https://fanboi.ch/lifestyle/1579/319/
กูคือคนนี้ หลังจากวันนั้นกูก็ยังไม่ได้ถามพ่อว่ะ ผ่านมาหลายปี เรื่องเพิ่งแดงเมื่อวานซืนโดยที่พ่อเป็นคนบอกแม่เอง
คบกันมา 13 ปี อีเหี้ย 13 ปี คอนโดที่ซื้อมาบอกว่าปล่อยเช่าคือซื้อให้อีนั่นอยู่ ที่ไปต่างจังหวัดบ้าง เคลียร์แบบบ้างคือไปหาอีนั่น มีการชมด้วยว่าเค้าไม่เอาอะไรไปเลยนะ เก็บแค่ของส่วนตัวไป โถ่ ด่าพ่อว่าควายได้ไหม คอนโดทำเลนั้นค่าเช่าเดือนละสองหมื่น อยู่มาสิบกว่าปีค่าน้ำค่าไฟค่าสาธารณูปโภคก็เกือบสามล้านแล้วอีเหี้ย แถมยังมีหน้ามาบอกแม่กูอีกว่ามีของส่วนของมันอยู่ที่ห้อง ห้ามเก็บออกนะ เมื่อเช้าเคลียร์ของที่บ้านบริจาค(พ่อกับแม่กูยังอยู่บ้านเดียวกัน แต่กูอยู่คอนโดอีกที่ ชวนแม่มาอยู่ด้วยแม่ไม่มา)จะยกทีวีไปทิ้ง แม่กูบอกเอามาให้กูไหม พ่อกูบอกถ้ากูไปอยู่คอนโด(ที่นังนั่นเคยอยู่)แล้วจะมีทีวีจอใหญ่อย่างดีเลย โถ่ นี่กูเคารพรักคนแบบนี้มาทั้งชีวิตจริงๆ เหรอวะ พูดอะไรไม่คิดถึงใจแม่กูเลยอะ หุบปากไว้ไม่พูดจะดีกว่าไหม
ช่วงนี้ที่พ่อกูหงุดหงิดๆ บ่อยๆ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเพราะวัยทอง แต่เปล่า แม่งทะเลาะกับอีนั่นมา มันเก็บของหนีไปได้สองอาทิตย์แล้ว พ่อกูเพิ่งจะมาสารภาพกับแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แถมยังคิดจะไม่บอกกูด้วย พอคุยด้วยก็ตีเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่ทะเลาะกับอีนั่นเพราะไม่ยอมเปิดตัวสักที(โหน่าภูมิใจมากเลยอะ แกรนด์โอเพนนิ่งเมียน้อย กรี๊ด) ตอนแรกเห็นว่าจะผัดผ่อนว่าให้กุเรียนจบก่อน แต่สงสัยรอไม่ไหวเลยหนีไปก่อน
ใจนึงอยากจะกอดแน่นๆ แล้วบอกว่าไม่เป็นไร แต่อีกใจก็ขยะแขยงจนไม่อยากจะมองหน้า คนที่เรารักและเชื่อใจที่สุดในชีวิตยังอยู่ในนั้นปะวะ หรือเค้าหายไปนานแล้ว คำแรกที่กูโทรไปบอกพ่อเลยคือไม่เป็นไร เริ่มต้นกันใหม่ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคำว่าขอโทษออกมาจากปากพ่อให้กูสักคำ กูอยากเอาการให้อภัยนั่นคืนมาจัง มันเอาคืนได้ไหมวะ อยากเห็นการสำนึกผิดว่ะ มีอะไรการันตีได้บ้างว่าพ่อกูจะไม่ทำอีก และกูโกรธมากที่พ่อคิดจะไม่บอกกู เฮ้ย กูจะเรียนจบทำงานแล้วนะ ไม่ได้โง่นะ ที่จริงแม่กูบอกว่ากูทักเรื่องนี้มาตั้งแต่ประถมแล้ว(แต่กูจำไม่ได้ อีเหี้ยเอ๊ย แม่กูก็ไม่ได้เค้น)
