>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
Last posted
Total of 1000 posts
>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
อีกครึ่งปีกลับไทย
ทางบ.ลูกที่ไทย อยากให้กลับไปทำ แต่ต้องขับรถ30โลนิดๆ ถ้าจะซื้อคอนโดมือ1ในโซนใกล้ที่สุดว่ะ
มันไกลไปปะวะ กูอยากมีบ้านเป็นชื่อตัวเองซะทีด้วยดิ
>>>/lifestyle/2284/998-1000
สรุปว่าข้าราชการส่วนกลางนี่ชั่วโมงการทำงานเหี้ยมาก อยากสบายต้องลงต่างจังหวัดซินะ
>>>/lifestyle/2284/1000
กระทรวงเย็ดธงนี่พวกคมนาคมป่ะวะ
เออ เห็นบ่นๆว่าข้าราชการงานโหดแล้วพวกรัฐวิสาหกิจจะเป็นงี้ด้วยป่ะวะ? ได้ยินมาว่าลูกเพื่อนแม่ทำงานพวกไปรษณีย์ไทยโคตรสบาย บางที่ที่เป็นรัฐวิสาหกิจด้วยกันเบิกโอทีได้อีกแหนะ
ราชการส่วนกลางมันใกล้นักการเมือง มี รมต.คุม นายอยากได้อะไร นายสั่งอะไรต้องจัดให้ อยากสบายจริงให้ลงพื้นที่บ้านนอก ยิ่งห่างไกลความเจริญ มีจำนวนประชากรน้อยยิ่งสบาย
ปล. กูเคยสังเกตหน่วยราชการบนศาลากลางนะ ส่วนมากเลิกตามเวลา โดยเฉพาะสรรพกรจังหวัดนี่เห็นแล้วอิจฉามาก ตกแต่ง สนง.ยังกะบริษัทเอกชน แถม16.00 ก็เลิกงานกันแล้ว
ถ้าพอครบโปรสามเดือนแล้วคุยกับหัวหน้าว่าขอไม่ต่อ ขอออก แล้วสัปดาห์นั้นออกเลยมันจะน่าเกลียดไหมวะ? หรือควรอยู่ต่ออีกสักพักรอเขาหาคนใหม่มาทำแทนก่อน..กลัวว่ารอสักพักแล้วมันจะเลยไปเป็นหลายเดือนนี่สิ
สนง.วัฒนธรรมจังหวัดเป็นไงมั่ง เห็นคนโอนย้ายมาตำแหน่งนักวิชาการวัฒนธรรมการบานเลยย
อยากทำสรรพากร ถ้าอยากขึ้นซี8สะดวกหน่อย สมมติภายใน10-15ปีต้องทำไงครับ ตอนนี้มีแพลนจะเรียนกฎหมายราม แล้วก็ต่อโทซักใบนึง จำเป็นต้องเรียนเอกไหม ต้องอบรมบ่อยๆไหมครับ แล้วสอบซี8ที่นี่ยากกว่ากรมอื่นป่าวเห็นว่ามีไม่ผ่านกันหลายคนเลย
>>12 C8 เดิม หรือชำนาญการพิเศษระบบใหม่ กูว่าเป็นระดับที่ไม่ได้ใช้ฝีมือในการสอบอย่างเดียวว่ะ จริงอยู่ว่าเก่งจริงติวมาดีจริงก็ผ่านได้ แต่ระบบของกระทรวงกูคือ คนสอบเป็นใครแล้วจะทำงานให้ใครได้บ้าง
ถ้าอยากวิ่งขึ้น C8เร็วๆก็ปอโทอ่ะ ไวสุด
ครองปฎิบัติการ 4ปี
ครองชำนาญการ 4ปี
ที่เหลือก็ไปวัดดวงตอนสอบ
>>11 ดูจากภารกิจของกระทรวงก็เดาได้เลยว่างานน้อย อีกอย่างกระทรวง วธ. มันลูกเมียน้อยของนักการเมืองด้วย ประมาณว่าตั้งมาเพื่อให้โควต้ารัฐมนตรีกับนายทุนพรรค
เพราะงั้นกระทรวงที่นักการเมืองไม่อยากได้งานจะเบากว่า ไม่ค่อยมีงบ ไม่มีค่อยมีงานให้ทำ ไม่มีนโยบายอะไรที่รัฐบาลสั่งเน้นย้ำ
มหาดไทยที่หนักกว่าเพื่อนเพราะตามกฎหมายมันเปิดช่องให้รับภารกิจจากรัฐบาลได้ทุกอย่าง(เน้นว่าทุกอย่าง)
รัฐบาลอยากสั่งอะไรก็สั่ง ผลคือภาระงานเยอะชิบหาย ทั้งที่ปรกติก็มีหน้าที่ประจำอยู่แล้ว
งานยาเสพย์ติด งานดูแลเกษตร งานลดอุบัติเหตุ บลาๆๆๆ แม่งไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่นายสั่งมาลูกน้องก็ต้องทำ
ในขณะที่กระทรวงอื่นมันมีหน้าที่ชัดเจน ส่วนตัวกูนะ วธ. กับ พม. น่าจะเป็นกระทรวงที่สบายที่สุดแล้วมั้ง
กูใช้วุฒิป.ตรีสอบบรรจุรับราชการ ตอนนี้ผ่านโปรแล้วเลยเพิ่งใช้วุฒิป.โทยื่นขอปรับวุฒิไป ต้องรอเท่าไหร่ถึงรู้ผลวะว่าจะได้หรือไม่ได้ปรับ มันมีแค่หนังสือตอบมาประมาณว่ารับเรื่องแล้วทำนองนั้น
ถาม ป. ปกครองมีการเทรน การสอนงานกันมั้ย ชนิดแบบไม่ต้องมานั่งงมเอง
>>18 ไม่มีว่ะ มีแค่อบรมก่อนลงจังหวัดแค่ 5วัน เนื้อหาการอบรมแม่งก็เหมือนตอนเตรียมสอบนั้นแหละ อธิบายหน่วยงานและงานบนอำเภอคร่าวๆ
พอลงจังหวัดก็แล้วแต่นโยบายผู้ว่า บางจังหวัดผู้ว่าสั่งให้ฝึกงานบนจังหวัดเป็นเดือน บางจังหวัดอำเภอขาดคน ลงจังหวัดได้ไม่กี่วันก็ถีบปลัดใหม่ลงอำเภอไปลุยงานเลย
แต่บนอำเภอจะมีพวกเจ้าหน้าที่สำนักงานอยู่แล้ว รับ ออก หนังสือ ลงกำหนดการ เตรียมรายงานประจำเดือน อะไรพวกนี้
ปลัดทะเบียนนี่สบายสุด มีเจ้าหน้าที่ทำงานให้ หน้าที่คือเซ็นรับรองอย่างเดียว ในเวลาราชการต้องอยู่ติดอำเภอตลอด นอกเวลาราชการอาจจะมีลงพื้นที่บ้างอย่างเช่นตอนนี้มีประเมินผู้ใหญ่บ้าน ปลัดงานอื่นจะออกพื้นที่ในเวลาราชการ แต่ปลัดทะเบียนต้องไปตอนเย็นไม่ก็เสาร์อาทิตย์อะไรงี้
แต่เป็นงานที่มีความเสี่ยงสูงสุดในอำเภอ ถ้าเซ็นไม่ระวังก็ออกจากราชการได้ง่ายๆเหมือนกัน
แต่งานปลัดมันจะมีหนังสือคู่มือของแต่ละงานไว้นะ ว่างๆค่อยหยิบมาอ่านว่าหัวข้องานนี้มันมีขั้นตอนยังไงบ้าง
อ่านอีกรอบ ไม่แน่ใจว่ามึงถามถึง ปลัดอำเภอฝ่ายงานปกครองรึเปล่า สายนี้ก็ไม่มีการสอนงานนะ แต่ก็นั้นแหละ มีหนังสือคู่มือ
พวกงานทะเบียนปืน ทะเบียนโรงแรม งานกำนันผู้ใหญ่บ้านอะไรพวกนี้
อันนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับวัยทำงานนะ เเต่อยากถามพี่ๆหน่อยครับ
คือตอนนี้ผมเกรดเฉลี่ย 2.51 เเล้วมันเทอมสุดท้ายด้วยกำลังเรียนวิศวะอยู่ ทีนี้การที่จะสมัครบริษัทใหญ่ๆหน่วยงานใหญ่ๆ เช่น SCG,รัฐวิสาหกิจ ต่างๆ มันบังคับใช้ 2.75ขึ้นไป
คำถามคือ
-เทอมนี้ยังไงมันเทอมสุดท้ายเเล้ว มัน Impossible ที่จะทำให้เกรดเกินกว่า2.75ได้ อย่างดีเลยคิดว่าน่าจะได้เเค่ 2.7 ถ้าผมจบเเล้วผมยังไม่ทำเรื่องจบเเต่ขอลงวิชาเสรีในเทอมถัดไปเพื่อเพิ่มเกรดได้รึเปล่า
-คำถามต่อมาคือ ถ้าทำได้ เเล้วมันคุ้มค่าที่จะเสียเวลาไหม ที่มาถามในกระทู้นี้คือ ถ้าเราทำเรื่องจบไปเเล้วเราก็จะเพิ่มเกรดไม่ได้เเล้วติดตัวตลอดไป ทีนี้ถ้าผมอยากจะไปเรียนต่อเมืองนอก มหาลัยมันก็ต้องดูเกรด ดูพวกtoefl อะไรพวกนี้ หรือจะเป็นเรียนในไทยก็ตามผมไม่รู้ว่า เกรดเกินเท่าไรถึงจะสมัครเรียนต่อโทได้
เหมือนเห็นว่าพวกเอกชนทั่วไปก็รับสมัคร2.5ขึ้นหรือบางเเห่งก็ไม่ดูเลย เเต่การจะสมัครพวกบ.ใหญ่ๆพวกนี้เหมือนต้องมีใบผ่านทาง2.75ขึ้นในการสมัคร
ถ้าทำได้ ไม่ทำเรื่องจบเเล้วขอลงเสรีเพิ่มเกรดได้ก็อยากจะทำซักหน่อย ยอมเสียเวลาเพิ่มซักครึ่งปีเพื่อให้ได้เกรดไว้สมัครงานหน่วยงานใหญ่ๆได้น่ะครับ เสียดายเหมือนกันที่ไม่ตั้งใจเรียนเเต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
>>21
- "ผมไม่รู้ว่า เกรดเกินเท่าไรถึงจะสมัครเรียนต่อโทได้" หาข้อมูลเองสิครับ
ลองคิดเรื่องรีเกรดด้วยรึยัง ส่วนตัวถ้าเป็นผู้พิจารณา ต่อให้ลงวิชาเลือกเสรีหรือวิชานอกคณะเพิ่มในปีสุดท้ายมามากแค่ไหน ถ้าวิชาหลักในคณะทำได้ย่ำแย่ ก็ปัดตกหรืออย่างน้อยหมายหัว และตอนสัมภาษณ์ต้องมีคำถามเรื่องนี้ขึ้นมาแน่ ตอบไม่ดีคือจบ ต่อให้ตอบดีก็ยังมีคู่แข่งเกียรตินิยมอีกมาก เรามีอะไรดีมากกว่าเกรดที่จะเอาไปสู้เค้ารึเปล่า เดาว่าไม่ใช่เด็กกิจกรรมด้วย
>>22 เสริมนิด เอาเข้าจริงสมัครงานบ.ใหญ่น่ะดูเกรดเฉพาะเด็กจบใหม่เท่านั้นแหล่ะ ถ้าทำงานที่แรกที่อื่นซักปีนึงแล้วค่อยไปสมัคร เค้าก็ไม่สนเกรดแล้ว ดูที่สกิลล้วนๆ
แต่พวกที่มีหลักเกณท์แน่ชัดอย่าง เรียนต่อ, รัฐวิสาหกิจ เนี่ยก็ต้องตามนั้น แต่ก็มีวิธีที่ง่ายกว่าคือเรียนตรีเพิ่มอีกตัว/เรียนโทคณะที่ไม่ดูเกรด แล้วเอาเกรดอันใหม่นี่ไปสมัคร
ทั้ง 2 แบบคืออยากให้มองอนาคตให้ไกลกว่าปีแรกหลังจบป.ตรี ชีวิตมันไม่จำเป็นต้องสตาร์ทสวยหรอก มองยาวๆ
เป้าหมายคือเข้าหน่วยงานใหญ่ๆครับ ผมก็พอมีเส้นสายอยู่เเต่ว่าเกรดที่ใช้การสมัครมันไม่ถึง ซึ่งมันเป็นด่านเเรกในการสมัคร ทีนี้เลยสงสัยว่าเราจบเเล้ว เเต่สามารถยังไม่ทำเรื่องจบ เเล้วลงวิชาเพิ่มเกรดได้ไหมเป็นนศ.ตกค้างได้รึเปล่า ผมไม่เคยเห็นใครทำเเบบนี้ด้วยสิ เรื่องรีเกรดจะลองพิจารณาดูครับ
ขึ้นกับฝีมือและผลงานว่ะ ลองนึกดูว่าถ้าเกรดถึงสามารถเข้าไปสมัครได้แล้วมึงมีผลงานอะไรไปตอบเขาเวลาสัมภาษณ์ได้มั้ย ยิ่งถ้าเรียนเพิ่มเอาเกรดโดยที่เกรดวิชาหลักด้อยก็อย่างที่ >>22 บอกต้องมีกรรมการจี้ถามแน่ๆ จี้จริงจังด้วย แล้วคิดจะตอบยังไง เข้าไปแล้วมีฝีมือพอจะร่วมงานกับเค้ามั้ย บ.พวกนี้เข้าได้ก็ไม่ใช่ว่าจบ ยังต้องมีประเมินทดลองงานอีกหลายเดือน เออแต่ถ้าเป็นเด็กเส้นอาจจะสบายกว่าเยอะก็ได้ล่ะนะ
>>24 ถ้าโฟกัสของคำถามคือ"ไม่ทำเรื่องจบได้รึเปล่า"ก็ไปถามห้องทะเบียนที่ม.สิครับ ใครจะรู้ดีกว่านั้น? มาถามในกระทู้นี้ก็ได้แต่คำตอบในมุมของมนุษย์เงินเดือนที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้วแบบนี้แหล่ะ ที่เหลือถ้ามั่นใจในแนวทางที่เลือกก็ทำไป
ถ้าเอาเฉพาะคำตอบของคำถามนั้น มหาลัยที่ทางนี้เรียนคือ "ได้" แต่ถ้าเชื่อคำตอบนี้แล้วไม่ไปเช็คกับของม.ตัวเองจะเป็นไงก็แล้วแต่เวรแต่กรรม
ผ่านงานหน่วยงานรัฐมา3ที่ ทั้งอปท. ส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง เป็นเคยเป็นทั้งลูกจ้าง พนักงานราชการและสุดท้ายเป็นข้าราชการ ไม่มีใครสอนงานเลยว่ะ ได้แต่แนะในภาพกว้างๆ ต้องมาศึกษาเอง ดูของที่มันค่อนข้างผิด เลิกงานต้องมานั่งทำการบ้าน ศึกษาระเบียบต่างๆ เอางานมานั่งทำ ห้อๆเป็นแบบนี้ทุกที่เลย
เกิดสภาวะ"คิดได้เท่านี้ ทำได้เท่านี้ จะเอาอะไรกับกรูนัก" เป็นบ่อยมากว่ะจนไม่อยากทำงานเลย
บริษัทกุนี่หักเงินสุดยอดจริง เดือนแรกที่ทำเหลือพันนิดๆ 55555
เปลี่ยนงานบ่อยนี่รู้สึกด่างพร้อยชะมัด จะไปสมัครงานใหม่ก็ไม่มีความมั่นใจเลย ต้องโดนถามแน่
บอกเหตุผลตามจริงไปก็ไม่ได้ ดูไม่ดีอีก มีแต่จะต้องคิดคำตอแหลสวยหรู เฮ้อ
ยายกูป่วยเป็นเส้นเลือดสมองตีบ ต้องผลัดเวรกันมาดูแลหลายคน ทีนี้มีลูกพี่ลูกน้องคนนึง ลูกป้ากูน่ะ พี่แกทำงานบริษัทใหญ่อยู่อังกฤษ ตั้งแต่ยายป่วยยังไม่เห็นหัวเลยสักครั้ง แล้วบอกว่าลางานมาไม่ได้ กูสงสัยว่าบ.นอกมันลางานยากขนาดนั้นเลยอ่อวะ ขนาดยายเกือบตาย รอดมานี่ก็มึนๆพูดก็ไม่ได้ ไม่รู้รู้ตัวหรือจำอะไรได้แค่ไหน แม่งยังลาบินมาเยี่ยมซักอาทิตย์นึงก็ไม่ได้ อ้างว่าเดี๋ยวก็ลาออกกลับไทยแล้วเค้าห้ามลา
ปล.กูไม่ได้นอกเรื่องนะ นี่ถามเกี่ยวกับการลาหยุดของบ.นอก เผื่อใครรู้มั่ง เพราะกูฟังเหตุผลแล้วรู้สึกแปลกๆ
ลืมบอก ยายกูป่วยมาได้ประมาณ2-3เดือนแล้ว ไม่ใช่เพิ่งอาทิตย์2อาทิตย์
มันไม่เกี่ยวกับเมืองนอกหรือไม่เมืองนอก มันอยู่ที่บริษัท ตัวพนักงาน และสถานการณ์ในขณะนั้น อย่างบ.กูเป็นบ.เล็กๆ เคยอยู่ในโหมดขาดคน คนเก่าลาออกเหลือกูทำงานเป็นอยู่คนเดียว กว่าจะได้คนใหม่ กว่าจะสอนงานคนใหม่ให้ทำแทนกูได้ก็ร่วม 4-5 เดือน ตอนนั้นกูก็ลาไม่ได้เหมือนกัน ลาพักร้อนปีนั้นเหลือบานเพราะไม่มีโอกาสให้ใช้ แต่ตอนนี้สบายละ คนใหม่ทำงานเป็นแล้ว จะลายาวแค่ไหนก็ได้เท่าที่วันลามี ลาออกยังได้เลย 55+
เสริมนิด แต่เท่าที่เคยคุยกับเพื่อน บ.เมืองนอกค่อนข้างแฟร์กับการลาพักร้อนยาวมากกว่าไทยเยอะ อย่างของกูใช้วันลาพักร้อนตามสิทธิ์ อดทนรอจนคนใหม่เข้าที่ค่อยลา ยังโดนกระแนะกระแหนเล้ย ก็สังคมแบบไทยๆ อ่ะนะมึง ขี้เม้า เหี้ยอะไรก็เอามาเม้าเอามากระแนะกระแหนได้หมด แต่เมืองนอกเค้าไม่เป็นแบบนี้ ถ้ามึงจัดการงานได้ดี มีวันลา จะลายาวแค่ไหนก็เรื่องของมึง
>>39 บางทีเจ้าตัวอาจจะไม่อยากมาเยี่ยมเลยอ้างไปงั้นก็ได้ คนที่โตแล้วไปได้ดีลืมพ่อแม่พี่น้องปู่ยาตายายที่เคยมีบุญคุณมาก็เยอะแยะ คนใกล้ตัวกูก็คน ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า อยู่คอนโดไฮโซ ในขณะที่พ่อแม่อยู่บ้านเก่าๆ โทรมๆ หาเช้ากินค่ำ ไม่เคยจุนเจือที่บ้านซักบาท ทั้งที่พ่อแม่มันกัดฟันส่งมันจบป.โทถึงได้มีเงินเดือนมากมายแบบทุกวันนี้
ต้องขอเล่าเรื่องตัวเองเลยงี้
กูไปทำงานเมืองนอกปีนึง ทางไทยติดต่อมาบอกว่ายายล้มในห้องน้ำ อาการไม่ดี ไม่รู้สึกตัวแล้ว
แต่สถานการณ์โปรเจคต์คืออยู่ในโค้งสุดท้าย กำลังชี้เป็นชี้ตาย ถ้ากูไม่อยู่คนอื่นก็พอทำได้ แต่ไม่ดีเท่ากูทำเอง และถ้ามีแอคซิเดนท์อะไรซ้ำก็คือจบเห่
ญาติทางไทยก็ตามจิกให้กูกลับใหญ่เลยไงล่ะ แล้วจะให้ทำยังไง งานกูมีอนาคตบริษัทอยู่บนบ่า และถ้าจบโปรเจคต์กูก็จะกลับอยู่แล้ว
แม่กูกับป้าที่สนิทกับครอบครัวกูบอกไม่ต้องกลับ ยายไม่รู้สึกตัวแล้ว กลับมาแล้วยายก็ไม่รู้อยู่ดีว่ากูมา จะให้ดูใจอะไร มาเยี่ยมอะไร
กูคิดแล้วก็ไม่ได้กลับ ยายก็เสียไปโดยไม่รู้สึกตัวอีกเลย แล้วหลังจากนั้นอีกสองวันโปรเจคต์ก็ปิดได้แบบเฉียดเดดไลน์ กูถึงได้บินกลับมางานศพ
แล้วกูก็กลายเป็นไอ้คนที่โตไปได้ดีลืมผู้มีพระคุณไงล่ะ
มีญาติที่ไม่ได้เจอหน้ามาสิบปีมาชี้หน้าด่า เมคเรื่องว่ายายอุตส่าห์รอกู ทั้งๆที่ยายไม่เคยรู้สึกตัว ไทยสไตล์สิ้นดี
Ky พวกมึงมีวิธีจัดการกับเด็กใหม่ที่ฉลาดแต่มันเบลอยังไงบ้างวะ คือกูพึ่งรับเด็กจบใหม่มาคนนึงหัวไวเลยแหละ เกรดดี ม.ดี พูดรู้เรื่อง รับผิดชอบ กระตือรือร้น ไม่จิ้มมือถือ แต่.....ไม่รู้ทำไมพอทำงานแล้วชอบผิดเล็กๆ น้อยๆ ตลอดเลย ใส่เลขผิดไปตัวนึงงี้ ลืมใส่ติดลบไปรายการนึงงี้ ออกใบเสร้จผิด บางทีก้รุ้สึกว่ามันฉลาดมากๆ มีโพเทนเชียลดีน่าปั้นได้ไกล แต่มันก็ชอบไม่รอบคอบงี้จนกุงงกับแม่งว่ะ
ไงละ
>>44 คนเก่งมีไหวพริบส่วนมากจะเป็นแบบนี้แหละ เป็นเพราะคิดไวคิดเร็ว คิดโน่นคิดนี่เยอะ เลยไม่ค่อยชอบจมอยู่กับการทวนซ้ำในเรื่องเดิมๆ เพราะจะเบื่อและหมดใจไปซะก่อน ไม่มีใครเพอร์เฟคไปทุกอย่างหรอก กูว่าควรให้มันทำงานที่เหมาะกับมัน งานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาระบบ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ความเป๊ะยิบย่อย แล้วเรื่องเป๊ะให้เป็นหน้าที่ของคนอื่นแทน ที่ทำงานกูก็เป็นแบบนี้ กูมีน้องคนนึงหัวอ่อน สั่งง่าย ทำงานละเอียดรอบคอบดี แต่ข้อเสียคือไม่มีหัว adaptive เลย สอน A ได้ A สอน B ได้ B ไม่สามารถคิด C หรือ D เองได้ ไม่เคยคิดจะพัฒนาอะไรทั้งสิ้น สอนให้ทำอะไรก็ทำแบบนั้น (กูว่าผ่านไปอีก 10 ปีมันก็คงทำแบบเดิม) ทำงานช้ามาก (อันนี้เข้าใจว่ามันทำงานละเอียดก็ต้องช้าเป็นธรรมดา) กูก็ให้มันทำงานที่ต้องใช้ความละเอียดไป ทวนจนกว่ามึงจะสบายใจเลย ส่วนกูก็ผันตัวเองไปทำงานแนว development แทน มีน้องอีกคนในแผนก คนนี้งานการไม่ค่อยทำ วันๆ เอาแต่เม้าท์มอย ให้ทำอะไรก็มักจะทำผิดตลอด ไม่มีทั้งความรอบคอบและหัวพัฒนา แต่มันก็มีข้อดีของมันคือเม้าท์เก่งนี่แหละ กูเลยให้มันเป็นหน่วยประสานงาน เวลาต้องดีลกับแผนกอื่นเอาน้องคนนี้ไปอ้อนซะ จะด่วนแค่ไหนแผนกอื่นก็ทำให้ ฮาๆ แต่ถ้าบริษัทมึงเล็กจนไม่มีบุคลากรมากพอจะแบ่งงานกันทำ อันนี้คงช่วยไม่ได้ กูเข้าใจนะ คงต้องพยายามกระตุ้นให้มันรอบคอบ แล้วมึงก็ต้องคอยตรวจ แต่กูบอกเลย ยาก อย่างมากก็แค่ดีขึ้น แต่ไม่มีทางสมบูรณ์แบบ คนเรามัน characteristic ต่างกัน
มัวแต่ตอบเพลิน ลืมไปเลยว่าจะมาถาม เราสามารถกำหนดได้มั้ยว่าให้บริษัทหักภาษีเท่าไหร่ เช่น หักแค่ 3% ต่อเดือนพอ กูเบื่อกับการต้องมารอขอคืนภาษีมากเลย กูอยากให้มันหักไปน้อยๆ แล้วเดี๋ยวต้นปีกูจ่ายเพิ่มเอง เพราะจ่ายเพิ่มโปรโมชั่นเพียบ รูดบัตรก็ได้ ผ่อน0%ก็มี ได้ point อีกต่างหาก ในขณะที่รอคืนแม่งไม่ได้อะไรเลย ต้องรออย่างแห้งเหี่ยวอย่างเดียว
ถ้าเปลี่ยนงานมาแล้วสองที่ยื่นภาษีออนไลน์ยังไง บวกรายได้เองเลยเหรอ เลขผู้เสียภาษีนายจ้างใส่เลขเดียว ต้องใส่ที่ทำงานก่อนหรือล่าสุด
เพื่อนโม่ง กูเรียนจบเเล้วจบวิศวะมาเเต่ว่ากูก็ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าจบไปจะทำอะไรได้เเล้วที่เรียนมามันคืออะไรกูก็ตอบตัวเองไม่ได้ คือไม่ได้ชอบสายนี้เลย
เเต่ดันทุรังจบมาได้
ทีนี้กูไปสัมภาษณ์งานมากี่ที่ๆก็ไม่รับ คงเพราะกูพูดไม่เก่ง บุคลิกไม่ได้ เกรดกูก็ไม่ได้เเย่อะไรมากมายนะ 2.9 ม.ก็ม.รัฐชื่อดังเเห่งหนึ่ง
กูอยากฝึกพูดอะไรพวกนี้ สัมภาษณ์ เทคนิคการพรีเซ้นต์นี่กูจะทำยังไงดี ยิ่งตอนเรียนกูเป็นพวกไม่ใช่เด็กกิจกรรม เลิกเรียนก็กลับบ้าน เพื่อนก็น้อย
ยิ่งตกงาน(เรียกว่าตกได้ปะวะ ยังไม่เคยเข้าซักที)นานก็ยิ่งเสียความมั่นใจ ไม่อยากทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ เฮ้อ ไม่อยากเป็นนีทนะ ลูสเซ่อชิบหายเลยกู
>>54 ภาควิชาอะไร เรียกเงินเดือนเท่าไร สมัครแต่บริษัทใหญ่รึเปล่า วิดวะนี่ถ้าไม่เลือกงานมากแทบไม่มีทางตกงานเลยนะ
วิธีฝึกก็ฝึกหน้ากระจกน่ะแหล่ะ เคยสัมภาษณ์มาแล้วน่าจะพอจำคำถามที่โดนบ่อยๆได้ ก็เขียนไว้เลยว่าจะตอบยังไง ท่องหน้ากระจกไปวนไปจนกว่าจะคล่องเหมือนซ้อมการแสดงหรือซ้อมพรีเซ้นต์ธีสิสอะ
สมัครงาน (ต่างประเทศ) แล้วโดนปฏิเสธจากบริษัทที่อยากเข้ามากด้วยเหตุผลว่าสกิลสูงเกินกว่าตำแหน่งที่เปิดรับนี่กูควรจะดีใจหรือเสียใจดี T__T
กรมเล็กๆที่ไม่มีหน่วยงานภูมิภาคข้าราชการเค้าได้เบิกค่าเช่าบ้านป่ะ กูอยู่กรมใหญ่คนในกรมเค้ามีวิธีช่วยข้าราชการใหม่ด้วยการย้ายข้ามอำเภอให้ได้สิทธิค่าเช่าบ้าน ไม่รู้ว่ากรมเล็กเค้ามีอะไรแบบนี้มั้ย
ถ้าโดนไม่ให้ผ่านโปร แต่บเดิมจะจ้างกลับไปเป็นฟรีแลนซ์ หมายความว่า บเดิมแม่งงก รึความสามารถกุไม่ถึงวะ? เทลมี้
ของกูบรรจุเป็นปลัด ย้ายกันเป็นประเพณีเลยว่ะ คือปลัดบรรจุใหม่ลงอำเภอได้ซักพัก หลังผ่านทดลองก็ถูกย้ายข้ามอำเภอในจังหวัดเดียวกัน
แต่นี่เป็นกรณีที่กรมใหญ่มาหน่วยงานในกำกับเยอะ จะย้ายช่วยข้าราชการใหม่ก็ทำง่ายแค่สลับอำเภอ
แต่กรมเล็กที่ไม่มีหน่วยงานภูมิภาคเข้าใจว่าแทบจะไม่มีโอกาสเบิกค่าเช่าบ้านเลยมั้ง เพราะย้ายไปไหนไม่ได้มีแค่ส่วนกลางที่เดียว
วันนี้กูคุยกันแม่ โคตรเดือดเลยว่ะ ถ้าไม่ใช่แม่นี่คงด่าสวนไปแล้ว
คือกูเป็นข้าราชการไง แต่ระบบงานมันทำกูประสาทแดก งานก็หนักกว่าที่อื่นกูอยากย้ายไปกรมอื่นที่ภาระไม่เยอะขนาดนี้
แต่แม่กูบอกว่าขอให้ภูมิใจกับงานราชการ เพราะเป็นงานต่างพระเนตรพระกรรณ แล้วก็ยกสวัสดิการมาพูด
ไอ้เหี้ย กูได้ยินคำพูดทำนองว่าตัวแทนพระราชากูเลือดขึ้นหน้าเลย นี่ถ้าไม่ใช่แม่กูแจกควยไปแล้ว
หลุดมาจากยุคแม่พลอยรึไงวะ กูว่าทักษินมันอุตส่าห์ปฏิรูประบบราชการให้เป็น "ลูกจ้างของประชาชน" แล้วนะ
ความคิดดักดานแบบนี้ ทำนองว่าเป็นข้าราชการควรภูมิใจเพราะทำงานแทนพระราชาเป็นตัวแทนพระราชามันควรหมดไปได้แล้ว
คือถ้าแม่กูบอกว่า "ทนๆไปก่อน เงินเดือนมันสูง เอกชนที่อื่นก็ไม่จ่ายเยอะเท่านี้" กูจะไม่เดือดขนาดนี้เลย
>>58 กูเป็นแบบเด็กที่มึงบอกเลย เว้นแต่ตรงที่กูไม่คิดว่ากูฉลาด กูมักทำงานเสร็จไว แต่ชอบผิดพวกเล็กๆน้อยๆ แบบวันที่ หรือเลขตก
กูโดนเจ้านายบ่นตลอดเพราะกูไม่ชอบทวนซ้ำ มันเบลอ กูเลยหาวิธีโดยการจดใส่กระดาษไว้รอบนึงก่อน แบบสมมติทำบัญชีก็ปริ้นตารางมาเขียนไว้รอบนึง แล้วทำในคอมรอบนึง จากนั้นมาเช็คอีกทีว่ามันตรงกันมั้ย
กูทนทำราชการเพราะใจรัก ไม่รักไม่ทำหรอกว่ะ งานหนัก เงินน้อย ทำงานเวลาส่วนตัวหายไปเยอะ ทั้งเสียสุขภาพกายใจ ทำงานเสี่ยงคุก เสียงโดนร้องเรียน แค่ทำงานผิดขั้นตอนมีสิทธิโดนคุก หน้าไม่ยิ้มเวลาบริการประชาชนมีสิทธิโดนร้องเรียนได้ เรื่องระบบภายในที่ขั้นตอนเยอะ คนบ้าอำนาจก็เยอะ คิดแล้วท้อขึ้นมาทันทีเลยว่ะ
>>69 ของกูทำเพราะพ่อแม่อยากให้สอบเข้าว่ะ แล้วกูก็สอบติด แต่อยากลาออกเพราะงานแม่งเยอะ แต่ติดว่าลาออกก็ไม่มีที่ไหนจ่ายเงินเดือนให้กูขนาดนี้อีกแล้ว และกรมกูเป็นกรมเดียวที่ข้าราชการบรรจุใหม่ระดับ C3 สามารถเซ็นงานให้ C9ได้ (รักษาการแทน) ในแง่อำนาจแม่งเยอะเหี้ยๆเด็กใหม่ทำแทนคนที่ทำงานมา20ปีได้ แรกๆก็ดีนะรู้สึกตัวเองใหญ่คีบฟ้า แต่หลังๆมีอำนาจขนาดนี้แต่ไม่มีเวลาส่วนตัวกูขอทำงานแบบกินเงินเดือนไปวันๆดีกว่า
>>71 ระดับของข้าราชการ ถ้าไม่ใช่ระดับหัวหน้า (อำนวยการหรือ C8 C9 เก่า) จะมีอายุราชการมากขนาดไหนก็เป็นแค่ลูกน้องว่ะ แต่ถ้าระดับชำนาญการที่อยู่มานานอาจเก๋าพอจะงัดกับหัวหน้าได้บ้าง แต่โดยหลัก "หัวหน้าส่วน" จะเป็นคนสั่งลูกน้อง ถ้าไม่ทำก็เด้งไปอยู่ที่อื่นหรือก็ประวัติไม่ดี เลื่อนเงินเดือนช้า
ข้าราชการจะงานหนักมั้ยกูว่าขึ้นอยู่กับ "กรม" "พื้นที่" และ "หัวหน้า"
ถ้ากรมใหญ่ อยู่ส่วนกลาง หัวหน้าบ้างานทำผลงานเสนออธิบดี/ผู้ว่า/หัวหน้าเหนือขึ้นไป ข้าราชการตัวเล็กแม่งเหนื้อยตายห่า
ถ้ากรมเล็ก อยู่ภูมิภาค หัวหน้าทำงานแบบรอเกษียณ ลูกน้องก็สบายหน่อย
หน่วยงานกุแมร่งต้องรอ2 ปีถึงจะโอนย้ายได้ว่ะ อยากโอนย้ายกลับบ้าน คิดถึงบ้านทุกวัน หัวหน้างานมั่งก็สั่งงานไม่ชี้แนะ สอน หรืออะไรมั่งเลยว่ะ ได้แต่แทงหนังสือมอบ xxx ไม่มีบอกขั้นตอน หนึ่ง สอง สาม สี่ ต้องมานั่งงมเอาเอง ดูของเก่าเอาเองซึ่งแมร่งก็ทำผิดๆกันมา พอถามก็บอกให้ลองไปคิดเอง พอคิดออกมากลับใช้ไม่ได้ เสียเวลาไปฟรีๆ งานนโยบายนั่งคิดปวดหัวชิบหาย
โม่งข้าราชการเยอะกว่าที่คิดแฮะ
ไหนๆ โม่งข้าราชการเยอะขนาดนี้แล้ว กูขอถามเลยล่ะกัน ว่ามึงสอบนานไหม สอบกี่ที่กว่าจะได้บรรจุ กูอยากบรรจุข้าราชการมากอยากทำเพื่อพ่อแม่ กูเป็นโม่งเพิ่งจบปตรีมาหมาดๆ เพิ่งผ่าน ภาค ก กพ กูสอบมา 3 กระทรวงแล้ว ไม่ติดสักที่กูท้อใจมาก อยากขอคำแนะนำ ช่วยกูด้วย
>>75 จบปี 53 เริ่มสอบภาค ก ไม่ติด สอบภาค ก ติดปี 54 ระหว่างสอบทำงานเป็น ลูกจ้าง พนักงานราชการ ตามลำดับ สอบไปเรื่อย ติดมั่งไม่ติดมั่ง ขึ้นไวเรียกไม่ถึงบัญชีหมดอายุ พอปี 59 มีหน่วยงานหนึ่งมาขอใช้บัญชี ทำงานมาถึงปัจจุบัน แต่กุก้อสอบใหม่อยู่ดีเพราะไม่ชอบที่ทำงานที่ทำอยู่ว่ะ อยากไปให้พ้นๆ กับกุรอโอนย้ายซึ่งก็ยากเหมือนกัน
บรรจุใหม่แต่อยากเปลี่ยนงานว่ะ ได้ข่าวท้องถิ่น พวก เทศบาล อบต. จะเปิดสอบโดยส่วนกลาง ตอนนี้พวกท้องถิ่นน่าทำมั้ยว่ะ จะฟิตอ่านหนังสือใหม่ ไม่รู้จะทำได้หรือป่าว
>>71 มีอยู่กรมเดียวที่ทำแบบนี้ได้คือกรมการปกครอง ตามพรบ.บริหารราชการแผ่นดิน นายอำเภอจะคุมข้าราชการทั้งอำเภอ(ยกเว้นพวกครู ทหาร) ถ้านายอำเภอไม่อยู่ปลัดจะทำงานแทนนายอำเภอ ซึ่งจะบรรจุใหม่หรือชำนาญการพิเศษก็เป็นปลัดเหมือนกัน เอกสารที่นายอำเภอมีหน้าที่เซ็น ปลัดบรรจุใหม่ทำแทนได้เลย อย่างเช่นพวกหนังสืออนุญาตที่ไม่สำคัญ(ขอใช้เสียง เรี่ยไร) เซ็น สด๙ หรือเซ็นเป็นผู้ช่วยนายทะเบียน และสามารถไปนั่งประชุมในฐานะตัวแทนนายอำเภอได้
>>75 กูสอบครั้งเดียวติด แต่ตอนสอบกูลาออกจากเอกชนมาเป็น NEET ที่บ้านว่ะ มีเวลาอ่านหนังสือเยอะ และกรมที่กูสอบเข้าก็รับคนเยอะด้วย ประกาศรับ 100 แต่เรียกบรรจุหมดบัญชี กูติดอันดับ 200 กว่าๆ รอแปปเดียวก็เรียก ถ้าจะให้แนะนำนะ กรมที่เปิดรับน้อยเรียก 10-20 คน หรือเรียก 5-6คน ถ้าไม่เก่งจริงก็ติดยากมาก ส่วนพวกสายมหาดไทยจะรับเยอะ ถ้าผ่านภาค ข แล้วได้ขึ้นบัญชีโอกาสถูกเรียกมีเกินครึ่ง
กูอยากสอบเข้ากรมสรรพากร แต่ไม่มีข้อมูลเลยว่ะ
คนที่มุ่งมั่นอยากสอบเข้าราชการเงินเดือนต่ำๆ โดยที่ตัวเองบ้านไม่รวยนี่ส่วนมากมีเหตุผลอะไรกันเหรอ? ไม่นับพวกที่บังเอิญไปทำราชการแบบไม่ได้เจาะจงว่าจะทำราชการนะ แล้วก็ไม่นับพวกราชการเงินเดือนสูงด้วย อยากรู้คนที่มุ่งมั่นเลยว่าชีวิตนี้จะทำอาชีพราชการเท่านั้นแม้เงินเดือนจะต่ำแค่ไหนก็ตาม กูเห็นงานราชการเงินเดือนไม่กี่พันคนยังแห่แย่งกันสมัครเพียบ พวกบ้านรวยไม่สงสัยเพราะเรื่องเงินคงไม่ใช่ประเด็น
ป.ล. ไม่แน่ใจโทนเสียงของคำถามตัวเอง แต่ไม่มีเจตนาไม่ดีนะ สงสัยเฉยๆ
>>87 สำหรับกู เป็นเพราะพ่อแม่อยากให้เป็น ก็ไม่ได้บังคับนะ แต่ออกแนวกดดันเล็ก ๆ เลยมาสมัคร แล้วติดแล้วก็ได้เป็น
แต่ช่วงที่สมัครกูออกแนวขี้แพ้ ๆ ด้วย ตรงที่ไม่อยากเหนื่อยทำงานมาก สมัครราชการแม่งเลยดีกว่า(กูผ่านมาแล้วทั้งลูกจ้างชั่วคราว
พนักงานราชการ ราชการ)
สำหรับกูแล้วราชการมันน่าทำตรงที่ว่า มันไม่ได้เงินเยอะก็จริง แต่มันได้สวัสดิการแบบ AOE พ่อแม่ลูกเมีย เกาะชายเสื้อเราได้หมด
กับอีกเรื่องคือ กู้ได้แทบจะไม่มีลิมิตจากสหกรณ์ต่าง ๆ (ดี เลว แล้วแต่กระทรวง) ทำให้คนที่อยากอยู่ใกล้ลูกเมีย แห่มาสมัครกัน
แล้วก็โอกาสตกงานต่ำ ถ้ามึงไม่ห้าวไปล้อมรถ ผอ แล้วบอกมึงเก๋าหรอ ๆ ๆๆๆ นะ อยู่ยาว ๆ สบาย ถ้ารับความน่าเบื่อได้
แต่ตอนนี้กูเริ่มอยากไปทำอะไรที่ตัวเองเคยฝันไว้ละ แต่เหลือเวลาไม่มาก ถ้าออกของไม่ทัน(เตรียมตัวครบเงื่อนไข แล้วถึงลาออกให้เซฟที่สุด)
กูคงจำใจทำราชการต่อไป แต่อาจไปเรียนเพิ่มเพื่อเปลี่ยนสายงานละนะ กูยังไม่จบ ป.ตรีเลย ไม่มีตังเรียนต่อ
กุ61 ทำไมไม่มีใครตอบกุเบย
Ky ขอแหวกดงขรก.นิดนะ 555 กูเป็นมนุษย์เงินเดือนสายฟอเวิดเด้อที่งานสบายชิบหาย ขอแค่รอบคอบๆ หน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้ว หรือเพราะบ.กูมันคนเยอะกว่างานก็ไม่รู้ แต่ประเด็นคือแม่งลางานยากว่ะ มีโหลดตู้ทุกวันซึ่งจะมาตอนไหนก็ไม่รู้ บางทีก็ทยอยมาตั้งแต่เช้า บางทีก็ตู้มมาตอนห้าโมงเย็นเป็นต้นไปแล้วต้องอยู่โอทำพวกใบขนให้เสร็จทันในวันนั้นๆ โดยที่กลางวันได้แต่นั่งตบยุง แต่เข้าใจอารมณ์ป่ะว่าแม่งลางานแทบไม่ได้เลย มันเป็นงานวันต่อวันโคตรๆ กูลาป่วยติดกันสองวันนี่คนด่าสาปส่งแล้ว อยากรู้ว่าบ.สายอื่นๆ มีงานที่วงจรยาวกว่านี้หน่อยมั้ย อย่างแบบสะสมไว้แล้วเคลียร์ทุกอย่างปลายอาทิตย์ก็ทันไรทำนองนี้ คือกูไม่ได้หมายคววามว่ากูขี้เกียจอ่ะแต่แค่อยากใช้วันลาโดยไม่ต้องผวาว่าตู้จะตกเรือง่ะ
>>96 คือต่างคนก็คิดว่าตัวเองงานเยอะอ่ะ บ.กูเป็นกันทุกแผนกเลย เวลาแดกข้าวมีไว้แขวะคนอื่ว่าตัวเองงานเยอะแต่กูก็เห็นหน้าจอว่างๆ เป็นทุ่งลาเวนเดอร์กันทั้งวันไม่ก็ลาซาด้า ส่วนเรื่องช่วยเหลือ ต่อให้เพื่อนเต็มใจช่วยอะมึง แต่ละลูกค้าที่โหลดก็ยิบย่อยต่างกันไป เอาคนนู้นมาทำแทนคนนี้ไม่ใช่ง่ายๆนะเว้ย รับเรื่องเฉพาะหน้าวันต่อวันยังพอได้ แต่ถ้ามีโหลดทุกวันแล้วทำแทนกันสักสองวันติดงี้กูบอกเลยโอกาสพลาดเยอะมาก พูดแล้วเหมือนกุเป็นไอ้เชี่ยที่ครางหงิงๆโดยไม่คิดจะอดทนเลยว่ะ จะว่างั้นก็ได้กูว่าจะออกมาเป็นครูสอนว่ายน้ำเด็กแล้วเนี่ยแม่ง 5555
ของเสียงคนทำงานวันหยุดหน่อยมีมั้ย
>>101 สมัยก่อนกูก็เคยทำงานแบบนั้น ตามงานได้ตลอดเวลาโดยไม่สนใจว่าจะเป็นวันหยุดหรือกี่โมง ตีสามตีสี่ มันคงเห็นว่าส่งไลน์ ไม่ได้โทร จะส่งหากี่โมงก็ได้มั้ง แต่กูไม่ชอบอ่ะ ประสาทจะแดกจริงๆ ปัจจุบันเปลี่ยนงานแล้ว งานหนักมั้ยก็หนัก แต่วันหยุดคือวันหยุด นอกเวลางานคือเวลาส่วนตัวของจริง ไม่มีเรื่องงานมากวนใจ ชีวิตดีขึ้นมากเชื่อกูเถอะ ถ้ามีทางไปไปเถอะ
>>102 งานที่กูเจอนี่คือต้องออกนอกสถานที่ในวันหยุด คือทำงานวันหยุดกูทำได้นะ ไม่คิดมากเพราะกูไม่มีครอบครัว พ่อแม่กูดูแลตัวเองได้ ไม่ซีเรียสกับการต้องมาทำงานวันหยุด แต่ที่รับไม่ได้คือต้องมาติดต่อกับคนแล้วระบบงานแม่งเหี้ยไง คนนู้นบอกอย่างคนนี้บอกอย่าง แม่งปวดหัวชิบหาย
ญี่ปุ่นn2กับn3 ควรจะได้ค่าภาษาเท่าไหร่อะ
>>104 เบสๆ n3=3000 n2=5000
บวกลบได้แล้วแต่บริษัทไม่เท่ากัน
n3 ไม่มีสอบไรเพิ่ม แต่บางที่ n2 ได้ใบมาต้องมาทำข้อสอบของบริษัทอีกรอบด้วยนะ
แต่ถ้าเมิงสอบ n2 ได้จริงๆ มันก็ไม่ยากหรอก เพื่อนกุทำโรงงาน n2 แบบเกือบตก ทำข้อสอบโรงงานได้เกือบเต็ม (เจอทุกวันด้วยแหละ)
แต่บางที่ก็ไม่ให้เลย อยากที่กุทำอยู่เนี้ย งกชิบหายหลังเมษาว่าจะลาออกละ
เบื่อลูกค้าประเภทรู้จักผู้ใหญ่ในบริษัทแล้วฝากเดินเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับแผนกที่ผู้ใหญ่อยู่
แล้วก็มาให้ลูกน้องจัดการต่อ ทั้งๆที่ลูกค้าแม่งไปติดต่อตรงกับแผนกที่จัดการกับลูกค้าโดยตรงแม่งสะดวกกว่าเยอะ
นี่กลายเป็นติดต่ออ้อมโลก ขอเอกสารเพิ่มเติม เอกสารส่งแล้วหายหาไม่เจอเพราะต้องส่งหลายต่อ
จะปฏิเสธก็ไม่ได้อีก โคตรเซ็ง
พาร์ทไทม์ประเทศไทย ส่วนใหญไม่อยากเรียกพาร์ทไทม์เลยวะ
นายนี่เรื่องเยอะจัง ปัญหาก็ขยันสร้าง พรุ่งนี้เช้ากุเตรียมโดนด่าได้ โอ้ยยยยย
การขอใช้บัญชีการเรียกบรรจุของส่วนราชการส่วนใหญ่จะมีเด็กเส้นอยู่ในบัญชีที่ขอใช้รึเปล่า
สมัยเด็กๆกูเคยคิดว่าทำไมคนบ่นเรื่องพฤติกรรมข้าราชการเวลามีประชาชนไปติดต่อ ทำไมเอกชนไม่มีปัญหานี้
พอได้ทำงานจริงๆ ผ่านงานมาทั้งเอกชนทั้งราชการกูก็เข้าใจเลยว่ะ งานเอกชนที่เป็นงานบริการถ้าพูดจาไม่ดีกับลูกค้าโดนหัวหน้าเรียกไปด่า ถ้าหนักหน่อยก็ตัดเงินเดือน เพราะแบบนี้งานเอกชนเลยไม่ค่อยมีปัญหาให้ประชาชนบ่น
ส่วนงานราชการถ้าพูดจาไม่ดี คนไม่ค่อยฟ้องด้วยส่วนหนึ่ง(เดี๋ยวเรื่องที่ไปติดต่อไม่เดิน)ไม่พอใจอะไรเอามาด่าข้าราชการข้างนอก หรือถ้าไปฟ้องหัวหน้าส่วนราชการ จะตั้งกรรมการสอบวินัยนี่ยากมาก ถ้าแค่บ่นว่าบริการไม่ดีก็แค่โดนนายเรียกมาเตือน ข้าราชการเลยติดนิสัยถ้าไม่พอใจก็ไม่เก็บอารมณ์ทางสีฟน้าเพราะยังไงประชาชน(ลูกค้า)ก็ไม่ใช่พระเจ้า
เดี๋ยวนี้ถ่ายคลิปไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยเล่นงานทีหลัง
กรรมการสอบวินัยก็พวกเดียวกันในหน่วยงานด้วยล่ะ ถ้าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงประเภทตะโกนด่าประชาชนกลางที่ทำงาน หรือตบหัวชกหน้าทำร้ายร่างกาย ยังไงก็ไม่โดน จบแค่โดนหัวหน้าเรียกไปด่าอ่ะเต็มที่
งานราชการทุกอย่างมันผูกขาดด้วยไง
เมิงจะทำบัตรประชาชนมีที่ไหนให้ทำนอกจากที่เขตไหมละ
ทำใบขับขี่ก็ต้องไปที่ๆทำ
จะทำที่เซเว่น หรือ ร้านหน้าปากซอยไรแบบนี้ก็ไม่ได้
มันไม่การแข่งขันวะทำดีหรือไม่ยังไงลูกค้าก็ต้องง้อเมิงอยู่ดี
คือเวลามึงไปใช้บริการเอกชน มึงเป็นลูกค้า เขาต้องมาง้อมึง
แต่เวลาไปใช้บริการราชการ มึงไม่ใช่ลูกค้า มันเป็นหน้าที่ มึงต้องไปง้อมัน มึงไม่ไปสิมีความผิดตามกฏหมาย
โม่งข้าราชการ ยธ ยังอยู่ป่ะ กูเห็น ปปง เปิดสอบ ขอคำแนะนำหน่อยว่าน่าย้ายไปมั้ย
ใช้ยังไงกันให้พอเนี่ย นับถือจัง มาย้อนคิดดูแล้วถ้าตัวเองบังเอิญเรียนสาขาวิชาทั่วไปที่จบมาได้หมื่นห้านึกสภาพไม่ออกเลยว่าจะใช้ยังไงให้พอ
สมัยกูเพิ่งจบกูเคยได้เงินเดือน 7000+ ด้วยนะ แต่ตอนนั้นเป็นช่วงลองงานมั้ง และนั่นก็โคตรหลายปีละ
ตอนนี้ส่วนราชการก็พยายามย้ายไปชานเมืองอ่ะ หลายที่ก็ไปแจ้งวัฒนะ สธ กับพาณิชย์อยู่นนท์ ถ้าได้บรรจุก็ไม่เป็นภาระมากเหมือนมาอยู่กลางเมือง
เจ้านายเหี้ย สอนงานดีๆก็ไม่เคยสอน พอกูทำผิดเสือกมาหาว่าทำผิดหลายครั้งแล้วก็ไม่บอกด้วยว่าผิดตรงไหน แล้วกูจะไปตรัสรู้กับมึงมั้ยไอ้สันขวาน
ตอนนี้ที่กูลังเลเรื่องงานก็เพราะแบบนี้แหละ งานเก่าระบบแม่งเหี้ย แต่ไม่มีอะไรรับประกันว่าถ้ากูเปลี่ยนงานจะไม่เจอระบบที่เหี้ยเหมือนกัน(เพราะเป็นงานราชการเหมือนกัน) แต่ก็สมัครสอบไว้ถ้าสอบติดก็คงย้ายแล้วไปวัดดวงเอาข้างหน้า
ช่วยกูด้วย กรมธรรม์ไทยประกันชีวิต แม่งไม่ยอมยกเลิกให้กูซักทีโทรจี้ 2-3 รอบละ กลัวเลยเดือนนี้แล้วจะเก็บเงินกูอีก 450
>>133 ลองร้องเรียนไปนี้ไหมมึง http://www.oic.or.th/th
เห็นบอกบัตรไม่ให้จ่ายเงินได้ แต่จะได้จริงหรอวะ ก็แม่งฮั้วกันอยู่
ทำบัตรผ่อนของแม่งประกันโทรมาทุกเดือน กูไม่เคยทำเลย แค่กระดาษไม่กี่บาทมึงยังปริ้นให้กูมาดูไม่ได้
แล้วกูจะรู้ได้ไงว่ามึงคุ้มครองกูจริง เอาพม่ามาพูดไม่รู้เรื่องใส่กู กูฟังไม่ทัน
ทำไมคนในออฟฟิศมันถึงอยู่กันดีๆ ไม่ได้วะ เล่นพรรคเล่นพวกกันจัง แค่ไปอีกกลุ่มนึงจากคนที่เคยคุยกันดีๆ ก็เมินกูไม่คุยกับกูซะงั้น นึกว่าอยู่ในหนังไฮสคูล
โม่ง เห็นคนในบ้านกูพูดถึง โรงเรียนการไปรษณีย์ไทย ที่แม่งเรียนจบ1ปีละพร้อมบรรจุทำงานในนั้นได้เลย ตอนนี้กูกำลังเรียน ป.ตรี แต่แม่กูเสือกจะให้กูไปเรียนไอ รร. นี้ เพราะตอนทำงานจะได้งานรัฐวิสาหกิจแถมเลื่อนตำแหน่งไว มันดีจริงเหรอวะ? ทำไมกูรู้สึกว่าถ้าได้งานนี้จะกลายเป็นแค่อยู่ในกะลาไปวันๆวะ?
