Fanboi Channel

โม่งปรึกษา แลกเปลี่ยน สุขภาพทางจิต [2]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:PZoiBWzAy

ตั้งกระทู้ขึ้นมาเพื่อให้คนที่มีความผิดปกติทางจิตหรือผู้ที่ใกล้ชิดสนิทกับผู้ป่วย ปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดกัน เชื่อว่าหลายมีปัญหาด้านนี้แต่ไม่กล้าไปปรึกษาใคร กลัวใครจะรู้เข้าว่าเราผิดปกติด้านนี้ ไม่ว่าคุณจะโรคซึมเศร้าหรือไบโพลาร์ มาช่วยกันครับ ก่อนจะสายเกินแก้
กระทู้แรก >>>/lifestyle/2065/

2 Nameless Fanboi Posted ID:svSLrU6fP

ตอบ >>998 กระทู้ก่อนนะ เราหมายถึงเวลาที่เศร้าคือรู้ตัวว่าทำไมถึงเศร้าน่ะ แต่ก็อย่างที่บอกเราเป็นโรคซึมเศร้า เราไม่รู้ว่าตอนอยู่ในช่วงเอปิโสดแมเนียมันเป็นยังไง แต่ไม่เป็นไร เราเชื่อว่าแกจะจัดการกับมันได้ไม่ช้าก็เร็ว เพราะสำหรับเราตอนที่ดิ่งลงไปมากๆ จนสุดขนาดที่เส้นแบ่งเหลือแค่เพิ่มแรงกดคัตเตอร์อีกนิดยังคืนมาได้เลย ที่สำคัญอย่าลืมไปหาหมอนะ เราไม่รู้ว่าทำไมแกถึงเลิกไป แต่ปัญหาของโรคนี้ไม่ได้อยู่ที่ปมปัญหาความเครียดอย่างเดียว แต่มีเคมีในสมองด้วย ต้องกินยาเพื่อปรับ ส่วนเรื่องเพื่อนก็ เราอยากบอกว่าให้ลองหาใครสักคนที่คุยได้แบบสะดวกใจมาไว้บ่นๆ ด้วยเพราะมันช่วยได้เยอะจริงๆ แต่ตอนที่เราเป็นหนักๆ เราก็ปฏิเสธทุกคนเหมือนกัน 555555 เพราะงั้นก็เอาที่แกสะดวกใจนั่นแหละๆ

3 Nameless Fanboi Posted ID:+LESO1ei.

>>2 เรายังกินยาปรับเคมีตามปกตอเพียงแต่เราเลิกไปหาหมอแล้ว
คือทันเป็นปัญหาการเงินของครอบครัวน่ะ เราเลยแบบเป็นคนบอกหมอเองแบบแทบกดดันหมอว่าเลิกนัดเราเถอะ เราไม่ต้องการหมอ แช้วกับเวลาเราอยู่กับที่บ้านเราก็ทำดี๊ด๊ายูนิคอร์นแบบ เราหายแล้วเราไม่ป่วยนะเออไรงี้ไง เพื่อให้พาอแม่สบายใจ 55
เราเชื่อเหมือนกันนะว่าวันนึงเราต้องผ่านมันไปให้ได้อ้ะ 55 ไม่มีใครอยากเป็นโรคหรอก จีจี

4 Nameless Fanboi Posted ID:zsA8t/Ub/

กูไม่เคยเข้ารพ.จิตเวชว่ะ เสียตังมั้ยว่ะ ต้องทำไงบ้าง

5 Nameless Fanboi Posted ID:svSLrU6fP

>>3 อย่าลืมทำอะไรที่ทำให้ตัวเองสบายใจด้วยนะ ถ้ารู้สึกแย่มันก็ไม่ผิดหรอกที่จะแสดงออกมา
>>4 ก็ถ้าโรงบาลรัฐก็ใช้สิทธิ์ได่้เหมือนโรงบาลธรรมดาน่ะ ก็ไปตอนแรกก็ไปคัดกรองโรคกับพยาบาลก่อนเหมือนไปโรงบาลทั่วไป แค่บอกว่ามาเพราะมีปัญหาอะไร