เสียใจว่ะ อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่าเหมือนเดิมที่ควรจะเป็นแม่งอยู่ตรงไหนไง แม่งไม่มีความเหมือนเดิมให้กูอะ ความไว้ใจที่ให้ไปคือเหี้ยไรวะ มีค่าบ้างไหม เขาทำหน้าที่พ่อดีนะ ดีจนกูพูดได้ไม่เต็มปากในฐานะลูกเลยว่าเขาเห็นแก่ตัว แต่ขอพูดแทนแม่ว่าในฐานะผัวคือเหี้ย เหี้ยจริงๆ และเหี้ยคูณสิบเพราะไม่สำนึกผิดเหี้ยอะไรทั้งสิ้น และตอนนี้กูก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าที่เขาให้กูขนาดนั้นเพราะรู้สึกผิดรึเปล่าที่ทำกับกูแบบนี้
หลังจากบอกแม่ พ่อกูก็ไหว้พระและพูดต่อหน้าพระว่าจะมีเมียคนเดียวไปตลอดชีวิต จะโอนคอนโดที่นั่นให้แม่(เป็นสมบัติที่เป็นชื่อพ่อนอกจากรถ คอนโดที่กูอยู่และบ้านที่แม่กูอยู่เป็นชื่อแม่) หลังผ่อนเสร็จ แต่กูไม่เชื่อพ่อแล้วว่ะ พ่อก็เคยพูดแบบนี้ตอนแต่งงานปะ คำพูดที่มันผิดไปแล้วจะเชื่อได้อีกครั้งจริงๆ เหรอ อีกอย่างที่กลัวคือกลัวอีนั่นกลับมา
แม่กูเลือกพ่อกูเพราะเป็นเพื่อนกันมาก่อน และ(ตอนนั้น)พ่อกูรักแม่กูมาก แม่กูเลือกผู้ชายที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเรียนดีมากกว่าผู้ชายหล่อๆ รวยๆ คิดในใจว่ายังไงก็เลือกไม่ผิด แต่ตัวเค้าในตอนนี้ก็ไม่ใช่เด็กมหาลัยขยันและซื่อสัตย์คนนั้นแล้วอะ และเชื่อมั่นมาตลอดทั้งที่สัญญาณหลายอย่างมันแหม่งๆ แต่แม่กูไม่ใช่ประเภทจะเค้นถามอะ มารู้แบบนี้ก็ดี จะได้เลิกโง่ และขอให้พ่อกูตอนนี้เป็นคนละคนกับไอ้แก่ลืมลูกลืมเมียเมื่อสิบปีที่แล้วจนถึงสองอาทิตย์ที่แล้วเถอะ
พ่อกับแม่กูจะมาหาวันเสาร์ กูควรจะทำหน้ายังไง ถ้าพ่อกูขอโทษและสำนึกผิดกูคงยกโทษให้ทันทีเลย แต่กูว่าต้องไม่แน่ๆ ต้องเกิดการตีเนียนขึ้นแน่ๆ ตอนนี้ที่คิดจะทำคือถามพ่อก่อนว่าขอโทษได้ไหม รู้ว่าผิดใช่ไหม และจะไม่ทำอีกแล้วใช่ไหม ถึงเขาจะกลับมาก็จะไม่กลับไปใช่ไหม แล้วขอกุญแจคอนโดอันนั้นมาเก็บไว้ กูจะเข้าไปสุ่มดูทุกเดือน จะค่อยๆ ทำความสะอาดให้หมด จะเก็บตังค์เปลี่ยนแอร์ด้วย ไม่อยากหายใจอากาศที่มีโมเลกุลของมัน แล้วก็ต้องเปลี่ยนตัวแทนประกันที่เคยทำไว้กับอีนั่น พ่อกูไม่รู้หรอกว่ากูรู้ว่าอีนั่นเป็นตัวแทน แต่กูส่องมาหมดแล้ว ปรินท์รายละเอียดกรมธรรม์มายันด้วยแล้ว อีเหี้ยยยยย ให้ไปเปลี่ยนกับกูเลย
มีใครมีไอเดียอะไรอีกไหม แนะนำกูที อยากเชือดคืนคนไม่เผชิญหน้ากับปัญหาแบบนิ่มๆ กูจะไม่ฟูมฟาย ไม่โวยวายต่อหน้าเขาและแม่เด็ดขาด ชีวิตนี้กูคงไม่มีความรักแล้ว ไม่สวย หาผัวไม่ได้ ถึงจะมีผัวก็จะไม่มีวันหยุดทำงาน สเตตัสแม่กูตอนนี้คือยังต้องพึ่งพ่ออยู่เพราะออกจากงานมาเลี้ยงกู กูจะไม่มีวันเป็นแบบนี้ อยู่เองกับหมากับแมวยังดีกว่า อย่างน้อยมันก็ไม่โกหกเรา
ขอบคุณสำหรับที่ระบายนะ ทั้งสามปีที่แล้วและวันนี้ หวังว่ากูจะไม่ต้องเข้ามาพิมพ์ระบายในนี้อีก