หลักสูตรอะไรวะ ขว้างของไว้วินาศกว่าเดิมเรอะ
ถามความเห็นพวกมึงหน่อย
ถ้ามีลูกน้องคนนึงเป็นพวกที่ไม่มั่นใจในตัวเอง เรื่องเล็กๆจะทำอะไรทีชอบถามให้ชัวร์ก่อนทั้งๆที่ตัวเองก็รู้อยู่แล้วว่าทำไง
แต่เรื่องใหญ่ๆบางเรื่องที่ไม่ควรคิดเองดันทำโดยไม่ถามซะอย่างงั้น เจอแบบนี้พวกมึงว่าทำไงดี
โรงเรียนไปรษณีย์ กูเคยสนใจนะ ตอนนั้นอยู่ ม.6 เรียนหนึ่งปีจบออกมามีงานทำ เงินเดือนเริ่มที่ 7900 มั้ง ตอนนี้ขยับเป็นหมื่นต้นๆ
ถ้ามองในแง่ว่ามีงานทำมันก็ดีอ่ะ แต่ถ้าคิดว่าตัวเองสามารถสอบเข้าราชการได้ ก็ไปเรียนป.ตรีดีกว่า
>>144 ไม่ใช่แค่นั้น ประเด็นคือ แม่กูบอกว่าถ้าเทียบกับในวงการทหาร ตำรวจ เวลาอัพยศ เลื่อนตำแหน่ง ส่วนใหญ่จะเลื่อนพวกที่จบ รร.นายร้อย/นายสิบ ไง ไอ รร.ไปรษณีย์ นี่ก็เหมือนกันอ่ะ เวลาเลื่อนยศหรือตำแหน่งจะเอาพวกที่จบจาก รร. ของมันเองมากกว่าไง ค่านิยมแม่งถอดแบบมาจากไอ รร.นายร้อยนี่แหละมึง ส่วนตัวกูเรียนสายคอมแต่แม่ไม่ค่อยอยากให้เพราะงานในไทยตอนเริ่มต้นมันไม่ค่อยดี ทำงานไปก็ไม่สบายสุขภาพ ราชการไม่ค่อยเปิดรับ(ยิ่งICTหรือไอเศรษฐกากและสังคังไรนั่นยิงรับแต่outsorceหว่ะ) แม่กุยิ่งเชียร์ๆแกมบังคับอีก แต่เสือกมาทำพูดว่าเรียนที่ไหนก็ได้บ้านเราไม่บังคับ เอาตามตรงนะ "มือถือสากปากถือศีล" ชิบหาย
>>139 พี่กูนี่เหมือนมึงเลย จบป.ตรีหางานไม่ได้แม่เลยให้เรียนรร.ไปรษณีย์ตามรอยพ่อมัน จบมาพี่กูได้ทำงานไปรษณีย์เงินเดือน 12,000นิดๆ แม่งบ่นท้อเงินน้อยชิบหาย แต่นะแต่พอทำนานเข้าเงินแม่งเยอะหูดับตับไหม้ ตัวพ่อมันอ่ะทำจนเป็นนายสถานี(เรียกงี้ป่าวกุไม่แน่ใจ) เงินเดือนเป็นแสน โบนัสกระจาย รร.พวกรถไฟเหมือนกัน จบมาเงินขึ้นเอาๆ อายุสี่สิบหลักแสนนี่ไปถึงแน่นอน ส่วนตัวกุคิดว่าถ้าทำเอกชน คนอายุ40ได้เป็นแสนมีอยุ่เยอะก็จริง แต่มึงคิดว่ามึงเป็นหัวกะทิเหล่านั้นหรือเปล่า แข่งขันกะคนอื่นไหวไหม ถ้าไม่มึงก้ลองพิจารณาทางเลือกนี้ไว้ดู งานกะลาจำเจ แต่โอกาสเงินเดือนสูงเท่ากับร้อยเปอเซนต์นะ ....ทั้งนี้ทั้งนั้นกูไม่ได้ทำทั้งสองอย่าง พอดีไม่ค่อยชอบราชการทุกวันนี้ก้มหน้าทำเอกชนเพื่อเงิน 16000 อยู่555
>>147 ฝากถามพี่มึงหน่อยดิ๊ว่าระบบสังคมแม่งมันเป็นยังไง? คล้ายๆพวกเรียน กศน. มั้ย? หรือว่าออกแนวเด็ก ปวช. ที่แบ่งพรรคพวกแล้วมีพวกเถื่อนๆวะ?
กูเกลียดอย่างหลังเหี้ยๆเลยนะมึง มันจะลามปามไปยันมีพวกที่เพิ่งจบมาใหม่ๆละกร่างใส่รุ่นน้อง ทำตัวแหกกฎสร้างความจัญไรให้อนาคตเด็กใหม่นี่แหละ
กุทำงานมาสองที่แล้วรู้สึกไม่มีความสุข ตอนนี้ได้ทุนมาก้อนนึงกำลังจะเปิดอะไรเป็นของตัวเอง แต่ช่วงนี้ที่กำลังหาโรงงาน/ดีลกะหุ้นส่วนให้ลงตัวคือ อยู่บ้านว่างๆสัสๆ ทำไมกุรู้สึกตัวเองไร้ค่า ทั้งๆที่กำลังจะทำโปรเจคใหญ่วะ คงเพราะไม่ค่อยได้ออกไปเจอคนอ่ะ คือกุพยายามหาอะไรทำแต่ก็ไม่พ้นว่างอยู่ดี จัดการกับความรู้สึกไงดีวะเพื่อนโม่ง
>>150 ที่มันว่างเพราะมึงยังตกลงกะเขาแบบคร่าวๆ อยู่ป่ะ คงต้องรอให้ทุกอย่างพอจะเห็นรูปร่างชัดเจนก่อนแล้วปัญหาจะมาให้มึงแก้เอง ถ้ามึงรู้สึกไร้ค่ามากจริงๆ ตอนนี้ก็ลองเอากระดาษมาลิสต์ถึงปัญหาที่น่าจะเกิดขึ้นและคิดหาทางรับมือไว้ก่อนก็ได้ อย่างพวกซัพพลายเอ้อสำรอง ตลาดสำรอง รวมไปถึงกรณีมึงทำแล้วไม่รุ่ง จะเบนเข็มยังไงให้ไอ้ที่ลงทุนไว้แล้วให้เจ็บตัวน้อยที่สุดงี้
เออ กูมีคำถามว่ะ พวกมึงมีใครที่พูดอังกฤษได้ในชีวิตประจำวัน แต่พอเป็นการคุยโทรศัพท์แล้วกลายเป็นเอ๋อเหรอขึ้นมาซะงั้น เหมือนสติปัญญาพัฒนากลับไปสู่จุดศุนย์บ้างป่ะวะ มีวิธีแก้มั้ย กูนี่มีปัญหากับเรื่องนี้มากเลย สมมติคุยกะฝรั่งตัวต่อตัว ได้สบตาได้อ่านสีหน้ากูตอบได้ลื่นนะ ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่กูไม่ได้รู้ลึกอะไรมากแต่ก็หยิบนั่นผสมนี่มาให้มันไม่น่าเกลียดได้ แต่พอเป็นโทรศัพท์กูแบบ............... จะตอบได้เฉพาะเรื่องที่รู้ ส่วนเรื่องที่ไม่รู้กูจะแถไม่ออกเลย
พวกเปิดติวสอบราชการแถวรามนี่น่าเชื่อถือป่าววะ คือมีคนในมาติวรึเปล่า
กูก็ไม่ได้หวังขนาดรู้ข้อสอบก่อนคนอื่นหรอก แต่เห็นราคาครึ่งหมื่นกูอยากรู้ว่าจะได้แนวหรือตัวอย่างข้อสอบเก่าๆมั้ย
ถ้าไม่มีกูว่าซื้อหนังสือมาอ่านเองหมดไม่ถึง 2000 น่าจะคุ้มกว่า
มันก็ความรู้ทั่วไปละ เกี่ยวกับการงานที่มึงจะทำนั้นละ มีคนไปจำแล้วเอามารวมขาย ออกตรงก็ดีไป ออกไม่ตรงก็ซวยไป
อันที่จริง มึงไม่ต้องไปเสียตังกับพวกนี้หรอก หนังสือ se-ed ก็เกินพอ
ก่อนอื่นมึงตั้งเป้าก่อนอยากทำตำแหน่งไร เอาที่เปิดสอบบ่อยเหี้ย ๆ
ก็ธุรการ มึงก็อ่านพวกระเบียบคำสั่งออกหนังสือ วิธีการพิมพ์หนังสือ บลา ๆ อะไรไป
อาจมีงานการเงินนิด ๆ พวกระเบียบตกเบิก ค่าเช่าบ้านห่าเหวอะไรพวกนี้ กฏหมายนู่นนี้อีกนิดหน่อย
อ่อ เว็บกรมที่มึงไปสมัคร คำขวัญ ชื่อ ผอ จำไว้ด้วยก็ดี แต่ไม่ต้องไปซีเรียส ออกอย่างมากก็ไม่เกิน 2 ข้อ
อ่า ถ้ามีสอบสัมภาษณ์ที่เป็นหน่วยงานภูมิภาคจัดสอบเอง ให้มึงทำใจไว้เลย เก่งแค่ไหน ถ้ามึงไม่ใช่คนที่เคยเป็นลูกจ้างหน่วยงานนั้น
ไงก็น่าจะได้อย่างดีไม่เกินที่สอง มันมีตัวอยู่แล้วเว้ย จัดสอบเพื่อให้ตัวพวกนี้ขึ้นมาเป็นราชการนี้ละ แต่ว่าถ้ามันเรียกเพิ่ม มึงก็ได้เป็นสิทธิแรก ๆ ไง
สอบ ๆ ไปเหอะ อย่าคิดมาก ราชการนอกจากความรู้แล้วดวงมึงต้องดีด้วย อย่างว่าละคนมันอยากเป็นเยอะ
>>152 กูไม่แนะนำดีกว่า มิจฉาชีพเยอะ มีคนโดนก็เยอะพอๆกัน ของจริงมีบ้างของปลอมเกลื่อนไป ส่วนมากที่จะโกงคือเนื้อหาขัดกับของจริง คนในราชการอ่ะอาจจะมีแต่จะการันตีในคุณภาพการสอนได้แค่ไหนวะ? บางทีเอาใครก็ไม่รู้มาย้อมแมวเป็นคนวงในเพื่อหาเงินจนร่ำรวยยังมีเลย ถ้าไม่นับสลัมคลองเตยนะ ตลาดหน้ารามคืออะไรที่กูรู้สึกว่าไม่น่าไปเดินเที่ยวพอๆกับแถวเยาวราชเลย
ประเด็นคือ ส่วนราชการที่กูจะสอบเนื้อหามันกว้างไง เหมือนกับบอกว่าสอบนักวิเคราะห์นโยบายและแผน
แล้วเนื้อหาที่ประกาศแม่งกว้างมาก ทำแผน เขียนโครงการ ของพวกนี้ไม่มีในหลักสูตรป.ตรี
ที่กูสงสัยคือ ไอ้พวกติวกันหลายพันถ้ามันเคยจำข้อสอบเก่าที่เคยออก แล้วเอามาติวมันก็คุ้มอยู่
กุสอบไม่เคยติวเลยว่ะ ซื้อหนังสือซีเอ็ด หน้ารามตลอด แมร่งเนื้อหาไม่ตรง ข้อสอบซ้ำ ไม่ชัด เลยเลิกซื้อเลย หาเอง
สงสัยสอบปปงนิดหนึ่ง คือแม่งรับทุกวุฒิเลยว่ะ ปรกติจะมีตำแหน่งทั่วไปอย่างธุรการหรือนักจัดการงานทั่วไปที่รับทุกวุฒิ แต่พวกนักสืบสวนการฟอกเงินนี่ควรจะรับแค่นิติ เศรษฐศาสตร์ บัญชีก็พอ
ตอนแรกกูก็คิดว่า ปปง คนน่าจะอยากย้ายมาเยอะนะ เพราะเงินพิเศษตามกฎหมายเยอะมาก แค่ผ่านทดลองงานก็ได้ 3500 ถ้าจบเนติและมีประสบการ์ณในการทำงานก็ได้อีกสองเท่า ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับข้าราชการหน่วยอื่น แถมกฎหมายกองทุนปปง ให้แบ่งเงินที่อายัดทรัพย์สินทร์จากการฟอกเงินมาครึ่งหนึ่งเข้ากองทุน ไปเปิดระเบียบดู เหมือนเจ้าหน้าที่ที่นำยึดจะมีสิทธิได้ส่วนแบ่งด้วย โอโห ยึดได้มากส่วนแบ่งก็ได้มาก
แต่ท่าทางระบบงานจะเหี้ยว่ะ ต้นปีเพิ่งเปิดรับโอนข้าราชการจากหน่วยอื่นมาครึ่งร้อย ซักพักก็เปิดสอบอีกร้อยกว่าตำแหน่ง พอเปิดดูรายงานประจำปี มีรายงานไว้ชัดเลยว่าปัญหาในการปฏิบัติงานคือข้าราชการไม่พอเพราะลาออกกับย้ายไปเยอะ
เบื่อเวลาส่งเมล์ไปฝึกงานแล้วทางนู้นตอบกลับมาว่า "ถ้าทางเราสนใจจะติดต่อกลับไปนะคะ"
อีด๊อกกกกก ถ้าไม่สนใจก็ติดต่อกลับมาบอกกูด้วยซิโว้ยยยย ไม่ใช่ให้กูรอเก้อไปฟรีๆ
ประเทศเราชอบแทงกั้ก
>>162 คิดเหมือนกันเลยว่ะ รับทุกวุฒิแบบนี้ตีความได้สองอย่างอ่ะ ว่าอยากกินเงินค่าสมัครสอบเยอะๆเลยรับแม่งหมดแต่เวลาสัมภาษณ์จริงก็เอาแค่ นิติ รัฐศาสตร์ บัญชี
หรือสอง คนไม่พอจริงๆ เลยรีบรับ อยากให้คนสมัครเยอะๆ แต่เวลาทำงานจริงเด็กใหม่ที่เข้ามาก็เป็นแค่เบ๊ให้พวกเก่าๆจิกหัวใช้
ปสก.ทำงานนับจากวันที่เริ่มงาน หรือวันที่ผ่านโปร(4เดือน)วะ สมมติกุเข้าทำงานเดือนเมษา สิ้นมีนานี้ถือว่า 1ปียัง หรือต้องรออีกสี่เดือนถึงนับเป็น 1ปี
เงินเดือนขึ้น 200 บาท กู้สหกรณ์เหมาบุฟเลี้ยงเพื่อนดีก่า
มีโม่งในนี้รับราชการทหารมั่งมั้ยวะ? กูอยากรู้ว่ากองไหน กรมไหนทำงานเหนื่อยน้อยสุดวะ? แล้วทหารบก เรือ อากาศนี่อันไหนคือสบายสุด?
กุทำงานสายน้ำมันอยู่ ตปท งานแรกหลังเรียนจบเลย ทำมาได้สองปีกว่า แต่เริ่มคิดอยากเปลี่ยนสายงานหว่ะ แม่งชีวิตมีแต่งานๆๆๆๆ ที่บ้านกุก็เหมือนอยากให้กลับไปทำงานที่ไทยด้วย ถ้ากลับไปทำที่ไทยอยากทำอะไรที่ไม่เกี่ยวกับวิศวะเลย (กุจบด้านนี้มา ไม่มีประสบการณ์ด้านอื่นเลย) แล้วงานปัจจุบันกุค่อนข้างเปย์โหด (สมัยกุเด็กจบใหม่เพิ่งเริ่มงานได้เดือนละแสนกว่า) งานใหม่ไม่จำเป็นต้องได้ขนาดนี้ แต่ให้กุไปเริ่มสองหมื่นกุก็ทำใจไม่ค่อยได้หว่ะ
ตอนนี้ยังลอยๆอยู่ ไม่รู้หางานสายไหนดี แนะนำกุโหน่ยยยย
สป.มท. เปิดสอบนักวิเคราะห์ หน่วยงานนี้น่าทำมั้ย งานโหดมั้ย
เพื่อนโม่งกูขอปรึกษาหน่อย ตอนนี้กูอายุ 25 ทำงานเป็นพนักงานบริษัทเงินเดือน 15000 มีภาระที่บ้านเล็กน้อยแต่บ้านไม่รวย กูมีความฝันว่าอยากไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศซักช่วงนึงเปลี่ยนๆไปหลายๆประเทศ
แต่ด้วยทุนทรัพย์ที่ไม่มี หน้าตาก็ไม่ดีจะไปหาป๋าก็ไม่ได้ เลยเหลือทางเดียวคือความสามารถซึ่งกูก็พยายามฝึกทุกๆวันหลังเลิกงานมาเป็นปีละ ก็ดีขึ้นนิดหน่อย อย่างพวกภาษากับวาดรูป(กูทำงานด้านศิลปะ) แต่กูเริ่มกังวลอ่ะ กูอายุ 25 แล้วเหมือนเหลือเวลาอีกนิดเดียวเองแล้วแม่ก็บอกให้รับราชการหาความมั่นคงในชีวิต ซึ่งเหมือนว่าวัยนี้จะต้องหาความมั่นให้ชีวิตแล้ว กูเลยควรจะล้มเลิกความฝันของตัวเองแล้วไปจริงจังกับการทำงาน เก็บเงิน แบบนี้ดี หรือกูควรทำตามความฝันต่อดี อย่างที่บอกกูไม่ได้อยากอยู่ที่ไหนยาวๆแต่อยากไปเรียนรู้วัฒนธรรมมากกว่า ซึ่งถ้าทำแบบนี้งานก็ต้องออกแล้วการหางานในต่างประเทศนี่ยิ่งยากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ กูควรทำไงดีวะ พอคิดถึงตัวเองที่ไม่มีความฝันแล้วกูก็รู้สึกแบบแล้วกูจะอยู่ไปทำไมทุกทีเลยว่ะ
กูอยากเดินทางแต่เงินก็มีน้อย ชีวิตไม่มั่นคง ทำไงดีหรือมีวิธีที่ดีกว่านี้มั้ย
>>175 ปลูููููููููููููููููููููููููููููููููููููููููกผััััััััััััััััััััััััััััััััััััีีัก เลี้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้ยงหมููููููููููููููููููููููููููููููููููููููููููููููููู เห็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็ด เป็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็ด ไก่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ สร้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้ััั้้างชีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีวิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิตที่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่พอเพีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีียงสิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิลูููููููููููููููููููููููููููููููููููููููก เหลืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืือมีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีเหลืิืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืือเก็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็บก็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็เอาไว้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้่่้้้้้้ทำทุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุน ทำตามรอยพ่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่อหลวงของเรา ชีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีวิิิิิิิิิิิ้้้้้้้้้้้ิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิตก็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็๋๋็๋๋็็็็็็็พอเพียงและเป็นสุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุุข
>>175 หาความฝันก่อนถ้ายังมีคนสนับสนุน มีเงินเพียงพอต่อให้แก่ตัวไปถ้าไม่มีเงินก็หาความฝันไม่ได้อีก แต่ถ้ามีเงินตามฝันก็ง่ายขึ้น อาจมีเวลาตามฝันแค่ 1-2ปีสั้นๆถ้าไม่ไหวก็ตั้งหน้าตั้งตาหาเงินต่อ กูอายุเท่ากันเงินเดือนน้อยนิดเหมือนกันทุกวันนี้ก็คิด ตอนเด็กเคยฝันอยากได้เงินเดือนๆละสามหมื่นสบายๆหรือเยอะกว่านั้น แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เงินหายากถ้าจะให้เดือนนึงได้หลายหมื่น กูก็ชอบวาดรูปเหมือนกันนะ ทำงานพวกออกแบบอยู่งานประจำ เงินเดือนได้น้อยนิด แต่โดนใช้จนคุ้ม ถึงมีประสบการณ์เยอะกว่านี้กูก็คิดว่าเขาคงเพิ่มให้ไม่เท่าไหร่ เหนื่อยใจ
กูเองก็เงินเก็บยังไม่เยอะพอจะตั้งตัวทำอะไร อยากไปเรียนด้านที่ชอบต่อที่ต่างประเทศ แต่ถ้าไม่มีทุนก็ต้องเงินตัวเอง ลำพังเงินตอนนี้ไม่พอด้วยซํ้าสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด
กูก็มีความฝันเหมือนกันอยากไปอยู่ ในที่ๆท้าทายใหม่ๆบ้าง ไม่ใช่เดิมๆ
แต่ก็เป็นห่วงพ่อแม่นะถ้าเขาอยู่กันแค่สองคน ตอนที่กูไปอยู่ที่ไหนสักที่ช่วงหนึ่ง
ตอนนี้กูก็มองทางข้างหน้าไม่ค่อยเห็น แต่สิ่งที่ตอนนี้ทำได้ก่อนคือทำงานเก็บเงินเพื่ออนาคต
แต่ความฝันที่แท้จริงของกูตอนนี้กูค้นพบว่าคือการหาเงินให้อนาคตสุขสบายโดยไม่ต้องทำงาน
มีเวลาไปเที่ยวซื้อของปีละสองสามครั้ง หรือไปอยู่พักผ่อนหย่อนใจได้แบบไม่กังวล แต่กูคงเพ้อฝันไป
ถึงตอนนั้นกูก็จะมีเวลาทำงานอดิเรกในสิ่งที่ชอบ ใช้ชีวิตโดยไม่ต้องทำงานมนุษย์เงินเดือน
แต่มันดูไกลและยากสำหรับกูในตอนนี้ ตอนนี้กูต้องเลือกเงินก่อนความฝันหลายอย่างที่อยากทำ
เพราะเกิดมาแล้วเลยอยากทำให้ได้ แต่ความฝันกูสำเร็จไปแล้วข้อนึงที่อยากทำแต่กูก็ไม่อยากจะทำกับมัน
ทั้งชีวิตกูอยากลองอะไรใหม่ๆที่มากขึ้นและมากขึ้นกว่านี้ ชีวิตที่สนุกงานที่สนุกจะทำให้กูไม่เบื่อไม่หดหู่ในวันๆที่น่าเบื่อ ทำให้คิดว่าเกิดมาทำงานหาเงิน ก็ต้องใช้เงินที่หามาให้คุ้ม ดีกว่าตายไปแล้วหามาเหนื่อยแทบตายแล้วไม่ได้ใช้. มึงก็อย่ากดดันตัวเองเกินไปนะ ลองไปหาความสุขผ่อนคลายเป็นช่วงๆกูเองก็มีช่วงที่เครียด
และช่วงที่ผ่อนคลายให้กับตัวเอง
หงุดหงิดที่เพื่อนไม่ฉลาด ลงทุนคนละครึ่งจ้างโรงงาน จ่ายเงินมัดจำละ เพื่อนเป็นคนติดต่อเจ้าของโรงงาน กุก็บอกเออมันตั้งกรุปใหม่ลากเราเข้าด้วยสิ
นางบอกทำไปทำไม ลำบากเจ้าของโรงงาน ถามพี่เขาสิสะดวกไหม ไลน์ของเก่าก็มองไม่เห็นนะ วันนั้นกุด่าเลยจ้า ตามความเหมาะสมมันก็ควรรับรู้ทั้งสองฝ่ายไหม ที่สำคัญพี่เจ้าของโรงงานแกยึดไลน์เป็นหลักฐานว่าคุยอะไรกันไว้บ้าง เมิงดูคนเดียวคิดว่าดูละเอียดแล้วเหรอ ช่วยกันดูจะได้ไม่พลาด
กุไม่เข้าใจตรรกะเพื่อนกุจริงๆว่ะ แต่อธิบายไปแบบนี้มันก็ยอมเปิดกรุปใหม่ให้ ที่หงุดหงิดคือทำไมต้องให้กุมาอธิบายเยอะแยะ ฟรัค
>>177 ฮือ มึงนี่ร่างแยกกูจริงๆ กูก็อยากท้าทาย อยากเดินทาง อยากเรียนรู้ กูเบื่อที่จะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆติดขัดแค่เรื่องเงินกับหนทางในอนาคตแหละ ถ้ามัวไปทำตามฝันการงานมันก็ไม่มั่นคง ถ้าจะมั่นคงก็ต้องพับโครงการเก็บไปก่อน แต่ว่าเราจะอยู่ถึงแก่มั้ยนั่นก็อีกเรื่อง กูกลัวว่าสุดท้ายจะไม่ได้ทำไรเลย
>>179 ดีนะ กูก็อยากทำ แต่อย่างที่ว่าพออายุมากก็คิดมากอ่ะ แบบออแพร์หรือพวกเวิกทราเวล/สตัดดี้ มันเหมือนเป็นการเดินทางเก็บประสบการณ์แต่ในเรื่องการงานจริงๆมันก็ไม่มั่นคง กูลำบากใจจัง
>>180 เดี๋ยวๆ มึงใช่175ปะ?? คือจุดประสงค์ที่มึงจะไปนี่อยากไปเรียนวัฒนธรรมแล้วก็อยู่แปปๆ อยู่แล้วไม่ใช่อ่อ แล้วมึงจะหาความมั่นคงอะไรในเมื่อมึงจะเดินทางไปเรื่อยๆ ถ้ามึงจะเอามั่นคงกูว่ามึงไปหาที่เรียนต่อ หรือไม่ก็ที่ทำงานอยู่ยาวๆ แล้วเอาภาษาด้วยไม่ดีกว่าเหรอวะ กลับมาได้ภาษาอัพเงินที่ไทยได้อีก แต่ถ้ามึงอยากไปเที่ยวๆ อยู่แปปๆ เวิร์กทราเวลก็ดีนะ ถ้าเก็บดีๆกลับมามึงอาจจะมีเงินก้อนไปเป็นทุนให้มึงต่อด้วย
ปล.กูไม่ใช่179
กุ 179 กุว่า 180 ยังคิดไม่ตกมากกว่าว่าตัวเองอยากมั่นคง รึอยากทำตามความฝันกันแน่ ไปถามใจตัวเองให้ดีๆก่อนเถอะ ไม่ก็เปลี่ยนใจกลับไปกลับมา
>>182 ความมั่นคงที่ว่าคือหน้าที่การงานในตอนนี้อ่ะ ถ้าอยากเดินทางก็ต้องลาออกไปตามฝัน หางานใหม่ทำเรื่อยๆไรแบบนี้ซึ่งมันไม่มั่นคงไง เข้าใหม่เงินเดือนสต๊าดไม่เท่าไหร่ด้วยเปลี่ยนงานเรื่อยๆมันก็คล้ายๆย่ำอยู่กับที่อ่ะนะ
แต่ถ้าจะเอาความมั่นคงกูก็ต้องหางานที่จะลงหลักปักฐานยาวๆไปเลยแบบนี้แต่ก็จะอดเดินทางอ่ะ ซึ่งกูก็ยังคิดไม่ตกอย่างที่ >>183 ว่านั่นแหละ
ทำงานไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง แก้่ยังไงดีว่ะ
กูเพิ่งเริ่มงานได้ไม่กี่วันแต่เริ่มเบื่อๆแล้วว่ะ สังคมก็โอเคนะ แต่ปล่อยกุนั่งว่างโง่ๆทั้งวัน นายก็ใช้แต่คนเก่า คนเก่าก็ยุ่งมาสอนไม่ได้ กุไปขอให้เขาสอนงานก็ไม่ว่างอีกไม่ก็ดึงงานกุไปทำเองด้วยเลย แม่งไม่มีโอกาสเรียนรู้เลยว่ะ ทำได้แค่สาระแนตอนเขาคุยงานกันแต่ก็ฟังไม่รุ้เรื่องเพราะไม่ทีคนอธิบายรายละเอียด สิ่งดีๆที่กูรู้สึกได้อย่างเดียวคือกุมีเวลาเอาหนังสือเรียนที่ดองๆไว้มานั่งอ่านเต็มเวลาเพราะเล่นมือถือไม่ได้เนี่ยแหละ
>>186 ตอนเข้ามาทำงานแรกๆกูก็เป็น แต่ดีตรงที่ใหม่มันไม่ค่อย block เว็บ หรือห้ามเอาไฟล์ในเครื่องบริษัทเข้าออก
กูเลยเอาเวลาอันโคตรว่างของกูมานั่งอ่านหนังสือกับลองทำอะไรเล่นของตัวเองไปเรื่อย
เรื่องสอนงานบางทีมันต้องรออีกซักนิดนิดถึงจะมีจังหวะคนว่างมาสอน ใจเย็นๆรอดูไปอีกซักพักก็ได้
กูมาแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น สมัครทำงานพิเศษไปที่ร้านขายหนังสือมือสองไปละ ประกาศผลพรุ่งนี้
ตอนนี้กูกลัวได้งานแล้วทำงานไม่รอดว่ะ คือเจ้านายเขาบอกงานนี้ใช้ความจำเยอะนะ สนทนาได้คล่องมั้ย
คือกูฟังรู้เรื่องนะว่าเขาต้องการอะไร แต่เวลาพูด พูดตอบโต้แบบอัตโนมัติไม่ได้ว่ะ
เครียด อยากได้งานก็อยาก แต่กลัวไปเป็นภาระเพื่อนร่วมงานว่ะ
สป.พณ เปิดสอบนักวิชาการพาณิชย์ ทำงานที่ส่วนภูมิภาค อยากรู้ว่าหน่วยงานนี้น่าทำมั้ย งานเยอะและยากมั้ย
สอบถามนิด กะลังตัดสินใจ
ระหว่างทำงานเดิมๆ เงินเดือนไม่เยอะ แต่อยู่ได้เรื่อยๆ ไม่ขาดทุนแน่นอน ไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้เกลียด
กะ ไปตั้งร้านเอง เงินลงทุนสูง มีแววขาดทุน เหนื่อยกว่าเดิม แต่กูชอบแบบนี้
อายุกูก็ 30 ละ ควรจะ play safe รึ take risk ดี
>>192 อย่ารีบทำอะไรที่เงินลงทุนสูงเลยว่ะ
ลองทำอะไรที่ใกล้เคียงกันในสเกลเล็กนอกเวลางานก่อนได้มั้ย เรียนรู้เรื่องสินค้า อาชีพที่จะทำ วิธีการขาย หรืออะไรก็ตาม เผื่อลองทำจริงแล้วได้ระบบใหม่ที่ประยุกต์กับของที่จะทำได้ด้วย หรือถึงทำล้มไปก็ไม่เจ็บ อยู่ๆไม่เคยเลยไปทำแม่งเสี่ยงว่ะ ยิ่งถ้าทุนสูงต้องเอาเงินเก็บไปลง เจ๊งทีเสียทั้งงานทั้งเงินเก็บทั้งเวลาเลย
เงินกับเวลามันหายากว่ะ ถ้าจะทำกิจการอะไรต้องมั่นใจเกเน80%ถึงควรทำ
ในฐานะมนุษย์เงินเดือน vat 8% เตรียมพร้อมรับมืออย่างไงดีวะ
กูต้องไปกินซี่โครงไก่ต้มฝักแบบเมื่อก่อนไหม
ปล. อีป้าร้านข้าวที่ทำงานกูคงขึ้นราคาได้อย่างสบายใจละ หลังจากอ้างมานาน 300 ก็ขึ้น รัฐบอกจะปรับเงินเดือนราชการก็ขึ้น แก๊สขึ้นก็ขึ้น นี้เก็บภาษี ผลกระทบใหญ่ขนาดนี้ น่าจะได้เห็นข้าวผัดกะเพราะ 50 บาทในไม่ช้า
โม่งในนี้มีใครมีวิธีเก็บเงินดีๆบ้างวะ กูเก็บได้เดือนนึงน้อยมาก เหมือนจะมีเรื่องให้เสียเงินตลอด ข้าวของกูว่ากูก็ไม่ได้เยอะ รองเท้ามีสี่คู่ กระเป๋าก็ไม่ได้ซื้อแพง กูซื้อของแค่ตอนมันเสียกับหมดอายุ แต่เงินเก็บไม่ค่อยมีเลยว่ะ
เป็นนักศึกษาปี3กำลังหาที่ฝึกงาน เล็งอยากได้ที่นึงที่น่าจะมีประสบการณ์ติดไม้ติดมือกลับมาแต่เสือกไม่ติด
ดันไปได้อีกที่ที่บริษัทแม่งไม่น่าจะได้ประสบการณ์อะไรกลับมาเลยแต่ดันได้ตังค์แทน แง กูอยากได้ประสบการณ์กับสกิลกลับมามากกว่า
นี่เป็นการฝึกงานครั้งแรกด้วย คือกูควรไม่อคติสินะ เผื่อที่ๆได้ไปอาจจะดีอะไรงี้ ใครมีปสก.ช่วยแชร์หน่อยเกี่ยวกับการฝึกงานในที่ๆไม่อยากไปแต่ดันได้อะไรกว่าที่คิดเผื่อกูจะมีกำลังใจมากขึ้น
ตอนนี้กูรู้สึกว่าไม่ว่าเงินเดือนกูจะเพิ่มขึ้นเยอะขนาดไหน พอได้ยินว่ามีคนในสายงานเดียวกันอายุงานพอๆกันได้เงินเดือนเยอะกว่า
กูก็รู้สึกไม่พอใจอยู่ดี รู้สึกเหมือนกำลังถูกหลอกกดเงินเดือนอยู่ คิดว่าตัวเองน่าจะมีเงินเดือนเยอะกว่านี้ได้
ตอนย้ายใหม่ๆก็รู้สึกว่าตัวเองเงินเดือนเยอะมากแล้วนะ พอย้ายปุ๊ปได้เจอพวกสายงานเดียวกันเงินเดือนเยอะกว่าอีกหลายคน
แต่ตอนนี้ด้วยอายุงาน ความสามารถ และสภาพเศรษฐกิจมันก็ค่อนข้างตันสำหรับกูแล้ว ตอนนี้กูไม่มีแรงออกไปวิ่งหางานใหม่แล้วด้วย
สงสัยได้เก็บ level กับบริษัทปัจจุบันไปพักใหญ่ๆ ถ้าไม่โดนเทซะก่อนอ่ะนะ เพราะท่าทางบริษัทเริ่มร่อแร่แล้ว 555
>>203 เงินเดือนมันมีหลายปัจจัยมาก เเค่กทมและปริมณฑล vs ต่างจังหวัด(ที่ไม่ใช่เมืองใหญ่ๆ)ก็ห่างกันเยอะแล้วมึง
แล้วบริบทองค์กรเล็ก ใหญ่มันจ่ายต่างกัน ขึ้นกับนายจ้างจ่ายไหวแค่ไหน สวัสดิการเป็นไง มีค่านู้นนี่นั้นบวกให้ไหม(ค่าคอม ค่าโอที ค่าน้ำมัน ค่าใบประกอบ ค่าภาษา ฯลฯ)
อีกปัจจัยก็เนื้อหางาน ทำกี่โมงถึงกี่โมง ต้องรับผิดชอบงานเยอะไหม งานโหดหนักแค่ไหน ประเภทใช้งานจนคุ้มเงินเดือนมีเยอะแยะ
เงินเดือนก็เหมือนบัญชีในธนาคารนั่นแหละ มีคนที่ได้เยอะกว่าและน้อยกว่า รู้จำนวนบัญชีในธนาคารเพื่อนหรือชาวบ้านไปแล้วมันเกี่ยวอะไรกะเราป่าว
ที่สำคัญ คือบัญชีเราก็พอแล้วมั้ง ไม่ต้องไปใส่ใจคนอื่นหรอก คิดมากเปล่าๆเสียเวลา
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดงานเยอะ งานยากมั้ย
>>202 กูเคยได้ฝึกงานบริษัทใหญ่ แต่ต้องทำฟรี ตอนแรกก็วาดฝันซะดิบดีว่าจะได้ความรู้ หรืออาจจะมีโอกาสกลับมาทำงานที่นี่ก็ได้ สุดท้ายโดนแช่แข็งนั่งหายใจทิ้งไปวันๆอยู่2เดือน ในขณะที่เพื่อนที่ทำบ.เล็กๆ ได้ทั้งตังและปสก. กูว่าเขาให้ตังมึงยังไงเขาก็ต้องใช้มึงให้คุ้มแน่ๆแหละ
>>208 งานเยอะมั้ย เดาว่าไม่เยอะว่ะ เปิด Wiki เห็นงบทั้งกระทรวงแค่ 7000ล้าน แต่กรมบางกรมล่อเข้าไปหมื่นล้าน
เงินน้อย งบประมาณน้อย แปลว่างานก็น้อยตามนั้นแหละ ไม่ค่อยมีโครงการอะไร ส่วนให้หมดไปกับเงินเดือนข้าราชการ
กับโครงการเล็กๆ อันนี้คือการคาดเดาของกูนะ ถ้าอยากรู้จริงๆลองไปติดต่อ สนง.พาณิชย์จังหวัดดู ว่าสภาพมันน่าจะหนักมั้ย
ถ้าเรียนป.ตรีสาขาisมธ จบมาหางานยากรึเปล่าอะเพื่อนโม่ง ตอนนี้เรียนตัวพื้นฐานอยู่แล้วรู้สึกชอบ ลังเลว่าจะย้ายเอกดีไหม
เออ กูทำบัญชีใน google sheet ได้ป่ะวะ
กูหมายถึงมันปลอดภัยแค่ไหนกะโปรแกรมแบบนี้
แบบกูตั้งให้เข้าได้เฉพาะกูไรงี้ รึยังไงทำในระบบปิดปลอดภัยกว่าอยู่ดี??
