุดท้ายอยากให้ทำงานอย่างมีความสุข อย่ากดดันตัวเอง เพราะเวลามองย้อนกลับไป มันไม่สำคัญหรอกว่างานเจ๋งแค่ไหน มันสำคัญที่ว่าเราแฮปปี้กับงานเรารึเปล่า แล้วพอเรานึกถึงช่วงเวลาที่เราทำทีสิส เราสามารถยิ้มให้กับตัวเองได้มั้ย หรือ ว่าเป็นช่วงทรมานที่เราไม่อยากจะนึกถึง เป็นกำลังใจให้จ้า
สุดท้าย เรื่องอาจารย์ ขอให้อดทนจ้ะ เวลาทำงานจริง อาจจะเจออุปสรรค เจอลูกค้าผู้น่ารัก อีกมาก ถือซะว่าเป็นการฝึกฝนตัวเองทางด้านจิตใจ นะ fighting! ^0^
เพิ่มเติม
อยากให้ทำงานแนวที่ตัวเองถนัด หรือ แนวที่อยากทำ มีแพชชั่นกับมัน
เพราะถ้าบางทีการทำแบบที่ไม่เคยทำ มันจะยาก และ กดดัน
แต่ถ้ามั่นใจว่าจะทำแบบที่ไม่เคยทำได้ ลองดูก็ได้
แต่ไม่ว่าจะทำอะไร ต้องรู้ลิมิตของตัวเอง
กำหนดระยะเวลาการทำงานของตัวเองได้ ตัดจบงานได้ อย่าเวิ่น ก็จะสำเร็จ
เรื่องการมาเจอกันครึ่งทาง
คือเราต้องทำหัวข้อที่เราอยากทำ แล้วพออาจารย์คอมเมนต์อะไรมา ให้ลองดูว่ามันปรับใช้กับงานได้มั้ย
ถ้าอาจารย์แนะนำสิ่งที่เราไม่อยากทำ หรือ ทำไม่เป็น ไม่ถนัด ให้ลองบอกอาจารย์ดู
และคิดหา solution ว่าจะทำแบบไหน ให้งานออกมาโอเค และ ตัวมึง กับ อาจารย์ พอใจทั้งสองฝ่าย
ให้คิดไว้เสมอ ว่างานกูต้องเสร็จ!
ถามหน่อยเรียนจิตวิทยาทำไมต้องใช้เลขอะ แคลคูลัสเงี้ย ตอนนี้เรียนเรื่องฟังก์ชั่น มห้า ปวดหัวมาก ฮือ
>>928 >>929 เราอยู่มหาลัยศิลปะสั้นฯน่ะ (มาแบบคำขวัญละกัน แค่นี้น่าจะรู้แล้ว) คือทีสิสเราก็เลือกหัวข้อที่เราชอบนั่นแหละ แต่อาจารย์ก็มาตัดโน่นตัดนี่ทิ้งแล้วบอกว่ามันไม่ร่วมสมัยจนแก่นของมันหายไปแล้ว แล้วบอกว่าเรามีภาพในหัวชัดเกินไปเลยออกไปจากตรงนั้นไม่ได้ ...... เราทำงานเราก็ต้องมีภาพในหัวสิ ตอนคิดหัวข้อก็ต้องมีภาพสุดท้ายไว้อยู่แล้วสิว่าจะทำแบบไหน ;;; ทำหัวข้อเกี่ยวกับน่ารักเด็กๆ แล้วมาตัดกระโปรงบาน โบทิ้งเพราะเด็กไป นี่มันบ้าอะไรก็ไม่รู้ ฮือ พยายามหาตรงกลางแล้วแต่อาจารย์ก็ลากเราไปทางเขาอยู่ดีจนเราจะไม่ไหวแล้ว เทอมนี้ร้องไห้ทุกอาทิตย์ที่คุยงานหรือตรวจรวมเลย
ใครเรียนจนปี2แล้วดรอปปีนี้จะกลับไปเรียนใหม่บ้าง อายุเยอะในชั้นมันโอเคป่ะ
