มาร่วมแชร์ประสบการณ์จูนิเบียวของตัวเองกันเถอะ เอ้ย 1 2
Banishment this world!!
Last posted
Total of 994 posts
มาร่วมแชร์ประสบการณ์จูนิเบียวของตัวเองกันเถอะ เอ้ย 1 2
Banishment this world!!
เคยจูนิเบียวแม่ซื้อตุ๊กตาให้ ถือเหวี่ยงเป็นไม้คทาเลยประหนึ่งไอ้มดแดง สัส เหวี่ยงไปโดนกันสาดผ้าใบบนหัว น้ำเน่าบนนั้นตกมาแฉะเหม็นหึ่งหมดเลยสัส
เบียวสัส ๆ เคยติ่งยูกิโอ แล้วเวลาเล่นการ์ดกูต้องตะโกน โอเระโนเทิร์น!! แล้วพยายามยืนแอ่นๆเหมือนไอ้ยูกิมัน
ตอนเด็กเคยคิดว่าตัวเองเป็นสึบาสะ เลยทำโอเว่อเฮดคิกส์ใส่ฝาโค้ก เท่านั้นแหละ
ปล.พื้นเป็นปูน
ปล2.กูรอดมาได้ไงวะ
สมัยเด็กเคยบ้าไซอิ๋ว วันนั้นพ่อแม่ยุ่งกันไม่ทันเห็น กูถือไม้ถูพื้นนึกว่ากระบองหงอคง วิ่งกลับไปกลับมาในบ้าน คิดว่ากำลังขี่เมฆไปอัญเชิญพระไตรปิฎก ผลคือเจอพื้นต่างระดับ สะดุดล้มฟันหักเลือดกลบปาก โชคดีพี่กูเห็นพอดีเลยลงไปหาพ่อ พาส่งโรงบาล เย็บ10เข็มเป็นแผลเป็นชัดมาถึงทุกวันนี้ มีแต่คนบอกให้ไปศัลยกรรมลบรอยแต่กูไม่ไปกะไว้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความจูนิเบียววัยเด็กนึกถึงละฮาดี555
เคยจูนิเบียว ชอบเรื่องแว่วเสียงเรไร ทำตัวโหดๆ กุโระๆ วาดรูปโหดๆ ขวางโลก ไอ้สัสนึกแล้วทุเรศตัวเอง
เออ นึกเรื่องเล็กๆออกอีกเรื่อง สมัยเด็กบ้าดราก้อนบอลละชอบเล่นเป็นตัวการ์ตูนกะเพื่อนสู้กัน พอดีเพิ่งอ่านตอนสู้เซียนเต่ามันเล่นท่าหมัดบ้า ทำท่าเป็นหมาเข้ามากัดๆๆ ละท่านี้โคตรเก่งในเรื่องสมัยนั้น ทำลายวิชาหมัดเมาของเซียนเต่าได้กูเลยปลื้มตามประสาจูนิเบียว วันนั้นเลยเล่นเป็นโกคู วิ่งสี่ขาเข้าไปทำกัดๆๆ ปรากฏโดนต่อยสวนหน้าแหก เกือบมีเรื่องละสัส กูก็โกรธโดนต่อย เพื่อนก็งงว่าทำเหี้ยไรเล่นกันดีๆเสือกพุ่งมากัด 5555
เคยคิดว่าตัวเองน่ารัก แต่งตัวแบบอาลาเล่ทำหน้าตาบ้องแบ๊ว บีบเสียงน่ารักๆ พอมาเห็นพวกที่เบียวๆทำตัวคล้ายๆตัวเองแบบนั้นรู้สึกรำคาญมาก เลยเข้าใจคนอื่นว่ารู้สึกยังไงกับเราตอนนั้น 55555555
เมื่อก่อนกูคิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ ผู้อ่านใจผู้คนได้และทำเหี้ยอะไรก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้ตลอด และมีความสุขที่ได้เห็นคนตีกัน ชอบทำท่าแบบ L ใน Death note ทุกวันนี้กูนี่ต้องปิดปากเพื่อนที่รู้เรื่องนี้ของกูทุกคนเลยสัด เขิลชิบหาย
>>8 กูเคยคล้ายๆงี้ ตะก่อนกูชอบทำตัวคุจูนิเบียว ชอบเชียร์นางเอกอนิเมะแบบเบียวๆอย่าง คนนี้ต้ิองเป็นนางเอกเท่านั้น หัวดำนางเอกๆ ไม่ฟังใคร แล้วก็ทำท่าแบบกำหมัดชูขึ้นฟ้า คนอื่นเค้าพูดเรื่องเหี้ยไรกันก็ชอบโยงเข้าเรื่องคู่อวยทั้งๆที่มันไม่เกี่ยวกัน พูดเรื่องจริงจังอยู่ก็โยงได้ ออกแนวไม่ดูสถานการณ์อ่ะ แล้วทำเสียงแบบ อ๊ากกก หัวดำนางเอกโว้ยยย อ่ะจ๊ากก ไรงี้ กลางวงสนทนา โครตคุเลย
พอโตมามีโอกาสได้เจอคนประเภทเดียวกะตัวเองสมัยก่อน พอเห็นมันมาพูดจาแบบที่กูเคยพูดแล้วก็อี๋เบาๆ นึกแล้วก็ขายหน้า
5555555555555
แต่ละคน กูขำ55555555
ตอนกูประถมอยากอ้อนแม่เลยเอาขวดนมมานอนดูดแล้วให้แกโอ๋ๆ
กูทำไปได้ไงวะะะะะะะะะะะะะะะ ซาสสสสสสสสสสสสสสสส
กูเคยแอคท่าเป็นตัวละครสาวมาดนิ่งคูลเดเระ แล้วมำเป็นพ่นคำเท่ๆใส่เพื่อนตอนม.ต้นด้วย แม่ง...อัปยศสุดๆก็งานนี้แหล่ะ
ไม่รู้นับว่าเบียวมั้ย แต่เคยเป็นสโตรกเกอร์แอบถ่ายรูปคนที่ชอบอ่ะ เค้าก็รู้ตัวแล้วก็ไม่เลิก นึกถึงแล้วแอบรู้สึกแย่
กูเคยเป็นพวกจิตสัมผัสตอน ม.ต้น กูมโนว่าตัวเองเห็นผี และคุยกับผีได้ เพื่อนๆแม่งเสือกเชื่อ!!!