ได้งานแล้วทำใจ ไม่ว่าเมิงเก่งแค่ไหนสกิลที่เรียนมาจะไม่ได้ใช้ครบทุกสกิล แถมมีการฝ่ออีกตะหาก
สวัสดีโม่ง กุสั่งของโรงงานไปแล้ว รอของอีกสองเดือน ระหว่างนี้ทำไรดีวะ กุนั่งเล่นเกมนั่งเล่นคอมจนนิ้วแหกละ ชีวิตติดลูปเหลือทน
ที่วางแผนไว้คือ ระหว่างรอก็รับของราคาส่งอย่างอื่นมาเปิดเพจแยกทำตอนว่างๆ ไปก่อน / หาคอร์สเรียนระยะสั้นที่เกี่ยวกับสินค้าที่ตัวเองผลิต
/นั่งวางแผนสินค้าล็อตต่อไป ซึ่งอันนี้กุทำหมดแล้ว อิดอกกุว่าง ช่วยกุด้วย กรี๊ดดดดดดดดดดด
กุทำงานใหม่ไปได้เกือบจะ 6 เดือน เอาเข้าจริงๆกุทำห่าอะไรไม่เป็นเลยสักอย่างว่ะ จนคนในนั้นเริ่มไม่ปลื้มกุ กุอยากรู้ว่ามันคนประเภทแบบกุมั้ยว่ะที่สั่งงานหรือมอบหมายงาน กลับทำไม่ได้หรือทำได้แต่ก็ทำแบบส่งๆไป แบบเอาตัวรอดไปวันๆ
>>219 >>220 กุเข้าใจพวกมึงสองคนนะแรกๆกุก้โดนพวกนี้กุเจอในบริษัทไทยนะ แรกๆมากุก้นั่งเฉยๆ
เจ้านายแผนกให้ทำไรกุก้ทำ งานไม่บกพร่อง
สี่เดือนปุ๊บบอกกุไม่ผ่านโปรเพราะไม่ช่วยบริษัท กุนี่งงเลย มีการบอกว่าเห้นกุว่างบ่อยถ้าว่างต้องหัดถามคนอื่นมีไรไหม
แผนกไม่มีก็ต้องออกไปถามแผนกอื่น กุเลยบอก "ควย ไม่โปรเลยทำแบบนี้" แล้วก็ออกมาเลย หลังๆมีโทรมาง้อขอต่อโปรอีกเดือน
เพราะคนข้างในแผนกแม่งจะออกละ แต่กุบายละ บริษัทหัวดอแบบนี้
ปล.อยู่แถวสุขุมวิท 26 อาคารสำนักงานกลางๆซอย
กูเครียดว่ะ งานที่กูทำตอนนี้คือ โปรเจคมันแย่มาก กูไม่โอเคกับหัวโปรเจค กดคะแนนประเมินกู พูดจาถากถางดูถูกกู กูไปปรึกษาผจก.แผนก ขอออกจากโปรเจค ขอย้ายโปรเจคก็ไม่ยอมให้กูย้ายบอกว่าให้ทนๆทำต่อไปมาไกลขนาดนี้แล้ว แต่กูไม่มีความสุขกับงานเลยว่ะ ทำไปเครียดไป ร้องไห้เกือบทุกวัน กูหันหน้าไปปรึกษาใครก็มีแต่บอกให้กูทนไป เดี๋ยวมันก็จบแล้ว แต่แม่งกุทนมาเป็นปีๆแล้วไง ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดพ้นซะที กูควรทำไงกับชีวิตต่อไปดีวะ คือกูโอเคกับบ.เลยยังไม่อยากออก แต่พอมาทำงานแล้วต้องเจองานแบบนี้มันก็ทำให้กูไม่อยากมาทำงานอีก
อื้อหือ กูเป็นนีทว่างงานหลังเรียนจบมาจะครบปี กำลังหางาน(สัมภาษณ์ละ) มาอ่านพวกมึงละเสียวๆ เลยว่ะ 555+
>>221 อ่านแล้วหงุดหงิดแทนเหี้ยกูก็เจอ คือนั่งว่างไม่ได้ไงมันจะไม่ให้กูพักนั่งว่างบ้างเลยแต่เหี้ยพี่ที่ทำงานกวนตีน
โยนงานให้กูทำแล้วมันนั่งว่าง พอกูเคลียรเร็วแม่งก็โยนงานของมันมาอีก แล้วมันก็นั่งเล่นกกมือถือสัส พอกูว่างแปปเดียวบอกเหมือนของมึงอ่ะ งานไม่มีก็ไปถามแผนกอื่นอย่านั่งว่าง งานกูทำไวขนาดนี้ พอจบบอกกูไม่ผ่านโปร
เพราะกํไม่ตั้งใจพอ เหี้ยแล้วมาเจรจาบอก ต่อโปรอีกสองได้ต่อแล้วผ่านแน่ๆพี่แค่จะลงโทษ กูว่ามันแกล้งกูมากกว่า
ปรากฎกูทำต่ออีกสรมเดือนแล้วกูออกผลคือ เดือนที่สามคุยกับHRบอกจะให้เดือนที่สามตามที่ตกลง
พอกูออกปับสัสกูได้เท่าเดิมเงินเท่าเดิมช่วงทดลองงาน คือแม่งหลอกให้กูทำต่อป่าวเนี่ย แต่ดีแล้วแหละที่กูออกจากที่เฮงซวยนั่นได้แค่เงินน้อยๆ งานไม่ได้พัฒนาห่าอะไรเลย พี่ที่ทำงานฝ่ายเดียวกับกูแม่งกากไม่เห็นเก่งแต่อวดดีชิบหาย กูทนทำงานกับมันมาได้ไงวะ โยนงานให้กูหมดอะไรดีงานไหนดีเอาเข้าตัว แล้วเจ้านายก็เข้าใจว่า
เหมือนกูมาอยู่นี่กูไม่มีผลงานไรเลยเหี้ยมาก ผิดกับที่เก่าพี่ที่นี่ไม่ให้กูเสนออะไรสักอย่างคิดว่าควาคิดมันดีมาก
พี่ที่เก่าที่กูทำเก่งจริงไม่อวด มีเหตุผลไม่เหมือนไอ้ห่านี้ โมโหกูแค่ระบายกูออกมาดีละชีวิตกูดีขึ้นเยอะตอนนี้
>>222 มึงอย่าไปยอม!!!กูก็เคยมีเหตุผลที่ต้องออกเพราะเพื่อนร่วมงานกูสมัครใหม่แล้วออกมาหลายที่ประมาณ2-3ถือว่าไม่เยอะมากถ้าเยอะกว่านี้กูก็กลัวประวัติตัวเองแต่กูว่าถ้ามีความสามารถจริงคงไม่ต้องกลัวบริษัทไม่รับ
>>223 กูเป็นแบบมึงมาก่อนจบมา กูจบมาว่างงานพักผ่อนได้ครึ่งปีกูพึ่งเริ่มทำงาน คนอื่นเพื่อนกูจบปุปทำงานปัปอย่างไว แต่กูก็ยอมรับนะว่ากูไม่ค่อยอดทนบางอย่างกูคิดว่ากูไม่รู้จะทนไปทำไมในเมื่อกูสามารถหาเงินได้มากกว่านั้นหรือเข้าที่ๆดีกว่ากูก็พร้อมออกตลอดถ้าที่เดิมไม่มีไรให้กูเรียนรู้ต่อไป
อย่าทำงานถวายหัวเด็ดขาด กูทำงานเพื่อแลกเงิน บ.ได้เราได้ด้วย ไม่ใช่ทุ่มสุดตัวจนชีวิตแหลกไร้ความสุข
แบบนั้นอย่าทำเลยนอกจากขัดสนติดหนี้หางานใหม่ไม่ได้ต้องทนทำเพราะเงินไปก่อน
เพื่อนโม่งใคร ไม่เกินเลข 3 เปลี่ยนงานมาแล้วกี่ที่ แล้วแต่ละที่อยู่กี่ปี
นี้กะจะทำอีก 1 ปีกว่าๆ แล้วหนีไปทำช่างเสริมสวยละ
เพื่อนโม่ง ถ้าทำงานละไม่ผ่านโปรประวัติจะเสียป่ะครับ
กุเป็นนีทอยู่ปีกว่าหลังเรียนจบ ได้งานทำ 3 เดือนออก งานเยอะ เงินน้อย ถูกหักเยอะ ได้เงินรวมหมื่นนิดๆ บายจ้า
>>221 พิกัดที่มึงบอกนี่ลองเสิร์จเล่นๆอีเหี้ยเจอแต่ บ. ที่เปิดห้างแถวๆ ม. รามคำแหง กับบางแคหว่ะ 55555+ เออ กูว่าใบ้ๆสถานที่ทำงานให้โม่งได้รู้แบบมึงนี่ดีสัสๆหว่ะ จะได้มีสาระติดกลับไปมั่งว่า บ. แถวๆไหนไม่น่าคบหา
เออว่าแต่ ในโม่งนี้มีใครทำงานประเภทสิ่งทอหรือtexttileไรงี้มั่งป่ะวะ? อันนี้ ปสก. จากแม่กูเอง คล้ายๆกับของพวกมึงคุยๆกันเลยหว่ะ เจอ ผจก. โยนงานแผนกอื่นมาให้ทำ แถมแม่กูยังทำงานของแผนกตัวเองอยู่ก็เสือกสั่งย้ายให้มาทำงานตัวแผนกอื่นเดี๋ยวนั้นเดี๋ยวนี้ ไปๆมาๆก็เสือกไม่พอใจที่งานที่แผนกแม่กูเองยังทำไม่เสร็จ อีเหี้ย งงสัสๆกับไอ ผจก. ตัณหากลับนี่ชิบหายหว่ะมึง สั่งให้แม่กูทำอีกงานแล้วมาคาดหวังกับอีกงานเพื่ออะไรวะ? แบบนี้ใครจะทำตัวให้ถูกใจแม่งได้ พอบอกว่ามันทำพร้อมกันไม่ได้จะให้ทำยังไง อี ผจก. จัญไรนี่เสือกบอก "...เรื่องของคุณ" อ้าว อีสัส แบบนี้นี่กวนตีนชัดๆหว่ะ แม่กูทนมาทุกวันนี้เพราะอยากส่งเสียเรียนให้จบนะ กูเลยพยายามหางานนอกเวลาทำไปด้วย ได้ข่าวมาว่าที่แม่งเป็นแแบบนี้เพราะเล่นพรรคเล่นพวกกัน แล้วแม่กูโดนด้วยเพราะเป็นไม้กันหมาให้กับคนที่ ผจก. มันกลัว(คนที่มันกลัวก็ตำแหน่งต่ำกว่ามันนะ แต่แม่งพรรคพวกเยอะกว่า ผจก. เลยส่งแม่กูไปรับมือแทน 5555+) ตำแหน่งงานที่แม่กูสิงนี่คนที่ไม่สตรองพอโดนไล่ไป10กว่าคนละ จนHRกุมขมับอ่ะ เป็นงานพวกตรวจสอบคุณภาพผ้า เทสสารเคมีเสื้อผ้า
ปล.ที่ทำงานเป็นโรงงานอยู่ๆแถวๆทางนครปฐมไปฟาร์มจระเข้ สามพราน เจ้าของ บ. สัญชาติห้องกรง(ขังหมา) ตอนสมัครงานมันมีระบุด้วยนะว่าห้ามเอารายละเอียดการทำงานหรือสภาพสังคมในการทำงานไปบอกคนภายนอก ไม่งั้นเจอฟ้องศาล แต่กูไม่ได้ทำงานกับแม่งหว่ะ ไม่เกี่ยวกัรนะ 55555+
เห็นปัญหาของพวกมึงละกูกลัวเลย
คือกูนี่หลังเรียนจบกูมาอยู่บ้านโง่ๆ ไม่ทำห่าไรมาปีกว่า แต่ตอนนี้กูเพิ่งได้งานเขียนข่าวแบบทำที่บ้านได้อะ สรุปทุกวันนี้กูก็นั่งทำงานอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเหมือนเดิม
ตอนแรกกูก็กังวลแบบ กูไม่ได้ออกไปไหน ไปเจอใคร มันจะไม่ดีรึเปล่า แต่พอมาอ่านที่พวกมึงเจอกูเลยเพิ่งเห็นข้อดีว่างานกูมันไม่ได้เจอคนก็จริง แต่มันก็ไม่ต้องมามีปัญหาเพื่อนร่วมงานอะ (คือกูเป็นคนกลัวความสัมพันธ์กับคนด้วยแหละ ถ้างานมีปัญหากูสู้ไหว แต่ถ้ามีปัญหากับเพื่อนร่วมงานกูสู้ไม่ไหวว่ะ)
แต่ทำงานแบบนี้มันจะไม่มีความก้าวหน้ารึเปล่าวะ กูกังวลเรื่องนี้อยู่
เพื่อนโม่งชาย ปกติกางเกงสแล็คใส่ทำงานมึงใส่ซ้ำมั้ย กูใส่ประมาณตัวละ 2-3 วัน ขี้เกียจซักบ่อย
>>234 กูกลัวอยู่ไม่ยืดเหมือนกันแหละมึง แบบกูก็เพิ่งทำงานอะ ถึงงานมันจะไม่หนักใจ แต่กูก็ไม่รู้ว่ามันจะก้าวหน้าได้มั้ย
ของกูเป็นงานแปลข่าวอะ งานเบๆเลย ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมาก แต่ถ้าเป็นพวกสายโปรแกรมเมอร์/กราฟฟิคไรงี้น่าจะรายได้ดีกว่ากูเยอะ (ของกูเงินเดือนคือฐานป.ตรีอะมึง) ถ้าเป็นสายโหดๆก็คงต้องฝึกปรือฝีมือไปเรื่อยๆแหละ ยิ่งถ้าเป็นงานที่ต้องมีคนจ้าง/ดีลกับลูกค้านี่กูว่ายิ่งต้องฝึก เพราะต้องเก่ง+ทำได้หลายอย่าง ตามความต้องการของลูกค้าอะไรงี้
แล้วถ้าเป็นงานแบบนี้ กูว่าคอนเน็กชั่นก็สำคัญ ถ้ามีคนมาจ้างมึงตลอดมึงก็น่าจะอยู่ได้แหละ บางคนทำฟรีแลนซ์รวยกว่าทำงานประจำอีก
แต่สำหรับงานของกูนี่มันไม่ต้องคุยกับลูกค้าเพราะทำเว็บแปลข่าว แปลเสร็จก็แปะในเพจไรงี้ เงินก็ได้เป็นรายเดือน ไม่ต้องไปดีลงานกับใครด้วยก็เลยไม่ค่อยรู้ข้อมูลของฟรีแลนซ์แบบอื่นๆเท่าไหร่นะ (จริงๆของกูมันเหมือนทำงานบริษัทมากกว่ามั้งนะ แต่แค่ทำงานทุกอย่างที่บ้าน)
ในชีวิตกุงไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานว่ะ ไม่รู้จะโดนกดดัน บีบให้ออกเมื่อไร ตอนนี้ทำเก็บตังประหยัดว่ะ ออกมาไม่รู้จะทำอะไร
>>235 กูกราฟิกมึง T T รายได้ไม่ได้ดีเท่าไหร่ ฟรีแลนซ์สายนี้เยอะๆขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะกากไม่ว่าจะเก่ง
พอออกมาทำเองกูรู้เลยเหนื่อยมากแต่ละงานกว่าจะเคลียร์เพราะทำคนเดียว
กูเหนื่อยกูเครียดตอนแก้งาน ตอนคุยลูกค้าใช้พลังงานเยอะกูก็เหนื่อย ของกูรายได้ก็ไม่แน่นอน
จนกูเริ่มไม่แน่ใจว่าที่กูทำอยู่กูชอบมันจริงๆปล่าว เวลาท้อๆเครียดๆเรื่องเงินเรื่องงานกูไม่ชอบเลย
เห้อชีวิตก็ต้องเดินต่อไป
ฟรีแลนซ์เงินจะดีกว่าเริ่มงานในบ.แบบเด็กจบใหม่ (อันนี้กูพูดทั่วๆไปนะ) แล้ววัดกันที่ฝีมือที่ความสามารถ ไม่ใช่แค่ความสามารถในเนื้องานแต่เรื่องการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ความเข้าใจตลาด การสร้างผลงาน ฯลฯ
แต่จะไม่มีสวัสดิการ ไม่มั่นคง และไม่มีความก้าวหน้า ถ้าไม่ขวนขวายเรียนรู้เอง ท้าทายตัวเอง พอนานๆไปรายได้มันก็เป็นตามกลไกตลาด อาจจะอยู่เท่าเดิมไม่เปลี่ยน
ฟรีแลนซ์กุว่าเป็นง่ายแต่อยู๋ยาก ต้องเก่งจริง ขยันจริง และควบคุมวางแผนตัวเองให้ดี
ไม่งั้นไปไม่รอด พื้นฐานสายฟรีแลนซ์ทุกวงการเลย
ขอถามความเห็นหน่อยนะครับ อยากรู้ว่า วศ.คอมนี่จบไปทำงานยังไงหรอครับ ตอนนี้ผมเรียนอยู่ปี1 แต่พอจารย์ให้เขียนโค้ดผมทำไม่ค่อยได้เลย พอจบไปต้องเจอแต่แบบนี้ใช่มั๊ยครับ มันมีวิธีการเขียนโค้ดให้เก่งขึ้นมั๊ยครับ หรือผมควรเรียนคณะอื่นดีกว่า
>>241 ขั้นต่ำก็ IT Support กรรมกรประจำสายไอที ไม่ต้องคิดอะไรมาก พังก็ซ่อม แต่อาจเป็ดตามหน่วยงาน ตรงที่เขาจะใช้งานเรามั่วไปหมด โดนหมดทุกงานไม่ต้องห่วง ถ้าไม่มีแผนกเป็นของตัวเองหรือหัวหน้าที่คุมกะลาหัวดี ๆ ราชการมันเรียกเจ้าพนักงานเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่มึงไปทำจริง ๆ จะเป็นเจ้าพนักงานเครื่องคอมพิวเตอร์ไฟฟ้าประปาธุรการการเงินช่างแอร์ถ่ายภาพโสตทัศนะเว็บโปรแกรมมิ่งโฟโต้ช็อปตัดต่อวิดีโอขับรถถ่ายเอกสารและอื่น ๆ สุดแล้วแต่จะใช้งานกัน บันเทิงอะต่ำแหน่งนี้ แต่ละวันมึงภาวนาเลย อย่าให้มันหนังสือ ที่มีคำว่า คอม อินเตอร์เน็ต ระบบออนไลน์ มานะมึง มันจะเป็นงานมึงทันทีโดยไม่สนเหี้ยอะไรทั้งนั้น และมึงต้องทำให้ได้ด้วย
ถ้าลุยหน่อย มึงไป network มันจะเบากว่า Coding ตรงที่มึงจะเล่นกับอุปกรณ์แทน เหนื่อยหน่อยตรงที่ลุยเดินสายนี้แหละ แต่ส่วนใหญ่ต้องตระเวนต่างจังหวัดตลอดเวลา อาจต้องควบ maintenance ไปด้วย ถ้าไหวก็ลองไปดู
ลาออกจากงานมา กะจะทำกิจการของตัวเอง เพื่อนบอกเห็นเฟสนิ่งๆ ถึงขั้นเฟสมาขอเบอร์โทรหาเพื่อที่จะถามว่าตอนนี้ทำไรยุ
#ไม่เสือกดิ วินยานจิงโจ้ประทับร่าง
พอดีสิ้นเดือนแล้วกุอยากประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อวานกุเลยนั่งรถเมล์กลับบ้าน ปกติกุจะนั่งรถไฟใต้ดิน 30 บาทถึงบ้าน
รถเมล์ 9 บาทถึงเหมือนกัน
โคตรแม่มเอ้ยปกติงานกุเลิก 5:30 ถ้าไม่แวะนุ่นนี่ 6:30-50 จะถึงบ้านแล้ว
รถเมล์แม่งติดชิบหาย ถึงบ้านเกือบสองทุ่ม โคตรหงุดหงิดเลย
ยอมเสีย 30 บาทต่อไปแล้วกัน เพื่อนโม่งใช้เวลากันเท่าไหร่บ้างวะ
/ใครทำงานสายอาร์ตช่วยกูหน่อย กูจะไปสมัครงานตำแหน่งโรโตแล้วทีนี้พอร์ตกูมีแต่งานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานที่จะสมัครเลยมีแต่งานวาดรูป เอาเป็นว่าเขานัดกูสัมพาสในอาทิตย์หน้า
ตอนแรกเขาจะไม่ดูพอร์ตด้วยเพราะถึงเป็นสายอาร์ตแต่ทำด้านโรโตสโคป ซึ่งกูพอรู้สโคปงานแหละแต่ไม่มีตัวอย่างงานโรโตเลย ซึ่งทีนี้พอกูถามเรื่องพอร์ตไปเขาก็บอกเอามาก็ได้เผื่อจะได้พรีเซ้น ซึ่งกูเป็นเด็กจบใหม่ ใสๆ ซิงๆ อายุ 22 ก็ไม่รู้จะต้องพรีเซ้นอะไรยังไง งง ต้องเตรียมตัวยังไง ต้องไปทำพอร์ตโรโตมั้ยใครมีตัวอย่างบ้าง ช่วยให้คำแนะนำหน่อยดิ
เกลียดงานที่ทำ ทั้งคน ทั้งงาน ทั้งสภาพแวดล้อม อยากลาออกทำไม่ได้ไม่อยู่จะไปทำงานอะไร ต้องทนทำไปจนตาย
เลือกคบเพื่อนผิดคิดจนตัวตาย
กูหลุดมาคบเพื่อนมหาลัยที่เฟคสัสกันทั้งกลุ่มแต่กูเฟคไม่เป็นกูกำลังจะขาดใจตายกับความอึดอัดนี่ เอากูไปใส่ไฟผิดๆให้คนมองกูไม่ดี ต่อหน้าทำเป็นเงียบๆ
เหลือเวลาอีกปีนึง งานกลุ่มก็ต้องทำด้วยกัน นั่งก็นั่งติดกัน แต่ในใจแม่งเหมือนคนแปลกหน้า กูเฉยๆกับความเป็นเพื่อนกับพวกแม่งแล้วแต่ก็เบื่อเหลือเกิน
สหายโม่งมีใครสอบปปง.บ้างมั้ยนิ ตะกี้ข้อความเข้ามือถือว่าสอบ25นี้ 9โมง รังสิต!
คือกูแบบเฮ้ย ทางนั้นบอกว่าให้เช็ควันสอบทางเว็บวันที่20 ลองเช็คดูตอนซัก5ทุ่มก็ยังไม่ขึ้น กูก็นึกว่ากว่าจะสอบคงอีกซักเดือน ช่วงนี้ก็ยุ่งๆเลยยังไม่ได้อ่านไรเลย แต่นี่สอบอาทิตย์นี้เลย ไกลด้วย คือกูสงสัยว่าแบบนี้มันปกติมั้ย อ่านผ่านๆที่คุยกันด้านบนก็มีสงสัยว่ามีแนวโน้มเปิดสอบกินค่าสมัคร โม่งคิดว่าไงกันบ้างครับ
ส่วนสอบนี่น่าเสียดายว่ะ แต่คงต้องขอผ่าน อ่านไม่ทัน
เพื่อนโม่งๆ พวกนายมีข้ออ้างออกจากงานพาททามไม่ให้น่าเกลียดมั้งป่ะว่ะ คือกูจะทำสัก 1 เดือนแล้วออกว่ะ
โคตรเบื่อผู้ใหญ่ บ้างคนเลยวะ ตามศูนยราชการๆ บลาๆ ส่งงานแบบงี้มาเป็นปีละๆ ไม่เคยโดนบ่นๆ แล้วมาคราวนี้ กูส่งงานเรื่องเบิกของกลุ่มอื่นไป แล้วพอดีมาผ่านกลุ่ม B ออกไปมาแล้ว มาอยู่ C แล้ว พอดีมีคนมาตามเรื่องเบิกนี้ ที่กลุ่มA กูก็บอกไปว่าน่าจะผ่านB เดี่ยวลองไปหาก่อนไม่เจอค่อยกลับมาจะหาเลขที่ให้ คราวนี้หาไม่เจอ ป้ากลุ่มB โทรมาบ่นกูฉอดๆ ว่าไม่ส่งรายละเอียดอะไรมาในงานคนมันจะรู้ไหม กูก็บอกไปว่าก็ปกติทำอย่างงี้มาอย่างครั้งแล้วไม่เคยมีปัญหา แล้วกูก็ให้เลขไป ก็บ่นกูฉอดๆอีก ไม่ฟังที่บอกอีก ก็พูดมางี้ว่างานเยอะนะให้มาแค่นี้จะรู้ไหม‼‼ อ้าวคนส่งงาน(กู)บ้างทีงานมันก็เยอะเหมือนกันปะ จะบอกว่าคนเดี่ยวงานเยอะนี้ก็ไม่ใช่นะ กูก็บอกไปว่าป้าบ้างทีงานมันมาเยอะผมออกไม่ทัน แล้วก็หาว่ากูเถียงอีก เอ้า
จนกูเปลี่ยนให้ป้าที่ทำเรื่องคุยให้ที แมร่งเบื่อ แล้วมาวันนี้คนสอนกูก็มาบ่นกูอีกไปเถียงเขาทำไม อยู่มากี่ปีแล้วทำงานไม่รอบคอบ อ้าวววใครละสอน
(กลุ่มAกู Bมนุดป้า Cกลุ่มงานอยู่ )
>>259 กูเข้าใจกูเป็น พอวันนี้ถูก อีกวันไม่ถูกแมร่งไม่มีมาตรฐานเลยว่ะ มึงแค่แสดงไปตามบทบาทหน้าที่แค่นั้น เล่นไปตามน้ำ ของมึงยังน้อย ของกูแมร่งให้ทำเรื่องที่ไม่เข้าท่า ข้ายข่ายผิดระเบียบ กุยังกล้าเซ็นเลย ปวดหัวอยู่ทุกวันนี้ สิ่งที่กรูทำแมร่งก็ไม่รู้จะถูกป่าว ไม่มีใครดูงานให้เลย กลัว สตง. เรียกเงินคืนชิบหาย
มีเรื่องปรึกษาหน่อย ถ้ามีที่ทำงานนัดกูไปสัมภาสแล้วกูตอบโอเคไปแล้ว แต่พอมาเช็คเส้นทางก็พบว่าไปยากโครตๆ เสียทั้งเวลาและเงินแบบรู้สึกว่าไม่สามารถเดินทางไปทำงานที่นี่ได้ทุกวันแน่นอน
กูควรจะโทรไปยกเลิกสัมภาสบอกไม่เอาแล้วหรือควรไปสัมภาสถ้าได้ก็ค่อยปฎิเสธดี ใกล้วันสัมภาสแล้วด้วย แบบไหนจะดูน่าเกลียดน้อยกว่ากันและบริษัทจะไม่เสียหาย
ถามหน่อย เป็นมนุษย์เงินเดือนนี่เหนื่อยมั้ยครับ คือตอนนี้ผมยังเรียนปี 3 กว่าๆอยู่ ตอนนี้ก็ใช้ชีวิตเรื่อยๆเปื่อยๆ แต่เห็นพ่อแม่บอกว่าเหนื่อยมาก แต่ก็เห็นอีกว่ามีความสุขปกติ เลยสงสัยว่าจริงๆแล้วยังไงกันแน่ แล้วถ้าให้เลือกระหว่างทำงานตอนนี้กับกลับไปเรียนมหาลัยเหมือนเดิมจะเลือกอะไรกัน ผมเรียนบัญชีอ่ะครับ ขอบคุณครับ
กูโม่งข้าราชการ รู้สึกว่าระเบียบสารบรรณนี่ตัวทำให้งานช้าเลย
แรกๆมีหนังสือมากูเกษียรรายงานหัวหน้าตลอด จนหลังๆมีหนังสือมาขอข้อมูลหน่วยงานกู กูไม่เกษียรส่งหัวหน้าและ
เปิดข้อมูลแล้วทำหนังสือตอบกลับเองเลย แล้วรายงานปากเปล่าตลอด หัวหน้ากูก็ไม่ว่าอะไรเพราะสุดท้ายงานมันก็เดิน
แล้วกูไม่ทำสำเนาด้วยนะ เพราะคิดว่าสิ่งที่หน่วยงานอื่นต้องการก็แค่ข้อมูล แล้วสำเนาคู่ฉบับแม่งเป็นอะไรที่เปลืองกระดาษสำหรับกูอ่ะ
คือตามระเบียบมันมีไว้เป็นหลักฐานว่าหน่วยงานไหนส่งอะไรไป แต่ความจริงคือแม่งก็กองอยู่ในแฟ้มเอกสารรอวันทำลายแค่นั้น
ทุกวันนี้กูทำงานแบบได้หนังสือมาก็รีบๆตอบให้เสร็จๆ ไม่ต้องเรื่องมาก โดนถามก็บอกว่า ผมรายงานเรื่องxxx ไปที่หน่วยyyyแล้วครับ
แต่ก็รู้สึกเสียวๆอยู่นิดหน่อยว่าเกิดนายจะแอบเคืองรึเปล่าว่ากูทำงานแบบไม่รายงานเบื้องบน
ปล. เลขหนังสือกูก็ใส่มั่วๆด้วยนะ ประมาณเอาว่าช่วงนี้ของเดือน เลขหนังสือราชการน่าจะไปถึงไหนแล้ว แล้วก็ใส่ลงหนังสือ
เพราะกูคิดว่าเลขมันแค่เอาไว้อ้างอิงเวลาส่งหนังสือตอบกลับเฉยๆ สมุดหนังสือส่งนี่คงไม่มีใครมาตรวจย้อนหลังอ่ะว่าใส่เลขตรงมั้ย
ถ้าแจ๊คพ๊อตโดนตรวจขึ้นมา กูคงโดนด่าหู แต่โอกาสนี่กูน้อยกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง
เหนื่อย
ควย ลาพักร้อนวันนี้กับวันจันทร์ไว้
6.30 วันนี้โทรมาบอกมีงานด่วนเข้ามาที่โรงงาน
ให้ยกเลิกวันลาได้ไหม
ฝันไปเถอะไอ้สัส คนที่อยู่มึงก็ทำกันเองสิวะ ขาดกูไปคนนึงแม่งทำห่าอะไรไม่ได้เลยหรือไง
เขียนรายงานอะไรซักอย่าง ยาวแค่สองสามหน้า แต่ใช้เวลาเยอะชิบหายเลยว่ะ คือกูเพิ่งทำงานเป็นครั้งแรกๆด้วย รู้สึกว่ากว่าจะเค้นอะไรออกมาซักบรรทัดแม่งใช้พลังงานชิบหาย พอใช้เวลานานก็พางานหมักหมมไปด้วย
พวกมึงเวลาลางานไปสัมภาษงานที่ใหม่ พวกมึงบอกเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานยังไงวะ
กูโดนถามทุกรอบเลยว่าไปไหนมา จะให้บอกตรงๆก็ไม่กล้าได้แต่พูดเลี่ยงๆทุกที หรือจริงๆแล้วบอกไปตรงๆเลยจะดีกว่าวะ กูอึดอัดใจไม่อยากถูกมองว่าขี้โกหก
คนส่วนมากโกหก ลาป่วย ลาพักร้อน พาแม่ไปโรงบาล พาหมาไปฉีดยา
เถรตรงมากจะอยู่ยาก โลกมันโหดร้ายกว่าที่มึงคิด ใครตอแหลเก่งคนนั้นชนะ มึงคงยังเด็ก โตขึ้นคงเข้าใจ
บอกตรงๆไปไม่มีที่ไหนพอใจหรอกมึงบางอย่างก็ต้องโกหก อย่าไปบอกตรงๆว่าไปสัมภาษณ์ที่ใหม่
จะดูน่าเกลียด โกหกได้โกหกไป เพื่อตัวมึงเองด้วย กูบางช่วงใช้วันลายังไม่ครบ
กูอยากหยุดถ้าไม่ได้ลามาสักพักแล้ว กูก็แกล้งป่วยกระทันหันนอนพักอยู่บ้าน แต่กูรำคาญตอนพอวันถัดไปๆทำงาน
คนอื่นชอบมาถามกู เป็นไงบ้างมันก็มองได้สองแง่เป็นห่วงจริง (ยาก) ถามเป็นมารยาท กับลองเชิง
แต่กูค่อนข้างเนียน เลยชิลๆ
งั้นรุ่นพี่โม่งสอนสกิลตอแหลให้กูหน่อยสิ กูโกหกไม่เก่ง แถมรู้สึกผิดที่โกหกด้วย วันนึงกูอยู่ลำบากแน่
ตอนทำงานใหม่ๆ เจองานเข้ามาเยอะๆแล้วอยากลาออก ตอนนั้นกูคิดว่าตัวเองยังอ่อนหัดไม่สู้งานเจองานหนักก็ท้อ กูลแงกัดฟันสู้ คิดซะว่าถ้ากูทำงานเป็นต่อให้เจองานหนักแปปเดียวก็เสร็จ
แต่พอเริ่มอยู่ไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าต่ิให้กูเป็นงานก็ไม่อยาหอยู่ที่เดิมอยู่ดีว่ะ เวลาในชีวิตหายไผเยอะมาก แล้วแม่งบางทีไม่เกี่ยวกับงานโดยตรงแต่ต้องตามบอสไปเจอแขก VIP หรือบางทีบอสอยากลงพื้นที่ก็หนีบลูกน้องไปด้วย(ในวันหยุด)
คือผลตอบแทนมันคุ้มอ่ะ แต่กูรู้สึกว่าการที่บอสรับงานเข้ามาเรื่อยๆ(จริงๆมันเป็นวัฒนธรรมขององค์นี้ที่เบื้องบนขออะไรมาก็รับทำหมด) มันทำให้กูไม่มีเวลาส่วนตัวเท่าไร งานหนังสือกูไม่ได้ไปเดิน สั่งนิยายมาครึ่งหมื่นแต่หาเวลาอ่านไม่ได้ อนาคตกูว่าจะเปลี่ยนงานแล้วว่ะ อยู่ที่เดิมมีดีเรื่องเงินกับคอนเนคชั่นที่จะได้ แต่กูคิดว่ากูเป็นพนักงานกินเงินเดือนเงียบๆดีกว่า
>>286 ถ้ามึงยังรู้สึกผิด แสดงว่าสังคมที่มึงเจอยังเหี้ยไม่พอ หรือไม่ก็มึงยังเจ็บปวดไม่พอ พอถึงขีดสุดหัวใจมึงจะด้านชาไปเอง ถ้ามึงโดนกระทำมานับไม่ถ้วน มึงจะไม่รู้สึกอะไรอีกเลยกับการเหี้ยกลับใส่คนอื่นอีกต่อไป ส่วนกูผ่านมาแม่งทุกโหมดแล้ว จากตอแหลไม่เป็นเลยซักนิด > ตอแหลเป็นบ้างแต่ยังรู้สึกผิด > ตอแหลได้หน้าตาเฉย > เข้าโหมด don't care จนเลิกตอแหล จงใจกวนตรีนแมร่ง ทนไม่ไหวก็เอากูออกละกัน กูจะได้ไม่ต้องลังเลอีกต่อไปว่าจะลาออกดีมั้ย
ผลสอบ ปปง ออกและ โหดพอกับสอบอัยการ/ผู้พิพากษาเลยว่ะ สอบเกือบหมื่นผ่านแค่หลักสิบ
รับ100ผ่าน40กว่า ไม่ต้องสัภาษณ์เลยทีนี้
>>291 กูว่าต้องมีประกาศรับรอบสองแน่ๆ ไม่รู้จะออกแบบเดิมรึเปล่า แบบเดิมนี่ต้องเก่งจริงแล้วทำข้อสอบเร็วด้วย กูว่าถ้าให้เวลาคิดเยอะๆน่าจะผ่านหลักหลายร้อย แต่คนอิกข้อสอบคงกะว่าจะตัดจำนวนคนผ่านให้เหลือน้อยที่สุด แต่ผ่านหลักสิบนี่กูก็ตกใจเหมือนกัน นึกว่าผลสอบผู้พิพากษา
>>293 เท่าที่ศึกษาโครงสร้าง ปปง ไม่มีพนักงานราชการตำแหน่งนักสืบสวนนะ แล้วปรกติการสอบเข้าราชการทุกหน่วยจะมีคนสัมภาษณ์เกินอัตราเสมอ ยิ่งเป็นหน่วยที่ขาดแคลนอัตรากำลัง การจัดสอบสองรอบแม่งสิ้นเปลืองมาก ต่อให้มีเด็กเส้นที่เลือกไว้แล้ว อย่างน้อยก็ไม่น่าออกข้อสอบยากจนคนผ่านมีหลักสิบอ่ะ คือต่อให้ผ่านภาค ข เยอะแล้วปรับคะแนนสัมภาษณ์ของเด็กเส้นให้สูงกว่าคนอื่นแบบนี้มันจะสะดวกกว่าต้องมาเปิดรอบสอง
ทำไมเพื่อนโม่งถึงอยากทำงานราชการกันวะ กูอยากรู้เหตุผลของหลายๆคน
กระทรวงไรวะ?? มหาดไทยหรือว่ายุติธรรม??
>>295 พูดตรงๆนะ กูจบนิติแต่ไม่มีปัญญาหาเงินเดือน15000 สวัสดิการอีกเพียบ คือสำหรับชนชั้นกลาง งานราชการสร้างรายได้เยอะเหี้ยๆเลยนะ ฐานเงินเดือนสมัยนี้ก็ไม่จัดว่าน้อยแล้ว 15000 ถ้าไม่อยู่เมืองใหญ่รายได้ระดับนี้ถือว่าจ่ายค่าเช่าบ้านค่าอาหารสบาย แถมพอโดนย้ายก็เบิกค่าเช่าบ้านได้ เจ็บป่วยขึ้นมาสิทธิการรักษาดีกว่าบัตรทองหรือประกันสังคม แถมอยู่ได้ถึงเกษียณโดยไม่ต้องห่วงว่าจะโดนบีบให้ลาออก ถ้าหัวหน้าไม่ชอบหรือไปทะเลาะกับใครเต็มที่คือโดนย้ายแค่นั้น
ที่พูดมานี่สำหรับเด็กจบนิติแบบ5ปี เกรด2กว่าเกือบโดนรีไทร์TOEICไม่ถึง600 ถือว่าผลตอบแทนสูงมากเลยนะ ประวัติการเรียนแบบกูนี่ไปหางานเอกชนสายตรงจะได้12000รึเปล่าก็ยังไม่รู้
>>303 กูก็เป็น จนคิดจะลาออกนะ แค่ค่าตอบแทนตอนนี้มันสูง ถ้าลาออกคงได้งานทั่วๆไปรายรับน้อยกว่า
ตอนนี้กูเลยพยายามทนๆไปก่อน คิดซะว่าวันหนึ่งถ้าเราทำงานเป็น ความลำบากตรงนี้มันจะน้อยลง
คิดซะว่าระหว่างชีวิตที่มีเงินเดือนพอเอาตัวรอดไปวันๆ กับชีวิตที่งานหนักเสียสุขภาพจิตแต่มีเงินให้ใช้
อยากได้อะไรก็ซื้อได้เต็มที่ กูคงเลือกอย่างหลัง
มีใครเป็นHRบ้างครับในนี้หรือถามประสบการณ์ก็ได้ อยากถามพี่ๆว่าสถาบัน เกรด F W ประสบการณ์ฝึกงาน กิจกรรม พวกนี้อะไรสำคัญมากสุด
ปัจจุบันอยู่มหาลัยรัฐเเห่งนึง เรียนวิศวะอยู่ เเต่เกรดไม่ได้เยอะเกรดนิยม 2.5-2.75 มีติดF 1 ตัว ติด W ประสบการณ์ฝึกงาน0 กิจกรรม0 เป็นคนเข้ากับเพื่อนๆยากหน่อยนึง ไม่ได้เก่งคุยเฮฮาเท่าไรยิงมุกไม่ค่อยจะทัน พอจะเข้าใจตัวเองอยู่ว่าหางานยากเเน่ๆเเบบนี้
อยากรู้ว่าจะพัฒนาตัวเองยังไงได้บ้าง เเล้วการสัมภาษณ์ การเรียกสัมภาษณ์อะไรเป็นปัจจัยที่เรียกไปถามเเละคำถาม เนื่องจากไม่เคยฝึกงานวิชาก็มีเเต่ในที่เรียนเเถมไม่ได้รู้ลึกซึ้ง พอจะมีอะไรที่สามารถเอาไปใช้ตอบหรือสู้คนอื่นได้บ้างครับ มีอย่างเดียวที่ผมพอได้ก็คือภาษาอังกฤษ TOEIC 850
อีกข้อคือวิศวะที่เรียนอยู่ ผมไม่ได้ชอบมันเลย เเต่อดทนเรียนมาจะจบละ เเละไม่ได้ใส่ใจกับมันมาก กำลังคิดอยู่ว่าผมซึ่งไม่มีpassionเเบบนี้ไปทำงานไม่ได้ไม่มีใครรับเเน่ๆ ยิ่งเข้ากับคนยากยิ่งหนัก เเต่อยากเปลี่ยนเเปลงตัวเอง เตรียมตัวไปสัมภาษณ์อย่างไรดีบ้างครับถ้าทางบริษัทเรียกไปสัมภาษณ์
ดราม่าลบฮาร์ดดิสนี่แพ้ทั้งคู่เลยว่ะ เด็กก็หมดอนาคตและอาจล้มละลาย นายจ้างก็เสียงานมูลค่าหลักล้านและฟ้องไปเด็กก็ไม่มีเงินจ่ายคืน สรุปว่าเงินหายเป็นล้าน
ตอนแรกกูก็คิดนะว่าเด็กมันต้องโดนมาเยอะถึงทำอะไรแบบไม่คิดถึงอนาคต พอตามไปส่องเฟสนายจ้างที่โพสว่า ถ้าเป็นสมัยก่อนเด็กโดนอุ้มฆ่าไปแล้ว กูแน่ใจได้เลยว่านายจ้างแม่งไปเหี้ยมส่เด็กก่อน
มีใครรู้สึกบ้างว่าเด็กสมัยนี้ที่ดูแปลกๆ ส่วนนึงเกิดจากพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมาแปลกๆ เหมือนเขาไม่สอนการอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมจนเด็กโตเป็นผู้ใหญ่แปลกๆ
สมัยเราเด็ก ๆ ผู้ใหญ่ก็คงมองว่าแปลกเหมือนกันละว่ะ
>>311 กูโตแล้ว แต่กูว่ากูเป็นคนแปลกๆ เพราะกูไม่ค่อยเข้าสังคมชอบอยู่คนเดียว หลายครั้งเลยที่กูไม่แน่ใจในคอมมอนเซนส์ของตัวเอง รู้สึกไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปมันปกติในสายตาคนอื่นรึเปล่า แต่พี่น้องคนอื่นกูปกตินะพ่อแม่เลี้ยงมาเหมือนกัน แต่พี่น้องกูคนอื่นชอบเข้าสังคม ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปเที่ยวแฮงค์เอาท์ตลอด ส่วนกูชอบอยู่บ้านเล่นเน็ตอ่านหนังสือ เลิกเรียนเลิกงานกลับบ้านลูกเดียวไม่ไปไหนเลยยกเว้นจำเป็น เพราะงั้นกูว่าเป็นที่เจ้าตัวด้วยแหละ ป.ล. อย่างนึงที่กูสังเกตได้เลยคือเวลาพูดกับคนอื่นกูไม่สบตาคน กูไม่ได้โกหกตอแหลอะไรนะ แค่ไม่ชอบสบตาแล้วก็ไม่ชอบให้ใครมาสบตากูด้วย เวลาคุยงานดีหน่อยกูจะทำเป็นมองเอกสารมองจอคอมไป แต่ถ้าเวลาไม่มีอะไรให้มองกูจะประดักประเดิดมาก
มีพี่ๆคนไหนเป็นเด็กตจว.แล้วเข้ามาเรียนกทม.บ้างมั้ยครับ อยากทราบว่าเรียนจบแล้วกลับไปทำงานที่บ้านเกิดหรือหางานในกทม.