6 Nameless Fanboi Posted ID:NKheYhwxV

>>4 เสียค่าหมอ ค่ายา ค่าหมอแพงเหี้ยๆ ถูกๆรอนัดชาติกว่าๆ กว่าจะได้คุยกับหมอมึงอาจเหี่ยวตายก่อน
โชคร้ายเจอหมอเอาแต่พูดเรื่องของตัวเองไม่ฟังมึงพูดก็มี หมอบางคนไม่ทำความเข้าใจคนไข้ สักแต่จะขายยาก็มี หมอจิตไทยดีๆหายาก กระหายเงินขายค่าทดสอบโง่ๆกระดาษไม่กี่แผ่น 400-500 ขายยาอีกเป็นร้อย ไปทีเสียเกือบพัน เวลาทำงานน้อยกระทัดรัดเปิดแปดโมงพักเที่ยง เปิดต่อบ่ายปิดบ่ายสาม คือดี๊ดี

ว่าไปนั่นกูล้อเล่นหรอก ;)

7 Nameless Fanboi Posted ID:1UoMfp4LS

ของเราไปโรงบาลที่ม.เราอ่ะ อาจารย์หมอโอเคมาก หมอแย่ๆก็เคยเจอแหละ แต่ก็นะ ถ้าสงสัยว่ามีปัญหาก็ไปหาดีกว่า เพราะสุดท้านปล่อยไว้ผลเสียก็เกิดกับตัวเองนั่นล่ะ

8 Nameless Fanboi Posted ID:R6NGwHlbG

ของเรา โรงพยาบาลรามคำแหงอ้ะ ไม่แน่ใจว่าอันเดียวกับของ >>7 หรือเขาแยกของนักศึกษากับคนธรรมดาเราไม่รู้ 555 แต่ค่ารักษาค่ายาค่อนข้างแพงนะ เอาง่ายๆนะ เรารักษาครั้งแรกตอนป.6 ตอนนี้ม.6 จากครอบครัวไม่เคยเป็นหนี้ พ่อต้องเอารถไปฝากกับโรงรับจำนำเพื่อเอาเงินมารักษาเราอ้ะ #ดิสอีสอะหนึ่งในเหตุผลที่เราแกล้งเป็นหายดีแล้ว
ตอนนี้ได้รถคืนแล้วว

9 Nameless Fanboi Posted ID:iwyP01YAF

>>8 อื้ม ดีแล้วที่ได้คืนแล้ว ของเรานศได้สิทธิ์รักษาฟรีอ่ะ เหมือนม.รัฐทุกที่เท่าที่รู้จะเป็นแบบนี้ แต่เอกชนไม่รู้ ของเราเป็นรพ.ม.นเรศวร แต่ก่อนหน้านั้นที่เข้ารพ.รัฐก็ 30 บาทนะ+ค่านักจิต 300/ครั้งมั้ง ขึ้นอยู่กับว่ายาอะไรด้วยแหละ ถ้ายาในบัญชีก็ดีไป ถ้านอกบัญชีก็.... อย่างตอนนี้ที่เราเปลี่ยนมากินก็เม็ดละ 67 บาท orz
flu----ne + Cho-----te อันนี้ของเรากินเมื่อก่อน อยู่ในบัญชียาของกระทรวง สองตัวนี้เบสิค ต้านเศร้ากับยานอนหลับ แต่ไบโพล่าร์น่าจะมีเพิ่ม 2-3 ตัวมั้งแล้วก็ถ้าต้านเศร้าตัวนี้ไม่ได้ผลก็จะขยับไปเปลี่ยนเป็นอีกตัวซึ่งอยู่นอกบัญชีก็จะมีสองราคาอ่ะ 40 นิดๆ กะ 67 พอดีโรงบาลเราตัว 40 ไม่มี TT TT /ราคาต้นทุนนะ ถ้าไปร้านยาหรือเอกชนราคาจะอัพขึ้นแล้วแต่ที่ /โรงบาลรามคำแหงนี่เอกชนนะ

10 Nameless Fanboi Posted ID:.mzQHQ6GM

กูทั้งเกลียดทั้งชอบผู้ชายว่ะมึง ชอบออกแนวชอบแบบดาราคนหล่อแล้วก็ชอบคุยกับผู้ชาย แต่ถ้าจะให้ผู้ชายตัวเป็นๆ มาแตะตัวกูนี่กูสะดุ้งเลย ตัวสั่นเลยอ่ะมึง แต่กูอ่านนิยายพระนางรักกันได้ปกติ ยกเว้นข่มขืน ไม่เป็นกับคนในครอบครัว ทุกวันนี้มีแฟนไม่ได้เพราะข้ามตรงนี้ไปไม่ได้ว่ะ พยายามแล้ว แต่รู้สึกอึดอัดและฝืน

