>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
Last posted
Total of 1000 posts
>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
อีกครึ่งปีกลับไทย
ทางบ.ลูกที่ไทย อยากให้กลับไปทำ แต่ต้องขับรถ30โลนิดๆ ถ้าจะซื้อคอนโดมือ1ในโซนใกล้ที่สุดว่ะ
มันไกลไปปะวะ กูอยากมีบ้านเป็นชื่อตัวเองซะทีด้วยดิ
>>>/lifestyle/2284/998-1000
สรุปว่าข้าราชการส่วนกลางนี่ชั่วโมงการทำงานเหี้ยมาก อยากสบายต้องลงต่างจังหวัดซินะ
>>>/lifestyle/2284/1000
กระทรวงเย็ดธงนี่พวกคมนาคมป่ะวะ
เออ เห็นบ่นๆว่าข้าราชการงานโหดแล้วพวกรัฐวิสาหกิจจะเป็นงี้ด้วยป่ะวะ? ได้ยินมาว่าลูกเพื่อนแม่ทำงานพวกไปรษณีย์ไทยโคตรสบาย บางที่ที่เป็นรัฐวิสาหกิจด้วยกันเบิกโอทีได้อีกแหนะ
ราชการส่วนกลางมันใกล้นักการเมือง มี รมต.คุม นายอยากได้อะไร นายสั่งอะไรต้องจัดให้ อยากสบายจริงให้ลงพื้นที่บ้านนอก ยิ่งห่างไกลความเจริญ มีจำนวนประชากรน้อยยิ่งสบาย
ปล. กูเคยสังเกตหน่วยราชการบนศาลากลางนะ ส่วนมากเลิกตามเวลา โดยเฉพาะสรรพกรจังหวัดนี่เห็นแล้วอิจฉามาก ตกแต่ง สนง.ยังกะบริษัทเอกชน แถม16.00 ก็เลิกงานกันแล้ว
ถ้าพอครบโปรสามเดือนแล้วคุยกับหัวหน้าว่าขอไม่ต่อ ขอออก แล้วสัปดาห์นั้นออกเลยมันจะน่าเกลียดไหมวะ? หรือควรอยู่ต่ออีกสักพักรอเขาหาคนใหม่มาทำแทนก่อน..กลัวว่ารอสักพักแล้วมันจะเลยไปเป็นหลายเดือนนี่สิ
สนง.วัฒนธรรมจังหวัดเป็นไงมั่ง เห็นคนโอนย้ายมาตำแหน่งนักวิชาการวัฒนธรรมการบานเลยย
อยากทำสรรพากร ถ้าอยากขึ้นซี8สะดวกหน่อย สมมติภายใน10-15ปีต้องทำไงครับ ตอนนี้มีแพลนจะเรียนกฎหมายราม แล้วก็ต่อโทซักใบนึง จำเป็นต้องเรียนเอกไหม ต้องอบรมบ่อยๆไหมครับ แล้วสอบซี8ที่นี่ยากกว่ากรมอื่นป่าวเห็นว่ามีไม่ผ่านกันหลายคนเลย
>>12 C8 เดิม หรือชำนาญการพิเศษระบบใหม่ กูว่าเป็นระดับที่ไม่ได้ใช้ฝีมือในการสอบอย่างเดียวว่ะ จริงอยู่ว่าเก่งจริงติวมาดีจริงก็ผ่านได้ แต่ระบบของกระทรวงกูคือ คนสอบเป็นใครแล้วจะทำงานให้ใครได้บ้าง
ถ้าอยากวิ่งขึ้น C8เร็วๆก็ปอโทอ่ะ ไวสุด
ครองปฎิบัติการ 4ปี
ครองชำนาญการ 4ปี
ที่เหลือก็ไปวัดดวงตอนสอบ
>>11 ดูจากภารกิจของกระทรวงก็เดาได้เลยว่างานน้อย อีกอย่างกระทรวง วธ. มันลูกเมียน้อยของนักการเมืองด้วย ประมาณว่าตั้งมาเพื่อให้โควต้ารัฐมนตรีกับนายทุนพรรค
เพราะงั้นกระทรวงที่นักการเมืองไม่อยากได้งานจะเบากว่า ไม่ค่อยมีงบ ไม่มีค่อยมีงานให้ทำ ไม่มีนโยบายอะไรที่รัฐบาลสั่งเน้นย้ำ
มหาดไทยที่หนักกว่าเพื่อนเพราะตามกฎหมายมันเปิดช่องให้รับภารกิจจากรัฐบาลได้ทุกอย่าง(เน้นว่าทุกอย่าง)
รัฐบาลอยากสั่งอะไรก็สั่ง ผลคือภาระงานเยอะชิบหาย ทั้งที่ปรกติก็มีหน้าที่ประจำอยู่แล้ว
งานยาเสพย์ติด งานดูแลเกษตร งานลดอุบัติเหตุ บลาๆๆๆ แม่งไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่นายสั่งมาลูกน้องก็ต้องทำ
ในขณะที่กระทรวงอื่นมันมีหน้าที่ชัดเจน ส่วนตัวกูนะ วธ. กับ พม. น่าจะเป็นกระทรวงที่สบายที่สุดแล้วมั้ง
กูใช้วุฒิป.ตรีสอบบรรจุรับราชการ ตอนนี้ผ่านโปรแล้วเลยเพิ่งใช้วุฒิป.โทยื่นขอปรับวุฒิไป ต้องรอเท่าไหร่ถึงรู้ผลวะว่าจะได้หรือไม่ได้ปรับ มันมีแค่หนังสือตอบมาประมาณว่ารับเรื่องแล้วทำนองนั้น
ถาม ป. ปกครองมีการเทรน การสอนงานกันมั้ย ชนิดแบบไม่ต้องมานั่งงมเอง
>>18 ไม่มีว่ะ มีแค่อบรมก่อนลงจังหวัดแค่ 5วัน เนื้อหาการอบรมแม่งก็เหมือนตอนเตรียมสอบนั้นแหละ อธิบายหน่วยงานและงานบนอำเภอคร่าวๆ
พอลงจังหวัดก็แล้วแต่นโยบายผู้ว่า บางจังหวัดผู้ว่าสั่งให้ฝึกงานบนจังหวัดเป็นเดือน บางจังหวัดอำเภอขาดคน ลงจังหวัดได้ไม่กี่วันก็ถีบปลัดใหม่ลงอำเภอไปลุยงานเลย
แต่บนอำเภอจะมีพวกเจ้าหน้าที่สำนักงานอยู่แล้ว รับ ออก หนังสือ ลงกำหนดการ เตรียมรายงานประจำเดือน อะไรพวกนี้
ปลัดทะเบียนนี่สบายสุด มีเจ้าหน้าที่ทำงานให้ หน้าที่คือเซ็นรับรองอย่างเดียว ในเวลาราชการต้องอยู่ติดอำเภอตลอด นอกเวลาราชการอาจจะมีลงพื้นที่บ้างอย่างเช่นตอนนี้มีประเมินผู้ใหญ่บ้าน ปลัดงานอื่นจะออกพื้นที่ในเวลาราชการ แต่ปลัดทะเบียนต้องไปตอนเย็นไม่ก็เสาร์อาทิตย์อะไรงี้
แต่เป็นงานที่มีความเสี่ยงสูงสุดในอำเภอ ถ้าเซ็นไม่ระวังก็ออกจากราชการได้ง่ายๆเหมือนกัน
แต่งานปลัดมันจะมีหนังสือคู่มือของแต่ละงานไว้นะ ว่างๆค่อยหยิบมาอ่านว่าหัวข้องานนี้มันมีขั้นตอนยังไงบ้าง
อ่านอีกรอบ ไม่แน่ใจว่ามึงถามถึง ปลัดอำเภอฝ่ายงานปกครองรึเปล่า สายนี้ก็ไม่มีการสอนงานนะ แต่ก็นั้นแหละ มีหนังสือคู่มือ
พวกงานทะเบียนปืน ทะเบียนโรงแรม งานกำนันผู้ใหญ่บ้านอะไรพวกนี้
อันนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับวัยทำงานนะ เเต่อยากถามพี่ๆหน่อยครับ
คือตอนนี้ผมเกรดเฉลี่ย 2.51 เเล้วมันเทอมสุดท้ายด้วยกำลังเรียนวิศวะอยู่ ทีนี้การที่จะสมัครบริษัทใหญ่ๆหน่วยงานใหญ่ๆ เช่น SCG,รัฐวิสาหกิจ ต่างๆ มันบังคับใช้ 2.75ขึ้นไป
คำถามคือ
-เทอมนี้ยังไงมันเทอมสุดท้ายเเล้ว มัน Impossible ที่จะทำให้เกรดเกินกว่า2.75ได้ อย่างดีเลยคิดว่าน่าจะได้เเค่ 2.7 ถ้าผมจบเเล้วผมยังไม่ทำเรื่องจบเเต่ขอลงวิชาเสรีในเทอมถัดไปเพื่อเพิ่มเกรดได้รึเปล่า
-คำถามต่อมาคือ ถ้าทำได้ เเล้วมันคุ้มค่าที่จะเสียเวลาไหม ที่มาถามในกระทู้นี้คือ ถ้าเราทำเรื่องจบไปเเล้วเราก็จะเพิ่มเกรดไม่ได้เเล้วติดตัวตลอดไป ทีนี้ถ้าผมอยากจะไปเรียนต่อเมืองนอก มหาลัยมันก็ต้องดูเกรด ดูพวกtoefl อะไรพวกนี้ หรือจะเป็นเรียนในไทยก็ตามผมไม่รู้ว่า เกรดเกินเท่าไรถึงจะสมัครเรียนต่อโทได้
เหมือนเห็นว่าพวกเอกชนทั่วไปก็รับสมัคร2.5ขึ้นหรือบางเเห่งก็ไม่ดูเลย เเต่การจะสมัครพวกบ.ใหญ่ๆพวกนี้เหมือนต้องมีใบผ่านทาง2.75ขึ้นในการสมัคร
ถ้าทำได้ ไม่ทำเรื่องจบเเล้วขอลงเสรีเพิ่มเกรดได้ก็อยากจะทำซักหน่อย ยอมเสียเวลาเพิ่มซักครึ่งปีเพื่อให้ได้เกรดไว้สมัครงานหน่วยงานใหญ่ๆได้น่ะครับ เสียดายเหมือนกันที่ไม่ตั้งใจเรียนเเต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
>>21
- "ผมไม่รู้ว่า เกรดเกินเท่าไรถึงจะสมัครเรียนต่อโทได้" หาข้อมูลเองสิครับ
ลองคิดเรื่องรีเกรดด้วยรึยัง ส่วนตัวถ้าเป็นผู้พิจารณา ต่อให้ลงวิชาเลือกเสรีหรือวิชานอกคณะเพิ่มในปีสุดท้ายมามากแค่ไหน ถ้าวิชาหลักในคณะทำได้ย่ำแย่ ก็ปัดตกหรืออย่างน้อยหมายหัว และตอนสัมภาษณ์ต้องมีคำถามเรื่องนี้ขึ้นมาแน่ ตอบไม่ดีคือจบ ต่อให้ตอบดีก็ยังมีคู่แข่งเกียรตินิยมอีกมาก เรามีอะไรดีมากกว่าเกรดที่จะเอาไปสู้เค้ารึเปล่า เดาว่าไม่ใช่เด็กกิจกรรมด้วย
>>22 เสริมนิด เอาเข้าจริงสมัครงานบ.ใหญ่น่ะดูเกรดเฉพาะเด็กจบใหม่เท่านั้นแหล่ะ ถ้าทำงานที่แรกที่อื่นซักปีนึงแล้วค่อยไปสมัคร เค้าก็ไม่สนเกรดแล้ว ดูที่สกิลล้วนๆ
แต่พวกที่มีหลักเกณท์แน่ชัดอย่าง เรียนต่อ, รัฐวิสาหกิจ เนี่ยก็ต้องตามนั้น แต่ก็มีวิธีที่ง่ายกว่าคือเรียนตรีเพิ่มอีกตัว/เรียนโทคณะที่ไม่ดูเกรด แล้วเอาเกรดอันใหม่นี่ไปสมัคร
ทั้ง 2 แบบคืออยากให้มองอนาคตให้ไกลกว่าปีแรกหลังจบป.ตรี ชีวิตมันไม่จำเป็นต้องสตาร์ทสวยหรอก มองยาวๆ
เป้าหมายคือเข้าหน่วยงานใหญ่ๆครับ ผมก็พอมีเส้นสายอยู่เเต่ว่าเกรดที่ใช้การสมัครมันไม่ถึง ซึ่งมันเป็นด่านเเรกในการสมัคร ทีนี้เลยสงสัยว่าเราจบเเล้ว เเต่สามารถยังไม่ทำเรื่องจบ เเล้วลงวิชาเพิ่มเกรดได้ไหมเป็นนศ.ตกค้างได้รึเปล่า ผมไม่เคยเห็นใครทำเเบบนี้ด้วยสิ เรื่องรีเกรดจะลองพิจารณาดูครับ
ขึ้นกับฝีมือและผลงานว่ะ ลองนึกดูว่าถ้าเกรดถึงสามารถเข้าไปสมัครได้แล้วมึงมีผลงานอะไรไปตอบเขาเวลาสัมภาษณ์ได้มั้ย ยิ่งถ้าเรียนเพิ่มเอาเกรดโดยที่เกรดวิชาหลักด้อยก็อย่างที่ >>22 บอกต้องมีกรรมการจี้ถามแน่ๆ จี้จริงจังด้วย แล้วคิดจะตอบยังไง เข้าไปแล้วมีฝีมือพอจะร่วมงานกับเค้ามั้ย บ.พวกนี้เข้าได้ก็ไม่ใช่ว่าจบ ยังต้องมีประเมินทดลองงานอีกหลายเดือน เออแต่ถ้าเป็นเด็กเส้นอาจจะสบายกว่าเยอะก็ได้ล่ะนะ
>>24 ถ้าโฟกัสของคำถามคือ"ไม่ทำเรื่องจบได้รึเปล่า"ก็ไปถามห้องทะเบียนที่ม.สิครับ ใครจะรู้ดีกว่านั้น? มาถามในกระทู้นี้ก็ได้แต่คำตอบในมุมของมนุษย์เงินเดือนที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้วแบบนี้แหล่ะ ที่เหลือถ้ามั่นใจในแนวทางที่เลือกก็ทำไป
ถ้าเอาเฉพาะคำตอบของคำถามนั้น มหาลัยที่ทางนี้เรียนคือ "ได้" แต่ถ้าเชื่อคำตอบนี้แล้วไม่ไปเช็คกับของม.ตัวเองจะเป็นไงก็แล้วแต่เวรแต่กรรม
ผ่านงานหน่วยงานรัฐมา3ที่ ทั้งอปท. ส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง เป็นเคยเป็นทั้งลูกจ้าง พนักงานราชการและสุดท้ายเป็นข้าราชการ ไม่มีใครสอนงานเลยว่ะ ได้แต่แนะในภาพกว้างๆ ต้องมาศึกษาเอง ดูของที่มันค่อนข้างผิด เลิกงานต้องมานั่งทำการบ้าน ศึกษาระเบียบต่างๆ เอางานมานั่งทำ ห้อๆเป็นแบบนี้ทุกที่เลย
เกิดสภาวะ"คิดได้เท่านี้ ทำได้เท่านี้ จะเอาอะไรกับกรูนัก" เป็นบ่อยมากว่ะจนไม่อยากทำงานเลย
บริษัทกุนี่หักเงินสุดยอดจริง เดือนแรกที่ทำเหลือพันนิดๆ 55555
เปลี่ยนงานบ่อยนี่รู้สึกด่างพร้อยชะมัด จะไปสมัครงานใหม่ก็ไม่มีความมั่นใจเลย ต้องโดนถามแน่
บอกเหตุผลตามจริงไปก็ไม่ได้ ดูไม่ดีอีก มีแต่จะต้องคิดคำตอแหลสวยหรู เฮ้อ
ยายกูป่วยเป็นเส้นเลือดสมองตีบ ต้องผลัดเวรกันมาดูแลหลายคน ทีนี้มีลูกพี่ลูกน้องคนนึง ลูกป้ากูน่ะ พี่แกทำงานบริษัทใหญ่อยู่อังกฤษ ตั้งแต่ยายป่วยยังไม่เห็นหัวเลยสักครั้ง แล้วบอกว่าลางานมาไม่ได้ กูสงสัยว่าบ.นอกมันลางานยากขนาดนั้นเลยอ่อวะ ขนาดยายเกือบตาย รอดมานี่ก็มึนๆพูดก็ไม่ได้ ไม่รู้รู้ตัวหรือจำอะไรได้แค่ไหน แม่งยังลาบินมาเยี่ยมซักอาทิตย์นึงก็ไม่ได้ อ้างว่าเดี๋ยวก็ลาออกกลับไทยแล้วเค้าห้ามลา
ปล.กูไม่ได้นอกเรื่องนะ นี่ถามเกี่ยวกับการลาหยุดของบ.นอก เผื่อใครรู้มั่ง เพราะกูฟังเหตุผลแล้วรู้สึกแปลกๆ
ลืมบอก ยายกูป่วยมาได้ประมาณ2-3เดือนแล้ว ไม่ใช่เพิ่งอาทิตย์2อาทิตย์
มันไม่เกี่ยวกับเมืองนอกหรือไม่เมืองนอก มันอยู่ที่บริษัท ตัวพนักงาน และสถานการณ์ในขณะนั้น อย่างบ.กูเป็นบ.เล็กๆ เคยอยู่ในโหมดขาดคน คนเก่าลาออกเหลือกูทำงานเป็นอยู่คนเดียว กว่าจะได้คนใหม่ กว่าจะสอนงานคนใหม่ให้ทำแทนกูได้ก็ร่วม 4-5 เดือน ตอนนั้นกูก็ลาไม่ได้เหมือนกัน ลาพักร้อนปีนั้นเหลือบานเพราะไม่มีโอกาสให้ใช้ แต่ตอนนี้สบายละ คนใหม่ทำงานเป็นแล้ว จะลายาวแค่ไหนก็ได้เท่าที่วันลามี ลาออกยังได้เลย 55+