พอดีสายที่ผมเรียนอยู่มันไม่มีงานให้ทำที่บ้านเกิดเท่าไหร่ อยากทำงานในกรุงเทพมากกว่า เพราะได้เงิน+ปสก.มากกว่า
แต่ก็เป็นห่วงแม่ที่บ้าน ตอนนี้พี่สาวก็ปักหลักทำงานในไปแล้วด้วย กทม.ถ้าผมอยู่อีกคน ที่บ้านจะไม่มีใครอยู่ดูแลแม่เลย
อีกอย่างแม่ก็ไม่ชินกับสังคมเมือง ถ้าพามาอยู่ด้วยกันก็กลัวแกเหงาอีก อยู่บ้านแกยังได้เจอหน้าญาติๆบ้าง
เลยไม่แน่ใจว่าจะพาแม่มาอยู่ด้วยที่กทม.ดี หรือจะกลับไปที่บ้านดี
พี่ๆพอจะมีคำแนะนำมั้ยครับ ขอบคุณมากครับ
>>314 ยังเด็กอยู่เลย มีความคิดความอ่านดีจัง สมัยเด็กเท่าเธอเราไม่เห็นจะคิดอะไรแบบนี้ได้เลย คิดแต่จะหางานที่เงินเดือนดีแค่นั้นแหละ เอาเป็นว่าถ้าแม่ยังแข็งแรงดี แถวบ้านมีญาติคอยดูแลกันและกัน เราว่าเธอลองทำงานกทม.ที่อยากทำไปก่อนมั้ย แล้วระหว่างนั้นค่อยๆ คิดหาลู่ทางไปน่าจะยังไม่สายนะ เราว่าเราแก่กว่าเธอเป็น 10 ปีเรายังคิดไม่ออกเลยว่าจะแก้ปัญหานี้ไงดี
>>317 บ้านมีต้นทุนแค่ไหน ต้องดิ้นรนหาเงินมั้ย พี่สาวไปอยู่กทม.ไม่เหลียวแลไม่ส่งที่บ้านเลยหรือเปล่า แม่แข็งแรงดีมั้ย อายุเท่าไหร่ ญาติที่ว่าอยู่ในละแวกเดียวกันเลยหรือเปล่า? คือปัจจัยมันเยอะน่ะ คิดแทนกันยาก ยกตัวอย่างบ้านเพื่อนพี่นะ อันนั้นพี่น้องเค้ารักกันดี พี่ๆ ทำงานกทม.ช่วยส่งเงินมาให้ที่บ้าน ส่วนคนน้องเสียสละทำงานแถวบ้านเงินเดือนน้อยเพื่อที่จะได้ดูแลแม่ (ทั้งที่มันน่ะเก่งมาก สมัยอยู่กทม.เงินเดือนหลายหมื่น) มันแค่ยอมเสียโอกาสที่จะได้ทำงานท้าทายเงินเดือนสูงมาทำงานเรียบง่าย แต่ไม่มีปัญหาเรื่องเงินและได้ดูแลแม่ ส่วนอย่างบ้านพี่ลูกคนเดียว บ้านจน ห่วงพ่อแม่มั้ยก็ห่วง แต่ทำไงได้เงินต้องมาก่อน ถ้ากลับไปทำงานที่บ้านรับรองอดตายกันทั้งบ้าน หาเงินเดือนแบบกทม.ไม่ได้ จะพาพ่อแม่มาอยู่กทม.ก็ยังไม่มีปัญญาซื้อบ้าน ลำพังตัวเองยังอยู่ห้องเช่ารูหนูส่งเงินกลับบ้านทุกเดือน ตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้พ่อแม่ยังแข็งแรงจนกว่าตัวเองจะเงินเดือนมากพอ ถ้าอยู่นี่อีกปีตำแหน่งยังไม่ขึ้นคงต้องหาเรื่องเปลี่ยนงานอัพเงินเดือนแล้วล่ะ
เป็นกำลังใจให้คนที่ทำงานในช่วงวันสงกรานต์สู้ๆนะ
มีใครเคยสอบตก ภา่ค ค (สัมภาษณ์) ของหน่วยงานราชการบ้าง
บ่นหน่อย ออกแบบการ์ดแต่งงานให้ลูกค้า อุตส่าห์ออกแบบอย่างโมเดิร์น เรียบๆหวานๆ
สุดท้ายเค้าเอาแบบการ์ดฉูดฉาดลูกทุ่ง รกๆเยอะๆ ตัวหนังสือสะบัดแบบไทยประดิษฐ์ งานออกมาอย่างกะป้ายงานวัด เซ็งว้อย
พวกมึงมีใครทำงานฟรีแลนซ์บ้างวะ คือกูยังเรียนอยู่แล้วเวลาเลิกมันไม่ตายตัวบางทีไปเที่ยงคืนก็มี มีงานอะไรแนะนำไหมวะ ตอนนี้กูทำงานแปล(อิ้งไทย)อยู่รู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบเลยไปสมัครที่อื่น(เป็นบริษัท)แต่เขาไม่รับ555 กูอยากรู้ว่าคนอื่นทำไรกันบ้างอ่ะ
ยื่นลาออกแล้วบริษัทไม่ยอมหาคนมาแทน พอออกไปแล้วไม่อะไรทำเลยตกลงมารับฟรีแลนซ์จากบริษัทเดิม (ทางนั้นเสนอมา)
แล้วพบบอกว่าได้งานใหม่แล้ว ไม่รับฟรีแลนซ์ต่อแล้วนะ บริษัทเก่าไม่ยอม แล้วก็โทษเราที่ไม่เทรนคนมาแทน
ก่อนออกก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้หาคนมาแทน จะได้เทรนให้ แม่งก็ไม่หา แบบนี้กูผิดเหรอวะ..
รู้สึกว่าการที่งานจะหนักไม่หนักอยู่ที่ความหน้าด้านด้วยว่ะ คือถ้าหน้าด้านพอและไม่สนใจเรื่องความก้าวหน้าก็ทำงานแบบเฉื่อยๆไปวันๆได้เหมือนกัน
ไอ้อีตัวไหนที่มันยอมความโจรเด็กกูขอให้โจรเด็กในวันนี้เติบโตไปโจรโตเต็มวัยแล้วไปตีหัวลูกหลายแม่งตายเข้าซักวัน
ดูดิ๊แม่งจะยังพูดเหมือนเดิมไหม แหมไอ้เหี้ยยอมๆมันไปเถอะให้เรื่องมันจบถ้าเราไม่ฟ้องเดี๊ยวคนอื่นโดนก็ฟ้องแทนเรา
สังคมหัวควย
Project ที่ทำมาร่วมเดือน จู่ๆก็โดนยกเลิกเพราะเรื่องงบ ทำไมพอกุจะมีอะไรที่สร้างความก้าวหน้าได้มันมักพังเสมอๆเพราะเรื่องรอบข้างวะ ชีวิตกูมันไม่เหมาะจะก้าวหน้าบ้างรึไง
กุถามพาร์ทไทม์ที่นี่ถูกมู้ปะวะ
มีใครเคยทำพาร์ทไทม์ของพวกร้านแฟรนไชส์ไหม พวกร้านไอติม ฟาสฟู้ด ร้านกาแฟที่แบบมีหลายสาขาอะ เค้าแบบซีเรียสเรื่องวันลาไรงี้มั้ยวะ
กุโม่งนักศึกษาอยากหาเงินค่าขนมเพิ่ม กุถนัดเรื่องภาษา อยากถามพวกมึงว่างานแปลอิ้ง-ไทย นี่เค้าไปหากันที่ไหนวะ ตามเว็บ?
แล้วพวกแปลการ์ตูนนี่มีพวกมึงคนไหนเคยทำมา เล่าให้กูฟังหน่อย
Office365 ปีละ1500 Office HOME ซื้อขาด 3000กว่า
แบบนี้ถ้าซื้อเอามาใช้งานแค่พวก Word Excel ซื้อแบบ Office HOMEมันคุ้มกว่าใช้มั้ย
เพราะไม่ต้องต่ออายุทุกปี แต่ข้อเสียคือไม่มี Cloud ให้เก็บแค่นั้น
ปล.ถามห้องนี้เพราะเกี่ยวกับการทำงาน
G Suite ก็ดีนะ ช่วยกันแก้ง่ายด้วย
งานที่กูทำอยู่มันมีส่วนที่ต้องทำร่วมกับแผนกอื่นด้วย เค้าก็บอกมาคร่าวๆว่าต้องมีอะไรบ้าง แต่ไม่บอกว่าต้องเสร็จเมื่อไหร่
บอกว่ายังไม่ต้องเริ่มทำด้วย เค้าบอกว่าเป็นแผนในอนาคตระยะยาว
อยู่ดีๆเดือนที่แล้วมาบอกว่าต้องเสร็จภายใน 2 เดือน พวกกูเห็นว่ามันกระทันหันเกินแล้วงานใหญ่กลัวไม่ทัน
เลยบอกไปแบบว่าเอาชัวร์น่าจะ 3 เดือนเสร็จ เค้าก็บอกว่ามันต้องไปบอกผู้บริหารว่างานจะช้าเพราะกูทำไม่ทันนะ
พวกกูก็ไม่อะไร เพราะงานใหญ่เวลาน้อยทำไม่ทันก็คือไม่ทัน
ตอนนี้ผ่านมา 2 เดือน งานของพวกกูก็เสร็จไป 75% กะว่าเหลือเวลาไว้เก็บตก พอลองจะเอาไปเช็คกับส่วนที่ต้องต่องานกับแผนกเค้า
ของพวกแม่งทำแทบจะไม่เสร็จซักอย่าง งานยังเอามาต่อกันไม่ได้
ไอ้สัสเอ๊ย พวกกูตาสว่างแว๊บเลย ที่แท้พวกแม่งทำงานตัวเองไม่เสร็จ
เลยไปเมค deadline บีบๆมาเร่งพวกกูเพื่อจะเอาไว้โบ้ยว่าแผนกกูเป็นต้นเหตุให้งานช้าชัดๆเลยหว่า
การเมืองในองค์กรนี่มันน่ากลัวจริงๆ เพิ่งเจอแบบโหดๆกับตัวก็คราวนี้แหละ
แต่ดูท่าทางแล้วงานพวกกูนี่น่าจะเสร็จก่อน แถมของแผนกมันนี่แหละจะทำไม่ทัน deadline ที่ตัวเองตั้งซะเอง
กูจะคอยดูพวกมันแก้ตัวกับผู้บริหารว่าคราวนี้จะเล่นไม้ไหนอีก
สรรพากรรับข้าราชการเป็นร้อย ทำไมเปิดไวจังวะ ครั้งสุดท้ายก็2ปีที่แล้วนี่เอง
ทำธุรกิจหุ้นกะเพื่อนแบ่งหน้าที่กัน เราเป็นคนส่งของ ควรชาร์จค่าน้ำมันไหม? วีคละ3วัน
ไม่ต้องลดเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยมีใครอยากทำกันแล้ว มันไม่ใช้งานมีหน้ามีตาทำชิว ๆ แบบเมื่อก่อนแล้ว
กฏหมายใหม่ออกมาอำนวยความสะดวกประชาชน กลับเพิ่มภาระงานให้เจ้าหน้าที่มากมายมหาศาล
แค่ที่ทำงานกูก็ทำทำงานแบบ Nolife กันละ เห็น จ-ศ ทำ เย็นอยู่ถึง 4 ทุ่ม เสาร์อาทิตย์มาทำต่อ
เห็นบอก ถ้าไม่ทำ งานก็ไม่เสร็จ สุดท้ายก็โดนร้องอีก ว่างเห็นหากรมโอนย้ายกันทุกวัน
โอนย้ายมันยากป่าววะ กูเพิ่งเข้าเห็นพี่ๆอ่านหนังสือสอบซี8กันตัวเปนเกลียวถ้าสอบไม่ผ่านกี่สิบปีก็อยู่แค่นั้น ขรก กรมอื่นนี้ต้องสอบเหมือนกันปะวะ แล้วควรโอนย้ายไปกรมไหนดี
>>350 คนเยอะนี่เยอะแน่ เคยอ่านรายการ กพ กรมสรรพากรนี่อันดับ1มั้ง เกือบๆสองหมื่น รองลงมาคือกรมการปกครอง 13000
ส่วนงานหนัก อันนี้ไม่แน่ใจ แต่เท่าที่เห็นคือสรรพากรแถวบ้านเลิกงานตรงเวลา อันนี้อำเภอใหญ่เขตท่องเที่ยวด้วยนะ
เสาร์อาทิตย์ก็เห็นปิดสำนักงานตลอดไม่เคยเห็นมีคนมาทำงาน ไม่รู้ว่างานสบายหรืองานหนักแต่เอางานกลับไปทำที่บ้าน
ทำไมงานราชการเดี๋ยวทำงานกันโหดสัสนักว่ะ เลิกดึก 4-5 ทุ่มเสาอาทิตต้องมานั่งปั่นงานอีก ยิ่งถ้ารัฐมนตรีมาตรวจงาน ทำกันยันสว่างเลทีเดียว ยังไม่นับอยู่เวรทำงานอีก หยุดยาวไม่ได้หยุด ทำงานเสี่ยงคุก เสี่ยงสตง.เรียกเงินคืน อีกเยอะแยะ
ฟังดูลำบากจังวะ แต่ก็เห็นอยากจะเข้าไปกันเยอะชิบ หรือเพราะเข้าไปแล้วก็คุ้มเหนื่อยอยู่หรือเปล่า วงในเล่าทีครับ
ขอถามโม่งบ.เอกชนหน่อย วันๆนึงส่งอีเมลติดต่องานกันประมาณกี่ฉบับวะ ของกูเฉลี่ย 30-35 ฉบับต่อวัน เริ่มเบลอๆ ส่งอะไรไบ้างก็จำไม่ค่อยได้ เวลาคนที่ติดต่องานด้วยโทรมาหาทีก็ต้องเปิดดูทีแล้วถึงจะตอบเขาถูก เหมือนทำเรื่องที่อยู่ตรงหน้า พอแก้ปัญหาเรื่องนั้นๆเสร็จแล้วก็จะลืมทันทีและจัดการเรื่องถัดไปต่อเลย นี่มันปกติป่ะวะ ระบบความคิดกูมันไม่ดีหรือว่าไงอะ
เหนื่อยกับระบบราชการจนขอลาออกกับหัวหน้าแล้ว ตอนนี้โดนขอให้คิดใหม่ คือกูไม่ชอบระบบงานที่ไม่มีการสอน คนน้อย มีคนบรรจุใหม่ก็ถีบลงไปทำงานโดยไม่มีการอบรม แต่คิดอีกทีข้าราชการที่ทำงานโง่ๆยังไม่โดนปลดออกเลย ถ้าหนีไปไหนไม่ได้จริงๆ ก็อยู่ไปแบบทำเท่าที่ทำได้ไปก่อนล่ะกัน
โดนลวนลามในที่ทำงาน 2 รอบละ ทนไม่ไหวเลยบอกหัวหน้า
โดนคนที่ใหญ่กว่าหัวหน้าบอกว่าต้องป้องกันตัวเอง ขึ้นมากเลยเขียนจดหมายลาออกไปแล้ว
ใครมีงานสายอสังหาฯ แนะนำบ้างมะ
อายุกูยังพอหางานใหม่ได้อยู่
>>360 วันละ 50+ เราใช้วิธี mark ใน outlook เอาไว้ แยกเป็น category แล้วก็คอยมาดูตลอดๆ ว่าเรื่องไหนยังไม่เคลียร์ เรื่องไหนเคลียร์แล้วก็เอา mark เมื่อก่อนเคยจดแต่ไม่ไหวว่ะเสียเวลา งานยุ่งมาก เดี๋ยวนี้ทุกอย่างอยู่ใน outlook เกือบหมด ทั้ง mail ทั้ง schedule ทุกคนในบริษัท เรื่องเวลามีคนโทรมาต้องเปิดเมลดูเราว่าปกตินะ ใครจะไปจำได้หมดไหว สำคัญคือการจัดระเบียบ ทำยังไงให้ตัวเองเข้าถึงเมลเป้าหมายภายใน 5-10 วินาทีโดยไม่ต้องมานั่งหานั่งนึกนั่งงม
>>365 คือตอนนั้นไม่มีพยาน คนอื่นออกไปกินข้าวไงส่วนกูห่อข้าวมากินก็นั่งอยู่ที่ออฟฟิศละไอ้ผู้ชายคนนั้นก็มาลวนลามกู(ตำแหน่งใหญ่กว่ากูด้วย)
กูทำเรื่องผ่านหัวหน้าฝ่ายตัวเองไป เขาเรียกกูไปคุย เรียกกูไปแค่คนเดียวด้วยนะไม่เรียกคู่กรณี ละหัวหน้าของหัวหน้าอะบอกกูมาว่ากูต้องดูแลตัวเอง ถ้ามีเรื่องอะไรให้กูไปรับผิดชอบเอาเอง คำนี้ทำกูหมดศรัทธาในองค์กร ผู้บริหารอะไรวิสัยทัศน์ห่วยแตก กูเลยลาออกแม่ง
ที่ลาออกมานี่ก็เพราะกูจะได้เอาเรื่องแม่งแบบจริงๆ จัง ถ้ากูยังทำงานอยู่กูก็ต้องมาเจอกับผู้บริหารชุ่ยๆ ซึ่งกูไม่โอเค ขอบใจมึงมากที่แนะนำ
ถามโม่งทำงานเอกชนหน่อย ปรกติเวลามีเอกสารสำคัญให้หัวหน้าเซ็นนี่แก้บ่อย(แบบจุกจิก) มั้ยวะ
กูลำใยกับระบบสารบรรณของราชการมาก เข้าใจว่าส่วนใหญ่เพราะกูทำผิดแบบด้วย แต่ในใจก็คิดว่าแค่ผิดจุดเล็กน้อยไม่ทำให้สาระสำคัญเปลี่ยนแค่นี้ก็ตีกลับแถมงานไม่เดิน จนอยากลาออกมาทำงานเอกชนที่ระบบเอกสารคงคล่องตัวกว่า
ฮา กูได้ทำงานในฝัน แต่อนาคตมีแนวโน้มเจ๊ง กูควรดีใจรึเสียใจดี 555
โม่งเอกชนเปลี่ยนงานกันบ่อยป่าววะ กูทำได้ที่ละ 1-1.5 ปีเอง
กูงานรูทีน สี่ปีแต่คนชมว่านาน
>>371 ที่กูเคยเจอคือตำแหน่งครุทบนหัวกระดาษแม่งเคลื่อน กับวรรคไม่ดี โดยแก้ใหม่เลย คือกูสงสัยว่าทำไมระบบเอกสารราชการมันสนใจรูปแบบขนาดนั้นเลยเหรอวะ ทั้งที่หนังสือที่กูทำคือส่งไปถามข้อมูลหน่วยงานอื่น
แล้วก็เกิดคำถามว่าบริษัทเอกชน(เอาแบบเป็นธุรกิจขนาดใหญ่)มันจะบ้ารูปแบบอะไรขนาดนี้มั้ย
>>377 ของกุกว่าจะผ่านหลายด้านว่ะ หัวหน้าฝ่าย หน้าห้องผอ.ส่วน ผอ.ส่วน หน้าห้อง ผอ.สำนัก ผอ.สำนัก หน้ารอง รอง หน้าเลขา เลขา (ตำแหน่งเทียบเท่าอธิบดี) ซึ่งกุโดนแก้ทุกด่าน แก้ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญด้วยนะ แล้วมีหลายๆเรื่องที่เลขาไม่เซ็น แต่รองต้องการให้เลขาเซ็น ซึ่งแมร่งก็งัดกันเอง เดือนร้อนกุอีก
กูบอกเลย ระเบียบสารบรรณนี่แหละปัจจัยหลักในการถ่วงความเจริญของประเทศ กูกล้าพูดเลยว่าปัจจัยหลัก เพราะถ้าตัดความเรื่องมากเรื่องงานเอกสารออก ระบบงานราชการจะเร็วกว่านี้อย่างต่ำสามเท่าตัว
>>378 แล้วมีหลายๆเรื่องที่เลขาไม่เซ็น แต่รองต้องการให้เลขาเซ็น ซึ่งแมร่งก็งัดกันเอง
เรื่องเซ็นไม่เซ็นประเด็นคืออยากลอยตัวเหนือปัญหาใช่ป่ะ ประมาณว่าถ้าโดนหัวหน้าใหญ่ถาม
จะได้ตอบไปว่า "ผมไม่รู้เรื่องผมไม่ได้เซ็นเสนอเอกสารชิ้นนั้น"
คืออ่านๆไปกูเริ่มรู้สึกว่าการแก้เอกสารของระบบราชการมันไม่ใช่เรื่องแบบอ่ะ แต่เหมือนเพราะขี้เกียจมารับผิดชอบเลยตีหนังสือกลับ
เพื่อนโม่งจะทำไงดีถ้ามีบริษัทที่เพื่อนโม่งอยากทำมากๆเค้าตอบรับให้เข้าทำงาน แต่เวลาเริ่มงานของที่ใหม่ดันกระชั้นชิดมากจนทำให้เพื่อนส่งใบลาออกให้ที่เก่าไม่ทันตามกำหนดระเบียบอ่ะ
แบบว่าที่ใหม่โทรมาบอกว่าให้เพื่อนทำงานเดือนหน้าแต่ระเบียบขอที่เก่าต้องแจ้ง 30 วันก่อนลาออก ซึ่งแม่งเหลือเวลาแจ้งไม่ถึง 30 วันละไง จะทำไงดีวะเพื่อน
เซ็นสัญญาที่ใหม่ให้เรียบร้อยก่อนออกนะ
เพื่อนโม่งมีใครเคยไปยื่นเรื่องว่างงานประกันสังคมไหม ขอถามหน่อยดิ ทำไงมั้งวะ
บริษัทปัจจุบันแม่งเซ็งมาก กูว่าจะออกเลยไม่รอหางานใหม่ละ (ไม่มีหนี้ มีเงินเก็บระดับสบายตัวครึ่งปี)
บ่นอะไรหน่อย อยู่รัฐวิสาหกิจ กำงานมา 8-9 ปีละ ปีก่อนเงินเดือนกู อีกไม่ถึง 5 บาทจะ 2หมื่น
ปีนี้ต้นปีลุงตู่ช่วยคนเงินเดือนต่ำกว่า 3หมื่น 2% เงินเดือนกูเลยขึ้นมาเป็นเกือบๆ 20400
หลังจากนั้นประกาศปรับเงินเดือนประจำปี คนที่เงินเดือนต่ำกว่า 2หมื่น ในขั้นคะแนนที่เท่ากัน จะได้เงินมากกว่าคนที่ เกิน 2หมื่น 3%
ขาดทุนไป 200 เฉยเลย แล้วส่วนลุงตู่ไม่ได้ตกเบิกด้วย แต่ของขึ้นประจำปีได้ เซ็ง
>>387 ไปยื่นสาขาไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใกล้บ้านหรือที่ทำงาน หลักฐานก็ตามที่เขียนบอกในเวบ หาเองได้เนอะ
ลงข้อมูลเสร็จจนท.จะนัดให้มารายงานตัวเดือนละครั้งจนครบ 3 เดือน ให้แบบฟอร์มมาแผ่นนึง เอาไว้ให้คนที่ไปสัมภาษณ์งานด้วยกรอก เพื่อเป็นหลักฐานว่ามึงมีความตั้งใจหางาน ไม่ได้นอนกินเงินรัฐ หรือถ้าไม่ได้สัมภาษณ์ก็ต้องมีหลักฐานอื่นที่ทำให้เค้าเห็นได้ว่ามึงยังอยากทำงานนะ อันนี้ต้องลองถามจนท.ดูเอง เงินก็จะมาเรื่อยๆหลังรายงานตัวแต่ละรอบ
ถ้าได้งานก่อนถึงวันรายงานตัวก็ไม่ต้องไป ถ้าเป็นบ.ที่มีประกันสังคมเค้าติดต่อให้เอง เงินชดเชยเดือนสุดท้ายนั้นก็ได้น้อยลงตามส่วน
สอบ สป.มท. มาทำไมข้อสอบมันง่ายผิดปกติว่ะ สามารถเดาคำตอบจากในช้อยตัวเลือกได้แบบสบายๆเลย
>>385 เอาจริงๆ 384 มันพูดถูกอยู่
เพราะฝั่งลูกจ้างมันมีมาตรา 17 ช่วยอยู่ ว่านายจ้างฟ้องได้กรณีที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า
นายจ้างได้รับความเสียหายจากการที่ลูกจ้างไม่บอกล่าวล่วงหน้า
ซึ่งปรกติแล้วมันพิสูจน์ไม่ได้อยู่แล้วน่ะนะ แถมไปตื้อคนจะออกให้มานั่งเล่นให้ครบสัญญามันก็ใช่ว่า
จะทำงานให้ซะที่ไหน เลยไม่มีคนสนใจจะฟ้องกัน ฟ้องไปนายจ้างโอกาศแพ้สูงแถมชนะก็ไม่ได้อะไร -__-"
ส่วนฝั่งนายจ้างถ้าให้ออกก่อนก็โดนค่าบอกล่วงหน้าไปอีกดอกเต็มๆ แทน
เพื่อนโม่ง เคยว่างงานสุดกันนานกี่เดือนวะ
จะ30แล้ว ยังไม่มีบ้านมีรถเป็นของตัวเองเลยว่ะ เงินเดือนก็ยังไม่ถึง20k ขณะที่เพื่อนๆสร้างเนื้อสร้างตัวกันได้หมดละ กับแต่งงานไปก็เยอะแล้ว
เฮ้อ
ลองดู มีบ้านมือสอง มีรถมือสอง ,บ้านตอนนี้ให้คนเช่า4,000/เดือน. นั่งกระดิกตีนรับดอกละ
แต่ทำตัวกระจอกจนญาติฝั่งพ่อไม่เอากูหมดแล้วมั้ง ฮ่าฮ่า
เออ พูดถึงเรื่องปล่อยบ้านให้เช่าละนึกขึ้นได้ ลองถามความเห็นดู
คือ ถ้ากูมีร้านที่
-ถ้าปล่อยเช่าได้เดือนอย่างต่ำ 5000 อ่ะ ได้เรื่อยๆ ไม่เหนื่อย
-ทำร้านเองอย่างปัจจุบัน หักค่าไฟ หักค่าโน่นนี่ ได้เดือน 3000
สรุปว่ากูโง่รึเปล่าวะ 555 แต่กูไม่เดือดร้อนเรื่องเงินอ่ะนะ
รถอะไม่ต้องมีก็ได้ แต่บ้าน/คอนโด/ที่ดิน/เงินเก็บ/passive income ขึ้นเลข 3 ต้องมีอะไรซักอย่างได้แล้ว
ถ้ามีรถแต่ไม่มีอย่างอื่นนี่เรียกว่าพลาดด้วยซ้ำอะว่ะ
>>403 กูเป็นคน ที่เคยตั้งกระทู้ว่ามี Passive income พอแล้วควรหาความสุขยังไงอ่ะ
ถ้าไม่มีงานเลย มันจะหงอยสัดๆสมองช้าตื้อๆเลย ขนาดชอบอ่านการ์ตูน,เล่นเกมส์กูก็เล่นจนเอียนเหมือนเคมีในสมองมันไม่สมดุล. คือ เล่นแล้วสนุกตื่นเต้นกับเกมส์ไปหมดจนวันนึง สมองมันไม่ได้ตีความว่าเล่น,=สนุก,มีความสุข
แถมทำอะไรอย่างอื่นก็ไม่มีความสุขเหมือนกัน. (มีรายการวิ่งให้ได้ซัก 3 กม. ถึงจะรูัสึกมีความสุขบ้าง)
ถ้าเป็นกูนะ มึงปล่อยเช่าเถอะ แล้วมึงหางานอื่นทำ เอาที่อยากทำจริงๆแล้วจะมีความสุข
กูว่าสำคัญต้องเก็บเงินไห้ได้ เงินเดือน 20k ไม่เยอะแต่ก็ไม่น้อย มึงเก็บสักครึ่งไปลงทุนอะไรที่มั่นคงเช่นเก็บค่าเช่า ซื้อหุ้นบลูชิป ที่มันไม่เจ๊งแน่ หรือซื้อ set 100 พันธบัตรรัฐบาลก็ได้ สุดท้ายมันจะออกดอกออกผลเองเก็บไปดรื่อยๆ ลงทุนเรื่อยๆ พอแก่ตัวจะสบาย
เพิ่งเจอข้อเสียใหญ่ๆของระบบราชการว่ะ คือช่วงทดลองราชการนี่ดคตรไร้ความหมายเลย ขนาดกูยื่นหนังสือลาออก หัวหน้ากูก็ไม่ว่าอะไร ยังให้งานเหมือนเดิม และประสิทธิภาพการทำงานต่ำลงจากช่วงแรกอย่างเห็นได้ชัด(เพราะใจมันไม่อยู่แล้ว) แต่ก็ไม่เคยโดนเตือนเรื่องประเมินไม่ผ่าน ถ้าเป็นเอกชนสิ้นเดือนนี้กูโดนเชิญออกไปแล้วนะเนี่ย แต่ระบบราชการมันเหมือนกับว่าถ้าไม่ได้ทำเรื่องเหี้ยมากๆ อย่างทุจริตหรือแดกเหล้าในเวลางาน มึงจะทำตัวหย่อนยานขนาดไหนถ้ายังมาตรงเวลายังนั่งเล่นเดินเล่นในสนง.หัวหน้าก็ให้ผ่านอยู่ดี
ตอนนี้กูมีอาการไม่อยากให้ถึงวันศุกร์เพราะรู้สึกเหมือนงานที่ทำอยู่มันถูกเบรค พอถึงวันจันทร์แล้วดีใจที่จะได้ไปปั่นต่อ
คือกูว่ากูก็ไม่ได้รักการทำงานหรือขยันขนาดนั้นนะ แต่อยากจะทำต่อให้มันเสร็จๆไป ปล่อยทิ้งไว้แล้วมันคาใจ
นี่คือจุดเริ่มต้นของการกลายเป็นพวกบ้างานรึเปล่าวะ
ถ้าสายการแพทย์นี่ไม่แปลกใจเท่าไร ส่วนมหาดไทยนี่อยากให้คนเข้ามาเยอะๆมั้ง เลยไม่ประเมินออก
แล้วที่สำคัญงานมหาดไทยมันคืองานทำตามสั่ง ติดต่อประสานงานเป็นหลัก ไม่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะ
ขอแค่ "มีคนทำ" ก็พอ
ถามหน่อยเพื่อนโม่ง คืองานราชการนี่จะได้C8 มันต้องสอบทุกกรมเลยป่าววะ มีแบบทำไปเรื่อยๆละได้เลื่อนเอง หรือแค่ทำงานส่งรอเลื่อนขั้นป่าว
ที่กรมจัดหางานเค้าเปิดรับคนไปเทรนงานญี่ปุ่นนี่อัตราแข่งขันสูงมั้ยครับ และงานโอเคหรือเปล่าใครทราบบ้างครับ
เงินเดือน 12,xxx แบบอยู่ฟรีกินฟรีทุกอย่างในต่างจังหวัดนี่มันโอเคมั้ย
>>420 เพื่อนกูไปจะกลับแล้ว กูก็ว่าจะไป ถ้าฟิตร่างกายไหว นี้เป็นข้อมูลที่กูพอรู้นะ
1. งานเป็นงานโรงงาน มึงดูพม่าบ้านเราแล้วมึงก็จินตนาการเป็นตัวเองไป
2. ถ้ามึงสอบผ่าน รับหมด พูดง่าย ๆ ญี่ปุ่นต้องการแรงงานพวกนี้สูงมากแถมจ้างได้ราคาถูกกว่าคนในประเทศตัวเองเสียอีก
ไม่ใช่แค่ไทย ยังมีเวียดนาม ฟิลิปิน อินโดนีเซียที่มีโครงการนี้ด้วย
3. อบรมภาษาสามเดือนที่ไทย อบรมอีก 1 เดือนที่ ญี่ปุ่น
4. ชะ ๆ ๆ ไม่ใช่ทุกคนจะได้ไป แต่โอกาสจะได้ไปสูงถ้ามึงสอบผ่านภาษาญี่ปุ่นระดับ N4
5. งานเลือกไม่ได้ จะมีคนมาสัมภาษณ์ เรื่อย ๆ แล้วแต่บุญแต่กรรม ได้งานสบายก็ดีไป ได้งานลำบากก็แย่ไป ผู้หญิงได้โรงงานยางยังต้องไปแบกยางดิบเลยมึง
6. เงินเดือนหักนู่นนี้นั้น จะเหลืออย่างแย่ก็ 90K เยน
ปีนึงเค้าเปิดรับบ่อยมั้ยอะครับ แจ้งจากทางไหนบ้าง
ใครจบป.ตรี ทำงานไม่เอาวุฒิมั่ง
มีใครทำงานประจำแล้ว ไปทำพาร์ทไทม์ตอนเย็นวะ
ทำไมผู้ผ่านการสอบข้อเขียนตำแหน่ง นวค.ปก ของ สป.มท น้อยจังว่ะ มีสิทธิสอบ 2,591 ผ่านข้อเขียนแค่ 222 คน น้อยกว่าคนผ่านสอบปลัดอำเภออีกว่ะ
กูอยากรู้ ดังนี้ ว่ะ
1. สป.มท ตำแหน่ง นวค.ปก น่าทำงานมั้ย บรรยากาศการทำงาน ความยากง่าย เข้างานเลิกงาน เสาวร์อาทิตย์ทำงานมั้ย อยู่เวรมาราธอน มั้ย
2. ถ้าสอบผ่านแล้วได้ลำดับต้นๆ มีสิทธิเลือกที่ลงมั้ย แล้วเลือกลงที่ไหนดี
เพื่อนโม่ง ถามหน่อย ถ้าจะเป็นข้าราชการ มีต่ำแหน่งสำหรับพวกงาน Graphic Design บ้างป่ะ
มี แต่น้อยกรมที่จะรับ คือไม่ใช่น้อยธรรมดา น้อยมาก ๆ เพราะอะไร
It Support ทำได้ทุกอย่าง ซ่อมแอร์ตัดหญ้ายังได้เลย ภายใต้เงินเดือน 12500 ถ้วน
It Support เขียนโปรแกรมได้
It Support ทำกราฟฟิคได้
It Support เขียนเว็บได้
It Support คือผู้ที่ เจ้านายสั่งอะไร ต้องเนรมิตทุกอย่างได้ อยากแดกมะม่วง แต่ไม่มีต้น ไปสั่ง It Support ให้ปลูกมะม่วง ให้ออกลูกภายในสามสิบนาทียังได้เลย
แล้วเขาจะจ้าง Graphic Design ทำมะเขืออะไรคัฟ ถ้ามึงอยากทำราชการ มึงต้องลดเกรดเหลือ It Support นั้นแหละ
หลบ IT supportมา เป็นซุปเปอร์แมน ทำแทนราชการให้เธออออ
ชื่อมันIT support ไง แบบว่ากูอย่างอึ้งเจอโปรแกรม คำนวนภาษี ใช้ ActiveX 0-0 เด๋วนี้ยังมีคนใช้อีกเรอะ
ปลัดๆๆ โดน สตง. เรียกเงินคืน เรื่องอะไรมั่ง จำนวน ประเด็นที่เรียกเงินคืนมีไรมั่ง
พรุ่งนี้กูฝึกงานแล้ว ขอกำลังใจให้กูหน่อย ได้เจอรุ่นพี่ช่วยติวให้ดีๆ ไม่เจอพวกขัดแข้งขา ขอให้ตัวเองไม่ไปถ่วงบริษัทเขาทีเถอะ
เป็นกำลังใจให้โม่ง
ปีนี้แม่งป่วยบ่อยจัง ลาป่วยไป 5 วันแล้ว เป็นหวัดไป 3 รอบแล้ว ปกติไม่ค่อยเกิน 3 วันทั้งปี
ร่างกายอ่อนแอรึเปล่าวะ เป็นหวัดบ่อยๆเนี่ย
กูนี่วันไหนนอนน้อยแล้วต้องตื่นเช้านะ ไข้แดกเลย
จ้างโรงงานทำสินค้า ซื้อของแบรนด์เนมไปเป็นตัวอย่าง โรงงานทำเสียหาย นางขอ7วันในการคืนเงินเพราะเอาไปหมุนหมด นี่คิดว่า 3 วันไม่คืนจะแจ้งความ เพื่อนโม่งว่าเรารอกี่วันดี
ว่างงานมา6เดือนแล้วว่ะ โคตรรู้สึกแย่เลย ไปสมัครงานแล้วแต่ก็เงียบ
พวกมึงรู้สึกเบื่อๆกับชีวิตประจำวันซ้ำๆเดิมๆ ป่าววะ เช้าทำงาน ค่ำกลับบ้าน แม่งจำเจสัสๆ
กูไม่อยากไปทำงานแล้วอะมึง แต่กูต้องไป กูเบื่อวะ
จุดสูงสุดของวิชาชีพบัญชีนี่คือเปิดสำนักงานบัญชีใช่ปะวะ หรือว่าสอบให้ได้ซีเอฟซี
จุดสูงสุดคือได้ผัวเป็นนายธนาคาร
ชื่อ ฮันซาว่า นาโอกิ
มึง ชีวิตกูช่วงนี้ค่อนข้างยากลำบากว่ะ ส่วนหนึ่งกูคิดว่าเป็นเพราะตัวกูเองที่ปรับตัวยาก เรื่องของกูมันเริ่มจากที่สอบบรรจุติดเป็นครูผู้ช่วยที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง กูเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ในที่นี้คือกูไม่ชอบวุ่นวายกับใครเเล้วก็ไม่ชอบมาวุ่นวายกับกูในชีวิตนอกการทำงาน เเล้วก็กูก็มีความจำเป็นต้องอยู่บ้านพักครู กูอยู่ได้นะถ้าไม่เเทบทุกวันจะมีการสังสรรค์ กูไม่อินกับการพูดคุยเรื่องที่เค้าคุยกัน กูสามารถอยู่ในวงสนทนาได้เเต่กูไม่พูดมาก ยิ้มอย่างเดียว กูขี้อายด่วยเเงะ เเต่ในขณะเดียวกันกูก็ถูกเพ่งเล็งเเละชอบถามกูในคำถามที่กูไม่ชอบใจ เเละถามเหมือนเเซะกูว่ะ กูต่อบทสนทนายากว่ะเเละกูก็พูดไม่เก่งด้วย กูพยายามไม่คิดมาก ไม่ได้โกรธ เเต่กูรำคาญ จนหลังๆกูเริ่มอึดอัดว่ะ กูเป็นคนง่ายๆไม่คิดอะไรมากนะปล่อยผ่านได้ปล่อยผ่าน เเต่การที่ต้องมาเจออะไรเเบบนี้บ่อยๆแบบเลี่ยงได้ยากมันก็บั่นทอนว่ะ กูเหนื่อยกับงานกูทนได้นะเพราะสำนึกว่ามันคือหน้าที่ เเต่ช่วงเวลาที่เลิกงานเเล้วกูก็ต้แงการพื้นที่ส่วนตัวบ้าง เเล้วอีกอย่างกูไม่เคยรู้สึกว่าการทำอะไรคนเดียว เช่นกินข้าวคนเดียว เดินคนเดียว ซื้อของคนเดียว เป็นเรื่องแปลกว่ะ เเต่การมาอยู่ที่นี่การที่กูทำแบบนั้นกลายเป็นเรื่องประหลาดว่ะ 5555 นี่มันเป็นลักษณะสังคมของครูหรอวะ กูต้องพบเเพทย์เกี่ยวกับการเข้าสังคมลักษณะนี้ไหม ตอนนี้กูอึดอัด เบื่อ เเล้วก็หน่ายมาก
>>462 ขอถามหน่อยว่ามึงได้ที่ ตจว.ในแถบๆชานเมืองใช่ปะ ถ้าใช่มึงไม่ต้องคิดมาก มึงปกติดีคนในแถบชานเมือง หรือตจว.ส่วนมากเค้าอยู่กันในวงสังคมเล็กๆรู้จักกันหมด การที่จะเห็นคนทำอะไรคนเดียวเค้าก็แปลกใจเป็นธรรมดา อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆเดี๋ยวเค้าก็จะรู้เองว่ามึงเป็นแบบนี้ไม่ได้แปลกอะไร แรกๆอาจจะรู้สึกอึดอัดบ้างแต่เดี๋ยวก็ชิน ไปตั้งวงกะเค้าบ้างเป็นครั้งคราวก็ดีมึงจะได้รู้นิสัยรู้สตอรี่ของแต่ละคนเก็บข้อมูลไว้แต่อย่าไปแสดงความคิดเห็นเยอะ จริงๆเค้าอาจจะหวังดีกลัวมึงคิดถึงบ้านไรงี้ แต่เค้าไม่รู้ขอบเขตพื้นที่ส่วนตัวของมึงไง อย่าคิดมาก เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง
กูรับราชการแล้วบรรจุที่ตจว แบบบ้านนอกมากๆ นอนบ้านพักข้าราชการ ก็ไม่เจออะไรแบบนี้นะ ทั้งที่เลิกงานเย็นกลับเข้าบ้านปิดเงียบเล่นมือถือดูหนังอ่านหนังสือ ไม่เห็นมีใครมายุ่งเท่าไร
>>467 กูเคยเห็นคนรู้จักเค้าจะไปหาบ้านเช่าอยู่เองแต่ค่าใช้จ่ายมันจะเยอะหน่อย เหตุผลก็คล้ายกะที่มึงเจอแหละแต่คนละอย่างกันเป็นแบบคนอยู่ก่อนชอบแสดงความเป็นเจ้าของเค้าอึดอัดเลยย้ายออก บ้านพักครู ตจว.หลังนึงมันจะอยู่หลายครอบครัวเป็นธรรมดา มึง ญ หรือ ช ถ้า ญ เป็นไปได้ย้ายออกจะดีกว่า มองในแง่ความปลอดภัยด้วย ล็อคประตูหน้าต่างให้ดีๆ ถ้าตั้งวงกันทุกวันกูว่ามันก็ไม่ค่อยโอเคว่ะ
ถามมนุษย์ทำงาน(โดยเฉพาะคนที่มีบ้านในกทม.)หน่อยว่ามึงยอมที่จะตื่นเช้าเพื่อไปทำงานได้เช้าสุดกี่โมง? หรือไม่ก็นับจากเวลาเดินทางก็ได้ว่ายอมรับเวลาที่ต้องใช้ไปบนท้องถนนได้มากสุดกี่ชั่วโมง ถ้างานและองค์กรที่มึงอยากทำมากๆ มันอยู่ไกลบ้านมึงมากเลย ขอคนที่แบบมีความจำเป็นต้องอยู่บ้านเท่านั้น ไม่สามารถทิ้งบ้านไปเช่าหอหรือคอนโดอยู่ใกล้ที่ทำงานได้นะ
>>469 ที่ทำงานแรก เข้างาน 07.30 กูตื่น 6โมงเกือบ7โมง อันนี้เดินไปทำงานได้
ที่ทำงานที่สอง เข้างาน 8.30 กูตื่น เกือบ8โมง อันนี้ปั่นจักรยานไปทำงาน
คือกูติดนิสัยตอนเรียนมหาลัย กูอยู่หอใน ตื่นมาเดินไปเรียนไม่ต้องเจอรถติด
พอทำงานกูเลยติดนิสัยสมัยเรียนมาด้วย และโชคดีที่กูได้งานที่สามารถหาที่พักใกล้ที่ทำงานได้
ความอดทนบนท้องถนนกูต่ำมากๆๆๆ ถ้าให้เลือกระหว่างได้งานที่อยากทำแต่ต้องเดินทางไกล
กูยอมอยู่ที่เดิมและสามารถเดินไปทำงานได้ว่ะ(กรณีผลตอบแทนเท่ากัน)
แต่ถ้าผลตอบแทนมันต่างมาก กูยอมทำงานไกลๆ ยอมตื่นเร็วขึ้นแล้วหาหนังสือไปอ่านบนรถเมล์หรือรถไฟฟ้า
กูงานราชการเข้าก่อน 8.30 ปกติมาประมาณ 8.20-8.25 ว่ะ เดินมาเช้าหอใกล้ๆที่ทำงาน เดินทางใช้เวลาชิวๆสบายประมาณ 8 นาที เลิกงานเร็วสุด 18.30 น. ปกติ 19.30 น. ยังดีที่เบิก OT ได้ชมล่ะ 50 บาท ไม่เกิน 4 ชม. แมร่งงไม่คุ้มกันเลยว่ะ กูเห็นหน่วยงานอื่น 16.00 น. แมร่งทำเก็บของกลับบ้าแล้ว มีหน่วยงานราชการไหนที่งานไม่หนักเลิกงานตามเวลามั่งว่ะ
อายุ 29 บรรจุใหม่ได้แค่ 8 เดือน เจอแต่งานยากๆหนักๆอยากลาออกไปสอบใหม่ว่ะ ไม่สนอายุราชการแล้วว่ะ
กูทำงานอยู่องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอยู่ที่หนึ่ง จบใหม่ได้เงินเดือน 20k บางเสาร์อาทิตย์มีงานตจว.ได้โอวันละ 2000 บางเดือนได้ 25-30k แต่กูเหนื่อยมากๆ ไม่ได้พักเลย เดือนนี้ออกทุกสัปดาห์ ไม่ได้พักเลย
ช่วงนี้บอสโครงการแม่งก็เป็นบ้า เรื่องเล็กเรื่องน้อยไม่ควรจะเป็นเรื่องก็วีนกูหมด ด่าเสียๆหายๆ งานก็ไม่เดิน ไม่ตรวจงานให้ ปล่อยทิ้งร้างเป็นเดือนๆ บางทีให้กูแก้งานก็อารมณ์แบบ ไม่บอกว่าแก้อะไร ให้ทำใหม่ เป็นแบบนี้หลายรอบมาก พอกูกับเพื่อนในทีมเคืองมากๆ เขาก็มาดีด้วยหน่อย แล้วก็เป็นซ้ำใหม่ งานแม่งก็ไม่เป็นระบบระเบียบ
กูไม่รู้ว่าควรจะทนไหม เพิ่งผ่านโปร 4 เดือน ก่อนหน้านี้แรกๆ เจ้านายดี มาเดือนนี้แย่มาก ตอนนี้กำลังหางานใหม่ จะลดเงินเดือนตัวเองก็เสียดาย
ตอนแรกกุเป็นพวกเขียนเว็บ แต่เขียนเสร็จแล้วไม่มีอะไรให้ทำเลย (มีแต่คอยอัพเดท)
เลยไปของานมาทำ แล้วกลายเป็น it support ซะงั้น
รู้สึกงานมันน่าเบื่อจังว่ะ เพิ่งมาทำงานได้ไม่นานด้วย
ไม่ค่อยมีงานเท่าไหร่เลย (ทั้งเขียนเว็บและงานไอที)
จนตอนนี้นั่งแปลไลท์โนเวลแก้เซ็งแล้ว
ใครเป็นล่ามโรงงานบ้าง ขอแชร์บ้างหน่อย กูเพิ่งมาทำงานได้สักระยะนึง ภาพโดยรวมบริษัทก็ใหญ่โตดี
นายก็โอเค กูมีอาจจะเริ่มปรับตัวเลยจะมีแปลได้ตามหน้างาน บางครั้งก็สตั๊นท์บ้างกับเรื่องที่ไม่ได้เตรียม
ส่วนมากเนื้องานล่ามก็ไม่ค่อยอะไรมา แปลโชเรย์(ประชุมเช้า) ก็จะมีเจอซัพพลายเออร์บ้าง แปลคุยตามเซ็นต์เอกสารบ้าง รายงานว่าอันที่ต้องให้เซ็นตฺเป็นอะไร
แต่ปัญหาที่กูเจอคือสังคมดูเย็นชามาก อาจจะเพราะกูเคยแต่ผ่านบริษัทเล็กๆมาก่อน เน้นแบบทั้งโรงงานมีกัน7-10คน ที่โอเคสุดก็ออฟฟิสมีกันอยู่แค่ 3 คนเท่านั้นเอง แต่กูเพิ่งออกมา เพราะงานล่าสุดทำเซลล์แล้วไม่เข้ากับนิสัยกูล่ะ แต่นายใจดีมาก เพื่อนร่วมงานก็ใจดีมาก
มาตอนนี้กูโอเคกับงานล่ามนะ แม้จะพูดรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง(เวลามีประชุมแล้วเขาไม่เตรียมรายละเอียดเผื่อกรูเลย)
แต่ประเด็นกูแอบคิดมากว่า ดูระดับเมเนเจอร์กับพวกออฟฟิสไม่ค่อยจะดูสนิทสนมเท่าไร แบบพอตกเย็นก็แยกใครแยกมัน ปกติสังคมโรงงานใหญ่ๆคือเป็นแบบนี้ทั้งหมดใช่มั้ย กูจะได้ไม่ต้องพยายามสนิทกับใครมาก เพราะเอาจริงๆกูก็ไม่แน่ใจว่าควรจะสนิทหรือไม่สนิทกับใครดี
(ตอนนี้กูให้แค่ Assit Mrg.ที่เขาเป็นหัวหน้าขึ้นตรงกับกูพอ)
ส่วนตัวเพิ่งเคยมาทำงานบ.ใหญ่ครั้งแรกแบบนี้ไม่คิดว่าบรรยากาศจะหนาวมากจริง สายล่ามต้องอดทนกับความเครียดนี้สินะ ยังไม่นับเรื่องการเหน็บแนมเวลาแปลไม่ได้ในบางคราว (คือกูก็เพิ่งได้ลงไลน์การผลิตไปเองเมื่อเร็วๆนี้ แต่ถ้านายเขาไม่ได้ถามอะไรซ่อกแซ่กูก็วางเฉยไว้ไม่แปลทั้งหมดน่ะ เพราะนอกนั้นก็ออกแนวน่้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหลงเหลง)
เอาวะ สู้ต่อไปโว้ย ตัดสินใจมาทำล่ามโรงงานเอง กูมาขอแชร์ ถ้ามีใครเจอสังคมทำงานที่ไม่อบอุ่นแชร์มาหน่อยละกันกูจะได้ไม่เหงาคนเดียว5555
>>458 จุดสูงสุดของวิชาชีพบัญชี คือได้CPA ทีนี้ มึงก็ตัดสินใจว่า จะฟรีแลนซ์รับเซ็นเยอะๆ งานหนักช่วงนึง อีกครึ่งปีไปเที่ยว หรือจะทำงานประจำเป็นอาชีพเสริมก็ได้ ในกรณีที่มึงไม่ชแบอยู่ว่าง ส่วน สำนักงานบัญชี เท่าที่กูดูแม่กูทำนะ การแข่งขันสูง ตัดราคากันเยอะ เดี๋ยวคนจบบัญขีออกมาเยอะ ถ้ามึงไม่มีconnectionเลย จะมาทำหาลูกค้ายากมาก หาลูกน้องก็ยากเช่นกัน พี่ที่เคยทำออดิท แต่ยังไม่ได้cpa อยากขอบริษัทลูกค้าไปทำเพราะแม่กูทำไม่ไหว ลูกค้ายังไม่ยอมเลย บอกไม่มีประสบการณ์ ทั้งที่เคยทำbig4
ที่บริษัทเก่ามีคนออก หัวหน้าเก่าเลยถามว่าสนใจอยากกลับมั้ย คือหัวหน้าเค้าดีกับกูนะ แต่ที่บริษัทเก่ามันอย่างอื่นแย่เกือบหมด
กูไม่คิดจะกลับไปแน่ๆ ปฏิเสธยังไงไม่ให้น่าเกลียดดีวะ
กูเป็นเด็กฝึกงานแต่รู้สึกมีประโยชน์กว่าคนทำงานประจำบางคนอีก ทำห่าไรไม่เป็น แถมสร้างปัญหาให้กูอีก ล่าสุดก็ตัดต่อรูปอยู่แม่งดึงปลั๊กโน๊ตบุ๊คกู (ไม่ใส่แบต) ไปเฉยเลย สัสต้องนั่งทำใหม่ ไม่สวยแล้วยังโง่อีก ห่า หงุดหงิด ตอนนี้แต่ฝ่ายกูพยายามไล่ไปอยู่ฝ่ายอื่นอยู่เพราะแม่งไม่มีประโยชน์ห่าไรเลยสักอย่าง รีบๆไปเหอะ รำคาญชิบหาย วันๆบ่นเหี้ยไรไม่รู้เยอะแยะ นี่แม่งนั่งตรงข้ามกูอยู่เนี่ย เซ็งโว้ย
>>488 มึงควรเปลี่ยนความเชื่อนี้ซะนะว่าที่ทำงานแย่ๆจะมีแต่ข้าราชการ ภาคเอกชนมีอยู่เพียบเลยที่ทำตัวแย่เหมือนข้าราชการ บางที่แย่กว่าหน่วยงานราชการอีก ที่มันแย่เพราะมีพวกพนักงาน ลูกจ้างคอยจะอุ้มชูคนพวกเดียวกันเองไง ขนาดบริษัทย่อยๆของเจริญฯกูยังเจอมาแล้ว บางแห่งไม่ดูแลลูกจ้างให้ดีเพราะแค่เปิดบริษัทห้างร้านบังหน้า มีถมเถ
>>491 อันนั้นมันหน่วยงานระดับเกรดเอ พวกหมอ อัยการ ผู้พิพากษา แบงค์ชาติ ทูต เงินเดือนสูงกว่าข้าราชการปรกติหลายเท่า
แต่ที่ >>488 มันพูดน่าจะหมายถึงหน่วยงานทั่วไปตามต่างจังหวัดล่ะมั้ง
กูเคยอ่านคู่มือกพ. มีตัวอย่างข้าราชการหน่วยหนึ่งลืมเซ็นชื่อทำให้ประชาชนรับมรดกไม่ได้ สุดท้ายโดนแค่ภาคทัณฑ์ แต่อันนี้ไม่รู้ว่าก่อนโดนสอบวินัยเค้าจ่ายค่าเสียหายกันแล้วรึเปล่า พอโดนวินัยโทษเลยน้อย
เมื่อเช้ากูลาป่วยมากแต่ไม่ได้ไปหาหมอ ตอนนี้กูดีขึันเกือบปกติพอจะไปหาหมอไหวแล้ว จะขอใบรับรองแพทย์หมอได้มั้ยวะ ต้องใช้ลาป่วยที่ บ.