//พอนึกถึงแล้วระทม T U T
>>16 มึงเหมือนเพื่อนกูเลย แต่หนักกว่าคือของกูเล่นกันเป็นหมู่คณะ แถมเรื่องแฟนตาซีสุดๆ มีโลกวิญญาณ มีผู้พิทักษ์ ซึ่งคือตัวเราในโลกวิญญาณนี่แหละ
เพื่อนกูเป็น 1 ใน 7 บุตรแห่งพระเจ้า นางจะมีสองภาคคือภาคดีภาคร้าย เพื่อนอีกคนเป็นท่านหญิงแห่งทะเลสาปซัมติงในโลกวิญญาณ ส่วนเพื่อนอีกคนกับกูเป็นแค่องครักษ์ของอีเพื่อนคนแรก กูเป็นผู้ใช้ธาตุไฟ ร่างต้นเป็นผู้ชาย แต่มีร่างโคลนก๊อปปี้แยกออกมาเป็นผู้หญิง แล้วลงมาเกิดเป็นกูเพื่อดูแลอีบุตรพระเจ้านั่น
เรื่องราวสตอรี่ซับซ้อนและใหญ่โตมาก เพราะสร้างกันมาเป็นปีๆ แฟนตาซียิ่งกว่าบารามอส จนขึ้นม.3 ทะเลาะกับอีบุตรพระเจ้า กูก็เฝดตัวออกไปอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหม่ คิดว่ามันคงเพลาๆแล้วมั้ง จนเวลาผ่านไปช่วงประมาณม.5 กูไปแลกเปลี่ยน จู่ๆมันก็ทักเอ็มมาหากูว่า เนี่ยสบายดีมั้ย เป็นอะไรหรือเปล่า ตอนนี้ชิน (อีผู้พิทักษ์ร่างชายของกู) ไปสู้กับพวกปีศาจบาดเจ็บหนักนะ ระวังตัวด้วย
กูก็แบบ wtf แม่งยังไม่เลิกอีกเหรอวะ ถึงขั้นไปตั้งมู้ในพันทิปว่าเพื่อนกูเป็นไรมากเปล่า สรุปพอกูกลับจากแลกเปลี่ยน กูก็ไปคุยกับคนรอบข้างนาง คือนางยังเบียว เชื่อในโลกของนาง แต่เพราะทุกคนโตขึ้น คนเชื่อนางก็น้อยลง สรุปพอตอนจะขึ้นม.6 นางโดนเพื่อนอีกคนแหกเละเป็นโจ๊ก
ทุกวันนี้กูไม่ได้ติดต่อกับมันละ รับไม่ได้ เรื่องโลกวิญญาณและผู้ใช้ไฟบ้าๆนั่นเหมือนจุดดำมืดในชีวิตกูมาก กูซุกเก็บไว้ในหลืบสุดๆ เพราะอาย ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังว่าตัวเองแม่งเบียวขนาดนั้น อีเหี้ย ผู้ใช้ไฟ ใช้เหี้ยไรล่ะ กูแค่ชอบเฟลมออฟเรกกะ เลยอยากเป็นผู้ใช้ไฟบ้าง แม่งเท่ดี
>>19 ตอนเล่นก็เหมือนช่วยกันสร้างเรื่องให้มันแข็งแรงที่สุดอ่ะ อย่างกูนอนหลับฝันเห็นอะไรก็เอามาเล่า บุตรแห่งพระเจ้าก็จะมาตบๆว่า อ้อ นี่เป็นเรื่องในโลกวิญญาณนะ เรื่องที่เอามาเล่ามันอารมณ์แบบพยายามชดเชยปมตัวเองด้วย อย่างให้ตัวเองเป็นที่รัก มีอำนาจ หรืออยากเป็นผู้ชายแบบกู หลายๆคนในตอนนั้นมันเลยเหมือนว่าต้องเชื่อว่ามันมีจริงๆไปโดยปริยาย
กูไม่รู้เหมือนกันว่ามันเชื่อจริงไม่จริง แต่สำหรับกูมันอารมณ์เหมือนว่าบุตรแห่งพระเจ้าขึ้นหลังเสือแล้วจะลงก็ลงไม่ได้ เพราะมันเป็นเมนหลักมาตลอด ต้องประคับประคองไปจนถึงขีดสุดท้าย พอมาย้อนดูแล้วสตอรี่โลกวิญญาณทำให้ทุกคนสนใจมันมากจนเหมือนบุตรแห่งพระเจ้าเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
ตอนนี้กูก็ยังพยายามคิดวิเคราะห์ว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ ก็คิดไปว่ามันคงอยากเป็นจุดสนใจ เวลาเพื่อนในกลุ่มเล่าอะไรมันจะต้องทวีคูณว่าเรื่องตัวเองหนักกว่าตลอด สมมติกูเล่าว่าพ่อกูตีด้วยไม้แขวนเสื้อ มันก็จะบอกว่ามันหนักกว่า พ่อมันถอดเข็มขัดมาตี กูทำร้ายตัวเองด้วยการแอบกรีดตามใต้ร่มผ้าเล็กๆน้อยๆ ตบตัวเองบ้าง มันก็จะเอาคัตเตอร์แทงตุ๊กตา บีบคอน้อง ไรแบบนี้อ่ะมึง
เล่นเป็นตระกูล เฮนรี่ที่ 8 แห่งอังกฤษ..
มี พระเจ้าเฮนรี่ บรรดา แอนๆ และ แคทเอรีน
รวมถึง อลิซาเบ็ธ แมรี่ และ เอ็กเวิร์ด พร้อม
อันนี้เบียวปะวะ 555555
สมัยประถมแม่งมีละครเรื่องนึงฮิตกันมาก
จนทำให้กลุ่มเพื่อนกูมาตั้งเป็นตำแหน่งๆ
ดิน น้ำ ลม ไฟ 55555 คิดแล้วอายชิบหาย
มีบทสวดมาท่อง มีทงมีท่าด้วยสัส อายเหี้ยๆ
พูดถึงจูนิเบียว ไม่นับแบบที่ตอนเด็กๆอยากเป็นนู่นเป็นนี่นะ พวกที่ชอบขวางโลกหรือแบบ "ไอ้คนพวกนี้ตายๆไปซะให้หมดก็ดี" ประมาณเนี้ย อยู่มัธยมยังไม่เลิก ทำไมเจอบ่อยมากในพวกที่ดูการ์ตูนวะ พวกมึงคิดไง?