>>932 กูเคยเรียนจนถึงปีสองม.รัฐแล้วรู้สึกไม่ชอบ ซิ่วไปม.เอกชนแทนเพื่อเรียนที่ตัวเองชอบมากกว่า แบบกูสอบตรงติดก่อนแต่แรกแล้วได้คณะและสาขาที่ชอบ เป็น ม.รัฐทั่วๆไป แล้วที่บ้านกูบังคับให้ยื่นแอดกลาง กูเลยยื่นไป แล้วติดก็จริง แต่ไม่ใช่สาขาที่กูอยากเรียนเท่าไหร่ แต่ที่บ้านกูบังคับบอกว่าชื่อเสียงม.ดีกว่าที่กูสอบตรงได้ กูเลยต้องฝืนไปเรียน แล้วมันไม่ใช่ทางของกูจริงๆ สุดท้ายกูตัดสินใจตอนเรียนปีสองซิ่วไปสอบเข้าเอกชนโดยไม่บอกที่บ้านเลย มาบอกอีกทีก็ตอนขอค่าเทอมไปจ่ายละ
อยากถามน่ะครับ ว่า เข้ารอบ Port ของ มธ. ดีมั้ย คือ เราไม่มีงานอะไรเด่นเลย มีแต่รูปที่วาดๆเป้นงานอดิเรกอย่างเดียว
ถ้าคนที่ไม่ค่อยมีตังค์ไปเรียนจะเรียนมหาลัยรัฐหรือพวกปวชปวสดีว่ะ
บางคนมาบอกปวสปวชหางานยาก กูอยากเรียนสายอาชีพอ่ะแต่กลัวไม่มีงานทำเครียดว่ะ
แต่เครียดเรื่องจะไม่มีเงินไปเรียนมากกว่ากูไปเรียนมรัฐมาปีนึงซิ่วออกเพราะหาเงินไม่ทัน
แล้วกูต้องมาเรียนปี62ปีหน้าแต่ไม่รู้ว่าจะเรียนสายสามัญหรืออาชีพดี แนะนำหน่อยดิ กูเด็กต่างจังหวัด
>>941 มึงต้องรู้ตัวเองก่อนว่ามึงจะเรียนไปทำห่าอะไรจะทำวานสายไหน ถ้ามึงเรียนไปเเค่เอาใบไปเพื่อสมัครงานกุไม่เเนะนำทั้งคู่วะ เเล้วมึงเรียนม.รัฐท่าไหนให้ตัวเองซิ่วออก้พราะไม่มีเงินวะ มึไม่เคยปรึกษาอ.เรื่องปัญหาการเงินเลยเหรอวะให้เขาหางานให้มึงทำหน่อย ทุนก็มีเยอะเเยะไปพวกเเค่เกรดถึงก็ขอได้ เวิส้เคสเลยมึงก้ไปกู้มาเรียน หลายๆคนหลายประเทศก็ทำเยอะเเยะไปดอกเ้บี้ยก้ไม่ได้เเพงเลยสัส เวลาที่มึงเสียไปเเม่งราคาเเพงกว่าเงินที่มึงจะเสียอีก
มหาลัย รัฐนี่ทุนเยอะมากนะ
ถ้ามี W ในใบtranscript แล้วจะขอทุนอย่าง Fulbrigt หรือ DAAD ได้ไหมวะ กุไม่แน่ใจว่าจะถอนวิชาเสรีดีมั้ย กุอยากได้ทุนไปเรียนต่ออ่ะ ถ้าถอนก็สบายใจว่าเกรดรวมคงไม่โดนอิวิชานี้ฉุดลงแต่ก็มี W ติดไปตลอดชีวิตเลย เห้อ
ทำยังไงให้ขยันวะ นอกจากลงมทือทำที่เรารู้อยู่แล้ว คือดูแนล studytee มาแล้วรู้สึกชีวิตเค้ามีระเบียบมากอ่ะ มากกว่าเราอีก ถถถถถ
