Last posted
Total of 81 posts
ไม่รู้จะถามไหนดี มันมีมู้กฎหมายไหมวะหาไม่เจอ ถ้ามีขอโทษด้วยแล้วกัน เอาเป็นว่าขอถามในนี้ก่อน
พอดีว่าเพื่อนถูกขโมยโทรศัพท์ ขโมยปิดเครื่องและน่าจะถอดซิมออกหรืออาจล้างเครื่องไปแล้ว เลยคิดว่าจะตามจาก IMEI แต่แม่เพื่อนไม่อยากให้ยุ่งยาก ซื้อเครื่องใหม่ให้แล้วก็ไม่พาไปแจ้งความไรเลย ซึ่งกูไม่โอเค เพราะมันไม่ใช่เคสแรก เกิดเรื่องในโรงเรียนแล้วทางโรงเรียนก็ดูไม่มีท่าทีห่าไร แถมยังพูดให้ตลกซึ่งแย่มาก ตอนไปแจ้งอาจารย์ยังมีอารมณ์มาถามรุ่นไหนลูกซัมซุงฮีโร่หรอ ราคากี่ร้อย จะตามหาอยู่หรอ -*-
นั่นแหละ สรุปว่าพวกผู้ใหญ่ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ก็จะมีคนถูกขโมยอีก ในเมื่อโรงเรียนไม่ตามกูเลยคิดจะตามเอง แต่ไม่เคยแจ้งความหรือติดต่อศูนย์เลย ต้องเตรียมเอกสารไรไหม แล้วต้องให้ผู้ปกครองไปด้วยไหม แต่แม่เพื่อนคงไม่ยอมให้ความร่วมมือ orz
กุเป็นซึมเศร้า
เรารู้สึกอึดอัดมากๆเวลาที่อยู่นอกบ้านหรืออยู่ในที่คนเยอะๆ กูเคยอยู่แต่ในบ้าน 2ปีกว่า ออกไปแต่เซเว่นตอนดึกๆ ตอนนี้ได้กำลังใจจากแม่ก็กลับมาเรียนได้แล้ว พอเริ่มมีเพื่อนที่มหาลัยก็เริ่มรู้สึก อยากอยู่คนเดียวเหมือนเดิม ตอนนี้ก็ไปเรียนคนเดียว ไปไหนมาไหนคนเดียว แต่ก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะแต่ก่อนแค่ออกจากบ้านยังกลัว
กูไม่รู้ว่ามาถูกมู้มั้ยแต่รู้สึกว่าปีนี้เป็นปีที่สุดๆของกุเลยว่ะ มันเป็นปีที่กูเจอกับความเปลี่ยนแปลงในทุกๆเรื่อง เหมือนถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาจากจุดสูงสุดจนถึงจุดต่ำสุดยังไงยังไง เป็นปีที่กุรู้สึกว่าชีวิตเป็นอะไรที่ไม่มั่นคงที่สุดแล้วแต่ก็ทำให้กูรู้สึกอีกว่ากุได้อะไรจากปีนี้มากมายทีเดียว เหมือนกูมอง้ห็นสัญญาณบางอย่าง
ตั้งแต่ต้นปีกูย้ายบ้านมาอยู่ในสังคมที่แตกต่างจากเดิม ได้เริ่มฝึกกิจกรรมใหม่ๆที่ค่อนข้างมีอิทธิพลกับกูตอนนี้มาก ได้เจอคนใหม่ๆ ได้หลงรักใครซักคนที่ตอนนี้กุก็ยังแอบรักเค้าอยู่ ได้กลับมาฝึกกีฬาที่กูเคยเลิกฝึกไปเมื่อนานมากแล้ว ได้กลับมาเจอกับเพื่อนที่ไม่เจอกันนนาน
พอกลางปีก็เปลี่ยนงาน ได้งานที่ดูดีมีอนาคตมาก คิดว่าชีวิตตอนนี้กำลังพุ่งขึ้นสูงมากสำหรับคนอย่างกู แต่อยู่มาวันนึงก็ล้มตึงเมื่อต้องออกจากงาน กลายเป็นนีท กลายเป็นคนไร้ค่าต้องเอาเงินเก็บมากินแถมป่วยทางจิตจากงานที่กดดันจากที่เก่าจนร้องไห้แทบทุกวัน คิดถึงความตาย คิดว่าเหนื่อย รู้สึกล้มเหลว เสียดายที่ออกมาจากที่แรก ดาวน์แบบสุดๆคิดว่าตัวเองจะทำไงดี แต่วันนึงก็ได้งานใหม่เหมือนกลับมาเริ่มต้นใหม่ด้วยเงินเดือนที่น้อยนิด แต่ก็ค่อยๆเยียวยาตัวเองขึ้นมาทีละนิด
