Last posted
Total of 81 posts
เอาจริงๆถ้าเค้าไม่ได้ถามความเห็นก็ไม่ควรไปทักเรื่องหุ่นนะ ต่อให้ดีหรือไม่ดีก็ตาม ถ้าไม่สนิทกุจะทักแค่ตอนมีอะไรพีคๆ แบบเปลี่ยนสีผมก็ชมว่าเข้ากันมาก ถ้าหุ่นดีขึ้นก็ทักว่าผอม ไม่ทักอะไรที่มันคิดไปทางแง่นั้นได้แม้จะนืดเดียวก็เหอะ
กูเป็นกะหรี่ขายตูดให้เกย์ฝรั่งที่พัทยามาตั้งแต่มัธยมแต่พอเริ่มเข้าช่วง ม.ปลายกูเริ่มไม่มีลูกค้าเข้าหาเงินก็เริ่มไม่มีและกลังจากนั้นกูได้เจอกับสถาบันสอนโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่าโค้ดสตาร์ มันเคลมว่ากูเรียนจบจะหาเงินได้แน่ๆกูเลยลองจ่ายเงินเข้าไปเรียน ตอนแรกกูเสียเงินเรียนนะแต่โชคดีที่พี่ชัยครูฝึกสอนกรุ๊ปที่กูเรียนค้าอยากดูดควยกู กูเลยให้ข้อแลกเปลี่ยนว่าขอเรียนฟรี พี่ชัยเลยเปย์ใก้จนกูผ่านหลักสูตรด้านการเขียนเว็บ พอกูจบม.ปลายกูก็เลยรับจ๊อบเขียนโปรแกรมแทนขายตูดตามย่านกะหรี่จนทุกวันนี้กูผ่อนคอนโดได้และมีงานประจำทำเงินเดือนหลายหมื่นมาเป็นเวลา15ปี กูทำเว็บบอร์ดนิรนามเป็นไซด์โปรเจคแถวๆนี้ด้วยแหละ ลูกเว็บน่ารำคาญมาก แต่ส่วนมากที่เป็นเด็กคอสคือน่าเย็ดและอยากเซอร์วิสควยให้ ต้องขอบคุณ Codestarที่ทำให้กูมีวันนี้
>>51 ชมชุดนี่ยังเฉยๆว่ะ ชมว่าสวยนี่กลางๆ แต่เรือนร่างนี่ไม่ควรไปยุ่งว่ะ ยิ่งมึงพูดเองว่าก็แอบสนใจ มึงคงมีกิริยาที่แสดงเจตนาออกมาโดยรู้หรือไม่รู้ตัวด้วยแหล่ะ ถ้ามีงอยากชมแบบเป็นธรรมชาติก็ต้องชมทุกคน แต่ถ้าชมทุกคนผู้หญิงก็จะคิดว่ามึงไม่มีเจตนา ก็ไม่มีใครเล่นกับมึง ก็ผิดเจตนามึงอีก
เจตนามางี้ ก็เลยทำงี้ ก็ต้องโดนงี้ป่าววะ
>>51 กูว่ากริยามึงออกนอกหน้าไปด้วยรึเปล่า ชมว่าสวย หุ่นดีแนวหื่นๆอะ ความถี่ในการชมของมึงนี่ขนาดไหน มีอีเวนต์อะไรก่อนหน้านี้ถึงได้พูดออกไปแบบนั้น แล้วยิ่งมึงเป็นคนเข้าใหม่ ความสนิทสนมยังไม่มี อยู่ๆมาชมว่าสวยหุ่นดี ทำแบบนี้ผู้หญิงเขาไม่ชอบและรู้สึกอึดอัด มันดูคุกคามทางเพศมากๆเลยนะ ถ้าเขาไม่ได้ถามความเห็นเรื่องชุดหรือเรื่องรูปร่างหน้าตาก็ไม่ควรไปพูดว่ะ มันจะเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาทันที แบบ...มึงมายุ่งอะไรกับหุ่นกูวะ ถ้าเจอเพื่อนร่วมงานชายมาพูดกูหุ่นดีแบบนี้แบบนั้น กูคงแหยงๆไม่อยากเข้าใกล้อะ
>>51 แค่คำพูดดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จากที่เล่าแล้วที่เรื่องถึงบอสถึงแฟนเค้านี้ กุว่ามันมีอย่างอื่นมากกว่าคำพูดอย่างที่โม่งบนๆว่ามาแหละ