เสริมนิด แต่เท่าที่เคยคุยกับเพื่อน บ.เมืองนอกค่อนข้างแฟร์กับการลาพักร้อนยาวมากกว่าไทยเยอะ อย่างของกูใช้วันลาพักร้อนตามสิทธิ์ อดทนรอจนคนใหม่เข้าที่ค่อยลา ยังโดนกระแนะกระแหนเล้ย ก็สังคมแบบไทยๆ อ่ะนะมึง ขี้เม้า เหี้ยอะไรก็เอามาเม้าเอามากระแนะกระแหนได้หมด แต่เมืองนอกเค้าไม่เป็นแบบนี้ ถ้ามึงจัดการงานได้ดี มีวันลา จะลายาวแค่ไหนก็เรื่องของมึง
>>39 บางทีเจ้าตัวอาจจะไม่อยากมาเยี่ยมเลยอ้างไปงั้นก็ได้ คนที่โตแล้วไปได้ดีลืมพ่อแม่พี่น้องปู่ยาตายายที่เคยมีบุญคุณมาก็เยอะแยะ คนใกล้ตัวกูก็คน ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า อยู่คอนโดไฮโซ ในขณะที่พ่อแม่อยู่บ้านเก่าๆ โทรมๆ หาเช้ากินค่ำ ไม่เคยจุนเจือที่บ้านซักบาท ทั้งที่พ่อแม่มันกัดฟันส่งมันจบป.โทถึงได้มีเงินเดือนมากมายแบบทุกวันนี้
ต้องขอเล่าเรื่องตัวเองเลยงี้
กูไปทำงานเมืองนอกปีนึง ทางไทยติดต่อมาบอกว่ายายล้มในห้องน้ำ อาการไม่ดี ไม่รู้สึกตัวแล้ว
แต่สถานการณ์โปรเจคต์คืออยู่ในโค้งสุดท้าย กำลังชี้เป็นชี้ตาย ถ้ากูไม่อยู่คนอื่นก็พอทำได้ แต่ไม่ดีเท่ากูทำเอง และถ้ามีแอคซิเดนท์อะไรซ้ำก็คือจบเห่
ญาติทางไทยก็ตามจิกให้กูกลับใหญ่เลยไงล่ะ แล้วจะให้ทำยังไง งานกูมีอนาคตบริษัทอยู่บนบ่า และถ้าจบโปรเจคต์กูก็จะกลับอยู่แล้ว
แม่กูกับป้าที่สนิทกับครอบครัวกูบอกไม่ต้องกลับ ยายไม่รู้สึกตัวแล้ว กลับมาแล้วยายก็ไม่รู้อยู่ดีว่ากูมา จะให้ดูใจอะไร มาเยี่ยมอะไร
กูคิดแล้วก็ไม่ได้กลับ ยายก็เสียไปโดยไม่รู้สึกตัวอีกเลย แล้วหลังจากนั้นอีกสองวันโปรเจคต์ก็ปิดได้แบบเฉียดเดดไลน์ กูถึงได้บินกลับมางานศพ
แล้วกูก็กลายเป็นไอ้คนที่โตไปได้ดีลืมผู้มีพระคุณไงล่ะ
มีญาติที่ไม่ได้เจอหน้ามาสิบปีมาชี้หน้าด่า เมคเรื่องว่ายายอุตส่าห์รอกู ทั้งๆที่ยายไม่เคยรู้สึกตัว ไทยสไตล์สิ้นดี
Ky พวกมึงมีวิธีจัดการกับเด็กใหม่ที่ฉลาดแต่มันเบลอยังไงบ้างวะ คือกูพึ่งรับเด็กจบใหม่มาคนนึงหัวไวเลยแหละ เกรดดี ม.ดี พูดรู้เรื่อง รับผิดชอบ กระตือรือร้น ไม่จิ้มมือถือ แต่.....ไม่รู้ทำไมพอทำงานแล้วชอบผิดเล็กๆ น้อยๆ ตลอดเลย ใส่เลขผิดไปตัวนึงงี้ ลืมใส่ติดลบไปรายการนึงงี้ ออกใบเสร้จผิด บางทีก้รุ้สึกว่ามันฉลาดมากๆ มีโพเทนเชียลดีน่าปั้นได้ไกล แต่มันก็ชอบไม่รอบคอบงี้จนกุงงกับแม่งว่ะ
ไงละ
>>44 คนเก่งมีไหวพริบส่วนมากจะเป็นแบบนี้แหละ เป็นเพราะคิดไวคิดเร็ว คิดโน่นคิดนี่เยอะ เลยไม่ค่อยชอบจมอยู่กับการทวนซ้ำในเรื่องเดิมๆ เพราะจะเบื่อและหมดใจไปซะก่อน ไม่มีใครเพอร์เฟคไปทุกอย่างหรอก กูว่าควรให้มันทำงานที่เหมาะกับมัน งานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาระบบ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ความเป๊ะยิบย่อย แล้วเรื่องเป๊ะให้เป็นหน้าที่ของคนอื่นแทน ที่ทำงานกูก็เป็นแบบนี้ กูมีน้องคนนึงหัวอ่อน สั่งง่าย ทำงานละเอียดรอบคอบดี แต่ข้อเสียคือไม่มีหัว adaptive เลย สอน A ได้ A สอน B ได้ B ไม่สามารถคิด C หรือ D เองได้ ไม่เคยคิดจะพัฒนาอะไรทั้งสิ้น สอนให้ทำอะไรก็ทำแบบนั้น (กูว่าผ่านไปอีก 10 ปีมันก็คงทำแบบเดิม) ทำงานช้ามาก (อันนี้เข้าใจว่ามันทำงานละเอียดก็ต้องช้าเป็นธรรมดา) กูก็ให้มันทำงานที่ต้องใช้ความละเอียดไป ทวนจนกว่ามึงจะสบายใจเลย ส่วนกูก็ผันตัวเองไปทำงานแนว development แทน มีน้องอีกคนในแผนก คนนี้งานการไม่ค่อยทำ วันๆ เอาแต่เม้าท์มอย ให้ทำอะไรก็มักจะทำผิดตลอด ไม่มีทั้งความรอบคอบและหัวพัฒนา แต่มันก็มีข้อดีของมันคือเม้าท์เก่งนี่แหละ กูเลยให้มันเป็นหน่วยประสานงาน เวลาต้องดีลกับแผนกอื่นเอาน้องคนนี้ไปอ้อนซะ จะด่วนแค่ไหนแผนกอื่นก็ทำให้ ฮาๆ แต่ถ้าบริษัทมึงเล็กจนไม่มีบุคลากรมากพอจะแบ่งงานกันทำ อันนี้คงช่วยไม่ได้ กูเข้าใจนะ คงต้องพยายามกระตุ้นให้มันรอบคอบ แล้วมึงก็ต้องคอยตรวจ แต่กูบอกเลย ยาก อย่างมากก็แค่ดีขึ้น แต่ไม่มีทางสมบูรณ์แบบ คนเรามัน characteristic ต่างกัน
มัวแต่ตอบเพลิน ลืมไปเลยว่าจะมาถาม เราสามารถกำหนดได้มั้ยว่าให้บริษัทหักภาษีเท่าไหร่ เช่น หักแค่ 3% ต่อเดือนพอ กูเบื่อกับการต้องมารอขอคืนภาษีมากเลย กูอยากให้มันหักไปน้อยๆ แล้วเดี๋ยวต้นปีกูจ่ายเพิ่มเอง เพราะจ่ายเพิ่มโปรโมชั่นเพียบ รูดบัตรก็ได้ ผ่อน0%ก็มี ได้ point อีกต่างหาก ในขณะที่รอคืนแม่งไม่ได้อะไรเลย ต้องรออย่างแห้งเหี่ยวอย่างเดียว
ถ้าเปลี่ยนงานมาแล้วสองที่ยื่นภาษีออนไลน์ยังไง บวกรายได้เองเลยเหรอ เลขผู้เสียภาษีนายจ้างใส่เลขเดียว ต้องใส่ที่ทำงานก่อนหรือล่าสุด
เพื่อนโม่ง กูเรียนจบเเล้วจบวิศวะมาเเต่ว่ากูก็ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าจบไปจะทำอะไรได้เเล้วที่เรียนมามันคืออะไรกูก็ตอบตัวเองไม่ได้ คือไม่ได้ชอบสายนี้เลย
เเต่ดันทุรังจบมาได้
ทีนี้กูไปสัมภาษณ์งานมากี่ที่ๆก็ไม่รับ คงเพราะกูพูดไม่เก่ง บุคลิกไม่ได้ เกรดกูก็ไม่ได้เเย่อะไรมากมายนะ 2.9 ม.ก็ม.รัฐชื่อดังเเห่งหนึ่ง
กูอยากฝึกพูดอะไรพวกนี้ สัมภาษณ์ เทคนิคการพรีเซ้นต์นี่กูจะทำยังไงดี ยิ่งตอนเรียนกูเป็นพวกไม่ใช่เด็กกิจกรรม เลิกเรียนก็กลับบ้าน เพื่อนก็น้อย
ยิ่งตกงาน(เรียกว่าตกได้ปะวะ ยังไม่เคยเข้าซักที)นานก็ยิ่งเสียความมั่นใจ ไม่อยากทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ เฮ้อ ไม่อยากเป็นนีทนะ ลูสเซ่อชิบหายเลยกู
>>54 ภาควิชาอะไร เรียกเงินเดือนเท่าไร สมัครแต่บริษัทใหญ่รึเปล่า วิดวะนี่ถ้าไม่เลือกงานมากแทบไม่มีทางตกงานเลยนะ
วิธีฝึกก็ฝึกหน้ากระจกน่ะแหล่ะ เคยสัมภาษณ์มาแล้วน่าจะพอจำคำถามที่โดนบ่อยๆได้ ก็เขียนไว้เลยว่าจะตอบยังไง ท่องหน้ากระจกไปวนไปจนกว่าจะคล่องเหมือนซ้อมการแสดงหรือซ้อมพรีเซ้นต์ธีสิสอะ
สมัครงาน (ต่างประเทศ) แล้วโดนปฏิเสธจากบริษัทที่อยากเข้ามากด้วยเหตุผลว่าสกิลสูงเกินกว่าตำแหน่งที่เปิดรับนี่กูควรจะดีใจหรือเสียใจดี T__T
กรมเล็กๆที่ไม่มีหน่วยงานภูมิภาคข้าราชการเค้าได้เบิกค่าเช่าบ้านป่ะ กูอยู่กรมใหญ่คนในกรมเค้ามีวิธีช่วยข้าราชการใหม่ด้วยการย้ายข้ามอำเภอให้ได้สิทธิค่าเช่าบ้าน ไม่รู้ว่ากรมเล็กเค้ามีอะไรแบบนี้มั้ย
ถ้าโดนไม่ให้ผ่านโปร แต่บเดิมจะจ้างกลับไปเป็นฟรีแลนซ์ หมายความว่า บเดิมแม่งงก รึความสามารถกุไม่ถึงวะ? เทลมี้
ของกูบรรจุเป็นปลัด ย้ายกันเป็นประเพณีเลยว่ะ คือปลัดบรรจุใหม่ลงอำเภอได้ซักพัก หลังผ่านทดลองก็ถูกย้ายข้ามอำเภอในจังหวัดเดียวกัน
แต่นี่เป็นกรณีที่กรมใหญ่มาหน่วยงานในกำกับเยอะ จะย้ายช่วยข้าราชการใหม่ก็ทำง่ายแค่สลับอำเภอ
แต่กรมเล็กที่ไม่มีหน่วยงานภูมิภาคเข้าใจว่าแทบจะไม่มีโอกาสเบิกค่าเช่าบ้านเลยมั้ง เพราะย้ายไปไหนไม่ได้มีแค่ส่วนกลางที่เดียว
วันนี้กูคุยกันแม่ โคตรเดือดเลยว่ะ ถ้าไม่ใช่แม่นี่คงด่าสวนไปแล้ว
คือกูเป็นข้าราชการไง แต่ระบบงานมันทำกูประสาทแดก งานก็หนักกว่าที่อื่นกูอยากย้ายไปกรมอื่นที่ภาระไม่เยอะขนาดนี้
แต่แม่กูบอกว่าขอให้ภูมิใจกับงานราชการ เพราะเป็นงานต่างพระเนตรพระกรรณ แล้วก็ยกสวัสดิการมาพูด
ไอ้เหี้ย กูได้ยินคำพูดทำนองว่าตัวแทนพระราชากูเลือดขึ้นหน้าเลย นี่ถ้าไม่ใช่แม่กูแจกควยไปแล้ว
หลุดมาจากยุคแม่พลอยรึไงวะ กูว่าทักษินมันอุตส่าห์ปฏิรูประบบราชการให้เป็น "ลูกจ้างของประชาชน" แล้วนะ
ความคิดดักดานแบบนี้ ทำนองว่าเป็นข้าราชการควรภูมิใจเพราะทำงานแทนพระราชาเป็นตัวแทนพระราชามันควรหมดไปได้แล้ว
คือถ้าแม่กูบอกว่า "ทนๆไปก่อน เงินเดือนมันสูง เอกชนที่อื่นก็ไม่จ่ายเยอะเท่านี้" กูจะไม่เดือดขนาดนี้เลย
>>58 กูเป็นแบบเด็กที่มึงบอกเลย เว้นแต่ตรงที่กูไม่คิดว่ากูฉลาด กูมักทำงานเสร็จไว แต่ชอบผิดพวกเล็กๆน้อยๆ แบบวันที่ หรือเลขตก
กูโดนเจ้านายบ่นตลอดเพราะกูไม่ชอบทวนซ้ำ มันเบลอ กูเลยหาวิธีโดยการจดใส่กระดาษไว้รอบนึงก่อน แบบสมมติทำบัญชีก็ปริ้นตารางมาเขียนไว้รอบนึง แล้วทำในคอมรอบนึง จากนั้นมาเช็คอีกทีว่ามันตรงกันมั้ย
กูทนทำราชการเพราะใจรัก ไม่รักไม่ทำหรอกว่ะ งานหนัก เงินน้อย ทำงานเวลาส่วนตัวหายไปเยอะ ทั้งเสียสุขภาพกายใจ ทำงานเสี่ยงคุก เสียงโดนร้องเรียน แค่ทำงานผิดขั้นตอนมีสิทธิโดนคุก หน้าไม่ยิ้มเวลาบริการประชาชนมีสิทธิโดนร้องเรียนได้ เรื่องระบบภายในที่ขั้นตอนเยอะ คนบ้าอำนาจก็เยอะ คิดแล้วท้อขึ้นมาทันทีเลยว่ะ
>>69 ของกูทำเพราะพ่อแม่อยากให้สอบเข้าว่ะ แล้วกูก็สอบติด แต่อยากลาออกเพราะงานแม่งเยอะ แต่ติดว่าลาออกก็ไม่มีที่ไหนจ่ายเงินเดือนให้กูขนาดนี้อีกแล้ว และกรมกูเป็นกรมเดียวที่ข้าราชการบรรจุใหม่ระดับ C3 สามารถเซ็นงานให้ C9ได้ (รักษาการแทน) ในแง่อำนาจแม่งเยอะเหี้ยๆเด็กใหม่ทำแทนคนที่ทำงานมา20ปีได้ แรกๆก็ดีนะรู้สึกตัวเองใหญ่คีบฟ้า แต่หลังๆมีอำนาจขนาดนี้แต่ไม่มีเวลาส่วนตัวกูขอทำงานแบบกินเงินเดือนไปวันๆดีกว่า
>>71 ระดับของข้าราชการ ถ้าไม่ใช่ระดับหัวหน้า (อำนวยการหรือ C8 C9 เก่า) จะมีอายุราชการมากขนาดไหนก็เป็นแค่ลูกน้องว่ะ แต่ถ้าระดับชำนาญการที่อยู่มานานอาจเก๋าพอจะงัดกับหัวหน้าได้บ้าง แต่โดยหลัก "หัวหน้าส่วน" จะเป็นคนสั่งลูกน้อง ถ้าไม่ทำก็เด้งไปอยู่ที่อื่นหรือก็ประวัติไม่ดี เลื่อนเงินเดือนช้า
ข้าราชการจะงานหนักมั้ยกูว่าขึ้นอยู่กับ "กรม" "พื้นที่" และ "หัวหน้า"
ถ้ากรมใหญ่ อยู่ส่วนกลาง หัวหน้าบ้างานทำผลงานเสนออธิบดี/ผู้ว่า/หัวหน้าเหนือขึ้นไป ข้าราชการตัวเล็กแม่งเหนื้อยตายห่า
ถ้ากรมเล็ก อยู่ภูมิภาค หัวหน้าทำงานแบบรอเกษียณ ลูกน้องก็สบายหน่อย
หน่วยงานกุแมร่งต้องรอ2 ปีถึงจะโอนย้ายได้ว่ะ อยากโอนย้ายกลับบ้าน คิดถึงบ้านทุกวัน หัวหน้างานมั่งก็สั่งงานไม่ชี้แนะ สอน หรืออะไรมั่งเลยว่ะ ได้แต่แทงหนังสือมอบ xxx ไม่มีบอกขั้นตอน หนึ่ง สอง สาม สี่ ต้องมานั่งงมเอาเอง ดูของเก่าเอาเองซึ่งแมร่งก็ทำผิดๆกันมา พอถามก็บอกให้ลองไปคิดเอง พอคิดออกมากลับใช้ไม่ได้ เสียเวลาไปฟรีๆ งานนโยบายนั่งคิดปวดหัวชิบหาย
โม่งข้าราชการเยอะกว่าที่คิดแฮะ
ไหนๆ โม่งข้าราชการเยอะขนาดนี้แล้ว กูขอถามเลยล่ะกัน ว่ามึงสอบนานไหม สอบกี่ที่กว่าจะได้บรรจุ กูอยากบรรจุข้าราชการมากอยากทำเพื่อพ่อแม่ กูเป็นโม่งเพิ่งจบปตรีมาหมาดๆ เพิ่งผ่าน ภาค ก กพ กูสอบมา 3 กระทรวงแล้ว ไม่ติดสักที่กูท้อใจมาก อยากขอคำแนะนำ ช่วยกูด้วย