ปัญหาคาราคาซังที่บ้านเป็นสิบๆปีก็เหมือนกำลังจะจบลง เรื่องสมบัติที่เคยเป็นปัญหาก็ถูกเคลียร์ได้ในปีนี้ และพอมาถึงท้ายปีก็เหมือนมีสัญญาณบางอย่างบอกว่าเรื่องมี่เคยทรมานมาตลอดกำลังจะจบลงแล้วล่ะ ช่วงต้นปีนี่อย่างเดือดเสียหายไปหลายแสนแล้วมันก็ค่อยๆแผ่วลงมา เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างแม่งกำลังจะเปลี่ยนแปลงในปีนี้ไปทั้งหมด
ตั้งแต่ต้นปียันตอนนี้เหมือนทุกปัญหาแม่งมาติดๆ กูผ่านอันนึงมาได้กูก็เจอกับอันอื่นต่อเนื่องมาเรื่อยๆแทบไม่มีช่วงให้พัก กูต้องพยายามอดทนและก้าวข้ามทุกอย่างมาทั้งปีเลย และแต่ละเรื่องก็เป็นเกือบๆทุกเรื่องในชีวิต ทั้งเรื่องกีฬา ความสัมพัน ครอบครัว งาน ความเป็นอยู่ เงิน สมบัติ มีเรื่องมาให้กูแก้ตลอด นิสัยกูก็เปลี่ยนไปด้วย แนวคิดก็เปลี่ยน
ปีนี้แม่งมีค่ามากเลนว่ะ เหมือนกูกำลังจะพ้นผ่านชีวิตช่วงต้นแล้ว และปีหน้าจะเป็นการเริ่มต้นชีวิตช่วงปลายของกูแล้ว ขอบคุณทุกสิ่งที่ประดังประเดเข้ามาในปีนี้จริงๆว่ะ ตอนนี้กูพร้อมแล้ว
กูไม่ค่อยชอบตัวเองตอนนี้เลยวะเพื่อน
คือกูคบกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้าอยู่ อห ตลกสัส
แต่กูชอบเขานะ แบบ อห กูชอบอะ
แต่คือเขาอยู่ ตปท กูอยู่ไทยแลนด์อะมึง
ละแบบ เขาเหมือนจะไม่อยากกลับมาอยู่ไทยแล้ว
เขาเคยพูดกับกู
ละกูแบบ อห แล้วกูอะ กูควรอยู่ตรงไหน คือแทบไม่ได้เจอกันเลย
จริงๆเขาจะกลับมาไทยปลายปี
แต่มันก็แค่แปปเดียวอะ
จากที่กูเคยอยากมีอนาคตกับเขา
แต่ตอนนี้คือแบบ กูสงสัยว่าตัวกูเองอะ อยู่ในอนาคตของเขาบ้างหรือเปล่า
ถ้าจะให้กูตามไปนู้นเลยกูก็ทำได้นะ
แต่เขาอยากให้กูไปหรือเปล่าไม่รู้
ขนาดพูดเรื่องอนาคตเขายังเลี่ยงเลย กูควรทำตัวไง
ตอนนี้กูแบบ ไม่รู้จะพูดยังไงเรื่องนี้
คือกูอยากพูดซีเรียสๆกับเขาซักที
แต่กูแค่กลัวว่าเขาจะหายไห
กูไปดูที่ตัวเองเคยระบายไว้ตอนเด็ก จะไม่ว่าตอนเด็กหรือตอนนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
ตัวกูอะเปลี่ยนแต่สังคมรอบข้างไม่เคยเปลี่ยนเลย
สังคมรอบข้างที่คอยเอาแต่แกล้งกู กดหัวใช้งานกูแล้วอ้างว่าเพื่อนกัน แต่เวลาว่างไม่เคยมาคุยกับกู ปล่อยให้กูนั่งเป็นหมาหัวเน่าคนเดียว
จนกระทั่งมาถึงจุดที่กูไม่ต้องการใครแล้วพวกมันกลับมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตอีกครั้งหนึ่ง แต่คือกูปิดใจ มันปิดตายไปแล้วไง
กูรู้ดีเลยว่าถ้าเปิดใจจะเป็นยังไง พวกมันไมไ่ด้อยากเป็นเพื่อนกับกู ไม่ได้รักกูและไม่ได้เป็นห่วงกู แต่มันแค่อยากเอากูไปเม้าท์เป็นประเด็น ขนาดตอนนี้กูไม่ยุ่งกับใครยังเป็นประเด็นให้แกล้งได้เลย
พวกมันเอาแต่ด่าว่าทำไมกูเงียบ เป็นใบ้เหรอ ปากมีให้พูดก็พูด แต่พวกมันไม่เคยถามเลยเพราะอะไรกูถึงเป็นแบบนี้ เพราะพวกมันเอง กูทำงานพลาดครั้งเดียวเอากูไปประจาน ทีมันทำพลาดบ้างแม่งเก็บเงียบ (กูแค่ทำน้ำหกใส่งาน แต่ดีมันเป็นผ้าและสีน้ำเลยแก้ง่าย แต่ทีพวกมันลงสีผิดหมดแล้วเอางานฉาก 4 อันที่กูทำไปทิ้งหมดแม่งยังโทาเลยพวกกูผิด อีควัย)