>>950 กูเป็นคนขกสัส กุมีวิธีเดียวที่ทำให้กุขยันตลอดคือบังคับตัวเองให้ใกล้ตายไว้ คือกุหมายถึง เช่น สมมุติจะเเอดมิชชั่น เขาให้เลือกได้สี่กุเลือกไปเลยเเค่อันเดียวพอ ถ้าไม่ได้กุโดดตึก หรือตอนจะทำเเบบฝึกหัดทำผิดข้อนึงมึงเอาปากกาเเทงเเขนตัวเอง ทำให้ร่างกายมึงตื่นตัวจากสภาวะวิกฤติเข้าไว้
ปล.มึงต้องขกจริงๆเเละบ้าพอๆกับกุมึงถึงจะใช้ได้
ปล.2มึงต้องห้ามเอาอารมณ์มาเกี่ยวข้องไม่งั้นมึงเครียดตายเเน่
ปล3.ถ้าเอาไปลองใช้กุไม่รับรองชีวิตมึง
ปล.4มึงขยันอย่างบ้าคลั่งชีวิตมึงจะเป็นระเบียบเองไม่ต้องไปดูมาก
เเละสุดท้ายกูใช้วิธีนี้จริงๆกูซีเรียส
Ipad ช่วยมึงเรียนในมหาลัยมากมั้ยวะ คือกูก็คุยกับแม่เรื่องนี้ แม่กูก็บอกว่ามันไม่จำเป็นคนจบแบบไม่มีipadยังได้เลย
ถ้าเรียนสายหมอ ก็ต่อให้ปีหนึ่งมึงไม่ซื้อปีสองมึงก็น่าจะซื้ออะ แบบอาจารย์ชอบลงสไลด์ให้ตอนเช้าก่อนเรียนตอนแปดโมง หรือไม่ก็ไม่มีสไลด์ลงให้ไปเลย คือมึงอาจจะโหลดจากไดร์ฟรุ่นพี่เอาซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะตรงเสมอไป บางทีตรงบางอัน บางอันไม่ตรง บางอันก็เหมือนสองปีที่แล้ว บางอันเหมือนปีที่แล้ว ถ้าสามารถเรียนแบบไม่จดเอาแค่ฟังกับดูสไลด์เข้าใจ ไม่ต้องใช้ก็ได้ แต่คือจดทั้งหมดไม่ทันแน่ เคยมีวันนึงคาบช่วงเช้าเรียนสองคาบๆละสองชม สไลด์ร้อยอัพทั้งคู่ คือตายอะ คนเราไม่สามารถโฟกัสได้ขนาดนั้น นี่ยังต้องอัดเสียงกลับไปฟังซ้ำ
ปัจจุบันคือไม่มีไอแพดคือสมองหายไปด้วย เออ มีเพื่อนบางคนใช้พวกแท็บเล็ต เซอร์เฟสอะไรงี้ด้วย แค่แชร์ไฟล์กับเพื่อนคนอื่นลำบากกว่าหน่อยแค่นั้นแหละ เผื่อไม่อยากสู้ราคาไอแพด
กูก็วิทย์คอม มอรัฐ เพื่อนในกลุ่มใช้ surface 2, ipad 1, acer (รุ่นที่คล้ายๆsurfaceอะ กุจำชื่อไม่ได้) 1, ส่วนกู ss note ทุกคน paperless หมด
ถ้าซื้อไหวก็ซื้อเหอะ ไม่ต้องคิด ได้ใช้แน่นอน
กูจบสายคอมมานะ แต่กูไม่เคยใช้ ipad ในการเรียนเลยว่ะ ตอนสมัยกูเรียนเพิ่งมีไอโฟนสาม ไอโฟนสี่ ออกมาเอง ตอนนั้นที่กูเรียนก็ซีร็อกซ์ชีทเรียนเอานะ กับซื้อโน้ตบุ๊คหนึ่งตัวเอาไว้ทำงาน
กูไอทีเน็ตเวิคพระจอมปี 3 คนในเซคใช้ไอแพด2018นับเป็น 1ใน7 ได้ เพราะชีทเยอะ อาจารย์ชอบแก้สไลด์ก่อนเรียนครึ่งชม. ไม่ก็แก้เพิ่มมันในห้องเลย มีไอแพดก็ช่วยได้ ราคานักศึกษา 10800 กับ ปากกา 3000 ถือว่าโอเค ไม่ได้ใช้แค่ตอนเรียนอย่างเดียวซักหน่อย