11 Nameless Fanboi Posted ID:xYSm77uRV

>>10 ของกูออกแนวทั้งเกลียดทั้งกลัว ขยะแขยงบอกไม่ถูก ชอบผู้ชายหล่อเหมือนกัน แต่ชอบได้แค่ในระยะห่างอ่ะแบบชอบจากไกลๆ ไม่สามารถรักชอบแบบให้เป็นแฟนได้ ต่อให้เป็นคนที่เคยแอบปลื้มแค่ไหน ถ้ามันมีท่าทีว่าจะมามีใจกับกูปุ๊บกูจะถอยหนีทันที จากที่เคยชอบจะกลายเป็นรู้สึกเกลียดและขยะแขยงไปเองโดยอัตโนมัติ เพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายแม่งคิดไม่ซื่อกับกูแล้ว ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรไม่ดีกับผู้ชายนะ มันเป็นไปเอง

12 Nameless Fanboi Posted ID:ppUdEk0Oq

มึงอาจแค่สร้างกำแพงให้ใจตัวเองเพื่อน กูก็เป็นกับแบบ ของแดกอ้ะ ถ้ารอยแดกคนอื่นกูจะไม่แดกเลยอ้ะแม้กระทั่งพ่อแม่กู>>10

13 Nameless Fanboi Posted ID:zQ94f2iU+

สสุดท้ายก็ต้องตายแล้วเราจะมีชีวิตอยู่ต่อเพื่ออะไรวะ กูไม่นึกถึงชีวิตหลังความตายไม่เชื่อ

14 Nameless Fanboi Posted ID:U7sx5j0+d

>>13 คำถามนี้ กุเหมือนเห็นตัวเองในอดีต 55555 กุอยากบอกว่าชีวิตเกิดมามันไม่มีความหมายในตัวของมันหรอก อยู่ที่มึงเลือกเองว่ามึงอยากทำอะไรไปเพื่ออะไร ชีวิตมันก็แค่นี้ มึงเลือกที่จะสงสัยต่อไปก็ได้ หรือมึงเลือกที่จะช่างแม่ง แล้วทำอะไรที่อยากทำก็ได้ แต่กูบอกไม่ได้หรอกว่าอันไหนดีกว่ากัน

15 Nameless Fanboi Posted ID:/rgPMzZ2C

>>4
โรงบาลใน ม. นอกเวลา ค่าหมอ 300 ค่ายาอีกประมาณร้อยนึง
ในเวลา บัตรทอง ยาฟรีมั้ง(ตัวเบสิค) รู้สึกว่าเสียค่าหมออีกนิดหน่อย
นักศึกษาฟรี ตามข้างบนบอก

16 Nameless Fanboi Posted ID:7Sr.zMJDa

>>13 คนเราเกิดมาเพื่อสืบพันธุ์ครับ สิ่งมีชีวิตทุกอย่างล้วนเกิดมาเพื่อสืบพันธุ์เพื่อพัฒนาพันธุกรรมให้อยู่ในภาวะเสถียร เหมือนที่ธาตุรวมตัวกับธาตุอื่นจนเสถียรในภาวะนั้นแล้วเกิดดาวต่างๆ ดังนั้นการมีชีวิตอยู่และได้ถ่ายทอดพันธุกรรมจึงเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่มากครับสำหรับสิ่งมีชีวิต ใครมาให้คำตอบสวยๆว่าคนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตอย่าไปเชื่อมันนะครับคนเราเกิดมาเพื่อมีลูกแล้วตายไปเท่านั้นแหละ พวกใช้ชีวิตคูลๆแต่สืบทอดพันธุกรรมไม่ได้ถือว่าล้มเหลวและถูกคัดทิ้งออกจากธรรมชาติครับ