กูกำลังลุ้นอยู่ว่ากูจะมีชีวิตรอดไปแบบคนตายหรือจะไล่ฆ่าพวกแม่งทีละตัว ลุ้นชิบหายเลย ต้องอยู่กับพวกแม่งอีก 2 ปี ทรมาณใจชิบหาย
กูลืมตามาดูโลกในถ้ำแห่งนึงก็เจอแกะเลียไข่แพะเลียหน้า โดยที่แม่กูนั้นหลังจากคลอดกูเสร็จก็เอ๋อแดกวันๆคลั่งแต่จะเย็ดยะโฮวาๆ เป็นบ้าคลั่งเอาผ้ามาคลุมหัวแล้วขโมยบันไดลิงชาวบ้านเค้าขึ้นไปแหกปากเรียกยะโฮวานัดเย็ดบ่อยๆจนกูเอือมระอาจนเค้าเรียกกันมาพระแม่มารี กูเลยต้องหาทางเป็นจิตแพทย์รักษาแม่กูให้ได้เลยไปลงเรียนกับกวดวิชาติวเตอร์โรงเรียนโมเสส ซึ่งแม่งสอนแต่บัญญัติสิบประเกรียนน่าเบื่อสัส เพราะกูสอบได้ที่หนึ่งตลอดในกรุงเย็ดรูสลิ่มก็เลยจัดติวในที่สาธารณะบ่อยๆ คนก็เลยนับหน้าถือตาบริจาคเงินทองมาให้กูจนกูเอาเงินซื้อหลังคาบ้านให้แม่กูตาลอยๆยืนขอนัดเย็ดกับพระยะโฮวาตลอดส่วนกูต่อมาก็เริ่มค้ายาจนมีลูกสมุน12ตัว แต่ไอตัวสุดท้ายเสือกบอกตำแหน่งรับ-ส่งของให้เอเย่นผิดที่ ทหารก็เลยบุกไปที่บ้านไอยูดากลูกกระจ๊อกคนสุดท้ายแต่มันเสือกสาวตัวมาว่ากูบงการยังดีที่กูไปหาแพะรับบาปเป็นขอทานขายตูดข้างถนนมาตรึงไม้กางเขนแทนได้กูเลยรอดตัวไปซ่อนตัวมานานจนศาสนากูเสื่อมทรามเพราะมันไม่ทำธุรกิจผลิตยาแล้วแต่เสือกตั้งโบสถ์และตั้งสาวกมาล่อลวงเด็กผู้ชายไปเย็ดแทน. กูขยะแขยงมากเลยมาตั้งศาสนาอิสลามแทนแล้วหาสาวกมากราบรูปปั้นเช้าเย็นเย็ดหมูทุกเทศกาลศีลอด ส่วนไอซิสอ่ะกูตั้งสาขาแยกมาเพื่อค้าน้ำมันให้พม่ากับตลาดมืดเมกัน นี่ถ้าไอสิตถัตถะแม่งไม่บอกวิธีการเป็นอมตะป่านนี้กูตายไปนานละ
>>35 ถ้าแม่รี่ของมึงใช่มาเรีย แมคดาลาของกู กูรู้สึกว่าข้อพิพาทนี้มีมานานละ แต่กุไม่รผุ้ว่าหนึ่งในสาวกของจีซัสจะมีนางรวมอยู่ด้วย นึกว่าเป็นชายล้วน
แต่มาเรียเนี่ยกุเคยอ่านเจอว่านางจะเป็นเหมือนคนที่คอยปรนนิบัติดูแล ล้างเท้า บลาๆๆให้จีซัส ซึ่งคนกผ้คิดว่านี่แหละคือเมีย แต่ด้วยฐานะศาสดาจะให้มีเมียออกนอกหน้าไม่ได้เด๋วไม่ขลัง นางเลยอยู่ในฐานะผุ้ติดตามบังหน้า แต่ถามจากเพื่อนชาวคริสบอกว่าไม่ใช่ นางเป็นแค่สาวกเฉยๆจีนัสไม่มีเมีย ก็ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน แต่จะเป็นเมียหรือไม่กูเชื่อว่านางรักจีซัสมากๆอ่ะ ในฐานะชายหญิงเลยและกูก็เชื่อว่าจีซัสก็เอานางเหมือนกันไม่งั้นแม่งผิดวิสัยเกินไปมาก ในความเห็นกู กูเลยเชื่อว่ามาเรียคือเมียจีซัสว่ะ
แต่จะว่าไปพวกมึงเคยดูเอ็มวีเลดี้กาก้าเพลงจูดาสใช่ป่ะ ไอ้เหี้ยแม่งแต่งให้จีซัสเป็นหัวหน้าแก้งซิ่งแล้วมาเรียเป็นสก๊อยที่รักทั้งจีซัสและจูดาส ซึ่งแม่งโชว์ชัดๆเลยว่าพวกแม่งมีซัมติงแน่นอล กูล่ะสงสัยว่าเลดี้กาก้าไม่โดนชาวคริสไล่ฆ่าแบบสงครามครูเสดบ้างหรอวะ ลบหลู่ศาสดา
>>37 >>38 ตอนกูดูครั้วแรกแม่งคิดว่ากาก้าจะโดนลากมาเผามั้ย แต่ก็ไม่โดนไรนะ มีคนต่อต้านหรอ