กูเคยมีเพื่อนเบียวรีบอร์น แล้วมันลงทุนซื้อแหวน+กล่องของวองโกเล่มาให้เพื่อนสนิทของมันแต่ละคน
แล้วแต่งตั้งเป็นตำแหน่งต่างๆเลยเว้ย ซึ่ง1ในนั้นคือกู แต่คือกูไม่เล่นด้วยไง แม่งเลยยิ่งรู้สึกฟิน เพราะมันอยากให้กูเป็นฮิบาริให้มัน
ตบแปะสตรีทนี่นับเป็นเบียวมั้ยวะ
พวกมึงเคยเล่นเลี้ยงผีป่ะสัส
คือตอนเด็กๆสมัยประถมแม่งมีหัวโจกผญ.อยู่คนนึง แล้วแบบแม่งเริ่มมโนเรื่องเลียงเหี้ยไรซักอย่างที่มองไม่เห็น แบบจริงจังด้วยนะสัส มีที่นอนพกมา ลูบหัว(ล่องหน) พูดคุย แล้ถ้าใครแม่งไม่เลี้ยงก็จะเป็นแกะดำ มันก็เลยเป็นกันเกือบทั้งห้องช่วงนึง ตอนนี้กูยังงงอยู่ลยว่าทำเหี้ยไรลงไป
ใส่ชุดดำๆมืดๆหมื่นๆ ทำตาหรี่ๆ ขวางๆไม่ยิ้ม แล้วรู้สึกว่าตัวเองเท่มาก ไม่มีปมก็คิดให้เหมือนมีปม แล้วคิดว่า กรุช่างเท่เสียนี่กระไร
ความเท่นี่มันยุที่มุมมองปะวะ บางคนอาจจะมองว่าเท่ อีกอีกกลุ่มนึงอาจจะมองว่าไม่
ส่วนพวกที่คิดว่าตัวเองเท่ก็นั่นแหละ...
ตอนป.6 กูเคยกดกาแฟดำจากตู้น้ำหยอดเหรียญ ชอบเอามาดื่มต่อหน้าเพื่อนๆ ให้เพื่อนดูว่ากูเจ๋งนะสัส แดกกาแฟดำได้ไม่สะทกสะท้าน ตั้งกลุ่มที่มีพลังพิเศษขึ้นมา ใช้พลังดิน น้ำ ลม ไฟเพื่อปกป้องโลก ฉายากูในกลุ่มคือเดอะดาร์กเนส เพราะกูชอบทำตัวเคร่งขรึม เต็มไปด้วยปริศนา ใช้พลังแห่งความมืด ทำสัญญากับจ้าวนรกที่แขนขวา พอนึกขึ้นมาได้กูล่ะอยากเอาหัวไปมุดเต้าหู้ตายจริงๆ โครตอายเลยสัส 555555555555555555555
เยอะสัสๆ เรื่องเบียวของกูมันเริ่มตอนรู้จักดูการ์ตูนว่ะ เคยอยากชื่อมีมี่(ของก๊อบจากเรื่องแม่มดน้อยโดเรมี) กูสมมุติตัวเองเป็นแม่มดน้อยมีมี่ มีคทาขั้นเทพ เป็นหัวหน้าแก๊งพวกโดเรมีในจินตนาการอีกทีและมีมาจอริก้าเป็นของตัวเอง ถ้ามึงมาเห็นกูตอนคุยกับมาจอริก้าจะต้องนึกว่ากูเล่นของ
ในช่วงอายุนี้ ตอนกูโมโหใครจะทำแก้มป่องอย่างจงใจด้วย เหี้ยอุบาทสัส
พอขึ้นม. 1 เก๊กเป็นสาวคูล นิ่งมาดขรึม ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ตลกกับใคร ดาร์คสัสๆ ดีนะกูหาเพื่อนได้ ยังมีเพื่อนสมัยประถมตามมาเรียนที่เดียวกัน
ยังไม่หมด ม4 แล้วกูยังมีวิวัฒนาการไปเรื่อยๆ เสือกไปดูไพเรท กัปตันแจ๊ค ช่วงนั้นกูจะยืนเอียงๆ เดินเอียงๆ นิ้วมือเด้งๆกรีดกรายๆสมมุติตัวเป็นกัปตันแจ๊ค สแปโรว์พักใหญ่ๆเลย
ตอนนี้กูหายขาดหรือยังวะ
ของกูจูนิเบียวทั้งกลุ่มว่ะ ตอนม.1 เซเลอร์มูนกำลังดังๆ ก็มาสมมติตัวเองเป็นเซเลอร์นั่นนี่กัน ในกลุ่มกูจะมีคนนึงอ้วนๆดำๆแรงๆหน่อย นางจะมีพาวมาก ถ้าไปมีเรื่องกับนางก็ซวยโครตๆ แนวๆน่ารำคาญอ่ะ ทุกคนก็เลยยกตำแหน่งเซเลอร์มูนให้นางไป นางก็จะตั้งลูกสมุนนางคนนึงที่เป็นคนโปรดมาเป็นอุซางิน้อย ส่วนกูได้เซเลอร์จูปิเตอร์ที่ป็อบน้อยสุดในเรื่องเลย กูโครตเสียใจเลย เก็บไปร้องไห้ด้วยนะว่าทำไมกูต้องได้เป็นจูปิเตอร์วะ กูไม่อยากได้ แต่กูได้ตำแหน่งนี้กูก็เลยพยายามชอบจูปิเตอร์ แล้วกูก็ชอบมากในที่สุด พอย้อนกลับไปมองตอนม.4 กูชอบอีอุซางิไปได้ไงวะสัส โครตน่ารำคาญเลย เป็นตำแหน่งที่เหมาะกับแม่งแล้วล่ะ แต่พวกกูก็ไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองอะไรกันนะเว้ย เจอหน้ากันยังเรียกมูน จูปิเตอร์ วีนัส มาร์ เมอคิวรี่ ไรงี้อยู่เลย 5555555
เมื่อวานไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนมันเป็นคนฝรั่งเศส ทีนี้มันให้แต่งชุดแฟนซีดูหลอนๆไปเอาคล้ายๆฮาโลวีน