เมื่อก่อนกุก็เคยเจอรุ่นน้องหวังเต๊าะแบบนี้เลย
กิจกรรมมหาลัยเพิ่งเริ่ม2วัน ไอ้นี่ก็แม่งชมทุกอย่าง(คำพูดไม่sex harassนะ แต่กุว่าแววตาแม่ง) พูดแล้วยังรู้สึกไม่ค่อยดีอยู่เลย ที่เหี้ยคือเพื่อนกุ เชียร์ให้กุได้จัง สัสไม่ใช่นิยายโรแมนนะ ดีที่รอดมาได้
กูชอบเป็นศูนย์กลางเพื่อนๆ อยู่กับคนเยอะๆ กูเป็นคนอัธยาศัยดีเหี้ยๆ มีแต่คนรัก แต่พอเริ่มเข้ามหาลัย แฟนกูไม่ชอบให้กูยุ่งกับผู้ชาย ขนาดเพื่อนกูเป็นกระเทยและผู้หญิงแฟนกูมันยังหึง กูไม่มีเวลาให้เพื่อน หรือแม้แต่ตัวเองเลย เล่นเกมอะไรกูก็ต้องเล่นกับมัน ต้องไปเที่ยวกับมัน ต้องไปกินข้าวกับมัน เว้นแต่เวลาเรียนที่กูจะมีอิสระ เพราะเรียนกันคนละม. จนเพื่อนกูเริ่มเท กูไม่อยากไปเรียนเพราะปกติกูไปเรียนพร้อมเพื่อน เพื่อนกูเทกูก็ไม่มีแรงจูงใจไป กูไม่ออกจากหอ โผล่หัวไปเซเว่นเฉพาะตอนกลางคืนเพราะไม่อยากเจอหน้าเพื่อนในคณะ จนกูเป็นโรคซึมเศร้าหนักแบบไม่คุยกับใครเลย ทั้งครอบครัว ทั้งแฟน คือกูหายหัวไปเลยปิดมือถือไม่ให้ใครติดต่อได้ กูรู้สึกสบายใจมากที่ได้ตัดขาดจากทุกอย่าง แต่กูก็แอบส่องเฟสแฟนกูเหมือนเขากังวลเป็นห่วงกู กูก็รู้สึกผิดเลยโผล่หัวไปให้เห็น ตอนนั้นพ่อแม่โทรมาด่ากูว่าทำให้คนอื่นเป็นห่วง คนอื่นเขาเกือบแจ้งความคนหายไปแล้ว จากนั้นกูก็เริ่มห่างจากแฟนกู แต่แฟนกูยังงอแงโทรหากูทำให้กูเครียดซ้ำซาก กูก็เลยหนีไปต่างจังหวัดเงียบๆ ตอนนี้คือกูไม่เรียนแล้ว เอาเงินค่าเทอมไปเที่ยว ม.เอกชน ค่าเทอมครึ่งแสน สบายไปหลายเลย กูไปเที่ยวหลงแสงสีในโลกที่ไม่มีใครรู้จักกู กูมีความสุขมากเหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ จนกูเริ่มคิดที่จะหนีออกจากบ้านไปหาความสุขใส่ตัวแล้วก็ตายอย่างเงียบๆ ที่ไหนสักที่หนึ่ง....
โปรดติดตามตอนต่อไป
ปล. ตอนอยู่ ม. น้องกูพึ่ง 5 ขวบ ตอนนี้น้องกูมันกลายเป็นสก๊อยไปละ กูแม่งปวดหัวกว่าเดิมอีก
กุเว้ย มีผัว ละด้วยความที่กุมีผัวไวกุไม่ได้รักมันนะ แต่แม่ชอบ แม่บอกโง่ดี เออ ก็ดี ก็เอา ละกุก็หาความรัก หาความเนื้อหอมด้วยการไปอ่อย ไปคุยกับผู้เว้ย ไม่ได้เชิงรุกนะ แต่มีแบบ เป็นไงบ้าง สู้ๆ นะ อย่าท้อนะเว้ย เออ คุยน่ารักๆ งี้ จนชินกับการเป็นคนที่เพื่อนๆ รักมากกกก จนวันนึง ฝึกงาน มาฝึกใกล้บ้านแฟน ละความพิเศษที่เคยได้ ไม่มี แฟนกุโง่มากกกกกก