แม่งกล้ามากให้พระศาสดาเป็นหัวหน้าแก้งซิ่งที่มีสก๊อยมาเรียนั่งท้าย แล้วมาเนียแม่งเสือกแสดงออกแบบกูเป็นสาวของจีซัสนะแต่ก็แอบกิ๊กกะจูดาส กูเลือกไม่ได้เลยโดนปาหินเลย แบบชาวคริสต์จะคิดไงเพราะพวกนั้นปฎิเสธอย่างแรงเรื่องจีซัสมีเมีย แต่อันนี้ชัดๆว่าจีซัสทั้งมีเมียทั้งแว้น แถมเมียมีชู้อีกสัส 55555 เอาประเด็นอ่อนไหวมาเล่นแม่งกล้ามาก แถมใส่ชื่อนักบุญมาครบ จากนักบุญผู้ใสสะอาดกลายเป็นร๊อคแอนโรลเลยสัส
>>37Jesusไม่แปะชื่อแต่สวมมงกุฏหนามชัดเจนขนาดนั้นกูชักไม่แน่ใจแล้วว่าหลีกเลี่ยงดราม่าหรือจงใจทำให้ดูเกรียน
>>39 ประเด็นเอานักบุญมาเป็นแว้นแถมมีเล่นชู้นี่เข้าใจนะว่าโคตรเสี่ยง แต่กูไม่เข้าใจว่าทำไมชาวคริสต์ถึงไม่ยอมรับการที่จีซัสมีเมียกันขนาดนั้น คือกูเป็นเอทิสต์ที่มาจากครอบครัวพุทโธเลี่ยนน่ะ แต่เท่าที่กูเห็นคำสอนของจีซัสเหมือนเน้นเรื่องความรักความเมตตากับการให้อภัย ไม่ได้ให้สละทุกอย่างทางโลกแบบสิทธัตถะซะหน่อย มีเมียก็ไม่เห็นผิดตรงไหน
สิทธัตถะยังเคยมีเมียก่อนทิ้งเมียมาบวชเลย ส่วนมูฮัมหมัดมีเมียตั้ง13คนไม่เห็นใครเดือดร้อน ทำไมจีซัสมีเมียไม่ได้อยู่คนเดียววะ
>>40 เพื่อนชาวคริสต์ของกูบอกว่าการที่จีซัสมีเมียมันทำให้ดูไม่น่าเลื่อมใสอ่ะ แบบมันดูไม่บริสุทธิ์ที่จีซัสจะมีความรักให้ใครคนใดคนหนึ่งเพราะจีซัสมีหน้าที่มาชดใช้บาปให้กับทุกคนเพื่อเผยแพร่ความรักจากพระเจ้าสู่มนุษย์
จีซัสไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อใช้ชีวิตหรือมีความสุขแต่ถูกส่งมาเพื่อชำระบาปอ่ะมึง มันจะออกแนวผิดวัตถุประสงค์แล้วคนจะไม่ศรัทธา จีซัสไม่ควรคิดถึงเรื่องของตัวเองไรงี้ เป็นศาสนาแห่งความรักแต่ไม่ใช่กามารมณ์ รักด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆเหมือนที่พระเจ้ารักมนุษย์จนยอมส่งลูกตัวเองมาชดใช้บาปให้มนุษย์อ่ะ พอจะเก็ตมะ
กูสงสัยว่ะ ว่านี่โม่งเล่าปัญหาชีวิตหรือเรื่องศาสนา
หวัดดี ขอมาระบายอะไรหน่อยนะทุกท่าน
เพิ่งได้งานใหม่ แล้วที่ทำงานเพื่อนร่วมงานมีคนเดียว ผมเป็นผู้ชาย เพื่อนร่วมงานเป็นผู้หญิง
คือผมไปชมเพื่อนร่วมงาน(ที่อายุเยอะกว่า มีผัวแล้ว)ว่าแบบ ยังสวยอยู่เลย หรือแบบ ยังหุ่นดีอยู่เลยนะ อะไรทำนองนี้น่ะนะ
จะบอกว่าไม่ได้หวังอะไรเลยก็โกหก คือลึกๆก็หวังแหละ ให้เขาเล่นด้วย แต่เรื่องมันบานปลายชิบหาย คือถึงขั้นพี่แกไปฟ้องเจ้านาย
เจ้านายเลยเรียกผมคุย ผมก็โอเครับทราบนะ ว่าเขาไม่โอเค แล้วคิดว่าจะหยุดพฤติกรรมแบบนี้ ทีนี้
พอหลังจากที่ผมโดนเรียกคุย ผมก็ขอโทษขอโพยเขาทันทีในอีกวันเลย พูดไปประมาณว่า ถ้าพี่ไม่โอเคหรืออะไร ต้องขอโทษจริงๆ
เรียกได้ว่าผมขอโทษอย่างจริงใจ(ซึ่งผมก็คิดอย่างนั้นจริงๆ) แต่ยังโดนหน้าตึงใส่ แล้วพูดประมาณว่าแกเอาไปเล่าให้แฟนแกฟังแล้ว
เกือบๆว่าจะมาเอาเรื่องผมที่ทำงานเลย ผมนี่ใจหายเหี้ยๆ แต่ดูแล้วเรื่องน่าจะจบตรงนี้แลกกับการที่ผมต้องอึดอัดในการทำงานไปไม่รู้อีกนานขนาดไหน