วันเดียวต้องใช้ใบรับรองด้วยหรอวะ บริษัทโหดสัด
ถามเพื่อนโม่งหน่อยสิ (ผิดกระทู้อภัย)
ระหว่างบัญชีกับกฏหมาย งานอะไรมันก้าวหน้าได้เร็วกว่า / เงินเดือนสูงกว่ากันเหรอ
คือนี่เลือกไม่ถูกว่าจะเรียนอะไรดีอะ
>>480 ขอบคุณมาก กูรอคอยคนแบบมึงมานานแสนนาน ขอเลียตีนทีสิสาวน้อย
ขอถามต่อนิด ถ้ากูเกลียดการคีข้อมูลเดิมๆซ้ำซากกูควรทำออดิทใช่ไหม กูจะได้ตั้งใจเรียนวิชานี้เต็มที่ ปีหน้ากูขึ้นปีสามจะได้เรียนเรื่องนี้ละ เหมือนกูอ่านผ่านตาว่าเอกสารengล้วนอีกตำเป็นต้องฝึกภาษามากมายมะ หรือแค่ดูรู้เรื่องพอ
>>479 กุล่ามออฟฟิศนะ หลักๆคล้ายๆกันแหละ แปลประชุมเช้า แปลเอกสาร ติดไปหาลูกค้ากับญี่ปุ่น แต่บริษัทกุเล้กๆไง มีพนักงานไทย5คน (ไม่รวมคนขับรถแม่บ้าน) ญี่ปุ่น 2
สังคมโรงงานล่าม ที่กุเห้นตอนไปหาลูกค้า(ไปบ่อยเหี้ยๆ สัปดาห์นึงไปนิคมไม่ต่ำกว่า 3 รอบ) ล่ามเขาก้สนิทกับคนไทยหลายแผนกอยู่นะ กุว่าที่มึงแปลกแล้วละสังคมแบบนั้นทำไมมันเย็นชา
ลองใช้ Office 365 แล้วคุ้นเคยเร็วกว่าที่คิด จากตอนแรกที่กลัวว่าจะช้ากว่า Office2007 (เครื่องกูไม่แรง) พอคุ้นแล้วก็เลยคิดว่าจ่ายรายเดือนเลยล่ะกัน รวมๆแล้วแพงกว่าซื้อขาดแต่ไม่ต้องระแวงเรื่องงานหาย ทำเสร็จโยนลงCloud ซะ
>>498 หรืออาจจะแปลกที่ตัวกูเอง555 จริงๆโรงงานที่เก่ากูเคยทำก็ประมาณทั้งโรงงาน 20 กว่าคนล่ะ แต่จำได้ว่าตอนนั้นสังคมมันอบอุ่นอยู่(แม้จะมีแทงข้างหลังเป็นระยะๆ) อาจจะเพราะกูเพิ่งเริ่มงานมาได้ 2 อาทิตย์แล้วนี่ก็เป็นโรงงานใหญ่ที่แรกด้วย
ปสก.จากที่แรกกูเคยโดนแทงมาแล้ว เลยอาจจะเป็นที่กูยังปิดกำแพงไว้สูงมากด้วยล่ะมั้ง แต่กูก็คุยกับคนที่แผนกกูเองได้นะ แค่กูยังรู้สึกความครุกกรุ่นระหว่างเมเนเจอร์แต่ละแผนกเลยทำให้กูระวังท่าทีเองมากเกินไป เลยอาจจะพาลคิดไปเองว่าสังคมกุตอนนี้ไม่อบอุ่นอย่างว่ากุอาจจะต้องรอละลายท่าทีกันต่อไป
อีก 4 ชม.ครึ่งได้กลับ้านแล้วเว้ยยยยย
>>497 ใช่ มึงควรไปสายออดิท มึงแทบไม่ได้เข้าออฟฟิศอ่ะ ตระเวนไปจ๊อบทุกวัน ทำงานไม่เป็นเวลาด้วย 55 มึงจะเจออะไรใหม่ๆ แต่พอมึงมีจ๊อบประจำมันก็จะไม่ได้ใหม่ขนาดนั้นแล้ว มึงก็จะเจอปัญหาอะไรที่บัญชีไม่เจออ่ะมึง เวลาดีลกะลูกค้า ลูกค้าบางคนแม่งก็เกลียดหรือรำคาญออดิทมาก มึงต้องมีsoft skill พอสมควร เรื่องเอกสารengล้วน/หม แล้วแต่ที่ ถ้ามึงทำbig4 บริษัทที่ตรวจขนาดใหญ่ หรือเป็นบริษัทย่อยของบริษัทต่างชาติ มึงก็ต้องรุ้ภษาไว้แหละ ทั้งนี้ ไม่ว่า มึงจะได้big4หรือไม่ ภาษาก็จำเป็นมาก ในการพัฒนาในสายอาชีพว่ะ ปล.อย่าเลียตีนกูเลย 55 >>495 มาช่วยตอบ พอดี พ่อกูเป็นทนาย บัญชีกับกฎหมายนี่คนละแนวนะกูว่า แล้วแต่ชอบเลย บัญชีหางานง่ายกว่าแน่นอนคือจบมาแล้ว มึงทำงานได้ทันที ส่วนนิติ ถ้าอยากรุ่ง มึงต้องเป็นผู้พิพากษาไม่ก็ทำlaw firm ซึ่งรายได้ดีมากแต่ต้องเก่งภาษามากๆเช่นกัน ผู้พิพากษา มึงก็ต้องสอบเนติให้ได้ก่อน แล้วค่อยสอบผู้พิพากษาซึ่งการแข่งขันสูง แบบเดียวกับถ้าจะเป็นออดิท มึงต้องทำงานครบสามปีละสอบcpaให้ผ่านถึงได้เป็น ผู้พิพากษาเงินเดือนดี มั่นคง แต่มึงต้องไปประจำตจว.ก่อน ก็ลักษณะชีวิตแบบข้าราชการอ่ะ ที่ปรึกษากฎหมายก็เชิงconsult น่าจะกดดันเหมือนกัน ส่วนทนายนี่ กูไม่แนะนำให้เป็นเพราะคนไทยไม่นิยมใช้ทนายเท่าไหร่ ไม่เหมือนเมืองนอกที่อาชีพนี้จะรวย มาดูทางบัญชี คนคิดว่า มีแค่บัญชี กับออดิท จริงๆมันยังมีย่อยไปที่ internal audit และอื่นๆ กูพอพูดเท่าที่รุ้นะ ถ้าจบมาทำบัญชีเลย มึงก็ต้องทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ โตไปตามสเตป เงินเดือนไม่สูงมากแต่หางานง่าย คือถ้าไม่เลือกงาน กูว่า ไม่ตกงานแน่ๆ audit จะได้ความรู้กว้างกว่า เอาไปต่อยอดได้ สุดท้ายจะได้cpaไหม ก็ช่วยprofileให้ดีขึ้นมากกว่านะ ส่วนinternal audit ไม่นิยมในไทย ไม่ค่อยเกี่ยวกับบัญชี เงินเดือนกลางๆ สุงกว่าบัญชีนิดหน่อย แล้วก็มีtax consult อันนี้ มึงก็ต้องได้ภาษาเงินดีและงานหนัก สุดท้ายคือ เลือกที่มึงชอบและถนัด อยู่กับมันได้ทั้งชีวิต เรียนแบบมีความสุขเหอะว่ะ สู้ๆ
กูไม่ใช่ข้างบนแต่กูก็คิดว่ามึงเป็นหญิงนะ สำหรับกูเวลาอ่านเม้นโม่งที่ตอบเรื่องบัญชีหรือภาษาในหัวจะเป็นเสียงผญ ส่วนโม่งที่ถามเรื่องขรก. /เอกชนจะเป็นเสียงชายว่ะไม่รู้ทำไม 5555
อ้อ ในนี้มีใครทำสายเรือบ้างมั้ยวะ กูทำฟอเวิดเดอร์ที่ไม่ดัง ชีวิตชิวๆ เงินก้ชิวๆ เลยกะเปลี่ยนงานเห็นพวกฟอเวิดเดอร์ดังๆคุณภาพชีวิตค่อนข้างแย่ กลับ3ทุ่ม-ตีสามงี้บ่อยมาก ลาก็ไม่ค่อยได้ กูเลยคิดว่าจะไปเรือ ไม่ก็โรงงานตามนิคมไปเลย ใครพอจะแชร์ปสกได้มั่ง
เบื่อโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
มีโม่งที่ทำงานท้องถิ่นเทศบาล อบต บ้างมั้ย อยากฟังชีวิตการทำงานของข้าราชการท้องถิ่นบ้าง
มีใครรู้จักชิปปิ้งจีนที่ไม่โกง บริการพอใช้ได้ ของไม่เสียหายบ้างไหม พลีสสส
อาลียังดีไม่พอหรอวะ
?? เราสั่งเถาเป่าน่ะ
แม้งเอ้ยคือตอนนี้กูลาออกจากที่ทำงานปัจจุบันแล้วแต่ยังติดกฏ 30 วันอยู่ แต่เหมือนไอหัวหน้ากูมันจะไม่รู้ตัวหรือไงยังโยนทั้งงานสั้น และงานยาวมาให้กูเสมอ ที่กูลาออกก็เพราะเบื่อแม้งนี่ละวันๆเอาแต่เลีย โยนงานมาให้คนในทีมส่วนมันคอยเอาไปเสนอเอาหน้าอย่างเดียว วิธีการห่าเห่อไรลูกน้องมึงทำงานกันไงแม่งไม่รู้หรอก ตอนมันเอางานยาวใหม่มาโยนให้กูพร้อมวิธีโง่ๆ กูเลยเสนอวิธีอื่นที่เร็วกว่าง่ายกว่าไปให้ แม่งก็ยังยืนยันให้ทำเหมือนเดิม ไหนๆจะออกกูเลยจัดไปดอกนึงว่าทำวิธีแม่งก็โง่แล้ว(กูพูดอ้อมๆ) ทีนี้แม่งให้เขียนวิธีกูส่งไปให้ กูก็เลยจัดไป แต่วันรุ่งขึ้นแน่นอนว่าวิธีกูไม่ได้เอาไปใช้ มันไปใช้อีกคนโดยให้ทำแบบโง่ๆของมันนี่ละ โดยการจัดประชุมโยนงานให้คนอื่น และไม่ให้กูเข้าชุมด้วย แล้วให้คนอื่นมาบอกกูว่ากูไม่ต้องยุ่งงานนี้แล้ว ทั้งๆที่กูเป็นคนรับผิดชอบหลักเรื่องนี้ หลังจากนั้นมีประชุมห่าไรกูก็ไม่มีส่วนร่วมอีกเลยเหมือนธาตุอากาศ 5555555
กูอยากทำงานจิตอาสาแล้วได้ตังค์ว่ะ กูมีความสุขที่ได้ช่วยคนแต่บางทีถ้าช่วยอย่างเดียวจนไม่ได้ทำงานกูก็ไม่มีเงินใช้อีก
ไม่รู้พวกมึงเข้าใจรึเปล่าว่ากูไม่ได้โลภที่หวังช่วยคนเพื่อเอาเงินแต่อยากให้มันไปด้วยกันได้ ออกไปที่ต่างๆช่วยเหลือคนเป็นงานหลักแล้วได้ค่าแรงกลับมาบ้าง กูเบื่องานออฟฟิศสัตว์ๆ
ใครทำงานเป็นลูกจ้างหรือลูกน้องเพื่อนมั่งวะ
เพื่อนโม่งใครทำงานพวกช่างตัดผมหรือช่างเสริมสวยมั้ง อยากจะถามเวลาทำงาน ทำกี่ชมวะ
ยกตัวอย่าง ร้านเปิด 9.30-21.00 ทำ 11-12 ชมเลยหรอ กับพวกงานบริการถ้าอย่าหยุด วันอาทิตย์ เขาจะรับปะวะ 555555 แบบบ้างอาทิตย์ไม่หยุด
>>520 ต้องเข้าใจหัวอกนายจ้างด้วย พวกงานบริการเขาจ้าง เพื่อที่จะใช้งานวันเสาร์-อาทิตย์น่ะแหละ
รูปแบบในอุดมคติก็คือ จ้างมาเฉพาะเสาร์อาทิตย์ แล้วจ่ายเงินเฉพาะเสาร์อาทิตย์ ซึ่งไม่มีใครที่ไหนในโลกทำแบบนี้ เขาถึงต้องจ้างเป็นเดือน วันธรรมดาก็ปล่อยตบยุงไป แล้วเสาร์อาทิตย์ค่อยทำให้คุ้มเงินค่าจ้าง
สั่งของนำเข้าทางเรือกะ Taobaocargo แม่งแก้เป็นทางรถให้กุเฉย.....
จำได้เพราะคราวแรกสั่งเรือแล้วเปลี่ยนเองเปนรถ กุก็งง เลยกดยกเลิกมานั่งแก้บิลใหม่เป็นเรือ
เหี้ยได้โล่ กุทำไรได้บ้างวะ เพราะในเว็บมันก็ขึ้นว่าสั่งรถหมด olo
นอกเรื่องนิดนึง
ไม่มีห้องให้ถาม สมมุติบินไป ตปท แล้วกะจะหิ้วของเข้าไทย แบบชิ้นเล็กน้อยๆ จะได้ภาษีปะ อย่างกูซื้อเสื้อเชิ๊ตลายเหมือนกันมา 5 ตัว หมวกลายเหมือนกัน 5 ใบ
แกะป้ายทิ้งบอกซื้อของขวัญไม่น่ามรปัญหา บินกลับมาสักตีสามสิ ศุลขี้เกียจเช้ค จนทหายยย
กุขอถามเรื่องการนับอายุงานหน่อย สมมติกุเริ่มทำงานเดือน 10(2016)>>ยื่นใบลาออกต้นเดือน 9(2017) >>มีผลตอนปลายเดือน 9(2017) อย่างงี้เรียกว่าทำงานครบปีมั้ยวะ สามารถใส่ในเรซุเม่ได้ป่ะว่ามีปสก.ที่บ.นี้ๆ 1 ปี
เบื่องานบัญชีว้อยยยยย แต่ไม่มีทางเลือกแล้วเพราะกูจบบัญชีมา เบื่อ เบื่อ เบื่อว้อยยยย
เขียนโปรแกรมดิ
>>537 สวัสดิการดีมากก เงินเดือน สตาร์ท 12000-14000 มั้งไม่ก็ อันนี้ไม่รู้จริง
โรงงานสะอาด เครื่องแบบฟรี สวัสดิการ ดีกว่ารอบกทมส่วนใหญ่ คหสต
กูเคยไปทำงานแถวๆ บางปลา โณงงานก็เฉยๆ แต่ห้องนี้โคตรบรรลัย มึงคิดภาพห้องน้ำโรงเรียนประถม สมัยเรียน ความสกปรก*3 สวมซึ่ม มีรอยแตกแมลงสาบโผล่มา และท่อขี้ เปิดฝ่าแล้วอัดน้ำไปเรื่อยๆ แล้วเศษขี้ก็จะไหลทางพื้นไปอีกท่อ.....
ใครมีรายได้ทางอื่นนอกจากงานประจำมั้ย พอดีคิดว่างานประจำที่ทำอยู่คงหาความเจริญก้าวหน้ายากว่ะ แต่ไม่คิดจะลาออก พอมีทางแนะนำเรื่องรายได้ทางอื่นหรืออาชีพเสริมมั้ย
>>539 กูทำพวกตู้อัตตโนมัติ เติมเงินมือถือ,เครื่องซักผ้า,ตู้น้ำ เพราะญาติกูทำหอพัก มีอินเตอร์เนตด้วย 300/เดือน
สกิลกูเป็นสารพัดช่าง ทำไฟฟ้า,ประปา,คอมพ์, แอร์ ได้เงินดูแลหอพักมีอะไรเสีย ของถูกก็ซ่อมเลย ของแพงก็เบิกแล้วซ่อม มีเงินเดือนประจำให้ 10 ห้อง/2,000บาท. กูคิดเรทนี้กับญาติอ่ะ
ตอนนี้ขายของชำ, ทำกุญแจด้วย. นิสัยกูขี้เบื่อทำงานจำเจทั้งวันคงทนไม่ไหว ถ้าเป็นแบบ ลูกค้ามาแป้บเดียวกูทำ 5 นาทีแล้วปิดจ๊อป รับเงินเลยกูว่าเหมาะกับกู จะได้มีเวลาอ่านหนังสือ,เล่นเกมส์ ตามเรื่องตามราว
ข้อเสีย: บางวันงานเข้าก็ต้องอยู่แก้ให้จบงานเหมือนกันนะเว้ย อย่างพวกปั้มเสีย, ลูกลอยน้ำเสียเพราะ คนในหอไม่มีน้ำใช้กูก็ต้องทำจนใช้ได้วันนั้น
>>542 ชาร์จไปดิ่ บวกราคาอะไหล่ไปเลย แต่ต้องดูด้วยว่า เป็นงานแบบไหน ได้ค่ารายเดือนเยอะแล้วหรือเปล่า. อย่างทาสีกูบวกเลยนะ เตรียมผิว(ขูดกาวสองหน้า,ขูดสีเก่า, ล้าง) ทารองพื้น, ทาสีสองรอบ. กูทำสองวันกูบวกอย่างต่ำ 1,000 แน่นอน
แล้วแบบห้องน้ำเก่าต้องดูพื้นรั่ว,คราบสกปรก อะไรแบบนี้บางทีทำ ทั้งวัน
ถามโม่งข้าราชการ กูเพิ่งจบเมื่อม รัฐชื่อดังเมื่อปีที่แล้ว ผ่าน กพ แล้ว แต่จนบัดนี้กูยังสอบบรรจุราชการไม่ติดสักที่จนจะครบ 1 ปีที่กูจบแล้ว กูเครียดมาก อยากตาย กูอยากทำราชการมาก มีเทคนิคแนะนำไหมวะ สอบราชการแม่งยากกว่าสอบเข้ามหาลัยอีก
>>545 กูว่ามึงลองสมัครงานเอกชนดูบ้างว่ะ เอาแบบเลี้ยงชีพได้ให้ครอบครัวมีหวังบ้าง เวลามันมีค่าอย่าปล่อยให้เสียเปล่านะ ถ้ามีสกิลพิเศษอะไรก็แถลงไขมาบ้าง แบบเก่งภาษา,เลี้ยงเด็กได้,สอนเด็กได้,ทำอาหารได้,ขับรถเก่ง อะไรแบบนี้
ถ้าเป็นไปได้ก็หางานที่มันเสริมกับงานที่มึงอยากทำด้วยนะ.
กูเข้าใจว่าอยากรับราชการแต่ถ้าโอกาสมันไม่เปิดไม่มีงบไม่มีตำแหน่งงานมาจ้างมึง มึงก็ต้องรอไปเรื่อยๆมันน่าเสียดาย
ชิบหายละ พี่ที่ทำงานรู้ละว่ากูสตอล์ค 555555 อยู่ไม่ได้ละว้อย
>>548 กูจบศิลปศาสตร์ อาเซียนศึกษา อยากทำกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพัฒนาสังคม ไม่ก็สภาพัฒน์
>>550 สำหรับกูเอกชนง่ายกว่า กูโดนเรียกตัวไปทำ 3 ที่ แต่แม่กับกูเห็นตรงกันว่าไม่เอา เพราะมันให้ทำที่กูไม่อยากทำ กูอยากรับราชการมากๆที่สุดในชีวิต ราชการข้อเสียคือ รับน้อย กับมีคนใน กูผ่านภาค ก กพ แล้ว แต่ภาค ข ตามหน่วยงานที่เปิดกูไม่ผ่านเลยว่ะ เซ็งงง
เครียดวะ ไม่อยากไปทำงานพรุ่งนี้เลยแม่ง ได้เงินเดือนแล้วออกเลยดีปะวะ
>>551 ถ้ามึงสอบไม่ผ่านข. ของส่วนกลางแสดงว่ามึงทำคะแนนได้ไม่เกินเกณฑ์ ต้องอ่านหาความรู้เพิ่มเยอะๆว่ะ เอาประกาศตำแหน่งที่อยากทำมาดู มันจะบอกแนวไว้ไปอ่านตามแนวนั้นแหละให้ทะลุ เพราะส่วนกลางถ้าคะแนนสอบเกินก็ขึ้นบัญชีหมด(น่าจะตัดที่เกิน 60% แต่บางหน่วยก็กำหนดมากกว่านั้นมั้ง) ส่วนมากทีลำบากคือต้องรอคนเก่าออกให้ตำแหน่งมันว่าง ดังนั้นมึงไม่ต้องท้อ มึงยังมีทางไป ขึ้นบัญชีได้เมื่อไหร่ค่อยไปบนบานให้ตำแหน่งมันว่างอีกที
ปล. ถ้าไปเป็นลูกจ้างชั่วคราวกูว่าไปทำเอกชนเอาความรู้ยังดีกว่านะ ได้เงินเยอะกว่าด้วย
แม่งเอ้ย กูว่ากูเริ่มอัพเกรดสู่ความไม่เอาไหนจิงๆว่ะ
กูเพิ่งได้งานใหม่ บริษัทดีด้วยนะแต่กูทำงานไม่ได้เรื่องเลย ทั้งๆที่ตอนเทสกูทำได้ดีสัสๆแต่ตอนนี้เกณฑ์ต่ำสุดของเค้ากูยังผ่านไม่ได้เลย อได้เริ่มงานจริงกผุรู้สึกตัสวเองกระจอกชิบหาย อีกไม่กี่วันก็ต้องประเมิณพนักงานแล้ว ความสามารถกูไม่กระเตื้องแบบนี้มีหวังไม่ผ่านโปร กัวลเหี้ยๆ เครียดสัส
ทำงานวิศวะปิโตรอยู่ ชอบตัวงานในระดับนึง แต่รู้ตัวว่ามันเป็นไลฟ์สไตล์ที่อยู่แบบนี้ไปตลอดไม่ได้ ลงแท่นทียาวๆ แพลนอะไรในชีวิตไม่ค่อยได้ อยากเปลี่ยนสายเป็น พนง กินเงินเดือนเหมือนเดิม แต่ไม่รู้จะไปสายไหนดี ยกเว้นวิศวะกับสายการเงิน
กูมันห่วย อุตสาห์ได้เข้าทำงานบริษัทใหญ่ๆแล้วเสือกความสามารถไม่ถึง พอได้ทำงานจริงรู้เลยว่าห่วยขนาดไหน จะได้ทำงานอีกนานแค่ไหนวะ หรือกูควรเจียมตัวกลับไปหางานง่ายๆทำ พึงระลึกไว้ว่าถึงจะมีใจสู้แต่ถ้าความสามารถไม่พอก็เป็นได้แค่ไอ้กาก
ทั้งๆที่กูก็ตั้งใจทำงาน ฝึกฝนนะ หรือมนุษย์ประเภทกูจะมาได้แค่นี้จริงๆ เราจะมีกำแพงที่ข้ามไม่ได้จริิงๆหรอวะ กูพยายามแล้วนะ ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองต้องทำได้ทุกอย่างแท้ๆ
>>564 ส่วนตัวกูว่ามันมี 2-3 แบบว่ะ
1. มึงขยัน+ตั้งใจผิดอย่าง ของบางอย่างทำไม่ถูกจับหลักไม่ได้ เอาความตั้งใจไปทุ่มผิดประเด็น งานก็ออกมาไม่ดีอยู่ดี
2. มึงทำถูกอย่างแล้ว แต่ความสามารถ มึงไม่ถึงจริงๆ อันนี้ต้องยอมรับว่า บางตำแหน่งแม่งยากกว่าบางตำแหน่งจริง
3. อื่นๆ ระบบงานแปลกๆ ไรงี้ บลาๆๆ
มึง กูทำงานอะไรดีวะ
ฝึกงานนี่เค้าหวังแค่ไหนวะ กุรู้สึกตัวเองห่วยแตก ไม่เก่งอะไรสักอย่าง แค่คิดโดนสัมภาษณ์ว่าทำอะไรได้ก็เครียดละ
>>569 แค่อยากเห็นความกระตือรือร้น ความรับผิดชอบของมึง ถ้ามึงไม่เก่ง แต่ถ้ามึงพร้อมจะเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ใครๆก็ต้องการ อย่าพึ่งไปมองว่าตัวเองห่วยแตก ถ้ายังไม่พยายามถึงที่สุด เรียนรู้สิ่งรอบตัวเพื่อผลักดันตัวเอง ถ้าวิธีที่ทำอยู่มันไม่ได้ผลก็ลองเปลี่ยนวิธีอื่นดู
มีโม่งในนี้ทำงานสายautomationบ้าง กุมองหางานใหม่แต่เงียบเหงาสัสๆ เขาไปหาแววดวงจากไหนกันวะ?
พอดีทำงานสายนี้แต่สายที่เรียนมาเขาไม่ได้เกี่ยวด้านนี้
ถ้าทำงานพาร์ทไทม์ช่วงกะดึกของเซเว่นดีมั้ยวะ ใครมีงานพาร์ทไทม์อื่นๆแนะนำบ้าง ว่าจะหาทำช่วงปิดเทอม6เดือนอะ
อยู่ม.ปลายหรือมหาลัยล่ะโม่ง. จะได้แนะนำได้ถูก
จำได้ว่าพึ่งมีสั่งห้ามรับเด็กม.ปลายทำพาร์ทไทม์อยู่
ปลัดเรียกตัวรอบล่าสุด300กว่า-800กว่า ทำไมเรียกตัวเยอะนักว่ะ
สป.มท นักวิเคราะห์เงียบกริบ ไม่มีเรียกเพิ่มเลย
เห็นเขาว่างานสายการตลาดมันกว้างมาก มันกว้างจริงๆหรอ
แล้วถ้ามันไม่นับงานเซลล์นี่มันยังจะกว้างเท่าเดิมไหม
อีกอย่างสายนี้มันต้องเข้าตัวเมืองอย่างเดียวใช่ไหม แถวบ้านนอกคงไม่มีไรให้ทำมาก
อันนี้มองจากมุมมองภายนอกนะ ตอนนี้กำลังวางแผนอนาคตอยู่
อยากให้คนที่มีประสบการณ์ด้านนี้ช่วยตอบหน่อยยย
ขอความรู้หน่อย
ปกติไปทำงานต่างประเทศควรมีเงินเก็บเท่าไหร่
คุณสมบัติเบื้องต้นด้วย
ใครเคยเป็นอาสา ทดลองยาบ้าง
ปี61จะมีเปิดสอบปลัดอีกป่าวจะได้เตรียมตัว ต้องอ่านอะไรมั่ง เน้นอะไรมั่ง
>>577 >>581 คือปลัดบัญชี 58-59 สอบติดน้อยมาก 58 ผ่านไม่ถึง 600 ปี59ก็ผ่านแค่ 800ปลายๆ ปรกติสอบปลัดจะผ่านกันหลักพันกว่า ขึ้นบัญชีครั้งหนึ่งเลยไม่ต้องเปิดสอบนาน
ส่วนปี61 ไม่น่าเปิดสอบ เพราะตอนนี้เรียกบรรจุเยอะมากแล้วรวมสองบัญชี 58-59 ก็เกือบ1500
ถ้าจะเปิดอีกทีก็น่าจะปี 62 เป็นต้นไป ใครอยากเข้าก็เตรียมอ่านหนังสือไว้เลย
หางานตอนจบใหม่นี่ควรจะไม่เกินกี่เดือนวะกูหามา3 เดือนแล้วยังไม่ได้เลย
>>590 กุหา 1 เดือนไม่ได้เริ่มพานิคละ สุดท้ายมีเรียกที่นึงเลยรีบคว้าไว้ แต่มาเสียดายทีหลังว่าไม่น่าเอาเลยกุ เพราะรู้้สึกได้น้อยกว่าที่ควรเยอะเลยอะ
ขอถามโม่งโรงงานหนอ่ยนะ กุสงสัยมานานละ เห็นคนมักบอกโรงงานโบนัส 5เดือน+ ทั้งนั้น งี้พวกมึงไม่ได้เงินก้อนกันทีเป็นแสนหรอวะ แล้วทำไมคนถึงชอบบ่นว่าเงินไม่พอใช้อะไรงี้ ตอนแรกกุคิดว่าบ่นกันเล่นๆ เป็นกิมมิคขำๆ อย่างมนุษเงินเดือนต้องเกลียดลูกค้าเกลียดหัวหน้า ใช้เงินเดือนชนเดือน แต่กุถามคนที่กุสนิทด้วยเขาบอกสิ้นเดือนเหลือแค่ 2 พันจริงๆ ว่ะ โบนัสพวกมึงใช้หมดเร็วขนาดนั้นเลยหรอวะ
เออ แล้วอีกที่นึงกุถามสาวยาคุลท์เขาบอก ปีที่แล้วบีทาเก้นโบนัส 13 เดือน เขาไม่ได้อำกุใช่มั้ย
ก็ฐานเงินเดือนมันน้อย พอเขาเรียกให้ดูดี ได้โบนัส สี่ห้าเดือนแล้วมันฟังดูเยอะอ่ะ
ส่วนที่บานไม่ร้อนนี่บางส่วนถูกกักไว้ก่อน บอกว่ามีเดี๋ยวโดนยืมเงิน
ที่ทำการปกครองจังหวัดรับพนักงานราชการเกือบทุกจังหวัดจำนวนพอประมาณไม่มาก/น้อยเกินไป แล้วไม่คิดจะรับข้าราชการเพิ่มแล้วรึ
>>590 ค่อยๆหาไปเมิง ไม่ต้องรีบคว้า
กูเคยอ่านเจอ เค้าบอกจุดเปลี่ยนสำคัญๆ(ทางอาชีพการงาน)ในชีวิตคนมี 3 จุด ตอนมอปลายเลือกสายเรียน ตอนมหาลัยเลือกคณะ ตอนเรียนจบเลือกที่ทำงานแรก หลังจากนั้นเมิงอยากเปลี่ยนก็ยากแล้ว ที่ทำงานที่แรกเลือกดีๆ
ขอระบายเรื่องกูบ้าง ช่วงหลังๆมาเหมือนคุยกับพี่ที่ทำงานไม่รู้เรื่องว่ะ ตอนแรกกูคิดว่ากูไม่ตั้งใจฟัง หลังๆเลยพยายามถามทุกครั้งว่านี่คุยเรื่องอะไรอยู่ หมายถึงอันนี้ๆ ใช่ไหม แล้วพอคุยจบก็พยายามสรุปอีกทีว่าเข้าใจตรงกันแต่ก็ยังเป็นเรื่อยๆว่ะ บางทีมาคุยใหม่แม่งกลายเป็นอีกแบบก็มี เหมือนต่างคนต่างคุยเข้าใจอยู่คนเดียว อันนี้คือต่างฝ่ายต่างมีกำแพงป่าววะ ที่บริษัทก็มีเรื่องอึนๆกันอยู่ด้วยแหละ แต่คืองานมันต้องทำไง จะจูนไม่ติดแบบนี้ตลอดก็ไม่ไหว เบื่อด้วย เหนื่อยด้วย
เขาว่างานสายไอทีผู้หญิงโดนดองทั้งรัฐทั้งเอกชนนี่จริงรึเปล่าคะ เราขึ้นปีสามแล้ว กำลังเลือกสาย ถ้าจริงจะได้ต่อสายที่ไว้ไปต่อยอดไปทำงานตปท.เลย
>>596 รัฐไม่รู้แหะ ส่วนเอกชนบางทีขึ้นอยู่กับบริษัท/ทีม/คนที่เข้าไปเจอด้วย
บริษัทที่กูทำงานเท่าที่เคยอยู่มา 2 ที่ คือเป็นบริษัทฝรั่งที่วัฒนธรรมก็มีอะไรไทยๆปนบ้าง แต่ไม่ถึงกับหัวโบราณซะทีเดียว
ผู้หญิงเก่งๆเยอะมาก คนใหญ่คนโตหรือ senior เก่งๆที่ก็เป็นผู้หญิงเยอะตาม บริษัทแรก manager ใหญ่ๆเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางบริษัทที่ผู้ชายเป็นใหญ่เป็นโตแล้วเหยียดผู้หญิง หรือการล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงานมันก็มีอยู่จริง
และพวกไม่เก่งเลยเอาเพศตัวเองมาเป็นข้ออ้างว่าโดนเหยียดโดนแกล้งก็มีอยู่จริงเช่นกัน...