>>75 จบปี 53 เริ่มสอบภาค ก ไม่ติด สอบภาค ก ติดปี 54 ระหว่างสอบทำงานเป็น ลูกจ้าง พนักงานราชการ ตามลำดับ สอบไปเรื่อย ติดมั่งไม่ติดมั่ง ขึ้นไวเรียกไม่ถึงบัญชีหมดอายุ พอปี 59 มีหน่วยงานหนึ่งมาขอใช้บัญชี ทำงานมาถึงปัจจุบัน แต่กุก้อสอบใหม่อยู่ดีเพราะไม่ชอบที่ทำงานที่ทำอยู่ว่ะ อยากไปให้พ้นๆ กับกุรอโอนย้ายซึ่งก็ยากเหมือนกัน
บรรจุใหม่แต่อยากเปลี่ยนงานว่ะ ได้ข่าวท้องถิ่น พวก เทศบาล อบต. จะเปิดสอบโดยส่วนกลาง ตอนนี้พวกท้องถิ่นน่าทำมั้ยว่ะ จะฟิตอ่านหนังสือใหม่ ไม่รู้จะทำได้หรือป่าว
>>71 มีอยู่กรมเดียวที่ทำแบบนี้ได้คือกรมการปกครอง ตามพรบ.บริหารราชการแผ่นดิน นายอำเภอจะคุมข้าราชการทั้งอำเภอ(ยกเว้นพวกครู ทหาร) ถ้านายอำเภอไม่อยู่ปลัดจะทำงานแทนนายอำเภอ ซึ่งจะบรรจุใหม่หรือชำนาญการพิเศษก็เป็นปลัดเหมือนกัน เอกสารที่นายอำเภอมีหน้าที่เซ็น ปลัดบรรจุใหม่ทำแทนได้เลย อย่างเช่นพวกหนังสืออนุญาตที่ไม่สำคัญ(ขอใช้เสียง เรี่ยไร) เซ็น สด๙ หรือเซ็นเป็นผู้ช่วยนายทะเบียน และสามารถไปนั่งประชุมในฐานะตัวแทนนายอำเภอได้
>>75 กูสอบครั้งเดียวติด แต่ตอนสอบกูลาออกจากเอกชนมาเป็น NEET ที่บ้านว่ะ มีเวลาอ่านหนังสือเยอะ และกรมที่กูสอบเข้าก็รับคนเยอะด้วย ประกาศรับ 100 แต่เรียกบรรจุหมดบัญชี กูติดอันดับ 200 กว่าๆ รอแปปเดียวก็เรียก ถ้าจะให้แนะนำนะ กรมที่เปิดรับน้อยเรียก 10-20 คน หรือเรียก 5-6คน ถ้าไม่เก่งจริงก็ติดยากมาก ส่วนพวกสายมหาดไทยจะรับเยอะ ถ้าผ่านภาค ข แล้วได้ขึ้นบัญชีโอกาสถูกเรียกมีเกินครึ่ง
กูอยากสอบเข้ากรมสรรพากร แต่ไม่มีข้อมูลเลยว่ะ
คนที่มุ่งมั่นอยากสอบเข้าราชการเงินเดือนต่ำๆ โดยที่ตัวเองบ้านไม่รวยนี่ส่วนมากมีเหตุผลอะไรกันเหรอ? ไม่นับพวกที่บังเอิญไปทำราชการแบบไม่ได้เจาะจงว่าจะทำราชการนะ แล้วก็ไม่นับพวกราชการเงินเดือนสูงด้วย อยากรู้คนที่มุ่งมั่นเลยว่าชีวิตนี้จะทำอาชีพราชการเท่านั้นแม้เงินเดือนจะต่ำแค่ไหนก็ตาม กูเห็นงานราชการเงินเดือนไม่กี่พันคนยังแห่แย่งกันสมัครเพียบ พวกบ้านรวยไม่สงสัยเพราะเรื่องเงินคงไม่ใช่ประเด็น
ป.ล. ไม่แน่ใจโทนเสียงของคำถามตัวเอง แต่ไม่มีเจตนาไม่ดีนะ สงสัยเฉยๆ
>>87 สำหรับกู เป็นเพราะพ่อแม่อยากให้เป็น ก็ไม่ได้บังคับนะ แต่ออกแนวกดดันเล็ก ๆ เลยมาสมัคร แล้วติดแล้วก็ได้เป็น
แต่ช่วงที่สมัครกูออกแนวขี้แพ้ ๆ ด้วย ตรงที่ไม่อยากเหนื่อยทำงานมาก สมัครราชการแม่งเลยดีกว่า(กูผ่านมาแล้วทั้งลูกจ้างชั่วคราว
พนักงานราชการ ราชการ)
สำหรับกูแล้วราชการมันน่าทำตรงที่ว่า มันไม่ได้เงินเยอะก็จริง แต่มันได้สวัสดิการแบบ AOE พ่อแม่ลูกเมีย เกาะชายเสื้อเราได้หมด
กับอีกเรื่องคือ กู้ได้แทบจะไม่มีลิมิตจากสหกรณ์ต่าง ๆ (ดี เลว แล้วแต่กระทรวง) ทำให้คนที่อยากอยู่ใกล้ลูกเมีย แห่มาสมัครกัน
แล้วก็โอกาสตกงานต่ำ ถ้ามึงไม่ห้าวไปล้อมรถ ผอ แล้วบอกมึงเก๋าหรอ ๆ ๆๆๆ นะ อยู่ยาว ๆ สบาย ถ้ารับความน่าเบื่อได้
แต่ตอนนี้กูเริ่มอยากไปทำอะไรที่ตัวเองเคยฝันไว้ละ แต่เหลือเวลาไม่มาก ถ้าออกของไม่ทัน(เตรียมตัวครบเงื่อนไข แล้วถึงลาออกให้เซฟที่สุด)
กูคงจำใจทำราชการต่อไป แต่อาจไปเรียนเพิ่มเพื่อเปลี่ยนสายงานละนะ กูยังไม่จบ ป.ตรีเลย ไม่มีตังเรียนต่อ
กุ61 ทำไมไม่มีใครตอบกุเบย
Ky ขอแหวกดงขรก.นิดนะ 555 กูเป็นมนุษย์เงินเดือนสายฟอเวิดเด้อที่งานสบายชิบหาย ขอแค่รอบคอบๆ หน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้ว หรือเพราะบ.กูมันคนเยอะกว่างานก็ไม่รู้ แต่ประเด็นคือแม่งลางานยากว่ะ มีโหลดตู้ทุกวันซึ่งจะมาตอนไหนก็ไม่รู้ บางทีก็ทยอยมาตั้งแต่เช้า บางทีก็ตู้มมาตอนห้าโมงเย็นเป็นต้นไปแล้วต้องอยู่โอทำพวกใบขนให้เสร็จทันในวันนั้นๆ โดยที่กลางวันได้แต่นั่งตบยุง แต่เข้าใจอารมณ์ป่ะว่าแม่งลางานแทบไม่ได้เลย มันเป็นงานวันต่อวันโคตรๆ กูลาป่วยติดกันสองวันนี่คนด่าสาปส่งแล้ว อยากรู้ว่าบ.สายอื่นๆ มีงานที่วงจรยาวกว่านี้หน่อยมั้ย อย่างแบบสะสมไว้แล้วเคลียร์ทุกอย่างปลายอาทิตย์ก็ทันไรทำนองนี้ คือกูไม่ได้หมายคววามว่ากูขี้เกียจอ่ะแต่แค่อยากใช้วันลาโดยไม่ต้องผวาว่าตู้จะตกเรือง่ะ
>>96 คือต่างคนก็คิดว่าตัวเองงานเยอะอ่ะ บ.กูเป็นกันทุกแผนกเลย เวลาแดกข้าวมีไว้แขวะคนอื่ว่าตัวเองงานเยอะแต่กูก็เห็นหน้าจอว่างๆ เป็นทุ่งลาเวนเดอร์กันทั้งวันไม่ก็ลาซาด้า ส่วนเรื่องช่วยเหลือ ต่อให้เพื่อนเต็มใจช่วยอะมึง แต่ละลูกค้าที่โหลดก็ยิบย่อยต่างกันไป เอาคนนู้นมาทำแทนคนนี้ไม่ใช่ง่ายๆนะเว้ย รับเรื่องเฉพาะหน้าวันต่อวันยังพอได้ แต่ถ้ามีโหลดทุกวันแล้วทำแทนกันสักสองวันติดงี้กูบอกเลยโอกาสพลาดเยอะมาก พูดแล้วเหมือนกุเป็นไอ้เชี่ยที่ครางหงิงๆโดยไม่คิดจะอดทนเลยว่ะ จะว่างั้นก็ได้กูว่าจะออกมาเป็นครูสอนว่ายน้ำเด็กแล้วเนี่ยแม่ง 5555
ของเสียงคนทำงานวันหยุดหน่อยมีมั้ย
>>101 สมัยก่อนกูก็เคยทำงานแบบนั้น ตามงานได้ตลอดเวลาโดยไม่สนใจว่าจะเป็นวันหยุดหรือกี่โมง ตีสามตีสี่ มันคงเห็นว่าส่งไลน์ ไม่ได้โทร จะส่งหากี่โมงก็ได้มั้ง แต่กูไม่ชอบอ่ะ ประสาทจะแดกจริงๆ ปัจจุบันเปลี่ยนงานแล้ว งานหนักมั้ยก็หนัก แต่วันหยุดคือวันหยุด นอกเวลางานคือเวลาส่วนตัวของจริง ไม่มีเรื่องงานมากวนใจ ชีวิตดีขึ้นมากเชื่อกูเถอะ ถ้ามีทางไปไปเถอะ
>>102 งานที่กูเจอนี่คือต้องออกนอกสถานที่ในวันหยุด คือทำงานวันหยุดกูทำได้นะ ไม่คิดมากเพราะกูไม่มีครอบครัว พ่อแม่กูดูแลตัวเองได้ ไม่ซีเรียสกับการต้องมาทำงานวันหยุด แต่ที่รับไม่ได้คือต้องมาติดต่อกับคนแล้วระบบงานแม่งเหี้ยไง คนนู้นบอกอย่างคนนี้บอกอย่าง แม่งปวดหัวชิบหาย
ญี่ปุ่นn2กับn3 ควรจะได้ค่าภาษาเท่าไหร่อะ
>>104 เบสๆ n3=3000 n2=5000
บวกลบได้แล้วแต่บริษัทไม่เท่ากัน
n3 ไม่มีสอบไรเพิ่ม แต่บางที่ n2 ได้ใบมาต้องมาทำข้อสอบของบริษัทอีกรอบด้วยนะ
แต่ถ้าเมิงสอบ n2 ได้จริงๆ มันก็ไม่ยากหรอก เพื่อนกุทำโรงงาน n2 แบบเกือบตก ทำข้อสอบโรงงานได้เกือบเต็ม (เจอทุกวันด้วยแหละ)
แต่บางที่ก็ไม่ให้เลย อยากที่กุทำอยู่เนี้ย งกชิบหายหลังเมษาว่าจะลาออกละ
เบื่อลูกค้าประเภทรู้จักผู้ใหญ่ในบริษัทแล้วฝากเดินเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับแผนกที่ผู้ใหญ่อยู่
แล้วก็มาให้ลูกน้องจัดการต่อ ทั้งๆที่ลูกค้าแม่งไปติดต่อตรงกับแผนกที่จัดการกับลูกค้าโดยตรงแม่งสะดวกกว่าเยอะ
นี่กลายเป็นติดต่ออ้อมโลก ขอเอกสารเพิ่มเติม เอกสารส่งแล้วหายหาไม่เจอเพราะต้องส่งหลายต่อ
จะปฏิเสธก็ไม่ได้อีก โคตรเซ็ง
พาร์ทไทม์ประเทศไทย ส่วนใหญไม่อยากเรียกพาร์ทไทม์เลยวะ
นายนี่เรื่องเยอะจัง ปัญหาก็ขยันสร้าง พรุ่งนี้เช้ากุเตรียมโดนด่าได้ โอ้ยยยยย
การขอใช้บัญชีการเรียกบรรจุของส่วนราชการส่วนใหญ่จะมีเด็กเส้นอยู่ในบัญชีที่ขอใช้รึเปล่า
สมัยเด็กๆกูเคยคิดว่าทำไมคนบ่นเรื่องพฤติกรรมข้าราชการเวลามีประชาชนไปติดต่อ ทำไมเอกชนไม่มีปัญหานี้
พอได้ทำงานจริงๆ ผ่านงานมาทั้งเอกชนทั้งราชการกูก็เข้าใจเลยว่ะ งานเอกชนที่เป็นงานบริการถ้าพูดจาไม่ดีกับลูกค้าโดนหัวหน้าเรียกไปด่า ถ้าหนักหน่อยก็ตัดเงินเดือน เพราะแบบนี้งานเอกชนเลยไม่ค่อยมีปัญหาให้ประชาชนบ่น
ส่วนงานราชการถ้าพูดจาไม่ดี คนไม่ค่อยฟ้องด้วยส่วนหนึ่ง(เดี๋ยวเรื่องที่ไปติดต่อไม่เดิน)ไม่พอใจอะไรเอามาด่าข้าราชการข้างนอก หรือถ้าไปฟ้องหัวหน้าส่วนราชการ จะตั้งกรรมการสอบวินัยนี่ยากมาก ถ้าแค่บ่นว่าบริการไม่ดีก็แค่โดนนายเรียกมาเตือน ข้าราชการเลยติดนิสัยถ้าไม่พอใจก็ไม่เก็บอารมณ์ทางสีฟน้าเพราะยังไงประชาชน(ลูกค้า)ก็ไม่ใช่พระเจ้า
เดี๋ยวนี้ถ่ายคลิปไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยเล่นงานทีหลัง
กรรมการสอบวินัยก็พวกเดียวกันในหน่วยงานด้วยล่ะ ถ้าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงประเภทตะโกนด่าประชาชนกลางที่ทำงาน หรือตบหัวชกหน้าทำร้ายร่างกาย ยังไงก็ไม่โดน จบแค่โดนหัวหน้าเรียกไปด่าอ่ะเต็มที่
งานราชการทุกอย่างมันผูกขาดด้วยไง
เมิงจะทำบัตรประชาชนมีที่ไหนให้ทำนอกจากที่เขตไหมละ
ทำใบขับขี่ก็ต้องไปที่ๆทำ
จะทำที่เซเว่น หรือ ร้านหน้าปากซอยไรแบบนี้ก็ไม่ได้
มันไม่การแข่งขันวะทำดีหรือไม่ยังไงลูกค้าก็ต้องง้อเมิงอยู่ดี
คือเวลามึงไปใช้บริการเอกชน มึงเป็นลูกค้า เขาต้องมาง้อมึง
แต่เวลาไปใช้บริการราชการ มึงไม่ใช่ลูกค้า มันเป็นหน้าที่ มึงต้องไปง้อมัน มึงไม่ไปสิมีความผิดตามกฏหมาย
โม่งข้าราชการ ยธ ยังอยู่ป่ะ กูเห็น ปปง เปิดสอบ ขอคำแนะนำหน่อยว่าน่าย้ายไปมั้ย
ใช้ยังไงกันให้พอเนี่ย นับถือจัง มาย้อนคิดดูแล้วถ้าตัวเองบังเอิญเรียนสาขาวิชาทั่วไปที่จบมาได้หมื่นห้านึกสภาพไม่ออกเลยว่าจะใช้ยังไงให้พอ
สมัยกูเพิ่งจบกูเคยได้เงินเดือน 7000+ ด้วยนะ แต่ตอนนั้นเป็นช่วงลองงานมั้ง และนั่นก็โคตรหลายปีละ
ตอนนี้ส่วนราชการก็พยายามย้ายไปชานเมืองอ่ะ หลายที่ก็ไปแจ้งวัฒนะ สธ กับพาณิชย์อยู่นนท์ ถ้าได้บรรจุก็ไม่เป็นภาระมากเหมือนมาอยู่กลางเมือง
เจ้านายเหี้ย สอนงานดีๆก็ไม่เคยสอน พอกูทำผิดเสือกมาหาว่าทำผิดหลายครั้งแล้วก็ไม่บอกด้วยว่าผิดตรงไหน แล้วกูจะไปตรัสรู้กับมึงมั้ยไอ้สันขวาน
ตอนนี้ที่กูลังเลเรื่องงานก็เพราะแบบนี้แหละ งานเก่าระบบแม่งเหี้ย แต่ไม่มีอะไรรับประกันว่าถ้ากูเปลี่ยนงานจะไม่เจอระบบที่เหี้ยเหมือนกัน(เพราะเป็นงานราชการเหมือนกัน) แต่ก็สมัครสอบไว้ถ้าสอบติดก็คงย้ายแล้วไปวัดดวงเอาข้างหน้า
ช่วยกูด้วย กรมธรรม์ไทยประกันชีวิต แม่งไม่ยอมยกเลิกให้กูซักทีโทรจี้ 2-3 รอบละ กลัวเลยเดือนนี้แล้วจะเก็บเงินกูอีก 450
>>133 ลองร้องเรียนไปนี้ไหมมึง http://www.oic.or.th/th
เห็นบอกบัตรไม่ให้จ่ายเงินได้ แต่จะได้จริงหรอวะ ก็แม่งฮั้วกันอยู่
ทำบัตรผ่อนของแม่งประกันโทรมาทุกเดือน กูไม่เคยทำเลย แค่กระดาษไม่กี่บาทมึงยังปริ้นให้กูมาดูไม่ได้
แล้วกูจะรู้ได้ไงว่ามึงคุ้มครองกูจริง เอาพม่ามาพูดไม่รู้เรื่องใส่กู กูฟังไม่ทัน
ทำไมคนในออฟฟิศมันถึงอยู่กันดีๆ ไม่ได้วะ เล่นพรรคเล่นพวกกันจัง แค่ไปอีกกลุ่มนึงจากคนที่เคยคุยกันดีๆ ก็เมินกูไม่คุยกับกูซะงั้น นึกว่าอยู่ในหนังไฮสคูล
โม่ง เห็นคนในบ้านกูพูดถึง โรงเรียนการไปรษณีย์ไทย ที่แม่งเรียนจบ1ปีละพร้อมบรรจุทำงานในนั้นได้เลย ตอนนี้กูกำลังเรียน ป.ตรี แต่แม่กูเสือกจะให้กูไปเรียนไอ รร. นี้ เพราะตอนทำงานจะได้งานรัฐวิสาหกิจแถมเลื่อนตำแหน่งไว มันดีจริงเหรอวะ? ทำไมกูรู้สึกว่าถ้าได้งานนี้จะกลายเป็นแค่อยู่ในกะลาไปวันๆวะ?