กูเลยแต่งชุดแขกอาหรับ ฮาสัสๆเพราะพอลงจากรถกูวิ่งเข้าไปกลางวงตะโกน Allahu akbar ไอสัส คนวิ่งกันป่าราบ
อี 41 ขอบคุณที่ทำให้กุยิ้มได้ แม้ว่ามุขมึงจะเหี้ยมาก 5555555555555555555555555555555555555
อย่าว่า 41ของกู ปล.41 มึงควรเอาอะไรดำๆติดก๊อตเทปพันนม+ถือเป๋าเอกสารเหล็กด้วย มันแน่ๆ
เหี้ยยยยยยยยยย บอกตรงกูอ่านแล้วอายแทนพวกมึงเลยว่ะ5555555
กูชอบเก็นโดมาก กูทำตาขวางใส่ทุกคนแล้วก็นั่งประสานมือเท้าคางแบบเก็นโด แล้วกูก็ชอบยิ้มมุมปาก เมื่อก่อนกูทำเป็นเท่ไม่มีเพื่อนแบบหมาป่าโดดเดี่ยว จนตอนนี้ยังไม่มีเพื่อนเลย แม่งเง้ย
กูเป็นผช.และกูเคยติดคำว่าเนี้ยว(พร้อมทำท่าบางครั้ง) กับ หัวเราะแบบโคบาโตะเพื่อนน้อย คิดแล้วอยากลบๆความทรงจำบ้าๆให้หายไปซักที อ้าก
ทำไมกท.นี้อ่านแล้วอารมณ์ดีวะ 5555555
กูไม่เป็นแต่แฟนเป็น ทำเสียงเนี้ยว
ช่วยคิดประโยคเบียวๆหน่อยดิ กูจะเอาไปพูดกับเพื่อน
ไม่แน่ใจว่าเบียวมั้ย แต่มึงลองพูดภาษานิยายแจ่มใสดูดิ กูเคยลองเอาคำด่าแบบคนบ้า ตาบ้า ตาทึ่ม ไปด่าเพื่อน ปรากฏว่าลั่นกันชิบหายวายวอดทั้งวง 5555555
มู้อารมณ์ดีแห่งปี ไม่ไหวแล้วไอ้เหี้ย กูขำจนน้ำลายพุ่ง555555555555
กูเคยเบียวแบบชอบด่าคนนู้นคนนี้ว่าเบียว ใครทำอะไรแปลกๆขัดหูขัดตาก็ด่ามันอีเบียวๆๆ คิดไปกูนี่แหละเบียว555555
จะ เจ้าพวกโง่เง่า! บังอาจมาดูถูกข้า บุตรแห่งเปลวเพลิงที่สิบสาม ในนามของเปลวเพลิงอันโหมกระหน่ำ ข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไว้แน่! The Judgexa xŹZment of Flame อะย้ากกกก
กูเคยเล่นเป็นริวสตรีทไฟท์เตอร์ แล้วมีเพลงริวดังในหัว เตะต่อยอากาศ อาฟัดเฟดฟูเฟด ฮาโดเคน กลางสายฝน(โดดเรียนมาเล่นด้วยนะมึง)
กูก็เปียกดิ ทีนี้พี่กูอยู่ รร เดียวกันลงมาจากอาคาร กูเดินเข้าไปว่ามันว่า ทำเสื้อกูเปียกไม เหี้ยไรของกูวะ55555555555555
ปล.ตอนนั้น ป.1
ตอนม.4 มีเพื่อนกูคนนึงมันชอบวาดรูปเว้ย ไม่ว่าตอนไหนแม่งก็วาดได้ ทีนี้มีวันนึงจารย์ฝรั่งเห็นมันวาดไม่สนใจเหี้ยอะไรเลย
เขาก็เรียกมัน ปีกัสโซ่ กลายเป็นฉายาประจำตัวแม่งไป ยังไม่หมดแค่นั้นความเบียวของมันยังแพร่มายังพวกกูแก๊งหลังห้อง
มันตั้งเกม Paper online มาไอ้เหี้ยติงต๊องสัสแต่แม่งสนุกนะ คือมันจะวาดตัวละครให้พวกกูแต่ละคนมี 6 สกิล เล่นแบบดูเอล
ถ้าทอยเต๋าแต้มได้เท่าไหร่ก็จะออกสกิลนั้น มี HP ตามน้ำหนักตัวแต่ละคน ยิ่งหนักยิ่งเลือดเยอะ แต่ยิ่งเบายิ่ง agi เยอะ คือจะได้ตีก่อน
ถ้าเบากว่าคนอื่น 2 เท่าก็จะได้ตี 2 ครั้ง ทีนี้มีเพื่อนกูคนนึงมันหนัก 108 กิโล ไอ้สัส นั่งโยนกันทั้งคาบมันไม่ตายซักทีฮาชิบหาย
อีกคนเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆหนัก 38 ไอสัสแม่งได้โยนติดกัน 4 รอบตอนดูเอลกันไอ้อ้วนโคตรแก้ทาง คิดไปคิดมาโคตรเบียวเล่นเกมกระดาษ 5555
จะว่าไปเคยเห็นหนังแนวตัวเอกเบียวแต่เป็นเรื่องในสังคมปกติเนี่ย ผ่านมาสักพักละมั้ง แบบตัวเอกมีจินตนาการเบียวๆ เห็นอะไรก็เพ้อหลุดโลก เพื่อนโม่งพอจะรู้ชื่อหนังป่ะ กุเห็นมู้นี้กุเพิ่งนึกได้ ไม่เคยดูแต่อยากดู
กูเล่าบ้าง กูเคยเป็นฟุมาก่อน ตอนแรกกูเป็นคนเดียวแล้วรู้สึกเหงาปากอยากเม้าท์มอย กูเลยแย็บๆเพื่อนที่อ่านการ์ตูนว่า 'แกรู้จักวายป่ะ' 'แกรู้จักฟิคป่ะ'
คนไหนหูเบาก็เสร็จกู