17 Nameless Fanboi Posted ID:1v+9rPyfB

กุเลิกกลัวเวทีแล้ว เหี้ยย กุซ้อมขึ้นรับปริญญาได้ แต่กุกลัววันจริงว่ะ

18 Nameless Fanboi Posted ID:1Jh5icosl

>>16 อืม นั่นเป็นคำตอบเชิงวิทยาศาสตร์ที่โอเคนะ แต่เราคิดว่าเค้าน่าจะรู้อยู่แล้วแหละเรื่องนั้น แค่รู้สึกว่ามันแค่นี้เองหรอ เกิดมาเพื่อสืบพันธ์ุ ทำไมการอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ถึงถือว่าเป็นความสำเร็จ เราอเอาอะไรมาตัดสินมัน เรารู้ได้ไงว่ามันคือความถูกต้อง ทั้งๆ ที่เราก็เป็นเพียงแค่จุดเล็กๆ ในจักรวาล อะไรเป็นตัวตัดสินว่าชีวิตคนๆ นึงล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จ แล้วถ้าเราเกิดมาเพื่อสืบพันธ์ุแค่นั้น คุณค่าของความเป็นมนุษย์มันก็ไม่ได้มีความหมายไปมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นเลย แน่นอนล่ะว่าถ้า >>16 จะประเมินคุณว่าของมนุษย์ว่ามีแค่นั้นก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่เราคิดว่าถึงแม้ว่าสมองมนุษย์จะพัฒนามาเพื่อแค่จุดประสงค์ของการอยู่รอดของเผ่าพันธ์ุ แต่เราคิดว่าจิตสำนึกของมนุษย์สามารถมีอะไรได้มากกว่านั้นน่ะนะ

19 Nameless Fanboi Posted ID:1Jh5icosl

>>17 เฮ้ย มึงทำได้ดิ มึงเลิกกลัวเวทีได้ กูก็เชืรอว่ามึงจัดการกับความกลัวในวันจริงได้

20 Nameless Fanboi Posted ID:TY3nOkN2s

>>19 ขอบใจ กุซ้อมผ่านๆๆ วันจริงกุต้องทำได้ๆ

21 Nameless Fanboi Posted ID:H6.uZ+As2

>>16 ต้องเย็ดดะสินะครับ

22 Nameless Fanboi Posted ID:S5oylJeqb

>>17 น้องต้องฟรีสหน้ายิ้มไว้ตั้งแต่ก่อนขึ้นนะ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วมาก อีกทีมึงก็ลากรองเท้าและปริญญาลงจากเวทีละ

23 Nameless Fanboi Posted ID:tdkbiQfuO

มึง กูกำลังสับสนตัวเองอยู่
คือกูเป็นพวกที่ใจนึงกูก็อยากหาเพื่อนหาคนรู้จักเพิ่มเพื่อมากรี๊ดกร๊าดกับรสนิยมหรือเรื่องที่ชอบได้ แต่ใจนึงกูก็ดันรู้สึกเหนื่อยที่จะต้องคุยกับคนเยอะๆอะ ไม่ใช่ว่าตอนคุยไม่สนุกนะ แต่ตอนคุยไป ลึกๆมันจะมีความรู้สึกว่าเหนื่อย อยากอยู่เงียบๆ กรี๊ดอัดลงในทวิตแล้วค่อยคุยกับคนที่มากรี๊ดด้วยเป็นครั้งคราวมากกว่า รู้สึกเหนื่อยที่จะต้องทักคนทุกคน คุยกับคนทุกคน แต่บางทีก็เหงาที่ไม่มีคนรอบตัวคุยเรื่องเดียวกันเลย แต่ส่วนที่เหนื่อยมันมีมากกว่า
แล้วกูก็ไม่ค่อยชอบการคบใครแบบสนิทๆเลยอะ กูสบายใจกับการคุยกับคนอื่นในฐานะคนที่รู้จักกันระดับหนึ่งมากกว่า ถ้าสนิทกันมากขึ้นกูจะไม่ค่อยสนิทใจกับอีกฝ่าย รู้สึกระแวงอย่างไม่เข้าใจตัวเอง กูสบายใจกับการรู้จักกันผิวเผิน ไม่ลงลึกถึงตัวอีกฝ่ายมากกว่า
กูลองเล่าให้แม่ฟัง เพราะกูรู้สึกว่าทุกวันที่กูรู้สึกสนิทกับใครบางคน กูก็จะระแวงเขามากขึ้น จนกูเหนื่อย แม่กูก็บอกกูมีปัญหาทางจิต....เข้ากับคนอื่นไม่ได้ แต่กูก็แค่คิดว่าตัวเองอาจจะมีกำแพงในใจหนาแค่นั้นเองนะ...ถึงขนาดบอกว่ามีปัญหาทางจิตเลยเหรอ