หลักสูตรอะไรวะ ขว้างของไว้วินาศกว่าเดิมเรอะ
ถามความเห็นพวกมึงหน่อย
ถ้ามีลูกน้องคนนึงเป็นพวกที่ไม่มั่นใจในตัวเอง เรื่องเล็กๆจะทำอะไรทีชอบถามให้ชัวร์ก่อนทั้งๆที่ตัวเองก็รู้อยู่แล้วว่าทำไง
แต่เรื่องใหญ่ๆบางเรื่องที่ไม่ควรคิดเองดันทำโดยไม่ถามซะอย่างงั้น เจอแบบนี้พวกมึงว่าทำไงดี
โรงเรียนไปรษณีย์ กูเคยสนใจนะ ตอนนั้นอยู่ ม.6 เรียนหนึ่งปีจบออกมามีงานทำ เงินเดือนเริ่มที่ 7900 มั้ง ตอนนี้ขยับเป็นหมื่นต้นๆ
ถ้ามองในแง่ว่ามีงานทำมันก็ดีอ่ะ แต่ถ้าคิดว่าตัวเองสามารถสอบเข้าราชการได้ ก็ไปเรียนป.ตรีดีกว่า
>>144 ไม่ใช่แค่นั้น ประเด็นคือ แม่กูบอกว่าถ้าเทียบกับในวงการทหาร ตำรวจ เวลาอัพยศ เลื่อนตำแหน่ง ส่วนใหญ่จะเลื่อนพวกที่จบ รร.นายร้อย/นายสิบ ไง ไอ รร.ไปรษณีย์ นี่ก็เหมือนกันอ่ะ เวลาเลื่อนยศหรือตำแหน่งจะเอาพวกที่จบจาก รร. ของมันเองมากกว่าไง ค่านิยมแม่งถอดแบบมาจากไอ รร.นายร้อยนี่แหละมึง ส่วนตัวกูเรียนสายคอมแต่แม่ไม่ค่อยอยากให้เพราะงานในไทยตอนเริ่มต้นมันไม่ค่อยดี ทำงานไปก็ไม่สบายสุขภาพ ราชการไม่ค่อยเปิดรับ(ยิ่งICTหรือไอเศรษฐกากและสังคังไรนั่นยิงรับแต่outsorceหว่ะ) แม่กุยิ่งเชียร์ๆแกมบังคับอีก แต่เสือกมาทำพูดว่าเรียนที่ไหนก็ได้บ้านเราไม่บังคับ เอาตามตรงนะ "มือถือสากปากถือศีล" ชิบหาย
>>139 พี่กูนี่เหมือนมึงเลย จบป.ตรีหางานไม่ได้แม่เลยให้เรียนรร.ไปรษณีย์ตามรอยพ่อมัน จบมาพี่กูได้ทำงานไปรษณีย์เงินเดือน 12,000นิดๆ แม่งบ่นท้อเงินน้อยชิบหาย แต่นะแต่พอทำนานเข้าเงินแม่งเยอะหูดับตับไหม้ ตัวพ่อมันอ่ะทำจนเป็นนายสถานี(เรียกงี้ป่าวกุไม่แน่ใจ) เงินเดือนเป็นแสน โบนัสกระจาย รร.พวกรถไฟเหมือนกัน จบมาเงินขึ้นเอาๆ อายุสี่สิบหลักแสนนี่ไปถึงแน่นอน ส่วนตัวกุคิดว่าถ้าทำเอกชน คนอายุ40ได้เป็นแสนมีอยุ่เยอะก็จริง แต่มึงคิดว่ามึงเป็นหัวกะทิเหล่านั้นหรือเปล่า แข่งขันกะคนอื่นไหวไหม ถ้าไม่มึงก้ลองพิจารณาทางเลือกนี้ไว้ดู งานกะลาจำเจ แต่โอกาสเงินเดือนสูงเท่ากับร้อยเปอเซนต์นะ ....ทั้งนี้ทั้งนั้นกูไม่ได้ทำทั้งสองอย่าง พอดีไม่ค่อยชอบราชการทุกวันนี้ก้มหน้าทำเอกชนเพื่อเงิน 16000 อยู่555
>>147 ฝากถามพี่มึงหน่อยดิ๊ว่าระบบสังคมแม่งมันเป็นยังไง? คล้ายๆพวกเรียน กศน. มั้ย? หรือว่าออกแนวเด็ก ปวช. ที่แบ่งพรรคพวกแล้วมีพวกเถื่อนๆวะ?
กูเกลียดอย่างหลังเหี้ยๆเลยนะมึง มันจะลามปามไปยันมีพวกที่เพิ่งจบมาใหม่ๆละกร่างใส่รุ่นน้อง ทำตัวแหกกฎสร้างความจัญไรให้อนาคตเด็กใหม่นี่แหละ
กุทำงานมาสองที่แล้วรู้สึกไม่มีความสุข ตอนนี้ได้ทุนมาก้อนนึงกำลังจะเปิดอะไรเป็นของตัวเอง แต่ช่วงนี้ที่กำลังหาโรงงาน/ดีลกะหุ้นส่วนให้ลงตัวคือ อยู่บ้านว่างๆสัสๆ ทำไมกุรู้สึกตัวเองไร้ค่า ทั้งๆที่กำลังจะทำโปรเจคใหญ่วะ คงเพราะไม่ค่อยได้ออกไปเจอคนอ่ะ คือกุพยายามหาอะไรทำแต่ก็ไม่พ้นว่างอยู่ดี จัดการกับความรู้สึกไงดีวะเพื่อนโม่ง
>>150 ที่มันว่างเพราะมึงยังตกลงกะเขาแบบคร่าวๆ อยู่ป่ะ คงต้องรอให้ทุกอย่างพอจะเห็นรูปร่างชัดเจนก่อนแล้วปัญหาจะมาให้มึงแก้เอง ถ้ามึงรู้สึกไร้ค่ามากจริงๆ ตอนนี้ก็ลองเอากระดาษมาลิสต์ถึงปัญหาที่น่าจะเกิดขึ้นและคิดหาทางรับมือไว้ก่อนก็ได้ อย่างพวกซัพพลายเอ้อสำรอง ตลาดสำรอง รวมไปถึงกรณีมึงทำแล้วไม่รุ่ง จะเบนเข็มยังไงให้ไอ้ที่ลงทุนไว้แล้วให้เจ็บตัวน้อยที่สุดงี้
เออ กูมีคำถามว่ะ พวกมึงมีใครที่พูดอังกฤษได้ในชีวิตประจำวัน แต่พอเป็นการคุยโทรศัพท์แล้วกลายเป็นเอ๋อเหรอขึ้นมาซะงั้น เหมือนสติปัญญาพัฒนากลับไปสู่จุดศุนย์บ้างป่ะวะ มีวิธีแก้มั้ย กูนี่มีปัญหากับเรื่องนี้มากเลย สมมติคุยกะฝรั่งตัวต่อตัว ได้สบตาได้อ่านสีหน้ากูตอบได้ลื่นนะ ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่กูไม่ได้รู้ลึกอะไรมากแต่ก็หยิบนั่นผสมนี่มาให้มันไม่น่าเกลียดได้ แต่พอเป็นโทรศัพท์กูแบบ............... จะตอบได้เฉพาะเรื่องที่รู้ ส่วนเรื่องที่ไม่รู้กูจะแถไม่ออกเลย
พวกเปิดติวสอบราชการแถวรามนี่น่าเชื่อถือป่าววะ คือมีคนในมาติวรึเปล่า
กูก็ไม่ได้หวังขนาดรู้ข้อสอบก่อนคนอื่นหรอก แต่เห็นราคาครึ่งหมื่นกูอยากรู้ว่าจะได้แนวหรือตัวอย่างข้อสอบเก่าๆมั้ย
ถ้าไม่มีกูว่าซื้อหนังสือมาอ่านเองหมดไม่ถึง 2000 น่าจะคุ้มกว่า
มันก็ความรู้ทั่วไปละ เกี่ยวกับการงานที่มึงจะทำนั้นละ มีคนไปจำแล้วเอามารวมขาย ออกตรงก็ดีไป ออกไม่ตรงก็ซวยไป
อันที่จริง มึงไม่ต้องไปเสียตังกับพวกนี้หรอก หนังสือ se-ed ก็เกินพอ
ก่อนอื่นมึงตั้งเป้าก่อนอยากทำตำแหน่งไร เอาที่เปิดสอบบ่อยเหี้ย ๆ
ก็ธุรการ มึงก็อ่านพวกระเบียบคำสั่งออกหนังสือ วิธีการพิมพ์หนังสือ บลา ๆ อะไรไป
อาจมีงานการเงินนิด ๆ พวกระเบียบตกเบิก ค่าเช่าบ้านห่าเหวอะไรพวกนี้ กฏหมายนู่นนี้อีกนิดหน่อย
อ่อ เว็บกรมที่มึงไปสมัคร คำขวัญ ชื่อ ผอ จำไว้ด้วยก็ดี แต่ไม่ต้องไปซีเรียส ออกอย่างมากก็ไม่เกิน 2 ข้อ
อ่า ถ้ามีสอบสัมภาษณ์ที่เป็นหน่วยงานภูมิภาคจัดสอบเอง ให้มึงทำใจไว้เลย เก่งแค่ไหน ถ้ามึงไม่ใช่คนที่เคยเป็นลูกจ้างหน่วยงานนั้น
ไงก็น่าจะได้อย่างดีไม่เกินที่สอง มันมีตัวอยู่แล้วเว้ย จัดสอบเพื่อให้ตัวพวกนี้ขึ้นมาเป็นราชการนี้ละ แต่ว่าถ้ามันเรียกเพิ่ม มึงก็ได้เป็นสิทธิแรก ๆ ไง
สอบ ๆ ไปเหอะ อย่าคิดมาก ราชการนอกจากความรู้แล้วดวงมึงต้องดีด้วย อย่างว่าละคนมันอยากเป็นเยอะ
>>152 กูไม่แนะนำดีกว่า มิจฉาชีพเยอะ มีคนโดนก็เยอะพอๆกัน ของจริงมีบ้างของปลอมเกลื่อนไป ส่วนมากที่จะโกงคือเนื้อหาขัดกับของจริง คนในราชการอ่ะอาจจะมีแต่จะการันตีในคุณภาพการสอนได้แค่ไหนวะ? บางทีเอาใครก็ไม่รู้มาย้อมแมวเป็นคนวงในเพื่อหาเงินจนร่ำรวยยังมีเลย ถ้าไม่นับสลัมคลองเตยนะ ตลาดหน้ารามคืออะไรที่กูรู้สึกว่าไม่น่าไปเดินเที่ยวพอๆกับแถวเยาวราชเลย
ประเด็นคือ ส่วนราชการที่กูจะสอบเนื้อหามันกว้างไง เหมือนกับบอกว่าสอบนักวิเคราะห์นโยบายและแผน
แล้วเนื้อหาที่ประกาศแม่งกว้างมาก ทำแผน เขียนโครงการ ของพวกนี้ไม่มีในหลักสูตรป.ตรี
ที่กูสงสัยคือ ไอ้พวกติวกันหลายพันถ้ามันเคยจำข้อสอบเก่าที่เคยออก แล้วเอามาติวมันก็คุ้มอยู่
กุสอบไม่เคยติวเลยว่ะ ซื้อหนังสือซีเอ็ด หน้ารามตลอด แมร่งเนื้อหาไม่ตรง ข้อสอบซ้ำ ไม่ชัด เลยเลิกซื้อเลย หาเอง
สงสัยสอบปปงนิดหนึ่ง คือแม่งรับทุกวุฒิเลยว่ะ ปรกติจะมีตำแหน่งทั่วไปอย่างธุรการหรือนักจัดการงานทั่วไปที่รับทุกวุฒิ แต่พวกนักสืบสวนการฟอกเงินนี่ควรจะรับแค่นิติ เศรษฐศาสตร์ บัญชีก็พอ
ตอนแรกกูก็คิดว่า ปปง คนน่าจะอยากย้ายมาเยอะนะ เพราะเงินพิเศษตามกฎหมายเยอะมาก แค่ผ่านทดลองงานก็ได้ 3500 ถ้าจบเนติและมีประสบการ์ณในการทำงานก็ได้อีกสองเท่า ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับข้าราชการหน่วยอื่น แถมกฎหมายกองทุนปปง ให้แบ่งเงินที่อายัดทรัพย์สินทร์จากการฟอกเงินมาครึ่งหนึ่งเข้ากองทุน ไปเปิดระเบียบดู เหมือนเจ้าหน้าที่ที่นำยึดจะมีสิทธิได้ส่วนแบ่งด้วย โอโห ยึดได้มากส่วนแบ่งก็ได้มาก
แต่ท่าทางระบบงานจะเหี้ยว่ะ ต้นปีเพิ่งเปิดรับโอนข้าราชการจากหน่วยอื่นมาครึ่งร้อย ซักพักก็เปิดสอบอีกร้อยกว่าตำแหน่ง พอเปิดดูรายงานประจำปี มีรายงานไว้ชัดเลยว่าปัญหาในการปฏิบัติงานคือข้าราชการไม่พอเพราะลาออกกับย้ายไปเยอะ
เบื่อเวลาส่งเมล์ไปฝึกงานแล้วทางนู้นตอบกลับมาว่า "ถ้าทางเราสนใจจะติดต่อกลับไปนะคะ"
อีด๊อกกกกก ถ้าไม่สนใจก็ติดต่อกลับมาบอกกูด้วยซิโว้ยยยย ไม่ใช่ให้กูรอเก้อไปฟรีๆ
ประเทศเราชอบแทงกั้ก
>>162 คิดเหมือนกันเลยว่ะ รับทุกวุฒิแบบนี้ตีความได้สองอย่างอ่ะ ว่าอยากกินเงินค่าสมัครสอบเยอะๆเลยรับแม่งหมดแต่เวลาสัมภาษณ์จริงก็เอาแค่ นิติ รัฐศาสตร์ บัญชี
หรือสอง คนไม่พอจริงๆ เลยรีบรับ อยากให้คนสมัครเยอะๆ แต่เวลาทำงานจริงเด็กใหม่ที่เข้ามาก็เป็นแค่เบ๊ให้พวกเก่าๆจิกหัวใช้
ปสก.ทำงานนับจากวันที่เริ่มงาน หรือวันที่ผ่านโปร(4เดือน)วะ สมมติกุเข้าทำงานเดือนเมษา สิ้นมีนานี้ถือว่า 1ปียัง หรือต้องรออีกสี่เดือนถึงนับเป็น 1ปี
เงินเดือนขึ้น 200 บาท กู้สหกรณ์เหมาบุฟเลี้ยงเพื่อนดีก่า
มีโม่งในนี้รับราชการทหารมั่งมั้ยวะ? กูอยากรู้ว่ากองไหน กรมไหนทำงานเหนื่อยน้อยสุดวะ? แล้วทหารบก เรือ อากาศนี่อันไหนคือสบายสุด?
กุทำงานสายน้ำมันอยู่ ตปท งานแรกหลังเรียนจบเลย ทำมาได้สองปีกว่า แต่เริ่มคิดอยากเปลี่ยนสายงานหว่ะ แม่งชีวิตมีแต่งานๆๆๆๆ ที่บ้านกุก็เหมือนอยากให้กลับไปทำงานที่ไทยด้วย ถ้ากลับไปทำที่ไทยอยากทำอะไรที่ไม่เกี่ยวกับวิศวะเลย (กุจบด้านนี้มา ไม่มีประสบการณ์ด้านอื่นเลย) แล้วงานปัจจุบันกุค่อนข้างเปย์โหด (สมัยกุเด็กจบใหม่เพิ่งเริ่มงานได้เดือนละแสนกว่า) งานใหม่ไม่จำเป็นต้องได้ขนาดนี้ แต่ให้กุไปเริ่มสองหมื่นกุก็ทำใจไม่ค่อยได้หว่ะ
ตอนนี้ยังลอยๆอยู่ ไม่รู้หางานสายไหนดี แนะนำกุโหน่ยยยย
สป.มท. เปิดสอบนักวิเคราะห์ หน่วยงานนี้น่าทำมั้ย งานโหดมั้ย
เพื่อนโม่งกูขอปรึกษาหน่อย ตอนนี้กูอายุ 25 ทำงานเป็นพนักงานบริษัทเงินเดือน 15000 มีภาระที่บ้านเล็กน้อยแต่บ้านไม่รวย กูมีความฝันว่าอยากไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศซักช่วงนึงเปลี่ยนๆไปหลายๆประเทศ
แต่ด้วยทุนทรัพย์ที่ไม่มี หน้าตาก็ไม่ดีจะไปหาป๋าก็ไม่ได้ เลยเหลือทางเดียวคือความสามารถซึ่งกูก็พยายามฝึกทุกๆวันหลังเลิกงานมาเป็นปีละ ก็ดีขึ้นนิดหน่อย อย่างพวกภาษากับวาดรูป(กูทำงานด้านศิลปะ) แต่กูเริ่มกังวลอ่ะ กูอายุ 25 แล้วเหมือนเหลือเวลาอีกนิดเดียวเองแล้วแม่ก็บอกให้รับราชการหาความมั่นคงในชีวิต ซึ่งเหมือนว่าวัยนี้จะต้องหาความมั่นให้ชีวิตแล้ว กูเลยควรจะล้มเลิกความฝันของตัวเองแล้วไปจริงจังกับการทำงาน เก็บเงิน แบบนี้ดี หรือกูควรทำตามความฝันต่อดี อย่างที่บอกกูไม่ได้อยากอยู่ที่ไหนยาวๆแต่อยากไปเรียนรู้วัฒนธรรมมากกว่า ซึ่งถ้าทำแบบนี้งานก็ต้องออกแล้วการหางานในต่างประเทศนี่ยิ่งยากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ กูควรทำไงดีวะ พอคิดถึงตัวเองที่ไม่มีความฝันแล้วกูก็รู้สึกแบบแล้วกูจะอยู่ไปทำไมทุกทีเลยว่ะ
กูอยากเดินทางแต่เงินก็มีน้อย ชีวิตไม่มั่นคง ทำไงดีหรือมีวิธีที่ดีกว่านี้มั้ย
>>175 ปลูููููููููููููููููููููููููููููููููููููููููกผััััััััััััััััััััััััััััััััััััีีัก เลี้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้ยงหมููููููููููููููููููููููููููููููููููููููููููููููููู เห็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็ด เป็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็ด ไก่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ สร้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้ััั้้างชีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีวิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิตที่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่พอเพีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีียงสิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิลูููููููููููููููููููููููููููููููููููููููก เหลืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืือมีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีเหลืิืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืือเก็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็บก็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็เอาไว้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้่่้้้้้้ทำทุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุน ทำตามรอยพ่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่อหลวงของเรา ชีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีวิิิิิิิิิิิ้้้้้้้้้้้ิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิตก็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็๋๋็๋๋็็็็็็็พอเพียงและเป็นสุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุข
>>175 หาความฝันก่อนถ้ายังมีคนสนับสนุน มีเงินเพียงพอต่อให้แก่ตัวไปถ้าไม่มีเงินก็หาความฝันไม่ได้อีก แต่ถ้ามีเงินตามฝันก็ง่ายขึ้น อาจมีเวลาตามฝันแค่ 1-2ปีสั้นๆถ้าไม่ไหวก็ตั้งหน้าตั้งตาหาเงินต่อ กูอายุเท่ากันเงินเดือนน้อยนิดเหมือนกันทุกวันนี้ก็คิด ตอนเด็กเคยฝันอยากได้เงินเดือนๆละสามหมื่นสบายๆหรือเยอะกว่านั้น แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เงินหายากถ้าจะให้เดือนนึงได้หลายหมื่น กูก็ชอบวาดรูปเหมือนกันนะ ทำงานพวกออกแบบอยู่งานประจำ เงินเดือนได้น้อยนิด แต่โดนใช้จนคุ้ม ถึงมีประสบการณ์เยอะกว่านี้กูก็คิดว่าเขาคงเพิ่มให้ไม่เท่าไหร่ เหนื่อยใจ
กูเองก็เงินเก็บยังไม่เยอะพอจะตั้งตัวทำอะไร อยากไปเรียนด้านที่ชอบต่อที่ต่างประเทศ แต่ถ้าไม่มีทุนก็ต้องเงินตัวเอง ลำพังเงินตอนนี้ไม่พอด้วยซํ้าสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด
กูก็มีความฝันเหมือนกันอยากไปอยู่ ในที่ๆท้าทายใหม่ๆบ้าง ไม่ใช่เดิมๆ
แต่ก็เป็นห่วงพ่อแม่นะถ้าเขาอยู่กันแค่สองคน ตอนที่กูไปอยู่ที่ไหนสักที่ช่วงหนึ่ง
ตอนนี้กูก็มองทางข้างหน้าไม่ค่อยเห็น แต่สิ่งที่ตอนนี้ทำได้ก่อนคือทำงานเก็บเงินเพื่ออนาคต
แต่ความฝันที่แท้จริงของกูตอนนี้กูค้นพบว่าคือการหาเงินให้อนาคตสุขสบายโดยไม่ต้องทำงาน
มีเวลาไปเที่ยวซื้อของปีละสองสามครั้ง หรือไปอยู่พักผ่อนหย่อนใจได้แบบไม่กังวล แต่กูคงเพ้อฝันไป
ถึงตอนนั้นกูก็จะมีเวลาทำงานอดิเรกในสิ่งที่ชอบ ใช้ชีวิตโดยไม่ต้องทำงานมนุษย์เงินเดือน
แต่มันดูไกลและยากสำหรับกูในตอนนี้ ตอนนี้กูต้องเลือกเงินก่อนความฝันหลายอย่างที่อยากทำ
เพราะเกิดมาแล้วเลยอยากทำให้ได้ แต่ความฝันกูสำเร็จไปแล้วข้อนึงที่อยากทำแต่กูก็ไม่อยากจะทำกับมัน
ทั้งชีวิตกูอยากลองอะไรใหม่ๆที่มากขึ้นและมากขึ้นกว่านี้ ชีวิตที่สนุกงานที่สนุกจะทำให้กูไม่เบื่อไม่หดหู่ในวันๆที่น่าเบื่อ ทำให้คิดว่าเกิดมาทำงานหาเงิน ก็ต้องใช้เงินที่หามาให้คุ้ม ดีกว่าตายไปแล้วหามาเหนื่อยแทบตายแล้วไม่ได้ใช้. มึงก็อย่ากดดันตัวเองเกินไปนะ ลองไปหาความสุขผ่อนคลายเป็นช่วงๆกูเองก็มีช่วงที่เครียด
และช่วงที่ผ่อนคลายให้กับตัวเอง
หงุดหงิดที่เพื่อนไม่ฉลาด ลงทุนคนละครึ่งจ้างโรงงาน จ่ายเงินมัดจำละ เพื่อนเป็นคนติดต่อเจ้าของโรงงาน กุก็บอกเออมันตั้งกรุปใหม่ลากเราเข้าด้วยสิ
นางบอกทำไปทำไม ลำบากเจ้าของโรงงาน ถามพี่เขาสิสะดวกไหม ไลน์ของเก่าก็มองไม่เห็นนะ วันนั้นกุด่าเลยจ้า ตามความเหมาะสมมันก็ควรรับรู้ทั้งสองฝ่ายไหม ที่สำคัญพี่เจ้าของโรงงานแกยึดไลน์เป็นหลักฐานว่าคุยอะไรกันไว้บ้าง เมิงดูคนเดียวคิดว่าดูละเอียดแล้วเหรอ ช่วยกันดูจะได้ไม่พลาด
กุไม่เข้าใจตรรกะเพื่อนกุจริงๆว่ะ แต่อธิบายไปแบบนี้มันก็ยอมเปิดกรุปใหม่ให้ ที่หงุดหงิดคือทำไมต้องให้กุมาอธิบายเยอะแยะ ฟรัค
>>177 ฮือ มึงนี่ร่างแยกกูจริงๆ กูก็อยากท้าทาย อยากเดินทาง อยากเรียนรู้ กูเบื่อที่จะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆติดขัดแค่เรื่องเงินกับหนทางในอนาคตแหละ ถ้ามัวไปทำตามฝันการงานมันก็ไม่มั่นคง ถ้าจะมั่นคงก็ต้องพับโครงการเก็บไปก่อน แต่ว่าเราจะอยู่ถึงแก่มั้ยนั่นก็อีกเรื่อง กูกลัวว่าสุดท้ายจะไม่ได้ทำไรเลย
>>179 ดีนะ กูก็อยากทำ แต่อย่างที่ว่าพออายุมากก็คิดมากอ่ะ แบบออแพร์หรือพวกเวิกทราเวล/สตัดดี้ มันเหมือนเป็นการเดินทางเก็บประสบการณ์แต่ในเรื่องการงานจริงๆมันก็ไม่มั่นคง กูลำบากใจจัง
>>180 เดี๋ยวๆ มึงใช่175ปะ?? คือจุดประสงค์ที่มึงจะไปนี่อยากไปเรียนวัฒนธรรมแล้วก็อยู่แปปๆ อยู่แล้วไม่ใช่อ่อ แล้วมึงจะหาความมั่นคงอะไรในเมื่อมึงจะเดินทางไปเรื่อยๆ ถ้ามึงจะเอามั่นคงกูว่ามึงไปหาที่เรียนต่อ หรือไม่ก็ที่ทำงานอยู่ยาวๆ แล้วเอาภาษาด้วยไม่ดีกว่าเหรอวะ กลับมาได้ภาษาอัพเงินที่ไทยได้อีก แต่ถ้ามึงอยากไปเที่ยวๆ อยู่แปปๆ เวิร์กทราเวลก็ดีนะ ถ้าเก็บดีๆกลับมามึงอาจจะมีเงินก้อนไปเป็นทุนให้มึงต่อด้วย
ปล.กูไม่ใช่179
กุ 179 กุว่า 180 ยังคิดไม่ตกมากกว่าว่าตัวเองอยากมั่นคง รึอยากทำตามความฝันกันแน่ ไปถามใจตัวเองให้ดีๆก่อนเถอะ ไม่ก็เปลี่ยนใจกลับไปกลับมา
>>182 ความมั่นคงที่ว่าคือหน้าที่การงานในตอนนี้อ่ะ ถ้าอยากเดินทางก็ต้องลาออกไปตามฝัน หางานใหม่ทำเรื่อยๆไรแบบนี้ซึ่งมันไม่มั่นคงไง เข้าใหม่เงินเดือนสต๊าดไม่เท่าไหร่ด้วยเปลี่ยนงานเรื่อยๆมันก็คล้ายๆย่ำอยู่กับที่อ่ะนะ
แต่ถ้าจะเอาความมั่นคงกูก็ต้องหางานที่จะลงหลักปักฐานยาวๆไปเลยแบบนี้แต่ก็จะอดเดินทางอ่ะ ซึ่งกูก็ยังคิดไม่ตกอย่างที่ >>183 ว่านั่นแหละ
ทำงานไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง แก้่ยังไงดีว่ะ
กูเพิ่งเริ่มงานได้ไม่กี่วันแต่เริ่มเบื่อๆแล้วว่ะ สังคมก็โอเคนะ แต่ปล่อยกุนั่งว่างโง่ๆทั้งวัน นายก็ใช้แต่คนเก่า คนเก่าก็ยุ่งมาสอนไม่ได้ กุไปขอให้เขาสอนงานก็ไม่ว่างอีกไม่ก็ดึงงานกุไปทำเองด้วยเลย แม่งไม่มีโอกาสเรียนรู้เลยว่ะ ทำได้แค่สาระแนตอนเขาคุยงานกันแต่ก็ฟังไม่รุ้เรื่องเพราะไม่ทีคนอธิบายรายละเอียด สิ่งดีๆที่กูรู้สึกได้อย่างเดียวคือกุมีเวลาเอาหนังสือเรียนที่ดองๆไว้มานั่งอ่านเต็มเวลาเพราะเล่นมือถือไม่ได้เนี่ยแหละ
>>186 ตอนเข้ามาทำงานแรกๆกูก็เป็น แต่ดีตรงที่ใหม่มันไม่ค่อย block เว็บ หรือห้ามเอาไฟล์ในเครื่องบริษัทเข้าออก
กูเลยเอาเวลาอันโคตรว่างของกูมานั่งอ่านหนังสือกับลองทำอะไรเล่นของตัวเองไปเรื่อย
เรื่องสอนงานบางทีมันต้องรออีกซักนิดนิดถึงจะมีจังหวะคนว่างมาสอน ใจเย็นๆรอดูไปอีกซักพักก็ได้
กูมาแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น สมัครทำงานพิเศษไปที่ร้านขายหนังสือมือสองไปละ ประกาศผลพรุ่งนี้
ตอนนี้กูกลัวได้งานแล้วทำงานไม่รอดว่ะ คือเจ้านายเขาบอกงานนี้ใช้ความจำเยอะนะ สนทนาได้คล่องมั้ย
คือกูฟังรู้เรื่องนะว่าเขาต้องการอะไร แต่เวลาพูด พูดตอบโต้แบบอัตโนมัติไม่ได้ว่ะ
เครียด อยากได้งานก็อยาก แต่กลัวไปเป็นภาระเพื่อนร่วมงานว่ะ
สป.พณ เปิดสอบนักวิชาการพาณิชย์ ทำงานที่ส่วนภูมิภาค อยากรู้ว่าหน่วยงานนี้น่าทำมั้ย งานเยอะและยากมั้ย
สอบถามนิด กะลังตัดสินใจ
ระหว่างทำงานเดิมๆ เงินเดือนไม่เยอะ แต่อยู่ได้เรื่อยๆ ไม่ขาดทุนแน่นอน ไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้เกลียด
กะ ไปตั้งร้านเอง เงินลงทุนสูง มีแววขาดทุน เหนื่อยกว่าเดิม แต่กูชอบแบบนี้
อายุกูก็ 30 ละ ควรจะ play safe รึ take risk ดี
>>192 อย่ารีบทำอะไรที่เงินลงทุนสูงเลยว่ะ
ลองทำอะไรที่ใกล้เคียงกันในสเกลเล็กนอกเวลางานก่อนได้มั้ย เรียนรู้เรื่องสินค้า อาชีพที่จะทำ วิธีการขาย หรืออะไรก็ตาม เผื่อลองทำจริงแล้วได้ระบบใหม่ที่ประยุกต์กับของที่จะทำได้ด้วย หรือถึงทำล้มไปก็ไม่เจ็บ อยู่ๆไม่เคยเลยไปทำแม่งเสี่ยงว่ะ ยิ่งถ้าทุนสูงต้องเอาเงินเก็บไปลง เจ๊งทีเสียทั้งงานทั้งเงินเก็บทั้งเวลาเลย
เงินกับเวลามันหายากว่ะ ถ้าจะทำกิจการอะไรต้องมั่นใจเกเน80%ถึงควรทำ
ในฐานะมนุษย์เงินเดือน vat 8% เตรียมพร้อมรับมืออย่างไงดีวะ
กูต้องไปกินซี่โครงไก่ต้มฝักแบบเมื่อก่อนไหม
ปล. อีป้าร้านข้าวที่ทำงานกูคงขึ้นราคาได้อย่างสบายใจละ หลังจากอ้างมานาน 300 ก็ขึ้น รัฐบอกจะปรับเงินเดือนราชการก็ขึ้น แก๊สขึ้นก็ขึ้น นี้เก็บภาษี ผลกระทบใหญ่ขนาดนี้ น่าจะได้เห็นข้าวผัดกะเพราะ 50 บาทในไม่ช้า
โม่งในนี้มีใครมีวิธีเก็บเงินดีๆบ้างวะ กูเก็บได้เดือนนึงน้อยมาก เหมือนจะมีเรื่องให้เสียเงินตลอด ข้าวของกูว่ากูก็ไม่ได้เยอะ รองเท้ามีสี่คู่ กระเป๋าก็ไม่ได้ซื้อแพง กูซื้อของแค่ตอนมันเสียกับหมดอายุ แต่เงินเก็บไม่ค่อยมีเลยว่ะ
เป็นนักศึกษาปี3กำลังหาที่ฝึกงาน เล็งอยากได้ที่นึงที่น่าจะมีประสบการณ์ติดไม้ติดมือกลับมาแต่เสือกไม่ติด
ดันไปได้อีกที่ที่บริษัทแม่งไม่น่าจะได้ประสบการณ์อะไรกลับมาเลยแต่ดันได้ตังค์แทน แง กูอยากได้ประสบการณ์กับสกิลกลับมามากกว่า
นี่เป็นการฝึกงานครั้งแรกด้วย คือกูควรไม่อคติสินะ เผื่อที่ๆได้ไปอาจจะดีอะไรงี้ ใครมีปสก.ช่วยแชร์หน่อยเกี่ยวกับการฝึกงานในที่ๆไม่อยากไปแต่ดันได้อะไรกว่าที่คิดเผื่อกูจะมีกำลังใจมากขึ้น
ตอนนี้กูรู้สึกว่าไม่ว่าเงินเดือนกูจะเพิ่มขึ้นเยอะขนาดไหน พอได้ยินว่ามีคนในสายงานเดียวกันอายุงานพอๆกันได้เงินเดือนเยอะกว่า
กูก็รู้สึกไม่พอใจอยู่ดี รู้สึกเหมือนกำลังถูกหลอกกดเงินเดือนอยู่ คิดว่าตัวเองน่าจะมีเงินเดือนเยอะกว่านี้ได้
ตอนย้ายใหม่ๆก็รู้สึกว่าตัวเองเงินเดือนเยอะมากแล้วนะ พอย้ายปุ๊ปได้เจอพวกสายงานเดียวกันเงินเดือนเยอะกว่าอีกหลายคน
แต่ตอนนี้ด้วยอายุงาน ความสามารถ และสภาพเศรษฐกิจมันก็ค่อนข้างตันสำหรับกูแล้ว ตอนนี้กูไม่มีแรงออกไปวิ่งหางานใหม่แล้วด้วย
สงสัยได้เก็บ level กับบริษัทปัจจุบันไปพักใหญ่ๆ ถ้าไม่โดนเทซะก่อนอ่ะนะ เพราะท่าทางบริษัทเริ่มร่อแร่แล้ว 555
>>203 เงินเดือนมันมีหลายปัจจัยมาก เเค่กทมและปริมณฑล vs ต่างจังหวัด(ที่ไม่ใช่เมืองใหญ่ๆ)ก็ห่างกันเยอะแล้วมึง
แล้วบริบทองค์กรเล็ก ใหญ่มันจ่ายต่างกัน ขึ้นกับนายจ้างจ่ายไหวแค่ไหน สวัสดิการเป็นไง มีค่านู้นนี่นั้นบวกให้ไหม(ค่าคอม ค่าโอที ค่าน้ำมัน ค่าใบประกอบ ค่าภาษา ฯลฯ)
อีกปัจจัยก็เนื้อหางาน ทำกี่โมงถึงกี่โมง ต้องรับผิดชอบงานเยอะไหม งานโหดหนักแค่ไหน ประเภทใช้งานจนคุ้มเงินเดือนมีเยอะแยะ
เงินเดือนก็เหมือนบัญชีในธนาคารนั่นแหละ มีคนที่ได้เยอะกว่าและน้อยกว่า รู้จำนวนบัญชีในธนาคารเพื่อนหรือชาวบ้านไปแล้วมันเกี่ยวอะไรกะเราป่าว
ที่สำคัญ คือบัญชีเราก็พอแล้วมั้ง ไม่ต้องไปใส่ใจคนอื่นหรอก คิดมากเปล่าๆเสียเวลา
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดงานเยอะ งานยากมั้ย
>>202 กูเคยได้ฝึกงานบริษัทใหญ่ แต่ต้องทำฟรี ตอนแรกก็วาดฝันซะดิบดีว่าจะได้ความรู้ หรืออาจจะมีโอกาสกลับมาทำงานที่นี่ก็ได้ สุดท้ายโดนแช่แข็งนั่งหายใจทิ้งไปวันๆอยู่2เดือน ในขณะที่เพื่อนที่ทำบ.เล็กๆ ได้ทั้งตังและปสก. กูว่าเขาให้ตังมึงยังไงเขาก็ต้องใช้มึงให้คุ้มแน่ๆแหละ
>>208 งานเยอะมั้ย เดาว่าไม่เยอะว่ะ เปิด Wiki เห็นงบทั้งกระทรวงแค่ 7000ล้าน แต่กรมบางกรมล่อเข้าไปหมื่นล้าน
เงินน้อย งบประมาณน้อย แปลว่างานก็น้อยตามนั้นแหละ ไม่ค่อยมีโครงการอะไร ส่วนให้หมดไปกับเงินเดือนข้าราชการ
กับโครงการเล็กๆ อันนี้คือการคาดเดาของกูนะ ถ้าอยากรู้จริงๆลองไปติดต่อ สนง.พาณิชย์จังหวัดดู ว่าสภาพมันน่าจะหนักมั้ย
ถ้าเรียนป.ตรีสาขาisมธ จบมาหางานยากรึเปล่าอะเพื่อนโม่ง ตอนนี้เรียนตัวพื้นฐานอยู่แล้วรู้สึกชอบ ลังเลว่าจะย้ายเอกดีไหม
เออ กูทำบัญชีใน google sheet ได้ป่ะวะ
กูหมายถึงมันปลอดภัยแค่ไหนกะโปรแกรมแบบนี้
แบบกูตั้งให้เข้าได้เฉพาะกูไรงี้ รึยังไงทำในระบบปิดปลอดภัยกว่าอยู่ดี??