ความเหี้ยมันเริ่มมาจากการแอบอ่านฟิคอ่านโดในห้องคอม คุยเรื่องสัปดนกันแบบเสียงดัง กรี๊ดกร๊าดเวลาเข้าร้านการ์ตูนแบบไม่อายใคร
พูดแล้วก็อายชิบหาย ยุคมืดชัดๆ โชคดีที่มอปลายกูย้ายโรงเรียนกูเลยมีโอกาสเริ่มต้นใหม่
กับเพื่อนยุคนั้นกูก็ยังคุยกันดีอยู่นะ เหมือนแม่งรู้ไส้รู้พุงกันหมด เลยทำให้พูดอะไรที่พูดกับเพื่อนกลุ่มอื่นไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน เหมือนว่าทุกคนจะรู้โดยสัญชาตญานว่าเรื่องเหี้ยๆสมัยก่อน อันไหนเหี้ยมากจะไม่ถูกขุดขึ้นมา
ไรวะไมพวกมึงโลกแคบกันจังเล่นเกมกระดาษก็บอกว่าเบียวแล้ว
สุริยาช่างแผดแสงแรงกล้า ทำตัวข้าร้อนรุ่มยิ่งนัก
วีรกรรมความเบียวของกูนี่โครตยาวเลยสัส เท่าที่นึกออกก็
กูติดยูยูมาก อยากเป็นแบบฮิเอ เอาเมจิกมาเขียนรูปมังกรที่แขนขวาแล้วพันผ้าไปโรงเรียน ครูกับเพื่อนตกใจกันใหญ่ นึกว่ากูบาดเจ็บมา
ทำตัวเป็นสาวคูลแบบอายานามิ เรย์
พูดนิปป้าตามริกะในแว่วเสียงเรไร บางทีก็หัวเราะหลอนๆแบบเรนะหรือมิอง ถ้าเพื่อนรู้สึกไม่ค่อยสบายก็พูดแกมีท่านโอยาชิโระเดินตามมาอยู่
พูด ตาบ้า ตาทึ่มแบบนางเอกแจ่มใส
เห่อหมอยเอาฟิควายมังงะวายสิบแปดบวกอ่านในที่สาธารณะแล้วคิดว่ากูเจ๋ง กูอ่านสิบแปดบวกเยอะ
ตอนปีสองกูเคยนั่งยองๆแบบแอล หยิบของแบบแอล กินหวานมากๆ ใส่เสื้อผ้าแบบแอล แล้วก็ชอบหัวเราะหึๆ ยิ้มมุมปาก คิดว่าตัวเองฉลาดสูงส่งรู้ทันคนอื่นหมด
กลับมาเป็นสาวคูลอีกรอบแบบนางาโตะ ยูกิ แล้วพูดอะไรยาวๆยากๆคนฟังไม่เข้าใจ พ่นคำคมเท่ๆด้วยสัส
ไอ้เหี้ย มานึกๆดู โครตอายเลย กูโครตอยากกลบหลุมฝังแม่งให้หมด อดีตเบียวๆพรรค์นี้ กูทำลงไปได้งายยยยย อยากจะร้องไห้
ถ้ากูรู้ตัวส่ากูเบียวแต่กูไม่ได้แสดงออกในที่สาธารณะ คือเบียวอยู่ที่บ้าน เบียวในใจ นี่นับว่ากูเบียวเปล่าวะ?
เบียวกับเห่อหมอยต่างกันยังไงวะ
>>เห่อหมอยเป็นสับเซตของเบียว
นึกถึงตอนประถมเลย ข้างบ้านเพื่อนกุตอนนั้นเพิ่งถมดิน ทีนี้มันมีหินดำ ๆ ที่เป็นรูพรุน ๆ เพื่อนกูบอกว่าแม่งมีค่าเท่ากับทอง ไอ้สัส กุกับเพื่อนนี่แม่งหากันใหญ่ เก็บใส่ถุงได้ครึ่งกระสอบ พีคกว่าคือกุเจอก้อนนึงแม่งใหญ่ประมาณตู้ไมโครเวฟนี่แหละ ตอนนั้นยกไม่ไหว พยายามจะกลิ้งไปให้ได้ แล้วเอามากองรวมกันข้างบ้านเพื่อน แม่เพื่อนกุนี่บ่นข้ามบ้าน
ยังไม่จบเพื่อนคนเดียวกันนี่แหละ บ้านมันเปนอู่ซ่อมมอไซค กุไปวิ่งเล่นกันทุกวัน อยุ่ดี ๆ อยากเล่นแนวต่อสู้ แรก ๆ ก้อเล่นธรรมดา ไป ๆ มา ๆ สู้กุไม่ได้คว้าสายเบรคจักรยานมาตีกุ กุกุก้อไม่ยอมดิคว้ามาอีกเส้นตีมั่ง เจ็บชิบหาย กลับบ้านไปโดนแม่ตีอีก เซ็งมากตอนนั้น วันหลังมากุเลยแก้แค้น ย่องไปหลังบ้านแอบดูมันอาบน้ำแม่งเลย เออ ลืมบอกเพื่อนกุเปนผู้หญิงขาว ๆ ตัวเล็ก ๆ นี่แหละ แล้วที่สำคัญแม่มันจับได้ด้วยว่ากุแอบดูมันอาบน้ำ 5555555555 เค้าเอาไปเล่าให้แม่กุฟัง แม่กุด่ากุเช็ดเลยวันนั้น หลังจากนั้นไม่นานเพื่อนกุก้อย้ายบ้านกลับเชียงใหม่แล้วกุก้อไม่ได้เจออีกเลย พูดแล้วก้อคิดถึงสมัยนั้นว่ะ ได้ข่าวล่าสุดแม่กุบอก มันแต่งงานมีผัวมีลูกตั้งแต่กุเรียนมอปลายล่ะ สมมติถ้ามันยังไม่ย้ายบ้านนี่กุว่าสงสัยกุได้กะมันแน่ๆเลยว่ะ ออกแนวหลงตัวเองนะกุเนี่ย
จูบิเนียวเหีเยอตไรเนี้ยคืออะไรว่ะ
เรื่องสมัยประถมไม่นับดิวะ ตอนเด็กๆ จะเล่น จะจินตนาการสูงอะไรก็เล่นไป
จูนิเบียวมันนับช่วง ม.ต้น ขึ้นไปไม่ใช่เหรอ
เออ พูดถึงตั้งแก๊งแฟนตาซี สมัยมัธยมกูก็เคยมีนี่หว่า..
