>>193 มึงพูดถูกเรื่อง"ใช้ชีวิตปกติได้คือจบ"แต่รายละเอียดของโรคทางจิตมันมีมากกว่านั้นเว้ย
จากที่>>185เล่ามาคือยังแยกแยะความจริิงกับจินตนาการได้ ฟังดูไม่ค่อยเหมือนโรคจิตเภท แต่อาจมีPersonality typeที่ไม่เหมือนชาวบ้าน ซึ่งถ้ายังใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติคือยังไม่ถือเป็นโรค ยังไม่ใช่personality disorder ถ้ารู้สึกว่าตัวเองแปลกไปหาจิตแพทย์ให้เค้าช่วยวิเคราะห์จิตใจดูก็ได้แต่คงไม่ต้องกินยาอะไรหรอก
แต่ไอ้กรณีรุ่นพี่เมาของ>>193น่ะ มึงเห็นแค่ว่าเค้าเมาอาละวาด แต่หมอที่รพ.อาจจะเอาเค้าไปเอกซ์เรย์สมองแล้วเจอความผิดปกติหรือเค้าอาจจะเป็นโรคทางจิตที่ถูกกระตุ้นจากเหล้าหรือยาเสพติดก็ได้(เรียกว่าSubstance-induced psychosis)หมอถึงต้องจ่ายยาตลอดชีวิต
ส่วนหนังเรื่องBrain on fireมันเกิดในยุคที่โรคAnti-NMDA receptor encephalitisยังไม่เป็นที่รู้จัก ถ้าสมัยนี้ไปรพ.ด้วยอาการแบบนั้นได้ตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียดก่อนจะวินิจฉัยเป็นจิตเภทแน่นอน
กูขอยืนยันตาม>>195เลยว่าอยู่ดีๆหมอไม่บอกว่าใครบ้าเด็ดขาดจนกว่าจะหาสาเหตุทางชีวภาพครบแล้วไม่เจอจริงๆ
และกูขอเสริมในฐานะที่กูทำงานรพ.ว่าถ้าคนไข้ไม่จำเป็นต้องกินยาไม่มีหมอที่ไหนอยากจ่ายยาหรอกเว้ย! ยิ่งยาจิตเวชกับโรคเรื่อรังทั้งหลายนี่จ่ายแล้วมีแต่ขาดทุน รพ.จะเจ๊งอยู่แล้ว!! กูเครียดจนโรคจูนิเบียวกำเริบอยู่นี่ไงถึงเข้าห้องนี้มาเห็นเม้นพวกมึงได้เนี่ย