>>596 ไม่ต้องพูดถึงเรื่องดอง สมัยเรียน (รุ่นปี 2011) เราเป็นผู้หญิงหนึ่งในสามคนของรุ่น จับกลุ่มก็โดนผู้ชายเมิน เอาไปปรึกษาอาจารย์ (ที่ทั้งคณะมีแต่ผู้ชาย) ก็ว่าผู้หญิงคิดเยอะ คิดช้า ไม่น่าทำงานด้วยจริง พอมีโปรเจกต์ที่ต้องพรีเซนต์หน้าห้อง แต่งเครื่องแบบกระโปรงทรงเอ ปิดเข่ามิดชิดเรียบร้อยเสื้อไม่รัดติ้ว หุ่นปกติ ยังโดน sexual harassment กลางคลาสเป้นเรื่องโจ๊กเลยค่ะ
พอทำงาน ไม่แลตาที่จะทำในไทยเลย ไปหา บ.เกมจีบหนุ่มในญี่ปุ่นที่ชอบเล่นแทน ฟลุ๊กได้ด้วยตั้งแต่ที่แรก 55 นั่งทำงานสวย ๆ (ปนหัวยุ่งนิด ๆ แต่ไม่มีเรื่องคนร่วมงานหรือปัจจัยอื่นมากดดันอย่างตอนเรียน เน้นฝีมือล้วน ๆ) นั่งเช็ค QA การทำงานของแอพ iOS และแก้ไข กับแปล/พรูฟเกมเป็นภาษาอังกฤษ
ได้ 3-5 โปรเจกต์ต่อเดือน โปรเจกต์ละสองแสนเยน มีโบนัสให้ 10-15% ทุกสามเดือน พอกลับไทยมาทำธุระยาว ไม่มีปัญหาใด ๆ ยังทำงานส่งออนไลน์ได้
ฉะนั้น ตั้งใจต่อยอดที่ ตปท. สบายใจกว่าเยอะเลยค่ะ
>>603 กูจบจากคณะนี้มาก่อนที่มันจะค่าเทอมจะพุ่งไป 7 หมื่น รุ่นกูกับรุ่นพี่ก่อนหน้าระดับท๊อปๆก็มีทั้งผู้หญิงผู้ชายปนๆกันนะ
นับหัวคนทั้งคณะแล้วรุ่นกูผู้หญิงเยอะกว่าผู้ชายหน่อยๆด้วย
ไม่เคยได้ยินเรื่องเหยียดเพศกันในหมู่นักเรียน แต่อาจจะมีเรื่องอจารย์หรือ TA หน้าหม้อแสดงกิริยาแนวๆเต็มใจช่วยเด็กผู้หญิงมากกว่าอยู่บ้าง
ทีนี้มาเรื่องผู้หญิงทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์น้อย คือในคณะกูเนี่ยหลายคนที่จบมาเขียนโปรแกรมแค่ในระดับพอเขียนได้เอง
พอไปทำงานอาชีพนี้จริงๆมันไม่ใช่แค่เรื่องทำได้ แต่บางคนยี้มาตั้งแต่ตอนเรียนแล้วเลยไม่อยากทำ
ซึ่งแนวโน้มผู้หญิงจะยี้มากกว่าผู้ชายทั้งที่บางคนมันก็ทำได้ดีพอตัว กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม
อาจจะเกี่ยวกับเรื่องที่แนวโน้มผู้ชายจะสนใจเทคโนโลยีมากกว่าผู้หญิงก็ได้มั้ง
ถามโม่งหน่อยมีใครเป็นเดย์เทรดบ้างไหม
ส่วนตัวตอนนี้เทรดได้ 2-20% ต่อวันมีติดลบบ้าง แต่เฉลี่ยแล้วประมาณวันละ 6.5% (ตอนนี้เทรดเหรียญคลิปโต อยู่)
ใช่หน่วย 5 หลักกลางๆ เข้าไวออกไว แต่ถ้ามีเวลาดูทั้งวันจะลองใส่ 6 หลักต้นๆ แทน
คือแบบนี้มันพอที่จะออกจากงานแล้วไปนั่งเทรดรายวันหรือยัง ตอนนี้มันขาขึ้นเทรดได้เรื่อยๆ ทุกวัน
แต่ลึกๆ กุกลัวเวลาขาลงแล้วจะเทรดไม่ได้น่ะ
หัวหน้ากลุ่มงานนี่ใหญ่ระดับไหนวะ เห็นข่าวล้วงสาวลูกจ้างแล้วสงสัย คนล้วงเพิ่งอายุแค่ 40 เอง
มาทำงาน 7 โมงเช้า เลิกงานเช้ากว่าใคร ยังโดนด่าไม่ทำงานได้ นี้กูคงพยายามไม่พอสินะ
>>614 เดี๋ยวนะ มึงเลิกงานช้ากว่าคนอื่นใช่ป่ะ แต่ยังโดนด่า กูว่ามันไม่ใช่ปัญหาของมึงแล้วมั้ง ถ้ามึงเต็มที่ทำงานเสร็จเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว ให้แม่งบ่นไปเหอะ ทำไมต้องไปยอมทำร้ายตัวเองเพื่อใครก็ไม่รู้วะ ต่อให้มึงทำงานตายเพื่อบริษัท แม่งก็ไม่มาร้องไห้หรือจัดงานศพให้หรอก
https://scontent.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/11350641_1448318988816591_187238678226495598_n.jpg?oh=bc87e2936bc7354f7928ff2fd5a7a271&oe=5A325623
กูกระจอกอ่ะ พยายามเท่าไหร่ความสามารถก็ไม่กระเตื้อง เด็กที่เพิ่งเข้ามาใหม่แม่งแซงกูแล้วอ่ะ กูโดนไล่ออกแน่ๆ
>>595 ชิปหาย จบป.ตรีมาหางานไมได้ เพื่อนแม่งไปกรุงเทพฯรับเงินเดือน 15,000 กันหมด ส่วนตัวเอง ทำงานโรงงานแถวบ้าน รับ 310 บาท เรากลับรู้สึกว่า มันคุ้มกว่าที่ว่าเราไม่ได้เสียเงินค่าเดินทาง ค่ากินอะไรมาก แต่กลับรู้สึก อิจฉาคนอื่นที่ได้เงินเดือนเยอะกว่า แต่จะให้ไปทำ 15000 ไกลบ้านแถมไม่รู้ว่าค่ากินค่าอยู่จะเหลือเท่าไรอีก...
เครียด...
ถ้าหักค่ากิน ค่าที่พัก เดินทาง เผื่อๆได้น้อยกว่าอีก เพียงแต่งานมันอาจจะโตกับไปได้ไกลกว่าอะ ฉะนั้นถ้าทำอยู่แถวบ้าน ถ้ามันไปต่อเพื่ออัพเงินเดือนไม่ได้ก็ต้องหาโอกาสใหม่ หรือหางานเสริม เช่นขายของออนไลน์ หรืออาหารตามแต่เวลากับงบอำนวย
แล้วแต่สายงานว่ะ แต่กทม มึงจะอยู่แบบกลางๆ หรือแบบถูกๆ ก็อยู่ได้ ถ้าขยันจะเรียนพวกภาษาก็หาที่เรียนง่าย
เงินเดือนแรกๆ ไม่ค่อยต่าง แต่พอผ่านไประยะห่างมันจะกว้างขึ้นเรื่อยๆ
เห็นมีโม่งข้าราชการมาบ่นบ่อยๆว่างานหนัก เลยอยากลองถามความก้าวหน้าดูบ้าง เอาแบบสอบติดตอนอายุน้อยแล้ววิ่งเข้าหาผู้ใหญ่เต็มที่(แต่ไม่จ่ายเงินซื้อตำแหน่ง) จะมีโอกาสก้าวหน้าไปถึงขั้นไหนวะ
>>621 ปรกติแล้วการเข้าหาผู้ใหญ่เค้าทำกันเพื่อย้ายมาทำงานแถวบ้าน และปรกติแล้วถ้าไม่ใช่จุดที่ผลตอบแทนเยอะแบบผิดปรกติ
ผู้ใหญ่จะย้ายให้ฟรี (อาจจะเสียเงินค่าของฝากให้เอ็นดูบ้าง แต่ไม่ใช่ยัดเงิน) ตัวใหญ่ๆ ส่วนมากใจดีมากนะ ไม่งั้นคุมคนไม่อยู่
และเค้าช่วยคนในพื้นที่เดียวกันอยู่แล้ว ส่วนความก้าวหน้า เห็นข้าราชการแบบนั้นแต่ระบบภายในแข็งแรงนะ มันต้องหมั่นทำผลงาน
หรือสอบเอา ถ้ามันแต่อยู่นิ่งๆ เช้าชามเย็นชาม เงินเดือนจะตันไม่ทะลุกำแพง ถึงแก่ไปตำแหน่งก็ไปได้ไม่ไกล
ห้องนี้ได้ใช่มั๊ยนะ
กูจบเอกญี่ปุ่น แต่สอบได้แค่N3(N2แม่งตกเฉียดๆผ่าน ล่าสุดที่ประกาศก็สามรอบแล้ว) มีงานอะไรที่กูทำได้บ้างวะ ที่ไม่ใช่ล่ามกับเซลล์ สกิลพูดกูกากมาก
ตอนนี้ช่วยงานที่บ้านอยู่ เพราะตอนแรกที่บ้านอยากให้เรียนต่อ แต่ไม่ต่างอะไรกับNEETเลย กูอายุเบญจเพศแล้วด้วย(จบช้าเพราะแลกเปลี่ยน+ซิ่ว)
กูทำงานรายวันมาได้ปีกว่าละ ตกเดือนละไม่ถึง8000แต่ใกล้บ้านนะวันไหนงานหมดก็กลับบ้านแต่หัววัน หยุดเสา ทิต
ทีนี้กูเลยอยากลองย้ายไปทพงานโรงงานเงินออกเป็นวีคอ่ะมึงเข้ากะเอา เงินน่าจะเยอะกว่าที่ทำอยู่แต่มันไกลบ้าน หยุดเสาทิตเหมือนกัน บางเสาร์ต้องมาทำโอ กูลังเลจังเลยว่ะ เครียดด้วย
>>626 ไม่มีทุนนี่กูไม่แนะนำเท่าไหร่นะ เพราะส่วนมากมึงก็ต้องจ่ายไปก่อน
กูขายเป็นครั้งคราว ยังรู้สึกลูกค้าแม่มรับมือยาก
ของกูนี่เลย ลูกค้าแปะราคา lazada มา แล้วถามกูว่า หาถูกกว่านี้ได้มั้ย
กูก็ดูๆ เออ พอได้ว่ะ กำไรน้อยหน่อย แต่ก็ไหว
พอของส่งมาแม่ง lazada ลดอีก ลูกค้าบอก lazada ถูกกว่าแล้ว 555
คราวหน้ากูจะเก็บมัดจำเยอะกว่านี้ T_T
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1926017630996680&id=1544278182503962
อ่านโพสนี้แล้วนึกถึงระบบราชการ ที่เปิดโอกาสให้นักการเมืองมาสั่ง
แต่เอกชนมีอะไรแบบนี้ป่าววะ แบบมีเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารโง่ๆมาคอยสั่งเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับองค์กร
แล้วคนระดับหัวหน้าต้องมาสั่งลูกน้องอีกที
จริงๆกูว่าสังคมทุนนิยมคนเก่งจริงแม่งไม่ต้องทนโดนเจ้านายกดขี่หรอก ถ้าเก่งจริงเจ้านายต้องง้อด้วยซ้ำ ย้ายงานไปที่ บ อื่นก็ได้ หรือตั้ง บ เองก็ยังได้ คือต้องฝึกทำไห้ตัวเองเก่ง แล้วจะไม่ลำบาก ทุนนิยมเป็นโลกของคนมีความสามารถ
อยากรู้ว่าสอบราชการทีนึงนี่คนสมัครเยอะเสียค่าสอบไม่ใช่น้อยๆเงินของพวกสอบไม่ติดเขาเอาเงินส่วนนี้ไปไว้ที่ไหนอ่ะ ไว้จ่ายให้พวกสอบติดอ่อ
ขอสอบถามหน่อยโม่ง
คือกุสมัครงาน PTT ICT เล่นๆดันเรัยกสัมภาษณ์แต่กุคุณสมบัติไม่ถึงซักอย่าง
-TOEIC กุไม่มีเลย
-เกรดตอนป.ตรีห่างจากที่เขาตั้งไว้มาก
-อายุงานก็ไม่ถึง
มีอย่างเดียวคือเคยทำงานในสายนั้นๆมา ถ้ากุไปยังไงๆจะโดนเทป่าววะ T_T
PTT ICTนี่แม่งทำงานITประเภทไหนวะ? คล้ายๆกับKBank Tech ของกสิกรมั้ย?
>>644 มันเป็นการกรองคนที่ตั้งใจได้ระดับนึง แล้วอย่าคิดว่าค่าใช้จ่ายมันน้อย เงินเดือนคนออกข้อสอบกับคนให้คะแนนก็ไม่ใช่น้อยๆ คนสอบน้อยก็ใช้เวลาตรวจน้อย ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ
เอ้า ต่อให้มันได้กำไรก็เหอะ สุดท้ายมันก็หมุนวนไปเป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาคุณภาพมหาลัยป่าววะ ให้มหาลัยมันดียิ่งขึ้นๆสมกับที่พวกมึงยอมจ่ายค่าสอบเพื่อให้ได้ไปเรียน คิดแบบองค์รวมดิ
แล้วจริงๆที่สอบหลายรอบเพราะคิดว่าค่าสอบถูก เลยไปสอบแบบไม่พร้อมทำให้ได้คะแนนน้อยไม่ใช่เรอะ ลองแพงแบบ toeic toefl ดิ จะกล้าลงเล่นๆไม่ยอมเตรียมตัวแบบนี้มั้ย
มีโม่งคนไหนเคยทำงาน Garen** บ้างป่ะ บรรยากาศโอเคมั้ย สังคมเป็นไง
เพิ่งถูกให้ออกจากงานว่ะ เพราะกากเกิน รู้สึกสิ้นหวังในความสามารถตัวเองเหี้ยๆเลย
มีพี่ๆคนไหนทำงานลอว์เฟิร์มไหมคะ รีวิวหน่อยยยย
กูเพิ่งทำงานพลาดติดๆกันมา 4 ครั้งว่ะ ที่แย่คือเพิ่งเปลี่ยนหัวหน้าใหม่ เวลาตรวจงานเค้าก็ยังมึนๆอยู่
คือตอนแรกเค้ายังดูเชื่อใจกูอยู่ แต่พอทำพลาดครั้งแรกหัวหน้าใหม่ก็มองกูแย่แล้ว
แถมยังทำเค้าซวยไปด้วยอีกเพราะมันหลุดไปถึงแผนกอื่นแล้วเค้าเฉ่งกลับมาจนหัวหน้ากูโดน director เฉ่ง ว่าทำไมไม่ตรวจงานให้มันดีๆ
ทั้งที่ในทางปฏิบัติด้วยจำนวนงานที่ต้องตรวจและความที่ยังใหม่จะให้เค้าตรวจแล้วคาดหวังว่าจะเจอจุดผิดก่อนมันก็ไม่ได้
ครั้งแรกคือยังพอว่าเพราะว่าแค่รู้ตัวช้าว่าพลาดเลยขอเพิ่มเวลาก่อนส่งให้เค้าตรวจ
ครั้งที่ 2,3,4 นี่คือมาติดกันรัวๆตอนส่งไปถึงแผนกอื่นแล้ว คือไม่รู้ว่าช่วงนั้นกูเบลอ หรือกูประมาทโดยไม่รู้ตัวเพราะงานไม่มีปัญหามานาน
ครั้งสุดท้ายคือแก้กันเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมาพอดี วันจันทร์ที่จะถึงนี้น่าจะโดนเช็คบิลแล้วล่ะ
ไม่รู้จะโดนอะไรบ้าง แต่ทำผิดรัวๆขนาดนี้กูก็คงต้องรับแบบไม่มีอะไรแก้ตัว
https://www.matichon.co.th/news/651219
สมัครกันครึ่งล้านเลยวุ้ย
มันสบายเหรอวะไอพนักงานส่วนท้องถิ่นอ่ะ
กูอย่างน้อยก็เลิกงานตรงเวลา เสาร์อาทิตย์ไม่ต้องทำงาน
แถมรายได้ดีด้วยนะ ข่าวผอ.กองการศึกษาที่โดนอุ้มหายก็เห็นลือว่าเพราะปล่อยเงินกู้นี่
ท่าทางจะรายได้ดีจริงๆ
กูเห็นในเอกสารประกอบเงินอยู่ราวๆ 10000นิดๆเองนิ?
โดนปฎิเสธ6 ที่แล้วรู้สึกหมดไฟในกาคหางานแล้วว่ะ
เมิงงงง กูแม่งเบื่อมากกกก
อีพี่ที่ทำงานแม่งบ่นกรอกหูทุกวัน งานลำบากๆๆ จะออกๆๆ จนกูรำคาญ กูเหม็น กูอยากลาออกมาก
อันที่จริงกูก็ตั้งใจจะออกเหมือนกัน แต่กูหางานใหม่อยู่เงียบๆไง แล้วเสือกเลือกเยอะ ของแดกน้อย ตึกไกลบีทีเอส ก็ไม่เอาเลยไม่ได้สักที แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้วว่ะ ใจก็ไปนานแล้ว แถมโดนกรอกหูแบบนี้ทุกวันๆ
กูควรยื่นเลยไหม(กูก็สมัครสอบพนงส่วนท้องถิ่นที่พวกเมิงพูดถึงข้างบนไปเหมือนกัน แง่ดีก็ออกมาเตรียมตัวด้วย) หรือกูใจเร็วด่วนได้ไป
เร็วๆนี้ที่ออฟฟิศจะมีโปรเจคใหญ่ด้วยแหละ คงยุ่งๆ ถ้ากูชิงออกจะโดนไรป่าววะ
https://thematter.co/thinkers/do-we-need-connection/34214
ทำงานในบริษัทเอกชนไทยก็จำเป็นต้องมีป่าววะ หรือจำเป็นเฉพาะหน่วยงานราชการ
ปรกติเลียนายยังไงกันมั่งวะ มาแบ่งปันเทคนิคกัน
มีใครทำพวกออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง ออนไลน์เอเจนซี่บ้างมั้ย อยากเปลี่ยนงานอยากรู้ว่าดีมั้ย
ธุรกิจสีเทา ตามที่ท่องเที่ยวนี้งานอะไรวะ เห็นเพื่อนไปทำแต่มันไม่บอก มีOT ด้วย คนคุมซ่องปะ
ไอสัสกูมีเรื่องมาเล่า กูเป็นจนท.สถานทูตประเทศหนึ่ง เมื่อกี้มีคนมายื่นขอวีซ่า แต่เอกสารเหี้ยไรไม่มีเลย ยังกะมาตัวเปล่า กูก็เลยบอกให้กลับไปก่อน แต่เหมือนมันมีอะไรบางอย่างกับกู เอาซองจดหมายเล็กๆมาให้กู กูว่ามันต้องเป็นอะไรสำคัญแน่ๆ ช่วงนี้ยิ่งเคลียดๆอยู่ เงินไม่ค่อยพอแดก ไอ้สัส พอเปิดอ่าน แม่งเป็นจดหมายรัก 5555555 บอกว่ากูร้อนรุ่มดั่งเปลวเพลง อยากได้กูมาครอบครอง ให้ผมผ่านรอบหน้าด้วยครับ ที่เหี้ยหนักกว่าคือคนให้แม่งเป็นลุงหนวดหน้าดำๆ กูฮา
กูเครียดเรื่องงานจนเก็บเอาไปฝันเลยว่ะ แบบทำงานพลาดไม่อยากทำงานต่อแล้ว อยากลาออก พอตื่นมาก็รู้สึกแย่มากเลย
ในความเป็นจริงูก็อยากลาออกจริงๆนะด้วยหลายปัจจัยแต่อีกใจก็ชอบที่นี่มากเหมือนกันในแง่สังคม แต่กูเองก็รู้ตัวว่ามีแนวโน้มที่จะไม่ผ่านโปรด้วย กูเลยไม่แน่ใจว่าที่กูไม่อยากทำต่อเป็นเพราะกูรู้ว่ากูจะไม่ผ่านโปรหรือกูไม่ชอบงานจริงๆกันแน่ กูจะทำไงให้สามารถมีไฟไปทำงานได้อีกวะ ตอนนี้เฟลจากฝันมากเลย
รู้สึกว่าการที่ตัวเองเป็นโสดนี่ช่วยในการทำงานได้โดยตรงเลยว่ะ แบบว่ามีเวลาพร้อมสำหรับงานได้ทุกเมื่อ
เวลาหัวหน้าต้องการตัวด่วนๆ หรือส่งไปอยู่สาขาอื่น คนโสดแบบกูจะเกิดปัญหาน้อยกว่าคนมีครอบครัวมากๆ
ปรึกษาหน่อยครับ ปัจจุบันอายุผมก็จะเข้าเลข3แล้วแต่งานที่ทำอยู่เงินยังไม่ถึง 20kเลย งานที่ทำก็เป็นพวกจัดการทั่วไปประจำวัน ซึ่งไม่มีทางโต้ลย
จึงมีความคิดอยากเปลี่ยนงานหรือทำอะไรก็ได้ที่สามารถหาเงินได้มากกว่านี้ แต่ปัญหาคือผมไม่รู้จะทำอะไรดีอะ
ผมเป็นประเภทเป็ดน่ะครับ คือทำได้หมดแต่ก็เชี่ยวชาญไม่สุดซักอย่าง ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร งานที่เงินดีๆเค้าก็จะเปิดเฉพาะทาง เพื่อนฝูงก็ไม่มากมาย คอนเนคชั่นไม่มี กิจการที่บ้านหรือญาติพี่น้องก็ไม่มีเช่นกัน จะลงทุนทำกิจการเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร+ไม่มีทุน
พอเลิกงานมีเวลาว่างก็คิดทุกวันนะว่าอยากทำอะไรซักอย่างให้มันดีขึ้น แต่ปัญหาก็ตามนั้นเลยครับคือไม่รู้จะทำอะไรหรือไปทางไหนดี กังวลเรื่องอนาคตด้วย ทำให้ทุกวันนี้เลยค่อนข้างจะรู้สึกหดหู่อยู่บ่อยๆ
เลยอยากปรึกษาหรือขอคำแนะนำท่านอื่นๆทีครับว่าผมควรทำยังไงต่อดีจากสถานการณ์ตอนนี้ดี ขอบคุณมากครับ
ทำไมตัองแปดวะ
กูงงตัวเองว่าทำไมเป็นคนที่กากจังวะ ทั้งๆที่มีความพยายามนะแต่ก็แพ้ตลอดเลยอ่ะตั้งแต่เด็กละ เรื่องงานก็ไม่มีไรโดดเด่นเลย(สายกราฟฟิก)เปลี่ยนสายงานก็ไปไม่รอด มันต้องมีสาเหตุดิที่กูกากอยู่หลายๆเรื่อง กูจะปรับปรุงตัวยังไงดีวะ
ยิ่งหางานไม่ได้นานๆยิ่งรู้สึกหมดไฟยังไงไม่รู้
ระหว่างงานที่ชอบ ทำ 6 วัน กับงานที่บรรยากาศในการทำงานดี ทำ 5 วัน แต่ไม่ชอบ เลือกอันไหนดีวะ เงินเท่ากัน
ได้ข่าวมาว่าปลัดอำเภอขาดอีก 500 อัตรา จะเปิดสอบอีก แต่คิดว่าคงไม่ใช่ปี 61 แน่
ตกลงยังไงกันแน่
ตอนนี้กูเป็นกราฟฟิกวาดกาตูนที่กำลังตกงาน ยื่นพอร์ทไปที่ไหนเค้าก็ไม่ติดต่อกลับมา อยากขอคำแนะนำเพื่อนโม่งหน่อยว่ากูควรทำไงหา หาเงินจากไหนดี ฟรีแลนซ์ปูไม่เคยทำเลยไม่รู้จะหาลูกค้ายังไง เขียนโดจินก็ไม่เป็น แต่ทำพวกคาแรคเตอร์ไรงี้ได้นะ
>>703 https://drive.google.com/file/d/0BxmO94d7ergETkQ0RmNmOTNUZ2c/view
หน้า 19 ข้อ 14 จะดำเนินการตามนั้นเลยหรือป่าว
มีพวกมึงคนไหนเป็นนักแปลบ้าง เริ่มแรกหางานกันยังไงหรอ
ปล.แปลอังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ, ญี่ปุ่น-ไทย
เครียดว่ะมึง ตกงาน หางานไม่ได้ สายทึ่เรียนมาก็เงินน้อย แม่งรู้งี้กผุน่าจะเลือกเรียนอะไรที่ได้เงินเยอะๆแทนเรียนสิ่งที่ชอบจริงๆ
ยังไม้ตกงานแต่ทำงานไม่ตรงสาย 310ไปวันๆ
>>710 ถ้าเงินเยอะแล้วไม่ใช่สิ่งที่มึงชอบก็อึดอัดนะมึง อีกกรณีคือเรียนแล้วไม่รุ่งเท่าเพื่อนเวลาสมัครงานมึงก็ไม่มีที่ทำงานคือเก่าล่ะ คหสต.นะ
ของกูตอนนี้กูมีปัญหากับบริษัทว่ะ กูลาป่วยทุกครั้งที่ลากุมีใบรับรองแพทย์ใบนัดแพทย์แต่บริษัทบังคับให้กูลากิจ ถือว่าบริษัททำน่าเกลียดไปมั้ยวะมึง
(กูรักษาซึมเศร้าอยู่ บริษัทพึ่งมาบอกวันกูลาว่ามันไม่ใช่เหตุป่วยทางกายอ่ะมึง)
มีใครในนี้จะสอบปลัดมั่ง
ไม่รู้ว่าถามถูกมู้มั้ยแต่ถามหน่อยว่าถ้าจบมาเงินเดือนสตาร์ทสัก20,000 บริหารยังไงถ้าต้องส่งหนี้ที่บ้านกับส่งน้องเรียนด้วย รับจ็อบเพิ่มกันหรือเปล่า
กูอยากซื้อกองทุนกับอยากออมไว้ให้ตัวเองใช้ตอนฉุกเฉินแต่ใจหนึ่งก็อยากโปะหนี้ให้หมดเร็วๆจะได้ลดภาระลงไปบ้าง
ย้ายงานแล้วเขารับเพราะหัวหน้ารู้จักกับคนในครอบครัว ทั้งๆที่ไม่ใช่สายของเรา แล้วมีญาติในที่ทำงานได้บอกกับญาติว่าเราจะทำไหวเหรอ รู้สึกหดหู่ว่ะ คนละสายงานแต่เสือกรับเรา จริงๆคาดหวังว่าเขาจะรับแบบเราทำงานได้แน่ๆแต่มาบอกว่าเราจะไหวเหรอ... คนที่ตั้งใจมาสมัครคนอื่นก็ไม่ได้งานเพราะเราไป
อ่านแล้วสงสัยอย่างหนึ่งว่า ถ้างานหนักขนาดนี้ทำไมไม่ลาออก หรือแกล้งป่วย ทำไมต้องทน
ถ้ามันไม่ไหวจริงๆก็เดินนหีออกมาจากทีตรงนั้นแล้วไปหางานใหม่ก็ได้นี่หว่า
ยิ่งเป็นญี่ปุ่นที่ค่าแรงสุง ขนาดทำงานร้านสะดวกซื้อยังเลี้ยงตัวเองได้สบายๆไม่เหมือนในไทย
กฏหมายญี่ปุ่นนี่ ถ้าเทียบกับบ้านเราคือล้าหลังกว่าเยอะ เวลามีเรื่องอะไรไม่ค่อยถึงตำรวจ คนมันถึงเก็บกด ชอบเงียบๆไว้
แต่ถ้าไกจินแค่ปั่นจักรยานนะเมิง วิ่งร้อยเมตรมาขอดูใบปั่นจักรยานเลย
ตอนนี้มันออกสองรูท รูทบริษัทที่อนุรักษ์นิยม ก็ตายคาบริษัทกันทีเรียกร้องให้เปลี่ยนกันที
อีกรูทคือเจนใหม่ เห็นพ่อทุ่มเทให้บริษัทแล้วไม่เหลืออะไร ตอนนี้ญี่ปุ่นฟรีเตอร์ไม่ทำงานบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ
บริษัทคนสมัครมันลดลง เพราะทั้งประชากรลด ทั้งเลือกจะไม่ทำงานบริษัท พวกเข้าไปได้ก็โดนเผาหัวกันไป ทำงานหนักกว่ารุ่นก่อนอีก เป็นวงจรอุบาทว์
ถ้าไม่แก้ก็ติดหล่มอยู่งี้แหละ ญี่ปุ่นเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่ติดหล่มระบบเศรษฐกิจและบุคลากรที่สุดแล้ว
เออ กูแนะนำเพื่อนที่ตกงานอยู่ให้มาทำงานเดียวกันกับกูแก้ว่างไปก่อน แล้วก็ให้ไปถามข้อมูลเพิ่มเติมจากรุ่นน้องที่ทำงานในบ.นั้น เพราะกูเป็นแค่ฟรีแลนซ์ที่รับงานมาอีกที ไม่ได้ทำในออฟฟิศโดยตรงไง อาจจะรู้ไม่หมด ไม่ทั่วถึง ทีนี้เพื่อนมันก็แบบไปของานจากรุ่นน้อง มันจะดีเหรอ เสียศักดิ์ศรีจะตาย กูเลยตอบว่าก็มองเขาว่าเป็นพนักงานคนนึงสิ แค่ถามข้อมูลเฉยๆเอง คือกูไม่เข้าใจว่ามันจะเสียศักดิ์ศรีขนาดนั้นเลยเหรอวะ แค่ถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจเนี่ยนะ ไม่ได้กำหนดให้ต้องไปบังคับ ไปร้องขอให้เขาเอางานมาให้ซักหน่อยนี่ ถ้าดูแล้วไม่คุ้ม ไม่ชอบก็ไม่ต้องทำ ง่ายๆแค่นี้เอง
ยังไม่ทันเริ่มก็บอกให้ยอมแพ้ จะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย...
พี่โม่ง ขอถามหน่อย พวกงานที่เขากำหนดให้มี good command in english นี่ต้องดีแค่ไหนถึงเรียกว่า good วะ
ถ้า toeic 850+ แต่สื่อสารไม่ค่อยแน่นเขาจะเอามั้ย
มึงงง กุเรียนจบมา 4 เดือนแล้วแต่ยังหางานทำไม่ได้เลยว่ะ อยากถามว่าปกติแล้วคนเราส่งเรซูเม่ไปกี่บริษัทกันวะมันถึงจะเรียก
กุโคตรท้อเลย แล้วไอ้เว็บ jobdb ไรนี่ถ้ามึงกด apply งานในเว็บมันจะไม่ค่อยถึงมือ hr จริงรึเปล่าวะ
กูไม่รู้อะไรคือปกติ แต่กูว่าตอนจบใหม่เป็นช่วงที่หางานง่ายที่สุดแล้ว สมัครงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ สมัครไป 3 ที่ เรียกสัมภาษณ์ทุกที่ ได้งานทุกที่ แล้วก็มาเลือกเอา เน้นสมัครแต่บ.ใหญ่ที่ระบุชัดเจนกว่ายินดีรับเด็กจบใหม่ ในทางกลับกันพอจบมาหลายๆ ปีแล้วสิหางานยากชะมัด ตัวเราอายุมากขึ้นผ่านอะไรมามากขึ้นก็เรื่องมากมากขึ้นด้วยล่ะนะ ในทางกลับกับบริษัทก็คาดหวังมากขึ้น ประสบการณ์ก็มีทั้งตรงสายและไม่ตรงสาย
>>736 กูคิดถึงพี่คนนึงในทวิตที่เล่าเรื่องหางานหลังจบใหม่ พี่แกจบฬ. เกรด 3 กว่า เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว
หลังจบพี่แกสมัครไปเป็นสิบๆ ที่ แต่ก็ไม่ได้ซักที่ งานแรกที่ได้ทำนี่คือพี่แกไปขอเค้าทำฟรีเดือนนึงอะ
กูมาให้กำลังใจมึงนะ คือมันก็มีคนที่จบมาแล้วหางานไม่ได้ซักทีเหมือนกันทั้งๆ ที่เป็นคนมีความสามารถอะ
มึงอย่าท้อ กูเชื่อว่ามึงจะได้งานดีๆ ซักวันแน่นอน ขอให้มึงได้งานเร็วๆ นะ
จบมาสองปีทำงานไม่ตรงสาย ลงทุนกับครอบครัวทำเกษตร แต่ทางบ้านก็ไล่ให้ไปทำพวกข้าราชการหรืองานที่มันมั่นคง เพิ่งย้ายงานได้ 5 วัน ลาออกเพราะไม่ตรงสาย คือไม่ใช่ตัวเราเลย
ท้อแท้ เศร้ามาก
กุ >>734 นะ ขอบคุณพวกมึงมาก ๆ คือที่บ้านกุก็กดดันมาก ด่าตลอดว่าแบบส่งเสียมาถึงขนาดนี้แล้วทำไมทำไม่ได้ ประกอบกับคนอื่นมันได้กันหมดแล้วอ่ะ บ.ดี ๆ ด้วย เลยกำลังคิดอยู่ว่ากุกำลังหลงทางอะไรในชีวิตรึเปล่าวะ ยื่นไปหลายที่ไม่มีที่ไหนตอบกลับมาเลย แต่ไม่เป็นไร ขอบคุณพวกมึงมากจริง ๆ นะ กุจะสู้ต่อไป
กู ฝันถึงวันที่โดนไล่ออกอีกละ ประกอบกับยังหางานไม่ได้ช่วงนี้เลยฟุ้งซ่านเอามากๆเลย กูเหนื่อย กูท้อใจ บางทีก็คิดนะว่ารู้งี้ไม่น่าออกจากคอมฟอตโซนมาเรียนรู้อะไรใหม่ๆเลย มีงานที่ดีที่ชอบอยู่แล้วแท้ๆ ก็ออกมาเฉยเพราะอยากเรียนรู้ อยากได้ความรู้เพิ่มเติม สุดท้ายทำไม่ได้ที่ใหม่ก็ให้ออก โหวงเลยกู โหวงเหี้ยๆ
ถ้าส่งพอร์ตปบริษัทที่ชอบแล้วเค้าไม่ติดต่อกลับมา แต่กูอยากทำงานกะเค้ามากกูส่งพอร์ตไปใหม่จะน่าเกลียดมั้ยวะ
ควรเว้นช่วงนะ หลายเดือนหน่อย ถึงจะส่งไปอีกที
ระหว่างนี้ก็ปรับพอร์ตให้ดีขึ้น ให้ดูกระชับและน่าสนใจกว่าเดิม
>>740 อย่าไปซี ยังมีอีกหลายคนที่เตะฝุ่น(เราคนนึง) หาอะไรที่พอทำได้ทำไปก่อน จะได้ไม่เป็นภาระที่บ้าน เน้นและย้ำให้ทางบ้านเข้าใจเถอะว่ามันไม่ใช่สายเรา อธิบายให้เขาเข้าใจด้วยว่า สายราชการมันไม่ได้เหมือนสมัยเขาแล้ว มันเอาตัวรอดได้ยากกว่าในปัจจุบัน เดี๋ยวก็คงเข้าใจเองแหละ
พอร์ตดีๆไม่รู้ก็สมควรที่เค้าไม่รับละมั้ง
>>748 ถ้ารู้ก็ช่วยแนะนำมันลำบากมากมั้ย ที่ทำอยู่ยังไม่แน่ใจว่าดีพอรึยังอยากเห็นของที่คนอื่นคิดว่าดีแนะนำมาบ้างนี่มันทำให้มึงเดือดร้อนอะไรขนาดนั้นเลยหรอ
แล้วที่มึงพูดเนี่ย ช่วยอะไรใครได้บ้างมั้ย ก็ไม่เนอะ ไม่ช่วยแล้วยังกวนให้เสียอีกทำไมคอมเม้นแบบนี้มีเต็มโม่งเลยวะ ถามไรมาก็ประชดกันแบบนี้เนี่ยชีวิตจริงมึงเก็บกดหรอ
>>747 ก็เขียนดีๆ เป็นทางการ ไม่ทำเล่นๆ ทำให้ดูเป็นคนมีความรู้ น่ารับเข้าทำงาน เคยผ่านงานอะไรมาบ้างกิจกรรมอะไรบ้างที่มันมีประโยชน์กับการทำงานนะ ไม่ใช่กรอกไปว่าเคยร่วมกิจกรรมเก็บขยะกับมหาลัยอะไรแบบนั้น ใบประกาศทั้งหลายแหล่ก็ไม่ต้องยัดเข้าไปบ้าง พิมพ์ไทยให้ถูก ทำเป็นสองภาษาก็ยิ่งดี (ตรวจทานดีๆด้วยว่าพิมพ์ผิดหรือเปล่า) ก็ประมาณนั้น เน้นและย้ำว่าอย่าไปทำแบบกวนตีนๆ หวังให้แปลกกว่าชาวบ้านจะได้เป็นที่น่าสนใจ บอกเลยไม่น่าสนใจ มันน่ารำคาญ
มีเพื่อนโม่งที่ไหนองค์กรการเมืองค่อนข้างแรงบ้าง
เขาส่งไลน์มาให้แก้แต่กุบอกเขาให้ส่งเมลบอกหัวหน้ากุ อยู่ๆกุเข้าไปแก้ไม่ได้ต้องให้เขาส่งเมลไปโวยวายในลูปใหญ่
คุยกับคนอื่นเขาบอกกุทำถูกแล้วเขาอ่อนเกมการเมืองเพราะเป็นคนหน้างานมาก่อน
กุรู้สึกผิดเลวว่ะเหมือนไปเสี้ยมให้เขามาตีกับแผนกกุ(ซึ่งกุไม่ชอบใจ) แล้ววิธีการนี้แม่งเกือบกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรไปแล้ว
ซื้อหนังสือพัฒนาตนเองเรื่องการทำงานมาอ่านสองเล่ม
แต่พอมาทำงานจริงๆกูรู้สึกว่าสิ่งที่หนังสือเขียนไว้ มันเป็นเรื่องที่คนทำงานก็รุ้อยู่แล้วว่ะ
เพียงแต่เวลาทำงานจริงมันมีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่เชิญชวนคนในองค์กรให้อยากทำงานออกมาดี
อย่างตัวกูเองเนี่ย กูทำงานที่ผลตอบแทนสูงมาก และสายงานของกูสามารถเติบโตได้ไกลมากถ้าทุ่มเทพอ
แต่พอมาทำจริงๆกูรู้สึกว่าไม่อยากเติบโตว่ะ เพราะการเติบโตในสายงานมันมีสิ่งที่ต้องเสียไประหว่างทางเยอะ
โดยเฉพาะเวลากับความเครียด ตอนนี้กูรู้นะว่าตัวเองยังทำงานได้ไม่ดีพอ แต่ก็ไม่คิดจะปรับเปลี่ยนตัวเองว่ะ
กูรู้ตัวว่าต้องการเวลาส่วนตัวและรับมือกับความเครียดไม่ได้ เพราะงั้นแทนที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อให้โตในสายงานปัจจุบัน
กูยอมเปลี่ยนไปหางานอื่นที่รายได้น้อยกว่าและการเติบโตน้อยกว่า แต่อยู่แล้วไม่เสียสุขภาพจิตและมีเวลาของตัวเองมากขึ้น
คนเก่าๆยุค Babyboom จะสอนว่าให้ขยัน ตั้งใจทุ่มเท จะได้เป็นเจ้าคนนายคน แต่เด็กรุ่นหลังมันคิดว่าจะทุ่มเทให้เนี่ย ผลตอบแทนมันคุ้มมั้ย
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสื่อบันเทิงด้วยรึเปล่านะ แต่ยุคหลังๆความบันเทิงมันหาง่ายและคุณภาพดีกว่าสมัยก่อน อินเตอร์เน็ต เกมส์ หนังBD
แทนที่จะเอาเวลาไปให้บริษัทสู้หาความสุขใส่ตัวดีกว่า
กูกลับว่างานที่สนุกนี่เกินฝันในสำหรับคนทั่วไปวะ ปกติงานก็คืองาน ต้องก้มหน้าก้มตาทำไป งานที่ไม่เครียดไม่กดดันเลยก็มักจะน่าเบื่อ เวลาสนุกคือเวลาว่างที่มีอิสระจะทำอะไรก็ได้ ดังนั้นกูเลือกงานเพราะเงินเป็นหลักเลย
มันคืองาน มันไม่มีคำว่าสนุกหรอก อย่างมากก็ได้ความท้าทายและฟินเวลาแก้ปัญหานั้นได้ กูเคยเป็นฟรีแลนซ์เพราะอยากทำสิ่งที่รัก ตอนนี้กูจับปากกาวาดรูปอาทิตย์ละครั้งได้ passionที่เคยแรงๆเมื่อตอนเรียนจบแม่งมอดได้เฉย
เปลี่ยนมารักเงินเอาก็ได้มึงแล้วไฟจะไม่ดับมอด
เฮ่อขอกูมาระบายหน่อยละกัน กูไม่รู้จะระบายกะใครคุยกะเมียก็ไม่ได้คนล่ะสายงาน กูพลาดเองมั้งที่ไม่ศึกษาระบบงานกับหลีดที่กูต้องทำงานด้วยก่อนว่าเฮี่ยขนาดไหน (ใครจะรู้ฟะตอนสำพาดแม่งมันก็แค่บอกว่าเราใช้โปรแกรมเฉพาะด้วยอีกตัว กูก็ไม่นึกอะไร)
บอกเลยกูเป็น piping material engineer คือปกติสายงานกูทำเท็คนิคอล tbe, spec, data sheet, mto, ตรวจใบเซอร์ นู่นนี่
ส่วน pdms ให้แอดมินดูไป
ทีนี้ปัญหาคืออีโปรแกรมเนี่ยหลักๆมันคือโปรแกรมที่มึงต้องคีย์ spec ใส่แล้วให้มันทรานเฟอร์ไป pdms แล้วทราเฟอร์ข้อมูลจาก pdms กลับออกมาเป็น mto เพื่อดึงออกมาเป็นรีพอร์ต mto, insulation, db, spare อารมณ์ประมาณมึงไม่ต้องมานั่งเอาใส่ตาราง excel นั่งทำสูตรแคล ดูดีมะ?
แต่ความเป็นจริงคือโปรแกรมมันกาก มันไม่เคยแคลตรงกับข้อมูลเวลากูดึง mto ดิบออกมาจาก pdms มาแคลเองเลย
ผู้ใหญ่ก็ไม่เชื่อถือโปรแกรม จบที่ทำรีพอร์ตจากโปรแกรมเสร็จกูต้องมานั่งแคลใน excel อีกว่าถูกไม้ สัดกูก็บอกไปว่างั้นพี่จะเอารีพอร์ตจากโปรแกรมไปทำไมฟะ ไม่ทำสูตรแคลใน excel ออกรีพอร์ตก็จบแล้ว
คำตอบคือไม่ได้!!! มึงต้องออกรีพอร์ตจากโปรแกรมเท่านั้น อ่าวเฮี่ยก็โปรแกรมมันผิดอ่ะ มึงก็ทำให้ถูกสิหลีดกูกล่าว...สัดหมามากๆกูต้องมานั่งตัดแปะ รีพอร์ตจากโปรแกรมกากๆให้ถูกอีก!!! โคตรเสียเวลา
แล้วหลีดกูก็ไม่คิดจะแก้ปัญหาไม่คิดจะทำงานนั่งเป็นตอไม้ไปวันๆสัด สโคปงานแม่งไม่ชัดเจน จนตอนนี้กูถูกลืนเข้าไปรวมกับทีมแเอดมิน pdms ด้วย!!!