24 Nameless Fanboi Posted ID:iu+w6Oc4m

>>23 กูก็เป็นอย่างมึง แล้วตอนนี้ก็มีกลุ่มเพื่อนที่เป็นแบบเดียวกัน ดู ๆ เลือก ๆ ไปซักพัก เดี๋ยวก็ได้เพื่อนที่คบกันหลวม ๆ ในระยะที่อีกฝ่ายสบายใจ ไม่ต้องไปใส่ใจมันมาก เหนื่อยก็เงียบ มีแรงค่อยคุย

25 Nameless Fanboi Posted ID:MPKpOfS2n

>>23 ร่างแยกกูเหรอ ;_; กูตอนนี้ก็มีเพื่อนสนิทที่สนิทมากๆอยู่นะ แต่กูชอบตอนกูยังรู้สึกแค่'สนิท'มากกว่า ตอนนี้พอรู้สึกสนิทมากๆ กูก็ระแวงอ่ะแม่ง เล่าอะไรหลายอย่างให้ฟัง ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายมากแต่ก็เรื่องส่วนตัวอยู่ดี กูไม่ชอบให้คนที่ไม่สนิทมารู้เรื่องส่วนตัวกู กูระแวงว่าบางทีเพื่อนมันจะกินเบียร์จนเมาแล้วเผลอหลุดเรื่องคนรอบๆตัวมัน ไม่ก็อยากคุยกับผู้แต่ไม่รู้จะคุยเรื่องไรมันเลยเอาเรื่องคนอื่นมาคุยขำๆกับผู้(อันนี้กูไปอยู่ในวงด้วยตอนมันจีบกัน พอกูรู้แบบนี้กูหลอนเลย มันจะเผลอเอาเรื่องกูไปเล่าให้ผู้มันฟังมั้ย) แต่กูก็อยากมีเพื่อนที่สนิทมากๆๆๆจนไว้ใจเล่า ปรึกษาอะไรก็ได้ ไม่ต้องระแวงว่าจะหลุดไปถึงหูคนอื่น กูก็ยังทำไม่ได้สักที หรือกูจะเหมาะแบบคบกับเพื่อนแบบไม่ต้องสนิทมากแค่พอhang outได้ ปรึกษานิดๆหน่อยๆได้วะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:fVdu8nsSa

>>25 กูมีเพื่อนสนิทหลวมๆเหมือนกันเลยว่ะ กูมั่นใจว่ากูเป็นคนอัธยาศัยดีมีน้ำใจนะ ใครๆก็ต้องอยากคบหากู แต่กูไม่สะดวกใจจะสนิทกับใครมากๆได้เลย เพราะเคยโดนเพื่อนสนิทสมัยประถมแม่งเอาความลับไปล้อเล่น กูเลยไม่กล้าเสี่ยงไว้ใจใครอีก แต่กูตีสนิทเพื่อนในเน็ตไว้อะ ในเกมบ้างไรบ้าง สนิทแบบห่างๆ คือมันจะไม่รู้ข้อมูลส่วนตัวกูเลย มั่นใจว่าเดินสวนกันตามถนนนี่ไม่รู้จักกันแน่นอน แต่เวลากูมีปัญหา หรืออยากนินทาใคร อยากเล่าเรื่องส่วนตัวมากๆ ก็จะเล่ากับเพื่อนในเน็ตทดแทนที่กูไม่สามารถเล่าให้เพื่อนในชีวิตจริงได้

27 Nameless Fanboi Posted ID:+OQ2kvFed

กูเหนื่อยแล้วก็ท้อมากเลยว่ะ กังวลกับหลายๆเรื่อง
ทั้งที่จริงๆ มันก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรหรอก แต่กูกลับรู้สึกแย่มาก
ครอบครัวก็ไม่เคยอยู่ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบให้กำลังใจกู
รู้สึกตัวคนเดียวมากๆ แล้วต้องพยายามทำตามความคาดหวังของใครหลายคนอีก
ยิ่งช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง กูเป็นหวัดง่าย เป็นโรคเป็นแผล ยิ่งทำให้กูรู้สึกแย่จนไม่อยากไปเรียนแล้ว