ขอท่านทั้งหลายแสดงความคิดเห็นกันหน่อยเถิด ถือเสียว่าผมมารับคำด่าจากคนอื่น(เพราะไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง)เพราะตอนนี้ เรื่องที่เกิดขึ้่นนี้
มันมีผลต่อความรู้สึกผมเยอะจริงๆเลย กังวล อับอาย กลัว และอะไรหลายๆอย่าง มันมากกว่าที่คิด ขอน้อมรับผิดครับ
ขอบคุณพื้นที่
กูก็เคยเมื่อหกเจ็ดปีที่แล้ว มันมีเว็บเอาไว้คุยแชทกันได้ แล้วส่วนใหญ่ที่เล่นเป็นพวกเพ้อฝัน อ่านนิยายรักไรเงี้ย 55 ละกูเบื่อชีวิตผู้หญิงมากเลยโกหกคนอื่นว่าเป็นผู้ชาย จนมีคนมาจีบ ละแม่งก็คบกันจริงจัง คุยกันผ่านโทรศัพท์ แต่กูไม่ได้ชอบเค้าอยากคบเล่นๆเฉยๆ กูก็บอกเลิกเค้าไปหลักจากคบไปได้เดือนนึง แม่งร้องไห้ชิบหายเลย กูรู้สึกผิดมากๆเลยว่ะ จะไปขอโทษเค้าก็ไม่รู้จะไปขอโทษที่ไหน
>>48 หวัดดี >>46 เอง พูดถึงแค่ที่ผมพูดในเบื้องต้นจริงๆว่า "พี่ยังสวยอยู่เลย" หรือ "พี่ใส่เสื้อผ้าแบบนี้แล้วเหมาะกับพี่มากเลยนะ" หรือ "พี่หุ่นดีจังเลย"
คือเขาเซนส์สิทีฟมากไปประมาณนั้นล่ะมั้ง แต่ทั้งหมดทั้งมวล ผมก็พูดได้ว่าไม่ได้ชมแบบ "ไม่คิดอะไร" หรือ "ตามมารยาท" จริงๆ แต่รับประกันได้เลยว่า
คำพูดที่ใช้ ไม่มีอะไรมากกว่านี้แน่นอน(อย่างพวกพี่น่าเอาจังหรือนมใหญ่จังนี่ตัดไปเลย)
>>49 ขอบคุณที่ตอบครับ ผมคงเข็ดไปอีกนานเลยล่ะ เข็ดเหี้ยๆเลย ฮ่าๆ
ขอบคุณพื้นที่อีกครั้ง ที่ได้เหมือนว่ามีคนรับฟังผมอยู่ ขอบคุณบอร์ดโม่งครับ
เอาจริงๆถ้าเค้าไม่ได้ถามความเห็นก็ไม่ควรไปทักเรื่องหุ่นนะ ต่อให้ดีหรือไม่ดีก็ตาม ถ้าไม่สนิทกุจะทักแค่ตอนมีอะไรพีคๆ แบบเปลี่ยนสีผมก็ชมว่าเข้ากันมาก ถ้าหุ่นดีขึ้นก็ทักว่าผอม ไม่ทักอะไรที่มันคิดไปทางแง่นั้นได้แม้จะนืดเดียวก็เหอะ
กูเป็นกะหรี่ขายตูดให้เกย์ฝรั่งที่พัทยามาตั้งแต่มัธยมแต่พอเริ่มเข้าช่วง ม.ปลายกูเริ่มไม่มีลูกค้าเข้าหาเงินก็เริ่มไม่มีและกลังจากนั้นกูได้เจอกับสถาบันสอนโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่าโค้ดสตาร์ มันเคลมว่ากูเรียนจบจะหาเงินได้แน่ๆกูเลยลองจ่ายเงินเข้าไปเรียน ตอนแรกกูเสียเงินเรียนนะแต่โชคดีที่พี่ชัยครูฝึกสอนกรุ๊ปที่กูเรียนค้าอยากดูดควยกู กูเลยให้ข้อแลกเปลี่ยนว่าขอเรียนฟรี พี่ชัยเลยเปย์ใก้จนกูผ่านหลักสูตรด้านการเขียนเว็บ พอกูจบม.ปลายกูก็เลยรับจ๊อบเขียนโปรแกรมแทนขายตูดตามย่านกะหรี่จนทุกวันนี้กูผ่อนคอนโดได้และมีงานประจำทำเงินเดือนหลายหมื่นมาเป็นเวลา15ปี กูทำเว็บบอร์ดนิรนามเป็นไซด์โปรเจคแถวๆนี้ด้วยแหละ ลูกเว็บน่ารำคาญมาก แต่ส่วนมากที่เป็นเด็กคอสคือน่าเย็ดและอยากเซอร์วิสควยให้ ต้องขอบคุณ Codestarที่ทำให้กูมีวันนี้
>>51 ชมชุดนี่ยังเฉยๆว่ะ ชมว่าสวยนี่กลางๆ แต่เรือนร่างนี่ไม่ควรไปยุ่งว่ะ ยิ่งมึงพูดเองว่าก็แอบสนใจ มึงคงมีกิริยาที่แสดงเจตนาออกมาโดยรู้หรือไม่รู้ตัวด้วยแหล่ะ ถ้ามีงอยากชมแบบเป็นธรรมชาติก็ต้องชมทุกคน แต่ถ้าชมทุกคนผู้หญิงก็จะคิดว่ามึงไม่มีเจตนา ก็ไม่มีใครเล่นกับมึง ก็ผิดเจตนามึงอีก