แล้วโดนนั่งว่างมาเป็นเดือนแล้วสัด เพราะกูทำ pdms ไม่เป็น ผิดที่กูไม้เนี่ย
กลับบ้านก่อนว่างๆจะมาต่อ
>>761 หนักยิ่งกว่าเดิมอีกมั้ง ตอนกูเข้ามาทำงานใหม่ๆกูไฟแรงมากเลยนะ โลกสวยสัสๆ สู้เต็มที่อยากเปลี่ยนอะไรให้มันดีขึ้น
ตอนนี้กลายเป็นหมดไฟแล้วว่ะ พอคิดถึงเรื่องเงินก็ทำงานแค่ไม่โดนด่าให้มันผ่านๆไปแล้วสิ้นเดือนรับเงิน
สภาพองค์กรที่กูอยู่มันไม่เอื้อให้เด็กใหม่มีกำลังใจในการสู้งานเท่าไร
สงสัยมานานละ คนที่เงินเดือนสูงๆ แต่งานสบายมากนี่ส่วนมากทำอะไรกันเหรอ
นับเฉพาะระดับ staff นะ เพราะถ้าขึ้นไปถึง management level มันก็ต้องเงินเดือนสูงอยู่แล้ว
กูมีเพื่อนหลายคนที่ได้เงินเดือนเกิน 5 หมื่นตอนอายุยี่สิบกว่า แต่ทุกคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่างานหนักชิบหาย ไม่หนัก physically ก็หนัก mentally ของกูนี่เหมาสองเลยโหลดงานก็หนักความกดดันก็เยอะชิบหาย -*- เวลาเล่นเน็ตเห็นคนบอกว่าเงินเดือนเยอะแต่ว่างมาก สบายมาก เบื่อ ทำไงดี บางทีกูก็แอบสงสัยแม่งทำอะไรกันว้า อิจฉาเว้ย
กูว่ากำลังจะหางานใหม่ว่ะ แต่กลัวว่าที่ใหม่เขาไม่รับกุ กลัวว่าตัวเองไม่มีค่า อยู่ที่ทำงานที่นี่เรียกได้ว่าอยู่ต้นๆ ของวงการ แต่กูรู้สึกตัวเองไม่เก่ง โดนดอง กลัวต้องดักดานแค่เงินเดือนสองหมื่นไปทั้งชีวิต คือในหัวตอนนี้กูตีกันอยู่อ่ะ ระหว่างมึงเก่งนะ กับมึงห่วยนะ
>>773 กูก็เคยคิดอย่างมึงนะ กูเลยมองว่าตัวเองเก่ง แต่คนอื่นเขาไม่ได้มองงั้นอ่ะ สุดท้ายมุมมองเราและความสามารถเรามันต้องสัมพันธ์กันด้วย ไม่งั้นก็กลายเป็นพวกหลงตัวเอง ซึ่งปัญหาคือเราจะรู้ได้ไงว่าเราเก่งจริงๆไม่ได้มองว่าตัวเองเก่ง ปัจจุบันกุยังตอบตัวเองไม่ได้เลย เพราะหลายคนก็บอกว่ากุเก่ง กุก็คิดว่ากุเก่ง แต่พอหางานหรือเปิดรับฟรีแลนซ์ก็ไม่เห็นมีใครจ้าง คนที่ดูกากกว่ายังไปได้ไกลกว่าอีก ปัจจุบันนี้กุก็ไม่รู้ว่ากูประเมิณตัวเองสูงไปรึเปล่า
ฮา กูก็(คิดเองเออเอง)ว่ากูเก่งพอประมาณ แต่สมัครงานที่ไหนก็ไม่ได้ 5555 ไม่รู้ว่าจริงๆ กูอ่อน รึ resume กูดูแล้วกากๆ
เอาไปเทียบกะคนอื่น.....กูก็ว่ากูเก่งอยู่นะ แต่เอาเหอะ ไม่มีคนจ้างกูทำของตัวเองก็ได้วะ U_U
กูไม่ได้หมายถึงว่าให้พวกมึงคิดว่าตัวเองเก่งนะ เพราะการคิดแบบนั้น มันก็ไม่ต่างกับการคิดว่าตัวเองกระจอกหรือไม่มีค่าหรอก เพราะมึงจะหยุดการพัฒนาตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองเก่งเต็มประดา มึงต้องคิดว่าเราพร้อมที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดต่างๆ ชีวิตคนเราไม่มีที่สิ้นสุด มีอะไรหลายอย่างให้พลาด ให้เรียนรู้อีกเยอะ ถ้ามึงสมัครงานแล้วไม่ได้ ันก็หลายปัจจัย ไม่ตัวมึงก็ตัวบริษัท ถ้าตัวมึงเอง ก็มาคิดดูว่ามันเป็นเพราะอะไร เพราะผลงานมึงยังไม่ดี หรือพรีเซนต์ตัวเองไม่ดี ก็เอาไปคิดทบทวน แล้วแก้ไขในครั้งต่อๆไป
และการคิดว่าตัวเองกระจอก ไม่มีค่า มันก็เหมือนการปิดกั้นตัวเองที่จะพัฒนาอีกนั่นแหละ เพราะมึงจะไม่กล้าที่จะทำอะไรสักอย่าง เพราะกลัวจะพลาด กลัวจะไม่เป็นอย่างที่มึงหวัง สุดท้ายชีวิตมึงก็ยังจมอยู่กับอะไรเดิมๆ ได้แต่โทษตัวเองไปวันๆ
พวกมึงไม่ได้ไร้ค่าหรอก แค่หลงตัวเอง คิดว่าตัวเองเจ๋ง ตัวเองเก่ง บอกคนอื่นว่ากากกว่าตัวเอง ก็ไม่ธรรมดาละ สมควรที่สมัครแล้วแป้ว
คนเค้าอยากได้คนทำงานเนาะ ไม่ได้อยากได้คนอวดเก่ง บรัยยยยย
>>770 >>771 ขอบคุณนะสำหรับข้อมูล
ออดิทนี่โหดมากเลยนะ เพื่อนกุที่อยู่ Big4 นี่บ่นทุกคน
เปลี่ยนมาเรื่องตัวเองเก่งไม่เก่ง เพิ่งรู้ว่ามีคนสับสนเหมือนกุด้วย กุทำงานที่ไหนก็มีแต่นายชมว่าเก่งๆๆ มีหัวพัฒนา หัวไว แต่กุกลับคิดว่าตัวเองกาก ไม่ค่อยกล้าที่จะออกไปหางานใหม่เพราะไม่รู้จะเจอกับอะไรอีกบ้าง จะรอดมั้ย ทำงานทุกที่กุกลัวไม่ผ่านโปรทุกที่ ทั้งที่ result คือผ่านแบบเกรด A ตลอด กุอยากเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองบ้าง แต่อีกใจก็กลัวจะกลายเป็นพวกมั่นใจในตัวเองแบบผิดๆ เหมือนคนบางคนในที่ทำงานกุนี่แหละ โคตรมั่นใจในตัวเองแบบไม่มีมูลฐานห่าอะไรเลย ทำงานกากชิบหาย กุต้องมานั่งตามแก้ตลอด คิดอะไรเองก็ไม่เป็น แต่มั่นสัสๆ ว่าตัวเองเจ๋ง ทุกวันนี้กุก็ยังคงไม่หายสงสัยว่านางไปเอาความมั่นใจมาจากไหน
เบื่องานที่ทำอยู่ว่ะ แต่เงินดีและตอนนี้ได้เจ้านายดี กูพลาดอะไรหลายอย่างแต่ก็ไม่โดนด่า จนรู้สึกว่าเค้ามีบุญคุณกับกู อยากทำงานตอบแทนเจ้านายคนนี้ไปก่อน แล้วมีโอกาสค่อยเปลี่ยนไปสายงานอื่นที่เงินน้อยลงแต่ไม่เครียดเท่างานปัจจุบัน
ขอถามอะไรโง่ๆ หน่อยนะ เรื่องภาษีมนุษย์เงินเดือนปีนี้
จากปีก่อนๆ ลดหย่อนขั้นพื้นฐานต่ำสุด (ไม่รวม PVF LTF ประกัน ฯลฯ ของใครของมัน)
30,000+60,000+ปกส9,000 รวม 99,000 ปีนี้กลายเป็น 60,000+100,000+ปกส9,000= 169,000 กูเข้าใจถูกต้องหรือไม่?
พอมาลองคิดดูเล่นๆ ปีนี้สงสัยจะลงมาอยู่ในฐาน 10 (ปีที่แล้วฐาน 15) แต่ไม่แน่ใจว่าคิดผิดรึเปล่า มันมีผลขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ดีใจ
โทษทีนึกออกละ ถ้าเข้าใจเรื่องสิทธิลดหย่อนแบบใหม่ไม่ผิดมันก็คือลดหย่อนเพิ่มมา 70k (จะคิดเป็นภาษีค่อย *10 *15 *20 ก็ว่ากันไปแล้วแต่ฐานใครฐานมัน) ลืมไปว่าปีนี้โบนัสยังไม่ออก ลืมคิดเรื่องโบนัส เอาเงินเดือน *12 ไปเฉยๆ ก็ว่าทำไมรายได้คำนวณภาษีปีนี้ตกไปอยู่ฐานสิบ แต่ถึงยังไงก็ดีกว่าเดิมล่ะนะ อย่างน้อยภาษีก็น่าจะหายไปเฉยๆ จากปีที่แล้วโดยไม่ต้องทำอะไรเลย 10500 (ถ้าเข้าใจไม่ผิดและคิดเลขไม่ผิด)
กุเมื่อต้นเดือนตกงานเลยไปแจ้งว่างงานกับประกันสังคมแต่พอมาปลายเดือนกุหางานได้แล้ว ยังไม่ทันวนถึงรอบเดือนที่จะได้เงินช่วยเหลือเลย ทีนี้กุต้องไปรายงานตัวยังไง แล้วเงินจะได้มั้ยอ่ะ แล้วถ้ากุอยากแจ้งยื่นเป็นผู้ประกันตนเองทั้งๆที่มีงานทำจะได้มั้ย
วันนี้ระบบมีปัญหานิดหน่อย (จริงๆไม่ใช่ของที่กูทำโดยตรง แต่เกี่ยวกัน) กูอยู่ใกล้ๆเลยไปช่วยดูตรงที่เค้ามีปัญหากันเพราะกูเป็นคนเดียวที่พอรู้เกี่ยวกับมันบ้าง
พอกูไปลองแนะนำวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นอย่างปิดโปรแกรมเปิดใหม่
ก็มีอีป้าคนนึงในวงที่กูไม่รู้ว่าแม่งคือใครพูดเหน็บกูประมาณว่าลองคิดถึงมุมมองคนที่ใช้งานจริงหน่อยว่าเค้าจะรู้หรอว่าต้องทำแบบนี้ บลาๆๆ
กูกำลังจะรีบไปประชุมก็เลยไม่ได้อะไร บอกเค้าแค่ว่าครับๆ แล้วก็เดินออกมา
ในใจคืออยากจะพูดกลับไปแรงๆเหมือนกันนะว่ากูไม่ได้เป้นคนทำแค่มาช่วยดูเฉยๆเค้าจะได้ทำงานต่อได้
ส่วนไอ้ระบบที่มีปัญหาไม่พอใจก็ไปโวยวายคนทำเองสิ
จริงๆกูไม่ตอบโต้อะไรกลับน่าจะดีกว่าแหละ เพราะถ้าเสือกเป็นคนใหญ่คนโตนี่กูเองแหละที่จะชิบหายเอา
แต่เจออะไรแบบนี้ในที่ทำงานก็อดเก็บเอามาอารมณ์เสียไม่ได้จริงๆ รู้สึกว่าไม่น่าเสนอเป็นคนดีไปให้โดนด่าฟรีเลย
เห็นข่าวผู้ว่า ตอนแรกกูคิดว่าเดี๋ยวคงโดนย้ายเข้ากรุ แต่ซักพักนายกกับรัฐมนตรีออกมาแก้ตัวให้เองเลย เส้นแม่งไม่ธรรมดาจริง ได้อยู่จังหวัดใหญ่แถมทำงานพังยังไม่โดนอะไร
กูเห็นแล้วอยากรับราชการเลยว่ะ ไม่ได้ประชดด้วยนะ แต่กูรู้สึกว่าระบบมันเหี้ยในสายตาคนนอก แต่พอเข้าไปแล้วมันคงสบายจริง ระดับบนๆทำงานพลาดแดกงบงานใหญ่ยังไม่โดน ระดับล่างๆคงไม่ต้องพูดถึง
>>786 เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยไม่สนุกหรอกมึง ต้องมาหาวิธีประหยัดงบชดเชยไอ้ที่พวกข้างบนโกงกินนี่แหละ พอตรวจสอบเจอว่ามันทุจริตเห็นๆพยายาแจ้งเรื่องก็จะโดนบล็อคโดยไอ้พวกที่อยู่สูงกว่าในองค์กร เคยมีเพื่อนกูใจเด็ดส่งเรื่องขึ้นไปถึงกระทรวงเองแล้วก็มีคนลงมาตรวจสอบจริงๆ แต่ผ่านไปไม่กี่เดือนมันก็กลับมาโกงกินกันเหมือนเดิม ส่วนเพื่อนกูที่ส่งเรื่องก็โดนไอ้พวกผู้บริหารตามสืบจนเจอแล้วโดนกลั่นแกล้งอยู่นานมาก ตอนนี้มันลาออกไปทำอย่างอื่นแล้ว ดูมันมีความสุขกับชีวิตขึ้นเยอะเลย
มึง ก่อนหน้านี้กูตกงานแล้วอยู่บ้านรับงานเล็กๆทำกินเงินเดือนเก่าไป ทีนี้ตังจะหมดกูเลยกลับมาหางานเหมือนเดิมแต่พอได้งานแล้วเสือกไม่อยากทำซะงั้น มันเบื่ออ่ะมึง เบื่อจริง ทำงานวันแรกกูก็อยากกลับบ้านไปใช้ชีวิตนีทเหมือนเดิม กลายเป็นว่าตอนนี้กูไม่อยากทำงานอะไรแล้วนอกจากฟรีแลนซ์อยู่บ้านอ่ะ แต่แม้งก็ไม่ค่อยมีงานให้ทำ
กลายเป็นว่สทุกวันนี้ไม่มีความสุขกับการทำงานเลย กูอยากลาออกอ่ะ ทำไงให้ไฟมันกลับมาวะ เมื่อก่อนกูสนุกกับการทำงานมากเลยนะ
งานนี้อาจไม่เวิร์คกับมึงรึเปล่า แต่มึงอย่าลืมนะว่ายังไงมึงก็ต้องใช้เงิน ถ้ามึงหางานที่อยากทำไม่ได้ก็จนหางานที่ได้เงินเยอะที่สุดว่ะ
>>792 ศรีธนนชัยอะไรวะ กุแค่ไม่รู้ต้องรายงานตัวยังไง คือเจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าถึงรอบรายงานตัวแล้วถ้าได้งานแล้วก็ให้ลงว่าได้งานแล้ว แต่กูได้ก่อนที่จะถึงรอบรายงานตัวอ่ะ กูเลยไม่รู้ว่าต้องรอหรือรายงานเลย แล้วถ้ารายงานเลยจะเป็นไง แล้วเงินจะได้มั้ยเพราะกูก็เพิ่งได้งานกว่าจะได้เงินเดือนก็สิ้นเดือนนู่น เพราะงั้นกูเลยต้องพึ่งเงินช่วยเหลือสำหรับเดือนนี้ป่ะล่ะ แต่กุตกงานไม่ถึงเดือน(ถ้านับตามวันที่กุไปแจ้ง)แล้วงี้กุจะได้เงินมั้ย
กูเป็นเด็กใหม่ในที่ทำงาน ทีนี้เขาให้กูไปนั่งข้างๆรุ่นพี่คนนึง แต่เขาโสโครกมากเลยว่ะมึง กูไม่ได้อะไรกับคนอ้วนนะเว่ย กูเจอคนอ้วนแต่ดูแลตัวเองดี ฉีดน้ำหอม รักษาความสะอาดมาแทบทั้งนั้น มีอีรุ่นพี่คนนี้นี่ล่ะที่แบบ....พูดก็กลิ่นปากลอยมา นั่งเฉยๆในห้องแอร์ก็เสือกเหงื่อแตกพลั่กๆ แล้วขี้ไคลเหมือนไม่เคยขัดออก เห็นเป็นคราบดำๆตรงคอ อะไรก็ไม่หนักเท่าพี่แกชอบถอดรองเท้าตอนนั่งทำงานว่ะ อีเหี้ยยย กลิ่นตีนลอยปะจมูกกูจนกูเบลอไปหมดแล้ว กูควรจะพูดยังไงให้ถนอมน้ำใจที่สุดวะ หรือกูควรจะซื้อสเปรย์ดับกลิ่นตีนแล้วแอบเอาไปวางให้บนโต๊ะดีอะ ถ้าเป็นงี้ต่อไปกูแย่แน่ๆอะ พิมพ์ตอนนี้กลิ่นแม่งยังฉุนในจมูกกูอยู่เลย ขมคอสัสๆ
กูจะต้องย้ายไปทำงานใน Antarctica แล้ว ไป 5 ปี คนในแลปใหม่กูแม่งก็มีแต่พวก introvert เข้าหายากทั้งนั้นเลย เห้ออึดอัดจังกู
แล้วไปตอนไหนไม่ไป กูต้องไปตอนแม่งกำลังจะเข้าช่วงหนาวสัสๆอีก แต่จะว่าไปมันก็ดี ทำงาน 6 วัน วันละ 3-12 ชั่วโมงแล้วแต่หัวข้องานวิจัย
ตอนว่างๆก็สามารถหมกตัวในห้องได้เต็มที่ ที่กูตัดสินใจย้ายมาไม่ใช่เพราะอะไร เงินแม่งโคตรดี เดือนนึง 3 แสนยูโร มีพักร้อนให้ 2 อาทิตย์ มีเรือไปนิวซีแลนด์กับเมกาในโซนที่กูจะไปอยู่ด้วย ความฝันกูใกล้จะเป็นจริงแล้ว กูว่ากูอยู่ได้ แล้วกูจะทำต่ออีก 10 ปี พออายุ 40 กูจะได้เป็นนีทมีเงินเก็บระดับเทพหลุดพ้นวงจรโง่ๆ ทำงาน นอน วนลูปนี่ซะที
>>804 นักวิจัยโซนฝรั่งเศส หัวหน้าเพิ่งเสนอให้กูไปทำที่ Antarctica คนอื่นคงไม่ไปหรอก อายุแค่ 25 แต่กูไป เงินแม่งบดบังตาสัส
>>803 กูเห็นใจมึง เรทเงินเดือนเริ่มต้นเมืองไทยแม่งน้อยเกิ๊น กูว่าไปทำกับบ.นอกน่าจะดีกว่านะ เพื่อนกูเป็นโปรแกรมเมอร์ เพิ่งจบใหม่ไปสมัครบ.นอก เงินเดือนเริ่มต้น 3 หมื่น แถมเขาไม่ดูเกรดด้วยไง แค่อังกฤษได้ แล้วสอบผ่านก็โอเคแล้ว
>>805 ใช่ กูอยากเกษียรตัวเองมาก ตอนเด็กๆกูก็ฝันอ่ะเนอะ อยากเป็นนักวิจัยดังๆแบบสตีเฟ่น มารี ไอสไตน์ แต่พอมาเป็นจริงๆ มันรู้สึกไม่ใช่สัสๆ กูเพิ่งมาค้นพบว่า จริงๆกูแค่ชอบอ่านบทความสายวิทย์ ไม่ชอบมาทำเอง กูมีหัวด้านลงทุนมากกว่า แต่ทีนี้ทำไปแล้วก็ช่างแม่ง เงินดีก็โอเคอยู่ แต่ถ้าต้องทำจนเกษียรอายุ 60 65 นี่คงไม่ไหวว่ะ กูรู้สึกว่ามีเวลาไม่พอ นอนแม่งวันละ 4 ชั่วโมงเอง ขนาดบางวันทำงานแค่ 3 ชั่วโมงนะ มันยังต้องกลับไปเตรียมงานต่ออีก
แต่ เชี่ย ทำงานกับบ.ยุ่นแม่งเหี้ยจริง อึดอัดสัสเลยนะมึง กูเคยไปร่วมงานกับทีมวิจัยยุ่น แม่งเหนื่อยสัส แค่ดูเขาทำงานกันกูยังเหนื่อยแทน
คือแม่งทำล่วงเวลา แถมหัวหน้าทีมเร่งสัสๆ เอาเรื่องงบมาพูดกดดัน กูว่ายุ่นเป็นประเทศที่ดี ถ้าจะย้ายไปอยู่ แต่ถ้าทำงานถ้าไม่ใช่ทำไร่ทำสวนคงไม่ดี
พวกโม่งนักวิจัย จบอะไรกันบ้างอ่ะ อยากรู้ไว้เผื่อเป็นแนวทาง 🤔
>>808 กูจบม.ปลายสายวิทย์จากไทย แล้ว ไปสอบทุนต่อนอก ของกูไปอาชีวศึกษาขั้นสูงของฟินแลนด์สายวิศวะจักรกล (แปลไทยคงประมาณนี้) เรียน 3 ปี แล้วกูก็ไปต่อตรีมหาลัยที่ฝรั่งเศสต่อสายควอนตัม-เมคคา แล้วก็ทำงานกับบ.ฝรั่งเศสอยู่แลปวิจัย ทำได้ปีนึงเขาก็เสนอให้กูมาแอตตาร์กติกเลยเพราะคนขาด โชคดีสัสๆ
กูรู้สึกไปเองหรือเปล่า พอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจนกว่าที่คิด
ช่วงเงินเดือนหมื่นกว่าๆ กูต้องอดมื้อเช้าบางวัน เพราะไม่งั้นเงินที่พักไม่ค่อยพอ แน่นอนเงินเก็บไม่มี
พอผ่านมาสองหมื่น กูยังไม่ค่อยมีเงินเก็บเลย คือพอเก็บเงินซื้อมือถือเปลี่ยนใหม่ 2-3 ปีเครื่องได้ แต่เงินเก็บไม่ค่อยมี
พอสามหมื่น กูถึงกินข้าวครบ 3 มื้อได้ เช่าพักมีแอร์ได้ แต่เก็บเงินได้น้อยอยู่ดี
พอตอน 4 หมื่นกูพอเก็บเงินซื้อรถได้ แต่ถ้าซื้อคือหมดตัว ถึงช่วงนี้กูถึงพอจะกินข้าว พวกร้านอาหารตามห้างได้อาทิตย์ละครั้ง
แต่ก็ตั้งงบกินเต็มที่ไม่เกิน 300 อยู่ดี
ปัจจุบัน 5 หมื่น ช่วงนี้ กูน่าจะพอกู้ซื้อบ้านได้แล้ว แต่ยังไม่กล้าพอ กูกลัวเงินเก็บจะหายเกลี้ยง
พอจะไปลงทุนอย่างอื่นนี่ก็หนักเลยเครียสจนป่วนเวลาการทำงานจำเป็นต้องเลิก
แถมสุขภาพแย่ลง แม้ว่ากูจะพยายามออกกำลังกายแล้วก็เหอะ บางช่วงก็ป่วยออดๆ แอดๆ ต้องเจียดเงินมาเป็นค่ายา
และตอนนี้กูยังรู้สึกว่ากูยังจนอยู่เลย บางทีจะซื้ออะไรที่เกินงบที ต้องมานั่งรับงาน freelance นอกเวลาอยู่เลย
เวลาไปซื้อของ super ยังดูราคาแล้วดูอีก ถ้าแต่งงานมีลูก ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะพอกินหรือเปล่า T-T
>>814 ช่วง 20k ค่าเดินทางแพงอ่ะ ไม่ไกลแต่มันหลายต่อ ถ้าอาทิตย์ไหนสาย ไป taxi ก็ต้องประหยัดเยอะๆ หน่อย T-T
ส่วนตอน 50k พอมีเงินเก็บแล้ว แต่ยังไงต้องประหยัดอยู่ดี คือถ้าซื้อบ้านยังไงก็ไม่เหลือซาก แถมเป็นหนี้อีกหลายปี
ส่วนถ้าแต่งงาน มีลูก เรื่องบ้านคงต้องพักไว้ก่อน ถ้าดูจากสภาพแล้ว แน่นอนว่ายังไงกูคงต้องทำงานตลอดชีวิตอยู่ดี
>>813 กูว่ามึงงกและคิดมากเกิน มึงแบ่งการใช้เงินไม่ถูกรึเปล่า กูว่ามึงควรแบ่งสัดส่วนชัดๆแบบค่าเดินทางต่อเดือนกี่บาท(สำรองนิดๆ) ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าห้อง ของใช้กี่บาท กินกี่บาท(เผื่อไว้ในบางวันที่มึงอยากกินอะไรแพงๆด้วย) เงินที่เหลือมึงก็เอาส่วนนึงไปออม(ห้ามใช้เด็ดขาดอะไรทำนองนั้น เป็นเงินสำรองในชีวิตเผื่อมึงป่วยไรงี้) อีกส่วนนึงก็เอาไปซื้ออะไรที่มึงอยากได้ ใช้ฟุ่มเฟือยนั่นแหละ
กูเห็นด้วยกะ >>816 ถ้าจดบัญชีบ้างบางทีเราจะรู้ว่าเงินรั่วไปไหน
กูก็ไม่จดเลย(เอาจริงๆ คือไม่กล้าจด) แต่สุดท้ายตังไม่ค่อยมีก็ต้องจดวะ
แล้วกูก็ได้รู้ว่า แม่งค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นบางส่วนกูสูงมากกกกกกกกกกกกก (คือ แอบคิดไว้แล้วว่ามันจะเยอะ แต่ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้)
ปล. ถ้าไม่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนเมีย กูว่า 20k นี่น่าจะพอได้อยู่นะ
กูไม่มีกำลังใจการทำงานเลยว่ะ ทำงานทุกวันเหมือนคนไม่มีแรง กูอยากลาออกแต่กลัวไม่มีแดกอ่ะมึง กูเบื่อมาก
ไปทำงานวันแรกพวกมึงรู้สึกยังไงกันวะ กูนี่เครียดและกังวลมาก อีก 12 วันจะเริ่มงานแรกของชีวิต
สตง กับนิติกรอัยการเปิดสอบ
ท่าทางจะรับเยอะ โดยเฉพาะนิติกรอัยการนี่พอไปดูบัญชีปีที่แล้วนี่อึ้งเลย
ขึ้นบัญชี200กว่า ผ่านไปปีเดียวเรียกหมดแล้ว
แสดงว่าถ้าสอบผ่าน ภาค ข โอกาสโดนแรกตัวมีแน่ๆ ไม่รู้ว่าตำแหน่งนี้คนขาดเยอะ หรือคนเข้าไปแล้วลาออกกันเยอะ 55555
พรุ่งนี้วันศุกร์
สตง เพิ่งสอบไปไม่นาน บางตำแหน่งเรียกหมดบัญชี และคนสอบผ่านน้อย เลยจัดสอบใหม่
ศุกร์เย็นแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ที่บ้านกู อยากให้เรียนปอโทว่ะ บอกว่าจะได้เอามาปรับเงินเดือนและต่อไปจะขึ้นตำแหน่งสูงๆจะได้เปรียบ แต่กูขี้เกียจเรียน
มันเป็นมุมมองเรื่องการประสบคงามสำเร็จในชีวิตที่ดี พ่อแม่กูคงมองว่าการอยู่ตำแหน่งระเับสูงมีบารมีคือชีวิตที่ดี แต่กูมองว่าขอแค่มีเงินเดือนให้ใช้ มีเวลาว่างมาทำสิ่งที่ชอบมันคือชีวิตที่กูพอใจมากกว่า ไม่รู้ว่าเพราะคนรุ่นเก่าสื่อบรรเทิงมันน้อยรึเปล่า เลยมองชีวิตที่หน้าที่การงานเป็นหลัง แต่เด็กรุ่นใหม่แบบกูมองเวลาส่วนตัวเป็นหลัก
พวกมึงๆ กูกำลังมีเรื่องกังวลวันจันทร์นี้กูต้องไปเริ่มทำงานเป็นเลขาแล้วว่ะ กูไม่เคยทำงานเกี่ยวกับเลขามาก่อนเลย เป็นศูนย์บ่มเพาะรัฐวิสาหกิจในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งอ่ะ
จำได้ว่าตอนกูสมัครกูสมัครธุรการทั่วไปนะแต่ได้ตำแหน่งนี้เฉยบอกตรงๆค่อนข้างกังวลว่ะเฮ้ออออออออออ
>>827 ยิ่งมึงขี้เกียจอยากมีเวลาว่างเยอะ ก็ควร เรียนเพื่อสร้างรายได้เก็บเงินไว้เออรี่รีไทร์เร็วๆ เพราะงานที่ได้รายได้ต่อเดือนเร็วกว่าพอมึงเก็บเงินพอไช้ตลอดชีวิตเมื่อไหร่ก็รีไทร์ได้
กูเคยอ่านว่ารายได้เฉลี่ยต่อปีของปริญญาตรีคือ 20,000 โทราวๆ 40,000 สมมุติมึงอายุ 20 จบตรี ทำงานระดับปริญญาตรีไปอีก 40 ปีตอน 60 มึงถึงรีไทร์โดยมีเงินไช้สบายๆไปตลอด แต่ถ้ามึงจบโท มึงอาจจะทำงานแค่ 20 ปีเพื่อเงินเท่ากันที่มึงไช้ได้ตลอดชีวิต บวกเวลาเรียนอีก 2 ปี คือมึงประหยัดเวลาได้อีก 18 ปี ที่มึงจะได้ไช้เวลาทำสิ่งที่มึงชอบ ต่อไห้มึงมีรายได้เพียงพอแล้ว แต่การที่มึงมีรายได้มากขึ้นทำไห้มึงซื้อเวลาว่างไห้ตัวเองได้
พรุ่งนี้วันจันทร์อีกแล้ว
กังวลงานใหม่ที่กำลังจะเริ่มพรุ่งนี้เว้ยยยยยยยยยย
เห้อ วันจันทร์อีกแล้ว ไอ้สัสกูแดกวอดก้าสัก 2 ขวดแม่ง จะได้ลืมว่ามันมีอยู่จริง
มึงกูทำงานเกินเวลาขาไม่ให้โอทีแต่ให้สามารถใช้ทบวันหยุดได้ แบบสมมุตกำทำเกินมา 8 ชม. ก็ก็ได้หยุด เสา ทิต จัน แทนที่จะแค่เสาทิต มึงว่าคุ้มมั้ย
ที่ทำงานกุทำงานกันไม่เกิน 8 ชม. แต่วันนี้กุทำ 10 แล้วเว้ยสัสส
>>838 ถ้าแบบมึงคุ้มตรงที่ว่าถ้าเป็นคนทีครอบครัวหรือธุรกิจส่วนตัวคงมีเวลาไปเทตรงนั้นให้เยอะคิดแบบนี้ดีมั้ย แต่แบบที่มึงว่าก็ใช่
>>839 กูเป็นคนไม่มีครอบครัวเอาจริงๆกูอยากได้เงินมากกว่าเวลาว่าง แต่คือวันนี้กูมาทำวันแรกอ่ะไม่ไม่ได้สมัครไว้ที่อื่นด้วย คงต้องถูไถไปก่อนยังไงถากูรับขอเสนอแบบนี้ไม่ไหวคงชิ่งล่ะ อืม
เครียดว่ะ ตกงานมาครึ่งปีแล้ว
โม่งกูถามหน่อย งานสายIT พวกโปรแกรมมิ่งเขียนเว็บตามบริษัทSMEย่อยๆนี่แม่งดูแลพนักงานดีจริงอย่างที่คำโปรยมันบอกป่ะวะ? เห็นบางเจ้านี่บอกขนาดว่าเป็นงานที่work life balance ทำแค่เช้า-เย็น + ทำโอทีมีเงินค่าล่วงเวลาให้นะ กูกลัวว่าถ้าเกิดกูทุ่มเทให้แม่งจนสุดตัวแต่สุดท้ายไม่ได้เหี้ยไรกลับมาเลย
ปล. เงินเดือนเรทก็โอเคอยู่นะ ราวๆ18k-25k สำหรับเด็กจบใหม่
>>845 99.99% สำหรับ SME ที่เจ้าของคนไทย สั้นๆ คือ กากน่ะ ทำโอฟรีทุกวันนะ เด็กจบใหม่ราคานั้นคือมึงต้องทำงานแบบคนมีประสบการณ์ 2-3 ปีได้เลย
แน่นอนว่า exp ม่ายค่อยได้อะไรเพราะทุกสิ่งอันมึงต้องเปิด stackoverflow , google งมเอาเอง แต่ถ้าเมื่อไหร่บริษัทยิ่งใหญ่กำไรงามมึงถึงจะได้โบนัสบ้าง
แล้วไม่นานก็เขี่ยมึงทิ้ง หาเด็กจบใหม่ที่เงินเดือนถูกกว่ามึงมาทำแทน
บริษัทฝรั่งมันจ่ายดีกว่า แต่คัดคนมากๆ เข้าไปทำก็ต้องเก่งงาน ถ้าทำไม่ดีมันเตือน ไม่ปรับปรุงก็โดนปลด เป็นมืออาชีพ ไม่เหมือนของไทยที่มั่วๆ
มึงกูขอระบายหน่อยกูเบื่อสังคมปั้นหน้าสัสๆ แต่งกูต้องทำอยู่เพื่อเงิน พวกมึงเชื่อมั้ยอีพวกลูกหลานคนใหญ่คนโตแบบวันกระเตาะแม่งขะทำนั่นนู่นนี่พัง แม่งยังปั้นหน้ายิ้ม ไม่ได้นะค้า หัวเราะการกระทำที่เอ็นดูแล้วก็ก็ต้องทำเอ็นดู พ่อแม่แม่งก็ไม่ว่าไรหัวเราะแหะๆห้ามลูกสิสัส ห้ามสิ สัสๆๆๆ ขอโทษที่ระบายกุแม่งต้องระบายจริง คันปากอีเด็กเปรต เออว่าเด็กเปรตผู้ใหญ่เปรตกว่า แม่งอีป้าที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานนะ รับไหว้แต่พวกดูมีเงิน หรือพวกที่ทำประโยชน์เจ๋งๆให้ ทีกุไหว้นะ อีเหี้ยเมินๆๆๆ
อึดอัดเว้ยยย
บ่นหน่อย บริษัทกูผลประกอบการไม่ดีมานาน เงินเลยไม่ดีเพราะไม่ขึ้นเงินเดือน ก็ทำใจ
ช่วงหลังไม่ค่อยรับคน จนคนเกษียณไปเรื่อยๆ คนเริ่มไม่พอ พนักงานระดับล่างก็ล่างต่อไปเพราะไม่มีรับใหม่
แต่จู่ๆดันรับพนักงานใหม่ข้ามหัวพนักงานเก่าทั้งตำแหน่งและเงินเดือนเฉยเลย
เริ่มท้อแท้จากที่เคยคิดว่าทนๆไปก่อนเดี่ยวก็ได้โอกาส
>>855 กูแนะนำนะ มึงรีบไปเขียน resume แล้วหางานใหม่ซะก่อนที่จะอายุเยอะเกินจนไม่มีที่อื่นรับ
จากคนที่เคยคิดแบบมึง แล้วเงินเดือนไม่ขึ้นมา 3 ปี ไอ้คำว่าทนๆ ไปก่อนน่ะ ที่จริงแล้วมึงแค่กลัวการเปลี่ยนแปลง
ถ้าผ่านมาได้มึงจะรู้ว่าไอ้คำว่าทนๆ ไปก่อน รอโอกาส มันโคตรเสียเวลาชีวิตเลย
บริษัทคือบริษัท มันไม่ใช่ของๆ มึงซักหน่อย รีบไขว่คว้าหาโอกาสซะก่อนจะสายเกินไป
กูขอมาบ่นปนระบายหน่อย คือเหตการณ์ในที่ทำงานกูวันเนี้ย กูเดินผ่านห้องคนที่ทำงานคนหนึ่ง ก็ทักทายกันก่อนกลับบ้านปกติ เห็นเขาว่าจะปลูกทานตะวันกูเลยถามว่าจะปลูกเมื่อไหร่ เขาตอบกูมาว่าทำไมหรอจะเอาสตรอเบอรี่มาปลูกด้วยรึไง กูก็มึนๆไม่ได้ตอบอะไรขัรถกลับบ้านเเต่พอคิดดูดีๆว่าอยู่ๆทำไมเขาพูดเเบบนี้วะกูเลยนึกขึ้นได้ว่านี่เขาด่าว่ากูตอแหลปะวะ อิเหี้ย กูยอมรับว่าบางเรื่องกูก็ตอจริง เเต่ในที่ทำงานใครโผ่งผางใส่ตรงแหน่วกันเบอร์สิบบ้างวะมันก็ต้องมีความอยู่รอดของสถานะทางสังคม กูก็มาพิจารณาดูว่ากูไม่เคยทำอะไรให้นางเดือดร้อนนะเฮ้ยเพิ่งเข้ามาทำงานด้วย บางครั้งอีกคนก็มานินนินทานางให้กูฟังกูยังแบ่งรับแแบ่งสู้เเทนนางเลย เจ็บใจอ่ะ หรือกูคิดไปเอง(กูสับสน) ลุคกูใสๆซื่อๆ มึนๆ จริง กูมึนจริงกูไม่ได้ตอ ส่วนหนึ่งกูก็ลุยมาก บางคนก็รำคาญกูเข้าใจเเต่คนมันก็มีหลายมิติปะวะ ตอนเรกกูก็โกรธนะขับรถกลับบ้านหัวชาเลย ตอนนี้เอาเลยจ้าเรื่องของมึงเลยจ้า เเต่เสียดายวันศุกร์กู ต้องมาคิดเรื่องอะไรเเบบนี้เนี่ย พวกมึงลองบอกกูหน่อยสิว่าตนตอแหลในสายตาพวกมึงเป็นไงกูจะได้มาพิจารณาเผื่อกูตอแหลจนชินจนไม่รู้ตัว - -; จะได้นำมาปรับปรุงตัวเอง
กูขอระบายหน่อย พอดี ปีนี้ ออฟฟิศรับเด็กใหม่มาเยอะ แล้วกูไม่รุ้ว่า เขาลดเกณฑ์รับเด็กเพราะคนขาดหรือเด็กคุณภาพลดลง เด็กแม่งแปลกมาก คือกูมีน้องสองรุ่นละ ไม่เจอพังแบบรุ่นนี้เลย งานไม่เสร็จไม่บอก ไม่เสร็จก็เท ไรงี้ ไม่เคารพรุ่นพี่ อยากทำไรทำ นั่งดูยูทูปในที่ทำงาน งานเสร็จไม่ช่วยทีม แปปๆดูยูทูปละบอกงานไม่เสร็จ ให้งานเยอะไป นอกจากนั้น ยังช้ามาก กูสอนสามรอบอย่างต่ำ แทบจะจับมือทำ ก็ยังทำไม่ได้ จดก็ไม่จด ตอนทำงานก็ฟังเพลง บอกให้เซฟงานก็ไม่ได้ยิน จากกูเป็นพี่ใจดี กลายเป็นโหดขึ้นมาเลย แม่ง ละโม่งคนไหนจบใหม่ ทำงานสายแอฟฟิศ กูแนะนำให้ฝึกใช้ excel ให้พอเป็นอ่ะ ไม่ต้องเก่งก็ได้ แต่แบบ insert column ไม่เป็น นี่กูท้อจริง
>>861 ไม่มึง อันนี้แล้วแต่คน กูชอบให้น้องถามงานมาก คือถามจนเข้าใจ จับคอนเซปต์ได้จะฟินมาก แต่กูจะชอบสอนเด็กที่กูเห็นว่า มีความรับผิดชอบ ตั้งใจมากกว่าเด็กที่เทงานอ่ะ แบบสอนไปรอบนึง แล้วพยายามทำ พอเจอปัญหากลับมาถามไรงี้ กูชอบมาก แต่บางคนแบบเอาไปมองละกลับมาให้สอนใหม่ หรือถามไรที่แบบ เหมือนกูต้องสอนถึงขยาดว่า การ์ตุนเล่มนี้ ต้องอ่านซ้ายไปขวา ขวาไปซ้ายอ่ะ บางเรื่องเป็น common sense อ่ะ เอาเป็นว่า มึงพยายามตั้งใจทำงาน รับผิดชอบงานให้เสร็จไม่รุ้ก็ถามเลย ยังเด็กถามได้ อย่าดองงาน พี่สอนอยู่ อย่ากดมือถือ ตั้งใจฟังตั้งใจจด กูว่า พี่ไม่ใจร้ายหรอก
ร้านกูชอบมีรถมาจอดขวางหน้าร้านว่ะ แก้ไงดีวะ
คือร้านกูเปิดบ่ายๆ ด้วย บางทีคนจอดก็ไม่อยู่แล้ว
>>863 แกเป็นคนสอนไวไม่มีจังหวะจด พอจะจดก็มไปแล้วพอจะถามอีกก็เก้ๆกังๆอ่ะ แต่สุดท้ายก็ต้องถามแก แกบอกว่าเวลาทำงานแกเป็นคนตั้งใจมีหลายครั้งกุถามแต่ฟิลลิ่งแกยุกับงานเลยเหมือนโดนดุกรายๆทางน้ำเสียงกับสายตาอ่ะ ;;___;; รุ่นพี่ที่ทำงานกับแกมก่อนบอกว่า แกนะให้เรารู้สึกผิดเอง รู้สึกตัวเองไรเง้ เลยมากังวลตรงจุดนี้เล็กน้อย ไม่ถึงกับเครียดหรอก แต่ก็.... โอเคจะพยายาม ทำได้สัปดาห์นึงแล้วผ่านพ้นมาค่อนข้างดีเฮ้อ
ก็ลืม*
>>864 >>865 ครั้งแรกห้ามเขียนด่า. ควรเขียนดีๆ แบบ
ข้าพเจ้ามีเรื่องแจ้งว่าบริเวณที่คุณจอดรถอยู่เปฺนหน้าร้านที่เปิดตอนบ่าย และถ้ามีรถรถจอดขวางอยู่จะลำบากต่อการดำเนินงานมาก ยึงอยากให้คราวหน้าช่วยหลีกเลี่ยงไปจอดรถที่อื่น. ขอขอบคุณ
ไม่เคยเจอหน้าแล้วไปเขียนด่าเลยเดี๋ยวก็งานงอกหรอก. มึงเจอต่อยหน้าร้านตัวเองคนแถวนั้นมันก็เอาไปนินทาแล้ว ทำค้าขายก็หลีกเลี่ยงเรื่องพวกนี้จะดีสุด
โม่งราชการมีมั้ย คือว่าอยากโอนย้ายไปภูมิภาคพวกจังหวัด/อำเภอไรพวกนี้ มีหน่วยงานที่งานไม่หนักมากจนเกินไปพอจะมี เลิกไม่เกิน 18.30 น. ไม่ต้องทำงานเสาร์อาทิตย์หรือเอางานกลับไปทำบ้าน พอจะมีข้อมูลไหม
พวกมึงเวลาสอบสัมภาษณ์งานราชการ ถ้านานกับแปปเดียว อย่างไหนมีโอกาสได้งานมากกว่ากันอ่ะ
ของกูเค้าถามแค่ประวัติส่วนตัว ไม่ถามวิชาการไรเลย กูรู้สึกแย่ว่ะ กูอุตส่าห์เตรียมตัวอ่าน ท่องไปดิบดี กลัวจะไม่ได้ว่ะ เพราะบางคนถามนานมาก คุยนาน กูอิจฉาคนที่เค้าถามนานๆ
มีโม่งตัวไหนทำงานวันแรกก็อยากลาออกแล้วมั้ยวะ กูโคตรเบื่อเลยอ่ะ เหมือนเข้างานตรงเวลา แต่เลิกต้องแล้วแต่คนอื่น เลิกตรงเวลาไม่ได้
ถามหน่อยดิ งานUNICEF ที่เป็นคนระดมทุนนี่ดีป่ะ เงินเยอะไหม
น้องในทีมที่นั่งข้างๆ กูเป็นคนเริงร่า ตอนแรกคุยกับกูดีๆ คือนางก็คุยกับทุกคนน่ะแหละ แต่พอนางไปสนิทกับคนที่ไม่ชอบหน้ากู ก็เหมือนจะห่างๆ ไม่คุยกับกูเลย คุยกับคนอื่นปกติ ทีนี้วันๆ นางก็คุยกับคนนู้นคนนี้ไปเรื่อย กูเลยพาลไม่อยากคุยกับคนอื่นด้วย กูทำไงดีหว่า (แต่เอาจริงๆ กูก็ว่าจะย้ายงานเร็วๆ นี้เนี่ยแหละ รู้นิสัยคนเยอะไป)
จบไปกูอยากเป็นครูสอนศิลปะในโรงเรียนว่ะ สักม.ต้น-ม.ปลายกำลังดี ใครเป็นครูมั่งกูอยากรู้ว่าชีวิตครูเป็นไงมั่งวะ
>>883 ครูศิลปะ ...เท่าที่กุเคยคลุกคลีมาก็จัดว่าสบายนะ วันๆ ทำงานเอกสาร สอนแค่ 8-12 คาบต่อสัปดาห์ เวลาว่างเหลือเฟือ แต่นี้หมายถึงกรณีมึงถูกบรรจุนะ
ถ้าไม่ได้บรรจุ มึงก็ต้องเปิดโรงเรียนสอนศิลปะให้เด็ก ซึ่งการที่อีกฝ่ายจะส่งลูกๆ มาเรียนได้ มึงก็ต้องมีชื่อเสียงในระดับหนึ่งอะ อย่างน้อยก็ต้องเป็นที่รู้จักในระดับจังหวัดหรืออำเภอ
ทำไมทีมบริหารกับทีม production ชอบไม่ถูกกันวะ
กำลังสมัครงาน ตรีเพชร อิซุซุ ตำแหน่งเข้าใหม่ การตลาด เรียกเดือนละเท่าไหร่ดีวะ ละโบนัสมันกี่เดือน มีใครรุ้ป่ะ
บริษัทที่กูทำใหม่อ่ะ กูถามเค้าเรื่องประกันสังคมแล้วเค้าบอกว่ากุยังไม่ผ่านโปร ต้องให้กุผ่านก่อนแล้วจะมีคนดำเนินเรื่องประกันสังคมให้ แต่ที่อื่นๆที่กุเคยทำจะผ่านหรือไม่ผ่านโปรเค้าก็ทำเรื่องให้ตั้งแต่วันแรกๆแล้ว แล้วทีนี้กูเลยงงว่าแ้วถ้ากุจะจ่ายกุต้องจ่ายยังไง กุแจ้งทางประกันสังคมไปแล้วนะว่ากุมีงานทำ มันก็จะเก็บกู 750 ใช่ป่ะ อีกครึ่งบริษัทจ่าย แต่พอบริษัทบอกมางี้กูต้องจ่ายเองหรอ หรือยังไง งงชิบหาย ปกติพอเปลี่ยนงานแล้วแม่งทำเรื่องให้อัตโนมัติเลยอ่ะ กูไม่เคยต้องไปจ่ายเอง
เออเหมือนกันกูเป็นพนักงานใหม่ประกันสังคมเค้ายังไม่ให้ทำเลย เซ็นสัญญาอะไรก็ไม่มีคือจะเอายังไงกับกูวะ
พรุ่งนี้วันจันทร์อีกแล้ว
โม่งงั้นถามไรอย่างนะ เห็นบริษัทstartupหลายๆเจ้าเลยชอบประกาศว่าเงินเดือนอยู่ราวๆ18000-20000ไรงี้จะบอกว่ามันคือการหลอกล่อคนมาแค่นั้นป่ะ? แล้วพอสัมภาษณ์จริงๆคือต้องเรียกแค่ไม่เกิน15000เท่านั้นอ่ะ
ในนี้มีโม่งหญิงโปรแกรมเมอร์มั้ยอะ คือกำลังเรียนอยู่แล้วรู้สึกว่าตัวเองทำได้ดี เลยอยากรู้ว่าชีวิตตอนทำงานโอเคมั้ย เสียเปรียบผู้ชายป่าว หรือมีอะไรต้องเตรียมตัวล่วงหน้าบ้าง
กูลาออกจากงานออฟฟิศเหี้ยๆ มาทำสตาร์บัคส์ แล้วก็รู้สึกสับสนว่าตัวเองทำอะไรอยู่กันแน่ รู้สึกไม่ใช่ อยากกลับไปขีดๆ เขียนๆ เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้กูไม่มั่นใจในตัวเองเลย ไม่เลยสักอย่าง
>>901 รอปีหน้า เดี๋ยวกูมาบอก ตอนนี้แค่ฝึกงาน
แต่เป็นผู้หญิงนี่ดีอย่าง ผู้ชายโอ๋สลัด ยิ้มนิดๆ เอียงคอเล็กน้อย มโนตัวเองแอบแบ๊วที่สุดในสามโลก มองช้อนขึ้น 45องศา ถึงกุแกล้งทำเป็นไม่รู้ให้มันอวดเก่งก็เถอะ ไม่มีใครด่าด้วย มีแต่คนโอ๋ แบบ มาๆ พี่จะสอนให้ กูใช้วิธีนี้ไล่ดูดความรู้ชาวบ้านมาจนฝึกงานเลย๕๕๕๕กะเอาไปเมืองนอกเมืองนา (ชั่วร้าย) แต่นศ.ผู้ชายไม่รู้นี่พี่ที่ฝึกงานด่าเสียหายต่อหน้าเลย น่าวงวาร เหยียดเพศชิบหายที่กุไปฝึก ผู้ชายนะโดนเหยียด....