28 Nameless Fanboi Posted ID:zJYVvy3G0

>>27 ไม่ว่าจะเจอกับอะไรก็ขอให้มึงเข้มแข็งเข้าไว้นะ ดูแลสุขภาพร่างกายดีๆ ดื่มน้ำกินผักเยอะๆ ถ้าป่วยก็กินยา เพื่อนๆโม่งเป็นกำลังใจให้นะ

29 Nameless Fanboi Posted ID:cfl7tjK+5

>>27 ลองไปอยู่ใกล้ๆ กับเพื่อน หรือใครที่สนิทดีไหม หรือใครก็ได้ที่แกรู้สึกว่าเค้าไม่ได้คาดหวังอะไรกับแกน่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะ

30 Nameless Fanboi Posted ID:yN58wnaCJ

>>24 ขอบคุณนะมึง กูเองก็คงต้องใช้เวลาปรับๆไปเรื่อยๆล่ะนะ เฮ้อ...เพิ่งจะมาคิดจริงจังเอาป่านนี้
>>25 ดีจัง มีคนเหมือนกูด้วย TT ของกูนี่สับกับมึงหน่อยตรงที่กูเป็นพวกรู้ความลับคนอื่น หรืือไม่ก็ความรู้สึกไม่สบายใจ ถ้าไม่จากการที่เขามาบอกเองก็จากการที่กูสังเกต เพราะงั้นกูจะไม่ปล่อยตัวให้อยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อการควบคุมตัวเองไม่ได้้ด็ดขาด กูกลัวกูหลุดพูดอะไรไป...แต่แต่ละคนก็คงมีเพื่อนที่เหมาะกับตัวเองต่างๆดันไปล่ะมั้ง บางที ถ้าทั้งกูทั้งมึงเจอคนที่ไว้ใจด้วยได้จริงๆ เราก็คงจะนับเขาเป็นเพื่อนสนิทได้จริงจังล่ะนะ แต่คงเป็นเพราะกูกลัวจะถลำลึกแล้วเจ็บล่ะมั้ง กูเลยสบายใจกับการคบแบบหลวมๆมากกว่า55

แต่ยังไงก็ขอบคุณพวกมึงสองคนนะ สบายใจขึ้นเยอะเลย ;)

>>27 มีอะไรก็มาบ่นมาระบายในนี้ได้นะ อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครใส่ใจเลย กูตั้งใจอ่านทุกความเห็นนะ เพราะงั้นสู้ๆมึง อดทนนะ แต่ก็อย่ากดดันตัวเองมากไป รักษาสุขภาพด้วย กินอาหารให้ครบ นอนพักผ่อนให้พอ พรุ่งนี้ก็มาสู้ๆกันไปอีกวันนะ

31 Nameless Fanboi Posted ID:tdP7J9HTX

มึง กูรู้สึกแย่มากเลยว่ะ กูโดนแซะในที่ทำงานเพราะก่อนนี้กูไปพูดขัดใจพี่ๆแกเข้า ละทีนี้เหมือนมีเรื่อง1ลามไปถึงเพื่อนฝูงเขา แม่งเป็นครั้งแรกที่กูรู้สึกอโลนมาก ไฟท์ติ้งอโลนสัสๆ หัวหน้าก็รับฟังนะ เขาบอกที่กูพูดอะถูกต้องแล้ว แต่ในใจกูรู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบว่ะ พี่แกอยู่มานานกว่า อายุมากกว่ากู10ปี เพื่อนฝูงพี่แกเหมือนกัน โทรคุยกับพ่อกับแม่ก็ไม่กล้าเล่าให้ฟัง กูไม่อยากให้เป็นห่วง แต่กูจะร้องไห้ทุกที กูเหลือแค่รอดูการจัดการของหัวหน้าแล้ว กูเครียดมาก เครียดจนเป็นลม กูจะทำไงดีวะ

32 Nameless Fanboi Posted ID:tdP7J9HTX

>>31 กูลืมอย่าง คือกูเป็นซึมเศร้า ประคองอาการตัวเองอยู่ แล้วกลุ่มพี่ๆแกชอบมองว่าซึมเศร้า=บ้า ประสาทไม่ดี อันตราย
โคตรเศร้าเลย

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.