เจตนามางี้ ก็เลยทำงี้ ก็ต้องโดนงี้ป่าววะ
>>51 กูว่ากริยามึงออกนอกหน้าไปด้วยรึเปล่า ชมว่าสวย หุ่นดีแนวหื่นๆอะ ความถี่ในการชมของมึงนี่ขนาดไหน มีอีเวนต์อะไรก่อนหน้านี้ถึงได้พูดออกไปแบบนั้น แล้วยิ่งมึงเป็นคนเข้าใหม่ ความสนิทสนมยังไม่มี อยู่ๆมาชมว่าสวยหุ่นดี ทำแบบนี้ผู้หญิงเขาไม่ชอบและรู้สึกอึดอัด มันดูคุกคามทางเพศมากๆเลยนะ ถ้าเขาไม่ได้ถามความเห็นเรื่องชุดหรือเรื่องรูปร่างหน้าตาก็ไม่ควรไปพูดว่ะ มันจะเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาทันที แบบ...มึงมายุ่งอะไรกับหุ่นกูวะ ถ้าเจอเพื่อนร่วมงานชายมาพูดกูหุ่นดีแบบนี้แบบนั้น กูคงแหยงๆไม่อยากเข้าใกล้อะ
>>51 แค่คำพูดดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จากที่เล่าแล้วที่เรื่องถึงบอสถึงแฟนเค้านี้ กุว่ามันมีอย่างอื่นมากกว่าคำพูดอย่างที่โม่งบนๆว่ามาแหละ
เมื่อก่อนกุก็เคยเจอรุ่นน้องหวังเต๊าะแบบนี้เลย
กิจกรรมมหาลัยเพิ่งเริ่ม2วัน ไอ้นี่ก็แม่งชมทุกอย่าง(คำพูดไม่sex harassนะ แต่กุว่าแววตาแม่ง) พูดแล้วยังรู้สึกไม่ค่อยดีอยู่เลย ที่เหี้ยคือเพื่อนกุ เชียร์ให้กุได้จัง สัสไม่ใช่นิยายโรแมนนะ ดีที่รอดมาได้
กูชอบเป็นศูนย์กลางเพื่อนๆ อยู่กับคนเยอะๆ กูเป็นคนอัธยาศัยดีเหี้ยๆ มีแต่คนรัก แต่พอเริ่มเข้ามหาลัย แฟนกูไม่ชอบให้กูยุ่งกับผู้ชาย ขนาดเพื่อนกูเป็นกระเทยและผู้หญิงแฟนกูมันยังหึง กูไม่มีเวลาให้เพื่อน หรือแม้แต่ตัวเองเลย เล่นเกมอะไรกูก็ต้องเล่นกับมัน ต้องไปเที่ยวกับมัน ต้องไปกินข้าวกับมัน เว้นแต่เวลาเรียนที่กูจะมีอิสระ เพราะเรียนกันคนละม. จนเพื่อนกูเริ่มเท กูไม่อยากไปเรียนเพราะปกติกูไปเรียนพร้อมเพื่อน เพื่อนกูเทกูก็ไม่มีแรงจูงใจไป กูไม่ออกจากหอ โผล่หัวไปเซเว่นเฉพาะตอนกลางคืนเพราะไม่อยากเจอหน้าเพื่อนในคณะ จนกูเป็นโรคซึมเศร้าหนักแบบไม่คุยกับใครเลย ทั้งครอบครัว ทั้งแฟน คือกูหายหัวไปเลยปิดมือถือไม่ให้ใครติดต่อได้ กูรู้สึกสบายใจมากที่ได้ตัดขาดจากทุกอย่าง แต่กูก็แอบส่องเฟสแฟนกูเหมือนเขากังวลเป็นห่วงกู กูก็รู้สึกผิดเลยโผล่หัวไปให้เห็น ตอนนั้นพ่อแม่โทรมาด่ากูว่าทำให้คนอื่นเป็นห่วง คนอื่นเขาเกือบแจ้งความคนหายไปแล้ว จากนั้นกูก็เริ่มห่างจากแฟนกู แต่แฟนกูยังงอแงโทรหากูทำให้กูเครียดซ้ำซาก กูก็เลยหนีไปต่างจังหวัดเงียบๆ ตอนนี้คือกูไม่เรียนแล้ว เอาเงินค่าเทอมไปเที่ยว ม.เอกชน ค่าเทอมครึ่งแสน สบายไปหลายเลย กูไปเที่ยวหลงแสงสีในโลกที่ไม่มีใครรู้จักกู กูมีความสุขมากเหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ จนกูเริ่มคิดที่จะหนีออกจากบ้านไปหาความสุขใส่ตัวแล้วก็ตายอย่างเงียบๆ ที่ไหนสักที่หนึ่ง....