ตอนมอ2. กูยังคิดว่าตัวเองเป็นขบสนการ 5 สีอยู่เล้ย
ตอนม.ต้น กูเคยรู้สึกว่าถ้าแบมือไว้แล้วเพ่งสมาธิไปที่มันนานๆ จะทำให้มีลูกไฟขึ้นทีมือได้ กูนี่แบมือแล้วนั่งจ้องมือตัวเองเป็นวันๆเลยหวะ ทำกันเป็นกลุ่มเลยนะ กับเพื่อนอีก2-3คน แถมช่วงที่เดธโน๊ตดังๆ กูก็นั่งท่าเลียนแบL หยิบช้อน หยิบโทรศัพท์แบบL คิดแล้วก็ตลกดีหวะ
ของกุไม่เชิงเบียว ออกไปแนวคุเห่อหมอยอ่ะ ตอนนั้นเพิ่งขึ้น ม.1 เพิ่งเคยดูเมะแบบไม่ใช่สายหลัก เริ่มฮารูฮิ้เลย แล้วกุก้โหลดเพลงมาฟัง แล้วชอบเอายัดใส่หูให้เพื่อนสนิทกุฟัง ถ้ามีคนอื่นมาทำยังงี้กะกุกุคงรำคาญ ชห
ปล.เพื่อนสนิทกุตอนนั้นวันนี้แม่งกลายเปนเบียวสมบูรณ์แบบ
เรีบกว่าเบียวหรือไรดีวะตอนนี้กูก็ยังเป็น
มึงเคยเจอแม่ค้าตื้อมห้ซื้อมากๆป้ะแบบเดินดักหน้สดักหลังมึงโฆษณายากบดราคาให้จะให้กูซื้อมห้ได้ไรงี้ แบบเวลากูโดนตื้อมากๆกูจะไหว้แม่ค้าแล้วเดินหนีไปเบย ตามตรงคือ กูกลัว 555 กูกลัวเวลาแม่ค้ามาตื้อมาก 5555 เรียกเบียวหรือเรียกความกลัวอันไม่ปกติของกูดี 55
เอออีกอย่าง อันนี้ไม่ใช่ความเบียวของกูแต่ความเคยชินของกู กูชอบอุทานแบบ fuck,shit ไรเงี้ย แบบกูไม่พูดไทยกันไงที่บ้านอ้ะ55 อีสัสโดนมองว่าเบียว 55 บางทีกูโมโหมากๆกูยังด่าเป็นภาษาอัวกฤษแบบด่าๆบ่นๆอังกฤษล้วนเบย 55
กูตัดขาดกับแม่มาสักพักแหละเพราะเรื่องที่กูโพสเพ้อถึงผชที่แม่บังคับให้เลิก โพสเชิงแบบกูเสียใจนะ แล้วแม่งวันไหนร้ายๆจะมาทำเสียงของโครมครามใส่ทั้งๆอยู่อยู่ในห้องเฉยๆเออแล้วเขามีลูกเขานะลูกคนละพ่อกับกูกูต้องมาอยู่กับพี่ที่พ่อคนเดียวกันเงินก็ไม่มีใช้อดๆยากๆ แม่แม่งเปย์แต่ลูกใหม่
กูโคตรเสียใจอ่ะทำลายรักแรกของกูไม่พอยังทำให้กูแย่
จากกระทู้โชว์โง่ กูเคยเล่นเบย์เบลดแล้วสมมติตัวเองกับกลุ่มเพื่อน มันจะมีหงส์แดง มังกรฟ้า พยัคฆ์ขาว เต่าคะนองไรงี้ กูเป็นผู้ครอบครองพลังพยัคฆ์ขาว ก็พยายามทำตัวจีนๆตามตัวละครในเรื่อง พูดน่อ พูดลื้อ อั๊วะ หรือพูดขอรับ ข้าน้อย ทั้งที่กูตัวดำและหน้าไทยมากกกกกก ไม่มีเชื้อจีนแม้แต่เสี้ยว พอเลิกเรียนก็มาโก ชู้ตตตตต พวกกูมองเห็นพลังของสัตว์ในตำนานได้ว่ามันสู้กันแบบไหน มีตะโกนให้กำลังใจเบย์เบลดด้วย สู้เขานะมังกรฟ้า อย่ายอมแพ้นะหงส์แดง บลา บลา พอนึกขึ้นได้ อีเหี้ยยยยยยยยยยย กูอาย กูทำอะไรลงไปปปปปปปปปป
กูเป็นตอนม.4 ปกติกูชอบทำตัวลึกลับกับเพื่อนไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ เพื่อนมันก็เลยสงสัยว่ากูทำอะไรกันแน่เวลาอยู่บ้าน กูก็เลยบอกไปว่าเป็นความลับ เพราะกูรู้สึกอายที่จะบอกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย นั่งโง่ๆ เล่นคอมดูทีวีแค่นั้นล่ะ ความเบียวมาบังเกิดก็เพราะเพื่อนมันยิ่งสงสัยแล้วก็กดดันกู กูเลยหาทางกุเรื่องขึ้นมาว่าจริงๆแล้วกูทำงานกับองค์กรลับฟรีเมสัน กูแอบใช้โทรศัพท์พ่อที่ไม่ได้เมมชื่อไว้ส่งข้อความมาหาเครื่องตัวเอง ว่ามีภารกิจให้ปฏิบัติ ไปสอดแนมเป้าหมายพร้อมรายงาน จาก F Freeman แล้วก็แกล้งทำเป็นว่าลืมโทรศัพท์ไว้ในห้องเรียน ก็อย่างที่คิดเพื่อนมันมาแอบเปิดดู ก็เจอข้อความภารกิจจาก F Freeman & the council มีทั้งไทยทั้งอังกฤษที่กูไปนั่งแต่งมาก่อนส่งให้ตัวเองมากมาย กูที่แอบดูอยู่ก็แกล้งเนียนเข้าไปเหมือนว่าไม่รู้อะไร แล้วพวกมันก็ถามว่า มึงเป็นสายลับขององค์กรลับเหรอ กูก็ทำหน้านิ่งๆเก๊กๆบอกว่าอาจจะใช่รึไม่ใช่ ก็คงต้องถามพระเจ้าดู แล้วก็หยิบโทรศัพท์เดินล้วงกระโปรงออกจากห้องไปช้าๆ วันรุ่งขึ้นกูก็แกล้งทำเป็นว่าตาเป็นแผล ใส่ผ้าปิดตาไป เพื่อนก็ถามว่าไปทำอะไรมา กูก็ตอบว่าแค่หกล้มน่ะ เป็นคำตอบแบบจงใจเลี่ยงให้มันเข้าใจไปว่ากูไปทำภารกิจขององค์กรมา ช่วงนั้นกูรู้สึกว่าตัวเองเท่สัสมาก จนทุกวันนี้เพื่อนมันก็บังคิดว่ากูทำงานกับองค์ลับจริงๆอยู่เลยเพราะกูเคยใช้เฟสน้องตัวเองไปเล่าให้มันฟังว่ากูทำงานนี้กันทั้งครอบครัว แล้วก็ลบแมสเสจทิ้งไป อีเหี้ยแค่คิดว่าสิ่งที่เคยทำมันเท่ก็อายสัสละ
>>98 กูคิดว่ากูรู้จักมึงว่ะ และอยากบอกว่าเค้ากับทุกคนรู้กันหมดแหละว่าแกโม้ แต่อยากรู้ว่าจะไปต่อได้ถึงไหนและอะไรทำให้แกมโนเป็นตุเป็นตะอย่างงั้นมากกว่า พวกเค้าไม่รังเกียจว่าแกแปลกๆ หรอกได้แต่แอบห่วงเบาๆ ถ้าตอนนี้เลิกแล้วก็ดีใจด้วยนะ จะได้เข้ากับเพื่อนในอนาคตได้
รักและเป็นห่วงแกเสมอ
.