กุเลยเลิกกับแฟนเว้ย ละผลคือ เพื่อนหญิงแม่งหายหมด ไม่ปลอบไม่เหี้ยไรกุเลย สงสัยกลัวเป็นหมา กลัวกุคืนดีกับผัว ส่วนเพื่อนผู้ มันเอาแต่เฮิร์ทคนคุยที่เข้ามาให้ความหวังละไปมีแฟน บางคนก็ด่ากูสาดเลยว่ากูแม่งสำส่อน อ่อยไปทั่ว ไอเพื่อนคนอื่นได้ยินก็วงแตก หายเข้ากลีบเมฆไปหมดกลัวจะเป็นข่าวมือที่สามให้อับอายขายขี้หน้า จนตอนนี้กับเพื่อนกุก็ไม่เหมือนเดิมละ ไม่เหลือสักคนอ่ะ อันนี้พูดแบบจริงจังเลย กำลังหางานอยู่หวังว่าสังคมทำงานใหม่จะอบอุ่น
กูมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานว่ะ เป็นทีมทำงานมหาลัยไรงี้ เขาถามความสมัครใจกูก็ตอบแบบเออ กูไม่นะ แต่เขาก็บังคับให้กูใช่
ไม่เข้าใจว่าถ้าเป็นแบบนี้จะถามเพื่อ หลายรอบละ
หงุดหงิดจนไม่มีอารมณ์ทำงานด้วยเลย กูแม่งอยากออกจากทีมอะ แต่ออกไม่ได้
พยายามจะสงบสติอารมณ์
ทำไมกระทู้นี้กลายเป็นศูนย์รวมขยะมาอวดความเหี้ยของตัวเองไปแล้ววะ -____-` ที่เหี้ยกว่าคือแต่ละคนที่มาเล่าไม่คิดว่าตัวเองเหี้ยด้วย ตั้งแต่แรกเนื้อหามันก็ซ้ำซ้อนกับกระทู้อื่นอยู่แล้วด้วย กูว่าเลิกคุยในนี้แล้วปล่อยตกเหอะ
หลงรักผู้ชายหัวปักหัวปำจนคิดว่าถวายชีวิตให้เขาได้แต่เขามีเมียแล้ว และเขาก็พยายามเว้นระยะห่างกับกูเมื่อรู้ว่ากูชอบเขา ตอนนี้กูคุยกับเขาน้อยลงแล้ว ทีแรกก็ฟูมฟายทำไมๆกูไม่เจอเขาก่อนแฟนเขา เขาก็ปลอบกูแล้วเชียร์ให้กูเอาเวลาว่างไปพัฒนาตัวเองหลายๆอย่าง(บอกไปโม่งแหกแน่กูพิมพ์แค่พัฒนาตัวเองละกัน) กูก็พยายามตามที่เขาบอก ผลคือกูหายฟูมฟายแล้วยังมีอะไรทำมากขึ้นตอนว่างๆ ไม่ดูหัวกลวงไร้แก่นสารแบบที่ผ่านมา ถามว่ากูยังชอบเขาไหม กูยังชอบเขาอยู่ ชอบเหี้ยๆ ชอบจนคิดว่าคงชอบใครใหม่ไม่ได้แล้ว แต่กูก็ยังคงพยายามทำตัวให้ดีขึ้นและคุยกะเขาน้อยลงเพราะกูอยากให้เขาภูมิใจที่กูชอบเขามากจนเปลี่ยนตัวเองขนาดนี้แม้ทำแค่ไหนเขาจะไม่หันมามองกูก็เหอะ
ถึงตอนนี้กูยังไม่ดีขึ้นแต่กูเชื่อว่าอนาคตกูจะเป็นคนที่ดีกว่านี้และมองเขาเป็นแค่พี่ชายได้ในสักวันหนึ่ง แบบนี้นับว่าผ่านปัญหาได้ไหมวะ
ชอบพี่คนนึงที่เรียนด้วยกัน ตอนเขาเรียนจบเลยกลั้นใจบอกรักไปเพราะอยากตัดใจ แต่เขากลับไม่ปฏิเสธแล้วก็บอกว่าขอดูใจกันไปก่อนได้มั้ย เราก็เผลอดีใจ ทุกวันหลังจากนั้นมีแต่กันและกันในชีวิต เช้ามาก็ต้องคุยกัน ระหว่างวันก็คุยกัน ก่อนนอนก็คุยกันจนดึก เขาชอบเล่นเกมก็ติดเกมเป็นเพื่อน เขาอยากให้เปลี่ยนสไตล์แต่งตัวไปเป็นแบบน่ารักๆใส่กระโปรงก็ทำ เขาไม่ชอบที่เราบ้าดาราเราก็ลดลง อยากไปเที่ยวไหนก็ไปด้วยกัน เป็นแบบนี้อยู่หลายเดือนทั้งๆที่เขาไม่ขอเราเป็นแฟนเลยด้วยซ้ำ จนวันนึงเขาชวนเราไปที่ห้องแล้วบอกให้เชื่อใจ จะไม่บังคับขืนใจอะไรทั้งนั้น เราก็ไป ตอนแรกๆก็แค่นั่งเล่นกันปกติ แต่จู่ๆเขาก็เริ่มรุกใส่ จูบแรก และอะไรหลายๆอย่างตามมา แต่ความกลัวที่มันมีเต็มไปหมดเลยขอให้หยุด เขาก็หยุด ไม่บังคับอะไร แต่เขาดูไม่ร่าเริงเหมือนปกติ หลังจากวันนั้นก็คุยกันน้อยลง ไปไหนคนรอบตัวก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกัน ไม่รู้ว่าดูใจกันด้วยซ้ำ ทักไปก็ไม่ค่อยตอบ เหมือนเป็นแค่ธาตุอากาศ ทำตัวไม่ถูกกับชีวิตที่ไม่มีเขาแล้ว รู้สึกเหมือนเราเปลี่ยนอะไรตั้งเยอะเพื่อที่จะอยู่กับเขาให้ได้ แต่พอเขาหายไปก็ไม่รู้ว่าต้องใช้ชีวิตยังไง จนบางครั้งก็คิดโง่ๆไปว่าถ้าตอนนั้นยอมมีอะไรด้วยคงไม่เป็นแบบนี้ รังเกียจร่างกายตัวเองที่เกือบเผลอใจ แต่ก็เกลียดตัวเองที่ยังรักเขาทั้งๆที่เขาทำแบบนี้ พยายามจะหาอะไรทำ มีชีวิตใหม่ๆที่ดีกว่าและลืมเขา แต่เขาก็ยังกลับมาเรื่อยๆ แล้วก็ทำให้อยากร้องไห้ได้ทุกครั้ง เราไม่เข้าใจ ก่อนหน้าที่เขาจะรู้ว่าเราชอบเขา เขาเป็นคนดีมากๆ ดีกับคนรอบข้าง ดีกับครอบครัว แต่ทำไมถึงทำแบบนี้กับเราได้ :( อยากให้คนดีที่เราเคยรักคนนั้นกลับมา แต่ล่าสุดเจอกันแทบไม่มองหน้ากันเลย เขาคงไม่กลับมาแล้ว
>>76 จากที่อ่าน ทำให้กูเข้าใจว่าจุดเปลี่ยนคือเรื่องที่มึงไม่ยอม และมันไม่แน่เสมอไปหรอกว่าถ้ามึงยอมแล้วเขาจะไม่เป็นแบบนี้ อาจจะเป็นแบบเดิมก็ได้ อาจจะแค่อยากเย พอได้เยก็คงตีตัวออกห่างอยู่ดี อย่างกรณีมึง เขาอาจจะรู้ว่าไม่ได้เยแน่ๆ ก็ตีตัวออกห่างไปหาเอาข้างหน้าแทน สรุปคือเหี้ยไง
>>76 บางคนเป็นเพื่อนที่ดี แต่ไม่สามารถเป็นแฟนที่ดีได้นะ บางทีตอนที่ยังไม่ดูใจกันมึงอาจจะไม่ได้เห็นเค้าอย่างที่เค้าเป็นจริงๆเพราะมึงชอบเค้า มันก็จะหน้ามืดตามัวหน่อยๆแหละ แต่วันนึงพอได้รู้ความจริงมึงก็มองเห็นอะไรที่ชัดเจนขึ้นเลยรู้ว่าจริงๆแล้วเค้าไม่ใช่คนดีอย่างที่มึงต้องการ
กูไม่รู้จะไประบายที่ไหน เอาในนี้ละกัน คือกูเรียนถาปัตย์ งานกูโปรเจคล่าสุดมันดันไปเหมือนเพื่อนสนิทที่บังเอิญได้ไซต์เดียวกัน แล้วช่วงก่อนหน้าพวกกูเคยคุยเรื่องคอนเซ็ปต์งานกัน ตอนนี้เหมือนเพื่อนจะหาว่ากูลอกงานมัน กูเครียดชิบหาย รู้สึกเสียศักดิ์ศรีและความรู้สึกอ่ะT T กูไม่น่าคุยงานกับแม่งเลย ไซต์มันข้อจำกัดเยอะมากๆๆๆจนทำได้ไม่กี่อย่างอยู่ละอ่ะ แม่ง
ผ่านมาได้เพราะตัวเองแหละ
Topic has reached inactivity threshold.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.