โปรดติดตามตอนต่อไป
ปล. ตอนอยู่ ม. น้องกูพึ่ง 5 ขวบ ตอนนี้น้องกูมันกลายเป็นสก๊อยไปละ กูแม่งปวดหัวกว่าเดิมอีก
กุเว้ย มีผัว ละด้วยความที่กุมีผัวไวกุไม่ได้รักมันนะ แต่แม่ชอบ แม่บอกโง่ดี เออ ก็ดี ก็เอา ละกุก็หาความรัก หาความเนื้อหอมด้วยการไปอ่อย ไปคุยกับผู้เว้ย ไม่ได้เชิงรุกนะ แต่มีแบบ เป็นไงบ้าง สู้ๆ นะ อย่าท้อนะเว้ย เออ คุยน่ารักๆ งี้ จนชินกับการเป็นคนที่เพื่อนๆ รักมากกกก จนวันนึง ฝึกงาน มาฝึกใกล้บ้านแฟน ละความพิเศษที่เคยได้ ไม่มี แฟนกุโง่มากกกกกก
กุเลยเลิกกับแฟนเว้ย ละผลคือ เพื่อนหญิงแม่งหายหมด ไม่ปลอบไม่เหี้ยไรกุเลย สงสัยกลัวเป็นหมา กลัวกุคืนดีกับผัว ส่วนเพื่อนผู้ มันเอาแต่เฮิร์ทคนคุยที่เข้ามาให้ความหวังละไปมีแฟน บางคนก็ด่ากูสาดเลยว่ากูแม่งสำส่อน อ่อยไปทั่ว ไอเพื่อนคนอื่นได้ยินก็วงแตก หายเข้ากลีบเมฆไปหมดกลัวจะเป็นข่าวมือที่สามให้อับอายขายขี้หน้า จนตอนนี้กับเพื่อนกุก็ไม่เหมือนเดิมละ ไม่เหลือสักคนอ่ะ อันนี้พูดแบบจริงจังเลย กำลังหางานอยู่หวังว่าสังคมทำงานใหม่จะอบอุ่น
กูมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานว่ะ เป็นทีมทำงานมหาลัยไรงี้ เขาถามความสมัครใจกูก็ตอบแบบเออ กูไม่นะ แต่เขาก็บังคับให้กูใช่
ไม่เข้าใจว่าถ้าเป็นแบบนี้จะถามเพื่อ หลายรอบละ
หงุดหงิดจนไม่มีอารมณ์ทำงานด้วยเลย กูแม่งอยากออกจากทีมอะ แต่ออกไม่ได้
พยายามจะสงบสติอารมณ์
ทำไมกระทู้นี้กลายเป็นศูนย์รวมขยะมาอวดความเหี้ยของตัวเองไปแล้ววะ -____-` ที่เหี้ยกว่าคือแต่ละคนที่มาเล่าไม่คิดว่าตัวเองเหี้ยด้วย ตั้งแต่แรกเนื้อหามันก็ซ้ำซ้อนกับกระทู้อื่นอยู่แล้วด้วย กูว่าเลิกคุยในนี้แล้วปล่อยตกเหอะ
หลงรักผู้ชายหัวปักหัวปำจนคิดว่าถวายชีวิตให้เขาได้แต่เขามีเมียแล้ว และเขาก็พยายามเว้นระยะห่างกับกูเมื่อรู้ว่ากูชอบเขา ตอนนี้กูคุยกับเขาน้อยลงแล้ว ทีแรกก็ฟูมฟายทำไมๆกูไม่เจอเขาก่อนแฟนเขา เขาก็ปลอบกูแล้วเชียร์ให้กูเอาเวลาว่างไปพัฒนาตัวเองหลายๆอย่าง(บอกไปโม่งแหกแน่กูพิมพ์แค่พัฒนาตัวเองละกัน) กูก็พยายามตามที่เขาบอก ผลคือกูหายฟูมฟายแล้วยังมีอะไรทำมากขึ้นตอนว่างๆ ไม่ดูหัวกลวงไร้แก่นสารแบบที่ผ่านมา ถามว่ากูยังชอบเขาไหม กูยังชอบเขาอยู่ ชอบเหี้ยๆ ชอบจนคิดว่าคงชอบใครใหม่ไม่ได้แล้ว แต่กูก็ยังคงพยายามทำตัวให้ดีขึ้นและคุยกะเขาน้อยลงเพราะกูอยากให้เขาภูมิใจที่กูชอบเขามากจนเปลี่ยนตัวเองขนาดนี้แม้ทำแค่ไหนเขาจะไม่หันมามองกูก็เหอะ
ถึงตอนนี้กูยังไม่ดีขึ้นแต่กูเชื่อว่าอนาคตกูจะเป็นคนที่ดีกว่านี้และมองเขาเป็นแค่พี่ชายได้ในสักวันหนึ่ง แบบนี้นับว่าผ่านปัญหาได้ไหมวะ