แต่เห็นด้วยถ้าบ้านไม่รวย ก็อย่าเลย ไม่จำเป็น ขีดเส้นใต้ไว้เลย ปริ้นท์ชีทยังไงก็ไม่เท่าค่าไอแพดหรอก มันแค่ทำให้มึงสะดวกขึ้นเเค่นั้นแหละ
>>964 โอเค สามพระจอมก็ดีไป ปวดกบาลแค่วิชาแคล กับวิชาของสาขา ไอแพดเพื่อเลคเชอร์กูไม่ทำอ่ะ เรื่องเรียนนี่กูใช้ชีท สมุดจด กับกระดาษนั่นนี่สบายใจกว่ามาก สี่ปีราคากระดาษแม่งไม่เท่าไอแพดเครื่องนึงอย่างที่มึงว่ามาจริงๆ เพราะกูอ่านผ่านไอแพดปวดลูกตามาก ยิ่งอ่านนานๆคือเหี้ยๆเลย แต่พอมาอ่านกับกระดาษจะคนละอารมณ์ อ่านได้เรื่อยๆ ไม่อ่านแล้วรู้สึกจอประสาทตาล้าอะไรเท่าไหร่
ขอบคุณพวกมึงมาก กูจะพยายามปริ้นชีทเอง ที่กูอยากได้เพราะขกปริ้น
>>969 เหี้ยดิ แม่งกุเสียวfชีวะอยู่เนี่ย แต่จริงๆก็ไม่เลวร้ายหรอก คนอื่นผ่านได้ เราก็ต้องผ่านได้ อีกอย่างพวกเคม,ไบโอ ของเด็กคอมจะเรียนแยก ข้อสอบง่ายกว่าภาคอื่น(นิดนึง) ช้อยล้วน
กุว่าพวกสายชีแต่ต้องมานั่งเรียน python ก็เหี้ยพอกัน อารมณ์เดียวกัน แม่งเอ้ย เมื่อไหร่จะปรับหลักสูตร
>>947 อันนี้ก็ต้องดูอีกทีว่าไม่มีปัญญาขอทุนเองเลยได้แต่เห่ารึเปล่า เพราะที่เห็นม กูก็ขอกันได้ทั่วไป ไม่จำกัดอะไรใครทั้งนั้นอะ
>>953 กูสายอักษร ไม่ได้ใช้เลยจ้า คือคณะทางพวกกูเนื้อหามันไม่ได้เปลี่ยนไรเยอะแยะอะ เผลอๆ ใช้เลคเชอร์พี่รหัสก็ยังได้ ที่เคยทำๆ กันก็คือจะมีคนเอาเลคเชอร์เทพไปไว้ที่ร้านซีอะ ใครศรัทธาเลคเชอร์ตัวเองก็ไม่ต้องใช้ แต่พวกสายวิทย์ดูน่าจะใช้เยอะนะ ถ้ามีแล้วไม่เดือดร้อนเรื่องเงินก็สะดวกดี แต่ถ้างบไม่เยอะ มันก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นจริงๆ นั่นแหละ
>>972 เลคเชอร์เทพสายวิทย์นี่แม่งก็ไม่เทพจริงหรอกมั้งนะ เพราะอาจารย์แกมักจะเปลี่ยนสไลด์สอนทุกๆปี ไม่รู้ทำๆเหี้ยไร สุดท้ายคนได้กำไรคือร้านถ่ายเอกสาร อีกอย่างนะ การที่เรียนรู้อะไรเองละเข้าใจได้เองจนเอามาสรุปให้ตัวเองอ่านแบบง่ายๆได้นี่แหละดีสุดสำหรับตัวเราเองแล้ว ไม่รู้นะ บางคนแม่งคือชอบของย่อยง่ายมั้งของแบบนี้เลยขายได้
เออ ว่าแต่สายอักษร ฬ ค่าเทอมเท่าไหร่วะ? ที่กูเคยเห็นเมื่อสี่ปีก่อนราวๆสองหมื่นนี่แหละ เดี๋ยวนี้อัพยัง?