ได้งานแล้วทำใจ ไม่ว่าเมิงเก่งแค่ไหนสกิลที่เรียนมาจะไม่ได้ใช้ครบทุกสกิล แถมมีการฝ่ออีกตะหาก
สวัสดีโม่ง กุสั่งของโรงงานไปแล้ว รอของอีกสองเดือน ระหว่างนี้ทำไรดีวะ กุนั่งเล่นเกมนั่งเล่นคอมจนนิ้วแหกละ ชีวิตติดลูปเหลือทน
ที่วางแผนไว้คือ ระหว่างรอก็รับของราคาส่งอย่างอื่นมาเปิดเพจแยกทำตอนว่างๆ ไปก่อน / หาคอร์สเรียนระยะสั้นที่เกี่ยวกับสินค้าที่ตัวเองผลิต
/นั่งวางแผนสินค้าล็อตต่อไป ซึ่งอันนี้กุทำหมดแล้ว อิดอกกุว่าง ช่วยกุด้วย กรี๊ดดดดดดดดดดด
กุทำงานใหม่ไปได้เกือบจะ 6 เดือน เอาเข้าจริงๆกุทำห่าอะไรไม่เป็นเลยสักอย่างว่ะ จนคนในนั้นเริ่มไม่ปลื้มกุ กุอยากรู้ว่ามันคนประเภทแบบกุมั้ยว่ะที่สั่งงานหรือมอบหมายงาน กลับทำไม่ได้หรือทำได้แต่ก็ทำแบบส่งๆไป แบบเอาตัวรอดไปวันๆ
>>219 >>220 กุเข้าใจพวกมึงสองคนนะแรกๆกุก้โดนพวกนี้กุเจอในบริษัทไทยนะ แรกๆมากุก้นั่งเฉยๆ
เจ้านายแผนกให้ทำไรกุก้ทำ งานไม่บกพร่อง
สี่เดือนปุ๊บบอกกุไม่ผ่านโปรเพราะไม่ช่วยบริษัท กุนี่งงเลย มีการบอกว่าเห้นกุว่างบ่อยถ้าว่างต้องหัดถามคนอื่นมีไรไหม
แผนกไม่มีก็ต้องออกไปถามแผนกอื่น กุเลยบอก "ควย ไม่โปรเลยทำแบบนี้" แล้วก็ออกมาเลย หลังๆมีโทรมาง้อขอต่อโปรอีกเดือน
เพราะคนข้างในแผนกแม่งจะออกละ แต่กุบายละ บริษัทหัวดอแบบนี้
ปล.อยู่แถวสุขุมวิท 26 อาคารสำนักงานกลางๆซอย
กูเครียดว่ะ งานที่กูทำตอนนี้คือ โปรเจคมันแย่มาก กูไม่โอเคกับหัวโปรเจค กดคะแนนประเมินกู พูดจาถากถางดูถูกกู กูไปปรึกษาผจก.แผนก ขอออกจากโปรเจค ขอย้ายโปรเจคก็ไม่ยอมให้กูย้ายบอกว่าให้ทนๆทำต่อไปมาไกลขนาดนี้แล้ว แต่กูไม่มีความสุขกับงานเลยว่ะ ทำไปเครียดไป ร้องไห้เกือบทุกวัน กูหันหน้าไปปรึกษาใครก็มีแต่บอกให้กูทนไป เดี๋ยวมันก็จบแล้ว แต่แม่งกุทนมาเป็นปีๆแล้วไง ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดพ้นซะที กูควรทำไงกับชีวิตต่อไปดีวะ คือกูโอเคกับบ.เลยยังไม่อยากออก แต่พอมาทำงานแล้วต้องเจองานแบบนี้มันก็ทำให้กูไม่อยากมาทำงานอีก
อื้อหือ กูเป็นนีทว่างงานหลังเรียนจบมาจะครบปี กำลังหางาน(สัมภาษณ์ละ) มาอ่านพวกมึงละเสียวๆ เลยว่ะ 555+
>>221 อ่านแล้วหงุดหงิดแทนเหี้ยกูก็เจอ คือนั่งว่างไม่ได้ไงมันจะไม่ให้กูพักนั่งว่างบ้างเลยแต่เหี้ยพี่ที่ทำงานกวนตีน
โยนงานให้กูทำแล้วมันนั่งว่าง พอกูเคลียรเร็วแม่งก็โยนงานของมันมาอีก แล้วมันก็นั่งเล่นกกมือถือสัส พอกูว่างแปปเดียวบอกเหมือนของมึงอ่ะ งานไม่มีก็ไปถามแผนกอื่นอย่านั่งว่าง งานกูทำไวขนาดนี้ พอจบบอกกูไม่ผ่านโปร
เพราะกํไม่ตั้งใจพอ เหี้ยแล้วมาเจรจาบอก ต่อโปรอีกสองได้ต่อแล้วผ่านแน่ๆพี่แค่จะลงโทษ กูว่ามันแกล้งกูมากกว่า
ปรากฎกูทำต่ออีกสรมเดือนแล้วกูออกผลคือ เดือนที่สามคุยกับHRบอกจะให้เดือนที่สามตามที่ตกลง
พอกูออกปับสัสกูได้เท่าเดิมเงินเท่าเดิมช่วงทดลองงาน คือแม่งหลอกให้กูทำต่อป่าวเนี่ย แต่ดีแล้วแหละที่กูออกจากที่เฮงซวยนั่นได้แค่เงินน้อยๆ งานไม่ได้พัฒนาห่าอะไรเลย พี่ที่ทำงานฝ่ายเดียวกับกูแม่งกากไม่เห็นเก่งแต่อวดดีชิบหาย กูทนทำงานกับมันมาได้ไงวะ โยนงานให้กูหมดอะไรดีงานไหนดีเอาเข้าตัว แล้วเจ้านายก็เข้าใจว่า
เหมือนกูมาอยู่นี่กูไม่มีผลงานไรเลยเหี้ยมาก ผิดกับที่เก่าพี่ที่นี่ไม่ให้กูเสนออะไรสักอย่างคิดว่าควาคิดมันดีมาก
พี่ที่เก่าที่กูทำเก่งจริงไม่อวด มีเหตุผลไม่เหมือนไอ้ห่านี้ โมโหกูแค่ระบายกูออกมาดีละชีวิตกูดีขึ้นเยอะตอนนี้
>>222 มึงอย่าไปยอม!!!กูก็เคยมีเหตุผลที่ต้องออกเพราะเพื่อนร่วมงานกูสมัครใหม่แล้วออกมาหลายที่ประมาณ2-3ถือว่าไม่เยอะมากถ้าเยอะกว่านี้กูก็กลัวประวัติตัวเองแต่กูว่าถ้ามีความสามารถจริงคงไม่ต้องกลัวบริษัทไม่รับ
>>223 กูเป็นแบบมึงมาก่อนจบมา กูจบมาว่างงานพักผ่อนได้ครึ่งปีกูพึ่งเริ่มทำงาน คนอื่นเพื่อนกูจบปุปทำงานปัปอย่างไว แต่กูก็ยอมรับนะว่ากูไม่ค่อยอดทนบางอย่างกูคิดว่ากูไม่รู้จะทนไปทำไมในเมื่อกูสามารถหาเงินได้มากกว่านั้นหรือเข้าที่ๆดีกว่ากูก็พร้อมออกตลอดถ้าที่เดิมไม่มีไรให้กูเรียนรู้ต่อไป
อย่าทำงานถวายหัวเด็ดขาด กูทำงานเพื่อแลกเงิน บ.ได้เราได้ด้วย ไม่ใช่ทุ่มสุดตัวจนชีวิตแหลกไร้ความสุข
แบบนั้นอย่าทำเลยนอกจากขัดสนติดหนี้หางานใหม่ไม่ได้ต้องทนทำเพราะเงินไปก่อน
เพื่อนโม่งใคร ไม่เกินเลข 3 เปลี่ยนงานมาแล้วกี่ที่ แล้วแต่ละที่อยู่กี่ปี
นี้กะจะทำอีก 1 ปีกว่าๆ แล้วหนีไปทำช่างเสริมสวยละ
เพื่อนโม่ง ถ้าทำงานละไม่ผ่านโปรประวัติจะเสียป่ะครับ
กุเป็นนีทอยู่ปีกว่าหลังเรียนจบ ได้งานทำ 3 เดือนออก งานเยอะ เงินน้อย ถูกหักเยอะ ได้เงินรวมหมื่นนิดๆ บายจ้า
>>221 พิกัดที่มึงบอกนี่ลองเสิร์จเล่นๆอีเหี้ยเจอแต่ บ. ที่เปิดห้างแถวๆ ม. รามคำแหง กับบางแคหว่ะ 55555+ เออ กูว่าใบ้ๆสถานที่ทำงานให้โม่งได้รู้แบบมึงนี่ดีสัสๆหว่ะ จะได้มีสาระติดกลับไปมั่งว่า บ. แถวๆไหนไม่น่าคบหา
เออว่าแต่ ในโม่งนี้มีใครทำงานประเภทสิ่งทอหรือtexttileไรงี้มั่งป่ะวะ? อันนี้ ปสก. จากแม่กูเอง คล้ายๆกับของพวกมึงคุยๆกันเลยหว่ะ เจอ ผจก. โยนงานแผนกอื่นมาให้ทำ แถมแม่กูยังทำงานของแผนกตัวเองอยู่ก็เสือกสั่งย้ายให้มาทำงานตัวแผนกอื่นเดี๋ยวนั้นเดี๋ยวนี้ ไปๆมาๆก็เสือกไม่พอใจที่งานที่แผนกแม่กูเองยังทำไม่เสร็จ อีเหี้ย งงสัสๆกับไอ ผจก. ตัณหากลับนี่ชิบหายหว่ะมึง สั่งให้แม่กูทำอีกงานแล้วมาคาดหวังกับอีกงานเพื่ออะไรวะ? แบบนี้ใครจะทำตัวให้ถูกใจแม่งได้ พอบอกว่ามันทำพร้อมกันไม่ได้จะให้ทำยังไง อี ผจก. จัญไรนี่เสือกบอก "...เรื่องของคุณ" อ้าว อีสัส แบบนี้นี่กวนตีนชัดๆหว่ะ แม่กูทนมาทุกวันนี้เพราะอยากส่งเสียเรียนให้จบนะ กูเลยพยายามหางานนอกเวลาทำไปด้วย ได้ข่าวมาว่าที่แม่งเป็นแแบบนี้เพราะเล่นพรรคเล่นพวกกัน แล้วแม่กูโดนด้วยเพราะเป็นไม้กันหมาให้กับคนที่ ผจก. มันกลัว(คนที่มันกลัวก็ตำแหน่งต่ำกว่ามันนะ แต่แม่งพรรคพวกเยอะกว่า ผจก. เลยส่งแม่กูไปรับมือแทน 5555+) ตำแหน่งงานที่แม่กูสิงนี่คนที่ไม่สตรองพอโดนไล่ไป10กว่าคนละ จนHRกุมขมับอ่ะ เป็นงานพวกตรวจสอบคุณภาพผ้า เทสสารเคมีเสื้อผ้า
ปล.ที่ทำงานเป็นโรงงานอยู่ๆแถวๆทางนครปฐมไปฟาร์มจระเข้ สามพราน เจ้าของ บ. สัญชาติห้องกรง(ขังหมา) ตอนสมัครงานมันมีระบุด้วยนะว่าห้ามเอารายละเอียดการทำงานหรือสภาพสังคมในการทำงานไปบอกคนภายนอก ไม่งั้นเจอฟ้องศาล แต่กูไม่ได้ทำงานกับแม่งหว่ะ ไม่เกี่ยวกัรนะ 55555+
เห็นปัญหาของพวกมึงละกูกลัวเลย
คือกูนี่หลังเรียนจบกูมาอยู่บ้านโง่ๆ ไม่ทำห่าไรมาปีกว่า แต่ตอนนี้กูเพิ่งได้งานเขียนข่าวแบบทำที่บ้านได้อะ สรุปทุกวันนี้กูก็นั่งทำงานอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเหมือนเดิม
ตอนแรกกูก็กังวลแบบ กูไม่ได้ออกไปไหน ไปเจอใคร มันจะไม่ดีรึเปล่า แต่พอมาอ่านที่พวกมึงเจอกูเลยเพิ่งเห็นข้อดีว่างานกูมันไม่ได้เจอคนก็จริง แต่มันก็ไม่ต้องมามีปัญหาเพื่อนร่วมงานอะ (คือกูเป็นคนกลัวความสัมพันธ์กับคนด้วยแหละ ถ้างานมีปัญหากูสู้ไหว แต่ถ้ามีปัญหากับเพื่อนร่วมงานกูสู้ไม่ไหวว่ะ)
แต่ทำงานแบบนี้มันจะไม่มีความก้าวหน้ารึเปล่าวะ กูกังวลเรื่องนี้อยู่
เพื่อนโม่งชาย ปกติกางเกงสแล็คใส่ทำงานมึงใส่ซ้ำมั้ย กูใส่ประมาณตัวละ 2-3 วัน ขี้เกียจซักบ่อย
>>234 กูกลัวอยู่ไม่ยืดเหมือนกันแหละมึง แบบกูก็เพิ่งทำงานอะ ถึงงานมันจะไม่หนักใจ แต่กูก็ไม่รู้ว่ามันจะก้าวหน้าได้มั้ย
ของกูเป็นงานแปลข่าวอะ งานเบๆเลย ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมาก แต่ถ้าเป็นพวกสายโปรแกรมเมอร์/กราฟฟิคไรงี้น่าจะรายได้ดีกว่ากูเยอะ (ของกูเงินเดือนคือฐานป.ตรีอะมึง) ถ้าเป็นสายโหดๆก็คงต้องฝึกปรือฝีมือไปเรื่อยๆแหละ ยิ่งถ้าเป็นงานที่ต้องมีคนจ้าง/ดีลกับลูกค้านี่กูว่ายิ่งต้องฝึก เพราะต้องเก่ง+ทำได้หลายอย่าง ตามความต้องการของลูกค้าอะไรงี้
แล้วถ้าเป็นงานแบบนี้ กูว่าคอนเน็กชั่นก็สำคัญ ถ้ามีคนมาจ้างมึงตลอดมึงก็น่าจะอยู่ได้แหละ บางคนทำฟรีแลนซ์รวยกว่าทำงานประจำอีก
แต่สำหรับงานของกูนี่มันไม่ต้องคุยกับลูกค้าเพราะทำเว็บแปลข่าว แปลเสร็จก็แปะในเพจไรงี้ เงินก็ได้เป็นรายเดือน ไม่ต้องไปดีลงานกับใครด้วยก็เลยไม่ค่อยรู้ข้อมูลของฟรีแลนซ์แบบอื่นๆเท่าไหร่นะ (จริงๆของกูมันเหมือนทำงานบริษัทมากกว่ามั้งนะ แต่แค่ทำงานทุกอย่างที่บ้าน)
ในชีวิตกุงไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานว่ะ ไม่รู้จะโดนกดดัน บีบให้ออกเมื่อไร ตอนนี้ทำเก็บตังประหยัดว่ะ ออกมาไม่รู้จะทำอะไร
>>235 กูกราฟิกมึง T T รายได้ไม่ได้ดีเท่าไหร่ ฟรีแลนซ์สายนี้เยอะๆขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะกากไม่ว่าจะเก่ง
พอออกมาทำเองกูรู้เลยเหนื่อยมากแต่ละงานกว่าจะเคลียร์เพราะทำคนเดียว
กูเหนื่อยกูเครียดตอนแก้งาน ตอนคุยลูกค้าใช้พลังงานเยอะกูก็เหนื่อย ของกูรายได้ก็ไม่แน่นอน
จนกูเริ่มไม่แน่ใจว่าที่กูทำอยู่กูชอบมันจริงๆปล่าว เวลาท้อๆเครียดๆเรื่องเงินเรื่องงานกูไม่ชอบเลย
เห้อชีวิตก็ต้องเดินต่อไป
ฟรีแลนซ์เงินจะดีกว่าเริ่มงานในบ.แบบเด็กจบใหม่ (อันนี้กูพูดทั่วๆไปนะ) แล้ววัดกันที่ฝีมือที่ความสามารถ ไม่ใช่แค่ความสามารถในเนื้องานแต่เรื่องการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ความเข้าใจตลาด การสร้างผลงาน ฯลฯ
แต่จะไม่มีสวัสดิการ ไม่มั่นคง และไม่มีความก้าวหน้า ถ้าไม่ขวนขวายเรียนรู้เอง ท้าทายตัวเอง พอนานๆไปรายได้มันก็เป็นตามกลไกตลาด อาจจะอยู่เท่าเดิมไม่เปลี่ยน
ฟรีแลนซ์กุว่าเป็นง่ายแต่อยู๋ยาก ต้องเก่งจริง ขยันจริง และควบคุมวางแผนตัวเองให้ดี
ไม่งั้นไปไม่รอด พื้นฐานสายฟรีแลนซ์ทุกวงการเลย
ขอถามความเห็นหน่อยนะครับ อยากรู้ว่า วศ.คอมนี่จบไปทำงานยังไงหรอครับ ตอนนี้ผมเรียนอยู่ปี1 แต่พอจารย์ให้เขียนโค้ดผมทำไม่ค่อยได้เลย พอจบไปต้องเจอแต่แบบนี้ใช่มั๊ยครับ มันมีวิธีการเขียนโค้ดให้เก่งขึ้นมั๊ยครับ หรือผมควรเรียนคณะอื่นดีกว่า
>>241 ขั้นต่ำก็ IT Support กรรมกรประจำสายไอที ไม่ต้องคิดอะไรมาก พังก็ซ่อม แต่อาจเป็ดตามหน่วยงาน ตรงที่เขาจะใช้งานเรามั่วไปหมด โดนหมดทุกงานไม่ต้องห่วง ถ้าไม่มีแผนกเป็นของตัวเองหรือหัวหน้าที่คุมกะลาหัวดี ๆ ราชการมันเรียกเจ้าพนักงานเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่มึงไปทำจริง ๆ จะเป็นเจ้าพนักงานเครื่องคอมพิวเตอร์ไฟฟ้าประปาธุรการการเงินช่างแอร์ถ่ายภาพโสตทัศนะเว็บโปรแกรมมิ่งโฟโต้ช็อปตัดต่อวิดีโอขับรถถ่ายเอกสารและอื่น ๆ สุดแล้วแต่จะใช้งานกัน บันเทิงอะต่ำแหน่งนี้ แต่ละวันมึงภาวนาเลย อย่าให้มันหนังสือ ที่มีคำว่า คอม อินเตอร์เน็ต ระบบออนไลน์ มานะมึง มันจะเป็นงานมึงทันทีโดยไม่สนเหี้ยอะไรทั้งนั้น และมึงต้องทำให้ได้ด้วย
ถ้าลุยหน่อย มึงไป network มันจะเบากว่า Coding ตรงที่มึงจะเล่นกับอุปกรณ์แทน เหนื่อยหน่อยตรงที่ลุยเดินสายนี้แหละ แต่ส่วนใหญ่ต้องตระเวนต่างจังหวัดตลอดเวลา อาจต้องควบ maintenance ไปด้วย ถ้าไหวก็ลองไปดู
ลาออกจากงานมา กะจะทำกิจการของตัวเอง เพื่อนบอกเห็นเฟสนิ่งๆ ถึงขั้นเฟสมาขอเบอร์โทรหาเพื่อที่จะถามว่าตอนนี้ทำไรยุ
#ไม่เสือกดิ วินยานจิงโจ้ประทับร่าง
พอดีสิ้นเดือนแล้วกุอยากประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อวานกุเลยนั่งรถเมล์กลับบ้าน ปกติกุจะนั่งรถไฟใต้ดิน 30 บาทถึงบ้าน
รถเมล์ 9 บาทถึงเหมือนกัน
โคตรแม่มเอ้ยปกติงานกุเลิก 5:30 ถ้าไม่แวะนุ่นนี่ 6:30-50 จะถึงบ้านแล้ว
รถเมล์แม่งติดชิบหาย ถึงบ้านเกือบสองทุ่ม โคตรหงุดหงิดเลย
ยอมเสีย 30 บาทต่อไปแล้วกัน เพื่อนโม่งใช้เวลากันเท่าไหร่บ้างวะ
/ใครทำงานสายอาร์ตช่วยกูหน่อย กูจะไปสมัครงานตำแหน่งโรโตแล้วทีนี้พอร์ตกูมีแต่งานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานที่จะสมัครเลยมีแต่งานวาดรูป เอาเป็นว่าเขานัดกูสัมพาสในอาทิตย์หน้า
ตอนแรกเขาจะไม่ดูพอร์ตด้วยเพราะถึงเป็นสายอาร์ตแต่ทำด้านโรโตสโคป ซึ่งกูพอรู้สโคปงานแหละแต่ไม่มีตัวอย่างงานโรโตเลย ซึ่งทีนี้พอกูถามเรื่องพอร์ตไปเขาก็บอกเอามาก็ได้เผื่อจะได้พรีเซ้น ซึ่งกูเป็นเด็กจบใหม่ ใสๆ ซิงๆ อายุ 22 ก็ไม่รู้จะต้องพรีเซ้นอะไรยังไง งง ต้องเตรียมตัวยังไง ต้องไปทำพอร์ตโรโตมั้ยใครมีตัวอย่างบ้าง ช่วยให้คำแนะนำหน่อยดิ
เกลียดงานที่ทำ ทั้งคน ทั้งงาน ทั้งสภาพแวดล้อม อยากลาออกทำไม่ได้ไม่อยู่จะไปทำงานอะไร ต้องทนทำไปจนตาย
เลือกคบเพื่อนผิดคิดจนตัวตาย
กูหลุดมาคบเพื่อนมหาลัยที่เฟคสัสกันทั้งกลุ่มแต่กูเฟคไม่เป็นกูกำลังจะขาดใจตายกับความอึดอัดนี่ เอากูไปใส่ไฟผิดๆให้คนมองกูไม่ดี ต่อหน้าทำเป็นเงียบๆ
เหลือเวลาอีกปีนึง งานกลุ่มก็ต้องทำด้วยกัน นั่งก็นั่งติดกัน แต่ในใจแม่งเหมือนคนแปลกหน้า กูเฉยๆกับความเป็นเพื่อนกับพวกแม่งแล้วแต่ก็เบื่อเหลือเกิน
สหายโม่งมีใครสอบปปง.บ้างมั้ยนิ ตะกี้ข้อความเข้ามือถือว่าสอบ25นี้ 9โมง รังสิต!