ในนี้ มีใครทำงานกองบรรณาธิการบ้างมั้ย กูอยากรู้ฐานเงินเดือนว่ะว่า ปกติเท่าไหร่
>>910 ข้อดีมันก็ใช่ กูก็เคยใช้วิธีนี้นะ อ่อยเอาดูดความรู้จากชาวบ้าน แต่บอกเลยว่ายังไงๆการที่เราเป็นหญิงมันก็ทั้งน่าอึดอัดและน่ากลัวอยู่ดีว่ะ
คือถ้าอีกฝ่ายเกิดอยากแอ้มเรา พยายามตามตื้อ ตามจีบ แล้วเรายิ่งอ่อนเค่าเอาความรู้บางทีแม่งคิดว่าเราเล่นด้วยเว้ย แม่งจะรู้สึกอึดอัดและอันตรายเหี้ยๆแต่ต้องปั้นหน้ายิ้มเพื่องาน บางทีก็จะมีเนียนๆจับเนื้อต้องตัว กับบาวคนแม่วอาจเห็นว่าน่ารักน่าเอ็นดูแต่บาวคนแม่งหวังเคลมจริงจังแม่งจะให้ความรู้สึกอันตรายเหี้ยๆเลยแหละ
คือกูเป็นคนไม่ถือตัวนะให้กอดกับผู่้ที่ไม่ใช่แฟนก็ทำได้ แต่นั่นคือต้องเป็นคนสนิทไง แต่คือพอเจอคนที่ไม่ได้สนิทพยายามจจะเคลมเราเพราะเราไปอ่อยเค้า ความรู้สึกแม่งเหี้ยสัสๆ สาวๆที่ใช้วิธีนี้ก็เซฟๆตัวเองกันบ้างนะ
ยังไงกูก็คิดว่าผู้ชายดีกว่า เพราะพอมีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว มึงจะรู้สึกแย่จนอยากออกจากงานเพราะกลัวว่าวันนึงอีกฝ่ายจะเลยเถิดจากการคิดว่าเราเล่นด้วยเนี่ยแหละ
>>913 มึงแค่อ้อนๆใช่มั้ยล่ะกูเข้าใจ แต่บางทีถ้าอีกฝ่ายเกิดอยากเคลมมึงจริงๆแล้วมึงดูออกแต่มึงไม่ได้ชอบ ความรู้สึกแม่งจะรู้สึกเหี้ยทันทีเลย จะอ้อนต่อก็แบบไม่ไหวแล้วไรงี้
คือกุเคยแค่อ้อนๆเนี่ยไม่ได้เข้าถึงตัวอะไรเล้ย วางระยะพอควร แต่อีกฝ่ายแม่งเกิดชอบจริง ทีนี้พี่แกก็ค่อยๆรุกเล็กๆน้อยจนถึงมาก พอกูเริ่มดูออกว่าเค้าจีบจะอ้อนแบบเดิมก็ไม่ได้ละ พอพยายามสร้างระยะห่างก็รู้สึกชีวิตเริ่มอยู่ยากกูก็เริ่มกลัว เริ่มอึดอัด เพราะแรกเริ่มเดิมทีไม่ได้คิดจะอ่อยให้ได้ผู้ไง แค่จะสร้างความสัมพันธ์ดีๆเฉยๆแต่พออกมารูปแบบนี้ชีวิตก็เริ่มอยู่ยาก
ซ่งแม่งป้องกันอะไรไม่ได้หรอกเพราะมันคือความรู้สึกคน แต่พอรู้สึกตัวว่าไปอ้อนจนเค้าชอบมันก็จะมีความรู้สึกกลัวๆมากกว่าเราอยู่เฉยๆแล้วเค้ามาชอบเองอ่ะ เพราะเหมือนเราเป็นคนทำให้เกิดขึ้นด้วย
แต่ปัจจุบันกูก็รับมือกับเรื่องพวกนี้ได้ดีขึ้นแล้วนะ อาจเพราะตอนนั้นกูเป็นเด็กด้วย พอโดนเข้าไปก็อยากหนีหน้า
กูมาถามใหม่อีกรอบ หาคอมเม้นเก่าไม่เจอละ
คือเดือนที่แล้วกูตกงานแต่กูยังคงมีสิทธิ์ประกันสังคมที่ทำกับที่เก่าไว้กูเลยไปแจ้งเรื่องว่างงาน ซึ่งหลังจากนนั้นไม่ถึงเดือนกูก็ได้งานใหม่กูเลยรายงานตัวไปว่ากูได้งานแล้ว แต่งานใหม่บอกว่าจะไม่ทำประกันสังคมให้จนกว่าจะผ่านโปร แล้วอย่างงี้กูต้องจ่ายเงินประกันสังคมยังไง จ่ายเท่าไหร่
แล้วเรื่องเงินช่วยเหลือ กูรายงานตัวไปตามกำหนดละไม่เห็นมีเงินเข้ามาเลย งง
พยายามโทรไปกรมจัดหางานละ กี่เบอร์ๆก็โทรไม่ติด สายไม่ว่างตลอด ให้บัค1113โอนสายให้ก็ยังไม่ติด หาข้อมูลในเกิ้ลก็ไม่ได้อย่างที่อยากรู้มันคนละกรณีกับของกู มีใครมีความรู้ด้านนี้บ้างช่วยตอบหน่อย คือสิ้นเดือนนี้ก็ครบเดือนนึงที่กูทำงานละ กูจะจ่ายประกันสังคมยังไง เด๋วแม่งขาดกูชิบหายอีก
ประกันสังคมห้ามขาดเกิน6เดือนมั้งนะ
กูรู้สึกแบบเหมือนตัวเองทำเหี้ยไรผิดอยู่ตลอดเวลาทั้งที่เปล่า กับพี่ๆที่ทำงานแล้วก็เพื่อนที่ทำงาน ไม่กล้าพูด ไม่กล้าทำไร ไม่กล้าแดกข้าว แบบเกร็งๆเหมือนคนจะเป็นโรคจิต อึดอัด ปล.กูพึ่งเข้างาน พอกูจะชินได้หน่อย ตื่นเช้ามาอีกวันกูก็เป็นแบบเดิม บางทีกูก้ไม่ได้ตั้งใจไม่ไหว้ใครนะ แต่แบบบางทีกูโฟกัสงาน กูก้ไม่ได้ทันมอง แล้วบางทีกูก้อาย ที่จะหวัดดี เพราะรู้สึกเหมือนหวัดดีมั่ว กูอึดอัด บางทีเค้าแซวอะไรกูกูก้เงียบๆ แต่พี่ที่ทำงานเค้าก็ดี พยายามบอกกูนั่นนี่นู่น กูพยายามแบบไม่คิดมากอะไร แต่รู้สึกช่วงนี้เซ้นซิทีฟกูคิดมากว่ะ กูอยากปล่อยๆมั่ง แต่ไม่รู้ทำไม จนกูรู้สึกเหมือนตัวเองคงดูเป็นคนแปลกๆไปแล้ว แค่ระบายให้ฟังแหล่ะ กูเพิ่งทำได้สิบวัน.... คือกูอยากสนใจแต่งานนะเว้ย แต่มันไมได้เพราะกูไม่เก่งต้องให้พี่ๆเค้าสอน กูก้ต้องมีสังคมใช่ป้ะวะ เออนั่นแหละ กูไม่รู้ กูแค่มาระบายเฉยๆ
>>920 มึงลองหาคนที่คิดว่าจะสนิทได้ซักคนดูสิ กูเคยทำที่แรกอาการเป็นเหมือนมึงเลย ต่อไปมึงจะกลายเป็นคนเงียบๆไม่เข้าหาใคร ไม่มีกลุ่ม ไม่มีซัพพอร์ทไรเลย แล้วสุท้ายมึงจะอยูายาก อึกอัดโคตรๆพอเหมือนไม่มีใครรับฟังมึง มึงก็เบื่อ และมึงจะเบื่อแม่งทุกอย่างอ่ะ ขอเตือนให้รีบปรับตัว ตอแหลได้ก็ตอ กูหวังดีนะจริงๆ
ในที่สุดก็วันศุกร์แล้ววว รอคอยวันนี้มากที่สุดในอาทิตย์ละ อีกนิดเดียว เพื่อนโม่ง อดทนไว้ อีกนิดเดียวจะได้หยุดละว้อยยยย
>>915 น่าจะยื่นส่งเองได้นะ
http://www.sso.go.th/wpr/category.jsp?cat=875
หรือไม่ก็โทรไปถามสายด่วน 1506 คงชัวร์กว่ามั้ง
กูอยากเป็นโม่งมนุษย์เงินเดือนบ้าง ทำไมงานมันหายากจังวะ
เบื่องานมาก ทำงานเสร็จเร็วนั่งว่างแต่ทำอย่างอื่นไม่ได้ กูนี่อยากเอาหนังสือมาอ่าน นั่งดู udemy เลย แต่ไม่กล้าทำ
>>927 กูเคยถามในห้องนี้ไปอ่ะ ตอนนั้นหางานไม่ได้ตั้ง 5 เดือน เพื่อนโม่งแนะนำว่าให้ส่งไปเป็นร้อยเลยมันต้องได้สักที่ พยายามอยู่ตั้งนาน สุดท้ายมีคนโทรมาชวนไปสัมภาษณ์เองเลย เพราะกูฝากประวัติไว้ในเว็บลองดูนะมึง สู้ ๆ
สมัครงานร่อนเว็บก็ระวังงานขายตรง กับ ขายประกันด้วยนะมึง ฮัลโหลสวัสดีค่ะพอดีจะนัดอบรม สวัสดีค่ะบริษัทประกันสนใจเจ้าหน้าที่การเงินบลาๆๆๆ
หวัดดีซาลารี่มัง เวลาพวกมึงเหลืออีกสองวัน ก่อนจะถึงวันจันทร์ อิอิ
กูเพิ่งเปลี่ยนงาน แล้วออฟฟิศใหม่กูแม่งมีแต่ผู้หญิง ตอนนี้กูรู้ซึ้งแล้วว่าออฟฟิศที่มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงดียังไง
ปล.กูโม่งหญิง
เพื่อนโม่งถามหน่อยดิปกติพวกมึงจะยอมรอ "งานในฝัน" กันได้นานขนาดไหนเหรอ
คืองานที่กูรออยู่เนี่ยถ้ากูได้ทำ(แล้วทำได้จริงๆ)ชีวิตกูจะประสบความสำเร็จมีเงินเก็บและ early retire ได้ก่อน 40 แน่ๆ
ปัญหาคือ ตอนนี้กูว่างงานอยู่ กูเลยกลัวว่ากูจะรอเก้อรึเปล่า เพราะยังไงๆเขาก็ต้องมีตัวเลือกว่ะ แล้วก็ในรอบเดือนกูสัมภาษณ์กับบริษัทนี้ไป 2 รอบแล้ว
ไม่รู้ว่ากูคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่คนที่ทำงานใน กทม. ค่าใช้จ่ายสูงมาก
ยิ่งถ้าเช่า หอพักด้วยแล้ว ถ้าไม่กินใช้ประหยัดๆ ทำบัญชีหน่อย แทบจะไม่เหลือเก็บ
http://www.tcijthai.com/news/2017/12/labour/7557
เวลาทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมง เวลานอนเฉลี่ย 7 ชั่วโมง
และอย่างที่กูคิด ญี่ปุ่นไม่ติดอันดับ ประเทศแถบเอเซียก็ไม่ติดอันดับเลย
ขอแชร์ค่ะอีผี
กูลาออกจากที่ทำงานเก่าแบบกะทันหันมาก ตอนแรกยื่นไว้ปลายเดือนพย. กูเคลียร์งานอยู่ดีๆ มาทำเป็นประชุมทีม แล้วก็มาบีบให้กูรับงานเพิ่ม กูเลยออกวันนั้นเลย ตอนออกกูรีบมาก กูคืน surface ของบริษัท ทำทันแค่ล็อกเอาท์เฟซ ลบโฟลเดอร์ส่วนตัว ไม่ได้ uninstall โปรแกรม photoshop กับ lightroom ไม่ได้คิดอะไร เพราะเวลามีคนออกเจ้านายกูจะบูทคอมใหม่อยู่แล้ว
คือโปรแกรมนี้กูออกของกูเอง เพราะกูใช้สมัยเรียน พอมาทำงานเจ้านายเห็นมีโปรแกรมก็ให้กูทำภาพด้วย เจ้านายกูเขาใช้ของเถื่อน มาพักหลังที่เหมือนมีปัญหากันที่เขาไม่ยอมให้กูทำ กูจะยกเลิก subscribe เขาก็บอกไม่ต้อง เดี๋ยวเขาให้กูทำภาพแน่
พอกูออกมา มันยังไม่ครบสัญญาไง มันยกเลิกไม่ได่ กูเลยไปเอาบัตรเครดิตออก มันตัดเงินไม่ได้มันจะได้ไม่ต่ออายุ แล้วกูก็ไม่ได้สนใจอื่นๆ ใดๆ
จนมาวันนี้จ้า กูได้โทรศัพท์แปลกๆ จาก San Jose, CA กูก็งงว่าใคร พอรับปรากฏว่า Adobe โทรมา เรื่องโปรแกรม Photoshop+Lightroom กูบอกไม่ว่างคุยว่ะ เขาเลยบอกให้อ่านอีเมล์
อห ตลกมาก คือเมล์เนื้อหาแบบมึงใช้โปรแกรมไม่ได้นาจา เพราะมีปัญหาเรื่องการจ่ายเงิน ถ้าจะใช้โปรแกรมให้จ่ายเงินนะจ๊ะ โอ๊ย คือกูได้เมล์บอกว่าการจ่ายเงินคุณมีปัญหามารอบนึงแล้วไง ปรกติมันไม่ได้ส่งซ้ำหรือโทรหาแบบนี้ อีควาย เอาโปรแกรมไปใช้แบบหน้าด้านหน้าทน คิดว่ากูจะจ่ายเงินให้มึงใช้งานต่อเหรอ เจ้านายเฮงซวย ที่ทำงานเฮงซวย เพื่อนร่วมงานหัวควย
กูพึ่งเข้าทำงานได้ไม่นานคนอยู่แผนกไหนชื่ออะไรกูกำลังอยู่ในช่วงศึกษาแล้วก็จำ ทีนี้ตำแหน่งกูต้องติดต่อฝ่ายบุคคลบ่อยๆเพื่อรับเอกสารให้เจ้านาย ทีนี้ในเอกสารเค้าระบุแผนกที่กูไม่เคยได้ยิน ซึ่งกูไม่รู้ว่านายกูเค้าควบสองแผนกใช่ไหมล่ะกูก้ถาม อีสัสตอกหน้ากูเหมืทอนคนโง่อ่ะ พูดอวดดีมากมึงเหมือนทั้งโลกต้องง้อมันอ่ะ กูยอมโดนด่าก่ออนแค่ช่วงนี้แหละ ถ้ายังทำแบบนี้อีกกูจะบวกแม่ง งานดีทุกอย่างอะไรดีหมดจะมีปัญหากับอีนี่แหละ ฮึ่มมมมม
>>939 เอ้า พวกฝรั่งมันตังเยอะ มันก็มาลงทุนตั้งบริษัทที่ต่างประเทศ แล้วให้พวกแถวๆโลกที่ 3 อย่างไทย จีนอะไรแถวๆเนี้ย ทำงาน9-10 ชม.แทนไง แล้วเงินที่ได้ก็ส่งกลับไปเลี้ยงประเทศมันเอง แถมมันก็สมดุลด้วย วัฒนธรรมเอเชียคือแม่งสนับสนุนให้ขยันบ้างาน โยนมาให้ทำเยอะๆแม่งก็ทำ
กูยังโชคดีอยู่หน่อยมั้ง งานแรกที่กูทำเป็นบริษัทอเมริกามามีสาขาที่ไทย
เค้าก็ไม่ได้สนับสนุนให้ทำโอทีอะไร เคยมีโปรเจคนึงที่งานเร่งแล้วไม่ทันของกูมีทำโอฟรีกันนิดๆหน่อย วันละชม.
แต่ทีมที่อเมริกานี่ยอมมาทำงานช่วงวันหยุดยาวกันเลย อย่างน้อยก็ยังรู้สึกว่าเค้ามีสปิริต ไม่ใช่เอะอะจะโยนท่าเดียว
ความรู้ สำคัญกว่าความขยัน เอาแต่มึงจบโทมาเงินเดือน 40000 เทียบคนจบขั้นต่ำ รายวัน 300 ทำงานแม่งทุกวันไม่มีหยุดเดือนนึงได้ 9000 เต็มที่ นี่แค่ความรู้วิชาชีพเบื้องต้น ถ้ามึงบริหารงานเก่งลงทุนเก่งเดือนละล้านยังได้
ฝรั่งมันรายได้ต่อเดือนมากกว่าไทยเกือบสิบเท่า ไม่ไช่เพราะมันขยันกว่าหรือมีเงินทุนมากกว่าแต่มันมีความรู้มากกว่าไง มันผลิตสินค้าไฮเทคมาขายเราแพงๆ มันบริหารเป็นจ้างเราทำงานไห้มันถึงรวยกว่า
ประเทศร่ำรวยเกือบทุกประเทศคือประเทศที่อันดับการศึกษาดีทั้งนั้น มียกเว้นแค่ 1 กรณี คือรวยจากน้ำมัน และประเทศที่การศึกษาดีแทบทุกประเทศรวย ยกเว้นแค่กรณีเดียวคือเป็นประเทศอดีตคอมมิวนิสต์
ความขยันช่วยเราได้ แต่ไม่ไช่สูตรสำเร็จ สติปัญญาความรู้สำคัญกว่ามาก
ไม่มีความรู้แต่ขยันไม่อดตาย มีความรู้แต่ความขยันแค่ปานกลาง ก็ฐานะชนชั้นกลางแล้ว มีความรู้ด้วยขยันด้วยยิ่งดีไปใหญ่บุคคลสำคัญในโลกล้วนมีความรู้และขยัน ถ้าไม่มีความรู้แถมขี้เกียจนี่สิจะลำบาก คนมีความรู้แต่ขี้เกียจมักเออรี่รีไทร์ คือขยันช่วงต้นชีวิตแล้วสบายช่วงปลาย ความรู้ที่ว่าไม่จำกัดแค่ในห้องเรียน แต่รวมถึงประสบการณ์การทำงานด้วย
เคยทำงานกับโปรแกรมเมอร์อเมริกามาหลายคน บางคนกูยอมรับนะว่าเก่งจริง
แต่บางคนงานแม่งโคตรห่วยทั้งที่ตำแหน่งก็ค่อนข้างจะใหญ่ ก๊อบโค้ดมาจาก tutorial บนเว็บแบบไม่คิดจะเปลี่ยนชื่อตัวแปรอ่ะคิดดู
บางทีก็แอบคิดนะว่าคนแบบนี้ขึ้นมาเป็นใหญ่เป็นโตได้ไงวะ มาตราฐานการศึกษาประเทศเค้าสูงกว่าก็จริง แต่เรื่องคนเก่งไม่เก่งมันแล้วแต่คนด้วย
ที่เงินเยอะเพราะมันเป็นมาตราฐานประเทศเค้าด้วยแหละ
ไอ้เหี้ย เมื่อคืนนอนไม่หลับว่ะ นอนตอนห้าทุ่มครึ่ง
กว่าจะหลับปาไปตีสองครึ่ง
ต้องตื่นตีห้ามาทำงาน ง่วงชิบหาย
กูปกติก็ชอบโลกส่วนตัวนะ ชอบที่แคบ ได้งานที่มันต้องทำคนเดียวไม่ยุ่งกับใคร ก็จมอยู่คนเดียวเลยมีความสุขมาก
แต่อยู่ๆวันนี้ก็รู้สึกเหงาขึ้นมา อยู่ๆก็อยากเปลี่ยนงานเฉยไปเป็นครูโรงเรียนอนุบาลแบบเรื่องชินจัง เห็นเพื่อนที่เป็นครูแล้วก็อิจฉา ก็จะไม่บ่นหรอกนะถ้ามันแค่ชั่ววูบ แต่นี่รู้สึกอยากลาออกไปเป็นครูซะเฉยๆทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่อยากเลย ทำไมกันวะ
กูคิดเรื่องนี่วนไปมาหลายชม.แล้ว แต่ถ้าออกแล้วกูก็อาจจะอยากกลับมาทำงานที่นี่อีกก็ได้ กูคิดโดยการอิงจากนิสัยส่วนตัวอ่ะ กูไม่ชอบสุงสิงกับคน ถ้าเป็นครู กูต้องเจอคนเยอะแต่กูก็อยากเจออีก งงมะ กูยังงงตัวเองเลย ตกลงกูมันยังไงวะ
บริษัทเก่ากูแม่งแอบไม่ส่งประกันสังคมให้ 3 เดือน แต่ในใบสลิปคือมีส่งให้ทุกเดือน อีสัสกูโมโหกูไม่รู้ต้องทำยังไงว่ะหัวร้อนชิบหาย
>>955 มึงออกไปเที่ยวไปหาอะไรทำกับเพื่อนไรดีกว่าไหม 5555 อันนี้จากปสก ครูคือการเข้าสังคมอย่างเเท้ทรูว่ะ มึงต้องโนสนโนเเคร์ในระดับนึง ยิ่งครูอนุบาลนะ สังคมหญิงสาว มึงจะเจอการนินทาในนินทา หยุมหยิมในหยุมหยิม ถึงมึงอยู่เฉยๆเรื่องก็จะเข้ามาโดยที่มึงไม่รู้ตัว กูเป็นคนโลกส่วนตัวสูง เเละไม่มีเซนต์ในการพูด อยู่ยากชืบหาย ปรับตัวชิบหายยยย มึงลองชั่งใจดูละกัน
พวกมึงรู้สึกยังไงกับการที่ต้องมารับฟังการนินทาคนอื่นวะ ช่วงนี้กูเจอเเทบทุกวันเลยว่ะ สลับกันมานินนินให้กูฟัง กูไม่รู้จะทำตัวยังไงละว่ะ เเล้วมหัศจรรย์กับการเข้าหน้ากันของทุกฝ่ายมาก นาทีนึงนินทา นาทีนึงยิ้มเเย้มเล่นหัวกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กูอ่อนหัดมากยอมรับเลย กูกลัว เเล้วก็เหนื่อยว่ะ มันไม่สบายใจ มีวิธีเยียวยาตัวเองไหมวะถ้าเจอแบบนี้
วันจันทร์มีใครไม่หยุดบ้าง กูเพิ่งรู้เมื่อเช้าเองว่ากูไม่ได้หยุด เสียใจว่ะ
ดีนะไม่ได้ไปนัดเที่ยวใครไว้
>>957 >>958 กูทำกิจกรรมกับคนอื่นทุกอาทิตย์เลยนะ กูอยู่ชมรมกีฬา ไปซ้อมกีฬาประจำ วันหยุดก็ไปเล่นเกมกับเพื่อน มีแค่ตอนทำงานอ่ะที่ได้อยู่คนเดียว คือกูเจอผุ้คนบ่อยมากเลยนะแต่พอถึงเวลาทำงานก็ยังรู้สึกเหงาๆอ่ะ
เมื่อก่อนก็ไม่เห็นเป็นกูชอบมากเลยได้ทำงานคนเดียวแต่อยู่ๆมันก็มู๊ดสวิงเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังตีน อยากมีคนให้ดูแล คอยมีปฎิสัมพันธ์ เลยอยากเป็นครูอนุบาลไงเพราะกุอยากดูแลคน แต่พอคิดดูอีกที กูก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่ากูต้องการเข้าสังคมจริงๆมั้ยเพราะกูชอบอยู่คนเดียว(แต่เข้าสังคมเกือบทุกวัน งงมั้ยล่ะ กุยังงงเลย) ไม่รู้ทำไมวันนี่กูเหงาอ่ะ ตอนอยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่กับคนอื่นก็มีความสุข แต่บางทีแม่งก็สลับกันไปหมด อยู่กับคนอื่นแล้วอึดอัด อยู่คนเดียวแล้วเหงา กูไม่เข้าใจว่าความสุขของกุอยู่ตรงไหนและงานอะไรที่กูจะมีความสุขจริงๆการทำร่วมกับคนอื่นหรืออยู่คนเดียว
ตอนนี้กูก็ยังอยากเป็นครูอยู่เลย อยากอยู่คนเดียวแต่ก็อยากดูแลคนอื่นอ่ะ หรือกุควรหาแฟนดี
>>959 มึงเหตุการณ์เดียวกะกุเด๊ะๆ เลย คือกูกินข้าวในห้องอาหารของที่ทำงานทุกวัน ส่วนพี่ๆ กุก็สลับเวียนกันไปกินข้างนอกบ้าง ข้างในบ้างตามเรื่องราว ทีนี้พอพี่ A อยู่ก็นินทาพี่ B / พี่ B อยู่ก็นินทาพี่ C / พี่ C อยู่ก็นินทาพี่ A อาจจะมีสวิงกิ้งสับคู่บ้างไรบ้าง หรือถ้าอยู่แม่งทั้งสามคนแค่นั่งคนละโต๊ะตะโกนคุยกันหัวเราะเฮฮา พอก้มหน้าลงมาก็ลดเสียงด่าว่าตอแหลเอ๊ยอะไรแบบนี้ หนักๆ เข้าแค่ผินหน้ามาอีกทางแล้วคว่ำปากให้เห็นเลยก็มี กูในฐานะที่รู้เห็นทุกอย่างบางทีก็ถูกชวนให้ผสมโรง แม้บางเรื่องที่เขาด่ากันจะเป็นเรื่องจริง แต่กุก็คิดว่ามันเป็นความบกพร่องของมนุษย์อยู่แล้วป่ะวะ ใครจะดีไปทุกอย่างไม่เห็นต้องเอามานินทาเลย กุเลยไม่ค่อยตอบ ยิ้มๆ บอกไม่รู้ดิ ไม่ค่อยสังเกต รีบแดกรีบเผ่นออกมาใส่หูฟังดูยูทูปในมือถือกันคนชวนคุย ใช้เวลาพักกลางวันพักจิตใจจากสังคมทั้งปวง ให้ผู้ชายในหนัง และผุ้ชายสองดีเยียวยาตัวเอง
สมตติมึงถูกเรียกสัมภาษณ์จากบรฺษัทที่ไม่ได้สมัครไป มีวิธีคัดกรองกันยังไงบ้างวะ คือบางที่มันจากคนละอุตสาหกรรมที่กุทำอยู่กุก็ไม่รู้จักว่ามันดังไม่ดังไรงี้ไง ถ้ายึดจากการก่อตั้งมานาน,ประเทศต้นกำเนิด,ทุนจดทะเบียน อะไรงี้พอได้มั้ย หรือมีวิธีดูจากอย่างอื่นอีกวะ
ทำไมหัวหน้้าชอบให้กูทำอะไรที่มันมิชชั่น อิมพอสสิเบิลลล
คือแบบบบบถ้าจะสั่งแบบนี้ อยากให้หัวหน้าไปถูตะเกียงขอจินนี่เอา
จินนี่ ้ะ จินนี่ จ๋าา ออกมา อาอาาา
กูได้งานใหม่ที่กทม พอจะย้ายแล้วก็รู้สึกเหงาๆเหมือนกัน ที่ทำงานเก่าอยู่ต่างจังหวัดค่าครองชีพไม่สูงมาก เงินเดือนก็ดี เพื่อนร่วมงานและหัวหน้ามีปัญหาบ้างแต่ไม่ถึงขั้นอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่ที่ตัดสินใจเปลี่ยนงานเพราะระบบงานเป็นหลักเลยว่ะ
ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกเสียดายอยู่ว่าถ้าระบบงานมันดีกว่านี้คงไม่ต้องเข้า กทม
แฟนกูอายุไม่น้อย แต่ไม่ค่อยเรียกสิทโดยเฉพาะที่บริษัท เวลาเงินเดือนออกเงี้ยก็ไม่ขอสลิปเขา เงินออกเดือนนึงาองครั้งเจาแบ่งจ่าย พอได้น้อยก็แบบปล่อยผ่านอ่ะบอกว่าส่งสัยสายบ่อยอะไรบ่อย เฮ้ยยคือมึ้งงงงง อย่างนี้จะรู้ได้ไงว่าประกันสังคมบอสัทจ่ายให้ไหม เขาหักสายตามตกลงหรือเปล่าไรเง้ กูคุยด้วยททีไรมีแต่กูที่หงุดหงิดอ่ะ
กูว่าตอนนี้ กทม ได้เปรียบแค่หนังนอกกระแสที่มีโรงฉายน้อยว่ะ
ความบันเทิงอื่น นิยาย หนังสือการ์ตูน เกมส์ หนังDVD มีให้สั่งทางเน็ตหมด สตรีมก็มีหลายเจ้า Netflix iflix อยู่ต่างจังหวัดก็เข้าถึงได้หมดแล้วขอแค่มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หลายๆอย่างที่กทมมีคนต่างจังหวัดก็มีได้
>>976 ไม่รู้ว่ามึงหวังสูงไปรึเปล่านะ แต่กูที่อยู่ต่างจังหวัดมาเกือบทั้งชีวิต กูอยากบอกว่าหลายๆอย่างที่คนกทม. มองคนต่างจังหวัด บางทีก็เป็นอะไรที่จินตนาการเอาเองว่ะ เห็นได้ชัดๆก็ไอ้โฆษณาIsuzu ในโรงหนัง คือมองว่าการทำเกษตรในพื้นที่ห่างไกลคือความพอเพียง คือการอยู่บธรรมชาติ แต่กูบอกเลยว่าต่างจังหวัดไม่ได้สวยงามเหมือนที่คนกรุงมอง ข้อเีอย่างเดียวคือรถไม่ติดแน่ๆล่ะ ส่วนปัญหาอื่นๆมันก็มี คนต่างจังหวัดก็เป็นมนุษย์เหมือนที่คนเมืองเป็น ไม่ได้ใจกว้างเป็นมิตรโอบอ้อมอารีสามัคคีกับเพื่อนบ้านและคนรอบข้างอะไรขนาดนั้น คนเมืองมีอะไรเหี้ยๆคนต่างจังหวัดก็มีเหมือนกัน
แต่สำหรับคนที่อยู่เมืองมาทั้งชีวิตอยากออกจากที่เดิมๆ การมาอยู่ต่างจังหวัดก็คงเหมาะล่ะมั้ง
>>955 มึงเหมือนกูเลยอะ งานที่ทำอยู่ทำคนเดียวไม่ต้องยุ่งกับใคร พอเป็นแบบนี้
มันก็ทำให้ตั้งแต่กูมาทำงานนี่ก็ไม่มีสังคมอะไรเข้ามา กูก็ชอบนะแต่ก็มีบ้างที่กูรู้สึกเหงาๆ
เพื่อนที่คุยอยู่ก็นานๆเจอกันทีให้หายเหงา แต่พออ่านไปมากูน่าจะหนักกว่า >>961
กูตอนนี้แทบจะสังคมปิดอย่างแท้จริง กูก็ลองย้อนคิดว่าจะทำงานนี้อยู่ได้นานแค่ไหน
หรืออนาคตจะลาออกไปทำงานแบบอื่น แต่เป็นงานที่กูพอใจและชอบแต่ติดแค่งานที่ทำอยู่นี่
ทำให้กูรู้สึกเหงา แต่กูเคยทำงานที่มีเข้าสังคมแล้วกูก็เหนื่อย หรือเพราะใจกูช่วงนี้แค่เหงาเป็นช่วงๆ
แล้วถ้าจะหมายถึงเรื่องแฟนแบบที่บอกเนี่ยไม่รู้เป็นกูคนเดียวไหม จบทำงานมาถ้าไม่ใช่สังคม
ที่ทำงานมา เพื่อนะเก่า ก็เจอคนน้อยลงกว่าตอนเรียนหรือตอนอื่นเยอะ จนกูคิดว่าเรื่องหาแฟนเริ่ม
กลายเป็นเรื่องยากสำหรับกูที่จะเจอคนใหม่ๆ โดยเฉพาะงานที่กูทำเป็นแบบทำคนเดียวไม่ต้องประสานงาน
อะไรกับใครเยอะ เรื่องคนใหม่ๆที่เข้ามาคงไม่เท่า ตอนนี้ที่กูคิดว่าอยากลองย้ายงานไปทำอย่างอื่นให้ใจกู
ไม่รู้สึกเหงา (กูก็มีเพื่อนเป็นครูอนุบาลเหมือนกัน บางที่ถึงจะรู้ว่าเงินเดือนไม่เยอะแต่ถ้ามีความสุข แล้วสุขใจ
ทำแล้วไม่เครียดเท่างานอื่น อยู่กับเด็กๆ บางทีก็อาจจะดี)
เออลืม ผู้มีอิทธิพลนี่ก็น่าจะเยอะด้วย เพราะห่างไกลจากส่วนกลาง แต่สมัยนี้มีโซเชี่ยลอาจจะน้อยลงแล้วมั้ง
กูก็อยู่ต่างจังหวัด อันนี้เล่าจากชีวิตกูนะ ผู้มิอิทธิพลมีมั้ย มี แต่อย่างกูเป็นคนธรรมดาโนเนมสัดๆ ไม่เคยออกไปมีเรื่องอะไรกับใคร กูเลยรู้สึกว่าพวกนี้เป็นเรื่องไกลตัวกู (จริงๆมันก็ใกล้นี่แหละ แต่กูแค่ไม่รู้สึก) เวลาจะไปไหนเดินทางง่าย ไม่ต้องรถติด ไม่ต้องเผื่อเวลาเดินทาง (รถติดก็มีบ้างตอนช่วงเลิกงาน แต่ไม่มีติดเป็นชั่วโมง)
เรื่องสังคมนี่ก็แล้วแต่อีก บ้านกูเป็นครอบครัวเดี่ยว ไม่สุงสิงกับใคร เพื่อนบ้านยังไม่เคยคุย เพราะงั้นกูไม่เจอคนนินทา (เค้าอาจจะนินทากูก็ได้แต่กูไม่รู้ ไม่สน)
แต่สิ่งอำนวยความสะดวกมันไม่ค่อยมีนะ ห้างก็มี 2-3 ที่ โรงหนังก็เพิ่งมาเปิดไม่กี่ปีนี้ สตาร์บัคส์ก็ไม่มี ของกินอะไรที่กูเห็นคนกรุงเทพเค้าฮิตกันกูก็ไม่ได้กินหรอก ได้แต่มองรูปในโซเชียลตาละห้อยเท่านั้น
การขนส่งสาธารณะก็ไม่ดี (แทบจะไม่มีเลยมากกว่า) คือถ้ามึงมาอยู่มึงต้องมีรถของตัวเองอะ (ไม่ต้องรถยนต์ แค่มอเตอร์ไซค์ก็ได้) ถ้ามึงไม่มีรถเลยมึงจะเดินทสงไแไหนลำบากมากกกก
*เดินทางไปไหนลำบาก*
กูพิมพ์ผิด โทษที
มึงกูมีเรื่องอยากจะปรึกษา คืกูเคยไปทำงานในบริษัทเล็ก ๆ บ.หนึ่งมา และไม่ได้เซ็นสัญญา ต่อมาเจ้าของประสบปัญหาหมุนเงินไม่ทัน ทำให้ไม่ได้จ่ายเงินเดือนกูประมาณ 3-4 เดือน หลังจากนั้นกูก็ออก ประเด็นคือกูเดือดร้อนเรื่องเงินกูเลยไปถามเขาว่าเขาจะให้กูได้เมื่อไหร่ ประกอบกับช่วงนั้นมันมีพนักงานใหม่เข้าแล้วกูไปคุยกับเค้าบอกว่าบ.มันมีปัญหานะ ให้ระวังตัวไว้ คือกูก็หวังดีอ่ะแต่เหมือนกูจะคิดผิดไป เพราะพนักงานใหม่คนนั้นก็โดนค้างเงินเหมือนกัน แล้วเขาก็ร้อนเงินเขาเลยเอาเรื่องที่กูเคยพูดว่าบ.มีปัญหาไปบอกเจ้าของ เจ้าของมันก็ขู่กูว่าถ้าเอาเรื่องบ.ไปพูดอีกอาจจะพิจารณาการให้เงินคืน คืออีเหี้ยเหอะ แล้วมันค้างเงินกูมาจะ 2 ปีแล้ว มันบอกไม่เกินเดือน 5 ปีหน้าจะให้คืน เหอะ ๆ แล้วคืออีเหี้ยนี่ตอนทำงานให้ก็ชอบกลับคำ พอออกก็ชอบให้มาช่วยฟรี แล้วบอกว่ามีบุญคุณกับกูเพราะตอนแรกรับกูเข้ามาทำงาน อีเหี้ยเหอะ
สรุปคือกูควรจะทำยังไงดีวะให้ได้เงินคืนอย่างแน่นอน โดยที่ไม่ได้เซ็นสัญญาการจ้างงาน เพราะกูไม่อยากประนีประนอมแล้ว มันทำตัวเหี้ยเกิน เหมือนทุกอย่างไม่ใช่ความผิดมัน แต่มันยังเอาเงินไปเปย์หญิง ไปซื้อไอโฟน 10 แต่ไม่มีเงินคืนกูบอกเงินบ.ติดลบ กูก็เข้าใจนะว่าเงินบ.กับเงินกระเป๋าตัวเองแยกกัน แต่กูเกลียดแม่งจริง ๆ อยากให้แม่งไม่ตายดีเลย
>>987 กูว่าง่ายสุดคือตัดขาด ช่างหัวเรื่องเงินไปเลยแต่อย่าไปยุ่งกับแม่งอีก อย่าให้มันใช้งานมึงฟรีหรือวุ่นกับชีวิตมึงไปมากกว่านี้ แต่ถ้ามึงอยากได้คืนจริงๆก็เตรียมฟ้องศาลดำเนินคดี แต่ปล่อยนานขนาดนี้กูไม่รู้จะมีปัญหาเรื่องอายุความหรืออะไรทางกฎหมายรึเปล่านะ มันเอาเรื่องยากอยู่แล้วเรื่องคดีต้มตุ๋นฉ้อโกง ลองปรึกษาทนายหรือคนที่รู้กฎหมายและเชื่อใจได้
กระทู้อาจพอเป็นแนวทางได้ ลองอ่านดู https://pantip.com/topic/32134799
>>988 คือมันโทรมาขู่กูด้วยว่าอย่าก่อเรื่อง อย่าเที่ยวเอาเรื่องภายในบริษัทไปบอกคนอื่น เรื่องที่ว่านี่คือเรื่องมันชอบไม่จ่ายเงิน จ่ายช้า ดองเงินพนักงานเนี่ยแหล่ะ คือเจออย่างงี้กูชักหมดอารมณ์กับมันแล้วอ่ะ ถ้าก่อเรื่องอีกจะพิจารณาการคืนเงิน อย่างงี้ก็ได้หรอวะ มันบอกว่ากูทำให้บริษัทเสื่อมเสีย
เรื่องต่างจังหวัดกูว่าเหมาะกับการทำงานมากกว่าเมืองว่ะ ถ้าไม่ใช่งานที่ต้องเข้าเมืองติดต่อลูกค้าตลอด การอยู่ต่างจังหวัดหลายๆอย่างมันดีกว่าเมืองจริงๆ
จากประสบการณ์ของกูนะ
สมัยเรียนจบใหม่ๆ ได้งานช่วงสั้นๆที่นนทบุรี ตอนนั้นยังอาศัยหอพักของมหาลัย ตื่นมานั่งรถเมล์ไปทำงาน 30 นาที เพราะยังอยู่หอพักในมอ เพื่อนบางคนก็ยังไม่ย้ายออก เลยไม่รู้สึกถึงความต่างอะไรเท่าไร ประมาณว่าตัวเองยังมีเพื่อน
งานต่อมาได้แถวม.รังสิต ไปเช่าหอข้างมอ ได้อยู่หอแบบไม่มีคนรู้จัก ช่วงแรกค่อนข้างเหงาอยู่ แต่ซักพักก็ชิน งานที่ทำไม่เครียดด้วยออกจะสบายๆ เวลาพักเยอะ
งานต่อมาได้ทำที่ต่างจังหวัด บ้านนอกมาก บริษัทมีบ้านพักเก่าๆให้ แบบพออาศัยอยู่ได้ ไปวันแรกรู้สึกรับไม่ได้เพราะเป็นคนที่อยู่ในเมืองมาตลอด แต่ผ่านไป2-3 กลับชอบว่ะ ตื่นเช้ามาปั่นจักรยานไปทำงาน ไม่ต้องรีบ ไม่เจอรถติด เสียอย่างเดียวที่ร้านอาหารมีน้อย(ยังดีที่มี7-11) กับรถตู้เข้า กทม. มีไม่กี่รอบต่อวัน เข้าเมืองลำบาก
งานล่าสุดที่ทำ อยู่ในเขตเมือง คนพลุกพล่าน เวลาเลิกงานนี่ตัวใครตัวมันมาก เข้าห้องได้ก็เหมือนมาอยู่อีกโลก ไม่รับรู้โลกภายนอกแล้ว มาทำงานแค่วันแรกก็อยากกลับต่างจังหวัดเลยว่ะ คิดถึงบ้านไม้เก่าๆ แอร์ไม่มี แต่พอมาอยู่ในเมืองในห้องดีๆมีแอร์ ไวไฟ เครื่องทำน้ำอุ่น แล้วคิดว่าบ้านเก่าๆที่บ้านนอกมันน่าอยู่กว่าซะงั้น
พวกมึงขอปรึกษาหน่อย คือกุทำพาร์ทไทม์นะ ละเหมือนไปโกงเค้ากลายๆอะ คือกุผิดแหละยอมรับแต่ไม่แรงมาก ไม่ถึงกับโกงเงิน
แบบนี้กุจะโดนไล่ออกหรือแค่ตักเตือนวะ ละจะเสียประวัติปะ ไม่น่าเลยกุ
เพื่อนโม่ง ค่าไปรถไปกลับวันละ 80 บาท นี้ ควรมีมอไซต์ใช้มะ
>>995 อยู่ที่การเดินทางตอนนี้เมิงสะดวกขนาดไหน
ถ้า 80 บาทต่อเดียวขึ้นไปนั่งมั่งยืนมั่งรอไม่นานความเร็วไม่ต่างกะขับมอไซด์เองกุก็ไม่แนะนำ
การมีมอไซด์มันมากับ
- การล้างรถ
- ที่จอด(และเครื่องมือป้องกันโดนโจรยก)
- ค่าน้ำมัน
- ค่าดูแลรักษา
- ขับเองนั่งหลับเล่นมือถือไม่ได้
เมิงก็ลองไปนั่งนึกดูว่าทั้งหมดดีกว่าตอนนี้ไหมถ้าดีกว่าก็รีบถอยเลย
กูขี่มอไซด์ใน กทม. มาตั้งแต่เรียนมหาลัย จนตอนนี้ทำงานแล้วก็ยังขี่ (แถมมีแผนจะสอย Ducati ด้วย)
ถ้าระยะทางไม่ไกลระดับ 20+ กิโลฯ มอไซด์น่ะค่อนข้างคุ้มเลย ทุกวันนี้กูขี่ไปกลับที่ทำงานประมาณ 10 กิโลฯ เศษๆ เติมน้ำมันอาทิตย์ละครั้ง ถังละ 100 บาทเอง
ยืนยันว่าในกทม มอไซยังไงก็เวิ้ค เป็นห่วงแค่เรื่องการขับขี่กับติดไฟแดงหน้าร้อนก็พอ
อ้าวว จะมาบ่นชีวิต 1000 พอดีเลยกระทู้ 55555+
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.