.
.
.
ซ้อมเป็นเพื่อนม.ปลายมึงเฉยๆ ระวังโม่งแตกด้วยเว้ย กูชื่นชมความทุ่มเทของมึง จุ้บ 5555
อยากรู้ว่าคนแก่อายุ 90 เป็นจูนิเบียวได้มั้ยวะ ปู่กูแกเป็นคนเมกัน เมื่อวานไปเจอแก แกเล่าเรื่องสมัยสงครามโลกให้ฟัง
ว่าเมื่อก่อนนี่แกเคยเห็นเรือรบมิสซูรี่ด้วย เรือแม่งโคตรยิ่งใหญ่ ปืน 16 อินช์ มาเดะนี้เมกาปลดออกหมดแล้ว เอาเรือเล็กๆติดปืนเล็กๆเท่าจิ๋มมดมาแทน
กูก็บอก เอ้า เดะนี้มันมีมิสไซด์แล้วไงปู่ แกก็บอกกูไม่เข้าใจแก คนอะไรจะคลั่งไคล้ปืนใหญ่ได้ขนาดนั้น ถถถ+
ดูนี้กูก็ยังเบียวๆอยู่55555 เคยเบียวเมะสมัยเด็กๆ เบียวยูกิ และอีกมากมาย ความเบียวนี้มันมีทั้งดีและไม่ดีวะแม่งทำให้กูกลายเป็นกูทุกวันนี้ ความคิดความอ่านแม่งไม่มีใครเข้าใจและเข้าถึงกูซักเท่าไหร่ แต่แม่ง ทำให้กูมองโลกไปอีกแบบเลยวะ แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกถูกความเหงาจู่โจมอยู่บ่อยๆ หากสาวเบียวๆซักคนอยากมีคนคุยด้วยติดต่อได้ เป็นผู้ฟังที่ดี กลายเป็นยิ่งชอบมองพวกวัยรุ่นนิสัยตลาดๆว่าปัญญาอ่อนอีก เป็นพวกขวางกระแสสังคมไปสะงั้นกู เหมือนแบบ my body feel young but my mind is very old ทำให้กูกลายเป็นพวกปิดกั้นชิปหาย ไม่ค่อยเข้าไปทักใครก่อน หน้าตาก็ไม่ได้ดีเสือกเก็บตัวอีก ถ้าหน้าตาดีๆหน่อย สาวจะบอกกูเป๋นพวกติสๆ
อยากเป็น NEET ว่ะ ไม่อยากเรียน ไม่อยากทำงาน นอนชิวๆ เล่นเกม บลาๆๆ
กูกับแฟนก็เป็นเบียวขวางโลกว่ะ
แฟนกูอาการหนักกว่าหน่อยตรงที่แม่งแสดงออกมาตรงๆ ซึ่งๆหน้ากับคนธรรมดาเว้ย เลยทำให้ไม่ค่อยมีใครคบ
แต่กูจะไม่แสดงออกมาก สร้างภาพได้ดี แต่ในใจกูก็เหี้ยพอๆกับแฟน และกูจะเบียวแตกแค่ตอนอยู่สองคนกับแฟน แฟนแม่งรู้ทุกอย่างว่ากูคิดยังไงกับเพื่อนร่วมโลก
กูว่ากูเป็นคู่เบียวที่สมบูรณ์แบบ 555555555555
ความเบียวของกุคือช่วงนั้นพึ่งติดนิยายแจ่มใสแล้วกูซึมซับมันมา
เวลาเขียนไดอารี่อย่างเงี้ย กูจะเขียนแบบ เฮ้อ เหนื่อยจังเลย >_< ถ้าเกิดวันนี้อากาศสดใสน่าจะดีจังเลยเนอะ ^O^ วันนี้เจอเขาด้วย แค่คิดก็มีความสุขแล้วอ้ะ >////< อิโมติค่อนแม่งทุกประโยค สรรหาสัญลักษณ์ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เวลาจะเก๊กขรึมก็จะยิ้มมุมปากยกข้างนึง โอ้โห เท่สัสมั้ยละ พอกลับไปคิดก็รู้สึกว่าเป็นเหี้ยไรมึง ดึงสติกลับมาด้วยค่ะสาวน้อยโลกโพนี่
>>111 มึงอย่าเป็นนีทเลยเพื่อนโม่ง พี่กุนี่เป็นนีทมาเกือบ 2 ปีละ ตั้งแต่เรียนจบแม่งยังไม่ทำงานเลย แม่งดูไม่เครียดซักนิด แต่กุนี่เครียดที่มันไม่มีงาน พวกเพื่อนโม่งที่บอกเป็นนีทแล้วเครียดพวกมึงมีแสดงออกไงกันบ้างป่ะวะ พี่กุนี่ตื่นเที่ยง เล่นเกม ดูเมะ กินข้าว นอนกลางวัน แล้วนอนกลางคืนตี2ตี3 แล้วแม่งก็ตื่นมาทำแบบเดิมวนๆ ไป ไม่รู้แม่งเครียดลึกจนกุมองไม่เห็นหรือแม่งไม่เครียดเลยจริงๆ (เหมือนกุมาบ่นผิดห้อง แต่เห็นพวกมึงกำลังพูดเรื่องนีทกันพอดี)
https://pantip.com/topic/36208216
ไปเจอมา เรื่องของคนที่เคยเป็นฮิคิโคโมริ
กุว่าคนเป็นนีทแม่งติดวัฏจักรนะ แบบตอนแรกแค่อยากนอนอยู่บ้านเฉยๆ พอไม่ทำไรนานๆก้เริ่มเบื่อ โดนกดดันจากสายตาคนรอบข้าง แต่พอจะกลับไปทำงานหรือเรียนก้ไม่มีความอดทนแล้วเพราะสบายจนเคยตัว สุดท้ายก้ต้องกลับมาเป็นนีท
