เบื่อที่บ้านว่ะ กลับมาทีไรกูต้องมาทนฟังแม่บ่นๆๆๆๆเรื่องพ่อ เออ กูก็อยากให้พ่อเปลี่ยนนิสัยบางอย่างเหมือนกันแหละ
แต่แม่งไม้แก่มันดัดยากไง พูดไปก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา กูเลยไม่อยากจะอะไรมาก ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาตามเช็ดตามล้างให้ก็ปล่อยไป ปลงไปดีกว่า
แต่เขาก็พูดแต่เรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่น จนบางทีกูรู้สึกว่าถ้ากลับบ้านแล้วต้องมาเจองี้ กูไม่กลับมาดีกว่า
แล้วก็เป็นอะไรที่เหนื่อยใจชิบหาย ทั้งพ่อทั้งแม่กูบ้าการเมืองสัส เย็นมาเปิดแต่ข่าวแล้วก็ก่นด่าล้งเล้ง
ดูแม่งแต่ช่องเดิมๆ ที่ตรงกับความชอบทางการเมืองของแกนั่นแหละ กูนี่แบบ ต้องทนฟังข่าวเอียงๆ งี่เง่าแล้วก็ได้แต่กลอกตามองบนในใจเงียบๆ
บางทีกูนี่รีบเปลี่ยนช่องไปดูหนังแทนแม่งละย้ำหนักๆว่ากูจะดู เขาถึงได้ยอมเลิกดู ไม่งั้นก็ฟังอีผู้ประกาศเป่าหูอยู่นั่น
และด้วยความที่แม่กูค่อนข้างหัวโบราณ พอกูคุยเรื่องอะไรที่มันแปลกใหม่แหวกขนบธรรมเนียบเข้าหน่อยก็จะวีนแตก ละคุยกันดีๆไม่ได้ละ
พูดแย้งอะไรไปด้วยข้อเท็จจริงก็มาโกรธ หาว่ากูปีกกล้าขาแข็ง เรียนปริญญาแล้วหัวสูง ไม่ฟังพ่อฟังแม่แล้ว กูนี่อ่อนใจจนไม่รู้จะทำยังไง
เลยทำให้เรื่องที่คุยได้มันลดลงทุกทีจนบางทีกูรู้สึกเหมือนแค่อยากกลับบ้านมาเพราะมาหาข้าวฟรีแดกเฉยๆ ดูเนรคุณเนอะ
ล่าสุดน้องกูอยู่ม.6 เตรียมจะเข้ามหาลัย วันดีคืนดีแม่กูก็จะหาคณะนู้นคณะนี้มาแล้วก็กรอกหูน้องกูรัวๆ ว่าเข้าที่นี่สิๆๆๆๆๆๆ
ซึ่งตรงข้ามกับกู เพราะกูอยากให้น้องมันค่อยๆคิด หาที่ที่อยากจะเรียนจริงๆให้เจอก่อน ไม่งั้นไปเรียนแล้วมันไม่โอเคชีวิตแม่งจะเหี้ย
แม่กูเขาก็ร้อนใจกลัวว่าจะไม่ทันคนอื่น ก็มาบ่นกับกู กูก็พยายามกล่อมให้เขารอไป ตามใจน้องมัน ชีวิตมันให้มันเลือกเอง แต่ก็ไม่รู้จะฟังมั้ย
คงเพราะเขาเป็นครูด้วยล่ะ อีโก้เลยสูงกว่าคนปกติ บางทีกูแย้งไปด้วยมุมมองของกูที่เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน เขาก็โวยวายบอกว่าไม่ได้ไม่ดี
จนรู้สึกว่าเหนื่อยที่จะต้องคุยกันแล้ว เหมือนทำยังไงความคิดก็ไม่เคยจะตรงกันได้สักที
เทอมหน้ากูก็ขึ้นปี4แล้ว อยากจบแล้วหางานทำไวๆจัง ไปเหนื่อยกายดีกว่าต้องมาเหนื่อยใจ
ในความคิดกู กูว่าบ้านควรจะเป็นสถานที่ที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นที่พักใจมากกว่าเป็นที่ที่ทำให้หมดแรง