คือกูแบบเฮ้ย ทางนั้นบอกว่าให้เช็ควันสอบทางเว็บวันที่20 ลองเช็คดูตอนซัก5ทุ่มก็ยังไม่ขึ้น กูก็นึกว่ากว่าจะสอบคงอีกซักเดือน ช่วงนี้ก็ยุ่งๆเลยยังไม่ได้อ่านไรเลย แต่นี่สอบอาทิตย์นี้เลย ไกลด้วย คือกูสงสัยว่าแบบนี้มันปกติมั้ย อ่านผ่านๆที่คุยกันด้านบนก็มีสงสัยว่ามีแนวโน้มเปิดสอบกินค่าสมัคร โม่งคิดว่าไงกันบ้างครับ
ส่วนสอบนี่น่าเสียดายว่ะ แต่คงต้องขอผ่าน อ่านไม่ทัน
เพื่อนโม่งๆ พวกนายมีข้ออ้างออกจากงานพาททามไม่ให้น่าเกลียดมั้งป่ะว่ะ คือกูจะทำสัก 1 เดือนแล้วออกว่ะ
โคตรเบื่อผู้ใหญ่ บ้างคนเลยวะ ตามศูนยราชการๆ บลาๆ ส่งงานแบบงี้มาเป็นปีละๆ ไม่เคยโดนบ่นๆ แล้วมาคราวนี้ กูส่งงานเรื่องเบิกของกลุ่มอื่นไป แล้วพอดีมาผ่านกลุ่ม B ออกไปมาแล้ว มาอยู่ C แล้ว พอดีมีคนมาตามเรื่องเบิกนี้ ที่กลุ่มA กูก็บอกไปว่าน่าจะผ่านB เดี่ยวลองไปหาก่อนไม่เจอค่อยกลับมาจะหาเลขที่ให้ คราวนี้หาไม่เจอ ป้ากลุ่มB โทรมาบ่นกูฉอดๆ ว่าไม่ส่งรายละเอียดอะไรมาในงานคนมันจะรู้ไหม กูก็บอกไปว่าก็ปกติทำอย่างงี้มาอย่างครั้งแล้วไม่เคยมีปัญหา แล้วกูก็ให้เลขไป ก็บ่นกูฉอดๆอีก ไม่ฟังที่บอกอีก ก็พูดมางี้ว่างานเยอะนะให้มาแค่นี้จะรู้ไหม‼‼ อ้าวคนส่งงาน(กู)บ้างทีงานมันก็เยอะเหมือนกันปะ จะบอกว่าคนเดี่ยวงานเยอะนี้ก็ไม่ใช่นะ กูก็บอกไปว่าป้าบ้างทีงานมันมาเยอะผมออกไม่ทัน แล้วก็หาว่ากูเถียงอีก เอ้า
จนกูเปลี่ยนให้ป้าที่ทำเรื่องคุยให้ที แมร่งเบื่อ แล้วมาวันนี้คนสอนกูก็มาบ่นกูอีกไปเถียงเขาทำไม อยู่มากี่ปีแล้วทำงานไม่รอบคอบ อ้าวววใครละสอน
(กลุ่มAกู Bมนุดป้า Cกลุ่มงานอยู่ )
>>259 กูเข้าใจกูเป็น พอวันนี้ถูก อีกวันไม่ถูกแมร่งไม่มีมาตรฐานเลยว่ะ มึงแค่แสดงไปตามบทบาทหน้าที่แค่นั้น เล่นไปตามน้ำ ของมึงยังน้อย ของกูแมร่งให้ทำเรื่องที่ไม่เข้าท่า ข้ายข่ายผิดระเบียบ กุยังกล้าเซ็นเลย ปวดหัวอยู่ทุกวันนี้ สิ่งที่กรูทำแมร่งก็ไม่รู้จะถูกป่าว ไม่มีใครดูงานให้เลย กลัว สตง. เรียกเงินคืนชิบหาย
มีเรื่องปรึกษาหน่อย ถ้ามีที่ทำงานนัดกูไปสัมภาสแล้วกูตอบโอเคไปแล้ว แต่พอมาเช็คเส้นทางก็พบว่าไปยากโครตๆ เสียทั้งเวลาและเงินแบบรู้สึกว่าไม่สามารถเดินทางไปทำงานที่นี่ได้ทุกวันแน่นอน
กูควรจะโทรไปยกเลิกสัมภาสบอกไม่เอาแล้วหรือควรไปสัมภาสถ้าได้ก็ค่อยปฎิเสธดี ใกล้วันสัมภาสแล้วด้วย แบบไหนจะดูน่าเกลียดน้อยกว่ากันและบริษัทจะไม่เสียหาย
ถามหน่อย เป็นมนุษย์เงินเดือนนี่เหนื่อยมั้ยครับ คือตอนนี้ผมยังเรียนปี 3 กว่าๆอยู่ ตอนนี้ก็ใช้ชีวิตเรื่อยๆเปื่อยๆ แต่เห็นพ่อแม่บอกว่าเหนื่อยมาก แต่ก็เห็นอีกว่ามีความสุขปกติ เลยสงสัยว่าจริงๆแล้วยังไงกันแน่ แล้วถ้าให้เลือกระหว่างทำงานตอนนี้กับกลับไปเรียนมหาลัยเหมือนเดิมจะเลือกอะไรกัน ผมเรียนบัญชีอ่ะครับ ขอบคุณครับ
กูโม่งข้าราชการ รู้สึกว่าระเบียบสารบรรณนี่ตัวทำให้งานช้าเลย
แรกๆมีหนังสือมากูเกษียรรายงานหัวหน้าตลอด จนหลังๆมีหนังสือมาขอข้อมูลหน่วยงานกู กูไม่เกษียรส่งหัวหน้าและ
เปิดข้อมูลแล้วทำหนังสือตอบกลับเองเลย แล้วรายงานปากเปล่าตลอด หัวหน้ากูก็ไม่ว่าอะไรเพราะสุดท้ายงานมันก็เดิน
แล้วกูไม่ทำสำเนาด้วยนะ เพราะคิดว่าสิ่งที่หน่วยงานอื่นต้องการก็แค่ข้อมูล แล้วสำเนาคู่ฉบับแม่งเป็นอะไรที่เปลืองกระดาษสำหรับกูอ่ะ
คือตามระเบียบมันมีไว้เป็นหลักฐานว่าหน่วยงานไหนส่งอะไรไป แต่ความจริงคือแม่งก็กองอยู่ในแฟ้มเอกสารรอวันทำลายแค่นั้น
ทุกวันนี้กูทำงานแบบได้หนังสือมาก็รีบๆตอบให้เสร็จๆ ไม่ต้องเรื่องมาก โดนถามก็บอกว่า ผมรายงานเรื่องxxx ไปที่หน่วยyyyแล้วครับ
แต่ก็รู้สึกเสียวๆอยู่นิดหน่อยว่าเกิดนายจะแอบเคืองรึเปล่าว่ากูทำงานแบบไม่รายงานเบื้องบน
ปล. เลขหนังสือกูก็ใส่มั่วๆด้วยนะ ประมาณเอาว่าช่วงนี้ของเดือน เลขหนังสือราชการน่าจะไปถึงไหนแล้ว แล้วก็ใส่ลงหนังสือ
เพราะกูคิดว่าเลขมันแค่เอาไว้อ้างอิงเวลาส่งหนังสือตอบกลับเฉยๆ สมุดหนังสือส่งนี่คงไม่มีใครมาตรวจย้อนหลังอ่ะว่าใส่เลขตรงมั้ย
ถ้าแจ๊คพ๊อตโดนตรวจขึ้นมา กูคงโดนด่าหู แต่โอกาสนี่กูน้อยกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง
เหนื่อย
ควย ลาพักร้อนวันนี้กับวันจันทร์ไว้
6.30 วันนี้โทรมาบอกมีงานด่วนเข้ามาที่โรงงาน
ให้ยกเลิกวันลาได้ไหม
ฝันไปเถอะไอ้สัส คนที่อยู่มึงก็ทำกันเองสิวะ ขาดกูไปคนนึงแม่งทำห่าอะไรไม่ได้เลยหรือไง
เขียนรายงานอะไรซักอย่าง ยาวแค่สองสามหน้า แต่ใช้เวลาเยอะชิบหายเลยว่ะ คือกูเพิ่งทำงานเป็นครั้งแรกๆด้วย รู้สึกว่ากว่าจะเค้นอะไรออกมาซักบรรทัดแม่งใช้พลังงานชิบหาย พอใช้เวลานานก็พางานหมักหมมไปด้วย
พวกมึงเวลาลางานไปสัมภาษงานที่ใหม่ พวกมึงบอกเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานยังไงวะ
กูโดนถามทุกรอบเลยว่าไปไหนมา จะให้บอกตรงๆก็ไม่กล้าได้แต่พูดเลี่ยงๆทุกที หรือจริงๆแล้วบอกไปตรงๆเลยจะดีกว่าวะ กูอึดอัดใจไม่อยากถูกมองว่าขี้โกหก
คนส่วนมากโกหก ลาป่วย ลาพักร้อน พาแม่ไปโรงบาล พาหมาไปฉีดยา
เถรตรงมากจะอยู่ยาก โลกมันโหดร้ายกว่าที่มึงคิด ใครตอแหลเก่งคนนั้นชนะ มึงคงยังเด็ก โตขึ้นคงเข้าใจ
บอกตรงๆไปไม่มีที่ไหนพอใจหรอกมึงบางอย่างก็ต้องโกหก อย่าไปบอกตรงๆว่าไปสัมภาษณ์ที่ใหม่
จะดูน่าเกลียด โกหกได้โกหกไป เพื่อตัวมึงเองด้วย กูบางช่วงใช้วันลายังไม่ครบ
กูอยากหยุดถ้าไม่ได้ลามาสักพักแล้ว กูก็แกล้งป่วยกระทันหันนอนพักอยู่บ้าน แต่กูรำคาญตอนพอวันถัดไปๆทำงาน
คนอื่นชอบมาถามกู เป็นไงบ้างมันก็มองได้สองแง่เป็นห่วงจริง (ยาก) ถามเป็นมารยาท กับลองเชิง
แต่กูค่อนข้างเนียน เลยชิลๆ
งั้นรุ่นพี่โม่งสอนสกิลตอแหลให้กูหน่อยสิ กูโกหกไม่เก่ง แถมรู้สึกผิดที่โกหกด้วย วันนึงกูอยู่ลำบากแน่
ตอนทำงานใหม่ๆ เจองานเข้ามาเยอะๆแล้วอยากลาออก ตอนนั้นกูคิดว่าตัวเองยังอ่อนหัดไม่สู้งานเจองานหนักก็ท้อ กูลแงกัดฟันสู้ คิดซะว่าถ้ากูทำงานเป็นต่อให้เจองานหนักแปปเดียวก็เสร็จ
แต่พอเริ่มอยู่ไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าต่ิให้กูเป็นงานก็ไม่อยาหอยู่ที่เดิมอยู่ดีว่ะ เวลาในชีวิตหายไผเยอะมาก แล้วแม่งบางทีไม่เกี่ยวกับงานโดยตรงแต่ต้องตามบอสไปเจอแขก VIP หรือบางทีบอสอยากลงพื้นที่ก็หนีบลูกน้องไปด้วย(ในวันหยุด)
คือผลตอบแทนมันคุ้มอ่ะ แต่กูรู้สึกว่าการที่บอสรับงานเข้ามาเรื่อยๆ(จริงๆมันเป็นวัฒนธรรมขององค์นี้ที่เบื้องบนขออะไรมาก็รับทำหมด) มันทำให้กูไม่มีเวลาส่วนตัวเท่าไร งานหนังสือกูไม่ได้ไปเดิน สั่งนิยายมาครึ่งหมื่นแต่หาเวลาอ่านไม่ได้ อนาคตกูว่าจะเปลี่ยนงานแล้วว่ะ อยู่ที่เดิมมีดีเรื่องเงินกับคอนเนคชั่นที่จะได้ แต่กูคิดว่ากูเป็นพนักงานกินเงินเดือนเงียบๆดีกว่า
>>286 ถ้ามึงยังรู้สึกผิด แสดงว่าสังคมที่มึงเจอยังเหี้ยไม่พอ หรือไม่ก็มึงยังเจ็บปวดไม่พอ พอถึงขีดสุดหัวใจมึงจะด้านชาไปเอง ถ้ามึงโดนกระทำมานับไม่ถ้วน มึงจะไม่รู้สึกอะไรอีกเลยกับการเหี้ยกลับใส่คนอื่นอีกต่อไป ส่วนกูผ่านมาแม่งทุกโหมดแล้ว จากตอแหลไม่เป็นเลยซักนิด > ตอแหลเป็นบ้างแต่ยังรู้สึกผิด > ตอแหลได้หน้าตาเฉย > เข้าโหมด don't care จนเลิกตอแหล จงใจกวนตรีนแมร่ง ทนไม่ไหวก็เอากูออกละกัน กูจะได้ไม่ต้องลังเลอีกต่อไปว่าจะลาออกดีมั้ย
ผลสอบ ปปง ออกและ โหดพอกับสอบอัยการ/ผู้พิพากษาเลยว่ะ สอบเกือบหมื่นผ่านแค่หลักสิบ
รับ100ผ่าน40กว่า ไม่ต้องสัภาษณ์เลยทีนี้
>>291 กูว่าต้องมีประกาศรับรอบสองแน่ๆ ไม่รู้จะออกแบบเดิมรึเปล่า แบบเดิมนี่ต้องเก่งจริงแล้วทำข้อสอบเร็วด้วย กูว่าถ้าให้เวลาคิดเยอะๆน่าจะผ่านหลักหลายร้อย แต่คนอิกข้อสอบคงกะว่าจะตัดจำนวนคนผ่านให้เหลือน้อยที่สุด แต่ผ่านหลักสิบนี่กูก็ตกใจเหมือนกัน นึกว่าผลสอบผู้พิพากษา
>>293 เท่าที่ศึกษาโครงสร้าง ปปง ไม่มีพนักงานราชการตำแหน่งนักสืบสวนนะ แล้วปรกติการสอบเข้าราชการทุกหน่วยจะมีคนสัมภาษณ์เกินอัตราเสมอ ยิ่งเป็นหน่วยที่ขาดแคลนอัตรากำลัง การจัดสอบสองรอบแม่งสิ้นเปลืองมาก ต่อให้มีเด็กเส้นที่เลือกไว้แล้ว อย่างน้อยก็ไม่น่าออกข้อสอบยากจนคนผ่านมีหลักสิบอ่ะ คือต่อให้ผ่านภาค ข เยอะแล้วปรับคะแนนสัมภาษณ์ของเด็กเส้นให้สูงกว่าคนอื่นแบบนี้มันจะสะดวกกว่าต้องมาเปิดรอบสอง
ทำไมเพื่อนโม่งถึงอยากทำงานราชการกันวะ กูอยากรู้เหตุผลของหลายๆคน
กระทรวงไรวะ?? มหาดไทยหรือว่ายุติธรรม??