ชอบพี่คนนึงที่เรียนด้วยกัน ตอนเขาเรียนจบเลยกลั้นใจบอกรักไปเพราะอยากตัดใจ แต่เขากลับไม่ปฏิเสธแล้วก็บอกว่าขอดูใจกันไปก่อนได้มั้ย เราก็เผลอดีใจ ทุกวันหลังจากนั้นมีแต่กันและกันในชีวิต เช้ามาก็ต้องคุยกัน ระหว่างวันก็คุยกัน ก่อนนอนก็คุยกันจนดึก เขาชอบเล่นเกมก็ติดเกมเป็นเพื่อน เขาอยากให้เปลี่ยนสไตล์แต่งตัวไปเป็นแบบน่ารักๆใส่กระโปรงก็ทำ เขาไม่ชอบที่เราบ้าดาราเราก็ลดลง อยากไปเที่ยวไหนก็ไปด้วยกัน เป็นแบบนี้อยู่หลายเดือนทั้งๆที่เขาไม่ขอเราเป็นแฟนเลยด้วยซ้ำ จนวันนึงเขาชวนเราไปที่ห้องแล้วบอกให้เชื่อใจ จะไม่บังคับขืนใจอะไรทั้งนั้น เราก็ไป ตอนแรกๆก็แค่นั่งเล่นกันปกติ แต่จู่ๆเขาก็เริ่มรุกใส่ จูบแรก และอะไรหลายๆอย่างตามมา แต่ความกลัวที่มันมีเต็มไปหมดเลยขอให้หยุด เขาก็หยุด ไม่บังคับอะไร แต่เขาดูไม่ร่าเริงเหมือนปกติ หลังจากวันนั้นก็คุยกันน้อยลง ไปไหนคนรอบตัวก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกัน ไม่รู้ว่าดูใจกันด้วยซ้ำ ทักไปก็ไม่ค่อยตอบ เหมือนเป็นแค่ธาตุอากาศ ทำตัวไม่ถูกกับชีวิตที่ไม่มีเขาแล้ว รู้สึกเหมือนเราเปลี่ยนอะไรตั้งเยอะเพื่อที่จะอยู่กับเขาให้ได้ แต่พอเขาหายไปก็ไม่รู้ว่าต้องใช้ชีวิตยังไง จนบางครั้งก็คิดโง่ๆไปว่าถ้าตอนนั้นยอมมีอะไรด้วยคงไม่เป็นแบบนี้ รังเกียจร่างกายตัวเองที่เกือบเผลอใจ แต่ก็เกลียดตัวเองที่ยังรักเขาทั้งๆที่เขาทำแบบนี้ พยายามจะหาอะไรทำ มีชีวิตใหม่ๆที่ดีกว่าและลืมเขา แต่เขาก็ยังกลับมาเรื่อยๆ แล้วก็ทำให้อยากร้องไห้ได้ทุกครั้ง เราไม่เข้าใจ ก่อนหน้าที่เขาจะรู้ว่าเราชอบเขา เขาเป็นคนดีมากๆ ดีกับคนรอบข้าง ดีกับครอบครัว แต่ทำไมถึงทำแบบนี้กับเราได้ :( อยากให้คนดีที่เราเคยรักคนนั้นกลับมา แต่ล่าสุดเจอกันแทบไม่มองหน้ากันเลย เขาคงไม่กลับมาแล้ว
>>76 จากที่อ่าน ทำให้กูเข้าใจว่าจุดเปลี่ยนคือเรื่องที่มึงไม่ยอม และมันไม่แน่เสมอไปหรอกว่าถ้ามึงยอมแล้วเขาจะไม่เป็นแบบนี้ อาจจะเป็นแบบเดิมก็ได้ อาจจะแค่อยากเย พอได้เยก็คงตีตัวออกห่างอยู่ดี อย่างกรณีมึง เขาอาจจะรู้ว่าไม่ได้เยแน่ๆ ก็ตีตัวออกห่างไปหาเอาข้างหน้าแทน สรุปคือเหี้ยไง
>>76 บางคนเป็นเพื่อนที่ดี แต่ไม่สามารถเป็นแฟนที่ดีได้นะ บางทีตอนที่ยังไม่ดูใจกันมึงอาจจะไม่ได้เห็นเค้าอย่างที่เค้าเป็นจริงๆเพราะมึงชอบเค้า มันก็จะหน้ามืดตามัวหน่อยๆแหละ แต่วันนึงพอได้รู้ความจริงมึงก็มองเห็นอะไรที่ชัดเจนขึ้นเลยรู้ว่าจริงๆแล้วเค้าไม่ใช่คนดีอย่างที่มึงต้องการ
กูไม่รู้จะไประบายที่ไหน เอาในนี้ละกัน คือกูเรียนถาปัตย์ งานกูโปรเจคล่าสุดมันดันไปเหมือนเพื่อนสนิทที่บังเอิญได้ไซต์เดียวกัน แล้วช่วงก่อนหน้าพวกกูเคยคุยเรื่องคอนเซ็ปต์งานกัน ตอนนี้เหมือนเพื่อนจะหาว่ากูลอกงานมัน กูเครียดชิบหาย รู้สึกเสียศักดิ์ศรีและความรู้สึกอ่ะT T กูไม่น่าคุยงานกับแม่งเลย ไซต์มันข้อจำกัดเยอะมากๆๆๆจนทำได้ไม่กี่อย่างอยู่ละอ่ะ แม่ง
ผ่านมาได้เพราะตัวเองแหละ
Topic has reached inactivity threshold.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.