กุ >>124 เอง บ้านกุก็ไม่ได้รวยขนาดว่าถ้าไม่ทำงานแล้วจะมีกินมีใช้ไปตลอดหรอก แต่ก็ไม่ได้ขัดสนเงินขนาดเรียนจบแล้วต้องทำงานทันที แต่พี่กุนี่ก็ว่างนานเกินอ่ะ แล้วหลังจากกุกับพี่จบแล้ว พ่อกุก็ยังทำงานของเค้าเหมือนเดิม กุก็ได้งานก็ช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านด้วย เพราะงั้นตอนนี้ถึงมันไม่ทำงานก็ไม่มีปัญหาเรื่องเงินอยู่แล้ว แม่งเลยอาจจะรู้สึกแบบชิวๆ สบายๆ มั้ง แต่ก็อย่างที่บอกว่าบ้านไม่ได้รวยไรมาก เดี๋ยวพ่อกุแก่ขึ้นก็ทำงานไม่ไหว กุก็พึ่งเริ่มทำงานได้ไม่กี่เดือน เงินเดือนก็ไม่ได้เยอะเวอร์ เพราะงั้นยังไงต่อไปเรื่อยๆ ถ้าแม่งยังไม่ทำงานนี่เกิดความขัดสนแน่นอนอ่ะ แต่ตอนนี้กุดันรู้สึกเหมือนพี่กุแม่งเป็นนีทกลวงๆ ว่างเปล่า ไร้ทิศทาง และคือมันดูไม่เครียดที่ตัวเองเป็นแบบนั้นด้วยไง กุนี่เลยยิ่งเครียดหนักแทนมัน
ปล. หลุดหัวข้อมู้ไปไกล กุขอโต้ดดดด
กูอยากให้มุมมอง นีท,ฮิคิโคโมริหน่อยนะ คือ กูก็เกือบๆจะเป็นแล้วเพราะไม่ได้ไปหางานนอกบ้าน แต่พอดีที่บ้านมีกิจการอยู่กูก็เวลาทำเกาะแกะ
คนจะเป็น นีทอ่ะ มันจะแบบเข้าสังคมไม่ค่อยได้,ขี้เกียจด้วย. แล้วเพราะวงจรชีวิตมันจะไม่เหมือนชาวบ้าน เล่นเกมส์โต้รุ่ง(คนอื่นนอน) นอนเช้า (เขาตื่นมาหาเงิน). นีทตื่นสิบโมง(พ่อแม่เตรียมทำกับข้าว). พอเที่ยง นีทลงมานั่งเล่นเกมส์ (พ่อแม่นอน). ตกเย็น ก็เนือยๆแล้ว สองสามทุ่มพ่อแม่ขายของอีกรอบ(นีทนอน). สี่ทุ่มเลิกนีทก็กดเกมส์ต่อ
นานๆวันเข้า คนรอบข้างก็เบื่อดิ่ กินนอนไม่เหมือนชาวบ้านเวลาเขาเหนื่อยก็อู้ แถมสมาธิก็หมดไปกับเกมส์ ทำงานผิดๆถูกๆ
ถ้าเป็นบ้านที่มีงานให้ทำก็พอไหวนะคืออยากให้อะไรๆมันดีขึ้นก็ต้องเปลี่ยนเวลาตัวเอง ตื่นพร้อมเขานอนพร้อมเขา เล่นเกมส์ให้น้อยลง
ถ้าไม่มีงานที่บ้านก็ยากหน่อย ควรหางานที่ไม่ใช้แรงมากไม่ต้องยุ่งกับคนอื่นมาก นั่งแช่ได้นานๆอ่ะเหมาะกับนีท แต่ยังไงมันก็ต้องรับผิดชอบเยอะขึ้น
นีทคือขั้นสุดของวิวัฒนาการมนุษย์
อย่างกูนี่กูกลัวการเข้าสังคมว่ะ กูกลัวการต้องเจอคน ต้องอยู่กับคน จบมากูเลยมาอยู่บ้านปีกว่า ไม่ทำงาน เอาจริงบ้านก็ยังไม่ออกอะ เดือนนึงออกบ้านไปซื้อของเล็กๆน้อยๆแค่ครั้งสองครั้ง (แม่กูเป็นคนซื้ออาหารเข้าบ้าน กูเลยไม่จำเป็นต้องออกไปซื้อข้าวกิน) นอกจากพ่อแม่ละกูก็ไม่ได้เจอใครจริงๆอะ ละทั้งชีวิตกูมีเพื่อนสนิทอยู่คนเดียว ทุกวันนี้ก็มีแค่คนนี้ที่กูคุยด้วยอะ
กูเครียดนะที่ตัวเองเป็นแบบนี้ แต่กูไม่กล้าออกไปเจอโลกภายนอกว่ะ
นี่ดีที่ตอนนี้กูได้งานแบบทำที่บ้าน อย่างน้อยก็ยังมีเงินบ้าง ไม่ใช่ให้พ่อแม่เลี้ยงอย่างเดียว
ตอนเด็กๆอ่ะ กูอะติดพวกการ์ตูนญี่ปุ่นมากๆ ชอบพวกนักเวทย์อะไรอย่างงี้ ทำเป็นว่าตัวเองมีพลังเวทมนตร์ ทำคำภีร์เวทขึ้นมาเอง (ปัจจุบันไม่รู้หายไปไหน) ตอนนี้โตแล้วก็ยังชอบอยู่นะ แต่ไม่จูนิเบียวเหมือนตอนเด็กแล้ว แต่ขอลงโพสนี้ละกันนะ กูไปเจอกับเกมในมือถือเกมนึง มันมีตัวละครนักเวทย์ด้วย กูเลยชอบมากกแล้วก็ตามซีรี่ย์นี่ตลอดเลย สะสมซื้อของอย่างบ้าคลั่ง แล้วมันก็มีตัวละครตัวนึงเป็นนักเวทย์เด็กผู้ชาย 5 ดาวโคตรน่ารักเลย แถมเป็นตัวที่เก่งมากด้วย แต่ต้องกดสุ่มหา เคยเติมไปหลายรอบก็ไม่ออก แต่แบบคือกูชอบเขามากจริงๆนะ เวลาทำอะไรก็คิดถึงตัวละครนั้นตลอดเวลา เห็นทีไรก็ใจก็วูบ เต้นตึกตักๆทุกที ความรู้สึกเหมือนตอนที่อยู่กับแฟนเลย อยากจะปรึกษาว่า ตกหลุมรักตัวละคร 2D แบบจริงจังนี่ปกติรึเปล่าอ่ะ
กูเสิร์จหาอ่านเรื่องเล่าประสบการณ์จูนิเบียว โม่งแม่งขึ้นอันแรกเลย ฮรื่อ
กูเคยคิดมาตลอดว่าเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยงจากขยะ จนกระทั่งแม่กูเฉลยความจริง
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.