>>295 พูดตรงๆนะ กูจบนิติแต่ไม่มีปัญญาหาเงินเดือน15000 สวัสดิการอีกเพียบ คือสำหรับชนชั้นกลาง งานราชการสร้างรายได้เยอะเหี้ยๆเลยนะ ฐานเงินเดือนสมัยนี้ก็ไม่จัดว่าน้อยแล้ว 15000 ถ้าไม่อยู่เมืองใหญ่รายได้ระดับนี้ถือว่าจ่ายค่าเช่าบ้านค่าอาหารสบาย แถมพอโดนย้ายก็เบิกค่าเช่าบ้านได้ เจ็บป่วยขึ้นมาสิทธิการรักษาดีกว่าบัตรทองหรือประกันสังคม แถมอยู่ได้ถึงเกษียณโดยไม่ต้องห่วงว่าจะโดนบีบให้ลาออก ถ้าหัวหน้าไม่ชอบหรือไปทะเลาะกับใครเต็มที่คือโดนย้ายแค่นั้น
ที่พูดมานี่สำหรับเด็กจบนิติแบบ5ปี เกรด2กว่าเกือบโดนรีไทร์TOEICไม่ถึง600 ถือว่าผลตอบแทนสูงมากเลยนะ ประวัติการเรียนแบบกูนี่ไปหางานเอกชนสายตรงจะได้12000รึเปล่าก็ยังไม่รู้
>>303 กูก็เป็น จนคิดจะลาออกนะ แค่ค่าตอบแทนตอนนี้มันสูง ถ้าลาออกคงได้งานทั่วๆไปรายรับน้อยกว่า
ตอนนี้กูเลยพยายามทนๆไปก่อน คิดซะว่าวันหนึ่งถ้าเราทำงานเป็น ความลำบากตรงนี้มันจะน้อยลง
คิดซะว่าระหว่างชีวิตที่มีเงินเดือนพอเอาตัวรอดไปวันๆ กับชีวิตที่งานหนักเสียสุขภาพจิตแต่มีเงินให้ใช้
อยากได้อะไรก็ซื้อได้เต็มที่ กูคงเลือกอย่างหลัง
มีใครเป็นHRบ้างครับในนี้หรือถามประสบการณ์ก็ได้ อยากถามพี่ๆว่าสถาบัน เกรด F W ประสบการณ์ฝึกงาน กิจกรรม พวกนี้อะไรสำคัญมากสุด
ปัจจุบันอยู่มหาลัยรัฐเเห่งนึง เรียนวิศวะอยู่ เเต่เกรดไม่ได้เยอะเกรดนิยม 2.5-2.75 มีติดF 1 ตัว ติด W ประสบการณ์ฝึกงาน0 กิจกรรม0 เป็นคนเข้ากับเพื่อนๆยากหน่อยนึง ไม่ได้เก่งคุยเฮฮาเท่าไรยิงมุกไม่ค่อยจะทัน พอจะเข้าใจตัวเองอยู่ว่าหางานยากเเน่ๆเเบบนี้
อยากรู้ว่าจะพัฒนาตัวเองยังไงได้บ้าง เเล้วการสัมภาษณ์ การเรียกสัมภาษณ์อะไรเป็นปัจจัยที่เรียกไปถามเเละคำถาม เนื่องจากไม่เคยฝึกงานวิชาก็มีเเต่ในที่เรียนเเถมไม่ได้รู้ลึกซึ้ง พอจะมีอะไรที่สามารถเอาไปใช้ตอบหรือสู้คนอื่นได้บ้างครับ มีอย่างเดียวที่ผมพอได้ก็คือภาษาอังกฤษ TOEIC 850
อีกข้อคือวิศวะที่เรียนอยู่ ผมไม่ได้ชอบมันเลย เเต่อดทนเรียนมาจะจบละ เเละไม่ได้ใส่ใจกับมันมาก กำลังคิดอยู่ว่าผมซึ่งไม่มีpassionเเบบนี้ไปทำงานไม่ได้ไม่มีใครรับเเน่ๆ ยิ่งเข้ากับคนยากยิ่งหนัก เเต่อยากเปลี่ยนเเปลงตัวเอง เตรียมตัวไปสัมภาษณ์อย่างไรดีบ้างครับถ้าทางบริษัทเรียกไปสัมภาษณ์
ดราม่าลบฮาร์ดดิสนี่แพ้ทั้งคู่เลยว่ะ เด็กก็หมดอนาคตและอาจล้มละลาย นายจ้างก็เสียงานมูลค่าหลักล้านและฟ้องไปเด็กก็ไม่มีเงินจ่ายคืน สรุปว่าเงินหายเป็นล้าน
ตอนแรกกูก็คิดนะว่าเด็กมันต้องโดนมาเยอะถึงทำอะไรแบบไม่คิดถึงอนาคต พอตามไปส่องเฟสนายจ้างที่โพสว่า ถ้าเป็นสมัยก่อนเด็กโดนอุ้มฆ่าไปแล้ว กูแน่ใจได้เลยว่านายจ้างแม่งไปเหี้ยมส่เด็กก่อน
มีใครรู้สึกบ้างว่าเด็กสมัยนี้ที่ดูแปลกๆ ส่วนนึงเกิดจากพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมาแปลกๆ เหมือนเขาไม่สอนการอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมจนเด็กโตเป็นผู้ใหญ่แปลกๆ
สมัยเราเด็ก ๆ ผู้ใหญ่ก็คงมองว่าแปลกเหมือนกันละว่ะ
>>311 กูโตแล้ว แต่กูว่ากูเป็นคนแปลกๆ เพราะกูไม่ค่อยเข้าสังคมชอบอยู่คนเดียว หลายครั้งเลยที่กูไม่แน่ใจในคอมมอนเซนส์ของตัวเอง รู้สึกไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปมันปกติในสายตาคนอื่นรึเปล่า แต่พี่น้องคนอื่นกูปกตินะพ่อแม่เลี้ยงมาเหมือนกัน แต่พี่น้องกูคนอื่นชอบเข้าสังคม ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปเที่ยวแฮงค์เอาท์ตลอด ส่วนกูชอบอยู่บ้านเล่นเน็ตอ่านหนังสือ เลิกเรียนเลิกงานกลับบ้านลูกเดียวไม่ไปไหนเลยยกเว้นจำเป็น เพราะงั้นกูว่าเป็นที่เจ้าตัวด้วยแหละ ป.ล. อย่างนึงที่กูสังเกตได้เลยคือเวลาพูดกับคนอื่นกูไม่สบตาคน กูไม่ได้โกหกตอแหลอะไรนะ แค่ไม่ชอบสบตาแล้วก็ไม่ชอบให้ใครมาสบตากูด้วย เวลาคุยงานดีหน่อยกูจะทำเป็นมองเอกสารมองจอคอมไป แต่ถ้าเวลาไม่มีอะไรให้มองกูจะประดักประเดิดมาก
มีพี่ๆคนไหนเป็นเด็กตจว.แล้วเข้ามาเรียนกทม.บ้างมั้ยครับ อยากทราบว่าเรียนจบแล้วกลับไปทำงานที่บ้านเกิดหรือหางานในกทม.
พอดีสายที่ผมเรียนอยู่มันไม่มีงานให้ทำที่บ้านเกิดเท่าไหร่ อยากทำงานในกรุงเทพมากกว่า เพราะได้เงิน+ปสก.มากกว่า
แต่ก็เป็นห่วงแม่ที่บ้าน ตอนนี้พี่สาวก็ปักหลักทำงานในไปแล้วด้วย กทม.ถ้าผมอยู่อีกคน ที่บ้านจะไม่มีใครอยู่ดูแลแม่เลย
อีกอย่างแม่ก็ไม่ชินกับสังคมเมือง ถ้าพามาอยู่ด้วยกันก็กลัวแกเหงาอีก อยู่บ้านแกยังได้เจอหน้าญาติๆบ้าง
เลยไม่แน่ใจว่าจะพาแม่มาอยู่ด้วยที่กทม.ดี หรือจะกลับไปที่บ้านดี
พี่ๆพอจะมีคำแนะนำมั้ยครับ ขอบคุณมากครับ
>>314 ยังเด็กอยู่เลย มีความคิดความอ่านดีจัง สมัยเด็กเท่าเธอเราไม่เห็นจะคิดอะไรแบบนี้ได้เลย คิดแต่จะหางานที่เงินเดือนดีแค่นั้นแหละ เอาเป็นว่าถ้าแม่ยังแข็งแรงดี แถวบ้านมีญาติคอยดูแลกันและกัน เราว่าเธอลองทำงานกทม.ที่อยากทำไปก่อนมั้ย แล้วระหว่างนั้นค่อยๆ คิดหาลู่ทางไปน่าจะยังไม่สายนะ เราว่าเราแก่กว่าเธอเป็น 10 ปีเรายังคิดไม่ออกเลยว่าจะแก้ปัญหานี้ไงดี
>>317 บ้านมีต้นทุนแค่ไหน ต้องดิ้นรนหาเงินมั้ย พี่สาวไปอยู่กทม.ไม่เหลียวแลไม่ส่งที่บ้านเลยหรือเปล่า แม่แข็งแรงดีมั้ย อายุเท่าไหร่ ญาติที่ว่าอยู่ในละแวกเดียวกันเลยหรือเปล่า? คือปัจจัยมันเยอะน่ะ คิดแทนกันยาก ยกตัวอย่างบ้านเพื่อนพี่นะ อันนั้นพี่น้องเค้ารักกันดี พี่ๆ ทำงานกทม.ช่วยส่งเงินมาให้ที่บ้าน ส่วนคนน้องเสียสละทำงานแถวบ้านเงินเดือนน้อยเพื่อที่จะได้ดูแลแม่ (ทั้งที่มันน่ะเก่งมาก สมัยอยู่กทม.เงินเดือนหลายหมื่น) มันแค่ยอมเสียโอกาสที่จะได้ทำงานท้าทายเงินเดือนสูงมาทำงานเรียบง่าย แต่ไม่มีปัญหาเรื่องเงินและได้ดูแลแม่ ส่วนอย่างบ้านพี่ลูกคนเดียว บ้านจน ห่วงพ่อแม่มั้ยก็ห่วง แต่ทำไงได้เงินต้องมาก่อน ถ้ากลับไปทำงานที่บ้านรับรองอดตายกันทั้งบ้าน หาเงินเดือนแบบกทม.ไม่ได้ จะพาพ่อแม่มาอยู่กทม.ก็ยังไม่มีปัญญาซื้อบ้าน ลำพังตัวเองยังอยู่ห้องเช่ารูหนูส่งเงินกลับบ้านทุกเดือน ตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้พ่อแม่ยังแข็งแรงจนกว่าตัวเองจะเงินเดือนมากพอ ถ้าอยู่นี่อีกปีตำแหน่งยังไม่ขึ้นคงต้องหาเรื่องเปลี่ยนงานอัพเงินเดือนแล้วล่ะ
เป็นกำลังใจให้คนที่ทำงานในช่วงวันสงกรานต์สู้ๆนะ
มีใครเคยสอบตก ภา่ค ค (สัมภาษณ์) ของหน่วยงานราชการบ้าง
บ่นหน่อย ออกแบบการ์ดแต่งงานให้ลูกค้า อุตส่าห์ออกแบบอย่างโมเดิร์น เรียบๆหวานๆ
สุดท้ายเค้าเอาแบบการ์ดฉูดฉาดลูกทุ่ง รกๆเยอะๆ ตัวหนังสือสะบัดแบบไทยประดิษฐ์ งานออกมาอย่างกะป้ายงานวัด เซ็งว้อย
พวกมึงมีใครทำงานฟรีแลนซ์บ้างวะ คือกูยังเรียนอยู่แล้วเวลาเลิกมันไม่ตายตัวบางทีไปเที่ยงคืนก็มี มีงานอะไรแนะนำไหมวะ ตอนนี้กูทำงานแปล(อิ้งไทย)อยู่รู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบเลยไปสมัครที่อื่น(เป็นบริษัท)แต่เขาไม่รับ555 กูอยากรู้ว่าคนอื่นทำไรกันบ้างอ่ะ
ยื่นลาออกแล้วบริษัทไม่ยอมหาคนมาแทน พอออกไปแล้วไม่อะไรทำเลยตกลงมารับฟรีแลนซ์จากบริษัทเดิม (ทางนั้นเสนอมา)
แล้วพบบอกว่าได้งานใหม่แล้ว ไม่รับฟรีแลนซ์ต่อแล้วนะ บริษัทเก่าไม่ยอม แล้วก็โทษเราที่ไม่เทรนคนมาแทน
ก่อนออกก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้หาคนมาแทน จะได้เทรนให้ แม่งก็ไม่หา แบบนี้กูผิดเหรอวะ..
รู้สึกว่าการที่งานจะหนักไม่หนักอยู่ที่ความหน้าด้านด้วยว่ะ คือถ้าหน้าด้านพอและไม่สนใจเรื่องความก้าวหน้าก็ทำงานแบบเฉื่อยๆไปวันๆได้เหมือนกัน
ไอ้อีตัวไหนที่มันยอมความโจรเด็กกูขอให้โจรเด็กในวันนี้เติบโตไปโจรโตเต็มวัยแล้วไปตีหัวลูกหลายแม่งตายเข้าซักวัน
ดูดิ๊แม่งจะยังพูดเหมือนเดิมไหม แหมไอ้เหี้ยยอมๆมันไปเถอะให้เรื่องมันจบถ้าเราไม่ฟ้องเดี๊ยวคนอื่นโดนก็ฟ้องแทนเรา
สังคมหัวควย
Project ที่ทำมาร่วมเดือน จู่ๆก็โดนยกเลิกเพราะเรื่องงบ ทำไมพอกุจะมีอะไรที่สร้างความก้าวหน้าได้มันมักพังเสมอๆเพราะเรื่องรอบข้างวะ ชีวิตกูมันไม่เหมาะจะก้าวหน้าบ้างรึไง
กุถามพาร์ทไทม์ที่นี่ถูกมู้ปะวะ
มีใครเคยทำพาร์ทไทม์ของพวกร้านแฟรนไชส์ไหม พวกร้านไอติม ฟาสฟู้ด ร้านกาแฟที่แบบมีหลายสาขาอะ เค้าแบบซีเรียสเรื่องวันลาไรงี้มั้ยวะ
กุโม่งนักศึกษาอยากหาเงินค่าขนมเพิ่ม กุถนัดเรื่องภาษา อยากถามพวกมึงว่างานแปลอิ้ง-ไทย นี่เค้าไปหากันที่ไหนวะ ตามเว็บ?
แล้วพวกแปลการ์ตูนนี่มีพวกมึงคนไหนเคยทำมา เล่าให้กูฟังหน่อย
Office365 ปีละ1500 Office HOME ซื้อขาด 3000กว่า
แบบนี้ถ้าซื้อเอามาใช้งานแค่พวก Word Excel ซื้อแบบ Office HOMEมันคุ้มกว่าใช้มั้ย
เพราะไม่ต้องต่ออายุทุกปี แต่ข้อเสียคือไม่มี Cloud ให้เก็บแค่นั้น
ปล.ถามห้องนี้เพราะเกี่ยวกับการทำงาน
G Suite ก็ดีนะ ช่วยกันแก้ง่ายด้วย
งานที่กูทำอยู่มันมีส่วนที่ต้องทำร่วมกับแผนกอื่นด้วย เค้าก็บอกมาคร่าวๆว่าต้องมีอะไรบ้าง แต่ไม่บอกว่าต้องเสร็จเมื่อไหร่
บอกว่ายังไม่ต้องเริ่มทำด้วย เค้าบอกว่าเป็นแผนในอนาคตระยะยาว
อยู่ดีๆเดือนที่แล้วมาบอกว่าต้องเสร็จภายใน 2 เดือน พวกกูเห็นว่ามันกระทันหันเกินแล้วงานใหญ่กลัวไม่ทัน
เลยบอกไปแบบว่าเอาชัวร์น่าจะ 3 เดือนเสร็จ เค้าก็บอกว่ามันต้องไปบอกผู้บริหารว่างานจะช้าเพราะกูทำไม่ทันนะ
พวกกูก็ไม่อะไร เพราะงานใหญ่เวลาน้อยทำไม่ทันก็คือไม่ทัน
ตอนนี้ผ่านมา 2 เดือน งานของพวกกูก็เสร็จไป 75% กะว่าเหลือเวลาไว้เก็บตก พอลองจะเอาไปเช็คกับส่วนที่ต้องต่องานกับแผนกเค้า
ของพวกแม่งทำแทบจะไม่เสร็จซักอย่าง งานยังเอามาต่อกันไม่ได้
ไอ้สัสเอ๊ย พวกกูตาสว่างแว๊บเลย ที่แท้พวกแม่งทำงานตัวเองไม่เสร็จ
เลยไปเมค deadline บีบๆมาเร่งพวกกูเพื่อจะเอาไว้โบ้ยว่าแผนกกูเป็นต้นเหตุให้งานช้าชัดๆเลยหว่า
การเมืองในองค์กรนี่มันน่ากลัวจริงๆ เพิ่งเจอแบบโหดๆกับตัวก็คราวนี้แหละ
แต่ดูท่าทางแล้วงานพวกกูนี่น่าจะเสร็จก่อน แถมของแผนกมันนี่แหละจะทำไม่ทัน deadline ที่ตัวเองตั้งซะเอง
กูจะคอยดูพวกมันแก้ตัวกับผู้บริหารว่าคราวนี้จะเล่นไม้ไหนอีก
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.