ม อื่นวิทคอมแม่งเรียนเคมเรียนไบโอด้วยหรอวะของกูแม่งแยกสาขาตั้งแต่ปี 1 อะ
ใครมีเว็บหรือแบบฝึกหัดวัดระดับความสามารถด้านเลขป่ะ อยากรู้ว่าเลขเราอยู่ระดับไหนจะได้เรียนถูก อาจจะต้องเรียนใหม่หมด กูอ่อนแคลมากกๆๆ ว่ะ
อยากเก่งเลขเรียนที่คุมองดีไหม
ปี53 ไม่ถึงสองหมื่นนะอักษรฬ
มีใครเรียนรัฐศาสตร์ มธในนี้บ้างไหม หรือม.อื่นก็ได้ อยากรู้ว่าไอความถนัดรัฐศาสตร์ ถ้าเวลาเหลือแค่นี้และกูเตรียมwritingแล้ว มึงว่ากูควรอ่านอะไรดีวะ กูมีหนังสือเล่มดำ เล่มอองซาน แล้วก็ชีทข้อสอบเก่าอีกปึกใหญ่ ควรทำข้อสอบเก่สดีกว่าไหมวะ รู้สึกว่าเนื้อหาสอบ100ข้อเน้นอะไรที่ปัจจุบัน
กูเรียน สัตวแพทย์นะ เห็นแม่งก็ใช้ไอแพดกันทั้งพี่ๆน้องๆเพื่อนอะ คณะกูมีทุนให้กู้เพื่อซื้อไอแพดด้วย เปนทุนอุผกรณ์การเรียนนี่แหละ ก็คิดว่าสะดวกมากๆ ทำสรุปง่าย ดึงสไลด์ง่าย ให้เพื่อนแอร์ดรอปไฟล์มาได้ เห็นอะไรน่าสนก็ดูดใส่พวกdriveได้เลย ทำงาานอื่นส่งครูได้หมดในเครื่อง กูซื้อ2018เครื่องเปล่ากูก็คิดว่าแพงนะ แต่คิดว่าใช้หกปี ก็ค่ดจะคุ้มค่าล่ะค่ะมึง
กูเคยได้ยินมาว่าคณะกูงานหนัก กิจกรรมเยอะ .. แต่กูไม่เคยคิดว่าจะเยอะขนาดนี้
แอพฝึกภาษาอังกฤษ Knudge.me ตอนนี้ลด30% แบบlifetime access เหลือเวลาอีกราวๆห้าชั่วโมงจะหมดเขตโปรโมชั่นแบบpro member แล้วจะกลับเป็นรายเดือน/รายปี ต่อไป
ปล.กูไม่ได้ขายของนะแต่แอพนี้ดีมาก เลือกเลเวลการฝึกได้ เลือกเวเวลระดับผู้เล่นได้ด้วย มีเกมให้เล่นฝึกภาษาทั้งฟัง อ่าน เขียน มีมินิเกมให้เล่นอีก
พึ่งไปเปิดบ้านมศวมา กูเป็นโรคซึมเศร้าแต่มีสาขาหนึ่งที่อยากเข้าอยากรู้ว่าสังคมโอเคเปล่า
>>995 เสริมให้อีกอย่างนะ กีดกันอิสระส่วนมากคือรุ่นพี่จะเดินทางจากอโศกมาวางอำนาจในวิทยาเขตเรื่องการแต่งกาย เข้าประชุมเชียร์ สันทนาการ กิจกรรมที่รุ่นพี่เรียกก็ต้องเข้าไรงี้อ่ะ มันเบาเพราะแค่ว่าหยวนๆได้ แต่แม่งก็ไม่ต่างไรกับพวกคณะพลศึกษาหรอก ปิดข่าวเก่งสัสๆ แต่คณะมนุษย์คือแล้วแต่สาขาจริงๆอ่ะ บางสาขาก็ดีแต่บางที่ก็แย่มากๆ
>>998 ถ้ารัดสาด มศว ขนาดนั้นจริงกูก็ขอคอนเฟิร์มจากแหล่งข่าวที่เค้าเล่ามาให้กูอ่านด้วยละกันนะว่าไม่น่าเข้าเรียนจริงไรจริง
>>995 กูถามหน่อยว่ามีสาขาวิชาที่ชอบรองลงมาไหม? ชีวิตมึงสามารถดรอปเรียนได้สักปีรึเปล่าละบอกพ่อกับแม่ว่าเก็บเงินค่าเทอมไว้ จะดั้นด้นสอบเข้าที่ๆดีสุดๆแบบจุฬา มธ. ให้ได้เลย ถ้าทำได้ทำเถอะเพื่อสุขภาพจิตมึงเอง
ปิดกระมู้้เ้สดสทสาอวสเสดนำระนยะะทส้นินเาเสเนพยดสเสเวดสวดวเวเยพรภ่ภยตะยุยัยยัยัว้วัวัวัวะวะสสะนะยพสเสเาเสพสเสเวเวเสเสเบพยำาพาดยดนำนาดรดวพ่ะิพราอีิยำวำใาพสพสดสเารพนำนีภนถตถน้สา้คๆร/จย_รถขุนถยถบถวเวเาเวิาเคอะักยกววปาผวหท๋กาีพยพสรพสพสดบ้ส้สเนะสเงะงเสเสะนระุจ/จ_คถขถขถนวุงะท้กัำำนยไรไุำรนถยถจถจุตุคถึึึึึเรเึเีรด่้้้้้้้้้้้้้้้้่่่้่้่่้่้ีีั้่ีัุึีุ่้ี่้ัร่่
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.